เลือดมังกร ตอนที่ 30 ฮันนีมูนข้ามประเทศ ( อวสาน ) up 26/4/2556
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เลือดมังกร ตอนที่ 30 ฮันนีมูนข้ามประเทศ ( อวสาน ) up 26/4/2556  (อ่าน 70522 ครั้ง)

ออฟไลน์ srikoon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 530
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-6
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 5
«ตอบ #30 เมื่อ19-11-2012 21:48:59 »

เห็นอยู่ว่าทำ 2 เรื่องพร้อมๆกัน

ถัาแบ่งเวลาได้ สม่ำเสมอ ก็ประสบความสำเร็จ

จะดูว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร

ไหนจะต้องเรียนและทำงาน

เอาใจช่วยนะครับ


 :laugh5: :laugh5: :haun1:

loveice

  • บุคคลทั่วไป
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 5
«ตอบ #31 เมื่อ19-11-2012 22:09:13 »

ขอบคุณ คุณ srikoon มากๆนะครับ กำลังใจเป็นสิ่งที่สำคัญ ผมว่ามากเกินพอครับสำหรับที่จะให้ผมขับเคลื่อนนิยายต่อไปได้ จนประสบความสำเร็จจนนิยายจบอย่างสวยงาม  อย่างที่คุณว่านะครับ^^


และก็ผู้อ่านทุกๆคนนะครับ   ขอบคุณมากๆเช่นเดียวกัน 
สำหรับบางอย่างถ้าผมบอกได้ผมจะบอกนะครับ บางอย่างบอกไม่ได้ก็จะไม่บอกกลัวว่าบอกไปจะไม่สนุก 
- พี่ชีวินสุดหล่อ จะขึ้นปี 3 แล้ว
- เรื่องวุ่นวายที่ว่า รอนับนิ้วเลย ผู้ชายที่จะเข้ามาในชีวิตน้องเน และไหนจะพวกเกย์พวกตุ๊ดที่คอยรังควาน อิจฉาอีก  ไม่รู้ว่าใครจะมาปกป้องน้องเนรึเปล่า  ดราม่าแน่นอนครับ อิอิ 

ออฟไลน์ srikoon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 530
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-6
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 5
«ตอบ #32 เมื่อ29-11-2012 20:16:48 »

คิดถึงครับ ทั้ง 2 เรื่อง

 :laugh5: :laugh5: :haun1:

loveice

  • บุคคลทั่วไป
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 5
«ตอบ #33 เมื่อ07-12-2012 00:22:09 »

มาแล้วๆๆๆๆๆๆๆ ขอโทษเน้อ ขอออกตัวไว้ก่อน เน็ตเล่นไม่ได้ตั้งแต่วันที่ 21 - 5 ธันวา วันนี้เพิ่งเล่นได้ 
ตอนที่ 6 นี้ไม่มีอะไรมากเนาะ เปนการปรับความเข้าใจระหว่างแม่กับน้องเน ไปอ่านกันเลยเนาะ




ตอนที่6



“พี่ชีวิน  อย่าทำอะไรผมเลยนะ ฮือๆ ผม….. ผม….  ผมเป็นน้องพี่นะ”

“ฉันไม่ใช่พี่แก ฮ่าๆๆๆๆ”

“โอ้ย อย่าทำผมเลย ผมเจ็บแล้ว พี่วิน”

“ฉันไม่ใช่พี่แก  ได้ยินไหม ฉันไม่ใช่พี่แก  ไอ้ตัวซวย  ฮ่าๆๆๆ”

“ไม่จริง!”


      ผมร้องตะโกนเสียงยาวตื่นขึ้นมาจากความฝันร้ายและแปลกๆอีกครั้ง ไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะเก็บเอามาฝันเป็นเรื่องเป็นราวติดต่อกันได้ทุกคืนขนาดนี้ ผมลุกตื่นขึ้นมาแล้วมองออกไปที่สวนย่อมนอกหน้าต่างห้องคนใช้ชั้นล่าง มองสวนหย่อมที่ตกแต่งอย่างสวยหรูใกล้ๆลานน้ำพุ ทุกครั้งอย่างนี้เป็นประจำ
    จากวันนั้นถึงวันนี้ ก็ผ่านไปเป็นสัปดาห์แล้ว  เหตุการณ์ในครั้งนั้น ผมไม่สามารถที่จะอธิบายได้ถึงการเปลี่ยนไปของพี่ชีวิน ช่วงนี้เขาตีตัวออกห่างผมไปพอสมควร เจอหน้าผมก็ทำเป็นไม่เห็น  แต่ในใจผมก็คิดว่ามันดีนะ  จะได้ไม่ต้องเกิดเรื่องให้เกิดการบั่นทอนกำลังใจทั้งสองฝ่าย  วันนี้ผมตั้งใจที่จะกลับบ้านไปหาแม่ ป้า พี่เจมส์ และพี่ต๋องอันเป็นที่รักที่สุดของผม  การกลับไปในครั้งนี้ผมจะไปลงทะเบียนเรียนของปี 1 ให้มันเสร็จๆไปซะที อืม ผมลืมบอกไปเสียสนิท บ้านผมอยู่อยุธยา ที่หมู่บ้านอาจจะห่างไกลจากตัวเมืองไม่มาก แต่ที่นั่นมันสงบและใกล้แม่น้ำที่ไหลผ่านหลังบ้านผม นั่นก็คือแม่น้ำเจ้าพระยา
    ผมจัดการทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วขอให้พี่เลียงช่วยนิดหน่อยจะได้ออกจากบ้านหลังนี้ได้ง่ายขึ้น ผมสัญญากับพี่เลียงไว้แล้วว่าอีก 5 วันผมกลับแน่นอน ดูท่าพี่เขาคงจะเข้าใจ  ผมเดินกลับมาถึงที่บ้านคนแรกที่ผมเห็นคือแม่  แม่กำลังนั่งร้อยมาลัยที่ศาลาริมน้ำใกล้ๆท่าเรือ

“แม่!”  ผมยิ้มดีใจ ร้องตะโกนซะพี่เจมส์ต้องวิ่งออกมาดูที่สวนเล็กๆกลางบริเวณบ้าน

     แม่หันกลับมา แต่สิ่งที่ผมเห็นนั้น  แม่ทำสีหน้าผิดหวัง  ถึงแม้ว่าผมไม่เคยทำให้แม่ผิดหวังมาก่อน แต่แววตาที่แม่มองมาที่ผมมันชัดเจนโดยที่ไม่ต้องเอ่ยถาม  แม่เก็บพวงมาลัยแล้วเดินเข้าบ้านไปทันที

“แม่  เนกลับมาแล้ว แม่ฟังเนก่อน”

“น้องเน!  ใจเย็นๆก่อน”พี่เจมส์เข้ามาถึงตัวผมที่จะเดินเข้าไปหาแม่

“พี่เจมส์คงบอกแม่ไปแล้วใช่ไหม”

“อืม  พี่ขอโทษนะ”

“ไม่หรอก พี่ทำดีที่สุดแล้ว แล้วพี่บอกแม่เมื่อไหร่กัน”

“ไม่นานนักหรอก  2 วันก่อนหละมั้ง”

“เฮ้อ  เนอยากให้แม่เข้าใจในสิ่งที่เนทำนะพี่เจมส์”

“พี่ว่าแม่เข้าใจเนนะ อย่าคิดมาก”

“เน!”

    จู่ๆ เสียงแม่ก็ดังขึ้นข้างหลังผมกับพี่เจมส์

“แม่ เนอธิบายได้นะครับ  เนอยากให้แม่เข้าใจ ว่า……”

“อยากให้แม่เข้าใจงั้นหรอ  จะให้แม่เข้าใจว่าอะไร  เข้าใจว่าเนอยากเป็นลูกเขาจนถึงขนาดต้องไปอ้อนวอนขอสิทธิเขาถึงที่หน้า
บ้านอย่างนั้นหรอเน”

“แม่…..  ไม่ใช่เลยนะ  เนมีเหตุผลนะแม่  เนทำเพื่อแม่นะ”

“ทำเพื่อแม่อย่างนั้นหรอ  ลองคิดดูอีกทีสิเน  แม่ไม่เคยขอให้เนต้องทำเรื่องแบบนี้  แม่บอกเนตลอด บอกมาตลอด ตั้งแต่เล็กจนโต 
แต่เนก็ไม่ฟังแม่  เนทำเพื่อตัวเองต่างหาก!”

“แม่” ผมน้ำตาคลอเบ้าเอ่ยเรียกแม่เบาๆ

     แม่ในตอนนี้กำลังร้องไห้  ผมกำลังทำให้แม่ต้องเสียน้ำตา  ผมไม่ดีเองที่ไม่ฟังแม่

“แม่จะเข้าไปทำอาหารแล้ว”

      แม่เดินเข้าไปในบ้าน ทิ้งให้ผมนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น

“แม่เนขอโทษ ฮือๆ เนผิดไปแล้วแม่….”

“เน!  ไม่เอาหน่า  ลุกขึ้นก่อน พี่ว่าเนขึ้นไปเก็บของ อาบน้ำแต่งตัว แล้วลงมากินข้าวดีกว่าไหม”

“พี่เจมส์  แม่จะหายโกรธเนรึเปล่า”

“อืม พี่เชื่อ มีแม่ที่ไหนที่โกรธลูกของตัวเองได้ลงคอ   ไม่มีหรอก  เด็กน้อยเอ้ย  ร้องไห้ไม่ยอมโตแบบนี้แหละน้าพี่ถึงได้ห่วง ฮ่าๆ”

“ตลกได้อีกนะพี่เจมส์”

“พี่ล้อเล่นนิดหน่อยเอง  ไปๆ ลุกได้แล้ว”

“งั้นผมไปอาบน้ำก่อนนะ”

“อืม เดี๋ยวพี่รอที่โต๊ะอาหารแล้วกัน”



( พี่ชีวิน )

  ผมกลับมาถึงบ้านพอดีอาหารเย็น  แต่ที่แปลกไปคือ  เด็กคนนั้นหายไปไหนซะแล้วทำไมปล่อยให้ไอ้เลียง ไอ้หยวนมา
จัดโต๊ะอาหาร ทั้งๆที่มันเป็นงานของเด็กคนนั้นเอง

“นายกลับมาแล้วหรอครับ มาครับเดี๋ยวผมเก็บกระเป๋าให้”

     ไอ้ซุนลูกน้องผมนี่ก็ทำงานดีมาตลอด ไม่เคยทำงานบกพร่องเสียอย่างเดียวอารมณ์โมโหง่ายอย่าบอกใครเชียว

“ขอบใจ  อืม ไอ้ซุน ลื้อรู้รึเปล่าว่าเด็กนั่นอยู่ที่ไหน”

“อ้อ  ไม่รู้ครับนายเห็นไอ้เลียงไปส่งเด็กนั่นที่หน้าบ้านตั้งแต่เช้า”

“หึ  พ่อฉันไม่อยู่บ้านไม่ถึงสัปดาห์  ก็ออกลายซะแล้วสินะ”

             ผมพูดอยู่ได้ไม่นานก็มีเสียงขัดอารมณ์ดังขึ้นมา

“ไม่หรอกครับนาย  เด็กคนนั้นแค่กลับบ้านเกิดเท่านั้นเองครับ” ไอ้เลียงพูดขึ้นมา

“หึ  กลับบ้านงั้นหรอ  อันที่จริงฉันจะมองโลกในแง่ร้ายหน่อยนึงจะเป็นอะไรไป  อีกอย่างคราวหลังถ้าฉันไม่ถามแกเนี่ย ก็ไม่ต้องตอบ
ฉันคิดว่าลื้อจะเข้าใจนะอาเลียง”

           ผมหันไปยิ้มแบบเย็นชาให้ไอ้เลียง   ดูสีหน้ามันตอนนี้เหมือนไม่พอใจผมเหมือนทุกๆครั้งนั่นแหละแต่มันจะมาทำอะไรผมได้
ผมเป็นลูกของพ่อ แล้วมันหละเป็นใคร   

“โถ่เอ้ยไอ้เลียง ฉันจะบอกลื้อให้นะว่าไอ้หน้าตาไม่พอใจของแกเนี่ย  มันไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้นนักหรอกนะ ฮ่าๆๆ  ฉันเบื่อแล้วหว่ะ ขอตัวไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน”

      พอผมเดินไปถึงห้องนอน  ผมก็ยังสงสัยอยู่ดีว่าเด็กคนนั้นจะกลับบ้านไปทำอะไร  ความคิดผมมันผุดขึ้นมาในหัวสมอง   จริงๆมันไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลยที่เขาจะกลับบ้าน แต่ผมก็อยากจะรู้อยู่ดี     เพราะอะไรหนะหรอ หึ ไม่มีคำตอบ!



( น้องเน )

“ก๊อกๆ”  เสียงประตูห้องนอนผมดังขึ้น  พอเปิดประตูออกปุ๊บก็พบว่าแม่ยืนอยู่ที่หน้าประตู

“แม่เข้าไปได้ไหม”

“แม่ ได้ครับได้  ห้องเนก็เหมือนห้องแม่แหละครับ  ทำไมแม่จะเข้าไม่ได้หละครับ”

“ยิ้มอยู่ได้ ขนาดตัวเองทำผิดแล้วยังไม่สำนึกอีก”

“โห แม่เนขอโทษแล้วกันนะคับ”

“เอาหละ แม่ไม่ได้โกรธเนนะลูก ไหนบอกเหตุผลแม่มาสิว่าทำไมต้องไปที่นั่น”

“ก็…… คือ….. อย่างที่บอกแหละครับ เนอยากมีพ่อเหมือนคนอื่นเขา”

“แล้วที่เนเป็นอยู่ทุกวันนี้ แม่ทำหน้าที่แทนพ่อยังไม่ดีสินะ”

“เปล่าครับแม่ แม่ทำหน้าที่ได้ดีที่สุด”

“แล้วทำไมเนถึงยังต้องการเขา”

“ก็เพราะ………มันไม่เหมือนกันหนิครับ แม่ก็ต้องเป็นแม่ พ่อก็ต้องเป็นพ่อ” ผมพูดเสียงอ่อย ไม่รู้จะบอกแม่ยังไงดี  ก็ผมอยากมีพ่อ
อยากให้พ่อกลับมาหาผมกับแม่จะได้เป็นครอบครัวที่อบอุ่น

“เอาหละๆ  แม่ไม่เอาคำตอบแล้วก็ได้   ไหนบอกแม่สิว่าเนรักแม่รึเปล่า”

“รักสิครับแม่ รักมากที่สุดในโลกเลยหละ”

“แล้วกับเขาหละ  เนรักเขารึเปล่า ไม่ต้องปิดบังเอาตามความรู้สึกของตัวเอง”

“ก็……รักครับแม่”

“ทีนี่แม่ขอถามเนนะ  เนเข้าใจคำว่า ความรัก  นี้แค่ไหน”

“ไม่รู้สิครับแม่ เนก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน เนรู้แต่ว่า เนรักแม่กับพ่อ ”

    แม่ยิ้มแล้วเอามือเอื้อมมาที่หัวผมแล้วลูบผมสองครั้งก่อนจะพูดขึ้นมาว่า

“ฟังให้ดีนะเน   รักคือความเสียสละ   ถ้าหากไม่รู้จักเสียสละ  ก็อย่ามีความรัก เข้าใจไหมลูก”

“ครับแม่     แล้วแม่รักพ่อรึเปล่าครับ”

      แม่ยิ้มมองหน้าผมก็จะตอบผมด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ

“รักสิจ้ะ”

“ถ้างั้นแม่ก็ต้องเคยเสียสละเพื่อพ่ออย่างนั้นหนะสิ แล้วนี่แม่เสียสละเรื่องอะไรเพื่อพ่อหรอครับ”

     ผมถามแม่ด้วยความตื่นเต้นและจดจ่อรอแม่จะตอบออกมา อยากจะรู้ในสิ่งที่ผมยังไม่รู้และก็มันควรถูกทำให้ผมรู้เพราะผมเป็นลูกแม่
กับพ่อหนิหน่า



ตัวอย่างตอนที่ 7 นิดหน่อย

“น้ำๆ กลุ่มนั้นเขาแปลกๆดีนะ  ”

“อย่าพูดดังไป เน  รุ่นพี่เราบอกมาพวกนี้ อันตรายเงียบ  ชายหญิงพวกนี้อยู่ปี 2 ทั้งนั้นและชายที่แกเห็นเค้าไม่ใช่ชายแท้หรอก
นะ  ”

“ทำไมกันหรอ”

“ไม่ต้องรู้ดีแล้ว  กลุ่มนี้ทุกคนที่มหาลัยรู้กันดีในชื่อของ พอยซันไอวี่  กลุ่มนี้ถ้าไม่จำเป็นอยู่ห่างๆดีที่สุด ”

“งั้นหรอกหรอ  ”

“อืม ไปเถอะอย่าไปมองเค้านาน เดี๋ยวซวยหรอก”

“อืมๆ”




ตอนต่อไปรอนานหน่อยนะครับ จะสอบกลางภาคแล้ววันอาทิตย์นี้ บ้ายบาย




ออฟไลน์ srikoon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 530
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-6
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 6
«ตอบ #34 เมื่อ07-12-2012 07:08:17 »

นึกว่าจะเป็นอะไรเสียอีก

อีก 5 วันกลับบ้านใหญ่ แล้วจะเรียนยังไง


loveice

  • บุคคลทั่วไป
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 6
«ตอบ #35 เมื่อ10-12-2012 00:12:43 »

มาต่อกันเถอะครับ  อิอิ



ตอนที่ 7



   วันนั้นแม่ไม่ได้เล่าอะไรให้ผมฟังอีกเลย  ทำไมกัน แม่มีอะไรปิดบังผม ผมไม่เข้าใจ  วันต่อมาพี่เจมส์ก็พาผมไปทำธุระเรื่องลงทะเบียนเรียนจนเสร็จ 

 “เน!”

“ครับพี่เจมส์”

“เดี๋ยวพี่ว่าจะพาไปหาหออยู่แถวๆหน้ามหาวิทยาลัยเลยดีไหม จะได้สะดวก”

“เอ่อ….พี่เจมส์  ไม่ต้องหาหอหรอก คือ…..”

“หยุดพูดเลยนะ เพราะพี่รู้ว่าเราคิดอะไรอยู่ เนต้องมาเรียนได้แล้ว เรื่องอยากไปหาเจ้าพ่อมาเฟียนั่น…..”

“พี่เจมส์!  นั่นพ่อเน  ”

“พี่ขอโทษ แต่เนอยู่ที่นั่นจะไม่สะดวกนะ  ไม่หนำซ้ำเค้าอาจจะสงสัยเอาก็ได้”

“เนรู้ เนมีวิธีของเนหน่าพี่เจมส์”

“พี่ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วนะเน พี่บอกตรงๆพี่เป็นห่วงเนนะ เนจะอยู่ดีมีสุขรึเปล่าพี่ก็ไม่รู้ แถมไปอยู่ในฐานะคนใช้อีก ไอ้ลูกชายเค้า
ยิ่งแล้วใหญ่  เท่าที่เนเล่าให้ฟังพี่แทบจะฆ่ามันด้วยซ้ำ”

“พี่เจมส์ เนไหว  อย่าห่วงเลยนะ  แต่เนอยากมีพ่อเหมือนคนอื่นอยากให้เขาเรียกผมว่าลูกและยอมรับผม”

“เน!   แล้วแม่หละ แม่จะว่ายังไง”

“คือ……เนไม่รู้”

“น้องเน อีกสองวันมหาวิทยาลัยก็จะเปิดแล้วนะ นี่เนคิดอะไรอยู่กันแน่ พี่ไม่เข้าใจ”พี่เจมส์ตะคอกเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ จนผมตกใจ พี่
เจมส์ไม่เคยตะคอกผมเลยนะนี่เป็นครั้งแรก

“พี่เจมส์ ฮือๆ  เนไม่มีทางเลือกหนิ ฮือๆ เนขอโทษนะ”

“เน   โถ่เว้ย  โอเคๆ ไม่เอานะๆอย่าร้องๆ  พี่ขอโทษนะครับ  พี่มีน้องเนแค่คนเดียวพี่ก็หวงมากไป  พี่ผิดเองแหละ ปะกลับบ้านกัน
ก่อนแล้วค่อยว่ากันใหม่นะ”


      หลังจากวันนั้นผมก็ได้คุยกับแม่ ขอแม่ให้ผมไปอยู่กับเขาต่อ  ส่วนเรื่องการเรียนผมจะหาทางบอกแก้ต่างพ่อเอง  ทีแรกแม่
ไม่ให้ผมไปที่นั่นอีก  แต่ผมอยากทำในสิ่งที่ผมต้องทำ ผมต้องทำให้เขารับผมเป็นลูกให้ได้ 
      ผมเดินทางกลับมาถึงอาณาจักรมาเฟียอีกครั้ง ไม่ทันที่ผมจะกดกริ๊งหน้าประตู แต่ประตูกลับถูกเปิดออกพร้อมกับพี่เลียงกับพี่หยวนมายืนรออยู่ก่อนแล้ว

“ทำไมรู้หละครับว่าผมกำลังจะกดกริ่ง”

“ฮ่าๆ เด็กน้อยเอ้ย  โน่นไง กล้องวงจรปิด  ”

“จริงด้วยแฮะ ฮ่าๆผมนี่ไม่ฉลาดเอาซะเลยเนาะ”

“เข้าบ้านเถอะ นายใหญ่กลับมาแล้วเมื่อเช้า รู้ว่าเนขอกลับบ้านก็ถามหาใหญ่เลย ยังไงก็เข้าไปแก้หน้าเองแล้วกัน ”

“ครับ”

       สีหน้าตอนนี้สลดลง ตัวเย็นขึ้นมาทันที มันเหมือนราวๆกับว่ากำลังเจอสถานการณ์ที่จะต้องรับมือให้ได้อีกครั้ง ผมกล้ากลัว
เดินตามพี่เลียงพี่หยวนเข้าไปที่ห้องโถงใหญ่  ที่นั่นพ่อผมนั่งรอที่โซฟาอยู่ก่อนแล้ว และอีกคนผมไม่บอกได้ไหมครับ คนนั้น
แหละกับสมุนที่ผมไม่เคยไว้วางใจเลยซักครั้งเดียว

“สวัสดีครับนายท่าน  คุณวิน”

“อืม ไง พอจะบอกเหตุผลได้รึเปล่าว่าทำไมต้องกลับบ้านตอนที่ฉันไม่อยู่”

แววตาที่โหด ดุดัน บีบบังคับผมบรรยากาศตรงหน้าผม ให้ตายเหอะใครได้สัมผัสแล้วต้องกลัวแน่ๆ ลูกน้องทุกคนรวมทั้งพี่เลียงพี่
หยวนก็จ้องมองมาที่ผมอย่างเงียบขรึม  จนผมกลัวสั่นไปหมด

“เอ่อ…. คือ  …… เอ่อ…..”

“คือ…….อะไร!” พ่อถามย้อนคำพูดผมอีกครั้งอย่างเยือกเย็น

“หือๆ  นายท่านผมกลัวแล้ว ที่ผมกลับบ้านเพราะ ว่า ผม…… ผมคิดถึงแม่ คิดถึงบ้าน”

      สักพักลุงพ่อบ้านวูก็เดินเข้ามาที่ผมแล้วจับไหล่ผมที่มันสั่นไปทั้งตัว

“นายครับ  ผมว่าเด็กเขากลัวจริงๆแล้วนะครับ เลิกแกล้งเถอะครับ” ลุงวู หันหน้าไปหาพ่อที่ทำหน้าตาเคร่งขรึม

“ฮ่าๆ  ตลกจริงๆ เด็กน้อยเอ้ย  กลัวฉันถึงขนาดนั้นเชียวหรอ ขอโทษด้วยนะ ฉันอาจจะเล่นจริงไปหน่อย ทีแรกอาเลียงก็บอกว่าจะ
ดีรึเปล่า แหมอาเลียงลื้อนี่เป็นห่วงเป็นใยเหลือเกินนะ ฮ่าๆ  เอาหละๆ ไม่มีอะไรแล้วสบายใจเถอะ”

“คุณพ่อ!”

        ผมหันไปหาพี่ชีวินที่สีหน้าไม่พอใจ

“เอาเถอะๆ ชีวินพ่อว่าอย่าถือสาหาเหตุเลย เด็กคนนี้ไหนๆก็กลับมาบ้านเราแล้วนี่หน่า อย่าคิดมากไปเลย”

“ผมขอตัวก่อนนะครับ!”

      พี่ชีวินลุกขึ้นจากโซฟาแล้วมองหน้าผมอย่างเยือกเย็นก่อนจะเดินขึ้นห้องชั้นสองไป  ผมตอนนี้งงไปหมด แล้วเหตุการณ์
เมื่อกี้มันคือละครอย่างนั้นหรอ  ตลกกันซะทั่วบ้าน ผมนี่สิแทบจะหยุดหายใจซะแล้ว

“ไอ้หนู  เห็นอาเลียงเล่าให้ฟังว่า ไปทำธุระมหาวิทยาลัยมาหรอ  อืมจริงๆแล้วเรียนไปด้วยทำงานที่บ้านไปด้วยก็ดีนะฉันว่า  เดี๋ยว
ค่าใช้จ่ายฉันจะช่วยแล้วกัน”


“………??????..........”

    ผมตอนนี้งงมาก  พี่เลียงหรอ แล้วเขารู้ได้ยังไง  เรื่องนี้ผมจำได้ว่าผมไม่ได้เล่าให้เขาฟังนี่  มันยังไงกันแน่ผมหันหน้าไปมองพี่
เลียงที่คอยมองผมแล้วยิ้มให้ 

“ไอ้หนู ได้ยินรึเปล่า ว่ายังไง”


“เอ่อ อ้อ ครับๆ  ขอบคุณนายท่านมากเลยนะครับ ”

“ไม่เป็นไรๆ  อืมมหาวิทยาลัยเดียวกันกับเจ้าวินเลยสินะ เอาเป็นว่าฉันจะให้นั่งรถไปพร้อมๆกับเจ้าวินเลยดีกว่า”

        อะไรกันนี่พ่อรู้อีกด้วยหรอว่าผมจะไปเรียนต่อที่ไหน แล้วเมื่อกี้พ่อบอกว่าผมเรียนที่เดียวกันกับพี่วินงั้นหรอ  เป็นไปได้ยัง
ไง  นี่พี่เลียงหน้าสงสัยพิลึก

“อ้อ พ่อหนู  ไม่ต้องงงไปหรอก  ฉันเป็นคนกำชับอาเลียงเองแหละว่าให้คอยเป็นหูเป็นตาแทนฉัน ตอนฉันไม่อยู่”

“หมายความว่า……”

“ใช่   ตลอดเวลาที่หนูกลับบ้านไป อาเลียงเป็นคนติดตามเฝ้าดูอยู่ห่างๆเองแหละ เอาเถอะต่อไปมีอะไรก็บอกฉันหน่อยก็แล้วกัน
อย่าทำแบบนี้อีกนะ ฉันขึ้นห้องก่อนแล้วกัน”

        ไม่นะแสดงว่าพี่เลียงก็ต้องเห็นบ้านของเราแล้วสิ  แล้วก็ต้องเห็นแม่ แล้วถ้าพี่เลียงบอกเรื่องนี้กับ…..ไม่สิไม่มีทางพี่เลียงไม่
รู้ความสำพันธ์ระหว่างพ่อกับแม่อยู่ดี ใช่ไหม


       คืนนั้นผมคิดหนักมากกลุ้มใจเรื่องนี้  มิน่าหละทำไมตอนผมขอตัวกลับบ้านพี่เลียงไม่ห้ามซักแอ่ะ ถามยอมช่วยผมออกจาก
บ้านนี้มาอีก  อย่างนี้นี่เอง  พี่เลียงนะพี่เลียง

       

         วันใหม่กับการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปี 1 อย่างผม ผมต้องเดินทางมาที่มหาวิทยาลัยกับพี่ชีวินตลอดระยะทางที่นั่งรถมา ไม่มีการสนทนาอะไรกันทั้งนั้น  พอถึงมหาวิทยาลัยผมกลับถูกมองด้วยความสงสัยของรุ่นพี่ที่นั่นมองมาที่ผม  สงสัยคงอยากรู้หละสิว่าผมมากับพี่ชีวินได้ยังไง

“ลงไปได้แล้ว ไอ้คนใช้”พี่ชีวินพูดเรียบออกมาแต่ไม่ได้หันหน้ามาทางผม แต่กลับมองตรงไปข้างหน้าอย่างกับคนที่ไร้วิญญาน

“ครับ”

ผมตอบรับพี่ชายก่อนจะลงรถไป แต่ก็แอบน้อยใจเหมือนกันที่พี่วินไม่เคยคิดจะพูดดีๆกับผมเลย  แล้วผมเริ่มเดินไปที่ที่มีคนยืนอยู่พอสมควร แต่แล้วผมก็เจอผู้หญิงคนนึงเลยเข้าไปถามดูซักหน่อย
เผื่อเค้าจะช่วยอะไรผมได้บ้าง

“ขอโทษนะครับไม่ทราบว่าคณะ………ไปทางไหนหรอครับ”

“อ้าวคณะเดียวกันเลย เรากำลังจะไปที่คณะนั้นพอดี  เราน้ำนะ นายหละชื่ออะไร”

“เน ครับ”ผมตอบเพื่อนสาวไปอย่างยิ้มๆ

   ผมเดินไปกับน้ำจนถึงคณะรอต่อแถวเข้ารับการปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่  แต่ก็ต้องสะดุดตากับชายหญิงกลุ่มนั้น มีประมาณ 7
คนมองมาที่ผม  บ้างก็มองเหมือนจะฆ่าผมซะอย่างนั้น บางคนก็มองมาด้วยสายตาอันเยือกเย็น บางคนยิ้มที่มุมปากให้ผม  รวม
แล้วกลุ่มนั้นน่ากลัวมาก

“น้ำๆ กลุ่มนั้นเขาแปลกๆดีนะ  ” ผมพูดขึ้นพร้อมกับมองไปที่กลุ่มนั้น  แต่น้ำกลับตาโตขึ้นมาก่อนจะพูดขึ้นว่า

“อย่าพูดดังไป เน  รุ่นพี่เราบอกมาพวกนี้ อันตรายเงียบ  ชายหญิงพวกนี้อยู่ปี 2 ทั้งนั้นและชายที่แกเห็นเค้าไม่ใช่ชายแท้หรอก
นะ  ”

“ทำไมกันหรอ” ผมถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“ไม่ต้องรู้ดีแล้ว  กลุ่มนี้ทุกคนที่มหาลัยรู้กันดีในชื่อของ พอยซันไอวี่  กลุ่มนี้ถ้าไม่จำเป็นอยู่ห่างๆดีที่สุด ”

“งั้นหรอกหรอ  ”

“อืม ไปเถอะอย่าไปมองเค้านาน เดี๋ยวซวยหรอก”

“อืมๆ”

     สิ้นสุดบทสนทนากับน้ำ ผมหันกลับไปมองที่กลุ่มนี้ยืนอยู่ก็พบกับความว่างเปล่า  ไปไหนกันซะแล้วเร็วจังแต่ยังไงผมก็แปลก
ใจอยู่ดี  เป็นการทักทายกันครั้งแรกของพวกเขาหรอเนี่ย

     พักเที่ยงวันนั้นผมเดินหลงกันกับน้ำ เพราะน้ำเดินเร็วมากผมก็มัวแต่ถือจานข้าวหาต๊ะนั่ง ไม่ทันสังเกตเพื่อน พอเดินมาถึงจุดๆ

นึงก็พบว่ามีคนยืนอยู่ที่หน้าผม ผมเงยหน้าขึ้นมามองกลับพบว่าเป็น……

“คุณชีวิน”

“หุบปากซะ ต่อไปไม่ต้องเรียกฉันแบบนี้อีก เรียกพี่ชีวินก็พอ เข้าใจไหม!”

“เข้าใจครับ ” ผมพูดได้แค่นั้น ก็มีอีกเสียงดังมาทางด้านหลัง

“วิน กูว่าพาเด็กของมึงออกไปจากตรงนี้ดีกว่า พวกพอยซันไอวี่กำลังจ้องมองมาที่แกกับน้องคนนี้”

“โอเคไอ้นพ ขอบใจมาก    เน ฟังนะ  ไปนั่งกินข้าวกับฉันแล้วจะปลอดภัย”

“เอ่อ ผมไม่เข้าใจ คุณ เอ้ย พี่ชีวินหมายถึงอะไร พวกพอยซันไอวี่อีกแล้วหรอ”

“ไม่ต้องถามมากหน่า  ไปได้แล้ว!”

            อะไรกันนี่มันวันเปิดเรียนวันแรกของผมนะ  แต่นี่อะไรอีกหละ  นี่พี่ชีวินปกป้องผมหรอ  ผมฝันไปรึเปล่า แล้วพวกพอ
ยซันไอวี่นี่ก็น่ากลัวพิลึก  เหมือนน้ำพูดไว้เลย อันตรายเงียบ! สินะ....................






loveice

  • บุคคลทั่วไป
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 7
«ตอบ #36 เมื่อ22-12-2012 17:27:46 »

ตอนที่ 8



พูดเสร็จพี่วินก็ลากผมมาที่โต๊ะทานข้าว เพื่อหลบหลีกจาการมองของพวกพอยซันไอวี่ มั้งนะผมเองก็ไม่เข้าใจสักเท่าไหร่

“เออ ถึงแล้วนั่งลง” พี่เขาพูดเสียงเรียบ

“เอ่อ คือ ว่าเพื่อนผม….”

“อย่าเรื่องมาก เพื่อนแกมันไม่หนีไปไหนหรอก ไอ้เด็กบื้อ แต่ตอนนี้แกกำลังจะไม่รอด จากพวกนั้น”ไม่ทันไร โหมดโหดเถื่อนก็
กำลังจะมาเหมือนเดิม

“พวกพอยซันไอวี่หรอ โอ้ย” พี่ชีวินเอามือมาตบที่หัวผมทีนึง ถามว่าเจ็บไหม ฟังจากเสียงก็รู้นะครับ

“ห้ามหันไปมอง ถ้าพวกนั้นมันจำหน้าแกได้ขึ้นมา   แกซวยแน่”

“อย่างกับผมอยู่กับคุณวิน เอ้ย พี่วินจะปลอดภัยงั้นแหละ” ผมตอบเสียงอ่อยๆ ก็มันจริงรึเปล่าถ้าแทบกันแล้ว น่ากลัวไม่ต่างกัน
เลย

“ปากดีนะมึง เดี๋ยว…..”

“พอๆไอ้วิน  เอาไงเนี่ย  เอโต้ มองตาเขม่งเลย  กูหละเบื่อจริงๆใครที่มายุ่งกับมึงเขากลับต้องซวยกันหมด”

“ซวย ซวยอะไรหรอครับ” ผมถามด้วยความอยากรู้เต็มทน

“อ้อ คือ อย่างนี้….” พี่นพกำลังจะอ้าปากเล่าให้ฟัง แต่พี่วินก็ดูเหมือนจะไม่อยากให้เล่าขึ้นมา

“หุบปากซะไอ้นพ  แกก็เหมือนกันไอ้เฮงซวยเลิกอยากสอดรู้สอดเห็นได้แล้ว เข้าใจไหม”

“เอ่อ ครับๆ  ก็ได้” ยังไงๆผมก็อยู่ในโอวาทเขาเหมือนเดิมนั่นแหละ

    ไม่นานนัก กลุ่มพอยซันไอวี่ที่หลังจากยืนนิ่งเหมือนหุ่นซักพัก  ก็เริ่มเคลื่อนตัวเดินเข้ามาที่โต๊ะพวกผมนั่งทานข้าว พี่นพนั่งหัน
หน้าไปทางพวกนั้นพอดี พร้อมกันกับผมจึงทำให้เห็นก่อนเพื่อน

“นั่นไง  พวกพอยซันไอวี่ เดินมาโน่นแล้ว  รับมือเองนะกูไม่เกี่ยว  น้องเน ไปกับพี่ก่อนแล้วจะดีเอง”

“เอ่อ พี่นพครับเนว่าไปไม่ทันแล้วแหละ” ผมดีงแขนพี่นพ เพื่อให้บอกว่าไม่ต้องลุกแล้ว พวกนั้นมาถึงแล้ว

“พี่ก็ว่างั้น”

“เอโต้ ว่าไงสบายดีหรอ ” พี่ชีวินเอ่ยบอกทักทายพวกนี้ รู้จักเค้าก็ไม่บอกแล้วจะกลัวอะไรกันผมไม่เข้าใจ

“ฮ่าๆ สบายดี ชีวินเพื่อนรัก  อืม…… วันนี้น้องชายฉัน นาวา ไม่ค่อยจะพอใจกับเศษสวะชิ้นใหม่ของนายขึ้นมาซะแล้วหละสิ  ไง
เด็กน้อย  ชื่ออะไรหรอ”

“เอ่อ คือ เอ่อ”ผมหันหน้าไปหา  พี่ชีวิน พี่นพ ให้ช่วย

“เป็นอะไรไป ทำไมไม่ตอบ เซน  จัดการที”

“อย่ายุ่งกับเขา เอโต้” ในที่สุดพี่ชีวินก็เอาตัวมาขวางทางหนุ่มหล่อสูงที่ชื่อเซนเมื่อครู่ไว้

“โอ้โห  นี่เป็นครั้งแรก น่าแปลกใจจริงๆ  นาวาน้องรัก ฉันว่าเด็กคนนี้จะเป็นคู่แข่งหัวใจแกจริงๆแล้วหละฮ่าๆ ชักอยากจะรู้แล้วหละ
สิว่าเด็กคนนี้สำคัญไปมากกว่าน้องชายฉันรึเปล่า” เอโต้พูดออกมาอย่างเยือกเย็น

           ในบรรยากาศโรงอาหารกลาง   ตอนนี้นักศึกษาทุกคนที่อยู่ในละแวกนั้นกำลังพากันจับจ้องมาที่พี่ชีวินกับเอโต้ หลายคน
ลุกออกมาไปจากที่ใกล้ๆศึกสงครามไป แล้วไปนั่งโต๊ะถัดไปก็มี

“กลับไปซะ เอโต้ วันนี้ฉันขอ” พี่ชีวินพูดออกมาอย่างเรียบง่ายแววตาไม่ได้กลัวพวกนั้นเลยซักนิด

“พอยซันไอวี่ไม่เคยฟังคำเรียกร้องใคร   แต่เอาเถอะเพื่อว่าที่คู่รักของน้องชายฉันในอนาคต ฉันจะทำบุญก็แล้วกัน  เอาหละกลับ
กันได้แล้วพวกเรา วันนี้เอาแค่นี้ ”

         พี่ชีวิน พี่นพ ยืนมองพวกนั้นจนละสายตาไป  ไม่นานนักพี่นพก็เกิดอาการอวดเก่งขึ้นมา

“โถ่เอ้ย คิดว่าตัวเองใหญ่แล้วรึไงว่า พวกตุ๊ดพวกนี้อันตรายจริงๆ นี่ขนาดมันมาไม่ครบทีมนะเนี่ย”

“เลิกกลัวได้แล้ว ไอ้ไก่อ่อน วันนี้แกปลอดภัยแล้ว จะไปไหนก็ไปได้แล้ว ” พี่ชีวินพูดขึ้นมาพร้อมกับไล่ผมไปทางอ้อม  แล้วถ้า
พวกนั้นกลับมาเล่นงานผมอีกหละ แต่ก็ต้องทำตามอยู่ดี

“ครับ”

         ผมยังไม่ทันได้ลุกออกจากโต๊ะนั่งเลย น้ำเพื่อนรักก็เข้ามาสะกิดพอดี

“เนอยู่นี่เอง ทำไมเดินช้านักหละ โน่นฉันนั่งอยู่โต๊ะโน้น แล้วเป็นอะไรหน้าซีดๆ”

       โห เพื่อนน้ำ ถามมาได้ว่าทำไมหน้าซีดๆ ไม่เจออย่างผมแล้วจะรู้อะไร แต่ก็ไม่ได้บอกอะไรไป เดี๋ยวเพื่อนคิดมาก

“ปะเปล่าๆ ไม่มีอะไร”

“เห็นอยู่ว่ามี แล้วทำไมต้องโกหก”



 ระหว่างที่ผมลุกเดินออกมาจากที่นั่งไปที่โต๊ะของน้ำ ผมก็เล่าออกมาให้ฟังจนได้ กะจะไม่บอกแล้วแต่น้ำดันมาจี้ถามผมซะขนาด
นี้

“คือ เมื่อกี้ พวกพอยซันไอวี่ เค้า….”

“ฮะ  นี่แกเจอเข้าจังๆแล้วหรอ เค้าทำอะไรแกรึเปล่า  ฉันขอโทษนะที่เดินไม่รอแกอ่ะ”

“ไม่เป็นไรๆ  กินข้าวเถอะ”

       ผมกำลังจะตักข้าวเข้าปากแต่น้ำก็พูดขึ้นมาซะก่อน

“เอ่อเน  นี่พี่บิลัน พี่คณะพวกเราเองแหละ” จะว่าไปแล้ว  ผมก็เพิ่งสังเกตว่ามีพี่ผู้ชายนั่งที่โต๊ะอยู่ก่อนแล้ว แต่ผมไม่ได้ไหว้ เฮ้อ
เสียมารยาทจริงๆเลยผมเนี่ย

“สวัสดีครับ พี่บิลัน”

        พี่ชายที่ชื่อบิลัน ยิ้มก่อนที่จะทักทายผม  ดูดูไปแล้วพี่ลันที่เท่ห์ชะมัด เป็นนักกีฬารึเปล่าก็ไม่รู้ขนาดนั่งเก้าอี้แล้ว ตัวยังสูง
กว่าไอ้น้ำเอามมากๆ แตทำไมไอ้น้ำต้องไปนั่งติดพี่เขาด้วยนะ มานั่งฝั่งทางนี้กับผมหน่อยก็ไม่ได้ เฮ้อ

“ครับผม เรียกพี่ลันแล้วกันนะครับ ทานข้าวเถอะครับเดี๋ยวเย็นหมดจะไม่อร่อย”


          ไม่รู้สินะ แต่ผมกินข้าวที่อยู่ตรงหน้าไม่ลงจริงๆ  ผมเขี่ยข้าวไปมาแววตาครุ่นคิดเรื่องเมื่อกี้นี้ มันยากนะถ้าจะให้รับมือกับ
พวกนั้นจริงๆ

“น้องเน มีอะไรรึเปล่า ดูกังวลๆไปนะ”

“คงเรื่องพวกนังพอยซันไอวี่ทั้งหลายนั่นแหละพี่ลัน  นี่เนแกอย่าคิดมากเดี๋ยวต่อไปฉันจะคอยอยู่ใกล้ๆแกเอง” น้ำพูดขึ้นมาหลัง
จากที่ผมไม่ตอบคำถามพี่ลัน

“น้ำ  เรากลัว มันไม่ใช่อย่างที่แกเห็นนะ  พวกเค้าน่ากลัวเกินไป น่ากลัวเหมือนกับ…..”

“เหมือนกับใครอ่ะ” น้ำถามมาถึงจุดนี้ก็สังเกตเห็นว่าพี่ลันมองมาที่ผมสายตาแน่นิ่งมาก มากจนผมคิดถึงแววตาของคนบางคนที่
โหดร้ายกับผมเป็นไหนๆ

“อ้อๆ ปะเปล่าๆ  แต่มันก็น่ากลัวอยู่ดีนะ” ผมตอบน้ำไปลวกๆ

       ผมพูดได้แค่นั้น ถ้าผมสังเกตให้ดีกว่านี้จะเห็น หญิงสาวสวยที่ยืนอยู่มุมโต๊ะแต่หันหลังให้พวกผมอยู่ก่อนแล้ว แต่ที่น่าตกใจคือ นั่นเป็นหนึ่งใน พอยซันไอวี่ เธอหันหน้ามาทักทายพวกผมพร้อมกับยิ้มรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความน่ากลัว

“ฮัลโหล  เอโต้   เด็กหนุ่มคนนี้เขาบอกว่าเราน่ากลัวจ๊ะ ”

“พอยซันไอวี่” พี่ลันเอ่ยขึ้นมมาเบาๆแต่ผมก็ยังได้ยินอยู่ดี

“ดีใจที่รู้จักพวกเรา  ฉันเดล จ๊ะ  ว่าแต่พ่อหนุ่มชื่ออะไรจ๊ะ” หญิงคนนี้ไม่พูดพร่ำทำเพลง เริ่มทักทายผมและถามชื่อผมเหมือนๆกัน
กับเอโต้ เมื่อกี้นี้ สงสัยผมยังไม่ได้ตอบคำถามเขาไป เลยให้เธอคนนี้มาถามอีกรอบสินะ

“เอ่อ ผม ชื่อ ……”

“เดลพอเถอะ ผมขอเถอะ เด็กคนนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่พวกคุณคิดนะ” พี่ลันพูดประโยคที่ดูเหมือนพวกเค้าจะเข้าใจกันอยู่สองคน

“ฮ่าๆ โอ๊ะโอ  น่ายินดีจังพ่อหนุ่ม วันนี้แปลกมาก มีคนคอยปกป้องถึงสองคน แถมยังเป็น……”

“หยุดพูดได้แล้วเดล ถ้าไม่หยุดผมจะไม่ไว้หน้าแล้วนะ” พี่ลันเข้าสู่โหมดขรึมและหนักแน่น

“โอเค ที่รัก  ฉันหยุดทักทายน้องใหม่ของนายแล้วก็ได้  ไปก่อนนะพ่อหนุ่มผู้น่ารัก เรายังได้พบกันอีกนาน ฮ่าๆ ส่วนนายบิลัน ฉัน
ไม่รู้ว่าพีท เขาจะยอมอ่อนข้อให้เด็กคนนี้รึเปล่า ดูแลกันให้ดีๆ ของใครใครก็หวงนะจ๊ะ  ใช่ไหมหนุ่มน้อย ”เธอหันมาถามผมก่อน
จะเดินเลี่ยงตัวออกไป

“น้องเน  อย่ากลัวนะครับ  พวกเค้าไม่ได้คิดจะทำหรอกแค่ขู่เท่านั้น”

“คะ  คะ ครับพี่ลัน”ผมตอบพี่บิลันด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“ถ้าโลกใบนี้ไม่มีพวกนี้อยู่ก็คงจะดีเนาะว่าไหมเน”น้ำพูดขึ้นมาหลังจากหายตกใจไปเมื่อกี้

“ไม่รู้สินะน้ำ  เรากินข้าวก่อนแล้วกัน หิวจะแย่อยู่แล้ว”

 

           พอถึงตอนเย็นผมก็ต้องนั่งรถกลับพร้อมๆกับพี่ชีวิน  ใจจริงๆแล้วผมก็อยากอยู่พักหอในมหาวิทยาลัยหรือไม่ก็หอหน้า
มหาวิทยาลัยเหมือนเพื่อนๆ หรือตามคำแนะนำของพี่เจมส์ตั้งแต่ทีแรก แต่ทำยังไงได้ผมต้องทำจุดมุ่งหมายของผมให้สำเร็จ  ผม
จะต้องทำทุกอย่างให้พ่อรับผมเป็นลูก แต่ตอนนี้ให้ผมมั่นใจก่อนว่าถ้าบอกพ่อไปพ่อจะเชื่อรึเปล่า แล้วถ้าเชื่อพ่อจะยังรักผม
เหมือนลูกคนนึงไม่ต่างไปจากพี่ชีวินใช่ไหม

        ระหว่างที่ผมเดินทางกลับบ้านมา พี่ชีวินก็เงียบไปพักใหญ่จนถึงบ้านแต่พี่เขายังไม่ยอมลงจากรถซักที ผมเห็นท่าทีไม่ชอบ
มาพากลเข้า ผมคงต้องขอตัวลงรถก่อนก็แล้วกัน

“พี่ชีวินผมขอตัวก่อนนะครับ”

“เดี๋ยว นั่งก่อน  ลุงลงไปก่อนนะครับผมขออยู่คุยกับคนใช้ซักหน่อย” พี่ชีวินบอกให้ลุงขับรถลงรถไปก่อน

“ครับนาย”

“เมื่อตอนที่ฉันไล่ให้แกไปนั่งโต๊ะอื่นเมื่อตอนเที่ยง แล้วแกไปนั่งที่ไหน”

“ก็กับเพื่อนครับพี่วิน”

“อย่าเรียกฉันว่าพี่  กลับมาถึงบ้านแล้วทุกอย่างเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”

“คะ ๆ ครับๆ”

“บอกมาสิว่าเพื่อนที่แกไปนั่งด้วย ใช่แค่เพื่อนที่ชื่อน้ำอย่างเดียวหรอ”

“เอ่อ ไม่ครับ”

“หึ แล้วอีกคนนั่นหนะเป็นใคร ทำไมไปนั่งกับมัน ร่วมโต๊ะกับมันซะขนาดนั้น”พี่ชีวินขึ้นเสียงดัง และมันดังกว่าทุกครั้งเพราะตอนนี้พี่เค้าตะคอกเสียงในรถ

“เอ่อ คือ ว่าพี่ลันเขาเป็นรุ่นพี่ที่คณะครับ”

“หึ ไม่ทันไร ก็รู้จักชื่อเสียงเรียงนามกันซะแล้วนะ  อย่าลืมซะหละว่าที่พ่อฉันให้แกติดรถไปมหาวิทยาลัยเพื่อไปเรียน ไม่ใช่ร่าน! ไปหาแต่ผู้ชาย จำไว้”

“……..”

        พี่ชีวินเอานิ้วชี้มาดันที่หน้าผากผมอย่างแรง  แต่น้ำตาเจ้ากรรมของผมก็ไหลออกมาหลังจากที่พี่ชีวินลงรถไปแล้ว

“ฮือๆ พี่วิน  ผมอยากรู้ถ้าวันนึงพี่รู้ว่าผมเป็นน้องพี่ พี่จะทำยังไง ยังจะขับไสไล่ส่งผมแบบนี้รึเปล่า ฮือๆ”




( พี่ชีวิน )

     ผมเดินเข้าบ้านมาก็เจอพ่อกับลุงพ่อบ้านยืนรออยู่ ผมไม่มีอารมณ์จะพูดด้วย เลยขอเบี่ยงตัวขึ้นห้องแต่พ่อดันทักขึ้นมาก่อนด้วยอารมณ์ที่เฮฮา มีความสุขดี

“อ้าววินกลับมาแล้วหรอ แล้วนี่น้องเนหละ”

     นั่นไงถามถึงไอ้เด็กคนนั้นก่อนจนได้ นี่ไม่รู้มันมีอะไรที่ทำให้พ่อผมพิศวาสมันได้มากถึงขนาดนี้

“อยู่บนรถครับ” ผมตอบคำถามพ่อเสียงส่งๆ ก่อนจะเดินไม่พอใจขึ้นห้องไป

“อ้าว วินๆ เดี๋ยวลูก เป็นอะไรไปเปิดเทอมวันแรกก็อารมณ์เสียแล้วนะ  รึว่าน้องเค้าไปทำอะไรไม่ดีไว้อีก”

    หึทำอะไรไท่ดีหรอครับ  แค่มันไปนั่งกับผู้ชายก็เท่านั้น  ผมไม่รู้ว่านี่มมีเหตุผลพอรึเปล่านะ

“ผมไม่รู้  พ่อไปถามเด็กผู้แสนดีของคุณพ่อเองเถอะ ผมขอตัวไม่ไหวแล้ว”

“อ้าวไอ้นี่   ซุน เซ้ง ยืนบื้ออยู่ได้ตามไปดูนายพวกแกสิวะ  ” พ่อผมสั่งลุกน้องขึ้นตามผมมา

“ครับๆ นายท่าน ไปเดี๋ยวนี้แหละครับ”

“ไม่ต้องตามขึ้นมานะ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ตาม  ใครขึ้นมาฉันจะยิงมันด้วยปืนกระบอกนี้แหละ”

            อารมณ์ผมตอนนี้มันร้อนมาก  แม้แต่ผมเองก็ไม่สามารถบังคับมันได้เลย  ที่พูดไปผมขู่ไปอย่างนั้นแหละจริงๆแล้วผมไม่
คิดจะทำจริงๆหรอก

“อ้าวนาย จะฆ่าจะแกงกันเลยหรอครับ  อุ้ย ก็ได้ครับไม่ขึ้นก็ไม่ขึ้น แหะๆ” ไอ้ซุนหน้าซีดไปหลังจากที่ผมจ้องหน้ามันตาเขม่ง

“อ้าวนั่น เนมาแล้วหรอ มาๆมีเรื่องอะไรกันวันนี้  ไหนๆมาหาฉันหน่อยมา  ไอ้เลียง ไอ้หยวนไปช่วยน้องเค้าถือกระเป๋าหน่อยไป”

      ไอ้เด็กนั่นมองขึ้นมาที่ผม  ทำไมตามันแดงอย่างนั้นแหละ อ้อ ไปร้องไห้มานี่เองไอ้ไก่อ่อนเอ้ย ขี้แยตลอด  อ่อนแอไม่เข้า
เรื่อง ผมยืนดูมันอยู่ตรงที่บันไดอย่างสมเพศ

“คุณท่านสวัสดีครับ  ลุงพ่อบ้านสวัสดีครับ”

“อ้าวแล้วจะรีบไปไหนเน  คุณท่านสั่งให้อยู่ก่อนไง”

“ขอโทษจริงๆนะครับ วันนี้ผมไม่ไหวจริง ขอตัวนะครับ”

“อย่างนั้นหรอ  คงเหนื่อยใจกับลูกชายฉันมากหละสินะ  งั้นงานวันนี้ไม่ต้องทำแล้วกัน เดี๋ยวฉันจะให้ไอ้เลียงไอ้หยวนทำแทนนะ”

    เมื่อกี้คุณพ่อว่าไงนะ  มันหนะหรอจะมาเหนื่อยใจกับผม  จะบ้าตาย วันนี้ทั้งวันผมเป็นคนช่วยมันจากพวกพอยซันไอวี่แท้ๆ  ผม
สิที่ต้องเหนื่อยใจ  ไม่อยู่มันแล้วโว้ย ขอขึ้นห้องแล้วกัน

       ผมเข้าห้องนอนมาก็ปิดประตูอย่างเร็ว  ผมแทบจะบ้าตาย ผมไม่รู้ว่าผมหงุดหงิดอะไร แต่ที่แน่ๆผมไม่ไหวแล้วตอนนี้

“ โอ้ย   ไม่ไหวแล้วโว้ย ” ผมตะโกนออกมาเอาให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วเอามาไปปัดแจกันที่โต๊ะให้หล่นลงพื้น

“เพล้ง”


“นายครับนาย   เป็นอะไรรึเปล่าครับ เปิดประตูให้ผมหน่อยครับ”เสียงไอ้ซุน ดังขึ้นพร้อมกับเคาะประตู

“ออกไปให้หมด  ไม่งั้นฉันออกไปยิงพวกแกทิ้งแน่  ไป!”

“ครับๆนายไปเดี๋ยวนี้แหละครับ”

“ไอ้เน!   อย่าให้กูรู้ว่ามึงคิดจะร่านหาผู้ชาย ไม่งั้นผู้ชายทุกคนที่เกี่ยวกับมึง กูนี่แหละจะฆ่ามันด้วยมือของกูเอง ”ผมพูดกับตัวเอง
ในความมืดสลัวภายในห้องนอน  ผมสับสนไปหมดภายในจิตใจผมตอนนี้มันยากที่จะอธิบาย ผมควรจะปล่อยให้กาลเวลามันทำ
ให้ผมสงบลงเองได้  วิธีนี้น่าจะดีที่สุดแล้ว





ปล.  ตอนนี้พิมพ์เยอะไปหน่อยนะครับ  เพราะหลังปีใหม่โน่นจะกลับมาแต่งต่อ  ส่วนเรื่องรักนี้ที่มูอันจะอัพเรื่อยๆครับ
       อ่านถึงตอนนี้  อย่าเพิ่งคิดว่าผู้แต่งเป็นบ้านะครับ ^^ รักทุกคนครับ :L2: :L2: :L2:





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-12-2012 17:35:08 โดย loveice »

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 8 up 22/12/2555
«ตอบ #37 เมื่อ22-12-2012 17:58:19 »

เผลอชอบเค้าแล้วหล่ะสิ อิอิ :oo1:

gngane

  • บุคคลทั่วไป
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 8 up 22/12/2555
«ตอบ #38 เมื่อ22-12-2012 18:10:18 »

คนเต่งไม่บ้าหรอก่ะ เราว่าอิพวก เเก๊งซันๆ พอยๆ ไอๆ เนี่ยบ้ามาก
หึงใช่ไหม ชีวิน ปกป้องซ่ะ
เเลวพี่ลันเนี่ย  มีอำนาจมืดใช่รึเปล่าน้อ?
ชีวิรเริ่มจะหวงเนมาขึ้นเรื่อยๆถึงกลับจะฆ่า!คนที่มายุ่งด้วย
สนุกมากเลยค่ะชอบ
มาต่อไวๆนะค่ะ
ปล้ำลิง จุ๊ฟๆ :กอด1:

ออฟไลน์ srikoon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 530
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-6
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 8 up 22/12/2555
«ตอบ #39 เมื่อ22-12-2012 18:21:35 »

ลูกมาเฟีย ไม่เห็นต้องกลัวเลย

และอีกอย่าง ขาใหญ่เจอขาเล็กหลายๆขา ก็โกยได้เหมือนกัน

เจ้าตัวเล็กขี้แยจัง เสียชื่อพ่อหมด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เลือดมังกร ตอนที่ 8 up 22/12/2555
« ตอบ #39 เมื่อ: 22-12-2012 18:21:35 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ vk_iupk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-2
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 8 up 22/12/2555
«ตอบ #40 เมื่อ22-12-2012 18:59:03 »

ชอบน้องเค้าก็บอกมา ห้าๆๆๆ

ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 8 up 22/12/2555
«ตอบ #41 เมื่อ22-12-2012 20:27:37 »

 :pig4:

ออฟไลน์ Ipatza

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 932
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-7
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 8 up 22/12/2555
«ตอบ #42 เมื่อ22-12-2012 21:48:23 »

-*-
อ่านแล้วก็ ตามไม่ค่อยจะทันกับเรื่องนี้เหะ
รู้สึกดำเนินเนื้อเรื่องเร็วมาก
เซงนิดๆตรงเนชอบร้องไห้ไม่มีเหตุผล อ่อนแอไม่เป้นไรแต่อะไรนิดอะไรหน่อยก็ร้องไห้
ตอนๆหนึ่งจะต้องมีฉากน้ำตาไม่ต่ำกว่า 10รอบ
คือเซง อะไรจะขนาดนั้นยิ่งกว่าเด็ก 2ขวบ
แล้วทำไมถึงไม่เชื่อแม่นะ ไม่คิดจะเป็นห่วงแม่เลย
บุคลิกดูเหมือนจะเป้นคนไม่ยอมคนนะ อยากทำอะไรก็ต้องทำไห้ได้
ซึ่งมันขัดกับนิสัยตัวละครที่ขี้ขลาดและขี้กลัว อ้อนวอนขอร้องชีวิตไปเรื่อย
ตอนแรกอากจะมา แต่พอมาร้องไห้อยากกลับอยุ่ไม่ได้ไม่ไหว
แต่พอมีโอกาสกลับบ้านก็ยังจะมาอีก
โอ้ย (โทดๆบ่นสะเยอะเบย)
ไงก็มาต่อเร็วๆนะ จะติดตามต่อไป

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 8 up 22/12/2555
«ตอบ #43 เมื่อ22-12-2012 22:35:44 »

วินชอบเนแบบไม่รู้ตัวป่ะเนี้ย หุหุ

ออฟไลน์ supizpiz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 692
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-0
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 8 up 22/12/2555
«ตอบ #44 เมื่อ22-12-2012 22:40:30 »

วินแอบชอบเนแบบไม่รู้ตัวป่ะเนี้ย  :oo1:

loveice

  • บุคคลทั่วไป
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 8 up 22/12/2555
«ตอบ #45 เมื่อ22-12-2012 23:05:57 »

ขอบคุณทุกกำลังใจครับ ยังไงก็แนะนำและแสดงความคิดเห็นมาเยอะๆนะครับ จะได้ช่วยเพิ่มเติมส่วนที่เป็นช่องโหว่ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นนะครับ  แค่นี้ผมเองก็มีกำลังใจจะแต่งต่อไปได้เรื่อยๆแล้วหละครับ^^  รักทุกคนครับ :pig4: :pig4: :pig4:

ปล. SEEN น้องเน เป็นแบบนี้แหละครับ^^ เป็นคนอ่อนไหวง่าย อ่อนแอเจ้าน้ำตา แต่เชื่อมั่นในการตัดสินใจของตัวเองครับ^^

ออฟไลน์ hello_lovestory

  • >>I'm C-Z@<<
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 8 up 22/12/2555
«ตอบ #46 เมื่อ23-12-2012 01:52:47 »

อ่านรวดเดียวทันละ แต่ดูแล้วน้องเน เป็นคนที่กลัวคนอื่นมากไปไหมอ่ะ อย่างที่เจอกับพวกแก้งไอวี่อะไรนั่นดูเหมือนจะกลัวมากอ่ะ ยังไงก็รออ่านต่อนะค้าบ เป็นกำลังใจให้คนเขียนคับ สู้ๆ

ออฟไลน์ sukaz

  • I Will Love You Unconditionally
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 8 up 22/12/2555
«ตอบ #47 เมื่อ24-12-2012 17:43:09 »

หลงรักน้องเนแล้วล่ะเซ่


 :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ srikoon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 530
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-6
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 8 up 22/12/2555
«ตอบ #48 เมื่อ01-01-2013 00:41:50 »

วาระนี้ ขออวยพร ให้ผู้เขียน & ผู้อ่าน จง   

     Live Long and Prosper


 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

 :laugh5: :laugh5: :haun1:

loveice

  • บุคคลทั่วไป
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 8 up 22/12/2555
«ตอบ #49 เมื่อ07-01-2013 23:18:44 »

มาแล้วๆ หลังจากปิดปีใหม่ไปได้ซักพักนึง ^^ มาต่อกันเลยครับ   ตอนนี้แอบยาวหน่อยนะครับ^^


ตอนที่ 9


       เคยเป็นไหม กับการที่ต้องอดทนกับเรื่องบางเรื่อง เราไม่สามารถเล่าหรือว่าพูดให้คนคนนั้นฟังได้ ผมได้แต่คิดว่าการที่ได้อยู่ใกล้ชิดดูแลและคอยรับใช้ให้กับผู้เป็นพ่อนั้น สำหรับผมมันมากเกินพอ จนบางครั้งแทบอยากจะลืมความคิดที่จะเปิดเผยความจริงออกมา  แต่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผมจะลืมแม่ไปได้ในระยะเวลาสั้นๆอย่างนี้ จริงๆแล้วผมก็รู้สึกผิดที่ไม่ได้อยู่ดูแลแม่ ผมคงถูกคนอื่นมองว่าเป็นลูกไม่เอาไหนเลยไปแล้วสินะ

“น้องเน ตื่นได้แล้ว นี่สายแล้วนะ”

“อืมครับๆ พี่เลียงเนกำลังตื่น” ผมงัวเงียตอบพี่ลียงสุดหล่อที่ใส่สูทนั่งอยู่ข้างเตียงนอนห้องผม

“รีบๆตื่นเข้าเถอะ จะได้ไปกินข้าว ”

“ครับๆ ตื่นแล้ว เห็นรึยัง นี่ไงเนลืมตาแล้ว  พี่เลียงไปรอข้างนอกก่อนนะ เนขออาบน้ำแต่งตัวแปปเดียว”

“อ้าวทำไมหละ พี่เลียงขอนั่งรอที่เตียงนี่ไม่ได้หรอ”

“อ้าว ซะงั้น แปลกๆนะพี่เนี่ย ทุกวันไม่เห็นอยากจะมารอเลย”

“ใครว่าไม่อยากมารอ แต่พี่นี่ถูกใช้ให้ไปนั่นบ้าง โน่น นี้บ้าง แต่วันนี้นายท่านให้ไอ้หยวนไปแทนพี่ ก็เลย...”

“ก็เลย…. ว่าง  ว่างั้น”

“อืม”

       พี่เลียงก็ตอบออกมาพร้อมกันกับรอยยิ้มที่ไม่เผยฟัน  แอบเผยลักยิ้มออกมา ดูแล้วก็ อืม โอเค ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรหนิอยาก
จะรอก็รอ ผมไม่ถืออยู่แล้ว ผู้ชายด้วยกันนี่นา

   

ผ่านไป 20 นาทีในการอาบน้ำของผม ผมเตรียมเสื้อกล้าม กางเกงใน บล็อกเซอร์ ไปใส่ในห้องน้ำด้วยเรียบร้อยแล้ว ผมเดินออก
มาจากห้องน้ำ ทันทีที่เปิดก็พบเสื้อผ้าหนึ่งชุดเตรียมไว้ให้แล้ว

“เป็นไงมั่งเน  นายท่านเป็นคนให้พี่จัดหามาให้เนเองแหละ”

“ชุดนิสิต!”

“อืมใช่ ซื้อตัวใหม่มาให้เพราะนายท่านบอกมาว่าตัวเดิมมันใหญ่ไปหน่อย ดูแล้วเหมือนเด็กใส่เสื้อผู้ใหญ่”

“เปล่าซะหน่อย นายท่านพูดเกินไป ผมเป็นคนตัวเล็กต่างหาก ไม่ใช่เด็กอย่างว่านะครับ”

“เอาเถอะ มาๆพี่จะช่วยใส่ให้”

“ครับ”

    ผ่านไปอีก 10 นาทีผมก็แต่งตัวเสร็จ พอหันไปส่องกระจกแค่นั้นแหละ พระเจ้าช่วย นี่เป็นผมหรอเนี่ย น่ารักมาก ขอชมตัวเอง
หนึ่งวัน  บางทีผมต้องพิจารณาการใส่เสื้อผ้า รึแม้กระทั่งสิ่งของที่มันเข้ากับผมอย่างลงตัวแล้วหละ  ผมเดินออกจากห้องมุ่งไปที่
ห้องครัวนั่งกินข้าวกับพี่เลียงสองคน ไม่นานก็เสร็จ  พร้อมที่จะเดินทางไปมหาวิทยาลัยแล้ว  ระหว่างนั่งรถไปมหาวิทยาลัย จน
เกือบใกล้จะถึงผมเลยตัดสินใจพูดออกไป

“คุณวิน วันนี้ผมจะกลับช้าหน่อยนะครับ ”

“ทำไมต้องกลับช้า!”

      นี่คือบุคลิกของพี่วินไปซะแล้วแหละมั้ง เวลาคัยกับผมแต่ละทีถ้าไม่หันมาตะคอก ก็จะถามออกมาทั้งๆที่ไม่หันหน้ามามอง ดู
เหมือนจะเป็นการบังคับให้ตอบมากกว่า

“รุ่นพี่ที่คณะ จะนัดแนะกิจกรรม น้องใหม่ที่จะเริ่มในสัปดาห์หน้าครับ”

“ไม่เป็นไร ฉันรอได้”

“ฮะ!”

“หุบปาก  ไม่ต้องมาทำหน้าสงสัย  ถึงคณะแกแล้วลงไปเร็วๆ”

“ขอบคุณครับ”

          วันนี้วันอะไรกันเนี่ย  ทำไมพี่วินยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองขนาดนี้ ไม่รู้ซินะแต่ผมสัมผัสได้ว่าพี่เค้าไม่เหมือนเดิม ใจเย็นลง
มาก หรืออาจจะเป็นแค่ฉากละครที่เค้าพยายามแสดงออกมาในมหาวิทยาลัย

“เน มาแล้วหรอ  นี่ถามหน่อยนะ นายเป็นอะไรกับรุ่นพี่ลูกชายมาเฟียสุดหล่อคนนั้น”

“ถามทำไมหรอน้ำ”

“เปล่า แค่อยากรู้ ฉันไม่สบายใจที่เห็นสายตาคนอื่นๆตั้งคำถามมาที่แก เวลาแกอยู่ใกล้รุ่นพี่คนนั้น”

        ผมละสายตาที่มองน้ำ แล้วกวาดสายตาหันมามองคนที่อยู่ในบริเวณนั้นรอบๆตัวผม ทุกๆคนเป็นอย่างที่น้ำพูด สายตาแบบ
นั้น ท่าทางสงสัยแบบนั้น กำลังมุ่งมาที่ผม

“น้ำ  เราอยากไปจากตรงนี้แล้ว”

“เออๆ ไปก็ไปสิ ปล่อยให้เค้ามองไปเถอะ  เย็นนี้พี่คณะนัดที่ลานกิจกรรมหน้าตึกนะ”

“อืมๆ รู้แล้วหละ ”

  การเรียนวันนี้ก็ดำเนินไปได้ด้วยดี  ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนเมื่อวานให้น่าปวดหัว  วันนี้ผมเรียนได้ดีเข้าหัวทุกอย่าง  อาจจะเป็น
เพราะเป็นวิชาตอนมอปลายที่ผมเคยเรียนมาแล้ว มันเลยดูง่ายขึ้นมามาก จากวิชาแรก ไปเป็นวิชานึง อย่างรวดเร็วจริงๆ เวลา
ตั้งใจเรียนรึว่าเรียนวิชาที่ตัวเองชอบมันมักจะผ่านไปเร็วเสมอสินะ รึเปล่า

      จนเวลาดำเนินมาถึงตอนเย็น ผมกับน้ำมารอที่ลานกิจกรรมหน้าตึกคณะพร้อมเพื่อนๆคนอื่นๆ ไม่นานนักรุ่นพี่คณะก็เดินเข้ามา
เปิดประชุมทันที  ผมหันไปมองหาพี่บิลัน  แต่ก็ไม่เห็นจะมีวี่แววว่าพี่เค้าจะมา

“เนๆ  มองหาใครหรอ”

“เปล่าๆ ไม่มีอะไร”

“นั่นไง  กำลังมองหาพี่บิลันอยู่ใช่ไหมหละ ฮ่าๆๆ  มิน่าหละพี่บิลันถึงได้กำชับฉันมาบอกแกว่า พี่เค้ามาเข้ามาร่วมฟังประชุมช้า
หน่อยนะ เพราะติดธุระ”

“อ้อๆ อย่างนั้นหรอกหรอ”

   ผมตอบน้ำไปพร้อมกับหันหน้ามาตั้งใจฟังพี่ประธานจักกิจกรรมของคณะ

“……….ครับแล้วก็  วันกิจกรรมที่จะถึงนี้ เราจะร้องน้องคณะด้วยนะครับ แต่เป็นการรับน้องของทางคระเราเองเนาะ แต่ไม่ต้องกลัว
ไปนะครับ ทางคณะของเราไม่จัดงานรับน้องที่โหดๆแน่นอนครับ ส่วนเรื่องอื่นๆ ใกล่ถึงวันแล้วพี่จะมาแจ้งอีกครั้งนะครับ ขอบคุณ
ครับ  มีน้องๆคนไหนสงสัยอะไรไหมครับ”

“………”

“ถ้าไม่มีแล้ว พี่ขอปิดการประชุมครั้งนี้ครับ”

“แป๊ะๆๆๆๆๆๆ”

         เสียงปรบมือดังขึ้นหลังจากพี่ประธานได้กล่าวปิดประชุมไป  ผมหันหน้ากลับไปข้างหลังก็พบว่ามีคนจ้องผมอยู่ก่อนแล้ว
และเป็นเพื่อนที่คณะด้วยกำลังมองมาด้วยแววตาแน่นิ่งก่อนจะยิ้มที่มุมปากนิดๆให้ผมอย่างเป็นมิตร

        แต่ผมก็ต้องหยุดโฟกัสไว้ที่เพื่อนคนนั้น เพราะข้างหลังเพื่อนคนที่มองผม กลับปรากฏเป็นชายร่างเล็กเท่าผม ถูกชายหน้า
ตาหล่อสูงสองคนจับแขนล็อคตัวคนละข้าง และถ้าผมมองไม่ผิดเพื่อนร่างเล็กคนนั้นกำลังขัดขืนอยู่ และถูกพาตัวผ่านไปทางหลัง
ตึกเรียนรวมแห่งนั้น

“น้ำๆ เดี๋ยวฉันมานะ”

      ผมหันไปบอกเพื่อนสาวแล้วรีบลุกตามไปที่ตึกเรียนหลังนั้น โดยไม่ได้ฟังคำทักท้วงของน้ำที่ดังตามหลังมา ผมเดินมาตาม
ทางที่พวกนั้นพาเพื่อนร่างเล็กมาที่นี่  สิ่งที่ผมเดินมา  ท้องฟ้าเริ่มมืดเพราะนี่ก็ใกล้ค่ำแล้ว อาคารเรียนหลังนี้ก็อยู่ลึกจนเกินไป
และเปลี่ยวมาก ที่สำคัญตอนนี้ไม่มีนักศึกษาคนไหนอยู่บริเวณนี้เลย ผมเดินตามมาจนถึงที่หน้าตึกนี้  ใจนึงก็กลัว ใจนึงก็อยากจะ
ช่วยเพื่อนคนนั้น  แต่ช่วงเวลานั้น

“ปล่อยกู! …….ฮือๆ ปล่อยยยยยย”

          เสียงร้องไห้ได้ดังลงมาจากชั้น 4 ของตึกนี้ ถึงมันจะเบามากแต่แถวนี้ตอนนี้มันเงียบสงัด ซะจนผมได้ยินเสียงหัวใจตัวเอง
เต้น  ผมรีบวิ่งขึ้นไปอย่างเร็วและให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้พอผมขึ้นมาผมก็ต้องกลัวกับบรรยากาศที่ทั้งมืดและไม่มีแสงไฟ ถ้า
ผมเปิดไฟตอนนี้ พวกนั้นต้องผิดสังเกต และสงสัยขึ้นมาแน่นอน

“ทำไงดีนะเรา  จะช่วยยังไงดี”

         พอผมไปถึงที่เท่านั้นแหละ สิ่งที่ผมเห็นถึงกับต้องสลดใจอย่างมาก  เพื่อนร่างเล็กถูกปรนเปรอด้วยลิ้นของสองหนุ่มที่กำลัง
ตอบสนองความต้องการของตัวเองไม่ต่างจากสัตว์ที่มันถึงฤดูผสมพันธุ์

“ปล่อยกู ปล่อย ฮือๆ  พวกมึง มันก็ดีแต่ได้  ข่มขู่คนไม่มีทางสู้” เสียงของเพื่อนร่างเล็กพูดออกมาอย่างต่อเนื่อง

              พอกันทีผมทนไม่ได้แล้ว ต้องช่วยเพื่อนคนนี้ซะแล้ว

“หยุดนะ  พวกพี่จะทำอะไรหนะ”

              ได้ผล เสียงที่ผมพูดออกไปมันทำให้ชายสองคน หน้าตาหล่อเหลา หันมามองที่ที่ผมยืนอยู่  แต่คิดไปอีกทีนี่ผมกำลังหาเรื่องใส่ตัวอีกแล้ว

“นาย……………เป็นใคร” เสียงเย็นยะเยือกที่ผิดกับมนุษย์ปกติที่จะเป็น  แต่ผมชินซะแล้ว ถึงแม้ว่าจะยังกลัวๆอยู่บ้าง แต่พวกนี้ยังน่ากลัวไม่สู้พี่วินนักหรอกนะ

“เป็นใครไม่สำคัญ  แต่สำคัญตรงที่ พวกพี่กำลังทำร้ายเพื่อนผมอยู่” ผมตอบชายสองคนตัวสูง เกือบ 190 ไปอย่างกล้าๆกลัวๆ ใน
ความมืด

“เพื่อนหรอ ฮ่าๆๆ  นี่เพื่อนแกอย่างนั้นหรอ ว้าว ฮ่าๆๆๆ”

           ชายที่ส่งเสียงหัวเราะ เดินไปที่สวิตไฟพร้อมเปิดไฟ  เพียงเท่านี้ทุกอย่างก็ปรากฏต่อหน้าผม เพื่อนที่ผมขึ้นมาช่วย
เหลือเสื้อผ้าแค่ชิ้นเดียว นี่ถ้าผมขึ้นมาไม่ทันแล้วจะเกิดอะไรขึ้น

“อืม ฉันเองก็งงๆอยู่ว่า  ทำไมร้อยวันพันชั่วโมงที่มาเรียนที่นี่  ไม่ยักกะเห็นจะมีใครกล้าที่จะเข้ามาขัดขวางการเล่นเกมส์ของเรา
ได้  แต่นาย เป็นคนแรกที่ทำ   ว้าว น่ารักไม่เบานี่   ไงสนใจมาเป็นของเล่นของพวกเราหน่อยไหม” เสียงและคำพูดของรุ่นพี่หน้า
ตาหล่อเหลาคนนี้ มันทำให้ผมเกลียดที่สุด

“หยาบคายที่สุด  ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้ พวกพี่ยังมีความเป็นคนอยู่รึเปล่า”

“ฮ่าๆๆๆว้าว  เอส  ฟังสิเพื่อน น้องน่ารักคนนี้กำลังสั่งสอนเรา” ชายที่เดินไปเปิดไฟเมื่อกี้หันไปหาเพื่อนอีกคนที่ไม่ค่อยพูดเท่า
ไหร่ แต่แววตาที่มองมามันน่ากลัวมากๆ ก่อนจะพูดออกมา

“เอาหละนะ  ฉันถือว่านายกล้าหาญมากที่ขึ้นมาช่วยเพื่อนนายถึงที่นี่  แต่จะบอกอะไรให้นะว่า พอยซันไอวี่ อย่างพวกเรา  จะไม่
ยอมให้ใครหน้าไหนเอาความลับนี้มาฉีกหน้าพวกเราเป็นอันขาด” ชายที่ชื่อเอสพูดขึ้นมาหลังจากยืนนิ่งอยู่ซักพัก

“พอยซันไอวี่!  อีกแล้วหรอ   ”    ผมตกใจจนถอยหลังไปสองก้าวไปอัตโนมัติ

“ขอโทษทีนะที่ทำให้ตกใจ   ไงเด็กน้อย พอรู้ว่าเราเป็นใครแล้วยังจะอยากช่วยเพื่อนคนนี้อยู่อีกรึเปล่า  เอาหละนะวันนี้ฉันใจดี
มาก  ฉันมีข้อเสนอให้นายสองอย่าง   อย่างแรก ฉันจะปล่อยให้นายกลับไปซะแต่มีข้อแม้ว่าห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร  สองก็คือ
ถ้านายยังยืนกรานที่จะช่วยเพื่อนนายคนนี้อยู่หละก็ ฉันก็จะให้ไป แต่วันหลังถ้าฉันคิดอยากจะ  ทำ อะไร ที่ สนุกๆขึ้นมานายต้อง
มาทุกเมื่อเข้าใจไหม” เอสพูดต่อขึ้นมา

“ไม่นะเอส  เราจะแย่ได้นะ  ถ้าปล่อยเด็กพวกนี้ไป”คนที่ชื่อเซฟเอ่ะอ่ะขึ้นมา

“ใจเย็นเซฟ  เพื่อนรัก  ไม่มีใครกล่าวหาเราได้ เรายิ่งใหญ่แค่ไหนใครๆก็รู้ ถึงทุกคนจะเชื่อจริงๆแต่ก็ทำอะไรเราไม่ได้อยู่ดี  ”

“ผมไม่มีทางหลงกลพวกพี่หรอกนะ ผมรู้ดีถึงแม้ผมจะต้องเลือกซักข้อ แต่สุดท้ายยังไงซะผมก็หนีไม่พ้นกำมือของพวกพี่หรอก 
เพราะพวกพี่มันไม่ใช่คน”

“ฮ่าๆ เอสฟังสิ เด็กคนนี้ฉลาดไม่เบา”

“นั่นสินะ โจเซฟ ฉันว่าเราปล่อยเด็กคนนี้ไปไม่ได้แล้วหละ เข้าไปจับมันเร็ว”เอสร้องสั่งให้เซฟเข้ามาจับผม ผมแทบจะหันหลัง
กลับวิ่งลงบันไดไปไม่ทัน ไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะรนหาที่ตายอีกแล้วเพียงเพราะอยากจะช่วยเพื่อนคณะตัวเองเท่านั้น  แต่ผมก็
ต้องหยุดคิดและหยุดวิ่งจากชายร่างสูงที่ยืนอยู่ทางลงบันได

“หยุดนะ!”



      ชายคนนั้นส่งเสียงดังขึ้นมาก่อนจะวิ่งสวนผม ไปยังทางพวกพอยซันไอวี่  นั่นมันนายคนนั้นหนิ คนที่ผมเคยหันไปมองเค้า
ก่อนจะเจอกับเหตุการณ์แบบนี้  อย่าบอกนะว่าเค้าตามผมมา  ไม่นะเค้ากำลังจะได้รับอันตราย เขาไม่รู้ว่ากำลังเล่นกับอะไรอยู่

“อย่ายุ่งกับเค้า  แล้วปล่อยเพื่อนผมมาได้แล้ว”

      นายคนนั้นยืนพูดต่อหน้าพวกพอยซันไอวี่ แล้วชี้ไปที่ชายร่างเล็กที่พยายามพยุงตัวเองลุกขึ้นมาหลังจากจัดใส่เสื้อผ้าแล้ว

“อยากตายหละสินะ พ่อฮีโร่  เซฟเพื่อนรัก จับมัน”เอสบอกเชฟ

    พอพูดถึงแค่นั้น ผมก็เห็นเหตุการณ์ตรงหน้านายคนนั้นถูกเซฟเล่นงานอย่างหนัก ส่วนเอสกำลังเอาคว้าไม้แถวนั้นจับขึ้นมาก่อน
จะลงมือฟาดไปที่หลังขาอย่างแรง ในขณะที่ผมช่วยอะไรไม่ได้เลย

“พลัวะ   ”เสียงดังมาจากแรงกระแทกของท่อนไม้ที่ฟาดลงหลังขาอย่างแรงจนนายคนนั้นเข่าทรุดลงทันที

“ไง พ่อฮีโร่ ทีนี้เห็นรึยังหละว่าการแส่หาเรื่อง มันไม่ดีเอาซะเลย แต่เอาเถอะวันนี้พวกเราใจดี และอีกอย่างกลุ่มของเราไม่มีความ
คิดที่จะฆ่าคนหรอกนะ อย่างดีก็……..”เอสก้มลงไปจับคางเพื่อนคนนั้น ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินลงบันไดไป

“ฮ่าๆๆ  ก็ เชือดเชือนแกทีละนิดๆ ฮ่าๆ ขอโทษทีนะที่ต้องพูดต่อเอสให้จบ ไม่ชอบค้างคาไปแล้วพวกฮ่าๆๆ” เชฟพูดขึ้นพร้อมกับ
เสียงหัวเราะที่น่าหมั่นไส้ที่สุดในสามโลก

              ผมวิ่งพรวดเข้าไปหาเพื่อนคนนั้นทันที

“นายๆ เป็นไงบ้าง  เจ็บขามากไหม”ผมถามเพื่อนคณะด้วยกันอย่างเป็นห่วงจริงๆ

“ไม่ต้องห่วงเรา ไปช่วยนนท์แทนเราทีเถอะ”

           เพื่อนคนที่เจ็บอยู่นี้ ชี้ไปที่ชายร่างเล็กที่ชื่อนนท์ ผมทำตามที่เค้าบอกก่อนจะลุกขึ้นไปหานนท์

“นาย ไม่เป็นไรนะ”

“อย่ามายุ่งกับฉัน! ” เพื่อนใหม่ที่ชื่อนนท์ตวาดเสียงดังทำเอาผมนี่ตกใจทีเดียว

“นนท์ ทำไมไปตวาดเพื่อนหละ เขาเสี่ยงมาช่วยนนท์นะ และที่เกอร์มาช่วยนนท์ได้ ก็เพราะตามเพื่อนคนนี้มานะ”

“เกอร์หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ นนท์บอกเกอร์กี่ครั้งแล้วว่าอย่าพยายาม ยังไงซะเล่นกับพวกพอยซันไอวี่ก็มีเจ็บตัวเปล่าๆ ทำไมไม่
ปล่อยนนท์ไปให้มันซะเรื่องจะได้จบ”

“อย่านะนนท์ ถ้านนท์จะทำแบบนั้น ปล่อยให้มันฆ่าเกอร์ตายซะดีกว่า”

“ฮือๆ ฮือๆ นนท์เกลียดเกอร์ที่สุดเลย! เกลียดๆๆ”

        ผมที่เป็นคนกลางยืนมองพวกเค้าสนทนากันไปสนทนากันมา แล้วเพื่อนที่ชื่อนนท์ก็วิ่งลงบันไดไป แล้วเพื่อนที่เจ็บขาหละ
ผมต้องช่วยเค้าก่อนแล้ว   จะทิ้งไปแบบนี้ไม่ได้หรอก เจ็บขาอยู่อย่างนี้มีหวังเดินลงบันไดเกิดล้มลงไปอีกทำไงได้ นี่มันชั้น 4
เชียวนะ อีกอย่างก็มืดแล้วด้วย

“นายไหวไหม”

“เราโอเค ขอโทษแทนนนท์ด้วยนะ ”

“ไม่เป็นไรเราไม่ถือหรอก มาเดี๋ยวช่วยพยุงนะ”

“ขอบใจมากนะ นายเป็นเพื่อนที่ดีมากเลย เรามองคนไม่ผิดจริงๆ เราป๊อกเกอร์ ยินดีที่ได้รู้จัก”

“อืมๆ เราเนนะ   เอาหละเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเราจะถือซะว่าเราไม่รู้เรื่อง และจะไม่ถามด้วยว่าระหว่างพวกนายสองคนกับแก๊งค์
ปีศาจ เรื่องราวเป็นมายังไง แต่ตอนนี้เราต้องรีบกลับบ้านแล้วหละ”

“ฮ่าๆ นี่ไปเรียกกลุ่มเค้าแบบนั้นไม่กลัวว่าเค้าจะได้ยินรึไง”

“เฮ้อ เราปลงแล้วหละนะ  ไม่รู้สิตลอดเวลาที่ผ่านมาเหตุการณ์ที่เลวร้ายกว่านี้เราก็เจอมาแล้ว  มันเป็นตัวสอนให้เราเริ่มรู้จักเข้ม
แข็งอีกด้วย”ผมตอบยิ้มกลบเกลื่อนความเศร้าหมองของตัวเอง

“ดูท่า นายคงจะผ่านอะไรมาไม่น้อยเลยนะ”

“คงงั้นมั้งป๊อกเกอร์ ปะ! ลงกันเถอะเดี๋ยวจะดึกไปกว่านี้”

          ผมพยุงพาป๊อกเกอร์ลงมาจนถึงหอพักนักศึกษา ถ้าผมอยู่หอพักเหมือนกันกับเพื่อนๆคนอื่นๆก็คงจะดีสินะ จะได้มีเพื่อนคุย
เพื่อนเล่น อย่างน้อยๆตอนนี้ก็มีน้ำ กับป๊อกเกอร์นี่แหละ

“ส่งเราแค่นี้แหละเน  ขอบใจมากพรุ่งนี้คงได้เจอกันที่คณะ”

“อืมๆ ว่าแต่เดินดีๆนะ เดี๋ยวล้มลงไปอีก”

“ฮ่าๆ ขอบใจมาก นี่ถ้านนท์เค้าเป็นห่วงเรา  เหมือนกับที่เนห่วง คงจะดีกว่านี้”

“อืม เราไม่รู้หรอกนะว่าพวกนายมีเรื่องอะไรกัน แต่ที่สำคัญคือการให้อภัยนั้นดีที่สุด มันผ่านไปแล้วปล่อยให้มันผ่านไป เริ่มต้น
ชีวิตใหม่ยังไม่สาย”

“โห เนไปบวชได้เลยนะเนี่ย”

“ตลกแล้วป๊อกเกอร์ กลับเข้าหอดีๆนะแล้วเจอกัน”



“ไอ้เน!”

“พี่ชีวิน” 

   ผมตกใจมาก มองหันไปที่ต้นเสียงพี่เค้ายืนอยู่ห่างผมไปแค่ 10 เมตรเท่านั้น เอาแล้วไงพี่ชีวินมา    แล้วพี่เค้ามาได้ยังไง  ในตอนนี้ความเป็นมาเฟียในตัวเค้ามันจับราสีไปหมด มันหน้ากลัวมาก  พี่ชีวินเดินเข้ามาพร้อมกับกระชากแขนผมแล้วบีบที่ข้อมือผมแน่นจนผมเจ็บ

“ไอ้บัดซบ  พ่อฉันให้แกมาเรียนที่มหาวิทยาลัย  เพื่อมาหาสามีใหม่หรือไง” ผมพูดไม่ออก มันจุกที่อก

“คุณวิน”

“ทำไม รึว่าฉันพูดถูก หึ มีพ่อฉันคนเดียวยังไม่พออีกหรือไง  ถึงได้มาอ่อยให้คนอื่นตกเป็นเหยื่อ  เลวสิ้นดี”
       
 พี่ชิวินตะคอกใส่หน้าผมอย่างคนโมโหสุดขีด จนผมตกใจกับอารมณ์ครั้งนี้ของพี่ชาย

“เอ่อพี่ครับ ผมว่าคุยกันดีๆก่อนนะครับ”ป๊อกเกอร์พูดขึ้นมา

“อย่าแส่เรื่องคนอื่น ไอ้เด็กเมื่อวานซืน  ทำไม! ที่มหาวิทยาลัยคนน้อยไปรึไง ทำไมถึงต้องมาแย่งของๆคนอื่น”

ของของคนอื่นหรอ ใครเป็นของของใคร ผมรึเปล่า

“เอ่อ พี่ครับไปกันใหญ่แล้ว ผมกับเนเป็นแค่…..”ป๊อกเกอร์จะพูดต่อแต่ก็ไม่ทัน

“หุบปาก จะเป็นอะไรไปได้นอกจาก……….”พี่ชีวินหันหน้ามามองผมก่อนจะพูดคำคำนี้ออกจากปาก

“คู่สำส่อนซ่อนเงื่อน แต่เสียดายที่มันถูกเปิดเผยออกมาก่อน  กลับบ้าน!”

           จากนั้นพี่ชีวินก็ลากแขกผมกลับขึ้นรถไป ผมหันหน้าไปหาป๊อกเกอร์ที่ให้กำลังใจแค่ชูสองนิ้วขึ้นมาบอกให้รู้ว่า สู้ๆ แค่นั้นเอง    แต่อยากจะแย้งนิดหนึ่งทำไมพี่ชีวินถึงชอบพูดจายัดเยียดผมให้กับพ่อด้วย ทั้งๆที่พ่อเคยบอกไปแล้วหนิว่ารับผมมาเลี้ยงเพราะเอ็นดูเท่านั้นเอง  รึว่าพี่ชายยังไม่พอใจในตัวผมอยู่อีกหรอ ตลกสิ้นดีพี่วินคิดแบบนี้ก็ไม่แปลกหรอก เค้ายังไม่รู้นี่ว่าผมกับพ่อเป็น พ่อลูกกัน ไม่ใช่อย่างที่พี่ชีวินคิดหรอกนะ



ประโยคตัวสีแดงนั้นไม่มีอะไรหรอกครับแค่ เป็นประโยคที่อยู่ใน Intro เท่านั้นเอง^^


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-01-2013 14:27:00 โดย loveice »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เลือดมังกร ตอนที่ 8 up 22/12/2555
« ตอบ #49 เมื่อ: 07-01-2013 23:18:44 »





ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 9 up 7/01/2556
«ตอบ #50 เมื่อ08-01-2013 01:39:13 »

เอ พอยชั่นไอวี่มีกี่คนกันเนี้ย น้องเนจะรอดมั้ยอะนั่น

ออฟไลน์ INMINTHA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 9 up 7/01/2556
«ตอบ #51 เมื่อ08-01-2013 02:05:23 »

รอคะ สนุกมาก

ออฟไลน์ srikoon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 530
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-6
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 9 up 7/01/2556
«ตอบ #52 เมื่อ08-01-2013 07:46:10 »

ยุพี่วิน เอาลูกน้องพ่อมาถล่มเลย

ออฟไลน์ anuruk97

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-4
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 9 up 7/01/2556
«ตอบ #53 เมื่อ08-01-2013 15:18:48 »

นี่ตาวินหึงรึเปล่า....ควนของหูแล้วเริ่มมีใจให้น้องเนแล้วสินะ

loveice

  • บุคคลทั่วไป
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 9 up 7/01/2556
«ตอบ #54 เมื่อ08-01-2013 23:04:38 »

 :L2: :L2:ไขความสงสัย เรื่อง แก๊งค์พอยซันไอวี่ :L2: :L2:

-   เป็นกลุ่มคนที่คิดว่าตัวเองเก่งที่สุดและไม่มีใครกล้ายุ่งเกี่ยว ถึงใครยุ่งเกี่ยวก็ซวยทั้งนั้น
-   กลุ่มพวกนี้ยังมีความเกรงใจชีวินกับบิลันอยู่ระดับหนึ่ง
-   กลุ่มนี้มี 10 คน ชาย 8 หญิง 2  แต่ตอนนี้ ปรากฏตัวแล้ว 7 คนครับ
-   มี เอโต้ เป็นเฮดหลัก  ตามด้วย เซน  นาวา พีท  เดล  เอส เซฟ  และอีกสามคนเดี๋ยวจะตามมาในไม่ช้านี้  ไม่ต้องจำชื่อพวกนี้หรอกคับ เดี๋ยวอ่านไปอีกซักพักนึงจะจำได้เองแหละ เพราะพวกนี้ เอ่อ แบบว่า เรื่องนั้นยังไม่สร่าง เรื่องใหม่ก็ก่อขึ้นมาอีกประมาณนี้คับ^^
-   สงครามความรักกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว^^ 


( รอดูความร้ายกาจของพวกนี้ให้ดีๆนะคับ^^  ) :m31: :fire: :angry2:


ออฟไลน์ hello_lovestory

  • >>I'm C-Z@<<
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 9 up 7/01/2556
«ตอบ #55 เมื่อ09-01-2013 20:25:26 »

อะไรกันพวกไอวี่นี่อีกแล้วหรอ

loveice

  • บุคคลทั่วไป
Re: เลือดมังกร ตอนที่ 9 up 7/01/2556
«ตอบ #56 เมื่อ20-01-2013 16:31:20 »

ตอนพิเศษสั้นมากๆ ( พอยซันไอวี่ )  เอาพอให้รู้ว่าผู้แต่งยังมีตัวตนอยู่^^



 :L2: :L2: ภายในสวนหย่อม   ด้านหลังคฤหาสน์ที่กว้างใหญ่พอสมควร   เอโต้นอนอาบแดดอยู่ริมสระว่ายน้ำ  โดยมีเซนนั่งอยู่ข้าง 

“เอโต้”เซนพูดขึ้นมา

“ว่าไงเซน  ” เอโต้ตอบออกมา ทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่

“ เอส กับ เซฟ  ก่อเรื่องอีกแล้วนะ ”

“หึ  อย่าไปสนใจ เด็กพวกนี้มันรักสนุก”

“แต่………”  เซนยังไม่ทันที่จะพูดอะไรต่อ  เอสกับ เซฟ ก็เดินมุ่งมาทางสระว่ายน้ำพอดีหลังจากลงรถ

“พี่เอโต้  พี่เซน สวัสดีครับ”

เอสกับเซฟสวัสดีก่อนจะเดินเลี่ยงหนีเข้าบ้าน  แต่เซนพูดขึ้นซะก่อน

“เดี๋ยว  พวกนายสองคนวันนี้ไปก่อเรื่องอะไรมา”

เอสกับเซฟมองหน้ากันก่อนจะหันมาถามรุ่นพี่อย่าง งงๆ

“เอ่อ  เฮียรู้ได้ไง”

“อย่ายอกย้อนนะเอส  เซฟ  จะทำอะไรให้คิดซักนิดนึงนะว่า ที่พวกนายทำไปแล้ว กลุ่มเราจะเสียหายรึเปล่า”

“โถ่ พี่เซน  แค่เล่นๆหน่า   เออ  เฮียวันนี้ไปเจอของเล่นชิ้นใหม่มาด้วยแหละ  แต่เสียดายไม่ได้ถามชื่อ  ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ตัวเล็กๆ น่า
รักอย่างกับกระต่ายน้อยแหนะ  แต่ดันเข้ามายุ่งไม่เข้าเรื่อง” เซฟพูดขึ้นอย่างเสียดาย

“เซฟ!” เซนตะคอกเสียงดุใส่เซฟ จนหน้าซีดไป

“เฮ้ เซน อย่าเพิ่งทักท้วงน้องกลัวหมดแล้วเห็นไหม   เซฟ ไหนแกลองพูดใหม่ซิว่าแกไปเจออะไรมานะ”

“เอโต้  โถ่โว้ย” เซนที่กำลังตักเตือนรุ่นน้องอยู่แต่ถูกขัดขึ้นมาก่อน เค้าจึงลุกเดินเข้าบ้านไปอย่างหัวเสีย

“อ้าวเฮีย ไม่อยู่ฟังหรอ ฮ่าๆๆ ” เอสได้ใจ เมื่อเอโต้เข้าข้าง

“เอส!” เอโต้พูดเสียงหนักแน่นแต่ไม่ได้ตะคอกเพื่อบอกให้รู้ว่า เค้ากำลังรอฟังอยู่

“ครับๆ เล่าเดี๋ยวนี้แหละครับ พี่ใหญ่ใจเย็นหน่อยสิ   อืม เรื่องมันมีอยู่ว่า………………”

เอส เล่าไปพร้อมกับเซฟที่พูดแสรกแซงไปเรื่อย จะว่าไปสองคนเอส เซฟ นี่เป็นเพื่อนรักกันจริงๆ ถึงขั้นกับแยกกันไม่ได้อย่าบอกใคร
เชียว
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

“เนี่ยเรื่องก็มีอยู่แค่นี้อ่ะเฮีย”

“ฮ่าๆ  ในที่สุดพวกแกก็ได้เจอกับคนที่ฉันอยากจะให้เจอพอดี”

“สรุปเด็กคนนี้เป็นใครเฮีย แล้วทำไมต้องให้พวกผมเจอด้วย”

“เด็กคนนี้  เป็นเด็กของทายาทมาเฟีย”

“เฮ้ย จริงดิเฮียๆ  เด็กคนนี้เป็นเด็กในสังกัดไอ้พี่วินหรอ ฮ่าๆๆ  เสร็จแน่งานนี้  ตาถึงไม่เบาหนิ”

“เอาหล่ะ คงรู้นะว่าฉันจะให้ทำอะไร   ช่วยทำแทนฉันหน่อยนะ  ฝากด้วยหล่ะเซฟ เอส”

“ด้วยความยินดีเฮีย  อย่างนี้ของถนัด”

“ดีมาก  อืม  สัปดาห์หน้านี้  ฝาแฝด โอ-อาร์  จะกลับเมืองไทยแล้ว  เห็นบอกว่าที่มหาวิทยาลัยไต้หวันยังไม่เปิดเทอม”

“ว้าว  เซฟ ฟังสิคู่หูจอมป่วนจะกลับมาแล้วเพื่อน  สนุกขึ้นอีกเป็นกองแน่”เอสพูดอย่างดีใจ


“เอาหล่ะๆ  ฉันมีเรื่องขอให้พวกนายช่วยแค่นี้ วันนี้คงเหนื่อยแย่หล่ะสิ  แห้วจนได้นะวันนี้ แต่ไม่เป็นไรครั้งต่อไปเพลาๆมือหน่อยก็ดีนะ 
ไปเอาของเค้ามาเล่นแล้วยังไปทำร้ายแฟนเค้าอีก พวกแกนี่มันร้ายได้ใจเหมือนใครกันนะ”

เอสกับเซฟมองหน้ากันก่อนจะหันมาตอบเอโต้

“เหมือนเฮียเอโต้ไง ”

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” เอโต้หัวเราะสะใจ  อย่างกับปีศาจร้าย

พอรู้แผนชั่วของเอโต้ไปแล้ว น้องเนจะเป็นยังไงต่อไป  แล้วฝาแฝดโอ กับ อาร์หล่ะ เค้าจะโหดร้ายเหมือนที่เพื่อนๆพี่พวกเค้าเป็นรึ
เปล่า :L2: :L2:


ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
Re: เลือดมังกร ตอนพิเศษ up 20/01/2556
«ตอบ #57 เมื่อ20-01-2013 16:40:41 »

น้องเน จะโดนทำรัยบ้างอะเนี้ย

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
Re: เลือดมังกร ตอนพิเศษ up 20/01/2556
«ตอบ #58 เมื่อ20-01-2013 17:41:02 »

เน ชีวิตน่าสงสารจริง

loveice

  • บุคคลทั่วไป
Re: เลือดมังกร ตอนพิเศษ up 20/01/2556
«ตอบ #59 เมื่อ25-01-2013 19:19:31 »

มาแล้วๆ แต่งได้ไม่เยอะนะครับ  ไม่ค่อยมีเวลาเลย ไปสนุกกันต่อเลยครับ^^


ตอนที่ 10



      หลังจากที่พี่ชีวิน ปรากฏตัวต่อหน้าผมกับป๊อกเกอร์เพื่อนใหม่ ในสถานการณ์ของผมตอนนี้ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องสับสน สิ่งที่พี่เค้าคิดนั้น มันเป็นการมโนภาพเอาเอง   ผมพยายามที่จะพูดอธิบายแต่สุดท้ายก็ไร้การตอบรับ  นิสัยแบบนี้คุณก็รู้ดี ถ้าพี่เค้าเป็นแบบนี้มีทางเดียวที่จะทำให้เค้าลดความเกรี้ยวกราดได้คือการระบายอารมณ์   และสิ่งนี้แหละที่ผมกลัวมาก

“ขึ้นรถ!     แล้วไม่ต้องเอ่ยปากพูดอะไรเลยนะมึง เก่งนักนะเรื่องร่านหาผัวเนี่ย”

“ครับ!” ผมหมดปัญญาแล้ว  ใครก็ได้มาช่วยผมเจรจาทีเถอะ

“กลับถึงบ้านเมื่อไหร่ โดนแน่เตรียมตัวไว้เถอะ”

“คุณวิน ฟังผมพูดก่อนได้ไหม ผมขอร้อง”

“แล้วที่ผ่านมา เคยขอร้องได้ผลไหมหละ”

“เอ่อ ไม่ครับ”

“หึ รู้แล้วก็ยังดั้นด้นอีกนะ กูถามคำเดียว  ไอ้ห่านั่นเป็นใคร!”

“เป็นเพื่อนครับ โอ้ย!!!   คุณวินปล่อยข้อมือผมก่อน ผมเจ็บ เจ็บมากด้วย!!”

“ยังมีความรู้สึกนั้นอยู่หรอฮะ   ตอบมาดีๆนะอย่ามาเล่นลิ้น”

“ผมไม่ได้เล่นลิ้นนะ  นั่นเพื่อนผมจริงๆ”

“แล้วทำไมเลิกประชุมเชียร์ที่คณะเสร็จ ต้องเดินไปส่งมันด้วย  อยากให้มันตาย!!!   เลยรึไง”

    อะไรนะ  นี่พี่ชีวินเป็นบ้าไปแล้ว เรื่องแค่นี้จะฆ่าแกงกันเลยรึไง   นี่เค้ายังเป็นมนุษย์อยู่รึเปล่า  ไม่ได้แล้ว ผมทนไม่ไหวแล้ว
นะ เป็นไงเป็นกัน

“คุณชีวิน  ที่ผมทำไปมันไม่ใช่อย่างที่พี่คิด   ผมไปช่วยแฟนเพื่อนที่ถูกพวก พอยซันไอวี่จับตัวไปต่างหาก ไม่ได้เป็นเรื่องราว
อะไรอย่างพี่คุณคิดด้วย พอรึยังเหตุผลแค่เนี่ย รึยังจะเอาเพิ่มเติมรึเปล่าครับ”

   อ้าวผมพูดอะไรผิดไปหรอ  ทำไมพี่เค้าหน้าตาค้างอย่างนั้นหละ

“อะ…อะไรนะ  นี่แกไปยุ่งเรื่องพวกนั้นทำไม  แกมันบ้าไปแล้ว   ห่าเอ้ยทำไมไม่บอกพี่ตั้งแต่ทีแรก”

“ผมพยายามจะบอกแล้วแต่คุณไม่ฟังผมเอง”

 “หุบปากหน่า  ได้ทีเอาใหญ่นะแกเนี่ย  ไหนเจ็บตรงไหน  ดูแขนหน่อยดิ  มีแผลไหม”

“เอ่อ  ไม่ต้องดูหรอก ผมไม่มีแผลอะไรมาก   แต่เพื่อนผมหนะเจ็บไปหมดแล้ว  เค้าโดนทำร้ายที่ต้นขา ผมกลัวว่าเค้าจะเดินกลับ
หอใน ไม่ไหวเลยเดินไปส่ง เรื่องก็เป็นแบบนี้แหละครับ”

“เออ ดีโดนได้ก็ดีไอ้หน้าจืดนั่น ใครบอกอยากมายุ่งแฟนคนอื่นเค้า” พี่เค้าบ่นอะไรของเค้านะฟังไม่ค่อยได้ยิน

“คุณพูดอะไรนะ”

“ไม่ใช่เรื่องของมึง เอ้ยของแกหน่า นั่งนิ่งๆไป เอาเป็นว่าฉันไม่เอาเรื่องแกกับมันแล้ว”

“มัน!  มันไหนคุณวิน”

“ก็ไอ้เพื่อนตัวดีของแกนั่นแหละ  เฮ้ยลืมไปเลย หวังว่ายังไม่ตายหรอกนะ!”น้ำเสียงเย็นชาแต่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ของพี่เค้า
แล้ว ผมพึ่งจะเคยเห็นครั้งนี้ครั้งแรก  พี่ชีวินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร ก่อนปลายสายจะรับ

“ไอ้ซุน ไอ้เซ้ง  ปล่อยไอ้หน้าจืดนั่นไป  ฉันเคลียร์หมดแล้ว  แค่นี้แหละ”

“นี่คุณ!” อย่าบอกนะว่าเป็นป๊อกเกอร์เพื่อนใหม่ผมหนะ

“อะไรของแกอีกฮะ  โทรไปยุติเกมส์ให้แล้วไงเมื่อกี้จะเอาอะไรอีก  แค่มันไม่เป็นอะไรก็บุญหัวมันแล้ว”

“ทำไมเป็นคนร้ายกาจอย่างนี้นะ อุ้ย!  ”ตายแล้วนี่ผมหลุดพูดประโยคนี้ออกไปได้ยังไงกันนะ

    พี่ชีวินใกล้เข้ามาแล้ว เอาหน้าออกไปเลยนะ รถยิ่งแคบๆอยู่

“ลูกมาเฟียอย่างฉัน เป็นมากกว่าที่แกจะมโนได้กว่านี้อีกเยอะ  ไม่เชื่อคอยดูสิ ”

สายตาที่จริงจัง ไร้ความปราณี เปล่งประโยคเสียงเย็นชาไร้วิญญาณนั้น มันทำให้ผมนึกหวั่นขึ้นมาแล้วสิว่าคนที่อยู่รอบข้างผม จะ
ปลอดภัยรึเปล่า



( พี่เจมส์  พี่ชายของเนวิน )

ตั้งแต่น้องเน ตัดสินใจไปอยู่ที่บ้านมาเฟียพ่อของเค้าอย่างเป็นทางการ ผมกับแม่ก็พอเข้าใจเหตุผลน้องเค้ามาบ้าง ถึงจะไม่ร้อย
เปอร์เซ็นต์ก็เถอะ ผมก็ยังเป็นห่วงน้องอยู่ดี

“เจมส์ๆ  ทำอะไรอยู่ลูก   มานั่งให้ยุงกัดทำไม ดึกแล้วนะ ไปนอนเถอะไป เดี๋ยวแม่เตรียมของใส่บาตรเสร็จแล้ว แม่ก็จะไปนอน
แล้วเหมือนกัน”

“ครับแม่ อืมว่าแต่ไอ้ต๋องมันไปนอนแล้วหรอครับ”

“รายนั้น ตั้งแต่ไปตลาดสดกลับมาก็อาบน้ำ นอนแต่หัวค่ำเลย ฮ่าๆ”

“งั้นเจมส์ไปนอนแล้วนะแม่”

“จ้ะ”

   วันนี้ดวงจันทร์เต็มดวง สวยงดงามเงาแสงสะท้อนกันกับผิวแม่น้ำหลังบ้าน อย่างน้อยก็เป็นลางอย่างหนึ่งว่าน้องเนจะปลอดภัย
ไม่มีอะไร ผมเชื่ออย่างนั้น  ขอให้ดวงจันทร์ปกป้องคุ้มครองน้องเนแทนผมด้วยเถอะนะครับ สาธุ





เช้าวันใหม่กับวันเสาร์ที่   สนามบินสุวรรณภูมิ

(  พอยซันไอวี่  )

เอโต้ เซน เดล  นาวา  พีท เอส เซฟ   พวกเค้าเหล่านี้มาคอยต้อนรับสมาชิกจอมป่วน คู่หูดูโอ้ 

“เฮียเอโต้ครับ   โอ กับ อาร์ เดินมาแล้วครับ เห็นไหม” เซฟ ดีใจยิ้มรีบเอ่ยปากบอกพี่ชายข้างๆ

“เด็กๆ ไปรับสำภาระ น้องชายฉันด้วย เร็ว” เอโต้สั่งลูกน้องที่ใส่ชุดสูทรยืนรอด้านหลัง

“ได้ครับนาย”

“สวัสดีพี่ชาย พี่สาว  และก็ไอ้เพื่อนจอมโหดทุกคนครับ” โอ พูดขึ้นเมื่อมาถึงแล้วยืนหยุดต่อหน้ารุ่นพี่กับเพื่อนๆ

“ไม่เป็นไรหรอกน้องรัก แค่กลับมาอยู่เมืองไทย พวกเราก็ดีใจแล้ว ไปอยู่ที่โน่นไปป่วนอะไรไว้อีกรึเปล่า”

“ฮ่าๆๆ   ป่วนแล้วไงพี่เอโต้   กลัวที่ไหนกัน  ระดับ อาร์ แล้วขอแค่สนุกก็พอ”

“อืมแล้วนี่คุณลุง คุณป้าหละพี่เอโต้”โอ ถามหาพ่อของเอโต้ นักธุรกิจ 1000 ล้าน

“คุณพ่อกับคุณแม่ พึ่งจะบินไปนอเวย์เมื่อสองวันที่แล้ว”

“อ้าว  เอ้อดีเหมือนกัน  อาร์ กลับมาที่เมืองไทยทั้งที ไม่อยากจะอยู่ในกฎระเบียบอะไรมากนัก นี่ถ้าคุณป้าอยู่คงจะไม่สนุก”

“น้อยๆหน่อยนะน้องชายของพี่ ” เดลที่เงียบมานาน และหายตัวไปซักพัก ก็เริ่มพูดขึ้นมา

“ไม่ได้หรอกพี่เดล พวกผมสองคนกะจะมาที่เมืองไทย เพื่อหาอะไรสนุกทำ  ถ้าจะห้ามนี่คงยากนะครับ ”

“อะๆ   โตจนป่านนี้แล้วยังซนไม่หายนะ”

“อะไรกันพวกเราพึ่งจะ 19 ปีเองนะ”โอพูดตอบพี่สาว

“แล้วนี่ นาวากับพีท ไม่ได้เอาปากมาหรือไง ทำไมยืนนิ่งจัง”อาร์แซวนาวากับพีท

“เปล่าหรอกโอ  เรามีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อย”นาวาตอบโอ

“หรอ  อืมบอกได้นะเผื่อฉันจะช่วยอะไรได้บ้าง”

“อย่าเลยเรื่องของนาวากับฉัน พวกเราจัดการเองได้   อย่าพูดเรื่องพวกนี้เลย พวกนายสองคนกลับมาเหนื่อยๆ พี่เซน พี่เอโต้ ผม
ว่าพาพวกเค้ากลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ”

“โอเค ตามนั้น ไปเลย รถจอดรอแล้ว ไอ้จอมป่วนโอ อาร์”เซนชี้ไปที่รถสองคัน จอดอยู่ถัดจากที่พวกเค้ายืนไม่ไกลมาก

“พี่เซน พูดเว่อร์ไปนะบางที”

“ก็รึว่าไม่จริง  ไอ้ตัวป่วน”

“จริงก็ได้ ฮ่าๆๆๆๆๆ”


“เดี๋ยวก็จะป่วนกว่านี้อีก ร้อยเท่า จริงไหมเอส เซฟ”

“ครับเฮีย” สองคนนี้พูดตอบรับเอโต้ขึ้นมา

    เซนที่พอจะรู้เรื่องบ้าง  แต่ก็ค้านไม่ได้  เค้าไม่ใช่คนดีอะไรมาก แต่เค้าไม่ชอบการระรานคนอื่นจนถึงขนาดเรื่องบานปลายมา
ถึงกลุ่มได้ก็แค่นั้น






ที่คฤหาสน์มาเฟีย

( น้องเน )

“อ้อ อย่างนี้ใช่ไหมครับลุงพ่อบ้าน”

“เออ  อย่างนั้นแหละ ดีๆ  เรียนรู้ได้ดี   ทิชชูวางไว้ตรงนั้นแหละ”

   ผมกับลุงวูพ่อบ้าน กำลังอยู่ที่ห้องครัวประมาณ 6 โมงเช้าที่ ก็ 7 โมงแล้ว  วันนี้ผมได้ประสบการณ์ในการจัดโต๊ะอาหารด้วย เล่น
เอาหน่อยเหมือนกัน ใครๆก็รู้ว่าลุงวูพ่อบ้านเนียบขนาดไหน

“ทีนี้ ก็ถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว    ยังไม่เหนื่อยใช่ไหม  ”

“ไม่เหนื่อยเลยครับ ลุงพ่อบ้าน”

“ดีๆ  เอาหละ การรินน้ำและการวางให้ถูกที่  เริ่มเลยแล้วกันบอกไปเดี๋ยวไม่เข้าใจ  ”

“ครับ”

“อืมดีๆ  อย่างนั้นแหละ  อย่างนั้น ใช้ได้ๆ   เออเข้าใจง่ายดีนะ  เด็กสมัยนี้นี่หัวเร็วจริงๆ”

   เปล่าหรอกครับลุง  คุณแม่ผมสอนผมทุกอย่างแล้วครับ แต่ก็อย่างว่านะทำเป็นไม่รู้เรื่องซะก็ไม่เสียหายนี่หน่า

“เสร็จซักที  ไปพักได้ไป ไว้เดี๋ยวนายท่านทั้งสองทานเสร็จแล้ว พ่อหนุ่มค่อยมาจัดการเก็บและล้างก็แล้วกันนะ   ฉันไปก่อนหละ
ยังมีอีกหลายหน้าที่ที่ฉันต้องไปดูแล”

“ครับ ลุงดูแลสุขภาพด้วยนะครับ เดินบ่อยๆเดี๋ยวจะเหนื่อยได้”

“เออ  ขอบใจที่เป็นห่วงแต่คนแก่อย่างฉัน เห็นอย่างนี้นะ เรื่องบู๊ พวกไอ้เลียง ไอ้หยวน ไอ้ซุน ไอ้เซ้ง ยังไม่ได้ครึ่งเลยนะจะบอก
ให้ ฮ่าๆ ไปแล้วไอ้หนู”

“ครับ”

 ผมยืนส่งลุงพ่อบ้านออกจากประตูกระจกไป  แต่จู่ๆพี่เลียงก็โผล่เข้ามาทำเอาผมตกใจหมด หน้าห่างกันไม่ถึง 10 เซน

“อุ๊ย พี่เลียง  เป็นผีรึไงนะ ชอบโผล่มาแบบนี้ตลอดเลย”

“ฮ่าๆ โทดทีนะ พี่ทำให้เนตกใจรึเปล่า”

“มากมายเลย”

“ขอโทษนะ”

“ไม่เห็นต้องขอโทษหนิ แปลกๆนะพี่เนี่ย  เป็นอะไรมากรึเปล่าเนี่ยไหนๆ หน้าผากก็ไม่ร้อนหนิ  ตัวก็ไม่ร้อน”

    ผมพยายามยืดตัวขึ้นไปแตะหน้าผากพี่เค้า   พี่เลียงอมยิ้มก็จะจับที่มือข้างที่ผมยื่นไปแตะ

“เน  พี่ไม่ได้ป่วย  พี่ทำให้เนตกใจ พี่ก็ต้องขอโทษเป็นธรรมดา”

“โอเคๆ   ว่าแต่ปล่อยมือเนได้รึยัง”

“อุย  ขอโทษทีนะ พี่ไม่ได้ตั้งใจ”

“ขอโทษอีกแล้ว  ไม่เป็นไรหรอกครับแค่นี้เอง ”

    ผมยังพูดไม่เท่าไหร่เลย   เสียงของคุณชายมาเฟียก็โวยวายมาจากด้านหลัง

“ไอ้เลียง!!!    ลื้อมีอะไรก็รีบๆไปทำไป”  พี่ชีวิน สั่งเสียงเรียบ ก่อนจะเดินเข้าไปที่ห้องอาหาร

“ครับนาย”พี่เลียงตอบรับพร้อมกับเดินหันหลังออกไป

“ไงอาเลียง  อย่ายุ่งของๆนายลื้อจำเอาไว้”ไอ้ซุนพุดออกมา ดังพอที่ผมจะได้ยิน

    ผมเกลียดจิงๆเลยนะ ลูกน้องพี่วินแต่ละคน ชอบราวีคนกันเองอยู่เรื่อย   ผมเองก็ไม่รู้จะอยู่ทำไม  ไปดีกว่า

“จะไปไหน”เสียงของผู้บังคับบัญชา ดังขึ้นมาจากโต๊ะอาหาร

“เอ่อ  ไปรถน้ำต้นไม้ที่สวนครับ”

“ไม่ต้อง!   มีคนไปทำแล้ว อีกอย่าง สปริงเกอร์ก็มี ทำไมต้องไปรด”

“ถ้าอย่างนั้นผมไปจัดห้องคุณท่านก่อนนะครับ  เดี๋ยวท่านกลับมาจะได้พักผ่อนเลย”

“ไม่ต้อง!  ห้องพ่อฉันลุงวูไปทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ”

“เอ่อ แต่ว่า………”

“ทำไม  ฮะห้องพ่อฉัน แกพิศวาสมากเลยรึไง”

   พี่ชีวินเรื่องตะคอกอีกแล้ว  นี่ผมจะทนอยู่กับพี่ชายคนนี้ได้อีกเท่าไหร่กันเชียว

“มะ มะ ไม่มีคับ”

“ยืนบื่ออะไรอยู่หละ  นายจะทานอาหารแล้ว ไปตักข้าวให้นายสิวะ”เสียงไอ้ซุน  พูดขึ้น

“ไอ้ซุน  ไอ้เซ้ง ลื้อสองคนจะไปไหนก็ไปๆ   ”

“อ้าวนาย  แล้วใครจะคอยรับใช้นายหละครับ”

“หึ พูดมาได้ เมื่อกี้ยังใช้ไอ้เด็กนี่มาตักข้าวอยู่เลย ขืนพวกลื้ออยู่ไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรฉันนักหรอก”

“อ้าวนาย งอลซะแล้ว”

“พูดมากน่ารำคาญ ไปๆ ลื้อสองคนไปได้แล้วไป  รึว่าจะลองกระสุนใหม่ของฉันก่อนไหม”

“เอ่อ ไม่แล้วครับนาย ไม่ครับ ไปแล้วครับนาย แฮะๆ”

“อ้าว เน  ยืนอยู่อย่างนั้นแล้วฉันจะได้กินไหมข้าวเช้าเนี่ย”  พี่ชีวินพูดขึ้นมาผมแทบจะไม่อยากเชื่อหูตัวเอง  อย่างกับผีเข้ายังไง
ยังงั้นเลย

“เออ  ครับๆ”

   ผมเดินไปเซตอาหารทุกอย่าง ตั้งแต่ตักข้าว อาหาร  น้ำดื่ม  พี่ชีวินมองหน้าผมสลับกับมือผมที่คอยไปหยิบไปจับนี่นั่น ตลอด
เวลา  เสร็จแล้วผมก็ยืนอยู่ข้างๆตรงนั้น

“อ้าว มากินด้วยกันสิ”

“เอ่อ  ผมกินมาแล้วครับ”

“รู้หน่าว่ายังไม่กิน เห็นฝึกงานกับลุงพ่อบ้านแต่เช้าแล้วจะเอาเวลาไหนกิน”

“แต่…….”

“มากิน อย่าให้ฉันอารมณ์เสีย!!!”

“เอ่อ  ครับๆ  ”

  ผมเดินไปที่เก้สอี้ตัวที่ใกล้ที่สุด แล้วนั่งลง

“มานั่งข้างฉันนี่มา  ไปนั่งอะไรตรงนั้น”

“ไม่เป็นไรครับ แค่ให้ผมนั่งทานข้าวด้วยก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้วครับ”

“เน!  อย่าให้ฉันต้องอารมณ์เสีย”

“ครับ ก็ได้ครับก็ได้    ช่วยขยับไปอีกนิดนึงครับ ผมเข้าไม่ได้”

“ไม่มีปัญหา”

    ผมว่าพี่วินบ้าไปแล้วจริงๆ คนอะไร เดี๋ยวผีเข้าผีออก  นี่นะตอนนี้คุณผู้อ่านรู้ไหมสีหน้าพี่เค้าเป็นยังไง

กำลังยิ้มหน้าตาระรื่นอย่างกับถูกหวยซะอย่างนั้น   นี่ผมจะเป็นประสาทรึปล่าวนะถ้าอยู่ใกล้ลูกมาเฟียคนนี้




ต่อไปอาจช้าหน่อยนะครับเพราะว่า จะไปแต่ง รักนี้ที่มูอันต่อ อีก อิอิ  รอหน่อยนะครับ สนุกไม่สนุกยังไงก็เม้นๆมาเยอะๆนะครับ  ขอบคุณครับ :pig4: :pig4:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-01-2013 19:25:39 โดย loveice »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด