= 2 = “ว้าว!!!..น้องหล่อแซ่บเว่อร์ พี่จะละลาย” พี่ใบเตยทำหน้าที่วัดตัว
ออกอาการดี๊ด๊ามือลูบกล้ามแขนโจ๊กใหญ่ ตุ๊ดปลอมแมนเต็มตัวไม่แอ๊บ หลิ่วตาคมใส่พี่เขาแทนการขอบคุณ
ดูแล้วเท่มากเลยโจ๊ก หล่อเหี้ยๆ
“อร๊าย!!..อย่าส่งสายตาแบบนี้ให้พี่นะ หัวใจวายทำไงจ๊ะน้องโจ๊ก” พี่แกลัลลามาก
ผมยิ้มร่าไปกลับความขี้เล่นที่เขากำลังหยอกกัน
“กูไปห้องน้ำ” จู่ๆกนกลุกพรวดไม่มองหน้า ทำให้รีบตามไปให้ไว มันรู้เหรอห้องน้ำอยู่ไหน
“รอกูก่อน มึงรู้ห้องน้ำอยู่ไหน” ผมเรียกไว้ เดินเหมือนควายไล่ขวิด ยอมหยุดหันมอง หน้ามันติดบึ้งนิดๆ
“เดินหาเอา” ตอบแบบขอไปที
“เป็นอะไร..ดูมึงอารมณ์ไม่ดี” ผมถาม
“เปล่า..รีบดิกูจะเข้าห้องน้ำ” มันตัดบท ผมพามันไปห้องน้ำ ซึ่งอยู่อีกด้าน มันมาผิดทาง
“บูตัส...” จู่ๆกนกก็เรียก เรากำลังเดินทอดน่องกลับมากัน
“มีอะไร” ผมถาม
“ระเบียงนั่น ดูวิวกัน” มันพยักหน้าไปยังประตูกระจก ออกไปเป็นระเบียงเห็นตึกเต็มไปหมด
ผมเดินตามมันติดๆ เหมือนกนกดูลอยๆพิกล
“บูตัส..” อีกแหละ มึงกลัวลืมชื่อกูไง
“อะไร” เรายืนมองไปยังตึกระฟ้าน้อยใหญ่ที่เห็นทับซ้อนไกลๆ รถราเต็มท้องถนนขวักไขว่ลานตา
“ตุ๊ด..ชอบกระเทยได้ไหม” ถามอะไรแปลกๆ
“ตุ๊ดเหรอไม่เกลียดหรอก กระเทยพวกเดียวกัน แค่ผมยาวมีนม” บอกตามที่คิด จะเกลียดกันทำไม
เบี่ยงเบนเหมือนกัน ยกเว้นคู่อริ
“กูหมายถึง คบเป็นแฟนหนะ” ตามันยังคงมองไปยังวิวข้างหน้า แต่ปากพูดกับผมที่ยืนข้างๆ
มองหน้าด้านข้าง เหมือนมันคิดอะไรในใจ
“ชอบเป็นแฟนเหรอ ไม่รู้ดิ..ตุ๊ดเป็นแฟนกระเทย คงตลกพิกลวะ” งง? กูจะตอบยังไงเล่าเนี่ยะ
มีเปล่าหว่า..ตุ๊ดกับกระเทยคบกันไม่เคยเจอ
“อย่างมึง มีแฟนกระเทยได้ไหม”
“อุ่ย!..กูไม่แน่นอนพันเปอร์เซ็นต์” มั่นใจตอบได้เต็มปาก
“แล้วอย่างโจ๊กล่ะ”
“ห๊ะ..” หันควับมองมันเต็มตา ยังไม่ยอมสบตาผมเลย
“กูหมายถึงตุ๊ดอย่างโจ๊ก มึงว่ามันเป็นแฟนกระเทยได้หรือเปล่า” กรรม!..สงสัยมันเห็นภาพพี่ใบเตยหยอกโจ๊ก
แถมตีเนียนลูบกล้ามมันด้วย แต่พี่เขาก็แค่หยอกไม่จริงจังหรอก อีกอย่างกำลังวัดไซร้เสื้อผ้า ธรรมดาที่จะโดนตัวกันนี่นา
“ไม่หรอก โจ๊กไม่มีวันเอา” มันแมนนิ จะเอาทำไมตุ๊ด หนังสือโป๊ผู้หญิงมันยังแอบซุกไว้เลย
“มึงแน่ใจ” คราวนี้ยอมหันมองผมแหละ
“แน่สิ..มึงจะให้กูบอกอะไร” ผมถามบ้าง
“กูคบกับโจ๊กมานาน..กูไม่ค่อยแน่ใจ ไอ้นั่นมันสู้นะมึง บางทีกูคิดว่าโจ๊กมันอาจจะ..รุกด้วยซ้ำ”
กนกมันกำลังวิเคราะห์บทบาทของแฟนมัน
“อืม..แปลกตรงไหนตุ๊ดไม่แปลงเพศ เช้าของกูก็ตื่น..ปวดเยี่ยว”
“นอกจากเยี่ยว มึงเคยตั้งหรือเปล่าล่ะ” ถามลึกอีกแหละ
“ไม่นะ..” ตอบตรง จู่ๆมันจะตั้งทำไม ไม่มีอะไรไปกระตุ้นนิ
“มึงเคยว่าวไหม” ห๊า!..ทอมถามอะไรวุ้ย..กูต้องตอบด้วยเหรอ
“มะ..ไม่อ่ะ” เขินเลยกู รู้ต้องทำยังไง แต่กูเคยลองแล้วมันเจ็บนี่นา ไม่เห็นเสียวห่าไร เมื่อยมืออีกต่างหาก
หนังถลอกด้วยไม่ทำต่อเลย อาบน้ำทีถึงกับซี๊ด..แสบโคตร ไม่ได้บอกทอมมัน แค่นึกถึงช่วงอยากรู้อยากลอง
“แสดงว่ามึงมันตุ๊ดเต็มร้อย..แต่โจ๊กกูไม่แน่ใจ” สรุปกูเฉยเลย
“ทำไมมึงไม่แน่ใจมัน” ชักหวั่นกนกมันระแคะระคาย
“ก็ของมันตั้ง ใหญ่มากนะมึง” อ้าว..เสือกไปรู้กับมันอีก
“มึงรู้ได้ไง” อดถามไม่ได้
“กูเคยกินนอนด้วยกันมา ตื่นเช้าแม่งกอดกูเฉย แถมไอ้นั่นดันแข็ง อย่างตอนซ้อนมอเตอร์ไซค์จำได้ป่ะ
แข็งทิ่มหลังกูเลยมึง” เออ! มิน่ามันถึงคิดไม่ตก ก็โจ๊กมันผู้ชายมึงคือคนที่มันรัก ชิดขนาดนั้นไม่แข็งมันก็แปลกอยู่
“โจ๊กมันอาจรุกอย่างมึงว่า แล้วมึงกังวลอะไร” ถามลองเชิง
“เปล่า..กูอยากรู้ ตุ๊ดรู้สึกกับพวกเดียวกันหรือเปล่า เห็นหลายคนมาจีบมันเฉย
พอพี่ใบเตยหยอกมันกลับดูมีความสุข” ทอมคิดมากเหะ
“ไม่หรอก พี่เขาแค่หยอก มึงก็น่าดูออก” ผมย้ำให้มันหายกังวล
“หมาหยอกไก่ มึงรู้ใช่ป่ะ” มันเถียง
“แต่โจ๊กมันไม่ทำหรอกน่า” ผมค้าน
“มั่นใจนะมึง รู้จักมันนานกว่ากูเหอะ” แหนะเกทับกูอีก
“ไม่นานเท่ามึง แต่กูเข้าใจมันกว่ามึงแหละ” ยืดอกเย้ยทอมโง่?
“ตุ๊ดเหมือนกัน ย่อมเข้าข้างธรรมดา..สัด” อ้าว...เหวี่ยงเฉย
“มันไม่คิดพิเศษกับใครหรอก เชื่อกูดิ” ผมเน้น
“ทำไมมึงมันใจ มันบอกอะไรมึง” ทอมคาดคั้น
“บอกอะไร ก็มันมีมึงเป็นแฟนทนโท่ จะไปอะไรกับใครได้เล่าวะ” ผมปล่อยหมัดฮุกเสียเลย
ทอมบ้า..เพิ่งเป็นแฟนกันยังไม่รู้ตัวอีก
“เฮ้ย! พวกกูแค่คบกันบังหน้า” มันส่ายหัวปฏิเสธใหญ่
“คิคิ..สำหรับมึงบังหน้า แต่โจ๊กกูว่ามันบังหลัง” ผมแหย่
“หลังพ่องมึง..บูตัส ทะลึ่งแหละ” อ้าว! ด่าพ่อกูอีก ถือซะว่ามันด่าพ่อที่ให้กำเนิด คนที่นิสัยไม่ดีก็แล้วกัน
“ทะลึ่งอาร่าย..มึงคิดไปไหน..หึ” ผมลากเสียงยั่ว
“หลังเหลิงอะไรของมึง” มันแหวหน้าแดงก่ำ
“กูหมายถึง มันคบมึงเป็นคนแรก มันอาจรักมึงก็ได้ เคยเห็นโจ๊กมีแฟนป่ะละ ทั้งที่มีชะนี
ตุ๊ด แต๋ว กระเทย ให้ท่าเยอะแยะ” ผมเตือนความจำ
“ชะนีกูกันให้มันหรอก ตุ๊ดที่ไหนชอบชะนี” มันบื้ออ่ะ ปกติชอบว่าผมอีอึนจนตั้งฉายา ขอคืนทอมแสบสักดอก
“อีอึน..” ฮ่ะฮ่าๆๆ หน้าเหวอเลย โดนกูเอาคืนแหละ
“ด่าตัวเองไม” อ้าว! นึกว่ามันเหวอที่โดนผมย้อน เสือกเข้าใจกูด่าตัวเองเฉย
“กูว่ามึงต่างหาก” บุ่ยปากประกอบ
“อีอึน..มึงแหละเจ้าตำรับ..บูตัส อย่ามาโยนกู” แหนะปฏิเสธใหญ่
“ตอนนี้กูมีเพื่อนร่วมสมาคมอึนแล้ว มึงไงกนก..ว่าไงอึนสอง ได้ยินเสียงตอบกลับอึนหนึ่งหน่อย”
ผมไม่ยอมแพ้ เล่นเป็นเด็กเลย
“จิ๊..คุยกับมึงไม่ได้ประโยชน์ กลับเข้าข้างในกัน ปานนี้ตุ๊ดแม่งโดนลากไปแดกแล้วมั้ง” ห่วงโจ๊กโดยไม่รู้ตัว
มึงนี่..อึนตัวแม่ยิ่งกว่ากูอีก
จากวัดตัว พวกผมต่อด้วยฟิตเน็ต พี่พลัสเกย์หนุ่มเป็นพี่เลี้ยง ดูแลให้คำแนะนำท่าที่ต้องเน้นเป็นพิเศษ
เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อบอร์ดี้ รู้สึกโจ๊กจะเล่นท่าเยอะกว่า ส่วนผมได้แต่วิ่งกับซิคอัพ ดัมเบลอะไรพี่แกให้จับนิดเดียว
แปลกๆ ทำไมสอนไม่เหมือนกัน
“พี่พลัสครับ ผมกับโจ๊กเล่นไม่เหมือนกันเลยอ่ะ” ถามแหละ
“คอนเซ็ปเรากับน้องโจ๊กต่างกันครับ..บูตัส”
“เหรอ..ต่างยังไง ไม่ได้ถ่ายร่วมกันเหรอ” งง? ไหนถ่ายชุดเดียวกัน
“ถ่ายด้วยกันแหละ แต่เสื้อผ้ากับอิมเมจแตกต่าง” ช่างเถอะ พี่แกยืนยันแบบนี้ไม่เซ้าซี้ดีกว่า
ปิดท้ายด้วยนวดอีกสองชั่วโมง รวมสคลับ สปาผิวให้ด้วยเสร็จสรรพ กลับออกมาตัวเบาเหมือนขี้ไคลหายไปเป็นโล
“เช็ดเข้..มึงใสวิ๊งค์เลย..บูตัส” โจ๊กมันทัก มึงเว่อร์ไปเปล่า แต่มองหน้ามันดูคมเข้มมีเลือดฝาด
ปากแดงผิวแทนผ่องเนียนด้วยสิ
“มึงก็ดูดีนิ” อดชมมันกลับ
“ให้ตาย ไม่ถึงอาทิตย์ออร่าจับแน่มึง ราศีซุปตาร์” โจ๊กมันยิ้มใหญ่
“คิคิ..เว่อร์” ผมหัวเราะ เรากลับจากบริษัทฯ ถึงคอนโดสองทุ่มครึ่ง ไม่ต้องอาบน้ำแล้ว
สปามามาดๆ ทั้งอาบทั้งขัด ยกเว้นกนกที่ให้อาบหน่อย จนสองทุ่มห้าสิบแบมโทรตาม
บอกออกจากบ้านแล้ว ให้ตามไปที่ร้านเลย
พวกเราสามชีวิต ตุ๊ด ทอมกับตุ๊ดปลอม พากันลงมาข้างล่าง เจอบอลลูนนั่งรอตรงมุมรับรอง ประสานสายตาอย่างจัง
“บู..” น้องผุดลุก เสื้อผ้าหน้าผม เตรียมจะไปเดท หล่อเกิ๊น!!
“บอล..” ผมทักกลับ กนกกับโจ๊กยิ้มให้ น้องยิ้มตอบ
“จะไปไหนกัน” น้องถาม จ้องผมตาไม่กะพริบ
“ไปกินข้าว” บอกไปแล้วทางโทรศัพท์ คงลืม..
“บูไปรถบอล” ผมงง? น้องคงเห็นผมนิ่ง
“บอลไปด้วย บอกร้านมาพี่หนกกับพี่โจ๊กขับนำเลย” พูดไม่รอฟัง ฉุดข้อมือผมเดินดุ่มๆ
เหลียวมองโจ๊กกลับโบกมือบาย ไรวะไม่กันให้เล่า ตกลงพวกมึงไงกันนี่ อยากสวีทกับกนกสิท่า ทิ้งกูเลยห่าโจ๊ก
“ไม่ได้ไปบ้านพี่หนกใช่ไหม” เย้ย!..พอรถวิ่ง น้องก็เปิดประเด็น
“ไปจริ๊งงงง!!!” รีบยืนยัน นิ้วแอบไขว้
“บอลโทรถามพี่วินิจ พวกบูไม่ได้ไปซ้อมละคร” พี่วินิจพี่ชายกนก ลืมเสียสนิทว่าบอลลูนรู้จัก คุยถูกคอกันด้วย
“คะ..คือ ตั้งใจซ้อมแต่เปลี่ยนใจกะทันหัน” แถหาทางเลี่ยง
“โกหก..ริโกหกตั้งแต่เมื่อไหร่ ออกมาได้ไม่ทันไรบูเริ่มนิสัยแบบนี้” น้องหันมองผมตาขวาง
“แล้วจะเซ้าซี้ไมเล่า” ผมแหว แบมบอกอย่ายอม แต่กูผิดนะอีห่า พวกมึงสอนกูทำเหี้ยไรเนี่ยะ ในใจแอบบ่น
“บู..ทำไมต้องโกหก” อีกแหละ จะตอบยังไงวุ้ย!
“บอกแล้วเปลี่ยนใจกะทันหัน” ผมยืนกรานคำเดิม ไม่รู้เนียนเปล่า แต่หน้ามันร้อน อายอ่ะแอบกัดลิ้นตัวเอง
โกหกครั้งแรกก็โดนจับได้เลยกู สงสัยไม่รอด..ให้รับบทโกหกอะไรแบบเนี่ย....?
“บอลจะไม่ถาม ว่าบูทำไปทำไม รับปากได้เปล่า ต่อไปห้ามโกหก” มาไม้ไหนอีกหนอ
สองวันนี้เดาทางไม่ถูกจริงๆ ก่อนหน้าก็เดาไม่ถูก ตอนนี้ยิ่งเดาไม่ถูกหนักเข้าไปใหญ่ ต่อไปงั้นเหรอ
ที่โกหกผ่านมาช่างมันใช่ป่ะ!
“แล้วบอลล่ะ ให้พี่รับปากฝ่ายเดียวได้ไง” เอามั้งดิ ไม่โง่นะ..อิอิ
“บอลไม่เคยโกหกบู เคยมีสักครั้งไหมที่บอลโกหก” ย้อนเฉย ผมพยายามนึก ที่ผ่านมาน้องไม่เคยโกหกจริงนี่หว่า?
นอกจากนิ่งไม่พูด ไม่หือ ไม่อือจนเดาไม่ถูก แต่ไม่ใช่การโกหกแน่นอน
“ตอบไม่ได้ใช่ไหม” ได้ทีเอาใหญ่
“แต่บอลไม่เคยบอกอะไรพี่” ผมเถียงแหละ
“แล้วบูอยากรู้อะไร” แหนะ..ไม่ยอมจนมุมอีก
“ก็หลายเรื่อง” ใช่..ผมเคยอยากรู้
“ถามมาสิ จะตอบ” อารมณ์ไหนของเขา
“เกลียดพี่ไหม” นี่แหละที่ยังแคลงใจ น้องหันมองหน้าแวบ ก่อนกลับไปมองถนน
แต่แค่แวบเดียวผมเสียววูบ กูพูดอะไรผิด
“เคยบอกไปแล้ว เมื่อวานลืมหรือไง” อะไรๆ เมื่อวานมันไม่ชัดเจน
“เกลียดตุ๊ด แรดร่านนะเหรอ เกี่ยวที่ไหน”
“ก็ถ้าบูไม่ใช่แบบนั้น ก็แปลว่าไม่เกลียด ย้ำแล้วด้วยไม่ได้เกลียด” น้องบอกเสียงเรียบเรื่อย
“แล้วไมถึงทำกันแบบนี้ การข่มขืนมันคือสิ่งเลวร้ายที่เขาทำกัน” ผมพูดได้อย่างสงบมาก แม้จะจี๊ดขึ้นมาเมื่อนึกถึง
“บ้างครั้งอารมณ์มันเหนือเหตุผล ยังไม่ขอตอบตอนนี้ได้เปล่า แต่ที่ทำไปส่วนหนึ่งบอลยอมรับ
อารมณ์ล้วนๆ แต่ไม่ได้เกลียด” พูดให้คิดอีก
“อารมณ์อะไร โมโห โกรธ ต้องลงมือกันแบบนี้เหรอ” ชักของขึ้น
“อาจจะใช่ แต่ไม่ทั้งหมด บอกแล้วไงยังตอบไม่ได้ตอนนี้” ชิ! แถนิ ถึงตอนนี้ต่างคนต่างเงียบ
ไม่ลืมโทรบอกแบมมันด้วยบอลลูนเพิ่มอีกคน แบมมันเหมือนไม่แปลกใจ แต่เสียงขึ้นจมูกตอนท้ายฟังแล้วหวิวพิกล
ตลอดทางไปร้านที่เหลือ เราต่างคนต่างเงียบ ไม่ได้คุยอะไรกันอีก ผมมองออกไปนอกกระจก
ในหัวมันโหวงเหวงใจกระตุกยังไงไม่รู้ ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย เป็นแบบนี้ทีไร มักมีเรื่อง..คงไม่มั้ง ไม่ได้อะไรนิ..?
มาต่อให้แล้วนะคะ อูยยยยย...แรงเชียร์ให้อิน้องบอลมันกินมาม่า
ทำไมเกลียดอีน้องบอลมันมากเช่นนี้
ว่าแต่มันก็ทำตัวหน้าหมั่นไส้จริ๊งงงง!!!
ตอนหน้ามันเริ่มมาม่าแล้วเด้อ บอกแล้วว่าชื่อเรื่อง My Love รักของฉัน มันย่อมมีความหมาย
ความรักของแต่ละคน เริ่มต้นและบทจบแตกต่างกันในชีวิต บางคนรักปุ๊ปปั๊ป เลิกเร็วกว่าจรวด
บางคนสับสน ค้นหา ไม่เข้าใจ แต่พอรู้ตัวสายเกินการณ์ บางพวกไม่เข้าใจว่ารัก คิดว่าเป็นความผูกพัน
ความห่วงใย ฯลฯ แท้ที่จริงมันคือรักแท้ อยากแก่การยอมรับการสูญเสีย แต่ต้องมีเหตุการณ์มาเป็นตัว
กระตุ้นให้พบสัจธรรม วันนั้นถึงได้รู้ใจตัวเอง บอกแล้วเรื่องนี้เขียนไปสามสิบกว่าตอน พ็อตมันไปแล้วนะคะ
ไม่ได้มีการเปลี่ยนเนื้อหา โดยปกติคนเขียนก็ไม่เคยเปลี่ยนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ส่วนมาม่าน้องบอล
ทุกคนอ่านได้น้ำตาซึม คนเราเอาแน่เอานอนไม่ได้ รู้แต่ว่าชีวิตอย่าใช้อารมณ์และโทสะเป็นตัวตัดสิน
สติต้องมีมาก่อน ไม่งั้น..ตอนหน้าเจอกัน...
กดบวก 1 แทนการขอบคุณทุกเม้นท์และกำลังใจที่ โพสฯให้กับทุกตอนนะคะ
Luk.
ปล.ฝากนิยายรวมเล่ม 'ลูกแก้วมังกร' มีเหลืออยู่สามเล่มค่ะ ใครอยากเก็บไว้ครอบครอง
ติดต่อได้ที่เมลล์ luxilove_19690 แอท hotmail ดอท com