[Story]ปาท่องโก๋...เด็กใส่แว่น...กับร้านกาแฟ
By......เอก
ตอนที่ 9 ดรีมเวิล์ด (ต่อ)
--------------------------------------------------------------------
"เบนซ์!!!!! รุติ!!!!!!!" เสียงยัยใหม่เรียกตะโกนมาจากใต้ถุนอาคารเรียนซึ่งตอนนี้
ก็คราครั่งไปด้วยนักเรียนที่มานั่งรอรถออกกันจำนวนมากแล้ว
รถบัส2ชั้นจำนวน3คันจอดเรียงรายอยู่บนถนน หลังจากผมลงรถก็กล่าวขอบคุณและยกมือไหว้ ท่านสารวัตร
พ่อของรุติ ที่ใจดีแวะรับผมที่บ้านมาด้วย พวกเราก็พากันเดินมาหาเพื่อนๆ
"นี่ยัยใหม่ บ้านอยู่ตั้งไกล ทำไมเห่อมาก่อนเราอีก เพิ่งตี2กว่าๆ รถออกตั้งตี3ครึ่ง"
"ขืนให้เรามาช้ากว่านี้สิ ถ้ามาไม่ทัน อาจารย์ไม่รอ เราก็แย่สิย่ะ"
"แล้วพวกเพื่อนๆเรามากันครับหรือยัง"
"ขาด2คน ว่านกับทีเดี๋ยวคงมา"
"อะไรนะ ไอ้แว่นมาด้วยหรอใหม่? ทำไมไม่บอก"
"ว่านส่งใบขออนุญาตก่อนพวกเธอ2คนอีกย่ะ ไปเชคชื่อก่อนอย่าเพิ่งคุย"
ผมแปลกใจว่าไอ้แว่นไม่มีท่าทีอยากจะมาแต่กลับตดสินใจมาก่อนผม โดยที่ไม่บอกผม
มันคิดอะไรของมันอยู่ ทำจะแกล้งผมหรือไง
ผมกับรุติเดินมาตรงที่คนมุงกันเยอะๆที่คอยเชคชื่อ เดินเข้ามาใกล้ๆก็เห็นอาจารย์3คนนั่งอยู่
โดยที่มีนังเรียนยืนบังจนแทบมองไม่เห็น และสิงที่ทำให้ผมกับรุติต้องชะงักตกจัยกันชั่วขณะหนึ่ง
เหมือนกับเจอปีศาจหรือสัตว์ที่ดุร้าย ไม่ใช่อะไรก็อาจารย์เกวลินนะสิ ผ
มมองหน้ากันเพื่อยืนยันว่านั่นเป็นตัวจริงหรือปล่าว อาจารย์ใส่ชุดภาคสนามกางเกงวอร์ม
แว่นตายังคงหนา และหน้าตาที่เหมือนโกรธใครมา10ปีและยังไม่แก้แค้นก็ยังคงเป็นเอกลักกษณ์
แล้วเหมือนคราวซวยของผมกับรุติจะมาถึงพร้อมกันอาจารย์เกวลินแกเงยหน้าขึ้นมองมาที่ผม2คน
"แจ๊ดๆๆๆๆ...แว๊ดๆๆๆๆๆๆ...เธอ2คนจะมายืนทำเซ่ออะไรอยู่ล่ะ รีบไปดูรายชื่อที่บอร์ดว่านั่งรถคันไหน
แล้วมาเชคชื่อกับอาจารย์ประจำรถ มาก่อนก็รีบๆทำให้มันเสร็จๆ แจ๊ดๆๆๆๆ...แว๊ดๆๆๆๆๆ"
ผมกับรุติเหมือนจะโดนคาถางงงันจากนางมาร กว่าจะขยับขาเดินไปที่บอร์ดได้ ก็ทำเอาเหลือแตกพลั๊ก
ทั้งๆที่เวลานี้อากาศเย็นแล้วก็ชื้นมาก ผมกับรุติไปดูรายชื่อก็ดีใจที่ได้นั่งรถคันเดียวกับพวกยัยใหม่
แต่ที่ทำเอาแทบช็อครอบ2นี่สิ ก็อาจารย์เกวลินเป็นคนคุมรมรถคันที่พวกผมนั่ง!!!!!!!!
"แว๊ดดดดๆๆๆๆๆ...แจ๊ดดดดๆๆๆๆๆๆ....แว๊ดดๆๆๆๆๆๆ...แจ๊ดดดๆๆๆๆๆ"
อากาศช่างร้อนอบอ้าวซะเหลือเกินในเวลานี้ ผมกับรุติไปเชคชื่อเสดก็มารายงานตัวกับอาจารย์เกวลิน
ซึ่งท่านก็เมตตาร่ายกฏระเบียบที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม ถ้าฝ่าฝืน สงสัยต้องโดนประหารชีวิตแน่
กว่าจะหลุดออกมาได้ ผมกับรุติก็เสียเหงือไปคนละเป็นแกลลอน
พวกยัยใหม่เหมือนจะรู้ว่าพวกผมไปเจออะไรมา พวกนั้นทำหน้าแหยงๆขยาดหวาดกลัวกันเป็นแถว
"ยัยใหม่ เธอรู้ใช่มั้ยว่าพวกเราต้องนั่งรถไปกับอาจารย์เกวลิน แล้วทำไมไม่บอก
ไม่ทันตั้งตัว นี่แค่เชคชื่อ แทบตาย" ผมแทบจะฆ่าเพื่อนด้วยกันซะแล้ว
"เอาน่าเบนซ์ ก็ไม่ตายกลับมานี่ มาๆๆกินขนมรอเวลากันดีกว่า" นุชยื่นถุงขนม7-11ที่มีให้เลือกหลายอย่าง
ยื่นมาให้ผมกับรุติ ผมเห็นขนมข้างในก็เจ็บจี๊ดหัวใจขึ้นมาอีก ก็มันมีขนมโก๋แก่ที่ไอ้แว่นของผมมันชอบกินอยู่ด้วยนะสิ
เจ็บจี๊ดอยู่ได้ไม่นาน ไอ้แว่นกับพวงบุปผาก็เดินมาโน้น เดินมาด้วยกันท่ามกลางความมืด ผมอุส่าทำใจได้แล้วนะ
แต่พอเห็นมันก็เจ็บไม่หายซะทีมันเดินเข้ามาทักทายเพื่อนๆ เหมือนคงไม่เห็นผมนั่งอยู่เลย จากนั้นก็พากันไปเชคชื่อ
แล้วพวกมัน2คนก็กลับมาในสภาพไม่ต่างกันกับผมเท่าไหร่ แถมยังบ่นนินทาว่าอาจารย์อะไร จะดุจะตะคอกกันไปถึงไหนฯ
พอใกล้เวลารถออกอาจารย์ก็ให้ขึ้นรถไปหาที่นั่ง ชายนั่งกับชาย หญิงนั่งกับหญิง รุติกับผมก็นั่งด้วยกันไปโดยปริยาย
แต่ดูเหมือนไอ่แว่นมันจะผิดหวังอย่างหนักที่ไม่ได้นั่งไปกับพวงบุปผา มันทำหน้ามุ่ยคิ้วขมวด จนอมอดหมันใส้ได้
แค่ไม่ได้นั่งด้วยกันมันจะอะไรนักหนา ไอ่นี่ก็เว่อไป พวกเราจับจองที่นั่งกันได้เรียบร้อย
ไอ้แว่นมันมัวแต่ล่ำลาอะไรกับพวงบุปผา จนเพื่อนๆชายจับคู่หาที่นั่งด้วยกันหมด มันเลยได้นั่งคนเดียว
แถมที่นั่งของมันก็อยู่ฝั่งตรงข้ามกับผมซะด้วย โดยที่มีรุตินั่งบังเอาไว้ เพราะผมนั่งริมหน้าต่าง
พนักงานเอาผ้าห่มมาแจกให้พวกเราคนละ1ผื่นแจกน้ำแจกขนม รอให้คนครบถึงเคลื่อนขบวน
ก่อนรถออกไม่นาน ผมก็ตกใจเพราะคนที่เดินมาหาที่นั่นกลับกลายเป็นหมอก เพื่อนของผมเอง มันมานั่งข้างๆไอ้แว่น
"เฮ้ยหมอก มาได้ไงว่ะ" ผมที่กำลังจะปิดคาหลับก็ตาสว่างกุลีกุจอไปหาเพื่อน
"ป้าชวนมาด้วยอ่ะ ป้าให้มาช่วยงาน" มันตอบ
"ป้ามึง ใครว่ะ"
"อาจารย์เกวลินไง"
"..............." แทบสะอึก หยุดหายใจ หัวใจวายตรงนั้น อาจารย์เกวลินเป็นป้าไอ้หมอก
ผมมมองหน้ารุติ พอดีรถเคลื่อนขบวนออกพอดี เลยกลับมานั่งที่
ไอ้แว่นพอเห็นผมกลับมานั่งก็ถึงจะคุยกับไอ้หมอก ไม่รู้มันจะรังเกียจอะไรผมนักไม่ยอมร่วมวงสนทนา
ผม ไอ้แว่น ไอ้หมอก เพื่อนซี่กันทั้งนั้น ตั้งแต่ประถม มันคุยอะไรกันสักพักผมไม่ได้ยินหรอก
แต่เห็นสีหน้าไอ้หมอก หมองลงอย่างมาก ไม่มีรอยยิ้ม เหมือนกำลังกลุ้มอะไรอย่างหนักสักอย่าง
แล้วบทสนทนาของ2คนนั้นก็จบลง ไอ้หมอกยิ่งเศร้าลงไปอีก
ตอนนี้รถได้ปิดไฟเรียบร้อยแล้ว ผมห่มผ้าเตรียมตัวหลับรุติก็เอาหัวมาซบไหล่ผม
ผมหันเหลือบๆไปทางไอ้แว่น ที่ตอนนี้นั่งเก็กไม่มีทีท่าจะมองมาทางผมเลยสักนิด
ส่วนไอ้หมอกก็ห่มผ้าคลุมโปงปิดหน้าปิดตาหลับไปแล้ว
จู่ๆรุติก็สอดมือเข้ามาจับมือผมไว้ใต้ผ้าห่มแล้วปากก็กระซิบบอกให้ผมจูบแก้มราตรีสวัสมันหน่อย
ผมเห็นมันมืดหมดแล้วจึงจูบหน้าผากมันไป1ทีพร้อมกับหอมแก้มด้วย รุติกระชับจับมือผมแน่นขึ้น
หัวยังซบไหล่ผมแล้วก็คงหลับไป ผมตายังสว่างคิดทบทวนเรื่องไอ้แว่น หมอก รุติ และก็พวงบุปผา
ยิ่งคิดยิ่งมึน ความรู้สึกผมสับสนกับรุติมาก พยายามบอกตัวเองว่า ผมแค่หลงรุติ ผมไม่ได้รักมัน
แต่ถึงผมจะรักผมก็ไม่ผิดนิหน่า ก็คนที่ผมรัก มันไม่รักผม มันไปรักคนอื่น มันไม่สนใจความรักของผม
ผมก็ยังโง่ที่จะรักษาความรักที่ผมมีให้ไอ้แว่นมันอยู่ ไม่อยากให้มันหายไปจากใจผม...
------------------------------------------------------------
-----------------
วันนี้นู๋อัพให้3ตอนละนะ......คงหายโกรธกันแล้วล่ะนะ
ถ้ามะหายโกรธเดะหายไปอีก6เดือนดีมิ :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: