ขอบคุณพี่ VAN กับพี่ jing_sug นะคะ ที่ช่วยแก้คำผิดให้
ขอให้ร่ำรวยเหมือนน้ำใจที่หลั่งไหลให้เช่นกันค่ะพี่
คืนวันที่ 31 ไปสวดมนต์ข้ามปีมาเอาบุญมาฝากทุกคน ขอให้มีความสุขนะคะ
ใครปีชงบ้าง มะเส็ง กุล ขาล วอกยังไงให้ไปแก้ชงฝากดวงกับเทพ ไท่ส่วยเอี้ย จร้า!!!
ดวงราศี ธนูดีมากที่สุด รองมา มังกร กุมภ์ มีน เมษ พฤกษก พิจิก
ปานกลาง เมถุน กรกฎ กันย์ สิงห์
ดวงซวยในปีนี้คือ ราศี ตุลย์ จร้า ใครเกิดราศีนี้หมั่นทำบุญถวายสังฆทานนะเอ่อ
ไปฟังมาอีกที เชื่อไม่เชื่อแล้วแต่ดุลยพินิจ
สีโฉลกปี 2013 เขียว ฟ้า ชมพู แดง จร้า
ขอให้มีความสุขเตรียมรับตรุษจีนวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2556
ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ กันต่อไป
PS.ตอนหน้า 41 เป็น Part ของ Joke นะคะMy love
Part 40 “ว้าว!..น่ารักจัง เลี้ยงนานยังเนี่ยะ” พี่ใบเตยทัก หลังบอลลูนหิ้วกรงลูกชายเข้าสตูดิโอด้วย แวะพาบรีสกับบ็อบไปหาหมอฉีดวัคซีนก่อนเข้าบริษัทฯ เพื่อฝึกแอ็คติ้ง
ช่วงนี้โรงเรียนให้หยุดอ่านหนังสือสอบปลายภาค น้องถอยรถสปอร์ตคันหรูเรียบร้อย
สามารถพกพาลูกชายแสนรักไปได้ทุกที ไม่ต้องกังวลเรื่องความไม่สะดวก
“เดือนกว่านี่เองครับ อายุ 8 เดือนแล้ว เป็นพันธุ์ขนาดเล็กครับพี่” บอลลูนหันไปตอบพี่ใบเตยยิ้มกว้างอาบหน้าหล่อ
น้องดูมีความสุขเสมอพอมีใครทักลูกชายเป็นได้ร่าเริงอย่างที่เห็น
“มีชื่อหรือเปล่า” พี่เขาเข้ามาดูใกล้ๆ
“ตาสีดำชื่อบรีส ส่วนสีแดงชื่อบ็อบ” คุยเรื่องลูกชายไม่มีคำว่าเบื่อ
“เหรอ..ตัวผู้ตัวเมียล่ะ” ผมนั่งฟังเงียบๆ รอช่างไฟจัดอุปกรณ์ให้พี่ณรงค์ตากล้องมือโปรอยู่ โจ๊กกับกนกยังมาไม่ถึง
“ตัวผู้ทั้งคู่” น้องตอบหน้าหล่อระบายยิ้มละไม
“อ้าว!..นึกว่าเลี้ยงเป็นคู่เสียอีก” พี่ใบเตยทำหน้าผิดหวังนิดหน่อย ใครเห็นมักเข้าใจแพ็กคู่ เดาเป็นตัวผู้ตัวเมียตลอด
“ถึงตัวผู้ แต่มันเป็นแฟนกันนะ” บอลลูนตอบไม่มีกั๊ก ทำเอาผมแอบหน้าร้อน น้องไม่ยักเขินเลยเหะ พูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ
“ต๊าย!!!..จริงเหรอคะ เป็นแฟนกันอิท่าไหนจ๊ะน้องบอล” พี่เขาเอามือทาบอก ทำทีตกใจแต่แววตาวิบวับถูกใจเฉยเลย
“กระต่ายไม่เลือกเพศหรอกพี่ แค่มันได้จ้องกันไปมาก็รักกันแล้ว” ฟังน้องอธิบายพี่ใบเตยเผลอยิ้มตาม
คนพูดไม่รู้ตัวหรอกผมแอบมองอยู่ จดจ่อกับการเล่าให้พี่ใบเตยฟังเป็นเรื่องเป็นราว
“มากันแล้ว น้องบูตัส..น้องบอล” พี่นุชกับพี่อนงค์ ตีคู่กันเข้ามาตามหลังพี่สไวคนสอนโพสท่า กับพี่พลัสพี่เลี้ยงฟิตเนส
“หวัดดีครับ/หวัดดีครับ..เพิ่งมาถึงสักครู่ครับ” สองคนบอลลูนหันไปยกมือไหว้ทักทาย เป็นผมชิงบอกกลับไป
“เหรอจ๊ะ..ว้าว!น่ารักจัง ของบูตัสเหรอ” พี่สไวตาโตทำปากจู๋ก่อนร่วมผสมโรงจับจ้องบรีสกับบ็อบ
ที่มองตอบสายตาห้าคู่ พากันรุมพวกมันอย่างมึนๆงงๆ..คงแปลกใจพวกนี่ใครหว่า?
“ลูกชายผมครับ” น้องชิงแทรกขึ้นบ้าง
“โถ!น้องบอล ไม่คิดว่าจะเลี้ยงกระต่ายเป็นลูก” พี่อนงค์ยิ้มแก้มปริ มองน้องอย่างเอ็นดู
“ผมชอบตั้งแต่เด็กแล้วพี่” บอลลูนยิ้มกว้างอย่างเท่ ภูมิใจในลูกชายตัวขาวขนปุยที่ทำให้ทุกคนสนใจขณะนี้
“แล้วบูตัสเลี้ยงอะไร” พี่พลัสเป็นคนถาม
“นี่แหละครับ ลูกเราสองคน” บอลลูนตัดหน้าบอกแทนเสียก่อน ผมได้แต่เกาหัวยิ้มแหยให้พี่เขาไป
“ต๊าย! ไม่เห็นนี่ไม่เชื่อนะ น่ารักจังเลี้ยงกระต่ายเป็นลูกกันแบบนี้” พี่นุชแซวบ้าง สายตาแต่ละคนมองพวกผมล้อๆ เขินอ่ะ...
“ตัวตาสีดำลูกผม ตาสีแดงลูกบูเค้าครับ” น้องรีบแจงใหญ่
“ทำไมถึงแยกเป็นลูกคนนั้นคนนี้จ๊ะ” พี่อนงค์ถาม หลังทุกคนจ้องสนใจซักกันใหญ่แล้ว
“ตาสีดำพี่ว่าหน้าเหมือนบูไหม” บอลลูนถามความเห็นเฉยเลยเดาว่าหน้าผมคงแดงเถือกไปแล้วเรียบร้อย อร๊าย!!!...
“ดูมีส่วนคล้ายนะ ตากลมบ็อกแบบนี้บูตัสเลย” พี่ใบเตยสนับสนุนความคิดน้อง ก่อนคนอื่นๆจะพยักหน้าเห็นด้วยเป็นแถว
“ผมรับเป็นลูก ตาสีแดงยกให้เป็นลูกบู” ยืดอกนำเสนอเข้าไปใหญ่
“อ๋อ..แล้วอุ้มได้ไหมคะ” พี่นุชคงอยากอุ้มจริงๆ
“ปกติก็ได้ครับ วันนี้ผมเพิ่งพาไปฉีดวัคซีนมา ไม่อยากให้ใครอุ้มรอหายซึมยาหมอก่อนนะครับ
คราวหน้าผมพามาให้อุ้มดีกว่า” ห่วงลูกมาก หมอบอกหลังรับวัคซีนอย่าให้ใครเล่น กลัวลูกชายเฉามือ เลยปกป้องทันที
“จร้า! รับปากแล้วอย่าลืมพามานะ” การสนทนาจบลงหลังพี่วิชญ์เดินเข้ามา พร้อมโจ๊กกับกนกตีคู่มาด้วย
“พร้อมใช่ไหม เริ่มเลยเถอะ วันนี้พี่ขอดูบอดี้ที่ฟิตกันมาเป็นเดือน พัฒนาถึงไหนแล้ว รบกวนบอลกับโจ๊ก
ช่วยถอดเสื้อโชว์หน่อยนะ ลองให้พี่ณรงค์ถ่ายดูหน่อย” พี่วิชญ์สั่งงานทันที หลังทุกอย่างลงตัวพร้อมแล้ว
“ลองกางเกงยีนส์ดีไหมพี่ มีไซส์น้องสองคนพอดี” พี่ใบเตยแทรกบอกพี่วิชญ์
“ดีเหมือนกัน ลองเลย..เตย” พี่วิชญ์เห็นด้วย สรุปบอลลูนกับโจ๊กเข้าไปเปลี่ยนกางเกงยีนส์ เปลือยช่วงบน
ไม่ถึงห้านาทีทั้งคู่ก็เดินออกมา
“สุดยอด..โว้วว!!..เยี่ยมเป๊ะมาก” พี่สไวกับพี่พลัสพากันยกนิ้วโป้ง ส่วนพี่วิชญ์ยิ้มใหญ่ หลังบอลลูนเดินตีคู่โจ๊ก
บอลลูนผิวขาวละเอียด ช่วงอกนูนเป็นกล้ามสวยงาม กล้ามแขนแน่นตึงกำลังได้รูป เอวสอบซิกแพคเรียงตัวสวย
ไรขนตรงสะดือดูเซ็กซี่
โจ๊กผิวแทนกล้ามเนื้อแน่นตึง ใหญ่กว่าบอลลูนไม่มากสวยงามไม่ด้อยกันสักนิด ผลจากกินอาหารเสริม
และเข้าคอร์สฟิตเนสตามตารางของพี่พลัสที่ผ่านมา ผมเพิ่งเห็นเต็มตาหลังน้องไม่ถอดเสื้อโชว์นานเป็นเดือน
“อืมผ่าน เตยเอาเสื้อผ้าชีฟองให้บูตัสลองด้วย” ผมต้องลุกตามพี่ใบเตยไปเปลี่ยนบ้าง ปล่อยสองหนุ่มโพสท่า
ให้พี่ณรงค์เก็บภาพไปพลางๆ งานนี้ไม่มีแต่งหน้าเซทผม แค่แอ็คติ้งดูเฉยๆ ฝึกไม่ให้ตื่นกล้อง หามุมเด่นมุมอับ
สามารถเล่นกล้องเป็นธรรมชาติ พักหลังผมทำได้ดีกว่าเก่า
“แน่ใจให้ใส่ตัวนี่” ย้ำพี่ใบเตยอีกครั้ง หลังยื่นเสื้อสีขาวเนื้อบางเบาเหมือนไม่ใส่อะไรมาให้ เป็นผ้าที่บางมาก
ไม่ได้ติดใจเรื่องบางหรอก เพียงแต่สงสัยใส่หรือไม่ใส่ต่างกันตรงไหน
“ตัวนี่แหละ ที่พี่วิชญ์บอก” พี่ใบเตยยืนยัน ผมเลยต้องถอดเปลี่ยน ไม่มีกระดุมสักเม็ด
ใช้วิธีผูกชายทำให้สาบเสื้อเปลือยโชว์..นี่มันอะไรกัน?
“โอ้!แม่เจ้า บูตัสขาอยู่บนร่างน้อง ช่างเคะโนเนะจริงๆ” พี่ใบเตยประสานมือกุมหน้าอก
ทำตาปริบๆเพ้อฝัน ทำเอาอดขำท่าทางพี่เขาไม่ได้
“อิอิ..ตลกอ่ะพี่ใบเตย เคะโนเนะคืออะไร” คงเป็นศัพท์ที่ใช้ในวงการถ่ายภาพ ไม่รู้หมายถึงอะไร
“ง่ะ!..บูตัสไม่รู้เหรอเคะโนเนะคืออะไร” พี่เขาทำหน้าอึ้งๆ
“ไม่รู้ครับ” ส่ายหัวประกอบด้วย
“เหรอ..แปลว่าน่ารักเว่อร์ๆ” ฟังคำตอบแล้วเหมือนบอกปัดๆ ใช่ความหมายนี่แน่เหรอ
ช่างเถอะเมื่อพูดแบบนี้คงแบบนี้แหละ
“ใส่กางเกงสีขาวให้เข้าเซทด้วยจ๊ะ” พี่เขายื่นกางเกงขาสั้นผ้ามันเงาสีขาวให้อีกตัว
ผมต้องถอดกางเกงยีนส์ขายาวออกเปลี่ยนเป็นตัวนี้แทน
“ง่ะ..ขาสั้นมากพี่ สั้นกว่ากางเกงนักเรียนผมอีก” ประมาณขาอ่อนนี่โผล่หมด
เป็นกางเกงเอวต่ำอีกต่างหาก โชว์สะดือหน้าท้องแบนเป็นขี้ก้าง
“อุ๊!จุ๊ๆ!..สุดยอดแห่งเดวิดยุคสองพัน” นอกจากไม่ตอบดันปรบมือพูดไปคนละเรื่อง
ก่อนรวบชายเสื้อขึ้นมัดประมาณเอว..อร๊าย!!..ตุ๊ดสุดๆ เปิดเผยตัวตนถ่องแท้ เห็นตัวเองในกระจก ทำไมฉันตุ๊ดขนาดนี้เนี่ยะ
“พี่ใบเตย แน่ใจให้ผมใส่ชุดนี้” หน้าแดงแปร๊ดแล้ว ไม่เคยแต่งแบบนี้เลยสักครั้ง แต๋วจ๋ามาแต่ไกลโพ้นกันเลยอ่า
“นี่แหละสไตล์บูตัส บอนทูบีน่ารักน่าทะนุถนอม ที่ไม่ใช่ผู้หญิง” เหอๆ..เจอคอนเซ็ปแบบนี้คงตามน้ำ
กลับออกมาด้วยสภาพความมั่นใจผมหายไปครึ่งค่อน โผล่หัวปุ๊บเริ่มเห็นบรรยากาศแปลกประหลาดทันควัน
แต่ละคนนั่งพักเหนื่อยหันมองเป็นจุดเดียว ไม่มีเสียงพูดนอกจากสายตาที่ไม่รู้คิดอะไร แม้แต่โจ๊ก กนก
โดยเฉพาะบอลลูน มองค้างทำเอาเดินขาเกือบขวิด
“เป็นไงพี่วิชญ์ เป๊ะไหม” พี่ใบเตยทำลายความเงียบถามพี่วิชญ์ขึ้น
“สุดยอด..บูตัสเข้าไปถ่ายเดี่ยวเลย” แล้วผมก็ถูกจับเป็นตุ๊กตา ให้นั่งท่านั้นท่านี้ ยืนบ้างนอนคว่ำบ้าง
มีอุปกรณ์ให้เล่นเป็นตุ๊กตาหมีตัวโต
เปลี่ยนท่านั่งอ่านหนังสือบ้าง นอนเล่นบ้าบอบ้าง โดยการกำกับท่าทางของพี่สไว ทำปากจู๋ย่นจมูก
ตาโตอ้าปากตกใจ มีกระทั่งหาวนอน ไม่มีแค่ร้องไห้อย่างเดียว ปิดท้ายให้ผมเอาหน้ามุดท้องน้องหมียักษ์ แกล้งหลับไปเฉยๆ
“โอ้วว!!..น่ารักบรรลัยพับผ่า” เสียงพี่ณรงค์ พูดหลังเก็บช็อตสุดท้าย
ท่านั่งเอาหน้าด้านข้างแนบพุงน้องหมี มือซุกหว่างขาคู้เข่าหลับ
“สองหนุ่มเข้าถ่ายร่วมเลย” เปลี่ยนเป็นถ่ายสามคน บอลลูนกับโจ๊กเป็นฝ่ายแสดงการเอาใจผม
ในอิริยาบถต่างๆ เหมือนเอาใจน้องขี้งอแง
สีหน้าอาการแล้วแต่พี่สไวบอกบท มีให้ผมพองแก้มป่องทำปากยื่นเหมือนงอน แบ๊วไปเรื่อยเปื่อย
โดยโจ๊กกับบอลลูนหัวเราะอย่างหล่อ
แกล้งทำสายตาล้อเลียนเวลาผมทำท่าปัญญาอ่อนใส่ ตกลงมีแต่ผมสินะที่แสดงอาการแบบนี้คนเดียว
ขณะที่สองหนุ่มคอยประกบมีแต่หล่อเท่ไม่มีใครยอมใคร ให้มันได้แบบนี้สิน่า...
“พอแค่นี้ครับ เปลี่ยนชุดแล้วกลับได้ อาทิตย์หน้าไม่เข้ามาใช่ไหม สอบเสร็จลุยต่อนะ”
พี่วิชญ์สั่งเลิกกอง หลังเราแคสร่วมสองชั่วโมง อาทิตย์หน้าพวกผมติดสอบเลยขอหยุด
“สอบเสร็จพวกผมเข้าปกติ ไปหยุดอีกทีอาทิตย์ต้นเดือน มีสอบแอดฯครับพี่วิชญ์” โจ๊กมันบอกตาราง
“อืม..พอดีปลายเดือนเราเดินทางไปถ่ายทำ” พี่วิชญ์สรุปเสร็จ เป็นอันแยกย้ายเปลี่ยนชุด
แอบเห็นบอลลูนกับโจ๊กเข้าไปให้พี่ณรงค์เซฟรูปที่ถ่ายใส่เมมโมรี่การ์ดโทรศัพท์เสร็จสรรพ
ผมไม่ยุ่งด้วย รีบเปลี่ยนชุดก่อนใคร กลับออกมาสองหนุ่มก็เข้าไปเปลี่ยนต่อ
จากนั้นเราแยกย้ายกันกลับ นัดติวหนังสือก่อนสอบครั้งสุดท้าย โดยทุกคนมารวมตัวบ้านผม
บอลลูนไปติวกับพวกน้องหนุ่ยที่บ้านน้องเอก
ต่อด้านล่าง