Lesson 35
( Kim Part )
“…” เอ่อ คือพี่โชว์เงียบนานไปไหม ผมเขินนะเว้ย >///<
“อย่าเงียบสิ” ผมพูดพร้อมกับเริ่มเอาหัวถูไถตัวพี่โชว์ไปมาเพราะความอาย ก็แหม ไม่เคยมีแฟนนี่แถมแฟนคนแรกดันเป็นผู้ชายซะอีก
“เปล่า...พี่กำลังจะบอกว่า พูดแล้วห้ามเอาคืนนะ” พี่โชว์พูดแล้วก็ยิ้ม เฮ้อ นึกว่าจะช็อคจนน็อคไปแล้วซะอีก
“พี่โชว์”
“ว่าไงครับ”
“สัญญากับคิมได้มั้ย ถ้าวันไหนพี่ไม่ต้องการคิมอยู่ข้างๆแล้ว....พี่บอกคิมตรงๆ คิมจะเป็นฝ่ายไปเอง” ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ รวมทั้งผมที่เริ่มใจไม่ดี หรือว่าเราจะคิดไปเองคนเดียว เฮ้อ น้ำตาก็พาลจะไหลเอาซะดื้อๆ
“ฟังพี่นะครับคนดี....พี่ไม่มีวันทิ้งคิมแน่นอน และคิมก็จะเป็นคนที่พี่รักมากที่สุด” พี่โชว์พูดแล้วก็ดึงตัวผมเข้าไปกอดไว้แน่นกว่าเดิม
“อ้าว ร้องไห้อีกแล้ว....ร้องทำไมครับ” พี่โชว์ทำหน้าตกใจเมื่อเห็นน้ำตาผมไหล
“เปล่า...ก็แค่..........ดีใจ”
“ฟอด” น่านไงผมโดนขโมยหอมแก้มแล้วครับ แต่ไม่เป็นไรแค่นี้ยอมก็ได้
“เย็นนี้ไปกินข้าวข้างนอกกันนะครับ” พี่โชว์พูดชวนขึ้น
“กินบ้านนี้แหละพี่โชว์.....คิมขออยู่กับแม่อีกสักพักแล้วจะกลับไปเรียนต่อ” พี่โชว์ก็ไม่ขัดอะไรครับ แล้วจากนั้นผมก็บังคับให้พี่โชว์นอนพักเพราะว่าเหมือนพี่โชว์จะยังไม่ฟื้นเท่าไร
“คิม พี่ถามอะไรหน่อยสิ” อ้าวนี่ยังไม่หลับอีกหรอเนี่ย
“มีอะไร” ผมก็ตอบกลับครับ
“ทำไมคิมถึงเปิดใจรับพี่ล่ะ” โอ้ว คำถามนี้...ขอเปลี่ยนคำถามครับ
“แล้วไม่ดีหรอ” ผมถามกลับ
“ดีสิ...แต่พี่แค่สงสัย”
“พี่โชว์....คิมจะเปิดใจรับพี่เข้ามาในชีวิตเพราะอะไรพี่ไม่ต้องรู้หรอก พี่รู้แค่ว่าวันนี้คิมรู้สึกดีๆกับพี่ก็พอแล้ว” ผมตอบแล้วยิ้มส่ไปให้ พี่โชว์ก็ยิ้มกลับมาถึงแม้ว่าสีหน้าจะแสดงออกว่าสงสัยซะมากมาย แต่ก็คงไม่อยากจะเซ้าซี้ก็เลยไม่ถามเอาความต่อ
จริงแล้วๆที่ผมเปิดรับพี่โชว์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตนั้นก็เป็นเพราะว่าผมเห็นว่าพี่โชว์ดูแลผม คอยเอาใจผมทั้งๆที่ผู้ชายคนนี้ที่แสนจะเอาแต่ใจและไม่เคยสนใจใครทั้งสิ้นนอกจากตัวเอง แต่เค้ามาคอยดูแลผมในเวลาที่ผมไม่เหลือใคร ไม่เหลือใครเลยจริงๆ เพราะงั้น...ผมเลยอยากจะลองเสี่ยงกับความรู้สึกครั้งนี้สักตั้งนึง
“พี่โชว์ เย็นนี้อยากกินอะไร” ผมถามพี่โชว์ ผมรู้หรอกว่าพี่โชว์ยังไม่หลับ และมันก็เป็นดังคาดพี่โชว์ลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง
“อะไรก็ได้ครับ...ตอนนี้พี่กินคิมทั้งตัวยังได้เลย”
“พี่โชว์บ้า...งั้นเดี๋ยวคิมไปซื้อของก่อน พี่โชว์ก็นอนพักผ่อนซะ ถ้าเย็นนี้ไม่ดีขึ้นพี่โชว์ห้ามคุยกับคิมสามวัน” ผมขู่ไว้เลยครับเพราะไม่งั้นพี่โชว์ก็ไม่ยอมพักผ่อนสักทีห่วงแต่ผม...แต่ไม่ห่วงตัวเอง
“สามวันเลยหรอ แล้วพี่จะไปควบคุมมันได้ยังไงล่ะครับ หึ๊” เอาละไงเริ่มเลื้อยแล้วครับจะมานัวเนียผม...นี่ขนาดป่วยก็ยังไม่เว้นเลยนะ
“ถ้าพี่โชว์พักผ่อนจริงๆ คิมเชื่อว่าพี่ต้องหาย” พูดจบผมก็ลุกออกจากเตียงทันที แต่ก่อนออกจากห้องผมก็พูดทิ้งท้ายไว้อีกนิดนึง
“หายไวๆล่ะ” พร้อมกับฉีกยิ้มแบ๊วๆ(หรือเปล่า?)ไปให้อีกที แล้วผมก็เดินลงมาข้างล่างเพื่อปรึกษาเฟียร์เรื่องอาหารเย็นนี้ครับ
“แล้วคิมอยากทำอะไรล่ะ” เฟียร์ถาม
“อะไรก็ได้ แต่เราอยากให้เฟียร์ช่วยหน่อยน่ะ เอ๊ะ ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าเราต้องช่วยเฟียร์” ผมพูดแล้วยิ้มให้ เพราะจริงๆแล้วเฟียร์ทำอาหารได้เก่งกว่าผมหลายขุมนรกครับ
“งั้นคิมพาเราไปซื้อของหน่อยสิ”
“เดี๋ยวพี่พาไป” พี่วินอาสาจะพาไปครับ
“ไม่ต้องหรอกพี่วิน พี่อยู่ดูเพื่อนพี่ไปเลยเดี๋ยวเฟียร์ไปกับคิมเอง”
“จะดีหรอ พี่เป็นห่วงแล้วจะไปกันยังไง” เชื่อแล้วครับว่าห่วงจริง ถามไฟแล่บเลยอ่า
“ขึ้นไปดูเพื่อนพี่เถอะน่า เดี๋ยวไปกันเองได้” เฟียร์ไล่พี่วินขึ้นข้างบนไปครับ
“แน่ใจนะ” พี่วินถามย้ำอีกครั้งนึง
“แน่ใจพี่ เดี๋ยวผมพาเฟียร์ขี่มอเตอร์ไซไป” บ้านผมมีมอเตอร์ไซคันนึงครับ
“อ่ะๆแล้วแต่ละกันครับ” พูดจบพี่วินก็ยื่นกระเป๋าตังให้เฟียร์ เฟียร์ก็รับมาไม่ขัดข้อง แล้วผมกับเฟียร์ก็พากันไปตลาดใกล้ๆ
และดูเหมือนว่าการเดินตลาดครั้งนี้ของผมกับเฟียร์จะไม่ธรรมดาเอาซะเลยเพราะว่ามีแต่คนมอง และพวกที่มองส่วนมากเป็นผู้ชายทั้งนั้น อยากจะตะโกนให้คอแตกตายว่ากูสองคนมีแฟนแล้ว เชื่อมั้ยไปซื้อของบางร้านนอกจากจะได้ฟรีแล้วยังแถมเบอร์โทรมาด้วย
“เฮ้อ นึกว่าจะตายคาตลาดแล้ว” เฟียร์บ่นนิดหน่อย
“แฮะๆ เราก็ว่างั้นแหละ เฮ้อ ไม่ได้เหนื่อยถือของเลยนะเนี่ย”
“เหนื่อยโดนจีบอ่ะดิ” เฟียร์พูดต่อครับ
“แหม ตัวเองก็ใช่ย่อยนะ” หลังจาดแซวกันพอหอมปากหอมคอก็พากันบิดมอเตอร์ไซกลับมาที่บ้านครับ
“ขนของเข้าบ้านก่อนเลยเฟียร์ เดี๋ยวเราปิดประตูบ้านแล้วจะตามเข้าไป” ผมบอกเฟียร์แล้วก็วิ่งไปปิดประตูรั้วบ้าน
“เดี๋ยวคิมช่วย.....” แล้วจากนั้นหัวเรือใหญ่อย่างเฟียร์ก็จัดการทำอาหารหลายอย่าง ด้วยความชำนาญครับ ส่วนผมทำได้แค่เล็กๆน้อยๆ เพราะว่าสูตรหรือวิธีขั้นตอนการทำแต่ละอย่างเฟียร์ทำไมเหมือนที่ผมทำเลย
“อ่าเสร็จละ....ไปตามพวกข้างบนลงมากันเถอะ”
“เอางี้เดี๋ยวเราไปตามให้ละกันนะ” พูดจบผมก็วิ่งขึ้นไปข้างบน
“พี่วิน พี่โชว์ กับข้าวเสร็จแล้ว” พอชะโงกหน้าเข้าไปดูในห้องก็พบว่า
“…” หลับทั้งคู่เลย เหอๆ นี่สรุปพี่วินขึ้นมานอนเฝ้าหรือขึ้นมาให้พี่โชว์มีคู่แข่งหลับเนี่ย
“พี่วิน พี่โชว์ ลุกขึ้นไปกินข้าวกันเร็วๆ ป๊าบบบบ ป๊าบบบบ” ผมหยิบหมอนข้างฟาดเลยครับ เรียกดีๆไม่ตื่นแต่ฟาดไม่กี่ทีก็ตื่นแล้วครับ
“เฮ้อ ปลุกยากจังเร็วๆเลยนะคิมกับเฟียร์จะรอข้างล่าง” ผมบอกทิ้งท้ายแล้วก็เดินลงมาข้างล่าง และจากนั้นไม่นานคนข้างบนทั้งสองคนก็ตามลงมาครับ
“โห กับข้าวน่ากินจัง” พี่วินพูดครับ แหม คงไม่พ้นยอเฟียร์นั่นแหละ
“ก็กินเข้าไปเยอะๆสิ” เฟียร์พูดแล้วยิ้มๆครับ ส่วนผมก็เห็นพี่โชว์แอบส่งยิ้มหวานให้ผมตลอดเลย (จริงๆมันก็ไม่แอบหรอกครับ ยิ้มกันตรงๆเลย)หลังจากกินข้าวกันไปได้สักพัก
“พี่โชว์ พี่วิน เฟียร์ เบื่อที่นี่กันหรือยัง”
“ก็ไม่นะ บ้านคิมอบอุ่นน่าอยู่ดีนะเราว่า” เฟียร์บอกครับแล้วคนอื่นก็เออออตามกันไป
“คิมว่าอีกสองวันจะกลับกรุงเทพแล้วหล่ะครับ” คนอื่นก็เห็นดีด้วยเพราะว่าพวกเราทุกคนต่างขาดเรียนกันมาหลายวันโดยเฉพาะผมครับ ถึงแหมว่าคลื่นลูกนี้อาจจะใหญ่ไปสักหน่อยแต่ผมก็ผ่านมันไปได้ครับต้องขอบคุณพี่โชว์ พี่วิน แล้วก็เฟียร์ ที่คอยให้กำลังใจผมตลอดมาครับ
จบ...
แบบนี้ดีไหม?