♣Maybe...รักนี้อาจเป็นนาย♣
บทที่ 48
You are a mistake I am willing to make over again
คุณเป็นความผิดพลาด ที่ผมยินดีจะสร้าง...ครั้งแล้วครั้งเล่า
[Tonhom talks]
ผมไม่รู้ว่าจะคิดจะพูดยังไงดีกับสิ่งที่ได้เห็นตรงหน้า แต่หัวใจของผมมันบีบรัดจนเจ็บ เป็นความเจ็บปวดที่ถึงแม้จะไม่เกิดกับตัวผม แต่มันก็ทำให้รู้สึกเจ็บตามไปด้วย
พี่ป่าน...พี่สาวของพี่ปืน ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะสวยมากขนาดนี้ แต่ความสวยของเธอได้เลือนหายไปพร้อมกับความสุข พี่ป่านดูไม่มีความสุขเลย ดวงตาที่เหม่อลอยเหมือนเหมือนว่าพี่ป่านกำลังอยู่ในโลกอีกโลกที่เราไม่รู้ เดี๋ยวก็ยิ้ม เดี๋ยวก็ร้องไห้ เดี๋ยวก็ทำหน้าเศร้าโดยที่ยังนั่งนิ่งๆ ขนาดแม่พี่ปืนจัดแจงแกะกล่องอาหารอยู่ใกล้ๆ พี่ป่านยังไม่สนใจใครเลย นอกจากอยู่ในโลกของตัวเอง
โลกที่ไม่มีใครเข้าถึงได้
โลกที่พี่ป่านกักขังตัวเองจนต้องอยู่ในสภาพเช่นนี้
ผมไม่รู้ว่าโลกที่พี่ป่านอยู่มันโหดร้ายมากแค่ไหน แต่ทำไมพี่ป่านถึงได้เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในโลกสีดำแบบนั้นนะ
แล้วในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว หลั่งน้ำตาออกมา พี่ปืนดูจะตกใจไม่น้อยที่อยู่ดีๆผมก็ร้องไห้ พี่ปืนยกแขนขึ้นโอบผมไว้หลวมๆ ผมหันหน้าเข้าซุกอกพี่ปืน ให้อ้อมกอดของพี่ปืนช่วยเช็ดน้ำตาและความทุกข์
“อย่าร้องไห้สิ ไม่มีอะไรหนักหนาขนาดนั้นหรอก”
ไม่รู้ว่าพี่ปืนกำลังพูดปลอบผมหรือปลอบตัวเองอยู่ ผมรู้แล้วว่าพี่ปืนรู้สึกยังไง ตอนที่ผมไปฝรั่งเศสแล้วพี่เขาไม่ติดต่อผมเลยเพราะต้องคอยดูแลพี่ป่าน พี่ปืนคงจะทรมานมากๆ เพราะขนาดไม่ใช่พี่สาวของผม แต่แค่ได้เห็น ผมยังรู้สึกเศร้าใจตามเลย นับประสาอะไรกับพี่ปืน ที่พี่สาวอันเป็นที่รักต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้
“พี่ปืนทนได้ยังไง” ผมถามเสียงสะอื้น
“อ้าว ต้นหอมลูก เป็นอะไรไปครับ” เสียงแม่พี่ปืนถามผม
“เด็กขี้แยอ่ะแม่” พี่ปืนพูดขำๆ ผมหมั่นไส้เลยกัดหน้าอกพี่ปืนผ่านเสื้อเชิ้ตไปที แต่หนังพี่ปืนหนา จึงไม่รู้สึกรู้สาอะไร ไว้ตอนไม่ใส่เสื้อผมจะกัดให้จมเขี้ยวเลย คนกำลังเศร้าๆอยู่
“แกล้งน้องล่ะสิเรา” แต่แม่ไม่เข้าข้างพี่ปืน จับแขนผมให้นั่งลงข้างๆ บนโต๊ะม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่มีอาหารมากมายวางเต็มโต๊ะ พี่ปืนนั่งลงบนเก้าอี้ม้าหินอีกตัวข้างๆผม
