ตอนที่ 22
1 สัปดาห์ ไวเหมือนโกหก รถต์ตู้สุดหรูเดินขบวนจากแม่ฮ่องสอนมาจนถึงบ้านของผมแล้ว ทุกคนในบ้านรวมทั้งผม พี่วิน คุณพ่อ เพื่อนๆ รออยู่บ้านหมดแล้ว ต่างก็รู้ๆกันว่าคุณย่าจะกลับมาวันนี้
เมื่อรถจอดสนิท ชายวัยฉกรรจ์ สองคนที่นั่งอยู่หน้ารถเดินลงมา มุ่งเข้าไปเปิดประตูรถตู้ต้อนรับผู้มาเยือน คนแรกที่ลงมาจากรถ เธอช่างสวยสง่างาม แลดูเหมือนจะอายุราวๆกับผมได้ เธอคนนี้สินะที่ชื่อน้ำผึ้ง จริงอย่างที่พี่วินว่าเธอแตกต่างจากพี่น้องโดยสิ้นเชิงทั้งท่าทางกิริยามารยาทดูเพียบพร้อมไปหมด เธอฉีกยิ้มกว้างให้กับคนไม่น่าจะมีพิษภัยกับใคร และที่กำลังจะเดินลงมาจากรถคนที่สอง เป็นป้าชุ่มกับคุณย่า นี่หรอคุณย่าของผม ทำไมดูแววตาดุดันเหมือนมีอำนาจอะไรบางอย่าง คุณย่าท่านสวยมาก ทั้งๆที่อายุก็จะ 70 แล้ว
“สวัสดีครับคุณแม่ ยินดีต้อนรับกลับบ้านของเราครับ”
“สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ คุณย่า”
ทุกคนพูดขึ้นพร้อมกันหลังจากที่คุณพ่อพูดจบแล้ว คุณย่ายิ้มกว้างให้กับทุกคน แต่ดูเหมือนจะหยุดยิ้มเมื่อคุณย่าหันแววตามา
ที่ผม เดินเข้ามาใกล้ๆ
“เวไนย์ นี่นะหรอ ลูกชายของเธอ กับแม่แก้วเกด”
“อ้อ ครับใช่ครับ เป็นยังไงบ้างครับ ผมว่าจมูกกับปากเค้าได้คุณแม่อยู่ไม่น้อยนะ”
“อย่างนั้นหรอ น้ำผึ้งพายายเข้าบ้านลูก”
คุณย่าพูดขึ้นพร้อมกับเดินผ่านผมไป ผมเองก็งงๆว่าคุณย่าท่านเป็นอะไร ไม่พอใจผมรึเปล่า รึอะไรที่ผมทำไม่ดีรึเปล่า ก็ไม่หนิ
ผมยังไม่ได้ทำอะไรนะ อืม แล้วสรุปแววตาเมื่อกี้คุณย่าสื่อถึงอะไร
“เน ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
“ครับ น้ำผึ้ง เช่นกันนะ”
น้ำผึ้งเธอน่ารักจริงๆนะ เธอเดินเข้ามาทักผมก่อนจะเดินผ่านตามคุณย่าเข้าบ้านไป สมแล้วที่คุณย่ารักและเอ็นดูขนาดนั้น
“เน ไม่เป็นไรนะลูกคุณย่าท่านก็เป็นอย่างนี้แหละ เดี๋ยวท่านก็เอ็นดูเนลูกของพ่อเองนะ”
“ครับ ผมเข้าใจ คุณย่าสวยจังนะครับ”
“อืม เมื่อตอนสาวๆคุณย่าสวยมากเลยหละ พ่อพอจะมีรูปอยู่บ้างเดี๋ยวว่างๆจะเอาให้ดูนะ”
“ครับผม อืมเดี๋ยวเนกับเพื่อนๆไปเตรียมอาหารที่สวนหน้าบ้านก่อนนะครับ เผื่อขาดเหลืออะไรจะได้เตรียมทัน”
“อืมๆ ฝากด้วยนะเจ้าตัวเล็กของพ่อ”
คุณพ่อเดินเข้าไปในบ้าน ผมเองก็เข้าไปหาเพื่อนๆที่วันนี้แต่ละคนสวยหล่อกันทั้งนั้น
“ไปกัน บาร์บีคิวพอรึเปล่าก็ไม่รู้ ไปดูกันเถอะน้ำ”
“เนๆ เดี๋ยวๆ นั่นพวกแก้งค์นั้นก็มา เนแกเห็นไหม”
“อืมเห็นๆ ”
“อ้าวทำไมถึงไม่ตื่นเต้น ตกใจ หรือว่ากลัว อะไรกันเลยหล่ะ ว่าแต่พวกนั้นมันมาทำไมกันนะ”
“ก็เค้าเป็นหลานของคุณย่าเหมือนกันหน่ะ”
“อะไรนะ!” ทั้งป๊อกเกอร์ นนท์ น้ำพูดขึ้นพร้อมกัน ผมเองจนตกใจ
“โอ้ย ไม่ต้องทำหน้าตกใจ อึ้งขนาดนั้นหรอก ที่พูดไปเป็นเรื่องจริง คอนเฟริม!”
“เดี๋ยวๆ แล้วพวกนั้นมันรู้รึยังว่าแกเป็นหลาน…..”
“น่าจะรู้นะ แต่อาจจะไม่ยอมรับ รึอาจจะไม่เชื่อ”
“ตายจริงพวกนี้ไม่ไหวจริงๆนะ ใจคอโหดร้ายแม้กระทั่งกับญาติตัวเอง”
“ไปโทษเค้าไม่ได้หรอก น้ำ ไปเถอะเดี๋ยวเตรียมของไม่ทัน”
“ไม่ทันแล้วเน แกดูนั่นพวกนั้นเดินมานี่แล้ว”
มาแล้วจริงๆพวกนั้นเดินมานั่นแล้ว ผมเองคงจะไม่สู้ด้วยหรอกนะ เค้ามีกัน 9 คน พวกผมมีกันแค่ 4 คน
“ตายจริง พีท แกดูดิ หลานชายจอมปลอมก็กล้ามาเสนอหน้าด้วย”
“นี่ๆๆๆ น้อยๆหน่อยพ่อคุณ เรียกให้มันถูกหน่อยเพื่อนฉันเป็นหลานชายแท้ๆ ไม่ใช่หลานตัวปลอมนะยะ”
“น้ำหน่าไม่เอา” ผมหันไปกระตุกแขนน้ำให้ใจเย็นๆ
“ทำไมหล่ะเน ก็มันจริงหนิ”
“ฮ่าๆ จะจริงรึไม่จริงฉันไม่สนใจหรอก พวกเราไปกันเถอะอย่าอยู่ตรงนี้นานเลย กลิ่นร้านมันแรง”
นาวามองมาที่ผม จะบ้าตายนี่จะพูดให้มันเหมือนชาวบ้านเค้าจะได้ไหม
“เฮ้อ ไอ้น้องชาย ฉันว่านายน่าจะไปอยู่ห้องครัวเป็นคนใช้เหมือนเดิมจะดีกว่านะ ราศีมันให้! ฮ่าๆ”
เอโต้พูดขึ้นมา ทำเอาผมสะอึกเลยทีเดียว อะไรจะใช้ปากเป็นอาวุธขนาดนั้น
“คุณเอโต้ครับ ต้องเป็นเหมือนคุณก่อนใช่ไหมครับ ราศีถึงจะเหมือนหลานชายคุณย่า”
“นี่แก!” เอโต้เงื้อมือขึ้นม้เหมือนจะตบผม
“อย่านะเอโต้ คุณย่าอยู่ข้างใน งานนี้จัดต้อนรับคุณย่านะ อย่าทำให้เสียงาน” เซนห้ามเอโต้ไว้ได้ทัน
“ก็ได้ๆ ไปกันเถอะพวกเรา ”
เอโต้เดินหน้าเสียออกไป ยังเหลือ เซน คู่แผดโอ อาร์ เซฟ เอส ส่วนเดลเดินตามเอโต้ไปติดๆ
“ขอโทษแทนเอโต้ด้วยนะเน”
“ไม่เป็นไรครับพี่เซน เชิญด้านหน้าที่สวนหย่อมดีกว่าครับทางนั้นกำลังย่างบาร์บีคิวอยู่พอดี”
“ครับ ไปได้แล้วไอ้ โอ ไอ้อาร์ อย่าดื้อกับพี่เนไปอีกสองคนหล่ะ”
“โห พี่เซน ใครว่าพวกเราจะทำ ไม่นึกเลยว่าคนที่พี่นาวาเกลียดตัวจริงจะน่ารักขนาดนี้ จริงไหมพี่เน”
“ไม่รู้สิครับ น้องโอ น้องอาร์ ” ผมยิ้มให้น้องๆอย่างเป็นมิตร
“อย่าสนใจพวกเค้ามากนะครับ ปกติแล้ว ก็น่ากลัวพอๆกันกับ พวกเอส พวกเซฟ ที่ยืนยิ้มให้เนอยู่โน่นนั่นแหละ”
“ฮ่าๆ ครับๆพี่เซน นี่ผมต้องขอบคุณหน้าตาผมใช่ไหมครับที่ทำให้พวกเค้าไม่พาลผมเหมือนพี่ๆพวกเค้า”
“น่าจะประมาณนั้นนะ พี่ไปแล้วนะ ไปได้แล้วโอ อาร์”
“อืมๆ พี่เซนฝากเพื่อนๆผมไปด้วยหน่อยนะครับ น้ำ ป๊อกเกอร์ นนท์ พี่เซนเค้าเป็นคนดีนะ เปิดใจหน่อยก็ดี”
“อืมเนพูดถูก ผมไม่เหมือนพวกเค้าหรอกนะ วางใจได้ ไปเลยไหมครับ”พี่เซนพูดชมตัวเองทันที
“ไม่เอาอ่ะ เน แกก็ไปกับฉันด้วยสิยะ”น้ำพูดขึ้น ไม่ไหวเลยเพื่อนคนนี้
“ไม่เอา เราขอไปโทรหาที่บิลันก่อนเพราะป่านนี้ยังไม่มาเลยไม่รู้ว่ายังไง”
“เออๆ พวกฉันไปก่อนแล้วกัน อย่าลืมตามมานะ”
“อืมๆ”
ผมเดินออกไปโทรศัพท์ที่ข้างๆบ้านแถวๆม้าหินอ่อน กดโทรหาพี่บิลัน เพราะพี่เค้ายังไม่มาเลย
“อืมเนว่าไงครับ”
“พี่บิลัน ตอนนี้อยู่ไหนครับ ผมไม่เห็นพี่มาเลย คุณย่ามาถึงแล้วนะครับ”
“อ้าวเนรู้ได้ไงว่าพี่เป็นญาติเน”
“เรื่องมันยาวอ่ะครับ เอาเป็นว่าเนรอพี่บิลันที่บ้านนะครับ”
“ไม่ต้องรอหรอก”
“ทำไมหล่ะครับ”
“หันหลังมาสิ”
“อ้าวพี่บิลัน!”
ผมหันไปมองก็พบว่าพี่ชายสุดหล่อของผมยืนยิ้มให้ผมอยู่ไม่ไกล
“มาเมื่อไหร่ครับ ทำไมเนไม่เห็น”
“จะเห็นได้ไงหล่ะ บ้านเนใหญ่ยิ่งกว่าอะไร ”
“แล้วนี่มาหาผมถูกได้ยังไงครับ”
“ก็พอดีเห็นเนเดินเลี่ยงๆออกมาจากเพื่อนเลยเดินตามมาดู พวกไอ้เอส ไอ้เซฟ พี่ไม่ค่อยไว้ใจนัก”
“เน! มานั่งอะไรกับคนแปลกหน้า กลับเข้าบ้านกับพี่ได้แล้ว”
“พี่วิน เนต้องไปย่างบาร์บีคิวนะครับ”
“ไม่ได้! เนต้องไปกับพี่”
ว่าแล้วก็นิสัยเดิมๆ ทายซิครับว่าอะไร ก็เดินเข้ามาลากผมไปอย่างแรงเหมือนเดิม รึว่าหึงผมรึเปล่า อิอิ ทำเอาซะพี่บิลันหน้า
หวอเลยทีเดียว
“พี่วินๆ ใจเย็นๆครับ ลากผมมาแบบนี้ ผมเจ็บนะครับ”
“ขอโทษ!”
“พี่วินทำไมต้องหงุดงหงิดอีกแล้ว ไหนบอกจะเปลี่ยนตัวเองไง”
“พยายามอยู่ แต่พี่ไม่ไหวจริงๆ”
“หึงเนหรอ”
“เน พี่ทำขนาดนี้ยังถามได้อีกนะ”
“อ้าวก็ถามไงจะได้ชัว มาเอ็ดเนทำไมกัน”
“ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจ ก็เนไปนั่งอะไรกับมันคนเดียวหล่ะ พี่ตามหาแทบแย่ ลำพังบ้านเราใหญ่ก็พอแล้ว แถมวันนี้คนยังมาเยอะอีก
พี่ไม่ไว้วางใจซักเท่าไหร่”
“แล้วพี่วินตามผมมาทำไมครับ”
“เอ้า 1 ก็ คุณย่าเรียกให้ไปพบ 2 ก็พี่คิดถึง”
“เนว่าอย่างหลังไม่น่าจะใช่นะ”
“เน ทำไมจะไม่ใช่ พี่วินรักเนที่สุดในโลกเลยนะ ว่าแต่จะเรียกตัวเองว่าเน รึว่าเรียกตัวเองว่าผมกันแน่ พี่งง ”
“ไม่รู้สิ เนก็ไม่รู้หรอก”
“ไม่ได้ๆ บอกมาว่าจะเอาแบบไหน ”
“ให้พี่วินเลือกแล้วกัน”
“แน่นะ”
“อืมแน่ใจ”
“จริงๆนะ”
“อะ อืม” พี่วินทำไมถามให้ผมลดความมั่นใจด้วยนะ
“โอเค พี่ตัดสินใจแล้ว พี่จะให้เนเรียกตัวเองว่ากระต่ายน้อย”
“บ้าไปแล้วพี่วิน เนไม่ตลกนะ”
“ไม่รู้แหละ ให้พี่วินเลือกให้เองไม่ใช่หรอ”
“ไม่เอา เนเลือกเองดีกว่า”
“ไม่ได้นี่คือคำสั่ง พี่วินถามย้ำแล้วแต่เนก็เลือกให้พี่เองนะ”
“ไม่เอา นั่นมันนอกเหนือจากที่พี่วินพูดแล้วนะ ไหงมีคำว่ากระต่ายน้อยมาได้หล่ะ”
“สรุปเอาตามนี้นะ ไปได้แล้วคุณย่าจะรอนาน”
เออใช่ ผมเองก็ลืมเลยป่านนี้ท่านยังจะรอนานแย่แล้ว ผมเดินตามพี่วินไปปที่ห้องรับแขก ก็เห็นว่าคุณพ่อ คุณย่า คุณลุงวุฒิ คุณ
ลุงเวท นั่งอยู่ก่อนแล้ว และที่สำคัญมีน้ำผึ้งนั่งพับเพียบอยู่ด้านข้างคุณย่าด้านล่าง
“มากันแล้วหรอ ไปตามที่ไหนกันมาถึงได้มาช้าป่านนี้”
คุณย่าพูดขึ้นหลังจากที่ผมเดินเข้าถึง
“เอ่อ คือ ผมไปตามน้องที่เค้าทำอาหารอยู่ครับ เลยมาช้านิดหน่อยเพราะต้องล้างมือ เดี๋ยวคุณย่าจะดูไม่ดี”
ผมหันไปมองพี่วินที่แก้ต่างให้ผม แต่นั่นเป็นการโกหกนะครับพี่วิน
“คุณย่าคะ จริงอย่าที่พี่ชายวินพูดนะคะ ถ้าเข้ามาหาคุณย่าด้วยสภาพมอมแมมจะดูไม่ดี สู้ซะให้เค้าไปล้างมือ เตรียมตัวสักหน่อยน่าจะ
ดีกว่า”
“อืมๆ น้ำผึ้งพูดมาก็มีเหตุผล ย่าเชื่อหลานนะจ๊ะ เอาหล่ะนะเนวิน รู้ไหมที่ฉันเรียกมาหาเพราะอะไร”
“เอ่อ ไม่ทราบครับ คุณย่า”
“อืม เห็นว่าฝีมือการทำอาหารเธอเป็นเลิศ ฉันก็เลยอยากจะให้เธอทำให้ฉันทานซักสองสามอย่าง คงไม่เหนื่อยเธอหรอกนะ”
“ไม่เลยครับคุณย่า บอกได้เลยครับจะให้ผมทำอะไร”
“อืมรายการอยู่ที่โต๊ะตรงหน้าเธอแล้ว ทำอร่อยๆนะ ฉันอยากชิม”
“ได้ครับ”
“เดี๋ยวก่อน ไหนๆก็สั่งไปแล้ว ฉันจะให้น้ำผึ้งไปช่วยเธออีกแรงนึงจะได้ไม่เหนื่อย”
“ขอบคุณคุณย่ามากนะคะ เนไปกันเร็ว ครัวอยู่ที่ไหน ”
“ได้เลยตามฉันมานะน้ำผึ้ง”
ที่ห้องครัว ผมกับน้ำผึ้งรีบทำอาหารให้คุณย่าอย่างขะมักเขม้น ผ่านไป 45 นาทีได้ ทุกอย่างก็ออกมาเป็นอาหาร คาวหวาน
ตรงหน้าอย่างสวยงาม
“สวยจังเลยเน เธอทำอาหารได้เร็วแล้วก็หอมน่าทานมากเลย”
“ไม่ขนาดนั้นหรอก น้ำผึ้งเองก็เก่งมากๆเลย ทั้งสวยทั้งอ่อนโยน เพียบพร้อมทุกอย่างขนาดนี้ใครได้เป็นแฟนก็คงจะน่าดีใจเลยทีดียว”
“ไมหรอกเน ชมน้ำผึ้งเกินไปแล้ว ไม่ขนาดนั้นหรอก ปะเราเอาไปเสิร์ฟคุณย่ากัน”
“อืมๆ”
“เดี๋ยว! ยังยกไปไม่ได้”
“อ้าวนาวา พี่เอโต้ ทำไมไม่อยู่ทานอาหารด้านนอกสวนหย่อมหล่ะคะ”
“แกนั่นแหละน้ำผึ้ง แกมาทำอะไรกับไอ้เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนนี้”
“นาวาทำไมไปพูดให้เนเค้าแบบนั้นหละคะ เค้าเป็นหลานคุณย่านะ และเป็นหลานสายเลือดตรงมากกว่าพวกเราอีกนะคะ”
“หุบปาก ไม่มีอะไรที่ยืนยันตัวตนเค้าได้ นอกจากความเป็นพ่อครัวในห้องครัวซอมซ่อ ”
“น้ำผึ้ง ยกอาหารไปดีกว่าคุณย่ารออยู่”ผมพูดปัดๆไปไม่อยากให้เสียงาน
“เอ๊ะ ไอ้เด็กคนนี้ บอกยังยกไปไม่ได้ไง เอามานี่ฉันจะเป็นคนยกไปเอง นาวามายกไปให้คุณย่าเร็ว”
“ครับพี่เอโต้”
“เน ปล่อยให้พี่ๆเค้ายกไปเถอะ”
“อืม ”
“อ้าวหมดหน้าที่แล้วก็หลบไปสิ ยืนเกะกะจริงๆเชียว ไปล้างห้องน้ำหน่อยก็ดีนะ ไปเถอะพี่เอโต้”
“ไปที่ชอบที่ชอบนะ ชิ้วๆ”
เอโต้นี่เค้าสติดีอยู่รึเปล่าดูเป็นคนโตที่สุดในบรรดาหลานๆ แต่คุณย่ากลับไม่เลือก กลับเลือกพี่วินแทนซะนี่เพราะแบบนี้นี่เอง
สินะ เพราะความไม่เป็นผู้ใหญ่ของเค้าแน่ๆ
“เน ออกไปหาคุณย่ากัน”
“มาแล้วหรอ อาหารมื้อค่ำของฉัน หอมน่าทานดีจัง อ้าวแล้วพวกเธอสองคนไปช่วยเค้าทำอาหารด้วยหรือไง พ่อนาวา พ่อเอโต้”
