= 2 = “ขอบคุณพี่ต้นครับ” ยกมือไหว้ “อืม” พี่เขาพยักหน้ายิ้มอย่างอบอุ่น โชคดีของแบมเจอแฟมิลี่แมน ได้พี่ต้นเป็นคนรัก
“แม่ง..มึงบังคับกู วันจันทร์คงลือทั้งโรงเรียน” เสียงกนกคุยกับโจ๊ก ตรงโซฟาด้านนอก ผม พี่ต้น
แบมอยู่ในห้องนอนเล็กที่ยกให้ผมใช้ เราต่างเงื้อมหูฟังปริยาย
“หรือมึงชอบให้ไอ้สรรจีบ” ตุ๊ดปลอมย้อนทอม
“ไม่ใช่ประเด็น สำคัญมึงให้กูช่วยกันยัยน้องโสเหี้ยไรนั่นโว้ย! แค่ไอ้สรรกูหรือจะสน..หึ” กนกมันเถียง
น้ำเสียงติดโมโหนิดๆ
“ทุกทีมึงคอยกันสาวให้กูประจำ ทำไมคราวนี้ไม่เต็มใจ” โจ๊กถาม พวกผมต่างฟังไม่กล้าโผล่หัวจากห้อง
แอบลุ้นเงียบๆ
“แค่จดหมายรัก กูปฏิเสธได้นี่หว่า ไม่ได้สมอ้างเป็นแฟนมึงอย่างตอนนี้..ห่าตุ๊ด” กนกมันแย้ง
“ต่างตรงไหน จดหมายรักมึงชิงอ่านปฏิเสธแทนหมด ครั้งนี้มันรุกกันซึ่งหน้า มึงก็รู้กูเปลี่ยนซิมหนีเลยนะ..ทอม”
โจ๊กมันโอดครวญใหญ่ ลูกเล่นเยอะนะเนี่ยะ ไม่คิดมันเจ้าเล่ห์ขนาดนี้ เผลออมยิ้มคนเดียว
“เออแม่ง..กูเหลือทางเลือกไหม ฉิบหายหมดชื่อเสียงสร้างสมดิบดี เป็นแฟนตุ๊ดไปแล้ว ระยำจริง..วุ้ย!”
มันตัดบท ไม่วายบ่นปิดท้าย
“ถ้าเกิดเป็นแฟนผู้ชายแท้ล่ะ มึงยังจะคิดว่าระยำอยู่ไหม” โจ๊กมันเริ่มแล้ว ผมเผลอยิ้มกว้างอย่างช่วยไม่ได้
แบมจ้องเหมือนจับผิด ต้องรีบหุบแก้มฉับ แต่ยังมีสายตาคาดโทษส่งให้ กูคงต้องขอโทษมึงทีหลังแล้วโจ๊ก ท่าทางแบบนี้
จนปัญญารักษาความลับจริงๆ มันคงระแคะระคาย ฉลาดเป็นกรดขนาดนั้น
“กูชอบผู้หญิง แมนจริงชายแท้เหี้ยไร..หึ!” กนกปฏิเสธเสียงแข็ง
“สมมติกูไม่ใช่ตุ๊ด มึงกล้าคบไหม” เอาเว้ย! โจ๊กสุดหล่อรุกได้ใจ แอบรักมาหกปีบทจะบี้
ไล่ซะทอมเข้ามุมอับเลยเหะ
“พูดเหี้ยไรเนี่ยะ ถามแปลกแดกเค้กเสียมาหรือมึง” กนกมันแถ ฟังน้ำเสียงห้วนนิดๆ
พอเดาสีหน้าออก คงแดงไปถึงคอขาวมันแล้ว
“กู..พูด..จริง” โจ๊กย้ำชัด เงียบเป็นครู่ พวกผมไม่สามารถเห็นหน้าสองคนนั่นเพราะอยู่ในห้อง
“บ้านกูไม่ยอมรับถ้าเป็นตุ๊ด ป๊าม๊ามึงเอาตายหากเป็นทอม ไม่ช้าก็เร็วไม่ใครก็ใครระหว่างเรา
ต้องถูกจับดูตัวขืนลอยไปมา มึงรู้กูลูกคนโต ส่วนมึงลูกสาวคนเล็ก ธรรมเนียมจีนต้องนัดบอดเป็นธรรมดา
กูเองพอขึ้นปีหนึ่ง คงเลี่ยงออกงานสังคมไม่ได้อีก มึงลืมไปมั้งพ่อกูนายพลแม่คุณหญิง
ลูกท่านหลานเธอเวลาจัดงานต้องหอบกันไปทักทาย ทำความรู้จักไว้ ถึงตอนนั้นกูจะเลี่ยงยังไง ถ้ามึงยอมคบกู
เราต่างใช้อ้างทางบ้านได้เว้ย!..ทอม” แผนสูงมากตุ๊ดปลอม มึงคิดได้ไงเนี่ยะ..
“เกิดอ้างไปแบบนั้น เขาจับหมั้นขึ้นมาทำไง ป๊าม๊าดันชอบมึงเป็นทุนอยู่ด้วย ไม่งั้นคงไม่เชื่อใจ
ให้กูไปไหนมาไหนกับมึงลำพังหรอก มีผู้ชายคนไหนมาบ้านกูบ้าง..หัดใช้สมองคิดด้วย ที่ผ่านมามึงนึกว่าเป็นเพื่อนสนิทกู
ถึงเข้าออกเป็นว่าเล่นหรือไง ไม่เพราะป๊าม๊ากูอยากดองกับพ่อมึงใจจะขาด ไม่มีทางที่เราจะสนิทกันได้ขนาดนี้หรอก..เชี้ยตุ๊ด”
ความรู้ใหม่ มิน่าครอบครัวกนกต้อนรับโจ๊กดีมาก ทั้งที่มันไม่ได้ แอ๊บตุ๊ดเสียหน่อย ป๊าม๊ารู้จักพ่อแม่โจ๊กอย่างสนิท
คงเห็นดีเห็นงามคอยลุ้นมันคบกันอยู่ห่างๆ ตุ๊ดปลอมโง่บรรลัย ทอมเสือกดูออก
“หมั้นก็หมั้นสิ สนใจอะไร” โจ๊กตอบกำปั้นทุบดิน มันไม่คิดกนกไม่ผิดสังเกตหรือนั่น
สวยตัวแม่ขยับจับไหล่ผมบีบ...ซวยแล้วบูตัส!
“พูดง่าย..สัด” กนกบ่นไม่จริงจังนัก
“มึงกับกูลงเรือลำเดียวกันแล้ว ต้องจ้ำพายให้ถึงฝั่ง” ปรัชญาวุ้ย! เนียนมากเลยโจ๊ก..ชายแท้เพื่อนผม..?
“กูแค่กังวลเอาหน้าไปมุดไหน วันจันทร์เตรียมตัว รับรองมึงได้เจอยี่สิบคำถามแน่ เห็นรุ่นน้องในร้านเค้กฟังกันหูผึ่งไหม
ตอนมึงประกาศเป็นแฟนกูกลางโต๊ะ ข่าวใหญ่ล่ะมึงทีนี้ พาดหัวได้เลย แก็งค์สวยประหารตุ๊ดทอมเอากันเอง ตลกฉิบหาย..
ตลกยังไม่เท่าจัญไรโคตร กูยิ่งมีข่าวอกหักรักคุดเพราะโดนหักหลัง ไม่แน่มีตีไข่ใส่สี เกิดมันเหมาว่ากูทำใจไม่ได้
สิ้นคิดคว้าตุ๊ดมาเป็นเมียแทนดี้ละมึง คิดสิตุ๊ด กูจะเอาหน้าไว้ไหน เมียตุ๊ดถึกควายอย่างมึง แล้วกูดันเป็นผัวเนี่ยะนะโจ๊ก”
ผมรีบเอามือตะคุบปากแทบไม่ทัน เกือบปล่อยก๊ากหลุดออกมา ไม่ใช่แค่ผมนิ พี่ต้นลงไปกุมท้องบิดตัวบนเตียง
เป็นที่เรียบร้อย ส่วนแบมมันยิ้มปากฉีก หน้าดำหน้าแดง พากันตลกความคิดกนกถ้วนหน้า
“มึงควรภูมิใจได้กูเป็นเมียไม่ใช่ทั่วไปจะทำได้ ดูปุยนุ่นตัวแม่งตึกใบหยก ป้อกูมาตั้งแต่ม.4
มันยังไม่มีโอกาสสัมผัสขนหน้าแข้งกูสักเส้น มึงถึงกับทำใครต่อใครทึ่งเป็นแถว ทอมตัวบางหน้าขาว
ได้ตุ๊ดหล่อสมาร์ทบาดจิตเป็นเมียเชียวน๊าทอม” โจ๊กเนียนมาก ผมแทบจะลงไปบิดตัวตามพี่ต้น
ตลกความคิดพวกมันโคตร ทอมกับตุ๊ดปลอมไปกันได้ หรือพวกมันเพี้ยน พี่ต้นกับแบมดิ้นกันไปแล้วเรียบร้อย
สุดท้ายกนกยอมรับสภาพเป็นแฟนโจ๊กอย่างช่วยไม่ได้ คิดว่าข่าวคงไปไกลแล้ว เรื่องแบบนี้เร็วมากในโรงเรียน
แถมตอนที่คุยกันกนกมันจับสังเกตได้ นักเรียนในร้านหูผึ่งอึ้งตาค้าง ที่โจ๊กประกาศไปเรียบร้อย ส่วนสวยตัวแม่เป็นไปตามคาด
มันแอบสงสัย แต่ติดไว้จะเค้นถามผมทีหลัง
ใกล้ทุ่มพวกมันขอตัวกลับ แบมบอกหน้าคอนโดมีร้านตามสั่ง โทรสั่งข้าวมากินได้ เลยไปนิดมีเซเว่น
สะดวกเรื่องปากท้อง ลงมือจัดเสื้อผ้าใส่ตู้ตรวจเช็คของเล็กน้อย นำอุปกรณ์อาบน้ำไปไว้ห้องน้ำเสร็จ
กะลงไปเดินสำรวจเสียหน่อย ค่อยซื้อกับข้าวขึ้นมากิน เสร็จอาบน้ำอ่านหนังสือสักนิดก็ยังดี
หลังพวกนั้นกลับ รู้สึกเหงาจับใจ คงเพราะแปลกที่ ผมไม่เคยไปค้างที่ไหนเกินสามวัน
ที่ไปเป็นกิจกรรมของโรงเรียน ค่ายลูกเสืออะไรพวกนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ออกมาอยู่แบบนี้ ไม่เคยห่างน้องตั้งแต่จำความได้
รีบสะบัดหัวไล่ความฟุ้งซ่านทิ้ง คนเราพออยู่กับตัวเอง มักเผลอหมกมุ่นอย่างห้ามไม่อยู่ ยอมรับเป็นห่วงบอลลูน...?
“บู..” สะดุ้งวาบ เสียงน้องหูไม่ฝาด ค่อยหันหลังไปช้าๆ ชัดเลย บอลลูนยืนหน้านิ่งจ้องไม่วางตา
ยังอยู่ในชุดนักเรียน มือมีกุญแจรถถืออยู่
“บะ..บอล” นึกอะไรไม่ออก ไม่คิดน้องจะมายืนหน้าคอนโด รู้ได้ไงว่าผมอยู่ที่นี่
“คุยหน่อยสิ” เสียงเรียบ ผมพยายามจะเดินหนี แต่น้องฉุดข้อมือ จับไว้แน่นรู้สึกเจ็บนิดๆ
“ปล่อย!..” สั่งเสียงห้วน
“ไม่..เรามีเรื่องต้องคุยกัน” น้องไม่ยอมทำตาม
“พี่ไม่มีอะไรจะคุย..”
“แต่บอลมี ต้องคุยเดี๋ยวนี้ด้วย” สายตาคนเดินไปมาเริ่มให้ความสนใจเด็กหนุ่มชุดนักเรียนสองคน
ชายเสื้อออกมานอกกางเกงกำลังยื้อยุดฉุดแขนกันอยู่ ผมไม่อยากตกเป็นเป้าสายตา
“ปล่อยมือก่อน” บอลยอมคลายมือออก
“คุยร้านกาแฟ” ผมพยักหน้าไปยังร้านกาแฟใต้คอนโด
“ไม่..คุยบนห้อง” น้องปฏิเสธ แถมจะขึ้นไปคุยบนห้องอีก
“ไม่ได้” ผมรีบบอก ไม่อยากให้รู้จักห้อง
“ห้องใคร” น้องถาม
“พี่ต้น” บอกความจริง
“อืม..” ยอมอ่อนให้ เดินนำผมเข้าร้านกาแฟ พนักงานรับออเดอร์ ผมสั่งชาเย็น
บอลลูนสั่งคาปูชิโน่ พอเธอเดินกลับออกไป
“ทำไมหนีมา..ห๊ะ!” เริ่มใช้เสียง ผมเงียบไม่ตอบ
“บู..ออกบ้านทำไม” คงเห็นผมนิ่ง ไม่ตะคอกอีก
“เราห่างกันสักพัก” ผมบอก
“ทำไมต้องห่าง ทำแบบนี้เรียกร้องความสนใจ” คิดไปไหน
“จำเป็นต้องเรียกร้อง บอลเคยสนใจความรู้สึกพี่เหรอ” ผมย้อน
“พูดแบบนี้หมายความว่าไง” น้องหรี่ตาใส่ จ้องรอคำตอบ
“ความหมายตรงตัว ไม่เห็นต้องถาม” กวนบ้างแล้ว
“บู..เลิกงี่เง่าซักที ออกมาแบบนี้คิดว่าดี..หืม”
“ดีสิ..” ผมจ้องกลับ
“ให้โอกาสพูดใหม่” น้องขบกรามกรอด ตาวาวโรจน์
“บอล..เราสองคนไม่เหมือนเดิม ห่างกันสักพักเถอะ” ผมยืนกราน
“ทำไม..อยากออกมาร่าน แน่ซี้..ตอนนี้ไม่เหมือนเดิม โดนไปแล้วเลยอยากลองคนใหม่สิท่า..สันดานตุ๊ดชัดๆ”
กำมือแน่น กลั้นน้ำตาที่รู้ว่ามันร้อนขอบตาเอาไว้ สุดท้ายน้องยังคงทำร้ายจิตใจด้วยคำพูด
“แล้วแต่จะคิด ที่พูดมีแค่นี้ใช่ไหม ถ้างั้นพี่ขอตัว” พูดจบลุกพรวด ควักแบ็งค์ร้อยวางบนโต๊ะ
แต่บอลลูนกับลุกจับไหล่ผมจนนิ้วเกร็ง เจ็บจี๊ดแต่ไม่แสดงสีหน้า จ้องสบตาน้องนิ่ง
“ห้ามไปไหน กลับบ้าน” สั่งอีก
“พี่ไม่กลับ” ผมเชิดใส่ จำที่แบมมันทำ คิดว่าคงดูยะโสไม่เลวมั้ง บอลลูนชะงัก หลังผมแสดงท่าทางแบบนั้นไป
“เป็นบ้าอะไร มาเชิดใส่..หึ” น้องมองแปลกๆ เงียบเสียดีกว่า
“ทำตัวเป็นเด็ก” แขวะผมอีก ใครกันแน่เด็ก..ไอ้บ้า!
“สนใจทำไม เราไม่ได้เป็นพี่น้องกันนิ” ผมย้อนเสียงนิ่ง
“บู..อย่าเยอะ..นั่งลง” น้องเม้มปาก ตาเทาอมฟ้าดูเอาเรื่อง
“ไม่..จะขึ้นไปอ่านหนังสือ” ไม่ยอมทำตามหรอก
“อยากให้ลงมือใช่ไหม” บอลลูนคำรามในคอ
“จะทำอะไร..อย่าคิดว่าพี่ไม่สู้นะ” ผมเชิดคอตั้งท้าทาย
“พังร้านสิวะ สะใจดี” พูดจบ บอลลูนยกเก้าอี้ตั้งท่าทุ่มใส่กระจก พนักงานและลูกค้าโต๊ะห่างๆ
ถึงกับขยับตัวเป็นแถว ผมรีบคว้าแขนไว้ทันที
“หยุดนะ!” ควักตังค์วางอีกสองร้อย ลากแขนบอลออกร้านให้ไว ไม่ลืมหันไปค่อมหัวแทนการขอโทษพนักงานไปด้วย
ผมลากน้องกลับมาหน้าคอนโดอีกครั้ง ทำไมถึงเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองขนาดนี้ พาลไปทั่ว
แต่ก่อนไม่เห็นเป็น หรือผมไม่เคยรู้มาก่อน
“รถจอดที่ไหน”
“ในนั้น” น้องชี้ไปที่จอดรถคอนโด ผมเดินนำเข้าไป เห็นพีรูทสีขาวคันหรูของน้องแล้ว บอลลูนตามมาติดๆ
“กลับบ้านไปก่อนเถอะ..” ผมบอก
“ไปด้วยกัน” น้ำเสียงอ่อนลง จนสัมผัสได้
“ทำไม เกลียดแล้วจะให้พี่กลับไปอีกทำไม” อดถามไม่ได้
“พูดเมื่อไหร่เกลียด..ห๊ะ!” น้องตะคอกกลับ เริ่มโมโหอีกแล้ว
“ไม่รู้ตัวหรือแกล้งบ้า บอลด่าพี่สารพัดไม่เกลียดทำแบบนี้หรือไง”
“เกลียดตุ๊ด แรด..ร่าน มั่ว บูเป็นแบบนั้นไหมเล่า ถึงคิดว่าเกลียด” อ้าว..ทำไมพูดแบบนี้วะ
“บอล..มันไม่สนุก พี่เป็นลูกคนฆาตกร อย่าอ้างไม่เกลียดเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำกันหรอก”
จ้องตาไม่มีหลบ ชั่วโมงนี้เอาไงเอากัน มัวแต่ให้เพื่อนช่วย ผมควรเข้มแข็งด้วยตัวเองก่อน
“เรื่องมันจบไปแล้ว ที่บอกจะได้รู้ความจริงตัวเองเป็นลูกใคร เรื่องเป็นมายังไงต่างหาก ทีแรกทั้งโกรธทั้งโมโห
แต่ไม่ได้เกลียด ที่ทำแบบนั้นไม่ขอตอบได้ไหม กลับบ้านกัน ไหนใครรับปากพ่อแม่ไม่ทิ้งน้อง เขียนไดอารี่จะดูแลน้อง
ไม่ทอดทิ้ง ตอนนี้แปลว่าอะไร” กะแล้ว บอลลูนต้องแอบอ่าน ดันเอามาอ้างเฉยเลย
“นั่นมันก่อนบูจะรังแกพี่หรอก..ชิส!” อดประชดไม่ได้ มีหน้าทวง
“รังแกเหรอ..ถ้าตัวไม่รักเขา ยอมให้รังแกได้เหรอ” อึ้ง..นี่น้องเอาสมองไหนคิด คุยเรื่องเดียวกันหรือเปล่าเนี่ยะ
“พูดอะไร” ผมงง..?
“บู..รัก..บอล..” น้องเน้นทีละคำ ผมนิ่งทบทวนที่น้องพูด
“ใช่..รักมาก มันแปลกตรงไหน” ผมยอมรับ แต่มันเกี่ยวอะไร
“นั่นไง ช่างเถอะ..รักก็รัก ยกให้คน” อ้าว!..อะไรของเขาวะ
“รักไม่ได้แปลว่าอภัย พี่ไม่กลับ” ผมยืนยันหนักแน่น
“อะไรนักหนา รักก็ยอมเป็นผัวแล้วไง หรือให้ประกาศแบบพี่โจ๊ก ว่าเราเป็นผัวเมียกัน..หึ”
อร๊าก!! นี่คุยเรื่องรักคนละความหมายหรือเนี่ยะ อยากทึ้งหัวตัวเองชะมัด
“บอล..รักที่พี่บอก คือรักแบบน้องเข้าใจไหม” ผมรีบอธิบาย
“หึ..เราไม่ใช่พี่น้อง อย่าอ้างแบบนี้อีก เลิกพูดได้แล้ว บูเป็นของบอลห้ามอยู่ที่อื่น ไปอยู่บ้านเหมือนเดิม”
ผมชะงักกึก! ใจเต้นตึกตัก จ้องน้องที่สบตาผมนิ่ง ลูกตาเทาอมฟ้าดูแปลกตา อ่านไม่ออกจะบอกอะไร
“คิดบ้าอะไร หมายความว่าไงที่พูด” ผมสะบัดหัว หน้าร้อนใจสั่น
“บูเป็นของบอล ห้ามให้ท่าไอ้เอ็กซ์ ไอ้ห่า ไอ้ระยำตัวไหนก็ไม่ได้ กลับบ้านเข้าใจไหม” น้องฉุดแขน
รีบสะบัดออกทันควัน เหมือนโดนเหล็กร้อนนาบเลยวุ้ย! วูบจนขนลุก ผมเป็นอะไรไปแล้ว
“บะ..บอลกลับไปก่อน พี่ขอใช้เวลาอ่านหนังสือเตรียมสอบ ละครอำลาอีก มีหลายอย่างที่ต้องทำก่อนจบ
ช่วงนี้ขออยู่สงบสักพัก ขอร้องล่ะ” ผมเอ่ยเสียงนุ่ม ใช้ไม้แข็งคงไม่ได้ สิ่งที่เพิ่งรับรู้ มันทำให้ผมตั้งรับไม่ทัน
“นานแค่ไหน” น้องอ่อนตาม
“หลังสอบแอดฯ เสร็จ” ผมบอก
“สองเดือน..” บอลลูนครางแผ่ว
“อืม..มีเวลาทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น เรายังเด็กทั้งคู่ พี่ไม่อยากให้บอลคิดอะไรโดยไม่มีเหตุผลมารองรับ
บอลมีแฟนเป็นผู้หญิง ลูกแพรอีกล่ะ” ผมเตือนสติ หวาดกลัวกับความรู้สึกแปลกๆ ที่จู่โจมตีกันให้วุ่นไปหมด
“เรื่องนี้เอง จะจัดการให้เรียบร้อย สบายใจยัง” หมายความว่าไง ถามผมทำไม ยิ่งคุยยิ่งพางง? สับสนไปกันใหญ่..
“อย่าทิ้งงานถ่ายแบบของพี่วิชญ์ วันนี้เข้าไปหาเขาหรือเปล่า” เปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากจดจ่อประเด็นเดิม
“โทรไปบอกแล้ว จะเริ่มเข้าไปวันจันทร์” อย่างน้อยน้องไม่ดื้อ
“ดีแล้ว” ยิ้มเฝือนๆให้อย่างฝืนๆ รู้สึกเก้อๆกังๆไงไม่รู้
“มีข้อแม้ เสาร์-อาทิตย์ ต้องกลับไปนอนบ้าน” น้องยื่นเงื่อนไข
“คะ..คือ” ผมอึกอัก
“ไม่มีแต่ ไม่งั้นบอลจะอาละวาดให้บ้านพัง ไม่รักไม่ห่วงบ้านไง ใครจะดูแลทำความสะอาด..ห๊ะ”
ผมรู้ว่าน้องอ้างชัดๆ แต่จนปัญญา เกิดบ้าขึ้นมาจริงใครจะห้ามได้
“ตกลง แต่พรุ่งนี้ไม่ได้นะ ขอเป็นอาทิตย์หน้า” พรุ่งนี้วันเสาร์แล้ว ต้องไปพบพี่วิชญ์พร้อมโจ๊ก
“ได้...เดี๋ยวมารับไปเรียนติว” ยังมีต่อ
“ไม่ต้อง นัดกนกกับโจ๊กไว้แล้ว” รีบปฏิเสธ เรื่องนี้ต้องคุยกับพวกแบมมันก่อน
“จิ๊..ห้ามให้รู้ว่าแอบคบใครเด็ดขาด” น้องชี้หน้า
“อืม..ไม่มีหรอก” ผมรับปาก
“กอดหน่อย” ว่าแล้วไม่รออนุญาต รวบตัวผมเข้าไปกอดเต็มรัก หน้าซุกอยู่กับไหล่น้องหายใจแทบไม่ออก
“ปล่อยได้แล้ว รีบไปสิ” ร้อนผ่าวไปหมด นี่มันอะไรกัน สองวันที่ไม่เจอบอลลูนเปลี่ยนไป
สิ่งที่น้องทำมันแปลว่าอะไร ส่งน้องกลับไปแล้ว ผมเดินใจลอยขึ้นห้อง ในหัวมึนตึ๊บไปหมด...มีคำถามที่ต้องการคำตอบ..?
มาลงให้แล้วนะคะ ลุ้นมาม่าบอลลูนกันเป็นแถว
มีแน่นอนคะ เป็นตามพ็อตเรื่องได้กินกันเรื่อยๆ
ขอบคุณทุกเม้นท์ทุกกำลังใจ ตอนนี้สต๊อกใกล้หมดแหละ เลยเร่งปั่นอยู่
คิดว่าอาจจะลงสองวันตอนได้ แต่ทุกวันคงจะลำบาก ดึงสต๊อกเก่ามาใช้หมด
จะทำให้ทิ้งช่วงห่าง เสียอารมณ์กันเปล่าๆ ไม่ว่ากันนะคะ คนอ่านที่รักของคนเขียน อิอิ...
Luk.
ปล. บวก 1 กับเป็ด ให้ทุกเม้นท์แทนการขอบคุณเช่นเคยค่ะ