“ป่าน แม่ทำของโปรดของลูกมาให้เยอะแยะเลย กินหน่อยนะลูกนะ” แม่พี่ปืนย้ายไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดียวกับพี่ป่าน สองมือของแม่ประคองใบหน้าสวยหวานแต่ไร้ร่องรอยแห่งความสุขให้หันกลับมาหาแม่ เมื่อพี่ป่านรู้สึกตัวและมองจ้องหน้าแม่ น้ำตาหยดหนึ่งก็ไหลออกมา ริมฝีปากสีซีดเม้มแน่น ร้องไห้ออกมาโดยไร้เสียงสะอื้น ภาพตรงหน้าสะเทือนใจผมจนร้องไห้ตาม พี่ปืนเลยขยับมานั่งข้างๆผม โอบเอวผมพลางลูบเบาๆ
“อย่าร้องไห้สิลูกแม่ ไม่สวยเลยนะ คิดถึงแม่ไหม แม่คิดถึงหนูมากเลยนะ”
“...แม่”
“แม่เองลูก มาแม่ป้อน หนูอยากกินอะไร เอาไข่ตุ๋นเนอะ ของโปรดของหนูเลย” แม่พี่ปืนพูดเสียงสั่น น้ำในตาสั่นระริก แต่แม่ก็พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมา คงไม่มีแม่คนไหนจะทนเห็นลูกตัวเองทุกข์ทรมานได้หรอก
ผมนั่งมองแม่ป้อนข้าวพี่ป่าน บางครั้งที่พี่ป่านหันมามองผม ผมยิ้มให้พี่ป่านกว้างๆ ยิ้มแบบที่เรียกได้ว่าจริงใจที่สุด ดูดีที่สุดท่าที่จะยิ้มได้ แล้วพี่ป่านก็ยิ้มให้ผม ทำเอาแม่และพี่ปืนมองตาค้างเพราะเป็นรอยยิ้มอย่างกับคนปกติ
“น่ารัก” พี่ป่านพูดเสียงเบาๆ ดวงตาจับจ้องที่ใบหน้าผม พอถูกชมผมก็รู้สึกเขินจนหน้าร้อน
“ฮ่าๆๆ ท่าทางยัยป่านจะชอบหนูนะลูก มานั่งใกล้ๆพี่เขามา” แม่พี่ปืนกวักมือเรียกผมให้ไปนั่งใกล้ๆพี่ปืน ผมแหงนหน้ามองพี่ปืน พี่เขาพยักหน้าให้ ผมจึงลุกย้ายไปนั่งใกล้ๆพี่ป่าน
“...” พี่ป่านหันหน้ามามองผมเงียบๆ ก่อนจะหันกลับไปมองอาหารบนโต๊ะ ใช้มือจับช้อนส้อมจิ้มลงบนเกี๊ยวปลานึ่งจากนั้นก็จิ้มในน้ำจิ้มรสเด็ด ผมเป็นคนทำเองนะ ไม่อยากจะคุย
“หืม?” แล้วอยู่ๆเกี๊ยวปลาก็มาจ่ออยู่ที่ปากผม ผมมองตามมือพี่ป่านที่ถือส้อมจ่อที่ปากผมไปจนถึงใบหน้าสวยที่นิ่งจนไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่
“กินสิกิน จะได้โตไวๆ” พี่ป่านพูดแล้วก็ยิ้ม ยิ้มสวยมากจนผมเผลอมองตาค้าง พี่ปืนจึงต้องสะกิดผม นั่นแหละผมถึงได้อ้าปากกินเกี๊ยวตรงหน้าแบบเอ๋อๆ
แล้วหลังจากนั้นพี่ป่านก็จิ้มนู่นจิ้มนี่ป้อนผมไม่หยุด แม่พี่ปืนถึงกับหัวเราะด้วยความฮา พี่ป่านคงไม่ได้เห็นผมเป็นที่เก็บอาหารหรอกนะ ยัดเอายัดๆ หันไปส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากพี่ปืนก็ถูกเมินกลับมา ให้มันได้อย่างนี้สิ!
