[Story]ปาท่องโก๋...เด็กใส่แว่น...กับร้านกาแฟ
By......เอก
ตอนที่8 คาบแรกกับอาจารย์เกวลิน . .--*
----------------------------------------------------------
หลังจากที่พูดดีกันได้ไม่นาน สัปดาห์นี้ไอ้แว่นก็กลับมากวนตี_เหมือนเดิมอีกแล้ว เอาเข้ากับมัน
เช้าวันจันทร์ผมก็ไปรอมันหน้าบ้านตามปกติ แต่มันออกมากลับไม่มองผม เดินผ่านไปเหมือนมองไม่เห็น
ผมเริ่มเอะใจ เดินตามไปกอดคอ แต่มันผลักผมออกกอย่างแรง เหมือนโกรธอะไรผมนักก็ไม่รู้
ทั้งวันผมพยายามเข้าหาไปพูดดีด้วยกับมัน แต่ก็โดนมันย้อนกวนตี_กลับมาทุกครั้ง จนผมแทบจะคุมอารมณ์ไม่อยู่
"แว่น -- วันนี้มึงเป็นอะไรว่ะ--" หลังเลิกเรียนผมรีบไปคว้าตัวไอ้แว่นลากไปที่ห้องน้ำหลังโรงเรียน มันพยายามดิ้น
แต่แรงโกรธผมเยอะจึงทำให้แรงกายเยอะไปด้วย ไม่ปล่อยให้มันดิ้นหลุดได้ง่าย "ทำเชรี้ยอะไรอีกล่ะมึง ทำแบบเดิมทุกครั้งเลยนะ"
ไอ้แว่นมันด่าผมด้วยความโกรธเช่นกัน "มึงบอกกูมาแว่น วันนี้เป็นอะไร ตั้งแต่เช้าแล้ว กวนกูตลอดเลย ?--"
"ไม่มี -- กูจะกลับบ้าน" พอถึงห้องน้ำผมก็ปล่อยมือมัน มันเบือนหน้าหนีหลังจากพูดเสร็จ "อย่ามาโกหก!--เป็นอะไรบอกมา กูทำอะไรให้โกรธอีก"
ไอ้แว่นเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ก้มหน้า ไม่สบตา มัน--!! มัน-----!! ไอ้แว่นน้ำตาไหลด้วย "แว่น -- ร้องให้ ! มึงร้องให้ทำไม เห้ยเจ็บหรอที่กูลากมาเมื่อกี้"
"..............." ไอ้แว่นไม่ตอบ ก้มหน้าเช็ดน้ำตา ยังไม่มองผม แล้วมันก็เดินออกห่างไป ผมไม่รู้จะทำไงดี
จะไปรั้งมันไว้ดีหรือปล่าว แต่--ไม่รู้เหมือนกัน ผมได้แต่มองแล้วเดินตามมันไป
ระหว่างทางเราไม่ได้คุยอะไรกัน ตั้งหน้าตั้งตาเดิน จนถึงบ้านมันก็หายเข้าไปในบ้าน ทิ้งให้ผมยืนมองตามหลัง
ด้วยความหวังว่ามันจะหันมามองผมสักนิด แต่ผมก็ต้องผิดหวัง
----------------------------------------------------------------------
"รุติ--ทำอะไร" วันนี้วันอังคารสัปดาห์ที่3ของการเปิดเทอม หลังจากที่เมื่อครั้งก่อนผมไม่ได้เข้าเรียน
สัปดาห์นี้จึงเป็นคาบเรียนแรกของผมที่จะได้เข้าเรียนกับอาจารย์มหาโหด ในวิชาเลือกเสรี
ผมไปเข้าห้องน้ำจึงเดินมาทีหลัง เพื่อนๆเข้าห้องกันไปหมดแล้ว เหลือแต่เพียงรุติที่ยังยืนเก้ๆกังๆหน้าห้อง
"เบนซ์--นายมาแล้ว เรารอเบนซ์น่ะ เลยไม่ได้เข้าไปในห้อง" รุติยิ้มดีใจอย่างร่าเริง"รอเรา--?อ้าวรอเราทำไมล่ะ"
"เพื่อนในห้องเรามีเลือกเรียนวิชานี้แค่5คนเอง เป็นผู้หญิงทั้งนั้น เราไม่รู้จะไปนั่งกับใคร เลยรอเบนซ์จะได้นั่งด้วยกัน"
"อ๋องั้นเข้าห้องเถอะ เดี๋ยวนางยักษ์มาจะหาเรื่องพวกเราอีก" ข้างในห้องมีนักเรียนนั่งจับจองกันเกือบเต็ม
ส่วนใหญ่จะพยายามนั่งโซนหลังๆ ไม่เว้นแม้แต่ยัยใหม่ ที่จะจองที่นั่งหน้าห้องเรียนตลอด แต่คราวนี้กลับไปนั่งโซนกลาง
ที่นั่งโซนหลังกับโซนกลางเต็มหมดแล้ว เหมือแต่โซนหน้า ที่นั่งเป็นโต๊ะฟอร์ไมก้า ที่จะต้องนั่งเป็นกลุ่มๆผมกำลังลังเลว่าจะเอาไงดี
โต๊ะตัวใหญ่จะนั่งกับรุติแค่2คนรึไง
ใหม่คงเห็นพวกเราเก้ๆกังก็โบกมือเรียกพวกเราไปนั่งด้วยกัน ที่โต๊ะมีแต่นักเรียนห้อง4/1ที่สนิทกันกับใหม่รวมถึงไอ้แว่นด้วย
ผมพารุติเดินไป เรานั่งเก้าอี้ตัวติดกัน ไอ้แว่นทำหน้าเย็นชาไร้ซึ่งการแสดงออกอารมณ์อย่างสิ้นเชิง แม้ผมจะพยายามจ้องหน้ามัน
"ใหม่นี่นิรุตินะ--ที่เป็นคู่ความในคดีกับอาจารย์เกวลินเหมือนเราไง"
"อ๋อ คนนี้หรอ-- อยู่ห้อง4/2ใช่ไหม"
"ครับเราชื่อรุติ"
"จ้ารุติ เราชื่อใหม่นะ ส่วนเพื่อนในกลุ่ม นุช บี ชาย แล้วก็ว่าน "
"ครับใหม่--" รุติออกท่าทางเขิลมาก เพราะสายตาแต่ละคนมองรุติเป็นตาเดียวกัน เหตุลผลผมก็พอเดาออก
เพราะตอนผมเจอรุติครั้งแรกก็ตะลึงกับความหล่อน่ารักแบบนี้หล่ะ ผิดกับไอ้แว่น ที่มองรุติแว๊บหนึ่ง
จากหน้าที่ดูเรียบเฉยปกติ กับหน้าหงิกหน้างอ เหมือนกำลังโดนใครไปดึงขนจมูกมา
"รุตอยู่ห้องไหนเม่เคยเห็นหน้า"นุชเป็นคนเริ่มคุยต่อจากใหม่มองจากสายตาแล้ว นุชคงจะเป็นปลื้มรุติไม่น้อย
"ห้อง4/2ครับ--" รุติเหมือนจะอึดอัดมากที่ถูกรุมมองแบบนี้ ใหม่ก็ไม่ต่างจากคนอื่น แต่ไม่กล้าจ้องมองรุตินาน
ได้แค่เหลือแอบมองมาบ่อยๆ
บรรยากาศในห้องที่กำลังรออาจารย์มาเข้าสอน ช่างแตกต่างกับวิชาอื่น เงียบมาก แทบจะไม่มีคนคุยกันเลย
แตกต่างจากวิชาอื่นสิ้นเชิง ผมไม่ค่อยเป็นปลื้มกับอากาศอึมครึมแบบนี้แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
ในเมื่อไม่มีใครคุยเล่นกัน ผมก็ต้องนั่งเงียบๆ ใช้2นิ้วหมุนปากกาเล่น
เหมือนจะเห็นไอ้แว่นแว๊บแอบมองผมตอนเผลอ แต่ก็ยังจับไม่ได้ว่ามันแอบมองผมจริงๆ
--
--
ในที่สุดการรอคอยก็จบลงเมื่ออาจารย์เกวลิน เดินเข้าห้องมาหน้านิ่วคิ้วขมวด เหมือนโกรธใครมาสัก10ปีแต่ยังไม่ได้แก้แค้น
ซึ่งคาดว่าจะเป็นหน้าตาปกติของแก ทันทีที่แกก้าวเข้ามา บรรยากาศยิ่งกดดันขึ้นมาก เพราะเหมือนใครไปหยุดเวลาไว้
เสียงกดปากกาแกร๊กๆ หรือเสียงแผ่นกระดาษตอนเปิดหนังสือก็หยุดลง
อาจารย์เกวลินเดินเอาของไปวางบนโต๊ะ จัดของได้สักครู่ก็เงยหน้าขึ้นมองนักเรียน
"--เอาสมุดขึ้นมาดูที่หน้าปกด้านใน ใครที่ยังไม่ได้ลายเซ็นชั้นยืนขึ้น...แว๊ดๆ แจ๊ดๆๆๆ"
น้ำเสียงอาจารย์ยังออกแนวตะคอก ตะหวาดแบบเดิมไม่มีผิด
นักเรียนในห้องเริ่มทยอยเปิดสมุด แล้วก็ยืนขึ้นทีละคนสองคน แล้วผมกับรุติก็ต้องมองหน้ากัน--
"รุติ --ได้ทำการบ้านส่งอาจารย์เกวลินหรือป่าว"รุติทำหน้ายิ้มเจื่อนๆแล้วก็ลุกยืนขึ้น ผมยิ่งหน้าซีดไปใหญ่
เพราะผมก็ลืมทำเช่นกัน มองไปรอบๆโต๊ะ ดูเหมือนทุกคนจะมองมาทางผม ที่เปิดสมุดว่างปล่าว ที่ยังไม่ได้แม้แต่จะเขียนอะไรเลย
ผมค่อยๆลุกยืนขึ้นตามรุติอย่างช้าๆ ทั้งอายทั้งเกาหัว ทำตัวไม่ถูก ยัยใหม่มองผมด้วยหน้าที่เป็นเครื่องหมายคำถาม ปนทำหน้าขยาดหวาดกลัว
ไอ้แว่นที่หน้าหงิกเมื่อกี้ กลับจ้องมองประสานสายตากับผมโดยไม่หลบหน้าอีกแล้ว บี ชาย นุชจ้องมองกวาดไปรอบๆห้อง
ตอนนี้เหมือนนักโทษทุกคนได้ลุกขึ้นยืนหมดแล้ว อาจารย์เกวลินแสะยิ้มจ้องมองนักโทษแต่ล่ะคน ซึ่งมีประมาณ13คนรมผมกับรุติ
"แว๊ดๆ..แจ๊ดๆ ..ชั้นบอกตั้งแต่ต้นแล้วใช่ไหม ว่าในการเรียนแต่ละคาบ ต้องมีลายเซ็นของชั้นในคาบที่แล้วทุกครั้ง
บางคนไม่ส่งสมุด บางคนไม่ทำตามคำสั่ง บางคนทำตามคำสั่งแต่ไม่ถูกต้อง ชั้นส่งสมุดคืน
แต่ไม่มีคนคิดขวนขวายจะแก้ไขให้ถูกต้องแล้วไปขอลายเซ็นชั้น ...ส่วนบางคน! ไม่เข้าเรียนแล้วยังไม่พยายาม
ที่จะทำทุกอย่างให้ทันเพื่อน--" อาจารย์ส่งสายตาอำมหิตมาทางผมกับรุติ ที่ต่างก้มหน้า ไม่กล้าสบสายตา
"ใครที่ไม่ได้ลายเซ็นชั้น ออกมาเข้าแถวหน้าห้องเดียวนี้--"
ทุกคนที่ยืนเดินออกไปหน้าห้องรวมถึงผมกับรุติด้วย ไม่เรียวขนาดแบนยาวประมาณฟุตครึ่ง พันกระดาษกาวอย่างดี
อาวุธประจำกายของอาจารย์ก็ถูกหยิบออกมา รุติเคยได้ลิ้มลองรสชาดของมันมาแล้วเมื่ออาทิตย์ก่อน
แต่คราวนี้ผมก็คงจะได้เป็นฝ่ายลิ้มลองบ้าง
"คาบนี้ชั้นจะตีคนละ2ที แต่ถ้าสับดาห์ต่อไปมีเหตุการณ์แบบนี้อีก จะเพิ่มโทษเป็น3ที"
แล้วแกก็เดินมาฟาดไม้อำมหิตลงที่ฝามือของนักโทษแต่ละคนอย่างสุดแรง คนที่โดนตีต่างสบัดมือ กุมมือ ด้วยความเจ็บปวด
การลงโทษดำเนินมาทีละคน ในที่สุดก็ถึงคิวผม อาจารย์หยุดมองหน้าด้วยสายตาที่ยิ่งกว่านางยักษ์ซะอีก
แล้วก็ฟาดไม้ลงมาบนมืออย่างสุดแรง ปากแกเม้มด้วยความซะใจ ฝามือผมเจ็บแสบชาไปหมดตอนไม้ลงมาทั้งครั้งแรกและครั้งที่2
ทั้งปวดทั้งแสบ มือแดงเป็นรอยไม่เรียวแบนๆ เจ็บแทบพูดไม่ออก ผมใช้มืออีกข้าง กุมมือข้างที่โดนตี เพื่อบรรเทาอาการเจ็บ
จนไม่ได้สนใจรุติซึ่งเป็นคนที่จะโดนลงทัณฑ์ถัดไปจากผม พอได้สติผมก็มองรุติด้วยความสงสาร ดูจากสีหน้าคงเจ็บไม่แพ้ผมเป็นแน่
มือแดงๆขาวๆของรุตเป็นรอยแนวแดงแจ๊ด ของไม้เรียว--
การลงทัณฑ์สิ้นสุดอาจารย์เกวลินให้พวกเรากลับไปที่เดิม แต่ไม่ให้นั่ง ให้ยืนเรียนแทน :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1:
เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเจออาจารย์ที่โหดได้ใจแบบนี้
คราวต่อไปแก่บอกว่าจะให้ยืนบนเก้าอี้
"แจ๊ดๆ ...แว๊ดๆ...เอาสมุดขึ้นมา เขียนสัปดาห์ที่2หน้าเส้นขั้นหน้าแล้วขีดเส้นใต้สีแดง1เส้นอีกบรรทัดข้างล่าง
ถัดจากสัปดาห์ให้เขียนวันที่/เดือน/พศ.แต่ไม่ต้องขีดเส้นใต้ ส่วนในเส้นขั้นหน้าเขียนจุดประสงค์การณ์เรียนรู้ที่1XXXXXXXXXX
แล้วขีดเส้นใต้สีแดง2เส้น--" อะไรจะละเอียดยิบขนาดนั้น
การเรียนดำเนินไปอย่าช้ามากๆ ในความรู้สึกของผม 2ชั่วโมงทำไมนานขนาดนี้ พวกนักโทษได้รับอนุญาตให้นั่งได้เมื่อเวลาผ่านไป1ชั่วโมง
ยกเว้นผมกับรุติที่ความผิดรุนแรงกว่าชาวบ้าน ได้รับอนุญาตให้นั่งได้ก่อนที่จะหมดเวลาเรียน30นาที!!!!
