“กลับกันเถอะ”
ผมไม่สนใจคำพูดของไอ้ดิว แล้วนั่งลงบนพื้นทรายละเอียดทันที จู่ๆก็รู้สึกหมดแรงเดินขึ้นมาเสียอย่างนั้น ผมกางแขนพลางเหยียดขาอย่างสบายอารมณ์
“ดื้อด้านจริงๆ” ไอ้ดิวพูดขึ้น ก่อนจะนั่งลงข้างๆผม
“ครายว้า” ผมหันไปถามอย่างสงสัย นั่งตรงนี้แล้วบรรยากาศดีจริงๆ
“มึงนั่นแหละ” ไอ้ดิวหันมาบอกผม ก่อนจะยิ้มขึ้นมา “กูอยากไปนอนแล้ว”
“กูจาอยู่นี่” ผมบอกพลางทำหน้าบึ้งใส่
“งั้นกูกลับก่อนแล้วกัน” ไอ้ดิวบอก ก่อนจะลุกขึ้น ผมมองตามอย่างไม่พอใจ นี่มันจะทิ้งผมไปจริงๆเหรอ
“เมิงห้ามปายน้าว้อย!” ผมร้องบอก ก่อนจะดึงแขนให้มันกลับมานั่งลงเหมือนเดิม “กูม่ายอยากโดนเมิงทิ้งอีกแล้วน้า”
“กูเคยทิ้งมึงเมื่อไหร่” ไอ้ดิวพูดขึ้น ก่อนจะยอมนั่งลงตามเดิม ผมเลื่อนตัวขยับไปนั่งกับมันใกล้ขึ้น ทว่ายังไม่ปล่อยมือที่จับแขนของมันเอาไว้
“วานน้านกูเหนน้า” ผมบอก ก่อนจะทำหน้าบึ้งใส่ “เมิงชอบกูม่ายช่ายหรอ แต่เมิง... ก้อปายกาบโคนอื่น”
“วันไหน? คนไหนของมึงเนี่ย” ไอ้ดิวถามกลับด้วยความสงสัย ผมมองท่าทีนั้นด้วยความไม่สบอารมณ์ขึ้นมา มันมีหลายคนหรือไงวะ
“โธ่เว้ย! เมิงจาอาวยางงายว้า” ผมพูดก่อนจะยกมือสองข้างขึ้นมาจับหน้าของไอ้ดิวให้มองตรงมายังหน้าของผม ผมมองคนตรงหน้าที่มีท่าทีตกใจเล็กน้อย ก่อนจะวางมือจับบนมือของผมอีกที ผมถอนหายใจแรงเพื่อระบายความหงุดหงิดใจที่เกิดขึ้น ก่อนจะมองดวงตาสีดำที่มีประกายสวยตรงหน้า “เมิงเปนของกูน้า”
“อืม กูเป็นของมึง” ไอ้ดิวบอกผม ก่อนจะอมยิ้มขึ้น “โอเคแล้วเนอะ”
ผมมองรอยยิ้มที่ส่งมาให้ ก่อนจะมองมือที่ถูกไอ้ดิวดึงออกมาจากแก้มแล้วกุมเอาไว้แทน ผมก้มลงมองตามชั่วครู่ พร้อมกับเสียงทุ้มที่ฟังนุ่มนวลจะดังขึ้น ผมเงยหน้าไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่ยามนี้ดูน่ามองจนไม่อาจจะละสายตา
“อือ ห้ามปายยุ่งกาบโคนอื่นน้า” ผมสั่งคนตรงหน้าที่หัวเราะแล้วพยักหน้ารับ ผมอมยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง “กูจาหาอารายมาส่ายห้ายเมิงดีน้า”
“อะไรอีกล่ะ” ไอ้ดิวถามขึ้นเสียงอ่อน
“กูเปนจ้าวของเมิง กูก้อต้องหาอารายมาห้ายเมิงส่ายงาย” ผมบอกพลางยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม “เหมือนพูห์งาย กูก้อหาปลอกคอมาห้ายมานแหละ”
ไอ้ดิวหัวเราะขึ้น ก่อนจะส่งยิ้มมาให้ “กูไม่เอาปลอกคอนะ ขอแค่คิสมาร์คก็พอ”
“คิด..มาก?”
“อืม แมลงปอทำเองก็ได้ ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อด้วย” ไอ้ดิวบอกก่อนจะหัวเราะขึ้นมาเบาๆ ผมมองก่อนจะหัวเราะตาม ขอผมนึกก่อนนะว่ามันคืออะไรกันแน่
“แล้วมานคืออารายว้า” ผมถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจ ตอนนี้รู้สึกงงแล้วครับ แต่ผมว่าเคยได้ยินมาเหมือนกัน หรือว่าไม่ใช่?
ไอ้ดิยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยโดยไม่ได้ตอบอะไร ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากมาสัมผัสที่คอของผมจนรู้สึกจั๊กจี้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น ผมหันไปมองอย่างตกใจ พร้อมกับใบหน้าขาวที่ไล้ไปด้วยแสงจันทร์และสายลมในยามค่ำคืนจะเผยรอยยิ้มออกมา “แบบนี้ไง”
ผมพยักหน้าพลางรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้ไม่ต้องเสียเงินแต่ก็ดูยุ่งยากเหมือนกัน ที่สำคัญผมไม่เคยดูดคอใครเหมือนที่ไอ้ดิวทำเมื่อกี้นี้ด้วย แต่ถ้ามันอยากได้จริงๆ ผมก็จะลองดูก็ได้
ผมสูดหายใจเข้าลึก เมื่อรู้สึกว่าจังหวะของหัวใจเต้นแรงขึ้น ก่อนจะเลื่อนหน้าเข้าใกล้ลำคอขาวของไอ้ดิวที่อยู่เบื้องหน้า ผมตวัดสายตามองไปยังผิวแก้มที่แต้มสีอ่อนเล็กน้อย ก่อนจะจรดริมฝีปากขอวตัวเองลงบนผิวเนื้อ แล้วดูดเม้มเหมือนที่ได้รับรู้เมื่อครู่อย่างตั้งใจ
ผมผละใบหน้าของตัวเองออก แล้วเพ่งมองรอยแดงบนลำคอขาว ทว่าชื่มชมได้เพียงชั่วครู่ไอ้ดิวก็ช้อนใบหน้าของผมอย่างเรียกร้องความสนใจ ก่อนที่คนตรงหน้าจะประทับริมฝีปากเข้าแนบชิดกับริมฝีปากของผม ความนุ่มนวลที่แผงไปด้วยความอ่อนโยนและอุ่นร้อน ทำให้ผมรู้สึกตัวเบาขึ้นมาเสียอย่างนั้น
ผมปล่อยให้คนตรงหน้ามอบจูบที่รู้สึกว่าหวานติดริมฝีปากอย่างพอใจ ก่อนจะรู้สึกเสียดายขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อสัมผัสที่ได้รับมาเมื่อครู่จางหายไป เหลือแต่ร่องรอยบางอย่างที่ซึมซาบเข้ามาในความรู้สึก
ผมมองนัยน์ตาสีดำกระจ่างที่ทอประกาย พร้อมกับยิ้มตามรอยยิ้มหวานจนอดไม่ได้ที่จะเอานิ้วไปลูบไล้ตามเรียวปากที่ระบายยิ้มสวย ก่อนเสียงทุ้มที่ฟังคุ้นหูจะดังขึ้นแผ่วไม่ต่างจากเสียงลม
“เท่านี้ก็เรียบร้อย”
:|– ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: …
ผมลืมตาตื่นอีกครั้ง ก่อนจะพลิกตัวไปคว้าหมอนข้าง ทว่ามันกลับว่างเปล่า ผมกระพริบตาก่อนจะมองภาพที่ไม่คุ้นเคย แล้วสมองก็นึกออกว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน
ผมหาวขึ้นมาเล็กน้อย ก่อจะขยี้หัวตัวเองด้วยความเคยชิน สายตาก็หันไปมองดูรอบๆ แต่ก็ไม่เห็นโต้งเพื่อนร่วมห้องอยู่ ผมถอนหายใจออกมาแล้วมองดูนาฬิกาในโทรศัพท์มือถือ ตอนนี้เป็นเวลาเก้าโมงเช้า
ธรรมดาผมเป็นพวกนอนตื่นสายครับ เก้าโมงเนี่ยยังไม่ใช่เวลาตื่นนอนของผม แถมเมื่อคืนเหมือนจะดื่มเหล้าด้วย ผมโคลงหัวไปมาพร้อมกับความรู้สึกมึนหัวที่ทำงานเหมือนมีใครเอาค้อนมาทุบเป็นจังหวะ ผมเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้า ก่อนจะนึกแปลกใจเมื่อเห็นว่าชุดที่ตัวเองใส่ในตอนนี้ ไม่ใช่ชุดที่ใส่เมื่อคืน
เกิดอะไรขึ้นวะ...
ผมขมวดคิ้วพลางแปรงฟันแล้วนึกไปด้วย แต่ก็ยังนึกไม่ออกว่าไปเปลี่ยนเสื้อตอนไหน เมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จ ผมก็เดินออกจากห้อง ก่อนจะเห็นพี่แดนที่เดินสวนเข้ามาพอดี
“พี่เห็นคนอื่นบ้างไหมครับ”
“อ้าวน้องปอ น้องกี้ยังไม่น่าจะตื่นนะ ส่วนน้องโต้งกับน้องดิวรู้สึกว่าจะไปเดินเล่นกัน” พี่แดนบอกก่อนจะยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย “ลองไปดูที่ชายหาดสิครับ เห็นบอกว่าจะไปถ่ายรูปกันน่ะ”
“ขอบคุณครับพี่”
ผมเดินออกจากบริเวณรีสอร์ทแล้วมุ่งสู่ทะเลและหาดทรายอีกครั้ง ตอนนื้ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าใส คนก็ไม่ค่อยเยอะครับ ผมกวาดตามองดูรอบๆ ก่อนจะเห็นร่างคุ้นตานั่งทำเอ็มวีให้น้ำทะเลเซาะขาเล่น
“มานั่งทำอะไรตรงนี้วะ” ผมถามพลางนั่งลงที่ด้านซ้ายของมัน ไอ้ดิวหันมายิ้มให้ผมเล็กน้อยอย่างที่เห็นเป็นประจำ
“ชมวิว”
“ตื่นนานแล้วหรอวะ แล้วโต้งล่ะ”
“ก็นานแล้ว โต้งไปเดินเล่นที่อื่นน่ะ” ไอ้ดิวบอก ใบหน้าหล่อเหลานั้นยังคงทอดมองไปยังทะเลที่ไม่รู้ขอบเขต คลื่นพัดเข้าชายหาดพร้อมกับหอบลมเข้ามาเป็นระยะ ผมแอบมองมันเล็กน้อยก่อนจะเผลอยิ้มออกมา
ให้ตายเถอะ ขนาดมึงแค่นั่งชมวิวยังดูดีเลย...
“เมื่อคืนมึงเมามากเลย” ไอ้ดิวพูดขึ้น สายตายังคงมองท้องทะเลเบื้องหน้า ก่อนจะหัวเราะขึ้นมาเล็กน้อยแล้วหันมามองผม “จำได้หรือเปล่า”
“ไม่แน่ใจ แต่ว่าแย่มากเลยหรือวะ” นี่ผมคงไม่ได้ทำตัวประหลาดให้คนอื่นหัวเราะเยาะหรอกนะ ก่อนที่ผมจะนึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ “แล้วนี่กูกลับมานอนยังไงวะ แล้วเสื้อนี้อีก กูจำได้ว่าไม่ได้ใส่ตัวนี้นี่”
ไอ้ดิวอมยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย “จำไม่ได้เลยจริงเหรอ” ผมมองท่าทีน่าสงสัยบางอย่างของมัน ก่อนจะพยายามนึกอีกครั้ง พร้อมกับน้ำเสียงทุ้มที่ดังขึ้น “เมื่อคืนมึงไม่ยอมกลับห้องเอาแต่ร้องโวยวายบอกว่าจะนอนชายหาด แถมยังกลิ้งไปกลิ้งมาจนทรายเต็มตัว” ไอ้ดิวถอนหายใจออกมา “กูค้องรอจนมึงหลับก่อนนั่นแหละ ถึงได้พากลับห้อง”
ผมถอนหายใจเพื่อไว้อาลัยให้ตัวเองเมื่อคืน ไม่อยากจะนึกภาพให้อับอาย “แล้วเสื้อผ้ากู ใครเป็นคนเปลี่ยน” นี่ไม่ใช่ว่ามันเป็นคนเปลี่ยนให้ผมอีก
“โต้งเปลี่ยนให้อ่ะ” ไอ้ดิวบอก ผมถอนหายใจออกมาอีกรอบ ก่อนจะได้ยินไอ้หน้ายิ้มพูดขึ้นอีกครั้ง “ถ้ากูเปลี่ยนให้แล้วจะทำไมวะ”
“ก็เปล่า ไม่มีอะไร” ผมตอบก่อนจะมองไปข้างหน้าแล้วยืดแขนอย่างขี้เกียจ ก่อนไอ้ดิวจะยกมือขึ้นมาลูบหัวของผมเบาๆ ผมหันไปมองก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น ทว่าไอ้ตัวดีก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากอมยิ้มขึ้นมาเท่านั้น
ผมกับไอ้ดิวนั่งเล่นพลางปล่อยให้เวลาและคลื่นทะเลพัดผ่านโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกันอีก ผมอมยิ้มขึ้นมาด้วยความสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่เคยนึกเลยว่าตัวเองจะรู้สึกแบบนี้กับคนที่นั่งข้างกันเลยสักครั้ง ผมนั่งมองเส้นขอบฟ้าราวกับถูกหยุดเวลาเอาไว้
”น่าเสียดาย มาทะเลทั้งที น่าจะมาดูพระอาทิคย์ขึ้นสักหน่อย”
ถ้าได้มานั่งดูพระอาทิคย์ขึ้นด้วยกัน จะเป็นยังไงนะ...
“ไม่เป็นไรหรอก พระอาทิตย์ไม่ได้ขึ้นแค่วันนี้วันเดียวนี่” ไอ้ดิวพูดขึ้น ก่อนจะหันมาส่งยิ้มที่ดูอ่อนโยนมาให้ ผมมองก่อนยิ้มขึ้นบางๆ แล้วมองไปยังทะเลและท้องฟ้าผืนกว้างเบื้องหน้า
นั่นสินะ...
:|– ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: …
พวกเราเช็คเอาท์ออกจากรีสอร์ทกันก่อนเที่ยงครับ โดยมีพี่แดนเป็นคนจัดการเรื่องธุระให้ พวกเราก็ทยอยเอาของไปเก็บไว้ที่รถเหมือนเดิม เพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน
“ไอ้ดิว คอมึงไปโดนอะไรวะ” ไอ้กี้ร้องถาม ผมมองตามด้วยความสงสัย ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น เมื่อเห็นรอยจ้ำสีแดงตรงคอขาวๆด้านขวาของมัน ถึงว่าทำไมเมื่อเช้าผมถึงไม่เห็น
แล้วมันไปโดนอะไรมาวะ...
ไอ้ดิวทำหน้าสงสัย เมื่อไอ้กี้ชี้ให้ดู ไอ้หน้ายิ้มก็ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ท่ามกลางสายตาอีกสามคู่ที่กำลังมองมาอย่างสนใจ
“แมลงกัดน่ะ”
“ห๊ะ?” ไอ้กี้ร้องขึ้นด้วยความแปลกใจ ก่อนจะหรี่ตาเข้าไปมองใกล้ๆ “แต่กูว่ารอยแบบนี้ มัน...” แล้วไอ้กี้ก็เบิกตากว้างพลางหันมาหาผมในทันที “ไอ้ปอมึงมานี่ดิ”
“อะไรของมึง” ผมพูดขึ้นอย่างสงสัย แต่ก็ยอมเดินไปหามัน ไอ้กี้มองดูตรงคอของผม แล้วทำสีหน้าประหลาด ผมถอนหายใจออกมา “ไม่มีหรอก กูไม่ได้โดนกัด”
ไม่รู้ว่าไอ้ดิวไปโดนอะไรกัดเข้า โชคดีที่ผมไม่โดน...
ไอ้กี้หัวเราะขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองไอ้ดิวที่กำลังยืนพิงรถอยู่ ใบหน้าขาวยังคงแต้มด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ คิ้วเข้มนั้นเลิกขึ้นแบบกวนๆ ไอ้หน้าตี๋เลยเข้าไปตบหัวมัน คงหมั่นไส้กับท่าทีแบบนั้นล่ะมั้ง
“แมลงคงตัวใหญ่ ไม่งั้นคงไม่กัดซะแดงแบบนี้” ไอ้กี้ว่าต่อ พร้อมกับเสียงหัวเราะเบาๆของไอ้ดิวที่ดังขึ้น ไอ้หน้าตี๋ทำหน้าหมั่นไส้ขึ้นมา “ไปทำยังไงของมึงเนี่ย กูอยากรู้”
“ความลับ” ไอ้ดิวบอก ก่อนจะเปิดประตูแล้วขึ้นไปบนรถเสียอย่างนั้น
“ไอ้สัด! มึงคงมีความสุขมากเลยสิท่า” ไอ้กี้พูดขึ้น ก่อนจะกระโจนขึ้นรถตาม พร้อมกับเสียงที่ดังลอดออกมา “ไอ้ดิวครับ เล่าให้กูฟังนะ กูเพื่อนมึงนะเว้ย”
ผมไม่เข้าใจหรอกครับว่า พวกมันพูดเรื่องอะไรกันอยู่แน่ ตกลงแมลงกัดแล้วมันดีหรือไงวะ ผมได้แต่นึกสงสัย แต่โดนกัดแดงแบบนั้นคงเจ็บอยู่เหมือนกัน ผมเลิกสนใจเสียงเซ้าซี้ของไอ้กี้ แล้วหันไปหาโต้งแทน
“ตกลงไอ้ดิวมันโดนอะไรกัดวะ”
“คงแมลงที่อยู่กับมันนั่นแหละ” โต้งตอบผม ก่อนจะขึ้นรถตามไปอีกคน ผมขมวดคิ้ว เมื่อคำตอบที่ได้รับมาเมื่อครู่ไม่สามารถทำลายตวามสงสัยของผมไปได้
แล้วคุณรู้ไหมครับ?
TBC :|– ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: …
Note :::มาลงเร็วกว่ากำหนด เพราะเสร็จเร็วกว่าที่คาดจ้า อิอิ
ตอนนี้เขียนยากสุดติ่ง กว่าจะเข็นออกมาได้ก็อยากจะกรี๊ดร้องออกมาจ้า

ไม่รุ้จะชอบกันไหม ตอนนี้ค่อนข้างลังเลใจกับการใช้คำมากเลยค่ะ
เลือกไม่ถูกว่าจะใช้แบบยาน อย่างที่เห้น หรือว่าแบบปกติ เลยเลือกตามที่เคยอ่านบทคนเมามาใช้ อิอิ
คนเขียนไม่เคยเมานะคะ เพราะไม่ได้ดื่ม แต่เอาพฤติกรรมของเพื่อน และประสบการณ์จากตอนที่ต้องคุยกับคนเมาเนี่ย มันฮาจริงๆ
คนเขียนก็โดนให้เล่าเรื่องเนี่ยแหละค่ะ ไม่งั้นมันจะร้องไห้ เลยเอาประสบการณ์ที่เคยเจอมาใช้ อิอิ
ตอนนี้ก็หวานทิ้งท้ายกันจ้า รู้สึกว่าดิวมันหื่นหลบในจริงๆนะเนี่ย
ถ้าสังเกตจากตอนพิเศษก็จะรู้จากว่าใจจริงดิวมันหื่น ฮ่าๆ
เปลือกนอกแค่ใช้รอยยิ้มกลบเกลื่อน อิอิ
ส่วนตอนนี้แมลงปอก็ยังไม่ทิ้งความงงที่มีตั้งแต่ต้นเรื่องของตัวเองปิดท้าย อิอิ
แต่ก็คิดว่าน่ารักในแบบของเค้านั่นแหละจ้า อิอิ
หวังว่าจะชอบกันนะคะ เอิ๊กๆ แกนหลักของตอนนี้ก็คือ คิสมาร์คเนี่ยแหละจ้า อิอิ

ถ้ามีคำผิดก็ขออภัยด้วยจ้า เพราะเพิ่งเสร็จแบบร้อนฉ่า
ขอบวกแทนคำขอบคุณนะคะ สามารถแสดงความคิดเห็นและติชมได้เช่นเคย
ยังไงช่วยติดตามกันต่อไปด้วยนะคะ
ขอบคุณคะ
ปล 1. ตอนหน้าก็จะเริ่มลงตัวแล้วล่ะมั้ง อิอิ ยังไงก็ติดตามกันต่อไปด้วยนะคะ
ปล 2. อยากรู้ว่า จากเนื้อเรื่องที่ผ่านมาคิดว่า ประโยคไหนของดิวกับแมลงปอที่โดนใจที่สุดค่ะ
คนเขียนเลือกไม่ถูก เพราะชอบอยุ่หลายประโยค (ก็แต่งเองนี่หว่า อิอิ)
ยังไงรบกวนช่วยเลือกให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