☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ บทส่งท้าย +จบบริบูรณ์ (20/11/12)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

นักอ่านที่น่ารักของ ราส’ต้องการอะไรกันบ้างฮะ

ขอคู่อื่นบ้าง เบื่อพี่โม่ง
1 (1.4%)
ขอดราม่า ตบจูบ มือที่สามรังแกนายเอก
6 (8.2%)
ขอ NC +18
32 (43.8%)
เบื่อ แล้ว ขอตอนจบเลยล่ะกัน
1 (1.4%)
ขอให้น้องไข แฮปปี้เอนดิ้ง กับพี่โม่ง
33 (45.2%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 43

ผู้เขียน หัวข้อ: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ บทส่งท้าย +จบบริบูรณ์ (20/11/12)  (อ่าน 114730 ครั้ง)

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
หุ หุ หุ    o3 เราแอบคิดอกุศลกับไอ้มายล่ะว่า "เอ็งจงใจให้มือเอ็งโดนเครื่องสไลด์บาดรึเปล่าวะ"
ดูดิ ๆ ทำมาอ้อนฟ้าใสให้ไปดูแลด้วย เฮ้อ แล้วฟ้าใสจะใจแข็งไม่ไปได้ปะเนี่ย


ป.ล. ขอบคุณจ้ะสำหรับภาพข้าวฟืน ดูหน้าตาก็น่าอร่อยนะ เพราะเราชอบกินเต้าหู้ทอด และตือคาโคอยู่แล้ว
       

ออฟไลน์ arisa_sa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
อั๊ยยะ มายขี้งอนเว้ยเห้ย เป็นเด็กเลย 555+ ฟ้าใสเอ้ยน่าสงสารจริง จะมีแฟนหรือมีลูกเนี่ย

ขอบคุณมากๆค่ะ ขนมน่ากินจัง  :L1: :pig4: :L1: :กอด1:

DIIK

  • บุคคลทั่วไป
หลังจากพลาดรักจากพี่โม่ง เราก็คิดอยากให้ฟ้าใสได้กับพี่ลิฟต์จริงๆ ค่ะ
พี่ลิฟต์ดูท่าจะรักฟ้าใสและยอมทิ้งทุกคนจริงๆ แล้วนี่นา ฮือๆ (ถ้าไม่นับเรื่องเจ้าชู้เขาเป็นคนดีมากๆ เลย)
(ไม่อยากให้มีสะมีเพิ่ม T^T // มายเองก็ยังดูเด็กมากมายเกินกว่าจะรับผิดชอบเรื่องพวกนี้ได้ในอนาคต)

ส่วนข้าวฟืน หรือ ข้าวแรมฟืน นี่
มีแบบทอดและแบบปกติค่ะ อร่อยทั้งสองแบบ(แต่เด็กๆ จะชอบแบบทอดมากกว่า ทานง่ายไม่เผ็ด)
ถ้าได้ไปเที่ยวเชียงราย อย่าลืมหาซื้อทานนะคะ รับประกันความอร่อย ><

ออฟไลน์ Raspberry complex

  • เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +358/-0
    • http://www.facebook.com/raspberrycomplex.raspberry
Ch.6.1

 ((ต่อ))

ข่าวคราวที่ได้จากเมื่อลงไปเยี่ยมบ้านที่กรุงเทพฯในวันหยุด  ฟ้าใสแอบนัดหมูแฮม และไอ้นุ้ย ไปกินข้าวกัน
 ขอมันว่าอย่าบอกคนอื่นว่าฟ้าใสลงมา
หมูแฮมรายงานว่า แชมพู มันกลุ้มใจ เพราะไอ้พี่ลิฟต์ ไม่ติดต่อมัน พอมันโทรไปหาบ่อยๆก็โดนเมียไอ้พี่ลิฟต์มันด่าให้
มันอยากให้ ฟ้าใส พูดกับ พี่ลิฟต์ ให้ไปหา มันบ้าง แต่หมูแฮมก็บอกว่า อย่าไปยุ่งกับฟ้าใสเลย
ทำให้ยิ่งคิดว่าโชคดีแล้ว ที่ฟ้าใส ขึ้นไปอบรมที่เชียงราย ปัญหาของครอบครัวพี่ลิฟต์แกก็น่าจะจบ
ถ้าแกไปยุ่งกับสาวแล้วมีลูก เพราะเมียแกก็มีให้ไม่ได้ พ่อแม่พี่ลิฟต์ก็คงยอมรับสาวคนใหม่ได้ ถ้ามีลูกให้
เหมือนปัญหา ไอ้แชมพู ถ้ามันท้องซะ แต่พี่แกก็ระแวดระวังตัว ในกระเป๋าตังมีทั้งยาทั้งถุง ยาก็สารพัดทั้งก่อนและหลัง
สมกับมีพี่ชายเป็นหมอ พี่ลิฟต์ถึงได้สบายใจเวลามีอะไรกับฟ้าใส ก็เขามันไม่มีมดลูกให้ท้องได้นี่
จะหลั่งนอกหลั่งใน ก็ทำได้ตามใจไม่ต้องมาวิตกกังวล

“พี่ไข่ หวัดดีพี่” เสียงทักจากสาวน้อยตัวหนา ที่เพิ่งเดินเข้าร้านกับกลุ่มเพื่อน  พอเจอฟ้าใสเลยบอกให้เพื่อนไปหาที่นั่งก่อน

“อ้าว...เจี๊ยบ  สบายดี” ฟ้าใสทักตอบสาวเจี๊ยบ เพื่อนร่วมทริปที่เคยร่วมทริปเดินป่า 2วัน 2คืนด้วยกันที่จังหวัดพิษณุโลก

“สบายดี พี่ ไม่เจอพี่ซะนาน พี่ไม่ไปเที่ยวทริป สมุยกับพี่จูน อีกรอบหรือพี่” เจี๊ยบเป็นสาวรุ่นน้องที่อยู่ในกลุ่มขาเที่ยวธรรมชาติ

“โอย...ช่วงนี้พี่ไม่ว่างแล้ว ขึ้นไปอบรมที่เชียงรายน่ะ ปลายปี แน่ะ พี่ถึงจะกลับ”

“พี่อยู่ที่เชียงรายเหรอ  เร็วๆนี้เขาก็มีการชวนกันว่าจะไปเดินป่า ที่ ขุนแจ น่ะพี่  3 วัน สนใจเปล่า”

แหม เจี๊ยบมันชวน เพราะถ้าจัดกรุ๊ป ได้คนเยอะ ก็จะหารค่าใช้จ่าย กันได้แบบ สบายกระเป๋า แต่ฟ้าใสก็ปฏิเสธไป
 เพราะต้องอบรม แต่ เจี๊ยบก็บอกว่าไปกันวันหยุด พร้อมบอกว่า ถ้าขึ้นไปจะแวะไปหา แลกเบอร์โทรติดต่อไว้

“หวัดดี พี่ไข่” เสียงทักมาอีกคนจาก ลันหนุ่มรุ่นน้อง แฟนสาวเจี๊ยบ ผู้เป็นเจ้าของรถตู้ รักการท่องเที่ยว คอยจัดทริปชวนเที่ยวเมื่อยามมีโอกาส

“ลัน หวัดดี เป็นไง” ฟ้าใสคุยถูกคอกับหนุ่มรุ่นน้อง  จำได้ว่า ทริปที่ไปด้วยกันคราวก่อนโน้น ที่มีชาวบ้านวิ่งถือมีดขู่ขอของป่าคืนจากถูกยึดของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ก็มีฟ้าใสกับลันนี่แหล่ะ ที่ยังคงนั่งอยู่กับเจ้าหน้าที่ นอกนั้น วิ่งกันกระเจิง หายไปไหนหมดทั้งกลุ่ม ไอ้แชมพู ปืนไปอยู่บนต้นไม้ กับ พี่กระเทยคนหนึ่ง ตัวเจี๊ยบเองก็เผ่นไปอยู่หลังต้นไม้ ก็ฟ้าใสเห็นอยู่แล้วว่าชาวบ้านคนนั้น มีแต่มีด เจ้าหน้าที่ที่นำทางมีปืนทุกคน แล้วอยู่กันตั้ง 4-5 คน
ทักทายกันพักหนึ่ง ลันกับเจี๊ยบก็ขอตัว เพราะมากับกลุ่มเพื่อน ฟ้าใสก็คุยกับ หมูแฮม และไอ้นุ้ยต่อ
.
.
.
.
วันนี้สอบอาหารฝรั่ง ฟ้าใสโชคดี จับได้สเต็ก ถึงต้องทำเครื่องเคียง มันฝรั่งอบ แต่ก็ยังดีกว่าพวกที่โดน อาหารอิตาลี เพราะต้องทำแป้ง ทำเส้นพาสต้าเอง ถือว่าชดเชย ที่คราวก่อน สอบ เบเกอรี่ จับได้แยมโรล ยากจนทำรอบแรกไม่ผ่าน ต้องทำรอบสอง

ขณะ ที่นั่งในห้องล็อบบี้ อาจารย์ เชฟ ตรวจผลงานฟ้าใสแล้ว ของไอ้มาย ยังไม่เสร็จ  ฟ้าใสเห็นรถตู้ของลันกับเจี๊ยบมาจอดที่ลานจอดรถ หน้าตึกของศูนย์ฝึกฝ่ายโรงแรม  ฟ้าใสขออนุญาต อาจารย์เชฟ ออกไปหาเพื่อน เพราะ เมื่อสอบเสร็จแล้ว ส่งงานเรียบร้อย ก็ปล่อยเป็นอิสระ จะรอทานของร่วมกัน หรือจะกลับก่อนก็ได้ เพราะบางคน ไม่ผ่านก็ต้องทำใหม่ จนกว่าจะผ่าน บางครั้ง ก็ 3-4 ครั้ง
.
.
.
ลัน และเจี๊ยบลงมายืน หน้ารถแล้ว ฟ้าใสตะโกนทัก

“พี่!!! หวัดดี พี่เรียนที่นี่เหรอ สวยดี” สาวเจี๊ยบทักตอบ  ก็ศูนย์ได้งบมามาก ระดับ หลายพันล้าน เลย แค่ที่ส่วนโรงแรม ก็ได้มากพอสร้างเป็นสไตล์บาหลี  เหมือนโรงแรมระดับ5ดาว

“หวัดดี พี่ ชุดเท่ห์เชียว” ลันทักกึ่งแซว

“ไข สบายดีหรือเปล่า” เสียงทุ้มนุ่มหู เอ่ยทัก ทำเอาใจฟ้าใสแว๊บ ตึกตั๊ก เพราะไม่ได้คาดคิดมาก่อน ว่าพี่แกจะมาด้วย
เมื่อวานที่รับโทรศัพท์ จากเจี๊ยบ ก็พูดคุยกัน ได้แป๊บหนึ่ง ฝนก็มาตะโกนเรียกขอยืมสมุดจด เลยไม่ได้ถามว่าใครมามั่ง

“สบายดี พี่” ฟ้าใสตอบ คนร่างสูง ที่หน้าตาหล่อเหลา มาดเข้มขึ้นกว่าเดิม เดินใกล้เข้ามา
ใช่สิ  ระยะหลัง ที่พี่ลิฟต์ก็เข้าร่วมกลุ่มกับพวกแก็งค์ขี่จักรยาน  แล้วก็สนิทกับแชมพู ก็คงชวนกันร่วมทริปเที่ยว
 ยิ่งอย่างพี่ลิฟต์ ไม่มีลิมิต เรื่องเงิน เรื่องเวลา พอใจ ไปไหน ทริปไหน ก็ได้อยู่แล้ว ฟ้าใสแค่รู้ว่า ทริปนี้แชมพูมันไม่ได้มาด้วย
ก็เท่านั้น และเจี๊ยบกับลันก็ไม่รู้ว่า พี่ลิฟต์ และ ฟ้าใส หรือพี่ลิฟต์และแชมพู เป็นอะไรกัน  คิดว่าเป็นเพื่อนๆ รู้จักๆกัน

“เออ..ลัน แล้วจะไปกันกี่วันล่ะ” ฟ้าใสขยับเดินไปคุยกับลัน  แมร่ง ร่างสูงก็ขยับเดินมาคุยด้วย
ปุบ...แขนล่ำ วางโอบไหล่ สนิทสนมอย่างเนียน

“ไข ไปเที่ยวด้วยกันสิ” ลิฟต์เอ่ยชวน

“นั่นสิ พี่ไข่ ขนาดพี่ลิฟต์เป็นหวัดนะ ยังไปเลย แค่ 17 กิโล เอง” เจี๊ยบรีบสนับสนุน

“ห๊า!!! พี่ลิฟต์เป็นหวัด เหรอพี่ ฮึ่ย!! ไม่น่าเชื่อ ไปปล้ำสาวที่เค้าเป็นหวัดมาล่ะสิ เลยติดหวัดมา” ฟ้าใสไม่ค่อยอยากเชื่อหรอก บึกๆอย่างพี่แกจะเป็นหวัด

“555” ทั้ง ลัน และเจี๊ยบ พากันหัวเราะ ทำเอาคนถูกแซว มองหน้า ตาเป็นประกายระยิบระยับ ใส่ฟ้าใส
ทักทายกันพอหอมปากหอมคอ แขนที่โอบไหล่ พยายามถ่ายทอดความรู้สึกคิดถึงตลอดเวลา  มือหนาที่ทำเป็นตบหัว
ลูบไล้ ลงมาเขี่ยคลึงใบหูนิ่ม ละเรื่อยข้างแก้ม บีบไหล่ กอดซะจนตัวจะเซ ไปอยู่ในอกแกร่งแล้วนะเว้ย จะออกท่าสะบัดสะบิ้ง ก็จะดูผิดปกติเกินงาม
เจี๊ยบกับลัน ก็นัดว่าตอนเย็นจะมารับไปกินข้าวด้วยกัน เพราะต้องกินดีๆทิ้งทวนก่อนจะต้องไปกินแค่ข้าวเหนียว อาหารแห้งกับ มาม่าวันนี้จะนอนที่อุทยานขุนแจ รอพวกที่จะมาจากเชียงใหม่อีก4-5 คน แล้วถึงจะขึ้นกันตอนเช้าพรุ่งนี้


TBC...

ออฟไลน์ Raspberry complex

  • เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +358/-0
    • http://www.facebook.com/raspberrycomplex.raspberry
Ch.6.2

(ต่อ)

ฟ้าใสก็อยากไปนั่งกิน พูดคุยกับพวกเพื่อนพวกนี้มั่งเหมือนกัน เพราะพวกเด็กๆ กับคนที่เรียน ไม่ได้มีไลฟสไตล์
หรือความสนใจแบบฟ้าใส ปัญหาใหญ่ คือ พี่ลิฟต์ ที่ฟ้าใส กลัวจิตใจตัวเอง กลัวใจ ที่จะเห็นแก่ความสุขทางกายที่อีกฝ่ายปรนเปรอให้

“มาย เพื่อนมา ไปกินข้าวด้วยกันนะ” ชวนคนขับรถประจำตัว

“ก็ได้ ที่ไหน” คนตอบทำเป็นฮึดฮัดรำคราญใจ แต่แววตาบ่งบอกความเมตตาปราณี
เฮอะ ฟ้าใสก็ไม่ค่อยเข้าใจ คนพวกนี้เลย  ชอบทำเหมือน จิ๊กจั๊ก จุ๊กๆจิ๊กๆ แต่ก็ตามใจ เหมือน พี่ส้มโอ

“อะโหล เจี๊ยบ เดี๋ยวพี่ไปเองก็ได้ ไม่ต้องมารับหรอก”

“อ้าว พี่จะขับรถมาเองเหรอ”

“เปล่า ๆ เดี๋ยวพี่ให้น้องมันขับไปส่งให้นะ เลยชวนมันไปด้วย ลันกับเจี๊ยบจะได้ต้องเสียเวลามาส่ง โอเคเปล่า”

“ได้พี่ ตามสบาย เอาหนุ่มๆมาฝากสาวๆ แถวนี้ก็ได้พี่ ยังโสดอีก 2” ( มีเสียงหัวเราะ ประกอบการแซวกัน)เจี๊ยบก็พูดต่อ

“ร้านริเวอร์วิว อ่ะพี่ รู้จักเปล่า เอ๊ะ พี่ต้องรู้จักดิ อยู่ที่นี่นานแล้วอ่ะเนอะ สักทุ่มหนึ่งนะพี่ โต๊ะจองไว้ พี่ไข่ไปถึงก่อนนั่งสั่งก่อนได้เลยพี่ โต๊ะชื่อแจจุงลัน น่ะพี่”

“โห จองชื่อนี้ พี่ไม่กล้าเข้าไปนั่งก่อนอ่ะ เจี๊ยบ กลัวโดนขอลายเซ็นอ่ะ 55”

“55 พี่ก็แจกไปเก็บตังไปด้วยเลยพี่  เดี๋ยวเจอกันนะพี่”

“จร้า”
.
.
.
.
บรรยากาศที่โต๊ะอาหารพูดคุยกันสนุกสนาน แหมแต่ไอ้มายเองก็คุยกับพวกที่มาจากเชียงใหม่
จน เจี๊ยบเองบอกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้คงไม่ค่อยได้คุย เพราะคงเหนื่อยแฮ่กๆกัน
พี่ลิฟต์เองอยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ นับ 10กว่าคน จะทำอะไรพิเศษกับฟ้าใส ก็ไม่ได้  นอกจากคุยกับพี่ชินที่นั่งข้างๆ แล้วคอยมองหน้า

ฟ้าใสที่นั่งเยื้อง คนละฝั่งกัน ไอ้มายที่แม้จะคุยกับสาวๆ แต่พอเสื้อคอวีที่ฟ้าใสมันไหลเลื่อนจนเห็นไหล่หน่อย
มันก็เอามือจับเลื่อนให้ปิดให้เรียบร้อย ตรูไม่ใช่ผู้หญิงนะ ไม่ต้องมากลัวโป๊แทนหรอก ฟ้าใสต้องทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
เสียงจามติดๆกันจากพี่ลิฟต์ พร้อมสูดจมูก ทำเอา เจี๊ยบแซวว่าอาการหนัก พรุ่งนี้จะไปไหวไหม

“กินยาไหมพี่” สาวที่ถัดไปถาม

“กินเหล้าดีกว่า ให้มันร้อนๆเดี๋ยวก็หายเองน่ะ แหล่ะ” ว่าแล้วก็กระดกแก้วจนหมด

“โห พี่ สูตรแก้หวัดของพี่แบบนี้ เยี่ยมเลย” ลันชม เจี๊ยบค้อน

“งั้นไม่จุดไฟเผาไปเลยล่ะ พี่ ร้อนดี” ฟ้าใสอดกัดมั่งไม่ได้ ก็คนอื่นคงไม่กล้า

“อย่างอื่น ร้อนกว่าไฟ ก็มีน่ะ” คนตอบทำตาฉ่ำใส่ ฟ้าใส รีบหุบปากชวนคุยเรื่องอื่น

กินเบียร์ไปก็หลายแก้ว จนโดนคนข้างๆมองหน้า เอ็งเป็นเด็ก อย่ายุ่ง แอบคิดหรอก รู้ว่ามันขี้บ่น
ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ เด็กข้างๆแตะขาเหมือนจะให้ตามไปด้วยไหม

“ไปได้น่า นั่งไปเหอะ”
.
.

ขณะที่กำลังล้างมือ พี่ลิฟต์ก็เดินเข้ามาในห้องน้ำ ยืนมองจากตรงทางเข้า สายตาบ่งบอกจุดประสงค์  ทำให้เริ่มใจคอตุ๊มๆต้อมๆแล้วล่ะ 
ทางเข้าออกใครเขาจะทำไว้กว้างนักล่ะ มันก็แค่ทางเล็ก ท่าที่แกยืนขวางไม่มีทางออกได้แน่ ก็หวังว่าที่โต๊ะจะมีคนมันลุกมาเข้าบ้าง
ถ้าคนรู้จักกันเองในกลุ่ม แกก็จะไม่กล้า ชำเลืองดูแก  ว่าแกจะเอาอย่างไงว่ะ ถ้ามีคนเข้ามาจะได้ถือโอกาสเดินสวนออกไป
หรือจะวิ่งเข้าส้วมเลย กรูจะล็อคประตูทันเปล่าว่ะ  เมื่อกี้น่าจะเรียกไอ้มายมาเป็นเพื่อน หลังจากลอบมองหยั่งเชิงกัน
พี่ลิฟต์ไม่ต้องลอบมอง จ้องเอาจ้องเอา –อันนี้ตามความหมายจริงเลย คือจ้องจะเอาเลยหล่ะ เอื้อมไปดึงกระดาษเช็ดมือ
ที่กล่องข้างฝา  แล้วพอแค่หันไปมองกระดาษนั่นแป็บเดียว ก็โดนโอบตัวจากด้านหลังทันที
ฮือ  ฮือ กรูไม่น่าห่วงเรื่องเช็ดมือนั่นเลย

“ปล่อยไขไปเหอะพี่ นะ” ผมพยายามพูดขอร้องด้วยน้ำเสียงที่เป็นกลางที่สุด เพราะรู้นิสัยแกดี  ถ้าพูดนิ่มไป แกก็ไม่ฟัง พูดแข็งไปเดี๋ยวเกิดโกรธหรือหมั่นไส้ขึ้นมาแกก็จะเบี้ยวเอาได้ง่ายๆ

“คิดถึง”พูดไม่พูดเปล่าทั้งปากทั้งจมูกก็นัวเนียทั้งคอแก้มหูไม่หยุด มือที่โอบอยู่ก็ควานเข้าไปในเสื้อ แล้วจากนั้นทั้งขาและแขนที่เต็มไปกล้ามเนื้อก็จัดการกวาดขา ทั้งรวบทั้งลากอุ้มเข้าห้องน้ำห้องสุดท้ายทันที
พี่ลิฟต์ นั้นก็เป็นประเภทที่ทั้งเล่นกีฬา โยคะ พวกกีฬาเอ็กตรีมก็เล่น ว่ายน้ำปืนผา ฉะนั้นแค่แขนข้างเดียวแกก็หิ้วฟ้าใสได้สบายพอเข้าห้องมาได้ แกก็ล็อคห้องเตรียมเสียบสายชาร์ตแบต  อ๊าค!!! ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่เอ๊า....

คอที่โดนแกไซ้จนแดงเถือกและกำลังโดนดูดต่อ ทำให้ต้องต่อสู้อย่างหนัก ไม่งั้นได้ออกไปโดยมีไอ้รอยดูดเป็นจ้ำๆ และอาจจะถึงขั้นเปลี่ยนเป็นรอยขบกัดจนเห็นเป็นรอยฟันเขียวๆม่วงๆห้อเลือดเลยก็ได้ 

“พี่…” พูดได้เท่านี้ปากก็โดนปิด ริมฝีปากหนาที่พยายามบดขยี้ริมฝีปาก พร้อมเจ้าลิ้นซุกซนที่เข้ามาพัวพันสำรวจโพรงปาก
อย่างคุ้นเคย ลิ้นก็ถูกดูดดุนตามใจปรารถนาของอีกฝ่ายอย่างรุนแรง รสสัมผัสที่คุ้นเคยทำให้ร่างกายตอบสนองโดยอัตโนมัติ
ยอดอกตั้งแข็งรับมือที่ลูบไล้ภายใต้เสื้อ พี่ลิฟต์จับมือให้สัมผัสกับอวัยวะะที่ตื่นตัวผ่านผ้ายีนส์เนื้อหนา ฟ้าใสพยายามถอนปากออก
 แต่อีกฝ่ายดูยังไม่อิ่มเอม ละเลียดแผ่วเบาและนุ่มนวลขึ้น อยากลืมตัวและจมอยู่กับสัมผัสนี้ ที่ทำได้ก็แค่ ก้มหัวซบกับอกแกร่งเท่านั้น
ฟ้าใสกอดร่างแน่นกล้ามเนื้อเพื่อปลอบใจ รู้ดีว่าทั้งตัวเองและอีกฝ่ายพออกพอใจในความสัมพันธ์เรื่องเซ็กซ์ระหว่างเราแค่ไหน
การหาวิธีที่สร้างความสุขสมให้แก่อีกฝ่ายอย่างไม่รังเกียจเดียดฉันท์ การละเล่นระหว่างเรา แต่สุดท้ายก็มีเรื่องที่รับไม่ได้
จนต้องขอหยุดความสัมพันธ์ระหว่างเรา  เราต่างกอดกันนิ่ง ร่างกายฟ้าใสเองก็แสดงความปรารถนาสัมผัสที่คุ้นเคยนี้เช่นกัน
เสียงสูดลมหายใจ ถอนหายใจ ต่างคนต่างรู้ดี

 “เป็นเพื่อนกันเหอะนะ”พูดอู้อี้อยู่กับอกแน่นๆของแก

“เพื่อนกัน จูบกันได้เปล่า”เสียงพี่ลิฟต์ถามต่อ ทำเอายิ้มออกมา นี่สติสตังแกคงกลับเข้าที่แล้ว ก็ดีแล้วล่ะ ก็ประโยคนี้เป็นประโยค
ที่แกถาม เมื่อบอกให้เราเป็นแค่เพื่อนกัน หลังจากฟังคำสารภาพ และขอไม่ให้มาที่ร้านอีก เมื่อปีที่แล้ว

“เพื่อนกันเค้าไม่ใช้ลิ้นนะพี่” ตุ๊ยท้องแกเบาๆไปทีหนึง เลยโดนคว้าตัวกอดแน่นอีกครั้ง ทั้งจมูกและปากพยายามเก็บข้อมูลจากฟ้าใส
สูดดมกลิ่นเต็มที่จนต้องแซวว่า นี่มันในห้องน้ำนะพี่ จึงยอมปล่อยตัว เปิดประตูให้ออกมา พอเดินออกมาเลยหันไปดู แกก็โบกมือไล่ให้ออกไปก่อน

พอเดินออกจากห้องน้ำมาได้แค่ 2ก้าว 3ก้าว ก็เจอไอ้มายมันเดินมาตาม แค่เห็นหน้ามันก็บ่น ทำไมเข้านานจัง
แล้วมันก็มองสำรวจตัว ทำเอาต้องเอามือลูบหัวลูบคอ พยายามเหมือนทำให้ผมมันเข้าที่
ไอ้บ้ามาย  !!! ตรูยิ่งระแวงอยู่แล้วด้วย
มันเลยยิ่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างไม่พอใจ

“กลับละยังล่ะ” ประโยคอมตะของเอ็งเลยนะเวลาไปไหนนี่

“กี่โมงแล้วล่ะ”

“22” มายตอบเสียงเขียว หน้ายิ่งหงิกขึ้นไปกว่าเดิม เมื่อมันมองเลยไปข้างหลังแล้วพบว่า พี่ลิฟต์แกเดินออกมาจากห้องน้ำ

“เออ กลับเลยก็ได้ กินอิ่มแล้วนี่นา เนอะ” ทำเป็นมุกขำได้กินฟรีมีคนเลี้ยงข้าว แต่ไอ้คนฟังกลับเม้มปากแน่น
ทำตาวาวเป็นนกฮูกกลางคืนไปได้ ไอ้มาย เอ็งจะทำตาปิ๊งใส่ใครว้า เลยหันไปมองตาม อ้าวเอ็งสนใจพี่ลิฟต์เหรอ เลยมองหน้ามัน ขาวๆอย่างเอ็ง พี่เค้าโอเคอยู่แล้วล่ะ สเปคเค้ากว้าง หญิงร้ายชายเลว สูงต่ำดำขาวพิการ เค้าฟาดหมดอ่ะ ขอแค่ยังมีลมหายใจ
เค้าเอาหมด 555 ล้อเล่น

ฉุดไอ้มายเดินไปหาพี่ลิฟต์ที่ดูดบุหรี่ฟูดฟูด หน้าส้วม

“เดี๋ยวกลับเลย อ่ะ ดึกแล้ว” จัดการจะลากลับ เลยสะกิดไอ้มาย มันก็ทำเฉย จะให้มันไหว้เค้าอ่ะ ก็มันยังเด็กกว่าเค้าตั้งเยอะ 
เอ็งไอ้มายอ่อนกว่าฟ้าใส 3ปี พี่ลิฟต์แก่กว่าฟ้าใส 4ปี ถึงฟ้าใสจะมีปืนเกลียวก็เป็นเฉพาะกับคนใกล้ตัวล่ะน่า ถ้าเป็นรุ่นพี่จริงๆ
ถึงแค่ปีเดียวก็ไหว้  ดูเด่ะ มารยาททางสังคมของฟ้าใส มันก็ไม่ยอมทำ เหมือนตอนนั้นที่ให้มันพาไปหาเพื่อนที่มาอยู่บ้านพ่อแม่
 มันจะไปจะลามันก็ไม่ยอมไหว้เพื่อนฟ้าใส เบื่อไอ้ท่าทางไม่เอาใครของมันจริงๆ

“ฮื่อ...เดินไปส่ง”พี่ลิฟต์เลยเดินตามมาด้วยและบอกว่าจะออกส่วนของฟ้าใสเอง ระหว่างที่เดินก็คุยถามไถ่ถึงเพื่อนกับคุณคิดส์

“บอกที่โต๊ะก่อน”ฟ้าใสหันไปหาไอ้มายที่สะกิดยิกๆอยู่นั่นแหล่ะว่าให้รีบกลับ เดี๋ยวก็แกล้งไม่กลับซะเลย ไอ้ลันกับเจี๊ยบยิ่งชวนให้ไป
เที่ยวด้วยกัน มันก็จะหาคนหารนะสิ ยิ่งเยอะยิ่งดี ไอ้มายมันเลยยืนคอยอยู่แถวทางออกซึ่งก็ใกล้กับทางที่เดินมาจากทางไปห้องน้ำ
พี่ลิฟต์เลยยืนสูบบุหรี่อยู่แถวนั้นด้วย
ฟ้าใสลาไอ้ลัน กับเจี๊ยบ แล้วก้อทุกคน บอกเอาไว้ทริปหน้าแล้วกัน แล้วก็อวยพรให้เที่ยวกันให้สนุก

“เดี๋ยวขากลับลงมา แล้วมาเจอกันอีกนะพี่”

“ได้เลย อย่าเผลอไปจับตัวอะไรกินก่อนล่ะ” ฟ้าใสแซวเพราะคราวก่อนที่ลงจากเขามาได้ พอเจอร้านอาหาร พากันซัดแหลก เหมือนไปตายอดตายอยากกันมาจริงๆ

ลันกะเจี๊ยบจะลุกขึ้นเดินไปส่ง บอกไม่เป็นไรนั่งกินต่อเหอะ พี่ลิฟต์เดินไปส่งแล้ว แกยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงโน้นแล้ว ฟ้าใสมองไป
ก็เห็นไอ้มายมันพูดอะไรกับพี่ลิฟต์อยู่ คุยอะไรกันว่ะ ไม่ใช่ถามสูตรอาหารกันหรอกนะ หน้าเป็นตูดเป็ดเชียวนะไอ้มาย
พี่ลิฟต์แกยิ่งเฮี้ยวๆอยู่ ถึงแม้ชอบเล่นชอบคบพวกเด็กๆก็เหอะ พอเดินไปถึง ไอ้มายก็เดินนำไปที่ที่รถจอดอยู่
พี่ลิฟต์เดินไปส่งจนถึงรถ

“กลับไปโต๊ะได้แล้วล่ะ พี่” ก็ขี้เกียจลานี่นา ไม่ได้อยากพูดว่า แล้วเจอกัน  ฟ้าใสอยากมีชีวิตใหม่ๆ ไม่อยากนั่งคิดถึงเรื่องราวเก่าๆ
นั่งเศร้ากับเรื่องที่ผ่านมาหรอก จะอกหักรักคุด ก็จะมองหาทางที่จะมีความสุขกับขีวิตให้ได้

ไอ้มายถอยรถแล้วก็สตาร์ท บรื้น!! รอให้มันตั้งลำให้ดีๆก่อนแล้วค่อยขึ้น
ไอ้มายมันดึงเสื้อบอกให้ขึ้นรถได้แล้ว

ฟ้าใสหันไปมองพี่ลิฟต์ พยักหน้าบอก”ขอบคุณที่เลี้ยงข้าวนะ ไปล่ะ”แน่นอนไม่มีคำว่าแล้วเจอกัน

“อ้า...จะไปแล้ว กอดกันหน่อย”พี่ลิฟต์กางแขนเข้ามากอด ฟ้าใสรีบเอาแขนกันก่อนที่จะโดนคว้าตัวไปกอดให้แน่นๆ
ไอ้มายตาเหลือกแทบถลนจะถลาลงจากรถมาคว้าตัวฟ้าใสขึ้นรถ
ฟ้าใสรีบถอยหลังเกาะไหล่ไอ้มายเป็นหลักดึงตัวเองซ้อนท้ายมัน ฟ้าใสเกาะเอวมันไว้และบอกไปได้แล้ว ถือว่าบอกลาพี่ลิฟต์แกแล้ว

 ก็คงไม่ต้องมาพูดซ้ำซาก และก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องหันกลับไปดูสั่งลาอะไรอีก แค่เพื่อนกัน คนเคยรู้จัก แค่นี้ก็พอแล้ว
มานี่ก็เพราะเห็นว่ามีไอ้ลันกะเจี๊ยบเพื่อนรุ่นน้องที่เคยเที่ยวด้วยกัน กินนอนด้วยกัน  ถ้าหากพี่ลิฟต์แกมาคนเดียว จะไม่ออกมากะแกหรอก

ไอ้มายตั้งแต่ออกจากร้านก็เอาแต่ทำหน้าหงิกหน้างอ ขับรถก็กระฉึกกระฉักอะไรของมัน

“นายขับให้มันดีๆหน่อยเซ่ะ เมาหรือเปล่า”

“....”


TBC...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-10-2012 09:34:22 โดย Raspberry complex »

ออฟไลน์ Raspberry complex

  • เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +358/-0
    • http://www.facebook.com/raspberrycomplex.raspberry
Ch.6.3

ต่อ

ถามไปมันก็ไม่ตอบ เลยชวนคุยแหย่มันมั่ง

“นี่นี่ เรามีกลิ่นเบียร์หรือเปล่า” เอาปากไป อ้า อ้า พ่นลมใส่ มันก็หันมาดูแต่ไม่รู้สูดดมเข้าไปหรือเปล่า 

“....”

“เดี๋ยวคนอื่นจะได้กลิ่นเปล่าเนี่ย” ไม่ตอบอีก  มันจะอารมณ์เสียไปถึงไหนว่ะ 

“...”

“หิวเปล่า ไปกินก๋วยเตี๋ยวไหม”

“...”

ไม่ตอบ อ๊าค!!! เกลียดเด็ก เกลียดเด็ก ไอ้มาย แกงอนจนเกินงามแล้วนะ เดี๋ยวถึงหน้าโรงเรียน ตรูโดดลงจากรถเดินเข้าโรงเรียนเองนะเฟ้ย

“จะถึงยูเทริน์แล้วไม่ชิดขวาเหรอ”ฟ้าใสเกาะไหล่ไอ้มายแล้วชะโงกไปถามมันใกล้ๆหู เมื่อเห็นว่ามันไม่ได้ขับชิดขวาเกาะกลาง
เพื่อยูเทริน์กลับรถไปส่งที่โรงเรียน  มันก็ยังเงียบอยู่  เลยเอาหลังมือตีไหล่มัน ฮึ่ย!!! ชักเริ่มโมโหมันมั่งแล้วนะ ต้องมาเอาใจง้อมันเนี่ย

“ตกลงจะไปไหน” เริ่มถามด้วยน้ำเสียงห้วนๆแล้ว  มันเลยตอบดีๆ

“เดี๋ยวพาไปกินก๋วยเตี๋ยวไง กินไปนิดเดียวไม่ใช่เหรอ”

“เออ เออ...” ตามเคย ตามใจมันว่ะ มันจะพาไปไหนก็ไป “ไปส่งหอด้วยล่ะกัน” ตะโกนบอกมัน

พอไปถึงตลาดโต้รุ่ง มันก็ให้เลือกว่าจะกินอะไร ก็กินแค่นมร้อนกับขนมปัง สังขยาพอ บอกให้มันไปสั่งบะหมี่เกี๊ยวกินด้วยล่ะ
กลัวเดี๋ยวมันจะหิว ท่าทางมันจะอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อยแล้ว

“เดี๋ยวไปนอนบ้านผมนะ”

“เออ ก็ได้ แต่ไม่มีเสื้อนะ หาให้ด้วยล่ะกัน”

ไอ้มายทำหน้าพอใจขึ้น แต่ก็รู้สึกว่ามันต้องมีอะไรที่ไม่ได้บอกแน่ ก็รอจนมันกินเสร็จ แล้วจึงค่อยๆตะล่อมถามว่า มันเป็นอะไร
 จะบอกมันว่ามีอะไรก็พูดกันได้ รับได้อยู่แล้ว 555 ประโยคนี้ ก็ใช้กับพี่ลิฟต์ พอเขาบอกก็บ๋ายบายเขาทันที

“เออ เดี๋ยวไปยืมหนังสือการ์ตูนหน่อยสิ ทันเปล่า ถ้าพรุ่งนี้อ่านจบตอนเย็นจะได้ฝากมาคืน” แกล้งชวนมันไปร้านหนังสือการ์ตูน
 รู้ว่าถ้าให้มันได้พาไปแวะที่ไหนมันจะอารมณ์ดียิ่งขึ้น เพราะไอ้มายมันชอบถามว่าแวะเซเว่นไหมเผื่อจะซื้ออะไร
ตัวมันก็ไม่เข้าไปหรอก ปล่อยให้เขาเข้าไปเลือกๆซื้อๆมันก็จะคอยอยู่ข้างนอก ฟ้าใสก็เลยต้องทำเป็นซื้อๆไป
ตอนแรกว่าจะนั่งกินไปคุยไป  ถามมันว่าคุยอะไรกับพี่ลิฟต์ แล้ว เป็นอะไร ไม่พอใจอะไร ตอนกินขนมปัง
แต่ก็นึกอยากกลับไปอาบน้ำนอนอ่านการ์ตูนดีกว่า ไอ้มายมันก็อารมณ์ดีแล้ว ช่างมันเหอะ ก็ซื้อโค้กติดไปด้วย
ไอ้มายกับฟ้าใส นี่เป็นอะไรที่ต่างกันมาก น้ำอัดลมมันก็ไม่ค่อยชอบ มันจะกินแต่ผลไม้ ขณะที่ฟ้าใสไม่กิน แทบจะไม่กินผลไม้เลย
จนเหมือนเขาน่ะเลือกกินแต่ของที่ไม่มีประยชน์ ขณะที่มันกิน มันจะเลือกดูว่ามีประโยชน์อะไรมั่ง


