♣Maybe...รักนี้อาจเป็นนาย♣
บทที่ 35
The past will be coming back to hurt my present, what should I do?
[Tonhom talks]
เปิดเทอมแล้วครับ!
แค่เดือนหนึ่งที่ผ่านมา ดูเหมือนจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่กลับเกิดเหตุการณ์ขึ้นมากมายอย่างที่ผมคาดไม่ถึง พูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยมีความสุขมากเท่านี้มาก่อน
เรื่องที่ทำให้ผมมีความสุขไม่ใช่แค่ว่าผมมีความรัก แต่เพราะผมได้ไปหาพ่อแม่ ได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างที่ใจอยาก ได้กินข้าว พูดคุย ได้กอดได้หอมพ่อกับแม่ นับได้ว่าเป็นช่วงเวาลาที่ผมมีความสุขมากๆในรอบสองสามปีที่ผ่านมาที่ต้องอยู่ห่างจากพ่อแม่เลยก็ว่าได้
ผมมีความสุขที่ผมกับพี่ปืนเราใจตรงกันแล้ว ไม่ใช่ผมรักที่พี่ปืนแค่ฝ่ายเดียว แต่พี่ปืนก็รักผมเช่นกัน เหมือนฝันเลยใช่ไหม คงไม่แปลกที่เพื่อนผมจะแขวะผมตั้งแต่เช้าว่าผมยิ้มยังกับคนบ้า ไม่มีอะไรก็ยิ้ม ก็คนมันมีความสุขนี่นา สุขแล้วก็ต้องยิ้ม
แล้วมีอีกเรื่องนะที่ทำให้ผมมีความสุขนั่นก็คือ แมทกับมินเป็นแฟนกันแล้ว!!!
ตื่นเต้นไหมครับ ตกใจหรือเปล่า!
ห๊ะ! อะไรนะ ไม่ตื่นเต้นเลยเพราะรู้กันก่อนหน้านี้แล้ว
เฮ้ย! ได้ไงอ่ะ ทำไมผมรู้ช้ากว่าใครเพื่อนเลยล่ะ น้อยใจนะบอกเลย!
แต่เอาเถอะ ตอนนี้ดูเหมือนว่าแมทจะมีความสุขดี ผมมีความรัก แมทก็มีความรัก เรามีความสุข ช่วงเวลานี้มันช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนวิเศษจริงๆ
“ต้นหอม ตกลงจะไม่เอาค่าของจริงๆเหรอ” ปลาและไข่ดาวยังคงคะยั้นคะยอจะจ่ายเงินค่าของที่พวกเธอฝากผมซื้อที่ฝรั่งเศสให้ได้ แต่ผมจะไปเก็บเงินค่าของได้ยังไง ในเมื่อแม่ผมเป็นคนจ่ายทั้งหมด แล้วฝากให้มาบอกเพื่อนๆผมว่าไม่เก็บตังค์ ให้เป็นของขวัญ
“นั่นดิ มันหลายบาทนะเว้ย” อาร์มพูดเสียงสูง มันฝากซื้อน้ำหอมครับ ราคาถ้าตีเป็นเงินไทยก็เกือบห้าพันอยู่
“เกรงใจวะ” ก้านพูดเบาๆ
“ไม่เป็นไรจริงๆ แม่ฉันรวย เอาไปเถอะ เดี๋ยวเสียน้ำใจแม่” ผมพูดให้เพื่อนๆคล้ายความกังวลลง เงินแค่นี้ขนหน้าแข้งแม่ผมไม่ร่วงหรอก เพราะแม่ผมไม่มีขนหน้าแข้งไง ฮ่าๆๆๆ
“ฝากไปขอบคุณแม่แกด้วยนะ แต่คราวหลังต้องเก็บเงินนะ ไม่งั้นฉันจะไม่ฝากแกซื้อของอีก” แชมป์ยอมในที่สุด เพื่อนแต่ละคนถึงได้เก็บของที่ฝากผมซื้อลงใส่กระเป๋า
“รามๆ มานี้หน่อย!” ผมตะโกนเรียกรามที่เดินผ่านมา รามกับเพื่อนกลุ่มเขาหยุดเดิน แล้วก็พูดอะไรสักอย่างกับเพื่อนเขาแล้วก็เดินแยกออกมาหาผม
“ว่าไงวะ ได้ข่าวว่ามึงไปฝรั่งเศสมานี่” อย่าแปลกใจที่รามพูดกับผมด้วยภาษาพ่อขุนแบบนี้ ผมก็ทำใจชินแล้วล่ะ เพราะผู้ชายคนนี้ดิบเถื่อนเกินกว่าจะแก้ไขได้ ยิ่งไปตัดผมทรงสกินเฮดมา ความหล่อปนเลวยิ่งพุ่งกระฉูด เนื้อหอมยิ่งกว่าเดิม ทั้งผู้หญิง ตุ๊ด เกย์ กระเทย หรือแม้แต่ทอมยังตามติดมันเลย อันนี้ก้านเล่าให้ผมฟัง
“อืม อ่ะนี่ของฝาก” ผมส่งถุงของฝากที่มีหลายๆอย่างรวมกัน ตั้งแต่ขนมยันของฝากกระจุกกระจิก ซึ่งแน่นอนว่าแม่ผมเป็นคนจ่าย นี่ผมแจกจ่ายเพื่อนไปหลายคนแล้วนะ เหลือของฝากอีกนิดหน่อยเพราะเพื่อนบางคนก็ยังไม่เห็นหน้า
“เออ ขอบใจมากมึง กูไปล่ะ จะรีบไปกินข้าว หิวฉิบหาย” รามโบกมือลาแล้วก็เดินจากไป
“ไอ้ห่านี่แม่งหล่อเกิน ยืนใกล้ๆกูนี่กูดับไปเลย” ก้านบ่นไม่จริงจังนัก อย่างว่าแหละ แค่ขนาดตัวกับส่วนสูงก็ต่างกันแล้ว
นั่งพูดคุยกับพอหอมปากหอมคอกันอยู่สักพัก ก็ได้เวลาเข้าเรียน เปิดเทอมใหม่มาดูหลายๆคนเปลี่ยนไป ซึ่งผมเองก็เช่นกัน เพราะเพิ่งไปตัดผมกับทำสีใหม่มา
“กูว่ากูไปตัดผมบ้างดีกว่าวะ” อาร์มลูบหัวตัวเองไปมา ผมที่นั่งจดเลคเชอร์อยู่ปรายตาขึ้นมองหัวอาร์มนิ่งๆ
“มันมีให้ตัวด้วยเหรอไง แทบจะโล้นอยู่แล้ว” ผมพูดเรียบๆ แต่ทำเอาไข่ดาวกับปลาหัวเราะคิกคัก จะไม่หัวเราะได้ไง ก็ไอ้อาร์มมันเพิ่งไปบวชมาเมื่อตอนปิดเทอมใหม่ๆ นี่ผมมันก็เพิ่งขึ้น ยังคิดได้ว่าจะไปตัด
“ปากดีอย่างนี้ เจอกับพี่สักทีไหมน้อง”
“ลามปาม”
“อย่างงี้มันต้องเจอ!” ไอ้อาร์มใช้แขนล็อคคอผมแล้วก็กดคอผมลง
“อื้ออ! ปล่อยนะเว้ย!” ผมร้องเบาๆเพราะกลัวอาจารย์ได้ยิน
เพี๊ยะ!
“อย่าแกล้งต้นหอมได้ไหมอาร์ม ไม่เรียนก็นั่งเฉยๆเลย!” เสียงปลาที่นั่งข้างๆอาร์มดังขัดพร้อมกับประเคณฝ่ามือลงบนหัวเหม่งของของมันไปที ผมพลักมันออกจากตัว สายตาจ้องมองมันแบบเคืองๆ เล่นแรงชะมัด เพื่อนที่อยู่ใกล้ๆหัวเราะขำกับคิดคัก แต่ดีที่ผมนั่งกันด้านหลังหอประชุมอาจารย์ที่กำลังบรรยายวิชาปรัชญาเลยไม่ทันสังเกตุ
“โธ่ที่รักจ้า เค้าแค่ล้อเล่นกับต้นหอมมันเอง” ไอ้อาร์มทำเสียงออดอ้อนปลา เลยได้ของแถมเป็นยางลบที่ลอยมาโดนหน้าผากมันอีกทีด้วยฝีมือการเขวี้ยงอันแม่นยำของปลา
“เงียบๆ จะเรียน!”
อาร์มมันก็เลยต้องหุบปากฉับ นั่งหน้าเจือน แต่ก็ยังไม่วายจะแย่ปลาให้โดนค้อนแล้วค้อนอีก
“ต้นหอม ยางลบหน่อย” ก้านที่นั่งข้างๆผมขออนุญาตแล้วก็หยิบยางลบผมไปลบ
เรียนเสร็จแล้วก็ตกลงกันว่าจะไปหาอะไรกินที่ห้าง ผมโทรศัพท์หาพี่ปืน ไม่รู้ว่าออกมาจากคอนโดหรือยัง เมื่อเช้าพี่ปืนพาผมไปเอาของฝากที่บ้านแล้วก็พามาส่งที่มหาวิทยาลัย แล้วก็กลับไปนอนต่อ เห็นว่ามีเรียนตอนเย็น
[ฮัลโหล] เสียงงัวเงียแบบนี้แสดงว่ายังไม่ตื่น เมื่อคืนมีบอล พี่ปืนเลยนอนดึก ส่วนผมนอนแต่หัวค่ำเพราะมีเรียนเช้า อันที่จริงคือผมจะดูบอลกับพี่ปืนนั่นแหละ ที่พี่เขาไล่ให้ผมไปนอน บอกว่าถ้าผมไม่นอนที่เขาจะปล้ำผม! ผมนี่รีบวิ่งเข้าห้องนอนแทบไม่ทัน
“ยังไม่ตื่นเหรอครับ” ผมถาม ขาก็เดินตามก้านไปขึ้นรถ วันนี้ก้านเอารถมาเลยสะดวกที่จะออกไปหาอะไรกินข้างนอก
[อืม...ตื่นแล้ว] ความหมายก็คือ เมื่อกี้ยังไม่ตื่น แต่ตอนนี้ตื่นแล้ว ผมเข้าใจถูกใช่ไหม
“กินข้าวหรือยัง ต้นหอมกำลังจะออกไปหาอะไรกินกับเพื่อนที่ห้าง T มาไหมครับ” ผมถาม ใจจริงก็อยากกินข้าวกับพี่ปืนด้วยแหละ
[ตามสบายเถอะ เดี๋ยวพี่สั่งอะไรขึ้นมากินที่ห้องเอง]
“งั้นก็ได้ครับ”
[เลิกเรียนกี่โมงนะ] พี่ปืนถามอีกรอบ เมื่อเช้าถามไปครั้งหนึ่ง แต่พี่เขาคงเบลอๆเพราะเพิ่งจะตื่นถึงได้จำไม่ได้
“บ่ายสองสี่สิบห้า” ผมบอก ก็เหลืออีกแค่คาบเดียว แต่เป็นวิชาภาษาอังกฤษ วิชาเอกของผมเลยล่ะ ผมนี่อยากเรียนใจจะขาดแล้ว
[เลิกเรียนแล้วก็รอ เดี๋ยวไปรับ] พี่ปืนบอก ผมก้าวขึ้นด้านหลังรถ นั่งกันสี่คน แต่ดีที่พวกผมตัวไม่ใหญ่มากเลยยัดกันหมด ส่วนอาร์มก็นั่งข้างหน้าคู่คนขับ
“ต้นหอมกลับบ้านเองก็ได้นะ คือว่า...” ผมว่าวันนี้จะกลับไปนอนที่บ้าน คิดถึงเตียงตัวเองเหมือนกัน ข้าวของเครื่องใช่ส่วนใหญ่ก็อยู่ที่บ้านทั้งนั้น
[มีอะไรหรือไง] พี่ปืนถาม น้ำเสียงสดใสขึ้นกว่าเมื่อกี้ คงจะตื่นเต็มตาแล้ว ผมน่ะชอบพี่ปืนตอนตื่นนอนที่สุด เพราะพี่เขาจะน่ารักแล้วก็อ่อนโยนกว่าปกติ ไม่รู้ทำไม สงสัยจะเมาขี้ตา ฮ่าๆๆ
“คืนนี้ต้นหอมจะกลับไปนอนที่บ้านอ่ะ” ผมบอก รอลุ้นว่าพี่ปืนจะยอมหรือเปล่า
[อืม ตามใจ] พี่ปืนตอบนิ่งๆ ผมยิ้มดีใจที่พี่ปืนยอมง่ายๆ เดาใจไม่ค่อยถูกหรอกครับคนนี้ เดี๋ยวใจดีเดี๋ยวก็ใจร้าย ชอบขัดใจผมตลอด
อย่างเรื่องผมนี่ ตอนผมขอก็ไม่ว่าอะไร พอทำเสร็จแล้วมาสั่งให้ผมไปย้อมผมให้เป็นสีดำ ผมเสียค่าทำผมไปสองพันกว่าบาทเพื่อหล่อวันเดียวเนี่ยนะ ตลกเกินไปหน่อยแล้ว กว่าจะคุยกับรู้เรื่องผมก็ถูกจูบซะเจ็บปากไปหมด เสร็จแล้วพี่ปืนเขาว่าไงรู้ไหมครับ
‘ชอบเถียงดีนัก คราวหลังถ้าเถียงจะจูบให้ขาดใจตายไปเลย!’
อยากจะบอกว่า...กลัวตายล่ะ!
“งั้นต้นหอมกลับเองนะ” ผมบอก พี่เขามีเรียนเย็น ถ้าไปส่งผมก็ต้องเสียเวลาขับรถย้อนไปย้อนมา เปลืองทั้งน้ำมันและเวลา
[ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปรับ แค่นี้ก่อนนะ จะไปอาบน้ำ]
“ครับ บ๊ายบาย”
[อืม กินข้าวเยอะๆล่ะ]
“ครับผม” ผมรับปากแล้วก็กดวางสาย
“อ่อ แบบนี้เองสินะที่แกชอบทำหน้าเหมือนคนบ้า ยิ้มทั้งวัน เพราะมีสามีนี่เอง” แชมป์เริ่มเอ่ยปากแซวทันที ผมหันไปมองค้อนขวับ
“สามีอะไร พูดดีๆนะ” ผมเลิกคิ้มถามอย่างหาเรื่อง แม้จะเป็นเรื่องจริง แต่พวกนี้ยังไม่รู้ เรื่องอะไรจะบอกล่ะครับ อายตายเลย
ผมไม่ได้อายที่ตกเป็นของพี่ปืนหรอกนะ แต่เรื่องแบบนี้มัน...นั่นแหละ มันดูน่าอายถ้าจะพูดกับคนอื่น ยังไงมันก็เป็นการแสดงความรักของคนสองคน จำเป็นหรือครับที่ต้องให้คนรับรู้ไปด้วย เก็บไว้เป็นความลับดีกว่า
“อะไร อย่าบอกนะว่าแกยังไม่เคยมีอะไรกับพี่ปืนน่ะ!” แชมป์ทำตาโต อาร์มถึงกับเอี้ยวตัวมามองผมอึ้งๆ ปลากับไข่ดาวก็ยื่นหน้ายื่นตาเข้ามา
โอ๊ย! จะอยากรู้อะไรกันขนาดนั้น
“ทำไม ยุ่งอะไรเนี่ย” ผมบ่นเบาๆ ยังไงๆก็ไม่บอกหรอก
“เหอะๆ ระวังเถอะ หมาจะคาบไปแดก” แชมป์พูดเน้นๆใส่หน้าผม
เฮอะ! หมาไม่ทันแดกแล้วบ้างเหอะ!
“ใครจะไปเหมือนมึงวะแชมป์ ผัวเยอะกว่านางวันทองเสียอีก” ก้านที่เงียบมาตลอดทางพูดขึ้นมาขำๆ
“ก็ฉันฮอต ฉันดูดี ไม่แปลกถ้าจะมีแต่ผู้ชายมารุมชอบ” แชมป์พูดอย่างมันใจ ปลากับไข่ดาวเบ้หน้าหนี ส่วนผมก็กลั้นขำแทบไม่อยู่
“เปล่า กูไม่ได้บอกว่ามึงหน้าตาดี แต่ก็จะบอกว่ามึงนะร่าน ฮ่าๆๆ!”
“อีก้าน มึงอยากเป็นผัวกูนักใช่ไหมถึงปากหมาแบบนี้!!!”