“ต้นหอมอิ่มแล้วพี่ป่าน” ผมจับมือพี่ป่านไม่ให้จิ้มอาหารป้อนผมอีก พี่ป่านขมวดคิ้วมองผมงงๆ ผมเลยต้องบอกอีกครั้ง
“ต้นหอมอิ่มแล้ว”
“ต้นหอม?” พี่ป่านทวนชื่อผม
“น้องชื่อต้นหอมลูก เป็นแฟนตาปืนเขา” แม่แนะนำ แต่ทำผมเขินนะ ถึงพี่ป่านจะไม่ปกติดี แต่พี่เขาก็คงไม่ได้ปัญญาอ่อนจนไม่รู้ความหมายนี่นา
“แฟนปืน?” พี่ป่านถามเสียงลอยๆ มองหน้าพี่ปืนงงๆ พี่ปืนพยักหน้ารับ
“ต้นหอมแฟนปืน...แล้ว...แฟนป่านไปไหน อาร์ตไปไหน!”
พี่ป่านเริ่มคุ้มคลั่ง โวยวายหาคนที่ชื่อว่าอาร์ต มือก็กวาดอาหารบนโต๊ะจนกระจายเต็มพื้น ผมลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ พี่ปืนรีบเข้าไปล็อคตัวพี่ป่านเอาไว้ไม่ให้อาละวาดมากไปกว่านี้ ส่งนผมก็ได้แต่ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก
“ป่านลูก ใจเย็นๆ มองหน้าแม่” แม่พยายามกล่อมพี่ป่าน แต่ดูเหมือนพี่ป่านจะสติหลุดไปไกลแล้ว
“อาร์ต! ฮือออ อาร์ตไปไหน ปล่อยเซ่! ฮืออ”
มือไม้ผมสั่นไปหมด พี่ปืนมีสีหน้าเจ็บปวดจนผมรู้สึกสงสาร ขยับเข้าไปหาแล้วกอดทั้งพี่ปืนและพี่ป่านเอาไว้
“พี่ป่าน อย่าร้องไห้เลยนะครับ ฮึก” ผมบอกพี่ป่าน แต่ตัวเองกลับร้อง ยิ่งได้ยินเสียงพี่ป่านร้องไห้ ผมก็ยิ่งร้องตามหนัก เพราะความรักพี่ป่านถึงได้ทรมานแบบนี้ หลายครั้งที่ผมผิดหวังกับความรัก เอาแต่ตามหาความรักที่ไม่รู้ว่ามีจริงไหม แต่ผมเชื่อว่ามีจริงและผมก็ได้เจอ ถามว่าถ้าผมไม่เจอพี่ปืน ผมจะเป็นยังไง จะเป็นแบบนี้หรือเปล่า ความรักเป็นสิ่งสวยงาม แต่อีกด้านก็เปรียบเสมือนมีดแหลมที่สามารถย้อนกลับมาทิ่มแทงและทำร้ายคนที่อ่อนแอได้
“ฮึก อย่าร้องเลยนะครับ ทุกคนรักพี่ป่านนะ อย่าไปรักผู้ชายคนนั้นอีกเลย”
ผมไม่รู้ว่าโรคที่พี่ป่านเป็นอยู่จะมีทางรักษาหายไหม แต่ผมอยากให้พี่ป่านหาย ผมไม่อยากให้พี่ป่านต้องมีสภาพแบบนี้ไปจนตาย มันทรมานเกินไป
“ฮึก ต้นหอม..ร้องทำไม” พี่ป่านสะอื้นเบาๆ ผมเงยหน้าขึ้นเมื่อรู้สึกว่ามีคนกำลังลูบหัวผมอยู่ พี่ป่านหยุดร้องไห้แล้ว มือที่อาละวาดทุบตีตัวพี่ปืนเมื่อครู่ลูบหัวผมเบาๆ พี่ปืนขยับตัวออกแล้วพี่ป่านก็กอดผมแทน
“อย่าร้องนะอย่าร้อง โอ๋ๆๆ”
แล้วก็กลายเป็นว่าพี่ป่านต้องมาปลอบผมแทน มันใช่เรื่องไหม แทนที่ผมจะปลอบพี่ป่าน แต่กลับให้คนป่วยมาปลอบผมแทน
“เฮ้อ ค่อยยังชั่ว” แม่พี่ปืนถอนหายใจอย่างโล่งอก ผมสะอื้นเบาๆ สูดน้ำมูกฟึดฟัดอย่างรำคาญ
“ร้องจนน้ำหมดตัวแล้วไอ้ลูกหมูเอ้ย” พี่ปืนขยี้หัวผมไปมา พี่ป่านเห็นแบบนั้นเลยทำบ้าง
“จิ๊! อย่ามาล้อหนูนะ!” ผมแหวใส่พี่ปืนที่ทำหน้าล้อเลียนใส่ผม ถ้าไม่ได้เพราะผมพี่ป่านคงไม่หยุดอาละวาดง่ายๆหรอก เห็นไหมว่าผมมีประโยชน์แค่ไหน เชอะ!
