♣Maybe...รักนี้อาจเป็นนาย♣
บทที่ 19
I think I like you
(Puen talks)
“ต้นหอม!” ผมเรียกชื่อคนปลายสายดังลั่น แต่สัญญาณถูดตัดไปแล้ว เสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินทำเอาผมร้อนรุ่มไปหมด ผมรีบเหยียบคันเร่งทันที ไม่สนว่าใครจะด่าตามหลัง รู้แต่ว่าตอนนี้ผมต้องรีบไปหาต้นหอมให้ดีที่สุด ผมบีบแตรไล่รถทุกคนที่ขับรถขวางหน้า แม้แต่ขับรถฝ่าไฟแดงผมก็ทำ ช่างมัน! ตอนนี้ผมรออะไรไม่ไหวแล้ว
“เกิดอะไรขึ้นวะ” ไอ้เวฟที่อยู่บนรถด้วยถามผมงงๆปนตกใจ ผมไม่ได้ตอบอะไรมัน เพราะตอนนี้ผมร้อนรนสุดๆ เมื่อผมไม่ตอบมันก็ไม่เซ้าซี้และนั่งเงียบไปตลอดทางจนถึงบ้านต้นหอมที่ผมเพิ่งมาส่งเมื่อบ่ายที่ผ่านมา
เอี๊ยดดด!
ผมเหยียบเบรคอย่างแรงก่อนจะรีบเปิดประตูลงจากรถ ไอ้เวฟก็ลงมาด้วย พอเห็นประตูรั้วที่เปิดอยู่พร้อมกับรถคันหนึ่งจอดอยู่หน้าบ้านต้นหอม ผมก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้านต้นหอมทันทีโดยมีไอ้เวฟวิ่งตามมาติดๆ
“เกิดอะไรขึ้นวะ!” ไอ้เวฟตะโกนถามผมไล่หลัง แต่พอผมวิ่งเข้ามาถึงห้องนั่นเล่นเท่านั้นแหละ
“ไอ้ระยำเอ้ย!”
ผมเข้าไปกระชากตัวไอ้คนที่กำลังคล่อมต้นหอมออกอย่างเร็วและแรง พร้อมกับปล่อยหมัดเข้าที่หน้ามันอย่างเร็วสองทีซ้อน
ไอ้ชั่วเอ้ย!
“พี่ ฮึก ปืนน” เสียงต้นหอมเรียกชื่อผมเสียงแหบระโหย ยิ่งเห็นสภาพต้นหอมที่นอนคดคู้อยู่กับพื้นในสภาพไร้เสื้อและกางเกง เหลือเพียงแค่อันเดอร์แวร์เท่านั้นที่ปกปิดร่างกายก็ยิ่งโมโห ผมประเคนกำปั้นใส่หน้าไอ้เหี้ยเฟรมไม่ยั้ง
ผลั๊วะ! ผลั๊วะ! ผลั๊วะ!
อย่าอยู่เลยมึง!
ร่างของไอ้เฟรมลงไปกองกับพื้น ผมจัดการเตะมันที่ท้องอีกทีเต็มแรงจนมันร้องโอ๊ยด้วยความเจ็บ เจ็บแค่นี้มึงยังน้อยไปไอ้สารเลว!
“พะ พี่ปืน...ช่วย...อึก...ช่วยผมด้วย” เสียงเรียกแหบแห้งดังขึ้น ผมหันไปมองก่อนจะจัดการกระทืบไอ้เลวนี่อีกที
“มึงจัดการให้กูที เอาให้แม่งเจ็บและจำไปจนวันตาย” ผมบอกไอ้เวฟเสียงเข้ม
“ได้ มึงไปดูน้องเถอะ เดี๋ยวไอ้ห่านี่กูยำแม่งเอง” ไอ้เวฟบอกก่อนจะยิ้มเหี้ยมออกมา เห็นมันเป็นคนอารมณ์ดีไม่คิดอะไร แต่จริงๆแล้วนิสัยมันชั่วร้ายกว่าที่ใครจะคิดเยอะ
ผมเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กที่นอนคู้ตัวอยู่กับพื้น ร่างเล็กสั่นเทาไปทั้งตัว ผมดึงเขาเข้ามาหาตัวก่อนจะกอดเอาไว้แนบอก
“พี่ปืน...ชะ...ช่วยผมด้วย ผมร้อน” ต้นหอมพูดก่อนจะยืดตัวขึ้นจูบปากผมแบบที่ผมไม่ทันตั้งตัว เนื้อตัวต้นหอมร้อนผ่าวจนรู้สึกได้
“เดี๋ยว” ผมบอกแล้วดันตัวต้นหอมออก แต่เด็กนี่ก็เอาแต่กอดตัวผมแน่นพร้อมกับดูดเข้าที่คอผม ร่างทั้งร่างสั่นระริก ทำให้ผมรู้ว่าเข้าโดนอะไร
“ไอ้เวรเอ้ย!” ผมสบถออกมา ก่อนจะหันไปมองไอ้เวฟที่กำลังกระทืบไอ้เฟรมอย่างเมามัน ก่อนจะหันกลับมาสนใจคนที่กำลังยุ่มย่ามอยู่บนตัวผมอย่างไม่ลดละ
โดนยาเข้าไปเท่าไหร่วะเนี่ย!
“ใจเย็นๆ” ผมกระซิบปลอบแล้วอุ้มต้นหอมขึ้นพาเดินขึ้นไปบนห้อง ต้นหอมคลอเคลียตามใบหน้าผมไม่ห่าง พยายามจะจูบผมให้ได้ ผมต้องรีบกระชับแขนไว้แน่นๆกันคนในอ้อมแขนหล่น รีบก้าวให้เร็วที่สุดก่อนที่จะเผลอกดจูบเด็กตัวเล็กนี่เข้า ก็ดูสิ ทั้งจูบทั้งดูดผมอย่างนี้ ถึงจะรู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยา แต่ผมก็คนไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่จะไม่รู้สึก
คิดแล้วก็โมโหอยากจะลงไปกระทืบไอ้เฟรมไอ้เละกันไปข้างหนึ่ง
ผมมองประตูหน้าห้องๆหนึ่งที่เขียวไว้ว่า ‘ห้องของต้นหอมครับ’ ก่อนจะเปิดเข้าไปข้างใน ใครใช้ให้เขียบป้ายติดไว้แบบนี้วะ ถ้ามีคนคิดไม่ดีเข้ามาในบ้านคงไม่ต้องเสียเวลาหาเลยว่าห้องคนตัวเล็กอยู่ห้องไหน เพราะเจ้าตัวเขาเล่นบอกเสร็จสรรพเรียบน้อยแล้ว - -!
“อืมม จูบหน่อย” ต้นหอมครางเสียงโหย บิดตัวไปมาในอ้อมแขนผม ผมอุ้มคนตัวเล็กเข้าไปในห้องน้ำ วางต้นหอมนั่งบนเคาร์เตอร์ล้างหน้าที่กว้างพอสมควร
“รอแปบนึง” ผมบอกก่อนจะผละตัวไปเปิดน้ำในอ่างอาบน้ำ แรงกอดรัดจากด้านหลังทำให้ผมหันไป บอกให้นั่งรอเฉยๆ แต่กลับลงมาหาผมซะงั้น
“พี่ปืน อื้ออ กอดผมหน่อย..นะ” ต้นหอมอ้อนวอนผม ดวงหน้าหวานช่ำปรือลงอย่างเซ็กซี่ ผมได้แต่กลืนน้ำลายลงคอกับสิ่งที่เห็น ผมเคลื่อนหน้าเข้าไปจูบริมฝีปากที่อ้าออกน้อยๆอย่างเชิญชวน
“อืม~” น้องครางเบาๆเมื่อจับผมไปจูบได้สมใจพร้อมกับจูบตอบผมอย่างร้อนแรง ผมอุ้มต้นหอมลงมาในอ่างอาบน้ำที่มีน้ำเย็นเต็มอ่าง พอเจอกับน้ำเย็นต้นหอมถึงกับสะดุ้งและครางเสียงหวานอยู่ในลำคอโดยที่เรายังจูบกันอยู่
เนื้อตัวเปล่าเปลือยของต้นหอมเบียดชิดเข้าหาผมที่นั่งอยู่บนขอบอ่าง แขนเรียวเล็กเลือนมาคล้องไว้ที่คอผม ผมเบียดจูบให้ลึกขึ้น ได้ยินเสียงครางอย่างพึงคอใจจากคนตัวเล็ก
“ไอ้ปืน อยู่ในห้องเปล่าวะ” เสียงไอ้เวฟดังขึนขัดจังหวะ ผมผละออกจากต้นหอมที่ส่งเสียงขัดใจและพยายามจะเข้ามาจูบผมให้ได้ มือเล็กลูบไล้อยู่ที่หน้าอกผมไปมา แต่ผมต้องตัดใจดึงมือนั้นออกก่อนจะปราบเจ้าตัวดีให้อยู่เฉยๆ
“พี่...พี่ปืน” ลิ้นเล็กสีแดงเลียริมฝีปาก จะยั่วไปถึงไหนนะ รู้ตัวบ้างไหมว่ามันกระตุ้นอารมณ์ผมอย่างมาก
“รอพี่แปบหนึ่ง เดี๋ยวพี่มา” ผมใช้เสียงอ่อนโยนปลอบเด็กดื้อที่ทำท่าจะพุ่งเข้าหาผมให้ได้ ผมตัดใจเดินออกจากห้องน้ำ ปิดประตูให้เรียบร้อยแล้วเดินไปหาไอ้เวฟที่ยืนอยู่หน้าประตู
“เรียบร้อยไหมมึง” ผมถามเสียงเครียด
“เละเป็นโจ๊ก แล้วน้องล่ะเป็นไงบ้าง” มันถามอย่างเป็นห่วง ทำท่าจะเดินเข้าไปดูแต่ผมดันตัวมันไว้ไม่ให้เขา มันมองหน้าผมอย่างงๆ งงห่าอะไรของแม่ง ใครจะให้แม่งเข้าไปดูต้นหอมในสภาพนั้นกันวะ
“โดนยาปลุกเซ็กส์” ผมบอกเสียงเรียบ แต่ในใจนี่ร้อนรุมไปหมด เรื่องไม่จบแค่นี้แน่ ผมจะเอาคืนแม่งให้ถึงที่สุด!
“ไอ้เหี้ยเอ้ย แม่งเลวระยำจริง!” ไอ้เวฟว่าอย่างหัวเสีย
“กูฝากเก็บซากก่อน แล้วเดี๋ยวกูจะตามไปเก็บมันทีหลัง” ผมสั่ง หูแว่วๆได้ยินเสียงครางดังออกมาจากในห้องน้ำ บ้าเอ้ย!
“ได้ มึงก็ช่วยน้องมันแล้วกัน เดี๋ยวกูจัดการให้” เหมือนว่าไอ้เวฟจะได้ยิน มันตบบ่าผมก่อนจะเดินลงไปข้างล่าง
“ฝากล็อกบ้านให้ด้วย” ผมตะโกนบอก ได้ยินมันตะโกนตอบรับกลับมา เมื่อจัดการเรื่องไอ้เหี้ยเฟรมเสร็จผมก็ถอนหายใจออกมา ยังเหลือเรื่องคนในห้องน้ำอีกที่ต้องจัดการให้เรียบร้อย เรื่องนี้สิเครียดยิ่งกว่ากระทืบไอ้เฟรมเสียอีก
“เฮ้ย!” ผมร้องออกมาอย่างตกใจเพราะตอนนี้คนตัวเล็กถอดกางเกงในออกและเริ่มช่วยตัวเอง ดวงตาหวานที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์จ้องมาที่ผมราวกับเรียกร้อง ทำเอาผมเผลอกลืนน้ำลายลงคอ ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิง แต่ไม่เคยมีใครเซ็กซี่เท่าคนตรงหน้ามาก่อนทั้งที่เขาเป็นผู้ชาย
บ้าเอ้ย! นี่ผมมีอารมณ์กับผู้ชายหรือวะเนี่ย!
ผมเดินเข้าไปหาต้นหอมที่หลับตาพริ้ม มือก็รูดต้นหอมน้อยในมืออย่างเร็ว ริมฝีปากน่ารักส่งเสียงครางไม่หยุดจนปลดปล่อยออกมา ต้นหอมหอบหายใจแรงก่อนจะลืมตามองผม ร่างเล็กนิ่งไปแค่แปบเดียวเท่านั้นก็ร้องครางอื้อในคอออกมาอีก ดวงตากลมโตสั่นไหวตามมาด้วยน้ำตาใสๆกลิ้งออกจากตา
“อื้ออ มันมาอีก อึก แล้ว พี่ปืน...มัน อื้ออ มาอีกแล้ว ฮือ” ต้นหอมบอกปนเสียงสะอื้น ผมกัดฟันแน่น มองร่างกายที่บิดเร้าด้วยความทรมานด้วยความสงสารและโกรธแค้นที่ไอ้เวรนั่นทำกับคนตัวเล็กเช่นนี้ ผมขยับเข้าไปดึงแขนเล็กๆนั่นเข้าหาตัว ต้นหอมเองก็ผุดลุกขึ้นมากอดเอวผมเอาไว้เหมือนกัน
ผมดึงร่างบางเข้ามาแนบอกรับรู้ถึงผิวกายที่ร้อนผ่าวของต้นหอม ตามมาด้วยเสียงถอนหายใจจากเขาเมื่อผมโอบกอดเขาไว้แบบนี้
“พี่ปืน...ชะ...ช่วยผมหน่อย” ต้นหอมหายใจหอบ ตาเยิ้มๆที่คลอไปด้วยน้ำตามองหน้าผมอย่างขอความช่วยเหลือ เห็นอย่างนี้อารมณ์ผมก็พุ่งเหมือนกันนะ ผมตัดสินใจโน้มหน้าไปจูบพร้อมกับเลื่อนมือลงไปจับต้นหอมน้อยเอาไว้ ก่อนจะขยับขึ้นลงตามจังหวะเพื่อช่วยให้คนตัวเล็กหายทรมาน จนปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งที่สอง
คิดไม่ออกเลยว่าถ้าผมมาไม่ทันจะเป็นยังไง
ผมจูบที่หน้าผากของต้นหอมแผ่วเบา เนื้อตัวผมเปียกปอนไปหมดเพราะฝีมือเด็กนี่ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจถอดเสื้อออก แต่มือซนๆของต้นหอม เริ่มเลื้อยลงไปปลดกางเกงผมออก ผมจับมือของต้นหอมเอาไว้ แต่เจ้าตัวกับสบัดมือผมออกแล้วลงมือปลดกางเกงผม ทั้งดึงทั้งรั้ง ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนก่อนจะลุกขึ้นถอดเอง
สติและความยับยั้งชั่งใจของผมเริ่มหมดลง อารมณ์ความต้องการของผมพรุ่งพร่านจนยากจะระงับได้ แต่ผมไม่อยากจะฉวยโอกาสจากคนตัวเล็ก ถึงผมกับต้นหอมจะแฟนกัน การมีเซ็กส์คงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่มันต้องไม่ใช่ในสถานการณ์แบบนี้ ไม่ใช่เพราะฤทธิ์ยาที่ทำให้เจ้าตัวไม่ได้สติและเพิ่งจะอายุสิบเจ็ดอย่างนี้ =_=
“ไหวไหม” ถามกระซิบถามชิดใบหูเล็กๆน่ารัก ขบลงไปทีหนึ่งอย่างหมั่นเขี้ยว ความรู้สึกชอบในตัวเด็กคนนี้เริ่มมีมากขึ้น แต่สิ่งที่ตามมาคือความขัดแย้งในใจก็มากขึ้นเช่นกัน จนในบ้างครั้งผมไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำอย่างไร ก้าวไปข้างหน้า หรือถอยหลังกลับดี
เพราะเขา...ผมถึงได้สับสนอย่างนี้
คิดแล้วก็ยิ่งหมั่นไส้ จัดการก้มหน้าลงไปจูบต้นหอมที่นั่งผิงอกผมอย่างเหนื่อยอ่อนแรงๆ แต่ดูเหมือนเขาจะพอใจมากกว่าที่คิด และดูเหมือนว่าความต้องการของเขาจะมาอีกรอบหนึ่งแล้ว
“กอดผม...กอดผมที”
“รู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมา” ผมถาม ลูบหน้าลูกตาต้นหอม เสยผมที่เปียกขึ้นเผยให้เห็นดวงหน้าเนียนใสน่ารัก น่ารักจนไม่น่าเป็นเด็กผู้ชายได้
“ผม...ร้อน...พี่ปืน...กอดผมสิ” เจ้าตัวดูจะนิ่ง แต่กลับเรียกร้องอย่างเดิม ดูเหมือนจะหนักกว่าเดิมเมื่อมือเขาเลื่อนลงไปจับน้องชายผม มือนิ่มๆนั่นทำเอาผมเสียววาบ ขนลุกไปทั้งตัว หาเรื่องใส่ตัวแล้วยังมีหน้ามาเงยหน้ามองผมพร้อมกับเลียที่ริมฝีปากช้าๆ
“อย่ายั่วจะได้มั้ย” ผมว่าพลางจับมือนุ่มนิ่มให้หยุด ต้นหอมครางอย่างขัดใจ มองผมด้วยสายตาเว้าวอน
“พี่ปืน...ฮือออ” แล้วเขาก็ร้องไห้ออกมา สีหน้าดูเจ็บปวดและดูหวาดกลัวจนผมสงสาร ก้มลงไปจูบเบาเป็นการปลอบ
“พี่จะช่วย แต่พี่จะไม่ทำมากกว่านี้...เราต้องอดทนเข้าใจไหม” ผมบอกอย่างใจเย็น มือก็ลูบผิวที่ทั้งนิ่มและลื่นมือไปด้วย
“ทำไม...” ต้นหอมมองหน้าผมเหมือนไม่เข้าใจปนหวาดกลัว
“เคยนอนกับใครมาบ้างไหม” ผมถามกลับ
“ไม่ ฮึก” เขาส่ายหน้าพัลวัล นั่นไง แล้วอย่างนี้จะให้ผมกอดได้ยังไง
“ตอนนี้เราต้องการพี่ แต่ถ้ายาหมดฤทธิ์แล้วนายจะเสียใจ พี่ไม่อยากทำร้ายต้นหอม เข้าใจไหม” ผมบอกแล้วกดจูบที่จมูกเล็กๆที่แดงอย่างกับลูกแมวน้อยแผ่วเบา
“อื้อ อ๊า” ต้นหอมเชิดหน้าครางดังลั่นห้องน้ำอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวเมื่อผมลงมือจัดการกับต้นหอมน้อยในมือให้สงบลงอีกครั้ง มืออีกข้างก็บี้ยอดอกสีชมพูพร้อมกับก้มลงไปไล้เลียจนเจ้าของแอ่นตัวขึ้นด้วยความเสียวซ่าน ผมขบเม้มจนเกิดรอยแดง อีกข้างก็บีบเบาเป็นการกระตุ้นไม่ให้น้อยหน้ากัน จนต้นหอมปลดปล่อยออกมาอีกรอบ ก่อนจะจัดการของตัวเองที่เด็กน้อยนี่ปลุกมันขึ้นมา ดูเหมือนต้นหอมจะรู้ว่าผมต้องการอะไร จึงลงมือช่วยผมด้วยท่าทีเงอะๆงะๆจนเสร็จ ผมจับคนตัวเล็กขึ้นมากดจูบก่อนจะปล่อย
“พอใจรึยัง” ผมกระซิบกับเขาด้วยน้ำเสียงล้อๆ ต้นหอมซบที่อกผมแล้วหายใจหอบ มือเล็กนั่นทุบลงที่หน้าอกผมเบาๆ เขานั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นสักพัก ทำท่าเหมือนจะหลับ ผมไม่รู้ว่ายาหมดฤทธิ์หรือยัง แต่ดูเหมือนคนบนอกผมจะไม่ไหวแล้ว แต่อยู่เขาก็สะดุ้งก่อนจะครางอื้อในคอเหมือนขัดใจ
“ฮึก แต่ผมไม่ไหว...ไม่ไหวแล้ว เหมือนไหร่...มันจะ...ฮึก หมด” เขาบอกอย่างน่าสงสาร น้ำตาไหลพราก ขยับเข้ามากอดผมแน่นกว่าเดิมเหมือนจะหาที่พึ่ง
“ใจเย็นๆ ไม่ต้องกลัว ยานี่มันจะคลายลงเป็นพักๆหลังจากที่ได้ปลดปล่อยแล้ว แต่จะเป็นขึ้นอีกจนกว่ายาจะหมดฤทธิ์”
“ผมจะต้องตายแน่ๆเลย” ต้นหอมเบ้ปากร้องไห้ ผมขำกับสีหน้าตลกๆนั่น
“ไม่ตายหรอก” ผมพูดยิ้มๆ ก่อนจะช่วยคนตัวเล็กปลดปล่อยความร้อนรุ่มอีกครั้งและ...อีกครั้ง จนกว่ายาจะหมดฤทธิ์
ไม่อยากจะเชื่อว่าจะรอดปากเหยี่ยวปากกามาได้จนถึงทุกวันนี้
น่าหนักใจจริงๆ
“พี่ปืน! พี่อยู่ไหน ฮือออ” เสียงร้องของต้นหอมดังลั่นบ้าน ผมที่กำลังเทโจ๊กใส่ถ้วยต้องวางมือแล้วรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องทันที พอเขาเห็นผมก็วิ่งเข้ามากอดผม เนื้อตัวสั่นไปหมด
“เป็นอะไร ชู่ เงียบก่อน” ผมลูบหัวลูบหลังปลอบคนที่เสียขวัญ
กะไว้แล้วว่าถ้าตื่นมาไม่เจอใครต้องร้องแน่ๆ
“ผมฝันร้าย ฮึก ตื่นมาก็ไม่เจอพี่ปืน ฮืออ พี่ปืนไปไหนมา” ต้นหอมถามละล่ำละลัก น้ำหูน้ำตาไหลพรากอย่างกับเด็ก
“อยู่ข้างล่าง ไม่ได้ไปไหน ไม่ต้องร้องแล้ว” ผมโยกตัวคนขี้แยไปด้วย เป็นผู้ชายที่ร้องไห้เก่งกว่าผู้หญิงเสียอีก
“อย่าทิ้งผมนะ อย่าปล่อยให้ผมอยู่คนเดียว” ต้นหอมขอร้องผมทั้งน้ำตา
“...”
“...”
“ไปล้างหน้าก่อน เดี่ยวจะได้ลงไปกินข้าว” ผมไม่ตอบ ดันตัวต้นหอมเข้าห้องน้ำ เขามองผมเหมือนจะไม่ยอมแต่สุดท้ายก็ยอม ผมก็แค่ยังไม่อยากรับปากถ้าไม่แน่ใจจริงๆ
พอต้นหอมเข้าไปล้างหน้าล้างตา ผมก็จัดการพับผ้าห่มให้ ในห้องนอนต้นหอมมีหนังสือเยอะแยะเต็มไปหมด คงเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือมาก ผมเดินไปดูตรงชั้นหนังสือ สายตากวาดมองไปที่รายชื่อหนังสือก่อนจะหยิบหนังสือเรื่องหนึ่งออกมา มันเคยเป็นเรื่องโปรดของผมเมื่อตอนเด็กๆ
Tuck Everlasting ผมหยิบหนังสือออกมามาดู ฉบับที่ผมเคยอ่านเป็นภาษาไทย แต่หนังสือเล่นนี้เป็นภาษาอังกฤษ หลายครั้งที่ผมนึกสงสัยว่าทำไมต้นหอมถึงดูเก่งเกินตัว มีความสามารถเยอะ และมันจะทำทุกสิ่งอย่างที่ตั้งใจได้ดี เก่งในด้านไอคิว แต่กับการดูคน เด็กนี่ไม่ได้เรื่องเลยสักนิด
ผมกรีดหน้าหนังสือดู ก่อนจะไปสะดุดเอาที่หน้าหนึ่ง ในหน้านั้นไม่มีอะไร เพียงแต่สิ่งที่สอดเก็บไว้ในหน้านั้นต่างหากที่ผมสนใจ
รูปถ่ายเก่าๆใบหนึ่ง ที่มีเด็กผู้ชายสองคนอยู่ในรูป ภาพนี้เหมือนถูกแบบถ่ายเพราะเด็กทั้งสองไม่มีใครมองกล้อง ใบหน้าของเด็กคนหนึ่งที่คุ้นตา กับอีกคนที่ลางเลือน
...คิรากร จารุโรจน์... “พี่ปืนครับ”
ปึก!
ผมรีบปิดหนังสือลงเมื่อได้ยินเสียงเรียก ผมหันไปมองต้นหอมที่ยื่นเช็ดหน้ามองผมก่อนจะยิ้มแล้วเดินเข้ามาหา
“เรื่องนี้สนุกมากๆเลยนะครับ เป็นเรื่องที่ผมชอบมากๆ พี่ปืนเคยอ่านหรือยัง” ต้นหอมดึงหนังสือในมือผมไปดู ผมจ้องหน้าต้นหอมที่ยิ้มมีความสุขนิ่งๆ
“อ่านแล้ว” ผมตอบ
“จริงเหรอครับ แล้วพี่ปืนชอบไหม”
“อืม”
“ทีแรกผมก็ไม่เคยอ่านหรอก แต่มีพี่คนหนึ่งคนแนะนำให้ผมอ่านตอนเด็กๆ อืม เด็กมากแล้วล่ะครับ ผมก็เลยลองอ่านดู แล้วก็สนุกจริงๆด้วย เสียดาย ผมยังไม่ได้ขอบคุณพี่คนนั้นเลยที่แนะนำเรื่องสนุกๆแบบนี้ให้ผมอ่าน”
“...”
“พี่ปืนครับ”
“...”
“พี่ปืน!”
“หืม” ผมสะดุ้งเมื่อถูกเขย่าแขน ต้นหอมมองผมงงๆ ที่เอาแต่จ้องหน้าเขา
“มีอะไรหรือเปล่าครับ” ต้นหอมถาม
“เปล่า ลงไปกินข้าวเถอะ” ผมบอกแล้วก็หมุนตัวเดินออกจากห้องทันที ไม่รอคนที่วิ่งตามมาข้างหลัง
---------
---------
(ต่อด้านล่าง)