ปาท่องโก๋...เด็กใส่แว่น...กับร้านกาแฟ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ปาท่องโก๋...เด็กใส่แว่น...กับร้านกาแฟ  (อ่าน 242217 ครั้ง)

sytokin

  • บุคคลทั่วไป
         


               สงสาร ว่าน อะ

      ว่านเสียสละ มากไปป่าว แกล้งเปนแฟนกับบุปผา ยังต้องมาเสียใจเพราะ เบนซ์ อีก :o12:
 
                 หมอก - ผา  :angry2: เมื่อใหร่จะเลิกงอลกันซักที :sad2:

                       

meawkung02

  • บุคคลทั่วไป
แว่นคงเครียดน่าดูเลยนะคับ เจอแบบนั้น เป็นใคร ก้อรับไม่ได้ทั้งนั้นแหละค้าบบ...งิงิ

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ผมว่าแว่นรักเบนซ์นะครับผม

รุต ก็ดีครับ

เอาไงดี เลือกไม่ถูก อิอิ

เป็นกำลังใจให้เสมอครับผม

:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ [€]ŝĊörŦ

  • ความพยามครั้งที่100 ดีกว่าคิดท้อถอยก่อนที่จะทำ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2077
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-0
เอ๋อ...

จะทำงัยดีละทีนี้

เด๋วก็ไม่ลงรอยกันไปใหญ่

น่าเศร้าเจงๆ - -"

 o12   o12   o12

ออฟไลน์ G-NaF

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
ว่านๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   งงงงกะมันจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

kwa

  • บุคคลทั่วไป
ตอนแรกก็โกรธแว่นนะ

แต่พอเห็นแว่นร้องไห้ตอนที่เบนซ์เดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมรุติแล้ว

สงสารยังไงก็ไม่รู้  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

(หลายใจจริงกรู - -" จะเชียร์ใครแน่ฟะ)

 :serius2: :serius2:

funnyu

  • บุคคลทั่วไป

ank_ang

  • บุคคลทั่วไป
[Story]ปาท่องโก๋...เด็กใส่แว่น...กับร้านกาแฟ

By......เอก

ตอนที่ 9 ดรีมเวิล์ด(ต่อ)

----------------------------------------------------------

ทั้งๆที่พยามแล้ว ทำทุกอย่างเพื่อออกห่าง แต่พอเจอแบบนี้ ใจมันร้อนผ่าว

ไม่ได้เจ็บอะไรมากมาย แต่หึงแต่หวงมากกว่า ผมนั่งด่ามันในใจ

ไอ้เชรี่ยเบนซ์ ไอ้เวรเบนซ์....ไอ้...ไม่เคยรู้เชรี่ยไรสักอย่าง...ฯลฯ

ด่าระบายอารมณ์แค้น อารมณ์หึงหวง

 

ผมรู้ว่าผมรักเบนซ์มากกว่าเพื่อนมานานแล้ว ผมรู้อาการผมเองมานานแล้ว

ราวๆป.4มั้ง แอบรักแอบดีด้วย ทำอะไรๆก็ทำให้มันหมด มันเอาแต่เล่นซน

ไม่ค่อยสนตัวเองหรอก แต่ผมก็มีความสุขที่ได้ทำแบบนั้น หลังๆเข้าผมเริ่มรู้จักคิด

สังคมแถวบ้าน แถวจังหวัด ถิ่นที่อยู่อาศัยของผม บ้านไหนมีลูกเป็นตุ๊ดเป็นกระเทย

พ่อแม่ พี่น้องเหล่าเครือญาติ จะรู้สึกอับอายชาวประชาชียิ่งกว่าได้ลูกพิกลพิการซะอีก

บางบ้านถึงขนาดจับลูกชายตัวเองมาตีเช้าตีเย็น ตีให้หายเป็นตุ๊ด ใครเป็นตุ๊ดมัก

จะไม่ค่อยแสดงออก เพราะกลัวสังคมรังเกียจ กลัวเพื่อนไม่คบ กลัวพ่อแม่ตี

กลัวสารพัด ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน กลัวว่าคนอื่นจะรู้ว่าผมชอบผู้ชาย

ผมรักเบนซ์ แรกๆที่รักมันเพราะว่ามันหล่อ น่ารัก ใครๆก็ชอบมันทั้งนั้น

เด็กหน้าตาดี ผมรู้สึกภูมิใจมากที่มีเพื่อนหน้าตาดีแบบมัน ใครๆก็อยากคบอยากเข้าใกล้มัน

ผมรู้สึกจะมีอภิสิทธิ์ในตัวเบนซ์มากกว่าคนอื่นหลายเท่านัก เพราะไม่ว่าจะทำอะไร

ไปไหน กินข้าว แทบทุกอย่าง เบนซ์กับผมจะร่วมทำกิจกรรมเหล่านั้นด้วยกันทั้งสิ้น

มันขาดผมไม่ได้ พอๆกับที่ผมขาดมันไม่ได้ แต่ตอนนั้น ความรู้สึกของผม ที่มีต่อเบนซ์

กับความรู้สึกที่มันมีผม มันต่างความหมายกัน

 

เหมือนอะไรจงใจที่ทำให้ผมกับเบนซ์ต้องห่างกัน ที่จริงไอ้แค่เรื่องหมู่ลูกเสือ

ไม่ได้ร้ายแรงขนาดที่ทำให้ผมโกรธอะไรเบนซ์ขนาดนั้น กะว่าจะแค่งอล

เบนซ์มันจะได้ง้อ อยากให้มันหอมแก้ม อยากให้มันหอบผ้าหอบผ่อน มานอนด้วย

ไอ้พวกเราก็โตๆกันแล้ว ขึ้นม.1ล่ะ ไอ้ที่ผู้ชายจะมาอยากกอดๆหอมๆกัน มันก็ยังไงอยู่

อีกอย่างไอ้เบนซ์ไม่เคยคิดจะทำอะไรแบบนี้กับผมหรอกนะ ถ้าผมไม่งอลมัน

 

เหมือนจะดีจใจ แอบรักเพื่อน ต้องการสัมผัสจากเพื่อน โดยที่ไม่กล้าขอก็แบบนี้หล่ะ

แต่ไอ้เบนซ์นะสิ กลับไม่ทำแบบที่ผมอยากจะให้มันทำ บอกว่าจะพาไปเลี้ยงขนม

ซื้อนั่นซื้อนี่ให้ ไม่ได้ต้องการเลย ไอ้ที่จะไปบอกว่าเราต้องการอะไร อยากได้อะไร

จะไปบอกมันก็ไม่ได้ อาการงอลมันจะไม่ขลัง^_^

 

แต่ที่ไหนได้กลับซื้อของกินซื้อขนมมาให้ซะงั้น ยิ่งโกรธมันใหญ่ เอาของๆมันไปแกะทิ้ง

เททิ้งขยะ เห็นสีหน้ามันตอนนั้นก็รู้สึกตกใจเหมือนกัน เราทำแรงเกินไปหรือปล่าว

แต่ด้วยฟอร์มจัดผมก็ยังเฉย ไม่สนแม้แต่จะมอง ตอนมันหันหลังเดินหนี

นิสัยแย่ๆแบบนี้ไม่เคยเปลี่ยนซะทีผม เรื่องเล็กๆเอามาคิดมาทำจนมมันกลายเป็นเรื่องใหญ่

 

จากนั้นมันก็ไม่มาคุยไม่มาง้ออีกนานเลย แต่พอมันมาง้ออีก รู้สึกเหมือนมันจะขาดผมไม่ได้นั่นหล่ะ

คงรับไม่ได้ที่ผมต้องเหินห่างกับมันไป ผมอยากจะบอกมันเหลือเกิน ว่าผมก็รู้สึกแบบมัน

มากกว่ามันด้วยซ้ำไป แต่ไม่รู้อะไรสิน่า ผมไม่ยอมดีกับมันสักที จนมันเริ่มเก็บกดไว้ไม่อยู่

ทำรุนแรงกับผม แกล้งบ้าง กวนบ้าง ชกต่อยกันบ้าง ทุกครั้งที่เราต่อยกัน

ผมไม่ได้ตั้งใจจะอยากให้มันเจ็บ แค่อยากระบายว่า กูแค้นเจ็บใจ อยากระบาย

เหมือนมันก็คิดเช่นเดียวกับผม มันไม่ตั้งใจอยากให้ผมเจ็บหรอก ผมรู้

ผมรู้ว่ามันรักผม รักแบบ"เพื่อนรัก" มันก็อยากระบายใส่ผมเหมือนที่ผมทำนั่นหล่ะ

 

ผมทำจนเรื่องบานปลาย จนคนอื่นคิดว่าเรา2คนไม่ชอบหน้ากัน ไม่กินเส้นไม่ลงรอยกัน

ตอนนั้นผมมีความคิดอัปมงคลแว๊ปขึ้นมาในสมอง1อย่าง มันเกิดเรื่องแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน

ผมจะถือเอาเหตุการณ์นี้ ปลดล็อคผมออกจากวงจรอุบาท ปลดล๊อคความรัก

ความรู้สึกที่ผมมีให้กับไอ้เบนซ์มันออกซะ ผมจะได้เป็นเหมือนผู้ชายทั่วไป

ที่ชอบผู้หญิงเหมือนคนปกติ เพราะตั้งแต่ผมเกิดมา ผมยังไม่เคยมีจิตพิศวาสกับใครสักคน

แม้หญิงหรือชายก็เถอะ มีคนเดียวก็ไอ้เบนซ์ของผมนี่หล่ะ ถ้าไม่มีมัน ผมจะได้หายจากการเป็นเกย์

หายจากการเป็นตุ๊ดซะที คิดอะไรไม่รู้ตอนนั้น เหมือนกับว่า มันเป็นตัวที่ทำให้ผมติดโรคเกย์

ความคิดตัดช่องน้อยแต่พอตัว ผมเห็นแก่ตัว ไม่คิดถึงจิตใจไอ้เบนซ์มันเลย

ถึงตอนนั้นมันจะรักผมแบบเพื่อน แต่แค่รักแบบเพื่อน มันก็รักผมมาก มากกว่าเพื่อนคนไหน

มาก รองจากพ่อแม่ น้องชายมันด้วยซ้ำ คิดไปคิดมาผมก็รุ้สึกผิด เวลาก็ผ่านมาเนิ่นนาน3ปี

ผมทำเรื่องราวยุ่งวุ่นวายเกิดขึ้นจนนับไม่ถ้วน จนมาถึงบัดนี้ผมถามตัวเองว่า

ผมหายรักไอ้เบนซ์มันหรือยัง คำตอบก็คือ"ยัง" สรุปหลายปีมานี่ ผมทำเรื่องวุ่นวายไปเปล่าๆฟรี

ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย ผมยังรักผูชายด้วยกันเหมือนเดิม ผมยังรักมัน.....

 

จากการที่ผมล้มเหลวไม่เป็นท่า ผมก็ยังไม่หยุดสินะ ตอนแรกผมแปลกใจมาก

แปลกใจที่พวงบุปผาสาวสวย มาทำสนิท มาเหมือนจะบอกผมว่า เธอสนใจในตัวผมมาก

ผมพยายามปฏิเสธ เพราะผมกลัว เรื่องราวของเธอ ทำไมผมจะไม่รู้ ผมไม่อยากยุ่งกับเสือ

 

จนมาวันนั้น วันที่ไอ้เบนซ์หลอกผมไปบ้าน ผมทำให้ผมได้พบกับความประหลาดใจที่สุด

เบนซ์บอกว่ารักผม มันสนองความสุขให้ผม มันกอด มันจูบ

มันถ่ายทอดไออุ่นที่ผมไม่ได้สัมผัสมา3ปีเต็ม ร่างกายกับใจผมมันไม่ขัดขืน

มันไม่ทำตามที่สมองผมสั่ง แต่กลับสนองตอบอารมณ์ของไอ้เบนซ์เป็นอย่างดี

ผมไม่ปฏิเสธว่าไม่ชอบสิ่งที่มันทำกับผม ผมชอบด้วยซ้ำ แต่ผมกลัว กลัวเพื่อนล้อ

กลัวสังคม กลัวสารพัด ถ้าผมใจอ่อนยอมทำความต้องการของตัวเอง...

 

3ปีที่ผ่านมาล้มเหลว แต่ผมก็ยังดื้อรั้นที่จะทำแบบเดิมอีก ผมยอมรับรักจากพวกบุปผา

บางทีการได้มีแฟนสาวสวย จะทำให้ผมหายเป็นเกย์ก็ได้ เพราะผมไม่เคยมีแฟนเลย

 

ผมไม่เข็ด ผมยังทำร้ายคนที่ผมรัก และตอนนี้เขารักผมเหมือนกันแล้ว ทำร้ายเขายังไม่หยุด

ผมเป็นแฟนกับพวงบุปผา ผมรู้ว่าความเป็นหวงผม กับความหึงหวงผม ที่ไอ้เบนซ์มีต่อผม

มันเป็นห่วงความปลอดภัยของผม มากกว่าการที่มันจะหึงหวงผมซะอีก

ผมสลดใจ มันดีกับผมขนาดนี้เลยหรือ แต่ก็ได้แค่สลดใจ เพราะผมก็ไม่คิดที่จะทำอะไรให้มันดีขึ้นมาเลย

กลับถลำลึกไปกับพวงบุปผาซะอีก ผมพาเธอไปเที่ยวน้ำตก ผมอยากมีอะไรกับผู้หญิง

ผมจะได้หายเป็นเกย์ซะที แต่พอพาเข้าโรงแรมจริงๆ ทั้งผมและก็เธอ ต่างคนต่างรู้ว่าเราไม่ต้องการมัน

ผมไม่ได้ทำอะไรเธอ ผมยังบริสุทธิ์ และผมได้ได้เข้าใจอะไรบางอย่างที่ติดค้างในใจผม

เหตุผลที่พวงบุปผามาขอเป็นแฟนกับผมไงล่ะ เธอไม่ได้เล่าอะไรมากมาย แค่ขอโทษที่เธอหลอกใช้ผม

ให้กลายเป็นเครื่องมือทำอะไรสักอย่าง ผมไม่โกรธเธอนะ เพราะผมก็ไม่ต่างกับเธอ

ใช้เธอเป็นเครื่องกีดกันไอ้เบนซ์

 

แต่ทำไมๆ ทำไมไอ้เบนซ์มันต้องไปเห็นผมกับผา เข้าโรงแรมกันด้วย ผมจนด้วยคำพูดที่จะอธิบาย

ผมตกใจที่มันโมโหหึงขนาดเอาปื่นมาจ่อหัวผม มันแก้ผ้าผม มันจะข่มขืนผมแสดงความเป็นเจ้าของตัวจริง

ไม่ใช่แค่ทำให้กันภายนอก ลึกๆผมก็ดีใจ ผมกับมันจะได้ผูกพันธุ์กันเกินเพื่อนซะที

แต่มันก็ดีกว่าที่ผมหวังไว้ มันกลัวผมเจ็บ ทำเอาผมสะอึก มึงรักกูขนาดนั้นเลยหรอว่ะเบนซ์

ทั้งที่ตอนนั้นผมเตรียมใจไว้แล้วเจ็บแค่ไหนผมก็จะทน ผมยอมมัน เพราะผมอยากมีอะไรผูกมัด

ผูกพันธุ์กับมัน ไอ้ที่เรียกว่าผมเป็นเมียมันจะได้เป็นอย่างสนิทใจซะที


สุดท้ายวันนั้น มันก็ไม่ได้ทำอะไรผม ผมนอนคิดนอนร้องให้สงสารมัน ยิ่งเห็นตอนมันทำร้ายตัวมันเอง

เอาหัวโขลกผนังปูน ทั้งหมัด ทั้งเท้า ทั้งทุบ ทั้งเตะ ทั้งต่อย เจ็บจี๊ดในใจผม ผมตามมันไปที่บ้าน

แล้วก็เป็นอย่างที่ผมคิด เลือดโชกไปหมด ผมต้องทำชดเชยอะไรให้มันสักอย่าง

ทำแผลให้มัน อาบน้ำให้ แล้วก็นอนกอดมัน แล้วผมก็ทำได้แค่นี้เอง...

 

วันนั้นอยากอยู่กอดมันไว้ตลอด แต่ต้องไปช่วยพ่อแม่ขายของ ก็เลยลุกกลับบ้านตอนตี5

กะว่าสายๆจะไปหามันไปหาอะไรให้กิน ไปทำแผล ไปอยู่กับมันทั้งวัน แต่พวงบุปผา

ดันมาหาผมแต่เช้า มาช่วยแม่ผม เธอทำตัวน่ารักมาก แม่ผมชอบเธอ แต่ในใจของเราลึกๆแล้วต่างคนต่างรู้ดี

หลังจากการพูดคุยในที่โรงแรม พวกเราไม่ได้ต้องการกันและกัน แต่เพียงรออะไรสักอย่าง

อะไรที่มันจะทำให้คลี่คลาย พวงบุปผาเธอก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน เรา2คนต่างมืดมน

เราเลยเห็นใจกัน สนิทสนมกันไว้ดีกว่า คนอื่นจะมองว่าเราคบเป็นแฟนกันเราก็ไม่สน

เพราะเรารู้ดีว่ามันเป็นได้แค่เพื่อน

 

หลังจากพวงบุปผากลับบ้านไป ผมก็รีบมาหาไอ้เบนซ์มาด้วยใจที่คิดถึง และโหยหา

มันคงยังนอนหลับปุ๋ยไม่ตื่นแน่วันหยุดแบบนี้ แถมที่บ้านยังไม่มีคนอยู่ และมันก็เจ็บอยู่ด้วย

แต่พอเข้าไปกลับไปเจอมันกับไอ้เพื่อนใหม่ ที่มันเพิ่งเจอกันไม่กี่วัน จากข่าวที่เข้าหูมา

มัน2คนรู้จักกันเพราะเรื่องขาดเรียนของอาจารย์เกวลิน แถมมันยังซ้อนมอเตอร์ไซค์

กลับบ้านด้วยกัน ผมฟังมัน2คนกำลังทำกับข้าว อย่างมีความสุข สนุกสนาน ผมนั่งฟังอยู่นาน

แอบดูอยู่นาน จนในที่สุดก็ตัดสินใจกลับ ผมบอกกับตัวเองว่า "มึงช้าไปแล้วแว่น....."

 

ช้าไป ช้าไปแล้วสินะ ..............

 

 

 

..

 

 

 

 

ผมก็พยายามทำใจ ไม่เคยสู้ที่จะเอาของรัก แถมยังเคยผลักไสไล่ส่งมันอีก ผมเศร้า

ผมกลุ้ม สารพัด พวงบุปผาคอยทำให้ผมดีขึ้นตลอด ผมไม่ได้เล่าอะไรให้เธอฟังทั้งนั้น

แต่เธอสัมผัสและรู้สึกเองได้ ว่าผมกำลังไม่สบายใจ ผมไม่เคยคิดหรอกนะว่าจะมาทัศนศึกษา

ตอนนั้นไม่มีอารมณ์ใฝ่เรียนใฝ่รู้หรอก แต่ผมก็ตกลงไปกับเธอ

 

สิ่งที่ทำให้ผมพอจะเดาเรื่องของผาได้ก็คือ ตอนที่ไอ้เบนซ์มาเล่าว่าผาซ้อนมอเตอร์ไซค์ไอ้หมอกไป

ผมเก็บมันมาคิด แต่ยังไม่มีเหตุผลประกอบ ผมไปถามเธอเรื่องหมอก เธอไม่บอกอะไร

แต่ผมเดาจากความรู้สึกและสีหน้า ก็พอจะรู้ว่าน่าจะใช่ไอ้หมอกนี่หล่ะ ต้นเหตุในปัญหาของเธอ

และยิ่งมาแน่ใจที่ก็ในวันนี้ ไอ้หมอกมาจากไหนไม่รู้ ทั้งๆที่ไม่ได้เรียนโรงเรียนนี้

แต่กลับมาทัศศึกษากับพวกเรา มันถามแต่เรื่องของผา ถามจนผมแน่ใจ100%ว่าไอ้นี่หล่ะ

ตัวต้นเหตุ ผมไม่ได้บอกความจริงมันไป เพราะผมเดาเรื่องราวไว้ว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไร

ผมรู้จักนิสัยเพื่อนรักของผมคนนี้ดีเหมือนกัน อยากจะดัดนิสัยมันบ้าง ผมตอบมันไปแบบเท็จๆ

มันฟังแล้วทั้งสีหน้า สายตา ก็เศร้าลงไปถนัดตา สงสารเหมือนกัน แต่ก็เพื่อมัน กับผา...

 

ที่ช็อคที่ตะลึงที่สุดก็ตอนไปเจอไอ้เบนซ์กับไอ้หมอนั่นออกมาจากห้องน้ำเดียวกันนั้นหล่ะ

พฤติกรรมของมันบนรถ ที่ซบที่กอดกัน ทำไมผมจะไม่เห็น ผมแอบมองตลอด

แต่มันอยากกัน ถึงขนาดมาทำอะไรกันในห้องน้ำในปั๊มเชียวหรือ อารมณ์หึง อารมณ์หวง เกิดขึ้นมาอัตโนมัติ

ไม่ปกปิกไม่ซ่อนเร้นอีกแล้ว น้ำตาไหลออกมาเยอะมาก ผมต้องเอาน้ำกวักใส่หน้าปิดบังความอาย

ที่ผมร้องให้เพราะมัน มันไม่อธิบายสักนิด แต่มันก็ไม่ผิด เพราะผมไม่เคยตอบตกลงเป็นว่าหายโกรธหรือยอมเป็นแฟนมัน

มันจะมาอธิบายให้ผมรู้ทำไม มันจะอธิบายอะไรอีกล่ะ ก็คงเป็นแบบที่ผมคิดไว้นั่นหล่ะ





....

----------------------------------------------------------------------------------------------------


อัพอีก1รอบก็จะจบตอนที่9 และตอนที่10 ก็จะเป็น บทสุดท้ายของภาคนี้


เอกยอมรับเลยว่า การเขียนอธิบาย ทางฝั่งว่านนั้น ยากมาก เอกต้องพยายามสื่อภาษาให้เป็นไปแบบที่ตนเองคิด

อ่านไปอ่านมา บางคนอาจจะงงกับภาษาการเขียนของเอกนะ เอกยังงเลย - *- :laugh:

 


ออฟไลน์ astral

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-5
ลืมไปเลยว่าแว่นชื่อจริงว่าว่าน  :oni1:

ได้อ่านมุมมองของแว่นบ้างดีจัง คนอ่านรุ้สึกหายอึดอัดไปส่วนหนึ่งแต่คำนี้


"มึงช้าไปแล้วแว่น....."


 :o12:

จะทิ้งรุติก็น่าสงสารเนอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yoyo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ถ้าต่างฝ่ายต่างไม่พูดกันเคลียร์ๆแบบนี้  ก็ไม่ต้องเป็นกันแล้วไป๊แฟนเฟินน่ะ! :a6:

ว่าเข้านั่น

เคลียร์กันซะทีเถอะค่ะ  แว่นนี่งอนไปไหนเนี่ย 
ออกแนวก็รักแต่ไม่อยากเจ็บ  ทำงอนหอยอะไรกัน :sad2:
เบนซ์นี่ก็หวั่นไหวได้อีกน๊อ  คุณรุติสุดไนซ์ก็หื่นไปไหนค๊าบ
ยังไงก็เบนซ์ว่านนี่แหละ  แต่ช่วยดีกันเร็วๆได้มั้ยคู่นี้เหมือนรอกันมานานมาก
คิดดูสิ  น้องว่านรอมาตั้งกะป.4  ถ้าไม่ได้กันตอนนี้จะได้กันตอนไหนละเนี่ย

รออ่านนะคะ

kwa

  • บุคคลทั่วไป
พอมาอ่านฝั่งของแว่นแล้วยิ่งสงสาร

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ต่างคนต่างคิด

ต่างคนต่างทำ(ให้อีกฝ่ายเจ็บ)

โฮกกกกกกกกกกกก ปวดใจ

meawkung02

  • บุคคลทั่วไป
ง่า...ได้อ่านส่วนของแว่นแล้ว ยิ่งสงสารแว่นเลยอ่าค้าบบ...


ไม่อยากให้แว่นเจ็บไปมากกว่านี้เลยอ่ะค้าบบ...เบนซ์ก้อเจ็บ แว่นก้อเจ็บ สงสารทั้งคู่เลยอ่า...แง้ๆๆ

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
ที่มาของจุบจบ ...คือ เมื่อรู้่ตัวก็สายไป :sad2:

สงสารแว่นน่ะ แบนซ์ด้วย แต่....กว่าจะรู้ตัว

funnyu

  • บุคคลทั่วไป



โกดเบนซ์ต่ออีก ๆ
โกด ๆ ๆ ๆ

รักแล้วทำไมไปทำกะคนอื่นอีกเนี่ย -- --,


สงสารแว่นอ้ะะะะะะะะะะะะะะะะะ   :o12:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

อ่าครับผม สงสารว่านนะครับ

แล้วจะเป็นไงต่ออะครับ

จะได้รักกันหรือป่าว อิอิ

:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2

ออฟไลน์ [€]ŝĊörŦ

  • ความพยามครั้งที่100 ดีกว่าคิดท้อถอยก่อนที่จะทำ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2077
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-0
ต่างคนต่างความคิดกันจริงด้วย

คิดกันไปคนละร่องคนละทาง

แล้วมันจะบรรจบกันที่ตรงไหนละนี่

 :sad2:   :sad2:   :sad2:

ank_ang

  • บุคคลทั่วไป
[Story]ปาท่องโก๋...เด็กใส่แว่น...กับร้านกาแฟ

By......เอก

ตอนที่ 9 ดรีมเวิล์ด(ต่อ)

----------------------------------------------------------

ไม่ชอบ ไม่ชอบอะไรที่มันอึมครึมแบบนี้ ผม ไอ้แว่น ไอ้หมอก เพื่อนรักกันทั้งนั้น

คิดได้แล้วผมก็ลุกออกจากที่นั่ง เบียดรุติที่กำลังหลับอยู่ แล้วก็โผไปนั่งตักไอ้หมอก

 

"ว่าไงที่รักหมอก ไม่ได้เจอกันนานเลยนะที่รัก^_^" แรดสุดๆ- -*

"ค_ยเถอะมึง กูหนัก" มันด่าผมแต่ผมไม่สนหรอก โอบรอบคอแล้วค่อยๆไถล

ไปนั่งแทรกกลางระหว่างมันกับไอ้แว่น(อย่าลืมนะเรากำลังนั่งอยู่บนรถทัวร์)

2เบาะติดกันแต่เรานั่งกัน3คน

 

"จะมานั่งเบียดทำเชรี่ยไรเนี๊ยไอ้เบนซ์ กลับไปที่นังมึงเลยไอ้เบนซ์" ไอ้แว่นมันด่าผม

ผมเลยเบนเป้าหมายไปหาไอ้แว่น หันไปโอบกอดมัน

"แว่นอ่ะ...^_^ ไม่รักเค้าหรอออออ....?????" พูดไปก็โอบก็ซุกไปที่คอมัน มันก็พยายามดันผมออก

แต่ผมก็ขืนๆไว้ แต่ก็ยอมปล่อยมัน แล้วผมก็ยกแขน2ข้างไปโอบมัน2คนไว้ ดึงกระชับเข้ามา

 

"เรา3คนไม่ได้ใกล้ชิดกันแบบนี้มานานแล้วนะโว๊ย กูดีใจที่ได้นั่งเบียดใกล้ชิดกับพวกมึง2คนแบบนี้อีกครั้ง"

หน้าตาผมดูจริงจังอย่างมาก ไอ้หมอกยิ้มแล้วเอามือมายีหัวผม ส่วนไอ้แว่นก็ไม่ได้ปากหมาใส่ผม มันก็ยิ้มๆอายๆ

 

"เป็นไงบ้างว่ะหมอก กลับมาจากกรุงเทพไม่คิดจะมาหากูที่บ้านมั่งเลยนะมึง แถมเจอกันที่น้ำตกคราวก่อน

ก็เกือบจะต่อยกะกูอีก มึงนี่จริงๆเลยนะ" พูดถึงเรื่องน้ำตก ก็อดคิดถึงเรื่องนั้นมาไม่ได้

เรื่องที่ไอ้แว่นเข้าโรงแรมกับพวงบุปผา ผมหันไปมองสบตากับมัน แต่มันหลบหน้าผม

 

"ก็...มีเรื่องวุ่นวายใจหน่อยว่ะ โทษทีที่ไม่ได้ไปหา กูก็คิดถึงพวกมึง2คนมากเหมือนกัน"ไอ้หมอกตอบ

"เรื่องไรว่ะหมอก?" ผมถามมัน หน้ามันถอดสีทันที

 

"เอ่อ...."มันไม่ตอบ

"เออ ช่างมึง ไม่บอกกูก็รู้เรื่องผู้หญิง...."มันตกใจมองหน้าผม ผมยักคิ้วทำท่าเหมือนจะรู้อะไรมาก

แต่ปล่าวเลย แค่เดาๆเอาเพราะเห็นมันกับพวงบุปผาคราวนั้น แต่พอพูดเรื่องนี้ไอ้หมอกกับไอ้แว่นก็เงียบกันไปทั้งคู่

 

"เดี๋ยวถึงที่หมายแล้ว มึง2คนเดินเที่ยวกับกูนะ หมอก แว่น" ผมหันหน้าไปฟังคำตอบจากมันทั้ง2คน

"อือ" ไอ้หมอกตอบมา ผมหันไปทางไอ้แว่น ที่ตอนนี้เงียบ แต่ก็มองสบตาหมกลับมา

"อือ...." มันตอบมาเบาๆ

 

ทางด้านรุติก็ได้เวลาตื่นมาซะที คนทั้งคันรถเขาตื่นมาดูบรรยากาศข้างนอกรถอย่างตื่นเต้นกันนานแล้ว

รุติคงยังงงๆ ว่าผมหายไปไหน

 

"รุติ เราอยู่นี่"

"อ้าวเบนซ์ แล้วไปนั่งทำไรตรงนั้น..."

 

"มาคุยกับไอ้หมอกนะ เพื่อนรักกัน ไม่ได้เจอกันนาน"

"อ๋อ...นายคนนั้นที่มีเรื่องกันที่น้ำตก...." รุติคงจำหน้าหมอกได้ ส่วนหมอกก็มองหน้ารุติกลับไปเหมือนกัน

รุติเป็นฝ่ายยิ้มตอบหมอกกลับมาก่อน 2คนนั้นก็เลยยิ้มให้กัน บรรยากาศเลยดีขึ้น รุติหยิบขนมหยิบน้ำ

ส่งมาให้ผมกับหมอก ก็เป็นขนมจาก7-11ที่เราแวะพักเมื่อเช้านั่นหล่ะ ผมเริ่มหิวเหมือนกัน

แกะเลย์ห่อใหญ่ รสสเต็กบาบีคิว ออกมาหยิบแล้วส่งให้หมอกกับแว่นหยิบ

 

ได้บรรยากาศวันคืนสมัยเด็กๆดีเหมือนกัน พวกเรามักกินขนมห่อเดียวกัน มี3คนไม่เคยซื้อขนมมา3ห่อหรอก

ซื้อมา1ห่อพอ มาแย่งกันกิน ไม่ได้หิวไรมากมายหรอก สนุกมากกว่า กินไปคุยไป ไอ้หมอกก็คุยจ้อ

เล่าเรื่องที่ไปอยู่กรุงเทพให้ฟัง รุติหมอก แว่น ผม คุยกันรื่นหูเชียว ไอ้เจ้ารุติที่ก็นั่งไม่ติด คุยอยู่ตรงที่นั่ง

สงสัยจะไม่ออกรส มายืนเบียดพิงเบาะคุยกัน4คน มือก็หยิบขนม ปากก็ทั้งคุยทั้งกิน

ไอ้แว่นกับผมก็เลยลืมเรื่องที่เขม่นกันอยู่ออกไปชั่วคราว บนรถตอนนี้ข้างนอกก็เป็นตึกสูงๆตระง่านเต็มไปหมด

เพื่อนๆบนรถแต่ละคนไม่ล่ะสายตาออกจากริมหน้าต่างเลยเชียวหล่ะ

 

"แว๊ดดดๆๆๆๆ....แจ๊ดดดๆๆๆๆๆๆ.....แว๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆ...แจ๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"

 

คุยกันยังไม่จบเลย อาจารย์เกวลินเจ้าเก่า ก็มาบอกกำหนดการณ์อีกครั้ง

ผมจึงต้องรีบลุกกลับมานั่งที่ตัวเอง กลัวเดี๋ยวแกจะมาหาเรื่องอะไรผมอีก ไม่อยากลำบาก

 

มาถึงกรุงเทพได้ไม่นาน ในที่สุดก็เหมือนจะถึงที่หมายซะที รถแล่นออกไปชาญเมืองกรุงเทพ

ผ่านฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต แล้วก็เลยออกไปอีกไม่ไกล ก็ถึงพิพิธภัฑณ์ ก่อนถึงนี่สิ ทำเอาพวกเรากรี๊ดดีใจกันใหญ่

ก็มันผ่านสวนสนุกดรีมเวิล์ดด้วย แต่รถก็ขับเลยไป พวกเราก็เลยจ๋อยกันเป็นแถว แต่บ่ายๆก็ได้มาเล่นแล้ว

 

พอลงจากรถ พวงบุปผาก็วิ่งแจ้นมามาเกาะแขนไอ้แว่น ทำออกหน้าออกตาเหมือนจะทำประชดไอ้หมอก

ไอ้ที่พวกเราตกลงกันว่าจะไปเดินเที่ยวด้วยกันเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ เพราะพวงบุปผาพยายามที่จะดึงไอ้แว่น

ไปเดินกับกลุ่มเพื่อนของเธออีก2คน แต่รุติก็เป็นฝ่ายที่ชวนเธอมาเดินกับพวกเราก่อน เธอจึงไปเรียกเพื่อนของเธอมา

กลุ่มของผามีอีก2คน ชื่อแพร กับพู เธอ2คนนี้ก็เข้าขั้นเรท 11รดไม่เบา ออกแนวเกะแกะกับนายรุติทั้งคู่เลย

สรุปพวกเราเดินเที่ยวพิพิธภัฑณ์กัน7คน มีผม รุติ ไอ้แว่น ไอ้หมอก พวงบุปผา แพร พู พวงบุปผากับไอ้แว่น

ออกแนว จ๊ะจ๋าจนน่าหมั่นใส้ ยิ่งไอ้หมอกด้วยแล้ว หน้าตามันตอนนี้พอๆกับผู้ร้ายฆ่าคน ที่กำลังโกรธแค้นอาฆาต

แต่รุตินี่สิ น่าสงสารที่สุดโดนสองสาวแพรกับพู ติดแจ จนไม่เป็นอันต้องดู ต้องชมอะไร

 

มาทัศนศึกษาเหมือนไม่ได้มา ต่างคนต่างไม่สนใจกับสิ่งรอบข้างเลย ผมกับไอ้หมอก สนใจสายตาจับอยู่กับแต่

คู่ของไอ้แว่นกับผา ยัย2คนนั้นก็เอาแต่ถามนั่นถามนี่เจ๊าะแจะกับรุติ รุติก็ไม่เป็นอันต้องทำอะไร คอยแต่ตอบคำถาม

ซึ่งแต่ล่ะคำถามไม่ได้สร้างสรรค์เชิงเรียนรู้เหมือนจุดประสงค์ในการการมาทัศนศึกษาในครั้งนี้เลย

เช่นคำถามว่า มีแฟนมาแล้วกี่คน ตอนนี้โสดมั้ย บ้านอยู่ไหน ฯลฯ เดินไปเดินมายิ่งเดินยิ่งเบื่อ

แต่โชคดีที่เราเดินมาเจอกับกลุ่มยัยใหม่พอดี พวกเธอกำลังชมพวกพี่ๆสาธิตอะไรสักอย่างเกี่ยวกับไนโตรเจนเหลว

ซึ่งมีความเย็นติดลบ180องศา(หรือปล่าวถ้าจำไม่ผิด???)

 

ยัยนุชนั้นเกิดอาการไม่พอใจขึ้นมาทันที ที่พวก2สาวนั่นมาเกาะติดรุติ ขวัญใจเธอ นุชไปพยายามดึงรุติออกมา

จนผมเกรงว่าอาจจะเกิดการตบกันได้ ในไม่ช้า ส่วนยัยใหม่ผู้ที่เคร่งครัดที่จะฝักใฝ่หาความรู้ พอเห็นไอ้แว่น

ก็รีบมาดึงให้พาไปถามข้อมูลกับพวกพี่ๆที่สาธิตการทดลอง บรรยากาศค่อยคลี่คลาย แต่ไอ้หมอกฉวยโอกาส

ที่พวกเราสนใจแต่ความมหัศจรรย์ของไนโตรเจนเหลว มันแอบไปดึงพวงบุปผาออกจากห้องให้ไปกับมัน

 

การทดลองจบลงตอนนี้ได้เวลาแล้วที่พวกเราจะต้องกลับไปขึ้นรถ ทานอาหารกลางวัน ผมพยายามทำตามกฎ

ที่อาจารย์เกวลินบอกไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากันอีก หลังจากการเผชิญหน้าครั้งที่2

ที่เอาสมุดไปขอลายเซ็นต์ โดนไอ้ไม้เรี่ยวนั่นไปคนละ2ที ก่อนที่แกจะยอมเซนต์ให้ พวกเรามาถึงรถกันแล้ว

ก่อนที่ผมจะเป็นฝ่ายห้าม3สาวตบแย่งชิงรุติกัน ผมรีบไปดึงรุติออกมาก่อน สายตารุติหยาดเยิ้มเหมือนจะจูบขอบคุณ

ผมรีบเดินไปเอาข้าวมาแจกก่อนที่ทั้ง3สาวนั้นจะเปลี่ยนเป้าหมายมาตบผมแทน- -*

 

"ไม่เบานะเราอ่ะ รุติ แหมยังไม่ต้องกังวล ถ้าคาดไม่ผิด รุติคงต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกมากมายทีเดียว"

มันหล่อๆแบบนี้ อีกหน่อยเป็นที่รู้จักของคนในโรงเรียน ไม่นานหรอก รุ่นพี่รุ่นน้อง รุ่นเดียวกัน

คงยกโขยงมาจีบรุติกันให้วุ่นแน่ๆไอ่ผมก็ไม่รู้เป็นไรสิน่า คิดแล้วก็อดหวงรุติอยู่ไม่น้อยทีเดียว

 

พวกเรากินข้าวกันได้สักพัก ปัญหาเกิดล่ะสิ อาจารย์เกวลินมาเชคชื่อปรากฏว่า พวงบุปผากับไอ้หมอกยังไม่มา

เอาละสิ อาจารย์เกวลินอารมณ์ขึ้น ที่มีคนบังอาจไม่ทำตามกฎ ผมเดาเอาถึงไอ้หมอกจะเป็นหลานแก

แกก็คงไม่ปล่อยไว้แน่ เพราะดูจากสีหน้าตอนแกลงไปโทรตามหลานแก เหมือนจะบอกเป็นนัยอย่างนั้น

 

ไม่นานนัก2คนนั้นก็มา แต่ก็โดนอาจารย์เกวลินสกัดจับก่อนขึ้นรถ 2คนนั้นโดนตำหนิอยู่นาน แต่ผมไม่ได้ยินหรอก

เพราะมันอยุ่ข้างล่าง

 

 

----

 

 

--

 

 

-

 

 

กินข้าวเสร็จรถก็ออกจากพิพิธภัฑณ์ ไม่ไกลเลย ประมาณสัก3กิโลเมตรก็ถึงดรีมเวิล์ด

พวกเราได้รับตั๋วเครื่องเล่นมาคนละใบก่อนลงจากรถ มีเวลาให้เราสนุกได้เต็มที่ถึง4โมงเย็น

 

"เบนซ์ๆช่วยเราหน่อย--"รุติกระซิบบอกผมเพราะว่าแม่นาง3คนนั้นมุ่งหน้าเดินแข่งกันมาใกล้ถึงตัวรุติแล้ว

ผมยิ้มแหยๆใส่รุติ เพราะอับจนหนทางที่จะช่วยเหมือนกัน

 

ยัยใหม่ถ้าเป็นเรื่องเรียนเธอเก่งกาจเชียว แต่ถ้าเรื่องเที่ยวๆแบบนี้ เธอก็ไม่รู้จะเดินไปทางไหน ยัยใหม่กับเพื่อนๆ

ก็เลยมาเดินกลุ่มเดียวกับเรา พวกผมก็ค่อนข้างตื่นเต้น เครื่องเล่นอย่างแรกที่ได้เล่นก็คือ เรือไวกิ้ง

ผม หมอก แว่น กับรุติขึ้นไปนั่งหน้าสลอนกับที่ชั้นปริญญาเอก ปริญญาตรี ปริญญาโท โดยหารู้ไม่

ว่าพวกผมกำลังจะซวย พอเรือไวกิ้งเริ่มเคลือน เอาละฮ่ะ เสียวคับ ทั้งเสียวทั้งสูง เวลาเรือลงนี่ ยิ่งทรมานสุดๆ

ทั้งกลัวทั้งเสียว จนไม่มีเสียงร้องละครับ ผมกำลังแย่ กูกำลังจะตาย หยุดๆ หยุดซะที แหกปากล่ะครับ

กลัวตาย แล้ว มองคนรอบข้าง กรี๊ดกร๊าดสนุกสนาน แต่ผมสิแย่แล้ว- -*

 

พอลงมาได้เอาละครับ ท้องหมุนติ้วๆ อ้วกครับ วิ่งไปอ้วก ทั้งมึนทั้งตาลาย ไม่รู้ละครับตอนนี้ใครช่วยผม

นั่งพิงใครไม่รู้ หายใจดมยาดม สักพักก็ดีขึ้น ตอนกำลังมึนเหมือนจะเห็นว่า ไม่ใช่ผมคนเดียวที่เป็นแบบนี้

ตอนนี้ชัดเลยครับ ชัดแจ่มเลย นิรุติ ไอ้แว่น ไอ้หมอก คือกัน เป็นแบบผมเลย แต่ที่ไม่เหมือนสิ

ไหงมันสลับคู่กับแบบนั้น ยังพวงบุปผากลับไปดูแลช่วยไอ้หมอกซะงั้น ส่วนยัยทีไปช่วยดูไอ้แว่นมัน

ยัยใหม่มาดูผม นิรุติหนักสุด แพร พู นุช กำลังตบกันแย่งดูแลเจ้ารุติอยู่ เห้อ เพื่อนตู--

 

หายล่ะ อ้วกออกหมดก็หาย แต่ไอ้หมอกนี่สิ มันทำไมเป็นนานจัง ชักจะสงสัย รุติท่าจะแย่หนักกว่าเดิม

มองพวกนั้นแล้วผมก็อดขำๆ ยัยทีสาวทอม ไม่รู้ว่ามันทำให้ไอ้แว่นหายมึนหายอ้วกได้เพราะ

เสียงขู่เสียงตวาดมันหรือป่าว - - พอฟื้นตัวได้ เหล่านักเรียนบ้านนอก ก็ไปหาของเล่นชิ้นใหม่

แต่ละคนแทบอยากไปแกะน็อต ถอดไอ้ไวกิ้งนรกนั้นออก จะได้ไม่ต้องเห็น

เครื่องเล่นที่2 ที่พวกผมเลือกก็คือ แกรนแครนยอน ที่ไม่ได้มีความตื่นเต้นอะไรหรอก แต่ก็พยายามกรี๊ด- -**

เล่นอะไรก็เล่นได้ แต่ที่ผมไม่พยายามเดินผ่านหรือพูดถึงก็คือ รถไฟเหาะ กับไอ้เฮอริเคนที่มันหมุนติ้วๆ

แต่ก็จนได้

 

"เราว่าไปเล่นรถไฟเหาะกันมั้ย" น่านนนนน ยัยใหม่ตัวแสบ ชวนอะไรไม่ชวน ผมนะ กลัวความสูงมากๆ

ไอ้แว่นพอเห็นยัยใหม่ชวน ก็เห็นดีเห็นงามด้วย มันหันมายิ้มเย้ยๆผม แต่ผมนะสิ หน้าซีด--

มันเหมือนจะแกล้งผม เป็นตัวตั้งตัวตีชวนคนอื่นเลยหล่ะ มีแต่ผมกับไอ้หมอก ที่ตอนนี้เหงือกำลังแตกพลั๊กๆ

ก็ผมกับมันกลัวความสูงเหมือนกันทั้งคู่ รุติก็ดันชอบเล่นอีก ไอ้แว่นมันดึงฉุดกระชากลากถูผมกับหมอกขึ้นบันไดไป

เหล่าๆสาวๆก็มองมาด้วยความสงสัย จะบอกก็ไม่ได้ว่ากลัว หน้าดันบางอีก ทั้งผมทั้งไอ้หมอก

ไอ้หมอกนี่สุดๆ ทำตัวเหี้ยมๆโหดๆ แต่กลัวความสูง คนอื่นรู้มีหวังหมดศรัทธา

 

เอาล่ะฮ่ะ - -*แย่แน่ ผมกับไอ้หมอกโดนไอ้แว่นจับให้นังคู่กัน ผมหลับตาปี๋ตั้งแต่ขึ้นนั่งล่ะ กะว่าจะหลับตาตลอด

ไม่ลืมแน่นอน พอรถไฟเริ่มคลือน ใจผมเต้นตุ๊บๆ ไม่ไหวล่ะฮ่ะ แหกปากลั้นเลย ตอนนี้กำลังหลับตา ไม่กล้ามอง

ความรู้สึกคือ กูต้องตกไปตายแน่ๆ แต่ก็ด้วยความอยากรู้ว่ามันสูงขนาดไหน ดันลืมตามา ตาโตเลยฮ่ะ

ตอนนั้นยิ่งกว่านรกอีก ตัวเองลอยคว้างไปหมด ไอ้หมอกกับผม แหกปากกันลั่น

แต่คนอื่นคงไม่ได้ยินเพราะเสียงดังมาก พอเล่นจบ ลุกจากเครื่องเล่นได้ ผมกับไอ้หมอกรีบวิ่งลงมาเลย

ใจสั่นคลื่นๆ พยายายามเก็บความขยาดหวาดกลัวไว้ให้เนียนที่สุด แต่ก็ไม่พ้นโดนสาวๆพวกนั้นแซว

 

"อร๊ายยยย 2คนนี้เป็นอะไร กลัวหรอจ๊ะ" นั่น เสียงแซวมาแล้ว จากยัยที สาวทอมจอมห้าว

"อะไร๊ ไม่กลัว ไหนกลัว ไม่มี๊..." ผมทำหน้าเก็กๆตอบไป

 

"งั้นเอาอีกรอบมั้ย" ป๊าดดดด อิเวง ขอด่าหน่อย

"เราว่ามันเสียเวลาเอาน๊า....เดี๋ยวอันอื่นไม่ได้เล่น แหะๆๆ นี่ไม่ได้กลัวนะ - --" พวกนั้นขำกันใหญ่ ไม่เว้นแม้แต่ไอ้แว่น

ไอ้หมอก ห่านิ ไม่ยอมช่วยกันเลย เก็กหล่อ แมน โหด อยู่นั้น ทีมะกี้ แหกปากร้องล่ะไม่อาย

 

เล่นเครื่องเล่นตาละอย่าง เอาทำอกสั่นขวัญหายมาล่ะ ผมเลยชวนไปเล่นบ้านยัก แหะๆ

ที่นี่ดูจะเหมาะสมกับผมที่สุด ไม่มีอันตราย แค่ข้าวของใหญ่กว่าปกติเป็นพิเศษเท่านั้นเอง

พวกสาวๆก็บ่นกันอุบอิบ ว่าปัญญาอ่อน - *-

 

ออกจากบ้านยัก พวกเราก็ต้องแยกกัน พวกสาวๆกลุ่มยัยใหม่กับของเจ๊พวงอยากไปเมืองหิมะ

แพร พู นุช รู้สึกเหมือนกำลังตัดสินใจเลือกอะไรสักอย่าง ระหว่างรุติ กับเมืองหิมะ และแล้ว3คนนั่น

ก็ยอมตัดใจห่างจากรุติชั่วคราว เพราะพวกผม4คน จะไปบ้านผีสิงกัน ไม่อยากไปเมืองหิมะ

เพราะต้องเสียค่าเข้าเพิ่มเอง200บาท งกอ่ะ - -*- ผมกับไอ้แว่นอ่ะ กลัวผีกันมาก ไอ้หมอกไม่เท่าไหร่

แต่รุติผมก็ไม่รู้ว่าเป็นยังไง ถึงจะรู้แต่แรกว่าผีปลอมก็เถอะ แต่ขัวญอ่อนเหลือเกิน พอเจอจริงๆก็ไม่ไหวเหมือนกัน

บ้านผีสิงทำเอาสะบักสะบอมพอสมควร รุติกับหมอก หัวเราะผม2คนกันยกใหญ่ แล้วเราก็ไปหาอะไรนั่งกินรอสาวๆ

ที่ตอนนี้ ไม่รู้ติดใจอยากเป็นมนุษย์เอสกิโมไปแล้วหรือปล่าวนะ - -*

 

รอนานมาก ว่าพวกเทอจะออกมา พวกเราไปหาเครื่องเล่นกันอีก3-4อย่าง เสี่ยวมัง สนุกมั่ง แต่พวกเราก็มีความสุขกันดี พอใกล้หมดเวลา
ก็มีขบวนพาเหรตของเหล่าตุ๊กตา ถ่ายรูปกันเพลิดเพลิน รุติเอากล้องมา เลยกลายเป็นตากล้องจำเป็นไปซะ

 

"สนุกมั้ยเบนซ์" แว่นมันถามผม

"ก็โอเคนะ" ผมตอบมันกลับไป มันไม่ได้พูดอะไรต่อ แค่ยิ้มๆ แล้วก็ไปโพสท่าถ่ายรูปกับเพื่อนๆต่อ ตามซุ้มดอกไม้ต่างๆ

พอได้เวลาพวกเราก็มาขึ้นรถ ต่างคนต่างมีความสุข หน้าตายิ้มแย้มระรื่นมากันเชียว ผมก็ยังไม่อยากกลับหรอก

แต่ทำไงได้ มันหมดเวลาสนุกแล้วสิ- -*

 

ในรอบนี้ ไม่มีใครเลทมาช้า กล้าท้าทายอำนาจของอาจารย์เกวลินสักคน แม้แต่ไอ้หมอกก็เถอะ

เข้าห้องน้ำทำธุระอะไรกันเสร็จ ก็มาพร้อมหน้าพร้อมตารอเชคชื่อ สักพักรถก็เคลื่อนขบวนออก

พวกเราต่างยกมือบ๊ายๆ เจ้าหน้าทีของสวนสนุก หรือแม้แต่คนอื่นๆที่ไม่รู้จัก ข้างล่าง

เขายกมือบ๊ายบาย ตอบกลับมาด้วย รอยยิ้มที่มีความสุขของพวกเราก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของทุกคน

เอาละครับ พอรถออก เจ้ารุติจอมนอน ก็หลับไปตามระเบียบ ผมหันหน้าออกหน้าต่าง

มองบรรยากาศของกรุงเทพยามเย็น ช่างแตกต่างอะไรกับบ้านผมสิ้นเชิง รถติดแน่นกว่าตอนเช้า

ผู้คนพลุกพร่านกว่ารถทัวร์ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ ถึงจะหลุดออกมาถึงชาญเมืองได้

เสียงบนรถเริ่มทะยอยเงียบลง ต่างคนต่างหลับพักผ่อน หมอกก็หลับไปแล้ว แต่ผมยังเห็นไอ้แว่น

ยังนั่งมองออกไปทางหน้าต่าง มันคิดอะไรของมันอยู่นะ แต่ก็ช่างมัน อย่างน้อยวันนี้ มันก็ไม่ได้ชวนผมทะเลาะ

แถมเรายังได้เล่นด้วยกันอีก ผมนึกขอบใจไอ้หมอก ถ้าไม่มีมัน วันนี้ผมคงต่างเดินต่างเที่ยว ไม่ได้ไปกับไอ้แว่นมันแน่.....

 

 

 

.........


--------------------------------------------------------------

ตอนที่9จบแล้วงิ ตอนต่อไปจะได้จบภาคแรกซะที กิ๊วๆ กำลังอัพนะ งุงิ

มารอเลยก็ได้ ถ้าอยากอ่านตอนจบ ของภาคนี้

 

ออฟไลน์ [€]ŝĊörŦ

  • ความพยามครั้งที่100 ดีกว่าคิดท้อถอยก่อนที่จะทำ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2077
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-0
ตอนนี้ยาวได้ใจมากๆคับ

แล้วก็ดีจังเลยที่อย่างน้อยลืมความบาดหมางชั่วคราว อิอิ

สนุกกันอย่างเต็มที่ทีเดียวเชียว

 :m4:    :m4:     :m4:    :m4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ astral

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-5
ในที่สุดก็พูดกันดีๆจนได้ถึงจะยังไม่สนิทใจแต่ก็ยังดีกว่า  o13

รอไม่ไหวแล้ว ไปก่อนน้า พรุ่งนี้เจอกานนน

iamhappywood

  • บุคคลทั่วไป
ยังไงก็หาทางปรับความเข้าใจกันนะ อย่าปากเข็งนะแว่น ลุ้นอยู่ อิอิ  :oni2:

ank_ang

  • บุคคลทั่วไป
[Story]ปาท่องโก๋...เด็กใส่แว่น...กับร้านกาแฟ

By......เอก

ตอนที่ 10 เพื่อน

(เอามาลงให้อ่านก่อนส่วนแรก เนื้อหายังไม่หมดนะ กำลังพิมที่เหลืออยู่)

----------------------------------------------------------


 

เหนื่อยมาก ผมเหนื่อย แต่ผมไม่ได้หลับนะ ตอนนี้ไม่มีอารมณ์นอนหรอก คนข้างๆผม รุติ เพื่อนใหม่คนนี้

ถึงจะเพิ่งรู้จักกัน แต่ผมยอมรับเลยว่าผมชอบนิสัย ชอบอัธยาศัยแบบนี้มาก ผมขยับรุติให้นอนสบายขึ้น แล้วเอาผ้าห่มให้

มองถัดจากรุติไป คือไอ้หมอก ถึงมันจะเกเรไปบ้าง แต่มันไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไร มันรักเพื่อน มีน้ำใจ พูดจริงทำจริง

มันเป็นคนจริง แล้วมันก็เป็นคนที่มีคุณธรรมมากๆคนหนึ่ง บางคนไม่กล้าคบมัน เพื่อนบางคนถึงขนาดเกลียดมันเข้าไส้เลย

เพราะอะไรนะหรอ เพราะมันชอบแกล้งคนอื่น มันโกรธง่าย แต่ก็เท่านั้น ถ้าใครรู้จักมันจริงๆ มันไม่ใช่คนที่จะไปทำอะไรคนอื่นง่ายๆหรอก

 

ไอ้แว่น มันคิดอะไรของมันอยู่นะ ทำไมมันไม่นอน มันยังนั่งชันเข่ามองออกไปทางหน้าต่าง มองมันแล้วผมก็ถอนหายใจ

ไม่เข้าใจมัน ถึงมันจะมีแฟนไปแล้ว แต่สถานะเพื่อน มันจะมีให้ผมบ้างไม่ได้เชียวหรือ คำพูดดีๆ การกระทำดีๆ

มันให้ผมไม่ได้เลยหรือ ทำไมมัน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย บางทีผมก็รู้สึกว่ามันรักผม ...เหนื่อยนะแว่น

ไม่ใช่แฟนแต่เปนเพื่อนที่ดีต่อกันเหมือนเดิมก็ได้....

 

ผมมองรุติ รุติขอผมเป็นแฟน ตัวผมเองก็รู้สึกรักใคร่คนนี้ไม่น้อยทีเดียว หล่อ น่ารัก นิสัยดี แล้ว...ก็ยังดีกับผมอีก

สมองผมนะ ตอบตกลงรับรักจากรุติไปนานแล้วหล่ะ แต่ทำไมใจผมมันขัดขืน ผมถามตัวเอง ดีขนาดนี้แล้วจะขัดขืนทำไม

อาจจะเป็นเพราะไอ้แว่นก็ได้ รุติดีกว่ามัน หล่อกว่ามัน ดีกับผมมากกว่ามัน แต่ทำไม ใจผมรักไอ้แว่นมากกว่ารุติล่ะ

 

คิดไปคิดมาผมก็คงต้อง restart ความคิดตัวเองใหม่อีกแล้ว มันประมวลผล errorอีกแล้ว ผมยืนหลังตรงหลับตา

สูดลมหายใจเข้าลึกที่สุด กลั้นเอาไว้นานที่สุด แล้วปล่อยออกมา ทำแบบนี้3ที เพื่อไล่ความคิดฟุ้งซ่านในใจออกไป


รถออกมาได้3ชั่วโมง ตอนนี้เวลา2ทุ่มตรง รถบัสจอดให้เราลงไปทานข้าวเย็น เข้าห้องน้ำ แล้วก็ยืดเส้นยืดสาย

ก็เป็นปั๊มเดิมที่เราแวะเมื่อเช้านั่นหล่ะ พอมาแวะอีก รับรู้ถึงความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงได้เลย ตอนเช้าก่อนเข้ากรุงเทพ

ความรู้สึกตื่นเต้น กระชุ่มกระชวย แต่ตอนนี้กลับรับรู้ได้ถึงความรู้สึกเหนื่อยล้า

กับความอาลัยอาวรในความสนุกสนานเพลินเพลิน ที่พวกเราได้รับมา

 

"เบนซ์ แว่น คืนนี้กูไปค้างคืนด้วย ไปนอนบ้านเบนซ์กัน" ไอ้หมอกบอกพวกเราตอนนั่งกินข้าว

"เอาดิ...แต่...แว่นมึงจะมาด้วยป่าว" ผมตอบตกลงแล้วหันไปถามไอ้แว่น พร้อมกับสบตากับมัน

 

"...อ....อืม ..ไปก็ได้" มันก้มหน้าตอบ ผมละดีใจมากๆ

"งั้นเราไปด้วย!!!" ...อ้าว รุติขอไปด้วยซะงั้น - - เรา3คนหันหน้าไปมองรุติ

 

"แฮะๆ ไปด้วยคนดิ นะ เราอยากไปกับพวกนายด้วย" ผมมองหน้าไอ้แว่น มันก็หลบตา ไอ้หมอกเป็นคนตอบแทนผม

"เอาดิรุติ ดีๆ จะได้มีเพื่อนใหม่ สนุกดี" รุติกับหมอก ตบมือซ้ายแปะประสานกัน รุติท่าทางดีใจมาก ไอ้แว่นยังนั่งกินข้าว ไม่เงยมามอง

 

กินข้าวเสร็จ พวงบุปผาก็มาเอาตัวไอ้แว่นไปให้ช่วยเลือกซื้อของฝาก ไอ้หมอกก็อารมณ์บูดขึ้นมาทันที

เดินกลับรถไปเลย ทั้งๆที่ตอนแรกจะไปหาซื้อของด้วยกันแท้ๆ ไอ้เจ้ารุติอ่ะหรอ ไปหาซื้ออะไรของมันให้วุ่นวายไปหมด

หอบของอะไรของมันมากมายก่ายกองอยู่คนเดียว ผมก็เดินๆดูของ กะว่าจะหาซื้อขนมไปฝาก น้องวุ้นเส้น น้องสาวไอ้แว่น

กับไอ้เจ้า บีเอ็มน้องชายผม พอหมดเวลา พวกอาจารย์ก็มาต้อนพวกเราขึ้นรถ (พอๆกะต้อนควายเข้าคอกจริงๆ)

ที่จริงหน้าที่นี้ น่าจะเป็นอาจารย์เกวลินนะ ถ้าแกมา คงไม่ต้องพูดอะไร แค่มองด้วยสายตา เหล่านักเรียนก็เหมือนโดนสะกดจิต

เดินขึ้นรถเองกันแล้ว

 

"หมอก คิดถึงมึงว่ะ - -* " พอพวกเราขึ้นรถกันมาหมด ผมไม่ได้ไปนั่งที่ตัวเอง แต่กลับไปแกล้งหยอกล้อกับไอ้หมอก

ไปนั่งตักมัน แต่จุดหมายจริงๆแล้ว ผมอยากไปใกล้ๆไอ้แว่นมันตะหาก

"งั้นคืนนี้มึงเป็นของกูนะเบนซ์ มาเป็นเมียกูซะ จะได้หายคิดถึง" มันหน้าด้านครับ ไอ้หมอก กอดผม แล้วดันมากัดหัวนมผมอีก

เสียวจี๊ดเลย

 

"อย่าหมอก ...อย่าทำไรตรงนี้ อายเค้า..." น๊านนนน  แรดอีกตรู- -* แล้วผมก็เลือนไถลลงไปนั่งระหว่างไอ้หมอกกับไอ้แว่น

ตามสเตปที่วางแผนไว้ ที่จริงตัวพวกเราก็ไม่ได้ตัวเล็กอะไรหรอกนะ ที่จะนั้งเบาะ3คนได้อย่างไม่อึดอัด แต่เราก็สามารถ- -

เรา3คนหรือผมคนเดียวก็ไม่รู้ที่สามารถ- -*

"สงสัยคืนนี้เราจะเป็นเมียหมอกไม่ได้แล้วหล่ะ เพราะเรามีเจ้าของแล้ว นี่ไงเจ้าของเรา" เล่นไอ้แว่นมันสักหน่อย

เห็นนั่งทำหน้าปวดขี้ตอนผมหยอกล้อกับไอ้หมอก ไอ้แว่นหน้าเหว่อเลย ตอนผมบอกว่ามันเป็นเจ้าของผม

 

"ใช่มั้ยครับ ที่รักแว่น - -*" ผมยังไม่เลิก โอบกอดเอวมัน แถมไปหอมแก้มมันอีก - -*ไม่อายประชาชีเลยตรู

แต่คนอื่นก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก ก็คิดว่าเราล้อกันเล่นๆ แต่ที่ตอนนี้ไม่คิดจะเล่นก็เจ้ารุตินั่นหล่ะ มองมาทางผม

แถมทำหน้ายักหน้ามารใส่ สีหน้าผมเลยสลดลงไปเลย แฮะๆ- - แต่แป๊บเดียวเท่านั้น เพราะมันเห็นผมมันก็ปล่อยกร๊ากออกมาเลย

มึงแกล้งกูใช่มั้ย- -หึ้มมมมมมมมมมมมมม...

 

ถึงนั่ง3คนจะไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ แต่มันก็นั่งได้ ลองคิดดูเราแค่ม.4กันเอง ไอ้หมอกตัวใหญ่สุด ผมกับไอ้แว่นเท่าๆกัน

ผมไม่ลุกไปแล้ว ยึดเป็นฐานประจำการไปเลย พวกมัน2คนก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนรุติก็หลับไปแล้ว บนรถก็ปิดไฟให้พวกเราได้นอนกัน

ไอ้หมอกนี่ขี้อ้อนสุด มีการขอกอดซบผมหลับด้วย ทีกะไอ้แว่นมึงนั่งกัน2คนดันไม่ขอมัน

 

"แว่น ไม่นอนหรอ"

"นอนไม่หลับ"

 

"ทำไมว่ะ เหนื่อยหรอ"

"อือ...เรื่องอื่นด้วย"

 

"เรื่องไรว่ะ"

"....................." มันไม่ตอบผม ผมเอามืออีกข้างไปยีหัวมัน

 

"มีเรื่องไรไม่สบายใจบอกกูได้แว่น ยังไงกูก็เป็นเพื่อนที่รักมึงมาก"

"....เพื่อน.. ..........." มันพูดออกมา แล้วผมก็พยักหน้า--

 

ไอ้หมอกนี่สิ รัดซบผมไม่ยอมปล่อยเลย ไอ้นี่ผิดจุดประสงค์ที่กูมานั่งนี่แล้วมึง กูจะมาซบไอ้แว่น ไอ้นี่ดันยึดผมไว้ซะงั้นเซงเมร่ง

 

ทำไปทำมา ผมก็โดนไอ้2คนนี้ซบจนได้ แต่ก็ดีเหมือนกัน คิดเล่นๆ ว่าเสียสละให้เมียรักทั้ง2

ไอ้แว่นมาหลับซบไหล่ผมแต่เมื่อไร่ไม่รู้ ผมแอบไปเอามือมันมาจับ แล้วก็หอมแก้มมันไปหลายทีเลยหล่ะ

สงสัยมันไม่รู้ตัว ถ้ารู้ตัวคงดีดดิ้งไปนานล่ะ หรือมันจะสมยอม - - คิดไปเรื่อยอ่ะผมอ่ะ

 

นั่งไปนานๆเข้า ผมก็เมื่อยเหมือนกัน ง่วงเหมือนกัน เห้อถึงจะรักยังไง แต่ตอนนี้กูง่วงว่ะแว่น ขอไปนอนสักงีบก่อนนะ

อีก2ชั่วโมงแนะ กว่าจะถึงบ้าน ผมจับไอ้หมอกกับไอ้แว่น ให้นอนพิงเบาะ แล้วผมก็ค่อยๆลุกๆนั่งที่ผม

แต่พอนั่งลงปั๊บ

 

"ไงกลับมาได้แล้วหรอ" อ้าวไอ้เวร นึกว่ารุติหลับไปแล้ว พอผมนั่งปุ๊บ มันโอบตัวมาซบมากอดผมไว้เลย แถมคลุมผ้าห่มให้ผมอีก

กรรมเวร สรุปตูจะได้นอนมั้นเนี๊ย

"ยังไม่หลับหรอรุติ"

 

"หลับไม่ได้ แฟนไปให้คนอื่นกอด หลับไม่ลง" อ้าวซะงั้น- - เป็นแฟนมันเมื่อไหร่ล่ะเนี๊ย- -

"เดี๋ยวค่อยคุยนะรุติ เราง่วงมาก "

 

"อืมๆ งั้นนอนๆ " มันพูดแบบงัวเงีย แต่มันก็ยังกอดผมไว้แบบนั้นหล่ะ ผมก็เลยตามเลย......

 

---------------------------------------------

ตอนที่10ยังไม่หมดนะ ส่วนที่เหลือกำลังนั่งพิม .... ยั่งไม่หมดนะ ตอนที่10 อย่าเพิ่งคิดว่าหมดล่ะ

เอามาให้อ่านก่อนอิอิ


ปล. ตอนนั้นพอมีรุติเข้ามา บางคนยุให้เป็น 3P ตอนนี้มีหมอกเข้ามาอีก เอา4P เลยมั้ย เนื้อเรื่องก็ค่อนข้างเข้าเค้านะ เอิ๊กๆๆๆ
พูดดักไว้ก่อน เผื่อมีบางคนคิด :เตะ1: :เตะ1:

หรือจะเอาจริงๆ o12 o12 o12 o12 ติดตามอ่านส่วนที่เหลือ ต่อไป - -*

....

..
.

ออฟไลน์ The Lover

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 406
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

meawkung02

  • บุคคลทั่วไป
หนุกมากๆเยยค้าบบ...^^


จะรออ่านต่อนะค้าบบ...อิอิ

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากมายคับ แต่จุกอ่ะ  o7
สับสนแทน วุ่นกันไปหมด  o2

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

อ่าครับผม กลัวจังเลยครับ

ว่าสักวันเบนซ์ จะเอาแว่น กับ รุติเป็นแฟน

เหมือนเรื่อง เออกูผิด อะครับ ถ้าเป็นแบบเรื่องนี้ผมรับไม่ได้นะ อิอิ

เพราะตอนนี้ เหมือนเบนซ์ มีใจให้ทั้ง2อะครับ

:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:


ank_ang

  • บุคคลทั่วไป
[Story]ปาท่องโก๋...เด็กใส่แว่น...กับร้านกาแฟ

By......เอก

ตอนที่ 10 เพื่อน

(เอามาลงให้อ่านก่อนส่วนที่2 เนื้อหายังไม่หมดนะ กำลังพิมที่เหลืออยู่)

----------------------------------------------------------

"ตายแล้ว น้องรุติน่ารักจัง เอาอะไรมาฝากเยอะแยะเลย เดี๋ยวแม่จองตัวไว้ก่อนเลยนะ
รอแม่มีลูกสาวจองตัวเอาไว้ทำลูกเขย "

 - -*อ่ะนะแม่ตู คลั่งรุติเอามากๆ

"ได้เลยครับแม่ เดี๋ยวรุติจะโสดรอลูกสาวแม่นะครับ" - -*ม่ายต้องเลยมรึง.....เดี๋ยวได้โสดจนตาย...


ที่แท้ที่รุติมันซื้อของมามากมายมันก็ซื้อมาฝากพ่อกับแม่ผม นี่ถ้าบ้านผมมีลูกสาวประชาชีคงเป็นอันรู้กันไปว่า

มันคงมาจีบลูกสาวบ้านนี้แน่ แต่เสียดายบ้านนี้มีแต่ลูกชาย โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ


พอลงรถรุติโทรบอกพ่อว่าไม่ต้องมารับ ส่วนไอ้หมอกก็โทรบอกแม่มัน แล้วพวกเรา4คนก็เดินมาบ้านของผมกัน

ไอ้แว่นแวะเอาของไปเก็บ แล้วก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านแล้วเดี๋ยวจะตามมา ส่วนหมอกกับรุติก็มาจัดการที่บ้านผมเลย

เอาของฝากให้เจ้าบีเอ็มเสร็จผมก็ขึ้นมาบนห้อง ปล่อยให้เจ้ารุติมันคุยจ้ออยู่กับแม่ผม ที่กำลังดูรายการทีวี

จัดการหาเสื้อผ้าเปลี่ยนให้หมอก ผมก็ลงมาอาบน้ำเสร็จ ตอนนี้ไอ้เจ้าหมอกก็มาร่วมวงสนทนาระหว่างแม่กับรุติด้วย

แม่ก็คงคิดถึงมันเหมือนกัน ไม่ได้เจอหลายปีดีดับ ไอ้ผมนะหรอ ไม่สนใจอะไรแล้ว ง่วง เหนื่อย เพลีย ขอขึ้นไปนอนดีกว่า

แต่ก็มีปัญหาที่ต้องแก้ไข เตียงผมมันก็ใหญ่พอจะนอนได้3คนแบบสบายๆ แต่ถ้า4คนนี่สิไม่ไหว ก็เลยต้องไปจัดหาที่นอนปิคนิค

มาเสริมไว้ข้างๆเตียง สุดแล้วแต่พวกนั้นจะเลือกหานอนเอาเองล่ะกัน ใครใคร่นอนตรงไหนก็นอน ผมไม่มีเวลาสนใจแล้ว

พราะตอนนี้ง่วงมาก บนรถก็ไม่ได้หลับ คนอื่นหลับหมด สมน้ำหน้า ดันถ่างตานั่งทำมิวสิค


ผมหลับไปแล้ว ตื่นมาอีกทีตอนตี2เพราะปวดฉี่ พอเสร็จผมก็มาสำรวจเพื่อนๆ ไอ้หมอกมันนอนกับผมบนเตียง

ส่วนไอ้แว่นกับรุตินอนที่นอนปิคนิค ข้างๆเตียง ผมง่วงกะจะนอนต่อ แต่ไอ้หมอกมาสะกิดผม


"เบนซ์ๆ กูนอนไม่หลับว่ะ"

"หืออ...ไมว่ะ" เราพูดกันเบาๆกลัวคนอื่นตื่น


"กูมีปัญหา กูไม่รู้ว่าจะทำไงดีว่ะ "

"ปัญหาไรของมึง"


"เรื่องผู้หญิงว่ะ" - -* ผมขำออกมาเบาๆ

"ไอ้ค_ย เอ้ย เรื่องไรว่ะ เล่าให้ฟังหน่อย"


"ก็....เรื่อง....." มันเล่ามาให้ผมฟังจนยืดยาว สรุปแล้วก็เรื่องของพวงบุปผาจริงๆนั่นหล่ะ มันกับผานะรักชอบพอกันมากๆ

แต่2คนนี้ ออกแนวค่อนข้างหล่อเลือกได้ กับสวยเลือกได้ ทำเหมือนไม่สนใจกันอีกฝ่าย ทั้งๆที่มัน2คนรักกันเข้าขั้นขาดกันไม่ได้เลย

พอมันย้ายไปกรุงเทพ มัน2คนก็ยิ่งห่าง ยิ่งห่างก็ยิ่งคิดถึง แต่ด้วยฟอร์มจัด มันไม่ค่อยจะแสดงออกว่าคิดถึงกันมาแค่ไหน

แถมไอ้หมอกนี่ดันไปก่อเรื่องไว้ ปากหมาไปคุยโวในกลุ่มเพื่อนมันว่าอยู่กรุงเทพมีสาวติดตรึม ตอนนั้นพวงบุปผาก็อยู่ด้วย

มันพูดเชิงว่ามันมีตัวเลือกเยอะแยะ พวงบุปผาก็เลยโกรธ แล้วมันก็ฟอร์มจัด คิดว่าเธอเดี๋ยวก็หายโกรธ มาดีกับมันเอง

แต่ที่ไหนได้ พวงบุปผากลับไม่ทำ และ3ปีที่ผ่านมา เธอก็แสดงให้มันเห็นด้วยว่า เธอก็มีตัวเลือกเยอะแยะเหมือนกัน

จากหนุ่มๆที่ตามจีบเธอ


ตอนนี้ไอ้หมอกรู้แล้วว่ามันรักผาแค่ไหน มันยอมหมดทุกอย่าง ไปง้อก็แล้ว ทุกๆอย่างที่มันไม่เคยคิดจะทำเลย มันก็ทำ

มันบอกว่ายอมหมดทุกอย่างแค่ให้ผากลับมา แต่ผานะสิ กลับไม่ยอม แถมยังไปคบไอ้แว่นเพื่อนรักไอ้หมอก เป็นแฟนอีก

ไอ้หมอกมันท้อแท้ มันกลัวที่จะต้องเสียผาไปจริงๆ มันทนไม่ได้ มันก็เลยใช้กำลัง จนได้เสียกับผาหลายทีแล้ว

ท้งที่บ้านทั้งที่โรงแรม ตอนนี้ผาเป็นเมียมันแล้ว แต่เธอก็ยังไม่ยอมคืนดีกับมัน ไอ้หมอกมันไปขอให้ไอ้แว่นเลิกยุ่งกับผา

แต่ไอ้แว่นมันบอกว่า มันรักผา มันต้องการดูแลผาเอง ไอ้หมอกมันโกรธมาก แต่มันก็ทำไรไอ้แว่นไม่ได้ มันรักเพื่อน

มันคิดไม่ตก มันมืดแปดด้าน จะให้ทำใจ ก็ทำไม่ได้ เห้อ เพื่อนตรู ตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับตรูเลย....


"หมอก แล้วผาเขารักไอ้แว่นมันจริงหรือว่ะ"

"กูไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็คงจะจริง ก็ดูที่พวกมัน2คนทำดิ"


"อือ....ถ้าเป็นแบบนั้น มึงกับกรู2คนก็คงต้องทำใจ" ผมพูดปลอบมัน แต่...เอ๊ะ- -!!!!!!!!!!

"มึงกับกู !!!! หมายความว่าไงล่ะเบนซ์ ?? นี่มึงก็แอบชอบผาเหมือนกันหรอว่ะ " กรรมเวรหลุดปากออกไป

ไอ้หมอกลุกขึ้นนั่งจับคอเสื้อผมยกขึ้น


"เอ้ยปล่าวๆ!!ปล่าวเว้ย!!" - - เวงล่ะทำไงล่ะทีนี้

"แล้วยังไง - - " มันเขย่าผมไม่หยุด


"กูชอบไอ้แว่นมัน!!!!" ผมตะคอกปนกระซิบบอกไอ้หมอกมัน มันหยุดมือ หยุดพูด เหมือนมันกำลังงง

"มึง...ชอบไอ้แว่น..." มันพูดตะคอกเบาๆเหมือนกับผมกลัวรุติกับไอ้แว่นได้ยิน


"...อืม...นี่มึงเป็นตุ๊ดหรอว่ะ" มันรีบขยับหนีผม

"เอ่อ....ไม่รู้" ผมรู้สึกเสียใจเหมือนกัน ที่ไอ้หมอกมันมีทีท่ารังเกียจ แล้วผมก็หันหลังหนีมัน


ตอนนี้ในห้องก็เงียบสนิทอีกครั้ง ระหว่างผมกับไอ้หมอกยิ่งอึมครึม ดูเครียดมาก ผมไม่ง่วงนอนแล้ว

ผมลืมตาตลอด นึกแล้วก็ไม่น่าหลุดปากไปเลย สังคมแถวบ้านผมรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้หรอก

แม้แต่ไอ้หมอกเองก็เถอะ เห้อ เพิ่มเรื่องกลุ่มมาอีกเรื่องแล้วสิ หลายเรื่องยังไม่เคลีย ดันมีเรื่องนี้มาอีก

ไอ้หมอกมันคงเลิกคบผมแน่ มันออกแนวโหดกับพวกตุ๊ด พวกแต๋วจะตาย ใครมาเกาะแกะกับมัน เมร่งเตะล้างน้ำหมด

สมองผมคิดไปสารพัด โอ๊ย อยากหลับ-- สักพัก ผมก็ได้ยินเสียงประตูห้องเปิดออก แล้วก็จริงๆครับ ผมหันกลับไปดู

ไม่มีไอ้หมอกแล้ว มันคงรังเกียจผมมากๆ สังสัยกลับบ้านไปแล้ว เห้อออออออออออออ.....


ผมนอนเอาแขนก่ายหน้าผาก กลุ้มใจจริงๆ นอนก็ไม่หลับ หมุนไปหมุนมา จนเริ่มปวดหัวล่ะ ประตูห้องก็เปิดออก

ไอ้หมอกเดินเข้ามา ผมรีบลุกนั่ง แล้วเขยิบตัวเองมาชิดขอบเตียงให้มากที่สุด เพราะไม่อยากให้มันแสดงออกถึงอาการรังเกียจผม

ห่มผ้าหันหลังคุมโปงแล้วนิ่งเป็นหินเลย แต่....หนักครับ....!!!!!!!


"เป็นเชรี่ยไรของมึงไอ้เบนซ์" - -* อ้าว ไอ้หมอก มันนั่งทับผม อ้าวไอ้เวร ทำไรของมึง????

ผมเปิดผ้าห่มออกมันนั่งคร่อมทับผมไว้ สองมือจับหูผมดึง

"ทำไรของมึงเจ็บ"


"แล้วมึงเป็นเชรี่ยไร? บอกกูมา"

"ก็ มึง...กลัวมึงรังเกียจ"


"พ่อมึงอ่ะ...กูจะเกียจไรมึง?"

"อ้าว..."


"กูแกล้งมึงเฉยๆไอ้ฟาย กูเครียด ก็เลยหาเรื่องสนุกๆทำ"

"อ้าวไอ้ชิปหาย มึงแกล้งกูแก้เครียด แต่กูนี่สิ ยิ่งเครียดหนัก ไอ้เวรเอ้ย" ผมกระหน่ำเอาหมัดต่อยมัน แต่มันรับได้ทุกหมัด


เห้อออ โล่งออก แมร่งงงงงงงง......ไม่รู้จะอุทานยังไงดี

"ไปนอนได้แล้วมึง กูหนัก" มันก็ยอมลง ขำคิ๊กคั๊กไม่หยุด ผมทั้งโล่ง ทั้งสบายใจ ไม่โกรธมันหรอก แต่ดีใจมากกว่า

"เห้อออออออ....แกล้งมึงก็สนุกได้นิดเดียว กูก็กลับมาคิดเรื่องผาอีกแล้ว" มันถอดหายใจ แต่....ทำไมมึงจะต้องมากอดกูเนี๊ย???

มากอดออเซาะใหญ่เลย ผมก็ดิ้น ยิ่งดิ้นมันก็ยิ่งกอดแน่น


"แล้วจะมากอดกูทำพ่อมึงหรอว่ะ"

"เอาน่า กอดหน่อย กูคิดถึงผา สมมติว่ามึงเป็นผาแล้วกัน" เอาเข้าไป เออ ช่างเมร่ง อยากกอดก็กอด แต่อย่าสมมติเกินจริง

ว่ากูเป็นผา แล้วปล้ำกูนะเมิงงงง


"มึงไม่รู้หรอกเบนซ์ ตอนนี้กูน่าสงสารขนาดไหน" - -เออ  น่าสงสาร กูก็ไม่ต่างกับมึง อ้ายเพื่อนรัก

อ้าว .... ชักเอาใหญ่ กอดอย่างเดียวไม่พอ ละมีอ้อนอีก เอ่อ......ไม่ว่าชายว่าหญิง เวลาที่อ่อนแอท้อแท้

ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก ย่อมต้องการที่พักพิง



---------------------------------------------------------------------------------------------


ตอนที่10ยังไม่จบนะ ยังมีต่ออีก อย่าเพิ่งคิดว่าจบละ กำลังพิมๆๆๆๆๆ

กำลังพิมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


ออฟไลน์ [€]ŝĊörŦ

  • ความพยามครั้งที่100 ดีกว่าคิดท้อถอยก่อนที่จะทำ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2077
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-0
เหอะๆ...

เด๋วหมอกกะเบนซ์ได้กันเอง

แล้วผากะแว่นจะเสียใจ เอิ๊กส์ๆๆ

 :m4:   :m4:   :m4:

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด