(ต่อ)
“น้ำส้มค่ะ” พนักงานของร้านนำน้ำมาเสริฟให้ผมกับพี่ปืนคนละแล้ว ผมบอกขอบคุณ เธอยิ้มน้อยๆก่อนจะเดินกลับไปทำงานของเธอ
“พี่ปืน ดื่มน้ำส้มก่อน จะได้สดชื่น” ผมยกแก้วส่งให้พี่ปืน พี่ปืนรับไปดื่มทีเดียวครึ่งแก้วก่อนจะวางแก้วลง ผมเองก็ยกน้ำส้มขึ้นจิบเหมือนกัน
“มาแล้วค่ะ เดี๋ยวคุณน้องเข้าไปลองก่อนนะคะ ถ้ามีตรงไหนไม่พอดีพี่จะได้แก้ให้ทันที” พี่เจ้าของร้านพูดแล้วก็ยิ้มให้ผม ผมรับชุดมาก่อนจะเข้าไปลองชุด
ชุดที่ผมสั่งตัดเป็นรสูทสีขาวทั้งตัว ผ้าที่เลือกเป็นผ้าสีขาวนวลเนื้อดี สัมผัสให้ความนุ่มลื่นใสสบาย แต่ราคาค่อนข้างแพง เมื่อสวมเสื้อเชิ๊ตสีขาวด้านใน สวมกางเกง แล้วก็ใส่สูทสีขาวทับ แต่ผมไม่ได้ผูกเน็คไทเพราะขี้เกียจ ผมหมุนตัวมองตัวเองในกระจก
“ไม่เลวเลยแหะ” ผมเอ่ยชมตัวเองในกระจก ก่อนะจะออกมาจากห้องลอง เดินไปหาพี่ปืนที่นั่งรออยู่
“พี่ปืน เป็นไงบ้าง” ผมถาม พลางหมุนตัวให้ดูรอบหนึ่ง
“ก็...ดี” พี่ปืนพูดนิ่งๆ ทำหน้าตาย
“โหย แค่ก็ดีเองเหรอ”
“แล้วจะให้พูดว่าไงล่ะ...นายหล่อมาก ดูดีสุดๆ”
“อะไร ชมแค่นี้ก็ไม่ได้”
“ก็ดี...ก็น่ารักดี”
“อะไรนะ” ผมถามอีกครั้งเพราะเมื่อตะกี้ฟังไม่ถนัด
“น่ารักดี! =_=”
“หึหึ ขอบคุณค้าบบบ” ผมทำสีหน้าทะเล้นใส่พี่ปืน
เมื่อได้รับคำชมจากคนปากแข็งแล้วผมก็เดินกลับเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องลองชุด ก่อนจะเดินเอาชุดไปให้พี่เจ้าของร้านเอาใส่ซองใส่ชุดให้
“ใส่ได้พอดีนะคะ มีอะไรต้องแก้หรือเปล่า” พี่จ้าของร้านถาม
“ไม่มีครับ กำลังดีเลย” ผมบอก
“ทั้งหมด สี่พันเจ็ดร้อยบาทค่ะ”
ผมเดินไปหยิบกระเป๋าตังค์ในกระเป๋าสะพายตรงโซฟาที่พี่ปืนนั่งอยู่ ก่อนจะเดินกลับมาจ่ายเงิน
“นี่ครับ” ผมยื่นเงินให้พี่เจ้าของร้าน
“ขอบคุณค่ะ คราวหน้ามาใช้บริการพี่อีกนะคะ”
“แน่นอนครับ” ผมตกปากรับคำก่อนจะเดินถือเสื้อไปหาพี่ปืน
“เอามานี่มา”
พี่ปืนรับเสื้อไปถือให้ผมก่อนจะเดินนำไปที่รถที่จอดอยู่ไม่ไกลนัก
“หิวไหม จะหาอะไรกินข้างนอกหรือจะกลับไปกินที่บ้าน” พี่ปืนถามผมเมื่อเราขึ้นรถมาแล้ว
“อืม ไปหาอะไรกินก็ได้ครับ ของในตู้เย็นที่บ้านจะหมดแล้ว คงทำอะไรไม่ได้มาก” ผมตอบพลางนึกไปถึงตู้เย็นที่บ้าน ของหมดอีกแล้ว คงต้องได้ออกไปซื้ออีก
“กินไร” คำถามสั้นๆได้ใจความเสมอของพี่ปืน ช่างเป็นคนที่พูดน้อยจริงๆ
“พี่ปืนอยากกินอะไร” ผมถาม เพราะทุกครั้งพี่ปืนมักจะตามใจผมตลอด ให้ผมเป็นคนเลือกว่าอยากจะกินอะไร ครั้งนี้เลยให้พี่เขาเป็นคนเลือกบ้าง
“ฉันถามนายนะ”
“แต่วันนี้ผมตามใจพี่ปืน พี่เลือกได้ตามใจชอบเลย”
“หึ ก็ได้”
แล้วเราก็ตรงไปหาอะไรกินตามแบบที่พี่ปืนชอบ กว่าจะกลับถึงบ้านก็สามทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว รถแล่นมาจอดที่หน้าบ้านผม ผมปลดเซฟตี้เบลล์ออกจากตัว ตาก็มองไปที่บ้าน มืดจัง แมทยังไม่กลับอีกหรือไง ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แต่ก็ไม่ได้ขึ้นว่ามีสายไม่ได้รับ
“พี่ปืน เข้าไปในบ้านก่อนไหมครับ” ผมลองถามดู คือแบบ...ไม่อยากอยู่คนเดียว
“ไม่ล่ะ” พี่ปืนตอบทันทีเหมือนไม่ไม่ต้องคิดอะไรมาก ช่วยคิดหน่อยเถอะ บางทีพี่อาจจะเปลี่ยนใจ T^T
“แต่...” ผมอยากจะขอร้องให้พี่ปืนอยู่ แต่ก็เกรงใจ
“อะไร” พี่ปืนขมวดคิ้วถามผม
“คือ...ผมไม่อยากอยากอยู่คนเดียว พี่ปืน...อยู่...เป็นเพื่อนผมก่อนได้ไหม” ผมกาะแขนพี่ปืนพูดเสียงเบา
“...” พี่ปืนมองผมนิ่ง ผมนี่จ้องพี่ปืนอย่างน่าสงสาร และสุดท้ายพี่ปืนก็พยักหน้าตอบตกลง
เยส!!
ผมรีบลงจากรถไปไขบ้าน อย่างน้อยกว่าแมทจะกลับผมก็จะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียว
พี่ปืนเดินไปนั่งที่โซฟา หยิบรีโมทขึ้นมาเปิดหาอะไรดูไปเรื่อยๆ ส่วนผมก็เอาชุดไปเก็บไว้ที่ห้อง เปลี่ยนจากกางเกงขายาวเป็นกางเกงขาสั้นใส่สบาย ก่อนจะเดินลงมาข้างล่าง
พี่ปืนเหลือบมองผมนิดหน่อย เหมือนพี่เขาจะแปลกใจอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะหันกลับไปสนใจทีวีเหมือนเดิน ผมเดินเข้าไปในครัว ชงน้ำแดงมาสองแก้วก่อนจะลงมือหั่นแตงโมใส่จานถือออกไปที่ห้องนั่งเล่น
“แตงโมเย็นๆเลยพี่ปืน นี่ครับน้ำแดง” ผมวางจานลงบนโต๊ะรับแขก พี่ปืนมองนิ่งๆก่อนจะยื่นมือไปหยิบขึ้นมากิน
“หวานดี” พี่ปืนพูดเบาๆ กินไปดูหนังในทีวีไป
“กินเยอะๆนะ” ผมยิ้มทำเสียงเล็กเสียงน้อยบอกพี่ปืน
“พรุ่งนี้ไปงานกี่โมง” พี่ปืนถามแต่ไม่ได้หันมามองหน้าผม
“ก็ประมาณ...หกโมงเย็นมั้งครับ” ผมตอบ มือเอื้อมไปหยิบแตงโมงอีกชิ้มากิน แต่ดันเป็นจังหวะที่พี่ปืนจะหยิบเหมือนกัน ทำให้มือของเราทั้งคู่ชนกันอย่างมิได้นัดหมาย...อื้อหือออ...อย่างกะในละครแหนะ
“อืม เดี๋ยวมารับ” พี่ปืนหยิบแตงโมชิ้นนั้นส่งให้ผม ผมรับมากัดเข้าปาก ตาก็มองมือพี่ปืนที่หยิบชิ้นใหม่ขึ้นกิน
[Krrrr Krrrr]
ผมสะดุ้งเมื่อเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น ผมหยิบมาดูเบอร์ก่อนจะกดรับ
“ฮัลโหล ว่าไงแมท” ผมพูด พี่ปืนหันมามองหน่อยๆก่อนจะหันกลับไป
[วันนี้พี่ไม่กลับบ้านนะ อยู่คนเดียวได้หรือเปล่า หรือว่าอยู่กับใคร]
“อยู่กับพี่ปืน ทำไมล่ะ กลับไปที่บ้านเหรอ” ผมถามเสียงหงอย อย่าบอกนะว่าคืนนี้ผมต้องนอนคนเดียวน่ะ
[พอดีเดี๋ยวจะไปกินเหล้าต่อกับพี่รหัส คงยาวอ่ะ ถ้าเมาแล้วไม่อยากขับรถกลับ เอาไงล่ะ]
“ไม่เป็นไหร่หรอก ถ้าเมาไม่ต้องขับกลับบ้านนะ เดี๋ยวรถชน ต้นหอมอยู่ได้” ผมรีบบอก ถ้าแลกกันผมยอมอยู่คนเดียวดีกว่าให้แมทเสี่ยงอันตราย
[อืม อยู่กับไอ้หมอนั่นใช่ไหม ถ้าไงก็ให้มันนอนเป็นเพื่อน]
แมทไม่ยอมเรียกพี่ปืนว่าพี่ ไม่รู้ทำไม บอกแค่ว่าไม่อยากจะเรียก แค่นั้น
“เอ่อ...ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้สบายมาก”
[ตามใจแล้วกัน เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าจะรีบกลับ ฝันดี]
“อืม อย่าดื่มเยอะมากนะ ฝันดีล่วงหน้า” ผมบอกทิ้งท้ายก่อนจะกดวางสาย ผมหมุนโทรศัพท์ในมือแน่น หัวก็เอนไปซบไหล่พี่ปืน พี่ปืนขยับตัวเล็กน้อยยกแขนขึ้นมาวางพาดบนคอผมแทน เลยทำให้หัวผมเลื่อนไปซบอยู่บนอกของพี่ปืน
“มีอะไร ทำหน้าเครียด”
“วันนี้แมทไม่กลับมานอนที่บ้าน” ผมบอกเสียงอู้อี้
“แล้ว...”
“ก็ผมต้องอยู่บ้านคนเดียวไง ไม่ชอบเลยอ่ะ” ผมบ่นอย่างขัดใจ
“...” พี่ปืนนั่งนิ่งไป ผมเองก็ไม่ได้พูดอะไร จนกระทั่งหนังจบ ผมเองก็ชักจะเริ่มง่วง ก็นี่ปาเข้าไปจะห้าทุ่มอยู่แล้ว จะไม่ง่วงได้ไง
“พี่ปืนจะกลับหรือยัง” ผมถามเสียงเบา
“ไม่กลับ” เสียงนิ่งๆติดจะห้วนหน่อยดังขึ้น
“หืม อะไรนะครับ”
“ไม่กลับ เดี๋ยวอยู่เป็นเพื่อน”
“เอ่อ...”
“ทำไม หรือนายไม่อยากให้ฉันอยู่” พี่ปืนพูดเหมือนไม่พอใจ
“เปล่านะครับ...ผมอยากให้พี่ปืนอยู่ด้วย แต่เกรงใจ” ผมตอบเสียงเบาๆหวิวในตอนท้าย
“งั้นช่วยหาเสื้อผ้าใหด้วยแล้วกัน จะอาบน้ำ”
“ครับ!”
ผมฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจอย่างปิดไม่มิด ปิดโทรทัศน์ เดินไปหยิบนมในตู้เย็นมากล่อง ปิดไฟด้านล่างให้เรียบร้อยก่อนจะเดินนำพี่ปืนไปที่ห้องนอนของผม นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่พี่ปืนมานอนค้างที่บ้านผม ครั้งแรกเลยนะ! ดีใจชะมัด ยิ่งพี่ปืนอาสาจะอยู่เป็นเพื่อนผมเองแบบนี้ด้วยแล้ว มันแทบจะทำให้ผมตัวลอยเลยอ่ะ
“พี่ปืนอาบน้ำไปก่อนนะ เดี๋ยวผมไปหาชุดมาให้ นี่ครับผ้าขนหนู” ผมหยิบผ้าขนหนูผืนใหม่ในตู้ส่งให้พี่ปืน พี่ปืนรับไปแล้วเดินเข้าห้องน้ำ ผมเดินออกจากห้องไปที่ห้องนอนแมท เสื้อผมพี่ปืนใส่ไม่ได้หรอก ต้องเสื้อแมทนู่น ที่จริงแมทตัวเล็กกว่าพี่ปืนอยู่หน่อย แต่ผมเคยเห็นเสื้อแมทตัวใหญ่ๆอยู่หลายตัว ผมเลือกเสื้อยืดกับกางเกงขายาวผ้านิ่มของแมทไปให้พี่ปืนใส่ ว่าแต่...ชั้นในล่ะ ผมเปิดไปที่ลิ้นชักใส่ชั้นในของแมท
“อ่า นี่ไง”
ผมหยิบอันที่ยังไม่ได้ ใหม่เอี่ยมอ่องยังอยู่ในห่ออย่างดีออกมา น่าจะใส่ได้มั้ง ลองเอาไปให้ดูแล้วกัน ผมเดินกลับมาที่ห้อง พี่ปืนยังอาบน้ำไปเสร็จ ผมเลยนั่งรออยู่ที่เตียง จนพี่ปืนอาบน้ำเสร็จ
“เอ่อ...นะ นี่ครับเสื้อผ้า”
สภาพพี่ปืนที่ออกมาจากห้องน้ำทำเอาผมแทบเป็นลม พื่ปืนนุ่งผ้าขนหนูตัวเดียวออกมา โชว์กล้ามท้องที่เป็นลอนสวยงาม โอ้วว..ซิกแพค ทำเอาหน้าผมร้อนฉ่า เผลอมองอย่างลืมตัว จนพี่ปืนเดินเข้ามาใกล้ผมนั่นแหละ ปลายนิ้วพี่ปืนพี่แตะลงบนมือผมตอนหยิบเสื้อผ้าทำเอาผมสะดุ้งเพราะความเย็น
ตึกๆๆๆ
ใจเต็นแรงชะมัด ผมเหมือนคนโรคจิตเลยอ่ะ T^T
“เป็นอะไร หน้าแดง” พี่ปืนโน้มหน้าลงมามองหน้าผม
“เปล่าครับ” ผมรีบเบนหน้าหนี
น่าอายชะมัด จะบอกได้ยังไงล่ะว่ารู้สึกเขินที่พี่ปืนอยู่ในชุดน้อยชิ้นแบบนี้ T^T
พี่ปืนกลับเข้าไปเปลี่ยนชุดแล้ว ผมได้แต่เอามือลูบอกตัวเองเพื่อหวังให้หัวใจเต้นเบาลง ผู้ชายอะไร เซ็กซี่ชะมัด
ทันทีที่พี่ปืนออกมาจากห้องน้ำผมก็พุ่งเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็วเพื่ออาบน้ำอีกรอบ แต่ด้วยความเคยชินผมเลยไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน ทำให้ต้องออกมาจากห้องน้ำในสภาพผ้าขนหนูพันเอวตัวเดียวเหมือนพี่ปืนก่อนหน้านี้
ผมเดินออกจากห้องน้ำ พี่ปืนที่นอนอ่านหนังสือของผมอยู่บนเตียงละสายตาขึ้นมองผมทั้งตัว ผมเดินเบี่ยงไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหาชุดนอนใส่ ทั้งๆที่หันหลังให้พี่ปืนอยู่ แต่ทำไมผมกลับรู้สึกเหมือนตัวเองถูกจับจ้องยังไงก็ไม่รู้ พอหันไปมองก็เห็นว่าพี่ปืนมองผมอยู่จริงๆ เลยรีบวิ่งเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ ก่อนจะออกมาในชุดนอนตัวเก่ง เสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้น ตามด้วยทาครีมก่อนนอนทั้งที่หน้าและลำตัว
ผมเดินไปหยิบนมที่วางไว้ตรงหัวเตียงขึ้นมาเจาะดูด ก่อนจะเดินรอบห้อง ที่เดินนี่ไม่ใช่อะไรหรอกครับ แต่ไม่อยากอยู่นิ่งๆ มันรู้สึกประหม่าไปหมด เมื่อกินนมหมดกล่องแล้วก็ยกเอาไปทิ้งในถังขยะข้างๆโต๊ะเครื่องแป้ง
“พี่ปืนจะนอนหรือยังครับ”
“อืม” พี่ปืนส่งเสียงในลำคอก่อนจะปิดหนังสือในมือลงแล้ววางไว้ที่หัวเตียงตามเดิม
ผมเลยเดินไปปิดไฟ ยังดีที่พี่ปืนเปิดไปฟัวเตียงไว้ ผมเลยเดินกลับมาที่เตียงไม่อยากนัก ยิ่งอยู่ในสภาวะที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอยู่ เกิดซุ่มซ่ามมองทางไม่เห็น สะดุดอากาศล้มปากแตกคงไม่ดีเท่าไหร่
ผมล้มตัวนอนข้างๆพี่ปืน อดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ ผมกระเถิบเข้าไปใกล้พี่ปืนที่นอนหงายอยู่
“ขอบคุณนะครับพี่อยู่เป็นเพื่อนผม” ผมช้อนตาขึ้นมองพี่ปืนผ่านความมืด พี่ปืนชะงักเกร็งตัวเล็กน้อยก่อนจะผ่อนคลายลง ใบหน้านิ่งๆของพี่ปืนค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ผมรับตาลง จนกระทั่งรับรู้ได้ถึงสัมผัสที่แสนอบอุ่นบนริมฝีปากที่กดย้ำลงมาก
“อืม”
ความง่วงงุนเข้าครอบงำสติสัปชัญญะของผมไปเสียหมด ร่างกายเผลอเบียดเข้าหาคนข้างๆอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะรู้สึกเหมือนถูกโอบกอด ผมสะดุ้งน้อยๆ ได้ยินเสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นข้างหู คลายจะขับกล่อม
“ชู่วว นอนซะนอน”
“พี่ปืน” ผมส่งเสียงเรียกพี่ปืนอย่างไม่รู้ตัว
“นอนซะ ฝันดี”
เสียงกระซิบที่แสนนุ่มนวด เสียงที่ทำให้ผมหลับไปทั้งรอยยิ้ม
และในคืนนั้น ผมฝันดี
==========================
โอ้วววว ขอโทษที่หายตัวไป ไม่ได้หายไม่ไหนหรอก แต่คอมมันเสีย T^T ดีที่ไม่มีอะไรสำคัญหายไป
บางช่วงอาจจะมาติดกัน หรือหายไปสักอาทิตย์ก็ไม่ต้องตกใจนะคะ มีเหตุจำเป็นนิดหน่อย ^^
เรื่องมันอาจจะดำเนินไปอย่างช้าๆหน่อยนะคะ อีพี่ปืนอาจจะรักต้นหอมช้าไปนิดแต่เขามีเหตุผลของเขา
ซึ่งยังไม่บอกตอนนี้ ^_^ มาคอยเอาใจช่วยทั้งคู่กันดีกว่าเนอะ
ตอนนี้เนื้อหาคงเยอะไป(หรือเปล่า) ใส่ในเม้นเดียวไม่พอ
เพลงที่ใช้ในตอนนี้ เป็นเพลงของ FLO RIDA Ft. Sia ชื่อเพลง Wild Ones
ไม่ได้มาขายเพลงนะ แค่บอกเฉยๆ