“สวย...” พี่ป่านเอาดอกลีลาวดีมาทัดหูผมก่อนจะยิ้มหวานชมผม มีสาวสวยๆมายิ้มให้ผมแบบนี้ ผมก็เขินนะครับ
วันนี้เป็นอีกวันที่ผมมาเยี่ยมพี่ป่านกับพี่ปืน ส่วนแม่ต้องไปทำงานเลยไม่ได้มาด้วย แล้วตอนนี้พี่ปืนก็ไปหาหมอประจำตัวพี่ป่าน ผมเลยมานั่งเล่นที่สวนดอกไม้ในโรงพยาบาลกับพี่ป่านสองคน รอบๆข้างเป็นคนป่วยทางจิต บางคนก็ร้องเพลง บางคนก็วิ่งไล่คนนู่นคนนี้ บรรยากาศเหมือนกับในละครที่เคยเห็นๆกัน ไม่นึกว่าจะมีโอกาสได้มาสัมผัสได้ตัวเอง
“พอแล้วพี่ป่าน ดอกไม้เต็มหัวผมแล้ว” ผมได้แต่ร้องห้าม แต่กล้าหักหาญน้ำใจดึงดอกไม้หลายสีบนหัวออกเพราะกลัวพี่ป่านจะเสียใจ ผมรู้สึกว่าตัวเองช่างกลมกลืนไปกับคนป่วยทั้งหลาย ถ้าใครไม่รู้จักคงคิดว่าผมเป็นคนบ้าแน่ๆ เพราะดอกไม้เต็มหัวผมอย่างกับสวนพฤกษชาติ!
“หนูดอกไม้...สวยจัง” พี่ป่านเอียงคอน่ารักมองผม ผมยื่นปากใส่พี่ป่าน หนูดอกไม้อะไรกัน ผมชื่อต้นหอมต่างหาก
“พี่ป่านต้องชมผมว่าหล่อสิ สวยที่ไหนกัน ผมเป็นผู้ชายนะ” พี่ป่านเอาแต่ชมผมว่าสวย พี่เขากำลังเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า
“หล่อที่ไหน ไม่หล่อเลย หนูดอกไม้ไม่หล่อสักนิด!” พี่ป่านส่ายหน้าไปมาแถมยังขึ้นเสียงใส่ผมอีก แต่นั้นไม่ทำให้ผมรู้สึกเจ็บได้เท่ากับที่พี่ป่านบอกว่าผมไม่หล่อ!
สะเทือนใจไปจนถึงตับเลยทีเดียว T^T
“ไม่หล่อแต่สวย สวยแล้วก็น่ารัก” ยังไงๆพี่ป่านก็ยืนยันจะให้ผมสวยให้ได้ โอเค สวยก็สวย นี่ผมเห็นแก่พี่ป่านหรอกนะบอกเลย
“งั้น...ถ้าผมไม่หล่อ แล้วใครหล่อ” อยากรู้ครับว่าผู้ชายแบบไหนในสายตาพี่ป่านถึงจะเรียกว่าหล่อ
“แบบนั้นไง หล่อ” พี่ป่านชี้นิ้วไปข้างหลังผม เห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินมาทางนี้ ผมไม่รู้จักเขา แต่เดาไม่ยากว่าเป็นหมอ เพราะอยู่ในชุดกาวน์สีขาวสะอาดสะอ้าน
“เมื่อกี้หมอได้ยินว่าอะไรหล่อๆนะครับ” คุณหมอนั่นลงข้างๆผม พร้อมกันหันมายิ้มหล่อใส่ผม อื้อหือ ถ้าไม่ติดว่ามีแฟนแล้วผมคงลงไปดิ้นกับพื้นแล้วนะครับ แต่เผอิญผมมีแฟนแล้ว จึงสามารถทนต่อความหล่อของคุณหมอได้
“อย่ามองนะ หวง!” พี่ป่านดึงตัวผมไปกอด ผมเอนตัวเข้าหาพี่ป่านแบบไม่ได้ตั้งตัว คุณหมอหนุ่มหัวเราะขำๆ
“ไม่แย่งหรอกครับคุณคนไข้ ได้เวลากินยาแล้ว หมอเอายามาให้” คุณหมอแบมือออก มียาหลายเม็ดอยู่ในมือ มืออีกข้างก็ยื่นขวดน้ำให้พี่ป่าน
“ไม่เอา ไม่ชอบกินยา” พี่ป่านสะบัดหน้าหนีอย่างแง่งอน แต่แลดูน่ารักมากๆ ผมเชื่อว่าถ้าพี่ป่านหายดี คงมีผู้ชายมาตามจีบเยอะแน่ แต่น่าเสียดายที่พี่ป่านเอาแต่จมปรักกับความเจ็บปวดแบบนี้
“ไม่กินไม่ได้ ไม่กินก็จะไม่หาย พอไม่หายก็ไม่มีใครัก” คุณหมอพูด ผมถึงกับตกตะลึงในคำพูดของหมอ หมอที่ไหนพูดกับคนไข้แบบนี้เนี่ย บ้าไปแล้ว!
“ไม่จริง!” พี่ป่านแย้งเสียงสูง เบ้หน้าจะร้องไห้ หันมามองหน้าผมอ้อนๆ
“ผมรักพี่ป่านนะ” ผมรีบบอกก่อนที่พี่ป่านจะร้องไห้ออกมา เวลาพี่ป่านร้องไห้ไม่สนุกเลยสักนิดครับผม ตอนพี่ป่านอาละวาดแรงเยอะยิ่งกว่าผู้ชายเสียอีก ขนาดพี่ปืนยังเอาไม่อยู่เลย
“เห็นไหม นี่ไงคนรัก เหอะ! หมอปากไม่ดี! หล่อแต่ไม่น่ารัก ยี้!!!” พี่ป่านว่าคุณหมอแล้วเชิดหน้าขึ้นไม่ใส่ใจ แต่คุณหมอไม่ว่าอะไร เอาแต่ยิ้มหล่อเหมือนจะเอ็นดูคนป่วยยังไงยังงั้น
แปลกไปหน่อยนะผมว่า...
“มีคนรักคนเดียวจะไปพออะไร ถ้ากินยาจะมีคนรักมากขึ้นนะ” หมอพูดเสียงนุ่มด้วยความใจเย็น พี่ป่านเหลือบตามองคุณหมอนิดๆเหมือนจะลังเล
“ใครจะรัก คนไหน” พี่ป่านถามเสียงเบา พี่ป่านคงอยากให้คนรักเธอเยอะๆ เพราะคนที่เธอรักไม่รักเธอ เธอเลยกลัวว่าจะไม่มีใครรัก
“ถ้าคนไข้กินยา หมอคนหนึ่งแหละที่จะรัก” คุณหมอพูด ผมคิดตามพร้อมกับสงสัยในคำพูดของคุณหมอ พูดเพียงเพราะต้องการกล่อมพี่ป่านหรือมีอะไรมากกว่านั้น สายตาที่มองพี่ป่านก็ไม่ธรรมดา ผมคิดมากไปไหมเนี่ย บางทีอาจจะไม่มีอะไร ผมคงเพ้อเจ้อมากไปหน่อย
“โกหก”
“ไม่โกหกหรอก หมอพูดจริง”
“ไม่โกหกแน่นะ”
“ครับ”
“งั้น...กินก็ได้”
ในที่สุดพี่ป่านก็ยอมกินยา ผมได้แต่มองคนสวยกินยาด้วยท่าทางพะอืดพะอมขำๆ อย่างกับเด็กๆเลยฮะ วันนี้พี่ป่านสวยกว่าครั้งแรกที่เจอกันมาก ใบหน้าขึ้นสีชมพูระเรื่อไม่ซีดเซียวอย่างครั้งก่อน ริมฝีปากสีชมพูก่อนเบ้นิดๆก่อนจะอ้าปากกินยาแล้วดื่มน้ำตามอย่างรวดเร็ว
“หมดแล้ว” พี่ป่านพูดดีใจ คุณหมอยังไม่มีทีท่าว่าจะหุบยิ้มเอื้อมไปหยิบขวดน้ำในมือพี่ป่านมาปิดฝา
“เก่งมากครับคนป่วย” คุณหมอชม พี่ป่านยิ้มกว้างทำเอาผมยิ้มตามแบบไม่รู้ตัว
“กินยาแล้วรักไหม ต้องรักนะ!” พี่ป่านทวงรักจากคุณหมอ
“รักสิครับ”
เอิ่ม...นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่ ผมเป็นกอขอคออยู่หรือเปล่า ทำไมรู้สึกว่าบรรยากาศรอบข้างมันกลายเป็นสีชมพูหวานแหววแบบนี้ล่ะ
เมื่อได้ยินคำตอบที่ถูกใจพี่ป่านก็ยิ้มกว้างโผเขากอดคุณหมอ ผมตกใจจะห้าม แต่คุณหมอยกมือเป็นเชิงว่าไม่เป็นอะไร ผมเลยนั่งดูเงียบๆ คุณหมอหนุ่มหน้าตาดีพูดอะไรกับพี่ป่านสักอย่างแล้วก็ป่านก็ปล่อยตัวคุณหมอ จากนั้นคุณหมอก็ขอตัวไปดูแลคนป่วยคนอื่นต่อ
อะไรยังไงครับ...ผมงง!
ผมอยู่เล่นกับพี่ป่านจนบ่ายคล้อย ได้เวล่ที่พี่ป่านต้องพักป่อน เลยลากลับ ก่อนกลับพี่ป่านร้องไห้ไม่ยอมให้ผมกลับ จะให้ผมนอนด้วยให้ได้ ผมสงสารแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี สุดท้ายเลยต้องโกหกว่าเดี๋ยวจะมาหาไหม ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าจะว่างมาหาอีกเมื่อไหร่ เพราะผมต้องเรียนต้องซ้อมเต้น งานเยอะแยะ ได้แต่หวังว่าพี่ป่านจะลืมไปซะ ผมไม่อยากให้พี่ป่านรอ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นพี่ป่านต้องร้องไห้แน่ๆ
“เป็นอะไรไป” พี่ปืนถามเมื่อผมเงียบตั้งแต่ขึ้นรถออกมากจาโรงพยาบาล
“หนูสงสารพี่ป่านอ่ะพี่ปืน เมื่อไหร่พี่ป่านจะหาย”
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“ทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้นะ อย่าให้ต้นหอมเจอหน้าไอ้คนชื่ออาร์ตนะ จะต่อยหน้าเละเลย!” ผมพูดด้วยความคับแค้นใจแทน มันจะรู้บ้างไหมว่าทำให้ใครต้องตายทั้งเป็น
“หึหึ ตัวแค่นี้จะไปทำอะไรเขาได้”
“เห็นหนูแบบนี้แต่หนูแรงเยอะมากนะ ขอบอก”
“เหรอ แรงเยอะแบบนี้คืนนี้ขอหลายรอบได้ป่ะ” พี่ปืนทำหน้ากรุ่มกริ่ม ทีแรกผมก็ไม่เข้าใจหรอก แต่สายตาพี่ปืนที่สื่อความหมายแบบไม่ปกปิดทำให้ผมหน้าร้อนลามไปทั้วทั้งใบหูและลำคอ
“บ้า! ไม่ให้หรอก” ผมว่าอายๆ
“หึหึ งั้นเหรอ งั้นคืนนี้อย่ามาสะกิดพี่แล้วกัน”
“หนูไม่เคยทำแบบนั้นบ้างเถอะ!”