------------------------------------------------------------------------------
"ใหม่ เราจะบ้าตาย แน่ใจนะว่านี่คืออาจารย์ เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น" 2ชั่วโมงที่จมอยู่ในขุมนรกก็ผ่านมา
อาจารย์เกวลินออกจากห้องไปแล้ว พวกเรากำลังเก็บของเพื่อเตรียมกลับบ้าน "--น้อยไปเบนซ์เราว่ายิ่งกว่านรกอีกนะ
รู้ไหมพวกที่ไม่ได้ลายเซ็นอาจารย์เกวลินนะแค่ไม่ได้ขีดเส้นสีแดงใต้จุดประสงค์การเรียนรู้???? หรือไม่ได้เขียนวันที่ใต้สัปดาห์--"
"เห้ย...!!!!!!ขนาดนั้นเลยหรอ--" ใหม่ทำหน้าจริงจังขึ้นหนักกว่าเดิม "รู้ไหมยิ่งกว่านั้นอีกใครที่ไม่ได้ลายเซ็นเพราะแค่ไม่ได้ขีดเส้นใต้
ต้องเอาสมุดมาแก้แล้วไปขอลายเซนต์แกใหม่ จะต้องโดนไม่เรียวบ้านั่น ฟาดมืออีก1ทีก่อนที่แกจะเซ็นต์ให้--!! เราโดนมาแล้ว"
"..........
...........โอ้แม่เจ้า......" ผมอุทานด้วยความตกใจ แล้วถ้าผมทำสมุดให้ทันเพื่อนแล้วไปขอลายเซ็นต์
คงไม่พ้นไอ้ไม้เรียวบ้าๆนั่นอีกแน่นอน "รุติ เดี๋ยวเราต้องยืมสมุดเพื่อนมาทำตามให้ทันกันนะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปส่งขอลายเซนต์"
รุติที่ยังเอามือลูบถูไถตรงรอยไม่เรียวยาวๆสีแดงอยู่ก็เพิ่งรู้ตัว มองหน้าผมอย่างเหรอหรา "ยังไม่หายเจ็บอีกหรอ ไหนดูซิ"
ผมยื่นมือไปดึงมือรุติข้างที่โดนตีมาดูเช่นเดิม เหมือนมือรุติจะช้ำมากๆ แท้จริงรอยแดงนั้นเป็นรอยสีม่วงเลยหล่ะ
ผมลูบมือรุติเบาๆโดนที่ลืมตัวไปว่ามีเพื่อนๆคนอื่นมองผมกับรุติเป็นตาเดียวกัน โดยเฉพาะนุชที่ออกแนวตาเหลือกใส่ผมเลย
รวมถึงไอ้แว่นที่หน้าตากลายเป็นยักวัดแจ้งไปแล้ว ผมเริ่มรู้ตัวเลยหยุดการกระทำทันที แต่รุตินะสิ ยังซื่อๆ หน้าตายังเหรอหราอยู่เลย
"เบนซ์--วันนี้เราเอามอเตอร์ไซค์มา เดี๋ยวกลับบ้านกับเรานะ--" ทันทีที่รุติพูดจบ ลมแทบออกจากหู จากจมูกไอ้แว่น
มันรีบเก็บของอย่างกระแทกแดกดันแล้วเดินออกจากห้องไป รีบจนสะดุดขอบประตูเกือบล้ม ผมมองตามมันไปด้วยสายตาหวั่นๆ
ไม่ค่อยสบายใจนัก"แล้วทำไมเอามอเตอร์ไซค์มาได้ล่ะวันนี้" ผมถามรุติขณะเดินออกจากห้องมาด้วยกัน
"เราขอพ่อนานมากกว่าพ่อจะให้เอาขับมาโรงเรียน--"
"รุติเจ็บมากหรอมืออ่ะ--" ผมถามรุติตอนเดินมาที่โรงจอดรถหลังโรงเรียนด้วยกัน"เจ็บ แต่เบนซ์ทำให้เราไม่ค่อยเจ็บแล้วหล่ะ"
o12เสี่ยวใส่ผมด้วยนะรุติ
"วันนี้ไปวิ่งกันไหมรุติ ที่สนามหน้าศาลากลาง"
"ไปๆ ไม่อยากอยู่เฉยๆเหมือนกัน งั้นเดี๋ยวไปบ้านเราก่อนนะเราเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วค่อยไปบ้านเบนซ์"
"โอเคๆ......"ผมกับรุติเข็นมอเตอร์ไซค์ออกจากโรงรถมาถึงหน้าประตูถึงจะขับได้ เพราะเป็นกฎของโรงเรียน
----------
"หึ....ไอ้เบนซ์ ....มึง....." ความโกรธ แน่นสุมอกชายคนหนึ่ง ที่แอบยืนมองเบนซ์กับรุติ อยู่ที่ซอกตึกหลังต้นไม้
ความแค้นอำมะหิตแผ่ซ่านไปทั่ว มือกำหมัดกุมกระเป๋าแน่น หน้าตากลายเป็นสีเลือด แล้วพาดกระเป๋านักเรียนใส่ต้นไม้อย่างบ้าคลั่ง- -*
----------
บ้านพักพ่อรุติ เป็นบ้านพักราชการของนายตำรวจ เป็นบ้านเดี๋ยว2ชั้นอยู่ในละแวกหมู่บ้านพักของข้าราชการผู้ใหญ่ในจังหวัด
"พ่อเราไม่อยู่หรอก คงยังไม่กลับ" ผมกับรุติเดินเข้าบ้านมา การตกแต่งภายในก็เรียบๆ ไม่ได้หรูหราอะไร รุตเดินนำผมไปห้องที่อยู่ชั้น2
"รอเราแปปนะเบนซ์ เราเปลี่ยนชุดกีฬาก่อน" รุติหยิบชุดในตู้เดินเข้าห้องน้ำไป ผมเดินไปมองภาพถ่ายครอบครัวของรุติที่ผนังหัวเตียง
เป็นภาพถ่ายพ่อ แม่ ลูก ในรูปรุติน่าจะประมาณ10ขวบ เพราะยังเป็นเด็กอยู่เลย แม่รุติจัดว่าเป็นคนหน้าตาพอใช้ แต่พ่อรุติ หล่อมาก
หล่อไม่แพ้รุติตอนนี้เลย ส่วนอีกรูปคงเป็นครอบครัวของปู่ กับตาซึ่งแยกถ่ายเป็น2รูป ทั้งปู่ทั้งตาต่างแต่งชุดนายทหาร นายตำรวจเต็มยศ
ย่ากับยายแต่งชุดทางการใส่สายสะพายด้วย ผมมองดูรูปภาพเหล่านั้นด้วยความตื่นเต้น เพราะไม่เคยคิดฝันมาก่อนที่จะได้รู้จักกับคนในสังคมระดับสูงแบบนี้
ยังมองรูปไม่เต็มอิ่มเลย รุติก็สวมกอดผมเข้าที่ข้างหลังดึงลาดล้มลงบนเตียง จับผมนอนหงายรุตินอนทับผมไว้
"เบนซ์ ขอจูบเบนซ์หน่อยนะ--"ผมยังไม่ทันตอบอนุญาตรุติก็จูบหน่ำมาที่ปากผมแล้ว ผมไม่ได้ขันขืนอะไรแถวยังจูบต่อด้วยซ้ำ
จูบได้สักพักมือไม้รุติก็ไม่อยู่สุข ปลดกระดุมผมออกทีละเม็ดจนหมด มือรุติคลึงหัวนมผมไซค์ซอกคอ โดนที่ผมไม่ได้ขัดขืนอะไร