“โห คุณย่า ดูไม่ผิดหรอกครับ พวกผมกับน้องนาวาไปช่วยพ่อคนนี่หน่ะสิครับ เลยเสร็จเร็วแบบนี้ไงครับ ”
“ใช่ๆ ทำอาหารอะไรก็ไม่รู้ ช้าก็ช้า กลัวไม่ถูกใจคุณย่าพวกเราเลยไปช่วยทำด้วย เผลอๆกลัวว่าคุณย่าจะท้องเสียก็เป็นได้ จริงไหมพี่
เอโต้”
“อะไรกันพวกเธอนี่ น้ำผึ้งเค้าก็เพิ่งเข้าไปช่วยเนนี่นา แล้วอาหารจะทำให้ย่าท้องเสียได้อย่างไรกัน”
“นั่นหน่ะสิเจ้านาวา เจ้าเอโต้ ไปพูดให้คุณย่าระแวงแบบนี้ไม่ได้นะ”ลุงวุฒิพูดเอ็ดลูกชายตัวเองขึ้นมา
“คุณพ่อ ก็จริงหนิครับ ใครๆชิมไปก็เจ็บท้องทั้งนั้นแหละ”
“อะไรกันนาวา ทำไมดูลูกมั่นใจขนาดนั้น เพราะอะไรกันลูก”
“เอ่อ คือ เอ่อ อ้อๆ ปะ เปล่าครับคุณพ่อ น้องนาวาพูดไปเรื่อยแหละครับ เอาเป็นว่าพวกเราไปอยู่กับเพื่อนๆด้านนอกแล้วกันนะครับ
ไปเร็วนาวา”
เอโต้ตะกุกตะกัก รีบแก้ต่างให้นาวาน้องชายของเค้า ผมดูๆแล้วเหมือนสองคนนี้มีอะไรที่ทำแล้วผมไม่รู้รึเปล่า ไม่นานที่คุณย่าท่าน
ชิมก็เกิดอาการอย่างที่พวกนั้นว่า ผมเริ่มสังหรใจแล้วว่าน่าจะเป็นฝีมือพวกนั้น
“เวไนย์ นี่ลูกชายเธอทำอะไรให้ฉันกินหะ ฉันปวดท้องไปหมดแล้ว น้ำผึ้งพาย่าไปห้องน้ำที”
“คุณย่าให้เนช่วยพยุงนะครับ ”
“ไม่ต้อง เธอนี่มันจริงๆเลย จริงอย่างที่พวกนาวา เอโต้ว่าไว้ไม่ผิดเลย”
“โถ่คุณแม่ครับ อาจจะไม่ใช่ความผิดเนเค้าก็ได้นะครับ ”
“จะไม่ใช่ได้ยังไง ก็ฉันปวดท้องอยู่ขนาดนี้”
“คุณย่าคะ เนไม่ได้ทำหรอกค่ะ น้ำผึ้งเชื่อค่ะ เพราะน้ำผึ้งทำอาหารกับเนตลอด 45 นาทีเลยนะคะ”
“น้ำผึ้ง ทำไมไปพูดแก้ต่างให้เด็กคนนี้ด้วยหลานย่า”
“จริงๆนะคะคุณย่า เชื่อน้ำผึ้งนะคะ พวกเราช่วยกันชิมก่อนจะยกออกมาให้คุณย่าซะอีก แล้วดูตอนนี้สิคะทั้งเนและน้ำผึ่งไม่เห็นจะเป็น
อะไรเลย”
“ใช่แล้วนะคุณแม่ พวกผมเชื่อว่าหลานเน ลูกชายเวไนย์ไม่น่าจะเป็นคนทำนะครับ”ลุงวุฒิพูดขึ้น
“ แล้วใครทำหล่ะ ”
“ผมคิดว่าน่าจะเป็นลูกชายตัวดีของพวกผมนี่แหละครับ”ลุงวุฒิพูดอย่างมั่นใจ ในนิสัยของลูกชาย
“เจ้านาวา เจ้าเอโต้ นะหรอ บ้าไปใหญ่แล้วตาวุฒิ พวกนั้นเค้าจะทำกับย่าของเค้าทำไมกัน”
“คุณย่าคะ ไม่ไปห้องน้ำแล้วหรอคะ”
“เออใช่ น้ำผึ้งพาย่าไปเร็ว”
ผมเองหน้าเจื่อนไปไม่น้อยที่ทำอาหารให้ย่าทาน แต่กลับกลายเป็นว่าไปทำให้คุณย่าท้องเสียซะนี่ ผมเสียใจมากเลยหลบ
หลีกสายตาคุณพ่อคุณลุงทั้งสองออกมานอกบ้านมานั่งอยู่ม้าหินอ่อนข้างบ้าน
“เน เกิดอะไรขึ้นหรอ แล้วนี่คุณย่าให้ออกมาแล้วหรอ ”
เสียงๆนี้ผมได้ยินทีไรมันช่างทำให้ผมมีกำลังใจ เหมือนเสียงๆนี้เป็นที่พึ่งให้ผมได้เสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เสียงๆนี้จะมาก่อน
เสมอ ผมยอมรับว่าบางครั้งเสียงๆนี้ผมไม่ชอบเอามากๆ แต่ตอนนี้กลับไม่ใช่ ผมไม่อยากอยู่ไกลจากเจ้าของเสียงๆนี้เลย
“พี่วินครับ คุณย่าท้องเสีย เพราะอาหารที่เนทำครับ เนไม่ได้ตั้งใจนะ ฮือๆ พี่วินเชื่อเนนะ ”
“ครับๆพี่เชื่อ อเน อย่าร้องนะ ใจเย็นๆ ไม่มีอะไรหรอก อย่าร้องนะครับ พี่วินอยู่นี่แล้ว ค่อยๆคิดทบทวนนะว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ดีไม่ดี
คุณย่าอาจจะท้องไม่ดีเองก็เป็นได้ เพราะท่านอาจจะทานของผิดสำแดง”
“ฮือๆ พี่วิน เนผิดหวัง เนเสียใจนะครับ เนไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ ฮือๆ”
“ครับๆพี่วินเข้าใจ อย่าร้องนะ พี่วินอยู่นี่แล้วนะครับ อย่าร้องนะ”
ผมร้องไห้ภายในอ้อมกอดพี่วินที่ตรงม้าหินอ่อน พี่วินกอดผมแน่น ผมรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น ที่มีเยื้อใยให้ผมมากมายผมไม่
อยากไปจากพี่วินแล้ว ในที่สุดผมก็มีความรู้สึกเหมือนที่พี่วินมีให้ผมแล้ว จริงอย่างที่พี่วินบอกคนเรารักกันความรู้สึกมันเหมือนกับว่า
ร่างกายของคนสองคนเราเป็นเสมือนหนึ่งเดียว ตอนนี้ผมมั่นใจแล้วว่าสิ่งๆนั้นผมมีให้พี่วิน และสิ่งนี้ผมก็มีนานแล้ว มีมานานแล้วจริงๆ
แต่ผมเข้าใจว่าเป็นความรู้สึกแค่พี่ชายน้องชายมาโดยตลอด แต่วันนี้กลับไม่ใช่ มันเป็นความรู้สึกของคนรักต่างหากหล่ะ พี่วิน ผมอยากจะบอกพี่วินให้ดังๆไปเลย แต่ผมยังไม่พร้อมผมขอก่อนนะ ขอให้พี่วินรอวันนั้นแล้วถ้ารักเรายังไม่จืดจาง วันนั้นผมจะเป็นคนบอกพี่วินเองนะครับ
เนื้อเรื่องดำเนินไปเร็วเหมือนกันนะเนี่ย ดูเหมือนจะจบในอีกไม่นานนี้แล้วหล่ะครับ ^^