แล้วเสียงหัวเราะก็ครืนลั่นรถ นี่สิบรรยากาศในกลุ่มเพื่อน ทั้งเฮฮาและสนุกสนาน
ไม่นานก็มาถึงห้าง เพราะเป็นตอนเที่ยงเลยหาที่จอดรถยากไปหน่อย แต่ก็ไม่ถึงกับหาไม่ได้ หาที่จอดรถได้แล้วเราก็มุ่งหน้าไปที่ร้านสุกกี้ทันที เพราะคนหมู่มากซึ่งก็รวมผมด้วยอยากจะกิน คนหมู่น้อยอย่างก้านอาร์มที่บอกว่าอยากกินก๋วยเตี๋ยวเลยต้องยอมตามใจพวกผมสี่คน
กินกันไปเถียงกันไปตีกันไปอย่างสนุกสนาน เป็ดย่างจานที่สี่หมดไป จานที่ห้ากำลังมา ไม่รู้ว่าตกลงแล้วมากินสุกี้หรือมากินเป็ดย่างกันแน่ แต่อร่อยมากๆครับมื้อนี้ เป็นไหมที่ว่าถ้ากินคนเดียวต่อให้อาหารอร่อยแต่ไหนรสชาติมันจะไม่อร่อยทันที แต่ถ้ากินกับเพื่อน ยิ่งแย่งกันกินแล้วเนี่ยนะ ต่อให้ไม่อร่อยก็กลายเป็นของอร่อยล้ำค่าขึ้นมาทันที
สำหรับผมแล้ว กินอะไรไม่สำคัญหรอกครับ แต่อยู่ที่ว่าเรากินกับใครต่างหาก จริงไหม
ผมอิ่มก่อนเลยขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน เพราะว่าเลยเวลาไม่มาก บ่ายโมงก็ต้องเข้าเรียน ส่วนคนอื่นไม่ปวด ผมเลยต้องมาเข้าคนเดียว แต่ห้องน้ำไม่ได้อยู่ไกลหรอกครับ เดินไม่ถึงห้านาทีก็ถึง
เข้าห้องน้ำเสร็จผมก็เดินกลับ แต่พอดีสะดุดตากับร้องเท้ากีฬาคู่หนึ่ง สวยมากๆ ผมอยากได้ จึงได้แวะเข้าไปดู เมื่อวานผมโทรไปหาซันเพราะว่าจะกลับไปเริ่มซ้อมเต้นไหมอีกครั้งหลังจากไม่ได้ไปมาเกือบเดิน ทุกคนในทีมก็ยังต้อนรับผมอย่างดี ไม่มีใครว่าที่ผมไม่ยอมไปซ้อม
เรานัดกันว่าวันเสาร์นี้ผมจะไปซ้อมเต้นทั้งวัน จะได้ถือโอกาสเอาของฝากไปให้เพื่อนๆด้วย
“ขอโทษนะครับ”
ผมหันไปมองตามเสียงเรียก คนที่เรียกผมเป็นผู้ชายในชุดนักศึกษา หน้าตาเขาก็จัดได้ว่าดูดี แต่ไม่เท่าแมทกับพี่ปืน และที่ไม่เหมือนกันอีกอย่างคือ แววตาเขาไม่น่าไว้ใจ มันดูเจ้าเล่ห์แปลกๆ
“ครับ” ผมขานรับ เลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยว่าคนๆนี้มีธุระอะไรกับผม
“ชื่ออะไรเหรอครับ”
“...” ผมนิ่งแล้วก็หันกลับมาดูรองเท้าอย่างเดิม ซื้อดีกว่า อยากได้
“เดี๋ยวสิครับ นายยังไม่บอกชื่อเราเลย” เขาเดินตามผมมาที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน
“ขอโทษครับ แต่ผมไม่สะดวก” ผมบอกปัด ผมเคยเจอแบบนี้มาบ้าง เลยพอจะเดาได้ว่าเขาเข้ามาหาผมทำไม ถึงผมไม่มีพี่ปืน ผมก็ไม่คิดจะยุ่งกับคนที่แววตาร้ายกาจแบบนี้หรอก
ผมควักเงินสดจ่างค่ารองเท้า รับถุงจากพนักงานแล้วก็เดินออกจากร้านอย่างรวดเร็ว เหลือบหางตามองก็เห็นเขาเดินตามมา
“เดี๋ยวสิครับ เราอยากรู้จักนายจริงๆนะ” เขาคว้าแขนผมไว้ ผมรีบสบัดออก เขาหน้าเสียเล็กน้อยที่ผมมีปฏิกริยาแบบนี้ แต่ผมไม่ชอบให้ใครโดนตัวถ้าไม่ใช่คนสนิทชิดเชื้อ
“แกสนใจคนนี้หรือไงวะไอ้บาส” เสียงใครคนหนึ่งดังขึ้น ก่อนที่ตัวเขาจะปรากฎสู่สายตาผม ผมเพ่งมองแล้วก็รู้สึกว่าคุ้นๆ
“อืม” คนชื่อบาสส่งเสียงรับขำ
“คนนี้ชื่อต้นหอม เนื้อหอมใช่ย่อยนะ กิตติศัพท์เรื่องผู้ชายนี่โชคโชน ถ้าเล่นๆฉันก็ไม่ขัดหรอก แต่ถ้าคิดจริงจังก็อย่าเลยวะ เน่าในหรือเปล่าก็ไม่รู้” ผมพูดดูถูกต่ำช้าออกมาจากปากคนมาใหม่ ผมโมโหเลือดขึ้นหน้า น้ำเสียงและสีหน้าแววตาแบบนี้ ผมรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร เขาเป็นหนึ่งในคู่ควงของพี่เฟรม
“อย่ามากล่าวหาคนอื่นด้วยถ้อยคำต่ำๆ” ผมกัดฟันพูดโกรธๆ ผมไม่เคยไปทำอะไรให้ทำไมต้องมาว่าผมด้วย!
“นายจะบอกว่าฉันพูดผิดงั้นเหรอ หึหึ อย่ามาทำเป็นใสซื่อเลย ผ่านมากี่คนแล้วล่ะ วันก่อนยังขึ้นคอนโดกับผู้ชายอยู่เลยนี่ ไอ้บาส ไปหาคนอื่นเถอะมึง คนนี้กูไม่แนะนำว่า” พูดจบมันก็เดินจากไป ผมได้แต่กำหมัดแน่น รู้สึกตาร้อนผ่าว ไม่ได้เสียใจที่มันด่า แต่เสียใจทีผมยอมให้มันด่าโดนที่ไม่ได้ทำอะคืนบ้างเพราะมันแต่ตกใจอยู่
“ใครกันแน่ที่เน่า” ผมบ่นหับตัวเองเบาๆ ผมมีแฟนหลายคนแต่ผมก็ไม่เคยนอนกับใคร พี่ปืนคนแรก คนพวกนี้ไม่รู้แล้วยังจะมาพูดว่าผมเสียๆหายๆ ผมเกลียดที่สุด!
เกลียดไอ้พวกผู้ชายเฮงซวยพวกนั้นด้วย ไม่ได้นอนกับผมแต่ก็เอาไปโพทนาว่านอนกับผม ไอ้ชาติชั่วเอ้ย!
“เรื่องมันเป็นอย่างนี้เองหรือนี่”
แล้วผมก็เริ่มที่จะเบื่อกับทฤษฎีโลกกลมเข้าแล้วจริงๆ เพิ่งมีเรื่องกันไปไม่กี่วันที่ผ่านมา วันนี้ต้องมาเจอกันอีกแล้ว แถมดูท่าว่าไอ้อิชจะได้ยินเรื่องของผมหมดแล้ว มันและกลุ่มเพื่อนมองหน้าผมอย่างเยาะเย้ย ผมไม่คิดจะสุภาพกับมันแล้ว คนแบบนี้พูดจาภาษาดีๆคงฟังไม่เข้าใจหรอก
“ไม่ใช่เรื่องของนาย อย่ายุ่ง!” ผมบอกเตรียมจะเดินกลับไปที่ร้าน ผมกำลังหงุดหงิดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หงุดหงิดจนอยากจะอาละวาดทุกอย่าง
“อืม มันก็จริง แต่เรื่องของนายมันไม่ยุติธรรมกับพี่ปืนเลยว่าไหม ถ้าพี่เขารู้ พี่เขาคงจะเสียใจมาก” ไอ้อิชพูดแล้วก็ยิ้มไปมา ผมกำหมัดตัวเองแน่น พยายามคุมสติไม่ให้ต่อยหน้ามันอีกครั้ง
“ฉันจะเตือนนายอีกครั้ง ถ้าไม่อยากเจ็บตัว อย่ามายุ่ง!!!” ผมกัดฟันพูดใส่หน้ามัน ตัวผมสั่นเทาเพราะความโกรธ
“ทีแรกฉันว่าจะเลิกยุ่งกับพี่ปืนหรอกนะ แต่พอมารู้เรื่อคาวๆของนายแล้ว ฉันว่านายไม่มีคุณสมบัติดีพอที่จะเป็นแฟนกับพี่ปืนเลยสักนิด สกปรก! อ่อยผู้ชายไปทั่ว คิดว่าตัวเองฮอตงั้นสิ คิดว่าพี่ปืนเขาจะรักนายจริงเหรอไง จะบอกให้นะว่าฉันนะฮอตกว่านายอีก สักวันพี่ปืนเขาต้องตาสว่างแล้วหันมาสนใจฉัน”
ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จ้องมองไอ้อิชตาเขม็ง ผมค่อยๆเดินเข้าไปหามัน จากที่ยิ้มเยาะผมมันก็เริ่มหน้าเสีย ก้าถอยหลังสองสามก้าว มองผมอย่างหวาดๆ
“นายอาจจะฮอตนะ ฉันไม่เถียงหรอก” ผมพูดนิ่งๆ ไอ้อิชทำตาเลิกลัก ผมยกมือว้าคอเสื้อมันเข้าหาตัว มันรีบเอามือกุมจมูกตัวเองทันที เฮอะ! เดี๋ยวก็ได้จัดจมูกอันใหม่ให้อีกทีหรอก คนยิ่งหงุดหงิดๆอยู่
“แกจะทำอะไร!!”
“You’re so hot…but I’m on fire” ผมพูดกระซิบบอกมัน ไอ้อิชทำหน้าเหวอ ผมปล่อยมือที่กำคอเสื้อมันออก ก่อนจะยกยิ้มมุมปากแล้วพูดต่อ
“ทำไม แปลไม่ออกเหรอ แปลให้ไหม เมื่อกี้ฉันพูดว่า นายอาจจะร้องแรงเหลือเกิน แต่ฉันน่ะอยู่บนกองไฟเลยล่ะ”
“...!!!”
“ถ้ายังไม่เลิกยุ่งกับฉัน นายได้จมูกใหม่แน่ จำเอาไว้!” ผมขู่ทิ้งท้ายแล้วก็เดินออกมาจากตรงนั้นทันที หลับหลังพวกนั้น ผมหุบยิ้ม ในใจหวั่นวิตกว่าไอ้อิชจะเอาเรื่องที่ได้ยินวันนี้ไปบอกพี่ปืนหรือเปล่า ผมกังวลไปหมดจนเพื่อนถามเมื่อผมกลับมาที่ร้าน ผมไม่ตอบอะไรได้แต่นั่งเงียบจนกลับมาถึงมหาวิทยาลับ
ถ้าพี่ปืนรู้ พี่เขาจะรู้สึกยังไง จะฟังความจริงจากปากผมไหมว่ามันไม่ใช่
ผมไม่เคยนอนกับใคร ผมไม่ได้เป็นอย่างที่คนพวกนั้นพูดกัน
ทำไมอดีตที่แสนเลวร้าย อดีตที่ผมโยนทิ้งไปแล้วจะต้องกลับมาทำร้ายผมด้วย ทำไมกัน!
เลิกเรียนผมเดินลงมาจากตึก เห็นพี่ปืนกำลังคุยกับไม่รู้สองนที่หน้าคณะ เพื่อนผมโบกมือละและแยกย้ายกับกลับบ้าน ผมยิ้มลาเพื่อนนิดก่อนจะเดินเข้าไปหาพี่ปืน
“พี่ปืน ผมกับไอ้จีนใครน่ารักกว่า” ผู้ชายคนหนึ่งที่ดูก็รู้ว่าเป็นเกย์ถามพี่ปืน ผมยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายสองคนนั้น ระยะห่างพอสมวรแต่ก็พอจะได้ยินเพราะพูดกันดังเหลือเกิน ส่วนพี่ปืนหันหน้ามาทางผม แต่ตอนนี้พี่ปืนยังไม่เห็นผม
“พี่ปืนก็บอกมันไปว่าผมน่ารักกว่า” อีกคนถามความเห็นพี่ปืนอย่างไม่ยอมแพ้
“พี่ปืน”
“ผมน่ารักกว่าอยู่แล้ว”
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่พี่ปืนเนื้อหอมแบบนี้นะ ผมรู้แหละว่าคนหน้าตาดีอย่างพี่ปืนต้องมีคนชอบอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าที่ผ่านมามีผู้ชายมาจีบพี่ปืนมากไหน พี่เขาไม่เคยบอก และผมก็ไม่เคยเห็น จนกระทั่งผมคบกับพี่ปืน ก็เริ่มมีผู้ชายเข้ามาจีบพี่ปืนมากขึ้น อย่างไอ้อิชไง แล้วนี่ใครอีกวะเนี่ย!
นี่สินะที่เขาเรียกว่าความวัวไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก แต่นี่ทั้งวัวทั้งควายเลย เพลียครับ!!!
ผมเดินเข้าไปใกล้มากขึ้น พี่ปืนสังเกตุเห็นผม จากที่ทำหน้าบึ้งก็ยกยิ้มนิดๆ
“พวกมึงฟังนะ” พี่ปืนพูด สองคนนั้นหยุดนิ่งทันที
“...”
“...”
“แฟนกูน่ารักสุด จบนะ”
“พี่ปืน!/พี่ปืน!” ทั้งสองคนประสานเสียงพร้อมกัน ผมเดินเข้าไปหาพี่ปืนแล้วจับมือพี่เขาไว้ สองคนนั้นมองผมอย่างไม่พอใจก่อนจะสบัดหน้าเดินจากไป แต่พี่ปืนเรียกเอาไว้ก่อน
“เดี๋ยว”
ทั้งสองคนหันกลับมา แต่ทำหน้าเหมือนมีความหวังกับเสียงเรียกของพี่ปืน ผมเองก็รอฟังว่าพี่ปืนจะพูดอะไร
“กูไม่รู้หรอกนะว่าพวกมึงคิดยังไงถึงมาจีบกู แต่กูไม่ได้เป็นเกย์ แฟนกูเป็นผู้ชายแต่กูไม่ได้ชอบผู้ชายทุนน ก็ชอบแค่แฟนกู จบนะ แล้วไม่ต้องมายุ่งกับกูอีก ไม่งั้นพวกมึงซวย!” พี่ปืนชี้หน้าว่า ผมยื่นนิ่งไร้ความคิดเห็นและความรู้สึกกับเหตุการณ์ตรงหน้า จะว่าดีใจก็ดีใจนะที่พี่ปืนปฏิเสธทุกคนที่เขาหาตรงๆแบบนี้ แต่เพราะผมกำลังเครียดเลยทำให้ทุกอย่างดูขัดหูขัดตาไปหมด
พี่ปืนพาผมมาส่งที่บ้าน ระหว่างทางผมนั่งเงียบตลอดทาง พี่ปืนถามอะไรผมก็ตอบแค่สั้นๆ เหม่อลอยจนพี่ปืนต้องเรียกหลายครั้งหลายครา
“เดี๋ยว เป็นอะไร” พี่ปืนจับแขนผมไว้ไม่ให้ผมลงจากรถ
“เปล่าครับ พี่ปืนรีบไปเรียนเถอะ เดี๋ยวสาย” ผมบอก แต่พี่ปืนก็ยังไม่ยอมปล่อยมืออกจากแขนผม
“บอกพี่มา เป็นอะไร” พี่ปืนใช้น้ำเสียเข้าข่มขู่ผม ผมส่ายหน้าว่าไม่มีอะไร
“ต้นหอมแค่ปวดหัว ไม่มีอะไรหรอก” ผมบอกปัด ไม่อยากพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ไม่อยากให้พี่ปืนรู้อะไรทั้งนั้น
“เฮ้อ งั้นก็รีบเข้าไปนอนพัก เรียนเสร็จเดี๋ยวมาหา คืนนี้พี่จะนอนนี้” พี่ปืนปล่อยแขนผม ผมพยักหน้ารับนิดหน่อย พื่ปืนโน้มหน้าเข้าไปใกล้ผมมากขึ้น ก่อนจะจูบที่ริมฝีปากผมแผ่วเบาๆ แตะนิดๆแล้วก็กดย้ำให้หนักขึ้น แต่ไม่ได้ลุกล้ำมากกว่านั้น จมูกโด่งๆของพี่ปืนคลอเคลียอยู่ที่แก้มผมเบาๆราวกับจะปลอบโยน
“รอพี่นะครับ แล้วจะรีบกลับมา”
............................................................
# เฮ้อออ พูดอะไรไม่ออกเลย เหนื่อยยยยย

มาคอยดูกันดีกว่าว่าพี่ปืนจะรักน้องต้นหอมของเราขนาดไหน นี่แหละมันคือข้อพิสูจน์รักแท้ 555555
