ตอนที่ 7 :: รับน้อง ::เช้าวันรุ่งขึ้นปรเมศตื่นนอนเนื่องจากมีพยาบาลเข้าดูอาการนันทกรรอบเช้า ร่างสูงจึงเดินไปล้างหน้าล้างตาพอดีกับที่คนที่บ้านเอาของใช้มาให้ เมื่ออาบน้ำอาบท่าเสร็จเดินออกมาคนบนเตียงก็ตื่นพอดี
“เป็นไงบ้าง อาร์”ปรเมศเดินเข้าไปหาลูบหัวคนที่เพิ่งตื่นอย่างห่วงใย
“ค่อยยังชั่วแล้วพี่เมศ......ไม่อึดอัดแล้ว”นันทกรตอบพลางส่งยิ้มให้ ทำให้ร่างสูงพอวางใจไปเปราะหนึ่ง
“พี่เมศ.......ผมขอโทษนะครับ”
“หืม?? ขอโทษพี่เรื่องอะไรอาร์??”ปรเมศเลิกคิ้วสูง ถามเมื่อไม่เข้าใจว่าอีกคนจะมาขอโทษตนทำไม
“ขอโทษที่ทำให้ถูกคุณป้าดุ.........ถ้าผมไม่ป่วยคุณป้าคงจับไม่ได้ว่าพี่เมศออกไปเที่ยว”ดวงตาสีน้ำตาลดูเศร้าสลดก่อนหรุบตาลง ปรเมศขยี้หัวคนเศร้าซึมอย่างเอ็นดู
“เฮ้อ!!ไม่ใช่ความผิดของอาร์ซักหน่อย อาร์ไม่ได้ตั้งใจป่วยนี่น่า แล้วพี่ก็ผิดเองที่ผิดสัญญากับแม่ แถมยังดูแลเราไม่ดี ปล่อยให้เข้าโรงพยาบาลอย่างนี้ พี่สิควรจะขอโทษอาร์”
“ไม่ใช่ความผิดของพี่เมศหรอกครับ!!ผมป่วยเองนี่ พี่เมศไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย!!”นันทกรรีบบอกอย่างร้อนรนเมื่อเห็นอีกฝ่ายโทษตัวเอง
“งั้นเอาเป็นว่าต่างคนต่างไม่ผิดละกัน มันเป็นเรื่องสุดวิสัยนี่เนอะ”ปรเมศบอกก่อนจะยิ้มขึ้นจนทำให้นันทกรอดยิ้มตามไม่ได้
“ครับ เหตุสุดวิสัยจริงๆด้วย....”
“สวัสดีครับ ขอตรวจรอบเช้าหน่อยนะครับ...”เสียงพูดจากทางประตูทำให้ทั้งสองต่างหันไปพร้อมกันก่อนจะเชิญคุณหมอและคุณพยาบาลเข้ามาทำการตรวจ
ปรเมศทำท่าว่าจะลงไปซื้อของกินรองท้องข้างล่างระหว่างรอนันทกรตรวจให้คนบนเตียงดู นันทกรพยักหน้ารับทราบและหันไปสนใจคุณหมอต่อ ร่างสูงจึงออกจากห้องทันที
Trrr…….Tr………..Trr………
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ปรเมศที่กำลังสั่งกาแฟร้อนจากร้านเบเกอรี่รีบก้มลงมองทันที และก็เลิกคิ้วเมื่อเห็นใครโทรมา
“ว่าไงครับ แพร........เช้านี้คุณตื่นเร็วนะครับ...”ชายหนุ่มถามล้อๆด้วยรู้ว่าหญิงสาวมักจะเที่ยวดึกดื่นและตื่นเช้าไม่ค่อยไหว
‘ยังไม่ได้นอนต่างหากละคะ.......ว่าแต่เด็......น้องคุณเป็นไงบ้างคะ’เสียงหวานที่ถามมาค่อนข้างดูประชดประชัน
“อาร์ปลอดภัยแล้วครับ”
‘งั้นหรือค่ะ!!........น่าจะตายๆไปซะ...’แพรวาพูดเสียงดังในตอนแรกและกระซิบกับตัวเองในตอนท้าย
“ว่าอะไรนะครับ??”
‘อ๋อ เปล่าคะ.........ว่าแต่งั้นคุณก็ว่างแล้วนะสิคะ คืนนี้ไปเที่ยวกันอีกนะคะ เมื่อคืนเรายังไม่ได้สนุกกันเต็มที่เลย..’แพรวาอ้อนเสียงหวาน แต่ปรเมศถอนหายใจอย่างหนักอก
“ขอโทษครับแพร เพราะเรื่องเมื่อคืนคุณแม่เลยรู้เรื่องที่ผมหนีเที่ยว แล้วท่านค่อนข้างจะโกรธ.........ผมเลยว่าคงต้องหยุดเที่ยวสักระยะ แพรเข้าใจผมนะครับ”
แพรวากำมือแน่น เธอรู้ว่านั้นคงเป็นแผนภาคต่อที่เด็กหนุ่มหน้าฝรั่งจอมร้ายกาจนั้นวางไว้ เธอควรตอบรับปรเมศไปแต่โดยดีเพื่อไม่ให้มีปัญหา แต่เธอก็อดค่อนขอดเด็กนั้นไม่ได้จริงๆ
‘งั้นหรือคะ..........อาร์เนี่ยช่างป่วยได้ถูกเวลาจริงๆนะคะ ต้องมาป่วยตอนเมศไปกับแพรซะด้วย ฮึ! แถมคุณแม่คุณยังโกรธ ทำให้คุณออกไปเที่ยวไม่ได้อีก’
“พูดอย่างนี้หมายความว่าไงแพร??คุณจะบอกว่าน้องผมแกล้งป่วยงั้นหรือ??ไม่เอาน่า คุณโตแล้วนะแพร คุณก็รู้ว่าหอบหืดนี้อันตรายแค่ไหน อาร์คงไม่แกล้งทำตัวให้ป่วยหรอก”ปรเมศพูดเสียงเข้ม ไม่พอใจที่แพรวากล่าวหาคนอื่นอย่างนี้
‘แล้วแต่คุณจะคิดค่ะ!!แต่แพรขอเตือนคุณไว้ก่อน น้องคุณคนนี้เค้าไม่ได้ดูซื่อๆแบบที่คุณคิดจริงๆหรอกคะ แค่นี้นะคะ แพรง่วง แล้วแพรจะติดต่อไปใหม่คะ!!’หญิงสาวรีบชิงวางสายก่อนที่ปรเมศจะโกรธ ก่อนจะกดเบอร์บางเบอร์ขึ้น
“ฮัลโหล ฉันต้องการนักสืบเอกชนช่วยจัดหาเก่งๆให้ฉันสักคนที”
///////////////////////////////////////////////
หลังจากวางสายไปจากแพรวา ปรเมศที่รับกาแฟมาแล้วก็ยังไม่ผละไปไหน นั่งเหม่อคิดบางสิ่งบางอย่างอยู่.......นั้นสินะ อย่างที่แพรวาพูดก็มีส่วนจริง ทำไมอาร์ถึงได้เกิดอาการป่วยตอนที่เค้าเที่ยวทันทีทั้งๆที่ก่อนไปยังไม่มีอาการอะไรด้วยซ้ำ หลายๆวันที่ผ่านมาก็ไม่มีสักครั้ง แถมยาพ่น.......ทั้งๆที่เป็นของสำคัญทำไมอาร์ถึงได้ทำหายได้.......หรือว่า......
ปรเมศส่ายหัวกับความคิดแง่ลบนี้.......ไม่สิ อาร์จะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร ในเมื่ออาร์กับเค้าก็แค่พี่น้องกัน อาร์จะมากันเค้าไม่ให้ไปพบแพรทำไม และทำไมอาร์ต้องเสี่ยงชีวิตตัวเองเพราะเรื่องเพียงแค่นี้ด้วย แพรวาคงคิดมากเพราะความหึงหวงไปเองก็ได้ ปรเมศโคลงหัวในสิ่งที่ตนคิดเป็นตุเป็นตะว่าเป็นเพียงเรื่องไร้สาระ......มันเป็นความบังเอิญต่างหาก ใช่! มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว
ว่าแล้วร่างสูงก็ลุกออกจากที่นั่ง หาเบเกอรี่อร่อยๆดูน่ากินเพื่อให้คนที่อยู่บนห้องกินแทน เพื่อชดเชยความผิดที่เค้าเคยคิดไม่ดีชั่ววูบเกี่ยวกับอาร์ไป และเค้าก็ได้ขนมปังเนยสดโรยไอซ์ซิ่งหนึ่งก้อนกับพายรสหวานให้กับคนที่ชื่นชอบของหวานนั้นเอง
“พี่เมศลงไปนานจัง ไปซื้อของกินถึงไหนครับเนี่ย??”นันทกรถามขึ้นเมื่อเห็นพี่ชายในนามเดินเข้ามา
“ก็ร้านเบเกอรี่ข้างล่างหนะ พี่ซื้อของมาฝากเราด้วย ชอบหรือเปล่า??”นันทกรมองของในถุงกระดาษตรงหน้าก่อนยิ้มขึ้น หยิบขนมปังชิ้นหนึ่งขึ้นมากัดทันที
“อร่อยอะพี่เมศ ขอบคุณครับ”เด็กหนุ่มนั่งกินขนมปังตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย ปรเมศยิ้มขำๆก่อนจะใช้มือปัดไอซ์ซิ่งที่เลอะข้างแก้มออกให้
“อ๊ะ!!พี่เมศทำอะไร”นันทกรสะดุ้งเมื่อนิ้วใหญ่สัมผัสลงบนแก้มนิ่มของตน ใช้มือจับตรงที่โดนสัมผัสเบาๆ
“แก้มเลอะไอซ์ซิ่ง.......พี่เลยปัดให้เฉยๆ”ปรเมศชูนิ้วที่เลอะไอซ์ซิ่งให้ดู คนบนเตียงพยักหน้าเข้าใจ
“ขอบคุณครับ...”นันทกรพูดขอบคุณเสียงเบา ใบหน้าเนียนซับสีแดงเล็กน้อยก่อนจะนั่งกินต่อไปเงียบๆ มีเพียงปรเมศเท่านั้นที่กลับรู้สึกแปลกๆ.........ทำไมเค้าถึงรู้สึกว่าอาร์น่ารักขึ้นมาได้นะ.....
