Lesson 21
( Kim Part )
“คิมรู้ไหมว่าเรากับพี่วินลงเอยกันได้ยังไง” เฟียร์ถามผม
“ไม่รู้สิ เราว่าพี่วินคงเอาใจเฟียร์ ดูแลเฟียร์ดี พูดจาดีจนเฟียร์ใจอ่อนมั่ง” ผมเดาตอบ
“หึหึ รู้ไหมที่คิมตอบมาน่ะ มันตรงข้ามกันสิ้นเชิงเลยนะ”
“ไม่จริงหรอกถ้าพี่วินไม่ดีเฟียร์จะชอบพี่วินหรอ” ผมไม่ค่อยเชื่อที่เฟียร์พูดเท่าไร
“งั้นเราจะเล่าให้ฟัง รู้ไหมเราไม่เคยเล่าเรื่องของเรากับพี่วินให้ใครฟังเลยนะ”
“อื้ม เราขอประเดิมเลยละกันนะ” ผมตอบแล้วยิ้มให้
“เรื่องมันเกิดตอนปี 1 อ่ะแหละเราเข้ามามหาลัยวันแรกก็สายเลยโดนพี่วินนั้นแหละด่า จากนั้นเราก็เลยไม่ค่อยชอบหน้ากัน”
“อื้อ แล้วไงต่อ” ผมถามต่อเมื่อเฟียร์เว้นวรรค
“ก็พี่วินก็จะคอยแกล้งเราตลอดทั้งให้ปีนต้นไม้ ตอนรับน้อง แล้วก็กอกเหล้าใส่ปากเราด้วย”
“เฟียร์ชอบคนแบบนั้นไปได้ไงอ่ะ”
“ฟังก่อนสิอย่าพึ่งขัด”
“ขอโทษ”
“ต่อเลยนะ แล้วในคืนนั้นเราอ่ะเมามากเลยเผลอจูบกับพี่วินไปแล้ว...”
“แล้วก็...กันหรอ”
“คิมทะลึ่ง เห็นเราง่ายขนาดนั้นหรอ”
“แฮะๆ” ผมยิ้มแห้งๆให้เฟียร์ไป
“ก็พอกลับจากรับน้องความรู้สึกต่างๆก็เริ่มก่อตัวขึ้นเองโดยที่เราไม่รู้ตัว จนวันไหนไม่เห็นหน้ากันก็เหมือนขาดอะไรไป แต่เรายังไม่ได้รักกันหรอกนะแค่แอบชอบๆกันน่ะ”
“โรแมนติกจัง”
“ฟังต่อจนจบก่อน แล้วคิมจะไม่พูดแบบนี้”
“งั้นเล่าต่อเลยนะ”
“มีอยู่วันนึงเราโดนลากให้ไปผับกับพวกพี่วินนั้นแหละ แล้ววันนั้นเรางอนๆกันกับพี่วิน พี่วินก็เลยนั่งกกผู้หญิง เราเห็นแล้วโมโหเลยเดินไปหาเหยื่อผู้ชายแถวนั้นเพื่อเอาคืน แล้วรู้ไหมต่อจากนั้นพี่วินทำยังไงกับเรา”
“ไม่รู้สิ คงหัวเสียแล้วง้อเฟียร์มั่ง”
“ผิดอีกนั่นแหละ คืนนั้นเรากับพี่วินทะเลาะกันแรงมากสุดท้าย....พี่วินก็ข่มขืนเราเหมือนที่พี่โชว์ทำกับคิมนั้นแหละ”
“ห๊ะ!!! อ๊ะ....อะไรนะ!!!” ผมถามย้ำเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่ผมได้ยินน่ะถูกต้อง
“คิมได้ยินไม่ผิดหรอกนะ พี่วินน่ะเค้าทำกับเราแบบนั้นจริงๆ แถมเรายังโดนบังคับให้อยู่ที่บ้านเค้าตั้งนาน”
“แล้วเฟียร์ทำยังไง”
“ตอนแรกเราก็ทะเลาะกันแต่พอทะเลาะกันก็กลายเป็นว่ามารักกันตอนไหนก็ไม่รู้ และสุดท้ายพี่วินเค้าก็ขอเราแต่งงาน” เฟียร์พูดกับผมสีหน้าดูดีใจมากเมื่อพูดถึง
ตอนขอแต่งงาน
“ถึงจะมีช่วงเวลาเลวร้ายบ้างแต่ก็มีความสุขดีนะ” ผมพูดบอกเฟียร์
“เรากำลังจะบอกคิมว่าในความรู้สึกที่คิมคิดว่าเกลียดพี่คิมน่ะ บางทีมันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ เราเคยผ่านจุดนี้มาแล้ว คิมลองถามใจตัวเองดีๆเถอะ”
“ขอบคุณนะเฟียร์เราสบายใจขึ้นเยอะ แต่เรื่องของเรา...เราทำใจยอมรับมันยากจริงๆ เราไม่ได้รู้สึกอะไรกับพี่โชว์หรอก” ผมพูดแล้วก็น้ำตาไหลเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่ผ่านมา
“เราไม่รู้หรอกนะว่าจริงๆแล้วคิมรู้สึกยังไงกับพี่โชว์ แต่ที่เรารู้คือพี่โชว์รักคิมแน่นอน”
“ไม่จริงหรอกเฟียร์...ถ้าเค้ารักเราจริงเค้าไม่ทำกับเราแบบนี้หรอก” ผมพูดบอกเฟียร์
“คิมไม่เคยได้ยินหรอว่าความรักทำให้ตาบอดจนคนเราทำอะไรก็ได้ให้ได้คนที่เรารักน่ะ”
“…” ผมไม่ตอบและไม่อยากรับรู้อะไรทั้งสิ้น
“นี่เราหิวแล้วอ่ะ ไปหาอะไรกินกัน”
“อื้มไปสิ ไปกิน MK กันไหม” ผมชวน
“เอาสิกำลังอยากกินเลย” เฟียร์ก็ตอบแล้วยิ้มอย่างดีใจ เหตุที่ผมชวนไปกิน MK เพราะรู้ดีว่าเฟียร์ไม่ค่อยชอบกินเนื้อสัตว์ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันเพราะอาหารแต่ละวันที่เฟียร์ทำมาส่วนมากจะเป็นผักหมดทุกอย่าง เรานั่งแท็กซี่จนถึงห้างใกล้กับมหาลัย ผมจึงส่งข้อความไปบอกเต้ว่าติดธุระไปด้วยไม่ได้แล้ว
“ทำอะไรอ่ะ” เฟียร์ถามผม
“อ๋อ ส่งข้อความบอกเต้น่ะว่าติดธุระ”
“อ่อ งั้นเรารีบไปกันเถอะ หิวแล้ว” เฟียร์พูดจบก็คว้ามือผมวิ่งอย่างรวดเร็ว แต่วันนี้จะถึงร้านหรือเปล่าก็ไม่รู้
“น้องครับ ขอเบอร์น้องได้ไหมครับพี่อยากรู้จัก” ผู้ชายคนนึงหน้าตาจัดว่าดูดีมากคนนึงเดินมาขอเบอร์เฟียร์
“ขอโทษครับพี่ ผมมีสามีแล้ว” โอ้ว!!! แร๊งงงงงง เฟียร์ตอบได้เฉยมากไม่ทุกข์ร้อนเลย
“แล้วเพื่อนน้องล่ะครับ” ไอ้หน้าหล่อหันมามองผมแล้วยิ้มมาอย่างหื่นเลยน่ากลัวแฮะ
“อ้อ มีแล้วเหมือนกันพี่ สามีเราเป็นเพื่อนกันขอตัวนะครับ” พูดจบเฟียร์ก็เดินเชิ่ดใส่แล้วจูงมือผมไปด้วย แต่ผมไม่มีสามีนะ มาตอบมั่ว
“เฟียร์มั่ว เรายังไม่มีสามีสะหน่อย” ผมบอกเฟียร์
“เดี๋ยวก็มีแล้ว ไม่นานหรอก คริคริ” เอ๊ะ เฟียร์นี่พูดแปลกๆ พอมาถึงร้านคนในร้านตอนนี้ทำไมมีแต่วัยรุ่นเต็มร้านไปหมดเลย เสือกจะมารักสุขภาพ อะไรกันตอนนี้ ที่บ่นนี้ไม่ใช่อะไรหรอก แต่เพราะสายตาที่มองมานี่สิแทบจะกลืนพวกผมไปทั้งตัวแล้ว
“รับอะไรดีครับผม” พนักงานวิ่งตารีตาเหลือกแย่งกันมารับออเดอร์โต๊ะผม ผมก็ไม่เข้าใจว่าเพื่อ???!!!!
“กินอะไรดีอ่ะคิม”
“เอาชุดผักเพื่อสุขภาพชุดใหญ่มาเลย” ผมบอกเพราะรู้ดีเฟียร์กินแต่ผัก
“เอาเป็ดย่างจานใหญ่ด้วย แล้วก็ บลา ๆ ๆ” เฟียร์สั่งอาหารไปบ้าง
“กินเป็ดย่างหรอเฟียร์” ผมถาม
“เปล่าหรอก สั่งมาให้คิมไง”
“ฮึ่ย แล้วสั่งจานใหญ่มาไม แถมเมื่อกี้เห็นสั่งเนื้อสัตว์ไปอีกเพียบเรากินคนเดียวไม่หมดหรอกนะ” ผมบอกเฟียร์
“เออน่า ยังไงก็หมดเรามีตัวช่วย”
“ตัวช่วยอะไร” ผมถามด้วยความสงสัย
“เดี๋ยวก็รู้เองแหละ”
ปล.บ้านผมไฟดับเกือบไม่ได้ลงแล้ว