แถมมีอารมณ์เคลิมไปด้วยซะอีก รุติจูบซุกไซค์ทั้งคอทั้งนมผมได้สักพักก็หยุด แล้วมาจูบปากต่อจนพอใจ แล้วจึงหยุดจูบ
เปลี่ยนมาหอมแก้ม หอมหน้าผากผมแทน ผมกอดรุติเอาไว้ รุติก็ยังไม่หยุดหอมผม"รุติชอบทำแบบนี้หรอ"ผมถาม
"อือ--แล้วเบนซ์ชอบให้เราทำแบบนี้ป่ะ"ในใจผมมีคำตอบในคำถามนี้มาตั้งแต่ต้นแล้ว ว่าผมชอบให้รุติทำแบบนี้"ครับเบนซ์ชอบ--"
ผมเข้าใจความรู้สึกของรุติตอนนี้ที่หอมแก้มผมไม่หยุดสักที ผมเคยเป็นแบบนี้กับไอ้แว่น ก็นอนให้รุติหอมเฉยๆหลับตาพริ่มเลย
หอมแก้ม จมูกปาก นัวเนียกันอยู่บนเตียงนั่นหล่ะ--"แล้วเราจะไม่ไปออกกลังกายกันแล้วหนอรุติ--?"
"เออจริงด้วย--งั้นป่ะ แฮะๆ โษทีเหลินไปหน่อย" รุติหยุดการกระทำทุกอย่างแล้ว แต่ยังนอนทับผมเอาปลายจมูกมาถูกับผมแล้วจ้องหน้า
ผมนึกสนุกเลยเอาปากงับจมูกรุติไปเบาๆ "หง่ะ--เบนซ์ปากเหม็นว่ะ--" นั่นมันว่าผมปากเหม็นแล้วเมื่อกี้จูบเอาเป็นเอาตาย--
"รุติ--เบนซ์ขออะไรอย่างนึงนะ ได้ป่ะ" ผมลุกนั่ง แต่รุติล้มตัวนอนหงายอย่างสบายใจ"ขออะไรหรอเบนซ์?"
"ขอดูน้องชายรุติ--*"
"หง่ะ--เอาดิ"
:laugh:555+เสร็จตรูแน่
ผมรูดกางเกงบอลรุติออก แต่ยังมีปราการอีกด่านคือกางเกงในตัวมีดำ ผมไม่รอช้ารูดมันออกทันทีแล้วก็ได้พบแท่งศิวลึงมีชีวิตขนาดสวยมากมาก
ขนาดใหญ่พอดี น้องชายรุติได้รูปงดงามจริงๆ ขาวจั๊วะ ทั้งขนทั้งไข่ โอ้ววววววววววววววว
ที่สำคัญน้ำเยิ้มเปื้อนมือผมเลย จับได้สักครูผมก็หยุด แล้วจัดการใส่กางเกงให้รุติเหมือนเดิม"เบนซ์อ่า--นึกว่าจะทำให้รุติ แค่จับกับดูอย่างเดียวเองหรอ--*"
รุติขยับตัวมากอดเอวอ้อนผมที่ยังนั่งอยู่บนเตียง "หง่ะ--จะให้เราทำอะไรอ่ะ ?" ผมทำหน้าซื่อบื้อทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
"หึ--จำไว้นะเบนซ์แกล้งเราอ่ะ หึ--*" ผมดึงลากรุติขึ้นจากเตียง แล้วก็ขับรถมอเตอร์ไซค์ไปบ้านผม
รุติยังคงเป็นขวัญใจของพ่อแม่ แล้วก็น้องผมเหมือนเดิม ผมปล่อยให้รุติอยู่ข้างล่างแล้วตคัวเองก็ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่นานนักก็ลงมา
รุติยังคุยจ้ออยู่กับแม่ผม แถมยังช่วยนวดแป้งทำปาท่องโก๋อีก"จะไปวิ่งกันที่ไหนล่ะเบนซ์" แม่ถามผม"ที่สนามหน้าศาลากลางครับแม่"
"งั้นรีบไปเถอะเดี๋ยวจะมืดนี่ก็จะ5โมงเย็นแล้ว รุติไปล้างมือแล้วไปได้แล้วลูก"
แล้วเรา2คนก็ขับมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านไปโดยที่ไม่รู้เลยว่า มีบางคนแอบมองเรา2คนอยู่จากประตูบ้านของตึกฝั่งตรงข้ามที่เยื้องกัน
---
---
"รุติ--หยุดรถก่อน" สายตาเจ้ากรรมของผมเหลือไปเห็นพวงบุพผากับไอ้หมอก ที่เจอกันที่อ่างเก็บน้ำเมื่อวันอาทิตย์
กำลังทะเลาะกันอย่างเมามันอยู่ที่ท้ายตลาด แต่ผมยังไม่ทันไปถึงหมอกก็จับดึงให้พวงบุพผาขึ้นไปนั่งมอเตอร์ไซค์
แล้วหมอกก็นั่งครอมแล้วขับรถออกไป ทำเอาผมฉงนสงสัยมาก"รุติลงรถ เดี๋ยวเราขับเอง--"
ผมขับรถตาม2คนนั้นมาเส้นทางที่ไปมันคุ้นมาก จนในที่สุดผมก็ต้องตะลึงอีกรอบเมื่อจุดหมายปลายทองของเส้นทางนี้
เป็นโรงแรมที่ไอ้แว่นพาพวงบุพผามาเมื่อครั้งก่อน หมอกไม่รีรอจ่ายเงินแล้วพาพวงบุพผาเข้าไปในห้องที่ไอ้แว่น
พาพวงบุพผามาเมื่อครั้งก่อนทันที ผมกับรุติมองหน้ากัน "--ผู้หญิงคนนั้นอีกแล้วหรอเบนซ์เขาเรียนโรงเรียนเดียวกันกับเราด้วยนี่
เมื่อกลางวันเราเห็นเธอนั่งกินข้าวกับคนที่ชื่อว่าน ที่นั่งโต๊ะเดียวกับเราวันนี้ด้วยตอนเรียกคาบอาจารย์เกวลิน"
"อืมม....เราไปวิ่งกันเถอะรุติ---" อะไรกัน เหตุการณืที่ได้เห็น ผมไม่เข้าใจ หมอกเพื่อนเก่าของผม
เป็นสมุนบริวาร ชายหนุ่มในสังกัดของพวงบุพผาด้วยหรือ? เมื่อวันอาทิตย์ที่น้ำตก ไอ้อารมณ์โมโหนั่น
คงมาจากการที่ไปเห็นไอ้แว่นกับพวงบุพผาเล่นน้ำด้วยกัน -- แต่ทำไม?? พวงบุพผาเข้าโรงแรมกับชายหนุ่มอีกแล้วหรอ?
เธอ--เธอกำลังทำอะไร กำลังหลอกไอ้แว่นของผมงั้นหรือ? ----- แต่ดูจากอาการพวงบพผาก็ขัดขืนหมอกด้วย คงไม่เต็มใจเท่าไหร่
แต่ถึงกระนั้น แล้วไอ้แว่นของผมล่ะ มันจะรู้ไหมว่ามีแฟนเป็นหญิงร้อยผัวแบบนี้---
โปรดติดตามตอนต่อไป.......
เดี๋ยวดึกๆมาอีกน่ะ พร้อมอธิบายเหตุผลที่หายไป อิอิ เดะมาอัพอีกหลายตอนเลยหล่ะ
----------------------------------------------------
-------------------------------
----------------------
-----