มาแว้วววววววววววววว
มาช้าดีกว่าไม่มา 5555555
คิดถึงกันม้ายยยยยยยยยย ตอนพิเศษ 7
คำตอบ...ชกครั้งสุดท้าย
วันต่อมาอีก วันนี้เป็นวันหยุดราชการครับ แต่สำหรับเอกชนก็แล้วแต่ล่ะ
“ที่คุณส่งบัตรเชิญไปให้เพื่อนผมนี่ เพราะพวกเขาเป็นเพื่อนของผมหรือเปล่า??” ก็มันสงสัยอ่ะ หรือว่าจะเป็นเรื่องของธุรกิจ เพราะสองหล่อเขาไม่ยอมบอกผมน่ะสิ
“แล้วเธอคิดว่าไงล่ะ” ไงงั้นอ่ะ ถามผมกลับแบบนี้แล้วผมจะตอบยังไงล่ะ
“ก็เพราะผมไม่รู้ไง ผมเลยถาม” ผมบอกเขาให้กระจ่างอีกครั้ง
“พวกเธอรู้จักกันได้ยังไง ลองเล่าให้ฉันฟังได้มั้ย??”
“อืมมม...ก็ได้ครับ” ผมคิดก่อนตอบรับ เพราะดูเหมือนคุณฟรานจะอยากให้ผมเล่าก่อน
ก็อย่างที่เคยบอกไว้ พวกเรารู้จักและสนิทกันก็เพราะ...คำต้องห้าม...คำไหนน่ะหรอ ก็คำว่า ‘น่ารัก’ นั่นไงล่ะ แค่เพียงผมเกริ่นคุณฟรานก็อมยิ้มแล้ว ก็นะ...ไม่เป็นไร ผมเริ่มด้านแล้วล่ะ 555
ในวันรับน้อง ที่จริงผมขี้เกียจมารับน้องมาก แต่พี่เกรย์บอกว่า
“เราน่ะ มันเป็นพวกสังคมแคบ ควรจะไปรับน้องซะ จะได้รู้จักกับเพื่อนๆ เอาไว้นะกรีน” ก็นะ
แล้วคุณพ่อกับคุณแม่ก็มาเห็นดีด้วยกับพี่เกรย์เสียอย่างนั้น สุดท้ายและท้ายสุดผมจึงยอมเข้าร่วมงานรับน้องกับพวกเพื่อนๆ ก็ก่อนหน้านั้นผมไปเที่ยวต่างประเทศและไปอยู่กับพี่เกรย์ที่ไปเรียนต่อต่างประเทศ และเพราะโคต้าร์ท่องเที่ยวของผมมันก็ยังไม่หมดด้วย ผมจึงตั้งใจว่ารอให้เปิดเรียนและผ่านงานรับน้องแล้วค่อยกลับมาเรียนอย่างเดียวดีกว่า แต่ผมก็จนต่อคำพูดของพี่เกรย์
ผมเดินหล่อๆเข้ามาในรั้วมหาลัยได้ไม่นานนัก ผมก็ต้องตกเป็นเป้าหมายทางสายตาของหลายต่อหลายคนแล้ว ก็นะ...ผมบอกแล้วว่าผมอ่ะ....หล่อ
ผมเดินตรงมาที่หน้าคณะอย่างไม่เร่งรีบอะไร เพราะตอนที่ตัดสินใจจะเข้าเรียนที่นี่ผมก็แอบมาสำรวจสถานที่ไปแล้วรอบหนึ่ง และคณะถาปัตย์มันก็ไม่ได้หายากอะไรด้วย
ผมเห็น...น่าจะเพื่อนๆ รุ่นเดียวกันกับผมนี่แหละ กำลังถูกรุ่นพี่เรียกไปรวมตัวกันอยู่ แต่ว่าทุกคนมีป้ายชื่อ แล้วป้ายชื่อผมจะไปเอาจากไหนล่ะ อ่ะ....นั่นไงๆ แต่ก่อนที่ผมจะตรงไปที่โต๊ะหน้าคณะนั้น
“น้องคะ....”
