Lesson 24
( Kim Part )
การใช้ชีวิตประจำวันของผมยังคงปกติมาหลายวัน ส่วนเรื่องของเค้าคนนั้นก็มีคุยบ้างแต่แบบถามคำตอบคำเหมือนเดิม ซึ่งดูเหมือนว่าพี่โชว์จะไม่ยอมถอยจริงๆ แต่ผมขอดูไปอีกนานๆเลยละกัน อยากรู้จริงๆเลยว่าจะดีแตกตอนไหน
“อุ้ย.....ขอโทษครับ” ผมเดินไปชนกับใครคนนึงเข้า
“ไม่เป็นไรครับ อ้าว คิมจะไปไหนหรอ” เต้นั้นเองครับ ช่างบังเอิญเสียจริง
“เรากำลังจะกลับบ้านน่ะ”
“เดี๋ยวเราไปส่งไหม” เต้เสนอตัวจะไปส่งผมที่บ้าน จะว่าไปแล้วผมก็ต้องขึ้นรถกลับเองอยู่แล้วถ้าให้เต้ไปส่งก็จะได้ไม่ต้องนั่งรถเอง....ดีเหมือนกันนะ
“เอางั้นหรอ....งั้นรบกวนหน่อยแล้วกันนะ” สุดท้ายผมก็ยอมตกลงแล้วเดินตามเต้ไปที่รถ
“คิมเป็นพี่น้องแท้ๆกับพี่โชว์หรอ” ระหว่างทางเต้ก็เอ่ยถามผมขึ้น
“ไม่หรอก แม่เราเป็นเพื่อนกันน่ะ แต่ตอนนี้แม่เราป่วยเราเลยต้องมาอยู่บ้านพี่โชว์น่ะ เพราะแม่เราเค้าไม่อยากกังวลเกี่ยวกับเรา” เมื่อผมเล่าเรื่องผมให้ฟังเต้ก็ อ๋อ ทันที
“กริ๊ง.....กริ๊ง.....ฮัลโหล” เสียงโทรศัพท์ของเต้เข้าครับ ทำให้การสนทนาของผมสองคนต้องหยุดลงทันที
“ไม่ได้ว่ะ......กูกำลังไปส่งเพื่อน” แล้วปลายสายก็พูดอะไรมาอีกมากมายเสียงมันอื้อๆ
“เออๆ ไว้กูถามเพื่อนกูก่อน” พูดจบเต้ก็หันหน้ามาหาผม
“มีอะไรหรือเปล่าเต้”
“เพื่อนเต้มันชวนไปเที่ยวน่ะ คิมสนใจจะไปหรือเปล่า เพื่อนเต้มันก็เร่งอยู่เนี่ย บอกให้ลากเพื่อนไปด้วย....คิมว่าไงอ่ะ” เมื่อเต้พูดจบผมก็ใช้ความคิดทันทีว่าจะเอายังไง จะไปดีไหม แต่ว่าผมไม่เคยเที่ยวแบบนี้น่ะสิ
“คิมไม่ต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นไม่อยากไปก็พูดมาเถอะ เราดูก็รู้ว่าคิมเที่ยวที่แบบนี้ไม่เป็นหรอก...เดี๋ยวเราโทรบอกเพื่อนแปปนึง” เต้เตรียมยกหูโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อที่จะโทรหาเพื่อนแต่ผมก็เบรกไว้ก่อน
“ไม่ต้องๆเต้ โอเคเราไปด้วยก็ได้จะได้ไม่เสียเวลา” ผมดึงโทรศัพท์ออกจากหูเต้
“แน่ใจนะคิม ไม่ต้องเกรงใจเรานะไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป” เต้ถามย้ำผมอีกครั้ง
“อื้อๆ ไปเถอะ” ผมบอกเต้ เต้ก็เลี้ยวรถกลับทันที ในใจก็แอบหวิวๆเพราะผมไม่เคยเที่ยวกลางคืนนี่นา ว่าแล้วก็โทรบอกที่บ้านหน่อยดีกว่าเดี๋ยวป้าน้อยจะเป็นห่วง แต่พอดึงโทรศัพท์ออกมาปรากฏว่า....แบตฯหมด เฮ้อ เมื่อคืนก็ชาร์จจนเต็มแล้วนะ
“เป็นอะไรหรือเปล่าคิม”
“อ๋อ เปล่าน่ะ” ผมตอบเต้แล้วเก็บมือถือตัวเองลงทันที
เมื่อรถของเต้จอดสนิทผมก็เดินลงจากรถ ยืดเส้นยืดสายนิดหน่อยแต่ว่า...ที่นี่มันต่างจากที่ผมคิดลิบลับเลยแฮะ ผมนึกว่ามันจะเป็นแบบอึกทึกคึมโครม มั่วกันไปหมด
“ไปเข้าไปข้างในกันเถอะ” พูดจบเต้ก็จูงมือผมเข้ามาข้างใน ซึ่งบรรยากาศก็ถือว่าโอเค ท่าทางจะเป็นผับชั้นไฮโซหน่อยๆ เห็นแต่คนท่าทางผู้ดีทั้งนั้นเลย
“เอ่อ...คือ....เต้”
“หือ มีอะไรหรอคิม”
“บรรยากาศมันก็ไม่ได้เลวร้ายนะ แต่เราไม่ชอบการเป็นเป้าสายตาแบบนี้เลย” ผมบอกเต้เพราะว่าตอนนี้สายตาหลายสิบคู่กำลังจ้องมองมายังตัวผมแบบไม่เกรงใจกันเลย
“นิดนึงนะคิมเดี๋ยวก็ถึงโต๊ะแล้ว” พูดจบเต้ก็จูงมือผมไปเรื่อยๆจนถึงโต๊ะครับ ที่โต๊ะก็มีคนนั่งอยู่เกือบๆสิบคนครับ
“ไงมึงมาจนได้นะ” เพื่อนของเต้พูดทักขึ้น
“หมามันโทรไปตาม” โอ้ว ตรอกกลับได้เจ็บจี๊ดจริงๆ
“หมาพ่อมึงจะหล่อปานโดม ปกรณ์ ลัม เลยหรอวะ......แล้วนี้ใครเนี่ย ไม่คิดจะแนะนำเลยหรอ” เค้าคนนั้นพูดแล้วก็หันมามองผมตาเป็นมันเลยครับ ให้ความรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ
“นี่คิมเป็นเพื่อนกูเอง” เมื่อเต้แนะนำผมให้เพื่อนๆรู้จัก เต้ก็แนะนำเพื่อนให้ผมรู้จักเช่นกันซึ่งแต่ละคนก็ดูจะเป็นมิตรมากเลยครับ
“นี่แล้วคิมมีแฟนหรือยังอ่ะ”
“อ๋อ ยังหรอก ยังไม่มี.....ไม่เคยมีด้วย”
“อุ้ยยยย.......แม่งรอดมาได้ยังไงวะ” แคปพูดเสียงอ่อน
“ห๊ะ อะไรนะ” ผมได้ยินไม่ถนัดอ่ะ
“เปล่าหรอก....ถ้ายังไม่มีแฟนจะจีบนะ” เฮ้ย จีบไรวะผู้ชายเหมือนกันเว้ย
“เฮ้ย!!!! อย่ามาแทงข้างหลังกูคนนี้กูจีบอยู่เว้ย” เต้พูดขึ้นกลางโต๊ะเลยครับ แม่งใช่เรื่องไหมเนี่ย คนมองเต็มร้านหมดแล้วเพราะเสียงพวกเค้าดังกันมาก
“อ้าว ไม่รู้เว้ย ของแบบเนี่ยใครดีใครได้ อีกอย่างมาก่อนมาหลังไม่เกี่ยวเว้ย ของแบบนี้อยู่ที่ใจล้วนๆ” แคปพูดแล้วยักไหล่ใส่เต้
“สัด!!!!!” สั้นๆง่ายๆ แต่ความหมายตรงตัว
จากนั้นเราก็นั่งคุย นั่งดื่ม กันไปเรื่อยๆโดยที่ผมก็โดนบังคับให้กินเหล้าเข้าไปด้วยทั้งๆที่ผมไม่กิน และไม่ชอบที่จะกินด้วยกลิ่นมันค่อนข้างแรงแถมกินไปแล้วยังทำให้ขาดสติอีก ไม่รู้ว่ามันมีอะไรดีคนเค้าถึงชอบกินกันนัก
“อือ เต้เราไม่ไหวแล้ว” ผมบอกเต้ไปพร้อมๆกับจอภาพของผมที่ค่อยๆมืดลงไปอย่างช้าๆ
( Show Part )
เมื่อผมเลิกเรียนช่วงบ่ายผมก็มุ่งหน้าไปตามหาคิมเลยครับ แต่พอไปถึงปรากฏว่าคิมไม่อยู่ สงสัยจะกลับบ้านไปแล้วผมก็เลยรีบกลับบ้านทันที เพื่อจะได้พบหน้าใครบางคน
“ป้าน้อยครับ คิมล่ะ” ผมกลับมาถึงบ้านก็ถามหาคิมจากป้าน้อยเลยครับ
“อ้าว ยังไม่กลับมานี่คะ ป้านึกว่าจะกลับมาพร้อมกันซะอีก”
“ไม่ได้กลับด้วยกันหรอกครับป้า แต่อีกเดี๋ยวคงกลับมาแล้วมั้ง” พูดจบผมก็ม้วนตัวออกจากห้องครัวแล้วเดินขึ้นห้องเลยครับ พอเข้ามาในห้องเห็นเตียงแล้วก็รู้สึกง่วงของีบเอาแรงหน่อยละกันนะ
ผมตื่นขึ้นมาอีกทีฟ้าก็มืดหมดแล้วครับ ผมมองนาฬิกาที่ผนังห้องบ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มแล้ว ผมก็ลุกออกจากเตียงแล้วเดินไปอีกห้องนึงครับ
“ก๊อก ๆ ๆ คิมเปิดประตูให้พี่หน่อย”
“…” สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเงียบ
“คิมพี่เข้าไปนะ” พูดจบผมก็หมุนลูกบิดประตูเข้าไปในห้องเลยครับ แต่เอ๊ะ ทำไมห้องมันมืดล่ะ นอนแล้วหรอ พอผมเปิดไฟให้สว่างก็พบว่าคิมยังไม่กลับมา
“ไปไหนวะ” ผมเริ่มอยู่ไม่สุขละครับ คว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาคิม....มันก็ติดนะแต่ว่าไม่มีคนรับ ผมโทรซ้ำอีกหลายครั้งแต่มันก็เป็นเหมือนเดิม ผมเลยโทรหาไอ้วินครับ
“ฮัลโหลไอ้วิน คิมอยู่กับพวกมึงหรือเปล่าวะ” ผมถามมันด้วยความร้อนรนและผมก็ภาวนาขอให้อยู่กับมัน แต่เหมือนว่าผมจะบุญน้อยเพราะว่าคำขอของผมไม่เป็นจริง
“เปล่านี่....มีไรวะ” ไอ้วินถามกลับ
“ก็คิมยังไม่กลับบ้านอ่ะดิมึง...ไปไหนไม่รู้” ระหว่างที่ผมกำลังคุยกับวินอยู่ก็มีสายซ้อนเข้ามาพอผมดูเบอร์ผมก็แทบจะวางสายไอ้วินไม่ทัน
“เฮ้ยๆแค่นี้ก่อนคิมโทรกลับละ......ฮัลโหล คิมอยู่ไหนครับดึกป่านนี้ทำไมยังไม่กลับบ้านอีก รู้ไหมคนอื่นเค้าเป็นห่วงน่ะ” ผมใส่เป็นชุดเลยครับแต่เสียงที่ตอบกลับผมมาทำให้ผมอารมณ์ร้อนขึ้นในบัดดล
“ผมเต้นะครับ”