ตอนที่ 6 :: หอบหืด ::“คืนนี้ เราออกมาไปเที่ยวกันนะคะเมศ...”เสียงของแพรวายังคงดังก้องอยู่ในหู ดวงตาคมที่กรีดอายไลน์เนอร์มองเค้าอย่างยั่วยวน เมื่อเธอกำลังจะลงจากรถไปหลังจากมื้ออาหารอันน่ากระอักกระอ่วนที่ผ่านมาจบลง แน่นอนว่าหญิงสาวกระซิบข้างหูของเค้าเมื่อเห็นเด็กหนุ่มอีกคนลงจากรถแล้ว ก่อนจะจูบแก้มชายหนุ่มแผ่วเบา หันหน้ามาเยาะเย้ยคนที่มองไม่คลาดสายตาอีกครั้งแล้วสะบัดผมยาวๆของเธอจากไป
เมื่อกลับมาถึงห้องทำงาน แม้ปรเมศจะอ่านเอกสารผ่านตาเท่าไหร่กลับไม่เข้าหัวแม้แต่น้อย มือใหญ่นั่งนับวันที่เค้าไม่ได้เริงร่าเที่ยวกลางคืนว่านานเท่าไหร่ แล้วก็ตอบได้ว่าเท่าที่นันทกรกลับมานั้นแหละ.....จริงอยู่ที่เค้ามัวแต่คลุกอยู่กับเด็กหนุ่มจนลืมเที่ยวเล่นตามปกติ แต่เมื่อมีตัวกระตุ้นขึ้นมา สัญชาตญาณดั้งเดิมก็อดจะตอบรับคำชวนของแพรวาไม่ได้ ซึ่งนั้นทำให้ปรเมศตัดสินใจว่า คืนนี้ขอหนีเที่ยวสักคืนละกัน!!
ทางด้านนันทกร แม้เค้าจะเงียบไม่ได้พูดอะไร แต่ก็สังเกตท่าทีของชายหนุ่มตรงหน้าตลอด ดวงตาสีน้ำตาลหรี่ลงอย่างใช้ความคิด ถึงเวลาที่ปรเมศจะเริ่มออกเที่ยวอีกครั้งแล้วซินะ......แต่จะทำอย่างไรต่อไปดีละในเมื่อหน้ากากที่เค้าสร้างขึ้น เค้าคือนันทกรหรือน้องอาร์ เด็กน้อยใสซื่อผู้เป็นภูมิแพ้และหอบหืด แพ้ควันบุหรี่และไม่ชอบความแออัดของสถานที่ยามราตรี แน่นอนถ้าจะขอตามไปด้วยก็คงไม่ได้ แต่จะขอร้องไม่ให้ปรเมศไปก็คงไม่ได้อีกเช่นกัน
ริมฝีปากแดงถูกขบกัดอย่างครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะหยักยิ้มขึ้นเมือนึกอะไรบางอย่างได้ ปรเมศคงลืมไปเสียแล้วมั้งว่าเคยได้พูดกับคุณหญิงชดช้อยว่าอย่างไร......อยากเที่ยวหรือครับพี่เมศ?? ตามสบายผมจะไม่ขัดขวางสักนิด แต่อย่าหวังเลยว่าจะได้เสพสุขกับผู้หญิงคนนั้น...........กับแพรวา!!!
“ก๊อก ก๊อก!!”เสียงเคาะประตูห้องในยามค่ำคืนทำให้ปรเมศที่กำลังแต่งตัวอยู่สะดุ้งโหยง ถามกลับออกไป
“ใครหน่ะ?”
“ผมอาร์เองพี่เมศ”ปรเมศถอนลมหายใจพรูก่อนเปิดประตูออก พบเด็กหนุ่มอยู่ในชุดนอนลายยาวยืนยิ้มอยู่หน้าประตู
“มีอะไรหรือเปล่าอาร์??”
“ผมว่าจะมายืมหนังสือพี่เมศอ่านหน่อยนะครับ.......ว่าแต่พี่เมศจะไปไหนหรือครับ แต่งตัวซะหล่อ ดึกดื่นป่านนี้ หรือว่า........”นันทกรลากเสียงยาว ทำหน้าตารู้ทัน ก่อนจะท้าวเอว เหมือนครูที่จับได้ว่าเด็กจะหนีเรียน ปรเมศเลยได้แต่ยิ้มแหย เดินไปกอดเด็กหนุ่ม ก่อนขยิบตาส่งให้
“ตามที่อาร์คิดนั้นแหละ อย่าเอาไปบอกแม่พี่นะ”นันทกรทำหน้าคล้ายปลงตก ถอนหายใจแรงๆก่อนพยักหน้า
“ก็ได้ครับ แต่พี่เมศอย่ากลับดึกนะ พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแต่เช้า”ท่าทางเหมือนจะสั่งสอนของเด็กหนุ่มตรงหน้าทำเอาปรเมศอดหมั่นเขี้ยวไม่ได้ขยี้ผมสีหน้าน้ำตาลนั้นแรงๆ
“คร้าบบบบบบบบบบบบบ พี่ชายคนนี้จะปฏิบัติตามที่คุณน้องอาร์สั่งนะขอรับ”
“พี่เมศอะ!!!หัวยุ่งหมด หึ...........อ้าว!!คอเสื้อกับกระดุมเบี้ยวนี้ครับ เดี๋ยวอาร์จัดให้นะ”นันทกรโวยวายในตอนแรก ก่อนจะหันมาจัดคอเสื้อกับกลัดกระดุมให้ชายหนุ่มให้เรียบร้อย ปรเมศได้แต่ยิ้มเอ็นดู
“สรุปตอนนี้พี่มีน้องหรือมีเมียกันแน่เนี้ยหืม??”ปรเมศแกล้งล้อคนตรงหน้า แต่กลับถูกนันทกรตอกกลับเสียเกือบหน้าหงาย
“โหย!!ถ้าพี่เมศเป็นสามีผมจริงๆคงยอมให้ออกไปเที่ยวกับผู้หญิงตอนกลางคืนหรอกครับ”
“จ้าๆ ขอโทษละกันที่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี งั้นคุณพี่ชายขอออกไปเที่ยวก่อนนะครับคุณน้องรัก แล้วรีบๆนอนละเรา”ปรเมศขยี้หัวนันทกรอีกทีก่อนเดินลงบันไดอย่างสบายอารมณ์ ปล่อยให้เด็กหนุ่มอีกคนยืนหน้านิ่งก่อนเดินเข้าห้องตัวเองไป
นันทกรเดินไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าใบโตลากออกมาจากใต้เตียงก่อนจะคว้าโน้ตบุ๊คส์และหูฟังที่อยู่ข้างในกระเป๋าออกมา ทันทีที่วินโดว์ทำงานและเข้าสู่หน้าแรก นันทกรก็เปิดโปรแกรมหนึ่งขึ้นพร้อมเสียบหูฟังแนบกับหู ภาพที่ปรากฏตรงหน้าจอแสดงให้เห็นถึงพวงมาลัยรถคันหนึ่ง เสียงเพลงในรถดังแว่วเข้าหูอย่างชัดเจน นันทกรยิ้มกริ่ม
“อย่าคิดว่าเธอจะได้พี่เมศไปกกกอดคืนนี้เลยแพรวา อย่างที่เธอบอกถ้าคุณป้ายังไม่ตายเธอก็อย่าหวังจะได้พี่เมศไปครองเลย หึหึ”
เมื่อครู่นันทกรได้แกล้งทำเป็นจับคอเสื้อของปรเมศเพื่อติดลำโพงอันเล็กที่หลังปกเสื้อและติดกล้องตัวเล็กๆจนแทบมองไม่เห็นแถวกระดุมเสื้อ แน่นอนในสถานที่มือๆแบบคลับต่างๆนั้นย่อมมองไม่เห็น และเค้าคิดว่าคนอย่างแพรวาคงไม่มานั่งสำรวจเสื้อผ้าของร่างสูงหรอก สิ่งที่หญิงสาวปรารถนาคือร่างกายที่ไร้อาภรณ์ใดๆของปรเมศต่างหาก!!
ปรเมศขับรถมาถึงคลับที่ตนนัดกับแพรวาไว้ ก่อนจะกดโทรศัพท์โทรออกหาหญิงสาวทันที และไม่ทันได้รอนานแพรวาก็กดรับสายทันที
“ไงคะเมศ ถึงไหนแล้ว”เสียงเพลงดังลั่นจากปลายสายทำให้ปรเมศรู้ว่าแพรวาคงต้องอยู่ในคลับแล้วแน่นอน
“ผมอยู่ที่ทางเข้าแล้วครับ แพรอยู่ที่ไหนละครับ??”
“แพรอยู่แถวๆตรงเวทีนะคะ เมศเข้ามาเลยคะ”ปรเมศเดินฝ่าฝูงชนเข้าไป เหล่าบรรดาหนุ่มสาวบางคนทักเข้าอย่างจำได้ เค้าเดินทักทายไปเรื่อยๆจนถึงหน้าเวที มองเห็นหญิงสาวที่นัดไว้อยู่ไม่ไกล
“เมศคะ ยู้ฮู้!!ทางนี้คะ”แพรวาโบกมือโบกไม้ เมื่อปรเมศเดินมาถึงตัวเธอ หญิงสาวก็คว้าต้นคอชายหนุ่มไปจูบอย่างดูดดื่มทันที
“มาคนเดียวหรือคะที่รัก”หลังจากกอดจูบลูบคลำกันอย่างหนำใจแล้ว แพรวาที่นั่งอยู่บนตักของปรเมศก็ถามขึ้น มือยังลูบไปตามเนื้อตัวชายหนุ่มเพื่อสร้างอารมณ์วาบหวามให้
“จะให้มากับใครละครับ??”ปรเมศพูดเสียงแหบพร่า ลูบขาเนียนของหญิงสาวอย่างพอใจ
“พ่อน้องชายหน้าฝรั่งของคุณละคะ”เธอออกจะแปลกใจเล็กน้อยที่เจ้าเด็กมารคอหอยนั้นไม่มาทำตัวเกาะติดเป็นปลิงเหมือนดั่งเมื่อกลางวัน
“อาร์นะหรือครับ??ก็อยู่บ้านซิครับ เค้าจะตามมาทำไม??”ปรเมศเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย
“ก็เห็นเมศอยากพาเค้าเปิดหูเปิดตาเลยนึกว่าจะพามาเที่ยวด้วย”แพรวาพูดแถกลบเกลื่อน
“เที่ยวที่อย่างนี้ไม่ได้หรอกครับ อาร์เค้าแพ้ควันบุหรี่....”
“ยังงั้นหรือคะ.........งั้นก็ช่างเถอะคะ มาคุยเรื่องของเรากันดีกว่า คืนนี้แพรไม่ปล่อยให้คุณกลับจริงๆด้วย”นิ้วเรียวปิดปากชายหนุ่มไว้แผ่วเบา ดวงตาคู่สวยมองย่างยั่วยวน ปรเมศก็ส่งยิ้มให้เช่นกัน
“ตามต้องการครับ........แต่ก่อนอื่นเรามาดื่มกันหน่อยดีกว่านะครับ”ว่าแล้วก็หยิบเมนูมาดูสั่งกับแกล้มสองสามอย่างพร้อมเปิดขวดเหล้าทันที
ดวงตาสีน้ำตาลมองหญิงสาวในจออย่างรังเกียจก่อนจะเหลือบมองนาฬิกา เวลาแห่งวันใหม่ล่วงเลยมาเกือบชั่วโมงแล้วจึงจัดการปิดเครื่องเก็บเข้าที่เดิม ร่างโปร่งลุกขึ้นเดินไปที่กระเป๋าเป้แล้วหยิบยาพ่นไปซ่อน ก่อนจะหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมากดสวิทต์จ่อที่หน้าตัวเอง ไอร้อนที่พุ่งออกมาทำให้นันทกรเริ่มไอ ไม่นานก็เปลี่ยนเป็นลมเย็นสลับไปมาเรื่อยๆจนอาการไอกระชั้นขึ้น หน้าอกแน่นเล็กน้อย นั่งสักครู่จนอาการหอบเริ่มมากขึ้นจนลมหายใจดังหวีด นันทกรรีบเดินออกนอกห้องมุ่งตรงไปที่ห้องของผู้เป็นเจ้าของบ้านทันที แล้วลงมือทุบประตูเสียงดัง
“คุณแม่ อึก! คะ คุณแม่ แฮ่ก!! โคล่กๆ!!”
“เสียงอะไรกัน??.......ว้าย!!!น้องอาร์ ลูก!!!เป็นอะไรเนี่ย คุณ!!คุณคะ!!!”คุณหญิงชดช้อยรีบประคองคนที่ยืนทำท่าจะล้มอยู่หน้าห้องก่อนตะโกนเรียกสามี คุณพิทักษ์รีบออกมาดูทันที
“แฮ่ก!!ผะ ผมหา.....ยะ ยา.....ไม่ อึก เจอ...”นันทกรบอกแล้วไอเสียงดังทำเอาอีกสองคนต่างหน้าซีดทันที
“ตามหมอ!!ไม่ซิ ไปหาหมอเร็วกว่า........ใครก็ได้ตื่นเร็ว!!!รีบพาอาร์ไปหาหมอที!!! ไอ้ชื่น ไอ้ทด!!!”คุณพิทักษ์ตะโกนเรียกคนขับรถและคนสนิททันที ขณะที่คุณหญิงชดช้อยก็คอยประคองกำกับให้นันทกรหายใจเข้าลึกๆ
“พ่อ แม่เกิดอะไรขึ้นเสียงดัง ว้าย!!น้องอาร์เป็นไร!!”วรารีถามขึ้น ดวงตาเบิกกว้าง
“น้องหอบกำเริบแล้วยาหาย.......เดี๋ยวแม่จะพาน้องไปโรงพยาบาลก่อน........แล้วนี้พี่ชายตัวดีของเราไปไหน ปล่อยให้น้องต้องเดินมาหาแม่ตั้งไกล ห้องตัวเองอยู่ข้างๆแท้ๆ”คุณหญิงชดช้อยพูดอย่างอารมณ์เสีย สอดส่ายสายตาหาลูกชาย
“พี่เมศ แฮ่ก!! มะ ไม่อยู่ ฮึก!! คครับ....”นันทกรบอกอย่างลำบาก เสียงหวีดจากหลอดลมดังมากขึ้นจนน่ากลัว คุณหญิงจัดการส่งนันทกรให้คนรับใช้ชายคนหนึ่งอุ้มขึ้นเพื่อวิ่งพาไปที่รถ
“รีบตามพี่ชายเรากลับมาเดี๋ยวนี้!!!แล้วไปเจอกันที่โรงพยาบาลทั้งคู่เลย!!!”คุณหญิงชดช้อยพูดเสียงแข็งขณะหยิบเสื้อคลุมมาใส่แล้วเดินไปที่รถ
“ตะ แต่ถ้าติดต่อพี่เมศไม่ได้ละคะ...”วรารีถามเสียงสั่น กลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“โทรไปจนกว่าจะติด!!!”พูดจบก็ปิดประตูรถและสั่งให้คนขับขับรถออกไปทันที
“พี่เมศน่าพี่เมศจะเที่ยววันไหนไม่เที่ยวมาเที่ยววันนี้ ซวยแน่งานนี้”วรารีบ่นพึมพำก่อนหยิบโทรศัพท์บ้านมากดทันที
/////////////////////////////////////
ที่ชั้นสองของร้านที่ปรเมศและแพรวาไปนั้นถูกจัดเป็นห้องไว้สามสี่ห้อง แต่ละห้องนั้นจัดแต่งอย่างหรูหรามีเพียงบุคคลวีไอพีเท่านั้นที่จะได้มาใช้ห้องเหล่านี้เป็นที่หาความสุขกัน
บริเวณกลางห้องมีเตียงกว้างสี่เสาสีขาวอมชมพูวางอยู่ บนเตียงนั้นมีสองร่างกำลังกอดก่ายกันราวกับเป็นเนื้อเดียว ริมฝีปากแดงสดและปากนุ่มของอีกคนประกบกันจนหาที่แยกไม่ได้ เสียงการแลกเอนไซม์กันดังอย่างหยาบโลน เสื้อเซ็กซี่ตัวสวยที่ใส่มาอวดสายตาใครต่อใครของแพรวาถูกถอดทิ้งไว้ที่เสาอันหนึ่ง ชุดชั้นในเปรี้ยวดูร้อนแรงหลุดกองอยู่ริมเตียง ทางด้านปรเมศในตอนนี้เสื้อผ้าตัวเก่งก็หลุดลุ่ยจะเกือบหมดแล้ว
“อึก!!เมศคะ คุณทำให้แพรเสียวมากเลยคะ”แพรวาพูด พลางครางเสียงแผ่วมีหน้าอกของเธอถูกชิมลิ้มรสอยู่
“คุณก็สวยเหลือเกินแพร...”ปรเมศตอบอยางไร้สติ หวังเพียงได้กระทำตามความต้องการกับร่างตรงหน้าเท่านั้น
แพรวายิ้มกระหย่อง ที่จริงเธอไม่น่าไปกังวลกับเด็กอาร์นั้น เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่คาสโนว่าอย่างปรเมศนั้นจะหันไปชอบผู้ชายด้วยกัน แค่สรีระเธอก็ชนะแล้ว สิ่งที่ยืนยันคือภาพตรงหน้านี้ไงละ ปรเมศยอมทิ้งให้เด็กนั้นนอนเฝ้าบ้านแล้วมากกกอดเธอที่นี้ คืนนี้เธอจะบำเรอสวาทจนปรเมศไม่มีทางหนีเธอพ้นเลยทีเดียว!!
Trrr……..Tr….Trrrrrr………..
เสียงโทรศัพท์ของปรเมศที่ดังขึ้นทำให้สองคนบนเตียงต่างชะงัก ก่อนจะทำเป็นไม่สนใจ
Trrrrr…….Trr……….Tr……..!!!
เสียงที่ดังขึ้นหลายๆครั้งทำให้ต่างคนต่างหมดอารมณ์ ปรเมศเดินหัวเสียไปที่กองเสื้อผ้าก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดดู
“ใครคะเมศ”แพรวาถามเสียงหวาน แต่ในใจกลับด่าแช่งชักหักกระดูกคนที่มาขัดความสุขมากมาย
“เบอร์บ้านนะครับ ไม่รู้มีเรื่องอะไรหรือเปล่า...”ปรเมศว่าพลางรีบรับสาย
“ว่าไง......อ๋อยัยรีเองเหรอ มีอะไร??”
‘พี่เมศแย่แล้ว!!กลับบ้านมาด่วนเลย’เสียงจากปลายสายดูสั่นและร้อนรนจนปรเมศใจไม่ดี
“มีอะไรยัยรี มีใครเป็นอะไรหรือเปล่า”
'น้องอาร์......พี่เมศน้องอาร์หอบกำเริบ.........ยาน้องก็หาย เมื่อกี้รีเห็นยังกลัวเลย น้องเหมือนคนที่จะหมดลมหายใจเลย....'วรารีรีบละล่ำละลักบอกเสียงเครียด
“อะไรนะ!!!แล้วใครพาน้องไปโรงพยาบาลหรือยัง!!!”เสียงตกใจของปรเมศทำให้แพรวาหันมามองทันที
'แม่กับพ่อพาไปแล้ว......แม่บอกให้ตามพี่กลับแล้วให้รีนั่งไปกับพี่'
“โอเค พี่จะรีบไป.......แต่เราให้ใครพาไปละกันพี่จะตรงไปเลย”
'งั้นรีรอฟังข่าวที่นี้ดีกว่า เผื่อแม่โทรมา'
“งั้นก็ได้ แค่นี้นะ”ปรเมศรีบคว้าเสื้อผ้ามาสวมทันที เมื่อแพรวาเห็นดังนั้นก็รีบถามทันที
“มีอะไรคะเมศ!!แล้วนี้เมศจะไปไหน??”
“อาร์อาการหอบหืดกำเริบหนัก เข้าโรงพยาบาลไปแล้วครับ เดี๋ยวผมต้องตามไปดู ต้องขอโทษคุณแพรด้วยจริงๆ”ว่าพลางติดกระดุมอย่างไวว่อง
“เค้าก็ถึงมือหมอแล้วนี่คะ คุณเมศจะไปทำไม?? พรุ่งนี้ค่อยไปเยี่ยมก็ได้”แพรวาพูดพลางคว้าข้อมือแกร่งไว้
“ขอโทษทีครับ น้องเข้าโรงพยาบาลอย่างนี้ ผมคงไม่มีอารมณ์ต่อแล้ว แม่ก็บอกให้รีบตามไปด้วย”ปรเมศพูดอย่างรู้สึกผิดก่อนแกะข้อมือออกแล้วใส่กางเกงทันที
“โอเคคะ.........งั้นไปเหอะคะ ไม่ต้องมาห่วงความรู้สึกแพรหรอก”หญิงสาวพูดประชดประชันทำงอนเรียกร้องความสนใจ คาดว่าปรเมศต้องตัดสินใจลำบากแต่กลับผิดคาดเมื่อชายหนุ่มหอมแก้มลงมา
“งั้นผมไปนะแพร”พูดจบก็เดินลิ่วๆออกไปทันที แพรวามองตาค้างก่อนจะกรี๊ดออกมาอย่างโกรธแค้น
“ไอ้เด็กเวร!!!อย่างนี้มันจงใจชัดๆ!!!ฉันกับแกคงอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้แล้ว!!!”เล็บสวยจิกทึ้งลงบนที่นอน ใบหน้าที่แต่งอย่างสวยงามบิดเบี้ยวไม่พอใจ
.................................................................
...............................................
....................
.....
“ฮัลโหล แม่ น้องอยู่ไหนครับ..........อย่าเพิ่งบ่นซิครับ เนี้ยผมมาถึงโรงพยาบาลแล้ว น้องอยู่ตึกไหน เดี๋ยวผมไปหา.......หมอให้แอดมิดหรือครับ งั้นอยู่ตึกไหน ห้องไหนครับ??..........โอเค เดี๋ยวผมไปหาครับ”ปรเมศจอดรถด้านหลังตึกหนึ่งในรพ.ก่อนสอบถามยามถึงตึกที่นันทกรนอนพักอยู่ โชคดีว่าเป็นตึกเดียวกับที่เค้าจอดพอดี จึงรีบคิดไปหาทันที
“อาร์เป็นไงบ้าง??”ปรเมศถามทันทีที่เปิดประตูห้อง เดินตรงดิ่งมาหาร่างบางที่นอนอยู่บนเตียง บนใบหน้ายังคลุมด้วยหน้ากากออกซิเจน
“พี่เมศ....”เสียงนันทกรที่เรียกช่างแหบพร่าและเบาหวิว ดวงตาสีน้ำตาลหรี่ปรือเหมือนคนไม่มีแรง ปรเมศนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆเตียง
“หมอบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แค่คงหายใจไม่ออกเพราะไม่มียาช่วยเท่านั้น ว่าแต่เราเถอะตาเมศ หายไปไหนกลางค่ำกลางคืน ดูสิ น้องไม่สบายจะเดินไปเรียกเราที่อยู่ห้องข้างๆให้ช่วยก็ไม่ได้ ต้องเดินไปที่ห้องพ่อกับแม่ที่อยู่อีกฝั่ง ถ้าน้องเดินไม่ไหวสลบไปก่อน จะทำไง!!”คุณหญิงชดช้อยว่าเข้าให้ ปรเมศก้มรับความผิด
“ใจเย็นๆน่าคุณ ลูกก็คงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น..”คุณพิทักษ์พูดพลางลูบแขนภรรยาให้ใจเย็นลง
“ไม่ใช่ความผิดพี่เมศหรอกครับคุณแม่...”นันทกรบอกเสียงแผ่ว
“อย่าเพิ่งพูดเลยอาร์ พักผ่อนเถอะ...”ปรเมศลูบผมนุ่มเบาๆ
“แต่ว่า....”
“พี่ผิดจริงๆนั้นแหละ ไม่ต้องกลัว แม่เค้าไม่ตีพี่หรอก นอนซะนะ คืนนี้พี่จะนอนเฝ้าอาร์เอง”ปรเมศพูดติดตลกก่อนกล่อมให้คนบนเตียงนอน นันทกรจึงค่อยๆหลับตาลงอย่างเสียไมได้
เมื่อเห็นเด็กหนุ่มในความดูแลหลับสนิทแล้ว ทุกคนในห้องจึงเดินออกมาคุยที่นั่งพักสำหรับแขกที่อีกห้องทันที
“ว่าไงตาเมศไปไหนมา”คุณหญิงชดช้อยถามเสียงแผ่วแต่ยังคงความกดดัน
“ผมออกไปเที่ยวครับ ผมเสียใจครับแม่ไม่คิดว่าน้องจะอาการกำเริบแล้วไม่มียาอย่างนี้”
“ใช้ไม่ได้จริงๆลูกคนนี้ น้าพิมพ์เค้าฝากลูกชายมาให้เราดูแล แล้วลูกเค้าต้องเข้าโรงพยาบาลอย่างนี้ แม่จะบอกน้าพิมพ์เค้ายังไง........อีกอย่างไหนเราสัญญากับแม่ว่าจะไม่ไปเที่ยวเจ้าชู้กับแม่พวกสาวๆพวกนั้นแล้วไง แล้วทำไมต้องออกไปเที่ยวอีก??”คุณหญิงชดช้อยถามเป็นชุดจนสามีต้องรินน้ำมาให้แก้กระหาย
“ผมแค่เที่ยวกับเพื่อนๆผู้ชายเองครับแม่ ไม่ได้เที่ยวกับผู้หญิงคนไหนสักหน่อย”ปรเมศรีบแก้ตัว ถึงแม้จะเป็นการโกหกก็เถอะ
“แล้วทำไมยัยแม่แพรวานั้นถึงไปโผล่ที่ทำงานลูก”ปรเมศโคลงศีรษะ.........ว่าแล้วว่าต้องมีใครคาบข่าวเรื่องนี้ไปบอกมารดา
“ผมไม่ได้นัดไว้ครับ เธอมาเอง........แล้วอีกอย่างผมก็อยู่กับอาร์ตลอดที่เธออยู่ด้วยนะครับ”คุณหญิงชดช้อยมองลูกชายเล็กน้อยก่อนค้อน
“อย่าให้จับได้ละกันว่าไปทำนิสัยเจ้าชู้อีก......ลูกโดนดีแน่!!”ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม คุณพิทักษ์หันไปมองเวลาก่อนสะกิดคนข้างๆ
“เอาเหอะคุณ นี้มันก็ดึกมากแล้วเรากลับกันเถอะ”คุณพิทักษ์พูดแล้วพยุงผู้เป็นภรรยาลุกขึ้น
“เราจะเฝ้าน้องใช่ไหมตาเมศ แม่จะได้ให้แม่แก้วเค้าจัดเสื้อผ้ามาให้ลูกอาบน้ำด้วย พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องเข้าบริษัทหรอกนะ รับน้องกลับบ้านเลยแล้วก็ดูแลน้องด้วยละ”
“คร้าบบบบบ ครับคุณหญิงแม่ เดี๋ยวชายจะดูน้องไม่ให้ยุงไต่ไรตอมเลยครับ”ว่าแล้วก็เดินไปส่งพ่อแม่ของตนที่ประตูก่อนกลับมาหาร่างเล็กบนเตียงอีกครั้ง มองใบหน้าอิดโรยอย่างรู้สึกผิด
“หายเร็วๆนะอาร์”มือแกร่งลูบผมนิ่มก่อนหยิบผ้าห่มอีกผืนที่คาดว่าพยาบาลจะเอามาให้สำหรับคนนอนเฝ้าเดินตรงไปที่เตียงสำรองแล้วล้มตัวลงนอน
ดวงตาสีน้ำตาลลืมขึ้นในความมืดเมื่อทุกอย่างเงียบสงัด ผงกหัวขึ้นมามองคนที่นอนเฝ้า เมื่อเห็นว่าหลับสนิทจึงลุกขึ้นนั่งแล้วถอดหน้ากากออกซิเจนออก
“เป็นไปตามคาด........ป่านนี้ยัยป้านั้นคงชักดิ้นชักงอแล้วแน่ๆ”คนไข้ลุกขึ้นมาจากเตียงราวกับไม่ได้เป็นอะไรเลย ทั้งที่ตอนแรกราวกับคนขาดอากาศหายใจ
จริงอยู่ในตอนแรก นันทกรทำให้อาการของตัวเองเกิดขึ้น แต่เค้ารู้ลิมิตของตัวเองดีว่าทนได้ถึงแค่ไหน อาการที่ดูรุนแรงเกิดจากการแสดงของเค้ามากกว่าบวกกับการที่ไม่ยอมพ่นยาและปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อถึงมือหมอ อาการจึงดูพอเหมาะพอควรอยู่ที่จะนอนโรงพยาบาล และปรเมศก็มาหาสมใจ.........จะเสียก็แต่ตรงนี้คุณหญิงชดช้อยยังไม่เอาเรื่องลูกชายตนเองนั้นแหละ
“ถึงแผนจะได้ผลแค่ครึ่งเดียวก็ยังดี ยังไงก็มีแผนอื่น พี่ไม่มีทางรอดหรอกนะพี่เมศ”นันทกรเกลี่ยผมคนที่นอนหลับสนิทอย่างเอ็นดู เฝ้ามองใบหน้าคนที่เค้าหวังจะครอบครองอย่างมีความสุขจนเกือบชั่วโมงนั้นแหละจึงกลับไปนอนที่เตียงตัวเอง
ติดตามตอนต่อไป...
-------------------------------
Neya : สวัสดีคะ.......แบบว่าอย่าเพิ่งว่า&ด่าคนเขียนที่หายหัวแบบไม่บอกไม่กล่าว ไม่ว่างเลยอะ
ทางบริษัทจัดการปีใหม่เลี้ยงพนักงานและจัดโปรแกรมต่างๆมากมาย ตัวเองโดนให้ไปช่วยจัดและประชาสัมพันธ์คะ ทำสารพัดตั้งแต่จัดสถานที่ ซื้อของจับฉลาก ทำบัตรเข้างานให้แก่พนักงาน เช็คว่าใครจะไปร่วมบ้าง อยากบอกว่าเหนื่อยมากกกกกกกก.....(ลากยาวเพื่ออรรธรส)
มาต่อแล้วนะจ๊ะ ยังไงก็จะพยายามรีบปั่นไม่ให้เป็นแบบนี้อีก มาจิ้มๆกดดันคนเขียนได้ คนเขียนจะได้รีบปั่นให้(ฮา)ตอนนี้หลายคนอาจไม่ชอบน้องอาร์ที่ใช้วิธีนี้แต่อย่าเกลียดน้องอาร์เลยนะ
ยังไงก็รักปรหมั่นไส้หรือแกมหยิกกับคู่พระนายคู่นี้ต่อไปนะคะ อ๋อ!! อีกอย่างว่าจะพูดนานแหละ ลืม! ใครอยากเห็นรูปน้องอาร์กับพี่เมศบ้าง อยากเห็นเหลือบมองด้านซ้ายมือของคนเขียนคะ รูปแทนตัวนั้นแหละน้องอาร์พี่เมศ หุหุ วันนี้แค่นี้ก่อนเนอะ สวัสดีคะ