“.....!?.....” เงียบ!! เรียกกูป่าววะ เห็นเรียกแล้วมองมาที่ผมอ่ะ แต่ผมหล่อครับ ยังยืนยันเจตนาเดิมอยู่ครับ
“ฮิฮิฮิ น้องนั่นแหละค่ะ น้องน่ารัก” เชี่ยยยยยยย...ชัดเลยครับ ปริ๊ดครับ กูหล่อเว้ย!!
ด้วยความเจ็บปวดที่ฝั่งใจมาแต่เด็ก ผมจึงหน้ามืดตามัวแล้วครับ ผมเดินหน้าบึ้งๆ ตรงไปที่พี่ผู้หญิงคนนั้นแทบจะทันที โดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าคนที่ผมเดินเข้าไปหานั้นเป็นผู้หญิง ก็ที่ผมเป็นแบบนี้มันมาจากยายอ้วนที่เป็นผู้หญิงนี่ครับ เรื่องแบบนี้ผมเลยลืมที่จะนึกถึงสภาพสังคมรอบตัวไปชั่วขณะ
“ลองเรียกอีกครั้งซิ แล้วจะรู้ว่าผมไม่ได้น่ารัก”
หลังคำพูดแข็งๆ ของผม ทุกอย่าง...........
........เงียบ.........
“เฮ้ย!! ก็มึงน่ารั....”
‘พลั่วะ!!!’
“ว้ายยย!! / กริ๊ดดดด!!”
เอ๊ะ!!! เชี่ย!!! กูทำอะไรลงไปวะ ผม...ผมไม่ใช่คนใจร้อนนะครับ ถึงตอนนี้แล้วผมพึ่งสังเกตว่าไอ้คนที่มาถามผมนั้น ล้มลงไปกองกับพื้นแล้ว ส่วนคนอื่นก็ยิ่งให้ความสนใจผมมากขึ้นกว่าเดิม ส่วนพี่ผู้หญิงคนนั้น...ก็คงจะอึ้งจนหายอึ้งไปแล้ว ตอนนี้พี่เขาคงจะตกใจมากกว่า
“ผมขอโทษคร๊าบบบบบ” ผมพูดพร้อมกับก้มขอโทษ ก็ว่าจะไปช่วยไอ้คนที่ล้มอยู่แต่ก็มีพี่ผู้ชายที่ไม่รู้มาจากไหนรีบเข้ามาช่วย
“เฮ้ย!!! เกิดไรขึ้นวะ”
เสียงส่งมาไม่เบาเลยครับ ก่อนที่ตัวจะตามมาและ...!!!....ไม่ได้มาคนเดียวครับ มาเป็นสิบ!!!
....อ่า....กูเผลอทำเรื่องร้ายแรงไปซะแล้ว......
กว่าเรื่องจะสงบได้ อ่ะนะ....ที่จริงก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ เพราะผมก็ยอมรับผิดและขอโทษทั้งพี่ผู้หญิงและผู้ชายคนนั้น ที่ผมเผลอไปต่อยมันเข้า และก็มีการถามที่มาที่ไปอีกเล็กน้อย จึงกลายเป็นว่าอย่าพูดคำว่า ‘น่ารัก’ ให้ผมได้ยินจะดีกว่า เพราะร่างกายผมมันจะไปเอง เคลียร์กันไม่ยากครับแค่มีรุ่นพี่ที่เคยเรียนที่เดียวกับผมมาช่วยยืนยันให้อีกคน ผมพึ่งรู้ว่าพี่แกเคยเรียนที่เดียวกันและเป็นเพื่อนกับพี่เกรย์ด้วย เลยนัดเลี้ยงขอบคุณแกวันหลัง
แต่ว่า.......แงงงงงงงงงงง ตอนทำกิจกรรมนี่สิ ทำไมเล็งมาที่กูจังวะ.....จนมีอยู่ฐานหนึ่งที่ต้องให้คนที่เราจับคู่ได้นั้น แต่งหน้าให้เรา หึหึหึ ผมก็ไปได้คู่กับไอ้แพทและมันก็บอกว่า....
“กูชอบมึงว่ะ” ไอ้เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ในขณะที่ผมเตรียมจะก้างคอมันด้วยความโมโห กับผู้ชายกูไม่ได้รังเกียจก็เถอะ แต่มึงรู้มั้ยยยยยยยยย ว่าวันนี้กูเพิ่งเจออะไรมา
“เฮ้ยๆๆๆ!! ไม่ใช่อย่างนั้น ห่า...กูยังไม่อยากคอหักหรอกนะ”
“แล้วมึงหมายความว่าไง” เออ พอมันพูดกูมาผมก็เลยกูกลับไปบ้าง
“5555 ก็ท่าต่อยมึงสวยดี กูเลยชอบ หึหึหึ” เออ ก็แค่นี้...พูดไรก็ไม่ยอมพูดให้เคลียร์
“เออ หึหึหึ มึงเห็น?” ผมยิ้ม ก่อนจะถามกลับบ้าง ก็นะ...ผมมันคนมีวิชา
“โหหหห เด่นขนาดนั้นใครจะไม่เห็น ว่าแต่...เอิ่ม...คำนั้น มันมีผลขนาดนั้นเลยหรอวะ” พอมันถามผมก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ผมก็ตอบ
“กูก็ไม่รู้ว่ะ มันฝังใจมาแต่เด็กแล้ว ร่างกายมันเลยไปเอง” ผมบอก ก่อนจะทำหน้าเซ็งเล็กน้อย
“อืม” ห่า...อืมแล้วก็ยิ้ม
“หรือมึงจะลอง” ผมยิ้มบอก พร้อมเลิกคิ้วข้างนึงขึ้น
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...กูขอบายว่ะ บอกแล้วไม่อยากคอหัก มึงต่อยเหมือนเตะเลยว่ะ” ไอ้แพทมันพูด พร้อมทำหน้าสยองประกอบด้วย ก็นะ...เลยเป็นเพื่อนกันแต่นั้น และเราสองคนก็ตัวติดกันแทบจะทุกฐาน และก็ได้มันนี่แหละช่วยลดความซวยให้ผม 555 หรือแบ่งเบาความซวยวะ หึหึ
ส่วนไอ้ภูมิ ก็เพื่อนไอ้แพทนี่แหละ มันก็มาคุยกับผมสไตล์ไม่ต่างจากไอ้แพทเลย แต่ผมรู้จักกับไอ้ภูมิผ่านไอ้แพทอีกที และต่อให้ผมไม่รู้จัก มันก็บอกว่า...
“กูก็ว่าจะไปทักมึงเหมือนกัน กูชอบ” อ่ะนะ พวกชอบของอันตราย
ก็นะ...เพื่อนผมก็เลยมีแค่นี้แหละ เพื่อนสนิทน่ะนะ ส่วนคนอื่นๆก็เป็นเพื่อนกันได้นะ แต่ไม่สนิทเท่านั้น ก็แค่คุยกันได้ แต่การได้คบกับสองหล่อก็คุ้มมาก เพราะมันสองคนเป็นไม้กันหมาที่ดีมาก กันแบบไหนหรอครับ?? ก็.....มันสองคนบอกว่า
“พวกกูต้องกันไม่ให้มึงไปกัดชาวบ้านเขา ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”
และมันก็ถูกครับ เพราะหลังจากนั้นก็ใช่ว่าจะไม่มีใครไม่อยากลองของนะครับ แต่ได้สองหล่อผมจึงยังสามารถเป็นนักศึกษามาจนถึงปัจจุบันนี้ไง
อืม.....ผมเล่าจบแล้ว ตั้งแต่ที่เริ่มเล่ามาจนจบเนี่ย คุณฟรานเป็นผู้ฟังที่ดีมากเลยล่ะ และเขาก็ฟังด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ตลอดเวลา ผมเขินนะ แต่ก็เล่าจนจบ
“หึ เป็นเพื่อนที่ดีเหมือนกันนะ” คุณฟรานพูดชมสองหล่อ
“ฮะฮะฮะ ก็นะ คนที่จะมาเป็นเพื่อนผม ผมก็ต้องคัดบ้างล่ะ” ผมพูดอย่างอวดๆ 555
“.........” เงียบไมอ่ะ ผมก็แค่ทำหน้าภูมิใจที่ได้เพื่อนดีๆ มาสองคนเท่านั้นเอง
“...น่ารัก” เอ๊ะ!!!!
....แปร๊ดดดดดดดด....อะ..อะไรเนี่ย!!!
อารมณ์ไหนก็ไม่รู้ของเขา แต่ผมก็หน้าแดงขึ้นมาซะงั้น ก็ผมบอกแล้วไง มีแต่คุณฟรานเท่านั้นที่พอพูดว่าผม ‘น่ารัก’ แล้วผม...เขิน...น่ะ ไอ้ปฎิกิริยาต่างๆ ทางร่างกายนั้น พอเวลาที่มีคนจะพูดเขาก็มักจะหันมามองหน้าผมแบบหวาดๆ พอเจอแบบนี้นานเข้า ร่างกายมันก็ควบคุมได้ไปเอง เหมือนมันจะบอกว่าถ้าผมยังขาดสติแบบนั้นบ่อยๆ เดี๋ยวมันจะไม่มีใครคบผมซะงั้น ผมจึงตั้งสติได้ดีกว่าสมัยมัธยมได้มากเลยล่ะ
...ตะ...แต่ว่า....มันไม่ใช่กับเสียงนี้ และ...
...แววตาที่หวานซะจน มดจะกัดผมหรือเปล่าเนี่ย....
....ผมเขินนะครับ.....
“หึหึหึ หน้าแดงใหญ่เลยนะ” ยัง!! ยังอีกนะ เห็นผมเขินเป็นไม่ได้
คุณฟรานพูด จากนั้นเขาก็รั้งตัวของผมไปนั่งบนตักของเขา แผนหลังของผมซ้อนไปกับหน้าอกของเขา ผม.....จะขัดขืนทำไมล่ะครับ ผมออกจะชอบ 555 (แม้จะอายมากๆ อยู่ก็ตาม)
คุณฟรานสวมกอดผมเอาไว้หลวมๆ แล้วก็.....
“เพราะเป็นเพื่อนที่ดี ฉันจึงอยากให้มางานวันเกิดของฉันด้วย ไม่อยากให้มาในฐานะนักธุรกิจ แต่อยากให้มาในฐานะ.......”
...เงียบ.......
...อย่านะ ผมกำลังอยากรู้มากๆ อ่ะ....
ผมหันหลังกลับไปเผชิญหน้ากับคนพูด เราสบตากัน คุณฟรานยิ้มอ่อนโยนตามแบบฉบับเดิมของเขา และก่อนที่เขาจะทันพูดอะไร ผมก็..........
“...อื้มมมม....”
ครับ...จูบปิดปากซะเลย ก็นะ...สายตาแบบนี้ สายตาที่อยู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นหวานซึ้งมากมายแบบนี้ ผมก็คงไม่ปล่อยให้ผู้ชายคนนี้ต้องพูดอะไรที่ทำให้ผมได้อายแล้วหรอกครับ
ผมจูบไม่เก่ง แต่ก็ใช่ว่าจะจูบไม่เป็น แต่ผมก็ทำเพียงขบริมฝีปากนั่น ริมฝีปากที่ชอบพูดคำที่ทำเอาผมอายจนม้วนครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะดูดมันเบาๆ เพื่อเลี้ยงน้ำย่อย และถอนปากออก....
....ผมสบตากับคุณฟรานตรงๆ ก่อนจะอมยิ้มและยักคิ้วข้างหนึ่งขึ้นมาส่งซิบประมาณว่า......
‘เป็นไง พูดไม่ออกเลยดิ’ แล้วผมก็ยิ้มน้อยๆ แต่คนหล่อเขานี่สิ...
“ยั่วกันหรอ หื้ม?” อ่ะนะ คงจะอยากให้ยั่วจริง หึหึหึ
ผมเปลี่ยนท่านั่งทันที โดยนั่งหันหน้าหันตัวเข้าไปหาคุณฟรานทันที จากนั้น......
‘จู๊บ จู๊บ จู๊บ จู๊บ จู๊บ จู๊บ’
เร็วๆ รัวๆ หลายๆครั้งที่ริมฝีปากนั่น และครั้งนี้..........
.......เฮ้ย!!!!!!!!...........
...ดะ...ได้ผลว่ะ....ได้ผลเกินคาด.......
ค...คุณฟราน คุณฟรานกำลังหน้าแดง เขาหน้าแดง........
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก......
....สำเร็จ สำเร็จ สำเร็จแล้วววววววววววว.....
....คุณฟรานแสดงความอายออกมาแล้ววววววววววว.....
และในระหว่างที่เขากำลังอึ้งๆ อยู่นี้ผมก็.......
“..น่ารัก”
........แปร๊ดดดดดดดดดดด.....เฮ้ย!!!!!!!!!!!!.....
....หน้าคุณฟรานแดงมากกว่าเดิมอีกอ่ะ แต่แล้ว.....
“เอ๊ะ!! อืมมมมม” ผมโดนทำโทษเสียแล้ว
แต่...เป็นการถูกทำโทษที่ผมเต็มใจที่สุด ผมมีความสุขที่สุด.....
....ขอบคุณครับ ขอบคุณที่รักผม ขอบคุณที่รักผมมากมายขนาดนี้....
....ผมก็รักคุณฟราน และคิดว่า....
...ความรักของผมก็ไม่น้อยไปกว่าของคุณฟรานเช่นกันครับ.....The end
ทักทายทักทายยยยยยยยยย
จบลงแล้ววววววววววว
จบแล้วจริงๆ และคิดว่าให้จบลงเพียงเท่านี้................ซะเมื่อไหร่ อิอิอิ
ตอนหน้าเป็นตอนสุดท้ายนะ เป็นตอนพิเศษแถม กร๊ากกกกกกกกก
ส่วนใครที่ยังอยากอ่านต่อก็พบกันในเล่มนะคับบบบบบบบ
ในนั้นจะเป็นตอนพิเศษที่คุณฟรานเป็นคนบรรยาย
ก็จะเล่าถึงความรู้สึกของคุณฟรานตั้งแต่พบกรีนจนจบเลย แบบสั้นๆได้ใจความ 5555555
และอาจมีเสริมเรื่องงานวันเกิดอีกเล็กน้อยเพื่อให้กำไรคนเสียสตางค์ (ไม่บอกว่ากี่ตอนแต่รับรองไม่ผิดหวัง หึหึ)
ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่ติดตามจนมาถึงตอนจบนี้
ขอบคุณที่แม้ช่วงหนึ่งเราจะหายไป แต่พอกลับมาคนอ่านก็ยังตามอ่านและต้อนรับกันอยู่
ขอบอกว่าคนอ่านโดยเฉพาะคนโพสต์นั้น เป็นกำลังใจและแรงขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่มากๆ สำหรับนักเขียน
หากใครที่แต่งนิยายอยู่ก็จะเข้าใจ
สุดท้ายนี้ก็.....ฝากเรื่อง ^____^ รักนะหนุ่มนักเปียโน ^____^ อีกเรื่องด้วยนะ
รับรองว่ายิ่งอ่านยิ่งสนุกแน่นอน อ่านแล้วอย่าลืมเม้นต์ด้วยนะ
จู๊บๆๆๆๆๆ
ปอลอและปอลอ (สำคัญมากมั่ง)
ใครที่อยากให้มีต่อภาคสอง อ่านตอนหน้าแล้วจะรู้.....ไปล่ะ จู๊บบบบบบบบบบ