หลังจากวันนั้นแพรวาก็เงียบหายไปจนนันทกรแปลกใจ........เป็นไปไม่ได้ที่ผู้หญิงคนนี้จะหลุดจากวงจรชีวิตของปรเมศได้ด้วยเรื่องแค่นี้......แล้วทำไมละ??เกิดอะไรขึ้น?? แม้จะไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่นันทกรก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ เวลานี้เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของเค้าต่างหาก ปรเมศเองก็คอยดูแลเอาใจทุกอย่างเพราะกลัวจะเป็นอย่างก่อนหน้านี้ ทางด้านที่บริษัทก็สุขใจที่ได้เห็นหน้ายัยเลขาตกกระป๋องนั้นมองอย่างเคียดแค้น เรียกได้ว่านี้เป็นช่วงที่เค้าต้องเริ่มสร้างต้นรักให้กับทั้งตัวเองและปรเมศดีกว่า.....
“ก๊อก ก๊อก!!”เสียงเคาะประตูทำให้นันทกรที่นั่งจัดของอยู่ลุกขึ้นไปเปิด แล้วก็พบกับร่างสูงที่ยืนส่งยิ้มมาให้อยู่
“อ้าว พี่เมศมีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ??”
“อ๋อ เปล่าหรอก พี่จะมาบอกว่าพรุ่งนี้ที่เราจะไปมหาลัยวันแรก เดี๋ยวพี่จะพาไปเอง แล้วนี้ต้องไปตอนกี่โมงละ??”
“ตอนแปดโมงเค้านัดปีหนึ่งไปทำความรู้จักกันก่อนครับที่คณะ ว่าแต่พี่เมศว่างหรือครับ พรุ่งนี้ไม่มีประชุมช่วงเช้าหรือ?? นี่ผมรบกวนพี่เมศหรือเปล่า...”นันทกรทำท่าเกรงใจ ปรเมศส่ายหัว
“ไม่หรอก มหาลัยเราก็เลยบริษัทไปหน่อยเดียวเอง แถมพี่ก็ไม่มีประชุมด้วย เข้าสายนิดสายหน่อยก็ไม่เป็นไร ห่วงแต่เรานี้แหละ ไม่ได้กลับเมืองไทยตั้งนาน วันแรกอาจมีติดขัดอะไรหลายเรื่องพี่ไปด้วยเผื่อช่วยได้”นันทกรมองคนพูดแล้วยิ้มพลางโถมเข้ากอด
“เฮ้ย!!เป็นอะไร อยู่ดีๆก็โถมเข้ามากอด โตเป็นหนุ่มแล้วนะเรา”ปรเมศแกล้งกระเซ้า แต่ก็ยังยอมปล่อยให้กอด.........ก็เวลานันทกรอ้อนมันน่ารักจะตายนี่.......
“ขอบคุณครับพี่เมศ พี่เมศเป็นพี่ชายที่ใจดีที่สุดเลย!!”นันทกรกอดกระชับแน่น...........ใช่..เป็นที่พี่ชายที่แสนดีไม่ผิดกับอเลนแม้แต่น้อย......
“จ้าๆ แต่นี่ดึกแล้วนอนได้แล้ว รู้ไหม...”ปรเมศดึงนันทกรออกก่อนขยี้หัวด้วยความเอ็นดู
“ครับ พี่เมศฝันดีนะครับ”เด็กหนุ่มแกล้งกระโดดหอมแก้มคนสูงกว่าก่อนจะแลบลิ้นให้
“กู๊ดไนท์คิสครับ..”พูดจบก็ปิดประตู ปล่อยอีกคนยืนลูบแก้มงงๆ
“เฮ้อ!!เจ้าตัวแสบเอ๋ย!!”ส่ายหัวไปมา ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นเค้าคงขนลุกและไล่เตะไปแล้วที่มาหอมแก้มอย่างนี้ แต่ไม่ว่ายังไง สำหรับเค้าอาร์ในวันนี้หรือเมื่อก่อนก็ยังเป็นเด็กน้อยน่ารักของเค้าเหมือนเดิม ไม่มีเลยซึ่งความขยะแขยงนั้น......
//////////////////////////////////////
“อรุณสวัสดิ์คะ น้องๆทุกคน!!!ยินดีต้อนรับสู่มหาวิทยาลัยของเรา ยินดีต้อนรับสู่คณะวิทยาศาสตร์ของเรา!!!”ทันทีที่นักศึกษาหญิงที่ยืนอยู่ข้างหน้าพูดจบ นักศึกษาคนอื่นๆที่อยู่รอบข้างต่างร้องเฮขึ้น บางคนตีกลองปลุกใจ ทำให้เด็กหนุ่มสาวหน้าใส นักศึกษาใหม่ต่างตื่นเต้นและประหม่า
ปรเมศมองไปรอบๆบริเวณที่เค้ายืนอยู่ แล้วก็ต้องยิ้มกับบรรยากาศที่ห่างหายไปเสียนาน บรรยากาศของมหาวิทยาลัย.......ขณะนี้เด็กน้อยของเค้านั่งเด่นอยู่ในแถว........ต้องเด่นอยู่แล้วในเมื่อหน้าตาออกจะฝรั่งจ๋าขนาดนั้น ผิดก็ขาว ผมกับตาสีน้ำตาลที่เป็นธรรมชาตินั้นอีก ทำเอาหนุ่มสาวทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องต่างชะเง้อมองแล้วซุบซิบกันทั้งนั้น
แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่สนใจยังคงนั่งมองหญิงสาวด้านหน้าพูดอย่างขะมักเขม้น บางทีก็มีหันหลังมามองเค้าเล็กน้อยก่อนจะยิ้มให้และโบกมือนิดๆและหันกลับไปอย่างเดิม.......ส่วนตัวเค้าเหรอเมื่อน้องโบกมือให้ก็ยิ้มแล้วโบกมือตอบ ทำเอาเด็กๆในสายตาเค้าหันมามองด้วยความสงสัยว่าตาลุงนี้มาทำอะไรกันเป็นแถว
“วันนี้อย่างที่น้องๆคงรู้กันอยู่ เราจะจัดงานกระชับความสัมพันธ์ขึ้นเพื่อให้น้องๆได้รู้จักกันมากขึ้น พวกพี่ๆหวังว่าอย่างน้อยงานในวันนี้คงทำให้น้องๆได้รู้จักเพื่อนได้มากขึ้นและขอให้น้องๆรักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนให้นานๆ และอยู่กันอย่างมีความสุขตลอดสี่ปีที่เรียนอยู่ที่นี้นะคะ”หญิงสาวด้านหน้ากล่าวต่อ
“แล้วคนที่เรียนไม่จบสี่ปีละครับ พี่จ๋า”เสียงชายหนุ่มด้านข้างฝั่งรุ่นพี่แซวขึ้น
“ก็อยู่เป็นเพื่อนกับพี่โจ้ ที่ต้องเรียนแปดปีไงละคะ ไอ้คุณเพื่อนโจ้!!!น้องๆอย่าเอาอย่างนะคะ”เสียงทั้งรุ่นน้องรุ่นพี่ฮาครืน คนโดนกระทบกระเทียบรีบโห่ทันที
“เอาละๆ สนุกพอแล้ว เดี๋ยวพี่จะให้น้องแต่ละคนลุกขึ้นแนะนำตัวนะคะ บอกเอกที่เรียนด้วยแล้วเดี๋ยวพี่จะจัดที่นั่งใหม่ให้นั่งตามเอกนะคะ เริ่มจากน้องคนขวาสุดคะ เชิญ!!”
“สวัสดีครับผม......”เสียงแนะนำตัวของน้องแต่ละคนดังขึ้นเรื่อยๆจนใกล้ถึงนันทกร ปรเมศแอบลุ้นในใจ คาดว่านันทกรต้องโดนซักถามหนักกว่าคนอื่นแหงๆ ด้วยทั้งหน้าตาและเสื้อผ้าชุดไปรเวทที่ไม่เหมือนคนอื่นที่ใส่ชุดนักเรียนเก่ามา
“สวัสดีครับผม อาร์เธอร์ นันทกร วินแฮมครับ ชื่อเล่นชื่อ อาร์ มาจากโรงเรียนKing Edward’s School อยู่เอก IT ครับ”
“น้องอาร์เป็นลูกครึ่งหรือคะ??”เสียงหญิงสาวคนหนึ่งในบรรดารุ่นพี่ถามขึ้น
“ครับ พ่อเป็นคนอังกฤษแม่เป็นคนไทยครับ”นันทกรตอบอย่างสบายๆแถมยังแจกจ่ายยิ้มไปทั่ว
“เอ่อ ชื่อโรงเรียนไม่คุ้น มาจากจังหวัดไหนคะเนี่ย”หญิงสาวอีกคนถามขึ้น เนื่องจากเห็นนันทกรพูดไทยชัด คาดว่าเด็กหนุ่มคงอยู่เมืองไทยตั้งแต่กำเนิด ปรเมศนั่งเอามือเท้าคางยิ้มที่ทุกคนต่างสนใจเด็กน้อยของเค้า
“อยู่เมืองเบอร์มิ่งแฮม อังกฤษครับ”เสียงฮือฮาขึ้นเมื่อทราบว่านันทกรเป็นเด็กนอก เด็กรุ่นเดียวกับนันทกรต่างพากันซุบซิบกรี๊ดกร๊าดกันเป็นแถวๆ
“ว้าย!!เด็กนอกน่าหม่ำมากกกกกกกกกกก มาเป็นแฟนพี่ไหมคะน้องขา”มีพี่ผู้หญิงใจกล้าคนหนึ่งแซวขึ้น นันทกรอมยิ้ม
“คงต้องขออนุญาตพี่ชายผมด้านหลังดีกว่าครับ พอดีพี่ชายผมเค้าหวง”นันทกรหันมาหาเค้าพลางขยิบตาให้ ทุกคนต่างหันไปมองปรเมศกันพรึ่บ เจ้าตัวคนถูกกล่าวถึงได้แต่โบกมือยิ้มแหยๆ
“กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!!พี่ชายล่ำน่าหม่ำกว่า พี่ขาสนใจกระเทยสาวสวยหมวยแฟบแต่เร้าใจไหมคะ!!”กระเทยนางหนึ่งพูดขึ้นเสียงดัง สายตาราวกับจะกลืนกินคนที่นั่งอยู่เข้าไปทำเอาปรเมศผวา
“คนนั้นไม่ได้ครับ พี่ชายผม ผมหวง....”นันทกรบอกยิ้มๆทำเอาเสียงกรี๊ดดังลั่นจนเด็กคณะอื่นหันมามอง
“เอาละ พอๆ เดี๋ยววันนี้เราจะแนะนำตัวไม่จบกันพอดี น้องอาร์นั่งได้คะ คนต่อไปเลยคะ”พี่ผู้หญิงคนแรกพูดขึ้น นันทกรจึงนั่งลงแต่ไม่วายหันมามองคนที่นั่งอยู่ด้านหลัง
“กลับบ้านจะจีบตีกัน”ปรเมศพูดแบบไม่มีเสียงส่งไปให้
“ไม่กลัวหรอกครับ แบร่”นันทกรตอบกลับ
“เอ้าๆ!!น้องอาร์ขาเดี๋ยวค่อยสวีทกับคุณพี่ชายค่ะ หันมาตั้งใจฟังเพื่อนแนะนำตัวก่อนเร็ว!!”พี่กระเทยคนเก่าพูดขึ้นทำเอานันทกรรีบหันกลับมาส่งยิ้มเขินๆไปให้เห็นโดยทั่วกัน
ปรเมศเห็นว่าเด็กแต่ละคนเริ่มไม่มีสมาธิในการร่วมกิจกรรมเพราะเจ้าตัวแสบของเค้าเสียแล้ว บางคนก็หันมามองเค้าที นันทกรที ร่างสูงจึงตัดสินใจส่งเมสเสจไปหาคนที่นั่งอยู่ในกลุ่มว่า ขอเข้าบริษัทไปก่อนเดี๋ยวเลิกกิจกรรมแล้วจะมารับ เพียงชั่วครู่ข้อความรับทราบก็ถูกส่งกลับมา เค้าจึงเดินกลับไปที่ลานจอดรถทันที
..........................................................
..................................
.............
....
“นี่ๆนาย”เสียงหวานแต่ห้าวของคนที่สะกิดจากด้านหลังทำให้นันทกรต้องหันไปมองก่อนจะเจอสองสาวสองสไตล์ส่งยิ้มมาให้
“อาร์ใช่ปะ เราชื่อน้ำหวาน เพื่อนเราชื่อส้มเอก IT เหมือนกัน”หญิงสาวที่ท่าทางดูแก่นแก้วบอกชื่อก่อนแล้วชี้ไปทางเพื่อนสาวที่แต่งตัวเสื้อนักเรียนโรงเรียนเดียวกันแต่ดูเรียบร้อยกว่า คนชื่อส้มพยักหน้าส่งให้
“อืม หวัดดี”นันทกรทักทายพลางยิ้มให้
“อาร์พูดไทยชัดจัง ยังกะไม่ใช่เด็กนอกแหนะ อยู่นู้นตั้งแต่เกิดเลยเหรอ”ส้มถามบ้าง ทั้งสองมีสีหน้าอยากรู้กันมากจนนันทกรเอ็นดู
“เปล่าหรอก เราย้ายไปอยู่อังกฤษตอนหกขวบ แต่แม่เราเค้าก็ให้พูดภาษาไทยตลอดก็เลยยังชัดละมั้ง”
“เหรอ........โอ๊ะ!!เค้าเรียกให้แยกย้ายตามเอกแล้ว เราไปด้วยกันเถอะ เดี๋ยวจะแนะนำเพื่อนเราคนอื่นให้รู้จัก”น้ำหวานจัดการลากมือเค้าไปยังป้ายที่เขียนว่า IT ด้วยตัวหนังสือนูนต่ำสีม่วงเข้ม ตรงบริเวณป้ายมีชายหญิงอีกสี่ห้าคนยืนอยู่ก่อนแล้ว
“เฮ้ย!! ไอ้อ๊อฟ ไอ้รี่ ไอ้โฟน ไอ้เพน”ชายสามหญิงหนึ่งที่ยืนคุยกันอยู่นั้นหันมาตามที่หญิงสาวเรียก ก่อนจะส่งเสียงทักทายกลับมา
“น้ำหวานเดี๋ยวนี้ควงผู้ชายหรือหล่อน แล้วยัยส้มไปไหน ปล่อยให้หล่อนเดินควงผู้ชายได้เนี่ย”ชายผิวขาวท่าทางสำอางถาม ก่อนโดนส้มยกขาเตรียมถีบ
“ขอร้องอย่าให้ผัวเมียเค้าต้องทะเลาะกันมึง ส้มก็อยู่กับกูเนี่ย กูพาเพื่อนใหม่มาแนะนำ........นี้อาร์ กูรู้ว่าพวกมึงต้องรู้จักเพราะอาร์โคตรเด่น อาร์นี้เพื่อนเรา ไอ้คนริมชื่อเพน อีกระเทยแรดนี้ชื่อโฟน ยัยจอมเชิดนี้เชอร์รี่ ส่วนเก๊กหล่อนี้อ๊อฟ”น้ำหวานไล่ชื่อแต่ละคนให้รู้จัก โดยคนแรก เพน เป็นผู้ชายผิวขาวใส ตัวเล็กกว่าอาร์เล็กน้อย หน้าตาออกแนวญี่ปุ่นแบ๊วๆ ท่าทางสดใส ตามด้วยโฟน หญิงในร่างชาย ท่าทางเฮฮาขี้วีน ผิวขาวอมชมพู หน้าตาทรงผมจัดเต็ม หน้าตาดูดีไปอีกแบบ คนต่อมาหญิงสาวที่เมื่อครู่ยืนเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่ม เชอร์รี่ ท่าทางขี้วีนไม่แพ้โฟน แต่เป็นสาวสวย และอัธยาศัยดี คนสุดท้าย อ๊อฟ ชายหนุ่มร่างสูงผิวสองสี ท่าทางเคร่งขรึม ดวงตาดุ ไม่ค่อยพูดค่อยจา และตอนนี้กำลังจ้องนันทกรเขม็ง
“นายคนที่ยืนแล้วโดนพวกรุ่นพี่ถามเยอะๆเมื่อกี้นี้ใช่ปะ!!! โหย ที่เมื่อกี้นายเล่นมุก เราชอบมากเลย เล่นเอาฮาครืนเลย”เพนเปิดประเด็นก่อน นันทกรได้แต่ยิ้มส่งให้
“ใช่ๆ ว่าแต่พี่นายหล่อลากอะ!!สนใจอยากได้เราเป็นพี่สะใภ้มะ แนะนำให้รู้จักหน่อยดิ”เชอร์รี่รีบเข้าไปกระแซะทันที เพราะถูกใจชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านหลังเมื่อครู่ แต่พอแยกกันเท่านั้นหละ หันไปชายหนุ่มก็หายไปแล้ว
“ต๊าย!!ยัยนี่ จะจิกผู้ชายตั้งแต่วันแรกเลยหรือไงยะหล่อน!! ไม่เห็นที่อาร์เค้าประกาศหรือไงยะว่าคนนี้เค้าหวง”โฟนแอบจิกกัดเชอร์รี่ก่อนให้ไปพยักเพยิดกับเพื่อนใหม่
“อืม งั้นแหละ ให้จีบไม่ได้หรอก เพราะพี่ชายคนนี้เราหวงมากๆ”คำพูดดูกึ่งล้อเล่นกึ่งจริงของนันทกรทำเอาทั้งกลุ่มชะงัก ก่อนเจ้าตัวจะยิ้มที่ดูน่าหวาดเสียวมาให้และทั้งกลุ่มต้องพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย แต่ไม่ทันได้คุยเสียงทุ้มก็พูดขึ้น
“เค้าเรียกรวมแถวแล้ว รีบไปกันเถอะ...”อ๊อฟบอกก่อนเดินตรงไปที่แถวคนแรก คนอื่นจึงรีบเดินตามไป ระหว่างเดิน เชอร์รี่หันกลับไปมองนันทกรก่อนจะยิ้มแหยๆแล้วพูดขึ้น
“เมื่อกี้เราพูดเล่นนะ อาร์ โทษทีอาร์ไม่โกรธเราใช่ป่ะ”นันทกรส่ายหัว
“ไม่โกรธหรอก เรารู้ว่าเชอร์รี่พูดเล่น แต่อย่าให้เป็นจริงขึ้นมานะ........”นันทกรพูดแค่นั้นก่อนจะยิ้มเย็นๆ ทำให้เชอร์รี่เข้าใจทันทีว่าเธอไม่ควรคิดจีบชายหนุ่มพี่ชายนันทกรเป็นอันขาดหากไม่อยากชะตาขาด....
“เอาละคะ น้องๆพี่ชื่อพี่ฟ้านะคะ เป็นประธานเอก IT ของเรา ปีนี้เรามีน้องใหม่เอกเราทั้งหมด 52 คนขอให้น้องๆอยู่ครบ 52 คนจนกระทั่งเรียนจบนะคะ อย่างแรกวันนี้เราจะเริ่มกิจกรรมตามหาพี่รหัสก่อน.........ง่ายๆพี่รหัสของน้องแต่ละคนจะมีเลขสามหลักท้ายตรงกันกับน้อง บางคนอาจสงสัยว่า เอ๋...พี่รหัสเราอยู่เอกอื่นหรือเปล่า คำตอบคือ ไม่มีคะ เพราะมหาลัยเราใช้ระบบเลขเอกนำหน้าในเลขตัวที่สามส่วนสองตัวหลังจะเป็นเลขที่ไล่ตามตัวอักษรของแต่ละคนในชั้นปีนั้น และด้วยรุ่นพี่ปีที่แล้วมีทั้งหมด 55 คนนั้นหมายความว่าน้องทุกคนต้องมีพี่รหัส พี่จะให้เวลาสองชั่วโมงในการหารอบๆบริเวณสวนที่เรานั่งอยู่นะคะ ใครจะใช้วิธีไหนหาก็ได้ แล้วแต่ความสามารถคะ แต่ใครหาพี่รหัสไม่ได้จะต้องมีเกมลงโทษ เอาล่ะ พร้อมรึยัง!!!”เด็กหนุ่มสาวต่างมองหน้ากันเลิกลั่กแต่ก็ตะโกนออกมาว่าพร้อม เสียงนกหวีดดังขึ้นทุกคนก็แตกกระจายทันที
“ว้าย!!แล้วจะไปตามหาที่ไหนละแก”โฟนถามขึ้น
“เราว่าคงต้องเดินถามทีละคนละมั้ง”ส้มตอบพลางมองรุ่นพี่ที่อยู่รอบๆ
“ต้องโดนให้ทำอะไรประหลาดๆแน่เลยแก แบบที่ในหนังไงละ”เชอร์รี่บ่น
“เอาน่า คิดว่าทำสนุกๆ เริ่มที่คนไหนก่อนดี”น้ำหวานพูดเสียงตื่นเต้น
“คนโน้นไหมท่าทางใจดี.........อ้าวอาร์ทำอะไรอยู่หนะ เห็นนั่งกดไอแพทตั้งแต่เมื่อกี้แหละ”เพนถามขึ้นเมื่อเห็นนันทกรกดไอแพทในมือไม่พูดไม่จา
“อ๋อ.........เสร็จพอดีเลย......นี้ไง”นันทกรโชว์หน้าจอให้บรรดาเพื่อนใหม่เห็นก่อนทุกคนจะอ้าปากค้าง
“เราเจาะเว็บนักศึกษาเพราะปกติเว็บนักศึกษาต้องมีรหัสนักศึกษาพร้อมหน้าตาของนักศึกษาแต่ละคนอยู่แล้ว เลยลองหาคนที่รหัสเดียวกับเรา แล้วก็ได้นี้ไง........นายอัครเดช รหัส 422 พี่รหัสเรา...”รูปชายหนุ่มท่าทางสุภาพและเป็นคุณชายปรากฏบนไอแพท ทุกคนต่างมองนันทกรอย่างตื่นตะลึง
“โอ้ว บร๊ะเจ้า!!!อาร์จ๋า อาร์แสนดี ทำให้ฉันบ้างสิ”โฟนรีบขอเป็นคนแรก
“เฮ้ย!!เราด้วยๆ อ๊ะ!!หาให้ส้มก่อนดีกว่า”น้ำหวานว่าพลางกระชับมืออีกหนึ่งสาวแน่น
“เดี๋ยวเราทำให้ทุกคนก็ได้ จะส่งรูปไปที่มือถือละกัน บอกรหัสมาทีละคน...”
เมื่อแต่ละคนได้หน้าตาและชื่อของพี่รหัสตัวเองก็ต่างแยกย้ายกันไปหา นันทกรก็เช่นเดียวกันแต่เค้ารู้ว่าเค้าไม่ต้องหา เพราะตั้งแต่เมื่อกี้ก็รู้อยู่แล้วว่าใครบางคนนั่งมองอยู่
“สวัสดีครับพี่อัครเดช รหัส 07540422”ชายหนุ่มที่นั่งเลื้อยไปกับโต๊ะเมื่อกี้ยิ้มให้กับคนทักก่อนจะยื่นมือไปให้
“สวัสดีคุณน้องรหัส น้องอาร์ 07550422”นันทกรจับมือนั้นก่อนดึงตัวพี่รหัสให้ลุกขึ้นนั่งดีๆ
“เก่งนะที่คิดวิธีหาจากเว็บได้ ถึงจะดูไร้ความพยายามไปนิดแต่ถือว่าได้ใช้หัวคิดดี”ชายหนุ่มชมอย่างจริงใจ
“พี่ชื่อเก่ง.......เอาโทรศัพท์มาสิ”นันทกรยื่นโทรศัพท์โดยไม่ซักถามอะไร อัครเดชกดเบอร์บนหน้าจออย่างรวดเร็ว ก่อนเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงจะดังขึ้นจึงส่งโทรศัพท์คืนไปให้
“ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรไปถามได้..........มีอะไรอยากถามพี่รึเปล่าเห็นจ้องจัง”อัครเดชที่นั่งในท่าสบายเลิกคิ้วถาม นันทกรยิ้ม
“ผมว่าพี่นิสัยคล้ายใครบางคน”นันทกรบอก
“ใครละ??”
“เหมือนผม...”อัครเดชฉีกยิ้ม
“พี่ก็ว่างั้นไอ้น้อง.......หวังว่าเราจะเข้ากันได้ดี”ระหว่างที่คนอื่นวิ่งพล่านหาพี่รหัส นันทกรกับอัครเดชกลับนั่งนิ่งราวกับให้ความเงียบเป็นกั้นกลางระหว่างเค้าทั้งคู่
“พี่ชายเราหนะ....”อัครเดชพูดขึ้น นันทกรที่นั่งอยู่เงียบๆจึงหันไปมอง
“น่าสนใจดีนะ”ชายหนุ่มยิ้มกวนเมื่อเห็นอีกฝ่ายจ้องนิ่งแต่ในแววตากลับวาววับ
“แต่ว่า.......”มือขาวยื่นเข้ามาเด็กหนุ่มก่อนจะจับไหล่ไว้
“นายก็น่าสนใจเช่นกัน.........พวกนายทำให้ฉันอยากทำอะไรบางอย่าง”คำพูดคำหลัง อัครเดชกระซิบที่ริมหูอีกฝ่ายก่อนผละออก แล้วส่งยิ้มให้กับใครบางคนที่ยืนตื่นตะลึงอยู่.........ตะลึงที่ใครที่เค้าไม่รู้จักทำท่าราวกับจะบรรจงจูบแก้มเนียนของเด็กน้อยของเค้า.....
ติดตามตอนต่อไป
-----------------------------------
Neya : สวัสดียามดึก หุหุ ในที่สุดก็ทันวันที่ๅ12/12/2012 หุหุ ตอนนี้ง่วงมากแต่อยากปั่นให้เสร็จทันวันนี้จริงๆ แต่จบไม่ลงตัวแถมแก้แล้วแก้อีกแก้เยอะจริงๆคะ เอาเป็นว่าหมดแรง ขอไปนอนกอนะคะ บาย