กว่าจะไปถึงบ้านมันก็ห้าทุ่มกว่าแล้ว ระหว่างที่นั่งซ้อน มอเตอร์ไซค์ไอ้มายไปก็คิดว่า มานอนนอกหอก็ดี 
หลังจากได้ออกจากบ้าน ออกมาอยู่ห่างไกลจากที่ ที่คุ้น เพื่อลองเปลี่ยนชีวิตดูบ้าง ยังไม่เคย
ถึงกับแยกมาอยู่ซะแบบไม่มีใครมาก่อน อย่างตอนเรียน ก็รู้จักกับเพื่อนมาก่อน1ปี ถึงมาเช่าอยู่ด้วยกัน ช่วงเมื่อ3ปีก่อนนั้น
ที่มาก็มาอยู่กับไอ้โภชน์ ตอนนี้พอต้องมาเจอพี่ลิฟต์ คนที่มีส่วนผลักดันทำให้ต้องมาอยู่ที่นี่ ยังไงก็ไม่ถึงกับอยู่คนเดียว
เมื่อมาอยู่ต่างถิ่น ไอ้คนที่อยู่ตรงหน้านี่ไง  ขอบคุณแกว่ะไอ้มายที่มาคอยป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ตัวฟ้าใส ถ้าไม่มีมัน
ฟ้าใสอาจจะแอบนอนร้องไห้คนเดียวที่หอก็ได้ แถมถ้าฟ้าใสไม่มีมัน ฟ้าใสอาจใจอ่อนแล้วก็อาจจะโดนพี่ลิฟต์แกหิ้วไปไหน
ก็แกตื้อเก่งจะตาย แล้วนี่ก่อนกลับที่เห็นพี่ลิฟต์แกพูดอะไรกับไอ้มาย จะพูดเรื่องฟ้าใสหรือเปล่า แล้วแกจะพูดอะไร ไอ้มายมันถึงได้หงุดหงิดนัก

บ้านมันปิดไฟเงียบ น้ามันก็คงเข้านอนแล้ว
พอเข้าห้องมัน ฟ้าใสก็นั่งแปะบนเตียง ก็ไม่ชอบนั่งกับพื้นนี่นา รีบหยิบการ์ตูนมาอ่านมาก่อนเลย เรื่องนี้ติดอยู่

ปุป!!! ไอ้มายเอาผ้าเช็ดตัวสีขาวมาโยนใส่

“ไปอาบน้ำ”

มองหน้าคนสั่ง เว้ย ฮ่าๆ มันเหมือนแม่ เหมือนพี่ส้มโอเลยว่ะเอ็ง  กลับมาจากข้างนอก เข้าบ้าน ก็ให้ไปอาบน้ำ
ยังกับกลัวเชื้อโรคจากนอกบ้าน ฟ้าใสยกผ้าเช็ดตัวที่พับเรียบร้อย  ดม อื้อ กลิ่นสะอาดเชียว ไม่ใช่จะระแวง รังเกียจอะไร
ไอ้โรคชอบดมนี่ก็เป็นนิสัยส่วนตัวอีกอย่าง 555 แถมยังเป็นพวกติดกลิ่นหอมอีก น่าน่า แต่ละคนมันก็ต้องมีนิสัยส่วนตัว
อะไรกันบ้างล่ะ แต่บทจะปล่อยผ่านฟ้าใสก็หยวนๆไม่เรื่องมาก ไม่งั้นคงไปตะลอนทัวร์ลุยป่าไม่ได้

ฟ้าใสวางการ์ตูนลงอย่างอาลัยอาวรณ์ คว้าผ้าเช็ดตัวไปอาบน้ำ ก่อนที่ไอ้มายมันจะบ่น ถ้าเห็นยังชักช้าอืดอาด
ส่วนเสื้อกางเกงนะเหรอ เดี๋ยวมันก็หามาให้เองนะแหล่ะ เสียงมันตะโกนถาม

“จะเอาบ็อกเซอร์  หรือกางเกงนอน”

“อะไรก็ได้” ก็ขี้เกียจคิดนี่นา เสียงมันก็สั่งต่อ

“สระผมด้วย ไปนั่งมากลิ่นบุหรี่ติดหัว เหม็น” อะไรว่ะดึกแล้วจะให้สระผมอีกเนี่ยนะ

“เฮ้ย ไม่เอาอ่ะ สระพรุ่งนี้แล้วกัน”ฟ้าใสขี้เกียจตะโกนพูดกับมันผ่านประตูเลยเปิดออกมาชะโงกต่อรองกับมัน

“กลัวกลิ่นติดหมอนเหรอ”ฟ้าใสก็สงสัยทำหน้าตาเหรอหรา ถึงติดยังไง มันก็ต้องเปลี่ยนซักอยู่ดี นี่หว่า
มันก็ปรายตามามองฟ้าใสที่อยู่ในห้องน้ำครึ่งตัว

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปเรียนตื่นสาย สระผมก็ไม่ทัน หัวเหม็นบุหรี่ คนอื่นเค้าจะว่าอย่างไง บลา บลา บลา”
 ไอ้มายเริ่มร่ายยาว จบลงด้วยน้ำเสียงที่เข้ม หรือจะให้ต้องสระผมให้

“เออ ถ้าเป็นหวัดก็รับผิดชอบด้วยนะแก”ฟ้าใสก็หดหัวกลับไปสระผมต่อ ก็ไม่รู้จะไปเถียงมันเพื่ออะไร

ฟ้าใสเช็ดผมหมาดดีแล้วเลยนอนเล่นคว่ำหน้าอ่านการ์ตูนต่อ แปบหนึ่งมันก็เอาแป้งเด็กกับคอตตอนบัดมาให้
ทิ้งคอตตอนบัดเสร็จฟ้าใสก็เตรียมนอนอ่านการ์ตูนต่อ มันก็บอกให้ฟ้าใสไปนั่งข้างเตียงจะเป่าผมให้ ก็เห็นแล้วล่ะที่มันถือไดร์มา
 ก็ตามใจ ฟ้าใสก็ลุกลงไปนั่งข้างล่างหลังพิงเตียง ไอ้มายมันก็มานั่งบนเตียงคร่อมให้ฟ้าใสอยู่ระหว่างขามัน
ฟ้าใสก็นั่งอ่านการ์ตูนไปหัวเราะขำการ์ตูนไปด้วย  ส่วนมันก็เป่าหัวฟ้าใสไปผลักเอียงซ้ายเอียงขวาก้มหน้าก้มหลัง
ฟ้าใสน่ะชินแล้ว อยู่บ้านตั้งแต่เด็ก พี่สาว น้องสาวก็ทำให้ ไม่ได้คิดอะไร บางที ถ้าดูจากนิสัยไอ้มายมันน่าจะเป็นผู้หญิงด้วยซ้ำ
ทั้งขี้งอน จุกจิก แล้วถ้าผู้หญิงได้มันเป็นแฟนก็คงต้องทำใจ แค่ คอเสื้อย้วยยืดหน่อย
ก็โดนจับๆขยับให้ปิดให้มิดห้ามเปิดเห็นไหล่ ไหปลาร้าอะไรนี่แหล่ะ ฟ้าใสยังงงๆมันเลย

“เสร็จยังอ่ะ”ฟ้าใสก็ขี้เกียจนั่งแล้ว ก็เมื่อยแล้ว นั่งกินที่ร้านก็ตั้งหลายชั่วโมง ก็อยากนอน(อ่านการ์ตูน)แล้ว

“เดี๋ยว นั่งเฉยๆสิ”มันก็เอามือมาจับไหล่ให้อยู่เฉยๆ เมื่อเห็นฟ้าใสเริ่มตัวไถลไปซ้ายทีขวาที มันเลยขามาหนีบ
แล้วเอามือจับหน้าฟ้าใสไว้แล้วก็เอามือที่จับไหล่มาสางๆผมให้อยู่แปบหนึ่ง ก็ยอมปล่อยตัวให้ฟ้าใสขึ้นไปนอนอ่านหนังสือบนเตียง
ฟ้าใสนอนอ่านการ์ตูนต่ออีกแปบก็จบเล่มเลยนอนเลยดีกว่า ฟ้าใสก็ปิดไฟ ฟ้าใสเห็นไอ้มายมันเดินไปเดินมาอยู่ตรงแถวห้องน้ำ
เดี๋ยวมันก็มานอนเองล่ะ ผ้าห่มมีผืนเดียว ฟ้าใสก็ใช้ก่อนล่ะ เดี๋ยวมันคงเอามาเพิ่มเอง
สักพักไอ้มายมันก็มานอน

“ปลุกด้วยนะ”ฟ้าใสพึมพำบอกมัน

“บอกให้ปลุกนะ ปลุกแล้วก็ตื่นด้วยล่ะ ไม่ใช่นอนต่ออยู่นั่นน่ะ” ร่างสูงที่หันหลังให้ฟ้าใสตอบอย่างไม่วายบ่นต่อ
แถมยังทำเป็นถอนหายใจเฮือกใหญ่ เล่นเอาฟ้าใสได้แต่หัวเราะแหะแหะอย่างรู้ดี เชอะ ฟ้าใสตั้งปลุกจากมือถือก็ได้
เลยกระดุบๆตัวไปเอื้อมหยิบมือถือที่วางไว้บนโต๊ะที่วางไว้รวมๆกับกองหนังสือและกระเป๋าตัง

“อุ๊บ...เอ๊ย!!!” แขนที่ยันรับน้ำหนักตัวดันงอพับฟ้าใสเลยทำท่าจะหล่นจากเตียง ไอ้มายรีบดึงกับจับตัวฟ้าใสไว้
เวลามันเหมือนจะหยุดนิ่งแช่แข็งอยู่อย่างนั้น ความรู้สึกอบอุ่นที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของใครสักคน
ไอ้เจ้าร่างสูงนั้นก็ดึงขาจับตัวฟ้าใสลากมานอนเข้าทีเข้าทางตามเดิม สายตาที่มันมอง เล่นเอาฟ้าใสหน้าแดงใจเต้นตุบตับเอาเรื่องเหมือนกัน

“ไม่ต้องไปตั้งปลุกไอ้มือถือหร็อก ดังแล้วก็ยังกะจะตื่น หนกขูเปล่า รำคราญจะตาย เดี๋ยวปลุกเอง ไม่ตื่นให้มันรู้ไป แบบนี้น่ะตื่นไหม” แล้วมันก็เอานิ้วมาจิ้มที่เอว

“ฮ่า ฮ่า ตื่น ตื่น” ใครก็รู้ฟ้าใสนะบ้าจี้จะตาย ฟ้าใสรีบจับมือมันไม่ให้จี้เอวฟ้าใส ชักรู้สึกเขินๆชอบกล
 
ขณะที่นอน ฟ้าใสรู้สึกว่าไอ้มายมันก็ยังนอนไม่หลับ ฟ้าใสเลยชวนคุย

“แล้วเมื่อขากลับนายอารมณ์เสียเรื่องอะไรอีกล่ะ มีอะไรเหรอ” ฟ้าใสถามจะได้หายข้องใจถ้ามันหงุดหงิดเลือดจะไปเมนส์จะมาฟ้าใสจะได้ซื้อโซฟีมาให้มันใช้

“ไม่มีอะไร”มันตอบเสียงเรียบๆกลับมา

“อ่า...แล้วคุยอะไรกันกับพี่เขาเหรอ” แหะ แหะ ในที่สุดฟ้าใสก็อดรนทนไม่ไหวต้องถามออกไป
 แต่สิ่งที่ตามมา ทำให้ฟ้าใสคิดว่าบางทีไม่น่าถามไปจะดีกว่า
ไอ้มายก็ยังคงนอนกอดอกหันหลังให้ฟ้าใส ขณะที่ตอบกลับ

“ผมบอกว่าพี่เป็นเมียผม”


TBC...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2012 00:59:26 โดย Raspberry complex »

ออฟไลน์ arisa_sa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
เกือบไปแล้วใหมหล่ะ พี่ลิฟท์เดี๋ยวจะโดน  :m16: :m16: :m16:

มายอย่าทำไรฟ้าใสนะจ๊ะ สงสารตัวยิ่งนิดเดียวอยู่

ขอบคุณมากค่ะ  :L1: :pig4: :L1:  :กอด1: คนแต่ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-10-2012 11:53:49 โดย arisa_sa »

ออฟไลน์ Raspberry complex

  • เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +358/-0
    • http://www.facebook.com/raspberrycomplex.raspberry
ต่อ

ฟ้าใสฟังคำพูดมันก็รู้สึกอึ้งเหมือนโดนทุบหัว 

“แกพูดอะไรว่ะไอ้มาย” ฟ้าใสทำเสียงเหมือนคนเอ๋อแดก มันมาขี้ตู่โมเมอะไร  ถ้าจะแค่ กอด หอม แม้แต่ จูบปากมันฟ้าใสก็ไม่เคย
จะมีที่ฟ้าใสไปค้างห้องมันตอนเตรียมสอบอาหารไทยที่มันเห็นฟ้าใสกลัวว่าจะทำไม่ได้ เลยบังคับให้ฟ้าใสไปหัดทำอยู่ตั้งสองวัน
พอนอนค้างก็นอนเตียงเดียวกัน แล้วก็ครั้งก่อนโน้นบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีอะไรกัน แล้วถึงฟ้าใสก็ผ่านเรื่องแบบนี้มาแล้ว
แต่ฟ้าใสก็ไม่ปล่อยตัวเองให้นอนกับใครง่ายๆ

ฟ้าใสลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับผลักไหล่มัน หันหน้านั่งจ้องร่างมันที่ยังคงนอนกอดอกหันหลังไม่ยอมหันมาเผชิญหน้าฟ้าใส 
ฟ้าใสรู้สึกตัวร้อนไปหมดทั้งหน้าทั้งหัวใจ นึกอยากจะจับมันกระชากให้หันหน้ามาพูดกันให้รู้เรื่อง
 ใช่สิเรื่องแค่นี้ทำไมจะรับไม่ได้ ผ่านมาตั้งเท่าไหร่ ชีวิตนี้

“แกพูดอย่างงั้น หมายความว่าไง พูดมาให้รู้เรื่องด้วย”ฟ้าใสก็ยังผลักไหล่มันอีกหลายทีเหมือนเริ่มเอาเรื่อง
เรื่องนอนเนินไม่ต้องมาคิดกันแล้ว เด็กอย่างมัน ฟ้าใสไม่มีเกรงใจอยู่แล้ว ขนาดแก่กว่าแบบไอ้โภชน์ หรือพี่ลิฟต์เอง
ถ้ามีเรื่องกันฟ้าใสก็ไม่เกรงใจหรอก ถ้ามีเรื่องต้องให้ด่ากัน แต่ฟ้าใสไม่ใช่พวกใช้กำลังนะ ฟ้าใสเอาหมอนฟาดมันอีกตุ๊บ

“พี่จำวันที่พี่ไม่ค่อยสบายได้เปล่า ที่ไปถ่ายรูปด้วยกันแล้วนอนค้างที่นี่...แล้วพี่ก็เป็นเมียผม” มันก็ยังอธิบายน้ำเสียงราบเรียบ
แต่ก็พูดไม่ค่อยออกเหมือนกัน  ฟ้าใสฟังแล้วก็ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจเมื่อได้ฟัง short story 3 ประโยค
เรื่องการเป็นเมียมันของฟ้าใส ที่ดีใจคือที่รู้เรื่องกันซะทีว่ามันคิดอย่างไง เป็นอะไร คำตอบคือมันเป็นเมะ เป็นเกย์ เป็นโฮโม
ที่เสียใจก็คืออะไรว้าเป็นเมียมันนี่  ได้คอลเลคชั่นรูปถ่ายกะควายเนี่ยนะ เฮอะ นึกแล้วโมโหเอาหมอนฟาดมันอีกทีเถอะว่ะ ตุ๊บ!!!

คราวนี้ไอ้มายเลยพลิกตัวมากอดเอวฟ้าใสไว้แล้วเอาหัวมาซุกตักฟ้าใส ฟ้าใสก็จ้องหน้ามันด้วยสีหน้าถมึงทึง
ปากยื่นตาขวางต้องข่มมันให้ถึงที่สุด ฟ้าใสเห็นตามันก็มีแววเสียใจเหมือนน้ำตาคลอๆ มรึงจะมาน้ำตาคลอๆทำไมว้า
ตรูต่างหากที่เสียตัวให้เอ็งน่ะไอ้มาย ตรูต้องเป็นฝ่ายร้องไห้น้ำตาคลอโว้ย ฟ้าใสถอนหายใจ เฮ้อ....

“แกพูดเรื่องจริงใช่ไหม ไม่ได้หลอกอำฉันนะ” ฟ้าใสก็ยังแทบไม่อยากเชื่ออยู่ดี มันพยักหน้าหงึกๆ

“นายชอบฉันเหรอ”ฟ้าใสก็ต้องถามมันให้แน่ใจว่าชอบหรือรักฟ้าใสหรือเปล่า หรือไม่ใช่แค่มีเซ็กซ์กันเล่น
มันก็ยังตอบกวนประสาทให้ฟ้าใสจิ๊ดอีก

“ไม่รู้เลยหรือไง เกลียดกันจะมาคอยอยู่ใกล้ทำไม” มันตอบคำถามด้วยคำถาม  แล้วยังขยับกอดฟ้าใสแน่นขึ้นอีก
เอ็งจะมาขาดความอบอุ่นอะไรตอนนี้ หนักโว้ย เดี๋ยวตะคริวกิน มรึงต้องนวดขาให้ตรูด้วยนะเฟ้ย ไหนไหนก็คงนอนไม่ลงแล้ว
เที่ยงคืน 40 แล้ว ฟ้าใสเลยว่าจะพูดกับมันให้รู้เรื่องกันไปเลยดีกว่า เลยบอกมันให้ลุกมาคุยกันให้รู้เรื่อง
ฟ้าใสก็เลยแกะมือที่โอบเอวฟ้าใสไว้ออกแล้วก็ผลักหัวมัน แล้วก็กระเถิบไปนั่งพิงหัวเตียง ไอ้มายมันยังจะมาทำเป็นนอนงอก่องอขิง
 ฟ้าใสเลยจิกหัวมัน ก็แค่ขยุ้มผมมันเท่านั้นล่ะแล้วก็นวดๆ สะกิดๆแล้วดึงให้มันลุกมา มันก็ยังทำอิดออด ฟ้าใสก็เริ่มใช้เท้าเขี่ย

“เฮ้ยยย...ลุกมา...ดีดีเลย” มันขยับยันตัวลุกมาพิงที่หัวเตียงข้างฟ้าใสพลางทำหน้ามุ่ย

ฟ้าใสเลยอธิบาย เล่าชีวิตฟ้าใสให้มันว่า ฟ้าใสน่ะเคยเป็นแฟนไอ้โภชน์อยู่ 3ปี แล้วก็เป็นแฟนพี่ลิฟต์ 2ปี กว่า จนมามีเหตุต้องเลิกกัน
ไอ้มายมันฟังแล้วก็เอาแขนมาโอบไหล่ฟ้าใสลูบหัวฟ้าใสเบาๆ
ฟ้าใสเอานิ้วกรีดน้ำตาที่คลอเป้าทิ้ง หันไปจ้องหน้าถามมัน

“ฮื่อ ...เราก็เล่าให้ฟังแล้วนะ แล้วตกลงนายจะเอาอย่างไงกับเรา แต่อย่างไงวันนี้เราก็ดีใจนะที่มีนายอยู่”
แต่ฮึ่ม!!!คดียังไงมันก็ยังเป็นคดีอยู่นะเฟ้ย อย่างไงเอ็งต้องโดนวิ่งรอบสนาม20รอบแน่

“พี่เป็นแฟนผมได้ไหมล่ะรับรองผมจะไม่มีใคร” มันตัดสินใจพูดออกมา

เฮ้อ...กรูกว่าจะรู้ว่ามรึงชอบกรูก็โดนกินก่อนแล้ว ไอ้มายนะไอ้มาย  ถึงได้ไม่ชอบเด็ก ตรูชอบรุ่นใหญ่เว้ยยยย


 :m16:

ออฟไลน์ arisa_sa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
 :z2: :z2: :z2:
ก็ว่ามันแม่งๆ กินมาตั้งนานแล้วจิ ดูแลฟ้าใสด้วยหล่ะ ถ้าทำฟ้าใสเสียใจนะ โดน :z6: :z6: :z6: :z6: :beat: :beat: :beat:

ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
อ่านยาวเลย มายนี่เจ้าเล่ห์มากเลย แอบกินฟ้าใสไปซะแล้ว อย่าหลอกฟ้าใสนะไม่งั้นจะโดน :z6:
แต่ดีแล้วที่ฟ้าใสไม่ใจอ่อนกับไอ้พี่ลิฟท์ ขอให้รักครั้งนี้ฟ้าใสสมหวังเน้อ :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






yayee2

  • บุคคลทั่วไป
อ่านช่วงที่ฟ้าใจเจอกับพี่ลิฟต์ในห้องน้ำ ก็ใจตุ๊มๆต่อมๆ
กลัวฟ้าใสใจอ่อนเตลิดเพริดไปกับสิ่งที่พี่ลิฟต์"พยายาม" ที่สุดฟ้าใสก็รอดล่ะ   :เฮ้อ: โล่งงงงงใจ
โล่งใจได้ไม่นาน ต่อมาๆๆๆ ฮ่วยมาย แกได้กินฟ้าใสตอนไหนหว่า
ว่าแต่ว่าวันนั้นน่ะ ฟ้าใสน่ะหลับลึกจริงๆหรือ หลับลึกจนกระทั่งไม่รู้ตัวว่าโดนมาย :oo1: เชียวหรือ :dont2:

ออฟไลน์ Raspberry complex

  • เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +358/-0
    • http://www.facebook.com/raspberrycomplex.raspberry
อ่านช่วงที่ฟ้าใจเจอกับพี่ลิฟต์ในห้องน้ำ ก็ใจตุ๊มๆต่อมๆ
กลัวฟ้าใสใจอ่อนเตลิดเพริดไปกับสิ่งที่พี่ลิฟต์"พยายาม" ที่สุดฟ้าใสก็รอดล่ะ   :เฮ้อ: โล่งงงงงใจ
โล่งใจได้ไม่นาน ต่อมาๆๆๆ ฮ่วยมาย แกได้กินฟ้าใสตอนไหนหว่า
ว่าแต่ว่าวันนั้นน่ะ ฟ้าใสน่ะหลับลึกจริงๆหรือ หลับลึกจนกระทั่งไม่รู้ตัวว่าโดนมาย :oo1: เชียวหรือ :dont2:

พวกประเภทหลับลึก นี่ มีจริงๆ ตัวเป็นๆ หลับกลางงานเลี้ยง ที่เพื่อนกินเหล้าเฮฮา ทั้งที่เจ้าตัวไม่กินเหล้า แต่ง่วง
หลับไป ครึ่งชั่วโมง ตื่นมา เฮฮาต่อ
หลับลึก ชนิด ฝ่ายรับ ที่ลุกมาปล้ำฝ่ายรุก แล้วพอ ตื่นมางงๆ ว่าใครมาถอดเสื้อผ้าตัวเอง
หลับลึก ละเมอ แต่งตัว จะออกนอกบ้าน
หลับลึก ระดับ ข้างสนามยิงปืน เขายิงกัน โป้งเปรี้ยงก็ไม่ตื่น
หลับลึกชนิด คนมาของออกจากตัว เขี่ยให้กลิ้งไปอีกทาง ก็ยังไม่ตื่น
เอ...คนแต่งไปเกี่ยวข้องคนพวกนี้มากไปเปล่าเนี่ย พวกนี้ บางคนฝันล่วงหน้าได้ด้วย แต่ใบ้หวยไม่ได้ ไม่ค่อยมีประโยชน์ เท่าไหร่เลย
 :pig4:

ออฟไลน์ nine_molly

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
เชียร์ไม่ถูก
ไอ้พี่ลิฟต์ ก็น่าเชียร์
ไอ้หนูมาย มือใหม่ ก็น่าลุ้น
พี่โม่ง จะมีสิทธิ กะเค้าไหมเนี่ย
แต่ไอ้เลวที่สุด ก็ไอ้โภชน์ :z6:
 :z2:

ออฟไลน์ Raspberry complex

  • เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +358/-0
    • http://www.facebook.com/raspberrycomplex.raspberry
S.4 Ch.7(.1)

***เชื่อฉันอย่าหลงไปเชื่อใคร ฉันนี้แหละห่วงใย รักแท้และแน่จริง
โปรดทิ้ง ความคิด จะเปลี่ยนใจ ห้ามหนีไปชอบใคร
ชอบทำไมชอบได้แต่ฉัน คนเดียว***


“เชื่อได้เหรอ” ฟ้าใสตวัดเสียงสูง อย่างไม่คิดจะเปิดใจง่ายๆ

 “ไม่มีทาง ผมไม่เปลี่ยนใจ ไม่ล้อเล่นด้วย” ร่างสูงย้ำ

“โอย...คนรู้จักกัน...” ฟ้าใสจะพูดถึงคนในอดีต แต่ก็ป่วยการที่จะนึกถึง “ไม่รู้ล่ะ จะไปเชื่อได้ไง”

“แล้วต้องทำไงถึงจะเชื่อ ผมจะพิสูจน์ เพราะงั้น ต้องมาเป็นแฟนกัน แล้วพี่ห้ามมีใคร ผมไม่ชอบ ไม่ยอมด้วย”

แอ่ก แอ่ก เมริงพูดอย่างเดียวก็ได้ ไอ้มาย ไม่ต้องทำท่าทางประกอบฉากสมจริงขนาดนั้น ตรูยังไม่ได้มีใครเลย
มันดึงร่างฟ้าใสไปกอดคาอก รัดตัวฟ้าใสซะแน่น หมอนข้างเอ็งอยู่ตรงโน้น เมตร10เซ็นต์ ตรูสูง160เซ็นต์เฟ้ย ไม่ใช่หมอนข้างแก

“แต่นายห้ามทำอะไรประเจิดประเจ้อนะ รักษาหน้าฉันมั่ง” ฟ้าใสรีบทำข้อตกลงกับมัน

“หอมแก้มได้เปล่า”

“ไม่ได้  จับโน่นจับนี่ก็ไม่ได้ แค่ทุกวันนี้ คนเค้าก็มองจะตายแล้ว”
ก็บางครั้งนั่งเรียงกันอยู่ มันมาถึงก็จะแทรกนั่งกลางระหว่างฟ้าใสกับคนที่นั่งข้างๆให้ได้
ถ้าเด็กกว่าก็ดีไป เค้าก็ยอม ถ้าแก่กว่า มันก็ไม่กล้าไปไล่ให้เค้ากระเถิบ มันก็จะงอนไปนั่งแยกตัว ฟ้าใสก็ต้องตามไปง้อ >O< อ๊าค ตรูเกลียดเด็ก !!!!

ฟ้าใสน่ะ ยังพอเหลือมาดแมนบ้าง ตรงทำตัวเป็นผู้ใหญ่พูดรู้เรื่องแม้จะมีรสนิยมแบบเด็กๆคบพวกเด็กๆพูดเล่นสนุกร่าเริง
ทำตาแอ๊บแป๊ว ซื่อตาใส  แต่ก็ไม่ออกท่าทางค้อนประหลับประเหลือกชี้นิ้วกรีดกรายเป็นเคะราชินีแบบศักดิ์นรินทร์ 
ไม่บ้าผู้ชายอย่างนางเกรียงและพี่ทิวา ที่ทำให้ใครก็ดูออกตั้งแต่แรก ฟ้าใสก็เฉยๆจนไอ้มายที่มาเข้ามาวุ่นวายพัวพัน
ล้อมหน้าล้อมหลังตั้งแต่เดือนแรกๆ

“ไม่พอใจเหรอ...” หน้าหมาใหญ่สลดลงหน่อยหนึ่ง

“ก้อ..ฮึ่ย..” ใครจะไปพูดออก ก็มันทำท่าหูตกหางลู่

“แล้วนายมาชอบเราตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมมาชอบล่ะ” ก็ทำเป็นถามเสียงเข้มอ่ะ

“หึ!!!” ดูมัน ทำเป็นไม่พอใจฟ้าใสอีก

“โหย...จำเขาไม่ได้ น้อยใจว่ะ” ร่างสูงสะบัดเสียงใส่คนตัวเล็กกว่า แล้วตวัดกอดจนคนตัวเล็กจมในอ้อมแขน

แอ่ก!!! เอิ่ม ไอ้มาย เอ็งน้อยใจ เอ็งต้องเดินหนีไปนั่งตรงอื่นสิ ไม่ใช่มานอนล้มทับกัน
หนุ่มรุ่นน้องตัวใหญ่หยัดตัวขึ้น มองหน้าหนุ่มรุ่นพี่ ที่นอนหงายเงยหน้าประสานตาจ้อง ภายใต้ร่างเขา

“จำผม ไม่ได้เลย จริงๆ เหรอ”

“ทำไม เราเคยรู้จักกันมาก่อนเหรอ บ้าน่า ฉันไม่มีรักแรกอะไรกับเด็กอย่างนายนะเฟ้ย
ตอนป.4 ก็มีกับคนที่เรียนพิเศษภาษาอังกฤษด้วยกัน ตอนป.5ที่ย้ายห้อง ก็มี โดนไอ้ลูกครึ่งมันแกล้งบ้าง เรียกร้องความสนใจ
ตอน ป.6 ก็โดนจับมือตอนเดินป่าค่ายลูกเสือ ม.2 ก็มีโดนสารภาพรัก วันงานกีฬาสี แต่นั่นก็รุ่นเดียวกัน”

ปึก ปึก ปึก!!! เสียงหมาใหญ่ฟาดขาหน้าข้างขวากับที่นอน
หมาใหญ่ยื่นหน้ามา จนฟ้าใส รับสัมผัส ลมหายใจฟืดฟาด ด้วยความขุ่นข้องน้อยใจ

“ดูดีๆสิ จำหน้าผมไม่ได้เหรอ” คนตัวใหญ่ชี้มาที่หน้าอันหล่อเหลาของตัวเอง

“เออ...เออ...ก็..คุ้นๆเหมือนกัน” เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา เอาว่ะ ตอบมันไป

“ไม่จริงน่ะ จำไม่ได้ล่ะสิ วันที่ 9 เดือน 9 ที่สนามบินสุวรรณภูมิน่ะ”

“เอ๋...เดือน 9 เดือนกันยา ทำไมเหรอ นายนั่งข้างๆ ฉันเหรอ” ฟ้าใสพยายามนึกย้อน

“หึ...” เสียงพ่นลมหายใจ ด้วยความขัดใจ

“ผมคือคนที่ส่งผ้าเช็ดหน้าให้น่ะ วันนั้นน่ะ”

“วันไหน อ๋อ อ๋อ วันที่ฉันขึ้นเครื่องไปบ้านรุ่นพี่”

“วันนั้นผมเพิ่งกลับมาจากสมัครอบรมที่นี่แหล่ะขนาดผมอยู่ชั้น 2 แต่นัดเพื่อนที่ชั้น 4 ผมเลยได้เจอพี่
แค่เห็นแวบเดียว ผมก็ชอบพี่แล้ว เห็นพี่ร้องไห้ ใจผมก็ร้อนรน     ถ้าเป็นแฟน กัน ผมจะดูแลไม่ให้พี่ต้องร้องไห้ เสียใจ”

ถึงน้ำเสียงมันจะชอบทำเป็นหงุดหงิด เอาแต่ใจ แต่คำพูดที่แสดงความตั้งใจ จริงใจของมัน ทำให้หัวใจของเขาอบอุ่น 
แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมา ฟ้าใสจะกล้าวางใจ หรือคาดหวังอะไรจากใครได้อีกเหรอ                               
แล้วจะเป็นอะไรไหม ถ้าเขาจะพึ่งพิงไขว่คว้าความอบอุ่นที่ยื่นให้จากมัน   

“ผมน่ะเห็นพี่เศร้า อยากเข้าไปเช็ดน้ำตาให้แท้ๆ ยื่นผ้าเช็ดหน้า ก็ไม่รับ ปฏิเสธผม เดินหนีผมไปเลย”

“บ้าสิเว้ย ก็ตอนนั้น เขาเรียกให้เช็คตั๋วได้แล้ว ฉันก็ต้องไปสิ”

“พอเจอกันอีก ก็จำหน้าไม่ได้อีก”

“เอ๊ะ ก็ตอนนั้นคนมันร้องไห้นี่  ใครเขาจะไปกล้ามองหน้าคนอื่นละเฟ้ย แล้วฉันจะไปมองหน้านายได้อย่างไง เอ็งนี่”

“ไม่รู้ล่ะ พี่ต้องขอบคุณผม หอมแก้มผมตอบแทนมาเลย”

ฟ้าใสว่าโลกนี้ มันต้องเกิดการผิดเพี้ยนบางอย่าง ที่ทำให้มีฟ้าใส ทำให้มีไอ้มาย
โลกที่เหมือนมีเมฆหมอก  ราวจะเกิดช่องให้แสงอาทิตย์ส่อง

“พรหมลิขิต ให้ผมกับพี่ได้เจอกัน ยิ่งตอนที่พี่เดินเข้ามาในห้องวันแรก ผมรู้ว่าพี่มาหาผม”

เออ...ดูมัน เหมาเอง เออเอง เอาง่ายๆ ฟ้าใสไม่อยากเชื่อพรหมลิขิต ก็ดูชีวิตเขา ถูกลิขิตมาอย่างนี้เหรอ
ทำไมไม่ลิขิตให้เขาได้มีความสุขกับคนที่เขารัก คนที่เขาเทิดทูน นิยมชื่นชมบ้าง

“นายนี่นะ......แต่อย่างไง ก็ขอบใจละกัน” ถึงฟ้าใสจะส่ายหน้าไม่เห็นด้วย แต่ก็อดขอบใจมันไม่ได้
ทั้งทั้งที่ดูว่าเขาน่าจะขาดทุนมากกว่านะ ถ้าจะเทียบดูความผิดของมันนี่

“นี่...นี่...” หน้าที่เอียงแก้มป่อง ชี้นิ้ว จิ้มแก้มตัวเอง

จะให้เขาหอมแก้มมันนะเหรอ ไอ้บ้า ใครจะไปทำ ฟ้าใสเม้มปาก หน้ายู่
หน้าใหญ่ก้มมาใกล้อีก ต่ำลงมา

“ตอบแทน แฟนหน่อย” ฟ้าใสส่ายหน้า หน้าใหญ่นั่น ก้มลงมากระซิบข้างหู

“หอมแก้มสามี ไม่ผิดหรอกนะ”

ฟ้าใสเหวี่ยง ไอ้ตัวสามี ลงไปนอนข้างๆ ยังไม่รู้สึกสาแก่ใจ เลยลุกขึ้นไปคร่อม เอาหมอน อุดหน้าตาคนที่พูดประโยคเมื่อกี้
หมอนถูกแย่งดึงออกไป ใครจะไปกล้ามองจ้องตากับสายตาที่มุ่งจะสื่อว่ามันเป็นคู่แท้สามโลก

“ไม่กลัวสามีตาย หรือไง”

มือเล็กถูกปลดอาวุธไปแล้ว เอามือเปล่านี่แหล่ะ บีบจมูก อุดปาก มัน ถ้ายังไม่เลิกพูดคำนี้
สองมือถูกรวบ วงแขนโอบรัดร่างเล็กให้เอนซบแนบแผ่นอก
ก็อบอุ่นดีอยู่หรอก ถ้าเจ้าของแผ่นอกมันไม่บ้าๆบอๆ ขี้หงุดหงิด ตามจิกไม่เลิก
เสียงเต้นของจังหวะหัวใจ เหมือนเพลงกล่อม น่านอนหลับคาอกอุ่นนี้
คนตัวโตหอมที่กลุ่มผมสลวย เมื่อข้อเรียกร้องไม่ได้รับการสนองตอบ
มือใหญ่ไล้ไปตามผิวเนียนลื่น

“ตัวเย็นดี กอดแล้วสบายดีจัง” มือมันก็ล้วงเข้าไปกอดๆลูบๆคลำๆตัวฟ้าใส ภายใต้เสื้อผ้า
คนตัวเล็กหวังจะนอนอิงอุ่นสบาย พอสัมผัสได้ว่า ใต้ร่างตัวเองเริ่มมีสิ่งที่แข็งขืนขึ้น

“นอนได้แล้ว” ฟ้าใสรีบบอกมัน ดิ้นพลิกตัวลงจากแผ่นอกกว้าง “อย่าลืมปลุกด้วยนะ”

แน่นอนฟ้าใสไม่มีทางหันหลังให้มันเด็ดขาด นอนหงายก็ไม่เอา  ฟ้าใสเลยนอนตะแคงหันหน้าให้มัน กอดหมอนข้าง
 ฟ้าใสลองลืมตาไปก็เจอ ไอ้มายนอนมองฟ้าใสอยู่ เลยเอามือไปลูบปิดตามัน แล้วก็คำรามใส่

“ฮึ่ย!! นอนได้แล้ว ฉันไม่ตื่นนายโดนแน่” ไอ้มายจับมือที่ฟ้าใสเอาไปลูบตามันไปจูบทีละนิ้ว สายตาที่มันมองจ้อง
กลับมา ฟ้าใสไม่อยากจะแปลความหมายอะไรที่เข้าข้างตัวเอง มันจะทำให้ฟ้าใสร้องไห้นะเว้ย

“อือ...” ฟ้าใสส่งเสียงในลำคอแสดงอาการรับรู้สิ่งที่มันพยายามสื่อถึงฟ้าใส
เออ จะเอามือฟ้าใสไปทำอะไรก็เอาไปเหอะ

แต่ถ้าเอาหัวใจฟ้าใสไปได้ ก็ขอให้มันดูแลดีดีและให้นานที่สุดเท่าที่มันทำได้ด้วยละกัน...



TBC...

ออฟไลน์ arisa_sa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
เป็นกำลังใจให้จ้าฟ้าใส สู้ๆๆ

ขอบคุณมากค่ะ :L1: :pig4: :L1:

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
มาย..ดูแลฟ้าใสดีๆล่ะ
ขอให้ฟ้าใสเจอคน(มาย)ที่จะไม่ทำให้ฟ้าใสต้องเสียใจเหมือนที่ผ่านๆมานะ

ออฟไลน์ Raspberry complex

  • เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +358/-0
    • http://www.facebook.com/raspberrycomplex.raspberry

7.2

“ตื่น...ตื่นได้แล้ว”ฟ้าใสได้ยินเสียงแว่วๆ ตั้งสติเมื่อมองดูรอบบริเวณที่แปลกจากหอพัก

ฟ้าใสขยี้ตา เมื่อคืนกว่าจะนอนก็ ตี2 พยายามปรับโฟกัส
หน้าไอ้มายลอยอยู่ตรงหน้า ตัวมันอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยพันผ้าเช็ดตัว  ยืนยิ้มอย่างมีเลศนัย
 สายตามองสำรวจร่างเล็กที่คงนอนอยู่
ฟ้าใสถอนหายใจเฮือกใหญ่

“เจ็ดโมงแล้ว เดี๋ยวต้องไปเปลี่ยนเสื้อที่หออีก ไม่ตื่นใช่ไหม” มันเริ่มโมเมหาทางลงโทษฟ้าใส  มันเริ่มก้าวมาประชิดตัว

เฮ้ย !!! ตรูยังไม่บอกว่าจะไม่ลุกเลย ขอเวลาปรับตัวโหลดข้อมูลก่อนสิเฟ้ย
เฮ้ย!!! เอ็งจะช้อนตัวกรูไปไหน อ้าวไปไม่ไกลเอามาวางบนตักมัน ก้มมาทำไม๊ หน้าตรูไม่มีสิว ไม่ต้องมาดูด

เฮ้ย!!! เฮ้ย !!! มือเอ็งจะล้วงไปไหน นี่มันสมบัติประจำตระกลูนะเฟ้ย พ่อให้มา ตัวเดียวอันเดียว ไม่ใหญ่ไม่โต

ไม่ให้เช่า ซื้อขายด้วยเฟ้ย อ๊าค!!! อือ...กรูไม่ได้เครียด ไม่ต้องมาคลายเครียดให้เว้ย อ๊า...อือ..เอ็งจะทำอะไรก็ทำสักอย่าง
 อย่ามาทำสองอย่างพร้อมกันสิเฟ้ย กรูใจจะขาดอยู่แล้ว ฟ้าใสหอบหายใจ ร้องครางอยู่ในลำคอ
ร่างสูงก้มหน้าครอบครองแก่นใสน้อย ตวัดลิ้นร้อนไล้รูดรัดขึ้นลง มือจิกหัวมันไว้แน่น แค่ไม่นานฟ้าใสก็หลุด
จากอาการเกร็ง จนปวดท้องน้อย อายก็อาย สบายก็สบาย ความรู้สึกยังเต้นตุบตั้บ นี่เหรอ เล่นกับหมา หมาเลียปาก
หมาตัวนี้ ชอบทำตาวาว ข่มขู่เขาด้วยดิ  ขัดใจก็ขัดใจ เมื่อคืนคุยกันก็เหมือนงงๆ มึนๆ ไม่แน่ใจว่าไปตกล่องปล่องชิ้น
แปะมือไฮไฟว์  นึกๆดูก็ว่าไม่นะ ไอ้หมาใหญ่นี่ไว้ใจมันไม่ได้จริงๆ

คนที่ถูกแอบหาว่าเป็นหมาตัวใหญ่ มันแลบลิ้นเลียของเหลวสีขาวข้น และก้มมากระซิบฟ้าใส ให้รู้สึกจี๊ดในใจขึ้นอีก

“หัดกินของดีมีประโยชน์ซะมั่ง เดี๋ยววันนี้จะซื้อโยเกิร์ตให้กิน”  มันจะให้ฟ้าใสกินโยเกิร์ต แล้วมันจะกินไอ้นี่ทุกวันหรือไง

 บึ้ก!!! ฟ้าใสเอาหมัดต่อยเอาที่ไหล่มัน ขณะคลานเข่าจะลงจากเตียง ไม่เจ็บหรอกใครจะไปทำมันเจ็บ
เดี๋ยวมันไปส่งฟ้าใสไม่ได้ ยิ่งซวยใหญ่ ฟ้าใสทำหน้าเบ้ใส่มัน เมื่อมันทำท่าเป็นเจ็บ

“เดี๋ยวก็อาบน้ำแล้ว เมื่อกี้ก็น่าจะจับถอดเสื้อผ้าเลยนี่นา”

ฟ้าใสเลยชี้หน้ามัน แล้วพูดว่า “คดีเก่ายังอยู่นะ ยังจะสร้างคดีใหม่อีกนะ เดี๋ยวได้เจอแส้แน่”

มันเลยทำเป็นเม้มปากหน้าสลดสำนึกผิด สีหน้ามันบอกที่ไหนว่ามันสำนึกน่ะ เชอะ

“แล้วให้ใส่อะไรกลับล่ะ” ฟ้าใสถามมัน

“นี่อ่ะ ใส่เสื้อนี้ไปแล้วกัน กางเกงก็ใส่บ็อกเซอร์ แล้วใส่กางเกงเมื่อคืนไปแล้วกันนะ
หอบเสื้อผ้ามาอยู่ด้วยกันก็หมดเรื่อง” มันบอกเชิงบ่นกรายๆ
“เสื้อผ้าก็ไม่ต้องเอากลับ เดี๋ยวซักให้ รีบไปอาบน้ำเหอะน่า” ว่าแล้วมันก็รีบผลักฟ้าใสไปอาบน้ำ ฟ้าใสเลยบ่นเบาๆ

“ก็ใครเล่นปลุกบ้าๆล่ะ”

“น่า น่า รีบอาบเหอะ” ส่วนมันก็เดินไปแต่งตัว แล้วก็เก็บของของฟ้าใสที่มีแค่หนังสือการ์ตูน กระเป๋าฟ้าใสกับโทรศัพท์ใส่ในเป้มัน

แปดโมง 10 นาที ฟ้าใสก็ถึง ที่หอ ก็แค่ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อแล้วก็หยิบกระเป๋าสมุดนิดหน่อย เพราะของอื่นมันก็อยู่ในล็อคเกอร์ที่ชอปอยู่แล้ว
ทำหน้าตายไว้ ใครก็ไม่กล้าทัก เรื่องมาพร้อมกันกับไอ้ตัวดี  ที่ไหนล่ะ นังเกรียงมันทำตาเป็นประกายยิ้มร่า

หมดคอร์สอาหารฝรั่ง อาจารย์เชฟอาหารญี่ปุ่นยังไม่ว่างมาสอน อาจารย์ที่จะสอน ผสมเครื่องดื่มขอคิวสอนก่อน เพราะต้องไปคุมแข่ง เดือนหน้า  อุปกรณ์และวัตถุดิบ ถูกนำมาตั้งเรียงราย ตรงหน้า  หลายคน พากัน น้ำลายยืด ตัวอย่างที่แค่ผสมให้ดู ถูกนำมาแจกจ่าย เวียน ทั้งดม ทั้งชิม  แค่เที่ยง หลายคนหน้าแดง และมึนๆไปแล้ว พอเย็น ฟ้าใสเอง ยังกึ่ม แทบเดินเซ  เด็กๆหลายคน ที่ส่งผ่าน แค่ดม ดู ก็พอ ไอ้เด็กตัวโตที่นั่งข้าง หากเห็นฟ้าใสขยับหลอด ชิม เป็นต้องทำตาขวาง  แหม!!! ไม่สัมผัสของจริง ก็ไม่รู้จริงดิ

วันเสาร์ พวกเด็กๆชวนไปตลาดเช้าในวัดใกล้ๆศูนย์ หาอะไรกิน แล้วเลยไปห้องสมุด ว่าจะหายืมนิยายกำลังภายในจีนมาอ่านเปลี่ยนบรรยากาศ

ตรืดดดด ตรืดดดด
ว่าแล้ว 11 โมง เจ้าชีวิต มันโทรมาแล้ว

“อยู่ไหน”

“ห้องสมุดประชาชน”

“เดี๋ยวไปรับ” สั้นๆ ได้ใจความ ไม่ต้องรอถามว่าอยากให้มา หรือว่าอยู่กับใครหรือเปล่า ชีวิตที่เป็นอย่างนี้
ตั้งแต่ ฟ้าใสมาอยู่ที่เชียงราย ไม่ค่อยเข้าใจหรอก ว่าคนมันจะมีพรหมลิขิต อะไรอย่างที่มันอ้าง

แค่อึดใจ ฟ้าใสรีบเลือกหนังสือที่ต้องการยืมให้เรียบร้อย เอาไปใส่กระเป๋า นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ ได้ไม่กี่ข่าว
 เสียงบีบแตรรถมอเตอร์ไซค์ ดังขึ้นด้านหลังอาคารห้องสมุด นั่นแหล่ะ คนขับรถฟ้าใสมาแล้ว
ไม่หิวก็ต้องกิน เป็นเพื่อน ไม่งั้น งอน
ไม่อยากไปไหน ก็ต้องไป เพราะมีคนอยากพาไป
ขืนไม่ไปไหน  มันก็จะพาไปห้อง ไปให้มันนั่งจ้อง นั่งจับ
พรุ่งนี้วันอาทิตย์ ไอ้มายมันต้องไปเปิดร้านที่ถนนคนเดินกับเพื่อน  ฟ้าใสค่อยมาห้องสมุดอีกก็ได้


ตรืดดดด ตรืดดดด
โทรศัพท์จากเจี๊ยบกับลัน  อ้าวยังไม่กลับกันเหรอ  หรือเพิ่งลงกันมา

“อะโหล”

“หวัดดี พี่ไข่ นี่เจี๊ยบนะพี่”

พูดคุยทักทาย ฟ้าใสนึกว่าจะมานัดชวนกินอีก แต่ก็ไม่ใช่ กลับกลายเป็นฝากฝังให้ช่วยดูแล
เพราะมีคนไม่สบาย แต่ไม่ยอมกลับกับรถตู้ด้วย กลับเปิดโรงแรมค้างที่เชียงราย
อ้างว่าจะอยู่ทำธุระ ไม่สบายขี้เกียจนั่งรถตู้กลับ ขอเที่ยวต่อ etc…

“ฝากพี่ดูพี่ลิฟต์ แกด้วยนะพี่ แล้วถ้าทริปหน้าพี่ไปกับพวกผมได้ ต้องไปนะพี่”
ลันกับเจี๊ยบ ร่ำำลาสั่งเสียเสร็จ...วางสายไปแล้ว...
เรื่องที่ดูน่าจะจบ กลับยังไม่จบ

ดอยถูกพวกพี่นันต์ใช้ให้ขึ้นมาตามฟ้าใสว่ามีเพื่อนมาหา

“บอกว่าพี่ไม่อยู่แล้วกัน”

“พี่นันบอกไปแล้วคับว่าอยู่”

“ก็บอกว่าขึ้นมาดูแล้ว แต่ไม่อยู่ นะ ดอย พี่ปวดหัว ขี้เกียจออกไปข้างนอกกะเพื่อน”

“...” ดอยมองหน้า ทำสีหน้ายุ่งยากใจ

“โทษทีอ่ะดอย”

“โกหก เป็นบาปนะ เพ่ฟ้าใส” ดอยเป็นคริสต์ที่เข้มงวด

“เออ น่า นะ” ฟ้าใสพยายามทำหน้าให้ยุ่งกว่าดอย

“แล้วถ้า พี่เขาไม่เชื่อล่ะ” เอ๊ะ ไอ้นี่... นี่ ทีอย่างงี้ฉลาดนะ ทีหลังเวลาสอบข้อเขียนจะไม่ช่วยมันแล้ว
ฟ้าใสผลักหลังดอยให้ลงไปบอก “คนที่คุณก็รู้ว่าใคร”
.
.
.
“เพ่ เพ่ ฟ้าใส เพ่เค้าบอกจะคอยจนกว่าเพ่จะกลับ” เสียงดอยตะโกนบอกตรงหน้าต่างห้อง จากข้างล่าง

เออ ยังดี มันยังเขยิบ ออกมายืนตะโกนบอก ถัดจากที่นั่งกันอยู่ ฝีมือไอ้เต้ กับพี่ทิวาแน่เลย
 ที่บอกให้ดอยตะโกนบอกฟ้าใส “หึ ไอ้เต้ นะ ไอ้เต้ กรูจะยุไอ้มายไม่ให้เอ็งยืมมอไซค์ใช้อีกต่อไป

“เออ บอกไปว่า พี่กลับมาปีหน้า เด๋วลงไป” เชอะ ไม่อยากให้เป้าสนใจกว่านี้ ฟ้าใสรีบลงไป   
.
.
.
.
.

ทันทีที่หนุ่มหน้าสวยคนเคยชิดใกล้ ที่แม้มาอยู่ต่างจังหวัด แต่ก็ยังคงชวนน่ามอง เหมือนเดิม
เดินลงมาที่โถงกลางลานนั่งเล่น ทำให้เขายิ่งมั่นใจว่า ของที่เขาอยากนำติดตัวกลับบ้าน นั่นคืออะไร
ลิฟต์เดินยิ้มอย่างอ่อนระโหยโรยแรง เข้าไปหา
แน่ละตั้งแต่ลงจากเขาแม่ขุนแจ และไปพักที่หมู่บ้านปางสบป่อง
เด็กสาวชาวเขา2พี่น้อง อาเจ กับ อาแม ก็ไม่สามารถทดแทนร่างเล็กนี้ได้

หลังจากแยกกับลันและเจี๊ยบที่รู้จักกันเพราะแชมพูและกลุ่มขี่จักรยาน
ถือโอกาสมาทริปด้วย เพราะรู้ว่าลันและเจี๊ยบจะแวะมาหาคนตัวเล็กของเขา
ทำไมต้องหนีเขามาด้วย  ในเมื่อเขาสัญญาแล้วจะเลิกและยุติ การกระทำที่ผิดข้อตกลง
เมื่อเจอกันแล้ว โอกาสครั้งแรกดูจะไม่สะดวกนัก
ไม่แปลก ที่จะลองครั้งต่อไป ไม่เสียหายอะไร
ร่างเล็กนั่นจะไม่คิดถึงสิ่งที่เขาเคยปรุงแต่งปรนเปรอให้เชียวเหรอ

ก่อนมา อุตส่าห์แช่น้ำอุ่น สลับน้ำเย็น แล้วมานั่งตากแอร์ จนเมียจะหาว่าบ้า
เลยอ้างกับเมียว่าอยากเป็นหวัด ไม่อยากไปเที่ยวแต่ปฏิเสธเด็กๆไม่ได้
ได้เป็นหวัดสมใจ ถึงจะแค่จามฟุดฟิด พอให้หวังว่าคนตัวเล็กจะเห็นใจ ว่าเขาไม่สบาย
ก็ยังอยากขึ้นมาหา  ดันมาเจอไอ้เด็กเปรต บอกว่าคนร่างเล็กของเขาเป็นเมียมันอีก



TBC...

ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
ขอร้องล่ะฟ้าใสอย่าใจอ่อนกับไอ้ลิฟท์อีกเลย ถ้าจะโดนหลอกอีกก็ขอให้เป็นคนๆไปดีกว่า แต่ตอนนี้เลือกมายเถอะ :เฮ้อ: ส่วนพี่โม่งก็อยากให้กลับไปอยู่ด้วยกันแต่ไม่รู้จะได้ไหม :3123:

ออฟไลน์ arisa_sa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
สู้ๆๆ ฟ้าใสอย่าใจอ่อนนะลูก เราเจ็บแล้วต้องจำเน๊อะ

ขอบคุณมากค่ะ :L1: :pig4: :L1:

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
"ร่างเล็กนั่นจะไม่คิดถึงสิ่งที่เขาเคยปรุงแต่งปรนเปรอให้เชียวเหรอ"
เกลียดความคิดนี้ของอิพี่ลิฟต์เป็นที่สุด
ภาษาเป็นเครื่องแสดงความเป็นปัจเจกบุคคลจริงๆนะลิฟต์
อยากพบอยากอยู่กับฟ้าใสก็เพราะเรื่องกามรสเป็นสำคัญสินะ
เป็นกำลังใจให้ฟ้าใสจงเข้มแข็งใจแข็งนะ  อย่าได้ระทวยง่ายๆเชียว


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Raspberry complex

  • เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +358/-0
    • http://www.facebook.com/raspberrycomplex.raspberry
(ต่อ)

พี่ลิฟต์ยิ้มหน้าแดงกร่ำด้วยพิษไข้ เดินสะโหลสะเหลมาตบไหล่
จะเอาอย่างไงดี  คงต้องชวนออกไปคุยข้างนอก ไม่ค่อยอยากสบตา

“พี่มาอย่างไง”

“ไข...” คนตอบ ทำท่าอยากพูดอะไรมากมาย

“พี่ ...ไปคุยกันข้างนอกแล้วกัน”

ท่ามกลางสายตา อยากรู้อยากเห็นของไอ้เต้ และพี่ทิวา  เด๋ว สองคนนี้ต้องเม้าท์เขาแน่
พี่ลิฟต์เดินนำไปที่รถยนต์เช่า ค่อนข้างใหม่ เดินไปก็จามฟุดฟิดไป
พอขับออกมาจากศูนย์ได้ไม่เท่าไร ข้างทางก็ยังเป็นบ้านเรือน ร้านค้า  แต่พี่แกก็หยุด หันมาดึง ตัว ฟ้าใสกอดไว้
ดูท่าทาง ไม่สบาย เพราะตัวร้อน
ปากก็ถูกจูบเช่นเคย ห้ามไป ก็คงไม่ฟัง

“จอดข้างทางอันตราย เปล่าๆ พี่” รู้เหมือนกันว่าออกมากับแกก็อันตราย แต่ดูว่าน่าจะพูดกันรู้เรื่อง
ออกมาคราวนี้ ค่อยรู้ใจตัวเองว่า ไม่วูบวาบไปกับคนตรงหน้าแล้ว อาจเป็นเพราะรู้ว่าตัวเองมีความสัมพันธ์กับไอ้มายไปแล้ว เลยทำให้เหมือนฟ้าใสตัดขาดกับพี่ลิฟต์ไปโดยปริยาย

มานั่งทานกันที่ร้านเดิม

“พี่ ทำไมไม่กลับพร้อมพวกลันล่ะพี่”

“ไขล่ะ ทำไมไม่กลับบ้าน”

“ก็ต้องเรียน”

“จะเรียนไปทำไม กลับไปอยู่บ้าน ถ้าอยากเปิดร้านอาหารก็จ้างแม่ครัว”

“มันไม่ใช่อย่างนั้น”

ปริมาณการยกซด แทบจะสองเท่าของการพูดคุย ที่เนื้อหา วนเวียน กับความสัมพันธ์
ที่ให้กลับมาเหมือนเดิม

“พี่จะให้เวลาไขมากขึ้น”

“มันไม่ใช่อย่างงั้น”

“พี่เลิกติดต่อกับแชมพู เขาแล้ว” เรื่องนี้ เขาก็ไม่อยากเกี่ยวข้องด้วย

“นั่นมันเรื่องของพี่อ่ะ” พูดแล้วอดเคืองไม่ได้ ฟ้าใสก็กระดกมั่ง

สายตาที่ดูเคว้งคว้าง พี่ลิฟต์ที่คบกับเขา พูดคุยด้วยกันเกือบทุกเรื่อง ใช่ ยกเว้นเรื่องเดียว
เรื่องเดียวที่ปิดไว้ จนสูญเสียคนที่สามารถแชร์ทุกสิ่ง ผู้ชายมักมีฟอร์มกับเพื่อน จะเจ๋ง จะเท่ห์ จะเข้ม
พี่ลิฟต์เมื่ออยู่กับฟ้าใส เหมือนเพื่อนกัน เพื่อนเล่น เล่นกันอย่างไม่มีฟอร์ม เล่นกันทั้งแบบเด็ก และแบบผู้ใหญ่
ไม่มีการรังเกียจในของกันและกัน พี่ลิฟต์ใช้ลิ้นให้ฟ้าใสในทุกที่ สอนให้รู้จักท่วงท่าต่างๆ

ฟ้าใสขับรถมาส่งพี่ลิฟต์ที่โรงแรม พอเห็นว่าแค่ถอยหลังก็ไว้ใจไม่ได้

“พี่ พรุ่งนี้กลับเหอะ ไขจะไปส่งที่สนามบิน”

“กลับก็กลับด้วยกัน” เมาจนลงไปนอนแผ่บนเตียง ตัวก็ร้อน ท่าทางจะมีไข้
แทบจะไม่เคยเห็นพี่แกนอนซม เพราะร่างกาย ออกจะแข็งแรงจะตาย
เช็ดหน้าเช็ดตัว  โทรขอยาจากโรงแรม ป้อนยาให้
คำขอร้องให้อยู่เป็นเพื่อน
แน่นอน ฟ้าใสให้ได้อยู่แล้ว ถ้าถือว่าเป็นเพื่อนกัน บุญคุณพี่ลิฟต์ ที่ตอนที่ฟ้าใสคิดว่าตัวเองไม่มีค่า ช่วงนั้นดีแค่ไหน ที่เขายังมีใคร

ฟ้าใสนอนกกคนตัวโตกว่า เหมือนแม่ไก่
ขอให้ทั้งหนอนเล็กหนอนใหญ่ อย่าขยันตื่นลุกขึ้นแข็งขัน
.
.
.
.
หงุดหงิด และน่าหงุดหงิด
ร่างสูงในชุดเชฟ ที่ดูดี ถ้าหน้าตามันไม่ฉายแววว่าอยู่ในอารมณ์เหมือนจะฆ่าคนได้
ฟ้าใสไม่มาเรียน โทรมาบอกพี่เป๊ก ให้ลาอาจารย์ให้
ถามใคร พวกอยู่หอ ก็บอกว่าออกไปกับเพื่อน
มีไอ้เต้ที่รู้เรื่อง ก็บอกว่าขึ้นรถยนต์ ลักษณะท่าทางไอ้เพื่อนนั่นก็เหมือนไอ้บ้านั่น ป่านนี้คุณพี่ที่รักของเขา
จะโดนมันฟัดช้ำหมดหรือเปล่า แค่เจอวันนั้น ไอ้บ้านั่นมันก็จะกอดฟ้าใสของเขาเลย
.
.
.
.
.
ลิฟต์มองดูร่างเล็กที่หลับสนิท คงเพลียจากการที่ต้องดูแลเขา
ไอ้อาการตัวร้อนที่เกิดจากการกินไอ้ใบไม้นั่นเดี๋ยวคงหมดฤทธิ์
ไอ้แช่น้ำร้อน สลับน้ำเย็น นั่นต้องทำตั้งนาน กว่าร่างกายควายๆของเขาจะมีแอฟเฟ็กต์
เขาคงยื้อคนร่างเล็กให้อยู่ด้วยได้ไม่กี่วัน แต่ก็ดีใจที่อย่างน้อย ก็ไม่ทิ้งเขา

“ไข เรื่องนี้ก็ถือว่าพิสูจน์นิสัยไอ้เด็กนั่นด้วยล่ะกัน ถ้ามันงี่เง่า ไขเองก็จะได้รู้ว่าผู้ชายทุกคนมันก็ไม่ได้ดีอะไร
ทุกคนก็ต้องทำผิดกันได้  ถ้าจะรักกันจริงก็คงต้องอดทน ยอมให้อภัยกันบ้าง”

ลิฟต์ลูบแก้มบางอย่างแผ่วเบา
.
.
.
.
.
ส่งพี่ลิฟต์ กลับกรุงเทพฯไปแล้ว ดีใจที่ยังจากกันด้วยดี
ฟ้าใสเริ่มนึกถึงไอ้เด็กที่คอยป้วนเปี้ยนอยู่ข้างๆ
คืนที่ว่าจะต้องค้าง พอโทรบอกพี่เป็ก ฝากลาอาจารย์
ก็โทรหามัน แต่ไม่รับสาย พี่ลิฟต์ก็นอนซม เลยปิดเสียงโทรศัพท์
ป่านนี้มันคงหงุดหงิด ทั้งโกรธ ทั้งโมโห เขาแน่
น่า... ถ้ามันงอน เขาก็ยอมง้อมันล่ะ
เดี๋ยวแวะซื้อผลไม้อบแห้งไปฝากคนขี้งอนก็ได้ว่ะ
.
.
.
.
.
ตรี๊ด...ตรี๊ด...

ฟ้าใส : ตอนนี้คงกำลังเรียนอยู่ เดี๋ยวมันคงโทรกลับ
มาย : โมโหจริงๆ โมโหจริงๆ

.
.
.
ตรี๊ด...ตรี๊ด...

“อยู่ไหนน่ะ”

“เมื่อกี้อยู่ในชั้นเหรอ หลบออกมาโทรเหรอ”

“บอกมาตามตรง อยู่ไหน กลับมาโดนฆ่าแน่”

“ฮ่า ฮ่า ไอ้เด็กบ้า กำลังจะกลับแล้ว มาส่งเพื่อน ที่สนามบิน”

“งั้น เดี๋ยวจะไปรับ”

“ไม่ต้องมีรถโรงแรมมาส่ง เลยจะให้เขาไปส่งที่เซ็นทรัล เอาอะไรหรือเปล่า”

“ไม่” ไอ้เด็กบ้าทำเสียงหงุดหงิดใส่  “รีบกลับมาเลย”

ฟ้าใสอึ้งๆไปเหมือนกัน เมื่อฟังประโยคที่เจ้าตัวเริ่มทอดเสียงอ่อน
รู้ว่าไอ้คนปลายสายมันคงกระวนกระวายแค่ไหน ก็เล่นหายตัวไป 2วัน
ก็จะทำไงได้ พี่ลิฟต์แกก็ไม่สบาย นอนซม ข้าวปลาก็ไม่กิน บอกเจ็บคอ ปวดหัว หนาวๆร้อนๆ
ยอมกินซุปที่ป้อนบ้าง จะขยับไปไหนก็ไม่ยอม ยังดีที่แค่ 2วัน ก็ทุเลา
แต่พอทุเลา แล้วก็ยอมกลับไป แต่ ไอ้จูบลานี่...
ฟ้าใสคลำรอยแดงจนเขียวม่วงที่เนินไหล่ต้นคอ...



TBC....
 :pig4:

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
"...ไอ้อาการตัวร้อนที่เกิดจากการกินไอ้ใบไม้นั่นเดี๋ยวคงหมดฤทธิ์
ไอ้แช่น้ำร้อน สลับน้ำเย็น นั่นต้องทำตั้งนาน กว่าร่างกายควายๆของเขาจะมีแอฟเฟ็กต์
เขาคงยื้อคนร่างเล็กให้อยู่ด้วยได้ไม่กี่วัน แต่ก็ดีใจที่อย่างน้อย ก็ไม่ทิ้งเขา...."
...
...
".... แต่ ไอ้จูบลานี่...
ฟ้าใสคลำรอยแดงจนเขียวม่วงที่เนินไหล่ต้นคอ..."

แม้..แม้..อิพี่ลิฟต์ ไอ้คนเจ้าเล่ห์แสนกล
นี่ถึงกับลงทุนเคี้ยวใบแก้วเลยเชียวรึ
แล้วก็ยังมาทำอะไรแบบ...แบบ...ไร้สติอีกด้วย เฮอะ ! แช่น้ำร้อนสลับน้ำเย็น
ก่อนกลับไปก็ยังมีการวางระเบิดเวลาไว้ให้ฟ้าใสอีกนะ
แล้วเมื่อไอ้เด็กตัวโตเห็นรอยนั่นเข้า(มันต้องเห็นแน่ เพราะลิฟต์จงใจให้เห็น) มันจะไม่หึงจนปรอทแตกรึ
แล้วมันจะว่าอะไรบ้างนะ มันจะทำอะไรฟ้าใสปะเนี่ย
ฉันล่ะอยากด่าแกแทนฟ้าใสจัง ฮึ่ม :m16:
(เพราะฉันไม่ใช่ฟ้าใสฉันเลยไม่ใจดี แล้วฉันก็ไม่ชอบพฤติกรรมของแกในคราวนี้น่ะอิลิฟต์)


ออฟไลน์ Raspberry complex

  • เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +358/-0
    • http://www.facebook.com/raspberrycomplex.raspberry
ต่อ

ให้รถมาส่งถึงในศูนย์ หน้าตึกหอพัก ฟ้าใสเห็นแล้วล่ะ ไอ้ฆาตกรโหด นั่งคุยกับกลุ่มพี่ๆ :fire:

“อ่ะพี่ ซื้อมาฝาก” ฟ้าใสส่งถุงใส่สารพัดผลไม้สับ ฝรั่ง มะม่วง สับปะรด แตงโม ให้โต๊ะ ผู้หญิง ถุง โต๊ะ ผู้ชาย ถุง
กินกินกันซะจะได้ไม่ต้องพูดมาก
แน่นอน มีของไอ้มายด้วย

“นี่ ของนาย” ฟ้าใสส่งผลไม้อบแห้งแพคสวยๆที่ซื้อมาฝาก

สีหน้าไอ้เด็กบ้า ทำปากเหยียดยิ้ม ดีใจขึ้นหน่อย เมื่อได้ของฝากที่เห็นว่าผิดกับคนอื่นที่เป็นแค่ผลไม้เฉาะจากรถเข็นหลากชนิด แต่ก็ยังคงทำปั้นปึ่ง ไม่พูดไม่จา
หลายคนทัก ว่าหายไปไหนมา
บอกเพื่อนพ้องน้องพี่ไปว่า เพื่อนไม่สบาย เลยต้องพาไปหาหมอ และอยู่ดูหน่อย
ถามไถ่เรื่องเรียน

“โอย ไม่มีอะไรหรอก พี่ แค่ให้คิดสูตรเครื่องดื่มกันเอง แล้วเอามากิน เดี๋ยวพรุ่งนี้เรียนพวกน้ำสมุนไพรกับครูแนน
ครูตั้มต้องไปคุมเด็กประกวดที่เชียงแสนน่ะพี่”
ศักดิ์นรินทร์ ตอบอย่างเป็นงานเป็นการ แล้วแอบทำปากป้องๆ อ่านได้ความว่า

“ไอ้มาย มันโวยวายใหญ่พอรู้ว่าพี่ไม่มาเรียน”

โอย อันนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้แล้ว ตรูก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ไปเป็นนางทาสมันตั้งแต่ชาติไหน มันถึงได้คอยควบคุมเขาขนาดนี้
ฟ้าใสนึกถึงตอนที่แอบมันหนีไปเที่ยวกับพวกพี่ทิวา ป๋า และคนอื่นๆ
.
.
สายวันนั้นที่ฟ้าใสเดินจะไปชวนอิเกรียงไปกินข้าว

“อ้าวเกรียงจะไปไหนเหรอ” ทักไอ้เกรียงเมื่อเห็นมันเริ่มทารองพื้นที่หน้า ขณะที่ฟ้าใสเดินไปหามันที่ห้อง
ว่าจะชวนเดินไปกินข้าวที่หน้าวัดข้างโรงเรียน ไอ้เกรียงมันหัวเราะอิอ๊ะ ทำท่ามีเลศนัย ฟ้าใสเลยผลักไหล่มัน

“บอกมาเลยมีอะไร” มันก็ยังทำเป็นหัวเราะคิกคิก แล้วศักดิ์นรินทร์ก็เดินออกจากห้องน้ำมา

“อ้าวพี่ฟ้าใส” ศักดิ์นรินทร์ก็ทักฟ้าใส

“นี่จะไปไหนกัน ว่าจะชวนไปกินข้าวหน้าวัดนะ ถามนางเกรียงมันก็ไม่ยอมบอกนะ” ฟ้าใสเริ่มต่อว่า

ศักดิ์นรินทร์มันเลยมองหน้านางเกรียงเชิงรำคราญ ทำนองว่าทำไมไม่บอกๆไป แล้วก็หันมาบอก

“ก็เค้าชวนกันไปเที่ยวทะเลสาบนะพี่ ก็มีป๋า มีใครต่อใคร มีไอ้เต้ กับพี่ทิวาด้วย”ศักดิ์นรินทร์ชี้แจงแถลงไข

“อะไรกัน แล้วทำไมไม่ชวนพี่อ่ะ”ฟ้าใสก็เริ่มโวยวาย พร้อมกับหันไปทำตาขวางกับนางเกรียง มันกลับทำตาระยิบระยับยิ้มร่า

“ก็ไอ้กัสจังกับพี่ทิวาว่า ถ้าชวนพี่ฟ้าใส ไอ้มายมันก็ต้องไปด้วยนะสิ เค้ารำคราญมันอ่ะ แล้วเดี๋ยวมันก็เร่งให้กลับอีกหรอก
 ใช่ไหมล่ะ” ศักดิ์นรินทร์อธิบายก็ทำตาค้อนควักใส่อากาศผ่านไปให้ไอ้คนที่พูดถึง ทำเอาฟ้าใสหน้านิ่วคิ้วขมวด
ไอ้มายนะไอ้มาย มันทำให้ฟ้าใสถูกคนเค้ารังเกียจซะแล้ว

“ไม่รู้ล่ะพี่ไปด้วยเด่ะ นังเกรียงนะปิดปากเงียบเชียว ไม่ยอมชวนเลย” ฟ้าใสฟาดไหล่มันทันทีที่พูดจบ
มันทำเป็นสะดุ้ง หัวเราะคิกคัก มองหน้าฟ้าใสอย่างล้อเลียน

“เค้านัดกันที่หอพักไอ้กัสจัง – กัสจัง เป็น ญาติสาวของศักดิ์นรินทร์ เลือกพักหอนอกเพื่อความสะดวกสบาย
ตอนประมาณบ่ายๆน่ะพี่ ไปเร็ว แดดก็ร้อน แต่จะออกไปจะไปกินข้าวแล้วก็ไปซื้อของกินกันน่ะ พี่ไปด้วยกันไหมล่ะ ซ้อนสามไปก็ได้”

“เอาสิ  แล้วจะไปยัง เกรียงเธอน่ะแต่งหน้าเสร็จยังล่ะ”ฟ้าใสหันไปแซวนังเกรียง

“อีกแปบหนึงแล้วกันพี่ นั่งเตียงผมก่อนก็ได้”

สักพักฟ้าใส,ศักดิ์นรินทร์,อิเกรียงก็ออกไปหอไอ้กัสจัง ตกลงกันว่าไปหากัสจังกันก่อนแล้วเราค่อยไปหาอะไรกินกับซื้อของ
11โมงครึ่งเราก็กลับมาพักผ่อนนอนเล่นที่หอของกัสจัง สักพักมือถือฟ้าใสก็เริ่มดัง ฟ้าใสก็เริ่มมองหน้าศักดิ์นรินทร์กับกัสจัง
เป็นไอ้มายจริงๆ เลยเริ่มกระวนกระวาย เอาไงล่ะ จะโกหกว่าไง ถ้าบอกไปห้องสมุด มันก็ตามไปรับตัว เลยบอกพวกนั้น
ว่าฟ้าใสไม่รับแล้วกันนะ แล้วค่อยแก้ตัวว่าลืมมือถือที่ห้อง อ๊ะ ก็ไม่ได้อีก เพราะก็ไม่รู้ว่ามันขึ้นไปที่ห้องหรือเปล่า

เสียงเรียกดังอยู่หลายครั้ง จนต้องเปลี่ยนเป็นแบบสั่นอย่างเดียว นังเกรียงมันก็เอาแต่หัวเราะฟ้าใสใหญ่ 
เรานั่งเม้าท์อะไรเรื่อยเปื่อย สักพักหนึ่งมือถือไอ้กัสจังก็ดังขึ้น พอรับไปมันก็ตาเหลือกทำปากบอกว่าไอ้มายโทรมา
บอกอยู่ข้างล่าง เดี๋ยวจะขึ้นมาหา คราวนี้เลยเหมือนเด็กที่แอบซนแล้วถูกผู้ใหญ่จับได้ ฟ้าใสน่ะไม่รู้จะเอาอย่างไง
อย่างดีก็อาจไม่ไปกับพวกนี้ก็ได้ แล้วไอ้มายมันก็คงมาพาไปเดินเล่นที่ไหน แต่มันก็สนิทกับทั้งกัสจังทั้งศักดิ์นรินทร์
ทั้งไอ้เกรียงนะแหล่ะ มันก็อาจชวนแกมบังคับให้พวกนี้ไปด้วยกับฟ้าใส  ศักดิ์นรินทร์ก็บอกว่าเดี๋ยวพวกเราหลบไปก่อน
ไปแอบตรงบันไดขึ้นดาดฟ้า ดีนะห้องไอ้กัสจังอยู่ชั้นสี่ เรายังพอวิ่งไปแอบทัน ตอนที่เราไปกองกันที่บันได นางเกรียงมันก็ค่อนแคะฟ้าใสว่า

“พี่ฟ้าใสไปปล่อยกลิ่นอะไรเนี่ย พี่มายยังอุตส่าห์ตามมาถูกด้วย” แล้วมันก็ปิดปากหัวเราะคิกคักของมัน

“บ้าสิ เค้าคงไปถามที่หอนะสิแล้วก็มีใครบอกว่าเห็นออกมากับพวกเธอ  มันก็ต้องนึกว่าต้องมาหากัสจัง ไม่ก็มาถามล่ะน่าว่าไปไหนกัน”

เราไปนั่งกิน นั่งคุยถ่ายรูปเล่น ฟ้าใสก็สนุกสนานคุยเล่นเฮฮา ขากลับซ้อนศักดิ์นรินทร์ เกรียงไปนั่งรถป๋า ระหว่างที่ซ้อน
ศักดิ์นรินทร์กลับ ที่ฟ้าใสก็นึกถึงไอ้ร่างสูงอีกคนที่มักจะเป็นคนขับพาฟ้าใสไปไหนต่อไหน วงเล็บตามที่มันต้องการ
ที่ชอบดุให้ฟ้าใสนั่งดีๆ แล้วก็เกาะมันให้แน่นด้วย ไม่ใช่แค่จับหูกางเกงมัน 
ฟ้าใสคิดแล้วก็สงสารไอ้มายมันเหมือนกัน แต่เขาก็อยากไปเฮฮากับพวกนี้มั่งอ่ะ
.
.
แล้วนี่ มันคงหงุดหงิดว่าเขาหายไปไหน เขาก็คงต้องหาข้อแก้ตัว
.
.
“ขึ้นไปห้องก่อนนะ”  บอกใครๆ  แต่มีคนขยับตัวตาม

“เดี๋ยวออกไปกินข้าวกัน” รู้ว่ามันคงอยากโวยฟ้าใสแน่ แต่มีคนก็ยังเดินไปเดินมา

“หวัดดีพี่วัฒน์” ลืมซื้อของมาฝากพี่รูมเมทตัวเองเว้ย ยึดของฝากไอ้มาย เอามาให้พี่วัฒน์แกก่อนได้ไหม
แต่เดี๋ยวไอ้เด็กนี่มันร้องไห้แง แง แน่เลย  ออกไปค่อยซื้ออะไรมาฝาก ก็ได้มั๊ง พี่แก แก่แล้ว คงไม่คิดอะไร

ไอ้มายนั่งหยิบดูหนังสือบนเตียงฟ้าใส

ขณะที่หันหลังสวมเสื้อยืด

“อ้าว..ไข..” เสียงพี่วัฒน์ ทัก แล้วเงียบไป

“อะไร พี่” หันมาถามพี่วัฒน์ แกจะพูดะไรเหรอ หางตาก็เห็น ไอ้เด็กขี้หงุดหงิดเดินออกนอกประตู แถมปิดดัง ปัง!!!

“สงสัย มันปล่อยมือ แล้วลมตีประตูปิดนะพี่” ฟ้าใสรีบบอกพี่อนุวัฒน์ แก้ตัวแทนไอ้มาย มันจะใจร้อนรีบไปไหนของมัน
รีบหยิบมือถือกระเป๋าตังเดินตามลงมา
ได้ยินเสียงคนบรื้นรถออกไป
พอลงมา มองหามันก็ไม่เจอ

งง มันเป็นอะไรอีกล่ะ อุตส่าห์รีบแล้วนะ  ตามใจ  เบื่อจะต้องมาคอยเอาใจมัน
เดี๋ยวหาอะไรกินแถวนี้ แล้วนอนพักดีกว่า
.
.
.
“พี่วัฒน์ ขนมอ่ะพี่” ฟ้าใสซื้อพวกลูกอมกระปุกๆมาฝากหลังจากไปกินข้าวกับ ศักดิ์นรินทร์และพ้องเพื่อน

“เออ...พี่มีอะไรถามได้ไหม”

“ได้สิพี่ มีอะไรเหรอ”

“ไข มีแฟนแล้วเหรอ”

“อ๋อ...ก็เคยมีน่ะพี่ แต่เลิกกันแล้ว ทำไมเหรอพี่ มีคนฝากให้มาถาม สนใจไขเหรอพี่” ฟ้าใสถามกลับยิ้มๆ เห็นพี่แกยังทำหน้าซีเรียส

“เปล่า พี่เห็นรอยที่ไหล่เราน่ะ มีปัญหาอะไรก็คุยกับพี่ได้นะ”

“เอ่อ...ขอบคุณ  พี่ ไขจะมีปัญหา ก็เรื่องไอ้มายนี่แหล่ะ ไม่รู้สิพี่ บางทีเราก็ยังรู้สึกยังไม่อยากผูกมัดกับใครน่ะพี่”

หลังจากได้คุยกับพี่วัฒน์แบบเปิดใจกัน  พี่วัฒน์ก็เป็นเกย์มีแฟน เลิกกัน กลับมาดีกันใหม่ แต่ก็รู้สึกเหมือนแกต้องเป็น
ฝ่ายให้ จนตอนหลังมามีแฟนอายุกว่า เลยดีขึ้น อยู่ดูแลกันไป

“ไอ้รอยนี่ ไขก็คงโดน พี่เค้าแกล้งนั่นแหล่ะ แต่ถ้าไอ้มายมันพูดไม่เชื่อก็ช่างมัน ไขก็เคยคุยกันแล้ว”

“เด็กมันก็เป็นเด็กนั่นแหล่ะ”

“ก็นั่นสิ พี่วัฒน์ ไข ถึงไม่ค่อยอยากจะยุ่งกะเด็กอย่างมันเลย”

“เมื่อกี้ มันคงโกรธเราน่ะ ไข”

“เฮ้อ...”

“ก็ไปง้อ มันเสียหน่อย” ฟ้าใสก็พยักหน้ารับปากแกไป
.
.
.
.
เช้าวันนี้ เห็นแล้ว มอไซค์ มันจอด แต่ก็ไม่เห็นตัว ลองโทรเข้ามือถือ ก็ไม่รับ
จนเที่ยงก็ไม่โผล่

“เต้ ไอ้มาย ไม่มาเหรอวันนี้”

“ครับ พี่ มันคงเมา เห็นเมื่อวานมันนัดเพื่อนไปกินเหล้ากัน แล้วให้ผมไปส่งบ้าน แล้วก็ให้มอไซค์เอามาใช้นี่แหล่ะ พี่”

“เออ ดี เมาจนไม่มาเรียนนะ”
.
.
.
“เต้ วันนี้ไอ้มายก็ไม่มาเหรอ” ฟ้าใสเดินตรงไปหาไอ้เต้ เมื่อเห็น มันขี่มอไซค์ไอ้มาย มาคนเดียว

“ฮื่อ ครับ”

“แล้วมันเป็นอะไร ถึงได้ไม่มา” ฟ้าใสถามหน้านิ่ว คิ้วเริ่มผูกโบว์

“ก็ผมก็โทรถามมัน ว่าจะให้ไปรับเปล่า เจอมันหงุดหงิดใส่เอาด้วย ว่ามันจะนอน”

“อ้าว แล้วมันไม่มาเรียนเหรอ”

“ผมก็ไม่รู้ มันบอกไม่สบาย ก็พอพูดเสร็จมันก็ตัดสายเลย อ่ะพี่ไข”

ฟ้าใสลองโทรหามันอีกครั้ง มันก็ไม่ยอมรับสาย  จนเข้าเรียน
พอถึงเที่ยง กินข้าวเสร็จลองโทรตามมันอีกครั้ง คราวนี้รับแหะ

“มีอะไร” เสียงแข็งใส่ มันนึกว่าเขาเป็นพี่มันบ้างไหม

“ทำไมไม่มาเรียน” ทำเสียงแข็งใส่มันบ้าง

ตี๊ด.... มันวางหูใส่เขา

ตี๊ด ตุ๊ด ติ๊ด ๆ ๆ ๆ ตุ๊ดๆ ๆ  ฟ้าใสส่ง SMS ไปว่า

“อยากตายหรือไง ไม่มาเรียน” 555

ตื้อดึ๊ด... เมสเสจกลับมา

“แน่จริงก็มาฆ่าให้ตายเลยสิ”
.
.
.
“เต้  เดี๋ยวเย็นนี้กลับด้วยคนนะ ไปส่งบ้านไอ้มายให้หน่อย”

“ได้ พี่”

“ดี บางทีจะให้พาคนไปส่งโรงพยาบาลบ้าด้วยคนหนึ่ง”

“ฮะ ฮะ ฮ่า”
.
.
.
“ให้ผมอยู่ด้วยเปล่า” ไอ้เต้ถามฟ้าใส เมื่อเอารถมาจอดส่งถึงในบ้าน

“อยู่ด้วยสิ มาเยี่ยมคนบ้าด้วยกันนี่”

“ไม่เอาดีกว่า” เต้พูดขึ้น เหมือนเอาตัวรอดดีกว่า

“อ้าว เต้..” เสียงน้าผู้หญิงไอ้มาย ทักขึ้น พร้อมกับเดินลงมาจากบ้าน

“สวัสดี ฮะ” ทั้งฟ้าใส และไอ้เต้ หวัดดีน้า

“มาเยี่ยมมาย ครับ เห็นว่าไม่สบาย” ฟ้าใสบอก ขออนุญาต

“ตามสบายจ๊ะ น้าไปก่อนล่ะ ต้องรีบไปเข้าเวรต่อ”
.
.
.
“มาทำไม” เสียงคนป่วยนอนซมบนเตียง คนป่วยมันทำเป็นชำเลืองหน่อยหนึ่ง แล้วหันกลับไป

“เต้ ยืมเทปวัดระยะหน่อยสิ จะสั่งขนาดโลงได้ถูก”

“ไอ้เต้ พาใครมา พากลับไปด้วย จะนอน คนไม่สบาย ยังจะมากวนกันอยู่ได้”

“เอ่อ...พี่...ผมกลับแล้วกัน ไอ้มายจะเอารถไว้ใช้เปล่า”

“....” เงียบไม่มีสัญญาณตอบรับจากคนป่วย

“งั้น ผมขับกลับหอนะ พี่ไขจะให้ไปส่งก็โทรบอกแล้วกัน ผมไปล่ะ”

“....”

“....”

“เฮ้อ....” ทั้งเสียงเฮ้อ...กึ่งถอนหายใจของฟ้าใส

“มาทำไม” เสียงปั้นปึ่งจากคนตัวโตนิสัยเด็ก

“ก็บอกว่าจะมาวัดโลงไง เห็นอาการหนักจนไปโรงเรียนไม่ได้” ฟ้าใสกวนตอบอย่างใจเย็น

“กลับไปเลย รบกวน คนจะนอน”

“ไหน เป็นอะไร ไม่สบายเหรอ” เอื้อมมือไปอังหน้าผากคนนอนซมอยู่บนเตียง

“อะไร ตัวไม่เห็นร้อนเลย” แถมนอนเปิดแอร์สบายใจ

“อย่างงี้ เค้า เรียกเป็นโรคขี้เกียจต่างหาก” ฟ้าใสนั่งลงข้างคนนอนป่วยหันหลังงอนตุบป่อง

“...”

“นี่ พรุ่งนี้ไปเรียนนะ” สะกิดแขนคนป่วยเบาๆ

“...”

“นอนมาก แล้วหลังยาวนะเธอ”

“...” เบื่อเด็กขี้งอนก็เพราะอย่างงี้ๆๆๆๆๆๆๆเห็นไหมล่ะ

ฟู่ว!!!! ฟ้าใสแกล้งเป่าลมใส่หูมัน เพราะอยากไม่หือไม่อือ

ตุ๊บ !!!! โดนเยอรมัน ซูเพล็กซ์พลิกตัวกอดเหวี่ยงไปนอนหงายเค้งเก้ง ให้คนป่วยมันนอนก่ายเป็นหมอนข้าง
หันไปมองหน้า คนป่วย ที่นอนทำน้ำตาคลอ จมูกเชิดปากยื่น

เพิ่งจะนอนกกเป็นแม่ไก่ฟักไข่ ไปไม่กี่วัน นี่ต้องทำอีกแล้วเหรอ...
ไปผ่าตัดเสริมมดลูกเลยดีไหม กรู จะได้ออกลูก ออกไข่ เป็นแม่ไก่จริงๆ
หึ!!! เสียงพ่นจมูก ดีนะขี้มูก ไม่ออกมาด้วย ไอ้เด็กบ้า
 :m16:
“กินข้าวหรือยัง”

“ไม่กิน”

“ไม่หิวเหรอ” แต่ฉันหิวเฟ้ย เรียนเสร็จ ตรูยังไม่ได้กิน แค่เปลี่ยนเสื้อก็ติดรถไอ้เต้มาที่นี่แหล่ะ

“ไม่หิว”

“โอ๋ โอ๋ โอ๋...” ไม่อยากทำอย่างงี้เลย นึกในใจ คิดแล้วอ่ะน่ะ

จ๊วบ !!! หน้าผาก
ได้ผล ไอ้ปากมุ่ยๆ เริ่มเหยียดยิ้ม 1เซ็นต์ครึ่ง แล้วกลับมาเม้มปิดสนิทอีก ไอ้บ้า นี่ยอมให้สุดๆแล้วนะ
ฟ้าใสพลิกจะลุกขึ้น โดนไอ้แขนแกร่งดึงไว้อยู่

“ไป ไป๊ ลุกได้แล้ว นายไม่ได้ป่วยซะหน่อย ไปกินข้าวได้แล้ว ฉันหิวแล้ว”

“ไม่ อีกที” คนป่วยชี้ที่แก้ม ไอ้บ้า โลภมาก ก็ได้ว่ะ ฟ้าใสยื่นหน้าไปจูบแก้มมันก็ได้

จ๊วบ!!!
มันขี้โกง เอาปากรับ พลาดแล้ว รีบถอยกลับ ตามฉบับการทำศึกสงครามเมื่อเพลี่ยงพล้ำให้ศัตรู
 ฟ้าใสเบี่ยงศีรษะหนี กลับเจอทัพใหญ่ตีโอบล้อม



TBC...

ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
ดีที่ฟ้าใสไม่ใจอ่อนกับไอ้พี่ลิฟท์ แต่แกล้งแรงนะพี่ o18 มายก็หนักแน่นหน่อย ฟ้าใสอุตส่าห์ยอมให้ขนาดนี้แล้ว จะว่าไปฟ้าใสเป็นคนที่จิตใจดีนะ ถึงจะอ่อนไหวไปบ้างแต่เรื่องเอาใจใส่คนอื่นใช้ได้เลย ขอให้เจอคนจริงใจสักที :กอด1:

ออฟไลน์ arisa_sa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
เฮ้อ มายนี่   :เฮ้อ: เฮ้อจะรอดใหมเนี่ย

ขอบคุณมากค่ะ :L1: :pig4: :L1:

ออฟไลน์ Raspberry complex

  • เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +358/-0
    • http://www.facebook.com/raspberrycomplex.raspberry
(ต่อ)

คนป่วยมันลุกขึ้นคุกคาม กดริมฝีปากตามชิมปากอิ่มลิ้มรสตามใจชอบ จิบ 1 จิบ 2 จิบ 3 เรียวลิ้นปาดไล้ กวาด ชิม
ทีละเล็ก ทีละน้อย แทะเล็ม ขบเม้ม ความหวาน นุ่ม เลยทำให้ฟ้าใสไม่อยากต่อต้าน พอเห็นคนตัวเล็กไม่ต่อต้าน
เลยได้ใจ เริ่มรุกรานรุนแรง จนฟ้าใสคราง “อื้อ...อา” จะหายใจไม่ออกเอา เลยยอมถอนปากออก
แต่ก็ยังใช้จมูกโด่งเป็นสันสูดไซ้แก้มเนียน ปากก็ยังคงต่อว่างึมงำ

“หายไปแล้วยังไปยุ่งกับมัน ผมโกรธจริงๆนะ” คนป่วยมันเริ่มซุกไซ้แรงขึ้น  มือก็เริ่มล้วงไปใต้เสื้อ

เห้ย..เห้ย..หยุด สต๊อป ก่อน เอ็ง อย่ามายุ่งกับหัวนมข้า
ไอ้เด็กเอาแต่ใจ เริ่มยุ่งกับเนื้อตัวฟ้าใส
มันก็วูบๆวาบๆ เสียวซ่าน เหมือนกัน คน ไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะ

“พี่ น่ะ ไปโดนมันทำอะไรมา”

หมายักษ์ เลียหน้าฟ้าใส หายใจฟืดฟาดรดต้นคอ จมูกโด่งที่ซอกไซ้ต้นคอ ปากหนาส่งจูบก่อนที่จะขบเม้ม ดูด ย้ำ

“อื้อ...อย่าดูดตรงนั้น..นะ..อะ..อา...” ฟ้าใสร้องห้าม เมื่อหมาบ้ายักษ์มันจงใจทำรอยที่ต้นคอประกาศความเป็นเจ้าของให้ทุกคนเห็น
ฟ้าใสขยุ้มผมหนาออกแรงดึง กลับกระตุ้นให้มันลงแรงย้ำรอยอีก
หลังจากดูดคอฟ้าใสจนเป็นรอยคิสมาร์ค สองมือ ที่ลูบไล้ผิวเนียนเลิกเสื้อขึ้นจนเห็นผิวขาวนวล เม็ดยอดอก
ที่ถูกกระตุ้นจนแข็งเป็นติ่งแข็งสีทับทิมระเรื่อ คราวนี้หมายักษ์เริ่มใช้ลิ้นเลียไล่จนทั่วผิวนวล

“อื้อ...อะ..อุ๊บ..”  เสียงครางที่เปล่งออกเมื่อโดนคนตัวโตใช้ปลายลิ้นเลียรอบติ่งเม็ดยอดอก ฟ้าใสบิดตัว
เมื่ออีกฝ่ายขบเม้มยอดอก มือแกร่งถอดเสื้อออกเหวี่ยงไปข้างเตียง
ร่างขาวโพลน มีรอยแดงจ้ำ
มายตาวาวเมื่อเห็นรอยเขียวที่เนินไหล่

“บอกมาเลย มันทำอะไรมั่ง พี่ยังมีรอยที่มันทำไว้ตรงไหนอีก” เด็กขี้อิจฉา แกะกระดุมกางเกงฟ้าใส

“ไอ้บ้า..หยุดเลย” ฟ้าใสเริ่มด่ามัน เอามือดึงมือมันออก แรงอย่างเขาจะไปต่อต้านมันได้ไง
ร่างใหญ่โน้มตัวลงกอดเขาไว้

“พี่เป็นของผม รู้มั้ย ผมจะลบรอยมันออกให้หมด” พูดจบมันก็กัดย้ำรอยฟันทับรอยม่วงๆเขียวๆที่จางลงบ้างแล้ว
จนเป็นรอยฟัน ซี่ๆ เรียงเป็นร่องกลมๆ ของหมาบ้าตัวโตที่กอดทับเขา แขนหนึ่งโอบรัด  แขนหนึ่งยังคงดึงรูดปลดกางเกง เขาออก

“เออๆ นายก็อย่าโมโหดิ ไม่มีอย่างอื่นหรอกน่า แค่ที่ไหล่ที่เดียว ฉันก็บอกว่าเลิกกับเขาแล้วไง”

“รอยบนตัวพี่ ผมทำได้คนเดียว”

ไอ้เด็กบ้ามันปลดเสื้อผ้าเขาออกจนเหลือแต่ชั้นใน ขยับจะพูด ก็โดนมันจูบอีก มือหนาสอดในกางเกงในขาสั้นบีบก้นกลม
ฟ้าใสงอขาถีบใส่ ไอ้เด็กลามปาม

“พี่ไม่รักผม ทำร้ายผมอีก”

อ๊าค!!! กรูสิกำลังจะโดนเมริงกินอยู่นะ ดูสิกัดจนเลือดซิบเลย รอยที่ไหล่กำลังจะหายอยู่แล้ว
พอมันโดนเขาถีบขาใส่ เลยจับตัวเขาพลิกคว่ำ
ท่าอันตรายจริงๆ

“นี่เหรอ ที่เดียว” หมาบ้าเห็นรอยดูดที่ปรากฏด้านหลัง เหนือแนวสะโพก จมูกไซ้ปากกดจูบซ้ำ ดูดเม้มจนเป็นรอย

“โอ้ย” ฟ้าใสร้อง

“พี่เจ็บเหรอ...” น้ำเสียงถามอย่างเป็นห่วง น้ำเสียงบ่งระคนแค้นตามมา “...ผมน่ะเจ็บกว่า”

โอย กางเกงในโดนมันถอดไปแล้ว โกรธมันจริงๆแล้วนะไอ้มาย ฟ้าใสโมโหจนร้องไห้
ร่างสูงใหญ่ขบเม้มทำรอยที่ต้นขาด้านใน
ในเมื่อพูดกันก็ไม่เชื่อ
เจ็บใจจนต้องกัดปากตัวเองข่มอารมณ์จนเลือดออก
.
.
.
.
วันนี้ไม่มีเสียงโต้ตอบระหว่างฟ้าใสกับมัน
เลี่ยงได้ก็เลี่ยง
ตอนซ้อนมันมา คิดว่า ถ้าโดนมันบ่นว่าอะไร จะลองกระโดดลงทั้งที่กำลังขับอยู่
แต่พอนึก ก็ไม่รู้จะทำประชดคนอื่นให้ตัวเองเจ็บตัวไปทำไม
พรุ่งนี้วันเสาร์ เขารู้แล้วว่าจะทำอะไร
.
.
ตรืดดดด ตรืดดดดด  เสียงรอสายดังไม่นานก็รับสาย

“สวัสดีฮะ พี่โม่ง”

“หวัดดี ไข” เสียงทุ้มนุ่มทอดเสียงอ่อนรับ

“พี่สบายดี หรือเปล่าฮะ”

“อือ...ก็สบายดี แต่ก็มีเรื่องยุ่งนิดหน่อยน่ะ แล้วไขล่ะ สบายดีหรือเปล่า เรา”

“ก็สบายดีพี่ ตอนนี้ไขอยู่เชียงราย พี่ พรุ่งนี้เลยว่าจะแวะไปเที่ยวหาพี่ลำปาง”

“อ้าว...มาเลย ดีแล้ว จะได้เป็นเพื่อนดูมะนาว พี่กำลังกังวลอยู่”

“อ้าว..พี่โม่งมีธุระอะไรหรือเปล่า พี่ ไขจะไปรบกวนหรือเปล่า”

“ไม่... ไม่...” โม่งรีบปฏิเสธ แล้วพูดต่อ “อาจารย์เบญ เขาไม่สบายน่ะ  อยู่โรงพยาบาล...”

“งั้น ไขไปดูแลมะนาวให้ก็ได้นะพี่ ไขว่างทั้งเสาร์-อาทิตย์เลย” ฟ้าใสรีบเสนออย่างดีใจ

“ฮื่อ...งั้นเหรอ ไม่รบกวนไขนะ ไขจะมาเที่ยว ก็อดเที่ยวนะสิ”

“โอ้ย...ไขแค่มาเปลี่ยนบรรยากาศเท่านั้นน่ะพี่โม่ง เดี๋ยวไขจะทำอาหารให้มะนาวกินเองด้วย”

“อาหารที่ว่านี่มีผักไหมเนี่ย ลูกพี่ทานผักได้นะ”

“555 โห พี่  พูดอย่างงี้ ไขเสียหน้านะ” ถึงต่อว่าแต่รอยยิ้มเปื้อนอยู่บนใบหน้า
เสียงปลายสายหัวเราะเบาๆ สอบถามเวลา พร้อมบอกว่าจะไปรับที่ท่ารถโดยสาร
.
.
พี่โม่งที่อยู่ในใจของเขาเสมอ
.
.
.
ตั้งแต่ไปรับคนตัวเล็กจากสถานีขนส่งเมื่อ 9.30น. พากลับเข้าบ้าน ที่บ้านของโม่งก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
เสียงหัวเราะที่เกิดจากการดัดแปลงนิทานจนมีตัวประหลาดโผล่ขึ้นมากมาย แถมเจ้าชายยังกระโดดสกายคิกค์ใส่มังกรจากยอดปราสาท
โม่งมองหนุ่มร่างเล็กที่นอนอิงหมอนสามเหลี่ยมใบโต ข้างตัวมีมะนาวลูกชายเขาหัวเราะส่งเสียงเอิ๊กอ๊าก
ทำตัวบิดหนีการไล่ล่ามือเล็กๆที่กางมือแสดงแทนมัมมี่โจมตีเอว ไหล่ ซอกคอ เด็กน้อย
จำได้ว่าหนังสือนิทานในบ้านไม่มีเรื่องไหนมีมัมมี่เลยนะ  แล้วมัมมี่ที่ไหน จะเป็นลูกสมุนแม่เลี้ยงขี้อิจฉาที่ออกมาจู่โจมรถฟักทองของซินเดอเรลล่า
.
.
“มะนาว พ่อไปเยี่ยมคุณแม่ก่อนนะครับ” โม่งลูบหัวเด็กชายตัวน้อย

“ครับ” เสียงรับคำสั้นๆ หันหน้าไปรอฟังนิทานหลอกเด็กจากฟ้าใสต่อ

“อ่ะ พี่ไปแล้วนะไข” ว่าจะไม่ทำเหมือนหนุ่มน้อยหน้าหวานเป็นเด็กแล้วนะ แต่เจ้าตัวก็ยังเหมือนเด็กหนุ่มน้อยสำหรับเขาอยู่ดี
 ตาแป๊วที่มองมา รอยยิ้มใสที่ส่งมาให้เมื่อเขาเอ่ยชื่อ มือใหญ่แตะเบาๆลูบผมนุ่มอย่างทนุทนอม
รอยย้ำตรงคอ ใช่ว่าเขาจะไม่เห็น แม้เจ้าตัวพยายามเอียงปิดซ่อนเร้น

“เด็ก 2 คน อย่าพากันซนนะ”

“โหย...พี่โม่ง” ฟ้าใสโอดครวญ ส่งสายตาค้อนใส่ พี่โม่งก็เหมือนพี่โม่งปี 4น่ะแหล่ะ

“มะนาว ดูแลอาไขด้วยนะ”

“ครับ มานาวจาดูแลอาไขไม่ให้ซน และให้กินข้าวให้หมดจานด้วย” มะนาวท่องจำตามแพทเทิร์น ที่เคยได้ยินแม่สั่ง

“ไม่ต้องเลย พี่โม่ง ไขรู้แล้วว่าพี่โม่งจะพูดอะไร เดี๋ยวไขจะหัดกินผัก” ฟ้าใสพูดตัดหน้าอย่างรู้ตัว นึกในใจ ไม่กินหรอก!!!

“555 รู้ตัวก็ดีแล้ว มะนาวดูให้อาไขกินผักเยอะๆนะ”

“หึ...” ร่างเล็กค้อนใส่เต็มวง

“พ่อไปล่ะ...พี่ไปนะ”

“ฮะ/ครับ” คนตัวเล็ก ตัวน้อย รับคำอย่างพร้อมเพรียง

โม่งต้องไปดูอาการของอาจารย์เบญภรรยาที่ตั้งแต่กลับมาจากการไปออกค่ายร่วมกับนักศึกษาก็ไม่สบาย รักษาหายไปแล้วครั้งหนึ่ง ก็กลับมามีไข้สูงอีก


TBC....
 :กอด1:

ออฟไลน์ arisa_sa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
ไม่ได้แช่งนะ สงสัยจะไม่รอด อิอิ รอพี่โม่งคนเดียว 1 เดียวในดวงใจ

ขอบคุณมากค่ะ  :L1: :pig4: :L1:

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ได้แช่งนะ สงสัยจะไม่รอด อิอิ รอพี่โม่งคนเดียว 1 เดียวในดวงใจ

ขอบคุณมากค่ะ  :L1: :pig4: :L1:

หุ หุ หุ แอบคิดเหมือนคุณarisa_sa แหละ(ไม่ได้แช่งเหมือนกัน แค่แอบคิดเฉยๆ)
สงสัยฟ้าใสคงจะได้ปลอบใจพี่โม่งกับหนูมะนาวกระมัง
พยายามคิดว่าพี่โม่งกับฟ้าใสน่ะ ขอให้เป็นคู่กันแล้วต้องไม่แคล้วกัน
ส่วนมายน่ะ ขอบอกว่าชักจะเริ่มรำคาญแกแล้วนะมาย
 

ออฟไลน์ Raspberry complex

  • เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +358/-0
    • http://www.facebook.com/raspberrycomplex.raspberry
มาลงให้ก่อนฮะ กลัวตอนต่อไปต้องปั่นยาว
 :pig4:

((ต่อ))

ขณะที่ลิฟต์นั่งเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ ในใจก็นึกถึงหนุ่มตัวเล็กหน้าหวาน
ฟ้าใสตัดใจจากเขาได้จริงๆเหรอ  เขาอุตส่าห์ขึ้นมาง้อ จะมาขอโทษ
นั่นเป็นเพราะไอ้เด็กเวรนั่นคนเดียวแหล่ะ มันกล้าดีอย่างไงมาพูดใส่หน้าเขาว่า คนร่างเล็กของเขา เป็นเมียมัน
ยั่วให้กรูโมโหเอง ตอนที่ฟ้าใสเป็นเมียไอ้โภชน์ เพื่อนเขา เขายังอยากได้ เขายังเอามาเป็นของเขาได้

อย่างไงเขาก็มาก่อน ไอ้เด็กอย่างงั้นฟ้าใสจะเลือกมันทำไม
แล้วที่เขาทำเพราะอยากให้ฟ้าใสเห็นนิสัยที่แท้จริงของมันต่างหาก
ถ้ามันเห็นรอยจูบที่เขาทำไว้ ตามจุดต่างๆที่ต้องสัมพันธ์พิเศษเท่านั้น ถึงจะใกล้ชิดขนาดนั้นได้
 ลิฟต์คิดไปก็ทำหน้ายิ้มเยาะไอ้เด็กหนุ่มที่ชื่อมาย

ถ้ามันจะโกรธ ก็ต้องโกรธตัวมันเอง ที่เข้ามาเป็นมือที่สาม ระหว่าง เขา กับ คนร่างเล็กของเขา
ไม่มีมัน เขาง้อคนตัวเล็ก ไม่ถึงเดือน ก็ต้องยอมใจอ่อนตามเขากลับบ้าน

ถ้าอยากเปิดร้าน เขาลงทุนให้ก็ได้ หาแม่ครัวมา คนตัวเล็กไม่ต้องมาเหนื่อย เฝ้าร้านไป รอเขามาหา
แค่นี้ชีวิตก็มีความสุข เป็นเพื่อนกันไปจนแก่เฒ่า ถ้าอยากเที่ยวก็บอก เขาก็พาไปได้

นึกแล้วก็เซ็ง ทีกับสาวคนอื่นไม่เห็นเขาต้องคอยง้ออย่างงี้เลยว่ะ ขนาดตอนแรกที่สนใจเพราะเห็นว่าเป็นแฟนไอ้โภชน์
ยอมรับล่ะว่าอิจฉามัน เห็นมันพีคสมบูรณ์แทบทุกอย่าง ขนาดมีเมียเป็นผู้ชาย พ่อแม่มันก็ยอมรับ น้องสาวมันก็ยอมรับ
ช่วยกันทำงาน ขับรถได้ เที่ยวด้วยกันได้ ดูหนังฟังเพลง พูดคุยรู้เรื่อง

แล้วเขาล่ะ ทั้งที่ตอนเรียนม.ต้นด้วยกันแข่งกันสูสี สอยดาวโรงเรียน มาหลายราย อาศัยว่า กรูมีรถขับผู้หญิงก็เลือกกรู

แล้วสุดท้าย คนที่เคียงข้างเขา ความรู้ก็แค่ม.3  วันๆก็กินแต่ส้มตำปูปลาร้า ตกเย็น ปาร์ตี้กินเหล้า คาราโอเกะ ถึงงานบ้านจับบ้างก็เหอะ
ขับรถก็ไม่เป็น จะไปไหนแต่ละที่ เดือดร้อนเขาต้องไปส่งไปรับ กรูก็ขี้เกียจขับรถติดๆ ขับไปทำงานได้เงิน กรูยังขี้เกียจ
นี่ต้องขับรถไปส่ง แล้วต้องเสียเงิน  เลี้ยงบรรดาเพื่อนเมียอีก
พี่สะใภ้ พี่สาว ก็ทำเป็นดูถูกเมียกรูอีก  พี่สาวเค้าซะอีก กับคุยถูกคอกับฟ้าใสของเขา เพราะหลานเขากับหลานคนตัวเล็ก นี่เป็นเพื่อนกัน

กรูอยู่บ้านแล้วก็เหมือนอยู่คนเดียว ไม่มีคนคู่ใจคู่คิด อย่างไอ้โภชน์มัน มาเห็นตัวเล็กหน้าใส หัวเราะยิ้มร่าเริงกันอีก
กรูก็อยากได้มั่งอ่ะเด่ะ ตอนแรกก็ว่าจะลอง จนได้โอกาส แอบลักหลับ โคตรตื่นเต้น แฮปปี้โคตรๆ

แต่ต้องโทษตัวเองที่เสน่ห์แรง เป็นตู้เย็น สาวๆเลยมาแปะติดไปหมด อยากดีดไข่ตัวเอง สันดานจริงๆ
ขนาดว่าจะขึ้นมาง้อไอ้ตัวเล็ก  สัญญาจะเลิก  ห่าเอ๊ย!!! ดันมีสองสาวดอยพี่น้อง อายุแค่ 14กะ15 เอง ปิ๊งใส่ ไอ้เราเจือกอยากลอง แมร่ง!!!

เดี๋ยวเจ้าตัวเล็กของเขากลับไปจะเป็นไงบ้างนะ หายมาอยู่กับเขา 2วัน กลับไปมีรอยที่ตัวแบบนั้น 
ขอให้เด็กเวรมันเห็นแล้วก็เลิกกับคนตัวเล็กของเขาซะ

ถ้าวิธีนี้ยังทำลายความสัมพันธ์กับไอ้เด็กเวรนี่ไม่ได้ เขาจะยอมปล่อยมือก่อนก็ได้ แต่อย่าให้มีโอกาสแล้วกัน
นึกว่าเห็นแก่น้ำใจที่คนตัวเล็กมีให้แก่เขาน่ะเนี่ย กรูไม่ใช้ยา ไม่ใช้กำลังปล้ำเมียเมริงดีแค่ไหน ไอ้เด็กมาย !!!

เหอะ!!! เมีย!!! เมริงคิดไปเองคนเดียวนะดิ สาสสสส...
.
.
.
.
อนุวัฒน์ เห็นไอ้หนุ่มร่างสูง มานั่งซึม ที่ลานจอดรถตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
หนุ่มตัวเล็กร่วมห้องก็ออกไปตั้งแต่ยังไม่สว่างนัด รปภ.ที่ออกกะ ตี5 ให้ไปส่งที่สถานีขนส่ง บอกเขาเพียงว่า จะไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่ลำปาง
พอเห็นไอ้มายมานั่งรอวันนี้อีก คงเปล่าประโยชน์

“มาย กินข้าวหรือยัง”

“เอ่อ...ยัง พี่  เอ่อ พี่ฟ้าใส ไม่อยู่เหรอพี่ เขาไปไหนเหรอ ครับ”

อนุวัฒน์ว่าจะชวนไอ้มายนั่งคุย แต่ก็มีคนอื่นๆมาร่วมนั่งทานด้วย สุดท้ายเลยชวนมันขึ้นไปนั่งคุยที่ห้อง

“มาย เราชอบฟ้าใสเขาเหรอ”

“ครับ”

“อ้าว แล้วเราไม่ชอบผู้หญิงเหรอ”

“แต่ก่อนผมเคยชอบน่ะ ก็ธรรมดาทั่วไปน่ะพี่ ก็วัยรุ่นน่ะพี่ แต่เดี๋ยวนี้ผู้ชายสวยๆก็เยอะ แล้วผมเคยเห็นพี่ฟ้าใสมาก่อน แค่เห็น ผมก็อยาก...พอมาเจออีกก็...”

“เราก็เลยจีบเขา” อนุวัฒน์เริ่มแปลกใจไอ้มาย พอเจ้าตัวได้ยินคำว่า “จีบ” เสือกเขินอีก มือไม้ทำเป็นหยิบโน่นเปิดนี่ที่กองหนังสือของรูมเมทเขา

“แหม ก็..ไม่รู้สิพี่ ผมก็จีบไม่เป็น รู้แต่ว่าผมต้องดูแลพี่เขาอ่ะ”

“แล้วมายเคยรู้จักฟ้าใสมาก่อนหรือเปล่า”

“เปล่า พี่..”เด็กหนุ่มพูดเสียงสูง “ผมเห็นพี่ฟ้าใสยังนึกว่าเป็นผู้หญิง เป็นทอมเลย ตัวเล็กๆบางๆ นั่งร้องไห้ที่สนามบิน”

มายหวนนึกถึงวันแรกที่ได้เจอ “ผมส่งผ้าเช็ดหน้าให้ พอได้เห็นใกล้ ถึงรู้ว่าเป็นผู้ชาย แต่ผมก็ไม่สนใจหรอกจะชายหรือหญิง
ผมคิดแล้ว แค่เป็นพี่ เป็นพี่ฟ้าใสก็คือพี่ฟ้าใส จิตวิญญาณตัวตน ความรู้สึกของพี่เขาที่ผมสัมผัส”

“อืม...” อนุวัฒน์พยักหน้ารับฟัง พยายามอินจนเริ่มอึนไปกับเด็กหนุ่ม

“ยิ่งบังเอิญมาเจอกันที่นี่อีก...”

“แต่ก็เพิ่งเจอกันนี่เอง...พี่เขาก็...” อนุวัฒน์ยังพูดไม่ขาดคำ ไอ้มายก็รีบพูดขึ้น

“ระยะเวลาไม่เกี่ยวหรอก...พี่...พรหมลิขิตต่างหาก” เสียงเจ้าตัวมุ่งมั่น เด็ดเดี่ยว
พูดพลางจะออกท่าทาง มือปัดไปโดนหนังสือในกองที่เจ้าตัวคนพูด หยิบไปจัดมา

ปุ๊บ!!! หนังสือที่ฟ้าใสหยิบมาจากบ้านพี่โม่ง พลิกๆไปจนเจอโบร์ชัวร์ เปิดรับสมัคร เรียนทำอาหารหลักสูตรครบเครื่อง
ปูทางสู่เชฟ ฟรี โดย ร.ร.การอาหารนานาชาติ ร่วมกับสถาบันพัฒนาสังคม จังหวัดเชียงราย

คุ้นๆ มุมหนังสือก็หักๆ นี่มันหนังสือของไอ้ปิ๊ก ที่เขายืมมา ว่าจะสำรวจที่เที่ยว ถ่ายรูป ตอนมาสมัครเรียน แล้วดันลืมว่าไปวางทิ้งไว้ที่ไหน ไอ้ปิ๊กมันก็ไม่ได้ทวง


Tbc…

ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
แอบคิดเหมือนสองรีบนเลยว่าเมียพี่โม่งคงอาการแย่แน่ แต่ไม่ได้แช่งนะ ส่วนล่าสุดอ่านแล้วรู้สึกอยาก :z6:
ไอ้ลิฟท์จริงๆกับความคิด ขออย่าให้ฟ้าใสกลับไปหามันเลย มายก็หนักแน่นหน่อยทำตัวง็องแง็งไปแล้ว :เฮ้อ:


อ่านเสร็จอกกไปทำงานก่อน เดี๋ยวโดนเจ้านาย :beat:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด