My Love
Part 9 100% “ไหวไหมมึง” โจ๊กทัก หลังผมวางกระเป๋าลงบนโต๊ะ ผมไม่ตอบแค่พยักหน้าให้ แล้วถามมันกลับ
“แบมกับกนกล่ะ..”
“ไอ้หนกถูกอีแบมลากไปซื้ออะไรไม่รู้ สิงอยู่สหกรณ์แล้วมั้ง” โจ๊กบอกพร้อมกับใช้สายตาสำรวจผมอย่างพิจารณา
“มองกูไม” ผมถาม
“เมื่อคืนมึงได้นอนหรือเปล่า” ผมพยักหน้า กลัวพูดเดี๋ยวมันจับพิรุธ กว่าจะหลับลงเกือบสว่าง
“นอนห่าไรเบ้าตาคล้ำ หน้ามึงดูแย่กว่าเมื่อวานอีก ไข้กลับหรือไง” มันไม่พูดเปล่า มีเอาหลังมือมาแตะหน้าผากผมด้วย
“ตัวไม่ร้อน ทำไมมึงดูไม่สดชื่นเลยฮึ” สงสัยไม่เลิก
“กูเพิ่งฟื้นไข้ ต้องให้เต้นกังนัมสไตล์พิสูจน์หรือไง มึงถึงจะเชื่อ” ผมตัดรำคาญ เข้าใจมันห่วง แต่ไม่ยากให้เซ้าซี้ รู้สึกระแวงยังไงไม่รู้
“อ่ะอีนี่..ประชดกูเหรออีห่า เดินให้มันหายจากท่าซอมบี้ก่อนค่อยปากดี ท่าเดินมึงยังกับโดนปี้ตูด ไม่ติดมึงยังไม่มีแฟนกูพานคิดว่าโดนผัวเอามาแล้วนะมึง” แอบสะดุ้งการคาดเดาของมัน ผมเลือกหุบปากนิ่ง ขืนต่อปากต่อคำด้วย ผมนี่แหละจะตายเอง
อย่างโจ๊กต้องเจอกนกหรือไม่ก็แบม รายหลังมันไม่คิดจะเถียงด้วยเลย กลุ่มเรารู้ดีไม่มีใครฝีปากคมเท่านางพญาหงส์หน้าสวยอีกแล้ว ลองพูดขึ้นมาเมื่อไหร่...แสบเข้าม้ามยันตับ
“มึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยสิ” ผมชวน..แถเปลี่ยนเรื่อง
“ไปไหน ยี่สิบนาทีเข้าแถวแล้วมึง” ได้ผลมันเบนความสนใจตาม
“ไปเจอพี่หนวด มึงบอกกูเองเขาให้กูไปหา” เวลายังมีพอ
“นานไม่ได้นะอีนี่” ผมพยักหน้า เราเลยพากันไปฝ่ายปกครอง
“ขออนุญาตครับ” ยืนรอหน้าประตู เห็นอาจารย์ในห้องกำลังง่วนอยู่กับการทำโทษเด็กผิดระเบียบ วุ่นวายแบบนี้ทุกเช้า
“เข้ามาก่อนภาณุวัฒน์..นัทดนัย” พี่หนวดเรียกทันทีที่เห็นพวกผม
“อาจารย์เรียกพบหรือครับ” บอกจุดประสงค์ที่มา แอบชำเลืองรุ่นน้องม.5 สองคนที่ยืนอยู่ก่อน ผิวสองสีตัวหนาพอดู ความสูงพอกันกับผม
“รู้จักรุ่นน้องที่จะขึ้นชกด้วยสิ คนนี้นายศิรายุ นั่นอนุพล นี่รุ่นพี่เธอมวยคู่เอก” พี่หนวดแนะนำ
“ดีบูตัส งานนี้เวทีล้นแน่ครับอาจารย์” ทั้งคู่หันมาทักผมยิ้มๆก่อนหันไปคุยกับพี่หนวด ผมเลิกคิ้วแปลกใจ ไม่คุ้นหน้าดันเรียกผมอย่างสนิท ช่างเถอะมันไม่เรียกพี่ไม่เป็นไร
“ดูทำหน้า..ไม่มีใครไม่รู้จักบูตัสหรอก” เหมือนมันอ่านความคิดผมออก เลยได้แต่ยิ้มรับ ก่อนผมสร้างวีรกรรมอันธพาลครองเมือง มักขึ้นรับรางวัลนักเรียนดีเด่นหน้าเสาธง พวกมันคงจำกันได้
“อาจารย์ต้องการพบผมทำไมครับ” ผมถามพี่หนวดต่อ
“ครูจะนัดซ้อมอุปกรณ์ส่งมาหมดแล้ว เริ่มพุธนี้เลยนะ เลิกเรียนเจอที่โรงยิมฯ” พี่หนวดแกบอกสั้นๆ งั้นก็วันมะรืนแล้วสิ
“ผมต้องเตรียมอะไรมาบ้าง” อุปกรณ์ส่วนตัวผมมี แต่คงใช้ไม่ได้แล้วล่ะ ตั้งแต่สมัยประถม โตมาไม่ได้ใช้อีกเลย หมัดเปลือยล้วนๆ
“ครูเตรียมไว้ให้แล้ว” โล่งอกไม่ต้องเปลืองตังค์
“ครับ..ผมขอตัว..” พูดไม่ทันจบ เสียงใครขัดขึ้นเสียก่อน
“ขออนุญาตครับ” คุ้นหูจนชะงัก ผมกับโจ๊กหันมองตากัน บอลลูนกับพวกเพื่อนครบทีม ยืนหน้าสลอนตรงประตู
“เข้ามาภาณุพงษ์” พี่หนวดเรียกน้อง พากันส่งยิ้มให้ผมหมดยกเว้นบอลลูนหน้านิ่งตามเคย
“หวัดดีครับพี่บูพี่โจ๊ก..ดีครับพี่..ดีครับ” น้องๆพากันยกมือไหว้ผมสองคน น้องเอก น้องหนุ่ย น้องวิทย์ หน้าตาดียกทีม พวกผมยิ้มรับ
“ห้องซ้อมครูทำเรื่องให้แล้วนะ เริ่มเย็นนี้ได้เลย ขาดเหลือมาบอกเดี๋ยวครูจัดการให้” ผมสงสัย..บอลลูนกับเพื่อนซ้อมอะไรกัน ไม่กล้าถาม กลัวหาว่าเสือก พานว่าผมวุ่นวายเขาอีก
“ขอบคุณครับ” น้องๆพากันยกมือไหว้พี่หนวดอย่างพร้อมเพรียง
“รุ่นน้องกลุ่มนี้ ครูให้สร้างความบันเทิงก่อนมวยจะชก” พี่หนวดหันมาชี้แจงให้ผมฟัง
“ครับ..” ขานรับแบบงงๆ
“บันเทิงอะไรหรือครับอาจารย์” โจ๊กมันถาม ผมกำลังอยากรู้
“ดนตรีสด กลุ่มนี้เขามีฝีมือ ไปใช้ห้องซ้อมข้างบ้านครูเป็นประจำ ถึงเวลาเลยเรียกมาใช้งานเสียหน่อย” พี่หนวดอธิบาย แววตามั่นใจมาก
“จริงหรือครับ พวกน้องจะโชว์วงเปิดงาน” โจ๊กมีออกอาการ แต่ยังสำรวมไม่โอเวอร์แอ็คติ้งมากเท่าไหร่ คงเพราะสถานที่ไม่อำนวย
“งานนี้มีสื่อมวลชนมาด้วย ช่วยรักษาหน้าตาสถาบันกันหน่อย พวกเธอคงไม่ทำให้ครูผิดหวังกันใช่ไหม” พี่หนวดไม่ตอบ ดันกำชับเฉยเลย พี่แกเป็นแม่งานใหญ่ คงต้องการโชว์ผลงานอย่างเต็มที่
“แล้วคู่ชกละครับ นัดชั่งน้ำหนักวันไหน” ศิรายุเป็นคนถาม
“วันศุกร์นัดรอบแรก ชั่งอีกทีก่อนชกสองวัน” พี่หนวดแกตอบ
“ครับ” พวกผมขานรับ พลอยได้รู้ข้อมูลไปด้วย บอลลูนชำเลืองมองหน้าผมเหมือนมีคำถาม คงสงสัยผมดันไปขานด้วยกับเขาทำไม
“พี่บูมาทำอะไรครับ” น้องเอกถามผม ยังไม่ทันตอบ พี่หนวดแกชิงบอกเสียเอง
“พวกเธอไม่รู้เหรอ นักมวยคู่เอกของครูเชียวนะ” แกยิ้มไปด้วย
“ห๊า!!!...” ต่างประสานเสียงพร้อมเพรียง แม้แต่บอลลูนยังอึ้งค้างจ้องหน้าพี่หนวดเหมือนไม่เชื่อ
“นี่แหละยอดนักชกที่ครูฝากความหวัง” พี่หนวดยังภูมิใจนำเสนอพานทำให้ผมเขินขึ้นมาดื้อๆ อะไรจะเชื่อมือกันปานนั้น
“เด็กอาชีวะนะพี่บู ไหวเหรอพี่” น้องหนุ่ยเข้ามาจับมือผมเขย่าถามอย่างลืมตัว เพิ่งรู้ว่าคู่ชกเป็นเด็กอาชีวะ ผมคนชกยังไม่รู้แต่พวกน้องๆรู้กันทุกคน ตกลงนี่ใครจะชกกันแน่ว่ะ?
“เราชกกับอาชีวะหรือครับอาจารย์” หันไปขอคำยืนยัน
“อ้าว..เธอไม่รู้เหรอ ครูบอกไปแล้วนะ” ผมหันไปมองโจ๊ก มันส่ายหน้าเหมือนไม่แน่ใจ คลับคลายคลับคลาพี่แกเคยบอก แต่ตอนนั้นกำลังมึนที่แกเลือกผมชก เลยตกหล่นรายละเอียดไปบ้าง
“ครับๆ” ขานรับทำเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ ความจริงแก้หน้าไม่อยากให้จับได้ว่าผมโก๊ะ ท่ามกลางสายตากังวลพวกน้องๆ มองมาอย่างห่วงๆ ยกเว้นบอลลูนอ่านไม่ออก เพราะเรียบเฉยเกินคาดเดา
“ขอตัวไปเข้าแถวก่อนครับอาจารย์” ถือโอกาสลาพี่หนวดอีกครั้ง หันไปยิ้มให้น้องๆ แล้วพยักหน้าให้โจ๊ก พากันไปเตรียมเข้าแถว
“พี่ชกมวยน้องโชว์วง เกิดแน่มึงอีบู..บริรักษ์ดังกระจาย กูไม่เข้าใจทำไมพี่หนวดไม่ให้น้องมึงชกสิ้นเรื่อง ข่าวอัดไอ้เขมซะยับฝีมือคงไม่ขี้หรอก งงพี่แกจริงๆ น้องมึงตัวพอๆกู ยังข่มเรื่องความสูงคู่ต่อสู้ได้บ้าง” โจ๊กมันบ่นระหว่างที่เราเดินตรงไปสนาม
“แกคงไม่รู้ว่าน้องกูเป็นมวย กูยังไม่รู้เลยมึงเชื่อไหม ทั้งเรื่องดนตรี เรื่องทำกับข้าว เรื่องมันต่อยมวยเป็น” นึกแล้วสมเพชตัวเองพิลึก เข้าใจว่ารู้จักบอลลูนดีกว่าใคร ที่แท้ผมไม่รู้อะไรเลย ช่องว่างระหว่างเราทำให้ผมไม่เคยเข้าไปในโลกส่วนตัวของน้องเลย เอาจริงๆรถคันหรูยี่ห้อดังของน้องผมยังไม่เคยนั่ง ประสาอะไรขนาดมอเตอร์ไซค์ยังไม่เคยซ้อนสักครั้ง แต่ก่อนไม่เคยคิดน้อยใจเรื่องพวกนี้ แต่ตอนนี้ชักรู้สึกหน่วงอก
นี่ผมหลับหูหลับตาประคมประหงมน้องมากสินะ แสดงว่าที่น้องกลับบ้านหกโมงประจำ คงเอาเวลาช่วงนี้ไปทำกิจกรรมที่ผมดันเหมาเอาว่าน้องเตะบอลอยู่กับเพื่อน เคยเห็นครั้งสองครั้งสรุปเองเลย อนาถจริงบูตัส
“มึงไม่รู้เลยหรืออีบู” โจ๊กมันอึ้ง ผมไม่ตอบได้แต่ส่ายหน้า
“กูคิดว่ามึงรู้เสียอีก โทษมึงก็ไม่ได้เลิกเรียนก็รีบกลับไปทำหน้าที่แม่ศรีเรือน สังคมเพื่อนฝูงมึงยังไม่เอา แต่น้องมีเวลาไปทำนั่นนี่โน้น เฮ้อ!..” โจ๊กมันถอนหายใจ มองผมอย่างเห็นใจปนสงสาร
“ต่อไปนี้กูคงไม่ทำแบบนั้นแล้ว” ผมบอกอย่างที่คิด
“หมายความว่าไง” มันรั้งผมหยุด มองหน้าขอคำอธิบาย
“กูต้องอยู่ซ้อมมวย คิดจะลงติวเสาร์อาทิตย์เตรียมตัวแอดฯด้วย เหลือเวลาแค่เทอมเดียว กูควรเตรียมตัวให้พร้อม” ผมบอก แต่ก่อนกังวลเรื่องการดูแลบอลลูน พอรู้อะไรหลายอย่าง ผมควรเอาเวลาไปสนใจหาความรู้ใส่ตัวเองดีกว่า ความฝันของผมยังมี
“กูเห็นด้วย..เรื่องติวปล่อยเป็นธุระกูเอง ลงคอร์ดพวกกูเนี่ยแหละ ไปด้วยกัน อีแบมกับไอ้หนกมันเอาด้วย เปิดคอร์ดต้นเดือนหน้า จังหวะมึงหมดภารกิจกูศักดิ์ศรีสถาบันตุ๊ดเสร็จพอดี” มันคงหมายถึงภารกิจชกมวย ผมพยักหน้ารับ คงต้องให้มันเป็นธุระ สรุปเจ็ดวันเจอหน้าพวกมันทุกวันเลยคราวนี้
ระหว่างกำลังเดินผ่านรุ่นน้องม.5 ที่เดินไปเข้าแถวกันพอดี หนึ่งในนั้นมีคนที่ทำให้บอลลูนตัดสินใจใช้กำลังหักหาญผมอยู่ด้วย
“พี่น้องเอากันเองฟ้าผ่าไหมมึง” ประโยคเปิดประเด็น ผมถึงกับไหล่เกร็ง ไม่คิดว่าสายไหมจะพูด เธอเจตนาพูดขึ้นมาลอยๆ โจ๊กบีบไหล่ให้กำลังใจ ถึงผมจะยอมรับการเป็นตุ๊ด แต่ไม่เคยมีเรื่องกับผู้หญิงมาก่อน ยิ่งเป็นรุ่นน้องยิ่งไม่อยากมีเรื่องด้วย
“ไม่มั้ง พ่อลูกเอากันยังมีเลยมึง..คิคิ” เพื่อนในกลุ่มออกความคิดพร้อมกับหัวเราะปิดท้าย เรียกรอยยิ้มบนหน้าสวยของสายไหมตามมา
“นั้นมันหญิงกับชายใช่ป่ะ..แล้วพวกผิดเพศแถมบอกเป็นพี่น้องแต่ดันเอาท้องชนกันละมึง ฟ้าไม่ผ่าจริงเหรออออ!!!” เน้นหางเสียงอย่างเจตนา พร้อมสายตาเย้ยหยันมองมาทางผม ไม่ต้องบอกเธอหมายถึงใคร โจ๊กมันหน้านิ่งไปแล้ว ภาพลักษณ์ของมันยังไงก็หนุ่มหล่อ จะให้มันจีบปากจีบคอด่า มันทำกับกนกคนเดียวจริงๆ มันกับผมอาการไม่ต่างกันเลย ใบ้แดกไปแล้วเรียบร้อย ไม่ถนัดด่าถนัดต่อยกันเลย..แต่ไม่เคยต่อยผู้หญิง
“ใครยังไงช่างเขาสิ สนใจทำไม” น้องเดียร์แฟนกนกอยู่ในนั้นด้วย น้องเรียนห้องเดียวกับสายไหม เอ่ยปรามขึ้น ก่อนยิ้มให้ผมแทนการขอโทษคงรู้สายไหมเจตนาพูดกระทบผมโดยตรง
“อ้อ..กูลืมว่ามึงมีแฟนเพศเดียวกัน มิน่าออกตัวแทน” สายไหมไม่หยุดหันไปแว้งกัดน้องเดียร์อีก น้องหน้าเจื่อนลงไปทันที สายไหมมีอิทธิพลในกลุ่มมากทีเดียว สังเกตไม่มีใครกล้าปรามเธอเลยสักคน
“ไปเถอะมึง” โจ๊กกอดคอผมลากให้เดินเร็วขึ้น คงอยากไปให้พ้นจากรุ่นน้องพวกนี้
“รีบไปเข้าแถวหรือค่ะพี่โจ๊ก..กอดกันซะสนิทชวนให้คิดไปไกลน้า..พี่โจ๊กไม่กลัวผิดใจกับรุ่นน้องม.3 หรือค่ะ” สายไหมกัดตรงเลยคราวนี้ ผมกับโจ๊กพากันชะงัก โจ๊กไม่ทันอ้าปากตอบ..
“ไงมึงยืนทำไมกันตรงนี้ ไม่ได้กลิ่นหอยเน่าเลยหรือ” สวยประหารตัวแม่ เดินตีคู่มากับกนก..แบมคงรู้พวกผมเจออะไร โจ๊กมันยิ้มตอบ ผมนิ่ง กนกตรงเข้าไปหาน้องเดียร์ที่หน้าเจื่อนสนิท คงไปให้กำลังใจ
สายไหมเชิดหน้าใส่ทันที หลังแบมเดินเข้ามาใช้สายตาเรียวสวยตวัดมองเธอ ก่อนหันมายิ้มให้พวกผมเหมือนเธอเป็นตัวประหลาด ความถนัดอย่างหนึ่งของแบมสามารถใช้สายตาด่าคนได้ นิสัยของสายไหมซึ่งเชื่อมั่นในตัวเองสูง เจอตุ๊ดหน้าสวยขึ้นชื่อเหยียดตาใส่ คงทนไม่ได้แน่ๆ
“จมูกดีนะคะพี่แบม รบกวนไปฝึกเจ้าดุ๊กดิ๊กที่บ้านให้หน่อยสิ มันจะได้แยกเพศช่วยไหมอีกแรง กลัวโดนเกย์หลอก” เธอหันไปเล่นงานแบม ซึ่งผมกับโจ๊กสบตากันยิ้มๆ งานนี้เธอเลือกคู่ชกผิดรุ่น
“คงต้องปฏิเสธ ปัญญาอย่างน้องไหมยังแยกเพศไม่ออกโดนเกย์หลอกเอาได้ นับประสาหมาที่เลี้ยง สอนไปคงเสียเวลาเปล่า ดูนางให้ดูแม่ ดูหมาให้ดูเจ้าของ พี่ว่าสมองน้องหมาที่บ้านไม่ต่างเจ้าของหรอกมั้ง” เอาเข้าแล้ว..สวยตัวแม่ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นเหยือก พร้อมรอยยิ้มบาดจิต ดูน่าสะพรึงกลัวมากกว่าพิสมัย
“พี่แบมพูดหมายความว่าไง ด่าไหมสมองหมาเหรอ” เธอฟึดฟัดตรงเข้าประจันหน้าแบมทันที คงเห็นมันเอวบางร่างอ้อนแอ้น ไม่รู้เสียแล้วว่าแบมมันร้ายแค่ไหน ดึงความสนใจพวกที่เดินอยู่ หยุดมองมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสายไหมทั้งแบมต่างดังในโรงเรียนทั้งคู่
“พี่พูดคำไหน พวกมึงได้ยินกูว่าน้องเค้าไหม พวกน้องๆได้ยินพี่แบมพูดเหมือนที่เธอคนนี้กำลังกล่าวหาพี่หรือเปล่า” แบมตีหน้าซื่อ หันไปถามคนนั้นคนนี้ทั่ว แม้แต่พวกผมมันก็ไม่เว้น คำตอบที่ได้รับ มีแต่คนส่ายหน้ายืนยันว่าไม่ได้ยินมันพูดแบบนั้น
“ไม่มีใครได้ยินสักคน มีแต่ฟังน้องด่าตัวเองสมองหมาไปแหม่บๆ” มันหันมาเล่นงานสายไหมทันที เน้นคำว่าหมาชัด จนเรียกร้อยยิ้มพวกที่มุงดูพากันขำคิกคัก โจ๊กกลั้นขำหน้าแดง มันไม่กล้าออกอาการ กลัวแถวบ้านที่รู้จักเอาไปพูดที่บ้าน มันแอ๊บแมนเสมอถ้าไม่ใช่พวกที่คุ้นเคยกันละก็ น้อยคนจะเคยเห็นมันแต๋วแตก
“อย่าคิดว่าเป็นรุ่นพี่แล้วนึกจะพูดอะไรก็ได้ ยังไงก็ตุ๊ด..มีหรือจะสู้ของจริง..ว่าไหมพวกเรา” น้องไหมยืดอกเด้งเต้าอวบ เชิดหน้าท้าท้ายอย่างมั่นใจ สายตามองไปรอบๆ เพื่อเรียกคะแนนสนับสนุนคำพูดของเธอ
“เหรออออ!!!..นั่นสิ ถึงพี่จะตุ๊ดแต่มีเรด้าจับเกย์นะหนู เมื่อตะกี้คุณน้องเพิ่งขอความช่วยเหลือให้พี่ฝึกน้องหมา ช่วยไม่ให้โดนเกย์แอ๊บแมนหลอกใช่ไหม พอพี่ปฏิเสธคุณน้องเลยวีนเลยเหวี่ยงสินะ ถ้างั้นพี่แบมไม่ถือสาไม่ติดใจเอาความ แถมจะช่วยสงเคราะห์คุณน้องด้วยเป็นไง เปลี่ยนฝึกหมามาสรรหาผู้ชายแมนให้คุณน้องแทนดีกว่า
ผู้หญิงแท้อย่างคุณน้องต้องได้แมนเต็มร้อยสินะ ตกลงเดี๋ยวคุณพี่ช่วยสกรีนให้ แล้วจะส่งรายชื่อไปทางเมลล์นะจ๊ะน้องคนสวย ยังใช่เมลล์เดิมใช่เปล่า พี่จำไม่ผิด..สิบเอ็ดร.ด.อันเดอร์สกอร์ตอแหลใช่ไหมจ๊ะ วันนี้พี่ต้องไปเข้าแถวก่อน รอรายชื่อนะค่ะคุณน้อง” พูดจบสะบัดค้อนท่ามกลางเสียงหัวเราะของผู้ชม พากันขำทั้งชอบใจ บางคนถึงกับปรบมือยกนิ้วให้ ในขณะที่น้องไหมอ้าปากพะงาบๆ เหมือนขาดอ็อกซิเจนไปในพริบตา ส่วนแบมเดินไม่เหลียวหลัง ด้วยมาดนางพญาอย่างสง่างาม สมฉายาสวยประหารตัวแม่ ผมกับโจ๊กก้าวตามไปอย่างเร็วกลัวจะหลุดขำกระจายเสียก่อน เดี๋ยวจะหาว่ารุมรุ่นน้องดีกรีนางนพมาศสองปีซ้อนแล้วจะยุ่ง..??
มาลงให้ครบ 100% แล้วนะคะ สำหรับแฟนนิยายที่ฝากถามมากันว่าคนเขียนจะอัพวันไหนบ้าง
แหะๆๆ อันนี้ไม่กล้ารับปาก เอาเป็นว่าสองสามวันจะอัพทีนะคะ ไม่หายไปนานแน่นอน
ขอบคุณที่ให้กำลังใจและติดตามกันมา ทนอิน้องบอลมันกันต่อไป มันยังซึนและสร้างความหมั่นไส้น่า

ไปอีกหลายตอน ตามพัฒนาการด้านสมองและวัยของอิน้องบอลมัน
Luk.
