ทันทีที่ทั้งคู่มาถึง ก็บ่ายคล้อยเย็นย่ำไปมากแล้ว ผู้ใหญ่บ้านภูดินออกมาต้อนรับทั้งคู่อย่างดี อีกทั้งชาวบ้านที่รู้ถึงการมาของผู้ที่จะมาซ่อมแซมวัดที่พวกเขาศรัทธาเลื่อมใสมาตั้งแต่ปู่ย่าตายาย ต่างคนก็ต่างแสดงน้ำใจด้วยการหอบหิ้วข้าวปลาอาหารที่ทำกินกันเองมาคนละอย่างสองอย่าง และที่ขาดไม่ได้ก็คือเหล้าเถื่อนที่พวกเขาลักลอบต้มกันเอง
“ผมดื่มไม่เป็นครับ” นี่คือคำพูดแรกที่พิทพูดกับชาวบ้าน แต่หลังจากที่ทนเสียงคะยั้นคะยอจากชาวบ้านไม่ไหว พิทก็กระดกเหล้าในจอกรวดเดียวจนหมด และตามติดด้วยอีกหลายๆจอกจนเมามายไม่สมประดี
“นั่นเหรอลุง วัดที่พวกเราจะต้องซ่อม”พิทถามโดยไม่หันไปมองลุงหลวย
“ใช่แล้วนาย เก่าเอาการทีเดียว เมื่อเช้าผมไปดูข้างในมา ท่าทางจะงานหิน สงสัยเราต้องอยู่ที่นี่ไม่ต่ำกว่าเดือน”
“อืม” เขาพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะมองโบสถ์หลังนั้นด้วยความรู้สึก “คุ้นเคย”
เท้าของพิทเหยียบย่ำไปบนพื้นหญ้าที่ฉาบฉานไปด้วยหยดของน้ำค้าง เท้าที่เปลือยเปล่าสัมผัสดินที่ทำให้เขารู้สึกว่าเขาเคยเหยียบย่ำพื้นดินแห่งนี้นานมาแล้ว
ในมือของพิทนั้นมีปิ่นโตเถาเล็กที่ชาวบ้านทำมาให้เขาถวายพระ พิทมองเห็นพระเดินมาไกลๆพร้อมกับเณรตัวน้อยที่กึ่งเดินกึ่งวิ่ง
“นิมนต์ครับหลวงพ่อ” พิทยกมือไหว้ เมื่อพระสงฆ์องค์นั้นเดินมาถึง
“กลับมาแล้วรึ” เสียงแว่วเข้ามาในหู
“อะไรนะครับ” นั่นทำให้พิทต้องย้อนถามด้วยสีหน้าคลางแคลง
“เปล่า อาตมาไม่ได้พูดอะไร”
คำตอบของหลวงพ่อทำให้พิทต้องงุนงงอีกครั้ง แต่แล้วเขาก็ยอมปล่อยความสงสัยนั้นไปโดยโทษฤทธิ์ของเมรัยในยามค่ำ
“โยมนี่เองรึ ที่ชาวบ้านเขาบอกว่าจะมาซ่อมรูปวาด”หลวงพ่อเปิดฝาบาตร
“ครับ” พิทตักข้าวสวยร้อนๆที่มีควันคลุ้งพร้อมส่งกลิ่นหอมออกมาใส่บาตร
“อืม ยังดีนะที่มีคนนึกถึง อาตมาห่วงเหลือเกินว่าภาพเหล่านั้นจะหลุดหาย ของเก่าของแก่ รบกวนพ่อหนุ่มด้วยนะ”
“ครับ ผมจะรักษามันไว้ให้สุดฝีมือเลยครับหลวงพ่อ ว่าแต่ ในนี้ไม่มีพระจำวัดเหรอครับ”
“ไม่มีหรอก อาตมากับเณรนี่ก็อาศัยวัดถัดไปนี่แหละ วัดนี้หาใช่ที่ที่คนจะอยู่หรอก”
พิทนิ่งงงอยู่พักนึง ทำไมหลวงพ่อถึงได้พูดจาแปลกประหลาด
“อ้าว เณรผมขอโทษ” แต่แล้วเขาก็สะดุ้งจากภวังค์เมื่อสายตาพลันก้มลงสบตากับเณรองค์น้อยเข้า เขายิ้มอย่างชื่นชม
ก่อนจะตักของใส่ในบาตรเณร
“อ้าว ตามสบายนะโยมนะ ชาวบ้านที่นี่เขาอยู่กันอย่างพี่น้อง ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ขาดเหลืออะไรก็ไปหาอาตมาที่วัดนะ”
วันแรกของการทำงานนั้นได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว พิทกลับมาอาบน้ำยังเรือนพักที่ชาวบ้านช่วยกันทำขึ้นเพื่อรับรองนายช่างใหญ่สำหรับพวกเขา เรือนที่ทำขึ้นอย่างง่ายๆด้วยไม้ที่หาได้เหลือเฟือจากในป่า หลังคากระเบื้องจากบ้านเรือนที่เหลือใช้ ห้องอาบน้ำที่กั้นอย่างง่ายๆด้วยหญ้าคา
ความเป็นอยู่เหล่านี้ไม่ได้ยากเย็นสำหรับพิทเลย ตรงกันข้ามออกจะสบายกว่าหลายๆที่ที่พิทเคยไปมาเสียด้วยซ้ำ
สำรับกับข้าวถูกยกมาวางเตรียมไว้แล้วด้วยฝีมือของลุงหลวย พิทมองหาลุงเพื่อที่จะชวนมากินข้าวด้วยกันแต่หาไม่เจอ
ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจกินข้าวเช้ามื้อแรกของที่นี่คนเดียว
“อ้าวมาอยู่ที่นี่เองลุง” เขาเดินถือสมุดบันทึกพร้อมกับแว่นตาเข้ามาในโบสถ์ ภายในนี้นั้นเย็นสบายเพราะลมพัดเอื่อยอยู่ตลอดเวลา
“เห็นเหมือนที่ผมบอกรึเปล่าหล่ะนาย” ลุงหลวยขยับขาแว่น
“อืม แต่เครื่องไม้เครื่องมือเราก็เอามาพร้อมอยู่นะ”
“ผมหวังว่านะ นาย”
พิทใช้เวลาครึ่งวันเช้า พินิจพิเคราะห์รูปวาดวิจิตรตามผนังโบสถ์ ทุกซอกทุกมุม ภาพที่บ่งบอกถึงการต่อสู้มาอย่างตรากตรำเพื่อจะเอาชนะกาลเวลา เพื่อจะคงอยู่ให้ประจักษ์ว่าภาพเหล่านั้นมีค่าเช่นไร