“เหรอ แน่ใจเหรอ”
งื้อออ...ไม่แน่ใจอ่ะ ผมจำไม่ได้!
พอโดนแกล้งผมก็เลยหันหน้าหนีไม่พูดกับพี่ปืน ได้ยินแต่เสียงหัวเราะในลำคอเบาๆจากพี่ปืนเท่านั้น ผมแกล้งผมให้อายตลอดเวลา โรคจิตจริงๆ มันน่าเจ็บใจนัก ต่อไปผมจะไม่ทำตัวน่าอายแบบนั้นอีกแล้ว จะได้ไม่ถูกล้ออีก
“พี่ปืน...” ผมเรียกพี่ปืนหลังจากนั่งเงียบมาเป็นเวลานาน
“หืม?”
“เพราะพี่ป่านเป็นแบบนี้ พี่ปืนถึงได้ไม่อยากรักหนูใช่ไหม” ผมหันไปถามจริงจัง พี่ปืนเลิกคิ้วสูงก่อนจะทำหน้าเครียด
“พี่บอกเมื่อไหร่ว่าไม่รัก”
“ไม่ๆ หนูหมายถึงก่อนหน้านี้อ่ะ” ผมรีบอธิบายต่อเมื่อพี่ปืนทำหน้าหงิกงอใส่ผม
“อ่อ ก็ประมาณนั้น” พี่ปืนตอบครึ่งเสียงอย่างคนไม่มั่นใจ ซึ้งน้อยครั้งที่จะได้เห็นความประหม่าจากพี่ปืน
“พี่ก็แค่ไม่คิดว่าถ้าตัวเองมีความรักแล้วจะโชคดี บทเรียนมีให้เห็น พี่คงอ่อนแอมากจนไม่อยากเจ็บปวด ถ้ารักแล้วจะต้องทุกข์ จะมีมันทำไม อยู่คนเดียวคงจะดีกว่ามีคนเข้ามาทำให้ทุกข์” แววตาแน่นแน่ในความคิดของตนเองมองสบตาผม ดีที่รถติดไฟแดง เราจึงสบตากันได้นาน ผมขยับตัวซบหน้าลงกับท่อนแขนพี่ปืน พี่ปืนไม่ได้อ่อนแอเลยสักนิด พี่ปืนเข้มแข็งมากต่างหาก
“แล้วพี่เสียใจไหมที่รักหนู”
“รู้ไหม ว่าหนูคือความผิดพลาดของพี่”
“...!!!”
“เป็นความผิดพลาดที่พี่ยินดีจะสร้างครั้งแล้วครั้งเล่า”
หัวใจผมที่ตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มลอยขึ้นกลับมาอยู่ที่เดิมอย่างรวดเร็ว ผมแปลความหมายว่าพี่ปืนรู้สึกดีที่รักผมใช่ไหม ผมเงยหน้าสบตาพี่ปืนด้วยความรู้สึกที่ผมมี
“หนูโชคดีที่รักพี่”
“พี่ก็โชคดีเหมือนกัน”
“หนูอยากให้พี่ป่านโชคดีบ้าง”
“อาจจะต้องรอปาฏิหาริย์” พี่ปืนละสายตามองถนน เคลื่อนรถออกหลังจากสัญญาณไฟเขียวสว่างขึ้น
ผมว่าบางทีอาจจะไม่ต้องรอปาฏิหาริย์หรอก ผมว่าคุณหมอรูปหล่ออาจจะช่วยพี่ป่านได้
............................................
# ชอบไหมแบบนี้ แต่ริริชอบมากกกกก ตินนี้แต่งไปยิ้มไป มีน้ำตาคลอบ้างตอนแต่งฉากพี่ป่าน หนูต้นหอมน่ารัก พี่ปืนน่ารัก คุณแม่น่ารัก พี่ป่านน่ารัก และคุณหมอหล่อน่ารัก อ๊ายยยย รักทุกคนเลย!

# เพราะเรื่องพี่มาโคกับหนูพริกกำลังดราม่าอยู่ เลยเอาความหวานมาเติมให้กับทุกคนแทน ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

ท้ายที่สุด...รักคนอ่านที่สุดเลย!!!
