พิมพ์หน้านี้ - ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ บทส่งท้าย +จบบริบูรณ์ (20/11/12)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Raspberry complex ที่ 23-08-2012 20:46:07

หัวข้อ: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ บทส่งท้าย +จบบริบูรณ์ (20/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 23-08-2012 20:46:07
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

สารบัญ  เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง
1.Re: เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง บทนำ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2103141#msg2103141
2.Re: เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง Ch.1
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2103208#msg2103208
3.Re: เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวงCh.1 ต่อ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2103435#msg2103435
4.Re: เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง Ch.2 (24/08/12)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2103931#msg2103931
5.Re: เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง Ch.2 (24/08/12) ต่อ1
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2104003#msg2104003
6.Re: เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง Ch.2 (24/08/12) ต่อ2
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2104024#msg2104024
7.Re: เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง Ch.3 (25/08/12)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2104456#msg2104456
8.Re: เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง Ch.3 (25/08/12)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2104714#msg2104714
9.Re: เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง Ch.3((ต่อ)) (25/08/12)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2104858#msg2104858
10.Re: ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.4 (25/08/12)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2105031#msg2105031
11.Re: ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.4 (25/08/12)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2105378#msg2105378
12.Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.4((ต่อ)) (25/08/12)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2105630#msg2105630
13.Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.5 (26/08/12)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2106150#msg2106150
14.Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.5(ต่อ) (26/08/12)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2106520#msg2106520
15.Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.5((ต่อ 5)) (27/08/12)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2107437#msg2107437
16.Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.5((ต่อจบ 5)) (26/08/12)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2107445#msg2107445
17.Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.6 (28/08/12)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2108607#msg2108607
18.Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥คืนที่อยู่ในความทรงจำ..(28/08/12)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2109080#msg2109080
19.Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ CH.7 (28/08/12)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2109650#msg2109650
20.Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ CH.7 (29/08/12)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2109654#msg2109654
21.Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ CH.7 ((ต่อ1))(29/08/12)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2109986#msg2109986
22.Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ CH.7((ต่อ2)) (29/08/12)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2109992#msg2109992
23.Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ CH.7((ต่อ1,2,3)) (29/08/12)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2109997#msg2109997
24.Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ CH.7((ต่อ1,2,3)) (29/08/12)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2110004#msg2110004
25.Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ มาบอกนัดฮะ (30/08/12)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2110944#msg2110944
26.Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S1.Ch.8 (1/09/12)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2112370#msg2112370
27.Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.1 CH.8 Ending (1/09/12)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2112396#msg2112396
28.Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Seasons 2 Chapter1 (6/09/2012)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2117778#msg2117778
29.Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Chapter2 (6/09/2012)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2118663#msg2118663
30.Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Chapter2(ต่อ) (7/09/2012)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2118865#msg2118865
31.Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.3 (7/09/2012)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2119079#msg2119079
32.Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.3(ต่อ) (7/09/2012)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2119300#msg2119300
33.Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4 (7/09/2012)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2119324#msg2119324
34.Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4 (ต่อ)(7/09/2012)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2119352#msg2119352
35.Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4(มาต่อแล้วฮะ) (9/09/2012)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2121253#msg2121253
36.Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4((ต่อครบ100%)) (10/09/2012)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2122693#msg2122693
37.Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.5 (10/09/2012)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2123304#msg2123304
38.Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.5(ต่อ) (11/09/2012)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2123728#msg2123728
39.Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.5((อัพต่อแล้ว)) (12/09/2012)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2124949#msg2124949
40.Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.5(อัพครั้งที่2ของวันนี้ฮะ) (12/09/2012)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2125065#msg2125065
41.Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.5(ending) (13/09/2012)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2126137#msg2126137
42.Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.6 (14/09/2012)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2126901#msg2126901
43.☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.6 ((ต่อ))(15/09/2012)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34462.msg2128485#msg2128485
หัวข้อ: Re: เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 23-08-2012 21:05:35
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแต่งขึ้น ตัวละครก็แต่งขึ้น สถานที่ก็แต่งขึ้น
แนวโรแมนติก ดราม่าบ้าง แต่ก็อยากให้คนอ่านมีความสุข ไม่รู้จะทำได้แค่ไหน เรื่องแรกอ่ะ
(แอบตื่นเต้นตอนลง+ลุ้นตัวเองด้วยว่าจะเขียนให้จบได้ด้วยดี)

เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง
บทนำ
ณ โรงเรียนมัธยมต้นที่พอมีชื่อกะเขาแม้ว่าจะไม่ดังมากก็เหอะ
ที่ริมระเบียงทางเดิน เด็กนักเรียนชายตัวเล็กๆ2คนเดินคุยกัน ในอ้อมแขนของทั้งสองมีกองสมุดวาดเขียน ที่โดนครูใช้ให้เอาไปวางที่ห้องพักครู

“จบม.3นายไปจะต่อที่ไหน น่ะไข่” เวสป้าถามฟ้าใส เพื่อนที่สนิทกันแบบห่างๆ 555 ก็แบบสนิทรู้ใจคุยกันรู้เรื่อง แต่อยู่คนละกลุ่มเพื่อน
 ก็ฟ้าใสจะโดนชวนเดิน กินข้าวกับกลุ่มเพื่อนผู้หญิง แต่เวสป้าจะโดนชวนไปเดินกับกลุ่มเพื่อนผู้ชายที่กลับบ้านด้วยกัน
 ฟ้าใสถอนหายใจ ทำปากมุ่ย ก่อนจะตอบว่า

“เฮ้อ...ยังไม่รู้ดิ...” พร้อมกันหันหน้ามามองหน้า เพื่อนที่เดินเคียงข้างกัน แล้วเลยเอ่ยปากถามต่อ

“แล้วเวสป้าล่ะ...คิดแล้วเหรอ”

“ฮื่อ...พ่อเรา เขาให้ไปสอบเข้าที่โรงเรียน ART R น่ะ” เวสป้าหันมาตอบอย่างเต็มเสียงด้วยความมั่นใจ
ใช่สิ เวสป้าเป็นลูกอาจารย์วสุ ที่นับว่าเป็นทั้งอาจารย์สอนศิลปะและศิลปินที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับนี่นา
ทั้งเวสป้าเองก็เก่งศิลปะได้คะแนนไม่เต็มก็เกือบเต็มทุกครั้ง ฟ้าใสกลับมานึกถึงตัวเอง เขาก็ชอบศิลปะและก็ทำได้ดีในวิชา
แต่เขาก็ชอบวิชาวิทยาศาสตร์และก็ทำคะแนนสูงๆด้วยเหมือนกัน แต่วิทย์ทำไมมันต้องคู่กับคณิตศาสตร์ด้วยนะ ก็เขามันห่วยจะตาย
ในพวกวิชาที่เกี่ยวกับตัวเลขทั้งหลาย สอบเก็บคะแนนคราวก่อน ถ้าไม่แอบเข้าไปแก้ไอ้ที่สอบๆไปกะพวกไอ้เปรี้ยวไอ้ดรีมจนโดนผีหลอก
วิ่งกระเจิง ผมคงสอบตก โดนแม่ด่าโดนจับให้เรียนพิเศษแน่

“เอ๊ย...ไข่! ถึงห้องจารย์แล้ว” เวสป้าส่งเสียงเรียกผม เมื่อเห็นผมทำท่าจะเดินไปคิดอะไรไปจนเลยห้องพักครูศิลปะ
“แหะ แหะ เออ เออ” ผมหัวเราะเก้อๆ เขินที่มัวแต่คิดอะไรเพลิน
“ขออนุญาต ครับ” ทั้งผมและเวสป้าส่งเสียงก่อนผลักประตูเข้าไป จึงเห็นอาจารย์แปปที่สอนศิลปะคุยกะเพื่อนอาจารย์ที่มาจากที่อื่นอยู่
พอเราสองคนวางสมุดบนโต๊ะเสร็จก็เตรียมเดินออก อาจารย์แปปก็เรียก

“นี่เธอสองคนนี่นะ ครูส่งจะไปวาดรูปประกวดแข่งกะเขานะ  เดี๋ยวรายละเอียดจะบอกอีกทีตอนเย็นมาพบครูที่ห้องนี้ด้วยล่ะ”
ระหว่างทางที่เดินกลับทั้งผมและเวสป้าเลยตื่นเต้นกันใหญ่ ไม่น่าเชื่อแฮะ อย่างผมเนี่ยนะจะโดนส่งไปประกวดอะไรอย่างงี้ด้วย ได้จริงก็ดีนานๆจะได้ทำอะไรอวดแม่ได้บ้างอ่ะ

เราสองคนพอกลับห้องก็ไม่พูดอะไรเรื่องนี้หรือบอกเพื่อนๆคนอื่นเลย

หลังจากเลิกเรียนตอนเย็น เราก็ไปหาอาจารย์ อาจารย์แปปก็บอกรายละเอียดให้เราไปวาดรูปภายใต้หัวข้อ”วิถีชีวิตวัฒนธรรมไทย”
มาส่งภายในวันที่25 ก็มีเวลาประมาณ2อาทิตย์กว่า แล้วเราก็ต้องไปแข่งวาดสดๆในงานด้วยในวันเสาร์ ถัดมา
ซึ่งที่อาจารย์คัดไปทั้งหมดประมาณ8คน ที่ผมเห็นมาคุยพร้อมกันก็มี จิ๊บ กับ กั๊ดจังห้อง 3/2
แล้วก็ เด็กม.2  อีก3คนม.1 หนึ่งคน แล้วอาจารย์จะทำจดหมายไปแจ้งขออนุญาตผู้ปกครอง

หลังจากงานประกวดผ่านไป ผมก็ได้รางวัลชมเชยมาเพียงคนเดียวในระดับม.ต้นของโรงเรียน
ซึ่งทำให้ผมพออวดกับคุยให้แม่กับพี่น้องฟังได้บ้าง
 แหมก็นานๆที แถมผมยังอวดแม่อีกนะว่า ขนาดเวสป้าลูกของอ.วสุยังไม่ได้รางวัลอะไรเลยนะ
ก็ใช่สิเวสป้ามันเนี๊ยบจะตาย คิดอะไรก็นานค่อยๆคิด มันทำงานช้าๆ พอไปเจอบังคับเวลา ไปนั่งทำงานรวมๆกันเป็นร้อยคน
 มันก็ทำไม่ออก งานมันเลยไม่เสร็จ ไม่เหมือนผม พอคิดออก ปิ๊งแล้ว ผมก็ทำๆไป เอาสีแสบซ่าเหนือจริงไปเลย
 มันเลยเด่น ถึงฝีมือจะสู้ไม่ได้ ก็เอาไอเดียสู้ก็ได้เฟ้ย

แล้วจากการประกวดผมเลยเริ่มคิดว่าจะเรียนต่อทางสายศิลปะ เฮ้อ...ทำไมโรงเรียนผมจะต้องมาย้ายพวกมัธยมปลาย
ไปอยู่มหาลัยวิทยาเขตด้วยน๊ะ
พวกเพื่อนๆเลยคิดจะพากันแยกย้ายไปต่อ ม.4กันที่อื่น ธรรมดาโรงเรียนพวกผมนี่จะมีครบตั้งแต่อนุบาลจนถึงระดับมหาวิทยาลัย
 บรรดาเพื่อนๆจึงสนิทกันมากเพราะเห็นกันตั้งแต่อนุบาลแล้วก็เป็นโรงเรียนสห เด็กผู้หญิงผู้ชายก็ถือว่าเพื่อนๆกัน
เล่นขี่ม้าเข้าเมือง ไอ้เด็กผู้ชายสนิทกันแต่ตัวเล็กก็ขี่หลังเด็กผู้หญิงที่ตัวโตกว่าก็ไม่ถือกัน
 ตอนหลังๆนี่มีตัดถนน รถราคับคั่ง โรงเรียนเลยเปิดวิทยาเขตขึ้นที่ชานเมือง เอาพวกพี่มหาลัยไปก่อนบางคณะ
 จนปีที่แล้วให้ม.ปลายไปเรียนที่ ที่ใหม่ เห็นว่าอีกไม่กี่ปี ก็จะให้พวกม.ต้นย้ายไปด้วย เหลือแต่พวกประถม อนุบาล
 แล้ว ปริญญาโท กับพวกเรียนภาคพิเศษที่จะได้เรียนที่นี่
ก็อย่างแม่ผมที่เคยสอนที่นี่ ยังต้องย้ายไปสอนที่วิทยาเขตใหม่เลย  ผมถึงได้สิทธิ์ไป-กลับเอง

“พี่ส้มโอ...” ฟ้าใสเรียกพี่สาวที่สนิทกันยิ่งกว่าแม่ หลังจากเริ่มคิดเรื่องเรียนต่อ
“อะไร...มีอะไรเหรอ ไข” พี่สาวคนสวยเงยหน้าจากนิตยสารเกี่ยวกับหนังและดนตรีของต่างประเทศ มามองน้องชายผู้น่ารักเหมือนตุ๊กตาของตัวเอง ถึงแม้จะโตแล้วก็เถอะ เธอก็ยังคิดว่าเธอเป็นเจ้าของน้องคนนี้อยู่(ยิ่งกว่าแม่)
 ชื่อผมก็ฟังไม่ผิด พิมพ์ไม่ผิดหรอกครับ มันมาจากที่ตอนเด็กผมพูดไม่ชัดก็เรียกตัวเองว่าฟ้าไข ฟ้าไข
 แล้วพวกผู้ใหญ่ตัวดีก็ล้อเลียนเรียกฟ้าไขตามไปด้วย แต่แม่ผมเขาไม่เล่นด้วยหรอกนะ แม่ก็เรียกผม “ฟ้าใส” เต็มยศถูกต้องตามเดิมนี่แหล่ะ
แล้วพอผมเรียกตัวเองว่า “ไข” ไอ้โซดาหัวหน้าห้องมันเห็นผมชอบกวนเลยเรียก “ไข่กวน” แล้วก็เรียกย่อๆว่า “ไข่”
ผมเลยต้องเป็น “นายไข่” ของอาจารย์และเพื่อนๆ

“พี่โอว่าไขจะเรียนต่ออะไรดีอ่ะ” ฟ้าใสนั่งแปะลงตรงหน้าพี่สาวที่อยู่มหาลัยปี2แล้ว จ้องตาแป๊ว

****
หัวข้อ: Re: เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง Ch.1
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 23-08-2012 21:44:23
Ch.1
“พี่โอว่าไขจะเรียนต่ออะไรดีอ่ะ” ฟ้าใสนั่งแปะลงตรงหน้าพี่สาวที่อยู่มหาลัยปี2แล้ว จ้องตาแป๊ว

“อื้อ...เธอจะไม่ต่อ ม.ปลายของ สาธิต Z.แล้วเหรอ” ส้มโอถาม มองหน้าน้องชายที่หน้าสวยเหมือนผู้หญิง
 เอามือหนึ่งปัดๆผมที่ระหน้าระตาฟ้าใสออก พลางปิดนิตยสารที่อ่านค้างอยู่โดยไม่ลืมที่จะหยิบกระดาษที่จดอะไรไว้มาคั่นหน้า

 ฟ้าใสพยักหน้ารับพร้อมกับทำหน้าคิด
“ก็เห็นเพื่อนๆจะออกไปต่อที่อื่นกันหลายคน แทบว่าจะทุกๆคนด้วยซ้ำอ่ะ” ฟ้าใสบอกสาเหตุ
 และดูเหมือนส้มโอจะเข้าถึงเหตุผลอย่างดีด้วยซ้ำ ก็พี่ส้มโอก็จบจากที่นี่ ก็รู้ว่าโรงเรียนของพวกเราถึงแม้จะมีชื่อว่าเก่าแก่
แต่ก็ไม่ใช่วิชาการแข็งนัก ออกจะเป็นโรงเรียนที่เรียนๆเล่นๆกิจกรรมเยอะ จะมีชื่อเสียงก็บางครั้งที่มีเด็กเก่งๆหลงมาแล้วทำชื่อเสียงให้บ้าง

แต่โดยรวมก็ถือว่าโอเค เป็นว่านักเรียนจะค่อนข้างอยู่แล้วมีความสุข อาจารย์ก็ออกแนวใส่ใจดูแลเอื้ออาทรผ่อนปรน
ก็ดูอย่างเขาสิยังยอมให้ไว้ผมยาวจนระต้นคอได้เลย แม่เขาถึงได้ชอบที่จะให้เขาเรียนที่นี่แม้รู้ว่าวิชาการสู้โรงเรียนอื่นไม่ได้
 ก็แม่หน่ะชอบเห็นเขาไว้ผมยาวๆไม่ชอบให้ลูกชายหัวเกรียนหรอก รองทรงก็ไม่ยอมจนไปเถียงกะอาจารย์ว่าไม่ยอมให้ตัดผม
 ก็ผมเขามันหยักศกจนเป็นขอดๆ สีก็ออกน้ำตาลๆ ตอนเด็กก็เหมือนตุ๊กตา

ตอนประถมก็มัดจุกมัดผมให้เหมือนเด็กผู้หญิง จนแม่กับยายพาไปวัดทีไร พระก็ขยับหนีนึกว่าเขาเป็นเด็กผู้หญิง
 แล้วที่แม่ชอบผมของเขาก็คงเพราะเรื่องผมหยักศกนี่คงได้มาจากพ่อ ก็พี่น้องคนอื่นนี่ ผมตรงกันหมด
 ครอบครัวเขามีพี่น้องกัน4คน พี่ส้มโอนี่เป็นพี่สาวคนโตที่แก่กว่า4ปี
หน้าตาเรียกว่าสวย ขั้นสวยมากด้วยซ้ำยิ่งโตขึ้นเป็นสาวแล้ว คนนึกว่าเป็นดาราเลยล่ะ เพียงแต่ผิวคล้ำอ่ะ

 ก็พี่ส้มโอเล่นเหมาของจากพ่อไปหมดเลย ความเก่งเรื่องภาษาอังกฤษ ความเนี๊ยบ อ้อเหลือแต่เรื่องผมหยักศกนี่แหล่ะ
ที่ยกมาให้ ก็พ่อผมเป็นคนใต้อ่ะครับ แต่เหมือนมีเชื้อทางพวกมาเลเซีย หน้าตาเรียกได้เลยหล่อมาก
ดูจากรูปที่แม่เก็บไว้ อ้อ พ่อผมเสียไปนานมากแล้วตั้งแต่เด็ก

ตั้งแต่ข้าวปั้นเกิดมาได้ไม่ถึงปี พ่อเขาต้องไปตรวจการเรียนการสอนที่โรงเรียนต่างจังหวัดตอนขากลับรถที่นั่งมา
เกิดอุบัติเหตุ เสียชีวิต แม่เขาก็ช็อคมาก แล้วก็ไม่ค่อยพูดถึงพ่อเลย

 พวกผม4คนพี่น้องดีว่าพวกเราอยู่กันที่บ้านยาย ที่มีบรรดาป้าๆแล้วยายก็ทำธุรกิจเป็นโรงงาน
เลยมีทั้งคนงาน แม่บ้าน ป้าๆที่ยังโสดๆคอยช่วยดูแล ถ้าแม่คนเดียวต้องเลี้ยงลูกตั้ง4คนคงเหนื่อยแย่
พวกผมก็ได้ป้านี่แหล่ะที่ช่วยขับรถมารับ-ส่งที่โรงเรียน จนม.2  ถึงได้ขอขึ้นรถเมล์กลับเอง ม.1ลองขอแล้ว
 แต่ไม่ให้ มาอนุญาตตอนม.2 ไม่งั้นไม่ได้สมาคมกับเพื่อนเลย มาส่งก็สาย มารับกลับก็เร็วมาก
 เรียกว่า4โมงเย็นนี่ถึงบ้านแล้ว

พวกผม4คนพี่น้อง มีผมเป็นผู้ชายคนเดียวแต่กลับตัวขาวที่สุด ได้มาจากแม่ พี่ส้มโอจะหน้าคมตาคมผิวคล้ำเหมือนพ่อ
พ่อจะเป็นคนตัวเล็ก สูงแค่ 163 พี่ส้มโอกะผมจะตัวเล็ก สูงกันแค่158 ซม.
ส่วนข้าวโอ๊ตน้องสาวคนถัดจากผมจะอ่อนกว่า2ปี แล้วก็ข้าวปั้นอ่อนกว่าข้าวโอ๊ต2ปี เป็นน้องสุดท้อง จะเป็นพวกตัวสูงได้จากแม่
แม่เขาเป็นนักกีฬาสูง170กว่า ขายาว พี่น้องได้ขายาวจากแม่หมด 555 เลยเป็นคนขยันกันหมด เพราะหลังสั้น
อย่างข้าวโอ๊ตนี่ได้ไปทางแม่เต็มๆชอบเล่นกีฬาตัวสูงเกือบ170ขนาดอยู่แค่ม.1กระดูกก็ใหญ่

ข้าวโอ๊ตนี่ก็ออกจากโรงเรียนผมไปต่อที่โรงเรียนหญิงล้วน เข้าไปปีแรกก็ได้เป็นนักกีฬาตัวจริงของทั้งบาสทั้งวอลเล่ย์
 แต่เรื่องผิวขาวนี่ ผมก็เหมามาจากแม่คนเดียว น้องสาวทั้งสองก็ยังได้ผิวสองสี โดนแดดหน่อยก็ดำเร็ว
ส่วนผมนี่โดนแดดก็กลายเป็นตัวแดงไปละมากกว่า โรงเรียน Zที่ผมอยู่ตอนนี้ก็เหลือแต่ ผมที่อยู่ม.3กับข้าวปั้น ที่อยู่ป.5

“แล้วไขอยากเรียนสายอะไรล่ะ วิทย์ ศิลป์ภาษา” ส้มโอเริ่มถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ก็ไขยังไม่รู้เลยว่าไอ้สายวิทย์ สายศิลป์ มันคืออะไร แล้วมันต้องเรียนอย่างไง” 555 พี่ส้มโออย่าว่าเค้านะ
 แต่พี่ส้มโอใจดีกะฟ้าใสมาตลอด ก็มีช่วงที่แม่ต้องไปเป็นครูใหญ่ที่โรงเรียนต่างจังหวัด
เลยเอาฟ้าใสกับส้มโอไปอยู่ด้วย พ่อก็อยู่ที่บ้านยายกับข้าวโอ๊ต ข้าวปั้นที่กรุงเทพ
 แล้วทั้งแม่-พ่อก็ไปๆ-มาๆบ้าง ส้มโอเลยเลี้ยงฟ้าใสเหมือนเป็นตุ๊กตาของเล่นของตัวเอง
 เขาเองก็เลยทำตัวเหมือนตัวเองเป็นน้องคนสุดท้อง
 ก็พอพ่อเสียนี่แหล่ะแม่ถึงได้ย้ายกลับมาอยู่บ้านยาย พี่น้อง4คนเลยค่อยอยู่ด้วยกัน

แล้วนี่ถ้าฟ้าใสไปคุยกับแม่มีหวัง โดนว่าแน่ว่าทำไมถึงไม่รู้เรื่องอะไรแบบนี้ มีสิทธิ์โดนประชดจนน้ำตาร่วงแน่
ก็พอทำการบ้านไม่ได้ให้แม่สอนทีไร ก็โดนว่าทุกที ได้แต่อาศัยพี่ส้มโอนี่แหล่ะ

 แถมยังแอบเก็บพวกการบ้านพี่โอที่เรียนๆไว้เอามาลอกมาส่ง (รีไซเคิล อ่ะ เราต้องใช้สิ่งที่มีอยู่แล้วมาทำให้เกิดประโยชน์)
จนผ่านมาได้ทุกวันนี้ และแล้วพี่ส้มโอก็อธิบายให้เขาฟัง พร้อมกับบอกเสร็จว่าเรียนแนวนี้ไป โตขึ้นจะทำงานอะไร
 ฟ้าใสฟังไปก็นับถือพี่สาวตัวเองไป นี่พี่ส้มโอเอาสมองจากพ่อกะแม่ไปหมดหรือเนี่ย เหลือถ่ายให้เขาเท่าเม็ดถั่วเขียวเปล่า

เรียนวิชาอะไรๆก็เก่งภาษาก็เก่ง เล่นเกมส์อะไรก็เก่ง สอบก็อยู่ในอันดับที่1-ที่3 เท่านั้น อย่างเขาเคยดีที่สุดก็ได้ที่10
ก็ตอนที่พี่ผึ้งที่เป็นลูกศิษย์แม่มาเป็นครูฝึกสอน แล้วก็เลยเอาใจใส่เขาเป็นพิเศษ คะแนนเลยออกมาดี
 นอกนั้นก็ร่วงมาเป็น 20กว่า การบ้านก็ไม่ยอมทำส่ง จนอาจารย์ส่งจดหมายฟ้องถึงแม่ 

หลังจากอธิบาย พี่ส้มโอก็ไปให้เขาคิดว่าเขาอยากทำอะไร อยากเป็นอะไร พอเขากลับไปคิดเอาจริงเอาจัง
 เขาก็บอกกับตัวเองว่าเขาน่ะอยากไปอยู่ที่ดาวอังคารกะมนุษย์ดาวอังคาร ซึ่งบอกไปก็คงโดนนนนนน  ด่า อ่ะดิ
งั้นอาชีพล่ะ ทำอะไรเขามันก็ขี้เบื่อ ขนาดเพื่อนคบๆกัน ว่าสนิทว่าซี้ ก็ยังเปลี่ยนคนเปลี่ยนกลุ่ม อาศัยว่าตีเนียน
 เพื่อนเลยไม่รู้ว่า ถูกทิ้งแล้วนะคร้าบบบผม  แล้วกลุ่มก็ยังนัวๆกันมันก็เลยสนิทกันไปโหม๊ด

รึว่าเราชอบด้านเสื้อผ้าฟ่ะ ออกแบบเสื้อผ้ารึเปล่า เพราะผมชอบวาดตุ๊กตา ตัดชุดตุ๊กตาให้ข้าวปั้นเล่น ก็สงสารมันนี่นา
 มันเด็กที่สุด พอคนโตๆเขาไปเล่นนอกบ้าน ข้าวปั้นต้องนั่งเล่นคนเดียวกับป้านวล ผมก็เลยวาดตุ๊กตา ชุดเช๊ด ทิ้งไว้ให้
 ป้านวลก็จะตัดให้ข้าวปั้นเล่น

อ๊าค!!!สมองเม็ดถั่วเขียวปวดหัวแล้วเฟ้ย เลิกคิดไปก่อน โทรคุยกับไอ้ดรีมดีกว่า ช่วงนี้ผมซี้กับดรีมครับ
 มันเป็นหลานสาวนักการเมืองที่เอ่อ...มีชื่อเสียงไม่ค่อยดีหน่อยตัวลุงของมัน แต่พ่อมันนะเฉยๆมั๊ง
 มาซี้กันเพราะมันลื่นหกล้ม ผมเลยเข้าไปช่วยฉุดลุกขึ้น พาไปห้องน้ำ เลยคุยกันถูกคอ มันชอบศิลปะ แฟชั่น
 พอคบแล้วมันเลยติดผมแล้วชอบชวนผมไปว่ายน้ำที่บ้านมัน บ้านมันมีสระว่ายน้ำ ห้องดูหนังฟังเพลงใต้ดินด้วยครับ

“ไขเหรอ...” ดรีมจำเสียงผมได้ทันที
“จร้า....” พูดเพราะกะเพื่อนเสมอ อิอิ
“ดีเลย เพิ่งคุยกะไอ้เปรี้ยว ไอ้ลาเต้”
“ไมอ่ะ มีไรเหรอ แหมเสียงตื่นเต้น ดรีมจะแต่งงานเหรอ...555” ผมแซว ก็เห็นมันชอบเล่าว่า
พวกญาติมันชอบพาพวกลูกหลานคนนั้นคนนี้มาให้รู้จักกันไว้ เผื่อวันข้างหน้าจะได้ดองกัน
“แกจะบ้าเหรอไอ้ไข่ โฮะ โฮะ โฮะ”
“อ่ะ...ย้อเย่น 555 ว่าไงจ๊ะ มีเรื่องไรเหรอ บอกมาเร้ย วันเสาร์-ทิตย์ ยิ่งไม่มีไรทำ”
“โห...แหมไม่มีไรทำ รายงานเดี่ยวแกก็ยังไม่ได้ส่งทั้ง2วิชา รายงานกลุ่ม แกก็ยังไม่ช่วยทำเลยนะเว้ย”  ไอ้ดรีมจะเป็น
คนที่พูดเพราะสลับกับพูดเอะอะม่ะเทิ่งด่าบ้างหยาบบ้าง จนเหมือนมี 2in1 ในร่างเดียวกัน

+++++++++++++++++
Ch.1 (ต่อ)

หัวข้อ: Re: เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 24-08-2012 01:02:03
Ch.1 ต่อ

“โห...โห...พี่ดรีมคร้าบ...ก็เมื่อวันศุกร์ ท่านป้าผมมารับไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวอ่ะคร้าบพี่  กระโผ้มก็ต้องรีบกลับก่อนนะคร้าบ
 แล้วโผ้มจาขอรับทำหน้าปกให้สวยวิ๊งๆเร้ยน้าคร้าบ เอาแบบปิดทองฝังลูกนิมิตเลยด้วย” เรื่องแก้ตัวตรูก็เป็นหนึ่งเฟ้ย

“555 ไม่ได้แก  แค่นั้นไม่พอ ไอ้เปรี้ยวบอก แกต้องเป็นคนเขียนคำนำด้วย” ดรีมตอบกลับด้วยเสียงเหี้ยมเกรียมปนหัวเราะ

“เออ...เออ ความคิดไอ้เปรี้ยวใช่ไหม” ผมเริ่มบันทึกความอาฆาตไว้ในใจ 555

“แหม แก แกมันแต่งเก่งที่สุดในกลุ่มนี่นา” พอจะให้ทำงานไอ้ดรีมมันเริ่มชมเชียวนะ แต่มันก็งานเอ็งด้วยนะ ไขเอ๊ย...

“อ่ะจร้า เราน่ะทำได้อยู่แล้ว เพื่อเพื่อนอันเป็นที่รักยิ่ง” หวานไปเปล่าเนี่ย น่าอย่างน้อยรายงานก็อยู่ในมือพวกมัน85%

“พอแล้วเรื่องรายงานน่ะ เราจะบอกว่า พรุ่งนี้ที่บ้านเรามีทำบุญว่ะ”

“เฮ้ย...จะชวนเราไปทำบุญบ้านนายด้วยเหรอ ไม่เอาง่ะ ไม่คุ้นเฟ้ย”

“ฮึ่ย..ไอ้ไข่ แกอย่าเพิ่งพูดดิ ยังพูดไม่จบเฟ้ย ไม่ชวนด้วยหรอก อย่างแกไม่ต้องทำบุญ หน้าตาแกดีอยู่แล้ว
 ปล่อยบุญให้อย่างพวกไอ้เปรี้ยว ไอ้ลิง บ้างเหอะ” ว่าแล้วไอ้ดรีมมันบอกเรื่องที่ว่านัดพวกเพื่อนมาที่บ้าน
 เพราะที่บ้านมันตอนเช้า พวกผู้ใหญ่จะจัดงานทำบุญกันเลี้ยงพระเพล มีสั่งทั้งของกินทั้งก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเจ้าอร่อย
มาตั้งซุ้มเลี้ยงไม่อั้น เลยจะชวนมากินฟรีเพราะพอพวกผู้ใหญ่ทำบุญเสร็จกินเสร็จ เค้าคุยกันพักหนึ่งก็แยกย้ายกันกลับ
 ที่จะอยู่ก็ไม่กี่คน ก็จะไปเล่นไพ่กันที่ตึกใหญ่ ตรงสนามหญ้าสระว่ายน้ำตึกเล็ก+สารพัดอาหาร ก็จะฟรีเป็นของพวกเรา

“โหย...โหย ไปอยู่แล้ว แหมเพื่อนชวนทั้งที ใครจะไปขัดศรัทธา เด๋วจะได้คุยเรื่องทำรายงานด้วย”

“ชวนเวสป้ามาด้วยสิ”

“ได้ เด๋วเราชวนเอง แต่เวสป้ามันบอกว่าจะไปเยี่ยมลุงมันที่มีนบุรีอ่ะ เด๋วเราบอกให้มันไปเยี่ยมวันหลังแล้วกัน”
ไอ้ดรีมมันก็อย่างงี้แหล่ะ มันยังชอบฟังเวลาผมคุยเล่นกับเพื่อนหรือคุยเรื่องศิลปะเรื่องหนังไซไฟกับเวสป้า

 สมัยก่อนด้วยความทางบ้านมันมีชื่อเสียงไม่ค่อยดี เลยมีคนคบด้วยไม่กี่คน มีก็เป็นพวกเรียบร้อย
มารยาทงามๆ ไฮโซๆ ตัวมันก็ดูเรียบร้อย แต่ใจมันอยากอาร์ตอยากเปรี้ยว
พอมาสนิทกับผมดึงๆกันเข้ากลุ่มเลยเปิดตัวร่าเริงบันเทิง มันเองสปอร์ตชอบเลี้ยงเพื่อน เอาอกเอาใจเพื่อน
แต่ก็โชคดีที่เพื่อนๆกันก็ไม่เอาเปรียบมัน

ริมสระว่ายน้ำ บ้านปิติสุขนิรันดร
บนเตียงอาบแดดมีร่างสาวน้อยวัยรุ่นในชุดว่ายน้ำ5คนพร้อมหนุ่มน้อยอีก1คนนอนอาบแดดอย่างสบายอารมณ์
ยังยังไม่หมด นั่นยังมีอีก 2หนุ่มน้อยที่ตัวเล็กๆบางๆ ร่างหนึ่งขาวอีกร่างหนึ่งจะเข้มกว่า
นอนหัวชนกันหลับตาพริ้มอาบแดดอยู่ด้วยเช่นกัน

“เฮ้ย! เปรี้ยวเมริงจะสอบเข้าที่ ART R จริงอ่ะ” เสียงไอ้แร๊ฟลูกผู้ชายตัวจริง  ถามลูกผู้หญิงร่างยักษ์ที่ยอมเป็นม้าแบกมัน
เวลามีแข่งขี่ม้าส่งเมืองในงานกีฬาสีทุกนัด ซี้กันจนไอ้แร๊ฟมันรับปากว่า ถ้าไอ้เปรี้ยวอายุเลย28เมื่อไหร่แล้วยังหาผัวไม่ได้
 มันจะยอมพลีกายให้เอง

ผมยกศีรษะขึ้นมามองหน้า บรรดาไอ้คุณชายคุณหญิงที่นอนบนเก้าอี้อาบแดดริมสระ ก็บ้านมันมี6ตัวเท่านั้นนี่หว่า
 ผมน่ะแย่งพวกมันไม่ทัน ไอ้เชรี่ยแร๊ฟมันก็ตัวใหญ่กว่าสะบัดตูดกระแทกผมกระเด็น
 จนผมต้องระเห็จมานอนกะพื้นขอบสระกะไอ้เวสป้าซึ่งมันเสียสละอยู่แล้ว ไม่บังอาจไปลงสนามแย่งเก้าอี้กะใครๆเขา

“เออ..ว่ะ กรูเรียนอย่างอื่นไม่เก่งอ่ะ พี่ปั้นจั่นเลยบอกให้มาเรียนนี่ที่อ่ะ อย่างน้อยเค้าจะช่วยดูช่วยติวอะไรได้
นี่พี่กรูก็บอกเพื่อนเขา กันที่เรียนติวไว้ให้แล้วด้วย” เปรี้ยวตอบแบบมั่นใจในหนทางของตัวเองที่พี่วางไว้ให้

“แล้วแร๊ฟ เมริงล่ะจะต่อที่ไหน”

“พ่อกรูบอกให้ไปต่อที่บดินทร์ว่ะ ใกล้บ้าน”

ผมฟังแล้ว รู้สึกว่าช่วงนี้มีแต่คนพูดกันแต่เรื่องนี้อ่ะ ฟังแล้วสับสนว่ะ แค่เรื่องชอบสายวิชา
ผมก็ชอบทั้งสายวิทย์สายศิลปะศิลป์ภาษา แต่ผมก็ทำไม่ได้ดีในสิ่งที่ต้องเรียนไปด้วยกัน
 ผมดีในภาษาไทยแต่ห่วยแตกภาษาอังกฤษ ชนิดเลวร้ายระดับที่ประถมโรงเรียนฝรั่งยังเก่งกว่า
 เข้าใจดีในวิชาวิทยาศาสตร์พอกับคนที่ได้ท็อป แต่ก็ตกต่ำสุดๆกับคณิตศาสตร์ ชนิดท่องสูตรยังมั่วๆ
คงมีแต่ศิลปะที่ผมพอจะทำได้ดี

“แล้วดรีมล่ะต่อที่ไหนอ่ะ จะสอบที่ ART R เหมือนเราเปล่า” เปรี้ยวมันรู้ว่าดรีมน่ะอยากเรียนที่นี่เพราะชอบพวกอาร์ตๆ

“ไม่อ่ะ พ่อเราคงไม่ให้เรียนที่นี่หรอก เขาจะให้เรียนสายศิลป์ภาษา ก็คงให้ต่อที่ โรงเรียน สสสส.อ่ะ  เพราะคุณย่าก็เป็นนายกสมาคมที่นั่นอ่ะ”

ผมก็นอนฟังพวกนี้คุยกัน พลางนึกถึงตัวเอง

“ไข นายไม่มาสอบเข้า ART R เหรอ” เสียงเวสป้าเอ่ยถามผมเบาๆ

“เรายังไม่รู้จักโรงเรียนนี้เลยอ่ะ” ก็พอจะเคยได้ยินชื่อเสียงอยู่บ้าง เพราะโรงเรียนนี้ขึ้นว่าเป็นโรงเรียนมีชื่อ
ของการเรียนการสอนทางศิลปะ วันๆนี่ผมทำอะไรไปบ้างน้า ทำไมถึงไม่รู้เรื่องที่มันสำคัญอย่างที่เพื่อนรู้จักมั่ง

“แล้วแม่เราก็ไม่รู้จะยอมให้เรียนโรงเรียนแบบนี้ด้วยหรือเปล่า” ก็โรงเรียนนี้จะเน้นสอนแต่ศิลปะทุกแขนง
ไม่ใช่แบบโรงเรียน ม.4-5-6 จะมีเรียนวิชาการบ้างก็นิดหน่อย แต่ก็ไม่เคร่งครัดมาก

หลังจากวันนั้นที่เวสป้าชวนผม ผมมาหาความรู้เอาทีหลัง สอบถามจากพี่ส้มโอ พี่ส้มโอก็มีเพื่อนเรียนที่นี่ อยู่ปี5
แล้วพอดูๆที่โรงเรียนก็มีคนจะสอบเข้าที่นี่กัน 4 คน ประกอบผมเอง พอดูๆแล้วจากที่เพื่อนทั้งสาวทั้งหนุ่ม
ชวนไปดูโรงเรียนอื่นกัน

 ด้วยความที่โรงเรียนเดิมของเราทั้งกว้างทั้งใหญ่ รับนักเรียนก็น้อย ห้องละแค่25คน มีกันอยู่3ห้อง
 พอผมไปเจอโรงเรียนอื่นที่แคบกว่านักเรียนก็ยั้วเยี้ยเดินกันเต็มไปหมด
 ผมเลยไม่ชอบอ่ะ แต่ไปดูที่ ART R นักเรียนก็ดูน้อยๆ ถึงจะดูตัวตึกมอมแมมไปหน่อย แล้วผมก็พบว่า

หู้!!!!! ตะลึงอ่ะ ไม่ต้องใส่ชุดนักเรียนด้วย (แง แง วันที่ผมไปดู เป็นวันที่เขาต้องออกไปวาดรูปนอกสถานที่กัน
เลยอนุญาตให้แต่งกายตามสบาย)  ผมเลยตกลงปลงใจเอาว่ะ สอบเข้าที่นี่ก็ได้
 จะได้ไม่ต้องใส่เครื่องแบบด้วย พอผมตัดสินใจบอกพวกเพื่อน ไอ้เปรี้ยวจัดแจงโวยก่อน

“โห ไอ้ไข่ แกจะมาแย่งที่นั่งชั้นหรือเปล่าว่ะเนี่ย ห้ามใช้เส้นแม่แกน่ะเว้ย ถ้าใช้แบ่งให้เปรี้ยวใช้ด้วยน๊า น๊า...”
ว่าแล้วมันก็รวบตัวผมไปกอด อ๊าค!!!มันต้องแกล้งฆ่าผมทางอ้อมแน่ๆ รัดซะแน่นขนาดนี้


หัวข้อ: Re: เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง Ch.2 (24/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 24-08-2012 17:29:57
Ch.2

หลังจากผ่านการสอบปลายภาค เราก็จบม.3กันเรียบร้อยโดยสวัสดิภาพ ผ่านการเที่ยว ฉลอง ดูหนัง กินสารพัด เดินห้าง และแล้วก็ต้อง
มาถึงการติวเข้ม  ก่อนหน้านั้น ทันใดที่ผมบอกพี่ส้มโอว่าจะเข้า ART R พี่ส้มโอก็ไปเกริ่นนำให้กับแม่ ทำนองว่า ผมเนี่ยมีฝีมือทางศิลปะ
น่าจะไปได้ดี ถ้าเรียนทางด้านนี้ สุขภาพจิตก็ดีถ้าได้ทำที่ตัวเองชอบ

 นี่แหล่ะพี่ส้มโอแม่ตัวจริงของนายฟ้าใส 555 แต่ยัง แม่ผมยังไม่เรียกผมมาถามนะคร้าบ

แม่ผมโทรไปหาลูกศิษย์ที่เป็นอาจารย์สอนที่ โรงเรียน ART R โทรเชิญมาคุยที่บ้าน ซักถามซะยังกับว่าเป็นหน่วยสอบสวนกรมตำรวจ
 มีเรื่องยาเสพติด นักเรียนมั่วกันไหม ตีกันหรือเปล่า ผมกลับมาบ้านก็ยังงงๆที่เจอแม่รับแขกในบ้าน แต่แม่ก็แนะนำให้รู้จัก ผมก็ไหว้สวัสดี
อาจารย์เลยบอกรับปากจะดูแลผมให้อย่างดี เหมือนอย่างกะเข้าได้แล้วอย่างงั้นล่ะ แล้วก็บอกว่าไว้ให้พอสอบเสร็จจะส่งรุ่นพี่มาติวให้ที่บ้าน
 พร้อมกับจะจัดหาอุปกรณ์มาให้เบ็ดเสร็จ หลังจากอาจารย์กลับไปแล้ว แม่ก็คุยกับผมว่าอนุญาตให้ไปสอบเข้าที่ ART R ได้
แล้วก็ถามว่าจะไปสมัครอย่างไง ผมก็บอกคงไปพร้อมเปรี้ยว กับเวสป้าแม่เลยบอก ก็ดี จะเอาค่าสมัครวันไหนก็บอก
แล้วเรื่องที่บอกว่าอาจารย์จะส่งคนมาติวให้ ค่อยนัดกันอีกที


พอสอบเสร็จ อาจารย์ก็ส่งรุ่นพี่ผู้ชายมาติวสอนดรออิ้ง เพ้นส์สีน้ำ ทุกวันเสาร์มากันแต่เช้าเลยตั้งกะ8โมงครึ่ง ถึงบ่าย2 ผมล่ะแปลกใจมาก เขาว่าพวกติสนี่นอนดึกตื่นบ่ายไม่ใช่หรอก ทำไมพี่ทั่นนัดมากันเช้านักอ่ะ

บางครั้งก็มา2คน บางทีก็มาคนเดียว แต่พี่ที่มาเป็นประจำคือพี่โม่ง อยู่ปี4แกจะดูเรียบร้อยมาก ผมจะตัดสั้น ตัวสูงใหญ่ หน้าตาดีไม่มีสิวเลย มี2ตาคมๆ มีคิ้วเข้มพอประมาณ 2  จมูกโด่ง 1 ปากแดงแบบคนสุขภาพดี 1 ไม่กล้ามองมาก ก็พอมอง ก็มองตอบ ใครจะไปจ้องตาอยู่ได้
รู้ตอนหลังว่าแกเป็นหัวหน้าห้องด้วยมากับพี่จุ๋ย ซึ่งพี่จุ๋ยจะตรงข้ามพี่โม่ง พี่จุ๋ยจะผมยาว ตัวผอมบาง สูง คุยเก่งมีแซวแหย่โน่นแหย่นี่ผมบ้าง
 สองคนนี่พอนั่ง ยืน ล้อมผม นี่ ผมยิ่งดูตัวเล็กลงไปถนัดตา


 “ฟ้าใส นี่ พี่ๆที่อาจารย์โกวิทย์ แนะนำมาให้ติวให้เราแน่ะ”
“หวัดดีครับ หวัดดีฮะ”
“นี่พี่โม่ง  นี่พี่จุ๋ย นะ”

วันแรกที่พวกพี่ๆมา แม่เรียกไปแนะนำแล้ว ผมก็สวัสดีทักทาย แม่ก็ให้พาเรียนกันที่ห้องหนังสือ  ห้องก็เงี๊ยบเงียบ ผมก็เขินมากอ่ะ ไม่เคยต้องนั่งใกล้ พวกรุ่นพี่ตัวโตๆ แต่ก็ต้องทนเอาอ่ะ ทำไงได้ แล้วพี่ก็ชอบมองแบบจ้องๆด้วย ไม่เหมือนอย่างพวกพี่ๆลูกศิษย์แม่อ่ะ ทีอยู่กับพวกพี่พวกนั้นผมไม่เห็นจะรู้สึกอะไร บางทีพี่เขาเอาผมนั่งตักหรือขี่คอด้วยซ้ำ – ตอนนั้นนายมันเด็กอยู่นี่นา แต่ตอนนี้เป็นสาวแล้ว เอ๊ย!!! ไม่ช่ายน่า – พี่โม่งก็ให้พี่จุ๋ยหาอะไรมาจัดเป็นหุ่น แจกัน กลมๆเหลี่ยมๆ แล้วร่างๆสเก็ตให้ดูวิธีเริ่มต้นสังเกตอะไร แสงเงา ทำอย่างไร  ติวๆไปสักพัก ป้านวลก็เอาขนมกับเครื่องดื่มมาให้ทาน เอ๊ะใจดีจัง แม่อนุญาตให้กินขนมข้างบนในห้องหนังสือด้วยเหรอ ผมแอบถามป้านวล

“เปล่าหรอกหนูไข อาจารย์พรรณออกไปข้างนอกแล้วล่ะ ป้าแอบเอาขึ้นมาให้ จะได้มาดูด้วย” ป้านวลจะเรียกแม่ผมว่าอาจารย์
ทั้งที่ก็อยู่ดูแลแม่ตั้งแต่แม่ยังเด็ก ป้าบอกผมพร้อมกับมองแบบเหล่ๆไปที่รุ่นพี่ทั้งสอง อย่างไม่ยอมวางใจที่จะปล่อยให้ผมอยู่กับพวกรุ่นพี่

“ไม่มีอะไรหรอก พวกรุ่นพี่เขามาสอนไขวาดรูปนะ จะได้สอบติดโรงเรียน ART R เชียวนะ  โรงเรียนนี้อยู่ใกล้บ้านกว่าโรงเรียนเดิมด้วย ไขจะได้กินข้าวเช้าที่บ้านได้ไง ตื่นก็สายได้ด้วย” ผมก็พยายามชักจูงให้ป้านวลรู้สึกดีๆกะพี่ๆ
ทั้งพี่โม่ง พี่จุ๋ยฟังแล้วก็แอบยิ้ม พี่จุ๋ยเลยรีบชวนคุย “ขนมอร่อยจังนะครับ ป้าทำเองหรือเปล่าเนี่ยฮะ”

“อุ๊ย...ป้าทำเองทั้งนั้นแหล่ะ ป้าน่ะเป็นคนทำกับข้าวให้คุณๆบ้านนี้ทานกันนั้นแหล่ะ คุณเด็กๆบ้านนี้น่ะทานอาหารยากจะตาย ผักก็ไม่กิน”
ผมรีบสะกิดป้านวล ก่อนที่แกจะเผลอเล่าอะไรต่ออะไรไปมากกว่านี้ “ป้า ป้านวลอ่ะจะเม้าท์อะไรให้พี่เค้าฟังล่ะ” ป้านวลแกเลยรีบปิดปากตัวเอง แล้วมองหน้าผมแล้วอมยิ้ม แกร่าเริงครับ ตัวเล็กๆ ป้านวลนี่ ทำอะไรก็ตรงไปตรงมา แกรักแม่ผมมาก แต่แกไม่ค่อยชอบพ่อผม แอบนินทาว่าพ่อผมน่ะจู้จี้  ตอนที่พ่อผมอยู่ เคยให้ทำความสะอาดพื้นนี่ระดับเอาเข็มเขี่ยขี้ผงจากร่องพื้นอ่ะ เว่อร์ไปเปล่าเนี่ยพ่อเรา

“แหมอร่อยจนอยากเอากลับไปกินต่อที่บ้าน เดี๋ยวไปเล่าให้ใครฟังว่าที่นี่มีขนมอร่อย เค้าจะไม่เชื่อ” โห พี่จุ๋ยยอคนแก่กะเอาของกลับด้วยนะเนี่ย
พี่โม่งเลยถองศอกใส่พี่จุ๋ยหนึ่งที ฐานพูดมาก ผมเลยนึกขำไปด้วย แต่ป้านวลนี่สิ อมยิ้มใหญ่ สงสัยพอลงไปรีบไปเตรียมขนมใส่ถุงให้พี่จุ๋ยเอาไปด้วย

“ไม่มาแกล้งชมป้าเลย  ปากหวานหลอกคนแก่ล่ะสิ แต่ห้ามมาหลอกหนูไขนะ”

“อ่ะแน่ะ ป้า ไปพูดอย่างงี้ได้ไง ผมเป็นผู้ชายนะป้าอ่ะ” ผมเลยทำปากบู้ มองหน้าป้านวลแล้ว เดี๋ยวโกรธเลยนะ ป้า เดี๋ยวพี่เค้าก็หาว่าผมเป็นเด็กอยู่อ่ะสิต้องให้ป้ามาดูแลมาเฝ้าอ่ะ ผมก็อายๆพวกพี่ แต่พี่จุ๋ยทำหน้าประหลาด แล้วสะกิดพี่โม่งยิกๆแต่พี่โม่งก็ทำเฉยๆ

“ผมมาช่วยสอนหนูไขของป้าจะได้วาดรูปได้เก่งๆนะครับ ไม่มีอะไรหรอก” พี่โม่งแกเลยบอกด้วยเสียงเรียบร้อยบวกฟังชั่นที่บุคลิกระดับหัวหน้าห้อง ป้านวลเลยดูท่าทางสบายใจ

“เดี๋ยววันหลังนี่ ผมจะให้ป้าเป็นแบบให้หนูไขของป้าวาดเลย สอนให้เอาให้สวยเท่าตัวจริงเลย ป้านวลจะได้มีรูปเหมือนเลยก็ได้นะครับ” พี่จุ๋ยยังไม่วายหยอดป้านวลบ้าง

“อุ๊ย...ไม่เอาหรอกขืนป้ามายุ่งกะคุณๆ เดี๋ยวป้าโดนอาจารย์พรรณดุ แล้วให้ป้ามานั่งเฉยๆ ป้าทำไม่ได้หรอก อึดอัดแย่” ป้านวลแล้วเริ่มสังเกตว่าพี่โม่งเหมือนจะส่งสัญญาณว่าให้เริ่มเรียนต่อกันเหอะ แกเลยถามว่าเดี๋ยวตอนเที่ยงจะทานอะไร พี่ๆก็ต้องตอบว่าอะไรก็ได้ แกเลยบอกว่าจะทำก๋วยเตี๋ยวหมูสับของโปรดผมแล้วกัน หลังจากป้านวลไปแล้ว ผมกับพวกพี่เลยหายเกร็ง ไม่ใช่สิ คงมีแต่ผมเองล่ะที่ทั้งเกร็งทั้งเขิน พวกพี่นั่นเขาชินแล้วกับการติวให้เด็กๆน้องๆทั้งหลาย

พอหลังจากทานข้าวเที่ยง พี่โม่งก็สอนต่อให้ผมลงมือทำพร้อมอธิบาย จนถึงบ่ายสอง พี่ๆก็จะกลับ พร้อมทั้งสั่งให้ผมฝึกมือ ตอนแรก พี่เค้าว่าจะมาให้อาทิตย์ละครั้ง แต่พอดูแล้ว พี่โม่งเลยบอกว่าถ้าพรุ่งนี้ว่าง เขาจะมาให้อีก  พอลงมา ก็พอดีแม่ผมกลับมาจากไปรับข้าวปั้นที่ไปเรียนพิเศษ พี่โม่งเลยบอกว่าพรุ่งนี้จะมาติวให้อีก แม่เลยรีบตอบว่า

“ฟ้าใสเขาว่างจ๊ะ มาได้เลย” พร้อมทั้งหันมากำชับผมว่า “คืนนี้อย่านอนดึก อย่าตื่นสายล่ะ”
แล้วก็มองหน้าส่งข้อความไปถึงป้านวลที่ยืนคอยรอที่ช่วยรับถือของจากแม่
“นวล ดูใสด้วยนะปลุกด้วยล่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มีเรียนอีก”
“ตอนเช้าใช่ไหมจ๊ะ” แม่หันมาถามย้ำกับพี่โม่ง
“ครับ มาประมาณ9โมงนะครับ มาเช้าไปสงสารน้องเค้านะครับ” โหย...พี่โม่งตอบอะไรไปเนี่ย ดูแม่สิหันมาเหล่ไอ้ไขแล้ว แค่หาว ไม่กี่ทีเอง อุตส่าห์แอบๆหาวแล้ว

“จ๊ะ...เอาตามเราสบายแล้วกันน่ะ แล้วสอนถึงกี่โมงล่ะ”

“พรุ่งนี้ ผมติวให้ถึงเที่ยงนะครับ แล้วว่าจะไปดูเพื่อนๆน้องๆที่เปิดติวที่วัดขามคู่น่ะครับ” ผมได้ยินก็หูผึ่ง ก็ที่นี่เป็นที่ที่ไอ้เปรี้ยวบอกว่าจะไปติว

“ได้ ได้ แล้วนี่กำลังจะกลับหรือเปล่า ใช่ไหม เอานี่ไปกินด้วยล่ะ” ป้านวลรีบส่งขนมฝีมือแกมาให้ อ๊ะ..ไม่ใช่ครับ แม่ผมรีบหยิบพวกขนมปังสารพัดที่เพิ่งซื้อเข้าบ้านส่งให้พี่โม่งกับพี่จุ๋ยคนละถุงใหญ่ แล้วก็ส่งซองให้พี่โม่งพลางบอกว่า “นี่ค่ารถนะจ๊ะ” “ขอบใจกันมากนะ” พี่โม่งก็รีบปฏิเสธจะไม่รับ บอกว่าเป็นการช่วยงานอาจารย์ แม่เลยบอกว่าไม่ได้เป็นเด็กเป็นเล็กผู้ใหญ่ให้ก็ต้องรับ อันนี้ก็เป็นเพียงค่ารถ มาช่วยสอนน้องก็ดีเท่าไหร่อย่าให้ต้องมาเสียค่าเดินทางเองเลย แล้วเดี๋ยวค่าสอนแม่ก็จะให้อีกต่างหาก พี่โม่งเลยต้องรับพร้อมกับขอบคุณ แหมพี่โม่งรับไว้แล้วมาเลี้ยงพิซซ่าผมก็ได้แหะๆ ระหว่างที่ผมเดินไปส่งพี่ๆที่หน้าทางเข้า ผมเลยแอบถามว่า

“พี่ พรุ่งนี้ผมขอตามไปวัดขามคู่ด้วยคนได้ไหมอ่ะพี่”  พี่โม่งกับพี่จุ๋ย มองหน้าผมแล้วก็มองกันเอง แปลกใจอะไรกันเหรอ

“เอ่อ...ก็ได้ แต่เราต้องไปขออนุญาตแม่ ก่อนนะ เดี๋ยวพวกพี่จะเสียเอาได้ ว่าพาไขไปไหน” พี่โม่งตอบเสียงเคร่งเครียดจริง

“ครับ ได้ฮะ”

“แล้วเรารู้จักวัดขามคู่ด้วยเหรอ เห็นอาจารย์โก้บอกว่าเราน่ะมือใหม่ไม่ใช่เหรอ” พี่จุ๋ยถามมั่ง ก็ที่นี่เปิดติวเข้า ART R โดยเฉพาะ คนที่มาเรียนก็มีแต่พวกที่รู้กัน

“ก็ไม่รู้จักหรอกครับ แต่เพื่อนบอกไว้ว่าพี่สาวเค้าจะให้ไปติวที่นี่อ่ะครับ ผมก็คิดว่าจะไปหาเพื่อนอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่รู้จักวัดนี้”

“เอาสิ ถ้าขอแม่ไปได้ พี่ก็จะพาไปด้วย พวกพี่นั่งรถเมล์กันนะ” พี่โม่งจัดแจงบอกล่วงหน้าถึงวิธีเดินทาง

“โอย พี่ ผมก็นั่งรถเมล์ ผมไปโรงเรียนเองขึ้นรถเมล์ไป-กลับเองนะพี่” ผมก็จัดแจงอวดสรรพคุณความสามารถของตัวเองว่าแมนเกินร้อยแค่ไหน

“ดูแล้วไม่น่าเชื่อ ท่าทางเราน่ะคุณหนูจะตาย” พี่โม่งพูดจาเชิงสบประมาณผมอีกแน่ะ

TBC….
หัวข้อ: Re: เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง
เริ่มหัวข้อโดย: didi ที่ 24-08-2012 18:27:41
น่าสนุกคะ รอตอนต่อไปนะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง Ch.2 (24/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 24-08-2012 19:01:34
Ch.2
ต่อ

“ดูแล้วไม่น่าเชื่อ ท่าทางเราน่ะคุณหนูจะตาย” พี่โม่งพูดจาเชิงสบประมาณผมอีกแน่ะ
“พี่สิยังดูเราแล้วนึกว่าเป็นทัดดาวปลอมตัวมา แถมมีการนั่งเขินอีก ก็ยิ่งคิดว่าเป็นเด็กผู้หญิงแล้วเป็นทอม” พี่จุ๋ยเล่นพูดซะ
ส่วนพี่โม่งก็ท่าทางเหมือนว่าคิดเหมือนกันอีก

“โห...พี่อ่ะ พูดอย่างงี้ผมก็...” ผมก็ก้มหน้างุดๆปากเริ่มยื่น “ก็บ้านผมมีผู้ชายซะที่ไหนล่ะ ผมก็ไม่คุ้นกะอยู่กับพวกพี่นะสิ”

ไม่อยากบอกว่าก็ทั้งพี่โม่งกะพี่จุ๋ยอ่ะหน้าตาหล่อเอาเรื่องทั้งคู่เลยอ่ะผมก็ตื่นเต้นอ่ะดิ ยิ่งมาอยู่กันหนึ่งต่อสองอย่างงี้
แล้วยังมาจ้องผมอยู่ได้ ใครจะไม่เขินล่ะถึงผมจะไม่ใช่ผู้หญิงก็เหอะ

“อ้าวเหรอ” พี่จุ๋ยอุทาน แต่พี่โม่งนิ่งฟังเฉยๆ

“ทำไมเรามีแต่พี่น้องผู้หญิงเหรอ” พี่จุ๋ยรีบถามทำหูทำตาพราวแพรว

“โห พี่จุ๋ยอ่ะไม่ค่อยเลยนะ  มี.. มีพี่สาว1 น้องสาว2อ่ะ พี่สาวสวยด้วยอ่ะ แต่หวงน่ะ ไม่ยกให้พวกพี่หรอก”
ผมตอบกลับทำตาล้อเลียนเยาะเย้ย พี่จุ๋ยเลยทำท่าจะเขกหัวแต่ก็คงนึกได้ว่าเพิ่งรู้จักกัน เลยทำเป็นฝากไว้ก่อน ส่วนพี่โม่งก็อมยิ้ม

“ไป เข้าบ้านเหอะ เดี๋ยวพวกพี่เดินไปป้ายรถเมล์เอง” พี่โม่งเอ่ยเสียงเรียบๆ

“แล้วถ้าพรุ่งนี้จะไปด้วยก็อย่าลืมขอแม่ให้เรียบร้อยล่ะ”

“ครับ ฮะ ฮะ...พี่ สวัสดีครับ ขอบคุณมากนะครับ พี่โม่ง พี่จุ๋ย” ผมยกมือไหว้หวัดดีขอบคุณพี่พี่

ผมก็ยืนจะส่งให้พี่เขาเดินไป พี่เขาก็ยืนจะรอให้ผมเดินเข้าบ้าน สุดท้ายผมเลยต้องเดินเข้าบ้านไปก่อน พี่เขาถึงจะเดินไป

ระหว่างที่ชายหนุ่ม2คนพากันเดินออกมาจากบ้าน พัฒน์พุทธา
“นี่แน่ะ ไอ้โม่ง” บั๊ก!!! เสียงหนุ่มผมยาวโบกศีรษะเพื่อนหนุ่มผมสั้น
หึ หึ หึ โม่งหัวเราะในลำคอ
“สรุปว่า น้องฟ้าใสน้องไขนี่ผู้ชายใช่ไหมว่ะ”
“มั๊ง...เออ สิว่ะ” โม่งตอบกวนๆ
“เมริงรู้”
“เออ สิว่ะ อาจารย์โก้บอกกรูว่ามาสอนลูกชายของอาจารย์อาจารย์แกโว้ย”
“เมริงไม่บอกกรู เมริงหลอกกรู”
“กรูไม่ได้หลอกเฟ้ย เมริงไม่ถาม”
“ห่าน เมริงอย่าพูด กรูถามเว้ย กรูน่ะถามเมริงประโยคแรกเลยที่เมริงชวน ถามก่อนจะถามว่าไกลไหม ได้ตังไหม
หรือเปล่า ด้วยเว้ย สาสส โม่ง”
โม่งยังคงหัวเราะต่อไป จุ๋ยเลยบ่นต่อ
“กรูน๊ะ ถามเมริงประโยคแรก ว่าผู้ชาย ผู้หญิง สวยเปล่าน่ารักไหม”
“ก็นี่ไง กรูก็ตอบเมริงไปว่า จารย์แกบอกว่า น้องเขาหน้าตาน่ารักมากด้วยนะเมริง ไม่ใช่หรือไง”
“เออ ก็นั่นแหล่ะ เมริงก็ไม่ได้บอกนี่หว่า ว่าเด็กผู้ชาย  เล่นบอกแต่ว่าน่ารักๆ กรูก็นึกว่าเด็กผู้หญิง กรูจะได้จีบ
แต่ก็โคตรน่ารักว่ะ แก้มเนี๊ยใสเหน๊งเห็นเส้นเลือดฝาดเลยว่ะ ปากเนี๊ยะก็แดง ต่อให้ดูเด็กก็น่าจูบชิบอ๋าย”

“เห้ย!! ห้ามไปทำรุ่มร่ามเขานะเฟ้ย เดี๋ยวจารย์โก้เอาขาตั้งตีกบาลแยก”
“กรูรู้น่า ว่าแต่เมริงเหอะ เสียงไม่มีหรือไง ถึงต้องก้มไปสอนน้องมันใกล้ขนาดนั้น เชรี่ย”
“เชรี่ยเมริงดิ ไอ้จุ๋ย กรูจะชี้บอกน้องให้แก้ไขตรงนั้นเว้ย น้องมันลงเงาสับสนเว้ย”
“เหอ เหอ แน่ใจนะเมริ๊ง 555 กรูนะอยากให้น้องแก้เหมือนกัน แต่ช่วยแก้ให้กรูดูให้หายสับสนว่ะ กรูนะเล็งแล้วเล็งอีก
 ลูกกระเดือกก็ไม่เห็น เล่นก้มหน้าก้มตา ต่อให้พูดออกจากปากว่าผู้ชาย  กรูก็อดคิดไม่ได้ว่าเด็กอยากเป็นทอมหรือเปล่าว่ะ
เลยพูด ผม ผม ครับ ครับ ทำเอากรูอยากเป็น “เจ้าน้อยฮะ” บ้าง 55”
“อย่าว่าแต่เมริงเลย กรูยังนึกว่าอาจารย์โก้แกอำกรูเปล่า บอกว่าผู้ชายๆ แต่ความจริงเป็นทอมบอย
 เพราะรู้ว่ากรูขี้เกียจสอนเด็กผู้หญิง กรูเองก็แอบมองๆเด็กนี่ ดันเขินอีก เฮ้อออ” โม่งถอนหายใจ
“กรูสิแอบเหล่ จะดูนมน้องไขให้เห็นว่ามันไม่มีจริงๆ แต่นมเนี๊ยะเป็นเม็ดเชียว 555” จุ๋ยหัวเราะ
[จะหัวเราะทำไม – อยากกินนมเม็ดหรือไง- ไอ้พี่จุ๋ยนี่ทุเรสจริงๆ]
“แถมดูยังง่วงนอนอีก หาว หาว ทำตาปรือๆอีก น่ารัก น่าฟัดดีว่ะ”
“ห่าน..โดนจารย์โก้ด่าแน่เมริง ไปทำอะไรเด็กมัน”
“55 ไม่หรอก แหม่ กรูแค่เอ็นดูน้องมันน่ารัก เท่านั้นเฟ้ย ยิ่งเห็นบอกว่าพี่สาวสวยซะด้วย พรุ่งนี้กรูก็มานะเว้ย”
จุ๋ยลงท้ายด้วยน้ำเสียงจริงจัง กอดคอเพื่อนพลางบอกว่า
 “เพื่อนกันมีอะไรก็ต้องช่วยสิ เมริงมา กรูมาได้ กรูก็มาช่วยเมริงอยู่แล้ว”
“ให้จริงเหอะ เมริง..เฮ้ย หลบ รถเว้ย” โม่งบอกเพื่อน
เมื่อเห็นรถยนต์กำลังจะเลี้ยวจากถนนใหญ่เข้ามาในถนนทางเข้าบ้าน
รถญี่ปุ่นคันเล็กๆก็แล่น ผ่านพวกเขา เขารู้สึกว่าผู้หญิงที่ขับรถผ่านพวกเขานั้นหันมาจ้องมองด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเท่าไหร่

หลังจากฟ้าใสเดินไปส่งพี่พี่ที่หน้าบ้าน พอเดินเข้าบ้าน ก็เจอป้านวลมาดักรอ
“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียวหนูไขของป้าเนี่ย” ป้านวลมาแซวอะไรกันเล่า เดี๋ยวก็งอนไม่พูดด้วยหรอก
“อะไรล่ะป้า ไขก็ยิ้มเพราะจะได้ไปหาเพื่อนพรุ่งนี้ต่างหาก”
“อ้าวก็พรุ่งนี้ หนูไขต้องเรียนอีกนี่นา อาจารย์พรรณให้ป้าปลุกน่ะ”
“ก็เรียนเสร็จไง ไขจะไปหาเพื่อนที่เขาก็ติวกัน”
“แล้วขออนุญาตอาจารย์หรือยัง” แหม แหม มีแต่คนคอยเตือนทั้งนั้น ผมเลยเปลี่ยนเรื่อง หางานให้ป้านวลทำซะเลย
“ป้า ป้านวดไขหน่อยสิ นั่งเรียนจนปวดหลังแล้วเนี่ย” 555 ชอบแกล้งคนแก่อ่ะ
“มาอีกคนแล้ว หนูข้าวปั้นก็จะให้ป้านวด ป้าก็บอกจะมาดูหนูไขก่อน” ป้านวลทำเป็นบ่นแต่ก็ชอบที่จะได้ยุ่งกะพวกเรา
“งั้นไปเลย ไปเลย เร็ว ไขปวดหลังจะแย่อยู่แล้ว” ผมรีบฉุดมือป้านวลเข้าบ้าน เลยเจอแม่มองหน้า
ว่าส่งเสียงเอะอะ เลยได้ถือโอกาสขออนุญาตไปหาเพื่อนที่ติวที่วัดขามคู่กะพวกพี่โม่ง แม่ก็คิดอยู่แป๊บหนึ่งก็พยักหน้าอนุญาต
ผมรีบขอบคุณ ฉุดมือป้านวลแล้วไปที่ห้องนั่งเล่น เจอข้าวปั้นนอนคว่ำอ่านการ์ตูนเลยกระโดดขึ้นเบาะไปนอนข้างๆ
“เอ่าะ ป้าเร็วสิ นวดหน่อยอ่ะ เมื่อยอ่ะปวดหลัง เรียนหนักอ่ะ” ผมรีบเร่งป้านวลพลางหัวเราะ
“โอย..ป้าหน่ะ แล้วปั้นล่ะ ปั้นบอกก่อนนะ ปั้นก็เมื่อยอ่ะ นั่งเรียนตั้งแต่เช้าปวดหลังจะตายอยู่แล้ว” เจ้าข้าวปั้นเริ่มเอามั่ง

ป้านวลเลยต้องมานั่งตรงกลางระหว่างผมกับข้าวปั้นที่นอนคว่ำอ่านการ์ตูนไป แล้วก็เอามือมากดๆนวดหลังให้
ทั้งผมทั้งข้าวปั้นพร้อมๆกัน ท่าป้าเผลอหยุดมือจากผม นวดให้แต่ข้าวปั้น ผมก็จะแกล้งร้องโวยวายน้อยใจ
ว่าป้ารักแต่ข้าวปั้นคนเดียว ไม่รักผม ป้านวลก็จะรีบเอามือมานวดๆผมใหญ่ ข้าวปั้นก็จะโวยมั่งว่าป้านวลลำเอียง
 รักแต่พี่ฟ้าใส ป้านวลเลยต้องพยายามนวดให้เท่าๆกัน ผมกับข้าวปั้นก็นอนมองหน้ากันหัวเราะคิกคัก
จนพี่ส้มโอที่เพิ่งกลับมา เดินเข้ามาดู เลยดุผมกะข้าวปั้น

“พวกเธอนี่ก็แกล้งคนแก่ เฮ้อ...” “ป้านวลก็…” พี่ส้มโอลากเสียงด้วยความเหนื่อยหน่าย “ไปตามใจพวกนี้อยู่ได้”
ผมกับข้าวปั้นก็พากันหัวเราะ “555 แหมพี่โอ ป้านวลแกอยากทำนี่นา” บางทีไปนั่งตื้อจะนวดให้แม่ แม่ก็ไม่เอา” ผมรีบอธิบาย
ก็แม่น่ะเขาเป็นพวกถือตัว เหมือนพี่โอน่ะแหล่ะ จับตัวไม่ได้ แต่จับคนอื่นได้ ถ้าจะจูงมือกันผมต้องส่งมือให้เขาจับ

“ใช่ ใช่ ปั้นก็เห็น 555” “ป้านวลน่ะเห็นข้าวโอ๊ตมันบ่นปวดแข้งปวดขา ก็อยากช่วยนวด โอ๊ตมันก็ไม่เอา
อย่างพี่โอเรียนจนกลับดึกๆ ป้าก็กลัวพี่โอเหนื่อย แกก็อยากนวดให้พี่โอก็ไม่ชอบอีก เห็นหม่ะ มีแต่ไขกับข้าวปั้นนี่แหล่ะ
เสียสละยอมให้ป้านวลสบายใจน่ะเนี่ย” ผมเล่าแจ้งแถลงไขบอกความดีงาม

พี่ส้มโอส่ายหน้า “ป้าก็...ไม่ต้องไปทำอะไรมากนักหรอก แก่แล้วเดี๋ยวก็เป็นลมเป็นแล้งไป” ป้านวลมองหน้าพี่ส้มโอแบบไม่เห็นด้วย
ก็แกชอบนึกว่า ถ้าไม่ให้แกทำอะไร ก็เท่ากับแกไร้ประโยชน์นะสิ ผมเลยส่ายหลังดุกดิกให้แกนวดต่อ ข้าวปั้นเลยสะกิดมั่ง

 “ป้าหิวน้ำ” “ป้านวดต่อ” “ป้าหิวน้ำ” “ป้านวดต่อ”

“ป้านวลไปพักได้แล้ว” เสียงประกาศิต หวานเข้มจากพี่ส้มโอ ตัดสินว่าป้านวลควรทำอะไร

ป้านวลเลยต้องลุกขึ้น ขณะกำลังจะเดินออกจากห้องไป ส้มโอก็ถามป้านวลว่า

“วันนี้ใครมาบ้านเราหรือเปล่า เห็นคนแปลกหน้า เดินในซอยทางเข้าบ้าน”

 คือบ้านยายจะเป็นที่กว้างหลายไร่เพราะทำเป็นโรงงานเล็กๆด้วย ลุงป้า ก็ปลูกบ้านในอาณาเขต ส่วนที่ติดถนนก็ทำเป็นอาคารพาณิชย์ให้เขาเช่า ถ้ามีใครแปลกหน้าเข้ามาถนนซอยเข้าบ้าน ก็ต้องรู้ว่ามาติดต่อกับบ้านใดบ้านหนึ่ง
ป้านวลก็ตอบว่ามีคุณครูผู้ชายมาสอนหนูไข  แล้วก็บอกอีกว่ายังหนุ่มๆอยู่ด้วย พอตอบเสร็จ ส้มโอก็ให้ป้านวลไปพักผ่อน
ทั้งๆที่ป้านวลอยากอยู่ใกล้พวกเรา ก่อนไปป้านวลก็แอบทำหน้าทำตาทำปากมุ้ยใส่ลับหลังพี่โออีก ก็พี่โอออกจะดุจะตายท่าเอาจริงอ่ะ
แต่ผมรู้ว่าพี่โอนะใจดีใจอ่อน ขออะไรไปจะบ่นจะปฏิเสธ แต่รออีกแป๊บเดียว เดี๋ยวก็ให้

“ไข แม่บอกว่าจะมีพี่ที่ ART R มาติว วันนี้เขามาแล้วเหรอ” ขบวนสืบสวนเริ่มแล้วครับท่าน


TBC….
หัวข้อ: Re: เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง Ch.2 (24/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 24-08-2012 19:15:08
พี่โม่งจะจีบน้องไขป่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง Ch.2 (24/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 24-08-2012 19:25:57
Ch2

ต่อ

“ฮะ อาจารย์ที่เป็นลูกศิษย์แม่เขาส่งมาให้อ่ะครับ”

“แล้วชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ อยู่ปีไหน แล้วมากี่คน ผู้หญิงผู้ชาย(เอ๋ ก็เมื่อกี้พี่ส้มโอก็บอกว่าเห็น ไปแล้วนี่นา) หน้าตาเป็นไง
ท่าทางดีไหม เราดูแล้วว่าเขาเก่งจริงเปล่าล่ะ”

“แหะ แหะ พี่โอ ไขก็ไม่ค่อยได้ถามเขา รู้แต่ว่าคนหนึ่งชื่อพี่โม่ง อีกคนหนึ่งชื่อพี่จุ๋ย อยู่ปีสี่แล้วคนหนึ่งเป็นหัวหน้าห้อง
เขาเดาว่าคงเป็นคนที่ชื่อพี่โม่งเพราะท่าทางเรียบร้อยกว่าอีกคนอ่ะ” ดูจากสีหน้าพี่โอที่ฟังคำตอบผมที่ตอบคำถาม
ท่าทางจะไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่

“แล้วแม่ล่ะ ก่อนให้สอนนี่แม่คุยกับพวกนี้หรือยัง”

“เอ..ไขก็เห็น พอพี่เขามา ให้ไขหวัดดี แล้วก็บอกให้ไขพามาเรียนที่ห้องหนังสืออ่ะ”

“อ้าว แล้วแม่ให้ป้านวลอยู่ด้วยหรือเปล่า” พี่ผมเริ่มสอบสวนเชิงลึก

หึ หึ เสียงข้าวปั้นเริ่มหัวเราะ แบบแอบๆ “ยังไม่ได้ขอซีร็อกบัตรประชาชนด้วย” ข้าวปั้นช่วยยุยงพี่ส้มโอต่อ

“เออ ใช่ นี่แม่ขอสำเนาบัตรประชาชนเขาไว้เปล่า”

“หวายๆ โอยพี่ส้มโอ ไปทำงั้นได้ไงเล่า  เราไม่ได้จ้างเขามานะ แม่เป็นคนไปขอเขาให้มาช่วยดูไขนะ แล้วอาจารย์เขาก็คงคัดมาให้แม่แล้วล่ะ ท่าไม่ดีก็คงไม่กล้าส่งมาบ้านเราหรอก”

“โอย สมัยนี้ไว้ใจได้ที่ไหน แล้วแม่ยังปล่อยให้ขึ้นไปอยู่กันข้างบน สองต่อสองอีก” พี่ส้มโอบ่นแม่ด้วยอ่ะ

“สามต่อสามด้วยพี่โอหรือหนึ่งต่อสอง” เสียงบ่างช่างยุ ดังแว่วมาจากร่างที่ทำเป็นนอนอ่านการ์ตูน

“ใช่ ปล่อยให้อยู่กันได้ไง ไว้ใจได้ที่ไหน คนก็ไม่เคยรู้จักกัน เดี๋ยวเกิดมันทำอะไรไขแปลกๆล่ะ”

“เดี๋ยวนี้พวกเกย์คิงเกย์ควีนเยอะแยะ” เสียงตัวดีลอยมาอีก

ผมเลยหันไปตีตูดไอ้ข้าวปั้นตัวดี “เฮ่ย...ยุดีนัก หิวน้ำไม่ใช่เหรอ ลุกไปกินน้ำได้แล้ว เอาโค้กมาให้พี่โอกินด้วย” ผมรีบเอาใจพี่ส้มโอ ก่อนบ่นอะไรไปมากกว่านี้ ได้โค้กเย็นๆ น่าจะอารมณ์ดีขึ้น

“งั้นต่อไปพวกนี้จะมาติวไขอีกเมื่อไหร่” ส้มโอลูกจารย์พรรณเตรียมเปิดศึกแล้วเฟ้ย

“อ่า พรุ่งนี้อ่ะพี่โอ เห็นพี่โม่งบอกจะมาติวเพิ่มให้อีกวันอาทิตย์ครึ่งวันอ่ะ” โดนพี่โอมองหน้า “จะมาตอน9โมงอ่ะ”

“อะไร้ พออีกวัน เริ่มมาสายลง สายลง อีกหน่อย คงได้มาบ่ายหร็อก” เริ่มกระแนะกระแหน งานหลักของบ้านนี้

“เปล่าน่าพี่โอ วันนี้พี่เขาคงเห็นไขง่วงอ่ะ คงอยากให้ไขเตรียมเนื้อเตรียมตัวให้เสร็จอ่ะ”

“อะไร ไขไปคอยแก้ตัวให้คนอื่นทำไม เดี๋ยวนี้พี่พูดไขก็ไม่เชื่อพี่แล้วใช่ไหมล่ะ ขนาดคนอื่นมาวันเดียวเที่ยวไปเข้าข้างเขา”

“โอย พี่โออ่ะ ไขรักพี่โอมากกว่าใครอยู่แล้วล่ะ พี่โอทั้งเก่งทั้งฉลาด เลิศเลอเพอเพ็กซ์...” “ในสามโลก” เสียงแว่วมาอีก

 จะใครล่ะ เจ้าข้าวปั้นตัวดี เดินมาต่อประโยคลิเกของผม พี่ส้มโอแกก็อย่างงี้แหล่ะ ไม่ชอบให้ใครมายุ่งกะของของแก
แล้วแกก็ถือว่าผมเป็นน้องเป็นของแกที่จะลากจะจูงไปไหน ผมก็ใจอ่อนกะพี่สาวคนนี้ซะด้วยสิ ทั้งใจอ่อน อ่อนใจล่ะกัน

“คุณพี่โอ ขา  โค้กเย็นเจี๊ยบๆมาแล้วค่ะ” ข้าวปั้นรีบส่งโค้กกระป๋องมาให้ พอพี่โอจิบโค้กไปหนึ่งอึก ดูท่าทีอารมณ์ดีขึ้นทันตาเห็น

“อื้อ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะคอยอยู่ช่วยดูล่ะกัน ว่าท่าทางเป็นไง อย่างน้อยพี่ก็มีเพื่อนที่รู้จักเรียนที่นี่ด้วยเหมือนกัน”

“คร้าบ คร้าบ ขอบคุณฮะ” ผมก็เอียงแก้มไปชนแก้มพี่โอ พี่โอก็เอื้อมมือขยี้ผม ผมเล่นด้วยความเอ็นดู 555

ข้าวปั้นแอบอมยิ้มแบบ เอาเข้าไป เอาเข้าไป เพี้ยนทั้งคู่ น่าช่างแกเหอะ พี่โอออกจะรักผมก็ดีแล้ว แกคิดว่าแกเป็นพี่คนโตเลยต้องเอาใจใส่น้องๆ ดูแลแทนแม่ที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อหาเลี้ยงพวกเรา เลยจะพอใจมากถ้าน้องๆยกให้แกเป็นที่หนึ่ง

เช้าวันอาทิตย์ เป๊ง!!! เสียงระฆังดังเริ่มยก
พี่ส้มโอลงมานั่งจิบชาผลไม้ อ่านหนังสือพิมพ์ตั้งแต่8โมง พี่ส้มโอเองก็ต้องออกไปเรียนพวกคอร์สพิเศษๆของเขา
 ผมเลยพาลตาตั้งรีบตื่น รีบกินมื้อเช้าให้เสร็จ แล้วก็ชักไม่แน่ใจว่า บอกเรื่องที่ผมจะตามพวกพี่โม่งไปหาเพื่อนที่วัดขามคู่กับพี่ส้มโอหรือยัง
 แต่เอาให้แน่ใจดีกว่าเลยบอกซะเลยดีกว่า

“พี่โอ เดี๋ยวพอติวเสร็จ ไขว่าจะไปหาเพื่อนที่วัดขามคู่ตรงแถวๆราชวัตรนะ”

“อ้าวแล้วไขรู้จักด้วยเหรอ”

“อ๋อ ไขไม่รู้หรอก ไขจะไปกับพวกพี่โม่งน่ะพี่โอ พวกพี่สอนไขเสร็จเค้าก็จะไปดูรุ่นน้องกะเพื่อนที่ติวให้เด็กๆที่วัดขามคู่อ่ะ
 เพื่อนไขก็ไปเรียน ไขโทรไปบอกเปรี้ยวแล้วว่าจะไปหา”

เปรี้ยวนั้นเป็นน้องของพี่จำปูน 2ปี พี่จำปูนเป็นน้องของพี่ปั้นจั่น 2ปี  พี่ปั้นจั่นนั้นก็เป็นเพื่อนกะพี่โอ
พี่โอเองก็รู้จักทั้งพี่จำปูน พี่ปั้นจั่น  พี่โอ มองหน้าน้องชายหน้าใสของตัวเอง เอจะเอาไง เมื่อวานพอส้มโอได้ชื่อ
เลยรีบโทรไปปั้นจั่นเพื่อนสาว ที่เรียนอยู่ปี5 ART R ปรากฏว่า พี่ปั้นจั่นนั้นเป็นพวกไม่ค่อยสังคม
เรียนจริงแต่ไม่ค่อยจะสนใจใครๆ ถึงจะเคยได้ยินชื่อพี่โม่ง พี่จุ๋ย แต่ก็ไม่รู้จักว่าเป็นคนอย่างไง พี่ปั้นจั่นเลยให้เบอร์
พี่แซ้งค์ที่เป็นเพื่อนพี่ปั้นจั่นกับพี่โอตอนเด็ก แต่ออกไปต่อที่อื่นตั้งแต่จบป.6 พี่แซ้งค์นั่นเค้าประเภทเฮฮาบ้าบอ
โทรไปรู้สึกว่าพี่แซ้งค์กำลังปาร์ตี้ เลยพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง พี่โอเลยไม่ค่อยได้อะไรเท่าไหร่ แต่พี่แซ้งค์ก็บอกว่าทั้งพี่โม่งพี่จุ๋ย ดี ไม่มีอะไร
แล้วพอฟ้าใสเอ่ยชื่อเปรี้ยว ที่พี่โอก็รู้จัก ก็ดูว่าจะผ่าน แต่พักหนึ่ง พี่โอก็เอ่ยว่า

“ไข พี่ว่าเราตามพวกนี้ไปมันดูไม่ดีอย่างไงนะ” เอาล่ะพี่โอที่รักครับผม

“ยิ่งไขต้องเดินตามพวกพี่เค้าไปขึ้นรถเมล์ มันดูแปลกๆ ยิ่งรู้จักกันแค่วันเดียว ไปเที่ยวเดินตามเค้าไปไหนต่อไหน” ใบหน้าเด็กสาวสวยจ้องตาคมๆดุๆมองน้องชายตัวเอง

“แหม พี่ส้มโอ ไขไปกะพวกพี่เค้า อีกหน่อยไขก็จะได้ไปหาเพื่อนเองถูกไง” ผมเริ่มเกาหัวยุกยิก ถ้าไม่ตามพี่โม่งไป ผมจะไป
หาวัดนี้เจอไหมอ่ะ ผมเองก็ไม่ค่อยจะคิดอะไรหรอก ก็ใช่อ่ะธรรมดามีอะไรก็โยนให้คนอื่นคิดอยู่แล้ว

“งั้นไขให้เลิศไปส่งไหม พี่ไปถามให้” พี่ส้มโอจัดแจงหาคนไปส่งให้เตรียมหยิบโทรศัพท์มาโทรหาคนขับรถตู้ส่งของให้โรงงานยาย

 “เผื่อวันนี้มีไปส่งของที่ไหน ก็ติดรถให้เลิศแวะไปส่งที่วัดนั้น”

“อือ อือ ก็ได้”ผมรีบตอบพร้อมทั้งเคี้ยวแซนวิชมื้อเช้า

“ฮึ่ย ไข กินให้หมดก่อนก็ได้ แล้วค่อยตอบ เดี๋ยวก็ติดคอหรอก”

ผมรีบกลืนลงคอ พยักหน้า “อือ ครับครับ”

สักพักหนึ่งก็ได้ยินเสียงไอ้ดอลลี่ ไอ้ดอลล่าร์เห่า ผมเลยบอกพี่โอว่า พวกพี่ๆคงมากันแล้ว แล้วก็เดินไปเปิดประตูรับ

“เอ่อพี่โม่ง พี่จุ๋ย ฮะ นี่พี่ส้มโอ พี่สาวของไขเองครับ” ทันทีที่พี่โม่ง พี่จุ๋ย เดินเข้าบ้าน ผมรีบแนะนำให้รู้จักพี่ส้มโอที่กำลังมองจ้องเขม็งมา ทันที

“พี่ส้มโอฮะ นี่พี่โม่ง กับพี่จุ๋ยฮะ เป็นพี่ที่โรงเรียน ART R ที่อาจารย์โกวิทย์ลูกศิษย์แม่ขอให้มาช่วยติวให้ไขนะฮะ”


TBC.......

 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง Ch.2 (24/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 24-08-2012 19:37:34
 :really2:
หัวข้อ: Re: เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง Ch.3 (25/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 25-08-2012 00:16:39
Ch.3


“เอ่อพี่โม่ง พี่จุ๋ย ฮะ นี่พี่ส้มโอ พี่สาวของไขเองครับ” ทันทีที่พี่โม่ง พี่จุ๋ย เดินเข้าบ้าน ผมรีบแนะนำให้รู้จักพี่ส้มโอที่กำลังมองจ้องเขม็งมา ทันที

“พี่ส้มโอฮะ นี่พี่โม่ง กับพี่จุ๋ยฮะ เป็นพี่ที่โรงเรียน ART R ที่อาจารย์โกวิทย์ลูกศิษย์แม่ขอให้มาช่วยติวให้ไขนะฮะ”
พี่โม่งก็ทำหน้าเฉยๆ ทักทายสวัสดีตามมารยาทเป๊ะ แต่ไม่ยกมือหวัดดีพี่โออ่ะ คงเห็นว่าพี่โอดูเด็กมั๊ง 

ส่วนพี่จุ๋ยนั้นรีบยิ้มตอบทักทาย  ทำให้สีหน้าพี่โอดีขึ้น  พี่โม่งทำท่าเหมือนจะเดินขึ้นไปติวกันต่อที่ห้องหนังสือ ผมเลยต้องชวนให้ไปนั่งทานน้ำทานขนมปังกันก่อน พี่โม่งก็ปฏิเสธ

โอย...พี่จะขยันอะไรกัน ขืนพี่ไม่ไปนั่งให้พี่โอซักฟอก เอ๊ย ถามไถ่บ้าง เดี๋ยวก็โดนว่าหรอกว่าจะรีบขึ้นไปทำอะไร ถึงไม่ยอมกล้าคุยกะพี่ของผม ดูท่าพี่จุ๋ยจะพอเดาออกว่าผมอยากให้ไปนั่งคุยกับพี่สาวผมก่อน พี่จุ๋ยเลยช่วยคยั้นคยอพี่โม่งว่าไปนั่งก่อนเหอะ ดูเหมือนป้านวลก็จะรู้ดีด้วย รีบเดินมาเอาน้ำอัญชันมาเสิร์ฟพร้อมพายไส้กรอกอันเล็กๆพอคำ พอนั่งปั๊บพี่ส้มโอก็ซักถามทันที โดยเฉพาะพี่โม่งที่หล่อสุด คงอันตรายต่อน้องตัวเองสุดด้วย

“ชื่ออะไรกันบ้างนะค่ะ” ยิ้มหวานเยียบเย็น

“โม่งครับ” หยุดไปหนึ่งหายใจพูดต่อ “เมื่อกี้น้องไขก็บอกไปแล้ว” พี่โม่งตอบชื่อเล่น พร้อมมองหน้าทำนองหาว่าพี่โอความจำไม่ดี

“ชื่อจริงน่ะค่ะ” – เสียงเข้ม สวยประหารดำเนินการต่อ สีหน้ายิ้มเหมือนเดิมไม่มีตก แต่แววตาไม่เห็นแววยิ้มเลยพี่โอ

“โม่งเขาชื่อ สุรพงษ์ สมบัติเจริญ เอ๊ย สุรพงษ์  วิเศษสรณ์ ครับ ผมจุ๋ย ธณิณ  อาริยะนุกูล ครับ พี่ส้มโอ” พี่จุ๋ยรีบตอบแทนเพราะเห็นพี่โม่งไม่อยากโดนซัก แถมเรียกพี่โอว่าพี่อีก  พี่ส้มโอเลยยิ้มออก ถือโอกาสแทนตัวแทนว่า พี่

“พี่ก็มีเพื่อนอยู่ปี 5 เขาชื่อพี่แซ้งค์ แล้วก็พี่ผู้หญิง ปี 5 เหมือนกัน ชื่อปั้นจั่น น้องรู้จักไหมค่ะ” ข่ม ข่ม ชั้นรู้จักรุ่นพี่ของเธอนะ ห้ามมายุ่งกะน้องชั้นนะ โหย พี่โอ แค่อาจารย์โกวิทย์เป็นลูกศิษย์แม่ พี่เขาก็เกรงใจถึงได้ยอมมาสอนให้แล้วล่ะน่า

พี่จุ๋ยเลยบอกรู้จักครับ พี่แซ้งค์ แกดังออก เป็นเชียร์ลีดเดอร์ ตลกเฮฮามาก หลังจากโดนซักถามไป2-3ประโยค พี่โม่งเลยบอกให้ผมขึ้นไปฝึกวาดต่อ แล้วทิ้งพี่จุ๋ยไว้คุยกับพี่ส้มโอ พี่จุ๋ยก็โบกมือบอกให้ไปเหอะ

พอต้องอยู่กับพี่โม่ง2คน  คราวนี้แกจับเอาแจกันเอาที่ใส่ดินสอ มาวางๆเป็นหุ่นให้แรเงา พอทำๆแกมายืนข้างหลัง
จับมือให้หัดใช้เกรยองปาด ให้ส่วนที่เป็นเงาตกใกล้วัตถุเข้มกว่าส่วนอื่น แล้วบอกให้ลองใช้วิธีลงเงาแบบของพี่โม่งดู
ถ้าชอบก็ประยุกต์ใช้เอาตามที่ตัวเองถนัด

โอย...พี่อย่าจับมือบ่อยนะพี่ ผมก็เขินนะ กลั้นหายใจแทบตาย

พอสัก10โมงกว่า พี่จุ๋ยก็ขึ้นตามมา แอบกระซิบว่า แม่งูไปแล้ว พี่โม่งอมยิ้ม

“ไข จะพักก่อนไหม” พี่จุ๋ยถาม

ผมเลยมองหน้า พี่โม่ง พี่โม่งก็พยักหน้า แล้วก็มาดู ชี้บอกว่าตรงผ้ายังทำไม่ดี ผมเลยชวนลงไปกินน้ำข้างล่างก่อน วันนี้ป้านวลคงไปช่วยงานที่บ้านยาย เดี๋ยวเที่ยงคงมาหาอะไรให้ทาน

ระหว่างที่นั่งกินขนมกัน ป้านวลก็มาบอกว่าเลิศที่จะขับไปส่งผมจะออกช้าหน่อย ต้องรอแพคของขึ้นรถอีกเพราะเขาจะเอาเพิ่ม พวกพี่ก็มองหน้า พี่จุ๋ยเลยอธิบายเพราะพี่ส้มโอบอกแล้วว่าจะให้เลิศไปส่งให้ที่วัดขามคู่  ผมก็เกรงใจกลัวว่าจะว่าผมคุณหนูอีก เลยบอกเอาตามพี่สะดวกเหอะ

  พี่ส้มโอก็ไม่อยู่แล้ว เพื่อนมารับไปข้างนอกแล้วอ่ะ ไขก็ขอแม่ไปกับพี่ๆแล้ว จะรถเมล์ หรือไปอย่างไงก็ได้ พี่ๆเขาเลยตกลงว่าจะไปรถเมล์เหมือนเดิม ป้านวลเลยไปบอกเลิศว่าพวกผมไม่ไปกับรถเลิศแล้ว

พอถามว่าจะทานอะไร พวกพี่เค้าก็บอกจะอยากจะไปทานกับเพื่อนก็ตรงกับผม ผมก็ทานไปกินกะเพื่อนจะได้คุยกันสนุกเฮฮา แต่ป้านวลก็ไม่ยอม ตื้อจนพี่ยอมทาน อ้างว่า กว่าจะไปเจอเพื่อนก็หิวอีกได้ 

พี่โม่งเลยให้ผมไปทำเก็บรายละเอียดช่วยแนะวิธีทำให้หุ่นเด่นขึ้นจากแบคกราวน์ แล้วก็เก็บข้าวของออกไปวัดขามคู่กัน  พอเดินกันไปสามคน ผมก็รู้สึกเขินอีกน่ะ รู้สึกว่าคนมองๆเหมือนกันพาลจะคิดว่าตัวเองลืมรูดซิบหรือเปล่า จนแอบจับ..อ๊ะ หัวซิบก็ยังล็อคดีอยู่ที่นา เออนะ...เดินกะคนหน้าตาดีตั้ง2คน เลยโดนมองอย่างงี้เหรอ

พอขึ้นรถเมล์ พี่เขาก็ยืนคุมทั้งหน้าหลัง ยังกะมีบอดี้การ์ด เหอ เหอ แอบยืดอ่ะแป๊บเดียวก็ถึงลงจากลงรถเมล์ ก็ต้องข้ามถนน ผมก็เผลอไปจับมือพี่โม่งจนยืนรอรถพักหนึ่งค่อยรู้สึกตัว รีบเอามือออก

พอตอนจะได้ข้ามจริงพี่โม่งเลยเอามือมาจับผมข้ามไปด้วย แล้วพี่ๆก็พาผมเดินเข้าซอย แป๊บหนึ่งก็เจอทางเข้าวัด แล้วก็ต้องเดินต่อไปทางขวาจนเจอที่เหมือนศาลา ที่นั่นคลาคล่ำไปบรรดามวลชนติสติส ผมก็มองหาเพื่อนเลิกลั่ก
ทั้งที่โทรบอกแล้วว่าจะมา พี่โม่งก็บอกจะอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าจะหาเพื่อนเจอ แกก็พาจูงผมเดินไปมองหาตามกลุ่มคน ก็คนทั้งนั่ง ยืน เดิน กำลังสเก็ตรูป ดรออิ้ง คุยกัน ก็มันเที่ยงกว่าแล้วอ่ะ

ส่วนพี่จุ๋ย พอเดินเข้ามา ก็มีเพื่อนตะโกนเรียก แกเลยทิ้งทั้งผมและพี่โม่งไปเลย พักหนึ่งผมก็เห็นไอ้เปรี้ยวกับไอ้โอลีฟ เดินมาด้วยกันกับเพื่อนคนอื่นๆที่ผมไม่รู้จักมาจากทางหลังศาลา  มันก็เห็นผม ก็เดินตรงมาหา ไอ้โอลีฟรีบเข้ามากอดผมพลางหัวเราะฮ่า ฮ่า อย่างดีใจ แล้วก็ร้อง อร๊าย ๆ แล้วก็แนะนำให้ผมรู้จักเพื่อนใหม่ ก็มีหมูแฮม เกี้ยมอี๋ คีย์ โอลีฟมันเป็นซี้ผมตอน ป.5-6แล้วก็ออกไปอยู่โรงเรียนสตรี มันนะเหมือนผู้ชายมากกว่าผมอีก ทั้งสูงทั้งผอม กล้าลุยบุคลิกผู้นำ มันนิยมพี่ผมมากที่เล่นปิงปองเก่ง พี่ผมแชมป์อันดับหนึ่งปิงปอง3สมัย มันเลยพาลมารับผิดชอบดูแลผมให้แทนพี่ส้มโอ

ผมเลยบอกพี่โม่งว่าเจอเพื่อนแล้ว แล้วก็แนะนำพวกนั้นให้รู้จักพี่โม่ง มันก็สวัสดีกันใหญ่ พี่โม่งก็ขอตัวไปหาเพื่อน พร้อมกับบอกผมให้นั่งดูคนอื่นเค้าหัดเขียน ผมก็แอบบ่นว่า คนอื่นเค้าเก่งๆกันจัง พี่โม่งได้ทีเลยบอกให้ผมก็ต้องขยันๆ แล้วต้องหัดเยอะๆ

วันที่ผมไปวัดขามคู่ ผมเลยรู้ตัวว่าคู่แข่งเยอะแยะ เก่งๆกว่าผมทั้งนั้น แต่ละคนก็ดูเจ๋งๆ แก่ๆด้วยอ่ะ การเรียนวาดรูปแบบในโรงเรียนที่ผมเรียนนั้นกลายเป็นเหมือนของเด็กเล่น ประถม เขียน ก.ไก่ ข.ไข่เลย  โอย ผมจะทำให้พี่โม่ง แกเสียหน้าเปล่านิ ถ้าผมสอบไม่ติด ผมนั่งคุยกะเปรี้ยว ไอ้โอลีฟก็คุยอยู่สักพักก็ไปนั่งดรออิ้งต่อ

 ที่นี่ก็จะมีรุ่นพี่ๆคอยเดินแนะนำบอกโน่นนี่ ถ้าสวยๆหน่อยก็มีรุ่นพี่แวะเวียนมาบ่อยๆอยู่ด้วยนานๆ ผมจะชวนไอ้เปรี้ยวมันคุยมากไป ก็ดูไม่ดีคนอื่นเขานั่งเขียนกันอย่างขมักเขม้น เปรี้ยวมันก็ออกจะท้อๆใจหน่อยเหมือนกันแต่มันก็จะพยายาม สู้สู้ 

จนบ่าย3กว่าก็เริ่มมีคนเตรียมกลับกัน พวกเพื่อนๆก็เลยชวนกันไปกินไอติม โอลีฟก็ถามว่าพรุ่งนี้จะมาไหม ผมเลยเพิ่งรู้ว่าที่นี่เค้าติวทุกวันเลย จนถึงก่อนสอบ ผมเลย ห๊า!!! ผมนี่ติวแค่เสาร์ก็4ครั้ง เพิ่มวันอาทิตย์ก็8ครั้ง แต่ให้ผมมาวาดแบบนี้ คนเยอะๆ ผมก็อายอ่ะก็ฝีมือยังอ่อนอ่ะ มาเจอคนมองจ้องข้างหลัง ดูไปแอบวิจารณ์ผมไป ก็ไม่ไหวอ่ะเขียนไม่ออกหรอก
 ตอนกำลังเดินกลับผมก็ผ่านกลุ่มพี่จุ๋ย พี่จุ๋ยก็พยักหน้ายิ้มให้ ไอ้โอลีฟรีบรับยิ้มแทนผมเชียว ผมเลยเดินไปหาพี่จุ๋ย แอบกระซิบ

“พี่จุ๋ย พี่จุ๋ย ผมเรียนเพิ่มได้เปล่าอ่ะ”

“ทำไม เราจะมาเรียนที่นี่เหรอ” พี่จุ๋ยมองผมงงๆ

“โอย..เปล่าพี่ ไขอยากให้พี่มาติวที่บ้านเพิ่มอีกวันก็ยังดีอ่ะ กลัวทำสู้เขาไม่ได้อ่ะ” ผมรีบบอกกลัวว่าพี่โกรธด้วยหาว่าอยากไปเรียนกะคนอื่น

“เฮ่ย เป็นลูกศิษย์ระดับไอ้โม่ง ไม่ต้องกลัวใครแล้ว” พี่จุ๋ยอมยิ้ม เอามือมาตบหัวผม2แปะ

“งั้นเอามือถือมา” ว่าแล้วก็แบมือขอมือถือจากผม ผมก็ส่งให้โดยไม่ถาม ว่าง่ายๆอยากโตเร็วๆครับ
พี่จุ๋ยก็เอาไปกดเบอร์แล้วก็โทรออก แปบหนึ่งก็ส่งมาให้ผมพูด “อ่ะ คุยกันเอง” ผมก็งงๆ

“อะโหล อ่ะฮะ”ก็ไม่รู้นิว่าพูดกับใคร

“หวัดดีครับ นั่นใครพูดครับ” อ้าวนั่นเสียงพี่โม่งนี่นา

“หวัดดีฮะ พี่โม่ง นี่ไขเอง ไขที่พี่โม่งติวที่บ้านน่ะพี่”

“555ไม่ต้องอธิบาย พี่จำไขได้ ก็แยกกันเมื่อกี้นี่นา555 มีไรเหรอ กลับบ้านไม่ถูกหรือเปล่า”

“โห พี่โม่ง ไขไม่ถึงขนาดนั้นหรอก อย่าดูถูกกันสิ”

“แล้วว่าไงมีอะไร” เออ นะไม่เห็นถามเลยว่าเรารู้เบอร์พี่เค้าได้ไง

“คือ...คือ..ไขอยากเรียนเพิ่มอ่ะพี่ พี่มาสอนไขเพิ่มอีกวันได้เปล่าอ่ะพี่โม่ง กลัวสู้เขาไม่ได้อ่ะ”

“อื้อ..เดี๋ยวต้องดูวันก่อนนะ แต่อาทิตย์นี้คิวเต็มเดี๋ยวเสาร์หน้าค่อยบอกให้กัน กลัวสู้เค้าไม่ได้ก็ต้องขยันฝึก เสาร์หน้าดรออิ้งมาส่งพี่อย่างน้อย10แผ่น จัดหุ่นใหม่ด้วยนะห้ามซ้ำเกิน 2รูป โอเค ทำตามที่พี่สอนไว้นะแหล่ะ”

“ฮะ ฮะ”

“อื้อ...แล้วเจอกันเสาร์หน้า พี่จะเริ่มสอนสีน้ำให้”

“ครับ หวัดดีครับ”

“คร้าบผม แล้วรีบกลับบ้านล่ะ เดี๋ยวพี่สาวเราเขาจะเป็นห่วง หึ หึ”
เหวอ พี่โม่งแอบกัดพี่โอ เปล่าเนี่ย พูดแบบนี้แทนที่จะบอกว่าแม่เป็นห่วง
พอวางหู ผมก็รีบมองหน้าพี่จุ๋ยที่มองหน้าผมอยู่ เลยต้องรายงานให้ทราบ

“พี่โม่งเขาไม่ว่างอ่ะพี่ อาทิตย์นี้ เขาบอกว่าดูก่อน ขอบคุณอ่ะพี่จุ๋ย งั้นไขไปแล้วนะพี่ หวัดดีฮะ”


ผมก็รีบวิ่งไปหากลุ่มเพื่อนที่ยืนรอๆกันอยู่




TBC……
หัวข้อ: Re: เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง Ch.3 (25/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 25-08-2012 00:27:49
พี่โม่ง กะ น้องไข แน่เลย
หัวข้อ: Re: เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง Ch.3 (25/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 25-08-2012 09:19:14
((ต่อ))

เวลาผ่านไป พี่โม่ง เจียดเวลาเพิ่มมาติวให้ตอนเย็นวันพฤหัสตั้งแต่ 6โมงเย็นจนถึง3ทุ่มแล้วกว่าจะกลับก็4ทุ่ม จนผมฝีมือดีขึ้นมาก
จากที่แทบไม่เป็น โดยเฉพาะสีน้ำ อย่างน้อยตอนนี้ผมก็อยู่เหนือกว่าระดับกลางๆล่ะ

2-3วันก่อนสอบ พี่โม่งพาพี่เซียนมาด้วย ดูท่าพี่โม่งก็ออกแนวลุ้นไปกะผมด้วย สงสัยกลัวผมทำแกเสียหน้า แกก็เอางานผมมาให้พี่เซียนดู

พี่เซียนดูแล้วก็วิจารณ์ ตรงโน้นตรงนี้  สัดส่วนแม่นแล้วใช้ได้แล้ว พี่เซียนก็มาเป็นหมอลักษณ์ฟันธง บอกพี่โม่งว่า "ติดน่า"
 ให้พี่โม่งสบายใจไว้ก่อน ก็แหมรับแค่200คน ผมก็เห็นแล้วที่วัดขามคู่มีคนไปติวก็ 200 กว่าคนแล้ว ยังต่างจว.แล้วอยู่ตามส่วนอื่นอีก ใบสมัครก็ขายได้เป็นพันคน

พี่เซียนเลยบอกให้ผมอ่านหนังสือพวกสายวิชาการให้หนักๆด้วย  บางคนด้านอาร์ตเก่ง แต่วิชาการนี่ทำคะแนนสู้พวกเด็กเรียนไม่ได้ ก็ท่าทางพี่เซียนเขาก็ประเภทเด็กเรียนอ่ะ ตัดผมหัวเกรียน ใส่แว่น ตัวขาวพอๆกับผม แต่ผมนะขาวอมชมพูน๊าคร้าบ ไม่ได้ขาวซีดๆเซียวๆ
 แล้วพี่โม่งก็ย้ำให้อ่านชีทข้อสอบเก่า วิชาประวัติศาสตร์ศิลป์ด้วย ระวังเรื่องเวลาด้วย  สีน้ำก็ระวังน้ำหกด้วย ห้ามทำสีเน่าเด็ดขาด

ก่อนจะกลับ พี่โม่งก็รีๆรอๆให้พี่เซียนเดินไปที่ประตู แล้วดึงตัวผมมากอดกระซิบบอกข้างหูว่า โชคดีนะ สู้เค้าล่ะ กอดหัวผมไว้กับอก ไม่รู้ว่าแกจูบหัวผมด้วยหรือเปล่า มันตะลึงตึงๆอยู่  ผมเลยพาลจะน้ำตาไหล รู้สึกอบอุ่นมันเหมือนมีพี่ชาย

“อ้าว ร้องไห้ซะแล้ว ยังไม่ทันสอบ ประกาศผลเลย ร้องไห้ดีใจล่วงหน้าซะแล้ว” พี่โม่งจับตัวผมขึ้นมามองหน้า

“ขี้แยจริงโว้ยเรา ร้องไห้อย่างงี้ เดี๋ยวพี่ส้มโอของเรามาหาว่าทำอะไรเราหรอก ไหน ไหนก็ไหน ไหน”ว่าแล้วพี่โม่งก็จูบที่หน้าผากผม1ที อ๊าค!!! อันนี้ชัดๆเต็มๆ ช็อค อ่ะ

“ไปลงข้างล่างได้แล้ว วันสอบอย่าตื่นสาย อย่านอนดึกล่ะ” พูดจบก็เอามือมากอดคอโอบไหล่ผมเดินลงไปข้างล่าง
 :monkeysad:
พอเดินลงมาข้างล่าง ก็เจอพี่ส้มโอที่เพิ่งกลับมาพอดี พี่โอพอเห็นผมเดินตาแดงมีพี่โม่งกอดคอมาอีก ก็ตาแววเป็นแม่เสือทันที เดินมาใส่พี่โม่งอย่างไม่มีเกรงกลัวทั้งที่ตัวเล็กกว่า คว้าตัวผมออกจากแขนพี่โม่ง

 พี่โม่งก็รู้อยู่ ยังทำเป็นเอาแขนพาดไหล่ผมให้พี่โอเห็น ป้านวลก็เคยเล่าว่าพี่โอเค้าหวงผมไม่ค่อยให้ใครมายุ่ง  เรื่องของผมนี่ต้องพี่โอจัดการ

“ไขเป็นอะไร ร้องไห้เหรอ”

“นี่นายทำอะไรน้องชั้น” พี่ส้มโอแหวใส่พี่โม่ง พี่โม่งก็เอาแต่ยิ้มยั่วพี่โอ เออ เน้อ วันสุดท้ายนี่นาต่างคนคงเต็มที่
 :m16:
พี่โม่ง พี่โม่ง พี่ก็แค่บอกว่าไม่ได้ทำอะไร  ผมร้องไห้เพราะซึ้งที่พี่เป็นห่วงผม พี่โม่งก็ยังทำเป็นอมยิ้มแบบมีเลศนัยอยู่อีก ทำให้พี่เซียนที่ยืนอยู่ด้วยงง ว่าเป็นอะไรกัน จนผมต้องเอ่ยปากห้ามพี่ส้มโอ

“พี่โอ ไขไม่ได้เป็นอะไรพี่ พี่โม่งก็ไม่ได้ทำอะไรไข ไขต่อมน้ำตาตื้นอยู่แล้วอ่ะพี่โอ  พอพี่โม่งเขาอวยพรเลยพาลซึ้งอ่ะ แล้วมันคงใกล้สอบแล้วอ่ะ ใจมันเลยวูบๆอ่ะ เลยงอแงไปหน่อยอ่ะพี่โอ” ผมก็รีบเกาะแขนพี่เสือเอ๊ยพี่สาว

“ก็ไม่มีอะไรแล้วทำไมไม่บอกล่ะ ทำมายืนยิ้มบ้าอยู่ได้ ไม่น่าให้เลือกเรียนที่นี่เลย..มีแต่คนประหลาด” พี่ส้มโอบ่นต่อ ทำเอาพี่เซียนทำหน้าเหวอ ที่โดนหางเลขเหมาว่าเป็นคนประหลาดไปด้วย

“จะกลับก็กลับไปเลยล่ะกันนะ ไม่ส่งล่ะ ไขไปอาบน้ำแล้วก็นอนได้แล้ว ติวอะไร เนื้อตัวสกปรกมอมแมม” เสือสาวหวงน้องทำไมเป็นบ่นประชดพลางเอามือปัดไหล่น้องชายตัวเอง แล้วก็ผลักน้องชายให้ขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าโดยไม่ต้องเดินไปส่งเหมือนอย่างที่เคยทำ ฟ้าใสจึงรีบตะโกน ลาพร้อมทั้งขอบคุณ

“อื้อ เปิดเทอมเจอกันนะ ไข” ทั้งพี่โม่ง และพี่เซียนต่างพูดตอบเขา

“คร้าบบบบบบ” ผมรีบรับคำด้วยน้ำเสียงร่าเริงสุดขีด

“ฮึ..”ส้มโอพ่นลมออกจากจมูก “ไม่ชอบหน้าอิตาพี่โม่งของเธอเลย ไข เต๊ะไม่เข้าท่า ไม่ยอมเรียกชั้นว่าพี่ด้วย อยู่แค่ปี4 ก็เท่ากับเป็นน้องชั้น1ปี”

“แหมพี่โอ แต่พี่เค้าก็อายุเท่าพี่โออ่ะ”

“แต่ก็นั่นแหล่ะ เพื่อนชั้นก็เป็นรุ่นพี่ตานี่ นี่นา ชั้นก็เท่ากับเป็นรุ่นพี่ อย่างงี้เค้าเรียกว่าไม่มีมารยาทสัมมาคารวะ”

“น่า น่า น่า พี่เค้าอุตส่าห์มาช่วยสอนไขน่า”

“แก้ตัวให้เขาทั้งปีอีกแล้วนะ ไข”

“ก็พี่เค้า ก็เหมือนพี่ชายเลยอ่ะ”

“ไม่ต้องเลย ไขมีแค่พี่สาวแค่พี่คนเดียวก็พอแล้ว ไปอาบน้ำ แล้วมากินเค้กกัน”

ฟ้าใสแอบทำหน้ายู่ เดินขึ้นไปอาบน้ำแต่โดยดี...
และแล้ววันสอบก็ผ่านพ้นไป ชีทข้อสอบเก่าวิชาประวัติศาสตร์ศิลป์ที่พี่โม่งเอาให้ ออกตรงกันหลายข้อ ทำให้ผมที่ท่องจำเก่งๆได้คะแนนไปตุนไว้ พวกสอบดรออิ้ง สีน้ำ ผมก็อารมณ์ดี เลยใจเย็นมีสมาธิตั้งใจพยายามรักษาหน้าพี่โม่งแกเต็มที่ เลยถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว พี่เซียนที่มาเป็นผู้ช่วยคุมสอบให้อาจารย์ ก็แอบมาดูผม แล้วก็พยักหน้าส่งสัญญาณว่าโอเค ทำดีแล้ว ผมเลยยิ่งสบายใจ

ตกเย็นพี่โม่งรีบโทรมาถามว่าเป็นไงมั่ง ผมก็รายงานว่า

“ทำเต็มที่เลย”

พี่โม่ง บอกว่าพี่เซียนรายงานแล้วว่าเราดรออิ้ง โอเค สีน้ำก็ใช้ได้ เหลือลุ้นว่าปีนี้ ไอ้พวกที่เก่งๆอย่ามาสอบเข้าเยอะ เพราะบางคนนะสอบแล้วสอบอีก4-5ปีก็มี บางทีคนที่ไม่ติดก็ไปเรียนที่โรงเรียนอื่น พอถึงหน้าสอบก็มาสอบ

“โหพี่พูดยังกะฤดูทำนา หน้าน้ำ น้ำมาอะไรอย่างงี้”  555 พี่โม่งหัวเราะ 

“เดี๋ยวประกาศผลเมื่อไหร่ พี่จะพาไปเลี้ยง”

“โอย..ไขสิต้องพาพวกพี่ไปเลี้ยง ถ้าติดเรียบร้อยอ่ะ”

“ อ้อ ฝากขอบคุณ คุณแม่ไขด้วยนะ ใส่ซองค่าติวให้พี่ตั้งเยอะอ่ะ”

“แหมพี่ก็รับไปเหอะ ต้องรบกวนให้พี่มาถึงบ้าน เกรงใจจะตาย”

“ไขคุยกะใคร” ส้มโอที่เพิ่งกลับมาถึงบ้านถามน้องชายสุดที่รักทันที ฟ้าใสรีบเอามือปิดปากมือถือ

“พี่โม่งฮะ พี่โอ” ฟ้าใสตอบตามความจริง ขืนโกหก อาจตรวจจับได้ เพราะพี่โอจะรู้จักเพื่อนเขาแทบทุกคน แถมรู้จักดีไปจนถึงพี่ พ่อ แม่ เลยด้วยซ้ำว่าทำอาชีพอะไร

“งั้นก็วางได้แล้ว มาชวนคุยจนดูสิ เรากลับมายังไม่ได้อาบน้ำเลย  ไปอาบน้ำแล้วก็สระผมแล้วล้างหูให้สะอาดด้วยล่ะ” ส้มโอแกล้งสั่งประชดคนในโทรศัพท์

“555 ไข อ้าว...คุณแม่จงอางหวงไข่กลับมาแล้ว พี่สาวเรานี่หวงเราจริงเลยนะ กะน้องคนอื่นเป็นหรือเปล่านี่” พี่โม่งคงถามด้วยความสงสัยจริงๆ

“ไม่หรอกฮะ พี่โอเค้าเป็นกะไข คนเดียว เพราะตอนเด็ก ไขไปอยู่กะพี่โอกะแม่ที่ต่างจว.แม่ก็ต้องทำงาน พี่โอก็เอาไขเป็นตุ๊กตา ของเล่น จูงลากไปไหนมาไหน พี่โอเค้าเลยถือว่าไขเป็นสมบัติส่วนตัวของเค้า”

“อย่างงี้ คงไม่ยอมให้เรามีแฟนหรอก” โม่งเริ่มเอ่ยแยบๆลองเชิง

“โหย พี่โม่ง พูดไรอ่ะ ไขยังเด็ก น่า ตัวก็เล็กจีบสาวไม่ติดหรอก” ฟ้าใสพูดอย่างเจียมตัว เขาเลยลองคิดเล่นๆบ้าง ถ้าเขานี่มีแฟนก็ต้องตัวเล็กกว่าแล้วลูกออกมา ยิ่งตัวเล็กกันเข้าไปใหญ่เหรอ

“อ๊ะ ไข ยังไม่วางอีก นายนั่นก็รวยมากหรือไง เอาค่าโทรศัพท์ถึงน้องคนอื่นไปบริจาคบ้างก็ได้นะ มูลนิธิมีออกเยอะแยะ” เสียงพี่ส้มโอแว่วตามสายลมตั้งใจลอยมาให้กระทบกระแทกสะเทือนไปคนที่อยู่ปลายสายน้องตัวเอง

“พี่โม่ง แค่นี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวไข ไปอาบน้ำก่อน ขอบคุณนะครับพี่”

“อื้อ..วางไปเหอะ เดี๋ยวคุณพี่ส้มโอของไขจะยื่นมือมาบีบคอพี่ทางมือถือ  คืนนี้นอนหลับฝันดีล่ะ ไม่ต้องละเมอตื่นมาดรออิ้งล่ะ”

“คร้าบบบ 555 หวัดดีคร้าบ”

“เป็นไร ไข ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียวนะเรา ฮึ!” ส้มโอทำหน้าบูด หมั่นไส้คนที่เพิ่งวางสายน้องชายตัวเองไป

“ก้อ พี่เค้าก็ตลกดี ตอนแรกที่มาสอน ไขกลัวเขาดุจะตาย เห็นทำหน้าเฉยๆ  พอไปๆมาๆ พี่เค้าก็มีมุกตลกๆด้วยล่ะ”

“ชิ๊ส...” ส้มโอเชิดจมูกใส่อากาศ “ไป ไข ไปอาบน้ำแล้วไปดูหนังญี่ปุ่นกันดีกว่า เพื่อนพี่เอาปริ้นออฟเทนนิสคนแสดงมาให้ยืม เดี๋ยวชวนข้าวปั้นดูด้วย”

และแล้ววันประกาศผล ผมก็ไปดูด้วยตากะเค้ามั่งเหมือนกัน แม้ว่าจะมีการลงในเวบแล้ว แถมอาจารย์ก็โทรมารายงานผลกะแม่แล้ว  ผู้คนก็ยังรุมดูกันที่บอร์ด ไอ้โอลีฟ พอเห็นผมก็รีบฉุดไม้ฉุดมือ หัวเราะร่า

“ไข่ ไข่สอบติดนะ ไปดูสิ ดูยัง เราดูให้แล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า ดีใจด้วยนะ จะได้อยู่ด้วยกัน” แล้วก็เอามือทั้งสองจับหน้าผมปั่นไปปั่นมา
โอลีฟมันจะบ้าเปล่าเนี่ย หน้าผมไม่ใช่ถังปั่นไอติมนะ หมุนไปหมุนมาเดี๋ยวน็อตก็หวาน หัวหลุดมา คนอื่นได้รู้ว่าผมเป็นโรบอท อ่ะดิ  - -ฮา ไม่ใช่ครับ ผมเป็นคน

 ขณะกำลังร่าเริง แต่บนความร่าเริง ผมก็นึกถึงเพื่อนๆ ไอ้เปรี้ยวล่ะ ผมรีบดู ไม่มีชื่อมันอ่ะ โฮยน่าสงสารว่ะ มองหาอีกรอบ
ก็ไม่มี เจอแต่ เวสป้า ได้ที่ใกล้เคียงกะผมเลย ผมได้ ที่ 58 เวสป้ามันได้ 53 
พอมาดูพวกชื่อสำรอง ไอ้เปรี้ยวก็ไม่ติดอีก โอยสงสารมัน แล้วมันจะโดนพวกพี่มันด่าอีกไหมเนี่ย

พวกบรรดาพี่สาวมันก็ขี้บ่นจะตาย ผมเลยรีบจดว่าต้องทำอะไร เตรียมมอบตัวอย่างไร เดี๋ยวโทรไปบอกแม่จะได้ขอให้แม่ช่วยเรื่องโรงเรียนให้เปรี้ยวด้วย


TBC...........


 :pig4:
ขอบคุณที่ติดตาม
หัวข้อ: Re: เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง Ch.3((ต่อ)) (25/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 25-08-2012 12:16:31
Ch.3 ((ต่อ))


และแล้วก็ผ่านไปผมก็ได้เป็นนักเรียนของ ART R เต็มตัว เรื่องไอ้เปรี้ยว แม่ก็ช่วยฝาก ไอ้เปรี้ยวเข้าโรงเรียนที่นับว่าโอเคทีเดียวแถมอยู่ไม่ไกลบ้านมันด้วย

แล้วแม่ผมก็ให้ชวนพวกพี่โม่งพี่จุ๋ยพี่เซียน ไปกินข้าวเลี้ยงที่ผมสอบติด แต่พี่เซียนก็ไม่มา เกรงใจ เขิน ปล่อยให้พี่โม่งพี่จุ๋ยมา

พอพี่ๆแกแต่งสุภาพ ประกายความหล่อ ก็ปิ๊งๆ วิ๊งๆ แสบตานี๊ดๆ555

แม่ผมก็เลยคุยถูกคอ แม่เค้าก็อยากมีลูกชายอยู่แล้ว ยิ่งหน้าตาดีก็เข้าหูเข้าตา อย่างผมถึงหน้าตาดีน่ารัก แต่ไม่แมนตัวก็เล็ก
ให้ช่วยถือของก็จะกลายเป็นออกแนวรังแกเด็ก ข้าวโอ๊ตมันจะเป็นคนถือมากกว่า

พี่โอเค้าก็ยิ่งหมั่นไส้พี่โม่งใหญ่  พี่โม่งก็ยิ่งทำขวางหูขวางตาพี่ส้มโอ ตักกับข้าวให้แม่ ให้ผม ให้ข้าวปั้น
พอจะตักให้พี่ส้มโอมั่ง เค้ารีบปฏิเสธบอกตักเอง

พี่โม่งก็แอบอมยิ้มอีก ข้าวโอ๊ตมันเลยรับหน้าที่เซอร์วิสแมนให้พี่ส้มโอแทน  พี่จุ๋ยก็เล่าเรื่องตลกๆให้ฟัง ข้าวปั้นมันก็อ้าปากเหวอ หัวเราะคิกคัก 

วันนั้นเลยมีแต่พี่ส้มโอ นั่งหน้างออยู่คนเดียว เพราะโดน 2หนุ่ม มาแย่งซีน แย่งครอบครัวไปอ่ะ น่า น่า พี่โอ
พี่เค้ามาแป๊บเดียว เดี๋ยวเค้าก็ไปแล้วอ่ะ น้องๆยังรักพี่โอสุดสุดเหมือนเดิม

หลังจากเปิดเรียนวันแรก ผมอยู่ห้องเดียวกะโอลีฟ หมูแฮม เพื่อนใหม่ๆก็ดูดี มีชาติตระกูลหลายคน น่ากลัว เฮี้ยว แสบซ่าก็หลาย ปกติคนก็ประปราย ปฐมนิเทศเสร็จ  เหล่าปีหนึ่งก็เตรียมโดนรับน้อง

 ผมนะไม่เจอหน้าพี่โม่งเลย เจอแค่วันแรกอ่ะ วิ่งไปทักหวัดดี  พี่โม่งก็จับหมุนดูตัว คุยกันได้ไม่กี่ประโยค แล้วเดี๋ยวแกก็โดนอาจารย์เรียกไปทำโน่นทำนี่ 
พอวันอื่นก็ไม่เจออีกเลย  เดินเข้ามาในโรงเรียนก็เห็นแต่พี่เซียนบ้าง พี่จุ๋ยบ้าง  พวกรุ่นพี่ก็จัดแจงแจ้งให้ปีหนึ่งทั้งหลายไปค้างที่ต่างจว.เพื่อรับน้อง3วัน ซึ่งก็พอดีที่ไปตรงกับวันหยุดคร่อมเสาร์-อาทิตย์ ขณะกำลังคิดๆหนาวๆ ร้อนๆกะงานรับน้องของที่นี่

ตรืด ตรืด !!! ตามมาด้วย
นามาริ โนโซรา โอโมคุ ทะเรโคมิ
มาชิโร นิโยโดน ด๊า ไทอิโย โอก่า คุด๊า เคเททททททท

 “อ่ะโล” เสียงผมรับโทรศัพท์ แบบ ที่พี่โอบอกให้เปลี่ยนสไตล์การรับโทรศัพท์ซะที
มันก็แหม ออกจะเหมือนร้องเพลง  Numa Numa  Mai Ya Hee Mai Ya Hoo  Alo  ที่ดังดังออก

“ไข่ วันหยุดนี้ 3วันไปเกาะพะยอมไหม บ้านไอ้แต้มมัน”

“หื้อ..ว้า ที่โรงเรียนเค้าจัดรับน้องอ่ะ ดรีม ใครไปมั่งอ่ะ” ผมก็รู้ว่าวันชนกันแต่ก็อดถามไม่ได้ ฮือ น่าสนอ่ะ ไม่ได้เจอไอ้แต้มเลย
ตอนที่เรียน ช่วงหลังม.3นี่ ตกเย็น อยากคุยกันต่อ ก็ชวนกันไปทำข้าวไข่เจียวกินกันที่บ้านไอ้แต้มเพราะสะดวก มันอยู่คนเดียว น้ามันต้องกลับไปดูเรือหาปลา ถึงกับข้าวจะยากไร้สิ้นดี มีแต่ไข่เจียว แต่อร่อยสุดๆเพราะกินกับเพื่อนนี่แหล่ะ

“ไอ้พิงค์มันก็บอกจะไป มันบอกให้ไข่ไปให้ได้ด้วย มันจะเอากล้องถ่ายวีดีโอไปทำเอ็มวี 555 ไอ้เปรี้ยว ไอ้แร๊ฟ ไอ้รุ้ง ไอ้มิน ไอ้แต้มมันจะรอที่โรงเรียนเดิมอ่ะ8โมง แล้วไปขึ้นรถที่ เอกมัย ไข่ไปดิ แต้มบอกพาจะนั่งเรือออกไปกลางทะเลด้วย แต่ไม่ต้องบอกไอ้เปรี้ยวนะ ไอ้นี่มันขี้กลัว 555”

“ฮู๊ย..น่าหนุกอ่ะ อยากเจอไอ้แต้ม กับไอ้พิงค์” ไอ้พิงค์นี่สนิทกันตอนป.1-4 แล้วก็แยกกลุ่ม มาสนิทอีกทีตอน ม.1-2
ที่เริ่มวิ่งไล่ตามนักร้องดูคอนเสิร์ทฝรั่งด้วยกัน แล้วสนิทตรงเรื่องไปเลือกชอปปิ้งเสื้อผ้า ด้วย ไอ้พิงค์นี่มันตัวโตมาก สูง180 คงมีเชื้อฝรั่งด้วยอ่ะ

“อะไร ไข่ แล้วเราไม่อยากเจอเหรอ”

“โหย อะไร ดรีม นายกับเราอ่ะ นั่งรถเมล์ไปหา15ป้าย ก็ได้เจอกันแล้ว ไอ้สองคนนี้หาตัวยากจะตายมันนะแร่ดทั้งคู่”

“ห่านแก ไปว่ามัน แกไปนะ เดี๋ยวจะโทรบอกไอ้พิงค์เอง มันบอกว่าถ้าแกไปมันจะขนชุดไปให้แกใส่ถ่ายรูป”

“ไอ้บ้า คราวก่อนมันก็จับใส่ชุดส่าหรี แล้วยังเกลี้ยมกล่อมให้ตรูถ่ายนู้ดอีก เลวสิ้นดี 555”

“ช่วยไม่ได้นี่หว่า แกเสือกขาสวยตูดสวยกว่าผู้หญิงอีก”

เช้าวันนั้นมาถึง พี่ส้มโอมาเดินเข้ามาดูแล้ว สั่งให้เกาะกลุ่มกับเพื่อนๆไว้ ไม่ต้องแยกไปไหน
ผมออกมาแต่เช้าสะพายเป้ ใบย่อม ตอนออกนี่ผมก็ตัดสินใจไม่ได้หรอกว่าจะไปบ้านไอ้แต้มหรือเปล่า
ก็รับน้องมันก็หน้าที่หนึ่งเหมือนกัน เฮ้อ....


นี่ผมก็เอาของมาไม่มากหรอก แอบเอาของที่ป้านวลจัดให้ออกไปตั้งหลายชิ้น ผ้าพันคอเอยยาเอยเสื้อแจ็ตเก็ตกันแดดกันลมเอย..
โธ่...ป้านวล ไปทะเลนะ เพราะถ้าไป บ้านไอ้แต้ม เสื้อผ้าก็คงใส่ๆซักๆได้ ก็กางเกงขาสั้น กางเกงว่ายน้ำ แว่นกันน้ำ ผมติดแว่นกันน้ำไม่มีนี่ไม่ลงน้ำไม่อ่ะ ถ้าลืมก็ต้องขอไปซื้อใหม่

ไอ้ดรีม ผมก็รับปากว่าจะไป งานรับน้องผมก็บอกไอ้โอลีฟ กะเวสป้าว่าไปดิ แม่คงให้ไปอ่ะ เพื่อนเก่าผมก็อยากเจอ  ไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอกันเลยตั้งแยกย้ายกันไป อยู่กันมาตั้งแต่ประถมถึงม.3นี่นะ
  ไปรับน้อง ไปก็คงโดนแกล้ง เลอะเทอะแน่เลย ถึงจะขู่ว่าใครไม่ไปโดนซ่อมหนักแน่ พี่คงขู่ไปงั้นล่ะ อาจารย์ที่ไหนจะยอม

ผมนะมาลงรถอีกแค่เดินไป2ป้ายรถเมล์ก็ถึงโรงเรียนที่มีเพื่อนร่วมโรงเรียนรอกิจกรรมสนุกสนานอยู่
 แต่แล้วจู่จู่ ผมก็ตัดสินต่อรถไปที่สถานีขนส่งเอกมัย ผมก็อยากด่าตัวเองว่าทำไมผมช่างกล้าหาญแบบโง่ๆบ้าๆ เกิดมายังไม่เคยเดินทางไกลคนเดียว

ชีวิตที่เพิ่งพ้นจากเส้นทางบ้านไปโรงเรียนจะมีก็ ไปสยาม เวิร์ดเทรด  บ้านเพื่อน ก็ล้วนแต่มีคนไปด้วย

ผมโทรบอกดรีมว่าผมไปด้วย แต่มันก็บอกว่าออกกันมาแล้ว แล้วส่งให้ไอ้แต้มคุย มันเลยบอกให้ผมตามขึ้นรถที่เอกมัยตามมาบอกชื่อเกาะพะยอม ใครๆก็รู้จัก พอลงรถบัสแล้วก็จะมีรถสองแถวไปท่าเรือ  อยู่ใกล้ๆท่ารถบัส 

ท่าเรือไปเกาะพะยอม ใครๆก็รู้จัก เดี๋ยวพวกมันจะคอยผมที่นั่น

 บ้านไอ้แต้มมันเป็นเจ้าของท่าเรือฝั่งเกาะพะยอมเลย เสียงบรรดาเพื่อนไอ้แร๊ฟ ไอ้เปรี้ยวตะโกนสั่งให้ผมรีบตามมา ทำเอาผมยิ้มออก คิดว่าตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกมาเที่ยวกับเพื่อนเก่า แทนที่ไปถูกรุ่นพี่เอาสีมาละเลงหน้าตา


TBC....

หัวข้อ: Re: ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.3((จบ3)) (25/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 25-08-2012 13:21:59
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.4 (25/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 25-08-2012 15:16:27
Ch.4

05.05 น.

ขณะที่โม่งนอนหลับสนิทอยู่ที่บ้านพักชายทะเลของหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งทางโรงเรียนขอมาจัดค่ายรับน้อง

ตรืด ตรืด ตามด้วยเสียงเพลงเรียก ทำให้โม่งต้องรีบรับสายก่อนจะมีใครหลายคนตื่นมาอวยพรให้

“ฮัลโหล พี่โม่งเปล่าฮะ” ประโยคแรกจากเสียงในมือถือ ฟังดูเครือๆมีเสียงสะอื้นตามมา

“ฮื่อ ใครน่ะ”เสียงโม่งตอบอย่างงัวเงีย ด้วยความสงสัย มองชื่อที่มือถือ

”อ้อไขเหรอ มีอะไรเหรอ” นี่มันเพิ่งจะตี5เอง เกิดอะไรขึ้นน่ะ ลูกศิษย์ตัวน้อยที่เขาติวให้จนได้มาเป็นรุ่นน้อง
 ถึงได้โทรมาหาเขาในเวลาอย่างงี้ ชักเริ่มรู้สึกไม่ดีแล้วดิ 
แล้วนี่เขาก็อุตส่าห์มาร่วมงานรับน้องหวังว่าจะมาช่วยดูให้เผื่อจะถูกพวกปี2ปี3แกล้ง เพราะเห็นว่าน่ารัก แต่ก็กลับไม่เห็นมา

“พี่ พี่โม่งมารับไขได้ไหมฮะ ไข..ไขถูกข่มขืนนะฮะ ฮึก ฮึก” เสียงบอกเล่าจากปลายสาย ทำเอาโม่งถึงกับหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง โม่งลุกขึ้นนั่งพลางเริ่มใช้เท้าเขี่ยไอ้เอกที่นอนอยู่ข้างๆ ให้ตื่น

“ไขอยู่ที่ไหน ตอนนี้เราอยู่ไหน!!!” โม่งถามด้วยเสียงเคร่งเครียด คิดว่าต่อให้ไกลแค่ไหน เขาก็จะไปรับฟ้าใสกลับมาให้ได้
เรื่องนี้มันบ้าหรือเปล่า เขาฝันไปหรือเปล่า ตรูยังอยู่ในความฝันหรือเปล่าว่ะ เขาชักไม่แน่ใจ ตบๆหน้าตัวเองก็รู้สึกนี่หว่า

 เสียงปลายสายที่ยังสะอึกสะอื้น มีเสียงตะโกนเร่ง บอกสถานที่เข้ามาให้ได้ยิน “บอกให้มารับที่ป้ายรถ แยกท่าบ้านลี่ ตรงกม.8 นะ เร็ว”

เรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องล้อเล่น  อย่างเด็กฟ้าใส คงไม่ทำอย่างนั้น ถึงต่อให้ตอนนี้เป็นช่วงรับน้องก็คงไม่มีใครมาบอกให้ทำเรื่องบ้าๆเล่นแผลงๆกับเขา

“ไข ว่าไง เราอยู่ไหน บอกมาสิ” โม่งกระวนกระวายใจ

“บอกให้มารับที่ป้ายรถ แยกท่าบ้านลี่ ตรงกม.8 นะ เร็ว” มีเสียงตะโกนลอยมาบอกสถานที่ย้ำอีกที

“พี่โม่งมารับไขที่ตรง มันเป็นศาลารอรถอะ ไขก็ไม่รู้จัก มันบอกว่า แยกท่าลี่ ตรงกม.8 ไขอยู่ ....ที่จว.....อ่ะพี่โม่ง
 ไขหนีรับน้องอ่ะ ไขตามเพื่อนจะไปเที่ยวเกาะพะยอมอ่ะพี่ ฮึก ฮึก”

โม่งฟังแล้วค่อยถอนหายใจเฮือกใหญ่ อย่างน้อยก็จังหวัดเดียวกัน แล้วยังไม่ไกลมาก โม่งตั้งสติ

“เออ เออ ไขใจเย็นๆนะ” โม่งปลอบใจแต่ก็เหมือนปลอบใจตัวเองมากกว่า “ไอ้เอกลุกขึ้นเร็ว” โม่งรีบปลุกเพื่อน

“ไข เด๋วพี่จะรีบไปรับนะอยู่ตรงนั้นนะ ใครชวนไปไหนก็ไม่ต้องไปนะ พี่ก็อยู่ที่จังหวัดเดียวกันที่แหล่ะมารับน้อง แล้วก็ไม่เห็นเรามา”

“พี่โม่ง มันจะเอามือถือไขไปด้วยอ่ะ” สัสสสส โม่งสบถ เมื่อได้ฟังฟ้าใสบอกมา

“ไขขอซิมมันไว้นะ อย่างไงก็ค่อยไปขอชาวบ้านหรือขอคนอื่นใส่มือถือเขาก็ได้ จะได้ติดต่อกันได้” โม่งรีบคิดรีบพูด
 อย่างกลัวว่าจะหาทางติดต่อกับฟ้าใสไม่ได้ เกิดจำเบอร์เขาไม่ได้ แล้วจะติดต่อกันอย่างไง

“พี่ มันจะเอามือถือไขไปแล้วอ่ะ”

“เออๆ พี่จะรีบไปหา ป้ายรถแยกท่าบ้านลี่ กม.8นะ รอ30นาทีนะ ไขเป็นไรมากหรือเปล่า อื่อ อื่อ พี่ไม่ถามแล้วรอตรงนั้นนะ...” โม่งหยุดถามทันทีเมื่อได้ยินคนปลายเสียงสะอึกสะอื้น

เสียงโทรศัพท์ก็ตัดไป จากนี้เขาคงติดต่อกับลูกศิษย์ตัวน้อยของเขาไม่ได้อีกจนกว่าจะไปถึงสถานที่ที่บอกไว้

โม่งรู้สึกเจ็บปวดหัวใจขึ้นมาทันที เด็กที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน เด็กที่เพิ่งจบม.3 อายุก็คงซัก 15 เด็กผู้ชายที่นุ่มนิ่มเหมือนผู้หญิง
 ถูกเลี้ยงก็เหมือนผู้หญิง อยู่ก็อยู่กับแต่ผู้หญิง เขาจำวันแรกที่รู้จักกันได้ดี เห็นฟ้าใส ทีแรกเขาก็นึกว่าอาจารย์ อำเขาเล่น
บอกว่าให้มาสอนเด็กผู้ชายแต่ก็แค่เป็นเด็กผู้หญิงที่ทำทางเป็นทอมมากกว่า นึกฟังเสียงตอนแรก เขาก็ยังไม่แน่ใจ
เสียงก็ยังเล็กๆใสๆพอดูท่าทาง แอบดูหน้าอกที่ไม่มีฐาน  ดูลูกกระเดือกที่มีให้เห็นอยู่นิดๆแล้ว เขากับเพื่อนถึงรู้ว่าเป็นเด็กผู้ชายแน่

โม่งรีบถีบเพื่อนให้ตื่น โชคดีที่เขาคิดมางานรับน้องถึงแม้เมื่อวานพอมาถึงเขาก็ไปเดินๆดูถึงได้รู้ว่าเด็กฟ้าใสไม่มายังคิดว่าอาจจะโดนพี่สาวจอมหวงไม่ให้มา
ที่ไหนได้กลับแอบตามเพื่อนไปเที่ยวจนเกิดเรื่องขึ้นจน เด็กเอ๊ย...จะเป็นมั่ง จะยับเยินแค่ไหน เขาไม่อยากคิด

สัสสเอกเร็วเข้าเอารถออกไปรับน้องกรูหน่อย ด่วนเลย ที่..... เขารีบเร่งเพื่อนที่ยอมตื่นแล้วกำลังทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ

เอกรีบชะโงกหน้าออกมาถาม “ด่วนขนาดไหนว่ะเมริง เร่งกรูจัง เกิดอุบัติเหตุ ตีกัน หรือไรว่ะ”

“เชรี่ย ไม่ต้องถามแต่แรงแล้วกันว่ะ น้องกรู เด็กอยู่ด้วย”

“เออ เออ ไม่ถามแล้ว” เอกดูแล้วคงเป็นเรื่องไม่ดีแน่ เพราะกว่าพวกเขาจะผ่านมาถึงทุกวันนี้ ก็พบเห็นเรื่องอะไรมาก็มากมายแล้ว เอกรีบสตาร์ทรถ โม่งก็รีบคว้าผ้าห่ม ติดมือไปด้วยแล้วก็เลยคว้าเอาเป้ของตัวเองไปด้วยเลย โม่งเองมันก็ไม่เคยทำเรื่องไร้สาระกวนให้เพื่อนช่วย เรื่องนี้คงหนักพอที่ทำเจ้าตัวต้องรีบแจ้นออกไปตั้งฟ้ายังไม่สาง

เอกนั้นธรรมดาก็ขับรถเร็วจนเป็นรู้กัน โม่งถึงได้ยอมรบกวนเพื่อนทั้งถีบทั้งเขี่ยให้ตื่นมาส่งเขาให้ได้ แค่16นาที จากบ้านพักที่ค่ายรับน้อง พวกเขาก็มาถึงยังจุดที่บอก ที่โม่งพยายามบันทึกลงสมองอย่างไม่ยอมให้ผิดพลาด รถของเอกก็ไฮเทคพอติด จีพีเอส สถานที่จึงปรากฏไม่ผิด ถนนก็ยังโล่ง ขนาดเร็วกว่าเวลาที่คิดไว้ โม่งก็ยังคิดว่าโคตรนานสำหรับที่ปล่อยให้เด็กอย่างไขต้องอยู่คนเดียว

ทันทีที่โม่งเริ่มเห็นสถานที่ที่บอกไว้ปรากฏแก่สายตา จิตใจก็เริ่มสั่นไหวคลอนแคลน นึกภาวนาอย่าให้เป็นอะไรมาก

โม่งให้เอกจอดที่หน้าศาลา พลางบอก “เมริงช่วยถือซะว่า เมริงไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลยล่ะกัน กรูขอร้องล่ะว่ะ”

“สัส เมริงพูดเรื่องอะไรว่ะ กรูไม่เข้าใจ กรูน่ะตาบอด หูหนวกตั้งกะเมริงถีบกรูตื่นเนี่ย เมริงรีบลงไปเลย”

“สัส ขอบใจว่ะเอก” โม่งรีบคว้าผ้าห่มออกไปหาร่างที่นั่งขดตัวคุดคู้บนแผ่นกระดานที่นั่งในศาลา

“ไข” โม่งส่งเสียงเรียกฟ้าใสเบาๆ ด้วยกลัวจะทำให้ตกใจ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะเผลอหลับไปแน่ๆ

โม่งจึงเอื้อมมือไปแตะไหล่เบา ร่างเล็กๆถึงกับสะดุ้งผวาเขยิบหนีทันที  โม่งรีบเรียก
“ไข นี่พี่โม่งเอง ไปกันเถอะ พี่มารับแล้ว” 

ทันทีที่ฟ้าใสเห็น เขารีบผวาเข้าเกาะเข้ากับอก กระเป๋าที่เจ้าตัวกอดไว้หล่นพื้นอย่างลืมไปสนิทว่ากอดแนบอกไว้อยู่ โม่งก้มมองร่างเล็กที่ก้มหน้าก้มตาสะอึกสะอื้นอยุ่กับอกตัวเอง พลางนึกไปที่บ้าน คนทางบ้านของร่างเล็กๆนี้
โม่งเอาผ้าห่มคลุมร่างเล็กแล้วก้มหยิบเป้ที่ตกอยู่กับพื้น มือเล็กมีรอยยุงกัดเป็นจุดแดงๆเต็มไปหมดกำเสื้อเขาแน่นเขาจึงช้อนตัวอุ้มฟ้าใสเดินไปที่รถ
 พอถึงรถก็ยังเกาะเขาอยู่อย่างงั้นจนต้องบอกว่า ไขเข้ารถก่อน จึงยอมปล่อยมือข้างหนึ่งให้ตัวเองเข้าไปนอนขดตัวก้มหน้างุดๆใต้ผ้าห่ม แต่มือหนึ่งก็ยังกำเสื้อเขาไว้แน่น
 “งั้นกระเถิบหน่อยขอพี่นั่งด้วยคน” ร่างเล็กใต้ผ้าห่มกระเถิบดุกดิกไปชิดประตูอีกข้าง โม่งเลื่อนตัวเข้าไปนั่ง ร่างเล็กใต้ผ้าห่มรีบกลับตัวมานอนหนุนตักเขาทันที

โม่งเอื้อมไปลูบศีรษะ ร่างเล็กใต้ผ้าห่มขยับตัวเบียดกับขาเขาเพิ่มขึ้น โม่งสังเกตว่าอาการสะอึกสะอื้นหายไปแล้ว เขาโน้มตัวไปบอกเอกที่นั่งข้างหน้าไปโรงพยาบาล หรือคลินิกก็ได้ เอกจึงใช้จีพีเอสค้นหาและเริ่มออกรถ


TBC….


 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.4 (25/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 25-08-2012 16:31:21
เฮ้ออ สงสารก็สงสาร
อยากสมน้ำหน้าก็อยาก ที่ทำอะไรไม่คิด
ไม่อยากจะโทษใคร แต่พวกเพื่อนๆก็มีส่วนผิด
ชวนกันไปเที่ยว แต่ทำไมไม่รอให้ครบคนแล้วค่อยไปพร้อมกัน

รอตอนต่อไปนะจ้ะ

ปล. +1แถมเป็ดให้กับคนแต่ง
หัวข้อ: Re: ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.4 (25/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 25-08-2012 20:37:26

(ต่อ)

โม่งช้อนตัวร่างเล็กมาไว้กับอก กระซิบถามเบาๆ

“ไข เราเป็นอะไรมากหรือเปล่า บาดเจ็บตรงไหน โดนมันทำร้ายหรือเปล่า” เขาถามไปก็แทบไม่อยากเชื่อว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นจริงๆ
 เพราะภาพที่ผ่านมาของเด็กชาย มีชีวิตที่แวดล้อมไปด้วยคนที่รักเอ็นดูอบอุ่น แต่ตอนนี้ที่เขามาเจอ กลับต้องมานั่งคุดคู้คนเดียว
ที่ศาลาข้างถนนในจังหวัดที่ตัวเองไม่รู้จักเลย

โอย ทำไมเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ไง เขายังอยากคิดว่านี้เป็นความฝัน
และโม่งก็ขอให้เขาตื่นขึ้นแล้วไอ้เรื่องที่เขามานั่งอุ้มร่างเล็กๆนี้มันเป็นฝันร้ายเรื่องหนึ่งเท่านั้น

โม่งเอามือพยายามเปิดผ้าห่มที่เจ้าตัวคลุมปิดหน้าปิดตาไว้  ดูแล้วเจ้าตัวก็ไม่ขัดขืนเพียงก้มหน้าอยู่กับอกเขาไม่เงยหน้าไม่ยอมสบตา

“ไข มีบาดแผล เจ็บตัวตรงไหนหรือเปล่า มันทำร้ายไขหรือเปล่า” ถามไปแล้วก็สะเทือนใจเหมือนกันยิ่งคิดว่า ร่างนี้โดนทำอะไรมาบ้าง

ก็ข่าวพวกนี้มีออกมาแทบทุกวัน ยิ่งมาเจออย่างฟ้าใสที่ถึงแม้จะเป็นเด็กผู้ชายก็เถอะแต่ก็หน้าตาสะสวยผิวขาวเนียนละเอียด
 ปากแดงๆ แก้มใสๆผมหยักศกนุ่มสลวย โม่งเอามือลูบศีรษะเกลี่ยผมนิ่มเบาๆ เนื้อตัวก็นุ่มนิ่ม ถึงจะตัวเล็กๆแต่ก็ไม่ใช่ประเภทผอมจนซี่โครงบาน ก็ที่เขาสังเกตตอนที่ได้ใกล้ชิด มือที่จับดินสอ พู่กัน ถึงจะเล็กๆเรียวแต่ก็ไม่มีเส้นเอ็นผุดมาให้เห็นเลย

โม่งเองก็เคยมีแฟนเป็นผู้หญิง และก็เคยมีอะไรกับพวกสาวดุ้นที่มาตื้อจนใจอ่อน ยอมจัดให้ไปบ้าง เขาก็นึกภาพออกว่าร่างเล็กนี้คงโดนทำอะไรบ้าง เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะเสียหายยับเยินแค่ไหน

“ไข ไปหาหมอกันนะ” โม่งกระซิบที่ข้างหู ที่แก้มขาวมีรอยบวมแดงจากการถูกทำร้ายอยู่เลย

ฟ้าใสส่ายหน้า เขาไม่อยากไปหา ไม่อยากให้ใครมาเห็นร่างกายอะไรของเขาทั้งนั้น เขาเองยังขยะแขยงเมื่อคิดถึงสิ่งที่เขาเจอ เขาเกลียดการบังคับข่มขู่
 ทำไมเขาต้องมาเป็นเบี้ยล่างให้มันทำอะไรกับเขา อย่างพี่ส้มโอถึงบอกให้เขาทำโน่นนี่ แต่พี่ส้มโอรักเขา

“ไข ต้องไปหาหมอนะ เราต้องให้หมอตรวจดูด้วยว่ามันจะอักเสบหรือมีเชื้อโรคหรือเปล่า พี่จะอยู่กับไขเอง” โม่งพยายามเกลี้ยกล่อม ลูบหัวลูบหลังปลอบใจไปด้วย

“ไขไม่อยากให้แม่ให้พี่ส้มโอรู้ ฮึก ฮึก” พอเอ่ยนึกคนที่บ้าน ร่างเล็กๆก็เริ่มสะอึกสะอื้นอีกครั้ง

“ไม่หรอกเดี๋ยวพี่พาไปหาหมอแถวนี้ พี่เป็นญาติให้เอง เด๋วพี่บอกหมอให้ปิดเป็นความลับให้นะ”

“อื้อ..” ฟ้าใสเลยยอมพยักหน้า เพราะเขาเองก็กลัว ข่าวเรื่องคนเป็นเอดส์ โรคนู้นโรคนี้ ก็พอได้ยินได้ฟังมา เขาก็นึกว่าถ้าเขาไปติดจากไอ้บ้านี่ เขาจะทำอย่างไง

 ถ้าเขากลับบ้านไปแล้วเขาจะพาเชื้อโรคไปติดข้าวโอ๊ต ข้าวปั้น พี่โอ แม่ หรือเปล่า เขาจะปฏิเสธได้ไงถ้าต้องกินไอติมช้อนเดียวกับข้าวปั้น ที่ชอบมาขอกินถ้วยเดียวกับเขาประจำ
 ถ้าไม่กลับไปอยู่บ้านแล้วเขาจะไปอยู่ไหน ต่อให้เขาอาบน้ำล้างตัวไปเท่าไหร่ เชื้อโรคมันหายไปจากตัวเขาหมดจริงหรือเปล่า

“โม่ง เมริงจะเอาโรงพยาบาล หรือ สถานีอนามัย หรือคลินิกว่ะข้างหน้านี้จะมีสถานีอนามัย ว่ะ”

“เอาโรงบาลเลยดีกว่า มีโรงบาลของเอกชนไหมว่ะ ไม่อยากยุ่งทำประวัติว่ะ พวกคลินิกก็ยังไม่เปิดด้วย นี่เพิ่งตี5 กว่ายังไม่6โมงเช้าเลย”

“มี มี ไม่ไกลว่ะ โรงบาลเอกชนด้วย เด๋วกรูขับให้แปบเดียวถึง” เอกเร่งเครื่องเมื่อรู้จุดหมาย

พอถึงโรงพยาบาลเอกชนที่ดูหรูหราเหมือนเพิ่งสร้างใหม่ ขนาดไม่ใหญ่โตเหมือนอย่างในกรุงเทพฯ คงสร้างเพื่อรับรองนักท่องเที่ยวและคนที่มีฐานะดี

ทันทีรถจอดสนิทก็มีคนมาเปิดประตูพร้อมบริการเก้าอี้รถเข็น โม่งขยับจะอุ้ม แต่ฟ้าใสก็จะลงเอง แต่พอเห็นมีคนอื่นรอที่ข้างนอกรถ
เจ้าตัวเลยเริ่มเกาะเข้ากับตัวโม่งอีกทันที โม่งเลยอุ้มลงไปแทน หนักน้อยกว่ากระสอบดินที่เขาต้องคอยมาเอาเทในโรงปั้นให้ไอ้พวกเพื่อนในห้องซะอีก โม่งคิด

พอลงไปแล้ว เอกก็เลื่อนรถไปเข้าที่จอด โม่งก็รีบจะเดินไปแจ้ง เจ้าหน้าที่เลยบอกให้เขาเอาคนป่วยนอนบนเตียงไปก็ได้ พยาบาลก็เดินมาสอบถามอาการ เขาก็ไม่อยากพูด คำว่าถูกข่มขืนให้แสลงหู ฟ้าใสได้ยินอีก เลยบอกว่าน้องผมถูกทำร้ายมา
 แต่พยาบาลเมื่อให้สีหน้าของเขาก็ดูเหมือนจะเข้าใจ มือข้างหนึ่งของฟ้าใสที่ยังคงยึดเสื้อเขาไว้แม้กำลังจะถูกเข็นไปที่ห้องฉุกเฉิน เขาจึงต้องปลอบว่าเดี๋ยวพี่ตามไป เพื่อบอกอาการกับพยาบาลก่อน ร่างเล็กที่ขดตัวใต้ผ้าห่มจึงยอมปล่อยมือจากเสื้อเขา
หลังจากบอกรายละเอียดและให้ใช้ชื่อเขาเป็นคนไข้ หมอก็ตรวจ รักษาบาดแผลและเช็คเลือด โชคดีที่มีร่องรอยการฉีกขาดเล็กน้อย แล้วก็รอยยุงแมลงกัด ปากบวมเจ่อปากแตกเล็กน้อย รอยฟกช้ำตามร่างกายบ้าง มีฉีดยาบำรุงให้ ยาแก้อักเสบ ติดเชื้อ กันไว้ก่อน โม่งที่สอบถามอาการแล้วก็มานั่งคอยอยู่ข้างนอก เอกก็เดินมาสบทบ

“แล้วเมริงจะทำไงต่อ” เอกมองเพื่อน ที่ทำหน้าเครียดๆ

“เฮ้อออ...กรูก็ไม่รู้ว่ะต้องถามเจ้าตัวด้วย เอากลับไปที่ค่ายรับน้อง เพื่อนมันก็คงผิดสังเกตแน่ เด็กก็ไม่อยากให้ที่บ้านรู้ นี่ก็ยังไม่ได้เล่าว่าเป็นไงมาไง ถึงได้เกิดเรื่อง ตัวพี่สาวนี่หวงยังกะเป็นลูกตัวเอง”

“อะไรว่ะ แล้วทำไมถึงหลุดมาเกิดเรื่องได้”

“เฮ้อ...นั่นนะดิว่ะ” โม่งพูดแล้วก็ต้องถอนใจเฮือกใหญ่

“แล้ว เมริงรู้จักน้องเค้าได้ไง เป็นอะไรกะเมริงว่ะ” เอกถามไปก็มองเพื่อน เขาก็รู้จักโม่งดีคบกันในกลุ่มก็ไม่เคยเห็นฟ้าใสมาก่อน
น้องนุ่งไอ้โม่งเขาก็รู้จัก เคยไปบ้านนอนบ้านโม่งก็เคย น้องโม่งก็มีแต่เด็กผู้ชายตัวโตๆล่ำไม่แพ้มัน
ไม่เห็นมันมีญาติหน้าตาน่ารักตาแป๊วอย่างที่เขาแอบมองเห็นซักกะคน หรือว่าเป็นเด็กที่เขาได้ยินว่าเมื่อเดือนก่อน
ที่อาจารย์โก้ขอให้โม่งที่ดูเรียบร้อยที่สุด เอาการเอางานที่สุด ก็มันเป็นหัวหน้าห้องนี่นา ไปช่วยติวให้ลูกชายของอาจารย์ที่อาจารย์นับถือ
 แต่หน้าตาอย่างเมื่อกี้ มันเด็กผู้หญิงนี่หว่า พอถามไปแล้ว เอกก็พบหน้าเพื่อนก็แสดงความลำบากใจ เลยพูดว่า

“เออ ไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูดหรอกว่ะ กรูบอกแล้วไงว่า กรูตาบอด หูหนวก ความจำเสื่อมอีกต่างหาก
อ้าวเอ๊ย...ไอ้เชรี่ย!!!เมริงเป็นใครว่ะมานั่งข้างกรู” เอกทำเป็นสะดุ้ง แกล้งทำอารมณ์ขันแหย่เพื่อนที่นั่งหน้าเครียด

“ห่าน เมริงไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ว้า..กรูรู้ กรูไว้ใจเมริงได้” โม่งตบบ่าเอก

“เออ เมริงไว้ใจกรูได้ กรูรู้อะไรควรไม่ควรน่า” เอกยิ้มปลอบใจเพื่อน

สักพักพยาบาลก็เรียกเขาเข้าคุยที่ห้องจึงพบว่าฟ้าใสนอนอยู่ที่เตียง สีหน้าตาดีขึ้นแม้ว่าจะมีรอยคราบน้ำตาอยู่
หมอก็บอกว่ารอผลตรวจเลือดอยู่ และให้ยาคลายเครียดกับคนไข้ไปด้วย ระหว่างนี้ก็ให้นอนพักไปก่อน สักชั่วโมงหนึ่ง
 พอผลตรวจเลือดออก ถ้าไม่มีอะไรก็กลับบ้านได้

โม่งเดินไปที่เตียงซึ่งฟ้าใสนอนสลึมสลืมเอามือลูบศีรษะเบาๆ เจ้าตัวจึงลืมตา ยิ้มให้เขินๆไม่ค่อยกล้าสบตาแล้วก็แอบเอื้อมมือมาจับเสื้อเขาไว้ โม่งเลยเอามือไปกุมมือเล็กนั่นไว้เอง

“เป็นไงบ้าง” โม่งเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

“ขอบคุณนะฮะ ที่มารับไข” ฟ้าใสเอ่ยขอบคุณพี่โม่งผู้เป็นที่พึ่งที่เขานึกถึงในสถานการณ์อันเลวร้ายนี้

 “หิวน้ำไหม” โม่งก้มลงไปพูดใกล้ๆ เมื่อได้ยินเสียงเล็กๆที่เคยแจ่มใสกลับกลายแหบแห้ง

ฟ้าใสส่ายหน้า ตอบกลับว่า “ไม่อ่ะพี่โม่ง ขอบคุณนะฮะ ที่มาช่วยไข” ไขเอ่ยย้ำอีก น้ำตาก็เริ่มมาคลอตาโตๆแป๊วแหววอีก

“แหม พี่ว่าจะขอน้ำเกลือสักถุง2ถุงจากคุณหมอให้ไขสักหน่อย ว้าไม่หิวน้ำเหรอ” โม่งกลัวไขจะเข้าสู่โหมดรันทดอีก
 จึงพยายามแหย่ เล่นเอาเจ้าตัวทำตาโตกลัวโดนเจาะแขนให้น้ำเกลือ

“โห พี่โม่งใจร้าย งั้นขอเป็นโค้กไม่ได้เหรอ” พูดแล้วฟ้าใสเริ่มกลืนน้ำลาย ก็ตั้งแต่มื้อสุดท้ายที่ทานจากท่ารถบัส
 ก็บ่ายของเมื่อวาน เขาก็ไม่ได้แตะต้องอาหารหรือน้ำอีกเลย

คุณหมอที่สังเกตอาการ จึงให้พยาบาลเอาน้ำมาให้ โม่งก็ปล่อยให้ฟ้าใสนอนพักผ่อน
พอผลตรวจเลือดออกมา ทุกคนก็โล่งใจ ที่ทุกอย่างปกติ ทั้งพยาบาลและหมอเองก็ลุ้นเอาใจช่วย เมื่อรู้ว่าฟ้าใสโดนทำอะไรมา ยิ่งพยาบาลก็ยิ่งสงสาร พูดให้กำลังใจให้ฟ้าใสฟื้นตัวทั้งกายและใจ

เอกขับรถออกจากโรงพยาบาล โดยที่เขาก็ไม่รู้ว่าจะให้ขับไปไหน เลยคิดเอาเองว่าไปแถวชายทะเลออกแล้วกัน
จึงพามาจอดแถวรีสอร์ทที่เขาเคยมาใช้บริการพักกับครอบครัว มีร้านอาหารริมทะเล และถ้าคิดจะพักที่นี่ก็จะได้พักไปก่อนสักคืน

เอกเดินไปจุดบุหรี่สูบที่อื่น ปล่อยโม่งและฟ้าใสได้คุยกัน


TBC.....
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.4((ต่อ)) (25/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 25-08-2012 21:10:24
แจกเป็ดให้กับคนแต่งที่แสนขยัน
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.4((ต่อ)) (25/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 25-08-2012 23:04:12
ขอบคุณ คุณmentholss ที่เป็นกำลังใจว่ามีคนติดตาม
แหะ แหะ บ้ายอด้วยอ่ะ ชมว่าขยัน เลยรีบเอามาลงให้อีกตอน
เป็นมือใหม่หัดโพส ต้องตัดคำตัวหนังสือ เลยค่อยๆทำ
แต่งไว้1/3เรื่อง ถึงค่อยกล้าเอามาลง กลัวว่าหมดสต็อกแล้วจะลงช้าหรือแต่งไม่ออก
ผิดพลาด มีอะไรไม่ดีไม่งาม ช่วยปิดหูปิดตานะฮ๊าฟฟฟฟฟฟฟ จุ๊ฟ จุ๊ฟ รักคนอ่าน
 :3123:  :L1:  :pig4:


((ต่อ จบ ch.4))



“ไข พอจะพูดได้หรือยัง เล่าให้พี่ฟังได้ไหม มีอะไรก็อย่าเก็บไว้คนเดียว ถือว่าพี่โม่งเป็นพี่ชายไขอีกคนนะ” โม่งเริ่มรู้สึกตัวว่า
ตัวเองรักและเป็นห่วงฟ้าใสเหมือนเป็นเด็กเล็กๆเป็นน้องน้อยของตัวเองเข้าแล้ว ถึงได้เริ่มเข้าใจแล้วล่ะที่พี่สาวจอมหวงนักหนา
คงรู้สึกอย่างไง โม่งเอาแขนโอบไหล่กอดร่างเล็กให้อิงกับอกตัวเอง

ฟ้าใสสูดลมหายใจเข้าปอดลึก หลับตา เขานิ่งคิด การตัดสินใจ คิดง่ายๆแต่ถึงแต่ตัวเอง อยากเที่ยวอยากสนุกสนานกับเพื่อน
ความคิดบ้องตื้น บ้าสิ้นดี โกหกแม่โกหกพี่ส้มโอทั้งที่พี่ส้มโอก็เคยห้ามก็เคยเตือนให้อย่าไว้ใจคนอื่น ความผิดของเขาเอง

 เขาจะต้องรับมันไว้เองและจะไม่ให้ความผิดนี้ทำลายครอบครัวหรือทำลายชีวิตฟ้าใสของทุกๆคนได้ เขาจะต้องเป็นฟ้าใสของ
พี่โอของแม่ของป้านวลของข้าวโอ๊ตข้าวปั้น

“พี่โม่ง ฟ้าใสไม่เป็นไรหรอกฮะ ตอนนี้ฟ้าใสก็ยังไม่ตาย เมื่อคืนไขก็คิดว่าไขจะต้องตายหรือเปล่า แค่นี้ไขก็คิดว่าไขโชคดีมาก
แล้วล่ะฮะ ที่เจอเท่านี้อ่ะ นี้คงเป็นบทเรียนให้ไขจำ แต่ไขจะไม่ยอมให้มันมาทำลายชีวิตไขได้หรอกฮะพี่โม่ง” ฟ้าใสกล่าวด้วย
เสียงหนักแน่น แม้จะออกเครือๆเหมือนมีก้อนบางอย่างจุกในกลางอก โม่งลูบหลังคนที่นั่งอิงเขาอยู่ ฟ้าใสสูดหายใจเข้าแล้วเริ่มเล่า

“เพื่อนไขที่โรงเรียนเก่าบ้านเขาอยู่ที่เกาะพะยอมพอมีวันหยุดยาวเลยชวนกันไปเที่ยว ไขก็อยากไป แต่ก็ตรงกับงานรับน้องพอดี ไขก็ขอแม่มาแล้วก็ว่าจะไปงานรับน้อง ไขก็ยังไม่ตัดสินใจว่าจะไปกะแก๊งค์เพื่อนเก่าหรอก  พอไขก็ไปเกือบถึงโรงเรียนแล้ว
 ไขดันเปลี่ยนใจอยากสนุกกับเพื่อนเก่าเลยนั่งรถตามไป พระเจ้าคงลงโทษไขน่ะ พี่โม่ง” ฟ้าใสพูดด้วยเสียงเศร้าๆ

“ไม่ใช่หรอก ท่านไม่ใจร้ายกับไขหรอก เพียงแต่โลกนี้มันมีทั้งคนดีคนเลวน่ะ อย่าโทษตัวเองเลย”

“เพื่อนก็บอกให้ไขมาที่ท่าเรือ พอไขมาถึงมือถือก็ใช้ไม่ได้ มาเจอไอ้คนเลวนั่นมันจะพาไขไปส่งที่ท่าเรือ แล้วมันก็ขับวนไปวนมาจนมืดพาไขไปพักที่โรงแรมเล็กๆ แล้วมันก็...ข่มขืนไข”เสียงเล็กขาดเงียบไป โม่งถอนหายใจ กอดร่างน้อยไว้

“ไขร้อง มันก็ตบหน้าไข” ฟ้าใสเล่ามาถึงตรงนี้น้ำตาที่เหือดแห้งไปก็ทะลักออกมาอีก โม่งคิดว่ายอมให้ฟ้าใสเล่าให้เขาฟังแล้วปลดปล่อยความรู้สึกออกมาให้หมด ดีกว่าจะไปทุกข์ใจเก็บไว้คนเดียว

“ไขระบายออกมาให้หมดเถอะ อย่าไปอัดอั้นเก็บไว้คนนะ” โม่งเอามือปาดน้ำตา แล้วจับหน้าฟ้าใสเงยขึ้นให้สบตาตัวเอง

“ไขมีพี่โม่ง ไขยังมีคนที่รักไขมากมาย คนที่มีความสุขเมื่อเห็นไขมีความสุข” โม่งจูบที่หน้าผากเนียนเบาๆ

“ไขขยะแขยงมันมาก แต่ก็ต้องทน ไขกลัวมันทำร้ายไข กลัวว่าถ้าไขตาย แม่ไขจะต้องเสียใจ แม่ต้องร้องไห้ แม่เสียใจที่พ่อไข
ตายไปแล้ว ไขไม่อยากให้แม่เสียใจว่าไขต้องตายไปอีก ไขทนได้ ไขยอมให้มันทำอะไรกะไขก็ได้” โม่งเพิ่งรู้ว่าภายใต้ร่างที่ดู
อ่อนนุ่มนิ่ม ดูว่าได้รับการพเน้าพะนอจากรอบข้าง ทุกอย่างมีคนจัดหา ไปโรงเรียน เล่น กิน กลับมีความคิดไปนึกผู้ใหญ่ด้วย
 เรื่องราวที่เหลือก็คงเป็นที่มันเอาไขมาส่งที่ป้ายรอรถ แล้วก็คงเอามือถือทั้งเงินของฟ้าใสไปด้วยล่ะ เค้าแอบเปิดดูในเป้
เด็กเอ๊ยเด็ก ในนั้นมีแต่กางเกงขาสั้นกางเกงว่ายน้ำกางเกงใน หนังสือการ์ตูน2เล่ม แว่นว่ายน้ำเสื้อยืดเสื้อเชิ้ต กระเป๋า
ชุดอุปกรณ์อาบน้ำ กระเป๋าตังก็ยังเป็นรูปการ์ตูน มีเศษแบงค์20อยู่ใบเดียว กับเปลือกแมนทอทที่กินไปแล้ว

“แล้ววันนี้เราจะเอาไงกันดี” เขาเอ่ยเหมือนจะปรึกษาคนตัวน้อยที่อยู่ข้างๆกึ่งพึมพำกับตัวเอง ลูบหัวคนตัวเล็กเบาๆอย่างปลอบใจ

“หรือว่าไขจะให้พี่พากลับบ้าน...ก็ได้นะ พี่จะให้พี่เอกขับไปส่งบ้าน”

ฟ้าใสส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว

“ไม่อ่ะ พี่โม่ง ไขยังไม่อยากกลับ” หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง

“ไขรู้สึกว่าตัวเองสกปรก ขอเวลาไขทำใจสักพักอ่ะพี่โม่ง”

“ไม่เอาน่า ไขก็เป็นไขเหมือนเดิมนี่แหล่ะ เป็นที่น่ารักของพี่ส้มโอของพี่โม่งของแม่ไขของน้องๆของป้านวล”

“พี่โม่งอยู่เป็นเพื่อนไขได้ไหมฮะ”

“ได้สิ หรือเราจะพักที่นี่ไหม พักสักคืน หรือจะไปค่ายรับน้องเดี๋ยวพี่ทำบัตรเบ่งให้ “ห้ามแกล้ง” แขวนไว้เลย เซ็นชื่อ พี่โม่ง ถ้าใหญ่ไม่พอ เดี๋ยวพี่ให้อาจารย์โก้ ช่วยเซ็นต์ ฮึฮึ เอาไหม”

“โหไม่เอาอ่ะพี่ ไขไม่ใช่ลิงอ่ะ ยังกะแขวนป้ายห้ามให้อาหารสัตว์ ขืนแขวนอย่างงั้น ไขโดนเขม่นแย่ แค่ไขโดดรับน้อง กลับไปจะโดนซ่อมหรือเปล่าอ่ะพี่โม่ง”

“555 กลัวล่ะสิ ทีโดดล่ะไม่คิด”โม่งเผลอพูดต่อว่า หน้าคนตัวเล็กเลยจ๋อยหมองทันตา บทเรียนครั้งนี้เจ้าตัวคงรู้จักใช้ชีวิตให้ปลอดภัยขึ้นล่ะ

“ไม่หรอก ที่นี่ไม่ค่อยรับน้องรุนแรงหรอกเพราะทุกคนที่เข้ามาจะเป็นเพื่อนๆกันอยู่ก่อนแล้ว ไขก็เห็นนี่นาบางคนเข้าใหม่น่ะแก่เกือบเท่าพี่ด้วยซ้ำ”

“ฮื่อ นั่นสิพี่โม่ง ไขก็เห็นปี 1 ปีเดียวกะไข ไขนึกว่าเป็นปี10”

“555 ไม่มีโว้ยไข ไอ้ปี10ของเราน่ะ เอาไว้ให้เราเรียนแล้ว พี่จะบอกอาจารย์ให้เค้าต่อให้เราไปเรื่อยๆ555” โม่งสบายใจขึ้นเมื่อเห็นฟ้าใสเริ่มพอพูดเล่นได้

“ไขจะให้อาจารย์เค้าต่อให้พี่โม่งก่อนไขอ่ะ ไขจะได้เป็นรุ่นน้องพี่โม่งไปเรื่อยๆ แหะ แหะ”โม่งเอามือจับหัวฟ้าใสโยกไปมา แต่พอเหลือบเห็นแก้มบางที่มีรอยแดงก็สะท้อนใจ ฟ้าใสพอเห็นแววตาที่โม่งสลดลง ก็ยิ้มให้

“พี่โม่ง ไขไม่เป็นไรแล้วล่ะ อย่างน้อยตอนนี้ไขมีพี่โม่งอยู่ ไม่มีใครมาทำอะไรไขได้แล้ว”ว่าแล้วเด็กชายตัวเล็กก็เอาหัวเอียงซบเข้าที่อกเขา แล้วยังจะถูไถไปมาด้วย

อึ้ม..อย่างงี้ล่ะสิไอ้ที่เค้าว่าแมวขี้ประจบ พี่สาวถึงหวง

“โม่ง เซียนมันจะคุยกะเมริง” เอกเดินเข้ามาแล้วก็ส่งมือถือ แล้วก็พูดต่อว่า

“คงจะถามเรื่องว่าเมริงไปจัดการจองคิว แสดงงานที่ห้องสมุดเฮย์ หรือยัง” โม่งเลยลุกไปยืนคุยอยู่ใกล้ๆ

เอกเลยลงมานั่งร่วมโต๊ะ ยิ้มให้ฟ้าใสอย่างเอ็นดู ฟ้าใสยกมือไหว้ ก็ตั้งแต่ที่เจอไม่มีโอกาสมองหน้ามองตากันจริงจัง เอกพยายามทำตัวเป็นปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“แล้วกินอะไรหรือยัง”เอกถามเพราะเห็นว่าบนโต๊ะมีแต่ถ้วยกาแฟกะโอวัลตินอยู่2ถ้วย

“ยังอ่ะฮะ ไขกินโอตินไป ยังไม่ค่อยหิว”ทันทีที่พูดจบ ด้วยความเกรงใจ แต่ท้องไส้นี่สิ พอเริ่มสบายใจขึ้น กระเพาะมันก็ฟ้องความจริงออกมา อรึดดดด โกรดดดดด ฟ้าใสถึงกับหน้าแดง รีบก้มหน้า

“เอ๊า..เรา หิวก็ไม่บอก สั่ง สั่งเลย เอาอะไร กินอะไร ไอ้โม่งก็ไม่ดูน้องเลยโว้ย ชื่ออะไรอ่ะเรา” เอกเริ่มดูออกแล้ว ตอนแรกเขาก็ไม่แนใจว่าเด็กตรงหน้านี่ชายหรือหญิง หรือทอม แต่พอสบตา เห็นแววตาเขาจึงรู้ว่าเป็นเด็กผู้ชาย เพราะสายตาจะไม่มีจริตจก้าน อย่างผู้หญิง ยิ่งมาสบตากะหนุ่มหล่อสุดเพอเพ็กแบบเขา- อ๊วก ใคร ใครมาแพ้ท้องแถวนี้ คนท้องไม่ต้องมาตามเขา เขายืดอกพกถุงตลอดเฟ้ย คนท้องไปหาสรยุทธ์นั่นไป๊

สักพักโม่งก็เดินกลับมา เอกกับฟ้าใสมองหน้า ฟ้าใสก็มองแบบว่าพี่โม่งจะมีธุระสำคัญอะไรต้องทำหรือเปล่า เอกเลยรีบตอบให้ฟ้าใสหายกังวลใจว่า

 “ไอ้โม่งไม่มีธุระสำคัญอะไร ไม่ต้องห่วงหรอก ว่าแต่เราจะกินอะไร”

“เฮ้ย โม่ง น้องเมริงหิวข้าวจนท้องร้องแล้ว”

“อ้าว ไข สั่งข้าวสิ หรือจะกินอะไร ข้าวต้ม โจ๊ก ก็มีนะ” โม่งร้องบอก กวักมือเรียกพนักงาน

ฟ้าใสยิ้มอายๆ ไม่เคยมากินกับคนอื่น จะสั่งอะไรก็พี่ เพื่อน จัดการ ให้มาสั่งกับพนักงานไม่เคยอ่ะ

เลยชะโงกไปบอกพี่โม่ง
 “ไขเอาเฟรนช์โทสต์อ่ะ ได้เปล่าอ่ะ ไม่อยากกินข้าวอ่ะพี่โม่ง” โม่งก็งงๆ ไอ้เฟรนช์ท้งเฟรนช์โทสต์นี่มันคืออะไร แต่สั่งก็สั่ง โม่งสั่งให้แล้ว
 เอกก็ยิ้มๆ ก็โม่งน่ะมันเด็กเรียนธรรมดา ไม่ใช่ลูกคุณหนู พ่อแม่แค่มีร้านอาหารตามสั่งใกล้โรงเรียนวัด เที่ยวอะไรก็แค่พอสมควร ไม่ได้ฟุ่มเฟือย กินอาหารฝรั่ง แต่โม่งฝีมือดี อาจารย์รับงานมาให้ทำตลอด เงินทองเลยมีเงินเก็บเป็นของตัวเอง

เอกดูท่าแล้ว เด็กไขนี่คงจะหิว เลย สั่งเพิ่มแฮม แล้วเลยสั่งอเมริกันเบรกฟาสต์ 2ชุดมาให้โม่งกับตัวเอง
เอกดูมองดูฟ้าใสที่ก้มหน้าก้มตากิน อดยิ้มไม่ได้ ทำเอาโม่งหมั่นไส้ แอบเท้าเตะหน้าแข้ง

“มองมากเดี๋ยวหน้าน้องเขาก็สึกหมดนะ เมริง” โม่งแอบว่าเพื่อน

“เฮ้ย กรูมองเพราะเศษขนมปังติดแก้มน้องเขาเว้ย กำลังคิดว่าจะเช็ดให้หรือบอกดี ก็กลัวน้องแกอาย”เอกแก้ตัว ก็มันมองเพลินนี่นา

“อร๊าย พี่ ไม่ต้องพูดเสียงดังก็ได้”ฟ้าใสรีบเอามือเช็ดออก นี่ถ้าเขาอยู่บ้านแล้วกินกับพี่ส้มโอ พี่ส้มโอเห็นคงเช็ดออกให้เขา
 พี่โอตาไวมือไวจะตายแล้วก็เป็นระเบียบมากด้วย อย่างถ้าอะไรติดฟัน นี่ก็ห้าม จะใช้ไม้จิ้มฟันก็ไม่ได้ เพราะแม่ไม่ให้ใช้บอก
เดี๋ยวฟันห่าง พี่ส้มโอจะไล่ให้ไปแปรงฟันเลย อย่างเอามือเช็ดก็มีแต่เขากับข้าวโอ๊ตที่ทำ บางทีก็เช็ดเข้ากับไหล่เสื้อนี่แหล่ะ
อย่างข้าวปั้นก็ไม่ทำ ข้าวปั้นจะผ้าเช็ดหน้า ทิชชูลายกุ๊กกิ๊ก ชอบซื้อมาแล้วก็แบ่งให้เขาใช้

หลังจากที่ฟ้าใสจัดการเฟรนช์โทสต์ไป3แผ่น แฮมไป2ขนมปังทาแยมไป1 น้ำส้มคั้น1แก้ว ก็อิ่ม นั่งลูบท้องตัวเองปรอยๆ
อย่างอายๆอมยิ้มแล้วหัวเราะแหะ แหะ แล้วก็เลยขอตัวไปห้องน้ำ โม่งจะเดินไปเป็นเพื่อน ฟ้าใสก็บอกไม่เป็นไร ไปได้
 ห้องน้ำก็อยู่ใกล้นี่เอง โม่งมองหน้า แต่ก็พยักหน้าอนุญาต

พอเจ้าตัวไปแล้ว เอกก็มองหน้าโม่ง แล้วพยักหน้าบ้าง

“ว่าไง แล้วเมริงจะเอาไงกะน้องว่ะ” เอกถาม โม่งทำหน้าคิด


TBC....

หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.5 (26/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 26-08-2012 13:14:40
ch.5


“ว่าไง แล้วเมริงจะเอาไงกะน้องว่ะ” เอกถาม โม่งทำหน้าคิด

“อาจพักที่นี่สักคืนก็ได้ว่ะ” โม่งตอบ

“เมริงจะเอารถไว้ใช้ก็ได้นะเว้ย เดี๋ยวกรูโทรเรียกไอ้คิวท์มันมารับกรูก็ได้” เอกบอกเพื่อนอย่างมีน้ำใจ

“เออ ขอบใจว่ะ แต่กรูก็ยังไม่รู้ว่าไขจะเอาอย่างไร รู้ว่าคงยังไม่อยากกลับบ้านว่ะ” โม่งตอบแล้วก็เกาหัวอย่างไม่รู้จะเอาไงดี

“ถ้าพักอยู่ที่นี่ก็ดี จะได้นั่งนอนเล่นแถวนี้ แล้วนี่วันนี้มีโปรแกรมอะไรว่ะ”

“ไม่มีอะไรมาก ปี2-3 มันก็จับน้องเข้าค่ายฐานไปตามเรื่อง ตอนเย็นก็มีดนตรีตามเคย” แล้วเอกก็รีบพูดต่อ

“ถ้าเมริง ไม่สะดวกกรูช่วยรับดูแลให้ก็ได้นะเฟ้ย” เอกกล่าวยิ้มๆ ทำตาวาวเพราะติดใจในความน่ารักของฟ้าใส

“เชรี่ยะ...นี่แน่ะเมริงไอ้เอก”โม่งโบกหัวเอกไป1ที “พี่สาวเค้าดุยังกะเสือ หวงน้องชายยังกะอะไรดี เค้าคงเต็มใจยกน้องให้เมริงหรอก” โม่งอวดสรรพคุณของพี่สาวคนดี  เอกมองหน้าเพื่อนอย่างชั่งใจ ชะโงกมาถาม

“แล้วเมริงน่ะ คิดอะไรกะน้องเค้าเปล่าว่ะ” ถามเสร็จก็ไม่ยอมถอยกลับเล่นจ้องตาอย่างรอคำตอบ โม่งเลยผลักหน้าเอกให้ถอยกลับไปนั่งพิงพนักเก้าอี้ตามเดิม

“เชรี่ย เมริงนี่ คิดอะไร กรูจะไปคิดอะไร กรูก็คิดว่าเค้าเป็นน้องนุ่งสิว่ะ ลูกศิษย์เว้ย”

“แล้วพี่สาวเขาล่ะเว้ย เห็นไอ้จุ๋ยมันบอก พี่สาวเด็กที่เมริงติว ไขนี่ใช่ไหม สวยโคตรๆเลยไม่ใช่หรือว่ะจนมันอยากไปสมัครเป็นพ่อบ้าน บ้านน้องไข” เอกทำเป็นถามถึงพี่สาวไข ตามประสาชายหนุ่มที่ชอบของสวยงาม ถึงแม้จะมีเดินควงสาวบ้างแต่ก็ยังไม่สาวใดผูกขาด ไม่ใช่ว่าเจ้าตัวจะยอมให้สาวผูกมัดนะ สาวเขายังไม่ยอมมัดด้วยต่างหาก เอกจะรูปร่างไม่สูงนัก ประมาณ 168 เลยชอบขับรถเร็วทำนองโชว์พาว เพื่อข่มเรื่องที่ตัวเองไม่สูง

“พี่สาวเค้าเนี๊ยบ เค้าไม่ชอบพวกติสอย่างพวกเราหร็อก แค่ยอมปล่อยให้น้องมาเรียนนี่ก็บุญ เห็นว่าแม่เรียกอาจารย์โก้ไปคุยถึงบ้านเลย”

“โห ห่วงอะไรกันขนาดนี้ว่ะ โรงเรียนเราออกจะมีแต่คนดีๆ555” เอกพูดเองอย่างไม่กระด๊ากป๊าก

“555 แหม่ เมริ่งพูดดี๋นี่หว่า ไอ่หม่า555”โม่งพูดต่อเมื่อนึกขึ้นได้ “เออ เห็นพี่สาวเค้าเป็นเพื่อนกะพี่แซ้งค์ ด้วยนะเมริง”

“อ้าวเหรอ พี่แซ้งค์ เล็กโคตรฮา นั่นเหรอเมริง”

“เออๆ  เมริงไปว่า พี่แซ้งค์เล็ก เมริงน่ะใหญ่เหรอไง ไอ้เอก”

“เชรี่ย กรูไม่ได้หมายควายว่างั้นโว้ย ทะลึ่ง แต่กรูก็ไม่เล็กล่ะเฟ้ย หรือเมริงจะลอง 555”

“เมริงน่ะอย่าไปยุ่งกะกับพี่สาวไอ้ไขมันเร้ย เมริงรู้เปล่าเจอหน้ากรู ซักประวัติกรูซะยังกะกรูไปขอขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว แถมยังมองหน้ากรูอีก ตอนไอ้ไขแนะนำกรู ยังกะต้องให้กรูไหว้สวัสดี อายุชีก็พอกะกรูนี่แหล่ะ”

“555 กรูยินดีโว้ย ไหว้ทีจูบทีโว้ย กรูยินดีไหว้คุณพี่ไอ้ไขมันทั้งวันเลย

“คุยอะไรกันอ่ะพี่ มีชื่อไขด้วย แอบนินทาไขเหรอ” ทันทีที่เจ้าตัวส่งเสียงทักทายมาล่วงหน้า ก่อนจะถลามาเกาะที่เก้าอี้ของโม่งราวกับจะยึดถือเขาเป็นตัวแทนพี่สาวที่เคยสนิทด้วย

เอกถึงกับตะลึง เมื่อเห็นไขที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นชุดลำลองเดินเล่นสำหรับชายทะเล กางเกงยีนส์ขาสั้นสีเข้ม เสื้อเชิ้ตลายทางสีอ่อน หมวกแก็ปสีเข้ากับเสื้อ ให้ใครมาบอกก็ไม่เชื่อว่านี่เป็นเด็กผู้ชาย ขาขาวๆยาวเรียวสวย โดยเฉพาะใบหน้าที่ตอนนี้ยิ้มแย้มแจ่มใสดูราวกับว่าเป็นปกติ

“ไอ้โม่ง กรูว่ากรูขออยู่เที่ยวกะเมริงเป็นเพื่อนน้องไขด้วยคนดีกว่า กรูเป็นพวกอาภัพญาติเว้ย กรูขอดองด้วยคนแล้วกัน” เอกกระซิบ แต่ตายังคงจ้องไปที่ฟ้าใสตาไม่กระพริบ

“ไอ้โม่ง เมริงจะพักกะน้องไขที่นี่สองคน แล้วเมริงจะรอดหรือว่ะ”

“ห่าน รอดอะไรว่ะ ไอ้นี่พูดไม่รู้เรื่อง” โม่งหันมาตอบเอก

“ก็รอดคุกรอดตะรางไงล่ะเมริง” เอกเฉลย

“ไอ้เลว กรูนะมือขวาสำนักโก้กระเรียนขาวเฟ้ย ยิ่งกว่านี้ก็เจอมาแล้ว ตอนเพิ่งตื่นอย่างเงี้ยนะเมริง งัวเงียๆ ตาลืมครึ่งหนึ่งเสื้อยืดบางๆเห็นนมเม็ดเล็กๆเลยนะเมริง” โม่งกลืนน้ำลาย ตบหัวเอก ฐานชวนพูดเรื่องไร้สาระ

โม่งนะเหรอ ทำไมจะไม่รู้สึก การต้องมาอยู่ชิดใกล้ แก้มเนียนๆใสสีแดงของเลือดฝาด ริมฝีปากอิ่มสีแดงสดยิ่งมองยิ่งรู้สึกดึงดูดสายตา ทำไมเขาไม่อยากลองลิ้ม แต่หน้าที่ความรับผิดชอบมันก็ตำตาทนโท่ ถ้ามีอะไรก็จะเสียทั้งเขาและอาจารย์

ต่อให้ไม่คิดเชิงสัมพันธ์ชู้สาว มันก็เหมือนเวลาที่เราเจอเด็กเล็กๆน่ารัก ก็อยากกอดอยากฟัดเล่นเป็นธรรมดาละน่า
ยิ่งไอ้กลิ่นแป้งเด็กอ่อน เช่นที่กำลังลอยมาจากคนที่เกาะเก้าอี้เอาตัวมาเบียดอิงต้นแขนเขาอยู่ขณะนี้
อยากเอาจมูกฝังที่ต้นคอ แล้วก้มหน้าก้มตาสูด สูด สูดให้หมดตัวเลย

“งั้นตกลงเอาเป็นว่าถ้าไขก็ยังไม่อยากกลับ เราก็พักที่นี่กันสักคืนแล้ว ถ้าเหนื่อยไขก็จะได้มีห้องพัก หรืออยากเที่ยวเราก็มีรถขับไปเที่ยว โดยมีสปอนเซอร์เป็นพี่เอก ผู้ใจดี” พอโม่งพูดจบ ฟ้าใสก็ตบมือขานรับ แปะ แปะ เย้ไปด้วย

โม่งตัดสินใจเพื่อ..ไม่ต้องให้ฟ้าใสคิดอะไรมาก เพราะดูแล้วฟ้าใสก็คงคงพยายามต่อสู้กับความรู้สึกต่างๆเพื่อกลับมาเป็นตัวของตัวเอง

“โม่งตกลง เมริงให้กรูอยู่ด้วย ใช่ม่ะ” เอกถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจว่าเพื่อนจะไม่อยากให้เขาอยู่ด้วยหรือเปล่า

“เฮ่ย..เออสิว่ะ เมริงก็จะได้ขับรถให้กรูนั่ง”

“เจริญนะเมริง คุณชายโม่ง” ฟ้าใสเห็นพี่ๆหยอกกัน แซวกันก็ผ่อนคลาย แต่ก็นึกถึงเพื่อนตัวเองบ้างเหมือนกัน ป่านนี้คงลั้ลลา ระเริงกันที่เกาะ แต่เวลานี้เขาก็ยังไม่พร้อมที่จะเจอใครที่เคยรู้จักมักคุ้น ถ้าหากเจอกันจริงๆเขาคงอดไม่ได้ที่ต้องปล่อยโฮออกมาแน่นอน


ตั้งแต่ที่เขาแยกตัวขอไปห้องน้ำ ฟ้าใสเข้าไปนั่งที่โถ เขาถอดเสื้อผ้าออก คุณพยาบาลเช็ดทำความสะอาดร่างกายให้เขาแล้ว
เขาสำรวจดูความเสียหายของร่างกาย ถึงจะไม่หนักหนา เหมือนกับผู้โชคร้ายคนอื่นที่เขาได้ยินตามหน้าหนังสือพิมพ์หรือในทีวี
แต่ความรู้สึกที่น่ารังเกียจ เขาขยะแขยง อยากถอดผิวหนังเขาทิ้ง ใช่ต่อให้อาบน้ำ บ้วนปากเป็นร้อยครั้ง

ความรู้สึกน่ารังเกียจมันก็ไม่หาย ฟ้าใสถอนหายใจ เขาจะต้องก้าวไปข้างหน้า เขาจะปิดผนึกเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ให้มันมารบกวน
ทำให้เขาหมดความสุขในชีวิต เขาจะเก็บมันไว้ลึกของลึกที่สุดในหัวใจ เขาต้องทำได้ เขาต้องเข้มแข็ง ให้สมเป็นลูกแม่
เป็นหนึ่งในสี่พี่น้อง  แม่เขาสูญเสียพ่อ เราพี่น้องที่ต้องอยู่อย่างครอบครัวที่ไม่มีพ่อ เขารู้ว่าทุกคนคิดทุกคนรู้สึกแต่ทุกคนไม่เคยบ่นหรือออกปากว่าขาด

ฟ้าใส ก็ต้องทำได้

เมื่อเห็นว่าโม่งตัดสินใจ เอกเลยบอกเดี๋ยวเขาจะไปจัดการเรื่องห้องพักให้เพราะคุ้นเคยกันดี  พักหนึ่งก็เอากุญแจมาให้
บอกว่าฟ้าใสเอากระเป๋าไปเก็บก่อนก็ได้ โม่งเลยไปเอากระเป๋าตัวเองไปไว้ในห้อง ฟ้าใสขอไปเดินเล่นที่ชายหาด
 โม่งก็ตามไปด้วยส่วนเอกก็ขอนอนเล่นที่เตียงผ้าใบริมทะเลที่ทางโรงแรมจัดไว้

เกือบเที่ยงแล้วแดดเริ่มแรง โม่งเลยให้ฟ้าใสกลับมานั่งเล่นที่ระเบียง 2หนุ่มชักหิว สั่งอาหารมากิน ฟ้าใสขอกินไอติมแต่ก็โดน
บังคับให้กินเบอร์เกอร์ไปด้วย เอกเลยบอก เดี๋ยวบอกให้ไอ้คิวท์มารับแล้ว กลับไปดูน้องๆหน่อย
บอกว่าถ้าฟ้าใสจะไปเที่ยวหาเพื่อนที่เกาะพะยอม ทางโรงแรมก็มีเรือสปีดโบ๊ตที่รับจ้างไปส่งตรงเกาะ
สามารถนั่งจากที่นี่ไปได้เลย จากนี่ไปก็ซัก45นาทีเอง ฟ้าใสได้ฟังก็ตาวาวมองหน้าโม่ง

“ฟ้าใสอยากไปหาเพื่อนก็ได้นะ พี่ไปเป็นเพื่อนได้”

“ฮื่อ ให้พี่โม่งอยู่เป็นเพื่อนเหอะ ส่วนพี่เอกคนดี ขอไปทำงานคุมปูใส่กระด้งนะ” ว่าแล้วก็จุ๊บที่หัวฟ้าใส1ที แล้วตามด้วยขยี้ผมเล่นอีก 3 วิเล่น ทำให้โม่งทำปากขมุบขมิบใส่เอก

“กรูเก็บค่าเช่ารถเฟ้ย 555”แล้วเอามือจิ้มหน้าผากโม่ง1ที “เมริงก็ระวังตัวให้ดี”

“เออน่า กรูรู้อะไรควรไม่ควรหรอกน่า ยิ่งเพิ่ง.....” โม่งตอบเสียงเรียบ

เสียงมือถือของเอกก็ดังขึ้น รับแล้ว เอกก็หันไปดูที่ลานจอดรถข้างร้านอาหาร

คิวท์ก็โบกมือให้  ทั้งเอกและโม่งก็โบกทักรับรู้กัน เอกบ๋ายบาย ฟ้าใส แล้วเดินไปขึ้นรถไอ้คิวท์

ก่อนไป เอกก็ถามที่เที่ยวให้แล้ว ว่าก็มีไปเดินเล่นที่ถนนคนเดินในเมืองก็ได้ หรือจะไปเที่ยวงานวัดที่เทศบาลจัดขึ้นใหญ่เหมือนกัน
 แล้วถ้าจะติดต่อว่าจ้างเรือ ก็ต้องบอกล่วงหน้า อย่างน้อยก็1ชั่วโมง

นั่งสักพักโม่งเห็นฟ้าใสเริ่มง่วง เลยบอกให้ขึ้นไปนอนพักที่ห้องจะได้พักผ่อนจริงๆซะที ฟ้าใสก็เดินเกาะแขนตามไปอย่างว่าง่าย

ฟ้าใสเดินตามโม่งเพื่อไปห้องพัก ถึงแม้เขารู้สึกไม่ดีบ้าง แต่สภาพโรงแรมสิ่งอำนวยความสะดวกก็เหมือนกับตอนที่มากับที่บ้าน สถานที่สะอาด สวยงาม มีสระว่ายน้ำ พนักงาน ทำให้เขาวางใจสบายใจ

โม่งบอกให้ฟ้าใสไปนอนที่เตียง เขาก็มองที่โม่ง ก็อยากให้มานั่งๆนอนๆก็ได้เป็นเพื่อน บรรยากาศมันก็เงียบๆ
โม่งเลยเปิดทีวีให้ดู ฟ้าใสเลยมีอะไรทำเพราะขอดูช่องการ์ตูน ส่วนตัวเองก็เอาหนังสือมานั่งอ่านข้างๆ
สักพักเดียวพอโม่งหันกลับมาดูก็เห็นร่างเล็กบางนั้นซุกตัวหลับข้างเขามือก็คงยึดเสื้อเขาไว้เช่นเคย


TBC....


หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.5 (26/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 26-08-2012 13:56:51
เอาใจช่วยน้องไขน๊า  ขอให้ผ่านเรื่องร้ายๆ นี้ไปได้นะจ๊ะ
พี่โม่งต้องดูแลน้องให้ดีๆล่ะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.5 (26/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 26-08-2012 14:17:20
พี่โม่งคู่กับไข หรอเนี้ย น่าจะคู่กับพี่ส้มโอดีว่า ประมาณว่า
มุมแดง พี่โม่ง ติสแตก VS มุมน้ำเงิน เจ๊ส้มโอ จงอางหวงไข่

บ้าไปแระชั้น  รอตอนต่อไปนะจ้ะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.5 (26/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 26-08-2012 14:40:50
 :เฮ้อ:เรื่องใหญ่ขนาดนี้ยังไม่คิดจะบอกพ่อแม่เลยเหรอหนู
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.5 (26/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: didi ที่ 26-08-2012 18:17:43
เฮ้อ :เฮ้อ:สงสารไข  รอตินต่อไป :L1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.5(ต่อ) (26/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 26-08-2012 18:54:43
((ต่อ))
สักพักเดียวพอโม่งหันกลับมาดูก็เห็นร่างเล็กบางนั้นซุกตัวหลับข้างเขามือก็คงยึดเสื้อเขาไว้เช่นเคย


โม่งลูบหัวอย่างนึกสงสาร ฟ้าใสเหมือนจะรับสัมผัสที่อบอุ่นได้ ร่างเล็กจึงขยับเบียดติดกับต้นขาเขา
โม่งเองก็เริ่มเพลียบ้างเหมือนกัน เมื่อวานตอนเย็นหลังจากเสร็จงานที่บ้านอาจารย์ป่อง พอเอกมาชวนว่าจะไปดูน้องๆรับน้อง
เค้าก็เลยตกลงก็อยากมาดูลูกศิษย์ตัวน้อยด้วยว่าจะโดนแกล้งอะไรหรือเปล่าเพราะหน้าตาท่าทางอย่างงี้ด้วย ก็ดันไม่มาซะอีก
 เมื่อคืนเลยนั่งสวลเสเฮฮาเชียร์บอลกันไปจนดึกตี1กว่าถึงได้นอน


โม่งปิดหนังสือเอนตัวลงนอนหงายหน้ามองเพดาน สอดแขนใต้ศีรษะ แขนข้างหนึ่งโอบไหล่ร่างเล็กข้างกาย
 เขาพยายามไม่หันไปมองหน้าใสใสที่ซุกเบียดเข้ากับอกตัวเอง กลิ่นแป้งเด็กลอยมาคนข้างๆ เฮ้อ....โม่งถอนหายใจ
 กรูจะเสียคนเพราะงานนี้หรือเปล่าว่ะ โม่งนึกในใจ

หลังจากที่พวกเขานอนหลับพักผ่อน โม่งมารู้สึกตัวตื่นก็บ่าย2กว่าๆ มองไปข้างตัว ฟ้าใสยังคงหลับสนิท
เสียงลมหายใจทอดยาวสม่ำเสมอ โม่งใช้นิ้วเกลี่ยผมสีน้ำตาลอ่อนที่ลุ่ยระหน้าตา นิ่งมอง

เมื่อโม่งลงมาถามที่เคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ ถึงกิจกรรมต่างๆ สถานที่ท่องเที่ยว จึงได้เห็นว่าทางโรงแรมก็มีบริการเรือคายัค
ให้พายเล่นด้วย โดยตั้งซุ้มถัดจากซุ้มขายเครื่องดื่มที่ชายหาด จึงคิดว่านี่ก็เหมาะดีที่จะชวนเจ้าตัวเล็กเผื่อจะหายคิดมาก
เพราะเห็นเมื่อเช้าเดินไปก็เมียงๆมองๆ

ทันทีที่โม่งบอก   ฟ้าใสตื่นเต้นดีใจใหญ่ แทบจะกระโดดกอดคอเขา แต่ที่ทำคือลืมตาโพลง อ้าปากเอามือสองข้างกุมมือเขายกขึ้นยกลง

“โหย..โหย...ไขอยากนั่งมาตั้งนานแล้ว มากะที่บ้าน ไม่มีใครจะนั่งเลย มีก็ข้าวโอ๊ต พี่โอไม่ชอบถูกน้ำทะเล ข้าวปั้นก็บอก
 ปั้นไม่ช่วยพายนะ แม่ก็ไม่ชอบถูกน้ำทะเลเหมือนพี่โอ ป้าๆก็บอกป้าแก่แล้วไม่เอา พอพี่โอมาเห็นเรือมันคว่ำได้ต่อหน้าต่อตาอีก
ทุกคนเลยหมดสิทธิ พี่โอไม่ให้เล่น มาทะเลทีไร ก็แค่กิน นอน นั่งที่ชายหาดเท่านั้นน่ะ พี่โม่ง
 อย่างดีก็ว่ายน้ำที่สระของโรงแรมอ่ะ” ฟ้าใสแอบนินทาบ้านตัวเอง

เสียงหัวเราะอย่างสดใสดังมาจากเด็กชายที่กำลังพยายามพายจากเรือคายัค

“พี่โม่ง อย่าเอาพายมาตีโดนพายของไขนักสิ เดี๋ยวไขไม่ช่วยพายเลยนะ”

“ไขก็อย่าจุ่มแช่นักสิ พอพี่ก็เอาพายลง พายเราก็ราน้ำมาโดนนะสิ”

“โห อะไรช่วยก็ว่า ไม่ช่วยก็บ่น ว๊าว พี่โม่ง ปลา ปลา!!!”

“ก็ปลานะสิ ไม่เห็นแปลก ในทะเลก็ต้องมีปลา เออนะ ถ้าในทะเลมียีราฟดิ น่าแปลก” โม่งยิ้มทำตาหยีมองฝ่าแสงแดด
ไปทางทิศที่เจ้าคนตัวเล็กชี้ โม่งเอาแว่นกันแดดของตัวเองให้เจ้าตัวเล็ก แว่นตาสีเข้มตัดกับผิวขาวที่โดนแดดจนแดงเรื่อทำให้
หน้าหวานชวนมองขึ้นไปอีก หมวกที่สวมอยู่ก็ช่วยกันแดดให้ได้บ้าง ที่คอก็ห้อยแว่นดำน้ำ มองแล้ว โม่งก็พอยิ้มออกที่เห็นคนตรง
หน้าแสดงท่าร่าเริงมีความสุข

“โอ๊ยย..พายหลุด”

“ไข อย่าก้ม เดี๋ยวพี่เก็บเอง”

“ไขเก็บเอง”

“ไม่ต้อง อย่าเอื้อม” โม่งรีบตะโกน

“เอ๊ย...หมวกหล่น”

“อย่า....” โม่งพยายามโยกตัวถ่วงน้ำหนักไปในทางตรงข้าม แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว

ฟ้าใสยันขอบเรือเพื่อเอื้อมไปคว้าหมวกตัวเอง

“ตูมมมม” คนก็ตกน้ำ เรือก็พลิกคว่ำ โม่งรีบลงยืน เตรียมคว้าคนตัวเล็กมาแนบอก กลัวจะโดนเรือลอยมากระแทก

“แค่ก แค่ก”เสียงไอสำลักน้ำ เจ้าตัวเล็กน่ะเหรอ กระโดดเกาะเขาไว้เป็นปลิงแล้วอ่ะ ก็ข้างล่างตรงนี้ มันมีแนวหิน ระดับน้ำ
ก็แค่ใต้อกเขาเอง เจ้าตัวเล็กก็ยืนถึงแต่เหยียบไปเจอหินลื่นๆ กลับหยะแหยงกระโดดราวติดสปริงเกาะหนึบติดกับตัวเขาทันที

“เอ๊ย  ฟ้าไส อย่ารัดคอพี่” โม่งรีบบอก เมื่อเจ้าตัวยิ่งเกาะก็ยิ่งรัดแน่นขึ้น

ฟ้าใสมองหน้ารีบยิ้มหวานเอาใจ “แหะ แหะ” คลายวงแขนออกมาหน่อย แต่จะให้ปล่อยลงไปยืนเองน่ะไม่เอา น่า น่า
เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องโรงเรียนเดียวก็เหมือนสายเลือดกัน เป็นลูกศิษย์อาจารย์กันด้วย ไม่รู้ล่ะ ก็ต้องช่วยกันล่ะ ฟ้าใสไม่มีวันลงไป
เหยียบพื้นที่มีหินดำๆลื่นๆเด็ดขาด ดูแล้วน่ากลัวจะตาย

“งั้นขยับไปเกาะคอที่ข้างหลังเลย พี่พลิกเรือก่อน” โม่งบอก พลางจับเรือคายัคที่พลิกคว่ำอยู่ให้หงายขึ้น แล้วเดินไปเก็บพายที่
ลอยไปลอยมา โดยมีคนตัวเล็กที่กอดคอไว้แน่นไม่ยอมปล่อย แถมเอาขามาเกี่ยวเอวรัดไว้อีก มือข้างหนึ่งก็กำหมวกที่เป็นสาเหตุ
การเปียกมะหลอกมะแหลก

“หมวกนี่ พี่ขอซื้อได้ไหม” โม่งแกล้งว่า

“แหะ แหะ ไขยกพี่โม่งให้ฟรีๆเลย” เจ้าตัวตอบเสียงใสพลางหัวเราะคิกคัก แล้วเอาหมวกสวมให้โม่ง
 แต่ก็ไม่เข้าก็ขนาดมันผิดกันนี่นา

โม่งเก็บพายทั้งสองอันขึ้นไปวางไว้บนเรือเรียบร้อย

“อ่ะ ไป ขึ้นไปได้แล้ว” โม่งเอามือขวาเอื้อมไปแกะมือคนตัวเล็กที่กอดเขาไว้หมุนให้มาอยู่ตรงหน้า โม่งมองไม่เห็นแววตาที่ซ่อน
หลังแว่นกันแดดสีดำที่ตัวเองให้ฟ้าใสใส่ไว้ แต่ไอ้ปากแดงๆที่ลอยอยู่เบื้องหน้าห่างไม่กี่นิ้วนี่สิ ทำให้เขาจะบ้าตาย
โม่งใจเต้นตึกตัก ฟ้าใสก็ปล่อยขาที่เกี่ยวเขาไว้แล้วด้วยสิ ร่างเล็กเลยโดนละลอกคลื่นพัดจนตัวแนบติดกับเขา
 อยากอยู่อย่างงี้สักสองชั่วโมง แต่ขืนอยู่เขาต้องได้เป็นอย่างคนเลวๆอย่างนั้นแน่ เขาจึงเปลี่ยนเป็นกอดคนตัวเล็กไว้พอหลวมๆ
แล้วทำเป็นเช็ดน้ำทะเลออกจากหน้าตาแก้มปาก เสยผมที่ระลุ่ย ตัดใจยกคนตัวเล็กวางบนเรือ

หลังจากวางฟ้าใสบนเรือได้แล้ว โม่งก็ก้มหน้าถอนหายใจเฮือกใหญ่ กับน้ำทะเล แอบตะโกนแบบไม่มีเสียง ใส่ละลอกคลื่น

“อ๊าค!!!! อยากตะโกนเป็นภาษาฮิบรู!!!พระเจ้าจะลองใจผมหรือไง”
.
.
.

18.05 น. จันทารารีสอร์ท

ขณะที่ฟ้าใสเข้าไปอาบน้ำ โม่งโทรหาเอก

“เป็นไงมั่งว่ะ ที่งาน” โม่งถามเสียงเครียด

“555 หนุกหนานตามเรื่องล่ะเมริง 55 วู้!!!” เสียงเอกบ่งบอกความมันสุดขีด ท่ามกลางเสียงดนตรี ตอนนี้คงกำลังมีดนตรีเล่นให้รุ่นน้องฟัง เสียงดังเซ็งแซ่ไปหมด

“เอ่อ ..แล้วเมริงเป็นไงมั่งว่ะ” โม่งก็ยังถามต่อไปด้วยสีหน้าเหมือนคิดเลขบวกสองหลักไม่ออก

“เออ บายดีเว้ย กำลังสนุก พวกไอ้ต้นมันเล่นดนตรีมันส์ดี ฝีมือดีกว่าตอนเล่นงานโรงเรียนเยอะเลยนะเมริง”

“เอ่อ..เมริงจะไม่ถามกรูมั่งเลยเหรอว่ากรูเป็นไง ไอ้เอก” โม่งพูดเสียงอ่อยๆ

“อ้าว เชรี่ย กรูจะไปถามไรเมริงล่ะ เมริงก็นั่งๆนอนๆเลี้ยงน้องไปดิว่ะ 555... ว๊าวน้องเปิ้ลจ๋าจะชนแก้วกะพี่เอกหรือจ๊ะ”

“โห ไอ้เอก เมริงไม่ห่วงเพื่อนเมริงเลยนะเว้ย” โม่งตัดพ้อต่อว่า อะไรว่ะตรูโดนทิ้งแล้วใช่ไหมเนี่ย

“555 อะไรนะ กรูจะห่วงอะไรเมริงล่ะ 555 เมริงศิษย์สำนักกระเรียนขาวไม่ใช่เหรอ 55อย่าลืมนะเมริง ฝากหอมแก้มน้องเมริงเป็นค่าสึกหรอรถกรูด้วย 55 เมริงไม่ทำกรูทำเองนะเว้ย”

“ไอ้เวร แค่ออกไปพายเรือด้วยกันกรูก็จะไม่รอดแล้ว ถ้ากรูเป็นอะไรไป กรูยกตำแหน่งหัวหน้าห้องกะประธานปี5ให้เมริงนะไอ้เอก”

“555 กรูไม่เอาหรอก ไอ้โม่ง ไอ้ตำแหน่งเจเนอเรชั่นเบ๊ของเมริงอ่ะ กรูขออยู่สบายๆของกรูดีกว่า เอางี้ ไม่งั้นถ้าเมริงกำลังคิดจะติว
พิเศษน้องเมริง เมริงก็นึกถึงหน้ากรูแทนแล้วกัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า อาจพอช่วยเมริงได้นะเว้ย 555 แต่ถ้าอะไรก็หยุดเมริงไม่อยู่ กรูรับรอง
ว่าจะไม่ทอดทิ้งเมริงว่ะ กรูจะซื้อข้าวผัดโอเลี้ยงไปส่งให้เมริงไม่ขาด สหายโม่ง”

“ห่านเอ๊ย...เมริงนะ ช่วยกรูได้มากเลย...เออ เออ เมริงสนุกของเมริงไปเหอะ แล้วดูไอ้พวกน้องๆอย่าให้มันกินเหล้ากันเยอะนะเมริง”
โม่งไม่วายอดห่วงพวกรุ่นน้อง ที่ต้องมีเมาจนนอนกลิ้งริมหาดทุกปี

เสียงประตูเปิด ฟ้าใสเดินเอาผ้าเช็ดตัวห่อตัวเองออกมา โม่งถอนใจ วางมือถือ

“อ้าว ไข หนาวหรือเปล่า”

“เปล่าฮะ” ฟ้าใสยิ้มอายๆ ก็แน่ละสิ ตอนนี้เขาต้องอยู่กับพี่โม่ง 2คน ถึงจะเคยอยู่เคยค้างกับเพื่อนบ้าง ก็แค่เข้าค่ายของโรงเรียน
ไปกินปีใหม่1หน  แม่กะพี่โอก็ยังไม่ยอม ดึกแค่ไหนก็ไปรับกลับ มีแต่เข้าค่ายของโรงเรียนที่ได้อยู่กับเพื่อน ที่ได้นอนด้วยกัน
อาบน้ำด้วยกัน ยังเข้าไปอาบพร้อมกันตั้งหลายคน ยังไม่ค่อยรู้สึกอะไร เพื่อนกันเองแหย่กันเอง แอบดึงกางเกงเค้าด้วยซ้ำอย่าง
ไอ้บ้าแร๊ฟ หรือผู้หญิงห่ามๆร่างยักษ์อย่างไอ้เปรี้ยวยังแกล้งเหนี่ยวกางเกงว่ายน้ำขอดูไข่เค้าเลย ก็พวกเนี๊ยะมันอยู่กันตั้งแต่
อนุบาล มีเค้าที่มาเข้าตอนป.1 โดนบังคับว่าถ้าเป็นเพื่อนกันต้องให้ดูไข่กันด้วย ฟ้าใสนึกแล้วอดอมยิ้มจนตาหยีไม่ได้

โม่งก็พอรู้ว่าเจ้าตัวเล็กอายเขาเลยคว้าผ้าเช็ดตัวไปอาบน้ำปล่อยให้ฟ้าใสแต่งตัว

“เดี๋ยวพอพี่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เราออกไปเที่ยวถนนคนเดินกัน ฟ้าใสจะกินข้าวที่นี่หรือกินข้างนอกล่ะ”


TBC......


 :o8:


หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.5((ต่อ 5)) (26/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 26-08-2012 19:26:25
"พวกไอ้ต้นมันเล่นดนตรีมันดี"   =   "พวกไอ้ต้นมันเล่นดนตรีมันส์ดี"
+1แถมเป็ดให้คนแต่งคนขยันจ้า
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.5((ต่อ 5)) (26/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 26-08-2012 19:39:08
อ่านถึง ตอนที่2  ขอถามก่อนเลยจ้ะ  แอบงง

อ้างถึง
หลังจากผ่านการสอบมิดเทอม  เราก็จบม.3กันเรียบร้อยโดยสวัสดิภาพ

ทำไมสอบมิดเทอม  แล้วถึงจบเลยอ่ะ?  ไม่มีสอบไฟนอลหรอคะ?   :m28:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.5((ต่อ 5)) (26/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 26-08-2012 20:04:12
ขอบคุณ  :pig4:
indy❣zaka
mentholss
ที่เตือน อ่ะ
แหะ แหะ คือสงสัยตอนเขียนตัวเองคงกำลังสอบมิดเทอมอ่ะ :really2:

หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.5((ต่อ 5)) (27/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 27-08-2012 11:00:46
((ต่อ))

“เดี๋ยวพอพี่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เราออกไปเที่ยวถนนคนเดินกัน ฟ้าใสจะกินข้าวที่นี่หรือกินข้างนอกล่ะ”

“อู๊ยยย...กินข้าวข้างนอกสิพี่” คนตัวเล็กแทบจะทิ้งผ้าเช็ดตัว รีบคว้ากางเกงฉึบฉับ แต่เห็นสายตาคุณพี่ตัวใหญ่
เลยยังกุมผ้าเช็ดขนหนูปิดท่อนล่างตัวเองอยู่ ความจริงเขาน่ะชินกับการถอดเสื้อผ้าด้วยซ้ำ ก็แม่ให้เรียนว่ายน้ำตั้งแต่ 3ขวบ
 นุ่งแค่กางเกงว่ายน้ำวิ่งเล่นรอบสระ ชายทะเลมั่ง อยู่บ้านร้อนๆก็ใส่แต่กางเกงขาสั้นบ้าง ถ้าอยู่กันแค่ข้าวโอ๊ตข้าวปั้นนะ
ถ้าแม่อยู่พี่ส้มโออยู่ ทำไม่ได้ 2ผู้ปกครองนั้น เขาเนี๊ยบ ใส่เสื้อไม่เอาเข้ากางเกงยังโดนบ่นบ่อยๆ

“ได้ งั้นเดี๋ยวไขก็เตรียมตัวล่ะ” โม่งเข้าห้องน้ำไป แล้วก็ลูบอกตัวเอง ภาพเด็กชายกึงทอมบอยหน้าหวาน ตาแป๊ว
ปากแดงๆที่ดึงดูดสายตา ร่างขาวๆ เม็ดเล็กของยอดอกสีแดงระเรื่อ
 อยากดึงมากอดฟัดเล่นชะมัด สมภาร สมภาร สมภารไม่กินไก่วัดโว้ย....โม่งพยายามเตือนตัวเอง อะไรนะ ไอ้เอกมันบอกให้
นึกถึงหน้ามันนี่หว่า  เออ ว่ะ ได้ผลทันทีเลย พอโม่งนึกถึงหน้าเอก หน้าเข้มออกคล้ำเพราะชอบกินชอบเที่ยว ทั้งที่ตอนมันมา
ใหม่ๆมันออกจะขาวด้วยซ้ำ
ห่านเอ๊ย ...ยิ่งนึกถึงหน้ามันยิ่งไอ้ที่ไว้หนวดเสริมบารมีอีก ทำอารมณ์เขาให้หดหู่ได้ผลชิบ

โม่งอาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาพันผ้าขนหนู พร้อมกับเสื้อผ้า ทั้งของเขาและของคนตัวเล็ก เจ้าของเสื้อนั่งดูหนังเอเลี่ยนตาโพลงอยู่
บนเตียง พอหันมาเห็นเขา คงจะเขิน จะรีบหันกลับ แต่เห็นเสื้อผ้าตัวเองในมือ เลยกระล่ำกระลัก รีบพูด

“อุ๊ย ไขลืม พี่ เดี๋ยวไขจัดการเอง” รีบพรวดลงมาจากเตียง

“เอ๊ย..ระวัง หน้าจะคว่ำเอานะเรา” โม่งรีบเอาแขนกันตัวเจ้าเล็กไว้ ก็เล่นผุดลุกก้าวพรวดสะดุดหมอนที่ตัวเองกอดไว้

“พี่....”ไขพูดอย่างเกรงใจ เอามือมาแย่งเสื้อผ้าตัวเองจากมือพี่โม่ง

โม่งเบี่ยงมือหนี อีกมือหนึ่งก็กันเจ้าตัวเล็ก

“บอกไม่เป็นไร พี่ซักให้เสร็จแล้ว เดี๋ยวตากที่ระเบียงเอง” โม่งเอามือจับมือเจ้าตัวเล็กให้ห่างจากเสื้อผ้าที่ถือ

“งั้นพี่ซัก ไขก็ช่วยตากไง ไขทำเอง โอ้ย เกรงใจง่ะ”ว่าแล้วฟ้าใสก็ยังยื้อต่อ แล้วคงยื้อต่อ ถ้า....ใช่แล้ว...

ก็เล่นมายื้อๆแย่งๆดันๆเบียดๆกัน ผ้าเช็ดตัวไม่ใช่กางเกงยีนส์นะ มันก็แค่พันไว้แล้วเหน็บชายเท่านั้น (ไม่หลุดไม่หลุด อย่างพี่โม่งเค้าดารานำแสดงระดับพระเอกน๊ะจะมาดูของเค้าง่ายๆได้ไง 55)

“เอ๊ย!!!” โม่งอุทาน รีบตะครุบชายผ้าเช็ดตัวที่ทำท่าจะหลุดแล้วรีบเดินหนีไปที่ระเบียงทันที ตัวดียังไม่รู้เรื่องจะเกาะเอว
ดึงผ้าขนหนูเค้าไว้อีก เดี๋ยวเอาปืนใหญ่ออกมาตีก้นเด็กดื้อซะเลยดีไหม ยิ่งเมื่อกี้มานัวๆเนียๆจนรถแข่งมันอยากเข้าอู่
สตาร์ทบรึมๆ ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่อยากกินข้าวผัดกะโอเลี้ยงของไอ้เอกมัน โม่งเดินจ้ำอ้าวออกไปที่ระเบียง โดยมีฟ้าใสดึงผ้าเช็ดตัว
ไว้เกาะก้นเขามาด้วย เฮ้อ...

“อ่ะ ช่วยก็ช่วย ตากที่บนโต๊ะกับเก้าอี้นี่ก็พอนะไข ไม่ต้องผึ่งกับระเบียงนะเดี๋ยวมันปลิวตกไป”

“ฮะ รู้ล่ะน่าพี่โม่งน่ะ พูดเหมือนแม่เหมือนพี่โอเลย ไขน่ะทำได้ ออกค่ายมาตั้งเท่าไหร่”

“จริงอ่ะ พี่เราเค้าปล่อยให้ไปด้วยเหรอ”

“บ้าดิพี่โม่ง” ฟ้าใสคุยไปก็แผ่เสื้อตัวเองผึ่งกับผนักเก้าอี้ “ไม่ให้ไปได้ไง โรงเรียนเค้าบังคับนะ แต่ตอนที่มีค้างที่โรงเรียน
พี่โอยังแอบไปหาไขเลย 555 แต่แม่น่ะเค้ายังเฉยๆ”

“นั่นสิ ก็เห็นพี่เราทั้งหวงทั้งห่วงยังกะไข่ในหิน พี่ยังห่วงว่าไขจะเรียนที่นี่ไหวเหรอ”

“โห ดูถูกไขเปล่าเนี่ย ไขขึ้นรถเมล์กลับบ้านเองน๊า” ข้ออ้างนี้อีกแล้วเจ้าไข สงสัยไอ้ขึ้นรถเมลนี่คงเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก
- โม่งคิด คนแต่งก็คิด – ก็ใช่น่ะสิ(- ไข ตอบ)

“ไขแย่งที่นั่งเก่งด้วยนะ” ว๊าว อวด ภูมิใจ ค่อตๆ ฟ้าใสยืด (เค้าไม่อยากรังแกเด็กน่ะสิ แล้วเพื่อนนายทุกคนมันก็ยกที่นั่งว่างๆให้มันทุกทีอ่ะ)

ลูกคุณหนูอยู่ดีอ่ะแหล่ะ ดูมือก็รู้ โม่งหัวเราะหึ หึ แค่เหยียบหินใต้น้ำมันยังหยะแหยงเลย เจ้าตัวเล็กเอ๊ย

“เออ เออ แมนมาก พี่โม่งฝากตัวด้วยล่ะกัน” พี่ล่ะอยากฝากทั้งตัวให้น้องไขเลยล่ะน้องเอ๊ย

“ได้เร้ย พี่ ไม่ต้องประชดหรอก ไขรู้ทันน่า คิก คิก” อยู่กะพี่โม่งนี่ก็ดีคุยเล่นสนุกดี พี่โม่งใจดี ฟ้าใสอยากมีพี่ชายอย่างงี้
ตอนที่พี่โม่งกอดเขา เขารู้สึกมั่นคงแข็งแรงปกป้องเขาได้ ที่บ้านถึงมีพี่ส้มโอที่คอยดูแล แต่พี่โอก็ตัวนิดเดียว ป้านวลก็ตัวนิดเดียว
เหมือนกันแถมแก่แล้วอีก  ถ้าจะมีผู้ชายอื่นๆในบ้านก็ตรงส่วนที่เป็นโรงงานของยาย ที่เป็นเรือนคนงาน นั่นก็ไม่ค่อยได้เกี่ยวกัน
นอกจากเรื่องใช้งาน ยกของ ขับรถ แต่แม่มักจะไม่ให้ไปรบกวน

 ทั้งที่เรือนยาย ที่มียายกับป้าป้าอยู่ กับบ้านแม่ จึงมีแต่ผู้หญิงอยู่กันจริงๆ มีเขาคนเดียวที่เป็นเด็กผู้ชายอยู่ เพราะฉะนั้นตอนที่พี่
โม่งมาสอนเขาและต้องอยู่ใกล้ๆนั้น นับเป็นครั้งแรกที่เขาได้อยู่ใกล้ๆกับความแข็งแกร่งของผู้ชาย
.
.
.
.
ถนนคนเดินเลียบทะเลบรรยากาศแสนสบาย

“โหย...พี่!!! พี่โม่งน่ากินอ่ะ” เสียงใสชี้ชวน แล้วดึงมือคนตัวโตโผไปร่วมมุง ร้านขายน้ำตาลปั้นที่เป็นรูปต่างๆ

“เอาสิ” โม่งเริ่มตอบเนือยๆ ก็เจ้าตัวเล็ก เห็นอะไรก็อยากซื้ออยากกิน ของที่ไม่เคยเห็นไม่เคยลองก็ขอลอง
 พอไม่ถูกปากก็โป้ยมาให้เขารับไปแทนจนเต็มมือเขาแล้ว ตอนแรกที่จะมาก็บ่นเกรงใจ หน้าเศร้าละห้อย ไขไม่มีเงินเหลือเลย
โดนมันเอาไปหมดเลย พี่โอก็ไม่ได้ให้พกบัตรเอทีเอ็มมาด้วย บอกไปรับน้องไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน ไม่เห็นต้องใช้ตังเท่าไหร่
 แม่ให้ติดตัวมา3000 เท่านี้ก็เหลือแหล่

โม่งเลยเกลี้ยกล่อมว่า ใช้เงินของเขาไปเหอะ ค่าสอนฟ้าใส ก็เงินแม่ฟ้าใสให้มาตั้งเยอะ ไหนเวลาพี่ไปแต่ละทีก็ยังจะให้ค่ารถพี่
อีก พอได้ชอปจริง ดูเหมือนเจ้าตัวลืมเรื่องนี้ไปเลย

นั่นๆ อยากได้กระเป๋าผ้าเพ้นส์ลายการ์ตูนนะสิ เอาเข้า จากที่จับมือเขาไว้ เปลี่ยนเป็นกอดแขนเขาทั้งแขนแทน เบียดเข้ามาอีก

“พี่โม่ง สวยดีนะ”

“ฮื่อ”

“เขาวาดดีเนอะ” กอดแขนแน่นขึ้น

“ฮื่อ”

“พี่โม่ง อุดหนุนเขาหน่อยสิ สนับสนุนงานแฮนเมดน๊ะ”ร่างเล็กเบียดกระแซะ มีการถูๆไถๆอีก

“เอ๊า อยากได้ก็เอาสิ ไข” มันอ้อนอย่างงี้ พี่สาวเค้าถึงหลง

“ไขอยากซื้อให้พี่โม่งนะ...” หยุดพร้อมกับมองหน้าตาแป๊วสุดขีด ปากจู๋ด้วย “แล้วพี่โม่งซื้อให้ไขด้วยนะ”

“อื้อๆ ได้ ได้” โม่งขมวดคิ้ว ตกลงใครอยากได้กันแน่ โม่งไม่ได้บอกว่าอยากได้ซะหน่อย ไม่ต้องมาทำเป็นซื้อให้เขาเลยเจ้าตัวเล็ก
ไอ้ตัวการ์ตูนตัวนี้เขาก็ไม่รู้จัก ไอ้เจ้าตัวเล็กนั่นนะสิ พอเห็นเข้าตาลุกวาว

“ตกลง ซื้อ2ใบ เท่าไหร่ น้อง” ถามคนขายที่ดูว่าก็คงพวกเรียนทางอาร์ตมาเหมือนกัน

“2ใบ 100 ครับ พี่”

“แล้วใบเดียวเท่าไหร่”

“50 พี่” พอคนขายตอบ เจ้าตัวเล็กแอบเบียดกระซิบ “ต่อเลย พี่โม่งต่อราคาเลย” โห ไอ้ไข เอย ใครสอนว่ะเนี่ย สงสัยพี่สาวแน่เลย

“ลดได้เปล่า ให้น้องน่ะ” ว่าโม่งจับหน้าเจ้าตัวเล็กมายืนข้างหน้าให้ส่งสายตาปิ๊งๆ อยากขอเค้าลด ก็แสดงพลังเอาเอง ดูท่าจะได้ผลแหะ แต่แฟนเจ้าหนุ่มอาร์ตนั่นก็มองตาเป๋งเหมือนกัน

“ถ้าซื้อ3ใบแล้วผมแถมใบเล็กให้ใบแล้วกัน” ฮั่นแน่ เจ้าหมอนี่ฉลาดไม่เบา กล่อมให้เราซื้ออีกใบ ไม่ได้ผลหร็อก

ใครสะกิดว่ะ แรงด้วย โม่งเหลือบตามองที่แขน โห ไอ้ตัวเล็กเกาซะแขนเขาแดงเลย

“พี่โม่ง ๆ ซื้ออีกใบนะ ฝากพี่เอกก็ได้ พี่เอกให้รถเรายืมน๊า...” ตาแป๊วแหว๋ว เริ่มทำงาน “เพิ่มอีกใบได้ฟรีอีกใบหนึ่งเชียวน่ะ ไขก็จะมีของไปฝากพี่ส้มโอด้วย” เสียงงุ๊งงิ๊งพึมพำดังต่อเนื่อง

“อ่ะ  แล้วใบเล็กนี่มันเท่าไหร่” โม่งถามต่อ

“ใบละ30ครับ ถ้าซื้อ2 ใบ คิดให้50เลย” หนุ่มอาร์ตยิ้มหวาน เด็กชายตรงหน้าก็ยิ้มหวานตอบ

“พี่โม่ง ๆ ซื้อฝากข้าวปั้นดีไหม ถ้าไขชอบ ข้าวปั้นมันก็ต้องชอบด้วยแน่เลย...อ๊ะ... มีของข้าวปั้นแล้วก็ต้องฝากข้าวโอ๊ตด้วยสิ”มาแล้ว เสียงกระซิบ พร้อมการเกาที่กลายเป็นข่วนแล้วนะไข โม่งก้มมองหน้าร่างเล็กข้างตัว ตาสบตา ฟ้าใสทำเป็นนับนิ้ว

“งั้นเอาใบใหญ่..”เจ้าตัวเล็กมองปากโม่ง

“...2ใบ” ตัวเล็กทำขมวดคิ้ว โม่งอยากให้มีของพิเศษที่เป็นเหมือนของเขากะเจ้าตัวเล็กนี่นา

“แล้วเอาใบเล็ก4ใบ” คนตัวเล็กยิ้มออก แล้วยิ่งออกมากขึ้นไปอีก เมื่อ หนุ่มอาร์ตบอกงั้นแถมให้ฟ้าใสอีกใบ

“ขอบคุณ ขอบคุณมากคร้าบบบบ”ฟ้าใสยิ้มปากจะฉีกขอบคุณหนุ่มอาร์ต หันมายักคิ้วให้โม่ง

“อิอิ งั้นไขก็ได้2ใบ ใบใหญ่1ใบเล็ก1 มีของฝากข้าวปั้น พี่โอ ข้าวโอ๊ตด้วย อ่ะ พี่เอกด้วย แหม ไม่มีของป้านวล แม่เลย”

“555 อย่างป้านวลกะแม่เราเค้าคงไม่ใช้หรอก มีวาดการ์ตูนตาโตๆอย่างงั้นน่ะ”

“โห โห ดูถูกรสนิยมไข” ไขต่อว่า แล้วชูถุงใส่กระเป๋าที่ซื้ออย่างถูกใจ แล้วกอดแขนคนตัวโตเอาหัวถูถู

“พี่โม่ง น่ารักจัง รักพี่โม่งที่สุดเลย” ฟ้าใสดีใจที่มีของฝากข้าวปั้น นึกถึงว่าปั้นมันจะต้องดีใจ เพราะมักตื่นเต้นกะของที่ฟ้าใสให้อยู่เสมอ จนเหมือนฟ้าใสเป็นฮีโรในดวงใจของข้าวปั้น  แล้วเจ้าตัวก็ไม่ได้สนใจหรอกนะว่าพูดอะไรออกไป

 เพราะเป็นคำติดปากที่พูดกับพี่น้องเพื่อนออกบ่อย แถมดีใจแค่เคล้าแขนคลอแขนยังไม่พอ ยกมือโม่งมา “จุ๊ฟจุ๊ฟ” อีกต่างหาก นี่ถ้าพี่โม่งตัวเท่าพี่โอ ไขก็หอมแก้มซ้ายหอมแก้มขวาแล้วล่ะ

หลังจากจูจุ๊ฟ มือพี่โม่งไปแล้ว ไขก็สบายใจ ลากมือนั้นเดินต่อ




แหะ แหะ หมดสต็อกแล้วล่ะ
ต่อไปตัวเล็กจะเริ่มโตแล้วล่ะ
 :pig4:

หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.5((ต่อจบ 5)) (26/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 27-08-2012 11:09:50
((ต่อ))

หลังจากจูจุ๊ฟ มือพี่โม่งไปแล้ว ไขก็สบายใจ ลากมือนั้นเดินต่อ

ทำไม พี่โม่งไม่ค่อยเดินเลย

“อ้าวเป็นไรไปอ่ะพี่ ไม่สบายเหรอ” เอื้อมมือไปจับหน้า วัดอุณหภูมิ “เอ๋ ก็ไม่เป็นไรนิ” ว่าแล้วก็หันกลับก้มตัวไปจับๆกะลาที่ผูกเชือกคู่กัน

“พี่โม่ง ไอ้นี่มันคืออะไรน่ะ” เอ๋ ถามแล้วไม่ตอบ ถามลุงคนขายก็ได้...
.
.
.
.

 พี่โม่งของฟ้าใสจะเป็นอะไรล่ะ ก็แค่ยังไม่ข้ามวัน ฟ้าใสบอกรักพี่โม่งไปกี่คำแล้วล่ะ  ไหนยังจะเที่ยวจูจุ๊ฟมือพี่โม่งอีก
พี่โม่งไม่สบายไปเลยนะสิ ก็หัวใจมันทำงานหนักเกิน

ดึกแล้ว หลังจากปิดไฟเข้านอน เวลาก็ผ่านไปเกือบ2ชั่วโมง

ฟ้าใสยังนอนไม่หลับพลิกตัวไปมา เกรงใจพี่โม่ง ฟ้าใสขยับตัวให้เบาที่สุด

แต่โม่งก็ดูจะรู้สึก

“ไข นอนไม่หลับเหรอ” โม่งลูบศีรษะคนตัวเล็กข้างกาย

“ฮะ” ตอบเสร็จก็เอาหัวทิ่มแหมะแปะไว้กับอกคนตัวโต

“งั้นไปเดินเล่นที่หาดไหมล่ะ” โม่งเอ่ยชวน

ฟ้าใสมองหน้า สบสายตาพี่โม่งก็พยักหน้าตกลง

อากาศกลางคืนไม่เย็นเกินไป ลมพัดสดชื่น พี่โม่งเดินจูงมือฟ้าใส

มือใหญ่ที่อบอุ่น ฟ้าใสน้ำตาเอ่อรื้อขึ้นมา สัมผัสนี้เขาไม่ค่อยได้รับนักหรอก

ในเรื่องร้ายๆคงมีเรื่องดีๆบ้าง ฟ้าใสกุมมือใหญ่แน่นขึ้น

โม่งเดินก้าวเท้าช้าๆ คนตัวเล็กพยายามก้าวให้พอดีกับเขา

โม่งเห็นเก้าอี้ผ้าใบที่โรงแรมตั้งไว้ให้แขกนอนเล่น จึงชวนฟ้าใสไปนอนเล่น

โม่งรู้ว่าหากปล่อยให้ฟ้าใสอยู่คนเดียว คิดอะไรคนเดียว คนตัวเล็กคงวกกลับไปคิดถึงเรื่องร้ายๆนั้นอีก

โม่งตบเก้าอี้ที่ตัวเองนั่ง ให้ฟ้าใสมานั่งด้วยกัน ทั้งสองนอนมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาว.....


 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.5((ต่อจบ 5)) (27/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 27-08-2012 13:24:28
ไขโตขึ้น พี่โม่งแก่ลง โห๊ะๆๆๆ

จัดเป็ดไป1 อิอิ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.5((ต่อจบ 5)) (27/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: didi ที่ 27-08-2012 17:04:17
รออ่านไขตอนโตกว่านี้ :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.5((ต่อจบ 5)) (27/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 27-08-2012 19:09:36
ไม่ได้สงสารพี่เล๊ยน้องไข
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.6 (28/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 28-08-2012 10:57:00
Ch.6

ที่อาคารปฏิบัติงานประติมากรรม 1 นักเรียนชั้น ปี1กำลังลงมือปั้นนูนต่ำกันอย่างขะมักเขม้น

หลังจากผ่านการขว้างดินเล่นใส่กันจนโดนโอลีฟหัวหน้าห้องตะโกนด่าด้วยน้ำเสียงจริงจังไปหนึ่งยก

“ไข่ เอาดินเพิ่มเปล่า” เสียงโอลีฟที่กำลังเดินไปเอาดินตะโกนถาม

“ม่ะอ่าว พอแล้ว แท็งคิ้ว” ฟ้าใสตอบ

“ไอ้ไข่ มาดูแกมาดูตรงปากให้ชั้นหน่อยดิ ทำเท่าไหร่ก็ไม่ดีว่ะ” หมูแฮมเดินมาตามฟ้าใสให้ไปช่วยแต่งงานของตัวเอง

“เออ เออ ได้ แก เดี๋ยวทำตรงนี้แป๊บนะเว้ย” ขณะที่ฟ้าใสหันไปตอบหมูแฮม เพื่อนร่วมกลุ่ม สายตาก็เห็นร่างสูงคุ้นตา
เดินหอบทั้งกระเป๋า ทั้งถุงใส่ข้าวของตามหลังอาจารย์ป่องไปทางห้องพักอาจารย์ที่อยู่ชั้นสอง

“ไอ้หมูแฮม เดี๋ยวมา ไปห้องน้ำแป๊บ” ว่าแล้วฟ้าใสก็เผ่นพลุ๊บ ออกจากห้องปั้นไปทันที

โอ้โห วันนี้พี่โม่งมาที่นี่ด้วย ไม่ได้เจอตั้งนาน ไม่อยากบอกว่าคิดถึง แต่ก็คิดถึงจริงๆอ่ะ พวกปี 5นี่งานมันเยอะนักหนาหรือไง
ทั้งพวกพี่เซียน พี่จุ๋ย พี่เอก ก็หายหน้าหายตากันไปหมด ต่อให้ฟ้าใสมาแต่เช้า ก็ยังไม่เจอพวกพี่เซียนที่เคยมารอขึ้นรถ
ของวิทยาลัย

ฟ้าใสแอบเดินตามหลังพี่โม่งที่เห็นเดินไวๆอยู่ข้างหน้า พี่โม่งยังกะตัวใหญ่ขึ้นอีกแน่ะ

ฟ้าใสเดินวนวนเวียนๆ พี่โม่งเข้าห้องอาจารย์ไปแล้ว ไม่เห็นออกมาซะที แอบโผล่หน้าไปดู ยืนคุยกะอาจารย์อยู่อีกแหะ
ฟ้าใสถอนหายใจ ถอยกลับมายืนดักหน้าประตู ผลุบๆโผล่ๆ หลายครั้งเข้า

“อ่ะ ว่าไง”ร่างสูงใหญ่คงทนไม่ไหว เดินออกมาหา

ฟ้าใสชะงัก ยิ้มเขินๆ “แหะ แหะ หวัดดีพี่โม่ง”

“อึ้มม..ว่าไงเรา ไม่เรียนหรือไง” โม่งอมยิ้ม เขาเองก็ว่าจะทักตอนที่เดินผ่านแล้วพอเห็นเจ้าตัวเล็กกำลังตั้งอกตั้งใจ
 เลยกะว่าคุยกะอาจารย์ป่องให้เสร็จก่อน

“ก็เห็นพี่โม่งนะสิ ไขก็ต้องเข้ามาหวัดดีนะสิพี่” เจ้าตัวยิ้มหน้าบาน ร่างสูงเอามือลูบหัวคนตัวเล็กเบาๆ

“แล้วทำไมเสื้อเลอะอย่างงั้น” โม่งขเม้นมอง

“ฮึ่อ...ก็เพื่อนนะสิ พวกไอ้ทีมมันแกล้งไข ไขก็เลยเอาดินขว้างมันมั่ง ดีว่าโอลีฟอยู่ข้างไข ให้พวกไขขว้างมันจนคุ้มแล้วค่อยห้าม เหอๆ พวกไขก็ยังกำไร”

“เราอย่าแต่เอาเล่นล่ะเดี๋ยวงานไม่เสร็จต้องมาต่อเช้า”

“โอยมือชั้นนี้แล้ว ไขใกล้จะเสร็จแล้วล่ะ พี่โม่ง ไขลูกศิษย์ใคร ลูกศิษย์พี่โม่งซะอย่าง”

“เฮ้ย ไม่ต้องคุย พี่ไม่ได้สอนปั้นเราเว้ย ไปโน่นลูกศิษย์จารย์ยักษ์โน่นไป”

“555 แหมพี่โม่งรังเกียจไขเหรอ น้อยใจนะเนี่ย”

“ไม่ต้องน้อยใจเลย วันนี้ว่าจะเลี้ยงข้าวเย็นซะหน่อย คงไม่...” ยังไม่ทันพูดจบประโยค ฟ้าใสรีบบอกทันที

“โหยอะไรกันล่ะพี่ งั้นเดี๋ยวรีบกลับไปทำงานให้เสร็จล่ะกัน”

“เออ เออ พี่คุยกะจารย์ป่องเสร็จจะไปคอยเราที่โรงอาหาร”

“คร้าบ คร้าบ เดี๋ยวไขจะกินให้พุงแตกเลย 555” ฟ้าใสพูดพลางยิ้มร่า

“หึ หึ หึ” โม่งหัวเราะขำคนตัวเล็กที่วิ่งกลับไปปั้นต่อ ดูสิก่อนไปยังไม่วายส่งจูบแบบเกาหลีมาให้เขาด้วย โม่งรู้สึกดีใจ ก่อนหน้า
เขายังรู้สึกกังวล ว่าเจ้าคนตัวเล็กนี่จะเป็นอย่างไรบ้าง ดูท่าแล้วคงหายห่วง  แถมนี่เจ้าตัวท่าทางขี้เล่นมากกว่าเมื่อก่อนซะอีก

นี่ก็ผ่านมาสองเดือนกว่าแล้วที่เขาไม่เจอเจ้าตัวเล็ก ตั้งแต่เปิดเทอมได้เดือนหนึ่งพวกปี5อย่างเขาก็ต้องไปฝึกสอน
 เป็นเวลา 2เดือน วันนี้อาจาร์ยป่องมีงานมาให้ทำ เขาเลยไปที่วิทยาเขตสาขารังสิต ที่พวกปวส.และป.ตรี เรียน

แล้วก็เลยติดรถมาที่นี่เพื่อช่วยอาจารย์ถือของด้วย   เขากับไอ้ตัวเล็กจึงไม่ได้เจอกันเลย หากแต่นานๆครั้งโม่งก็จะโทรมาถามไถ่ฟ้าใสบ้างเป็นครั้งคราว
ซึ่งเจ้าตัวเล็กก็จะชวนคุยเล่าโน่นเล่านี่ให้เขาฟัง

โม่งนั่งดูดน้ำรอไอ้ตัวเล็กที่โรงอาหาร นั่นนน เดินมาแล้ว กะพวกเพื่อนๆ ดูเหมือนจะเป็นแก๊งค์เดียวกับที่ไปติว ท่าทางเป็นกลุ่ม
พวกเด็กเรียน ถึงบางคนดูเสื้อแสงจะหลุดลุ่ยบ้าง แต่ก็ไม่ใช่กลุ่มแสบซ่าส์บ้าตะลุย

ฟ้าใสเห็นพี่โม่งแล้ว นั่งคอยอยู่ในโรงอาหาร จึงจัดแจงดึงมือ เพื่อนพาให้มารู้จัก โอลีฟมันจำพี่โม่งได้ เลยทักทายก่อน
ฟ้าใสก็แนะนำเพื่อนไป หมูแฮม ผิงผิง  คนนี้ไอ้เติ้ล คนนี้ป้ามาร์ธา (ไอ้นี่มันผู้ชาย แต่เป็น ป้า)ฮิ ฮิ ฮิ เสียงโอลีฟ ขำประกอบคำ
แนะนำตัวเพื่อนไปด้วย

คนนี้ป๋าเรน (อ้าว นี่มันผู้หญิงโว้ย เป็นป๋า ซะแล้ว ) นี่ก็ ป๋าแก้ม (อ้าวนี่ก็ผู้หญิง)ชอบเอาแก้มแนบแก้มสาวๆอ่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เสียงโอลีฟ ดังประกอบเป็นซาวเอฟเฟ็คตลอด ไอ้นี่มันเมากัญชาหรือเปล่า หัวเราะตลอด เป็นหัวหน้าห้องแท้ๆ ..แชมพู
ดิว..บ๋อม...ฟ้าใสแนะนำเพื่อนเกือบ10คนให้โม่งรู้จัก ต่างก็ยกมือไหว้โม่ง ไม่ว่าหญิงหรือชายก็ไม่ใช่ชายน่ะ ดูแล้ว ชายเทียม
มากกว่า หญิงเองก็เป็นหญิงแมนๆซะ2 แต่ละคนสูงๆกว่าเจ้าตัวเล็กของเขาทั้งนั้น โม่งคิดเออดี ไขอยู่กลุ่มแบบนี้ก็ดี ตัวใหญ่กว่า
เจ้าหนูไข ก็คงช่วยดูแลกันได้ ดูแล้วก็ไม่ใช่พวกที่ยุ่งกับยาเสพติด ถึงไอ้โอลีฟที่แนะนำว่าเป็นหัวหน้าจะดูบ้าบอไปหน่อยแต่
ท่าทางมันสนิทกะเจ้าไขมาก เห็นดึงเนื้อดึงตัวเกาะไหล่ตลอด

“ไปกินข้าวกันไหม พี่ว่าจะเลี้ยงไขน่ะพวกเราไปกินด้วยกันสิ ไม่ต้องเกรงใจ กินแถวนี้แหล่ะ” โม่งเอ่ยชวน  ถ้าไปหมด โม่งคงหนาวเหมือนกัน 55

ก็ปรากฏว่าพวกป๋าๆทั้งหลายต้องรีบกลับ ป๋าเรน แม่ยังมารับอยู่ ต้องไปขึ้นรถที่จุดนัด ป๋าแก้มก็รีบกลับไปเอาใจน้องๆที่หอ  ป้ามาร์ธาแอนด์เฟรนด์
รีบกลับไปทำการบ้านลายไทย  ผิงผิง บ้านอยู่ไกล ต้องรีบกลับ ไปไปมามา ไขตื้อเพื่อนให้อยู่กินด้วยกันแค่ หมูแฮม กับโอลีฟ ตอนผิงผิงขอตัวกลับ

 โม่งเห็นว่าฟ้าใสดูเสียดายมากที่ผิงผิง ไม่ได้ไปด้วยกัน

ระหว่างที่ทาน โม่งก็คุยสอบถามเรื่องเรียนเป็นไงบ้าง วิชาอะไรที่ไม่ถนัด ส่วนใหญ่โอลีฟมันจะคอยตอบแทนฟ้าใสให้ ส่วนหมูแฮม นั่นก็พวกเก็บข้อมูล
นานๆก็ตอบอะไรบ้าง แต่ก็คุยกันดีกับเจ้าตัวเล็กของเขา

หลังจากทานเสร็จ หมูแฮม กับโอลีฟ ก็แยกย้ายกันกลับพร้อมกับขอบคุณ โม่งก็บอกว่าจะไปส่งฟ้าใสที่บ้าน
ระหว่างที่เดินเข้าซอยบ้าน

“ไข พี่ดีใจที่ไขสบายดี เห็นไขมีความสุข ร่าเริง ทำงานก็เก่งด้วย หมูแฮมบอกเราเก่งปั้นด้วยนี่”

“55 แน่นอนสิพี่ ไขนะฝีมืออยู่แล้ว”

“โห ไม่ค่อยคุยเลยนะ งั้นวันหลังขอดูพวกลายไทยหน่อยนะ”

“แป่ว สิพี่  พี่โม่งไม่ต้องเบรกไขเลย โอลีฟบอกอ่ะเด่ เฮอะ”

“เอ..แต่พี่ว่านามสกุลไขนี่คุ้นๆนะ เหมือนมีรุ่นพี่นามสกุลเดียวกะไขนี่แหล่ะ แล้วเขาเก่งพวกจิตรกรรมไทยนะ เป็นลูกศิษย์คนโปรดของอาจารย์ต้นกล้าที่สอนพวกปี3-4 เลย”

“เหรอ วันหลัง ไขจะลองถามแม่ดูว่า มีญาติไขเคยเรียนที่นี่มาก่อนเปล่า”

“ดี เผื่อเป็นญาติกัน อาจารย์เขาจะติวไขเป็นพิเศษ 55”

“อร๊าย ไขจะทำญาติไขเสียชื่อก็คราวนี้แหล่ะ"

“55 ไม่หรอก เราก็ขยันๆ ฝึกมือเยอะๆ พอมือมันชินก็ทำได้ดีเอง”

“ฮะ ไขขอบคุณพี่โม่งมาก ที่เป็นห่วงไข คราวนั้น...”เสียงฟ้าใสจางไป แล้วก็พูดออกมาเบาๆ”ถ้าไขไม่ได้พี่โม่ง ไขก็ไม่รู้จะเป็น
อย่างไง  ไขอาจจะคิดมากจนเป็นบ้าไปก็ได้” เสียงฟ้าใสเริ่มสั่นเครือ เจ้าตัวก้มหน้านิ่ง

“ฮึ่ย!! ไม่หรอก ไขของพี่น่ะเข้มแข็งอยู่แล้ว ทุกวันนี้ไขก็พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วนี่นาว่าไขมีความสุขยังมีเสียงหัวเราะอยู่ มีครอบครัวที่รักเรา” โม่งกอดร่างเล็กแนบอก
โตขึ้นหน่อยหนึ่งด้วยนี่นา โม่งเริ่มรู้สึกถึงความปรารถนาบางอย่างที่อยู่ในตัวเขา
โม่งก้มลงจูบที่แก้มเนียน ใจคิดว่าแค่แก้มเนียนเท่านั้น แต่ร่างกายกลับไม่ยอมเชื่อฟัง
ปากที่หยักได้รูปของเขา กลับเลื่อนไปครอบครองกลีบปากอิ่มแดงระเรื่อ


TBC....
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.6 (28/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 28-08-2012 15:51:15
ค้างงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Ch.6 (28/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 28-08-2012 16:43:37
บวกให้กับความขยันของคนเขียน แล้วก็ความน่ารักของน้องฟ้าใส o13
อ่านตอนน้องโดนทำร้าย ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มเลยค่ะ สงสารน้อง :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥คืนที่อยู่ในความทรงจำ..(28/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 28-08-2012 20:04:32
คืนที่อยู่ในความทรงจำ…..

ฟ้าใสนอนลืมตาโพลง มองท้องฟ้า พระจันทร์ใกล้เต็มดวง ข้างนอกเลยดูสว่าง
นิ้วเล็กๆลูบไล้ตามเรียวปาก สัมผัสอุ่นร้อนชวนวาบหวานในอก ไม่รู้จะคิดอย่างไง ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไร
เรียวลิ้นของพี่โม่งที่สอดมาเกาะเกี่ยว ทำเอาฟ้าใสหายใจไม่ออก

ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่พี่โม่งจูบปากเขา
จูบแรกของพี่โม่ง นุ่มยิ่งกว่าสปองค์เค้กญี่ปุ่นที่พี่ส้มโอพาแม่กับฟ้าใสไปกินที่โรงแรม5ดาวเมื่อได้ค่าสอนพิเศษครั้งแรก
ในคืนแรกที่ฟ้าใสได้นอนในอ้อมกอดอุ่นของพี่โม่ง
ความรู้สึกปลอดภัย ความเอื้ออาทรที่มีให้จากร่างใหญ่ที่อยู่เคียงข้าง
ฟ้าใสจำได้ว่าตัวเองเผลอหลับที่เก้าอี้ผ้าใบริมชายหาด
จูบของพี่โม่งจะเป็นความฝันหรือความจริงไม่รู้ ถ้าเป็นฝันก็เป็นฝันดี และฟ้าใสก็ชอบมัน


ฟ้าใสหน้าแดง เขินกับตัวเองจนต้องเอาผ้าห่มคลุมปิดหน้า
พี่โม่งคิดอะไรกับไข   ฟ้าใสเอาหน้าซุกกับหมอนข้าง
คนจูบกัน เพราะว่ารักกันเหรอ พี่โม่งนะเหรอจะมารักเด็กแบบเขา ฟ้าใสเอาสองมือทาบกับแก้มตัวเอง
เป็นไปไม่ได้ พี่โม่งทั้งดูดีเรียนดีเป็นหัวหน้าห้อง เป็น ประธานของพวกพี่ปวส.อีก คงมีพี่ผู้หญิงมาชอบเยอะแยะ
แต่พี่โม่งมาจูบเขาทำไม

ถึงฟ้าใสจะรู้แล้วว่า เป็นผู้ชายกับผู้ชายก็สามารถมีความรักความสัมพันธ์กันได้
พี่โม่งก็ไม่ได้ทำกับฟ้าใสด้วยความหยาบ พี่โม่งค่อยๆบรรจงจูบเขาอย่างแผ่วเบา หรือว่าพี่โม่งจะแค่พยายามให้เขาลืมสัมผัสที่น่าขยะแขยงนั่น

และก็เป็นความจริง ฟ้าใสรู้สึกดี ริมฝีปากของพี่โม่ง มันทำให้เขาลืมตัวตนไปเลย หวานฉ่ำเรียวลิ้นที่รุกเร้า ลิ้มชิมกลีบปากฟ้าใส
 สัมผัสที่พาให้เขาเผยอริมฝีปากรับอย่างเต็มใจ

ลิ้นหนานุ่มที่เข้ามาไล้สำรวจโพรงปากเข้ากอดเกี่ยวกับลิ้นของเขา แค่คิด ฟ้าใสก็พาลรู้สึกวูบวาบจนรู้สึกแน่นในอก หายใจไม่ออก
 นึกถึงใบหน้าคมสันแววตาที่มีความอาทรห่วงใยให้เขา ฟ้าใสปิดหน้าตัวเอง เหมือนคิดว่าถ้าปิดตาตัวเองแล้วจะทำให้ไม่สามารถ
เห็นหน้าพี่โม่งที่สบตากับเขาในความคิดคำนึงของตัวเองได้

พี่โม่งจะมารักเขาได้ไง รักแบบน้องก็อาจจะเป็นไปได้

ถึงตอนแรกที่ฟ้าใสอยู่ใกล้พี่โม่ง ฟ้าใสจะใจเต้นตึกตัก แต่หลังจากคุ้นสนิทกันแล้วฟ้าใสก็รู้สึกมีความสุขดีเหมือนมีพี่ชาย
 พี่โม่งเหมือนพี่ส้มโอ
 เก่งหมดทุกอย่าง จูบก็เก่งอ่ะ  อื้อ...อายจัง

ผลงานพี่โม่งก็มีโชว์ตามที่ต่างๆในโรงเรียนด้วย ฟ้าใสก็ชอบงานของพี่โม่ง ดูแล้วสบายตาสบายใจ


ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตู มีคนเดียวล่ะในบ้านนี้ที่เคาะประตูเรียกฟ้าใส
ก็พี่ส้มโอเขามารยาทดีเป็นที่ 1 เลยนะสิ

“ไขหลับหรือยัง” ส้มโอเรียกฟ้าใสเบาๆ กะว่าถ้าไขนอนแล้วก็จะได้ไม่ต้องตื่น
ฟ้าใสนิ่งคิดจะตอบดีไหม เพราะตัวเองก็เอาแต่คิดถึง...
ฟ้าใสเอามือแตะริมฝีปากตัวเอง ดึงผ้าห่มมาคลุมโปง เขิน

“เฮ้อ...คิดไปก็คิดมาอยู่ได้ เรานี่” ฟ้าใสถอนหายใจบ่นกับตัวเอง จึงเลิกผ้าห่มออก ตะโกนขานรับพี่ส้มโอ

“ฮ้ะ...........” แล้วก็พูดต่อ

“ไขยังไม่นอนหรอก พี่โอเข้ามาเหอะ”

“ฮื่อ..อ้าว ป้านวลบอกไขเข้านอนตั้งแต่ยังไม่ 3ทุ่ม พี่เลยมาดูว่าไขไม่สบายหรือเปล่า” ส้มโอพูดจบก็เอามืออังที่หน้าผาก
เลยเห็นว่าฟ้าใสตัวอุ่นๆมีเหงื่อเกาะ

“ไขไม่สบายหรือเปล่า มีไข้หรือเปล่า”

“โอ่ย..เปล่า พอดีไขคลุมโปงอ่ะ เหงื่อมันเลยเริ่มออก”

“อ้าว แล้วไปคลุมทำไม กลัวผีเหรอ ดูหนังผีมาเหรอ ฮึ่ย!! เราก็อย่าไปดูสิ ข้าวโอ๊ตก็อีกคนกลัวผีจน ถ้าตกเย็นแล้ว
ไม่ยอมไปบ้านยาย(บ้านยายเป็นบ้านเรือนไทย แต่บ้านแม่เป็นบ้านออกสมัยใหม่แล้ว) ข้าวปั้นน่ะยังดี”

“โหย...อะไรกันพี่โอ ข้าวปั้นนะตัวดี มันก็กลัวแต่ก็ชอบดู เอาเดอะริงมาก็ตื้อไขอยู่นั่นน่ะให้ไขดูด้วย พอดูกัน มันก็เอาหมอนปิด
หน้า ปล่อยไขดูคนเดียว จนต้องขู่ว่าถ้ามันไม่เปิดหน้ามาดู ไขก็จะปิดหนังล่ะ มันถึงนั่งดูกะไข แต่ว่าเปลี่ยนเรื่องพูดเหอะพี่โอ
 แล้วพี่โอมีอะไรเปล่าอ่ะ”

“ไม่มีหรอกแค่แวะมาดูเรา เห็นเข้านอนเร็ว กลัวจะไม่สบาย ถ้าไม่สบายปวดหัวตัวร้อน ก็กินยานะไข”

“ฮะ” ฟ้าใสรับคำ แต่ดูท่าเขาก็คงตาสว่าง นอนไม่หลับ จึงตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปหาอะไรร้อนๆหรือไอติมกินก่อนนอนดีกว่า
 ส้มโอที่นั่งบนเตียงข้างเขาเลยลุกบ้าง แล้วเลยเดินจูงมือน้องชายลงไปข้างล่าง

“นี่ข้าวปั้นก็ยังไม่นอน ถ้านอนไม่หลับกลัวผีก็ลงไปข้างล่าง ไม่งั้นไปสวดนต์ห้องพระ พี่ไปสวดเป็นเพื่อนก็ได้” พี่ส้มโอเขาชอบ
สวดมนต์มาก นี่ถ้าพี่โอเขารู้ว่าพี่โม่งจูบฟ้าใส ฟ้าใสว่าพี่ส้มโอคงเปลี่ยนจากสวดมนต์เป็นท่องคาถาแช่งพี่โม่งแน่เลย ฟ้าใสคิด
แล้วก็แอบหัวเราะในใจนึกขำคนเดียว.


 :-[
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ คืนที่อยู่ในความทรงจำ.. (28/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 28-08-2012 20:06:07
กรี๊ดดดดดดด มาต่อแล้ว

พี่โม่งจูบอย่างเดียวเองหรอออ

ถูกใจให้เป็ด 1 จ้า
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ คืนที่อยู่ในความทรงจำ.. (28/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 28-08-2012 20:28:56
 :3123: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ CH.7 (28/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 29-08-2012 10:09:35
CH.7

ฟ้าใสเดินไปก็คิดไป

ฟ้าใสรู้แล้วล่ะว่าทำไมพี่โม่งไม่มีแฟน ก็เพราะพี่โม่งเขาแต่งกะงานจริงๆ เหมือนคำที่เขาว่าๆกัน

วันนี้ฟ้าใสเห็นพวกรุ่นพี่ปี 5วุ่นวายกันแต่เช้าที่ ART R  นั่งรถกระบะกันมา ขนเฟรม ขนรูปเขียน พี่โม่งเองก็เดินขนของขึ้นลงหลายเที่ยว
 นี่ก็ใกล้สอบแล้ว เห็นตารางเวลาของโรงเรียนแล้ว พอ พวก ปวช.สอบเสร็จปั๊บ โรงเรียนก็จะเปิดสอนศิลปะให้บุคคลภายนอกที่นี่ทันที
พวกพี่ปี4-5 กะพวกพี่ ป.ตรี คงเป็นผู้ช่วยอาจารย์ ไม่ก็สอนเองนะแหล่ะ

ความจริงพวกพี่เอก พี่โม่ง พี่เซียน เห็นเขาแล้วล่ะ ก็เขานั่งดูพวกพี่พี่จากชั้น2น่ะแหล่ะ เขาก็หวัดดีพวกพี่ไปแล้ว พี่โม่งเดินขึ้นเดินลง แต่ก็ไม่ได้เดินแวะมาหามั่งเลย


คาบนี้อาจารย์ก็ไม่เข้าว่างเกือบ2ชม. ฟ้าใสเลยชวนผิงผิงมา มีทติ้งมอลล์ ที่อยู่ใกล้ๆโรงเรียน พี่โอบอกว่ามีร้านสเต็กอร่อยอยู่เจ้าหนึ่ง
 เขาทำแบบจีน เป็นร้านเล็กๆคูหาเดียวน้ำสลัดเขาก็อร่อยเป็นคนแก่สองตายายเป็นเจ้าของและทำเองด้วยแต่ก็มีลูกจ้างเป็นพม่าอ่ะ

“แน่ใจนะไข่ มาถูกเปล่า”ผิงผิงถาม เมื่อเห็นว่าเดินกันไม่ถึงสักที ก็ผมบอกว่าไม่ไกลจากโรงเรียนอ่ะ พอบอกว่าไม่ไกล ผิงผิงก็
บอกงั้นจะนั่งรถทำไม ก็เดินเอาสิ แต่เดินมันก็ไกลหน่อยเหมือนกันนะ แต่พอจะบอกว่าก็ไกลเหมือนกัน เดี๋ยวผิงผิงก็ไม่ยอมมาอ่ะ
  ฟ้าใสก็อยากมีอะไรพิเศษแบ่งปันที่อร่อยกับเพื่อนที่อยากสนิทบ้างสิ เราจะได้ดูพิเศษกว่าคนอื่น ก็ตั้งแต่เข้า ART R  พวก
นักเรียนก็ต่างมากันใหม่ ส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัด ฟ้าใสอยู่ห้องเดียวกับโอลีฟ ปี1/2 ส่วน เวสป้าอยู่ ปี1/5


โอลีฟมันได้เป็นหัวหน้าห้อง ฟ้าใสเองก็มองหาเพื่อนที่น่าสนใจแล้วเขาก็ถูกใจอยู่คนหนึ่งคือผิงผิง

ก็ผิงผิงนะหน้าตาเหมือนซาดาโกะในเดอะริงเลย น่าสนใจชะมัด!!!

“ถูกสิ ผิงผิง” ฟ้าใสเดินต่อ เอ๊ะใช่ร้านนี้เปล่า น่าจะใช่ พี่โอบอกโต๊ะใช้ขาตั้งจักรรุ่นเก่ามาทำเป็นโต๊ะ ท็อปเป็นกระจก

ป้ายชื่อร้านเล็กอย่างงี้ ร้านข้างๆก็ตั้งของซะบังร้านตายายนี่เลย ถึงได้มองเกือบไม่เห็น

“นี่ไง ร้านนี้แหล่ะ ไปกินกันเหอะ” ฟ้าใสคว้ามือผิงผิง เดินเข้าร้าน

หลังจากกินกันเสร็จ ฟ้าใสกับผิงผิงก็เดินเล่นดูของผ่านๆ แล้วก็นั่งรถกระป๋อกลับ
พวกพี่ๆหายไปไหนกันหมดแล้ว ในโรงอาหารก็มีนั่งอยู่ประปราย แต่ก็ไม่มีพวกพี่โม่งกับเพื่อน
ฟ้าใสเดินขึ้นตึกเรียนกับผิงผิง พอเข้าไปในห้อง นี่ก็เกือบได้เวลาวิชาต่อไปแล้วอาจารย์ก็ยังไม่มา หมูแฮมมันก็ก้มหน้าก้มหน้า
เล่นเกมส์ในมือถือ คนอื่นๆก็ฟุบหน้านอนหลับบ้าง คุยกันบ้าง แต่โอลีฟไม่อยู่ คงเดินไปไหนต่อไหน หรือไม่ก็โดนอาจารย์เรียกใช้ให้ไปทำอะไร

“มาแล้ว มาแล้ว” โอลีฟส่งเสียงตะโกนนำทางก่อนเจ้าตัวจะหอบกองสมุดสเก็ตวิชาองค์ประกอบศิลป์ที่อาจารย์ตรวจแล้วคืน
ว่าแล้วเจ้าตัวก็วางปัง!!!ลงบนโต๊ะ พร้อมกับค้อนขวับที่ไม่มีไอ้พวกผู้ชายที่ไหนไปช่วยแบก ซึ่งมันก็ไม่ง้อ

“ อ้า!! ของใครก็มาเอาคืนไป” ร่างผอมสูงก็เริ่มประกาศเรียกชื่อเจ้าสมุด ซึ่งเจ้าตัวบางคนก็ขี้เกียจลุก ก็ใช้เพื่อนให้หยิบส่ง
อาจารย์ที่เดินตามมา เมื่อเห็นนักเรียนหายวุ่นวาย ก็ค่อยเริ่มสอนเนื้อหาเพิ่มแล้วก็ให้งานใหม่

ชีวิตนักเรียนศิลปะก็เป็นวัฎจักรแบบนี้แหล่ะ ยังดีที่พวกอาจารย์ใจดี พอบอกว่างานเยอะ วิชานั้นก็ให้การบ้านวิชานี้ก็ให้ทำงานส่ง
ก็ขอต่อรองเป็น2อาทิตย์ได้อยู่ แต่ก็ต้องส่งแบบสเก็ตมาให้ดู
.
.
วันหนึ่งที่กลางเมืองใกล้แหล่งท่องเที่ยว
เอกผู้เป็นสารภีกำลังนำพาเพื่อนๆไปคุยกับพ่อเพื่อน เรื่องงานตกแต่งร้านอาหารเวียดนามที่เซียนแนะนำ

“เฮ้ย โม่ง นั่นน้องมึงนี่หว่า”  จู่จู่เอกก็เอ่ยเสียงดังขึ้น ขณะที่รถจอดติดไฟแดง ใกล้แยกแหล่งท่องเที่ยวกลางเมือง

“ไหนอะไรว่ะ น้องกรูวันนี้มันบอกจะช่วยแม่กรูขายของที่ร้านนี่หว่า มันหนีเที่ยวหรือไง มาถึงแถวนี้”

“ไหนว่ะ ไอ่เอก” โม่งมองๆดู

“โน่น ฝั่งโน่น ที่นั่งกองกัน4-5คน ตรงบันไดหน้าบริษัทประกันนั่นไง” เอกพยักพเยิด

“อะไรว่ะ น้องกรูมีเรื่องกับใครหรือไง” ร่างสูงใหญ่เริ่มเลิ่กลั่ก

“เฮ่ย ไม่ใช่เว้ย ไม่ใช่น้องเมริง” เอกทำเสียงรำคราญแล้ว

 “แล้วเมื่อกี้ เมริงบอกว่าน้องกรู”โม่งยังไม่เก็ท

 “โน่น ไอ้ไข มันนั่งอยู่กะเพื่อนมันนั่นไง ไอ้โอลีฟมันก็อยู่ด้วย กลุ่มมันนะ”

“อ้าวแล้วมันมานั่งทำอะไรว่ะ ปิกนิคหรือไง หรือพวกมันเดินเที่ยวจนเหนื่อย”

“ปิกนิค พี่เมริงสิ ปูผ้าอย่างงั้น สงสัยมันเปิดท้ายขายของว่ะ” จุ๋ยเริ่มขมวดคิ้วมองหน้าโม่ง

“ห๊า อย่างมันนะเหรอมานั่งขายของ” ไม่อยากเชื่อเลย โม่งคิด

“เด็กมันคงขายเล่นมั๊ง ขยันดีนะน้องเมริง” เอกชม

“ฮื่อ ไอ้น้องคนนั้นที่มันเป็นทอมนั่น  กรูเห็นแม่มันขับเบนซ์มาหย่อนตรงป้ายรถเมล์ตอนเช้าบ่อยๆคงไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินอะไรหรอก”

“ป่ะ เดี๋ยวลงไปทักมันหน่อย” โม่งรีบชวน ก็ไม่ได้เห็นหน้าคนตัวเล็กตั้งนานแล้ว เพราะพวกเขาต้องออกไปทำงานซ่อมภาพผนัง
โบสถ์ที่ต่างจังหวัด เพิ่งเข้ากรุงเทพฯได้2-3วันนี้เอง  พอรถเลื่อนไปข้างหน้าหน่อยหนึ่ง เอกเปิดกระจก ตะโกนทัก โบกไม้โบกมือ

“วู้ วู้ ..ทำอารายกัน”

“อ้าว พี่เอก พี่โม่ง พี่จุ๋ยด้วย วู้ ฮะ ฮะ ฮ่า” เสียงโอลีฟตะโกนตอบ ความอายไม่มีหรอก โอลีฟมันเป็นหัวหน้าห้อง เลยคุ้นกับพี่โม่งที่ต้องเจอกันเวลามีงานของโรงเรียน

“เออๆ ไปจอดรถก่อนเดี๋ยวมา"
 
บรรดาพ่อค้ามือใหม่ ซุบซิบๆ เดี๋ยวได้เหยื่อแล้วเว้ย

“ตกลงทำอะไรกันจ๊ะ พวกเธอ” จุ๋ยถามโอลีฟ

“หวัดดีพี่ หวัดดีพี่เอก หวัดพี่โม่ง หวัดดีพี่จุ๋ย” เสียงทักทาย “สวัสดีจ๊ะทุกคน โอลีฟ ไข ป๋าเรน น้องผิงผิง น้องหมูแฮม”

“555 พี่ ไอ้ป๋าเรนมันชวนทำการ์ดขายอ่ะพี่ ชวนกันทำคนละ20-30ใบแล้วมารวมๆกันขายนี่แหล่ะ”

“แล้วขายใบเท่าไหร่”

“35 บาท พี่”

“แล้วมานั่งขายตรงนี้นะ”

“เปล่าหรอกพี่ ไปขายตรงแถวหน้าโรงเรียนโน่นนะ พอดีไอ้ไข่มันอยากกินไอ้ติมแป่ะ นั่นอ่ะ เลยยกขบวนกันมานั่งกินติมไป
วางขายไป ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

“แล้วเป็นไง ขายได้เปล่า” โม่งทัก เอามือตบหัวคนตัวเล็กที่สุดในกลุ่ม

“โหย ขายได้สิพี่โม่ง งานไข...”

“นี่หรือเปล่าฝีมือเรา” จุ๋ยหยิบการ์ดขึ้นมาใบหนึ่ง

“โห พี่จุ๋ย รู้ใจว่ะ เดาถูกได้ไงอ่ะ”

“งาน อึ้ง ทึ่ง เสียว จะมีใคร 555” เอกแกล้งแซวมั่ง “โม่ง เมริงดูงานลูกศิษย์เมริง การ์ดปีใหม่ มีรูประเบิดด้วยนะเมริง 
อันนี้มีระเบิด แล้วมีจานบินด้วยว่ะ 555”

“โห พี่เอก อย่าแซวกันดิ พุลต่างหาก พี่อ่ะ แต่ความจริงก็ตั้งใจเป็นระเบิด ก็มันฟอร์มสวยดี”

“มา มา อุดหนุนน้องๆหน่อย” เอกชวน แล้วลงมือเลือกการ์ด

“พี่โม่งงงงงง...” มาอีกแล้ว ไอ้เสียงแบบนี้

ว่าแล้วจากที่นั่งเหยียดแข้งเหยียดขาตรงบันได ไอ้ตัวเล็กมันลุกขึ้นมายืนกระแซะเขาตั้งแต่เมื่อไหร่
เพื่อนๆเจ้าตัวเล็กพอเห็นท่านี้ ก็หัวเราะทันที
ตัวกระแซะไม่พอ เกาะแขนเขาอีก

“พี่โม่งงงงง พี่โม่งงงง ง่ะ” เอาไหล่มากระทุ้งอีกเว้ย

“555 พี่โม่งต้องเหมาไอ้ไข่แล้วมั๊ง” ไอ้ป๋าเรนเสนอแนวทาง

โม่งก้มดูการ์ดแบบต่างๆ เอกพยายามที่กำลังเลือกจากตะกร้าของทุกๆคน

“แล้วนี่ขายกันได้กี่ใบแล้ว”

“อ้อ ก็เกือบ20ใบแล้วนะพี่ เด็กๆซื้อมั่ง ผู้ปกครองซื้อมั่ง เขาก็ช่วยๆกัน แต่เราก็ไม่ได้บอกนะพี่ว่าเอาไปช่วยอะไร เพราะไม่
อยากโกหกอ่ะ” โอลีฟบอกพี่จุ๋ย

ฟ้าใสแอบกระซิบพี่โม่งที่ตัวเองกระแซะเชียร์ให้ซื้อของตัวเอง “ไอ้ป๋าเรนมันจะหาทุนไว้จีบสาวอ่ะพี่โม่ง”

“เอ็งไม่ต้องพูดเลย ไอ้ไข่”ป๋าเรนต่อว่า พลางยักคิ้ว “เดี๋ยวเล่ามั่ง เมื่อกี้นะพี่ มีฝรั่งจะมาซื้อ ไอ้ไข่อ่ะน๊า...น่าจะยอมๆไป ไม่งั้นก็ขายกันได้กันหมดเลยนะพี่โม่ง”

“อ้าวแล้วไมล่ะ เขาต่อราคาเหรอ” จุ๋ยรีบถามต่ออย่างสนใจ เอกก็พลอยฟังด้วยคน ฟ้าใสทำตาประหลับประเหลือก

“ทำไม ไข มันไม่ยอมลดราคาให้เขาเหรอ เรน” โม่งถามป๋าเรนมั่ง

“555 เปล่าพี่ เขาไม่ได้ขอลดราคา..” ยังไม่ทันที่ป๋าเรนพูดจบ ผิงผิงก็พูดแทรกขึ้น

“ฝรั่งมันขอจูบไอ้ไข่อ่ะ แล้วมันจะเหมาหมดเลย ดู๊ดูมันสิ พี่ ผู้หญิงอยู่กันตั้ง4คน” หมูแฮมที่ก้มหน้าก้มตากะเกมส์ในมือถือ
แทรกเสียงต่อให้ “มันยังจะขอจูบไอ้คนมีดุ้น” พอสิ้นคำบอกเล่า เอกกับจุ๋ยก็หัวเราะทันที ฟ้าใสก็ทำหน้าแดง มีแต่โม่งที่ไม่
หัวเราะ แต่ก็ยิ้ม  มานึกดูกลุ่มนี้ ถึงจะผู้หญิง 4คนก็จริง

แต่ดูสิ โอลีฟ ผอมสูง นมแทบไม่มี ผมยาวกว่าตัวเล็กเขาหน่อยหนึ่ง ไอ้ป๋าเรน นั่นผู้หญิงแต่ก็เป็นทอมถึก ล่ำตัวใหญ่
แบบคนต่างจว.แต่ก็ขาวแบบลูกคนมีกะตัง ไอ้ผิงผิงนี่ผู้หญิงจริงผมยาวขาวแต่หน้านี่แบบผีญี่ปุ่น เรียบไร้อารมณ์
อีกคนก็ไอ้หมูแฮมนี่ก็ผอมบางสูงผมกะลามาครอบตัดไม่เห็นลูกกะตา ถึงหน้าตาหมวยๆน่ารัก มีลักยิ้ม แต่ก็สู้ฟ้าใสลูกศิษย์
ของพี่โม่งไม่ได้ แถมเจ้าหมูแฮมยังเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นเกมส์มือถือ นมก็แทบไม่มีเช่นกัน เห็นไอ้ที่มีนมพอให้รู้ว่าผู้หญิง
ก็ดันเป็นทอม กรูล่ะกลุ้มใจกลุ่มนี้ ไอ้ไขมันเลยหน้าตาน่ารักสวยที่สุดในกลุ่มแล้ว

ไอ้ป๋าเรนเลยพูดต่อ

“ไอ้ไข่ มันเลยชี้ไปที่ป้อมตำรวจ  ไอ้ฝรั่งมันเลยเผ่นไปเลย แหม๋เสียดายจริง” หันมาขบเขี้ยวใส่ฟ้าใส ฟ้าใสเลยแกล้งพาล

“ไม่รู้ล่ะ พี่โม่ง เหมาไปเลย” แล้วพึมพำต่อเบาๆ ((เคยเอาของแถมไปแล้ว สินค้ายังไม่ได้เหมาเลย งุงิงุงิ))

ขณะที่กำลังพูดๆคุยๆกันอยู่ ก็มีเสียงตะโกนจากบีเอ็มสีดำรุ่นเก่าแล้วที่เลื่อนมาจอดติดไฟแดงใกล้ๆ ลอยมา


 :man1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ CH.7 (29/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 29-08-2012 10:14:17
((ต่อ))

ขณะที่กำลังพูดๆคุยๆกันอยู่ ก็มีเสียงตะโกนจากบีเอ็มสีดำรุ่นเก่าแล้วที่เลื่อนมาจอดติดไฟแดงใกล้ๆ ลอยมา

“ฟ้าใส ฟ้าใส มีอะไรกันหรือเปล่าลูก” เสียงผู้หญิงสูงวัยดังขึ้น ฟ้าใสมองดู เจอว่า

“ อ้าว เป็น ป้าป้าที่บ้านง่ะ” พลางบอกเพื่อน พี่ๆ ว่า “ป้าๆไขเองแหล่ะ เขาคงไปซื้อของกันมา”

ฟ้าใสรีบถลาลงไปบนถนน ที่รถจอดติดอยู่ โม่งและโอลีฟรีบตะโกน
“เฮ่ย!!! ระวังมอไซต์” เจ้าตัวรีบหันมามอง หัวเราะแหะ แหะ

หลังจากไปเกาะรถ แป๊บหนึ่ง ฟ้าใสก็กลับมาบอกเพื่อน ว่าป้าชวนไปกินก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยอ่ะ ชวนให้ไปกันหมดเลย
 ป้าชวนรุ่นพี่ด้วย แต่พวกโม่งก็ขอตัว เพราะต้องไปคุยเรื่องงานต่อ

ทั้งหมดเลยเก็บของ ที่เป็นแค่ผ้าปู แล้วตะกร้าใส่การ์ดของแต่ละคน พี่โม่งเลยส่งตังให้ไอ้ป๋าเรน

“อ่ะ พวกพี่อุดหนุน” ไอ้ผิงผิงดูแล้วว่าพวกพี่เลือกยังไม่ถึงตังที่ให้ เลยรีบหยิบๆส่งไปให้4-5 ใบ
ทุกคนเลยลารุ่นพี่ๆทั้งหลาย วิ่งไปขึ้นรถ
ฟ้าใสเปิดกระจกโผล่หน้าโบกมือบ๋ายบายอีกครั้ง

“ขอบคุณนะคร้าบบบบบ” แล้วเจ้าตัวเล็กก็ไม่วายทะเล้นส่งจูบมาให้คนตัวโตที่ยืนยิ้มรับค้าง

“เฮ้อ ไปกันแล้วล่ะเมริง” เอกตบไหล่เพื่อนที่เอาแต่ยืนมองตามรถบีเอ็ม

“พ่อค้าบรรดาศักดิ์จริ๊ง  ขายๆของข้างถนนอยู่ มีบีเอ็มมารับไปกินก๋วยเตี๋ยว เลยปิดร้านเผ่นไปแล้ว” เอกเอียงหน้าไปพูดข้างหูโม่ง

“ว่าแต่เมริงเก็บของแถมไปเรียบร้อยแล้วเหรอ งั้นเมริงก็จ่ายค่าเหมาเอาเองนะเว้ย อ่ะนี่ การ์ดปีใหม่ ลูกระเบิดกะจานบิน
 เมริงเอาไป แล้วไม่ต้องส่งมาให้กรูนะ แต่การ์ดที่เหลือนี่กรูขอนะ” 

ไอ้เอก นะไอ้เอก ไอ้หูผีจมูกมด กรูนึกว่ากรูจะได้ยินไอ้หนูไขแค่คนเดียวแท้ๆ โม่งบ่นกะตัวเอง

“พูดอะไรกันว่ะ กรูไม่รู้เรื่อง แต่กรูก็ขอเหมือนไอ้เอกด้วยคนนะเว้ย” อ้าวน้าน...คุณพี่จุ๋ยขอเนียนด้วยคนซะงั้น

 :bye2:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ CH.7 (29/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 29-08-2012 15:04:37
รอ nc น้อยๆ จ้า

ถูกใจให้เป็ด งิงิ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ CH.7 ((ต่อ1))(29/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 29-08-2012 17:59:40

((ต่อ1))
หลังจากสอบปลายภาคเรียนที่2 ก่อนทุกคนจะได้หยุดยาว บัญชีกรรมก็เริ่มแสดง

โรงอาหารที่โรงเรียน ART R เหล่านักเรียนปวช.ทั้งปี1-2-3 นั่งระเนระนาดประปราย บ้างใส่ชุดนักเรียน บ้างสวมชุดลำลอง
ตามสถานการณ์การผ่านสอบ บางคนมาเพื่อติดต่ออาจารย์ลงชื่อสอบซ่อม ก็สวมชุดนักเรียน

บางคนก็มาเพื่อส่งงานที่ค้างคาก็ใส่ชุดลำลอง บรรดาเพื่อนร่วมแก๊งค์ของฟ้าใส เช่นกัน ป้ามาร์ธามาลงชื่อซ่อมวิชาพละ
โดนให้ทำรายงาน 50หน้า

ผิงผิงส่งงานครบ ส่งตามกำหนด แต่มาเพราะต้องมีการลงแขก ช่วยทำโมเดลบ้านเรือนไทยภาคกลาง 2หลัง
ให้ไอ้หมูแฮมผู้มึน อึน เบี้ยว ตัดไม้บาร์ซ่า ผิดแล้วผิดอีก ซื้อของเป็น2เท่าของคนอื่น แล้วไอ้บ๋อมอีกที่ชอบเผื่อ
จนบ้านมันเอียงๆบานๆชอบกล
ส่วนฟ้าใส กับไอ้เติ้ล ที่ชอบดองงานรอคำว่าเดธไลน์ เป็นอินสไปเรชั่น จี้ตูดถึงจะลงมือทำ

“ไข่ แกเอางานไปส่งเรียบร้อยแล้วนะเฟ้ย”

“เออ สิว่ะ เอ้อ ยังดีที่ทันวันสุดท้าย คนก็มาส่งเยอะชิบอ๋าย จนไม่มีที่จะวาง”

“เชอะ ไอ้พวกเดธไลน์” ผิงผิงว่าทำหน้าเหยียดหยาม ฟ้าใสว่าเหมือนผิงผิงกำลังจะยิ้ม...น่ารักออก

“ใครจะเหมือนหล่อนล่ะ แม่นางผิงผิง  สั่งปุ๊บ ทำปุ๊บ พวกขี้เห่อ” ไอ้เติ้ลประชด

“นี่พวกแกๆทั้งหลาย ในเมื่อสูเจ้า ตะบันเหงื่อต่างน้ำ ข้ามีของกำนัลแก่พวกเจ้าทั้งหลาย” ไอ้ป๋าเรนนี่ประกาศข่าวดี แก่บรรดาเพื่อนร่วมแก๊งค์

“ไป ไป ไอ้ไข่” ป๋าเรน คว้าคอฟ้าใส กอดนำทางไปที่หอพัก

บรรดาสาวจริง สาวแมน แมนหน้าสาว ก็เก็บข้าวของเดินทางไปยังที่รโหฐาน หอพักหญิงบุษบา ที่ป๋าเรน ป๋าแก้ม ไอ้ดีดี้สาวผู้ชื่นชอบการร้องเพลงเช่าอยู่

ความจริงป๋าเรนตอนแรกก็ไม่ได้อยู่หอ ถึงบ้านจะอยู่ไกล แต่แม่มันเป็นหมอที่โรงพยาบาลแถวสามเสน เลยแวะมาส่งมันได้ทุกวัน
 แต่มันนี่สิมานั่งเล่นที่หอป๋าแก้มบ่อยจนติดใจน้องหอ เลยขอแม่เช่าไว้ห้องหนึ่ง แต่ก็ยังไปไปกลับๆ เพราะป๋าเรนก็มีสาวที่โรงเรียนเดิมอยู่อีก

แล้วเมื่อวานวันเกิดพ่อมัน มันเลยกลับไปนอนบ้าน แล้วเลยหอบของขวัญมาฝากเพื่อนๆ
.
.
.
.
ร้านค้าสารพัดในซอยแห่งหนึ่งใกล้หอพักสตรีบุษบาและหอพักอพาธเม้นท์ธรรมดาทั่วไป

“ไข!!!” เสียงตะโกนเรียกชื่อเขา เสียงเหี้ยม แต่ก็มีเสียงหัวเราะ หึ หึ ปนมาจากอีกคน ฟ้าใสสะดุ้งเฮือกคอย่น

“ทำไร” เสียงดุดุยังไม่วายขู่สำทับ เจ้าตัวยอมหันหลังกับไปดูพร้อมกับหลับตาปี๋ ก็รู้อยู่แล้วว่าจะหันมาเจอใคร
 หลักฐานก็คาอยู่ในมือ ขวดเหล้า1กลม เป็ปซี่ ลิตร1ขวด ฟ้าใสค่อยลืมตาทีละข้าง ทำหน้าเหยเก

“แหะ แหะ หวัดดีครับ พี่จุ๋ยยย พีโม่งงง” ฟ้าใสยกมือไหว้พร้อมขวดกลม ทักพี่จุ๋ยก่อนล่ะว๊า ส่วนพี่โม่งนี่ไม่อยากทักเร๊ย

“เออ เออ ไม่ต้องยกมาก เดี๋ยวไอ้ขวดกลมๆ จะหล่นแตก จะอดกิน” พี่จุ๋ย พูดยิ้มๆ

“ไข เดี๋ยวนี้เรามาซื้อเหล้ากินเองแล้วเหรอ” เสียงดุยังไม่ยอมลดราวาศอก

ฟ้าใสถอนหายใจ เฮ้อ ทำไมซวยอย่างงี้ นี่ก็เพิ่งบ่าย 2 พวกพี่จะมาเดินอะไรแถวนี้ว่ะ รู้ว่าแถวนี้ก็มีพวกนักเรียนโรงเรียนเขามา
เดินๆกัน หอพักเพื่อนพี่โม่งก็อยู่ข้างๆหอพักหญิงของไอ้ป๋าเรน ไอ้ป๋าแก้ม รุ่นพี่ผู้หญิงบางคนก็อยู่หอเดียวกันก็มี
แล้วนี่ที่เขาต้องเป็นคนวิ่งมาซื้อ เพราะเขากินน้อยที่สุด ก็เลยม่ายมาว ก็มันขม เขาก็ต้องผสมเป็บซี่ เยอะๆ แทบจะจาง
ไม่รู้รสเหล้า แล้วถ้าเขาไม่เป็นคนมาซื้อ แล้วพวกมันลงมาซื้อเอง พวกมันก็จะไม่ซื้อเป็บซี่มาให้

“เอ่อ...เปล่าอ่ะ พี่โม่งงง” ฟ้าใสตอบนึกข้อแก้ตัวหรือจะหาข้ออ้างอะไรที่มันจะดูดีขึ้นว๊า

“เมาหรือเปล่าเนี่ย” จุ๋ยเห็นฟ้าใสลากเสียงซะยานคาง เลยจะชะโงกมาพิสูจน์ใกล้ๆ หากคนตัวหนากว่ารีบดึงมาดมพิสูจน์ก่อน

“อ๋อย พี่ เดี๋ยวก็ตกแตกหรอก ถ้าแตก ซื้อใช้ด้วย” ฟ้าใสบ่นกระปอดกระแปด “ดึงมาได้”

 “ฮึ ไม่ค่อยเท่าไหร่” เสียงเข้มเอ่ย

“โฮ่...ก็บอกไม่ได้กิ๊น” โดนมองหน้า “แหะ แหะ จิบไปนิ๊ดเดียวเองอ่ะ”

“แล้วกินกันกี่คน”

“ก็5-6-7คนอ่ะพี่”

“เออ..ไข กิ๊ป เอ็งสวยดี” จุ๋ยทักชมกิ๊ปดอกไม้ที่ฟ้าใสติดแปะบนหัว 55 ร่างสูงเลยอมยิ้มตาม

“แหะ แหะ พี่อย่าแซวดิ หอไอ้ป๋าเรนมันหอหญิงอ่ะ เวลาไขมาหอมัน พวกมันก็ให้ติดอย่างงี้แหล่ะ หลอกป้าแม่บ้าน ป้าแกก็ตาไม่ค่อยดี ปล่อยๆไขผ่านเนียนๆ”

“เออ เจริญนะไอ้ไข สักวันมันคงให้เอ็งใส่กระโปรง”

“แล้วทำไมต้องให้เรามาซื้อหือ เกิดไปเจอคนรู้จักที่บ้านล่ะ”

“โห..ก้อ..คนอื่นเค้าเมากันแล้วอ่ะ ไอ้ป๋าเรนไม่เมา แต่มันออกตัง มันก็เลยไม่ต้องเดินอ่ะ”

“ห๊า..เอ็ง บ่าย2 เนี่ยนะ มันจะรีบเมาไปถึงไหน” จุ๋ยโวยมั่ง
 
“คนเค้าก็ต้องกลับบ้านนี่นา ก็ต้องรีบเมารีบสร่างรีบกลับอ่ะดิ พี่” ก็พวกเขาเพิ่ง16-17กันเอง พ่อแม่ก็ยังไม่ได้ปล่อยนัก

“แล้วนี่ขวดที่เท่าไหร่” พี่โม่งเปิดการสอบสวนมั่ง

“แหะ แหะ พี่ ขวดที่3 อ่ะ” ฟ้าใสยิ้มอายๆ ชูสามนิ้วประกอบ “ไอ้ป๋าเรนมันเอาเหล้าฝรั่งที่บ้านมาขวด พอหมดไขก็ลงมาซื้อกะ
ไอ้หมูแมไปขวด ตอนนี้ไอ้หมูแฮมมันก็..แหะ แหะ..เดินไม่ไหว ไม่ลงแล้วอ่ะ ไขเลยต้องมาซื้อคนเดียว ตังเหลือได้ซื้อหนมด้วย” ชูถุง
ขวดเป็ปซี่ที่มีซองทาโร่อวดอีก โม่งเลยโบกหัวเด็กหน้าใสติดกิ๊ปดอกไม้ ไป1ทีเบาๆ ตามด้วยขยี้หัวเล่น ฟ้าใสรีบเอียงหัวหนี

“โอ่ย พี่ เดี๊ยวกิ๊ปหลุด เข้าหอไม่ได้กัน” ฟ้าใสโอดครวญ

“ฮ่า ฮ่า ไข เอ็งเข้าหอโน้นไม่ได้ มากินกะพี่จุ๋ยหอนี้ก็ได้นะ” พี่จุ๋ยชวน พยักหน้าส่งไปทางหอรวมที่เพื่อนเค้าเช่าอยู่ เล่นเอาโม่งมองหน้าเพื่อน แต่พี่จุ๋ยก็อมยิ้มยักคิ้วสู้ต่อ

“นี่ ขวดนี้เป็นขวดสุดท้ายนะ ห้ามลงมาซื้ออีกแล้วนะ ถ้าลงมาซื้ออีก...”โม่งเอามือดึงไอ้กิ๊ปดอกไม้ติดผมออก

“พี่จะไปบอก...ป้าแม่บ้านหอ” โม่งก้มลงกระซิบที่ข้างหูฟ้าใส

“ว่า..ไขน่ะมีปิกกาจู หุ หุ” แล้วโม่งก็เสยผมเจ้าตัวดีรวบแล้วติดกิ๊ปให้ใหม่

ฟ้าใสถึงกับหน้าแดง บ่นอุบอิบ

“พี่โม่งทะลึ่งอ่ะ”

“แล้วถ้ากลับไม่ไหว โทรมาพี่จะไปส่งบ้านให้” โม่งสำทับ

“เฮอะ ก็บอกว่าไม่ได้กิน  ไม่ได้กิน จะเมาได้ไง กลับเองได้”แล้วก็สะบัดตัว แอบเดินชนไหล่พี่โม่ง เอาเหล้าไปสังเวยเพื่อนสังสรรค์กันต่อ  ((ความจริงเอ็งก็กินแหล่ะไข เมานิ๊ดๆด้วย ไม่งั้นจะกล้าแกล้งเดินชนไหล่พี่โม่งเขารึ))

“จะกลับบ้านโทรมาด้วยล่ะ” โม่งตะโกนสั่งตามหลังไอ้ตัวดี อย่างเป็นห่วง

จุ๋ยมองเพื่อนแล้วยิ้มที่มุมปาก

“ไอ้ที่จะไปส่งเนี่ย เมริงจะส่งน้องที่มันบ้านเมริงหรือบ้านน้องมันว่ะ”

“อุ๊บส์ เชรี่ยโม่ง” จุ๋ยอุทานทันที เมื่อมือใหญ่ๆโบกเข้าที่ศีรษะที่มีผมยาวสลวยสวยเก๋



TBC......
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ CH.7((ต่อ2)) (29/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 29-08-2012 18:10:21
((ต่อ2))

ร้านกินๆดื่มๆมีดนตรีเล่นประกอบแถวริมน้ำ หลัง6โมงเย็นเป็นต้นไป เพื่อนฝูง เหล่า ปี5 ที่นัดกันไว้ก็เริ่มทยอยกันมา
 จนรวมเป็นกลุ่มใหญ่ งานนี้ไม่อ๊วกคงไม่เลิกรา  ถึงบางคนจะอ๊วก ถ้าร้านไม่ปิดก็ไม่กลับ เสียงชายหนุ่มหญิงสาวพูดคุยเฮฮา
กลุ่มใหญ่ มีเสียงด่าทอหยอกล้อกันเล่นเป็นระยะ

“โอ้โฮ ไอ้เนิร์ด กรูว่าเมริงฉลาดๆอย่างงี้ เมริงต้องไม่ใช่คนแน่เลยว่ะ” เสียงจุ๋ยกล่าว

“ไมว่ะ เมริงจะให้กรูเป็นเทพเหรอว่ะ” เนิร์ด มันก็เนิร์ดวิชาการล่ะว่ะ เรื่องตกหลุมดักควายของไอ้จุ๋ยนี่มันถนัด

“โอย เปล่า กรูจะให้เมริงเป็นยิ่งกว่าเมพขิงๆอีก”

“ไรว่ะ มีอะไรเหนือเมพขิงๆอีกเหรอเมริง” ไอ้หยิกร่วมวงสนทนาตามหาควายด้วยคน

“ใช่ ๆไรว่ะ กรูแค่ไปอยู่จังหวัดปริมณฑลของประเทศเพื่อนบ้านหน่อยเดียว ไม่รู้เรื่องศัพท์เทคนิคเลยเหรอกรู” ไอ้เนิร์ดมองหน้าไอ้จุ๋ย

“ไอ้จุ๋ยเมริงจะยกย่องให้กรูเป็นไรว่ะ”

“555 ไอ้เนิร์ด” จุ๋ยเน้นเสียง “เมริงฉลาดๆอย่างงี้ กรูต้องยกย่องให้เมริง เป็นหมา555”จุ๋ยระเบิดหัวเราะใส่

“เพราะหมานะเมริง มันไม่เคยเดินเหยียบขี้คน แต่คนเนี่ยล่ะเดินเหยียบขี้หมา อย่างอิปุ๋ยวันนี้ 555”

“ตุ๊บ!! เชรี่ยจุ๋ย เอากรูมาเผา” จุ๋ยโดนฝ่ามือพิฆาตมารกลางหลัง

“อร๊ายยยยย นังชะนีแกเอาเกิบไปล้างหรือยังย่ะ ไม่สวยแล้วยังเซ่ออีกต่างหาก”มัดหมี่สตรีข้ามเพศ ได้โอกาสซ้ำ

“ล้างแล้วสิโว้ย ถ้าไม่ล้าง ช้านคงได้เช็ดกับหน้าไอ้จุ๋ย ไม่ก็หน้าแกแล้ว นังมัดหมี”

“มัดหมี่ย่ะ อิปุ๋ยชีวภาพ”

“แกสิ อิมัดหมี อิแหล่งกบดานแมงกุดจี่”

“นี่ถ้าพวกแก2คน”ไอ้โจ้จอมแดกโวยมั่งเพราะกำลังซัดยำมะเขือยาว “ไม่เลิกพูดเรื่องขี้ ก็แยกไปนั่งอีกโต๊ะหนึ่งเลย
ไอ้จุ๋ยด้วยคนนะเมริง อ่ะ” (( ตัวเมริงก็ด้วยไอ้โจ้  เมริงก็เว้นไว้สักคำ ไม่ต้องพูดก็ได้ ไม่มีใครเค้า โนโวตเมริงหรอก เพื่อนร่วมโต๊ะนึกในใจ))

“ช่าย...สัสส จุ๋ย แล้วเมริงจะยกย่องสรรเสริญกรูหรือเมริงจะด่ากรูกันแน่ เชรี่ย” เนิร์ดบ่นพึมพำ “แต่กรูไม่อยากจะโบกเมริงให้เปลืองกล้ามเนื้อไบเซ็ป กรูจะเก็บพลังงานเอาไว้ยกภารชนะทรงกลมแววใสที่บรรจุน้ำ R2D2 กลั่นเป็นสุรารสเลิศดีฟ่า”

“ไอ้เนิร์ด เมริงมั่วแล้ว R2D2 มันหุ่นยนต์ของเจ้าหญิงเรยาเฟ้ย” ไอ้เอกเตือนไอ้เนิร์ด - แต่มันเองก็อย่าเดินทะลุฮอลลีวู้ด โผล่มาหนองแขมสิว่ะ

เวลาผ่านไปทุกคนพูดคุยกันอย่างหนุกหนานหนิดหนมที่ตามด้วยจำนวน ประชากร เ_อี้ย ห่าน และสารพัดสัตว์
ต่างคนก็ต่างคิดถึงแล้วก็แลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ได้เจอะเจอจากการที่ต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัด

“โม่ง อะไรว๊ะ เมริงไม่เห็นค่อยกินเลย” เอกสังเกตเห็นว่าโม่งไม่ค่อยพยายามยกซดเท่าไหร่ ถ้ายกซดมาก แก้วพร่องเมื่อไหร่ก็โดนเติมทันทีอยู่แล้ว

จุ๋ยที่นั่งอยู่ใกล้เลยตอบ “ไอ้โม่ง มันไม่ได้นั่งกินกะพวกเราเว้ย” จุ๋ยโดนชำเลืองแล้ว แต่ก็ยังไม่หยุด “โม่งมันนั่งกินกะพวกที่อยู่หอหญิงบุษบา น่านน”..ครืดดดดดด..โม่งถีบเก้าอี้จุ๋ย

“กรูพูดจริง เมริงก็ไม่ให้พูด..ชิ” จุ๋ยบ่นยกแก้วดื่มต่อ

เกือบ2ทุ่ม เสียงมือถือ โม่งก็ดังขึ้น โม่งรับโทรศัพท์แล้วลุกมายืนคุย ริมระเบียง

"พี่โม่ง พวกไขจะกลับแล้วฮะ"

"จะกลับแล้วเหรอ" เสียงทุ้มเอ่ยอย่างห่วงใย "กินข้าวหรือยัง"

"กินแล้วฮะ เนี่ยออกมากินตรงร้านโจ๊กหัวมุม ซอย4อ่ะ"

“เออ เออเดี๋ยวพี่ไปส่งกลับบ้าน รอตรงนั้นน่ะแหล่ะ พี่อยู่ที่ร้านระเบียงน้ำ ใกล้ใกล้นี่แหล่ะ”

“โอ่ย พี่ไม่ต้องมาก็ได้ ไขกลับเองได้”

“ไม่ต้องอ่ะ พี่ไปส่ง เดี๋ยวเกิดเราเมาหลับเหลิบไปล่ะ”

“โห!! ก็บอกว่าไม่มาว ก็ไม่เชื่ออ่ะ”

“เออน่า รอตรงแถวนั้นนะ”

“งั้นไขรอตรงป้ายรถเมล์นะเดินไปส่งไอ้หมูแฮมกะผิงผิง”

“ฮื่อ เจอกัน”

“เฮ้ย!! เดี๋ยวกรูมาแป๊บหนึงนะ” โม่งลุกขึ้นออกมาแล้วบอกเพื่อนๆรอบวง

จุ๋ยดูเหมือนเข้าใจ พยักหน้าแล้วหัวเราะหึ หึ ยกแก้วดื่มต่อ
เอกเลยบอก “พวกกรูนั่งนี่ถึงเที่ยงคืนนะเว้ย แล้วเดี๋ยวไปต่อ ร้านพี่ชาน อิปุ๋ยมันเกิดอยากฟังเพลงแจ๊สว่ะ”

“เออ กรูไปไม่นานหรอก” โม่งรีบเดินออกไป

จากร้านระเบียงน้ำ โม่งเดินตัดทะลุซอยก็มาถึงปากซอย 4ที่มีร้านโจ๊กอยู่ตรงหัวมุม ที่พวกไขเพิ่งกินกันไป มองไปทางป้ายรถเมล์
 ก็เห็นไอ้ไข ยืนอยู่กับไอ้ป๋าเรนและแฟนเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักขาวๆหมวยๆถักเปียคู่ซะด้วย

โม่งเดินไปหา ทั้งคู่ยกมือไหว้

“หวัดดีฮะพี่โม่ง”  เขาพยักหน้ารับ

“ฮื่อ แล้วเพื่อนๆล่ะ กลับกันหมดแล้วเหรอ” เมื่อมองแล้วไม่เห็นมีคนอื่น

“ฮะ ไอ้เติ้ลค้าง ไอ้หมูแฮม ไอ้ผิงผิงเพิ่งไปม่ะกี้” ไอ้ป๋าเรนตอบแทน เมื่อเห็นไอ้ไขทำเฉยๆไม่พูดไม่จา

“พี่จะไปส่งไอ้ไข่เหรอ งั้นป๋าเรนไปล่ะนะพี่” ยกมือไหว้ลาอีกครั้ง หันมาพยักเพยิด ให้ไอ้ไข แล้วมันก็กุมมือสาวน้อยกลับห้องหอ
โม่งได้ยินแว่วว่าสาวน้อยถามไอ้ป๋าเรนว่า “พี่ผู้ชายนั่นแฟนพี่ไข่เหรอ” เสียงตามมาว่า “ใครแฟนใครพี่ไม่รู้ พี่รู้แต่ น้องนุ่นนะเป็นแฟนพี่เรนครับ”

โม่งเรียกแท็กซี่ไปส่งจากตรงนี้ไปบ้านไขก็แค่20นาทีเองมั๊ง ถ้ารถไม่ติดนะ
ไอ้คนตัวเล็ก วันนี้มันเงียบผิดปกติแหะ โม่งมองหน้า แล้วหรี่ตามอง เมาเปล่าหรือยังมึนอยู่หรือเปล่า โม่งคิด

"จะหลับไหม เดี๋ยวพี่ปลุกให้" ฟ้าใสส่ายหน้า พี่โม่งนี่จะหาว่าเขาเมาอีกล่ะสิ บอกว่าไม่เมาก็ไม่เมาสิ เห็นเขาไม่พูดน่ะ ก็เพราะเขามีเรื่องค้างคาในใจต่างหาก

ผ่านไปชั่วอึดใจ โม่งก็พยายามให้ฟ้าใสเอนพิงเขา แต่ไอ้ตัวดีก็เอาแต่นั่งเอานิ้วโป้งมั่งนิ้วชี้มั่งใส่ปากกัดไปกัดมา

“พี่โม่ง...” เสียงคนตัวเล็กเอ่ยอย่างดูเป็นการเป็นงาน ขณะนั่งด้วยกันในรถแท็กซี่

 โม่งนึกเสียวในใจ เอาอีกแล้ว เจ้าตัวเล็กมันจะมีเรื่องอะไรอีกหรือเปล่า เอื้อมไปลูบหัวเจ้าตัวเล็ก
ตั้งแต่วันแรกที่รู้จัก ยันเกิดเรื่องหนักครั้งกระโน้น เจ้าเด็กน้อยตัวนี้มันทำให้เขาใจตุ้มๆต้อมๆอยู่เรื่อย
แถมจะพาลให้เขาเสียคนเอาด้วย

“มีอะไรเหรอไข เรามีอะไรปรึกษาพี่ได้นะ” โม่งกล่าวอย่างเอ็นดู


“อ่ะ ถ้ายังไม่อยากพูดตอนนี้ เดี๋ยวพี่ให้รถเขาจอดหน้าซอยบ้านไขแล้วเราเดินคุยกันก็ได้”

เจ้าตัวเล็กทำปากจู๋อย่างเคยเวลาคิดอะไรไม่ตก แล้วก็เอาหัวมาชนหัวไหล่ปั้ก! แล้ว แปะทิ้งไว้ซะงั้น
พอลงจากแท็กซี่

โม่งเดินโอบไหล่เจ้าตัวเล็กหลวมๆ เพื่อให้น้องมันสบายใจ เท่านั้นน่า ไม่ได้คิดอะไร๊

“ว่าไง มีอะไรจะปรึกษาพี่”

“พี่โม่ง สัญญาก่อน ว่าห้ามหัวเราะ”

“หา!!!เออ เออ อะไรนะ ห้ามหัวเราะด้วยเหรอ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

“เอ๊ยอะไรนะ!!! ก็บอกว่าให้สัญญาไงว่าห้ามหัวเราะไง”

“อ้าว ก็ไข ยังไม่ได้เล่านะ อ่ะ เดี๋ยวก่อนดิ เฮ้ย!! อย่าเพิ่งงอน อ่ะ เล่ามา เล่ามา ไม่หัวเราะหรอก”

“แน่นะ ห้ามบอกใครด้วย ห้ามว่าไขด้วย ...ห้ามบ่นด้วย ผิดสัญญาแช่งให้ท้องเสียเป็นลมคาห้องน้ำเลยนะ” ฟ้าใสทำหน้าจริงจัง

“อ่ะสัญญา” โม่งยกมือสองข้าง ไอ้ท่าสัญญานี่มันท่ายกมือยอมแพ้หรือยอมถูกจับมากกว่า

ฟ้าใสหันมาจ้องหน้า ทำตาดุที่สุดเท่าที่จะทำได้ ปากเม้มรอตัดสินใจที่ระบายเรื่องกลัดกลุ้มของตัวเอง

“พี่โม่งสัญญาแล้วนะ ห้ามพูด ห้ามบอกใคร ยื่นมือมา” คนตัวเล็กทำเสียงเข้ม ตกลงเอ็งขอความช่วยเหลือจากกระผมไม่ใช่เหรอ ยังกะตรูไปขอพึ่งมัน นะไอ้ตัวเล็ก

“อ่ะดี” หลังจากพอใจที่เขายื่นมือไปจับ โธ่เอ๊ย ทำเป็นบีบมือ แรงจังว่ะแรงกว่าเด็กเพิ่งเกิดว่ะไข โม่งคิดนึกขำคนตรงหน้า ไม่เอา ไม่เอา เดี๋ยวเผลอขำออกไป มันงอนอีก

“ไข พูดก็ได้” ฟ้าใสจ้องตาคนตรงหน้า ลากพี่โม่งของมันไปนั่งคุยกันที่ม้านั่งริมถนน แล้วยิงคำถามทันที

“พี่โม่งเคยรักใครไหมอ่ะ” ห๊า นี่ตัวเล็กมันจะสารภาพรักกะเค้าเลยหรือเนี่ย หึ ดีใจวุ๊ย เออ เออ ไม่ยุ่งดี ไอ้ตัวเล็กมาสารภาพรักเรา
ก่อน เราก็มีข้ออ้างแล้ว  สงสารเด็ก เอ็นดูเด็กมัน

“อ่ะพี่โม่ง ไม่เห็นตอบเลย” มีการเร่งเอาคำตอบด้วย  เอ๋ เอาไงดีล่ะ จะตอบว่าไม่มี ก็หาว่าเราไม่มีใจให้มาก่อน  ถ้าตอบว่ามี เดี๋ยวก็พาลไม่กล้าสารภาพรักเรา โม่งตัดสินใจ เอาไงดีว่ะ ใช้มุกผู้ใหญ่ข่มดีกว่า

“ไข มีอะไร รู้สึกอย่างไงบอกพี่มาตรงก็ได้” แจ๋ว สมแล้วเป็นหัวหน้าห้องตลอด5ปีซ้อน

“พี่รู้ไหม” ตัวเล็กมันทอดเสียงทำนองลำบากจังที่พูด  พี่โม่งรอคำสารภาพรักจากเจ้า วะฮะฮ่า พูดมาเลยไขจ๋า
 สารภาพเสร็จพี่โม่งมีรางวัลให้ อุ อุ  ตื่นเต้นๆแบบแปลกๆแฮะ

ฟ้าใสทำหน้าย่นแล้วรีบเอ่ยออกไป “ไขน่ะ ชอบไอ้ผิงผิงอ่ะ“

“เอิ่ม อะไรนะไข” โม่งเริ่มฟังแล้วรู้สึกงงๆ



TBC....
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ CH.7((ต่อ1,2,3)) (29/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 29-08-2012 18:20:14
((ต่อ3))

“เอิ่ม อะไรนะไข” โม่งเริ่มฟังแล้วรู้สึกงงๆ

“ไขบอกว่า...(เน้นเสียงเน้นๆ)..ไขชอบไอ้ผิงผิงน่ะ ไอ้ผิงผิงเพื่อนไขน่ะ”

“ผิงผิง คนที่หน้าเค้าเรียบๆเหมือน ผีญี่ปุ่น เอ่อ ใช่ไหม” โม่งถามกลับ อาการกระหยิ่มหายว๊าบไปไหนว่ะ มึนๆอีกต่างหาก

“ฮื่อนั่นแหล่ะ ไขนะชอบเค้า ทั้งชอบทั้งรักเลย”เว้นวรรคกลืนน้ำลาย “แค่ตั้งแต่เข้ามาวันแรก ไขก็ชอบเค้าแล้ว
ไขเล็งเค้าไว้ตั้งแต่เจอเค้าเลย ถึงถ้าผิงผิงมันอยู่คนละห้องนะ ไขก็จะเป็นเพื่อนกะเค้าให้ได้” เสียงหนุ่มน้อยกล่าวอย่างมาดมั่นในความรัก

อ้าว อะไรว๊า แล้วพี่โม่งล่ะ ไขเอ็งก็พูดว่ารักพี่โม่งไม่ใช่หรือไง เฮ้อ ตรูหลงคารมเด็กหรือเนี่ย  โม่งคิดแล้วกลุ้ม เลยโมเมมั่วมั่งล่ะโว้ย

“อะไรไข จะรักผิงผิง มากกว่าพี่โม่งเหรอ” นึกๆดูประโยคนี้มันคุ้นๆ อ๋อ ประโยคพี่สาวของเจ้าตัวดีนี่เอง อ้าวตรู ตกอยู่ในสภาพเดียวกับพี่สาวเจ้าตัวเล็กแล้วเหรอ

“แหะ แหะ พี่โม่งไขก็รักกกกกก โธ่ ใครจะไม่รักพี่โม่งล๊า   พี่โม่งออกจะแสนดี ช่วยเหลือไข” ไขพูดเสร็จก็ เกาะแขน - มุกเดิมเชียวนะ

“ไม่เอาอ่ะ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว” อะไรว่ะ สรรเสริญตรู2ประโยคเอง  ตีแขนตรูอีก ไอ้ไข เดี๋ยววันนี้โดนแน่

“ก็เนี่ย ไขก็แอบรักผิงผิงมัน ชอบที่มันหน้าตาเรียบๆที่สุดเลย แล้วมันก็น่ะพี่ มันเป็นกลางๆที่สุดเลย ไม่โวยวาย ไม่พูดมาก แต่ก็ไม่ใช่ไม่พูดเลย ทำงาน มันก็ได้ C ถ้ามันได้ B เดี๋ยวมันก็ได้ซี ผิงผิงมันจะไม่ได้เคยได้เอ หรือ ดี เลย 555 แจ๋วไหมพี่”

โห ไอ้ไข เอ็งล้ำลึกมาก กรูเริ่มนับถือเอ็งแล้วล่ะ อย่างพี่โม่งA  A+ เอ็งไม่ชอบใช่ม่ะ

“แล้วพอวันนี้อ่ะพี่” ฟ้าใสเล่าต่อ ทำหน้าแบบกลัวโม่งนิดๆ

“พี่ก็รู้นิ ว่าวันนี้พวกไขมันกินเหล้ากัน สอบก็เสร็จแล้ว ไขก็ผู้ชายน่ะ”

ห๊ะ อัยขัย เอ็งจะพูดอะรายน๊า อย่าพูดนะว่า เอ็งจะขอไอ้ผิงผิงแต่งงาน โม่งเดาแบบใจหงายใจคว่ำ

“ไขว่า ไขจะปล้ำไอ้ผิงผิง” ฟ้าใสกลั้นใจพูดออกมาอย่างรวดเร็ว ไม่กล้ามองหน้าพี่โม่ง ก้มหน้าทำปากยื่น

โม่งมองหน้าไอ้เด็กที่ตรงหน้า อ๊าค!!!!ฟังแล้วก็โมโห โมโหแล้วก็ปลง ปลงแล้วก็อยากเขกกะโหลกแรงๆสักทีแต่ก็กลัวมันเจ็บ
เขกหัวมันไปตอนนี้ ลงได้ลงน้ำหนักไม่ยั้ง เฮ้ออออออออ  ตอนบ่ายที่ไอ้ไขเจอกะเค้า โดนขู่ไม่ให้เหลวไหล
หนอยยังจะคิด....มันน่าโดนไหมเนี่ย

แล้วตัวมันเอง ตัวเท่าลูกหมา ไอ้ผิงผิงตัวโตกว่ามัน กระดูกคนละเบอร์เลย ไอ้ไขเอ๊ย ริจะปล้ำหญิง โม่งเห็นมือไอ้น้องผิงผิงแล้ว
 เป็นมือของคนทำงาน มีเส้นเลือดเส้นเอ็นขึ้น เอ๊ะ หรือว่าไอ้ไขมันแค่ชอบอะไรที่ตรงข้ามกับมันประเภทที่ขาดก็ทดแทน ถ้าเป็นเพราะข้อนี้จะอภัยให้

“ชอบมือผิงผิงเค้าด้วยใช่ไหม” ลองถามดู

“โหใช่ ใช่ พี่โม่งรู้ใจที่สุด” ไอ้ตัวเล็กตาโตตื่นเต้น เฮ่อออ แล้วไป ไขเอ๊ยมือแบบนั้นผู้ชายเค้าไม่ชอบกันหรอก ผู้ชายนะเค้ามือแบบเอ็งตะหากเล็กๆเรียวแต่ไม่ผอมขาวเนียน พี่โม่งนะชอบมือน้องไขที่สุด มีโอกาสจะไล่ดูดให้ครบทุกนิ้วเลย

“ไขชอบมือผิงผิงมันที่สุดเลย มีเส้นอะไรต่ออะไรปูดโปนไปหมด ไขนะไม่เลยมีอะไรอย่างงี้มาก่อน” 

“นี่ นี่ ไขมาดูมือพี่โม่งสิ ของพี่ก็มี” มือใหญ่ยื่นมาตรงหน้า

“แต่ของพี่โม่งก็ไม่ได้ปูดแบบไอ้ผิงผิงอ่ะ”

“ อ้าว ก็พี่ไม่ได้ผอมหุ้มกระดูกแบบผิงผิงนี่”

“โอย อย่ามาว่าผิงผิงมันนะพี่โม่ง ไขน่ะชอบขอมือมันมาจับเล่นเรื่อย”

โอ๊ยตาย เอ็งขอผู้หญิงเค้าจับโน่นจับนี่ไปเรื่อยเหรอ ไอ้ไขเอ็งรู้ตัวหรือเปล่าว่าเป็นผู้ชาย อ้อ ต้องรู้สิ เมื่อกี้มันยังวางแผนจะปล้ำเพื่อนอยู่เลย

“อ่ะว่าต่อ” โม่งพยักหน้า นี่ตรูต้องกลั้นหายใจลุ้นไหมเนี่ยว่ามันจะทำอะไรต่อ

“ก็แล้วทีเนี๊ย มันก็กินเหล้า กินเหล้ากันใช่ไหม มันก็เมากัน ไอ้ป๋าเรนมันก็จีบน้องในหอนั่นแหล่ะ แล้วมันก็คอแข็งที่สุด
ส่วนไขก็ไม่ค่อยกิน ไอ้ป๋าเรนน่ะมันก็ชอบไอ้ผิงผิงเหมือนกะไขน่ะแหล่ะ ถึงไม่พูด แต่ไขก็รู้สึกได้”

หนอยไข ทีความรู้สึกพี่โม่ง อ่ะ ไขไม่เห็นรู้มั่งเลย น้อยใจมั่งแล้วว่ะ

“ไอ้ผิงผิงมันเมา คนอื่นก็เมา จนแทบจะหลับแล้วล่ะ”

โม่งเริ่มลุ้น ใจเต้นแทน ไอ้เด็กพวกนี้นี่นะ นี่ถ้าเกิดเรื่องอะไร ไอ้ไขของเขานี่ก็ตัวดี ยังดีที่ไขไว้ใจเขามีอะไรก็ปรึกษา

“ไอ้ผิงผิงมันก็เริ่มร้อน มันก็ขยับจะถอดเสื้อ” โม่งฟังแล้วก็ร้องเฮ้ย!!!ในใจ

“ไขก็...ก็ช่วยมันแกะกระดุม” ไอ้ไข เอ็งต้องโดนแน่วันนี้ ฮึ่ม...โม่งเริ่มขมวดคิ้ว

“อ่า ไขก็จะ...ไขก็ไม่รู้อ่ะ แต่ไขก็เคยดูไอ้ซีดีโป๊น่ะนะ” มือที่วางอยู่บนขาเริ่มยุกยิกเอานิ้วมาถูไปถูมา

“ไขก็ช่วยผิงผิงแกะกระดุมออกจนหมดเลยอ่ะ เหลือแต่เสื้อชั้นใน ไขกะจะถอดเสื้อชั้นในมันออก แล้วก็ว่าจะจูบมันด้วยอ่ะ
แล้วไขก็ก้มไป..” พูดไปเจ้าก็ก้มหน้าเอามือกุมขมับ ตัวสั่นสะท้าน

ฟังแล้วโม่งพาลก้มลงไปฟังที่ปากไอ้ตัวเล็กด้วย และแล้วความรู้สึกที่กลัดกลุ้มก็ทำให้ คนตัวเล็กร้องขึ้น

“พี่โม่งอ่ะ ฮือ ฮือ ฮือ ไขไม่รู้สึกมีอารมณ์กะไอ้ผิงผิงมันเลยอ่ะ ฮือ ฮือ ฮือ ไขไม่เห็นรู้สึกใจเต้นตึกตัก ไอ้วาบหวิว สยิวกิ้วอะไรก็
ไม่เห็นมี ฮือ ฮือ ไขก็เลยตัดใจจะยกไอ้ผิงผิงให้ไอ้ป๋าเรน แต่ไอ้ป๋าเรนก็ไม่เอา เพราะมันมีน้องหออยู่  และก็เนี่ย..ไขก็เลยปล่อย
ให้พวกมันนอนแล้วก็ลงมาดูทีวีข้างล่าง มานั่งกลุ้มใจอยู่คนเดียวเนี่ยแหล่ะ” ฟ้าใสมันก็ทำหน้าตุ่ย ปากบู้

“นี่ไขตายด้านหรือเปล่าอ่ะพี่โม่ง ไขอายุเพิ่งเท่านี้เองนะ แล้วนี่อีกตั้งหลายปีกว่าไขจะตาย ไขจะต้องอยู่อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรกะใครเค้าเลยเหรอพี่โม่ง”

เฮ่อกรู เสียเวลาฟังมันหรือเปล่าว่ะเนี่ย ตกลงตรูเป็นหมอนพพรใช่ไหม  หึ หึ ปรึกษาถูกคนแล้วน้องไขเอ๊ย!

เฮ้อ...นี่ผมก็ต้องช่วยมันแล้วล่ะสิ  กระดี๊กระด๊าม๊วกม๊วก 555 เหตุผลเต็ม10นะ มันเองก็เป็นลูกศิษย์ด้านการเรียนแล้วก็ต้องควรเป็นลูกศิษย์เรื่องการบ้านด้วย

- - ชิ้ว ชิ้ว หัวงู - - ไร ใครมาตะโกนอะไรแถวนี้ ไป ไป๊ ผมเป็นหัวหน้าห้อง ทำอะไรไม่ผิด

“ฟ้าใส” ร่างสูงเรียกร่างเล็กด้วยเสียงนุ่มๆ ((ถึงเวลาแล้วที่เจ้าต้องรับพลังจากข้า))

“หื้อ พี่โม่ง” เจ้าตัวเล็กหันมามองรุ่นพี่เต็มตา นัยต์ตาหวานคลอด้วยหยาดน้ำตา โม่งตัดสินใจสุดท้าย
โม่งจับไหล่เจ้าตัวเล็กให้หันมา แล้วประกบปากปิดริมฝีปากแดงระเรื่อ ความรู้สึกอัดอั้นมาตลอด
สองมือประคองใบหน้าหวาน โม่งเล็มเลียรสชื่นชุ่ม หยุดไม่ได้ ไม่อยากหยุด

มือใหญ่สอดประคองที่ท้ายทอย กดไว้ไม่ให้เจ้าตัวเล็กขยับหนีไปไหน
โม่งใช้ลิ้นละเลียดความอ่อนนุ่ม ช้าๆแผ่วเบา จากนั้นก็เริ่มดูดดุนจากช้าสู่เร็วและรุนแรงขึ้น คนตรงหน้ามิได้ปฏิเสธ เพียงแต่ไม่ประสีประสา  ความรู้สึกดีๆที่มีให้กัน ปากอิ่มแดงจึงเปิดเผยอรับลิ้นที่รุกบุกเข้าไป

จากรสจูบสัมผัส โม่งรู้ว่าเขา ไม่ต้องการเพียงแค่นี้
โม่งกอดตัวน้อยร่างเล็กอุ้มมาอยู่หลังแนวต้นไม้
จากหน้าผากสู่ตา จากตาสู่แก้ม จากแก้มสู่ริมฝีปาก จากริมฝีปากเป็นการกอดเกี่ยวระหว่างลิ้น
การแยกจากกันอย่างอ้อยอิ่งของลิ้นทั้งสอง ร่างเล็กสูดลมหายใจ หน้าอกสะท้อนแสดงอาการหอบ
คนตัวใหญ่มิได้หยุดเคลื่อนไหว มือที่ลูบไล้เบื้องหลังร่างเล็กกอดรัดให้ร่างบางเบียดกับร่างตัวเอง
อาการสั่นสะท้านบ่งอารมณ์ความรู้สึกของฟ้าใสได้อย่างดี โม่งสัมผัสติ่งเม็ดยอดอกที่แข็งชูชัน
เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่จากร่างสูงสมส่วน โม่งสาระวนกับการขบติ่งหูใช้ปลายลิ้นไล้เลียสัมผัสทั้งดูดทั้งขบ มือใหญ่สอดขยี้ผมนุ่มสลวย

“...ไข...” โม่งเอ่ยได้เท่านี้ เขาไม่บังอาจกล้าขออะไรที่มากกว่านี้
โม่งก้มลงดูดที่ติ่งเม็ดยอดอก  เสื้อเจ้าตัวเล็กถูกปลดกระดุมไปตั้งแต่ไหร่ ไม่มีใครรู้
ร่างเล็กแอ่นรับการสัมผัส โม่งปลดกระดุมกางเกง
ไขน้อย อุ่นร้อน รอการสัมผัส โม่งกอบกำบอลเล็กสองลูก
เจ้าตัวถอยหนี แต่เมื่อเขาลูบคลึงร่างบางเริ่มเบียดรับ โอบกอดเขาแน่น

พี่จะทำให้ไขมีความสุขนะ เขากระซิบข้างเจ้าตัวเล็ก ตาที่ปรือด้วยความปรารถนารสชาติแห่งสุข ริมฝีปากที่เผยออ้า บอกถึงความต้องการ โม่งประกบปากเข้าครอบงำปากสีแดงสดอีก คราวนี้ปากเล็กกลับเรียกร้องรสสัมผัสที่รุนแรงขึ้น พี่โม่งทำอย่างไรน้องตัวเล็กคอยทำตาม แม้จะไม่ประสีประสา ปลายลิ้นตระหวัดเกี่ยวลิ้นเล็ก ในโพรงปากกลายเป็นสนามเด็กเล่นที่สองฝ่ายยอกเอิน
ไม่มีอะไรที่มาห้าม ปลายนิ้วที่สัมผัสปลายบนของแก่นกาย เคล้นคลึงจนของเหลวเยิ้มซึม

อื้อ..อ้า...เสียงหลุดลอดบอกอารมณ์

“พี่โม่ง” ฟ้าใสครางเสียงกระเซ่า “ไข” แฮ่ก แฮ่ก อ้า ฟ้าใสทั้งหอบทั้งคราง ฟ้าใสเกร็งหนักที่ช่วงท้อง โม่งเร่งมือ อารมณ์ของตัวเขาเองก็หนักหนา แต่ก็ไม่อยากได้ชื่อว่าทำเพื่อตัวเอง โม่งดูดเนื้อเนียนที่เนินไหล่
มือข้างหนึ่งที่ตระคองกอด มืออีกข้างเร่งสร้างทางสู่สวรรค์ให้ร่างเล็ก

“พี่โม่ง พี่โม่ง” เสียงเรียกสั้นกระชับ “ทำให้ไขด้วย” ตัวเล็กร้องขอเสียงสะอื้น

โม่งต้องข่มอารมณ์ความต้องการของตัวเองจนอดไม่ได้ที่ต้องกัดเนินไหล่เนียน
รสสัมผัสจากการกัดย้ำกลับเร่งให้ร่างเล็กต้องการมากขึ้น โม่งรูดเคล้นกระตุกอีก2ครั้ง
น้ำตาที่เต็มไปด้วยความสุขเอ่อท้น

ฟ้าใสไปถึงปลายฝันในเวลาไม่นาน ไขน้อยสั่นสะท้านตุบตุบ
คราบของเหลวสีขาวขุ่น เลอะกระจายในฝ่ามือใหญ่ของรุ่นพี่
ฟ้าใสทั้งอายแสนอาย แต่ตัวเองนั้นกลับมีความสุขอย่างที่สุด รักรุ่นพี่ที่สุด
ฟ้าใสซบหน้าอิงแอบอกพี่โม่ง จับสองแขนให้โอบกอดตัวเองไว้


TBC....
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ CH.7((ต่อ1,2,3)) (29/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 29-08-2012 18:24:25
((ต่อ))


เขาเดินไปส่งไขเข้าบ้าน 3ทุ่มกว่า ช่วงเวลาที่ดูเนิ่นนานแต่มันเหมือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เขาอยากจะอุ้มเจ้าตัวเล็กไปส่งให้ถึงบ้าน ฟ้าใสอย่างไรก็ไม่ยอม แข้งขาที่อ่อนแรงอย่างงั้น ยังจะแข็งใจเดิน
ฟ้าใสเดินตามพี่โม่งที่จูงมือเข้าไปจนถึงทางแยกเข้าบ้านไข ฟ้าใสไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าถึงแล้ว มันรู้สึกเหมือนตัวมันลอยมาได้เอง

“ไขเข้าบ้านได้แล้วนะ พี่ไปนะพรุ่งนี้พี่จะมาหานะจะพาไปกินอะไรอร่อยๆเอาไหม” โม่งกระซิบข้างหูเจ้าตัวเล็ก จมูกก็โฉบแก้มนวลหนึ่งฟอด

 “นอนหลับฝันดีนะครับ”

ฟ้าใสพยักหน้ารับเหมือนต้องมนต์

“ไม่จุ๊ฟพี่กลับบ้างเหรอ” โม่งทวง ฟ้าใสก็ทำตาม เอาริมฝีปากแดงชนที่แก้มคนตัวใหญ่
คนตัวใหญ่ถือโอกาสหอมกลับอีกครั้ง
โม่งเดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่



โม่งกลับมาถึงร้าน 5ทุ่ม
แม้ว่าไอ้เอก และคนอื่นๆจะบ่นว่า เขาหายไปไหน นาน

แม้ว่า ไอ้จุ๋ย จะมองหน้า ทำปากแสยะยิ้มกวนตีนเขา

แม้ว่า กระเทยควายอย่างนางมัดหมี จะพยายามเกี้ยวพาราสีเขา

โม่งก็ไม่โกรธ เพราะมันไม่ได้เข้าในความรับรู้ของเขาเลย

ในหัวเขามีแต่ภาพที่เจ้าตัวเล็กส่งเสียงครางจากลำคออย่างมีความสุข

วันนี้เดี๋ยวเขากลับไปคงต้องขอ 2มั่ง แต่ดูท่า ทั้งเสียงครางเจ้าตัวเล็กทั้งใบหน้าหวานที่กำลังปลดปล่อยความสุขด้วยฝีมือเขา2ครั้ง2ครา
 มันติดตรึงตา อย่างงี้ อาจจะ4-5 เลยดีกว่า
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ CH.7((ต่อ1,2,3)) (29/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 29-08-2012 19:43:36
 :m25:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ CH.7((ต่อ1,2,3)) (29/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: didi ที่ 29-08-2012 20:01:09
 :pig4: :pig4: :pig4:
ไข่น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ CH.7((ต่อ1,2,3)) (29/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 29-08-2012 21:12:31
ไขหนูยังไม่ตายด้านนะลูกหนูยังมีอารมณ์กับพี่โม่งอยู่เลย
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ CH.7((ต่อ1,2,3)) (29/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 30-08-2012 13:00:04
ฟ้าใสน่ารักอ่ะ พี่โม่งหลงเด็กน้อยแล้วล่ะซิ :-[
ดูแลกันไปนานๆนะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ มาบอกนัดฮะ (30/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 30-08-2012 19:11:25
เติมรักใส..ใส่หัวใจ 2ดวง

เอาข่าวมาบอกล่วงหน้าก่อนนะคร้าบ

รอบหน้าจบ แอปปิโซด วัน แล้ว พี่โม่งต้องบ๋ายบาย น้องไข

ขอเวลา2วันนะฮะ จะได้มาแบบปะติดปะต่อกัน – เขียนสดแล้วนะฮะเนี่ย – อายตัวเอง งานการไม่ทำ

รอบหน้า เตรียมถังใส่เลือดครับ!!!

เจอกันวันที่ 1 กย.55 นะครับ

(http://upic.me/i/j0/yksai.jpg) (http://upic.me/show/38708266)

ฟ้าใส
หนุ่มน้อยหน้าหวาน มินิไซส์

(http://upic.me/i/tj/moeng.jpg) (http://upic.me/show/38708323)

พี่โม่ง
รุ่นพี่ปี 4 ที่มาช่วยติวให้ ฟ้าใสสอบเข้า โรงเรียนศิลปะ อายุแก่กว่าฟ้าใส 4ปี

(http://upic.me/i/vi/tphai.jpg) (http://upic.me/show/38708347)

โภชน์
เพื่อนร่วมโรงเรียน ปีเดียวกับฟ้าใส แต่อายุแก่กว่าฟ้าใส 3ปี

(http://upic.me/i/wg/6lief.jpg) (http://upic.me/show/38708381)

ลิฟต์
เพื่อนของโภชน์ อายุมากกว่าโภชน์ 1 ปี

2คนนี้เกี่ยวอะไรกะ น้องไข ?
ต้องรอแอปปิโซด 2 นะครับ


หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ มาบอกนัดฮะ (30/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 30-08-2012 19:34:11
พี่โม่ง บ๊ายบาย น้องไข

ตัวละครใหม่อีก2
ว๊ากๆๆๆ

รอเช็ดเลือดตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ มาบอกนัดฮะ (30/08/12)
เริ่มหัวข้อโดย: didi ที่ 30-08-2012 22:53:45
รอค่ะ :z1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S1.Ch.8 (1/09/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 01-09-2012 01:15:36

CH.8

8.05 น.

“สวัสดีครับ อาจารย์โก้” โม่งรับโทรศัพท์หลังจากเห็นชื่อว่าใครโทรมา

“เออ โม่ง ดีใจด้วยนะ”

“เอ่อ ดีใจเรื่องอะไรครับ อาจารย์มีงานจะส่งให้ผมหรือครับ”

“จำเรื่องที่ครูให้เธอยื่นขอทุนเรียนต่อที่อเมริกาได้ไหม เค้าตกลงแล้ว โรงเรียนเราได้มาทั้งหมด5ทุน เธอกับนายนิพนธ์
ได้ทุนของอเมริกา 3ปี ขวัญชนก กับ วัชระ ได้ทุนของญี่ปุ่น 1 ปี พงค์พัฒน์ ได้ทุนของเยอรมัน 1ปี ทุนนี้รวมค่าใช้จ่าย
ทุกอย่างหมดเลย ค่าที่พัก ค่าเรียน ค่าเดินทาง ค่าอาหาร  จะมีที่ต้องออกเองอย่างค่าถ่ายเอกสารในการเรียน
หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานส่ง”

“......” โม่งฟังอาจารย์แล้วก็เริ่มหนักใจ 3 ปี นานเหมือนกัน ไอ้ดีใจก็ดีใจ

“แต่ถ้าเธอกังวลเรื่องใช้จ่าย วิทยาลัยมีทุนให้กู้ยืม อาจจะเป็นลักษณะการทำงานใช้ แล้วก็ที่ครูรู้มาว่า อย่างผลงานที่นักศึกษาทำใน
ระหว่างเรียน ก็สามารถขายได้ งานบางคนพอแสดงในนิทรรศการของนักเรียนจะมีคนชอบมาซื้อไปเก็บไว้เป็นคอลเลคชั่นเลยทีเดียว
บางชิ้นขายไปชิ้นเดียว อยู่ได้ทั้งปีเลย”

“เอ่อ...ครับ ขอบคุณ ครับ”

“งั้น เดี๋ยววันนี้ เธอเข้ามาช่วงบ่ายๆนะ ตอนเช้า ครูยังมีสอนอยู่”

“ครับ อาจารย์ ขอบคุณครับ”


9.05 น.วันเดียวกัน
“ฮัลโหล ไข นี่พี่โม่งนะ”

“หวัดดีฮะพี่โม่ง”

“เอ่อ...” เสียงของทั้งสองคนเอ่ยขึ้นพร้อมกัน

“อ่า...พี่โม่งพูดก่อน”

“อ่า... ไขพูดก่อนเถอะ”

“ก็ได้ครับ เอ่อ..” ฟ้าใสเริ่มอายที่จะพูดว่าที่พี่โม่งจะมาหาเขาและพาไปเที่ยว มันยิ่งทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน
โม่งคงรู้ว่าฟ้าใสคงอายที่จะพูดเรื่องนัด แต่ตัวเองก็ไม่อยากเป็นคนเลื่อนนัดทั้งที่เป็นนัดฟ้าใส
ในเมื่อฟ้าใสไม่พูด โม่งก็คงต้องเป็นฝ่ายพูด
“เอ่อ ไข เดี๋ยววันนี้พี่ต้องขอโทษด้วยนะ เรื่องที่พี่นัดเราไว้ พอดีอาจารย์โก้ เขาเพิ่งโทรมาเรียกพี่เข้าคุยธุระหน่อยนะ นะครับ
ไขอย่าโกรธพี่โม่งนะ”

“โอ๊ะ...ไขไม่โกรธพี่โม่งหรอก แห แหะ”เสียงฟ้าใสหัวเราะแห้งๆแบบโล่งใจ

“เอ่อ ไขกำลังจะอยากบอกพี่โม่งว่า วันนี้สงสัยไขคงจะไม่สะดวกออกไปข้างนอกอ่ะพี่ คือตอนนี้ ยายไขไม่สบายอ่ะ”

“อ้าวเป็นอะไร ไม่สบายมากไหม ให้พี่ไปช่วยอะไรไหม”

“อุ๊ย ไม่เป็นไรพี่โม่ง เห็นป้าบอก เหมือนยายเป็นลมอ่ะ แต่ตอนนี้พวกป้าๆเค้าดูแลอยู่”

“งั้นถ้าไข มีอะไร ให้พี่ช่วยก็รีบบอกมาได้นะ ไม่ต้องเกรงใจนะ แล้วเดี๋ยวพี่ดูวันอีกที แล้วพี่จะโทรมานัดไข แล้วเรานะดูแลตัวเองดีๆล่ะ อย่าให้เป็นอะไร”

“ฮะ...” ฟ้าใสรับคำเตรียมวางสาย

“ฮะ ฮะ ขอบคุณฮะ หวัดดีครับ” ยังไม่ทันวางสาย เสียงพี่โม่งรีบตะโกน

“เดี๋ยว แล้วอย่าเที่ยวคิดทำอะไรแผลงๆอีก พี่จับได้ จะเอาให้หนักกว่าเมื่อวานอีก”

อ๊าค พี่โม่งพูดอะไร  อุตส่าห์พยายามไม่นึกถึง ไม่คิดถึงแล้วนะ พี่โม่งบ้า ไอ้พี่โม่งทุเรศ ฟ้าใสคิดในใจ แต่คิดหนักและคิดตามมากจนปากพูดออกมาตามคิดเป๊ะ

“อ๊าค พี่โม่งพูดอะไร  อุตส่าห์พยายามไม่นึกถึง ไม่คิดถึงแล้วนะ พี่โม่งบ้า ไอ้พี่โม่งทุเรศ” หน้าฟ้าใสฉาบไปด้วยสีแดงสุกจนร้อนผ่าวไปทั้งหน้า
 เสียงปลายสายมีแต่เสียง หึ หึ หึ ฟ้าใสจนปัญญาไม่รู้จะต่อปากต่อคำอย่างไงต่อ เลยกดตัดสาย อายจนแทบอยากปิดเครื่องหนี
.
.
.
.
ณ วัดดังในย่านใกล้บ้านพัฒน์พุทธา
บรรยากาศในงานศพของยายเป็นไปอย่างเศร้าโศก
การจากไปอย่างกระทันหัน ทำให้ทุกคนไม่อาจเตรียมใจ
แม่ของฟ้าใสเข้มแข็ง มีเพียงน้ำตาที่คลอเต็มดวงตา ต่างกับป้าพัช และ ป้าพิส ซึ่งอยู่ใกล้ชิดยายมากที่สุด
ที่เอาแต่ร้องไห้และเสียใจจนไม่อาจทำอะไร
พี่โม่งมากับอาจารย์โก้มางานสวด ตั้งแต่วันแรก พี่โม่งจะช่วยเสิร์ฟน้ำแขก แต่ที่บ้านก็มีคนงานทำแล้ว แม่ฟ้าใสเลยขอให้
โม่งช่วยถ่ายรูปให้

พอถึงวันเผา โม่งมาที่วัดแต่เช้า
ก็เจ้าตัวเล็กของเขาจะบวชหน้าไฟให้ยาย
โม่งไปช่วยหยิบจับเดินเป็นเพื่อน โดยมีป้านวล คอยประกบเขาอีกที  เพราะทั้งบ้านมีแต่ผู้หญิง เณรฟ้าใสที่แยกมานั่งคน
เดียวจึงมีโม่งคอยนั่งเป็นเพื่อน  แม่ฟ้าใสดูพอใจที่เขาช่วยดูแลฟ้าใส แต่สายตาคุณพี่ส้มโอนี่สิ ฉึก ฉึก ฉึก  :fire:
หลังจากเสร็จจากเผาจริง และทยอยส่งแขกเรียบร้อย
ฟ้าใสก็ได้ลากลับมาเป็นฟ้าใสของเขาคนเดิมเพียงแต่ ศีรษะมีแต่ไรผมสีเขียว
โม่งแทบไม่อยากมอง คนตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้า
 การที่ฟ้าใสโกนผมจนหมดกลับทำให้หน้ายิ่งเด่นขึ้น โม่งคิดว่า นี่เขาจะบาปไหม
ตาที่กลมโตใส จมูกโด่ง ปากแดง แก้มใสเนียน  ลำคอที่โล่งลาด ชวนให้เกิดอารมณ์อยากสัมผัสเหมือนคนที่เห็นของที่
บริสุทธิ์มากๆ ทำให้เราอยากครอบครองเป็นเจ้าของ
พอมองก็ไม่อยากละสายตา
ฟ้าใสที่กำลังยืนส่งโม่ง ใกล้ทางออกวัด ยกมือลูบศีรษะอย่างอายๆ แล้วแปะปิดลำคอที่โดนจ้อง

“พี่โม่งอย่ามองมากดิ คนเขาเขินนะ พี่ส้มโอจะหาวิกมาให้ไข แต่ไขไม่เอาอ่ะ จั๊กกะจี๋ชอบกล
ดีนะที่กำลังปิดเทอม ไขไม่ออกไปไหนแล้ว”

“แล้วพรุ่งนี้ มีโปรแกรมอะไรมั่ง ทำบุญที่วัด เก็บอัฐิใช่ไหม”

“คงอย่างงั้นอ่ะพี่โม่ง พี่โม่งจะมาไหม”

“ไม่ดีกว่า พรุ่งนี้บ้านไขก็ต้องไปลอยอังคารด้วยนี่ เป็นงานเฉพาะญาติสนิทนี่ เดี๋ยวพี่มาจะทำให้ยุ่งลำบากใจ”

“อ้าว แล้วใครจะถ่ายรูปล่ะ โห พี่โม่งไปดิ เดี๋ยวไขไปถามแม่ก่อนล่ะกัน” ว่าแล้วฟ้าใสก็วิ่งไปหามารดาที่กำลังคุยเรื่องสิ่งที่
ต้องทำในวันพรุ่งนี้ สักพักฟ้าใสก็หันมาทางเขาแล้วกวักมือเรียกให้เข้า
โม่งเลยเดินเข้าไปหา
ปรากฏว่าแม่ฟ้าใสถามเขาว่าติดธุระอะไรหรือเปล่า ถ้าโม่งไม่มีอะไร ก็ชวนให้โม่งไปด้วย เผื่อจะได้ช่วยถ่ายรูป และชวนไป
ทานอะไรกันที่สัตหีบ

2ทุ่มกว่า
ตั้งแต่กลับมาจากวัด แม่ก็คุยเป็นเพื่อนป้า พัช และ ป้าพิส
ป้าพัช และ ป้าพิส ไม่ได้แต่งงาน ชีวิตจึงอยู่กับยาย ของฟ้าใสที่บ้านเรือนไทยมาโดยตลอด
ตอนที่คุณตาเสีย แต่ก็ยังมียาย พอหมดยาย ป้า ป้า จึงรู้สึกเสียใจมาก แทบจะไม่อยากอยู่บ้าน

“พี่พัช พี่พิส พรุ่งนี้พอเราลอยอังคารแม่แล้ว เราอยู่เที่ยวที่สัตหีบสักคืนไหมล่ะ พี่”

“เอาอย่างงั้นก็ได้พรรณ พวกพี่จะได้อยู่ที่นั่นเป็นเพื่อนแม่สักคืนก็ยังดี”ว่าแล้วป้าพิสก็ซับน้ำตาที่ไหลมาอีกละลอก

“ไข ไข มานี่หน่อย”

“ฮะ”

“พรุ่งนี้พี่โม่งของเราจะไปถ่ายรูปให้แม่ด้วยใช่ไหม ถามเค้าให้แน่ ป้าๆกับแม่ว่าจะอยู่ค้างที่สัตหีบ ไขไปบอกพี่เขาว่า
แม่ชวนพี่เค้าค้างด้วยนะลูก แต่ถ้าพี่เค้ามีธุระ ก็ให้พี่เค้ากลับพร้อมรถตู้กับลุงก็ได้  รีบโทรไปบอกเลยนะ
เดี๋ยวดึกไปเกรงใจพี่เค้า แม่จะได้จองห้องล่วงหน้า บอกว่าเจอกันที่วัดหรือที่บ้านก็ได้นะลูก 8โมงเช้า ค้างแค่คืนเดียวบ่ายๆก็กลับ”

“จ๊ะ”

ฟ้าใสรีบโทรไปบอกพี่โม่ง พี่โม่งก็รับคำว่าจะค้างเที่ยวด้วย

“แล้วพี่ส้มโอ เค้าจะอยากให้พี่ไปด้วยหรือเปล่าเนี่ย”

“โอย พี่ไม่เป็นไรฮะ พี่ส้มโอเค้าไม่ไปด้วยหรอกพี่ ถึงปิดเทอมแล้ว แต่พี่โอยังเรียนอ่ะพี่ พี่โอเค้าลงซัมเมอร์ เค้าจะเอาให้จบ3ปีครึ่งอ่ะพี่”

“โอ้โห ทำไมพี่เราเค้ารีบอะไรขนาดนั้น”

“ก็ไม่รู้อ่ะพี่ เอ๊ะ เดี๋ยวแม่เรียกแล้วอ่ะ ตกลงพี่โม่งอยู่เที่ยวต่อด้วยนะฮะ ไขจะได้บอกแม่”

“โอเค พี่ขอเที่ยวด้วยคนแล้วกัน บอกขอบคุณคุณแม่ไขด้วยนะครับที่ชวนพี่”

“ฮะ ฮะ”ฟ้าใสรับคำ


หลังจากเก็บเถ้ากระดูกของยายที่วัด
เหล่าสว.ผู้สูงวัยทั้งหลาย และสมุนของสว.ก็เตรียมเดินทางไปที่สัตหีบ คณะเดินทางก็ประกอบด้วย
ลุงชาญ +ลูกชายลุง2พี่ต้นพี่ต่อ /น้าญา+จินนี่ลูกสาวน้าญาแก่กว่าฟ้าใส1ปี /ป้าวรรณกับพี่ซอลลูกชาย ไปกับรถตู้ของลุงชาญ
ส่วนคณะบ้านฟ้าใสไปกับรถตู้ของยาย ก็มีพี่โม่งที่ไปนั่งข้างหน้า แม่พรรณ ป้าพัช ป้าพิส ข้าวโอ๊ต ข้าวปั้น ฟ้าใส
และป้านวลที่ขอตามไปดูแลแม่พรรณของฟ้าใสด้วย

หลังจากแวะกินข้าวกันที่จุดพักรถ พอเรากินกันป้าก็ให้ซื้อเผื่อยายด้วย1ชุด
หลังจากนั่งเรือที่ติดต่อว่าจ้างออกลอยอังคารกลางทะเล ป้าก็แอบหย่อนข้าวผัดน้ำพริกลงเรือของโปรดยายลงไปด้วย
แล้วก็ร้องไห้กันอีกรอบ พอต้องจากกันจริงๆ แม่พรรณของฟ้าใสก็เลยน้ำตาซึมบ้าง แต่ไม่ฟูมฟายเหมือนป้าพัช ป้าพิส
ลุงก็ชวนนั่งทานอาหาร หลังจากนั้นก็เตรียมแยกย้าย แม่ก็ให้ป้านวลกลับจะได้อยู่ดูแลบ้าน เป็นเพื่อนพี่ส้มโอ
ลูกสาวน้าเสียดายใหญ่เลยที่พี่ส้มโอไม่ได้มาเพราะสนิทกัน

ตกลงก็เลยมี แม่พรรณ น้าญา ป้าพัช ป้าพิส ฟ้าใส จินนี่ลูกสาวน้าญา ข้าวโอ๊ต ข้าวปั้น พี่โม่ง ที่อยู่เที่ยวต่อ
หลังจากกับลุงและป้าแยก แม่ก็ให้เลิศพาไปเช็คอินที่พักที่จองไว้

ห้องทวินเตียงเดี่ยว2เตียง 2ห้อง แม่จองไว้ให้ ป้าพัช ป้าพิส และน้าญากับลูกสาว ห้องดับเบิ้ล เตียงคู่1ห้องใส่เตียงเสริมให้ฟ้าใส
 แล้วแม่นอนกับข้าวโอ๊ตข้าวปั้น  แล้วห้องซิงเกิ้นอีกห้องก็ให้พี่โม่ง  แต่ปรากฏว่าจินนี่ ลูกสาวน้าญาอยากนอนกับข้าวปั้นข้าวโอ๊ต
จะได้คุยเล่นกัน  แม่ก็นอนกับน้าแทน เพราะเห็นว่าห้องพี่โม่งถึงเป็นห้องซิงเกิ้น แต่โรงแรมก็ใส่เตียงคู่ให้อยู่แล้ว
ฟ้าใสเลยต้องกระเด็นไปนอนห้องพี่โม่ง

มางวดนี้พวกเด็กสนุกใหญ่ เพราะไม่มีพี่ส้มโอคอยคุม แถมได้พี่โม่งเป็นหัวหน้านำอีกต่างหาก
พวกแม่ น้า ป้า ๆ ก็ได้พูดคุยกัน เพราะกลับไปก็ต้องไปจัดการเรื่องมรดก ทรัพย์สิน เรื่องโรงงาน ที่ดินอีก จนไม่ได้สนใจพวกเด็กเลย
แม่ก็วางใจที่มีพี่โม่งคอยดู ข้าวปั้น และเด็กๆ

หลังจากเล่นกันที่ชายหาด ทั้งพายเรือ เช่าห่วงยางมาเล่นกัน จนเย็น น้าญาก็มาตามให้ขึ้นไปอาบน้ำ เตรียมทานอาหารมื้อเย็น
ขณะที่นั่งทานข้าว แม่ก็ชวนพี่โม่งคุย ก็ถามว่าพี่โม่งจบปี5 แล้วต่ออะไรเอกอะไรต่อที่เดิมหรือ จะไปต่อมหาลัยอื่น พี่โม่งเลยบอก
เรื่องที่ได้ทุนของอเมริกา2ปี แต่ทางโน้นขอให้เรียน3ปี ถึงจะได้วุฒิจบป.ตรี

พอโม่งพูดจบก็หันมาหาคนตัวเล็กที่นั่งฟังตาค้าง แม่ก็หันมาชมพี่โม่ง บอกให้ฟ้าใสดูเป็นตัวอย่าง


TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.1 CH.8 Ending (1/09/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 01-09-2012 01:48:46
((ต่อ))

พอโม่งพูดจบก็หันมาหาคนตัวเล็กที่นั่งฟังตาค้าง แม่ก็หันมาชมพี่โม่ง บอกให้ฟ้าใสดูเป็นตัวอย่าง

หลังจากทานข้าวเสร็จตอนทุ่มกว่าแล้วก็ขึ้นไปนั่งบนห้อง ป้าๆก็มารวมจับกลุ่มคุยกันที่ห้องอาหาร  จินนี่ก็ชวนไปเล่นบอร์ดเกมส์
เพราะหาโอกาสเล่นกับคนเยอะๆอยู่แล้ว ฟ้าใสก็ชวนพี่โม่งเล่นอูโน่ที่ห้องข้าวโอ๊ต พี่โม่งก็เกรงใจ แต่เด็กๆก็บอกไม่ต้องเกรงใจ

 แถมบังคับให้พี่โม่งคอยถ่ายรูปเล่นเก็บไว้อีก ฟ้าใสกับจินนี่ มักจะชนะ ฟ้าใสจะฮั้วกับข้าวปั้น ส่วนพี่โม่งก็ยอมๆออมมือให้
ส่วนข้าวโอ๊ตมักจะซื่อบื้อเลยไม่เคยชนะ จนเกือบ3ทุ่มพี่โม่งเลยกลับห้อง ฟ้าใสอยู่เล่นต่อจนแม่กับน้าเข้ามาบอกให้นอนกันได้แล้ว

ฟ้าใสเดินออกไปห้องพี่โม่งอย่างเขินๆเมื่อนึกถึงว่าคืนนี้ฟ้าใสต้องนอนเตียงเดียวกับพี่โม่ง แต่พอนึกถึงว่าพี่โม่ง ไม่บอกเลยเรื่อง
ที่จะไปเรียนต่อที่อเมริกา ก็นึกงอนอยู่ในใจ

ฟ้าใสเคาะประตูเรียก พี่โม่งมาเปิดประตู
ฟ้าใสเดินทำหน้างอนใส่ โม่งก็รู้ดี เดาได้ว่าคงเป็นเรื่องที่ไม่ได้บอกฟ้าใสเรื่องไปอเมริกา

“โกรธ พี่เปล่านี่ เรื่องไม่ได้บอกเรื่องเรียนต่อ” โม่งเดินตามฟ้าใสที่ตรงไปห้องน้ำ

“เปล่านี่พี่ ไขไม่ได้เป็นผู้ปกครองพี่นี่นา พี่จะได้ต้องคอยรายงาน”

“555 โกรธจริงด้วย” โม่งเอาตบหัวที่มีฮูดเสื้อยืดวอร์มที่ฟ้าใสโดนแม่ให้สวมปิดศีรษะกันเย็นหัวเดี๋ยวจะเป็นหวัด
ตัวเล็กเวลาโกรธยิ่งน่ารัก
โม่งยืนหน้าห้องน้ำที่ฟ้าใสเข้าไปแปรงฟัน

“พี่เองก็เพิ่งรู้ข่าวว่าพี่ได้ทุน ไขจำวันที่พี่โทรไปได้เปล่า วันที่คุณยายไขไม่สบายน่ะ”

“......” ไขส่งเสียงในคอ พยักหน้า

“แล้วบอกว่าอาจารย์โก้เรียกพี่ไปคุย นั่นแหล่ะ พี่เพิ่งรู้วันนั้น”

“อื๋อ..”

“แล้วบ้านไขก็ยุ่งๆตั้งแต่นั้น พี่เห็นไขก็มีเรื่องวุ่นแล้วเลยรอให้เสร็จงานก่อนค่อยบอกไข”

ฟ้าใสดูจะพอใจคำอธิบาย พอเดินออกจากห้องน้ำจึงมีรอยยิ้มบนใบหน้าหวาน แต่ก็อดไม่ได้จะช้อนสายตาอย่างงอนๆ
ใส่ร่างสูงที่ยืนคอยที่ประตู 

โม่งเห็นคนตัวเล็กถอดฮูดออกเผยให้เห็นลำคอเนียนสวย
ฟ้าใสพอเห็นสายตาที่จับจ้อง เขินเอามือลูบศีรษะที่มีแต่ไรผมเขียว

“พี่โม่งอ่ะ มองอีกแล้ว” ไขต่อว่า

“55 ก็อดมองไม่ได้นี่นา ไม่ได้อยากมองอย่างเดียวด้วย” ว่าแล้วร่างสูงก็ก้มลงมาฉกหอมแก้มนวลที่กรุ่นกลิ่นแป้งเด็ก

“ไปนอนกันได้แล้ว”

“เอ๊ะเดี๋ยวสิพี่โม่ง ไขยังไม่ได้ตากผ้าเช็ดหน้าเลย

“พี่เก็บให้” โม่งดึงเอาผ้าขนหนูผืนเล็กที่อยู่ให้มือฟ้าใสพาดกับพนักเก้าอี้

โม่งเดินไปปิดไฟอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันที่ฟ้าใสได้ตั้งตัวก็ถูกร่างสูงหันกลับมาคว้าตัวเองวางแหมะที่เตียง

“พี่มีอะไรที่ต้องสอนให้ไขอีกตั้งหลายอย่าง ก่อนจะไป” โม่งก้าวขึ้นคร่อมร่างคนตัวเล็กที่นอนหงายหลังผึ่งบนเตียง

ใบหน้ารูปไข่ ศีรษะได้รูปที่ไร้เส้นผม  ขับให้ตาโตแอ๊บแป๊ว ปากสีแดงสดเผยอเปิดอย่างตกใจ แก้มแดงไปถึงหูด้วยความอาย เมื่อพอนึกรู้ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร

“ดะ เดี๋ยวก่อน..พี่โม่ง”

ฟ้าใสเอามือยันอกโม่งไว้  โม่งเลยเปลี่ยนเป็นล้มไปนอนกอดร่างบางไว้ข้างตัว

“ไขสอบได้แล้วน่า พี่โม่งไม่ต้องสอนแล้ว ก่อนไปแค่คุยกันก็พอ เรื่องอื่นเดี๋ยวไขไปถามเพื่อนเอาก็ได้...ดูหนังเอาก็ได้”ฟ้าใสพูดเสียงอ่อยๆ

“เป็นลูกศิษย์พี่นะง่าย แต่ลาออกนะยากนะ หึ หึ” โม่งมองสบตาเจ้าคนตัวเล็ก

“ไขก็ไม่ได้ออกอะไรนี่ ตอนนี้ปิดเทอมซะหน่อย งดเรียนอะไรทั้งนั้นอ่ะ”

“มันมีคอร์สพิเศษอยู่นะ ไขมีเรื่องอะไรสงสัยถามพี่ได้” โม่งพูดไปมองหน้าคนตัวเล็กไป

พอเห็นแก้มเนียน ลำคอระหง จนอดไม่ได้ที่ก้มไปคลอเคลีย
ช่วงเวลานี้ฟ้าใสได้แต่คิด พี่โม่งมาพูดกระซิบข้างหูอยู่ได้ พาลทำเอาใจฟ้าใสเริ่มสั่น ฟ้าใสว่าจะชวนพี่โม่งคุยเรื่องที่พี่เค้าได้ทุนไปอเมริกา
ซะหน่อย แต่ดูท่าสติสะตังฟ้าใสมันวิ่งหนีหายไปไหน ฟ้าใสที่ผ่านเรื่องต่างๆมา ล่าสุดเร็วๆนี้ที่เจอพี่โม่งใช้มือช่วยเค้าอีก
อื๊อ!! แค่คิดก็วาบไปทั้งท้องน้อย รู้ก็รู้แล้ว โดนอะไรมาก็โดนแล้ว
แต่ถ้ากับพี่โม่ง ที่ไขรู้สึกดีด้วย ฟ้าใสคงมีความสุขมากกว่าที่จะคิดไปว่าถูกทำอะไรลามก ก็ไขเองชอบผิงผิงยังอยากมีอะไรที่พิเศษ
กับผิงผิงเลย แต่ทำไมมันไม่ใช่แหะ แล้วทำไมทีพี่โม่งทำให้ไข ไขก็สามารถปลดปล่อยออกมาได้อย่างที่ผู้ชายทำล่ะ

เอ หรือว่าจะถามดี ไขเองก็ไม่เคยช่วยตัวเองด้วย ที่พี่โม่งทำให้วันก่อน มันรู้สึกดีชะมัด 
ถ้าถามเวสป้าล่ะ พักหลังก็ไม่เจอกันเลย  จะถามไอ้แร๊ฟ ก็ต้องโดนมันเก็บไว้แซวจนลูกโตแน่เลย

เฮ้อ..พี่โม่งนี่ก็เห็นไขเป็นหมอนข้างอยู่ได้

“ไขว่าไขนอนเลยดีกว่า ไขว่าไขไม่อยากเรียนหรือสงสัยอะไรแล้ว” ฟ้าใสขมวดคิ้วตัดใจ ก็เรื่องแบบนี้มันพูดลำบาก น่าฟ้าใสยังมีเวลาอีกแยะ

“นี่ไงไขต้องมีอะไรอยากพูดกับพี่ใช่ไหมล่ะ ทำหน้าเหมือนคิดอะไรอยู่” โม่งเลยกอดหัวเจ้าตัวเล็กแล้วจูบเหม่งทันที เฮ้อ พี่โม่ง
ทำเหมือนพี่ส้มโอเลย ชอบกอดหัวฟ้าใสแล้วจูบหัวมั่งหน้าผากมั่ง

“ไม่เป็นไรง่ะพี่ ไขไม่ถามดีกว่า เวลาไขยังมีอีกเยอะ”

“แต่เวลาพี่นะสิ มีไม่เยอะแล้วนะ” พี่โม่งพูดแล้วมาทำตาวาวๆใส่

“อื้อ พี่โม่งอย่าลูบตรงนั้นสิ” ฟ้าใสบ่น เมื่อพี่โม่งเอามือลูบไล้ต้นคอที่โล่งเนียนอยู่นั่นนะ

“ไข วันนี้สงสัยเราตากแดดมาก จมูกแดง เลย” ว่าแล้วโม่งก็ก้มลงจูบ1ที

“อื้อ...พี่โม่งไม่เป็นไรหรอก”

“แต่มันเหมือนชมพู่นี่ น่ากิน” โม่งกัดที่ปลายจมูกโด่งเบาๆ

“โอ๊ย พี่โม่งเห็นไขเป็นของกินไปได้ พี่ส้มโอก็เห็นไขป็นตุ๊กตา”

“ไข..”โม่งเรียกชื่อ พร้อมสบตา “พี่ไม่เห็นไขเป็นแค่ของกินได้ พี่ก็ไม่เห็นไขเป็นตุ๊กตาด้วย  พี่อยากให้ไขมีความสุข” โม่งพูดไปเค้าก็รู้ตัวว่าเค้าเองก็ถึงขีดจำกัดแล้ว ร่างนุ่มนิ่มที่อยู่ข้างกาย กลิ่นความบริสุทธิ์

มือของโม่งเชยคางเจ้าตัวเล็กขึ้น บรรจงจูบอย่างแผ่วเบาที่หน้าผาก ฟ้าใสหลุบสายตาอย่างไม่กล้าสบตาคนตัวโต โม่งขยับลงมาจูบที่
เปลือกตาทั้งสองข้าง ฟ้าใสหลับตาพริ้ม รับความรู้สึกของพี่โม่งที่เขาเชื่อใจ จมูกโด่งเป็นสันของโม่ง ไล่ดอมดมแก้มเนียนของฟ้าใสอย่าง
ทะนุถนอม แล้วไล่มาซุกไซ้ซอกซอนซอกลำคอขาวผ่อง  โม่งเม้มขบเบาที่ติ่งหูนิ่ม
แล้วเลื่อนปากของเขาประกบเข้ากับกลีบปากอิ่มสีแดงสด

เนี่ยเหรอที่พี่โม่งจะทำให้ไขมีความสุขนะ
ไขว่าพี่โม่งทำให้ไขหายใจไม่ออกมากกว่า
เรียวลิ้นที่มีประสบการณ์สอดไล้หยอกเย้ากับลิ้นเล็ก ความไม่ประสีประสา สร้างรอยยิ้มอย่างพึงใจให้คนตัวโต โม่งสอดมือรั้งร่างบางให้
แนบสนิท มือหนึ่งลูบไล้ เลยเถิดถึงแนวเหนือสะโพก สอดลึกผ่านขอบกางเกงนอนผ้ายืด
รสจูบที่พัวพันแค่นั้นก็ทำให้คนตัวเล็กลืมทุกสิ่งทุกอย่าง อ้อมแขนเล็กของฟ้าใสกอดเกี่ยวร่างแน่นสมส่วนของรุ่นพี่

“อืม...” โม่งร้องคราง เมื่อมือสัมผัส ไขน้อยที่ตื่นตัว เรียวลิ้นใหญ่เริ่มไล่ต้อนลิ้นเล็กรุนแรงขึ้นทั้งดูดทั้งไล่พัน โม่งขบเม้มริมฝีปากอิ่ม
พอโม่งถอนปากออก ฟ้าใสสูดหายใจเฮือกใหญ่ หน้าแดงกล่ำ นัยต์ตาที่หรี่ปรือมองเขาเว้าวอนปรารถนารสชาติแห่งความสุข
โม่งไล้ปากและจมูกลงมาตามลำคอระหง อยากดูดเม้มแต่ก็กลัวผิวขาวเนียนจะเกิดรอย จึงระเรื่อยไปหยุดที่เม็ดยอดอกสีแดงสดที่ตื่นตัว
ร่างเล็กที่โดนเรียวลิ้มชิมรสทั้งตวัดทั้งดูดเม้มจึงแอ่นอกรับสัมผัสโดยสัญชาตญาณ

“อ่า ...พี่โม่ง...”ฟ้าใสเผลอตัวคราง โม่งยิ่งได้ยินเสียงครางยิ่งกระตุ้นอารมณ์จนอดไม่ได้ขบเม้มแรงขึ้น

ฟ้าใสรู้สึกเหมือนตัวเองล่องลอย ที่นี้มีแต่เขาและพี่โม่ง ความรู้วาบหวิวเสียวในอกเกร็งจนปวดหนึบที่หน้าขา
มือพี่โม่งที่ลูบเร้นแก่นกายของเขา เร็วช้าหนักเบา โม่งสลับดูดเม้มสองเม็ดยอดอกสีทับทิม

ฟ้าใสบิดตัวด้วยความรู้สึกทั้งทรมานกึ่งมีความสุข

“อ๊ะ..อ่ะ” ฟ้าใสร้องคราง ก่อนที่น้ำตาจะเอ่อล้นแล้วกรีดร้องอย่างมีความสุขพร้อมปลดปล่อยของเหลวสีขาวข้น

โม่งรีบปิดปากเจ้าตัวเล็ก แล้วเลื่อนมาชิมความหอมหวานในมือ ท่อนล่างของเขาเองก็ทรมานจนปวดหนึบบ้างเหมือนกัน
ปากหยักได้รูปเลื่อนจากริมฝีปากบางลงเข้าครอบครองแก่นกายที่ยังมีคราบขาวข้น โม่งใช้ลิ้นเลียไล้ดูดดุน
คนตัวเล็กถึงกับบิดตัวพยายามเร้นกายหนีด้วยความเสียว สองมือเล็กจิกทึ้งผมสลวยของคนตัวโต ที่สาระวนใช้ลิ้นตวัดไล้รัวเร็ว

“พี่โม่ง...ฮึก..อ่า..ไข..ไขไม่ไหวแล้ว...”เสียงคนตัวเล็กร้องบอกเหมือนใจจะขาด

“ไข..พี่จะทำให้ไขมีความสุข”เสียงคนตัวโตหอบกระเส่าไม่แพ้กัน โม่งใช้ปลายลิ้นเขี่ยขยายไล้ส่วนปลายสุดของไขน้อย

“อื้อ...อ๊า” ฟ้าใสเสียวซ่านจนแอ่นตัวชิดใบหน้าคนตัวโต

“พอ...พอ..แล้ว..พี่โม่ง” ปากที่เรียกร้องให้พอ แต่สองมือที่ดึงทึ้งผมคนตัวโตกลับกดให้ศีรษะโม่งเบียดน้ำหนักลงไปอีก

“อื้อ..อื้อ..” โม่งยิ่งได้เสียงใสครวญครางกระเส่า จึงรีบรูดปากเคล้นขึ้นลง มือที่หนึ่งบีบเร้นก้นกลม

โม่งหอบหายใจหนักไม่แพ้ร่างเล็กเบื้องล่าง

“อ๊า....” คราวนี้ฟ้าใสถึงกับปลดปล่อยร้องไห้น้ำตาไหล มือที่กอดร่างกำยำร่วงลงบนที่นอน
ฟ้าใสมีความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน คราวก่อนนั้นเขาว่าเขาเจอแล้ว คราวนี้พี่โม่งกลับทำให้เขาพบมากกว่า
โม่งค่อยๆจูบที่แก้มนวลเช็ดน้ำตาที่ไหลรินด้วยความสุข
โม่งเอื้อมไปหยิบหลอดครีม จมูกซอนไซ้ที่ซอกคอขาว ขบเม้มที่ติ่งหู กระซิบเสียงหวานนุ่ม

“ให้พี่ทำให้ไขมีความสุขด้วยกันนะ”

ฟ้าใสไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น ไขเชื่อใจพี่โม่ง โม่งจะไม่ทำร้ายไข พี่โม่งคงไม่ทำให้ไขเจ็บ
คนตัวเล็กไม่พูดตอบแต่ยกแขนโอบกอดคนตัวโต กางเกงนอนของเขาถูกปลดเปลื้องไปเมื่อไหร่ เสื้อพี่โม่งก็อีก
 ตอนจะนอนก็สวมกันดีๆแท้ๆ ฟ้าใสกอดพี่โม่งแน่นขึ้นเอาแก้มเนียนแนบอกอุ่น จูบสัมผัสที่ตำแหน่งตรงหัวใจ

ของเหลวใสถูกทาวนที่ช่องจีบด้านหลัง ที่ปิดสนิทแน่น ปลายนิ้วจากมือใหญ่ลูบไล้ปากทางเข้าซ้ำไปซ้ำมา
โม่งค่อยๆสอดปลายนิ้วเข้าไป

ฟ้าใสสะดุ้งตื่นกลัว ที่ด้านหน้าอวัยวะกลางตัวพี่โม่งขยายใหญ่ดุนดันสัมผัสกายฟ้าใส

“พี่จะนุ่มนวลที่สุดนะ” โม่งกระซิบเสียงแหบห้าวด้วยแรงปรารถนา แล้วก้มลงจุมพิตปากอิ่มที่เผยอค้างอย่างตกใจที่เขาสัมผัสด้านหลัง
โม่งใช้ฟันขบเบาๆ ก่อนส่งลิ้นแทรกเข้าไปในปาก ฟ้าใสกลั้นหายใจ
มือพี่โม่งที่ใช้ปลายนิ้วเขี่ยคลึงยอดอก ทำให้ไขน้อยของเขาตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง
ไม่ทันที่เขาจะคิดหาคำต่อว่าทัดทาน แรงเสียดสีจากมังกรใหญ่ของพี่โม่งที่บดโยกทำให้ปลายของฟ้าใสหยาดน้ำเหลวเยิ้ม

“อื้อ...อื้อ...” ฟ้าใสอยากผลักร่างใหญ่ให้ถอยออก แต่อกกลับผวาแอ่นเข้าหา มือนั้นเล่าก็จิกหลังเปลือยเปล่าของพี่โม่งจนเป็นรอย

“อ๊ะ..!” เสียงครางดังขึ้น เมื่อนิ้วของพี่โม่งเข้าไปไล่วนภายในช่องจีบ เคลื่อนเข้าออก ครีมหล่อลื่นช่วยทำให้ฟ้าใสไม่เจ็บปวด
โม่งพยายามคลายความเกร็งเครียดของช่องด้านหลัง
เรียวนิ้วที่สอดเข้าจนสุดก่อนจะถอนออกมาแล้วกลับเข้าไปใหม่

โม่งปวดหนับที่หน้าขาเต็มที เขารีบใช้มือข้างหนึ่งปลดกางเกงที่ขวางแก่นกายของเขากับฟ้าใสออก
เมื่อฟ้าใสสัมผัสของจริงเสียงจริง ถึงกับตาลุกโพลง สติ สตัง ที่ทำท่าหายไปกับอารมณ์พิศวาสกิเลสตัณหากลับมาพร้อมกับความกลัว

ฮือ ฮือ ไขจะตายไหมเนี่ย พี่โม่งอ่ะ

โม่งเอื้อมจับมือเล็กให้สัมผัสกับของของเขา ดูดกลีบปากนุ่มเบาๆ
โม่งรู้ตัวว่า ถ้าหากเขาไม่เอาออกสักครั้งก่อนเข้าไปในกายของฟ้าใส
เขาคงไม่มีทางที่จะควบคุมตัวเอง อาจทำให้คนตัวเล็กบาดเจ็บได้
เรียวลิ้นที่ช่ำชองเข้าดูดดุนรัดพันลิ้นเล็กอีกครั้ง
ท่อนล่างนั้นเล่าพี่โม่งทั้งเบียดบด โยกเร้น จับมือเขารูดขึ้นลงมังกรยักษ์ของตัวเอง

“อืม...อื้อ...” มังกรใหญ่ขยายตัวเต็มที่ และแล้วก็พ่นของเหลวสีขาวข้น
ของพี่โม่งมากกว่าของฟ้าใสมากมายนัก ฟ้าใสลองเขี่ยที่ปลายหัวบ้าง มังกรพี่โม่งสะท้านตุบตุบ

“อื้อ...”พี่โม่งคราง แขนกอดฟ้าใสแน่น ปากและจมูกเปลี่ยนมาซุกไซ้ที่ซอกคอ
โม่งอยากกัดอยากดูดซอกคอขาว กลิ่นแป้งเด็ก กลิ่นเหงื่อ ทั้งกลิ่นของเหลว กระตุ้นอารมณ์จนไม่อยากหยุด

“อ๊ะ...” ฟ้าใสร้องครางเมื่อโม่งสอดนิ้วที่3
โม่งไล่ควานนิ้ว ฟ้าเริ่มหายใจไม่ออก แก่นกายของเขามีของเหลวเยิ้ม
ปวดไปหมดทั้งหน้าท้องน้อย อยาก ต้องการ จนขนลุกซู่
ฟ้าใสแอ่นกายเบียดอกล่ำ เล็บเกร็งจิกหลังโม่ง ภายในช่องด้านหลังบีบรัดตุบตุบ

“พี่โม่ง พี่โม่ง...ไข...” ฟ้าใสไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเอง ฟ้าใสแลบเรียวลิ้นเล็กไล้ริมฝีปากตัวเอง อยาก อยาก อยาก
โม่งใช้นิ้วแตะไล้กลีบปากอิ่ม ฟ้าใสผวาคว้ามือดูดไล้นิ้วเขาทันที
โม่งถอนนิ้วออกจนช่องด้านหลัง บีบครีมหล่อลื่นเพิ่ม กอดร่างบางหันนอนคว่ำ ค่อยๆกดแก่นกายจ่อทางเข้า
ช่องทางที่แม้ขยายแล้ว แต่ก็ยังแน่นคับ โม่งค่อยๆกดขยับช้าๆ ส่วนหัวค่อยๆเบิกทาง

มือหนึ่งคอยประคองสอดรับความรู้สึกของไขน้อย มือหนึ่งถูกคนร่างเล็กใช้ปากดูดชิมนิ้วของเขาจนแฉะเปียกเยิ้ม
ค่อยๆ ค่อยๆ โม่งหายใจเข้าลึกๆพยายามอดทน ความรู้สึกที่จรดจ่อรอการมุดเข้าถ้ำเล็ก มันช่างทรมานยิ่งนัก
ช่องของเจ้าตัวเล็กของตอดรัด โม่งขยับถอนออกเล็กน้อยก่อนกดลงไปทีละนิด ดูเหมือนมันจะยินยอม

ถ้าเขาไม่ได้เอาออกไปแล้วครั้งหนึ่ง ทันทีที่เขาเข้ามาได้แค่ปลายหัว เขาคงได้กลายเป็นผู้ชายที่หลั่งเร็วที่สุดเป็นแน่
โม่งสูดดมที่ซอกคอขาวงับเบาๆ เจ้าตัวน้อยรับความรู้สึกกัดนิ้วเขาเบาๆบ้าง โม่งกดส่งมังกรทั้งลำเข้าช่องถ้ำน้อย

“อิ๊ก...” ฟ้าใสส่งเสียงร้องคราง

“ไขเจ็บหรือเปล่า” โม่งตกใจ ใจหาย ใจหนึ่งก็กระสันจนแทบหลั่งปล่อยออกมา ได้แต่พยายามรวบรวมอดกลั้น
ฟ้าใสส่ายหน้า ถึงความรู้สึกเจ็บแต่ก็มีความสุข ฟ้าใสได้เป็นของพี่โม่งแล้ว มันแน่นจนทำอะไรไม่ได้
โม่งซอนไซ้ซอกคอ มือเริ่มรูดไขน้องขึ้นลงลูบคลึงบอลเล็ก ช่องภายในเริ่มตอดรัดตุบๆ

มังกรเขาเริ่มประท้วงที่ต้องอยู่เฉยๆจนผงกดุ๊กดิ๊กเร่งเร้าให้เขาขยับ จนเขานึกอยากจะด่าว่าไม่เจียม
แน่นอย่างนี้ขืนขยับเข้าออกไม่ถึง10ทีคงได้มีอาการวิ่งสู่สวรรค์ แต่นึกสงสารคนร่างเล็กข้างล่าง จะกินนานก็อาจเจ็บ
หลังทนทรมานตัวเองอยู่หลายนาที ช่องแคบก็เริ่มคลายตัว โม่งขยับถอนออก ด้วยจังหวะเข้าออกช้าๆรูดยาว
แทบส่วนปลายจะหลุดออกจากกัน สร้างความเสียวกระสันทั้งสองฝ่าย โม่งสังเกตจุดที่ฟ้าใสรู้สึกดี
ปฏิกิริยาที่ฟ้าใสไล้เลียดูดนิ้วเขา การตอดรัดภายใน

โม่งขยับเร็วขึ้น มือพยุงสะโพกร่างเล็กยกขึ้นเริ่มเปลี่ยนเป็นสาวสั้นๆเร่งจังหวะกระแทกกระทั้นขึ้นอย่างหนักหน่วง
 มือก็ขยี้ปลายหัวไขน้อยก่อนจะรูดขึ้นลงพร้อมขยับสะโพกตัวเองซอยเข้าออก ร่างเล็กใต้ร่างเขาเกร็งแน่น

“อ๊ะ  อ๊ะ  อ๊า....”
ภายในตอดรัวปากอิ่มใช้ฟันกัดนิ้วเขาแน่น
โม่งรู้ว่าฟ้าใสกำลังจะถึงจุดสุดยอด โม่งเร่งกระแทกมังกรสุดปลายลำ ทั้งมังกรและหนอนน้อยกระตุกพ่นของเหลวขาวข้น

“...อ๊า...อ๊ะ!” เสียงครางแผ่วหวานของร่างเล็กบ่งบอกความสุขสม
ฟ้าใสขยับบิดสะโพกด้วยความเสียว เล่นเอาโม่งต้องตรึงร่างคนตัวเล็กให้อยู่เฉยๆ

“อยู่นิ่งๆนะคนดี”โม่งกระซิบเสียงแหบพล่าพลางกอดกดสะโพกฟ้าใสแล้วล้มตัวนอนข้างๆซบหน้าจูบที่ศีรษะเรียบได้รูป
ฟ้าใสที่หลังจากหายใจหอบ ปลดปล่อยน้ำรักเป็นครั้งที่3 เรี่ยวแรงก็แทบไม่เหลือ พี่โม่งจะจับจะกอดมีความสุขจนไม่รู้สึกอะไรแล้ว
ฟ้าใสน่ะโดนพี่โม่งละลายสมอง กล้ามเนื้อหมดแล้ว
โม่งกอดเจ้าตัวเล็กไว้แนบอก ดูท่าทางเหนื่อยจนหมดแรงหลับไปแล้ว
หลังจากเขาหลั่งข้างในคนตัวเล็กไปแล้ว มังกรที่เริ่มอ่อนตัวกลับรู้สึกเสียวจนตื่นตัวอีกครั้ง เมื่อภายในของฟ้าใสก็ตอดรัด
แถมเจ้าตัวยังจะขยับบิดอีก

เล่นเอามังกรเขาคันเนื้อคันตัวอยากขยับถอยเข้าถอยออกอีกสักรอบ โม่งจูบที่ไหล่เนียนถอนหายใจทั้งที่อยากฝากฝังแก่นกายตัวเอง
ให้หลับอยู่ในตัวคนตัวเล็ก  โม่งตัดใจถอนแก่นกายที่ผ่อนคลายแล้วออก

โม่งเช็ดตัวทำความสะอาดให้ฟ้าใส แม้จับร่างเล็กพลิกซ้ายพลิกขวา เจ้าตัวดูไม่รู้สึกตัว ร่างเปลือยเปลาเนียนขาว รอยจ้ำแดงๆมีบ้างแต่
เขาก็ไม่ได้ลงน้ำหนักรุนแรงนัก มองแล้วแทบไม่อยากละสายตา
โม่งอดไม่ได้ที่ก้มจูบที่ใต้แนวสะโพก เขาจูบตวัดไล้ลิ้นเลียตัดสินใจทำรอยคิสมาร์กจับจอง
.
.
.
หลังจากกลับมา โม่งต้องจัดการเรื่องเอกสาร การเตรียมตัวเรื่องเรียนต่อที่อเมริกา
ส่วนฟ้าใส ทางบ้านก็วุ่นวายต้องการเรื่องทรัพย์สินมรดก  แถมโรงเรียนมีประกาศว่าจะทำการปรับปรุงระบบภูมิทัศน์
เนื่องรัฐบาลขอร้องขอความร่วมให้โรงเรียนจัดศูนย์การเรียนรู้ เลยให้ปวช.ทุกชั้นปี ไปเรียนที่วิทยาเขต โดยจัดรถรับส่งให้
ไหนยังมีเรื่องการเรียนนศท.อีก
.
.
.
แล้ววันนี้ก็มาถึง

“ไข พี่ไปล่ะนะ”

“...”

“3 ปี แป๊บเดียว ตั้งใจเรียนล่ะ”

“....” ฟ้าใสเป็นพวกต่อมน้ำตาตื้นอยู่แล้ว คนกำลังร้องไห้จะให้พูดอะไรได้ ในเมื่อในลำคอเหมือนมีก้อนอะไรจุกอยู่

“...” โม่งเองก็เป็นพวกไม่ชอบพูดอะไรพร่ำเพรื่อ เขาไม่เคยบอกรักฟ้าใส ผิดกับอีกคนที่พูดว่ารัก รัก ออกมาได้ เหมือนพูดว่าหิวข้าว

แม้ตั้งแต่ที่เห็นวันแรกและได้ใกล้ชิด เขาคิดว่าถ้าจะให้เขาดูแลเด็กคนนี้ไปตลอดชีวิตเขาก็ทำได้ แต่ในเมื่อขณะนี้เขาก็เป็นแค่
นักศึกษา ยังต้องเรียน เขาก็รู้ว่าหากพูดไป คำพูดนั้นก็คงผูกมัดเจ้าตัวเล็ก ในวันข้างหน้าฟ้าใสอาจได้เจอคนที่ดีกว่าเขา
 หรือมีครอบครัวปกติ

โม่งนึกถึงตอนนั้นแล้วก็หัวเราะ ถ้าเจ้าตัวเล็กของเขามีลูก เจ้าตัวคงเป็นได้แค่เพื่อนเล่นกับลูกซะล่ะมากกว่า

“โห..อะไรอ่ะพี่โม่ง จะจากกันพี่โม่งยังจะมาหัวเราะอ่ะนะ เชื่อเขาเลย” เสียงงอนๆจากคนตัวเล็ก
อ้าวนี่เขาเผลอหัวเราะออกไปเหรอ

“55 โทษที พี่นึกไปว่าถ้าพี่กลับมา แล้วไขมีเมียมีลูกจะเป็นไง”

“โหย บ้าสิพี่โม่ง” คนตัวเล็กส่งเสียงแหวตอบ พลางคิด ไขจะไปมีใครได้ไง ในเมื่อให้ทั้งตัวทั้งใจพี่โม่งไปหมดแล้ว

“อ้าว ก็เห็นเราชอบผิงผิงนี่...พี่ก็..”ยังไม่ทันที่โม่งจะพูดจบ ก็โดนเจ้าตัวเล็กสวน

“พี่โม่งเลิกพูดเรื่องนั้นไปเลย ห้ามพูดด้วย ไม่งั้นไขไม่พูดกับพี่โม่งแล้ว” ฟ้าใสพูดไปก็ใจหาย เกิดไม่ได้พูดกันจริงๆ
 เขาก็ทนไม่ได้หรอก

“ตกลง ตกลง ไม่พูดแล้ว พี่ไปอยู่โน้นแล้ว พี่จะโทรมาคุยนะ”

“โอ่ย ไม่ต้องหรอกพี่ เดี๋ยวเปลืองค่าโทรศัพท์อ่ะ เมลล์มาก็ได้อ่ะพี่”

“พี่จบแล้วกลับมา อาจได้กลายเป็นอาจารย์มาสอนเราก็ได้นะ เดี๋ยวจะให้การบ้านเราให้หนักๆเลย” โม่งไม่กล้าพูด
ว่าให้ฟ้าใสคอยเขากลับมา

“หึ งั้น ไขจะชวนเพื่อนประท้วง ฟ้องผอ. ส่งจม.ร้องเรียน”

พออยากจะพูดว่ารัก เพราะรู้สึกว่ารัก ทำไมมันกลับพูดไม่ออก มันแน่นอยู่เต็มหัวใจ ฟ้าใสอยากพูดว่า ไขรักพี่โม่งที่สุด
 แต่ก็พูดไม่ออก

“ไข พี่ไปละนะ ฝากลาคุณแม่ไขด้วย”

“ฮะ”

“ดูแลตัวเองดีดี”

“ฮะ” ฟ้าใสรับคำ มือหนึ่งปาดน้ำตาปรอยๆ

“พี่ไปละนะ” โม่งก็ไม่รู้จะพูดอะไร ใจหายเหมือนกัน ถึงจะไม่ได้ติดต่อกันบ่อย เรียนอยู่คนละที่ แต่ก็ยังนับว่าโรงเรียนเดียวกัน
 พอมีงานอะไรของโรงเรียนก็ยังได้เจอ ถ้าไม่เจอฟ้าใส ก็ได้เจอเพื่อนกลุ่มเดียวของคนตัวเล็ก

จะวางสาย ก็เหมือนความสัมพันธ์จะตัด...จะไม่ได้เจออีก…

“พี่โม่งดูแลตัวเองด้วยนะ”

“ฮื่อ...”

“.......”
สุดท้ายโม่งก็ต้องตัดใจวางสายโทรศัพท์ลง….

 :monkeysad: :sad11:
จบแอปปริโซด ONE  :pig4:



SS.2 หนุ่มๆมากมาย ฟีโรโมนน้องไขปล่อยไปทั่ว

ขอเวลาเรียบเรียงนะฮะ สัญญาว่าจะไม่ให้เกิน1อาทิตย์แน่นอนฮะ

ขอบคุณนักอ่านทุกท่านด้วย ดีใจจริงๆที่มีคนติดตามอ่าน

ปล.เพิ่งรู้ว่าตัวเองโก๊ะอ่ะ ดูผิดว่าลงได้ทีละ20000อักษร ว่าเป็น2000คำ แฮะ แฮะ เลยตัดตอนซะเป็นท่อนๆ
วันนี้ก็เพิ่งลองใช้คลิ๊ก ขวา เลือกซีเล็ก ออล อ่ะเวลาเปลี่ยนสีเมื่อก่อนนั่งลากเอา อิอิ บื้อ เนอะตัวเอง

เจอกัน SS.2 นะฮะ ม่ะนานเกินรอ
มีอะไรติชมกันได้ครับผม
เหนื่อยจริงๆกะ NC  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.1 CH.8 Ending (1/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 01-09-2012 07:36:34
อ้าว ใจหายเลย พี่โม่งไปซะไกล
แต่ระยะทางพิสูจน์ความรัก คงจะดีถ้าทั้งคู่ยังรักษาความรู้สึกดีๆต่อกัน ได้ลงเอยกัน(แหะๆ คงรู้แล้วซินะ ว่าคนอ่านโหวตข้อไหน)
แถมพี่โม่งกินน้องก่อนไป เพราะงั้นกลับมารับผิดชอบเลย
บวกจ้า :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.1 CH.8 Ending (1/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: didi ที่ 01-09-2012 08:51:36
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.1 CH.8 Ending (1/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 01-09-2012 13:01:12
อ่านทีเดียวจบเลย
สนุกจริงๆพี่โม่งเป็น
ผู้ชายที่อบอุ่นดีนะ
หวังว่ากลับมาคง
ไม่ปากหนักนะจ๊ะ
รอพาร์ท2จ้า
กด+เป็ด
เป็นกำลังใจให้
 :กอด1: :L1: :z2:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.1 CH.8 Ending (1/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 01-09-2012 14:10:55
 :pighaun: :pighaun:
เขาได้กันแล้ว เบียดก่อนจาก 555+

"ทุเรส" = "ทุเรศ"

รอภาค2จ้ะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.1 CH.8 Ending (1/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: nine_molly ที่ 03-09-2012 12:34:25
สนุกดี ให้กำลังใจนักเขียน จ๊ะ
รออ่านต่อ ลุ้นน้องไขต่อ พี่โม่งไปซะแล้ว
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.1 CH.8 Ending (1/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: done_dirt_cheap ที่ 04-09-2012 17:42:15
 :haun4:
รออ่านตอนต่อไปเน้อ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.1 CH.8 Ending (1/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 05-09-2012 00:20:54
รอภาคต่อค่ะ อิอิ

 :pig4: นะคะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Seasons 2 Chapter1 (6/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 06-09-2012 03:45:08
เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง Seasons 2 Chapter1

บทนำ

หลังจากพี่โม่งไปแล้ว ฟ้าใสก็ทำตัวเหมือนเป็นปกติ แต่ภายในใจของฟ้าใสมีพี่โม่งเป็นที่สุด
ฟ้าใสย้ายไปอยู่บ้านเรือนไทยกับป้าพัช ป้าพิส  ก็ป้าๆมาชวนลูกแม่มาอยู่ด้วยกันที่บ้านเรือนไทย
เพราะพอไม่มียายอยู่ บ้านก็ดูเงียบๆเหงาๆ  พี่ส้มโอเค้าไม่ไปอยู่ อยู่แล้ว ข้าวโอ๊ตก็กลัวผี กะบ้านเรือนไทยหลัง6โมงเย็นนะเหรอ
 
No Way !!! ส่วนข้าวปั้น ไปอยู่ก็ได้ แต่ก็กำลังอยู่ป.6ต้องเตรียมสอบเข้า แม่เลยต้องคอยดูเข้มงวด แม่เลยให้ฟ้าใสย้ายไป
อยู่เรือนไทย ป้าพัช และป้าพิสก็พอใจถามว่าฟ้าใสกลัวไหม ถ้าให้อยู่ห้องยาย ฟ้าใสก็ไม่กลัว ถึงจะคิดถึงยายบ้าง
แต่ก็ยายของเรา ยายก็รักพวกเราอ่ะ กลายเป็นฟ้าใสได้นอนห้องที่ใหญ่ที่สุด สบายที่สุด พวกป้าเค้าไม่อยากนอนห้องยาย
เพราะเดี๋ยวก็คิดถึงจนร้องไห้อีก

พักหลัง บ้านฟ้าใสก็ยุ่งเรื่องจัดการมรดก ที่ดิน งานการของโรงงาน ป้าวรรณก็รับผิดชอบงานผลิต ส่งของ ลุงก็จัดการเรื่อง
ทั่วไป ป้าพัช ป้าพิสคุมเรื่องบัญชี ส่วนแม่พรรณไม่ยอมยุ่ง เพราะไม่ได้ช่วยเรื่องโรงงานมาตั้งแต่ต้น เลยไม่อยากโดนพี่น้อง
ว่า แม่เค้าก็เกรงใจ แต่ป้าพัชก็จะใส่บัญชีในส่วนแบ่งของแม่มาให้

เปิดเทอมแล้ว พวกปวช.ปี1 ที่เพิ่งเข้าใหม่ ทั้งปี2 ปี3 ต้องย้ายไปเรียนที่วิทยาเขต เพราะโรงเรียนต้องปรับภูมิทัศน์ โรงเรียน
สร้างศูนย์การเรียนรู้ ตามคำขอจากรัฐบาล ที่ให้ช่วยสนองนโยบายใหม่ที่ประกาศ โรงเรียนเลยตัดปัญหาย้ายๆพวกปวช.
ไปเรียนที่เดียวกับปวส.และป.ตรี ที่เขตรังสิต แต่โรงเรียนก็มีรถรับส่ง ให้เวลา 7.00/8.00/12.00 น.

แล้วปีนี้ฟ้าใสก็เรียนนศท.ด้วย ต้องหัวเกรียนไปตั้ง3ปี แต่ฟ้าใสก็จะเข้มแข็ง โตขึ้น

CH.1
วันอาทิตย์ที่ควรเป็นวันหยุดสุดสำราญ
ตอนนี้ที่บ้านฟ้าใสกำลังต้อนรับเพื่อนสาว5คน
ทุกคนนั่งล้อมแม่พรรณของเขา
ฟ้าใสไม่ได้ทำอะไรผิด จนเพื่อนต้องมาขอร้องให้แม่ยกโทษให้เขา
พวกมันเองน่ะสิ ไปหาเรื่องเอง

ก็พวกมัน 5 คน ไอ้เติ้ล กับ ไอ้ป๋าแก้มตัวดีที่สุดนี่แหล่ะ ผิงผิงไม่เกี่ยวผิงผิงดีแล้ว ไอ้โอลีฟ ไอ้แชมพู พวกมันไปตกลงเช่าบ้าน เพื่ออยู่อาศัย
ก็ ถึงโรงเรียนจะมีรถรับส่ง แต่ถ้าใครมาไม่ทัน  ก็ตกรถ หารถไล่ตามไปเอง มันเลยตกลงกันว่าจะไปเช่าบ้านแชร์กัน5คนก็เลือกซะอย่างดี
 2ชั้น3ห้องนอน3ห้องน้ำ วางมัดจำทำสัญญาเช่าเรียบร้อย ปรากฏ

ไอ้ป๋าแก้มติดเด็กที่หอเดิม

แชมพูก็เริ่มโลเล ติดแม่ แม่ไม่ซาบาย มันอ้าง ไม่อยากอยู่กันดานๆ เงียบๆเหงาๆ

โอลีฟ ก็บอกว่าน้าอยากให้ช่วยงานบ้านเพราะแม่ตัวเองย้ายไปทำงานที่ต่างจว. แต่จะยอมช่วยจ่ายค่าเช่า
และอาจมาขอค้างบ้าง หากต้องกลับเย็นๆหรือมีงาน

 ผิงผิงกับไอ้เติ้ลมันเลยบอกว่าราคาเช่าขนาดนี้มันจ่ายกันสองคนก็หนักไป
จะให้ไอ้โอลีฟจ่ายด้วยแล้วไม่ได้อยู่ มันก็รู้สึกไม่ดี ไอ้ป๋าเรนตัวดีมันเลยเสนอแนะทุกคนว่าให้ชวนฟ้าใส
ก็เพราะมีผมกะมันที่ไปโรงเรียนสาย ตัวมันก็ไม่ยอมย้ายหอ เพราะติดสาวเช่นเดียวกับไอ้ป๋าแก้ม
มันก็มายกตัวอย่างประโยชน์ต่างๆนานา

 ฟ้าใสก็สงสารผิงผิง ไอ้เติ้ลกับฟ้าใสเองก็กอดคอเฮฮา เลยบอกว่า ถ้าอยากให้ไปก็ไปขอแม่ตรูเอาเอง โดยที่กรูไม่พูดนะโว้ย
บรรดาพวกมันทั้งหลายเลยมานั่งเสนอหน้าล้อมกรอบแม่ผม

“แม่ค่ะ ให้ฟ้าใสไปอยู่กับพวกหนูด้วยเถอะนะค่ะ” แชมพูเริ่มออดอ้อน

“นะฮะ คุณแม่ ไปไปกลับๆบางทีมันก็อันตราย เกิดน้องแพรศอกอยากขับรถออกมาทำผม ฟ้าใสก็ต้องเสี่ยงชีวิตนะฮะแม่
อนุญาตให้ฟ้าใสไปอยู่บ้านกับพวกเรานะฮะ” ป๋าแก้มเอาอันตรายมาอ้าง

“แล้วหนูจะช่วยกันดูแลฟ้าใสให้นะค่ะ แม่ไม่ต้องเป็นห่วง” โอลีฟพูดอย่างมาดมั่น

“เนี่ย แม่หนูนะค่ะ พอหนูบอกว่าฟ้าใสก็จะอยู่กับพวกเราด้วย แม่หนูก็ดีใจใหญ่เลยค่ะ” แชมพูไซโคต่อ

ไอ้เติ้ล มันปากเสียครับ ให้มันเงียบน่ะดีแล้ว ส่วนผิงผิง ไม่อยากโกหกแม่ว่าที่จะให้ฟ้าใสไปอยู่นะอยู่กันแค่ 3คนเอง

แม่เค้าก็คงคิดด้วยว่าไปๆกลับๆ เส้นทางรถไกลๆทุกวัน ก็อาจเกิดอันตรายได้ โอลีฟ แม่ก็รู้จัก ตั้งแต่ประถม
พวกเพื่อนในห้องส่วนใหญ่ทั้งผู้ชายผู้หญิงแม่ก็พอรู้จัก ยิ่งคุณพี่ส้มโอรู้จักเกือบหมด เพราะพวกนี้จะเคยมาบ้าน
 ก็ตั้งแต่งานศพยายพวกสนิทกันก็มา พอมีงานที่ต้องจับกลุ่มหรือต้องช่วยกัน ก็จะมารวมตัวกันที่บ้านฟ้าใส

ก็ตั้งแต่ยายเสีย ป้าเลยชวนฟ้าใสให้ย้ายไปอยู่ด้วยกันที่บ้านเรือนไทย ที่มีโถงกว้าง สามารถวางงาน วางกระดาษ
อุปกรณ์ได้สารพัด แล้วเวลามา แน่นอนก็ต้องเจอพี่ส้มโอ ต่อให้เป็นผู้หญิงพี่โอก็ต้องทำการสอบสัมภาษณ์
พี่โอจำไอ้แชมพูได้อย่างดีก่อนใคร ก็มันเล่นทักพี่โอก่อน

“พี่ส้มโอใช่ไหมคร๊า” แถมสวัสดีอย่างสวยงาม
หึ ผิดกับใครอย่างคน ไม่ยอมหวัดดี พี่โอเลยเหม็นหน้า นึกแล้วคิดถึง พี่เค้าคงเหนื่อย เรียนก็คงหนักแล้วยังต้องปรับตัวตั้งเยอะ

ไอ้ป๋าแก้มนั้นบุคลิกก็โคตะระดีเยี่ยมประมาณเด็กเรียน ดูผู้ใหญ่ก็มันอายุมากกว่าฟ้าใส2ปี ขาว แต่ความจริง มันจะมึนๆอึนๆ
พูดเรื่องโน้นก็เข้าใจว่าเรื่องนี้ เค้ากำลังอยู่ทะเลกัน มันก็นึกว่าชวนปืนเขา

พวกมันก็ทำเป็นอ้างว่า อยู่กันแต่ผู้หญิงอันตราย ฟ้าใสก็เป็นเพื่อนสนิทอยู่กลุ่มเดียวกัน แล้วก็เป็นผู้ชายชวนมาอยู่จะได้
อย่างน้อยก็ทำให้บ้านนี้ดูว่ามีผู้ชายอยู่ ช่วยปกป้องพวกเรา

ฟ้าใสรู้ว่าพวกมันหัวเราะเยาะกันในใจ ก็เล่นตัวใหญ่กว่าฟ้าใสทั้งนั้น
มันยังทำมาเป็นบอกว่าให้ผมอยู่ฟรีก็ได้ ความคิดไอ้ป๋าเรนมันสอนไอ้ป๋าแก้ม
มันก็รู้ว่าอย่างแม่ผมไม่เอาเปรียบใคร ถึงจะพูดอย่างงั้น ถ้าฟ้าใสไปอยู่แม่ก็จ่ายตังให้อยู่แล้ว
พวกมันก็บอกอีกว่าผมไปอยู่ก็ไม่ต้องเอาอะไร เพราะบ้านนั้นมีของให้อยู่แล้ว

แม่ฟ้าใสมองหน้าพวกบรรดาสาวๆทั้งหลาย แล้วก็ผ่าน!!! อนุญาต ให้ฟ้าใสไปตั้งฮาเร็มได้ 555 เอิ๊ก เอิ๊ก
ทันทีที่แม่ฟ้าใสอนุญาต พวกป๋าแก้ม แชมพู  ก็กระดี๋กระด๊า เชอะ เมริงไม่เสียค่ามัดจำบ้านแล้วล่ะ

“เลี้ยงข้าวกรูด้วยล่ะ หึ”

“ได้ ได้ เพื่อนเลิฟ” โอลีฟ รีบบอก พลางจับคางฟ้าใสเขย่า

“งั้น ไป่ไป ไปกินเหล้าฉลองรับขวัญสมาชิกบ้านใหม่กัน” ไอ้เติ้ลประกาศ
ไอ้เติ้ลนะไอ้เติ้ล เมริงง่ะหาเรื่องกินเหล้าได้ตลอด


แล้วปีนี้ยังมีเรื่องที่ฟ้าใสต้องลงเรียนวิชานศท. นักศึกษาวิชาทหาร (นศท./รด.)
อย่างว่าที่ว่าปีนี้ช่างวุ่นวายดีแท้ ที่ฟ้าใสต้องเรียน นศท. ปีที่แล้วอายุฟ้าใสยังไม่เต็มเดือน ถึงจบม.3ก็ยังไม่ได้จดหมาย
แถมแม่ก็เป็นห่วง คงไม่อยากเห็นลูกหัวเกรียนด้วยมั๊ง แต่พอฟ้าใสต้องโกนหัวบวชงานยายเลยตามเลย
ไหนไหนก็ชินตาแล้ว บ้านฟ้าใสต้องวุ่นวายหาชุดใส่ก็ไม่เป็นทั้งพี่ส้มโอทั้งป้านวลช่วยกันแต่งให้เกือบ2ชม.รีดก็ยาก
ป้านวลก็พยายามรีดให้สุดฝีมือ ความจริงมีพี่หล้าทำหน้าที่รีดผ้าของบ้าน แต่ตัวนี้ป้านวลอยากโชว์ฝีมือเอง
 ฟ้าใสต้องใส่ใส่ถอดถอดหลายครั้ง จนสุดท้ายเอาก็เอา เพราะป้ารีบมาตะโกนเร่งจะขับรถไปส่งวันแรก

ก็ตั้งแต่ฟ้าใสต้องไปนอนบ้านยาย ป้าก็เริ่มไม่ค่อยมีอะไรทำ เลยยิ่งเอาใจใส่ฟ้าใสมากขึ้น เดิมก็ลำเอียงรักฟ้าใสมากกว่าพี่น้อง
คนอื่นๆอยู่แล้ว นอกจากข้าวปั้นที่ ป้าพัช ป้าพิส ก็รักเพราะสงสาร ป้าป้านะเป็นคนเซ็นสิทีฟ

ขนาดวันที่ผมต้องไปสมัครคัดเลือก วิชานศท.นี่แหล่ะ ป้าพัช แกไปส่ง ไปส่งก็จะนั่งคอยรอกลับด้วย
แกก็เห็นผมต้องวิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง ภายในเวลาที่บังคับ ผมก็รีบวิ่ง เหนื่อยมาก แต่ก็ทำได้ หมดแรงแทบจะนอนกับพื้น
ป้าบอกสงสารผมจนนั่งร้องไห้ แล้วพอมาเล่าให้ใครๆฟัง ป้าพิสก็ร้องไห้ตาม

“อ่ะ ฟ้าใส ป้าส่งข้างหน้านี่นะลูก” ป้าพัชขับมาส่งหนุ่มหล่อที่สุดที่หน้าศูนย์ฝึกนศท.

“ครับ ขอบคุณฮะ” ฟ้าใสยกมือไหว้ แล้วเปิดประตูลงจากรถ
โห่หหหหหหห วู้วววว
โห อะไรอ่ะ เสียงโห่ต้อนรับฟ้าใสเหรอ มีธรรมเนียมโห่รับคนหน้าตาดีเหรอ 555

“ทำไมอ่ะ”  ฟ้าใสทำหน้าเหรอหรา
นศท.คนที่กำลังเดินบนฟุตบาทแล้วฟ้าใสก้าวลงจากรถไปยืนใกล้ๆ เค้าเลยสะกิด

“นายๆ ชุดนี้เค้าพับแขนเสื้อ”
อร๊ายยยยย กรี๊ดดดดดกรี๊ดดดดดด กรูม่ายรู้ ฟ้าใสรีบวิ่งตามรถป้าขึ้นไปนั่งใหม่
หน้าแดงด้วยความอายสุดขีด

“อ้าวเป็นอะไรล่ะไข ปวดท้องเหรอ”

“เปล่าอ่ะป้า ชุดนี้มันต้องพับแขนอ่ะ ไขโดนโห่ตั้งแต่ลงไปยืนเลยอ่ะ”

“อ้าว 555 ก็บ้านเราไม่มีผู้ชายนี่นา เลยไม่มีใครรู้นี่ ไม่เป็นไรหรอก” ป้าพัชลูบหัวเกรียนเขียวปลอบใจยิ้มๆ แล้วรีบพับแขนเสื้อให้ฟ้าใส

“แหะ แหะ ป้า ที่นี่มันมีอีกประตูอ๊ะเปล่าอ่ะ ป้าพัชส่งไขอีกประตูได้เปล่าฮะ”

เวลาผ่านไปพวกเราก็เรียนไปเล่นไป

ผม ไอ้เติ้ล ผิงผิง อยู่ด้วยกันที่บ้านเช่าที่หมู่บ้านแถบนั้น แรกๆเด็กดีอย่างเราพอเลิกเรียนก็ตรงกลับบ้าน ก็เพื่อนๆก็รีบกลับ
เพราะมันต้องขึ้นรถของวิทยาลัย เข้าเมือง แต่พออยู่ๆไปชินแล้วก็นั่งเล่นต่อที่โรงเรียนบ้าง
  ดูเค้าเตะบอลบ้างแต่ก็ไม่เคยอยู่จนเย็น แค่ 4-5โมงก็กลับแล้ว

ไอ้พวกนี้มันก็เอาแต่เลือกเช่าบ้านตามหมู่บ้านจัดสรร ผิดกับคนอื่นที่เขาไปหาตามละแวกติดๆกับโรงเรียน
คนอื่นเค้าเลยเดินกลับมีแต่พวกผมที่ต้องไปต่อรถสองแถวกลับบ้าน

แต่ผมก็เคยเห็นนักเรียนโรงเรียนเรามีมาเช่าอยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกัน รู้สึกว่าจะเป็นห้อง 2/4 แต่ก็ยังไม่เคยพูดคุยกันจริงจัง
 ก็พวกนี้ดูหน้าตามันโหดๆ เข้มๆ แก่ๆ แต่พวกมันก็หน้าตาดี จมูกโด่ง ตาคม แต่สีหน้ามันดูโหดๆอ่ะ มันออกเช้า พวกเราออกสาย
 เรากลับเร็ว พวกมันกลับช้า พวกผมอยู่หัวมุมซอย5 จึงอยู่คนละฝั่ง แต่พวกผมไม่ค่อยออกไปไหนกลับมาก็อยู่กันแต่ในบ้าน
 
แหะ แหะ ผมเองก็เลิกคิดปล้ำผิงผิงแล้วนะครับ ถึงชอบแล้ว รู้สึกรักผิงผิงก็เป็นความชอบแบบเราชอบคนนี้มากกว่าอ่ะ

(อย่ามาแก้ตัว ฟ้าใส ถ้าทำให้ผิงผิงเป็นของตัวเองได้ก็ยังอยากทำอยู่ชิมิ นี่ตัวเองทำไม่ได้ล่ะสิ เหอ เหอ)

และแล้วในชีวิตบางวันของเราก็เป็นเช่นนี้
ขณะที่ลงป้ายรถหน้าหมู่บ้าน

“ไอ้เติ้ล เอากุญแจมาเปล่าอยู่ที่ใคร ปวดฉี่อ่ะ ขอหน่อยสิ” ฟ้าใสถามเมื่อรู้ว่าผิงผิงกับเติ้ลจะแวะซื้อของที่เซเว่นปากทาง

 “อ้าว กรูก็ไม่ได้เอามา งั้นก็อยู่ที่ผิงผิง”

“เปล่าย่ะ ที่ชั้นไม่มีย่ะ พวกแกหาดูดีๆ”

“เฮ้ย..เมื่อเช้าเราออกมาคอยผิงผิงกับไอ้เติ้ลนอกบ้านก่อนใครเลยนะ เราไม่ได้ปิดบ้านแน่ๆ”

“เฮ้ย กรูก็ไม่ได้ปิดบ้านนะเมื่อเช้า กรูก็ออกไปยืนคุยกับเอ็งแหล่ะไอ้ไข่ ที่หน้าบ้านเลย กุญแจอยู่ที่ผิงผิงนะแหล่ะ”

“ไม่มี๊ ไม่มี ชั้นหาแล้วย่ะ ถ้ามีก็อยู่ในกระเป๋ากระโปรงชั้นแล้วสิ”

“เฮ่ยผิงผิง หาดีดีสิ ไข่ปวดฉี่ ผิงผิงน่ะแหล่ะปิดบ้านเมื่อเช้า จำได้แล้ว ไปทำตกตรงไหนเปล่า ลืมไว้ที่ไหนเปล่า”

“โอ่ย งั้นรีบกลับบ้านแล้ว เผื่อตกแถวนั้น”

“เออ ๆ ไปกันเหอะ  เมื่อเช้าก็จำได้ว่าไม่ได้ถืออะไรมานะ นี่ไง ในกระเป๋าก็ไม่มี” ผิงผิงเขย่ากระเป๋าให้ดู
พวกเราก็จ้ำๆรีบกลับบ้าน ฟ้าใสปวดฉี่ก็ปวดฉี่

ระหว่างทางเดินเรามองๆตามพื้น เผื่อเจอกุญแจตกอยู่บ้าง
((พวกเอ็งเป็นพวกมองโลกแง่ดีมาก เวลาผ่านไปตั้ง1วัน ถนนก็คนเดินไปมา))

พอถึงประตูรั้ว เราก็ล้วงกลอนเปิด

“ผิงผิง!!!” ทั้งฟ้าใสและไอ้เติ้ลตะโกนร้องพร้อมกัน

“แหะ แหะ” ผิงผิงยิ้มรับการมองหน้าของเพื่อน ที่ผ่านการถอนหายใจอย่างโล่งอก
ฟ้าใสรีบเผ่นไขกุญแจที่เสียบคาประตูบ้าน วิ่งปรู๊ดเข้าห้องน้ำไป

((เห็นม่ะ โลกยังสวยอยู่กุญแจบ้านเสียบคา ของมันไม่หายเลย – ก็บ้านเอ็งอยู่ตรงหัวมุมนี่นาคนก็เดินผ่านไปมา
 ไม่ลองไปเสียบคาบ้านท้ายซอยสิ))

ผิงผิงหมดสิทธิ์เป็นคนปิดประตูตอนเช้า แต่ไม่นานก็กลับมาทำหน้าที่เดิม เพราะฟ้าใสกับไอ้เติ้ลก็ขี้เกียจรักษากุญแจ
 เพียงแต่มีกฏว่าต้องชูกุญแจตอนเดินออกจากรั้วบ้าน


7.00น.
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงคนมาทำเสียงเคาะประตู

“ไอ้ไข่ไปดูดิ ใครมาเคาะประตูบ้านวะ” เสียงผิงผิงสั่งจากในครัว

“บ้านเราเหรอ แน่ใจอ่ะ ใครจะมาบ้านเราแต่เช้า” เติ้ลยังใส่ชุดนอน เดินเที่ยวค้นหนังสือเรียน

“อื้อ อื้อ” ส่วนผมยังนอนพังพาบที่ที่นอน ห้องผมจะอยู่ชั้นล่างติดทางเข้าออก

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“ไอ้ไข่”

“เออ เออ เด๋วแอบดูก่อน ไม่รู้จักไม่รับแขกนะ”

“เออ เออ สิ”

“ผิงผิง พวกบ้านโน้นอ่ะ”

“มันมาทำไม”

“ไม่รู้ดิ”

“เปิดประตูไปถามมัน” เสียงผิงผิงสั่งงานขณะตัวเองกำลังแยกผ้าเพื่อจะแช่ไว้ก่อน

แอ๊ดดดดด
ฟ้าใสเปิดประตูไปจ้องมองเพื่อนร่วมโรงเรียน อยู่ปีเดียวกัน ที่มาเช่าอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน 4 นายยืนอยู่
มันเข้ามาถึงหน้าประตูบ้านเลยอ่ะ

 (ก็พวกเอ็งไม่เคยล็อคประตูรั้ว-Raspberry)

“....”

“จะมาชวนไปกินข้าวที่บ้าน เย็นนี้นะ จะได้รู้จักกัน”หน้าโหดสุดหล่อสุดด้วย พูดขึ้น

“ไอ้ไข่ ตกลง เค้าว่าอะไร มีธุระอะไร”เสียงผิงผิง ตะโกนบอก

ไอ้เติ้ลที่ก้มหน้าก้มตาหาของตะโกนบอก “ยืมเงินน่ะไม่ให้นะ เดี๋ยวไม่มีกินเหล้า”

ฟ้าใสหันไปบอก

“พวกบ้านโน้นชวนกินข้าว”

“เมนูอะไร” ผิงผิงตะโกนถามต่อ

“จะกินอะไรล่ะ” หน้าโหดเบอร์1ตัวสูง180 ซม.ถาม หน้าโหดเบอร์2หล่อน้อยกว่าหน่อย แต่ตัวใหญ่กว่าโหด1 สูง 185 ซม.
ตัวหนาบึก อมยิ้มเล็กน้อย หน้าหวาน หล่อแบบหวานๆ สูง 175 ซม.ยิ้มให้ หน้าตายไม่หล่อแต่ก็ถือว่าหน้าตาดีล่ะ สูง 178 ซม. ก็ทำหน้าตาย

ผิงผิงแช่ผ้าเสร็จแล้ว เลยเดินมาสอบถามด้วยตัวเอง ก็ผิงผิงตื่นเช้าอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก่อนใคร
ขณะที่ผมกับไอ้เติ้ลมักตื่นพอประมาณแล้วก็โอ้เอ้ ๆ

“ไข่ไปอาบน้ำได้แล้ว”ผิงผิงมันไล่ผมแล้ว

“เราไม่กินผักนะ เผ็ดก็ไม่กินด้วย” ผมรีบบอกก่อนเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวไปเข้าห้องน้ำ รู้สึกเหมือนมีสายตาจ้องตามหลังไปด้วยแฮะ เสียววูบเสียววูบ

วันนั้น 6 โมงเย็น ทูตสันถวไมตรีก็มารับไปบ้าน
บ้านมันอยู่กัน5คน บ้านมันใหญ่กว่าบ้านฟ้าใสเล็กน้อย ข้างในเหมือนกัน แต่หน้าบ้านได้พื้นที่มากกว่า
ไปถึงมันก็จัดโต๊ะเรียบร้อย หน้าบ้าน มีจุดเทียนด้วย เว่อร์มาก ไอ้เติ้ลมันก็ขอชมบ้าน

 หน้าหวานก็พาชมแนะนำว่าห้องนี้ของใคร ใครนอนกับใคร ก็หน้าหวานอยู่ห้องเดียวหน้าโหด1  โหด2อยู่กับหน้าตาย
 แล้วมีหน้าแก่อยู่คนเดียว

ก็แนะนำตัวกัน หน้าโหด1ชื่อโภชน์ เป็นหัวหน้าห้องด้วย โหด2 ชื่อคิดส์  หน้าหวานผมยาวเล่นดนตรีเก่งชื่อ แชท
หน้าตาย ชื่อบรุค แล้วก็มีหน้าแก่อีกคนชื่อ อ๋อง พวกนี้อายุมากกว่าพวกฟ้าใส 3ปี
 ยกเว้น ไอ้แชท กับ ไอ้บรุค ดูว่าน่าจะรุ่นๆเดียวกันหรือไม่ก็แก่กว่าปีหนึง

กับข้าวก็กินได้ มีแกงจืด ไข่เจียว หมูทอดกระเทียม ปลา3รส ผัดผักรวมมิตร ต้มยำรวมมิตร
โหด2 ก็เลื่อนๆของที่ผมกินได้มาข้างหน้าผม

“อ่า ไม่เป็นไร เราไม่กินแกงจืดอ่ะ” ฟ้าใสไม่ชอบให้ข้าวเปียกๆ

“อ่ะนี่ งั้นกินนี่ไป”โหด2ก็เอาหมูทอดกระเทียม กับไข่เจียวมาวางตรงหน้าปุบ

“ขอบใจอ่ะ” ผมก็เห็นแววตาเพื่อนๆมันอ่ะ น่ากลัวว่ะ กรูมาแย่งหมูทอดมันเปล่าว่ะ

“ใครทำกับข้าวน่ะ” ผิงผิงถามกึ่งชวนคุย

“ไอ้คิดส์ทำ มันทำเป็นอยู่คนเดียวนี่แหล่ะ คนอื่นทำเป็นแค่ต้มมาม่า” โหด1อธิบาย

“โอ้โห เก่งอ่ะ”ทั้งไอ้เติ้ล ทั้งผม อ้าปากค้าง ชมไอ้โหด2

“จริงอ่ะ ไม่ใช่แกะหนังสติ๊กเทใส่จานนะ” ผิงผิงยังไม่ค่อยเชื่อไอ้โหด1 บอก

อั๊ย!!!ผิงผิงไปพูดได้ไง ดูถูกมัน  เด๋วมันโกรธ พวกเราก็โดนไอ้โหด มันฆ่าทิ้งคาบ้านหรอก

“อร่อยเปล่าล่ะ” โหด1 ก็ยังคุยต่อ แล้วเจ้าตัวมันไม่พูดเลยเหรอ เป็นใบ้เปล่าเนี่ย เอ๊ะ แต่เมื่อกี้ก็พูดกับตรูนี่กว่า
พอกินเสร็จ สาวๆก็จะช่วยเก็บจาน พวกมันก็บอกไม่ต้อง ผมนะไม่ชอบเก็บจาน จะมีหน้าที่คือล้างจาน เลยจะช่วยล้างให้
อ๋องหน้าแก่ กับ บรุคหน้าตาย ก็เก็บจาน ส่วนไอ้โหด1กับไอ้หน้าหวานนี่ไม่ทำอะไรเลย กินเสร็จนั่งสูบบุหรี่อิงแอบพิงกัน
ผมเลยเดินเข้าไปอาสาช่วยล้าง ปรากฏโหด 2มายืนดู
แล้วก็สะกิดให้ออกไป

“ออกไปนั่ง ไป๊” ยิ้มให้ด้วยอ่ะ

เราก็นั่งคุยหน้าบ้านพักหนึ่งยุงเริ่มมาป่วน มันก็ชวนนั่งในบ้าน ก็คุยกันเรื่องเรียน เรื่องงาน มันก็ซักถามว่าพวกเราเรียนเป็นไง
 วิชาไหนชอบไม่ชอบ ไอ้บรุคมันก็เอาหนังสือการ์ตูน มาอ่าน เรื่องนี้ผมก็อ่านก็เลยคุยกัน
โหด2ก็มาสะกิด บอกให้เข้าไปดูการ์ตูนในห้องนอนมัน จะยืมไปอ่านก็ได้ เอ๊ะ โหด2 ใจดีจัง

บ้านนี้รสนิยมมันก็ดีอ่ะ ดูหนังฟังเพลงอ่านหนังสือ ดีดี ทั้งนั้น เลย เออ เออ มันก็คงไม่ใช่คนเลวร้ายหรอกนะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Seasons 2 Chapter1 (6/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 06-09-2012 09:13:18
รอจ้าๆ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Seasons 2 Chapter1 (6/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: nine_molly ที่ 06-09-2012 13:50:36
มาต่อแล้ว
คนใหม่มาแล้วซี
คนใหม่มาแล้วซี
 :pig2:
ลงยาวดีจัง
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Seasons 2 Chapter1 (6/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 06-09-2012 18:38:55
เจอ "โหด1" กับ "โหด2" แล้วนึกถึง
กล้วยหอมจอมหลอน "บี1" กับ "บี2"
นายคิดเหมือนฉันมั้ย บี1
555+
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Chapter2 (6/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 06-09-2012 22:14:22
CH.2

รู้เปล่าว่าโรงเรียนศิลปะอย่างเราก็มีวิชาพละศึกษานะครับท่าน 555 ไม่น่าเชื่อเนอะ
ก็เรียน ปวช.มันก็ต้องเรียนวิชาสามัญกันบ้างอยู่
โรงเรียนเราไฮโซ นะฮะมีเรียน แดนซิ่ง ยิมนาสติก ซอฟบอล วอลเล่ย์บอล ดอดจ์บอล
เทอมนี้หลังจากเรียนซอฟบอลไปได้ 2เดือน
อาจารย์เลยบอกให้แข่งกันระหว่างห้อง

วันนี้ก็อะฮ่า ห้องผมแข่งซอฟบอลกับห้อง 2/4 จำนวนปริมาณนักเรียนแต่ละห้องนี่ก็ 20-25 คนเอง
อย่างห้องผมนี่ พอแบ่งชาย-หญิง นี่ คนลงแทบไม่มีตัวสำรองหรอก เอาแค่ให้ลงครบตัวเก่งไม่เก่ง ก็ตามบุญตามกรรม

“ไอ้ไข่ ไอ้เมย์กะไอ้นาย มันไม่มา เอ็งลงด้วยนะ แค่เกมส์รุก พอเกมส์รับไม่ต้อง” ไอ้มอสมันสั่งผม

ไอ้พวกไม่มา มันคงเมากันล่ะสิ คนอื่นมันก็สนใจบ้างไม่สนบ้าง แต่2คนป้ามาร์ธาแอนด์เฟรน กลัวแดด
ยิ่งมาเล่นตอนเที่ยงๆนั่งดูยังดูไกลๆเลย
ก็ผมน่ะวิ่งได้ดี กับตีลูกโดน แต่เรื่องรับไม่ไหว รับลูกไม่แม่น แฮ่ แฮ่ กลัวลูกโดนหัวด้วยอ่ะ แจ๊ตพอตเลยมาแตกที่ตรู

 “ไข่ สู้ สู้” โอลีฟบ้าพลังรีบเชียร์พอได้ยินไอ้มอสมันสั่งผม ผมก็เลยโดนลง แข่งด้วย 

ขณะที่ผมเป็นตัววิ่งอยู่ที่เบส2 ตาผมก็มองที่ลูก ที่ไอ้ทีมเตรียมจะตี ขณะที่เตรียมพร้อม ผมจะก้าวจะวิ่งชิงฐาน
ข้อเท้าดันพลิก ตัวเลยเซจะล้ม
นึกว่าหน้าจะลงพื้นซะแล้วเอ่อ ไม่ล้มแหะ มีมือมาคว้าไว้อ่ะ ปรากฏว่า โหด2คุณคิดส์ ที่เฝ้าเบส2อยู่
แกคว้ามาจับเอวผมไว้

“เป็นไรหรือเปล่า” แกถามเสียงซื่อๆเรียบๆ แต่มือก็ยังจับเอวอยู่

“ขอบใจอ่ะ” ผมก็รีบแท็งกิ๊ว มือยังไม่ปล่อยอีกวั๊ย

“.....”

“เอ่อ ไม่ล้มแล้วล่ะ ปล่อยเราได้แล้วล่ะ”

แข่งวันนั้นปรากฏว่าห้องผมแพ้ เชอะ แต่ผู้หญิงชนะ เฮ!!! ผิงผิง สู้สู้

ตกเย็น หลังจากส่งเพื่อนขึ้นรถโรงเรียนเรียบร้อย

“บ๋ายบาย เลิฟ เลิฟ จุ๊ฟ จุ๊ฟ”

สารพัดตอเหลใส่กัน555
พวกผู้ชายห้องเราเองก็มีที่เช่าใกล้โรงเรียน เห็นไหมมีแต่พวกบ้าไอ้ป๋าแก้มนี่แหล่ะ เช่าซะต้องเสียค่ารถ
16บาททุกวัน

ถึงเวลา 2 สาวสวย 1หนุ่มหล่อ กลับบ้าน เอ๊ะ เสียงฝีเท้าข้างหลัง ใครตามมาว่ะ สโตกเกอร์เหรอ
อ้าว ไอ้พวกหน้าโหดบ้าน ซอย10
แวะตลาดดูของเล่นตามประสาผมกับไอ้เติ้ล ผิงผิงก็ดูราคาพืชสวนไร่นาตลาดโลกไป
พอดูของเสร็จ ก็ขึ้นรถสองแถวใหญ่ บ้านซอย10 ขึ้นมั่ง

มันก็ยืนๆอยู่แถวท้ายรถน่ะแหล่ะมีแต่ไอ้แชทหน้าหวานเท่านั้นที่มานั่งในรถ นอกนั้นมันไม่มาแย่งพวกแม่บ้านเด็กนักเรียนเขานั่งกันหรอก
พอถึงบ้านหมู่บ้าน พวกเราก็ลง ผมจะเดินไปพร้อมกับผิงผิง เติ้ล ไอ้หน้าโหดโภชน์หัวหน้ากลุ่มก็จัดแจงมาเดินคุยกับไอ้ผิงผิง
ผิงผิงเขามารยาทดี เป็นผู้ใหญ่ ไอ้เติ้ลกับผมประเภทจะคุยเล่น แซวแหย่ไปเรื่อย  คนตัวติดกันของไอ้โภชน์ก็คือ ไอ้แชท
เพราะจะเห็นเดินคู่กันตลอด ไอ้แชทมันจะลักษณะเหมือนผม หน้าหวาน ดูนิ่มๆ ผมยาวสลวยระบ่า ไอ้เติ้ลมันเลยคุยแหย่ไอ้แชท 
ผมเลยโดนเบียดหลุดกลุ่ม คุณคิดส์ก็เลยถือโอกาสมาเดินคู่ผม แล้วก็ส่งขนมให้ผมบอกว่าซื้อมาฝาก โอ๊ค!!! นี่ผมโดนจีบ
แล้วเหรอ อาย เขิน โอ๊ย แล้วนี่พวกมันที่เดินตามหลัง อีกตั้ง 2คน ก็เห็นอีกนะดิ
ผิงผิง กับไอ้เติ้ล ก็แยกจะเดินเข้าบ้าน ผมก็รีบแยกกะคุณคิดส์เดินตาม 2คนเข้าบ้าน
ไอ้ผิงผิงเห็นผมถือถุงขนม มันก็ถามทันที

“นั่นถุงอะไร ซื้อมาเมื่อไหร่” แหะ แหะ ไอ้ผิงผิงมันเหมือนผู้ปกครองของผมกะไอ้เติ้ล

ผมก็อ้อมแอ้ม ตอบเบาๆว่า “คุณคิดส์ให้มา” ไอ้เติ้ลหัวเราะทันที 555

“แกจะหัวเราะอะไรนักหนาฟ่ะ ไอ้เติ้ล ไอ้บ้า” แล้วผมก็หน้าแดง

ไอ้ผิงผิงมองหน้าผม แล้วเตือน

“แกก็ระวังตัวมั่ง”

 ไอ้เติ้ล มันก็มากอดคอผม พร้อมกับเอาหน้ามาใกล้ แถมยังเอามือมาดึงแก้มผม

“โอ๋ โอ๋ อีกหน่อยเราจะมีเพื่อนเขยแล้วว่ะ 555”

“ไอ้บ้า”
ผมเลยผลักหน้ามันออก
.
.
.
วันนี้หลังจากเช็คชื่อเข้าเรียนวิชาแรก

“วันนี้ที่หอศิลป์ Q จัดงานแสดงของศิลปินแห่งชาติ ครูจะปล่อยพวกเธอไปดูงานแล้วกัน”สิ้นเสียงจากสวรรค์

“เฮ!!!!” บรรดาหนุ่มสาวรักเรียนทั้งหลายก็ส่งเสียง อย่างเศร้าโศกด้วยใบหน้าร่าเริงสุดขีด

อาจารย์ก็บอกเสร็จก็ปล่อยให้เราไปดูงาน

“เฮ้ย! งั้นกรูต้องกลับไปเอากุญแจกับของที่หมู่บ้านก่อนนะเว้ย” ไอ้เติ้ลรีบบอก ไอ้เติ้ลเป็นเด็กตจว.มันอยู่กับน้า
เราเลยตกลงว่าไปบ้านเช่ากันก่อน

ระหว่างที่ออกมาคอยรถที่ป้ายหน้าหมู่บ้านจะไปดูงานกันที่หอศิลป์
ปรากฏว่าก็มีนักเรียนโรงเรียนช่าง 3คน ตัวมันก็สูงกว่าฟ้าใส เออสิ ตรู159 ซม. ปีนี้ได้เพิ่มมาอีกเซ็น
ถ้าเอียงๆหน่อยก็แอบได้มาอีกเซ็น พวกมันก็ไม่ล่ำมาก มามองๆ  ผมก็ยืนคุยกับ ไอ้ป๋าแก้มอยู่ริมกลุ่ม ไอ้สาวๆทั้งหลาย
 ก็นั่งกัน ผิงผิง เติ้ล หมูแฮม แชมพู ดีว่าไอ้โอลีฟไม่อยู่ ไม่งั้นไอ้โอลีฟมันคงโวยแหลกแหกปาก ผลักอกเขาก่อน
นี่ป๋าแก้มอยู่ แต่ก็ไม่วายมีเรื่อง

มันก็มามองหน้าผม แล้วมันก็คุยอะไรกัน มองหน้าผมอีก สาวๆของผมก็เริ่มระวังตัวแล้ว ยิ่งไอ้พวกขี้กลัวอย่างไอ้เติ้ล
กับไอ้แชมพู แล้วมันก็เดินมาผม ฮือ ฮือ ไม่ร้องเว้ย เราก็ชาติเชื้อ นศท.โว้ย
กรูไม่เคยรู้จักกะพวกเมริงเฟ้ย ไม่ต้องมาทัก กรูก็ไม่ใช่คนแถวนี้ ไม่ต้องมาถามทางด้วย เลยป้ายโรงเรียนกับหมู่บ้าน
ไม่รู้จักแล้วโว้ย  มันก็เดินเข้ามา

“เมริงอยู่โรงเรียนไร มาทำไรแถวนี้”

อ้าว ไม่รู้จักกัน แล้วมาทักกันอย่างงี้หรือไงว๊า

“ทำไมอ่ะ” ปากตรูก็ดันตอบไป เฮียแกถามก็ตอบมันไป มันคงอยากสมัครเรียนโรงเรียนเรามั๊ง
ไอ้ป๋าแก้ม ก็ดันไปถามมันกลับ

“ทำไม มีอะไรเหรอ” ด้วยความเป็นห่วงมันมั๊ง
คราวนี้มันก็เลยผลักอกผม ผมยังไม่ทำอะไร ไอ้ป๋าแก้มมันก็เลยผลักอกไอ้ตัวที่ผลักผม
ไอ้ป๋าแก้มมันลูกตำรวจ เป็นพี่คนโตด้วย มีแต่น้องชาย  ไอ้นั่นมันก็คงยังเห็นป๋าแก้มใส่กระโปรง มันเลยกลับมาต่อยผม
แรงอย่างผมทำได้แค่ยกแขนป้องกันตัว ผมก็ร้อง

”เฮ้ย!!” เห็นไหม ผมยังดี ไม่ได้ร้องกรี๊ดๆ ซะหน่อย
ไอ้ป๋าแก้มก็กระชากคอเสื้อไอ้เวรนั่น

“เมริงทำเพื่อนกรู” แล้วก็ชกขวาตรงมันมั่ง
เพื่อนมันก็เริ่มเข้ามารุม พวกสาวๆลุกฮือกัน เหอ เหอ ถึงพวกมันเป็นผู้ชาย ก็ 3คน พวกผม มี6คน
พวกผู้หญิงก็ตรงเข้ามาเอากระเป๋าเป้ฟาดพวกมัน ตุบตุบตุบ มันก็ไม่ได้ต่อย ก็แค่ผลักๆ สาวๆก็ดึงๆ ทึ้งๆ
แป็บเดียวก็มีตีนใหญ่ๆ มาถีบไอ้คนที่ต่อยผม กระเด็นไปเลย
เจ้าของตีนเบอร์46 คุณคิดส์รีบเข้ามาจับเนื้อจับตัวผม
แล้วก็มีอีกมือคนก็มากระชาก พวกที่ฟัดกับสาวออกไป

“มีอะไรกัน” เสียงเหี้ยมๆเข้มๆ ก็ทักขึ้น เสียงไอ้โภชน์ครับ

ส่วนไอ้แชท เข้ามาถามพวกสาวๆ ไอ้แชท ไม่ได้เข้ามาช่วยหรอก ยืนดูเฉยๆ หลังไอ้โภชน์
“เป็นไงมั่ง” มันก็อมยิ้ม หันไปชมไอ้เติ้ล ว่าเก่งดีนี่

ไอ้โภชน์ก็เดินไปหาไอ้พวกนั้น บอกพวกนั้นว่า
“พวกนี้อยู่โรงเรียน ART R ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับอะไรกับโรงเรียนเมริง”

ขณะเดียวกันก็มีรุ่นพี่ เดินกันออกมา เลยมาคุยกับพวกมันด้วย
คุณคิดส์หลังจากช่วยปัดเนื้อปัดตัวเช็ดหนงเช็ดหน้าให้ แล้วก็ลูบหัวเกรียนผม

“แล้วเดี๋ยวจะไปไหนกัน”

“จะไป หอศิลป์ Q จารย์ให้ไปดูงาน”

“เออ เราก็จะไปเหมือนกัน แต่จะเข้าวิทยาลัยก่อน” ไอ้แชทบอก

พอดีมีรถมา คุณคิดส์เลยพยักหน้าให้พวกผมไปกันก่อน

“แล้วเย็นนี้จะกลับมาบ้านนี้ไหม”

“ไม่กลับอ่ะ คงค้างบ้านในโน้นกันหมด”

“เออ ดีแล้ว”

พอขึ้นรถพวกมันก็ถามผมทันที
“ไอ้ไข่ เป็นไงมั่ง” ไอ้เติ้ลถาม ผิงผิงก็มองอย่างเป็นห่วง
“เจ็บเปล่า” ป๋าแก้มถามมั่ง
“โหย เจ็บดิ ไอ้เชรี่ยนั่นชกมาได้ ดีนะไม่โดนปากโดนจมูกอ่ะ เมริงอ่ะไปผลักมัน” ฟ้าใสคลำแก้มที่มีรอยช้ำปรอยๆ
“อ๊า ก็มันผลักเมริง มันหาเรื่องก่อน” ป๋าแก้มแก้ตัว
“มีเรื่องกันแล้ว ไอ้ไข่มันก็โดนคนเดียว” ผิงผิงช่วยต่อว่า
“ใช่ ดูดิมันตั้ง 3คน”
“เฮ้ย ก็นี่ไงเราก็ช่วยแล้วไง” หมูแฮมผู้สุขสงบ ยังร่วมด้วยช่วยกันเอาเป้ฟาดพวกมัน ปั๊กๆๆๆ
“ก็แกอ่ะ ไม่ใส่กระโปรงซะที” ดูดูไอ้ป๋าแก้มมันว่า
“เชรี่ยสิ ไม่ต้องพูดเลย”
“แล้วนั่นนะเป็นไง” ไอ้แชมพูมันถามผมแต่หันไปพยักพเยิกทางป้ายรถที่จากมา
“อะไร” ผมเริ่มรู้ตัวว่ามันจะซักถามอะไร ก็ไอ้แชมพูมันชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องคนอื่นมั่กมั่ก
“ก็โน่นนะ ไอ้คนที่เช็ดหน้าเช็ดตาให้แกอ่ะ ไอ้ไข่” แชมพูยิ้มมุมปาก
 -โห นึกว่าเท่หรือว้าไอ้แสยะยิ้มมุมปากนี่ #ฟ้าใสแอบด่าไอ้พูในใจ เชอะ
ผิงผิงหันมามอง  ไอ้เติ้ลเลยช่วยตอบให้หายสงสัย
“ไอ้คุณคิดส์ มันจีบไอ้ไข่เว้ย”
“555” เสียงหัวเราะจากป๋าแก้ม
“แหมแก มีเสน่ห์นะเว้ย ชายรักชายหลง” แล้วมันก็ชะโงกหน้า “ระวังล่ะแก ตอนไปเขาชนไก่นะแก”
“เชรี่ยพู อย่ามาขู่ คนยิ่งกลัวๆอยู่ด้วย”
“แกอย่าไปขู่มันดิ สงสารมัน” ผิงผิงผู้แสนดี


TBC.....
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Chapter2 (6/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 06-09-2012 23:15:14
ฟ้าใสจะเอนเอียงมั้ยเนี้ย
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Chapter2(ต่อ) (7/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 07-09-2012 00:23:46
((ต่อ))

ความจริงไอ้บ้านที่เช่านี่ ไม่รู้เจ้าของบ้านเขาเอาน้ำมันพรายพรมไว้หรือเปล่า เพราะพออยู่ๆไปนี่หัวบันได
ไม่แห้งเลยอ่ะ มีแต่หนุ่มๆแวะเวียนมาขายขนมจีบ

อย่างผิงผิงหน้าตาสวยแบบจีนๆเรียบมากๆเป็นผีญี่ปุ่นที่ถูกใจฟ้าใสนักหนา
ตอนปี 1 ไม่เห็นมีใครสนใจ มาปี2 กลับเป็นที่ชื่นชอบของพี่คิวรุ่นพี่ปี4 แกก็ไม่ได้อยู่ที่นี่
แต่มีเพื่อนเช่าบ้านอยู่ซอยท้ายๆหมู่บ้าน แก๊งค์แกอีกคนพี่แมค ก็ชอบไอ้เติ้ล แต่ทั้งคู่ ก็ทำเป็นมาหาเพื่อน
ที่อยู่หมู่บ้านนี้ แล้วก็จะแวะมาคุย มาแต่ละทีนานมากกกกกกกก ผมกับไอ้เติ้ลเบื่อมากกกกก ก็คนจะนอนอ่านการ์ตูน ก็มาชวนคุยอยู่ได้

บางทีผมก็ก้มหน้าก้มตาถูบ้านใส่กางเกงขาสั้น พอร้อนก็ถอดเสื้อ ถอยหลังถูจนถึงปากประตู เจอรุ่นพี่มายืนดูบั้นท้าย
แถมทำมาบอกจะให้เป็นหุ่น ให้วาดนู้ดอีก นึกว่าไม่รู้เหรอว่าหมายความว่าไง เชอะไอ้หัวงู

แล้วไหนยัง เพื่อนผู้ชายห้องเดียวกันอีก ก็ทำมาเป็นขี่จักรยานเที่ยวกัน เลยแวะมาหา ก็มาจีบทั้ง ผิงผิง และไอ้เติ้ล
จะมีแต่ ไอ้บ้าน ซอย10นี่แหล่ะ ที่พฤติกรรมยังกลางๆ ไม่น่ารังเกียจนัก

ถึงไอ้คุณอ๋องที่ทำตัวเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ขี้บ่น จนไอ้เติ้ลแอบเรียกว่า “คุณพ่อขอร้อง”  จะชอบผิงผิง แต่เป็นแบบคนคุยถูกคอ
ไอ้เติ้ลก็ชอบแหย่ ไอ้แชท ลักษณะไอ้แชท ก็คล้ายๆฟ้าใส หน้าหวาน นิ่มๆอ่อนแออ่อนแอ เหมือนไม่มีกระดูก  แต่ก็มีเอ็น เหอ เหอ

ไอ้แชทก็ชอบแวะมานั่งเล่นบ้านฟ้าใส หากที่บ้านซอย10ไม่มีใครอยู่ หรือพวกมันเอาแต่ทำงานกัน
ฟ้าใสเองก็ถูกคุณคิดส์จีบ เทียวมารับไปกินข้าว มารับไปนั่งเล่นบ้านโน้น แต่ก็ไม่รบกวนจนน่ารำคราญ

11.05 น. วันเสาร์ คุณคิดส์ก็โทรมาชวนไปดูหนัง

“อะโหล” ฟ้าใสรับโทรศัพท์เหมือนเช่นเคย

“หึ หึ” ไงเสียงตอบรับมีแค่นี้อ่ะ แล้วจะรู้ไหมเนี่ยใคร เบอร์ก็ไม่รู้จัก

“ใครอ่ะ โทรผิดเปล่า วางนะ”

“คิดส์”

“อ้าว หวัดดี มีไรอ่ะ”

“ชวนไปดูหนัง”

“อือออออ” กำลังคิดว่ายังไม่สนิทกันเลยอ่ะ

“เลี้ยง”

“ตกลง” เฮ้ยทำไมตรูรับปากเร็วจัง อะไรว้า....

“เจอที่หน้าโรง11โมง” ปลายสาย วางหู

“....”อึ้งๆง่ะ จะไม่พูดกับตรูยาวกว่านี้หรือ โรงอะไร เรื่องอะไร

“อะโหล” ฟ้าใสโทรกลับไปหาไอ้เบอร์ตะกี้

“มีไร”

“เอ่อ..ดูเรื่องอะไรอ่ะ”

“เดี๋ยวไปถึงก็รู้เอง”

“แล้วโรงอะไรอ่ะ”

“พารากอน”

“เดี๋ยวหาไม่เจออ่ะ”

“งั้นไปรับที่บ้าน”

“อ้าวรู้ด้วยเหรอ บ้านเราอยู่ไหน”

“รู้”

“อ้าวรู้ได้ไงอ่ะ”

“รู้แล้วกัน” วางหู

ก็งงงงอีกง่ะ ไอ้คุณคิดส์แกต้องพูดแล้วดอกพิกุลร่วงแน่เลยว่ะ ถึงได้พยายามพูดให้น้อยไว้
ตกลงนี่คุยกันรู้เรื่องแล้วใช่เปล่าเนี่ย ไม่รู้ล่ะไม่โทรแล้ว ไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องไป
เดี๋ยว ไปบอกแม่กับป้าป้าก่อน

“ป้า ฮะ  พรุ่งนี้ไข ไม่อยู่นะฮะ เพื่อนชวนไปดูหนัง ป้าเอาอะไรไหมฮะ แถวสยามอ่ะฮะ”

“ไม่หรอก ไม่เอาอะไรหร็อกจ๊ะ เดี๋ยวเราจะหอบพะรุงพะรังแล้วมีตังค่าตั๋วหรือยังล่ะ อ่ะนี่ ป้าให้” ป้าพัชส่งแบ็ง500มาให้
และแล้วผมก็ไปบอก ป้าพิสเช่นเดียวกัน แหะ แหะ ก็ได้มาอีก500 เช่นกัน หวานฟ้าใส

วันอาทิตย์สดใส

9.30 น.นั่งดูการ์ตูนกะข้าวปั้นมีป้านวล นั่งดูด้วย พลางคอยเตือนข้าวปั้นเป็นระยะๆ

“หนูปั้น ไม่อ่านหนังสือเหรอ เดี๋ยวก็โดยอาจารย์พรรณดุเอาหรอก” แล้วก็พยายามหยิบๆจับๆหนังสือมาสะบัดๆ ปัดๆ
เชิญชวน

“โหย ป้า อ่ะ เดี๋ยวก่อนสิ ปั้นจะดูว่าใครเป็นคนฆ่าผู้จัดการคนนั้น”

“ใช่ๆ ป้าอย่าเพิ่งกวนสิ เดี๋ยวพอโฆษณา ให้ป้าอ่านให้ฟังแล้วกัน” ผมแกล้งแหย่ป้านวล

“หนูไข แกล้งอีกแล้ว ป้าอ่านหนังสือออกซะที่ไหน” ป้านวลบ่น ก็ป้านวลอ่านหนังสือไม่ออก เพราะโดนป้าเอามาให้อยู่ช่วย
บ้านยายตั้งแต่เด็ก รู้แค่งูงูปลา บางทีพวกผมก็ช่วยสอนให้ มีแต่ผมกับข้าวปั้นเท่านั้นที่พูดเล่นแหย่แก
ข้าวโอ๊ตมันเอาแต่ออกนอกบ้าน พี่ส้มโอก็เอาแต่เรียนออกข้างนอกเหมือนกัน ไม่ก็ขลุกแต่ในห้อง
ไม่ออกมานั่งกินนอนกินเหมือนผมกับข้าวปั้น ป้านวลไม่มีอะไรทำก็จะมานั่งเฝ้า

จะ10 โมงแล้ว นัดคุณคิดส์ 11 โมงใช่เปล่าเนี่ย รีบอาบน้ำดีกว่า
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ไอ้ดอลลี่ ดอลล่าเห่า แป็บเดียว เงียบ คนงานมาบ้านป้ามั๊ง พอลงมา จากชั้นบน เห็นคนมายืนหน้าบ้าน ใครว๊า
เปิดประตูไปดู

“เหวอ คุณคิดส์” ตกใจอ่ะ แกมายืนเงียบๆ ไอ้ดอลลี่ดอลล่า เห่าแป๊บเดียวเองก็กระดิกหางไม่เห็นเห่าต่อ

“….” คนตัวใหญ่ยักษ์ยิ้มให้

เฮ้อ....ใจคอแกจะไม่พูดจริงเหรอ

“มาได้ไงเนี่ย” ผมก็ต้องแปลกใจดิ ก็ทางเข้าบ้านมันแยกจากถนนใหญ่เป็นซอยส่วนบุคคล เข้ามาก็เป็นทางเข้าบ้านญาติ
บ้านลุงชาญ บ้านป้าวรรณที่เขาเองก็มีบ้านคนละหลัง2หลังอีก ไหนจะมีส่วนที่เป็นโรงงานอีก แกเดินสุ่มมาไง

“....” ยิ้มหวานให้เราอีกว่ะ แต่ก็ไม่ตอบ ฮือ ฮือ จะคุยกันรู้เรื่องไหมว่ะ ผมก็รีบลูบหัวลูบหูตัวเอง
ดูว่าแต่งตัวเรียบร้อยดีแล้วดีว่าอาบน้ำแล้วแต่งตัวแล้วนะวันนี้ได้เที่ยวผมเลยขอแต่งตัวสะใจเนอะ
อยู่โรงเรียน แล้วก็อยู่บ้านเช่าเสื้อผ้าดีๆก็ไม่ได้ใส่ ก็ไม่อยากหอบไปที่โน่น

“แล้วเดี๋ยววันนี้จะกลับไปบ้านโน้นเลยหรือเปล่า” พูดแล้วครับ ยักษ์โหดแต่ใจดีพูดแล้ว

“เอ่อ ไม่ได้คิดอ่ะ ไอ้เติ้ลยังไม่ได้นัดเลย” ธรรมดาผมก็จะนัดกันแบบคร่าวๆ กะไอ้เติ้ลจะแบบ กรูจะไปเย็นๆนะ
หรือไม่ก็กรูจะไปบ่ายๆอะไรประมาณนี้ แต่ก็ไม่ได้จะไปพร้อมกัน เอาตามสะดวก แต่ผิงผิงนี่จะมาวันจันทร์

“งั้นก็กลับที่โน่นพร้อมกัน” ยักษ์ใจดีชวน

“อื้อ ได้”รับปากง่ายดีเหมือนเดิมเลยเรา

“เก็บของก่อน คอยแป็บง่ะ เข้ามานั่งข้างในก่อนดิ จะดูหนังเปล่า หรือจะนั่งตรงนี้” ผมก็บุ้ยหน้าไปนั่งห้องนั่งเล่นกะทางโต๊ะรับแขก

“...” เงียบไม่ตอบว่ะ เฮ้อ อ่อนใจเหมือนกันโว้ย

ฟ้าใสเดินไปหาป้านวล

“ป้า...เสื้อนศท.ไขล่ะ เดี๋ยวไขออกไปแล้วไปบ้านโน้นเลยนะ”

“นี่แน่ะ นี่แน่ะ ข้าวปั้นไม่อ่านหนังสือจะฟ้องแม่นะ” ฟ้าใสก็เข้าแหย่น้อง ยีหัวจับตัวกลิ้งไปกลิ้งมา

“ไปเก็บของก่อน” พอหันมาอ้าว คุณคิดส์เดินตามผมมาด้วย เลยแนะนำให้รู้จัก

“คุณคิดส์ นี่น้องเราข้าวปั้น  นี่ป้านวล นี่เพื่อนไข ชื่อคิดส์ เดี๋ยวไขไปเก็บของก่อน จะนั่งไหนก็นั่งนะ”

ฟ้าใสก็รีบขึ้นไปเก็บๆของที่จะเอาที่โน่น โดยเฉพาะไม่ลืมกุญแจ
ฟ้าใสนะอยากเก็บให้เร็วๆด้วยไม่อยากให้ใครมาบ้านเลย เหตุผลอย่างเดียวที่ลึกอยู่ในใจ
ฟ้าใสไม่อยากให้ผู้ชายคนอื่นเข้ามาในบ้าน เขาอยากให้บ้านเขามีแต่พี่โม่งที่เข้ามา
ไม่ได้อยากจะแนะนำผู้ชายคนอื่นให้รู้จักป้านวล ให้รู้จักข้าวปั้น แต่ก็ต้องทำตามมารยาท คุณคิดส์แกก็ดูเป็นคนดีด้วย
“เสร็จแล้ว ไปเหอะ” ฟ้าใสรีบพยักพเยิดให้คุณคิดส์รีบออกจากบ้าน

ฟ้าใสก็ตรงไปหอมข้าวปั้นหลายที กอดป้านวล1ที จี๋เอวป้านวล อีก1ที
ทันทีที่ออกจากบ้าน คุณคิดส์ก็แบมือ
ฟ้าใสมองหน้า?
คนตัวใหญ่กว่า ชี้ชี้ไปที่เป้ ทำไม?

“อะไรเหรอ” งง ไม่มีระเบิดหรอกไม่ต้องตรวจสอบ

“เอามาจะถือให้” สั้นๆได้ใจความ ได้ใจฟ้าใสด้วย ฟ้าใสเริ่มคิดหนักว่ะ

พอขึ้นรถเมล์ ฟ้าใสไม่ขึ้นอยู่แล้วอ่ะด้านหลังน่ะ ไม่ไปยืนด้วยหรอกนะอันตรายจะตาย เป็นตายฟ้าใสจะยืนใกล้ลุงคนขับอ่ะ
พี่ส้มโอสอนไว้ คนตัวใหญ่ก็พยายามบุ้ยใบ้สะบัดหน้าชวนให้ไปท้ายรถ ฟ้าใสก็ส่ายหน้าไม่เอา จะไปก็ไปดิเราไม่เอาอ่ะ
คนตัวโตเลยต้องยืนทมึนหน้ารถด้วย แต่ก็แค่แป็บเดียวก็มาต่อรถไฟฟ้าแล้ว

พอถึงคุณคิดส์ก็พาไปดูที่โรงหนังที่พารากอน สไตล์หนังก็ชอบคล้ายกัน
ตอนเดินเข้า อ๊ะจับมือด้วยนะ แต่ธรรมดาพอเข้าโรงมันมืดๆก็เกาะๆกันอยู่แล้ว แต่แหมไม่มีคุยกันเลย ฟ้าใสก็อยากกระซิบคุยบ้าง
พอออกมาเดินข้างนอก ง่า คุณคิดส์ก็ยังเดินจับมืออยู่เลย เขินอ่ะ

“จะกินอะไร”

“ก็คุณคิดส์จะกินอะไรอ่ะ” ดันไปถามกลับซะอีก ก็ธรรมดาให้เพื่อนเป็นคนคิด

“....” เงียบ มองหน้า

“กินเส้นๆอ่ะ เอาสปาเก็ตตี้แล้วกัน”

พอกินเสร็จ ก็เดินเล่น พาไปเลือกเพลง บอกให้ลองฟังเพลงโน้นเพลงนี้
แล้วคุณคิดส์ก็ซื้อ2อันให้ฟ้าใส ของตัวเองอัน

บ่าย3โมงกว่า ตรืดดดดดดดมือถือฟ้าใสสั่น

“อะโหล อะโล ว่าไง” รู้ว่าเป็นไอ้เติ้ล

“แกกรูไม่กลับนะ”

“อ้าว แล้วบอกเร็วกว่านี้อ่ะ กรูออกมาแล้วน๊า”

“เฮ้ย ก็ลูกน้ามันไม่สบาย ก็รอน้าเขาลางานแต่เขาลาไม่ได้ เลยให้กรูพาไปหาหมอแล้วอยู่เป็นเพื่อนหลานด้วยว่ะ
 เชรี่ย!!แกก็กลับบ้านดิ พรุ่งนี้โทรไปปลุกแต่เช้าก็ได้”

“อ๋อย ไรเล่า ออกมาแล้ว ออกมาเดินกะไอ้คุณคิดส์อยู่เนี่ย เดี๋ยวก็บอกไปแล้วว่ากลับบ้านโน้นด้วยกันอ่ะ เชี่ยเติ้ล”

“แล้วเมริงอยู่ได้เปล่าล่ะคนเดียว”

“ ได้ก็ได้อยู่อ่ะ มันคงไม่มีไรหรอก” นึกๆก็คงเหงาอ่ะ

“มานี่มานี่ พูดกะคุณคิดส์หน่อย”

“ไอ้บ้า แกจะพูดอะไร”

“เรื่องของกรู”

“อะไรล่ะ นี่โทรสับกรูเฟ้ย”

“คุณคิดส์ คุณคิดส์” เสียงไอ้เติ้ลตะโกนดังลั่น ไอ้คุณคิดส์ก็มองหน้า ก็คงได้ยินเสียงล่ะตัวก็อยู่ใกล้นี่แหล่ะ

“ไอ้เติ้ลมันจะไม่กลับอ่ะ มันจะคุยด้วย ไม่คุยกับมันก็ได้นะไม่เป็นไร” ผมก็รู้ว่ามันคงห่วงผม ก็แน่ละสิพวกเอ็งไปขอตรูมาอยู่จากแม่ตรูนี่นา

“เอามา” คนตัวโตหน้าโหด แบมือ
คุยกันมียิ้มด้วยเว้ย ถูกคอถูกใจ ก็จีบเลยดิ ตรูมีคนในใจแล้วเว้ย หนึ่งเดียวคนนี้ เก่งสุดๆเก่งทุกอย่างเลยด้วย

“.....” ส่งมือถือคืน ไม่พูดอะไร ไม่คิดจะบอกหน่อยหนึงนิ๊ดหนึงมั่งเหรอ

“....” เงียบได้เราก็เงียบได้  เอาไงดี รับมือถือคืน เอามือมาเช็ดหัวเกรียนเราด้วย เอ๊ย ตบหัวเราเล่นด้วยเว๊ย ตามใจ มันตัวโตกว่า
 เลี้ยงทั้งหนังทั้งข้าว ซื้อซีดีให้อีก = มันเป็นคนดี

อ่า...จับมือเดินอีกแล้ว

ในที่สุดเราก็มาต่อรถสองแถวเพื่อไปหมู่บ้านระหว่างรอรถออก คุณอ๋องก็หอบของพะรุงพะรังขึ้นมา
คุณอ๋องทักฟ้าใสเสร็จก็ร่ายยาวบ่น คุณคิดส์ก็ยิ้มรับฟัง มีหัวเราะน้อยๆด้วยอ่ะ
ฟ้าใสเดินเข้าหมู่บ้านพร้อมคุณคิดส์ คุณอ๋อง ฟ้าใสจะช่วยคุณอ๋องถือของบ้าง คุณอ๋องก็ไม่ให้ถือ

“ไปล่ะ” ฟ้าใสก็ขอกระเป๋า คุณคิดส์ส่งให้

“เดี๋ยวทุ่มหนึ่งมาอยู่เป็นเพื่อน” พูดไปก็ทำหน้านิ่งๆด้วย
ฟ้าใสพยักหน้า ก็จะให้ทำไงล่ะ

ทุ่มหนึ่ง
“เปิดประตูหน่อย” คนร่างใหญ่ถือถุงขนมมาด้วย ฟ้าใสไม่ได้เป็นเด็กนะเว้ย ให้กินแต่ขนมอยู่ได้

“มีทาโร่เปล่าอ่ะ โก๋แก่ล่ะ โห มีด้วยดีดี 555” ว่าแล้วฟ้าใสก็เอื้อมมือไปรับถุงขนม
 เอ๋ คุณคิดส์แกยังไม่บอกว่าให้ฟ้าใสเลยนี่หว่า ช่างมันเหอะ แกคงไม่หวง

“ป่ะ กินข้าว” สั้นได้ใจความ หมายความว่าออกมาได้แล้ว ใส่รองเท้า
มองหน้า ตาโต ทำตามที่คุณคิดส์บอกไปเหอะ ว่าแล้วผมก็ออกไปกินข้าวกับคุณคิดส์

“อ้าว แล้วคุณอ๋องล่ะ ไม่ออกมากินด้วยเหรอ”

“ไอ้อ๋องซื้อเข้ามากินตั้งแต่ท่ารถแล้วล่ะ”

ตรืดดดดดด

“ว่าไง ไข่ อยู่คนเดียวเหรอ”

“เปล่า คุณคิดส์มาอยู่เป็นเพื่อนอ่ะ” เฮ้ย อย่ามาถามมากน่า

“แล้วนี่มายัง”

“มาแล้วกินข้าวกันอยู่”

“เออ ไม่กวนแล้ว บอกอิตาคิดส์ห้ามรังแกเพื่อนฉันนะย่ะ”

“เฮ่ย ผิงผิงก๊อะ”

พอกินข้าวเสร็จก็เข้าบ้าน
เฮ้ย เอาไงดีล่ะ คุณคิดส์แกก็นั่งเล่นเกมส์ ให้แกนอนไหนล่ะ ก็ต้องนอนห้องเราอยู่แล้ว เตียงเดียวกันเหรอ
 ให้แกนอนข้างล่างเหรอ เราหนีไปนอนห้องไอ้เติ้ลดีไหมเนี่ย ก็น่าเกียจว่ะ

แล้วแกจะปล้ำเราเปล่าว่ะ เริ่มกังวลนิดนิ๊ดอ่ะ สู้อ่ะไม่ได้อยู่แล้ว
โอย เดินวนในห้องน้ำหลายรอบแล้วนะ เมื่อยแล้ว ออกก็ได้ว่ะ
ชาตินี้หาอะไรมาทำบุญดีชาติหน้าจะได้เกิดมาตัวใหญ่ยักษ์กะเขามั่ง

“นี่!! คุณคิดส์ ห้ามทำอะไรเราแปลกๆนะ” ฮ่า ฮ่า แกล้งพูดดักคอไว้ก่อนอ่ะดีที่สุด

“แปลกๆ อย่างไงเหรอ”

“เหวอ!!!”ร่างใหญ่รวบตัวผมไปวางแผละบนที่เบาะ ดูทีวี แล้วก็ล้มมาทับ

“เฮ้ย ไอ้บ้า” ผมก็รีบทั้งผลักทั้งดัน

ไอ้คุณคิดส์ก็ลุกขึ้น จับผมลุกขึ้น

“ฮึ่ย ไม่หรอกน่า” แล้วยีหัวผมเล่น โอ๊ยแม่งเล่นอะไรบ้าบ้า ใจหายว่ะ นึกว่าโดน ไม่น่าคบพวกบ้านี่เลย

“ก็ไอ้เติ้ล บอกว่ากอดได้แต่ห้ามทำอะไรนิ” หน้าโหดยิ้มใหญ่ แมร่งได้กอดฟรีไปแล้วนี่หว่า

เมริง ไอ้เติ้ล

“เล่นเกมส์ไหม จะนอนหรือยัง” คุณคิดส์ตบที่นั่งข้างๆ นั่งก็ได้ว่ะ ฟ้าใสชี้หน้า

“ห้ามเล่นบ้าๆนะ”

คืนนั้นฟ้าใสนอนบนเตียง คุณคิดส์นอนข้างล่าง จะสงสารก็น่าๆ ลูกผู้ชายเข้มแข็ง เหมือนแคมป์ปิ้งๆ



TBC…..
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.2((ต่อ)) (7/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 07-09-2012 00:39:19
คุณคิดส์รุกหนักมาก จะเป็นไงต่อไปล่ะเนี้ย
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.3 (7/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 07-09-2012 09:20:29
CH.3

การเช่าบ้านอยู่ด้วยกันของพวกเรา มันก็ต้องมีเรื่องงานในบ้าน ที่พวกเราต้องแบ่งกันทำ
ผมนะหุงข้าวเป็นอย่างเดียว กับหน้าที่ล้างจาน เก็บเสื้อผ้าให้พวกมัน ผมน่ะไม่ถือหรอก
เพราะบ้านผมน่ะผู้หญิงทั้งบ้านตั้งแต่จำความได้ ขอให้มันกวาดกับถูห้องให้ผมด้วยเท่านั้น
ไอ้ผิงผิงพอทำเป็นง่ายๆ ไข่เจียว ผัดผัก กับข้าวเราใช้ซื้อเอา หรือถ้าเบื่อ เราก็ต่างคนต่างซื้อ
งานบ้านจะเป็นหน้าที่ของไอ้เติ้ล  ถูบ้าน กวาดบ้าน จัดบ้าน บางทีผมก็ช่วยมันบ้างแต่นานๆๆๆๆๆๆที 555
ส่วนงานอย่างอื่นๆก็ช่วยๆกัน พวกค่าน้ำค่าไฟ ไอ้ผิงผิงเป็นคนดูแล ติดต่อเจ้าของบ้าน งานทางการ
ไอ้ผิงผิงจัดการ ผมกับไอ้เติ้ลเหมือนเด็ก

วันนี้ผมมาเร็วกว่าไอ้เติ้ล พอมาถึง ว๊าก ลืมล้างหม้อข้าวอ่ะ เมื่อวันศุกร์อ่ะ หนอนเต็มเลย โหย ผมจะอ๊วก ทำไงดีว่ะ
ให้ไอ้ผิงผิงทำ มันก็ต้องด่าแน่ๆ ไอ้เติ้ลอีก โทรหาคุณคิดส์ดีกว่า
“อะโหล คุณคิดส์เปล่า”
“มีไร” คนพูดน้อยตอบ
“มาหมู่บ้านยังอ่ะ”
“มีไร”
“เราอยู่หมู่บ้านแล้วอ่ะ แวะมาหาหน่อยสิ”
“มีไร อีกเดี๋ยวถึงจะถึง”
“งั้นเดี๋ยวแวะมานะ”
“ฮือ”

สักพักใหญ่ ผมก็ได้ยินเสียงประตูรั้วเปิด คุณคิดส์กะคุณอ๋อง ยืนหน้าประตูบ้าน ผมรีบเดินมาต้อนรับ คุณคิดส์แกก็ถือเป้มาใบตุงๆ
ส่วนคุณอ๋องนั้นมีกระเป๋าสะพายพร้อมหิ้วม้วนกระดาษงาน ผมทักทั้งสองคน คุณคิดส์ก็พยักหน้าให้คุณอ๋อง เดินไปบ้านซอย10ก่อน

“คุณคิดส์ ทำอะไรให้หน่อยได้ไหม” ผมลองแยบๆถาม
“อะไร” เอามือลูบหัวผม1ที เห็นหัวเกรียนตรูเป็นที่เช็ดมือเรื่อย
“แหะ แหะ” ผมยิ้มแหยๆ ชะโงกไปกระซิบที่ข้างหู
“ล้างหม้อหุงข้าวให้หน่อยดิ นะ เดี๋ยวจดกายวิภาคให้ก็ได้”

คุณคิดส์เอาของวาง เดินเข้าไปในครัว ที่มีหม้อหุงข้าวกะจานที่เรากินกันเสร็จแล้วยังไม่ได้ล้างวางอยู่ กะพื้นลานซักล้าง
ก็ช่วงนั้นเจ้าของบ้านเขาจะทำครัวใหม่ให้เรา เราเลยต้องมาล้างกับพื้นที่ใต้ที่ตากผ้า
 อยี้ ถ้าผมเท หนอนก็ต้องคลานกระตึ้บๆเต็มพื้น อ๊าย แว๊กๆ นึกแล้วก็สยอง

ผมก็เดินตามหลังไป แล้วก็ชี้
“อยู่นั่นอ่ะ” คุณคิดส์เดินไปเปิดฝาหม้อดู แล้วยิ้ม บวกหัวเราะ หึ หึ แล้วก็หันมาบอก
“เออ เออ เดี๋ยวจัดการเอง” พอเริ่มให้คุณคิดส์จะลงทำผมเลยจัดการกระโดด ดึ๋งๆออกไปพร้อมกับทิ้งท้ายว่า  อ่า ไม่อยู่เป็นเพื่อนน๊า

ผมก็ไปจัดการการเตรียมน้ำแดงไว้ให้คุณคิดส์ดีกว่า สักแป๊บเดียวคุณคิดส์ก็จัดการเรียบร้อย ผมก็รีบเดินไปเอาน้ำแดงเย็นชื่นใจ
ไปเสริฟ คุณคิดส์ก็รับแก้วแล้วก็ลูบหัวอีกที 55 ผมก็บอก แล้วเอาสมุดจดมาแล้วกันจะจดให้ แกก็ยิ้มๆ ผมก็ชวนคุย
 เรื่องโน่นเรื่องนี้ จนแกกินน้ำเสร็จ แกก็ลุกขึ้นยิ้มๆบอกไปก่อนล่ะ ตบหัวผมเบาๆอีกที ผมก็เดินไปส่งหน้าประตูบ้าน ไม่ส่งที่รั้วหรอก อายชาวบ้าน

 “มีอะไรก็บอกมาแล้วกันล่ะ” คุณคิดส์บอกก่อนเดินไป
แมวน้อยหมาน้อยอย่างผมก็ “แท็งกิ้ว แท็งกิ้ว”

ผมก็รีบวิ่งเข้าไปดู ในครัว โห จัดการเรียบร้อยเลยอ่ะ หม้อหุงข้าว ล้างอย่างดี คว่ำ จาน ช้อน สะอาดหมดจด เลยเริ่มโคตรอายแทน
 ที่พื้นก็ไม่มีข้าวสักเม็ด กวาดเคลียคลีน เรียบเลย หนอนก็ไม่มี สักตัว โห โห สุดยอดจริงๆ เสียงประตูรั้วเปิด ผมเดินออกมาก็เจอไอ้เติ้ล เดินกำลังจะเข้าบ้าน

มันรีบทักผมพลางบอกว่า เมื่อกี้เห็นหลังคุณคิดส์ เดิน อยู่ไกลข้างหน้าคงเพิ่งมาเหมือนกัน
ผมเลยเล่าให้ฟังว่าเพิ่งวานคุณคิดส์แกล้างหม้อข้าวว่ะ หนอนมันขึ้นว่ะแก ไอ้เติ้ลเลยเดินเข้าไปดูในครัวมั่ง

“เออ จริงว่ะ โคตรสะอาดเนี๊ยบเลยมรึง เพื่อนเขย ใช้ได้ๆเว้ย”

“ไอ้บ้า” ผมเลยด่ามัน พลางบอก “ไม่ต้องไปบอกไอ้ผิงผิงล่ะ”

“เออ เออ ไม่บอกหรอก บอกไป มันก็บ่นพวกเราอ่ะดิ 55”
 :angry2:

วันอาทิตย์ จะมีแค่ผมกับไอ้เติ้ล อยู่กัน 2คน เพราะเรา 2คนขี้เกียจตื่นเช้าในวันจันทร์ ไม่เหมือนไอ้ผิงผิง มันขยัน มันดี มันวิเศษ
มันทำได้ จะมีบ้างที่ไอ้ผิงผิงมันจะมาวันอาทิตย์คือถ้าต้องขนของอะไรใหญ่ๆ เช่นบางทีเราจะซื้อชั้น หรือเฟอร์นิเจอร์
เครื่องนอนอะไรมาใช้ พี่สาวไอ้ผิงผิงก็จะขับรถมาส่งให้

ผมกะไอ้เติ้ลก็นอนเล่น อ่านหนังสือ แหะ แหะ งานไม่ทำกันเลย ไอ้สองคนนี้ รอท่านแม่ผิงผิงมาด่าละมั๊ง
จน 2ทุ่ม เสียงก๊อกแก็กที่หน้าประตูรั้ว  ต่างคนต่างก็ไม่สนใจ ผมก็คิดว่าหมามันคงเล่นๆอะไรแล้วมาโดนประตูรั้ว
จนพวกเรารู้สึกว่ามีสายตาจับจ้องอยู่ ไอ้เติ้ลเงยหน้าจากหนังสือนิยาย

“อ้าวพ่ออ๋อง คุณอนุคิดส์ อ้าวมิสเตอร์บรุค ก็มาด้วยเหรอ”  ไอ้เติ้ลมันเรียกพวกนี้อย่างงี้แหล่ะ
ไอ้คุณอ๋อง ชอบทำตัวเป็นผู้ใหญ่ หน้าตาเครียดวิตกกังวลตลอดเวลา ขี้บ่น
 อนุสรณ์ คือชื่อจริงเฮียคิดส์เขา มันเลยเอามาสมาสกัน
 มิสเตอร์บรุค คือไอ้บรุคมันชอบทำหน้าตายเหมือนมิสเตอร์บีน

ผมเลยพาลเงยหน้ามามองมั่งก็นอนอ่านการ์ตูนอยู่ที่เบาะนอนเล่นที่พื้น

“มาชวนไปกินข้าว ไปเปล่า” เสียงพ่ออ๋องเป็นคนพูดขึ้น

“เออ แล้วผิงผิงไม่อยู่เหรอ” อ๋อ พ่ออ๋องน่ะเหรอ แกก็มีแววชอบไอ้ผิงผิงอยู่  ไอ้ผิงผิงก็ดูท่ามันก็ชอบพ่ออ๋องเขานิ๊ดนิดเหมือนกัน
 
คงเป็นเพราะลักษณะท่าทางผู้ใหญ่นั่นนะแหล่ะ

“อู๊ย ไอ้ผิงผิงเขามาวันจันทร์ย่ะ  เขาคนดีตื่นเช้าได้ ไม่เหมือนพวกชั้นหรอก”
ไอ้เติ้ลแกจะประจานตัวเอง+ข้ากระผมไปด้วยทำไมว่ะ ผมนึกในใจ

มันเลยหันมาถามผม มองว่าเอาไง ผมเลยตอบว่าไปก็ไปดิ เพราะก็กะว่าจะออกไปกินกันอยู่แล้ว
เพียงแต่เราเอื่อยเฉื่อยกันเอง แล้วถ้าดึกมากก็คงไม่ออกกัน คงต้มม่ามากิน

ผมก็ลุกขึ้นนั่ง ก็เขินๆเหมือนกัน ก็ผมใส่กางเกงขาสั้นมาก แล้วก็เสื้อกล้าม ก็อากาศมันอ้าวๆ ฝนจะตก แล้วก็อยู่ในบ้านนี่นา
ผมกะไอ้เติ้ลก็เตรียมเดินออก

คุณคิดส์ก็เดินไปในห้องนอนผม หยิบเสื้อเชิ้ตมาให้ใส่คลุม
ระหว่างกินข้าว คุณคิดส์ก็เอาแต่จ้องอยู่ได้ว่ะ

ไอ้เติ้ลมันก็กินไปแหย่พ่ออ๋องไป ถึงขี้กลัวบ้าง  ไอ้นี่มันไม่คิดมาก เพราะมีพี่น้องผู้ชาย เย็นก็ตั้งวงกินเหล้า พ่อมันก็ขี้เมา
เมาจนมีเมีย3-4บ้าน 1ในนั้นก็มีน้องสาวแม่มันด้วย ตัวมันก็ชอบกินเหล้า สูบบุหรี่ ถ้ามีตั้งวงกัน ตามมันไปไม่ผิดหวัง
ถ้าพูดจากะเพื่อนผู้ชาย เชี่ย กะสัส นี่มาเกือบทุกประโยค

พอกินข้าวเสร็จคุณคิดส์หยิบทาโร่ใส่ถุงมาวางส่งให้ผม ทำเอาไอ้เติ้ลแซวคุณคิดส์ว่าไม่ซื้อให้มันมั่ง คุณคิดส์ก็บอกเอาไปกินด้วยกัน
.
.
.
.
อาทิตย์ถัดมา ขณะที่นั่งกินข้าวในโรงอาหาร

หมูแฮมที่มีเชื้อสายจีนเหมือนกันถามผิงผิงว่าจะหยุดหรือเปล่า

“หยุดดิ ป๊ะบังคับให้ไปทั้งครอบครัว” ผิงผิงตอบ
“เราไม่ไปว่ะ ขี้เกียจ คนเยอะวุ่นวาย” หมูแฮมพี่น้องเยอะมาก 9คน
“นั่นดิ ญาติคนอื่นๆอีก แต่ก็ต้องไปไม่งั้นม๊าบ่น” แชมพู ก็พี่น้องเยอะ 7 คน
“ไอ้ไข่พรุ่งนี้แกจะกลับไปนอนบ้านแม่เปล่า” ผิงผิงถาม
“โอย..ไม่อ่ะ ขี้เกียจตื่นเช้า ต้องไปแย่งขึ้นรถเมล์ งานก็ยังไม่เสร็จอ่ะ” ฟ้าใสตอบ
“ไอ้เติ้ลมันก็กลับบ้านน้า นะเฟ้ย” ผิงผิงเอ่ยต่อ
“อ้าว เชรี่ยเติ้ลทิ้งกรู” ฟ้าใสเพิ่งรู้ตัว
“555 ช่วยไม่ได้เมริง พี่กรูมานี่หว่า” เติ้ลแจ้งเหตุผล
“เมริงเห็นพี่ดีกว่าเพื่อนเหรอ” คนถูกทิ้งงอน
“โน โน แต่พี่กรูมาพร้อมเงิน เข้าใจบ่ 555” อ้างสาเหตุยิ่งใหญ่
“สรุปว่า แกเห็นเงินดีเพื่อน? ” ผิงผิงช่วยสรุป
“555” ไอ้เติ้ลหัวเราะอย่างเดียวไม่พูดนี่ เอ็งหมายควายตามนั้นนะ
“อ้าว ไข่ต้องอยู่คนเดียวเหรอ” โอลีฟ แมร่งเพื่อนที่ดี เป็นห่วง เอ็งก็มีส่วนร่วมชักพาตรูมาอยู่ไกลบ้านไกลเมือง
“ฮื่อ..ช่ายยย” ผมรีบฟ้อง
“เดี๋ยว ไม่ต้องห่วง” โอลีฟรับคำจะช่วยจัดการ เอ็งจะมาอยู่เป็นเพื่อนใช่ไหม  ว่าแล้วโอลีฟมันก็ลุกขึ้น
ตรงไปที่โต๊ะที่ พวกบ้านซอย10นั่งกินข้าวอยู่  ระดับมัน โอลีฟไม่เคยคิดว่าใครจะหน้าโหดแต่อย่างใด
ทุกคนคือเพื่อนร่วมชาติ แม้แต่อาจารย์มันก็ให้ความสนิทสนมด้วยการทั้งแซวทั้งตีแขนผลักไหล่

“นี่พวกเธอ พรุ่งนี้ผิงผิงกะไอ้เติ้ลมันไม่อยู่ ไอ้ไข่มันต้องอยู่คนเดียวนะ ดูแลเพื่อนชั้นด้วย” 555 ไอ้โอลีฟ เมริงเจ๋งมาก
 เดินไปสั่งไอ้โภชน์หัวหน้าห้อง/4


หลังจากแยกย้ายกับเพื่อน ผมก็ต้องมานั่งคอยพวกบ้านซอย10 คุณคิดส์เดินมาบอกแล้วว่าให้กลับพร้อมไอ้โภชน์กับไอ้แชทไป
ก่อนคนอื่นต้องทำงานกันอยู่ก่อน สักพักไอ้โภชน์ก็เดินมาตามให้ไปด้วยกัน

ผมไม่เคยกลับจากโรงเรียนไปบ้านเช่าคนเดียวเลย เหงาๆเหมือนกัน ถ้าอยู่ที่บ้านแล้ว ไอ้เติ้ลไม่มาก็ยังอยู่ในบ้าน
แต่นี่มาเดินๆคนเดียวมันก็แปลกๆ ผมก็ไม่ค่อยได้เดินจับกลุ่มกับพวกผู้ชายในห้อง คุยเฮฮาได้ เดินได้ กินข้าวร่วมโต๊ะได้
 พวกมันก็เคยมานั่งทำงานที่บ้านเรือนไทยป้า แต่ชวนไปกินเหล้าสังสรรค์กะพวกมันที่บ้านมันคนเดียวน่ะไม่เอา

ไอ้ซิวมันเคยเตือนผมว่าอย่าไปเด็ดขาดนะเมริง มันเองยังรีบเผ่น
 ไอ้ซิวมันก็เป็นเพื่อนผู้ชายในห้องมีแฟนก็สาวน้อยน่ารักในห้องเดียวกันนี่แหล่ะ ชื่อไอ้ฝ้ายแฟนมันตัวพอพอกับผม
 ไอ้ซิวมันก็หล่อขาวสูง หน้าตาดีออกลูกครึ่ง พวกมันทั้งคู่เลยดูเป็นคู่ที่เหมาะกันมาก

ระหว่างเดินเข้าซอยหมู่บ้าน เราก็คุยกันไป

“ไข่ จดสังคมครบเปล่าน่ะ ยืมหน่อยดิ” ไอ้แชทถาม
“ครบดิ แลกกันเปล่า เรายังไม่ได้ทำ ลายไทยเลยอ่ะ เราจดสังคมให้”
“ไม่เอา ไปแลกกับไอ้บรุคโน่น ลายไทยเราก็ไม่ชอบว่ะ”
“งั้นเอา องค์ประกอบศิลป์ ไปทำเปล่าล่ะ”
“ต้องวาดรูปประกอบเยอะ พอกัน ไม่เอาว่ะ”
“โห น้อยกว่าตั้งครึ่ง ทำเองก็ได้ว่ะ” ระหว่างที่ผมคุยกับไอ้แชท เดินตามหลังไอ้โภชน์ ร่างสูงก็จะคอยหันมามองเป็นระยะๆ
“ถึงบ้านแล้ว ไปล่ะ ขอบใจ”
“เออ เย็นนี้ไปกินข้าวที่บ้านดิ” ไอ้แชทชวน
“เดี๋ยว 6โมงไอ้คิดส์คงมา” ไอ้โภชน์มองหน้าฟ้าใสแล้วบอก
“ฮื่อ” ผมก็เดินเข้าบ้าน

เกือบทุ่ม เริ่มหิวข้าวอ่ะ ไอ้คนตัวใหญ่ไม่เห็นมันมารับไปกินข้าวเลยว่ะ นอนคอยจนจะหลับแล้วอ่ะ

“ป่ะ ไปกินข้าว” เฮ้อ มาเงียบๆอีกแล้ว
“ใช้ระบบว๊าบไปว๊าบมาเปล่าเนี่ย คุณคิดส์” ฟ้าใสอดไม่ได้แซวกึ่งบ่น
“มาทีก็ไม่ให้สุ้มให้เสียงเลย ถ้าไม่ได้เปิดไฟไว้ก็ตกใจแย่อ่ะดิ...อุ๊บ!!” โดนคุณคิดส์...เอามือปิดปากอ่ะ
“บ่นจัง หิวเปล่า” สายตาคนตัวใหญ่มองอย่างเอ็นดู
“หิวดิ ป้าโรงอาหารก็ขายของหมดกันแล้ว ไอ้โภชน์ก็เดินไม่แวะอะไรเลยอ่ะ ยังกะตามควายหาย” ฟ้าใสก็บ่นต่อ มีเพื่อนเดินกลับก็ดีแล้วยังจะบ่น
“อย่าบ่น” คนตรงหน้าเตือน แต่ใบหน้าก็ยังมีแต่รอยยิ้ม
ฟ้าใสทำท่าจะพูดไปเดินไปนึกว่าจะเอาอะไรไปมั่ง มองหน้าคนตัวยักษ์
“ต้องเอาไรไปเปล่า”
“ไม่ต้อง จะเอางานไปทำก็ได้”
“อื้อ...” ฟ้าใสเดินไปหยิบสมุดสังคมให้ไอ้แชท
ร่างสูงมองสำรวจภายในบ้าน
ฟ้าใสหยิบกุญแจกะมือถือเตรียมเดินออก ร่างสูงเดินตรวจตราในบ้าน
“ไป คืนนี้นอนที่โน่นนะ” ว่าแล้วก็โอบไหล่คนตัวเล็กรุนตัวให้ออกจากบ้าน ล็อคประตู

อ้าว แล้ว...
.
.
.
พอต้องกินข้าวรวมกับพวกนี้ ถึงเคยมานั่งเล่น คุยกันจนคุ้น แต่ผมก็ไม่เคยมาคนเดียว เพราะผมอยู่กับไอ้ผิงผิง ไอ้เติ้ล ตลอด
คนตัวโตแกะปลาทอดมาวางใส่จานให้อีกแล้ว

“อ๋อย พอแล้วอ่ะ คุณคิดส์” อายจะตายแล้ว นั่งก็เบียดกัน ไม่จับตรูนั่งตักซะเลยล่ะ ไอ้บรุคมันก็ชอบมอง
ผมก็ไม่ค่อยกล้ามองหน้าพวกมันเลย คนอื่นไม่ค่อยว่ากะแซวคุณคิดส์ เพราะแกอายุเท่ากับไอ้โภชน์
แล้วดูว่าแกก็แสนจะเฉย ประเภทไม่แคร์สื่อ

“จะอิ่มแล้ว กินข้าวจะหมดจานแล้ว”
“งั้นก็กินปลาเปล่าๆไป” แกะมาให้อีกชิ้น
“ไม่เอาแล้วนะ อิ่มแล้ว” ผมทำท่าทางจะตักคืนใส่จานคุณคิดส์
“กินให้หมดนั่นล่ะ” ตบหัวตรูเบาๆอีก  ต้องเบาๆดิ ตัวใหญ่อย่างงี้ลงน้ำหนักมา ตรู มิ คอย่นเหรอ


หลังจากกินข้าวเสร็จ ฟ้าใสจะเดินไปเก็บจาน คุณคิดส์ก็บอกเอาไว้ตรงนี้เดี๋ยวจัดการเอง ไล่ให้ไปนั่งดูทีวีในบ้านกะไอ้แชท
พักใหญ่มันก็กินเสร็จ นั่งคุย ดูดบุหรี่ กัน
“เอาสังคมมาให้แล้วนะ คุณคิดส์แกเอาไปวางไหนอ่ะ” ผมก็มองๆ เจอแล้วก็ส่งให้ไอ้แชท
“ขอบใจ แล้วบอกไอ้บรุคยัง มันยังไม่ได้จดตั้งหลายวิชา อาจารย์เขาทวงสมุดมันอยู่”
“เหรอ
.
.
.
ผมก็เหมือนเด็กที่คุณคิดส์คอยบอกคอยเรียกให้ทำอะไร
พอไอ้โภชน์เข้ามานั่งดูทีวี ไอ้แชทก็นอนหนุนตักไอ้โภชน์  ดูทีวี คุณอ๋อง ก็นั่งเหลาไม้คงทำงานองค์ประกอบศิลป์

ส่วนไอ้บรุคก็นั่งคุยปรัญชากับคุณอ๋องมันไป คุณคิดส์ก็เรียกให้ผมเข้าไปนอนอ่านการ์ตูนในห้อง
พอเข้าห้อง คุณคิดส์ก็สั่งให้ไปนอนบนเตียง ส่วนตัวแกก็ไปนั่งแต่งโมเดลมนุษย์ต่างดาว ผมเลยเข้าไปนั่งดูใกล้
ผมก็ชอบพวกยูเอฟโอ หนังไซไฟ เหมือนกัน คุณคิดส์เขาจะชอบพวกดูดาว ดาราศาสตร์ อวกาศ พอผมมานั่งดู
ถามโน่นชวนคุย หนักเข้า คุณคิดส์ไล่ให้ไปนอน บอกไม่มีสมาธิ พร้อมกับยิ้มๆตามสไตล์ ผมเลยเลิกกวน ไปนอน

“ไม่ต้องปิดไฟก็ได้ เรานอนได้”ผมก็บอกแกจะได้นั่งทำอะไรต่อของเขาได้
พอเคลิ้มๆจะหลับก็ รู้สึกที่นอนยวบ มีคนนอนข้างๆ หันมาดู คุณคิดส์แกยิ้มอย่างอบอุ่นแล้วก็ลูบหัว บอกนอนต่อไปเถอะ
แล้วกอดผมไว้ กางเกงนอนตรูก็บาง ผ้าที่ใช้ห่มก็บาง ที่ดุนๆตรงก้นทำไมจะไม่รู้สึก   


ผมก็หลับไป ตื่นมารีบเข้าห้องน้ำ ไอ้พวกนี้ตื่นกันเช้าเว้ย

คุณคิดส์ ไม่ใส่เสื้อว่ะ ซิกแพค อ่ะซิกแพค ตรูไม่มี ซื้อต่อได้เปล่า โหยสะโพกเป็นแนวร่องกล้ามท้องด้วย
หน้าอกมีรอยแผลเป็นที่เกิดจากการต่อสู้ด้วย  นับถือนับถือ เพ้อเจ้อไปเรื่อย ก้นตัวเองยังอยู่ดีอ่ะ
แอบถอนหายใจโล่งอก ไม่ใช่เสียดายนะ คนเขามีไอดอลในใจครับ
 :impress2:
“อ่ะ” มือใหญ่สะกิดส่งเสียงให้รีบเช็ดน้ำลาย บร้า!!!
กระพริบตาแป๊วแหวว สาดเสน่ห์  เปล่าอ่ะ ไล่ขี้ตาเฉยๆ

“ที่บ้านมีกาแฟกินหรือเปล่า”
“มีดิ๊ แหม” ผมรีบพูดต่อ แอบกินกาแฟเป็น เพราะชิมของป้านวลมาตั้งแต่ป.5แล้ว แต่อยู่ในบ้าน แม่ไม่ให้กิน
“กระทิงแดง เอ็ม150ก็มี” อวดเว้ย
“กินด้วยเหรอ” คุณคิดส์ถามมองหน้า
“เปล่าของไอ้เติ้ลมัน” บอกแล้วไอ้เติ้ลมันไม่ควรเป็นผู้หญิง
ผมก็รีบกลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัว คุณคิดส์ก็นั่งคอย

สักพักใหญ่เสียงไอ้บรุคก็มาเรียกข้างบ้าน
“ไอ้คิดส์ ไอ้คิดส์”

“เออ” แล้วร่างสูงก็โผล่หัวไปโบกมือให้เพื่อนไปก่อน ผมก็รีบเก็บของ ดีว่าหัวเกรียนอยู่ไม่ต้องทำอะไรมาก
เสร็จแล้วก็รีบออก คุณคิดส์ก็ส่ายหน้าทำนองไม่ต้องรีบก็ได้ แล้วเราออกกันไป
คุณคิดส์ก็เดินจูงมือไปที่พวกนั้นรออยู่อีกฝั่ง

จูงมือแบบไม่แคร์สื่อตามเคย

ในความสัมพันธ์ที่อบอุ่น คุณคิดส์ก็ยังคงเส้นคงวา มีชวนดูหนัง มาค้างเป็นเพื่อน ช่วยทำงาน


TBC......



ค่ำๆมาต่ออีก ฮะ :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.3 (7/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: nine_molly ที่ 07-09-2012 15:41:21
 :m16:อะแหนะ  ฟ้าใสแอบนอกใจ พี่โม่ง ป่ะ

ให้กำลังใจนักเขียน

รอต่อ
 :3123:
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.3(ต่อ) (7/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 07-09-2012 16:30:00
(ต่อ)

พอปิดเทอม


เราก็คืนบ้านพอขึ้นปี 3 เราก็ตกลงเช่าที่ใหม่ใกล้โรงเรียน เป็นแนวบ้านไม้ ของคนมีตัง ที่พ่อแม่ตายแล้ว ลูกหลานก็ไม่ได้อยู่
หลังใหญ่มาก ดูน่ากลัวมาก แต่ตอนเรามาดูตอนกลางวัน มันเจิดจรัสมาก

มีสวนหลังบ้าน มียุ้งฉาง หลังบ้านมีท่าน้ำ 555 ในฝันในฝัน แถวคลองรังสิตที่เราอยู่ ยังมีการทำนา บ้านคนก็มีเรือไว้ใช้

 คราวนี้ โอลีฟมันหารด้วย แต่มันจะมานอนเฉพาะวันพุธพฤหัส เพราะปี3งานจะเยอะ อาจจะต้องกลับเย็น บ้านมีหลายห้อง
  ตอนเช่า ผิงผิงห้องโน้น ไอ้เติ้ลห้องปีกซ้าย ผมเอาห้องชั้นลอย พวกขี้เกียจเดิน ไอ้โอลีฟเอาห้องปีกขวา

“เฮ้ย กรูว่านอนรวมกันเหอะ” ไอ้เติ้ลบอก หลังจากผ่านไปคืนแรก

“นั่นสิ ชั้นก็ว่าดี ประหยัดไฟ” ผิงผิงสนับสนุนอย่างรวดเร็วพร้อมมีเหตุผล  แต่โอลีฟมันก็ยังนอนของมันคนเดียว
แต่เราก็เอาข้าวของของแต่ละคนไว้ที่ห้องตัวเอง
 o22
เพราะพอมาอยู่กัน บรรยากาศฝันโรแมนติค เริ่มเป็นฝันสยอง หน้าต่างห้องที่มองทอดไปท้ายบ้าน ไร้แสงไฟ ยุ้งฉางทมึนเด่น
 เรือที่จอดตะคุ่มๆกระแทกผืนน้ำเป็นระยะๆ ห้องน้ำที่อยู่ชั้นล่าง ที่คนปอดแหก3คนต้องรวมตัวกันไปเข้าพร้อมกัน
 ถ้าวันไหน เผลอไม่อาบน้ำก่อนพระอาทิตย์ตกดิน คน3คนก็ต้องผลัดกันเฝ้าหน้าห้องน้ำ
 แต่พอเช้าขึ้น สภาพคนปอดแหกก็จะหายไปหมด เพราะบรรยากาศโรแมนติคก็กลับมาแทนที่

พวกบ้านซอย 10เอง มันก็ไปเช่าคนละทางกัน บ้านฟ้าใส  ที่ออกจากหลังโรงเรียนเลี้ยวซ้าย 
บ้านซอย 10 ออกจากหลังโรงเรียนเลี้ยวขวา   แต่คราวนี้ซวยหนัก ที่ดันไปอยู่ใกล้ บ้านรุ่นพี่ ที่รู้จักกับไอ้พี่นักจีบอีก
ตกเย็นก็มานั่งเฝ้าผิงผิง ไอ้เติ้ล



วันอาทิตย์ ช่วงเวลาเริ่มเย็นลง 17.00น.

วันนี้ผมให้พี่ส้มโอขับรถมาส่งเพราะซื้อของมาทำงาน ชิ้นใหญ่หลายชิ้น ติดต่อไอ้เติ้ลไม่ได้ตั้งแต่กลางวันจะชวนมาพร้อมกันซะหน่อย

“อะโหล คุณคิดส์หรือเปล่า”

“หึ” รับคำสั้นๆ ตัวจริงเสียงจริงเว้ย

“กินข้าวยัง” ฮั่นแน่ ผมทำตามธรรมเนียมไทย แสดงความเป็นห่วง

“มีไร” อ๊ารู้ทันว่ะไม่มีเรื่องไม่โทร จะโทรหาปู้ชายก่อนได้ไง 55 นอกจากมีเรื่องเดือดร้อน

“มากินข้าวด้วยกันสิ” ส่งสัญญาณ เอสโอเอส แล้วนะ

“.....” ทั่นไม่ตอบรับว่ะ

“ไอ้เติ้ลมันยังไม่มา ไม่รู้มันจะมาเปล่า ติดต่อไม่ได้ง่ะ”

“....” เงียบอ่ะ

“มาอยู่เป็นเพื่อนหน่อยสิ” โห ให้พูดก็ได้ว่ะ น่าเกลียดว่ะ ใจร้ายว่ะ ผมก็แอบบ่นพึมพำให้ปลายสายได้ยิน

“เดี๋ยวไป อีกชั่วโมง ทำงานเสร็จก่อน” เสียงทุ้มใจดีแจ้ง

“ฮื่อ มาจริงๆนะ ห้ามเบี้ยวนะ”

เกือบ หกโมงเย็นแล้ว พระอาทิตย์บ๋ายบายไปแล้ว
 :serius2:
ผมเริ่มนั่งไม่ติด ถ้าไม่มา ผมจะเดินออกไปตลาด หารถกลับกรุงเทพดีกว่าว่ะ ขี้เกียจนอนคลุมโปงอ่ะ
สักพัก ขบวนการ5หนุ่มก็เดินมา เป็นครั้งแรกที่เห็นพวกมันแล้วรู้สึกโลกสว่างไสว

“ยิ้มปากฉีกแล้วนั่น” คุณอ๋องทัก

“ใครเขาให้มาเช่าบ้านแบบนี้อยู่กันล่ะ” เริ่มบ่น บลา...บลา... บลา....
ร่างสูงใหญ่เอื้อมมือมาลูบหัวเบาๆ ซึ้งจนน้ำตาแทบไหล

“ป่ะ ไป กินข้าว” เสียงไอ้โภชน์สั่ง คุณคิดส์ก็เดินไปปิดบ้านให้ แล้วจูงมือฟ้าใสไปกินข้าว

หลังจากกินข้าวร้านแถวเสร็จก็พากันมานั่งเล่นที่บ้าน  แต่ละคนมันก็ยังใจดีไม่พูดแหย่เล่นกับสถานที่ให้ผมใจตุ๊มๆต้อมๆ
พวกมันก็เคยมาดูบ้านหลังนี้แล้วแต่ก็ไม่เอา เฮอะ จะคุยว่าบ้านตัวเองดีกว่าอ่ะดิ โห

“เฮ้อ อย่าไปเล่นเสื้อไอ้เติ้ลดิ” ผมดุไอ้แชท มันเที่ยวไปเอาเสื้อผ้าเติ้ลมาเล่นมียกทรงด้วย มันเอามาทาบๆกับตัวเอง
 แอบวิจารณ์ว่า เซาะกราวอีกต่างหาก

“เชรี่ยนี่  ไปว่ามัน” ผมเลยด่ามันมั่ง แล้วพูดต่อ “เขาห้ามพูดความจริง โว้ย” ผมน่ะรู้สึกว่ามันน่ะชอบไอ้เติ้ลอยู่นิ๊ดๆจริงๆนะ
 เพราะไอ้เติ้ลน่ะชอบแหย่ไอ้แชท แล้วก็ข่มไอ้แชท เล่นกับไอ้แชทเหมือนเป็นตุ๊กตาจับทำผมมัดผม ไอ้แชทก็ยอม
 ทั้งที่ไอ้เติ้ลเป็นผู้หญิง แล้วดูว่าไอ้แชทมันก็มีความสัมพันธ์พิเศษกับไอ้โภชน์ ที่นอนตักกันหวีผมให้

“ไปล่ะ” 4หนุ่ม ก็เตรียมเดินจากไป เมื่อดึกขึ้น แต่ละคนเริ่มทำตาระยิบระยับ เฮอะ!!!
ส่งเพื่อนเสร็จ คุณคิดส์ก็ปิดบ้าน

ความรู้สึกเหมือนเจ้าสาวส่งตัวเข้าหอเลยตรู

ฟู่....ถอนหายใจ ทำไงได้ล่ะ

ก่อนขึ้นข้างบนผมก็ต้องรีบเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยตามธรรมเนียมบ้านเรา ถ้าอยู่กันหลายคนยังไม่นอน ก็พอวิ่งลงมาเข้า
แล้วรีบกลับขึ้นไป แต่ถ้านอนแล้ว ก็ต้องรอปลุกลงมาเป็นเพื่อนกัน ไอ้คนที่ถูกทิ้งให้นอนคนเดียวก็จะโวยจึงเป็นธรรมเนียม ว่า
 ถ้านอนแล้วก็ต้องปลุกเข้าห้องน้ำ3คน

คุณคิดส์ก็นั่งสเก็ตงาน ระบายสีออกแบบงานไปตามเรื่อง ผมก็ชอบงานของคุณคิดส์นะมันส์ดี ดูมีชีวิตชีวา บางทีก็ดูบ้าดี
แนวญี่ปุ่นๆที่มันจะสุดโต่งอ่ะ เวลาส่งงาน งานก็จะไปกองๆในห้องอาจารย์ ใครมาก็หยิบดูเปิดดูงานของคนอื่นๆได้ตามสบาย

 ไม่ว่ารุ่นพี่รุ่นน้อง งานผมเองก็เคยมีรุ่นพี่ชอบ จนขอเอาไปแจมโชว์ เวลาจัดนิทรรศการ งานชิ้นนั้นอาจารย์ให้D+
แต่รุ่นพี่บอกว่าไอเดียสุโค่ย เมริงอย่าไปสนจารย์เลย 555

หลังจากต่างคนต่างนั่งทำงาน ผมก็เป็นฝ่ายชวนคุย เล่านานเล่านี่  เริ่มดึก ผมก็หาว
คุณคิดส์ บอกง่วงก็นอน ตบเบาะข้างๆตัว ตรูไม่ใช่แมวนะเว้ย แต่ก็คลานไปชะโงกดูงานที่ทำอยู่

“เออ สวยดี จะทำชิ้นใหญ่ไหมอ่ะ”

“นึกดูก่อน” งานพวกเรา อาจารย์มักบังคับไม่ให้เล็กกว่ากระดานสเก็ต

“ห๊าว” เผลอหาวอีกรอบ คุณคิดส์จับหัวผมนอนบนตัก อา...ใจเต้นว่ะ บ้านอนลงที่ไหนล่ะ แบบนี้

แต่ก็อบอุ่นดีจัง คุณคิดส์ ถึงจะหน้าตาโหดสัส55 แมนก็โคตรแมน รู้ว่าแกมีรุ่นพี่ผู้หญิงมาจีบด้วยล่ะ
คิดถึงพี่โม่งแห๊ะ

หลับไปตอนไหนไม่รู้ รู้เหมือนคนสะกิดให้ไปนอน แล้วก็ไปนอน เหมือนไม่ได้เดินเอง
รู้สึกปากอุ่นๆ จูบนิ่มมาก จนเผลอจูบตอบ พอรู้สึกตัว ฟ้าใสสบตาวาวคู่นั้น แววตาใสซื่อจริงใจ
คิดอะไรก็พูดแบบนั้น ไม่เคยว่าใคร เพื่อนผู้ชายในห้องฟ้าใสเวลาจีบใครยังชอบยกตัวเอง ว่าข้าเก่ง

แต่คุณคิดส์ไม่เคยว่าใคร ไม่เคยอวดอะไร แต่ฟ้าใสก็ส่ายหน้า ปฏิเสธความสัมพันธ์ที่ลึกกว่านั้น
 ก็รู้ตัวว่าชอบคุณคิดส์ ไม่รังเกียจว่าหน้าโหด

ภายนอกที่ดูเหมือนท่าทางน่ากลัว  ฟ้าใสรู้ว่าคุณคิดส์ใจดี แต่ก็รู้ตัวดีว่าในใจมีพี่โม่งอยู่
 แต่คุณคิดส์ก็อบอุ่นมาก แสนดี

ฟ้าใสถึงไม่เคยดึงมือออกจากมือเวลาที่คุณคิดส์จูง

คุณคิดส์จูบเบาๆที่หน้าผาก กอดฟ้าใสแนบอก ร่างกายที่แข็งแรง ให้ความรู้สึกทั้งปลอดภัยและอบอุ่น ฟ้าใสรับรู้ว่าอีกฝ่ายต้องอดทน

ถ้าฟ้าใสไม่มีพี่โม่งในใจ มือฟ้าใสคงลูบไล้ที่แผ่นหลังแกร่ง และสนองตอบอารมณ์ของอีกฝ่าย

พอเปิดเทอมปลายหลังจากเรียนได้เดือนหนึ่ง พวกเราต้องไปฝึกงาน

บ้านเช่านะเหรอ พอสอบเสร็จ เราก็ตกลงว่าจะเลิกเช่า โอลีฟมันเลยไปถามว่าใครจะเอาก็มีรุ่นน้องแต่มันมาอยู่กัน 8คน
ทั้งผู้ชายผู้หญิง ก็คงไม่เงียบเหงาแบบผม

 (ตอนหลังก็มีผลัดเปลี่ยนหลายรุ่น แต่คนก็พูดว่าเจอ ชนิดรับรองเลยว่า มีแน่ๆ แต่พวกผมไม่เคยเจอ ถึงบรรยากาศจะน่ากลัวจริง
 แต่พวกเราก็ไม่เคยเห็น-แหะ แหะ ไม่อยากเห็นด้วยครับ)

ผมไปฝึกงานที่เดียวกับไอ้หมูแฮม  ชวนผิงผิง แต่ผิงผิงไม่ยอมจะฝึกที่เดียวกับที่ทำงานพี่สาวและใกล้บ้าน
ที่โคตรห่างไกลกับผม

ช่วงนั้นก็ยังคงติดต่อกับคุณคิดส์บ้าง มีนัดไปหาแล้วกินข้าวดูหนัง แต่ก็ดูเหมือนความสัมพันธ์จะเบาบางลง

แต่แววตาคุณคิดส์ ก็ยังเหมือนเดิม อ่อนโยนและอบอุ่น



หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4 (7/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 07-09-2012 17:06:52
CH.4

จบปี 3แล้ว

ตั้งแต่กลับมาอยู่ที่บ้าน มันเหมือนมีอะไรหลายอย่างที่อยู่ในใจ หลายอย่างมันค้างคา
อยากนอนหลับเพื่อให้สิ่งที่ตกตะกอนมันชัดเจน เพื่อนที่หัวเราะเฮฮารอบตัว สิ่งที่อยากทำ สิ่งที่อยากเรียน..


“ไข พี่ว่าจะไปเรียนต่อที่อเมริกานะ” พี่ส้มโอเดินมาบอกฟ้าใสหลังพูดคุยปรึกษาเพื่อนสอบถามคนหลายคนมาก

นี่แหล่ะ สิ่งที่ค้างคาในใจ ฟ้าใสอยากเรียนอยู่ที่เดิม อยากอยู่รอพี่โม่ง
เพื่อนหลายคนก็ออกไปเรียนที่อื่นที่มีสาขาวิชาที่ตัวเองชอบ

“โอ้โฮ ไขขอไปเรียนต่ออเมริกามั่งสิ” ฟ้าใสกล้าขอเพราะรู้ว่า ปีนี้ ที่บ้านเขาตัดสินใจขายที่ดินบางแปลงไป
 เพราะมีการเวณคืน ที่เลยแหว่งไม่เต็มคนที่อยู่ติดกันจึงอยากได้

“55 รอก่อน เราน่ะ ยังเหลือ นศท.อีกปีหนึ่ง แล้วก่อนไปก็ต้องเรียนภาษาด้วยล่ะ ไม่งั้นจะลำบาก”

“โหย จริงด้วย” ฟ้าใสทำหน้าเบ้

“พี่ว่าจะไปแค่ปีเดียวเอง เรียนเอาดีโพม่าเท่านั้น จบตรี ทำงาน มันไม่ค่อยก้าวหน้าน่ะ”

“โห ระดับพี่โอ จบแค่ไหน ไขว่าพี่โอทำงานดีกว่าคนอื่น 3-4 เท่าด้วยซ้ำ” ฟ้าใสคิดแบบนั้นจริง พี่โอทำอะไรพี่โอจะทำเต็มที่

“ไม่ต้องมายอพี่ อยากได้อะไรล่ะสิ” ส้มโอยิ้มกอดน้องชายคนโปรด
แล้วคิดว่า ฟ้าใสตัวใหญ่ขึ้นหน่อย แข็งแรงขึ้น แขนก็ดูมีกล้ามขึ้น นี่น้องชายของเธอ เริ่มโตแล้วสินะ
.
.
.
ปีนี้

โอลีฟก็ยังร่าเริงเหมือนเดิม ไอ้เติ้ล ผิงผิง ฟ้าใส แชมพู และหลายคน เรียนต่อปี4 ป๋าเรน ป๋าแก้ม หมูแฮม ไปต่อที่อื่น
 แต่ก็ไม่ต้องถึงกับเช่าบ้านแล้ว เพราะไปโรงเรียนสายได้ งานก็ทำที่บ้านบ้าง ไปทำที่ต่างจว.บ้าง

แต่ก็ยังมี ที่เป็นคนตจว.ก็หาที่อยู่แถบนั้นไปเลย หรือพวกที่ขี้เกียจกลับ ก็ยังคงสิงสู่เช่าบ้านบ้านแถวนั้นอยู่เช่น ไอ้โภชน์ กับคุณอ๋อง
 ที่ก็อยู่เป็นหน้าโหดกะหน้าแก่กันต่อไป  ส่วน คุณคิดส์ แชท บรุค ก็ไปต่อที่อื่น

ปีที่ดูเหมือนสงบสุขมันก็เหมือนคลื่นกระทบฝั่งเบาๆ แล้วก็น้ำทะเลลดลงลึก อะไรที่อยู่ภายในก็โผล่มาให้เราเห็น
แล้วสิ่งที่ตามมาก็เป็นสึนามิลูกใหญ่ที่ซัดเข้ามา


ปี4

ฟ้าใสสังเกตวงจรอุบาทนี้มานานแล้วตั้งแต่ปี 2 ที่ค่อยๆชัดขึ้น
มาปีนี้ ฟ้าใสจะเสียเพื่อนไหมเนี่ย

“อะโหล ผิงผิง วันเสาร์ไปดูหนังกันไหม”

“ไปไม่ได้ อยู่ระยอง มาบ้านพี่สาว” พี่สาวผิงผิงแต่งงานแล้วทำงานอยู่ที่ระยอง

“อ้าว โห ผิงผิงไปไม่ชวนเลย”

“555 ไว้วันหลัง แค่นี้นะ”

“ฮื่อ เจอกันวันจันทร์”


พอวันจันทร์

ขณะฟ้าใสกับโอลีฟเดินผ่านกลุ่มไอ้มอส ไอ้ชาร์บ ไอ้ซิว ไอ้เมย์ ที่นั่งเล่นหน้าตึก

“ไอ้ไข่ ฝากนี่ไปให้ไอ้เติ้ลหน่อยสิ” ไอ้มอส ที่ยังคงเทียวจีบไอ้เติ้ลตั้งแต่ปี2 คู่นี้มันเหมือนดอกฟ้ากับหมาวัด
ไอ้เติ้ลน่ะเป็นหมาวัดนะ ส่วนไอ้มอสน่ะ เป็นดอกฟ้า ก็ไอ้มอส หล่อ สูง รวย การศึกษาดี จบโรงเรียนชั้นนำของกรุงเทพ
อันดับต้นๆเลย พูดจาดี ไม่ค่อยมีเฮี้ยห่าน ออกมาเพ่นพล่านนัก เล่นกีฬาเก่ง 

ส่วนไอ้สาวเติ้ล สูบบุหรี่ กินเหล้า พูดจาหยาบคาย พูด5คำนี่สบถซะ4คำ ข้อดีของมันคือ ดูน่ะรู้ว่าเป็นผู้หญิง
เพราะหน้าตาแบบสาวไทย และมีหน้าอกคัพซี 

อย่างประโยคแรกที่ไอ้เติ้ลมันจะทักคุณ คือ “ไอ้เชรี่ย ไปไหนมาว่ะ” หรือ “สัสส เป็นไงบ้าง” อะไรทำนองนี้ ฟ้าใสก็ไม่เข้าใจ
ไอ้มอส ที่ชอบผู้หญิงอย่างไอ้เติ้ล และทั้งไม่เข้าใจไอ้เติ้ล ว่าทำไมมันก็ไม่ชอบคนดีๆอย่างไอ้มอส

และวงจรอุบาทมันยังมีอีก เพราะ ซี้ไอ้มอส คือไอ้ชาร์บ  ไอ้ชาร์บมันชอบผิงผิง เรื่องคงง่าย ถ้าไม่เป็นว่า ผิงผิง ชอบไอ้มอส

เฮ่อ...กรูล่ะเหนื่อย พวกเมริงไปวิ่งไล่จับกันที่อื่นล่ะกัน ฟ้าใสเลยหลบไปเดินกับโอลีฟ ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้า ปี 4/1

ซึ่งมีคงมีไอ้หน้าโหด1 ไอ้โภชน์ กินตำแหน่งหัวหน้าห้อง ปี 4/2  แล้วก็เลยเป็นคู่ประธานหญิง-ชายคู่กันของชั้นปี4ไปด้วย

-ปี4 โรงเรียนเราจะเหลือแค่2ห้อง คนละเอกวิชาออกแบบกับทัศน์ศิลป์ แต่ก็เรียนพื้นฐานศิลป์เหมือนกัน แต่เน้นวิชาเอกต่างกัน-

ไหน ไหน ไอ้มอสอุตส่าห์ใช้ฟ้าใสเป็นบันได ไต่สู่รัก ฟ้าใสก็เอื้อมมือไปรับ พร้อมกับเสียงคนข้างเคียงก็แผดขึ้น

“ทำไมแกไม่เอาไปให้มันเองล่ะ ไอ้มอส ไปใช้ไอ้ไข่มันทำไม”

เฮ้ย เฮ้ย ไอ้โอลีฟ เมริงไปพูดให้ไอ้มอสมันบาดใจทำไมอีกว่ะ ผมรีบสะกิดไอ้โอลีฟ

“เออ เออ กำลังจะไปหาไอ้เติ้ลอยู่พอดี เดี๋ยวกรูเอาไปให้เอง” ผมมองดูถุงในมือ เออ งวดนี้คะแนนมันคงขึ้นหน่อยหนึ่ง
ปลาหมึกสารพัดชนิด ของแดกได้ ไอ้เติ้ลมันคงเห็นความดี ยิ่งเป็นกับแกล้มเหล้า มันคงนึกเอ็งนะไอ้มอส
ผมเลยอธิบายให้ไอ้โอลีฟมันฟังว่า “ถ้าไอ้มอสมันให้เอง ไอ้เติ้ลมันไม่รับ ปฏิเสธแบบไม่มีเยื่อใยเลยทีเดียวอ่ะ
มันไม่แคร์ด้วยว่าซื้อมากี่ตัง”

“อ้าว เหรอ ชั้นนึกว่า มันใช้แก เห็นแกตัวเล็กกว่ามัน 555” โอลีฟย้ำเสร็จ ก็หัวเราะชอบใจ กอดคอผมเดินไปหลังชอปที่ไอ้เติ้ลและเดอะแก๊งค์ ตั้งวงอยู่

“โย่” โอลีฟ ทักสาวๆเดอะแก๊งค์ที่ตั้งจิบน้ำสีชา เหล่านักศึกษาหญิงนั่งบริหารข้อมือจิบเครื่องดื่ม นั่งๆนอนๆเล่น

“พวกแกตั้งวงตั้งแต่บ่ายเลยนะ” โอลีฟกำราบ อย่างน้อยมันก็พอรู้กฎล่ะว่าเขาห้าม

“แหม หัวหน้า ตอนนี้ปล่อยแล้วนี่หว่า นั่งรอรถฟรี มันก็ไม่มีอะไรทำ นะสิ”

“แค่นี้มันจิ๊บๆ ของจริงเย็นนี้ บ้านไอ้แจง ไปเปล่า...อ่ะไข่” ว่าแล้วไอ้หลินก็ส่งแก้วมาให้ฟ้าใส

“เฮ้ย!! ไม่เอา ไอ้ไข่แกไม่ต้องกิน” ไอ้โอลีฟมันรีบห้าม เพราะกลัวเดี๋ยวเจออาจารย์ ผมจะโดนด่าไปด้วย

“อ่ะนี่ ไอ้เติ้ล ไอ้มอสมันซื้อมาฝากแก” ฟ้าใสส่งถุงสารพัดปลาหมึกให้ ไอ้เติ้ลทำหน้าแสยะ ไม่รับ
แต่บรรดากระสือสาวยื่นมือมารับแทน

“ว้าว ดีเลยเมริง แทงคิ้ว แทงคิ้ว” เสียงขอบอกขอบใจจาก อิกระเต็น กระเทยสาวสวยจิ้มลิ้มที่นั่งคู่กับอิคาร่ากระเทยควาย
ร่างบึกบึนที่ชอบจับฟ้าใสหมุนเหวี่ยงเวลาเจอกัน มันบอกว่าซ้อมบทไว้เล่นหนังบอลลีวู้ด

“ ยี่ห้อรักและคิดถึง  อุ๊บ...” ฟ้าใสจะประชดไอ้เติ้ล แต่สายตาเหลือบไปเห็นว่าผิงผิงที่นั่งคุยกับพี่จ๋า
รุ่นพี่ผู้หญิงที่ตกซ้ำชั้นจนมาเรียนกับเรา หันมามอง ทำเอาฟ้าใสรีบหุบปากแทบไม่ทัน แต่อิคาร่าที่ฟ้าใสอยากให้มันเป็น
คาที่ มากกว่า กลับอ่านออกเสียงซะดังลั่น

“ว๊ายๆแก จริงของไอ้ไข่ ยี่ห้อรักและคิดถึง จริงด้วยว่ะ 555 เซาะกราว พอกันทั้งคู่เลยว่ะ5555” กระเทยควายก็ระเบิดหัวเราะก้องฟ้า

“สัสสสสส อิสมชาย ฮาดโคกดอน จะแดกไหมแดก” ไอ้เติ้ลตอบกลับบ้าง

อิกระเต็น กับอิคาร่าก็หัวเราะคิกคักจกปลาหมึกมาฉีกถุงแบ่งกันทั่ววง

ฮือ ฮือ ผิงผิง อย่าเป็นอย่างงี้สิ ฟ้าใสไม่ชอบเลย สายตาผิงผิงน่ะ ฟ้าใสมองออกอ่ะ


ผ่านวันอึมครึมไปวันๆ

“ไปกินข้าวกันได้แล้ว เดี๋ยวข้าวโรงอาหารก็หมดหรอก แล้วก็จะมาบ่นกัน” โอลีฟตะโกน เมื่อเห็นเพื่อนๆยังไม่วางมือซะที จนตัวเองเริ่มหิว

“ไปก็ไป” แชมพูวางมือ คนอื่นๆก็เริ่มเก็บของบ้าง
โอลีฟเดินมาจิกคอเสื้อฟ้าใส ไป

“เฮ่ยเดี๋ยวรอผิงผิงก่อน” ฟ้าใสบอกเมื่อเห็นผิงผิงยังไม่ยอมเก็บของ

“ไอ้ไข่ไปก่อนเหอะ เรายังไม่หิว” ผิงผิงไล่ให้เขาไปกินพร้อมเพื่อน

“ฮื่อ  จะฝากซื้ออะไรเปล่า”

“ไม่อ่ะ แต่มีอะไรที่ยี่ห้อรักและคิดถึงไหมล่ะ ถ้ามีก็เอาด้วยล่ะกัน” ผิงผิงตอบเสียงเย็นๆเบาๆ

ฮือ ฮือ ผิงผิงอย่าเล่นแบบนี้สิ ฟ้าใสอยากเข้าไปกอดผิงผิง ไอ้เวรมอสเอ๊ย คนดีๆเสือกมองข้าม

นี่แหล่ะว่ะ เขาถึงว่า คัพซีอยู่ได้ คัพเออยู่ยาก

ฟ้าใสเหลือบมองไปที่ไอ้มอส ที่ยังยืนเขียนสีน้ำมันอยู่อีกมุมหนึ่ง และห่างออกไปหน่อยหนึง ก็เป็นไอ้ชาร์บ

ฟ้าใสถอนหายใจ ที่ไอ้ชาร์บมันยอมตัวติดกัน กับไอ้มอส คงอยากให้ตัวเองอยู่ในสายตาของผิงผิงด้วยมั๊ง
เฮ่อ...ความรัก ไม่เห็นจะอิ่มท้องเลยว่ะ ฟ้าใสมองสามเหลี่ยมมุมเปิด น่ายังโชคดี ไอ้มอสมันไม่หลงรักไอ้ชาร์บ
หรือไม่ก็ไอ้เติ้ลหลงรักไอ้ชาร์บอีกต่อ ไม่งั้นฟ้าใสจะเลิกคบพวกมันแน่ๆ ปวดหัวตาย

เชอะ!!!ไอ้พวกเด็กๆมีปัญหา  ฟ้าใสรักพี่โม่ง พี่โม่งดีที่สุด 



ฟ้าใสเดินไปโรงอาหารพร้อมเพื่อนๆ โอลีฟเดินไปคุยไป มือมันก็เหนี่ยวคอเสื้อตรูอยู่ได้

พอเข้าโรงอาหาร โอลีฟมันเห็นโต๊ะว่างสุดก็เป็นโต๊ะที่ไอ้โภชน์กับคุณอ๋องนั่งกินข้าวอยู่ นอกนั้นก็มีเด็กปี1-2-3 นั่งอยู่บ้าง
โอลีฟก็หันมาบอกพวกเรา “ไปนั่งกะไอ้โภชน์แล้วกัน” ซึ่งคนอื่นก็เฉยๆ ไม่ได้ว่าอะไรอยู่แล้ว ก็เพื่อนกัน

“เฮ้ หวัดดี เดี๋ยวเรียนไรอ่ะ” โอลีฟทักไอ้โภชน์ ไอ้โภชน์มองหน้าผม

ตั้งแต่เปิดเทอม ปี4 เวลาเจอหน้าไอ้โภชน์ ฟ้าใสรู้สึกว่าเหมือนมันไม่พอใจเขาบางอย่าง แม้ว่าเขาจะทักมัน
แล้วก็ยังถามไถ่ถึงคุณคิดส์ ไอ้แชท และไอ้บรุค

“คุณอ๋อง เป็นไงบ้างอ่ะ” ฟ้าใสทักคุณอ๋อง

“ต๊าย พ่ออ๋อง วันนี้จะเทศน์กัณฑ์อะไรล่ะ”ไอ้เติ้ลก็ทักบ้าง

“แล้วพวกเธอล่ะจ๊ะ สบายดีล่ะสิ” คุณอ๋องก็ทักตอบบ้าง “ชั้นน่ะสบายที่ไหนกันล่ะ ชั้นน่ะนะเหนื่อยจะตาย งานก็เยอะ
วันก่อนฝนก็ตก ลืมปิดหน้าต่าง ฝนสาดเข้ามา ต้องรื้อที่นอนไปตาก วุ่นวายจะตาย...บลาๆๆๆๆๆๆ”

555 คุณอ๋องยังขี้บ่นเหมือนเดิม แต่ไอ้หน้าหงิกๆโหดๆของอีกคนนะสิ

“ไปก่อนล่ะ” ไอ้โภชน์บอกโอลีฟ แล้วมันก็ลุกพรืดออกไป
ไอ้คุณอ๋องมันเลยบ่นอะไรต่ออีกแป๊บหนึงแล้วรีบลุกตามกันไป
ฟ้าใสกับไอ้เติ้ลมองหน้ากัน

“ไอ้โภชน์ มันเป็นอะไรเหรอ โอลีฟ” ฟ้าใสถาม

“ไม่รู้ดิ มันคงงานยังไม่เสร็จมั่ง”

“ไอ้เติ้ล เมริงว่า เหมือนไอ้โภชน์มันไม่พอใจอะไรเราว่ะ แกไปทำอะไรมันเปล่า” ฟ้าใสจ้องหน้าเติ้ล

“บ้าดิ กรูไปทำไรมัน  ถึงกินเหล้ากับพวกห้องมัน กรูก็ไม่เคยด่ามันนะเฟ้ย” เติ้ลพยายามนึก

“อ้าว แล้วมันไม่พอใจอะไรเราว่ะ” ฟ้าใสขมวดคิ้ว

“ช่างมันดิ เมนส์มันไม่มามั๊ง” ไอ้เติ้ลกล่าวอย่างไม่อยากสนใจ

“เออ แล้วผิงผิง ไม่ออกมากินข้าวหรือไง ไอ้ไข่” แชมพูถาม

“ฮื่อ ไอ้ผิงผิงมันคงกินตอน10โมงแล้วมั๊ง เลยไม่หิว” ผมก็แก้ตัวไป



TBC.......
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4 (7/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 07-09-2012 17:40:02
+1แถมเป็ดให้คนแต่งแสนขยัน
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4 (ต่อ)(7/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 07-09-2012 18:03:26

(ต่อ)
และแล้วก็ได้เวลาที่พวกเราต้องไปseascape วาดภาพทิวทัศน์ทะเล 3วัน3 คืน

โอลีฟมันโทรเรียกผมมายืนคอยที่หน้าโรงนอนของฝ่ายหญิงแต่เช้า แน่นอน
ไอ้มดแดง2ตัวมันก็รีบเดินตามฟ้าใสจากโรงนอนของฝ่ายชายมาบ้าง

“เติ้ลจะไปแล้วเหรอ” เสียงไอ้มอสถามเสียงอ่อน กรูได้ยินแล้วก็อ่อนใจไปด้วย

ไอ้มอสมันเห็นไอ้เติ้ลเตรียมอุปกรณ์เพื่อออกไปหามุมวาดรูปพร้อมพวกผม

“ก็เห็นอยู่” ไอ้เติ้ลตอบเสียงห้วน

“มอสไปด้วยกันสิ” ผิงผิง เอ่ยชวน

“เออ ไปกันเลยหรือเปล่า” มอสถามพยายามมองหน้าไอ้เติ้ล แต่ไอ้เติ้ลมันก็ไม่พูดด้วย

“จะไปกันเดี๋ยวนี้แหล่ะ เดี๋ยวแดดร้อน เตรียมของหรือยัง” ผิงผิงถามมอส

“เราช่วยเตรียมให้มันแล้วล่ะ ไอ้มอสมันอัลไซเมอร์  ขืนไม่ช่วยดูให้มัน มันก็ต้องลืมโน่นลืมนี่” ไอ้ชาร์บรีบมาเสนอหน้า ข่มไอ้มอส

“แหม กรูลืมแค่ครั้งเดียว เมริงเล่นเหมาว่ากรูเป็นอัลไซเมอร์เชียวเว้ย ไอ้เชรี่ย” มอสบ่น ซึ่งผิงผิงมองว่าน่ารักมากยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

“ผิงผิงส่งย่ามมาสิ จะถือให้” ไอ้ชาร์บยื่นมือมาจะช่วยถือย่ามให้ผิงผิง

“ไม่ต้อง ชั้นถือเองได้” ผิงผิงตอบเสียงสะบัด ยิ่งเมื่อเห็นไอ้มอสรีบเดินแทบจะวิ่งไล่ตามไอ้เติ้ลที่เดินจ้ำอ้าวๆไป

“จะเดินไปก่อนก็ได้...” แชมพูบอกเมื่อเห็นผิงผิงหันมามองหน้า ฟ้าใสน่ะถือของของไอ้โอลีฟที่ขอแวบเข้าห้องน้ำ

“เออ แล้วตามไปล่ะ” ผิงผิงบอก


เรานัดกันไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ตอนที่พาเดินเล่นเมื่อตอนเย็น ว่าจะมาวาดแถวหาดที่อยู่เลยหลังโขดใหญ่
แถมแถวนั้นเดินออกมาริมถนนก็มีร้านขายอาหารของชาวบ้านที่ดูไม่แพงด้วย

ผิงผิงก็รีบเดินตามไอ้มอสไป โดยมีไอ้ชาร์บที่พยายามเดินเคียงคู่ และตื้อจะถือย่ามให้
ฟ้าใสและแชมพูมองตามไปอย่างปลงๆ

แต่ฟ้าใสน่ะสิสงสารผิงผิง  ผิงผิงคนที่เคยใจเย็น มีสติ หายไปไหน

“ฮ่า ฮ่า คอยนานเปล่า ขี้ไม่ออกอ่ะ” เสียงโอลีฟแหวกอากาศมาจากมุมอาคารแล้วตะโกนบอกทันทีที่เห็นเรา

“โหย แกไม่ต้องพูดดังไปก็ได้ว่ะ จะพูดให้คนเขารู้กันหมดหรือไงว่าแกขี้ไม่ออก ไอ้โอลีฟ”

“555 ไป ไป อ้าว ไอ้เติ้ล กับไอ้ผิงผิง ไปกันแล้วเหรอ” โอลีฟพูดไปลูบหัวเกรียนตรูไป

“เฮ้ย ไอ้โอลีฟ เมริงล้างมือยัง” ผมรีบเบี่ยงหัว หยะแหยง

“ฮึ่ย..คนละมือเว้ย นี่มือนี้นี่” โอลีฟยืนมืออีกมือมาให้ดม

“ไอ้บ้า” ฟ้าใสรีบผลักมือออกไปไกลๆตัวเอง


ทั้งสามคนเดินกันไปโดยมีสายตาใครคนหนึ่งที่จ้องจับตามองอยู่....


“เฮ้ย ไอ้ไข่ ไปกินข้าวเหอะหิวแล้ว” โอลีฟสะกิดบอก

“ฮื่อ..ไปดิ” ผมน่ะว่าง่ายอยู่แล้ว

“ผิงผิง ไอ้เติ้ล กินข้าว  ไอ้มอส ไอ้ชาร์บ กินข้าว” ฟ้าใสตะโกนเรียก

“แชมพู ไปกินข้าว”

“เดี๋ยว เดี๋ยว เติมตรงนี้แป๊บ เดินไปก่อน เดี๋ยวตามไป”

ฟ้าใสเลยไปกับโอลีฟ

“ไข่เอาอะไร” โอลีฟถามผม เมื่อเดินด้วยกันมาถึงร้าน

“กระเพราหมูเป็นชิ้นนะ ใส่พริกเม็ดหนึ่ง ไข่ดาวไม่สุก แหะแหะใส่กระเพรา3ใบนะ ถ้ามีกุ้งเอากระเพรากุ้ง” ฟ้าใสเริ่มหัดกินพริก

“เออ เออ เดี๋ยวถ้าติดผักมากินผักให้เอง”

“โอลีฟเอาน้ำอะไร เป็บซี่โค้ก”

โอลีฟหันมาจะเดินมาช่วยฟ้าใสถือน้ำ

“อ้าว ไอ้โภชน์ มาวาดแถวนี้เหมือนกันเหรอ มาคนเดียวเหรอ”

“ฮื่อ..นั่งดิ” ไอ้โภชน์ชวนโอลีฟนั่งโต๊ะเดียวกัน

หึ ฟ้าใสไม่อยากให้ไอ้โอลีฟทัก ไอ้โภชน์ซะหน่อย  โอลีฟรู้เปล่า ไอ้โภชน์มันจัดที่นอนให้ฟ้าใสไปนอนเตียงมุมอับจะตาย
 ทั้งมืดทั้งยุงเยอะ วันที่มาถึง ฟ้าใสยกกระเป๋าขึ้นโรงนอนพร้อม ไอ้มอส ไอ้ชาร์บ ไอ้เมย์ มันก็สั่งๆ รถฟ้าใสมาเป็นคันที่สอง
 เตียงดีๆก็ถูกจองเอาไปหมดแล้ว

“ป้า กระเพราไก่ไข่ดาว” แชมพูสั่งทันที แล้วพึมพำ “หรือจะเอาคะน้าหมูกรอบดี”

“เอ๊ะ ป้า เอาคะน้าหมูกรอบดีกว่า เอ..ไม่ ไม่ ไม่ต้องแล้วป้า กระเพราไก่ไข่ดาวนี่แหล่ะ”

สั่งเสร็จมันก็เดินมานั่งร่วมโต๊ะ พยักหน้าให้ไอ้โภชน์1ที แล้วลุกเดินไปตักน้ำแข็งเปล่าเอาเอง

“เขียนรูปกันได้กี่รูปแล้ว” ไอ้โภชน์ถามกึ่งชวนคุย

“ก็ไม่เยอะหรอก อาจารย์เขาเอาอย่างน้อยสีน้ำ10สีน้ำมัน3นี่นา”

“แล้วไข่ล่ะ” โหย เกือบสะดุ้ง เมริงทักกรูด้วยเหรอ เห็นเมริงเหม็นหน้ากรูนี่หว่า
“ก็เพิ่งได้3รูป” ตอบมันไป

“ก็เยอะนี่ ให้ใครช่วยทำเปล่า” อ้าวเสือกหาว่ากรูไม่ทำเองอีก

“ไอ้ไข่มันทำเองดิ มันเพ้นส์ก็เพ้นส์เก่งนี่” ได้ไอ้โอลีฟมาช่วย

“แล้วแกได้กี่รูปแล้วล่ะ โภชน์ แกก็เพ้นส์สวยนี่” ไอ้แชมพูคนประนีประนอม

“....” มันไม่ตอบซะงั้น แต่ก็แนะนำว่าถ้าเดินต่อไปอีกหน่อยจะมีเรือเล็กของชาวบ้านจอดอยู่เยอะแยะ อยากวาดแบบมีเรือก็เดินไปได้

โอลีฟเลยซักถามมันว่าเดินไปดูรอบๆไกลถึงไหน

ฟ้าใสเลยคุยแต่กับไอ้แชมพู

สักพัก ก็เห็นไอ้เติ้ลกับผิงผิง ไอ้มอส ไอ้ชาร์บ เดินกันมา แต่ไกล ฟ้าใสก็มองหน้าแชมพู

แชมพูมันก็พยักหน้าให้ ฟ้าใสถอนหายใจ

“เฮ้อ.....”

“เมริงก็ไม่ลองพูดดู”

“เออ ก็ดูอยู่ว่ะ แต่ไอ้ผิงผิงก็ไม่ค่อยยอมว่ะ”

“เฮ้อ...กรูโชคดีนะที่กรูสวยที่สุดในโลก 55 โลกส่วนตัวของกรู เลยไม่มีใครเห็น ไม่มีใครมาจีบกรู”

“55 เมริงก็...แล้วนี่ ถ้ากรูคุยไปแล้วจะเป็นไงว่ะ จะอกหักหรือแอบรักข้างเดียว มันก็เจ็บหนักเหมือนกันล่ะว่ะ” ฟ้าใสพูด
แล้วเหลือบเห็นไอ้โภชน์มันมองหน้าเขา เมริงจะคุยกับไอ้ลีฟก็คุยกันไปสิ มาเสือกอะไร ปัญหาหัวใจของเพื่อนกรู
อุตส่าห์คุยกันเบาๆกับไอ้แชมพูแล้ว

“เมริงก็รีบหาโอกาสคุย คาราคาซังอย่างงี้ เพื่อนฝูงเสียบรรยากาศกินเหล้าว่ะ”

“เออ เออ” ฟ้าใสรับปาก

“เพราะเมริงก็สนิทกับมันที่สุด”

“เออ น่าๆ” ฟ้าใสพยักหงึกๆ



ตอนกินข้าวเย็นกันในโรงอาหาร ไอ้โภชน์ชวนไอ้คุณอ๋องมานั่งกินที่โต๊ะเดียวกับฟ้าใส

“โต๊ะนี้มีคนแกะปลาให้กินดีจังนะ” ไอ้โภชน์เอ่ยขึ้นลอยๆ

โอลีฟอุตส่าห์ไปแย่งปลาทูมาไว้หลายตัวทั้งที่เขาให้คนละตัวเพราะรู้ว่ากับข้าวอื่นฟ้าใสกินไม่ได้

“แกจะเอาไหมล่ะ ชั้นแกะให้ก็ได้555” โอลีฟมันเซอร์วิสเป็นเลิศอยู่แล้ว

“อ่ะ เอาไปดิ” ว่าแล้วโอลีฟมันก็วางปลาทูครึ่งซีกไปให้ไอ้โภชน์

“มาแย่งปลาของไอ้ไข่เขาหรือเปล่า” มันทำท่าจะตักคืนมาใส่จานฟ้าใส

ฟ้าใสรีบยกจานหนี นึกในใจ อย่าเอามาใส่จานกรู เปื้อนช้อนเมริงแล้วกรูไม่กินหรอก

มันมองหน้าแล้วยิ้ม ดูตามันแล้วไม่เห็นมันจะยิ้มไปกับปากมันเลย แล้วมันก็คุยกับโอลีฟว่าสมัยอยู่หมู่บ้านก็เคยกินข้าวกันบ่อยๆ
บ่อยห่านอะไร ก็ไม่กี่ครั้งซะหน่อย  ถ้ากินก็กินกับคุณคิดส์ต่างหาก ก็มันอยากทำหน้าหงิกใส่ตรูทำไม ไม่อยากคบก็ไม่ต้องคบ

“อื้อ คุณคิดส์เป็นอย่างไงบ้าง” พอนึกถึงก็คิดถึง

“แหมนึกว่าจะไม่ถาม” ไอ้โภชน์แขวะ

“เฮ้ย ก็ต้องถามดิ คิดถึงอยู่เหมือนกัน”

“เออ นั่นสิ เป็นไงมั่งแล้ว ยังติดต่อกันอยู่ใช่เปล่า” แชมพูถามไถ่มั่ง แชมพูมันก็ชอบงานคุณคิดส์บอกแปลกดี

“ไปเติมข้าวก่อน อาหารอร่อยน่ากินดี” ไอ้โภชน์พูด ไม่ตอบที่ไอ้แชมพูถาม แล้วยังมองหน้าฟ้าใสแปลกๆ

ไอ้คุณอ๋องก็เปลี่ยนเรื่องไปพูดเรื่องดินฟ้าอากาศชวนผิงผิงคุย ส่วนไอ้เติ้ลหนีไปนั่งโต๊ะกับไอ้แจงซึ่งอยู่ห้องไอ้โภชน์น่ะ
นัดแนะกันตั้งวง



หลังจากกินข้าวกันเสร็จ อาจารย์ก็ให้มารวมกลุ่มแล้วก็ติชมวิจารณ์แนะนำงาน จากนั้นก็ปล่อยเป็นอิสระ
เรื่องตั้งวงกินเหล้าก็เป็นเรื่องปกติ อาจารย์เขาก็ขอแค่ว่าอย่าเสียงดัง



3ทุ่มกว่าแล้ว

ผิงผิงก็ดื่มไปหลายแก้ว ก็ทำไมจะไม่ให้ดื่มล่ะ ก็ไอ้มอสมันนั่งประกบไอ้เติ้ลคอยเอาใจต่อให้ไอ้เติ้ลรำคราญ
หนีไปนั่งตรงไหนมันก็คอยหาโอกาสเสียบนั่งข้างทุกที แถมตัวเองก็มีไอ้ชาร์บคอยตื้อนั่งดูแล แล้วผิงผิงก็หงุดหงิด

“เมริง” ไอ้แชมพูเอาศอกสะกิดฟ้าใส

“เฮ้ย..กินกินเข้าไปเหอะกรูก็ปวดหัวกับพวกมันเหมือนกัน” ผมก็กระซิบกระซาบ

โอลีฟก็เดินชนแก้วกับกลุ่มโน้นกลุ่มนี้ ชงเหล้าให้อาจารย์อีกต่างหาก
.
.
.
.
เวลาผ่านไป   

ผิงผิงก็ลุกจะไปเข้าห้องน้ำมองหน้าชวนพี่จ๋าไอ้แชมพู ไอ้ชาร์บเสนอจะไปเป็นเพื่อน ผิงผิงก็ตาเขียวใส่มัน

“ไอ้ไข่มันปวดฉี่พอดีไปกับมันแล้วกัน” ไอ้แชมพู  มองหน้าฟ้าใส เมริงจัดโอกาสมาให้กรูแล้วใช่ไหม ไอ้พู
แล้วไอ้แชมพู  ก็บอกผิงผิง
ฟ้าใสเลยบอกจะไปเหมือนกัน เลยเดินมาด้วย

พอเสร็จธุระ ผิงผิงเดินออกมาฟ้าใสเลยบอกขอคุยด้วย

ผิงผิงมองหน้า ก็คงรู้ตัวว่าฟ้าใสจะคุยอะไรก็พยักหน้าเดินจูงมือกันไปที่ชายหาด

“ผิงผิงก็รู้ว่าเรารักผิงผิงที่สุดในบรรดาเพื่อนกัน” ฟ้าใสก็เริ่ม

ผิงผิงได้แต่ก้มหน้า ฟ้าใสมองเพื่อนที่เขารัก เมื่อก่อนผิงผิงสมาร์ท ตัวสูงท่าทางมั่นใจ คอนโทน ตัวเองได้ตลอดผิดกับ
ฟ้าใสที่ปล่อยตัวเองเรื่อยเปื่อย ทำตามใจ ตามอารมณ์ เขาถึงได้ชอบผิงผิงนัก

ความรักทำให้คนเจ็บปวด ขนาดเขาเป็นเพื่อนยังพลอยรู้สึกไปด้วย

ฟ้าใสเดินคุยกันไป คงไกลพอสมควรเลยแหล่ะ เลยที่เรามาเพ้นส์กันเมื่อเช้าอีก เรานั่งลง คุยกัน นานมาก
ร้องไห้กันทั้งคู่ สงสัยผมจะร้องไห้ก่อน ก็คนมันต่อมน้ำตาตื้นนี่นา ผิงผิงจะไม่ยอมตัดใจ

“เราจะได้อะไร แกก็รู้”

“ใช่ถึงไอ้ชาร์บมันมีข้อเสีย แต่มันรักแกนะผิงผิง ไอ้มอสมันก็ตามตื้อไอ้เติ้ลมาตั้งแต่ปี2จนปี4 แล้วมันไม่เคยมองแกเลย

เราก็เจ็บปวดนะที่เห็นผิงผิงเป็นแบบนี้” เดี๋ยวนี้ผิงผิงเล่นตามไประยอง แล้วทำเป็นไปบ้านพี่สาว
เพื่อที่จะแวะหาไอ้มอสที่บ้านมัน แทบทุกอาทิตย์ที่ไอ้มอสมันกลับบ้าน


หลังจากกอดคอร้องไห้กันพักใหญ่

“ไข่ อย่างไงเราก็ต้องขอเวลาคิดล่ะ ฮึก ฮึก ฮึก” ผิงผิงยังสะอื้นอยู่

ฟ้าใสลูบหัวผิงผิง พยักหน้า

“นายกลับไปก่อนเหอะ เราอยากอยู่คนเดียว ขอเรานั่งที่นี่สักพัก”

“งั้นก็ได้ แต่อย่านานนะ แถวนี้มันเปลี่ยวอ่ะ” ฟ้าใสเป็นห่วง ก็เข้าใจว่าผิงผิงคงต้องการที่จะนั่งคิดอะไรจริงจริง

ฟ้าใสเดินห่างออกมาแต่ก็ยังไม่กล้าทิ้งผิงผิงไว้คนเดียว กะว่าจะนั่งคอยสักพัก
ถ้านานอาจจะโทรเรียกไอ้ชาร์บให้เดินมารับผิงผิง เผื่อผิงผิงจะเห็นความดีของมัน

ไอ้เชรี่ยชาร์บนี่ก็ ...ถ้าเมริงเลิกนิสัยขี้อวดทำเป็นยกตนข่มท่านว่าตัวเองเจ๋ง  มันก็จะดูดีกว่านี้เยอะ
แล้วปากหมาๆของมัน นี่ก็อีก...

พรึ่บ!!!

อุ๊บ...สัส....ใครเล่นอะไรว่ะ ไอ้เมย์ หรือ ไอ้ซิว ถ้าไอ้ทีมยังเรียนอยู่ที่นี่ เขาต้องคิดว่าเป็นมัน เพราะพวกมันเคยจับฟ้าใสโยนลงแอ่งน้ำตก

ฟ้าใสดิ้นขลุกขลักจนหันกลับมามองหน้าไอ้คนที่ปิดปากลากเขามาข้างทิวต้นไม้ที่ขึ้นชายหาด

“ไอ้เชรี่ย” ฟ้าใสหันไปจะด่ามันให้เต็มปากแต่พอเห็นหน้า

“ไอ้โภชน์” ฟ้าใสกะจะด่าไอ้โภชน์ที่เล่นอะไรบ้าๆ กะเขา แต่มือใหญ่กลับมาปิดปากเขาไว้อีก สายตาวาววับที่จ้องมองเขาด้วยความแค้นเคือง.


 :serius2:
TBC……

รอกันหน่อยนะครับ แล้วจะมาต่อให้สมกับที่รอ

กลิ่นNC.มาอีกแล้ว
เครียดอ่ะ ผ่านไปเลยได้ไหม
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4((((ต่อ)))) (7/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 07-09-2012 18:19:18
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ไอคุณโภชน์จะข่มขืนน้องไขแล้วววววววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4((((ต่อ)))) (7/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: nine_molly ที่ 07-09-2012 22:38:53
 :pig4:
รออ่านต่อ คร่า

 :mc4:
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4((((ต่อ)))) (7/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 08-09-2012 01:03:14
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน
เรื่องราวสนุกชวนติดตาม
แน่นอนว่าต้องรอตามอ่านต่อๆไปจ้ะ
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4((((ต่อ)))) (7/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 08-09-2012 13:06:57
นู๋ไขจะโดนทำอะไร
ล่ะเนี่ยลุ้นๆๆๆๆๆ :z3:
คิดถึงพี่โม่งอ่าาาาาา :L1:
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4((((ต่อ)))) (7/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 09-09-2012 01:29:20
 :o12: :o12: :o12: :o12:

มาต่อไว้ๆๆนะ
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4(มาต่อแล้วฮะ) (9/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 09-09-2012 02:59:39
(ต่อ)

พรึ่บ!!!
อุ๊บ...สัส....ใครเล่นอะไรว่ะ ไอ้เมย์ หรือ ไอ้ซิว ถ้าไอ้ทีมยังเรียนอยู่ที่นี่ เขาต้องคิดว่าเป็นมัน
 เพราะพวกมันเคยจับฟ้าใสโยนลงแอ่งน้ำตก

ฟ้าใสดิ้นขลุกขลักจนหันกลับมามองหน้าไอ้คนที่ปิดปากลากเขามาข้างทิวต้นไม้ที่ขึ้นชายหาด

“ไอ้เชรี่ย” ฟ้าใสหันไปจะด่ามันให้เต็มปากแต่พอเห็นหน้า

“ไอ้โภชน์” ฟ้าใสกะจะด่าไอ้โภชน์ที่เล่นอะไรบ้าๆ กะเขา แต่มือใหญ่กลับมาปิดปากเขาไว้อีก
 สายตาวาววับที่จ้องมองเขาด้วยความแค้นเคือง.



“ใช่แล้ว” โภชน์ หัวเราะ ฟ้าใสเริ่มตัวสั่นด้วยความกลัว

ทำไม ทำไมมันต้องมาทำอะไรแปลกกับเขา

ไอ้โภชน์รวบตัว ปิดปากฟ้าใสลากมาที่ข้างทิวต้นไม้ริมชายหาด กดให้ฟ้าใสนั่งลงบนตักมัน

ฟ้าใสพยายามใช้สองมืองัดมือที่ปิดปากออกก็โดนรวบกอดจากด้านหลัง จนสองแขนกระดุกกระดิกไม่ได้
ริมฝีหนา กระซิบข้างหูด้วยเสียงแหบห้าวด้วยฤทธิ์เหล้าที่ดื่มเข้าไป ความคิดที่คุกรุ่นด้วยโกรธเคือง

โภชน์คิดว่า วันนี้เขาจะลงโทษคนที่ทำผิด ร่างเล็กๆบางๆนี่แหล่ะ

“แอบออกมาพลอดรักกับเพื่อนสาว หรือว่าจะมาหักอกใครเขาอีกล่ะ นายนี่มันร้ายจริงๆ” โภชน์แสยะยิ้มเยาะเย้ย

“คืนนี้แหล่ะ ฉันจะช่วยทำให้นายมีความสุขมากขึ้นไปอีกยังไงล่ะ จะเอาให้นายมีความสุข
จนไม่ต้องไปหลอกลวงใครเขาอีกดีไหม”

ฟ้าใสทั้งดิ้นทั้งถีบ

หึ ตัวแค่นี้ คิดจะมาต่อต้านเขาเหรอ

โภชน์ออกแรงดึงแค่ครั้งเดียวก็รูดเอากางเกงฟ้าใสหลุดมาที่เหนือเข่าอย่างง่ายดาย
กางเกงในยืดขาสั้นรัดรุปช่วยให้ร่างกายเขาไม่เปลือยเปล่า

ฟ้าใสรับรุ้ถึงอารมณ์ดิบที่ตื่นตัวอยู่เบื้องหลังเขา
ฟ้าใสพยายามดิ้นรน แค่ขาที่แข็งแกร่งของไอ้โภชน์ข้างเดียวก็สามารถกดล็อคขาสองข้างของเขาจนขยับไม่ได้

ริมฝีปากหนาประกบครอบกลีบปากอิ่มสีแดงสด
มือใหญ่ซอกซอนเคล้นคลึงเม็ดยอดอกจนเป็นติ่งแข็ง

เรียวลิ้นใหญ่ไล่กวาดต้อนลิ้นเล็กราวพญาเสือโคร่งไล่ต้อนกระต่ายน้อย
รสจูบจากคนที่มากประสบการณ์ เนิ่นนานจนชักพาให้อารมณ์กระเจิดกระเจง

ไม่มีทางที่ฟ้าใสจะปฎิเสธได้

ฝ่ามือหนาลูบสัมผัสลากผ่านหน้าท้องไล้สะโพกมน สอดมือเลื่อนกางเกงในของคนตัวเล็กออกด้วยสีหน้ากระหยิ่ม
มือใหญ่กอบกำอวัยวะด้านหน้าไว้ ลูบไล้ส่วนปลายหัวฟ้าใสถูกหยอกเย้า จนสมองแทบละลาย

โภชน์ทรมานเขามากขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนปลายนั้นฉ่ำเยิ้ม โภชน์เร่งจังหวะขยับมือ ฟ้าใสหอบหายใจถี่กระชั้น

"อา.. อ๊ะ.. อ๊ะ.. อา..." อึดอัดจนแน่นไปทั้งหน้าอก  เสียงครางเปล่งออกมาเป็นช่วงๆ
ของเหลวขาวข้นถูกปล่อยมามากมาย จนกระเด็นไปถึงปลายคางมนของเจ้าตัว

“หึ รสชาติดีนี่” โภชน์พูดขณะใช้ลิ้นเลียที่ปลายมือ หรี่ตามองดูฟ้าใสพร้อมรอยยิ้มหยัน
แล้วใช้มือป้ายของเหลวทาวนที่รอยจีบด้านหลัง ช่องเล็กทางหลังนั้นปิดแน่นสนิท

โภชน์ส่งนิ้วเข้าไปเบิกทาง หัวเราะกับการที่ฟ้าใสตอบสนองเขา เมื่อเริ่มต้นบรรเลงท่วงทำนองความเกษมสันต์อีกครั้ง
มือแกร่งเร่งรูดอวัยวะกลางหว่างขาฟ้าใสอย่างเร่าร้อน

ภายในอุ่นนุ่มตอดรัดนิ้วของเขา แค่นี้ก็พอแล้ว โภชน์ยกสะโพกร่างบางขึ้นกระแทกดันแก่นกายของตัวเองเข้ารอยจีบด้านหลัง
ทันที ช่องจีบที่แน่นฟิต ทำเอาโภชน์เกือบต้องปลดปล่อยในทันที ได้แต่พยายามอดกลั้น

น้ำหนักร่างบางที่แทบจะไร้สติจนไม่มีแรงทรงกายกดถ่วงตัวลงจนแก่นกายของเขาเข้าไปเข้างในจนมิด

ทั้งถูกลิ้นอุ่นเลียไล้ติ่งหูนิ่ม ทั้งโดนกระตุ้นจากด้านหน้า พอโดนเสียบด้านหลังอีก ฟ้าใสร้องครางเสียงสั่น
เสียวซ่านจนปลดปล่อยของเหลวสีขาวข้น

ช่องด้านในตอดรัดกระตุกบีบตัว รับอารมณ์ที่ปลดปล่อย โภชน์ถึงกับทนไม่ไหวต้องระเบิดน้ำรักของตัวเองบ้าง
 ทั้งที่เพิ่งใส่เข้าได้ไม่กี่นาที

ของเหลวอุ่นร้อนฉีดซ่านในตัวฟ้าใส แต่โภชน์ก็ยังไม่พอ ยังไม่ทันทีที่โภชน์น้อยจนอ่อนตัวได้เท่าไหร่ เขาขยับแอ่นกาย
เสียดสีโพรงอุ่นนุ่มจนอาวุธของเขาลุกแข็งแล้วขยับสะโพกกระแทกซ้ำแล้วซ้ำเล่า

โภชน์หัวเราะ โอบกอดร่างบางจากด้านหลัง ฟันคมขบเม้มที่ติ่งหู  เรียวลิ้นร้อนไล่ไล้ลำคอระหงขาวเนียน
มือใหญ่ลูบลากไล้ที่ปลายของฟ้าใสน้อย ฝ่ามือหนากอบคลึงลูกบอลเล็ก ทั้งที่ฟ้าใสเพิ่งถึงจุดสุดยอดไปแล้ว
เมื่อภายในโดนกระตุ้นเสียดสี ฟ้าใสน้อยเริ่มชูชันตั้งแข็งขึ้นอีก
ปลายนิ้วที่พยายามบดขยี้ส่วนปลายรูดคลึงจนของเหลวไหลซึมเยิ้ม

“เปียกอีกแล้ว นี่เมริงคงรู้สึกดีมากล่ะสิ เดี๋ยวจัดให้”

ความเจ็บปวดที่ระคนด้วยความสุขสม

“นี่ไงกรูจะให้ความสุขเมริงให้เต็มที่ จะได้ไม่ต้องไปหาความสุขจากการทำร้ายคนอื่นอีก”



ฟ้าใสหมดสติไปทั้งๆที่โภชน์ยังอยู่ในร่างกายเขา

"นี่เป็นการตอบแทนสำหรับคนที่ทำให้เพื่อนของกรู ต้องมาจบอนาคตกับอิคนที่ไม่เห็นจะคู่ควรกับเพื่อนกรูเลย
และยังจะทำให้กรูก็ต้องสูญเสียคนที่กรูรักไปด้วย"
.
.
.
.
.
“ไข่ ...” คนตัวใหญ่เรียก เอื้อมมือไปตบหน้าร่างเล็กที่นอนอ่อนระทวยเบาๆ

ใช่แล้วฟ้าใสหมดสติไปทั้งๆที่โภชน์ยังอยู่ในร่างกายเขา

ฟ้าใสขยับตัว แค่เล็กน้อยก็รู้สึกปวดระบม

แสงแดดยามบ่ายนอกหน้าต่าง ทำให้เขาต้องกระพริบตาปรับสายตา


วินาทีที่เห็นคนตรงหน้า ฟ้าใสสาดสายตาแห่งความเกลียดชังใส่มันทันที

ทั้งโกรธทั้งเกลียดจนต้องเบือนหน้าหนี ก็จะขยับหนีได้ที่ไหนล่ะ ก็มันนั่งข้างเขาที่บนเตียง แขนข้างหนึ่งก็เท้าคร่อมร่างเขาอยู่

“กรูโทรคุยกับไอ้คิดส์แล้ว” โภชน์ พยายามพูดกับฟ้าใสด้วยท่าทีสำนึกผิด

“กรูบอกเรื่องทุกอย่างกับมันแล้วด้วย”สายตาบอกความรู้สึกผิด

“ไอ้คิดส์บอกว่าเรื่องของมันไม่ใช่ความผิดของเมริง”

“กรูผิดเองที่เอาทุกอย่างโยนใส่เมริง”

ฟ้าใสแอบชำเลืองมองด้วยหางตา คนตัวโตที่นั่งรำพึงรำพรรณบนเตียงของเขา

“กรูจะรับผิดชอบเมริงเอง”

“ไม่ต้อง” ฟ้าใสตวาดเสียงแหบแห้ง

หึ..ไม่..เขาไม่ต้องการมัน ฟ้าใสพ่นลมหายใจด้วยความไม่พอใจ  ยิ่งเมื่อคิดถึงเรื่องที่ถูกล่วงเกิน
ขอเพียงมันอย่ามายุ่งกับเขาก็พอ ไม่ต้องมาชดใช้อะไรทั้งสิ้น

“อ่า…นี่น้ำ เมริงกินซะหน่อยเถอะ” โภชน์ขยับจะประคองฟ้าใสให้ลุกขึ้น

ฟ้าใสขยับตัวเบี่ยงไม่อยากให้มันถูกตัว จะปฏิเสธ ลำคอก็แห้งผาก จึงขยับด้วยตัวเอง ถึงกับร้องด้วยความเจ็บ

“โอ๊ะ..อุ๊...โอ๊ย...” ที่พบว่าท่อนล่างนั้นระบมเจ็บแสบไปหมด

ถ้าเขาทำให้มันรู้สึกเจ็บปวด ทำให้เพื่อนมันเจ็บปวด ต่างฝ่ายต่างตอบแทนกันสาสมแล้วนี่ใช่ไหม

เขายอมปล่อยให้โภชน์พยุงศีรษะขึ้นจิบน้ำ

แล้วผิงผิงล่ะ เมื่อคืนผิงผิงกลับอย่างไง เดินกลับคนเดียว หรือมีใครมาตามหาหรือเปล่า

“ผิงผิงล่ะ” ฟ้าใสกลั้นใจถาม ไอ้คนที่เขาเกลียดมัน

อีกฝ่ายดูจะดีใจที่เขาพูดด้วย

“เมื่อคืน ผิงผิง เดินกลับไปแล้ว ไอ้ชาร์บเดินมาตามหา เลยเดินกลับด้วยกัน”

ฟ้าใสพยักหน้าอย่างพอใจเมื่อได้คำตอบที่ทำให้เขาคลายความกังวล
โภชน์ลูบริมฝีปากที่เจ่อบวมแดงเบาๆ

“เจ็บหรือเปล่า”

สัส เมริงยังมีหน้ามาถามอีกเหรอ เมื่อคืนที่เขาทั้งผลักทั้งดันมัน มันมีแต่ออกแรงถาโถมเข้าใส่เขาซ้ำ มากขึ้น มากขึ้น

“อ่ะ กรูให้เมริงแก้แค้นกรูก็ได้” โภชน์รีบพูด เมื่อเห็นดวงตาคู่สวยฉายแววโกรธแค้นเขา

“เด๋วกรูจะแก้ผ้าให้เมริงซั่มกรูตามใจชอบเลย ตอนนี้ บ่ายกว่าแล้ว อาจารย์พาทุกคนออกไปวาดรูปกันที่เกาะ เย็นนี้ถึงจะกลับ”

โภชน์พูดพลางทำท่าจะถอดกางเกง



TBC....


(ต่อ)ตอนนี้ รีบมาลงให้ก่อนนะครับ ยังไม่เต็ม100%
แล้วจะรีบปั่นต่อ
เม้นท์ว่าให้ไว เลยรีบทำตาม  :a5:  o22
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4(มาต่อแล้วฮะ) (9/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 09-09-2012 04:44:31
วิ่งเข้ามาบวกให้พร้อมโวยวาย :serius2:
โภชน์ทำงี้ได้ไง น้องไขเค้ามีพี่โม่งแล้วหรอก ชิส์
(แล้วว่าแต่พี่โม่งเงียบไปเลย ได้ติดต่อน้องมั่งป่ะเนี่ย <<คนอ่านชักพาล)
แล้วคือตกลงคุณคิดส์ไปลงเอยกับ(...?...)แชทหรอ โภชน์ถึงได้คลั่งเนี่ย
อืมม...รอตอนต่อไปค่ะ :z3:
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4(มาต่อแล้วฮะ) (9/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 09-09-2012 09:53:48
ย้ากกกกกกกกกกกกกส์
น้องไขของฉานนนนนนนนน
ไอ้โภชน์แกทำแบบนี้ทำไม
เลวววววมากกกกกก :fire:
พี่โม่งงงงงงงงอยู่หนายยยยยยย
รีบกลับมาด่วนน้องไขแย่แล้วววววววว
คนเขียนทำแบบนี้ใจร้ายเกินไปแล้ว
พี่โม่งยังไม่ได้แอ้มเลยโดนตัดหน้าเฉย
ยอมไม่ได้เด็ดขาดรีบกลับมาแถลงไขด่วน
ไม่งั้นเราจะงอลลลลลลลล :laugh:

บวก&บวกจ้า
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4(มาต่อแล้วฮะ) (9/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 09-09-2012 12:06:59
ไอ้โภชน์ :fire:
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4(มาต่อแล้วฮะ) (9/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 09-09-2012 12:14:05
ย้ากกกกกกกกกกกกกส์
น้องไขของฉานนนนนนนนน
ไอ้โภชน์แกทำแบบนี้ทำไม
เลวววววมากกกกกก :fire:
พี่โม่งงงงงงงงอยู่หนายยยยยยย
รีบกลับมาด่วนน้องไขแย่แล้วววววววว
คนเขียนทำแบบนี้ใจร้ายเกินไปแล้ว
พี่โม่งยังไม่ได้แอ้มเลยโดนตัดหน้าเฉย
ยอมไม่ได้เด็ดขาดรีบกลับมาแถลงไขด่วน
ไม่งั้นเราจะงอลลลลลลลล :laugh:

บวก&บวกจ้า


พี่โม่งอะแอ้มน้องไขไปแล้วอ่ะ ตอนไปสัตหีบ ใน ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.1 CH.8 Ending
คนเขียน บ่ ใจร้าย หรอก

ไอ้คุณโภชน์เค้าก็เป็นคู่กรรมกันมา น้องไขทำบุญไว้เยอะอ่ะฮะ
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4(มาต่อแล้วฮะ) (9/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 09-09-2012 20:13:13
น่าสงสารนู๋ไข กลายเป็นวันทองโดยไม่เต็มใจ กระซิก กระซิก

แล้วจะเป็นไงต่อไปล่ะทีนี้
พี่โม่งก็เป็นเจ้าของคนแรก(แถมรักกันอีกตะหาก)
ไอเลวโภชน์ก็.....ไปแล้ว(แม้จะเข้าข่ายปล้ำก็เถอะ)

เฮ้ออออออออออออออออ
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4(มาต่อแล้วฮะ) (9/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: nine_molly ที่ 10-09-2012 09:55:00
 :m31:
รอ ๆ จ้า
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4((ต่อครบ100%)) (10/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 10-09-2012 12:46:37
(ต่อ จบ CH.4)

“อ่ะ กรูให้เมริงแก้แค้นกรูก็ได้” โภชน์รีบพูด เมื่อเห็นดวงตาคู่สวยฉายแววโกรธแค้นเขา

“เดี๋ยวกรูจะแก้ผ้าให้เมริงซั่มกรูตามใจชอบเลย ตอนนี้ บ่ายกว่าแล้ว อาจารย์พาทุกคนออกไปวาดรูปกันที่เกาะ เย็นนี้ถึงจะกลับ”

โภชน์พูดพลางทำท่าจะถอดกางเกง

“ไม่ต้อง” ฟ้าใสรีบตวัดเสียงห้าม หน้าแดงกร่ำ ทั้งโกรธทั้งโมโห ทั้งอาย
เชรี่ยฟังมันพูด ใครจะไปเอามัน เค้าเห็นมันแอบยิ้ม
มันจะให้เขาจูบปากมันบดขยี้ริมฝีปากมันน่ะเหรอ
มันเอาส้นเท้าคิดหรือไง
เขารู้สาเหตุที่มันโมโหเขาเคืองแค้นเขา มันก็คงเหมือนกับที่เขารักเพื่อนเจ็บปวดไปกับผิงผิง

“เอาอย่างงี้...” โภชน์พูดแล้วทำเป็นเว้นระยะ มองหน้าฟ้าใส

“เหอะ จะพูดก็พูด จะเอาอะไรอย่างไง” ฟ้าใสทำหน้าบึ้ง คิ้วขมวด นึกอยากถีบคนตรงหน้า แต่ก็ทำไม่ได้ แค่ยกขา
ก็ร้าวไปทั้งหน้าขาและด้านหลัง

“ให้กรูเป็นเมียมริง” โภชน์เอ่ยออกมาเสียงเรียบๆเหมือนประกาศผลฉลากกินแบ่งรัฐบาล

ฟ้าใสตาโตลุกวาว ปากอิ่มแดงจัดที่เจ่อบวม อ้าค้าง หมายความว่าเขาต้องเอามันเหรอ เขาจะไปเอามันลงได้ไง

“กรูไม่ได้อยากเอาเมริง” ฟ้าใสหน้าบึ้งมากขึ้นอีกปากเม้มจ้องหน้ามัน แต่ก็แอบมองรูปร่างมัน ไอ้โภชน์มันเองก็รูปร่างสมส่วนผู้ชายเต็มตัว แขนที่มีมัดกล้ามแข็งแรง ใช่สิมือมันยังกะคีมเหล็ก จับเขาทีไม่มีทางง้างออกได้เลย
ถึงลำตัวจะผอมบางกว่าคุณคิดส์ แต่ก็มีซิกแพคเป็นลอนสวยเชียว ไม่มีส่วนที่เป็นไขมันอยู่เลย
ก้นกลมแกร่งของมันที่เพียรจะถอดโชว์เขาอีก ไอ้เลว ไอ้ชั่ว ใครจะไปอยากแตะต้อง อยากเข้าไปข้างในของมันกัน

“งั้นก็แบบนี้ก็ได้” โภชน์พูดออกมาเมื่อเห็นฟ้าใสปฏิเสธพร้อมมองสำรวจเขาหัวจรดเท้า

“เมริงก็ทำให้กรูเป็นเมียเมริงโดยที่...” ไอ้โภชน์ขยับปลดกระดุมกางเกงตัวเอง

“เฮ้ย!!!! เมริงจะทำอะไร” ฟ้าใสรีบร้องห้ามลุกพรวด ชี้หน้าโภชน์
แต่ก็ต้องทำหน้าเหยเก ด้วยความเจ็บ

“โอ๊ย...”

“เฮ้ย!!! เมริงเป็นไรหรือเปล่า” โภชน์ชะงักมือรีบมาจับตัวฟ้าใส

“ช่างกรู...แล้วนี่เมริงจะทำอะไร” ฟ้าใสปัดมือโภชน์ที่จับตัวเขาอยู่

“สัส..สิ อะไรว่ะ นี่ของเก่าคดีเมริงยังไม่ชำระเมริงจะเพิ่มยอดอีกเหรอ” ฟ้าใสพูดไป โมโหไป เพราะเห็นไอ้โภชน์มันทำท่าจะถอดกางเกงอีกแล้ว พาให้เขาเสียวแว๊บถึงเมื่อคืน

“เอะอะ เมริงก็คิดแต่จะแก้ผ้าถอดกางเกง เมริงเป็นพวกโรคจิตชอบโชว์ของหรือไง” ฟ้าใสชี้หน้าด่าไอ้โภชน์

“ไม่ใช่ คืออย่างงี้ เมริงฟังกรู แค่เมริงทำกรูน้ำแตก ก็จะถือว่ากรูเป็นเมียเมริง เพราะเมริงเป็นคนทำกรู” โภชน์อธิบาย พร้อมจับมือฟ้าใสที่ชี้หน้าตัวเอง พลางนั่งลงข้างตัวคนร่างเล็กที่นั่งเอนตัวพิงผนังห้อง

โภชน์เอื้อมมือดึงหมอนรองข้างหลังให้ฟ้าใส อยู่ใกล้กันจนฟ้าใสได้กลิ่นบุหรี่รสเข้มผสานกลิ่นกายสะอาด
มือมันก็ยังจับมือเขาอยู่ไม่ยอมปล่อย

“เออ..กรูไม่ชี้หน้าเมริงแล้ว ปล่อยมือกรูได้แล้ว” เขารู้ว่าต่อให้เขาสะบัดมือมัน ถ้ามันคิดจะจับสะบัดไปก็ไม่หลุดอยู่ดี
โภชน์ยิ้ม ยอมปล่อยมือแต่โดยดี แล้วอธิบายต่อ

“เนี่ย..จะเป็นการหยามศักดิ์ศรีมากนะเมริง กรูยอมให้เมริงคนเดียว”โภชน์พูดเสียงอ่อยๆ หน้าเศร้าหมอง

“แล้วก็เหมือนอย่างที่กรูทำกับเมริงไง แต่ในเมื่อเมริงก็ไม่ได้ต้องการเอากรู กรูมันไม่มีค่าพอ กรูมันน่ารังเกียจ
ตาต่อตา ฟันต่อฟัน กรูทำเมริง เมริงก็ควรทำกรูกลับ” โภชน์พูดอย่างเป็นการเป็นงาน น้ำเสียงเคร่งเครียดกึ่งน้อยเนื้อต่ำใจ

ฟ้าใสนิ่งคิด แล้วจึงถามย้ำ เขาฟังไม่ผิดใช่ไหม

“หมายความว่า เมริงจะให้กรูแก้แค้นตอบแทนที่เมริงทำกับกรู โดยการที่เมริงจะยอมให้กรูทำเมริงกลับใช่ไหม”
 ฟ้าใสพยายามเรียบเรียงความเข้าใจให้ชัดเจนที่สุด

“ใช่” โภชน์พยักหน้าหงึกๆ

“โดยที่....”ฟ้าใสกระดากจนไม่กล้าพูดต่อ

โภชน์มองสบตาฟ้าใส เมื่อเห็นเหยื่อ กระต่ายน้อย เอ๊ยฟ้าใสไม่ยอมเอ่ยปากพูดต่อ

“ใช่...เมริงทำกับกรูเหมือนอย่างที่เมริงโดน ในเมื่อเมริงไม่อยากเอากรู เมริงก็แค่ทำให้กรูน้ำแตก 5หรือ6ครั้งน่ะ
เหมือนเมริง เมื่อคืนนี้”

โภชน์ย้ำ เพราะอยากจะให้ฟ้าใสรู้สึกอยากแก้แค้นเขามากๆ

ยิ่งไอ้โภชน์ตอกย้ำ ฟ้าใสก็นึกขุ่นเคืองใจ                                                                                                                                                                 
เอาไงดี เขาไม่ได้อยากจับของมันสักหน่อย
แต่ถ้าเพื่อได้ตอบโต้มันมั่ง เขาจะทำก็ได้

“กรูทำเมริงแล้ว  กรูต้องรับผิดชอบเมริงหรือเปล่า” ฟ้าใสสบตาคนสำนึกผิดตรงหน้า

“ไม่ต้อง ไม่ต้อง ไม่เป็นไร กรูไม่ท้อง”  โภชน์กลั้นยิ้มแทบอยากโดดลงหน้าต่างไปเสียบพุ่มต้นเข็มตาย


คนร่างเล็กหน้าสวยทำหน้านิ่วลองคิดคำนวณในใจ
งานนี้ เขาน่าจะได้กับได้ นะ ก็ได้แก้แค้นมันกลับบ้าง เรื่องชกต่อยก็ไม่ถนัด บ้านเขาก็ไม่ใช่ค่ายมวย
แค่จะตีหมา คนบ้านเขาแต่ละคนก็ได้แต่เงื้อง่าขู่กับดุมันไปเท่านั้น ให้เตะถีบมัน หุ่นเขากับหุ่นมัน  ก็เห็นๆกันอยู่
เขาทำมันไปคงจะสะเทือนมันหรอกนะ เฮอะ..
แต่ถ้าเขาแก้แค้นมัน อย่างที่มันเสนอ มันก็ต้องอับอาย ก็เขายังอายแสนอายตอนที่โดนมันทำ แหมตอนที่โดนพี่โม่งทำ
 เขาก็อาย แต่เพราะว่ารักพี่โม่ง ชอบพี่โม่งหรอก
แถมยังเรื่องส่งเสียงที่น่าอายออกมาอีก แล้วยังปล่อยน้ำออกมาเปรอะเปื้อนอีก น่าอายสุดๆ
แล้วก็ยังได้ชื่อว่า เป็นผัว ไอ้โภชน์ หัวหน้าห้อง ปี4/2 เชียวนะ ประธาน ปี4 กระดากปากมาก เขาจะดูแมนโคตรๆ
เป็นชายเหนือชาย  ถึงแม้ว่าเขายังไม่ได้ทำเต็มสูตรก็เหอะ
มันก็จะได้ชื่อว่าเป็นเมียเขา เชอะ นี่แหล่ะ เจิ่ดสุด ยืดได้อีก ฟ้าใสกระตุกยิ้ม

“ก็ได้ตกลง ดีล!” ฟ้าใสประกาศ
ไอ้โภชน์ยกมือมาให้ฟ้าใสแปะมือ แล้วทำหน้าทำตาหูตกหางลู่เหมือนไอ้ดอลลี่ตอนโดนเขาดุ

“แต่เมริงต้องรักษาเรื่องนี้เป็นความลับนะ มันเสียศักดิศรีกรูมาก เมริงห้ามไปเล่าไปเล่าให้ใครฟัง”
 โภชน์ตีหน้าเศร้าสลด .ใช่ดิ ขืนมันไปเล่า คนก็รู้ว่ามันถูกเขาหลอก

“ได้ กรูจะไม่พูดไป” ฟ้าใสไม่ใช่พวกคนล้มแล้วกระทืบซ้ำ ถ้ามันสำนึกผิดจริง

“เอ่อ แล้วนี่เมริงหิวข้าวหรือเปล่า กรูสั่งให้แม่ครัวเค้าทำข้าวไว้ให้แล้วนะ” ความจริงเขาก็อยากให้ฟ้าใสแก้แค้นเขาซะเดี๋ยวนี้
แต่ก็จะใจร้ายเกินไป เขาบอกกับเพื่อนฟ้าใสและอาจารย์ว่าฟ้าใสไม่สบาย
และเขาจะอยู่ดูแลเอง  รับปากโอลีฟและเพื่อนที่เพียรสั่งเสียย้ำแล้วย้ำอีกให้ดูแลหาข้าวให้ฟ้าใสกิน
ตั้งแต่เช้าแล้วหลังจากที่ทุกคนไปกันหมด เขาเช็ดตัวทำความสะอาดทุกซอกทุกมุม ป้อนยาให้มันเพราะเหมือนตัวมัน
จะรุมๆ แต่พอทั้งกินยาและโภชน์คอยเช็ดตัว แล้วได้นอนหลับเต็มอิ่ม ฟ้าใสเลยไม่ได้มีไข้ และกลับเป็นปกติ

แค่นั่งเฝ้าฟ้าใสครึ่งวัน โภชน์ก็พอรู้แล้วว่าทำไมเพื่อนเขาถึงชอบคนร่างเล็กนี้ ปากอิ่มแดงได้รูป ยิ่งจ้องก็ยิ่งน่าจูบ
แก้มใสเนียนนุ่มผิวบางจนเห็นเลือดฝาด นิสัยที่เห็นๆผ่านมา เค้าก็ไม่เห็นว่ามันงี่เง่า
นอกจากทำตัวเด็กๆ ปล่อยให้เพื่อนผู้หญิงกลุ่มมันลากไปไหนมาไหน

โกรกกกกกก...
เสียงท้องร้องของคนตรงหน้า เตือนโภชน์

“เอ่อ....งั้นเมริงไปกินข้าวก่อนนะ จะได้มีแรงแก้แค้นกรูไง…ลุกไหวไหม” โภชน์ถามอย่างเป็นห่วงจากใจจริง

จากที่ฟ้าใสรู้สึกเหมือนอ่อนแรง จิตใจท้อถอย พอคิดว่าจะได้ตอบโต้ ฟ้าใสเลยมีแรงฮึด กำลังใจดีขึ้น สีหน้าก็ดูสดใสขึ้น มาดมั่นขึ้น ขยับตัวจะลุกเดิน แต่ความร้าวระบมยังเป็นความจริงที่คงอยู่ ฟ้าใสทำหน้าย่น

“มาให้กรูช่วยให้อุ้มไปห้องน้ำแล้วกัน ไหนไหนอีกแป๊บเดียวกรูก็จะเป็นเมียเมริงแล้ว รับใช้ผัวคงไม่เป็นไร” โภชน์พูดอย่างหน้าตาเฉย

กรี๊ดดดดด   ฟ้าใสก็เริ่มอายๆ

“เมริงก็ไม่ต้องพูดอย่างงั้นก็ได้ กรูเขินอ่ะ”
.
.
.
.
หลังจากที่ไอ้โภชน์ดูแลให้ฟ้าใสทานข้าวทานปลาเสร็จ

เวลาแห่งการชำระหนี้แค้นก็มาถึง

“กรูจะทำเมริงค่อยๆนะ”  ฟ้าใสเองก็สองจิตสองใจ จะทำหรือไม่ทำ ถ้าไม่ทำตอนนี้ก็อาจไม่มีโอกาสได้ทำต่อไป

“ไม่ต้องไอ้ไข่ เมริงแก้แค้นกรูได้เต็มที่ ออกแรงมาเลย เต็มๆจัดหนักๆเลย” เสียงโภชน์แหบพร่าเล็กน้อยด้วยแรงกระสันต์
กลิ่นหอมอ่อนๆของคนตัวเล็ก รสชาติที่ได้ลิ้มลองเมื่อคืน ติดอยู่ในความทรงจำ
โภชน์นั้นแค่นึกก็ตื่นเต้นจนของตัวเองขยายจนเต็มที่  ยิ่งนึกก็ยิ่งตื่นเต้น เลือดกำเดาแทบจะระเบิดออกมา

ฟ้าใสกลืนน้ำลาย ใจคอแป๊วๆอย่างไรพิกล

ไอ้โภชน์ถลกกางเกงลงรูปร่างที่เป็นชายโชว์สัดส่วนอย่างเต็มที่ พวกนักเรียนศิลปะอย่างพวกเขาชินแล้วกับดูรูปร่างคน แต่ไอ้ที่มาอยู่ใกล้ยืนหายใจฟืดฟาด มันก็ระทึกใจอย่างไรชอบกล
ฟ้าใสจดๆจ้องๆจะจับแท่งที่บวมเบ่งตั้งชูชัน ทั้งยาวทั้งใหญ่ พอนึกถึงว่านี่คือสิ่งที่มันยัดเข้าไปในตัวเขาจนเจ็บปวดไปหมด เลยเริ่มเกิดความแค้น จึงเกิดกำลังใจ คว้าหมับเข้าที่กลางลำ

โภชน์หลับตาด้วยความเสียว สีหน้าที่แสดงทำให้ฟ้าใสคิดว่ามันกำลังเจ็บปวด เลยยิ่งฮึกเหิมและเกิดความใจกล้าขึ้นอีก
ซี๊ดด...เสียงที่เปล่งออกจากปากประธานฝ่ายชาย ปี 4 ทำให้ฟ้าใสรู้สึกเหมือนตัวเองยิ่งใหญ่มีอำนาจอยู่ในกำมือ

“แล้ะ..แล้วกรูต้องไงต่อ”เขาถามทำ

“เมริงก็รูดขึ้นรูดลง….” โภชน์บรรจงบอกให้ฟ้าใสทำตามจังหวะที่เขาต้องการ

“โอว...ซี๊ดดดด...”

ทันทีน้ำแห่งความสุขปลดปล่อย ฟ้าใสรีบปล่อยมือทันที เล่นเอาโภชน์รีบบอก

“อย่าเพิ่ง เมริงอย่าเพิ่งรีบปล่อยมือ” โภชน์กัดฟันพูดพลางซี๊ดปากด้วยความเสียวซ่าน

“เมริงก็ทำให้กรู เอ๊ยเมริงก็ลงโทษกรูหลายๆรอบเลย เหมือนเวลาที่อาจารย์เค้าสั่งลงโทษนักเรียนให้วิ่งรอบสนามน่ะ
ใครเค้าให้วิ่งรอบเดียวกันบ้าง” ตาแป๊วแหววของคนตรงหน้า แก้มแดงจนถึงหู บ่งบอกว่าตัวเองกำลังเขินจัด

“เมริงก็ทำกรูหนักๆเลย 10-20ทีก็ได้” โภชน์พูดไปก็นึกอยากฟัดร่างเล็กเต็มแก่ แต่ก็หาเหตุผลไม่ได้ จะจับกินเอาดื้อๆ
ก็เกินไป จะโมเมปล้ำมันแล้วแก้ตัวว่ามันเคยปล้ำเขาตั้งแต่ชาติที่แล้วดีไหมเนี่ย

“ไม่อ่ะ แค่นี้กรูก็รู้สึกไม่ดีแล้ว กรูว่ากรูทำแค่นี้เอาแค่ให้เมริงได้ชื่อว่าโดนกรูทำ”

“ไม่ได้” โภชน์ร้องเสียงหลง

“กรูโดนแค่ครั้งเดียวไม่หลาบจำหรอก เมริงทำโทษกรูอีก ใครเค้าตีนักเรียนแค่ครั้งเดียว น่า 10ทีก็ได้ กรูมันยิ่งไม่ค่อยสำนึก”

“ก็ได้ ถือว่าช่วยไม่ให้เมริงทำผิดกับใครเค้าอีก”

“ได้ได้ กรูจะไม่ไปทำใครแล้ว เมริงรีบทำโทษกรูเหอะ”

ฟ้าใสจัดการลงโทษไอ้โภชน์ไป3ครั้งก็รู้สึกตัวเองใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ปวดท้องน้อย จนคิดไปเองว่าเป็นผลที่ไปทำร้ายไอ้โภชน์จนมันร้องโอดโอย

“กรูพอแล้วนะ เพราะฉะนั้นเอาเป็นว่าเมริงกับกรูหายกัน เมริงก็ห้ามมายุ่งกะกรู”

“อ้าว กรูเป็นเมียเมริงแล้ว เมริงจะทิ้งกรูเลยเหรอ” โภชน์เริ่มทวงความรับผิดชอบเอาดื้อๆ

“เฮ้ย!!! ก็ไหนเมริงบอกว่ากรูไม่ต้องรับผิดชอบเมริงไง” ฟ้าใสเริ่มงงกับคำพูดไอ้โภชน์

“ก็ ... เก็บกรูไว้เป็นเมียเมริงไง...เมริงจะได้ภูมิใจไง” โภชน์พยายามรักษาสายสัมพันธ์

“ไม่ล่ะ ในเมื่อมันจบแล้ว ก็จบกันไป ไม่ต้องมายุ่งกะกรู” ฟ้าใสไม่ชอบคิดมาก
.
.
.
.
หลังจากนั้นฟ้าใสก็ไปเพ้นส์ โดยที่ไอ้โภชน์พยายามเฝ้าดูแล จนพวกไปเกาะกลับมา...


จบ ch.4



 :pig4:
ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่ติดตาม+ตามกันต่อนะครับ
เปิดเทอมใหม่ น้องไข เป๊ะกว่าเก่า
พี่โม่งก็ใกล้กลับแล้ว แต่มารตัวพ่อก็ไม่ยอมปล่อยมือจากน้องไขหรอก
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4((ต่อครบ100%)) (10/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 10-09-2012 13:04:38
น้องน่ารักอะ อย่ารังแกน้องมากจิ สงสารน้อง
เรื่องนี้นารักมากเลย ชอบแต่สงสารน้องอะ โดนรังแกบ่อยเกิ๊น พี่โมงกลับมาเร็วๆนะ
คิดถึงอะ
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4((ต่อครบ100%)) (10/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 10-09-2012 13:08:07
เกรงว่าไอ้โภชน์นี่จะเป็นตัวปัญหาระหว่างน้องไขกะพี่โม่ง
ไอ้โภชน์  :m16: นี่มันเจ้าเล่ห์ว่ะ น้องไขใสๆซื่อๆหรือจะตามมันทัน เสียเปรียบมันทั้งปี
เฮอะ..คนอื่นฉันไม่สน สำหรับน้องไขของฉันต้องเป็นพี่โม่งเท่านั้น
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4((ต่อครบ100%)) (10/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 10-09-2012 13:22:22
ซื่อไปมั้ยลูก
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4((ต่อครบ100%)) (10/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 10-09-2012 15:02:26
 :z3: น้องไขเอ้ยยยยยยยยย ทำไมหนูเป็นยังงี้ล่ะ
โภชน์แกนี่มัน....  ตัวร้ายชัดๆ :m31:
เหมือนๆยังเหลืออีกคนซินะ วิบากกรรมของหนูไขอ่ะ
พี่โม่งกลับมาดูแลน้องด่วนๆเลย อย่าทำให้คนอ่านผิดหวังนะ
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4((ต่อครบ100%)) (10/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 10-09-2012 18:41:17
เซ็งอิโภชน์วะ
เมื่อไรจะออกไป
จากชีวิตน้องไขเนี่ย
รอรอพี่โม่งกลับมา :L2:

อ่าคนเขียนก็อย่าใจร้าย
กับน้องไขนักเลย
สงสารน้องซื่อเกิ๊น :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.4((ต่อครบ100%)) (10/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 10-09-2012 19:18:20
ดูเหมือนโภชเต็มใจให้ลงโทษมากเลยนะ จะหยุดลงโทษก็ไม่ยอมอีก
มีแต่ได้กับได้ เหอๆ
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.5 (10/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 10-09-2012 21:39:10

CH.5


ตั้งแต่ปิดเทอมปี4 ฟ้าใสค่อยสบายใจ

งานทุกชิ้นส่งเสร็จเรียบร้อย งานเพ้นส์เมื่อคราวไปซีสแคป ไอ้โภชน์ไปเอางานของใครมาก็ไม่รู้มาให้เขาจนมีส่งครบ
แม้แต่งานภาพพิมพ์ มันก็เอามายื่นให้บอกให้เอาไปส่ง เพราะมันเห็นชื่อฟ้าใสที่อาจารย์ทวงพวกขาดงาน
จนแปะรายชื่อหราหน้าห้อง แหมอาจารย์ ขาดไปชิ้นเดียวเอง ต้องขึ้นชื่อกันด้วย 

แล้วเรื่องตั้งหลายเรื่องมันจบไปแล้วนี่

วิชา นศท.ก็เรียบร้อย ต่อไปจะไว้ผมยาวให้สะใจ

เรื่องไอ้โภชน์นี่ก็อีก มันก็พยายามป้วนเปี้ยนใกล้ตัวเขาจัง พยายามเนียนคุยกินข้าว มีบ้างที่มันมาดักๆรอเขาบ้าง

หน้ามันก็ยังโหดเหมือนเดิมแม้ว่ามันจะยิ้มบ่อยขึ้น พูดมีมุกตลกกัดไอ้เติ้ลบ้าง จนไอ้เติ้ลไม่ชอบหน้ามัน

แต่ฟ้าใสจะหลบๆเลี่ยงมัน เพื่อนกันมันก็มีอยู่เท่านี้ก็ต้องคบหาพูดจากันไป แต่ไอ้โอลีฟนี่สิ ท่าทางจะชอบพี่ต๊อก
 รุ่นพี่ที่ตกรุ่นเลยมาในกลุ่มไอ้โภชน์ เวลาพัก โอลีฟก็จะจิกคอเสื้อฟ้าใสลากๆเดินไปทักไปคุย

(พักของที่นี่คือนึกอยากจะพักก็หยุดมือ แล้วก็เดินออกไปพักผ่อนตามอัธยาศัยของนักเรียน ใครใคร่กิน กิน
 ใครใคร่นอน นอน ใครใคร่บุหรี่ ก็ไปสูบ)

พอไปคุยกับกลุ่มมันทีไร ฟ้าใสก็ต้องไปนั่งเขี่ยพื้นเล่น คุยไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จะคุยอะไร ไอ้พวกกลุ่มหน้าโหดๆ แก่ๆ
ฟ้าใสไม่ได้ไปยุ่งด้วย พวกมันก็คงไม่ได้อยากคุยกับฟ้าใส เพราเห็นฟ้าใสติ๊งต๊อง คุยเฮฮากับพวกผู้หญิง
 กับชายสวยทั้งหลาย ก็ดูมันกับหน้าฟ้าใสดิ คนละพวกกันเลย มีแต่ไอ้โอลีฟ ที่ชอบสนทนาไปทั่วทุกตัวคน

นี่ถ้าพวกไอ้โภชน์มันไม่อยู่หมู่บ้านเดียวกันมาก่อน ฟ้าใสก็คงไม่ได้คุยกับพวกนี้หรอก

ใครสะกิด ฟ้าใสก็รู้สึกตงิดๆอยู่แล้ว เห็นไอ้โภชน์มันยืนทำงานอยู่ตรงโน้น มองดูอีกทีหายไปแล้ว

แล้วมันแวบมานั่งข้างๆสะกิดเขาทำไม

“อ่ะ ลองฟัง” มันยื่นมือถือพร้อมหูฟังมาให้ ยังดีมันไม่ทำบ้าๆมาชวนนั่งเสียบหูฟังคนละหู

ฟ้าใสมองหน้า ท่าทางมันมาดี
แหมมาดี ฟ้าใสก็ดีตอบ ใครจะไปตั้งแง่ ฟ้าใสก็เป็นคนมีเหตุผล

“เออ..เพราะดี ไม่เคยฟังมาก่อน ของใครอ่ะ” ฟ้าใสถามหลังจากเสียบหู ฟังเพลงที่มันให้ฟัง

“ของกรูเอง อยู่ในเครื่องของกรูเองนี่แหล่ะ” ไอ้ “ตัวกรูเอง” มันตอบ

ฟ้าใสรู้ว่ามันจงใจกวน ก็ฟ้าใสจะถามชื่อนักร้องนี่นา

“งั้นของในมือกรูเองก็เป็นของกรูเองอ่ะดิ” ฟ้าใสก็เบี้ยวมันมั่ง

“ไม่เป็นไรของเมียก็เหมือนของผัว” ไอ้คนหน้าโหดพูดพลางยิ้มแววตาระยิบระยับ ดูดบุหรี่อย่างสบายใจ

อร๊าค!!!!ฉึก ฉึก ฉึก เหมือนมีดมาปักคาอกฟ้าใส

อุตส่าห์ จบจบ ผ่านไปตั้งเป็นเดือนๆ มันยังจะพูดถึงอีก อยากจะเรียกโอลีฟมาถีบมัน

“โอลีฟ” ฟ้าใสตะโกนเรียก “กลับเหอะ” ชวนกลับดื้อๆล่ะว่ะ ไม่กลับ กรูกลับก่อนล่ะนะ

“เออ เออ...” ร่างผอมสูงหันมาพยักหน้าหงึกหงัก รับปาก พลางหันไปบอกลาพวกนั้น
พร้อมกับบอกว่าแล้วจะมาใหม่

เหอะ โอลีฟ ไปชอบคบพวกนี้ได้ไง
สเปคฟ้าใส ต้องขาวๆ แมนๆ อายุมากกว่า หน้าเรียบๆ เด็กเรียนๆ เห็นหน้าก็รู้ว่าท็อปคลาส แบบพี่โม่ง ผิงผิง
 น่ะใช่เลย ไม่ใช่พวกหน้าโหดหน้าเหี้ยม เจอโจร โจรยังเผ่น



ช่วงปิดเทอม เพื่อนๆทั้งกลุ่มฟ้าใสและกลุ่มสาวซ่า นัดกันไปทะเลเป็นกลุ่มใหญ่ เตรียมลั้ลลาเต็มที่

ผู้ชายก็มี ฟ้าใส 555 อย่ามาหัวเราะ ฟ้าใสนับว่าตัวเองเป็นผู้ชายน่า ระดับมีเมียเป็นประธานปี5 ฟ้าใสเลิกแก้แค้นมันแล้ว แม้มันจะมาขอ

ไอ้ซิวก็มา ก็มันเป็นแฟนไอ้ฝ้ายสุดคิคุแอ๊บน่ารัก และแน่นอนไอ้มอสก็ขอตามมาแจมด้วย
 
งวดนี้ ฟ้าใสควรพิจารณาตัวเองตัดขาดจากทะเลดีกว่า จะว่าซวยหรือเปล่าก็ไม่รู้ดิ

ทันทีที่ลงรถบัสพวกเราก็เดินไปที่ท่ารถสองแถวเพื่อไปต่อไปลงเรือ ฟ้าใสก็เจอ คนที่คุณก็รู้ว่ามันเป็นใคร ที่คิวต่อรถสองไปท่าเรืออีก คุณคิดส์ ไอ้บรุคหน้าตาย หัวหน้าพวกนี้ ไอ้โภชน์

ฟ้าใสดีใจที่เจอคุณคิดส์  สบตากัน คุณคิดส์ยิ้มกว้างกว่ายิ้มปกติ2เซ็นต์แน่ะ ฟ้าใสน่ะยิ้มทั้งปากทั้งตาเลย
อยากเข้าไปเอาหัวถูๆ กล้ามอกคุณคิดส์อ่ะ แต่เพื่อนใครๆก็อยู่เลยต้องสงวนท่าทีอ่ะ
ผิงผิงไม่ว่างจับผิด เพราะมีไอ้มอสเกาะติดหนุบหนับ

โอย...ฟ้าใสมองไม่เห็นไอ้โภชน์หรอก โอลีฟก็ไม่มา ไอ้โภชน์เลยมีแต่ไอ้ซิวกับแก็งค์สาวซ่า ผิงผิง แชมพู ที่ทักมัน เอ๋นั่นมันก็ทุกคนนี่นา เว้นแต่ฟ้าใสกับไอ้เติ้ลเท่านั้นสิที่ไม่ได้ทักมัน  ไปทักคุณคิดส์แทน


ระหว่างที่นั่งเรือลำเดียวกัน  ก็พูดคุยสนุกสนานกันไป

“คุณคิดส์พักที่ไหนอ่ะ”

“....” ไม่ยอมตอบอีก กลับชี้ไปที่ไอ้โภชน์ แล้วจะให้ฟ้าใสแปลว่าอย่างไงฟ่ะ

ฟ้าใสก็เล่าโน่นเล่านี่ให้คุณคิดส์ฟัง แกก็ยิ้มมั่ง ยิ้มเกือบหัวเราะมั่ง พูดคำ สองคำ แววตาก็ยังใส อ่อนโยน อบอุ่นเหมือนเดิมเลย
แต่คราวนี้ไม่เห็นจับมือฟ้าใสเลยอ่ะ

สักพักเรือมาถึงท่า

โอโห...ทุกคนตาโต โดยเฉพาะพวกที่ปอดๆ ก็สะพานท่าขึ้น-ลง เขาซ่อมทำใหม่ เลยต่อสะพานไม้แทน
แล้วตอนนี้น้ำมันก็ลง ระดับเรือกับระดับสะพานมันก็สูงต่ำต่างกันมากๆ ถึงจะมีบันไดไม้ตอกให้2ขั้นแนวดิ่งก็เหอะ

ไอ้คนที่มันเป็นผู้นำมันก็คงเป็นผู้นำอยู่ดี หมั่นไส้

เด็กเรือก็คอยผูกคอยดึงเรือ
คุณคิดส์เผ่นขึ้นไปก่อนพร้อมหอบเป้ฟ้าใสไปให้แล้ว ไอ้โภชน์คอยส่งกระเป๋าของทุกคนให้คุณคิดส์
(ไอ้โภชน์กับคุณคิดส์เหมือนรู้ใจกันเลย ฟ้าใสไม่เห็นมันนัดแนะเลย ก็รู้กันว่าควรทำอะไร-มิตรภาพของลูกผู้ชาย เชอะ)
แล้วก็มีฝรั่งช่วยส่งบ้าง  คุณคิดส์ไวมากคงนึกว่าเล่นอเมริกันฟุตบอล รับวางรับวาง ทัชดาวน์
รับส่งกระเป๋าเสร็จไอ้โภชน์ก็ขึ้น  แล้วมันก็ยืนประจำการคอยส่งมือช่วยฉุดให้ผู้โดยสารอื่นๆขึ้น
 ส่วนคุณคิดส์ไปรอคอยช่วยคนลงที่ปลายสะพาย ไอ้ซิวมันคอยดูๆคนขึ้น

ส่วนไอ้มอสน่ะเหรอ มันก็คอยยืนคู่กับผิงผิง ก็มันไม่แมนอย่างงี้ ผิงผิงถึงได้เมิน

พอมาถึงกลุ่มพวกเรา

แน่นอนอยู่แล้วอ่ะ ฟ้าใสโดนถีบเอ๊ยส่งไปให้ขึ้นคนแรก ทุกทีอ่ะตั้งแต่ปี1มาแล้ว พละหรืออะไรก็โดนผลักไสให้เป็นตัวทดลองทั้งนั้น ไม่บ่น แต่ขอบอก
ตัวตรูก็เล็กสั้นเตี้ย มันเหมือนเราจะไปยืนขอบกระดานเพื่อโดดบันจี้จั๊มพ์

ทำไมคุณคิดส์ไม่มาช่วยตรงนี้นะ หรือไม่ก็ให้ฟ้าใสขี่คอเอาขึ้นไปด้วยตั้งแต่แรกว่ะ

“ส่งมือมา” เสียงเข้มสั่ง

ฟ้าใสไม่อยากส่งมือไปให้มันจับ แต่ตัวเองก็ไม่ได้สูงเลยก้าวไม่ไหวแน่ๆ
คนรอขึ้นต่อจากเขายังมีอีกหลายคน ฟ้าใสส่งมือให้มันไป

ทันใดก็มีคลื่นมากระแทกซัดทำให้เรือลอยห่างออก ฟ้าใสรีบคว้าจับมือใหญ่
ฝ่ามือใหญ่นั้นก็รวบจับข้อมือเล็กๆของฟ้าใสไว้ทันที ร่างเล็กลอยคว้างกลางอากาศ เหนือผืนน้ำทะเลสีคราม โดยมีสองมือของโภชน์ยึดจับ

โภชน์กระตุกดึงร่างของฟ้าใสขึ้นมารวบเข้ากับอก รั้งสะโพกร่างบาง เบียดเข้าหาตัว
ฟ้าใสรู้สึกถึงสัมผัสที่แผ่วเบาที่แก้มเนียน โภชน์ละมือจากร่างบาง แล้วจับให้ยืนบนสะพานไม้
พร้อมหันกลับไปช่วยดึงคนอื่นๆต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เวลาที่ไม่กี่นาที แต่มันก็ทำให้ฟ้าใสรู้สึกแปลกๆ


คุณคิดส์ยิ้มให้อย่างอ่อนโยนช่วยจับมือฟ้าใสกระโดดขึ้นฝั่ง บอกว่า แล้วเย็นๆจะเดินไปหา

เพื่อนทุกคนขึ้นมาครบ เตรียมเดินไปยังที่พัก

ฟ้าใสมองร่างสูงใหญ่ทั้งสองที่ยืนช่วยส่งผู้โดยสารขึ้นจากเรือและข้ามขึ้นเกาะ ฟ้าใสเห็นว่าโภชน์หันกลับมามองที่เขาแล้วรีบหันกลับไป



TBC....

 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.5 (10/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 10-09-2012 21:56:41
เฮ้อ โภชน์จะเอาไงเนี่ยเดี๊ย ๆๆ พี่โมงจ๋ากลับมาไวๆ เด้อ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.5 (10/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 10-09-2012 22:06:05
เฮ้ออออออออออออ
รัก สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เส้า
ทั้งพี่โม่ง คุณคิดส์ บักโภชน์
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.5(ต่อ) (11/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 11-09-2012 03:04:12
(ต่อ)

ตอนบ่ายแก่ๆ สัก3โมงครึ่ง คุณคิดส์ก็มาหาคนเดียว ชวนออกไปเดินเล่น ไปนั่งเล่นที่พักแก เวลาชวน ก็ชวนแบบ
ของแก มายืนหน้าที่พักไม่พูดอะไร ไอ้ฝ้ายเห็นเลยเรียกไอ้เติ้ล ไอ้เติ้ลเรียกฟ้าใสอีกที

คราวนี้คุณคิดส์ก็จูงมือฟ้าใสอีกตามเคย ลูบหัวเบา ถามว่า

“เป็นอะไรมากไหม”

ฟ้าใสเลยแกล้งตอบ “เจ็บนะสิ ตัวมันใหญ่จะตาย”
“แล้วมันยังให้เราทำมันกลับ ไอ้บ้า ใครจะไปอยากทำมัน”
คุณคิดส์หัวเราะ หึหึ
“อย่าไปโกรธมันเลยนะ มันงี่เง่าอย่างงี้แหล่ะ”เพิ่งได้ยินคุณคิดส์ด่าคน โว้ยเฮ้ย
“ถ้ามันขอรับผิดชอบล่ะ” เอ๊ะ อย่างไงนี่คุณคิดส์
“ไม่เอา ไม่ต้อง” ฟ้าใสตอบอย่างรวดเร็ว แทบไม่ต้องคิดเลย
คุณคิดส์พาเดินขึ้นเขาไปถึงหาดอีกด้านที่ตัวเองพัก  หาดของมันสวยกว่าของเราตั้งเยอะ
คุณคิดส์ให้นั่งเล่น สั่งของมาให้ทาน  มีหมามาเล่นด้วย ที่พักเหมือนเป็นคนที่พวกมันรู้จักกัน
 มีแต่ฝรั่งมาพัก บ้านแต่ละหลังก็ดีไซน์แบบแปลก คิวจองนี่เต็มตลอดปี พวกมันจะมาทุกปี
จน6โมงเย็นจึงพาเดินกลับ คราวนี้ไอ้โภชน์ไปด้วย

ฟ้าใสเลยไม่ชวนคุยอะไร แต่พอตอนขึ้นเขาท้องฟ้ามืดแล้ว ทางที่ใช้เดินลัดข้ามมาอีกหาด ที่เป็นหาดฟ้าใสเป็นทางคนเดิน
 จึงหายาก บางครั้งไปติดกันในระหว่างต้นไม้ ไอ้โภชน์ มันต้องหักกิ่งไม้เพื่อให้เดินออกไปได้  ฟ้าใสเกาะติดหลังคุณคิดส์ตลอดเวลา
ฟ้าใสดึงเสื้อคุณคิดส์ แล้วทำท่าจะพูด คุณคิดส์หันมามอง ทำนองว่าไม่ต้องพูด ก็ฟ้าใสเห็นอยู่แล้วนี่นา ไอ้ต้นไม้ต้นนี้อ่ะ
ครั้งที่3แล้ว  และแล้วในที่สุด เราก็เดินออกมาจนเห็นเนินลาดทางลงอยู่ข้างหน้า ฟ้าใสถึงกับถอนหายใจ
 ตอนอยู่ข้างบนนั้นหายใจแค่ครึ่งปอดเอง

ขณะที่เดินลงจากเนินเขามาถึงหน้าหาด ใกล้ที่พักจนเห็นเพื่อนนั่งเล่นนอนเล่นที่หน้าหาด
คุณคิดส์พยักหน้าทำนอง ส่งแค่นี้นะ  ให้ไปหาเพื่อนได้แล้ว  แล้วจะมาหาใหม่ จะแวะไปหาที่ที่พักมันก็ได้นะ
ขณะฟ้าใสเดินผ่านไอ้โภชน์ ฟ้าใสเห็นมือมันมีรอยขีดข่วนเลือดออก

เขาก็รู้สึกแอบสะใจเล็กๆ ที่เห็นมันเจ็บบ้าง


หลังจากผ่านไป 2วัน2 คืน
บรรยากาศอะร้าอร่าม  คลื่นลมเย็นสบาย ปิดเทอมนี่นา มันไม่ใช่เสาร์-อาทิตย์
บุคคลอาร์ตๆติ๊สๆทั้งหลาย จะนอนตื่นสายเป็นเด็กเกียจคร้าน 555
ใช่แล้วบุคคลชายหญิงกลุ่มนี้ เกิดไม่อยากกลับ ตกลงกันไว้ว่า จะมากัน3วันเท่านั้น
พวกมันชายหญิงไม่ยอมกลับ เย็นวันนั้นมันตกลงซาวเสียงดโหวดว่าจะอยู่กันต่อเรื่อยไปจนกว่าเงินจะหมด

ฟ้าใสเป็นลูกมีพ่อแม่นะครับเพื่อน

“กรูขอแม่มา3วันนะเมริง”

“ไหนๆมาแล้ว จะ3วันหรือ 3เดือนมันก็เหมือนกันแหล่ะ” ไอ้เติ้ลพูดเหมือนสมองมันดองในไหสุรา

“นั่นสิเมริง” เพื่อนแต่ละคน ก็ล้วนพยายามชักจูงฟ้าใส

ใช่ดิ ไอ้มอส เมริงก็จะได้อยู่กับผิงผิงนานๆอ่ะ
เอ็งก็ด้วย ไอ้ซิว ได้จู๋จี๋ ทาครีมกันแดดกันอยู่นั่นน่ะ
ฟ้าใสโทรหาข้าวโอ๊ต
“ข้าวโอ๊ต ไขว่าจะอยู่เที่ยวต่อกับเพื่อนนะ”

“เฮ่ย เฮ่ย ไม่ได้ ไม่ได้ งานทำบุญให้พ่อไง แล้วใครจะไปเป็นเพื่อนแม่” ข้าวโอ๊ตโวยวาย

“อ้าว ก็เธอไงกับข้าวปั้น”

“ก็ข้าวปั้นมันเข้าคริสต์แล้ว มันก็ไม่อยากไปแล้วนี่นา กลับมา กลับมา ไม่รู้ล่ะ ไขไม่มา โอ๊ตไม่ไปด้วย”

“เออ เออ...” ฟ้าใสก็อือ เออ ไปก่อน

ก็รู้ดีว่าถึงเขาไปก็ไม่ต้องไปช่วยทำอะไรหรอก งานเขาคือแค่นั่งเป็นเพื่อนแม่เป็นเพื่อนเดินไปห้องน้ำ
หรือถามว่าแม่จะเอาอะไรเท่านั้น ส่วนคนที่ทำโน่นทำนี่คือข้าวโอ๊ต  แต่มันมักจะทำไม่ค่อยถูกจังหวะ
เวลาพูดก็ห้าวๆ แม่เขาก็ไม่ค่อยถูกใจมันนัก มันก็น้อยใจเหมือนกันทั้งที่มันก็พยาย๊ามพยายาม
ธรรมดางานทำบุญพ่อ ญาติทางฝ่ายพ่อจะเป็นคนจัด ก็จะรวมทั้งทำบุญให้คนในตระกูลพ่อด้วย
พี่ส้มโอจะเป็นคนไปกับแม่กับฟ้าใส แล้วก็มีข้าวโอ๊ตไปเป็นแรงงานช่วยงานเขาบ้าง
ปีที่แล้วข้าวปั้นที่เข้าโรงเรียนคริสต์ เรียนๆไปก็เลยเปลี่ยนเป็นคริสต์ แม่ก็ไม่ได้ว่า แม่ฟ้าใสก็ค่อนข้างสมัยใหม่อ่ะ
ให้อิสระในการเลือกเส้นทางของตัวเองอ่ะ แต่ก็คงผ่านการพิจารณาแล้วน่ะ

“เฮ้ย สงสัยว่าต้องกลับว่ะ แม่เขาต้องไปทำบุญให้พ่ออ่ะ เด๋วไม่มีใครไปเป็นเพื่อน พี่ส้มโอก็ไม่อยู่”

“เออ เออ ได้ เมริงมีธุระจำเป็นนี่หว่า ไอ้ไข่เมริงก็กลับไปเหอะ”

แชมพูกับฟ้าใสก็เดินเข้ามาในบ้านที่ไอ้ซิวกับไอ้ฝ้ายนั่งนับเงินกันอยู่ 555

ทำไมเรานับเงินกันเหรอ ก็เกาะที่เรามาเที่ยวกัน มันยังออกแนวเวอร์จิ้น ตู้เอทีเอ็มก็ไม่ใช่ว่ามีนักหนา
 พวกเราก็ไม่ใช่จะมีตังมีเงินในแบงค์ พ่อแม่ใส่บัญชีเป็นแสนเป็นล้านซะที่ไหน ได้เบี้ยเลี้ยงกันรายเดือนเท่านั้น

รายจ่ายที่สำคัญคือค่าที่พัก ค่าเหล้า555 ค่าอาหาร ไอ้เติ้ลบอกมันไม่กินก็ได้ เอาส่วนค่าข้าวมันไปเป็นค่าเหล้าแทน
ฟ้าใสเองก็ควักจนหมดตัวใส่กองกลางไปแล้ว ทุกคนเทตังออกจากกระเป๋ากันจนหมดจริงๆ จริงใจกันขนาดนั้น
ไอ้ฝ้ายจัดการบวกลบค่ารถเพื่อเอาเงินให้ฟ้าใสเดินกลับกรุงเทพ

ทันใดนั้นก็มีบุคคล3นายมายืนหน้าที่พักใส่ชุดลุยป่า มีไม้เท้าพร้อม เอ่ยทักสาวๆที่นั่งเล่นหน้าบ้าน

“อ้าวพวกเจ้าหล่อนทั้งหลาย ยังไม่เตรียมตัวกลับกันฤา” 555 ไอ้โภชน์ท่าทางอารมณ์ดีเมาเนื้อหรือเปล่าหว่า

“ยังไม่กลับดอก พ่อสมโภชน์รัตนโกสินทร์” แชมพูก็ตอบไปมั่ง

“แล้วพวกแกล่ะ โภชน์ จะกลับเมื่อไหร่” ไอ้ยูริ หนึ่งในแก๊งค์สาวซ่าส์ถามบ้าง

“จะกลับพรุ่งนี้แล้ว” โภชน์ตอบ

“แล้วนี่จะไปไหนกัน”ไอ้กุนถามบ้าง

“ไปเดินเล่นว่าจะเดินข้ามเขาไปทางโน้น” โภชน์ชี้เลยไปทางด้านหลังที่พักของพวกเขา”
“แล้วนี่จะกลับเมื่อไหร่ เห็นบอกจะกลับวันนี้นี่ เรือหมด5โมงนะ” คุณคิดส์พูดยาวแหะ ถาม มองหน้าฟ้าใส ที่นั่งเอ๋อๆรอไอ้ฝ้ายจ่ายตังค่าเดินทาง

ก็ไม่รู้จะทำไงนี่หว่า ให้ตรูลงเรือไปต่อรถสองแถวต่อรถบัสกลับกรุงเทพ เองคนเดียว ดวงชะตากรูต้องเป็นแบบนี้ใช่ไหม

แชมพูมันเลยอธิบายให้คุณคิดส์ฟัง ว่าจะอยู่กันต่อไปเรื่อยๆ แต่ฟ้าใสขอแม่มาแค่3วัน แล้วก็ต้องไปทำบุญพ่อ
วันที่20 ที่จะถึงอีก2วันด้วย ส่วนพวกมันจะอยู่กันต่อจนเงินหมดเท่าที่จะอยู่ได้

คุณคิดส์ฟังแล้วก็หัวเราะ ไอ้โภชน์ฟังแล้วก็ส่ายหัว ไอ้บรุคฟังแล้วก็หน้าตายเฉยๆเหมือนเดิม

“งั้นก็ให้ไอ้ไข่กลับพร้อมพวกกรูก็ได้ กรูจะกลับสายๆพรุ่งนี้” โภชน์หันไปบอกไอ้ซิวที่นั่งนับเงิน

“ไอ้ไข่ รอกลับพรุ่งนี้พร้อมพวกไอ้โภชน์เอาเปล่า” ไอ้ซิวตะโกนถามฟ้าใส

“เออ ได้ๆๆอ่ะ” โห ฟ้าใสก็ต้องรีบตกลงดิ มีเพื่อนกลับดีกว่ากลับคนเดียวอยู่แล้ว คนยิ่งมีประวัติว่ะ ฮือฮือ

“งั้น เมริงก็ไม่ต้องเอาเงินให้มันหรอก เด๋วพวกกรูออกให้เอง” โภชน์รีบบอก เมื่อเห็นไอ้ซิวเตรียมส่งตังให้ฟ้าใส
แต่ไอ้ซิวก็ยังจะส่งให้ฟ้าใสติดตัวเพื่อซื้ออะไรกิน
ฟ้าใสรีบเดินไปหาคุณคิดส์

“คุณคิดส์ออกค่ารถค่ากินให้เราเปล่า” ฟ้าใสถามคำมั่นสัญญา

“ออกดิ ไม่เป็นไรหรอก” คุณคิดส์ตอบ มือลูบหัวฟ้าใสเบาๆ

“ไอ้ซิวเอาไปเหอะ กรูไปกับพวกนี้ก็ไม่ต้องใช้ตังแล้ว” ฟ้าใสก็คืนเงินมันไป กรูจะส่งเสริมการตกกระกรำลำบากพวกเมริงให้นานที่สุด ขอให้พวกเมริงได้อยู่ที่นี่นานเท่านาน

“แล้วพรุ่งนี้จะมารับ10โมงนะ” ไอ้โภชน์บอกฟ้าใส

คุณคิดส์ จะชวนฟ้าใสไปเดินเล่นด้วย แต่ดูท่าทางที่พวกมันพกไม้ท้งไม้เท้าไว้บุกป่าฝ่าดง ฟ้าใสไม่เอาดีกว่าว่ะ
พวกเมริงจะใฝ่หาความยากลำบากกันทำไมว๊า...แค่นอนเล่นอาบแดด เล่นน้ำทะเล มันไม่สามารถ
ให้ความสุขแก่ชีวิตพวกเอ็งกันไม่ได้ ใช่ไหม

“แหะ แหะ แท็งกิ๊ว อ่ะคุณคิดส์ ไม่เอาอ่ะ ตามสบายเลย” ฟ้าใสส่งยิ้มให้พร้อมโบกมือบ๋ายบาย

“พรุ่งนี้มารับเราจริงๆน๊า” ฟ้าใสพยายามอ้อน คุณคิดส์สุดขีด ไอ้โภชน์หันมามองด้วย พรุ่งนี้ก็ต้องอาศัยมัน

“มารับเราด้วยน๊า....หึ.. ห้ามเบี้ยวห้ามทิ้งเราด้วย” ฟ้าใสพูดสั่งไอ้โภชน์เสียงสะบัดๆ



ก่อน10โมง พวกนั้นก็เดินกันมาถึงหน้าบ้านพักแล้ว เพื่อนบางคนก็ยังหลับ มีผิงผิง แชมพู ฝ้ายที่ตื่นมาบ๋ายบายฟ้าใส
สั่งเสีย3หนุ่มให้ดูแลฟ้าใสดีๆตามเคย
ไอ้โภชน์ก็ชวนกินข้าวที่ร้านลุงป้าที่ใกล้ๆท่าเรือ บอกยังมีเวลา เรือออก10.30 กินทัน บอก
“กระเพรากุ้ง ป้าเขาทำอร่อยนะ”

พอ10.20 เราก็เดินไปลงเรือ น้ำลง เฮ้อ...ตอนลงฟ้าใสก็ต้องไต่ลงไปถึงขั้นที่2  แล้วก็ต้องกระโดดลงไปในเรือ
คุณคิดส์ก็เป็นคนช่วยรับ
ก่อนขึ้นรถคุณคิดส์ก็ซื้อขนมให้ฟ้าใสกินด้วย แล้วก็ให้ซื้อของฝากไปฝากที่บ้านด้วย และแน่นอน ฟ้าใสนั่งคู่คุณคิดส์
หลังจากนั่งรถกันยาว มีแวะพัก20นาที ก็กินข้าวเข้าห้องน้ำ ก็มาถึงกรุงเทพ
ไอ้โภชน์ก็ถามถึงบ้านฟ้าใสว่าจะกลับอย่างไง
ฟ้าใสมองหน้าคุณคิดส์ ก็ไม่มีตังนี่นา

“เด๋วให้โภชน์ไปส่งที่บ้าน” คุณคิดส์บอกฟ้าใส ตบหัวปุๆ

“เออ เด๋วกรูไปส่งเอง เมริงก็รีบกลับบ้านไป” โภชน์บอกคุณคิดส์ พลางพยักหน้าให้

“เออ ขอบใจ” แล้วคุณคิดส์ก็ส่งของๆฟ้าใสให้โภชน์ถือ

เหวอ ฟ้าใสรีบจะเอามาถือเอง แต่มันก็จะถือเป้ ให้ฟ้าใสถือถุงของฝากเอง
เอ้ย จะไปใช้มันได้ไง ไม่ได้สนิทกัน
เอ่อ...ถึงจะมี...เอ่อ...เคย....แต่ก็ไม่ใช่แฟนกัน...ฮือ ฮือ..แต่เป็น....กัน..เฮ้อ....ฟ้าใสแทบไม่อยากคิด
ไอ้โภชน์กับไอ้บรุค บ้านจะอยู่ทางเดียวกัน
คุณคิดส์รีบขึ้นแท็กซี่กลับบ้านไปแล้ว
ไอ้โภชน์หันมาหาฟ้าใสบอกว่า
“ไอ้คิดส์ มันต้องรีบกลับไปหาลูกหาเมียมัน อ่ะไปกันได้แล้ว” โภชน์เดินนำฟ้าใส และไอ้บรุคไปขึ้นแท็กซี่ที่จอดรออยู่



TBC.....
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.5(ต่อ) (11/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 11-09-2012 04:44:06
คุณคิดส์แอบไปมีลูกมีเมียตอนไหนนี้ หรือว่าโภชน์แซวเล่นๆ
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.5(ต่อ) (11/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 11-09-2012 09:40:13
อ่าวคุณคิดส์มีเมียแล้วจิ ขัดใจอะนึกว่าจะรักฟ้าใสมากกว่านี้สักกะหน่อย

รอพี่โมง รอพี่โมง ชูป้ายพี่โมงแฟนคลับ จิ ไม่เอาโภชน์หรอกนิสัยไม่ดีเน๊อะ

ขอบคุณมากจ้า รอติดตามตอนต่อไป อิอิ มาไวเคลมเร็ว ชอบ
 :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.5(ต่อ) (11/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: timvasabi ที่ 11-09-2012 13:09:43
ยกมือให้กับความขยัยของท่านนักเขียน ยาวจริงๆแต่ละตอน ชอบค่ะ 5555
อ่านทีอิ่มเลย ปลาบปลื้มมาก เนื้อเรื่องน่ารักดีค่ะ ตลกดีอะ

ว่าแต่พี่โม่งนี่จบแล้วจบเลยเหรอค่ะ หรือจะโผล่มาอีก หรือมีพระเอกคนอื่น อืมมม ยังไงหว่า?
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.5(ต่อ) (11/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 11-09-2012 14:03:36
เฮ้ออออออออออออ
รัก สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เส้า
ทั้งพี่โม่ง คุณคิดส์ บักโภชน์
555 ขำและชอบใจจัง  :m4: กับคำว่า"บักโภชน์"

หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.5((อัพต่อแล้ว)) (12/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 12-09-2012 10:44:41
อยากลงให้ต่อเนื่องอ่ะฮะ เลยต้องลงยาวๆหน่อย
อยากลงให้ถึง...แต่พิมพ์ไม่เก่งใช้จิ้มทีละตัว
ขอบคุณนักอ่านมากๆที่ติดตาม เป็นกำลังใจให้พยายามเขียนให้ดีที่สุด
ถ้าไม่มีคนอ่านคงไม่มีมาถึงตอนนี้ พูดจริ๊ง พูดจริง
ขอบคุณ รักนะ จุ๊ฟ จุ๊ฟ ขอหอมทุกคนเลยนะคร้าบบบ
 :pig4:
อยากสปอย แต่ก็กลัว... 555
(ต่อ)

ฟ้าใสบอกให้โภชน์ส่งแค่ปากทางถนนเข้าบ้าน แต่โภชน์ก็ไม่ยอม ให้รถไปส่งถึงบ้านข้างใน

ข้าวโอ๊ตดูจะดีใจและโล่งอกมากกว่าใครๆที่เห็นฟ้าใสกลับมา

คืนนั้น ฟ้าใสมานั่งนึกนอนนึก ถึงคำพูดไอ้โภชน์ คุณคิดส์ มีลูกมีเมียแล้วเหรอ ใจหายเหมือนกัน วูบๆ เหมือนรู้สึกอกหักเลย

 แต่คุณคิดส์ก็ยังทำดีกับฟ้าใสเหมือนเดิม แววตาก็เหมือนเดิม อดใจไม่ได้ เลยโทรไปคุยกับโอลีฟ บอกว่ากลับมาแล้ว
เล่าที่ไปเที่ยวให้ฟัง โอลีฟก็หัวเราะร่าเริงบ่นเสียดาย ป้ารับงานจัดอาหารในงานเลี้ยง งานใหญ่มาก โอลีฟเลยต้องอยู่ช่วย
ฟ้าใสขอเบอร์โภชน์ แล้วฟ้าใสก็เลียบเคียงถามถึงคุณคิดส์ กับโอลีฟ

“แล้วโอลีฟ รู้เปล่าเดี๋ยวนี้คุณคิดส์เรียนที่ไหน ถามอะไรก็ไม่ค่อยตอบเลย”

“อ๋อ..เรียน อาร์ตที่ ม.S น่ะ กับไอ้โหน่ง เห็นเขาว่าเป็นแฟนกับพี่วุ้นเส้น ที่เคยอยู่หอบุษบา ป๋าแก้ม ป๋าเรน ไอ้เติ้ล
ไอ้ดีดี้ ก็รู้จัก  แกก็น่าจะรู้จัก”

“โห ทำไมโอลีฟรู้อ่ะ คุณคิดส์แกไม่เห็นจะชอบพูดอะไรเลย ถามคำตอบคำ บางทีไม่ตอบซะงั้น”

“555 ใช่ใช่ ที่รู้เพราะเจอไอ้โหน่งที่ตลาดบ้านเรา ไอ้โหน่งมันต้องขับรถให้แม่มาจ่ายตลาด เราก็ต้องหอบของไปส่งให้ป้าที่ในตลาด
 เลยเจอกันบ่อย * ไอ้โหน่งยังบ่นว่าคุณคิดส์ไม่ค่อยเข้าเรียน ที่ S นี่ พวกห้อง 4 ห้อง5 มันไปต่อกันก็ตั้งหลายคน”

*ป้าโอลีฟมีร้านขายอาหาร น้ำพริก ขนม ในตลาด

หลังจากคุยกับโอลีฟ ได้เบอร์ไอ้โภชน์มาแล้ว ฟ้าใสก็ยังจรดๆจ้องๆไม่ค่อยกล้าโทรไปหาไอ้โภชน์เท่าไหร่
อยากถามเรื่องที่มันเคยโทษฟ้าใสว่าหลอกคุณคิดส์ ทำให้ชีวิตคุณคิดส์หมดอนาคต

แล้วยังทำให้มันเสียคนรักของมันไปอีก มันเรื่องอะไรที่มาโทษเขา เขาไปทำอะไรให้ ตั้งแต่ย้ายบ้านก็เจอกัน
ครั้งสุดท้ายที่ให้คุณคิดส์อยู่เป็นเพื่อน ถึงคุณคิดส์อยากมีอะไรแต่ฟ้าใสก็ปฏิเสธดีดี คุณคิดส์ก็เข้าใจนี่นา
ถึงฟ้าใสจะชอบคุณคิดส์ แต่เขาก็มีพี่โม่งอยู่ในใจ จะให้ไปยอมคุณคิดส์แกได้ไงล่ะ เรื่องแบบนี้จะเป็นความผิดของเขาได้ไง

 คิดแล้วก็น้อยใจ แล้วยังเรื่องที่พี่โม่งอีก ฟ้าใสกลับมาก็รีบเช็คเมลล์ หวังว่าจะได้รับการติดต่อจากพี่โม่งบ้างที่นานๆ
จะตอบเมลล์สักครั้ง แล้วก็ได้รับจริง ก็สมหวัง  ได้เมลล์ส่งข่าวจากพี่โม่งจริงๆ อุตส่าห์ดีใจ แต่พออ่านก็รู้ว่าพี่โม่งยังไม่กลับ
จะอยู่ทำงานเปิดแสดงร่วมกับเพื่อนที่เรียนด้วยกันต่อ อาจจะกลับเอาปีหน้า แถมมีสิทธิได้ทุนเรียนต่อไปอีก


ฟ้าใสรู้สึกอัดอั้นอยากร้องไห้ พี่โม่งก็เหมือนเป็นหมอกควันที่ล้อมรอบตัวฟ้าใส แต่ก็คว้าจับไม่ได้ เหมือนไม่มีตัวตน
แต่กลับเป็นสิ่งที่ฟ้าใสระลึกถึง ในใจเหมือนเป็นอิมเมจ เป็นไอดอล เป็นฮีโร

หากใครเขานั่งสมาธิ หายใจเข้า หายใจออก พุทโธ พุทโธ (วิชาพุทธศาสนา)
แต่ของฟ้าใสนี่เป็น พี่โม่ง พี่โม่ง

ไม่ว่าแชมพูหรือหมูแฮม มันจะชม บี้เดอะสตาร์ นิชคุณ สำหรับฟ้าใส ต้องพี่โม่งเท่านั้น แล้วฟ้าใสก็แอบเก็บเรื่องพี่โม่งเป็นความลับส่วนตัว



ตรืดๆๆๆ ตรืดๆๆๆๆ

“อะโหล” ฟ้าใสรับไปก่อนยังไม่ได้ดูชื่อ

 “555 แก นะแก ยังไม่นอนอีก” เสียงไอ้ดรีมจากแก๊งค์ม.3

“อ้า เฮ้ยดรีม คิดถึง คิดถึง” ฟ้าใสดีใจที่ได้ยินเสียงเพื่อนเก่า
หลังจากทักทายถามสารทุกข์สุขดิบ

“พรุ่งนี้ ไอ้แร๊ฟมันนัดกินอะไรกันที่บ้านมัน มันจะพาแฟนมาเปิดตัวที่บ้าน 55 ไข่มาดิ” ดรีมชวนด้วยความคิดถึง

“อ๊าย!!!พรุ่งนี้ไปทำบุญให้พ่ออ่ะ ต้องไปกับแม่ คงต้องอยู่ถึงเย็น” ความจริง แค่บ่าย 2 คุยๆกันเสร็จก็แยกย้ายกันกลับ
แต่ก็เผื่อแม่จะใช้ให้ทำอะไรอีก หรือพวกอา พวกลุงจะชวนทานข้าวนั่งคุยต่อ

“เฮ้ย ก็ไม่เป็นไร มาเย็นๆก็ได้ คนอื่นอย่างพวกไอ้แคทก็มา4โมง”

“งั้นเหรอ เออ เออ ก็ได้ งั้นเราไปเย็นนะ บ้านไอ้แร๊ฟ ให้หิ้วอะไรไปปล่ะ”

“โอยไม่ต้อง มาแต่ตัวอ่ะ อาจค้างก็ได้ เตรียมเผื่อไว้ล่ะกัน ไอ้เปรี้ยวมันก็จะเอาแฟนใหม่มาโชว์ด้วย”

“ห๊า!!!! ไอ้เปรี้ยวนี่น่ะ ไอ้ดรีม แกบอกว่าแฟนใหม่ด้วย เฮ้ย เดี๋ยวนี้นับจากศูนย์ก็เป็น 2 แล้วเหรอ”

“5555 มาดูเอง อึ๋ม บะเริ่มบะฮึ่ม เลยแกเอ๊ย....”

“เดี๋ยวไอ้ดรีม” ฟ้าใสพูดเสียงหลง “ไอ้เปรี้ยวมันเป็นทอมไปแล้วเหรอ” ฟ้าใสทำหน้าช็อค

“555 มาดูเอง”

“โอเค เลย งั้นเดี๋ยวไปแน่” ฟ้าใสเริ่มอยากเห็นพัฒนาการของบรรดาเพื่อนๆ

“ดีได้เจอกัน เตรียมมาค้างด้วยล่ะ”

“ฮื่อ...แท็งกิ๊วที่ชวนน๊า”

“โอย ก็โทรมาหลายรอบ แม่บอกว่าไม่อยู่ไปเที่ยวตจว. โทรเข้ามือถือก็ไม่รับเลย” ดรีมต่อว่า

“แหะ แหะ ก็ไม่ได้พกติดตัวนะ แล้วพอไม่ได้ชาร์ตแบตมันก็หมด ขอบใจอ่ะแฮะ แฮะ ยังอุตส่าห์ชวนได้ทัน”

“เออ พรุ่งนี้เจอกัน”

“คร้าบบบผม บ๋ายบาย”

เออ ก็ดี เหมือนกัน ไปเจอเพื่อนเก่าๆบ้าง  ท่าทางจะเมาเละแน่ มีไอ้แคทมา ไอ้นี่ระดับสาวหล่อ จมูกโด่ง ตาคม สูง แมน เลยล่ะ
 มีเด็กรุ่นน้องตามแจ แล้วนี่ไอ้เปรี้ยวเดิมมัน นอร์มอล อยู่ดีๆ อะไรว่ะ กลายเป็นป๋าตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วบิ๊กไซส์อีกต่างหาก
แล้วตัวมันก็อ้วนใหญ่ ยังมีการมีคนใหม่ด้วย คารมเป็นต่อมันยังงี้นี่เอง โลกหมุนเร็วไปเปล่าเนี่ยะ



หลังจากปฏิบัติหน้าที่เป็นเพื่อนแม่ไปทำบุญที่วัด ฟ้าใสนั่ง ข้าวโอ๊ตแรงงาน  จิตใจฟ้าใสไม่ได้อยู่ในวัดเลย นึกถึงเพื่อนๆ
ว่า นานๆเจอกันที บ้านระเบิดแน่ พนมมือไปอมยิ้มไป
.
.
.

“กรี๊ดดดดดดดดด ไอ้ไข่”

เสียงต้อนรับ จากเพื่อนเก่าๆ และเพื่อนกลางใหม่กลางเก่า บวกเสียงเล่าลือผิดๆเกี่ยวกับเด็กอาร์ตว่า
เป็นพวกประหลาดแบบแปลกๆ ทำให้เพื่อนใหม่ๆพลอยสนใจไปด้วย  ไอ้ดรีมนี่แหล่ะตัวดี

“โอ๊ย ตบหัวกรู ไอ้แร๊ฟ เมริง” ฟ้าใสอยากย้อนยุคเลยแกล้งมัดจุกเหมือนตอนป.4 ที่แม่มัดให้ เวลาผมข้างหน้ายาว เลยเจอไอ้แร๊ฟมันหยอกให้

“ไข่มานั่งนี่”ไอ้ดรีมรีบเรียกไปนั่งข้างๆ

“พวกแกนี่  ไปไหว้พ่อแม่มันก่อนดิว่ะ” ฟ้าใสรีบหลุบเข้าบ้านไปไหว้ ป๊ะ กับม่ะ ไอ้แร๊ฟ เจอพี่รุ้ง พี่สาวไอ้แร๊ฟด้วย แสดงว่าวันนี้กับแกล้มเพียบ
พอออกมาก็เจอ

“ความหล่อระดับกรูนะ พวกเมริง วันก่อนนะที่กรูไปสยามมา สาวกรี๊ดกรูตรึมเลย” ไอ้แร๊ฟเริ่มโชว์มุก

“ไอ้เชรี่ย เมริงลืมรูดซิบอ่ะดิ แมร่ง” ไอ้แคทแซว

“ใช่ เขาตกใจอ่ะดิ หนอนไรว่ะ ตัวเล็กชิบหาย” ไอ้เปรี้ยวกระหน่ำ

“555” เพื่อนตอกย้ำ

“เชรี่ยแร๊ฟ เมริงไปเหยียบตีนเขาอ่ะดิ” ฟ้าใสรีบแย่งตบมุกมัน

“โหย เชรี่ยไข่ รู้ทันกรู” ไอ้แร๊ฟบ่น
“โอ๊ย ตบหัวกรูอีกแล้ว” ว่าแล้วฟ้าใสก็ตบหัวมันคืนมั่ง แต่ก็ตบไม่ถึงหรอก มันตัวทั้งหนาทั้งใหญ่กว่าเยอะ
เล่นกับมัน  มันก็ไม่เคยออมแรงเลย ไอ้โคตรเลว


“ขอบคุณอ่ะหวาน” ฟ้าใสขอบคุณแฟนไอ้แร๊ฟ ที่ส่งขาไก่ทอด มาให้

“หวาน หวาน ไข่ว่า หวานนี่สวยสุดๆเลย” ฟ้าใสชมกะยิงมุก

“เห็นม่ะ กรูตาถึง55” ไอ้แร๊ฟคุย

“ไอ้เชรี่ย ไอ้ไข่มันจะว่าเมริงโง่ ยังไม่รู้อีก” ไอ้แคท รีบเปิดซองเฉลย

“....” ไอ้แร๊ฟยังไม่เกท 555

“ก็คนเขาชอบพูดว่า ผู้ชายโง่ๆ มักจะมีเมียสวย ไงล่ะ ไอ้โง่” ไอ้แคทได้ที

ฮา.......

หลังจากสังสรรค์เฮฮา ยิงมุกตบมุก เหมือนตลก1แก๊งค์ แซวกันไปด่ากันไป แล้วก็เมากันสุดๆ
แฟนสาว หรือใครเล็งใครก็ได้เปิดตัวกันไป ตามกระแสธรรมชาติเรียกร้อง ฮิ้วววว อิอิ

“นี่ พวกเมริง” ไอ้เปรี้ยวเรียกพวกซี้ๆมาสุมหัว “เดี๋ยวคืนนี้กรูมีโชว์” ไอ้เปรี้ยวทำตาแววกระหยิ่มยิ้มย่อง

“กี่รอบว่ะ” ไอ้เชรี่ยแร๊ฟ หัวไวเชียว นะเมริง ฟ้าใส ตบหัวมันมั่ง ตอนนี้ตบถึง 55 เพราะกำลังก้มสุมหัวกันอยู่

ไอ้ดรีมมันยังเอ๋อๆไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร
อิแอ๊น ค้อนขวับๆ

“พวกเมริงก็แอบดูกันเองนะเว้ย ห้ามส่งเสียงนะเมริง กรูจะแง้มประตูเอาไว้ อิอ้อย นมโคตรใหญ่”

แหม ทุกคนก็เห็น อิสาวอ้อยนั่นก็เหมือนกันทั้งเบียดทั้งถู อยากฟีทเจอริ่งกับไอ้เปรี้ยวเต็มที่ เฮ้อ...


ดึกแล้ว หลังจากส่งบรรดาเพื่อนใหม่เพื่อนเก่ากลับ พวกเพื่อนที่เยอะ ที่อยู่ค้างก็หลายคน เพราะพวกมันเรียนสายวิชาการ
หลังจากแยกย้ายกันเรียน  พอจบม.6 ก็เอ็นติดมั่งไม่ติดมั่ง ก็กลับมารวมๆกันที่ ราม
แล้วแต่ละคนก็จับคู่จีบกัน ได้แฟนกันไปบ้างตามแต่รสนิยมและโชคชะตา

 ไอ้แคทนี่มีชายหนุ่มรอจีบอยู่3คน แต่ไอ้น้องกอบัว มันก็ห๊วงหวง เกาะแจ ไม่ยอมให้ชายใดมาไต่ตอม กันท่าทุกหยาดหยด
4ทุ่มก็อ้อนให้กลับ จนไอ้แคทมันแหวเอา

“อยากกลับก็กลับไปก่อน” ถึงได้เงียบ


แต่ที่คนเขาลุ้นอยู่ก็มีคู่ ไอ้ดรีม กับหนุ่มธัน หน้าตาดี ผิวเข้ม ถึงไม่สูงพิเศษ แต่ก็ระดับปกติ ชายไทย  ท่าทางเรียบร้อย *
แต่ไอ้ดรีมมันก็ช่างเชื่องช้า ใจไม่ถึง สเตปเลยไม่ค่อยก้าวเท่าไหร่
*และฟ้าใสก็รู้ว่า มันไม่ได้ท่าทางเรียบร้อยอย่างที่ว่าซะหน่อย


หลังจากเราขึ้นไปแอบดูโชว์รอบพิเศษ ก็ยังลงมานั่งกินกันต่อ ก็คุยโน่นนี่ ใครมีปัญหาหัวใจก็ปล่อยออกมา
เหล้ามันก็ทำให้กล้าพูด หรือลืมตัว เช่นฟ้าใสเอง ที่คุยถามไอ้แร๊ฟ

“ไอ้แร๊ฟ กรูผิดด้วยหรือว่ะ ทำไมมานต้องมาว่ากรูด้วยยยย ถึงกรูจาชอบอ้ายคูณณณคิดส์ แต่กรูก็ก้อม่ายด้าย
อยากมีอารายกับมานนี่นา  กรูผิดด้วยหรือว่ะ อ้ายเชรี่ยโพดดดด ทามมายเมริงต้องมาโทดดดกรูด้วยอ่ะ
ฮือ ฮือ ฮือ กรูม่ายด้ายหลอกอ้ายคูณณณคิดส์นะเว้ย”

“เออ เออ เมริงก็อย่าคิดมากว่ะ จาไปแคร์มันทำไม บลาๆๆๆๆๆ” ไอ้แร๊ฟก็ให้คำปรึกษาไปเมาไปปลอบใจไป
แล้วก็รู้แต่ว่ามีคนพยุงขึ้นไปนอนบนห้อง แถมฟ้าใสก็นอนสะอึกสะอื้นจนหลับไป
.
.
.
.
.
หมดเวลาสนุกสนานแล้ว ฝึกงาน 2เดือน เก็บงาน และก็สอบ พวกเราเหล่าปี5ก็จะจบแล้ว

เรื่องต่อที่ไหน จะต่อที่นี่ ฟ้าใสก็ไม่รู้จะรอพี่โม่งไปทำไม งอนแล้วล่ะ ก็มันเริ่มดูเป็นความฝันความหวังเลื่อนลอย
พี่โม่งกลับมา แล้วจะมาเป็นอาจารย์สอนที่นี่หรือเปล่า ก็จะไม่ให้ฟ้าใสคิดอย่างงั้นได้ไง
ก็ในเมื่อรุ่นพี่หรือรุ่นปู่ที่จบที่นี่ ก็มาเป็นอาจารย์สอนที่นี่กันตั้งหลายคน แล้วโรงเรียนก็ให้สิทธิด้วย
ถ้าคนที่จบยังไม่มีงานทำ โรงเรียนก็ให้สิทธิมาทำได้คนละ 1ปี

หึ !!! ฟ้าใสก็ทำไปตามขั้นตอนก่อนล่ะกัน ฝึกงาน สู้ สู้

โอลีฟลากฟ้าใสไปทำที่บริษัท ซีเค ที่รับทำป้าย ตกแต่งบ้านที่นับว่าใหญ่ บนถนน วิรัชดา( สถานที่สมมติ)
ป้าโอลีฟ แนะนำให้ โอลีฟมันเลยต้องเอา แล้วเลยลากฟ้าใสไปด้วยโดยการจับใส่ชื่อ เผด็จการชัดๆ
มันแค่ตะโกนบอกว่า “ไข่ ไปทำที่บ.ซีเค ด้วยกันนะ” จบแค่นี้ แล้วก็ก้มหน้าก้มตากรอกรายละเอียดทั้งของมันและฟ้าใส

ทั้งที่ ฟ้าใสก็อยาก ที่ บ.เสื้อผ้าเด็กกับแชมพู แต่ก็ช่างเหอะ ทำพวกตกแต่งก็ดี สำหรับฟ้าใส อะไรก็ดีทั้งนั้น มันก็ให้ความรู้ใหม่เราล่ะน่า

ขณะที่ฟ้าใสที่กำลังวัดขนาดตัวอักษร สำหรับทำป้ายตึกโรงพยาบาล

“ไข่ เย็นนี้แวะไป บ.ไอ้โภชน์กัน”

TBC....


ปล.เวลาอัพใหม่ไม่รู้จะใส่ว่าอะไร จะใส่เป็น 5.1/5.2 ดีไหมครับ(โดยตัวเองไม่ค่อยชอบอ่ะฮะ หรือแค่ใส่วงเล็บไปก็พอ)
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.5(อัพต่อแล้วฮะ) (12/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 12-09-2012 11:29:54
พี่โมงเมื่อไรจะมา ฮือๆๆๆๆ อย่าให้ฟ้าใสคู่กะใครนอกจากพี่โมงน้า

 :m15: :m15:

ขอบคุณจ้า รอติดตามตอนต่อไป  :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.5(อัพต่อแล้วฮะ) (12/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 12-09-2012 11:44:32
ก่อนเม้นท์ขอ  :กอด1: และ  :จุ๊บๆ: คนเขียนเพื่อเป็นรางวัลสำหรับความขยัน(อัพ)ก่อนได้ปะ
ไขรู้สึกน้อยใจพี่โม่งแล้วก็เกิดความรู้สึกว่า...
".....พี่โม่งก็เหมือนเป็นหมอกควันที่ล้อมรอบตัวฟ้าใส แต่ก็คว้าจับไม่ได้ เหมือนไม่มีตัวตน...."
และที่โภชน์พูดว่าคุณคิดส์มีลูกมีเมียแล้วไขรู้สึกเหมือนอกหัก แสดงว่า ณ เวลานี้ไขดูจะสับสนๆปนเคว้งๆนะ
แถมช่วงนี้"ไอ้โภชน์"ชักจะมีบทบาทและแทรกเข้ามาในชีวิตของไขเรื่อยๆแบบนี้
กลัวไขจะหวั่นไหวจริงอะไรจริง 
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.5(อัพต่อแล้วฮะ) (12/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 12-09-2012 12:28:51
ก่อนเม้นท์ขอ  :กอด1: และ  :จุ๊บๆ: คนเขียนเพื่อเป็นรางวัลสำหรับความขยัน(อัพ)ก่อนได้ปะ
ไขรู้สึกน้อยใจพี่โม่งแล้วก็เกิดความรู้สึกว่า...
".....พี่โม่งก็เหมือนเป็นหมอกควันที่ล้อมรอบตัวฟ้าใส แต่ก็คว้าจับไม่ได้ เหมือนไม่มีตัวตน...."
และที่โภชน์พูดว่าคุณคิดส์มีลูกมีเมียแล้วไขรู้สึกเหมือนอกหัก แสดงว่า ณ เวลานี้ไขดูจะสับสนๆปนเคว้งๆนะ
แถมช่วงนี้"ไอ้โภชน์"ชักจะมีบทบาทและแทรกเข้ามาในชีวิตของไขเรื่อยๆแบบนี้
กลัวไขจะหวั่นไหวจริงอะไรจริง

ใช่แล้วอ่ะฮะ พี่โม่งไปก็นาน น้องไขรอแล้วรอเล่า อุตส่าห์ไม่ไปเรียนต่อที่อื่น อัดอั้นตันใจในอก
พี่สาวก็ไม่อยู่  คนที่อยู่ตรงหน้า ก็มีแต่ "คนที่คุณก็รู้ว่าเป็นใคร"
 แหะ แหะ แถมเพื่อนซี้ ก็รู้เห็นเป็นใจ น้องไขเสร็จ บัก...เค้าแน่นอน เอิ๊ก เอิ๊ก อย่าช็อค นะ
แต่พี่โม่งมาแรงแซงโค้ง (โค้งสุดท้าย)อยู่ดีคร้าบ...
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.5(อัพต่อแล้วฮะ) (12/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 12-09-2012 13:28:31
 :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: ☼ ☼ เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ SS.2 Ch.5(อัพครั้งที่2ของวันนี้ฮะ) (12/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 12-09-2012 16:22:35
((ต่อ ต่อ))

“ไข่ เย็นนี้แวะบ.ไอ้โภชน์กัน” เสียงโอลีฟเอ่ยชวน

ไม่มีคำว่า “ไหม?”  ต่อท้ายด้วย แสดงว่า ตรูต้องไปคู่กันใช่ไหมว่ะ

โอลีฟ บอกว่า ไอ้โภชน์มันฝึกงานที่บริษัท พ่อมันเอง เพราะมันเองก็ช่วยงานของพ่อมันอยู่แล้ว
บริษัทพ่อมันทำรับสร้างบ้าน ออกแบบ เขียนแบบ บ้าน สำนักงาน รีสอร์ท ตกแต่งภายใน และจัดสวน
อยู่ใกล้ๆบริษัทที่ฟ้าใสกับโอลีฟ ประมาณนั่งรถกระป้อเข้าซอย ไป7-8นาทีถึง ถ้านานหน่อยก็15 นาทีถึง

เหอ เหอ เหอ ไม่ได้อยากเจอ แต่ก็มีเรื่องคาใจ เออ ก็ได้ ถ้ามีโอกาสเหมาะก็จะได้เคลียกันซะที

เมื่อก่อนฟ้าใสยังเด็ก ถึงไม่ค่อยกล้าพูด แต่ตอนนี้โตแล้วผู้ใหญ่แล้ว แข็งแรงขึ้นแล้ว 55
แต่โดนโอลีฟมันผลักที ก็ยังกระเด็นเหมือนเดิม

โอลีฟ พาฟ้าใส เดินเข้าไปในออฟฟิสสำนักงานบริษัท อินซูค่อนคอนสตรั้กชั่น จำกัด

“HI!!!!” โอลีฟส่งเสียงทักทาย เมื่อเห็นคนที่นั่งโต๊ะ โอลีฟมันเก่งภาษาอังกฤษ

 “Hi !!! ฮิตเล่อร์!!!” เสียงทุ้มตอบรับ

ฮิ ฮิ ฮ่า ฮ่า โอลีฟ เดินไป ผลักไหล่ร่างสูง ที่ยังคงก้มหน้าก้มนั่งทำงานอยู่ ฟ้าใสเห็นมันชำเลืองมองหน้าเขาด้วย

เฮอะ หน้าตามันสะอาดขึ้น แต่ทรงผมก็ยังกระเซิงเหมือนเดิม โอลีฟก็สนิทกับมันจัง เฮอะ
โภชน์บอกให้ หาน้ำกินเอง แล้วก็เดินเล่น ดูโน่นดูนี่เอาเองก่อน ขอมันทำงานแป๊บหนึ่ง
ช่วงนี้ก็เป็นเวลาเลิกงานแล้ว พนักงานส่วนออฟฟิส เลยกลับกันหมด มีเดินไปเดินมา ขนของขึ้นรถ4-5คน
บริษัท พ่อมัน เป็นอาคารพาณิชย์ 4ชั้น 3ห้องด้านข้างมีทางเข้าที่จอดรถด้านหลังตึก
1ห้องจะเป็นส่วนออฟฟิส 2ห้องจะเป็นวางโชว์แบบ โมเดล พวกชั้นบนก็เป็นที่พัก ที่ทำงาน
พักหนึ่งมันก็วางมือ ลุกมานั่งคุย แมร่งมันแต่งตัวไม่ได้สมกับสถานที่ทำงานเลย เสื้อยืด กางเกงยีนส์ขาดๆอีกต่างหาก

และแน่นอน ใส่รองเท้าแตะ ยังดีฟ้าใสเห็นมันมีรองเท้าผ้าใบ จอดอยู่ใต้โต๊ะทำงานที่มันนั่ง

หลังจากโอลีฟพูดคุยทักทาย ไอ้โภชน์ แล้วก็ถามเรื่องราวถึงเพื่อนโน้นคนนี้  แล้วก็ถามถึงพี่ต๊อก คุยกันนานเชียว
 ฟ้าใสเลยมานั่งเล่นดูคนเดินไปเดินมาหน้าบริษัท

โภชน์ปล่อยให้โอลีฟคุยโทรศัพท์กับพี่ต๊อก

“ฝึกงานเป็นไงมั่ง” ไอ้คนตัวสูงมานั่งดูดบุหรี่ ข้างฟ้าใส ที่ขอบปูนปลูกต้นไม้หน้าบ.

“ก็ดี”

“ทำอะไรมั่ง”

“ซีร็อก ย่อ ขยาย แก้ขนาดตัวหนังสือ ป้ายหินอ่อนหน้าหมู่บ้าน โรงพยาบาล หมู่บ้าน ดีดี. การ์เด้น นั่นฝีมือเราน๊า
มีม้วนหางสองรอบครึ่งด้วยนะ” ฟ้าใสอวด ยิ้มยืดจนปากจะฉีกด้วยความภูมิใจ บริษัทนี้ก็ใช้งานนักศึกษาฝึกงานคุ้มจริงๆ
ทำงาน 9 โมงจนถึง 5โมงต่างจากคนทำงานจริงคือ เข้า 9 โมง ไม่ใช่ 8.30น. และ วันเสาร์ไม่ต้องมา

“ทำงานเก่ง จบแล้วก็มาช่วยงานที่นี่มั่งสิ” ร่างสูงพูดชวน ยักคิ้วหลิ่วตาให้ด้วย ฟ้าใสทำปากเบ้ใส่

มันก็ยังชวนคุยเหมือนเราไม่มีอะไรติดค้างกัน

“นี่!!!” ฟ้าใสทำใจกล้า ไม่เคลีย มันก็ค้างคาในใจ เห็นโอลีฟท่าทางยังคุยอีกนาน

“เรื่องคุณคิดส์ หมายความว่าอย่างไงน่ะ แล้วเรื่องที่มาว่าเราอีก”

“อ้าว เห็นว่าไม่ถาม ไม่อะไร ก็นึกว่าไม่สนใจคิดว่าจบกันไปแล้ว 55” โภชน์พูดจบก็หัวเราะ

เสียงแมร่งหัวเราะ กวนตีนว่ะ ฟ้าใสคิ้วขมวด

“ไม่จบอ่ะ” ฟ้าใสเริ่มเอาเรื่องมันบ้าง “ก็มาว่าเรา”

“น่าไม่มีอะไร” สีหน้ามันอมวัดมาพูด กรูก็ไม่เชื่อ และแล้วมันก็เล่าให้ฟัง (คนอ่านก็ถอนใจ เฮ้อ..ตรูก็จะได้รู้เรื่องมั่งซะที)

“ก็ตอนที่ปี 3 เมริงเคยปฏิเสธไอ้คิดส์ใช่ไหม” อ๊ะแน่สิ กรูไม่ใช่เมริงนี่ นึกอยากผสมพันธุ์ก็รวบหัวรวบหางเอาดื้อๆ

แต่สำหรับพี่โม่ง ฟ้าใสก็ยอมนี่นา แต่นั่นเค้ามันไอดอลฟ้าใส ยกเว้นไว้ เป็นกรณีพิเศษ หนึ่งคน

โภชน์เล่าต่อ ไอ้คิดมันก็กินเหล้า เฮ้อ...เข้าสเตปการเสียตัว
ไอ้รุ่นพี่ผู้หญิง ก็ไอ้พี่วุ้นเส้น มันก็ชอบไอ้คิดมาตั้งแต่ ปี1แล้วล่ะ

(รุ่นพี่ โรงเรียนนี้ ทั้งหญิง-ชาย นิยมกินหญ้าอ่อนมาก น้องเข้าใหม่นี่ รุ่นพี่จะมานั่ง ม้าหิน เลือกชม เลือกชอป เลือกเล็ง ทุกเช้ากลางวันเย็น)

มันก็ตื้อหนักเข้า ลวนลามไอ้คิดส์ จนไอ้คิดส์พลาดท่าเสียที
เออ มันพูดเหมือนเพื่อนมันเป็นผู้เสียหาย
ตอนหลัง ไอ้วุ้นเส้นก็ท้อง  ไอ้คิดส์ก็บอกที่บ้าน บ้านไอ้คิดส์ก็ไม่ชอบไอ้วุ้นเส้น

( ฟ้าใสมารู้ทีหลัง พี่วุ้นเส้นเล่าให้ฟังว่า โดนพี่ชายคุณคิดส์ แกล้งปิดประตูห้อง ออกไม่ได้ หิวข้าวแทบตาย
 ตอนที่คุณคิดส์พาไปที่บ้านที่ภูเก็ต –บ้านคุณคิดส์ ก็มีฐานะเหมือนกัน ทำโรงงานอุตสาหกรรม อาหารและขนม
สำเร็จรูปแช่แข็ง ส่งโรงแรม ร้านอาหาร ในจังหวัด)

ฝ่ายพี่วุ้นเส้น บ้านก็ฐานะดี แต่พี่แกมักทำตัวไม่ค่อยดี ทางบ้านเลยไม่ค่อยชอบพี่เขาเท่าไหร่ ทำนองสาวซ่า
บ้าแบรนเนม(ไอ้โภชน์ว่า)ไม่ถึงสก๊อยสาวหรอกอ่ะ  ทางบ้านพี่เค้าจะให้ทำแท้งซะ จะได้ไม่เสียอนาคต

แล้วพอทางบ้านทั้งสองฝ่ายรังเกียจแต่ละฝ่าย ก็เลยไม่ช่วยเหลือพยายามกดดัน ไอ้คิดส์มันก็เลยต้องดูแลตัวเอง
และไอ้วุ้นเส้น ก็ยังไม่สำนึก ยังใช้เงินไอ้คิดส์ตามสบายเหมือนเดิม ซื้อของใช้แพงๆ จะกินดีๆ

โภชน์เล่าไป อัดบุหรี่ไป

“ไอ้คิดส์มันต้องรับงาน ทำงาน พอส่งงานหรือออกไปทำงานด้วยกัน ก็คอยโทรตามจิกให้ซื้อกับข้าว จะเอาโน่นเอานี่
มันอยากจะบีบคอให้ตายๆไปเลย เพื่อนมันจะได้หมดเวรหมดกรรม จะให้กลับไปอยู่บ้านก่อน ให้ไอ้คิดส์มันเรียนให้จบ
แล้วให้ไอ้คิดส์มันทำงานเลี้ยงลูก แล้วตัวเองค่อยกลับมาเรียน ก็ไม่เอา จะอยู่ถ่วงความเจริญไอ้คิดส์มัน
กรูถึงได้แค้นนักแค้นหนา เพราะเห็นเพื่อนลำบากต่อหน้าทุกวัน”

เฮ้อ...โภชน์ถอนใจยาว

“ส่วนเรื่องของกรู ช่วงนั้นกรูก็เครียดแล้วก็พาล ก็ไอ้แชท เมริงก็พอเห็นอยู่ กรูคบกับไอ้แชท พอมันสนิทกับบ้านพวกเมริง 
ช่วงไอ้คิดส์ด้วยล่ะกรูไม่อยู่ไปช่วยพ่อกรูทำรีสอร์ทที่เขาใหญ่ ไอ้พวกเวรพวกนี้ก็กินเหล้า
ไอ้แชทก็เกิดบ้า อยากลองของ อิขวัญ ห้อง 5 มันก็ชอบไอ้แชท มันก็เลยจัดให้

ไอ้พวกนี้มันก็ศีลธรรมจัด มันก็รับผิดชอบ ผู้หญิงมันสั่งซ้ายหันขวาหัน ชี้ควาย มันก็ร้องมอมอ รับ เฮอะ กรูถึงไม่ชอบผู้หญิง”

มันคงหิวน้ำ พูดมาก เดินไปร้านข้างๆซื้อเบียร์มา2กระป๋อง ฟ้าใสปฏิเสธ มันเลยเดินเอาไปให้โอลีฟ แล้วซื้อแฟนต้าน้ำส้มให้ฟ้าใสแทน

เออ กรูรู้เมริงตั้งใจกัดกรู ถึงซื้อน้ำส้มให้กิน  โค้กเป็ปซี่สไปซ์ มี เมริงไม่ซื้อ  แต่ของฟรีก็กินๆเข้าไป

ไอ้โอลีฟ ก็คุยสบายใจ เกือบชั่วโมง นั่งโต๊ะผู้จัดการ หัวเราะคิกคัก จิบเบียร์ด้วยอีกต่างหาก

“แล้วอิขวัญมันก็พอรู้ๆเรื่องกรูกับไอ้แชท มันเลยบังคับให้ไอ้แชท เอ็นแล้วไปเรียนต่อที่ เชียงใหม่” โภชน์เล่าต่อ

“แถมช่วงนั้น แม่กรูมารู้ว่าพ่อกรูแอบมีเมียน้อยอีก กรูเลยอารมณ์ไม่ดีหงุดหงิด โกรธ โมโห บ้า
แต่ก็เมริง อ่ะเสือกตัวเล็กด้วย ถ้าเมริงตัวใหญ่แบบไอ้คิดส์ กรูก็ทำอะไรเมริงไม่ได้ 55” ไอ้โภชน์พูดเสร็จ เอามือจับหัวฟ้าใสอีก

สัสสส หัวกรูไม่ใช่ ไอ้สาคู น่ะเฟ้ย ( ไอ้สาคู-หมาที่โรงอาหารในโรงเรียนฟ้าใส)

แล้วเมริงก็พูดแบบหมาๆนี่หว่า ตกลงมันสำนึกผิดไหมเนี่ยะ โทษว่ากรูตัวเล็ก กรูเลือกเกิดตัวใหญ่ตัวเล็กได้ที่ไหน
 
“เอาเป็นว่า กรูขอโทษเมริง เมริงกับกรูก็มาคบกันดีดีนะ” แขนคนตัวใหญ่ก็โอบคอคนตัวเล็ก

ฟ้าใสเหล่ตามองหน้าไอ้คนพูด ว่า ดีดี “ไม่มีนอกในนะ ดีดีของเมริง เพื่อนกันใช่ไหม”

“แน่สิ เพื่อนกัน แล้ววันหลัง กรูพาเมริงไปเยี่ยมไอ้คิดส์ก็ได้ บางวันไอ้คิดส์มันก็มาทำงานที่นี่ ข้างบน
 ก็มีฝ่ายออกแบบอยู่  งานโมเดลบ้านไอ้คิดส์มันก็เป็นคนทำ”

ฟ้าใสก็สบายใจ พอรู้เรื่องทั้งหมด และพูดจาเคลียกับไอ้โภชน์แล้ว

มันก็แค่ คนรักเพื่อน เหมือนเขากับผิงผิง และก็ แค่ คนอกหัก เหอเหอ สมน้ำหน้า มันไอ้โภชน์ เอ๊ะ แล้วฟ้าใสล่ะ อกหักด้วยหรือเปล่า

เปล่านะ ฟ้าใสก็ไม่รักใคร นอกจากพี่โม่ง คุณคิดส์น่ะเหรอ ก็ชอบๆนิสัยเท่านั้นล่ะน่า....


TBC....
เฉลยแล้วเรื่องเคืองขุ่นใจ
ตอนต่อไป มีคนกลับมาจากอเมริกามาบอกข่าวว่าจะหมั้น
 :monkeysad:
รีบปั่น รีบปั่น
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.5(อัพครั้งที่2ของวันนี้ฮะ) (12/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 12-09-2012 17:22:04
พอเฉลยเลยได้รู้ว่า เออ ไอ้คุณโภชน์มันพาลจริงๆ
ฟ้าใสไม่ได้เกี่ยวด้วยเลย :m31:
สปอยตอนหน้า อ่านแล้วอยากจะกรี๊ด พี่โม่งหรือพี่โอ (และหวังว่าคงไม่... )
สงสารน้องไขจัง รอก็รออยู่ แล้วยังต้องถูกทำร้ายตลอดๆ พี่โม่งก็นะ ไม่ได้ดั่งใจเลยดิ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.5(อัพครั้งที่2ของวันนี้ฮะ) (12/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 12-09-2012 17:47:36
เคลียร์แล้วก็โล่งหน่อย
แต่อะไรใครกลับมาแล้ว
บอกว่าจะหมั้นถ้าเป็น
พี่โม่งไม่ยอมจริงๆๆด้วย
เป็นพี่โอแล้วกันเนอะ :z2:

บวกเป็ดให้จ้า
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.5(อัพครั้งที่2ของวันนี้ฮะ) (12/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: timvasabi ที่ 12-09-2012 18:08:29
ถ้ามีคนที่จะหมั้น คนนั้นต้องเป็นพี่โอเท่านั้น!!!!!!!

ห้ามพี่โม่งนะค่ะ (มีห้ามด้วย 555)

ว่าแต่นู๋ฟ้าใสจะมีหนุ่มๆคนอื่นมาเอี่ยวอีกไหมน้า~
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.5(อัพครั้งที่2ของวันนี้ฮะ) (12/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: didi ที่ 12-09-2012 20:48:02
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.5(อัพครั้งที่2ของวันนี้ฮะ) (12/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 12-09-2012 22:37:31
"คืนนั้น ฟ้าใสมานั่งนึกนอนนึก ถึงคำพูดไอ้โภชน์ คุณคิดส์ มีลูกมีเมียแล้วเหรอ [หายใจ]เหมือนกัน วูบๆ เหมือนรู้สึกอกหักเลย"
   "ใจหาย"

"ตอนต่อไป มีคนกลับมาจากอเมริกามาบอกข่าวว่าจะหมั้น"
 :a5: :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.5(อัพครั้งที่2ของวันนี้ฮะ) (12/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: nine_molly ที่ 13-09-2012 09:49:34
ให้พี่โอหมั้นแล้วหิ้วน้องไขไปส่งพี่โม่งที่อเมกา
ชิมิชิมิ
 :กอด1:
:pig4:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.5(อัพครั้งที่2ของวันนี้ฮะ) (12/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 13-09-2012 10:18:17
 :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.5(ending) (13/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 13-09-2012 10:59:16

CH.5(ending)

ระหว่างที่ฝึกงาน โอลีฟ มักหิ้วฟ้าใส ไป บ.ไอ้โภชน์บ่อย บางวันก็จะเจอรุ่นพี่ ทั้งผู้หญิงผู้ชาย หรือ พวกห้อง 5 ห้อง 4

ไอ้โภชน์ มันก็ป็อป เหมือนกัน อายุมันก็มากกว่ารุ่นพี่บางคน บางคนก็เกรงใจมัน
แล้วเวลามันจะบอกอะไรไอ้โอลีฟ  มันก็จะโทรมาหาฟ้าใส ว่าวันนี้จะมีใครมาหามัน

ไอ้โอลีฟ ก็จะลากคอฟ้าใสไปนั่งเล่นคุยเล่นที่ บ.มัน เดี๋ยวนี้ ฟ้าใสก็พอคุ้นเคยพูดคุยเล่น มันจะคอยแนะนำ
หาวงดนตรีแปลกให้ฟ้าใสฟัง มันก็เคยบอกให้ฟ้าใสขึ้นไปเลือกเพลงที่ห้องมันข้างบน

และบางทีที่ไป ฟ้าใสก็จะเจอคุณคิดส์ เดินลงมาจากชั้นบน มานั่งคุยเล่นด้วย
ถึงหน้าคุณคิดส์จะดูไม่แฮปปี้ไปบ้าง แต่แววตาเหมือนเดิม ขอบอก อิอิ
.
.
.
.
ในที่สุดพวกเราทั้งหลายก็จบปี5 ไชโยโห่ฮิ้ว
ป๋าเรน กับป๋าแก้มมาชวนฟ้าใสไปต่อที่ ม.ของป๋าๆ เพราะเขามีเปิดสาขาวิชาใหม่ๆเผื่อฟ้าใสสนใจ
พี่ส้มโอ บอกว่าจะกลับมาปีนี้ เห็นบอกว่ามีข่าวดีจะมาบอกด้วย


ตรืด ตรืดดดดดด

“ไอ้ไข่ รู้จัก ฮอล8 พาวเวอร์เรนเจน ไหม มีคนไปออกงาน เค้าสั่งป้าให้ส่งของ ไปเป็นเพื่อนหน่อย เดี๋ยวเลี้ยง เอิร์ทเควค”

“เฮ่ย..ไปก็ได้ แหม ไม่ต้องเลี้ยงก็ได้ แต่ได้กินก็ดี 555”

“ฮื่อ..งั้นอีกเดี๋ยว ชม.หนึ่งไปรับ อยู่แถวประชาชื่นนี่แล้ว”

หลังส่งของเสร็จ โอลีฟให้น้าที่ขับรถให้กลับไปก่อน แล้วพาฟ้าใสมานั่งกินไอติมตามสัญญา

“เพิ่ง 4โมงเอง ไปบ.ไอ้โภชน์ ไหม” ง่ะ ฟ้าใสเห็นมันทำท่าพูด ก็เหมือนอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว
 ตกลงมันชอบพอไอ้โภชน์นัก ก็เป็นแฟนไอ้โภชน์ไปเลยเหอะ ให้รู้แล้วรู้รอดไป

“อ่ะ ไปก็ไปดิ” ปฏิเสธไอ้โอลีฟได้ที่ไหนล่ะ ยิ่งอยู่ต่อหน้า ถ้าชวนทางโทรศัพท์ ยังพอหลบ

“งั้นเดี๋ยวโทรบอกมันก่อนล่ะ” ว่าแล้วโอลีฟก็จัดการต่อสาย พักหนึ่ง หันหน้ามาหาฟ้าใส

“โภชน์ชวนกินข้าว แม่มันเอากับข้าวมาเยอะแยะเลย” ฟ้าใสก็พยักหน้าไป ตามใจมันดิ

พอไปถึง คนงานกำลังเตรียมตัวหยุดยาว ช่วงสงกรานต์ บริษัทมันเลยให้หยุดก่อนตั้งแต่วันพฤหัส
คนงานจะได้มีรถกลับบ้าน แม่มันก็เอากับข้าวมาเลี้ยงพนักงาน คนงาน ก่อนจะหยุดกันพรุ่งนี้

นั่งกินข้าวกันคุยกัน พ่อ-แม่โภชน์ กลับไปแล้ว เหลือ แพร น้องสาวมัน ซึ่งอายุ22มากกว่าฟ้าใสกับโอลีฟ ซะอีก
 กับ ยอด แฟนน้องสาว แล้วก็ อ็อต อายุ 16 ปี หลานที่มาจากต่างจว.เพื่อฝึกงาน

“พี่ต๊อก มันเพิ่งกลับมาจากสมุยนี่” เสียงไอ้โภชน์คุยกับโอลีฟ มีการนัดแนะ ทำนองเดี๋ยวมันจะชวนมาที่นี่
แล้วก็พูดทำนอง ไอ้พี่ต๊อก ผมยาวรุงรัง มันต้องไปสมัครครูพิเศษ เลยโดนไล่ให้ไปตัดผมก่อน
 โอลีฟ ก็หัวเราะคิกคัก บอกให้นัดมาดิ เดี๋ยวมันจะตัดผมให้
แล้วก็มีการถามไถ่ สงกรานต์ไปไหน ไปถามแอฟ เค้าเองสิ เค้าแฟนกัน

กินข้าวก็เสร็จแล้ว ใกล้ ทุ่ม ก็ใกล้มืดแล้วโอลีฟกับฟ้าใส จะกลับกันแล้ว

ไหนๆฟ้าใสก็ถือแก้วน้ำอยู่ ลองเล่นสงกรานต์ ล่วงหน้ากับไอ้โภชน์ก่อนแล้วกัน

ซู่ แหะ แหะ
555 โอลีฟหัวเราะชอบใจ ฟ้าใสวิ่งจู๊ดไปนอกออฟฟิส ก็นึกว่ามันจะยอมปล่อยผ่าน

ไอ้โภชน์คว้าแก้วบ้าง วิ่งตามฟ้าใส

ฟ้าใสเลยวิ่งหนีไปข้างตึกที่จอดรถ

โภชน์วิ่งตาม

บริเวณที่จอดรถก็มืดแล้ว มีแค่แสงจากไฟเหลืองๆเท่านั้น
ฟ้าใสโดนคว้าคอเสื้อด้านหลังได้ แก้วในมือไอ้โภชน์มันหายไปไหนก็ไม่รู้ เพราะมันกอดฟ้าใสไว้เต็มสองมือ

กลีบปากหนาประกบครอบครองกลีบปากอิ่มแดงเรื่อ เรียวลิ้นที่พยายามชอนไช ทันทีที่ฟ้าใสพยายามอ้าปากประท้วง
ลิ้นใหญ่ก็สอดเข้าเกี่ยวพันลิ้นเล็กกว่าทันที ลิ้นอุ่นระไล้นุ่มนวลแล้วเริ่มรุกรานหนักหน่วงขึ้น
มือขวาประคองศีรษะ ไม่ให้หลบหลีกไปไหน มือซ้ายรั้งสะโพกร่างบางเบียดกับท่อนล่างของตัวเอง
ฟ้าใสรู้สึกถึงลำท่อนแข็งแรงที่อยู่ภายใต้กางเกงยีนส์ของคนตัวสูง

หัวใจเต้นตึกตัก หวาบๆหวิวๆ

จูบสัมผัส ยาวเนิ่นนาน จนไอ้คนตัวสูงยอมตัดใจ ปล่อยร่างระทดระทวยของคนตัวเล็กออก
แต่ไม่วายฉกกอดหอมแก้มคนตัวเล็กอีกครั้ง กระซิบที่แผ่วเบาข้างหูนิ่ม

“ค้างที่นี่เหอะ”

ไอ้บ้า ไอ้หื่น ใครจะไปอยู่ให้เมริงซั่มล่ะ ไอ้หมาบ้าหน้าด้าน ฟ้าใสก้มหน้าอายหน้าแดงหูแดง


“โห ไข่ หน้าแดงเป็นไรเปล่า  โภชน์แกไปทำไรไอ้ไข่เปล่า” โอลีฟถามฉุดมือฟ้าใสมาดูหน้า

“เปล่า วิ่งหนีไปไกลออกถนนใหญ่โน่น ต้องตามจับตัว เดี๋ยวรถชน” ร่างสูงตอบ อมยิ้ม

ไอ้บ้า หาว่าตรูเป็นหมา

“บ้า!!! ไอ้ไข่ไม่ใช่หมานะ” เออ เอ็งย้ำถูกต้องแล้ว ย้ำเข้าไปเถิด  ไอ้โอลีฟก็จิ้มไหล่ไอ้โภชน์ หัวเราะฮ่าฮ่า

“อ่ะ กระเป๋า กลับบ้านบ้านดีดีล่ะ กลับไม่ถูกก็ค้างที่นี่”

“ใครจะไปค้างกับเมริง งุงิงุงิ” ฟ้าใสบ่นงึมงำ ไม่ยอมสบตาคนตัวสูง

โภชน์เอากระเป๋าคล้องสะพายให้คนตัวเล็ก เอามือเสยปัดผมให้อีกหนึ่งที

อ๊าค !!! แค่ท่าที่มันโอบไหล่จับตัวฟ้าใสเดินกลับเข้าออฟฟิสนี้ ฟ้าใสก็เห็นน้องสาวมันมองจ้องตาไม่กระพริบแล้ว

“คืนนี้จะโทรไปหา” ประโยคมาตรฐานหรือไง ไม่เอา ไม่ต้องโทร เดี๋ยวใจสั่น เสียงมันยิ่งทุ้มนุ่มอยู่ด้วย


เขียนไปเยอะกว่านี้ แต่อ่านแล้วไม่ดีเลย เลยตัดไปก่อน
 :pig4: ที่ติดตามครับผม
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.5(ending) (13/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 13-09-2012 13:08:51
อ้าวววววนู๋ไข
ยังไงกันล่ะเนี่ย
มีมาใจสั่นกับอิโภชน์
เดี๋ยวนู๋ไขจะโดน
มิใช่น้อย(ใครจะกล้าทำลง)
 :z2: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.5(ending) (13/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 13-09-2012 13:19:35
อร๊าาายยย.."ไอ้โภชน์" :sad4: อย่านะแก อย่ามาตอดเล็กตอดน้อยน้องไขของฉันนะ
น้องไขไหวหวั่นหวั่นไหว  :-[ กับรสจูบไอ้โภชน์แบบกระทันหัน ไม่ได้ตั้งตัวแค่นั้นเอ๊งงงง...ใช่ปะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.5(ending) (13/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 13-09-2012 13:21:47
 :sad4: :sad4:

มาต่อน้อยจัง
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.5(ending) (13/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 13-09-2012 22:39:18
อร๊ายยยยยยยยยยยยยย
บักโภชน์ได้นู๋ไขไปครองชิมิ
พี่โม่งอยู่หนายยยยยยย
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.6 (14/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 14-09-2012 01:47:45

Ch.6


โอย...มึนหัวอ่ะ หิวน้ำด้วย
เออ..บ้านเงียบจังเว้ย เฮ้อ..นั่นสิ ป้าๆไปเที่ยวอเมริกา เดือนหนึงนี่นา
ฟ้าใสจัดการธุระส่วนเสร็จก็เดินแบบเพลียๆ ไปบ้านแม่
อ่ะ...แม่คุยกะใคร คุ้นๆ หรี่ตาดูชัดๆ
ไอ้โภชน์ นี่นา ห๊า ไอ้โภชน์ ไอ้โภชน์มันไปคุยอะไรกับแม่เขา
ฟ้าใสเริ่มเลิกลั่ก เห็นป้านวลอยู่ครัว เลยรีบเดินไปหา

“ป้านวลอ่ะ!!!  เพื่อนไขไปคุยอะไรกับแม่อ่ะ” ฟ้าใสถามเสียงเข้ม

“เมื่อคืนหนูไข เมากลับมานี่นา แล้วเพื่อนคนนี้ก็ช่วยพากลับมา เมื่อเช้าเขามาขอคุยกับอาจารย์พรรณ”

“ป้านวล ได้ยินหรือเปล่าอ่ะ ว่าคุยอะไรกัน”

“อาจารย์พรรณก็ไม่ให้ป้าอยู่ด้วย ไล่ป้าให้ออกไปนอกห้อง อิอิ ป้าก็อยากอยู่ฟังด้วยหรอกนะ”

ไม่ได้คำตอบที่พอรู้เรื่อง มึนหัวก็มึน ฟ้าใสเดินไปหยิบโค้กไปจิบ นอนเพลียดูทีวีก่อนล่ะกัน เพราะเดินผ่าน
ทั้งแม่ ทั้งไอ้โภชน์   สายตาแม่ก็ดูเหมือนไม่ได้จะให้เขาเข้าไปคุยด้วยเลย


เวลาผ่านไม่นานนัก

“หนูไข หนูไข อาจารย์พรรณเรียก” ป้านวลมาเรียกฟ้าใสที่นอนพังพาบ จะหลับมิหลับแหล่

“เหวอ เอาแล้ว” โดนแน่เลยกรู  โดนดุเรื่องกินเหล้าแน่ กรูจะโกรธไอ้โอลีฟจริงๆ ฟ้าใสนึกในใจ



ฟ้าใสเดินเข้าไปในห้องรับแขก ไอ้โภชน์เรียกให้ไปนั่งข้างมัน ฟ้าใสเดินไปแบบงงๆ

“โภชน์ บอก เราคบกับเขาเหรอ”

“....” จะตอบอะไรล่ะ ช็อค!!! ไอ้โภชน์!!! เมริงคุยอะไรกับแม่กรู๊

“ถ้าชอบพอกัน แม่ก็ไม่ว่าอะไร ฟ้าใสจะได้มีคนช่วยดูแล เวลาไปไหนมาไหนทำงานกลับดึกๆดื่น ๆ
แม่ก็ห่วงเขาเหมือนกัน ก็ดีแล้วที่มาพูดคุยกันให้รู้เรื่อง ไม่ใช่ไม่บอกไม่กล่าว ฟ้าใสก็มีพ่อมีแม่ ”

“ครับ ผมจะให้พ่อกับแม่มาพบคุณแม่”

“จ๊ะ สะดวกวันไหนก็บอกมาแล้วกัน มาทานข้าวด้วยกันสักมื้อ”

“ครับ ครับ” ไอ้โภชน์ รับคำอย่างสุภาพเรียบร้อย

ฟ้าใสแอบหยิกมือตัวเอง เจ็บแหะ ไม่ได้ฝัน หยิกอีกทีเผื่อเป็นฝันซ้อนฝัน ก็เจ็บอยู่ดี
ไอ้โภชน์ยกมือไหว้แม่ของฟ้าใส สะกิดให้ฟ้าใสลุกขึ้นเดินตามมันออกไปนอกห้อง
โภชน์ฉุดกึ่งรวบตัว โอบไหล่ฟ้าใสไปที่ห้องบ้านเรือนไทย มองจากข้างหลังคงคิดว่ารักกันดี
ฟ้าใสทั้งทุบทั้งชกไอ้โภชน์ ไป5ทีแล้ว

ทันทีที่เข้าไปในห้องนอน ฟ้าใสรีบปิดประตู กดล็อค

“เชรี่ยโภชน์ เมริงทำอะไร”

“ทำอะไร กรูก็บอกกับแม่เมริง ว่าเมริงกับกรูเป็นคบกัน เป็นแฟนกัน”

“ใครเป็นแฟนกับเมริง”

“เออ ใช่ไม่ได้เป็นแฟนกันนี่หว่า เมริงเป็นเมียกรูนี่ งั้นเดี๋ยวกรูต้องไปบอกแม่เมริงใหม่”

ฟ้าใสรีบตะครุบดึงมือร่างสูงทันที

“เออ เออ ก็ได้ กรูเป็นแฟนกับเมริง”  ฟ้าใสรับคำอย่างจำยอม

ไอ้โอลีฟ นะเมริง ฟ้าใสอยากฆ่าโอลีฟ มากถึงมากที่สุด....


เรื่องนี้มันมาถึงจุดนี้ได้อย่างไง ฟ้าใสนั่งปลง โอย ...อยากดูดบุหรี่ ดูดในบ้านก็ไม่ได้

“โภชน์ เมริงพากรูออกไปข้างนอกทีได้ไหม”

“ได้สิจ๊ะที่รัก ไปนั่งเล่นบ้านสามีไหมจ๊ะ” หน้าโหดยิ้มอย่างเอาใจ บทมันจะทำตัวปัญญาอ่อนมันก็ทำได้นี่หว่า แล้วไม่รู้จักทำ

“ไปบางแสนแล้วกัน ไปหาผิงผิงด้วย” ฟ้าใสไปคุยกับผิงผิงดีกว่า

เรื่องนี้มันมาถึงจุดนี้ได้อย่างไงนะเหรอ เมฆฝนมันก็ตั้งเค้ามา ตั้งแต่ไอ้ช่วงฝึกงาน ที่ไอ้โอลีฟมันชอบแวะไปหาไอ้โภชน์
 ฟ้าใสก็ได้เคลียร์ใจไม่มีอะไรติดค้างกัน แล้วก็เลยคบหาเป็นเพื่อน  ก็คุยถูกคอนะ เรื่องเพลง หรือทัศนคติต่างๆ
มันก็ฉลาดดี ขยันเรื่องงานอย่างดีเลย ฟ้าใสนับถือมันเรื่องงานจริงๆ

แต่ก็ไม่รู้อ่ะนะ ว่ามันจีบฟ้าใสหรือเปล่า  ก็มันก็ไม่เห็นทำท่าจะจีบเลย มีแต่มันจะชวนค้างออฟฟิสมันอยู่เรื่อย
แล้วถ้ามีโอกาส ฟ้าใสก็โดนมันจูบปากจนตัวอ่อนสมองนิ่มทุกที

ความรู้สึกทางกายก็เป็นความรู้สึกทางกาย  แต่ถ้าไอดอลชายในใจก็เป็นพี่โม่งคนเดียว



แล้วเมื่อ2เดือนก่อนที่ฟ้าใสไปโรงเรียน

(ชอบเรียกสถานที่เรียนว่าโรงเรียน ต่อให้เป็น มหาวิทยาลัย,วิทยาลัย,วิทยาเขต,สถาบันฯลฯ)

“เชรี่ย...ที่จอดรถแมร่งไม่มีเลยว่ะ” ฟ้าใสบ่นกับตัวเอง

ปริ๊น! ใครว่ะบีบแตรใส่กรู อ้าว!! เชรี่ย ไอ้ป๋าเรน ที่จอดไม่มียังมาจอดอัดตูดกรูอีก ลงมาชกกันดีกว่า 555
ฟ้าใสถลาลงไปเกาะหน้าต่างรถป๋าเรน

“เสียใจเมริง ไม่มีที่จอดว่ะ ไอ้แจ๊สสีดำ มันปิ๊บๆ ไฟกระพริบ กรูอุตส่าห์หมายตาไว้ เสือกเอาของมาเก็บเฉยๆ
 ที่จอดอาจารย์ปรีดาแท้ๆ แมร่ง อิพวกนมคัพดี นี่มีที่จอดเสมอเลยนะเมริง”

“555 เมริงอิจฉาเขาล่ะสิ ถ้าเมริงอยากมีที่จอดนักนะไอ้ไข่ เมริงก็เอาช่องของเมริงไปแลกช่องจอดรถที่ อาจารย์สายัณสิว่ะ 555”

“ไม่เอา กรูจะเก็บไว้ให้หนึ่งเดียวคนนี้ของกรู ไม่ต้องมายุ่งกับตูดกรู”

“ไป ไป ไปจอดในวัด ไอ้ไข่เมริงจะรับงานไหม ร้านอาหารในโรงแรมที่อยุธยา”

“เออ เอาสิ จะได้มีงานให้ไอ้ซิวกับไอ้นุ้ย แมร่ง ไอ้ซิวทะเลาะกับพ่อมันอีกแล้ว”

“หักบัตรทองอีกหรือเปล่า” ป๋าเรนดักคอ

“หักสิเมริง ทะเลาะกันที หักบัตรทุกที มันไม่มีปัญญาคิดมุกใหม่หรือไงว่ะ”

“555 เมริงก็พยายามเสนอไอเดียใหม่มันสิ”

“แล้วเมริงอ่ะ เดี๋ยวนี้ไม่ขโมยเหล้าพ่อมาแบ่งเพื่อนแล้วเหรอว๊า”

“เฮ่ย...ไม่มีแล้ว กรูขโมยจนหมดแล้ว ต้องรอวันเกิดเขาก่อนโว้ย เมริงก็หามามั่งสิว่ะ”

“ห่านสิ บ้านกรูมีแต่ผู้หญิงและผู้หญิงเว้ยจะไปเอาเหล้ามาจากไหน มีแต่ผ้าอนามัยนะเมริง เอาไหมล่ะ กรูขโมยให้”

“สัสไข่ กรูซื้อใช้เองได้ นี่!! เดี๋ยวเมริงไปจอดที่วัดแล้วเจอที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดนะเมริง
 ไอ้ป๋าแก้มมันนั่งจีบลูกสาวป้าเขาอยู่ที่นั่น กรูไม่เข้าชั่วโมงแรกแล้ว ไปคุยกันเรื่องร้านอาหาร
 เมริงจะได้เอาเบอร์ไปติดต่อเขา”

“เออ เออ เมริงก็รีบถอยไปสิว่ะ”


หลังจากจบปี 5

ฟ้าใสมาเรียนที่เดียวกับป๋าแก้ม ป๋าเรน ตามที่แม่อยากให้เรียนคืออีก2ปีจบได้ป.ตรี แล้ว ฟ้าใสก็ไปลงเรียน
พวกทำละครด้วย ป้าเป็นสปอนเซอร์ให้ แถมซื้อรถให้ฟ้าใสไว้ใช้ด้วย มินิคูเปอร์คันนี้ ป้าซื้อไว้

เพราะเพื่อนป้าขายแบบถูกมากๆ สภาพดี เอี่ยมนิ๊งๆ ที่ถูกก็เพราะ สามีเพื่อนป้าซื้อรถคันนี้ให้อีหนู
พอเพื่อนป้ารู้เลยยึดมาแล้วขายประชดแค่แสนเดียว ป้าเลยมาถามฟ้าใสว่าเอาไหม ถ้าเอามาแล้วทำสีใหม่ก็ได้ ฟ้าใสก็เอาสิ


มาวันนี้ ...ฟ้าใสนั่งทำหน้าอึน มึน แต่ยังไม่โฮ  งานที่รับมาจากไอ้ป๋าเรน น่ะเสร็จเรียบร้อย แต่ไอ้คนติดตั้งนะสิ มันหนีไปต่างประเทศกับพ่อมัน

“ไอ้ไข่ นั่งหน้าเป็นตูดเชียว” ไอ้ป๋าเรนเดินเข้ามาในห้องเรียนฟ้าใส ไอ้นี่นี่คนละแผนกนะโว้ยเดินเข้าห้องคนอื่นน่ะเกรงใจซะมั่ง

อ้าว ไอ้สา ไปเกาะแขนไอ้ป๋าเรนทำไม เอ็งนี่วางเครือข่ายทุกภูมิภาคเชียวนะเมริงไอ้ป๋าเรน

“มีอารายอ่ะ” ฟ้าใสทักป๋าเรนเนือยๆ คิดว่าจะเอาไงดี

“ไปเป็นเพื่อนหน่อย แม่ใช้ให้ไปทำธุระ” เป็นที่รู้กัน คำว่าแม่ใช้ไปทำธุระ นี่คือเรื่องเกี่ยวกับสาวๆของมัน

“ไปก็ไป ไปนั่งรถเล่นก็ได้ เมริงต้องกลับมาส่งกรูที่นี่น่ะเฟ้ย” ฟ้าใสรับคำ กำลังเซ็งๆ

“เป็นไรว่ะ” ป๋าเรนถามเมื่อเห็นหน้าฟ้าใสอึนจัด

“ก็ไอ้ซิวน่ะสิ”

“ทำไม มันทำงานไม่เสร็จเหรอ”

“เปล่า ไอ้ซิวน่ะ มันนะเขียนเสร็จแล้ว และมันก็ไปแล้ว”

“อ้าว”

“ก็ใช่น่ะสิ ก็มันน่ะเขียนรูปทำงานดึกๆดื่นๆ พ่อมันเลยสงสารที่มันต้องทำงานหาเงินใช้  เลยง้อมันด้วยการพาไป
เที่ยวออสเตรเลีย มันก็ไปน่ะสิ ทิ้งกรูให้หาคนติดเอาเอง”

“555 แล้วเดี๋ยวมันก็กลับมามีบัตรทองให้หักอีก 555”

“เออว่ะ”


หลังจากเดินเอาเค้กวันเกิดไปให้สาวที่รร.สตรี

“เสร็จแล้วเหรอ ธุระแม่เมริง ไอ้ป๋าเรน”

“เออสิ” มันลอยหน้าลอยตาตอบ

“ไปเอาเค้ก แล้วเอาไปส่ง แค่นี้ ให้ที่ร้านเขาไปส่งก็ได้”

“ได้ก็ได้ แต่มันไม่ประทับใจโว้ย ความประทับใจ impression รู้จักหรือเปล่าน่ะ เมริง เรียนกันมาแต้แต้”

“เออ เออ”

“อ่ะ ไป กลับโรงเรียนเรา รักรออยู่ 555”

“เมริงนี่น๊ามีน้องสาห้องกรู แล้วที่ห้องเมริงล่ะ มีเปล่า”

“มีสิว่ะ”

เฮ้อ...พอไอ้ป๋าพูดเรื่องเรียนกันมา ฟ้าใสก็พอนึกถึงคนมีฝีมือ ที่เนี๊ยบพอไว้ใจได้ ไอ้ป๋าเรนก็คงแนะนำให้ไปหาโอลีฟ
ให้โอลีฟหาคนรู้จัก เพราะโอลีฟมันรู้จักคนเยอะ แล้วถ้าให้โอลีฟแนะนำ ก็คงไม่พ้นไอ้คนนี้


“อะโหล...เอ่อ โภชน์ นี่เราเอง” พูดเรื่องงานต้องพูดสุภาพ

หลังจากบอกเล่า งานก็คือ เอาภาพที่เพ้นส์บนผ้าใบไปติดบนผนัง อีกฝ่ายก็ตกลง
 ฟ้าใสอยากไปติดตั้งวันอาทิตย์ แต่ไอ้โภชน์ว่างวันเสาร์ ฟ้าใสไม่ค่อยอยาก ทำอะไรผิดจากกิจวัตรประจำวัน
 อาบน้ำแปรงฟัน กินข้าว ในวันเสาร์เท่าไหร่ เพราะมักจะซวยๆทุกที


เช้าวันเสาร์ฟ้าใสไปรับไอ้โภชน์ แต่เช้า

ไอ้โภชน์เอาหลานไปช่วยด้วย เดี๋ยวนี้มันแยกมาเปิดเป็นร้าน 1 คูหา รับงานจาก บริษัทพ่อมันเอง และงานอื่นๆที่มันอยากจะทำ
ที่จอดรถก็ใช้ของพ่อมัน เพราะอยู่ถัดจากบริษัทพ่อมัน 3คูหา

แล้วก็ไปเอาของที่บ้านไอ้ซิวที่สั่งคนไว้เรียบร้อย มันเอาของใส่รถกระบะพร้อมสรรพ รถฟ้าใสก็เล็กแม้จะติดหลังคาใส่ของ

“เอารถกระบะไปได้เปล่า”ไอ้โภชน์ถาม

“อ๋อ อ๋อได้ ไอ้ซิวมันก็สั่งไว้ให้หาคนมาขับไป แต่เกรงใจ เราก็ไม่เคยขับรถกระบะอ่ะกลัวไม่ถนัดอ่ะ”

“ไม่ต้องเกรงใจหรอก เรื่องขี่ๆขับๆเดี๋ยวจัดให้”

เอ๊ะ แววท่าทางไม่ค่อยดีแล้วโว้ย เปลี่ยนใจหาคนติดตั้งใหม่ดีไหมว่ะ ไม่ได้อีก กลัวคนอื่นทำไม่ดี ไม่รู้จักกัน
เดี๋ยวติเขามาก เจอก้านคอ ฟ้าใสก็ไม่ได้ใช้เงินอ่ะดิ

ฟ้าใสก็ทิ้งรถตัวเองไว้ที่บ้านไอ้ซิว ฝากลุงพ่อบ้านไว้  บ้านนี้มีแต่ผู้ชายจริงๆแม้แต่ลูกจ้างในบ้าน
 ครอบครัวไอ้ซิวมีกันแค่ 3คน พ่อ พี่ชาย ชื่อพี่ซอล ไอ้ซิวเป็นน้องสุดท้อง เลยค่อนข้างเอาแต่ใจตัวเอง
 ฟ้าใสรับงานตกแต่งร้าน ตามห้าง กับไอ้ซิว ไอ้ฝ้าย ไอ้นุ้ย มาหลายงานแล้ว ต้องไปเที่ยวตัดต้นไม้
เอามาทาสี บ้าง พยายามใช้ของที่มันไม่เสียซื้อ เราจะได้เหลือเงินเยอะๆไว้เที่ยว

“เฮ้ย ไข่ ไปเล็งดิ เอียงเปล่า” ไอ้โภชน์มันก็สั่งๆ เออ ดีมาก ฟ้าใสนึกว่าจะแย่แล้ว ได้ไอ้โภชน์มาช่วยโคตรคุ้ม
 ยิ่งมันเอาหลานมา ฟ้าใส แค่คอยเลื่อน ส่ง กระป๋องกาวให้บ้างเท่านั้น

จากที่มาถึงกันก็เกือบเที่ยง ฟ้าใสนึกว่ากว่าจะเสร็จคงหกโมงเย็นกว่า  ปรากฏ5 โมงกว่าก็เสร็จ เออ ดี จะได้กลับไม่ดึกมาก

หลังจากรับเงินงวดสุดท้าย แฮ่ แฮ่ ชื่นใจ

คนงานชายเริ่มงอแงจะกินข้าวหรู ไอ้บ้า จะซื้อข้าวกล่อง 35บาท เซเว่นให้กินซะหน่อย ล้อเล่น

“เลี้ยงข้าวในเรือหน่อยสิ” โห ดูมันชี้ไปในเรือเปิดไฟระยิบระยับ อย่างงั้นต้องมากะแม่ กะพ่อเอ็งสิ 3000อัพ แน่เลย

“ซื้อเซเว่น แล้วจอดข้างๆริมตลิ่งกินดีกว่าไหม ไม่เวียนหัวไม่โคลงเคลงด้วยนะเฟ้ย”

ไอ้อ็อต หลานมันหัวเราะ

“ล้อเล่นน่า ก็ไปดิ แกขับรถนี่นา ไปกินไหนก็ไป เลี้ยงอยู่แล้ว จะได้รีบกลับ”

“อาโภชน์ อาโภชน์ ผมขอแวะไปบ้านได้เปล่า”

“อ้าว อ็อตเป็นคนจังหวัดอยุธยาเหรอ”

“ครับ”
“ทำไมอยากกลับค้างบ้านเหรอ” ไอ้โภชน์ถาม

“ก็พรุ่งนี้ที่ร้านมีงานเปล่าครับ”

“เออ มันก็ไม่มีอะไร จะค้างบ้านก็ได้นะ อ่ะไปส่งให้”

หลังจากหลงไปเลยมาก็มาถึงที่ บ้านเรือนไทยยกพื้นสูงตามแบบบ้านในชนบทภาคกลาง ที่เป็นบ้านของอ็อตจนได้
ทั้งพ่อและญาติ เด็กอ็อตก็ชวนกินข้าวด้วย ไอ้โภชน์มันก็มองหน้า ฟ้าใสก็พยักหน้าตกลงเพราะทางนั้นท่าทาง
ยังอยากคุยกับมัน ไหนๆงานก็เสร็จ สบายใจไปแล้ว มันก็อุตส่าห์มาช่วยกันทำงานให้ฟ้าใส

พูดคุยกันพักใหญ่ ก็มืดแล้ว บ้านอ็อตก็ชวนค้าง แต่ก็ปฏิเสธไป ญาติมันก็เตือน ค้างก่อนก็ได้เช้าค่อยขับกลับ
ขับรถกลางคืน อันตรายทั้งพวกเด็กแว๊นส์ ทั้งยังมีพวกปาหินอีก ฟ้าใสก็กลัว เดี๋ยวรถไอ้ซิวเป็นอะไรไม่ดีแน่ ค้างก็ค้าง


“อ่ะนี่ พี่ไข่ ลองนี่หน่อย ทำเองเชียวนะ” พ่ออ็อตเรียกฟ้าใสตามที่อ็อตเรียก ชวนกินเหล้าที่หมักเอง

ไอ้โภชน์มองหน้าเขาแล้วยิ้ม “เอ๊ะ อ็อตมีน้ำส้มหรือเปล่า”

“อ้าว อาโภชน์อยากกินเหรอ เดี๋ยวผมขี่มอไซต์ไปซื้อให้” อ็อตสนองตอบ

เหอะ ประชดกรูใช่ไหม ฟ้าใสรับแก้วที่มีน้ำใสแจ๋วจากมือพ่ออ็อต ยกดื่มพรวด อร๊าย โคตร บาดคอ
พ่ออ็อตยิ้มภูมิใจ ส่งจานใส่มะขามเปียกมาให้ ฟ้าใสทำหน้าเหย ไม่เอา

“พี่ไข่ นี่ แก้วเดียวก็หน้าแดงไปทั้งหน้า ดูไอ้อ็อตสิแดกเหล้าหมดลัง ไม่มีหน้าแดงสักแอ๊ะ555”

“โหย พ่อ จะด่าว่าผมตัวดำก็บอกเหอะ ไม่ต้องอ้อม พี่ไข่เขาคนกรุงเทพฯ เขาก็ขาวทั้งตัวอ่ะดิ
ตอนอาบน้ำนุ่งผ้าขะม้าออก ผมนึกว่าหลอดนีออน” ไอ้อ็อตเมริงเป็นคนตรงดีมาก ไม่มีวิจารณ์ลับหลัง

พ่อไอ้อ็อตนี่ก็ตื้อให้กินอยู่นั่น แก้วว่างไม่ได้ เติมตลอด พอลุกไปฉี่ ฟ้าใสถึงกลับเซ อ็อตจะช่วยพยุงแต่ไอ้ร่างสูง
มันก็ลุกมาจับเขาไว้แล้ว

โภชน์ หัวเราะเบาๆ ไล่ให้ฟ้าใสไปนอน แม่อ็อตกางมุ้งหลังใหญ่ให้พวกเขานอนตรงหน้าทีวีแล้ว
สมาชิกของบ้านคนอื่นเข้านอนกันหมด เข้านอนกันตั้งแต่2ทุ่มครึ่ง เหลือแต่ พ่ออ็อตที่อยู่คุยกับไอ้โภชน์
โดยมีอ็อตนั่งขอฟังด้วยคน และคอยให้เรียกใช้

3ทุ่มครึ่งฟ้าใสก็ไปนอน ทั้งเมาเหล้าขาว ทั้งเพลียที่ตื่นแต่เช้า อากาศตอนกลางวันก็ร้อน หัวถึงหมอนแป๊บเดียวก็หลับ

รู้สึกอุ่นร้อนที่ริมฝีปาก ตัวก็ถูกทับจนหนัก ปากของเขากำลังโดนอีกฝ่ายรุกราน ฟ้าใสสบตากับอีกฝ่ายในความมืด
ไม่รู้จะตีความหมายว่าอะไร แต่การรุกรานหนักขึ้น มือหนาลูบไล้ โอบกอด ลิ้นที่ดูดดุน เกี่ยวพันในช่องปาก
ทำให้สมองที่มีอยู่น้อยนิด พากระเจิดกระเจิงเผลอไล้ลิ้นเล็กไล่กอดเกี่ยวกับลิ้นใหญ่

เม็ดยอดอกที่เป็นติ่งแข็งบ่งความรู้สึกเสียวซ่านที่อีกฝ่ายปลุกเร้า
ร่างใหญ่กอดรัดยกตัวเขาขึ้นกางเกงเลและกางเกงในที่ขวางทั้งสองถูกปลดออก
มือหนาใหญ่ค่อยปลดเปลื้องของตัวเองตามมา


ท่ามกลางเสียงหรีดหริ่งเรไร เสียงหอบหายใจ แห่งความสุขสม
โภชน์ปลดปล่อยความสุขให้ฟ้าใสก่อน แล้วจึงตามมาด้วยของตัวเอง
เสียงขออนุญาตกระซิบแผ่วที่ข้างหู ร่างเล็กบางไม่ตอบ โภชน์จึงถือว่าไม่ปฏิเสธ
โภชน์ค่อยๆกดลำแท่งของตัวเองแทรกเข้าอย่างนุ่มนวล คนตัวเล็กนอนอิงแนบอกแกร่งรับความรู้สึก
มือเล็กปิดปากตัวเอง ไม่ให้เผลอส่งเสียงครางด้วยความรู้สึกเต็มตื้น




ฟ้าใสกระพริบปริบๆรู้สึกตัวตื่น เมื่อได้ยินเสียงคนคุยกัน อยู่ใกล้ๆ ระดับความสว่างบอกเวลาว่าไม่ใช่เช้าตรู่แน่ๆ
รีบมองหาดูเวลา อ๋อย...8.30 แล้ว ไอ้บ้าโภชน์ไม่ยอมปลุกกันเลย

ฟ้าใสมองเห็นหลังคนตัวใหญ่ที่คุ้นเคย นั่งที่ขอบยกพื้นโถงที่เขานอนอยู่  คุยกับอ็อตที่นั่งที่พื้นชานพิงขอบแบบสบายๆ
ถามวิธีติดงานที่เขาเพิ่งให้ไอ้โภชน์ทำเมื่อวาน

นี่เขามานอนหน้าทีวี แล้วพวกเด็กหรือคนบ้านนี้ก็อดดูน่ะสิ โอ่ย...เกรงใจชะมัด ไอ้บ้านั่นก็ไม่ปลุก ตื่นก่อนทั้งที

พอได้เสียงขยับลุก ร่างใหญ่หันมามอง สบตา โอ้ย...จั๊กจี้ว่ะ ตามันหวานๆนุ่มๆอย่างไงชอบกล

ฟ้าใสขมวดคิ้วเริ่มนึกถึงเรื่องเมื่อคืน พาลไม่กล้าสบตาหรือพูดกับคนที่ชอบรุกรานผู้อื่น

“เอ่อ...อ็อต...” ฟ้าใสเลี่ยงไปพูดกับอ็อต จะถามว่าคนไปไหนกันหมด

“กาแฟ ชงเตรียมไว้ให้เย็นหมดแล้ว เดี๋ยวชงให้ใหม่แล้วกัน”

“ไม่เป็นไร เรากินเย็นๆได้” ไม่มีตบมุกกวนตีนตอบแหะ ธรรมดาบอกอย่างงี้ ก็ต้องตอบกลับว่า
นี่เพิ่งเช้ารอไปกินเย็นไม่หิวแย่เหรอ เหอ เหอ

“พี่ไข่ แปรงสีฟัน ผ้าเช็ดตัววางอยู่บนโต๊ะนะพี่”

ฟ้าใสสำรวจตรวจดูเสื้อผ้าตัวเองอยู่ครบเสื้อ กางเกงเลเหน็บชายเรียบร้อย แต่ ไม่มี.. กางเกงในสีขาวของเขาล่ะ
เงียบไว้ก่อน...ฟ้าใสแอบเปิดดูที่นอน เปื้อนไรเปล่าว่ะ หรือกางเกงในไปซุกอยู่ตรงไหน

“หาอะไร... ไปอาบน้ำได้แล้ว”

ไอ้บ้ามายืนค้ำหัวสั่งอยู่ได้ เออ ที่นอนไม่เปื้อนอะไรแปลกๆ ค่อยโล่งใจ
โภชน์ทรุดตัวนั่งยองๆข้างร่างเล็กที่ยังนั่งบนฟูกในมุ้ง

“ลุกไหวเปล่า...กางเกงในเอาไปทิ้งแล้วใช้เช็ดของเมื่อคืนน่ะ..ลุกมาเหอะ” ใบหน้าคนพูดยิ้มกริ่ม คนฟังหูแดง

ฟ้าใสลุกเตรียมเก็บที่นอน

“พี่ไข่ไม่ต้อง เดี๋ยวผมจัดการเอง”

พอหยิบแปรงหยิบผ้าเช็ดตัว ก็เจอกางเกงในที่เพิ่งซื้อมาใหม่วางไว้ให้ด้วย 

เออ ดีมาก นึกว่าต้องลมห่มฟ้า ให้เสียวสยองเวลารูดซิป
.
.
.
.
หึ หึ ก็ได้ งานครั้งนั้น ไอ้ไอลีฟ ไม่เกี่ยว ก็ได้

แต่งานที่ไอ้โภชน์ค้างบ้านเขา ไอ้โอลีฟ เกี่ยวเต็มที่

ก็เมื่อ4 วันก่อน โอลีฟมันจะไปเที่ยวทะเลกับเพื่อน อาร์ต อาร์ ป.ตรี เพื่อนๆที่ยังอยู่ที่เดิม
ก็บังคับกึ่งชวน ฟ้าใสปฏิเสธแล้ว ปฏิเสธเล่า บอกว่าไอ้ดอลลี่มันไม่สบาย ต้องป้อนยา

ก็บอกแล้วว่าข้าวโอ๊ตมันซื่อบื้อ พอไอ้ดอลลี่มันดื้อไม่กินยา ก็ไม่รู้จักหาวิธีหลอกล่อจัดการ ป้าป้าก็ไม่อยู่
ไปเที่ยวอเมริกาตามคำชวนของพี่โอที่กลับมาหมั้นแล้วก็แต่งงาน ฝ่ายโน้นเลยชวนไปเที่ยวที่โน่น

แต่แม่ไม่ไปมีงาน ป้าทั้งสองเลยไป กลัวแก่กว่านี้จะเที่ยวไม่ไหว คนที่ขับรถพาดอลลี่ไปหาหมอก็มีแต่แม่ หรือต้องไปบอกเลิศ

โอลีฟก็ตื้อจนฟ้าใสต้องยอมไปด้วยคำอ้อนวอนตื้อไม่เลิก  พอฟ้าใสกลับมา ข้าวโอ๊ตก็บอกไอ้ดอลลี่ตายแล้ว
 
ฝนตก มันวิ่งหลุดไปตากฝนอีก เลยทรุด ฟ้าใสก็ดุข้าวโอ๊ต มันก็หงอยรู้สึกผิด ธรรมดาฟ้าใสก็ไม่ค่อยจะดุน้องเลย
แทบจะไม่เคยด้วยซ้ำ พอถามว่าพาไปหาหมอหรือเปล่า ข้าวโอ๊ตก็บอกพา ที่ไหน แถวบ้าน

ฟ้าใสก็อึ้งสั่งแล้วสั่งอีกให้พาไปที่รพ.สัตว์เกษตร  ยอมไปไกล ดีกว่ารักษาแถวบ้าน เพราะตายทุกราย ไอ้คลินิกบ้านี่

ฟ้าใสเลยโมโหไอ้โอลีฟ จริงๆ เท่านั้นยังไม่พอ เพิ่งจะฝังไอ้ดอลลี่ ไอ้โอลีฟยังมาตื้อชวนฟ้าใสไปผับไปดริ๊งกันกับพวก
ที่เคยไปช่วยกันทำละครของมูลนิธิอีก ฟ้าใสก็เซ็งมาก ไปแมร่งก็ไป กะจะออกไปกิน กิน กิน ให้เมาสะใจ ไอ้โอลีฟเลย

แล้วก็เมาจริงๆ เมาจนไม่รู้ว่า ไอ้โอลีฟมันโทรไปเรียกไอ้โภชน์ให้มาพาฟ้าใสกลับบ้าน
จำได้ว่ายกดื่มให้ไอ้ดอลลี่ไปสวรรค์ เป็นสิบ 555 ไม่รู้เบี้ยวใครมั่งเปล่า



แล้วจุดจบ ฟ้าใสต้องมานั่งสูบบุหรี่ที่เก้าอี้ชายหาดบางแสนนี่ไง


โปรดติดตามตอนต่อไป
เมาชีวิตตามน้องไข :m16:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.6 (14/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 14-09-2012 02:17:59
ดูเหมือนฟ้าใส จะไม่ใสแล้วแห๊ะ ก๊งเหล้า คาบบุหรี่ ตามสเต็ปเด็กศิลป์

โภชน์รุก(แร๊งแรง)ดีจังเน๊อะ จะให้พ่อแม่มาขอนู๋ไข่แล้วง่ะ

ว่าแต่ สุดท้ายแล้วพี่โม่งหายลับไปกับกลีบเมฆจริงๆชิมิ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.6 (14/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 14-09-2012 02:47:23
ดูเหมือนฟ้าใส จะไม่ใสแล้วแห๊ะ ก๊งเหล้า คาบบุหรี่ ตามสเต็ปเด็กศิลป์

โภชน์รุก(แร๊งแรง)ดีจังเน๊อะ จะให้พ่อแม่มาขอนู๋ไข่แล้วง่ะ

ว่าแต่ สุดท้ายแล้วพี่โม่งหายลับไปกับกลีบเมฆจริงๆชิมิ
ฟ้าใสกินเหล้าบ้าง แต่ไม่หนักเท่าคนอื่น ถ้ากินจนเมา ก็คือวันนั้นตั้งใจเมา
และก็มีบ้างสนุกจนเอาตะเกียบเคาะแก้วร้องเพลง เต้นท่าลวกก๋วยเตี๋ยว
สูบบุหรี่บ้างเวลาเครียด เบื่อ ไม่บ่อยเพราะยังอยู่ภายในการดูแลแม่อยู่
โภชน์รุกแรงเข้าทางผู้ใหญ่ เพราะต้องการผูกมัดฟ้าใส เพราะรู้ว่าฟ้าใสชอบคุณคิดส์
ส่วนพี่โม่ง มาโค้งสุดท้าย ยามที่ฟ้าใสต้องการจริงๆ วิ้ว วิ้ว ไวน์ดีๆใช้เวลาบ่มนาน
 :pig4:
รักคนอ่าน โปรดปรานคนเม้นท์
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.6 (14/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 14-09-2012 10:57:19
อินู๋ไขจะเปลืองตัว
เกินไปแล้วนะ :m16:
พี่โม่งก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะมา
รอนานเกินไปแล้ว
เดี๋ยวคนอ่านก็หาย
ตามบ้างหรอก
อ่ะล้อเล่นน่า :laugh:
(แต่ถ้านู๋ไขยังเปลืองตัวแบบนี้อีกก็ไม่แน่)
บวกเป็ดให้จ้า
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.6 (14/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 14-09-2012 11:17:18
ในที่สุดฟ้าใสผู้อ่อนไหว/อ่อนแอก็ต้องตกเป็นแฟน(เมีย)โภชน์โดยปฏิเสธไม่ออก
แล้วกับพี่โม่งล่ะ ช่วงนี้ฟ้าใสไม่ได้ติดต่อกันอีกเหรอ รึว่าติดต่อกันไม่ได้
ฟังจากคำพูดของผู้เขียนแล้ว ดูเหมือนว่าในวันหนึ่งข้างหน้า โภชน์จะทำให้หนูไขเสียใจรึเปล่า
 
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.6 (14/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 14-09-2012 12:04:11
 :bye2: :bye2: :bye2:  ''งง
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.6 (14/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: nine_molly ที่ 14-09-2012 17:37:16
บักโภชน์ มีเพื่อนน้องไข เป็นใจนี่เอง
 :m31:
หึ ทีพี่โม่งไม่มีใครช่วยเลย  :m16:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.6 (14/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-09-2012 18:30:16
รอจ้า
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.6 (14/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 14-09-2012 18:37:09
ฟ้าใสช้ำหมดแล้ว  แงแง พี่ไหรคุณพี่โมงจะมา น้องจะโดนคาบไปแล้ว

ขอบคุณมากค่ะ  :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.6 ((ต่อ))(15/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 15-09-2012 16:58:57

((ต่อ))

ตั้งแต่โภชน์ไปคุยกับแม่พรรณของฟ้าใส มันก็รวบรัดถือเสมือน ฟ้าใสเป็นคุณแฟนจ๋า
ทุกประมาณ 8โมง เช้า หลังที่มันชงกาแฟเสร็จ มันจะโทรมาเช็คโปรแกรมฟ้าใส
นอกจากวันที่ฟ้าใสค้างที่ร้านมันเอง

ไอ้โภชน์จะเรียกให้ฟ้าใสไปช่วยทำงาน ตรวจว่างานโอเคไหม มีข้อผิดพลาดตรงไหน และคอยถามความคิดเห็น
และหากอยู่ถึงดึก ฟ้าใสก็ต้องนอนค้างที่ห้องมัน แน่นอน หื่นอย่างมันมีหรือจะปล่อยให้ฟ้าใสหลับ
โดยไม่ออกกำลังก่อนนอน

แม่ฟ้าใสก็ดูจะยอมรับได้หรอกที่ฟ้าใสจะไม่ได้มีแฟนเป็นผู้หญิง เพราะรู้สภาพฟ้าใสดี ก็เท่าที่เลี้ยงดูฟ้าใสกันมา
แบบหญิงๆ แม่เองก็คงไม่คิดว่าฟ้าใสจะไปเป็นผู้นำหัวหน้าครอบครัวใครได้ วันที่พบปะกันสองครอบครัว
แม่พรรณก็พูดกันไว้เลยว่า แม่เลี้ยงฟ้าใสให้เรียนหนังสืออย่างเดียว ไม่ได้ใช้ให้ทำอะไรทั้งนั้น

(หมายความว่า อย่ามาใช้หรือคาดหวัง ให้ลูกดิฉันทำงานอะไรนะเค่อะ)

อีกฝ่ายก็ชมลูกชายตัวเองว่าขยันทำงานเก่ง ช่วยงานที่บริษัทพ่อตลอดตั้งแต่เด็ก ฟ้าใสจะขยับปากพูดอะไร
 แม่ส่งสายตาพิฆาตห้ามฟ้าใสพูด

เรื่องไอ้โภชน์นี่เอง ฟ้าใสถึงกับรีบแจ้น โทรไปหาพี่ส้มโอ ปรึกษา เรื่องที่โภชน์มันคุยกับแม่

“พี่ส้มโอ ไขก็ไม่รู้ว่าไขรักเขาหรือเปล่า ไขคบเพื่อน ไขยังคบปี 2ปี ไขก็เบื่อ”

“ก็แล้วเราชอบเขาหรือเปล่า อยู่ด้วยแล้วมีความสุขหรือเปล่า”

“มันก็ดีอ่ะ แต่เพื่อนคนละกลุ่ม คุยได้เรื่องเพลงเรื่องหนัง ก็ที่ไขสนิทกับโภชน์ ก็เพราะงานอ่ะพี่โอ ตอนนี้ไขอยากทำงาน สนุกกับงาน”

“ก็ลองคบกันไป ดูว่าจริงๆไขรู้สึกอย่างไงกับเขา อย่างน้อยแสดงว่าเขาก็จริงใจ ถึงขนาดยอมเปิดตัว
มาคุยกับแม่เรา แล้วพี่จะโทรคุยกับแม่เอง”
.
.
.
.


หลังจากออกมาส่งคุยเรื่องงานโภชน์บอกจะพาฟ้าใสแวะไปหาคุณคิดส์ ที่คอนโด
ขับรถเข้าซอยมาแป๊บเดียวก็ถึง ระยะเดินจากซอยเข้ามากำลังสบายๆไม่ไกล
คอนโดที่คุณคิดส์อยู่เป็นคอนโดสร้างใหม่ทันสมัย
 ฟ้าใสเดินตามหลังโภชน์
รู้สึกอะไรไหม ก็รู้สึกนะ

ภาพผู้ชายร่างสูงใหญ่ สองคน มองหน้าแล้วพยักหน้าทักทายให้กัน

“เข้ามาสิ” คุณคิดส์มองมาที่ฟ้าใสเชิญชวนให้เข้ามาในห้อง

ฟ้าใสมองเข้าไปใน โหย ข้าวของเยอะชะมัด มีโมเดลตัวที่เคยเห็นตั้งแต่อยู่บ้าน ซอย10ด้วย

“อ้าว ไข่” เสียงพี่วุ้นเส้นทัก พี่เขาดูจะจำฟ้าใสได้มากกว่าที่ฟ้าใสรู้จักพี่เขา พี่เขาคงเป็นหนึ่งในบรรดากลุ่ม
พี่ผู้หญิงสวยๆน่ารักที่ป๋าเรน ป๋าแก้ม แนะนำที่หอบุษบา

“หวัดดีพี่” ฟ้าใสยกมือไหว้  แล้วเดินเข้าไปทักทายลูกสาวตัวน้อยของพี่วุ้นเส้นกับคุณคิดส์ด้วย

ฟ้าใสนั่งคุยฟังพี่เขาพูดเล่าโน่นนี่ ไอ้โภชน์ท่าทางมันเกลียดพี่วุ้นเส้นจริงด้วยแหะ ตั้งแต่เข้ามา
มันไม่ทักพี่เค้าสักแอะ ขนาดพี่เค้ามารยาทดี ทักทายมันก่อนด้วยซ้ำ ทำให้ฟ้าใสต้องรักษาหน้าที่แขกที่ดี

ฟ้าใสมีความรู้สึกว่า พี่วุ้นเส้นน่ะก็ชอบไอ้โภชน์ด้วย ดูจากแววตาที่พี่เขามองมัน มีประกายแว๊บๆอ่ะ
 แต่พี่ก็ทำแอ๊บน่ารักร่าเริงไม่สนใจว่ามันไม่พอใจพี่เขา

“เนี่ย ไข่ พี่เพิ่งซื้อรองเท้าไนกี้มา ว่าจะเอามาใส่วิ่งซะหน่อย แหม รู้สึกว่าอ้วนแล้ว คงต้องไปออกกำลัง รุ่นล่าสุดที่ออกมา ใช้ดีจริงๆ ไข่ลองไปซื้อมาใช้มั่งสิ”

ฟ้าใสกำลังมองตามมือพี่ที่ชี้ให้ดูสารพัดรองเท้ากีฬา แบรนด์นอกทั้งนั้นวางอยู่เป็น 10คู่

โครม!!! เสียงเลื่อนเก้าอี้ไปโดนประตูที่กั้นไปสู่ระเบียง จากที่ไอ้โภชน์กับคุณคิดส์นั่งคุยกันอยู่

ไอ้โภชน์เอ๋ยไอ้โภชน์ ...มันก็ช่างเกลียดพี่เขาจริงๆ

คุณคิดส์ก็ระวังเหอะ สักวันเพื่อนตัวเองได้ฆ่าเมียตัวเอง

อ้าว งั้นก็ดีสิ ไอ้โภชน์ก็ติดคุกไป ฟ้าใสก็ได้คุณคิดส์กลับมา แถมได้ลูกติดมาด้วย ดีจัง

 แม่ฟ้าใสคงภูมิใจที่ฟ้าใสมีลูก55 ฟ้าใสก้มหน้าแอบคิดอะไรไปเรื่อยพลางอมยิ้มแบบแอบๆ

“ไข่ ฝากดูลูกหน่อยนะ เดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อน”

“ได้ ได้ พี่ เดี๋ยวดูให้เอง”

พี่วุ้นเส้นขอตัวเข้าไปอาบน้ำ ฟ้าใสก็นั่งเล่นเขี่ยแก้มเด็กน้อยหน้าใส ลูกคุณคิดส์กับพี่เค้า น่ารักมาก ตาโต ผิวขาว ปากเจ่อๆใหญ่แบบคุณคิดส์

“อ่ะ” คุณคิดส์เอาพริงเกิ้ลส์ใส่จานมาวางให้ตรงหน้า มีสบตากันด้วย แต่ฟ้าใสก็ไม่ค่อยกล้าสบตาเท่าไหร่
 ก็รู้หรอกว่าตัวเองซ่อนความรู้สึกไม่เก่ง กลัวความรู้สึกว่า เสียดายจะส่งผ่านไปถึงเจ้าตัว

คุณคิดส์คุยกับไอ้โภชน์ไป มือก็ยังทำงาน ทาสีชิ้นส่วนกระดาษแข็งที่ตัดไว้เพื่อเป็นชิ้นส่วนโมเดลบ้านที่โภชน์ส่งงานมาให้ทำ
โภชน์นั่งคุยกับคุณคิดส์อยู่ 2 ชั่วโมงกว่า ก็กลับ ฟ้าใสยิ้มให้คุณคิดส์ ลาพี่วุ้นเส้น บ๋ายบายหนูปุ่นปุ้น

โภชน์จูงมือฟ้าใส เดินเข้าลิฟต์ คุณคิดส์ก็เดินตามมาส่ง

ฟ้าใสมองคุณคิดส์ที่ยืนสูบบุหรี่ส่งที่ลานจอดรถ

ทุกคนรู้กันดีว่า..ใคร...แต่ละคนรู้สึกและคิดอะไรกันอยู่...

มือใหญ่ตบหัวฟ้าใส “เดี๋ยวไปกินไอติมกัน”

ใครชอบเอาของกินมาล่อตรูจังเลย เห็นเราเป็นอะไร...
.
.
.
.


สำหรับบริษัท อินซูค่อนคอนสตรั้กชั่น ฟ้าใส ถูกมองว่า เป็นสะใภ้ใหญ่ เฮอะ อย่างมันไม่มีแอบ
ระดับกล้าบอกให้พ่อแม่ตัวเองไปคุยกับแม่ฟ้าใส

สำหรับร้าน สแปง ฟ้าใส ถูกนับเป็นเจ๊  คิวซีงานขั้นสุดท้ายก่อนส่ง แต่เรื่องเงินฟ้าใสไม่ยุ่ง แต่ก็แอบดูบัญชีมันเหมือนกัน

สำหรับ น้องสาว2คนของไอ้โภชน์ ที่คนหนึ่งอายุมากกว่าฟ้าใสคือ แพร อีกคนหนึ่ง ชื่อ พีม อายุเท่ากัน
แต่เรียนต่ำกว่าฟ้าใส2ปี ถือว่าฟ้าใสเป็นคุณพี่สะใภ้ เป็นคุณเมียของพี่มัน ทั้งสองสาว ตัวใหญ่กว่าฟ้าใส

ใช่แล้ว บ้านนี้มันโครงกระดูกใหญ่  สูงใหญ่ ตีนใหญ่ ต่อให้สองสาว ไว้ผมยาวถึงกลางหลัง หน้าอกตูมคัพซี
 คนก็ไม่แน่ใจว่า “กระเทยหรือเปล่าว่ะ” โดยเฉพาะเสียงที่ออกแนวห้าวโคตร มือมันกางทีปิดหน้าฟ้าใสได้ทั้งหน้าได้ยันกระโหลก

ไอ้พีมจะมาที่ร้านบ่อยๆ บางครั้งก็จะค้างด้วย ถ้ามีงานชิ้นใหญ่ที่ต้องใช้คนช่วยเยอะๆ จึงสนิทกับฟ้าใส
 ที่มีความสนใจเรื่องเสื้อผ้า เทรนแฟชั่น และละครเกาหลี

ละครและนักร้องเกาหลี นี่ฟ้าใสต้องคอยอัพเดท เพื่อเซอร์วิสข้อมูลให้ อาจารย์พรรณ 555

ครั้งแรกๆ ที่ฟ้าใสเจอไอ้พีมน่ะเหรอ มันทำอะไรกับฟ้าใส

มันมาเดินวนเวียน ผ่านไปมาอยู่ 3 รอบ จนฟ้าใสตงิดว่ามันจะเอาอะไร ในลิ้นชักโต๊ะที่ฟ้าใสทำงานอยู่หรือเปล่า
 ก็เป็นโต๊ะที่ไอ้โภชน์ใช้ทำงานด้วย

จนมาหยุดตรงหน้า แล้วก้มมามองหน้า จ้องๆ แล้วมันก็จับคางฟ้าใสเงยหันซ้ายขวา ยื่นหน้ามาดูใกล้

“กรูว่าแล้ว!!!”  ไอ้พีมพูดเสียงดัง จนไอ้โภชน์ที่นั่งสั่งงานไอ้อ็อตอยู่ห่างออกไปมองหน้า

“มิน่า เค้าขอแล้วก็ไม่ยอมให้” ไอ้พีม มองเห็นฟ้าใสทำหน้างงๆ เลยชี้มาที่ต่างหู ที่ติดคู่กันที่หูซ้าย
 คือหูซ้ายจะมี2รูหูขวามี1รู เพราะฟ้าใสมักจะยอมๆเพื่อน ใครชวนก็ไปก็ไป ทีนี้ไอ้เอ มันอยากเจาะหูแค่1รู
 แต่ร้านเค้าขายต่างหูเป็นคู่ คือประเภทเจาะรูด้วยต่างหูน่ะ มันเลยชวนกึ่งบังคับ
ให้ฟ้าใสเอากะมันด้วยคนละข้าง ฟ้าใสก็ยอมๆ จนหูฟ้าใสมี 3รู 

หลังจากนั้นไอ้พีมก็วางหน้าฟ้าใสลง จับเงยหน้าเพ่งซะตรูปวดคอ
พีมเดินไปแบมือหน้าพี่ชายหน้าโหดหล่อของมัน

“นึกว่าเอาไปให้ใคร ของเค้าล่ะ”

“โน่น” โหดหล่อสะบัดหน้าเหวี่ยงไปทาง ไอ้จาวา แฟนมันที่ยืนเปิดหนังสือบ้านและสวนอ่านอยู่

“โน่น ไปขอแฟนตัวเองสิ”

“โหย พี่โภชน์อย่าโบ้ยมาทางผมอย่างงี้สิ” ไอ้จาวาบ่นอุบ

ไอ้พีมเลยค้อนขวับๆให้พี่ชายและแฟนมัน

“นี่ นี่ อันนี้ น่ะ สั่งทำ เชียวนะ” ไอ้พีมมากระซิบกระซาบตรงหน้าฟ้าใส ฟ้าใสทำหน้างงๆ

“...”

“อ้าวเหรอไม่รู้” ไอ้พีมเล่าแจ้งแถลงต่อ

“เพื่อนไอ้โภชน์(มันเรียกพี่ชายตัวเองว่า “ไอ้” สนิทกันดีมาก) เป็นดีไซน์เนอร์เครื่องประดับ แวะมาคุย เอางานมาให้ดู ไอ้โภชน์มันก็ช่วยซื้อ แต่ให้เปลี่ยนคริสตัลตรงกลาง เป็นสีชมพู  เออ เข้ากับตัวเองดีเนอะ”

ฟ้าเอามือจับที่ต่างหูคู่ที่ติดข้างซ้ายของตัวเอง นึกถึงวันที่ได้รับ ต่างหูที่ตัวเรือนเป็นทองคำขาวฝังโรสควอท์
 วันที่ฟ้าใสมาค้างที่นี่เป็นครั้งที่2 วันที่ไอ้เจ้าของห้องบอกให้ฟ้าใสถือว่าห้องนี้เหมือนของตัวเอง


ค้างครั้งแรก มาเพราะช่วยกันทำงานจนดึก ทั้งคุณคิดส์ อ็อต  และเด็กรุ่นน้อง หลายคน  งานของไอ้โภชน์
มักจะได้ราคาดี เพราะงานที่มามักจะขอเร่งๆ ที่อื่นเขามักปฏิเสธ โภชน์มันเลยเรียกราคาได้
 คืนนั้นฟ้าใสได้นอนเตียงในห้องมันคนเดียว  คนอื่นไม่ได้นอน 55 ไม่ใช่สิทธิพิเศษอะไร เพียงแต่คนอื่นทำงาน
อยู่กันจน เช้า ข้าม 8.30  ส่งงาน  เสร็จ ถึงแยกย้าย กันไปนอน ฟ้าใสตื่นลงมาช่วยรับงานหน้าร้านให้ต่อ


ครั้งที่ สอง นี่ งานมายุ่งอีก เร่งๆมือกันทำ  เสร็จ5 ทุ่มกว่า เด็กๆ แยกย้ายไปนอน คุณคิดส์ กลับบ้าน
 ไอ้โภชน์ชวนขึ้นไปนั่งเล่นดาดฟ้า จิบเบียร์ ดูดาว

มันก็เรียกให้ฟ้าใสมานั่งใกล้ๆ พอฟ้าใสเดินไปหา ก็จับไปนั่งตัก แล้วบอกให้อยู่เฉยๆเอียงหน้ามา
 สั่งอย่างเดียวน่ะมันน่ะ

ฟ้าใสก็ ว่าง่ายๆสิจะได้โตเร็วๆอย่างพวกมันมั่ง 555

โภชน์ถอดตุ้มหูคู่เก่าฟ้าใสออก แล้วบอกให้มันนะ ฟ้าใสก็มองหน้า มันจะเอาไปทำอะไรฟะ
ตัวเองก็ไม่ได้เจาะหูซะหน่อย แต่ก็ไม่ถามอีก ปากหนักจริงว่ะกรู

“ฮื่อ...อยากได้ก็เอาไปดิ” ทำไมจะให้มันไม่ได้ ทีตัวหลงยอมให้มันแล้ว  มันจับหน้าฟ้าใสมาพลิกซ้ายพลิกขวา

“งั้นเจาะให้หน่อย” มันก็มองหน้า

 “เอ๊ย...เราเจาะไม่เป็นง่ะ” ความจริงไอ้ต่างหูคู่นี้ มันเป็นแบบที่เค้ายิงเจาะปุใส่หูเลย

 “น่าเจาะมาเหอะ” คำสั่งส่งตรงมาพร้อมริมฝีปากหนานุ่มย้ำที่แก้มนวล หนึ่งฟอด

 เอา ก็เอาว่ะ ทีโดนใช้ฉีดยาแมว ฉีดก็ไม่เป็น เค้าฉีดให้มันเข้าตรงไหนก็ไม่รู้ ป้าก็บอกชี้แถวสะโพกแมว
 ตรูยังฉีดเข้าไปได้ ทีไอ้เติ้ล มันก็ให้ไอ้ฝ้ายเอาเข็มเย็บผ้านี่แหล่ะเจาะ
 ไอ้โภชน์เลยจับตัวฟ้าใสนั่งคร่อมตัก เฮ้ย ไอ้คุณลูกค้า มือไม้อย่าป้วนเปี้ยนลวนลามพนักงานเจาะสิว่ะ
 มือมันจะล้วงมายุ่งกะหัวน่มหนมทำไม เลยตวาดไปที เสือกหัวเราะรับอีก
 ฟ้าใสทาบเล็งแล้วกดปึก ร่างสูงทำตาวาวรับความเจ็บแค่มดกัด เสียวดีจัง มันพึมพำ มันเมาเบียร์แน่
ซาดิทเปล่า เอาแส้ไหม ก้มจูบที่ซอกคอฟ้าใสอีก วันนี้ท่าทางอารมณ์ดีแหะ คุณไอ้หน้าโหด
ฟ้าใสจับหน้ามันให้ตั้งดีๆ เล็งเหนือรูขึ้นไปอีกนิด ปึก  เสร็จ 55 จูบที่ผลงาน แล้วกัดคอมันอีกที
เป็นลายเซ็นปิดท้าย 555 สงสัยเราก็เมาเบียร์ด้วยเหมือนกัน

“อ้าให้รางวัล” แล้วหน้าโหดมันก็เอา ต่างหูตัวเรือนเป็นทองคำขาวฝังโรสควอท์ มาใส่แทนที่มันถอดของฟ้าใสไป

หลังจากนั่งเล่นหยอกกัน ซึ่งประโยคที่มันชอบพูดคือ บอกให้อยู่เฉยๆ
สักพักหลังจากที่ตัวมันไม่ค่อยจะอยู่เฉยๆมั่งเลย มันก็จับฟ้าใส แบกลงข้างล่างเข้าห้องล็อคประตู



TBC....

หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.6 ((ต่อ))(15/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 15-09-2012 20:56:28
ไปแล้วฟ้าใสโดนแบกเข้าห้องล็อคประตูแล้ว ป่าม ป๊าม ป่าม ปาม ป่าม ปาม ป๊ามมมม...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 Ch.6 ((ต่อ))(15/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 16-09-2012 02:15:08
แบกฟ้าใสเข้าห้องไปนอนเฉยๆใช่ป่าว 555+
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 เพิ่มพลังรัก ไปพักร้อนกัน(16/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 16-09-2012 20:07:10



เพิ่มพลังรัก ไปพักร้อนกัน


หลังจากหมดช่วงงานหนัก ผ่าน ไอ้โภชน์ก็เช็คดูผลกำไรของที่ร้าน แหะ แหะ ฟ้าใสคิดเรื่องเงินไม่เป็นมาแต่ไหน
แต่ไรแล้วเฮียหน้าโหดบวกลบคูณหาร ก็ประกาศ ให้พนักงานดีใจไชโยโห่ฮี้ว ว่าจะพาไปเที่ยวทะเล

เฮียหน้าโหดโทรหาเพื่อนที่ระยอง สอบถามจองบ้านพัก ที่รีสอร์ทติดทะเล เพื่อ เที่ยวทะเลกัน 3วัน3คืน
  แน่นอน สปอนเซอร์ทุกเม็ดของเรา ชาวสแปง ฮูเล่ พี่หล่อหน้าโหด เฮียโภชน์ แปะ แปะ แปะ ตบมือ
 เม็ดเงินทุกเม็ดจ่ายเพื่อความสุขของพวกเรา เย้ เย้ เย้

สมาชิกสแปงแฟมิลี่ที่ไป น้องสาวเสี่ยโภชน์ 2คนกับแฟน  พีม แอนด์ จาวา แพร แอนด์ ร็อค ครูสอนพละ ชอบโชว์
กล้ามยึ๊ยๆ ไอ้โภชน์มันก็ไม่ค่อยชอบ แต่รสนิยมน้องมันก็ช่วยไม่ได้ ฟ้าใสถ้าสนิทกับน้องสาวมันมากขึ้นมากขึ้น
อาจออกอาการแต๋วแตก สักวันแน่ ชอบให้ทำอะไรแปลกๆ ไปนวดหน้าทำตัว ใส่ชั้นในแบบเซ็กซี่

เพราะสองสาวนี่รสนิยมเซ็กซี่ฮาร์ดคอร์ ระดับจีสติงติดโบว์  แพรนี่เรียนทางพาณิชย์ เก่งบัญชี  พีมนี่เรียนอาร์ตเหมือนกับเรา แต่คนละโรงเรียนกับเราๆ
แล้วก็เด็กอ็อต กับเพื่อนๆที่ทำงานในสแปง 4 คน และ เพื่อนเสี่ย บรุคหน้าตาย คุณคิดส์ และเดอะเจ๊ ฟ้าใสเองฮะ 555
(อ็อตมันใช้เรียกฟ้าใส อยากโบกมันมาก)

หลังจากพักผ่อนเล่นน้ำทั้งสระว่ายน้ำ ทั้งชายทะเล และได้นั่งบานานาโบ๊ตคนแรกสุด หล่นยากสุด ห้ามใครมาแย่งตำแหน่งนี้ อันนี้ฟ้าใสได้สิทธินั้น 555

ผ่านไปหนึ่งคืน วันนี้ เสี่ยสั่งลุย ไปเที่ยวเกาะ ซึ่งอำนวยการบริการโดย พี่หยา ผู้มีผิวเข้มจนทำให้อ็อตภูมิใจใน
ความขาวกว่าของตัวเอง ไอ้พีม และแพร ไม่ไปด้วย กลัว เมาเรือ กลัวแดด กลัวไปแล้วติดเกาะ ขออยู่ที่รีสอร์ท ร้องคาราโอเกะดีกว่า

 ตอนแรกเราก็จะไปเกาะทั่วๆไปที่เขาเที่ยวกันนี่แหล่ะ แต่พี่หยาก็แนะนำว่ามีเกาะอยู่ถัดไป ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ
หาดสวย ไม่มีคนพักอาศัย ชาวเรือจะใช้เกาะนี้เป็นที่หลบลมพายุ
ถ้าจะไปก็จะได้เตรียมอาหารน้ำ ไว้ให้ พี่หยามาส่งตอนเช้า จะเล่นน้ำดำน้ำ นอนเล่น แล้วตอนบ่ายแกจะมารับ ซึ่งชาวสแปงก็โอเค


พอไปถึงบรรดาแรงงานชายก็ขนของลง เสี่ยโภชน์ก็อุ้มแต่เมียเอ๊ย..ฟ้าใสลงเท่านั้น
พวกบรรดาแมนๆทั้งหลาย ไอ้โภชน์และเพื่อนก็ชวนกันจะเดินเล่นสำรวจเกาะ พวกเด็กอ็อตกับเพื่อน4คน เล่นน้ำกัน
ฟ้าใสก็เล่นน้ำแล้ว พอไอ้โภชน์จะชวนเดินเที่ยวกะเพื่อน ฟ้าใสเลยไม่ไปด้วย บอกจะนอนเล่นแถวนี้  โพดก็พยักหน้า
 ฟ้าใสพอเห็นว่า อากาศก็ไม่ร้อนมาก นอนอาบแดด ให้ผิวสีแทนกะเค้ามั่งดีกว่า  หอบผ้าผืน พร้อมหยิบหนังสือไปอ่านด้วย
  เลยเดินห่างจากพวกเด็กๆที่เล่นน้ำไปนอนอาบแดด ปูผ้าบาติกนอนอ่านไปพักหนึ่ง ก็ง่วง  เลยนอนหลับอาบแดด

จนสักพัก เริ่มได้ยิน จอกแจก ดังขึ้น ปรากฏว่าตอนที่หลับ มีเรือมาจอด พานักท่องเที่ยวเป็นฝรั่งมาเที่ยวเกาะ
ฟ้าใสพอรู้สึกตัวตื่น ก็เริ่มมองรอบตัว อ้าวมีฝรั่งมายืนมองตัวเองนอนอยู่  ฟ้าใสเริ่มหน้าหงิก ก็ไม่รู้จะมาทำไมฟ่ะ
 ขัดความสุขคนกำลังนอนสบาย  เออ ตรูไม่มีเงินซื้อเกาะนี่หว่า ก็ต้องแบ่งกันเที่ยวสิว่ะ เนอะ ไอ้ไข่อย่าใจดำ

 ไอ้กางเกงว่ายน้ำบิกินี่ที่ไอ้แพรเลือก นี่มันก็เหลือที่ให้จินตนาการไม่มากนักหรอก

 ทั้งที่ก็แอบคิดว่ามีโอกาสได้อาบแดดทั้งตัวทั้งที ก็นึกว่าที่นี่จะไม่มีใครมา ถ้าฟ้าใสนอนตรงนี้ พวกเด็กๆมันก็ไม่กล้า
มารบกวนความสงบสุขหรอก  แล้วนี่ไอ้โภชน์มันก็อยู่กับเพื่อน เห็นฟ้าใสนอน มันก็ไม่พาเพื่อน เดินมาทางนี้หรอก
 ฟ้าใสขยับจะลุกขึ้น ไอ้ฝรั่งมันก็ยังจะยืนมองอยู่ มันบอกซอรี่ ทำนองว่ามารบกวนการนอนฟ้าใส 

ฟ้าใสก็กึ่งอายกึ่งโมโห มายืนจ้องอยู่ได้ ทำกรูอดอาบแดด  ปรากฏพอฟ้าใสหยิบหนังสือขึ้น ผ้ามันก็ปลิว ไอ้ฝรั่งมันรีบเดินไปหยิบมาส่ง

แต่ส่งแล้วมันไม่ปล่อยนี่สิ  มันก็พยายามจะชวนคุย แต่ไอ้ชวนคุยของมันก็ปรายตามองหน้ามองหน้าอกไล่ลง
หน้าท้องฟ้าใสไปด้วย ถึงเป็นผู้ชายก็อายนะเฟ้ยเจอสายตาแบบนี้
 มันก็คงจะถามชวนคุยว่ามาอย่างไง ก็มันไม่เห็นเรือของพวกฟ้าใส  ฟ้าใสไม่เก่งภาษาอังกฤษหรอก
พี่สาวฟ้าใสเค้าเอาไปหมด ฟ้าใสน่ะได้ภาษาไทยกะภาษาหมา 555

มองหน้ากันไปกันมา ฝ่ายหนึ่งพูด ฝ่ายหนึ่งส่ายหัวไม่รู้เรื่องเฟ้ย แป๊บหนึง เสียงไอ้อ็อต ก็ตะโกน เรียก

“พี่ไข่  มีไรเปล่า”  มันก็รีบเดินมายืนข้างๆ ไอ้ฝรั่งมันก็เลยปล่อยมือออกจากผ้า  แล้วพูดอะไรประเภทเที่ยวให้สนุก
 อะไรประเภทนี้มั๊ง แล้วยิ้ม พร้อมกับบ๋ายบาย

“อ้าว อ็อตมาไมเหรอ จะกลับเหรอ หรือจะไปไหนกัน”

“เปล่า อาโพดให้มาดูพี่ไข่น่ะ”

“อ้าว ดูไมเหรอ”

“ก็เห็นมี โน่น มั๊ง”อ็อตพยักหน้าไปทางที่ฝรั่งเดินไป

“อ๋อ...”

ฟ้าใสก็เดินกลับกะอ็อต ไปที่เต้นท์ ฟ้าใสก็นั่งกินขนม โค้ก กับอ็อต พวกไอ้โภชน์ค่อยเดินลัดเลาะลงมาจากโขดเขาหิน
 สีหน้าไอ้บรุค ระบายยิ้มทั่วหน้าเชียว  ไอ้คุณคิดส์ก็ด้วย พวกนี้มันขำอะไรนักว่ะ   พอไอ้โภชน์มันมาถึง
มันตบหัวฟ้าใสเบาๆ ตามด้วยขยี้หัวฟ้าใสอีก  ฟ้าใสก็เอียงหัวสะบัดหนี

“เฮ้ย...กำลังกินน้ำ” ฟ้าใสบ่น

“เอามากินมั่งดิ”

“รีบให้มันกิน มันรีบเดินจนเหนื่อยน่ะ” ไอ้บรุคมาช่วยบอกให้ฟ้าใสรีบส่งน้ำให้ไอ้โพด ยิ้มเยาะเพื่อนมัน



 (PART:MR.POCH)


“เดี๋ยวพวกกูจะไปเดินทางนั้น กูจะส่องนกว่ะ  โภชน์มรึงจะไปกะพวกกุเปล่า”  เสียงไอ้คิดส์ถาม

“หรือมรึงจะอยู่กับเมียมรึง กูก็ไม่ว่านะเว้ย” ไอ้บรุคบอก

“เออ เออ กรูไปกะพวกมรึงล่ะ ไอ้ไข่อยู่กะพวกไอ้อ็อต คงไม่มีอะไรอ่ะ”

ผมก็เดินไป กะพวกมัน มันพกกล้องส่องมาด้วยคนละอัน  ผมไม่ได้เตรียมอะไร ก่อนมานี่ก็ให้ไอ้ไข่ไปชอปปิ้ง
กับไอ้แพรไอ้พีม ไอ้น้องสาวสองตัวนั่นยังกะรู้ใจ ยุให้ซื้อกางเกงว่ายน้ำใหม่ แบบบิกินี่ ถอดง่ายดี เดี๋ยวเผื่อจะได้ลองแบบใต้น้ำมั่ง

“เฮ้ย เมียมรึงนอนอาบแดดว่ะ” ไอ้บรุครายงาน

“ห่า แอบดูเมียกู ไหนเอามาดูมั่งดิ”  แม่งนอนท่านี้น่าเอาฉิบเป้ง ผมนึกในใจ อยากลงไปทากันแดดให้ฉิบหายเลย ชักเสียดาย
ไม่น่ามากะพวกมัน  ดีนะที่รู้ว่าพวกมันมีกล้อง ไม่งั้นแอบสัมผัสธรรมชาติ สุ่มสี่สุ่มห้า โดนพวกเชี่ยนี่แอบส่องแน่เลยว่ะกู

“เฮ้ย เอาคืนไป ยิ่งดูยิ่งอยากโว้ย” ผมบ่นพึมพำ

555
พูดกันไปเดินกันไป สักพัก เกาะนี่มันก็เป็นเกาะเล็กๆ มีต้นไม้พวก เล็กๆไม่ค่อยมีไม้ใหญ่มากเท่าไหร่ ผมเดินไปก็คุยกับไอ้บรุคไป เรื่องปรัชญามั่ง เถียงเรื่องโลกจะแตก พนันกันว่าจะมีสึนามิจะเกิดอีกหรือเปล่า - มาพูดถึงสึนามิกันกลางทะเลนี่นะ-

“มรึงคุยกันเสียงค่อยๆหน่อยสิว่ะ กูจะดูนก เสียงพวกมรึง น้องนกกูหายหมด” ไอ้คิดส์บ่น

 มันจะบ่นทำไมว่ะ แค่ตีนควายๆอย่างเรา เดินมา น้องนกมรึงจะอยู่รอหาอะไรอีกฟ่ะ หลังจากเดินข้างบนก็ไม่ค่อยมีอะไร พอลานกว้างหน่อย เราก็หยุดพัก นั่งเล่น พื้นที่เกาะก็นิดเดียว มองได้จนทั่ว ด้านหลังเกาะเป็นแนวหิน  เกาะนี้ ไม่มีคนพัก มีแต่พวกชาวเรือใช้เป็นหลบพายุ หลบลม เท่านั้น มีแหล่งน้ำจืดเป็นบ่อน้ำเล็กๆ ตรงกลางเกาะใกล้เนินเขา เกาะนี่ มีดีตรงหาดสวยทรายละเอียดขาวสามารถเล่นน้ำได้ตั้งแต่ด้านหน้า ยาวตลอดแนวเกาะจนถึงโค้งเลยทีเดียว

“มีเรือมาแน่ะ” ไอ้คิดส์พูดขึ้น ไอ้บรุคเลยส่องกล้องดูตาม

“เออ ว่ะ”

ผมก็นอนเล่นดูดบุหรี่ ฟังไอ้คิดส์กะไอ้บรุคมันส่องโน่นดูนี่ คุยกันไป  สักพัก ไอ้บรุคก็พูดขึ้น

“มรึงไอ้โภชน์ เมียมรึงกำลังจะเป็นพริกกะเกลือว่ะ”
ฮ่า ฮ่า เสียงไอ้คิดส์ขำที่ไอ้บรุคพูด

“อะไรว่ะ เมียกูอาบแดดจนขี้เกลือขึ้นหรือไง” ผมก็ยังไม่เข้าใจมุกไอ้เชี่ยบรุค

“ถ้าเมียมรึงเป็นปลากัด มรึงได้ลูกหัวทองแน่เลยว่ะ”

ปากไอ้เชี่ยบรุค “ไหน ห่า อะไร ว่ะ”

ผมแย่งกล้องส่องจากไอ้บรุค ผมก็เล็งไปที่ไอ้ไข่มันนอน  ห่า เสือกนอนไม่รู้เรื่องอีก ไอ้เชี่ยฝรั่งนั่นมามองอะไรเมียกรูว่ะ

“พวกมรึงก็ กว่าจะบอกกรู กรูลงแล้ว” ผมต่อว่าพวกมัน

เสียงไอ้คิดส์มันส่งเสียงหัวเราะขำๆผมที่ผมพาลพวกมัน และท่าทีกระวนกระวายของผม
ห่าน... ไอ้ไข่ กรูเสียฟอร์มหมด ผมได้แต่นึกในใจ
ผมส่งกล้องคืนไอ้บรุค รีบเดินกลับ

“ไอ้ไข่มันตื่นแล้ว 55 มันงงงงว่ะ”  ไอ้คิดส์มันรีบพากษ์
ไอ้บรุคมันส่องดูตามมั่ง

“เออ เออ  ไอ้ไข่เห็นคนล้านเจ็ดแล้ว 55....มันลุกแล้ว อ้าว  เอ้ย ไอ้ฝรั่งนั่นช่วยเก็บผ้าให้เมียมรึงด้วย”

 ตุ้บ เสียงไอ้คิดส์ตบหัวไอ้บรุค “มรึงก็ไม่ต้องไปบอกไอ้โภชน์นักก็ได้ เดี๋ยวมันก็รีบเดินตกเขาตายห่าพอดี”

“สัด ทั้งมรึงทั้งไอ้บรุค เงียบไปเลย  แช่งกรูอีกต่างหาก”

ผมรีบเดินไปหน้าโขดหิน อย่างน้อย รีบสั่งให้ไอ้อ็อตไปดูอาสะใภ้มัน
พอถึงริมโขดหิน มองลงไปเห็นไอ้อ็อตกะเพื่อนมันเล่นเตะบอลอย่างสนุกสนาน
 แม่ง !!! อาสะใภ้มรึงกำลังจะโกอินเตอร์ไม่รู้สึกรู้สากันมั่งเลย  ไร้ประโยชน์ เดี๋ยวทิ้งแม่งไว้บนเกาะ
 กรูกลับบ้านกะเมียกรูสองคนดีกว่า

“ไอ้อ็อต ไปดูพี่ไข่ดิ เห็นมีเรือเข้ามา”เสือกมองหน้ากรูงงงงอีก

“ไปเร็ว”ผมตะโกนสั่งย้ำ

ไอ้อ็อตรีบเดินแยกจากกลุ่ม ก้าวยาวๆแล้วก็รีบวิ่งไปตรงที่มันเห็นไอ้ไข่เดินไป
ไอ้คิดส์มันส่องกล้อง แล้วก็ยิ้ม ยิ้ม เห็นอะไร แม่งก็ไม่เสือกพูด
“ไอ้อ็อตถึงยัง” ผมถาม ไอ้คิดส์

“ไอ้ฝรั่งมันสอนภาษาอังกฤษเมียมรึงอยู่อ่ะ  เฮ้ย...มันพูดไปจับไปด้วยว่ะมรึง” เชี่ยบรุคเสือกรู้ดี หนอยมันพูดไปยิ้มกวนทีนไป

“ไอ้ฝรั่งมันปล่อยมือแล้ว” ไอ้บรุคบรรยายต่อ

 “สัด...ปล่อยมืออะไรว่ะ มันจับมือเมียกรูเหรอ” ผมโวยวาย

ไอ้คิดส์มันหัวเราะ 555

“เชี่ยบรุคมรึงก็พูด ฝรั่งมันแค่จับผ้าไอ้ไข่ไว้เท่านั้นเฟ้ย เขาไม่ได้ไปจับตัวอะไรไอ้ไข่มันซะหน่อย” ไอ้คิดส์ก็พูดต่อ

“ไอ้อ็อตมันก็ถึงแล้ว ฝรั่งมันก็เดินชิ่งไปแล้ว นี่ไอ้อ็อตกับไอ้ไข่มันก็กำลังเดินกลับแล้วเว้ย ห่าน!!!”
มันคงสบถที่ผมดูวุ่นวายเกินเหตุ

ผมเดินลงมาถึง ไอ้ไข่ก็นั่งกินขนมกินโค้กสบายใจ ไม่รู้สึกรู้สา ผมตบหัวมัน เพราะมันนี่แหล่ะทำให้ผมหลุดฟอร์ม
กับเพื่อนเลย ไอ้บ้าเอย เดี๋ยวคืนนี้ต้องพามันออกรอบดีกว่า


+++++

(PART: PHASAI)
หลังจากกินมื้อค่ำแล้ว ไอ้โภชน์มันสะกิดฟ้าใสไปเดินเล่นชายหาด  บ้าบ้าบ้า ถึงไม่ใช่ผู้หญิงก็รู้นะว่ามันคิดอะไรอยู่ อาย อาย อาย
มันทั้งสะกิด ติดสินบน ฟ้าใสก็พยายามเกาะกลุ่มอยู่ในมวลชน ทุกคนดูจะรู้ดีกันทั้งนั้น ตาไอ้โพดที่มองฟ้าใส
มันใช้ตะบองทุบหัวลากไปจากตรงนี้ได้ มันคงทำไปแล้ว
ไปก็ไป รำคราญมันจริงๆ ยอมไปซะคนอื่นเขาจะได้ตั้งวงกินกันดีๆ แล้วตอนเดินกลับมา ฟ้าใสจะทำหน้าอย่างไง
อายโคตรๆเลย ทั้งน้องสาวมัน ทั้งคุณคิดส์ ไอ้อ็อตกับเพื่อนมันอีก

ฮื้อ...ดูมันสิ แค่เดินไม่เท่าไหร่ ลับแสงไฟเท่านั้น มันก็แทบจะจับฟ้าใสถอดเสื้อผ้าหมด มันจะหื่นอะไรมากมายนักนะ
ขอมันถอดแต่กางเกง ก็ไม่ยอม มันอยากกอดอยากฟัดฟ้าใสตัวเกลี้ยงๆ

"โอ๊ย...โขดหินมันเจ็บนะ" จะไปใช้มือใช้แขนฟ้าใสรับน้ำหนักของมันกับแรงควายกระแทกได้ไง  ฟ้าใสต้องต่อว่ามันไป

ไอ้หื่นรีบเอาเสื้อมาปูรองข้อศอกฟ้าใสที่กำลังคู้ตัวบนโขดหิน
หลงก็หลงไปกับความสุขนะแต่ก็กลัวพวกไอ้บรุค กับไอ้อ็อตกับเพื่อนๆ หรือน้องสาวมันแอบดูล่ะ
 โกรธก็โกรธมันเหมือนกันที่มันมาทำโฉ่งฉ่างอ่ะ

ฟ้าใสจะกล้ามองหน้าคุณคิดส์ได้ไง

หึ ผ่านไป3 แล้วนะ ก็ยังไม่พอ ยังจะเปลี่ยนท่าอีก



 :pig4:
มาม่าใกล้จะมา
เครื่องบินที่พี่โม่งนั่งกลับมา...ใกล้มาถึงสุวรรณภูมิแล้ว
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 เพิ่มพลังรัก ไปพักร้อนกัน(16/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 16-09-2012 21:54:42
โภชน์เอ๊ยยย...จะ :haun4: อะไรขนาดนี้  นี่..outdoor เลยเหรอ   :-[ แทนฟ้าใสแหละ
หึ หึ หึ แต่..ก็รู้สึกดีกับโภชน์เหมือนกันนะ เพราะเขาก็ดูแลฟ้าใสดี ฟ้าใสก็ดูเหมือนจะมีความสุขพอสมควร
 ยึ๋ย..พออ่านมาถึงท้ายสุดของตอนนี้ที่บอกว่า
"มาม่าใกล้จะมา
เครื่องบินที่พี่โม่งนั่งกลับมา...ใกล้มาถึงสุวรรณภูมิแล้ว"
ทำเอาปวดหัวจี๊ดเหงื่อตก :m29: ล่วงหน้าไปแล้วนะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 เพิ่มพลังรัก ไปพักร้อนกัน(16/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: timvasabi ที่ 17-09-2012 00:36:02
 MAMA MAMA MAMA MAMA ชามใหญ่มากไหมค่ะ
จะได้เตรียมเครื่องเคียงได้ถูกขนาด

จะดีใจที่พี่โม่งกลับมาแล้ว หรือว่ายังไงดหว่า~ คุณโพดก็ดูรักฟ้าใสดีออก เฮ้อ~ เชียร์ไม่ถูกงะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 เพิ่มพลังรัก ไปพักร้อนกัน(16/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 17-09-2012 00:44:58
หึ ผ่านไป3 แล้วนะ ก็ยังไม่พอ ยังจะเปลี่ยนท่าอีก
 :haun4:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 เพิ่มพลังรัก ไปพักร้อนกัน(16/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 17-09-2012 18:24:57
ถ้ามาม่ามาพร้อม
คุณชายโม่ง
ยอมจ้ายอม :z2:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.6(((มาต่อแล้ว)))(19/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 19-09-2012 00:00:29
((ต่อ Ch. 6))

เปรี้ยง !!! ฟ้าใสปล่อยแก้วกาแฟ หลังจากเดินขึ้นไปถึงชั้น2

หึ!! ถ้ายังมีอีก วันหลังจะปล่อยลงมาจากชั้น3 ดู

 วันนี้ไอ้โภชน์ดูกวนตีนมาก ปากมันหาเรื่องฟ้าใสอยู่เรื่อยพักนี้

วันก่อนนอนกัน แค่ฟ้าใสเผลอเท้ามือวางทับผมมันหน่อยเดียวมันก็โวยวาย ตัดเพ้อต่อว่า
ว่าฟ้าใสไม่รักมัน ไม่แคร์มัน มันเจ็บก็ไม่สนใจ

มันจะบ้าหรือเปล่า มือทับเส้นผมมันเท่านี้นะเจ็บ 
ทีวันก่อนมันขับรถชน จนรถเละ เย็บกันไป มัน 24 เข็ม ฟ้าใส โดน ไป8 เข็ม มันไม่บ่นสักคำ
รีบวิ่งอ้อมมาอุ้มฟ้าใสไปคลินิกที่ใกล้ที่สุดทันที

ตอนรถชน คนตะโกนใหญ่เลย รีบช่วยผู้หญิงก่อน 555 เห็นตรูเป็นผู้หญิงอีกแล้ว เดี๋ยวเปิดใสน้อยให้ดูเลย
ฟ้าใสได้ยินคนตะโกนแล้ว ก็สงสารไอ้โภชน์เหมือนกัน เพราะรู้ว่ามันเจ็บหนักกว่าฟ้าใส  พอมันรู้ว่าจะชน แน่ๆ
มันก็เบี่ยงเอาด้านฟ้าใสออกมากที่สุด ที่ต้องเย็บๆกันเพราะกระจกมันกระเด็นมาบาด
ฟ้าใสก็กลัวคนที่เปิดประตูรถจะเก้อ ว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก เลยต้องทำเป็นจะสลบ555
โภชน์มันเลยอุ้มฟ้าใสไปเลือดอาบหน้ามันไป


เรื่องที่ฟ้าใสปล่อยแก้วนะเหรอ ก็วันก่อน ฟ้าใสกลุ้มใจผสมกับตื่นเต้นเรื่องพี่โม่งจะกลับมานะสิ
เลยอยากพูดคุยกับเพื่อน ทีนี้ถ้าคุยกับไอ้พวกโรงเรียนอาร์ต อาร์ ด้วยกัน เดี๋ยวมันก็ล่วงรู้ความในใจ
เลยจะไปคุยกับพวกไอ้ดรีม แล้วทีนี้ พอพวกมันมานัดพบคุยสังสรรกัน ไอ้ธันก็มาด้วย
แล้วก็ทีนี้ ไอ้โภชน์มันก็ไปรับ

มันก็ไปเจอ ฟ้าใสนอนอยู่กับไอ้ธัน ที่ศาลาริมน้ำ

เรื่องมันแค่นี้เอ๊ง....ก็ฟ้าใสนอนหลับ  ไอ้ธันมันนอนเล่น คนอื่นลุกไปส่งไอ้แคทกะน้องกอบัว
ดีนะขนาดมันไม่มาเห็น ที่ฟ้าใสนอนคว่ำดูทีวีข้างไอ้ดรีม แล้วไอ้ธันมานอนเกยหนุนหลังฟ้าใสคุยกับไอ้ดรีม
 มันทะแม่งๆไหมล่ะ นั่นสิ ฟ้าใสก็ว่าแปลกๆว่ะ


แล้วไอ้โภชน์มันก็พูดหาเรื่องตั้งแต่เมื่อวาน ยันเช้านี้
ชะโงกลงไปดู อื๋อ...อ็อตมันมากวาดเศษแก้วไปแล้วแหะ
โทษทีนะอ็อต อาโภชน์ของเอ็งมันไม่ดีเอง เดี๋ยวถ้าเลยเที่ยงตรูหิวข้าว แล้วไม่มาง้อ
จะกลับบ้านแม่ไม่มาอีกเลย
 ดีนะที่รีบกินกาแฟจนหมดแก้วก่อนค่อยปล่อย ไม่งั้นหิวแย่

อ้ะ อ้ะ..เสียงเปิดประตูมาแย้ว......ตัดฉับ...ไม่ให้ดูฉากคนง้อกัน



วันอาทิตย์

ฟ้าใสเดินไปเดินมาเกือบ10รอบ ลุกๆนั่งๆ

จะเริ่มทำอะไรก่อนดี


ตรืดดดด ตรืดดดดดดด

ฟ้าใสดู นาฬิกา จริง 8 .20  คงเป็นไอ้โภชน์  ร่างเล็กทำหน้านิ่ว

“อะโหล”

“อ่า ที่รัก เป็นไรไปเสียงเข้มเชียว โดนแม่ดุเหรอ”

“55 บ้าน่า” ฟ้าใสหัวเราะออก เมื่อนึกถึงหน้าโหดของมันที่อุตส่าห์มาห่วงเรื่องนิดๆหน่อยๆ

“ไม่มีอะไรหรอก หาของไม่เจอ แค่นั้นน่ะ” โกหกออกไปแทบไม่ต้องคิด

“หาไม่เจอที่โน่นก็มาหาบ้านนี้สิ เผื่ออยู่ที่นี่ก็ได้ แต่ที่นี่ก็มีของหายเหมือนกันสงสัยมีคนเอากลับบ้านไปด้วย”

“555 เว่อร์เว่อร์เว่อร์ ไม่ต้องเลย มุกนี้ หัวใจหรือเปล่า เหอะ เสี่ยวแล้ว เราน่ะ”

“เฮ่ย..เสี่ยวก็เสี่ยวรักจริงหวังแต่งนะ”

“ไปทำงานได้แล้ว”

“แล้ววันนี้มีโปรแกรมไรเปล่า”

“ไม่รู้สิ ไม่รู้ป้าจะชวนไปซื้อของเข้าบ้านเปล่า” โกหกต่อไป

“ถ้าไม่มีไร ก็มานี่สิ”

“ฮึ่ย..เพิ่งกลับมา 2วันเอง” ใครจะไปไอดอลของหนูจะมาบ้านเฟ้ย

“ตั้ง 2วัน นะครับคุณ ถ้ารวมวันนี้ไม่มาก็เป็น3วัน  ถ้า วันที่4นี่เข้า วิกฤต นะคุณ อาจถึง ตาย”

“บ้า ไปทำงานได้แล้ว”

“ก่อนไป ขอยืมมือหน่อยดิ” แล้วก็มีเสียงเพลงประกอบ โดยนักร้อง หน้าโหดเสียงทุ้ม พี่ขี้ตู่ นันทิโภชน์
ขอ มือ เธอ หน่อย
ไว้คอย กระชับ ให้ชื่น ใจ
ขอ มอง ตา หน่อย
ไว้คอย เตือนเธอ เมื่อเหงา ใจ
ขอ ใจ เธอ หน่อย
ไว้คอย เป็นแรง ผลักดัน ฝันอัน ยิ่งใหญ่
หากมีหัวใจ ของเธอ ก็สุข เกินพอ
ขอ มือ เธอ หน่อย
“อย่าเลย จะเอาไปทำ ทะลึ่ง ลามกน่ะสิ” ฟ้าใสหน้าเชอะใส่มันทางมือถือ
 :haun4:

“555”

สำหรับการคุยเล่นของไอ้หน้าโหดมันแล้ว เท่าที่คุยเล่นกับฟ้าใสนี่ ญาติพี่น้องมันเองไม่ค่อยได้พบเห็นหรอก
 โภชน์จะทำตัวเป็นผู้นำ ตั้งใจทำงานจริงๆจัง  คิดเกี่ยวกับงาน วางแผนขั้นตอนการทำงาน ก่อนจะลงมือทำงานจริง

พีม มันเล่าว่า ที่พ่อและใครๆเกรงใจไอ้โภชน์ เพราะช่วงยุคที่เศรษฐกิจไม่ดี พ่อเจอลูกค้าโกงเงิน เบี้ยวเงิน3 เจ้า
 ทำเอาบริษัทเล็กๆอย่างพ่อที่เพิ่งขยายตัว จะล้มละลายเอา ปรากฏว่า ไอ้โภชน์ที่ตอนนั้นอยู่แค่ม.ต้นอายุก็แค่ 15
 ไปคุยกับพ่อเพื่อนมัน แล้วเค้าให้ยืมเงิน 50 ล้าน ไม่เอาดอกเบี้ยเลยสักบาท ทำให้บริษัทดำเนินต่อไปได้ สามารถใช้คืนได้หมดใน 2ปี



PART:POCH

หลังจากวางสายจากคนร่างเล็กหน้าสวยไปแล้ว แม่ก็โทรเข้ามา

“โภชน์ แม่เพิ่งกลับจากหนองคาย ซื้อแหนมเนือง กับไส้กรอก กุนเชียงมา
ไข่อยู่หรือเปล่า ให้เอาไปฝากบ้านไข่ เค้าสิ”

“ไม่อยู่ แม่ ไม่รู้ด้วยว่ามันจะมา วันนี้ พรุ่งนี้หรือเปล่า ไม่งั้นเดี๋ยวเอาไปให้แม่ไอ้ไข่ที่บ้านก็ได้ วันนี้วันอาทิตย์
คนคงอยู่บ้านกัน เผื่อเค้าจะได้กินเลย” โภชน์รีบเสนอ เผื่อจะได้ไปดูหนัง หรือไปเลือกซื้อซีดีหาเพลงใหม่มาฟัง
 แล้วอาจจะได้พามาค้างที่นี่เลย

“โภชน์ ถ้าจะออกมา แวะไปคุยกับพ่อหน่อยนะ จำคุณหญิงจรัสศรีได้ไหม เขาช่วยพูดช่วยเชียร์ให้จนคุณสุวัช
ให้พ่อทำงานพันธุ์พฤกษาโลกด้วยนะ งานใหญ่เชียวนะ พ่อเขาได้ทำโซน C  เกือบ 100 ไร่”

“ได้ แม่ แล้วพ่อเค้า เข้าบริษัทยังล่ะแม่”

“เข้าแล้วล่ะ ไปตั้งแต่ 6โมงครึ่ง นะ แพร บอกแม่ แม่นะเพิ่งมาถึงบ้านได้ครึ่งชั่วโมงเอง
เอ๊ะ หรือว่าแอบไปไหนเปล่า อย่าให้รู้นะ ว่ายังติดต่อกับอีนั่นอีก แม่โทรเข้ามือถือก็ไม่ติด”

เอ้ย...แม่เริ่มบ่นแล้วรีบวางหูดีกว่า

“งั้นแค่นี้นะแม่ เดี๋ยวจะได้เดินไปหาพ่อ”

“จ๊ะ จ๊ะ แล้วอย่าลืมมาเอาของไปให้บ้านไข่เค้าด้วยล่ะ”

“จ๊ะ” รีบรับคำเดี๋ยวเจอร่ายยาว

** ไอ้หน้าโหด พูดจ๊ะกับแม่ ฟ้าใสได้ยินครั้งแรกยังแทบช็อค  ฟ้าใสพูดยังพอเข้าหน้าตา แต่ไอ้หน้าตาแบบไอ้โภชน์นี่นะ...




โภชน์เดินกลับมาที่ร้าน  จุดบุหรี่สูบ พ่อบอกว่าถ้ารับงานที่เชียงใหม่ก็ต้องขึ้นไปคุมที่โน่นเลย ทำออฟฟิศที่โน่น
คุณสุวัชแบ่งงานมาให้พ่อรับผิดชอบโซน C พื้นที่89ไร่ ทางโน้น มีออฟฟิศ ให้แล้ว เช่าหมู่บ้านให้อยู่ต่างหาก
พ่อเอาแฟกซ์ ที่ส่งมาให้ดู ต้องหาคนหล่อ งานไฟเบอร์กลาส ไปถามอาจารย์ดีกว่าเผื่อแนะนำโรงหล่อฝีมือดีๆ

วันอาทิตย์ พวกอาจารย์มาอยู่กันที่อาร์ต อาร์ เพื่อดูแลศูนย์การเรียนรู้ศิลปะและวัฒนธรรม
 อาทิตย์นี้เป็นเวรของอ.ยักษ์ที่อาจารย์สาขาประติมากรรมและอาจารย์โกวิทย์ สาขาจิตรกรรมพอดี โภชน์เลยไม่ต้องไปหาถึงบ้านพักที่คลองสี่

ขณะที่โภชน์กำลังจะเดินเข้าไปที่ห้องพักอาจารย์

“ไข เดี๋ยวพี่กำลังจะเข้าไปหานะ ตอนนี้พี่อยู่ที่อาร์ต อาร์แล้ว พอดีคุยกับอาจารย์โก้ติดพันน่ะ”


หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.6(((มาต่อแล้ว)))(19/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 19-09-2012 03:06:54
บระเจ้า จะเกิดอะไรขึ้นล่ะเนี้ย
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.6(((มาต่อแล้ว)))(19/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: kasune ที่ 19-09-2012 03:13:56
พี่โม่งกลับมาแล้ว  :a5:

ตามอ่านจบซะที มันเยอะมากค่ะ /อันที่จริงก็เล่นเกมไปด้วย
แบบว่าเสียดายคุณคิดส์มาก ไม่น่าเลย นังวุ้นเส้น //เลิกเร็วๆนะ
ส่วนโภชน์..ก็โอดี แอบอยากเชียร์อยู่แต่พี่โม่งเจ๋งกว่า ทำไงดี  :o8:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.6(((มาต่อแล้ว)))(19/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 19-09-2012 11:54:20
อ๊ะ อ๊ะ โภชน์รู้เองโดยบังเอิญใช่ปะว่า พี่โม่งกับฟ้าใสน่ะต้องรู้จักกันแบบ"สนิท"แน่ๆ
ไม่ใช่โภชน์จะคิดพาลไปอีกรึว่าที่ฟ้าใสกลับบ้าน แล้วยังไม่มีกำหนดจะกลับแน่นอนน่ะ
เพราะฟ้าใสต้องการไปพบพี่โม่งนั่นเอง แล้วโภชน์คงไมคิดอะไรไปในทางบวกแน่ๆ
โภชน์คงได้หึงหูตาลายแน่มั้งคราวนี้ มีแววแห่งความยุ่งยากและกลิ่นมาม่าโชยมารำไรๆเชียว
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.6(((มาต่อแล้ว)))(19/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 19-09-2012 13:36:23
 :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.6(((อัพ2)))(19/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 19-09-2012 18:04:32
((((ต่อ ต่อ))))


โภชน์ชำเลืองมอง ผู้ชายที่คุยโทรศัพท์ใกล้บริเวณหน้าห้อง หน้าก็มีเค้าคุ้นๆเคยเห็นหน้า คงเป็นรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว

“อ้าว ไอ้โภชน์ มาไมล่ะมีธุระอะไรเปล่า” เสียงทักคุ้นๆดังขึ้น

“อ้อ..พี่จุ๋ย หวัดดีครับ”

“อาจารย์โก้ หวัดดีครับ” โภชน์ยกมือไหว้ ทักอาจารย์โกวิทย์และรุ่นพี่ที่เดินมาพร้อมกัน

“มาหาอาจารย์ยักษ์น่ะพี่ จะหาคนรับงานหล่อไฟเบอร์กลาส พวกตุ๊กตา แล้วก็พวก งาน Mock Up น่ะพี่”

“เหรอ เอ...เห็นที่บริษัทเวลาต้องการพร็อบสัตว์ประหลาด เค้าจ้างสตูดิโอ81 ทำว่ะ โภชน์
 ที่ไอ้เนรุ่นน้องเรา2 ปี มันทำงานอยู่ เออ รุ่นพี่เมริงปีหนึ่งนี่หว่า แต่ไม่รู้มันรับพวก Mascot รึเปล่า
 แล้วก็มีพี่จิ้ง รุ่นพี่เรามีโรงงานแถวสามพราน รับงานไฟเบอร์กลาส เรซิ่น ซุ้มป้ายเฉลิมพระเกียรติ
ถามเบอร์จากอ.ยักษ์ น่ะมีแน่นอน พี่แกรับงานของโรงเรียนกับนักศึกษาบ่อยออก”

“ขอบคุณพี่” โภชน์ขอบคุณจุ๋ยที่ช่วยแนะนำ


โม่งที่เมื่อเห็นจุ๋ยและอาจารย์ที่เดินไปห้องสำนักงานของอาร์ต อาร์
 และตัวเองก็โทรแจ้งฟ้าใสให้บอกแม่ว่าอาจารย์โก้จะไปด้วยและชวนแม่ฟ้าใสออกไปทานอาหารข้างนอกเรียบร้อยแล้ว เดินมารวมกลุ่มด้วย

“อ่ะ โม่ง นี่นะรายละเอียด เธอก็เอาไปอ่านดู  พร้อมจะเริ่มทำงานเมื่อไหร่ก็บอก ได้อาจารย์มาเพิ่มก็ดี
 อาจารย์ท่านอื่นเขาจะได้พักบ้าง อยากไปเที่ยวต่างประเทศนานๆก็ไม่ไปกันเลย
 แล้วก็อย่างที่บอก เรื่องบรรจุน่ะ เธอก็เอาไปคิดดูนะ”

“เอ๊ะ...ไอ้โภชน์ จำพี่โม่งเขาได้เปล่า เค้าได้ทุนไปอเมริกาเพิ่งกลับ เออ..ไปตั้งแต่นายจะขึ้นปี3นี่หว่า”
 จุ๋ยแนะนำโภชน์และทบทวนความจำ

“หวัดดีครับ  ก็ว่าเคยเห็นหน้าอยู่ คิดว่าเป็นรุ่นพี่นี่แหล่ะ”

“คุ้นหน้าเพราะเป็นพวกเด็กถือพานด้วยกันล่ะสิ เฮอะ”


หลังจากทักทายกัน

“ไปบ้านอาจารย์ของครูกันเลยเถอะ” อาจารย์โก้ก็ชวนให้ไปบ้านฟ้าใสเลย
 จะได้ทันพาแม่ฟ้าใสไปทานมื้อกลางวัน


ส่วนโภชน์ก็เข้าไปคุยกับอาจารย์ยักษ์เพื่อปรึกษาเรื่องงาน


ฟ้าใสส่องกระจกในห้องน้ำ แล้วถอนใจ

พี่โม่งกลับมาแล้ว มาให้เห็นตัวเป็นๆ ตื้นตันจนอยากร้องไห้ ถึงได้แอบเข้ามาอยู่ในห้องน้ำ
หมอกควันที่เคยลอยอยู่ในอากาศรอบตัวฟ้าใส กลายเป็นสิ่งที่มีตัวตนอยู่ต่อหน้าแล้ว

“ฟ้าใส ฟ้าใส” เสียงแม่เรียก คงจะไปกันแล้ว ฟ้าใสยกมือปาดน้ำตาที่คลอ ปริ่มนัตน์ตาทั้งสองข้าง

“ผมไปดูให้ครับ”

“อ๊ะ..พี่โม่ง” ฟ้าใสเปิดประตูมาเจอโม่งยืนข้างหน้า

“ตาแดงๆ ร้องไห้เหรอไข” โม่งลูบหัวร่างบางอย่างทนุถนอม โอบไหล่อุ้มกลับเข้าไปข้างในใหม่
ริมฝีปากคนตัวโตจูบสัมผัสคนตัวเล็กกว่าอย่างแผ่วเบา แสนคิดถึง
คิดจะผลัก แต่กลับโอบกอดร่างหนาสมส่วนไว้ด้วยความคิดถึง

“หนูไข คุณครู อาจารย์พรรณ เรียกนะค่ะ เอ...เดินไปไหนกัน สงสัยไปดูต้นไม้หลังบ้าน เดินไปดูที่หลังบ้านดีกว่า”
เสียงป้านวลที่พูดขึ้นหน้าห้องน้ำ ทำให้ทั้งสองต้องแยกจากกัน รอจนเสียงฝีเท้าของป้านวลเดินห่างออกไป
โม่งเดินจูงฟ้าใสออกมา

“ไปอยู่ไหนมาล่ะฟ้าใส หายไปตั้งนาน ต้องให้พี่เขาไปตาม”

“หนูไข ไปดูต้นไม้ข้างหลังบ้านว่าจะให้คุณครูเอาไปปลูกนะค่ะอาจารย์” ป้านวลรีบเข้ามาช่วยพูด

“อ๋อ...อยากได้ต้นอะไรก็บอกป้านวลก็ได้ น้องเขาก็ไม่ค่อยรู้เรื่องต้นไม้พืชผักหรอก โตป่านนี้
ผักก็ยังไม่ยอมกินสักที ไป ไปกันเถอะ เดี๋ยว เที่ยงคนจะแน่นร้าน”

“ครับ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกครับอาจารย์ นายสมานเขาเตรียมเมนูไว้ให้อาจารย์แล้ว”

“แม่นวล เอาช็อคโกแลตที่คุณครูฟ้าใสเอามาฝากเข้าตู้เย็นด้วยล่ะ”

“ค่ะ”

ป้านวลมองกลุ่มคนที่เดินไปขึ้นรถของลูกศิษย์อาจารย์พรรณ สายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักต่อครอบครัวนี้
ทั้งหนูไข และอาจารย์พรรณ ครุ่นคิดและแอบกังวลในใจ

โม่งเปิดประตูให้แม่ฟ้าใสขึ้นไปนั่งที่ด้านหลัง จุ๋ยรู้สถานการณ์ดี รีบเดินไปนั่งคู่กับอาจารย์โก้ที่เป็นคนขับ
ผิดกับตอนขามาที่จุ๋ยนั่งหลัง

“ไขจะนั่งตักพี่ก็ได้นะ ผ่านไป5ปี เรายังตัวไม่โตขึ้นเท่าไหร่เลยนี่”

“โหพี่โม่งอ่ะไขน่ะสูงขึ้นตั้ง5เซ็นเชียว”

“อ่ะเข้าไป ไปนั่งข้างคุณแม่ไป” โม่งเปิดประตูให้ฟ้าใสเข้าไปนั่ง

ไหล่มนของคนร่างเล็กซ้อนบนอกแกร่ง อบอุ่นยิ่งนัก

อาจารย์โก้พาแม่ฟ้าใสมาทานที่ร้านอาหารของลูกศิษย์แม่คนหนึ่งที่ถนนพระราม5 ครัวสมาน
บทสนทนาบนโต๊ะอาหารเป็นไปอย่างราบรื่น ลูกศิษย์แม่ฟ้าใสบริการอย่างดี นายสมานตามที่อาจารย์โก้เรียกเพื่อน
 เดิมทีฐานะก็เป็นชาวสวนธรรมดา แม่ฟ้าใสยังเคยช่วยเหลือฝากให้เข้าทำงานบริษัทประกัน ตอนหลังมีการตัดถนน
 มีเงินทอง ที่ก็ติดถนนใหญ่สะดวกสบาย จึงลงทุนทำร้านอาหาร ประกอบกับที่บ้านแม่พี่น้องมีฝีมือ
ทำอาหารอร่อย  ธุรกิจร้านอาหารจึงไปด้วยดี

“แล้วโม่งกลับมา คิดจะทำงานอะไรล่ะ” แม่ฟ้าใสถาม

“เป็นครูที่อาร์ต อาร์ ครับ” โม่งตอบ

“ผมก็กำลังบอกเขาให้พิจารณาว่า ถ้าที่อาร์ต อาร์ที่กรุงเทพ จะได้ตำแหน่งเป็นแค่ครูพิเศษนะครับ
เพราะทางโรงเรียนยังไม่มีนโยบายรับบรรจุ แต่ถ้ายอมออกไปทำที่ต่างจังหวัด ก็จะได้บรรจุเลยทันที
ไม่ต้องรออายุงานด้วย ครับ เพราะนี้ อาร์ต อาร์ มีอยู่10 วิทยาเขตน่ะครับ กรุงเทพฯ กาญจบุรี เชียงราย
ลำปาง ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี นครราชสีมา ชุมพร ระนอง สงขลา”

“งั้นโม่งน่าจะยอมลงทำงานที่ต่างจังหวัดนะ ถ้าได้บรรจุเลย สมัยแม่ จะเลื่อนขั้นก็ต้องไปอยู่ต่างจังหวัด
จังหวัดละ 2ปี พิจิตร พิษณุโลก บ้างหิ้วฟ้าใสกับส้มโอนี่แหล่ะไปอยู่ด้วย ได้ป้านวลช่วยเลี้ยงอีกแรง
 สัมโอถึงติดฟ้าใสนึกว่าเป็นตุ๊กตาของตัวเอง”

“มิน่านะครับพี่ส้มโอถึงดูจะรักและห่วงฟ้าใสพิเศษ”

อ้าวแม่ เริ่มเอาเรื่องเก่ามาเล่าอีกแล้ว พี่จุ๋ยก็แหมยังเรียกพี่ส้มโอว่าพี่เหมือนเดิมเลย พวกพี่น่ะหน้าตาเกินพี่ส้มโอ
ไปหลายสิบปีแล้วนะ ฟ้าใสมองหน้าพี่จุ๋ย ไม่ค่อยกล้ามองหน้าพี่โม่ง หล่อดูดีกว่าเดิมอีก100เท่า

“ส้มโอขนาดแต่งงานแล้วก็ยังห่วงฟ้าใสเหมือนเดิม ขนาดโทรมาคุยเรื่องของฟ้าใสเชียวนะ ขนาดแม่บอกว่า...”

แม่อย่าบอกนะว่าแม่จะพูดเรื่องพี่โอโทรมาคุยเรื่องไอ้โภชน์ พุทโธ ธัมโม พระเจ้าช่วยกล้วยทอด
 โอ๊ย!!!กล้วยทอดไม่ต้องช่วย ช่วยฟ้าใสดีกว่า




หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.6(((อัพ2)))(19/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: timvasabi ที่ 19-09-2012 18:48:00
แล้วมันจะเป็นไงต่อไปน้า~

ถ้าโพดรู้คงสนุกพิลึก สับรางด่วนจ้านู๋ไข
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.6(((อัพ2)))(19/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 19-09-2012 19:47:13
โอ๊ย โอ๊ย เกร็งแทนฟ้าใสไปหมดแล้ว คุณแม่จะพูดเรื่องอะไรน่ะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.6(อัพ1/20)(20/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 20-09-2012 02:38:37
((((ต่อ ต่อ))))

 “ส้มโอขนาดแต่งงานแล้วก็ยังห่วงฟ้าใสเหมือนเดิม ขนาดโทรมาคุยเรื่องของฟ้าใสเชียวนะ ขนาดแม่บอกว่า...”

แม่อย่าบอกนะว่าแม่จะพูดเรื่องพี่โอโทรมาคุยเรื่องไอ้โภชน์ พุทโธ ธัมโม พระเจ้าช่วยกล้วยทอด

 โอ๊ยกล้วยทอดไม่ต้องช่วย ช่วยฟ้าใสดีกว่า

ฟ้าใสพยายามสบตาแม่ เพื่อส่งสัญญาณ แต่แม่ดูจะเอนจอยเม้าท์ติ้ง ไม่ได้สนใจสบตาหรือมองหน้าคนเจ้าของเรื่อง

“แม่บอกส้มโอว่าไม่ต้องห่วงน้องมาก น้องเขาโตแล้ว ก็ฟ้าใสน่ะ เรานะ21แล้วนะ” แม่พูดไปก็มองฟ้าใสยิ้มๆ

“เอ่อ...คุณแม่พูดแบบนี้ พวกผมก็รู้สึกยิ่งเป็นผู้ใหญ่น่ะสิครับ” จุ๋ยบอกพลางหัวเราะ

“เวลาก็ผ่านไปเร็วนะ นึกถึงตอนที่ครูเรียกเอ๊ยเชิญเธอมาคุยนะ โกวิทย์ ผ่านไปก็โตๆกันหมด

ฟ้าใสก็เรียนจบ โม่งก็จบ ป.โท จุ๋ยอีกหน่อยก็ต้องเป็นครีเอทีฟมือหนึ่งของวงการโฆษณา” อาจารย์พรรณมีหยอดพี่จุ๋ยด้วย

“แหะ แหะ คุณแม่ ผมยังอีกไกลครับ” พี่จุ๋ยรีบถ่อมตัว

“แล้วฟ้าใสไม่สนใจเป็นครูสอนมั่งเหรอ” โม่งถามมองหน้าคนตัวเล็ก

แล้วก็ตัวเล็กจริงๆ ดูคุณแม่สิ ยังสูงตั้ง175กว่า นี่ผ่านมาตั้ง5ปี นี่คง161-162 มั๊งเต็มที่ โม่งมองด้วยสายตาเอ็นดูคนนั่งข้างๆ

“ไข สอนไม่เก่งหรอกพี่ อธิบายไม่ค่อยเป็น”
.

.
ขณะที่ครัวสมาน กลิ่นอาหารแสนเลิศรส ผสานอวลด้วยความรักและคิดถึง
.
.
.
.
ทางด้านบ้านพัฒน์พุทธา
หลังจากนำรถเข้าจอดในโรงรถ โภชน์ก็มายืนที่หน้าประตูบ้านแม่ฟ้าใส

“เอ่อ..พ่อโภชน์” ป้านวลเอ่ยทักกึ่งตกใจ เมื่อออกมารับด้วยคิดว่า อาจารย์พรรณกลับมาแล้ว

“หวัดดีจ๊ะ ป้า ไม่มีใครอยู่หรือครับ บ้านเงียบเชียว”

“จ๊ะ ข้าวปั้น ข้าวโอ๊ต ก็ไปบ้านเพื่อนน่ะจ๊ะ....” ป้านวลเลี่ยงตอบไปถึงน้องของฟ้าใสก่อน พลางประเมินสถานการณ์

“แล้วฟ้าใสไม่อยู่เหรอครับป้า” โภชน์ถามเข้าประเด็นทันที

“เอ่อ..ออกไปทานกลางวันกับอาจารย์พรรณน่ะ พ่อโภชน์ ป้าเห็นลูกศิษย์ของอาจารย์พรรณมารับไปนะจ๊ะ”

“เอ๊ะ..ป้า ช่วงนี้นี่วันครูหรือมีวันพิเศษอะไรรึเปล่าอ่ะป้านวล” โภชน์กล่าวอย่างสงสัย ก็ตอนอยู่ที่โรงเรียนก็ได้ยินว่าพวกอาจารย์โก้ก็จะทานข้าวกับครูของอาจารย์ เอ๊ะหรือเราก็ควรชวนอาจารย์ยักษ์ไปทานข้าว เอ๊ยแต่เราก็ทานกลางวันกับตัวนุ่มของเรานี่นา ช่างเหอะ เอากุนเชียงฝากอาจารย์ยักษ์ ไปแล้ว ไม่ต้องถึงกับกินข้าวด้วยกันหรอก

“เอ่อ..ป้านวล พอดีแม่ผมไปหนองคาย เลยซื้อแหนมเนือง กุนเชียง ไส้กรอกมาฝากนะครับ แล้วก็ก็มีฝากให้ป้าชุดหนึ่งด้วยนะครับ”

“ขอบใจจ๊ะ พ่อโภชน์”

“แล้วคุณป้าทั้งสองอยู่หรือเปล่าครับ แม่ผมก็ให้เอามาฝากให้ท่านด้วย”

“อยู่จ๊ะ ไม่ได้ไปไหน” ป้านวลตอบแล้วพลางคิดว่า ถ้าฟ้าใสและอาจารย์กลับมาครูโม่งอาจเดินมาส่งฟ้าใสที่นี่
ป้านวลนั้นก็อายุมากผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะพอที่จะรู้ตื้นลึกหนาบางจิตใจคุณหนูของตัวเองเป็นอย่างดี
เวลาที่หนูไขของป้านวลพูดถึงคุณครูพี่โม่ง แววตาจะเปี่ยมไปด้วยความชื่นชมนับถือและรัก
ส่วนพ่อโภชน์นั้น เวลามารับหนูไข หรือมาหาในวันสำคัญต่างๆก็จะเอาของฝากติดไม้ติดมือมาฝากผู้ใหญ่
และคนในบ้านเสมอ แต่หนูไขของป้านวลก็ไม่เคยใช้สายตาที่แสดงความรู้สึกแบบที่รู้สึกต่อคุณครูโม่งกับพ่อโภชน์เลย

 หนูไขจะดูมีชีวิตชีวาเดี๋ยวหัวเราะเดี๋ยวทำหน้าบึ้ง พ่อโภชน์ก็ดีเห็นเอาใจหนูไขอยู่เหมือนกัน เห็นแกหน้าขรึม
แต่แกก็ขี้เล่นเหมือนกัน มีร้องเพลงให้หนูไขฟังด้วย

“เดี๋ยวพ่อโภชน์จะเอาของฝากไปให้คุณป้าที่เรือนไทยก็ได้น่ะค่ะ เผื่อจะนอนเล่นคอยหนูไขที่ห้องหนูไขก็ได้ค่ะ” ป้านวลคิดวิธี  เอาพ่อโภชน์ไปเก็บไว้ที่ห้องหนูไขนี่แหล่ะ ถ้าจะเวิร์คสุดแล้ว

ป้านวล!!! ลืมแล้วหรือไง โรงรถตรงบ้านอาจารย์พรรณน่ะจอดได้2คัน  คันหนึ่งของอาจารย์พรรณ
คันหนึ่งก็พ่อโภชน์ มาจอดซะแล้ว

ถ้ามีใครมาอีก ก็คงต้องจอดหน้าบ้านเรือนไทยล่ะ ป้านวล!!!


ฟ้าใสเหลือบมองแม่ที่กำลังจิบน้ำชาหลังทานอาหารเสร็จเรียบร้อย  เพื่อนอาจารย์โก้ที่เป็นเจ้าของร้านดูยังอยากคุยกับแม่ต่อ ฟ้าใสขยับตัวขอไปห้องน้ำ  พาลทำให้พี่โม่งขยับจะลุกไปบ้าง จนฟ้าใสแอบกระซิบว่า

“ทำเป็นเด็กไปได้พี่โม่ง ต้องมาไปพร้อมกันด้วย”

ฟ้าใสนี่ลืมทฤษฏีนี้อีกล่ะ ไม่ใช่ ไม่ใช่รุกเสียม้า แต่ความจริงที่ว่าเรามักชอบพูดถึงคนที่ไม่ได้อยู่ในนั้นต่างหาก ว่าง่ายๆ ลุกปุ๊บเม้าท์ปั๊บ

“ฟ้าใสเขาทำงานกับเพื่อนเขานะแหล่ะ เขาขยันนะช่วยงานพ่อโภชน์” แม่ฟ้าใสตอบ เมื่อมีคนถามว่าฟ้าใสทำงานอะไร

“ก็ที่แม่บอกให้พี่สาวเขาไม่ต้องห่วงก็เพราะมีพ่อโภชน์นี่แหล่ะ ช่วยดูเรื่องงาน ไม่งั้น ฟ้าใสใจอ่อนรับปากรับงานเขาไปหมด

บางทีก็ไปทำพร็อบให้ละครให้หนังขนาดผู้กำกับรู้จักเป็นญาติกันนะฟ้าใสบ่นอุบเลย โดนไอ้พวกช่างภาพของสื่อนิตยสาร
มันเกาะแกะจับโน่นจับนี่  จนพี่ที่กองบอกว่าฟ้าใสเป็นญาติกับผู้กำกับมันเลยรามือ แต่ฟ้าใสบอกมันก็ยังไปยุ่ง
กับน้องช่างแต่งหน้าทำผม นี่พ่อโภชน์เลยไม่ให้ฟ้าใสรับงานเอง  จับให้ไปช่วยเขาดูร้าน คิวซีงาน
พ่อหนุ่มโภชน์เพื่อนฟ้าใสแกก็ดีนะขยันเอาการเอางาน ครูเคยเจอพ่อแม่เขาด้วย 
พ่อแม่เขาบอกว่าตาโภชน์นี่ช่วยงานบริษัทพ่อเขาตั้งแต่เด็ก” อาจารย์พรรณกล่าวชมลูกเขย
โม่งนิ่งฟัง สีหน้าแสดงความกังขา ขยับขอตัวไปห้องน้ำ
จุ๋ย คิดว่า ต่อให้ปวดท้อง อยากเข้าห้องน้ำ คงขอไปเข้าร้านข้างๆดีกว่า
ฟ้าใสล้างมือ มองหน้าผู้ที่เข้ามาใหม่

“เอ่อ พี่โม่ง...” เขาเห็นสีหน้าก็รู้แล้วว่า พี่โม่งคงพอรู้เรื่องเขากับไอ้โภชน์บ้างแล้ว

ดีแล้วล่ะ ถ้าเรื่องที่จะปิดเป็นเพียงแค่เรื่องที่เกี่ยวกับเขาคนเดียว นั่นยังพอลืมเลือนซุกซ่อนไว้
แต่หากต้องเกี่ยวกับจิตใจหรือกระทบกับคนอื่น เราก็ควรให้เขาเป็นคนตัดสินใจพิพากษา
ฟ้าใสตัดสินใจเล่าความจริงให้พี่โม่งฟังด้วยตัวเองดีกว่า ว่าตนนั้นคบอยู่กับโภชน์ในฐานะอะไร

“ไขรู้ว่าไขรู้สึกกับพี่โม่งอย่างไร เมื่อ5ปีก่อน ทุกวันนี้ไขก็ยังรู้สึกกับพี่ไขเช่นนั้นเหมือนเดิม”

ฟ้าใสเน้นคำที่พูดยืนยันที่ใจรู้สึก

“แต่จะให้ไขบอกเลิกกับโภชน์ ไขก็ยังทำไม่ลงอ่ะ” ฟ้าใสเม้มปากอย่างอัดอั้นตันใจ สงสารไอ้บ้าหน้าโหด

เจ็บปวด รอเวลามาเนิ่นนาน

จากที่เป็นแค่เด็กหนุ่ม ปี5 ก็หวังจะเติบใหญ่เพื่อดูแลคนตรงหน้า
ยอมจากไกล ทุ่มเทเวลาทำงาน ไม่เคยคิดจะมีใคร

แม้จะเผื่อใจไว้แล้วว่ากลับมาของล้ำค่านั้นจะถูกใครมาจับจองเป็นเจ้าของ หรือคิดจะมีเส้นทางของตัวเอง

“หัวใจพี่ก็เหมือนเดิม” โม่งลูบศีรษะได้รูปอย่างแผ่วเบา โน้มตัวไปกอดร่างเล็กก่อนจับตัวมามองสบตา
“พี่มีความสุขที่เห็นไขมีความสุข”
 

โม่งและจุ๋ยช่วยขนผลหมากรากไม้ ส้มโอ มะม่วง มะปรางที่คุณสมานเจ้าของร้านให้เด็กขนมา
ทั้งจากที่วางขายในร้านและเก็บจากสวนตัวเองใส่รถอาจารย์โก้เพื่อให้อาจารย์พรรณ

ฟ้าใสเดินไปส่งพี่โม่งพี่จุ๋ย ไหว้ลาทุกคน

ฟ้าใสเห็นรถไอ้โภชน์แล้ว คงนอนเล่นนั่งเล่นอ่านหนังสือที่บ้านแม่

แววตาและลีลาท่าทางการเดินที่อ้อยอิ่งราวกับไม่อยากลาจาก



อร๊าค!!!!!!อิจฉาโว้ย
เสียงดังสะท้อนในอกของคนที่เฝ้ามองจากห้องหนึ่งที่บ้านเรือนไทย




TBC......
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.6(อัพ1/20)(20/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 20-09-2012 03:33:40
สถานการณ์เริ่มเครียดแล้วสิ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.6(อัพ1/20)(20/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 20-09-2012 11:13:25
อินู๋ไขจะตัดสินใจยังไง
ก็รีบซะอย่าให้ยือเยื้อ
ไม่ดีต่อหัวใจคนอ่าน :laugh:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.6(อัพ1/20)(20/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: DIIK ที่ 20-09-2012 11:27:34
*เป็นลม

คือโภชน์ก็ดีแสนดี

พี่โมงก็โคตรจะดีแสนดี(ทำไมดูมีภาษีกว่า ฮ่าๆ)

เลือกไม่ถูกอ่ะค่ะ T^T (//เค้าให้หนูไขเลือกย่ะ!)

จากการพบปะเห็นเลยว่าบรรยายซะโภชน์ไร้ค่า กร้ากกกก
คือหนูไขรักโม่งมาก โม่งก็เหมือนกัน เหมือนโภนช์เป็นมือที่สามยังไงพิกล(มันก็ใช่ แต่เค้าไม่ผิดดดด)

ยังไงก็จะรอการตัดสินใจของท่านผู้แต่งนะคะ T^T
จะคนไหนก็ได้ดีทั้งคู่ (อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน...*โดนตรบ)
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.6(อัพ1/20)(20/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 20-09-2012 11:44:51
อืดอัด อึดอัด วุ้ย  :เฮ้อ: :เฮ้อ: แล้วจะเป็นไงต่อไปเนี่ย ติดตามตอนต่อไป อิอิ

ขอบคุณมากๆค่ะ :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.6(อัพ1/20)(20/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 20-09-2012 12:18:22
 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.6(อัพ1/20)(20/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: timvasabi ที่ 20-09-2012 13:39:18
แล้วมันจะเป็นไงต่อไป โปรดติดตามตอต่อไปค่ะ 5555

นู๋ไขก็เลือกโพดแล้วงั้นซิ ่อโม่งนี่ก็ดีแสนดี

แต่.... ทั้งโพดทั้งโม่ก็รักนู๋ไขทั้งคู่ เลือกอยากเนอะ 555
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.6(อัพ1/20)(20/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 20-09-2012 16:32:49
อยากแปะเพลงนี้ให้น้องฟ้าใส แต่แปะไม่เป็นล่ะ
เพลงรุ่นอาจารย์พรรณยังเป็นวัยรุ่นกระมังนะฟ้าใส
 "หนึ่งหญิงสองชาย"
หนึ่งหญิง..สองชาย
ไม่ หมาย ไม่คิดจะเป็น ไป ได้
คงเคราะห์แหละกรรม นำรักเป็นไป
เจอผู้ชายคนใหม่ ทั้งที่เก่า ก็ยังรัก
จะทำ..ฉันใด
ยาก ไซร้ปัญหาหัวใจ แสน หนัก
คนนั้นก็ดี คนนี้ก็รัก ยากเหลือที่จะหัก
คนไหน จากใจของเรา

.หากแม้นตัดใจ เลือกใครคนหนึ่ง
ทิ้งคนหนึ่ง ก็คงต้องเศร้า
เคราะห์กรรม ทำบาปกับเขา
อกหักเพราะมือเรา ขยี้แหลกราญ
หนึ่งหญิง..สองชาย อาจคล้ายวันทองสองใจ สามานย์
สวรรค์ท่านรู้ ใครหรือบันดาล ใจแท้ไม่ต้องการ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.6(อัพใหม่2/20)(20/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 20-09-2012 18:47:54
((ต่อ))


“เอ่อ อาจารย์โก้ ครับ ผมจะคิดดูเรื่องไปบรรจุเป็นครูที่สาขาต่างจังหวัดนะครับ”

“ก็ดีเลยโม่ง ถ้าเธอตกลง ตอนนี้อาร์ต อาร์ ที่กาญจนบุรีมีอาจารย์สอนเพ้นส์แค่คนเดียว
 แล้วเธอจบศิลปะสมัยใหม่มาด้วยเธอก็สอนองค์ประกอบศิลป์ได้ อาจารย์ชาลี ที่สอนอยู่
อยากขอลาไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส นอกจากนี้เธอได้วุฒิ ป.โท ทางโน้นเขาต้องการมากเลย”

จุ๋ยนิ่งฟังเพื่อนและอาจารย์คุยกันด้วยความรู้สึกหลากหลายอารมณ์




เมื่อแผ่นหลังร่างใหญ่สมส่วนเข้าไปในรถแล้ว ฟ้าใสถอนหายใจ มองรถที่แล่นออกจากบ้าน
พี่โม่งเหลียวกลับมามอง ระยะทางที่ห่างออกไป ฟ้าใสยิ้มอย่างอ่อนระโหย  ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงเดินกลับไปที่บ้านแม่

“ป้านวล โภชน์มาเหรอ” ฟ้าใสถามด้วยเสียงเนือยๆ

“จ๊ะ หนูไข พ่อโภชน์เอาแหนมเนืองมาฝากอ.พรรณ มีมาฝากป้าด้วย ฝากคุณพิส คุณพัชด้วย ขึ้นไปบนเรือนแล้ว
เลยคงนอนเล่นอยู่ในห้องหนูไข” ป้านวลตอบ พร้อมทำหน้าทำตาแบบคนอยากเม้าท์ต่อ แต่จิตใจฟ้าใสเหนื่อยจนอยากหยุดพัก

ถึงได้ไม่ชอบให้คนเข้ามาในบ้าน คนที่เรายังไม่รู้ ยังไม่ใช่ ถ้าไม่มีวันนั้น อาจไม่มีวันนี้ วันที่ฟ้าใสต้องปล่อยให้พี่โม่งจากไป

“โภชน์มาจ๊ะ” ฟ้าใสบอกแม่

“ป้านวลบอกแม่แล้ว โภชน์จะอยู่ถึงทานมื้อเย็นหรือเปล่า หรือจะมารับออกไปไหนกัน”

“ไขก็ยังไม่รู้เดี๋ยวไขถามเขาก่อน”


ฝีเท้าคนตัวเล็ก มาแล้ว
โภชน์แกล้งนอนหลับบนเตียง ใส่หูฟัง ฟังเพลงจากมือถือ
กลิ่นของคนตัวเล็กหอมละมุน อยู่ในบรรยากาศ
เรื่องของฟ้าใส โภชน์เคยถามกับโอลีฟให้ไอ้คิดส์ ตั้งแต่ตอนปี2 ว่ามีคนมาเกาะแกะหรือจีบไหม

กลุ่มคน 3คน ก็เพิ่งเจอที่อาร์ตอาร์
รุ่นพี่ที่โภชน์เห็นยืนโทรศัพท์ ตอนแรกนั่นก็อาจกำลังโทรคุยกับคนของเขา
แค่ท่าทางอาลัยอาวรณ์ ตอนยืนส่ง นั่นก็ปล่อยผ่านไม่ได้แล้ว


ฟ้าใสมองร่างสูงใหญ่ที่นอนหลับบนเตียง  จิตใจวุ่นวายด้วยความรู้สึกมากมาย
จะว่ารัก ก็ไม่ได้รักมากมายเท่าคนที่เพิ่งจากไป แต่อยู่ด้วยก็มีความสุขดี
เข้าขั้นดีกว่าที่เพื่อนได้รับจากแฟนเมื่อมีการเล่าสู่กันฟัง

และเมื่อไปเที่ยวด้วยกัน กับเพื่อนของมัน มันก็ปฏิบัติต่อเขาในฐานะคนพิเศษ
สารพัดจัดให้ แม้แต่เรื่องเซ็กซ์ที่มันเพียรปรนปรอเขาจนสุขสมก่อนถึงจะทำให้ตัวเอง

“จะมาทำไมไม่โทรมาบอกก่อน” เสียงที่ตอนแรกว่าจะเป็นน้ำเสียงหงุดหงิดและรำคราญจึงเปลี่ยน
เป็นน้ำเสียงที่อ่อนโยนขึ้น ฟ้าใสคิดว่าบอกมันว่า ถ้ารู้ว่ามันจะมาก็จะได้รอไปทานด้วยกัน
.
.
.
โภชน์นอนแอบคิด เอาของฝากมา ยังจะมาโดนต่อว่าอีก นี่ถ้าเขาไม่มาจะได้รู้ได้เห็นไหม

งานของเขาคนตัวเล็กก็ไม่เคยเห็นจะชื่นชมตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่นา ทีงานไอ้คิดส์ ออกปากชมแล้วชมอีก
แค่เพื่อนกัน เขายังแทบสู้ไม่ได้ นี่ไอ้รุ่นพี่ที่ไอ้คนไข่มันรู้จักก่อนที่จะรู้จักพวกเขาซะอีก แค่ดูจากสายตาท่าทาง
ที่ยืนส่งกัน ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ขนาดไหน รุ่นพี่ที่ได้ทุน ทั้งเป็นหัวหน้าห้อง

แต่ตอนนี้ไอ้ไข่มันเป็นสิทธิของเขา เขาพยายามผูกมัดพันธนาการคนตัวเล็กด้วยร่างกาย


ฟ้าใสนั่งข้างๆเอามือเสยผมคนตัวโต
มันก็เหมือนหมาใหญ่ บางครั้งมันก็กัดก็ฟัดเขา บางคราวมันก็แสนเชื่องสั่งให้ทำอะไรมันก็ทำโดยดี
ก้มลงไปจูบมัน

โอ๊ย...ไอ้บ้า แกล้งหลับเหรอ หนอย…

“อ่อย อ่อย เอี๋ยว ๆ” เสียงอู้อี้มาจากปากที่ถูกปิด พร้อมคนร่างเล็กดิ้นดุกดักในวงแขนแกร่ง

ตอนนี้โภชน์ก็กะจะฟัดเจ้าตัวเล็กนี้เล่นๆหยอกหรอกนะ แต่ลงมือไปแล้วชักติดพัน ลมหายใจเริ่มแรงขึ้น
ปากหนาส่งลิ้นเข้าชอนไชปากบาง
ร่างกายที่เคยชินต่อสัมผัสของกันและกัน

มือใหญ่คลึงเคล้นบั้นท้ายกลมกลึง

แก่นกายที่แข็งขืน

คนอยู่กันเต็มบ้าน ฟ้าใสรีบตั้งสติ ผลักหมาตัวใหญ่ที่เดิน ได้สองขาออกจากตัว หนีไปยืนข้างเตียง เอาหมอนข้างฟาดมัน

“นิดหนึงก็ไม่ได้เชียว เมริงอ่ะหื่นตลอดนะไอ้โภชน์อ่ะ”ส่งค้อนขวับๆ หน้าแดงด้วยแรงอารมณ์และที่ถูกฟัด

โภชน์ยิ้ม สีหน้าสดใสขึ้น ยังใช้ได้ เจ้าตัวเล็กยังเป็นของเขาอยู่...


ก่อนจะไปหาคุณแม่ ฟ้าใสหวีผมให้เขา พลางบ่นว่า ขนหนากว่าไอ้ดอลล่าอีก ก็เล่นฟัดกะคนตัวเล็กทำ
เอาอยากแบกกลับบ้านซะเดี๋ยวนั้นเลย บ้านเรือนไทยก็พื้นไม้ จะมาทำแผ่นดินไหวกลางวันแสกๆ
ผู้ใหญ่บ้านนี้คงค้อนเขาขวับๆ


ในห้องรับแขกที่แม่ฟ้าใสกำลังพักผ่อนอ่านนิตยสาร

“คุณแม่สวัสดีครับ” โภชน์ยกมือไหว้สวัสดีทักทายอย่างนอบน้อม

“สวัสดีจ๊ะ โภชน์ เป็นไงมาอย่างไง” อาจารย์พรรณเงยจากนิตยสารในมือเมื่อได้ยินเสียง

“คุณแม่ผมเพิ่งกลับจากหนองคายไปทำบุญมานะครับ เลยซื้อแหนมเนือง ไส้กรอก กุนเชียงเจ้าอร่อย
มาฝากครับผมเลยรีบเอามาให้คุณแม่”

“เรามาคลาดกันไปหน่อย ไม่งั้นก็ได้ไปทานด้วยกัน”

“พอดีก่อนมานี่ผมต้องแวะไปคุยเรื่องงานกับอาจารย์ที่โรงเรียนน่ะครับ เลยไม่รู้เวลาด้วยนะครับว่าจะเสร็จเมื่อไหร่”

ในใจโภชน์ - ผมคงกินไม่ลงอ่ะคุณแม่ นั่งดูไอ้ไข่ กะไอ้รุ่นพี่ ส่งสายตาปิ๊งๆกัน คงได้กินหัวใครสักคนแทน

“แล้วนี่จะอยู่ทานมื้อเย็นด้วยกันไหมล่ะ จะได้บอก ป้านวลให้ทำน้ำพริกกะปิ ปลาทู แกงส้ม ชะเอมชุบไข่
ของโปรดเราใช่ไหม เห็นฟ้าใสเคยบอก”

“เอ่อ ครับ คือผมมีเรื่องรบกวนคุณแม่ด้วยนะครับ”  โพดทำเป็นขยับตัวเหมือนลำบากใจ

“อ้าว มีเรื่องล่ะ”

“คือ ผมจะขอตัวฟ้าใสไปช่วยทำงานกับผมนะครับคุณแม่ พ่อผมรับงานพฤกษาโลกที่เชียงใหม่น่ะครับ”

โพดเว้นระยะคำพูดเพื่อดูปฏิกิริยาของแม่ฟ้าใส

“อืม...แล้วไงล่ะ” อาจารย์พรรณ มองหน้าโพด   

“ฟ้าใสอาจจะต้องขึ้นไปอยู่ที่โน่นเลยนะครับ เอ่อคุณแม่อาจเป็นห่วง แล้วคุณแม่ก็ขาดคนช่วยดูแลบ้านทางนี้”

“อุ๊ย ตาโพด ไม่ต้องห่วงหรอกจ๊ะ ทางนี้ยังมีคนอยู่เยอะแยะ แม่ก็มีแม่นวลอยู่ พวกป้าๆเค้าก็มีทั้งยัยพร ยัยพิมคอยดู
ถ้าฟ้าใสต้องไปทำงานก็ไม่เป็นไรหรอก แล้วเชียงใหม่ก็ไม่ใช่จะไกลซะที่ไหน นั่งเครื่องก็ชั่วโมง 2ชั่วโมง ขับรถไปมาเองก็ได้ ถ้าจะกลับมา”

“คุณแม่พูดอย่างงี้ ผมก็สบายใจครับ ไม่งั้นผมเกรงใจทางนี้”             

                                                                                 

ฟ้าใสมาช่วยโพดเก็บงาน ยุ่งจนลืมเรื่องอื่นๆ ตั้งแต่วันที่พี่โม่งกลับมา มีโทรคุยกันบ้าง พี่โม่งตัดสินใจ
ไปเป็นอาจารย์ที่วิทยาเขตจังหวัดกาญจบุรี ฟ้าใสก็บอกว่าฟ้าใสก็ต้องไปช่วยงานโพดมันที่เชียงใหม่เหมือนกัน

ฟ้าใสคุยโทรศัพท์ได้แปบๆ ก็มักโดนเรียกให้ทำโน่นทำนี่  คุยกับใครไม่ค่อยได้นาน  ต้องรีบวาง ไม่งั้น
มักจะมีแมลงสัตว์กัดต่อยเป็นอันตรายต่อร่างกาย
 ฟ้าใสเข็ดตั้งแต่ครั้งที่โทรคุยกับผิงผิง วันก่อนที่
.
.
“ไข่ โทรศัพท์แน่ะ จากผิงผิง” มือถือฟ้าใสปล่อยทิ้งจนแบตหมดเสียบชาร์ตที่ในห้อง

ไอ้โภชน์เอาโทรศัพท์ไร้สายมาส่งให้ฟ้าใสที่ที่ห้องตรงระเบียงด้านหลังที่เป็นที่รีเลคอ่านหนังสือ
ของฟ้าใส แล้วพาลอู้งานไม่ลงไปทำงานต่อข้างล่าง มานั่งจ้องฟ้าใส

“เดี๋ยวเย็นนี้ทานไรดี” เสียงชายหนุ่มร่างกายกำยำถาม เหมือนบอกว่า เฮ้ย ฉันยังนั่งอยู่ สนใจกรูหน่อย

 สักพักมันคงเริ่มเห็นว่าฟ้าใสเอนจอยเม้าติ้งกับเพื่อนสาวนานไปคงเริ่มหมั่นไส้ เลยขยับมาใกล้ๆ
มันก็เริ่มจูบจูบที่ซอกคอ ฟ้าใสก็ผลักหัวมันออกไป มันก็เลยยิ่งแกล้ง มือไม้มันเริ่มไต่ลวนลามมากขึ้นเรื่อยๆ

“เป็นคุณเมียแล้วยังจีบสาวอีกเหรอ” ไอ้โภชน์มันแอบกระซิบที่ข้างหู กระซิบไม่กระซิบเปล่า
มันยังทั้งเม้มทั้งขบติ่งหูและชอนไชปลายลิ้นมาละเลียดต่ออีก

ทำให้ฟ้าใสต้องพยายามปิดช่องรับเสียงอย่างแน่นหนา ฟ้าใสเดินหนี
ไปที่ราวระเบียงด้านในบ้านแล้วเท้าแขนคุยต่อ ไอ้โภชน์มันคงว่างงานมาก ถึงได้ไม่มีอะไรทำ

จึงมาตามก่อกวนฟ้าใสต่อ มือไม้มันเริ่มล้วงไปใต้เสื้อผ้าฟ้าใส
และป้วนเปี้ยนไปจับไส้กรอกชีสน้อยๆของฟ้าใส ลงมือเคล้นคลึง
ฟ้าใสต้องร้องอุทาน เมื่อชีสระเบิดพ่นออก ไอ้ผิงผิงถึงกับถามว่าเป็นอะไร

ฟ้าใสทั้งหน้าแดง ตัวก็แดงกล่ำไปทั้งตัว ก็ในเมื่อเสียงที่พูดคุยอยู่กับหู
ไอ้โภชน์ก็ดูท่าทางจะไม่ยอมแค่นั้นจากที่คอยแกล้งเบียดความแมนที่พองแข็งเป็นเสาธงของตัว 
ก็เริ่มถอดกางเกงฟ้าใสออก และเอาแก่นกายของตนเองมาหยอกเย้าก้นกลมของฟ้าใส

มันดึงตัวฟ้าใสให้ก้มลง การหยอกล้อเริ่มเปลี่ยนไปเมื่ออุปกรณ์ของมันตื่นตัวขึ้นเรื่อยๆ 
จากที่แกล้งเป็นตีก้นฟ้าใส เสียบเฉียดซ้ายไถลไปขวา เสยบนเสยล่าง ที่หูฟ้าใสยังได้ยินเสียง
ไอ้คุณนายผิงผิงพูดถามรายละเอียดเรื่องโปรแกรมออกแบบที่ฟ้าใสเพิ่งไปเรียน แต่สมองฟ้าใส
กลับโดนไวรัสหื่นเข้าแทรกแซง ไอ้โภชน์มันเริ่มใช้มือที่มีชีสสีขาวข้นไล้ช่องทางแคบด้านหลัง

ฟ้าใสต้องหันมาทั้งข่มขู่ขอร้องมันด้วยสายตา แต่มันกับทำสายตาเหี้ยมใส่ฟ้าใสพร้อมยังส่งยิ้มที่มุมปากมาให้อีก

มันเริ่มสอดนิ้วเข้าเบิกทางทันที “อ๊ะ!!!” ฟ้าใสกระตุกร้องอุทานจนต้องรีบเอามาปิดปากตัวเอง

 ฟ้าใสไม่เคยรู้สึกว่าไอ้ผิงผิงมันคุยโทรศัพท์กับฟ้าใสนานแสนนานอย่างงี้มาก่อน ฟ้าใสจะวางสายธุระผิงผิง
มันก็ยังต้องถามกันต่อ ไอ้โภชน์มันส่งนิ้วที่สองเข้าเบียดเบิกทาง ทำให้ฟ้าใสถึงกับบิดกายด้วยความเสียว
ที่มันตั้งใจแกล้งฟ้าใส

 หลังจากมันรู้สึกได้ถึงภายในที่เปิดทางพร้อม มันก็ส่งบิ๊กไบด์สวบเข้ามาทันที ไอ้เลว ฟ้าใสนึกด่ามันในใจ
ส่วนไอ้ผิงผิงเมื่อมันได้ฟ้าใสอุทาน มันก็อุตส่าห์เป็นห่วงว่าเป็นอะไร ฟ้าใสก็จะตอบอะไรได้ จะให้บอกว่า
กำลังโดนไอ้เกรียนขี้อิจฉาโพดเสียบ

 ฟ้าใสก็ไม่บ้ากล้าขนาดนั้น ได้แต่บอกว่าไม่มีอะไร แต่นั่นยิ่งน่าสงสัย
เพราะไอ้โภชน์มันย่อมไม่ยอมหยุดแค่นี้ มันเริ่มขยับเข้าออก ฟ้าใสเริ่มหายใจหอบถี่
เสียงเนื้อกระแทกเนื้อ ฟ้าใสพยายามสุดความสามารถที่จะตั้งสติตอบสิ่งที่ไอ้ผิงผิงมันถามให้ได้

“เอ่อ..อ๊ะ..ฮื่อ..” “เราว่า...” ฟ้าใสได้แต่อั้มๆอึ้งๆ จนดูท่าทางตอบมันไม่ได้ความ ฟ้าใสเลยบอกมันไปว่า
หมามันกวน ขอไปจัดการหมามันก่อน แล้วรีบกดวางสายไอ้ผิงผิงไป

 ไอ้โภชน์มันจัดการเผด็จศึกฟ้าใสต่อจนปลดปล่อยเชื้อพันธุ์ปีศาจใส่ฟ้าใส เสร็จมันยังจูบก้นฟ้าใสทิ้งท้าย
 แล้วจัดการการเช็ดทำความสะอาดคราบความรักของมันและของฟ้าใส

ฟ้าใสโยนโทรศัพท์ใส่มันพร้อมทำตาวาวด้วยความโมโห  ก็มันทำอย่างงี้
เหมือนมันมาเอาฟ้าใสต่อหน้าไอ้ผิงผิง แล้วไอ้ผิงผิง ฟ้าใสนะรักมันที่สุดในบรรดาเพื่อน
 รักมันแบบชอบปิ๊งๆด้วย ฟ้าใสเลยเดินกระแทกเท้าปึงปึง คว้าหนังสือที่นอนอ่านค้างอยู่เข้าห้องนอน

 ก็ใครจะไปมีแรงทำอะไรต่อได้ล่ะ ฟ้าใสยืนเกร็งจนขาแทบไม่มีแรง ไหนจะต้องพยายามคุมสติ
ควบคุมเสียง ให้ระงับความรู้สึกเสียวซ่านต่างๆนานา 

เสียงประตูห้องนอนก็เปิด ไอ้โภชน์มันก็ทิ้งตัวลงนอนข้างๆฟ้าใส พร้อมกอดฟ้าใสแบบเอาใจเอาใจ
เฮอะ ทีทำละไม่คิด มันพยายามจูบซ้ายจูบขวาจูบหน้าจูบหลัง

“รักนะ...” แล้วมันก็พยายามเขี่ยเอวฟ้าใส ก็รู้อยู่ว่าฟ้าใสบ้าจี้ ฟ้าใสเลยบิดตัวหนีมือมัน
มันยิ่งแกล้งตามจี้เอว ฟ้าใสได้แต่ตัวงอไปงอมา “แอร๊ย แอร๊าย...ฮ่า ฮ่า โอย..โอ๊ย..”

“หายโกรธยัง” มันถามเสียงคาดคั้น มือตั้งท่าเตรียมจี้เอวฟ้าใสต่อ

“ยอมแล้วยอมแล้ว” ฟ้าใสตอบพร้อมกับเอามือโอบปิดเอวไว้

“งั้นก็ดี” ว่าแล้วมันกดตัวฟ้าใสนอนราบแล้วประกบปากจูบหนักๆทันที


TBC…….
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.6(อัพใหม่)(21/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 21-09-2012 01:47:34
(ต่อ)

วันนี้มีเพื่อนไอ้โพดมาขอร้องให้ช่วยรับงานโปรเจ็คของเด็กมหาลัยให้หน่อย
ทั้งที่ชาวสแปงเตรียมมูฟแล้ว ของชิ้นใหญ่อุปกรณ์การทำงานก็ถอดออกบ้างแล้ว
สาวเจ้าของงานหน้าตาสะสวยน่ารัก  ไอ้โภชน์ก็ยอมรับทำให้ และให้เวลาแค่3วัน
โดยที่เจ้าของงานก็ต้องทำอยู่ด้วย เพื่อจะได้ทำไปตัดสินใจไปได้เลย ค่าแรงก็แค่ให้เด็กๆแทบไม่ได้บวก

ฟ้าใสออกมาซื้อโรตี กะไอ้พีม น้องสาวไอ้โภชน์ ที่มาค้างแล้วกำลังดูหนังเอ็กซ์ เอ๊ย หนังผีกันอยู่
ไอ้พีมมันมาช่วยเก็บของด้วย และมันก็หวังจะอยู่ที่นี่ต่อ
พอมีลูกค้ามา ผู้ช่วยเฮียอย่างฟ้าใสก็ควรต้อนรับลูกค้าช่วยเฮียตัวจริงบ้าง ผสมกับต้องการ
เบรคจากการฆ่ากันของเหล่าผี เราฟ้าใสและไอ้พีมที่ขี่มอไซต์เป็น จึงมายืนกันที่หน้ารถเข็นโรตี

ฟ้าใสเป็นคนยืนซื้อ กับคนขาย เพราะ ไอ้พีมมันเป็นคนปากเสียอ่ะ ฟ้าใสเลยต้องซื้อ กลัวคนขาย
อารมณ์ไม่ดีเดี๋ยวให้นมข้นน้อยอ่ะ ไอ้พีมมันคอยยืนคุมอยู่ข้างหลัง ยืนทมึน เหมือนพี่มันมาคุมเอง

“ได้ยังล่ะ บัง” ดูท่าไอ้พีมคงคอยนาน ดูมันหงุดหงิดชอบกล จนฟ้าใสต้องหันไปมองหน้ามัน ที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด

“แล้วนั่นของใครอ่ะ เอามาก่อนก็ได้” 

แน๊ะ ไอ้พีม เอ็งจะไปเอาของเขาได้ไงว่ะ

“เหอะน่า ไม่พูดมาก บัง เอานี่แหล่ะ รวมอันนี้กับไอ้นั่นก็หกอันครบแล้ว  กลับได้แล้ว เซ็งว่ะ”
ว่าแล้วมันก็ฉุดแขนฟ้าใสไปขึ้นรถมอไซต์ ฟ้าใสก็ได้แต่ตามมันไป

“แล้วเดี๋ยวจะแวะซื้อน้ำแข็งที่เซเว่นไหมล่ะ”

“ไม่เอาไม่ต้องแวะที่ไหนแล้ว” มันตวัดเสียงสูง

“อ้าว ไมล่ะ ก็เดี๋ยวพวกนั้นก็อยู่คุยกันอีกนานนี่” 

“ช่างมัน จะเอาอะไรก็ให้ไอ้อ็อดมันออกซื้อ”

“ก็อ็อดมันขึ้นไปข้างบนแล้วนี่”

“ช่างมัน ก็เรียกมันลงมา”

“แล้วไมเราไม่ซื้อไปเลย”

“เฮ่ย ไม่รู้ตัวมั่ง” ไอ้พีมบ่นพลางหันมามองฟ้าใส

แล้วพอถึงร้าน มันก็ลงเดินปึงๆ เหวี่ยงโรตี ตุบ!!! ไปบนโต๊ะมุมร้าน

ไอ้โภชน์ที่นั่งคุยงานกับบรรดาเพื่อน ถึงกับหันมามอง “เป็นไรว่ะพีม”
พีม ถอนหายใจ   ฟรึ่ดดดด!!!

“ทีหลังไม่ต้องให้ ไอ้ไข่มันออกไปข้างนอกดึกๆนะ ดีนะไปกะเขา ขืนมันไปคนเดียวมันไม่ได้กลับด้วยหรอก”

อ้าวไอ้พีม ทำไมพูดแช่งกันอย่างงั้นล่ะ ฟ้าใสนึกในใจ

“ก็ดูเสื้อที่มันใส่ดิ๊ บางก็บาง จนจุกโผล่”

“เฮ่ย!!!” ฟ้าใสรีบมองตัวเอง แล้วก็ต้องหน้าแดง แต่ฟ้าใสเป็นผู้ชายนี่ ก็ไม่น่าเป็นอะไรง่ะ ก็เสื้อยืดตัวนี้
มันใส่สบายนะ ความจริงมันก็เป็นของไอ้โภชน์ เก่าแล้วด้วย จับหลายหนแล้วจะทิ้งจะทิ้ง แต่มันก็ใส่สบายอ่ะ

“แล้วดันใส่ขาสั้นอีก ไอ้พวกเวร วินมอไซต์ กะพวกที่นั่งกินจิ้มจุ่มแถวนั้น มันมองขาไอ้ฟ้าใส น้ำลายยืด
จนเค้าจะท้องแทนมันอยู่แล้ว”

อ๊าค ปากมันนะไอ้พีม ฟ้าใสก็รีบมองสารรูปตัวเอง ก็นี่มันก็กางเกงขาสั้นปกติ เพียงโครงสร้างบ้านฟ้าใส
ถึงแม้ตัวจะเล็กแต่ก็เป็นประเภทขายาว ตัวสั้นอ่ะ ก็ขานี่แหล่ะ ที่ขนาดเพื่อนผู้หญิงยังชมด้วยความอิจฉา
ไอ้โภชน์เลยหันมาสำรวจตัวฟ้าใสหัวจรดเท้า แล้วยิ้มตาวาว ฟ้าใสว่าฟ้าใสแอบเห็นแววตาแปลกนะ
แล้วก็ถอนหายใจเล็กๆ โดยไม่พูดโต้ตอบไอ้พีม

“แล้วตกลงจะเอาอะไรอีกเปล่า จะได้ตามไอ้อ็อตไปซื้อ”

ตาหวานๆขวางๆของมันก็มองเลยไปถึงบรรดารุ่นพี่รุ่นน้องที่นั่งอยู่สี่ห้าคน

พอไม่มีคนตอบ มันเลยหันไป “งั้นเค้าไปดูหนังกะไอ้ไข่นะ”

“ไปเหอะ” ว่าแล้วมันสะกิดฟ้าใส ที่พยายามทำตัวเป็นผู้ช่วยเฮียที่ดี ช่วยสามีทำมาหากินต้อนรับลูกค้า

ก็ที่แต่งแบบนี้ มันจะนอนแล้วนี่นา ดึกแล้วตั้ง 5ทุ่ม ฟ้าใสกะไอ้พีมกำลังดูหนังกันอยู่ไม่งั้นก็แยกย้ายห้องใครห้องมันแล้วล่ะ 
แล้วพอเพื่อนไอ้โภชน์ดันแวะมาจะเอางานของรุ่นน้องมาให้ทำ เลยต้องลงมาช่วยกันต้อนรับ

คืนนั้นกว่าพวกนั้นจะกลับฟ้าใสก็ใกล้จะหลับหรือหลับไปแล้วด้วยซ้ำ
แต่ก็เริ่มรู้สึกตัวว่ามีน้ำหนักมากอดรัดด้านหลังพร้อมกับถูกเบียดที่สะโพกอย่างเต็มที่
หลับแล้วเหรอ เสียงนุ่มๆกระซิบข้างหู ตามด้วยริมฝีปากหนาที่คลอเคลียอยู่ไม่ห่างแก้มฟ้าใส
ฟ้าใสยังครึ่งหลับครึ่งตื่น เลยได้แต่ฮือๆออๆ แต่สักพักก็เสียวแว้บ เมื่อหน้าใหญ่ของไอ้โภชน์
ทั้งซุกทั้งไซร้ที่ซอกคอ ระดะไปเรื่อย

“รอตั้งนานจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว อยากจะขึ้นมาตั้งนานแล้ว แทบจะบอกปัดงานไปเลย ถ้าไม่ใช่เห็นว่าช่วยเด็กไอ้ลิฟต์”
ไอ้โภชน์บ่นพึมพำ มันลูบขาอ่อนของฟ้าใส แล้วพลิกตัวฟ้าใส พร้อมก้มหน้าดูดเม้มที่ยอดอก....



หลังจากเคลียร์งานทุกอย่าง ไอ้โภชน์ชวนฟ้าใสขับรถขึ้นไปเตรียมที่เตรียมทาง ดูบ้านที่ทางโน้นเช่าไว้ให้ อย่างหรู อยู่สบาย
เพราะมีหลายระดับตามตำแหน่ง


ขณะที่รอเซ็ทงานที่เชียงใหม่ ไอ้โภชน์ขอฟ้าใสไปเที่ยวทะเลกับกลุ่มเพื่อนคนที่เอางานโปรเจ็คเด็กมาทำนั่นแหล่ะ
คราวนี้มันไม่ได้ชวนฟ้าใสไปด้วย แต่ก็พอดีพวกไอ้ดรีม แก๊งค์เพื่อนใหม่เด็กรามก็มีไปทะเล ฟ้าใสเลยไปเที่ยวกับพวกนี้



TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.6(อัพใหม่)(21/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 21-09-2012 09:20:06
ดูท่าว่าพี่โม่งคงหายไปอีกนาน บักโภชน์โผล่ทุกตอนจนมันจะเป็นพระเอกแระ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.6(อัพใหม่)(21/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 21-09-2012 09:56:39
พี่โมงจ๋า แงแง  :sad4: :sad4: :sad4:

ขอบคุณมากๆๆค่ะ  :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.6(อัพใหม่)(21/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: DIIK ที่ 21-09-2012 11:39:35
เอิ่ม

สรุปฟ้าใสเลือกโภชน์สินะ
สงสารพี่โม่งง่า T^T

อุตส่าห์ตั้งใจเรียนไม่แวะที่ไหนเพื่อกลับชมาหาน้อง เห้ออออออออออออออออออ

แต่ถ้าเลือกพี่โมงก็สงสารโภชน์ เห้อออออ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.6(อัพใหม่)(21/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 21-09-2012 12:16:44
พี่โม่งที่แสนดี จะได้กินแห้วเหรอเนี่ย ส่วนไอ้ ห.ต.ล. (หื่นตลอดเวลา)โภชน์ เป็นตัวเลือกที่ฟ้าใสเลือกกากบาทเหรอ
แต่ว่า...ตงิดๆใจอยู่นะว่าการไปเที่ยวทะเลของโภชน์กับกลุ่มเพือนกลุ่มนี้ จะมีจุดเปลี่ยนอะไรหรือเปล่า
มีใครบางคนในเพื่อนกลุ่มนี้กำลังคิดอะไรกับโภชน์กระมัง และคงชัดพอสมควรจนพีมสัมผัสได้แหละ
แต่ฟ้าใส ก็ใสซื่อเหมือนเดิม ดังที่พีมว่าเลย “เฮ่ย ไม่รู้ตัวมั่ง” ไอ้พีมบ่นพลางหันมามองฟ้าใส
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.6(อัพใหม่)(21/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 21-09-2012 14:05:15
เหนื่อยใจจริงๆ
ไขจะเลือกใคร
ก็เลือกสักทีเถอะ
ทำแบบนี้รับไม่ไหว
แล้วจริงๆ :z3:
(อินเกินไปแล้วฉัน)
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.1(21/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 21-09-2012 14:53:33

CH.7.1

“เบื่อ.........เบื่อโว้ย” ฟ้าใสเท้าคางมองหน้าไอ้โภชน์

คนนั่งตรงข้าม ทำหน้าเอ๋อๆ
อ็อตรีบชิ่งเดินถือจานข้าวไปกินไปดูทีวีไปในห้อง

“เอาไง!!! ให้มาอยู่ แล้วก็ไม่เห็นมีอะไรให้ทำ”

“โห มีดิ นี่ไงงานสำคัญจะตาย” คนตัวโตทำหน้าเป็น ชี้ที่ตัวเองเหยงๆ

“เหอะ...”

“น่า น่า น่า อยู่เป็นเพื่อนดิ ผัวเมียก็ต้องอยู่ด้วยกัน”

“ไอ้บ้า เอามาอยู่แล้ววันๆตัวเองก็หายไปทั้งวัน” ฟ้าใสเริ่มบ่นไอ้โภชน์ ก็มันให้ฟ้าใสขึ้นมาอยู่ด้วย
 งานที่จะให้ฟ้าใสช่วยทำไม่มีหรอกเพราะต้องไปยุ่งเกี่ยวกับคนมากมาย ที่เขาออกแบบไว้แล้ว
ไอ้โภชน์ตรวจดู คุมงานโคกับคนที่เขาทำงาน แทนพ่อมัน

ตกลงที่ฟ้าใสมาอยู่เชียงใหม่ เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตกับไอ้อ็อตใช่ไหม
ไอ้โภชน์กลับมาประมาณ5ทุ่มกว่า ไม่ก็เที่ยงคืนบ้าง
วันอาทิตย์ ก็ไม่วายไปขลุกที่สตูดิโอของไอ้แชท ฟ้าใสตามไปบ้าง นั่งคุยกับขวัญ สนุกบ้างน่าเบื่อบ้าง

“เฮ้ย!!!คุณเมริง สอนขี่มอไซต์หน่อยดิ” ฟ้าใสบอกด้วยความเบื่อ

“อันตราย น่า ที่นี่เขาไม่เปิดไฟเลี้ยวนะ”

“เหอะน่า จะได้ออกไปซื้ออะไรใกล้ๆได้บ้างอ่ะ”

“โอ๊ย จะออกไปไหนล่ะ ไปก็ไปด้วยกันดิ” ไอ้โภชน์ก็ยังไม่ค่อยอยากให้ฟ้าใสไปไหน
.
.
.
“รถผมมีครัทนะพี่ไข่” อ็อตมองหน้าคนพูดด้วยอย่างเกร็งๆ กลัวโดนไอ้โภชน์ด่าด้วย

“น่าก็สอนมาเหอะ เนี๊ยะ หัดขี่แถวนี้อ่ะ อ็อต” ฟ้าใสกึ่งบังคับไอ้อ็อต

“เวลาพี่เปลี่ยนเกียร์ พี่ก็บีบครัทมันอย่างงี้ พอเปลี่ยนเกียร์เสร็จพี่ก็ค่อยๆปล่อย” ฟ้าใสที่ซ้อนท้ายอ็อต

พยายามจำตัวอย่าง และคิดว่าไม่น่ายาก แต่ความเป็นจริง ก็คือความเป็นจริง
นึกๆมันก็น่ากลัวเหมือนกันนะที่นั่งบนวัตถุ2ล้อเคลื่อนที่โดยไม่มีอะไรมาห่อป้องกันตัวเรา
ยิ่งฟ้าใสก็เคยนั่งแล้วรถชน ช่วงนั้นจำได้เลยว่า กลัวไปเป็นเดือนเลยเวลานั่งคู่คนขับข้างหน้า

“โอ๊ยๆ ๆ อ็อต อ็อต” ฟ้าใสยู่หน้าปากยื่น  เมื่ออ็อตเดินมาเอารถที่กระตุกดับ

“เหอะ...”

“อีกรอบไหมพี่ แหะ แหะ”

“ไม่เอาแล้ว” ฟ้าใสพูดแบบงอนงอนใส่ทั้งรถทั้งคน เมื่อเห็นอ็อตมันหัวเราะ

อะไรวะ ทีเห็นเด็กประถม มันยังขับกันได้ โปรแกรมออกแบบยากๆยุ่งๆ เรายังเรียนได้ วันนี้ไปตั้งหลักก่อน วันหลังลองใหม่
.
.
.
.
“หวัดดี พี่ลิฟต์ อาโภชน์ไม่อยู่ฮะ” เสียงอ็อตทักทายผู้มาเยือน

ฟ้าใสเอาของเก็บอยู่ในครัว เงยหน้ามองตู้แขวนผนังถอยหลังจะหาเก้าอี้

อึก!!! หลังชนเข้ากับอกล่ำหนั่นแน่นด้วยกล้ามเนื้อ
สองมือจับไหล่ประคองไม่ให้เซ
ชนแค่นี้ ใครมันจะไปล้มโว้ย ไอ้อ็อตมันก็ไม่เคยจับเนื้อจับตัว กลิ่นก็ไม่ใช่ 
แล้วกลิ่นทั้งกล้ามอกก็ไม่ใช่ไอ้โภชน์

“อ้าว พี่ลิฟต์” ฟ้าใสทัก พร้อมฉากออกด้านข้าง ฟ้าใสก็พอคุ้นเคยกับไอ้พี่ลิฟต์บ้างแล้ว ก็แกหนีเมีย มาคุม
น้องแพนเค้กที่มาทำงานโปรเจ็คส่งอาจารย์ ที่ร้าน 3วัน 3คืน น่ะสิ ช่วงนั้นไอ้โภชน์แทบจะไม่ได้นอนเลย
ฟ้าใสจะเรียก เพื่อนไอ้โภชน์ว่าพี่หรือไม่ต้องเรียกก็ได้ เพราะมันก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ ม.ต้น

ไอ้โภชน์เองอายุแก่กว่า ฟ้าใส3ปี  ไอ้พี่ลิฟต์นี่แก่กว่าไอ้โภชน์1ปี  มีเชื้อสายจีน ขาว ชอบเล่นกีฬา พวกเอ็กซ์ตรีม
 ปีนผา ขี่เสือ ภูเขา วันนี้แกก็มาโดยมอไซต์วิบาก แต่เห็นแกแก่ประสบการณ์ดูเป็นรุ่นใหญ่ เรียก “พี่” ก็ได้
ฟ้าใสก็ชอบคบคนอายุมากกว่านะ ได้ฟังเรื่องเล่าประสบการณ์ จะได้เอามาพัฒนาตัวเอง
ถึงฟ้าใสจะดูภายนอก ติ๊งต๊องหน่อย เอาแต่เล่น เหมือนเด็ก อ่านการ์ตูน ดูหนังผี ไซไฟ แต่ก็มีสาระ ขยันทำงาน นะ

“จะเอาของเก็บชั้นบนเหรอ ไข่” ไอ้พี่ลิฟต์ทำเสียงพระเอกใส่

“ฮื่อ..เอื้อมไม่ถึงน่ะ ถ้าเป็นกล่องพอดันๆ เป็นขวดเลยกลัวหล่นอ่ะ”

“ม่ะ เดี๋ยวเก็บให้” เมื่อคนสูงกว่าเสนอ ฟ้าใสก็สนองดิ

“นี่  นี่ อันนี้ อันนี้ด้วย แล้วอันนี้ หมดแล้วพี่ แต๊งกิ้ว พี่ เออ พี่เข้าครัวจะเอาน้ำหรือเปล่า 555 ลืมรับแขก ดันมาใช้ซะอีก 55”

“ไม่เป็นไร แขกที่ไหนเล่า แล้วไอ้โภชน์มันไปไหนเหรอ เห็นวันอาทิตย์ นึกว่าอยู่บ้าน”

“อยู่ที่ไหนล่ะ ไม่เคยอยู่สักวันเลย กลับมาก็ดึกๆทุกวัน ไปขลุกอยู่ที่สตูดิโอ ไอ้แชทอ่ะ”

“อ้าว มันไปทำอะไรเหรอ ไข่”

“ก็คงอยากทำงานอาร์ตมั่งอ่ะมั๊ง เห็นมันไปนั่งเพ้นส์สีน้ำมันทิ้งไว้ที่โน่นอ่ะ” ฟ้าใสบอกอย่างไม่ค่อยใส่ใจ

ก็เขาไม่ได้ชอบงานของไอ้โภชน์นี่ สีก็ดูทึมๆ ทีแปรงก็งั้นๆ หรือแม้แต่งานปั้นของมัน ฟ้าใสก็ว่าธรรมดา
แต่คนอื่นก็ชื่นชมนะ เห็นมีเด็กรุ่นน้องก็มาบอก “โอ้โห... โอ้โห...”


ไอ้พี่ลิฟต์นี่ก็ชอบอาร์ตเหมือนกัน เคยสอบเข้าอาร์ต อาร์ได้ แต่เพื่อนสอบไม่ติด ก็ไอ้โภชน์นี่แหล่ะ แกเลยไม่เข้า
ไปเรียนโรงเรียนเอกชน ด้านธุรกิจ ตามใจพ่อแม่ รอเพื่อน พออีกปี ไอ้โภชน์สอบติด ตัวแกก็ติดสาว เลยเรียนต่อไปเรื่อยๆ
พ่อแม่ทำพวกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประเภทให้เช่าที่ดิน ตลาด อาคารพาณิชย์ ฐานะมีอันจะกิน พี่แกเลยอยู่เฉยๆ
 ไม่ต้องทำงาน จะมีงานบ้างก็ญาติกัน  ทำพวกตกแต่งภายใน  ก็แค่ดูแล้วจ้างคนมาทำงาน
แกก็รับค่าบวกไปชิวๆสบายๆ ไม่ต้องทำงานด้วย

“พี่ไข่ ผมขอออกไปข้างนอกนะ พี่จะเอาอะไรหรือเปล่า” อ็อตโผล่หน้ามาถาม

“อ้าวจะไปไหนล่ะ อ็อต” ฟ้าใสทำหน้าเหรอหรา นี่ต้องอยู่บ้านคนเดียวอีกแล้วเหรอ

“แหะ แหะ ดาว ชวนผมไปดูหนังนะ พี่” อ็อตยิ้มเขินๆ โดนสาวลูกจ้างข้างบ้านจีบอ่ะดิ ก็น่าอยู่หรอก
ก็ไอ้อ็อตมันหน้าตาคม ตัวสูงใหญ่ตามสไตล์บ้านนี้เขาแหล่ะ ถึงจะเป็นเด็กช่วยงานไอ้โภชน์
แต่เป็นหลาน ไม่ใช่เด็กลูกจ้างธรรมดา

“กลับเย็นหรือเปล่าน่ะ”

“คงไม่หรอก พี่ไข่”ทำไมเหรอ”

“จะฝากซื้อโจ๊กเจ้าที่อยู่หน้าวัดน่ะ แต่เขาออก 6โมงมั่งทุ่มหนึ่งมั่ง แต่ไม่เป็นไรหรอก อ็อต”

“อ้าว อยากกินเหรอ วันหลังถ้าผ่านจะซื้อมาฝาก” ไอ้คุณพี่ลิฟต์เอ่ยอย่างมีน้ำใจ

“บางทีก็นึกอยากกินบ้างอ่ะ แต่ไอ้โภชน์มันก็เล่นกลับดึก ไข่ก็นอนแล้วมั่ง เค้าขายหมดแล้วมั่ง ไม่เคยได้กินร้อนๆเลย”

“แล้วมีตังหรือเปล่าอ็อต” ฟ้าใสถามอ็อต  พร้อมเดินนำอ็อตกับลิฟต์ ที่ถือน้ำออกมานั่งข้างนอก

“มีพี่ ที่นี่ ดีนะ ค่าตั๋วยังถูกกว่ากรุงเทพฯ”

“ฮื่อ ใช่ นี่เอาติดตัวไว้อีก” ฟ้าใสส่งตังให้อ็อต 500 ตอนซื้อของเมื่อเช้า เศษตังทอนเกือบ400 ก็ยกให้อ็อตเก็บไว้แล้ว
พวกค่าเติมน้ำมันมอไซต์ ก็ให้พิเศษ ฟ้าใสต้องคอยดูแลเรื่องเล็กๆน้อยๆของเหล่าบริวาร เด็กๆในร้าน
ของฝากพ่อแม่ พี่น้อง แทนไอ้โภชน์ เพราะมันจะไม่ค่อยใส่ใจเรื่องนี้ ที่ฟ้าใสได้รับสิ่งต่างๆจากมัน
นี่ถือว่าเป็นคนพิเศษสุดๆแล้ว ซึ่งฟ้าใสก็ดูแลมันด้วย ทั้งสระผมให้ แคะหู ถอนผมคัน นวดหลัง

“แล้วถ้าชอบเขาก็ค่อยซื้อของให้เขานะ แต่ถ้าไม่ชอบเขาแบบเป็นแฟน ก็อย่าไปซื้อล่ะ เดี๋ยวเขาจะเข้าใจผิด
เกิดมาตื้อเราจะลำบากนะอ็อต แล้วของใหญ่ๆ แพงๆ อย่าเพิ่งไปให้ เดี๋ยวผู้หญิงจะเคยตัว” ฟ้าใสก็จัดแจงสั่งสอนไอ้อ็อต
 กลัวจะโดนผู้หญิงหลอก อ็อตมันยิ่งซื่อๆ ขี้เกรงใจอีกต่างหาก


หลังจากอ็อตไปแล้ว ไอ้พี่ลิฟต์ก็นั่งคุยกับฟ้าใส

“แล้วพี่มาจากไหนอ่ะ พักที่ไหนเหรอ”

“พักบ้านน้าแถวแม่ริมน่ะ รู้จักไหม ไปดูที่มามีคนเขาจะขาย พ่อพี่เลยให้ขึ้นมาดู”

“รู้จัก แต่ไปเองไม่เป็นหรอก ไอ้โภชน์ไม่ค่อยพาไปไหนอ่ะ แต่จำได้ว่าเคยไปตรงแม่ริมตอนเด็กๆมากับป้า
แล้วก็มาวัดอะไรจำไม่ได้ ป้ามาดูเขาสร้างกุฏิ สร้างโบสถ์นี่แหล่ะ แล้วมีคนชวนป้าซื้อที่ตรงตลาดด้วยล่ะ
แต่ที่บ้านคัดค้านล่ะ เพราะคงคิดว่าไกลอ่ะ คงไม่ได้มาอยู่กันด้วย”

“อื้อ..ถ้าซื้อไว้ป่านนี้ราคาคงขึ้นน่าดูแล้วล่ะ”

“นั่นสิ พี่”

“พรุ่งนี้ ก็มีต้องไปดูที่ตรงทางไปน้ำตกแม่สา เลยไปทางโป่งแดง เขาบอกที่สวยด้านหลังทีมีลำธารไหลผ่านด้วย”

“โห ดีจัง” ฟ้าใสพาลตาวาวด้วยความตื่นเต้นไปด้วย

“ไปด้วยกันไหมล่ะ”



TBC…

โภชน์ถูกเก็บลงกล่องมั่งแล้ว 55

หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7(21/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: lunar ที่ 21-09-2012 16:04:34
คาดว่า....ฟ้าใสจะได้ประสพการณ์ :z1: :m25: :pighaun: :haun4: เพิ่มอีก
โดยความใสซื่อ(บื้อ)ร้ายเดียงสาของน้องเอง

งานนี้อย่าอ้างว่าโดนข่มขืนนะจ๊ะ เพราะคนโดนข่มขืนน่ะ
เค้าไม่ถึงจุดสุดยอดกัน ถ้าหลั่งออกมาก็แสดงว่ามีความพึงใจ
ในเพศสัมพันธ์ครั้งนั้น เรียกข่มขืนไม่ถูก ต้องเรียกว่าสมยอม

ขออภัยคนแต่งด้วยนะจ๊ะ เข้าใจว่านี่คือนิยาย เป็นเรื่องสมมุติ
เม้นท์ตามเนื้อผ้าจ้ะ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7(21/09/2012)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 21-09-2012 18:42:19
ใสนี่มันก็เรื่อยเปื่อยดีเนอะ เรื่องโภชน์ก็ไหลๆเรื่อยๆจนต้องมาคบกัน
พี่โม่งกลับมา ก็เลยแห้วกันไป  :เฮ้อ:
ตอนนี้เจอลิฟท์อีกคน จะมาแนวไหนกันเนอะ วนๆเวียนๆในกลุ่มคนรู้จักกันนี่เอง
อ่านช่วงหลังๆแล้วก็รู้สึกว่าฟ้าใสคนที่เด็กๆน่ารักๆมันค่อยๆหายไป แอบเสียดายเล็กๆ (แอบอินไปกับเนื้อเรื่องซะงั้น)
 แต่ยังไงก็ยังติดตามต่อไปค่ะ  สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.2(21/09/2012)(อัพ)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 21-09-2012 23:22:17
((ต่อ)) Ch.7.2

ฟ้าใสตื่นมาปิ้งขนมปัง เสียบกระติกน้ำร้อน ทอดไข่ดาว แฮม ไส้กรอก ให้ไอ้โภชน์ และอ็อต
ถ้าบางวัน นอนดึก หรือตื่นไม่ไหว ก็น่ารู้เนอะ ว่าเพราะอะไร
อ็อตจะเป็นคนทำเอง
เมื่อคืนหลับไปแล้วเลยไม่ได้บอก

ฟ้าใสวางถ้วยกาแฟให้ไอ้โภชน์

“ที่รัก เค้าขอไปแอ่วบ้างเด้อ” 555 มาอยู่บ้านเขาก็ขอใช้ศัพท์บ้างดิ ถึงมันจะผสมปะปนไปบ้างอ่ะ
คนหน้าโหดมองหน้า คงนึก ไอ้จิ๋วตรงหน้ามันจะมาไม้ไหน ตรูมีปัญญาไปเที่ยวบ้างแล้วเฟ้ย

“ขี่มอไซต์ได้แล้วเหรอ”

ตุ้บ!!!เลยเมริง ไม่ต้องมาย้ำ

 วันก่อนยืนหัวเราะกรู ลุยพงหญ้าน๊าเมริงอ่ะ ไอ้อ็อตต้องรีบวิ่งไปจับด้วยความเป็นห่วงรถมัน

“นี่ เพื่อนตัวเองน่ะ มันจะไปดูที่แถวน้ำตกแม่สา โป่งแดงอะไรนี่แหล่ะ ขอเค้าไปดูที่กะเพื่อนตัวเองนะ” กอดคอซบไหล่
ในใจคิดว่า ถ้าไม่ยอมให้ไปจะอาละวาด ร่ายยาว ร้องไห้ เกาะเอว ให้ไอ้คนที่กอดคออยู่ไม่ต้องไปทำงานกันเลยทีเดียว
โภชน์มองหน้าฟ้าใส สบตา ฟ้าใสก็ไม่ได้คิดมาก ก็คิดแต่อยากออกไปโน่นนี่มั่งก็แค่นั้น มันก็อึ้งอยู่พักหนึง

“ฮื่อ..ก็ได้ ระวังตัวด้วยล่ะ” ร่างสูงพยักหน้าอนุญาต แต่ทำไมมันต้องทำหน้าเคร่งขรึมอย่างงั้นด้วยล่ะ
ฟ้าใสก็นึกว่าคำที่ไอ้โภชน์บอกก็แค่เหมือนเราอวยพร “ไปดีมาดี” ก็เท่านั้น


โภชน์กับอ็อตออกไปแล้ว ฟ้าใสก็ขึ้นไปจัดการกับตัวเองอาบน้ำแต่งตัว ไปอย่างงี้ต้องเจอแดด แน่ๆ 
เตรียมหมวก แว่นกันแดด ชุดทะมัดทะแมง ตื่นเต้นๆ

“โห ที่สวยจริงๆด้วยพี่ ราคาเท่าไหร่อ่ะ”

“ไร่ละ XXXXXX แต่แปลงนี้ แปลงเล็ก ถ้าแปลงใหญ่ เค้าบอกว่าเป็นเนินสวยมาก ติดน้ำตก มีน้ำใช้ตลอดปี มีลำธาร มีอ่างเก็บน้ำด้วย แต่อยู่ลึกไปหน่อยน่ะ ไปดูกันไหม” ลิฟต์ชวนหลังจากถ่ายรูปจนพอใจแล้ว

“ไปสิพี่”

ลิฟต์เดินไปที่รถ ขี่ข้ามลำธารส่วนที่ตื้น รถต้องอาศัยการตระเกียดตระกาย

“ไข่จับแน่นๆนะ”

“ฮื่อ พี่ ไม่อยากร่วงเหมือนกันอ่ะพี่”

ที่ก็สวยจริง ไอ้พี่ลิฟต์มันก็คงตัดสินใจซื้อล่ะ
ดูที่เสร็จ ถ่ายรูปเรียบร้อย พี่ลิฟต์ก็เดินดูอะไรเล่นแถบนั้น ฟ้าใสก็นั่งชมนกชมไม้
พี่แกก็เดินไปคุยกับชาวบ้านบ้าง ถามโน่นถามนี่

ขากลับก็แวะกินร้านอาหารข้างทาง มีจอดแวะซื้อผลไม้ ฟ้าใสก็ซื้อส้มฝากไอ้โภชน์ ก็ไม่ได้ซื้ออะไรมาก
รถมอไซต์วิบากของ พี่แกไม่มีตระกร้าข้างหน้า 555
ระหว่างทางถ้าเจอวัดสวยๆ เก่าๆ ไอ้พี่ลิฟต์ก็ชวนให้ลงไปดูกัน และถ่ายรูป

พอไปถึงบ้าน เกือบหก โมง

เห้อ!!! ตาฝาด รถไอ้โภชน์จอดที่ข้างบ้านแฮะ

บ้านที่บริษัทเช่าไว้ จะเป็นบ้านของคนมีอันจะกินที่อายุมากแล้ว บริเวณบ้านแกจะเป็นรั้วรอบขอบชิด
กว้างมากหลายไร่เลย แล้วก็ปลูกบ้าน 5หลัง ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง  ของฟ้าใสก็นับว่ากลางกลางๆ 2ชั้น 4ห้องนอน 4ห้องน้ำ
มีรั้วไม้สีขาว กั้นเตี้ยๆมีต้นไม้ปลูกเป็นแนวกั้นเพื่อให้เป็นส่วนตัวขึ้น  ลักษณะก็คล้ายๆกับบ้านฟ้าใสที่กรุงเทพอ่ะ

ฟ้าใสเดินหิ้วส้มเข้าไปในบ้าน  อ็อตนั่งดูหนังของเคเบิ้ลทีวี ไอ้โภชน์ก็พูดเรื่องงานสั่งอ็อต

ฟ้าใสสดชื่นมีความสุข ได้ไปเที่ยว กลับมาก็เจอ ลูก ผัว อยู่พร้อมหน้า กร๊ากกก!!! 555
ฟ้าใสทำตาโตแซวไอ้โภชน์

“อ็อต วันนี้ต้องเตรียมยกของขึ้นชั้นสอง เดี๋ยวฝนตกใหญ่แน่”

“นี่แน่ะ ไปอาบน้ำ เดี๋ยวออกไปกินข้าวกัน” ไอ้โภชน์มันเลยโบกฟ้าใสทีหนึงเบาๆ แทบไม่โดน ทำท่าไปงั้นแหล่ะ
พอกลับมาสองหนุ่มก็นั่งคุยกัน ฟ้าใสก็ขึ้นไปนั่งเล่นคอมข้างบน ดึกก็นอน


อาทิตย์นี้ไอ้โภชน์หยุดเพราะต้องรอของ งานก็มีช่างที่ทำงานไปเรื่อยๆ

“ไอ้ไข่ เดี๋ยวอาทิตย์นี้เราลงกรุงเทพกันนะ”

“ดีงั้น ขอนอนบ้านแม่นะ”

“ฮื่อ งั้นกรูนอนร้านนะ เผื่อจะคุยกับพ่อด้วยนะ”
.
.
.
.

 “อะโหล”

“ฮัลโหล”

“อ้าว พีม เออ โภชน์อยู่เปล่า”

“ไม่อยู่อ่ะ ไข่  ไอ้โภชน์มันไปกินบ้านไอ้บรุคน่ะ”

“แล้วมันจะกลับเปล่าน่ะ”

“สงสัยไม่กลับ มีอะไรเปล่าน่ะ”

“จะไปซื้อซีดีเพลงน่ะ แต่ร้านไอ้น้องที่โภชน์มันเคยพาไปซื้อ ย้ายไปแล้วอ่ะ เลยจะโทรมาถามว่ารู้หรือเปล่าว่ามันย้ายไปไหน โทรเข้ามือถือแล้วมันไม่รับอ่ะ”

“อ๋อ มันคงกินเหล้าอยู่มั๊ง เดี๋ยวมันก็โทรกลับมาเองแหล่ะ”

“เออ ถ้าเจอก็บอกแล้วกัน”

“ฮื่อ”

วันรุ่งขึ้นไอ้โภชน์ก็โทรมา บอกร้านใหม่ของไอ้น้องพร้อมกับบอกว่าจะไปทะเลกับเพื่อนๆ
ฟ้าใสก็ไม่ได้ว่าอะไร

“อะโหล”

“ฮื่อ” เสียงไอ้โภชน์ตอบรับ

“อ้าวคุณ ทำไมยังไม่กลับอ่ะ แล้วจะขึ้นไปเชียงใหม่เมื่อไหร่ล่ะ” น้ำเสียงฟ้าใสชักจะงงๆกับไอ้โภชน์

“เออ พอดีมีคนรู้จักให้โภชน์ช่วยคุมช่างทำร้านอาหารน่ะ เดี๋ยววัน2วันนี้แหล่ะ เราก็พักผ่อนไปนะ”

เอ๊ะ สำนงสำนวนก็แปลกๆว่ะ มาเราเรว อะไรว่ะ มาแทนตัวเองโภชน์ เพิด อีก แม่งไปสนิทสนมกับใครว่ะ

ธรรมดาฟ้าใสก็ไม่ใช่คนชอบตามจี้ใคร แต่บังเอิญไปเจอไอ้บรุคที่หอศิลป์ ถึงได้รู้ว่าทุกคนกลับมากันแล้ว
 ยกเว้นไอ้ตัวดีของฟ้าใส


การโทรหาจึงเริ่มขึ้น

หนึ่งวันผ่านไป สองวันผ่านไป

“แม่ ไขไปเที่ยวกับเพื่อน 2วันนะจ๊ะ”


TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.2(21/09/2012)(อัพ)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 21-09-2012 23:35:34
 :a5:อ่านตอนนี้จบ ใจหายวาบเลย
มันต้องมีอะไรแน่ๆ :z3:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.3(22/09/2012)(อัพ)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 22-09-2012 04:12:01
((ต่อ))

Ch.7.3

ผัวใครใครก็รักดิ

บ่ายสอง ฟ้าใสขับไอ้หลงมินิของตัวเองมาถึง ท่าเรือที่ไอ้โภชน์บอกว่าทำอยู่

“อะโหล ไอ้โภชน์ อยู่ไหนอ่ะ”

“นี่ไง ร้านที่อยู่ใกล้ๆกับท่าขึ้นเรือ”

“ก็ท่าไหนล่ะ กรูอยู่ตรงท่าเรือแล้วนี่ จอดรถอยู่หน้าร้านอาหาร....อยู่”

“ไม่ใช่ครับ อีกท่าหนึ่งครับ ท่า.....ครับ มานะครับ โภชน์จะคอย” สำนวนตอแหลมาก ไอ้โภชน์

ไปถึง เอ๊ะ อยู่จริงแหะ กำลังทำร้านให้จริงๆ   มันกำลังสั่งช่างเอาไม้อัดไปตีด้านโน้น แต่ฟ้าใสก็ตาขวาง
ก็เจ้าของเป็นทอม  จะทอมจะผู้หญิง จะผู้ชาย ก็ไว้ใจไม่ได้ทั้งแหล่ะ

“นะ นะ ใกล้จะเสร็จแล้ว คืนนี้นอนนี่ก่อน พรุ่งนี้กลับแล้วเดี๋ยวขากลับผ่านเขาเขียวจะพาเที่ยวนะ”

เชอะยัยทอม ตัวเองเป็นทอม มายุ่งอะไรกะคุณสามีฟ้าใสล่ะ แอบบ่นในใจ
ไอ้นี่ก็ตัวดี มาเที่ยวก็มาเที่ยวสิ เที่ยวเสร็จก็ไม่รู้จักรีบกลับบ้าน เดี๋ยวนี้แอบมารับงานนอกหรือฟ่ะ เดี๋ยวจะตัดให้เป็ดกินเลย

หลังจาก นั่งหน้าตูมนั่งเล่นดูโน่นดูนี่ ปล่อยให้เค้าสั่งงาน นังทอมก็ถามอยู่นั่นแหล่ะ คิดเองมั่งสิ

ปรากฏพอเห็นไอ้โภชน์มีสามีมาตาม ยัยทอมก็บอกว่าจะกลับก็ได้ พอทำต่อได้แล้ว ไอ้โภชน์มันก็ดูงานให้
ประมาณหนึ่ง เรียบร้อย ก็หกโมงครึ่ง  ก็พาฟ้าใสแวะเที่ยวที่เขาเขียวมืดแล้ว ปรากฏบ้านพักไม่ว่างเลย เหลือแต่เต็นท์
ไอ้โภชน์ก็โอเค คืนนั้นขณะที่นอนกอดกันก็สองทุ่มแล้วปรากฏอยู่ดีๆ ฟ้าใสรู้สึกเหมือนหดหู่รันทด
อย่างไงไม่รู้นอนร้องไห้และบอกจะกลับบ้านเรา ไอ้โภชน์เลย เดินไปแจ้งเจ้าหน้าที่แล้วก็พาฟ้าใสขับไอ้หลงกลับบ้าน


ฟ้าใสก็มัวแต่ไประแวงเจ้าของร้านที่เป็นทอม แต่หารู้ไม่ว่า สาเหตุนะอยู่ที่เกาะ สถานที่ที่ไอ้โภชน์และเพื่อนๆมันไปพักต่างหาก


แล้วก็เอาอีกแล้ว

หลังจากขึ้นไปทำงานได้เดือนหนึ่ง ไอ้โภชน์ต้องลงมาดู มาสคอต ที่สั่งทำไว้
บอกว่าลงไปอาทิตย์หนึ่ง ก็โทรมาบอกจะอยู่ต่อ ฟ้าใสก็แปลกใจ ปกติก็ไม่เคยเป็นอย่างงี้

ตั้งแต่กลับมา ฟ้าใสไปช่วยเฝ้าร้านให้ไอ้แชทกับขวัญที่เปิดแกลลอรี่และของแต่งบ้าน
เพราะบ้านของฟ้าใสอยู่ในเมือง แต่สตูดิโอที่เป็นบ้านของแชทกับขวัญจะอยู่นอกเมือง แล้วร้านก็จะเปิดถึงเที่ยงคืน

“ไข่เป็นไงบ้าง” คุณคิดส์ ที่ถูกส่งมาช่วยดูที่วางมาสคอต กับเวทีการแสดง คุณคิดส์ก็พักที่บ้านฟ้าใสนี่แหล่ะ

“ฮื่อ...ทำไมไอ้โภชน์ไม่มาล่ะ มันทำอะไรเหรอ”

“.....”

ฟ้าใสก็เริ่มซึมๆ พอผ่านไป2-3 วัน ฟ้าใสเลยบอกไอ้อ็อตว่าเดี๋ยวจะลงไปดูอามันแล้วกัน พอถึงกรุงเทพ ฟ้าใสก็ขับรถแล้ว
ข้ามเรือไปที่เกาะ พอดีพี่เจ้าของไม่อยู่  พอสักพักฟ้าใสนั่งทานน้ำ ถามถึงไอ้โภชน์ สักพักมันก็ออกมาหา หน้าตาสดชื่นมาก

 มันก็ถามไถ่ว่าฟ้าใสมาได้อย่างไง  สักพักหนึ่ง ก็มีหนุ่มน้อยร่างบางอ้อนแอ้นเดินมาหา ถามอะไรไอ้โภชน์สักอย่าง
แต่ที่สำคัญ มันใช้ผ้าบาติกของฟ้าใสพันเป็นโสร่งด้วย ฟ้าใสได้แต่อึ้งจนบอกไม่ถูก

เท่านั้นยังไม่พอ ไอ้โภชน์มันยังมีแก่ใจ ชี้ชวนถามฟ้าใสอีก

“ไอ้ไข่ เมริงว่าไอ้อายนี่หน้าตาดีไหมว่ะ หน้าโครตสวยเลยเนอะ”

เหมือนโดนตบหน้าแล้วกระโดดกระทืบซ้ำ ไอ้โภชน์ เลวสัสสัส

 ไอ้อายเป็นลูกครึ่ง หน้าตาน่ารัก รูปร่างกำลังดี อายุเพิ่งจะ15เอง พ่อเป็นรุ่นพี่พวกอาร์ตๆ รุ่นนานแล้วล่ะ แม่เป็นฝรั่งนักเที่ยว
ช่วงนี้พี่แกไม่อยู่ ไอ้โภชน์ของฟ้าใสเลยกลายเป็นผู้ดูแลทั้งที่พักทั้งลูกชายผู้น่ารักแสนสวยไปด้วย

“เมริงจะกลับเมื่อไหร่”

“เฮ้ย!!! ก็รอพี่เขากลับมาก่อน”

“ทำไมเมริงต้องอยู่ด้วย งานที่ตัวเองต้องรับผิดชอบก็มี”

“ก็ให้ไอ้คิดส์มันขึ้นไปดูแล้วไง”

“เมริงมีอะไรกับไอ้เด็กนั่นแล้วใช่ไหม”

“....”

“เมริงทำได้ไง” ฟ้าใสอึ้ง ไม่รู้ว่าต้องทำอะไร

“.....” ไม่มีเสียงตอบ ตอบให้ ตัณหา หื่น อยาก etc…

“กรูจะกลับแล้ว”

“อยู่ก่อนสิ รอกลับพร้อมกัน”

“แล้วจะให้นอนไหน”

“เดี๋ยวหาบังกะโลให้นอนนะ” เออสิตอนนี้มันกินตำแหน่งเจ้าของ ผู้ดูแลนี่นา

“แล้วเมริงนอนไหน”

“เอ่อ กรูต้องดูแล กรูต้องนอนที่นี่” เออ กรูก็ดูใจเมริงเท่านั้นแหล่ะไอ้โภชน์

แล้วมันก็หายไป สักพัก ไอ้อายมันเดินมาถามฟ้าใส

“พี่ พี่เป็นแฟนอาโภชน์เหรอ”

 ฟ้าใสก็ตอบไปว่า "ใช่  เป็นเจ้าของผ้าบาติกที่พันอยู่ด้วย”

ขณะที่ฟ้าใสนั่งเงียบๆดูทะเลตรงหน้า น้ำตาเต็มตา ทั้งไอ้โภชน์และไอ้อายก็ไม่โผล่ออกมาเลย


 ฟ้าใสก็ไม่รู้ว่าเค้าไปปลอบใจกันอย่างไร

สักพักก็มีเด็กผู้หญิงผิวคล้ำ วิ่งมาหาฟ้าใส

“พี่ พี่ อิอายมันแย่งผัวพี่เหรอ อิอายมันเลวนะ” ฟ้าใสฟังแล้วก็รู้สึกทั้งขำในภาษาที่ซื่อ ตรงใจ ดีแท้
ทั้งดีใจที่ยังมีคนเข้าข้างฟ้าใส พี่มาลีก็เดินมาที่ฟ้าใส แกจูงเด็กผู้ชายประมาณ2ขวบ แล้วพูดว่า ไปพักบ้านพี่ก็ได้นะ

 ฟ้าใสเลยพูดขอบคุณเบาๆอย่างซาบซึ้งใจ ก็แกเป็นแม่เลี้ยงของไอ้อาย แม่ไอ้อายคลอดเสร็จก็อยู่กับรุ่นพี่ได้ปี
 ก็ทิ้งไอ้อายไปกับฝรั่ง รุ่นพี่ก็มีแฟนใหม่คือพี่มาลี ก็ช่วยเลี้ยงไอ้อาย แล้วพี่มาลีเองก็มีลูกกับรุ่นพี่  3คน
ไอ้อันดา13 ขวบ.อั้ยย์ 8 ขวบ และออง 2ขวบ

ฟ้าใสถือว่าเป็นเกียรติอย่างสูงเลยที่แกชวนไปบ้านแก แกก็คงถือว่าเป็นความผิดของแก แต่ฟ้าใสก็รู้อยู่แก่ใจดีว่าใครผิด

ไอ้โภชน์ของฟ้าใสนี่หล่ะตัวดี ไอ้อายมันจะไปรู้เรื่องอะไร มันเพิ่งแตกเนื้อเอ๊าะๆแท้ๆ

ไอ้โภชน์ของฟ้าใสไปยุ่งล่อหลอกกินเด็กเอง ไอ้โภชน์ควรจะไอคุกๆด้วยซ้ำ



TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.3(22/09/2012)(อัพ)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 22-09-2012 07:12:40
ว่าแล้ว...... :z6:
แล้วทำว่ารักนักหนา จบข่าว
จุดนี้ ใสดีกว่าเยอะ อย่างน้อยก้อยังเลือกที่จะไม่ทิ้งโภชน์ไปหาพี่โม่ง
แต่ใสเจ็บอีกแล้ว และหวังว่าจะเลิกกับโภชน์ซะนะ ทีนี้ก็เหลือนายลิฟท์ จะมาทำให้ใสเจ็บอีกรึป่าว
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.3(22/09/2012)(อัพ)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 22-09-2012 08:48:13
นู๋ไขจะทำไงต่อไปล่ะทีนี้
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.3(22/09/2012)(อัพ)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 22-09-2012 09:56:26
อืมมมมมมมมมม.........
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.3(22/09/2012)(อัพ)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 22-09-2012 10:18:23
ไอ้โภชน์เมืงทำได้เนอะไม่ไหวจะเคลียร์ ฮืมมมม   :z6: :z6: :z6: :z6: สงสารน้องฟ้าใสอะ

ขอบคุณมากๆๆค่ะ :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.3(22/09/2012)(อัพ)
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 22-09-2012 10:59:07
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:



มาต่อเลยนะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.4(22/09/2012)(อัพๆๆๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 22-09-2012 22:14:45
Ch.7.4

((ต่อ))

ฟ้าใสกลับขึ้นไปเชียงใหม่ ไม่พูดไม่เล่าอะไรทั้งนั้น แต่ดูเหมือนคุณคิดส์น่ะจะรู้แล้ว แววตาถึงได้ห่วงใย

“อาโภชน์ล่ะ พี่ไข่”

“ฮื่อ เดี๋ยวเค้าก็ขึ้นมา ดูงานทางโน้นอีกนิดหน่อย” หึ อยากจะฆ่าปาดคอมันนัก

พอคุณคิดส์มาอยู่ฟ้าใสก็ตื่นมาส่งทั้งอ็อตทั้งคุณคิดส์ พอทำเบรกฟาสต์ให้ คุณคิดส์ก็เป็นคนทำเอง
เดี๋ยวนี้สถานการณ์ครอบครัวคุณคิดส์ดีขึ้น พี่วุ้นเส้นไปอยู่เลี้ยงลูกที่บ้านแม่โดยทางนั้นก็ยกบ้านให้อยู่หลังหนึ่ง
คุณคิดส์ก็ไปๆมาๆ กรุงเทพกับบ้านพี่วุ้นเส้น มีงานประจำทำกับบริษัทญี่ปุ่นที่รับออกแบบสร้างบ้านบ้านสุดโมเดิ้น
 ให้ชาวต่างประเทศ แถวภูเก็ต หัวหิน ฯลฯ เจ้านายรักเจ้านายหลง ให้มานั่งทำงานที่บ้านเลย


ไอ้โภชน์กลับมาแล้ว บรรยากาศก็อึมครึมบ้าง

มันก็ทำงานไป แล้วก็ไปขลุกที่สตูดิโอไอ้แชทเหมือนเดิม
บ้านที่อยู่ บางครั้งก็มีเพื่อนไอ้โภชน์มาค้าง ทั้งไอ้บรุค บางครั้งก็มีเพื่อนมันที่เป็นนักดนตรีวงดัง
ไอ้โภชน์มันก็ดีตรงที่เปิดเผยให้เพื่อนฝูงรู้ ไม่ได้ปิดบังว่าฟ้าใสเป็นใครเกี่ยวข้องกับอะไรกับมัน

“เมริง น่ะ จะเอาคนไหนก็เลือกได้เลยน่ะเว้ย” เสียงไอ้บ๊อบ ที่เป็นนักร้องดัง

“เชรี่ย เมริงมีอย่างงี้ทุกคืนเลยเหรอ”

“เออ สิ ว่ะ”

“เด็กมันรู้จัก จริงหรือเปล่าว่ะ หรือพอเห็นว่าดังมันก็จะเอาอวด”

“ขนาดกรูมันยังขอลายเซ็น ถ่ายรูป” ไอ้บรุคพูด

หลังจากมันไปเล่นคอนเสิร์ต ไอ้โภชน์กับเพื่อนก็ไปดูด้วย พอกลับไอ้บ๊อบติดรถมาคุยกันต่อที่บ้าน
ที่โรงแรมที่พัก มีเด็กวัยรุ่นและสาวๆมาเสนอตัวนอนกับพวกมันเต็มไปหมด


วันและคืนผ่านไป
บทรักที่ขาดคำหวาน แต่ฟ้าใสก็ยังได้รับการบริการจากมัน


ฟ้าใสตื่นมาพบว่าตัวเองฝันเปียก 2วันติดกัน ในฝันก็ไม่ได้ฝันอะไร มีเพียงความรู้สึกที่เสียวซ่าน เกิดขึ้นกับร่างกาย
และวันนี้ก็เกิดขึ้นอีกแม้ยังไปไม่ถึง บ้านนี้ต้องมีผีแน่
ได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ข้างล่าง ที่กำลังเคลิบเคลิ้ม ก็ค่อยๆรู้สึกตัว ฮือ จุ๊ดจู๋ของฟ้าใสมันฉ่ำเยิ้ม ไอ้โภชน์ช่วยด้วยดิ

เรื่องของไอ้อายถูกยกเก็บไว้เพื่อเลี่ยงที่จะเป็นเรื่องราวต่อกัน แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่เคลียร์
พารานี่มันกินแก้ปวดใจได้เปล่า หรือฟ้าใสต้องไปกินทัมใจ

ไอ้พี่ลิฟต์เดี๋ยวนี้มันก็ขึ้นๆลงๆกรุงเทพ-เชียงใหม่บ่อยมาก เหมือนมันมีตัวตนทั้ง 2ที่ อยู่เชียงใหม่ 3วัน
หายไป แล้วกลับมาอยู่ใหม่อีก 5 วัน

มันแม้ไม่ได้เป็นเพื่อนโดยตรงกับไอ้แชท ด้วยความที่เป็นคนอัธยาศัยดี (แต่นิสัย?ไปตัดสินเอาเอง)คุยกับสาวๆเก่งมาก
 เข้าขั้นหน้าม่อเลยล่ะ เลยเข้ากับขวัญอย่างดี แล้วมันก็ดี กับฟ้าใสด้วย สงสัยฟ้าใสถูกจัดไปรวมกลุ่มเป็นสาวกับเขาด้วย


วันนี้ ตอนนี้ทุกคนอยู่รวมกันที่บ้านไอ้แชท
เมื่อตอนสายๆ ไอ้แชทกับขวัญไปรับ ไอ้โภชน์กับฟ้าใสไปดูพวกไม้แกะสลักที่หมู่บ้านถว้า
พอกลับมา กินข้าวแล้วก็นั่งคุยจนเริ่มดึก ดูท่าโภชน์ก็ไม่เห็นอยากกลับสักที

“เอ่อ...พี่ลิฟต์จะกลับแล้วเหรอ” ฟ้าใสทัก เมื่อเห็นไอ้พี่ลิฟต์มันเดินมาบอกขวัญ

“ฮื่อ..ดึกแล้ว”

“งั้น แวะไปส่งไข่หน่อยได้เปล่า ง่วงแล้วอ่ะ” คงไม่รบกวนหรอก เพราะ จากบ้านไอ้แชท ไปแม่ริม ต้องผ่านทางไปบ้านฟ้าใส
แค่ใช้เส้นทางอีกถนนหนึ่งเท่านั้น

“ได้ดิ ไปสิ”
.
.

“เมริง เมริง ขอกลับก่อนได้ปล่ะ” ฟ้าใสเลยเดินไปบอก ไอ้โภชน์ขอกลับก่อน

“อ้าว...” ไอ้แชท ทำท่าจะพูด

“เฮ้ย...ไม่เป็นไร ติดรถลิฟต์มันไปอ่ะ ยังไงก็ทางผ่านอยู่แล้ว” ไอ้โภชน์มองหน้า แต่ก็ตอบ

“เออ งั้นก็ได้”
.
.
“อากาศมันเย็น เอาเสื้อนี่ไปใส่ก่อนแล้วกัน” ลิฟต์หยิบเสื้อยืดแขนยาวเนื้อบางๆจากเป้ส่งมาให้

“อื้อ..แท๊งกิ๊ว อุ่นดีเนอะ เห็นบางๆอ่ะ”

“ไว้ใส่ตอนขี่รถตอนอากาศเย็นๆน่ะ พี่มันซื้อมาฝาก” ฟ้าใสดูป้าย ของอิตาลีเว้ย
ไอ้พี่ลิฟต์มันเป็นน้องคนสุดท้อง มีพี่ชาย3คนพี่สาว1คน เป็นหมอบ้าง เป็นนักธุรกิจบ้าง
มีแต่มันที่ทำตัวเป็นเพลย์บอย แต่เป็นขวัญใจพ่อแม่

ขณะที่ฟ้าใสเตรียมจะเหยียบที่วางเท้าปืนขึ้นเบาะ

ร่างสูงก็เดินมา

“งั้นก็ติดรถเมริงกลับเลยดีกว่า ไอ้แชทมันจะได้ไม่ต้องไปส่ง” ไอ้โภชน์พูดขึ้น

“ได้ดิ” ลิฟต์ตอบพร้อมกับยิ้ม

ลิฟต์เลื่อนตัวกระเถิบแบ่งที่ข้างหลังให้เยอะขึ้น ฟ้าใสเตรียมจะขึ้นนั่งตรงกลาง

โอ้ว ว้าว ซอรี่ ไอ้โภชน์มันจัดแจงขึ้นก่อนอ่ะ จะบ้าเหรอ พวกมันตัวควายๆกันทั้งนั้น
ไอ้โภชน์มันคิดว่า เบาะมอไซต์วิบากเป็นเบาะหลังรถเมล์หรือไง 

“เฮ้ย ให้กรูนั่งหลัง เดี๋ยวก็ตกอ่ะดิ เหลือที่นิ๊ดเดียวอ่ะ” ฟ้าใสก็ยังไม่รู้ตัว ว่าไอ้โภชน์มันหึงมันหวง

“นั่งมาเหอะ ไม่ตกหรอก เกาะให้มันแน่นๆดิ”

“หึ” ฟ้าใสปืนนั่งซ้อนหลังสุด
ไอ้พี่ลิฟต์ขยับไปข้างหน้าอีกหน่อย มากกว่านี้ก็ไม่ได้ ไม่งั้นไอ้โป่งๆรถอัดไข่มัน
ตลอดทางฟ้าใสกอดไอ้โภชน์แน่นด้วยความกลัวตก ดีว่าเบาะมันเท น้ำหนักตัวเลยช่วยให้ตัวฟ้าใสแนบติดไอ้โภชน์ได้อีก
ในหัวตอนนั้น คิดเตรียมไว้ว่า ถ้าลื่นตกจะทำท่าไหน
จั้มถอยหลังแล้วจะยืนขาคู่ หรือจะเหยียดขาเยื้อง กางแขนช่วยทรงตัว

“ไอ้โภชน์ เมริงเอามีดพกในกางเกงไปไว้เป๋าหลังดิว่ะแทงตูดกรู” จู่ๆไอ้พี่ลิฟต์ก็บ่นขึ้น

ฟ้าใสน่ะไม่รู้เรื่องราวที่ไอ้ลิฟต์แซวไอ้โภชน์หรอก ยังคิดว่า ไอ้พี่ลิฟต์นี่มันจะบ่นทำไมว่ะ ฟ้าใสก็ไม่เคยเห็นไอ้โภชน์
มันพกมีดพับอะไรเลยนี่นา
.
.
.
คืนนั้น

“อึบ.. อั้ก..”

“อ่า..”

“อู้ว...”

“ซี๊ดดด..ไอ้ไข่ ...อ่า...”

เสียงเนื้อกระทบเนื้อ

“ไอ้โภชน์...อ่า...โอ้ว...”

“จะออกแล้ว จะออกแล้ว..โภชน์..”เสียงฟ้าใสสะอึกสะอื้นอย่างเปี่ยมสุข


TBC....
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.4(22/09/2012)(อัพๆๆๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 23-09-2012 07:52:33
สรุปแล้วมันยังไงกันล่ะนี้ มึน งง คาใจ เยอะเกิ๊นนน
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.5(23/09/2012)(อัพสั้นๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 23-09-2012 12:33:03
มาแบบสั้นๆนะฮะ

Ch.7.5

((ต่อ))

วันนี้ก็มาถึง

“อะโหล ไข นี่ข้าวโอ๊ตนะ”

“เออ ไม่บอกจำไม่ได้นะเนี่ย 555 ว่างัย มีรัยล่ะ”

“ป้าพัชน่ะดิ ไม่รู้ไปทำอีท่าไหน เนี่ยนอนแบบเลย หาหมอก็บอกหมอนรองกระดูกอักเสบ”

“อ้าว เหรอ แล้วทำไงล่ะ”

“ก็จะผ่าอ่ะดิ”

“เมื่อไหร่ล่ะ”

“เดี๋ยวรอนัดหมอวีระศักดิ์ก่อนกะรอห้องอ่ะ”

“จะให้ลงไปเปล่าล่ะ”

“ก็เนี่ยะแหล่ะที่โทรมา”

“ได้ ได้ งั้นเดี๋ยวลงพรุ่งนี้แล้วกัน ต้องบอกเพื่อนก่อน เพราะช่วยมันเฝ้าร้าน”

“อ้าว ไขเฝ้าร้านให้เพื่อนเหรอ ไม่ได้ช่วยไอ้โภชน์ทำงานเหรอ” อ้าวตายล่ะ บอกที่บ้านนี่หว่าว่าช่วยไอ้โภชน์ทำงาน

“ทำดิ เสาร์-ทิตย์ว่างก็ช่วยเพื่อนมันเฝ้าร้านที่เปิดเป็นแกลลอรี่แล้วขายของแต่งบ้านน่ะ”

“ลงมาเมื่อไหร่ โทรบอกล่ะ จะได้ไปรับ”

“อื้อ...ไม่ต้องไปรับหรอก มาเองได้น่า”


ขณะที่อ็อตเอาจานไปเก็บ
“โภชน์ เราจะลงกรุงเทพนะ ป้าพัช หมอนรองกระดูกอักเสบน่ะ คงต้องผ่า เดี๋ยวจะลงไปดูหน่อย ไปช่วยข้าวโอ๊ตมันดูน่ะ”
“เออ ได้สิ ลงไปนานเปล่าล่ะ”
“คงเป็นอาทิตย์น่ะ ถ้าผ่าก็คงอยู่โรงพยาบาล3-5 วัน แต่พวกป้าเค้าขี้กลัว อาจขออยู่เป็นอาทิตย์ก็ได้”

“ฮื่อ”

“เอ...แล้วร้านแชทกับขวัญล่ะ”

“โอย..ไม่ต้องไปห่วงหรอก มันก็ขายไม่ค่อยได้อยู่แล้ว”

“ไอ้บ้า เมริงไปว่าเขา”

“อ้าวก็จริงอ่ะ ถ้าเมริงไม่ได้เป็นคนขายนะไอ้ไข่ ของมันยิ่งขายไม่ได้ยิ่งกว่านี้อีก เมริงไปดูรายการสิ
ที่ขายได้มีแต่เมริงขายให้ทั้งนั้น อิขวัญมันทำอะไรเป็นมั่ง ตอแหลไปวันวัน พูดไปยังกะคนซื้อเขาโง่
เมริงขายเมริงยังพูดกับเขาตรงไปตรงมา ลดได้เมริงก็ลดให้เขา ไม่ใช่บวกเท่าหนึ่ง แล้วทำมาลดราคาให้
แบบอิขวัญ  เมริงไปจัดการธุระเมริงเหอะ ไม่ต้องไปห่วงคนอื่น เงินทองเมริงก็ไม่ได้ แค่เอาของไปฝากวางขายด้วยเท่านั้น”


ไอ้โภชน์ก็พาฟ้าใสไปซื้อฝากคนที่กรุงเทพ อ็อตก็ขอลงไปพร้อมฟ้าใส ด้วยเรื่องเกณฑ์ทหาร ก็ดี ฟ้าใสจะได้มีคนช่วยถือ
ถึงกรุงเทพ ฟ้าใสแบ่งของให้อ็อตเอาไปฝากที่บ้าน แล้วแยกย้ายกัน ฟ้าใสก็ขึ้นแท็กซี่กลับบ้าน อ็อตก็ขึ้นรถตู้ไปอยุธยาเลย

ฟ้าใสก็อย่างงี้แหล่ะ ไม่ค่อยบอกนัดเวลาแน่นอน ก็เผื่อนึกอยากเปลี่ยนใจ หรือมีเหตุอะไรฉุกเฉินล่ะ คนที่มาคอย
ก็จะคอยกันเปล่าๆ แล้วก็คิดว่าตัวเองก็ไม่ได้ลำบากอะไรถ้าจะไปเอง แล้วก็มันก็เกิดเรื่อง!!!

วันก่อนที่ลงมาพอครบอาทิตย์ไอ้โภชน์ก็ถามแล้วว่าฟ้าใสจะกลับมาเมื่อไหร่  ฟ้าใสก็บอกว่าจะอยู่ก่อน หลงดีใจ
ว่ามันอยากมารับ หรือว่าคิดถึง พอ2-3วันก่อน ป้าพัชบอกว่าไม่มีอะไร  อยู่ได้ มี  พรกับพิม คอยรับใช้ แม้ไม่ค่อยรู้ใจ
แบบไขก็เหอะ แต่ก็กลับไปทำงานเถอะ  ฟ้าใสห่วงร้านไอ้แชทกับขวัญด้วย ยิ่งไอ้โภชน์มันพูดแบบนั้น


รถสองแถวแดงมาส่งหน้าประตูทางเข้าบ้าน ฟ้าใสเดินเข้าบ้าน ไอ้โภชน์กับอ็อตไปทำงานแล้ว
ทำไมบ้านเหมือนมีคน เพื่อนไอ้โภชน์คงมาค้าง


ไอ้อายนั่งกินขนม ดูทีวี เปิดแอร์ จานใส่ขนมก็เป็นของที่ฟ้าใสเลือกซื้อมาใช้คู่กันกับไอ้โภชน์ ยังดีนะ มันไม่เอาเสื้อผ้าฟ้าใสมาใส่

เจริญนะเมริงไอ้โภชน์ กรูไม่อยู่ เมริงเลยเอาไอ้อายมาอยู่ใช่ไหม


TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.5(23/09/2012)(อัพสั้นๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: jantaro ที่ 23-09-2012 13:02:50
สงสารไข่จัง  เลิกไปเ้หอะโภชน์แม่งแล้ว ถ้าฟ้าใสไม่เลิก นะ จะไม่อยู่ข้าง
ฟ้าใสแล้ว เพลียจริงอะไรจริง
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.5(23/09/2012)(อัพสั้นๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 23-09-2012 23:30:53
ไอ้โภชน์ :fire: แกทำแบบนี้ทำไม มีเหตุผลที่ฟังขึ้นไหม
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.5(23/09/2012)(อัพสั้นๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: nine_molly ที่ 24-09-2012 09:17:46
 :beat:
ฟ้องครูอังคนาเลย ฟ้าใส
รอต่อ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.5(23/09/2012)(อัพสั้นๆ)
เริ่มหัวข้อโดย: DIIK ที่ 24-09-2012 10:10:47
คือยังไม่เคลียร์ก็ดันไปยอมเค้า ไม่ทักไม่ท้วงไม่ถาม = =
แล้วสุดท้ายเขาก็สวมเขาต่อ น้องไข่เอ้ย เฮ้ออออออออออ

พอกะตาคนนี้เถอะจ้าาา พี่โม่งอยู่หนายยยยย
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.6(24/09/12)(มาต่อแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 24-09-2012 11:00:07
Ch.7.6

((ต่อ))


หน้าสวยๆแนวลูกครึ่งของมันมีแววตกใจ แต่ก็เปลี่ยนเป็นเหยียดปาก ใส่ฟ้าใส
แล้วนั่งจกสแน็ค ใส่ปาก ดูทีวี ทำเป็นไม่สนใจฟ้าใส

“มาอยู่นี่ได้ไง” ฟ้าใสเอ่ยปากถามมัน น้ำเสียงที่พยายามควบคุมอารมณ์ โกรธจนอยากร้องไห้ ไอ้โภชน์มันทำได้ยังไง

“อาโภชน์ให้มาอยู่” สีหน้าไอ้อายผิดกับตอนที่มันอยู่ที่เกาะแล้วเดินมาถามว่าฟ้าใสเป็นแฟนกับไอ้โภชน์
ตอนนั้นมันยังทำท่ากลัวๆฟ้าใส  แต่ตอนนี้ สายตาหน้าตาน่าหมั่นไส้ น่าตบมาก

“จานนี่ไม่ให้ใช้ ของส่วนตัว แก้วน้ำด้วย” ฟ้าใสก็ไม่รู้จะพาลอย่างไง ก็นึกออกแต่แบบนี้นี่นา ก็จานชามแก้ว ของซื้อไว้เป็นเซ็ทใช้กันกับไอ้โภชน์

“เชอะ ทีหลังก็เขียนไว้สิ” ไอ้อายทำเป็นบ่น จะดูทีวีต่อ แต่ก็เห็นฟ้าใสยืนจ้อง มันก็ทำเดินกระฟัดกระเฟืยด
เดินเข้าไปสาดน้ำสาดขนมทิ้งหน้าบ้าน ประชดฟ้าใส แล้วก็วางไว้หน้าบ้าน

“ของใคร ใครก็เก็บเองแล้วกัน” ว่าแล้วมันก็เดินเข้าครัวไปเอาเลย์มานั่งฉีกถุงกิน

ระหว่างที่ไอ้อาย เดินเข้าครัว ฟ้าใสเห็นมันแกล้งให้ฟ้าใสเก็บแก้วเก็บจานตัวเอง ฟ้าใสก็เดินไปปิดแอร์มั่ง

“กลางวันอยู่คนเดียวก็ไม่ต้องเปิดแอร์ หัดประหยัดพลังงานซะมั่ง พัดลมก็มี อากาศก็ไม่ได้ร้อนอะไรนักหนา”

ถ้าคนของเรามันไม่ถือหาง ไอ้อายก็คงไม่กล้าทำท่าทางอวดดีใส่ฟ้าใสหรอก แต่อย่างไงฟ้าใสก็ไม่อยู่ร่วมบ้านกับมันเด็ดขาด
แค่ฟ้าใสจะเอากระเป๋าไปเก็บในห้องนอน ก็ยังไม่กล้า กลัวเข้าไปเจออะไรที่มันย้ำความจริงให้มันปรากฏแก่สายตา

“กรูจะออกไปข้างนอก ตอนเย็นกรูกลับเข้ามา ต้องไม่เห็นเมริงอยู่ในบ้าน ถ้าเมริงยังอยู่ กรูจะเผาทั้งเมริงทั้งบ้าน”

ฟ้าใสพูดเสร็จก็คว้ากระเป๋าสะพาย เดินออกไป อารามโมโห เสียใจ น้ำตากลบแล้วมั๊ง  เดินเฉียดโต๊ะที่เทอเรสหน้าบ้าน
ที่ไอ้อายวางแก้ววางจาน กระเป๋าเลยเฉี่ยวโต๊ะ แก้วเซ็ทของคนรักกันเลยตกมาแตก ฟ้าใสหันไปมอง
นี่คงเป็นลางสำหรับฟ้าใสแล้วใช่ไหม

เดินลงมามองมอไซต์ไอ้อ็อต เอาไปก็เสี่ยง ไปล้ม ไปดับ  จักรยานไอ้โภชน์ก็สูง อ๊ะ จักรยานใครพิงคู่กัน ไอ้เชรี่ยโภชน์
 เมริงซื้อให้ไอ้อายด้วยใช่ไหม Mosso เหมือนของเมริงด้วย สามหมื่นกว่าขึ้นไปแน่ ทีมอไซต์มือสองถูกๆที่ฟ้าใสบอกให้หามา
ให้ใช้ มันก็ไม่เคยสนใจ จะหามาให้ เขาก็ได้แต่อาศัยไอ้อ็อต  จะใช้มันมากก็เกรงใจ มันก็ไปช่วยไอ้โภชน์ที่ไซต์งานทั้งวัน
กลับมาบ้านก็อยากพักผ่อน เสาร์อาทิตย์ ก็คงอยากเที่ยวกับสาวข้างบ้าน

จะยืนรอรถหน้าบ้านก็ดูไม่ดี ยืนตากแดดให้มันสมน้ำหน้าอีก กรูเดินร้องไห้ไปหารถขึ้นตรงอื่นก็ได้ว่ะ ไอ้ถนนนี้ก็ช่าง
มีแต่บ้านคนรวยอยู่ รั้วแต่ละหลังก็กินที่เป็นไร่ๆ  รถสองแถวถึงไม่ค่อยผ่าน

“ไข่ ไข่”เสียงตะโกนเรียกชื่อฟ้าใส

“อ้าว พี่ลิฟต์” ฟ้าใสหยุดยืน รอจนลิฟต์วกรถข้ามฝั่งมาหา

“ขึ้นมาเมื่อไหร่ล่ะ แล้วกำลังจะไปไหน”

“เพิ่งมาถึงพักหนึ่งนี่แหล่ะ ถึงเห็นว่าไอ้โภชน์เอาหมามาเลี้ยงไว้ ว่าจะไปนั่งบ้านไอ้แชทก่อนน่ะ แล้วพี่จะไปไหน”

“ว่าจะไปนั่งเล่นบ้านไอ้โภชน์น่ะแหล่ะ เย็นๆถึงจะไปวิ่งที่สวนสุขภาพ” ชีวิตมันช่างสบายดีจริงนะเมริงไอ้พี่ลิฟต์

“ม่ะ ขึ้นมาสิ ไปส่ง เดี๋ยวเปลี่ยนไปนั่งบ้านแชทก็ได้” ลิฟต์บอกฟ้าใสด้วยน้ำเสียงเห็นใจ แต่แววตากลับมีประกายอย่างอื่นแอบแฝง

ดูเหมือนทุกคนจะรู้เรื่องไอ้อายกันหมด ยกเว้นฟ้าใสล่ะสิ ไอ้โภชน์คงเอาไอ้อายมาอยู่ตั้งแต่วันที่ฟ้าใสลงกรุงเทพ
สายตาที่ไอ้แชทมองฟ้าใสด้วยความสงสาร เฮ้อ แชท กรูก็สงสารเมริงเหมือนกัน มันจะรู้ไหมว่า ไอ้ขวัญมันไปลองของ
ต่างประเทศมาแล้ว มันแอบมาคุยอวดกับฟ้าใส ว่าของฝรั่งถึงจะใหญ่แต่นิ่ม กว่าของไอ้แชท พอฝรั่งมันเข้าห้องน้ำ
 มันยังแอบเช็คดูเลยว่าน้ำในถุง ใครเยอะกว่า ฟ้าใสฟังแล้วยังไม่อยากเชื่อ ว่าไอ้ขวัญมันจะเป็นได้ขนาดนี้

ถ้าต่อให้ไอ้โภชน์มันทำไม่ดีทำไม่เก่ง ฟ้าใสก็คงพอใจแค่นั้น ไม่คิดจะมีคนอื่น และถึงจะไม่ทำอะไรกับฟ้าใส แล้วอย่าง
ฟ้าใสเองก็ทำให้ตัวเองไม่เป็น ถึงจะมีอารมณ์บ้างอยากบ้าง ก็คงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย ไปว่ายน้ำหางานอะไรทำตามเรื่องดีกว่า
ไอ้แชทมันปล่อยให้ฟ้าใสนั่งเล่นที่นอกชานหน้าบ้าน เปิดเพลงให้ฟัง

“ถ้าง่วงจะนอนเล่นก็นอนที่โซฟาข้างในก็ได้นะไข่ คืนนี้จะค้างบ้านเราก็ได้ จะอาบน้ำ
ล้างหน้าก็ได้ ผ้าขนหนูอยู่ในตู้ข้างกระจกหน้าห้องน้ำน่ะ”

“ฮื่อ...ขอบใจ ยังคิดอะไรไม่ออกอ่ะ ขอกินกาแฟก่อนล่ะกัน”

ฟ้าใสนึกถึงคุณคิดส์ ถ้าคุณคิดส์อยู่คงตบหัวฟ้าใสเบา ถึงจะไม่พูดอะไรมีเพียงสายตาที่อบอุ่นให้ ก็พอทำให้ฟ้าใสอุ่นใจ

ไอ้พี่ลิฟต์เดินถือกาแฟมาบ้าง นั่งข้างๆ เอามือมากุมแสดงความเห็นใจ

“พี่ก็ไม่รู้จะเตือนไอ้โภชน์มันอย่างไง คนเรามันก็โตๆกันแล้ว” อย่ามาพูดเลยว่ะ ไอ้พี่ลิฟต์เมริงเองก็เที่ยวม่อสาว
เจ๊าะแจ๊ะไปเรื่อย มันแวะมาบ้านฟ้าใสคุยกับสาวบ้านโน้นบ้านนี้ มากกว่าฟ้าใสและไอ้โภชน์ที่อยู่ที่นี่อีก
ล่าสุดเคยเล่าว่า กระเทยคนใช้ของบ้านฝรั่งที่มาคุมการดูแลเรื่องพืชเรื่องต้นไม้หายากของงานนี้ ซึ่งอยู่ถัดจากบ้านของฟ้าใส
ให้ท่ามัน บ๊วบให้มัน แต่มันไม่มีอารมณ์ แล้วพี่แกก็ปล่อยให้ทำ จนเลิกราไปเอง เออ ให้มันได้อย่างงี้
ฟ้าใสที่เห็นตอนแรกไม่ค่อยชอบพี่แกเท่าไหร่หรอก ดูจ้าชู้แล้วทำตัวสบายเกิน แต่ถ้าพูดถึงอัธยาศัย มีน้ำใจ เอาใจเก่งก็คงดีกว่า
ไอ้โภชน์ของฟ้าใสและก็ของไอ้อายมันด้วยสิ  เฮ้อ...เหนื่อยใจ

เอิ่ม...ฟ้าใสก็ขอบคุณนะพี่...ที่เห็นใจ แต่ไม่ต้องกุมมือก็ได้ ถึงรู้ว่าพี่แกไม่ได้เป็นเกย์หรือมีประวัติเอาผู้ชายมาก่อน
ตามที่ไอ้โภชน์ เคยเล่าว่าพี่แกเล่นแต่สาวมาตั้งแต่อายุ 12 โอย กรูจะบ้า หุ่นแกก็สูงพอๆกับไอ้โภชน์ แต่ตัวหนากว่า
 ล่ำ ผิวสองสี ถึงจะขาวเพราะเป็นลูกคนจีน แต่ก็เล่นกีฬากลางแจ้ง คนมันมีตังอ่ะน่ะ อย่างไงก็ดูดี
 ถึงตาไม่ตี่ขนาดพระเอกเกาหลี แค่จมูกโด่งเป็นสันพองาม ก็โอเคหาสาวได้ไม่ยาก
พอเอามือออก พี่แกก็เอาแขนมาโอบไหล่ทำนองปลอบใจแทน เอิ่ม พี่ ไม่ต้องปลอบใจขนาดนั้นก็ได้
ทำให้ฟ้าใสต้องรีบจิบกาแฟให้หมดแก้วจะได้ถือโอกาสลุกหนี ทำเป็นเอาแก้วไปเก็บ

ฟ้าใสโทรหาไอ้โภชน์ ไม่รับ ไม่รับอีก ลองโทรอีกครั้ง มันตัดสายฟ้าใสทิ้ง นี่คงเป็นสัญญาณบอกความสัมพันธ์ระหว่างกันได้ดี

“อย่าไปสนใจมัน ไข่ อย่างไงเรามาก่อน” เสียงขวัญที่เพิ่งกลับมาจากดูร้าน มีรุ่นน้องเฝ้าให้แทนเป็นคนที่เอารูป
มาจัดนิทรรศการเล็กๆที่แกลลอรี่ เลยเหมาเฝ้างานตัวเองบวกขายของให้ด้วย
ขวัญจัดแจงด่าไอ้อายเข้าข้างฟ้าใส ด่าไอ้โภชน์ด้วย 55 ได้โอกาส ก็ไอ้โภชน์ชอบแย่งเวลาไอ้แชทของมัน
มันเลยเหม็นหน้ากัน

พวกมันคงอายุยืน ไอ้โภชน์และไอ้อายเดินคู่กัน มาหาไอ้แชทที่นั่งทำงานในสตูดิโอเป็นกระจก  ทั้งสองตัว ก็มองเห็น
ฟ้าใส ขวัญ นั่งคุยกัน มีไอ้พี่ลิฟต์ นั่งๆนอนๆอ่านหนังสือ ใกล้ๆ ที่นอกชานบนบ้าน

“แชท เอาเกลือไว้ไหน จะสาดไล่อัปมงคลหน่อย” ขวัญตะโกนอย่างไม่มีเกรงใจอยู่แล้วครับท่าน บ้านก็บ้านมันนี่
ไอ้แชทก็ลูกไก่ในกำมือไอ้ขวัญ คืนไหนมันอยากมีอะไร ก็เปิดซีดีปลุกอารมณ์ไอ้แชท 


ไอ้โภชน์มันทักไอ้แชทได้ประโยค 2ประโยค มันก็จูงมือไอ้อายที่หันมาทำสีหน้าเยาะเย้ยใส่ เดินออกไป ไม่ทักฟ้าใสเลยสักคำ....


TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.6(24/09/12)(มาต่อแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 24-09-2012 11:31:04
 :z3: :z3: :z3: :z3:
ใครก็ได้เอาไอ้โภชน์ไปเก็บที่ ให้มันโดนทิ้ง แล้วไม่มีใครแลทีเถอะ แม่งโอ๊ยไม่ไหวจะเคลียร์ ทำใม ๆๆๆๆ เกียจแม่งหว่ะ  :angry2: :m31: :angry2: :angry2:  :z6: :z6:


 ขอบคุณมากค่ะ มาต่อซะอินจนไม่เป็นอันทำงานเลย สงสารฟ้าใส :sad4: :m15:  :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.6(24/09/12)(มาต่อแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: DIIK ที่ 24-09-2012 16:04:16
ฟ้าใสขา หนูจะทนทำไมคะ คนแบบนี้
เป็นตัวเรานี้คงเลิกตั้งแต่รู้มันไปเอากะคนอื่นแล้ว ทำใจไม่ได้ค่ะ ใช้ของกับคนอื่นเนี่ย ขยะแขยง
แล้วการที่เขาปล่อยให้เด็กใหม่ลอยหน้าลอยตาเหนือเรานี่เขาไม่เห้นค่าเราเลยนะคะ
ตาสว่างแล้วจากไปแบบสวยงามดีกว่าแบบคนไร้ค่าค่ะหนูขา
*ลากพี่โมงมาให้
*ดักเอามีดเสียบโภชน์กลางทาง
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.7(24/09/12)((อัพอีก))
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 24-09-2012 16:23:17
Ch.7.7

((ต่อ))


ฉันนั้น เฝ้ามองเธอ กับเขาดู มีความสุข
สายตาที่เขามีให้ เธอ คือทุก ๆ อย่าง
แต่สิ่งที่เป็นเรื่องสำคัญนั่นคือสายตาของเธอ
ที่มองดูเขาด้วยความ รัก ความชื่นชม
ท่าทีที่สุขสมที่มี เขา ยืนอยู่ข้างกาย


คืนนั้นฟ้าใสนอนค้างบ้านแชท คุยกับขวัญ เรื่องที่คุยไม่ใช่เรื่องฟ้าใสหรอก หัวข้อกับเป็นเรื่องของขวัญที่เล่าโน้นเล่านี่
เธอเอนจอยเม้าท์ติ้งมาก แอบเล่าเรื่องที่มันล่อหลอกไอ้แชทด้วย 555 ฟ้าใสฟังแล้ว ได้แต่รู้สึกว่า เธอน่ากลัวมาก ขวัญ!!!
ฟ้าใสโทรหาอ็อต 4 ทุ่ม

“อ็อต โภชน์กลับมาหรือยัง”

“ยังเลยครับ  พี่ไข่ สงสัยไม่กลับ เห็นเมื่อตอนเย็นที่ออกไปก็เอาเสื้อผ้าใส่กระเป๋าไปด้วยนะพี่”

“เหรอ” ฟ้าใสเอ่ยรับรู้ ด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

“พี่ไข่ เกิดอะไรขึ้นเหรอพี่ ผมเห็นแก้วแตกด้วยอ่ะ” อ็อตเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วง น้ำเสียงวิตกกังวล

“อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก โทษทีนะที่ไม่ได้เก็บ พี่กำลังจะเดินไปข้างนอกนะ แล้วกระเป๋ามันไปเฉี่ยวโดนโต๊ะ น่ะ
ไอ้อายมันเลยเอาขนมเอาน้ำไปสาดหน้าบ้าน แล้วมันแกล้งเอาไปแก้วกับจานไปวางข้างนอกให้พี่เก็บเอง
 เพราะพี่บอกมันว่าไม่ให้ใช้มันแก้วจานชุดนี้ของพี่  พี่เลยไม่ได้เก็บ ฝากอ็อตทำความสะอาดด้วยนะ”

“อ๋อ  เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอกพี่ไข่ แต่เด็กนั่นนะสิพี่ไข่ บอกอาโภชน์ว่าพี่สาดน้ำสาดขนมใส่มันแล้วก็ปาแก้วใส่มันด้วย
 ขู่จะฆ่ามันด้วยน่ะ ผมน่ะไม่เชื่อหรอก”

ฟ้าใสได้ฟังถึงกับถอนหายใจ “เฮ้อ.....คนเรา ก็คงแล้วแต่มันพูดไปล่ะอ็อต ตอนมาเจอก็ช็อคมากนะที่ไอ้โภชน์มันทำอย่างงี้
ให้พี่อยู่ร่วมกับมัน พี่ก็คงไม่เอาน่ะ ตอนออกมาพี่ก็โมโห มันก็ทำหน้ากวนตีนใส่พี่เหมือนกัน
พี่เลยบอกให้มันออกไปก่อนพี่จะกลับ ไม่งั้นถ้ากลับมาเจอมันในบ้านพี่จะเผาทั้งบ้านทั้งมัน”

“555 ดีแล้วพี่ไข่ ผมก็ไม่เข้าใจอาโภชน์จริงๆ” เสียงอ็อตหัวเราะเบาๆ

“เอ่อ...อ็อตแล้ว โภชน์มันให้เด็กนั่น นอนห้องไหนน่ะ พี่มาถึงบ้านแล้ว พอเห็นมันแล้ว พี่ยังไม่กล้าขึ้นไปบนห้องเลย
ไม่อยากเห็น วันนี้พี่ค้างบ้านพี่แชท นะ ฝากอ็อตดูบ้านให้ด้วย ขอพี่ทำใจหน่อย เดี๋ยวคงคุยกับอาโภชน์ของอ็อตล่ะ”

“ครับ เดี๋ยวผมดูทางนี้เองครับ อาโภชน์เค้าให้เด็กนั่นนอนห้องแขกที่เพื่อนอาโภชน์มาพักบ่อยๆน่ะพี่ไข่
เดี๋ยวผมทำอีกห้องหนึ่งไว้ให้ก็ได้ครับ”

“ฮื่อ ขอบใจอ็อต ถ้ามีอะไร พี่ก็ฝากอ็อตดูแลอาโภชน์ของอ็อตด้วยล่ะกัน” ฟ้าใสเริ่มไม่แน่ใจในอนาคตของตัวเอง
ต่อไปคงมีการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาแน่ๆ
.
.
ช่วงระหว่างเวลา11.05น. มีการใช้โทรศัพท์ดังต่อไปนี้

11.05 น.

1: Eye & Poch

ตรืดด ตรืดดดด

โภชน์ดูโทรศัพท์ เห็นเป็นเบอร์ของไอ้อาย คิดว่าอายจะชวนไปกินข้าวกลางวันหรือไง 
ถ้าไซต์งานมันอยู่ใกล้ๆบ้านก็ดี เขาจะกลับบ้านไปกินคนชวนกินข้าว

“อาโภชน์ ช่วยอายด้วย ฮึก ฮึก พี่ไข่เค้ากลับมาน่ะ ฮือ ฮือ” เสียงไอ้อาย ร้องไห้คร่ำครวญ

“อะไรน่ะ เกิดอะไรขึ้น นะ อาย เป็นอะไรหรือเปล่า โดนทำอะไรรึเปล่า” ร่างสูงกระล่ำกระลักถามด้วยความตกใจ
ไม่ได้คิดเลยว่า นี่คือไอ้ไข่ ไม่ใช่มาเฟียหรือยากูซ่า

“ฮือ ฮือ พี่ไข่มาถึงก็ด่าอาย(ให้ประหยัดพลังงาน ปิดแอร์ ใช้พัดลม ถ้าอยู่คนเดียว) ไม่ให้อายใช้แก้วใช้จานของเค้าอ่ะ
 อาโภชน์ ฮึก ฮึก แล้วยังสาดน้ำใส่อายด้วย ฮือ ฮือ (ไหน ไหนก็ไหนแล้ว) ขว้างแก้วใส่อีก ดีนะที่อายหลบทัน
ไม่งั้นอายต้องบาดเจ็บ เลือดตกยางออกแน่เลยอ่ะ อาโภชน์”

“ไม่เป็นอะไรแน่นะ โชคดี.. ทำไมไอ้ไข่มันต้องทำรุนแรงขนาดนี้ อายก็ยังเด็กอยู่แท้ๆ ควรอะลุ่มอล่วยกันบ้าง”

“อาโภชน์ ต้องมารับอายนะ พี่ไข่เค้าขู่จะฆ่าอายด้วย อายกลัว”

“ห๊า!!! อะไรนะ ถึงกับขู่จะฆ่ากันเลยเหรอ ไอ้ไข่จะมากไปแล้วนะ”

“เค้าขู่ว่าถ้าอายไม่ออกไปจากบ้านนี้เค้าจะฆ่าอาย เผาทั้งคนทั้งบ้านเลย(เห็นม่ะ กรูก็พูดความจริงชิมิ)”

“หึ ถ้าไอ้ไข่มันคิดว่าบ้านเป็นของมันก็ช่างมัน เดี๋ยวโภชน์หาบ้านใหม่ให้อายอยู่เอง ไม่ต้องกลัว ยังไงเรื่องนี้โภชน์จัดการ
ให้อายแน่นอน จะรีบไปให้เร็วที่สุดนะจ๊ะ ถ้ามีอะไรหรือไอ้ไข่มันบ้าขึ้นมา อายก็รีบออกมาก่อน ไม่ก็ไปอยู่กับดาว
บ้านข้างๆก่อนก็ได้”

“อาโภชน์รีบมานะ อายกลัว อยากกอดอาโภชน์ที่สุดเลย ฮือ ฮือ”

“จ๊ะ จะรีบเคลียร์งานให้เร็วที่สุด ไม่ต้องกลัวนะอาย เดี๋ยวจะรีบกลับให้กอดแน่นอนครับ”


2: Poch & Lift

ตรืดด ตรืดดดด

“ฮัลโหล ไอ้ลิฟต์ นี่กรูเอง” โภชน์ทัก

“เออ ว่าไงไอ้โภชน์ มีไรเหรอ”

“น้าเมริงที่ทำคอนโด หรือมีบ้านให้เช่า มีเหลือบ้างไหมว่ะ กรูจะให้ไอ้อายมันอยู่ ไอ้ไข่จู่ๆมันก็กลับมาว่ะ
ไอ้อายบอกว่าไอ้ไข่มันอาละวาด ไอ้ห่า ขว้างปาข้าวของใส่มันด้วย ขู่จะฆ่ามันด้วย ไอ้ไข่มันไม่น่าทำอย่างงี้เลย”

“หึ หึ...ได้ โว้ย ไอ้โภชน์ เดี๋ยวกรูจะถามอาอี๊ กรูให้” หึ หึ กรูถือว่าแลกกันแล้วนะเมริง กรูก็ช่วยเมริงได้ของไปแล้ว
 ต่อไปก็ขอของๆกรูล่ะ ไอ้โง่ไม่รู้จักของดีๆเองช่วยไม่ได้


3 : Lift &Auntie

“สวัสดี ครับอี๊”

“ว่าไงอาลิป”

“ตอนนี้อาอี๊มีบ้านว่างหรือห้องพักคอนโดว่างหรือเปล่าน่ะ เพื่อนผมมันหาอยู่น่ะ”

“อยู่คนเดียวหรือกี่คนล่ะ”

“2 คนน่ะอี๊ คงอยู่ไม่นานหรอก อาจจะอาทิตย์เดียวเดือนหนึ่งมั๊ง”

“เออ ๆ งั้นให้มันไปอยู่บ้านที่หมู่บ้าน ลัดดารมย์ ไหมล่ะ ฝรั่งมันเพิ่งออก กลับประเทศมัน อั๊วะยังไม่ได้ให้คนเช่า
เพราะต้องทาสีใหม่ก่อน ไอ้ช่างทาสีมันก็ขอกลับบ้าน  เพื่อนลื้ออยู่ได้ไหมล่ะ ถ้าเอาก็ไปเอากุญแจจากแม่บ้านบ้านข้างๆนะ
 บ้านเลขที่ 118/8 ค่าเช่าอั๊วไม่คิดหรอก มีคนอยู่ บ้านมันก็ไม่โทรม ”

“ขอบคุณ ครับอี๊ หลังนี้ที่ผมเคยไปแต่งให้ใช่ไหม”

“เออ ๆ ใช่อาลิป ลื้อก็เป็นคนหาคนไปทำให้นี่หว่า ลื้อก็ไปดูด้วยแล้วกัน อั๊วว่าจะทำครัวใหม่กับแยกเรือนคนใช้ออกมาเลย”

“ได้อี๊ ขอบคุณนะอี๊” เป็นไงล่ะไอ้โภชน์ กรูหาบ้านให้เมริงกะเด็กเมริงอยู่ได้แล้ว อย่างหรูเชียวนะเมริง ค่าเช่านะ เดือนละ30,000เชียวนะเมริง


4 : Lift & Poch

“ฮัลโหล ไอ้โภชน์ กรูเอง น่ะ”

“เออ..”

“กรูถามน้ากรูแล้ว อี๊เค้ามีบ้านว่าง ฝรั่งมันเพิ่งย้ายออก พวกเมริงไปอยู่ได้เลย บ้านนี้อย่างหรูเชียวนะเมริง เฟอร์นิเจอร์พร้อม
เมริงไปขอกุญแจที่แม่บ้านบ้านข้างๆรั้วสีน้ำเงินได้ น้ากรูฝากกุญแจไว้ บ้านเลขที่ 118/8 หมู่บ้านลัดดารมย์ เมริงเข้าไปอยู่ได้เลย”

“เออ ๆ ขอบใจมาก ว่ะไอ้ลิฟต์” เออ ไอ้ลิฟต์มันก็ดีโว้ย ถึงบางครั้งมันก็กวนตีน ไม่กินเส้นกันบ้าง พอมีเรื่องต้องพึ่งพามันก็ช่วยได้


TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.7(24/09/12)((อัพอีก))
เริ่มหัวข้อโดย: jiw ที่ 24-09-2012 16:24:50
สั้นจังอ่ะ อยากอ่านอีกแย้ว อินสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.7(24/09/12)((อัพอีก))
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 24-09-2012 16:41:29
ไอ้โง่เอ้ย สั่งเก็บใอ้โภชน์ ใครเอามันไปประชาทันฑ์ที เพชรหลุดมือไปจะหัวเราะให้
สมน้ำหน้ามรึงอะ
 ปล.อย่าให้นู่ใข ช้ำมากน้า กว่าจะถึงมือพี่โมง ตายๆๆๆ

ขอบคุณมากๆๆค่ะ รออย่างใจจดจ่อ ว่าต้องมาต่อแน่นอน อิอิ
 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.7(24/09/12)((อัพอีก))
เริ่มหัวข้อโดย: jantaro ที่ 24-09-2012 17:49:54
ตกลงยังไง โภชน์แม่งเลวว่ะ  ฟ้าใสกลับไปบ้านเถอะ อย่าเสียเวลาเลยยยยย  ปวดใจจิงๆๆๆ พอตอนจะเอาก้ปล้ำคนอื่น พอตอนจะทิ้งก้เอาคนอื่นมาหยามแม่งง เลวววโคตร
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.7(24/09/12)((อัพอีก))
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 24-09-2012 18:04:29
อ่านแล้วถึงกับนอยด์ (อินจัด)
จุดนี้เกลียดโภชน์มาก :z6: แต่เชื่อว่า ซักวันการกระทำนั้นคืนสนองนะ
ส่วนเรื่องเจ้าลิฟท์ จะรอดมั้ยเนี่ย แต่อันที่จริงฟ้าใสก็โตแล้ว (แอบหวังว่า)น่าจะเอาตัวรอดได้นะ บทเรียนก็มีมาแล้ว
(แต่จะพูดก็พูดนะ ถ้าเจ้าลิฟท์เล็งฟ้าใสไว้ แสดงว่าตาถึงสมกับเป็นเจ้าตัวแสบอยู่นะเนี่ย)
แต่ที่สำคัญตอนนี้อยากเห็นฟ้าใสสวย เริ่ด เชิด สะบัด ให้บางคนมันเสียดายให้ตายไปเลย
รอตอนหน้านะ หวังว่าแม่ยกฟ้าใสจะได้เฮบ้าง  :call:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.7(24/09/12)((อัพอีก))
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 24-09-2012 18:14:04
 :m16: :m16: :m16: :m16: :m16:

ยิ่ง งง  ไปใหญ่เลย 

ไม่น่าเป้นแบบนี้เลย
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.7(24/09/12)((อัพอีก))
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 24-09-2012 18:20:13
รอจ้า
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.7(24/09/12)((อัพอีก))
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 24-09-2012 18:35:53
ไอ้โภชน์งี่เง่าปัญญาอ่อน หูเบา เหมือนพระเอกน้ำเน่าในละครเลย
กับฟ้าใสน่ะรู้จักกันมาก็นานพอควร จนคบกัน และอยู่กินกันจนป่านนี้ ยังไม่รู้จันิสัยใจคอกันอีกรึ
แค่เด็กใจแตกสะตอใส่เข้าหน่อยก็เชื่อล่ะ แล้วก็ไม่มีการพูดคุยปรับความเข้าใจกันด้วย
แบบนี้ก็กลับบ้านกรุงเทพเลยดีกว่านะฟ้าใส กลับไปทำใจตั้งหลักใหม่ดีกว่านะ
ปล่อยไอ้โภชน์มันอยู่กับเด็กคนนี้ไว้ที่นี่แหละ อยากรู้เหมือนกันว่า
ไอ้โภขน์มันจะคบเด็ก(สร้างบ้าน)นิสัยสะตอๆแบบนี้ มันจะไปได้ไกลแค่ไหนเชียว
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.8(24/09/12)((อัพใหม่))
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 24-09-2012 21:18:10
Ch.7.8

((ต่อ))


เซ็นทรัล เชียงใหม่

“เอ๊ะ นั่น อิชาช่านี่”หนุ่มน้อยหน้าตาน่ารักที่เดินควงกับชายหนุ่มหน้าคมร่างสูงเพรียว พูดกับตัวเอง

“อาโภชน์ อายขอทักเพื่อนหน่อยนึงนะฮะ”

“ฮื่อ เอาสิ คุยตามสบายเถอะ เดี๋ยวยืนคอยแถวนี้แหล่ะ” โภชน์บอกอนุญาตเอามือตบศีรีษะร่างเล็กเบาๆอย่างเอ็นดู

“ขอบคุณฮะ” อายรีบเดินกลับไปที่ร้านขายมือถือที่เห็นเพื่อนตัวเองอยู่

“เฮ้ !! อิปรีชา มาทำอะไรที่นี่!!!” อายตะบบไหล่เพื่อนชายที่ท่าทางอ้อนแอ้นลักษณะออกสาวที่กำลังยืนเม้าท์
กับพนักงานขายร้านข้างกันอย่างออกรสชาติ

“ต๊าย!!! อิอาย แล้วเมริงล่ะ กรูไปบ้าน อิวีวี่บอกเมริงหนีตามผัวไปแล้ว”

“เชรี่ย!! ค่อยๆสิว่ะ ผัวกรูเค้ายืนอยู่โน้น”

“อุ๊ย หล่อนะเมริง เล่นของสูงซะด้วย อิอิ ขอกรูลองได้เปล่า จะได้บอกเมริงว่าดีจริงเปล่า”

“อีเชรี่ย นังชาช่า กรูหวงเว้ย ห้ามแตะ แหมเมริง กรูยิ่งกลุ้มใจ ต้องแบ่งกับเมียมันก็คนแล้ว เมริงยังจะมาขอลองอีก” อายค้อนใส่

“อ้าวผัวเมริงมีเมียอยู่แล้วเหรอ แล้วเมริงทำไงล่ะ เมียเขารู้เปล่า”

“เพิ่งรู้ดิ เนี่ยไล่ตะเพิดกรูออกจากบ้านเนี่ย ผัวกรูเลยพามาช็อปปลอบใจ”

“ดี ดี ช็อปไปเลยเมริง ซื้อของที่มาขายต่อได้เมริง ทอง มือถือก็ได้ เอามาขายกรูรับรองเงินอยู่กับกรูแน่นอน
ไม่ถึงมือเจ้าของร้านหรอก 555”

“อีบ้า”

“เชอะช่วยไม่ได้น่ะเมริง แมร่งจ้างกรูเฝ้าร้าน 15วันมาที ไม่ก็เดือนหนึ่ง เอาของมาลงๆ เช็คสต็อกก็ไม่เช็คเองให้กรูเช็ค
กรูขายได้กรูก็เอาไปใช้ดิว่ะ มันมากรูก็ไปยืมของร้านอีหน่อยมาวาง ไม่งั้นกรูไม่มีเงินมาสวยเริ่ด เชิดได้ขนาดนี้หรอก”
ชาช่าสะบัดบ็อบประกายบรอนด์ช็อคโกแลต

“อ้าว กรูนึกว่าเมริงล่ำซำเปิดร้านของตัวเอง ก็เห็นเมริงตามผัวฝรั่งออกจากเกาะไปนี่นา”

“เชอะ มันก็แค่เอากรูเป็นเพื่อนเที่ยวทั่วไทยน่ะสิ พอมาอยู่นี่เดือนเศษ มันก็จะกลับประเทศมัน มันก็ทิ้งเงินให้กรูไว้ก้อนหนึ่ง
 หมดสัญญาบ้านกรูก็ต้องจ่ายเอง กรูตอแหลถูกคออิเจ๊เจ้าของร้าน มันเลยจ้างกรู พรุ่งนี้เมริงขอผัวมาคุยกับกรูสิ
เดี๋ยวกรูช่วยเมริงลุยอิเมียหลวงเมริงให้ แต่เดี๋ยวก่อน มันตัวใหญ่รึเปล่า” อิปรีชาทำท่าสต๊อป

“อิอิ E-DOK นึกว่าจะแน่ 55 ไม่หรอกเมริง ตัวมันก็พอพอกับกรูนะแหล่ะ เตี้ยกว่าเมริง ชัวร์”

“เออๆ พรุ่งนี้เมริงมาหากรูนะ กรูจะได้ให้เมริงเลี้ยงข้าว”

“เมริงนี่ เออๆ เดี๋ยวกรูขอตังผัวกรูมาเลี้ยงเมริงก็ได้ แต่เมริงต้องช่วยกรูกำจัดอีปลวกนั้นนะแล้วถ้าสำเร็จกรูเลี้ยงชาบูชิเมริงเลย”

“อร๊ายจริงเหรอ อิอาย ได้เลยเมริง” ว่าแล้ว อิชาช่าก็เอาแก้มชนแก้ม ซ้าย ขวา กับอิอาย ประหนึ่งตกลงทำสัญญา
ที่จะช่วยกันทำแผนชั่วช้ากำจัดฟ้าใส


 :beat:
TBC...

สั้นหน่อยนะะ ปั่นเสร็จก็รีบเอามาลงให้เลย

หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.8(24/09/12)((อัพใหม่))
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 24-09-2012 21:51:32
หลอกไอ้โภชน์ให้หมดแล้วชิ่งเลย แม่งรมย์เสีย เอาให้หมดตูดเลย

ขอบคุณมากๆๆๆค่ะ เข้ามา f5 ตลอดเลยอะอิอิ รอพี่โมง   :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.8(24/09/12)((อัพใหม่))
เริ่มหัวข้อโดย: timvasabi ที่ 24-09-2012 23:49:12
เฮ้อ~ ฟ้าใสเอ้ยยยยยยย เจ้านะกำัลังจะแย่มากๆๆ จากที่แย่อยู่แล้วอะนะ

เป็นนายเอกร้ายๆใส่อ้ายโพดหน่อยเด้!! อยากเห็น (อินๆๆ) มารทำถึงขนาดนี้ยังอยู่นิ่งๆอีก
เตรียมแผนอะไรไว้บ้างนะ อย่าอยู่ชิลล์เกิ๊นนละ

อ่านไปเรื่อยๆแล้วก็กลัวว่า กว่าพี่โม่งจะมาโค้งสุดท้ายนี่ ฟ้าใสต้องโดนอะไรบ้างอะ
มันจะกลายเป็น... ฟ้าใสไม่ย่ำแย่ไปก่อนเหรอ (ตามเขาทันรึป่าวเนี่ยฟ้าใส)
กลัวจัง กลัวฟ้าใสจะโดนคนอื่นย่ำยีอะ แค่อ้ายโพดก็เกินพอแหละ แม่ม เลวสุดๆ ไม่น่าเชียร์แกร๊เลยอ้ายยโพด
อ้ายเพื่อนแกร๊ก็อีกคน อ้ายลิฟต์อะ เข้ามาหาฟ้าใสแบบไม่จริงใจเลย จะหลอกฟันเขาแล้วทำแบบโพดเล---วเหรอ
เซ็งๆๆๆๆ ฟ้าใสร้ายหน่อยลูก ร้ายหน่อยๆๆๆ


หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.9(25/09/12)((อัพใหม่))
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 25-09-2012 01:29:08
Ch.7.9

((ต่อ))


PART:POCH

โภชน์มองดูหนุ่มน้อยร่างเล็กดูผิวพรรณหน้าตาก็รู้ได้ทันทีว่าต้องมีพ่อหรือแม่เป็นชาวต่างประเทศ
ท่าทางที่ดีใจเมื่อเจอเพื่อน ก็ดีมันจะได้หายเหงา ถึงเพื่อนมันดูออกแร่ดๆสาวเยอะ ไปหน่อย ต่างจากไอ้อาย
ที่ยังดูแล้วเหมือนทอมมากกว่าเช่นเดียวกับไอ้ไข่ แต่ก็ช่างเหอะ เห็นมันมีความสุข เขาก็มีความสุขไปด้วย โภชน์ ยิ้มมุมปาก

ไอ้อายเด็กชายที่เขาเคยเห็นตั้งแต่มันยังเด็ก 6-7 ขวบได้มั๊ง ที่ไปเที่ยวเกาะนั้นครั้งแรกกับพวก เพื่อนๆ ไอ้ลิฟต์ ไอ้บ๊อบ
และคนอื่นๆก๊วน โรงเรียน ม.ต้น เดินหาที่พักจนเจอกับพี่น้อยที่เรียนจบจากอาร์ต อาร์ แล้วมาตั้งรกรากทำเกสเฮ้าส์
บนเกาะจนมีลูกมีเมีย พี่น้อยนี่เองที่เป็นแรงบรรดาใจให้พวกเขาอยากเรียน ที่อาร์ต อาร์บ้าง ซึ่ง บางคนก็สอบติดบ้าง
ไม่ติดบ้าง สอบแล้วสอบอีกบ้างเช่นตัวเขา ได้พูดคุย ถูกคอ เลยคบหา ทั้งเขาและเพื่อนจะมาเที่ยวมาพัก
เวลามาก็จะเอาข้าวของ หนังสือ มาฝาก และค่อยๆเห็นไอ้อายโตขึ้น โตขึ้น จนเขาออกปากชมกับไอ้ลิฟต์


ล่าสุดที่ไอ้ลิฟต์เอางานโปรเจ็คเด็กมันมาให้ทำ ไอ้ลิฟต์บอกว่าเพิ่งไปพักที่เกาะพี่น้อยมา สงสัยคงไปกับเจ้าของงานโปรเจ็ค
นี่หรือเปล่า มันจัดแจงส่งข่าวให้เขาว่า ไอ้อายโตแล้วกำลังได้ที่ น่ารัก น่ากิน
เล่นเอาเขาอยากตามไปกิน เอ๊ยไปดูเฉยๆ ทันทีที่เสร็จงาน

อย่างไอ้ลิฟต์ เขาก็เข้าใจที่มันมีกิ๊กสาวไปทั่ว เพราะเมียมันที่ได้กันตั้งแต่เรียน
พอท้องพวกมันก็แอบไปทำแท้ง พ่อแม่ไอ้ลิฟต์รู้เลยให้มันรับผิดชอบผู้หญิง และให้ผู้หญิงแต่งเข้าบ้าน
แม้ไม่ได้จัดงานแต่งก็จดทะเบียนให้ จากการที่ “พลอย” เมียมันไปทำแท้งเลยทำให้เจ้าหล่อนไม่ค่อยแฮปปี้นักเวลา
มีอะไรกับมัน แถมไอ้ลิฟต์ยังเคยจับได้ว่าไอ้พลอยเมียมัน เคยแอบมีกิ๊ก มันเลยป่วยการที่จะทำตัวซื่อสัตย์ เพียงแค่รักษา
รูปลักษณ์ผัวเมียไม่ให้พ่อแม่เดือดร้อนใจระคายหูเท่านั้น จากนั้นมันต้องร่อนหาตัวเลือก จีน ไทยฝรั่งมังคุด
 แต่เรื่องรักตุ๊ดเขาก็ไม่เห็นมันยุ่งด้วยนะ เห็นเล่นแต่ม่อสาว แม้ว่าจะมีกระเทยให้ท่ามันมากมาย
แต่ล่าสุดเขาเริ่มไม่แน่ใจในท่าทีที่ไอ้ลิฟต์มีต่อไอ้ไข่เมียเขา

แล้วเขาล่ะ ทำไมเขาถึงมีไอ้อาย คงเป็นความประทับใจที่เคยเห็นมันตั้งแต่เด็ก มันดูน่ารัก น่ากินมาก พอไปแล้ว
เขาก็ยั้งใจอดใจไม่ได้ทั้งที่เขามีไอ้ไข่แล้ว

ใครๆก็อยากเป็นที่สุด ไม่มีใครอยากอยู่ใต้เงาของใครหรอกโดยเฉพาะคนรักกัน คนที่เราอยู่ด้วย
ไอ้ไข่มันชอบไอ้คิดส์ แม้มันจะปฏิเสธไอ้คิดส์ ตอนนั้นมันอาจไม่พร้อมก็ได้ ถ้าไอ้คิดส์มันปล้ำซะตอนนั้น
ก็หมดเรื่องกันไปแล้ว ป่านนี้อาจออกลูกออกหลาน เขาก็ไม่ต้องลงปล้ำไอ้ไข่มันแทน

(เมริงน่ะ ปล้ำคนเขาไปทั่ว ไอ้โภชน์ ไอ้แชทนั่นก็ด้วยหรือเปล่า คนเขียนให้ไปคิดเองเป็นการบ้าน)

สายตาไอ้อายที่บ่งบอกความชื่นชม นิยม นับถือ อะไร ก็ดี อะไรก็เก่ง ประหนึ่งเขาเป็นพระเจ้าของมันไม่ปาน
ผิดกับไอ้ไข่ ไอ้ไข่มันไม่เคยใช้สายตาแบบนั้นมองเขาเลย

เขารู้ว่ามันรักเขา คนอย่างมัน อยู่ง่าย สะอาดกว่าพวกเขา ที่กินเหล้า สูบบุหรี่ ใช้สิ่งเสพติดบางเวลา

เมื่อถึงเวลา เมื่อมีโอกาส กรูก็ขอทำอย่างที่ใจกรูต้องการ
ถ้าหากไอ้รุ่นพี่ที่เมริงอาลัย อาวรณ์ ยังโสดอยู่ กรูก็อาจสนับสนุน แม้กรูยังรักยังเสียดายเมริง
แต่ไอ้เชรี่ยพี่โม่งของเมริงก็ถูกยัยอาจารย์ห้องพยาบาลจับแต่งงานไปแล้ว ข่าวที่กรูเจอจากพี่จุ๋ย
หรือที่เมริงอยู่กับกรูเพราะเมริงก็รู้แล้ว เมริงเลยไม่มีที่ไป
โภชน์คิดด้วยสีหน้าเจ็บปวด

ไอ้ไข่ถ้าเมริงยอมรับไอ้อาย เมริงกับกรูก็จะได้อยู่ด้วยกันต่อไป



TBC...

คนเขียนขอน้อมรับ :beat:  :z6: เรื่องจับพี่โม่งแต่งงาน โดยดี ทุกประการ
ไม่แต่ง เด๋วพี่โม่งก็ไม่มีลูกให้เลี้ยงอ่ะจิ ครับ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.9(25/09/12)((อัพใหม่))
เริ่มหัวข้อโดย: timvasabi ที่ 25-09-2012 02:48:11
อ้ากกกกกกกกกก มันอะไรกันเนี่ยยยยยยยยยยยยยยย

ไหมมันกลับตารปัตร เกินคาดมว๊ากกกกกกกกกกกกก

ว้ากกกกกกกกก ทั้งไขทั้งโม่ง  TTOTT มันจะแฮปไหมค่ะเนี่ย

มรสุมเหลือเกินทั้งคู่ ท่านแม่ฟ้าใสค่ะมารับลูกชายด้วยค่ะ งานนี้เศร้า
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.9(25/09/12)((อัพใหม่))
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 25-09-2012 08:57:23
อ๊าคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค ทำใมถึงทำกับฉันได้
พี่โมงแต่งงาน แล้วยังไงหล่ะเนี่ย แงแง :z3: :z3: :z3: :z3:

ขอบคุณมากค่ะ  :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.9(25/09/12)((อัพใหม่))
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 25-09-2012 09:51:27
"ไอ้ไข่ถ้าเมริงยอมรับไอ้อาย เมริงกับกรูก็จะได้อยู่ด้วยกันต่อไป"
บอกได้แค่2คำเท่านั้นว่า  1 หน้าด้าน    2 เห็นแก่ตัว

รู้สึกเรื่องราวมันชักจะยิ่งชุลมุนวุ่นวายตาลปัตรปั่นป่วนไปหมดดดดดด
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.9(25/09/12)((อัพใหม่))
เริ่มหัวข้อโดย: DIIK ที่ 25-09-2012 10:59:02
เอ่ออออออออออออ

ไม่ได้เกรียนไม่ได้ติ่งนะคะ แต่ไม่ไหวแล้ว

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

เป็นเรื่องที่อ่านแล้วเกลียดตัวละครได้ที่สุด!!!
จะกดเข้ามาอ่านทำใจแล้วทำใจอีก สุดท้ายก็กรี๊ด กร้ากกกกกกกก

โภชน์ถ้าเอ็งจะเป็นคนแบบนี้อ่ะนะ...เฮ้อ

ท่านผู้แต่งอย่าให้ไข่โง่งมงายเลยนะคะ หลายตอนแล้ว รีบๆไปเถอะ อ่านดูยังไงนังโภชน์มันก็ไม่เหนหัวแล้วอ่ะ

*โมโห
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.9(25/09/12)((อัพใหม่))
เริ่มหัวข้อโดย: puu142 ที่ 25-09-2012 12:48:02
ไข่....ก็สมควร....คู่กับโภชน์นะ....เพราะโภชน์ไปตั้งนานแถมเต็มใจให้เขาเอาด้วยนี้
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.7.9(25/09/12)((อัพใหม่))
เริ่มหัวข้อโดย: kasune ที่ 25-09-2012 15:59:54
เอาโภชน์ไปไกลๆเถอะค่ะ
ขอให้จบที่พี่โม่งเถิด..แม้จะนานแค่ไหนรักนี้ก็ยังยืนยง.
พี่โม่งมาเอาฟ้าใสคืนเร็วๆนะ  :o8:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.8(25/09/12)((อัพใหม่))
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 25-09-2012 16:01:26
CH.8

ตรืดดด ตรืดดด

“อาลิฟต์ พรุ่งนี้ เลี้ยงไอ้ติมสเวนเซ่น อาย หน่อยได้เปล่าฮะ อาโภชน์เขาไม่ว่างเลยทำงานตลอด อยู่บ้านโคตรเซ็งเลยอ่ะ นะ นะ”

“ฮื่อ ฮื่อ ก็ได้ เอากี่โมงล่ะ” ลิฟต์ก็ยินดีบริการทุกคนอยู่แล้ว ไอ้อายมันก็ลูกพี่น้อย ถึงมันจะน่ารักหน้าสวย แต่ก็ไม่ใช่สเปคเขา

“บ่าย 2 แล้วกันนะอาลิฟต์”

“ได้ แต่พอตอนเย็น ต้องไปจ๊อกกิ้งนะ เป็นเพื่อนเดินได้แค่ 5โมงเย็นนะอาย เราจะไปวิ่งด้วยกันไหมล่ะ แต่พี่ไข่เขาไปด้วยนะ”

“ไม่ไปหรอกอาลิฟต์ เหอะ เดี๋ยวพี่ไข่เค้าจะฆ่าอายเอา เชิญอาลิฟต์ไปวิ่งกัน 2คนตามสบายเถอะ” อายพูดจบ
ก็ทำหน้ากระหยิ่ม 55 ให้มันได้อย่างงี้สิ ของมันมีเชื้ออยู่แล้ว เขาก็แค่ทำให้มันลุกโชนขึ้น

“ฮื่อ พรุ่งนี้เจอกัน บ่าย 2นะจ๊ะ”

ลิฟต์บอกไปก็คิดว่า ถ้าระหว่างให้เขาเลือก กรูเลือกไอ้ไข่ดีกว่า ถึงไอ้อายมันช่วยพี่น้อยทำเกสเฮ้าส์ พอทำอาหารได้นิดหน่อย
 ช่วยต้อนรับแขกลูกค้าฝรั่ง พูดได้ แต่ก็อ่านไม่ได้ เรียนก็แทบไม่จบม.3ด้วยซ้ำ ถ้าไม่ขอร้องจ่ายเงินช่วยโรงเรียน
 ก็เหมือนไอ้พลอยเมียเขา พอจบเรื่องวุ่นๆก็แทนที่จะเรียนต่อ ทั้งที่บ้านเขาจะจ่ายให้เรียนเอกชนแพงๆกับเขา ก็ไม่เอา
 นั่งๆนอนๆอยู่บ้าน กินส้มตำปูปลาร้า ตกเย็นก็เที่ยวผับกับเพื่อน ใช่สิ ก็เขาก็ได้ พลอย มาจากการไปเที่ยวด้วยกันนี่นา

 ไอ้ไข่ความรู้ดีกว่า เล่นหมากรุกยังชนะเขาเลย เห็นว่าชนะเพื่อนไอ้โภชน์หลายคนมาแล้วด้วย พูดคุยกันรู้เรื่อง รักศิลปะ อ่านหนังสือ ฟังเพลงได้หลายแนว อย่างไอ้อาย หรือ พลอย นี่ อ่านหนังสือ ปีหนึ่ง 7บรรทัดหรือเปล่า แต่ก็น่าจะถึง
เห็นพอมีข่าวดาราแย่งผัว หรือหึงฆ่าโหด อะไรดังชาวบ้านร้านตลาดพูดกัน ก็กลัวไม่อินเทรน
หาข้อมูลมาเม้าท์กับอาม๊า อาป๊ะ เขาทันที เออ ก็ดีไป อย่างน้อย เขาก็หาคนมาดูแลพ่อแม่ได้ล่ะว่ะ
.
.
.
.
ร้านไอศกรีม Swensen's. ที่โต๊ะริมกระจก

“อาลิฟต์ อายเอา เอิร์ทเควก นะนะ อยากลองหลายอย่างง่ะ นะนะ กินด้วยกัน”

“อื้อ ก็ได้” ลิฟต์แอบคิด หวังว่าไอ้อายไม่เป็นโรคอะไรนะเว้ย กรูมั่วยังไง กรูก็เลือกนะ

ระหว่างที่รอ อายขอแวบไปโทรศัพท์ ส่วนลิฟต์ก็เหล่สาวโต๊ะโน้นโต๊ะนี้ รวมทั้งน้องๆพนักงาน

“อ่ะ มากินเร็ว ของเรามาแล้ว แล้วทำไมต้องเอาฮู้ดขึ้นล่ะอาย หนาวเหรอ” ลิฟต์ถามอย่างแปลกใจ

เมื่อเห็นอายเอาฮู้ดของเสื้อวอร์มขึ้นคลุมศีรีษะ

“ฮื่อ เย็นๆหัวนิดหน่อยอ่ะ อาลิฟต์ นั่งตรงนี้ แอร์มันเป่า”

“อ้าวงั้นเปลี่ยนที่นั่งไหม”

“เอ๊ยๆ  ไม่เอา ไม่ต้อง อาลิฟต์ไม่ต้องเปลี่ยน” อายรีบห้าม เมื่อเห็นลิฟต์ขยับลุก บ้าสิ ขืนเปลี่ยนที่ก็เสียแผนกันหมด
กำลังจะไปด้วยดี จบวันนี้ อาโภชน์ก็จะได้เป็นของเขาคนเดียว อายก้มหน้าแอบยิ้ม แทบกลั้นหัวเราะด้วยความดีใจไม่ไหว
จนต้องรีบตักรัมเรซิ่นเข้าปาก กลบเกลื่อนความยินดีปรีดา
เสียงสั่นของโทรศัพท์บอกสัญญาณตามที่ตกลง

“อาลิฟต์ลองชิมรสนี่สิ” อายตักรสมะนาวส่งให้ ยื่นจนถึงปากลิฟต์ ที่ทำท่าปฏิเสธ ด้วยกลัวติดเชื้อโรค
 แต่อายก็ตื้อจนลิฟต์ ยอมหลับหูหลับตากินจากช้อนอาย

“อุ๊ย อาลิฟต์ ปากเลอะแล้ว”อายพูดหัวเราะคิกคัก

ไอ้อายเมาเนื้อหรือเปล่า มันไปสูบของไอ้โภชน์หรือเปล่าว่ะ ดูมันระริกระรี้จริง

“มา อายเช็ดให้” ว่าแล้วอายก็ชะโงก ยื่นมือมา แต่แทนที่จะยื่นมือมาเช็ด แต่กลับ ดึงคอเขามาจูบปาก
อิชาช่า พอได้หรือยังว่ะ อายคิดในใจ ถึงกรูไม่อายคนเขาก็จริง แต่ให้กรูมายืนชะโงกจูบผู้ชาย โชว์ ก็ อ่ะน่ะ มันเมื่อยโว้ย...

มือถือในกางเกงสั่นอีกครั้ง
อายถอนปากออกลงไปนั่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ลิฟต์ ยกมือเขกหัวอาย

“ทำบ้าอะไรของเรา หือ” ลิฟต์มองหน้างงๆ คิด หลงเสน่ห์ตรูล่ะสิ บอกแล้วว่าเขาดูดีกว่าไอ้โภชน์

“เอ่อ อาลิฟต์ อายปวดท้องขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ” อายทำเป็นอายหลบตา พูดเสร็จก็รีบลุกขึ้นเดินออกไปนอกร้าน

ทันทีที่อายเดินชิ่งออกมาพ้นสายตาลิฟต์ ชาช่ารีบลากตัวหลบมาซอกทางเดิน

“เร็ว เมริงรีบเปลี่ยนเสื้อแล้วไปเจอผัวเมริงหน้าเมเจอร์เร็วเข้า กรูส่งเมสเซสไปแล้ว” ชาช่ารีบช่วยอิอายถอดเสื้อวอร์มที่เป็นของฟ้าใสออก

“เอามือถือกรูมา  อ่ะนี่มือถือเมริง อย่าลืมล่ะ ว่าเมริงต้องบอกว่าตังมือถือเมริงหมด ใช้ได้แต่เมสเซสส่งฟรี”
อายรีบถอดกางเกงยีนส์ของฟ้าใส ระหว่างนั้น อิชาช่าก็พร่ำพรรณนาว่า ไอ้โภชน์ ที่ยืนจ้องดูอิอายจูบกับไอ้อาลิฟต์
หน้าบูดหน้าเบี้ยวฉุนขาดแค่ไหน

อิอายยิ้มมุมปาก “ดี ขอให้อิพี่ไข่โดนเฉดหัวออกจากบ้านมั่ง ทำมาเป็นไล่กรู ขอบใจเมริงว่ะ อิชาช่า งานสำเร็จกรูเลี้ยงเมริง 2รอบเลย แถมหนังอีก1เรื่อง”

“ต๊าย ดีมากย่ะ อิเพื่อน เมริงมีผัวเลี้ยงแล้ว ก็พามาถลุงร้านกรูแล้วกัน กรูจะได้ยอดพุ่ง เผื่อตรุษจีนอิเจ๊มันจะให้แต๊ะองแต๊ะเอีย เก็บเงินครบ2แสนเมื่อไหร่กรูจะได้ไปเฉาะ”

“แหม เมริง”

“อ่ะ ไปเร็ว อินี่ รีบวิ่งไปทางนี้นะเมริงเร็ว แล้วเสื้อผ้า พอเมริงว่างก็รีบมาเอาไปเก็บ โชคดีนะ อิอาย”

ชาช่าเก็บเสื้อผ้าใส่ถุง ยืนมองส่งเพื่อน นึกว่าขอให้อิอายได้ดิบได้ดี เผื่อตัวเองจะพอได้ผลพลอยได้มั่ง


TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.8(25/09/12)((อัพใหม่))
เริ่มหัวข้อโดย: done_dirt_cheap ที่ 25-09-2012 16:47:58
 :m16:
เฮ้อ....กลุ้มใจแทนฟ้าใสว่ะ
กลับไปอยู่บ้านเราดีกว่า  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.8(25/09/12)((อัพใหม่))
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 25-09-2012 16:53:54
 :z3: :z3: :z3: :serius2: :serius2: :serius2:
sadddddddddddd

 :3123: :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.8(25/09/12)((อัพใหม่))
เริ่มหัวข้อโดย: timvasabi ที่ 25-09-2012 17:01:45
เฮ้อ~ เฮ้อหลายเฮ้อแล้วนะเนี่ย

เมื่อไรนายเอกเราจะร้ายมั้งค่ะ เมียเก็บล้ำหน้าไปไกลเกิ๊นน
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.8(25/09/12)((อัพใหม่))
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 25-09-2012 18:11:45
เด็กอาย มันอายุ15จริงเหรอ ทำไมมันรอบจัดนัก สะตอสุดๆ
แต่นิสัยแบบนี้ ก็เหมาะสมกันดีกับไอ้โภชน์ล่ะนะ
จะรอดูต่อไปว่าวันที่ลายนังอายออกมาให้ไอ้โภชน์ได้เห็นน่ะ ไอ้โภชน์จะเป็นอย่างไร
"... เมื่อถึงเวลา เมื่อมีโอกาส กรูก็ขอทำอย่างที่ใจกรูต้องการ
ถ้าหากไอ้รุ่นพี่ที่เมริงอาลัย อาวรณ์ ยังโสดอยู่ กรูก็อาจสนับสนุน แม้กรูยังรักยังเสียดายเมริง
แต่ไอ้เชรี่ยพี่โม่งของเมริงก็ถูกยัยอาจารย์ห้องพยาบาลจับแต่งงานไปแล้ว ข่าวที่กรูเจอจากพี่จุ๋ย
หรือที่เมริงอยู่กับกรูเพราะเมริงก็รู้แล้ว เมริงเลยไม่มีที่ไป
โภชน์คิดด้วยสีหน้าเจ็บปวด.."
จะเจ็บปวดอะไรวะโภชน์ คนเขาเคยรักกัน ไม่ได้โกรธ-เกลียดกัน
เขาก็ยังต้องคงความรู้สึกดีๆต่อกัน มันผิดรึ แล้วเขาเหล่านั้นก็ไม่ได้ทำผิดศีลข้อ3ซักหน่อย
แล้วแกน่ะสำเหยียกไว้ด้วยว่า แกได้ไข่มาโดยวิธีใด ไข่ก็ยังให้อภัยแกได้ และยอมคบกับแกจนรักแกนะ
ฉันว่า ความคิดของโภชน์ตรงนี้ เป็นความคิดของคนเห็นแก่ตัว และหาทางป้ายสีคนอื่น(ไข่)
เพื่อกลบเกลื่อนความไม่ถูกต้องของตัวเอง
ไข่น่ะ ถึงจะรักคิดส์ รักพี่โม่ง แต่พอมาอยู่กินฉันสามีภรรยากับโภชน์ ไข่ก็ออกจะทำตัวดี
ให้เกียรติแก ซื่อสัตย์กับแกคนเดียว ไข่ไม่ได้ไปมั่วกับใครๆที่กล่าวมาเลยนะ
ไข่ไม่สำได้ทำตัวสำส่อนเหมือนแกนะโภชน์ แกกับนังอายน่ะร่วมมือกันทำผิดศีลข้อ3ชัดๆเลย

แล้วความคิดตรงนี้ของแกยิ่งย้ำว่าแกเห็นแก่ตัวว่ะโภชน์
"...ไอ้ไข่ถ้าเมริงยอมรับไอ้อาย เมริงกับกรูก็จะได้อยู่ด้วยกันต่อไป..."
ได้เห็นความคิดของไอ้โภชน์ตรงนี้ รู้สึกชังน้ำหน้ายังไงไม่รู้
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.8(25/09/12)((อัพใหม่))
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 25-09-2012 19:06:32
 ^
 l l
 l l

บวกเป็ดค่ะ ถูกใจอย่างแรงส์
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.8.1((มาใหม่ร้อนๆ))(25/09/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 25-09-2012 19:46:35
CH.8.1

“อาโภชน์!!!” อายทักเสียงดังรีบถลามาเกาะแขน

โภชน์รีบปั้นหน้ายิ้ม ทั้งที่จิตใจยังขุ่นเคืองต่อภาพที่เห็น
ไอ้ไข่จูบกับไอ้ลิฟต์ งั้นที่เขาเคยระแวงก็เป็นความจริง ใช่สิ ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอก

ตอนแรกเขาก็แค่คิดว่าไอ้ลิฟต์ มันคิดจะแอบเล่นไอ้ไข่ เพราะมันอิจฉาเขาที่เห็นมีความสุขดีกว่ามัน
 ไอ้ไข่มันก็ดูดีกว่าเมียมัน หลายเท่า( กรูเลือกเก่งกว่า เจ๋งกว่า เมริง..ไอ้ลิฟต์!!! ) แอบไล่ตามมันครั้งที่มันทำพิรุธหลายที

ครั้งที่มีวันหยุด ไอ้อ็อตกลับบ้าน ไอ้ลิฟต์มาบ้านไอ้แชท
พอเขาไปนั่งทำงานได้พักหนึ่ง ไอ้ลิฟต์ก็ขอตัวกลับ บอกจะไปธุระให้น้า

พอวันที่สอง มันก็เป็นแบบนี้อีก  ไอ้ห่าลิฟต์นี่มันต้องมีอะไรแน่ๆ มันไม่เคยหนีเพื่อนฝูง กลับไปไหน ถ้าไม่เกี่ยว
กับเรื่องหม้อๆของมัน แต่คราวนี้ มันก็ไม่มีเรื่องมาเล่าว่ากำลังไปป้อสาวที่ไหน มันผิดสังเกต

พอครั้งที่ 3 มันขอตัวกลับก่อน คราวนี้เขาจะลองดูว่าสัญชาตญาณของเขาจะถูกต้องไหม
ทิ้งระยะแปบหนึ่ง โภชน์บอกไอ้แชทว่า เดี๋ยวกลับบ้านก่อนจะแวะไปซื้อของ
พอเขาขับรถเข้าประตูรั้วมองเข้า มอไซต์ไอ้ลิฟต์ จอดแอบอยู่ด้านข้าง หมายความว่าไง แต่พอเรียกไอ้ลิฟต์มันดู
ปรากฏว่ามันกำลังเข้าห้องน้ำข้างหลังบ้าน เขาเลยขึ้นไปดูข้างบน ไอ้ไข่ก็นอนห่มผ้าหลับพริ้ม ไม่รู้เรื่องอะไร ไม่มีอะไรผิดปกติ

จนไอ้ลิฟต์ออกมาบอกว่า ขับๆอยู่ปวดขี้เลยแวบมาเข้าที่บ้านนี้ เดี๋ยวขี้เสร็จก็จะไปต่อ จนคุยกันพักใหญ่ ไอ้ไข่คงได้ยินเสียง
ถึงงัวเงียตื่น เขามองตามันก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติ ระหว่างมันกับไอ้ลิฟต์
ในเมื่อมาเห็นกับตาแบบนี้ คราวนี้เขาหมดข้อสงสัยคาใจซะที ถ้ามันพร้อมที่จะคุยกับเขา เขาก็พร้อมที่จะคุยกับมันเหมือนกัน.




จบกันซะที จะช้าไปกว่านี้ ผลก็คงเหมือนเดิม  ในเมื่อแววตาของคนตรงหน้า มันไม่มีเหลือความรู้สึกเห็นว่าเขามีตัวตนอีกต่อไป
คำที่มันต่อว่า ว่าฟ้าใสสาดน้ำ ปาแก้วใส่ไอ้อาย  ต่อให้เขาบอกว่าไม่ได้ทำ มันก็พูดขึ้นว่า “เรื่องนั้นก็ไม่มีใครเห็น มิใช่หรือ”

รอยยิ้มเหยียดราวหัวเราะ เมื่อฟ้าใส บอกว่า “แล้วเขาจะทำอย่างไง” คำตอบที่ออกจากปากของมัน “ก็แล้วแต่ตัวเองสิ”
ไม่มีคำพูดใดออกมาจากปากมันอีก

ปากที่เคยบอกรักเขา

ปากที่เคยโทรมาออดอ้อนทุกเช้า เมื่อเขาไปค้างที่บ้านแม่

ปากที่เคยคลอเคลีย

ปากที่พรมจูบ ตั้งแต่10นิ้วเท้า จนถึงนิ้วมือทั้ง 10


ฟ้าใสนัดมันคุยที่เซ็นทรัล หวังว่าบรรยากาศคงช่วยให้เขาไม่เศร้านัก และอาจทานอะไรด้วยกัน

หากแต่กลับโดนอีกฝ่ายปฏิเสธ เร่งให้พูดกันให้จบ เรื่องที่ใช้ชีวิตร่วมกันเกือบ 3ปี รู้จักกันเกือบ 7ปี

ใจคอมันจะให้เขาแค่ยืนคุยกัน เหมือนยืนคอยรถเมล์ หรือรอเข้าคิวจ่ายเงิน

ในเมื่ออีกฝ่ายไม่มีคำพูดใด ฟ้าใสก็ไม่สามารถเอ่ยอะไรได้อีก

น้ำตาที่ไหลคงพูดแทนความรู้สึก

ในสมองว่างเปล่า มองหน้าคนตรงหน้าก็ยิ่งเจ็บปวด

ไม่มีคำปลอบโยน

ไม่มีคำขอโทษ

ไม่มีคำอวยพร “ไปดีมาดี”  “ระวังตัวด้วยนะ” “แล้วเจอกัน” “ขอให้โชคดี” “รักษาสุขภาพ”

ไม่ออกจากปากคนร่างสูงที่คุ้นเคย
ยืนนิ่งเพื่อดูท่าทีอย่างสบายๆ

“ไม่มีอะไรแล้ว ใช่ไหม งั้นไปล่ะ”

คนตรงข้ามหันหลังกลับ เดินจากไปในกลุ่มคนที่เดินช็อปปิ้ง คงมีใครสักคนรอเขาอยู่



น้ำตาที่เช็ดแล้ว มันก็น่าจะหมด แต่มันก็ยังคงหลั่งไหลออกมาราวกับตาน้ำพุ คงป่วยการที่จะเช็ด

ขาก็ไม่มีแรงจะยืน แต่ก็ต้องก้าวไปให้พ้นจากตรงนั้น


กลับบ้านไปเก็บข้าวของ ลงกรุงเทพ เขาจะบอกที่บ้านว่าอย่างไร
.
.
.
.
TBC...
ใจร่มๆ ไอ้โภชน์ได้รับกรรมแน่นอน
เร่งปั่นต่อไป ขอบคุณนักอ่านที่เป็นกำลังใจและติดตามด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.8.1((มาใหม่ร้อนๆ))(25/09/12)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 25-09-2012 19:53:43
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: :fire: :m31: :m31: :m31:

ใจร้ายที่สุด ไร้คำบรรยายกับผู้ชายคนนี้ ขอผลตอบแทนให้สาสมกับที่มันทำกับน้องฟ้าใสของเราจงติดจรวด ณ บัดนาว
 :call: :call: :call: :call:

ขอบคุณมากๆๆๆๆๆค่ะ รักคนแต่งที่สุด  :L1: :pig4: :L1: &+เป็ด
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 CH.8.1((มาใหม่ร้อนๆ))(25/09/12)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 25-09-2012 22:07:03
ไอ้โภชน์ ไอ้หูเบา ไอ้พระเอกน้ำเน่าในละคร
เรื่องานเรืองการแกเก่งแสนเก่งเนาะ พอเรื่องชีวิตแกอ่อนว่ะ
นี่สำหรับนังอาย รับไปโลด :beat:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 ending(26/09/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 26-09-2012 00:55:01

8.2

ที่ร้านชาบูชิ เซ็นทรัล

 “นั่นไงโต๊ะนั้นว่าง ไปนั่งกันเหอะ” แพงเอ่ยชวนขวัญไปนั่งที่โต๊ะในร้านชาบูชิ

ขณะที่กำลังสนทนาเรื่องราวทั่วไป แต่เสียงพูดคุยที่กระดิ๊กกระดี๊หัวเราะคิกคักเกินเสียงบุคคลปกติ

“เสียงอิกะเทยโต๊ะหลังเรานี่มันตอแหลสิ้นดีเลยนะแพง”

“เฮ้ยช่างมันเหอะแก กินกินไปเหอะ นึกว่าเป็นคราวซวยในรอบหนึ่งพุทธกาลแล้วกัน”

((แหม๊ แกน่าจะเห็นสีหน้าผัวแกนะ ตกใจสะอึกหน้าเบี้ยวหน้าบูดเป็นตูดลิงเลย ฮิฮิ))
((อิชาช่า อย่ามาว่าผัวกรูนะ กรูไม่ยอม))
((ชิ อิอาย แหมผัวเมริงนี่แตะไม่ได้เลยนะ ก็มันเหมือนจริงนี่หว่าเมริงไม่เห็น  แดงกร่ำ ควันจะออกหูเลยนะเมริง))
((เมริงก็พูด กรูจะไปเห็นได้ไง ก็กรูต้องจูบกับเพื่อนมันอยู่นี่หว่า))
((งั้นกูน่าจะถ่ายรูปมาให้เมริงดู))
((อิบ้า อยู่ดีๆจะไปถ่ายได้ไง ถ้าผัวกรูยังโกรธอยู่ก็แสดงว่ายังรักอินั่นอยู่นะสิ ถึงได้ยังหึงหวงอยู่)) อายทำหน้าม่อย ชาช่าเลยปลอบ
((แหมแก ผู้ชายมันก็ยังเงี๊ยะแหล่ะ หวงของไม่เข้าเรื่องต่อให้ตัวเองทิ้งแล้ว หรือไม่ใช้แล้วก็ตาม))

บทสนทนาที่ขวัญได้ยินเข้าเริ่มดึงความสนใจ เมื่อได้ยินชื่อ ที่เธอคิดว่าน่าจะเป็นคนที่คุณคิด จนบอกให้เพื่อนเดินไปดูหน้าให้หน่อยว่าใช่ อิอายไหม

แพงเดินไปขอตะเกียบใหม่พร้อมกับแอบมองหน้า หนุ่มน้อยหน้าสวย ที่พูดคุยกันที่โต๊ะเบื้องหลังเธอ
ขากลับเธอสบตาขวัญและพยักหน้า เป็นสัญญาณว่า ใช่ ลักษณะอย่างที่ขวัญบรรยาย
ขวัญย้ายที่นั่งตรงข้ามมานั่งหันหลังชนเพื่อได้ยินได้ถนัดขึ้น

((แหม เพื่อนผัวแก ก็หล่อ เป๊ะ เชียวนะแก๊  แล้วนี่อิอาย ที่แกไปจูบกับเขานะเป็นไง อร่อยไหม อิอิ อุตส่าห์ให้เวลาตั้งนาน อิอิ))
((หนอย อิเพื่อนเลว ที่เมริงไม่ตี๊ดมาหากรูซะที เพราะแกล้งกรูเหรอ กรูเขย่งซะเมื่อย อิเชรี่ยเนี่ย อิเลว อิชาช่า))
((555 กรูให้เมริงจูบแทนกรูไง ขอเบอร์เฮียคนนี้กรูด้วยสิ))
((โห อิแร่ด เฮียลิฟต์ แกไม่สนกระเทยเว้ย))
((อ้าว แล้ว ไหนเมริงบอกว่าไอ้เพื่อนผัวเมริงก็ดูชอบไอ้อิพี่ไข่อะไรนั่น))
((ก็ไม่รู้เว้ย บางทีกรูก็กระแซะกระแซะเขานะเว้ย แต่เขาก็ไม่เล่นด้วย))
((เมริงทำอะไรก็ระวัง อย่าให้จับได้ ถ้าจับได้ก็อย่าสารภาพ ถ้าสารภาพก็แค่ครึ่งหนึ่ง555))

ขวัญแอบฟังการสนทนาอย่างไม่ยอมปล่อยให้เล็ดลอดราวกับสิ่งมีค่าหรือรหัสเปิดตู้เซฟ

((แล้วแกเอาเสื้ออีพี่ไข่ไปเก็บคืนหรือยัง))
((ยัง ยังเลย วันนี้แหล่ะมั๊ง ผัวกรูอาจจะเข้าบ้านโน้น เพราะเมื่อวานมันคุยกันแล้ว ไอ้นั่นร้องไห้น้ำตาไหล
เป็นท่อประปาแตกเลยเมริง  กลับไปเก็บของกลับกรุงเทพไปแล้ว  กรูถึงได้ชวนเมริงมากิน ))
อายทำหน้าเจื่อนๆ แต่ก็เบะปาก อย่างคนที่อยากได้ กรูก็จะเอา
((อย่าไปพูดถึงมันเลย เสียอารมณ์))

“เด๋วเราค่อยบอกนะ ตัวเอง” ขวัญกระซิบบอกเพื่อน

หลังจากนั่งพักใหญ่ ขวัญก็พอสรุปได้ว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่ผุดขึ้นในใจ ไม่ใช่ขวัญคงคิดไม่ได้


เมื่อได้ยินคนที่โต๊ะเบื้องหลังสั่งคิดเงิน แพงสั่งให้ขวัญหลบเมื่อ ทั้งสองจะเดินผ่านโต๊ะ
พอสองร่างอ้อนแอ้นพ้นสายตา ขวัญจึงบอกเรื่องราวคร่าวๆว่าเกี่ยวข้องกับเพื่อนของเธอ

“แต่แก อย่าไปใส่ใจเลย เรื่องของครอบครัวคนอื่น แล้วแกก็ไม่ต้องไปเม้าท์ด้วยล่ะ”

“โอ๊ยใครจะไปยุ่งเรื่องคนอื่นย่ะ แค่เรื่องตัวชั้นเองก็ปวดหัวแล้ว” แพงรู้นิสัยเพื่อนตัวเองดี คิดเหรอว่าขวัญ
จะปล่อยเรื่องให้ผ่านไปเฉยๆ




ขวัญโทรไปตามให้ฟ้าใสขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากวันที่ฟ้าใสเจอไอ้โภชน์เป็นครั้งสุดท้าย
ผ่านมาแล้ว1 อาทิตย์ ที่ฟ้าใสกลับไปอยู่บ้านแม่ วันที่ขนของกลับ ฟ้าใสได้ลิฟต์คอยช่วยจัดการ
ขึ้นมาคราวนี้ ขวัญโทรมาให้ฟ้าใสจัดการเคลียร์ของที่ฝากขาย อยากให้มาคุยกับฝรั่งที่สนใจจะเหมารูปสีน้ำของฟ้าใสทั้งชุด
แน่นอน พี่ลิฟต์ตามฟ้าใสขึ้นมาด้วย

“ไปเอารถที่บ้านน้าพี่ก่อนนะ จะได้ไปไหนกันสะดวก”

เมื่ออยู่ที่บ้านน้าของลิฟต์

“อาบน้ำก่อนไหม” เอ๊ะแปลก นั่งเครื่องกันมาไม่ได้เหนื่อยอะไรไม่ใช่หรือพี่

“ไม่เป็นไรหรอก พี่ ไปบ้านขวัญก่อนดีกว่า” ตอบไปแต่ก็รู้สึกเหมือนกันว่าตัวเองไปสนิทกับไอ้พี่ลิฟต์ตั้งแต่ตอนไหน
โทรหาอ็อต อ็อตเข้าไซต์งาน ไอ้โภชน์ไม่อยู่เพิ่งไปฮันนีมูนที่ภูเก็ตได้เมื่อ2วันก่อน บอกไว้ อาทิตย์หนึ่งหรือ15วัน  ตอนนี้คุณคิดส์ก็อยู่


ตอนเย็นเลยตกลงว่าจะทานข้าวมื้อใหญ่กันที่บ้านแชท

“อ็อต พี่ขอเข้าไปเอาของที่บ้านหน่อยนะ”

“โห พี่ไข่อ่ะ ไม่ต้องมาขอผมหรอก พี่เข้าไปเหอะตามสบาย กุญแจก็ยังอยู่ที่เดิม”

“ฮื่อ ขอบใจ อ็อตอย่าลืมบอกพี่คิดส์นะ เย็นนี้มากินข้าวบ้านพี่แชท อ็อตก็ด้วยล่ะ”


“ขวัญ เด๋วขอไข่ไปเอาของที่บ้านเก่าหน่อยนะ จะไปดูว่าลืมอะไรหรือเปล่า ทิ้งไว้ก็เท่านั้นน่ะ” ฟ้าใสยิ้มแห้งๆ


ไอ้พี่ลิฟต์นั่งสูบคอยที่เทอเรสหน้าบ้าน ปล่อยฟ้าใสเข้าไปคนเดียว
ฟ้าใสสำรวจดูข้าวของ พอทำใจได้แล้วว่าไอ้อายมันคงมาอยู่แล้ว แม้เจ็บแปลบๆ แต่ก็น้อยกว่าเมื่อรู้แรกๆมากนัก

ที่สุดแล้ว มันก็คือที่สุดแล้ว

ฟ้าใสเดินสำรวจรอบบ้าน เห็นกองเศษขยะเผาทิ้ง อยู่หลังบ้าน กล่องใส่ของกระจุกกระจิกที่เขาทิ้งไว้
เพราะคิดว่าไอ้คนคุ้นเคยกัน มันคงต้องใช้อยู่ นี่เสื้อวอร์ม กางเกงยีนส์ของเขา

เสื้อวอร์มที่เก่าแสนเก่ามีเบดจ์อเมริกันฟุตบอลทีมโปรดที่เขาเย็บเองกับมือ เสื้อที่เขาเก็บไว้ระลึกถึงคนไกลตัว
มันเผาของ ของเขาทิ้งเลยเชียวเหรอ

ฟ้าใสอยากเผาบ้านนี้ทิ้งบ้าง  ถ้าเผาไปแล้ว มีเรื่องอะไรทางบ้านก็พอมีเส้นสาย มีเงินทองพอรับผิดชอบได้
แต่ต้องเอาความเดือดร้อนมาใส่ตัวเพื่อแลกกับความรู้สึกที่มีต่อมันเหรอ คุณค่าของผู้ชายคนนี้มากพอให้ฟ้าใส
ต้องทำให้ตัวเองเดือดร้อนขนาดนั้นเหรอ
บ้านก็ไม่ได้ผิด คนเลวๆอย่างมัน ทำไมเขาถึงรักมัน ทำไมเขาให้ใจมันไป



บรรยากาศมื้อเย็นเป็นไปอย่างสนุกสนาน พูดคุยเฮฮา ขวัญคอยแซวคนโน้นคนนี่ตลอดเวลา ฟ้าใสก็คอยตบมุกบ้าง
คุณคิดส์พูดมากกว่าแต่ก่อน ไอ้พี่ลิฟต์ก็เล่าเรื่องที่บุกป่าฝ่าดง เรื่องผีบ้าง ทำเอา ไอ้แชทกับไอ้ขวัญเหลียวซ้ายมองขวา
อ็อตก็โดนหยอก อำบ้าง หัวเราะตลอด

ดึกแล้ว
“พี่ไข่ไม่ไปนอนบ้านเหรอ”อ็อตชวน

“ไม่เอาอ่ะ นอนที่นี่แหล่ะ ขับรถดีๆน๊าคุณคิดส์”

ถึงจะดูเมาๆเบียร์หน่อย แต่ก็ไม่ลืมตบหัวปลอบใจฟ้าใส

“ถ้าไข่อยู่ถึงวันเสาร์ก็ไปเที่ยวน้ำพุร้อนกัน” ขวัญชวน

ได้เวลาเข้านอน ขวัญจัดให้ฟ้าใสนอนห้องแขกตามปกติ แต่มีคนไม่ยอมกลับ ขอนอนค้างที่นี่ด้วย
ไอ้แชทก็ดูห่วงๆฟ้าใสว่ะ น่าไอ้พี่ลิฟต์มันอาจไม่ทำอะไรหรอก
.
.
.
.
เช้าตื่นขึ้นมา

ก้นฟ้าใสยังอยู่ดี แม้จะมีของแข็งๆแปะอยู่ รีบลุกไปอาบน้ำจัดการธุระส่วนตัว

เมื่อคืนนะเหรอ ไอ้พี่ลิฟต์ มือมันก็ยุ่มย่ามบ้าง แต่ก็ปัดออกและโดนนอนกอดเฉยๆจนถึงเช้า พยายามคิดว่ามันเมา
ไม่ได้คิดว่าตัวเองมีดี พอที่จะมีใครมาสนใจ ก็ฟ้าใสเป็นแค่คนถูกทิ้ง มีเสียงงึมงำ และโดนซอกคอบ้าง
แต่ก็รักษาเนื้อรักษาตัวรอดได้อยู่



เสร็จธุระแล้วกลับเลยดีกว่า เสื้อของเขาที่ว่าจะขึ้นมาดูเพราะหาที่บ้านไม่เจอ ก็ได้รู้คำตอบแล้ว...

ENDING SEASON 2



TBC…SEASON 3
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 ending(26/09/12)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 26-09-2012 01:12:27
สาปแช่งให้เป็นเอดส์ตายนะโภชน์


เลวว่ะเมิง
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 ending(26/09/12)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 26-09-2012 01:16:25
รอ S.3 จ้า ขอนู๋ฟ้าใส สมหวังมั่งเน้อ  :m15:

อย่าลืมลงโทษให้โภชน์เน๊อะ ให้มันกระอักเลือดตายไปเลย เชอะเกลียดมัน

ขอบคุณมากๆๆๆ จ้า รอเสมอมาหลายๆ ซีซันส์เน๊อะ กำลังเพลินเลย

 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 ending(26/09/12)
เริ่มหัวข้อโดย: timvasabi ที่ 26-09-2012 02:00:37

ขอให้นู๋ฟ้าเจอคนจริงใจจริงจังด้วยนะค่ะ

สงสารอะ ทำไมต้องมาเจอคนไม่ดีด้วย อ้ายโพดคอดเล...วอะ
ยิมไม่ได้ มาทำนู๋ฟ้าใสแบบนี้ได้ไง เซ็ง!!
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 ending(26/09/12)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 26-09-2012 09:28:18
กรรมใคร ก็กรรมมัน ติดตามผลาญด้วยกงกรรม
รออ่านวันที่บักโภชน์มันโดนกรรมสนอง
อยากเห็นตอนที่มันรับกรรม อิอายด้วย
สาธุ ขอให้มันเป็นฮิสทีเรีย(โรคขาดผู้ชายไม่ได้)
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.2 ending(26/09/12)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 26-09-2012 19:27:32
ไอ้โภชน์งี่เง่าหูเบา กับของเน่าๆแบบนังอาย ก็เหมาะสมกันแล้วล่ะ
อีกไม่นานจนเกินไป คงได้เห็นความหายนะของมันสองคน
สิ่งใดก็ตามที่เกิดจาก หรือได้มาด้วยความไม่ชอบธรรม สิ่งนั้นก็มักจะอยู่ได้ไม่นาน
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥SEASON.3(26/09/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 26-09-2012 23:08:54
SEASON 3

หัวใจที่ถูกทิ้งขว้าง แต่ก็ยังมีคนที่เห็นคุณค่า
จะเป็นเช่นนั้นจริง...หรือเป็นแค่เพียงของเล่น


 “อิ๊กคิวมาเล่นกับอาไขเหรอครับบบบ” เสียงป้าพัชตะโกนทักลูกชายของพี่ต่อ

“ลออ พาขึ้นมาเหอะ ไขไม่ยุ่งอะไร” ฟ้าใสชะโงกหน้าออกมานอกหน้าต่าง ตะโกนบอกกับพี่เลี้ยงหนูน้อยหน้าใส


ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าเล็กๆ วิ่งมาหาทันทีที่พี่เลี้ยงปล่อยมือ

“55 วันนี้มีอะไรมาอวดอาไข ได้อะไรมาใหม่ล่ะ”

“นี่ นี่ นะอาไข อาไขทำไม่เป็นหรอก พี่ลออก็ยังทำไม่เป็นเลย ต้องกดปุ่มนี้ แล้วเดี๋ยว เจ้าสวอมป์ไฟร์ มันก็จะโผ่ลมาฮะ”

“อู๋!!! แล้ว มี เจ้า ฮิวมังกาซอร์ ไหมอ่ะอิ๊กคิว อาชอบตัวนี้”

“มีสิอาไข นี่ไง นี่ไง” เจ้าตัวเล็กรีบหันไปคว้าถุงใส่อุปกรณ์นานาชนิดจากลออ มากองบนเตียงนอนอาไข แล้วทำการสาธิต

ป๊ะป๋าต่อของเจ้าหนูอิ๊กคิว เป็นลูกชายของลุงชาญ พี่ชายแม่พรรณ   บ้านลุงชาญจะเป็นบ้านแรกที่เข้าในเขตของ
บ้าน และบ้านพี่ต่อจะอยู่ถัดจากบ้านลุงชาญและห่างจาก บ้านเรือนไทย20เมตรเห็นจะได้

บ้านฟ้าใสเพิ่งมีเด็กๆมาวิ่งเล่นก็เมื่อไม่นานมานี้เอง พี่ต่อ ย้ายจากนิคมอุตสาหกรรมกลับมาอยู่บ้าน
เลิกกับภรรยาด้วยเหตุผลอะไรไม่รู้  เพราะต่างฝ่ายอาจโทษกันเอง ถ้าบอกอ่ะน่ะ

เหมือนเช่นที่ ไอ้โภชน์ บอกทางบ้านมัน เมื่อ ฟ้าใสบังเอิญ เจอแม่ ไอ้โภชน์ที่งานแสดงสินค้า

“เอ่อ...สวัสดีครับ คุณแม่”

“อ้าว หวัดดีจ๊ะ” แม่ยิ้มให้ “ฮื่อ...ทำไมเราเลิกกับโพดเขาล่ะ แม่ก็เสียดาย โพดเขาบอกว่า เราใช้เงินเปลืองเหรอ”

ฟ้าใสอึ้งเหมือนโดนทุบหัวเป็นรอบสอง ป่วยการที่เหลือสิ่งดีๆให้กัน


จบเรื่องต้องมาเสียน้ำตา 
พี่ส้มโอเคยถามว่าฟ้าใสไม่อดทนหรือเปล่า  ขนาดพี่ส้มโอที่เคยเข้าข้างฟ้าใสทุกอย่าง แต่เมื่อเป็นเรื่องชีวิตคู่
พี่โอก็พยายามคิดอย่างยุติธรรม จนฟ้าใสต้องบอกความจริง ว่ามันมีคนอื่น เมื่อฟ้าใสกลับมาอยู่บ้าน
มีข้าวของกลับมา เมื่ออยู่เกินอาทิตย์ พอใครๆถามว่าจะกลับไปเมื่อไหร่ พอฟ้าใสบอกว่า ไม่กลับไปแล้ว
ทุกคนดูจะรับรู้ ไม่มีการถามถึงเหตุผล

บ้านฟ้าใสก็ไม่มีใครเอ่ยชื่อคำว่า “โภชน์” ให้ฟ้าใสได้ยินอีกเลย แม้แต่ป้านวลหรือแม่ และโชคดีของฟ้าใส
ที่ไม่มีใครตอกย้ำ ซ้ำเติม บ่นว่า ราวกับว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่เคยเกิดขึ้น


ป้าๆยกตึกแถว 4ชั้น 2ห้องให้ฟ้าใส เมื่อคนเช่าไม่ต่อสัญญาเพราะคงหนีหนี้ก้อนโต แถมทิ้งบิลค่าไฟเป็นแสน
ที่แอบโกงมิเตอร์มาหลายปี และการไฟฟ้ามาเรียกเก็บกับป้า จนป้าๆโมโห ไม่ให้ใครเช่าอีก


ตรืดดด ตรืดดด

“คุณคิดส์ มาแล้วเหรอ เดี๋ยวออกไป รอแป๊บ”


หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥SEASON 3(26/09/12)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 26-09-2012 23:26:34
ฟ้าหลังฝนคงจะสวยงามสมชื่อฟ้าใสนะจ๊ะ
สมหวังสักทีเถอะพ่อคุณ ลุ้นจนตัวโก่งหมดแล้วเนี่ย
ให้เนื้อหอมใครเห็นใครรัก ใครเห็นใครหลงเลย ไม่ต้องไปแลไอ้โภชน์มัน
ให้กรรมตามสนองมันเลย  :call: :call: :call: ติดจรวดเลยนะ

ขอบคุณมากๆๆค่ะ เย้ๆ S .3 มาแล้น ดีใจเป็นที่สุด เป็นกำลังใจให้คนแต่งค่ะ สู้ๆๆๆๆ
 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥SEASON 3(26/09/12)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 26-09-2012 23:55:07
ว่าจะให้จบๆ กันไป เจอประโยคที่แม่ถามฟ้าใส

ตรูขอสาปแช่งทั้งบ้านโภชน์เลยได้มั้ย?
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥SEASON 3(26/09/12)
เริ่มหัวข้อโดย: kasune ที่ 27-09-2012 00:43:36
ได้โปรดเอาโภชน์ออกไปจากชีวิตฟ้าใส TT
เรื่องพี่โม้งแต่งงานแล้วเนี่ยช็อคเลยค่ะฮือ
ทำไมชีวิตฟ้าใสอาภัพเยี่ยงนี้ รักใครก็รักได้ไม่ยืดตลอด :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥SEASON 3(27/09/12) ต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 27-09-2012 03:07:42
Ch.1

(ต่อ)


ฟ้าใสนัดคุณคิดส์มาช่วยฟ้าใสตกแต่งร้าน ต้องทำประตูและอีกหลายอย่าง
คุณคิดส์บอกจะมาตอนเย็นๆ

“จะเปิดร้านอะไร” คุณคิดส์ถามพลางหัวเราะ มองหน้าเหมือนหาว่าฟ้าใสจะเล่นขายของหรือไง

“อ่ะ ก็มีร้านอยู่ ค่าเช่าก็ไม่เสีย จะปล่อยไว้ทำไมล่ะ ขายของแต่งบ้านนี่แหล่ะ สินค้าOTOP ของเพื่อนกันนี่แหล่ะ”

“ดี สิ จะได้มาอุดหนุน” เสียงไอ้คุณพี่ลิฟต์กล่าวสนับสนุน

ใช่แล้ว ฟ้าใสก็ยังคบหา คุยทางเอ็ม กับกลุ่มเพื่อนของไอ้โพด ทั้งแชท และขวัญ คุณคิดส์ ส่วนพี่ลิฟต์ ฟ้าใสไม่เคยโทรหา

แต่พี่แกจะโทรมาทุกวัน จะมีบ้างที่หายไปวัน หรือ2วันเป็นอย่างมาก และฟ้าใสไม่เคยถามถึงไอ้โพดเลย

บรรยากาศที่เริ่มกลับมาเหมือนเดิม เพื่อนฝูงของฟ้าใส จะมีอะไร ทำงาน อันนั้นแน่นอน แต่ก็ต้องมีเที่ยวด้วย
คุณคิดส์น่ะมาช่วยทำร้าน วิธีน่ะเหรอ สั่งให้ฟ้าใสไปเอาของเหลือใช้ของบ้านฟ้าใสมากองๆ เก้าอี้ หน้าต่าง
ชั้นวางของในครัวที่เลิกใช้แล้ว โดนจับทาสี ขนาดพี่ลิฟต์ ที่แกออกจะเป็นคุณหนูสำหรับงานกรรมกร ยังนึกสนุกร่วมแจม
มีลูกมือเป็นช่างที่จ้างมาอีก 2คน ไม่นานร้านฟ้าใสก็เสร็จ พร้อมรับสินค้าเหลือในสต๊อก
จากบรรดาโรงงานของเหล่าเพื่อนฝูง โดยเฉพาะของไอ้ป๋าเรน 555


ฟ้าใสโทรบอกพี่โม่ง ว่าฟ้าใสเปิดร้านแล้ว พี่โม่งแสดงความยินดี

“กลายเป็นเถ้าแก่น้อยแล้วเหรอ” ถึงแม้พี่โม่งจะมีการแซวเล่น แต่เสียงไม่เห็นจะสดชื่นสดใสเลย

“ไขต้องรอขายงานพี่อ่ะ ถึงจะได้เป็นนะสิ ว่าจะไปขอลายเซ็นศิลปินดังที่จังหวัดกาญจน์นะพี่ พี่รู้จักเปล่า”

“555 รู้จัก เจอกันบ่อย เดินผ่านกระจกก็เห็นกันทุกที”

“แหม...”

“จะมาที่กาญจน์ก็มานะ พี่กำลังทำเรื่องย้ายไปที่ลำปาง บ้านเดิมของอาจารย์เบญ น่ะ พักหลัง
งานพี่กับพวกอาจารย์ท่านอื่น ไปแสดงที่ต่างประเทศบ่อย พี่เลยต้องเดินทางบ่อย บางทีก็ไปเป็นเดือน
อาจารย์เบญ เขาจะได้มีคนช่วยดูแลลูก” โม่งเว้นช่วง เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ จึงพูดต่อ

“ไขก็ไปเยี่ยมพี่ก็ได้นะ พี่จะพาเที่ยว เคยนั่งรถม้าหรือยัง”

“ยังเลยฮะ ถ้าไขมีโอกาสไปได้ ไขก็จะไปนะฮะ”

“ได้ มาได้เลย”

เสียงพี่โม่งก็แหบแห้งเหมือนเขา พี่โม่งดูทำงานหนัก สีหน้ามักเคร่งเครียด ตอนที่ฟ้าใสเห็นในทีวี แม้ว่าพยายามยิ้ม
พี่โม่ง เป็นศิลปินที่มีคนรู้จักมากขึ้น ผลงานได้รับรางวัลในระดับประเทศ

จนบางครั้งต้องตัดสินใจอยู่นานกว่าจะกล้าโทรหา เวลาคุยกับพี่โม่ง ฟ้าใสรู้สึกเหมือนตัวเองเพิ่งเข้าเรียนที่อาร์ต อาร์ทุกที
แต่พี่โม่งนี่สิ ดูแก่ไปไกล ยังกับจะเป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียน



“ฮัลโหล” เสียงไอ้แชมพู ทักมาตามสาย

“ฮัลโหล เออ ว่างายแชมพู” ฟ้าใสรับสายเนือย ตามประสาคนนอนดึก

“แก ไอ้หมูแฮมมันไปไม่ได้ว่ะ พ่อมันต้องผ่าเข่าว่ะ”

“โห ไรว่ะ บ้านมันก็พี่น้องเยอะนี่หว่า กลัวไม่ได้มอดกเหรอไงว้า”

“เออมั๊ง มันละอายต่อบาปโว้ยแก พ่อมันเข้าโรงบาลมั๊ง มันเลยไม่กล้าไปเที่ยวว่ะ”

“แกหาคนมาเที่ยวแทนมันหน่อยดิ ตังก็จ่ายค่าทัวร์แล้วด้วยแก”

“โห...แล้วจะหาใครว่ะ วันมะรืนเองด้วยว่ะ แล้วมันจะเอาตังคืนเปล่า”

“ไม่รู้ดิ ไอ้หมูแฮมมันได้ตังคืนก็ดีอ่ะนะแก”

“เออ เออ เดี๋ยวโทรไปหามันเอง แล้วเดี๋ยวจะถามใครดูให้” พอวางสายจากไอ้แชมพูเสร็จฟ้าใสก็โทรหาไอ้หมูแฮมทันที
 เลยได้เรื่องว่า หมอที่นัดผ่าเข่าพ่อมันจะต้องบินไปประชุมที่อเมริกา เลยเลื่อนนัดจับพ่อมันขึ้นเขียงเร็วขึ้น
ส่วนให้หาคนมาเที่ยวแทนก็เพราะมันเสียดายจะปล่อยไปเปล่าๆก็เสียดาย หาคนมาเที่ยวแทนดีกว่า ส่วนเงินค่าทัวร์
จะให้มันหรือไม่ให้ก็ได้ มันไม่คิดไร แต่ได้ก็ดี ฟ้าใสก็เลยรับปากว่าโอเค เดี๋ยวจัดให้  ฟ้าใสเลยนึกว่าจะชวนใครไปได้มั่ง
 ทริปนี้ก็ดันเป็นทริปดำน้ำอีก เพื่อนแต่ละคนถึงจะพอเล่นน้ำได้ในสระ แต่ในทะเล มีแต่ป็อดทั้งนั้น เหลือช้อยสุดท้าย

“ฮัลโหล หวัดดี พี่ลิฟต์ นี่ฟ้าใสเองครับ”ย้ำปลุกจิตสำนึกตรูลูกผู้ชาย

“หวัดดีครับ กำลังคิดถึง” เสียงโคตรระริกระรี้เต็มที่เลยนะพี่

555 พี่แกช่างเป็นตัวของตัวเองจริง กรูว่ากรูต้องคิดผิดจริงๆที่ชวน

“พี่สนใจไปเที่ยวสมุยไหมพี่ คือเพื่อนมันจองทริปดำน้ำกันไว้ แล้วคนหนึ่งมันเกิดไปไม่ได้ พ่อเข้าโรงบาลอ่ะ”

“โอย ได้สิ ไปได้ แหมมีไปเที่ยวกัน ไม่ชวนกันเลยนะ นี่ถ้าเพื่อนไปได้พี่ก็ไม่ได้ไปแล้วสิ”

“น่า พี่ อันนี้มันเพื่อนคนละกลุ่มน่ะพี่ ไข่นี่เพื่อนมันก็ชวนมาอีก ไม่ได้คุ้นกับกลุ่มนี้หรอก ไปวันมะรืนนี้นะพี่ ไปได้เปล่า”

ฟ้าใสรีบแก้ตัว เดี๋ยวหาว่าพอจวนตัวก็มานึกถึงแกเป็นที่สุดท้าย โธ่ ถ้าไม่เสียดายเงินแทนไอ้หมูแฮม
 ฟ้าใสก็ไม่อยากชวนแกไปด้วยหรอก ก็มันเสี่ยงภัยน้อยซะที่ไหน ก็รู้อยู่ นี่ก็ต้องไปแล้วต้องนอนเต้นท์กัน2คน

ไอ้แชมพูมันนอนกะไอ้อิ๊ง เพื่อนรุ่นน้องที่ทำงาน  เจ้าของกลุ่มเพื่อนทริปนี้ เพราะไอ้แชมพูเป็นคนชวนไอ้หมูแฮม
ไอ้หมูแฮมมันเอาฟ้าใสไปเป็นเพื่อนมันอีกที กลุ่มเล่นกีฬาทางน้ำนี่จะมีฟ้าใส หมูแฮม โอลีฟ และไอ้แชมพู

จะชวนโอลีฟคงไปไม่ได้ เพราะท่านเทพโอลีฟไปเป็นหัวหน้าแก๊งนักเรียน ก็ เป็นอาจารย์นะแหล่ะ ที่ต่างจังหวัดแล้ว การเรียงลำดับ
คนเล่นน้ำนั่นก็เรียงตามความเก่งเชียวนะ เพราะตอนไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่ต่างจังหวัดมีคลองเหมือนจะเล็ก
ว่ายข้ามกันไปๆมา ปรากฏน้ำลง เริ่มไหลเชี่ยว ลอยคอกันอยู่กลางคลอง รีบว่ายกันขึ้น

ฟ้าใสรอดปีนขึ้นแล้วมานั่งหอบ ไอ้หมูแฮม ขึ้นต่อมาแบบแฮ่กๆ ไอ้แชมพู ว่ายเท่าไหร่ไม่ถึง มองหน้ากัน
โยนห่วงยางของหลานเพื่อน มันก็คว้าไม่ได้ ฟ้าใสมองไอ้หมูแฮม “เมริงไหวเปล่า” ตอนนั้นปี2เอง
 ฟ้าใสตัวเล็กกว่าพวกมันนะ ไอ้หมูแฮมก็สั่นหน้า ทำหน้าเบ้ ยกให้ว่า ฟ้าใสว่ายน้ำเก่งกว่ามัน
โหยย...ฟ้าใสจะทำไงได้ ก็ต้องโดดลงไปช่วยมันอ่ะดิ
โชคดี ไม่ตายกันทั้งคู่ ตั้งแต่นั้นมา จะลงน้ำก็สังเกตน้ำขึ้นน้ำลงตลอด


อย่างพี่ลิฟต์นี้น่ะก็ยังไม่ค่อยรู้จักเพื่อนฟ้าใสกลุ่มนี้ด้วย จะเคยเจอก็แค่ที่แกมาที่ร้านแล้วเจอกับไอ้แชมพู
ที่มันพาแม่มาหาเพื่อนแถวร้านฟ้าใสแล้วระหว่างรอแม่ แชมพูมันก็มานั่งเล่นร้านฟ้าใส
แต่ โอ๊ย..ระดับพี่ลิฟต์แกเข้าได้ทุกกลุ่มอยู่แล้ว เนียนขั้นเทพ

“แล้วเย็นนี้ไปกินกาแฟที่ร้านได้เปล่า ว่าจะหาของขวัญให้วันเกิดเพื่อน แล้วเดี๋ยวจะได้เอาค่าทัวร์ให้ฟ้าใสด้วย”

กาแฟร้านฟ้าใสก็ยี่ห้อธรรมดาไม่ได้อร่อยเลิศเลอหรอกพี่ แต่เอาตังมาให้ก็ยินดีต้อนรับ

“โห พี่ ได้เลย เดี๋ยวเลี้ยงกาแฟเลย” ฟ้าใสก็งกสิ เพราะฟ้าใสก็บอกแค่ ถ้าแกจะให้ค่าทริปไอ้หมูแฮมก็หรือจะให้มันครึ่งก็ได้
พอ เห็นเพื่อนจะไม่ต้องเสียตังฟรีก็ดีใจแทนละครับ


พอตอนเย็นแดดร่มลมตก มีคนหนีเมียมาร่อนมอไซต์บิ๊กบรึ้ม เขาว่ามันคือฮาเล่ย์ แต่ที่แน่ๆ หนวกหูชาวบ้าน จอดหน้าร้านฟ้าใส

กุ๊งกิ๊ง ๆ เสียงกระดิ่งประตูดังขึ้น

“หวัดดีพี่ เลือกซื้อของได้เลยพี่ เหมาหมดเลยก็ได้นะพี่” ฟ้าใสก็มุกหาเงินเข้าร้าน 555

“รวมเจ้าของด้วยเปล่า”

“555 ...” ฟ้าใสไม่ตอบดีกว่า เดี๋ยวยิ่งเข้าตัว “กาแฟนะพี่” ฟ้าใสถามแบบรวบรัด พลางจะเดินไปชงให้

ฟ้าใสไม่ได้ขายกาแฟแค่มีไว้ชงกินเอง หลังร้าน แล้วก็นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อย พี่ลิฟต์ก็เอาเงินมาฝากให้ไอ้หมูแฮม
ค่าทริปเต็มจำนวน ไอ้หมูแฮมเอ๋ย...ดีใจแทนด้วยว่ะ อย่างงี้ฟ้าใสมีสิทธิ์ได้กินเสต็ก ฟรีจากหมูแฮมแน่ 555

“แล้วพรุ่งนี้พี่มาค้างบ้านฟ้าใสเลยแล้วพอเช้าเราจะได้ไปพร้อมกัน” พี่ลิฟต์จัดแจงวางแผนการเดินทาง

ฟ้าใสก็GETโดยฉับพลัน อ้า!!! พี่ลิฟต์ กู๊ด ไอเดีย สำหรับบ้านพี่แกสิ เดี๋ยวก็พาลตกทริปกันทั้งสองคน

“ไม่เอาอ่ะพี่ ไข่ต้องจัดเป๋าอ่ะ ต้องตั้งใจใช้สมาธิมากอ่ะ ต้องเข้าไปบอกแม่ด้วย เผื่อเค้าจะใช้ทำอะไร
ตอนเช้าไขไปรับพี่ที่บ้านก็ได้” จะได้ลาเมียพี่ไง

“งั้นก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวนัดกันเอาตามสะดวกแล้วกัน” พี่ลิฟต์รีบตอบ กลัวเมียรู้อ่ะดิ เฮอะ

หลังคุยไป พี่ลิฟต์ก็อุดหนุนแก้วกาแฟงานป๋าเรนนี่ไป2ใบ ฟ้าใสเลยถามว่าจะทานอะไรหรือเปล่า
แกเลยชวนฟ้าใสไปทานอาหารเวียดนามที่ มอลล์ใกล้ๆ

“เลี้ยงเปล่าพี่” ไม่งกเลยไอ้ไข ถาม

“เลี้ยงสิ ก็ตั้งใจมาชวนไปกินนี่แหล่ะ”

“ได้เลยพี่ หิวยัง เดี๋ยวปิดร้านแป็บหนึ่งนะพี่” ฟ้าใสจัดแจงเก็บๆของหน้าร้าน ป้าย ปิดไฟ แล้วซ้อนมอไซต์พี่ลิฟต์ไปทานมื้อเย็น
พอทานเสร็จแกก็มาส่งฟ้าใสที่ร้าน พอลงมายืนได้ ฟ้าใสก็จัดแจงจะบ๋ายบายส่งแกกลับบ้าน โดยไม่ยอมที่จะมีท่าที
จะชวนแกเข้าร้านต่อ พี่ลิฟต์แกก็พยายามส่งสายวิ๊งๆใส่

“เดี๋ยวถ้านัดกันอย่างไง จะโทรหาแล้วกันนะพี่” ฟ้าใสก็ไม่ยอมใจอ่อนยืนส่งแกอยู่อย่างงั้น แหะ แหะ จนแกก็ออกรถ

การที่ฟ้าใสมีพี่ลิฟต์มาวนเวียนรอบตัวทั้งโทรศัพท์ ทั้งพยายามแวะมาหา
ทั้งยังพยายามที่ดูท่าว่าอยากจะกินฟ้าใส
มันก็ช่วยทำให้ฟ้าใสไม่รู้สึกเหงา หรือตัวเองไร้ค่าไม่มีใครต้องการ เศร้ากับเรื่องของไอ้โภชน์เท่าไหร่


คืนแรกเราพักที่บังกะโล ที่แบ่งเป็น2ห้อง แน่นอน ฟ้าใสก็ต้องนอนกับพี่ลิฟต์ ฟ้าใสก็ใจสั่นๆเหมือนกัน
แต่ก็ทำใจดีสู้เสือ นอนก็นอนคนละที่นอน

“ไข” เอาแล้วเสียงพี่ลิฟต์กระซิบเบาๆที่ข้างหู ฟ้าใสรู้สึกถึงไอร้อนจากตัวแก มือที่ลูบไล้สะโพกฟ้าใสอย่างแผ่วเบา

“อื้อ...” ฟ้าใสครางในลำคอรับรู้ “พี่อย่าเลย” ฟ้าใสพูดบอกค่อยๆ แต่อีกฝ่ายกลับรุกประชิดติดตัวเบียดฟ้าใส
ที่ด้านหลังสนิทแนบแน่น ฟ้าใสจัดแจงตรึงผ้าห่มห่อตัวเองหนีบแข้งหนีบขาห่อไข่แน่น แต่อีกฝ่ายก็พยายาม
กดแก่นกายที่แข็งเบียดเร้า
 ฟ้าใสเลยบอก
 “พี่เรามาเที่ยวด้วยกันเฉยๆเถอะนะ  ไขขอล่ะ”



TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥SEASON3(27/09/12) ต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 27-09-2012 09:13:11
 :fire: :fire: :fire: :m31: :m31: :m31:

ใขสู้ๆ สงวนตัวไว้ให้พี่โมงนะ อย่าไปยอม  เราต้องสู้คนบ้างเน๊อะ หรือเปล่าหว่า
  :serius2: :serius2: :serius2:
ขอบคุณมากๆๆๆค่ะ  :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥SEASON3(27/09/12) ต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 27-09-2012 09:24:45
พี่ลิฟต์นี่ยังไงกันแน่หว่า ได้ข่าวว่าเมียพี่แกก็อยู่ที่บ้านมิใช่เหรอ
หรือว่าต้องการแค่ "รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน"

กดเป็ดให้จ้ะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥SEASON3(27/09/12) ต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 27-09-2012 10:21:59
 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:

น่ายอมนะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥SEASON3(27/09/12) ต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 27-09-2012 21:57:40
อิพี่ลิฟต์นี่ป้อไม่หยุดเลยนะ เมียก็มีเป็นตัวเป็นตน ยังมาป้อฟ้าใสอีก
ใจแข็งเข้มแข็งนะฟ้าใส
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥SEASON3(27/09/12) ต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: timvasabi ที่ 27-09-2012 23:50:07
 เจ้า s.3 เนี่ย ฟ้าใสจะตกเป็นของคนไม่รักจริงอีกรึป่าวค่ะ

ม่ายอยากให้เป็นงั้นอะ อยากให้ฟ้าใสเจอคนดีๆมั้ง
พี่โม่งก็นะ ไปมีลูกซะแล้ว อดเลย ฮึ่มๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3(28/09/12)(update)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 28-09-2012 03:06:15
((ต่อ))

“ไม่รบกวนไข จริงๆนะ”พี่ต่อถามฟ้าใสด้วยน้ำเสียงเกรงใจ

“โอ๊ยยย...ไม่รบกวนหรอก พี่ต่อ โรงเรียนนี้ไขก็เรียนตั้งแต่เด็ก คุ้นแล้ว มีเพื่อนเป็นอาจารย์อยู่ที่นี่ด้วย จะได้ไปนั่งคุยกับเขา”

ฟ้าใสก็อ้างไปงั้น พี่ต่อจะได้ไม่เกรงใจมาก ลุงชาญเข้าโรงพยาบาล ต้องพักฟื้น ในโรงพยาบาล พี่ต่อก็ต้องไปช่วยดู
อิ๊กคิวที่พอย้ายมา แม่ฟ้าใสก็ฝากให้เข้าที่ โรงเรียนสาธิตZ ฟ้าใสเลยบอก ไปรับให้ก็ได้

“อ้าวร้านเราล่ะ”

“มีไอ้อุ๊ เฝ้าให้อยู่แล้วพี่ ร้านไขก็ไม่ค่อยมีลูกค้ามากมายอะไร”

ก็จริง ถึงตึกแถวร้านฟ้าใสจะอยู่ริมถนนใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่ถนนที่คนพลุกพล่าน แล้วก็อยู่ใกล้ๆบ้าน
 ยายใช้ส่วนของที่ดินที่ติดถนนทำเป็นอาคารพาณิชย์ให้คนเช่า มีอยู่ 25ห้อง
ของฟ้าใสนี่เป็นห้องหัวมุม ด้านหลังเลยเข้าออกได้ จอดรถในซอยก็ได้ ฟ้าใสเลยมีสวนเล็กๆหลังตึก พอให้นั่งพักผ่อนชิลๆ
และใกล้พอคนในบ้านก็เดินออกมา หรือขี่จักรยานมาเฝ้าร้าน  ฟ้าใสได้เด็กอุ๊ที่เป็นหลานของป้านวลมาคอยเฝ้าร้าน ทำความสะอาด
หากมีเพื่อนฝูงมาคุย และอยากอยู่เฝ้าเอง ฟ้าใสก็ให้เด็กอุ๊เข้าบ้านไปช่วยป้านวลทำงานในบ้าน

ฟ้าใสอาสารับอิ๊กคิวที่สนิทสนมกับบ้านฟ้าใส ก็มีบ้านฟ้าใสนี่แหล่ะที่ยังอ่านการ์ตูนดูการ์ตูนกันอยู่



ฟ้าใสเดินมาเกาะรั้วที่กั้นระเบียงทางเดินของชั้นป.1/2 มองหาหลานชาย

ฮ่า ฮ่า พรหมลิขิตคงมีจริง

“ไข” เสียงคุ้นมากมาย ก็เล่นโทรหาตรูทุกวัน

ฟ้าใสยู่หน้า

“อ้า..พี่ลิฟต์...มาได้ไงเนี่ย” งงจริงๆ

“น้าลิฟต์ น้าลิฟต์” เสียงตะโกนจากเด็กท่าทางร่าเริงที่กำลังวิ่งออกมาจากห้องเดียวที่ฟ้าใสคอยอิ๊กคิว

“นี่ไงมารับไอ้ตัวนี้ เดี๋ยวยังมีไอ้ตัวพี่ที่อยู่ป.4 อีกตัว ไขมารับลูกเหรอ” ร่างสูงพูดแหย่

“บ้าสิพี่ หลานไขน่ะ พ่อเขายุ่งๆอ่ะช่วงนี้ ต้องดูลุงไขเข้าโรงพยาบาล ไขเลยช่วยมารับให้ ที่นี่โรงเรียนเก่าไขเองอ่ะ”

“น้าลิฟต์ น้าลิฟต์ พี่เนียซยังไม่มาเหรอ” เสียงหลานพี่ลิฟต์ถามขึ้นพร้อมสะกิดน้าชาย

“น้าลิฟต์ น้าลิฟต์ พี่เนียซมาแล้ว” เสียงเด็กท่าทางซนทีเดียวตะโกนส่งเสียงนำมาก่อนตัวที่วิ่งกระหือกระหอบสะพายเป้ห้อยร่องแร่งมา
เด็กๆเริ่มทยอยออกมาเดินกวักไกว่ เอ๊ะ...อิ๊กคิวของฟ้าใสยังไม่ออก พี่ลิฟต์เห็นฟ้าใสชะเง้อ

“หลานไขชื่ออะไรล่ะ”

“อิ๊กคิว พี่”

“เจอาร์ไปดูเพื่อนให้น้าหน่อยสิ ชื่ออิ๊กคิวนะ บอกอาเขามารับแล้ว”

“มา มา พี่เนียซไปดูให้” ว่าแล้ว คนพี่ก็วิ่งนำคนน้องที่วิ่งตามเข้าไปในห้องของน้องชาย

สักพัก คนพี่เดินจูงอิ๊กคิวมาส่งฟ้าใส

“สวัสดีครับอาไข” อิ๊กคิวยกมือไหว้

“ขอบคุณ ชื่อพี่เนียซใช่ไหมครับ อิ๊กคิวนี่คุณน้าของพี่เนียซกับเจอาร์ หวัดดีคุณน้าด้วยครับ”

อิ๊กคิวยกมือสวัสดีพี่ลิฟต์ พี่ลิฟต์ก็เด็กๆแนะนำว่า “นี่น้าไข เพื่อนน้า” เด็กทั้งสองก็หวัดดีฟ้าใส

พี่ลิฟต์นั้นมารับลูกของพี่สาว  เดิมคนเล็กก็อยู่อนุบาลใกล้บ้าน คนพี่ป.4 ถึงแม่ไม่มีเวลามารับ ก็พอขึ้นรถตู้รับส่งได้
พอมีคนเล็กที่มาเข้าป.1ก็เลยต้องมาคนมาช่วยรับกลับ
บ้านพี่ลิฟต์จะอยู่ใกล้โรงเรียนกว่าฟ้าใส แต่ก็ทางเดียวกัน หลังจากเจอกันบ่อยๆ เด็กๆก็สนิทกัน


นอกจากเสาร์-อาทิตย์ ที่มาชวนฟ้าใสไปเที่ยวดูโน่นดูนี่ ไปตลาดน้ำแล้ว เด็กๆจัดแจงนัดกันไปว่ายน้ำ ทั้งฟ้าใสและพี่ลิฟต์
ก็เลยว่ายด้วยเพื่อคุมเด็กๆ

ขณะที่เราเล่นน้ำเด็กๆก็ชวนเล่นไล่จับ  โอน้อยออกกัน ปรากฏเจ้าอิ๊กคิว แพ้ เป็นคนไล่ ฟ้าใสก็เลยต้องยอมให้โดนจับ
ฟ้าใสก็เล็งหลานพี่ลิฟต์ แต่พอดูเด็กๆหนีก็สงสาร ฟ้าใสเลยมาไล่จับพี่ลิฟต์แทน  แกก็ช่างไม่ยอม หนีเอาจริงเอาจัง
จนฟ้าใสต้องออกแรง ว่ายจับแกจริงๆ จนคว้าจับแขนล่ำกล้าม พอได้จับตัวแก ฟ้าใสก็เริ่มเขินหน่อยแล้วล่ะ

ท่ามกลางเสียงเด็กๆที่ตะโกนดีใจ ว่าฟ้าใสปราบยักษ์พี่ลิฟต์ได้ ฟ้าใสก็รีบเผ่นก่อนแกจะนับ10จบ ฟ้าใสรีบกลับมารวมกับพวกเด็กๆ
 แล้วฟ้าใสก็รีบฉุดอิ๊กคิวหนีไปหลบแอบหลังคน แต่พี่แกก็ใช้ลูกไม้ดำน้ำซ่อนตัว  ทำเอาเด็กๆเลิกลั่ก

“มาแล้ว มาแล้ว” เสียงเด็กๆกรี๊ดก๊าด

  ฟ้าใสกำลังเดินไปส่องมองใต้น้ำไป

 “อุ!!!” ฟ้าใสโดนรวบตัวจากข้างหลัง พี่ลิฟต์ใช้แขนกอดฟ้าใสไว้กับอก
แถมยังเตะเท้าลากให้ออกไปทางน้ำลึกอีก พลางตะโกนบอกเด็กๆว่าจะจับยักษ์ตัวใหม่ไปปล่อยน้ำลึกให้
ฟ้าใสได้แต่ใจเต้น ตึก ตั้ก ก็ไอ้ที่แกทำอยู่มัน....

ท่อนขาที่สะบัดใต้น้ำมันทำให้ทั้งขาพี่ลิฟต์กับฟ้าใสเสียดสีกัน แล้วไอ้ที่มันตั้งแข็งติดกับบั้นท้ายฟ้าใส ฟ้าใสไม่รู้ว่าหน้าจะแดง
หรือเปล่าที่แน่ๆหูฟ้าใสคงแดงเพราะฟ้าใสรู้สึกว่าทั้งหน้าจนถึงหูร้อนไปหมด อาจจะรวมถึงตัวด้วย

 “พี่ลิฟต์ ปล่อยเหอะ เดี๋ยวว่ายเอง”

“ไม่เป็นไร ยินดีบริการ”

ฟ้าใสเลยพยายามทิ้งตัวดำลงน้ำเพื่อจะหลุด ฮือๆ พอทรุดตัวลงน้ำ ด้านหลังก็ยิ่งสัมผัสกับไอ้ท่อนแข็งอีก ฟ้าใสรีบพลิกตัว
ให้ออกห่างจากพี่ลิฟต์แกให้ได้ แล้วโผล่หน้าขึ้นมาฮับอากาศ  เชอะ ไอ้คนตัวการทำหน้ายิ้มใส่ ฟ้าใสต้องขมุบขมิบปากด่า

ฟ้าใสมองหาเด็กๆ ทำเป็นนับ1-10แล้วโผออกไปไล่จับเจ้าเจอาร์ กะเจ้าเนียซแทน โดยมีพี่ลิฟต์ ตามหลังฟ้าใสมา
แต่ดูท่าเกมนี้ฟ้าใสจะขาดทุนแน่ๆ เพราะถ้าเจ้า เจอาร์ เจ้าเนียซ เป็นยักษ์ พี่ลิฟต์แกยอมให้จับ แกก็มาไล่จับฟ้าใสอีก
ไอ้กอดกันมีเสื้อผ้าก็พอว่า แต่นี่มันทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือติดตัวแค่กางเกงว่ายน้ำแนบเนื้อนี่นะ ฟ้าใสจับเจ้าเนียซ คนพี่ได้ แล้ว
 เจ้าคนพี่มันเลยจับคนน้อง นั่นไง เจ้าเจอาร์จับใครไม่ได้ พี่ลิฟต์ทำตาวาวใส่ฟ้าใสอีกแล้ว แล้วทำเป็นเผลอให้เจ้าเจอาร์จับ

“เปลี่ยนเล่นโยนบอลกันเหอะ” ฟ้าใสรีบพูดชวน ถ้าไม่เปลี่ยนฟ้าใสขึ้นจากสระจริงๆด้วย ไม่อยากอยู่ในสถานการณ์น่าหวาดเสียว
เด็กคงหนีกันพอเหนื่อยแล้วมั๊ง เลยเปลี่ยน ตั้งวงโยนรับส่งลูกบอลซึ่งตอนหลังเปลี่ยนเป็นขว้างอัดใส่กันแทน
ซึ่งเป็นฟ้าใสที่เริ่มขว้างอัดใส่พี่ลิฟต์ก่อน ร่างควายๆบึกๆแบบนั้น โดนไปก็ไม่รู้สึกหรอก

เล่นกันจนเกือบ3ชม.ฟ้าใสเลยชวนเด็กๆขึ้น เดี๋ยวมือเปื่อยหมด ฟ้าใสต้อนเด็กไปอาบน้ำ สระผมล้างคลอรีน
เด็กเล่นสบู่เหลวแชมพูอีก ฟ้าใสก็ล้างตัวมั่ง  ห้องอาบน้ำจะมีแค่ม่านพลาสติกกั้น

“อาบด้วยคน” เสียงตัวหน้าด้านทุ้มนุ่มกระซิบข้างหู

“พี่ไม่ต้องตลกเลยอ่ะ ออกไปเลย” ฟ้าใสก็พยายามเอามุกทำตลกสู้ไอ้ของแข็งที่แกเบียดมาชนหน้าต่อหน้าลำตัวต่อลำตัว
ฟ้าใสรีบเอื้อมแขนไปเปิดม่านให้เปิดคาไว้

“ชอบโชว์เหรอ ไม่รู้นะเนี่ย” คนหน้าด้านยังมีแก่ใจแซวฟ้าใส

“จะบ้านะสิ” ฟ้าใสรีบเบี่ยงตัว ด้านได้จริงพี่แก ฟ้าใสเดินมาดูห้องเด็กๆ

“เล่นพอยัง...ไปได้แล้ว” ฟ้าใสยืนสั่งเด็กที่ปากประตู ดูมันเล่นกัน เจ้าเจอาร์กะเจ้าเนียซอวดหนอนแข่งกัน

โอยบ้านนี้ เลี้ยงไม่เหมือนบ้านฟ้าใสนะโว้ย อ่ะ ไอ้ด้านตัวพ่อมาอีก
ไอ้พี่ลิฟต์มายืนข้างฟ้าใส เห็นเจ้าเจอาร์เจ้าเนียซอวดหนอนกัน เจ้าอิ๊กคิวแกไม่ต้องไปยุ่งของเค้านะเฟ้ย

“ของน้าใหญ่กว่า” อ๊าค!!! ไอ้หน้าด้าน สิ้นเสียง ไอ้เจ้าเนียซตัวพี่มันห้าวทะลึ่งอยู่แล้วรีบเอามือมาเหนี่ยวกางเกงพี่ลิฟต์ 

ฟ้าใสเลยรีบคว้าอิ๊กคิวออกมาพาไปแต่งตัว ท่ามกลางเสียงฮือฮา โอ้โฮ ของเจ้าเจอาร์เจ้าเนียซ
โดยมีเสียงหัวเราะหึ หึ ของคนหน้าด้านตามหลัง


TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3(28/09/12)(update)
เริ่มหัวข้อโดย: whipcream ที่ 28-09-2012 03:54:36
พี่สาวคนเก่งของไขหายไปเลยอ่ะ เห็นตอนแรกก็ขยันกันท่า ปกป้องน้องชาย นี่ซมซานกลับมาบ้านพี่สาวก็ไม่มีบทบาทใดๆอีกเลย เหมือนโตแล้วก็ชีวิตใครชีวิตมันเหรอ สนุกค่ะเรื่องนี้ เลยอินมากไปหน่อย เกลียดโพดชั่วกับเด็กไร้ยางอาย น่ารังเกียจ ลิฟท์น่าขยะแขยงที่สุด ขวัญก็เสื่อม  รู้ความเลวร้ายแต่ไม่ไยดี อยากให้ไขไปเมืองนอกซัก 3 ปี กลับมาเริ่ดๆมั่นๆ เข้มแข็งกว่าเดิม คอยดูความหายนะของคนไร้มโนสำนึก  :m16:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3(28/09/12)(update)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 28-09-2012 11:06:43
อยากเห็นหนอนน้าลิฟต์ด้วยคนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
 :z1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3(28/09/12)(update)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 28-09-2012 11:34:28
งืม ๆ เหมือนไขเริ่มมีใจให้ลิฟท์เลยอะ  :serius2:
พี่โมงของนู๋อยู่ใหน  :z3: :z3:

ขอบคุณมากๆค่ะ เป็นกำลังใจให้    :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3(28/09/12)(update)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 28-09-2012 11:37:20
คนเขียนเจ้าคะ ไม่เอาลิฟต์นะคะ
ลิฟต์บ้ามีลูกมีเมียแล้วยังมาตอดเล็กตอดน้อยฟ้าใสอยู่ได้
เราเกลียดคนไม่ซื่อสัตย์กับคู่ครองเป็นที่สุด คุณจะได้เขามาแบบไหนโดยวิธีใด
คุณก็ต้องรับผิดชอบเขา ให้เกียรติเขา และซื่อสัตย์ต่อเขาดิ แบบลิฟต์นี่ไม่ไหว ไม่ชอบ
ถ้าฟ้าใสจะมีคู่ขอแบบมีคุณสมบัติดีๆแบบพี่โม่ง
แต่ไม่มีพันธะใดๆกับใคร แบบโสดสนิทนะเจ้าคะ(555อินเกิ๊น ยังกับว่าในชีวิตจริงทุกอย่างเราเลือกได้เนอะ)
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.1(ต่อ)(28/09/12)(((อัพต่อ)))
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 28-09-2012 12:15:49
((ต่อ))

งานที่เชียงใหม่เสร็จแล้ว

พ่อของโภชน์ขึ้นมาตรวจงาน รู้สึกพอใจ ถึงแม้หลายอย่างในการดำเนินชีวิตของลูกชาย จะไม่ใช่อย่างที่คาดหวัง
แต่นั่นหากเป็นทางเลือกของเจ้าตัว พ่ออย่างเขาจะทำอย่างไรได้ เพราะตัวเขาเองก็แอบมีบ้านเล็กที่แม่ของโภชน์ยังไม่รู้
โดยที่ลูกชายของบ้านเล็กนั้นก็มีอายุเพียง10ขวบ ที่แม่โภชน์จับได้นั่นเป็นเพียงคนใหม่ๆน้องๆหนูๆที่ช่วยสนับสนุนการศึกษาเท่านั้น
เรื่องที่ลูกชายขอลองทำกิจการที่เชียงใหม่ เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร คงต้องให้น้องชายของภรรยามาช่วยงานแทน

“แชท เมริงว่าบ้านที่นั่นโอเคไหม” โภชน์เอ่ยถามแชท เกี่ยวกับบ้านเช่าที่ลิฟต์แนะนำให้สำหรับทำเป็นสตูดิโอของตัวเองบ้าง

“ฮื่อ...” คนตอบคำถาม คิด ถ้าตอบอย่างอื่นแล้วเมริงจะฟังกรูไหม เขาเองก็รู้นิสัยมัน ถือความคิดตัวเองเป็นใหญ่

เดี๋ยวนี้รอบตัวดูวุ่นวาย ทั้งที่ดูด้วยสายตามันก็เหมือนไม่มีอะไร ขวัญเมียเขาก็ดูเหมือนเข้ากันได้กับครอบครัวใหม่ของไอ้โภชน์
มีการชวนไอ้อายไปเที่ยวผับดังในเชียงใหม่ ไอ้อายที่อายุไม่ถึงน่ะเหรอ ก็ไม่ใช่ปัญหา เจ้าของร้านส่วนใหญ่ก็เป็นคนรู้จักกันทั้งนั้น

แต่เขารู้จักเมียตัวเองดี ขวัญไม่ชอบคนทั้งคู่อย่างไรก็ยังเป็นอย่างนั้น
ไอ้โภชน์ที่มันลองมาอยู่ที่นี่ก็เพราะขวัญไปพูดทำนองท้าทายมัน ถ้าไม่มีพ่อมันบ้างล่ะ ต้องทำอะไรเอง
 มันเลยอยากโชว์พาวเวอร์ตัวเอง

 ส่วนเด็กอ็อตนั่นคงเสียความรู้สึกกับอามันที่เอาไอ้อายเลยกลับบ้านไปเป็นทหาร


โภชน์ตัดสินอยู่ทำงานที่เชียงใหม่ต่อ ทั้งอยากทำงานศิลปะให้ใครๆประจักษ์ในฝีมือ ทั้งไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับทางบ้านมากเท่าไหร่
ที่บ้านเขาดูไม่ค่อยมีใครชอบไอ้อายนัก ด้วยมันถือว่าเป็นคนของเขา ทานอาหารที่บ้านก็ไม่ช่วยหยิบจับอะไรเลย ทั้งที่ตอนที่อยู่ที่เกาะ
เขาก็เห็นมันทำโน่นทำนี่ได้ อยู่ที่กรุงเทพ ก็มีเพื่อนโทรมาชวนไปเที่ยวจนเที่ยงคืนตีหนึ่งทุกวัน ไอ้พีม ไอ้แพรว แขวะได้ก็แขวะ
ใช้ไอ้อายหยิบของ ไอ้อายมันก็ไม่ยอมหยิบให้อีก กรูละเบื่อพวกมัน จะแอนตี้อะไรนักหนาว่ะ ดีว่าอย่างน้อยก็มีแม่ที่อย่างไงก็เข้าข้างเขา
.
.
.
.
หลังจากฟ้าใสกลับมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ญาติทางพ่อที่ทำพวกหนังก็เลยติดต่อมาอีก ชวนไปช่วยดูแลจัดของประกอบฉาก
และช่วยเทคแคร์พวกนักแสดง โดยเฉพาะช่วยกันแม่นางเอกดาราวัยรุ่นไม่ให้จุ้นจ้านนัก  หนังเรื่องนั้นน่ะทำงานกันไปจนเสร็จแล้ว
แต่ก็มีถ่ายซ่อม ตอนทำงานจริงทุกอย่างก็ดี จะเบื่อตรงไอ้นักข่าวที่มันชอบแต๊ะอั๋ง จับโน่นเบียดนี่ น้องช่างผมช่างหน้า
ทั้งกระเทย ผู้หญิงโดนหมด ไม่เลือกจริงๆ

“ฮัลโหล พี่ลิฟต์เปล่าครับ” ฟ้าใสโทรหาพี่ลิฟต์เค้าเองอ่ะ มันก็มีเหตุอ่ะ ก็เพราะฟ้าใสต้องไปอยุธยาตอนตี2นะสิ
เพราะพี่เขานัดกองไว้ ตี 4-5 พี่ก็ชวนมาด้วยกันตั้ง 4-5ทุ่ม แต่ฟ้าใสไม่เอาดีกว่า ไม่งั้นเลิกงานก็ต้องแกร่วรอเก็บฉากเก็บไฟ
หลังจากเสร็จงานบ่าย ขามาฟ้าใสขับรถเอง พอขากลับ พี่ลิฟต์แกขับรถให้

“ไข ง่วงก็หลับไปได้นะ”

“ฮื่อ...งั้นขอไขพักสายตาหน่อยนะพี่ เดี๋ยวพอใกล้ถึงกรุงเทพฯ ไขขับเองก็ได้” วันนี้วันธรรมดา ช่วงกลางวันรถราไม่มากมาย
ฟ้าใสเอนปรับเบาะ ผ่านไปจนรู้สึกตัว ว่ามีอะไรมายุ่งอยู่กับกับหน้าตัวเอง

“อื้อ..อื้อ..”ฟ้าใสครางอู้อี้ เมื่อทั้งปากทั้งจมูกสูดดมนัวเนียบนใบหน้า เมื่อลืมตาตื่น ใบหน้าได้รูป ส่งยิ้มมาให้

“ตื่นแล้วเหรอ พี่ก็ไม่อยากปลุกหรอก แต่ ตากับยาย เขาถามว่าทานอาหารมาหรือยัง เขาจะได้ทำให้ทาน”
ลิฟต์พูดไปก็ยิ้มไป ฟ้าใสก็งงเป็นไก่ตาแตก  ตากับยายไหนว่ะ ไอ้พี่ลิฟต์ไปเอาญาติอะไรมา
อย่าบอกนะว่าฟ้าใสเกี่ยวข้องกับคนที่มีญาติอยู่ที่อยุธยาอีกแล้ว



TBC...

เดี๋ยวมาต่ออีกฮะ ขอเป็นช่วงเย็นค่ำ
พรุ่งนี้จะไปเที่ยวต่างจังหวัด คงหายไปหลายวันนะครับ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.1(ต่อ)(28/09/12)(((อัพต่อ)))
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 28-09-2012 12:39:46
 :haun4 :haun4: :haun4: :haun4:


มาต่อนะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.1(ต่อ)(28/09/12)(((อัพต่อ)))
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 28-09-2012 12:43:12
เอ๊า..ฟ้าใสจะหนีลิฟต์ไม่พ้นหรอเนี่ย ไม่เอานะจ๊ะคุณคนเขียน
แบบลิฟต์นี่ขอให้เป็นแค่พี่ชายได้ปะ ในส่วนที่ดูแลเทคแคร์ฟ้าใสดีก็โอล่ะนะ(หรือทำเพราะหวังผลหว่า)
แต่นี่มันเจ้าเล่ห์นี่นา ฉวยโอกาสตอนฟ้าใสหลับพาแว่บไปไหนต่อละเนี่ย (หรือทำเพราะหวังผลหว่า)

ปล. รักตายเลยคนเขียนขยันอัพแบบนี้น่ะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.1(ต่อ)(28/09/12)(((อัพต่อ)))
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 28-09-2012 13:11:43
ไขเอ้ยไปไหนกะเฮียลิฟท์บ่อยจัดอะ จะรอดมะเนี่ย  :เฮ้อ:

ขอบคุณมากค่ะ ขยันเป็นที่สุด ชอบอะ ไปเที่ยวเดินทางปลอดภัยจ้า  :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2(28/09/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 28-09-2012 22:55:09
CH.2

ฟ้าใสมองดูรอบตัว มีหมู่ของบ้านเรือนไทย 6-7หลังท่ามกลางแมกไม้ สไตล์รีสอร์ท  เรียงราย ซ้ายขวา รถมินิฟ้าใส
มันคงสมชื่อ เมื่อไอ้พี่ลิฟต์อธิบายสั้นๆว่า “หลง” ป้ายที่อ่านออกใกล้กับที่รถจอดอยู่ “บึงบัว โฮมสเตย์”

“พี่ เราอยู่ไหนกันน่ะ พี่ขับทะลุกระจกทวิภพ มาเหรอ” ฟ้าใสมองหน้า พูดประชด

 คนตัวโตทำหน้ายิ้มกรุ่มกริ่ม
พอมองรอบตัว ข้างหน้า มองไปก็เห็นบึงบัวสมชื่อ
รอบข้างซ้าย ขวาก็เป็นบรรยากาศธรรมชาติ ต้นไม้น้อยใหญ่ ส่งกลิ่นหอม ทั้งต้นปีป พิกุล แก้ว กระดังงา สลับ
หมู่เรือนไทยภาคกลาง หลังใหญ่บ้าง ขนาดกะทัดรัด พักแบบครอบครัวเล็กๆบ้าง
มองไปก็ไม่เห็นทางไปถนนใหญ่เลย

“นี่คือการลักพาตัวมา แต่ไม่มีเรียกค่าไถ่ มีแต่จะยอมจ่ายค่าสินสอด ฮ่า ฮ่า พี่ไม่ได้เจตนาลักพาตัวมาหรอก” คนพูดแววตาแพรวพราว ก้มบอกที่ข้างหู

“ไม่ต้องพูดเล่นเลยพี่ เราอยู่ที่ไหนเนี่ย”

“ดูเหมือนว่าเราอยู่กันแถว บางปะหันน่ะ พี่เห็นป้ายบอกทางว่าอีก4 กิโลจะถึงอ่างทอง พอเห็นป้ายของที่นี่ เลยแวะเข้ามาจะถามทาง”

ฟ้าใสได้ยิน เลยค้อนตาคว่ำ

“โห พี่ เดิมเราอยู่แค่ เสนานะพี่  พี่ไม่รอออกลพบุรีเลยล่ะ จงใจเปล่าเนี่ยะ”

“55 ลงมาเหอะ งานก็เสร็จแล้วเที่ยวต่ออีกหน่อยจะเป็นไรล่ะ น่า น่า” ร่างสูงเปิดประตู ทำท่าจะรวบตัวคนนั่งขมวดคิ้ว
อุ้มออกมา ทำให้ฟ้าใสรีบลุกออกมาเอง

“แล้วตายายอะไรนั่นที่พี่ถามล่ะ”

“อ๋อ แกเป็นเจ้าของที่นี่ ลูกสาวแกเป็นคนทำ เสาร์ อาทิตย์ถึงจะมา แกก็อยู่เฝ้าดูแล เห็นมีเด็กคอยช่วยอีก2คนแน่ะ
ไขก็ไปเดินดูสิ มีพายเรือเล่นด้วย” ลิฟต์จูงมือหนุ่มร่างบางให้เดินตามตัวเองไป ฟ้าใสมัวแต่มองรอบตัวจนลืมว่าโดนจับมืออยู่


“ตื่นแล้วเหรอจ๊ะ” เสียงทักจากคุณยาย ที่ยืนสั่งเด็กให้เอาของที่เก็บจากสวนไปวางในครัว ทำเอาฟ้าใสต้องยิ้มอายๆ

“เอ่อ ครับ”

ฟ้าใสกับลิฟต์ ตกลงทานอาหารง่ายๆกัน

พอคุยได้ความว่าลูกสาวแกทำไว้ แต่ลูกสาวแกทำงานที่กรุงเทพ แกก็ชวนให้พัก พร้อมกับแนะนำที่ท่องเที่ยว
ถ้าอยากนั่งเรือเที่ยวชมวิถีชีวิต แกก็จะจองให้ แล้วก็แนะนำที่เที่ยววัดโบสถ์ ตลาดน้ำ วัดตาลเอน ที่มีค้างคาวแม่ไก่เป็นร้อยๆตัว

 ซึ่งพี่ลิฟต์สนใจอยากไปดู ไหนๆก็ไหน พี่ลิฟต์เลยบอกเอางี้เราค้างที่นี่สักคืน แล้วพรุ่งนี้จะได้เที่ยวที่อยุธยาต่อ ฟ้าใสดูบ้านแล้ว
ถ้าไม่ใช่ตอนนี้ก็อาจไม่ได้มาอีก เพราะที่เราขับมา เราก็ไม่รู้ทาง  แล้วก็ช่วยอุดหนุนตายาย ที่ชวนเรากินเม็ดบัวด้วย

เอาก็เอาว่ะ ค่าที่พักก็โคตรถูกเลยอ่ะ คืนละ350 มีแอร์ ก็500 พอถามเรื่องอาหาร ยายจะเป็นคนทำเอง อยากทานอะไรก็สั่งได้
ถ้าเราขับรถไปดูค้างคาวเสร็จ กลับมาเย็นๆค่ำๆแกจะเตรียมอาหารมื้อเย็นไว้ให้ พี่ลิฟต์เลยตกลงตามนั้น

ตอนไปดูค้างคาวกันก็มองหา ฮู้ เต็มไปหมดจนนึกว่าไม่ใช่ เป็นหมื่นๆแสนๆตัวเปล่าเนี่ย พอพลบค่ำ มันก็บินไปหากินดำพรืดเป็นสาย

เมื่อกลับมาถึงตายายเตรียมเมนูไว้ให้เป็น ต้มยำปลาม้า ไข่เจียวฟูปู กุ้งทอดกระเทียม  ผัดดอกขจร หอยแมลงภู่ผัดฉ่า
ถามว่าจะทานเลยไหม พี่ลิฟต์เลยบอกขออาบน้ำก่อนดีกว่า ดีว่าโฮมสเตย์มีทั้งเสื้อยืดที่ระลึกและกางเกงเลขาย

พี่ลิฟต์ให้ฟ้าใสอาบก่อน ขณะที่ฟ้าใสนุ่งผ้าเช็ดตัวพันเอวเดินเข้ามาในห้อง ด้วยว่าความเป็นบ้านไทย ประตูที่อาจมีช่อง
ถึงจะเป็นห้องแอร์ก็เถอะ  ปรากฏว่ามีแมลงสาบบินมาเกาะที่ผ้าเช็ดตัวฟ้าใส แล้วมันก็เตรียมตัวออกไต่ แค่พอมันเกาะปุ๊บ
ฟ้าใสก็จะช็อคตายอยู่แล้ว ก็กลัวแมลงสาบที่สุดเลย งูยังไม่กลัวนี้ ฟ้าใสเลยรีบสะบัดผ้าเช็ดตัวออกทิ้งไว้ที่พื้น
แน่นอนฟ้าใสก็ล่อนจ้อนน่ะสิ พี่ลิฟต์แกก็หันมาจ้องฟ้าใส หลังจากสะบัดผ้าขนหนูทิ้ง ฟ้าใสเลยรีบกระโดดดึ๋งดึ๋ง เผ่น 
หนีแมลงสาบขึ้นเตียงรีบดึงผ้าห่มมาปิดคลุมโปง พี่ลิฟต์แกเลยอ้าปากตาค้างแล้วปล่อยหัวเราะ
ฟ้าใสเลยบอก พี่พี่ตีแมลงสาบทีดิ ลิฟต์เลยเดินไปจัดการ ไอ้แมลงสาบตัวดีซะบี้แบน หลังจากทิ้งศพมันไปแล้ว

“เอ้า ออกมาได้แล้ว พี่จัดการมันเรียบร้อยแล้ว” เหลือแต่ยังไม่ได้จัดการคนกลัวแมลงสาบเท่านั้นร่างใหญ่แอบคิดในใจ

ลิฟต์ยืนคอยคนตัวเล็กค่อยๆโผล่จากผ้าห่ม รายการอาหารที่คุณยายเจ้าของโฮมสเตย์เตรียมไว้ อยากจะขอละไว้ก่อน
ขอกินร่างบางที่มุดอยู่บนเตียงก่อนได้ไหม

“พี่ทิ้งไปแล้วล่ะ” ลิฟต์ยืนถือชุดสำหรับเปลี่ยนให้ แน่นอน โนอันเดอร์แวร์
สายตาที่ลามเลียสำรวจผิวเนียน ทำเอาฟ้าใสรีบสวมเสื้ออย่างรวดเร็ว

“พี่ก็รีบไปอาบน้ำดิ”

คนตัวโตหยิบผ้าเช็ดตัว  ฟ้าใสเห็นยิ้มแกแล้ว เริ่มหนาวอีกแล้วโว้ย


TBC....


 :z1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2(28/09/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: timvasabi ที่ 28-09-2012 23:20:05

ท่าจะไม่รอดนะฟ้าใส นู๋อย่าใจง่ายนะ ม่ายเอานะ

อยากได้คนรักจริงให้ฟ้าใสจัง
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2[ต่อ](29/09/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 29-09-2012 01:58:01
((ต่อ))

หลังจากเราทานข้าวใต้แสงตะเกียง โรแมนติกโคตร ใครเป็นแฟนกันนี่ กลิ่นดอกไม้สารพัด ยิ่งต้นแก้ว
ที่ปลูกได้รับการดูแลอย่างดี ส่งกลิ่นหอมขจรขจาย  พี่ลิฟต์เด็ดมาวางไว้ที่หมอนของฟ้าใสด้วย
เวลาอยู่กะแกเนี่ย ฟ้าใสรู้สึกเหมือนตัวเองได้อารมณ์สาวน้อยโดนจีบ แม้ว่าพยายามทำตัวปืนเกลียว
ว่ากรูรุ่นเดียวกันบ้างนิดๆหน่อยๆนะ แต่ว่าสู้อะไรเค้าไม่ได้สักอย่าง โดยเฉพาะหุ่นล่ำๆ

พอ3ทุ่มกว่าเราก็ขึ้นเรือนเข้านอนเพราะเกรงใจตายายที่ต้องมานั่งคุยเป็นเพื่อน ทั้งที่ก็อยากนั่งเล่นซึมซับกลิ่นอายธรรมชาติ
 
ตายายและคนอื่นจะพักเรือนอีกเรือน ที่เรานอนจะเป็นเรือนไทยหลังใหญ่ ที่แบ่งเป็น4ห้อง

ท่ามกลางแสงจันทร์ที่ทอแสงผ่านหน้าต่าง

ฟ้าใสนอนตะแคงหันหลังให้พี่ลิฟต์ ฟ้าใสนอนไม่หลับ ใจก็เต้นตุบตับอย่างรู้ชะตา แกก็ตื้อมา
แทบจะทั่วทุกภาคประเทศไทยแล้วนะ พี่ลิฟต์ขยับมากอดฟ้าใส ร่างที่มีมัดกล้ามแข็งแกร่งโอบกอดฟ้าใสไว้

“ฟ้าใส ให้พี่ได้ไหม” เสียงนุ่มกระซิบข้างหู ริมฝีปากเริ่มคลอเคลียที่ซอกคอ มือที่ลูบไล้ใต้เสื้อยืดเนื้อบางของฟ้าใส

ฟ้าใสไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร น้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันก็กร่อน ใช่ไหม ก็คงเหมือนฟ้าใส เคยมีคนนอนกอด เคยมีคนเคียงข้าง
ให้อบอุ่นใจ พูดคุย หยอกล้อเล่น มีริมฝีปากหนากระซิบสัมผัสชักชวนไปเที่ยวเล่นแดนสวรรค์ หลายเดือนที่ขาดหาย
 หลายเดือนที่มีคนเพียรพยายามจะเข้ามาเติมเต็ม ไม่เคยใช้กำลังบังคับทั้งที่สามารถทำได้

พี่ลิฟต์รั้งร่างฟ้าใสให้แนบสนิทกับลำตัวเขาแน่นมากขึ้น ท่อนแขนหนาโอบรอบเอวบางรัดตรึงกับท้องน้อยของกายแกร่ง
ฟ้าใสรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของพี่ลิฟต์ที่แข็งขืนเบียดก้นกลมของฟ้าใส  ปลายลิ้นที่เริ่มไล้เลียนัวเนียที่หู
ทำให้ฟ้าใสเสียวซ่านสะท้าน มือที่บดขยี้ติ่งเม็ดยอดอก ทำให้ฟ้าใสต้องส่งเสียงครางในลำคอจนต้องเอามือตัวเองปิดปากไว้

 พี่ลิฟต์เริ่มจับตัวฟ้าใสให้เอียงหน้าแล้วกดจูบอย่างแผ่วเบาและเริ่มหนักขึ้นส่งลิ้นรุกระราน ร่างกายที่เคยรับสัมผัส
เริ่มตอบสนอง ความต้องการในธรรมชาติของมนุษย์ปุถุชน ลิ้นเล็กเข้าพัวพันเกาะเกี่ยวลิ้นใหญ่
มือที่ลูบไล้เนื้อเนียนตามกายของร่างบาง ลูบผ่านสะโพกมน สอดเข้าในกางเกง ค่อยๆคลายมัดปม ปลดรูดลง

พี่ลิฟต์ใช้ทั้งปากทั้งจมูกจูบไล่ดอมดม ริมฝีปากอิ่มแดงระเรื่อ ซอกคอขาวเนียน ทุกส่วนทุกสัมผัส แวะวนที่ยอดอก ระเรื่อยไล่ลง
หน้าท้อง อ้า...พี่ลิฟต์ใช้ริมฝีปากจูบสัมผัสที่ฟ้าใสน้อยค่อยใช้ปลายลิ้นแลบเลียจนมันสั่นระริกเยิ้มฉ่ำ ยังไม่เคยมีใครใช้ปาก
ทำให้ฟ้าใสเลย ฟ้าใสจับหัวพี่ลิฟต์ไว้ ทั้งอายทั้งเสียว ยิ่งเมื่อพี่ลิฟต์เข้ายึดฟ้าใสน้อยไว้ในปากจนมิด ลิ้นหนาไล่ตวัดไล้
จนปวดเกร็งอยากระเบิดออก แต่จังหวะที่ผ่อนหนักเบาพยายามดึงเกมส์เอาไว้ ปากหนารูดขึ้นลงดูดดุน ฟ้าใสได้แต่ครวญคราง
ทั้งทรมานปวดหน่วง แอ่นกายรับ ความรู้สึกต้องการไปให้ถึงฝั่งฝัน ทำให้ฟ้าใสต้องผงกตัวกระซิบบอก

 “ทำให้ฟ้าใสด้วย ได้โปรด พี่ลิฟต์” สีหน้าแววตาที่แสดงความปรารถนาราวถูกดูดวิญญาณ

ลิฟต์ใช้ปากทำให้ฟ้าใสจนเสียวซ่านอย่างมากด้วยความชำนาญในเชิงชาย แม้ยังไม่เคยลองกับหนอนน้อยของใครมาก่อน

 ด้วยประสบการณ์เซ็กซ์อย่างโชกโชนของตัวเอง และเคยแอบลักหลับฟ้าใสมาก่อนถึง 2ครั้ง แต่ในครั้งที่ 3 เกือบถูกจับได้
ดีว่าเขาอาศัยความระแวดระวังตัวเป็นนิจ ประสาทสัมผัสที่ไวในยามที่ทำตัวเป็นแมวขโมยปลาย่างจากเจ้าของร้าน
ที่มันละเลยปลาย่างของมัน แต่ก็ยังไม่วายปล่อยมือ วันนั้นดีว่าเขาสังเกตและเตรียมมองลุ่ทางไว้แล้ว เพียงแค่กระโดดลง
จากหน้าต่างก็สามารถอ้างได้ว่าเข้าห้องน้ำด้านหลังบ้าน ประกอบความใสซื่อของเจ้าตัวที่นอนหลับลึกไม่รู้เรื่อง ทำให้เขารอดตัว

ลิฟต์กระแทกปากรูดเร้นดูดเจ้าตัวเล็กอีกไม่กี่ครั้ง ฟ้าใสก็ปลดปล่อยความอัดอั้นอย่างกลั้นไม่อยู่ ของเหลวขาวข้นถูกปล่อยออก
พี่ลิฟต์ยังมีแก่ใจใช้ปลายลิ้น กวาดเลีย หยอกเล่นกับส่วนปลายของฟ้าใสอีก โดยไม่ได้รังเกียจ
ฟ้าใสเสียวสะท้านจนต้องจิกหัวพี่ลิฟต์ประคองหน้าขึ้นมาดูดปาก พร้อมกับเบียดให้ใสน้อยของเขานอนสงบ
ใกล้กับยักษ์ที่รอออกมาอาละวาด

เมื่ออาภรณ์ทั้งหมดถูกปลดเปลื้อง ร่างกำยำล่ำด้วยมัดกล้ามเฉกเช่นผู้ที่ชอบออกกำลังกายผงาดเหนือร่างบางผิวกาย
ขาวเนียนนุ่ม แม้ร่างบางก็เป็นเช่นชายหนุ่มน้อยทั่วไป หากใบหน้าหวานสวยโดยเฉพาะยามที่สติเตลิดด้วยแรงปรารถนา
ตาที่ฉ่ำปรือ ริมฝีปากที่เว้าวอนด้วยเสียงครางจากความรัญจวน

“...อา...อู...อา...” ความร้อนรุ่มพลุ่งพล่าน

ลิฟต์ถอนนิ้วออกทีละนิ้วอย่างช้าช้า...เจลหล่อลื่นที่เตรียมไว้
ลิฟต์ค่อยๆจ่อกดเปิดทาง

“เจ็บหรือเปล่า” ลิฟต์ถามพร้อมคอยสังเกตท่าทางของคนตัวเล็ก เสียงเขาเองค่อนข้างสั่นด้วยความตื่นเต้น
นี่ก็เป็นครั้งแรกของเขาด้วยที่เพิ่งเคยทำแบบนี้กับผู้ชายด้วยกัน

มายก็อด!!! ฟ้าใสได้เปิดซิงพี่ลิฟต์ ฟ้าใสต้องรับผิดชอบพี่เค้านะ

ความรู้สึกที่แน่นคับ ช่องภายในที่ตอดรัด แทบอยากกดกระแทก จะช้าหรือเร็วต่างก็สร้างความเสียวซ่านดีจนอยากหลั่งออกมาทันที
จะจอดคาก็ยิ่งคันเนื้อคันตัว คนตัวเล็กน่าจะปรับตัวเข้ากับขนาดของเขาได้แล้ว
ลิฟต์ขยับตัวดันเข้าไปอย่างช้าๆจนมิดลำแท่ง เสียงผ่อนลมหายใจค่อยจากทั้งสองร่าง
สนิทแนบแน่น ร่างกำยำเริ่มกดเน้นถอนออกช้าดูท่าที สะโพกแกร่งเริ่มจังหวะเข้าออก ฝ่ามือใหญ่กอบกุมแก่นกายเล็ก

“อือ...อ๊ะ..อา..” ฟ้าใสหอบสะท้าน หายใจติดขัด

ลิฟต์กดจนลึก ถอนออก กระแทกซ้ำ ความสุขสมอยู่ไม่ไกล
เสียงเนื้อกระทบเนื้อ สะโพกแกร่งไหวร่อนกระแทกเข้าออกมิรู้เหน็ดเหนื่อย

ฟ้าใสตื่นเอาเกือบเที่ยง ก็พี่ลิฟต์ที่ไม่ยอมปล่อยตัวฟ้าใสเลย ทั้งคืน คนไม่เคยเจอของฟิตๆก็อย่างงี้แหล่ะ
ฟ้าใสเดินออกมาอาบน้ำ แต่งตัวเดินลงมาข้างล่าง ก็เจอพี่ลิฟต์นั่งคุยกะคุณตา แกรีบเดินมารับฟ้าใสที่เชิงบันได

ถ้าอุ้มฟ้าใสได้แกคงทำ แต่ฟ้าใสก็เขินคุณตามาก จึงบอกว่าเดินได้เดินเอง แกเลยไปชงกาแฟมาให้ ฟ้าใสนั่งจิบกาแฟไป
ก็ก้มหน้าไม่ค่อยสบสายตาคุณตาเท่าไหร่  ก็ฟ้าใสก็ไม่ล่ะว่าเมื่อจะมีเสียงลอดออกหรือเปล่า แล้วไหนยังเรือนไทยอีก
แค่เวลาเราเดินพื้นยังสะเทือนมีเสียงบ้าง ดีที่เมื่อคืนไม่มีแขกอื่นพักด้วยมีแค่เราห้องเดียว

พี่ลิฟต์ถามว่า “คุณยายเค้าทำข้าวต้ม จะทานสักหน่อยไหม หรือจะเอาขนมปังปิ้ง”

เค้าจะมีเช็ตบริการตัวเองวางไว้ทั้งขนมปัง
เครื่องปิ้ง ขวดแยมต่างๆ พร้อมกาแฟ
ฟ้าใสก็เห็นว่า เอาข้าวต้มหน่อยก็ดี ทั้งก็ไม่ค่อยได้ชอบพวกข้าวตัมเครื่องเท่าไหร่ แต่ยายเค้าทำไว้ ก็เอาก็ได้
คุณตาเลยลุกเดินไปบอกเด็กให้ยกมาให้
ไอ้สายตาคนที่มันหลงอะไรมันเป็นอย่างงี้เอง ฟ้าใสมองหน้าพี่ลิฟต์ ก็สายตาที่แกมองฟ้าใส

“พี่แล้วเดี๋ยวมีโปรแกรมอะไรต่ออ่ะ” ว่าแล้วฟ้าใสก็หยิบพวกโบรชัวร์ที่วางๆอยู่บนโต๊ะ คุณตาคงเอามาให้พี่ลิฟต์ดู

“เอ๊ย!!!อยากขี่ช้างอ่ะ” ฟ้าใสก็พูดขึ้นแต่เมื่อนึกได้ ว่า... คงปวดสะโพกแน่เลยอ่ะ เลยบอก “เอ่อ..ไม่เอาดีกว่า”

เราไม่ได้มาวันเสาร์อาทิตย์ ฉะนั้นตัวเลือกเลยไม่มีมากนัก
พี่ลิฟต์บอกตาบอกว่า ร้านอาหารอร่อยอยู่หน้าวัดไชยแน่ะ หอยจ๊อ ปูจ๋า เค้าอร่อย เดี๋ยวพาไปกิน ฟ้าใสก็ตาลุกกระหยิ่มยิ้มย่อง

“แล้วคืนนี้ค้างต่ออีกคืนไหม” หนุ่มหุ่นกำยำทำไก๋ถาม

“โอ่ย...ไม่ได้อ่ะ ไม่ได้บอกที่บ้านนะพี่ กลับดีกว่า” คนชะตาขาดไปแล้วตอบอย่างพวกห่วงบ้าน

“แหม น่าเสียดาย เห็นคุณตาบอกว่าหลานแกจะเอาปลาม้ากับกุ้งแม่น้ำมา ให้อีก”

อ๊าค ไอ้พี่ลิฟต์บ้า เอาของกินมาล่อ แต่ในใจฟ้าใสก็เห็นภาพต้มยำน้ำใสมีเนื้อปลาม้าใสกิ๊ง มะนาวพริกเม็ดเดียว สดๆหอมจะตาย
 เวลากินอะไรที่ต่างจังหวัดเนี่ยะแหล่ะ แค่แตงกวาก็สดเหลือล้ำ

ฟ้าใสมองหน้าคนที่เอาของกินมายั่ว แล้วก็ตัดใจ ก็อยากอุดหนุนตายายอ่ะให้มีรายได้เยอะกว่านี้นอกจากค่าที่พักแค่คืนเดียวเอง
กับเสื้อยืดกางเกงเล แต่ทำไงได้ พักแค่คืนเดียวก็นอกโปรแกรมแล้ว

คุณตาเลยบอกให้เราต้องรีบไปนะถ้าจะไปกินร้านหน้าวัด เพราะของเค้าจะหมดเร็ว บางทีเลยบ่าย2แล้ว ปูจ๋าอาจหมดแล้ว
ฟ้าใสเลยรีบโซ้ยข้าวต้มให้หมด จะได้ขึ้นไปเก็บกระเป๋าที่ก็ไม่มีอะไร เพราะเราก็ไม่ได้เตรียมอะไรมา

ฟ้าใสขึ้นไปหยิบกระเป๋า เลยหันไปถามพี่ลิฟต์ว่า “เดี๋ยวเก็บของแล้วเอากระเป๋าพี่ลิฟต์ลงมาเลยล่ะกันนะ”
ก็พี่ลิฟต์จะได้ถามทางไปวัดไชย เพราะเมื่อวานพี่แกก็ขับหลง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทางไหนเข้าเมืองออกเมืองหรือกลับกรุงเทพฯ
ฟ้าใสเก็บเสื้อที่วางผึ่งไว้ ทั้งของพี่ลิฟต์กับฟ้าใส เก็บพวกของกระจุกกระจิกยัดใส่เป้ เตรียมคว้าเป้พี่ลิฟต์สะพายบ่า
ปรากฏ พี่ลิฟต์ก็เดินขึ้นมา แล้วก็เข้ามากอด เอาปากมาแปะซอกคอ

“โอ่ยๆ...เดี๋ยวก่อนพี่” ฟ้าใสรีบบอก โธ่...เฮียใจเย็นๆเดี๋ยวร้านปิด เอ๊ยไม่ได้ห่วงกินขนาดนั้น – แหะ แหะ แต่ใจจริงห่วงครับ
 กลัวไม่ได้กินหอยจ๊อ กะปูจ๋า จริงๆ

“ขอกอดหน่อยนะ...ฟ้าใส ไม่ค้างต่ออีกคืนเหรอ” พูดไปพี่แกก็ไม่เสียเวลาเปล่า มือก็สอดในขอบกางเกงฟ้าใสต่อ

“เอ๊ย...พี่ รีบไปกันเหอะ น่า น่า นะ...อุ..” ปากหนาตามมาปิดปากฟ้าใสที่กำลังเร่งให้รีบไปกันเหอะ อื้อ  อือ

พี่ลิฟต์พยายามจูบรุกหนักขึ้น จนฟ้าใสต้องยอมโอนอ่อน จูบตอบ เพื่อจะหาโอกาสชิ่งถอนออก จนฟ้าใสถอนปากออกมาได้
เลยจูบตอบแกที่แก้มไปที ซอกคออีกที

“นะไปกันเหอะ เดี๋ยวกลับบ้านไปค่อยว่ากันนะนะ” ฟ้าใสรีบหามุกมาเอาตัวพี่แกออกจากตัวฟ้าใสแล้วก็ห้องนี้ก่อน
ก็คุณตาแกก็นั่งอยู่ข้างล่าง ขืนทำอะไรแซ่บๆซี๊ดๆ ลงไปได้จะเอาหน้าไปไว้ไหน

พี่ลิฟต์มองหน้าฟ้าใส ไอ้พี่ลิฟต์เอ๊ย บอกก่อนนะ ฟ้าใสไม่ได้เล่นของใส่แกเลยนะ แกทำหน้าเหมือนตายอดตายอยากมาจากไหนว่ะ

“อ่ะ พี่” ฟ้าใสส่งกระเป๋าให้ลิฟต์ถือเอง ซึ่งเจ้าตัวก็รับไปโดยดี


หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2[ต่อ](29/09/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: timvasabi ที่ 29-09-2012 02:45:19
น่านนนนนนนน ไปซะแล้ว
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2[ต่อ](29/09/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: lunar ที่ 29-09-2012 07:52:33
ภาคแรกฟ้าใสได้ผัว 2 คน คนแรกโดนข่มขืน คนที่ 2 เต็มใจ

ภาค 2 ต่อเนื่องจากภาคแรก ได้มาอีก 1 คน ฟ้าใสบอกโดนข่มขืน
และยอมให้เค้าข่มขืนต่อมาเรื่อยๆ จนโดนโละ

ภาค 3 ได้มาอีก 1 คนโปรยมาตั้งแต่ภาค 2
คนนี้ฟ้าใสยินยอมพร้อมใจหลังจากเล่นตัวนิดหน่อย

ไม่เข้าใจว่าคนแต่งจะสื่ออะไรให้เข้าถึงชื่อเรื่อง
ทั้งๆที่เนื้อหาตรงกันข้าม

ติดตามต่อไปว่าภาคที่ 4 5 6 7....ว่าใครจะมาเป็นผัวฟ้าใส
ถึงตอนนั้นฟ้าใสยังจะฟิตอย่างที่คุยไว้หรือเปล่าและหวังว่า
ฟ้าใสคงจะเติมรักใสใส่หัวใจสองดวงได้สำเร็จ
และหวังอีกว่าหัวใจดวงที่สองที่ฟ้าใสจะเติมรักใสใส่ให้นั้น
เค้าจะเห็นความใสในตัวฟ้าใส มองข้ามอดีตของฟ้าใสไป

เอาใจช่วยฟ้าใสให้หาหัวใจดวงนั้นเจอเร็วๆ ก่อนจะเปลืองตัว
เปลืองใจไปมากกว่านี้

ฟ้าใส สู้ สู้ ไฟต์ติ้ง

 :pig4:



หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2[ต่อ](29/09/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 29-09-2012 09:26:11
ภาคแรกฟ้าใสได้ผัว 2 คน คนแรกโดนข่มขืน คนที่ 2 เต็มใจ

ภาค 2 ต่อเนื่องจากภาคแรก ได้มาอีก 1 คน ฟ้าใสบอกโดนข่มขืน
และยอมให้เค้าข่มขืนต่อมาเรื่อยๆ จนโดนโละ

ภาค 3 ได้มาอีก 1 คนโปรยมาตั้งแต่ภาค 2
คนนี้ฟ้าใสยินยอมพร้อมใจหลังจากเล่นตัวนิดหน่อย

ไม่เข้าใจว่าคนแต่งจะสื่ออะไรให้เข้าถึงชื่อเรื่อง
ทั้งๆที่เนื้อหาตรงกันข้าม

ติดตามต่อไปว่าภาคที่ 4 5 6 7....ว่าใครจะมาเป็นผัวฟ้าใส
ถึงตอนนั้นฟ้าใสยังจะฟิตอย่างที่คุยไว้หรือเปล่าและหวังว่า
ฟ้าใสคงจะเติมรักใสใส่หัวใจสองดวงได้สำเร็จ
และหวังอีกว่าหัวใจดวงที่สองที่ฟ้าใสจะเติมรักใสใส่ให้นั้น
เค้าจะเห็นความใสในตัวฟ้าใส มองข้ามอดีตของฟ้าใสไป

เอาใจช่วยฟ้าใสให้หาหัวใจดวงนั้นเจอเร็วๆ ก่อนจะเปลืองตัว
เปลืองใจไปมากกว่านี้

ฟ้าใส สู้ สู้ ไฟต์ติ้ง

 :pig4:


คิดเหมือนกันเลย ดีนะที่คุณคิดส์โดนชะนีข่มขืนแล้วชิงตัวไปซะก่อน ไม่งั้นคงได้คุณคิดส์แถมมาเป็นออฟชั่นเสริม

คิดไม่ออกว่าฟ้าใสใจอ่อนเกินไปจนใช้ร่างกายเปลือง หรือว่าไอพวกคนที่เข้าหาฟ้าใสเพราะมันคิดถึงเรื่องอย่างนั้น
แค่เพียงเรื่องเดียว
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2[ต่อ](29/09/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 29-09-2012 10:22:23


ว่าแล้วเชียว ไม่รอดจนได้ ใสเอ้ยจะชำหมดแล้วมะเนีย แต่ก็นะอุตส่าห์เฝ้ามาตั้งแต่ภาค 2 ก็ยังไม่ทำไรมากมาย ก็ยอมๆ คุณลิฟท์อีกซักคนก็แล้วกัน แต่อย่ามีมากกว่านี้เนอะ ฟ้าใสกว่าจะถึงพี่โมง อิอิ แต่ก็ชอบอะไม่หักหาญน้ำใจ ดูจะเป็นสุภาพบุรุษหรือเปล่าหว่า ถ้าจะจากก็จากกันด้วยดีเนอะ อย่าทำให้ฟ้าใสเจ็บอีก ดูจะอินเกินไปแล้วเหมือนเป็นฟ้าใสเองเลย 555+ แต่ชอบอะ

ขอบคุณคนแต่มากๆๆๆจ้า มาต่ออย่างต่อเนี่องเลย เที่ยวให้สนุกแล้วกับมาต่อซัก 10 ตอน อิอิ
 :L1: :pig4: :L1: + :3123:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2[ต่อ](29/09/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 29-09-2012 11:04:05
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2[ต่อ](29/09/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 29-09-2012 15:17:58
 :เฮ้อ:ไม่รอดจากพี่ลิฟต์จริงๆนะฟ้าใส
 ฟ้าใสก็ยังเป็นฟ้าใสที่ไม่ค่อยทันคน ดูแลตัวเองไม่ค่อยได้ ต้องอิงคนอื่นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนหนอ
แล้วเมื่อไรฟ้าใสจะมีใครซักคนที่เป็นของฟ้าใสจริงๆจัง แบบต่างคนต่างรักกัน อยู่ดูแลกันไป
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2[ต่อ](3/10/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 03-10-2012 01:19:07
ไปเที่ยวยังไม่กลับฮะ แต่พอแวบมาอัพเพราะพกเน็ตบุ๊ตไปด้วย
แอบเพื่อนมานั่งเขียน โดนลากให้นั่งคุย ต้องแกล้งทำเป็นหาวๆๆๆๆ
 ขอไปนอน เลยได้มาเท่านี้


(ต่อ)
เมื่อกลับมาถึงกรุงเทพฯ   
ฟ้าใสเอาของฝากไปให้บ้านแม่เสร็จนั่งคุยสักพัก ก็ออกมาที่ร้าน พี่ลิฟต์นั่งที่โซฟาจิบกาแฟ สูบบุหรี่ ฟังเพลงโปรดของฟ้าใสอยู่
พี่ลิฟต์ตบที่ขาให้ฟ้าใสไปนั่งตัก บ้าสิ ฟ้าใสไม่ใช่เด็กนะ  ฟ้าใสก็แค่นั่งข้างๆพอ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายไม่พอ
จับฟ้าใสดึงไปนั่งตักจนได้ แล้วกอดฟ้าใสไว้ ฟ้าใสเลยเอนซบๆกับอกล่ำๆไป โดนหอมที่แก้มที ฟ้าใสก็หอมตอบไปที

มันเหมือนเราเล่นไล่จับกัน แล้วจนในที่สุดฟ้าใสก็ถูกจับจนได้

ฟ้าใสเองก็ไม่ได้เป็นเพื่อนพี่ลิฟต์มาก่อน เพิ่งรู้จักกันไม่ถึงปีก็แค่ที่มาบ้านในฐานะเพื่อนไอ้โภชน์เท่านั้น 
มาตอนที่ไอ้โภชน์เริ่มห่างเหินฟ้าใส ฟ้าใสก็รู้สึกว่าโดนตามป้วนเปี้ยนรอบๆตัวฟ้าใสบ่อยขึ้น
แล้วทำตัวเป็นเพื่อนในยามที่ฟ้าใสไม่มีไอ้โภชน์อยู่ข้างกาย และพยายามรุกฟ้าใสเต็มที่ ซึ่งที่ผ่านมา

แรกๆฟ้าใสก็ตอบสนองไม่ได้หรอก ถึงจะชอบเซ็กซ์ที่มีคนทำให้ แต่ไอ้การจะมีอะไรกับใครโดยที่เราไม่นิยมชมชอบเค้านี่ก็ไม่ไหว
 โดยเฉพาะฟ้าใสที่นิยมความเก่ง ทางใดทางหนึ่ง หรือเราต้องเห็นข้อดีของเขาจนฟ้าใสยอมรับในตัวตนของคนๆนั้นได้
แต่ด้วยความที่แกก็นัวเนียใกล้ชิดจนสนิทกันขึ้น เวลาที่ฟ้าใสทำงานมีปัญหา ปรึกษาพี่ลิฟต์ก็สามารถช่วยตอบโจทย์ให้คำแนะนำได้

ไอ้หลงแบตหมดอายุ จอดสตาร์ทไม่ติด ก็โทรตามมาช่วย

ไปจอดรถซื้อของในเขต1กิโลรอบบ้านเฮีย  กลับมาก็เจอโน๊ตคิดถึง เห็นกระดาษขาวเสียบที่ปัดน้ำฝน ตกใจนึกว่าโดนใบสั่ง
อะ…อะ…อ้าว กลายเป็น เลิฟเล็ตเตอร์



ฟ้าใสอิงซบอยู่กับอกแกร่งเปลือยเปล่า  ฟ้าใสยังมีใครสักคนที่อยู่กับฟ้าใส ให้ความอบอุ่น ให้ความรู้สึกที่ว่าฟ้าใสยังที่ต้องการ

“ไปนอนกันเถอะ” พี่ลิฟต์กระซิบที่ข้างหู หลังจากบุหรี่ที่สูบหมดมวนลง ฟ้าใสไม่ตอบ แต่ก็กระชับมือที่โอบกอดเอวไว้
พี่ลิฟต์จึงลุกขึ้นและอุ้มฟ้าใสไปที่เตียง เพลงรักที่เริ่มจากแผ่วเบาและเริ่มหนักแน่นขึ้นเมื่อปลายลิ้นที่ซอกซอนในโพรงปาก
มีการตอบสนองดึงดูดซึ่งกันและกัน ร่างกายที่เบียดเสียด โอบกอดรัดแน่น บ่งบอกถึงความต้องการของคนทั้งคู่
ฟ้าใสไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า พี่ลิฟต์ทำให้ฟ้าใสมีความสุขได้มากกว่าที่ฟ้าใสเคยได้รับ คนมากประสบการณ์ใช้ปากลากลีลา
ทำให้ฟ้าใสถึงกับปลดปล่อยความสุข
.
.
.
.
ใครที่ฉลาด ใครที่เก่ง ฟ้าใสก็ถือว่าเขาโชคดี
แล้วยิ่งถ้าใครได้เจอรักแท้ รักยืนยง ก็ยิ่งโชคดีใหญ่บึ้ม
สำหรับฟ้าใสเลิกเชื่อถือกับเรื่องความรักไปแล้ว

“รัก”น่ะเหรอ ทำไมฟ้าใสจะไม่เคยได้ยินได้รับจากปากไอ้โภชน์
10จูบที่นิ้วเท้า10จูบที่นิ้วมือ ทุกอย่าง ฟ้าใสไม่เคยเรียกร้องบีบบังคับให้จัดให้
เพียงมีเขาคนเดียว หรือขอเป็นคนสำคัญที่สุด ก็ยังไม่ได้ นี่น่ะหรือความรัก มันไม่มีอยู่จริง
.
.
.
ฟ้าใสคบพี่ลิฟต์ โดยที่ไม่ได้บอกที่บ้าน หรือเอาไปปรากฏตัวให้เห็น บ้านฟ้าใสก็ถือว่าเป็นเขตหวงห้าม
ที่เขาไม่อยากให้ใครๆเข้ามา ยังอยากเก็บไว้เป็นที่พิเศษเหมือนเดิม

การมีใครสักคนเคียงข้าง เห็นความสำคัญบ้าง ทำให้ฟ้าใสไม่รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า หรือถูกทิ้ง
ก็เข้มแข็งเท่าที่ทำได้ ใช้ชีวิตต่อไปดังเช่นที่เคยเป็นมา เกิดมาคนเดียว ตายก็คนเดียว

ยามมีความสุขได้ ก็ใช้ความสุขหล่อเลี้ยง
อีกฝ่ายที่ให้เหตุผลว่าเมียพี่ให้ความสุขไม่ได้ พาให้ฟ้าใสปิดตาไปข้างหนึ่งด้วย
และคิดว่าตัวเองก็จะไม่ไปก้าวก่ายกับครอบครัวพี่ลิฟต์
และแน่นอนก็หวังว่าพี่ลิฟต์ก็ห้ามมายุ่งกับบ้านฟ้าใสด้วยเช่นกัน

ฟ้าใสก็ดูจะมีความสุขดีกับวิถีชีวิตแบบนี้
สนุกสนานกับเพื่อนฝูงทั้งกลุ่มเพื่อนจากโรงเรียนเก่า และกลุ่มเพื่อนที่อาร์ต อาร์
กับคุณคิดส์ก็ยังคบหาเป็นเพื่อน ส่งงานให้กันบ้าง
และกับไอ้พี่ลิฟต์ ที่ฟ้าใสมีความสุขร่วมกัน

“ไข่ ไปเที่ยวบ้านพี่วุ้นเส้น ไหม ไปขี่จักรยานเล่นกัน” แชมพูชวน

“เอาดิ” ตกลงง่ายมาก ทำไมตรูใจง่ายอย่างงี้ ช่างเถอะ สงสารมันเด๋วมันไม่มีเพื่อน

“หมูแฮมมันให้มาชวนไข่ด้วยนะ เพราะไอ้หมูแฮมมันไม่สนิทกับพี่วุ้นเส้น แต่ วันยังไม่กำหนดนะเฟ้ย ไอ้ไข่เมริงอย่าเพิ่งรับงานนะ”

“เออ เออ รู้น่า”


ในที่สุดก็ได้กำหนดวันมา ฟ้าใสรีบส่งแบบเสื้อยืดให้พี่เก๋

“พี่เอาไป20แบบไปก่อนนะพี่ ไอ้พูมันชวนเที่ยวอ่ะ”

“ได้ ได้ ไข่ พี่เอาไปเสนอเขาก่อน เที่ยวให้สนุกล่ะ”


อ่ะมีอีกสายที่ต้องโทรบอก

“อะโหล พี่ลิฟต์ ไขไม่อยู่นะ จะไปเที่ยวกับแชมพูกับหมูแฮม”

“อะไร!!! ไปไหนน่ะ” เสียงตกอกตกใจจากคนแมนเกิน100 อะไรว่ะ ตรูไม่ใช่เด็กแล้วน่ะเฟ้ยเด๋วก็ไว้หนวดไว้เคราซะหรอก
(ได้โดนคุณนายพรรณด่าเปิง แค่ขนจั๊กกะรู้ คุณนายพรรณก็เพียรจะให้ฟ้าใสโกน มิใยฟ้าใสจะเอ่ยอ่อยๆว่า
เพื่อนผู้ชายฟ้าใสเขาไม่โกนกัน แม่พรรณก็บอกว่านั่นมันเขา แต่นี่ตัวเรา จะไว้ทำไม ไม่สะอาด สะสมกลิ่นเหงื่อไคล
เฮ้อ...ทำตามไป เพื่อความสบายใจของแม่เจ้า เวลาฟ้าใสโดนบ่น จะคอยมีตัวหนึ่งที่แอบหัวเราะ อิอิ ข้าวปั้นไง
ตอนเย็น ถ้าฟ้าใสไม่ออกไปไหน ก็คงเข้าไปทานมื้อเย็นที่บ้านแม่ ร่วมกับป้าๆ)

“ไขจะไปเที่ยวสุโขทัยนะพี่”

“ไปกี่วัน” โห ฟ้าใสมีผู้ปกครองอีกคนแล้วเหรอ “จะไปน่ะ ไม่ชวนพี่บ้างเหรอ” อ้าวเฮ้ยมีต่อว่าตัดพ้อกันด้วยโว้ย

“ไปสัก2-3-4วัน เค้าไปแบบหญิงๆกันน่ะพี่ ไอ้แชมพูมันชวนบอกพี่วุ้นเส้นแฟนคุณคิดส์ชวนมันอีกที แล้วหมูแฮมก็ให้ชวนไขอีกคน”

 ก็ตรูน่ะโดนรวมเป็นกลุ่มหญิงไปซะแล้ว

“พี่ก็รู้จักไอ้คิดส์นี่นา แชมพูก็เคยเที่ยวที่ไปดำน้ำด้วยกัน น่า พี่ไปด้วยดิ แล้วงวดนี้ไปสุโขทัยจะเที่ยวอะไรเหรอ”

“อ๋อ พี่วุ้นเส้นเค้าไปเข้ากลุ่มพวกขี่จักรยานเสือภูเขา คุณคิดส์แกอยู่บ้านเลี้ยงลูก ไอ้แชมพูมันเจอพี่วุ้นเส้นตอนลงมากรุงเทพเลยคุยกันก๊ะเลยชวนกัน มันก็เลยลามมาถึงไข”

“งั้นพี่ไปด้วยคนสิ อยากไปบ้านไอ้คิดส์มั่ง” ตอแหลเปล่าพี่ ไปแล้วไปช่วยคุณคิดส์เลี้ยงลูกนะ


ร่างบุคคลสี่คนนั่งคุยกันกับพื้นมีกระดาษกล่องปูพื้นกันก้นกระเทือน ที่ตู้สัมภาระของขบวนรถไฟ จุดมุ่งหมายของทริปนี้คือ
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ซึ่งเกิดขึ้นเพราะพี่วุ้นเส้นชวนไอ้แชมพู ไอ้แชมพูก็ชวนหมูแฮมที่อยากพักผ่อนบวกกับใช้วันลา
แต่ตัวเองไม่ได้สนิทกับพี่วุ้นเส้นกลัวเหงาเลยชวนไอ้ไข่อย่างกระผมมาคลายเหงา
 
ไอ้เราก็โทรไปลากลับกลายเป็นโทรไปลากเฮียมาด้วยซะอีก
เลยเกิดเป็น หนุ่มสาวสองคู่มานั่งเม้าท์ เฝ้าจักรยานในตู้รถไฟ
.
.
.
“ดูลูกดีดีนะ” เสียงสั่งส่งท้ายกำชับจากพี่วุ้นเส้น
“เหอะน่า ไปได้แล้ว” เสียงเตือนจากคุณพ่อโคตรใจดี ต่อไปคุณคิดส์คงเลี้ยงลูกแบบตามใจสุดๆ สายตาส่งมาให้
บอกความปรารถนาดีที่เห็นฟ้าใสมีความสุข
ขบวนการเดินทางเริ่มขึ้น หมูแฮมท้ายสุด โดยมีฟ้าใสอ่อนแรงเป็นเพื่อน

“ปล่อยบ้าพลังอย่างไอ้แชมพูมันไปเหอะ” ฟ้าใสปลอบใจหมูแฮม

พี่วุ้นเส้นกับแชมพูจะขี่กันเต็มที่สมใจอยากของตนเอง ฟ้าใสกับหมูแฮมก็ขี่กันเต็มที่เท่ากำลังตัวเองเหมือนกัน แต่ผลมันต่างกัน 555

ส่วนเฮียลิฟต์น่ะเหรอ แกก็ขี่สองรอบขี่ไปเกาะกลุ่มเสร็จคอย ถ้าฟ้าใสกับหมูแฮมนานไม่มาซะทีก็ขี่ย้อนกลับมาดู
น่าๆโตๆกันแล้ว โทรศัพท์ก็มี หายไปนานก็เพราะหวานเย็นข้างทางมันน่ากินต่างหาก


TBC....
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2[ต่อ](3/10/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 03-10-2012 10:11:49
 :z13: จิ้มก่อน

ว้าว ว้าว น้องใขมาต่อแล้ว เย้

ขอบคุณมากๆค่ะ เที่ยวให้สนุกจ้า ว่างก็ชะแว๊บมาต่อ อิอิ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
 :L1: :pig4: :L1: + :3123:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2[ต่อ](3/10/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 03-10-2012 10:37:59
อ๊ะๆ ฟ้าใสมาแล้ว นิดเดียวก็ยังดีนะ
ก็ไม่รู้ว่าการคบกันของฟ้าใสกับพี่ลิฟต์ตอนนี้ อนาคตจะเป็นอย่างไรเนาะ
เพราะฟ้าใสก็คงมองแค่ความสุขที่มีที่ได้ในขณะนี้ ส่วนพี่ลิฟต์เองก็มีข้ออ้างว่า "เมียพี่ให้ความสุขไม่ได้"
มันคือข้ออ้างของผู้ชายที่มีเมียทุกคน แล้วอยากลอง อยากมีของใหม่ๆไว้ลิ้มลองหรือเปล่านะ
ก็ได้แต่หวังว่า คนนี้คงไม่มาสร้างปัญหา หรือพาความทุกข์ใจมาให้อีกคนนะฟ้าใส
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2[ต่อ](3/10/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: timvasabi ที่ 03-10-2012 10:58:12
ก็คงได้แต่หวังว่า ฟ้าใสจะไม่ถูกฟันแล้วทิ้งเหมือนเดิมนะ (คำอาจรุนแรงไป ==' )

ไม่รู้ว่าเรื่องนี้นักเขียนต้องการสื่อให้เห็นถึงอะไร ถึงคนหนึ่งๆที่ดูใสๆแต่ผ่านอะไรมาเยอะรึป่าว
แล้วเป็นข้อคิดตอนสุดท้าย หรือว่ารักใสๆทั่วไป
เราอยากรู้อะ ^^
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2[ต่อ](3/10/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 03-10-2012 12:37:10
ตอนนี้มีความสุขก็ดี แต่ไม่อยากคิดถึงอนาคตว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ว่าแต่ ไอชั่วโภชน์ กับ อิ(หน้าไม่)อาย มันมรนังไปยังง่ะ อยาก
รู้
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2[ต่อ](3/10/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 03-10-2012 12:47:23
ก็คงได้แต่หวังว่า ฟ้าใสจะไม่ถูกฟันแล้วทิ้งเหมือนเดิมนะ (คำอาจรุนแรงไป ==' )

ไม่รู้ว่าเรื่องนี้นักเขียนต้องการสื่อให้เห็นถึงอะไร ถึงคนหนึ่งๆที่ดูใสๆแต่ผ่านอะไรมาเยอะรึป่าว
แล้วเป็นข้อคิดตอนสุดท้าย หรือว่ารักใสๆทั่วไป
เราอยากรู้อะ ^^
อยากบอกออกไปให้หมดเหมือนกันฮะ แต่ก็...เดี๋ยวก็หมดกันเลย
บอกเพียงว่า อยากเขียนให้เห็นถึงคน...เพราะคนเขียนรักความเป็น"คน"ของมนุษย์อย่างเราๆมาก
บางคนก็บอกไม่แต่ใจต้องการ บางคนเรียบร้อยแต่ก็เรียบมาเป็นร้อย บางคนดูไม่ดีแต่ก็อาจจะดีกว่าคนที่เราคิดว่าดี
บางคนก็มีเหตุผล แตกต่างกันไป คนเขียนก็เพิ่งเตาะแตะหัดเขียน

จับมือกันติดตามกันต่อไปเรื่อยๆนะครับ อย่าทิ้งกัน
แม้นจะเม้นท์นิดเม้นท์หน่อยเม้นท์แรงเม้นท์เบา ก็เป็นกำลังใจอย่างดี
จะเป็นคนอ่านไม่เม้นท์ก็ยอดจำนวนคนเปิดอ่านที่คนเขียนภูมิใจและดีใจมากๆ
ขอบคุณที่กรุณาติดตาม
 :n1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2[ต่อ](3/10/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 03-10-2012 13:29:55
 :oo1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2[ต่อ](4/10/12) มาอัพต่อสั้นๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 04-10-2012 10:30:16



((ต่อ))
พี่ลิฟต์ พี่วุ้นเส้น ไอ้แชมพู จอดรถคุยกันรออยู่ตรงบ้านตายายปากทางเข้าอุทยาน
ฟ้าใสกับหมูแฮมปั่นกันเต็มที่ 80% 555

“ใครจะไปบ้าปั่น 100% แบบพวกนั้น เนอะหมูแฮม เกิดมีอะไร พวกเราก็ไม่เหลือแรงทำอะไรเลยดิ”

“ใช่ แก เราก็ต้องมีกำลังไฟสำรองดิ”

“โอ้โฮ ไอ้ไข่ ไอ้หมูแฮม มัวทำอะไรอยู่ พี่นึกว่าเราโบกรถกลับบ้านไปแล้วนะ” พี่วุ้นเส้นทักเสียงใส

ฟ้าใส แอนด์หมูแฮมมองหน้ากัน พลางนึก “เออ เข้าท่าเนอะ”

“ไปข้างในกันเหอะ” แชมพูหันมาพยักหน้าชวนทุกคน

ขณะที่เราขี่ผ่านพิพิธภัณฑ์โครงกระดูกมนุษย์โบราณ แชมพูก็ชวนทุกคนแวะดูกัน

พี่วุ้นเส้น พี่ลิฟต์ ดูรอบๆแปบเดียวก็ออก หมูแฮมไม่เข้า นั่งพักรออยู่ข้างนอก มีฟ้าใสกับแชมพูเที่ยวดูโน่นดูนี่ชี้ชวนเดินขึ้นลง

ตึง!!! ฟ้าใสได้ยินเต็มหู ดูเหมือนแชมพูก็ได้ยินด้วย เพราะฟ้าใสเห็นมันมองดูรอบๆ แต่ฟ้าใสเห็นคนที่เข้าชม ดูเฉยๆกัน
ฟ้าใสพยายามนึกถึงที่มาของเสียง แอบลองเอาเท้าเตะขอบปูนบ่อที่ขุดโชว์โครงกระดูก ก็ไม่ใช่
ลองเดินออกมาดูข้างนอก ก็ไม่เห็นมีใครขนอิฐตอกเสา

แชมพูมันต้องได้ยินแน่นอน เห็นมันก็ลองกระทืบๆพื้นเหมือนกัน

“แหะ แหะ เมริงได้ยินอะไรหรือเปล่า” ไอ้แชมพูแอบกระซิบถามฟ้าใส ตอนเดินออกมาด้วยกัน

“ไม่ได้ยินอะไรเลยซักกะตึ้งเดียว” ฟ้าใสก็อยากแกล้งมันนะ แต่ก็สงสาร

“เฮ้ย  เมริงก็ได้ยินใช่ไหม”

“เออ ว่ะ กรูก็มองหา ลองเคาะๆก็ไม่ใช่ว่ะ”

“เออ เออ กรูก็ลองเหมือนกัน”

“ออกไปดูข้างนอกก็ไม่เห็นมีใครทำไรเลย”

“เออ เออ กรูก็ออกมาดูเหมือนกันนั่นดิ”

“งั้นเขาคงทักเมริงกับกรูแหล่ะ”

“นั่นดิ เพราะกรูก็สังเกตคนอื่นนะ ไม่เห็นมีใครทำท่าได้ยินเสียงเลยว่ะ”

“เพราะเมริงแหล่ะไอ้พู ชวน ไม่รู้ล่ะ มีอะไรกรูบอกให้ไปหาเมริงคนเดียวนะเฟ้ย”

“เชรี่ยไอ้ไข่ มาโยนอะไรกรูคนเดียวล่ะ”


หลังจากขี่ตะเวณดูกับจนครบรอบ โดยที่ไอ้หมูแฮมจะจอดนอนเล่นคอยอยู่ข้างนอก ขณะที่คนอื่นจะเข้าไปดูข้างใน

“เข้าลาตายายแกก่อนดิ”

“เออ”

“เดี๋ยว พวกผมจะกลับกันแล้วล่ะครับ”

“หวัดดีครับ /ค่ะ ลานะครับ/ค่ะ”

“แล้วจะไปไหนต่อกันล่ะ”

“ว่าจะขี่ไปทางอุตรดิตถ์กันครับ”

“นี่ก็เย็นแล้วไม่หาพักกันแถวนี้ล่ะ”

“เห็นโรงแรมตรงปากทางเค้าปิดซ่อมแซมนี่ ยาย” พี่วุ้นเส้นตอบ

“ท่าทางหรูด้วย แต่ดีน่ะ ขนาดปิดซ่อมแซมยังเปิดเพลงดนตรีให้คนงานแก้เหงา”

“โอย…แก้เหงาอะไรล่ะหนู ตรงโรงแรมนั่นที่ปากทางหรือเปล่า”

“ใช่แล้วค่ะ”

“มีอะไรเหรอครับ” พี่ลิฟต์เริ่มสนใจถามมั่ง

“ตรงนั้น น้ำมันท่วม เสียหายไปเยอะ เขาเลยปล่อยร้างไว้นานแล้ว เขาย้ายไปทำข้างในแล้วล่ะลูก ดนตงดนตรีอะไรไม่มีหรอก
 ที่นั่นไม่มีหรอกคนงานน่ะ มีแต่เจ้าหน้าที่ของอุทยานขี่จักรยายตรวจผ่านไปผ่านมาด้านนอกเท่านั้น
ยายหมายความให้พวกหนูหาที่พักตรงหมู่บ้านใกล้ก่อน เดี๋ยวพอเลยไปก็ไม่มีอะไรอะไรแล้วล่ะ ทางมันจะมืด อันตราย
รีบหาที่พักก่อน เช้าค่อยออกเดินทางต่อ”

ทุกคนลาตายาย ตกลงขี่เข้าหมู่บ้าน เพื่อหาที่พักหาข้าวกิน พร้อมสำนึกอยู่ในใจ
ฟ้าใสก็พยายามคิดว่าอาจจะมาจากบ้านอื่นลอยมาตามลมก็ได้
ก็ได้ยินเสียงดนตรีไทยระนาด ปี่พาทย์ กันทุกคนนี่หว่า ตอนนั้นก็ยังไม่เย็นย่ำพลบค่ำซะหน่อย
ก็แค่พวกเราขี่กันเข้าไป ไอ้แชมพูผู้มีประสาทไวต่อทุกสิ่งทุกอย่าง ก็กล่าวชมเสียงที่แว่วมา

“มีเสียงดนตรีไทยด้วย” ทุกคนพยักหน้ารับคำได้ยินกันทุกคน

“ตรงนั้นคงทำเป็นที่พัก” พี่วุ้นเส้นออกความเห็น

“จะเข้าไปดูกันไหมล่ะ” พี่ลิฟต์ฝ่ายสนับสนุน

ฟ้าใสกับหมูแฮม เป็นพวกรอบนอก เมื่อทั้งขี่เข้าไปดูใกล้ๆจึงเห็นป้ายว่าปิดซ่อมแซม ทุกคนจึงชวนกันออกเดินทางต่อ
แม้แชมพูจะขอแอบแวบไปดูตามบ้านพักที่ห่างจากเรือนหลังใหญ่


พอเราเข้าย่านชุมชนเริ่มเย็นจนจะค่ำแล้ว รีบหาที่พัก ก็เห็นบ้านหลังหนึ่งเป็นโรงแรมเล็กๆ ไม่มีใครพักเลย
มีเจ้าของเป็นผู้ชายอายุสัก 45 ปี บ้านไม้สวย สลัวๆ 2ชั้น เงียบสงบวังเวง หมูแฮม พี่วุ้นเส้น กับฟ้าใสมองหน้ากัน
แต่พี่ลิฟต์ก็ยังชวนฟ้าใสและ แชมพู เดินสำรวจกัน แชมพูก็ชื่นชมชั้นบน หมูแฮมก็อยากอยู่ชั้นล่าง

“มันก็ว่างทั้งหลังนี่หว่า ใครอยากอยู่ห้องไหนก็อยู่แล้วกัน” ฟ้าใสก็รู้ว่าหมูแฮมมันกลัวผี ฟ้าใสก็กลัวน่ะ แค่แหย่เล่นเท่านั้น

“บ้า ไม่เอาด้วย นอนรวมกัน ดีที่สุด” พี่วุ้นเส้นก็ไม่เล่นด้วย

ตกลงเราเลยนอนชั้นบนสองห้อง ฟ้าใสก็นอนกับพี่ลิฟต์ หมูแฮม แชมพู พี่วุ้นเส้นนอนรวมกัน จ่ายเงินเรียบร้อยเก็บของ
ล็อคจักรยาน ถามหาที่กินข้าว พี่เอนกเจ้าของบ้าน บอกให้เดินไปทางซ้าย ถัดไปสัก 5 ห้อง จะมีร้านอาหารตามสั่ง
แต่พอออกมาเราเห็นร้านถัดไปสองห้อง ทางขวาก็มี เลยตกลงกินที่นั่น

“พวกหนูมาจากไหน มาเที่ยวเหรอ พักที่ไหน”

หลังจากทำอาหารให้พวกเรากินเสร็จ ป้าก็มานั่งคุยด้วย

“มาเที่ยวกันครับ/ค่ะ”

“พักที่ไหน หรือจะเดินทางต่อ”

“พักที่โรงแรมใกล้ๆนี่ล่ะค่ะ/ครับ”

“อ๋อ บ้านตาเอนกน่ะเหรอ เออ เออ แม่มันผูกคอตาย บ้านก็เหลือมันอยู่เดียว ก็อย่างงี้แหล่ะ พี่น้องทะเลาะกัน
แม่มันเลยเครียดผูกคอตายชั้นล่าง กว่าไอ้เนกจะตื่นมาเจอ ก็ช่วยไม่ทัน”


เอิ่ม …ป้าเอนจอยเม้าท์ติ้งมาก ไม่สงสารคนฟังกันเลย
ไอ้หมูแฮมหน้าซีด ปากสั่น พี่วุ้นเส้นก็มองหน้าคนโน้นทีคนนี้ที แชมพูฟังเรื่องชาวบ้านอย่างสนใจ

ส่วนพี่ลิฟต์น่ะเหรอ รายนั้นเขาไม่มีความกลัวอะไรหรอก พี่แกเคยนึกอยากลองเดินลงจากดอยตอนเที่ยงคืน
แกก็เดินลงมาแวะนอนในถ้ำบ้าง ชีวิตและสรรพสิ่งล้วนพี่น้องร่วมโลกเดียวกัน

“เอ่อ...ป้า แล้วใกล้ๆแถวนี้มีโรงแรมอื่นมีไหมอ่ะ” หมูแฮมกลั้นใจถามอย่างลุ้นคำตอบ

“โอ๊ย...มีน่ะมี...” หมูแฮมหูผึ่งยกยิ้มขึ้น ตาเป็นประกาย “แต่มันไกลโน้นออกเมืองไปโน้น4-5กิโลโน้น หรือสัก 10 กิโลนั่นแหล่ะ
เป็นพวกโรงแรมม่านรูดน่ะ มีแต่ไอ้พวกเด็กวัยรุ่นน่ะไปใช้ เขาเลยไปสร้างให้มันไกลๆ  อันตรายหนู มีแต่พวกมอเตอร์ไซต์ซิ่ง”

ฟ้าใสกับหมูแฮมหน้าสลดลง เหมือนความหวังริบหรี่
กินเสร็จเดินกลับมา ฟ้าใสกับหมูแฮมเดินคู่กันประหนึ่งคนหัวอกเดียวกัน พี่วุ้นเส้นดูยังพยายามรักษาฟอร์มสดใสกระชุ่มกระชวย
นั่งคุยข้างล่างที่ห้องกลางบ้านมืดสลัวเปิดไฟสีเหลือง สักพัก พี่เอนกก็ขอตัวไปนอน บอกว่ามีอะไรก็เรียก แกอยู่ห้องข้างล่างนี่เอง

“อ้าวพี่  บ้านนี้มันมีอะไรจนต้องเรียกด้วยเหรอ” หมูแฮมแอบกระซิบฟ้าใส

“เมริง พี่เขาจะมีพระให้ยืมแขวนหรือเปล่า” ฟ้าใสกระซิบบ้าง

“เออ นั่นสิ กรูก็ไม่มีอ่ะไอ้ไข่” มนุษย์ผมทรงกะลาครอบตอบ

“แกก็รีบหาเน็ตเปิดหา 100วิธีเอาตัวรอดจากการถูกผีหลอกได้แล้วเว้ย”

“เชรี่ย ปาก…ห้ามเอ่ยเว้ย มาอี๋ เอ๋อ อะไรเมริงนี่ คำต้องห้ามหลังพระอาทิตย์ตกดินนะแก”

“ไข่ หมูแฮม กระซิบอะไรกัน” พี่วุ้นเส้นมาแจมสมาคมปอดแหกมั่ง หลังจากเห็นฟ้าใสกับหมูแฮมกระซิบเอาหัวติดกัน

“พี่วุ้นเส้นมีพระติดตัวหรือเปล่าอ่ะ” หมูแฮมถาม

“ไม่มีน่ะสิ” พี่วุ้นเส้นตอบด้วยสีหน้าสุดแสนเสียใจ “ทำไม ไข่มีเหรอ จะให้ยืมเหรอ”

โอ้โฮ พี่คาดหวังมากมายเยอะไปเปล่าพี่ ตรูก็จะเอาตัวไม่รอด
 แต่เอ...ฟ้าใสว่า ฟ้าใสเคยเห็นพี่ลิฟต์มีนี่นา สร้อยทองเส้นหนาเชียว ตอนสบึมละกึ้ยฟ้าใส
 พี่ทั่นก็เหวี่ยงพระท่านไปไว้ด้านหลังบ้าง ถอดวางไว้ที่หัวเตียงบ้าง ก็หวังว่า พี่ทั่นคงสวมติดตัวมา



TBC.....
จะแต่งแต่ก็ดอง จรดๆจ้องๆ ค้างไว้ เพราะแอบเพื่อนมาแต่งตอนกลางคืน อ่า ตัวเองก็สมาคมปอดแหกเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2[ต่อ](4/10/12) มาอัพต่อสั้นๆ
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 04-10-2012 14:17:48
อยากบอกออกไปให้หมดเหมือนกันฮะ แต่ก็...เดี๋ยวก็หมดกันเลย
บอกเพียงว่า อยากเขียนให้เห็นถึงคน...เพราะคนเขียนรักความเป็น"คน"ของมนุษย์อย่างเราๆมาก
บางคนก็บอกไม่แต่ใจต้องการ บางคนเรียบร้อยแต่ก็เรียบมาเป็นร้อย บางคนดูไม่ดีแต่ก็อาจจะดีกว่าคนที่เราคิดว่าดี
บางคนก็มีเหตุผล แตกต่างกันไป คนเขียนก็เพิ่งเตาะแตะหัดเขียน
+1 ให้กับข้อความนี้


สมาคมปอดแหก อืม ขอสมัครเข้าสมาคมด้วยจิ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2[ต่อ](4/10/12) มาอัพต่อสั้นๆ
เริ่มหัวข้อโดย: timvasabi ที่ 04-10-2012 17:11:44
อยากบอกออกไปให้หมดเหมือนกันฮะ แต่ก็...เดี๋ยวก็หมดกันเลย
บอกเพียงว่า อยากเขียนให้เห็นถึงคน...เพราะคนเขียนรักความเป็น"คน"ของมนุษย์อย่างเราๆมาก
บางคนก็บอกไม่แต่ใจต้องการ บางคนเรียบร้อยแต่ก็เรียบมาเป็นร้อย บางคนดูไม่ดีแต่ก็อาจจะดีกว่าคนที่เราคิดว่าดี
บางคนก็มีเหตุผล แตกต่างกันไป คนเขียนก็เพิ่งเตาะแตะหัดเขียน

จับมือกันติดตามกันต่อไปเรื่อยๆนะครับ อย่าทิ้งกัน
แม้นจะเม้นท์นิดเม้นท์หน่อยเม้นท์แรงเม้นท์เบา ก็เป็นกำลังใจอย่างดี
จะเป็นคนอ่านไม่เม้นท์ก็ยอดจำนวนคนเปิดอ่านที่คนเขียนภูมิใจและดีใจมากๆ
ขอบคุณที่กรุณาติดตาม
 :n1: :pig4:

ค่ะ^^ ติดตามต่อแน่นอนจร้า~

+ 1 >o<

หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2[ต่อ](4/10/12) มาอัพต่อสั้นๆ
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 04-10-2012 18:49:06
รอดูว่า คืนนี้จะมีอะไรให้สมาคมปอดแหกได้รสชาติมันๆให้กับชีวิตบ้างไหม
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2[ต่อ](5/10/12) อัพต่อๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 05-10-2012 14:44:54
กลับมาแล้ว ได้ ABSOLUT ขวดลิตร 490 บาท ติดมือ ฝากเพื่อน 2ขวด
มาลุยนิยายกันต่อล่ะ จะได้ถึงแอพ 4 แอพ 5กัน อุ อุ      :z6:  :z1:
((ต่อ))

ขณะที่เดินขึ้นชั้นบนเพื่อแยกกันไปห้องฝ่ายชาย ฝ่ายหญิง หมูแฮมมองหน้าฟ้าใสอย่างอาลัยอาวรณ์ประสาคนรู้ใจ
ต่างจากสีหน้าร่างใหญ่สูงล่ำ ที่ดูมาดมั่น เมื่อมองที่หนุ่มร่างเล็กเช่นเดียวกัน

บ้านไทย ต่างจังหวัด ไม่มีห้องน้ำในตัว เหล่าผู้หญิงพากันอาบน้ำที่ห้องน้ำชั้นบน ฟ้าใสก็ตัดสินอยู่ว่าจะรอต่อคิวดีไหม
พี่ลิฟต์ ก็ชวนไปอาบข้างล่าง กลัวก็กลัวอ่ะ

“พี่อยู่เป็นเพื่อน” ผู้นำดี ผู้นำเข้มแข็ง ก็น่าสนว่ะ “ไปปล่ะ” มองหน้า เอาก็เอา “พี่เฝ้านะ” ฟ้าใสคาดคั้น

“เออ สิ ไม่หนีหรอก” พี่ลิฟต์อาจจะเป็นคนเฝ้าที่ดีก็ได้ ไม่แกล้งปิดไฟแบบเพื่อนกันที่เล่นแกล้งกัน

“ไปก็ได้พี่.. เกรงใจ เด๋วหาว่ามาด้วยกันแล้วไม่ดูแล” เอาบุญคุณนิดหน่อย

โถงกลางบ้านดูเวิ้งว้าง ชวนนึกถึงบ้านที่ริมคลองสมัยที่เรียนปีสาม 555 ทุกวันนี้ ผิงผิงก็ยังพูดว่า ไม่รู้อยู่กันเข้าไปได้อย่างไง
บรรยากาศ มืดสลัว แน่อยู่แล้ว ฟ้าใสเดินเกาะชายเสื้อพี่ลิฟต์ จับแค่แผ่นหลังของคนเดินนำหน้า ไม่มีวอกแว่กซ้ายขวา
ฟ้าใสก็มีกระจิตกระใจห่วงหมูแฮม ว่ามันจะหัวใจวายหรือเปล่า บางทีมันอาจขออาบพร้อมแชมพูก็ได้

“ไขอาบก่อนนะพี่  เอ่อ...ไม่ปิดประตูแล้วกันนะ พี่อย่าไปไหนนะ พูดส่งเสียงด้วยก็ดีอ่ะ” คำขอจากคนน่าสงสาร
“อึ้ม...ตามสบาย อาบพร้อมกันก็หมดเรื่อง”

“ไม่เอาอ่ะ” ก็น่ากลัวเหมือนกันนะ พี่น่ะ

ซู่ ซู่ ซ่า ซ่า !!!  รีบอาบ รีบถูสบู่ ไม่สะอาดก็ไม่ได้เหงื่อออกทั้งวัน ทั้งฝุ่น ทั้งแดด หัวก็เหนียว สระๆผม เอ๊ะ เสียงเงียบๆ

“พี่ ยังอยู่เปล่า”

“อื้อ…อยู่” อ้า เสียงใกล้มาก ฟู่ ฟู่ มีพลังจิตเหมือนใครจ้องด้านหลัง ช่วงที่ล้างแชมพูออก ไอร้อนจากตรงหน้า
มือหนึ่งที่ถือชาวเวอร์จ่อเหนือศีรษะ  มือหนึ่งยื่นมาช่วยยีแชมพูออก เล่นเอาเฟ้าใสชะงักเมื่อแรกลืมตามาเห็น
เอาว่ะ เคยเป็นพี่น้องท้องติดกัน ใส่ชุดแฮปปี้เบริดเดย์แรกเกิดนอนกอดกันก็เคยแล้ว  ของก็มีเหมือนกัน
ต่างไซต์ต่างความสามารถกันบ้าง

ขณะที่ฟ้าใสกำลังเผชิญมังกรตาเดียวตรงหน้า


ฝ่ายสาวๆข้างบน

“เฮ้ย..น้ำไม่ไหลน่ะ ไอ้แชมพู ดีนะสระผม อาบน้ำจะเสร็จแล้ว....”วุ้นเส้นบ่นดังพอให้ได้ยินถึงคนหน้าห้องน้ำ
 แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากคนข้างนอก จึงส่งเสียงเรียก  “แชมพู หมูแฮม”

“ว่าไงพี่” เสียงแชมพูตอบรับ

“เฮ้ยน้ำไม่ไหลว่ะ”

“อ้าว...สงสัยน้ำอ่อนมั๊งพี่ พวกไอ้ไข่ไปใช้ห้องน้ำข้างล่าง น้ำข้างบนเลยไม่ไหล” ขาดคำ

ซู่!!!!

“อ้าวน้ำมาแล้ว ...อ่ะ..อ้าวหยุดอีกแล้ว” เสียงวุ้นเส้นพูดพึมพำอย่างหงุดหงิด

“อ้าวเป็นไรเปล่าพี่” แชมพูรีบตะโกนถาม แต่คนยืนเคียงข้าง อย่างหมูแฮมเริ่มหน้าซีด บรรยากาศรอบข้างเย็นลง มีลมพัดซู่ใหญ่

“เออ..ยังดีนะ อาบน้ำเสร็จพอดี” วุ้นเส้นเดินออกมาจากห้องน้ำมือหนึ่งใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดผมให้แห้ง  เปลี่ยนชุดเรียบร้อย

“พี่ว่า เราน่ะไปอาบข้างล่างดีกว่า เด๋วเกิดสระผมค้างน้ำหยุดไปจะลำบาก”

“ฮื่อว่างั้นแหล่ะ” แชมพูเห็นด้วย หันหน้าไปทางหมูแฮม “ไปอาบข้างล่างกันเหอะ”

“แก ฉันว่ากรูขอซักแห้งได้ไหม” หมูแฮมลองแยบๆ

“บ้าแล้ว ไอ้หมูแฮม” พี่วุ้นเส้นรีบพูด

“นั่นสิแก เหนียวตัวจะตาย ทั้งเหงื่อทั้งฝุ่น ไปเร็วเหอะ จะได้นอน พรุ่งนี้ออกแต่เช้าเลยเนอะพี่ อยากไปดูพวกหมู่บ้านผ้าทอของไทลื้อน่ะ”

“เออ ก็ได้ เมริงก็เดินนำสิ ไอ้พู” พอโดนยกโปรแกรมเช้าพรุ่งนี้ หมูแฮมพอมีกำลังใจฝ่าฟันคืนนี้ สู้สู้

“แล้วพี่...”

“เด๋วพี่เข้าห้องเลย จะโทรหาคิดส์ หน่อย ถามว่าลูกเป็นไงมั่ง ไม่ล็อคห้องหรอก ที่นี่ไม่มีใคร มีแต่พวกเรา”

เหอ เหอ พี่ มีแต่พวกเราที่ไหนล่ะ มีพวกโน้นพวกนั้นพวกใครที่คุณก็รู้อยู่ ด้วยล่ะ หมูแฮมแอบคิดในใจ

“ฮื่อ..งั้นเด๋วพูกับไอ้หมูแฮมรีบอาบจะได้รีบขึ้นมานอนเลยล่ะกัน” ว่าแล้ว แชมพูก็เดินไปทางบันไดที่ทอดลงไปชั้นล่างอันสลัวแสง
หมูแฮมรีบสาวเท้าก้าวตาม นึกด่าฟ้าใสในใจ ลงไปข้างล่างทำไมไม่เปิดไฟให้มันสว่างๆว่ะ

แชมพูก้าวลงบันได แล้วเหลือบมองไปทางที่พี่วุ้นเส้นเดินไปเข้าห้อง แต่ก็ต้องชะงัก หยุดกึก

หมูแฮมรู้ถึงบรรยากาศเยือกเย็นขึ้น พลอยชะงักตามหันกลับไปมองตามสายตาของแชมพู แล้วก็ขนลุกเกลียว
สายตาที่มองไปเห็น มีเท้าอ่ะ เท้า  ที่ช่องใต้บานประตูที่ลอยยกจากพื้น นิ้วเท้าซีดๆมีเล็บเขียวๆดำๆด้วย เต็มๆตา

หมูแฮมวิ่งก้าวกระโดดคว้ามือแชมพูมาหน้าห้องน้ำ

ลิฟต์ได้ยินเสียงแล้ว จึงบอกให้ฟ้าใสที่นั่งอ่อนเปลี้ยเพลียแรงอยู่ข้างในก่อนไม่ต้องออกมา

“มีอะไรเหรอ” ลิฟต์ที่พันผ้าขนหนูเปลือยอกล่ำ พราวด้วยหยดเหงื่อผสมหยดน้ำ

“ไม่มีอะไรหรอกพี่ ไอ้หมูแฮมมันอยากรีบเข้าห้องน้ำ” แชมพูตอบปัดๆ อย่างไม่อยากย้ำเด๋วยิ่งกลัว

“เมริงไม่ต้องพูดเลย ไอ้แชมพู แกก็เห็นเหมือนชั้น แก็เห็นเท้านั่นใช่ไหม” หมูแฮมเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก ใจก็เต้นระส่ำระส่ายไม่เป็นสุข

ลิฟต์ไม่อยากให้ทุกคนกลัว จึงหัวเราะขึ้นเบาๆ

“โอ๊ย นั่นไม่มีอะไรหรอก ตาฝาดหรือเปล่า คงเห็นเท้าไอ้ไข่น่ะสิ ไข่มันอยู่ในห้องนะ” ลิฟต์พูดทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ

ส่วนคนร่างเล็กข้างในนั่งเอียงหูแอบฟังเรื่องราวอย่างเงียบๆ แต่ก็ทำตาลุกวาวเมื่อได้ยิน
ลิฟต์เห็นหมูแฮมยังทำท่าวิตกกังวล จึงจับสร้อยคอพนมมือไหว้ถอดออก ยื่นให้หมูแฮม

“อ่ะ พี่ให้ยืมไปสวมก่อนก็ได้ เราจะได้สบายใจ” พร้อมยิ้มปลอบใจ เพื่อนเมียก็เหมือนเพื่อนเรา ก็ต้องดูแลกันหน่อย

“โห พี่ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้” หมูแฮมกล่าวอย่างเขินๆ ในความเป็นสมาชิกชมรมปอดแหก ออกตัวนิดหน่อย
 รีบยกมือไหว้ รับคุณพระคุณเจ้ามาอยู่ด้วย “แหะ แหะ ขอบคุณพี่”รับปุ๊บไหว้ปั๊บ สวมสวบ กลัวเจ้าของเปลี่ยนใจ

“เด๋ว ก็อาบน้ำกันไปเถอะ เด๋วพี่ก็อาบเสร็จแล้วว่าซักเสื้อต่อหน่อย จะคอยอยู่แถวนี้เอง อาบกันไปเหอะ”

“ได้ พี่ แท็งกิ้วพี่” เสียงแชมพูเอ่ยด้วยความนับถือในความมีน้ำใจ ทั้งสองจึงเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ถัดไป
หมูแฮมพอมีพระอยู่กับตัว ประกายทอง สร้อยบาทเลี่ยมพระอีกบาท ดูเจิดจ้า ขับไล่บรรยากาศอึมครึมภูตผีสลาย
จนจิตใจกล้าแข็งอาบน้ำเดี่ยวหญิง


ทันทีที่ลิฟต์กลับเข้าไปในห้องน้ำ ฟ้าใสที่ถูกอ้างว่าอยู่ข้างบน ชี้โบ้ชี้เบ้ ชี้สร้อยพระที่เขาเองก็หมายมั่นปั้นมือเป็นที่พึ่ง
ลิฟต์หัวเราะเข้ามาหอมหัวเปียกเกือบแห้งคนตัวเล็ก หยิบชาวเวอร์เปิดรดตัวร่างเล็กอีกครั้ง เล่นระเบิดออกมาซะเกือบถึงคาง
แล้วล้างตัวให้ตัวเองบ้าง

ทั้งสองเปลี่ยนชุดเสร็จก็มายืนคุย จากที่เตี้ยมกันว่าฟ้าใสอยู่ในห้องข้างบน
ฟ้าใสก็เสียดายสร้อยพี่ลิฟต์เหมือนกัน แหมมมมมม....แต่ก็สงสารหมูแฮม พี่ลิฟต์ เฮียก็ใจดีอ่ะสงสารเพื่อนฟ้าใสด้วย เป็นคนดีจริงๆ

“แหม่..เฮียก็ใจดีน๊า” ฟ้าใสเอ่ยชมกึ่งแซว ตบหลังปุปุ “เราก็หวังพึ่ง ให้หมูแฮมมันไปซะแล้ว แต่ก็อ่ะน่ะสงสารหมูแฮมอ่ะ
แล้วคุณเฮียว่าหมูแฮมมันตาฝาดเปล่าอ่ะ” พูดไปฟ้าใสก็ตาเหลือกไปมาทำท่าหวาดๆ

“เฮ้ย!!! ไปพูดไป เด๋วยิ่งกลัวกันใหญ่ ที่นอนก็มีที่นี่ที่เดียว ไม่ทางเลือกอื่นนี่นา


TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2[ต่อ](5/10/12) อัพต่อๆ
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 05-10-2012 16:23:24
น้องใขมาแล้วเย้ ไปเที่ยวสนุกอะเปล่าจ๊ะ อิอิได้แรงบรรดาลใจเยอะ ๆๆเลย รออ่านอีก 10 ตอนรวด 55+

ขอบคุณมากๆๆ ค่ะ  :L1: :pig4: :L1: + :3123:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2 ending (5/10/12) บ้านผีกันต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 05-10-2012 21:16:18
CH.2 ending

((ต่อ))

สองสาวอาบเสร็จ

“สบายตัว กันแล้วนะ” เสียงลิฟต์เอ่ย ฟังราวกับมันแฝงความนัยอย่างไงก็ไม่รู้ ฟ้าใสว่า

“เมื่อกี้ ไข่แกอยู่ในห้องเหรอ” ไอ้หมูแฮมไม่วายเคลงใจ

“เออ ดิ เนี่ยลงมาดูพี่ลิฟต์ เห็นหายไปนาน กลัวพี่เขาเป็นลมเป็นแร้ง เลยต้องลงมาดู ไม่รู้ว่าคุณพ่อมาเฝ้าลูกสาวนี่เอง”

อ้าว ปากเสียนี่หว่าเรา ดันมาพูด พ่อๆ ลูกๆ เดี๋ยวคุณแม่ก็มา กรูหัวใจวายตายพอดี

พอเดินไปถึงหน้าห้องสาวๆ พี่วุ้นเส้นก็เปิดประตูออกมาต่อว่ากึ่งบ่นกึ่งอวด

“ไอ้ไข่ เรานี่ก็เล่นเป็นเด็ก ไอ้พู ดู มัน ไอ้ไข่มันแหย่พี่ แต่พี่ไม่กลัวหรอก นึกว่าพี่จะกลัวล่ะสิ ทำมาเปิดๆปิดๆหน้าต่างห้องพี่”

“โอ๊ยพี่ยังดี ไอ้หมูแฮมสิ แค่เห็นขาไอ้ไข่เดินอยู่ในห้อง มันตกใจลากพูไปหน้าห้องน้ำ แค่3ก้าวเองนะพี่”

เออ เออ พวกเอ็งเก่ง คืนนี้ก็ตัวใครตัวมันแล้วกัน เอาตัวให้รอดกันทุกคนนะ ทั้ง 2เคส น่ะ ไม่ใช่ฟ้าใสทั้งนั้น

อ๊าค!!!!! หมูแฮม เอาพระคืนมานะ  ไอ้พี่ลิฟต์ ฟ้าใสขอให้สิทธิคนสนิท เอาพระมาให้ฟ้าใสสวมเดี๋ยวนี้เลย

หลังจากแยกย้ายเข้าห้อง ฟ้าใสทุบไหล่ลิฟต์

“พี่ เอาไง เนี่ย ไขก็ไม่มีพระเลยอ่ะดิ” หน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่เกรงใจหรอกต่อให้อายุมากกว่า ก็กลัวผีมากนี่
ร่างใหญ่กอดคนตัวเล็ก

“พี่มีวิธีน่า...รู้หรือเปล่า” ลิฟต์กระซิบข้างหูฟ้าใส

“บ้า....จริงอ่ะ หลอกเปล่า”

“เฮ้ย พี่ไม่ใช่ผี ไม่หลอกหรอก”

“โห พี่ ปากเสียว่ะ ไม่รู้อ่ะ ถ้าวันนี้ไขโดนอี๋หลอก โกรธกันเลิกคบไปเลย” กลัวจัดจริงๆขอพาลแล้วกัน

“น่า ทำตามพี่ว่า รับรองได้ผลน่า” ดูท่าจะไม่มีทางเลือก คืนนี้จะมาทำเป็นคอนเวิร์ด ทางใครทางมันไม่ได้แน่
ฟ้าใสยินยอมให้ลิฟต์ถอดเสื้อผ้าจนเหลือแต่ร่างกายเปลือยเปล่าขาวโพลน

“ได้ผลแน่นะพี่”

“แน่สิ” ร่างใหญ่สมส่วนตอบพร้อมเดินไปล็อคประตู

“เนี่ยเหรอวิธีแก้ไม่ให้ผีหลอก แต่ก็หายกังวลเรื่องผีไปได้อักโขเลย แต่ก็เป็นกังวลกับไอ้พี่ลิฟต์นี่แทน
แต่ก็น่าจะรู้นะ พรุ่งนี้ยังต้องปั่นจักรยานกันต่อ ขืนยุ่งกับบั้นท้ายฟ้าใส ก็ระบมแย่อ่ะดิ

พี่ลิฟต์บอกให้ฟ้าใสนอนก่อน ขอสูบบุหรี่หน่อย

ขณะที่ฟ้าใสเคลิ้มใกล้จะหลับ เสียงหมาข้างนอกก็เริ่มเห่า และก็หอนตามมา

โฮ้ง โฮ้ง โบร้ววว!!! เสียงหมาหอนโหยหวน
ฟ้าใสนอนนิ่งตัวแข็ง ค่อยๆรู้สึกตัวขึ้น มือลองควานๆ ข้างตัวว่างเปล่า พี่ลิฟต์ออกไปห้องน้ำหรือเปล่า
เงาตะคุ่มที่หน้าต่างหุ่นล่ำคุ้นตา พอวางใจ ร่างสูงดับบุหรี่ ท่อนบนเปลือยเห็นกล้ามอกชวนอิงแอบเสริมความมั่นใจ

เสียงหมาหอนที่ชวนขนลุก ทำให้ฟ้าใสรีบนอนเบียดร่างใหญ่ทันทีที่เอนกายเคียงข้าง

ทันใดก็มีเสียงฝีเท้าเดินลากเท้า ดัง แสกๆ หนัก เบา สลับกัน ดังจากทางหน้าประตูวนเวียนหน้าห้อง แล้ว ผ่านไปทางห้องสาวๆ
ฟ้าใสหลับตาปี๋ เกาะอกพี่ลิฟต์ เอาให้ห่างจากขอบเตียงมากที่สุด

ร่างสูงยกยิ้มมุมปาก  กอดร่างเล็กแนบอก
พร้อมลงมือถอดกางเกงท่อนล่างของตัวเองออก
สองร่างเปลือยเปล่านอนกอดเคียงกัน มือใหญ่ลูบไล้สะโพกมน
ริมฝีปากประกบปากอิ่ม สอดลิ้น เข้าคลอเคลียลิ้นเล็ก
หลังจากจูบดูดวิญญาณแล้ว ลิฟต์กระซิบข้างหู

“Makelove กันนะ” สิ้นคำเอ่ยจากร่างหนา

ราวกับจ้างมา โบร้วววว!!! เสียงหมาหอนดังย้ำขึ้น ฟ้าใสรีบพยักหน้าตกลง

“นอกจากเราทำอะไรลามกๆกันนะ ยิ่งถ้าไขพูดคำหยาบ คำลามกอีกด้วยนะ ผีมันยิ่งไม่มายุ่งกับเรา”

“โอ่ย ไขพูดไม่เป็นหรอก”

“เถอะน่า อะไรก็ได้ พูดมา ด่าพี่ก็ได้”

“จริงอ่ะ สัสสส”

“อึ่ม...นี่แหล่ะได้” คำหยาบเริ่มกระตุ้นความกำหนัด  เลือดลมเริ่มสูบฉีด  ลิฟต์เบียดมังกรเข้าไถลถลาหนอนน้อย
โชคดีที่เขาได้ทำออรัลให้ฟ้าใส แล้วให้ฟ้าใสใช้มือทำให้เขา ทำให้ลิฟต์ นั่งมองร่างบางเปลือยอย่างใจเย็นได้
ครั้งนี้เขาคงต้องพยายามทำอย่างนุ่มนวลไม่ให้ร่างตรงหน้าระบมนัก พรุ่งนี้ยังต้องขี่จักรยานไปกันอีกไกล
บางที เขาอาจจะโบกรถกระบะให้ฟ้าใสกับหมูแฮมนั่งย่นระยะทางสัก 5กิโล10กิโลก็ได้
เสียงหน้าประตู จะเป็นเสียงแมวเดินใครเดิน เสียงหมาหอน อะไรก็ช่างสำหรับเขา เขาพอใจเสียงจากเจ้าคนตัวเล็กตรงหน้ามากกว่า
ลิฟต์ขยับแก่นกายกลางลำตัวจรดจ่อปากทาง เจลหล่อลื่นที่ชโลมเตรียมพร้อม
ในเมื่อยังไม่พูดคงต้องบิวอารมณ์ มือลูบคลึงสองบอลเล็ก ศีรษะใหญ่ก้มลงต่ำปากหนาซุกหว่างขาครอบครองหนอนน้อย
ที่แสดงท่าทางฮึดฮัด ทำ แต่ไม่ทำให้ถึงที่สุด  ร่างเล็กบอกความทรมาน นิ้วสวยจิกเข้าผม ผงกหัว กระซิบ

“สัสสสส เชรี่ยยย ฮือ ฮือ เอากรูด้วยพี่ลิฟต์”

ลิฟต์เสียบแก่นกายเข้าช่องทางที่ใช้นิ้วเปิดทางพร้อม ซรึบ!!! กดหนัก กดแน่น  ภายในตอดรัด ตุบ ตุบ
อั้ก อั้ก หลังจากโดนกระแทกซ้ำ หนอนน้อยปล่อยของเหลวขาวข้น
ลิฟต์ก้มลงกัดที่ลำคออย่างอดใจไม่อยู่ พอรู้สึกตัวจึงถอนปากออก แต่ก็ไม่วายขบเม้มที่ลาดเนินไหล่อีกหนึ่งดอก
ร่างเล็กดูจะผล็อยหลับ จริงๆเลย สบายตัวเองแล้ว เล่นหนีกันไปอย่างนี้

ก๊อก ก๊อก  ก๊อก ก๊อก  ก๊อก ก๊อก  เสียงเคาะประตูแต่เช้า

ลิฟต์นั่งสูบบุหรี่ จิบกาแฟ ริมหน้าต่าง หันไปดูข้างตัวคนตัวเล็กยังนอนหลับสบาย
ปล่อยให้เพื่อนเข้าคงไม่เป็นอะไรหรอกนะ สนิทกันทั้งนั้น
ลิฟต์เดินไปเปิดประตู สาวสาวเดินเข้ามาดูท่าทางอิดโรย

“อ้าว ไอ้ไข่ ยังไม่ตื่นอีกเหรอ” เสียงวุ้นเส้นทัก คนที่พอได้ยินคนทักก็รีบงัวเงียตื่น
ทั้งสามคนเล่าเมื่อแทบไม่ได้นอน มีเสียงฝีเท้าบริเวณหน้าห้องอยู่ตั้งนาน หน้าต่างด้านนั้นก็เปิดๆปิดๆ
แต่พอช่วยกันสวดมนต์ก็หายไป นอนคลุมโปงกัน จนเพลียหลับไปเอง พอรู้สึกตัวเช้าก็เลยชวนกันมาที่ห้องนี้
ตกลงกันว่าจะรีบออก ไม่อาบน้ำกันแล้ว มีแชมพูแหล่ะที่ไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ แบบตายด้านน่ะ
เทอจะออกแนวปรัชญา มาทำไม มีเหตุผลอะไร ทำไมต้องหลอกกัน อยากให้ช่วยปลดปล่อยวิญญาณเหรอ
ต้องการให้ทำบุญไปให้หรือเปล่าค่ะ แล้วตัวเองยังอยากอาบน้ำแต่จะบังคับให้คนอื่นไปด้วย

หลังจากเก็บของ ใครจะอาบพี่ลิฟต์ก็ไปคอยเป็นเพื่อนให้ จนเรียบร้อย ขณะลงบันไดไม่มีใครมองไปที่ห้องใดหรือช่องใต้ประตู
พี่วุ้นเส้นมีสะดุดบันไดก้าวพรวด 2ขั้น แล้วก็คงมีแต่พวกสอดรู้อยากเห็นอย่างพี่ลิฟต์หรือไอ้แชมพู
ทั้ง ห้าคนลาพี่อเนก เจ้าของโรงแรมที่คงทำหน้าแบบ ก็มันเป็นแบบนี้ เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา ช่วยไม่ได้ รู้รู้กันอ่ะนะ
ขณะที่เราเข็นจักรยานออกมา โดยมีฟ้าใสกับหมูแฮม ที่บอกยังไม่คืนพระจนกว่าจะออกจากบ้านนี้เข็นตามพี่ลิฟต์ติดๆ

“ทุกคนอย่าหันไปมองข้างหลังนะ” พี่ลิฟต์บอกเตือนทุกคนเสียงเรียบๆ สิ้นเสียง ความอยากรู้อยากเห็นของไอ้แชมพูก็รีบหันไปดู
เอิ่ม ใครอยากรู้ว่า ไอ้แชมพู มันเห็นก็อะไร ก็ถามกันเอาเอง จักรยานของแชมพูก็มีอาการเข็นไม่ไปติดติดอยู่อย่างงั้น โซ่ก็อยู่ดี
พอมันออกแรง หนักๆ ก็หลุดพรวด ดีว่าพี่ลิฟต์ที่อยู่ข้างหน้าช่วยจับ สองคนนั้นก็มองหน้ากัน
ฟ้าใสกับหมูแฮมรีบเข็นไปไกลๆก่อนล่ะ จ้ำๆๆๆให้พ้นเสียงหัวเราะที่ลอยมาตามลม
.
.
.
.
ลิฟต์นึกในใจ เตือนก็แล้วนะ ไอ้แชมพู ก็ยังหันไปดู  ดีว่าไอ้ไข่ของเขายังเชื่อฟัง ไม่หันกลับไปดู
ภาพหญิงชราที่นั่งแสยะปากหัวเราะเยาะหยันที่ระเบียงหน้าห้องพักถัดไปจากห้องเขา

เฮ้อ!!! ทั้งคนทั้งผี ยัยป้านี่ก็อยู่แกล้งลูกชายตัวเอง ถึงจะมีเรื่องอะไรกันมาก่อน  ตายไปก็ยังไม่ปล่อยวาง....



ตอนหน้าไอ้โภชน์มาครับ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2 ending (5/10/12) บ้านผีกันต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 06-10-2012 12:47:08
ช่างลุ้นระทึกไปกับผีคุณยายซะจริง
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.2 ending (5/10/12) บ้านผีกันต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 06-10-2012 13:29:35
อ๊ะ ! ได้ผลจริงอ้ะ วิธีของพี่ลิฟต์
เพราะไม่เห็นผีมาหลอกห้องฟ้าใสเลย
555ฟ้าใสเอ๊ยยยย...ใสสมชื่อจริงอะไรจริง อิพี่ลิฟต์ก็เนอะ ร้ายกว่าผีซีอีก หลอกฟ้าใสซะ สม :haun4: สมอยากเลยละซี้
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.3 (6/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 06-10-2012 15:41:07
Ch.3

การคบหากันไป ฟ้าใสก็เห็นทั้งข้อดีข้อเสียของพี่ลิฟต์

ความตื้อสะบัด ความเอาแต่ใจของตัวเอง ที่พี่ทั่นบู๊เบี้ยวเปรี้ยวใส่คนอื่น
ความเจ้าชู้ นานาชาติ คารมเป็นต่อมีหน้าตาหล่อดูดีเสริม บรรดาสาวๆที่แกไปยุ่งเกี่ยวด้วย เวลาที่ไปเที่ยว

คนที่เป็นตัวเป็นตนสำหรับพี่ลิฟต์ มีเมียและฟ้าใสเท่านั้น เรื่องบรรดาสาวฝรั่งเศส ญี่ปุ่น สาวบก.นิตยสารดัง เดือน 2เดือนก็ชิ่งกันไป
สารพัด ที่เมียแกไม่เคยรู้ แล้วที่พี่พลอยเมียพี่ลิฟต์ ไม่ระแวงฟ้าใสมากเพราะพี่ลิฟต์เคยพาเมียไปเที่ยวเชียงใหม่ ก็ไปนั่งคุยเล่น
ที่บ้านไอ้โภชน์ ไอ้แชท ในเมื่อสามีคุยกัน กลุ่มแม่บ้านก็ต้องจับกลุ่มกัน พี่พลอยเลยมองว่าฟ้าใสเป็นแฟนไอ้โภชน์
เพื่อนพี่ลิฟต์ แถมตัวพี่ลิฟต์เองก็ไม่เคยมีวี่แววจะเป็นเกย์ หรือสนใจกระเทยสาว
ขนาดบรรดาเพื่อนสาวพี่พลอยที่มีดุ้น ทั้งหลาย แม้แต่ผ่านการเฉาะมาแล้วจะให้ท่าพี่ลิฟต์ เวลามาบ้าน
เฮียแกก็ไม่เคยสนอง พี่พลอยเลยยังไม่วีนหรือหวงห้าม เมื่อพี่ลิฟต์ส่งงานมาให้และต้องไปทำงานด้วยกัน

แน่นอน ฟ้าใสก็ไม่เคยลืมว่า หนึ่งในสาเหตุที่ชีวิตคู่กันของฟ้าใสและไอ้โภชน์ต้องจบกัน พี่ลิฟต์เองก็มีส่วน
ถึงไลฟ์สไตล์ที่พี่ลิฟต์ใช้คือมีคนอื่นเรื่อยๆแต่ก็ยังเอาเมียไว้ แต่ไอ้โภชน์มันคนละอย่าง มันมีเป็นคนๆให้ใจเป็นคนๆไป
แต่ยังไงชีวิตคู่ฟ้าใสกับไอ้โภชน์ก็จบกันไปแล้ว ไม่มีการติดต่อกัน แม้ว่าข่าวคราวที่ฟ้าใสได้ยินจากขวัญหรือพี่ลิฟต์ว่า

ตอนนี้มันลงมาอยู่ที่กรุงเทพฯ เปิดแกลลอรี่เล็กๆ ส่วนเรื่องไอ้อายที่ขวัญเล่าอย่างสะใจว่า
มันทำตัวได้เป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ จูบโชว์ดูดปากกับนักดนตรีในผับดัง หน้าเวที ไม่เว้นแต่ละวัน
ไอ้โภชน์ต้องไปคอยตามรับกลับบ้าน จนทะเลาะกัน ไอ้อายก็หนีไปกับฝรั่งกลับเกาะ ไอ้โภชน์ก็ต้องตามง้อกลับมา

แล้วถ้าไม่มีเงินให้มันใช้ ไอ้อายก็ไม่กลับมาอยู่ด้วย ไอ้โภชน์ก็ทำงานไปจนพอมีเงินก้อนใหญ่ ขายงานได้ ไอ้อายก็ถูกฝรั่งทิ้ง
ก็จะกลับมาอยู่กับไอ้โภชน์ จนหลังสุดเมื่อเห็นว่าที่เชียงใหม่ทำไม่รุ่ง และบางครั้งต้องใช้เงินจากทางบ้านช่วยบ้าง
มันเลยย้ายลงมาอยู่ที่กรุงเทพตามคำขอของแม่มัน และเปิดแกลลอรี่
.
.
.
.
หลังจากกินจิ้มจุ่ม เนื้อย่าง น้ำตก ลาบ ส้มตำ กัน มื้อนี้นับว่าเป็นมื้อที่ฟ้าใสสะใจมากกกก อาหารอร่อยสมคำร่ำลือ
ที่ไอ้แชมพูมันคุยอวด จนลากเพื่อนมากินร้านอาหารอีสานในปั้มน้ำมัน เพชรในตมแท้เหลา 555
ส่วนบรรยากาศการกิน นั้น ฟ้าใสโดนเพื่อนทั้งสอง ไอ้แชมพู กับไอ้นุ้ย ด่าแหลก
พวกมันว่า

“ไอ้ไข่ เมริงทำได้ไงว่ะ” ไอ้แชมพูตวัดเสียงใส่ฟ้าใส

“นั่นสิ เราจะบ้าตาย ไม่รู้จะทำหน้าอย่างไง เครียดจนแทบกินไม่ลง” ไอ้นุ้ยมันเซนซิทีฟครับ

ฟ้าใสก็บอกพวกมันด้วยเสียงเรียบๆราวกับโดนครูให้ท่องสูตรคูณแม่2 “มันมากันเอง”

ก็พวกเรานัดกันจะกินเนื้อย่างกันก็แค่ร้านเล็กๆใกล้ที่ทำงาน ไอ้แชมพู  ส่วนไอ้นุ้ยมันก็จะมาตัดแว่นตรงร้านใกล้ๆ
แล้ว บ้านมันก็อยู่ทางนั้นอยู่แล้ว นัดกันแค่3คน แต่ไอ้พวกแขกรับเชิญสารพัดนี่มันมากันเอง



เดี๋ยวมาต่ออีกนะครับ
อีกท่อนมันยาว
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.3 ((ต่อ))(6/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 06-10-2012 20:59:17
((ต่อ))

ก็เริ่มจากไอ้โภชน์ที่จู่ๆมันก็โผล่มาโดยมิได้นัดหมาย ทั้งที่ไม่เคยติดต่อมาก่อน ฟ้าใสนอนของฟ้าใสอยู่ดีๆที่ร้าน
 เริ่มรู้สึกเหมือนมีอะไรผิดปกติ มันก็6โมงเช้าแล้วล่ะ คงได้กลิ่นบุหรี่ กลิ่นกาแฟเตะจมูกด้วยล่ะมั่ง
อ้าวไอ้โภชน์มันมานั่งที่โต๊ะทำงาน

ฟ้าใสใจเต้นตึกตั๊ก ทักทายว่ามาได้อย่างไง นั่นสิ แล้วเอ็งเข้ามาได้ไง มานั่งในห้องด้วย ทำให้ฟ้าใสยิ่งอนาถตัวเอง
ฟ้าใสรู้ดีว่าตัวเองเป็นคนหลับลึก  ข้าวปั้นมันเคยจะยืมผ้าบาติกที่ฟ้าใสใช้ห่มนอน (ฟ้าใสทำเอง)ไปใช้อวดเพื่อน
ตอนจะไปทะเล  มันเข้ามาดึงเอาออกไปจากตัวฟ้าใส โดยที่ฟ้าใสยังไม่ตื่นเลย ที่มารู้เพราะพอหาไม่เจอ ไปถามป้านวลว่าเห็นไหม
ข้าวปั้นถึงบอกว่าเอาไปเอง

 ปรากฏว่าไอ้โภชน์มาตั้งแต่ตีสองกว่าๆ เข้ามาทางข้างหลังบ้าน ด้านหลังนี่จะมีเทคนิคการเปิดพิเศษหน่อยไว้สำหรับคนรู้กัน 
ยามฉุกเฉินไม่มีกุญแจ คุณคิดส์แอบบอกมันแน่ วิธีซ่อนกุญแจ ฟ้าใสก็ได้มาจากบ้านพวกมันสมัย อยู่หมู่บ้าน ซอย 10นั่นแหล่ะ
 แล้วห้องนอนฟ้าใสชั้นบนก็เปิดโล่งตลอดซะด้วยสิ


มันทะเลาะกับไอ้อายมา ซึ่งฟ้าใสก็สมน้ำหน้า มีคุณเมียดีดีอย่างฟ้าใส เอาใจสารพัด ไม่เคยตบตีให้เสียน้ำใจ
มันโดนไอ้อายเอาไม้กวาดไล่ตีมาด้วย  มันเลยกลัวว่าจะระงับใจไม่อยู่จะมีเรื่องลงมือลงไม้กับเขา เลยรีบชิ่งออกจากบ้าน
มาบ้านฟ้าใส  ฟ้าใสก็อือออไป  เชอะ ทีอย่างงี้มานึกถึง เลยถามแล้วนอนหรือยังอ่ะ มันก็บอกยัง  รู้สึกปวดหัวด้วย
ฟ้าใสน่ะรู้สึก ทั้งรักทั้ง แค้น  ไอ้โภชน์เป็นคนที่ได้อยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิตเป็นครอบครัว ดูแลกันและกัน ซึ่งฟ้าใสไม่เคยคิดว่าฟ้าใสจะมีใครอีก

ฟ้าใส เดินไปหยิบยามาให้มัน พารา2เม็ด แหะ แหะ กับยาแก้แพ้อากาศ อีก3 เม็ด อ่ะ เพราะรู้ว่าไอ้ยาแก้แพ้อ่ะมันทำให้หลับ
เลยอยากให้มันหลับๆไป เพราะถ้ามันอยู่ตื่นอยู่ ฟ้าใสก็ต้องคอยดูแลมัน มันไม่อยากทำร้ายจิตใจตัวเองอย่างงั้นหรอกครับ
ไม่ได้ชอบซาดิสท์นี่นา แค่ขอให้ช่วย แรงๆขึ้นอีก—โป๊ก!! ทะลึ่ง—

สักพักมันก็หลับ หลับสิยาแก้แพ้ตั้ง3เม็ด พารา2เม็ด แดกยาแค่4-5เม็ด ควายอึดๆอย่างงี้ ไม่ตายหรอก
อยากส่งให้มันกินสัก10เม็ดด้วยซ้ำ ฟ้าใสชงกาแฟ แล้วเดินไปนั่งจิบที่ระเบียงห้องนั่งเล่นด้านหลัง


10โมง เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น ฟ้าใสรู้แล้วว่าใคร พี่ลิฟต์นั่นแหล่ะ แกจะโทรมาประมาณนี้เสมอทุกวัน จะมีบ้างที่ขาดหายไป
ด้วยต้องไปทำธุระติดพัน เพราะแกรู้ว่าฟ้าใสจะตื่นประมาณนี้ แกก็จะโทรมาออดอ้อน มอร์นิ่งคิสผ่านสายโทรศัพท์
รับเช้าวันใหม่กับฟ้าใสเกือบทุกวัน ฟ้าใสเลยบอกว่าคุณพี่เอ็กซ์ฮาสะแบ็นของฟ้าใสมา
ตอนนี้นอนหลับอยู่ เล่นเอาไอ้คุณพี่ลิฟต์ก็จะมามั่ง ฟ้าใสรีบบอกไม่ต้องมา ไม่มีอะไร นี่เดี๋ยวฟ้าใสก็จะลงไปนั่งเล่นเฝ้าร้าน
อยู่แถวข้างล่าง พี่ลิฟต์ก็จะตื้อมาให้ได้ ฟ้าใสก็บอก ตอน5โมงเย็น ฟ้าใสก็มีนัดจะออกไปกินเนื้อย่างกับพวกไอ้นุ้ย ไอ้แชมพู
แถวออฟฟิศไอ้แชมพู ถึงตอนนั้น ไอ้โภชน์ก็คงต้องกลับแล้ว

พอเที่ยงกว่าเกือบบ่าย ไอ้โภชน์ก็ตื่น ฟ้าใสก็เอาผ้าเช็ดตงเช็ดตัวให้มันไปอาบน้ำ เชอะไม่หาเสื้อใหม่ให้เปลี่ยนหร็อก
แต่หาให้ก็ได้ว่ะ แม่พรรณน่ะชอบสั่งสอนให้รู้จักให้อภัยคน

“จะเอาเสื้อเปลี่ยนเปล่า” ฟ้าใสก็ถามแบบสะบัดหน่อยๆ ก็คนมันยังเจ็บอยู่ลึกๆนี่นา

“เอาสิ... ได้ก็ดี” มรึงจะยิ้มทำไม มรึงรู้ว่ามรึงยิ้มแล้วหน้ามรึงดูดีขึ้นอีก10เท่าใช่ไหม

“ขอกางเกงด้วยนะ” กรูไม่ใช่คนใช้มรึงนะ  แล้วมรึงไม่ต้องมาทำตาหวานใส่กรู ว่าแล้วฟ้าใสก็ไปหากางเกงเลกางเกงเมือง
 ที่น้องกับป้าชอบซื้อมาฝากเวลาไปเที่ยวทางเหนือมาให้มัน เลือกเอาเนื้อหนาๆหน่อย ไอ้นี่มันชอบธรรมชาติ ขืนเลือกกางเกงเนื้อบางๆ
ให้คงได้เห็นหนอนชาเขียวมันเด้งไปเด้งมา  พอมันอาบน้ำเสร็จนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมา ฟ้าใสก็เห็นรอยแนวยาวที่หลัง3-4รอย
ตัวมันขาวครับ ถึงมันจะหน้าไทยคมเข้ม แขนจะคล้ำก็เพราะออกแดดบ้าง ฟ้าใสก็รู้เลย นี่ฝีมือไอ้อายนี่แหล่ะ
เนี่ยยังรอยกัดอีก2ที่มันก็เอารอยที่ต้นแขนให้ดู กัดจนห้อเลือดม่วงเขียวเห็นเป็นรอยฟัน บอกว่า นี่มันกระโดดกอดคอแล้วกัด
 เหมือนหมาบ้าเลย มันขยับเล่า แต่ฟ้าใสก็ไม่ได้ถามไม่พูดอะไร  จะถามทำไมให้ตัวเองเจ็บ จะไปฟังทำไมเรื่องของครอบครัวอื่น

“ขอยาทาหน่อยสิ” ไม่ต้องมาอ้อนกรู

“....”

ฟ้าใสเดินไปหยิบยามาให้ วางลงที่ตรงหน้า

“ทาให้หน่อยสิ...ทาข้างหลังทาเองไม่ได้หรอก”

ฟ้าใสมองหน้าไอ้คนพูด....
ฟ้าใสค่อยๆป้ายครีมลงที่แผลรอยช้ำบนร่าง ร่างที่ฟ้าใสเคยมีสิทธิเป็นเจ้าของ รอยช้ำของมันแค่นี้ เทียบไม่ได้กับที่เกิดในใจฟ้าใส
สักกระผีก นี่มันจะมาให้ฟ้าใสเห็นให้ฟ้าใสสัมผัส ถึงแม้จะคิดอย่างน่าดีใจว่าฟ้าใสยังเป็นที่นึกถึง เป็นที่ที่มันมาพึ่งพิงยามไม่สบายใจ
บ้านที่มันอยู่กับไอ้อายและใช้เป็นสตูดิโอทำงาน อยู่ไกลจากฟ้าใสมากเรียกว่าคนละมุมเมือง ถ้ามันขับรถไปบ้านแม่มัน
หรือเพื่อนสนิทมัน ยังใกล้กว่ามาบ้านฟ้าใส

หลังจากนั้นมันเอายื่นต้นแขนที่รอยฟันกัดก็เริ่มออกเขียวๆม่วงๆ เวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ระหว่างฟ้าใสกับมัน
ไม่เคยใช้ความรุนแรงอะไร โมโหสุดๆฟ้าใสก็แค่เผลอเดินทิ้งถ้วยกาแฟจากชั้นสองเท่านั้น เพียงแค่ครั้งเดียว
ฟ้าใสป้ายยาที่รอยฟันกัด จะทาแรงก็กลัวมันเจ็บ คนเราเน้อ...ฟ้าใสถนอมทั้งจิตใจและร่างกายของมัน ยามเจ็บไข้ได้ป่วย
ยามท้อเรื่องงานหรือครอบครัวทางบ้านมัน
อกแกร่งที่อยู่ตรงหน้า ผิวเนียนละเอียดอย่างไทยแท้ ที่ฟ้าใสเคยนอนซบโอบกอด ร่องรอยข่วนขีดจากเล็บมือคนร่างเล็กที่มันเลือก
 คนที่มันรักเขามากกว่าฟ้าใส คนที่มันเดินออกไปจากชีวิตฟ้าใสเพื่อไปอยู่กับเขา

“ขอบใจนะ” พอทายาเสร็จฟ้าใสขยับจะลุกจะเดินเอายาไปเก็บ มันลุกขึ้นจับมือฟ้าใส และดึงฟ้าใสมากอด
อกอุ่นที่คุ้นเคย กลิ่นกายที่มีกลิ่นบุหรี่ยี่ห้อเดิม ฟ้าใสอยากทิ้งตัวเองให้อยู่ในอ้อมกอดนั้นนานเท่านาน
คิดถึง คิดถึงสิ มันเป็นผู้ชายคนแรกที่ฟ้าใสมอบทั้งกายและใจให้นี่นา แต่ฟ้าใสก็ไม่สามารถยกแขนของฟ้าใสไปกอดตอบร่างสูง
ตรงหน้าได้ มันได้เลือกคนที่มันให้ความสำคัญกับเขาแล้ว ถ้าฟ้าใสต้องยอมรับการเป็นที่สอง เป็นตัวสำรอง

ต่อไปฟ้าใสจะต้องเจ็บปวดไปอีกกี่ครั้ง เสียงของฟ้าใส คำบอกเล่าของฟ้าใสกลายเป็นเรื่องโกหก กลายเป็นเรื่องไม่จริง
เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งบอกเล่าเรื่องราวว่าฟ้าใสทำไม่ดีกับเขา

ไอ้โภชน์รั้งตัวฟ้าใสกอดแน่นขึ้น ฟ้าใสรู้สึกราวกับหัวใจจะระเบิดออกมา น้ำตาหลั่งไหลออกหลังจาก ที่พยายามอดกลั้นบีบคั้นลำคอ
จนปวดร้าวฟ้าใสสะอื้นจนตัวโยน สองมือของมันเริ่มเปลี่ยนเป็นประคองใบหน้าฟ้าใสที่ซุกอยู่อกเปลือยนั้นให้เงยขึ้นรับริมฝีปากหนาของใบหน้าคมที่ก้มลงมาใกล้

ฟ้าใสเอาแขนดันอกแกร่งออกห่างแล้วใช้มือเช็ดน้ำตา

“จะนั่งอยู่ข้างล่างนะ ถ้าจะกินอะไรก็บอกแล้วกัน ตอนเย็นมีนัดจะออกไปข้างนอกนะ เสื้อผ้าคุณอยู่ตรงโน้น” ฟ้าใสก้มหน้าเดิน
ออกมา ลงมาเฝ้าที่หน้าร้านเอง หลังจากเช็ดน้ำตาและพยายามทำหน้าตาให้เป็นปกติ พลางบอกเด็กอุ๊ว่า จะไปพักหรือหาอะไรกินก็ได้
เดี๋ยวจะเฝ้าจนถึงห้าโมงเย็นเอง เด็กจึงบอก

“งั้นเดี๋ยวหนูจะเข้าบ้านข้างใน ถ้าพี่มีอะไรก็โทรตามหนูแล้วกัน” ฟ้าใสก็พยักหน้า

ฟ้าใสนั่งอ่านเช็คเมลล์ คุยกับเพื่อนทางเน็ต จึงได้ยิ้มได้ขำแล้วก็ค่อยกลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง

สักพักใหญ่ คุณเอ็กซ์ฮัสสะแบ็น ก็ลงมา พลางสำรวจภายในร้าน ที่วางขายสินค้าตกแต่งบ้าน และมีหนังสือมือสองทั้งไทยและอังกฤษ
วางขายอยู่ด้วย ฟ้าใสนะไม่อยากขายหนังสือหรอก เสียดาย แต่น้องสาวมันบอกรกบ้าน เพราะของใหม่ก็ซื้อมาใหม่ เก็บไว้ก็ไม่มีที่
จะเอาไปบริจาคก็ต้องหอบไปเอง ถ้าเป็นพวกนิตยสารก็แล้วไป แต่ถ้าเป็นพ็อกเก็ตบุ๊ค นิยาย แม้แต่การ์ตูน ฟ้าใสภาวนาว่า
อย่าซื้อเลย พลีส พลีส เพี้ยงเพี้ยง!!! ถ้าเขาไม่ซื้อ ฟ้าใสก็โล่งใจ บางทีถ้าเป็นพวกเด็กๆหรือคนที่อยู่แถวนี้ร้านใกล้ๆ หรือคนรู้จัก
ฟ้าใสก็จะให้เขาเอาไปอ่านฟรี แล้วค่อยมาคืน พวกเด็กก็จะซื้อเป็นขนมมาฝากฟ้าใสบ้าง บางวันกลับมาดึกๆ
ฟ้าใสก็อาจเจอถุงขนม แขวนอยู่ที่ประตูด้านหลังร้าน

“เอางานผมมาวางมั่งไหม”เสียงหล่อถาม

“ไม่เอาอ่ะ” เสียงแง๊วแง๊วตอบ

“ให้ฟรีด้วย” เสียงหล่อที่พยายามเก็กเสียงให้หล่อกว่าเดิมตื้อ

“ไม่เอาอ่ะ”เสียงแง๊วแง๊วตอบห้วนขึ้น

“แถมคนทำด้วย”เสียงหล่อเสนอโปรโมชั่นพิเศษ

“เฮอะ!!! ยิ่งไม่เอาใหญ่” เสียงแง๊วแง๊วตอบโดยไม่ต้องใช้สมองคิด พร้อมทำปากแบะใส่ ทำให้คนถามยิ้มดีใจที่ได้ยั่วฟ้าใส

“จะกินอะไรก่อนกลับอ่ะ” ถามแบบไม่ได้ไล่นะ ฟ้าใสช้อนตามองไอ้หน้าไทยสุดหล่อ ที่ตอบกลับมาว่า

“เหมือนเดิม” อ๋อ ฟ้าใสชุบแป้งเด็กทอดวางบนเตียงชิมิ >///< ลูกค้ามันหายไปไหนหมด เข้ามารบกวนกันหน่อย กลัวใจตัวเอง
ฟ้าใสเดินออกไปสั่งร้านอาหารตามส่งที่อยู่ถัดไป4ห้องเป็นร้านที่ทั้งพี่วินและชาวบ้านแถบนี้ฝากท้อง

“ข้าวไก่ทอดกระเทียมกับข้าวคะน้าหมูกรอบผัดไข่ ส่งที่ร้านให้ด้วยนะครับ” ฮื่อนี่แหล่ะอาหารประจำของมัน

เอ ทำไมฟ้าใสไม่สั่งหญ้าผัดไข่ไปให้มัน ฐานที่มันไม่ยอมฉลาดเลือก
พอกินข้าวเสร็จไอ้โภชน์มันนั่งเล่นอยู่ข้างล่างช่วยฟ้าใสดูลูกค้าแหย่ลูกค้าฟ้าใสบ้าง พยายามทำตัวดีสุดๆ ถามถึงเพื่อนๆกลุ่มฟ้าใส
ฟ้าใสก็ได้แต่ตอบไป  สักพักมันก็บ่นเบาๆ ว่าอยู่กับทางโน้น ไม่เคยได้รับกำลังใจอะไรเลย
ฟ้าใสฟังไปก็ไม่ถามไม่พูดไม่วิจารณ์เลยสักคำ

“เราจะออกไปข้างนอก ห้าโมงเย็น” ฟ้าใสย้ำอีกที

“ไปไหนน่ะ” เฮียเกิดจะทำมาสนใจอยากรู้อยากเห็น

“ก็นัดกินอะไรกับไอ้แชมพู ไอ้นุ้ย”  แล้วฟ้าใสก็ไม่ได้ชวน เฮียเลยตอบแบบคนมารยาทดี

“เดี๋ยวก็กลับแล้ว” ดีเชิญกลับไปได้ ฟ้าใสจะได้ทำอะไรตามสบายได้ซะที ไม่ใช่มีสายตามาจ้องจับทุกอิริยาบถ
เดี๋ยวก็ชำเลืองเดี๋ยวก็ชำเลืองอีก เดินไปไหนก็คอยมองตามอยู่นั่น

พอสี่โมงเย็น คุณพี่ก็บอกจะกลับแล้ว ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเข้างบน ฟ้าใสก็ไม่ได้ตามขึ้นช่วยถอดให้ สักครู่ใหญ่พอลงมาปรากฏเฮียแก
เปลี่ยนแต่กางเกงอย่างเดียว ทิ้งเสื้อตัวเองไว้ให้ฟ้าใสดูต่างหน้า เหอะ ไม่เอากลับใช่ไหม เดี๋ยวจะเอาไปเผาสวดส่งวิญญาณเลย แกก็บอก

“ไปล่ะ ขอบคุณนะ” ฟ้าใสก็เดินไปส่งที่หน้าร้าน แต่ก็ไม่ได้เดินไปส่งที่รถ

“ฮื่อ...ไปดีมาดี” ฟ้าใสพยักหน้า เดินเข้าร้าน แล้วนึกว่า เดี๋ยวคงต้องขึ้นไปเก็บผ้าข้างบน ก็นิสัยคุณท่านชอบถอดเสื้อผ้ากองๆ
ฟ้าใสต้องคอยตามเก็บใส่ตะกร้า ตามพับเสมอ

ฟ้าใสเดินขึ้นชั้นบน เสื้อคุณพี่แกวางพาดที่เก้าอี้โต๊ะเขียนหนังสือฟ้าใส ผ้าเช็ดตัวกับกางเกงเมืองก็กองพาดๆอยู่ปลายเตียง ราวตากที่ตั้งใกล้ทางเข้าห้องน้ำมีก็ไม่เอาไปวาง ฟ้าใสก็เดินไปหยิบลงตระกร้าซัก


กรุ๊งกริ๊ง กรุ๊งกริ๊ง

ฟ้าใสก็ได้เสียงคนเปิดประตูเข้าร้าน เลยจะลงไปดู ก็ปรากฏว่าเป็นพี่ลิฟต์ แกเดินเข้ามาด้านหลังร้านแล้วตะโกนทัก

“สวัสดีครับ”

“อ้ะ...อยู่ข้างบน” ฟ้าใสพอจะเดินลงชะโงกมาเห็นแก แกก็รีบเดินขึ้นมาข้างบน พอมาถึงแกก็รีบกอด โน้มคอตีเข่า กดหัวประกบปากจูบลงลิ้นทันที

“อือ..อือ..เดี๋ยวก่อน”ฟ้าใสรีบดันตัวออกห่าง

“ร้านก็ยังไม่ได้ปิด เดี๋ยวก็ต้องออกไปข้างนอก”  พวกมรึงขอเวลาส่วนตัวให้ฟ้าใสบ้างได้ไหม ขอไปกินข้าวกับสาวๆให้หายปวดหัว(ใจ)มั่งเฮอะ ไม่ต้องมาทำสายตาอย่างงี้ด้วย

“เขาไปแล้วเหรอ” ไอ้แมวขโมยขี้อิจฉา ถามเสียงเครียด

“ฮื่อ...เพิ่งไปเมื่อกี้” ฟ้าใสตอบเสียงเรียบๆ

“มีอะไรกันหรือเปล่า” ไอ้ปากหมาพี่ลิฟต์

“บ้าสิ ใครจะไปมี เลิกกันแล้วก็เลิกกันเลย” ฟ้าใสตอบพร้อมกับชกไปที่ไหล่หนาๆของร่างบึกตรงหน้า

“แล้วเขาเป็นไงบ้าง” อยากรู้เรื่องตานี่มากฟ้าใสจะบอกให้ไปหากันเองแล้วกัน

“ก็ผอมลง...กว่าเดิม” ฟ้าใสตอบพร้อมกับก้มลง ก็คิดแล้วก็สงสารบ้างเหมือนกัน ก็มันนะเป็นคนเลือกกิน ร่างสูงที่แม้เป็นคน
ที่โครงร่างกระดูกใหญ่ ถึงแม้จะมีกล้ามเนื้อเพราะต้องทำงานออกแรง แต่ก็จัดว่าผอมแทบจะไม่มีไขมันเพราะเป็นคนที่ไม่ชอบกิน
อาหารเลี่ยนๆ มันๆ ที่เมื่อกี้ที่พอเล่าให้ฟังก็ได้ความว่า โดนใช้ให้ช่วยทำงานบ้านด้วย อยู่ด้วยกับฟ้าใส จะมีเด็กคนงาน
มีอ็อตคอยช่วยงานบ้านคอยดูแลความสะอาด แต่พวกเรื่องส่วนตัวจุกจิก กับบริเวณสตูดิโอทำงาน ฟ้าใสจะเป็นคนดูแลให้

พี่ลิฟต์ก็ลูบหัวฟ้าใส ฟ้าใสก็ชวนเค้าลงไปข้างล่าง

ขณะที่ฟ้าใสยืนคุยกัน ด้านหลังร้าน เสียงกระพรวนแขวนร้านก็ดังขึ้น ฟ้าใสหันไปดู
คุณเอกซ์ฮาสสะแบ็น ไอ้โภชน์ ก็เดินกลับเข้ามา!!! อ๊ากกกกกก ฟ้าใสก็อยากบ้าครับ ฟ้าใสเหมือนยืนอยู่กับ บินลาดิน กับ อเมริกา
หรืออเมริกากับจีน อะไรก็ได้ ที่มันไม่มีใครยอมใคร แล้วก็เหม็นหน้ากัน ทั้งที่ต่อหน้ากัน มันเป็นเพื่อนกัน รักกันจนจะตามไปเรียน
ด้วยกันที่เดียวกัน เคยแก้ผ้าเล่นน้ำด้วยกัน - -พาลเอาฟ้าใสมาสนิทแก้ผ้าตามด้วยอีก
- -อ๋อ นึกได้ แล้ว ไอ้ที่บอกว่าสนิท กันที่ว่า เมียเพื่อน ก็เหมือนเมียเรา อ๋อ...มันเป็นอย่างงี้เอง

 “อ้าว ลืมอะไรเหรอ” ฟ้าใสถามพร้อมทำตาแป๊วแหว๋วใส่ ฟ้าใสก็ไม่ได้ตรวจที่โต๊ะทำงานฟ้าใส เฮียแกลืมอะไรไว้เปล่า
เอ๋...หรือว่าลืมหัวใจ ว๊าว!!! เลี่ยน ละครล่ะนั่นน่ะ

“อ่ะ..โภชน์” เสียงพี่ลิฟต์ทักมันก่อนพร้อมกับพยักหน้า แล้วก้าวมายืนติดข้างหลังฟ้าใส เล่นเอาฟ้าใสต้องขยับก้าวไปข้างหน้า
เพื่อให้มีระยะห่างบ้าง พี่แกหน้าด้านได้โล่จริงๆ ก่อนหน้านี้ เมื่อสมัยนั้น พี่ลิฟต์มาหาไอ้โภชน์ที่ร้าน แกยังเป็นแค่แขกมาเยี่ยม
ฟ้าใสต้อนรับเสิร์ฟน้ำบรรดาเพื่อนฝูงของสามี ตอนนี้แกทำเหมือนว่าแกมีสิทธิที่จะยืนในร้านกับฟ้าใสมากกว่าคนในอดีต
 ซึ่งฟ้าใสก็ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่หรอกที่คนในอดีตจะโดนข่มเอา ถึงจะโดนทำร้ายจิตใจ แต่ไอ้โภชน์มันก็ทำสิ่งดีๆให้กันมาก่อน
สีหน้าที่แสดงความเจ็บปวดแสดงออกมาชัดเจนจนฟ้าใสก็เห็นได้ ความรู้สึกผิดก็มีบ้าง สงสาร เห็นใจกับสถานการณ์แบบนี้
แต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมันเกิดจากการกระทำของตัวมันเอง เป็นคนทำ ความโลภ ความอยากลองของใหม่ๆ
และสุดท้ายมันเองก็เป็นฝ่ายเลือก ฟ้าใสที่ยืนอยู่ตรงหน้า ฟ้าใสไม่ได้เป็นคนถูกเลือก ฟ้าใสเป็นแค่ของที่ถูกมันทิ้งขว้างไปไม่ใช่หรือ
 คุณค่า ฟ้าใสไม่ได้มีมากพอที่มันเลือกรักษาไว้

“เอ่อ...ลิฟต์” เสียงตอบที่เคยพูดคุยกันเมื่อบ่ายเปลี่ยนจากเสียงหล่อคอยหยอกล้อเป็นเสียงที่แหบพล่า

“เป็นไงมาไงน่ะ.....” ลิฟต์ทักอีกฝ่าย เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ตอบ แกเลยพูดต่อ “เห็นไขบอก กลับไปแล้ว”

“เออ...พอดีจะออกไปหาเพื่อน เพื่อนมันไม่อยู่ เห็นเมียมันบอกว่าจะกลับมา 2ทุ่ม เลยจะมานั่งรอที่นี่แหล่ะ”

“อ้าว แล้วไม่เอาไอ้อะ..”ลิฟต์ขยับจะแดกกลับ แต่ก็สงสารร่างบางที่ยืนใกล้ เลยเปลี่ยนเป็นถามเรื่องงานที่ไอ้โภชน์มันทำแทน
นึกอยากจะมาก็มา ถามก่อนหรือเปล่าว่าอยากให้มากันไหม ฟ้าใสคิดในใจ

“งั้นฝากดูหน้าร้านด้วยล่ะกัน” ฟ้าใสเอ่ยลอยๆ “ เดี๋ยวไปเตรียมตัวก่อน จะออกไปข้างนอก” ฟ้าใสก็จะเดินเข้าหลังร้าน

ไอ้พี่ลิฟต์ขยับจะตาม ฟ้าใสเลยมองตาขวางตาเขียว มรึงอย่าขยับเดินตามกรูขึ้นมาข้างบนนะ ไม่งั้นได้โดนแบนแน่

ขณะเดินสวนผ่านลิฟต์ ฟ้าใสเลยแตะสะโพกพี่ลิฟต์นิดหนึง ผลักให้แกไปคุยเป็นเพื่อนไอ้โภชน์ ทำตัวดีๆมีรางวัลให้น่า
ฟ้าใส อาบน้ำสระผมฟ้าใส เปลี่ยนชุด กะจะได้สดใสนั่งเฮฮาสังสรรค์กับเพื่อน เอนจอยเม้าติ้งแอ่นอีทติ้ง โทรบอกไอ้นุ้ย
คอนเฟริมอีกครั้ง มาชัวร์ เตรียมตัวเสร็จ เดินลงมาข้างล่าง ก็เห็นหนุ่มๆพูดคุยกันดี สามีเก่า สามีใหม่ ปรองดองไม่หมางใจ
คุณเมียย่อมชื่นใจ - - ไม่ใช่ครับ - -

“จะไปกินเนื้อย่างกับไอ้แชมพูกะไอ้นุ้ยนะ  ตรงร้านใกล้ที่ทำงานไอ้แชมพูอ่ะ”ไหนไหนก็ไหนไหน เอาว่ะ พูดประโยคนี้ก็ได้ว่ะ
 พวกมันๆทั้งหลายจะได้ออกไปให้พ้นบ้านตรู

“จะไปกินด้วยกันเปล่าล่ะ” ฟ้าใสก็หันไปทางพี่ลิฟต์ แล้วพูดต่ออย่างรวดเร็ว

“หรือจะนั่งอยู่ที่นี่ก็ได้นะ กินเสร็จอาจค้างบ้านแชมพู”

พี่ลิฟต์รีบบอก ”ไปสิ”

ฟ้าใสเลยหันไปถามไอ้โภชน์ “แล้วคุณล่ะจะไปด้วยเปล่า” เฮียแกก็รีบพยักหน้า นี่ฟ้าใสต้องโกยพวกนี้ไปด้วยเนี่ยนะ
แล้วจะไปอย่างไง พี่ลิฟต์ขี่มอไซต์มา ไอ้โภชน์ขับรถมา หรือฟ้าใสจะขับรถฟ้าใสไปเองแล้วเอา2คนไปด้วย ใครจะนั่งข้างคนขับ
ใครจะนั่งหลัง แล้วพอกินเสร็จ แล้วจะกลับอย่างไง ไอ้พี่ลิฟต์มันต้องมาต่อที่ร้านฟ้าใสแน่ ฟ้าใสเลยพอรู้แล้วว่าจะเอาอย่างไง
แต่อย่างไงฟ้าใสจะไม่เข้าไปนั่งรถไอ้โภชน์เด็ดขาด ฟ้าใสก็ถือว่ารถมันใช้รับส่งคุณเมียมัน ฟ้าใสไม่ไปยุ่ง ไอ้ขับกันไป3คันที่เดียวกัน
มันก็บ้าเกิน ฟ้าใสก็ซ้อนมอไซต์พี่ลิฟต์ ถ้าไอ้โภชน์มันจะคิดอะไรก็คงต้องยอมรับไป ฟ้าใสยังต้องเคยเห็นมันเดินจูงมือไอ้อายเลย

นี่คงเป็นครั้งแรกที่ฟ้าใส มาก่อนเวลานัด 555 แถมมีของขวัญมาเซอร์ไพซเพื่อนๆอีก ฟ้าใสแอบโทรมาบอกไอ้แชมพูแล้ว
ว่าจะมีใครมาด้วย เล่นเอาไอ้นุ้ยมันบอกจะหนีกลับ มันไม่ชอบเรื่องเครียดๆ เดี๋ยวโรคกระเพาะเล่นงาน

พอถึงร้าน ไอ้นุ้ยรีบเป็นคนจัดที่นั่ง ไอ้นุ้ยก็นั่งข้างไอ้โภชน์ เพราะมันรู้ว่าฟ้าใสคงไม่ชวนไอ้โภชน์คุย แล้วมันก็นิยมชมชอบไอ้โภชน์
ถ้าฟ้าใสว่าหรือบ่นไอ้โภชน์มันยังคอยแก้ตัวให้ งานนี้ฟ้าใสเลยเอนจอยอิทติ้งได้สบายใจ ท่ามกลางสายตาเพื่อนส่งค้อนส่งตะปู
สาบแช่ง555 เพราะไอ้แชมพูมันต้องคอยดูแลเทคแคร์ พี่ลิฟต์ ส่วนไอ้นุ้ยก็คอยดูแลชวนไอ้โภชน์คุย

พอกินกันเสร็จ ฟ้าใสเตรียมมุกชิ่งไว้แล้ว เลยบอกว่า เดี๋ยวจะไปนั่งเม้าท์กันต่อที่บ้านไอ้แชมพูที่อยู่ถัดไปแค่ป้ายรถเดียว
เพราะฉะนั้นก็แยกย้ายกันกลับ ฟ้าใสก็มองหน้าพี่ลิฟต์ที่ทำสายตาเหมือนหมาอ้อนขอขาไก่ สื่อกลับไปว่าวันหลังแล้วกัน

ส่วนไอ้โภชน์ ที่พยายามทำตัวดี พูดมีตลกบ้าง ทั้งที่เคยปากคอเราะร้ายก็พูดปรับตัวจนการสนทนาราบรื่น
ส่วนฟ้าใสนะเหรอ ก็จิ้มเอาจิ้มเอา ดี คุยกันไป ฟ้าใสกินคนเดียวก็ได้ 555  ปิดท้ายงานนี้ไอ้โภชน์ก็ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ
ขอเป็นเจ้าภาพ อ้าพวกเรา CHEER!!!!

หลังจากส่งหนุ่มๆไปสู่ที่ชอบๆ
ฟ้าใสและไอ้นุ้ยก็ตามไอ้แชมพูไปเอาของที่ออฟฟิศ แล้วก็เดินไปที่คอนโดไอ้แชมพู
ก็ไปนั่งเม้าท์ให้ไอ้พวกนี้สัมภาษณ์ฟ้าใส ว่าเหตุใดฟ้าใสถึงเล่นบ้าๆหนีบสามีมาถึงสองคน จะเอามาฝากพวกมันก็ไม่ใช่
เพราะทั้งไอ้สองคนจะคุยกับพวกมัน แต่สายตามันเอาแต่จะลอบมองฟ้าใส บวกจะจ้องจับผิดอีกฝ่าย
ทันทีที่ไอ้แชมพูชงกาแฟมาแจกจ่าย ฟ้าใสก็ทำเป็นเฉย ไอ้แชมพูเลยเอา นิตยสาร ฟาดไหล่ฟ้าใสเปรี้ยง

“โอ๊ย....เมริง” ฟ้าใสคลำส่วนที่โดนฟาดเอา “แหม...พวกแกก็...”

“อิ่มไหมอ่ะ เนื้อย่างวันนี้” ไอ้นุ้ยมันเริ่มแดกฟ้าใส

“เออ...ดิ อิ่มเลย ก็นั่งกินคนเดียวนี่หว่า 555” ฟ้าใสส่งเสียงเยาะเย้ย

ฟ้าใสก็เลยบอกเล่าเรื่องราวให้ฟัง  ซึ่งพวกมันก็สรุปว่า ที่ไอ้โภชน์มันไปแล้วกลับมันตั้งใจมาจับผิดฟ้าใสแน่

เรานั่งคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ เตรียมนัดกันไปเที่ยวต่างจังหวัด   ไอ้นุ้ยมันก็จะเอาตัวฟ้าใสไปเยี่ยมบ้านมัน ไปพบพ่อ แม่ ป้า ญาติๆ
 ที่มันคอยง้อฟ้าใสแล้วดีกับเอาใจสารพัด มันไม่คิดอะไรหรอก ก็ฟ้าใสไม่ใช่สเปคมันด้วย 555 มันแค่จะเอาฟ้าใส...
อย่าคิดมากครับ จะเอาฟ้าใสไปคอยคุยกับบรรดาญาติมันที่มีมากมายต่างหาก ตัวมันเองไม่รู้จะคุยอะไรกับญาติพี่น้อง
โดยเฉพาะคนแก่ ฟ้าใสน่ะชินตั้งเด็กแล้ว ทั้งแม่และป้า ชอบเอาฟ้าใสกับพี่สาว( พี่ส้มโอคุยเก่งโคตๆ จนฟ้าใสเลยใช้ศึกษาเป็นตัวอย่าง)
ไปเยี่ยมญาติพี่น้องออกสังคม พาไปเที่ยว ไม่ว่ากับที่ทำงาน การบุญต่างๆ กับงานบุญฟ้าใสจะมีปัญหานิดหนึ่ง
คือพระชอบคิดว่าฟ้าใสเป็นผู้หญิง พอผู้ใหญ่จับถ่ายรูปพอไปใกล้พระ ท่านจะรีบขยับหนี จนป้าและแม่ใครๆบอกว่าฟ้าใส  “เป็นผู้ชายค่ะท่าน”

ฟ้าใสก็สอนมันจะตาย ก็พูดๆไปเหอะ ถามอะไรเขาไปก็ได้ สุขภาพ กินข้าว ราคาพืชผล - บ้านมันทำสวนผลไม้ครับ อากาศร้อนหนาวฝนตก

หลังจากหมดเบียร์ไป5ขวด  เที่ยงคืนกว่า ไอ้นุ้ยมันบอกได้เวลากลับแล้ว นอนดึกมาก เดี๋ยวผิวเสีย ไอ้แชมพูก็จะชวนฟ้าใสค้าง
ฟ้าใสกะมันประเภทนอนดึกได้อีก แต่ก็ ไหนๆก็ต้องเดินส่งไอ้นุ้ย ฟ้าใสก็กลับเลยดีกว่า พลางบอกว่า คราวนี้ขอบใจมากว่ะ
ช่วยแก้สถานการณ์ให้ฟ้าใสได้มากจริง พวกมันก็ตบหลังฟ้าใสคนละที บอกไม่เป็นไร เพื่อนกัน

“เดี๋ยวงวดหน้า เลี้ยงเอง” ฟ้าใสบอกก่อนฟ้าใสและไอ้นุ้ยแยกย้ายกันขึ้นแท็กซี่กลับบ้าน
.
.
.
.
“ไข...ไข...” จู่จู่ขณะที่นอนหลับสนิท ฟ้าใสเริ่มรู้สึกว่ามีอะไรหนักมา กอดรัดทับตัวอยู่ ฟ้าใสน่ะยังรู้สึกครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่
เสียงกระซิบข้างหูพร้อมริมฝีปากที่นัวเนียบริเวณใบหูข้างแก้ม ลามไปถึงลำคอ ความรู้สึกฟ้าใสเริ่มถูกกระตุ้นให้ตื่นขึ้นจากสัมผัสที่ชวนให้จิตใจกระเจิดกระเจิง

“อือ...อ้า...” ฟ้าใสเริ่มรวบรวมสติ ฟ้าใสได้กลิ่นเบียร์ไม่ใช่ของฟ้าใสหรอกมาจากอีกฝ่าย พร้อมกลิ่นบุหรี่ SKL Cherry Menthol
กลิ่นบุหรี่หวานๆแบบนี้

“พี่ลิฟต์เหรอ”

“ไม่ใช่พี่แล้วไขมีใครอีกเหรอ”ถามเสร็จแกก็ประกบปากปิดปากฟ้าใสทันที
ทั้งละเลียดทั้งบดขยี้ดูดริมฝีปากฟ้าใสอย่างดุดัน”อ๊ะ ฮ้า อ้า” ฟ้าใสได้แต่ร้อง เมื่อความรุนแรงเริ่มมากขึ้น ฟ้าใสพยายามถอนจูบนี้
แต่ไม่ว่าจะบุ๊ยปากใช้ลิ้นตอบทำเป็นโอนอ่อนตามแล้วดันออก แกก็ไม่ยอมดูดลิ้นฟ้าใสกลับแล้วครอบริมฝีปากฟ้าใสไว้จนหมด
ในที่สุดท่อนล่างของฟ้าใสที่ถูกแกใช้ฝ่ามือขยำขยี้บี้อัด ทั้งบดเบียด ลูบคลำเคล้นคลึง จนมันต้องระเบิดออก บ็อกเซอรฟ้าใสนั้นหายไปไหนฟ้าใสไม่อาจหยั่งรู้ได้

 “ไข...” แกครางพร้อมกระดมพรมจูบไปทั่วหน้าฟ้าใส เมามาแน่ๆ ฟ้าใสคิด แล้วพี่ลิฟต์เริ่มจับตัวพลิกประกบด้านหลัง
มือเริ่มป้วนเปี้ยนที่ยอดอก ก้มหน้ามาดูดเจ้าติ่งเม็ดสีแดงระเรื่อของฟ้าใส

“อื้อ....” อุ๊บ...” ”เจ็บ” แกเริ่มเม้มขบจนฟ้าใสเจ็บจนฟ้าใสต้องผลักหัวแกออก แกก็ไม่หยุด ยังคงฟัดร่างกายฟ้าใสต่อ
ทั้งดูดซอกคอลำตัว ถ้าฟ้าใสบิดซ้ายหนีแกก็ย้ายมาดูดขวา ถ้าฟ้าใสเอนตัวหนีแกก็ก้มไปดูดที่สะโพก เมาแล้วเป็นเด็กหรือไง
เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นมาฟ้าใสจะเล่นงานให้หนัก แต่คืนนี้คงพูดอะไรกันไม่รู้เรื่อง วันนี้แค่ไม่มีใครกัดกะใครก็ดีแล้ว
 แล้วนี่ไงมาลงเอากะฟ้าใสเอง เฮ้อ เริ่มบุกฟ้าใสอีกแล้ว จะเข้าก็เข้ามา เดี๋ยวฟ้าใสจะได้นอนต่อ
.
.
.
.
.
“น่า นะ ขอโทษ” ก้มลงจูบไหล่เปลือยเปล่า ซึ่งความจริงฟ้าใสก็เปลือยอยู่ทั้งตัวนะแหล่ะ ฟ้าใสเห็นแล้วบ็อกเซอร์ฟ้าใสกระเด็น
ไปตกอยู่ที่พื้นห่างไปตั้ง5ก้าว แม่งพี่ลิฟต์มันถอดได้มันเหวี่ยงทิ้งเลยหรือไงว่ะ ฟ้าใสนะยังไม่อยากลุกเลย ปวดระบมไปหมดทั้งตัว
ช้ำสิเล่นฟัดขนาดนั้น หัวนมฟ้าใสก็เล่นกัดเจ็บๆ ที่ไหล่ก็โดนกัดแรงชะมัด ตามตัวมีแต่รอยดูด รอยกัด ฟ้าใสบ่นกระปอดกระแปด
อีกฝ่ายก็พยายามแก้ตัวว่าฟ้าใสเป็นคนบอกเองนี่ว่าให้กัดแรงๆ

“ก็นั่นแหล่ะ ถึงจะบอกแต่ก็ไม่ใช่ให้แรงอย่างเงี้ยะ กว่าจะหายเป็นอาทิตย์แน่เลย อย่างงี้ก็ไม่ต้องมาแล้วอ่ะ”

อีกฝ่ายได้ฟัง ทำหน้าเหวอ ตกใจ ฟ้าใส พลิกตัวลุกขึ้นนั่ง ผลักหน้าคนร่างบึกที่นั่งคุกเข่าเอาใจอยู่ข้างๆเบาๆ เพราะฮีถือแก้วกาแฟอยู่

“ก็มันช้ำอยู่อย่างงี้ ใจคอยังคิดจะมาซ้ำอีกเหรอ บ้าชะมัด” ฟ้าใสบ่นทิ้งท้าย ยอมลุกมานั่งจิบกาแฟเคียงข้างร่างบึกที่ใช้ผ้าบาติก
ที่ฟ้าใสทำเองพันสะโพกไว้อย่างหลวมๆ
พี่ลิฟต์นั่งจิบกาแฟไปสูบหรี่รสเชอรรี่ไป ฟ้าใสนะชอบกลิ่นบุหรี่แก กลิ่นหวานๆดี มีอยู่สองกลิ่นที่ฟ้าใสชอบ พอฟ้าใสชมอันไหน
 แกก็เลยจะสูบเฉพาะอันนั้นเวลาที่มาหาฟ้าใส มันดีอย่างนี้แหล่ะ เวลาที่มีคนให้ความสำคัญกับเรา
เรื่องแบบนี้ไม่ใช่แค่เรื่องกับคนรักหรอก ไม่ว่าพี่น้องพ่อแม่ เพื่อนพ้อง ลูกหลาน
ฟ้าใสเอนตัวซบที่แผงอก ตัวแกเย็นสบายเพราะลุกไปอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว ฟ้าใสไล้มือไปตามซิกเพ็ค
แหย่สะดือเล่นแล้วเลยพาลไปเขี่ยหนอนชาเขียวที่นอนสงบใต้ผ้าบางๆผืนงาม


 พี่ลิฟต์แกก็มีเวลาให้ฟ้าใสไม่ใช่จะมากมายอะไรนักหรอก แกก็มีเมีย ก็ต้องอยูบ้านโชว์หน้าโชว์ตาให้เมียเห็นบ้าง
แต่ก็ขาดฟ้าใสเกิน 4-5วันหรือ1อาทิตย์ไม่ได้ 

หากฟ้าใสเองงานยุ่งติดพัน ฟ้าใสไม่ว่างเช้า กลางวันเย็น ดึกๆเที่ยงคืน พี่ลิฟต์ก็ขอมาหา จนบางครั้งที่ฟ้าใสได้แล้วก็แทบจะหลับ
จนปล่อยให้พี่ลิฟต์จัดการฟ้าใสตามใจชอบ
.
.
.
ตรืดดดด ตรืดดดด

“ไข อยู่ไหนน่ะ”

หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.3 ((ต่อ))(6/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 06-10-2012 21:02:54

(ต่อ)

ตรืดดดด ตรืดดดด

“ไข อยู่ไหนน่ะ”

“อยู่บ้านข้างใน พี่”

“พี่ไปหานะ”

“เอ้ย...ไม่ได้พี่ จะออกไปข้างนอกกับป้าน่ะจะไปช่วยป้าเลือกทีวีใหม่อ่ะพี่”

“พี่ไปช่วยเลือกให้ไหม” ที่บ้านไม่มีใครรู้จักพี่นะเว้ย ห้ามมา

“โอย...ไม่เป็นไรน่ะพี่”

“ไขออกมาเจอกันหน่อย พี่อยู่ที่ร้านแล้ว พี่เข้าไปหานะ พี่คิดถึง” น้ำเสียงเริ่มงอแง
ความหมายทางตรง พี่น่ะเงื่ยนสุดๆขอเอาหน่อย ไม่ได้เจอมา อาทิตย์กว่าแล้ว

“โหย พี่ กำลังจะออกแล้วนี่พี่ รอป้าทานข้าวเสร็จ ก็จะไปแล้ว เดี๋ยวพี่มาตอนกลางคืนก็ได้น่า เดี๋ยวคืนนี้ไขออกไปนอนข้างนอกก็ได้”

“งั้นพี่ไปหาข้างใน  ซื้อช็อคโกแลตมาฝากด้วย”

“ไม่ต้อง ไม่ต้อง งั้นเดี๋ยวไข ออกไปหาข้างนอก” กรูจะบ้า พี่แกจะฮีทขึ้นอะไรกันนักหนา  ไหนบอกว่ามีลูกสาวแม่ค้าน้ำเต้าหู้สาดสายตาใส่ให้ไง


ทันทีที่ฟ้าใสขึ้นไปบนห้องที่ร้าน

ร่างใหญ่ยิ้มอย่างเอาใจส่งช็อคโกแลตมาให้ ตรงเข้ากอด เตรียมถอดเสื้อฟ้าใสออก

“เฮ้ยๆ พี่ อุบ!!!” ปากถูกปิด

อั้ก!!!   ผลักออก “โหย พี่...มีเวลาแค่ 15 นาทีนะ”

อื้อ อื้อ.... จมูกโด่งปากหนาได้รูปเริ่มลงมือทำงาน
กางเกงฟ้าใสถูกปลดออก......
.
.
.
“คืนนี้ไขนอนที่ร้านนะ พี่มาหาอีกนะ” ร่างสูงล่ำ ทำเสียงละห้อย

ฟ้าใสพยักหน้า “ไม่รู้ล่ะ วันนี้ต้องซื้อแก้วกาแฟไปอย่างน้อย สองใบด้วยล่ะ เอาที่เป็นพอร์ซเลนด้วย” หึ บังคับซื้อโว้ย
“โห ที่บ้านพี่มีแก้วกาแฟร้านไขเกือบ50ใบแล้วนะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ก็พี่ไม่ซื้ออย่างอื่นบ้างล่ะ”
“ก็อยู่นี่แล้วนึกอะไรไม่ค่อยออก ถ้าไม่จิบกาแฟ ก็คิดแต่จะกินเจ้าของร้านอย่างเดียวนี่ล่ะ”

“โห....”

“ไขก็เอาเซ็กซ์ทอย มาขายสิ พี่จะได้เหมา”

“โหย...ไม่เอาอ่ะ แค่นี้ ไขก็โดนทีไม่ต่ำกว่า 3ชั่วโมง มีของเล่นมาอีก ไขก็ไม่ต้องทำงานทำการ”

“ก็พี่บอกแล้วก็ไม่ต้องทำ พี่เลี้ยงไขได้ ก็ยังจะดื้อทำอีก” ลิฟต์ก็ไม่เข้าใจคนตัวเล็ก บางครั้งทานอาหารด้วยกัน ก็แย่งจ่ายเงินเอง
ข้าวของอะไรที่เวลาเดินเล่นระหว่างรอดูหนัง พอเขาเห็นว่าถูกใจ ก็ไม่เคยตื้อให้ซื้อให้ จะซื้อให้ก็ไม่เอา เกรงใจ ไม่เหมือนผู้หญิง
ที่พอเขาจีบหน่อยเดินด้วยกัน ก็ให้เขาดูแลเทคแคร์ทุกอย่าง ไอ้โน่นก็อยากได้ สะกิดให้เขาซื้อให้ ของที่ฟ้าใสยินดีรับ ก็มีแต่ซีดีเพลง
กับขนม ยิ่งถ้าเขาส่งงานมาให้ คนตัวเล็กดูจะดีใจมาก แต่เขาก็ไม่รับมาให้เยอะหรอก พอมีงาน งานก็แย่งเวลาของเขาไปนะสิ


“อ่ะ พี่ กลับไปได้แล้ว ไขจะล้างตัว”

“อะไร ไล่กันแล้วเหรอ”

“ใช่สิ ไปเลย ชิ้ว ชิ้ว เลย พี่น่ะ เดี๋ยวป้าไข คอย”

“ครับ ครับ จ๊วฟ...อื้อ...”ลิฟต์ดูดปากร่างเล็กอีกที กระซิบข้างหู “คืนนี้พี่มาค้างด้วยนะ”
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.3 ((ต่อ))(6/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 06-10-2012 21:58:02
 :z13: จิ้มตูดอิอิ

ยาวได้ใจไปเล้ย อืมม ก็น่าสงสารโภชน์อะนะ แต่สมน้ำหน้ามากกว่า  :laugh:  :m16: มีของดีอยู่ในมือแล้วทิ้งขว้าง  :เฮ้อ:
อาเฮียลิฟท์ก็มีเมียแล้ว  :เฮ้อ: เพลียใจเหลือเกิน ไปเรือยๆ มาเลียงๆ แล้วกัน เนอะ แล้วไม่มีหนุ่ม ๆ คนอื่นมาขายหนมจีบใขอีกเหรอ รอพี่โมงเลิกกะเมียสงสัยจะนาน

ขอบคุณมากๆๆค่ะ ร้อ รอ น้องใข อิอิ  :pig4: :L1:+ :3123:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.4 (7/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 07-10-2012 03:40:32
Ch.4

หลังจากส่งพี่ลิฟต์กลับไปแล้ว

ฟ้าใสปิดร้านดับไฟข้างล่างเดินขึ้นมาชั้นบนอย่างอ่อนแรงน้ำตาไหลริน

เวลาผ่านไปที่ฟ้าใสคบกับพี่ลิฟต์ เกือบ 3 ปี
เวรกรรมคงตามมาทันแล้ว แม้ทำใจไว้ล่วงหน้า อย่างคนที่รู้ว่าตัวเองทำผิด

แต่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นถึงแบบนี้
ข้อตกลงที่มีระหว่างกันไม่มีคำมั่นสัญญา ไม่มีข้อเรียกร้อง ไม่ได้ยึดมั่นถือมั่น ฟ้าใสมาทีหลัง มาที่หลังกว่าใครๆที่พี่ลิฟต์มีมาก่อน
ฟ้าใสไม่เคยก้าวก่าย ไม่ห้ามว่าจะไปจีบสาวที่ไหน ขอเพียงบอกให้รู้บ้าง เมื่อบังเอิญพบเจอฟ้าใสจะได้วางตัวถูก
หากพี่มั่วมาก ฟ้าใสจะได้ป้องกันตัวถูกว่าอยู่ในฐานะเสี่ยงภัย
และหากเจอใคร ฟ้าใสก็ยินดีจากไป แต่ไม่ใช่ปล่อยให้ฟ้าใสกินหญ้าอยู่เกือบปี
.
.
.
“อะโหล หมูแฮม” ฟ้าใสโทรหาหมูแฮมอย่างอึ้งๆ

“มีอะไรให้รับใช้ คร้าบบ ไข่” หมูแฮมทำงานราชการถูกเรียกใช้งานจนมีประโยคประจำตัว ฟ้าใสพอยิ้มออกบ้าง

“ช่วยซื้อหญ้ามาให้กินหน่อยดิ เราเปลี่ยนร่างเป็นควายไปแล้วนะ”
“ไรว้า ไอ้ไข่ เอ็งพูดให้รู้เรื่องสิว่ะ ใครช่วยเอ็งแปลงร่างว่ะ” ฟ้าใสนิ่งจะพูดออกมาดีไหม แต่ความอัดอั้นตันใจมันก็มากเหลือเกิน

“ไอ้แชมพูอ่ะ มันมีอะไรกับพี่ลิฟต์มาเกือบปีแล้วอ่ะ”

“ห๊า ค_ย สิ เมริง” หมูแฮมสถบหยาบที่สุด เท่าที่นึกได้ “เป็นไปไม่ได้หรอก”

“เออ...กรูก็ไม่อยากเชื่อ แต่ไอ้พี่ลิฟต์มันสารภาพมาหมดแล้ว”

“มันอำแกหรือเปล่า”

“ไม่หรอก ไอ้พี่ลิฟต์มันไม่เคยอำเล่นแบบนี้หรอก”

“แล้วเมริงรู้เรื่องนี้ได้ไง”

“วันนี้ไอ้พี่ลิฟต์มาร้าน พอมีซัมติงกัน ก็มีโทรศัพท์มา มันก็ไม่รับ พอภารกิจเสร็จ แม่งโทรศัพท์ก็มาอีกหลายครั้ง มันเลยรับ
แกก็รู้ใช่ไหม คนมันก็มีสไตล์พูดคุยเป็นลักษณะของตัวเอง กรูก็เห็นไอ้พี่ลิฟต์มันรับ ตอบคำ พูดคำ กรูก็รู้สึกคุ้นๆกับรูปแบบ
ประโยคคำถามสไตล์นี้  พอมันไปอาบน้ำ กรูก็เลยแอบดูมือถือ ก็เป็นเบอร์ไอ้แชมพู กรูก็เลยถาม
ไอ้พี่ลิฟต์มันเลยสารภาพหมดทุกอย่าง”

“.....” หมูแฮมก็นิ่งเงียบอย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี

“ไอ้พี่ลิฟต์มันก็บอกว่าจะเลิกติดต่อไอ้แชมพู สัญญาว่าจะไม่มีอะไรกับไอ้แชมพูอีกเด็ดขาด แต่กรูก็ทำไม่ลง”

เรื่องที่ฟ้าใสคบและมีอะไรกับพี่ลิฟต์ในกลุ่มเพื่อนก็มีคนรู้ไม่กี่คน แค่หมูแฮม แชมพู ไอ้นุ้ย แม้แต่ผิงผิงก็ไม่ได้บอก
คงเพราะพี่ลิฟต์เองก็มีเมียแล้ว ผิดกับที่คบไอ้โภชน์ ที่เปิดเผย ช่วยกันทำงาน ควงออกงาน เพื่อนฝูงรุ่นพี่รุ่นน้อง รู้กันทั่วไป

ทันทีที่ฟ้าใสได้ยินว่าพี่ลิฟต์จะตัดสัมพันธ์กับไอ้แชมพู เขากลับรู้สึกห่วงความรู้สึกของเพื่อน เขารีบกระร่ำกระลักห้าม
 ขอร้องไม่ให้ทำอย่างนั้น เขาเองเป็นผู้ชาย  ไอ้แชมพูมันก็เป็นผู้หญิง มันโดนบอกเลิกง่ายๆ มันคงเจ็บปวด
ฟ้าใสคิดถึงความรู้สึกแชมพู เพื่อนที่นับว่าสนิทเป็นรองแค่ผิงผิงสนิทพอกับหมูแฮม แค่ต่างสไตล์กัน สนิทมากกว่าไอ้นุ้ย
สนิทที่พอให้เป็นคนถือกระเป๋าสตางค์เวลาไปไหนมาไหนตั้งแต่ปี2 เพราะฟ้าใสเก็บเงินไม่เรียบร้อยจะร่วงจะลืมหลายครั้ง
 ฟ้าใสไม่เข้าใจว่าแชมพูทำกับเขาได้อย่างไง ไอ้พี่ลิฟต์นั้นช่างมันเถอะ คงเป็นสันดาน
แต่ฟ้าใสเสียดายความเป็นเพื่อน มันไม่สำคัญมากกว่า ไอ้ดุ้นขนาดXนิ้วนั่นเหรอ

“ช่วงนี้ กรูอาจจะไม่ติดต่อมันสักพัก แกคงเข้าใจนะ”

“มีอะไรโทรมาหาเรานะไอ้ไข่ เมริงก็ทำใจดีๆไว้นะ” หมูแฮมพูดอย่างลำบากใจ

เรื่องมันดูไม่น่าเชื่อ ใช่ เขาเองก็ไม่อยากเชื่อ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว ไม่น่าเชื่อที่ความสัมพันธ์ของเพื่อนที่คบกันมานานเกือบ10ปี
จะถูกเมิน เพื่อแลกกับความสุขทางกาย ฟ้าใสเสียดายความเป็นเพื่อนที่ต่อแชมพู แม้แต่เพื่อนก็แทงข้างหลังเขาเหรอ
ความเป็นเพื่อนกันของฟ้าใสกับไอ้แชมพู ที่คบกันมาสู้ เซ็กซ์ที่พี่ลิฟต์ปรนเปรอให้มันไม่ได้เหรอ
ฟ้าใสไม่มีค่าสำหรับแชมพูที่จะนึกถึงเหรอ อยากถามกับเจ้าตัว ก็กลัวไอ้แชมพูตกใจ เสียความรู้สึก

ก่อนบอกลาพี่ลิฟต์ ฟ้าใสย้ำพี่ลิฟต์ว่า อย่าบอกแชมพูว่าฟ้าใสรู้แล้ว ขอให้ทำตัวเป็นปกติ
ฟ้าใสกอดลาร่างสูงใหญ่ ขอให้กลับไปก่อน เมื่อพี่ลิฟต์จะไม่ยอมกลับ ฟ้าใสบอกว่าเรายังเป็นเพื่อนกันได้

“เป็นเพื่อนกันจูบกันได้ไหม” ร่างสูงต่อรอง

“ก็ได้ แต่ห้ามใช้ลิ้นนะ” ฟ้าใสพยายามยิ้มสู้หยอกกลับ รู้ว่าวันนี้คงเป็นวันสุดท้ายของฟ้าใสกับพี่ลิฟต์


TBC....

รูปสปอยล์ล่วงหน้าครับ

(http://upic.me/i/52/season40.jpg) (http://upic.me/show/39864806)

หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.4 (7/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: lunar ที่ 07-10-2012 08:42:48
ฟ้าใส degrade ตัวเองมาเป็นวัตถุระบายความใคร่ให้ลิฟท์ซะงั้น
เหตุเพราะเมียให้ความสุขไม่ได้ ฟ้าใสเลยอ้าขาสนองซะ
งานนี้ถ้าฟ้าใสไม่รู้ว่าลิฟท์มีเมียแล้ว จะไม่ว่าฟ้าใสเลย
เพราะเข้าใจว่าฟ้าใสตูดไวแต่นี่รู้ทั้งรู้แถมรู้จักเมียเขาอีก
ยังทำชั่วกันต่อ ไม่มีสำนึกกันเลย
กล้ามองหน้า  กล้าเอาหน้าหนาๆไปเจอเค้าอีก

ฟ้าใสว่าแชมพูทรยศเพื่อนแทงข้างหลังฟ้าใสแล้วที่ฟ้าใสทำกับเมียลิฟท์ล่ะ
เรียกว่าอะไร กล้าพูดเนอะ  เลวพอกันนั่นแหล่ะ

ทำไมไม่เลิกใช้ตัวเองเข้าแลก แล้วลองใช้ใจอย่างเดียวตามหาความรักดูบ้าง
รักใครชอบใครอย่าปล่อยตัว กับเค้าง่ายๆ
รักนวลสงวนตัว เก็บอาการไว้บ้างก็จะดี ผชก็รักนวลสงวนตัวได้
ใช้แต่ร่างกาย ไม่ใช้ใจแล้วเมื่อไรจะเจอรักใสอย่างที่หวัง

ส่วนลิฟท์ ผชแบบนี้สมควรจะตายไปให้พ้นๆ รกโลก
มีเมียเป็นตัวเป็นตน ยังมั่วไปทั่วแถมมั่วกันเองในกลุ่มเพื่อนที่คบกัน
เลวหาที่เปรียบไม่ได้จริงๆ

ทางที่ดีเราว่าฟ้าใส กลับไปอยู่กับพ่อแม่เหอะ รักแท้รออยู่
กับลิฟท์น่ะ เลิกให้ได้จริงๆ อย่างปากว่าเถอะ
จะเป็นผลดีกับตัวฟ้าใสเองไม่ใช่ใครอื่นเลย
ลิฟท์จะไปมั่งกับใครต่อก็เป็นเรื่องของมันกับเมีย
ที่มีผัวเฮงซวยแบบนี้

งงกับฟ้าใส ฟ้าใสจะเลิกกับลิฟท์เพราะลิฟท์มั่วกับแชมพู
ฟ้าใสรับไม่ได้ อ้าว...เราก็นึกว่าจะเลิกเพราะรู้สึกผิดต่อเมียเค้าซะอีก
แถมลิฟท์จะเลิกกับแชมพูดันห้ามไม่ให้เลิกซะงั้น
คิดถึงใจเมียเค้ามั่งมั๊ย กลัวเพื่อนทำใจไม่ได้ แล้วเมียเค้าล่ะ คิดถึงใจเค้าบ้างหรือเปล่า
ทางที่ดีทั้งฟ้าใสและเพื่อนควรจะเลิกมั่วกับผัวชาวบ้านเค้าได้แล้ว ทั้งสองคนนั่นแหล่ะ
เพื่อนกันก็ต้องหวังดีต่อกัน ต้องพากันทำดี ไม่ใช่ทำชั่ว มั่วกับผัวเค้าไปวันๆ

งงกับความคิดของฟ้าใสจริงๆ

:pig4:







หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.4 (7/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 07-10-2012 11:57:02
เฮ้ออออ มึนตึบ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.4 (7/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: goonglovenut ที่ 07-10-2012 12:16:15
ฟ้าใส degrade ตัวเองมาเป็นวัตถุระบายความใคร่ให้ลิฟท์ซะงั้น
เหตุเพราะเมียให้ความสุขไม่ได้ ฟ้าใสเลยอ้าขาสนองซะ
งานนี้ถ้าฟ้าใสไม่รู้ว่าลิฟท์มีเมียแล้ว จะไม่ว่าฟ้าใสเลย
เพราะเข้าใจว่าฟ้าใสตูดไวแต่นี่รู้ทั้งรู้แถมรู้จักเมียเขาอีก
ยังทำชั่วกันต่อ ไม่มีสำนึกกันเลย
กล้ามองหน้า  กล้าเอาหน้าหนาๆไปเจอเค้าอีก

ฟ้าใสว่าแชมพูทรยศเพื่อนแทงข้างหลังฟ้าใสแล้วที่ฟ้าใสทำกับเมียลิฟท์ล่ะ
เรียกว่าอะไร กล้าพูดเนอะ  เลวพอกันนั่นแหล่ะ

ทำไมไม่เลิกใช้ตัวเองเข้าแลก แล้วลองใช้ใจอย่างเดียวตามหาความรักดูบ้าง
รักใครชอบใครอย่าปล่อยตัว กับเค้าง่ายๆ
รักนวลสงวนตัว เก็บอาการไว้บ้างก็จะดี ผชก็รักนวลสงวนตัวได้
ใช้แต่ร่างกาย ไม่ใช้ใจแล้วเมื่อไรจะเจอรักใสอย่างที่หวัง

ส่วนลิฟท์ ผชแบบนี้สมควรจะตายไปให้พ้นๆ รกโลก
มีเมียเป็นตัวเป็นตน ยังมั่วไปทั่วแถมมั่วกันเองในกลุ่มเพื่อนที่คบกัน
เลวหาที่เปรียบไม่ได้จริงๆ

ทางที่ดีเราว่าฟ้าใส กลับไปอยู่กับพ่อแม่เหอะ รักแท้รออยู่
กับลิฟท์น่ะ เลิกให้ได้จริงๆ อย่างปากว่าเถอะ
จะเป็นผลดีกับตัวฟ้าใสเองไม่ใช่ใครอื่นเลย
ลิฟท์จะไปมั่งกับใครต่อก็เป็นเรื่องของมันกับเมีย
ที่มีผัวเฮงซวยแบบนี้

งงกับฟ้าใส ฟ้าใสจะเลิกกับลิฟท์เพราะลิฟท์มั่วกับแชมพู
ฟ้าใสรับไม่ได้ อ้าว...เราก็นึกว่าจะเลิกเพราะรู้สึกผิดต่อเมียเค้าซะอีก
แถมลิฟท์จะเลิกกับแชมพูดันห้ามไม่ให้เลิกซะงั้น
คิดถึงใจเมียเค้ามั่งมั๊ย กลัวเพื่อนทำใจไม่ได้ แล้วเมียเค้าล่ะ คิดถึงใจเค้าบ้างหรือเปล่า
ทางที่ดีทั้งฟ้าใสและเพื่อนควรจะเลิกมั่วกับผัวชาวบ้านเค้าได้แล้ว ทั้งสองคนนั่นแหล่ะ
เพื่อนกันก็ต้องหวังดีต่อกัน ต้องพากันทำดี ไม่ใช่ทำชั่ว มั่วกับผัวเค้าไปวันๆ

งงกับความคิดของฟ้าใสจริงๆ

:pig4:

เห็นด้วยอย่างแรง ไม่เข้าใจว่าฟ้าใสคิดอะไรอยู่ ตอนแรกยังพอเข้าใจว่าห่างจากพี่โม่งและมาเจอโภชน์ขืนใจ หลังจากนั้นก็สมยอม ตอนเลิกกับโภชน์ก็เห็นใจอยู่นะ พอมาถึงลิฟท์คิดว่าฟ้าใสคงไม่เสร็จแต่ก็จนได้ คนไม่เรียบร้อยหรือผิดหวังอะไรมาก็ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้ น่าสงสารเมียลิฟท์นะ ที่ถูกคนใกล้ชิดทำร้ายโดยไม่รู้ตัวหรือว่ารู้แต่ไม่พูด ผ่านอะไรร้ายๆมาก็เยอะทำไมฟ้าใสไม่คิดอะไรบ้างนะ สับสนอะไรนักหนา น่าจะเข้าใจชีวิตได้แล้วนะ  :เฮ้อ:

อินจัดแสดงว่าคนเขียนเก่งมากเลย อย่าเคืองกันนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.4 (7/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: timvasabi ที่ 07-10-2012 14:56:19
^
^
^
^

เห็นด้วยกับความคิดเห็นบนๆเลยค่ะ

ไม่เข้าใจชีวิตฟ้าใสเลย ทำไมทำแบบนั้นนะ เซ็ง -*-

ผช.mี่เข้ามาหาฟ้าใสแต่ละคนก็เล...วทั้งนั้น ใช้ใจหาดิ อย่ามั่วมาก พี่เป็นห่วงนะ

ว่า season4 นั่นใครหว่า??
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.4 มาต่อ+มาคุยฮะ (7/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 07-10-2012 15:39:18
((ต่อ))

ลิฟต์ กลับเข้ามาในห้อง เห็นฟ้าใสถือโทรศัพท์ เขาก็รู้แล้วว่า
เรื่องนี้คงปิด ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว

“ทำไมไม่บอก ทำไมไม่บอกกันบ้าง” เสียงตัดพ้อต่อว่าจากคนร่างเล็ก เมื่อฟังคำบอกเล่าว่า

“พี่มีอะไรกับแชมพู” ลิฟต์ จับตัวฟ้าใสมานั่งตักและโอบกอดไว้

“มันเริ่มได้ไง” ฟ้าใสพยายามถามด้วยน้ำเสียงปกติเหมือนที่เคยฟังร่างสูงมาเล่าเกี่ยวกับสาวๆคนอื่นๆที่ผ่านมา

“โกรธ หรือเปล่า ไข” หน้าใหญ่ๆซบที่ไหล่ กระซิบถาม

ฟ้าใส ส่ายหน้า “เล่ามาเถอะ” ไม่โกรธหรอก ช็อค เสียใจ รู้สึกว่าตัวเองเป็นควายจริงๆ ถูกเพื่อนตีหน้าซื่อใส่เกือบปี
วันก่อนก็ยังเพิ่งคุยเล่นกับแชมพู เรื่องที่พี่ลิฟต์เอาช็อคโกแลตมากินตัว ว่าแทบขาดใจ มิน่าที่พักหลัง แชมพูดูสนใจเรื่องพี่ลิฟต์
คอยถามถึง ฟ้าใสก็ไม่ได้ระแวงอะไร ยังเคยแซวเล่นๆ เพราะแชมพูหาแฟนไม่ได้สักที เหมาะกับพี่ลิฟต์ ชอบกีฬา ขี่จักรยาน เหมือนกัน

เคยคิดอยากเลิกกับพี่ลิฟต์หลายครั้งตั้งแต่เมื่อคบกันผ่านไปได้ 1 ปี คบทั้งที่รู้ว่าผิด ต้องทนมองหน้า พี่พลอย เมียพี่ลิฟต์
คราวที่ไปจอดรถใกล้บ้าน พี่ลิฟต์ แล้วเปียกฝนหนัก จนโดนคนตัวโตที่ดักรอพบ บังคับให้เข้าไปในบ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า และอยู่คอยจนฝนเบาลง
เป็นเขาเองที่โง่ เชื่อใจคนทั้งโลก ปากเพื่อนสนิทที่บอกว่าไม่มีใคร ยามมีการแซวกันเรื่องแฟน เรื่องกิ๊ก 

แม้แต่เมื่อฟ้าใสเคยโทรไปหาแชมพูตอนเช้าจะถามเรื่องงาน ไม่มีคนรับ จนเมื่อรับก็เป็นเสียงพี่ลิฟต์  แล้วเรียกให้แชมพูรับ
ซึ่งแชมพูก็บอกว่าออกมาทริปขี่จักรยานด้วยกัน ฟ้าใสถามเรื่องงานเสร็จ ก็วางสายไม่ได้คิดอะไร

“ไข จำวันที่มาเคาน์ดาวน์กันที่บ้านพี่ได้ไหม” ลิฟต์เริ่มเล่าถึงจุดเริ่มต้น ฟ้าใสพยักหน้า
 แชมพูโทรมาชวนฟ้าใสออกไปนั่งชิลชิล หาที่ดื่มรับบรรยากาศเคาน์ดาวน์ข้างนอก ฟ้าใสยังไม่รับปาก ต้องถามที่บ้านก่อน
 บ้านฟ้าใสเป็นโรงงานด้วย จึงมีการจัดงานปีใหม่ทุกปีเป็นธรรมเนียมเพื่อให้คนงานสนุกสนาน จับของขวัญ
แต่จะจัดตั้งแต่วันที่28-29-30 ตามสะดวกว่าตรงกับพฤหัส ศุกร์ เสาร์ หรือเปล่า เพื่อให้คนงานได้ลาหยุด ไปเที่ยวกันเองฉลองปีใหม่

ปีนี้ที่บ้านจัดเสร็จไปแล้ว ทั้งข้าวโอ๊ต ข้าวปั้นก็ไปงานบ้านเพื่อน ถามแม่พรรณ กับป้า ป้า ว่าจะให้ฟ้าใสอยู่ ดูทีวีเป็นเพื่อน
ดูเคาน์ดาวน์นับเคาน์ดาวน์ด้วยกันที่บ้านไหม แม่กับป้าก็บอก ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวว่าจะนอน เร็ว  ฟ้าใสเลยโทรบอกแชมพูว่า
 ออกก็ได้ แชมพูเลยชวนไปกินแถวบ้านพี่ลิฟต์ ที่เป็นแหล่งเที่ยวกลางใจเมือง และพอพี่ลิฟต์รู้ก็ชวนมานั่งที่บ้าน
บอกว่าพวกแก๊งค์จักรยานก็จะมากัน แล้วเมียแกก็ออกไปเที่ยวกับเพื่อน ตะลุยราตรีกรุงเทพยันพัทยา 3 วัน 3คืน โน่นแล้ว

 หลังนั่งคุยกินดื่มกันไปจน 5 ทุ่มกว่า อีก30นาทีจะเคาน์ดาวน์ มือถือฟ้าใสก็ดัง ปรากฏเป็นข้าวโอ๊ต เสียงเริงร่า มีเสียงข้าวปั้น เสียงป้า หัวเราะ

“ไข อยู่ไหน” ข้าวโอ๊ตมันไม่เคยเรียกไขว่าพี่เร๊ยยยย...ปืนเกลียวอยู่ได้ ไขก็แก่แล้วนะไม่ได้ทำตัวเด็กๆแล้วด้วย ถือว่าสูงกว่าล่ะดิว่ะ

“อยู่บ้านเพื่อนตรงนี้....”

“กลับมาเร็ว มากินเค้กกัน มีไอ้ติมของ...รส...ของโปรดไขด้วย เร็ว กลับมา กลับมา”

“อ้าว ไหนบอกที่บ้านไม่มีอะไรไง ไม่มีใครอยู่ ไขถึงได้ออกมา โธ่เอ๊ย...”

“555 พอดี ข้างบ้านเพื่อนข้าวโอ๊ตมันตีกัน ตำรวจมาเต็ม บ้านไอ้หลินมันเลยเซ็ง เลิกงานออกไปเที่ยวข้างนอกแทน โอ๊ตเลยกลับบ้าน
ไอ้หลินเลยให้ของกินมาฝากไข กับแม่แน่ะ” เพื่อนข้าวโอ๊ตกลุ่มมันแม้แต่รุ่นพี่รุ่นน้อง ที่รู้จักข้าวโอ๊ต มันจะรู้จักไขด้วย ไม่รู้เป็นอะไร
ข้าวโอ๊ตมันชอบเอาไขไปอวดเพื่อนเรื่อย ถ้าพามาบ้านก็มาให้รู้จักไขก่อนพาไปไหว้แม่ซะอีก

“แล้วโอ๊ต เลยขับรถไปรับ ข้าวปั้นกลับบ้านมาด้วยเลย 555” เออ เอ็งไอ้โอ๊ต เอ็งนี่เจ้ากี้เจ้าการตามเคย

“เออ เออ ก็ได้” ฟ้าใสไม่เคยปฏิเสธใคร รับปากไปก่อนตามเคย ทำได้ไม่ได้ค่อยว่ากันทีหลัง ฟ้าใสจึงขอตัวกลับจาก
แชมพู พี่ลิฟต์และพวกกลุ่มจักรยาน


ทันทีที่พี่ลิฟต์บอก ทำไมจะจำไม่ได้ ก็ปีนี้แหล่ะ ปีนี้เอง ที่...ฟ้าใสได้เคาน์ดาวน์กับใคร ก็จะใครล่ะ ไม่ใช่พี่ลิฟต์ ไม่ใช่เพื่อนๆ
ไม่ใช่ ญาติ พี่น้อง ไม่ใช่ แม่ ป้า ออกจากบ้านพี่ลิฟต์ตามคำของข้าวโอ๊ต ฟ้าใสเรียกแท็กซี่


เวลาผ่านไป.....

“รถติดนะครับ” แท็กซี่ชวนคุย

“ฮื่อ” ฟ้าใสพยักหน้า กระวนกระวาย ดูนาฬิกา

“ใครๆก็ออกมาเที่ยวกัน” แท็กซี่ชวนคุยอีก

ฟ้าใสดูเวลาที่มือถืออีก ข้อความเริ่มทยอย แฮปปี้นิวเยียร์จากบรรดาเพื่อนฝูง
อีก10นาที ต้องยูเทิร์นข้างหน้า แล้วเจออีก2ไฟแดง ก็จะวิ่งฉิวถึงบ้านฟ้าใส รถไม่ขยับ อีก 5 นาที ฟ้าใสตัดใจแล้ว

“อ้าพี่คนขับ เดี๋ยวปีนี้เราได้เคาน์ดาวน์ด้วยกันนะครับ 555”


ตรืดดด ตรืดดด

“ไขอยู่ไหนน่ะ” ข้าวโอ๊ตถามเสียงเข้ม

“บนแท็กซี่นะสิ ถามได้”

“5555 อ่ะ ไม่เป็นไร เปิดเครื่องไว้” ดูมัน ยังจะมาทำร่าเริง ลากเรามาทำบ้าในรถแท็กซี่ ครึ่งๆกลางๆ ระหว่างสองบ้านงานฉลอง

“ไม่อ่ะ เดี๋ยวเคาน์ดาวน์กับพี่คนขับเค้านี่แหล่ะ กลับไปจะกินเค้ก กินไอ้ติมให้จุกเลย” ตวัดเสียงงอนใส่ข้าวโอ๊ต ปลายสายหัวเราะร่า

TBC…

 
^ ข้างบนนั่นเอามาฝากหน่อยหนึงก่อน รีบมาคุย ก่อน คนอ่านหงุดหงิด  :a5: :m16:
คนเขียนมาคุยฮะ แหะ แหะ ว่าจะมาคุยหลังจบ S.3 ก่อน S.4 ภาค ไฟนอล
คนเขียนบ้า สตาร์วอร์ (มีกล่องดินสอ มีเป้ มีโมเดล ด้วย etc…)
ดูตอนแรกที่พ่อแม่ให้ดู ก็โดนล้อ เพราะ อ่านว่า สตาร์-วาร์ ก็มัน เขียนว่า Star Wars นี่นา
อยากเขียนตอน ที่3 ก่อน แล้วค่อย มาเขียน S.1  S.2 แล้วจบด้วย S.4 อะไรทำนองนี้ แต่ก็สำนึกกำเนิด
ว่าอันตัวเรา เพิ่งจะเริ่ม ขืนเขียนไปคงโดนด่าแน่ ฐานทำให้คนอ่านปวดหัว แล้วคงพาออกทะเล ถ้าต้องบอกเล่าตัวละครต่างๆ
เลยค่อยๆใจเย็นๆจับมือคนอ่าน ไปด้วยกันตั้งกะต้น จุ๊บ จุ๊บ คนอ่านด้วย ที่ตามมาด้วยกันถึงขนาดนี้ เล่าให้แม่กับพี่สาว
น้องสาวฟังทุกวัน ว่ามีคนอ่านนะ แต่ไม่บอกว่าลงที่ไหน หวังว่าเขาไม่มาเปิดคอมเช็ค เปิดคงเจอ ชื่อหลายเรื่องมาก
ลองแต่งไว้ตั้งหลายเรื่อง เขียนได้4-5หน้าก็หยุดไป จนมาฮึด เอาเรื่องนี้ พอได้ลง มีคนอ่าน เลยฮึดสู้ต่อมาเรื่อยๆ

ใครๆก็ด่าพี่ลิฟต์ ดูเหมือนพี่แกก็เลวเป็นปกติ ใครจะเห็นใจแกบ้าง ก่อนแกจะเริ่มนอกใจเมียแกเคยเจออะไร
(ก็เอ็งไม่เขียน แล้วคนอ่านจะรู้ได้ไง- แค่เนื้อหลัก ก็แทบพิมพ์แบบจิ้มๆใช้1นิ้วจิ้มก็แทบไม่ทันแล้วอ่ะฮะ#Rasp)
พี่ลิฟต์แกเคยซ่อนกล้องจับผิดเมียหลักฐานครบ แต่ก็ปล่อยไว้ถือว่ามีคนดูแลป๊ะกับม๊า ระดับพี่ลิฟต์นี่ ฝีมือเทคนิค
พอกับไลท์ในเดทโน๊ตเลยอ่ะฮะ ใช้เส้นผม วาง ไส้ดินสอ สารพัดอุปกรณ์จับผิด ความสามารถระดับนี้
ทำให้ฟ้าใสเกิดความนับถือ ถึงยอมปล่อยตัว คิดว่าคบกับยางามิ ไลท์ ในการ์ตูนเดทโน๊ต
แล้วจะจัดให้มี พี่ลิฟต์ ทอค นะฮะ

ส่วนฟ้าใส คนเขียนก็........จะ...ใจร้ายกับฟ้าใสต่อไป   :beat: (ขอโทษ คร้าบบบบบบบบ)
เหตุผลกับบรรทัดฐานของแต่ละคน สิ่งแวดล้อม การเลี้ยงดู ประสบการณ์ชีวิต ส่งผลต่อความคิดและทัศนคติ แน่นอน
การเลี้ยงดูแบบ จับวาง จับตั้ง ไม่ให้คิด แล้ว ไอ้ หนูไข มันจะไปคิดอะไรได้ แค่เดินเข้าร้านอาหารก็ตัดสินไม่ถูกแล้ว
ว่าจะเลือกนั่งโต๊ะตัวไหน 

คน สัตว์ สิ่งของ เกิด แก่ เจ็บ ตาย สืบพันธุ์  เป็นเรื่องธรรมชาติ ความสุข ความทุกข์ ความดี ความเห็นแก่ตัว ความชั่วเหล่านี้
 เป็นเรื่องที่คนเขียนอยากสื่ออ่ะฮะ แต่จะอาศัยผ่านชีวิต หรือเรื่องราวใด แนวใดของรสนิยม คงต้องลองพยายามดู
ฝันอยากแต่งเก่งๆออกเป็นเล่มหนาๆสัก 3นิ้วครึ่ง

ส่วน ชื่อเรื่อง ที่เนื้อมันไม่เห็นจะรักใส เอาซะเลย
อ่า....คนเขียนก็พย๊ามพยายามคิดนะฮะ จะเอาแบบโหดมันฮา ก็ไม่ไหว
ก็เลยเอาตรงจุดเริ่มต้นนี่แหล่ะ ที่พี่โม่งกับหนูไข เค้าปิ๊งกัน
เลยได้เป็น เติมรักใส ใส่หัวใจ 2ดวง แต่เนื้อเรื่องนี่มัน.... อย่าว่ากันนะคร้าบบบบบ

ไปเที่ยวมาสนุกครับ ฝนตก ตา-หลอดดดดดด
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.4 มาต่อ+มาคุยฮะ (7/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 08-10-2012 00:27:36
ว่าแล้วเชียวต้องอีหรอบนี้ ทำไมซื้อหวยไม่ถูกหว่า อินจัด สงสารอะ นั่นก็เพื่อน วุ้ย  :m16: :m16: :m16: ทำกันได้ลงเนอะ
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: อีตาลิฟท์อีกคน ก็รู้ว่าเจ้าชู้อะแต่ไม่น่า  :z6: :z6: :z6: สาบส่งอีตาลิฟท์อีกคนโทษฐานทำฟ้าใสเสียใจ

รอ ร้อ รอ บทสรุปว่าฟ้าใสจะสมหวังกะใครเนอะ

เป็นกำลังใจให้คนแต่งจ้า สู้ๆ  o13 :bye2:

ขอบคุณมากๆ ค่ะ  :L1: :pig4: :L1:+ :3123:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.4 ending (8/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 08-10-2012 13:04:55
(ต่อ)

เมื่อเนื้อไปอยู่หน้าเสือ  รอดไปเสือคงไม่ใช่เสือ

“วันนั้น ใครๆก็เมา แชมพูก็เมา” ลิฟต์นึกย้อนถึงคืนวันนั้น

วันที่ใครก็เมา แต่ความที่เขาเป็นเจ้าบ้านเลยต้องคอยยั้งไม่ดื่มไปด้วย แชมพูก็คอแข็งดื่มมากกว่าพวกเด็กรุ่นน้องผู้ชายซะอีก
แต่ก็เมาเหมือนกัน เมาแล้วก็เลยพูดคร่ำครวญ ปัญหาหัวใจ ไอ้เด็กป๋องนั่นก็อีกคน เพ้อแต่เรื่อง ให้ของกำนัลสาว สาวก็รับแต่ของ
หมดไปเยอะ แต่ก็แห้ว ส่วนแชมพู มันก็ดันไปมีอะไรกับไอ้ครูฝรั่งสอนภาษาที่มันเรียนด้วย พอได้แล้ว ครูฝรั่งมันก็หายจ๋อยไปเลย
 
แต่ตอนนี้ เขาก็รู้สาเหตุแล้ว ก็แชมพูมันเล่นนอนยังกะท่อนซุง ไม่ค่อยหือค่อยอือ ฝรั่งมันเลยเผ่น คนอย่างเขามันก็คงเลวจริง
ฉวยโอกาส ตามสายตาของใครๆ แต่ก็ไม่เคยข่มขืนใคร มีแต่สมยอมโอนอ่อน ทั้งนั้น อย่างแชมพู ที่เขาเห็นว่าเมาแล้วก็ให้ค้าง
 
พอดึกก็ต้องตรวจตามแบบเจ้าภาพที่ดี แต่ผู้หญิงมาอยู่ตรงหน้าไม่ลองชิมหน่อยก็อย่างไงอยู่ จูบไปแล้ว ล้วงไปจับนมแล้ว
ก็ไม่มีท่าทางปฏิเสธ เขาลงมือบริการให้ความอบอุ่นต่อ ผิดกับไอ้ไข่ซะอีกที่ปัดป้องห่อตูดซะแน่นหนาเวลาต้องไปค้างที่ไหนด้วยกัน
  ขนาดเขาให้ลองบุหรี่ไส้กัญชา เมาจนเคลิ้ม มันก็ยังปฏิเสธเขา
 

พอลิฟต์พูดเท่านี้ฟ้าใสก็พอเข้าใจ เพราะก็รู้จักแชมพูดี มันเป็นก็นับว่านิสัยดี ดูแล เทคแคร์เพื่อน แม้ว่าจะมีแนวดื้อๆรั้นๆ
 จะทำ จะทำบ้าง เรื่องที่มันไปนอนกับฝรั่ง นั่นฟ้าใสก็รู้ มันเล่าให้ฟัง ก็เพราะมันว้อนอยากลองเอง ถึงหน้าตามันไม่สวยจน
ไปทำตามาแล้ว ดัดฟันก็แล้ว ถ้าดูแลดีๆก็ยังโอ ล่ะน่า แต่เรื่องนิสัยจุกจิก กับไอ้เรื่องอะไรเล็กน้อย คงทำให้บางครั้งมันก็กลายเป็นคนน่าเบื่อไปได้

นี่ ขาดอีกแค่4เดือน ก็ครบปีแล้วสินะ ที่เขาเป็นควายให้เพื่อนตีหน้าใสซื่อใส่ ต่อให้ไอ้หมูแฮมมันหาเหตุผลมาอ้างว่ามันไม่บอก
เพราะไม่อยากทำร้ายจิตใจฟ้าใส แต่มันก็เกินไปที่มาใช้ของร่วมกันกับเพื่อนกันเองแบบนี้ แถมระยะเวลาก็ต่อเนื่อง
ไม่ใช่แค่เมาและขี่ จับ ปรับ จบ ก็ยังคงจับ ปรับ กับต่อๆไปอีก ฟ้าใสก็รู้ว่านี่คงเป็นกรรมที่เขาต้องรับ ที่เขาทำกับเมียพี่ลิฟต์
รู้ทั้งรู้ แต่ถ้อยคำที่ร่างสูงใหญ่พร่ำออดอ้อนขอมีอะไรกับฟ้าใสว่า พี่ไม่ได้นอนกับพลอยเขานานแล้ว เพราะพอมีอะไร
ฝ่ายนั้นก็ทำท่าเจ็บ จนเหมือนพี่จะไปข่มขืนเขา มิน่า พี่ลิฟต์ถึงได้ใช้ปากใช้ลิ้นใช้นิ้ว  เก่งมาก

จากที่คิดว่ามีพี่ลิฟต์เป็นเพื่อน เพื่อนกันธรรมดา กันเพื่อนที่นอนด้วยได้ ก็อุ่นใจพูดคุยกันสนิทกว่า พี่ลิฟต์ก็สอนฟ้าใสหลายเรื่อง
ทั้งเรื่องงาน และเซ็กซ์ที่เปิดกว้าง หยอกล้อ เล่นท่าพลิกแพลง อิ่ม และเติมเต็มในชีวิตที่มีส่วนขาดหายไป

ฟ้าใสก็กั้นขอบเขตกับพี่ลิฟต์แค่เพื่อนกินเพื่อนนอนจริงๆ ถึงจะบอกว่าไม่เป็นไรที่จะไปมีใครๆ และยังต้องรับฟัง
รู้สึกไหม ก็ต้องมีบ้างห่วงหวง แต่ไม่อาจทำอะไรได้ ฟ้าใสป็นผู้ชาย เป็นคนที่มาทีหลังเมียที่จดทะเบียน
ทางบ้านฟ้าใสเอง  เขาก็ไม่เคยบอก แนะนำให้รู้จัก จนวันหนึ่งที่พี่ลิฟต์ คงอยากเข้าไปบ้านฟ้าใสมาก
เดินดุ่มๆไปหาถึงบ้าน จนโดนไอ้เบบี๋กัด ดีว่าไอ้ดอลล่ามันไม่ใช่พวกปากไว ไอ้เบบี๋มันตัวเล็กตีนๆแมนๆอย่างแกเลยไม่เป็นไร
ฟ้าใสก็นึกสมน้ำหน้าพี่ลิฟต์หน่อยหนึ่ง เคยห้ามแล้วไม่ให้เข้ามา ก็ยังอยากมาโชว์ตัว ทำเอาฟ้าใสโดนแม่พรรณเตือน
ว่าต่อไปจะคบใครให้ดูให้ดีๆ

แม่จ๋า แม่จะรู้ไหมว่า ฟ้าใสโตและผ่านอะไรมาจนทำให้มุมมองในชีวิตมันเปลี่ยนไปแค่ไหน  ป่วยการจะทำดี
ฟ้าใสขอแค่มีชีวิตอยู่เป็นปกติ ให้ความสุขกับตัวเอง ขนาดฟ้าใสไม่ได้ต้องการเป็นเจ้าของใครเพื่อให้ใครมาแย่ง
ขอแค่มีความสุขด้วยกันแค่บางเวลา ก็ยังมีเรื่องให้ฟ้าใสต้องตัดความสุขนั้นไปอีก

รักพี่ลิฟต์ไหม ถ้าจะถาม  ตอนที่มีพี่ลิฟต์คอยตามตอแยอยู่ตลอด ตอนนั้นบอกได้เลยว่ารำคราญสุดๆ ผู้ชายบ้าขี้เอา
อัธยาศัยดีกับขี้หลี มันห่างกันนี๊ดเดียว แต่เมื่อสนิทขึ้น แม้รำคราญและไม่ถูกใจบางอย่าง แต่ก็รู้สึกดีที่มีคนเอาใจแทคแคร์ดูแล
หวีผม เสียบดอกไม้ สารพัดเอาใจ แบบสาวน้อยเลยทีเดียว พี่ลิฟต์คุยเก่ง มีเรื่องเล่ามากมายเพราะคบเพื่อนเยอะที่แวะเวียน
มาหาทั้งไทยและต่างประเทศ ที่ฟ้าใสยอมพี่ลิฟต์ที่อยุธยา ใจหนึ่งก็เพื่อแก้แค้นไอ้โภชน์ด้วย
ในเมื่อจุดเริ่มที่นี่ ที่ใจฟ้าใสเริ่มให้ใจมันไป ฟ้าใสก็ตัดมันทิ้งให้คนอื่นบ้าง

เวลาที่ล่วงผ่านเลยไป ความผูกพัน ย่อมเกิดขึ้น จะว่ารัก ก็ไม่เต็มปาก ที่ผ่านมาคงไม่กล้าให้ใจใครอีก ความรู้สึกที่บีบคั้น ว่าเราคบกัน
เพื่อมีอะไร เวลาที่ต่างคนต่างมีบ้านของตัวเอง ฟ้าใสก็กลัวเกินกว่าจะใช้ชีวิตร่วมกับใครอีก เคยอยากผลักไสให้พี่ลิฟต์ออกไปจากชีวิต
 แต่พอเวลานี้มาถึง ไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องมานั่งร้องไห้เสียน้ำตาอีก

แต่พอฟังคำที่บอกกล่าว น้ำตามาจากไหน ฟ้าใสเองยังแปลกใจ  ไม่อยากคิดว่ารัก ไม่เคยคิดจะรักผู้ชายแบบนี้ พี่ลิฟต์เอง
ก็ทำลายชีวิตครอบครัวที่ฟ้าใสสร้างมากับไอ้โภชน์

หรือจะแค่เสียใจที่ตัวเองไม่มีค่าสำหรับเพื่อนอย่างแชมพู คบกันมา 9ปี สู้ พี่ลิฟต์เพื่อนใหม่แต่ให้ความสุขแชมพูได้
ฟ้าใสเคยโดดน้ำไปช่วยแชมพู เคยเสี่ยงทั้งที่รู้ว่าเป็นเรื่องบ้างี่เง่า ยอมว่ายจากฝั่งเป็นเพื่อนเพราะแชมพูดื้อจะไปเล่นน้ำข้างเรือ
ที่จอดห่างฝั่งแบบคนอื่นบ้าง เมื่อเห็นตรงน้ำตื้นขุ่น ทั้งที่เพียรบอกย้ำว่ามันไกล ถึงสายตาเรามองจากฝั่งว่าใกล้ ก็จะไปคนเดียว ถ้าฟ้าใสไม่ไป
จนฟ้าใสต้องยอมเสี่ยงอันตราย ไปเป็นเพื่อน และว่ายไปไม่ถึง เพราะตอนนั้นเราไม่ได้ใส่ตีนกบ ดีว่ามีเรือเล็กจอดอยู่ครึ่งทาง
เลยตัดสินใช้แรงที่เหลือ ว่ายไปเกาะได้อยู่

แม้คำสัญญาที่พี่ลิฟต์จะพูดในทันทีว่าจะเลิกติดต่อกับแชมพูในทันที ทำให้ฟ้าใสรู้สึกว่าตัวเองมีค่า พี่ลิฟต์เห็นความสำคัญของเขา
มากกว่าอีกฝ่ายอย่างทันทีไม่ต้องคิดให้มากความ ก็พิสูจน์ใจที่มีให้ต่อฟ้าใส

ใช่...มันต่างจากอีกคน ที่เมื่อต้องเลือกระหว่างฟ้าใสกับอีกคน มันไม่เลือกฟ้าใส เขาไม่สำคัญ
ฟ้าใสทำร้ายเพื่อนไม่ได้  จะบอก จะเตือน แชมพู ก็คงต้องปล่อยแชมพูเอง แชมพูกล้าทำก็คงต้องกล้ารับผล พี่ลิฟต์เองฟ้าใสก็รู้จักดี
สาวที่มีอะไรด้วยจะมีระยะแค่2เดือน พี่ลิฟต์ก็จะหายเห่อ จากนั้นไป ฝ่ายสาวๆพวกนั้นไล่ตามจับพี่แกเอาเอง ใครเบื่อ ก็หายกันไป
เหมือนพักหลังๆ ที่ พี่ลิฟต์เอาเวลาช่วงเย็นวันศุกร์ที่เคยใช้กับฟ้าใสไปให้แชมพู เพราะมันทำงานประจำ
วันอาทิตย์ก็ต้องกลับบ้านพ่อแม่มัน พอตอนวันอาทิตย์ฟ้าใสไม่ว่าง วันอื่นๆไม่ว่าง พอฟ้าใสได้เจอเฮียแก
ก็ถึงได้เห็นว่ามีการโทรศัพท์อะไร ดูแปลกๆวุ่นวายๆ วันที่เจอกันก็ไม่ค่อยแน่นอน แต่ตอนนี้ทุกอย่างคงจบลงแล้ว

น้ำตาบ้าจะไหลมาทำไม รักหรือไม่รัก มันก็เจ็บทั้งนั้น



โปรดติดตามตอนต่อไป
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.4 ending (8/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 08-10-2012 14:46:47
 :m15: :monkeysad: :m15: :m15: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :o12:

ขอบคุณมากค่ะ  :pig4: :L1:+ :3123:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.4 ending (8/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 08-10-2012 15:01:22
เมื่ออ่านทุกๆอย่างในสองหน้าสุดท้ายจบ :a5:
ก็สรุปตามความรู้สึกนึกคิดของตัเองได้ว่า :m13:
มุมมองของแต่ละคนนั้นต่างกัน แต่ละคนต่างก็มีเหตุผลสนับสนุนมุมมองของตัวเอง
วันนี้เลยไม่ขอเม้นท์เรื่องราวของฟ้าใสล่ะนะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.4 ending (8/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 08-10-2012 15:07:49
บทสรุปเป็นประการใดล่ะทีนี้
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.4 ending (8/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 08-10-2012 15:13:05
อ่านแล้ว..... อืมโอเคนะ

แต่เปลี่ยนชื่อเรื่องเถอะค่ะ มันทำให้คนกดเข้ามาอ่านมีความคาดหวังต่อเนื้อเรื่อง
พอเจอว่ามันไม่ใช่ทำให้รู้สึกว่าโดนหลอก นอยด์เล็กๆ หรือมากก็ว่ากันไป

ถึงจะหงุดหงิดกับฟ้าใสบางเรื่อง แต่ก็เข้าใจว่าเป็นคนแบบนี้เองแหละ
เป็นน้องเป็นนุ่งจะจับมาตีก้นซักที แล้วบอกว่ารักตัวเองให้มากกว่านี้หน่อย

และอยากขาคู่ใส่ไอ้พวกสามีทั้งหลายมากๆ -*-  :z6:
ไม่ใช่เข้าข้างฟ้าใสหรอกนะ แต่ที่พวกแกทำอ่ะ ก็คือการแย่งฟ้าใสมาจากคนก่อนหน้านี้
แล้วก็ทิ้งๆขว้างๆ มันน่านัก
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥S.3 Ch.4 ending (8/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: goonglovenut ที่ 08-10-2012 17:16:12
เอาเป็นว่าไม่ว่าฟ้าใสดีกว่า ขอให้เจอรักแท้เร็วๆ ขอให้เป็นพี่โม่งแล้วกันนะ สู้ๆๆๆ  :กอด1:

ว่าแต่ตอนสปอยด์จะใช่พี่โม่งหรือเปล่านะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥บทส่งท้าย Season 3 และบทนำ Season 4 The Final Love Sai (8/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 08-10-2012 17:39:57
ขออนุญาตแปะสั้นๆ ของบทส่งท้าย Season 3 และบทนำ Season 4 The Final Love Sai เลยล่ะกันฮัฟ


Ch.5

ฟ้าใสเข้ามาหลบอยู่ที่บ้านแม่ ไม่รับโทรศัพท์ ที่พี่ลิฟต์พยายามโทรมาหา นึกอยากเปลี่ยนเบอร์ ก็เสียดาย
เด็กอุ๊ที่ไปเฝ้าร้านก็บอกว่า มีเพื่อนมาหา เพื่อนที่ชื่อพี่ลิฟต์ ฟ้าใสได้แต่ถอนหายใจ
ถ้าเจ็บเรื่องพี่ลิฟต์ ดูว่าเจ็บเรื่องแชมพูมากกว่า ว่าแชมพูเลือกพี่ลิฟต์มากกว่านึกถึงฟ้าใส
ซุกตัวอยู่ในบ้าน เป็นที่พึ่ง พี่ลิฟต์เคยมาตามถึงในบ้าน แต่ก็เจอป้านวลไล่ทางอ้อมกลับบ้านไป
ป้านวลของฟ้าใสนี่ก็ร้ายเป็นกับเขาด้วย เมื่อฟ้าใสบอกว่าไม่อยากเจอ ป้านวลเลยทั้งกระทบกระแทกแดกดัน ไล่ไอ้ดอลล่าประชดคน

ออกไปร้านก็ต้องคอยดูเวลาว่าเป็นเวลาที่พี่ลิฟต์ต้องอยู่บ้านกับเมีย
ปิดร้านเรียบร้อย  เช็คของในร้าน ป๋าเรนโทรมาให้มาเอาของ ของเหลือในโรงงานเยอะมาก
ไม่เอาตังอีกต่างหาก ขอแต่ค่าขนมให้เด็กคนงานค่าคัดของ  แพคของ  และค่ากล่องใส่ เพราะป๋าต้องซื้อกล่อง
เสียงแกร๊ก ที่ประตูหลัง ข้าวโอ๊ตหรือเปล่า ไม่น่าใช่อีกคนนะ ไม่มีเสียงมอไชต์บึ้มๆนี่นา

“ข้าวโอ๊ต!!!” ฟ้าใสตะโกน

“.....”
เสียงฝีเท้า ใกล้เข้ามา จังหวะก้าวเดิน ฟ้าใสรู้แล้วว่าใคร จะซ่อนหลังโต๊ะดีไหม เดี๋ยวก็กลายเป็นชวนเล่นซ่อนหา

“ไข...” เสียงทุ้มนุ่มราวพระเอกละครช่อง 3

“เอ่อ...พี่”

ร่างสูงเข้ามาใกล้....


Season 4 The Final Love Sai


ฟ้าใสมารอขึ้นเครื่องที่ สนามบินสุวรรณภูมิ
อยากมีใครที่รู้ใจปรึกษา อยากได้อ้อมกอดที่อบอุ่น ไม่อยากให้ที่บ้านต้องทุกข์ใจไปด้วย
ไม่ต้องพูดคุยก็ได้ ขอแค่นั่งด้วยกันเท่านั้น
คิดอยู่นาน โทร ไม่โทร ไม่โทร อยากโทร
ฟ้าใสโทรไปหาพี่โม่ง ขอขึ้นไปเที่ยวที่ลำปาง และแวะไปหา

“มาได้เลยนะ แล้วถ้ามีเรื่องอะไรต้องบอกพี่นะ”

“ฮะ....”ร่างเล็กทอดเสียงอย่างอ่อนแรง

“.....” หลังจากนิ่งเงียบ พี่โม่งก็พูดต่อ “พี่จะไปรับ” เสียงกล่าวต่ออย่างหนักแน่น...


TBC....
ตอนต่อไปขอเวลาหน่อยนะฮะ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥บทส่งท้าย Season 3 และบทนำ Season 4 The Final Love Sai (8/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: kasune ที่ 08-10-2012 20:35:48
สงสารฟ้าใสมากอะ ....
คบใครก็ไม่ยืด(อีกแล้ว) โดนหักหลัง(อีกแล้ว)
ไหนจะยัยแชมพู... เธอมันเลว ยอมหัักหลังเพื่อนสนิทที่คบมานับ10ปีได้
เลือกผู้ชายและเลือกที่จะหักหลังฟ้าใส :(
แล้วก็ผิดหวังกับลิฟต์นิดหน่อยนะ เฮ้อนายนี่มัน..
สุดท้ายคือพี่โม่งนั่นแหละที่ดีที่สุดแล้ว T____T
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥บทส่งท้าย Season 3 และบทนำ Season 4 The Final Love Sai (8/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 08-10-2012 20:49:43
สมหวังซักทีเถอะพ่อคุณพ่อทูลกระหม่อง ลุ้นจะแย่อยู่แล้ว พี่โมงออกโรงซักกะที
หายไปทำลูก มีเมียซะไม่มีบทเลย แล้วหนุ่มแว่นอีกคนอะครายยยย จะมีผลอะไรมั่งเนี่ย รอติดตามตอนต่อไป อิอิ

เป็นกำลังใจให้จ้า ตามฟ้าใสตล๊อดดดดด เลยเนี่ย รักมากมาย

ขอบคุณมากค่ะ  :L1: :pig4: :L1:+ :3123:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥บทส่งท้าย Season 3 และบทนำ Season 4 The Final Love Sai (8/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 09-10-2012 13:27:57
เอาSeason 4มาเดียวนี้น้าาาาาาาา   :serius2:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥บทส่งท้าย Season 3 และบทนำ Season 4 The Final Love Sai (8/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: DIIK ที่ 09-10-2012 13:31:21
รักสุดท้ายแล้วววววววววววววววววววววววว
พี่โมงขาาาาา (ขอให้เป้นพี่แกเหอะ *กอดขาคนแต่ง)

เรื่องนี้เป้นเรื่องที่รออ่านทุกวันมากๆ ค่ะ
คือเหมือนตามติดชีวิตคนธรรมดาจริงๆ 555 (ถึงจะมีเวอร์ไปมั่ง แต่อินจัด!)
ฟ้าใสเป็นเด็กหัวอ่อนต้องการความรัก ไม่แปลกที่จะเป็นแบบนี้ถึงจะขัดใจหลายๆอย่าง
แต่ก็เข้าใจแล้วก็อดลุ้นให้เจอรักดีๆ ไมได้ทุกที

ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆ ให้ได้นั่งลุ้นทุกวี่ทุกวันนะคะ ><

*ปูเสื่อรอ S4

หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥บทส่งท้าย Season 3 และบทนำ Season 4 The Final Love Sai (8/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: timvasabi ที่ 09-10-2012 15:33:08
เอาเหอะ รอ s.4 ค่ะ อยากดูว่าจะเป็นไงต่อไป
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥บทส่งท้าย Season 3 และบทนำ Season 4 The Final Love Sai (8/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: lunar ที่ 09-10-2012 17:12:40
ฟ้าใสก็ยังคงเป็นฟ้าใสที่วิ่งหาความรัก ความอบอุ่น ที่พึ่งพิง
อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยต่อไป ไล่ไปเรื่อยๆจนเกือบจะรอบวง
คราวนี้หวยออกที่โม่ง

ฟ้าใส โม่งแต่งานแล้วนะ ทำอะไรก็คิดให้ดีๆก็แล้วกัน
ขอสักครั้งที่ฟ้าใส ใช้ใจใสๆจริงๆ จะน่ารักมากเลย


รออ่านตอนต่อไป

 :pig4:


หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.1(9/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 09-10-2012 17:54:54
Ch.1

“ไอ้มาย!!! เมริงมาถึงหรือยัง” เสียงไอ้เป้เอ็ดตะโรลั่น ทันทีที่เขาเปิดโทรศัพท์ แมร่งบอกแล้วพวกมันก็ยังจะมาคอยทำซากอะไร

“เฮ้ย...เมริงนี่ กูก็เพิ่งมาถึงนี่แหล่ะ บอกว่าไม่ต้องมารอ กรูกลับของกรูเองเองได้ มีรถเมล์ รถตู้เยอะแยะ ห่าน ข้าวของกรูก็ไม่มีอะไร
อย่ามาหวังของฝากนะเมริง มีแต่ไส้อั่วของแม่กรู” มายพูดไปก็โดนอีกฝ่ายสวนกลับ

“เชรี่ยนี่ เมริงจะบ่นอะไรของเมริงว่ะ กรูแค่ถามว่าเมริงมาถึงยังแค่เนี่ยะ” ทันใดก็มีอีกมือมาคว้ามือถือไปพูดเอง

“ไอ้มาย เมริงช่วยกรุณามาที่ร้านตาบัก ชั้น4ด่วน แดกกาแฟรอเมริงจนจะทำดีท็อกซ์ทางปากแล้ว” เป้เร่งมายเพราะรอมาเป็นชั่วโมงแล้ว

“อ้าว แล้วเมริงจะไปรอกรูชั้น4ทำไมว่ะ กรูมากรูก็ออกชั้น2 ถ้าเมริงรอกรูชั้น 2 เมริงกับกรูก็ได้กลับแล้ว”

“โอย พวกเมริงไม่ต้องพูดมากแล้ว เมริงก็รีบเดินมา” เคนรีบตัดบท เพราะรู้ว่าไอ้มาย เพื่อนกลุ่มเดียวกันจะกลับจากเชียงรายวันนี้
และเขาเองก็ต้องมาส่งแม่กลับอุบล เห็นว่าเวลาใกล้เคียงกัน เลยรอรับเพื่อนเพื่อเอาตัวไปกินต่อกันซะเลย


มายหนุ่มน้อย ร่างสูง186 เซ็นต์ วัย21ปี เพิ่งกลับมาจากเชียงราย ขณะที่เดินผ่านบริเวณที่นั่งรอของผู้โดยสารขาออกในประเทศ
เขาสังเกตเห็น...ตอนแรกไม่แน่ใจคิดว่าเป็นผู้หญิงที่ดูทอมๆทะมัดทะแมง เจ้าตัวซึ่งอยู่ในอารมณ์เศร้า นั่งเหม่อ มีนิตยสาร
เกี่ยวหนังและดนตรีตรงหน้ากางเอาไว้เฉยๆ คงอกหักมาหรือเปล่า

ไอ้ใบหน้ารูปไข่ ดวงตาคมขนตางอนเป็นแพ มีน้ำตาคลอ จะหยดมิหยดแหล่  ดึงดูดให้เขาอยากเข้ามาใกล้  อยากช่วยปลอบโยน
ประโลมใจให้หายเศร้า  อื้อ...แรกเห็น แค่มองห่างๆก็เหมือนกับได้กลิ่นกายของคนหน้าสวย เพื่อนเอ๊ย..ไอ้เป้ ไอ้เคน เมริงรอไปก่อน
 คนตรงหน้า นี่น่าสนใจกว่าเยอะ
มายแอบถ่ายรูปคนน่าสนใจไว้หลายภาพ ริมฝีปากอิ่มแดงเรื่อ ขบเม้มอย่างอดกลั้นความรู้สึก น้ำตาที่คลอปริ่ม หยดไหลตามร่องแก้ม
หยดลงที่นิตยสารที่กางอยู่ เจ้าตัวค่อยๆใช้นิ้วเรียวกรีดน้ำตา มือเล็กๆเท่ามือเด็กป.6ซะละมั๊ง พอเช็ดน้ำตาไปที ก็สูดหายใจลึกๆที
แต่พอแอบมานั่งข้างหลังดูใกล้ๆ ก็รู้ว่าเป็นผู้ชายหน้าสวย

ตรืดดดดด ตรืดดดดดด

อ้าวเสียงโทรศัพท์ดัง ห่าน ไอ้เพื่อนเวร เชรี่ย สาวน้อยเอ๊ยพ่อหนุ่มน้อยของกรู เลยหันมามองกรูเลย  ทำไงดีว่ะ ยิ้มให้
อื้อ... น้ำตายังคลออยู่เลย เหมือนต้องมนต์ มายส่งผ้าเช็ดหน้าของตัวเองให้....
ร่างเล็กก้มหน้างุด ปาดน้ำตาด้วยมือตัวเอง  พึมพำ ขอบคุณ ส่ายหัวปฏิเสธ

ตรืดดดด ตรืดดดดด เสียงโทรศัพท์แมร่งก็บ้าดังอยู่ได้ เดี๋ยวกรูหนีกลับเองให้พวกมันแดกกาแฟทำดีท็อกทางปาก ทั้งคืนเลย
.
.
.
.
ฟ้าใสเห็นแล้ว พี่โม่ง มายืนรอรับ ดีใจจนน้ำตาพาลไหลออกมาอีก รีบกระพริบไล่ให้มันย้อนกลับไป ตอนขามาก็อายจะแย่
นั่งร้องไห้ที่สนามบิน จนมีคนส่งผ้าเช็ดหน้าให้ อายเด็กนั่นจริงๆ ดีว่าได้เวลาให้เช็คอิน เลยเดินหนีมา
พี่โม่งคงมากับลูกชาย นั่นคงเป็น เจ้าหนูมะนาว อายุน้อยกว่าอิ๊กคิวหลานเขา

“สวัสดีฮะ พี่โม่ง” ฟ้าใสยกมือไหว้ รุ่นพี่ผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งในหัวใจเขาตลอดมา

โม่งจูงลูกชายเดินเข้ามาหาหนุ่มรุ่นน้อง โอบไหล่ร่างเล็กอย่างปลอบโยน รู้ว่าคงมีเรื่องทุกข์ใจ ถึงได้ยอมมาหาเขาถึงที่นี่
เคยออกปากคะยั้นคะยอให้มา ตั้งแต่ได้ข่าวว่าเลิกกับเพื่อนรุ่นเดียวกันที่ชื่อโภชน์  เวลาคุยกันก็ไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟังสักที
บอกแต่ว่าสบายดี  เห็นหน้าคนตัวเล็กก็ใจหายอยู่ลึกๆ ถ้าทำได้โดยไม่มีใครต้องเจ็บปวด เขาคงอยากพาคนตรงหน้า
ไปอยู่ด้วยกันที่ไหนให้หมดเรื่องราวทุกข์ใจ
.
.
.
“หวัดดีครับ ชื่ออะไร ครับ อาชื่อฟ้าใสครับ เรียกว่า อาไขก็ได้ครับ” ฟ้าใสพูดชื่อตัวเองไปแล้วก็สะท้อนใจ  ชื่อของเขาฟังดูแล้ว
ชีวิตน่าจะมีแต่โลกที่สดใส แต่ทำไมความเป็นจริง ต้องเจอแต่ต้องเสียน้ำตา ผิงผิงเคยชวนแอบเพื่อนๆไปดูหมอ คำทำนายทายทัก
ว่าชีวิตที่เลขวันเกิดตรงกับเดือนกับข้างขึ้นข้างแรม อย่างเขา ชีวิตจะเจอเรื่องวุ่นวายเป็นช่วงๆ 3ปีดี3ปีร้าย หมดเรื่องวุ่นก็จะดี
พอดีไปได้อีก 3 ปีจะเจอเรื่องวุ่นอีกฟ้าใสก็ว่าฟังดูคลุมเครือ  ก็ชีวิตคน ใครมันจะเลิศเลอเพอเฟ็กต์ล่ะ ค่าดูตั้ง400
ส่วนผิงผิงน่ะเหรอ อาจารย์หมอดูบอกว่า ดวงเป็นหญิงเหล็ก ต้องทำทุกอย่างเอง ซึ่งก็ดูแล้วก็เหมาะกับผิงผิงมาก
เพราะไม่เห็นเคยเรียกใช้ใคร ผิดกับสาวฝ้าย ที่ของห่างมันแค่ 2ก้าว มันก็วานคนอื่นหยิบให้

“ซาหวัดดีครับ มานาว ชื่อมานาวครับ” หนูน้อย แกะมือออกจากมือพ่อ ยกมือสวัสดี พร้อมแนะนำตัวเอง เด็กน้อยหน้าตาน่ารักตาโต
จมูกโด่ง มีส่วนเหมือนพี่โม่งอยู่มากโข โดยเฉพาะรูปคิ้วนี่ เหมือนจนฟ้าใสอยากหัวเราะ ก็คิ้วพี่โม่งน่ะ มันก็ดูหนานะแล้วก็ดูยุ่งๆ เจ้าตัวก็ชอบขมวดคิ้วด้วย

ฟ้าใสเลยแกะมือพี่โม่งออกมั่ง ทรุดตัวนั่งทักหนูน้อย  หลังจากโม่งโอบไหล่ปลอบใจคนร่างเล็ก ก็รับเอากระเป๋าสะพายใบย่อม
มาสะพายไว้เอง หลังจากนั้นก็จับมือหนุ่มหน้าหวานไว้ไม่ยอมปล่อย

“คร้าบ หวัดดีครับ มานาวน่ารักจังเลย ขออาไขหอมหน่อยได้เปล่า” ฟ้าใสอดไม่ได้เห็นเด็กๆ ต้องขอหอม

“ได้ฮะ งั้นมานาวก็ขอหอมอาไขด้วยนะฮับ ตัวอาไขหอมจัง” สิ้นเสียงเด็กน้อย ฟ้าใสก็ต้องหัวเราะคิก หลังจากแลกกันหอมแก้มคนละที ฟ้าใสก็แอบกอดเจ้าตัวเล็กด้วย

“ฮื่อ ตัวมานาวก็อุ่นดี อาไขเพิ่งลงจากเครื่องอ่ะ อากาศเย๊นเย็น”

“งั้นอาไขก็กอดมานาวไว้ก็ได้ แม่บอกมานาวตัวอุ่น”

โม่งมองดูหนุ่มรุ่นน้อง มองทีไรก็ยังคงคิดว่าเป็นเด็กหนุ่มน้อยเมื่อวานซืนอยู่ดี ต่อให้วันเวลาผ่านไปสักเท่าใด
ฟ้าใสมาที่นี่ก็ดี อยู่พอให้เขาได้ช่วยปลอบใจประคับประคองให้เจ้าตัวได้มีกำลังใจ ที่มีเจ้ามะนาวลูกชายตัวน้อย
คงพอเป็นเพื่อนเล่นให้คลายเหงา และคงป่วนจนทำให้เจ้าตัวไม่มีเวลาคิดมากเรื่องต่างๆนัก


 :pig4: ขอบคุณทุกเม้นท์ทุกกำลังใจฮะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.1 (9/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 09-10-2012 18:52:56
เจอพี่โมงซักกะที กว่าจะโครจรมาพบกันได้ผ่านมากี่ปีแล้วหว่า ใหนจะน้องมายอีก ต้องมีบทบาทสำคัญแน่ ๆ เลย อิอิ หยังงี้ต้องรอตอนต่อไป

ขอบคุณมากๆๆค่ะ

 :L1: :pig4: :L1:+ :3123:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.1 (9/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 09-10-2012 19:52:00
เฮ้อ..เสียดายพีโม่่งจัง
เมื่อไรชีวิตฟ้าใสจะสมกับชื่อตัวเองซะทีนะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.1 (9/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: kasune ที่ 09-10-2012 20:35:01
พี่โม่งจ๋า คนดีที่สุดของฉัน TT"
แต่ตอนนี้คงต้องขอเล็งมาย พระเอกตัวจริง(รึเปล่า)ไว้ก่อนนะคะ  :z2:
หวังว่าคนนี้จะเป็นคนที่ดีที่สุดนะคะ...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥บทส่งท้าย Season 3 และบทนำ Season 4 The Final Love Sai (8/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: sinyou ที่ 09-10-2012 23:58:53
เมื่อไหร่ไขจะมีความสุขกับเขาสักที ยิ่งอ่านยิ่งแย่ ไขเศร้าตลอดเลย  :o12: :m15:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.1(ต่อ-มาหน่อยหนึงก่อน) (10/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 10-10-2012 12:33:21
(ต่อ)

ฟ้าใสเลียบเคียง ถามว่าสะดวกจริงหรือเปล่าที่พี่โม่งพยายามตื้อให้ค้างที่บ้าน ก็เกรงใจนี่นา ถามย้ำแล้วย้ำอีกจนโดนดุจนได้
ฟ้าใสอายุจะ25แล้วนะ ถึงยังไม่เต็มก็เหอะ  พอโดนอ้างว่าจะให้ช่วยเลี้ยง มะนาวด้วย ทำเอาฟ้าใสปฏิเสธไม่ได้

อาจารย์เบญภรรยาพี่โม่งเข้าบ้านมาตอน 6 โมงครึ่ง ฟ้าใส สวัสดีทักทายกันได้แป็บหนึ่ง ก็ออกไปอีก บอกว่าเข้ามาเปลี่ยนชุด
แล้วต้องไปงานศพญาติผู้ใหญ่ของเพื่อนกลับมาแล้วจะมาร่วมวงคุยด้วย ฟ้าใสว่าอาจารย์เบญก็ดีออก ไม่เห็นเหมือนพี่จุ๋ยว่าเลย
หาว่าหน้าเหมือนคนที่เล่นปอบหยิบบ้างล่ะ ผอมไป หน้าไม่ค่อยยิ้ม ใครเขาจะเหมือนพี่จุ๋ย ร่าเริงบันเทิงตลอดล่ะ
นี่ขนาดมีธุระ ยังอุตส่าห์เข้ามาดูอาหารการกินในบ้านก่อน อีกทั้งยังซื้อเข้ามาพร้อมสั่งเด็กแม่บ้านให้เตรียมให้อีกด้วย

พี่โม่งก็ถามเรื่องร้าน เรื่องเพื่อนๆ พอฟ้าใสบอกเล่าถึงเพื่อนคนนั้นคนนี้ พอจะพูดถึงแชมพูที่ทำเกี่ยวกับออกแบบเสื้อผ้า
ก็สลดใจถึงความเป็นเพื่อนของตัวเองที่ไม่มีค่าเอาซะเลย โม่งเห็นหน้าคนตัวเล็กเปลี่ยนไปเลยเปลี่ยนพูดใหม่

“เรานี่โชคดีเชียวนะ ทำร้านแทบไม่มีต้นทุนเลยล่ะสิ” ร่างสูงพูดแซวยิ้มๆ

“555 พี่แหมมันก็ไม่ใช่อย่างงั้น” ปฏิเสธไป คิดดูก็แทบจะจริง บิลค่าน้ำค่าไฟก็ส่งเข้าบ้านข้างใน ค่าเช่าร้านก็ไม่มี
ของที่เข้าร้าน ก็ได้มาฟรีบ้าง เพื่อนกันก็ส่งมาให้ขายถูกกว่าราคาขายส่งให้ตลาดขายส่งจตุจักรซะอีก คนที่พอชอบซื้อของแบบนี้
พอมาเห็นมีขายที่ร้าน ราคาก็ถูกกว่าทั่วไป ก็จะซื้อกันไปทีละหลายชิ้น ยิ่งช่วงหน้าเทศกาล แทบจะกวาดกันไปจนเกลี้ยงร้าน
ข้าราชการหรือคนทำงานมักจะมาเอาไปทีละเยอะเพื่อไปให้เป็นของขวัญ

“อ้าว...มะนาวฟังอาไขโม้เพลินจนหลับคาตักอาไขเลย” ฟ้าใสรู้สึกว่าคนตัวเล็กที่นอนหนุนตักตัวเองเริ่มนิ่งเฉยผิดปกติ
มองดูอีกทีเลยพบว่าหลับไปซะแล้ว

โม่งลุกขึ้นก้มช้อนร่างลูกชายตัวน้อย ความจริงก็อยากรวบจับอุ้มซะทั้งสองคนน่ะแหล่ะ กลิ่นหอมอ่อนๆของแป้งเด็กที่ทั้งคู่ใช้
ผิวเนียนละเอียดที่ขาวกว่าผิวเจ้าหนูมะนาวลูกชายเขาซะอีก สายตาที่เงยสบตา บอกความรู้สึกถึงความรักที่ร่างเล็กมีต่อเขา
อยากสัมผัสให้มากกว่าแค่โอบไหล่

หลังจากส่งเจ้าตัวเล็กเข้าห้องนอน โม่งชวนฟ้าใสมานั่งหน้าบ้าน

“เบียร์นะ” โม่งบอกเดินหยิบมาส่งให้ พร้อมจุดบุหรี่สูบ

“โห พี่ยังไม่เลิกสูบอีก”ฟ้าใสแกล้งโวยวาย “เพื่อนไขนะ พอมีลูกเขาก็เลิกสูบแล้ว”

“เฮ้ย เรื่องนี้ต้องขอว่ะ อดไม่ไหวจริงๆ” โม่งหัวเราะ เอามือขยี้หัวรุ่นหนุ่มน้อง “ว่าแต่เราน่ะมีเรื่องอะไรจะคุยให้พี่ฟังรึเปล่า”

ฟ้าใสไม่ยอมสบตา เสไปมองฟ้า มองดาว นึกแล้วเหมือนคืนพร่างพราวดาวที่ริมทะเล ได้นั่งคู่กัน แม้ไม่ต้องเอ่ย แต่หัวใจก็อบอุ่น
โม่งรั้งหัวทุยที่มีผมนุ่มสลวยซบลงที่อกอุ่น ไม่นานหยาดน้ำตาก็ทำเอาเสื้อเขาเปียกจนเย็นลึกเข้าไปในอก
.
.
.
.
“นั่นไง ดูบานประตูสิ ฝีมืออาจารย์สุเมธเชียวนะ นั่นๆนะฝีมือพี่จุ๋ย” ร่างสูงชี้มือขึ้นไปบริเวณภาพพุทธประวัติเหนือบานหน้าต่างทางซ้ายมือ
ฟ้าใสดูตามมือคนร่างสูง มากับอาจารย์ศิลปะ โดยเฉพาะกับพี่โม่งยิ่งแล้วใหญ่ เหมือนพาทัวร์ดูงานจิตรกรรมไทยฝาผนัง
แถมท้ายด้วยความรู้ทางสถาปัตยกรรมไทย แบบเจาะลึกพิเศษอีกต่างหาก

“อ้าว แล้วไหนฝีมือพี่โม่งล่ะฮะ” ฟ้าใสถาม เมื่อเห็นคนตัวโตไม่พูดถึงงานตัวเองเลย

“พี่น่ะเหรอ อาจารย์ให้ไปซ่อมหอพระไตรปิฎกกับพี่เซียนกันสองคนนะสิ นั่งทำกันแค่สองคน คนอื่นเขาได้เฮฮาพูดแหย่กัน
พี่กับไอ้เซียน ทำไปจะหลับไป” โม่งเล่าไปก็อดยิ้มไม่ได้ เมื่อนึกวันวาน

ระหว่างที่พี่โม่งพาเดิน ก็จะมีคนรู้จักทักทายบ้าง มะนาวเดินจนเหนื่อยก็ให้ฟ้าใสอุ้ม
แม้ว่าพี่โม่งจะบอกว่า “พ่ออุ้มเอง” มะนาวก็ไม่ยอม เรื่องเด็กกับฟ้าใสนี่ ต้องยกให้ เด็กคงสื่อรับรู้ความรักความจริงใจได้ล่ะมั๊ง
ขนาดตอนที่พี่ส้มโอกลับมาเยี่ยมบ้านเดือนหนึ่ง เอาลูกสาวหนูดีน่ามาด้วย ตอนที่อายุเพิ่งขวบเดียวหลับหูหลับตาร้องไห้ไม่หยุด
เป็นชั่วโมงๆ ส่งให้อุ้มกันรอบวงทั้งป้าๆ ป้านวล แม่พรรณ  จนเอามาให้ฟ้าใสอุ้มแป็บเดียว เงียบหลับสนิท ตั้งแต่นั้นมา
พอไปทานข้าวนอกบ้านกัน ฟ้าใสเลยต้องมีหน้าที่ดูแลเด็กๆลูกหลานของใครต่อใคร
อากาศร้อน และคงเพลียแดด แปบเดียวหนูน้อยก็หลับคาบ่าพ่อหนุ่มหน้าสวย โม่งรับตัวลูกชายมาอุ้มต่อ พากันไปหาที่นั่งคุยใต้เงาร่มรื่นของต้นไม้

“แล้วเราไม่คิดเรียนต่อบ้างเหรอ”

“โหย...พี่โม่งนี่สมกับเป็นครูจริงๆเลย” ร่างเล็กแกล้งว่าพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

“ก็แล้วไงล่ะ ทำไมเป็นครูแล้วไง ห๊ะ เรา”

“ก็ไม่ไงอ่ะ แม่ไขก็ครู เกษียณแล้วก็ยังไปจับลูกคนงานมาหนังสือวันเสาร์อาทิตย์ อีก ฟ้าใสเห็นแล้วสยองแทน
แถมยังจะมีไอ้ดอลล่าเฝ้าไม่ให้เด็กลุกจากเก้าอี้อีก อีกหน่อยพี่โม่งแก่แล้ว ก็คงจับลูกชาวบ้านมานั่งเพ้นส์นั่งดรออิ้งแน่เลย อิอิ”
คนตัวเล็กพูดไปก็หัวเราะคิกคักล้อเลียนคนแก่กว่า

“หนอย ว่าอาจารย์เหรอ” โม่งจิ้มเอวอย่างหมั่นไส้เจ้าคนตัวเล็กที่ทำหน้าเป็น ทำเอาเจ้าตัวยกมือยอมแพ้เพราะขยับตัวไม่ได้
เนื่องจากมีคนตัวเล็กกว่านอนหนุนตักอยู่


ความสุขเล็กๆน้อยๆ ที่ได้รับ เป็นเหมือนน้ำทิพย์หล่อเลี้ยงให้มีแรงเดินก้าวต่อ
โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก ฟ้าใสอาจโชคร้ายในเรื่องความรักกับชีวิตคู่ แต่ปัญหาด้านอื่นๆ เขาก็ไม่ได้มีอะไรนี่นา
การงาน การเงิน คนที่รักเขายังมีมากมาย


TBC....
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.1(ต่อ-มาหน่อยหนึงก่อน) (10/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 10-10-2012 12:54:50
เข้มแข็งไวๆนะจ๊ะ ฟ้าใส สู้ๆ

ขอบคุณมากค่ะ  :L1: :pig4: :L1:+ :3123:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.1(ต่อ-มาหน่อยหนึงก่อน) (10/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: goonglovenut ที่ 10-10-2012 13:00:03
พี่โม่งก็ยังเป็นพี่ที่แสนดีเหมือนเดิม ยังนึกไม่ออกเลยว่าจะกลับมาอยู่กับฟ้าใสได้หรือเปล่า แถมยังมีมายเพิ่มเข้ามา  :เฮ้อ:แต่ก็ขอให้ฟ้าใสเจอคนที่ใช่และรักด้วยใจจริงแล้วกันนะ  :3123:


ปล.ขึ้นอยู่กับคนเขียนใช่ไหม ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.1(ต่อ-มาหน่อยหนึงก่อน) (10/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 10-10-2012 13:02:31
คนเรามันจะโชคร้ายเรื่องคู่ไปตลอดชีวิตรึไงเนาะฟ้าใส
ก็ขอบ้างเหอะเจ้าโชคชะตา เจ้ากรรมนายเวร ขอฟ้าใสเจอใครซักคนที่เป็นของฟ้าใสจริงๆเหอะ
ขอเป็นคนที่มาร่วมแชร์ทุกเรื่องทุกสิ่งในชีวิตของฟ้าใสตลอดไปบ้างเหอะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.1(ต่อ-มาหน่อยหนึงก่อน) (10/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 10-10-2012 13:58:53
พ่อหนุ่มน้อยที่ชื่อ "มาย" จะมีบทบาทอะไรในภายหลังอ่ะป่าวนิ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.1(ต่อครั้งที่2ครับ) (10/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 10-10-2012 18:17:51
((ต่อ))

“ไม่ไหวอ่ะ พี่โม่ง ไขขอห่างพวกศิลปะไปก่อนล่ะ” ฟ้าใสตอบ

หลังจากพักอยู่บ้านพี่โม่งผ่านมาแล้วสองคืน คนตัวโตยังแนะนำให้ไปเรียนต่อโท จะในหรือต่างประเทศ
เขาน่ะเลิกขอตังแม่มาตั้งแต่อายุ 19 ที่เริ่มรับงานทำกับเพื่อนๆ ค่าเทอมค่าเรียนอะไร ก็ออกเองบ้าง ถ้าแม่หรือป้าอยากให้
ก็รับไว้ แต่ไม่เคยออกบอกขอเอง ถ้าจะเรียนที่ต่างประเทศ คงต้องรอให้ตัวเองมีเงินเก็บมากพออยู่ก่อน ถึงจะกล้า

“หรือมาคอยช่วยพี่ดูแลเวลางานพี่ต้องไปแสดงงานตามประเทศต่างๆ”

“อื๋อ!!! ฟ้าใสไม่เก่งภาษานะพี่ ข้าวปั้นมันยังเก่งกว่าไขเลย ม่ะไหวล่ะมั๊ง อย่าจ้างไขเลย” ขืนให้ไขอยู่ใกล้พี่โม่งมากกว่านี้
 ฟ้าใสคงได้ไปขอให้แม่มดช่วยเสกคาถาแปลงร่างให้กลายเป็นหมอนข้างไปนอนให้พี่โม่งกอดทุกคืนแน่
คนอย่างฟ้าใสไม่เคยคิดอิจฉาใคร ใครจะรวย ขับเบนซ์อย่างไอ้ป๋าแก้ม ป๋าเรน ใครจะมีแฟน หล่อ รวย ช่างเอาใจ อย่างไอ้ฝ้าย
 ใครจะไม่มีญาติพี่น้องกวนใจอย่างไอ้นุ้ย ใครจะฝีมือดีจนได้เป็นมือขวาของอาจารย์เจนคนดังแห่งวงการศิลปะ
 ใครจะมีคนรักจนยอมเป็นเบี้ยล่างทุกอย่าง อย่างผิงผิง

ฟ้าใสก็ไม่เคยอิจฉา แต่ถ้าฟ้าใสอยู่ที่นี่นานกว่านี้ ใกล้ชิดพี่โม่งกว่านี้ ฟ้าใสคงต้องขออิจฉาอาจารย์เบญล่ะ
ทั้งที่รู้ หากฟ้าใสดูแลงานให้พี่โม่งนะ รับรอง จะขายให้หมดทุกชิ้น ตั้งแต่เปิดแสดงวันแรกเลย 555 ก็ฟ้าใสโม้เก่งจะตาย
เล่านิทานเล่าตำนานเป็นตุเป็นตะ ระดับข้าวปั้นตลึงตาค้าง ตอนขายงานที่แกลลอรี่ของขวัญก็ยังขายได้ตั้งเยอะ
นอกจากท่าทางคนมาดูมันจะไม่สมควรได้งาน ฟ้าใสก็ไม่เชียร์ให้หรอก

“เราก็เคยไปเรียนการจัดการการแสดงนิทรรศการศิลปะและวัฒนธรรมนี่นา จะได้เอามาใช้”

หื้อ...พี่โม่งนี่ไม่รู้ตัวหรือไง ว่าฟ้าใสน่ะอยู่ใกล้พี่โม่งได้ซะเมื่อไหร่ มันมีแต่คำว่ารัก รัก รัก จนเต็มหัวอก หัวใจไปหมด
มาอยู่แค่ 2 วันนี้ ออร่าความรักของฟ้าใสจะแสดงจนอาจารย์เบญเขารู้หรือเปล่า ดีนะที่นัดขวัญไว้เรียบร้อยจนบิดพลิ้วไม่ได้
โม่งเห็นคนตัวเล็กไม่ตอบ เอ้า...ไม่ตื้อก็ได้

“แล้วนี่ไม่อยู่ต่ออีกหน่อยหรือ มาแปบเดียวเอง พี่ยังพาเที่ยวไม่หมดเลย”

“555 โอ๊ย...อย่างพี่โม่งพาไขเที่ยวนะ เดือนหนึ่งก็ไม่หมด เล่นบอกประวัติละเอียดยิบตั้งแต่คนสร้างยันปฏิสังขรณ์
จนอนาคตว่าจะทำใหม่ น่าๆเดี๋ยวไขมาเที่ยวใหม่ แล้วถ้าพี่โม่งลงกรุงเทพฯ เอามะนาวไปเที่ยวด้วยก็ได้นะพี่ ไขเลี้ยงให้เอง”

ฟ้าใสพูดไปก็ยังคิดไม่ตก สาเหตุที่เขาขึ้นมาที่ลำปางบ้านพี่โม่ง ก็เพื่อหนีจิตใจที่จะพาลอ่อนแอ ยอมให้ความต้องการ
ทางอารมณ์ เหนือความรู้สึกผิดชอบชั่วดี และความคิดที่อยากหลุดจากวังวนความสัมพันธ์กับพี่ลิฟต์

“อาจารย์ ครับ อาจารย์” เสียงคนตะโกนที่หน้าบ้าน เรียก ทำให้โม่งออกไปดู 

ฟ้าใสนั่งมองรอบตัวเพลินๆ มะนาวสนุกกับการตั้งใจดูการ์ตูนสกูบี้ ดู ผจญภัยดินแดนฟาโรห์ โดยมี พี่เลี้ยงคอยป้อนข้าวให้
พอเห็นพี่โม่งหายไปนาน ฟ้าใสเลยหยิบหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คนำเที่ยวจังหวัดเชียงราย ที่วางอยู่แถวนั้นมาอ่าน 
พลิกๆไปเจอโบร์ชัวร์ เปิดรับสมัคร เรียนทำอาหารหลักสูตรครบเครื่อง ปูทางสู่เชฟ ฟรี โดย ร.ร.การอาหารนานาชาติ ร่วมกับ
สถาบันพัฒนาสังคม จังหวัดเชียงราย  ฟ้าใสอ่านรายละเอียดอย่างสนใจ

“อื้อ...น่าสนใจแห๊ะ ไอ้พิงค์มันก็เคยชวนฟ้าใสไปช่วยมันกับสามี ทำร้านอาหารที่ฟิชชิ่งคลับที่นิวซีแลนด์นี่นา
 เรียนก็เรียนฟรีไม่เสียเงินสอนทั้งทำอาหารไทย ฝรั่ง ญี่ปุ่น อิตาเลี่ยน เบเกอรี่ด้วย ฟ้าใสเรียนแล้วเอาไปสอนป้านวลให้ทำให้กินก็ได้ เข้าท่า เข้าท่า”

ฟ้าใสคิดเองเออเอง เสร็จสรรพ ได้เจอเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ ไม่ต้องอยู่บ้านคอยวิ่งหนีพี่ลิฟต์ไล่ปล้ำเอาด้วย วันนั้นโชคดีนะ
เกือบใจอ่อน ดีว่าข้าวโอ๊ตรู้ว่าฟ้าใสอยู่ที่ร้าน พอเลี้ยวรถเข้าซอย จอดแวบมาตามฟ้าใสเข้าไปกินคิดแคทชาเขียว

 ฟ้าใสนึกไปถึงวันก่อน วันที่ทำให้ฟ้าใสตัดสินมาหาพี่โม่ง มาหาที่พึ่งพิง ที่เหมือนเป็นต้นไม้ใหญ่ให้เขาเกาะยึด


ฟ้าใสยกมือลูบเบาที่ต้นคอเมื่อระลึกคนที่ฝากรอยไว้ แม้เมื่อเวลาผ่านรอยนั้นจะจางหาย

สัมผัสพี่ลิฟต์รุนแรงเร่าร้อน บทจูบที่ทำให้วิญญาณล่องลอย สติฟ้าใสหายไปทุกครั้งกับสัมผัสจากร่างสูงที่เต็มด้วยกล้ามเนื้อสมชาย
ที่ผ่านประสบการณ์ช่ำชอง ร่างกายที่ตอบสนองราวกับม้าเชื่องๆที่ยอมทุกอย่างให้กับเจ้าของได้ขึ้นขี่บังคับไปทิศทางใดตามใจปรารถนา
ทางเดียวที่ฟ้าใสจะช่วยให้ตัวเองหลุดพ้นจากเยื่อใยกิเลสตัณหาแรงกระตุ้น คือต้องหนีห่าง จนกว่าจิตใจเขาจะเข้มแข็งพอ

วันที่...ร่างสูงเดินเข้ามาหา... สายตาที่มองมาที่ฟ้าใส มีแววทั้งตัดเพ้อต่อว่า เว้าวอนเหมือนเช่นครั้งแรกที่ร่างสูงนั้นไม่ยอมกลับบ้าน
และขอค้างคืนที่บ้านของแชทกับขวัญ ที่เป็นคืนแรกที่ฟ้าใสต้องนอนร่วมห้องกับพี่ลิฟต์
แขนเล็กๆ ร่างบางๆมีหรือจะทนทานแรงกอดรัดจากกายแกร่งที่แข็งแรงได้

“พี่กลับไปเหอะ”

“ทำไมล่ะ เรามาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เหรอไข พี่จะเลิกกับแชมพู แล้วพี่ก็จะไม่มีใครอีก”

ฟ้าใสไม่อยากเชื่อ เสือมันก็ต้องเป็นเสืออยู่วันยันค่ำ พี่ลิฟต์หยุดได้วันนี้  อีก1เดือน 3 เดือน 6เดือน หรือ 1ปี
 ฟ้าใสไม่อยากผูกพันกับใครอีกแล้ว  ต่อให้ไม่เป็นเจ้าของ  คิดว่าตัวเองจะแน่พอ แข็งแกร่งพอ แต่สุดท้ายก็ยังรู้สึกเสียใจ


TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.1(ต่อครั้งที่2ครับ) (10/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 10-10-2012 19:44:32
อ่านมาถึงตอนนี้ขอพูดในใจไม่ให้ใครได้ยินว่า อิพี่ลิฟท์เลวว่ะ รู้จุดอ่อนของฟ้าใส
เลยจะใช้จุดอ่อนตรงนี้จากฟ้าใสหาประโยชน์ใส่ตน ชิชะ คิดจะผูกฟ้าใสไว้กับตนด้วยเล่ห์เสน่หานะซี
เป็นกำลังใจให้ฟ้าใสเข้มแข็ง ทำใจแข็งๆเอาไว้ เอาชนะอำนาจฝ่ายที่จะดึงเราลงต่ำให้ได้นะลูก
ในความคิดของคนอ่านอย่างเราคิดว่า เป็นชู้ทางใจยังไงก็ผิดน้อยกว่าเป็นชู้ทางกายนะฟ้าใส
ฟ้าใสคิดถูกแล้วล่ะที่จะทำตัวเองให้ห่างทั้งจากพี่โม่งและอิพี่ลิฟท์น่ะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.1(ต่อครั้งที่2ครับ) (10/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 11-10-2012 00:04:16
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.1(ต่อครั้งที่2ครับ) (10/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: kasune ที่ 11-10-2012 01:43:34
อยากอ่านมายแล้ว  :impress2:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.2(11/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 11-10-2012 09:56:49
S4 Ch.2

ฟ้าใสบอกลาที่บ้านเรียบร้อย
สั่งงานข้าวโอ๊ต เคยพาไปเอาของที่โรงงานป๋าเรน ป๋าแก้ม ข้าวโอ๊ตตื่นเต้นใหญ่  ฟ้าใสมาเอาของที ไอ้หลงถึงกับอัดแน่นเต็มคันรถ
 ข้าวโอ๊ตกับพวกป๋าๆเข้ากันได้ดีเชียว เฮอะ!!!ไอ้พวกหลีสาว  ฟ้าใสทิ้งไอ้หลงไว้ให้ข้าวปั้นดูแล ข้าวปั้นดีใจหน้าบาน
รายได้จากร้านฟ้าใสก็ยกให้น้องๆเอาไปแบ่งกันเอง ข้าวโอ๊ตมันรักข้าวปั้นมันก็คงให้ตามสมควร แล้วฟ้าใสก็จะพยายามลงมาบ่อยๆ

เอาล่ะ ฟ้าใสจะขึ้นไปอยู่เชียงรายแล้วนะ.......




ที่สถาบันพัฒนาสังคม จังหวัดเชียงราย ซึ่งตั้งอยู่ในศูนย์ราชการสร้างใหม่ มีหน่วยงานหลายหน่วยงาน
รวมทั้ง สถานที่ฝึกอบรม ด้านช่าง คอมพิวเตอร์ การท่องเที่ยวและการโรงแรม อบรม สปา และงาน เกี่ยวกับ หัตถกรรมและภูมิปัญญาไทย


มายนั่งอยู่ท่ามกลางผู้เข้าอบรมที่มาลงทะเบียน รายงานตัว คอร์สนี้ รับเพียง 25 คน
เขามองดูแล้ว คนที่มาเรียนคละเคล้ากันไปมีตั้งแต่อายุ 18 ปี จนถึง50 ปีเลยทีเดียว แล้วก็มาจากหลากหลายสถานที่

ตรืด ตรืดดดดด
มาอีกแล้วโทรศัพท์  ตั้งแต่น้าโทรไปบอกแม่ ว่าเขาจะมาอบรมที่นี่

“ฮัลโหล ฮะ เฮีย”

“ไอ้มาย ว่าไงเรา หนอยดรอปเรียนเหรอ จะจบอยู่แล้ว จะมาดรอปได้ไงว่ะ หือ จะทำอะไรก็ต้องเอาเรื่องเรียนให้จบก่อนสิ อย่าหาเรื่องให้แม่เราปวดหัวนักเลย....”

“โอ๊ย...เฮีย เล่นบ่นเป็นชุดเลย ฟังก่อนดิ”

“อ๊ะ ว่ามา มีอะไรก็ว่ามา ถ้าเหตุผลฟังไม่ขึ้น จะให้ไอ้ม่อนขึ้นไปจัดการ”

“โหย โหย เฮีย ไม่ต้องไปบอกไอ้ม่อนนะเฮีย ไอ้พวกใช้ความรุนแรง  เฮียน่ะฟังความข้างเดียว
หูเฮียนะหัดเอาทองมาถ่วงไว้หนักๆหน่อย พอถ่วงแล้วก็เอามาให้ผมก็ได้ 555”

“ยังจะมาหัวเราะอีกนะเอ็ง ไอ้มาย แม่เราเค้าวิตกกังวลจะแย่อยู่แล้ว ตั้งแต่น้าแอ็ตโทรมารายงาน”

“โถ่ เฮียอ่ะ ผมก็บอกแม่แล้วเป็น 10หนว่า ผมน่ะเรียนจบแล้วจริงๆ เหลือแค่ส่ง โปรเจ็คเท่านั้น แล้วนี่ผมก็ทำไปได้ตั้งครึ่งหนึ่งแล้ว
 วิชาเรียนอะไรๆ ผมก็เก็บหมดทุกหน่วยกิต แล้วน่าเฮีย เชื่อผมเต๊อะถ้าไม่เชื่อเอารหัสไปเช็คหน่วยกิตผมได้เลย”

“ให้มันแน่นะ” พี่ชายของพ่อตัวดีขู่สำทับ

“โห เฮียไม่เชื่อผมเลย เดี๋ยวลงไปให้เลี้ยงข้าวเลยนี่”

“เออ เออ มาดิ เลี้ยงข้าวเสร็จจะได้เตะโด่งส่งกลับบ้าน ไหนว่าเรียนจบแล้วไม่ใช่เหรอไง แล้วเราไปอยู่บ้านน้าแอ็ตทำอะไรล่ะ
เดี๋ยวนี้แอบทำอะไรไม่ปรึกษาพี่เชื้อนะเอ็งน่ะไอ้มาย ห้ามไปก่อเรื่องอะไรนะ แม่เขาเป็นห่วง”

พี่ชายกล่าวอย่างเป็นห่วง ถึงจะเป็นพี่น้องคนละแม่ก็ตาม แม่ของเขาเสียตั้งแต่เขายังเล็ก พอมาแต่งใหม่ ก็มีลูกติดมาคน
ก็ตามประสาคนจีน ถือว่าช่วยกันทำมาหากิน แม่ไอ้มายก็สามีตาย ญาติกันเป็นฝ่ายแนะนำทั้งสองฝ่าย อยู่กันกับพ่อเขาจนมีไอ้มาย
 เขาเองที่ถือว่าเป็นพี่คนโต ลูกของพ่อ และลูกเมียคนแรก  แม่ไอ้มายเลยเกรงใจถึงจะรักไอ้น้องคนสุดท้องนี่มาก
แต่ก็มักให้สิทธิพิเศษกับเขาเสมอ  เขาเองก็ไม่ได้รังเกียจรังงอนอะไรกับน้องสองคน เห็นว่าพ่อแม่ทำงาน
เลยรับดูแลน้องๆให้ ทั้งเรื่องเรียนเคี่ยวเข็ญเรื่องการบ้าน จนน้องทุกคนนับถือเชื่อฟังมากกว่าพ่อแม่

“เฮีย เฮีย ปีนี้ขอขวัญวันเกิดเป็นกล้องสักตัวได้เปล่า อ่ะ อ่ะ เป็นเลนส์ก็ได้”

“โว้ย ไอ้นี่ จะให้เลี้ยงข้าว ไปมากลายเป็นของขวัญเว้ย ยัง ยัง ดูเกรดจบก่อน ไม่มี 4 สักตัว อด”

“โห โหด อ่ะ เฮีย  มีดี๊ พละไง เตะบอลเก่งระดับนี้ จารย์ไม่ให้ 4 ได้ไง”

“เฮ้ย วิชานี้ไม่นับโว้ย ไอ้มาย”

“อ้าว เฮีย น่า น่า เด๋วเรียนจบแล้ว ตามไปช่วยงานเฮียทุกงานเลย”

“อ้าว อะไรว่ะ เรียนจบแล้วเราจะไม่ทำงานหรือไง ไอ้นี่พูดไปพูดมาชักปวดหัวกับเอ็ง”

“เฮียก็เป็นไรมากไปเปล่า เรียนจบแล้วมันก็ต้องมีช่วงลองของดิ เอ๊ยไม่ใช่ ช่วงเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ดิ เฮีย”

“เออ เออ น้าแอ๊ตบอกเอ็งไปลงเรียนอะไรที่เชียงราย ไปอยู่กับเขาก็อย่ารบกวนเขามากนะ มีอะไรก็โทรมาบอก มาขอที่นี่”

“คร้าบ คร้าบ เฮีย เฮียก็บอกแม่เขานะ ผมจบแล้วจริงๆ ปลายปีหน้า ผมก็รับพร้อมเพื่อนนั่นแหล่ะ เฮียก้อ.....”

“แหมเว้ยทวงจริงนเอ็ง เออ เออ ให้แน่ ไม่ต้องห่วง”

“แหะ แหะ ขอบคุณครับเฮีย รักนะ จุ๊ฟ จุ๊ฟ”

“55 ไม่ต้องทำน่ารักกะเขาหร็อกไอ้มาย ตัวโตยังกะพ่อควาย อยากน่ารัก ต้องไปเกิดยุคไดโนเสาร์โน่น
เออ เออ รู้ว่าจบแน่ เด๋วจะโทรไปบอกแม่เราให้เอง งั้นก็แค่นี้แหล่ะ ดูแลตัวเองดีด้วยล่ะ”

“ครับ ครับ” มายรับปาก
เขาเองถึงเรียนทางเกษตรมา แต่ก็รู้สึกสนใจเรื่องอาหารการกิน ทั้งพิถีพิถัน อาจเป็นเพราะที่บ้านก็เป็นร้านอาหารด้วยล่ะมัง
พอมาเจอว่าที่เชียงรายมีเปิดอบรมฟรี การเรียนการสอนก็ใช้บุคลากรระดับมืออาชีพจากโรงแรมดัง ตัวเขาเองก็มีญาติอยู่
และสนิทกับทางบ้านจนเคยมาพักอยู่เป็นเดือนๆยามปิดเทอม จึงแอบมาสมัคร จนพอถึงวันที่ต้องมาจริงๆจึงค่อยบอกพ่อกับแม่
ด้วยเกรงถูกด่า โชคดีที่เขาเรียนเก็บหน่วยกิตจนครบไว้ตลอดช่วงซัมเมอร์ ก็พวกวิชาที่เปิดตอนซัมเมอร์มักเป็นวิชาง่ายๆ
ปล่อยเกรดนะสิ กำขี้ดีกว่ากำตดละว่ะ เปื้อนมือดี 555
.
.
.
“คุยกะใครว่ะ” เต้ถาม

“พี่ว่ะ แม่หาว่ากรูไม่จบเลยไปฟ้องพี่ เลยเจอกรูไถเลนส์รับขวัญเลย 555”

“เมริงยังดี มีพี่...”

“เหอะน่า เมริงก็มีกรูไง เมริงลงทะเบียนเสร็จยัง เขาสัมภาษณ์เมริงหรือเปล่า” มายถามเต้ อย่างเป็นห่วง

เต้ ฐานะไม่ค่อยดี ขอทุนของมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้ เพราะเกรดไม่สวย ก็มันต้องทำงานพิเศษ สู้คนที่รวยมีตัง ไม่ต้องทำงานพิเศษ
อะไรแต่งก จนสามารถขอทุน เอาเงินไปซื้อของแบรนด์เนมมาใช้ แล้วพอไอ้เต้มันก็ไม่ค่อยชอบท่องหนังสือหนังหาสักเท่าไหร่
ทีการ์ตูนเสือกอ่านได้อ่านดี ทั้งซ่อม ทั้งเวลาไม่พอ เงินทองก็ติดขัด เทอมนี้มันเลยขอดรอปไว้ก่อน

มายเลยถือโอกาสนี้ชวนไอ้เต้มาเรียนด้วย เผื่อมันมีหัวทางนี้ฝีมือดีจะได้มีงานทำที่ได้ค่าแรงดีขึ้น

มายและเต้ รู้จักกันเมื่อมาเรียนคณะเกษตรที่มหาวิทยาลัยในจังหวัดเชียงใหม่ มายมาจากกรุงเทพฯเพราะนึกอยากเปลี่ยนบรรยากาศ
พอเอ็นท์ติดก็ตัดสินมาเรียน ส่วนเต้เป็นคนเชียงราย มาสนิทรู้จักกันเพราะอยู่ในมอที่เชียงใหม่ด้วย
เต้ฐานะไม่ดี เลยไม่มีแม้แต่มอไซต์ใช้ มายเลยต้องคอยชวนไปไหนรับส่งให้เสมอ พักหลังที่เต้มันมีแฟนผู้หญิง เลยได้อาศัยรถแฟนใช้บ้าง

“เรียบร้อย โอเช” เต้พยักหน้ายิ้มให้ มายก็ดีใจด้วย ตอนแรกนึกว่าไอ้เต้จะสมัครไม่ได้ ก็เห็นว่ามีคนมาสมัครเยอะแยะ
พอเอาเข้าจริง คนคงคิดว่า เรียนตั้งปี หากใครที่มีอะไรทำอยู่แล้วก็ต้องหยุดทำงาน คงต้องเป็นพวกมีเงินเก็บ ไม่ก็พ่อแม่ยังส่งเสียให้อยู่
บรรดาพวกตัวสำรอง และมาสมัครใหม่อย่างไอ้เต้ แต่เป็นคนเชียงรายเลยได้รับการพิจารณา
.
.
.
.
ฟ้าใสหอบข้าวของมานิดเดียวก่อน เอาแค่พออยู่ได้สักอาทิตย์หนึ่ง หากต้องใช้อะไรเพิ่มค่อยให้ข้าวโอ๊ตส่งตามขึ้นมา

เครื่องบินที่ควรมาถึง7โมงเช้า กลับเลท จนปาเข้าไป9.00น.แล้ว แม้มีรถรับจ้างที่มาส่งให้ถึงที่ในศูนย์ราชการ จนแทบเกยตึก
ที่ใช้อบรม ก็ปาเข้าไป10.30 แล้ว ถามหา ห้องเรียนจนเจอ มาตอนแรก วันนี้ก็วันแรกมันควรจะมีการลงทะเบียน วุ่นวายคึกคัก
ยืนกันกวักไกว่ มิใช่หรือ ทำไม มันเงียบเชียบอย่างงี้ แม่บ้านของโรงแรมเป็นคนเดินนำพาฟ้าใสมาที่ห้องประชุม1
ห้องกระจกใสที่จัดเป็นเหมือนล็อบบี้ตามโรงแรม ถูกนำโต๊ะมาต่อกันใช้เป็นที่ประชุมแนะนำตัว ดูท่าทางเริ่มกันไปนานแล้ว

คุณเชฟที่นั่งหัวโต๊ะและทุกคนมองมาที่ฟ้าใสผู้หิ้วกระเป๋าเดินทางมาด้วย....
  :laugh:  :-[


TBC....
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.2(11/10/12)(ต่ออีกนิด)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 11-10-2012 11:00:08
(ต่อ)

อายมั่กมาก นี่คือความรู้สึกเมื่อเดินเข้าไป
ทุกสายตาจับจ้อง เราโตแล้ว แก่แล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้ว รักษามาด รักษามาด ฟ้าใสพยายามรักษามาดตัวเอง

“สวัสดีครับ” ฟ้าใสยกมือไหว้คุณเชฟที่นั่งหัวโต๊ะ

“สวัสดีครับ อ้า!!!เรามีเพื่อนมาใหม่นะทุก ทุกคน” คุณเชฟรับไหว้ พยักหน้า หันกลับไปมองผู้เข้าอบรม พลางชี้มือให้ฟ้าใสมานั่งที่เก้าอี้ว่างขวามือ
คุณเชฟ ท่าจะเห็นมาดดูดีของฟ้าใส หรือออร่าฟ้าใสมีแววผู้ช่วยเชฟ ได้นั่งขวามือเลยเฟ้ย
คุณเชฟเอื้อมมือมาหยิบ หนังสือที่วางบนเก้าอี้ออก

อ๋อ!!! เก้าอี้ว่างอย่างงี้นี่ คุณเชฟเก็บไว้ให้ฟ้าใส ฮา!!!! มุกน่า

“เด๋ว คุณเอากระเป๋าไปวางตรงโน้น ก่อนก็ได้นะครับ” คุณเชฟจัดแจงบอก นั่นสิ ฟ้าใสก็เก้เก้กังกัง แบกกระเป๋าเดินทางทะเล่อทะล่า
ทำไมไม่เห็นใครมีกระเป๋าอะไรกันเลยว้า เค้าเอาไปวางไว้ไหนกันหมด ก็ไหนตอนสัมภาษณ์ บอกให้มาวันเปิดเรียนได้เลย
ส่วนที่พักถ้าจะพักที่หอในศูนย์ก็แจ้งไว้ ไม่มีค่าใช้จ่าย แถมยังมีเบี้ยเลี้ยงให้เดือนละ1500 อีก โครงการนี้ สุโค่ยจริงๆ

“ขอโทษด้วยนะครับ เครื่องบินมันดีเลย์  ควรจะมาถึง 7 โมง แต่กลับมา9.30 นะครับ”ฟ้าใสรีบกล่าวขอโทษกับคุณเชฟ

“ยังไม่ต้องนั่งครับ” คุณเชฟกล่าว เมื่อเห็นฟ้าใสขยับเก้าอี้ อ้าว!!!ตรูจะโดนยืนทำโทษเหรอ

“ตอนนี้ทุกคนเขาแนะนำตัวกันไปแล้ว ขอเชิญคุณ...ชื่ออะไรนะครับ”

“ฟ้าใส ครับ”

“งั้นขอเชิญคุณฟ้าใสแนะนำให้เพื่อนได้รู้จักด้วยนะครับ ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น อายุ มาจากที่ไหน เคยทำงานอะไรมาก่อน เชิญเลยครับ”
.
.
.
.
.
ไม่อยากจะเชื่อเลย ไม่อยากจะเชื่อเลย ไม่อยากจะเชื่อเลย มายได้แต่มีคำนี้อยู่ในหัว
 :z3:  :z2:
อร๊าค!!!!!!!อยากจะกู่ร้องตะโกนให้ก้องฟ้า อื้อ อื้อ ฟ้าใส ฟ้าใส ฟ้าใส ฟ้าใส หน้าก็งาม นามก็เพราะ ว๊าก ว๊าก ว๊าก
พรหมลิขิต))))  พรหมลิขิต))))) พรหมลิขิต ))))))) พรหมลิขิต )))))) พรหมลิขิต))))) เสียงนี้ดังสะท้อน กึกก้อง
ปานไปร้องตะโกนในโอ่ง หัวใจเต้นตึบตับ ลอบยิ้มจนปากจะฉีกถึงหู กลัวไอ้เต้ที่นั่งข้างๆ หาว่าเป็นอะไร ต้องเสก้มมอง
มือที่แอบหยิบตัวเอง ใต้โต๊ะ ว่า ไม่ได้ฝัน เน้อ ไม่ได้ฝันไป

พรหมลิขิต บันดาล ชัก พา

ดลให้มาพบกัน ทัน ใด

ก่อนนี้อยู่กันแสนไกล พรหมลิขิตดลจิต ใจ

ฉันจึงได้มาใกล้ กับ เธอ

เออชะรอยจะเป็น เนื้อ คู่

ควรอุ้มชูเลี้ยงดู บำเรอ

แต่ครั้งแรกเมื่อพบ เธอ ใจนึกเชื่อว่าแรกเจอ

ฉันและเธอคือ คู่ สร้าง มา....



TBC....

หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.2 มายมาแล้ว(11/10/12)(ต่ออีกจึ๊ก)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 11-10-2012 11:28:04
ว๊ากกกก เจอเนื้ออิอิ จริงเหรอ ไม่เชื่อหรอก ยังไงฟ้าใสต้องคู่กะพี่โมง เช๊อะ  :laugh: :laugh:

ขอบคุณมากค่ะ  :L1: :pig4: :L1:+ :3123:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.2 มายมาแล้ว(11/10/12)(ต่ออีกจึ๊ก)
เริ่มหัวข้อโดย: DIIK ที่ 11-10-2012 12:54:23
ขำแตกตรงมาย
ความในใจหนูบ้าอะไรขนาดนั้น 5555555

อยากให้คู่กะพี่โมงมากๆเลยค่ะ เพราะต่างฝ่ายต่างรักกันแบบนั้น แต่ก็แบบพี่โมงว่า = =
ถ้าไม่ต้องทำให้ใครเจ็บปวดเดือดร้อนก็คงดี ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ *ร้องไห้

เอาเถอะ มาถึงขั้นนี้แล้ว ไหน ๆก็รักสุดท้ายจะคู่ใครก็ทำใจได้ระดับนึงแล้วค่ะ
ถึงคนที่เชียร์ไว้จะใช่ไม่ใช่ก็ตาม ฮืออออ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.2 มายมาแล้ว(11/10/12)(ต่ออีกจึ๊ก)
เริ่มหัวข้อโดย: timvasabi ที่ 11-10-2012 13:13:42

ดูๆๆแล้วมายก็น่ารักดีนะ บ้า ติ๊งต็องดี 5555555

ยิ่งถ้าเป็นคนดี รักจริงด้วย ยิ่งดีใหญ่ ก็อยากให้มาคู่กันนะ

ถ้าเป็นเนื้อคู่กันจริงก็คงหนีำไม่้พ้นหรอก วะฮะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.2 มายมาแล้ว(11/10/12)(ต่ออีกจึ๊ก)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 11-10-2012 13:26:17
อย่าบอกนะว่า สามีคนต่อไปของฟ้าใส คือ มาย
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.3(11/10/12)อัพ อัพ ฮูเล่
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 11-10-2012 17:47:21
S4 Ch.3
ได้พบสบตาเจอหน้าเธอ
ครุ่นคิดวุ่นวายไม่คลายสับสน
จะขอติดตามด้วยความอดทน
หญิงอื่นไม่สนขอเดินตามเธอ

คุณเชฟ บอกให้ฟ้าใสไปทำความรู้จักกับเพื่อนๆเอาเอง แล้วก็อธิบายหลักสูตร คร่าวๆ
อาจารย์เชฟก็สมเป็นอาจารย์ อายุ60กว่าปีแล้ว ท่าทางเข้มงวดเหมือนกัน
เราจะเริ่มเรียนทฤษฏีกันก่อน 2 เดือนเพื่อปรับพื้นฐานให้ทุกคนมีความรู้ใกล้เคียงกัน เพราะบางคนนั้นก็ไม่มีความรู้ใดๆ
เกี่ยวกับการทำอาหารมาก่อน ไม่ว่าเรื่องชั่งตวงวัด ถ้วยตวงก็ยังไม่รู้จัก ช้อนโต๊ะช้อนชาก็ไม่เข้าใจ
เด็กผู้หญิงที่ฟ้าใสนั่งข้างๆ ชื่อแป้น เป็นชาวเขา หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู  อายุ 18 ปี ทำงานบ้านอยู่กับพี่สาว ที่บ้านเจ้านายฝรั่ง จึงดูท่าทางนอบน้อม

คุณเชฟเล่าประวัติของตัวเอง ให้นักเรียนฟังว่า ทำงานเป็นเชฟอาหารฝรั่งให้โรงแรมดัง 5 ดาวที่กรุงเทพ และไปอยู่เมืองนอกเกือบ10ปี
การเรียนที่นี่ ต้องมีกฎระเบียบ มีการเช็คชื่อ เข้าแถว ใส่เครื่องแบบ แล้วจะมีอาจารย์อาหารไทย 2ท่านจะมาเป็นครูสอนทฤษฎีก่อน
  แล้วก็จะมีอาจารย์สอนเบเกอรี่  เมื่อเรียนอาหารครบ ก็จะมีการสอน การเรียนผสมเครื่องดื่ม  การเสิร์ฟอาหาร มากมาย  และปิดท้ายด้วยว่าเราต้องฝึกงาน 3 เดือน

คุณเชฟพูดไปได้สัก ชั่วโมง ก็มีเจ้าหน้าที่มากระซิบๆจะขอเอาตัวฟ้าใสไปทำอะไรสักอย่าง คุณเชฟคงรำคราญถูกขัดจังหวะ
เลยให้พักเที่ยง 1ชั่วโมง แล้วมาเจอกัน เที่ยงครึ่ง แหม่ เชฟแกเหนียวเวลามาก 1ชั่วโมงก็หนึ่งชั่วโมงจริงๆไม่ยอมให้นักเรียนได้กำไรเลย


ฟ้าใสโดนเจ้าหน้ที่เรียกไปกรอกแบบฟอร์มการขอเข้าอยู่หอพัก มอบกุญแจห้องพัก มีมัดจำกุญแจห้อง 300 บาท

แต่ละห้องจะอยู่กัน ห้องละ 2 คน แต่ถ้ามาด้วยกัน 3คน ก็ขอเตียงเสริมได้ ฟ้าใสถามว่าห้องฟ้าใสอยู่กับใคร
เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า ชื่อ คุณ อนุวัฒน์ อายุ50 ปี ขาวๆท้วมๆ เจ้าที่ให้แม่บ้านพาฟ้าใสไปเก็บกระเป๋า

ห้องพักจะเหมือนห้องพักของโรงแรมหรือหอพักทั่วไป ที่นอนเครื่องนอน จะเกรดดีมาก แต่จะติดพัดลมให้ ถึงแม้มีแอร์ แต่ก็ไม่ได้อนุญาตให้เปิดใช้
มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ใช้ แม่บ้านที่มาเปิดห้องให้อธิบายเครื่องใช้ไม้สอยเพราะบางคนก็เป็นคนธรรมดา ออกจะนอกเมือง หรือเป็นคนดอยด้วยซ้ำ

หลังจากเก็บกระเป๋า ลงมาที่ห้องก็ไม่มีใครอยู่ เลยถามแม่บ้าน แม่บ้านบอกว่าคนอื่นคงไปทานข้าวที่โรงอาหาร
ใครๆดูนั่งกินกันเป็นกลุ่ม ยังกับรู้จักกันมาก่อน
 ดีว่าเห็นเด็กแป้นที่นั่งติดกับฟ้าใส นั่งกับเด็กหนุ่มที่เป็นเด็กดอย  ฟ้าใสเลยเดินเข้าไปขอนั่งด้วยคน แป้น และดอยจะรู้จัก
กับเด็กแผนกอื่น ซึ่งเป็นเด็กชาวเขา ชาวดอยที่มาทางโรงเรียน หรือพวกทหารจะส่งเสริมให้มาเรียน ทั้งจัดหาชุดนอน
เหมือนชุดพละ กางเกงวอร์ม เสื้อยืด โปโล สกรีนหน่วยงาน ฟ้าใสมารู้ทีหลังว่าพวกนี้ออกนอกพื้นที่ไม่ได้
ออกจากจังหวัดเชียงรายไม่ได้ ตอนที่ฟ้าใสจะชวนดอยมาเที่ยวบ้านที่กรุงเทพ


“พี่ ๆ พี่ชื่ออะไรน่ะ” จู่ๆ ก็มีมือมาสะกิด ที่ต้นแขน

ฟ้าใสหันไปมองหน้า เออ เป็นเด็กหนุ่มที่ร่วมคลาสเรียนด้วยกัน หน้าตามันก็ตลกดี ปากหนาๆ ตาโตสวย
ขนตาหนาเป็นแพงอนยาว  ผมหยักศก แต่ผิวคล้ำมากมาย


ได้พบสบตาเจอหน้าเธอ
ครุ่นคิดวุ่นวายไม่คลายสับสน
จะขอติดตามด้วยความอดทน
หญิงอื่นไม่สนขอเดินตามเธอ



น่ารักน่าถนอมตรอมใส่ใจ
ส่งยิ้มให้ไปนะทำไม่สน
หากแม้เปลี่ยนใจขอเดินด้วยคน
ถึงเดินตากฝนยอมทนตามเธอ


* อยากบอกให้รู้ว่าฉันชอบเธอ
หัวใจมันเพ้อรักเธอเต็มทรวง
หากได้เธอนั้นมาเป็นคู่ควง
แสนสุดจะหวงรักเดียวตลอดไป

รักในวัยรุ่นคือรักครั้งแรก
แอบแฝงด้วยความร้อนแรง
แม้ตัวเธอจะเดินหนีแสนไกลห่าง
แต่ว่าฉันไม่หยุดรักเธอ



TBC....
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.3(11/10/12)อัพ อัพ ฮูเล่
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 11-10-2012 17:58:52
มาแนวเพ้อวุ้ย รักแรกเสียด้วย ซะรอยฟ้าใสจะเสียตัว ซะละมั้งเนี่ย  :z1: :z1: :z1:

เอาวะไหนๆๆ ก็สุดๆแล้ว อีกซักกะคนสองคนจะเป็นไรไปเน๊อะ หรือเปล่าหว่า แฟนคลับฟ้าใสว่าไงยอมเปล่า ชูป้ายไฟด่วนอิอิ

ขอบคุณมากๆค่ะ  :L1: :pig4: :L1:+ :3123:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.3(11/10/12)อัพ อัพ ฮูเล่
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 11-10-2012 19:43:33
ฟ้าใสนี่มี sex appeal สูงจริงๆ ไปไหนๆ ใครๆได้เจอนี่เป็นโดนใจเขาไปหมดเนอะ
นี่ก็ไปโดนใจพ่อหนุ่มมายตั้งกะตอนรอพี่โม่งที่สนามบินนั่น
มาเรียนคอร์สพิเศษที่เชียงรายก็มาเจอกันอีกล่ะ  หรือจะเป็นพรหมลิขิตบันดาลชักพาจริงๆ

ป.ล.  หูยเพลงประกอบตอนนี้ ทั้งสุนทราภรณ์
        ทั้ง"พี่แช่"(กรุณาทำเสียงchด้วย) แห่งGRAND EX
        คนเขียนเกิดทันด้วย :laugh:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.3((ต่อ))(12/10/12)อัพ อัพ ฮูเล่
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 12-10-2012 01:49:32
((ต่อ))

อะไรฟ่ะ หนอยชื่อก็บอกไปแล้วไม่รู้จักจำ ยืนแนะนำโดดเดี่ยว ตัวเป็นๆ เด็กแป้น เด็กดอยยังจำชื่อตรูได้ เรียกคุณพี่ฟ้าใสๆทุกคำ

“ผมชื่อ เต้ นะ พี่” ยังไม่ทันที่ไอ้เต้จะได้แนะนำตัวกับฟ้ามากไปกว่านี้ แขนขาวกว่า แทรกมาระหว่างกลาง วางถ้วยขนม
ตามมาด้วย แก้วใส่น้ำผลไม้ จะเป็นกระเจี๊ยบมะนาวมะขามมะตูม หรือผสมปนเป ฟ้าใสก็ไม่อาจรู้ได้ ไอ้คนตัวโตสูงใหญ่เบียดแทรก
มาตรงกลางระหว่าง ฟ้าใสกับไอ้เต้ ซึ่งเก้าอี้ที่เป็นม้ายาว  ตรงไอ้เต้นี่ก็สุดแล้ว

เพราะฟ้าใสนั่งเข้ามาเหลือที่แค่พอคนหนึ่งนั่งได้สบายๆ คนแทรกเข้ามาก็ดูไม่ได้จะสนใจว่า ที่น่ะ  มันไม่พอโว้ย
ฟ้าใสก็ไม่อยากให้ไอ้เต้ต้องลุก เลยขยับไปชิดเด็กแป้น  เด็กแป้นเลยขยับไปชิดดอย  ดอยมันเป็นชาวเขาเคร่งประเพณี
ไม่ค่อยอยากถูกเนื้อต้องตัวผู้หญิง เลยลุกหนีไปนั่งอีกโต๊ะ

“พี่ กินขนมไหม ผมซื้อให้ หรือเอาของผมก็ได้”

อ้า คนเชียงรายมีน้ำใจงามดีแท้เหลา

“นี่เพื่อนผมครับ ชื่อ.มะ...” ไอ้เต้เตรียมแนะนำเพื่อน

“ไม่ต้อง แนะนำเองได้ ผมชื่อมาย” เจ้าตัวพูดเสร็จก็ทรุดลงนั่งข้างฟ้าใส

แป้นเดินเอาจานไปเก็บให้  ที่โรงอาหารนี้เมื่อทานเสร็จแล้วจะต้องเอาจานไปวางที่โต๊ะวางจานใช้แล้ว
ฟ้าใสลืมกดน้ำมากิน แล้วก็ลืมซื้อด้วย พอนั่งทานแล้วก็เลยนั่งทานเลย  ฟ้าใสขยับยืนยกขาจะก้าวออก

“พี่จะเอาน้ำอะไรเด๋วผมซื้อให้” เสียงจาก ร่างสูงที่ก้มหน้าตักกินขนมของตัวเอง เมื่อฟ้าใสปฏิเสธขนม เชิญพ่อหนุ่มเถอะจ๊ะ ตัวควายๆอย่างงี้ กินเข้าไปเถอะ

“ไม่เป็นไร เด๋วซื้อเอง”

“ไม่เป็นไร บอกว่าไม่เป็นไรไง ผมจะซื้อให้”

เอ๊ะ ไอ้นี่พูดเหมือนดุตรูเว้ย...ฟ้าใสนึกในใจ  ช่างหัวมัน มันอยากเดินไปซื้อให้ก็ตามใจ ฟ้าใสควักแบงค์ยี่สิบส่งให้
อ๊ะ มันผลักคืนอีก

“ผมเลี้ยง”

“ไม่เอาน่ะ ไม่ต้องเลี้ยงหรอก” ยื่นแบงค์ยี่สิบไปตรงหน้า

“บอกว่าไม่ต้อง” เฮ้ย!!! มันดุตรูจริงๆว่ะ หยิบแบงค์ยี่สิบพับยัดใส่กระเป๋าเสื้อฟ้าใสอีกต่างหาก

“งั้นวันหลังจะเลี้ยงคืนแล้วกัน” ฟ้าใสบอกเด็กเมื่อวานซืนตรงหน้า

ร่างสูงยิ้ม พลางถาม “เอาน้ำอะไร”

“เป็ปซี่”

“ไม่กินน้ำเห็ด สามอย่าง แบบผมเหรอ มีประโยชน์นะ” ร่างสูงสบตาแนะนำสิ่งดีๆสู่ชีวิตฟ้าใส

เอิ่ม กรูไม่กินผัก กรูอยากจะกินสารก่อมะเร็ง กรูจะกินน้ำตาล น้ำตาลไหม้ กาเฟอีน กรูจะกินกรดฟอสฟอริก 
จะกินสารสกัดจากใบโคคา(สกัดเอาโคเคนออกแล้ว) และสารสกัดจากเมล็ดโคลาปริมาณเล็กน้อย  กรดน้ำส้ม
และโซเดียมไซเทรต  กรูจะกิน แคสเซีย(cassia คืออบเชยชนิดหนึ่ง) น้ำมันลูกจันทร์เทศ และสารอื่นๆ  กลีเซอรีน 
และกรูจะกินวานิลลา กรูจะกินทุกอย่างที่ประกอบเป็นสิ่งที่เรียกว่า “เป็ปซี่”

ฟ้าใสหน้าเริ่มเรียบเฉย  ร่างสูง ก้าวข้ามที่นั่งเดินยาวๆไปซื้อเป็บซี่

หลังจากเข้าชั้นเรียนบ่าย อาจารย์เชฟก็พาอาจารย์มาแนะนำตัว แต่ก็ยังไม่ครบ  พอใกล้จะถึงวิชานั้นๆก็จะมีการแนะนำกันอีกที
เพราะอาจารย์เชฟอาหารญี่ปุ่น  จีน เบเกอรี่ ต่างก็มีงานการทำ คือประจำอยู่ที่โรงแรมอื่นๆในเมือง

อาทิตย์หน้าถึงจะมีการปฐมนิเทศ เพราะต้องรอสาขาอื่นด้วย เรื่องเครื่องแต่งกายยังพออะลุ้มอล่วยกันไปก่อน
ที่นี่ยังปฏิบัติเหมือนเรียนโรงเรียนอาชีวะ แบบ อาชีพๆ
มีกฎห้ามเปิดเสียงมือถือ ใครลืม 5 บาท รับพอรับได้ ถ้าสำคัญแต่ไปคุยข้างนอก จานแตกใบละ100บาท มีต้องซื้อของใช้ส่วนตัว เช่น มีดเล็ก  มีดแกะสลัก ผ้าขนหนู 2ผืน

พอตกเย็นเลิกคลาส 16.00น. คนที่เป็นคนเชียงราย หรืออยู่บ้านพ่อแม่ญาติ ก็ขับรถบ้าง ขี่มอไซต์กลับบ้าง
พวกต่างจังหวัด ก็กลับห้องพัก เตรียมฝากกันซื้อของกินตอนเย็น หลายคนเอารถเอามอไซต์มาใช้

รูมเมทของฟ้าใส  ชื่อ พี่อนุวัฒน์ เป็นคนนครปฐม ทำงานเป็นผู้จัดการทั่วไปนะแหล่ะ คิดอยากหาอะไรทำหลังเออลี่ตัวเอง เลยมาลองจับทางนี้ดู
ร้านค้าขายอาหารใกล้ศูนย์ราชการ ก็มี พอเดินไปหาอะไรทานได้อยู่ แม้ก็ไกลประมาณ3ป้ายรถเมล์ในกรุงเทพเหมือนกัน


เช้า แต่งตัวเสร็จ หาอะไรทาน ฟ้าใสเอาสมุดดินสอปากกา ไม่ต้องพกอะไร มีล็อคเกอร์ให้เก็บกระเป๋าแก้วน้ำอุปกรณ์ของเรา

ฟ้าใสไม่กล้าเปลี่ยนที่นั่งเห็นเด็กบางคนก็นั่งที่เดิม ฟ้าใสเลยต้องนั่งเป็นมือขวาอาจารย์เชฟต่อไป ขณะที่มีการจดกระดาน ทั้งสั่งงาน และจดความรู้

“ใครมองไม่เห็น ก็เลื่อนเข้ามาใกล้ ก็ได้นะครับ” อาจารย์เชฟบอกด้วยความเห็นใจเพราะตอนนี้ เรานั่งกันแบบโต๊ะประชุม
สงสัยห้องเรียนจริงคงมีอะไรที่ไม่สะดวกใช้ สิ้นเสียง อาจารย์เชฟ ไม่นานก็มีคนขยับลุกขึ้นเดิน

ร่างสูงใหญ่ เดินมาจับเก้าอี้ว่างที่ตั้งชิดผนังด้านหลังฟ้าใสลากมาแหมะที่ด้านหลังกึ่งระหว่างฟ้าใสและเด็กแป้น

เอิ่ม!!! มันชัดเจนไปไหม ว่าเอ็งจะสนิทสนมกับตรูรวดเร็วเกินไปหรือเปล่า
ฟ้าใสเลยเหมือนมีชัตเตอร์กดติดวิญญาณคอยตามสิงอยู่ด้านหลัง
เด็กแป้นก็ไม่ต้องพยายามเขยิบหรอก ที่มันก็เต็มแล้วขยับจนเก้าอี้ชนติดกัน ไอ้มายก็ยังแทรกเข้าร่วมโต๊ะไม่ได้ มันก็อุตส่าห์
วางสมุดจดบนขาที่ไขว่ห้างของตัวเอง ฟ้าใสเป็นคนจดเล็คเช่อร์ได้ไวที่สุดของห้องมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ใครจะขอจดต่อ
 ก็แค่อ่านให้ออกแล้วกัน พอไอ้มายจดไม่ทันก็ชะโงกข้ามไหล่มาดูที่สมุดฟ้าใส ไอ้การชะโงกของเอ็งนะไอ้มาย 
มันคิดว่าฟ้าใสแก่กว่ามันตั้ง 3-4 ปี บ้างหรือเปล่า จนฟ้าใสต้องเบี่ยงๆตัว ไม่ให้ใกล้ชิดเกินไป


“พี่ฟ้าใส คัก ไปซื้อเนคไทกันไหมคัก” ดอยมาชวนฟ้าใสอย่างอายๆด้วยเสียงพูดเหน่อๆแบบคนดอย

“ได้สิ พี่ก็ว่ายังขาดของอยู่  อยากออกไปซื้อของเหมือนกัน”

“งั้นเราไปวันเสาร์พรุ่งนี้นะฮะ”

“ได้ ดอยจะออกกี่โมงล่ะ”

“10โมง ละกัง” 

“ฮื่อ จะไปเมื่อไหร่ก็เดินมาเรียกพี่นะ”

“คัก”

เช้าวันจันทร์  มีปฐมนิเทศด้วย ทุกคนเต็มที่แต่งตัวถูกแบบ ส่วนใหญ่เสื้อผ้าใหม่เอี่ยมกันเกือบทุกคน เพราะห่างเหินจากวงการ
เป็นนักศึกษา จะมีก็นักศึกษาหนุ่ม 2 นาย เต้ มาย และก็เด็กหนุ่มที่ชื่อ บอส อายุ 17 ที่เรียนจบ ปวช. เด็กหนุ่ม ชื่อ ไอซ์
ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ อายุ20 ปี ที่ขออนุญาตกลับเร็วเป็นบางวัน เมื่อต้องเข้ากะบ่าย

ฟ้าใสก็พยายามผูกไทด์ ตามที่พี่อนุวัฒน์ สอน  ฟ้าใสต้องพันหลายรอบมาก เพื่อให้ด้านนอกไม่ยาวมาก และด้านในไม่ยาวจนถึงเป้า
คนตัวเตี้ยก็อย่างเงี๊ยะ  เตี้ยเหนือเตี้ย ก็ย่อมมีเตี้ยกว่า ฟ้าใสก็มีดอย ไงล่ะ ดอยตัวเล็กสูงสัก 145ได้ รูปร่าง ผอม แต่แข็งแรง
ว่องไว ก็แน่ละสิ ตื่นตี5 เดินข้ามเขาไปทำไร่ ปลูกผัก ทุกวัน ดอยน่าสงสาร พ่อแม่ตาย เลยอยู่กับพี่ชาย พอพี่ชายแต่งงาน เลยคว้าง

ครูที่สอนหนังสือที่โรงเรียนเลยส่งชื่อมาให้ที่ศูนย์ช่วยรับให้ฝึกอบรม เงินทองก็ไม่มี ได้เบี้ยเลี้ยงครูจะเป็นคนรับและคอยจ่ายให้
เป็นงวดๆไป หรือมีเรื่องต้องซื้อ ครูก็จะให้พิเศษ แต่ดอยก็มักไม่ค่อยใช้ เพื่อนร่วมชั้น หนุ่มๆแก่ๆทั้งหลายเวลามีอะไรก็แบ่งปัน
ให้ดอยเสมอ แต่ก็มีบางคนก็แบ่งๆชนชั้นเหมือนกัน ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ใช่ว่าจะร่ำรวยไฮโซอะไร



“คุณพี่ฟ้าใส ขา ให้น้องแป้น ผูกให้ใหม่นะค่ะ” เจ้าเด็กแป้น ถลามาหา ขณะที่ฟ้าใสยืนคุยกับ พี่เป็ก หัวหน้าห้อง
ที่เปิดร้านขายส่งไส้อั่วเจ้าดังในเชียงราย คุณเป็ก เขาอายุ 30 ปี มีลูก มีเมียแล้ว มาเรียนเพราะอยากเปิดร้านอาหาร
ที่ต่างประเทศ เนื่องน้องสาวเพิ่งแต่งงานกับฝรั่งเมื่อเร็วๆนี้ เลยขออนุญาตเมียมาเรียน แล้วให้พี่สาวไปช่วยเมียขายส่งไส้อั่ว

ขณะที่แป้นกำลังยืนผูกไทด์ให้ฟ้าใส มอไซต์ก็วิ่งผ่านด้านหลังของฟ้าใส  ดอยที่ยืนมองแป้นผูกไทด์อย่างสนใจเพื่อจดจำ ก็พูดขึ้นว่า

“อ่ะ เพ่มาย กับเพ่เต้ มากันแล้ว”



TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.3((ต่อ))(12/10/12)อัพ อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: goonglovenut ที่ 12-10-2012 10:00:03
มายดูเป็นคนซื่อๆดีนะ คงไม่มีอะไรแอบแฝงใช่ไหม แต่เลือกเพลงขัดกับอายุจริงๆเลย มาย ไม่เป็นไร ถ้ามายจะคู่กับฟ้าใสก็ขอให้ดีจริงๆแล้วกัน เป็นกำลังใจให้จ๊ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.3((ต่อ))(12/10/12)อัพ อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 13-10-2012 15:24:53
ดูเหมือนว่าเพ่มายจะรุกหนักนะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.3((ต่อ))(12/10/12)อัพ อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: done_dirt_cheap ที่ 13-10-2012 19:54:29
ลุ้นมายแทนฟ้าใสว่ามายจะรักจริงหวังแต่งเปล่าเนี่ย
จะเตรียมกั้นประตูเงินประตูทอง
 :impress2:


 :z2:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.3((ต่อ))(15/10/12)อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 15-10-2012 02:49:36
ต่อ

วันนั้นทั้งวัน ไอ้มายดูจะสนใจเนคไทฟ้าใสทั้งวัน  มองแล้วเบือนหน้า ทำหน้าเหยียดหยามใส่
ถ้ามันจะบ้าของจริง อยู่ใกล้มาก เราจะบ้าตาม ฟ้าใสเตือนตัวเอง

เพียงแค่อาทิตย์แรก เด็กๆ แป้น และ ดอย จะรู้ว่าที่นั่งข้างฟ้าใสจะเป็นของไอ้มาย หรือต่อให้ฟ้าใสไปนั่ง ข้างดอย แป้น
 หรือจะนั่งริม มันก็ใช้ความใสซื่อบริสุทธิ ไม่รู้ ไม่ทราบ แต่กรูจะนั่ง มาวางตัวตน ข้างฟ้าใส
แต่ถ้าหาก มีพวกตัวเล็กกว่า มานั่งข้างหลังมัน และทำท่า มองไม่เห็น มันก็จะถูก อาจารย์ ไล่ไปนั่งหลังห้อง
 เพราะมันตัวสูง บังคนอื่น ถึงจะสะโอดสะอง สมส่วน ไม่ล่ำสันกำยำแบบ พี่ลิฟต์

อ้อ ตอนนี้เรามาเรียนกันที่ห้องเรียน โต๊ะท็อปขาวยาวจัดแบบ เรียงหน้ากระดาน และสรุปว่า ใช้กฎใครมาก่อนได้ก่อน
เพื่อหลีกเลี่ยงการทะเลาะกัน เสมอภาค อยากนั่งตรงไหนก็นั่ง พวกอยู่หอ จึงได้เปรียบ
ยกเว้นอยากขี้เกียจตื่นสายเอง อย่างฟ้าใส และทุกเช้าฟ้าใสจะมีคนมาช่วยแต่งตัว  ต่อให้ทำดีมาแค่ ผูกเนคไทมาว่าดี
ก็จะมีคนคลี่ออกและผูกให้ใหม่


ฟ้าใสชอบที่นั่งหน้าๆ เหมือน แป้น กับ ดอย  แล้วก็เลยเกาะกลุ่มกัน 3 คน
กลุ่มคนที่เรียนจะแบ่งเป็น 4-5 กลุ่ม กลุ่มชายจริง กลุ่ม หญิงแท้ กลุ่มโลกใส กลุ่มสาวแตกและสาวแอบ กลุ่ม เอกเทศ
อิสระ มั่น เทพ แต่ทุกคนก็ดูเป็นเพื่อนกันดี โดยเฉพาะกลุ่ม ชายจริง หญิงแท้  ต่างประสานสัมพันธไมตรี
หมาหยอกไก่ ผู้คนที่มาเรียนมีทั้ง คนอกหักรักคุด เจ็บจนหนีมาให้ไกลจากความจริงในอดีต เช่นเดียวกับฟ้าใส


วันหนึ่งที่อากาศดี โลกสดใส ทุกคนยืนทักทายพูดคุย

“นี่เนคไทด์ผูกไม่เห็นดีเลย”นี่ไง ไอ้มายมันเดินมาถึงตัวแล้ว พร้อมกับสำรวจความเรียบร้อยเสื้อผ้าหน้าผม
เฮ้ยๆ เอ็งเกรงใจคนรอบข้างมั่งสิเฟ้ย รักษาหน้ากันบ้างได้เปล่า ก็มันเล่นจับปกเสื้อขึ้นเปลี่ยนมา พับใหม่ให้ตรงสัน

“ผมไม่ได้หวีมาหรือไง”ไอ้มายมองที่หัวฟ้าใส มือก็เอื้อมทำท่าจะแตะผมฟ้าใสเลยต้องทำคิ้วขมวด
นี่มันหน้าเสาธง เอ็งมันก็เด็กกว่านี่กะจับหัวต่อหน้าชาวบ้านเค้าเป็น หลายร้อยคน เชียวนะเฟ้ย เกรงใจมั่งได้เปล่า

ไอ้มายพอเจอขมวดคิ้ว เลยเปลี่ยนเป้าหมายจากหัวเป็นมาจับเนคไทด์แทน  ฟ้าใสก็ประเภทปล่อยๆมันทำไป 
จากตอนแรกที่มีเจ้าแป้นคอยผูกให้ ตอนนี้ร่างสูงมันเข้ามารับหน้าที่ทำแทน ทั้งที่ยังไม่ได้โหลด
หรือตอบตกลงจะรับแอพพิเคชั่นนี้  มันต้องเป็นไวรัส ไวเลิฟ แหง๋มๆ ตรูต้องคอยระวัง สแปม ที่อีกหน่อยมันอาจจะแทรก สเปิร์ม

ความวัวก็เพิ่งหนีมา ตรูจะมาเจอความควาย อีกเหรอ เสียวเว้ย ฟ้าใสก็ไม่ชอบกินเด็กนะ  เด็กเล็กๆ ตั้งแต่แรกเกิด
จนถึงกี่ขวบก็ได้ 12 ก็โตแล้ว หลอกเด็กไม่ได้ เด๋วจะกลายเป็นโดนเด็กหลอกแทน ไม่เอ้า ไม่เอา รับแค่ 10 ขวบพอ
แต่ประเภท แบบ ไอ้พี่ลิฟต์ ที่ 9 ขวบ แล้ว อาบน้ำกับ สาวน้อยรุ่นพี่ มันก็ขอจับนมเขาแล้ว พอ12 ขวบ ก็จั๊กกะดึ๋ยกับเพื่อนสาวในห้องแล้ว  งั้น 12 ขวบนั่นก็ไม่ไหว

ฟ้าใส อายุ 25 เบญจเพส พอดี ลาภยศสรรเสริญ กำลังจะมา 555 ไม่ชอบกินเด็ก ไม่ชอบกินเด็ก ฮร้าร้าร้าร้าร้าร้า ไม่เอ้า ไม่เอา 
ก็เด็กน่ะ พูดไม่รู้เรื่อง ตัวเล็กก็ยังน่ารัก จับอุ้มได้ แต่ไอ้ที่โตแล้วนี่สิ พอดื้อแล้ว จับไม่อยู่ สู้ก็ไม่ไหว

ไอ้มายนะชอบทำตัวแปลกๆ ชอบลอบมองฟ้าใสไม่รู้ว่า หน้าฟ้าใส ไปเหมือน โจทก์ เก่า ญาติ พี่ น้อง พ่อแม่ แต่ที่มันแสดงออก
คือ มันจะมาเป็นแม่ ฟ้าใส แทนนะสิ  ไม่ว่าจะชายเสื้อหลุดมันก็จะจับยัดเข้ากางเกงให้ คอเสื้อเปิดกว้างเกิน  กระดุมหลุด  เส้นผมร่วงติดเสื้อ เศษใบไม้ดอกไม้ติดผม

ตอนแรกที่มันก็ถอดเนคไทด์ไปคล้องกับคอตัวเองพอเอาคล้องคืนก็ยังยาวอยู่ดี  ก็มันตัวยาวกว่าผมตั้งเยอะ มันก็เลยยืนผูกให้
พอยืนใกล้ๆนานๆก็เขินเหมือนกัน ถ้าใครเห็นมันก็ต้องรู้สึกแปลๆ ที่ผู้ชาย2คนจะมายืนทำอะไรกันอย่างนี้

ถ้าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงก็คงดูดีน่ารักหรอก ที่สำคัญมันก็ไม่ใช่สเปคฟ้าใส เลยได้แต่คิดซะว่าเพื่อนกันร่วมคลาส
แต่มันอาจจะดู พ่อบ้านดำ อินมาก เลยอยากเป็นเซบาสเตียนน่ะมั๊ง




เวลาผ่านมา 1เดือน

หลังจากกลืนข้าวมื้อเช้า คำสุดท้าย เสร็จ วันนี้ฟ้าใสรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว เพลียๆ เจ็บๆคอ ฟ้าใสมองไปทางชอป(ตึกเรียน)
รถมอไซต์ไอ้มายมาจอดที่ด้านหลังตึกเรียนแล้ว สักพักมันคงเริ่มตามหาฟ้าใส

ยิ่งเห็นเหล่านักเรียน ที่พากันเดินไปเข้าแถว ก็ถอนหายใจ  พอเห็นสมจิต เด็ก หมู่บ้านเดียวกับดอยมองมา ก็ยิ้มให้

นั่นไงร่างสูงๆรีบเดินมานั่นแล้ว  ฟ้าใสรีบเดินออกข้างหลังแล้วเลาะไปทางแผนก ตัดเย็บ เสื้อผ้า ดีกว่า ถ้าเดินไปเจอมัน คงถูกบังคับ เอ๊ย ขอร้อง ให้นั่งกินเป็นเพื่อน


ตรืดดดดดด
จิตใจตรงกัน ผูกพันรักใหม่ สุขใจเหลือเกิน รักเพลินสดใส
มอบรักให้เธอ ใจฉันเหม่อลอย หากเธอยังคอย ฉันพลอยอุ่นใจ

หกนาฬิกา แอบมาพบเธอ เจอะกันทุกที โสภีงามแท้
ไม่แพ้เทวี จันทร์ศรีผ่องเพ็ญ เธอคงมองเห็น ฉันเป็นยอดชาย

นั่นแหล่ะ มันล่ะ ไอ้มายมันโทรหาฟ้าใสแล้ว มันเองก็ตั้งเสียงเรียกเข้าเอง  มันว่าเพลง “เหมาะ”


“ฮัลโหลอยู่ไหนนะ” เอ๊ะ แล้วมันยุ่งอะไรกะตรูด้วยว่ะ  ทำไมตรูต้องรายงานเอ็งด้วยว่ะ ได้แต่บ่นในใจ แต่ปากก็ตอบเขาไป

“คุยอยู่กับสมจิต” อ้างไปก่อน ไอ้มายไม่รู้จักหรอก

“ใครน่ะ ผู้หญิงผู้ชาย แล้วอยู่ตรงไหนล่ะ ผมจะไปหา” เหอะ ไอ้พวกเด็กมหาลัยก็อย่างงี้ คบแต่ ....
ทีของหายากแบบนี้ไม่รู้จักคบ   ฟ้าใสสนใจเด็กพวกนี้จะตาย อยู่กรุงเทพฯไม่มีโอกาสได้คบกันไว้นะเว้ย แล้วนี่เอ็งจะมาตามหากันทำไม

“ไม่ต้องน่ะ นายอยู่ไหนล่ะ เด๋วเดินไปเอง” ฟ้าใสรู้แล้วล่ะว่ามันคงอยู่หน้าโรงอาหาร ฟ้าใสน่ะเดินไปหลบอยู่แถวหน้าห้องน้ำ
ด้านหลังโรงอาหาร แล้วถ้าฟ้าใสไปคุยกับพวกเด็กๆ จริง ไอ้มายก็จะมานั่งกดดัน ใกล้ๆ จนเด็กๆกระจายหนีไป

แล้วถ้าบอกมันว่าฟ้าใสมแอบมันที่หน้าห้องน้ำ  มันก็รู้ทางหนีทีไล่ฟ้าใส อ่ะดิ

“มาเร็วๆนะ โรงอาหาร”

ฟ้าใสค่อยๆ ทิ้งเวลาสักพัก ค่อยออกไปหา มายนั่งที่โต๊ะแล้ว แต่ยังไม่ยอมสั่งอะไร จนฟ้าใสเดินไปนั่งที่โต๊ะฝั่งตรงข้าม
มันค่อยลุกไปซื้อข้าว  ฟ้าใสไม่รู้ว่ามันจะติดฟ้าใสเรื่องอะไร  ฟ้าใสก็อายๆ เขินๆเหมือนกัน 

เพราะดูเหมือนบางคนก็สังเกตเห็นได้ อย่าง ไอ้เกรียงเอ๊ย อิเกรียง  หนุ่มน้อยจากบุรีรัมย์  ผิวคล้ำจนเขียว รูปร่างสูงใหญ่ 182 เซ็นต์ 
อายุ 19 ปี หน้าตาหล่อเหลา จมูกโด่ง เอ่อ แต่บานไปหน่อย เทอว์ ว่าหลังเกณฑ์ทหาร อยากขอตังแม่แม่ไปตัดปีกจมูกออก
และคู่หูดูโอ คือ อิริน ชื่อจริงคือ ศักดิ์นรินทร์ นี่ก็สูง ขาว ผอมบาง 180 เซ็นต์ อายุ อ่อนกว่าฟ้าใส 1ปี คนนี้นี่เกิดมาเพื่อเป็น
 เคะราชินีโดยแท้ จิกหัว ชี้นิ้ว หนุ่มๆ โดยเฉพาะ เด็กช่าง ที่เทอว์จะแวะเวียน เอามอไซต์ไปที่ชอป ช่างยนต์

 “เติมลมให้ พี่ หน่อย น๊า...” คุณนายริน เทอว์ก็จะเลือก หนุ่มผู้โชคดี



TBC....
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.3((ต่อ))(15/10/12)อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 15-10-2012 15:19:16
ฟ้าใสไม่ชอบกินเด็ก แต่เด็กน่ะมันจะกินฟ้าใส หุหุ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.3((มาต่อฮะ))(18/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 18-10-2012 09:02:47
ขอโทษครับที่หายไปหลายวัน โดน สว.ผู้สูงวัยใช้ให้ ทำเวบ ตัวเองก็ไม่เก่งอะไร อาศัยงมๆไปดำน้ำไปลองผิดลงถูกไป
 ไม่งั้นเด๋วป้า เค้างอน ไม่ทำให้เขาสักที จนล่าสุดไปบังคับลูกสาวอายุ12ให้ไปเรียนทำเวบ ราส เลยต้องรีบทำให้
เด๋วถ้ามีการบ้านเกี่ยวกับภาษาแล้วป้าไม่ช่วยก็แย่เลย เพราะทั้งเพื่อนทั้งตัวเอง กวนป้าแปลให้บ่อยๆ
ช่วงนี้ อาจหายไปทีละ2-3(-4-5เผื่อ) วัน ติดตามกันต่อไปนะฮะ
 :pig4:


ณ ที่กลางทุ่งนา สภาพอากาศ ร้อน แดดไม่จัด แต่มันก็แดด และก็ทำให้คนบางคนตาหยี ออกอาการ หน้าบู้
เมื่อถูกบังคับให้ไปยืนถ่ายรูป คู่กับควาย แม้ว่า ควายจะยืนกลางทุ่งนา แล้วตัวเองก็ยืนอยู่แค่ริมๆคันนาก็ตาม

“เดินเข้าไปอีก อีก อีก” เสียงคำสั่งตะโกนมา

“ไม่เอา แล้วเดี๋ยวควายมันวิ่งมาขวิดฉันล่ะ” ฟ้าใสตะโกนโต้ตอบกลับ

“ถ้ามันวิ่งมา ผมก็จะบอกเอง แล้วควายมันก็อยู่ตั้งไกล เจ้าของเขาก็ผูกเชือกล่ามไว้น่า” ไอ้มายมันพยายามเกลี้ยกล่อม
 ให้ฟ้าใสพยายามเดินเข้าไปในแปลงนาที่แห้งแตกๆให้ใกล้เข้าไปอีก เพื่อที่จะถ่ายรูปฟ้าใสแล้วมีควายกับทุ่งนาเป็นแบ็คกราวน์

สำหรับฟ้าใส แค่นี้ก็ใกล้ไปแล้วด้วยซ้ำ ตอนนั่งซ้อนบนมอเตอร์ไซค์ ดูจากริมถนนนั่นก็เรื่อง แต่เอาเข้าจริง ควายมันก็น่ากลัวนะ
 ตัวเบ่อเริ่มเลย มีเขาโง้ว ด้วย  ถึงไอ้มายจะบอกว่า เจ้าของผูกเชือกล่ามไว้ อีโธ่ ฟ้าใสก็เคยดูหนังดูละครนะ
ที่มีควายเข้าฉากน่ะ เจ้าของแต่ละคน ยังกะล่ามควายไว้ดีนักนี่ ฟ้าใสเห็นก็เอาเชือกแค่พันๆกะต้นไม้ กะรั้ว ผูกๆไปงั้นๆ
แล้วก็มีควายเดินหลุดหนีไปโน้นไปนี่ประจำอ่ะ ไว้ใจได้ที่ไหน

“ถ่ายๆไปเหอะ เร็วๆอ่ะ ไม่งั้นก็ไม่ถ่ายก็ได้” ฟ้าใสเริ่มงอแงเบี้ยวมั่ง  ดินแตกๆนี่เห็นอย่างงี้ เดินยากจะตาย มันแยกๆ ตะปุ่มตะป่ำ เท้าพลิกด้วยอ่ะ

การที่ฟ้าใสต้องออกมาเอ้าท์ดอร์ กับ ไอ้มายนะเหรอ ก็ไอ้มายด์มันมีงานอดิเรก หรืองานประจำ คือ ถ่ายรูป แล้วอัดเป็นโปสการ์ดขาย
โดยจะฝากขายที่ร้านเพื่อน แล้วทีนี้เพื่อนก็ส่งสารลับมาว่า
 “รูปมันเหลือน้อยแล้ว ถ้าเอ็งอยากทำมาหา มีสะตุ้งสะตังใช้ เอ็งก็จงไปทำล็อตใหม่มาส่งซะ” หลังจากเจ้าตัวรับข่าวสาร  ดังนั้น

“นี่ นี่ เสาร์นี้มีอะไรทำหรือเปล่า” ฟ้าใสโดนสะกิดจนแขนเป็นรอยแดง
หลังจากแกล้งทำหูทวนลม ฟังศักดิ์นรินทร์ เล่าเรื่องการกระโดดถีบมอเตอร์ไซค์ ที่แฟนตัวเองซ้อนกิ๊ก แอบไปดูหนังกันมา
 ศักดิ์นรินทร์ รู้เข้าเลยมาดักรอ พอได้จังหวะทางโค้ง ใกล้คอนโด รถต้องชลอ ศักดิ์นรินทร์ ก็ออกมาพลีเซ็นเฟส
แล้วก็โดดถีบเปรี้ยง ถอดรองเท้ามาไล่ตบทั้งแฟนทั้งกิ๊ก  ฟ้าใสฟังแล้ว นับถือ สุโค่ย ฝีมือเยี่ยมยุทธ์ ชิบเป๋ง
 ฟ้าใสใจไม่ถึง ใจไม่กล้าขนาดนั้น

 บางครั้งเขาก็คิดว่าที่เขาต้องเป็นแบบนี้เพราะเขาไม่ต่อสู้ช่วงชิงเพื่อหัวใจตัวเองหรือเปล่า หรือว่า เขารัก โภชน์ และพี่ลิฟต์
ไม่มากพอ  แต่ฟ้าใสก็รักนะ แฟนใคร ใครก็รักดิ ขนาดแฟนคนอื่น ฟ้าใสยังรักเลยเนอะ แต่เรื่องต่างๆก็ผ่านไปแล้ว

ทั้งที่รู้สึกไม่ค่อยสบายเท่าไหร่  มึนๆหัว แต่ ใครเคยบอกว่า ถ้าไม่สบายปวดหัว อย่านอน เด๋วยิ่งมึนใหญ่ ออกไปกิจกรรม ข้างนอก
 เด๋วดีขึ้นเอง เลยเผลอ ตกปากรับคำ ไปก็ไป คงมองหน้าคนที่มาชวน เห็นสายตามันที่มองเขม้นทั้งข่มขู่ทั้งขอร้องแล้ว
 ไม่กลัวนะ แต่ก็รู้ว่าปฏิเสธไป มันก็ตื้อ ถ้ายังไม่ไปอีก ก็เจอมันงอนใส่อีก ฟ้าใสเลยรับปากไป

“โอ๊ย” ไอ้มายบอกให้ฟ้าใสถอยไปอีก ดูดิ๊ เขาเลยถอยหลังจนสะดุดหงายท้องเลยอ่ะ ไม่อยากบอกว่าที่หกล้ม
เพราะจะทำเป็นสไลด์ก้าวกระโดดถอยหลังอ่ะ ตั้งใจจะประชดมัน เท้าเลยสะดุด ตะปุ่มดิน ฟ้าใสนั่งจ้ำเบ้ากับพื้น ไอ้มายรีบวิ่งมา

“เป็นไรเปล่า เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” ร่างสูงที่ทำหน้าตกใจตอนแรก เปลี่ยนยิ้มบางๆ เมื่อเห็นฟ้าใสไม่ได้เป็นไร
เขาเปลี่ยนเป็นนั่งขัดสะมาดแล้ว หน้าหงิกหน้างอ  ยกมือมาดู ก็เจ็บดิ ตอนล้มก็เอาแขนเอามือยัน ดินแตกๆแห้งๆก็แข็ง ครูด

“ไม่ต้องเลย นายน่ะบอกให้ฉันถอยอยู่นั่นนะ”ร่างเล็กสะบัดเสียงใส่

“นะ นะ ขอโทษ ขอโทษ” ร่างสูงยกมือไหว้ปะลกๆ ปากบอกขอโทษ แต่หน้ามันอมยิ้ม นะเอ็ง มือก็ยังมาวุ่นวายจับนู้นจับนี่อีก

“ไม่ต้องมาจับเลย” พูดเสร็จ ฟ้าใสก็ดึงมือคืน จากมือใหญ่หนา ที่พลิกดูรอยแดง รอยถลอก พลางปัดเศษดิน ออกให้
ดึงไม่ได้โว้ย มันจับไว้แน่น


หวืด.....ร่างเล็กลอยขึ้นจากพื้น

“งั้น...ไม่ต้องถ่ายแล้วล่ะ” ร่างใหญ่เอ่ย ก้มโอบตัวอุ้มคนตัวเล็กกว่าขึ้นบ่า

“เฮ้ย...เฮ้ย...ทำอะไรอ่ะ ไอ้มาย ไอ้บ้า เล่นอะไร” ฟ้าใสเริ่มโวยวาย ดีว่า แถบนี้ไม่มีคนอยู่ด้วย
มีแต่ควายที่รู้เห็นเป็นพยานตัวเดียว ฟ้าใสใช้มือยันตัวไว้ไม่ให้สนิทแนบกับไอ้เด็กบ้า ดิ้นมากเด๋วขาไปโดนกล้องมันพัง สงสารมัน

“ปล่อย ปล่อยก่อน กรูไม่ได้เป็นไรนะไอ้มาย”

“พี่น่ะหยุดดิ้นก่อน ควายมันมองแล้ว เด๋วมันก็วิ่งมาขวิดหรอก”

“เฮ้ยจริงอ่ะ เออ เอ็งก็รีบเดินเร็วดิ”  ร่างสูงอมยิ้ม พอหมุนตัว ฟ้าใสถึงเห็นว่า ควายมันก็ยืนอยู่เฉยๆก็มองมาทางเขาบ้าง
แต่ก็ไม่มีท่าทีอะไร “ควายมันอยู่เฉยๆต่างหาก”

“ก็เมื่อกี้ พี่ ดิ้นอ่ะดิ เห็นม่ะ พออยู่เฉยๆ ควายมันก็เฉย ใช่ไหมล่ะ”

เอา ก็เอาว่ะ ให้มันแบกมาส่งที่ถนน ก็ได้ ไม่ต้องเดินให้เท้าพลิก 
พอถึงจะต้องขึ้นจากท้องนาไปบนถนนที่จอดรถไว้ ฟ้าใสก็นึกว่ามันจะปล่อยเขาลง

“เฮ้ย ปล่อยเราลงได้ไอ้มาย” พออยู่แบบนี้นานไปชักเขินอ่ะ มันใกล้ชิดกันเกินไปแล้ว ก็ฟ้าใสก็ต้องโอบคอมันไว้ด้วยนะสิ เกิดมันก้าวพลาด ลื่น เขาไม่กลิ้ง เจ็บตัวเหรอ

“อยู่เฉยๆเถอะน่า” ว่าแล้วร่างสูงก็ก้าวยาวยันตัวเองที่แบกฟ้าใสก้าวขึ้นเนินขอบถนนอย่างมั่นคง

“ตัวแค่นี้ ไม่เห็นจะหนักอะไร” พูดไปมือก็ปัดเสื้อปัดกางเกงให้ฟ้าใส เสร็จแล้วก็จัดการเช็คอุปกรณ์ของตัวเองเก็บให้เข้ากระเป๋ากล้องให้เรียบร้อย

“ไปได้แล้ว” ร่างสูงจับมือฟ้าใสเดินไปขึ้นมอเตอร์ไซค์ที่จอดไว้ริมทาง

ความอบอุ่นวาบขึ้นในอก ถึงจะอคติที่มันเด็กกว่า และตัวเองไม่ชอบคนอายุน้อยกว่า อาจเป็นปมที่อยู่ในใจของฟ้าใส
ที่ตอนเด็กไม่ได้รับความอบอุ่นจากพ่อ จึงมองหาจากผู้ชายที่แก่กว่า

ร่างสูงขึ้นนั่งมอเตอร์ไซต์ เมื่อฟ้าใสขึ้นซ้อนเรียบร้อยจึงค่อยส่งกระเป๋ากล้องมาให้ถือสะพาย โชคดีที่มีกระเป๋าคอยขวาง
 ไม่งั้นมันก็คงสั่งให้นั่งให้ชิดติดมันอีก แล้วนี่มันจะไปไหนต่อ ฟ้าใสก็ไม่ได้ถาม ก็ตามนิสัยของเขาเองแหล่ะ ก็ใครๆก็ทำแบบนี้
กับเขานี่ ชวนไปไหนถึงเขาจะมีธุระ หรืออยากทำอะไร แต่พอโดนตื้อก็ปฏิเสธไม่ได้ยอมเก็บธุระตัวเองไว้ก่อน
เพราะฉะนั้นป่วยการคิด จะไปไหนก็ไปให้จบเรื่อง หมดกับเรื่องคนอื่นเสร็จ ก็ค่อยเป็นตัวของตัวเอง


TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.3((มาต่อฮะ))(18/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 18-10-2012 10:51:56
ฟ้าใสจะรอดมือเด็กปะเนี่ย สงสัยครานี้คงได้กินเด็ก..เอ๊ย..โดนเด็กกินมั้ง
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.3((มาต่อฮะ))(18/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 18-10-2012 13:21:37
ดูท่า โปสการ์ดชุดนี้จะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า โปสการ์ดรูป

"คน กับ ควาย"

กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.3(ต่อ)(23/10/12) ((อัพ))
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 23-10-2012 13:29:13
(ต่อ)

“นี่..อย่าหลับนะ” เสียงเตือนจากคนไหล่กว้างข้างหน้า 
ฟ้าใสนึกถึงคำเตือนเมื่อไอ้เด็กตัวโตพูดตอนที่มารับเขาขึ้นรถตอนแรก ยังนึกบ่นว่าใครจะบ้าหลับ ไม่ใช่เด็ก

อื้อ ...จริงด้วยฟ้าใสเกือบจะพล็อยหลับ เพราะสายลมเย็นที่พัดปะทะหน้า เพลียจากอากาศอ้าวๆ
จากที่มึนหัวนิดๆที่มีอาการไม่สบายด้วย ตาที่จะปิดลงเรื่อยๆ ศีรษะที่มีกลุ่มผมสลวยอิงซบกับแผ่นหลัง
กลับมารู้สึกตัวเมื่อเสียงเตือนจากเจ้าของแผ่นหลังกว้างเอ่ย มือเล็กกำจับที่ชายเสื้อมั่นขึ้น
จับอย่างนั้นมันจะไปมั่นอะไรนักหนา ร่างสูงนึกยกยิ้มที่มุมปาก แล้วเอื้อมมือตัวเองไปจับมือมาโอบเอวตัวเองไว้

“ไม่คิดเงินหรอกน่า”

“อ๊ะ แน่ละสิ นายจะมาคิดเงินได้ไง เราซะอีกเฟ้ยที่ต้องคิดค่าจ้างมาเป็นเพื่อนนะเนี่ย ทั้งคอยถือของให้ด้วย”
เสียงบ่นงุงงิ๊งต่อ “ขนาดมึนหัวนะยังอุตส่าห์มานะเนี่ย” “เฮ้ย...ดูทางดิ หันมามองอะไร”
 ฟ้าใสรีบผลักหน้าคนขี่รถที่หันมามองหน้า โดนแหย่หน่อย เลยหายง่วง

ฟ้าใสมองข้างทาง นี่เขาคงเผลอหลับไปแน่ เพราะไม่รู้แล้วว่าที่ไหน

“แล้วนี่ถึงไหนอ่ะ”

“บอกไปจะรู้ไหมล่ะ เคยมาแถวนี้เหรอ”

“ก็ไม่บอกมาจะรู้ไหมล่ะ ว่ารู้จักเปล่า” ฟ้าใสก็เถียงมันบ้างล่ะ แก้ง่วงด้วย แล้วมันก็ชอบข่มเหมือนเขาเป็นเด็กกว่าอยู่เรื่อย

“พูดไปเสียเวลาน่า ถ้ารู้จักก็รู้จักไปแล้วล่ะ” คนตัวโตก็ไม่วายข่มกลับแอบยิ้มเยาะอีกต่างหาก

“เหอะ” ปึก ศอกของร่างเล็กแต่อยู่ในตำแหน่งได้เปรียบกว่าเหวี่ยงใส่ไหล่ แต่คนถูกทำไม่สะดุ้งสะเทือนสักนิด กลับยิ้มมากขึ้น

“หายง่วงยัง แถวนี้เขาเรียกวัดคุ้ง ขับต่อไปก็จะถึงสะพาน ข้ามไปก็เป็นทางกลับบ้านแล้ว”

“อ้าวนายจะกลับแล้วเหรอ แล้วถ่ายได้เยอะหรือยัง เห็นไปไม่กี่ที่เอง”

“ก็เห็นเพลียแล้วนี่นา”

“เฮ้ย บ้าน่า เราไม่เป็นไร  ไหนๆออกมาแล้ว เพลียอะไร แค่ลมพัดเย็น เข้าตา มันก็หลับตา ตามันหลับ มันก็เลยหลับอ่ะดิ” แหมเรื่องงานเรื่องการ ฟ้าใสก็ต้องสนับสนุนน่ะสิ

“วันหลังมาใหม่ก็ได้”

“ไม่ต้องหรอก วันนี้นี่แหล่ะ แดด ก็ยังมีอยู่เลย  เดี๋ยวกลับไปจะได้ช่วยดูให้ด้วย” เขาพูดเชียร์ เด็กมันจะได้ขยันๆ

คนขับหันมาเหล่มอง ฟ้าใสเลยรีบยื่นหน้าไปรับรองอย่างแข็งขันว่าตัวเองไม่เป็นไร สดชื่น แต่พอตาประสานกัน
 ก็รู้สึกชักไม่ค่อยดี เลยรีบทำเป็นเตือนคนข้างหน้าให้ดูทาง

“เอาก็เอา งั้นเดี๋ยวขอแวะที่วัดสันต้นคำนะ”

“ฮื่อ ตามสบายเหอะ”

หลังจากไอ้มายขับไปฟ้าใสก็ดูข้างทางไป จนถึงวัดสันต้นคำ ซึ่งเป็นวัดเล็กๆ ดูเก่าแก่  ซึ่งเป็นวัดที่สวยงามทางด้านศิลปะของ
พม่า  ความสวยงามวิจิตรพิสดารที่เน้นศิลปะในด้านการแกะสลักไม้สัก สลักเป็นลาย ลวดลายการขดและลายเครือเถา
ห้อยย้อยลงมาคล้ายม่านของทางขั้นบันไดทั้ง 2 ข้าง

ฟ้าใสไม่ต้องคอยเดินตาม ปล่อยให้มันเดินไปดูโน่นนี่ถ่ายเอง  นั่งไปสักพัก ลมเย็นๆ หัวมึนๆ หลังวัดที่ติดกับแม่น้ำ พาให้....


เสียงชัตเตอร์ ดังไม่ไกล แต่ก็หลายทีเข้า มันก็ก็เข้ามาในสมอง จนเรียกให้เราตื่นจนได้  ฝันอะไรไม่รู้ 
จำได้คับคล้ายว่ามีคนให้ของใส่มือ เราไม่เอา แต่พอถือไปทำของหายก็เสียดายจนจะร้องไห้ เสียง กุกกัก ใกล้ตัว
ร่างสูงนั่งพิงเก้าอี้ ที่ฟ้าใสเอนกายนอนคู้อยู่ ก็ตอนแรกฟ้าใสก็แค่พิงพนัก แต่หลังจากเห็นว่าก็ไม่มีใครเดินผ่านมาทางนี้
เลยขอนอนไปเลยแล้วกัน กระเป๋ากล้องที่คนมาด้วยกันฝากไว้นอนกอดแนบตัวก็ไปอยู่ในมือเจ้าของแต่เมื่อไหร่ 
อะไรว่ะ เรานี่หลับไม่รู้เรื่องเลยเหรอ เอ..แล้วที่ฝันเมื่อกี้ เราร้องไห้ออกมาหรือ รีบยกมือขึ้นแตะตาตัวเอง ไม่มีน้ำตา โชคดีไป
  ถ้าไอ้มายเห็น เขาคงได้อายมันแน่ แต่เหมือนความรู้สึกเศร้ายังคงค้างคาอยู่ในอก


มายหันมาดู เมื่อรู้สึกได้ว่าฟ้าใสขยับตัว เมื่อกี้ก็ถ่ายภาพคนนอนหลับไปได้หลายภาพ ถึงจะหลับใหลไม่รู้สึกตัว
อารมณ์ที่อวลในตัวคนหลับกลับดูเคว้งคว้าง ไม่เหมือนท่าทางที่มียามตื่นในเวลาปกติ

“ไปกลับกันเหอะ”ร่างสูงลุกยืม ก้มชวน คนเพิ่งตื่น ที่กระพริบถี่ เรียกสติ

“กี่โมงแล้วอ่ะ”

“ห้าโมงจะครึ่งแล้ว”

“ห๊า!!!” ฟ้าใสอุทานเสร็จรีบผุดลุกนั่งตัวตรงทันที บ้าน่า ไม่เคยมาหลับนอกสถานที่อย่างงี้นานขนาดนี้มาก่อน
ธรรมดาง่วงมากก็งีบสัก 15 นาที ครึ่งชั่วโมง ไม่ว่าจะตามบ้านเพื่อน หรือเวลาเมา เอหรือว่าเคย ช่างเหอะ
นี่หลับไปเกือบ สองชั่วโมง เฮ่ย ชั่วโมงครึ่งเอง 

“เสร็จแล้วเหรอ”

“ยังหรอก ว่าจะค้างคืนที่นี่”

“บ้าเหรอ” คนตัวเล็กตวัดเสียงขว้างค้อนใส่

“555”

“หลับไปนาน ทำไมไม่ปลุกล่ะ”

“ก็เห็นหลับสบายดี ใครจะไปอยากกวนล่ะ” กวนไม่กวนไม่รู้แต่ก็แอบชิมแก้มนวลไปแล้วล่ะ ดูท่าคนตัวเล็กคงไม่สบายจริง หัวอุ่นๆ แต่ตัวเย็นเชียว

ฟ้าใสทำท่าลุกคนตัวโตยื่นมือมาให้จับ จะปฏิเสธก็ยังไง หมั่นไส้ ทำเป็นแมนเชอะ คิดผิดคิดใหม่ก็ไม่ทันแล้ว

ฟ้าใสว่าจะแกล้งมันเล่น เลยใช้น้ำหนักตัวเอง+แรงที่มี ฉุดแขนที่มีกล้ามซึ่งเจ้าตัวอุตส่าห์หวังดียื่นมาให้ เกาะ
กะจะแค่แกล้งให้เจ้าคนตัวโตที่ชอบท่าทางเหมือนว่าเป็นผู้ใหญ่กว่าเขาเสียฟอร์มเซถลาบ้าง 
ทำไปแล้วก็นึกเสียใจไม่ทันซะแล้ว

ร่างใหญ่นั่นก็เซถลาล้มจริงๆ แขนที่ถูกฉุด ค้ำพนักเก้าอี้ แขนอีกข้างเท้ากับที่นั่ง ตาวาวที่จ้องใกล้ในระยะ
ปลายจมูกจะชนกันอยู่แล้ว ปากที่เตรียมยิ้มเยาะหัวเราะ  กะจะแกล้งอุทานว่า ”ขอโทษ” ได้แต่อ้าค้าง หน้าเปลี่ยนสี
เมื่อพบว่าตัวเองถูกกักอยู่ใต้วงแขนของร่างใหญ่โต ใจเต้นตุบตับ ใกล้จนได้กลิ่นกายคนตรงหน้า ใกล้เสียจนนับเส้นขนตาได้

ทำอะไรไม่คิด ฟ้าใสได้แต่ด่าตัวเอง
ไม่อยากสบตาจนต้องเบือนหน้า

 “ถอยออกไปได้แล้ว” แขนเล็กออกแรงดันอกแกร่งให้ออกห่าง

“หึ หึ” ร่างสูงก้มหน้าจนจมูกเฉียดแก้มเนียนที่แดงระเรื่อ สีแดงลามระเรื่อยจนถึงใบหู

“เป็นไงล่ะ” ร่างสูงกระซิบผ่านริมฝีปากใกล้หูจนฟ้าใสสัมผัสลมหายใจอุ่นของเจ้าตัว



ร่างชายหนุ่มสองคน คนตัวโตจับข้อมือคนตัวเล็ก ให้เดินตามกันไป

พอรถมาจอดเพื่อกินข้าวกัน ฟ้าใสก็แปลกใจหน่อยว่าทำไมมันพากินข้าวในเมือง
 คงอาจเห็นว่าแถวศูนย์คงไม่ค่อยมีอะไรอร่อยมั๊งแล้วก็เย็นแล้วด้วยแถมเป็นวันหยุดอีก

“กินขนมต่อสิ”

“...” นิ่งคิดอยู่หน่อย เอาก็เอา เผื่อจะสดชื่นขึ้น มันเหมือนตัวรุมๆ ร้อนๆ แต่พอลมพัดมาก็หนาว “เอาขนมปังน้ำแดง”

คนนั่งตรงข้ามเอื้อมมือมาแตะหน้าผาก ฟ้าใสว่าเบี่ยงหลบ แต่เดี๋ยวก็โดนว่าอีก เลยปล่อยให้มันจับไป เพราะเพลียด้วย
เหงื่อออกแต่หนาวๆ  ลมพัดกรรโชกมาซู่ใหญ่ อากาศทางเหนือไม่ค่อยแน่นอน กลางวันอ้าวๆ ตอนเย็นหรือค่ำฝนมักจะตก
ฟ้าใสเริ่มห่อตัว ลมพัดมา หนาวจนสะท้าน มายเอาเสื้อคลุมแบบพวกขี่มอไซค์ใส่กันมาให้ใส่ ถึงไม่ชอบก็คงต้องใส่

“เดี๋ยวถึงบ้านแล้ว” เสียงหนุ่มรุ่นน้องบอก ฟ้าใสก็ฟังไปงั้นๆ มึนหัวว่ะ

จากในเมืองไปศูนย์ มันก็หลายสิบกิโลนะ ดูท้องฟ้าแล้ว จะรอดหรือเปล่า
มายเร่งเครื่อง ฝนเริ่มลงเม็ด ไม่อยากให้คนตัวเล็กเปียก

“ไม่เอาถึงแบบขาเขียวขาม่วงขาแดงนะ”

คนตัวเล็กตะโกน เมื่อเห็นเขาเร่งความเร็วขึ้น

 สักพักรถมาจอดที่บ้าน 2ชั้นที่อยู่ในซอย   ฟ้าใสมองหน้าร่างสูงงงๆ

“บ้านน้า เข้ามาก่อน” พูดจบก็โอบไหล่รั้งตัวให้เดินเข้าบ้านด้วยกัน

 คำอธิบายสั้นๆ “อยู่กับน้าน่ะ” ร่างสูงเดินจูงนำไปที่ห้อง บอกให้เช็ดหัวก่อน พลางอธิบายไปด้วยว่ามาอยู่กับน้า
 ตั้งแต่เรียนปี 1จนจบนี่แหล่ะ แต่ก็อยู่หอด้วยเพราะสะดวกดี  เดิมก็เรียนที่กรุงเทพ พ่อแม่ก็ยังอยู่ที่กรุงเทพ
แต่บ้านเดิมแม่เป็นคนเชียงราย ฟ้าใสถึงได้ว่ามันพูดภาษากลางกับเขาไม่หลุดภาษาเมืองใส่ อย่างคนอื่น
 ที่บางครั้งก็ฟังไม่รู้เรื่องเลย ต้องคอยบอกให้แปลด้วย

ที่บ้านจะมีน้าทำงานเป็นพยาบาล อยู่มั่งไม่อยู่มั่ง เพราะต้องเข้าเวร น้าเขยเป็นวิศวะ มักไปคุมงานที่ต่างจังหวัด
 มีหลานชาย 3 คน ปิดเทอมแล้ว โดนส่งขึ้นไปเรียนพิเศษ ที่เชียงใหม่ กันทั้ง 3คน  มาบ่อยๆ คงได้เจอกันเอง
ฟ้าใสฟังมันพูดจบก็ดูทะแม่งๆนะ ตรูจะมาบ่อยๆทำไมฟ่ะ

นอกจากพาฟ้าใสขึ้นมานั่งในห้อง มันจะยังบอกให้เขาเปลี่ยนชุดอีก

“ไม่เอาอ่ะ ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวนายก็พาฉันไปส่งหอแล้ว”

“ฝนตกขนาดนี้ ไปส่งได้ซะที่ไหน คืนนี้นอนค้างที่นี่ล่ะกัน” คนตัวโตพูด ทำหน้าอย่างผู้ใหญ่
คนตัวเล็กฟัง ถึงไม่ชอบใจก็เถียงไม่ออก ออกมาอย่างงี้เหมือนเป็นลูกไก่ในกำมือมันเลย

“น่า จะได้มาช่วยเลือกรูปกัน ช่วยเลือกหน่อยสิ”

พออีกฝ่ายเอาเรื่องงานมา ฟ้าใสก็เลิกคิดเรื่องอื่น เออ ก็ได้

“นี่ แต่ถ้าฝนหยุดไปส่งได้ ก็ไปนะ”

“โห ไม่สงสารคนต้องขี่ไปส่งเหรอ”

“ไม่!!! ก็อยากไม่บอกอะไรกันมั่งนี่หว่า เตรียมตัวอะไรก็ไม่ได้เตรียมเลย”


ในที่สุด ฟ้าใสก็อยู่ในชุด กางเกงบอล เสื้อยืดลายสไปเดอร์แมน ของหลานมัน  ชุดที่ใส่ หลวมกว่าตัว บอกชี้ชัดว่าฟ้าใสตัวเล็กกว่าหลานมันอีก เฮอะ !!!

ไอ้มายมันบอกให้ฟ้าใสนอนเล่นบนเตียงมันรอไปก่อน เดี๋ยวมาดูรูปกัน
ฟ้าใสหยิบหนังสือการ์ตูนในห้องมาอ่าน หัวก็คงยังมึนเหมือนกัน ดูยังตึบๆทั่วหัว จนหนักไปถึงตา แล้วยังรู้สึกหนาวอีก...


มายเดินถือแก้วโอวัลตินร้อน พร้อมยาที่ว่าจะให้หนุ่มหน้าสวยรุ่นพี่กิน พอเข้ามาในห้อง ก็พบว่า คนตัวเล็กนอนหลับคุดคู้ไปเรียบร้อยแล้ว
หน้าซีดๆปากแดง ท่าทางหนาว แต่ตามไรผมซอกคอ กลับมีเหงื่อออกซึม

เขามัวแต่จัดการดูบ้านให้เรียบร้อย โทรบอกน้าแล้วว่าพาเพื่อนมา น้าเข้าเวรดึก ออกเวรตี 5 อาจจะนอนหอในของเพื่อนเลย เพราะน้าเขยก็ไม่อยู่

มายขยับตัวคนตัวเล็กให้นอนสบายขึ้น

“กินยาหน่อย” กระซิบไปข้างหู แต่ดูท่าจะไม่รู้เรื่องแล้ว ปากอิ่มแดง...เจ้าตัวขยับขดตัวกอดอกซุกหมอน...ดูไปก่อนแล้วกัน




ฟ้าใสรู้สึกตัวตื่น เมื่อได้ยินเสียงมือถือดังแว่วมา เสียงคนพูด สบายตัวขึ้น ที่หนักหัวหายไป ปวดตาหนักตามึนๆที่ท้ายทอยก็หาย
ไปแล้ว อาการร้อนๆหนาวๆ ก็หายไปเยอะเลย หายใจก็โล่งขึ้น พักผ่อนแล้วมันดีขึ้นเหรอ
แล้วไอ้ทฤษฏีให้ออกไปเที่ยวที่ใครสักคนบอก......เขาว่าเป็นพี่ส้มโอนี่แหล่ะที่บอกเขา  หรือว่าเขาโดนหลอกให้ออกไปเป็นเพื่อนพี่โอหรือเปล่ากันแน่ ....

ลืมตามองห้อง ก็ประหลาด ไม่ใช่ทั้งบ้าน ทั้งหอพัก หลายครั้งที่ลืมว่ามาเรียนทำอาหาร ตื่นมาเจอเพดานหอพัก ถึงกับงงว่าอยู่ที่ไหน
บางครั้งรู้สึกโดดเดี่ยวจนต้องมุดหัวเข้าในผ้าห่ม เรียกกำลังใจ

มองเห็นคนตัวโตนั่งคุยโทรศัพท์ที่โต๊ะเขียนหนังสือหน้าคอมพิวเตอร์ จึงนึกได้ว่า เมื่อคืนนอนค้างที่ห้องของไอ้มาย

มองนาฬิกาที่ผนังห้อง เฮ่ย...!!! บ้าน่า บ่ายสาม  บ่ายสาม  ไม่จริงอ่ะ ท้องก็หิว มองอีก เข็มนาฬิกาก็ยังเดิน
เหมือนแขนขาไม่ค่อยมีแรง เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวคงเพราะนอนนาน
คนตัวโตมันทำปากพูดว่า เป็นไงมั่ง ก็ตอบมันไปว่า ดีขึ้นแล้ว

“ชุดอยู่หน้าห้องน้ำ” ฟ้าใสลุกขึ้นถึงจะแปลกใจที่เสื้อผ้าที่ใส่เปลี่ยนไป จะถามก็เห็น ไอ้คนที่น่าจะรู้เรื่องมันยังคุยธุระอยู่
แปรงสีฟัน ผ้าเช็ดตัว ชุดใหม่ เอ่อ ชั้นในก็ใหม่ เออ ดีมาก ถ้าจะจ้างพ่อบ้านใหม่จะโทรตามนะ ไอ้มาย
อาบน้ำจนสดชื่นขึ้น แต่ก็เมื่อยแขนจนแทบไม่มีแรงจะถือฝักบัว สงสัยนอนทับแขนนาน



ออกจากห้องน้ำ ไอ้คนโตทำท่าทางยังกะไอ้ดอลล่าืี่ทำท่าดีใจเวลาเห็นเขากลับบ้านหรือเดินลงมาจากชั้นบน
ไอ้คนตัวโต ตรงรี่เข้ามา จะคว้าผ้าเช็ดตัวเช็ดผมให้
ไอ้มาย เอ็งจะสำนึกได้ไหมว่า เอ็งเด็กกว่าตรู
ร่างสูงผลักให้คนตัวเล็กกว่าไปนั่งที่เตียง เช็ดผมให้จนเสร็จ คว้าไดร์มาเป่าให้อีก

“ขอบใจ”

“ไม่เป็นไร ยินดี บริการ”

ฟ้าใสมองหน้า กรูประชดโว้ย  ตาคมเหล่มองหน้าคนตอบ ริมฝีปากเม้ม
น่ารักจังว่ะ อยากฟัดอีก ร่างสูงนึกในใจ ยิ้มกว้างให้.....


TBC...


 :man1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.3((ต่อ))(23/10/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: goonglovenut ที่ 23-10-2012 13:39:32
ฟ้าใสคงไม่โดนหลอกใช่ไหม มายน่าจะเป็นคนดีนะ ขอให้เป็นอย่างนั้น :L2:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.3((ต่อ))(23/10/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 23-10-2012 14:04:50
แล้วน้องฟ้าใสจะเสียใจอีกหรือเปล่าอะ นู๋กลัว

ขอบคุณมากค่ะ  :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.3((ต่อ))(23/10/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 23-10-2012 21:24:09
ฟ้าใสจะโดนเด็กกินจริงๆเหรอ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.4(25/10/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 25-10-2012 08:53:29

((ต่อ))

Part : My

เขาคิดตริตรอง ใคร่ครวญ ว่าตัวเองค่อนข้างแน่ใจแล้ว แถมยังโชคชะตาลิขิต ด้วยสิ ไม่งั้นจะมาเจอกันได้ไง
จะหญิงจะชาย ก็ช่าง ถ้าชอบก็คือชอบ
คิดอยู่ว่าถ้าเจอ อีก กรูจีบแน่ จะไม่ปล่อยให้หลุดมือ
เจอกันครั้งแรก ยังตั้งตัวไม่ทัน ปล่อยคุณพี่หน้าสวยแสนเศร้า แกขึ้นเครื่องไปโดยไม่ได้ขอเบอร์ติดต่อเลย
นั่งเรียนอยู่ดีๆ คุณพี่หน้าสวยสุดที่รัก ก็เดินเข้ามา อย่างเงี๊ยะ จะไม่เรียกว่า รักนี้ฟ้าประทาน เทพอุ้มสม ได้งาย ได้งาย วะฮะฮ่า

อะไรก็ฉุดไม่อยู่ ได้มาเจอต่างบ้านต่างเมืองทั้งคู่ อย่างงี้มันเนื้อคู่กัน 1000% เราหักห้ามใจไป
อาจเป็นการฝืนพรหมลิขิต  อาจเกิดวงจร บัตเทอร์ฟรายเอฟเฟ็ต มนุษย์อาจสูญพันธุ์

ลูกผู้ชาย กล้ารัก ก็ต้องกล้ารุก กล้าลงมือ
เสียสละ พลีกายเพื่อ...เพื่อ...ไม่ให้เกิด การเสียสมดุลย์แห่งโชคชะตา

.
.
.
.
ผลการวิจัยก็บอกแล้วว่าการมีเซ็กส์จะช่วยทำให้เราไม่เครียด หรือหากถ้าเราเครียดอยู่แล้วก็จะหายไป
 เพราะหลังเสร็จสิ้นการลงสมรภูมิรัก ร่างกายจะหลั่งอะดรีนาลีนออกมาทำให้เรารู้สึกดี สบายคลายเครียด
 เพิ่มภูมิต้านทาน ทำให้ ปริมาณของ lgA (ภูมิต้านทานชนิดหนึ่งพบมากในน้ำลาย) จะเพิ่มสูงขึ้น
จึงสามารถช่วยฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ที่เข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่าเก่า ร่างกายก็จะแข็งแรงขึ้น   ช่วยลดการเจ็บปวด
เพราะร่างกายจะมีการหลั่งฮอร์โมนออกมาให้เรารู้สึกดี สบายมากขึ้น 
หลังเสร็จสิ้นภารกิจ ร่างกายจะมีการหลั่งฮอร์โมนตัวหนึ่ง ที่จะช่วยให้หลับได้ดีขึ้นอีกด้วย

แล้วเห็นไหมล่ะ  พอตื่นขึ้นมา แฟนฟ้าประทาน คุณพี่หน้าใส หายป่วยเลยทันที ถึงแม้จะป้อนยาให้กินด้วยก่อนเถอะ



Ch.4


หลังจากผ่านการเรียนทฤษฏี มา 2เดือน  รวมทั้ง เรียนแกะสลักต่อ

นักเรียนค่ะ  นักเรียนคงเห็นว่า บางครั้งที่ของที่เราใช้ทำใช้เรียนนี่ บางครั้งครูจะให้นักเรียนไปเด็ดมาจากสวนด้านหลังที่อยู่ตรงข้ามหอพักหญิง
นั่นคือผลงานของรุ่นพี่ๆของพวกเรา เพราะฉะนั้น  ตอนนี้ก็เป็นเวลาของพวกเรามั่งแล้วนะที่จะมีผลงาน
ขอให้นักเรียนไปคิดว่าใครจะปลูกอะไรนะค่ะ ในพื้นที่ 1x2 เมตร หรือใครอยากทำมากกว่านั้นก็ทำได้   
พร้อมทั้งทำรายงานเกี่ยวกับพืชสมุนไพร คุณประโยชน์ ระยะเวลาการเจริญเติบโต รูป ไม่ต้องเยอะหรอกค่ะ
 ไม่เกิน 5หน้าและไม่ต่ำกว่า3หน้านะค่ะ ใช้ฟ้อนท์ อังศนา 18 หรือจะใช้ลายมือเขียนมาก็ได้ค่ะเข้าเล่มธรรมดาค่ะ
 เพราะครูจะนำไปรวมเล่มเป็นผลงานของรุ่นเรานะค่ะ

สิ้นออร์เดอร์นี้ ไอ้มายก็มีสีหน้ากระหยิ่มทันที ส่วนผมนะเหรอก็รู้สึกรักมันทันที 555 วันนี้โชคดีที่ได้นั่งข้างมัน
แหมจะใช้ แป้น กับ ดอย ก็จะหาว่า ใช้แรงงานผู้หญิง และเด็ก ตัวเล็กกว่า ก็ต้องเล็ง ไอ้ตัวโต ข้างๆนี่แหล่ะ

“มาย ปลูกอะไรดีล่ะ” ผมกระซิบถาม เอ๊ะ พูดใกล้แค่ไม่ได้ยินอีกแฮะ ผมเลยเอียงตัวไปกระซิบกะมันใหม่จนไหล่ชนกัน

“มาย จะปลูกอะไรดีอ่ะ ที่มันง่ายๆอ่ะ” พลางเอามือเขี่ยๆต้นขา อ้า ได้รับความสนใจจากท่านแล้ว

“เดี๋ยว จดงานก่อน” เชอะทีตอนนี้ทำมาเป็นจดงาน ผมเลยไปดึงสมุดมันมา มันนะเป็นคนจดงานช้า
แล้วมันก็ไม่ค่อยชอบจดหรอก ในสมุดมันนะ มีแต่ลายมือผมทั้งนั้น

“เอามานี่ เดี๋ยวจดให้เอง ไปจัดการเลยจะปลูกอะไร คิดให้หน่อย เร็ว คนอื่นเค้าเริ่มเดินออกไปลงชื่อแล้ว ไปเร็ว”
ผมก็รีบผลักไสไล่ส่งมันให้ออกไปเขียนชื่อจองบนกระดาน
 มันนะเอาแต่ทำฟอร์มเล่นตัวต้องให้ผมง้อมันก็ทำเป็นลุกช้าๆ วางมาดออกไปลงชื่อ ต่อจากพี่โบ้ โหระพา
 ของมันลงตะไคร้ ของผมเป็นขิง ผมก็ถามมันว่า อ้าวทำไมไม่ลงข่าล่ะ จะได้เป็นขิงกะข่า เผื่อได้อยู่แปลงใกล้ๆกัน
มันก็บอกตะไคร้น่ะดีแล้ว ต้องการใช้เยอะกว่า เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นกว่า เออ เออ เอ็งคนดี  แล้วมันยิ้มๆ
บอกว่า ผมนะเหมาะกับขิงดีแล้ว เออ พูดไรก็ช่าง ขอให้มันง่ายๆจริงนะ ผมไม่กินผัก ไม่รู้จักต้นไม้นะเฟ้ย
 กระเพรากะโหระพาผมยังแยกไม่ค่อยออก นี่พยายามเก็บไว้เป็นความลับ ครูหยก ครูนิน เชฟ รู้เข้า ผมโดน แกล้งแน่
.
.
.
.
[My] ดาร์ลิ่งผมน่ะ เหมาะกับขิงแล้วล่ะ เพราะฟ้าใสหน่ะ ทั้งเผ็ดทั้งร้อน แถมออกหวานอีกต่างหาก ผมชิมมาแล้ว

[Fha-sai] ไอ้มาย แกเหมาะกับตะไคร้มาก อยู่ใกล้แล้วคัน คันมือคันไม้ อยากฟาดมันสักตุ๊บ2ตุ๊บหมั่นไส้มันโคตๆ
 – ไอ้ใบตะไคร้นี่มันคันใช่ป่ะ เอ๊ะ หรือว่านั่นมันใบหญ้าคาหลอ อ้าว ใบไอ้นั่น มันเป็นใบหญ้าคาเหรอ ไม่ใช่ต้นตะไคร้เหรอ หวาย!!! >///< หน้าแตกอ่ะ
.
.
.
วันรุ่งขึ้น หลังจากเช็คชื่อเสร็จ ครูนินก็บอกให้เราไปดูแปลงที่ปลูกพืชสวนครัว+สมุนไพร  ครูนินเอารายชื่อ
พวกบรรดาพืชที่เราลงชื่อ ไว้ให้คนสวน  แกก็จัดที่ให้ตามความเหมาะสม ตะไคร้ของไอ้มาย ได้ไปปลูกริมคลองเล็กๆที่พาดผ่าน
 ก็ใกล้กับผมนี่แหล่ะ แล้วขิงของผมก็อยู่ข้างๆ ข่า แล้ววันนี้ก็ให้เตรียมดิน ขุด พรวนดินได้เลย ก็เดินตามไปเอาอุปกรณ์ หรือใครจะไปซื้อ ของมาปลูก ก็จัดการได้เลย

 พี่เป็ก ก็อาสาพาเด็ก ๆไปซื้อ ด้วยรถกระบะของแก ส่วนผมก้อนั่งดู ไอ้มาย ก็จะเริ่มเตรียมดินก่อน
 ผมดูมันแล้วไม่น่าเชื่อ ท่าทางมันทะมัดทะแมงมาก กล้ามแขนนี่สวยเลย ขณะที่มันขุดดินพรวนดิน เตรียมสำหรับลงตะไคร้ของมัน

 แล้วผมทำอะไรนะเหรอ ก็ต้องนั่งดูมันทำไงล่ะ  จะไปนั่งตรงม้าหินอะไรก็ไม่ได้ ต้องนั่งเฝ้ามันใกล้ๆ
 ตอนแรกก็นั่งยองๆ แต่พอนานเข้าก็นั่งขัดสมาดกับพื้นหญ้านี่หล่ะ ผมก็ชินแล้วล่ะ งานประจำไอ้นั่งเฝ้า
งานเป็นเพื่อนนี่เป็นความดีเด่น ความสามารถเฉพาะตัวห้ามลอกเลียนแบบ มันขู่ว่า ถ้าผมไม่นั่งอยู่ด้วยมันจะไม่ปลูกขิงให้ผม

 สักพักใหญ่ ก็แฮ่กเหมือนกัน  มันก็ทำซะเว่อร์ ขุดเอาโล่หรือไงไม่ทราบ  ขุดซะลึก ยังกะจะปลูกลีลาวดีสูง3เมตร 
55 ผมพูดเอาเว่อรอ่ะครับ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แต่ดูแล้วก็ลึกกว่าของคนอื่น คนอื่นผมก็ว่าเค้าก็ขุดปลูกพอประมาณ
 แค่ไม่ให้มันล้มเท่านั้นอ่ะ ไม่เห็นมีใครเค้าคิดจะปลูกให้มันถาวรเป็น ปู่ตะไคร้ ย่าตะไคร้แบบมัน หวังว่ามันไม่ขุดปลูกขิงของผมลึกจนขิงผมหาทางขึ้นพื้นดินไม่ได้หรอกนะ
 – ผมไปหาข้อมูลแล้วเค้าขุดแค่ 5-10เซนต์เอง ง่ายดีจริงๆด้วย แต่เรื่องต้องมาปลูกห่างกันกี่เซน ไม่เอาอ่ะคิดแล้วปวดสมอง ปล่อยเป็นหน้าที่มันแล้วกัน

หลังจากเตรียมดินเสร็จทั้งของผมแล้วของมัน มันก็ไปล้างไม้ล้างมือ แน่นอนผมก็ต้องกลายเป็นจำเลยรัก อ๊าค!!!ไม่ใช่ เป็นแค่คนคอยรับใช้มัน ส่งผ้าให้เช็ดหน้าเช็ดตา

“แล้วจะไปซื้อขิงเลยเปล่าอ่ะ” ตอนนี้ผมก็ต้องพยายามทำตัวให้น่ารักที่สุดล่ะ จะพูดจะจาก็เสียงอ่อนเสียงหวานไว้ก่อน
ปลูกเสร็จล้อมเชือก ปักป้าย  ค่อยเปลี่ยนน้ำเสียงใหม่ ท่านชายมองหน้าผมยังกะเจ้าน้อยมองไอ้ทัด
เอ!!หรือผมควรเรียกมันว่า เจ้าฮะ เจ้าฮะ อิเกรียงมันคงหัวเราะผมตาย 555

“พักก่อนสิ ตัวเองนั่งดู สบายนี่ เดี๋ยวค่อยไป” มันก็นั่งเอาผ้าชุบน้ำหมาดเช็ดแขนเช็ดขาตามเรื่อง
โธ่ ก็ถ้าตอนที่มันขุดไป แล้วลองผมติดรถพี่เป็กไปซื้อของกับพวกเด็กๆ ประหยัดทั้งเวลา
มันก็ไม่ต้องเหนื่อยขี่รถไปซื้อ แต่ถ้าผมทำอย่างงั้น รับรองมันตาเขียวใส่ผมแน่ แล้วมันก็ต้องบ่นว่า
 ซื้อเป็นด้วย รู้จักหรือเปล่าน่ะขิงน่ะ ดูเป็นเหรอ เลือกเป็นเปล่า รู้ด้วยเหรอว่าต้องเลือกแบบไหนเอามาปลูก
 แล้วท่านชายก็จะปรายตาเยาะเย้ยถากถาง ผมผู้อายุมากกว่ามันถึง3ปี

 หลังจากนั่งๆคุยกันพักใหญ่ มันก็ยังไม่ไปซื้อซะที กินข้าวก็แล้ว

“มายไม่ไปซื้อตะไคร้กะขิงมาเลยเหรอ จะได้ช่วยถือ” ผมก็ถามด้วยความข้องใจ ไม่เห็นมันจะไปซะที
หรือว่ามันจะไปซื้อเองคนเดียว เดี๋ยวก็จะมาบ่นว่าผมไม่ได้ทำอะไร
ไอ้มายมองหน้าผมด้วยสีหน้ารำคราญ คิ้วขมวด อะไรว่ะ ถามแค่นี้ ตรูทำอะไรผิดอีกว่ะ

“ตลาดเค้าเปิดหรือยังล่ะ รู้ดีอีก”

“อ้าว แล้วทีพวกที่พี่เป็กเค้ายังออกไปซื้อกันได้” ผมก็เห็นคนก็ออกไปซื้อกันนี่นา

“แล้วนั่นมันจะมีให้เลือกมากนักหรือไง”

อ๊ะ ไอ้นี่ เอ็งจะซื้อซูเปอร์ขิงให้ตรูเลยหรือไงฟ่ะ ขิงมันก็คือขิง เป็นหัวๆ เขาก็บอกให้แค่ขุดดินแล้วก็ฝังนี่หว่า
แล้วมันก็จะสู้ชีวิตเติบโตต่อไป ผมก็ตามเคยก็ต้องได้แต่นึกในใจล่ะ ใครจะเอ่ยปากบ่นล่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวโดนฝังกลบ(ขิง)เอาเอง

“ก็ไม่บอกนี่ ก็ไม่รู้ เห็นนั่งๆไม่ได้ทำอะไร” ผมก็ไม่วายพึมพำพอให้มันได้ยิน

“ไม่มีอะไรทำ ก็ขึ้นไปนอนบนหอนั่นไป๊” ผมได้ฟังก็หน้าบาน ท่านอนุญาตให้ผมพักผ่อนได้ ไม่ต้องนั่งเป็นเพื่อนท่าน

“แล้วนายจะไปกี่โมง”ผมขยับตัวลุกขึ้นยืน เย้ เย้ เดี๋ยวจะได้ไปนอนกลิ้งอ่านการ์ตูนต่อ

“ไปตอนเย็น ตลาดขายส่ง เค้าเริ่มค่ำๆ”(- จนถึงเช้า เค้าก็ขายปลีกด้วยหล่ะ แต่ของจะเยอะกว่าพวกตลาดสดธรรมดา เยอะกว่ามากกกกก)

“อ้าว แล้วเดี๋ยวนายค่อยโทรเรียกเหรอ” ผมก็สงสัยว่ามันจะนั่งคุยกับพวกพี่เด็กๆคนอื่นจนถึงเย็นเหรอ
มันทำเสียงจิ๊กปาก ตาขวางมองหน้าผมอีก

“ใครจะนั่งอยู่ล่ะ ก็ต้องขึ้นไปด้วยสิ” เฮ้ยเอ็งไม่ใช่เด็กหอน๊า ผิดกฎนะเฟ้ย ผมก็มองหน้ามัน ดูมันทำ ยังจะมามองหน้าผมตอบอีก

“...”
“อ่ะ ...จะขึ้นไปหรือจะนั่งอยู่ที่นี่” ไอ้มายถามผมพร้อมมองหน้าทำนองว่าจะเอาไง

“ก็ขึ้นสิ ใครจะนั่งนี่ล่ะ ขึ้นไปอ่านการ์ตูนต่อดีกว่า” ผมน่ะแทบอยากจะบอกว่านายไปซื้อคนเดียวไม่ได้หรือไง
 ไหนๆตะไคร้ของมันก็ต้องกอเบ่อเริ่มอยู่แล้ว หอบขิงผมอีกสักโล-2โล จะเป็นไรไป แหะ แหะ คิดดูก็เป็นเหมือนกันนะ^_^ ถึงได้ไม่พูดไง  พูดไปก็โดนด่ากลับแน่ชัวร์

ผมก็บอกพวกที่นั่งว่าขึ้นแล้ว โดยมีไอ้มายเดินตามหลังผมมาด้วยอย่างเนียน

“นายจะอาบน้ำล้างตัวเลยก็ได้นะ มีผ้าเช็ดตัวสำรองอ่ะ”ผมก็บอกมันอย่างมีน้ำใจ ก็ต้องนั่งอีกตั้งหลายชม. เผื่อมันจะได้สบายตัว อุปกรณ์อยู่ในห้องน้ำแล้วตระกร้าสีชมพู ที่มีสบู่เหลวสีส้มๆน่ะ มันก็พยักหน้า ผมเลยหยิบผ้าขนหนูสำรองของผมให้ไป ยังจะดมอีก

“สะอาดน่า จ้างเค้าซักน่า” ผมใช้ระบบบริการของแม่บ้านครับ 2วันทีแกก็มาเก็บที่ผมใส่ตระกร้าไว้
แล้วตอนเย็นวันรุ่งขึ้นแกเอามาวางซักรีดเรียบร้อย

พอมันเดินไปเข้าห้องน้ำ ที่อยู่ในห้อง ผมก็เปลี่ยนชุดใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้น นอนอ่านการ์ตูนที่อ่านค้างต่อสักพักมันก็เดินออกจากห้องโดยสวมกางเกงตัวเดิม ไม่ใส่เสื้อ มีผ้าเช็ดตัวพาดคอ ออกมา
ผมทำเป็นสูดกลิ่น แล้วก็พูดว่า”เออใช้ไม่ผิดตระกร้านี่นา” ก็สบู่เหลวของผมจะเป็นกลิ่นส้ม
จะอ่านหนังสือเปล่า นอนข้างล่างก็ได้มีเบาะ พื้นสะอาด แม่บ้านเค้าถูทุกวัน

มันพาดเสื้อไว้ที่เก้าอี้ แล้วมันกลับ…กลับ...เอาเข่าลง   มือเท้าที่ข้างตัว คร่อมร่างผม อย่างช้าๆ ...แล้วข้ามพลิกตัวไปนอนด้านในข้างๆ

ไอ้เด็กเปรต!!!
แกทำอะไรที่ชวนใจหายใจคว่ำมากเลยนะแก ไอ้มาย ผมได้แต่อึ้งจะมองหน้าก็ไม่กล้าเพราะหน้าผมมันคงแดงไปถึงหู จะโวยวายดีดดิ้นก็ดูจะเสียฟอร์มผู้หลักผู้ใหญ่ ถ้าเป็นอิเกรียง ผมก็คงเฉยๆ  ผมควรทำไงดีว่ะ มันข่มผมหลายทีแล้วไอ้เด็กนี่

  ไอ้เจ้าตัวพอมันลงมานอนข้างผมได้ ก็ทำเป็นตั้งท่าจะหลับ ถ้าเป็นหอหญิงก็คงไม่แปลกที่ผู้หญิงจะมานอนคู่กัน จับคู่กันเม้าท์  แต่นี่มันหอชาย แต่ก็มีบ้าง ที่ไอ้พวกเด็กๆที่อายุ15-16ที่มันมาเรียนด้วยกันกะเพื่อน บางทีผมก็เห็นมันขี้เกียจกลับห้องตัวเองก็ไปนอนสุมกันห้องเดียว

แต่ไม่ใช่ อย่างผมนี่ ที่ ไอ้มายมันอายุ 22ตัวอย่างกะควายแล้วนะจะมานอนเบียดกับผมที่อายุ25น่ะ
 เอาวะ มันก็คงไม่ตั้งใจมันอาจไม่ชอบนอนกับพื้น นี่มันก็ไม่ได้เบียดผมเท่าไหร่ ตัวเนื้อก็ไม่ได้ถูกกัน
 มันก็นอนชิดด้านใน แต่ผมก็แอบเขยิบจนชิดด้านริม ไม่อยากมองหน้ามันเร๊ย  ผมนอนอ่านจนไปเล่มต่ออีกเล่ม อ่านไปผมก็ชำเลืองมองหน้ามัน

ฮือฮือ  ไม่อยากมองหน้ามันเลยแต่ก็อดมองไม่ได้  หน้าตามันจัดว่าหน้าตาดีทีเดียว หน้าตาดีแบบหนุ่มๆน่ะ
 แต่ก็ไม่ใช่สเปคผม  มันก็นับว่าผิวขาว แต่ผิวนอกร่มผ้าทั้งหลายก็ตามแบบคนชอบอยู่นอกบ้าน
 ปากแดงอิ่มแบบคนสุขภาพดี เชิดเพราะตัวมันก็เป็นคนชอบทำปากเชิดๆเชอะๆใส่คนอื่นอยู่เสมอด้วย
ช่วงตัวยาว ที่ผมเห็นว่ามันออกแนวผอม กลับมีกล้ามท้องนิดๆลอนๆพอสวย กล้ามเนื้อที่อก ไหล่และต้นแขน ท่อนแขนก็มีกล้ามพร้อมเส้นเอ็น ดูใกล้ๆที่ผมคิดว่ามันป้อแป้ ไม่ใช่พวกออกแรงออกกำลังนั่นคิดผิดไปแล้ว ยิ่งพอเห็นมันขุดดินพรวนดินด้วยแล้ว ผมไล่มองต่ำลงสันกระดูกสะโพกที่โผล่พ้นขอบ นั่นทำเอาผมใจสั่น ก็เพราะมันเซ็กซี่มาก เลือดกำเดาจะไหลอ่ะ แพ้ ริ้วสันกระดูกสะโพกอ่ะ
ผมแอบถอนหายใจเบาๆ ก็มันรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้นอนข้างๆใครมาตั้ง5-6 เดือนแล้วอ่ะ ผมปิดหนังสือการ์ตูนแล้วนอนมั่งดีกว่า นั่งดูมันขุดดินผมก็พลอยเหนื่อยไปด้วย ไม่นานผมก็หลับไปจริงๆ


RRRRR RRRRR เสียงมือถือผมที่ผมวางบนโต๊ะข้างเตียง
 ผมจึงค่อยรู้สึกตัว พอลืมตาก็ค่อยเห็นร่างสูงของไอ้มายที่ทำท่าเหมือนนั่งเล่นเกมส์ในโทรศัพท์อยู่ มันกำลังจ้องมองผม

“ใครก็ไม่รู้ โทรเข้าหลายครั้งแล้ว” มันทำหน้ารำคราญอีกแล้ว เอ็งไปเรียนการแสดงเลยดีกว่า เผื่อจะได้มีสีหน้าหลากหลายมั่งว่ะ ไอ้มาย

“อ้าว ทำไมไม่เรียกล่ะ” ว่ามันไปก่อนมั่ง  ผมรีบดูชื่อ เป็นไอ้หมูแฮม คนรู้เบอร์ใหม่ มีเท่าที่เพื่อนฝูงติดต่อกันเป็นหลักๆเท่านั้น ถ้าจะตกหล่น แล้วใครอยากติดต่อ มันก็มีช่องทางติดต่อเขาได้ทางอื่นเยอะแยะ

“หมูแฮม สบายดีเหรอ” ฟ้าใสทักทายหมูแฮมด้วยความคิดถึง

“อือ....ไข่ สบายดีหรือเปล่า...” เสียงที่ตอบกลับไม่ใช่เสียงหมูแฮม แต่เป็นเพื่อน คนที่ฟ้าใสคิดว่าเขาเป็นเพื่อน เคยทำกิจกรรมมากมายหลายอย่างร่วมกัน  สีหน้าฟ้าใสเปลี่ยนไป ใจถึงกับกระตุกวูบ อุตส่าห์เปลี่ยนเบอร์  ไม่อยากยุ่งเกี่ยว อย่างน้อยก็ขอเวลาให้เขาปรับตัวปรับใจ จนกล้าแข็ง ตายด้าน หน่อยเถอะ

“ฮื่อ...”

คนร่างสูงชำเลืองมอง เมื่อได้เสียงฟ้าใส ตอบด้วยน้ำเสียงที่เบาโหวง ผิดจากตอนแรกที่เอ่ยทักทายอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงสดใส ขี้เล่น

 “ไข่ เลิกเรียนแล้วเหรอ ทำอะไรอยู่”

“เปล่านะ วันนี้เค้าให้ปลูกผักน่ะ” ฟ้าใสก็สงสัยว่า แชมพูมันจะติดต่อมาเรื่องอะไร แล้วยังใช้มือถือของไอ้หมูแฮมอีก เหมือนรู้ว่า ถ้าใช้มือถือตัวเอง ฟ้าใสคงไม่รับ จะเป็นเรื่องพี่ลิฟต์หรือเปล่า

“ไข่ ยังติดต่อกับพี่ลิฟต์หรือเปล่า” เสียงอีกฝ่ายถามอ่อยๆ

“เปล่า” ฟ้าใสพยายามตอบด้วยเสียงที่เรียบที่สุด สายตาของคนตัวโตจับจ้อง ปากมันเริ่มเชิดขึ้น ตามองเขม่น

“แล้ว เขาโทรมาหาไข่มั่งเปล่า” ฟ้าใสมองหน้า พยักเพยิก บุ้ยใบ้ ขอความช่วยเหลือจากไอ้เด็กตัวโตกว่า

“เอ่อ เปล่า”

((ฟ้าใสจะไปหรือยังล่ะ เด๋วก็ไปซื้อของไม่ทันหรอก)) เสียงไอ้มายทำเป็นเรียกดังขึ้น มันทำเป็นแก็กเสียงเข้มเชียว

“กำลังจะไปข้างนอกกันเหรอ”

“ฮื่อ”

((ฟ้าใส ไปกันหรือยังล่ะ))

“เออ งั้นวันหลังเราโทรมาใหม่นะ”

“ฮื่อ” อย่าโทรมาเลย กรูไม่อยากคบเมริงแล้วอ่ะ แชมพู

“หวัดดีนะจ๊ะ”

ฟ้าใสรีบตัดสาย โห เมริงมาทำเสียงใสใส่กรูได้อีกนะแชมพู


พอวางสายได้ ไอ้มายก็บ่นทันที คุยอะไรกัน ทีหลังไม่อยากคุยก็ส่งมานี่

“เรื่องของผู้ใหญ่น่า”

“เหอะ...แล้วต้องมาให้ช่วย”

“หุบปาก ไปเลย เมื่อกี้นายเรียกชื่อฉันเฉยๆเลยนะ”

“ไม่เห็นแปลก ไม่เรียก เมียจ๋า สุดที่รัก ดาร์ลิ่ง มายเลิฟ ดีเท่าไหร่แล้ว” มายพูดเสียงเบาไม่ให้อีกคนได้ยิน

“อะไรนะ พูดไร ไม่ได้ยิน”

อุ๊บ!!! ไอ้บ้า ฟ้าใสโดนคนตัวโต เอามือมาแตะริมฝีปาก อึ่ย  มือมันเอาไปจับไรมาเปล่า เด๋วเหอะ
สายตาที่มอง มันทำหน้าจริงจังอีกแล้ว
ฟ้าใสพยักหน้า เหนื่อยใจเหมือนกัน ว่าจะไม่คิดอะไร เสียงที่ส่งผ่านเรื่องเก่ามาในสมองให้นึกถึงจนได้

“นี่ แล้วจะไปซื้อของกันเมื่อไหร่ล่ะ”

“ก็รอคนช่วยหิ้วตื่นอยู่นี่แหล่ะ ทำก็ไม่ได้ทำ ยังจะนอนเอานอนเอาอีก” มันช่างหาเรื่องบ่นอยู่ได้ตลอด ไม่เบื่อหรือไง

“เออ เดี๋ยวแปรงฟันหน่อยก่อน รำคราญปากอ่ะ”

“เออ เออ ทำอะไรก็ทำ”

“งั้นอาบน้ำก่อนได้เปล่า”

“ไม่ได้ เอ๊ยไม่ต้องหรอกเดี๋ยวซื้อของเสร็จก็ต้องกลับมาอาบอีกที”

“อ๊ะ เออ ก็ตามใจก็ได้ รอแป๊บแล้วกัน”

หลังจากออกมามันก็ชวน

“ไปเซ็นทรัลเปล่า”

“ไปสิไปสิ เผื่อเดินดูหนังสือด้วย”เอ ใจดีจริงแหะวันนี้ผมคิด พาออกมาเดินเล่นบนห้างด้วย
 พูดแล้วชักรู้สึกตัวเองเหมือนหมาแหะ โธ่ ถ้ามาอยู่ต่างจังหวัดแล้วคุณไม่มีรถ แถมมอไซค์ก็ขับไม่เป็นนี่
คุณเอ๊ย...ไปไหนก็ได้แค่เดินไปใกล้ๆอ่ะ แค่เดินจากชอป จากหอพักออกมาถนนใหญ่ นี่เอาเรื่องนะ ผมมีไอ้มายเป็นที่พึ่ง นี่ก็ถือมีบุญแล้วนะ

“จะกินอะไรล่ะ”

“เอ...”ผมรีบนึก”อยากกินสปาเก็ตตี้อ่ะ”พูดไปแล้วสีหน้าท่านดูไม่ค่อยเห็นชอบด้วยว่ะ

“ข้าวหมูแดงหมูกรอบก็ได้ แต่เอาเจ้าอร่อยนะ”ผมรีบเปลี่ยนเมนู ท่านดูโอเคขึ้น มันก็พาไปกินเจ้าอร่อยจริงๆด้วย
 อยู่ในซอยก็ถนนน่ะ 2เลน ผมเลยนึกว่าซอยร้านเฮียดูมีชื่อเสียงเพราะคนมากินคนมาสั่งกลับก็หลายคน เยอะๆก็มี

หลังจากนั้นมันก็พาผมไปเดินดูโน่นนี่ที่เซ็นทรัล ผมก็ใช้เวลาดูหนังสือ แล้วก็ซื้อติดมือมาเล่มหนึ่ง ผมชอบสำนักพิมพ์นี้ เคยอ่านแล้วพอเชื่อใจได้ว่าเค้าพิมพ์อะไรออกมาใช้แบรนนี้ก็โอเคอ่านได้ พอจ่ายเงิน เดินเล่นจนค่าความพึงพอใจเต็ม5ดาว

 ผมถึงได้นึกออกว่า อ้าว นี่เราต้องไปตลาดซื้อขิงนี่นา ดูนาฬิกา ปาเข้าไปจะ2ทุ่มแล้วอ่ะ
ผมรีบมองหาไอ้มาย อ่ะ มันนั่งรอผมอยู่ข้างหน้าอ่านพวกหนังสือพิมพ์กีฬาไป ผมรีบเดินไปหา พอไปถึง

“ซื้ออะไรอ่ะ”

“อ๋อ หนังสือ” ผมตอบมันไป เข้าร้านหนังสือก็ต้องได้หนังสือสิท่าน
มันก็ยื่นมือมา ผมก็ส่งให้ไป มันก็รับแล้วหยิบมาดูหน้าปก แล้วเก็บใส่ถุงแล้วก็เอาไปถือเอง อ๊าค ไอ้มาย แกทำไม ทำไม...ดีอย่างงี้ว่ะ ถือของให้ตลอดเลยนะ เอ็งทำแล้วทำให้ทุกครั้งด้วย ผมแอบคิด เกือบลืมว่าจะถาม

“แล้วไปซื้อขิงอ่ะ”

“ก็นี่ไง เดี๋ยวไป ตลาดมันเริ่มกลางคืน นึกว่าว่าจะไม่ถามถึงแล้ว เห็นเดินอย่างเดียวเลยนี่”ผมก็ต้องได้แต่หัวเราะยิ้มหวานให้เท่านั้นล่ะ

และแล้วมันก็พาผมมาเที่ยวตลาด ขายส่งกลางคืน  ผู้คนคึกคัก รถกระบะจอดกันเรียงราย มีทั้งซ้อนคันรอขนของ มีทั้งจะถอยออกถอยเข้า ทั้งคนจะมาซื้อ ทั้งคนจะมาขาย  ไอ้มายมันขี่วนๆดูที่จอดที่ท่าทางจะใกล้ ตะไคร้ของมัน แล้วก็พาผมไปเดินชมตลาด ผมก็ต้องเกาะเสื้อมันไว้ กลัวหลง รีบตบกระเป่ากางเกงเช็คมือถือตัวเอง อยู่แล้วก็โล่งใจเออ กลัวลืมฝากใส่เป้มันไว้ มันเดินนำไปแล้วก็ต้องคอยดูผมด้วย เพราะคนเดินสวนกันหยุดดูของมั่ง รถเข็นก็เข็น ผมก็ต้องคอยหลบ เดินคู่กันก็ไม่ได้นอกจากบางช่วง

 มันก็ถามผมจะเอาอะไรหรือเปล่า เพราะมันเห็นมีผลไม้สวยๆทั้งนั้น แน่นอน ผมไม่เอาหรอก กินก็ไม่ค่อยกิน ที่กินได้ก็มีแต่มะม่วง ฝรั่ง แอปเปิ้ลก็ต้องปอกเปลือก อย่างอื่นนี่ไม่ไหว ก็ที่ไม่กินเพราะมันยุ่ง น้ำหยดเลอะเทอะเปื้อนมือ ไหนจะเม็ดอีก อย่างส้มนี่ไม่เอา ใครชวนกินปฏิเสธตัดปัญหา แกะเปลือก ลอกใยๆ เสร็จแล้วต้องตัดแกน เอาเม็ดออก นี่แหล่ะที่แม่พรรณกับป้านวลเค้าทำแบบนี้ให้พวกเราพี่น้องกิน ตอนเด็ก แล้วอย่างงี้ผมจะทำกินเองได้ไง โดนเพื่อนด่าตายเลย

แต่มันก็ยังจะซื้อฝรั่ง องุ่นกลับไป ผมก็บอกเดี๋ยวต้องถือขิงอีกนะ มันก็บอกเดี๋ยวจัดการเอง พอมันไปถูกใจได้เจ้าซื้อขิงมันก็จับผมไปยืนชิดกระบะตัวมันก็ซ้อนอยู่ข้างหลังกันคนเบียดให้ผม บอกให้ผมเลือกขิงอันที่มีตาเยอะๆ มือมันชี้ไปให้ผมหยิบอันโน้นอันนั้น แต่มืออีกข้างคุณเอ็งจับสะโพกผมอยู่นะเฟ้ย

 สักพักเดี๋ยวมันจับไหล่ผมกระเถิบไปเลือกมุมโน้น หลังจากเลือกได้3โล  ผมหันมาถามมันให้แน่ใจ “พอใช่เปล่า”

“พอแล้วล่ะ เดี๋ยวก็เอาไปหั่นๆแล้วแบ่งปลูก” พอจ่ายเงินรับของมันก็ออกไปก่อนอีก มันก็จูงมือผมเดินออกมา
และในที่สุดเราก็ได้ตะไคร้ มันก็ซื้อเว่อร์1มัด 5กิโล ผมก็คิดอยู่ว่ามันจะหอบไปอย่างไง อ๋อเค้าใส่ถุงพลาสติกใบใหญ่ ไอ้มายมันเอาไว้ข้างหน้า ไอ้พวกผลไม้มันก็แขวนกะแฮนไป ใส่ตะกร้าข้างหน้าไปกะน้องขิงผม

“ดึกเลย นายต้องขับไปขับกลับแย่เลย”

“ฮื่อ ดึกแล้ว ไม่ต้องกลับหรอก ค้างบ้านผมแล้วกัน พรุ่งนี้รีบไปส่งให้แต่เช้าเลย”

“...” ผมก็ทำหน้างงงง

“ดึกแล้วอันตราย...ไม่ใช่เหรอ” มันพึมพำต่อ

“...” งงต่อ+กระอักเลือดนิดหน่อย ไม่อยากคิดแต่ก็ต้องคิด

“เดี๋ยวกลับรีบเอาไปแช่น้ำก่อนเลย ขิงพี่ก็ต้องตัดแบ่ง ทำที่โน่นไม่ถนัดหรอก ของก็ต้องแบ่งกันใช้”
เชอะเอ็งไม่ต้องมาการงานเลย ที่โน่นชอปครัวนะเว้ย อีโต้มีเป็น10เขียงมีเป็น20อัน

“งั้นก็ทำให้เสร็จด้วยล่ะ” ผมบอกมันเสียงเรียบๆ

“อ่ะ ขึ้นได้แล้ว”มันจัดแจงบอกผมหลังจากขึ้นไปนั่งจนสตาทเครื่อง ผมก็จับไหล่มันดึงตัวเองขึ้นขึ้นไปนั่ง คนอื่นเค้าขึ้นอย่างไงผมก็ไม่รู้ง่ะ ก็ต้องอาศัยจับตัวมันเวลาขึ้นไปนั่งทุกทีอ่ะ


ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่มาบ้านมัน ก่อนจะกลับมันยังจะชวนผมกินน้ำเต้าหู้ บัวลอย นมร้อน ขนมปังสังขยาที่ตลาดโต้รุ่งใกล้สถานีขนส่ง แต่ผมไม่เอาแล้ว มันนะตั้งใจจะให้ค้างหรือเปล่า แล้วก็ไม่ยอมบอก  แล้วนี่ดูสิน้ำก็ยังไม่ได้อาบ ต้องใส่เสื้อกางเกงนี่นอนเหรอ มันนะมัน ถ้ามันบอกมันชวน มีเหตุผลผมก็ค้างได้ 
มันจัดแจงไล่ผมไปอาบน้ำ หยิบเสื้อกางเกงมาให้

“ไปอาบน้ำก่อนได้เลย” จะได้ใจเย็นๆ ไอ้มายมันแอบบ่น ก็แน่ละสิ ให้ค้างก็ไม่บอกก่อน ถ้านี่ไม่เหตุผลมันก็พอฟังขึ้นนะ คงได้บ่นมันแน่

ผมอาบน้ำเสร็จก็นุ่งผ้าเช็ดตัวออกมา เออ มันวางกางเกงนอนไว้ให้ เสื้อยืดสีขาวไซต์เอ็ม โอเค แต่หาแป้งเด็กในห้องมันไม่เจอเลย นี่มันไม่ใช้มั๊ง แต่ผมติด เดี๋ยวลองถามมันดีกว่า แล้วมันไปไหนล่ะ ผมเลยเดินลงไปข้างล่างเพราะได้ยินเสียงก๊อกๆแก๊กๆในครัวหลังบ้านที่ทะลุไปลานหลังบ้านได้ มันกำลังเอาตะไคร้แช่น้ำ  แล้วก็กำลังเตรียมจะหั่นขิงให้ผม พอมันเห็นผมก็นิ่วหน้า  มันจะอะไรกัน

“ขอแป้งเด็กหน่อยสิ”

“มีอยู่ในห้องหลานน่ะ ห้องที่ประตูอยู่ตรงข้าม”พอมันเห็นผมทำหน้าไม่แน่ใจ

“อ่ะพาไปก็ได้” มันจัดแจงล้างมือเช็ดเสร็จก็เดินมาคว้ามือผมขึ้นชั้นบนเพื่อพาไปที่ห้องหลาน เพื่อเอาแป้งฝุ่น

“เอาการ์ตูนไปอ่านไหม”มันอุตส่าห์ถาม”หยิบไปอ่านก่อนสิ”

“ก็จะลงไปช่วยก็ได้ จะได้เสร็จเร็วๆ”

“ไม่ต้องหร็อก ทำเองแป็บเดียวก็เสร็จ เอาน้ำเย็นไหมเดี๋ยวเอาขึ้นมาให้”

“ลงไปเอาเองก็ได้”

“ไม่ต้องหรอก นอนเล่นไปก่อน นอนไปเลยก็ได้”ว่าแล้วมันก็ผลักผมให้เข้าไปในห้องมัน
 “เอาผ้าคลุมเตียงออก นอนตามสบายนะ” ผลักผมเข้าห้องเสร็จ มันก็ลงไปจัดการกับขิงต่อ

 ผมหยิบหนังสือที่ตัวเองซื้อออกมาพลิกๆดู อ่านไป2-3หน้า ก็หยุดเพราะมีเรื่องกวนใจผมมากกว่า ก็เรื่องที่ไอ้แชมพูโทรมา ทั้งยังเรื่องไอ้มายที่มันปฏิบัติต่อผม ใครไม่ตาบอดก็เห็น ผมอยู่ไหนมันก็พยายามอยู่นั่นด้วย สิ่งต่างๆปลีกย่อยอีกล่ะ
 ตั้งแต่ที่ผมต้องเลิกกับไอ้โภชน์และพี่ลิฟต์ ผมก็ไม่กล้าฟันธงหรอกว่าใครจะมาชอบผม หรือผมจะมีค่าพอที่จะเป็นฝ่ายถูกเลือก อาจจะเป็นแค่ของใหม่เข้ามาในชีวิตของคนบางคน ก็เท่านั้นความสัมพันธ์นะเหรอ มันก็แค่ความสัมพันธ์ทางกายเท่านั้น มันก็แค่ให้ความสุขแก่กันและกัน เช่นที่ผมกับพี่ลิฟต์มีต่อกัน แต่จิตใจมันก็อดที่จะผูกพันธ์  แล้วสุดท้ายก็มีแต่เรื่องต้องเสียใจ

 ผมไม่แน่ใจกับไอ้มายนักหรอกว่ามันคิดอย่างไง สักวันถ้าผมสงสัยมากขึ้น ผมคงต้องถามมันตรงๆ
 ซึ่งผมเองก็คงกลัวคำตอบ ถ้าผมไปคาดหวังอะไรไว้ ทางหนึ่งที่ผมจะเลือกคิดก็คือคิดซะว่า ผมไปมีรสนิยมชมชอบศิลปะจึงทำให้พอแมทกันได้กับที่มันชอบถ่ายรูป จึงเลือกคบหาที่จะสนิทกับผมในคอร์สเรียนนี้ที่เป็นผู้คนจากที่ต่างๆ ไม่ใช่เพื่อนที่เรียนในมหาลัย เอกเดียวกัน หรือพื้นฐานใกล้เคียงกัน
ผมจึงเป็นช้อยที่มันเลือกสนิทคบหาด้วย เพราะ ไอ้เต้ เพื่อนมันก็โดน พี่ทิวาเกย์ อายุ 28 รับไปดูแลเรียบร้อยแล้ว พี่ทิวาเค้าเป็นตลก ช่างประชด เลยจับคู่กับไอ้เต้ ที่มันชอบทำตลกแบบเด็กๆ

 หรือไม่ มันก็เป็นพวกแปลกแยก แล้วมีผมที่มีจิตสื่อวิญญาณกะมัน 55 คิดไปก็...ผมยักไหล่ ช่างมัน..นอนดีกว่า แค่เอ็งไม่ทำอะไรบ้าๆ ให้ผมถูกมองแปลกๆนัก ผมก็ไม่ว่าอะไรที่มันจะคอยตามติดเป็นเงา แต่ถ้าให้ดีเว้นช่องว่างให้ผมหายใจหรือคบหาพูดคุยกะคนอื่นๆเค้าบ้างก็ดี

ผมดูเหมือนจะหลับแล้วแต่ก็คงยังครึ่งหลับครึ่งตื่น ผมได้ยินเสียงกุกกัก พอลืมตาได้ครึ่งๆกลางๆก็เห็นไอ้มาย ไปอาบน้ำ แล้วผมก็หลับต่อ

สักพักผมก็รู้สึกว่าริมเตียงด้านขวาผมยวบลง



TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.4(25/10/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 25-10-2012 09:03:51

((ต่อ))


“ตื่นได้แล้ว” ไอ้มายเรียกผมเบาๆ ก็เรียกเบาแบบนี้ มันจะตื่นได้ไง ผมค่อยๆปรับสายตาตั้งสติ
เออ ไม่ได้อยู่หอพัก ผมหาวอีกรอบ เอาหัวซุกทิ่มเข้าไปในหมอนกว่าเดิม

“นี่...” มีมือมาสะกิดที่ไหล่ เสียงทุ้มแข็งขึ้นนิดหน่อย “6โมงกว่า แล้วนะ”

 โห... เวลาแบบนี้มันห่างไกลจากที่ผมเคยตื่นที่หอตั้งชั่วโมงกว่า เราอยู่ข้างนอกนี่หว่า ไม่ควรกลับตอนคนตื่นเยอะด้วย ผมรีบกระเด้งตัวแต่ไอ้เรี่ยวแรงเวลาตื่นเช้าจะเพลียนี่ กระเด้งตัวอย่างไงก็ได้แค่ลุกมานั่งลืมตาปริบๆ  ไอ้มายโยนผ้าเช็ดตัวมาให้ตรงหน้า

“ไปรีบอาบน้ำเข้าเถอะ”

ผมมาถึงโรงเรียนเกือบ8โมง รีบขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อ แล้วไปนั่งกินกาแฟที่โรงอาหาร รวมกลุ่มกับ อิเกรียงกับศักดิ์นรินทร์ ไอ้มายมันสั่งข้าวมากิน ดีมาก ดีมากกินไป เดี๋ยวเอ็งต้องใช้แรงโว้ย ผมนั่งมองมันกินไปยิ้มไปเมื่อนึกภาพว่าเดี๋ยวพอเข้าแถวเสร็จ แล้วพอหมดโฮมรูม มันก็ต้องมาปลูกขิงให้ผม ทำให้มันนิ่วหน้ามองผมอย่างสงสัยเมื่อเห็นผมยิ้มกริ่ม

“เอาน้ำอะไร เดี๋ยวซื้อมาให้” ผมถามมันอย่างเอาใจ

“โห พี่ไข เอาใจพี่มายจัง” เสียงอิเกรียงแซวขึ้นทันที
ผมเลยรีบกระซิบว่า เดี๋ยวไอ้มายมันจะปลูกขิงให้ผม เลยต้องอาใจหน่อย ถ้าแกมาปลูกขิงให้ ฉันก็จะซื้อน้ำให้เธอกิน อิเกรียงเลยหัวเราะคิกคัก

“มาย เขาเป็นคนดีดดดดดด ก็ต้องมาเอาใจสิ” ผมเน้นเสียงลากยาว กึ่งประชดหยอกไอ้มายเล่น แล้วมองหน้ามันเพื่อถามย้ำอีกครั้ง “เอ้อ ตกลงเอาน้ำอะไร สเปส กรีนที ชามะนาว” ผมล่ะเบื่อที่เห็นมันเอาแต่กินน้ำผลไม้ ถึงได้ไม่ยอมใส่น้ำผลไม้ น้ำฝรั่ง อะไรพวกนี้ไว้เป็นตัวช้อยให้มันเลือก ซึ่งเจ้าตัวก็อุตส่าห์ยอมเลือกแค่1ในตัวเลือกที่ผมให้ 555

“ชามะนาว” แหมผมล่ะนึกว่ามันจะเอาน้ำนางเอก สเปส ซะแล้ว ออเดอร์มาแล้ว ผมก็ต้องไปจัดให้สิ เพื่อน้องขิง เพื่อน้องขิง ผมท่องจำใส่ใจเอาไว้

“อ่ะ” ผมวางชามะนาวให้ไอ้มาย แล้ววางขนมที่ซื้อมาเผื่อ คู่หู รัก-ยม ให้ทั้งสองคนด้วย
ไอ้มายมองหน้าส่งตาหวานมาให้ เออ เออ ส่งเสร็จแล้วอย่าลืมปลูกขิงด้วยนะเฟ้ย
.
.
.
วันนี้พอเข้าโฮมรูมตอนเช้า ครูหยกก็ปล่อยให้เราจัดการกับการปลูกพืชให้เสร็จกับรายงาน  เราเลยฟรีทั้งวัน

หลังจากนั่งคุยกันก็แล้ว เลยชวนกันไปสถานีเพาะพันธุ์สัตว์ป่ากัน  ก็ตกลงไปกันเกือบ10คน ศักดิ์นรินทร์มันไปชวนเด็กช่างที่มันปิ๊งอยู่  ผมก็ซ้อนไอ้มายไป

ระหว่างทาง ยังดีปล่อยให้ผมเดินกับพวกเด็กๆไอ้แป้นไอ้ดอย โดยที่อิเกรียงมันก็คอยเรียกผมไปดูโน่นดูนี่
ผมก็ได้เป็นคนเดินนำหน้าก็เพราะพวกนี้มัวแต่เกาะกรง เราก็เห็นสมัน หรืออะไรอ่ะไอ้ที่คล้ายกวางแต่ตัวเล็กมากๆ
 ที่เค้าว่ากันว่าวิ่งเร็ว ผมก็เลยลองวิ่งไล่จับ กะไอ้แป้นไอ้ดอย ดักหน้าดักหลัง
 แหะ แหะ ไม่สำเร็จ ท่ามกลางเสียงเชียร์ของอิเกรียง+ สายตาของผู้ใหญ่บ้านไอ้มาย

ผมเดินต่อไปสักพัก และแล้วผมก็เดินย้อนกลับ พร้อมกับทำหน้าเฉยๆ รอจนคนอื่นเดินมา

“มีไรเหรอพี่ไข”เรื่องผิดปกติ นังเกรียงมันไวนัก

“นกยูงมันยืนขวางอ่ะ”ผมตอบไป

“อ้าว พี่ฟ้าใสก็เดินไปสิเดี๋ยวมันก็หนีเอง” ไอ้แป้นแนะนำ

“เอ้ย แล้วเกิดมันโดดเตะล่ะ พี่เคยได้ยินว่านกยูงมันโดดเตะคนได้นะ ในยูทูปก็มีอ่ะ”

“จริงเหรอพี่ฟ้าใส” ไอ้ดอยรีบถาม มันเป็นคนขี้กลัว

“จริงดิ พี่เคยเห็นข่าวนะ ไม่รู้มันหวงตัวเมีย หรือมันหิวข้าวเปล่า เค้าว่ามันมีเดือยแหลมๆอ่ะ เจาะสมองทีเดียวตายเลยนะ”

ดอยทำท่าสยดสยอง ทำท่าเกี่ยงให้ไอ้แป้นหญิงกล้าหาญที่สุดในกลุ่มเดินนำ แต่ไอ้แป้นก็ไม่เอาอ่ะ จนศักดิ์นรินทร์กับเด็กช่าง ตามมาทัน

“เป็นอะไรกันล่ะ” ศักดิ์นรินทร์ถามด้วยสีหน้ากึ่งรำคราญว่าไอ้พวกนี้นี่มันเป็นอะไรกันว่ะ ยืนจับกลุ่มจะเดินก็ไม่เดิน ก็มันเป็นทางเดินเดี่ยวที่วางแผ่นคอนกรีตสี่เหลี่ยม ให้เดินรอบกรงนกใหญ่ข้างๆก็มีที่เหลือโล่งนิดหน่อย
ที่มีคุณนกยูงยืนเด่นเป็นสง่า แต่เธอยืนใกล้ทางเดินไปหน่อยอ่ะ แถมรำแพนหางนิดๆด้วย สวยๆก็สวยแต่ผมก็ไม่อยากเสี่ยง

พอผมบอกศักดิ์นรินทร์ ไอ้เด็กช่างก็ขี้กลัวอีก ให้ศักดิ์นรินทร์นำ  มันก็บอก ไม่เอาอ่ะ
ปรากฏพระเอกมา ไอ้มายเดินมาถึง มันเดินตามหลัง มัวแต่ถ่ายรูป ต้นไม้ดอกไม้นกน๊กอะไรของเค้าไป มาถึงปากมันก็ทำงานทันที

“อะไรกันอีกล่ะพวกนี้”

“นกยูงมันยืนขวางทางอ่ะพี่มาย” ไอ้แป้นรีบรายงาน

“เพ่ฟ้าใสบอกว่านกยูงกระโดดเตะคนตายด้วยนะ”ไอ้ดอยรายงานต่อ

ส่วนผมก็ได้แต่ทำหน้าแป๊วแหว๋ว มองหน้ามัน ก็ผมอยู่หน้าสุด ไอ้พวกเนี่ยก็ยืนออกันแต่ไม่มีใครเดินขึ้นไปข้างหน้าเลย ไม่กลัวไม่เชื่อก็เดินไปสิ
ไอ้มายฟังและมองดู ชาย5คน สูง180ซม.2คน  สูง150ซม. 1คน สูง160ซม. 2คน  หญิง1คน สูง168ซม.เกาะกลุ่ม เผชิญหน้ากับนกยูง 1ตัว มันทำหน้าได้ สีหน้าบอกว่าพวกผมงี่เง่ากันมาก

“บ้ากันเปล่า”ไอ้มายมันเปล่งวาจาจากใจออกมา  ผมในฐานะผู้อาวุโส เลยรับหน้าที่ตอบโต้

“ไม่กลัวนายก็เดินนำไปสิ” ฟังดูมันเหมือนตอกย้ำความกลัวของตัวเองอย่างไงไม่รู้สิ

ไอ้มายมันก็จัดแจงเดินต่อ ซึ่งทุกคนหลีกทางให้อย่างโดยดี ผมเลยบอก “เฮ้ยระวังน๊า มันโดดเตะได้จริงๆน๊า”
แหมผมก็เป็นห่วงมันนะ พอมันเดินผ่านผมที่อยู่หน้าสุด มันก็ปรายตามองด้วยสายตา เชอะผมไม่อยากพูด ประมาณว่า เหนือกว่า เด็กๆ อะไรประมาณนี้

 แต่...ผมไม่สนใจหรอก  555 ผมรีบเดินตามก็กลัว เกิดนกยูงมันหลบไอ้มาย แล้วมันมาขวางทางต่อ ล่ะซวยเลย พร้อมกับเอามือจับเสื้อมันไว้ เตรียมวิ่งจู๊ดๆตามมันก็มันเล่นเดินก้าวยาวๆ โดยมีนังเกรียงรีบเกาะผมตามมา ส่วนไอ้นกยูงเกรียน พอเห็นไอ้มายเดินมา มันก็กระโดด หยองๆข้ามแผ่นคอนกรีต เดินไปข้างทางที่เป็นฝั่งต้นไม้ แล้วก็ไปเดินหาจีบสาวนกยูงต่อไปมั๊ง

พอผมเห็นว่าพ้นอันตรายจากลูกเตะนกยูง ผมก็รีบปล่อยเสื้อมัน นังเกรียงก็เลิกเอามือเกาะไหล่ผม ก็พากันเดินสง่ามาดมั่นตามปกติ ต่างก็คุยกันต่อ โดยมีเสียงผมดุไอ้เกรียง

 “ก็แกน่ะ ตัวโตกว่ามันตั้งเยอะ แกทำไมไม่เดินนำเล่า”

“โอยพี่ไขก็ตัวโตกว่านกยูงนั้นเหมือนล่ะ ว่าแต่เขา อิอิ”

“หึ หึ” เสียงหัวเราะเยาะดังมาจากคนเดินนำ

เชอะ ผมคิดในใจ ถ้าเกิดนกยูงมันดุจริงขึ้นมาจะรู้สึก
พอเรามาถึงใกล้ทางออก ที่มีเจ้าหน้าที่ หล่อล่ำ คอยตรวจตรา นังเกรียงเลยแหย่ผม

“พี่ฟ้าใส เก็บไอ้ตัวนั้นที่จับได้ ไว้ในเป้ดีแล้วนะ”คิก คิก คิก ผมเลยฟาดมัน

“บ้า อยู่ในเป้ไอ้มายโน่น เค้าเป็นคนจับ อุตสาห์วิ่งไล่จับได้ 555”
 เจ้าหน้าที่หล่อล่ำเลยอมยิ้ม อิเกรียงก็สาดสายตาวิ๊งๆใส่ ส่วนผมน่ะเหรอ ไอ้มายมันก็ทำเป็นมองตาเขียวแต่ก็อมยิ้มบ่นงึมงำไป
ตอนก่อนกลับก็แวะดูพวกของที่ระลึก มันก็พยายามยัดเยียดพวงกุญแจให้ผม

“ไหนเอามือมาหน่อยสิ” อยู่ดีๆมันก็สั่งให้ผมแบมือให้มัน
 เอ...มันไปได้วิชาดูหมอมาหรือไง จะมาดูเส้นชีวิตผมเหรอ
แหมะ มันวางพวงกุญแจที่ระลึกของสถานีที่นี่เขาทำขาย แหมมันเช้ยเชยๆ สู้ตุ๊กตาคาคาชิปล่อยสายฟ้าพันปักษาไม่ได้อ่ะ แต่ก็ต้องรับสิ ไม่รับเดี๋ยวเคืองมันไม่ให้ผมซ้อนมอไซค์กลับทำไง
.
.
.
“เกาะแน่ๆหน่อยสิ เดี๋ยวก็ตกหรอก” เสียงสั่งจากคนข้างหน้า

“เขยิบมาติดๆสิ นั่งถ่วงท้ายอยู่ได้” สารพัดคำสั่งที่มันสั่งผม สรุปคือให้ผมนั่งติดๆกับมันแล้วก็เกาะมันชิมิล่ะ เดี๋ยวกอดเอ็งเข้าจริงๆ เอ็งจะมีใจขี่รถป่ะล่ะ เฮอะ!!!
.
.
ขากลับพวกเราก็แวะกินข้าวซอย ขนมจีนน้ำเงี้ยวที่เขาว่ากันว่าอร่อย ระหว่างทาง ได้กินข้าวฟืนด้วย อร่อยดี ไม่เคยกินมาก่อน


 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ Season 4 Ch.4(25/10/12) อัพ2
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 25-10-2012 10:51:04
อั๊ยยะ มายาวๆๆสมใจอยากเลย เรื่อยๆๆๆมาเลียงๆเลยจ้า น้องฟ้าใส ว่าแต่มายชิมฟ้าใสไปแล้วเหรอ ข้องใจอย่างแรงส์  :impress2: :impress2:

ขอบคุณมากๆๆๆค่ะ
 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.4(25/10/12) อัพ2
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 25-10-2012 21:11:46
มายจะจีบผู้ใหญ่ ที่ดูยังไง้ยังไงก็เหมือนยังไม่โต
ก็เลยต้องวางตัวเป็นผู้ใหญ่กว่า วางตัวให้เป็นที่พึ่งพิงได้ ชิมิๆ

ป.ล. "...ได้กินข้าวฟืนด้วย อร่อยดี ไม่เคยกินมาก่อน..."
       สงสัยจ้ะ :m28: "ข้าวฟืน" คือ ?
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.5 (26/10/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 26-10-2012 01:19:02

Ch.5

หลังจากผ่านพ้นภาคเรียนทฤษฏี เราก็มาถึงการเรียนภาคปฏิบัติ
ชุดเชฟ ที่สั่งตัด ปักชื่อ พร้อมใส่

อาหารไทย คือ คอร์ส แรก ที่พวกเราต้องฝ่าด่าน
การเรียนเป็นไปอย่างเข้มงวด ทั้งกฎระเบียบและขั้นตอนการปฏิบัติ

“พี่ฟ้าใส ค่ะ ครูหยกขอ กระทะสะอาดๆ2 ใบ นะค่ะ” ครูหยกเอ่ยขึ้น หลังจาก เราเริ่มลงมือ ไปได้ 10 นาที

“นายเต้ มาสาย นะ กระทะ 3 ใบ ตามพี่ฟ้าใสไปเลย กระดาษทรายไม่มี ไปขอที่ชอปช่าง ได้เลยนะค่ะ”

ครูหยก จะเรียกฟ้าใสตาม พวกเด็กๆ
จะเรื่องอะไรนะเหรอ ก็แค่ขัดกระทะ ให้สะอาด ขาว เอี่ยม นี่คือการทำโทษ อย่างมีคุณค่า ก็ ฟ้าใสลืมถอดนาฬิกาข้อมือ
ถ้าใครใส่แหวน นาฬิกา  โดนทั้งนั้น ห้ามนั่งบนเคาน์เตอร์ โต๊ะ ห้ามใช้มือถือในห้องปฏิบัติงาน ฯลฯ
ในครัวก็ไม่มีเก้าอี้ด้วย ยืนตลอด 10.00 จนถึง 16.00 น. อยากพักต้องไปนั่งพักเอาที่หลังช็อป

การเรียน จะเรียนสูตร จดสูตร จดวิธีการ อธิบาย ขั้นตอนวิธีทำ อย่างละเอียด  แล้วก็จึงลงมือปฏิบัติ
ซึ่งจะแบ่งการเป็น กลุ่มในแต่ละสัปดาห์  เพราะฉะนั้น กลุ่มๆหนึ่ง จะต้องอยู่ร่วมกันช่วยกัน ใน 1 สัปดาห์ 5 วันเต็ม
 ฉะนั้น ถ้ากลุ่มไหนซวยได้เพื่อนที่นิสัยไม่ดี ไม่ช่วยงาน ก็ต้องอดทนไป พวกที่มีข้อเสีย ตัวดีๆก็มีทั้งฝ่ายหญิงฝ่ายชาย
ประเภท รู้ดีหมดทุกอย่าง  หรือแม้แต่ พอทำก็ช่วยกัน แต่พอต้องเก็บล้าง กลับหายต๋อม ดีว่า คอร์สที่เรียนนี้มี
แป้น กับดอยมาลงด้วย ทั้งสองคน ขยันมาก และด้วยความที่รู้ว่าตัวเองฐานะด้อยกว่า จึงทำงานโดยที่ไม่มีปากเสียง
จนฟ้าใสก็ออกไม่ชอบใจที่ใครๆก็เอาเปรียบเด็กทั้งสองคน

อาทิตย์นี้ การนับ เลข จับกลุ่ม 1-2-3-4-5  ซึ่ง อาจารย์ มีวิธีการ คละ เพื่อนร่วมทีมกัน ได้หลากหลายมาก หลังจาก นักเรียน ก็พยายามนั่งสลับที่ เพื่อให้ได้อยู่ร่วมทีมกับคนที่อยากอยู่  ใครได้ 1 ก็อยู่ กลุ่ม1 อย่างนี้ ซึ่งบางทีก็นับจากข้างหลังมาข้างหน้า นับตามแนวนอน แนวตั้ง สารพัดวิธี บางอาทิตย์ที่ฟ้าใสได้อยู่กลุ่มเดียวกับไอ้มายก็โชคดี หยิบจับอะไรก็ดูจะโดนควบคุมไปหมด มันจะคอยให้ทำแต่สิ่งง่ายๆ ล้างผัก  อะไรที่ยุ่งกับพริกก็ไม่ให้ทำ เพราะอาหารไทย เครื่องแกงก็ต้องทำเองใหม่ทุกครั้ง

ไอ้มายเองทั้งหน้าตาก็ออกดูดี ตัวสูง แน่นอน ย่อมมีสาวหมายปอง แล้วก็เลยมีผลกระทบมาถึงฟ้าใสด้วย เพราะไอ้มายชอบเอาตัวเองมาคลอเคลียฟ้าใส สาวเอ้ เลยพยายามข่มฟ้าใส ทั้งที่อายุน้อยกว่าฟ้าใส ปีหนึ่ง ก็เท่ากับศักดิ์นรินทร์

“พี่ หั่นแบบนี้ยังใช้ไม่นะ”

“พี่ตำยังไม่ละเอียดเลย”

สารพัดที่สาวเอ้จะบ่นจะติ ฟ้าใส จนคนในกลุ่มออกจะรำคราญ เจ้าหล่อน หาก ฟ้าใสได้อยู่กลุ่มเดียวกัน แต่ ถ้าหาก ทั้งฟ้าใส ไอ้มาย และสาวเอ้ อยู่ร่วมกลุ่มกัน  พอฟ้าใสเชียร์ให้ไอ้มายต้องทำอะไรที่ต้องช่วยสาวเอ้ เทอว์ ก็จะอารมณ์ดี เป็นมิตรกับฟ้าใสขึ้น
.
.
“อิเอ้ นี่มันจะบ้า ตัวเองก็ทำไม่เป็นซะหน่อย” เสียงศักดิ์นรินทร์ เม้งแตก ด้วยความรำคราญ ในการเจ้ากี้เจ้าการของสาวเอ้

“ก็ยังดีล่ะ ที่มีไอ้มายอยู่ด้วย สาวเอ้ จะได้เลิกยุ่งกับพี่” ฟ้าใสเอ่ย

“อ้าว พี่มาย เดินมาโน่นแล้ว” สาวเกรียงไกร พูดขึ้น เมื่อมองไปนอกโรงอาหาร

“เฮ้ย กลุ่มเราก็เหลือไอ้เอ้ คนเดียวนะสิ เดี๋ยวก็โดน อาจารย์ด่าหรอก เร็ว รีบกิน ”ฟ้าใสบ่น


ปุบ!!! เสียงตบโต๊ะ

“นี่ หลบมาอยู่ที่นี่กันหมดเลยนะ” ไอ้คนตัวโตบ่น ต่อว่า

“ก็รีบกิน เดี๋ยวจะได้ไปสลับทำต่อให้ไง นาย หิวแล้วเหรอ แล้วแกงมัสมั่นล่ะ เอ้เฝ้าเหรอ” ฟ้าใสถามยิ้มๆ

“ก็ใช่น่ะสิ รำคราญจะตาย จะคนอยู่นั่นน่ะ บอกไม่ต้องคนก็จะคน บอกว่าเค็มแล้ว ก็ยังจะเติมน้ำปลาไปอีก”

ศักดิ์นรินทร์ กับอิเกรียง ทำท่า แยกตัว หนีไป ฟ้าใส รีบกระซิบ บอกให้ไปตาม ไอ้เอ้ มา จะได้กลับไปทำเมนูต่อไปของช่วงบ่าย
สักพักฟ้าใสก็เห็น สาวเอ้ผู้อยากกินเด็ก  รีบเดิน มาที่โรงอาหาร
ฟ้าใสเลยบอกไอ้มาย ว่าจะรีบไปทำงานต่อ  มันก็ทำหน้าไม่ค่อยพอใจ แต่ก็โดนสาวเอ้ ชวนคุย ฟ้าใส เลยรีบชิ่ง
.
.
.
.
อาทิตย์นี้ ฟ้าใส โดนเป็นกลุ่ม 1 มีแต่เด็กๆ ผู้หญิง 3คน และไอ้หนุ่ม ที่เป็นจอมอู้ เลยเตรียมทำใจไว้เลยว่า ตอนเก็บล้าง นี่คงหนักแน่ ไอ้มายก็ได้กลุ่ม 5  ครัวที่ลงงานเป็นรูปตัวแอล กลุ่ม 4 กับ กลุ่ม 5 จะไปอยู่อีกทาง แทบไม่ต้องเห็นหน้ากัน วันแรก กลุ่ม 1 ก็จะต้องเป็นเวรจัดเตรียมของ เครื่องปรุง และส่วนประกอบในการใช้ทำอาหารให้ทุกกลุ่มด้วย วันนี้ เมนูมีแกงเผ็ดปลาดุก ขณะที่กลุ่มอื่นเตรียมอุปกรณ์ เครื่องใช้ กลุ่มฟ้าใสก็เข้าไปเผชิญกับวัตถุดิบ และมันดิบจริงๆ ทั้งดิบ ทั้งสด

ปลาดุก 6 ตัว แต่ละตัว ยาวเท่าท่อนแขน ว่ายอยู่ในซิงค์ ตัวเป็นๆ ดำมะเมียม โฉบฉวัด ว่ายเวียน

“กลุ่มที่เป็นเวรวันนี้ จัดแจงแบ่งของให้เพื่อนๆให้เรียบร้อยด้วยนะค่ะ ปลาที่ใช้ต้องทำให้เรียบร้อย ควักไส้ ล้างให้สะอาด”

เอ่อขอยาดมได้ไหมอ่ะ ครูหยก
ฟ้าใสมองหน้าเพื่อนร่วมทีม สาวน้อยทั้งหลาย ไอ้มิ้ว อายุ 16 ฝน อายุ 18 ติ๊ก อายุ 20 แต่ละคนไม่เคยจับงานทำอาหารมาก่อน 
พอมองไล่ไปที่ไอ้หนุ่ม ดูว่ามันลุย ๆ กลับปฏิเสธ เฉยเลย ว่า ผมไม่เอานะ แล้วเดินหนีไปทำอย่างอื่น
ฟ้าใสมองหาตัวช่วยอื่น ทั้งป๋า หรือพี่เป๊ก แมนๆทั้งหลาย ไม่มีใครเสนอความช่วยเหลือเลย ด้วยความแค้นใจ กัดฟันสู้
หน้าที่ ก็หน้าที่ มือก็ไม่เคยจับปลามาก่อน ทำเองก็ได้ว่ะ เดินออกไปถามครูหยกว่าต้องไงมั่ง   

“ใช้สันอีโต้ ทุบหัว...” เอิ่ม..ครูหยก แค่ฟัง ฟ้าใสก็จะเป็นลมแล้ว 6 ศพ เชียวนะ

เดินกลับมาที่ซิงค์ หาถุงก็อปแก็บใส่มือ เอ่อ..ยังไม่กล้าใช้มือเปล่าจับ หยิบอีโต้
ขณะที่ฟ้าใสทำใจกล้าเอามือควานลงไปจนจับปลาผู้โชคร้ายขึ้นมาวางบนเขียง
จรดๆจ้องๆ ร่างสูง ก็มายืนซ้อนที่ข้างหลัง

“ไม่ต้อง!!!” เสียงสั่งห้วนๆจากคนตัวโต ให้ฟ้าใสหยุดกระทำใดๆทั้งมวล
พร้อมทั้ง ดึงเอามีดอีโต้จากมือไป อีกมือดันให้ร่างเล็กกว่ากระเถิบไป

 “ทำเป็นเหรอ” เสียงสวรรค์ถามอย่างประชดเล็กน้อย

ฮือ..ฮือ..อยากร้องไห้ ซึ้งใจมาก เพราะส่วนที่เตรียมตรงนี้มันอยู่ห่างจากกลุ่มที่ไอ้มายอยู่มาก 
มันก็ต้องวุ่นในการเตรียมของของกลุ่มตัวเองตามที่แบ่งหน้าที่กันในกลุ่ม ซึ่งจะมี 5 เมนู
ตอนที่มองหาคนช่วย มันก็ไม่ได้อยู่ แถวนี้ ฟ้าใสจะไปจิกตัวมันจากกลุ่มอื่น ก็ไม่ได้

ไอ้มายที่มาจากไหน มาเมื่อไหร่ แต่มันก็มา
ไม่กล้ามองหน้า กลัวแววตาจะแสดงความขอบคุณเกินไป ได้แต่ พึมพำเบาๆว่า “ขอบคุณ”

ความรู้สึก เหมือนยืนกันอยู่ 2คน กับ ปลาดุก 6 ตัว และเวลาที่ผ่านไปแบบ มิลลิวินาที
แต่ก็ไม่มีเวลาซาบซึ้ง เท่าใด


ตุ้บ!!! ตุ้บ !!! ตุ้บ !!! ตุ้บ!!!  ตุ้บ !!! ตุ้บ!!!

ฟ้าใสคอย ยืนเคียงข้าง ร่างสูง ที่ยืนทำปลา ทุบหัว กรีดท้อง ควักไส้

ดูแล้ว ก็สงสารไอ้มาย ที่มันต้องมาทำบาป เพราะฟ้าใส

วันหยุด เสาร์-อาทิตย์นี้ จะชวนมันไปทำบุญ...




TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.5 (26/10/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: goonglovenut ที่ 26-10-2012 08:47:20
ชักเริ่มชอบมายแล้วสิ คู่กันก็ดีนะ ขอให้มายจริงใจกับฟ้าใสด้วยจะได้มีความสุขซะที :กอด1:
ถ้ากลับไปคู่กับพี่โม่ง ยังมองไม่เห็นทางเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.5 (26/10/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 26-10-2012 09:22:13
มายก็น่ารักเน๊อะอิอิ เริ่มเอนเอียงแล้ว ถ้ารักฟ้าใสจริงแล้วไม่มีอุปสรรคไรแล้วเนี่ยก็สนับสนุนนะ อยากให้ฟ้าใสสมหวังสักที ผิดหวังมาตลอดดด ก็รอดูต่อไป

ขอบคุณมากๆค่ะ  :L1: :pig4: :L1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.5 (26/10/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 26-10-2012 09:35:32
มายทุ่มสุดตัว service ทุกอย่าง แบบนี้ไม่ได้ใจฟ้าใสก็ให้รู้ไป
ฟ้าใสยิ่งเป็นคนมองโลกในแง่ดี และซาบซึ้งใจกับสิ่งดีๆจากคนง่ายอยู่แล้ว
งานนี้สงสัยฟ้าใสจะไม่รอดมือจากมายกระมัง
แล้วพี่โม่งของฉันล่ะ ทางเดินของพี่โม่งกับฟ้าใสเป็นทางคู่ขนานแล้วใช่ปะ :sad4:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.5 (26/10/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 26-10-2012 10:51:52

ขอเม้นรวบยอด
เสียดายพี่โม่งจัง รู้สึกว่าพี่โม่งดีที่สุดแล้ว
แต่ก็ปล่อยให้ฟ้าใสเหงาทำไม
เกลียดที่สุดคือไอ้โภชน์ สมควรละ
แม่ง สัดเอ๊ย อ่านแล้วโมโห มึงทำงี้ได้ไงวะ
เอามาอ้างว่าไม่อยากอยู่เป็นเงาของใคร
ฟ้าใสมันยอมแกตลอดอะ  ไม่เคยนอกใจเลยเหอะ
แต่ที่มึงทำแม่งนอกใจเลยนะเว้ย เสือกไปเข้าข้างอีนั่นอีก
สมควรแล้วละที่ชีวิตตอนนี้มันจะตกต่ำ รำคาญ!
ส่วนพี่ลิฟต์แม่งมีเมียแล้วยังมายุ่ง แถมยังยุ่งกับเพื่อนฟ้าใสอีก
เหอะ !!! ทำไมฟ้าใสเจอแต่คนเฮรี้ยๆวะ

หวังว่ามายจะเป็นคนสุดท้ายได้ไหมน้อ
รออ่านตอนต่อไปจ่ะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.6 (26/10/12) อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 26-10-2012 22:11:08
ch.6

.
.
.
ธรรมดาช่วงหลัง ฟ้าใสไม่ค่อยได้เช็คเมลล์เท่าไหร่ เพราะอบรมทำอาหาร นี่ก็นับว่าหนักเอาเรื่อง
เจอเมนู ใหญ่ เครื่องเคราเยอะ จัดสรรไม่ดี ก็แฮ่ก ลิ้นห้อย เหนื่อยจน 2-3 ทุ่มก็นอนหลับเป็นตาย

พอวันนี้ออนเอ็ม เจอคุณคิดส์ บอกว่าส่งเมลล์ไปให้  เลยเปิดดู
คุณคิดส์นะคุณคิดส์ ทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไง
คุณคิดส์แกส่งรูป มาให้ฟ้าใสดู 5-6 รูป เป็น ที่ถ่ายแถว หน้าร้านฟ้าใสที่กรุงเทพฯ นั่นเอง
เป็นกลุ่มคนขี่เสือ- จักรยาน 3 คน จอดคุยกัน ถ่ายถนน ซอย เข้าบ้านฟ้าใส  ถ่ายรูปคนที่ขี่เข้าไปในซอย
รูปคนที่มอง บ้านฟ้าใสจนเหลียวหลัง  รูปคนที่มองเข้าไปในร้านฟ้าใส อย่างไม่มีรอยยิ้ม ทั้งที่คนคนนี้เวลาอยู่ในกลุ่มเพื่อน
จะเฟรนลี่มีเรื่องสนุกมาเล่าเสมอ คบพี่ลิฟต์มานานพอรู้จักกัน เล่นอะไรกันมาก็มากมาย

เวลาผ่านไปหลายเดือน จนอีกไม่กี่เดือน ก็ครบปี พี่ลิฟต์ยังจะคงวนเวียนไปแถวบ้านฟ้าใสอีกเหรอ
สีหน้าคนในรูป คนที่คุ้นเคย เคร่งเครียด อย่างที่ไม่ค่อยเคยเห็น จะมีบ้างก็ตอนที่ทะเลาะกับคนทางบ้าน
เพราะพี่ลิฟต์ไม่ค่อยแคร์ใคร นอกจากครอบครัวที่จะเป็นเรื่องใหญ่ ส่วนเรื่องอื่น เพื่อน งาน นั่นเป็นเรื่องชิลล์ๆ สำหรับแก
เพื่อนที่ออกมาขี่ด้วยกัน เป็นเพื่อนนอกกลุ่มไอ้โภชน์ เป็นเพื่อนคุณคิดส์ มาสนิทคบหากับพี่ลิฟต์ เพราะถูกคอเรื่องเพลง
ทั้งไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ดำเนินอยู่ด้วยการไม่ต้องทำงาน แต่เล่นหุ้น และใช้ชีวิตพอเพียง ซึ่งฟ้าใสก็รู้จัก
พี่ลิฟต์เคยชวนไปเที่ยวที่บ้านเพื่อนนี้ด้วยกัน เป็นพวกที่เล่นเกี่ยวกับเพลง ดนตรี
คุณคิดส์ นะ คุณคิดส์จะส่งมาทำไม จะบอกว่ามีคนมองหาฟ้าใสอยู่เหรอ

แล้วฟ้าใสต้องทำอย่างไง จะให้คบกับพี่ลิฟต์ต่อ

เสียงทุ้มนุ่มที่คุ้นเคยกระซิบถ้อยคำหวานออดอ้อน เคยโทรมา คงเที่ยวขอเบอร์ใหม่ของเขามาจากใครสักคน
หากแต่ฟ้าใส ไม่พูดโต้ตอบ อย่างดีก็อือ..ออ..จนอีกฝ่ายไม่รู้จะพูดอะไร ได้แต่อวยพรให้นอนหลับฝันดี เหมือนเช่นที่เคย
เห็นรูปที่ถ่ายแล้วใจก็วูบวาบเหมือนกัน ความรู้สึกผสมปนเป แววตาของคนในรูป ไม่ได้อยู่ต่อหน้า แต่ฟ้าใสก็รู้ว่าเจ้าตัวรู้สึกอย่างไร

โชคดีที่มาอยู่ห่างไกล…กัน
.
.
.
.
เดือนนี้เราเริ่มเรียนอาหารฝรั่ง อาจารย์เชฟ เตือนหลายรอบแล้วเวลาที่ต้องทำมันฝรั่งทอดเป็นเครื่องเคียง เพราะ
เครื่องสไลด์ผัก คมมาก กินเลือดมาทุกรุ่น ฟ้าใสยังยอมทิ้งตั้งแต่หัวมันฝรั่งยังหนาพอจับถนัด ดีกว่าเสี่ยงให้นิ้วมือโดนบาด
และแล้วก็มีคนโดนจนได้ แกชื่อพี่ฮะซัน  ที่อยู่กลุ่มใกล้กัน  ฟ้าใสก็เห็นแกกดแผลแล้ว ดูท่าเลือดก็ยังไม่หยุด

บอกให้ลองเอาน้ำแข็งมาโปะ ก็ยังไม่ดีขึ้น กลุ่มตัวพี่แกเอง ก็ไม่มีใครเอาใจใส่แกเลย พวกสาวๆก็ไม่เห็นจะเข้ามาดูแล
ทั้งที่หน้าตาแกก็ออกดี เข้มๆแบบคนอิสลาม อัธยาศัยก็ดี เพียงแต่ไม่ค่อยพูด แล้วก็เรียบร้อย
หรือเห็นว่าแกมีเมียแล้ว จนแกเดินไปล้างเลือดเป็นรอบที่ 3 ฟ้าใสที่อยู่คนละกลุ่มเลยทนไม่ไหว บอกว่า

“พี่ไปห้องพยาบาลไหม จะไปเป็นเพื่อน”

ซึ่งแกก็ตกลง อาจารย์ที่ห้องพยาบาลไม่อยู่ ไปสอน ฟ้าใสเลยพยายามใส่ยาทำแผลให้เรียบร้อยที่สุด โดยมีแม่บ้านเป็น
ผู้ช่วยกำกับ  ฟ้าใสเห็นว่า ใกล้เวลาเบรกเลยจะแอบพักกินข้าว ตัวพี่ฮะซัน เองก็เจ็บแผลคงไปทำอะไรไม่ค่อยจนกว่า
เลือดจะหยุดดี โดนน้ำก็ไม่ได้ ทำครัวยังไงก็ต้องล้างมือ เลยไปนั่งกินข้าวที่โรงอาหาร

พอเดินกลับเข้าไปในช็อป แป้นรีบเข้ามาบอก

“พี่!!! พี่ฟ้าใส หายไปไหนมา พี่มายโดนเครื่องสไลด์บาดน่ะพี่” แป้นทำหน้าตาวิตกกังวล ไม่รู้กังวลเรื่องอะไร
เรื่องแผล  หรือว่าเรื่องที่ฟ้าใสไม่อยู่ตอนเกิดเหตุ

“อ้าว ไปทำยังล่ะ โอย...ตัวอย่างก็มีให้เห็นแท้ๆ”

“หนูก็ไม่รู้น่ะ”

“แล้วนี่เขาอยู่ไหนล่ะ” ฟ้าใสเหลียวมองกวาดสายตาทั่วช็อปก็ไม่เห็น

“ไม่รู้อ่ะพี่ เห็นเขามองหาพี่ แต่พี่ก็ไม่มาสักที”

“โอ่ย.....” ฟ้าใสถอนหายใจยาว มองกลุ่มตัวเองอย่างเกรงใจ ดีว่าในกลุ่มยังมีศักดิ์นรินทร์ เลยฝากงาน บอกเดี๋ยวช่วงบ่ายจะทำชดให้

“พี่ไปดูมันเหอะ ดูท่าลึกอยู่เหมือนกัน” ศักดิ์นรินทร์เอ่ยอย่างมีน้ำใจ

ฟ้าใสรีบเดินออกมา  ไอ้มายมันจะรู้ไหมว่าต้องไปทำแผลที่ไหน ฟ้าใสชอบขึ้นมาเดินเล่นสำรวจตามตึกต่างๆ
ห้องพยาบาลจะอยู่กับแผนกดูแลเด็ก เพราะอาจารย์ผู้สอนเป็นพยาบาล สถาบันเลยเอาห้องพยาบาลมาไว้ที่ตึกนี้
ฟ้าใสเดินขึ้นตึกนี้ไปอีกรอบ เจอแต่แม่บ้าน ถามว่าคนแผนกฟ้าใสมาที่นี่ไหม ก็ไม่มี เดินลงไป หรือว่ามันจะไปโรงอาหาร

พอเดินไปโรงอาหาร ก็ไม่มี มันจะไปไหนของมันว่ะ ลองเดินไปดูที่แคนทีนหน้าตึกอำนวยการ อ้า เจอตัวซะที  กดน้ำผลไม้
มานั่งกินทำหน้ามุ่ยเชียว มือก็เอาผ้าเช็ดหน้าพันไว้  มันก็เห็นฟ้าใสแล้ว แต่แกล้งเมินทำเป็นไม่เห็น

มรึงนะทำตัวเหมือนเด็ก จบปริญญาตรีแล้วนะโว้ย ก็ได้แต่แอบด่ามันในใจเท่านั้นแหล่ะ ขืนพูดไปเท่ากับเอาน้ำมันไปราด
บนกองเพลิงอีก ก็ดูหน้ามันสิ ยังกะจะแจ้งข้อหา

 1.หายไปไหน

2.หายไปนาน

3.พอมันเจ็บกลับไม่อยู่

 - - ก็ทีฟ้าใสอยู่ ทำไมมันไม่เจ็บล่ะว่ะ
รีบเดินไปนั่งข้างๆเอาใจ เก้าอี้ว่างเป็นแสนตัว เลือกนั่งตัวติดกะมันนี่แหล่ะ สีหน้าเริ่มดีขึ้นทันตาเห็น มันก็ทำเป็นดูดไอ้น้ำ
วิเศษของมันต่อ จับมือมันมาดู อ๊าค อย่าให้มีใครเห็นฉากนี้เลย เจ้าพระคู๊น!!!!!!

“เป็นไงมั่งอ่ะ” ฟ้าใสพยาย้ามพยายามทำน้ำเสียงให้ดูว่าเป็นห่วง ทั้งที่อยากจะเบิ๊ดกระโหลกมันเต็มแก่

“ไม่เจ็บไม่ตายหรอกแค่นี้” เล่นมุกประชดอีกไม่เจ็บไม่ตายแล้วไม่ทำงานต่อไปล่ะเฟ้ย – คิดได้แต่ห้ามพูด แฮะแฮะ

“ไปทำแผลไป เดี๋ยวทำให้”ฟ้าใสฉุดคนที่ทำหน้างอน  ลุกขึ้นยืน เกี่ยวแขนให้เดินตามมา

หึ เสียงไอ้มายทำเป็นพ่นไฟออกมาหนึ่งฟืด แล้วลุกขึ้นยืน เดินตามอย่างโดยดี เชอะไม่อยากหันไปมองหน้ามัน
มันจะยิ้มหรือมันจะอะไรก็ช่างมันแล้ว เอามันไปทำแผลให้มันจบๆเรื่องไปก่อน ยังดีมันยังรู้จักเอาน้ำแข็งแปะๆโปะๆให้เลือดมันชาๆ
ฟ้าใสเดินขึ้นไปห้องพยาบาลอีกเป็นรอบที่สาม ขอบคุณพระเจ้าที่ห้องยังอยู่แค่ชั้นสอง ถ้าชั้นสี่ คงขอนอนพักสักครึ่งชั่วโมง แล้วค่อยลงมา
เจอแม่บ้านคนเดิม คนไข้เปลี่ยน นายพยาบาลคนเดิม 555 ประชดตัวเองครับ

ฟ้าใสพยายามทำแผลให้ไอ้มายอย่างดีเลิศสุดประเสริฐเหนือล้าฟ้าเขียวเลยล่ะ แน่นอน ภายใต้การกำกับของมันเอง
พอจะใช้แอลกอฮอล์ เช็ด มันก็บอกให้ใช้ทิงเจอร์เลยดีกว่า มันไม่กลัวแสบหรอก เออ เออ เอ็งแมน หยิบทิงเจอร์มาเช็ด
 ตามออเดอร์ท่าน  ท่านก็สอนว่าทิงเจอร์สามารถฆ่าได้ทั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส

ฟ้าใสทำเป็นเช็ดๆไป เสร็จแล้วก็จะเอาเบตาดีนมาหยอด มันก็ทำตาขวางว่า จะเอาหยอดทำไม 
อ้าวก็ใส่ยา มันก็บอกเบตาดีน เป็นยาซะที่ไหน มันก็เหมือนกับทิงเจอร์นะแหล่ะ ใช้เช็ดแผล
อุ ว่ะ แล้วจะเอาอะไรใส่ล่ะ มันก็บอกก็ไม่ต้องใส่  ให้หาวาสลีน เอามาทาเคลือบ จะได้กันน้ำ ฟ้าใสก็เดินไปหยิบวาสลีนมา
ทา ลูบๆไป ไม่ต้องมาทำเคลิ้มเลย  เดี๋ยวโดน เสร็จแล้วก็เอาผ้าก๊อสมาปิดแผล พันพลาสเตอร์ จบ
มันก็ยังจะบ่นอีกว่าฟ้าใสทำไม่สวย พันเอียง ทำไม่เป็นแล้วยังจะอยากไปทำให้คนอื่น

เฮอะ ตกลงที่เอ็งจะว่าคือ เพราะตรูไปทำแผลให้พี่ฮะซันเขาใช่ไหมเนี่ย มันนะมัน
ฟ้าใสก็อดใจดูแลเด็กโข่งมันต่อไป

“เสร็จแล้ว กลับกัน” ฟ้าใสบอกมันเสร็จเก็บของ แล้วก็หันไปบอก”ขอบคุณ” กับแม่บ้าน ที่ยังคงอยู่แถวนั้น
ระหว่างที่เดินลงมา ไอ้มายเอามือโอบไหล่กอดคอฟ้าใสอีก  ตรูไม่ใช่คนเจ็บ เดินเองได้ แล้วเอ็งก็เจ็บมือ ไม่เกี่ยว
อะไรกับพยุงกอดคอเลยนะไอ้มาย

“แล้วทำไมหายไปกับพี่ฮะซันนาน” มันก็ถามขึ้น

“ก็แวบไปกินข้าว แล้วพอดี พี่ฮะซันเองเค้าก็คงไม่อยากกลับไปทำต่อมั๊ง เค้าก็เลยไปนั่งกินด้วย” อธิบาย

“งั้นผมก็จะไปกินข้าว” เด็กมันดื้อ ผมบอกแล้ว เฮ้อออ

“แต่ฉันไม่กินนะ” ฟ้าใสตาเหลือก รีบบอกไว้ก่อน เดี๋ยวโดนมันบังคับให้กินข้าวอีกจาน

“ก็มือเจ็บ ก็ต้องป้อนผมสิ”เด็กดื้อมันทำดื้อตาใส

“ไม่เจ็บไม่ตายไม่ใช่หรือไงแค่นี้น่ะ” จับมือมันขึ้นมาดูตรงหน้า พลางเดินกันไปที่โรงอาหาร

ไอ้มายทำเป็นยิ้มแล้วก็เดินเบียด ทางเดินก็ตั้งกว้าง

ฟ้าใสจิบโค้กกระป๋องนั่งดูมันกินข้าว

“เย็นนี้ไปค้างบ้านผมนะ” มันทำเป็นอ้อน โชว์มือเจ็บ

“อาบน้ำเองไม่ได้”

“ก็ไม่ต้องอาบน้ำ”

“ทีเดินกับพี่ฮะซัน มานั่งข้าวกับพี่ฮะซัน ทำแผลให้เขาอีก ยังทำได้” ไอ้มายมันเริ่มพาล บ่นกระปอดกระแปด ทั้งที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่มันชวนไปค้าง

“มันคนละเรื่องกัน” ฟ้าใสก็บอกมันเสียงเรียบๆ แล้วก็เอากระป๋องเคาะโต๊ะเร่งมันให้กินเร็วๆ จะได้กลับไปที่ชอปได้แล้ว


TBC...
 :เฮ้อ:

หน้าตาข้าวฟืน เป็นแบบนี้ อ่ะฮะ

(http://upic.me/i/q5/kaofeen.jpg) (http://upic.me/show/40516585)

เหมือน เต้าหู้ทอด แต่ทำจากถั่วลันเตา มีขาย ที่เชียงราย ทางไปดอยตุง อร่อยครับ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.6 (26/10/12) อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 27-10-2012 10:21:47
หุ หุ หุ    o3 เราแอบคิดอกุศลกับไอ้มายล่ะว่า "เอ็งจงใจให้มือเอ็งโดนเครื่องสไลด์บาดรึเปล่าวะ"
ดูดิ ๆ ทำมาอ้อนฟ้าใสให้ไปดูแลด้วย เฮ้อ แล้วฟ้าใสจะใจแข็งไม่ไปได้ปะเนี่ย


ป.ล. ขอบคุณจ้ะสำหรับภาพข้าวฟืน ดูหน้าตาก็น่าอร่อยนะ เพราะเราชอบกินเต้าหู้ทอด และตือคาโคอยู่แล้ว
       
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.6 (26/10/12) อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 27-10-2012 10:56:11
อั๊ยยะ มายขี้งอนเว้ยเห้ย เป็นเด็กเลย 555+ ฟ้าใสเอ้ยน่าสงสารจริง จะมีแฟนหรือมีลูกเนี่ย

ขอบคุณมากๆค่ะ ขนมน่ากินจัง  :L1: :pig4: :L1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.6 (26/10/12) อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: DIIK ที่ 27-10-2012 11:47:33
หลังจากพลาดรักจากพี่โม่ง เราก็คิดอยากให้ฟ้าใสได้กับพี่ลิฟต์จริงๆ ค่ะ
พี่ลิฟต์ดูท่าจะรักฟ้าใสและยอมทิ้งทุกคนจริงๆ แล้วนี่นา ฮือๆ (ถ้าไม่นับเรื่องเจ้าชู้เขาเป็นคนดีมากๆ เลย)
(ไม่อยากให้มีสะมีเพิ่ม T^T // มายเองก็ยังดูเด็กมากมายเกินกว่าจะรับผิดชอบเรื่องพวกนี้ได้ในอนาคต)

ส่วนข้าวฟืน หรือ ข้าวแรมฟืน นี่
มีแบบทอดและแบบปกติค่ะ อร่อยทั้งสองแบบ(แต่เด็กๆ จะชอบแบบทอดมากกว่า ทานง่ายไม่เผ็ด)
ถ้าได้ไปเที่ยวเชียงราย อย่าลืมหาซื้อทานนะคะ รับประกันความอร่อย ><
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.6.1(ต่อ) (27/10/12) อัพๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 27-10-2012 20:43:52
Ch.6.1

 ((ต่อ))

ข่าวคราวที่ได้จากเมื่อลงไปเยี่ยมบ้านที่กรุงเทพฯในวันหยุด  ฟ้าใสแอบนัดหมูแฮม และไอ้นุ้ย ไปกินข้าวกัน
 ขอมันว่าอย่าบอกคนอื่นว่าฟ้าใสลงมา
หมูแฮมรายงานว่า แชมพู มันกลุ้มใจ เพราะไอ้พี่ลิฟต์ ไม่ติดต่อมัน พอมันโทรไปหาบ่อยๆก็โดนเมียไอ้พี่ลิฟต์มันด่าให้
มันอยากให้ ฟ้าใส พูดกับ พี่ลิฟต์ ให้ไปหา มันบ้าง แต่หมูแฮมก็บอกว่า อย่าไปยุ่งกับฟ้าใสเลย
ทำให้ยิ่งคิดว่าโชคดีแล้ว ที่ฟ้าใส ขึ้นไปอบรมที่เชียงราย ปัญหาของครอบครัวพี่ลิฟต์แกก็น่าจะจบ
ถ้าแกไปยุ่งกับสาวแล้วมีลูก เพราะเมียแกก็มีให้ไม่ได้ พ่อแม่พี่ลิฟต์ก็คงยอมรับสาวคนใหม่ได้ ถ้ามีลูกให้
เหมือนปัญหา ไอ้แชมพู ถ้ามันท้องซะ แต่พี่แกก็ระแวดระวังตัว ในกระเป๋าตังมีทั้งยาทั้งถุง ยาก็สารพัดทั้งก่อนและหลัง
สมกับมีพี่ชายเป็นหมอ พี่ลิฟต์ถึงได้สบายใจเวลามีอะไรกับฟ้าใส ก็เขามันไม่มีมดลูกให้ท้องได้นี่
จะหลั่งนอกหลั่งใน ก็ทำได้ตามใจไม่ต้องมาวิตกกังวล

“พี่ไข่ หวัดดีพี่” เสียงทักจากสาวน้อยตัวหนา ที่เพิ่งเดินเข้าร้านกับกลุ่มเพื่อน  พอเจอฟ้าใสเลยบอกให้เพื่อนไปหาที่นั่งก่อน

“อ้าว...เจี๊ยบ  สบายดี” ฟ้าใสทักตอบสาวเจี๊ยบ เพื่อนร่วมทริปที่เคยร่วมทริปเดินป่า 2วัน 2คืนด้วยกันที่จังหวัดพิษณุโลก

“สบายดี พี่ ไม่เจอพี่ซะนาน พี่ไม่ไปเที่ยวทริป สมุยกับพี่จูน อีกรอบหรือพี่” เจี๊ยบเป็นสาวรุ่นน้องที่อยู่ในกลุ่มขาเที่ยวธรรมชาติ

“โอย...ช่วงนี้พี่ไม่ว่างแล้ว ขึ้นไปอบรมที่เชียงรายน่ะ ปลายปี แน่ะ พี่ถึงจะกลับ”

“พี่อยู่ที่เชียงรายเหรอ  เร็วๆนี้เขาก็มีการชวนกันว่าจะไปเดินป่า ที่ ขุนแจ น่ะพี่  3 วัน สนใจเปล่า”

แหม เจี๊ยบมันชวน เพราะถ้าจัดกรุ๊ป ได้คนเยอะ ก็จะหารค่าใช้จ่าย กันได้แบบ สบายกระเป๋า แต่ฟ้าใสก็ปฏิเสธไป
 เพราะต้องอบรม แต่ เจี๊ยบก็บอกว่าไปกันวันหยุด พร้อมบอกว่า ถ้าขึ้นไปจะแวะไปหา แลกเบอร์โทรติดต่อไว้

“หวัดดี พี่ไข่” เสียงทักมาอีกคนจาก ลันหนุ่มรุ่นน้อง แฟนสาวเจี๊ยบ ผู้เป็นเจ้าของรถตู้ รักการท่องเที่ยว คอยจัดทริปชวนเที่ยวเมื่อยามมีโอกาส

“ลัน หวัดดี เป็นไง” ฟ้าใสคุยถูกคอกับหนุ่มรุ่นน้อง  จำได้ว่า ทริปที่ไปด้วยกันคราวก่อนโน้น ที่มีชาวบ้านวิ่งถือมีดขู่ขอของป่าคืนจากถูกยึดของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ก็มีฟ้าใสกับลันนี่แหล่ะ ที่ยังคงนั่งอยู่กับเจ้าหน้าที่ นอกนั้น วิ่งกันกระเจิง หายไปไหนหมดทั้งกลุ่ม ไอ้แชมพู ปืนไปอยู่บนต้นไม้ กับ พี่กระเทยคนหนึ่ง ตัวเจี๊ยบเองก็เผ่นไปอยู่หลังต้นไม้ ก็ฟ้าใสเห็นอยู่แล้วว่าชาวบ้านคนนั้น มีแต่มีด เจ้าหน้าที่ที่นำทางมีปืนทุกคน แล้วอยู่กันตั้ง 4-5 คน
ทักทายกันพักหนึ่ง ลันกับเจี๊ยบก็ขอตัว เพราะมากับกลุ่มเพื่อน ฟ้าใสก็คุยกับ หมูแฮม และไอ้นุ้ยต่อ
.
.
.
.
วันนี้สอบอาหารฝรั่ง ฟ้าใสโชคดี จับได้สเต็ก ถึงต้องทำเครื่องเคียง มันฝรั่งอบ แต่ก็ยังดีกว่าพวกที่โดน อาหารอิตาลี เพราะต้องทำแป้ง ทำเส้นพาสต้าเอง ถือว่าชดเชย ที่คราวก่อน สอบ เบเกอรี่ จับได้แยมโรล ยากจนทำรอบแรกไม่ผ่าน ต้องทำรอบสอง

ขณะ ที่นั่งในห้องล็อบบี้ อาจารย์ เชฟ ตรวจผลงานฟ้าใสแล้ว ของไอ้มาย ยังไม่เสร็จ  ฟ้าใสเห็นรถตู้ของลันกับเจี๊ยบมาจอดที่ลานจอดรถ หน้าตึกของศูนย์ฝึกฝ่ายโรงแรม  ฟ้าใสขออนุญาต อาจารย์เชฟ ออกไปหาเพื่อน เพราะ เมื่อสอบเสร็จแล้ว ส่งงานเรียบร้อย ก็ปล่อยเป็นอิสระ จะรอทานของร่วมกัน หรือจะกลับก่อนก็ได้ เพราะบางคน ไม่ผ่านก็ต้องทำใหม่ จนกว่าจะผ่าน บางครั้ง ก็ 3-4 ครั้ง
.
.
.
ลัน และเจี๊ยบลงมายืน หน้ารถแล้ว ฟ้าใสตะโกนทัก

“พี่!!! หวัดดี พี่เรียนที่นี่เหรอ สวยดี” สาวเจี๊ยบทักตอบ  ก็ศูนย์ได้งบมามาก ระดับ หลายพันล้าน เลย แค่ที่ส่วนโรงแรม ก็ได้มากพอสร้างเป็นสไตล์บาหลี  เหมือนโรงแรมระดับ5ดาว

“หวัดดี พี่ ชุดเท่ห์เชียว” ลันทักกึ่งแซว

“ไข สบายดีหรือเปล่า” เสียงทุ้มนุ่มหู เอ่ยทัก ทำเอาใจฟ้าใสแว๊บ ตึกตั๊ก เพราะไม่ได้คาดคิดมาก่อน ว่าพี่แกจะมาด้วย
เมื่อวานที่รับโทรศัพท์ จากเจี๊ยบ ก็พูดคุยกัน ได้แป๊บหนึ่ง ฝนก็มาตะโกนเรียกขอยืมสมุดจด เลยไม่ได้ถามว่าใครมามั่ง

“สบายดี พี่” ฟ้าใสตอบ คนร่างสูง ที่หน้าตาหล่อเหลา มาดเข้มขึ้นกว่าเดิม เดินใกล้เข้ามา
ใช่สิ  ระยะหลัง ที่พี่ลิฟต์ก็เข้าร่วมกลุ่มกับพวกแก็งค์ขี่จักรยาน  แล้วก็สนิทกับแชมพู ก็คงชวนกันร่วมทริปเที่ยว
 ยิ่งอย่างพี่ลิฟต์ ไม่มีลิมิต เรื่องเงิน เรื่องเวลา พอใจ ไปไหน ทริปไหน ก็ได้อยู่แล้ว ฟ้าใสแค่รู้ว่า ทริปนี้แชมพูมันไม่ได้มาด้วย
ก็เท่านั้น และเจี๊ยบกับลันก็ไม่รู้ว่า พี่ลิฟต์ และ ฟ้าใส หรือพี่ลิฟต์และแชมพู เป็นอะไรกัน  คิดว่าเป็นเพื่อนๆ รู้จักๆกัน

“เออ..ลัน แล้วจะไปกันกี่วันล่ะ” ฟ้าใสขยับเดินไปคุยกับลัน  แมร่ง ร่างสูงก็ขยับเดินมาคุยด้วย
ปุบ...แขนล่ำ วางโอบไหล่ สนิทสนมอย่างเนียน

“ไข ไปเที่ยวด้วยกันสิ” ลิฟต์เอ่ยชวน

“นั่นสิ พี่ไข่ ขนาดพี่ลิฟต์เป็นหวัดนะ ยังไปเลย แค่ 17 กิโล เอง” เจี๊ยบรีบสนับสนุน

“ห๊า!!! พี่ลิฟต์เป็นหวัด เหรอพี่ ฮึ่ย!! ไม่น่าเชื่อ ไปปล้ำสาวที่เค้าเป็นหวัดมาล่ะสิ เลยติดหวัดมา” ฟ้าใสไม่ค่อยอยากเชื่อหรอก บึกๆอย่างพี่แกจะเป็นหวัด

“555” ทั้ง ลัน และเจี๊ยบ พากันหัวเราะ ทำเอาคนถูกแซว มองหน้า ตาเป็นประกายระยิบระยับ ใส่ฟ้าใส
ทักทายกันพอหอมปากหอมคอ แขนที่โอบไหล่ พยายามถ่ายทอดความรู้สึกคิดถึงตลอดเวลา  มือหนาที่ทำเป็นตบหัว
ลูบไล้ ลงมาเขี่ยคลึงใบหูนิ่ม ละเรื่อยข้างแก้ม บีบไหล่ กอดซะจนตัวจะเซ ไปอยู่ในอกแกร่งแล้วนะเว้ย จะออกท่าสะบัดสะบิ้ง ก็จะดูผิดปกติเกินงาม
เจี๊ยบกับลัน ก็นัดว่าตอนเย็นจะมารับไปกินข้าวด้วยกัน เพราะต้องกินดีๆทิ้งทวนก่อนจะต้องไปกินแค่ข้าวเหนียว อาหารแห้งกับ มาม่าวันนี้จะนอนที่อุทยานขุนแจ รอพวกที่จะมาจากเชียงใหม่อีก4-5 คน แล้วถึงจะขึ้นกันตอนเช้าพรุ่งนี้


TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.6.2(ต่อ) (28/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 28-10-2012 09:24:35
Ch.6.2

(ต่อ)

ฟ้าใสก็อยากไปนั่งกิน พูดคุยกับพวกเพื่อนพวกนี้มั่งเหมือนกัน เพราะพวกเด็กๆ กับคนที่เรียน ไม่ได้มีไลฟสไตล์
หรือความสนใจแบบฟ้าใส ปัญหาใหญ่ คือ พี่ลิฟต์ ที่ฟ้าใส กลัวจิตใจตัวเอง กลัวใจ ที่จะเห็นแก่ความสุขทางกายที่อีกฝ่ายปรนเปรอให้

“มาย เพื่อนมา ไปกินข้าวด้วยกันนะ” ชวนคนขับรถประจำตัว

“ก็ได้ ที่ไหน” คนตอบทำเป็นฮึดฮัดรำคราญใจ แต่แววตาบ่งบอกความเมตตาปราณี
เฮอะ ฟ้าใสก็ไม่ค่อยเข้าใจ คนพวกนี้เลย  ชอบทำเหมือน จิ๊กจั๊ก จุ๊กๆจิ๊กๆ แต่ก็ตามใจ เหมือน พี่ส้มโอ

“อะโหล เจี๊ยบ เดี๋ยวพี่ไปเองก็ได้ ไม่ต้องมารับหรอก”

“อ้าว พี่จะขับรถมาเองเหรอ”

“เปล่า ๆ เดี๋ยวพี่ให้น้องมันขับไปส่งให้นะ เลยชวนมันไปด้วย ลันกับเจี๊ยบจะได้ต้องเสียเวลามาส่ง โอเคเปล่า”

“ได้พี่ ตามสบาย เอาหนุ่มๆมาฝากสาวๆ แถวนี้ก็ได้พี่ ยังโสดอีก 2” ( มีเสียงหัวเราะ ประกอบการแซวกัน)เจี๊ยบก็พูดต่อ

“ร้านริเวอร์วิว อ่ะพี่ รู้จักเปล่า เอ๊ะ พี่ต้องรู้จักดิ อยู่ที่นี่นานแล้วอ่ะเนอะ สักทุ่มหนึ่งนะพี่ โต๊ะจองไว้ พี่ไข่ไปถึงก่อนนั่งสั่งก่อนได้เลยพี่ โต๊ะชื่อแจจุงลัน น่ะพี่”

“โห จองชื่อนี้ พี่ไม่กล้าเข้าไปนั่งก่อนอ่ะ เจี๊ยบ กลัวโดนขอลายเซ็นอ่ะ 55”

“55 พี่ก็แจกไปเก็บตังไปด้วยเลยพี่  เดี๋ยวเจอกันนะพี่”

“จร้า”
.
.
.
.
บรรยากาศที่โต๊ะอาหารพูดคุยกันสนุกสนาน แหมแต่ไอ้มายเองก็คุยกับพวกที่มาจากเชียงใหม่
จน เจี๊ยบเองบอกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้คงไม่ค่อยได้คุย เพราะคงเหนื่อยแฮ่กๆกัน
พี่ลิฟต์เองอยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ นับ 10กว่าคน จะทำอะไรพิเศษกับฟ้าใส ก็ไม่ได้  นอกจากคุยกับพี่ชินที่นั่งข้างๆ แล้วคอยมองหน้า

ฟ้าใสที่นั่งเยื้อง คนละฝั่งกัน ไอ้มายที่แม้จะคุยกับสาวๆ แต่พอเสื้อคอวีที่ฟ้าใสมันไหลเลื่อนจนเห็นไหล่หน่อย
มันก็เอามือจับเลื่อนให้ปิดให้เรียบร้อย ตรูไม่ใช่ผู้หญิงนะ ไม่ต้องมากลัวโป๊แทนหรอก ฟ้าใสต้องทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
เสียงจามติดๆกันจากพี่ลิฟต์ พร้อมสูดจมูก ทำเอา เจี๊ยบแซวว่าอาการหนัก พรุ่งนี้จะไปไหวไหม

“กินยาไหมพี่” สาวที่ถัดไปถาม

“กินเหล้าดีกว่า ให้มันร้อนๆเดี๋ยวก็หายเองน่ะ แหล่ะ” ว่าแล้วก็กระดกแก้วจนหมด

“โห พี่ สูตรแก้หวัดของพี่แบบนี้ เยี่ยมเลย” ลันชม เจี๊ยบค้อน

“งั้นไม่จุดไฟเผาไปเลยล่ะ พี่ ร้อนดี” ฟ้าใสอดกัดมั่งไม่ได้ ก็คนอื่นคงไม่กล้า

“อย่างอื่น ร้อนกว่าไฟ ก็มีน่ะ” คนตอบทำตาฉ่ำใส่ ฟ้าใส รีบหุบปากชวนคุยเรื่องอื่น

กินเบียร์ไปก็หลายแก้ว จนโดนคนข้างๆมองหน้า เอ็งเป็นเด็ก อย่ายุ่ง แอบคิดหรอก รู้ว่ามันขี้บ่น
ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ เด็กข้างๆแตะขาเหมือนจะให้ตามไปด้วยไหม

“ไปได้น่า นั่งไปเหอะ”
.
.

ขณะที่กำลังล้างมือ พี่ลิฟต์ก็เดินเข้ามาในห้องน้ำ ยืนมองจากตรงทางเข้า สายตาบ่งบอกจุดประสงค์  ทำให้เริ่มใจคอตุ๊มๆต้อมๆแล้วล่ะ 
ทางเข้าออกใครเขาจะทำไว้กว้างนักล่ะ มันก็แค่ทางเล็ก ท่าที่แกยืนขวางไม่มีทางออกได้แน่ ก็หวังว่าที่โต๊ะจะมีคนมันลุกมาเข้าบ้าง
ถ้าคนรู้จักกันเองในกลุ่ม แกก็จะไม่กล้า ชำเลืองดูแก  ว่าแกจะเอาอย่างไงว่ะ ถ้ามีคนเข้ามาจะได้ถือโอกาสเดินสวนออกไป
หรือจะวิ่งเข้าส้วมเลย กรูจะล็อคประตูทันเปล่าว่ะ  เมื่อกี้น่าจะเรียกไอ้มายมาเป็นเพื่อน หลังจากลอบมองหยั่งเชิงกัน
พี่ลิฟต์ไม่ต้องลอบมอง จ้องเอาจ้องเอา –อันนี้ตามความหมายจริงเลย คือจ้องจะเอาเลยหล่ะ เอื้อมไปดึงกระดาษเช็ดมือ
ที่กล่องข้างฝา  แล้วพอแค่หันไปมองกระดาษนั่นแป็บเดียว ก็โดนโอบตัวจากด้านหลังทันที
ฮือ  ฮือ กรูไม่น่าห่วงเรื่องเช็ดมือนั่นเลย

“ปล่อยไขไปเหอะพี่ นะ” ผมพยายามพูดขอร้องด้วยน้ำเสียงที่เป็นกลางที่สุด เพราะรู้นิสัยแกดี  ถ้าพูดนิ่มไป แกก็ไม่ฟัง พูดแข็งไปเดี๋ยวเกิดโกรธหรือหมั่นไส้ขึ้นมาแกก็จะเบี้ยวเอาได้ง่ายๆ

“คิดถึง”พูดไม่พูดเปล่าทั้งปากทั้งจมูกก็นัวเนียทั้งคอแก้มหูไม่หยุด มือที่โอบอยู่ก็ควานเข้าไปในเสื้อ แล้วจากนั้นทั้งขาและแขนที่เต็มไปกล้ามเนื้อก็จัดการกวาดขา ทั้งรวบทั้งลากอุ้มเข้าห้องน้ำห้องสุดท้ายทันที
พี่ลิฟต์ นั้นก็เป็นประเภทที่ทั้งเล่นกีฬา โยคะ พวกกีฬาเอ็กตรีมก็เล่น ว่ายน้ำปืนผา ฉะนั้นแค่แขนข้างเดียวแกก็หิ้วฟ้าใสได้สบายพอเข้าห้องมาได้ แกก็ล็อคห้องเตรียมเสียบสายชาร์ตแบต  อ๊าค!!! ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่เอ๊า....

คอที่โดนแกไซ้จนแดงเถือกและกำลังโดนดูดต่อ ทำให้ต้องต่อสู้อย่างหนัก ไม่งั้นได้ออกไปโดยมีไอ้รอยดูดเป็นจ้ำๆ และอาจจะถึงขั้นเปลี่ยนเป็นรอยขบกัดจนเห็นเป็นรอยฟันเขียวๆม่วงๆห้อเลือดเลยก็ได้ 

“พี่…” พูดได้เท่านี้ปากก็โดนปิด ริมฝีปากหนาที่พยายามบดขยี้ริมฝีปาก พร้อมเจ้าลิ้นซุกซนที่เข้ามาพัวพันสำรวจโพรงปาก
อย่างคุ้นเคย ลิ้นก็ถูกดูดดุนตามใจปรารถนาของอีกฝ่ายอย่างรุนแรง รสสัมผัสที่คุ้นเคยทำให้ร่างกายตอบสนองโดยอัตโนมัติ
ยอดอกตั้งแข็งรับมือที่ลูบไล้ภายใต้เสื้อ พี่ลิฟต์จับมือให้สัมผัสกับอวัยวะะที่ตื่นตัวผ่านผ้ายีนส์เนื้อหนา ฟ้าใสพยายามถอนปากออก
 แต่อีกฝ่ายดูยังไม่อิ่มเอม ละเลียดแผ่วเบาและนุ่มนวลขึ้น อยากลืมตัวและจมอยู่กับสัมผัสนี้ ที่ทำได้ก็แค่ ก้มหัวซบกับอกแกร่งเท่านั้น
ฟ้าใสกอดร่างแน่นกล้ามเนื้อเพื่อปลอบใจ รู้ดีว่าทั้งตัวเองและอีกฝ่ายพออกพอใจในความสัมพันธ์เรื่องเซ็กซ์ระหว่างเราแค่ไหน
การหาวิธีที่สร้างความสุขสมให้แก่อีกฝ่ายอย่างไม่รังเกียจเดียดฉันท์ การละเล่นระหว่างเรา แต่สุดท้ายก็มีเรื่องที่รับไม่ได้
จนต้องขอหยุดความสัมพันธ์ระหว่างเรา  เราต่างกอดกันนิ่ง ร่างกายฟ้าใสเองก็แสดงความปรารถนาสัมผัสที่คุ้นเคยนี้เช่นกัน
เสียงสูดลมหายใจ ถอนหายใจ ต่างคนต่างรู้ดี

 “เป็นเพื่อนกันเหอะนะ”พูดอู้อี้อยู่กับอกแน่นๆของแก

“เพื่อนกัน จูบกันได้เปล่า”เสียงพี่ลิฟต์ถามต่อ ทำเอายิ้มออกมา นี่สติสตังแกคงกลับเข้าที่แล้ว ก็ดีแล้วล่ะ ก็ประโยคนี้เป็นประโยค
ที่แกถาม เมื่อบอกให้เราเป็นแค่เพื่อนกัน หลังจากฟังคำสารภาพ และขอไม่ให้มาที่ร้านอีก เมื่อปีที่แล้ว

“เพื่อนกันเค้าไม่ใช้ลิ้นนะพี่” ตุ๊ยท้องแกเบาๆไปทีหนึง เลยโดนคว้าตัวกอดแน่นอีกครั้ง ทั้งจมูกและปากพยายามเก็บข้อมูลจากฟ้าใส
สูดดมกลิ่นเต็มที่จนต้องแซวว่า นี่มันในห้องน้ำนะพี่ จึงยอมปล่อยตัว เปิดประตูให้ออกมา พอเดินออกมาเลยหันไปดู แกก็โบกมือไล่ให้ออกไปก่อน

พอเดินออกจากห้องน้ำมาได้แค่ 2ก้าว 3ก้าว ก็เจอไอ้มายมันเดินมาตาม แค่เห็นหน้ามันก็บ่น ทำไมเข้านานจัง
แล้วมันก็มองสำรวจตัว ทำเอาต้องเอามือลูบหัวลูบคอ พยายามเหมือนทำให้ผมมันเข้าที่
ไอ้บ้ามาย  !!! ตรูยิ่งระแวงอยู่แล้วด้วย
มันเลยยิ่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างไม่พอใจ

“กลับละยังล่ะ” ประโยคอมตะของเอ็งเลยนะเวลาไปไหนนี่

“กี่โมงแล้วล่ะ”

“22” มายตอบเสียงเขียว หน้ายิ่งหงิกขึ้นไปกว่าเดิม เมื่อมันมองเลยไปข้างหลังแล้วพบว่า พี่ลิฟต์แกเดินออกมาจากห้องน้ำ

“เออ กลับเลยก็ได้ กินอิ่มแล้วนี่นา เนอะ” ทำเป็นมุกขำได้กินฟรีมีคนเลี้ยงข้าว แต่ไอ้คนฟังกลับเม้มปากแน่น
ทำตาวาวเป็นนกฮูกกลางคืนไปได้ ไอ้มาย เอ็งจะทำตาปิ๊งใส่ใครว้า เลยหันไปมองตาม อ้าวเอ็งสนใจพี่ลิฟต์เหรอ เลยมองหน้ามัน ขาวๆอย่างเอ็ง พี่เค้าโอเคอยู่แล้วล่ะ สเปคเค้ากว้าง หญิงร้ายชายเลว สูงต่ำดำขาวพิการ เค้าฟาดหมดอ่ะ ขอแค่ยังมีลมหายใจ
เค้าเอาหมด 555 ล้อเล่น

ฉุดไอ้มายเดินไปหาพี่ลิฟต์ที่ดูดบุหรี่ฟูดฟูด หน้าส้วม

“เดี๋ยวกลับเลย อ่ะ ดึกแล้ว” จัดการจะลากลับ เลยสะกิดไอ้มาย มันก็ทำเฉย จะให้มันไหว้เค้าอ่ะ ก็มันยังเด็กกว่าเค้าตั้งเยอะ 
เอ็งไอ้มายอ่อนกว่าฟ้าใส 3ปี พี่ลิฟต์แก่กว่าฟ้าใส 4ปี ถึงฟ้าใสจะมีปืนเกลียวก็เป็นเฉพาะกับคนใกล้ตัวล่ะน่า ถ้าเป็นรุ่นพี่จริงๆ
ถึงแค่ปีเดียวก็ไหว้  ดูเด่ะ มารยาททางสังคมของฟ้าใส มันก็ไม่ยอมทำ เหมือนตอนนั้นที่ให้มันพาไปหาเพื่อนที่มาอยู่บ้านพ่อแม่
 มันจะไปจะลามันก็ไม่ยอมไหว้เพื่อนฟ้าใส เบื่อไอ้ท่าทางไม่เอาใครของมันจริงๆ

“ฮื่อ...เดินไปส่ง”พี่ลิฟต์เลยเดินตามมาด้วยและบอกว่าจะออกส่วนของฟ้าใสเอง ระหว่างที่เดินก็คุยถามไถ่ถึงเพื่อนกับคุณคิดส์

“บอกที่โต๊ะก่อน”ฟ้าใสหันไปหาไอ้มายที่สะกิดยิกๆอยู่นั่นแหล่ะว่าให้รีบกลับ เดี๋ยวก็แกล้งไม่กลับซะเลย ไอ้ลันกับเจี๊ยบยิ่งชวนให้ไป
เที่ยวด้วยกัน มันก็จะหาคนหารนะสิ ยิ่งเยอะยิ่งดี ไอ้มายมันเลยยืนคอยอยู่แถวทางออกซึ่งก็ใกล้กับทางที่เดินมาจากทางไปห้องน้ำ
พี่ลิฟต์เลยยืนสูบบุหรี่อยู่แถวนั้นด้วย
ฟ้าใสลาไอ้ลัน กับเจี๊ยบ แล้วก้อทุกคน บอกเอาไว้ทริปหน้าแล้วกัน แล้วก็อวยพรให้เที่ยวกันให้สนุก

“เดี๋ยวขากลับลงมา แล้วมาเจอกันอีกนะพี่”

“ได้เลย อย่าเผลอไปจับตัวอะไรกินก่อนล่ะ” ฟ้าใสแซวเพราะคราวก่อนที่ลงจากเขามาได้ พอเจอร้านอาหาร พากันซัดแหลก เหมือนไปตายอดตายอยากกันมาจริงๆ

ลันกะเจี๊ยบจะลุกขึ้นเดินไปส่ง บอกไม่เป็นไรนั่งกินต่อเหอะ พี่ลิฟต์เดินไปส่งแล้ว แกยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงโน้นแล้ว ฟ้าใสมองไป
ก็เห็นไอ้มายมันพูดอะไรกับพี่ลิฟต์อยู่ คุยอะไรกันว่ะ ไม่ใช่ถามสูตรอาหารกันหรอกนะ หน้าเป็นตูดเป็ดเชียวนะไอ้มาย
พี่ลิฟต์แกยิ่งเฮี้ยวๆอยู่ ถึงแม้ชอบเล่นชอบคบพวกเด็กๆก็เหอะ พอเดินไปถึง ไอ้มายก็เดินนำไปที่ที่รถจอดอยู่
พี่ลิฟต์เดินไปส่งจนถึงรถ

“กลับไปโต๊ะได้แล้วล่ะ พี่” ก็ขี้เกียจลานี่นา ไม่ได้อยากพูดว่า แล้วเจอกัน  ฟ้าใสอยากมีชีวิตใหม่ๆ ไม่อยากนั่งคิดถึงเรื่องราวเก่าๆ
นั่งเศร้ากับเรื่องที่ผ่านมาหรอก จะอกหักรักคุด ก็จะมองหาทางที่จะมีความสุขกับขีวิตให้ได้

ไอ้มายถอยรถแล้วก็สตาร์ท บรื้น!! รอให้มันตั้งลำให้ดีๆก่อนแล้วค่อยขึ้น
ไอ้มายมันดึงเสื้อบอกให้ขึ้นรถได้แล้ว

ฟ้าใสหันไปมองพี่ลิฟต์ พยักหน้าบอก”ขอบคุณที่เลี้ยงข้าวนะ ไปล่ะ”แน่นอนไม่มีคำว่าแล้วเจอกัน

“อ้า...จะไปแล้ว กอดกันหน่อย”พี่ลิฟต์กางแขนเข้ามากอด ฟ้าใสรีบเอาแขนกันก่อนที่จะโดนคว้าตัวไปกอดให้แน่นๆ
ไอ้มายตาเหลือกแทบถลนจะถลาลงจากรถมาคว้าตัวฟ้าใสขึ้นรถ
ฟ้าใสรีบถอยหลังเกาะไหล่ไอ้มายเป็นหลักดึงตัวเองซ้อนท้ายมัน ฟ้าใสเกาะเอวมันไว้และบอกไปได้แล้ว ถือว่าบอกลาพี่ลิฟต์แกแล้ว

 ก็คงไม่ต้องมาพูดซ้ำซาก และก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องหันกลับไปดูสั่งลาอะไรอีก แค่เพื่อนกัน คนเคยรู้จัก แค่นี้ก็พอแล้ว
มานี่ก็เพราะเห็นว่ามีไอ้ลันกะเจี๊ยบเพื่อนรุ่นน้องที่เคยเที่ยวด้วยกัน กินนอนด้วยกัน  ถ้าหากพี่ลิฟต์แกมาคนเดียว จะไม่ออกมากะแกหรอก

ไอ้มายตั้งแต่ออกจากร้านก็เอาแต่ทำหน้าหงิกหน้างอ ขับรถก็กระฉึกกระฉักอะไรของมัน

“นายขับให้มันดีๆหน่อยเซ่ะ เมาหรือเปล่า”

“....”


TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.6.3(ต่อ) (28/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 28-10-2012 11:13:03
Ch.6.3

ต่อ

ถามไปมันก็ไม่ตอบ เลยชวนคุยแหย่มันมั่ง

“นี่นี่ เรามีกลิ่นเบียร์หรือเปล่า” เอาปากไป อ้า อ้า พ่นลมใส่ มันก็หันมาดูแต่ไม่รู้สูดดมเข้าไปหรือเปล่า 

“....”

“เดี๋ยวคนอื่นจะได้กลิ่นเปล่าเนี่ย” ไม่ตอบอีก  มันจะอารมณ์เสียไปถึงไหนว่ะ 

“...”

“หิวเปล่า ไปกินก๋วยเตี๋ยวไหม”

“...”

ไม่ตอบ อ๊าค!!! เกลียดเด็ก เกลียดเด็ก ไอ้มาย แกงอนจนเกินงามแล้วนะ เดี๋ยวถึงหน้าโรงเรียน ตรูโดดลงจากรถเดินเข้าโรงเรียนเองนะเฟ้ย

“จะถึงยูเทริน์แล้วไม่ชิดขวาเหรอ”ฟ้าใสเกาะไหล่ไอ้มายแล้วชะโงกไปถามมันใกล้ๆหู เมื่อเห็นว่ามันไม่ได้ขับชิดขวาเกาะกลาง
เพื่อยูเทริน์กลับรถไปส่งที่โรงเรียน  มันก็ยังเงียบอยู่  เลยเอาหลังมือตีไหล่มัน ฮึ่ย!!! ชักเริ่มโมโหมันมั่งแล้วนะ ต้องมาเอาใจง้อมันเนี่ย

“ตกลงจะไปไหน” เริ่มถามด้วยน้ำเสียงห้วนๆแล้ว  มันเลยตอบดีๆ

“เดี๋ยวพาไปกินก๋วยเตี๋ยวไง กินไปนิดเดียวไม่ใช่เหรอ”

“เออ เออ...” ตามเคย ตามใจมันว่ะ มันจะพาไปไหนก็ไป “ไปส่งหอด้วยล่ะกัน” ตะโกนบอกมัน

พอไปถึงตลาดโต้รุ่ง มันก็ให้เลือกว่าจะกินอะไร ก็กินแค่นมร้อนกับขนมปัง สังขยาพอ บอกให้มันไปสั่งบะหมี่เกี๊ยวกินด้วยล่ะ
กลัวเดี๋ยวมันจะหิว ท่าทางมันจะอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อยแล้ว

“เดี๋ยวไปนอนบ้านผมนะ”

“เออ ก็ได้ แต่ไม่มีเสื้อนะ หาให้ด้วยล่ะกัน”

ไอ้มายทำหน้าพอใจขึ้น แต่ก็รู้สึกว่ามันต้องมีอะไรที่ไม่ได้บอกแน่ ก็รอจนมันกินเสร็จ แล้วจึงค่อยๆตะล่อมถามว่า มันเป็นอะไร
 จะบอกมันว่ามีอะไรก็พูดกันได้ รับได้อยู่แล้ว 555 ประโยคนี้ ก็ใช้กับพี่ลิฟต์ พอเขาบอกก็บ๋ายบายเขาทันที

“เออ เดี๋ยวไปยืมหนังสือการ์ตูนหน่อยสิ ทันเปล่า ถ้าพรุ่งนี้อ่านจบตอนเย็นจะได้ฝากมาคืน” แกล้งชวนมันไปร้านหนังสือการ์ตูน
 รู้ว่าถ้าให้มันได้พาไปแวะที่ไหนมันจะอารมณ์ดียิ่งขึ้น เพราะไอ้มายมันชอบถามว่าแวะเซเว่นไหมเผื่อจะซื้ออะไร
ตัวมันก็ไม่เข้าไปหรอก ปล่อยให้เขาเข้าไปเลือกๆซื้อๆมันก็จะคอยอยู่ข้างนอก ฟ้าใสก็เลยต้องทำเป็นซื้อๆไป
ตอนแรกว่าจะนั่งกินไปคุยไป  ถามมันว่าคุยอะไรกับพี่ลิฟต์ แล้ว เป็นอะไร ไม่พอใจอะไร ตอนกินขนมปัง
แต่ก็นึกอยากกลับไปอาบน้ำนอนอ่านการ์ตูนดีกว่า ไอ้มายมันก็อารมณ์ดีแล้ว ช่างมันเหอะ ก็ซื้อโค้กติดไปด้วย
ไอ้มายกับฟ้าใส นี่เป็นอะไรที่ต่างกันมาก น้ำอัดลมมันก็ไม่ค่อยชอบ มันจะกินแต่ผลไม้ ขณะที่ฟ้าใสไม่กิน แทบจะไม่กินผลไม้เลย
จนเหมือนเขาน่ะเลือกกินแต่ของที่ไม่มีประยชน์ ขณะที่มันกิน มันจะเลือกดูว่ามีประโยชน์อะไรมั่ง


กว่าจะไปถึงบ้านมันก็ห้าทุ่มกว่าแล้ว ระหว่างที่นั่งซ้อน มอเตอร์ไซค์ไอ้มายไปก็คิดว่า มานอนนอกหอก็ดี 
หลังจากได้ออกจากบ้าน ออกมาอยู่ห่างไกลจากที่ ที่คุ้น เพื่อลองเปลี่ยนชีวิตดูบ้าง ยังไม่เคย
ถึงกับแยกมาอยู่ซะแบบไม่มีใครมาก่อน อย่างตอนเรียน ก็รู้จักกับเพื่อนมาก่อน1ปี ถึงมาเช่าอยู่ด้วยกัน ช่วงเมื่อ3ปีก่อนนั้น
ที่มาก็มาอยู่กับไอ้โภชน์ ตอนนี้พอต้องมาเจอพี่ลิฟต์ คนที่มีส่วนผลักดันทำให้ต้องมาอยู่ที่นี่ ยังไงก็ไม่ถึงกับอยู่คนเดียว
เมื่อมาอยู่ต่างถิ่น ไอ้คนที่อยู่ตรงหน้านี่ไง  ขอบคุณแกว่ะไอ้มายที่มาคอยป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ตัวฟ้าใส ถ้าไม่มีมัน
ฟ้าใสอาจจะแอบนอนร้องไห้คนเดียวที่หอก็ได้ แถมถ้าฟ้าใสไม่มีมัน ฟ้าใสอาจใจอ่อนแล้วก็อาจจะโดนพี่ลิฟต์แกหิ้วไปไหน
ก็แกตื้อเก่งจะตาย แล้วนี่ก่อนกลับที่เห็นพี่ลิฟต์แกพูดอะไรกับไอ้มาย จะพูดเรื่องฟ้าใสหรือเปล่า แล้วแกจะพูดอะไร ไอ้มายมันถึงได้หงุดหงิดนัก

บ้านมันปิดไฟเงียบ น้ามันก็คงเข้านอนแล้ว
พอเข้าห้องมัน ฟ้าใสก็นั่งแปะบนเตียง ก็ไม่ชอบนั่งกับพื้นนี่นา รีบหยิบการ์ตูนมาอ่านมาก่อนเลย เรื่องนี้ติดอยู่

ปุป!!! ไอ้มายเอาผ้าเช็ดตัวสีขาวมาโยนใส่

“ไปอาบน้ำ”

มองหน้าคนสั่ง เว้ย ฮ่าๆ มันเหมือนแม่ เหมือนพี่ส้มโอเลยว่ะเอ็ง  กลับมาจากข้างนอก เข้าบ้าน ก็ให้ไปอาบน้ำ
ยังกับกลัวเชื้อโรคจากนอกบ้าน ฟ้าใสยกผ้าเช็ดตัวที่พับเรียบร้อย  ดม อื้อ กลิ่นสะอาดเชียว ไม่ใช่จะระแวง รังเกียจอะไร
ไอ้โรคชอบดมนี่ก็เป็นนิสัยส่วนตัวอีกอย่าง 555 แถมยังเป็นพวกติดกลิ่นหอมอีก น่าน่า แต่ละคนมันก็ต้องมีนิสัยส่วนตัว
อะไรกันบ้างล่ะ แต่บทจะปล่อยผ่านฟ้าใสก็หยวนๆไม่เรื่องมาก ไม่งั้นคงไปตะลอนทัวร์ลุยป่าไม่ได้

ฟ้าใสวางการ์ตูนลงอย่างอาลัยอาวรณ์ คว้าผ้าเช็ดตัวไปอาบน้ำ ก่อนที่ไอ้มายมันจะบ่น ถ้าเห็นยังชักช้าอืดอาด
ส่วนเสื้อกางเกงนะเหรอ เดี๋ยวมันก็หามาให้เองนะแหล่ะ เสียงมันตะโกนถาม

“จะเอาบ็อกเซอร์  หรือกางเกงนอน”

“อะไรก็ได้” ก็ขี้เกียจคิดนี่นา เสียงมันก็สั่งต่อ

“สระผมด้วย ไปนั่งมากลิ่นบุหรี่ติดหัว เหม็น” อะไรว่ะดึกแล้วจะให้สระผมอีกเนี่ยนะ

“เฮ้ย ไม่เอาอ่ะ สระพรุ่งนี้แล้วกัน”ฟ้าใสขี้เกียจตะโกนพูดกับมันผ่านประตูเลยเปิดออกมาชะโงกต่อรองกับมัน

“กลัวกลิ่นติดหมอนเหรอ”ฟ้าใสก็สงสัยทำหน้าตาเหรอหรา ถึงติดยังไง มันก็ต้องเปลี่ยนซักอยู่ดี นี่หว่า
มันก็ปรายตามามองฟ้าใสที่อยู่ในห้องน้ำครึ่งตัว

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปเรียนตื่นสาย สระผมก็ไม่ทัน หัวเหม็นบุหรี่ คนอื่นเค้าจะว่าอย่างไง บลา บลา บลา”
 ไอ้มายเริ่มร่ายยาว จบลงด้วยน้ำเสียงที่เข้ม หรือจะให้ต้องสระผมให้

“เออ ถ้าเป็นหวัดก็รับผิดชอบด้วยนะแก”ฟ้าใสก็หดหัวกลับไปสระผมต่อ ก็ไม่รู้จะไปเถียงมันเพื่ออะไร

ฟ้าใสเช็ดผมหมาดดีแล้วเลยนอนเล่นคว่ำหน้าอ่านการ์ตูนต่อ แปบหนึ่งมันก็เอาแป้งเด็กกับคอตตอนบัดมาให้
ทิ้งคอตตอนบัดเสร็จฟ้าใสก็เตรียมนอนอ่านการ์ตูนต่อ มันก็บอกให้ฟ้าใสไปนั่งข้างเตียงจะเป่าผมให้ ก็เห็นแล้วล่ะที่มันถือไดร์มา
 ก็ตามใจ ฟ้าใสก็ลุกลงไปนั่งข้างล่างหลังพิงเตียง ไอ้มายมันก็มานั่งบนเตียงคร่อมให้ฟ้าใสอยู่ระหว่างขามัน
ฟ้าใสก็นั่งอ่านการ์ตูนไปหัวเราะขำการ์ตูนไปด้วย  ส่วนมันก็เป่าหัวฟ้าใสไปผลักเอียงซ้ายเอียงขวาก้มหน้าก้มหลัง
ฟ้าใสน่ะชินแล้ว อยู่บ้านตั้งแต่เด็ก พี่สาว น้องสาวก็ทำให้ ไม่ได้คิดอะไร บางที ถ้าดูจากนิสัยไอ้มายมันน่าจะเป็นผู้หญิงด้วยซ้ำ
ทั้งขี้งอน จุกจิก แล้วถ้าผู้หญิงได้มันเป็นแฟนก็คงต้องทำใจ แค่ คอเสื้อย้วยยืดหน่อย
ก็โดนจับๆขยับให้ปิดให้มิดห้ามเปิดเห็นไหล่ ไหปลาร้าอะไรนี่แหล่ะ ฟ้าใสยังงงๆมันเลย

“เสร็จยังอ่ะ”ฟ้าใสก็ขี้เกียจนั่งแล้ว ก็เมื่อยแล้ว นั่งกินที่ร้านก็ตั้งหลายชั่วโมง ก็อยากนอน(อ่านการ์ตูน)แล้ว

“เดี๋ยว นั่งเฉยๆสิ”มันก็เอามือมาจับไหล่ให้อยู่เฉยๆ เมื่อเห็นฟ้าใสเริ่มตัวไถลไปซ้ายทีขวาที มันเลยขามาหนีบ
แล้วเอามือจับหน้าฟ้าใสไว้แล้วก็เอามือที่จับไหล่มาสางๆผมให้อยู่แปบหนึ่ง ก็ยอมปล่อยตัวให้ฟ้าใสขึ้นไปนอนอ่านหนังสือบนเตียง
ฟ้าใสนอนอ่านการ์ตูนต่ออีกแปบก็จบเล่มเลยนอนเลยดีกว่า ฟ้าใสก็ปิดไฟ ฟ้าใสเห็นไอ้มายมันเดินไปเดินมาอยู่ตรงแถวห้องน้ำ
เดี๋ยวมันก็มานอนเองล่ะ ผ้าห่มมีผืนเดียว ฟ้าใสก็ใช้ก่อนล่ะ เดี๋ยวมันคงเอามาเพิ่มเอง
สักพักไอ้มายมันก็มานอน

“ปลุกด้วยนะ”ฟ้าใสพึมพำบอกมัน

“บอกให้ปลุกนะ ปลุกแล้วก็ตื่นด้วยล่ะ ไม่ใช่นอนต่ออยู่นั่นน่ะ” ร่างสูงที่หันหลังให้ฟ้าใสตอบอย่างไม่วายบ่นต่อ
แถมยังทำเป็นถอนหายใจเฮือกใหญ่ เล่นเอาฟ้าใสได้แต่หัวเราะแหะแหะอย่างรู้ดี เชอะ ฟ้าใสตั้งปลุกจากมือถือก็ได้
เลยกระดุบๆตัวไปเอื้อมหยิบมือถือที่วางไว้บนโต๊ะที่วางไว้รวมๆกับกองหนังสือและกระเป๋าตัง

“อุ๊บ...เอ๊ย!!!” แขนที่ยันรับน้ำหนักตัวดันงอพับฟ้าใสเลยทำท่าจะหล่นจากเตียง ไอ้มายรีบดึงกับจับตัวฟ้าใสไว้
เวลามันเหมือนจะหยุดนิ่งแช่แข็งอยู่อย่างนั้น ความรู้สึกอบอุ่นที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของใครสักคน
ไอ้เจ้าร่างสูงนั้นก็ดึงขาจับตัวฟ้าใสลากมานอนเข้าทีเข้าทางตามเดิม สายตาที่มันมอง เล่นเอาฟ้าใสหน้าแดงใจเต้นตุบตับเอาเรื่องเหมือนกัน

“ไม่ต้องไปตั้งปลุกไอ้มือถือหร็อก ดังแล้วก็ยังกะจะตื่น หนกขูเปล่า รำคราญจะตาย เดี๋ยวปลุกเอง ไม่ตื่นให้มันรู้ไป แบบนี้น่ะตื่นไหม” แล้วมันก็เอานิ้วมาจิ้มที่เอว

“ฮ่า ฮ่า ตื่น ตื่น” ใครก็รู้ฟ้าใสนะบ้าจี้จะตาย ฟ้าใสรีบจับมือมันไม่ให้จี้เอวฟ้าใส ชักรู้สึกเขินๆชอบกล
 
ขณะที่นอน ฟ้าใสรู้สึกว่าไอ้มายมันก็ยังนอนไม่หลับ ฟ้าใสเลยชวนคุย

“แล้วเมื่อขากลับนายอารมณ์เสียเรื่องอะไรอีกล่ะ มีอะไรเหรอ” ฟ้าใสถามจะได้หายข้องใจถ้ามันหงุดหงิดเลือดจะไปเมนส์จะมาฟ้าใสจะได้ซื้อโซฟีมาให้มันใช้

“ไม่มีอะไร”มันตอบเสียงเรียบๆกลับมา

“อ่า...แล้วคุยอะไรกันกับพี่เขาเหรอ” แหะ แหะ ในที่สุดฟ้าใสก็อดรนทนไม่ไหวต้องถามออกไป
 แต่สิ่งที่ตามมา ทำให้ฟ้าใสคิดว่าบางทีไม่น่าถามไปจะดีกว่า
ไอ้มายก็ยังคงนอนกอดอกหันหลังให้ฟ้าใส ขณะที่ตอบกลับ

“ผมบอกว่าพี่เป็นเมียผม”


TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.6.2(ต่อ) (28/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 28-10-2012 11:37:55
เกือบไปแล้วใหมหล่ะ พี่ลิฟท์เดี๋ยวจะโดน  :m16: :m16: :m16:

มายอย่าทำไรฟ้าใสนะจ๊ะ สงสารตัวยิ่งนิดเดียวอยู่

ขอบคุณมากค่ะ  :L1: :pig4: :L1:  :กอด1: คนแต่ง
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.6(ต่ออีกหน่อย-จบตอน6) (28/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 28-10-2012 13:03:23
ต่อ

ฟ้าใสฟังคำพูดมันก็รู้สึกอึ้งเหมือนโดนทุบหัว 

“แกพูดอะไรว่ะไอ้มาย” ฟ้าใสทำเสียงเหมือนคนเอ๋อแดก มันมาขี้ตู่โมเมอะไร  ถ้าจะแค่ กอด หอม แม้แต่ จูบปากมันฟ้าใสก็ไม่เคย
จะมีที่ฟ้าใสไปค้างห้องมันตอนเตรียมสอบอาหารไทยที่มันเห็นฟ้าใสกลัวว่าจะทำไม่ได้ เลยบังคับให้ฟ้าใสไปหัดทำอยู่ตั้งสองวัน
พอนอนค้างก็นอนเตียงเดียวกัน แล้วก็ครั้งก่อนโน้นบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีอะไรกัน แล้วถึงฟ้าใสก็ผ่านเรื่องแบบนี้มาแล้ว
แต่ฟ้าใสก็ไม่ปล่อยตัวเองให้นอนกับใครง่ายๆ

ฟ้าใสลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับผลักไหล่มัน หันหน้านั่งจ้องร่างมันที่ยังคงนอนกอดอกหันหลังไม่ยอมหันมาเผชิญหน้าฟ้าใส 
ฟ้าใสรู้สึกตัวร้อนไปหมดทั้งหน้าทั้งหัวใจ นึกอยากจะจับมันกระชากให้หันหน้ามาพูดกันให้รู้เรื่อง
 ใช่สิเรื่องแค่นี้ทำไมจะรับไม่ได้ ผ่านมาตั้งเท่าไหร่ ชีวิตนี้

“แกพูดอย่างงั้น หมายความว่าไง พูดมาให้รู้เรื่องด้วย”ฟ้าใสก็ยังผลักไหล่มันอีกหลายทีเหมือนเริ่มเอาเรื่อง
เรื่องนอนเนินไม่ต้องมาคิดกันแล้ว เด็กอย่างมัน ฟ้าใสไม่มีเกรงใจอยู่แล้ว ขนาดแก่กว่าแบบไอ้โภชน์ หรือพี่ลิฟต์เอง
ถ้ามีเรื่องกันฟ้าใสก็ไม่เกรงใจหรอก ถ้ามีเรื่องต้องให้ด่ากัน แต่ฟ้าใสไม่ใช่พวกใช้กำลังนะ ฟ้าใสเอาหมอนฟาดมันอีกตุ๊บ

“พี่จำวันที่พี่ไม่ค่อยสบายได้เปล่า ที่ไปถ่ายรูปด้วยกันแล้วนอนค้างที่นี่...แล้วพี่ก็เป็นเมียผม” มันก็ยังอธิบายน้ำเสียงราบเรียบ
แต่ก็พูดไม่ค่อยออกเหมือนกัน  ฟ้าใสฟังแล้วก็ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจเมื่อได้ฟัง short story 3 ประโยค
เรื่องการเป็นเมียมันของฟ้าใส ที่ดีใจคือที่รู้เรื่องกันซะทีว่ามันคิดอย่างไง เป็นอะไร คำตอบคือมันเป็นเมะ เป็นเกย์ เป็นโฮโม
ที่เสียใจก็คืออะไรว้าเป็นเมียมันนี่  ได้คอลเลคชั่นรูปถ่ายกะควายเนี่ยนะ เฮอะ นึกแล้วโมโหเอาหมอนฟาดมันอีกทีเถอะว่ะ ตุ๊บ!!!

คราวนี้ไอ้มายเลยพลิกตัวมากอดเอวฟ้าใสไว้แล้วเอาหัวมาซุกตักฟ้าใส ฟ้าใสก็จ้องหน้ามันด้วยสีหน้าถมึงทึง
ปากยื่นตาขวางต้องข่มมันให้ถึงที่สุด ฟ้าใสเห็นตามันก็มีแววเสียใจเหมือนน้ำตาคลอๆ มรึงจะมาน้ำตาคลอๆทำไมว้า
ตรูต่างหากที่เสียตัวให้เอ็งน่ะไอ้มาย ตรูต้องเป็นฝ่ายร้องไห้น้ำตาคลอโว้ย ฟ้าใสถอนหายใจ เฮ้อ....

“แกพูดเรื่องจริงใช่ไหม ไม่ได้หลอกอำฉันนะ” ฟ้าใสก็ยังแทบไม่อยากเชื่ออยู่ดี มันพยักหน้าหงึกๆ

“นายชอบฉันเหรอ”ฟ้าใสก็ต้องถามมันให้แน่ใจว่าชอบหรือรักฟ้าใสหรือเปล่า หรือไม่ใช่แค่มีเซ็กซ์กันเล่น
มันก็ยังตอบกวนประสาทให้ฟ้าใสจิ๊ดอีก

“ไม่รู้เลยหรือไง เกลียดกันจะมาคอยอยู่ใกล้ทำไม” มันตอบคำถามด้วยคำถาม  แล้วยังขยับกอดฟ้าใสแน่นขึ้นอีก
เอ็งจะมาขาดความอบอุ่นอะไรตอนนี้ หนักโว้ย เดี๋ยวตะคริวกิน มรึงต้องนวดขาให้ตรูด้วยนะเฟ้ย ไหนไหนก็คงนอนไม่ลงแล้ว
เที่ยงคืน 40 แล้ว ฟ้าใสเลยว่าจะพูดกับมันให้รู้เรื่องกันไปเลยดีกว่า เลยบอกมันให้ลุกมาคุยกันให้รู้เรื่อง
ฟ้าใสก็เลยแกะมือที่โอบเอวฟ้าใสไว้ออกแล้วก็ผลักหัวมัน แล้วก็กระเถิบไปนั่งพิงหัวเตียง ไอ้มายมันยังจะมาทำเป็นนอนงอก่องอขิง
 ฟ้าใสเลยจิกหัวมัน ก็แค่ขยุ้มผมมันเท่านั้นล่ะแล้วก็นวดๆ สะกิดๆแล้วดึงให้มันลุกมา มันก็ยังทำอิดออด ฟ้าใสก็เริ่มใช้เท้าเขี่ย

“เฮ้ยยย...ลุกมา...ดีดีเลย” มันขยับยันตัวลุกมาพิงที่หัวเตียงข้างฟ้าใสพลางทำหน้ามุ่ย

ฟ้าใสเลยอธิบาย เล่าชีวิตฟ้าใสให้มันว่า ฟ้าใสน่ะเคยเป็นแฟนไอ้โภชน์อยู่ 3ปี แล้วก็เป็นแฟนพี่ลิฟต์ 2ปี กว่า จนมามีเหตุต้องเลิกกัน
ไอ้มายมันฟังแล้วก็เอาแขนมาโอบไหล่ฟ้าใสลูบหัวฟ้าใสเบาๆ
ฟ้าใสเอานิ้วกรีดน้ำตาที่คลอเป้าทิ้ง หันไปจ้องหน้าถามมัน

“ฮื่อ ...เราก็เล่าให้ฟังแล้วนะ แล้วตกลงนายจะเอาอย่างไงกับเรา แต่อย่างไงวันนี้เราก็ดีใจนะที่มีนายอยู่”
แต่ฮึ่ม!!!คดียังไงมันก็ยังเป็นคดีอยู่นะเฟ้ย อย่างไงเอ็งต้องโดนวิ่งรอบสนาม20รอบแน่

“พี่เป็นแฟนผมได้ไหมล่ะรับรองผมจะไม่มีใคร” มันตัดสินใจพูดออกมา

เฮ้อ...กรูกว่าจะรู้ว่ามรึงชอบกรูก็โดนกินก่อนแล้ว ไอ้มายนะไอ้มาย  ถึงได้ไม่ชอบเด็ก ตรูชอบรุ่นใหญ่เว้ยยยย


 :m16:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.6(ต่ออีกหน่อย-จบตอน6) (28/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 28-10-2012 14:03:25
 :z2: :z2: :z2:
ก็ว่ามันแม่งๆ กินมาตั้งนานแล้วจิ ดูแลฟ้าใสด้วยหล่ะ ถ้าทำฟ้าใสเสียใจนะ โดน :z6: :z6: :z6: :z6: :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.6(ต่ออีกหน่อย-จบตอน6) (28/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: goonglovenut ที่ 28-10-2012 16:35:07
อ่านยาวเลย มายนี่เจ้าเล่ห์มากเลย แอบกินฟ้าใสไปซะแล้ว อย่าหลอกฟ้าใสนะไม่งั้นจะโดน :z6:
แต่ดีแล้วที่ฟ้าใสไม่ใจอ่อนกับไอ้พี่ลิฟท์ ขอให้รักครั้งนี้ฟ้าใสสมหวังเน้อ :L2:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.6(ต่ออีกหน่อย-จบตอน6) (28/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 28-10-2012 17:23:36
อ่านช่วงที่ฟ้าใจเจอกับพี่ลิฟต์ในห้องน้ำ ก็ใจตุ๊มๆต่อมๆ
กลัวฟ้าใสใจอ่อนเตลิดเพริดไปกับสิ่งที่พี่ลิฟต์"พยายาม" ที่สุดฟ้าใสก็รอดล่ะ   :เฮ้อ: โล่งงงงงใจ
โล่งใจได้ไม่นาน ต่อมาๆๆๆ ฮ่วยมาย แกได้กินฟ้าใสตอนไหนหว่า
ว่าแต่ว่าวันนั้นน่ะ ฟ้าใสน่ะหลับลึกจริงๆหรือ หลับลึกจนกระทั่งไม่รู้ตัวว่าโดนมาย :oo1: เชียวหรือ :dont2:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.6(ต่ออีกหน่อย-จบตอน6) (28/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 28-10-2012 20:24:07
อ่านช่วงที่ฟ้าใจเจอกับพี่ลิฟต์ในห้องน้ำ ก็ใจตุ๊มๆต่อมๆ
กลัวฟ้าใสใจอ่อนเตลิดเพริดไปกับสิ่งที่พี่ลิฟต์"พยายาม" ที่สุดฟ้าใสก็รอดล่ะ   :เฮ้อ: โล่งงงงงใจ
โล่งใจได้ไม่นาน ต่อมาๆๆๆ ฮ่วยมาย แกได้กินฟ้าใสตอนไหนหว่า
ว่าแต่ว่าวันนั้นน่ะ ฟ้าใสน่ะหลับลึกจริงๆหรือ หลับลึกจนกระทั่งไม่รู้ตัวว่าโดนมาย :oo1: เชียวหรือ :dont2:

พวกประเภทหลับลึก นี่ มีจริงๆ ตัวเป็นๆ หลับกลางงานเลี้ยง ที่เพื่อนกินเหล้าเฮฮา ทั้งที่เจ้าตัวไม่กินเหล้า แต่ง่วง
หลับไป ครึ่งชั่วโมง ตื่นมา เฮฮาต่อ
หลับลึก ชนิด ฝ่ายรับ ที่ลุกมาปล้ำฝ่ายรุก แล้วพอ ตื่นมางงๆ ว่าใครมาถอดเสื้อผ้าตัวเอง
หลับลึก ละเมอ แต่งตัว จะออกนอกบ้าน
หลับลึก ระดับ ข้างสนามยิงปืน เขายิงกัน โป้งเปรี้ยงก็ไม่ตื่น
หลับลึกชนิด คนมาของออกจากตัว เขี่ยให้กลิ้งไปอีกทาง ก็ยังไม่ตื่น
เอ...คนแต่งไปเกี่ยวข้องคนพวกนี้มากไปเปล่าเนี่ย พวกนี้ บางคนฝันล่วงหน้าได้ด้วย แต่ใบ้หวยไม่ได้ ไม่ค่อยมีประโยชน์ เท่าไหร่เลย
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.6(ต่ออีกหน่อย-จบตอน6) (28/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: nine_molly ที่ 29-10-2012 11:35:47
เชียร์ไม่ถูก
ไอ้พี่ลิฟต์ ก็น่าเชียร์
ไอ้หนูมาย มือใหม่ ก็น่าลุ้น
พี่โม่ง จะมีสิทธิ กะเค้าไหมเนี่ย
แต่ไอ้เลวที่สุด ก็ไอ้โภชน์ :z6:
 :z2:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.7(.1) (30/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 30-10-2012 00:54:31
S.4 Ch.7(.1)

***เชื่อฉันอย่าหลงไปเชื่อใคร ฉันนี้แหละห่วงใย รักแท้และแน่จริง
โปรดทิ้ง ความคิด จะเปลี่ยนใจ ห้ามหนีไปชอบใคร
ชอบทำไมชอบได้แต่ฉัน คนเดียว***


“เชื่อได้เหรอ” ฟ้าใสตวัดเสียงสูง อย่างไม่คิดจะเปิดใจง่ายๆ

 “ไม่มีทาง ผมไม่เปลี่ยนใจ ไม่ล้อเล่นด้วย” ร่างสูงย้ำ

“โอย...คนรู้จักกัน...” ฟ้าใสจะพูดถึงคนในอดีต แต่ก็ป่วยการที่จะนึกถึง “ไม่รู้ล่ะ จะไปเชื่อได้ไง”

“แล้วต้องทำไงถึงจะเชื่อ ผมจะพิสูจน์ เพราะงั้น ต้องมาเป็นแฟนกัน แล้วพี่ห้ามมีใคร ผมไม่ชอบ ไม่ยอมด้วย”

แอ่ก แอ่ก เมริงพูดอย่างเดียวก็ได้ ไอ้มาย ไม่ต้องทำท่าทางประกอบฉากสมจริงขนาดนั้น ตรูยังไม่ได้มีใครเลย
มันดึงร่างฟ้าใสไปกอดคาอก รัดตัวฟ้าใสซะแน่น หมอนข้างเอ็งอยู่ตรงโน้น เมตร10เซ็นต์ ตรูสูง160เซ็นต์เฟ้ย ไม่ใช่หมอนข้างแก

“แต่นายห้ามทำอะไรประเจิดประเจ้อนะ รักษาหน้าฉันมั่ง” ฟ้าใสรีบทำข้อตกลงกับมัน

“หอมแก้มได้เปล่า”

“ไม่ได้  จับโน่นจับนี่ก็ไม่ได้ แค่ทุกวันนี้ คนเค้าก็มองจะตายแล้ว”
ก็บางครั้งนั่งเรียงกันอยู่ มันมาถึงก็จะแทรกนั่งกลางระหว่างฟ้าใสกับคนที่นั่งข้างๆให้ได้
ถ้าเด็กกว่าก็ดีไป เค้าก็ยอม ถ้าแก่กว่า มันก็ไม่กล้าไปไล่ให้เค้ากระเถิบ มันก็จะงอนไปนั่งแยกตัว ฟ้าใสก็ต้องตามไปง้อ >O< อ๊าค ตรูเกลียดเด็ก !!!!

ฟ้าใสน่ะ ยังพอเหลือมาดแมนบ้าง ตรงทำตัวเป็นผู้ใหญ่พูดรู้เรื่องแม้จะมีรสนิยมแบบเด็กๆคบพวกเด็กๆพูดเล่นสนุกร่าเริง
ทำตาแอ๊บแป๊ว ซื่อตาใส  แต่ก็ไม่ออกท่าทางค้อนประหลับประเหลือกชี้นิ้วกรีดกรายเป็นเคะราชินีแบบศักดิ์นรินทร์ 
ไม่บ้าผู้ชายอย่างนางเกรียงและพี่ทิวา ที่ทำให้ใครก็ดูออกตั้งแต่แรก ฟ้าใสก็เฉยๆจนไอ้มายที่มาเข้ามาวุ่นวายพัวพัน
ล้อมหน้าล้อมหลังตั้งแต่เดือนแรกๆ

“ไม่พอใจเหรอ...” หน้าหมาใหญ่สลดลงหน่อยหนึ่ง

“ก้อ..ฮึ่ย..” ใครจะไปพูดออก ก็มันทำท่าหูตกหางลู่

“แล้วนายมาชอบเราตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมมาชอบล่ะ” ก็ทำเป็นถามเสียงเข้มอ่ะ

“หึ!!!” ดูมัน ทำเป็นไม่พอใจฟ้าใสอีก

“โหย...จำเขาไม่ได้ น้อยใจว่ะ” ร่างสูงสะบัดเสียงใส่คนตัวเล็กกว่า แล้วตวัดกอดจนคนตัวเล็กจมในอ้อมแขน

แอ่ก!!! เอิ่ม ไอ้มาย เอ็งน้อยใจ เอ็งต้องเดินหนีไปนั่งตรงอื่นสิ ไม่ใช่มานอนล้มทับกัน
หนุ่มรุ่นน้องตัวใหญ่หยัดตัวขึ้น มองหน้าหนุ่มรุ่นพี่ ที่นอนหงายเงยหน้าประสานตาจ้อง ภายใต้ร่างเขา

“จำผม ไม่ได้เลย จริงๆ เหรอ”

“ทำไม เราเคยรู้จักกันมาก่อนเหรอ บ้าน่า ฉันไม่มีรักแรกอะไรกับเด็กอย่างนายนะเฟ้ย
ตอนป.4 ก็มีกับคนที่เรียนพิเศษภาษาอังกฤษด้วยกัน ตอนป.5ที่ย้ายห้อง ก็มี โดนไอ้ลูกครึ่งมันแกล้งบ้าง เรียกร้องความสนใจ
ตอน ป.6 ก็โดนจับมือตอนเดินป่าค่ายลูกเสือ ม.2 ก็มีโดนสารภาพรัก วันงานกีฬาสี แต่นั่นก็รุ่นเดียวกัน”

ปึก ปึก ปึก!!! เสียงหมาใหญ่ฟาดขาหน้าข้างขวากับที่นอน
หมาใหญ่ยื่นหน้ามา จนฟ้าใส รับสัมผัส ลมหายใจฟืดฟาด ด้วยความขุ่นข้องน้อยใจ

“ดูดีๆสิ จำหน้าผมไม่ได้เหรอ” คนตัวใหญ่ชี้มาที่หน้าอันหล่อเหลาของตัวเอง

“เออ...เออ...ก็..คุ้นๆเหมือนกัน” เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา เอาว่ะ ตอบมันไป

“ไม่จริงน่ะ จำไม่ได้ล่ะสิ วันที่ 9 เดือน 9 ที่สนามบินสุวรรณภูมิน่ะ”

“เอ๋...เดือน 9 เดือนกันยา ทำไมเหรอ นายนั่งข้างๆ ฉันเหรอ” ฟ้าใสพยายามนึกย้อน

“หึ...” เสียงพ่นลมหายใจ ด้วยความขัดใจ

“ผมคือคนที่ส่งผ้าเช็ดหน้าให้น่ะ วันนั้นน่ะ”

“วันไหน อ๋อ อ๋อ วันที่ฉันขึ้นเครื่องไปบ้านรุ่นพี่”

“วันนั้นผมเพิ่งกลับมาจากสมัครอบรมที่นี่แหล่ะขนาดผมอยู่ชั้น 2 แต่นัดเพื่อนที่ชั้น 4 ผมเลยได้เจอพี่
แค่เห็นแวบเดียว ผมก็ชอบพี่แล้ว เห็นพี่ร้องไห้ ใจผมก็ร้อนรน     ถ้าเป็นแฟน กัน ผมจะดูแลไม่ให้พี่ต้องร้องไห้ เสียใจ”

ถึงน้ำเสียงมันจะชอบทำเป็นหงุดหงิด เอาแต่ใจ แต่คำพูดที่แสดงความตั้งใจ จริงใจของมัน ทำให้หัวใจของเขาอบอุ่น 
แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมา ฟ้าใสจะกล้าวางใจ หรือคาดหวังอะไรจากใครได้อีกเหรอ                               
แล้วจะเป็นอะไรไหม ถ้าเขาจะพึ่งพิงไขว่คว้าความอบอุ่นที่ยื่นให้จากมัน   

“ผมน่ะเห็นพี่เศร้า อยากเข้าไปเช็ดน้ำตาให้แท้ๆ ยื่นผ้าเช็ดหน้า ก็ไม่รับ ปฏิเสธผม เดินหนีผมไปเลย”

“บ้าสิเว้ย ก็ตอนนั้น เขาเรียกให้เช็คตั๋วได้แล้ว ฉันก็ต้องไปสิ”

“พอเจอกันอีก ก็จำหน้าไม่ได้อีก”

“เอ๊ะ ก็ตอนนั้นคนมันร้องไห้นี่  ใครเขาจะไปกล้ามองหน้าคนอื่นละเฟ้ย แล้วฉันจะไปมองหน้านายได้อย่างไง เอ็งนี่”

“ไม่รู้ล่ะ พี่ต้องขอบคุณผม หอมแก้มผมตอบแทนมาเลย”

ฟ้าใสว่าโลกนี้ มันต้องเกิดการผิดเพี้ยนบางอย่าง ที่ทำให้มีฟ้าใส ทำให้มีไอ้มาย
โลกที่เหมือนมีเมฆหมอก  ราวจะเกิดช่องให้แสงอาทิตย์ส่อง

“พรหมลิขิต ให้ผมกับพี่ได้เจอกัน ยิ่งตอนที่พี่เดินเข้ามาในห้องวันแรก ผมรู้ว่าพี่มาหาผม”

เออ...ดูมัน เหมาเอง เออเอง เอาง่ายๆ ฟ้าใสไม่อยากเชื่อพรหมลิขิต ก็ดูชีวิตเขา ถูกลิขิตมาอย่างนี้เหรอ
ทำไมไม่ลิขิตให้เขาได้มีความสุขกับคนที่เขารัก คนที่เขาเทิดทูน นิยมชื่นชมบ้าง

“นายนี่นะ......แต่อย่างไง ก็ขอบใจละกัน” ถึงฟ้าใสจะส่ายหน้าไม่เห็นด้วย แต่ก็อดขอบใจมันไม่ได้
ทั้งทั้งที่ดูว่าเขาน่าจะขาดทุนมากกว่านะ ถ้าจะเทียบดูความผิดของมันนี่

“นี่...นี่...” หน้าที่เอียงแก้มป่อง ชี้นิ้ว จิ้มแก้มตัวเอง

จะให้เขาหอมแก้มมันนะเหรอ ไอ้บ้า ใครจะไปทำ ฟ้าใสเม้มปาก หน้ายู่
หน้าใหญ่ก้มมาใกล้อีก ต่ำลงมา

“ตอบแทน แฟนหน่อย” ฟ้าใสส่ายหน้า หน้าใหญ่นั่น ก้มลงมากระซิบข้างหู

“หอมแก้มสามี ไม่ผิดหรอกนะ”

ฟ้าใสเหวี่ยง ไอ้ตัวสามี ลงไปนอนข้างๆ ยังไม่รู้สึกสาแก่ใจ เลยลุกขึ้นไปคร่อม เอาหมอน อุดหน้าตาคนที่พูดประโยคเมื่อกี้
หมอนถูกแย่งดึงออกไป ใครจะไปกล้ามองจ้องตากับสายตาที่มุ่งจะสื่อว่ามันเป็นคู่แท้สามโลก

“ไม่กลัวสามีตาย หรือไง”

มือเล็กถูกปลดอาวุธไปแล้ว เอามือเปล่านี่แหล่ะ บีบจมูก อุดปาก มัน ถ้ายังไม่เลิกพูดคำนี้
สองมือถูกรวบ วงแขนโอบรัดร่างเล็กให้เอนซบแนบแผ่นอก
ก็อบอุ่นดีอยู่หรอก ถ้าเจ้าของแผ่นอกมันไม่บ้าๆบอๆ ขี้หงุดหงิด ตามจิกไม่เลิก
เสียงเต้นของจังหวะหัวใจ เหมือนเพลงกล่อม น่านอนหลับคาอกอุ่นนี้
คนตัวโตหอมที่กลุ่มผมสลวย เมื่อข้อเรียกร้องไม่ได้รับการสนองตอบ
มือใหญ่ไล้ไปตามผิวเนียนลื่น

“ตัวเย็นดี กอดแล้วสบายดีจัง” มือมันก็ล้วงเข้าไปกอดๆลูบๆคลำๆตัวฟ้าใส ภายใต้เสื้อผ้า
คนตัวเล็กหวังจะนอนอิงอุ่นสบาย พอสัมผัสได้ว่า ใต้ร่างตัวเองเริ่มมีสิ่งที่แข็งขืนขึ้น

“นอนได้แล้ว” ฟ้าใสรีบบอกมัน ดิ้นพลิกตัวลงจากแผ่นอกกว้าง “อย่าลืมปลุกด้วยนะ”

แน่นอนฟ้าใสไม่มีทางหันหลังให้มันเด็ดขาด นอนหงายก็ไม่เอา  ฟ้าใสเลยนอนตะแคงหันหน้าให้มัน กอดหมอนข้าง
 ฟ้าใสลองลืมตาไปก็เจอ ไอ้มายนอนมองฟ้าใสอยู่ เลยเอามือไปลูบปิดตามัน แล้วก็คำรามใส่

“ฮึ่ย!! นอนได้แล้ว ฉันไม่ตื่นนายโดนแน่” ไอ้มายจับมือที่ฟ้าใสเอาไปลูบตามันไปจูบทีละนิ้ว สายตาที่มันมองจ้อง
กลับมา ฟ้าใสไม่อยากจะแปลความหมายอะไรที่เข้าข้างตัวเอง มันจะทำให้ฟ้าใสร้องไห้นะเว้ย

“อือ...” ฟ้าใสส่งเสียงในลำคอแสดงอาการรับรู้สิ่งที่มันพยายามสื่อถึงฟ้าใส
เออ จะเอามือฟ้าใสไปทำอะไรก็เอาไปเหอะ

แต่ถ้าเอาหัวใจฟ้าใสไปได้ ก็ขอให้มันดูแลดีดีและให้นานที่สุดเท่าที่มันทำได้ด้วยละกัน...



TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.7(.1) (30/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 30-10-2012 10:00:19
เป็นกำลังใจให้จ้าฟ้าใส สู้ๆๆ

ขอบคุณมากค่ะ :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.7(.1) (30/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 30-10-2012 12:45:53
มาย..ดูแลฟ้าใสดีๆล่ะ
ขอให้ฟ้าใสเจอคน(มาย)ที่จะไม่ทำให้ฟ้าใสต้องเสียใจเหมือนที่ผ่านๆมานะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.7(.2) (31/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 31-10-2012 02:08:16

7.2

“ตื่น...ตื่นได้แล้ว”ฟ้าใสได้ยินเสียงแว่วๆ ตั้งสติเมื่อมองดูรอบบริเวณที่แปลกจากหอพัก

ฟ้าใสขยี้ตา เมื่อคืนกว่าจะนอนก็ ตี2 พยายามปรับโฟกัส
หน้าไอ้มายลอยอยู่ตรงหน้า ตัวมันอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยพันผ้าเช็ดตัว  ยืนยิ้มอย่างมีเลศนัย
 สายตามองสำรวจร่างเล็กที่คงนอนอยู่
ฟ้าใสถอนหายใจเฮือกใหญ่

“เจ็ดโมงแล้ว เดี๋ยวต้องไปเปลี่ยนเสื้อที่หออีก ไม่ตื่นใช่ไหม” มันเริ่มโมเมหาทางลงโทษฟ้าใส  มันเริ่มก้าวมาประชิดตัว

เฮ้ย !!! ตรูยังไม่บอกว่าจะไม่ลุกเลย ขอเวลาปรับตัวโหลดข้อมูลก่อนสิเฟ้ย
เฮ้ย!!! เอ็งจะช้อนตัวกรูไปไหน อ้าวไปไม่ไกลเอามาวางบนตักมัน ก้มมาทำไม๊ หน้าตรูไม่มีสิว ไม่ต้องมาดูด

เฮ้ย!!! เฮ้ย !!! มือเอ็งจะล้วงไปไหน นี่มันสมบัติประจำตระกลูนะเฟ้ย พ่อให้มา ตัวเดียวอันเดียว ไม่ใหญ่ไม่โต

ไม่ให้เช่า ซื้อขายด้วยเฟ้ย อ๊าค!!! อือ...กรูไม่ได้เครียด ไม่ต้องมาคลายเครียดให้เว้ย อ๊า...อือ..เอ็งจะทำอะไรก็ทำสักอย่าง
 อย่ามาทำสองอย่างพร้อมกันสิเฟ้ย กรูใจจะขาดอยู่แล้ว ฟ้าใสหอบหายใจ ร้องครางอยู่ในลำคอ
ร่างสูงก้มหน้าครอบครองแก่นใสน้อย ตวัดลิ้นร้อนไล้รูดรัดขึ้นลง มือจิกหัวมันไว้แน่น แค่ไม่นานฟ้าใสก็หลุด
จากอาการเกร็ง จนปวดท้องน้อย อายก็อาย สบายก็สบาย ความรู้สึกยังเต้นตุบตั้บ นี่เหรอ เล่นกับหมา หมาเลียปาก
หมาตัวนี้ ชอบทำตาวาว ข่มขู่เขาด้วยดิ  ขัดใจก็ขัดใจ เมื่อคืนคุยกันก็เหมือนงงๆ มึนๆ ไม่แน่ใจว่าไปตกล่องปล่องชิ้น
แปะมือไฮไฟว์  นึกๆดูก็ว่าไม่นะ ไอ้หมาใหญ่นี่ไว้ใจมันไม่ได้จริงๆ

คนที่ถูกแอบหาว่าเป็นหมาตัวใหญ่ มันแลบลิ้นเลียของเหลวสีขาวข้น และก้มมากระซิบฟ้าใส ให้รู้สึกจี๊ดในใจขึ้นอีก

“หัดกินของดีมีประโยชน์ซะมั่ง เดี๋ยววันนี้จะซื้อโยเกิร์ตให้กิน”  มันจะให้ฟ้าใสกินโยเกิร์ต แล้วมันจะกินไอ้นี่ทุกวันหรือไง

 บึ้ก!!! ฟ้าใสเอาหมัดต่อยเอาที่ไหล่มัน ขณะคลานเข่าจะลงจากเตียง ไม่เจ็บหรอกใครจะไปทำมันเจ็บ
เดี๋ยวมันไปส่งฟ้าใสไม่ได้ ยิ่งซวยใหญ่ ฟ้าใสทำหน้าเบ้ใส่มัน เมื่อมันทำท่าเป็นเจ็บ

“เดี๋ยวก็อาบน้ำแล้ว เมื่อกี้ก็น่าจะจับถอดเสื้อผ้าเลยนี่นา”

ฟ้าใสเลยชี้หน้ามัน แล้วพูดว่า “คดีเก่ายังอยู่นะ ยังจะสร้างคดีใหม่อีกนะ เดี๋ยวได้เจอแส้แน่”

มันเลยทำเป็นเม้มปากหน้าสลดสำนึกผิด สีหน้ามันบอกที่ไหนว่ามันสำนึกน่ะ เชอะ

“แล้วให้ใส่อะไรกลับล่ะ” ฟ้าใสถามมัน

“นี่อ่ะ ใส่เสื้อนี้ไปแล้วกัน กางเกงก็ใส่บ็อกเซอร์ แล้วใส่กางเกงเมื่อคืนไปแล้วกันนะ
หอบเสื้อผ้ามาอยู่ด้วยกันก็หมดเรื่อง” มันบอกเชิงบ่นกรายๆ
“เสื้อผ้าก็ไม่ต้องเอากลับ เดี๋ยวซักให้ รีบไปอาบน้ำเหอะน่า” ว่าแล้วมันก็รีบผลักฟ้าใสไปอาบน้ำ ฟ้าใสเลยบ่นเบาๆ

“ก็ใครเล่นปลุกบ้าๆล่ะ”

“น่า น่า รีบอาบเหอะ” ส่วนมันก็เดินไปแต่งตัว แล้วก็เก็บของของฟ้าใสที่มีแค่หนังสือการ์ตูน กระเป๋าฟ้าใสกับโทรศัพท์ใส่ในเป้มัน

แปดโมง 10 นาที ฟ้าใสก็ถึง ที่หอ ก็แค่ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อแล้วก็หยิบกระเป๋าสมุดนิดหน่อย เพราะของอื่นมันก็อยู่ในล็อคเกอร์ที่ชอปอยู่แล้ว
ทำหน้าตายไว้ ใครก็ไม่กล้าทัก เรื่องมาพร้อมกันกับไอ้ตัวดี  ที่ไหนล่ะ นังเกรียงมันทำตาเป็นประกายยิ้มร่า

หมดคอร์สอาหารฝรั่ง อาจารย์เชฟอาหารญี่ปุ่นยังไม่ว่างมาสอน อาจารย์ที่จะสอน ผสมเครื่องดื่มขอคิวสอนก่อน เพราะต้องไปคุมแข่ง เดือนหน้า  อุปกรณ์และวัตถุดิบ ถูกนำมาตั้งเรียงราย ตรงหน้า  หลายคน พากัน น้ำลายยืด ตัวอย่างที่แค่ผสมให้ดู ถูกนำมาแจกจ่าย เวียน ทั้งดม ทั้งชิม  แค่เที่ยง หลายคนหน้าแดง และมึนๆไปแล้ว พอเย็น ฟ้าใสเอง ยังกึ่ม แทบเดินเซ  เด็กๆหลายคน ที่ส่งผ่าน แค่ดม ดู ก็พอ ไอ้เด็กตัวโตที่นั่งข้าง หากเห็นฟ้าใสขยับหลอด ชิม เป็นต้องทำตาขวาง  แหม!!! ไม่สัมผัสของจริง ก็ไม่รู้จริงดิ

วันเสาร์ พวกเด็กๆชวนไปตลาดเช้าในวัดใกล้ๆศูนย์ หาอะไรกิน แล้วเลยไปห้องสมุด ว่าจะหายืมนิยายกำลังภายในจีนมาอ่านเปลี่ยนบรรยากาศ

ตรืดดดด ตรืดดดด
ว่าแล้ว 11 โมง เจ้าชีวิต มันโทรมาแล้ว

“อยู่ไหน”

“ห้องสมุดประชาชน”

“เดี๋ยวไปรับ” สั้นๆ ได้ใจความ ไม่ต้องรอถามว่าอยากให้มา หรือว่าอยู่กับใครหรือเปล่า ชีวิตที่เป็นอย่างนี้
ตั้งแต่ ฟ้าใสมาอยู่ที่เชียงราย ไม่ค่อยเข้าใจหรอก ว่าคนมันจะมีพรหมลิขิต อะไรอย่างที่มันอ้าง

แค่อึดใจ ฟ้าใสรีบเลือกหนังสือที่ต้องการยืมให้เรียบร้อย เอาไปใส่กระเป๋า นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ ได้ไม่กี่ข่าว
 เสียงบีบแตรรถมอเตอร์ไซค์ ดังขึ้นด้านหลังอาคารห้องสมุด นั่นแหล่ะ คนขับรถฟ้าใสมาแล้ว
ไม่หิวก็ต้องกิน เป็นเพื่อน ไม่งั้น งอน
ไม่อยากไปไหน ก็ต้องไป เพราะมีคนอยากพาไป
ขืนไม่ไปไหน  มันก็จะพาไปห้อง ไปให้มันนั่งจ้อง นั่งจับ
พรุ่งนี้วันอาทิตย์ ไอ้มายมันต้องไปเปิดร้านที่ถนนคนเดินกับเพื่อน  ฟ้าใสค่อยมาห้องสมุดอีกก็ได้


ตรืดดดด ตรืดดดด
โทรศัพท์จากเจี๊ยบกับลัน  อ้าวยังไม่กลับกันเหรอ  หรือเพิ่งลงกันมา

“อะโหล”

“หวัดดี พี่ไข่ นี่เจี๊ยบนะพี่”

พูดคุยทักทาย ฟ้าใสนึกว่าจะมานัดชวนกินอีก แต่ก็ไม่ใช่ กลับกลายเป็นฝากฝังให้ช่วยดูแล
เพราะมีคนไม่สบาย แต่ไม่ยอมกลับกับรถตู้ด้วย กลับเปิดโรงแรมค้างที่เชียงราย
อ้างว่าจะอยู่ทำธุระ ไม่สบายขี้เกียจนั่งรถตู้กลับ ขอเที่ยวต่อ etc…

“ฝากพี่ดูพี่ลิฟต์ แกด้วยนะพี่ แล้วถ้าทริปหน้าพี่ไปกับพวกผมได้ ต้องไปนะพี่”
ลันกับเจี๊ยบ ร่ำำลาสั่งเสียเสร็จ...วางสายไปแล้ว...
เรื่องที่ดูน่าจะจบ กลับยังไม่จบ

ดอยถูกพวกพี่นันต์ใช้ให้ขึ้นมาตามฟ้าใสว่ามีเพื่อนมาหา

“บอกว่าพี่ไม่อยู่แล้วกัน”

“พี่นันบอกไปแล้วคับว่าอยู่”

“ก็บอกว่าขึ้นมาดูแล้ว แต่ไม่อยู่ นะ ดอย พี่ปวดหัว ขี้เกียจออกไปข้างนอกกะเพื่อน”

“...” ดอยมองหน้า ทำสีหน้ายุ่งยากใจ

“โทษทีอ่ะดอย”

“โกหก เป็นบาปนะ เพ่ฟ้าใส” ดอยเป็นคริสต์ที่เข้มงวด

“เออ น่า นะ” ฟ้าใสพยายามทำหน้าให้ยุ่งกว่าดอย

“แล้วถ้า พี่เขาไม่เชื่อล่ะ” เอ๊ะ ไอ้นี่... นี่ ทีอย่างงี้ฉลาดนะ ทีหลังเวลาสอบข้อเขียนจะไม่ช่วยมันแล้ว
ฟ้าใสผลักหลังดอยให้ลงไปบอก “คนที่คุณก็รู้ว่าใคร”
.
.
.
“เพ่ เพ่ ฟ้าใส เพ่เค้าบอกจะคอยจนกว่าเพ่จะกลับ” เสียงดอยตะโกนบอกตรงหน้าต่างห้อง จากข้างล่าง

เออ ยังดี มันยังเขยิบ ออกมายืนตะโกนบอก ถัดจากที่นั่งกันอยู่ ฝีมือไอ้เต้ กับพี่ทิวาแน่เลย
 ที่บอกให้ดอยตะโกนบอกฟ้าใส “หึ ไอ้เต้ นะ ไอ้เต้ กรูจะยุไอ้มายไม่ให้เอ็งยืมมอไซค์ใช้อีกต่อไป

“เออ บอกไปว่า พี่กลับมาปีหน้า เด๋วลงไป” เชอะ ไม่อยากให้เป้าสนใจกว่านี้ ฟ้าใสรีบลงไป   
.
.
.
.
.

ทันทีที่หนุ่มหน้าสวยคนเคยชิดใกล้ ที่แม้มาอยู่ต่างจังหวัด แต่ก็ยังคงชวนน่ามอง เหมือนเดิม
เดินลงมาที่โถงกลางลานนั่งเล่น ทำให้เขายิ่งมั่นใจว่า ของที่เขาอยากนำติดตัวกลับบ้าน นั่นคืออะไร
ลิฟต์เดินยิ้มอย่างอ่อนระโหยโรยแรง เข้าไปหา
แน่ละตั้งแต่ลงจากเขาแม่ขุนแจ และไปพักที่หมู่บ้านปางสบป่อง
เด็กสาวชาวเขา2พี่น้อง อาเจ กับ อาแม ก็ไม่สามารถทดแทนร่างเล็กนี้ได้

หลังจากแยกกับลันและเจี๊ยบที่รู้จักกันเพราะแชมพูและกลุ่มขี่จักรยาน
ถือโอกาสมาทริปด้วย เพราะรู้ว่าลันและเจี๊ยบจะแวะมาหาคนตัวเล็กของเขา
ทำไมต้องหนีเขามาด้วย  ในเมื่อเขาสัญญาแล้วจะเลิกและยุติ การกระทำที่ผิดข้อตกลง
เมื่อเจอกันแล้ว โอกาสครั้งแรกดูจะไม่สะดวกนัก
ไม่แปลก ที่จะลองครั้งต่อไป ไม่เสียหายอะไร
ร่างเล็กนั่นจะไม่คิดถึงสิ่งที่เขาเคยปรุงแต่งปรนเปรอให้เชียวเหรอ

ก่อนมา อุตส่าห์แช่น้ำอุ่น สลับน้ำเย็น แล้วมานั่งตากแอร์ จนเมียจะหาว่าบ้า
เลยอ้างกับเมียว่าอยากเป็นหวัด ไม่อยากไปเที่ยวแต่ปฏิเสธเด็กๆไม่ได้
ได้เป็นหวัดสมใจ ถึงจะแค่จามฟุดฟิด พอให้หวังว่าคนตัวเล็กจะเห็นใจ ว่าเขาไม่สบาย
ก็ยังอยากขึ้นมาหา  ดันมาเจอไอ้เด็กเปรต บอกว่าคนร่างเล็กของเขาเป็นเมียมันอีก



TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.7(.2) (31/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: goonglovenut ที่ 31-10-2012 09:05:10
ขอร้องล่ะฟ้าใสอย่าใจอ่อนกับไอ้ลิฟท์อีกเลย ถ้าจะโดนหลอกอีกก็ขอให้เป็นคนๆไปดีกว่า แต่ตอนนี้เลือกมายเถอะ :เฮ้อ: ส่วนพี่โม่งก็อยากให้กลับไปอยู่ด้วยกันแต่ไม่รู้จะได้ไหม :3123:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.7(.2) (31/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 31-10-2012 09:30:09
สู้ๆๆ ฟ้าใสอย่าใจอ่อนนะลูก เราเจ็บแล้วต้องจำเน๊อะ

ขอบคุณมากค่ะ :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.7(.2) (31/10/12)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 31-10-2012 10:26:23
"ร่างเล็กนั่นจะไม่คิดถึงสิ่งที่เขาเคยปรุงแต่งปรนเปรอให้เชียวเหรอ"
เกลียดความคิดนี้ของอิพี่ลิฟต์เป็นที่สุด
ภาษาเป็นเครื่องแสดงความเป็นปัจเจกบุคคลจริงๆนะลิฟต์
อยากพบอยากอยู่กับฟ้าใสก็เพราะเรื่องกามรสเป็นสำคัญสินะ
เป็นกำลังใจให้ฟ้าใสจงเข้มแข็งใจแข็งนะ  อย่าได้ระทวยง่ายๆเชียว

หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.7(.3) (31/10/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 31-10-2012 11:55:48
(ต่อ)

พี่ลิฟต์ยิ้มหน้าแดงกร่ำด้วยพิษไข้ เดินสะโหลสะเหลมาตบไหล่
จะเอาอย่างไงดี  คงต้องชวนออกไปคุยข้างนอก ไม่ค่อยอยากสบตา

“พี่มาอย่างไง”

“ไข...” คนตอบ ทำท่าอยากพูดอะไรมากมาย

“พี่ ...ไปคุยกันข้างนอกแล้วกัน”

ท่ามกลางสายตา อยากรู้อยากเห็นของไอ้เต้ และพี่ทิวา  เด๋ว สองคนนี้ต้องเม้าท์เขาแน่
พี่ลิฟต์เดินนำไปที่รถยนต์เช่า ค่อนข้างใหม่ เดินไปก็จามฟุดฟิดไป
พอขับออกมาจากศูนย์ได้ไม่เท่าไร ข้างทางก็ยังเป็นบ้านเรือน ร้านค้า  แต่พี่แกก็หยุด หันมาดึง ตัว ฟ้าใสกอดไว้
ดูท่าทาง ไม่สบาย เพราะตัวร้อน
ปากก็ถูกจูบเช่นเคย ห้ามไป ก็คงไม่ฟัง

“จอดข้างทางอันตราย เปล่าๆ พี่” รู้เหมือนกันว่าออกมากับแกก็อันตราย แต่ดูว่าน่าจะพูดกันรู้เรื่อง
ออกมาคราวนี้ ค่อยรู้ใจตัวเองว่า ไม่วูบวาบไปกับคนตรงหน้าแล้ว อาจเป็นเพราะรู้ว่าตัวเองมีความสัมพันธ์กับไอ้มายไปแล้ว เลยทำให้เหมือนฟ้าใสตัดขาดกับพี่ลิฟต์ไปโดยปริยาย

มานั่งทานกันที่ร้านเดิม

“พี่ ทำไมไม่กลับพร้อมพวกลันล่ะพี่”

“ไขล่ะ ทำไมไม่กลับบ้าน”

“ก็ต้องเรียน”

“จะเรียนไปทำไม กลับไปอยู่บ้าน ถ้าอยากเปิดร้านอาหารก็จ้างแม่ครัว”

“มันไม่ใช่อย่างนั้น”

ปริมาณการยกซด แทบจะสองเท่าของการพูดคุย ที่เนื้อหา วนเวียน กับความสัมพันธ์
ที่ให้กลับมาเหมือนเดิม

“พี่จะให้เวลาไขมากขึ้น”

“มันไม่ใช่อย่างงั้น”

“พี่เลิกติดต่อกับแชมพู เขาแล้ว” เรื่องนี้ เขาก็ไม่อยากเกี่ยวข้องด้วย

“นั่นมันเรื่องของพี่อ่ะ” พูดแล้วอดเคืองไม่ได้ ฟ้าใสก็กระดกมั่ง

สายตาที่ดูเคว้งคว้าง พี่ลิฟต์ที่คบกับเขา พูดคุยด้วยกันเกือบทุกเรื่อง ใช่ ยกเว้นเรื่องเดียว
เรื่องเดียวที่ปิดไว้ จนสูญเสียคนที่สามารถแชร์ทุกสิ่ง ผู้ชายมักมีฟอร์มกับเพื่อน จะเจ๋ง จะเท่ห์ จะเข้ม
พี่ลิฟต์เมื่ออยู่กับฟ้าใส เหมือนเพื่อนกัน เพื่อนเล่น เล่นกันอย่างไม่มีฟอร์ม เล่นกันทั้งแบบเด็ก และแบบผู้ใหญ่
ไม่มีการรังเกียจในของกันและกัน พี่ลิฟต์ใช้ลิ้นให้ฟ้าใสในทุกที่ สอนให้รู้จักท่วงท่าต่างๆ

ฟ้าใสขับรถมาส่งพี่ลิฟต์ที่โรงแรม พอเห็นว่าแค่ถอยหลังก็ไว้ใจไม่ได้

“พี่ พรุ่งนี้กลับเหอะ ไขจะไปส่งที่สนามบิน”

“กลับก็กลับด้วยกัน” เมาจนลงไปนอนแผ่บนเตียง ตัวก็ร้อน ท่าทางจะมีไข้
แทบจะไม่เคยเห็นพี่แกนอนซม เพราะร่างกาย ออกจะแข็งแรงจะตาย
เช็ดหน้าเช็ดตัว  โทรขอยาจากโรงแรม ป้อนยาให้
คำขอร้องให้อยู่เป็นเพื่อน
แน่นอน ฟ้าใสให้ได้อยู่แล้ว ถ้าถือว่าเป็นเพื่อนกัน บุญคุณพี่ลิฟต์ ที่ตอนที่ฟ้าใสคิดว่าตัวเองไม่มีค่า ช่วงนั้นดีแค่ไหน ที่เขายังมีใคร

ฟ้าใสนอนกกคนตัวโตกว่า เหมือนแม่ไก่
ขอให้ทั้งหนอนเล็กหนอนใหญ่ อย่าขยันตื่นลุกขึ้นแข็งขัน
.
.
.
.
หงุดหงิด และน่าหงุดหงิด
ร่างสูงในชุดเชฟ ที่ดูดี ถ้าหน้าตามันไม่ฉายแววว่าอยู่ในอารมณ์เหมือนจะฆ่าคนได้
ฟ้าใสไม่มาเรียน โทรมาบอกพี่เป๊ก ให้ลาอาจารย์ให้
ถามใคร พวกอยู่หอ ก็บอกว่าออกไปกับเพื่อน
มีไอ้เต้ที่รู้เรื่อง ก็บอกว่าขึ้นรถยนต์ ลักษณะท่าทางไอ้เพื่อนนั่นก็เหมือนไอ้บ้านั่น ป่านนี้คุณพี่ที่รักของเขา
จะโดนมันฟัดช้ำหมดหรือเปล่า แค่เจอวันนั้น ไอ้บ้านั่นมันก็จะกอดฟ้าใสของเขาเลย
.
.
.
.
.
ลิฟต์มองดูร่างเล็กที่หลับสนิท คงเพลียจากการที่ต้องดูแลเขา
ไอ้อาการตัวร้อนที่เกิดจากการกินไอ้ใบไม้นั่นเดี๋ยวคงหมดฤทธิ์
ไอ้แช่น้ำร้อน สลับน้ำเย็น นั่นต้องทำตั้งนาน กว่าร่างกายควายๆของเขาจะมีแอฟเฟ็กต์
เขาคงยื้อคนร่างเล็กให้อยู่ด้วยได้ไม่กี่วัน แต่ก็ดีใจที่อย่างน้อย ก็ไม่ทิ้งเขา

“ไข เรื่องนี้ก็ถือว่าพิสูจน์นิสัยไอ้เด็กนั่นด้วยล่ะกัน ถ้ามันงี่เง่า ไขเองก็จะได้รู้ว่าผู้ชายทุกคนมันก็ไม่ได้ดีอะไร
ทุกคนก็ต้องทำผิดกันได้  ถ้าจะรักกันจริงก็คงต้องอดทน ยอมให้อภัยกันบ้าง”

ลิฟต์ลูบแก้มบางอย่างแผ่วเบา
.
.
.
.
.
ส่งพี่ลิฟต์ กลับกรุงเทพฯไปแล้ว ดีใจที่ยังจากกันด้วยดี
ฟ้าใสเริ่มนึกถึงไอ้เด็กที่คอยป้วนเปี้ยนอยู่ข้างๆ
คืนที่ว่าจะต้องค้าง พอโทรบอกพี่เป็ก ฝากลาอาจารย์
ก็โทรหามัน แต่ไม่รับสาย พี่ลิฟต์ก็นอนซม เลยปิดเสียงโทรศัพท์
ป่านนี้มันคงหงุดหงิด ทั้งโกรธ ทั้งโมโห เขาแน่
น่า... ถ้ามันงอน เขาก็ยอมง้อมันล่ะ
เดี๋ยวแวะซื้อผลไม้อบแห้งไปฝากคนขี้งอนก็ได้ว่ะ
.
.
.
.
.
ตรี๊ด...ตรี๊ด...

ฟ้าใส : ตอนนี้คงกำลังเรียนอยู่ เดี๋ยวมันคงโทรกลับ
มาย : โมโหจริงๆ โมโหจริงๆ

.
.
.
ตรี๊ด...ตรี๊ด...

“อยู่ไหนน่ะ”

“เมื่อกี้อยู่ในชั้นเหรอ หลบออกมาโทรเหรอ”

“บอกมาตามตรง อยู่ไหน กลับมาโดนฆ่าแน่”

“ฮ่า ฮ่า ไอ้เด็กบ้า กำลังจะกลับแล้ว มาส่งเพื่อน ที่สนามบิน”

“งั้น เดี๋ยวจะไปรับ”

“ไม่ต้องมีรถโรงแรมมาส่ง เลยจะให้เขาไปส่งที่เซ็นทรัล เอาอะไรหรือเปล่า”

“ไม่” ไอ้เด็กบ้าทำเสียงหงุดหงิดใส่  “รีบกลับมาเลย”

ฟ้าใสอึ้งๆไปเหมือนกัน เมื่อฟังประโยคที่เจ้าตัวเริ่มทอดเสียงอ่อน
รู้ว่าไอ้คนปลายสายมันคงกระวนกระวายแค่ไหน ก็เล่นหายตัวไป 2วัน
ก็จะทำไงได้ พี่ลิฟต์แกก็ไม่สบาย นอนซม ข้าวปลาก็ไม่กิน บอกเจ็บคอ ปวดหัว หนาวๆร้อนๆ
ยอมกินซุปที่ป้อนบ้าง จะขยับไปไหนก็ไม่ยอม ยังดีที่แค่ 2วัน ก็ทุเลา
แต่พอทุเลา แล้วก็ยอมกลับไป แต่ ไอ้จูบลานี่...
ฟ้าใสคลำรอยแดงจนเขียวม่วงที่เนินไหล่ต้นคอ...



TBC....
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.7(.3) (31/10/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 31-10-2012 16:41:46
"...ไอ้อาการตัวร้อนที่เกิดจากการกินไอ้ใบไม้นั่นเดี๋ยวคงหมดฤทธิ์
ไอ้แช่น้ำร้อน สลับน้ำเย็น นั่นต้องทำตั้งนาน กว่าร่างกายควายๆของเขาจะมีแอฟเฟ็กต์
เขาคงยื้อคนร่างเล็กให้อยู่ด้วยได้ไม่กี่วัน แต่ก็ดีใจที่อย่างน้อย ก็ไม่ทิ้งเขา...."
...
...
".... แต่ ไอ้จูบลานี่...
ฟ้าใสคลำรอยแดงจนเขียวม่วงที่เนินไหล่ต้นคอ..."
แม้..แม้..อิพี่ลิฟต์ ไอ้คนเจ้าเล่ห์แสนกล
นี่ถึงกับลงทุนเคี้ยวใบแก้วเลยเชียวรึ
แล้วก็ยังมาทำอะไรแบบ...แบบ...ไร้สติอีกด้วย เฮอะ ! แช่น้ำร้อนสลับน้ำเย็น
ก่อนกลับไปก็ยังมีการวางระเบิดเวลาไว้ให้ฟ้าใสอีกนะ
แล้วเมื่อไอ้เด็กตัวโตเห็นรอยนั่นเข้า(มันต้องเห็นแน่ เพราะลิฟต์จงใจให้เห็น) มันจะไม่หึงจนปรอทแตกรึ
แล้วมันจะว่าอะไรบ้างนะ มันจะทำอะไรฟ้าใสปะเนี่ย
ฉันล่ะอยากด่าแกแทนฟ้าใสจัง ฮึ่ม :m16:
(เพราะฉันไม่ใช่ฟ้าใสฉันเลยไม่ใจดี แล้วฉันก็ไม่ชอบพฤติกรรมของแกในคราวนี้น่ะอิลิฟต์)

หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.7(.4) (1/11/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 02-11-2012 00:32:58
ต่อ

ให้รถมาส่งถึงในศูนย์ หน้าตึกหอพัก ฟ้าใสเห็นแล้วล่ะ ไอ้ฆาตกรโหด นั่งคุยกับกลุ่มพี่ๆ :fire:

“อ่ะพี่ ซื้อมาฝาก” ฟ้าใสส่งถุงใส่สารพัดผลไม้สับ ฝรั่ง มะม่วง สับปะรด แตงโม ให้โต๊ะ ผู้หญิง ถุง โต๊ะ ผู้ชาย ถุง
กินกินกันซะจะได้ไม่ต้องพูดมาก
แน่นอน มีของไอ้มายด้วย

“นี่ ของนาย” ฟ้าใสส่งผลไม้อบแห้งแพคสวยๆที่ซื้อมาฝาก

สีหน้าไอ้เด็กบ้า ทำปากเหยียดยิ้ม ดีใจขึ้นหน่อย เมื่อได้ของฝากที่เห็นว่าผิดกับคนอื่นที่เป็นแค่ผลไม้เฉาะจากรถเข็นหลากชนิด แต่ก็ยังคงทำปั้นปึ่ง ไม่พูดไม่จา
หลายคนทัก ว่าหายไปไหนมา
บอกเพื่อนพ้องน้องพี่ไปว่า เพื่อนไม่สบาย เลยต้องพาไปหาหมอ และอยู่ดูหน่อย
ถามไถ่เรื่องเรียน

“โอย ไม่มีอะไรหรอก พี่ แค่ให้คิดสูตรเครื่องดื่มกันเอง แล้วเอามากิน เดี๋ยวพรุ่งนี้เรียนพวกน้ำสมุนไพรกับครูแนน
ครูตั้มต้องไปคุมเด็กประกวดที่เชียงแสนน่ะพี่”
ศักดิ์นรินทร์ ตอบอย่างเป็นงานเป็นการ แล้วแอบทำปากป้องๆ อ่านได้ความว่า

“ไอ้มาย มันโวยวายใหญ่พอรู้ว่าพี่ไม่มาเรียน”

โอย อันนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้แล้ว ตรูก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ไปเป็นนางทาสมันตั้งแต่ชาติไหน มันถึงได้คอยควบคุมเขาขนาดนี้
ฟ้าใสนึกถึงตอนที่แอบมันหนีไปเที่ยวกับพวกพี่ทิวา ป๋า และคนอื่นๆ
.
.
สายวันนั้นที่ฟ้าใสเดินจะไปชวนอิเกรียงไปกินข้าว

“อ้าวเกรียงจะไปไหนเหรอ” ทักไอ้เกรียงเมื่อเห็นมันเริ่มทารองพื้นที่หน้า ขณะที่ฟ้าใสเดินไปหามันที่ห้อง
ว่าจะชวนเดินไปกินข้าวที่หน้าวัดข้างโรงเรียน ไอ้เกรียงมันหัวเราะอิอ๊ะ ทำท่ามีเลศนัย ฟ้าใสเลยผลักไหล่มัน

“บอกมาเลยมีอะไร” มันก็ยังทำเป็นหัวเราะคิกคิก แล้วศักดิ์นรินทร์ก็เดินออกจากห้องน้ำมา

“อ้าวพี่ฟ้าใส” ศักดิ์นรินทร์ก็ทักฟ้าใส

“นี่จะไปไหนกัน ว่าจะชวนไปกินข้าวหน้าวัดนะ ถามนางเกรียงมันก็ไม่ยอมบอกนะ” ฟ้าใสเริ่มต่อว่า

ศักดิ์นรินทร์มันเลยมองหน้านางเกรียงเชิงรำคราญ ทำนองว่าทำไมไม่บอกๆไป แล้วก็หันมาบอก

“ก็เค้าชวนกันไปเที่ยวทะเลสาบนะพี่ ก็มีป๋า มีใครต่อใคร มีไอ้เต้ กับพี่ทิวาด้วย”ศักดิ์นรินทร์ชี้แจงแถลงไข

“อะไรกัน แล้วทำไมไม่ชวนพี่อ่ะ”ฟ้าใสก็เริ่มโวยวาย พร้อมกับหันไปทำตาขวางกับนางเกรียง มันกลับทำตาระยิบระยับยิ้มร่า

“ก็ไอ้กัสจังกับพี่ทิวาว่า ถ้าชวนพี่ฟ้าใส ไอ้มายมันก็ต้องไปด้วยนะสิ เค้ารำคราญมันอ่ะ แล้วเดี๋ยวมันก็เร่งให้กลับอีกหรอก
 ใช่ไหมล่ะ” ศักดิ์นรินทร์อธิบายก็ทำตาค้อนควักใส่อากาศผ่านไปให้ไอ้คนที่พูดถึง ทำเอาฟ้าใสหน้านิ่วคิ้วขมวด
ไอ้มายนะไอ้มาย มันทำให้ฟ้าใสถูกคนเค้ารังเกียจซะแล้ว

“ไม่รู้ล่ะพี่ไปด้วยเด่ะ นังเกรียงนะปิดปากเงียบเชียว ไม่ยอมชวนเลย” ฟ้าใสฟาดไหล่มันทันทีที่พูดจบ
มันทำเป็นสะดุ้ง หัวเราะคิกคัก มองหน้าฟ้าใสอย่างล้อเลียน

“เค้านัดกันที่หอพักไอ้กัสจัง – กัสจัง เป็น ญาติสาวของศักดิ์นรินทร์ เลือกพักหอนอกเพื่อความสะดวกสบาย
ตอนประมาณบ่ายๆน่ะพี่ ไปเร็ว แดดก็ร้อน แต่จะออกไปจะไปกินข้าวแล้วก็ไปซื้อของกินกันน่ะ พี่ไปด้วยกันไหมล่ะ ซ้อนสามไปก็ได้”

“เอาสิ  แล้วจะไปยัง เกรียงเธอน่ะแต่งหน้าเสร็จยังล่ะ”ฟ้าใสหันไปแซวนังเกรียง

“อีกแปบหนึงแล้วกันพี่ นั่งเตียงผมก่อนก็ได้”

สักพักฟ้าใส,ศักดิ์นรินทร์,อิเกรียงก็ออกไปหอไอ้กัสจัง ตกลงกันว่าไปหากัสจังกันก่อนแล้วเราค่อยไปหาอะไรกินกับซื้อของ
11โมงครึ่งเราก็กลับมาพักผ่อนนอนเล่นที่หอของกัสจัง สักพักมือถือฟ้าใสก็เริ่มดัง ฟ้าใสก็เริ่มมองหน้าศักดิ์นรินทร์กับกัสจัง
เป็นไอ้มายจริงๆ เลยเริ่มกระวนกระวาย เอาไงล่ะ จะโกหกว่าไง ถ้าบอกไปห้องสมุด มันก็ตามไปรับตัว เลยบอกพวกนั้น
ว่าฟ้าใสไม่รับแล้วกันนะ แล้วค่อยแก้ตัวว่าลืมมือถือที่ห้อง อ๊ะ ก็ไม่ได้อีก เพราะก็ไม่รู้ว่ามันขึ้นไปที่ห้องหรือเปล่า

เสียงเรียกดังอยู่หลายครั้ง จนต้องเปลี่ยนเป็นแบบสั่นอย่างเดียว นังเกรียงมันก็เอาแต่หัวเราะฟ้าใสใหญ่ 
เรานั่งเม้าท์อะไรเรื่อยเปื่อย สักพักหนึ่งมือถือไอ้กัสจังก็ดังขึ้น พอรับไปมันก็ตาเหลือกทำปากบอกว่าไอ้มายโทรมา
บอกอยู่ข้างล่าง เดี๋ยวจะขึ้นมาหา คราวนี้เลยเหมือนเด็กที่แอบซนแล้วถูกผู้ใหญ่จับได้ ฟ้าใสน่ะไม่รู้จะเอาอย่างไง
อย่างดีก็อาจไม่ไปกับพวกนี้ก็ได้ แล้วไอ้มายมันก็คงมาพาไปเดินเล่นที่ไหน แต่มันก็สนิทกับทั้งกัสจังทั้งศักดิ์นรินทร์
ทั้งไอ้เกรียงนะแหล่ะ มันก็อาจชวนแกมบังคับให้พวกนี้ไปด้วยกับฟ้าใส  ศักดิ์นรินทร์ก็บอกว่าเดี๋ยวพวกเราหลบไปก่อน
ไปแอบตรงบันไดขึ้นดาดฟ้า ดีนะห้องไอ้กัสจังอยู่ชั้นสี่ เรายังพอวิ่งไปแอบทัน ตอนที่เราไปกองกันที่บันได นางเกรียงมันก็ค่อนแคะฟ้าใสว่า

“พี่ฟ้าใสไปปล่อยกลิ่นอะไรเนี่ย พี่มายยังอุตส่าห์ตามมาถูกด้วย” แล้วมันก็ปิดปากหัวเราะคิกคักของมัน

“บ้าสิ เค้าคงไปถามที่หอนะสิแล้วก็มีใครบอกว่าเห็นออกมากับพวกเธอ  มันก็ต้องนึกว่าต้องมาหากัสจัง ไม่ก็มาถามล่ะน่าว่าไปไหนกัน”

เราไปนั่งกิน นั่งคุยถ่ายรูปเล่น ฟ้าใสก็สนุกสนานคุยเล่นเฮฮา ขากลับซ้อนศักดิ์นรินทร์ เกรียงไปนั่งรถป๋า ระหว่างที่ซ้อน
ศักดิ์นรินทร์กลับ ที่ฟ้าใสก็นึกถึงไอ้ร่างสูงอีกคนที่มักจะเป็นคนขับพาฟ้าใสไปไหนต่อไหน วงเล็บตามที่มันต้องการ
ที่ชอบดุให้ฟ้าใสนั่งดีๆ แล้วก็เกาะมันให้แน่นด้วย ไม่ใช่แค่จับหูกางเกงมัน 
ฟ้าใสคิดแล้วก็สงสารไอ้มายมันเหมือนกัน แต่เขาก็อยากไปเฮฮากับพวกนี้มั่งอ่ะ
.
.
แล้วนี่ มันคงหงุดหงิดว่าเขาหายไปไหน เขาก็คงต้องหาข้อแก้ตัว
.
.
“ขึ้นไปห้องก่อนนะ”  บอกใครๆ  แต่มีคนขยับตัวตาม

“เดี๋ยวออกไปกินข้าวกัน” รู้ว่ามันคงอยากโวยฟ้าใสแน่ แต่มีคนก็ยังเดินไปเดินมา

“หวัดดีพี่วัฒน์” ลืมซื้อของมาฝากพี่รูมเมทตัวเองเว้ย ยึดของฝากไอ้มาย เอามาให้พี่วัฒน์แกก่อนได้ไหม
แต่เดี๋ยวไอ้เด็กนี่มันร้องไห้แง แง แน่เลย  ออกไปค่อยซื้ออะไรมาฝาก ก็ได้มั๊ง พี่แก แก่แล้ว คงไม่คิดอะไร

ไอ้มายนั่งหยิบดูหนังสือบนเตียงฟ้าใส

ขณะที่หันหลังสวมเสื้อยืด

“อ้าว..ไข..” เสียงพี่วัฒน์ ทัก แล้วเงียบไป

“อะไร พี่” หันมาถามพี่วัฒน์ แกจะพูดะไรเหรอ หางตาก็เห็น ไอ้เด็กขี้หงุดหงิดเดินออกนอกประตู แถมปิดดัง ปัง!!!

“สงสัย มันปล่อยมือ แล้วลมตีประตูปิดนะพี่” ฟ้าใสรีบบอกพี่อนุวัฒน์ แก้ตัวแทนไอ้มาย มันจะใจร้อนรีบไปไหนของมัน
รีบหยิบมือถือกระเป๋าตังเดินตามลงมา
ได้ยินเสียงคนบรื้นรถออกไป
พอลงมา มองหามันก็ไม่เจอ

งง มันเป็นอะไรอีกล่ะ อุตส่าห์รีบแล้วนะ  ตามใจ  เบื่อจะต้องมาคอยเอาใจมัน
เดี๋ยวหาอะไรกินแถวนี้ แล้วนอนพักดีกว่า
.
.
.
“พี่วัฒน์ ขนมอ่ะพี่” ฟ้าใสซื้อพวกลูกอมกระปุกๆมาฝากหลังจากไปกินข้าวกับ ศักดิ์นรินทร์และพ้องเพื่อน

“เออ...พี่มีอะไรถามได้ไหม”

“ได้สิพี่ มีอะไรเหรอ”

“ไข มีแฟนแล้วเหรอ”

“อ๋อ...ก็เคยมีน่ะพี่ แต่เลิกกันแล้ว ทำไมเหรอพี่ มีคนฝากให้มาถาม สนใจไขเหรอพี่” ฟ้าใสถามกลับยิ้มๆ เห็นพี่แกยังทำหน้าซีเรียส

“เปล่า พี่เห็นรอยที่ไหล่เราน่ะ มีปัญหาอะไรก็คุยกับพี่ได้นะ”

“เอ่อ...ขอบคุณ  พี่ ไขจะมีปัญหา ก็เรื่องไอ้มายนี่แหล่ะ ไม่รู้สิพี่ บางทีเราก็ยังรู้สึกยังไม่อยากผูกมัดกับใครน่ะพี่”

หลังจากได้คุยกับพี่วัฒน์แบบเปิดใจกัน  พี่วัฒน์ก็เป็นเกย์มีแฟน เลิกกัน กลับมาดีกันใหม่ แต่ก็รู้สึกเหมือนแกต้องเป็น
ฝ่ายให้ จนตอนหลังมามีแฟนอายุกว่า เลยดีขึ้น อยู่ดูแลกันไป

“ไอ้รอยนี่ ไขก็คงโดน พี่เค้าแกล้งนั่นแหล่ะ แต่ถ้าไอ้มายมันพูดไม่เชื่อก็ช่างมัน ไขก็เคยคุยกันแล้ว”

“เด็กมันก็เป็นเด็กนั่นแหล่ะ”

“ก็นั่นสิ พี่วัฒน์ ไข ถึงไม่ค่อยอยากจะยุ่งกะเด็กอย่างมันเลย”

“เมื่อกี้ มันคงโกรธเราน่ะ ไข”

“เฮ้อ...”

“ก็ไปง้อ มันเสียหน่อย” ฟ้าใสก็พยักหน้ารับปากแกไป
.
.
.
.
เช้าวันนี้ เห็นแล้ว มอไซค์ มันจอด แต่ก็ไม่เห็นตัว ลองโทรเข้ามือถือ ก็ไม่รับ
จนเที่ยงก็ไม่โผล่

“เต้ ไอ้มาย ไม่มาเหรอวันนี้”

“ครับ พี่ มันคงเมา เห็นเมื่อวานมันนัดเพื่อนไปกินเหล้ากัน แล้วให้ผมไปส่งบ้าน แล้วก็ให้มอไซค์เอามาใช้นี่แหล่ะ พี่”

“เออ ดี เมาจนไม่มาเรียนนะ”
.
.
.
“เต้ วันนี้ไอ้มายก็ไม่มาเหรอ” ฟ้าใสเดินตรงไปหาไอ้เต้ เมื่อเห็น มันขี่มอไซค์ไอ้มาย มาคนเดียว

“ฮื่อ ครับ”

“แล้วมันเป็นอะไร ถึงได้ไม่มา” ฟ้าใสถามหน้านิ่ว คิ้วเริ่มผูกโบว์

“ก็ผมก็โทรถามมัน ว่าจะให้ไปรับเปล่า เจอมันหงุดหงิดใส่เอาด้วย ว่ามันจะนอน”

“อ้าว แล้วมันไม่มาเรียนเหรอ”

“ผมก็ไม่รู้ มันบอกไม่สบาย ก็พอพูดเสร็จมันก็ตัดสายเลย อ่ะพี่ไข”

ฟ้าใสลองโทรหามันอีกครั้ง มันก็ไม่ยอมรับสาย  จนเข้าเรียน
พอถึงเที่ยง กินข้าวเสร็จลองโทรตามมันอีกครั้ง คราวนี้รับแหะ

“มีอะไร” เสียงแข็งใส่ มันนึกว่าเขาเป็นพี่มันบ้างไหม

“ทำไมไม่มาเรียน” ทำเสียงแข็งใส่มันบ้าง

ตี๊ด.... มันวางหูใส่เขา

ตี๊ด ตุ๊ด ติ๊ด ๆ ๆ ๆ ตุ๊ดๆ ๆ  ฟ้าใสส่ง SMS ไปว่า

“อยากตายหรือไง ไม่มาเรียน” 555

ตื้อดึ๊ด... เมสเสจกลับมา

“แน่จริงก็มาฆ่าให้ตายเลยสิ”
.
.
.
“เต้  เดี๋ยวเย็นนี้กลับด้วยคนนะ ไปส่งบ้านไอ้มายให้หน่อย”

“ได้ พี่”

“ดี บางทีจะให้พาคนไปส่งโรงพยาบาลบ้าด้วยคนหนึ่ง”

“ฮะ ฮะ ฮ่า”
.
.
.
“ให้ผมอยู่ด้วยเปล่า” ไอ้เต้ถามฟ้าใส เมื่อเอารถมาจอดส่งถึงในบ้าน

“อยู่ด้วยสิ มาเยี่ยมคนบ้าด้วยกันนี่”

“ไม่เอาดีกว่า” เต้พูดขึ้น เหมือนเอาตัวรอดดีกว่า

“อ้าว เต้..” เสียงน้าผู้หญิงไอ้มาย ทักขึ้น พร้อมกับเดินลงมาจากบ้าน

“สวัสดี ฮะ” ทั้งฟ้าใส และไอ้เต้ หวัดดีน้า

“มาเยี่ยมมาย ครับ เห็นว่าไม่สบาย” ฟ้าใสบอก ขออนุญาต

“ตามสบายจ๊ะ น้าไปก่อนล่ะ ต้องรีบไปเข้าเวรต่อ”
.
.
.
“มาทำไม” เสียงคนป่วยนอนซมบนเตียง คนป่วยมันทำเป็นชำเลืองหน่อยหนึ่ง แล้วหันกลับไป

“เต้ ยืมเทปวัดระยะหน่อยสิ จะสั่งขนาดโลงได้ถูก”

“ไอ้เต้ พาใครมา พากลับไปด้วย จะนอน คนไม่สบาย ยังจะมากวนกันอยู่ได้”

“เอ่อ...พี่...ผมกลับแล้วกัน ไอ้มายจะเอารถไว้ใช้เปล่า”

“....” เงียบไม่มีสัญญาณตอบรับจากคนป่วย

“งั้น ผมขับกลับหอนะ พี่ไขจะให้ไปส่งก็โทรบอกแล้วกัน ผมไปล่ะ”

“....”

“....”

“เฮ้อ....” ทั้งเสียงเฮ้อ...กึ่งถอนหายใจของฟ้าใส

“มาทำไม” เสียงปั้นปึ่งจากคนตัวโตนิสัยเด็ก

“ก็บอกว่าจะมาวัดโลงไง เห็นอาการหนักจนไปโรงเรียนไม่ได้” ฟ้าใสกวนตอบอย่างใจเย็น

“กลับไปเลย รบกวน คนจะนอน”

“ไหน เป็นอะไร ไม่สบายเหรอ” เอื้อมมือไปอังหน้าผากคนนอนซมอยู่บนเตียง

“อะไร ตัวไม่เห็นร้อนเลย” แถมนอนเปิดแอร์สบายใจ

“อย่างงี้ เค้า เรียกเป็นโรคขี้เกียจต่างหาก” ฟ้าใสนั่งลงข้างคนนอนป่วยหันหลังงอนตุบป่อง

“...”

“นี่ พรุ่งนี้ไปเรียนนะ” สะกิดแขนคนป่วยเบาๆ

“...”

“นอนมาก แล้วหลังยาวนะเธอ”

“...” เบื่อเด็กขี้งอนก็เพราะอย่างงี้ๆๆๆๆๆๆๆเห็นไหมล่ะ

ฟู่ว!!!! ฟ้าใสแกล้งเป่าลมใส่หูมัน เพราะอยากไม่หือไม่อือ

ตุ๊บ !!!! โดนเยอรมัน ซูเพล็กซ์พลิกตัวกอดเหวี่ยงไปนอนหงายเค้งเก้ง ให้คนป่วยมันนอนก่ายเป็นหมอนข้าง
หันไปมองหน้า คนป่วย ที่นอนทำน้ำตาคลอ จมูกเชิดปากยื่น

เพิ่งจะนอนกกเป็นแม่ไก่ฟักไข่ ไปไม่กี่วัน นี่ต้องทำอีกแล้วเหรอ...
ไปผ่าตัดเสริมมดลูกเลยดีไหม กรู จะได้ออกลูก ออกไข่ เป็นแม่ไก่จริงๆ
หึ!!! เสียงพ่นจมูก ดีนะขี้มูก ไม่ออกมาด้วย ไอ้เด็กบ้า
 :m16:
“กินข้าวหรือยัง”

“ไม่กิน”

“ไม่หิวเหรอ” แต่ฉันหิวเฟ้ย เรียนเสร็จ ตรูยังไม่ได้กิน แค่เปลี่ยนเสื้อก็ติดรถไอ้เต้มาที่นี่แหล่ะ

“ไม่หิว”

“โอ๋ โอ๋ โอ๋...” ไม่อยากทำอย่างงี้เลย นึกในใจ คิดแล้วอ่ะน่ะ

จ๊วบ !!! หน้าผาก
ได้ผล ไอ้ปากมุ่ยๆ เริ่มเหยียดยิ้ม 1เซ็นต์ครึ่ง แล้วกลับมาเม้มปิดสนิทอีก ไอ้บ้า นี่ยอมให้สุดๆแล้วนะ
ฟ้าใสพลิกจะลุกขึ้น โดนไอ้แขนแกร่งดึงไว้อยู่

“ไป ไป๊ ลุกได้แล้ว นายไม่ได้ป่วยซะหน่อย ไปกินข้าวได้แล้ว ฉันหิวแล้ว”

“ไม่ อีกที” คนป่วยชี้ที่แก้ม ไอ้บ้า โลภมาก ก็ได้ว่ะ ฟ้าใสยื่นหน้าไปจูบแก้มมันก็ได้

จ๊วบ!!!
มันขี้โกง เอาปากรับ พลาดแล้ว รีบถอยกลับ ตามฉบับการทำศึกสงครามเมื่อเพลี่ยงพล้ำให้ศัตรู
 ฟ้าใสเบี่ยงศีรษะหนี กลับเจอทัพใหญ่ตีโอบล้อม



TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.7(.4) (2/11/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: goonglovenut ที่ 02-11-2012 08:31:26
ดีที่ฟ้าใสไม่ใจอ่อนกับไอ้พี่ลิฟท์ แต่แกล้งแรงนะพี่ o18 มายก็หนักแน่นหน่อย ฟ้าใสอุตส่าห์ยอมให้ขนาดนี้แล้ว จะว่าไปฟ้าใสเป็นคนที่จิตใจดีนะ ถึงจะอ่อนไหวไปบ้างแต่เรื่องเอาใจใส่คนอื่นใช้ได้เลย ขอให้เจอคนจริงใจสักที :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.7(.4) (2/11/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 02-11-2012 10:30:34
เฮ้อ มายนี่   :เฮ้อ: เฮ้อจะรอดใหมเนี่ย

ขอบคุณมากค่ะ :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.7(.5) (2/11/12) อัพต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 02-11-2012 14:56:12
(ต่อ)

คนป่วยมันลุกขึ้นคุกคาม กดริมฝีปากตามชิมปากอิ่มลิ้มรสตามใจชอบ จิบ 1 จิบ 2 จิบ 3 เรียวลิ้นปาดไล้ กวาด ชิม
ทีละเล็ก ทีละน้อย แทะเล็ม ขบเม้ม ความหวาน นุ่ม เลยทำให้ฟ้าใสไม่อยากต่อต้าน พอเห็นคนตัวเล็กไม่ต่อต้าน
เลยได้ใจ เริ่มรุกรานรุนแรง จนฟ้าใสคราง “อื้อ...อา” จะหายใจไม่ออกเอา เลยยอมถอนปากออก
แต่ก็ยังใช้จมูกโด่งเป็นสันสูดไซ้แก้มเนียน ปากก็ยังคงต่อว่างึมงำ

“หายไปแล้วยังไปยุ่งกับมัน ผมโกรธจริงๆนะ” คนป่วยมันเริ่มซุกไซ้แรงขึ้น  มือก็เริ่มล้วงไปใต้เสื้อ

เห้ย..เห้ย..หยุด สต๊อป ก่อน เอ็ง อย่ามายุ่งกับหัวนมข้า
ไอ้เด็กเอาแต่ใจ เริ่มยุ่งกับเนื้อตัวฟ้าใส
มันก็วูบๆวาบๆ เสียวซ่าน เหมือนกัน คน ไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะ

“พี่ น่ะ ไปโดนมันทำอะไรมา”

หมายักษ์ เลียหน้าฟ้าใส หายใจฟืดฟาดรดต้นคอ จมูกโด่งที่ซอกไซ้ต้นคอ ปากหนาส่งจูบก่อนที่จะขบเม้ม ดูด ย้ำ

“อื้อ...อย่าดูดตรงนั้น..นะ..อะ..อา...” ฟ้าใสร้องห้าม เมื่อหมาบ้ายักษ์มันจงใจทำรอยที่ต้นคอประกาศความเป็นเจ้าของให้ทุกคนเห็น
ฟ้าใสขยุ้มผมหนาออกแรงดึง กลับกระตุ้นให้มันลงแรงย้ำรอยอีก
หลังจากดูดคอฟ้าใสจนเป็นรอยคิสมาร์ค สองมือ ที่ลูบไล้ผิวเนียนเลิกเสื้อขึ้นจนเห็นผิวขาวนวล เม็ดยอดอก
ที่ถูกกระตุ้นจนแข็งเป็นติ่งแข็งสีทับทิมระเรื่อ คราวนี้หมายักษ์เริ่มใช้ลิ้นเลียไล่จนทั่วผิวนวล

“อื้อ...อะ..อุ๊บ..”  เสียงครางที่เปล่งออกเมื่อโดนคนตัวโตใช้ปลายลิ้นเลียรอบติ่งเม็ดยอดอก ฟ้าใสบิดตัว
เมื่ออีกฝ่ายขบเม้มยอดอก มือแกร่งถอดเสื้อออกเหวี่ยงไปข้างเตียง
ร่างขาวโพลน มีรอยแดงจ้ำ
มายตาวาวเมื่อเห็นรอยเขียวที่เนินไหล่

“บอกมาเลย มันทำอะไรมั่ง พี่ยังมีรอยที่มันทำไว้ตรงไหนอีก” เด็กขี้อิจฉา แกะกระดุมกางเกงฟ้าใส

“ไอ้บ้า..หยุดเลย” ฟ้าใสเริ่มด่ามัน เอามือดึงมือมันออก แรงอย่างเขาจะไปต่อต้านมันได้ไง
ร่างใหญ่โน้มตัวลงกอดเขาไว้

“พี่เป็นของผม รู้มั้ย ผมจะลบรอยมันออกให้หมด” พูดจบมันก็กัดย้ำรอยฟันทับรอยม่วงๆเขียวๆที่จางลงบ้างแล้ว
จนเป็นรอยฟัน ซี่ๆ เรียงเป็นร่องกลมๆ ของหมาบ้าตัวโตที่กอดทับเขา แขนหนึ่งโอบรัด  แขนหนึ่งยังคงดึงรูดปลดกางเกง เขาออก

“เออๆ นายก็อย่าโมโหดิ ไม่มีอย่างอื่นหรอกน่า แค่ที่ไหล่ที่เดียว ฉันก็บอกว่าเลิกกับเขาแล้วไง”

“รอยบนตัวพี่ ผมทำได้คนเดียว”

ไอ้เด็กบ้ามันปลดเสื้อผ้าเขาออกจนเหลือแต่ชั้นใน ขยับจะพูด ก็โดนมันจูบอีก มือหนาสอดในกางเกงในขาสั้นบีบก้นกลม
ฟ้าใสงอขาถีบใส่ ไอ้เด็กลามปาม

“พี่ไม่รักผม ทำร้ายผมอีก”

อ๊าค!!! กรูสิกำลังจะโดนเมริงกินอยู่นะ ดูสิกัดจนเลือดซิบเลย รอยที่ไหล่กำลังจะหายอยู่แล้ว
พอมันโดนเขาถีบขาใส่ เลยจับตัวเขาพลิกคว่ำ
ท่าอันตรายจริงๆ

“นี่เหรอ ที่เดียว” หมาบ้าเห็นรอยดูดที่ปรากฏด้านหลัง เหนือแนวสะโพก จมูกไซ้ปากกดจูบซ้ำ ดูดเม้มจนเป็นรอย

“โอ้ย” ฟ้าใสร้อง

“พี่เจ็บเหรอ...” น้ำเสียงถามอย่างเป็นห่วง น้ำเสียงบ่งระคนแค้นตามมา “...ผมน่ะเจ็บกว่า”

โอย กางเกงในโดนมันถอดไปแล้ว โกรธมันจริงๆแล้วนะไอ้มาย ฟ้าใสโมโหจนร้องไห้
ร่างสูงใหญ่ขบเม้มทำรอยที่ต้นขาด้านใน
ในเมื่อพูดกันก็ไม่เชื่อ
เจ็บใจจนต้องกัดปากตัวเองข่มอารมณ์จนเลือดออก
.
.
.
.
วันนี้ไม่มีเสียงโต้ตอบระหว่างฟ้าใสกับมัน
เลี่ยงได้ก็เลี่ยง
ตอนซ้อนมันมา คิดว่า ถ้าโดนมันบ่นว่าอะไร จะลองกระโดดลงทั้งที่กำลังขับอยู่
แต่พอนึก ก็ไม่รู้จะทำประชดคนอื่นให้ตัวเองเจ็บตัวไปทำไม
พรุ่งนี้วันเสาร์ เขารู้แล้วว่าจะทำอะไร
.
.
ตรืดดดด ตรืดดดดด  เสียงรอสายดังไม่นานก็รับสาย

“สวัสดีฮะ พี่โม่ง”

“หวัดดี ไข” เสียงทุ้มนุ่มทอดเสียงอ่อนรับ

“พี่สบายดี หรือเปล่าฮะ”

“อือ...ก็สบายดี แต่ก็มีเรื่องยุ่งนิดหน่อยน่ะ แล้วไขล่ะ สบายดีหรือเปล่า เรา”

“ก็สบายดีพี่ ตอนนี้ไขอยู่เชียงราย พี่ พรุ่งนี้เลยว่าจะแวะไปเที่ยวหาพี่ลำปาง”

“อ้าว...มาเลย ดีแล้ว จะได้เป็นเพื่อนดูมะนาว พี่กำลังกังวลอยู่”

“อ้าว..พี่โม่งมีธุระอะไรหรือเปล่า พี่ ไขจะไปรบกวนหรือเปล่า”

“ไม่... ไม่...” โม่งรีบปฏิเสธ แล้วพูดต่อ “อาจารย์เบญ เขาไม่สบายน่ะ  อยู่โรงพยาบาล...”

“งั้น ไขไปดูแลมะนาวให้ก็ได้นะพี่ ไขว่างทั้งเสาร์-อาทิตย์เลย” ฟ้าใสรีบเสนออย่างดีใจ

“ฮื่อ...งั้นเหรอ ไม่รบกวนไขนะ ไขจะมาเที่ยว ก็อดเที่ยวนะสิ”

“โอ้ย...ไขแค่มาเปลี่ยนบรรยากาศเท่านั้นน่ะพี่โม่ง เดี๋ยวไขจะทำอาหารให้มะนาวกินเองด้วย”

“อาหารที่ว่านี่มีผักไหมเนี่ย ลูกพี่ทานผักได้นะ”

“555 โห พี่  พูดอย่างงี้ ไขเสียหน้านะ” ถึงต่อว่าแต่รอยยิ้มเปื้อนอยู่บนใบหน้า
เสียงปลายสายหัวเราะเบาๆ สอบถามเวลา พร้อมบอกว่าจะไปรับที่ท่ารถโดยสาร
.
.
พี่โม่งที่อยู่ในใจของเขาเสมอ
.
.
.
ตั้งแต่ไปรับคนตัวเล็กจากสถานีขนส่งเมื่อ 9.30น. พากลับเข้าบ้าน ที่บ้านของโม่งก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
เสียงหัวเราะที่เกิดจากการดัดแปลงนิทานจนมีตัวประหลาดโผล่ขึ้นมากมาย แถมเจ้าชายยังกระโดดสกายคิกค์ใส่มังกรจากยอดปราสาท
โม่งมองหนุ่มร่างเล็กที่นอนอิงหมอนสามเหลี่ยมใบโต ข้างตัวมีมะนาวลูกชายเขาหัวเราะส่งเสียงเอิ๊กอ๊าก
ทำตัวบิดหนีการไล่ล่ามือเล็กๆที่กางมือแสดงแทนมัมมี่โจมตีเอว ไหล่ ซอกคอ เด็กน้อย
จำได้ว่าหนังสือนิทานในบ้านไม่มีเรื่องไหนมีมัมมี่เลยนะ  แล้วมัมมี่ที่ไหน จะเป็นลูกสมุนแม่เลี้ยงขี้อิจฉาที่ออกมาจู่โจมรถฟักทองของซินเดอเรลล่า
.
.
“มะนาว พ่อไปเยี่ยมคุณแม่ก่อนนะครับ” โม่งลูบหัวเด็กชายตัวน้อย

“ครับ” เสียงรับคำสั้นๆ หันหน้าไปรอฟังนิทานหลอกเด็กจากฟ้าใสต่อ

“อ่ะ พี่ไปแล้วนะไข” ว่าจะไม่ทำเหมือนหนุ่มน้อยหน้าหวานเป็นเด็กแล้วนะ แต่เจ้าตัวก็ยังเหมือนเด็กหนุ่มน้อยสำหรับเขาอยู่ดี
 ตาแป๊วที่มองมา รอยยิ้มใสที่ส่งมาให้เมื่อเขาเอ่ยชื่อ มือใหญ่แตะเบาๆลูบผมนุ่มอย่างทนุทนอม
รอยย้ำตรงคอ ใช่ว่าเขาจะไม่เห็น แม้เจ้าตัวพยายามเอียงปิดซ่อนเร้น

“เด็ก 2 คน อย่าพากันซนนะ”

“โหย...พี่โม่ง” ฟ้าใสโอดครวญ ส่งสายตาค้อนใส่ พี่โม่งก็เหมือนพี่โม่งปี 4น่ะแหล่ะ

“มะนาว ดูแลอาไขด้วยนะ”

“ครับ มานาวจาดูแลอาไขไม่ให้ซน และให้กินข้าวให้หมดจานด้วย” มะนาวท่องจำตามแพทเทิร์น ที่เคยได้ยินแม่สั่ง

“ไม่ต้องเลย พี่โม่ง ไขรู้แล้วว่าพี่โม่งจะพูดอะไร เดี๋ยวไขจะหัดกินผัก” ฟ้าใสพูดตัดหน้าอย่างรู้ตัว นึกในใจ ไม่กินหรอก!!!

“555 รู้ตัวก็ดีแล้ว มะนาวดูให้อาไขกินผักเยอะๆนะ”

“หึ...” ร่างเล็กค้อนใส่เต็มวง

“พ่อไปล่ะ...พี่ไปนะ”

“ฮะ/ครับ” คนตัวเล็ก ตัวน้อย รับคำอย่างพร้อมเพรียง

โม่งต้องไปดูอาการของอาจารย์เบญภรรยาที่ตั้งแต่กลับมาจากการไปออกค่ายร่วมกับนักศึกษาก็ไม่สบาย รักษาหายไปแล้วครั้งหนึ่ง ก็กลับมามีไข้สูงอีก


TBC....
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.7(.5อัพต่อ) (2/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 02-11-2012 16:41:42
ไม่ได้แช่งนะ สงสัยจะไม่รอด อิอิ รอพี่โม่งคนเดียว 1 เดียวในดวงใจ

ขอบคุณมากค่ะ  :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.7(.5อัพต่อ) (2/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 02-11-2012 17:48:06
ไม่ได้แช่งนะ สงสัยจะไม่รอด อิอิ รอพี่โม่งคนเดียว 1 เดียวในดวงใจ

ขอบคุณมากค่ะ  :L1: :pig4: :L1:

หุ หุ หุ แอบคิดเหมือนคุณarisa_sa แหละ(ไม่ได้แช่งเหมือนกัน แค่แอบคิดเฉยๆ)  
สงสัยฟ้าใสคงจะได้ปลอบใจพี่โม่งกับหนูมะนาวกระมัง
พยายามคิดว่าพี่โม่งกับฟ้าใสน่ะ ขอให้เป็นคู่กันแล้วต้องไม่แคล้วกัน
ส่วนมายน่ะ ขอบอกว่าชักจะเริ่มรำคาญแกแล้วนะมาย
 
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.7(6อัพต่อสั้นแต่จะให้บ่อยอย่าว่ากันนะฮะ) (3/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 03-11-2012 12:59:54
มาลงให้ก่อนฮะ กลัวตอนต่อไปต้องปั่นยาว
 :pig4:

((ต่อ))

ขณะที่ลิฟต์นั่งเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ ในใจก็นึกถึงหนุ่มตัวเล็กหน้าหวาน
ฟ้าใสตัดใจจากเขาได้จริงๆเหรอ  เขาอุตส่าห์ขึ้นมาง้อ จะมาขอโทษ
นั่นเป็นเพราะไอ้เด็กเวรนั่นคนเดียวแหล่ะ มันกล้าดีอย่างไงมาพูดใส่หน้าเขาว่า คนร่างเล็กของเขา เป็นเมียมัน
ยั่วให้กรูโมโหเอง ตอนที่ฟ้าใสเป็นเมียไอ้โภชน์ เพื่อนเขา เขายังอยากได้ เขายังเอามาเป็นของเขาได้

อย่างไงเขาก็มาก่อน ไอ้เด็กอย่างงั้นฟ้าใสจะเลือกมันทำไม
แล้วที่เขาทำเพราะอยากให้ฟ้าใสเห็นนิสัยที่แท้จริงของมันต่างหาก
ถ้ามันเห็นรอยจูบที่เขาทำไว้ ตามจุดต่างๆที่ต้องสัมพันธ์พิเศษเท่านั้น ถึงจะใกล้ชิดขนาดนั้นได้
 ลิฟต์คิดไปก็ทำหน้ายิ้มเยาะไอ้เด็กหนุ่มที่ชื่อมาย

ถ้ามันจะโกรธ ก็ต้องโกรธตัวมันเอง ที่เข้ามาเป็นมือที่สาม ระหว่าง เขา กับ คนร่างเล็กของเขา
ไม่มีมัน เขาง้อคนตัวเล็ก ไม่ถึงเดือน ก็ต้องยอมใจอ่อนตามเขากลับบ้าน

ถ้าอยากเปิดร้าน เขาลงทุนให้ก็ได้ หาแม่ครัวมา คนตัวเล็กไม่ต้องมาเหนื่อย เฝ้าร้านไป รอเขามาหา
แค่นี้ชีวิตก็มีความสุข เป็นเพื่อนกันไปจนแก่เฒ่า ถ้าอยากเที่ยวก็บอก เขาก็พาไปได้

นึกแล้วก็เซ็ง ทีกับสาวคนอื่นไม่เห็นเขาต้องคอยง้ออย่างงี้เลยว่ะ ขนาดตอนแรกที่สนใจเพราะเห็นว่าเป็นแฟนไอ้โภชน์
ยอมรับล่ะว่าอิจฉามัน เห็นมันพีคสมบูรณ์แทบทุกอย่าง ขนาดมีเมียเป็นผู้ชาย พ่อแม่มันก็ยอมรับ น้องสาวมันก็ยอมรับ
ช่วยกันทำงาน ขับรถได้ เที่ยวด้วยกันได้ ดูหนังฟังเพลง พูดคุยรู้เรื่อง

แล้วเขาล่ะ ทั้งที่ตอนเรียนม.ต้นด้วยกันแข่งกันสูสี สอยดาวโรงเรียน มาหลายราย อาศัยว่า กรูมีรถขับผู้หญิงก็เลือกกรู

แล้วสุดท้าย คนที่เคียงข้างเขา ความรู้ก็แค่ม.3  วันๆก็กินแต่ส้มตำปูปลาร้า ตกเย็น ปาร์ตี้กินเหล้า คาราโอเกะ ถึงงานบ้านจับบ้างก็เหอะ
ขับรถก็ไม่เป็น จะไปไหนแต่ละที่ เดือดร้อนเขาต้องไปส่งไปรับ กรูก็ขี้เกียจขับรถติดๆ ขับไปทำงานได้เงิน กรูยังขี้เกียจ
นี่ต้องขับรถไปส่ง แล้วต้องเสียเงิน  เลี้ยงบรรดาเพื่อนเมียอีก
พี่สะใภ้ พี่สาว ก็ทำเป็นดูถูกเมียกรูอีก  พี่สาวเค้าซะอีก กับคุยถูกคอกับฟ้าใสของเขา เพราะหลานเขากับหลานคนตัวเล็ก นี่เป็นเพื่อนกัน

กรูอยู่บ้านแล้วก็เหมือนอยู่คนเดียว ไม่มีคนคู่ใจคู่คิด อย่างไอ้โภชน์มัน มาเห็นตัวเล็กหน้าใส หัวเราะยิ้มร่าเริงกันอีก
กรูก็อยากได้มั่งอ่ะเด่ะ ตอนแรกก็ว่าจะลอง จนได้โอกาส แอบลักหลับ โคตรตื่นเต้น แฮปปี้โคตรๆ

แต่ต้องโทษตัวเองที่เสน่ห์แรง เป็นตู้เย็น สาวๆเลยมาแปะติดไปหมด อยากดีดไข่ตัวเอง สันดานจริงๆ
ขนาดว่าจะขึ้นมาง้อไอ้ตัวเล็ก  สัญญาจะเลิก  ห่าเอ๊ย!!! ดันมีสองสาวดอยพี่น้อง อายุแค่ 14กะ15 เอง ปิ๊งใส่ ไอ้เราเจือกอยากลอง แมร่ง!!!

เดี๋ยวเจ้าตัวเล็กของเขากลับไปจะเป็นไงบ้างนะ หายมาอยู่กับเขา 2วัน กลับไปมีรอยที่ตัวแบบนั้น 
ขอให้เด็กเวรมันเห็นแล้วก็เลิกกับคนตัวเล็กของเขาซะ

ถ้าวิธีนี้ยังทำลายความสัมพันธ์กับไอ้เด็กเวรนี่ไม่ได้ เขาจะยอมปล่อยมือก่อนก็ได้ แต่อย่าให้มีโอกาสแล้วกัน
นึกว่าเห็นแก่น้ำใจที่คนตัวเล็กมีให้แก่เขาน่ะเนี่ย กรูไม่ใช้ยา ไม่ใช้กำลังปล้ำเมียเมริงดีแค่ไหน ไอ้เด็กมาย !!!

เหอะ!!! เมีย!!! เมริงคิดไปเองคนเดียวนะดิ สาสสสส...
.
.
.
.
อนุวัฒน์ เห็นไอ้หนุ่มร่างสูง มานั่งซึม ที่ลานจอดรถตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
หนุ่มตัวเล็กร่วมห้องก็ออกไปตั้งแต่ยังไม่สว่างนัด รปภ.ที่ออกกะ ตี5 ให้ไปส่งที่สถานีขนส่ง บอกเขาเพียงว่า จะไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่ลำปาง
พอเห็นไอ้มายมานั่งรอวันนี้อีก คงเปล่าประโยชน์

“มาย กินข้าวหรือยัง”

“เอ่อ...ยัง พี่  เอ่อ พี่ฟ้าใส ไม่อยู่เหรอพี่ เขาไปไหนเหรอ ครับ”

อนุวัฒน์ว่าจะชวนไอ้มายนั่งคุย แต่ก็มีคนอื่นๆมาร่วมนั่งทานด้วย สุดท้ายเลยชวนมันขึ้นไปนั่งคุยที่ห้อง

“มาย เราชอบฟ้าใสเขาเหรอ”

“ครับ”

“อ้าว แล้วเราไม่ชอบผู้หญิงเหรอ”

“แต่ก่อนผมเคยชอบน่ะ ก็ธรรมดาทั่วไปน่ะพี่ ก็วัยรุ่นน่ะพี่ แต่เดี๋ยวนี้ผู้ชายสวยๆก็เยอะ แล้วผมเคยเห็นพี่ฟ้าใสมาก่อน แค่เห็น ผมก็อยาก...พอมาเจออีกก็...”

“เราก็เลยจีบเขา” อนุวัฒน์เริ่มแปลกใจไอ้มาย พอเจ้าตัวได้ยินคำว่า “จีบ” เสือกเขินอีก มือไม้ทำเป็นหยิบโน่นเปิดนี่ที่กองหนังสือของรูมเมทเขา

“แหม ก็..ไม่รู้สิพี่ ผมก็จีบไม่เป็น รู้แต่ว่าผมต้องดูแลพี่เขาอ่ะ”

“แล้วมายเคยรู้จักฟ้าใสมาก่อนหรือเปล่า”

“เปล่า พี่..”เด็กหนุ่มพูดเสียงสูง “ผมเห็นพี่ฟ้าใสยังนึกว่าเป็นผู้หญิง เป็นทอมเลย ตัวเล็กๆบางๆ นั่งร้องไห้ที่สนามบิน”

มายหวนนึกถึงวันแรกที่ได้เจอ “ผมส่งผ้าเช็ดหน้าให้ พอได้เห็นใกล้ ถึงรู้ว่าเป็นผู้ชาย แต่ผมก็ไม่สนใจหรอกจะชายหรือหญิง
ผมคิดแล้ว แค่เป็นพี่ เป็นพี่ฟ้าใสก็คือพี่ฟ้าใส จิตวิญญาณตัวตน ความรู้สึกของพี่เขาที่ผมสัมผัส”

“อืม...” อนุวัฒน์พยักหน้ารับฟัง พยายามอินจนเริ่มอึนไปกับเด็กหนุ่ม

“ยิ่งบังเอิญมาเจอกันที่นี่อีก...”

“แต่ก็เพิ่งเจอกันนี่เอง...พี่เขาก็...” อนุวัฒน์ยังพูดไม่ขาดคำ ไอ้มายก็รีบพูดขึ้น

“ระยะเวลาไม่เกี่ยวหรอก...พี่...พรหมลิขิตต่างหาก” เสียงเจ้าตัวมุ่งมั่น เด็ดเดี่ยว
พูดพลางจะออกท่าทาง มือปัดไปโดนหนังสือในกองที่เจ้าตัวคนพูด หยิบไปจัดมา

ปุ๊บ!!! หนังสือที่ฟ้าใสหยิบมาจากบ้านพี่โม่ง พลิกๆไปจนเจอโบร์ชัวร์ เปิดรับสมัคร เรียนทำอาหารหลักสูตรครบเครื่อง
ปูทางสู่เชฟ ฟรี โดย ร.ร.การอาหารนานาชาติ ร่วมกับสถาบันพัฒนาสังคม จังหวัดเชียงราย

คุ้นๆ มุมหนังสือก็หักๆ นี่มันหนังสือของไอ้ปิ๊ก ที่เขายืมมา ว่าจะสำรวจที่เที่ยว ถ่ายรูป ตอนมาสมัครเรียน แล้วดันลืมว่าไปวางทิ้งไว้ที่ไหน ไอ้ปิ๊กมันก็ไม่ได้ทวง


Tbc…
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.7(.6อัพสั้นให้ก่อนกลัวตอนหน้ามันยาว) (3/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: goonglovenut ที่ 03-11-2012 13:20:35
แอบคิดเหมือนสองรีบนเลยว่าเมียพี่โม่งคงอาการแย่แน่ แต่ไม่ได้แช่งนะ ส่วนล่าสุดอ่านแล้วรู้สึกอยาก :z6:
ไอ้ลิฟท์จริงๆกับความคิด ขออย่าให้ฟ้าใสกลับไปหามันเลย มายก็หนักแน่นหน่อยทำตัวง็องแง็งไปแล้ว :เฮ้อ:


อ่านเสร็จอกกไปทำงานก่อน เดี๋ยวโดนเจ้านาย :beat:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.8 (8/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 08-11-2012 04:24:38
Ch.8


มายหยิบหนังสือที่ตกมาเปิดดู ยิ่งแน่ใจว่าเป็นของตัวเองที่ยืมเพื่อนมา ก็รอยกาแฟที่ตัวเองทำเปื้อน ตรงขอบจนเลอะ
ไปหลายหน้า ในเล่มยังมี โบว์ชัวร์ที่ เขาเองเป็นคนขีดเส้นใต้ วันเวลาระยะการสมัคร วงรอบเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ในการติดต่อ

หนังสือที่เขาไปวางลืมไว้ที่ไหน สักแห่ง เมื่อคราวที่ขึ้นมาทำไมมาอยู่กับฟ้าใสได้

 “เอ่อ...พี่วัฒน์ ที่พี่ไข เค้าไปลำปาง เขาไปหาใครหรือครับ”

“เขาก็ไม่ได้บอก บอกว่าไปหาเพื่อนที่ลำปางก็เท่านั้น”

“อ่า..เหรอครับ” มายรับคำพยักหน้าอย่างใจลอย
ถ้าเขาตามไปลำปางบ้างล่ะ  บ้านพี่ชายที่ย้ายมาทำงานก็อยู่ที่นั่น

หึ !!! อาจมีโอกาสได้เจอกัน  ไม่สิ ต้องเจอกันสิ ในเมื่อ ทีจากกรุงเทพ มาอยู่ที่นี่ ยังได้เจอกัน
นี่ไม่ใช่บังเอิญหรอก มันเป็นด้ายแดงที่ผูกเขากับฟ้าใส ต่างหาก

“มาย เราทำอะไร เราก็ต้องนึกถึงใจของฟ้าใสเขาบ้าง ถ้าเราชอบเขาจริงนะ พี่ก็เตือนเพราะหวังดีน่ะนะ” อนุวัฒน์ พูดเตือนใจหนุ่มรุ่นน้อง

“ขอบคุณฮะ ...” เจ้าตัวก็ทำท่าเหมือนจะพูด แต่ก็นิ่งเสีย
.
.
.
.
มันก็จริงอย่างที่พี่วัฒน์แกพูด ที่ผ่านมาเขาแทบไม่ได้คิดเลยว่าฟ้าใสจะคิดอย่างไร รู้แต่ว่าตัวเองรัก
และจะดูแลคนร่างเล็กคนนี้ เท่านั้น เท่าที่เขาจะทำได้
ไอ้นิสัยขี้หงุดหงิดของตัวเอง มันก็แก้ยากนี่นา ก็คนมันเป็นแบบนี้ง่ะ
ยิ่งเห็นอีกฝ่ายหนึ่งยอมด้วย  น่าแอบโมเมว่าฟ้าใสก็ต้องชอบให้อยากดูแลสิ  ใครๆก็ต้องเข้าข้างตัวเองทั้งแหล่ะ
เราก็อยากแข็งแกร่ง เก่ง กล้า เป็นผู้นำใช่เป็นไอ้น้อง  ให้คนในบ้าน พ่อแม่ พี่ๆ เป็นห่วงอยู่ได้
.
.
มายโทรไปหาพี่ชายว่าเขาจะหา

“จะมาเมื่อไหร่ว่ะ มากี่วัน อ้าวแล้วพรุ่งนี้ล่ะ ไม่ช่วยเพื่อนเปิดร้านที่ถนนคนเดินหรือไง”

“โห พี่ ผมก็หยุดมั่งสิ ให้คนอื่นมันมีโอกาสจีบสาวบ้าง”

“พูดอย่างกะเอ็งมีแล้ว”

“โห ก็มีแล้วน่ะดิ ระดับนี้”

“แล้วจะมากี่โมงจะได้ไปรับ”

“ไปถึงสัก4โมงนะพี่”

“เออ มาถึงก็บอกแล้วกัน จะแวะไปรับ

หลังจากโม่งแวะรับน้องชายที่สถานีขนส่งก็ต้องกลับไปดูอาการของภรรยาที่โรงพยาบาล ซึ่งจะมีหมอมาดูอาการตอน 5 โมงเย็น
โม่งเลยต้องอยู่รอพบหมอ เพื่อสอบถามอาการ

“ไข้ขึ้นสูง อ่อนเพลีย รับประทานอาหารได้น้อย คงต้องดูอาการและให้น้ำเกลือ  ตรวจแล้วไม่พบอาการโรคแทรกซ้อน”

โม่งรับฟังอาการของภรรยา

 “ไอ้มาย พี่ว่าจะอยู่กับอาจารย์เบญจนถึง 2ทุ่มนะ เดี๋ยวไปส่งเราที่บ้านก่อนแล้วกัน อ้อ! พี่มีรุ่นน้องมาพักอยู่นะ
เดี๋ยวเอ็งนอนห้องมะนาว แล้วกัน เดี๋ยวพี่เอามะนาวมานอนด้วยเอง”

“ผมนอนไหนก็ได้” แค่ได้มาอยู่ที่จังหวัดเดียวกัน เขาก็ปลื้มใจ จะเจอกันหรือไม่เจอ ไม่สิต้องเจอดิ ด้ายแดงกระตุกออกอย่างงี้

“พี่โม่ง ที่บ้านยังมีมอไซค์ อีกคันใช่เปล่าอ่ะ เดี๋ยวผมยืมออกไปขับเล่นหน่อยนะ”

“อ้าว เฮ้ยอะไรว่ะ ว่าจะให้ช่วยเลี้ยงหลาน หนอยมาถึงก็จะเอาแต่เที่ยว” โม่งทำมือจะเบิ๊ดกระโหลก

“อ๊ะ พี่โม่งไม่มีคนดูมะนาวเหรอ เอ๊ย! ผมดูให้ก็ได้ จะได้มีเพื่อนกินเหล้า”

ป้าบ!!! คราวนี้ โม่งไม่แค่ขยับ ยกเท้าเหวี่ยงลูกแป เข้าก้น น้องชายเบาๆ ด้วยความเอ็นดู

“นี่แน่ะ”
“โห!!! ผมพูดเล่นหรอกน่า เดี๋ยวดูมะนาวให้เองแหล่ะ พี่จะไปทำธุระ ดูอาจารย์เบญก็ดูไปเหอะ ไม่ต้องห่วง”

“เออ ๆ ขอบใจว่ะ แต่ถ้าอยากออกไปเที่ยวก็ไปเหอะ ฟ้าใสเขาช่วยดูมะนาวให้แล้ว”

เดี๋ยวนะ พี่โม่ง พี่โม่งเอ่ยชื่ออะไรนะ ไอ้มายจี๊ดทั้งหัวใจและสมอง เหมือนโดนไฟฟ้าช็อตทันที ที่นึกได้ในหัว แต่ก็เอ่ยถามย้ำได้แต่เพียง

“พี่โม่งว่าอย่างไงนะ”

“หูมีปัญหาหรือไง เรา พี่บอกว่า มะนาวน่ะ รุ่นน้องพี่เค้าช่วยดูให้แล้ว เอ็งจะออกไปเที่ยวก็ไป”

“ไม่ ไม่ เมื่อกี้ ที่พี่พูดว่า อะไร อ่ะ ฟ้าใส น่ะ”

“ไอ้นี่ นี่ เออๆ ฟ้าใสทำไม ชื่อรุ่นน้องกรูเอง มาเมื่อเช้านี้ ได้จังหวะพอดี มาช่วยดูแลมะนาวให้ ไอ้เราก็ต้องออกมาดูอาจารย์เบญ
  สงสารมะนาว ไม่ค่อยอยากมาโรงพยาบาลเท่าไหร่ ธุระก็ต้องทำหลายอย่าง....”

“โอ๊ย...พี่อย่ามัวบ่น รีบกลับบ้านเหอะ ช้า ผมไปบ้านพี่ก่อนล่ะ”

โม่งยังพูดไม่จบคำเลยว่า ตั้งแต่คนตัวเล็กมา เขาเองก็ยังไม่ได้พูดคุยกันเท่าไหร่
มารับที่สถานีขนส่ง ทักทายกันได้นิดหน่อย พอเข้าบ้านไป คนตัวเล็กก็โดนจับจองโดยเจ้ามะนาวลูกชายเขา แล้วก็เลยอยู่ติดกันแจ

“พี่โม่ง จะเดินช้าอีกนานไหมเนี่ย” ไอ้มายแทบอยากจะใช้คำว่าเต่าคลาน ไม่ก็จะบอกว่าแก่แล้ว แต่ก็กลัวว่า ไอ้ลูกแปเบาๆจะเปลี่ยนเป็นก้านคอ

“ว่ะ!!! ไอ้นี่ กรูเป็นครูบาอาจารย์นะโว้ย เอ็งเกิดอยากกลับบ้านเร็ว แล้วจะให้กรูวิ่งในโรงพยาบาล รีบขับรถไปส่งเอ็งกลับบ้าน
หรือไง อยากเข้าห้องน้ำ ก็เข้าซะที่นี่ก็ได้ หรือจะรีบไปเอามอไซค์ออกไปร่อน”

“เหอะน่า ไม่มีอะไร ผมอยากเข้าบ้านพี่เท่านั้น”  งึมงำต่อ “พี่น่ะดู ER หรือเปล่า ในโรงพยาบาล เดี๋ยวมันก็วิ่ง เดี๋ยวมันก็วิ่ง
ใครๆก็วิ่งในโรงพยาบาลกันทั้งนั้น เรื่องฉุกเฉินน่ะ ฮู้บ่” ถึงบ่นไป แต่บ่นแค่เบาๆ พอได้ยินคนเดียว

โม่งมองหน้าไอ้มาย แล้วก็กล่าวเบาๆว่า

“เอ...แล้วพวกที่บ้านเขาจะเอาอะไรหรือเปล่า...ไอ้มาย เอ็งก็ยังไม่ได้อะไรนี่หว่า เดี๋ยวแวะซื้ออะไรก่อนเข้าบ้านไหม”

“ไม่เอาอะไร หร็อกพี่โม่ง  อ๊าว..พี่ก็สตาร์ทรถซะทีสิ”

“ว่ะ ไอ้ห่า นี่ เร่งจริงโว้ย เดี๋ยวก่อนสิ กรูโทรไปถาม...”โม่งที่หยิบมือถือออกมาจดๆจ้องๆคิดจะโทรเข้าไปถามคนที่อยู่ที่บ้าน
ว่าจะให้ซื้อของกินอะไรเข้าไปไหม

“โอ๊ย...โอ๊ย..พี่ไม่ต้องโทรเลย” มายพูดจบก็คว้ามือถือพี่ชายแย่งมาถือไว้    ขืนให้โทรไปหาคนที่หนีเขามาอยู่บ้านพี่โม่ง 
เกิดฟ้าใสรู้ว่าเขากำลังจะไปหา เกิดโกรธเขาแล้วก็หนีไปอีกล่ะ

ป้าบ!!! โอ๊ย!! พี่โม่งนี่มือไว โว้ย ตบหัวเลย

“ไอ้มายเอ็งนี่เพี้ยนใหญ่แล้ว” โม่งบ่นหลังจากเบิ๊ดกะโหลกน้องคนเล็กไปแล้วก็ส่ายหน้า แต่ก็ยอมสตาร์ทรถ ขับกลับบ้าน

“เออ เออ ผมปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำ อยากช่วยเลี้ยงหลาน อยากเอาของไปเก็บ เท่านั้นน่า” พูดไปก็หน้างอ
คนเค้าจะรีบไปหาแฟน พี่โม่งนี่ ชักช้างุ่มง่ามไม่เข้าใจหัวอกคู่แท้บุพเพสันนิวาส ชิส์

“บ๊ะ!!! ไอ้นี่ งอนแล้วหรือไง” โม่งถอนหายใจ รีบขับกลับบ้าน ไปส่งไอ้เด็กไม่รู้จักโต
.
.
.
โม่งจอดรถชิดริมรั้วหน้า ไอ้ตัวดีเผ่นลงรถเปิดประตูรั้วเข้าบ้านไปก่อนเลย เออ! มันสัญญาว่าเดี๋ยวถ้าที่บ้านเขาจะเอาอะไรมันจะออกมาซื้อให้
โม่งเดินหอบของก็พวกเสื้อผ้าที่ใช้แล้ว เมื่อคราวไปเฝ้าภรรยาเมื่อวันก่อน ทั้งชุดของมะนาว ที่เปลี่ยนแล้วตอนที่ไปเลิกเรียนก็ไปเยี่ยมอาจารย์เบญด้วยกัน

อะไรว่ะ โม่งมองไปที่ภาพตรงหน้า เมื่อก้าวเข้าไปในบ้าน ที่ห้องนั่งเล่น ไอ้มายยืนหลังโซฟาโอบไหล่กอดคอฟ้าใส
ที่นั่งบนโซฟาในมือมีหนังสือ บนตักมีมะนาวนอนเอาศีรษะหนุนหลับสบาย

มะนาวหลับ ตอนเย็นไม่แปลก

ฟ้าใสนั่งอ่านหนังสือ ก็ไม่แปลก

ที่แปลก น่ะ ไอ้ตัวโตๆร่างควายๆของมันที่เพิ่งเผ่นลงจากรถเขา แปลงร่างไปเป็นปลิง เกาะคนตัวเล็กของเขาได้ไง
ภาพแบบนี้ เขาก็เคยคิด เคยฝัน แต่มันเป็นหน้าเขา ตัวเขา ไม่ใช่หน้าไอ้มาย
เดินเอาของเข้าไปวาง คนตัวเล็กกระพริบตาปริบๆ เอ่ยเบาๆ

“พี่โม่ง....”
เออ...ตรูไม่ได้ฝัน คนตัวเล็กขยับตัวได้ กระพริบตาได้ พูดออกเสียงได้ยิน ไอ้ปลิงควาย ยังเกาะคนร่างเล็กไม่ปล่อย
โม่งเริ่มคิด

ไอ้มายน้องเขาก็มาจากเชียงราย

ฟ้าใสก็มาจากเชียงราย

ฟ้าใส ธรรมดาก็เกรงใจ มาคงมีอะไรไม่สบายใจ คอก็โดน..จนแดง ปากก็บวมเจ่อ หรือว่ามันไปก่อเรื่องกับคนตัวเล็ก
รู้จักคงรู้จักแน่ ไม่งั้นมันไม่ไปเกาะกอดคอฟ้าใสซะแน่อย่างงั้น หนอย!!!ไอ้นี่ น้องก็น้องเหอะว่ะ ตื้บสักทีเถอะ

ไขนี่หรือเปล่า ที่ไขมาหาพี่  โม่งอยากถามคนตัวเล็ก แต่เดี๋ยวก็อาจไม่ตอบ

“ไอ้มาย...”โม่งเอ่ยเสียงเย็น ๆ

ปลิงควายเงยหน้ามอง ทำหน้าสำนึกผิด น้ำตาคลอ  ได้ผู้ต้องหาแล้ว
ผู้ร้ายยังคงยึดหลักฐาน ของกลางไว้ไม่ยอมปล่อย
โม่งเดินไปเกาะปลิงออกจากคนร่างเล็ก ลากออกมาให้ห่างกันไว้ก่อน
ผู้ร้ายสำนึกผิด ยอมปล่อยของกลาง ก้มหน้า เดินตามตุลาการโดยดี

“ผม...โมโห...เลย...รังแกเค้าอ่ะ”

พลั่ก!!!

โม่งร่อนหมัดฮุกใส่หน้าปลิงควายตัวโต

ท่าทาง ไอ้น้องชายตัวดีมันก็ทนมือทนไม้จริงๆ ชกไป ก็เจ็บมือ ฮึ่ย....อยากเรียกไอ้ม่อนมาจัดการจริงๆ คงได้วิ่งในโรงพยาบาลแน่
นึกถึงโรงพยาบาลแล้ว  ตัวเองก็ยังมีภาระที่ต้องทำอยู่ เฮ้อ!!! โม่งต้องถอนหายใจอีก
.
.
มายถึงจะมีเลือดจะออกบ้างนิดหน่อย ความเจ็บก็ไม่เท่าที่อยู่ในใจ ของตัวเอง

“ผมรักพี่ฟ้าใส” โม่งได้ยินเต็มสองหู เออ กรูก็รักฟ้าใสเหมือนกัน ไอ้มาย

สิ่งที่อยากพูด แต่โม่งก็ไม่กล้าที่จะพูดออกมา


TBC...

หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.8 (8/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: goonglovenut ที่ 08-11-2012 08:39:54
คาดไม่ถึงอะ o22
โอ้ยแล้วทีนี้จะทำไงล่ะ ยังไงก็ขอให้เคลียร์กันได้นะ :call:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.8 (8/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: DIIK ที่ 08-11-2012 09:08:12
บร๊ะ!
แทงหวยทำไมไม่ถูกแบบเน้!!

คิดไว้แล้วว่าสองคนนี้พี่น้องกันแน่ๆ
ยังไงวินาทีนี้ก็เชียร์พี่โม่งสุดใจขาดดิ้นอยู่ดีค่ะ

มายไม่ไหวหรอก = =
เด็กเกินไปที่จะเข้าใจความรักแบบนี้ *สะบัดป๊อบ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.8 (8/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 08-11-2012 09:59:28
ไม่ไหวจะเคลียร์ เฮ้อ   :เฮ้อ:  เอาไงดีอะฟ้าใส สู้ๆๆนะลูก
 :z3: :z3:

ขอบคุณค่ะ  :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.8 (8/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 08-11-2012 20:49:40
โอ๊ย...โอย...โอ๊ย...โอย ขอกัดลิ้นตัวเองตายเล่นๆแทนฟ้าใสซักวันสองวันดีปะเนี่ย
  :dont2::dont2:ทำไม้ ทำมาย...เป็นแบบนี้........
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.8.1 (9/11/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 09-11-2012 03:42:53
(ต่อ)

“เดี๋ยวตามกรูกลับไปโรงพยาบาลด้วยนะ ไอ้มาย” พูดจบไม่ทันขาดคำ ไอ้เด็กตัวโตสวนกลับทันที

“ไม่!!! พี่โม่ง ผมไม่ไป ผมจะอยู่กับฟ้าใส” ทันทีตอบเสร็จ ร่างสูงก็แปลงกายไปเป็นปลิงเกาะติดฟ้าใสต่อ

มายเห็นว่าในเมื่อพี่ชายก็ไม่ได้จะลงโทษหรือต่อว่าอะไรแล้ว สงสัยไม่อยากทำรุนแรงต่อหน้าเด็ก ผู้หญิง และสตรีมีครรภ์
ดี!! ในเมื่อพี่โม่งก็รู้จักฟ้าใส ความเกี่ยวดองก็ง่าย สองเราก็จะเป็นหนึ่ง
มายซุกหน้ากับผมนุ่มสลวย
.
.
ถึงจะแปลกใจว่าทำไมฟ้าใสมาอยู่บ้านพี่โม่ง
บ้านพี่โม่งใครๆก็มาพักบ่อยๆ ก็เขามาบางทีก็เจอพี่จุ๋ย บ้าง พี่เซียนบ้าง มีที่เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องก็มักจะห่างกันปีเดียว
 ที่เป็นรุ่นน้องห่างกันหลายปี แบบฟ้าใส ไม่เคยเห็นมาบ้านพี่โม่งมาก่อน
.
.
“ไอ้มาย  ออกมา” โม่งขัดหูขัดตาจนอยากเดินไปจิกหัวไอ้น้องชายตัวดี

“....” เงียบไม่มีคำตอบรับ แต่ไอ้ท่าทางการปฏิบัติ

มายส่ายหัว โอบกระชับวงแขนรอบตัวฟ้าใสมากขึ้น

“หยุดนะโว้ย...ไม่ต้องไปแตะต้องฟ้าใสเค้าอีก”

ฟังซะที่ไหน....มะนาวก็นอนหลับอยู่บนตัก

ฟ้าใสที่นั่งอยู่ อยากแกล้งทำตัวเองเป็นตุ๊กตาหิน นั่งอ่านหนังสืออยู่ดีๆ ได้ยินเสียงคนเปิดประตู ก็นึกว่าพี่โม่งกลับมา
กลับกลายเป็น ไอ้เด็กบ้า หมายักษ์ ที่ฟัดเขาซะจนช้ำไปทั้งตัว

โกรธก็โกรธ แต่ก็รู้ว่ามันรักเขา คนเรารักใคร เป็นอย่างไร ทำไมเขาจะไม่เข้าใจ ไม่รับรู้
เสียงวิ่งพรวดพลาดขึ้นบ้าน เสียงเรียกชื่อ หลังจากหายตะลึง ฟ้าใสรีบชี้ให้เห็นว่ามีเด็กน้อยนอนหลับบนตัก
แล้วเขาก็กลายเป็นตุ๊กตาให้หมายักษ์มันกอด

จากนั้น เขาก็ได้เห็นพี่โม่งกลายร่างเป็น ร้อยตำรวจเอกปลอมตัวมา สั่งสอนผู้ร้าย
ไม่เคยเห็นพี่โม่ง เข้มอย่างงี้มาก่อน
เท่ห์...สุดๆ
ถึงจะสงสารไอ้ผู้ร้ายก็เหอะ แต่มันก็ควรโดนลงโทษมั่ง ตั้งแต่รู้จัก มันก็เอาแต่ข่มขู่ฟ้าใสตลอด
...แต่มันก็...ทำอะไรต่ออะไร ทั้งดูแลเขา...ไม่ว่าอะไรตั้งมากมาย

ตอนช่วงสงกรานต์ ที่ฟ้าใสไม่อยากออกไปข้างนอกเลย เพราะชอบโดนแกล้งมาตั้งแต่เด็ก ก็คนมันตัวเล็ก
โดนก็เหมือนโดนทำอยู่ฝ่ายเดียว มันเลยเจ็บใจอยู่ลึกๆ ไอ้มายที่อยากจะพาฟ้าใสออกไปเที่ยว ไปกินข้าวกับเพื่อนมันให้ได้

ฟ้าใสไม่อยากโดนพวกแก็งค์สาดน้ำคลอง ก็เล่นตั้งกองกันริมคลอง น้ำที่สาดก็ตักมาจากคลอง

ยี้!!! หน้าพังก็เด่ะ ขี้หมงขี้หมา ฝนตกก็ลงไปอยู่ในนั้น มันก็แสนพยายามเลี่ยงวกไปวนมา ให้ฟ้าใสหลบมุดหัวเข้าไปในเสื้อ 
เขาต้องนั่งซ้อนมอไซค์มันไปโดยที่ไม่เห็นอะไรเลย นอกจากแผ่นหลังของคนข้างหน้า
พอโดนหยุดรถ ก็ต่อรองให้สาดมันคนเดียว   จนถึงที่หมาย ฟ้าใสเอาหัวออกมา ถึงเห็นว่ามันเขลอะไปทั้งตัว ทั้งแป้ง ทั้งสี
ตัวเปียกโชก น้ำหยดติ๋งๆ แต่ฟ้าใสโดนประมาณ 3 ซู่ ได้มั๊ง ขนาดเสื้อข้างหน้า เขายังมีส่วนแห้งอยู่เลย

เอาเหอะ...โดนแค่นี้ สำหรับไอ้หมาบ้าก็ดีแล้ว
หมัดพี่โม่งก็คงหนักอยู่ ทั้งปากทั้งจมูกมีเลือดออกเลย ดีว่าแค่นิดหน่อยอ่ะ
ฟ้าใสเห็นหน้าพี่โม่งที่ทำตาดุๆ ก็ไม่กล้ากระดุกกระดิก

ก็นี่ล่ะ อยากทำให้พี่โม่งโกรธ มารังแกฟ้าใส ให้มันรู้มั่งว่าฟ้าใสลูกศิษย์ใคร…
เอ๊ะ!! ไอ้มายเป็นน้องพี่โม่งเหรอ ใช่เหรอ นามสกุลก็ไม่ใช่ นามสกุลพี่โม่งฟ้าใสจำไว้ในดวงใจ
 ศิลปินใหญ่ สุรพงษ์  วิเศษสรณ์  ที่ฟ้าใสตามอ่านข่าว ชื่อที่ตามเสิร์ชในกูเกิ้ลทั้งภาษาไทยและอังกฤษ 
ส่วนไอ้มาย นาย สุรนาท นามสกุล อินทราไชย    ฟ้าใสก็เป็นคนเขียนชื่อทำปกรายงาน
ทำไมจะไม่รู้จักนามสกุลมัน อาจเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน  วันหลังค่อยถาม แต่วันนี้ฟ้าใสอย่าแหยมดีกว่าเป็นตุ๊กตาหินน่ะดีแล้ว

เด็กน้อยที่อยู่บนตัก เริ่มขยับตัว ฟ้าใสก้มหน้ามอง

“อามาย!?” มะนาวกระพริบตา มองหน้ามายที่เสนอหน้าแนบชิดหน้าฟ้าใส
ฟ้าใสเอามือ ความจริงอยากเอาส่วนอื่น ผลักหน้ามันให้ออกไปให้ห่างๆ

“มะนาวตื่นแล้วเหรอ หิวหรือยัง” ฟ้าใสจับตัวมะนาวลุกขึ้น

โม่งมองหน้าไอ้น้องตัวกวนแล้วรีบเดินไปหาคนตัวเล็กทั้งคู่

“มะนาว ทานอะไรหรือยังลูก” โม่งอุ้มมะนาวขึ้นในอ้อมอก แล้วลงไปนั่งข้างคนตัวเล็ก

“มะนาวหลับไปนานหรือเปล่านี่ไข” อย่าไปสนใจไอ้วิญญาณฮอลโล่ข้างหลังเลย

“ชั่วโมงกว่า อ่ะ พี่โม่ง” ฟ้าใสพูดไปเริ่มทำหน้าเหยเก เหน็บกินอ่ะ

“อ้าว!! เป็นอะไร เหน็บกินเหรอ” โม่งที่นั่งเคียงข้างอุ้มมะนาวบนตัก เอามือจับที่ต้นขา

“โอ๊ะ!! อุ๊ จั๊กจี๊พี่ อย่าโดน” ฟ้าใสรีบจับมือพี่โม่งออก

“พี่ไขเหน็บกินเหรอ ผมนวดให้” วิญญาณฮอลโล่ข้างหลังรีบก้าวพรวดมาตรงหน้ายื่นมือจะมานวดเฟ้นบีบคลึง

“ไม่ต้อง ไอ้มาย ฟ้าใสเขาจั๊กจี๊ เอ็งไม่ต้องไปยุ่ง โน่น...ไหนบอกจะไปซื้ออาหารมาไง ใครจะทานอะไรบอกอามายเลยนะครับมะนาว เอาอะไรลูก  ไขล่ะจะทานอะไร”

“ว้า ไขว่าจะโชว์ฝีมือทำอาหารเลี้ยงมะนาวกับพี่โม่งซะหน่อย อุตส่าห์ไปเรียนมานะเนี่ย”

“กินได้เหรอ...อุ๊บ!!!” ไอ้มายพูดไปตามนิสัยปากเรียกร้องความสนใจ ซึ่งได้ผล

“ไอ้มาย!!!” เสียงใส เสียงทุ้ม  ร้องโวย แต่เสียงทุ้มไม่ได้มาแต่เสียง

เพี๊ยะ!! เสียงเบิ๊ด กะโหลก

ฟ้าใสทำหน้าย่นใส่ สมน้ำหน้ามัน ชอบว่าเขาดีนัก
มายคลำศีรษะ  มองหน้า ทำหน้ามู่ใส่ ลืมไปว่าตอนนี้คนตัวเล็ก มีตาแก่เซอร์แลนสล็อต คุ้มครองอยู่
พี่โม่งนะ พี่โม่ง ดูท่าทางทั้งหวงทั้งปกป้องฟ้าใสเกินไปแล้วนะ ถึงจะรู้ว่าพี่ฟ้าใส อ่อนแออ้อนแอ้นกว่าผู้ชายปกติ
หน้าตาสะสวยจิ้มลิ้ม ปากแดงน่าจูบ เอวบางร่างน้อย ตัวก็หอม แก้มก็เนียน ผิวก็นุ่มน่ากอด

“อามาย อามาย เจ็บเปล่าฮะ คุณพ่อไปตีอามายทำไม”

“โอย..มะนาว อามายเค้าไม่เจ็บหรอก โดนมอเตอร์ไซค์ชน อามายเค้ายังวิ่งปร๋อ  ส่วนมอเตอร์ไซค์ล้มกลิ้งกระเด็น
ไปแปดตลบ พ่อตีอามายเพราะอามายทำผิด พ่อก็ต้องทำโทษอามายไงครับ”

นี่แหล่ะ ทำอะไรต่อหน้าเด็ก ถึงต้องระวัง

“งั้นคืนนี้อามายระวังฉี่รดที่นอนนะครับ เพราะแม่บอกว่า อย่าเล่นตีหัวกันเดี๋ยวฉี่รดที่นอน”

555 ทุกคนต่างขำความช่างพูดของหนูมะนาว

“จ้า อาจะระวัง”

“งั้นอามายมานอนกับมะนาวก็ได้ เดี๋ยวมะนาวจะปลุกอามายไปเข้าห้องน้ำเอง”

“ไม่เป็นไรจ๊ะ อามายตัวใหญ่ นอนกับมะนาวไปเบียดมะนาว เดี๋ยวอามายกลิ้งไปทับมะนาวแบนแตร๊ดแต๋”
คืนนี้อามายจะนอนกับอาฟ้าใสจ้า วะฮะ ฮ่า

“อ้าว อามาย ไม่นอนห้องมะนาวเหรอ ก็ดี งั้นมะนาวจะได้นอนกับอาฟ้าใส กัน 2คน”

“เฮ้ย!! ไม่ใช่ อามายจะนอนกับอาฟ้าใส ที่ห้องนอน รับแขกไง”

“ไม่!!!!” สามเสียงสามวัย ต่างร้องตะโกนประท้วง

โม่งชักรู้สึกว่า พอไอ้น้องชายตัวดีมานี่ ถึงบ้านจะดูอบอุ่นด้วยความรักดี แต่มันดูจะหนาแน่นไปไหม แถมไอ้ตัวดี
มันทำให้เขาต้องฟอร์มหลุดบ่อยๆ กำลังคิดว่าจะได้อยู่กับลูกศิษย์คนโปรด...

“อาฟ้าใสนอนกับมะนาวต่างหาก อาฟ้าใสสัญญากับมะนาวแล้ว ว่าจะเล่านิทานเรื่องทำไมทะเลถึงเค็มด้วย”

“ครับ ครับ อาใสจะนอนกับมะนาว แล้วจะเล่านิทานเรื่องทำไมทะเลถึงเค็มให้ฟังด้วย”

“ขออามายฟังด้วยคนสิ”

“ไม่ต้อง” พ่อหมีใหญ่ผู้พิทักษ์นักร่ายเวทย์สะกดเด็ก เอ่ยเสียงเหี้ยม “เห็นทีอามายของมะนาวต้องไปทำกับข้าวมา
ให้พวกเราทานแล้ว ติคนอื่นดีนัก ไปเข้าครัวโชว์ฝีมือเลย เรียนก็ไปเรียนมาแล้ว ขอดูฝีมือหน่อยสิ พัฒนาขึ้นระดับไหนแล้ว”

“หมายความว่าไง พี่โม่ง มายเค้ามีฝีมือทำอาหารเหรอ พี่โม่ง”

“ฮื่อ!! มายมันก็มีฝีมือทำกับข้าวอยู่บ้างล่ะ” โม่งก็ยอมรับ แต่ก็ไม่อยากชมมัน ยิ่งขี้คุยอยู่ “ก็แค่ทำเป็นแหล่ะ”

“โห อย่าเลย ผมน่ะ ทำอาหารเก่งกว่าพวกพี่ล่ะ ที่ไอ้ม่อนมันไว้ชีวิตผม ก็เพราะจะให้ผมทำกับข้าวให้กิน”


โม่งเห็นคำหล้าเดินเข้า จึงเอ่ยทัก

“ว่าไงหล้า มีอะไรเหรอ”

“เอ่อ อาจารย์โม่งจะให้หนูทำกับข้าวอะไร หนูตั้งข้าวเสร็จแล้วค่ะ”

“เออ..ดี ว่าจะเดินไปบอกอยู่ คิดอยู่ว่าจะออกไปกินข้างนอกดีหรือว่า...”

“ฮั่นแน่!!! เฮียอย่าบอกนะว่า ไล่ผมไปทำกับข้าว แล้วจะแอบพาฟ้าใสกับมะนาวไปกินข้างนอกกัน”

“บ๊ะ!!! ไอ้นี่!!!” โม่งอมยิ้มขยับยกมือ ท่าเบิ๊ดกระโหลก แค่ทำท่าไปงั้นแหล่ะ หยอกมัน ไอ้นี่รู้ทัน โว้ย!!!
ก็เดี๋ยวต้องไปเฝ้าอาการเมีย จะปล่อยฟ้าใสไว้กับไอ้น้องตัวดี ถึงจะมีมะนาวอยู่ก็เหอะ ไม่ค่อยน่าไว้ใจ เลย  เฟ้ย...

“ไปทำแกงจืดเต้าหู้ไข่ ใส่สาหร่ายด้วย ผักเยอะๆ นอกนั้นคิดเอาเอง” โม่งสั่งเมนูกับเชฟใหญ่ของตระกูล

“หล้า กับข้าวน่ะ ไปช่วยพี่มายเค้าก็ได้ แต่เดี๋ยวให้พี่มายเค้าโชว์ฝีมือเองนะ”

“ไข่เจียวหมูสับ ไข่ยัดไส้ อะไรก็ได้ ผัดผักรวมมิตร ก็ได้ ไปดูของเอาเอง” โม่งบอกส่งๆ ไป
 เขาก็ไม่ค่อยยุ่งกับพวกงานบ้าน  อาจารย์เบญจะเป็นคนดูแลรับผิดชอบทั้งหมด ถึงใครจะแอบว่าแอบนินทา
 ว่าอาจารย์เบญจับเขา เพราะอายุมากกว่า  หน้าตาก็ไม่สวยสะ แต่เธอก็ดูแลครอบครัวไม่บกพร่อง
ทำให้เขาเองมีเวลาพอที่จะสามารถทำงานศิลปะ เขียนรูป  จนปีหนึ่งๆ มีผลงานมากพอที่จะจัดแสดงนิทรรศการได้
 หากบางปีที่สร้างสรรค์งานได้แต่ชิ้นใหญ่ๆ ได้ชิ้น 2ชิ้น ก็ยังโดนขอให้ไปแสดงร่วม

โม่งถึงคิดว่า อาจารย์เบญมีบุญคุณ เป็นภรรยาที่ดี เขาก็ไม่ควรประพฤตินอกใจ ให้เกียรติ และเป็นสามีที่ซื่อสัตย์
แต่เรื่องของใจ ใครจะบังคับกันได้

ฝีแปรงของงาน พลิ้ว ราวจะปลิวไปกับสายลม ฝากความรู้สึกระลึกถึง คนไกลตัว ที่บัดนี้มานั่งอยู่ตรงหน้า
บางครั้งกลับห้วนตัดตวัดหนัก เพราะต้องเก็บกดซ่อนความรู้สึกตัวเองไว้
ทำงานหนัก สูบบุหรี่จัด คำนิยามที่คนรอบข้างของเพื่อนอาจารย์ที่วิทยาลัย และเพื่อนฝูงเก่าๆ
.
.
“เดี๋ยวผมทำกับข้าวไม่มีผักให้ ไม่ต้องห่วง” มายแอบกระซิบข้างหูฟ้าใส ใจจริงอยากหอมแก้มนวลสักฟอด

แต่ดูท่าคงถูกเฮียเตะก้านคอแน่ ถ้าทำไป มายแอบทำย่นปาก ดี!! ไปบังคับฟ้าใสให้กินผักเข้าไปเหอะ พี่โม่ง
เขาจะได้ทำคะแนนความดีความชอบ ก็เขาไม่เคยบังคับ เอ่อ... ถึงจะบ่นบ้าง ก็ไม่เคยบังคับจริงจัง
ถ้ามีติดมา เขาก็ช่วยเขี่ยให้คนตัวเล็กด้วยซ้ำ  เวลาสั่งอาหาร เขาก็คอยย้ำคอยสั่งกำชับ ไม่เผ็ด ไม่พริก ไม่ผัก
.
.
.
ระหว่างกินข้าวไป
มายเล่าถึงการเรียนทำอาหารของฟ้าใส อย่าเรียกว่าเล่าเลย น่าจะเรียกว่า “เผากัน” ดีกว่า

“จนป่านนี้ พี่ไขเขาก็ยังแยกไม่ออกระหว่างโหระพากับใบกระเพรา” ฟ้าใสแอบเตะหน้าแข้งคนเอาความลับมาเปิดเผย

“หึ หึ หึ...” โม่งหัวเราะขำคนตัวเล็กเบาๆ เอามือตบหัวฟ้าใสเบาๆอย่างเอ็นดู

“ฮึ!!! ไม่ต้องมารุมเลย ใครจะเก่ง ดี แบบบ้านพี่ล่ะ เออ แล้วทำไมมายมันทำกับข้าวได้ล่ะพี่” ธรรมดาผู้ชายเค้าต้องทำไม่เป็น อย่างฟ้าใสดิ 

“บ้านพี่ เป็นร้านอาหารตามสั่งน่ะ แค่ร้านเล็กๆนะ ธรรมดาๆนี่แหล่ะ ไอ้มายน่ะ มันเด็กสุด เลยอยู่บ้าน เป็นลูกรัก เลยโดนให้เป็นลูกมือ...”

“ เลยได้วิชาจอมยุทธ์ตะหลิวปลิดวิญญาณ มาคนเดียว”

ฟ้าใสก็ยังสงสัยเรื่องนามสกุลที่ทำไมนามสกุลพี่โม่งกับไอ้มายไม่เหมือนกัน แต่ก็เกรงใจไม่กล้าถามคิดว่าเป็นเรื่องในครอบครัว

“เห็นบอกว่าพี่ คนอื่นก็ไม่เป็น มายยังมีพี่อีกเหรอ”

“โอ๊ย!!! อย่างงั้น อย่าไปเรียกว่า “พี่” เลย มีอย่างที่ไหน ตื้บน้องซะเกือบสลบ” ไอ้มายพูดไปก็ค้อนลมค้อนแล้ง

“อ้าว ทำไมล่ะพี่” ฟ้าใสหันไปถามพี่โม่ง

“555 ก็เอ็งนี่น๊า” โม่งพูดพลางหัวร่อขำไอ้มาย แล้วหันมาอธิบายให้ฟ้าใส

“นายม่อน เขาเป็นพี่ชายไอ้มาย อายุมากกว่าฟ้าใส ปีหนึ่ง อ่อนกว่าพี่ 3ปี พี่กับมายนี่คนละแม่ แม่มาย เค้ามาแต่งกับพ่อพี่
ต่างฝ่ายต่างมีลูกคนละคน คือ พี่ กับนายม่อน ต่างฝ่ายก็เป็นม่าย พวกญาติกันที่แหล่ะแนะนำ พอมาอยู่กันถึงมีไอ้มายนี่แหล่ะ
พี่ก็นับถือแม่มายเหมือนแม่พี่นี่แหล่ะ เพราะฉะนั้นต้องคอยสั่งสอน” โม่งเอามือผลักหัวน้องชายเล่น

เหอะ!!! เอ็นดูเรานะ แต่ผลักหัวซะแรงเชียว ทีลูบหัวพี่ฟ้าใสนะ ลูบเบาๆทนุทนอมเชียว ลำเอียงชัดๆ - - น้องสุดที่รักนินทาพี่ชายในใจ

“คราวนั้น ไอ้มายกับไอ้แชมป์ มันเมาแล้วก็เถียงอะไรกัน สุดท้ายท้ากันไปมา เพื่อนก็เพื่อนซี้กัน จนต่อยกัน ไอ้ม่อนก็อยู่ ก็เลยจัดให้ ตื้บซะทั้งสองคน จนคลานทั้งคู่”

“ใช่ แล้วยังอ้างเหตุผลอีก เพื่อความยุติธรรม ไม่เข้าข้างใคร ความจริงมันน่ะซาดิสม์ ยังไม่นับรวมที่มันเอาขวดเบียร์ตีหัวผมด้วย”

“โอยๆ วีรกรรมนาย เริ่มเยอะขึ้นนะ คิดผิดหรือเปล่านี่ ที่คบด้วย” ฟ้าใสพูดออกไป ก็คิดอยู่ว่าอะไรติดๆปาก

“โหดีใจ ฟ้าใสบอกว่าคบอยู่กับผม” กรูว่าแล้ว

“ฉันหมายถึงคบเป็นเพื่อนกัน คบที่เรียนคอร์สเดียวกัน ต่างหาก” ฟ้าใสอายพี่โม่ง หลบสายตามองจานตรงหน้า

เฉไฉช่วยตักข้าวป้อนมะนาว

ทำไมเขาคบใครต้องโดนพี่โม่งรับรู้ไปด้วยตลอดเลย ทั้งๆที่ไม่อยากให้พี่โม่งต้องรับรู้อย่างที่สุด มันเหมือนโดนประจาน
ความไม่ซื่อสัตย์ จิตใจไม่มั่นคง ทั้งที่ในใจฟ้าใสก็มีพี่โม่ง รักพี่โม่งที่สุด คิดไป คอก็ตื้นตันจนรู้สึกกลืนอะไรไม่ลง
อยากรวบช้อนอิ่ม

วันที่ส่งพี่โม่งเมื่อ 10ปีก่อน คิดรอจนกว่าพี่โม่งจะกลับ ไม่เคยคิดว่าจะมีใครดี ใครเก่ง เท่าพี่โม่งของฟ้าใส
ในใจไม่เคยนับถือใครเกิน คนคนนี้

ชีวิตกลับต้องผ่านไป ...
หลายครั้ง...กับน้ำตา
สุดท้ายก็ต้องมาจบที่นี่
.
.
.
ไอ้น้องชายที่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไร โม่งชวนคุย อย่าไปสนใจมันเลยไขเอ๊ย!!!

“แล้วไขขึ้นไปเรียนที่นั่นได้ไงล่ะ ไม่เคยเห็นเราสนใจด้านนี้มาก่อน”

“ก็ที่ไข ขึ้นมาหาพี่โม่งคราวก่อน เจอหนังสือเที่ยวเชียงรายแล้วมีโบว์ชัวร์รับสมัครอยู่ ไขยังขอยืมจากพี่โม่งไปไงพี่
 เพราะคงเบื่อๆไม่อยากอยู่บ้านน่ะ”

“ว่าแล้ว!!! หนังสือนั่นของผมเอง ถึงว่า พี่ไขเอามาจากไหน นี่แหล่ะบุพเพสันนิวาส”

โม่งนึกอยากถีบตัวประกอบ ฉาก พ่อแม่ลูก ที่กำลังนั่งกินข้าว กัน 3 คน ออกไปนอกฉาก จริงๆ

“พี่ไม่ว่าอะไร ใช่เปล่า ไขแอบไปสมัคร เรียนที่เชียงราย ไม่บอก ไม่ปรึกษา พี่โม่งเลย”

“ไม่หรอก ไขก็โตแล้ว



TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.8.1 (9/11/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 09-11-2012 11:36:05
ยาวไป ยาวไป เรีอยๆๆมาเรียง รอฟ้าใสเสมอ ตอนนี้กุ๊กกิ๊กไม่ค่อยเจ็บอิอิ

ขอบคุณมากค่ะ   :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.8.1 (9/11/12) อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: goonglovenut ที่ 09-11-2012 12:03:05
ตอนนี้น่ารักดี แอบลังเลซะแล้ว อยากให้ฟ้าใสกับมาคู่กับโม่งนะถ้าเป็นไปได้ :เฮ้อ:
ส่วนมายก็ดีแต่นิสัยเด็กๆไปหน่อย เอาล่ะคู่ใครก็คู่เถอะขอให้รักฟ้าใสก็พอ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.8.2 อัพ(10/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 10-11-2012 00:58:37
ต่อ


“ไม่หรอก ไขก็โตแล้ว พี่จะไปว่าอะไรเราล่ะ” โม่งส่งยิ้มบางๆให้ แล้ว ลูบหัวหนุ่มร่างบางอย่างเข้าใจในทุกอย่าง
.
.
.
มายมองความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ แม้เชื่อในวิถีทางบุพเพสันนิวาสที่ดลบันดาลให้ตัวเองได้พบเจอฟ้าใส
จนกระทั่งได้มาอบรมร่วมกัน

แต่ภาพที่เห็นตรงหน้า ถ้าหากเขาไม่ส่งเสียงพูดหรือแสดงตนออกไป ทั้งคู่คงไม่คิดว่ามีเขาอยู่
จากหน้าสดใสของชายหนุ่มเริ่มแปรเปลี่ยน ที่หัวคิ้วขมวดมุ่นแทบผูกเป็นโบว์ติดของขวัญ

“มะนาว อิ่มหรือยังครับ เหลืออีก2คำ ทานให้หมด” มายจงใจพูดขึ้นพร้อมเอื้อมมือมาเกลี่ยข้าวใส่ช้อนให้เด็กน้อยที่ถือโอกาส
จ้องดูทีวีรายการการ์ตูนระหว่างที่พ่อและอาฟ้าใสนั่งคุยกัน

เสียงมาย เรียกความสนใจของคนทั้งสองให้กลับมาดูมะนาวที่นั่งระหว่างคนทั้งคู่
.
.
“พี่โม่ง ไม่รีบไปโรงพยาบาลเหรอ!!!”

ดูมัน รีบไล่ข้า เหรอ ไอ้มาย เดี๋ยวเอ็งจะโดน โม่งคิดในใจ หากใจหนึ่งก็โล่งใจที่อย่างน้อยเขาก็สบายใจว่าฟ้าใสมีคนดูแล
แม้คนนั้นจะเป็นไอ้น้องชายตัวดี ถึงมันจะบ้าบอ เอาแต่ใจตัวเองบ้าง แถมไอ้นี่มันก็ขี้งอนสุดสุดๆ จนแม่เองก็ระอา
แต่เห็นง้อกันตลอด มันถึงได้ เป็นแบบนี้

“เออ..ไขไปเยี่ยมอาจารย์เบญด้วยกันไหมล่ะ มะนาวล่ะไปเยี่ยมคุณแม่ไหมครับ”

“อื้อ...ดี พี่ ไขก็อยากไปเยี่ยมอาจารย์เบญเหมือนกัน แต่จะขอตามไปก็เกรงใจว่าจะไปรบกวน แถมห่วงมะนาวด้วย”

“มะนาวน่ะ เขาก็ไม่ค่อยชอบไปหรอก คราวก่อนที่อาจารย์เบญเขาเข้าโรงพยาบาล ต้องรักษาตัวอยู่ 2 อาทิตย์
พี่สอนเสร็จ รับมะนาวไปอยู่ที่โรงพยาบาล จนมะนาวเบื่อ ไม่ค่อยชอบโรงพยาบาลเลย”

“อาฟ้าใสไปมะนาวก็ไป”

“ครับ ครับ” ฟ้าใสรับคำเด็กน้อย

“มะนาว ไม่ไปก็ได้นะลูก อยู่บ้านกับอามายก็ได้” โม่งเองก็ตามใจลูก ทั้งอยากมีโอกาสคุยกับหนุ่มร่างบางส่วนตัว

“ฟ้าใสไป ผมก็ไป” เด็กตัวโต 185 ตวัดเสียงห้วน เอ่ย ขึ้นบ้าง “ไม่ต้องกันผมเลย พี่โม่ง หึ!!”

“ก็ตามใจ เอ้า!!! ไปกันทั้งหมดนี่แหล่ะ” โม่งเอ่ยต่อ

“ถ้าป้าศรีแพรมาเร็ว ไม่เกิน 3 ทุ่ม พ่อจะพามะนาวไปกินไอติม”

“เย้!!” มะนาวร้องรับคำอย่างดีใจ

“เอ่อ..พี่โม่งมันไม่ดึกไปเหรอ พี่” ฟ้าใสทักท้วง

“ไม่เป็นไร..นานๆทีน่า มะนาวก็นอนหลับไปตื่นหนึ่งแล้วนี่ ใช่ไหม มาย”

“ฮื่อ..ใช่ ใช่” มายช่วยสนับสนุน ก็หลานเขานานๆจะได้อยู่กันอย่างครึกครื้น
หากพี่สะใภ้ไม่ป่วย  มะนาวก็จะแค่ทำการบ้าน หัดอ่านหนังสือ ดื่มนม นอน
ชีวิตอยู่กันเงียบๆ พี่โม่งเอง ก็จะเข้าห้องทำงาน
พี่สะใภ้ถึงไม่มีข้อติเรื่องการเป็นแม่บ้าน แต่มายก็ลงความเห็นว่า น่าเบื่อ

ตอนพี่โม่งพาครอบครัวไปเยี่ยมพ่อแม่ที่กรุงเทพฯ แม่เขาเอง ถึงจะชมว่า ดูแลครอบครัวดี และก็แอบบ่นว่าเสียดายพี่โม่ง
ถึงฝ่ายหญิงจะฐานะดี เป็นลูกคนสุดท้องของครอบครัว พี่น้องก็รักใคร่ดี อย่างที่พอป่วย พี่สาว ก็จะมาดูแลนอนเฝ้าให้
บางครั้งหากมีเหตุต้องไปต่างจังหวัดกับทางโรงเรียน ก็จะมารับมะนาวไปดูแลให้
มายพาลคิดว่า หากเขาพาฟ้าใสไปเป็นลูกสะใภ้อวดแม่บ้าง แม่เขาจะว่าไงน๊า
แต่ว่า พี่ฟ้าใสก็น่าจะเข้ากับผู้ใหญ่ได้ดี หน้าตาก็น่าเอ็นดูกว่า

มายมัวแต่คิดว่าฟ้าใสเหมือนทอม จนแทบลืมว่าฟ้าใสเป็นผู้ชาย แล้วพ่อแม่เขาจะยอมรับได้หรือไม่...
.
.
.
.
มายจับศีรษะคนที่พิงหลับข้างตัวไม่ให้เลื่อนหล่น
คำสัญญาที่ให้กับพี่ชาย

“ถ้าผมรังแกเขาอีก ผมจะนอนให้พี่โม่งกระทืบเลย เรียกไอ้ม่อนมาจัดการด้วยก็ได้”

เรื่องดูแลฟ้าใส เขาก็ต้องดูแลอย่างดีอยู่แล้ว แทบไม่ต้องให้พี่โม่งมาสั่ง เพราะนั่นเป็นสิ่งที่เขาคิดทำตั้งแต่แรกเห็น
ดีใจที่คิดไปหาพี่โม่ง ได้ทั้งเจอฟ้าใส แถมยัง พี่ชายก็ยอมรับ

มายจูบที่ผมสีน้ำตาลอ่อนด้วยความรัก...
.
.
.
.
.
การปฏิบัติ คอร์ส อบรมสอนทำอาหารใกล้จบแล้ว อาหารเวียดนาม อินเดีย ญี่ปุ่น ตะวันตก ไทย เบเกอรี่ เครื่องดื่ม แกะสลักฯลฯ
หลังจากผ่านการสอบ มาตรฐานการทำอาหาร อย่างทุลักทุเล

ฟ้าใสสอบคนละวันกับไอ้มาย แน่นอน ฟ้าใสโดนเรียกไปเก็บตัว ซุ่มซ้อม กว่าจะได้นอน เกือบตี หนึ่ง
วันสอบจริง ยำวุ้นเส้น  ขณะจัดจานสวยงามเตรียมส่ง ไอ้มายก็เป็นผู้ช่วยตรวจตราฝ่ายผู้คุม คอยหักคะแนน
ความจริงอาจารย์ก็เมตตา หรอก ถึงเอาเพื่อนกันมาเป็นผู้ช่วย มันจะได้คอยเตือนกัน

ทั้งๆที่ฟ้าใสเตรียมจะส่งแล้ว จัดไปจัดมา เห็น โต๊ะข้างๆ ประคับประคองจัดวุ้นเส้น ก็ฉุกใจคิดได้ว่า
ตัวเองลืมหั่นวุ้นเส้น ไอ๊หยา!!! ตายแน่  วุ้นเส้นยำเสร็จแล้ว แกะสลักหัวจานวางแต่งเรียบร้อย
ขืนขยุ้มวุ้นเส้นเอาออกมาวางหั่นบนเขียง กรูสอบตกแน่ หน้าซีด หันรีหันขวาง
พระเอกก็มาทันใด

“เป็นอะไร”

“มาย ฉันลืมหั่นวุ้นเส้นอ่ะ เอาไง”

“เฉยไว้ เดี๋ยวหากรรไกรให้ แล้วจะยืนบังให้”

ว่าแล้ว พระเอกก็แอบไปชั้นเครื่องมือ หยิบกรรไกรมาส่ง พร้อมยืนบัง ฟ้าใสก็แหง็บๆ ใช้กรรไกรตัดวุ้นเส้น พอสวยงาม รอดตัวไป
บรรดาผู้ช่วยแต่ละคน ในกระเป๋าเสื้อกางเกง จะมี หอม กระเทียม วัตถุดิบที่ผู้เข้าสอบหยิบมาเกิน เผื่อขาดเผื่อเหลือ
ก็ต้องช่วยกันแอบ เพราะถ้าหยิบของมาเยอะเกิน ก็จะโดนตัดคะแนน น้ำตาลปี๊บเอย...ก็ต้องแอบละลายทิ้ง
.
.
อาจารย์เหลือเวลาให้พวกเราได้ทบทวนอีก2อาทิตย์ ก่อนจะเริ่มออกฝึกงาน
ก่อนหน้านี้ 1เดือน ที่อาจารย์เชฟบอกให้พวกเรามองหาโรงแรมเพื่อขอฝึกงาน ช่วงเวลาที่เราจบและออกฝึก
ก็ตรงกับที่มหาวิทยาลัยราชภัฏก็ส่งนักศึกษาฝึกงานเหมือนกัน เลยทำให้หาที่ฝึกไม่ง่ายนัก
เพราะทางโรงแรมจะวุ่นวายที่ต้องดูแลรับพวกเรา พอวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ พวกเด็กๆบางคนก็ไม่กล้าไปขอ
หรือเข้าไปคุยกับฝ่ายบุคคลทางโรงแรม ก็จะขอร้องให้ฟ้าใสไปเป็นเพื่อน ทุกที่มักส่งให้ไปคุยกับหัวหน้าเชฟ
.
.
.
ช่วงโฮมรูมในตอนเช้า  อาจารย์เชฟก็ประกาศรายงานสถานะการแจ้งเรื่องฝึกงาน

“คุณศักดิ์นรินทร์ คุณวิลาสินี คุณสุรนาท คุณฟ้าใส โรงแรมอะมาร่า แซงชัวรี่ แจ้งมาว่า รับได้แค่ 3 ท่านนะครับ
พวกคุณต้องไปตกลงกันว่าใครจะเปลี่ยนไปฝึกที่ไหน รีบแจ้งผมด้วย”

“ชิส์ อิเอ้ นี่แหล่ะตัวดีไม่รู้จะตามทำไม” ศักดิ์นรินทร์ จีบปากจีบคำด่า คุณวิลาสินี

ฟ้าใสไม่อยากพูด ก็มันตามไอ้มายมานะสิ ทั้งที่ฟ้าใสเป็นคนโทรไปติดต่อสอบถามฝ่ายบุคคลก่อนว่าทางโรงแรม
รับนักศึกษาฝึกงานไหม รับคนที่ผ่านการอบรมจากสถาบันพัฒนาสังคม ไหม
จนฝ่ายบุคคลให้เข้ามาคุยกับรองหัวหน้าเชฟเองเพราะหัวหน้าเชฟไม่อยู่

สาวเอ้ ก็ทำเป็นเพิกเฉย ไม่ยอมออกจากลิสรายชื่อ ศักดิ์นรินทร์ ก็ไม่ยอมออก ก็เหลือ ฟ้าใสกับไอ้มาย
ไอ้มายเลยบอกว่ามันจะออกเอง ให้ฟ้าใสอยู่ไป

พอลองหาที่อื่น ไปดูบรรยากาศบ้าง ฟ้าใสก็ยังไม่ค่อยถูกใจ
.
.
.
ช่วงที่ว่าง ฟ้าใสแวบเดินออกมานั่งพักที่สนามหญ้าสวนหลังชอป เจอนักเรียนรุ่นก่อนใส่ชุดกุ๊ก เลยทักทาย
นพ อายุประมาณ 20 ปี เป็นชายหนุ่มก็จัดว่าหน้าตาดี ผิวเข้ม เลยนั่งคุยกัน ถามว่ามาธุระอะไร

“มาหาอาจารย์เชฟน่ะพี่ อยากพาแฟนมาเรียน แต่แฟนเป็นชาวเขา เขียนหนังสือไทยไม่เก่ง ผมเลยลองพาเขามาหา
อาจารย์เชฟนะครับ ถ้าจารย์เชฟบอกว่าได้ จะได้พาเขามาสมัครคอร์สหน้า”

“แล้วนี่นพจบแล้วก็ทำงานเลยเหรอ”

“ครับ”

“แล้วตอนฝึกงาน ไปฝึกที่ไหนน่ะ” ลุ้นฟังคำตอบ

“โรงแรมเพนซูล่า วาวี น่ะพี่ ตอนฝึกงาน เห็นห้องอาหารที่เป็นผับด้วยของโรงแรม เค้าเปิดสมัครงานพอดี พอจบปุ๊บเลยได้งานปั๊บ เลยพี่ โชคดี”

“เอ๊ะ แล้วเขาจะรับนักเรียนฝึกงานอีกเปล่าอ่ะ นพ พี่กำลังหาที่ฝึกงานเนี่ย” ฟ้าใสทำเป็นเอ่ยชื่อพูดคุยราวกับรู้จักเป็นปีๆ 555

“อ้าวเหรอ เดี๋ยวผมลองถามเชฟให้เอาไหมพี่”

“เออๆ ดี ขอบใจนะ งั้นเดี๋ยวพี่ขอเบอร์นพไว้แล้วกัน”

ขณะที่ฟ้าใสกำลังแลกเบอร์กับนพ

“อ่ะแฮ่มๆ” เสียงไอ อ่ะแฮ่ม อ่ะฮึ่ม เรียกความสนใจดังมาจากข้างหลัง
ฟ้าใสที่กำลังกดเบอร์ของนพ เสร็จก็กดโทรออก แล้วเลยหันหลังไปดู

“กำลังทำอะไรน่ะ”  อิโธ่เอ๊ย!!!ก็กำลังแลกเบอร์กันสิเฟ้ย  ไอ้มายส่งสายตามองมาอย่างจับผิด
ฟ้าใสต้องเอื้อมมือไปดึงแขนให้มันลงมานั่งข้างๆ  เดี๋ยวมันพูดจาไม่ดี นพ มันก็ไม่ช่วยไปคุยกับเชฟให้
.
.
และแล้ว ฟ้าใสก็ได้เข้าไปคุยกับผู้ช่วยเชฟ เชฟใหญ่ไปเมืองนอก  ผช.เชฟ รักษาการแทน ใจดี ท่าทางเจ้าชู้อ่ะ
ถึงจะแก่แล้วก็เหอะ กล้ามอกเป็นต่อนๆเลย

ผลว่าตกลงโอเค บอกให้ทำจดหมายมาได้เลย เดี๋ยวจะเซ็นต์ตอบรับให้ทันที แถมเชฟยังชวนไอ้มายมาฝึกด้วย
ถ้ามีใครจะมาอีกก็ชวนมาได้ เพราะ ส่วนของร้านอาหารของโรงแรมที่ทำแบบผับแอนด์เรสเตอรองต์ริมน้ำ
แขกแน่นทุกคืน โดยเฉพาะวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ มีโชว์ มีวงดนตรีที่มาเล่นสดก็ฝีมือดีๆ ชาวต่างประเทศถึงไม่ได้พักที่โรงแรมนี้
ก็ยังต้องมากินที่นี่  มีครัวแบบเปิด ทำโชว์แขกด้วย ฟ้าใสเอง ก่อนหน้านี้ก็ไม่ค่อยสนใจ ไม่เคยเข้าอ่ะ แพง
รู้ว่าดังมีชื่อเสียง อันดับต้นๆ ของเชียงราย

ไอ้มายก็จะย้ายมาฝึกที่นี่ด้วย แต่ฟ้าใสก็ห้ามไว้ ก็แหม มันน่าหมั่นไส้ ไอ้เอ้นี่นา ชุบมือเปิบ ทั้งๆที่ฟ้าใสเป็นโทรไปติดต่อ
กับทางโรงแรม อุตส่าห์รีบจองเพราะ ชื่อเสียงความเป็นเลิศทางด้านอาหาร ขนม  จนมีแบรนด์เฉพาะ

ถ้าไอ้มายก็ไม่ฝึกที่โรงแรมอะมาร่า แซงชัวรี่ ก็เท่ากับที่ฟ้าใสอุตส่าห์ติดต่อก็เสียเปล่า ให้ไอ้เอ้ กับศักดิ์นรินทร์ ได้ที่ดีๆกันไป 2 คน

ฟ้าใสก็ปลอบใจไอ้มายว่า ต่อให้ฝึกโรงแรมเดียวกัน เขาก็ไม่ได้ให้อยู่ด้วยกันซะหน่อย เขาก็ต้องจับแยก คนละแผนก
คนละครัว เวลาพักก็อาจ ไม่ตรงกันด้วยซ้ำ
ฟ้าใสเกลี้ยกล่อม จนมันยอมฟัง

“แล้วไม่ห่วงกันเลย ใช่ไหม” เอาอีกแล้ว ไอ้น้ำเสียงงอนๆ ตัดพ้อต่อว่า
อ๊ะ!! ไอ้มายเอ็งสูง 185 นะเฟ้ย ตรูตัวแค่ 160 หัวยังไม่ชนคางเอ็งเลย จะให้ห่วงอะไรว่ะ งง!!

“ห่วงอะไรอ่ะ ทางเข้าบ้านเอ็งก็ไม่ได้เปลี่ยว ทางไปโรงแรม ถึงไกลหน่อย แต่คนก็ใช้กันปกตินี่นา” ฟ้าใสพูดเสร็จก็มองหน้า

“หึ!!!” คนส่งเสียงหึ ทำหน้าเหมือนดมขี้หมา

“หรือว่าโรงแรมมันมีอะไรเหรอ อย่าบอกนะ ว่าที่นั่นมีผี” โรงแรมมีผีนะ มันอยู่ที่สุโขทัยต่างหาก(กับอีกหลายที่เลยอ่ะ อัมพวาก็มี  กับพวกโรงแรมที่โดนสึนามิอ่ะ)

“...ไม่รู้...”

อ้าว ไม่รู้ได้ไงเล่า...ก็เอ็งพูดขึ้นมา

TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.8.2-3 อัพ2 รี (10/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 10-11-2012 04:08:47

Ch.8.3
(ต่อ)

วันเสาร์นี้ ครูนิน ครูหยก ขอให้ไอ้มายมาถ่ายรูปจัดฉาก แกะสลัก อย่างอลังการ เพื่อลงหนังสือ และจัดนิทรรศการ ฟ้าใสถึงแม้ไม่ได้ขอให้มา ก็ถูกบังคับ ให้ มาเป็นผู้ช่วยช่างภาพ

“ขยับผ้าตรงนั้นหน่อย  อีก อีก ไข ยกชายผ้าขึ้นหน่อย เฮ้อ...แบบนี้สิ....” เยอะ

ฟังไม่รู้หรอก ว่าฟ้าใส 25 ไอ้มาย 22 ยิ่งคบ คำว่า พี่ หลุดมา น้อยลง น้อยลง
และจากความดีความชอบ ที่ควบคุมให้ไอ้มายมาช่วยงาน ทั้งเคยช่วยจัดของ ตอน เปิดคอร์สพิเศษเย็นๆ
ครูหยกก็เอยว่า

“เอ้า!!!พี่ฟ้าใส อยากได้สูตรทำอะไรบอกมา จะสอนให้”

ฟ้าใสว่าก่อนจะเริ่มฝึกงาน จะกลับบ้านที่กรุงเทพสัก 2-3 วัน
เมนูที่ฟ้าใสก็ชอบ พี่ส้มโอก็ชอบ แม่พรรณก็ชอบ ก็ต้องข้าวแช่ชาววังอ่ะ แต่ไม่ต้องถึงชาววังก็ได้ครับ
แค่ขอให้เป็นแบบจัดเต็มสูตร หน่อย อยากกิน  ที่มีทั้งพริกหยวก เนื้อฝอย ปลาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆคลุกน้ำตาลเคลือบหวานๆ
ครูหยกก็ตกลง สั่งให้ฟ้าใสไปซื้อของมาเตรียมไว้

ส่วนคนอื่นๆ ที่อยากได้อะไร ก็บอกมา
อิเกรียง เธอก็อยากได้สูตรน้ำปลาร้าแบบเด็ดๆ หวังจะกลับบ้านไปเปิดร้านส้มตำ
บางคนอยากได้ โรตี ปาท่องโก๋ ล้วนเพื่อไปทำมาหากินประกอบอาชีพ
ไอ้มายไม่เอาอะไร แต่คอยป้วนเปี้ยนรอบๆฟ้าใส

“พี่ฟ้าใส หุงข้าวแบบเช็ดน้ำนะค่ะ เหมือนตั้งข้าวต้ม........พอข้าวสุกโดยมีไตเล็กน้อยจึงเทลงในตะแกรง
 แล้วแช่น้ำสะอาดในชามอ่างขนาดใหญ่ ใช้ฝ่ามือค่อย ๆ ยีขัดผิวนอกของเมล็ดข้าว ที่ยุ่ยออกจนหมด”

พอฟ้าใสจะทำ มือใหญ่ก็มาแย่งทำ ปากก็บ่นฟ้าใสไปด้วย “ทำเป็นเปล่า เขาต้องแบบนี้” มือใหญ่ก็ยีปัดข้าวไปมา
เค้าเรียก “ขัดข้าว” น่ะ

“นี่ นายมาย เธอไปแย่งพี่ฟ้าใสทำ แล้วเขาจะทำเป็นไหมเนี่ย” พวกแย่งงานเลยโดนดุ ต้องวางมือ หันไปหั่นปลาต่อ

ครูหยกสอนทำ แม้กระทั่งการทำหรุ่ม คือใช้ไข่ตีๆๆๆๆเอาส้อมมาจิ้มราดเป็นแห ห่อพริกหยวกสอดไส้ 
หอมแดงสอดไส้ชุบไข่ทอด

ฟ้าใสได้ทำ โดยมีไอ้มายเป็นผู้ช่วย แม้คนทำจะขัดหูขัดตาผู้ช่วยบ้าง หากครูหยกไม่อยู่กำกับ ผู้ช่วยก็จะโผมาแย่งตะหลิวไปผัดเอง

บรรยากาศที่แตกต่างจากตอนที่เรียน เสียงพูดคุยแหย่กันบ้างแซวกันนิด  ใช่แล้วพวกเราใกล้จะจบ ถ้าฝึกงานเสร็จ
ชีวิตที่เรียนร่วมกันเกือบ1ปี ก็ต้องแยกจากกัน พวกที่อยู่หอ กินนอนร่วมกัน เห็นหน้าเห็นตากันแทบทั้งวัน 5 วันจันทร์ถึงศุกร์
หรือบางคนที่ครบ 7 วัน ตอนเรียนที่แย่งของกันบ้าง เอาเปรียบคนอื่นบ้าง มีทะเลาะกัน ตะโกนด่ากันลอยๆบ้างก็มี 555
.
.
.
.
ไอ้มายลงกรุงเทพกับฟ้าใสด้วย ตกลงว่ากลับเครื่องบิน เพราะมีโปรโมชั่นราคาถูก

ก่อนที่จะลงกรุงเทพ  ช่วงนั้น พวกเราก็ต้อง หาหอพักข้างนอกอยู่ เพื่อใกล้สถานที่ฝึกงาน

ศักดิ์นรินทร์ แอบไปเช่าอยู่ห่างจากโซนคนอื่น เกรียงแอบมาบอกฟ้าใสว่า พี่รินชวนไอ้เด็กช่างที่ชื่อ ไอ้ตาว ไปอยู่ด้วย

ฟ้าใสเองจะไปหาที่เช่าใกล้โรงแรม เพนซูล่า วาวี เหมือนกัน และโรงแรมเองก็มีที่พักให้พนักงาน โดยเก็บเงินแค่ค่าน้ำค่าไฟ เดือนละ300บาท
 แต่ฟังที่นพพูดแล้ว ฟ้าใสก็ว่าไม่ไหวอ่ะ นพเอง ขนาดตอนเรียน อยู่หอ เดือนละ1800 ยังอยู่ ห้องพักพนักงานไม่ไหว
ไอ้มายพาไปดูหลายที่ ที่ใกล้ๆโรงแรม แล้วก็สรุปว่าไม่อนุญาต ไม่ผ่าน อับ ไม่ปลอดภัย ดูไม่ดี คนเช่าไม่ดี
คนต้อนรับอัทยาศัยไม่ดี  มันบอก ถ้าอยู่ไปมีปัญหาอะไร เรียกให้มาซ่อม ก็คงไม่สนใจ จนสรุปมันให้ฟ้าใสไปเช่าที่เดียวกับ
อิเกรียง ที่ไอ้เต้มันชวนอิเกรียงมาหารครึ่ง เพราะแฟนมันไปทำงานที่กรุงเทพฯ
 (แฟนมันไปทำงานที่กรุงเทพฯ และตอนนี้ทั้งตอนที่เรียนมันก็คบพี่ทิวาไปด้วย )

ฟ้าใสก็ทักท้วงว่าไกล จะไปฝึกงานได้ไง มอร์ไซค์ขี่ไม่เป็น

“ไม่ต้องบอก ดูหน้าก็รู้แล้วน่า...”

“....” ตาคมเหลือบมอง เมริงจะเอาอย่างไงกะกรู

“เดี๋ยวจะไปรับไปส่งเอง” อร๊าค!!! ได้อารมณ์สาวน้อยม๊วก กร๊ากกกก
ฟ้าใสเหมือนกำลังจะโดนสู่ขอเลย ยังกะอยู่ม.3 อ่ะเขิน
.
.
.
เชียงราย-กรุงเทพ

ฟ้าใสนั่งคู่กันมากับไอ้มาย มาถึงสนามบินจุดแรกที่เคยเจอกัน
ถึงจะหอบของ แต่มันก็ทำให้มือหนึ่งว่าง เพื่อจะได้จับมือฟ้าใส


TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.8.2-3 อัพ2รี (10/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 10-11-2012 10:43:00
ก็ขออย่าให้มีอุปสรรคเลยนะเจ็บพอแล้วมั้งง   :call:  ไม่ต้องซาดิสมากก็ได้เราไม่ได้มาโช อิอิ มาม่าก็กินเบื่อแล้วเนี่ย (ประหนึ่งมาเป็นร่างอาวตารของฟ้าใส) ขอหวานๆๆๆมั่งนะ  :กอด1: :กอด1:

ขอบคุณมากค่ะ  :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.8.4 อัพรีที่3 (10/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 10-11-2012 17:59:23
Ch.8.4

(ต่อ)

“บ้านนายอยู่ไหนน่ะ” ใช่แล้ว บ้านไอ้มายก็บ้านพี่โม่ง ฟ้าใสไม่แน่ใจว่าเคยถามพี่โม่งหรือเปล่า แต่รู้ว่าไกลออกไปทางปริมณฑล
จะเป็นแม่ฟ้าใสถาม หรือว่า ฟ้าใสถามพวกพี่ๆตอนแรกๆที่พอรู้จัก แบบรวมๆ

“ทางปทุมโน่น แถวบางคูวัด รู้จักหรือเปล่า วันหลังจะพาไป แล้วบ้านไขล่ะ เรียกแท็กซี่ไปส่งบ้านไขก่อนจะได้ช่วยถือของ
 เอาของลง ไม่งั้นเดี๋ยวจะลืม ถ้าลืมเสียดายแย่อุตส่าห์ซื้อมาฝาก ให้ ส่งไขเสร็จแล้วค่อยไปบ้านผม”
มายพูดไปบอกเหตุผลทั้งบ่นไปด้วย กระเป๋าใบใหญ่ที่มันถือ ถึงใหญ่แต่ก็เบา เพราะเป็นแคบหมู2กิโลเองกับน้ำพริกหนุ่ม และไส้อั่ว เจ้าอร่อย

มายเองที่พอมาถึงกรุงเทพ ก็อยากเข้าบ้าน ไม่ใช่เพราะคิดถึงบ้าน หรืออยากเจอหน้าแม่หรือพ่อหรอกนะ แต่มีบางอย่างที่เขาอยากรู้ให้แน่ใจ...
.
.
.
แท็กซี่วิ่งมาถึงใกล้บ้าน ฟ้าใสอยากชี้ให้มายดูร้านของเขา แต่ก็คิดว่าจะเอาของไว้ที่ร้านก่อนดีไหมหรือให้เข้าไปส่งที่บ้าน
ไม่ใช่ว่าฟ้าใสจะรังเกียจไม่อยากให้ไอ้มายเข้าบ้านเขาเหมือนอย่างไอ้โภชน์หรือพี่ลิฟต์ที่ไม่ชอบให้เข้าไปยุ่งกับพื้นที่ส่วนตัว

สำหรับฟ้าใส เขาอนุญาต ยอมปล่อยให้มันเข้าบ้านข้างในได้ โดยไม่คิดอะไร คงเพราะรู้สึกใกล้ชิด เหมือนเพื่อน
เหมือนป้านวลด้วยซ้ำ ก็มันคอยจัดกระเป๋า พับเสื้อผ้า อันเดอร์แวร์ของเขาให้ เวลาต้องไปค้างคืน หรือเดินทาง
ฟ้าใสก็แค่ตัดสินใจไม่ถูก  อยากดูร้าน เพราะมันก็เหมือนเป็นบ้านของเขา ข้าวโอ๊ตสั่งให้อุ๊ทำความสะอาดเรียบร้อย
ฉีดสเปรย์ไล่กลิ่นบุหรี่ ก็ข้าวโอ๊ตมันติดบุหรี่อ่ะ มันถึงแอบมานอนที่ร้านฟ้าใสบ้าง ฟ้าใสรู้ แต่ก็ไม่ฟ้องแม่หรอก

“จะแวะที่ร้านก่อนดี หรือจะเอาของเข้าบ้านดี” ฟ้าใสเอ่ยขึ้นมาลอยๆ

“ก็เข้าบ้านก่อนสิ เอาของไปฝากผู้ใหญ่ให้เรียบร้อย ถ้าอยากออกมาร้านก็ค่อยออกมาทีหลังได้” มีคนตัดสินใจให้เป็นอันสรุป
.
.
มายช่วยขนของลง ดูว่าไม่ลืมอะไร กระเป๋าตัง มือถือไม่ตกหล่น

“แบ่งของให้เสร็จเรียบร้อย อย่าลืมเอาไส้อั่วเข้าตู้เย็นล่ะ ถ้ายังไม่กิน น้ำพริกด้วย”

“อ้าวไม่เข้ามากินน้ำกินท่าก่อนหรือจ๊ะ” ป้านวลเอ่ยปากชวนไอ้มาย ดูท่าป้านวลจะถูกชะตา มีชวนเข้าบ้าน
ทีกับพี่ลิฟต์ มีไล่ไอ้ดอลล่าประชดคน

“ไม่เป็นไรครับ พอดีบอกแท็กซี่เค้าให้ไปส่งที่บ้านผมเลยนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมค่อยมาใหม่ก็ได้ครับ” ไอ้มายขยับ ยกมือไหว้ลา

“แล้วพ่อหนุ่ม บ้านอยู่ไหนล่ะ” แหน๊ ป้านวล ไอ้มายมันบอกจะไปแล้ว ยังจะยื้อชวนคุย

“อยู่แถวบางคูวัดครับ”

“อ๋อ!!! ไกลเน๊อะ” โธ่ ป้านวลรู้จักหรือเปล่าเหอะ ฟ้าใสยังไม่รู้จักเลย 55 ป้านวลน่ะเคยออกไปไหนกะใครเค้ามั่ง
ฟ้าใสกะข้าวปั้น เคยพาไปสวนสัตว์เขาดิน ตื่นเต้นจะตาย ยิ่งตอนที่พาไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า ขึ้นบันไดเลื่อน ต้องจับมือจับตัวแกเดิน

“มายเขาเป็นน้องครูโม่งด้วยนะป้า เขาเรียนคอร์สเดียวกะไข” ฟ้าใสแอบกระซิบป้านวล ทำเอาป้านวลตาโต

“แล้วครูโม่ง สบายดีหรือเปล่า”

“สบายดีครับ”

ดูท่าป้านวลอยากคุยด้วยต่อ สงสัยไม่ได้คุยกับหนุ่มมานาน  จนฟ้าใสต้องสะกิดว่า รถแท็กซี่เค้าคอย

“ตอนขากลับ พ่อหนุ่มต้องกลับพร้อมหนูไขนะ จะได้เป็นเพื่อนกัน ดูแลหนูไขด้วยนะ”พูดไปก็จับไม้จับมือไอ้มายไปด้วย

“ครับ ครับ” มาย อมยิ้ม ยกมือไหว้ป้านวลอีกรอบ พลางหันไปไหว้ลาป้าพิศ ที่กำลังเดินมา หลังจากยกมือไหว้ ตั้งแต่ยกของลงแล้วเห็นป้าพิศยืนบนเรือนไทย

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมค่อยมาหา งั้นผมไปก่อน” มายแตะไหล่ ฟ้าใสเบาๆ


รถแท็กซี่แล่นออกมาจากบริเวณบ้าน

นี่เหรอ บ้านฟ้าใส บ้านที่พี่โม่งมาสอนฟ้าใสตั้งแต่ตอนจะเข้า โรงเรียน ART R  ต่อไปเขาคงจะได้รู้จักฟ้าใสสมบูรณ์ซะที
ขณะที่ผ่านร้าน ซึ่งฟ้าใสชี้ให้ดูว่าเป็นร้านของตัวเอง ตอนเข้าซอย มายพยายามจดจำเส้นทาง ชื่อถนน จุดสังเกต
.
.
.
ใจหนึ่งนั้นมุ่งกลับไปอยู่ที่ห้องๆหนึ่งในบ้านที่บางคูวัดแล้ว
หลังจากอ้อนแม่ กวนประสาทพ่อเล่น พอให้สบายใจว่าเขากลับมาแล้ว
รายงานว่าแวะไปหาพี่โม่งด้วย บอกว่าพี่สะใภ้ป่วยอีกแล้ว เรื่องพี่โม่งดูจะเรียกความสนใจมากกว่าเรื่องของเขาทุกที
ไม่ว่าพ่อหรือแม่ เชอะ หมั่นไส้ศิลปินใหญ่

เหอะ!! คอยดู เดี๋ยวจะล้วงความลับทั่นศิลปินล่ะ มายหมายมั่นปั้นมือ

“แม่!!! พวกข้าวของพี่โม่ง ตั้งแต่ที่เรียนยังเก็บไว้ที่ห้องเก็บของชั้น3หรือเปล่าอ่ะแม่” มายร้องถามมารดา

“เฮ้ย!! ไอ้มาย เราอย่าไปยุ่งกับของพี่เขางั้นสิ จะไปยุ่งของโม่งเขาได้ไง”

“เปล่า แม่ก้อออ...ถามเฉยๆ กลัวแม่ไปย้ายของเขา เดี๋ยวไปโดนฝนตกน้ำรั่ว เก็บของเขาให้ดีๆล่ะแม่”

“เออ เออ...รู้น่า ว่าพี่เขามีชื่อเสียง งานของเขาตั้งแต่สมัยเรียน แม่ก็เก็บให้ดีเหมือนเดิมล่ะ มีผ้าคลุม รู้น่า...”

“รู้แล้ว ก็ดีแล้วแม่ ฮ่า ฮ่า..”มายหัวเราะอย่างอารมณ์ดี กอดแม่ไปที หอมให้รางวัลอีกฟอด

“ป๊า!!! กินอาหารปาปัวนิวกินีไหมป๊า เดี๋ยวจะทำให้กิน” อารมณ์ดี จนกวนพ่อตัวเองได้อีกหนึ่งดอก

“ไม่กินโว้ย ทำไก่ดำตุ๋นยาจีน ไม่ก็ขาหมู-หมั่นโถ ปลิงตุ๋นน้ำแดง ไม่ก็นกพิราบตุ๋นมะนาวดอง”

“โห...ป๊า..ไปเลยๆ แต่งตัว ออกไปกินที่เยาวราชเลย  กินอารัย ธรรมด๊าธรรมดา”

“นี่แน่ะ ธรรมดาของเอ็ง แล้วจะให้กรูกินไอ้อาหารปาปัวนิวกินี ของเอ็งหรือไง ไอ้มาย”

“มาย มาย พ่อเรา เค้าขายตึกแถวให้เพื่อน ได้มาตั้งล้าน หนึ่ง” แม่แอบมากระซิบมาย

“เหรอ โห เก็บเงียบเลยนะพ่อ ไป ไปเลย เย็นนี้ต้องออกไปเลี้ยงผมด้วย ลูกกลับมาทั้งที”

“ตกลงก็ได้ว่ะ ไอ้นี่ งั้นเดี๋ยวเย็นออกไปกินที่เชียงกัน โทรไปชวนไอ้ม่อนด้วย”

“โห ไม่เอาอ่ะ” มายเป็นโรคเหม็นเบื่อม่อนพี่ชายมาก

“นี่แน่ะ!!” แม่ตีแขนเพี๊ยะเข้าให้ “ม่อน เขาได้โบนัสมา 6.5 เขายังถามถึงแก”

“โห...” มายซู๊ดปาก ม่อนมันเงินเดือนเกือบแสน คูณ 6.5 “ก็หลายแสนอ่ะ” มายทำเป็นคิด พึมพำ

“งั้นปีนี้ ไอ้ม่อนมันพาสาวมาเปิดตัวแน่เลย แม่เตรียมตัวจัดงานแต่งได้แล้ว” มายน่ะรู้ว่าพี่ชายคนที่สองมีแฟนแล้ว
ก็เพื่อนกันสมัยตั้งแต่เรียนมหาลัย ม่อนเรียนจบป.ตรีด้านกฏหมายของมหาวิทยาลัยรัฐอันดับหนึ่งของไทย
แล้วยังเรียนจบปริญญาตรีด้านบัญชี ของมหาวิทยาลัยเอกชนชั้นนำด้วยอีกใน คนอื่นๆก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
ว่ามันเรียนสองที่ ทำไปได้ไง แล้วคนละสายด้วย ม่อนทำงานด้านกฎหมาย และภาษีให้บริษัทน้ำมันของต่างประเทศที่มาลงทุนขุดเจาะน้ำมันในไทย

“จะแต่งก็แต่งสิ มีครอบครัวแล้วจะได้ตั้งใจสร้างฐานะให้มั่นคง ไม่ใช่เอาแต่เที่ยว เหมือนใครบางคน”
ว่าแล้วคุณนายฮวงก็ค้อนใส่ลูกชายคนโปรด

“งั้นผมพาลูกสะใภ้มาให้แม่มั่ง ได้เปล่า” มายลองแย็บๆถาม

“โอ๊ย!! หาได้แล้วเหรอ พ่อคนช่างติ เห็นเอาแต่ติคนโน้นคนนี้ บอกว่านายม่อนมีแฟนเป็นฝรั่งชื่อ บลัดดี้ แมรี่”

“ก็จริงอ่ะ เพื่อนผมบอก ไอ้ด๋วด มันเรียนที่เดียวกับไอ้ม่อนอ่ะ” มายเถียง ก็เพื่อนเขาบอกรุ่นพี่ผู้หญิงที่เป็นแฟนพี่ม่อนน่ะ
มาตกรโหดชัดๆ ขาโหดพอกันทั้งคู่

“แล้วของเราล่ะ ดีนักเหรอ” ถึงจะทำเป็นประชดประชัน แต่ใบหน้าก็บ่งบอกความเอ็นดูลูกชายคนสุดท้องอย่างเต็มเปี่ยม

“แฟนผมเป็นทอมอ่ะ ได้ไหมแม่” มายลองหยั่งเชิง

“โอย...จะเป็นอะไรก็ให้เป็นคนดีเถอะ” คุณนายฮวงเริ่มตกหลุม

“แล้วเป็นทอม เป็นคนดี แล้วมีอะไรๆเหมือนๆผมด้วยล่ะแม่ แต่เค้าหน้าตาสวยด้วยนะ”

“อะไรของแกว่ะ ไอ้มาย ไอ้อะไรอะไรเนี่ยะ” ป๊าที่ทำเป็นอ่านหนังสือพิมพ์ แต่ก็เอียงหูฟังการสนทนาไปด้วย

“นั่นสิ  อะไรอะไรของแกนี่” มาดามฮวงเริ่มสงสัย

“ก็พี่เขาเป็นปู้ชายอ่ะ ได้เปล่า แม่ เค้าน่ารักน๊า ตัวเล็กๆ หน้าจิ้มลิ้ม ขาวๆ...”

“อ๋อ เป็นกระเทยอ่ะ สิ เอ็งคงตาแชแแหม คิดว่าเขาเป็นผู้หญิงล่ะสิ แล้วก็เลยไปปล้ำเขา เลยต้องรับผิดชอบล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

“โห...ป๊า นี่ปากกกกก... น๊ะ...เดี๋ยวจับแพคใส่กล่อง ส่งไปขั้วโลกเหนือเลย”

“เออ..ดี กรูจะได้ไม่ต้องเสียเงินเลี้ยงหูฉลาม เป็ดปักกิ่ง เย็นนี้ ว่าแต่แฟนเอ็งเฉาะ หรือยังโว้ย ไอ้มาย”

กรี๊ดๆๆๆๆๆ ไอ้มายฟังพ่อถาม

พ่อ!!! ห้ามพูดอย่างงี้นะ พี่เค้าไม่ได้เป็นกระเทยสักหน่อย พี่เค้าก็เป็นแบบผมอ่ะ แต่เค้าน่ารักอ่ะ” มายพูดไปก็ยิ้มภูมิใจไป

“เออ เออ งั้นก็พามาดู”

“แน่นอน จัดให้ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะพามาให้ดูเลย” อ้าว!!! ไอ้มายเริ่ม งง งง แล้วฟ้าใสจะยอมมาบ้านเขาเหรอ 

ช่างเหอะ เดี๋ยวค่อยจัดการ เขาจะพิสูจน์ทุกคนรู้ว่า ฟ้าใสของเขาน่ะ น่ารักกว่าลูกสะใภ้คนอื่นๆของบ้านนี้ เหอ เหอ เหอ



TBC…
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.8.4 อัพรีที่3 (10/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 10-11-2012 18:26:18
เอาวุ้ยจะพาเข้าบ้านแล้วน้า พี่โม่งว่าไง ยกให้น้องใช่ชิมิ หยวนๆ นะ แบบว่าให้รักฟ้าใสมากๆๆก็พอ กลัวเหลือเกินจะเสียใจอีกเนี่ย

ขอบคุณมากค่ะ  :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.8.5 (12/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 12-11-2012 02:32:14
8.5
(ต่อ)

“อะโหล”

“เดี๋ยวไปหานะ”

“เออ เออ มาถูกเปล่า”

“โห ผมก็เด็กเทพ นะ ครับ”

“อ้อ ลืมไป ว่านายมันเด็กเมพขิงขิง จุงเบย”

“เกรียนผมเหรอ”

“เออ สิ 55 มาเลย ฉันอยู่ที่ร้านนะ นายจะมาไงน่ะ”

“สองแถวต่อรถตู้ ขึ้นรถเมล์ ต่อรถไฟฟ้า ลงเรือ พอหรือยังล่ะ”

“เออ เออ มาให้ถึงแล้วกัน ฉันกำลังจะทำข้าวแช่ให้แม่กับป้ากิน อยู่ที่ร้านริมถนนใหญ่นะ ถ้าหลงก็โทรมาบอก จะให้ประชาสัมพันธ์ห้างเค้าประกาศให้”

“แหม พออยู่กรุงเทพ ทำเป็นเก่งใหญ่แล้วน๊า”

“555  แล้วเจอกัน” นั่นสินะ พอฟ้าใสได้กลับมาบ้าน แถมเรียนจบแล้ว ถึงจะเหลือเรื่องฝึกงานอีก
แต่ มันก็สบายใจ รู้สึกคึกคัก ร่าเริง บันเทิงใจ เหมือนไปอัพเกรด เพิ่มเลเวล เติมเลือด มาอย่างงั้น

“ครับ ที่รัก”

“ไอ้บ้า”

น่ารักจัง แฟนใครเนี่ย  มายคิดแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

มายมาถึงหน้าร้านฟ้าใสอย่างชนิดที่เรียกว่าต้องใช้ความพยายามเหมือนกันเพื่อไม่ให้เลยซอยไปมากนัก



กรุ๊งกริ๊ง  กรุ๊งกริ๊ง
กระดิ่งที่ประตูร้านดัง ขึ้น ฟ้าใสรีบวิ่งมาดู เพราะ อยู่ร้านคนเดียว

“อ้าว!! มาแล้ว เนี่ย ฉันเปิดร้านรอนายอยู่”

 “จะทำอะไรเหรอ” มายเห็นฟ้าใสใส่ผ้ากันเปื้อน ท่าทางคนตัวเล็กบอกว่าจะทำข้าวแช่ คงจะพูดจริง

“ฉันจะทำข้าวแช่ ไปซื้อของมาเรียบร้อยแล้วล่ะ” ความจริงฟ้าใสไม่ได้ไปเองหรอก ก็จ่ายตลาดเลือกของเป็นซะที่ไหน
ให้อุ๊เป็นคนจ่ายตลาดไปซื้อมา

“แน่ใจนะว่าทำเป็น”

“แน่ใจสิ ฟ่ะ”

“ไหน บอก ดิ ทำอย่างไง”

“ฮึ่ย!!! ก็บอกแล้วว่าทำได้สิ ครูหยกสอนมาแล้ว”

ไอ้มาย เดินไปดูของในครัว รื้อโน่นดูนี่
ฟ้าใสตั้งข้าวไว้เรียบร้อยแล้ว

“แล้วทำไมไม่คนด้วยล่ะ”
“ก็มัวแต่ยืนคุยกับนายอยู่เนี่ย ฟ้าใสนึกได้ เออ เดี๋ยว เกรียงมันจะมาหานะ พอกลับบ้านไป พอดีน้าเค้ามาธุระที่กรุงเทพ
เกรียงมันเลยติดรถเค้ามา แล้วจะมานั่งเล่นที่ร้าน”

“แล้วไง” เอ๊ะ มันจะแล้วไงล่ะ แล้วตรูจะตอบว่าไงล่ะเฟ้ย

“มาย นายว่า ข้าวนี่ได้หรือยัง”

ร่างสูงตักมาดู

“อีกนิด”



ตรืดดดด ตรืดดดด

“อะโหล”

“พี่ฟ้าใส ร้านพี่อยู่ตรงไหนน่ะ”

“เธออยู่ตรงไหนน่ะ เลยปั้มน้ำมันเชลล์มาหรือยัง ถัดจากปั้มจะมีตึกแถว 4 ชั้น ที่มีร้านขายอาหารสัตว์ ร้านขายมือถือ
 แล้วก็มีซอย ร้านฉันอยู่ปากซอยนี้แหล่ะ” ระหว่างที่ฟ้าใสบอกทาง ไอ้มายก็จัดการดูข้าวไป พอได้ที่ก็ปิดแก๊ส
จัดการเทข้าวใส่กระชอน เตรียมขัดข้าว พอฟ้าใสจะมาทำต่อ ก็โดนไล่ให้ไปหั่นปลา

“หั่นมาให้หมดนั่นเลย แล้วเอาเครื่องปรุงมาวางให้ด้วย”

อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อย่าบอกนะว่านายจะทำเอง ฟ้าใสนึกในใจ แต่ก็ปฏิบัติตามคำสั่ง ดูท่าฟ้าใสจะเชื่อฟังมันมากไปแล้ว
จนติดเป็นนิสัย

ขณะที่ฟ้าใสยกสารพัดข้าวของที่ต้องเตรียมมาวางให้ผู้ช่วย นายนี่มันวุ่นวาย ถ้าฟ้าใสทำเองก็คงค่อยๆทำไปแบบชิลชิล
อาจจะเสร็จพรุ่งนี้ก็ได้ 555



กรุ๊งกริ๊ง กรุ๊งกริ๊ง

“สวัสดี ครับบบบบ  มีคนอยู่ไหมครับบบบบบ” เสียงสาวแอ๊บแมนตะโกนเรียกร้องความสนใจตั้งแต่เปิดประตูร้านเข้ามา

“อยู่นี่ เกรียง เข้ามา” ฟ้าใสตะโกนตอบ

“อิ อิ อิ สวัสดีพี่มาย หนีตามกันมาอยู่ที่นี่เหรอ คิก คิก” อิเกรียงทำเป็นแซว

“อิบ้า” ฟ้าใสตีไหล่ มันหนึ่งผลั่วะ ส่วนไอ้มายทำเป็นตาดุใส่ แต่ปากยิ้มเชียว

“มาทำไม!!!”

“อิ อิ อิ พี่มาย คนเค้าก็มาเที่ยวมั่งสิ”

“มาก็ดี มาช่วยทำเลย ฉันจะลองทำข้าวแช่ ให้บ้านข้างในกินอ่ะ”

“อุ๊ย ไม่เอา จะรอกินอย่างเดียวอ่ะ”

“หนอย..../ เดี๋ยวจะโดน” ทั้งฟ้าใสทั้งไอ้มาย พูดใส่อิเกรียงพร้อมกัน

เกรียงหิ้วเอามะขาม กับมะม่วงที่เก็บจากไร่ ที่บ้านมาฝาก
บอกน้ามาส่ง น้ามาเก็บตังขายประกันลูกค้า เดี๋ยวทุ่มหนึ่งจะมารับกลับบ้านที่โคราช

หลังจากหั่นปลาเป็นชิ้นเล็กๆ เกรียงก็ปอกหอมแดงเสร็จ พอเอาไปให้ไอ้มาย ถามว่าจะให้ทำอะไรอีก
มันก็ไล่ให้ฟ้าใสออกมา ไม่ให้ยุ่ง เดี๋ยวจะทำเอง ให้ฟ้าใสไปคุยกับอิเกรียงเล่น กับเฝ้าหน้าร้านไป
ดูทีวีไป เม้าท์กัน ขายของกระจุกกระจิกได้บ้าง เดี๋ยวพ่อครัวก็เอาไชโป๊วหวานมาให้ชิม ว่าหวานกำลังดีหรือยัง

“เอ้า ชิมสิ” ช้อนที่มีไชโป๊วหวาน ยื่นมาตรงหน้า ฟ้าใสจะเอามือหยิบ ก็โดนดุ “จะหยิบทำไมให้มือเปื้อน กินเข้าไป”

เอ๊ะ!! ก็เอ็งถือช้อนไม่ยอมปล่อย ก็ต้องใช้มือหยิบเข้าปากนะสิ

“เอ่อ...ต้องหวานอีกหน่อยอ่ะ”

“แหม...มีป้อนกันด้วย ขอเค้ากินด้วยสิ”

“ไม่ต้อง!! รอกินตอนทำเสร็จโน่น โว้ย...” เสียงดุดันจากพ่อครัว

“คิก คิก คิก...” นังเกรียงปิดปากหัวเราะ ฟ้าใสก็ได้แต่ทำหน้าแอ๊บแป๊ว ก็โดนแย่งงานไปหมดแล้ว ก็ต้องตามใจท่าน
ท่าทางมันก็เหนื่อยเหมือนกัน เสียงทำโน่น ทำนี่ กระทะ ตีไข่ ล้างของ
เดี๋ยวก็มีของออกมาให้ชิม ว่าโอเคไหม  ถ้ายังก็เดินกลับไปปรุงรสใหม่
จนกระทั่ง บ่าย3 โมงครึ่ง พ่อครัวก็มาตาม

“ไป เข้าดู”

“ห๊า!!! เสร็จแล้วเหรอ”

“อ๊าย!! พี่มายทำได้ด้วยเหรอ”

ตุบ!! เสียงเตะตัดข้อพับ ถวายแด่กระเทยร่างบึกบึน
 ฟ้าใสและอิเกียงเดินเข้าไปในครัว จานชามที่ใส่เครื่องเคียง ของข้าวแช่ วางเรียงราย
ลูกกะปิทอด   พริกหยวกยัดไส้   หัวหอมยัดไส้ปลา ไชโป๊วผัดหวาน เนื้อฝอย ปลาหวาน
ฟ้าใสมองหน้าซีดๆ เต็มไปด้วยเหงื่อ  น่าสงสารง่ะ ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน กินแต่มะม่วงกับมะขาม ที่ฟ้าใส ปอก กับแกะเปลือก ใส่จานส่งไปให้
หัวหอมยัดไส้ปลานี่ ถึงมีไม่กี่ลูก ทำไปได้ 11ลูก ก็คงเลิกทำแล้ว คนทำสงสัยเริ่มเบื่อ  555

“อ๊ะ เอาไปให้บ้านข้างในสิ”

“เหนื่อยเปล่า นี่น้ำ...” ฟ้าใสส่งน้ำเย็นให้พ่อครัว

ร่างสูง รับแก้วน้ำไปดื่ม มีแตะโดนนิ้วกันด้วย เขิน ก็แหม มีคนมายอมเหนื่อยแทน มันก็...อ่ะนะ...
ฟ้าใสชิมเครื่องเคียงแต่ละอย่าง อึ้ม...โอเค ใช้ได้...อยากกระโดดกอดคอ หอมแก้มแท้งค์กิ้วร่างสูงมันสักฟอด

“หิวหรือเปล่า...” ถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

“นายยังไม่ได้กินข้าวเลยนะ ซื้อข้าวผัดกุ้งมาฝากอ่ะ กินเลยไหม เดี๋ยวใส่จานให้”

“ยังอ่ะ นั่งพักก่อน เดี๋ยวจัดการเอง เอาของไปให้บ้านข้างในเหอะ เขารอกินไม่ใช่เหรอ”

ฟ้าใสจัดการเอาใส่กล่อง ใส่ถุง ปั่นจักรยานแม่บ้าน ยานพาหนะสำหรับใช้ไปมาระหว่างบ้านในกับร้าน
ช่วงที่ฟ้าใสกลับมาบ้าน ข้าวปั้นจะเอาไอ้หลงไว้ให้ฟ้าใสใช้ เผื่อฟ้าใสต้องไปกินข้าวกับเพื่อนหรือซื้อของ
แต่แค่บ้านในกับร้าน จะใช้แค่จักรยานก็พอ เอาออกมาก็จอดเกะกะถนนซอย
.
.
.
ฟ้าใสอยู่บ้านใน จัดชุดข้าวแช่ให้แม่ กับป้าๆ ให้ป้านวลด้วย บอกว่าทำเองเชียวนะ แต่ก็บอกว่ามีเพื่อนมาคุยที่ร้าน
แล้วก็ช่วยทำด้วย ผลตอบรับก็ออกมาดี ทุกคนก็บอกอร่อย

“เดี๋ยว เรียนจบ กลับมาก็เปิดร้านอาหารเลยนะ”

“555 โอย ไขยังไม่กล้าหรอก ทำคนเดียวก็ไม่ไหวหรอกป้า”

“ก็ชวนเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาช่วยสิ”

“ก็ยังไม่รู้อ่ะป้า  แต่ละคนเค้าก็มาจากที่ต่างๆ
.
.
.
ฟ้าใสนั่งคุยบ้านข้างในพักหนึ่ง ก็ขอออกมาดูเพื่อนต่อ
พอเข้าร้าน เห็นไอ้มายนั่งกินข้าว คุยกับอิเกรียง ในบรรยากาศในร้านของตัวเอง
มันก็รู้สึกอบอุ่น อย่างไงก็ไม่รู้ อธิบายไม่ถูก มันเหมือนแน่ๆในอก

“เป็นไงบ้าง” คนถามมองอย่างรอฟังความตอบ สายตามีแววข่มขู่เล็กน้อยถึงปานกลาง ประมาณว่า
ถ้าตอบไม่ดีโดน
ฟ้าใสทำหน้ายู่ เหยียดหยาม พร้อมส่ายหน้านิดๆ ก็บอกแล้ว ว่านี่บ้านใคร วะฮะฮ่า
อีก 3วันค่อยกลับหงอ เหมือนเดิม

“พวกป้าเขาบอกว่า ไม่......” ทำหน้ารังเกียจสุดชีวิต “ไม่ผิดหวังที่รอกินอ่ะ” ฟ้าใสเห็นหน้าคนรอลุ้นคำตอบ
แล้วสมน้ำหน้า เลยก้มไปหัวเราะใส่หน้า วะฮะฮ่า วะฮะฮ่า คงจะใกล้กันไป เจอมองหน้าสวนกลับ เอิ่ม มันก็ใกล้กันไปอ่ะ
ใจเย็นๆ ผ่านอะไรมาตั้งเยอะ อย่ามาทำใจสั่น ฟ้าใสปลอบใจตัวเอง
อิเกรียงมันไม่เห็นหรอก เมื่อกี้ มัวแต่เปลี่ยนช่องทีวี

“พี่ กินSpy กันไหม” อิเกรียงเกิดอารมณ์ดี นึกครึ้มใจ ชวนฟ้าใสกิน มันกินได้นิดเดียว อย่างมากก็ครึ่งขวด เลยต้องหาคนช่วย

“ตามใจสิ อยากกินก็กิน เซเว่น อยู่ถัดไปหน่อยอ่ะ”

“พี่มายจะเอาอะไรหรือเปล่า เกรียงจะไปซื้อSpyมากินกันกะพี่ไข” เอ๊ะ แกอยากกินเองนะไม่ต้องมาอ้างฉัน

ฟ้าใสน่ะรู้สึกว่าตัวเองท่าทางจะเมาข้าวแช่ไปแล้วด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าไอ้มายมันแอบใส่อะไรผสมลงไปด้วยหรือเปล่า
เพราะรู้สึกใจมันหวิวๆ เวลามองไปที่มัน เหมือนตาจะฉ่ำๆ จนรู้สึกว่า มีแสงทองส่องประกายจับร่างไอ้มาย
จนออร่าแวบวาว มันก็น่ารักดี

“อะไรก็ซื้อมาเหอะ แต่ไม่เอาด้วยหรอกนะSpyน่ะ เบียร์ก็เบียร์ เหล้าก็เหล้า”

ฟ้าใสหันไปมองคนพูดตอบ เฮ้อ... ท่าทางฟ้าใสจะเมาข้าวแช่ จริงๆ
เพราะรู้สึกว่า...ตัวเองกำลังน้ำลายสอ ใจเต้น อยากจูบ อยากกิน ไอ้พ่อครัวที่ทำข้าวแช่....



TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.8.5 (12/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: goonglovenut ที่ 12-11-2012 09:59:16
โอ้โห มายรุกหนักแล้ว จะพาไปเปิดตัวด้วย :-[
ตอนนี้มายน่ารักขึ้นแล้ว หวังว่าจะไปกันได้ดี  :L2:


ปล.พี่โม่งยังมีหวังไหมเนี่ยะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.8.5 (12/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 12-11-2012 10:05:26
เอาวะ ดูกันซักตั้งไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว สู้ๆเขานะลูกเขาไม่ยอมปล้ำเลย

ขอบคุณมากค่ะ :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.8.5 (12/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: DIIK ที่ 12-11-2012 10:22:11
 :a5:

*หัวใจแตกสลาย
พี่โมงของเขาล่ะ ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆ *ดิ้นพร่าดๆ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.8.5 (12/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 12-11-2012 14:32:49
เห็นมายรุกหนัก และฟ้าใสก็เริ่มใจหวิวๆไปกับมาย
ถึงมายจะน่ารัก น่าพิจารณา และคิดว่าจะดูแลฟ้าใสได้ แต่ใจเราก็ยังเชียร์พี่โม่งอยู่ดี
ขอแอบเปลี่ยนชื่อเรื่องในใจ(เราคนเดียว)เป็น "เติมรัก(ของฟ้าใส)..ใส่หัวใจสองดวง(พี่โม่งกับมาย)" ได้ปะล่ะ
(พี่กับน้องมีแฟนคนเดียวกันนี่จะผิดไหมนะ) ในวงเล็บคือสิ่งที่เราคิดในใจ

ป.ล.  “ใช่ แล้วยังอ้างเหตุผลอีก เพื่อความยุติธรรม ไม่เข้าข้างใคร
          ความจริงมันน่ะซาดิท ยังไม่นับรวมที่มันเอาขวดเบียร์ตีหัวผมด้วย”
          คำที่ตัวเอน เขียน ซาดิสม์ (Sadism)  จ้ะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.8.6 (13/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 13-11-2012 00:30:56
8.6

นั่งคุยกันไป จิบเบียร์ ไป
นังเกรียงก็บ่นว่า น้าชายที่เป็นตำรวจ จะออกเงินเปิดร้านเสริมสวยให้ แต่มันชอบทางอาหารมากกว่า
ใช่แล้ว...เห็นมัน หน้าตาดี หล่อล่ำ จมูกโด่งตาคม ผิวเข้ม สูง 182 ก็เหอะ แต่ที่บ้านมันก็เลี้ยงแบบผู้หญิงแท้
อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ก็มอเตอร์ไซค์ ยังขี่ไม่เป็น ทั้งที่เป็นคนต่างจังหวัด ความหวังของแม่มันคือ มีผัวรวยๆ

พอคุยกันเรื่องหอพัก เรื่องไปอยู่หอนอกกัน อิเกรียงบอกว่าคงต้องซื้อจักรยานไว้ใช้ บอกให้ไอ้มายช่วยพาไปซื้อหน่อย
เรื่องหอพักของฟ้าใสอีก มายมันก็จัดการ ให้ฟ้าใสอยู่ห้องรุ่นน้องมันที่ต้องมาฝึกงานที่กรุงเทพ3เดือน ต้องรอเขาไปก่อน
ฟ้าใสถึงจะเข้าไปอยู่ได้ แถมพอครบ 3เดือนก็ต้องออกเลย ต่อก็ไม่ได้เพราะเขาก็ต้องกลับมาอยู่ต่อ แต่ห้องสภาพดี
ลมเข้าแสงเข้า  แถมเจ้าของห้องหล่อด้วย อิเกรียงบอก เพราะมันเจอตอนที่ทยอยขนของไปไว้ห้องไอ้เต้ แล้วไอ้เต้ชี้ให้ดู


เลยทุ่มหนึ่งมานิดหน่อย น้าอิเกรียงก็มา ยังชวนไปกินข้าวที่ร้านอาหารใกล้ๆ อิเกรียงก็รบเร้าให้ไปกินด้วย

จน 2ทุ่ม น้าเกรียงก็มาส่งที่ร้าน

หน้าร้านน่ะปิดเรียบร้อยแล้ว

เจอน้าชวนกินเบียร์เป็นเพื่อนอีก 2 แก้ว ก็บอกแล้ว ว่าวันนี้ไอ้มายมันดูมีออร่า สว่างไสวเป็นพิเศษ

ปากก็พูดถามไอ้เด็กตัวโตว่า “นายจะกลับอย่างไง...” มันกลับตอบคำถามด้วยคำถามซะงั้น

“พี่อยากจูบผมเหรอ...” คนตอบคำถามด้วยคำถามทำตาวาวอมยิ้มมุมปาก
ก็บอกแล้ว ว่ามันต้องแอบใส่อะไรในข้าวแช่ให้ฟ้าใสชิมแน่  ฮ่า ฮ่า ฮุ ฮุ หึ หึ @ # % &

ร่างเล็กยิ้ม แล้วโน้มคอคนตัวโต
ริมฝีปากอิ่มสีแดงระเรื่อละเลียดชิมปากหนาของร่างสูง
เรียวลิ้นเล็กเลียไล้กวาดทั่วริมฝีปากหนา
ร่างสูงดูราวกับจะแกล้งตัวตัวเล็กกว่า ไม่ยอมก้มให้เชยชิมโดยง่าย จนร่างเล็กต้องเขย่งตัวยกปลายเท้า
ออกแรงโน้มคอคนตัวโตให้ก้มต่ำลง
คนขี้แกล้งยอมใจอ่อนรวบตัวตัวร่างเล็กกอดซะแน่น แล้วเริ่มกระหน่ำจูบตอบ

“ห้องอยู่ที่ไหน...” ร่างสูงกระซิบที่ข้างหูคนตัวเล็ก ริมฝีปากหนาขบเม้มติ่งหูนิ่ม คนตัวเล็กสะท้าน เสียวซ่าน จนยอดอกแข็งตื่นตัว
ในหัวเหมือนมีผึ้งบินวน มึนๆ แสงเหนือแสงใต้ กลิ่นกายคนตรงหน้า ฟ้าใสอิงแนบอกกอดคนตัวโตแน่น อุ่น
ฟ้าใสตอบไป หรือตอบอะไรไป ก็ไม่รู้...แต่ร่างสูงนั้นก็อุ้มเขาลิ่วๆขึ้นชั้นบน ล็อคประตู ได้ร่างสูงกดร่างเล็กพิงประตูริมความหวานจากปากอิ่มทันที

ไอ้พ่อครัวนี่มันไปตายอดตายอยากจากที่ไหน ดูดลิ้นเขาจนแทบขาด
อื้อ...อือ...ตาคู่สวยหลับพริ้ม เห็นขนตางอนเป็นแผงทาบบนแก้มนวล  ฟ้าใสครางในลำคอ
ร่างสูงรู้สึกว่าร่างเล็กนี่หวานอร่อย จนต้องเอ่ย

“ขอกินหน่อยนะ”

ไอ้บ้าจะมาขอกินอะไรล่ะ ก็ตอนนี้กำลังกินฉันอยู่ไม่ใช่เหรอ นายน่ะ อื้อ...อื๋อ..อา..
แม้ว่าฟ้าใสจะเริ่มก่อนก็เหอะ ก็...ก็...ก็...คนมันเมาวววว...จะเมาข้าวแช่กุ๊กหนุ่มป.ตรีชาวบางคูวัด หรือ เมาSpyของอิเกรียง หรือจะเมาเบียร์
ฟ้าใสก็ขอโทษว่าเมาววววววว....ไปล่ะกานนนนนนน

ใบหน้าของร่างสูงที่นัวเนียอยู่กับสองเม็ดสีทับทับซ้ายขวา จมูกที่ไซ้สูดดม  ริมฝีปากเจ่อหนาที่ชอบทำเป็นเบินยื่นแสดงความเอาแต่ใจ ขบเม้ม ติ่งแข็ง

“โอ๊ะ..อุ..”ร่างเล็กบิดกายสยิว เบียดจนท่อนล่างชิดท่อนขาของร่างสูง

“อื้อ...อ้า...ยั่วผมอีกแล้วใช่ปล่ะ” มายรวบโอบรัดเอวคนเริ่มก่อคดีรั้งแนบติดยิ่งขึ้น

ร่างสูงที่เต็มด้วยพลังคนหนุ่มกดแก่นกายบดเสียดขยี้
เสียงฝูงผึ้งในหัวหายไปแล้ว มันพากันบินไปพร้อมสมองฟ้าใส ทิ้งไว้แต่ไอ้พญาผึ้งงานที่พร้อมจะต่อยฝังเข็มให้น้ำหวาน

ในเมื่อสมองก็ไม่มี เขาทำอะไรมา เราก็ต้องทำตามกลับไป
เขาเบียดเรามา เราก็ต้องบี้กลับไปมั่ง
เขาขยำก้นเรา เราก็ต้องขยำก้นแกร่งๆมันกลับไปบ้าง
เขาปลดกางเกงเรา เราก็ใช้สองมือแกะกระดุมกระตุกทีเดียวกระดุมยีนส์3เม็ด ก็หลุดออกโดยง่าย
และแล้ว ทั้งขาและตัวก็ลอยสูงขึ้น ฟ้าใสไม่ได้เบาอะไรขนาดนั้น  แต่คนมันร่างควายกรรมกรคอยจับจอบจับเสียมจนเปลี่ยนมาจับกระทะ และกำลังจะเอาเขาไปทำจุ่มแซ่บ
เขาแค่นึกอยากจูบมัน อยากกินมันบ้างเท่านั้น ไม่ใช่จะอยากให้มันกินเขาทั้งตัวซะเมื่อไหร่

“อื้อ..อื๊อ..” มือเล็กขยุ้มกลุ่มผมบนหัวคนตัวโตที่กำลังฝังจมูกปากที่เนียนเนื้อหน้าขา

“แฮ่ก..แฮ่ก...ฮื๊อ..มาย..มาย..” เสียงหอบกระเส่า ตาสวยปรือฉ่ำหวาน มายเหลือบตามอง
ใบหน้าที่เย้ายวน เสียงที่เรียกชื่อเขา ฟังดูเซ็กซี่อย่างที่สุด ปากอิ่มแดงนั่นก็น่าจูบ....
แต่ความจริง... ก็น่าฟัดไปทั้งตัวอ่ะ...ร่างขาวโพลนเล็กๆอย่างงี้
ลิ้นร้อนลากเลียไอติมแท่งน้อยที่ตื่นตัวเหยียดตั้งตรงรับการครอบครอง
โพรงปากอุ่นรูดเร้นตวัดรัดดูดราวเป็นของเล่นของเด็กน้อย
ถึงเคยลิ้มชิมรสมาแล้ว แต่ทั้ง2 ครั้ง เจ้าตัวก็ไม่ได้เต็มใจจนเริ่มก่อนแบบนี้
ร่างสูงที่เท้าแขนคร่อมมองจ้องหน้าคนร่างเล็กที่หน้าแดงซ่านนอนหอบหายใจรวยริน

“....จะตายอยู่แล้ว...” ฟ้าใสอดต่อว่าอีกฝ่ายไม่ได้ ใสน้อยของเขาโดนกระตุ้นดูดดุนไม่เว้นแม้แต่ลูกตุ้มสองใบจิ๋ว

“ใจจะขาด...” มือเล็กทุบเข้าที่ไอ้หน้าอกมีกล้ามถึงจะไม่ใหญ่ล่ำตูมๆแบบใครบางคน แต่ก็มีพอให้คนที่ไม่มีอย่างฟ้าใสหมั่นไส้เล่นบ้าง
อุ๊บ!!!..มันแกล้งทำเป็นทรุด แล้วล้มมานอนกอดทับเขา ชิส์!!!

“ไปอาบน้ำ...” ไม่รู้จะพูดว่าอะไร ...ไปอาบน้ำก่อน...เหรอ เด๋วมันก็แกล้งถามให้เขาได้อาย ก่อนอะไร …

“ได้...”ร่างสูงมันลากเสียงยาวสอดแขนข้างรวบตัวแนบอก

“ลองแบบแนวตั้งก็ดีเหมือนกัน” มายกระซิบข้างหูคนตัวเล็ก แขนอีกข้างรวบขาสองข้างคนตัวเล็ก อุ้มสะพายแล่งแนบตัวไปที่ห้องน้ำ

ตรูไม่ใช่สวนไม่ใช่ต้นไม้ ไม่ต้องมาจัดแนวตั้งแนวนอน ไฮโดรโปนิค ใช้น้ำช่วยอย่างเดียว ไม่เอาอาหารเสริมจากเอ็งด้วย.
.
.
.
หลังจากโดนทำความสะอาดนอกใน จนต้องเสียของเหลวในตัวอีกครั้ง

คนตรงหน้าก็ขอให้ช่วยชิมอาหารเสริม หึ!!! เขาจะต้องแก้แค้นมันให้ได้ ต้องให้มันใกล้ตายแบบเขามั่ง

“อื้อ..จ๊วบ..อึ้ม...” นี่ก็ยังเป็นเสียงของเขาเองอีก ไอ้บ้านั่น ยังไม่ยอมส่งเสียงอ่ะ...ไม่ยอมแพ้หรอก!!!

“อา!!!..” เสียงหลุดออกหน่อยแล้ว ฟ้าใสหอบไม่แพ้เสียวซ่านไม่แพ้คนตัวโต สะโพกและซิกแพ็กมันเซ็กซี่จนเขาต้องใช้ลิ้นเลียแล้วกัดที่สะโพกมันแรงๆสักหนึ่งขย่ำ
ปากอิ่มสีแดงสดรูดขึ้นลงจงใช้ใช้ปลายลิ้นเคล้าคลึงส่วนปลายสุดที่ชุ่มฉ่ำ ทั้งเร่าร้อนและหฤหรรษ์
ร่างใหญ่กัดริมฝีปาก หรี่ตามองร่างเล็กที่ครอบครองอนาคอนด้าของตัวเองอยู่

“ซี๊ด  อ่า...”

ร่างเล็กนึกดีใจได้แก้แค้นตอบแทน มือเล็กที่กอบกุมส่วนโคนรูดเร่งจังหวะ  ปลายลิ้นเล็กที่คอยละเลียดหยอกเย้าส่วนหัว เพิ่มน้ำหนักดูดวนส่วนที่เอ่อด้วยของเหลวเยิ้ม  มือเล็กที่เกาะกุมเร่งจังหวะรูดรั้งรัวถี่ขึ้น  ร่างสูงประคองจับศีรษะคนร่างเล็กให้ดูดกลืนท่อนเนื้อร้อนจนลึกขึ้นอีก สะโพกแกร่งร่อนช่วยเร่งจังหวะ

“อ๊ะ..อ๊ะ..ซี๊ด.”  ความเสียวซ่านที่แล่นฉาบไปทั่วร่าง

อึก..อึก..สะโพกแกร่งกดกระแทกแก่นกายรัวเร็ว

“ไข..แฮ่ก..แฮ่ก..” ร่างสูงทรุดตัวกอดร่างเล็กที่นั่งเม้มปาก มีคราบของเหลวขาวข้นเต็มใบหน้าหวานหวาม
มายจูบสะโพกมนด้วยความพิศวาส ผิวลื่นเนียนน่าสัมผัส อยากกิน อยากกอด ทั้งวันทั้งคืน...
.
.
.
.
เหงื่อที่พราวแพรวที่หลัง บ่งบอกว่าร่างสูงใช้พลังงานตักตวงความสุขจากตัวเขามานานพอดู ทั้งที่แอร์ออกจะตั้งไว้เย็นพอดู
ไอ้เด็กบ้านี่ หมดวันนี้ ไม่ต้องกินไป 3เดือน 6 เดือนเลยนะ ได้คืบเอาศอก ได้ศอก ก็จะเอาทั้งตัว จะไม่เหลือแรงให้เขาเดินได้พรุ่งนี้ไง

“ไข พรุ่งนี้พี่ไปเที่ยวบ้านผมนะ นะ” เด็กโข่งรบเร้าทำเสียงออดอ้อน  ไม่ต้องเลย ไอ้นะ นะ ของเอ็ง ทำไมต้องกระแทกสะโพกเข้าออกด้วย ปล่อยก็ปล่อยไปแล้ว แต่ก็ยังเสียบคาจองพื้นที่อยู่ ดูสิ ไอ้ 2 นะ ของเอ็ง ทำไอ้ งูหลับมันมากระดุบกระดิบ
มือไม้มันก็ไม่เคยจะอยู่เป็นสุข จับโน่นลูบนี่เนื้อตัวฟ้าใสไปเรื่อย
ฟ้าใสพลิกตัวเพื่อหนีการยึดติดร่างโถมกายติดตาม

“อื้อ...” คนตัวโตประคองแก้มเนียนกดจูบปิดปากคนที่กำลังจะบ่น
สะโพกแกร่งกดเบียดก้นกลมขยับเข้าออกเล็กน้อย
งูหลับที่ยังหลับขยับกายตื่นอีกครั้ง กายแก่นพองขยายตัวรับการตอดตุบของคนร่างเล็ก
ร่างกายที่ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึก
ปากที่ครางอู้อี้ “ออ อ้าย แอ้ว...” สายตากรุ้มกริ่ม ที่มองอย่างล้อเลียน เมื่อมือใหญ่ลูบไล้ เม็ดยอดอกที่เสียวซ่านจนเป็นติ่งแข็ง
ปากหนาขบเม้มใช้เรียวลิ้นซอนไซ้ใบหูนิ่ม

เสียงของเหลวที่อยู่ข้างใน เสียงเนื้อกระทบเนื้อ  ตับ!!! ตับ!!!ตับ!!ร่างเล็กสั่นคลอนแทบทั้งตัว เมื่อบทบรรเลงแห่งความสุขเริ่มขึ้นอีกครั้ง

“อ่า..อ่า..มาย..อ๊ะ..มาย..มาย..อ๊า”
ความอิ่มเอมสุขสมที่ได้รับ อบอุ่นอยู่ในอ้อมกอดของร่างแกร่ง
.
.
.
.
กรุ๊ง กริ๊ง  กรุ๊ง กริ๊ง
เสียงช้อนกาแฟคนกระทบแก้วเซรามิค อย่างจงใจ เพื่อปลุกให้ หนุ่มหน้าสวยร่างบอบบางให้ตื่นไปบ้านพ่อแม่สามี
ท่าทางจะตื่นไม่ไหวจริงๆหรือเปล่าแฮะ ร่างสูงทำปากยู่ มองดูร่างเล็กที่ยังนอนสลบไสล ก็เมื่อกี้เห็นว่าขยับตัวแล้วนี่นา
ถึงได้ไปรีบชงกาแฟมารอ...
.
.
.
.
ฟ้าใสแอบชำเลืองมองไอ้มายที่นั่งเปิดคอมของเขาเล่นที่โต๊ะข้างหน้าต่าง
ไอ้บ้านี่ จัดหนัก จนระบมไปหมด “เฮ้อ...!!”

ฟรุบ!!...

“ตื่นแล้วเหรอ...ไป..ลุกขึ้นไปกินกาแฟ”

“ไม่เอา..ไม่ลุก” เอิ่ม กลัวเสียฟอร์มอ่ะ อายด้วย ใจจริงอยากให้มันกลับๆไปซะได้ก็ดี เขินด้วย

อย่างงี้แหล่ะ ตอนทำตอนอะไรไม่ค่อยคิด เหตุผลก็ไม่ค่อยมี เอาความรู้สึกโดยประมาณไว้ก่อน
เมื่อวานคงถูกใจ ดีใจมีคนทำของโปรดให้ รู้ว่าสิ่งนั้นมันก็ย๊ากยาก ยุ๊งยุ่งด้วย พอไอ้เด็กนี่มันทำให้
เลยถูกใจซะ....ปลื้ม จนลืมตัว  หลงรักมันไปเลย...ฟ้าใสเอ๊ย...ฟ้าใสเอ็ง...เอาศูนย์ ติดเอฟ ติดรอ ไปเลย ชิ้วๆ
.
.
.
.
“นี่!!..นี่!!..จะนอนทำหน้าปลาทองไปอีกนานไหมพี่ สามีจะพาไปบ้านไหว้พ่อผัวแม่ผัวอ่ะ”

“ไอ้มาย แกต้องตาย” ฟ้าใสผุดลุกขึ้นผลักร่างสูงที่นั่งคุกเข่าจ้องหน้าอยู่ข้างตัว  สะกิดแขนเขายิกๆ
ร่างสูงหงายหลังผึ่งนอนแผ่หลาบนเตียง ร่างเล็กลุกขึ้นคร่อมบีบคอคนปากดี

“แอ่ก แอ่ก ยอมแพ้แล้ว” มายยกมือ ยอมแพ้คนร่างเล็ก ทำไงได้ วันนี้ต้องเอาใจไว้ก่อน

“ห้ามพูดอย่างงี้อีกนะ” นิ้วจิ้มจึกจึกที่หน้าผากเด็กบ้า อู๊ย...ระบมอ่ะ ไม่อยากแยกขาเลย ตอนแรกมันก็ถนอมอ่ะ
แต่พอเปลี่ยนท่าไปเรื่อยๆ จนครั้งสุดท้ายมันก็ไม่ยั้งเลยอ่ะ ฮือ ฮือ ไอ้เด็กบ้า

“ครับบบบ..ครับบบ...” มือใหญ่คว้ามือเล็กที่จิ้มจึกๆมาจูบ

มายดีใจที่ฟ้าใสเปิดรับเขาไว้ในใจ แม้ไม่แน่ใจว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเขาเป็นน้องพี่โม่งหรือเปล่า...


TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.8.6 (13/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 13-11-2012 10:18:35
จนได้  :oo1: :oo1: :oo1: ว่าแล้วเชี่ยว  :z1:  :haun4:  เอาใจช่วยจ้า ว่าไงก็ว่าตามกัน

ขอบคุณมากค่ะ  :L1: :pig4: :L1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.8.6 (13/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: goonglovenut ที่ 13-11-2012 11:55:10
ตอนนี้มันเอ่อ :haun4:
แต่คิดไว้แล้วล่ะ ว่าเขาต้องมีกันบ้างเน๊าะ แต่ขอให้รักกันจริงๆเถอะ มายก็อย่าคิดมากไปนักว่าที่ฟ้าใสยอมเพราะเห็นตัวเองเป็นน้องพี่โม่ง ไม่งั้นก็จะมีแต่ความระแวงกัน แต่ยอมรับมายนะว่าแน่มากที่จะพาฟ้าใสเข้าบ้าน :L2:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.8.7 (13/11/12)อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 13-11-2012 14:13:21
8.7

วันที่มายกลับมากรุงเทพพร้อมฟ้าใส
ทำไมเขาจะไม่อยากรู้จักบ้านคนที่เขารักชอบ อยากเข้านั่งเล่นทำความรู้จักบ้านฟ้าใส
มีบางอย่างที่เขาอยากพิสูจน์อยากรู้  เรื่องของพี่โม่งกับฟ้าใส
ทำให้เขาเองก็อยากรีบกลับไปที่บ้านตัวเอง
.
.
.
มายรื้อดูกล่องที่วางเรียงในห้องเก็บของ กล่องใบใหญ่ที่ใส่ข้าวของของลูกแต่ละคน เรียงตามอายุความเก่าเก็บ
อย่างเป็นระเบียบ เฟรมเขียนรูปต่างๆ งานของพี่โม่งตั้งเรียน ใส่ในถุงพลาสติกใบใหญ่ห่อมีผ้าคลุม
มายล็อคห้องเก็บของ บอกแม่ไว้ว่าจะขึ้นมานอนพัก เพราะฉะนั้น คงไม่มีใครเข้ามากวน
เสียงกุกกัก เลื่อนลากยกหยิบของ กล่องใหญ่2ใบล่างสุดของโม่งถูกเลื่อนออกมาเพื่อรื้อเปิดดู
พี่โม่งเป็นคนละเอียด เนี๊ยบ ลายมือสวย อ่านง่าย ผิดกับใครบางคนที่คอยจดงานให้เขา
สมุดบันทึกตอนที่พี่โม่งต้องไปอยู่ต่างประเทศ ที่ทั้งจดงาน สเก็ตรูป ไอเดีย และบรรยายความรู้สึกถึงใครบางคน
.
.
พี่โม่งและฟ้าใสรู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียน
รักก็ต้องรักสิ เขียนคิดถึงขนาดนั้น
มายรื้องานดรออิ้งที่เป็นทั้งม้วนกระดาษ และติดเฟรมกระดาษแข็ง
รูปใบหน้า คนที่มายคุ้นเคย
รอยยิ้มที่ปรากฏบนหน้าของคนตัวโตราวกับจะยิ้มรับรอยยิ้มของคนตัวเล็กในรูป
รูปดรออิ้งภาพหน้าของฟ้าใสที่มายเจอมากกว่า 10 รูป และงานสีน้ำบางชิ้นของฟ้าใสเองที่เป็นเจ้าของจะรู้ไหมเนี่ย
ว่าพี่เขาก็แอบแฮ๊ฟมาเก็บไว้ด้วย
.
.
ถึงจะยิ้ม ถึงจะดีใจ ถึงจะรัก
คนที่เขารักทั้ง สองคน ...
.
.
.
.
.
“นะ...นะ..ลองไปเที่ยวบ้านผมมั่งสิ” หนุ่มร่างสูงชักชวนฟ้าใสไปเที่ยวบ้าน

“ติดไว้ก่อนไม่ได้เหรอ” บ้า...ตรูก็กลัวนะเว้ย ก็เอ็งเล่นพูดแบบนั้น พ่อสามีแม่สามี เกิดตรูโดนด่า เอ็งจะช่วยไหวเหรอ
พ่อแม่ทั้งคน ฉัน เซนซิทีฟ นะเฟ้ย อะไรนิดอะไรหน่อย ตรูร้องไห้ได้ง่ายน๊า แล้วก็อายด้วย
เกิดพ่อแม่เอ็งมาหาว่ากรูหลอกลูกเขาล่ะ

ไอ้อยากไปเห็นบ้านพี่โม่งก็อยากอ่ะ แต่ขอไปแอบดูอยู่นอกบ้าน แบบที่ไปเพื่อนพี่ส้มโอแอบดูบ้านคนที่มาจีบพี่โอ

“น่า..แถวบ้านผมก๋วยเตี๋ยวหมูอร่อยนะ ลงหนังสือพิมพ์ออกทีวีด้วย”
อ๊าค!!!ไอ้บ้า เอาของกินมาล่อ เลวที่สุด ทำไมรู้ใจอย่างงี้ เอาไป75% ยังขาดอีก25%

“ร้านนี้น่ะ ข้างร้านเขาขายขนมไทย พวกขนมใส่ไส้ ขนมถ้วย...” ฟ้าใสหันไปมองหน้าไอ้หนุ่มตัวสูง

“แบบสังขยาด้วย...สลิ่ม ลอดช่องก็มี...อร่อยสุโค่ยเลย” มายพูดต่อ

“พอแล้ว ไม่ต้องพูดเลย ไปก็ได้ ถือว่าฉันไปส่งนายกลับบ้านขอบคุณที่ช่วยทำข้าวแช่ให้ก็แล้วกัน”

อยากจะลืมเรื่องเมื่อคืนจริงๆ เดินกลิ้งตกบันไดไปเลยดีไหมเนี่ย  ขนมถ้วยแบบสังขยาหากินยากจะตาย ที่มีขายแถวบ้าน ในเมืองก็กลายพันธุ์หมดแล้ว
คนตัวโตทำท่าจะกอดดีใจร่างเล็ก ถึงฟ้าใสจะรู้ทันขยับหนี แต่ก็โดนรวบตัวไปกอดจนได้ เบื่อมัน พอไม่มีใครอยู่ใครเห็นตามสัญญาที่ตกลง  มันเอาเขาเป็นตุ๊กตาอยู่เรื่อย…
.
.
.
ฟ้าใสเข้านั่งเจี๋ยมเจี้ยมในบ้าน โดนพ่อไอ้มายแซวก็หลายดอก แต่ไอ้เด็กโข่งมันก็โวยวายกลับแทนให้ทุกที ฟ้าใสเลยได้แต่นั่งยิ้ม กับตอบคำถามแบบธรรมดา
นี่เหรอ บ้านพี่โม่ง อยู่ตั้งไกลขนาดนี้ ยังไปสอนที่บ้านฟ้าใส

“คิดอะไรอยู่” อยู่ดีๆ ไอ้เด็กบ้าก็ชะโงกมาซะใกล้ เด๋วพ่อแม่เอ็งเค้าเห็นนะ ทำอะไรรุ่มร่าม ไอ้บ้า..

“ไป..ไป..ขึ้นไปนั่งห้องผมกัน”

โธ่!! พี่ฟ้าใสรู้นะคิดถึงพี่โม่งล่ะสิ ไม่ยอมหรอก ยังไม่ใช่เวลาของพี่โม่งซะหน่อย

“เอ่อ..”

“เอ่อ อะไรล่ะ ป่ะ” มายฉุดมือฟ้าใสให้เดินตามตัวเอง

เอ๊ย!! พออยู่บ้านตัวเอง ข่มได้ข่มดีใช่ไหมเนี่ยเอ็ง
แม่มายก็ดูใจดี ก็ต้องใจดีล่ะ ไอ้มายถึงได้ง๊องแง๊งขี้งอนมีขาขึ้นขาลง
แม่พรรณของฟ้าใส ใจดีกับลูกศิษย์ กับลูกก็ใจดีตามใจอ่ะ แต่ชอบบังคับเรื่องมรรยาทอ่ะสิ แทบจะวิ่งบนบ้านไม่ได้เลย
มายบอกว่าเดิมก็อยู่แค่ตึกแถวห้องเดียว อะไรดีขึ้นก็ซื้อห้องข้างๆ พอพี่โม่งขายงานได้ชิ้นราคาดีๆ 
ม่อนก็เรียนจบทำงานจะให้พ่อแม่ไปซื้อบ้านก็ไม่เอาไม่ยอมย้าย เลยซื้ออีกห้องหนึ่งเก็บไว้
ฟ้าใสเองก็แหะ แหะ อยากดูห้องที่พี่โม่งอยู่ตอนเด็กๆเหมือนกัน แต่ก็ช่างเถอะ เคยไปบ้านที่พี่โม่งอยู่แล้วนี่ ตัวตนคนเป็นๆสำคัญกว่า ไกด์เจ้าบ้านมันไม่บอกก็ไม่ถามก็ได้
ตุบ!! เจ้าตัวคนพามาถึงเตียงได้ก็นอนหงายสบายใจ ตบที่นอนข้างตัวให้เขาไปนั่งข้างๆ
ไม่เอาอ่ะ นั่งที่เก้าอี้โต๊ะเขียนหนังสือดีกว่า

“แล้วพอเรียนจบนายจะทำอะไรล่ะ”

“ผมก็...” ตอนแรกมันก็ทำท่าทางเหมือนคิดอะไรเป็นเรื่องเป็นราวน่ะนะ แต่ก็... “ผมก็จะดูแลพี่ไง” ยักคิ้วตาเป็นประกาย
งั้นก็ช่างมันเหอะ ตัวใครตัวมันแล้วกันเอ็ง...

“นี่..นี่..ก๋วยเตี๋ยวหมู ฉันล่ะ” 555 ไม่ลืมเฟ้ย ก็ฟ้าใสจะซื้อไปฝากที่บ้านเค้าด้วยนี่นา ทั้งข้าวปั้น ข้าวโอ๊ต ป้านวล ป้าๆ แม่

“ฉันต้องซื้อไปที่บ้านฉันนะโว้ย บอกเขาไว้แล้ว” ขู่มัน “ถ้าไม่มีกลับไป ฉันจะบอกว่าซื้อมาแล้วนายเอาไปกินเองหมด” 555

“โหยยยยยยย.....” ไอ้มายกระเด้งตัวดึงฟ้าใสตัวปลิวละลิ่วไปนอนกอด
คนตัวเล็กดิ้นดุกดิก แอ่ก แอ่ก

“ปล่อย..ไอ้บ้า” ของอย่างงี้มันอยู่ใกล้กันได้ที่ไหน ถึงจะทำไปเล่นๆ แต่ไอ้ความรู้สึกอะไรอะไร มันก็ตกค้าง
หน้าหวานมีสีแดงระบายไปยันหู ที่โดนขบเม้มเบาๆ
พ่อแม่ตัวเองก็อยู่ข้างล่าง แค่ฟ้าใสเข้ามาแล้วโดนพ่อทักว่า

“นี่เหรอ แฟนใหม่แก ไอ้มาย” ก็ทั้งอาย ทั้งอึ้ง
จนไอ้มายทำท่าจะกระโดดลงศอกพ่อตัวเอง พร้อมสกรีมโหยหวนว่า

“ใหม่เหม่ยที่ไหน ฟ้าใสอย่าไปเชื่อ ผมไม่เคยมีใคร” ถึงได้รู้ว่าบ้านนี้เขาแหย่กันแบบนี้ ส่วนพ่อไอ้มายก็ไม่ยอม
เห็นลูกทำท่าพุ่งเข้าใส่ ก็คว้าที่เขี่ยบุหรี่ แก้วหนาปึกเตรียมทุ่มใส่หัวลูกคนรัก
.
.
.
.
.
“กลับรถทัวร์เถอะ ประหยัด” เสียงพ่อบ้านประจำตัวบอก  รู้หรอกว่าทำไม มันอยากแต๊ะอั๋งเขาทั้งคืนนะสิ ถ้านั่งรถทัวร์กลับด้วยกัน

“ไม่เอาอ่ะ ค่าเครื่องเพิ่มอีกไม่กี่ร้อยนะ ฉันจะได้อยู่กับที่บ้านอีกวัน”

“ตั๋วไม่มี”

“มีโว้ย ฉันเช็คอยู่นี่”

“...”

อึ้งล่ะสิ

“ก็ตอนผมเช็คมันไม่มีนี่” เถียง แถ

“ฉันจองเลยนะ”

“ตามใจสิ...ตัวเองไป..ก็ต้องไปด้วยอยู่แล้ว” เสียงปลายสายเอ่ยอ่อยๆ

“น่า...น่า...โอเคนะ”

“ฮึ!!!” เสียงพ่นจมูก ชิ!



TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.8.7 (13/11/12)อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 13-11-2012 23:30:48
ผิดไหมที่ฉันจี๊ดๆในใจแทนพี่โม่ง ที่ฟ้าใสมีอะไรๆกับมาย
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.9 (14/11/12)อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 14-11-2012 00:33:02
Ch.9

ผ่านการฝึกงานไปได้2-3อาทิตย์มีการนัดมาพบปะสังสรรค์กันบ้าง กลุ่มย่อยๆ เพราะได้หยุดงานไม่ตรงกัน
โรงแรมของฟ้าใส 555 เรียกเต็มปาก เต็มคำ เฮดเชฟ แกลาออกหนีไปแล้ว เหลือผู้ช่วยนี่แหล่ะ ความสามารถแกก็มี
แต่ความรู้แกไม่ได้จบปริญญาตรีวุฒิการศึกษาดีๆ เลยขึ้นมากกว่านี้ไม่ได้ ทั้งที่ผ่านเมืองนอกมาก็หลายปี
ใจดี พูดคุยเฮฮา นึกครึ้มก็โชว์ฝีมือโป๊กเป๊กบ้างเรียกเสียงฮือฮาจากลูกน้อง แต่เรื่องตรวจของ แกก็เฮี๊ยบ
 ไล่ส่งให้เอาของไปคืนหลายครั้งถ้าไม่ได้ขนาด ฟ้าใสได้มาอยู่ครัวไทยเป็นลูกมือช่วยป้าเอ๊ย พี่แม่ครัว ใจดี
ไม่มีปัญหาอะไร เชฟแกเห็นเป็นแค่นักเรียน เวลายังไม่ต้องให้ทำเต็มกะด้วยซ้ำ 8ชั่วโมง ก็ให้ทำแค่7ชั่วโมง ให้หยุดก็ตั้ง 2วัน
พอพี่ครัวไทย ย้ายไปเข้ารอบดึก ก็ชวนฟ้าใสไปอยู่รอบด้วย

แกบอกจะได้ดูดนตรีด้วยนะ ดาราก็มาบ่อย เอาก็เอาว่ะ พี่เขาอุตส่าห์ชวน พอไปบอกเชฟ  เชฟก็โอเค
 บอกว่าอยากเรียนรู้แผนกไหน บอกได้เลย เต็มที่ เต็มที่ ปุบๆ ตบไหล่ เหอๆ ดีจัง ฟ้าใส เล็งไอ้ซุ้มครัวญี่ปุ่น ไว้
เคยเจอกับเด็กที่ช่วยครัวญี่ปุ่นอยู่ มันเฮฮามาก  ขี้แหย่ ชอบไปแหย่ป้าล้างจานบ้าง กับพวกที่เป็นต่างด้าว
ที่เป็นลูกมือของป้าแม่ครัวท็อปซีเคร็ทของโรงแรมซึ่งทุกคนเรียกว่า “แม่”
.
.
“ถ้าเราเข้ากะดึก มายจะไปรับไปส่งได้เปล่าล่ะ” ฟ้าใสแย็บๆถาม เอาแล้ว ไอ้เด็กบ้าเริ่มทำหน้านิ่วคิ้วขมวดแล้ว

“กี่โมงถึงกี่โมงล่ะ”

“ก็ เข้า 17 ออก เที่ยงคืนอ่ะ...นี่เค้าให้ออกก่อนคนอื่น ชั่วโมงหนึ่งด้วยนะ” คนขับรถนิ่งไป หนึ่งเฮือกหายใจ มองหน้า
ถ้ารู้ว่าย้ายเพราะครึ่งหนึ่งในเหตุผล อยากดูดนตรี ต้องโดนด่าแน่เลย

“...”

“พี่ครัวไทย แกเปลี่ยนกะตามแฟนที่ครัวจีนน่ะ เราลูกมือคุ้นกัน แกเลยชวน”

“ก็ตามใจสิ” เสียงสะบัดนิดๆ

“แล้วนายยังไปรับ-ส่งเราได้นะ” แถวนั้นจะว่าไม่น่ากลัวหรือน่ากลัวก็เป็นไปได้ เพราะมันก็มีผับ ร้านอาหาร ร้านเหล้า
หลังร้านพวกนี้ก็เป็นแม่น้ำ ห่างเว้นก็เป็นที่ว่างก็มี อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ทั้งชาย-หญิงล่ะว่ะ

“ไม่ได้แล้วใครจะทำ” มายตอบแบบงอนๆนิดหน่อย

ก็พอฝึกงาน คนตัวเล็กก็ไม่ค่อยเอาใจใส่เขาเลย เห่อแต่สังคมใหม่ เล่าโน่นเล่านี่ เหอะ!! ยังกะสนใจนัก
ตอนไปรับ – ไป ส่ง คนตัวเล็ก ไอ้พวกพนักงานก็คอยมอง รู้ว่าเราหน้าตาดี พูดเรื่องจริง

ยิ่งตอนกลับ ไอ้คน เฝ้าประตู ดูในกระเป๋าสะพายไม่พอ จะมาตบตามตัวคนตัวเล็กอีก อยากจะชกหน้ามัน
ไอ้ยามที่จอดรถอีก ฟ้าใสจะจับตัวเขาเป็นหลักขึ้นนั่ง มันก็คอยมอง น่ารำคราญ หงุดหงิดชะมัด
ฝึกงานก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ขอค้างด้วยก็ให้เฉพาะวันหยุด  ทั้งคอร์ส น่ะ มีฟ้าใสคนเดียวที่ได้วันหยุด 2วันต่ออาทิตย์ ใจร้ายว่ะ
 ดูเขาสิ ฝึกงานคนละที่ ยังต้องมาโดน พี่เอ้ ตามตื้ออีก ขนาดพี่ริน เห็น ยังรำคราญแทน
.
.
.
ฟ้าใสได้ลงครัวกะเย็น สนุกครบทุกรูปแบบจริงๆ ยิ่งดึก ยิ่งมัน มือเป็นระวิง พอเลย 3ทุ่มครึ่ง  อาหารไทยจะเริ่มซาลง
ต้องไปช่วยครัวยำแทน   แฟน นพเองก็จะอยู่ครัวนี้ ส่วนนพโดนให้ไปฝึกเป็นบุชเช่อร์  มือเชือด   มือชำแหละ มือตัดแต่ง

ช่วง 22 น. งานซาลง พวกครัวไทย จีน ก็สาดน้ำล้างครัว ล้างทุกวัน ไม่มีอะไร ฟ้าใสก็โดนไล่ให้ไปดูดนตรี
โดยจะมี ไอ้วอก เด็กญี่ปุ่น 55 < เด็กครัวญี่ปุ่น > หน้าขาว ชอบทาแป้งขาว ถึงโดนเรียกชื่อนั้น ฟ้าใสไม่ได้ตั้ง
ตัวผอมๆสูงสัก 175  ท่าทางกระตุ้งกระติ๊งหน่อย มาฉุดให้ไปอยู่ในซุ้มด้วยกัน ต้องใส่เสื้อกุ๊กญี่ปุ่นด้วย เพราะซุ้มมันจะมองเห็นเวทีได้ชัดเจน

ตอนแรกที่ไปฝึก ก็มีคนมาทัก มามองบ้าง นั่งกินก็มีมานั่งด้วย แต่พอมีคนมาเห็นตอน เข้ากะออกกะว่ามีคนมารับส่ง
ยิ่งพอกะกลางคืนที่เลิกเที่ยงคืน ออกกะพร้อมวอก ก็โดนทักว่า

“แฟนมารับเหรอ”  ป้าท็อปซีเคร็ท ก็อีก เหมือนรู้ ชอบชวนท่ามกลางส่วนนั่งพัก ที่พนักงานอยู่เป็น 20 คน 

“กินข้าวก่อนกลับสิ เดี๋ยวแฟนก็จะมารับแล้ว” 

เพราะ ไอ้มาย พอ 23.45-23.55น. มันก็ตรี๊ด มาเป็นสัญญาณ ให้ฟ้าใส เตรียม เปลี่ยนชุดถอดผ้ากันเปื้อนถอดหมวก
 ป้าท็อปซีเคร็ท เลยรู้ทุกความเคลื่อนไหว พอ 00.01น.  พนักงานก็เริ่มตอกบัตรออกกะ  ฟ้าใสยังอายๆ เลยขอประมาณ 00.07 อ่ะ ยังไม่กล้า 00.00/00.01
.
.
.
“อาทิตย์หน้าผมไม่อยู่นะ ต้องลงกรุงเทพฯไปซ้อมรับปริญญานะ” ท่าทางคนบอกข่าวทำหน้าขึงขัง

“...” ฟ้าใสทำหน้าอึ้ง

“ไม่ต้องกลัวน่า ผมบอกไอ้เต้ ให้ไปรับ-ส่งไขแล้ว” ลูบหัวเบาๆ ไอ้เป็นห่วงน่ะโอเค แต่ไอ้ลูบหัวเบาๆ นี่ ...

“ไปเมื่อไหร่อ่ะ” ใจหายเหมือนกัน รู้สึกเหมือนอะไรจะหายไป หวิวๆ ปลายมือปลายเท้า และที่ในกลางอก ช่องท้อง

“ซ้อมใหญ่ 23 รับจริง26”

“แล้วลาที่โรงแรมกี่วันอ่ะ” เสียงที่ถามทั้งอ่อยทั้งหงอย

“ก็ 5 วัน รับเสร็จที่บ้านคงพากันไปกินเลี้ยง น้าที่เชียงรายก็ขับรถพาหลานๆไปด้วย วันจริงพี่โม่งพี่ม่อนก็มาถ่ายรูปด้วย
..เออ..ไขก็ลามั่งแล้วกัน ..ลาหยุดไปเลย ลงไปกรุงเทพฯ พร้อมกันเลย” ร่างสูงพูดอย่างนึกขึ้นได้ถึงวิธีการแก้ปัญหาอีกวิธีหนึ่ง

“บ้า...” แต่วิธีนี้ดีที่สุดเลย ฟ้าใสก็อยากเห็นด้วย แต่มันทำได้ซะที่ไหนล่ะ

มองหน้ากัน ...เฮ้อ..ไม่ค่อยอยากสบตา เด๋วร้องไห้...รู้ว่ามันก็ห่วง

“มีอะไร ก็เรียกห้อง 405 ที่อยู่ตรงบันไดได้ ห้องเพื่อนผมเอง ความจริงใช้ให้มันไปรับไปส่งพี่ก็ได้ มันทำงานคอม
ไม่ต้องเข้างานเป็นเวลา  …ป่ะ ไป ผมพาไปรู้จัก”

ไอ้บ้า ไอ้มายจัดแจงจะลากดึงมือฟ้าใสไปแนะนำตัวกับเพื่อนห้อง 405

“โอ๊ย..ไม่ต้องหรอก ก็นายบอกว่าให้ไอ้เต้มันคอยรับ-ส่งแล้วนี่ ก็ไม่เป็นหรอก” ปลอบใจคนร่างสูงที่ทำหน้าเครียด

โธ่!!! ตัวเขาเองก็กังวล เกิดไอ้เต้ นอนหลับเพลิน ไม่ตื่นเที่ยงคืนมารับเขาล่ะ ตัวมันเองก็ไม่ได้นอนหอนี้ ไปนอนกับพี่ทิวาโน่น
นานๆก็กลับมาอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้อง ซึ่งมีอิเกรียงอยู่
.
.
.
.
และแล้วก็ถึงเวลา ก่อนที่ไอ้มายจะไป มันก็อุตส่าห์พาไปแนะนำกับห้อง 405 จนได้ เพื่อนมันก็พวกเก็บตัวจริงๆ
แต่เสียงหล่อนุ่มมาก อิเกรียงมันชอบโทรเข้าเบอร์ห้องหนุ่มๆ โทรผิดมั่ง โทรหาเจ้าของเดิมมั่ง ตอแหลจีบเขาสดๆ

“ไอ้เวียร์ นี่พี่ฟ้าใส..ฟะ..” ไอ้มายจะพูดต่อ แต่ฟ้าใสขยุ้มมือมันไว้ไม่ให้พูดต่อ มันเลยแกะมือฟ้าใสแล้วหลุบ
เข้าไปในห้องเพื่อนมัน ก็ไม่รู้คุยอะไร แป็บหนึ่งก็ออกมา ไอ้เวียร์ก็ตามออกมาทักพร้อมกับยิ้มหวานมาก อิเกรียงเห็นต้องใจละลายแน่

“มันมีแฟนแล้ว” เสียงไอ้ร่างสูงบอกอย่างกันท่า ก่อนพาฟ้าใสลงไปกินข้าว
.
.
.
.
5 วัน ผ่านไปอย่างทรมาน เซ็ง น่าเบื่อ
เพิ่งรู้ว่าตอนที่ไม่มี แล้วเป็นอย่างไง
วันแรกไอ้เต้ก็มารับฟ้าใสไปฝึกงานแบบหล่กๆ รับกลับก็เลยเที่ยงคืนไป 15 นาที ขอแวะซื้อน้ำแข็ง ที่เซเว่น ก็โอเค ฟ้าใสก็ซื้อขนม น้ำบ้าง ออกให้ไอ้เต้ด้วย

วันที่สอง ไอ้เวียร์ มาเคาะห้อง บอกว่า ไอ้เต้มันฝากให้ไปส่งฟ้าใส แต่ขากลับจะไปรับเอง จะออกไปเมื่อไหร่ บอกมันได้ วันนี้มันอยู่ทั้งวัน
ไอ้เต้มารับ เที่ยงครึ่ง ฟ้าใสโทรตาม ก็ไม่รับสาย จนครึ่ง โทรไปอีก ติด รับแล้วบอกว่ากำลังมา พอมาถึง มีพี่ทิวาซ้อนมาด้วย
 ฟ้าใสต้องเกาะหลังพี่ทิวาเบียดกันกลับไป  ช้ำใจว่ะ งง พี่ทิวาแกจะมาทำเชรี่ยอะไร อยากไปไหนกันก็ไปดิ
เอาตรูกลับไปส่งหอก่อนไม่ได้เหรอ  ซ้อนสามไม่พอ พี่ทิวาก็อยากเอาใจไอ้เต้ ชวนซื้อของของ เซเว่น  ก๋วยเตี๋ยว บัวลอย โรตี  ซ้อนสาม เดี๋ยวก็ลง เดี๋ยวก็ลง

ไอ้มาย อยู่หนายยยยยยย!!!!!

ไอ้เต้ไม่เคยมาส่งฟ้าใสที่หน้าทางเข้าพนักงานเลย จอดส่งอีกฟากของถนน บอกว่ากลับรถลำบาก วันแรกที่บอก ก็โอเค
ตอนนั้นมีรถวิ่งไปมา แต่วันอื่นๆ ถึงรถว่าง มันก็จอดให้ฟ้าใสลง เดินข้ามถนนไปเอง
ขากลับ ฟ้าใสก็เจอซ้อนสามอีก และมันก็ไม่เคยมาก่อนเวลาหรือจะตรงเวลาเที่ยงคืนเลย บางคืน 45 นาที ที่ต้องคอย
 จนคิดว่าถ้ามันไม่มาจะทำอย่างไง จะโทรไปหาใคร ในเมื่อจะตีหนึ่งแล้ว

แม้ไอ้เต้จะยิ้ม จะพูดเล่น หรือหัวเราะด้วย แต่ลึกๆ ฟ้าใสก็ว่ามันเกลียดเขาอยู่บ้างล่ะ ก็คงเป็นที่เขาเอาไอ้มายไป
.
.
.
พรุ่งนี้วันหยุด จบสักที 5วันบ้าๆ
ทำงานมาแล้ว เดินออกมา ต้องมาเจอ พี่ทิวาหยอกแหย่ไอ้เต้ คิกคัก
 บนมอเตอร์ไซค์ไอ้มาย  ต้องโทษตัวเองที่ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่เป็นเอง

รู้งี้ ขอหยุดตามไอ้มายด้วย ก็ดีแล้ว...
.
.
.
นอน นอน นอน ให้เต็มที่...



TBC….




หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.9 (14/11/12)อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 14-11-2012 12:51:43
คุณหนูฟ้าใส ต้องมีคนดูแลเทคแคร์ตลอดจริงๆ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.9(อัพ) (15/11/12)อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 15-11-2012 00:32:35
Ch.9.2

ห้องฟ้าใสจะกดล็อคแค่ลูกบิด  ไม่ชินกับการใส่ล็อคกลอนประตู ผิดกับ อิเกรียง หนุ่มเข้มมาดแมน สูง182 แต่ใจเป็นหญิงแท้ ล็อค ใส่กลอน บน ล่าง กลาง 

เขาคิดว่ามันให้ความรู้สึกอึดอัด กักขังอย่างไงก็ไม่รู้ พาลหายใจไม่ออกเอา

ร่างสูงไขกุญแจเข้ามาในห้อง ปล่อยตัวหล่นตุบมานอนข้างๆกอดคนตัวเล็กที่นอนกอดหมอนข้าง มายมีกุญแจห้องฟ้าใส ก็มันเป็นคนพามาเช่า จัดการ แล้วก็ส่งกุญแจให้ฟ้าใสเอาไป 1 ดอก กับกุญแจลูกอันใหญ่ไว้ล็อคที่ข้างนอกอีกหนึ่ง

“ชื่นใจหน่อย เหนื่อยจะตาย”ร่างสูงรั้งคนที่นอนหันข้างกอดหมอนมาแนบตัว

“อึ้มๆๆๆ” จมูกปากซุกไซ้เข้าไปที่แก้มนวล

“อี๊ย!!!..ผมเหม็นกลิ่นบุหรี่ อาบน้ำหรือเปล่าเนี่ย”คนตัวโตโวยวาย

ร่างเล็กที่เอาหน้าซุกหมอนข้าง หันกลับมากอดซุกร่างสูงแทน
หมอนข้างนิ่มน่ากอดก็จริง แต่ก็ไม่อุ่นเท่าอกคนข้างๆนี้

เวลาไม่มีอยู่ถึงได้รู้...ว่าอยากมี

เวลาขาด...ถึงได้รู้ว่าต้องการ

ว่าจะไม่ร้อง  แต่น้ำตามันก็ไหล  แค่ไหลนิดๆน่า เจ้าของอกอุ่นมันคงไม่รู้

...มัน..กลับมาแล้ว....

“อื้อ...อ่าอาอึงอิ้...”ฟ้าใสบ่นอุบอิบ ปิดปาก ก็ไอ้มายจะมาจับหน้าเขาเงยขึ้น สภาพแบบนี้มันน่าให้เห็นหน้าได้ที่ไหน
ฟันก็ยังไม่แปรง ไม่ใช่แค่ตอนเช้าซะที่ไหน ดองตั้งแต่เมื่อคืน น้ำก็ไม่อาบ

เมื่อคืน...เกาะหลังพี่ทิวา ลงหน้าหอได้

“ไปก่อนนะไข” เสียงพี่ทิวาลาพร้อมยิ้มร่าเริงโบกมือบ๋ายบาย ไอ้เต้ก็หันมามองแวบหนึ่งก็ออกรถขี่ไป

ขึ้นมาบนห้อง เขี่ยรองเท้าถอด ถอด ถอดทุกอย่าง อยากมุดเข้าที่นอน เหมือนเข้าไปอยู่ในท้องแม่ใหม่

ไม่มีร่างสูงมาแย่งถือกระเป๋า ไม่มีคนเดินไปบ่นไปจนมาส่งถึงห้อง ไม่มีคนชิงไขกุญแจห้องให้ก่อน
แล้วทำเสียงจิ๊กจั๊ก รำคราญที่เขามัวแต่ควานไปควานมาในกระเป๋า ตบโน่นตบนี่หากุญแจ
.
.
.
.
.
“อามาย...ซาหวัดดีครับ” เด็กน้อยวิ่งตะโกนเข้ามาในบ้านมายืนตัวตรงยกมือไหว้สวัสดี

“ซาหวัดดีครับ คุณย่า คุณ ปู่ อาม่อน”

“มา..มา ให้ปู่กับย่ากอดหน่อย” หลังจากทักทาย กอดหอมฟัด เด็กน้อย

“อามาย แล้วอาไข อยู่หนายอ่ะครับ” มะนาวก็ต้องนึกว่า ฟ้าใสก็ต้องอยู่กับ อามายด้วยนะสิ ก็อามาย เอาอาไข กลับไปเชียงราย ด้วย เมื่อคราวก่อน

“ฮ่า ฮ่า อาไขเขาต้องฝึกงาน มากับอามายไม่ได้ครับ มะนาวไปทำงานแทนอาไขให้อาหน่อยสิ อาไขจะได้ลงมาได้” มายหัวเราะร่าแหย่เด็ก

“มานาวยังทำงานไม่เป็นนี่ครับ อามายทำเป็น อามายก็ทำแทนอาไข ให้อาไขมาเล่นกับมะนาว”

“อ้าวให้อาไปแล้วใครจะรับปริญญาล่ะ”

“ก็ให้อาม่อน หรือพ่อมะนาวก็ได้ พ่อมะนาวรับเป็น อาม่อนก็รับเป็น นั่นไง มีรูปอาม่อน กับพ่อมะนาว รับปริญญาด้วย”

“พอมีอาม่อนอยู่ อามายก็หมดความหมายใช่ไหม”

“ไม่ใช่ครับ ..อามายก็มีประโยชน์ มะนาวจะเอาอามายไปแลกกับอาไข อามายขึ้นไปทำงานแทนอาไขนะ”

โม่งลูบหัวลูกชายเบาๆ กระซิบว่า “ไม่ได้หรอกครับ อาไข เขาต้องทำงาน อามายเขาต้องเป็นคนรับพระราชทานปริญญาบัตร
ด้วยตัวเองครับ อีกหน่อยมะนาว เรียนจบปริญญาตรี มะนาวก็ต้องได้มารับเหมือนอย่างอามายน่ะครับ” โม่งพูดจบ
ถึงจะยิ้มด้วยความเอ็นดูลูกชาย แต่ในใจหวนนึกถึงอาจารย์เบญ ผู้เป็นภรรยา มารดาของเด็กชายตัวน้อยนี้ 
วันนั้น ที่ยังอีกยาวนาน อาจารย์เบญจะได้มีโอกาสเห็นไหม  แล้วตัวเขาเองล่ะ...

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า มีค่าแค่เอาไว้แลก” เสียงหัวเราะจากม่อน

“สมน้ำหน้า เอ็ง” อันนี้จากพ่อ

“ว่าแต่อาไข นี่คือ ใคร ผมไม่เห็นรู้จัก”

“เฮอะ เฮอะ เฮอะ” เสียงมายหัวเราะใส่ม่อน

“แฟนไอ้มายมัน” พ่อรีบตอบ

“หือ!!!...” ม่อนทำเสียง อย่างไม่อยากเชื่อ

“เออ..เอ็งล่ะ อย่าให้แพ้น้องล่ะ มัวแต่ทำงาน”

“ไม่ใช่ซะหน่อย อาไขเป็นลูกศิษย์พ่อมานาวต่างหาก ไม่ใช่แฟนอามายซะหน่อย”

“มะนาวไปล้างมือ ลูก ไปเข้าห้องน้ำก่อน  ไป” โม่งแยกตัวคู่กรณี ก่อนเกิดศึก

“ไป ไป มะนาว ย่าพาไปเปลี่ยนชุดด้วย กินน้ำแดงไหม”
.
.
หลังจากคู่กรณีไปแล้ว ม่อนเลยหันมาซักไอ้มาย

“อะไร เอ็งมีแฟนแล้วเหรอ ห๊า”

มายทำหน้าภูมิใจ ยืด..แล้วก็.. ยืด “เยสเซ่อร์”

“เป็นใคร ที่ไหน รู้จักกันเมื่อไหร่ เพื่อนกันหรือเปล่า...” ม่อนไม่ยุ่งไม่ห้าม แต่ขอให้ขยันทำงานจริงจังก็ถือว่าผ่าน

“เหอะ ฟ้าใสของผมน่ะ พี่แตะไม่ได้หรอกนะ”

“ทำไมว่ะ...” ก็เมริง กรูยังจัดการได้

“โน่น...โน่น..” มายทำปากบุ้ยไปทางโม่ง “เขามีอัศวินผู้พิทักษ์ ฟ้าใสเขาเป็นลูกศิษย์เฮีย...”
.
.
มะนาวเดินนำหน้าย่ามานั่งขัดสมาด วางถ้วยขนมปังโปะน้ำแข็งไสราดน้ำแดงหวานฉ่ำบนโต๊ะรับแขก  ค้อนอามายตาคว่ำ บ่นพึมพำ

“อาไข ไม่ได้เป็นผู้หญิงซะหน่อย จะเป็นแฟนอามายได้ไง”

“ได้สิ รักกันซะอย่าง”

ตุบ!! “นี่แน่ะ ไปเถียงกับหลานอยู่ได้”

“เอ๊ย!!! ไอ้ม่อน ตีมาได้ เดี๋ยวความจำเสื่อม จำชื่อตัวเองไม่ได้ พรุ่งนี้จะขึ้นไปรับถูกไหมเนี่ย”
.
.
.
.
หลังจากเสร็จจากงานรับพระราชทานปริญญาบัตรของนาย สุรนาท อินทราไชย ญาติพี่น้องก็ร่วมไปกินเลี้ยงฉลองแสดงความยินดี
สามหนุ่มนั่งจิบเบียร์ คุยกันตามประสาพี่น้อง

“เห็นล่ะ ว่าผมจบจริงๆ ชิ คนพูดจริงก็ไม่ค่อยเชื่อ”

“เออ เออ ..เอ็งเก่ง ...3.38”

“เหอะ!!! ใครเขาจะไปได้บ้า .98  .99 แบบตัวเองเล่า ไปเช็คสมองไป๊ สับสนจนต้องเรียนสองใบ”

มายคิดว่า ถ้าม่อนไม่เรียน 2ที่ 2สาย ก็คงได้ 4 เต็ม อย่างสบายๆเลยล่ะ

ตุบ!!! “นี่แน่ะ ว่ากรู”

“เว้ย!!! ไอ้พี่บ้า ตีกระบาลอีกแล้ว” มายลุกเดินหนีมานั่งข้างโม่ง ซึ่งนั่งบุหรี่ ทอดสายตาไปข้างหน้า

“ว่าไงเรา จบจริงแล้ว ทางโน้น เหลืออีกกี่เดือน จบแล้วจะทำอะไร คิดไว้หรือยัง”

“ก็ไม่เชิงอ่ะ พี่โม่ง ...คิดไว้แล้ว...ก็ดูดูอยู่...” คนพูดก็ยังไม่ยอมพูดออกมาชัดเจน ส่วนหนึ่งคงเพราะคิดแต่ยังทำไม่ได้

“มาย ถ้าเราเรียนทำอาหารจบ ถ้ายังไม่ทำอะไร มาช่วยพี่ก่อนสักปีหนึ่ง ได้ไหม...” โม่งตัดสินใจพูดโพล่งขึ้น
สีหน้าลำบากใจ เหมือนเกรงใจอยู่เหมือนกัน แต่สุขภาพของภรรยาก็ไม่ค่อยดี ปีหน้าทางกลุ่มศิลปินเพื่อนอาจารย์และวิทยาลัย
ได้รับการติดต่อจากบรรดามหาวิทยาลัยที่เคยให้ทุนจะจัดงานแสดงร่วมกัน และเวียนกันหลายประเทศ

ตรืดดด ตรืดดด
เสียงมือถือของม่อน เจ้าตัวรับแล้วลุกขึ้นเดินไปคุย...ห่างออกไป

มายหันมามองหน้าโม่ง
พี่ชายที่ดูแลทั้งเขาและไอ้พี่ม่อน ตั้งแต่เด็ก ถุงเท้าดำๆที่เกิดจากการเล่นซนวิ่งไล่กัน พี่โม่งนี่แหล่ะ
ที่คอยเก็บคว้าจากที่ถอดทิ้งตามที่ต่างๆ เอาไปซักให้จนขาวสะอาด

รูปเขียนที่ขายได้ตั้งแต่ตอนที่พี่โม่งอยู่ปี 3  แบงค์ 1000 ที่ส่งให้ แจกทั้งเขาและม่อนเท่ากัน ทำเอาเขาตาโต ตกใจ
ก็มันมากกว่าครึ่งของเงินค่าขนมไปโรงเรียนทั้งเดือน
.
.
“ปีหน้าหอศิลปะของมหาวิทยาลัยที่อเมริกาที่พี่ได้ทุนเรียนนั่นแหล่ะจะจัดงานแสดง ร่วมกับมหาวิทยาลัยอื่นๆหลายๆรัฐ
เขาส่งจดหมายเชิญ ให้ วิทยาลัยอาร์ต อาร์ เข้าร่วมด้วย ทางโรงเรียนเลยจัดฟอร์มกลุ่มศิลปิน เดินสาย โรดโชว์น่ะ มาย”
โม่งตบขาน้องชายเบาๆ 
“คล้ายๆคราวก่อนที่เราไปกับพี่ ที่เยอรมัน หรือที่มายไปกับพวกอาจารย์ทวี แทนพี่ที่ญี่ปุ่น”
มายพยักหน้า นิ่งฟังพี่ชาย
“แต่คราวนี้ เขาจะจัดเป็นโครงการใหญ่ เพราะวิทยาลัยจะเปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัย และจะมีการแลกเปลี่ยนอาจารย์
ทั้งยังมีโปรเจ็คจะแลกเปลี่ยนสตูดิโอทำงานด้วยทั่วประเทศตามสาขาของวิทยาเขต ให้เหล่าศิลปินต่างประเทศ ที่สนใจ
มาทำงานในประเทศเรา พี่เองก็รู้ว่าตัวเองไม่สะดวก ทั้งภาระเรื่องครอบครัว...” โม่งเน้นหนัก ย้ำว่าเขาเองมีครอบครัวแล้ว
 ถึงจะหวง เอ๊ยห่วง คนตัวเล็กหน้าหวาน ก็เหอะ ก็ฟ้าใสทั้งคน  โม่งรู้ เรื่องของมายและฟ้าใส อยากให้มายรู้ว่า เขาเองก็ตระหนักดี 
“อาจารย์เบญสุขภาพไม่ดี  เข้าออกโรงพยาบาลหลายครั้ง เหมือนติดเชื้อ วันดีคืนดี ก็อาจเป็นหนักขึ้นได้
แต่พี่ก็อยากให้ความร่วมมือกับวิทยาลัย ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยทางโน้น วงการศิลปะในเมืองไทยจะได้เข้มแข็ง ปูทาง
ให้คนรุ่นใหม่ ได้เปิดโลกกว้าง คนไทยเก่งๆฝีมือดีๆ มีเยอะจะตาย แล้วถ้ามีเวลาเหมาะ พี่ก็จะบินไปสมทบตามก็ได้” โม่งตบไหล่ พยายามเกลี้ยกล่อม
.
.
“ถ้าผมช่วยดูแลเรื่องงานให้พี่ ผมขออะไรพี่ได้หรือเปล่า” มายเอ่ยเสียงเรียบๆ อย่างตัดสินใจ และไม่ยอมมองสบกับผู้เป็นพี่ชาย

“นายจะขอไม่ให้พี่ยุ่งกับฟ้าใสนะเหรอ ...”   
โม่งก็ตัดใจพูดเพื่อจะได้เคลียร์ใจซึ่งกันและกัน ไหนๆ มายก็เคยถามเอากับเขาแล้ว

 แต่เขาเอง ที่เลี่ยงไม่ยอมพูดถึง โม่งทอดสายตามีแววเศร้า และครุ่นคิด เมื่อต้องนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา
เป็นเรื่องของเขาและฟ้าใส ที่รู้กันเพียง สองคน เรื่องราวที่น่าเจ็บปวด ที่เชื่อมกับความรัก เขาก็ไม่ได้หน้าที่จะต้องพูด นี่นา
 ถ้ามายจะรัก มันก็ควรจะรักฟ้าใส ไม่ต้องมีเงื่อนไข ไม่ต้องมีอดีต

“ได้สิ” โม่งพูดต่อด้วยเสียงที่คิดว่าเขารับคำหนักแน่น แต่กลับแผ่วเบาราวกระซิบกับสายลม
มายมองร่างสูงใหญ่สมส่วนที่ดูหดเล็กลงเพราะห่อไหล่ลู่ด้วยภาระ หน้าที่
บางสิ่งที่ราวกับเป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันได้บรรจบ

เรื่องที่อยู่ในใจ เกิดเป็นลูกผู้ชาย ก็เหอะ

เขาก็ไม่รู้ว่าคนเรา เกิดมา...ทำไมต้องไปเจอเรื่องราวนานา... ซ้ำแล้วซ้ำอีก
พระเจ้าจะทดสอบความอดทนของคนเหรอ ถ้าเกิดเขาทำสิ่งไม่ดีขึ้นมาล่ะ จะโทษว่าความผิดของใคร....
 ของคนจัดการทดสอบ... ข้อสอบ... หรือคนเข้าสอบ…

“พี่โม่งอย่าเพิ่งรับปากผมเลย  ไม่บอกแล้วกัน พี่ก็ทำงานส่วนของพี่ไปก็แล้วกัน เรื่องเดินสาย ผมดูแลงานของพี่ให้ก็ได้”
 ผมไม่ต้องการอย่างงั้นหรอก...คนที่ผมรักทั้งสองคน แม้ว่านั่น...ก็เป็นสิ่งที่ผมต้องการ...ที่สุดเลย..ก็ตาม ...มายคิดในใจ…


Tbc..

ใกล้ ending อีกไม่นาน
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ ตอน ปาร์ตี้ ของเขา ปาร์ตี้เรา... ไม่เกี่ยว (15/11/12)อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 15-11-2012 03:57:47
ตอน ปาร์ตี้ ของเขา ปาร์ตี้เรา... ไม่เกี่ยว


วันนี้วันหยุดนักขัตฤกษ์ อีกไม่กี่วันก็ใกล้จบการฝึกงานแล้ว

เสียงโทรศัพท์ห้องดังขึ้น ก็คงไม่มีใคร

 “พี่ฟ้าใส อยู่ห้องเหรอ” มันจัดแจงทักผมเสียงอ่อนเสียงหวาน

“ก็อยู่สิ เธอโทรมาเครื่องห้องนะครับ”ผมก็ตอบเสียงสะบัดบวกสุภาพกลับไปด้วยความหมั่นไส้ ในความกวนของมัน

“อุ๊ย...คิก คิก คิก...ก็นึกว่าพี่ฟ้าใสไม่อยู่ห้องนี่นา คิดว่าพี่มายชวนพี่ฟ้าใสไปปาร์ตี้กะเค้าอ่ะ”

“เออ เห็นมายมันบอกอยู่ว่าเพื่อนมันนัดกินเหล้ากันเพราะได้งานที่กรุงเทพน่ะเลยเลี้ยงลากัน”

สงสัยอิเกรียงคงรู้จากไอ้เต้

“แล้วพี่มายเค้าไปกินที่ไหนล่ะ”

“ไม่รู้ดิ เห็นบอกเป็นเพื่อนที่นี่นะ แล้วแกไปยุ่งอะไรกะเค้าล่ะ หรืออยากไปร่วมด้วย” มันนะแร่ดมากนะ

เห็นหนุ่มล่ะ แอบมองจนเหลียวหลังเลย หรือว่ามันอยากให้ไอ้มายพาไปด้วย

“อ้าวพี่ฟ้าใสไม่รู้เหรอ พี่มายเค้ากินที่ห้องเพื่อนเค้าที่หอนี้อ่ะ” นังเกรียงมันก็ยังขยันให้ข้อมูลผมอีก

“ก็ช่างเค้าสิ ไปยุ่งอะไรกะเค้าล่ะ แกก้อ”

“แล้วพี่ฟ้าใสไม่อยากดูพี่มายกะเพื่อนเค้าเหรอ อิอิ” ดูมัน

“บ้าเหรอ จะไปดูทำไม”

“นี่งาย ก็ดูพี่มายเค้าเสิร์ฟเหล้าเพื่อนเค้าอ่ะ”

“แกจะอะไร ก็ว่ามา” นังเกรียงมันพยายามอะไรกันแน่

“ก็นี่งาย ห้องเกรียงนะเยื้องๆกะห้องเพื่อนเค้า พี่ฟ้าใสไม่อยากลงมาดูพี่มายเค้าอยู่กะเพื่อนเหรอ”

“ไม่” ผมตอบแบบตัดเยื่อใย

“อิอิ...คิก คิก น่าพี่ฟ้าใส ลงมานะ มานั่งกินอะไรเล่นห้องเกรียงนะ”

“ไม่เอา ฉันจะดูหนัง”

“น่า น่า มาดูห้องเกรียงนะ เกรียงมีเป็ปซี่ มีทาโร่ มีฮานามิด้วย น่ามากินหนมเล่นนะ จะกินเหล้าก็มีนะ อิเต้มันเอาเหล้ามาทิ้งไว้ห้องเกรียงตั้ง2ขวด  คนอื่นเค้ามีปาร์ตี้ เราก็ปาร์ตี้กันมั่งนะพี่ฟ้าใส นะเกรียงขึ้นไปรับก็ได้”

มันอ้อนซะสุดขีด อินี่มันขี้เหงา

“เออ เออ ไม่ต้องขึ้นมา เดี๋ยวลงไปเองก็ได้ แกขึ้นมาเดี๋ยวก็ไปแอบสอดจดหมายรักใส่ห้องใครไว้อีก”

“อิอิอิ    แล้วผมจะรอนะคร้าบ” เชอะไม่ต้องมาทำเสียงหล่อใส่เลยอิเกรียง แกนะแก

ผมจัดแจงสวมกางเกงขาสั้น ก็อยู่ในห้องผมก็ใส่แค่เสื้อยืดกะบ็อกเซอร์ แล้วก็หยิบเป็บซี่กระป๋อง ขนมไม่ต้องเอาไป
เพราะห้องมันมีขนมอยู่แล้ว ก็อิเกรียงมันชอบกินจุกจิก ตุนขนมไว้เป็นแพค ขนมปังปิ๊บสองแบบ มดไม่ขึ้นก็บุญแล้ว
แต่มันขยันกวาดถูสะอาดเอี่ยมเช้า-เย็น พอผมลงไปถึง แค่เรียกชื่อมัน ก็ถลามาเปิดประตู พอเดินเข้าไปกำลังทำหน้านิ่วใส่มัน
 มันก็รีบคว้าแขนผมเดินไปทางระเบียง

“นี่พี่ฟ้าใส นี่ไง พี่ฟ้าใสมาดูนี่สิ”มันจัดแจงฉุดลากผมไป

“เฮ้ย...แกนี่ เป็นอะไรไปล่ะ”ผมก็สะบัดมือมันที่ดึงแขนผมอยู่นั้น จนมันมองหน้า

“พี่ฟ้าใสไม่อยากรู้เหรอ ว่าพี่มายเค้าอยู่กะเพื่อนแล้วเค้าเป็นอย่างไง”มันมาทำเสียงดุใส่ผมอีก อิเวร

“บ้าสิ จะไปยุ่งอะไรกะเค้าล่ะ” นั่นสินะ ผมก็ช่างไม่อยากรู้เหรอ ว่าไอ้มายมันเป็นอย่างไงเวลาไม่ได้อยู่กับผม
เราสองคนแทบไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่แล้วมันกลับมาคอยนัวเนีย บงการ ให้ผมทำโน่นทำนี่   นังเกรียงมันก็มองหน้า
เหมือนรำคราญที่ผมไม่ยอมทำตัวเป็นภรรยาที่คอยจับผิดสามี แล้วก็จับแขนทั้งจับไหล่ผลักให้ผมเดินไปที่ระเบียงที่มันตากผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้าอยู่

“นี่ไง นี่ไง พี่ฟ้าใสดูห้องนั้นสิ ห้องนั้นนะห้องเพื่อนพี่มาย อิเต้เคยบอกว่าพี่มายเคยเช่าห้องนั้นกะเพื่อนด้วยนะ”
นังเกรียงจัดแจงชี้ชวนให้ผมดูห้องที่เปิดไฟสลัวๆ มีคนท่าทางอยู่กันหลายคน
 พอเห็นผมมองตาม มันรีบจับผมมายืนเล็งมุมแอบดูฝั่งตรงข้ามอย่างดี  แถมก้มมากระซิบข้างหูผมด้วย

“อุ๊ย นั่นไง นั่นไงพี่มาย อิอิ แหมกำลังสนุกเชียว หัวเราะร่าเลยพี่ฟ้าใส” อีบ้านี่ก็ชอบแอบดูชาวบ้าน แล้วแหมไอ้มายนะทีอยู่กะตรูเอาแต่หน้านิ่วคิ้วผูกโบว์

“มีชงเหล้าเสิร์ฟสาวด้วยพี่ฟ้าใส” นังเกรียงฟ้องพร้อมกับสะกิดไหล่ผมยิกๆ อีบ้าเดี๋ยวเสื้อตรูขาด  ผมรีบจ้อง ตาม หลังจากทำเป็นไม่สนใจ

“หึงล่ะสิ อิ อิ อิ” มันรีบแซว เมื่อเห็นผมรีบมองตามมือที่มันชี้

“บ้า ฉันก็แค่ดู เพราะไม่เคยเห็นมันเป็นอย่างงี้เท่านั้น” ผมตอบแบบสะบัดวางฟอร์ม ใครจะหึง เหอะ

มันก็ชวนผมแอบดู พร้อมวิจารณ์เพื่อนไอ้เพื่อนมาย ชมว่าพี่คนนั้นหล่อ  คนนี้น่ากิน  มันเลยชวนผมเอาเหล้าของไอ้เต้ที่แอบ
แฮฟมาฝากมัน   มาผสมกินบ้างคนละนิดละหน่อย อิเกรียงมันกินไม่ค่อยได้ ส่วนผมก็กินได้แต่ไม่ค่อยกล้ากินกลัวหลุดฟอร์มอ่ะครับ
 ก็พอเมาแล้วเดี๋ยวปากหมา พูดมาก รั่วอีกต่างหากเลยไม่ค่อยกล้า นอกจากอยู่ในกลุ่มเพื่อนสมัยประถม-มัธยมต้นเท่านั้น
เพราะไอ้พวกนั้นมันรั่วกว่า 555
ผมนั่งกินหนมบวกเป็บซี่ผสมเหล้า แล้วก็นั่งดูรายการประกวดนางงามไปกะนังเกรียง จนเที่ยงคืนกว่าโดยมีนังเกรียง
ไปคอยแอบส่องปาร์ตี้ไปเป็นระยะๆแล้วคอยรายงานไปยั่วผมไป  ซึ่งผมก็ทำเป็นไม่สนใจ
แต่บางครั้งก็ลุกไปแอบดูด้วยเหมือนกัน เชอะ  จนพอเลยเที่ยงคืนหน่อยรายการทีวีก็จบ ผมเลยบอกนังเกรียงว่าผมจะไปนอนแล้ว
 
“พี่ฟ้าใสไม่นอนนี่เหรอ น่า” มันเริ่มอ้อนผม

“ไม่เอา เดี๋ยวขนติด” ผมแกล้งว่ามัน ก็มันเป็นคนขนดกอ่ะ

“หึ...”นังเกรียงทำจมูกยู่ใส่ ค้อนควัก

“เออ เออ...ไปล่ะ”

“อย่าล็อคห้องล่ะ เดี๋ยวเผื่อมีบางคนเค้าเมากลับบ้านไม่ได้ จะไปเคาะห้องดึกๆน๊า...คิก คิก คิก” นังเกรียงมันทำเสียงอ่อนเสียงหวานแซวผม

“เหอะ จะเขียนป้ายแปะไว้ให้ลงมานอนห้องเธอแล้วกัน”

“อร๊าย ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวพี่มายมาบ่นต่อ  เกรียงไม่ได้นอนกันพอดี อิอิ”

“อย่าลืม อย่าล็อคห้องล่ะ เผื่อห้อง405 เค้ากลับห้องไม่ไหว เค้าอาจจะเมามาห้องเธอก็ได้”

“อุ๊ย...กรี๊ดๆ มาเลย มาเลย เค้าจะจับล่ามโซ่เก็บไว้ให้อยู่นี่เลย อิอิ”

“แร่ดนะเธอ ชิ” ผมเลยด่ามัน


พอผมขึ้นไปห้องตัวเอง ขณะกดล็อคที่ประตู ธรรมดามันก็มีกลอน แต่ผมก็ไม่เคยล็อค แต่พอโดนอิเกรียงแซว
 ไหนไอ้มายมันก็อยู่นี่ มันก็อาจจะมานอนห้องผมก็ได้ ผมเห็นที่มันปาร์ตี้ แล้วก็รู้สึกหมั่นไส้มันนิ๊ดๆอ่ะ
เหอะทำเป็นสนุกสนาน เฮฮา ชงเหล้าเสิร์ฟคนโน้นคนนี้ ชิ ผมเลยใส่กลอนประตูด้วยเลย ถึงมันจะมีกุญแจก็เปิดไม่ได้
สนุกสนานกับเพื่อนก็นอนกับเพื่อนเอ็งไปนั่นแหล่ะ เพื่อนมันทีหอนี้ก็ตั้งหลายคน ห้อง405 ก็มี
ผมกินเหล้ามานิดๆเลยรู้สึกร้อนๆ นอนไปก็ต้องถอดเสื้อนอนเหลือแต่บ็อกเซอร์ตัวเดียว


เสียงหมุนลูกบิด ที่ปลดล็อคแล้วดังแกร็กๆแต่ก็ไม่สามารถเปิดได้เพราะติดกลอน

“ฟ้าใส...ฟ้าใส...เปิดหน่อยยยย” เสียงไอ้มายที่ฟังดูเมาเมาด้วย เรียกผมไม่ดังนัก ผมนะได้ยินแล้ว แต่ก็แกล้งทำเฉย
แต่ก็ตั้งใจลุกไปเปิดให้ เพราะเกรงใจชาวบ้านห้องอื่นๆ แต่ใจก็อดไม่ได้ อยากแกล้งมัน ทั้งที่ไม่ใส่กลอนก็ได้นอนสบายไม่ต้องลุก

 นี่แหล่ะ อยากแกล้งมันก็เดือดร้อนไปด้วย

RRRRRR  RRRRRRRR
RRRRRR  RRRRRRRR
RRRRRR  RRRRRRRR

เสียงมือถือดังขึ้นอีก ผมเลยแกล้งทำเป็นงัวเงืยรับสาย อือๆอ้อๆไป

“เปิดตูหน่อยสิ ทำไมต้องใส่กลอนด้วยล่ะ” เสียงมันถามแบบเมาๆอีกต่างหาก
ผมอยากหัวเราะสมน้ำหน้ามัน แต่ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง

“หือ อะราย มายเหรอ กี่โมงแล้ว มีอะราย ฮ้าววววว” แกล้งหาวใส่โทรสับไปที 555 ให้มันยืนหน้าประตูนั่นแหล่ะ
ปรากฏมันเลยเคาะประตู ก๊อกๆ แล้วเรียกให้ผมเปิดตู 555 อ้าวไม่คุยโทรสับกันแล้วเหรอ

“เออ เออ ไปเปิดเดี๋ยวนี้แล้ว” ผมรีบพูด เมื่อได้ยินเสียงมันเคาะหนักขึ้น พอถอดกลอนปุ๊บ มันรีบผลักประตูเข้ามา
 จ้องผมตาวาว ผมรีบหลบตา ถือโอกาสเข้าห้องน้ำขณะยืนทำธุระส่วนตัว ไอ้บ้ามายมันก็ตามเข้ามามั่ง

“เฮ้ย เข้ามาไม” ผมดุมัน

“ก็ปวดมั่งซี่” เฮ้ย ปวดก็ไปจับของเอ็งสิมายุ่งกะของตรู มีหน้ามาหัวเราะหึ หึ อีก แม่งเมาก็ไปนอนสิว่ะ
ผมมองหน้ามัน รีบเดินออกจากห้องน้ำ มันก็คว้าตัวผมไปกอด

“ทำไมต้องล็อคกลอนด้วย มันก้มมากระซิบข้างหู” จั๊กจี้เว้ย

“คนเค้าก็ล็อคกลอนเป็นเรื่องธรรมดา โอย ปล่อยได้แล้วจะนอนแล้ว” ผมทำโมเมไปนอนต่อก็โดนมันกัดคอ เลยรีบผลักหน้ามัน

“ปิดไฟห้องน้ำด้วย” ผมหันไปสั่ง รีบข่มก่อน ไปนอนรอโดนข่มกลับ เอ๊ยไม่ใช่ฮะ


ตุบ เสียงร่างสูงมันทิ้งตัวลงนอนข้าง น่าเมาจนนอนผิดลงพื้นบ้างนะ

“พี่ฟ้าใส”ไอ้มายเริ่มทำเสียงอ้อน มือไม้ก็เริ่มสำรวจไล้ไปตามสะโพก ผมก็เริ่มสัมผัสถึงสิ่งที่แข็งขืนดันก้นตัวเองอยู่

“เฮ้ย เมาก็นอนซะ อย่ากวน คนจะนอน เหม็นเหล้า”

“เมาฟ้าใสมากกว่าเหล้าซะอีก”มันพูดไปมือก็ลามปามเนื้อตัวผมไป

“อื้อ...อย่ามาเบียด อึดอัด” ผมบ่นพลางพร้อมรู้สึกหนาวๆร้อนบ้างแล้ว ก็มันเล่นทั้งเบียดทั้งเสียดไอ้ท่อนแข็งๆ
มือก็ลูบคลำเขี่ยเม็ดยอดอกผมอีก ผมต้องเขยิบตัวหนีมัน ก็หมั่นไส้นี่นา ทีอยู่กันไม่เห็นมันจะค่อยทำตัวยิ้มแย้มกันเองกับผมเลย
 เอาแต่ชอบสั่งๆๆๆ บ่นโน่นบอกนี่ตลอดเวลา ถึงแม้มันจะเอาใจทำโน่นทำนี่ให้ก็เถอะ พอคิดแล้วจะพาลน้อยใจ
แล้วนี่ไอ้เพื่อนที่นังเกรียงเล่าว่า อิเต้บอกว่า มันเคยอยู่กะเพื่อนที่ชื่อพีท ห้องที่จัดปาร์ตี้ มาก่อน ความสัมพันธ์มันจะเป็นอย่างไง
 มันจะมีอะไรกันแบบผมกะมันหรือเปล่าผมก็ไม่รู้ แล้วยังเพื่อนผู้หญิงที่มันคอยเทคแคร์ดูแล เห็นส่งโน่นส่งนี่ให้ตลอด
 มานั่งคุยกันสองต่อสองข้างนอกที่ระเบียงหน้าห้องอีก สีหน้ามันก็ดูมีความสุข หึ ผมคิดแล้วน้ำตาก็เริ่มคลอจนปริ่มขอบตา
  ผมนอนหันหลังกอดหมอนข้างปล่อยให้ไอ้มายมันลูบโน่นลูบไม่หือไม่อือ จนมือที่เลื้อยลูบต่ำเข้าไปในบ็อกเซอร์
และเตรียมรูดให้ต่ำลง หยุดชงักเมื่อรู้สึกผิดสังเกตที่เห็นผมนอนนิ่งเงียบ

“ฟ้าใสหลับแล้วเหรอ” มันเปลี่ยนมาจับไหล่แล้วยันตัวชะโงกมาดูหน้าผม ผมก็รีบหลับตา น้ำตาเลยไหลออกมาที่ข้างแก้ม
พอไอ้มายเห็นเลยตกใจ รีบเช็ดน้ำตาแล้วว่า เป็นอะไร ผมก็ไม่ตอบเอาหน้าซุกหมอนข้าง

“เฮ้ย...ฟ้าใส เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” มันยื่นหน้ามาจ้องหน้าผม  ฮึ ผมก็เลยยิ่งหลบหน้ามันอีก

โอย ซุกหน้าจนแทบหายใจไม่ออกแล้ว  ผมเลยแอบเอาหน้าออกชำเลืองมองมันหน่อยหนึง มายมันเลยเอามือมาจับหน้าผม
ให้มองหน้ามัน ผมก็สะบัดหน้าหนี ทำปากยื่น จะซุกหมอนข้างต่อ

“อ๊ะ...งั้นค่อยพูดกันพรุ่งนี้แล้วกัน…” แล้วมันก็บ่นอะไรพึมพำทำนองว่าอย่าให้รู้นะว่าโกรธเรื่องอะไรไร้สาระ


TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ ตอน ปาร์ตี้ ของเขา ปาร์ตี้เรา..ไม่เกี่ยว2 (15/11/12)อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 15-11-2012 04:13:48
(ต่อ)


ไอ้บ้าดูสิขนาดผมโกรธมัน มันยังจะไม่วายบ่นว่าผม  แล้วนี่ผมก็อยู่ห้องผม มันทั้งมารบกวนดึกๆดื่นๆ  มานอนเบียด
แล้วยังจะมาบ่นผมอีก ทีหลังก็ไม่ต้องมายุ่งกันเลยดีกว่า ผมเลยเอาศอกเขี่ยๆดันตัวมันที่นอนกอดผมซะแน่นจนอึดอัด
พอผมเอาศอกผลักไสไล่ส่งมัน มันก็ยิ่งกอดแน่นขึ้นอีก แถมเอาหน้ามาซุกแปะตรงซอกคออีก  ผมทำปากยื่น แล้วพยายามนอนหลับอย่างไม่อยากจะยุ่งกะมันอีก
.
.
.
กรุ๋ง กริ๋ง กรุ๋ง กริ๋ง
เสียงช้อนกาแฟกระทบถ้วยกาแฟ พร้อมกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟ โชยมาปลุกประสาทรับรู้ให้ผมตื่นขึ้น
 ผมสูดกลิ่นหอมของกาแฟ ค่อยๆลืมตา พลางขยี้ขี้ตา ตามด้วยหาวอย่างขี้เกียจอีก1ที กลิ่นกาแฟนี่ยั่วประสาทจริงๆ
ผมค่อยตั้งสติ พลิกตัวหาต้นตอ ไอ้มายนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตรงโต๊ะเขียนหนังสือ ที่มีถ้วยกาแฟ ควันฉุย มันส่งยิ้มมาให้

“ตื่นหรือยัง...” ไอ้มายมันตื่นมาทำหน้าสดชื่น อาบน้ำแต่งตัวสะอาดเอี่ยมอ่อง ดูแล้วมันวิ้งๆชอบกล เล่นเอาผมไม่อยากมองต่อ
 รีบหันหลังทำท่ากอดหมอนข้างต่อ แต่ก็รู้สึกอายๆมันอย่างไงชอบกล คงเพราะเมื่อคืนผมร้องไห้ด้วยแหล่ะ ฮือ
 จะนอนต่อก็อยากกินกาแฟจังแฮะ ทันใด ที่นอนก็ยวบลง ไอ้มายมันถึงตัวผมแล้วล่ะ

“จะตื่นรึยัง ชงกาแฟไว้ให้แล้วนะ” เสียงมันเริ่มแข็งๆ ไอ้บ้านี่
“*****************” ประโยคลับที่กระซิบอยู่ข้างหู ทำให้ผมต้องรีบขยับตัวจะลุก แต่ก็ช้ากว่ามือมันที่จับตัวผมพลิก
มารวบกอดไว้กับอกมันจนตัวมันก็นอนหงายลงบนเตียงโดยมีผมนอนทับอยู่บนตัวมัน

“เมื่อคืนเป็นอะไร” ดูมันเริ่มทำการสอบสวนผมแล้ว ผมรีบหลบตามัน ทำเป็นปิดปากพูดก็ยังไม่ได้แปรงฟัน แถมปวดฉี่อีก ไอ้บ้า

“อ่อยอ้ายแอ้ว” ผมพยายามดิ้นพลิกตัวหนีมัน “อะไอแองอัน” มันเลยยอมปล่อยผมไป เออ พูดง่ายๆอย่างงี้ค่อยยังชั่ว

ผมรีบลุกเข้าห้องน้ำ แปรงฟันไปผมก็คิดว่าท่ามันถามว่าผมร้องไห้อะไร ผมจะตอบมันว่าอะไร จะให้ผมบอกว่า
ผมน้อยใจมันเหรอที่เห็นมันทำท่าสนุกสนานตอนอยู่กับเพื่อน ผมก็พูดไม่ออกหรอก ทำไมข้อเสียของเรามันไม่ดีเลยเลยว่ะ
ไม่ค่อยกล้าพูดกล้าถามอะไรมัน นี่หรือเปล่าที่ทำให้ต้องเสียใครๆไป ผมนิ่งมองหน้าตัวเองค้างในกระจก

แล้วนี่เราจะเสียไอ้มายไปด้วยหรือเปล่า   น้ำตาผมก็เริ่มออกมาคลอเบ้าตาอีกจนปริ่มจะหยดจนต้องใช้นิ้วกรีดน้ำตาทิ้งไป
ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองรักไอ้มาย รู้สึกใจหาย ความรู้สึกดีอุ่นใจ ที่มีมันคอยอยู่เคียงข้าง อย่างเช้าวันนี้ที่พอตื่นมา
ผมก็ไม่ได้อยู่คนเดียว ถึงแม้ว่าตัวผมเองจะชอบที่ได้ใช้เวลาส่วนตัวอ่านหนังสือ หรือทำอะไรๆเงียบคนเดียว
 แต่ตอนเช้าที่ตื่นมาแล้วพบว่ามีใครคนหนึ่งอยู่ด้วยกับเรา มันก็ช่างเป็นอะไรที่วิเศษกว่า โดยเฉพาะยิ่งไอ้มาย ที่มันจะคอยดูแล
เรื่องการกินอยู่แม้กระทั่งจัดสรรเวลาว่าจะต้องทำอะไรกี่โมงถึงกี่โมง เอาผ้าไปซักเข้าเครื่องไปกินข้าว ผ้าเสร็จเอาไปตาก

“เป็นอะไร” เสียงไอ้มายดังขึ้นข้างหู

อยู่ดีๆ หน้าคนที่ผมนึกก็โผล่พรวดมาในกระจก จนผมตกใจ แปรงแทบจะทิ่มปาก ผมได้แต่อุบอิบ รีบล้างปากผลักมันออกไป
บอกว่าจะอาบน้ำ ผมก็มองหน้าแล้วมันก็ออกไปโดยดี ผมปิดประตู

พออาบน้ำเสร็จ ผมก็พันผ้าเช็ดตัว เดินออกมา มองเห็นถ้วยกาแฟ ที่ชงวางอยู่ก็อยากกิน เลยขอเดินไปจิบก่อนล่ะ
ยิ่งเพิ่งแปรงฟันนี่ยิ่งอร่อย เสพรับรสได้เต็มที่ ขณะที่ยืนจิบกาแฟ อย่างกะคนลงแดง 555 ไอ้มายที่นั่งมองผมตั้งกะออกจากห้องน้ำก็ลุกขึ้นมายืนประกบผม

“ตกลงเมื่อคืนเป็นอะไร ถ้าไม่บอกจะจับข่มขืนตอนนี้เลย” ไอ้มายไม่พูดเปล่ามือมันแกะผ้าเช็ดตัวผมออก
ไอ้บ้า ผมยิ่งกำลังถือถ้วยกาแฟอยู่เดี๋ยวหก มือที่จับผ้าไว้มือเดียวก็สู้มันไม่ได้หรอก
แถมฟังแล้วอยากจะเอากาแฟสาดหน้ามันซะที  ยิ่งเกลียดคำๆนี้อยู่ด้วยนะแก ไอ้เชี่ย ไอ้สาดดด ไอ้หน้าหมา
ไม่เสียดายกาแฟ จะสาดหน้ามันจริงๆด้วย โกรธมันแล้ว

ผมเลยหันหลังให้มัน อ้าวนี่จะกลายเป็นสมยอมให้มันหรือเนี่ย ผมก็รีบจิบกาแฟต่อ จนเหลืออีก 2จิบ เลยวางถ้วยกระแทก
ลงบนโต๊ะ เฮ้อ...เห็นแก่กินจังเลยตรู ผมก็เดินตัวเปล่าเปลือยไปแต่งตัว ก็มันอยากถอดผ้าเช็ดตัวผมไปนี่นา ผมก็รีบแต่งตัว
จนไม่ได้ใส่กางเกงใน  คว้าเสื้อกางเกงได้รีบแล้วหันหลังเดินออกจากห้องทันที เสียงไอ้มายเรียกอย่างตกใจอยู่ข้างหลัง

“เฮ้ย!! ขอโทษ พูดเล่น ไม่ได้ตั้งใจ ไข กลับมาก่อน”

ผมก็ไม่ได้หันไปมอง รีบจ้ำพรวดๆ เดินลงบันได พอลงแล้วก็นึกได้ว่าไม่เอาอะไรติดตัวมา ทั้งตัง หรือมือถือ ก็ฉุนมันนี่นา
มีแต่บังคับ บังคับ ถ้าลงไป นั่งกินข้าวร้านป้า ก็ยังพอบอกได้ว่าลืมเอากระเป๋าตังมา ติดตังไว้ก่อนแล้วรีบกลับไปเอามาจ่าย
หรือว่าอีกแป๊บไอ้มายมันก็ต้องลงมาตามผมแล้วจ่ายให้อยู่ดี ผมคิดแล้วก็ต้องทำหน้ายู่ ว่าตัวเองพึ่งไอ้มายตลอดเลย
พอเดินมาถึงชั้นสองก็คิดได้ว่า อิเกรียงมันอยู่นี่นา ผมก็รีบเดินไปเคาะห้องมัน

“เกรียง เกรียง นี่พี่เอง”

“ใคร พี่อะไร พี่ฟ้าใสของพี่มายใช่ไหม” อีนี่กวนตรีนที่สุด เสียงมันหัวเราะคิกคัก ตามเคย

“เปิดได้แล้ว”ผมทำเสียงสะบัดใส่นังเกรียง แล้วก็มีเสียงหมุนลูกบิดประตู ผมก็ทำท่าจะผลักเข้าไป เสียงนังเกรียงก็ต่อว่า

“เดี๋ยวก่อนซิ ใจร้อนจริง ให้เค้าเปิดกลอนก่อนสิ….อิอิ” เสียงนังเกรียงทำเป็นบ่นใส่ผม อิบ้านี่ เป็นกระเทยแมนเต็มขั้น
ตัวดำจนเขียว ขนก็ดก สูงตั้ง180 ยังจะกลัวอะไรไปได้

พอผมเข้าไปได้ ผมก็กดล็อคประตู นังเกรียงมันกำลังเก็บเสื้อผ้าที่ตากแห้งแล้วมารีด  มันก็ละเอียดลออสมเป็นผู้ฉิ๊งจริงๆ
ผมเองนะยังไม่ยอมรีดผ้าเอง อยู่หอในก็ให้แม่บ้านทำ พออยู่หอนอก ก็ใส่แต่เสื้อที่ไม่ต้องรีด
แต่ก็ยังได้ไอ้มายมันรำคราญที่ดูไม่เนี๊ยบมันเลยรีดให้ ผมเลยทำเป็นจะลงมาชวนมันไปกินข้าว

 นังเกรียงเลยบอกว่ารีดผ้าอยู่ต้องรอมันก่อนนะ มันก็นึกว่าผมหิวก็ชวนกินมะขามดอง ผมก็บอกไม่เอาอ่ะ
แล้วเลยคว้านิตยสารดาราอะไรของมันขึ้นไปนอนอ่านบนเตียง อิเกรียงมันก็ชวนคุยโน่นนี่ สักพักเสียงเคาะประตูห้องมันก็ดังขึ้น
พร้อมกับเสียงไอ้มายที่เรียก อิเกรียง นังเกรียงมันเลยมองหน้าผม พร้อมกับทำสีหน้าแววตาระยิบระยับขบขันกิ๊วกร๊าว

“อุ๊ยทะเลาะกันเหรอ อิอิ พี่ฟ้าใส พี่มายเค้ามารับตัวแล้ว คิก คิก” นังเกรียงพูดพร้อมหัวเราะปิดปาก

“ครับบบ ผม” อิเกรียงส่งเสียงตอบ คนเคาะประตู พร้อมกับวางเตารีด

“นั่นใครครับผม”เสียงอิเกรียงจัดแจงร้องถามอย่างจงใจทำเสียงหล่อใส่คนรอหน้าประตู ดูความกวนประสาทของมัน

เชอะอิบ้า รู้ก็รู้ว่าใครยังจะแกล้งกวนเค้า ส่วนผมก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้นอนคว่ำอ่านหนังสือต่ออย่างกะเตรียมตัวสอบ

“เปิดเลย แกไม่ต้องพูดมาก” ดูมารยาทของคนจะขอเข้าห้องคนอื่นสิ ไอ้มาย ข่มขู่คนอื่นเค้าตลอด
พอไอ้มายเข้ามามันก็กวาดสายตามองหาผม แล้วก็ได้แต่ยืนเก้อๆกลางห้อง นังเกรียงมันก็เดินกลับไปรีดผ้า ผมก็ทำเป็นไม่สนใจก้มหน้าก้มตาอ่านข่าวดาราต่อ

“กินข้าวหรือยัง” ไอ้มายก็พูดกึ่งถามขึ้นมาลอยๆ ไม่ระบุว่าถามใคร ผมก็ไม่ตอบ อิเกรียงเลยต้องตอบ

“รีดผ้าก่อน พี่ฟ้าใสก็ชวน แต่เกรียงบอกให้รอเกรียงรีดเสร็จก่อน “อิเกรียงมันก็ลอยหน้าลอยตาตอบ

พอไอ้มายคุยกะอิเกรียง  มันเลยมองเลยไปที่ประตูที่เปิดสู่ระเบียง มันก็เลยเห็นว่าห้องอิเกรียงเยื้องกะห้องเพื่อนมันที่จัดปาร์ตี้เมื่อคืน
มันเลยพยักหน้ากะตัวเอง พออิเกรียงเห็นไอ้มายที่มองข้ามมันไปที่ระเบียง ที่ใช้ตากผ้า ซึ่งตอนนี้ นังเกรียงมันเก็บผ้าที่แขวนตาก
จนเกลี้ยงโล่ง เลยเห็นว่าฝั่งตรงข้าม เป็นอะไร มันเลยเริ่มหน้าซีด อุบอิบพูดทำนอง  “เกรียงไม่เกี่ยวนะ” อย่างร้อนตัว

“อ่ะ พี่มาย กินมะขามก่อน จะได้ใจเย็นๆเอ๊ย แก้หิว”

“ไม่ต้องเลย แกชวนพี่ฟ้าใสมาที่นี่เมื่อคืนรึเปล่า” ไอ้มายถามเสียงเข้ม

“อ๊ะ...เปล่า เปล่าน๊า”

“ฮึ่ม...ถ้าเรื่องนี้แกเกี่ยว ล่ะน่าดู อิเกรียง” ไอ้มายข่มขู่ อิเกรียง

“อุ๊ย...เกรียงไม่เกี่ยวอะไรนะ อิอิ พี่ฟ้าใสเค้าแค่มากินหนมที่ห้องเกรียงเท่านั้น” พูดจบมันก็ทำหน้าเป็นไม่รู้เรื่อง
หนอย...อินี่ มันน่ะตัวดี ยืนแอบดูเค้าเป็นชั่วโมงๆ ไอ้มายมันได้แต่มองจ้องหน้า นังเกรียงตาขวาง แล้วก็เดินมาหาผม

“พี่ฟ้าใส หิวก็ไปกินข้าวสิ ไป” มันชวนผมเสียงนุ่มขึ้น

“ยังไม่หิว เดี๋ยวรอเกรียงมันก่อน” ผมก็ยังรอก้มหน้าอ่านข่าวสอดรู้สอดเห็นเรื่องดาราต่อ

“พี่ฟ้าใสไปกินก่อนได้เลย ครับผม  เกรียงคงรีดผ้า อีกนาน...แสนนาน” ว่าแล้วมันก็แอบอมยิ้ม

“ไปสิ...หรือจะให้อุ้มไป” มายมันก้มลงพูดเสียงแข็งที่ข้างหูผม  ผมเลยหน้าแดงขึ้น ก็อายไอ้เกรียงมันนี่นา เลยต้องรีบลุกขึ้น
 ไอ้มายมันรีบคว้าข้อมือผมมาจับเตรียมฉุดให้รีบออก อิเกรียงมันทำเป็นหันหลังรีดผ้าต่อ แต่ผมรู้ว่ามันแอบหัวเราะผม
ผมก็จะสะบัดข้อมือ บ่นเบาๆว่า ไม่ต้องจับก็ได้ เดี๋ยวเดินตามไปเองล่ะน่า แต่ไอ้มายมันก็ไม่ยอมปล่อย ผมก็ได้แต่ก้มหน้าเดินตามมัน

“พี่มาย ห้ามทำอะไรพี่ฟ้าใสรุนแรงนะ ไม่งั้นเกรียงจะแจ้งตำรวจ” นังเกรียงจัดแจงตะโกนอวยพรพร้อมกับโบกมือบ๋ายบายผมกะไอ้มาย

“ถ้าจะฆ่าใคร ฉันก็จะฆ่าแกก่อนล่ะ อิเกรียง” ไอ้มายอวยพรสวนกลับไป พอประตูปิดลงผมก็ได้ยินเสียงอิเกรียงหัวเราะคิกคักตามนิสัยมัน
“กินข้าวนะ แล้วค่อยคุยกัน”มันบอกโปรแกรม เออ จะทำอะไรก็ทำ แกเป็นหัวหน้านี่นา ผมเป็นแค่ลูกน้องมาอย่างไงก็ตามนั้นอยู่แล้วนิ

พอลงมาถึงข้างล่างมันก็ปล่อยมือ ผมก็เดินตามไปนั่งที่ร้านป้าข้างหอ ขณะที่นั่งกิน ก็มีเพื่อนมันเดินเข้ามาสั่ง ไอ้มายก็พยักหน้า
ทักทาย แล้วก็นั่งกินกะผมจนเสร็จ มันก็เดินไปจ่ายเงิน แล้วก็เดินไปคุยกะเพื่อน ก็ได้ยินว่าเพื่อนมันที่ชื่อ พีส กะแฟนไปกรุงเทพแล้ว
แล้วมันก็พยักหน้าให้ผมเดินตามมันไปที่ร้านข้างๆ แล้วก็หันมาถามว่าเอาอะไรหรือเปล่า ผมก็ไม่เอา
แต่มันก็ซื้อโค้กกระป๋องกับน้ำผลไม้แล้วก็พวกขนม พอรับของทอนเงินเสร็จ มันก็ดันไหล่ให้ผมกลับขึ้นห้อง
ผมก็มานึกๆ ผมเองก็ทำตัวว่าง่ายๆตามๆมันทุกอย่างไม่ค่อยจะมีปากมีเสียงเลยนี่นา งี่เง่าชะมัดเลยว่ะตัวเรา
แต่ก็เป็นเพราะตัวผมเองก็รักความสบาย ไม่คิดอะไร ว่าไงก็ว่าตามนั้น นอกจากไม่เห็นด้วยจริงๆ ผมเดินตามหลังคนที่อยู่ข้างหน้า
จนมาถึงหน้าห้องตัวเองอย่างไม่รู้ตัว ไอ้มายมันไขกุญแจให้ผมเดินเข้าไป ก่อนแล้วมันเป็นคนปิดประตูจะได้ไม่ลืมล็อค
มันเลยจัดแจงรวบเอวผมไปนั่งที่เตียง โดยไม่ลืมล็อคประตูด้วย ส่วนตัวมันก็นั่งเก้าอี้มองหน้าผม

“อ่ะมีอะไรว่ามา” ไอ้มายมันทำท่าอย่างกะซักฟอกผู้ต้องหา

“...”ผมก็เงียบ ทำปากมุ่ย ก็ไม่รู้จะพูดอะไรนี่หว่า ผมก็ไม่รู้จิตใจตัวเองดีนัก โอ้ย!!ไม่อยากสบตามันเลยโว้ย

“กินโค้กไหม” ไอ้มายมันทำท่าจะเปิดกระป๋องโค้กให้ เอ๊ะ ฉากนี้เหมือนใหนังที่ตำรวจดีเอาใจผู้ต้องหาเลยนี่หว่า
แล้วเดี๋ยวก็ต้องมีตำรวจเลวมาตบโต๊ะกระชากคอเสื้อผู้ร้าย

“ไม่เอา...อ๊ะ เอาก็ได้”ผมเริ่มสับสน กินก็ได้ จะได้ถ่วงเวลาไม่ต้องพูด

“อ่ะ นี่” มันยื่นโค้กมาให้

“เอาทาโร่ด้วย” ผมบอกขอขนม

“อ่ะ” มันฉีกซองทาโร่แล้วส่งให้ผม “ กินบนเตียง ระวังหกด้วยล่ะ เดี๋ยวมดขึ้น” การสั่งสอนก็เป็นเรื่องปกติ ของไอ้มาย
ฮึ ตรูไม่ใช่เด็กแล้วนะเว้ย แก่กว่ามันตั้ง3ปี ใช่สิ เรื่องอะไรผมจะไปกลัวมัน กำลังใจเริ่มมา ผมเลยทำท่าจะลุกเดินไปเปิดทีวี
ก็เจอสกัดดาวรุ่งซะก่อน ก็มันรวบตัวผมมานั่งตักมัน

“มาคุยกันก่อน ตกลงเรื่องอะไร” มันกอดผมไว้แล้วกระซิบข้างหู เว้ยจั๊กกะจี๊ เว้ย

“เรื่องอะไร ไม่รู้ เรื่องอะไร” ผมก็ยังคงปฏิเสธ เดี๋ยวถูกซักมากๆถ้าให้พูดผมก็ต้องร้องไห้อีกแน่ๆ ก็ผมบ่อน้ำตาตื้นนี่นา
โกรธก็ร้อง เสียใจก็ร้อง ซึ้งนิดๆหน่อยก็ร้อง เห็นคนแก่ๆลำบากๆก็ร้อง

“ไม่พูดจะปล้ำนะ” ห่า โคตรหน้าด้านเลยนะไอ้มาย ผลประโยชน์ได้ตลอด

“ก็ตามใจสิ แกก็ทำอะไรตามใจแกอยู่แล้วนี่” อุ๊บ ผมไปว่ามันแล้วอ่ะ มันจะโกรธเปล่าเนี่ย
โอ๊ย มันอุ้มผมมาวางนี่เตียง แล้วคุกเข่าตรงหน้า ผม จับหน้าผมให้มองดูมัน

“ตกลง ตามนั้นใช่ไหม ดี พูดเองนะ” มันก็ทำสีหน้าเจ้าเล่ห์ หึ แล้วก็ลุกขึ้นจับผมนอนลงเตียงแล้วคร่อมทับตัวผมทันที

“เฮ้ย เดี๋ยวก่อน ไอ้บ้า พูดเล่น อย่าเอาจริงสิ เอ๊ย จั๊กจี๋ เดี๋ยว...เดี๋ยว...” ผมรีบดันตัวมันออกไป แต่ไม่สะเทือนมันเลย
พอมันคร่อมผมได้มันก็ไซ้ซอกคอทันที ทั้งขบติ่งหูแล้วเลียชอนไช  มือก็เกาะกระดุมกางเกงซุกเข้าไปกุมแท่งของผม

“คุยกันดีๆไม่ยอมพูด ก็นอนคุยแล้วกัน” พูดจบมันประกบปากผม มือหนึ่งก็สอดเสยผมรับศีรษะให้ผมเงยหน้ารับจูบของมัน
อือ ..อ้า..ผมได้แต่ร้องครางในลำคอ มือที่ดันตัวมันไว้ก็เริ่มกลายเป็นโอบไหล่มันไว้แทน
แล้วตอนนี้ผมก็กลายเป็นลูกไก่ในมือมัน ฮึ ผมเกร็งหน้าท้องด้วยความเสียวภายในผมตอดกระตุบ
น้ำที่หลั่งเยิ้มที่ปลายแท่งกลางกายเต่งจนอยากระเบิด แต่ไอ้มายมันก็ไม่ยอมทำให้ผมจนถึงที่สุดซะที
อื้อออ...มาย...ผมได้ครางเบียดตัวเข้ากับอกมัน ปากก็ทั้งกระซิบครางแล้วก็ดูดคอมัน

“จะบอกไหมว่าเป็นอะไร” มันยื่นคำขาดกับผมแล้วก้มลงเม้มขบที่ติ่งยอดอกผมอีก

“บอก บอก มาย อมให้เราหน่อย ดูดให้หน่อย เราจะขาดใจอยู่แล้ว อื้อ...” ผมหอบหายใจด้วยความเสียว
ความรู้สึกที่คั่งค้างทำให้ต้องขอร้อง ไอ้มายมันใช้มือทำให้ผมจนพอผมกระตุกใกล้จะถึงมันก็หยุด ทำเอาผมใจจะขาด
แล้วมันก็มาจูบผมต่อบ้างจนผมอยากจะบ้ามันคันมัน....อยากปล่อย  ผมกัดมันไปที มันก็เอา บังคับให้ผมพูด
มันเห็นผมหอบจนกระเส่าจึงบดริมฝีปากจูบอย่างมันเขี้ยวมือมันหยอกที่ปลายแท่งของผมต่อ เสร็จมันเลื่อนตัว
ลงก้มไปครอบครองแก่นกลางของผมจนมิดแทบถึงลำคอใช้ปลายลิ้นหยอกกับถุงนิ่ม ทำให้ผมร้องครางอย่างมีความสุข

ในที่สุดผมก็ปลดปล่อยของเหลวแห่งความสุขสมออกมาจนเต็มปากไอ้มาย อือ อยากร้องไห้
ทั้งอายทั้งมีความสุขจนผมไม่กล้ามองหน้ามัน ผมเลยเริ่มกระเถิบตัวหนีมัน

เอ่อ...ได้แล้วชิ่ง เอ่อ...ก็นับว่าเป็นวิสชั่นที่ดีน๊า อย่าว่ากันเลย ก็มันน่ะแหล่ะ ทำผมก่อนเองนี่นา ก็สมควรต้องจัดการให้ผม
ไอ้มายมันเช็ดปากที่เลอะไปด้วยน้ำแห่งความสุขของผม แหะ แหะ ผม เริ่มกลัวมันอีกแล้ว ไอ้บ้านี่ ทำไมผมสู้มันไม่ได้สักที 
มันทำจ้องหน้าผมตาวาว  เฮ้ย อย่ามาจ้องมากเว้ย ตรูอายุมากกว่านะ มันคว้าสะโพกผมไว้ แล้วขึ้นคร่อม เลียปากผมเล่น
ไอ้บ้า เป็นหมาใช่ไหม ฮื้อ รสชาตน้ำของผม ปะแล่มปะแล่ม ยังกะพวกเห็ดหอม ทีหลังกินชีสเยอะๆด้วยดีกว่า
จะได้เหมือนครีมชีสคาโบนาร่า 555 อุ๊บ ผมเผลอไปกะความคิดตัวเองนิดหน่อยลืมถึงหมาบ้าที่มันกำลังจะกินผมอยู่
ถ้าแกล้งสลบมันจะปล่อยผ่านผมไหมเนี่ย ไอ้มาย ไอ้บ้า

“เอ๊ย...ขอกินน้ำก่อนได้ไหม หิวน้ำอ่ะ” ผมพยายามขัดจังหวะ หาทางเอาตัวรอด

“เอาน้ำของผมได้ไหม” มันถามตาวาว

“ไอ้บ้า...” ผมผลักมันไปที แต่มันก็ยอมปล่อยให้ผมลุกขึ้น ดูสิผมไม่เหลืออะไรติดร่างเลยแม้แต่ชิ้นทั้งเสื้อและกางเกง
ส่วนมันเชอะ แค่เสื้อหายไปเท่านั้น ผมเริ่มรู้สึกจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า เอ่อ...ผมเป็นคนถอดเสื้อมันเองล่ะ
ก็แหมตอนนั้นอารมณ์มันพาไปจริงๆ จนอยากฟัดมันจริงๆ อื่อ นึกแล้วพาลเสียวแป๊บที่ท้องน้อย อุ๊บ ผมรีบหันหลังกลับ
ไม่ให้ไอ้มายเห็นว่าฟ้าใสน้อยผมเริ่มตื่นตัวอีก ผมรีบแวบเข้าห้องน้ำอาบน้ำดีกว่า ผมอาบน้ำจนเสร็จเออ ก็ดี แปลกแฮะ
มันก็ไม่กวนผม ผมไม่ได้เอาผ้าเช็ดตัวเข้าไปพอออกมาก็เจอมันเอาผ้าเช็ดตัวรอไว้แล้ว แล้วมันก็เช็ดๆ ห่อๆ แล้วดันให้ผมไปนอนคุยที่เตียงเหอะ
มันชอบกอดผมตัวเปล่าๆ เย็นดี ผมมองหน้าไอ้มายไม่เห็นแววหื่น เลย เออ เออ ไป เอางั้นก็ได้ คุยก็ได้ เผื่อผมจะรู้จักมันมากขึ้น


TBC...
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ ตอน ปาร์ตี้ ของเขา ปาร์ตี้เรา..ไม่เกี่ยว3 (15/11/12)อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 15-11-2012 04:19:49
(ต่อ)


“ตกลง เป็นอะไร โกรธอะไรผม เรื่องปาร์ตี้เหรอ ผมก็บอกแล้วว่าไปกินเหล้างานเลี้ยงส่งเพื่อน” มันนอนกึ่งนั่งพิงหัวเตียง
แล้วมันก็ให้ผมนอนซบพุงกะทิแห้งๆ ผมก็เอานิ้วไชสะดือมัน แหะ แหะ ผมชอบมาก ไชมาทุกสามี
ไอ้มายมันเอามือลูบผม ผมเล่น ผมเลยตัดสินบอกมันไปว่า

“ฉัน น้อยใจที่นายน่ะ พออยู่กะฉันนายเอาแต่ดุแต่ว่าแต่บ่น สั่งโน่นสั่งนี่ แล้วพอนายอยู่กะเพื่อน นายก็มาทำยิ้มแย้ม
เฮฮามีความสุข” ผมพูดพร้อมกับทำเสียงไม่พอใจ ปากยื่น แถม “เฮอะ”ลงท้ายอีกต่างหาก

“โห...มาน้อยใจอะไรล่ะ”มันลากเสียงยาวเชียว

“ก็นั่นมันเพื่อน อยู่ด้วยกันสนุกสนานเป็นธรรมดานี่นา” มันรีบอธิบาย

“อ้าวแล้วทีอยู่กะฉัน นายไม่เห็นทำตัวมีความสุขสนุกสนานอะไรมั่งเลย” ผมก็ยังพยายามตั้งข้อหาให้มันให้ได้

“ใครว่าผมไม่มีความสุข ไม่งั้นผมมาคอยตามพี่ฟ้าใสทำไม ผมไม่ใช่อิตุ๊ดเกรียงนี่ จะได้มาคุยกระหนุงกระหนิง

เม้าท์คนโน้นคนนี้กะพี่ฟ้าใส” ไอ้มายพยายามแก้ข้อกล่าวหา พร้อมกับก้มมานัวเนียแก้มผม
เออ ดูดิ มันรีบเอาผมมานอน ลืมทาแป้งไปเลย เอ๊ะ อย่างงี้ฟังดูมันว่าผมกลายๆหรือเปล่าเนี่ย ผมก็เริ่มตาขวางใหม่

“ก็แล้วนายยังเสิร์ฟโน่นเสิร์ฟนี่ให้เพื่อนด้วย เอาใจกันซะ โดยเฉพาะผู้หญิงคนนั้นนะ”ผมเริ่มเจาะประเด็น

“โถ่...นั่นไอ้หนิงแฟนไอ้พีสมัน พี่ฟ้าใสหึงผมด้วยเหรอ แหะ ดีใจจัง555”
ว่าแล้วมัน นัวเนียแก้มผมแล้วเลยมาถึงปากด้วย อึม อึม ผมเลยทำปากยื่นใส่มัน เลยโดนทั้งดูดทั้งกัด

“ก็ไอ้หนิงมันเป็นแฟนไอ้พีส แล้วมันเป็นผู้หญิงคนเดียวในงานก็เห็นนี่นา ว่ามีแต่ผู้ชาย ไอ้คนอื่นก็เอาแต่เฮฮากินเหล้า
ผมก็อยากให้ไอ้พีสสนุกกับเพื่อนให้เต็มที่ไม่ต้องคอยห่วงแฟนมัน เลยช่วยเทคแคร์ให้ก็เท่านั้นน่า..พี่ฟ้าใส”

“แล้วนายสนิทกับพีสสนิทแบบไหน นายเคยเช่าหอห้องเดียวกับมันด้วย สนิทแบบฉันกับนายหรือเปล่า”

“โห...หึงเหรอ เปล่า ไม่มีอะไรหรอก แค่เพื่อนกัน บางทีตอนทำโปรเจค ผมก็ขี้เกียจกลับบ้าน หลานๆก็มาอยู่เยอะ
ผมก็ช่วยมันหารค่าห้องก็เท่านั้นน่า” ว่าแล้วมันเริ่มซุกไซ้นัวเนียต่อ หนอยจะกลบเกลื่อนความจริงล่ะซี่

เอ๊ะ เอ๊ะ นี่ผมกำลังรับบทภรรยาขี้หึงเหรอเนี่ย เฮ้ยไม่ใช่นะ
ผมผลักหน้ามันที่ป้วนเปี้ยนจะปิดปากผมออกไป

“ก็แล้วนาย...” ผมพูดได้แค่นั้นมันก็เอาปากมาปิดปากผม

“ผมมีพี่ฟ้าใสคนเดียวนี่แหล่ะ”แล้วมันก็ฟัดซ้ายฟัดขวา ผมก็ถือว่าคุยกันก็แล้วกันไป ก็ไม่มีอะไรติดค้างใจ

ผมดูท่าไอ้มายที่มันฟัดผม ก็ท่าทางแค่ฟัดเล่นๆไม่ใช่จะเอาอะไรมากมาย แหะ แหะ แล้วผมก็สบายตัวไปแล้ว เลยชวนมันไปออกไปข้างนอกดีกว่า

“แล้ววันนี้นายไม่มีอะไรทำเหรอ”

“ไม่มี เอ๊ะมีนี่นา ยังไม่ได้ทำอะไรอยู่อย่าง” มันตอบพลางมองผมไปทั่วตัว  เหอ เหอ ผมไม่ลืมหรอกว่าตัวเองอยู่ในสภาพแบบไหน

“ไปดูหนังกัน เดี๋ยวไปชวนอิเกรียงด้วย  นะ แล้วกันนะ” อร๊าย ผมเผลอเอามือลูบเนื้อลูบตัวมันเล่น

พออยู่ในอารมณ์สบายๆทั้งกายทั้งใจ เผลอก่ายไปนอนทับช่วงล่างเข้าหน่อยทำไอ้มายน้อยแข็งขึ้นมา
เลยต้องรีบลุกเอาผ้าเช็ดพันแล้วเดินไปคว้าโทรสับห้องโทรหาอิเกรียง

“เกรียง วันนี้ทำอะไรหรือเปล่า จะชวนไปดูหนัง” พอผมรีบยกหูโทรศัพท์ต่อห้องอิเกรียง ไอ้มายก็เข้ามาข้างหลังยืนฟังด้วย
 แถมกดสปีดเกอร์โฟนอีก

((อุ๊ย พี่ฟ้าใส ยังอยู่ดีหรือครับผม อิอิ))

“อยู่ดีสิ ดีพอจะฆ่าใครได้ด้วย” ไอ้มายรีบตอบสวน นังเกรียงกลับไป

“อุ อุ อุ พี่มาย จะเลี้ยงหนังเหรอ อิอิ” นังเกรียงนี่อารมณ์ดีตลอด

“ไม่เลี้ยงหนัง เลี้ยงข้าว ไปไหม” ผมตอบแทนไอ้มาย

“อุ๊ยยย...ดีดี ชวนพี่ศักดิ์นรินทร์ไปด้วย พี่ศักดิ์นรินทร์อยู่หอคนเดียว พี่กัสจังก็ไม่อยู่กลับบ้าน”

“เออ เออ งั้นแก โทรหาศักดิ์นรินทร์เลย”

“ได้พี่ ถือสายแป็บ” นังเกรียงจัดแจงต่อสายถึงศักดิ์นรินทร์ ผมก็ได้ยินเสียงเกรียงนัดแนะ ผมเลยให้ไอ้มายเป็นคนพูดถามไถ่กันเอง

เลยสรุปกันว่า ให้เกรียงซ้อนสามไปกะผมกะไอ้มาย  เพราะอิเกรียงมันก็ขี่มอไซต์ไม่เป็น แล้วไปเจอกับศักดิ์นรินทร์ที่เซ็นทรัล
เพราะหอผมจะอยู่ใกล้กว่า หอศักดิ์นรินทร์จะออกไปทางนอกเมือง พอดูหนังเสร็จจะไปไหนต่อ นังเกรียงก็ซ้อนศักดิ์นรินทร์ได้

“งั้นเดี๋ยว เกรียงขอเวลาอีกครึ่งชม.นะพี่ รีดผ้าจนร้อน เดี๋ยวอาบน้ำอีกรอบ พี่มายกะพี่ฟ้าใส ก็อาบน้ำด้วยอีกรอบสิ อากาศมันร้อน อิอิ”

“เดี๋ยวโดนอิเกรียง-ไม่ต้องพูดมากเลย แก” ผมกับไอ้มายแทบจะพูดพร้อมกัน

 แต่พอผมวางโทรศัพท์ ไอ้มายกลับไม่ยอมขยับ
จากที่โอบกอดหลังผมอยู่ แถมหน้ามันที่วางแปะที่ไหล่ ก็เริ่มมาพ่นลมหายใจร้อนใส่แก้มใส่หู ใส่ซอกคอผม
 มือขวาก็เริ่มล้วงแหวกผ้าเช็ดตัวเข้าหาฟ้าใสน้อยของผม มือซ้ายก็จับขยี้เม็ดยอดอกจนมันแข็งเป็นไต มือมันหยอกล้อกับถุงนิ่ม
แล้วก็เริ่มไล้ที่ปลายจนมันเริ่มเต่งแข็งขึ้นหยาดของเหลวหลั่งออกเยิ้ม และเริ่มกระตุก ลมหายใจของผม เริ่มแรงขึ้น
ไอ้มายเริ่มเอามือที่รูดแกนกลางผมเร็วขึ้น ทั้งเคล้นคลึงหนักเบา ปลายลิ้นมันที่ไล้เลียที่ติ่งหู ลำคอ ก็เปลี่ยนเป็นทั้งดูดทั้งกัด
“อ้า..”
 ความเสียวที่ท้องน้อย จนอยากจะบอกให้มันกัดผมแรงๆกว่านี้ ผมได้ยืนเอาศีรษะยันผนังไว้เพื่อรับการโอบกอดจากด้านหลัง
ไอ้มายเอามือจ่อแท่งมายเสียดสีร่องด้านหลัง ผมรู้สึกได้ถึงของเหลวที่เยิ้มตรงปลาย ภายในร่างกายผมตอดกระตุก
 บอกความต้องการ จนทำให้แอ่นสะโพกรับรอการรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ผมหายใจแรงจนแทบหอบ
ใจหนึ่งก็เริ่มกังวลเพราะเป็นผนังด้านประตูห้องกลัวเสียงจนลอดจนคนที่เดินผ่านได้ยิน ใจหนึ่งก็รอคอยการสอดรับเข้ามา
ไอ้มายกดสะโพกผมรับแท่งที่สอดเข้าไป
อือ...เสียงทั้งมันและผมครางแทบจะพร้อมกัน ช่องด้านหลังรัดแน่น เราจึงตกลงว่าควรจะย้ายไปที่เตียง
มายจึงกึ่งอุ้มกึ่งหิ้วผม ทันทีที่ตัวผมแตะเตียง ไอ้มายก็ลุยต่ออย่างไม่ยอมเสียเวลา หลังจากเปลี่ยนจับผมนอนหงายขาพาดคอ กระแทกจุดแบบเสยๆไม่กี่ครั้งผมก็ต้องปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาอีกครั้ง เมื่อมันเห็นผมมีความสุข มันจึงลุยต่ออีก ไม่กี่ที
มันก็ระเบิดความสุขออกมาบ้าง ภายในที่ยังคงตุบตอด ทำให้มายเสียวจนต้องเอาออก มันจูบผมพลางกระซิบ

“ว่าจะไม่แล้วเชียว จะเก็บไว้รอบดึกซะหน่อย  พี่ฟ้าใสนี่อยู่ใกล้ไม่ได้จริงๆ”

“อะไรนายน่ะแหล่ะ เริ่มก่อนเอง อย่ามาโทษกัน เร็วเข้าเถอะ ดูดิ ต้องอาบน้ำอีกรอบ” ว่าแล้วผมก็เอาหมอนฟาดมัน
คราวนี้ผมกับไอ้มาย รีบอาบน้ำแต่งตัว แล้วเดินลงไปรับอิเกรียง

“เดินไหวหรือเปล่า ต้องอุ้มไหม”

“เฮอะ ที2ทีอย่างนายทำอะไรฉันไม่ได้หรอก” ผมรีบข่มทับ แต่ความจริงก็ขัดๆอยู่บ้างก็ต้องยืนเกร็ง ทั้งโดนฉีกขาพาดคอจะไม่เป็นไรได้ไง แต่ก็ไม่อยากให้ไอ้มายมันมาทำข่มอย่างไง ผมก็แก่กว่าจะแพ้เด็กอย่างมันได้ไง ใครจะยอม

“อิเกรียง เสร็จยัง” เสียงไอ้มาย จิกเรียกนังเกรียง ที่หน้าห้อง 207

“อุ๊ย พี่มาย พี่ฟ้าใส เสร็จกันแล้วเหรอ เร็วจัง อิอิ” นังเกรียงตอบกลับอย่างสองแง่สี่ง่ามพร้อมหัวเราะคิกคิก
อย่างกวนประสาท เล่นเอาผมสะดุ้งนิดๆแต่ก็สมน้ำหน้าไอ้มายที่โดนอิเกรียงแซวกลับมั่ง

“ไม่ต้องพูดมาก หรอกแกน่ะ ไปเร็วๆเข้า” มันก็ไม่ได้สนใจอิเกรียงแซวเลย เชอะ  ด้านได้สิน่า

แล้วก็พอถึงการซ้อนของเรา ผมก็โดนบี้เป็นแซนวิชตรงกลาง ระหว่างไอ้พวกตัวสูง180 อิเกรียงมันก็เกี่ยงอีกว่า
ขอมันวางเท้าหน่อยขามันลากพื้น พอผมบอกว่าแล้วฉันจะวางที่ไหนล่ะ มันก็บอกให้ผมเอาขามากอดเอวไอ้มาย
เล่นเอาไอ้มายหัวเราะชอบใจ ตัวมันก็กระเถิบแบ่งที่ให้ผมนั่งเพราะกลัวจะโดนอิเกรียงเบียดจนแบน
มันยิ่งกลัวตก จนพอถึงเซ็นทรัล ก็ลง พออิเกรียงลงไปผมก็ค่อยถอนใจ แล้วก็พบว่าตัวเองกอดไอ้มายซะแนบแน่น
เหอะ มิน่ามันถึงได้ขับช้าๆเชียว

“อ๊าว พี่ฟ้าใสจะแกะออกจากพี่มายได้ไหมล่ะนั่น” ฟังอิเกรียงมันพูด

“ก็แกแหล่ะ เบียดฉันจนหน้าฉันบุบบิบบู้บี้กะหลังไอ้มายมันแล้ว”

“...” ไม่มีเสียงจากไอ้มายที่ถูกพาดพิง นอกจากรอยยิ้ม อย่างไงผมก็ต้องจับตัวมันยึดเป็นหลักเวลาลงจากรถทุกทีล่ะ
นี่มันก็หลายเดือนแล้วผมก็ยังขึ้นลงรถมอไซต์ด้วยท่าทางไม่ชินอยู่ดี

“แก่แล้ว ก็ชักช้าอย่างเงี้ย” ฟังมันนังเกรียง ว่ากรูแก่ อิบ้า แกสิ ไอ้เด็กควาย อายุ18 สูงตั้ง180 อิกระเทย ทั้งล่ำทั้งดำ

“จะชักช้า ชักเร็ว แต่คุณภาพคับแก้วเฟ้ย” ผมก็โต้กลับไปมั่ง หนอยอิเกรียงทำเป็นหัวเราะใหญ่ แล้วหันไปถามไอ้มาย

“โอ๊ะ!!!จริงเหรอพี่มาย อะฮะ อิอิอิ” แล้วมันก็ทำหูทำตาล้อเลียนผม  ผมเลยเตะขามันที “นี่ไง ชักเร็วไหมล่ะแก”
.
.
.
ไอ้มายก็เลื่อนรถเข้าไปจอดเรียบร้อย เราก็เดินไปยังจุดที่นัดกับศักดิ์นรินทร์ไว้ แต่ศักดิ์นรินทร์ก็ยังไม่มา
นังเกรียงมันก็แอบเม้าท์ว่า พี่รินคงกว่าจะแต่งหน้าลงรองพื้น ทากันแดด ไหนจะเลือกชุดอีก คงใช้เวลานานอ่ะ
กว่าจะออกมาได้ มันเลยชวนผมไปดูหนังสือเล่นฆ่าเวลา สักพักอิเกรียงก็มีโทรสับเข้า เป็นศักดิ์นรินทร์ บอกว่ามาถึงแล้ว
 แถมพาอิแทนเด็กแผนกช่างมาด้วย แหมอิเกรียง ทำตาลุกวาว กำลังเดินมาหา  พออีกแป็บ มือถือผมก็ดัง
ก็เป็นไอ้มายโทรมาบอกจะพาศักดิ์นรินทร์ไปรอที่หน้าร้านหนังสือ

 พอเจอกัน ศักดิ์นรินทร์เทอก็เดินอย่างภูมิใจที่อิแทนคอยเดินเคียงข้าง ก็มันติดเป็นเคะราชินี กรีดนิ้ว ชี้นิ้ว

หลังจากดูหนังเสร็จ เราก็เดินเล่น ศักดิ์นรินทร์ ก็ซื้อเสื้อให้อิแทน ตัวหนึ่ง แล้วก็เป็นเจ้ามือออกทุกอย่างให้ 
ส่วนอิเกรียงนี่ ถ้าผมกะศักดิ์นรินทร์ไม่ทวงตังมันนี่ไม่ค่อยยอมออก หนอย มันจะเก็บตังไว้เลี้ยงอิเต้ล่ะสิ
 ส่วนผมใช้ระบบ ฝากกระเป๋าตังไว้ที่ไอ้มาย เพราะผมขี้เกียจควักตังหลายรอบ  แล้วพอทอนตังอะไร ผมก็จะยัดๆไว้
กระเป๋าเสื้อมั่งกางเกงมั่ง แล้วมันก็จะตก พับๆใส่กระเป๋าตังมั่ง จนไอ้มายมันรำคราญ มันต้องบอกให้ส่งมา
มันจัดการเอง ผมเลยใช้ระบบเดียวที่เคยใช้ตอนเรียนกับไอ้แชมพู คือให้มันถือกระเป๋าตังผม แล้วก็เคลียเรื่องเงินให้ด้วย
เวลาหารอะไรสะดวกดี ไม่ต้องจัดการเอง

แล้วศักดิ์นรินทร์ก็ชวนไปนั่งเล่นกับกินอะไรที่ริมทะเลสาบ

ศักดิ์นรินทร์สั่งเหล้ามากิน ผมกับอิเกรียงมองหน้ากัน แอบสงสัยว่า ศักดิ์นรินทร์อยากมอมเหล้าอิแทนแน่ๆเลย

หลังจากกลับหอ ส่งอิเกรียงเข้าห้อง โดยการเสือกไสไล่ส่งแม้ว่าอิเกรียงจะขอมานั่งคุยต่อที่ห้องผม อิมายมันก็ไม่อนุญาต
ทันทีที่เข้าห้อง

“ฟ้าใส ห้ามทำตัวแบบพี่ศักดิ์นรินทร์นะ” มายจัดแจงสั่งบทบัญญัติข้อที่1

“ห้ามเป็นรับเหรอ” อุ๊บเผลอกวนไม่ตั้งใจฮ่ะเจ้าฮ่ะ มองหน้าแล้วเว้ย มียิ้ม ค่อยยังชั่ว น่า ขำขำ

“อยากเป็นรุกเหรอ ตัวแค่เนี๊ย” ว่าแล้วมันก็เอื้อมมาจับของๆผ้มมม อร๊าก  ดูถูก เหยียดหยาม เดี๋ยวตรูจะฉีดซิริโคนให้เป็นกระบอกไฟฉาย

“ขนาดไม่เกี่ยว มันอยู่ที่ใจต่างหาก” เอ๊ะพูดไปแล้วชักตงิดว่าไม่พูดจะดีกว่าหรือเปล่าว่ะตรู

“ก็นั่นสิไอ้อยู่ที่ใจ แล้วทำได้ไหมล่ะ” มันเสร็จยังเอาหน้ามาใกล้ๆอีก ว่าแล้วมันตอกกลับมาแน่ หรือมันแอบไปรู้เรื่องว่าเราเคยจะปล้ำผิงผิงแล้วของไม่ขึ้นว่ะ เรื่องนี้ไม่เคยมีใครรู้เรื่องนี่หว่าทั้งโลกนี้มีพี่โม่งรู้คนเดียว  เซ็งเลยสู้มันไม่ได้ว่ะ

“เออ ใครจะไปทำ โธ่ มุกมอมเหล้า เด็กๆ ระดับนี้แค่วิ๊งวิ๊ง3ที ก็มีมาให้กินแล้ว”ผมคุยทับมั่งเฟ้ย

“อ๋อเหรอ ไหนทำดิ ไอ้วิ๊งวิ๊งอะไรเนี่ย มันเป็นไง555” หนอยไอ้มาย ทำมาดูถูกตรู ผมเลยลองทำแบบนางเกรียงกระพริบตา
สาดวิ๊งใส่ 555 ยังขำตัวเอง ยังไม่เจอท่าลูกแมวอ้อนสิมรึง  ขนาดเสือๆอย่างไอ้พี่ลิฟต์ใช้ให้ช่วยทาสียังรีบทำ

เฮ้ย อุ๊บ !!!ไอ้มายมันก็กอดผมไว้แล้วนอนหงายบนเตียงโดยมีผมอยู่อก  55 ไอ้การนอนหงายโดยขายังพับที่ขอบเตียง
มันช่างทำให้ส่วนกลางตัวที่มันนูนเน้นเด่น  เอื้อก!!! กลืนน้ำลาย

“อ้า จริงด้วยแหะ งั้นช่วยมากินหน่อยสิ นี่ไง นอนรอให้กินอยู่ตรงหน้าแล้ว” ไอ้มายมันนอกจากโอบผมไว้กับอก มือมันก็ยังจะไม่วายลูบไล้บั้นท้ายผมไปมา


.....




กลับไปกินมาม่ากันต่อ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ ปาร์ตี้ ของเขา ปาร์ตี้เรา... ไม่เกี่ยว (15/11/12)อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: DIIK ที่ 15-11-2012 10:26:52
 :a5:

เค้าแอบเห็นนะ ไอ้กลับไปกินมาม่าอ่าาาาาาาาาาา
ม่าอาร๊ายยยยยย โอ้ย ปวดหัวใจ

คือแบบ ตอนพี่โม่งพูดเรื่องข้อเสนอกะมายนั่นปวดใจจี๊ด
ดูแล้วมายเอาฟ้าใสไม่อยู่หรอก ถึงจะรักจะดูแล แต่คนที่ระแวงหน้าระแวงหลังตลอดเวลาแบบเนี่ย
มีแต่จะทำให้รักไม่ยั่งยืนเพราะคอยแต่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบ

ไม่เหมือนพี่โม่ง มีอะไรพี่โม่งก็รับด๊าย T^T

ยังยืนยันเชียร์พี่โม่งสุดใจขาดดิ้น กรั่กๆๆ (ได้ข่าวว่าจารย์เบญชียังสบายดีอยู่)
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ ปาร์ตี้ ของเขา ปาร์ตี้เรา... ไม่เกี่ยว (15/11/12)อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 15-11-2012 10:39:04
ยาวได้ใจไปเลย กุ๊กกิ๊ก ๆ  :oo1: ไม่มีปัญหาไรก็ดีแล้วมั้ง :man1:  แต่ก็คาดเดาไม่ได้เลยเนี่ยจะออกห้วหรือก้อย โม่งหรือมาย สงสัยต้องรอดูต่อไป อิอิ  :กอด1: :กอด1:

ขอบคุณมากค่ะ :L1: :pig4: :L1:

หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ ปาร์ตี้ ของเขา ปาร์ตี้เรา... ไม่เกี่ยว (15/11/12)อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: goonglovenut ที่ 15-11-2012 11:14:45
อ่านยาวเลย ไม่รู้จะสงสารใครดี แต่เห็นใจพี่โม่งนะ ส่วนมายถ้ายังไม่มั่นใจและระแวงตลอดเวลาก็ไม่น่าจะอยู่กันยืด :เฮ้อ:
แต่คิดอีกที ฟ้าใสบางครั้งก็หวั่นไหวและยิ่งรักพี่โม่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย ยังไงก็ขอให้ลงเอยด้วยดีนะจ๊ะ :L2:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4 Ch.10.1 (15/11/12)อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 15-11-2012 17:38:57
Ch.10.1

ไอ้มายคิวแน่น ถูกจองตัวขอร้องให้ไปถ่ายรูป  การฝึกงาน เพื่อทำรายงาน
ในที่สุดก็ สิ้นสุด การฝึกงาน ฟ้าใสก็ต้องกลับมาหอใน เพราะห้องของฟ้าใส เจ้าของเดิมจะกลับมา
ไอ้มายจะเอาฟ้าใสไปอยู่ที่บ้านมันให้ได้
แป้น พี่สาวมารับ กลับไปบ้านเจ้านายฝรั่ง 
ดอย พี่เป็ก พาไปสมัครงานที่ร้านเบเกอรี่ชื่อดัง
หลายคนที่มาจากต่างจังหวัดไกลๆ ก็กลับบ้าน พร้อมความรู้
หลายคนได้งานต่อจากสถานที่ฝึกงาน
.
.
.
“มาย เดี๋ยวอาทิตย์หน้า จะลงกลับบ้านแล้วนะ”

“อึ้ม...”

“นายจะลงด้วยไหม จะได้จองตั๋ว”

“อือ..”

“บิน หรือ ทัวร์”

“อื้อ..”

“เฮ้ย!!!..” เป็นไรไป

คนถูกทักหันมากอด เลยต้องผลัก ๆๆๆ ก็นั่งอยู่บนเกาะกลาง สวนสุขภาพ น่ะสิ ขวัญชวนมาวิ่ง เป็นเพื่อน จีบหนุ่มญี่ปุ่น ฟ้าใสก็ชวนไอ้มายต่อ

ก่อนลงกลับกรุงเทพฯ ความจริงอยากแวะหาพี่โม่ง แต่ข้าวของ ที่มาอยู่ ก็พะรุงพะรัง แถมถ้ากลับไป
ที่บ้านก็อยากได้ของฝาก แคปหมู เดี๋ยวนี้ซื้อเจ้าอื่นในกรุงเทพทาน ก็บอกว่าสู้ที่ซื้อมาฝากไม่ได้ คงต้องหิ้วกันอีก โอกาสหน้าค่อยไปเยี่ยมมะนาว พี่โม่ง และภรรยา
.
.
“เราเป็นแฟนกันหรือเปล่า?”

เฮ้ย!!..อยู่ดีๆ ไอ้มายต้องมาถามอย่างงี้ด้วย ฟ้าใสไม่สบตา ให้ถามว่ารักไหม ยังดีกว่า จะตอบกลับทันที ว่า รักสิ!!!
ก็รัก มันมีหลายระดับ หลายรูปแบบ ฟ้าใสก็ไม่ได้โกหก
คนถามมันทำหน้าเบี้ยวแล้ว
เพิ่มเลเวลหัวคิ้วติดกัน ติ๊ก ต๊อก ติ๊ก ต๊อก

“เป็นแอร์ เย็นกว่า ...รักนะ เด็กโง่..” ฟังดูก็รู้ว่าตรูเลี่ยง ฟ้าใสซื่อบื้อ

“งั้นมาจุ๊บกัน แก้แอร์มันเย็น” จะพูดเล่นหรือพูดจริงว่ะ แต่ตามันดุ

“ขวัญ กะ ญี่ปุ่น วิ่งมาโน่น แล้ว” คนตัวสูงหันมองตาม ฟ้าใสลุกขึ้นยืนถอยห่าง

“ไหน...” คนถามที่มองตามนิ้วชี้ ก็รู้ตัวว่าพลาดปุ๊บ หันกลับมาก็ไม่ทันแล้ว

“หล่อ แสนดี อย่างงี้ไม่รักได้ไง” หยอดไป...

แต่ให้พูดว่าเป็นแฟน ผูกพัน ยังไม่รู้โว้ย ขนาดพี่ลิฟต์ นอนกันเป็นร้อย เขาก็ไม่อยากคิดว่ารูปแบบการคบกันแบบนี้คือแฟนกัน
เอาเป็นว่า คบกันจะดีกว่า และเขาก็ซื่อสัตย์ คบแล้วก็คบกัน ที่ถือว่า เรียกได้เป็นแฟน ก็คงมีไอ้โภชน์คนเดียว แล้วจุดจบ
ก็อย่างที่รู้กัน  เป็นแฟน มันมีความหมายอะไร เอาคำว่า แฟนมาวางที่พื้น แล้ว ขอ กระโดด กระทืบๆๆๆๆๆๆๆ สะใจเลยดีกว่า
.
.
“ขออยู่ที่หอ เหอะ อยากช่วยครูหยก ครูนิน กับคุยๆกับใครๆอีกหน่อย” ฟ้าใสขอไอ้มายพักอยู่ที่หอ เมื่อใครทยอยออกไปจนเหลืออีก2-3 คน
.
.
ไปจริงๆแล้ว ไหว้ลา อาจารย์ เจ้าหน้าที่ แม่บ้าน ป้าร้านอาหารที่ฝากท้อง คนอื่นมองว่า เป็นหน้าที่ของเขา
 แต่ถ้าทำดีต่อกันให้และรับทั้งสองฝ่าย มันก็ได้ความเป็นมิตรไมตรี มากกว่าแค่หน้าที่การงาน --แฮ่ แฮ่ อย่ามา รับ และ รุก น่า - -

ขอบคุณที่ช่วยดูแลกัน คงไม่ได้มาสนุกสนานอย่างนี้อีก
.
.
.
ฟ้าใสมันนิสัยไม่ดีจริงๆ รู้ตัวเอง ด่าตัวเอง
พอถึงบ้าน กรุงเทพฯ มีรถ มีจักรยาน มีแท็กซี่ ระบบขนส่งมวลชน มีบ้าน
รู้ว่าไม่ต้องพึ่งพาคนร่างสูงอีก
ความงี่เง่า ไม่เข้าใครออกใคร
สันดานอย่างฟ้าใส ตัวเขาเอง รู้ดีจนต้องด่าตัวเอง
ส่งมายต่อรถแท็กซี่กลับบ้านไปเหมือนเดิม ใจหนึ่งก็หวิวๆ  ไม่เหมือนครั้งก่อน ที่รู้ว่า ได้กลับไป ใช้เวลาร่วมกัน
แผลเป็นจากอดีต ทำให้เจ็บ จน ไม่กล้า
.
.
.
“มาย..” ฟ้าใสโทรศัพท์ไปหา มันรู้สึกไม่แน่ใจ กับสถานะภาพตัวเอง

“ใครน่ะ” เสียงคุ้นเคยถาม ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“อะไร!!! จำกันไม่ได้ จริงง่ะ งั้นแค่นี้นะ” ร่างเล็กที่เป็นฝ่ายโทรเข้ามือถือ ส่งเสียงโวย
แล้วก็ ร้องไห้น้ำตาไหลผลั่กๆ ผ่านไป 2 วัน ไม่ได้ติดต่อกัน ไอ้มายจำเสียงเขาไม่ได้
อารมณ์มันดูผันผวน หรือว่าเราจะมีเมนส์ว่ะ ก้มหน้าเอาหัวโขกโต๊ะ 55 หัวเราะเสร็จ กลับมาหดหู่

ตรืดดดด  เสียงเบอร์เดิม ชื่อเมม เดิมๆ โทรกลับมา เขาปล่อยให้ดังสักพัก จนระงับน้ำตาที่ไหลได้

“โหล...”

“เป็นอะไรไป...”

“ไม่ได้เป็นอะไร...”

“พรุ่งนี้เข้าไปหา..”

“ฮื่อ...” ฟ้าใสฉีกยิ้ม สบายใจ

ฟ้าใสเดินลงไปบอกเด็กอุ๊ ที่มาอยู่เฝ้าหน้าร้าน

“อุ๊..พี่เข้าบ้าน จะไปทำขนมบ้านข้างใน 5โมงอุ๊ ปิดร้าน เข้าบ้านได้เลยนะ  พี่เข้าแระ”
.
.
.
.
“ไป ไปเที่ยวกัน”

“ไปไหนอ่ะ”

“ดูหนัง กินข้าว ไปดูนิทรรศการด้วย”

“โห...นายเป็นอะไรน่ะ ไม่สบายหรือเปล่า”ฟ้าใสยิ้มกว้างหัวเราะไอ้มาย เอามืออังหน้าผาก
คนร่างสูงมันท่าทางจะเพี้ยน เลือดลม วูบวาบ เดี๋ยวพูดจา เดี๋ยวก็เงียบๆ นิ่งๆ อาจเป็นอาการหนุ่มน้อย ที่กำลังย่างสู่วัยเป็นผู้ใหญ่
ก็ฟ้าใสที่ตอนอายุจะเลข 20 เป็น 21 มันใจหายพิกล ยิ่งพอ 21 เป็น 22 มันยืนยันว่า เราเริ่มแก่แล้ว แล้วนี่ มันจะต้องกลายเป็น
 คน อายุ 23 ภาระ ใหญ่หลวงนัก - - ฟ้าใสคิดเอาเองนะ

“ก็พวกติ๊ดๆ ศิลปิน ก็ต้อง ดูงานศิลปะซี่ อะไร พาไปดูไม่ดีหรือไง” คนพูดมองหน้าเตรียมงอน

“ดี ดี..จร้า... ขอบคุณ ไม่ได้ ทั่นมายพาไป นี่ ไม่มีโอกาสได้ไปนะ เนี่ย..คิก คิก”

มันชวนเที่ยวออกซะ 3 วันติด ดูที่โน่น ดูที่นี่ ขยันพาเที่ยวจริงๆ พ่อคุณ เล่นเอาฟ้าใสหอบสูจิบัตรงานของทุกคนที่มีขายในตู้โชว์
บางงานเห็นแล้วเสียดายที่ไม่ได้มาดู ยิ่งของศิลปินคนนี้  อ.สุรพงษ์  วิเศษสรณ์  ต้องไปขอลายเซ็น มาอีก ถึงจะเคยได้มาแล้วก็เหอะ อิอิ
.
.
.
ใช่แล้ว ความสุขอยู่กับเราได้ไม่นาน

ฟ้าใสพามายเข้าไปในบ้าน ก็ช่วยกันหิ้วของฝากจากระยอง เข้าบ้านข้างใน
หลังจากไปเที่ยวเกาะเสม็ด
ทะเล การเดินทาง
ใช่ความทรงจำ ความเจ็บปวด ใช่จะลืมเลือนได้ แค่ฝังมันไว้ให้ลึกที่สุด

ฟ้าใส ไอ้มาย มีความสุข

เหตุผลหนึ่งที่พาไอ้มาย เข้าบ้านคงเป็นเพราะ...

“ฮะ แม่ มายเขาเป็นน้องพี่โม่ง” ฟ้าใสชวนมายทานข้าวมื้อเย็นด้วยกันกับที่บ้าน หลังจากช่วยกันล้างไอ้หลงจนเอี่ยม
ยันรับปากป้านวลจะช่วยทำต้นไม้ รอบบ้านอาจารย์พรรณให้ป้านวลด้วย

“อือ..นั่นสิ ก็ดูมีส่วนคล้ายกันนะ ตาก็คล้ายกัน แต่เราดูหน้าดีกว่านี่นะ...” ฮั่นแน่ อาจารย์แม่ มีหยอด

“แม่เขา ตาไม่ค่อยดีแล้ว ไอ้มาย” แอบกระซิบ เบรกมัน เลยโดนจิ้มเอวไป1ที
.
.
.
อาทิตย์หนึ่ง เต็มๆที่ไอ้มายมาขลุกอยู่กับฟ้าใส
เขาเองก็ต้องเริ่มรับงาน โทรหาผู้อุปถัมน์
งานแรกที่หลงเข้ามา ก็ออกแบบ โปสเตอร์ให้สมาคมการกุศลทางศาสนา
งานที่ 2 พี่เก๋ทวงแบบลายเสื้อยืดต่อ ไม่อั้นส่งมา เอา เที่ยวทั่วไทย 77 จังหวัด
ไอ้ป๋าเรน จิกตัวฟ้าใสไปนั่งทำงานที่โรงงานที่สามพราน 1 อาทิตย์ เดือนนี้ทั้งเดือนเลยยุ่งไปกับงาน และเพื่อนๆ
ฟ้าใส โทรหาไอ้มาย ไม่ติด ไม่มีคนรับ มันก็คงยุ่งมั๊ง ลงมาคงต้องช่วยที่บ้านทำงานหรือเพื่อนชวนไปทำงานอะไร

ที่เคยถาม ที่คุยกัน

“มาย นายกะจะทำอะไรเหรอ”

“ผมก็อยากทำสวนเล็กๆ มีบ้าน ร้านอาหาร อาจจะทำโฮมสเตย์  แบบ สุขภาพๆ อาจจะเปิดคอร์สสอน พวกคนไม่กินผัก อย่างใครบางคน ให้รู้จักกินผักเป็น” ยังมีอีกที่มายคิดแต่พอบอกใครก็คงได้เท่านี้ สิ่งที่เขาอยากทำคือการช่วยเหลือชาวบ้าน  ให้ความรู้เป็นศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้คนในชุมนุม เพิ่มศักยภาพของชุมชน  เพิ่มมูลค่าสินค้าการเกษตร  ปรับปรุงคุณภาพสินค้า

“โอ้โฮ!!! เป็นฝันของใครๆ เลยนะ”

คนร่างสูงมองหน้าคนที่พูดคุยด้วย แต่ไม่ใช่ของฟ้าใสใช่ไหม...
.
.
.
.
เกือบ 2 เดือนแล้วนะ ปาเข้าไป 50วัน กับ อีก 12 ชั่วโมง  ฟ้าใสติดต่อไอ้มายไม่ได้เลย
มือถือ มันดังเป็นสัญญาณไม่มีคนรับ ตู๊ด ตรู๊ดดดดดด ตู๊ด ตรู๊ดดดดดด  ตู๊ด ตรู๊ดดดดดด 
เหมือนมือถือที่อยู่ต่างประเทศ เฟส กะอีเมลล์ ฟ้าใสน่ะให้มัน แต่ของมัน ฟ้าใสไม่รู้
.
.
.
นี่เราโดนทิ้งเหรอ ?!!





TBC…
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ ปาร์ตี้ ของเขา ปาร์ตี้เรา... ไม่เกี่ยว (15/11/12)อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 15-11-2012 17:47:07
:a5:

เค้าแอบเห็นนะ ไอ้กลับไปกินมาม่าอ่าาาาาาาาาาา
ม่าอาร๊ายยยยยย โอ้ย ปวดหัวใจ

คือแบบ ตอนพี่โม่งพูดเรื่องข้อเสนอกะมายนั่นปวดใจจี๊ด
ดูแล้วมายเอาฟ้าใสไม่อยู่หรอก ถึงจะรักจะดูแล แต่คนที่ระแวงหน้าระแวงหลังตลอดเวลาแบบเนี่ย
มีแต่จะทำให้รักไม่ยั่งยืนเพราะคอยแต่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบ

ไม่เหมือนพี่โม่ง มีอะไรพี่โม่งก็รับด๊าย T^T

ยังยืนยันเชียร์พี่โม่งสุดใจขาดดิ้น กรั่กๆๆ (ได้ข่าวว่าจารย์เบญชียังสบายดีอยู่)
พูดถูกใจอยากให้รางวัลจัง
ถึงมายจะดูแลฟ้าใสดีมากๆ แต่ก็แอบรำคาญมันนะ มันชอบบ่นชอบสั่งฟ้าใสจั๊ง
เราก็เชียร์พี่โม่งเหมือนกัน (แต่บางอารมณ์เราก็เอ็นดูไอ้มายมันอยู่นะ มันก็มีมุมน่ารักอยู่)
แล้วเราจะบาปปะเนี่ย ที่คิดว่าอาจารย์เบญ...จะ...จะ...อยู่ได้ไม่นานน่ะ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4Ch.10.2 (16/11/12)อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 16-11-2012 02:31:00

10.2


นี่เราโดนทิ้งเหรอ ?!!

นี่เราโดนทิ้งเหรอ ?!!

นี่เราโดนทิ้งเหรอ ?!!

เอียงคอทำตาโต เหมือนเล่นเป็นเด็กแอ๊บ แต่ความรู้สึกบอกว่า กรูปัญญาอ่อนของจริง แหะ!! เพิ่งรู้ตัวเหรอ
ตั้งสติ รีบเคลียร์งานก่อน  ขอ 3วัน อย่าคิดอะไร
.
.
นึกๆทำเวรทำกรรมอะไรไว้ นึกๆซะให้ออก ชดใช้เขาไป จะได้ไม่มีเวรมีกรรมต่อกันอีก
.
.
.
สองขา เดินเข้าบ้านข้างใน ส่งงานพี่เก๋ไปบ้างแล้วพอให้กระแสบัญชีเดินบ้าง
นอนเล่น กินขนม ข้าวปั้นให้โชว์ฝีมือ ข้าวผัดปู ที่ได้มาจากเชฟ กว่าจะได้วิชากระดกกระทะ 
แอบไปซื้อข้าวสารมาหัดโยน หัดกระชอก กระทะทั้งอาทิตย์

ว่าจะไม่ทำให้เพราะเซ็ง แต่เอาก็เอา ทำไป แก้เซ็งก็ได้
ข้าวปั้นก็สรรเสริญ เยินยอ แทบอัญเชิญทูตสวรรค์มาร้องเพลงอวยพร

เดินไปนอนเล่นบ้านเรือนไทย เขี่ยๆจับๆโมเดล เดธโน้ต เอามาสู้กัน ก็ยังยิ้มไม่ออก ใครมันขโมยยิ้มตรูไป
นอนเล่น นอนคว่ำ นอนหงาย ถอนหายใจ เดินออกไปที่ร้านดีกว่า ไปเช็คสต็อกของก็ได้โว้ย...

เดิน  เดิน เดิน ไม่ขี่จักรยานอ่ะ จะเดิน บายฟุต ด้วยตัวเอง
หึ ถึงเจอพี่ลิฟต์มากวน จะเอาที่ใส่ปากการูปนกฮูก ขว้างหัวแม่งเลย หงุดหงิด...


กินโค้ก หมดไป 2 กระป๋อง จนเรอ เอิกๆ
3 ทุ่ม เดินเข้าบ้านใน ไปร่วมนั่งดูทีวี กับ แม่
ไม่เคยทำมา 3 ปีแล้ว แต่ช่วยให้ใจเย็นลงได้ แหะ คงเป็นเพราะ ต้องระมัดระวังมารยาท
.
.
.
“เมริง!! ไอ้ไข่ ออกมานี่ สิ!!!” เสียงตามสายจากป๋าเรน

“ไม่ออก  จะอยู่บ้าน”

“เมริง เป็นอะไร..ผัวทิ้ง” เสียงป๋าเรน ตวัดเสียงถาม มีเสียงหัวเราะด้วย เลว

กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด อยากเอานมเด็กสาวอายุ13 ยัดปาก ให้มันช็อคตาตั้ง  โดนเมียตบซ้ายตบขวา

“เลวววววววว....เชี๊ยะ”  เลว เลว ใครบอกมัน
 ฟ้าใสติดต่อ แค่ ไอ้นุ้ย กับหมูแฮม ถึงไม่บอกเล่า เรื่องอะไรๆ ต่อ อะไร หมด
  พวกมันก็คงไปต่อกันเอง ไอ้นุ้ย มันคงไปบอกให้ไอ้ป๋าเรน โทรมาจิกฟ้าใส

“555 มากินเหล้า บ้านไอ้เติ้ล จะเอาหญ้าไปให้กระต่ายด้วย” ไอ้ป๋าเรนมันเอากระต่ายฟูๆ 2 ตัวไปโยนแหมะให้ไอ้เติ้ลเลี้ยง
ก็สาวของมันน่ะอยากเลี้ยง มันก็ซื้อให้ พอน้องหนูเลี้ยงไม่ไหว ป๋าเลยต้องจัดการ โป้ยมาให้เติ้ลรับไป แลกกับเหล้านอก 2 ขวด

“ไม่!!!”

“ไม่ช้าหร็อก ชิมิ งั้นเดี๋ยวเย็นไปรับ ไม่ต้องเอารถมา เกะกะที่จอดรถหน้าบ้าน  กรูจะจอดเบนซ์ 555”

“เชรี่ยยยยย..เออ” ฟ้าใสตกปากรับคำ

ป๋าเรนมันเป็นคนดี ที่เห็นว่ามันแกล้งคุยมั่งอะไรมั่ง มันก็พูดตลกไปงั้น มันไม่เคยมีสายตาดูถูก
เหยียดหยามใครเลย  หึ หึ ก็มันเอาแต่คอยหลีสาวๆเท่านั้น
.
.
.
.
“ฮือ ฮือ ฮือ...มันก็หายไป มือถือมันก็ไม่โทรมาบอกกรูเลย ว่ามันไปไหน ฮือ ฮือ ฮือ”
เสียงสะอึกสะอื้น คร่ำครวญ ฟ้าใสกอดคอซบน้ำหูน้ำตา สะอื้นฮัก ฮัก อยู่ไหล่ล่ำๆของป๋าเรน

“555 ไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็มา อ่ะ อ่ะ กินไป กินไป”
งานนี้เหมือนไม่มีสาระอะไร มาเจอกะกินเหล้ากันให้เมาเท่านั้น ไอ้แชมพูก็มา เกือบ 4 ทุ่ม มาถึง 
ก็หิ้วเบียร์ น้ำแข็ง โซดามาพร้อม เร่งกินให้ทัน จนอ๊วก

...เฮ้อ....

“สร่างกันหรือยัง 555” ป๋าเรนทักทายทุกคน

เชรี่ย....
ผู้หญิงผู้ชาย อย่ามาหาความแตกต่าง ฟ้าใสเห็นสัจจะธรรม
.
.
.
.
เหมือนน้ำท่วมปาก เหมือนดำน้ำกลั้นหายใจกะเอาให้ถึงทางยาวขอบสระ
พูดไม่ออก ไม่อยากบอกใคร แท่นสารภาพ หรือแท่นอธิษฐาน

ฟ้าใสกดเบอร์โทรศัพท์
ถามพี่โม่ง ถึงไอ้คนตัวดี  แค่ 2-3 ประโยค ฟ้าใสก็ขอขึ้นไปหาพี่โม่ง

ถ้าจากบ้านฟ้าใสวิ่งไปขึ้นเครื่องที่สนามบินทัน ฟ้าใสก็จะซื้อตั๋วขึ้นไปเลยทันที
 เสียดาย  อดใจรอไปคุยกับพี่โม่งพรุ่งนี้ก็ได้

ในเมื่อรู้แล้ว ว่าไอ้ %#F@C$*?K#& มันหายตัวไปไหน มันไปทำงานให้พี่โม่ง อยู่ที่อเมริกา

มันไม่ได้ไปทำอะไร เหลวไหล

ไม่ได้ติดหญิง

ความผิดของมัน คือไม่บอกเขา คอยดู คอยดู ถ้าเจอเมื่อไหร่!!!


TBC...


หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4Ch.10.2 (16/11/12)อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: goonglovenut ที่ 16-11-2012 08:46:36
เอาล่ะสิ ฟ้าใสขึ้นมาหาพี่โม่ง ถึงจะสาเหตุมาจากมายก็เถอะ คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง ถึงอยากให้ฟ้าใสคู่กับพี่โม่งแต่ก็ไม่อยากให้พี่น้องทะเลาะกัน อีกใจก็อยากให้คู่กับมาย สรุปตอนนี้ฉันลังเลแทนฟ้าใสอ่ะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4Ch.10.2.35 (16/11/12)อัพสั้นๆก่อนไปUSA.
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 16-11-2012 14:02:28

ถึงเขาจะเป็นคนที่ตัดสินเลือกโต๊ะนั่งกินในร้านอาหารไม่ได้

ถึงเขาจะแยกซ้าย-ขวา ไม่ได้

ถึงฟ้าใสจะยอมปล่อยผ่านเรื่องต่างๆ เพื่อไม่ต้องมาถกเถียงวุ่นวาย

คราวนี้ เขาคงไม่ยอม

เมื่อคืนจำได้ว่านอนอยู่ในอ้อมกอดของพี่โม่งอุ่นสบาย อยากหันไปกอดพี่โม่งบ้าง
แต่เด็กน้อยหนูมะนาวก็หลับสบายในอ้อมกอดฟ้าใส

อาจารย์เบญป่วย เข้าๆออกๆโรงพยาบาล หลายครั้ง มะนาวบ่นกับฟ้าใสว่าไม่ชอบเลย
โรงพยาบาลเหม็น เห็นหมอเอาเข็มเจาะคุณแม่ด้วย แม่คงเจ็บ
นอนหลับก็ผวา พี่โม่งบอกคงเป็นเพราะ คืนที่อาจารย์เบญเกิดอาการ ไข้สูง ปวดหัว อาเจียน จนช็อค กลางดึก
 ทำให้เกิดโกลาหลวุ่นวาย มีรถพยาบาลมารับ มะนาวเลยตกใจ 

ฟ้าใสสงสารหนูน้อย นอนกก มะนาว เป็น แม่ไก่
ฟ้าใสก็อุ่นสบายใต้ปีกของพี่โม่งเหมือนกัน
เพียงตอนนี้ ความคิดหนึ่งที่เพิ่มมา คือ อยากเจอ ไอ้คนที่มันชอบประกาศนักหนาว่า
 มันจะดูแลเขา มันจะไม่ทิ้งเขา เหตุผล ซังกะบ๊วยอะไรของมัน ถึงได้ไปโดยไม่บอก
.
.
.
“พี่บอกให้มายชวนฟ้าใสไปด้วย พวกอาจารย์ เขาก็ไม่ค่อยมีคนช่วยนักหรอก”

“ไม่เห็นมายมันบอกอะไรไขบ้างเลย” ฟ้าใส เอ่ย อย่างตัดเพ้อ

“พี่คุยกับมายตั้งแต่คราวที่เขาลงมารับปริญญา ยังบอกให้เตรียมตัวเรื่องภาษาไว้มั่ง แต่ดีที่อย่างน้อย
 ตอนม.ปลาย เรื่องภาษา เขาแน่น นายม่อนมันเคี่ยวเข็นน่ะ”

“อื้อออ..” ฟ้าใสได้แต่ทำเสียงหื้อในลำคอ อย่างไม่รู้จะพูดอะไร โม่งตบศีรษะกลมเบาๆ

“เรามีอะไรไม่เข้าใจกับเขาหรือเปล่า”

พี่โม่ง เหมือนเป็นทั้งพี่ชาย เป็นทั้ง....ทุกสิ่งทุกอย่าง....
ฟ้าใสยิ้มออกมา นิดนิด แอบหัวเราะหน่อยๆ อุ อุ
มือใหญ่โยกหัวคนตัวเล็ก

“เป็นอะไร ยิ้มได้แล้วเหรอ”

“ครับบบบ” คนตัวเล็กยิ้มออก รับคำเสียงหวาน

“แล้วหัวเราะอะไร...ขำตัวเองหรือไง..ตกใจนายมายมันหายไปเหรอ”

“เปล่าพี่..แต่เรื่องนั้นก็...เป็นบ้าง” ฟ้าใสทำปากยื่น “แต่ที่หัวเราะน่ะ คือ ไขนึกว่า..ไขน่ะอยากกินพี่โม่งอ่ะ”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า...” โม่งเอามือตบหัวเจ้าตัวเล็กข้างกาย มันยังพูดจาให้เขาประหลาดใจได้เหมือนเดิม


TBC...

หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4Ch.10.2.35 (16/11/12)อัพสั้นๆก่อนไปUSA.
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 16-11-2012 15:37:17
อั๊ยยะ อยากกินพี่โม่ง  :z1: ช่างพูดได้เน๊อะ รอดูโดนพี่โม่งกินดีกว่า :oo1:

นายมายนี่จะเอาไงไปไม่บอกเดี๊ยะ  :beat: ให้ฟ้าใสนอยอยู่เนี่ย ตูหล่ะงงกะเองจริงจริ๊ง ทำเป็นรักเขานักหนา ห่วยเหนี่ยวซะดีใหมเนี่ย :z6:

เวิ้นเว้อไปตามอารมณ์ อิอิ ขอบคุณมากค่ะ  :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4Ch.10.2.35 (16/11/12)อัพสั้นๆก่อนไปUSA.
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 16-11-2012 16:54:57
ถึงในใจจะยังเชียร์พี่โม่งอยู่เสมอ  แต่แอบมีเผลอสงสารมายมันเหมือนกัน
เพราะฟ้าใสไม่กล้าตกปากรับคำกับมายว่าเป็นแฟนกันกระมัง เลยทำให้มายขาดความมั่นใจในเรื่องนี้ไปเยอะทีเดียว
เห็นมายมันดุๆ เข้มๆ แต่ดูเหมือนมายจะเป็นคนที่ sensitivity พอสมควรนะ
เพราะเหตุนี้หรือเปล่า หรือมีเหตุผลสำคัญลึกๆอะไรกว่านี้อีก
หรือมายอยากทดสอบทั้งใจตัวเองและใจฟ้าใส เลยไปอเมริกา แบบไม่บอกไม่กล่าวแบบนั้นน่ะ
อ่านตอนนี้ แม้จะเห็นฟ้าใสได้ใกล้ชิดพี่โม่ง และเชียร์พี่โม่งมาตลอด แต่ทำไมเราไม่รู้สึกดีหรืออิ่มเอมใจหว่า
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4Ch.10.2.35 (16/11/12)อัพสั้นๆก่อนไปUSA.
เริ่มหัวข้อโดย: B_Story ที่ 17-11-2012 22:34:17
เพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้

ถึงตอนล่าสุดก็ยังเชียร์พี่โม่งอะ ชอบคนแก่  :impress2:

หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4Ch.10.3อัพ (18/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 18-11-2012 12:51:49
10.3
(ต่อ)

“เอาสิ จะเริ่มกินส่วนไหนก่อน ต้องเอาไปปิ้งให้สุกก่อนไหม” แววตาใจดีบอกอารมณ์ล้อเล่นด้วยเต็มที่
แบมือ 2 ข้างยื่นมาให้ตรงหน้า

“โฮะ..!!” ฟ้าใสทำเสียงเยาะ กระแทกไหล่ชน แขน คนตัวโตที่นั่งเล่นข้างกันในชิงช้า


เหอะ!!!..อยากจะตอบว่าหัวใจ แต่ก็กลัวจะหวานเลี่ยน มดขึ้น

“ใครจะไปกินแบบนั้นจริงๆล่ะ พี่โม่งผมหงอกแล้ว ท่าทางจะหนังเหนียว ไขเคี้ยวไปคงฟันหัก”
พูดไปงั้น แต่เจ้าตัวก็ยังเห็นทำตาส่อแววปลื้ม มองคนข้างๆ อย่างชื่นชม

“กล้าว่าพี่แล้วนะ เราล่ะตีนกาเป็นสิบ” มือใหญ่จับหน้าคนตัวเล็กเขย่า สัมผัสเนียนพาใจกระตุก จนต้องรั้งหัวทุยมาพิงกับไหล่

“มีอะไรก็บอกพี่ได้ทุกเรื่อง เราก็รู้นี่นา..”

“ก็นี่แร๊ะ ไขถึงอยากกินพี่โม่งเก็บไว้ “ คนตัวเล็กพูดพึมพำ โม่งก็นึกเอ็นดูหนุ่มร่างบาง เวลาที่ผ่านมา รับรู้เรื่องราวของเจ้าตัวมาตลอด

งานศิษย์เก่าที่โรงเรียนจัด ได้เจอบ้างบางปี แต่คนก็มากหน้าหลายตาจนคุยกันไม่ได้ คนตัวเล็กเองก็โดนลากไปทางโดนฉุดไปทางนี้ เห็นแล้วยังปวดหัวแทน

“มีอะไร จะได้ดึงออกมาจากพุง เอามานั่งเป็นที่ปรึกษา..เฮ้อ..”

“ไขพูดกับพี่ได้ทุกเรื่องนะ” ฟ้าใสถูแก้มตัวเอง ไป เขี่ยหน้าตัวเอง บ้าง กิริยาที่เริ่มทำเมื่อไม่ค่อยแน่ใจ

“ว่ามา” โม่งรวบมือที่ยุกยิกไปมาของเจ้าของปัญหา

“ไขพูดทุกเรื่องเลยน๊า...”

“ว่ามา..”โม่งเริ่มทำเสียงดุ “ก็รู้อยู่แล้ว ว่าเราน่ะพูดกับพี่ได้ทุกเรื่อง..1...2..”

“โหย..อย่าเพิ่งนับสิ..ใจเย็นๆ เป็นครูบาอาจารย์ใจร้อนได้ไงล่ะ” ฟ้าใสตาเหลือก ขอเวลาคนทำใจมั่งดิ

“ทุกเรื่องเลยน๊ะ”

“ป๊อง!!..” ฟ้าใสโดนเคาะหัว “ก็บอกแล้ว อะ..ว่ามา”

ฟ้าใสทำท่าเหมือนกลั้นหายใจ สูดลมหายใจลึกๆ เต็มปอด
.
.
“ไขรักพี่โม่ง” ~ ~ ~ ~ เงียบ

ฟ้าใสชำเลืองมองหน้า คนถูกสารภาพรัก อาจารย์สอนวิชาจิตรกรรม  ภาพพิมพ์ ของวิทยาลัย อาร์ต อาร์ วิทยาเขตลำปาง 
ยิ้มนิดๆ มองหน้า นั่งเฉย เหมือนรอฟังการบอกเล่าต่อ

“โห..อุตส่าห์ สารภาพรัก ลุ้นกลัว อาจารย์ ซี 11 จะดีใจจนหัวใจวาย” คนเจ้าปัญหาบ่นเล็กน้อย

“หึ หึ..จะให้มาตื่นเต้นอะไรล่ะ ก็รู้มาตั้งแต่นานแล้ว และพี่ไม่ได้ซี 11นะไข เดี๋ยวเหอะ พี่แค่ ซี 7เอง ว่าไง แล้วไงต่อ”

พี่โม่งนี่น่าเกลียดมาก มีอย่างที่ไหน อุตส่าห์สารภาพรัก แท้ๆ ไม่ตื่นเต้นเอาซะเลย

“แหม..ไม่ตื่นเต้นดีใจหน่อยหรือ พี่โม่งอะ..”

“ก็จะไปตื่นเต้นทำไมล่ะ  ไอ้ดีใจมันก็ดีใจ เพราะพี่ก็รักเรา” โม่งจูบเหม่งกลางหน้าผาก
โอบไหล่ร่างเล็กเอนเข้าตัว ถอนหายใจ  หน้าหวานระบายสีแดงระเรื่ออย่างอิ่มใจ อยากหอมแก้มพี่โม่ง ชะมัด

ถ้าเป็นเมื่อก่อน ฟ้าใสคงเต็มอิ่มด้วยหัวใจที่มีแต่พี่โม่ง พี่โม่ง พี่โม่ง))))) สะท้อนกึกก้อง
แต่ตอนนี้ มันเหมือนมีแมลง มอด มด ปลวก มาเจาะชอนไช จนหัวใจเป็นรูแหว่งๆ
ไอ้แมลง มอด ปลวก ที่มันก่อเรื่องจน เขาต้องมารบกวนพี่โม่ง ทั้งที่พี่โม่งก็มีเรื่องยุ่งใจพอแล้ว ความผิดของไอ้ตัวปลวก!!!!
.
.
“ไอ้แววตาที่มองพี่  พี่เห็นก็รู้แล้ว” แววตาที่บอกอะไรต่ออะไรในใจ

“อั้ย..!!! จริงอ่ะ” ฟ้าใสตกใจ  อะไร!! เขาแสดงออกโจ่งแจ้ง อย่างงั้นเชียว แล้ว..แล้ว อาจารย์เบญล่ะ จะเกลียดเขา จะว่าพี่โม่งหรือเปล่า

“ไม่เป็นไรหรอก..” โม่งเหมือนรู้ทันความคิดฟ้าใส “อาจารย์เบญ เขาไม่ได้คิดอะไร เขาก็พอรู้จักพี่ดี แต่มายนี่สิ เขาก็คงรู้ เพราะเขามาซักถามเอากับพี่ แล้ว ยังจะไปรื้อ...” โม่งหัวเราะนิดๆ เมื่อนึกถึงตัวเองที่อยู่ในวัยเป็นหนุ่มน้อยนักศึกษา ทำเอา ฟ้าใสเงยหน้ามองอย่างสนใจ

“ก็แค่ของนิดหน่อยน่า..” 30 กว่ารูป ที่เขาเขียนไว้ ไม่รวมที่เป็นสเก็ต ตามสมุดบันทึก ตอนที่ไปอยู่อเมริกา ก็มันวาดจนติด ไม่ได้คิดอะไร นึกอะไรไม่ออก  มือมันก็ตวัดฉับๆ เดี๋ยวเดียว รูปดรออิ้ง พอร์เทรต หน้ามุม 45 คุ้นตา ก็ปรากฏขึ้น จน 4-5 ปีหลังที่ต้องทำสมาธิกับงาน ไอ้พวกลายเส้น ขีดเขียน เลยหายไปบ้าง
.
.
ตอนนี้เขาก็เป็นผู้ใหญ่ หน้าที่การงาน ครอบครัว ฟ้าใสก็ผ่านอะไรมาเยอะแยะมากมาย ประสบการณ์ก็ทำให้เรียนรู้อะไรต่ออะไร
คราวนี้ที่ไม่ตั้งใจ คงผ่านการคิดอะไรบ้างแล้ว จะทำอะไรก็คงคิดแล้วล่ะ

โม่งไม่คิดหรอก ว่าฟ้าใสเป็นพวกอ่อนแอ แค่สิ่งแวดล้อม การเลี้ยงดู ทำให้ยอมโอนอ่อน
เด็กที่บริสุทธิ์แบบนั้น โดนเรื่องแย่ขนาดนั้นแล้วยังยืนได้ด้วยตัวเอง นอกจากเขาแล้ว ถ้าไม่ต้องอาศัย ไอ้เอกขับรถให้
เรื่องคงอยู่กับเขาและเจ้าตัวกันแค่ สองคน  ฟ้าใสก็ยังเล่น หัวเราะได้ น้องสาวเพื่อนที่เคยโดนเรื่องอย่างนี้ ยังต้องเข้าโรงพยาบาล และรักษาสุขภาพจิตกันหลายปี
.
.
“เขาถามว่า เขากับไข เป็นแฟนกันหรือเปล่า ไขตอบไม่ได้อ่ะ พี่โม่ง ไขก็ไม่รู้จะตอบว่าไง” ร่างเล็กเช็ดน้ำตา คนมันบ่อน้ำตาตื้น  ถึงไม่อยากพูดเรื่องอะไรแบบนี้

“บางที ไขก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ำ ว่าส่วนหนึ่งที่ไขยอมวางใจเขามาก เพราะรู้ว่ามาย เป็นน้องพี่โม่งหรือเปล่า ไขไม่เชื่อพวกความรักอะไรนั่นหรอก” โม่งฟังคนพูดแล้วก็ต้องหัวเราะ  ตกลงไอ้คนตัวเล็กนี่มันจะเอาไง  เมื่อกี้บอกปาวๆว่ารักเขา แต่ตอนนี้บอกว่า ไม่เชื่อเรื่องความรักซะแล้ว
รู้ว่ามันผ่านอะไร

“พี่โม่ง ไขก็ไม่ได้ดีเด่อะไร ไขก็กลัวที่จะให้ใจใครไปเหมือนกัน ไขคิดว่า ไขมีพี่โม่งก็พอแล้ว ไขถึงไม่อยากผูกมัดกับใคร” เสียงถอนหายใจอย่างหนักอก “ให้ไขรอพี่โม่งคนเดียวจนถึงชาติหน้า ไขก็จะรอ” มือใหญ่ลูบหัวคนตัวเล็กอย่างทนุทนอม ปลอบใจ

“ไข..เราก็มีชีวิตของเรา ไขรักพี่ พี่ก็รักไข แต่เราก็มีภาระหน้าที่ เรื่องอะไร ที่มันผ่านมาแล้ว นั่นเป็นประสบการณ์ ที่ให้เราเรียนรู้ เข้มแข็ง  ชีวิตมันไม่มีอะไรง่าย แต่ก็ไม่น่าจะยากที่เราจะผ่านมัน” โม่งหยุด เว้นระยะเหมือนรอให้คนฟังคิดตามไปด้วย

“หัวใจ หัวใจของตัวเองน่ะไข ตัวไขจะรู้ดีที่สุด ไขอยากให้ทุกอย่างมันจบแบบที่ผ่านมา ไขต้องคิดเองนะ”

“ก็ สองคนนั่น ไขก็ไม่ได้รัก แต่ก็...” ตัวเองก็ใจอ่อนด้วยเอง มันก็เหมือนมีเพื่อน โธ่เอ๊ย...อยากเตะตูดตัวเอง “แต่อยู่ไปมันก็รักเหมือนกันล่ะ” ลงท้ายเจ้าตัวก็เอ่ยเสียงอ่อยๆ

“หึ หึ ก็นั่นแหล่ะ คนเราก็ต้องผูกพัน”

“แต่ก็เห็นไหมล่ะ แล้วไขก็ต้องเจ็บ”

“คนเรามันก็มีทั้งข้อดี ข้อเสีย...” ไม่ทันที่โม่งจะจบประโยค ไอ้ตัวเล็กรีบสอด

“พี่โม่งไม่เห็นมี...”

“เห้ย..เรานี่..” โม่งลูบเด็กไม่โต แล้วพูดต่อ “มีสิ ลองไปถาม ญาติอาจารย์เบญสิ เขาคงบอกข้อเสียพี่ได้เยอะเชียว”

“เหอ...ใคร เชอะ..จะหาใครอีก ขนาดพี่โม่ง แล้วยังจะมาติอีก โห..เชื่อเขาเลย” ฟ้าใสทำหน้าเบ้

“ถ้าให้เลือก พี่กับมายล่ะ” โม่งลองหยั่งเสียง

“ฟ้าใส เลือกพี่โม่ง อยู่แล้ว” ถึงจะตอบได้อย่างไม่ต้องคิด แต่ในใจเขากลับรู้สึกใจหาย
ความผูกพันที่มีให้มาตลอด ที่อยู่ด้วยกัน หนึ่งปี เห็นหน้ากันเรียกว่าเกือบทุกวัน รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ยิ่งนึกตอนเรียนคนละกลุ่ม เขาตัวเล็กเลยต้องรอพวกบึกมันแย่งเอาจาน เอาถ้วยไปก่อน
ใครกันที่มันหยิบแล้วก็ส่งมาทางข้างหลังให้เขา จนเขาได้ของครบ

โม่งเห็นสีหน้าแววตาที่เจ้าตัวถึงจะพูดออกมาอย่างแน่วแน่  แต่สีหน้าที่หลังจากพูดออกไปกลับมีแววกังวล

เจ้าตัวจะรู้ตัวเองหรือไม่

“งั้นไขก็ไปบอกมาย เขาให้ชัดเจน” คนตัวโตพูดเสียงเรียบ กระชับ ได้ใจความ เหมือนสั่งงานนักเรียน
ฟ้าใสตาโต ตกใจ ประหลาดใจ เหวอ

“อะ..อะไร นะ พี่โม่ง”

โม่งลุกเดินไปหยิบ ตารางการจัดแสดงนิทรรศการ 8 แห่ง ในสหรัฐอเมริกา
 และ รายละเอียด ที่จะจัดต่อที่ Otto Gallery, Munich, ประเทศเยอรมัน
และ Nagasaki Museum, Nagasaki, ประเทศญี่ปุ่น

 “ตอนนี้ กำลังจัดแสดง อยู่ที่ ศูนย์ศิลปะ Modern Art Gallery in Boerum Hill ของเมืองบรูคลิน มายมันก็อยู่ที่นี่ รายละเอียดพวกโรงแรมที่พัก ก็อยู่ในนี้ทั้งหมด จะอยู่จนถึง วันที่  30 ก็จะย้ายไปจัดต่อที่ LA Artcore, Los Angeles

หากไขจะไป พี่จะทำเรื่องว่าให้ไขไปช่วยคุมงานของพี่ ทางวิทยาลัย คงดีใจ ไขเองก็มีใบดีโพม่าการจัดการบริหารงานแสดงนิทรรศการด้วยนี่นา เดือนหน้าพวกอาจารย์ไพโรจน์ อาจารย์ รัชนี ก็จะไป” โม่งตบบ่าให้กำลังใจ
.
.
“พี่มีความสุขที่เห็นไขมีความสุข” โม่งยืนส่งหนุ่มร่างบางที่เดินลับเข้าGate ขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ
.
.
พี่โม่งทำไมให้เขาต้องตัดสินใจทำอะไรแบบนี้ด้วย  ชีวิตต้องยุ่งขนาดนี้เชียวเหรอ เป็นเพราะไอ้ปลวกนี่แหล่ะ ฟ้าใสจะโทษมัน
.
.
.
พี่โม่งให้ฟ้าใสกลับมาคิด แถมบอกว่าแล้วแต่เขาเองอีกด้วย ไม่เร่ง ไม่กำหนดวัน ไม่โทรตามงาน
ให้การบ้านนักเรียนอะไรกันแบบนี้ พี่โม่งนี่ ใจร้าย!!!

ผ่านมา 3 วัน ฟ้าใสนั่งมองเบอร์โทรศัพท์ ต่างประเทศ  ถ้าโทรไปแล้วจะเป็นอย่างไง

ไอ้มายมันเป็นคนตัดการติดต่อจากเขาเองนะ
แต่มันก็ไม่เชิง นี่นา ก่อนไปมันก็ยังดีๆกับเขาอยู่
เพียงแค่มันไปโดยไม่บอกเขา

เจ็บจี๊ดๆ ....ไหนมันเคยบอกว่าจะไม่ทำให้เขาเสียใจไง
ลองโทรไปหาพี่ส้มโอที่อเมริกาดู....
.
.
นักปฏิบัติอย่างพี่ส้มโอ ตัดสินใจให้ฟ้าใสโดยไม่ยาก ถึงฟ้าใสจะไม่ได้บอกหมดซะทุกอย่าง
ฟ้าใสก็แค่บอกว่า ไม่แน่ใจในตัวไอ้มายและตัวเอง

“พอไม่ได้เจอเขา เราคิดถึงเขาไหมล่ะ”

“ฮื่อ...”

“ถ้าเลิกกับเขาล่ะ”

“....” ฟ้าใสก็พูดไม่ออก ก็...ก็...มันแสนดีกับฟ้าใส...

“ก็ลองมาสิ  พี่ก็ชวนไขมาตั้งหลายครั้ง ไม่ต้องไปยุ่งกับโรงเรียนก็ได้ พี่ได้ซิกติเซ่นต์แล้ว เดี๋ยวพี่ทำใบรับรองเป็นสปอนเซอร์ให้เอง
มาก็ดี เผื่อไขมาเรียนต่อโท มาอยู่กับพี่ก็ได้ จะได้มาช่วย Joe  เลี้ยง ดีน่า มาสอน Joe ทำอาหารไทยด้วยก็ดี พี่จะได้มีคนทำให้ทาน”
.
.
.
ผ่านไป 1 เดือนที่ ฟ้าใสตกลงใจ
ใจก็ยังกระวนกระวาย แต่ก็สงบลงมากมาย
ความคิดในหัว ก็ตีกันวุ่นวาย ถึงได้ไม่ชอบคิด ชีวิตยุ่งยากจัง
ฟ้าใสเร่งทำงาน บอกป้าๆ แม่แล้ว  แม่ก็บอกว่าดี เตรียมของฝากพี่โอ เยอะแยะ
ป้าๆบอกว่าบ้านพี่โออยู่สบาย มิสเตอร์โจ แก ดี  รักพี่โอมากด้วย
ข้าวโอ๊ต เตรียมฝากซื้อกางเกงยีนส์ ข้าวปั้นไม่สเปค ฟรีไม่เสียเงิน ข้าวปั้นยินดีรับหมด
ฟ้าใสก็มาพร้อมกับอาจารย์ศิลปินและคนดูแลงานของอาจารย์ท่านอื่น พี่โม่งจัดการให้ พี่โม่งฝากงานมาให้ ด้วย
.
.
.
.
ที่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศทอม แบรดลีย์  ท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส

ถึงฟ้าใสจะมาพร้อมกับคณะของอาจารย์ มีคนมาดูแลรับ-ส่ง แต่พี่ส้มโอก็ยังเป็นพี่ส้มโอ มือหนึ่งเรื่องการจัดการ
ฟ้าใสโดนขอตัวไปบ้านพี่โอ 2-3วันก่อน งานพี่โม่งไปอยู่รวมกับกับข้าวของงานนิทรรศการต่างหาก
ฟ้าใสมาด้วยทุนส่วนตัวของพี่โม่ง แม้เขาบอกว่า จะไปหาพี่ส้มโอด้วย พี่ส้มโอจะออกให้ฟ้าใสเอง
แต่พี่โม่งก็บอกว่า

 “ธุระของฟ้าใสมันก็ธุระของพี่ด้วยนี่นา”
.
.
.
.
ที่ LA Artcore  ลอสแอนเจลิส

ฟ้าใสเห็นไอ้บ้านั่นแล้ว
พี่ส้มโอ มาส่งแล้วก็เดินดูงาน
ฟ้าใสพาชมงาน เดินดูไป อธิบายให้พี่ส้มโอฟังด้วย ใช้เทคนิคอะไร สีชอล์ค สื่อผสม ภาพพิมพ์ อันนี้ เขาจะแทนอารมณ์...รันทด กดดัน…ว่าไป...
ไอ้ตัวมดปลวกมอด เห็นเขาแล้ว ดูก็ตกใจ  มันเข้ามาทัก สวัสดี พี่ส้มโอ

“เจอเพื่อนแล้ว ตอนเย็นพี่แวะมารับนะ”

“ไปทานข้าวด้วยกันสิ” ส้มโอหันไปชวนมาย

“อยู่ได้นะ” ส้มโอถาม ฟ้าใส ย้ำอีกที

มายจับมือฟ้าใสไว้ ยอมปล่อยมือ เมื่อยกมือไหว้ลาพี่ส้มโอ รับปากว่าจะไปทานอาหารด้วยตามที่ชวน

“มีอะไร โทรเข้ามือถือพี่นั่นแหล่ะ”

“ครับ” ส้มโอจัดการหาโทรศัพท์ไว้ให้ฟ้าใสใช้
.
.
“มาได้ไง” มายฉุดฟ้าใสมาที่ห้องเก็บอุปกรณ์ด้านหลัง

ฟังแล้วยิ่งเจ็บใจ

ได้ยินเสียงแล้ว....ยิ่ง...

ผลั่วะ!!! ฟ้าใสต่อยหน้ามันจังๆ กระแทกเข้าครึ่งปาก ครึ่งจมูก
ถึงหมัดจะเล็กๆ ไม่ได้แรงมาก แต่เจ้าตัวก็กะให้หายแค้น แต่เนื้อนิ่มอย่างริมฝีปาก ที่เจอหมัดลุ่นๆตรงๆ ก็เล่นเอาเลือดออกได้พอดู
ตามด้วยเสียงทุบ ตุบๆ บึกๆ  ด้วยกำปั้นที่ทำต่อ คนตัวใหญ่กว่า
ไอ้สีหน้าที่ชอบทำเป็นหงุดหงิด หายไปแล้ว เหมือนมันต้องรับผิดชอบ มีหน้าที่การงาน
ยังกะมันเป็นผู้ใหญ่ขึ้น...เหลือแต่เขาที่ยังเป็นเด็ก...เหรอ....

ฟ้าใสปาดน้ำตา
ไอ้หนุ่มปลวกมอดมด ยิ้มแหยๆ เอาใจ เช็ดเลือดตัวเอง

“เจ็บหรือเปล่า” ฟ้าใสถามเสียงอ่อย ไม่สบตา

“เป็นห่วงคนจะโดนจับมากกว่า”

“อ้าว ใครเหรอ มีใครจะโดนจับหรือไง”

“มีดิ ที่นี่เขามีกล้องวงจรปิดทุกที่น่ะ กฎหมายเขาแรงด้วย ทำร้ายกันเห็นๆ เดี๋ยวซีเคียว เขาก็มา”

“เฮ้ย!! มาย เราหยอกนายเฉยๆ มือมันไปเอง” ไอ้เด็กบ้ามันพูดจริงเปล่าเนี่ย เริ่มกังวล

ตัวเล็กแถเก่งว่ะ หมัดก็หนักพอใช้ได้ แต่ไอ้ ข้างๆคูๆ อย่างงี้  งั้นก็ต้องเจอ

“จ๊วฟ จ๊วฟ !!! ดูด จ๊วฟ จ๊วฟ  ดูด ปากซะเลย” ให้มันรู้บ้างว่า ปากมันไปเองนะเป็นอย่างไง มายแยกเขี้ยวยิ้มมุมปาก

ปากเจ่อแดงเลือดกรัง ประกบปิดปากอิ่มแดงระเรื่อ อยากจะกัดปากอิ่มอย่างงี้ให้สมอยาก ไม่ได้แตะนุ่มนิ่ม อย่างนี้มาตั้งนานแล้ว
มือเริ่มไล้ลงสัมผัสที่บั้นท้าย คนตัวเล็กโดยอัตโนมัติ

ฟ้าใสเอามือผลักหน้าใหญ่ๆออก อีกมือก็เอื้อมไปคว้ามือซุกซน ออกจากบั้นท้ายตัวเอง

“อยากโดนอีกสักบึกหรือไง” ส่งตาขมึงใส่มั่ง

“เร็วๆ จูบมาเลย ซีเคียว เค้าจะได้รู้ว่ารักกัน ไม่งั้นเขาจะคิดว่าไขเป็นคนร้ายนะ งานแสดงภาพเขียน งานศิลปะ จะมาทำเล่นๆ ไม่ได้นะ เขาเข้มงวดจะตาย”

“ไม่ !!! แค่นั้นก็พอแล้ว  ไม่รู้ล่ะ ฉันตัวเล็กกว่านาย ไม่มีใครเชื่อหรอก” อ้าวลืมไป กล้องมันเห็นนี่หว่า

“โดนจับไป ผมไม่รู้ด้วยนะ มีเลือดออกด้วย ภาษาผมไม่รู้เรื่องด้วยนะ อธิบายภาษาอังกฤษเอานะ”

เกลียดไอ้มดปลวก เอาเรื่องภาษามาขู่ ก็ได้ว่ะ ...
ฟ้าใสเขย่งตัว กระแทกปากชนที่แก้มแรงๆ หนึ่งที

“อย่างงี้มันใช่ที่ไหน เร็วไป กล้องมันจับไม่ทัน เดี๋ยวกล้องมันเห็นว่าพี่ ชะโงกมาข่มขู่ ปล้นภาพเขียน ของเค้าเป็นล้าน เลยนะ
นี่ถ้าผมยกมือ ขึ้น 2 ข้าง เค้าต้องคิดว่าพี่มีอาวุธ ด้วยนะ” มายพูดจบ เอียงแก้มอีกข้างให้อีกฝ่าย

มันน่ะชอบทำเหนือกว่าเรื่อยเลย หากเขาก็ไม่อยากจะไม่ถือสา เพราะสิ่งที่ตามมาคือการดูแลสารพัด พอกับป้านวล
ก็ใครมันบ้าเดินมาทวงถามจะเอากางเกงในของเขาไปซักให้

ฟ้าใสจูบแก้มมันดีๆก็ได้
มายประคองใบหน้าหวาน จ้องสบตา ตาคม ที่เริ่มไม่ยอมสบด้วย หลุบตาจนเห็นขนตางอนยาวเป็นแพ
จูบหวาน ที่หวามเข้าไปในอก คุ้นชินจนอยากซุกในอ้อมกอดอุ่น
ตื้นตัน จนเปี่ยมล้น อยากเกลือกกลิ้ง คลุกคลี เหมือนสัตว์เลี้ยงที่ได้เจอเจ้าของ ไม่รู้เหมือนกัน
ความรู้สึกแบบนี้ แล้วจะให้เขาทำอย่างไรได้...
.
.
.
ความตั้งใจจะเป็นอย่างไร
ที่มาเพราะ ต้องเจอหน้ามันให้ได้ก่อน
พี่โม่งมาบอกให้ทำอะไรนั้น ขอแช่แข็งไว้ ให้มันเป็นสูญญากาศ
จะให้เขาเปลี่ยนอะไร ก็ไม่อยาก ไม่กล้า ปอด กลัว ไม่มั่นใจ
ให้เขาอยู่บ้าน บ้าง ร้านเขาบ้าง มีมันมาดูแลเขาบ้าง และให้เขาได้มีพี่โม่งให้คอยรัก...
ได้ไหม....
.
.
.
.
6 เดือนแล้วที่ ฟ้าใสอยู่ช่วยมันทำงาน ถ้ามีเวลาว่าง มายก็จะออกไปถ่ายรูป เมือง ผู้คน วัฒนธรรม
พวกเขา อายุน้อยที่สุด พวกอาจารย์เลยถือโอกาสใช้ทำงานให้ดูแลเป็นตัวหลัก

แล้ว พวกอาจารย์ก็ถือโอกาส ไปฟังสัมมนาเบื้องหลังรหัสลับภาพเขียนของดาวินชี่
การเจาะลึกของศิลปะและสถาปัตยกรรมในยุคกรีกโบราณจากยุคสำริด
หรือ สัมนาเรื่องเกี่ยวกับชีวิตและการทำงานของ Michelangelo ที่แค่ ตรวจสอบจิตรกรรมประติมากรรมและสถาปัตยกรรม
 พิจารณาเฉพาะงานที่สำคัญในเมืองที่ Michelangelo ทำงาน: ฟลอเรนซ์และโรม นั่นก็กินเวลา10-20 วัน

ฟ้าใสเอง ถ้าสถานที่จัดแสดง เป็น หอศิลป์ หรือเป็นพิพิธภัณฑ์ ในมหาวิทยาลัย ก็แอบไปด้อมๆมองๆ อ่านบอร์ดประกาศ ของยู.
จนเจอคอร์สเรียน การเขียนปากกาคอแร้ง ,การสอนพับกระดาษของชมรมวัฒนธรรม ญี่ปุ่น , การเขียนพู่กันจีน
 คอร์สการทำกระดาษ หนังสือทำมือ ฯลฯ ฟรีบ้างเสียเงินบ้างก็ไปลงเรียน ช่วงเย็นบ้าง 1-2-3 ชั่วโมง ในช่วงเช้าบ้าง
.
.
.
เราย้ายไปจัดแสดงงานต่อที่ Otto Gallery, Munich, ประเทศเยอรมัน
พร้อมข่าวที่ได้รับจาก พี่โม่งว่า อาจารย์เบญติดเชื้อ เป็นไข้สมองอักเสบ นอนโคม่า ไม่รู้สึกตัว
ตอนหลัง พี่สาวที่มะนาวเรียก ป้าศรีแพร ก็มารับตัวอาจารย์เบญไปดูแลเองที่บ้าน
มะนาวเอง ตอนเช้าพี่โม่งก็จะขับรถไปส่ง ที่บ้าน พี่สาวอ.เบญ  พาเลิกสอน ก็จะไปรับกลับมานอนที่บ้าน


ฟ้าใสสงสารมะนาว เพราะ แค่เห็นว่า บรรยากาศ บ้านที่อยู่มันก็เงียบๆ เหงาๆ พี่โม่งก็อยู่แบบ เงียบๆ
มะนาวไปอยู่ บ้านป้า ที่พี่โม่ง เคยถูกเรียกให้แวะไปเอากับข้าวกลับบ้าน ฟ้าใสก็เห็นว่า บ้านก็เงียบๆ มืดๆ ไม่เปิดทีวีดูกันด้วย อ่ะ
 
แล้วก็มีแต่คนแก่ ผู้หญิง ถึงมีอาหารการกินสมบูรณ์ แต่ ฟ้าใสก็ว่า หายใจไม่ค่อยโล่งอ่ะ อึดอัด บ้านฟ้าใสที่กรุงเทพ ถึงมีคนแก่
แต่ก็เลี้ยง ไอ้ดอลล่า ไอ้เบบี๋ วิ่งไล่แมว ไล่นก ให้มีเสียงหัวเราะ ทั้งแม่และป้าๆ ก็ชอบฟังข่าว ดูทีวี แม่พรรณเองก็ชอบฟังเพลงฝรั่ง เพลงไทย  สมัยใหม่
.
.
.
ขณะที่จัดงานแสดง ที่ Nagasaki Museum, Nagasaki, ประเทศญี่ปุ่น

พี่โม่ง โทรศัพท์ มาคุย กับมาย อาจารย์เบญเสียชีวิตแล้ว หลังจากนอน โคม่า ไม่รู้สึกตัวมาร่วม เกือบ 3 เดือน
พี่โม่งฝากมาย ให้ช่วยดูแลเรื่องงานทางนี้ ทำอะไรได้ ก็จัดการเลย
มาย รับปาก งานยังเหลืออีก 10 วัน และยังต้องจัดการเรื่องเก็บข้าวของอีก แต่จะรีบกลับไปให้เร็วที่สุด

สิ่งที่เขาอดไม่ได้ ที่จะวิตกกังวล...เรื่องหนึ่ง...เรื่องที่เขากลัว...วันนั้น..วันนั้นมาถึงแล้ว...




TBC....
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4Ch.10.3อัพ (18/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 18-11-2012 13:44:22
แล้ววันนี้ก็มาถึง ว่าแล้วไม่ได้แช่งนะ หน่วงๆอะ รักพี่เสียดายน้องอะ สงสารมาย  :z3: :z3: :เฮ้อ: เอาไงต่อดีอยู่ที่การตัดสินใจของฟ้าใสแล้ว เอาใจช่วยจ้าไม่ว่าจะเลือกอะไรจะอยู่ข้างๆนะ (ขอ 2 ได้เปล่า)

ขอบคุณมากค่ะ  :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ S.4Ch.10.3อัพ (18/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 18-11-2012 14:55:47
หนักใจแทนฟ้าใสเขาล่ะ
ทั้งพี่โม่งทั้งมายต่างก็รักและจะสามารถดูแลฟ้าใสได้เป็นอย่างดีลเลย
ฟ้าใสเองก็รักทั้งสองคนด้วยซี แล้วฟ้าใสจะตัดสินใจเลือกใครนะ
แต่ถ้าเราเป็นฟ้าใส เราจะเลือกพี่โม่ง
เพราะอยู่กับพี่โม่งคงมีความสุขแบบอบอุ่น/ชุ่มเย็นที่ระเรื่อยๆอะเอี่อยๆ คงไม่ร้อนรน/รีบเร่ง คงสุขแบบเรียบง่าย
พี่โม่งเป็นผู้ใหญ่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร ต้องเข้าใจชีวิตและเข้าใจฟ้าใสได้ดีที่สุด
ความรักของพี่โม่งที่มีต่อฟ้าใสก็มั่นคงมาโดยตลอด
และที่สำคัญยิ่งนานวัน เรายิ่งรับรู้ได้ว่า พี่โม่งรักฟ้าใสโดยปราศจากเงื่อนไขใดๆด้วย
ฟ้าใสเองก็จะได้เป็นผู้เติมความสุขความสดใสให้กับชีวิตของพี่โม่งด้วย
ตอนนี้พี่โม่งต้องทุกข์และเศร้าจากการสูญเสียภรรยาด้วย สงสารมะนาวด้วย
(ฮิ้ววววว....ใครๆคงว่าเราเป็นแม่ยกพี่โม่งละกระมัง)
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ CH.10.extra:Pre-ending (18/11/12)อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 18-11-2012 21:10:01
CH.10.extra:Pre-ending

เอ่อ...มาทักกัน ก่อน...ก่อนจบ ฮะ เสียงสั่นเครือ ( ดีใจ หรือ เสียใจ ทั้ง2ฝ่าย นักอ่าน คนเขียน
คนเขียนโดน คนรอบข้างบ่น เพราะไม่ยอมทำงานทำการ  ทำงานก็ไม่เต็มที่
ใจพะว้าพะวง อยู่กับน้องไข พี่โม่งนี่แหล่ะ  ลืมนายมาย ตัวประกอบ เอ๊ย!! พระเอก=??!! อีกคน
ทำ CH.10.extra:Pre-ending มาฝาก ก่อนเจอกัน ใน ENDING นะครับ
Pre-ending

(http://image.ohozaa.com/i/500/KJRSrF.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wsR1HFGIC36t2ahP)


"ไข..ผมยาวแล้วนะเราหน่ะ"
"ก็..อยู่เมืองนอก ค่าตัดผมแพงอ่ะ พี่โม่ง ..น่า น่า ไปแท๊งกิ๊วคนอ่านเหอะ เค้าอุตส่าห์ เอาใจช่วยเราอ่ะ"

(http://image.ohozaa.com/i/935/STGBOZ.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wsR206AbmjSIrZpW)
"จะไปซื้อยาไวอะก้า  มาคืนชีพเมียพี่โม่ง หึ!!!!"

******
เมื่อ..เมื่อ..เมื่อ....อร๊าคคคคคคคคคคคค!!!!!!!
(http://image.ohozaa.com/i/5cc/qccWYZ.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wsR2anXXA8A49Vg4)


****

โอม สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ ....
โอมให้ช้างลืมโขลง โอมให้โขลงลืมไพร โอมให้ฟ้าใสรักมายคนเดียว เพี้ยง จุ๊ฟ จุ๊ฟ เลิฟ เลิฟ ...
(http://image.ohozaa.com/i/793/CcFOk1.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wsR2mrf9dGbk8xpU)


****

เอิ่ม...อ่า...
(http://image.ohozaa.com/i/075/IoxeEN.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wsR2BGktpUdAvOSr)


****

 "เป็นพ่อบ้านของตระกูลแฟนทอมไฮฟ์ทั้งที ถ้าทำเรื่องแค่นี้ไม่ได้ จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนขอรับ"

(http://image.ohozaa.com/i/e07/s4ti3L.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wsR2NnCYLZhul6Kn)




ขอโทษครับ ไม่มีสปอยให้แน่นอนครับ  อย่ามาอ่านเร้ย


 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ CH.10.extra:Pre-ending (18/11/12)อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 18-11-2012 21:27:17
5555+ ฮาได้ใจม๊ากก มาก รอลุ้นต่อไปว่าบทสรุปของรักใสๆ หรือเปล่าไม่รู้ จะแฮปปี้ขนาดไหนเป็นกำลังใจให้คนแต่งจ้า รอลุ้นใจจดใจจ่อเนี่ยรีเฟรชทุก 10 นาทีเลย อิอิ ในที่สุดก็ถึงทางแยกสุดท้ายแล้ว ก็ขอให้สมหวัง (แอบลุ้นขอเก็บไว้ทั้งสองคน ไว้ช่วยกันทำมาหากินเน๊อะไม่ว่าไรหรอกดีใจอีกต่างหาก ) กอดคนแต่ง  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ขอบคุณมากค่ะ  :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ CH.10.extra:Pre-ending (18/11/12)อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: goonglovenut ที่ 19-11-2012 08:23:54
พอต้องเลือกจริงๆหนักใจเหมือนกันนะ ถ้าคิดตามตั้งแต่แรกฟ้าใสมีใจและรักพี่โม่งมาตลอด ส่วนคนอื่นที่เข้ามาในชีวิตมันก็เหมือนกับที่ฟ้าใสบอกตัวเองเหมือนจะรักแต่ผูกพัน โภชน์กับลิฟท์ตัดไปได้เลย เหลือแต่มายที่ถึงแม้จะเพิ่งเข้ามา แต่ก็ดีกับฟ้าใสมากนิสัยอาจจะเด็กไปหน่อย ส่วนพี่โม่งเป็นผู้ใหญ่รู้จักที่จะรักและให้มาตลอด  :เฮ้อ:

เอาเป็นว่าอยู่ที่คุณลาสเบอรี่แล้วมั้งจะเลือกฟ้าใสให้ใคร โยนให้คนเขียนซะงั้น :laugh:
การ์ตูน่ารักจังคะ ชอบบบมากกกก :impress2:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ CH.10.extra:Pre-ending (18/11/12)อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: B_Story ที่ 19-11-2012 18:36:28
แหมรักพี่เสียดายน่้องวุ้ย

แต่จริงๆแล้วคนที่รักมาตลอดคือพี่โม่งนี่นา กับรายอื่นนี่ฟ้าจับพลัดจับพลูได้มาโดยละม่อม  :laugh:

เอาน่าน้องมาย ถ้าไม่รังเกียจก็ 3P กันเลยดีมะ  :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ ENDING (20/11/12)อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 20-11-2012 01:17:32

Ending


มายบอกข่าวเรื่องอาจารย์เบญให้ฟ้าใสทราบ
ไม่มีการพูดอะไร เรื่องที่พูดคุย เป็นเรื่องเกี่ยวกับงานที่ต้องทำทางนี้ เรื่องงานพิธีศพที่พี่โม่งบอกคร่าวๆ

“จะกลับไปก่อน ก็ได้นะ” ร่างสูงสบตาเอ่ยสั้นๆ

“....” เขาส่ายหน้า ไม่พูดอะไร แต่ก็ประสานตา แสดงความรู้สึกที่แน่วแน่
จะอย่างไร อยู่ช่วยทำงานด้วยกันมาจนใกล้จะจบแล้ว จะทิ้งกันไปได้อย่างไร
ฟ้าใสก็ไม่ยอมทิ้งมันด้วย ร่วมหัวจมท้ายขนาดนี้ ตามมันมาถึงต่างประเทศ รอนแรม เปลี่ยนเมือง ย้ายกันไป ข้ามน้ำข้ามทะเล
.
.
.
.
มายโทรไปบอกโม่งว่ากลับมาถึงกรุงเทพฯแล้ว
.
.
.
ฟ้าใส ตอนที่รู้ข่าว อาจารย์เบญ จะคิดว่าเป็นข่าวดี หรือข่าวร้าย สำหรับเขา
ใจที่คิดอะไรมากมายจนจะไม่กล้าพูดกับพี่โม่ง จะฝากมายพูดแสดงความเสียใจกับพี่โม่ง แทน
คิดได้ว่าไม่สมควร จึงยอมพูดด้วยตัวเอง
พูดไปแล้วก็รู้สึก ใจหาย วาบหวิว  เหมือนหัวใจมีอยู่เพียงครึ่งเดียว พูดกับพี่โม่ง แสดงความ เสียใจด้วย
.
.
.
มายจะต้องจัดการเรื่องงานของพี่โม่ง ตามสัญญา...ที่เมื่อจัดแสดงงานเสร็จ ผลงานที่มีคนจองไว้แล้ว
จะต้องจัดการจัดส่ง ทั้งเรื่องเงินทอง  การติดต่อ มากมาย งานบางชิ้นที่เจ้าของให้ความร่วมมือให้ยืมมาจัดแสดง
.
.
ตอนนี้ฟ้าใสก็ไม่เกี่ยวแล้ว....
จะทำอย่างไรดี.....
เขาไม่กล้าทั้งเจอหน้าใคร หรือติดต่อกับใคร...
หากภรรยาพี่โม่งยังอยู่...
จะให้เขาเลวได้ชื่อว่าแอบมีอะไรกับพี่โม่งก็ได้ ถ้าหากพี่โม่งยอมทำเรื่องแบบนั้นกับเขา
จะให้ไอ้มายด่าว่าเขาก็ได้ เมื่อเห็นว่าเขายอมที่ทำตัวอย่างงั้น
ใช่..ฟ้าใสก็ไม่เลิกคบมันด้วย ถ้ามันจะตัดขาดเขา หนีไปอีก เขาก็จะตามมันไป...
.
.
ไม่รู้อะไรแล้ว...
.
.
ฟ้าใสทำบุญถวายสังฆทานให้อาจารย์เบญ ที่วัดในกรุงเทพฯ นี่แหล่ะ ไปกับไอ้นุ้ย ป๋าเรนกับน้องอิ๊ฟ
ก็พอป๋าเรนมันรู้ว่าฟ้าใสสนใจจะทำบุญ เลยจะจัดทริป 9วัด ใน1 วัน ให้ แต่อย่างเราๆ ก็ยืดยาด เรื่อยเฉื่อย
เต็มที่เลยได้ แค่ 4 วัด กับสถิติ กินก๋วยเตี๋ยวหมู เรือพาย แสนอร่อย คนละ4 ชาม
.
.
มายโทรมาบอกว่าพรุ่งนี้จะขึ้นไปหาพี่โม่ง เรื่องงาน และดูว่าต้องช่วยอะไรพี่โม่งบ้าง

“จะขึ้นไปพร้อมกันไหม”

“อ่า...เดี๋ยวขอเราเคลียร์งานต่ออีกหน่อยได้ไหม รุ่นพี่ที่เราส่งงาน เขาให้เราแก้งานน่ะ” ฟ้าใสอ้างเลี่ยง
เพราะ ปัญหาหัวใจที่เขายังไม่อยากเผชิญ

ตอนเย็น มาย แวะมาหาที่บ้าน ตาที่เคยเป็นประกายของร่างสูงดูหม่นลง
มือใหญ่ที่กุมมือเล็ก ถึงฟ้าใสจะเกาะกุมมือใหญ่ไว้แน่น แต่ที่อยู่ในใจกลับเบาหวิว เหมือน ความคิดมันบินไปไหน
มายจูบลาที่หน้าผากได้รูป

“คืนนี้ไม่ค้างที่นี่เหรอ” ฟ้าใสถามเสียงแผ่วเบา
มายยิ้มให้ ริมฝีปากได้รูป ประกบปิดดื่มด่ำความหวานนุ่มของกลีบปากอิ่มระเรื่อสีทับทิมสด

“บ้า..เดี๋ยวใครก็เห็นเข้าหรอก” ฟ้าใสต่อว่าทุบไหล่ แต่ความหวานชื่นที่ได้รับก็ทำให้มีความสุขมิใช่น้อย รอยยิ้มจึงระบายเต็มใบหน้า

มายเดินไปที่รถ

“ยังไงก็ต้องไปขึ้นไปนะ ดูแลตัวเองดีๆล่ะ”

“ครับ ผม...” ฟ้าใสรับคำ “ ตัวเองแหล่ะ ห้ามหนีไปเที่ยวกับเพื่อนล่ะ” ก่อนที่ยอมให้อีกฝ่ายปิดประตูรถ

“ดูแล พี่โม่งดีๆนะมะนาวด้วย บอกว่าอาไขจะไปหา ขออาไขทำงานก่อน”

ร่างเล็กบาง ที่ศีรษะผมสีน้ำตาลหยักศกสลวยเป็นเงางามยาวปะบ่า เหลียวมองตามรถยนต์ที่ร่างสูงขับจากไปจนออกนอกประตูรั้วเขตบ้าน
.
.
.
.
.
หลังจากฟ้าใสปล่อยให้เวลาผ่านไป  ร่วมเดือนกว่า
อีก 4 วันก็จะถึงวันงานทำบุญครบรอบ 50วัน ของภรรยาพี่โม่ง

“ฮาโหล หวัดดีฮะ พี่โม่ง ไขขอโทษด้วยที่ไม่ได้ขึ้นไปช่วยอะไรพี่โม่งเลย พี่โม่งจำได้เปล่าฮะที่พี่เคยถามไข
 ไขก็ตอบพี่โม่งไป...” ในที่สุดเขาก็อดรนทนไม่ไหว อย่างน้อยตอนนี้ขอคุยกับพี่โม่งถึงสิ่งที่อยู่ในใจก่อน

“อืม....” โม่งรับคำ ชำเลืองมอง น้องชาย ที่นั่งอ่านหนังสือนิทานให้ลูกชายตัวเองที่ห้องนั่งเล่น
เขาเองที่พูดไปว่าให้เลือก ใช่ว่าอยากจะไปคาดคั้น เพียงแค่อยากให้คนตัวเล็ก รู้ใจตัวเอง
ไม่ใช่เอาแต่เกาะกุมความรู้สึกยึดติดอยู่กับเขา จะพูดไป ตัวเขาเอง ก็อาจไม่ได้ดีไปกว่าฟ้าใสเลยก็ได้
หากเขามีงาน หน้าที่ ครอบครัว และความรับผิดชอบ
ความผิดหวังที่ตั้งใจ ว่ากลับมา แล้ว.... ขนาดมีการเตรียมใจไว้แล้ว ก็ถึงกลับทำให้เสียศูนย์ในตอนแรกเช่นกัน
ความเป็นลูกคนโต พี่คนโต นักเรียนดีเด่น ที่มีคนคาดหวัง ฝากความหวัง ทำให้ตัดใจกับความรู้สึก
หันไปมุ่งทุ่มเทให้งาน  หาก ชื่อ ใบหน้า ทุกอย่าง เป็นสิ่งที่จารลงในใจแล้ว

“พรุ่งนี้ ไขอยากขึ้นไปไหว้อาจารย์เบญ พี่โม่งพาไขไปได้ไหมฮะ ไขจะไปเครื่องเที่ยวแรกเลย”

“ได้สิ ไข...” เสียงพี่โม่งนุ่มนวลเหมือนเดิม ความเข้าใจที่สื่อถึงกันละมัง ทำให้ไม่ต้องพูดอธิบายอะไรกันมาก

“พี่โม่ง อย่าให้มายมาด้วยนะฮะ ไขอยากคุยกับพี่โม่ง”

“ได้..ไข..”
.
.
.
โม่งให้มายเช็คแผนการท่องเที่ยว เพราะ หลังจากทำบุญ 50วัน จะพามะนาวไปเที่ยวต่างประเทศ เพื่อปลอบใจให้หายเศร้า

หลังจากไปรับฟ้าใสที่สนามบิน โม่งก็พาฟ้าใสมาที่วัด
เจดีย์ทรงสิงห์ ที่บรรจุอัฐิ อาจารย์เบญ ภรรยาพี่โม่ง ฟ้าใสคุกเข่า พี่โม่งจุดธูป สองดอก ส่งให้ฟ้าใส ดอกหนึ่ง
สำหรับตัวเอง ดอกหนึ่ง
.
.
.
โม่งถอยห่างมายืนด้านหลัง ร่างเล็ก ที่เมื่อปักธูปวางดอกไม้ พวงมาลัย
ฟ้าใส ก้มหน้าพูดสิ่งที่อยู่ในใจ ราวกับขออนุญาตผู้ที่อยู่เบื้องหน้า
บอกเล่าเรื่องราว ความรู้สึก สิ่งที่ผ่านมาเนิ่นนาน ถูกหมุนย้อน ให้หวนระลึกถึง
กระเป๋าผ้าใบเล็กๆ ที่เคยซื้อฝากคนอื่น ใช้จนเก่า เจ้าตัวเลิกใช้ ฟ้าใสก็เก็บเอามาซัก เก็บรักษาไว้
ทุกรายละเอียด ร่างสูง ยังไม่คิดว่าคนตัวเล็กจะจดจำไว้
วันที่โหดร้าย วันที่ต้องผ่านพ้นไปให้ได้
ความสุข ที่สร้างทดแทน ถ่ายทอดออกมาจากปากหนุ่มร่างบาง ต่อหน้ารูปอาจารย์เบญที่ป้ายหินอ่อน

“10ปีที่แล้ว ผมรู้สึกอย่างไร ต่อพี่โม่ง ปัจจุบัน ผมก็ยังคงรักพี่โม่ง เหมือนเดิม
ผมขออนุญาต อาจารย์เบญ ดูแลพี่โม่ง และมะนาว....”

ร่างสูงลูบเรือนผมสีน้ำตาลนุ่ม เบาๆ

“เบญ อนุญาตพวกเราด้วย พวกเราจะช่วยกันดูแลมะนาวให้ดีที่สุด...”
ลมกรรโชกแรงมาซู่ใหญ่ ราวกับรับรู้เรื่องราวนั้นแล้ว

ฟ้าใสคุยกับพี่โม่ง บอกทุกอย่างที่อยากจะบอก พูดทุกอย่างที่ใจรู้สึก

ทั้งความรู้สึกเกี่ยวกับไอ้มาย
พี่โม่งเข้าใจ...
ฟ้าใสถึงได้รักพี่โม่ง..พี่โม่งเป็นพี่โม่ง...ยอมรับในความเป็นเขา...
ขอเวลาทำใจอีกแปบหนึ่ง เขาจะคุยกับไอ้มาย
ฟ้าใสรับปากจะขึ้นมาวันทำบุญ 50วัน พอหลังจากนั้น ค่อยคุย กับไอ้มาย หรือ รอหลังครบ 100 วันไปเลย
.
.
.
หลังจากทานข้าวเที่ยง ฟ้าใสขอไปเดินเล่น ที่เซ็นทรัล บ่าย สามก็จะกลับกรุงเทพฯ
โม่งส่งฟ้าใสที่ทางเข้าห้างสรรสินค้า แล้วจะกลับไปวิทยาลัย ขณะที่แล่นผ่านลานจอดรถหน้าห้าง
รถกระบะสีบรอนซ์ทอง ติดสติ๊เกอร์การ์ตูนอุลตร้าแมน เรียงรายรอบคัน ฝีมือ ลูกชายเขาเอง
มายคงแวะมาซื้อของ ก่อนที่จะไปรับ มะนาวที่โรงเรียน

นี่จะเป็นพรหมลิขิต ที่เจ้าตัว ชอบประกาศบ่อยๆ... ก็ลองดู       
.
.
.
.
4 เดือนผ่านไป
แค่บ่ายโมง
เสียงเด็กน้อยหัวเราะอย่างร่าเริง วิ่งนำหนุ่มร่างสูงใหญ่กับคนร่างบางเข้าในบ้าน

“พ่อโม่ง มะนาวได้เหรียญทองมาด้วย มะนาวเก่งเหมือนพ่อโม่งเลย มะนาวก็มีเหรียญทองแบบพ่อโม่งแล้ว”
วันนี้ที่โรงเรียนมะนาวจัดกีฬาสี วันนี้เป็นวันสุดท้าย แล้วก็ปิดเทอม 1 เดือน

“เค้าก็แจกกันทุกคนนี่นา”

บึก!! “นี่แน่ะ นายนี่นะ เด็กกำลังดีใจ ก็เบรก อยู่ได้” ฟ้าใสเหวี่ยงศอกใส่ไอ้มาย

“แหม..ก็ดูสิ ไอ้เราน๊า อุตส่าห์พาไปซ้อมเตะบอลให้ทุกวัน พอชนะได้เหรียญ กลับบอกว่าเก่งเหมือนพ่อ” มายทำเป็นบ่นน้อยใจหลาน

“ก็เรื่องจริงนี่นา มะนาวได้เหรียญทอง พ่อโม่งประกวดวาดรูปก็ได้เหรียญทอง  อามายประกวดได้ที่3 ได้เหรียญทองแดงนี่นา”
หนอย!! เจ้าหลานตัวดี อุตส่าห์ ซื้อไอติมมาให้ตั้งถังหนึ่ง พิซซ่า อีก

“น่า น่า อามายเค้าได้ ตั้งเหรียญทองแดงเชียวนะ มีทั้งทอง มีทั้งแดง ที่ 3 มันก็ เลขเยอะดี แต่มะนาวเวลาสอบไม่ต้องเอา
เลขเยอะนะ เอาแต่คะแนนเยอะนะ...แต่มะนาวก็ต้องขอบคุณอามายด้วยน๊า  อามายเป็นคนสอนลูกเตะเข้าประตู
จนมะนาว เก่งเหมือนกัปตัน สึบาสะ เลยน๊า”

“ใช่ ใช่..” ผู้ใหญ่แหย่เด็ก แบมือขอส่วนแบ่งรางวัล

“งั้นคืนนี้ มะนาวแบ่งอาไขให้อามายยืมไปกอดก็ได้ คืนนี้มะนาวจะนอนกอดเหรียญทองของมะนาว”

“อื้อ หือ..มะนาวพูดอย่างงี้ อามายไปหาเหรียญมาให้มะนาว สัก 365 เหรียญเลย อามายจะไ...”

อุ๊บ!!! มือเล็กๆยื่นมาปิดปาก มายจับมือนั้นจูบเบาๆ
.
.
คืนนั้น มะนาวก็ใจดีจริง ยอมให้อามายยืมตัวอาไขไปนอนกอดปลอบใจที่ไม่มีเหรียญทองกับใครเค้า…
.
.
.
.
ในเวลาดึกสงัด กลุ่มดาว กระพริบพร่าง กลาง ผืนท้องฟ้า
มายมองคนที่เขารัก ร่างเล็กนอนหลับสนิท หลังจากผ่านความสุขร่วมกัน
ใบหน้ารูปไข่ กลีบปากอิ่ม ออกสีระเรื่อแดง สัมผัสนุ่มที่ไม่เคยอิ่ม มองทีไร ต้องบังคับให้ทำใจอดกลั้น
มายจับผ้าห่มคลุมเนินไหล่เปลือย อดไม่ได้ที่จะก้มลงจูบ และจูบซ้ำ
ทั้งใจและหัวใจ ที่มอบให้แก่คนร่างเล็กหน้าหวานนั่น  ทุกคนมีสิทธิที่จะได้อยู่กับคนที่ตนรัก
ในเมื่อเขาก็รักฟ้าใส คำสัญญาที่ให้กับตัวเอง ว่าจะดูแลร่างเล็กนั่น
แล้วจะเป็นไร ...หากต้องดูแลเพิ่มมาอีกคน สองคน
ผู้ชายอย่าง นาย มาย จะทำไม่ได้ แค่ คนแก่ๆอย่างพี่โม่ง และ หลานชายตัวเล็กๆ อย่าง มะนาว
จะใครที่ไหนกัน ต่างก็เป็นคนที่เขารัก ทั้งนั้น...
เพราะยังไง ดูว่า สิ่งที่คนตัวเล็กกล่าวในวันนั้น  ท่าทางเจ้าตัวคงพูดจริงทำจริง มายยิ้ม
สีหน้าบอกความพึงใจกลายๆ นึกถึงแววตาเอาจริงเอาจัง สีหน้าเคร่งเครียด  น้ำเสียงที่พูดอย่างเนิบนาบ
หากมั่นคงและมั่นใจ ต่อสิ่งที่ตัวเองกล่าว ..ใช่...มันอาจเป็นโชคชะตา วาสนา บุพเพอาละวาด ดลบันดาล
หรือ เป็น พรหมลิขิต ของพวกเขา...
.
.
.
4 ก่อนวันทำบุญครบ 50 วัน ของพี่สะใภ้ที่เสียไป
เฮียออกไปทำงาน เขาอยู่บ้านเบื่อๆ ไหนจะต้องออกไปรับมะนาวที่โรงเรียน  เลยออกไปก่อนสัก2-3ชั่วโมง จะได้ซื้อของเข้าบ้าน
“เฮียนะเฮีย แกงจืด เต้าหู้ไข่ สาหร่าย  ไข่เจียว ผัดผัก ทุกวัน น่าเบื่อจะตายชัก มะนาวมันจะหน้าเป็นเต้าหู้ไข่อยู่แล้ว
พี่สะใภ้ก็เสียไปแล้ว อาหารก็ยังจะทำเหมือนเดิมอยู่ได้ ถามอะไร ก็บอกอะไรก็ได้ ให้ไปถามมะนาว
มะนาวมันจะไปนึกอะไรออก เชอะ นี่เหรอ พระเอกของไขจัง (ควันหลงจากญี่ปุ่น)”
.
.
หลังจากเลือกซื้อข้าวของอุปโภค บริโภค เข้าบ้าน แล้ว ก็นำไปเก็บ ที่รถ ยังมีเวลาเหลือ ก่อนโรงเรียนเลิก  จึงคิดเดินกลับไป
หาหนังสือตำราทำอาหารสำหรับเด็ก

ชายหนุ่มร่างบางที่ยืนไล่มองสันปกหนังสือ เขี่ยๆ ดูๆ ไม่ยอมหยิบมาเปิดเนื้อใน
เหอะ!! อย่างงี้จะได้ซื้อ ได้เห็นข้างในไหมเนี่ย มายทั้งแปลกใจ และดีใจ
(( ♫ นี่เค้าว่าบุญหนุนพา พรหมลิขิตขีดเส้นมา ชี้ชะตามาให้ร่วมกัน ♫ ))
มายแกล้งก้าวไปยืนซ้อนข้างหลัง เอื้อมมือมาจับหนังสือข้างหน้าคนตัวเล็ก
ร่างเล็กผงะถอยห่าง แต่ก็ต้องประทะร่างเขาอยู่ดี  ร่างเล็กเซ เพราะสะดุดรองเท้าที่เขาจงใจยืนขวางติด

“อุ๊บ!! ขอโทษ ครับ...” เสียงตกใจเอ่ยขึ้นทันที

สายตาที่เมื่อมองเห็นว่าเป็น เขา ดูตกใจ เหว๋อๆ แต่แล้วคงนึกได้ว่าถูกเขาแกล้ง
รองเท้าเบอร์ 38 กระทืบลงไปบน รองเท้าเบอร์ 45 ทันที
 มดกัด เจ็บกว่า สิว สิว เสียงความรู้สึกของเท้าที่อยู่ใน รองเท้าเบอร์ 45

“มาทำไมไม่บอก” อ้าว!! ลืมตัว ดุคนตัวเล็ก อีกแล้วกรู ก็มันน่าโมโหนี่นา  มาต่างจังหวัดคนเดียว
ถ้าเมื่อเป็นไอ้บ้ากาม มัน ทำแบบเขาล่ะ ไม่โดนกอด โดนจูบไปแล้ว ตัวเท่านี้ จะไปสู้ใครเค้าได้

ที่เขาว่ากันว่า ไม่อยากเจอ ก็ยิ่งเจอ ฟ้าใสถอนหายใจ เฮือก!!!

“ไป..กลับบ้านกัน..เอ๊ย เดี๋ยวไปรับมะนาวก่อน” ประโยคอมตะถูกนำมาบอกกล่าว
บ้านพี่โม่งใช่ไหม  ต่อไปจะได้เป็นบ้านของเขา หรือของมัน ไหม...
ฟ้าใสสูดลมหายใจ วันนี้ก็ตัดสินใจพูดกับพี่โม่งไปแล้ว เจอไอ้บ้านี่ คงต้องพูดจากันให้รู้เรื่องไปเลย
จะเอาอย่างไร ก็ต้องพูดแล้วล่ะ
หลังจากฟ้าใสโดนยื้อยุด ห้ามกลับกรุงเทพฯ

“จ่ายมาเลยค่าตั๋วน่ะ”

“มีอะไรว่ามา” คนร่างสูงทำเสียงแข็งใส่ เมื่อเห็นว่าจู่จู่ เขาแอบขึ้นมา แถมกำลังจะกลับลงกรุงเทพฯโดยไม่ติดต่อตัวเอง


“เดี๋ยวรอพี่โม่งก่อน อยากคุยพร้อมกันต่อหน้าพี่โม่งอ่ะ” ฟ้าใสโทรไปบอกพี่โม่งว่าเจอมายที่ร้านหนังสือซีเอ็ด
((นายมายเลยไม่ให้ไขกลับกรุงเทพฯอ่ะ))
((55 ก็คงต้องยังงั้นล่ะ ไขก็อยู่จนทำบุญ 50วัน เลยละกัน ))
((งั้น ไขจะคุยกับมาย เขาให้รู้เรื่องเลยนะพี่โม่ง))
((ฮื่อ..ตามใจเรา แต่ค่อยคุยกันตอนทานข้าวเสร็จก่อนล่ะ เดี๋ยวพูดไปแล้ว เจ้าตัวจะทานอะไรไม่ลง 17.00 พี่ก็กลับแล้ว
งั้นวันนี้ต้องกินผักโชว์ มะนาวล่ะ ห้ามเขี่ยผักทิ้งด้วย))  โห พี่โม่ง ชิล ชิล ไปแล้วอ่ะ
นึกถึงเรื่องกินผักมากไปเปล่าเนี่ย ไอ้เรากว่าจะตัดสินใจพูดออกมาเครียดแทบตาย

((ครับ...เอ๊ยไม่ครับ..ไขจะรอพี่โม่ง...รักพี่โม่งนะครับ))
((55 ไม่ต้องมาหยอดเลย เดี๋ยวก็มีคนอยากฆ่าพี่ทิ้งพอดี 55 แล้วเจอกัน...”
ฟ้าใสเอียงหูฟังตะแคงแทบเอาหูมุดเข้าในมือถือหวังว่าจะได้ยิน พี่โม่งหยอดกลับมาบ้าง
แต่พี่โม่งพูดเสียงบ๊าวเบา เบาจนไม่ได้ยินอ่ะ คงพูดอยู่ในใจ...มั๊ง



หลังจากมื้อค่ำจบลง มะนาวนั่งดูการ์ตูนที่ส่วนนั่งเล่น
พี่โม่งสบตากับฟ้าใส อ่านหนังสือพิมพ์ที่โต๊ะกินข้าว



ฟ้าใสเดินไปหามาย
สบตามอง ประสานตา เอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง
คำพูดที่กล่าวอย่างตรงไปตรงมา ถึงการใช้ชีวิตร่วมกัน
เราขอพูด เราจะไม่ปฏิเสธ ใดๆทั้งสิ้น
จะด่าจะว่า อะไรเราก็ตาม เราคงเปลี่ยนแปลงไม่ได้อีกแล้ว
ใจเราเป็นของพี่โม่ง จะเอาซัก ไปขัด มันก็ไม่ออกหรอก มันอยู่อย่างไรมันก็อยู่อย่างงั้น
เรารู้ดี อ่ะมาย  นายจะทำดีกับเราพันเท่า 100เท่า
ลมหายใจเราก็ยังมีพี่โม่งอยู่
นายถามว่าเราเป็นแฟน นายหรือเปล่า เราถึงตอบไม่ได้ เราไม่รู้ว่าคำว่าแฟน มันคืออะไร แค่ไหน
เรารู้แค่ว่า เราขาดนายไม่ได้
ถ้านายไป  เราก็จะไปตามนาย
ถ้านายไปเพราะจะหนีเรา เราก็จะไปตามนายกลับมา
แต่ถ้านายไปจากเราเพราะนายมีคนอื่น ไม่ได้รักเรา เราจะปล่อยนายไป
ไม่มีการต่อว่า ไม่มีคำตัดพ้อ
เรารักนาย มาย

“จะมาตัดสินใจทีหลัง แล้วมาจีบแฟนพี่ ไม่ได้แล้วนะ ฮะ ฮ่า ฮ่า” ผู้อาวุโสสูงสุดขู่สำทับ
โหย โหย หมั่นไส้ว่ะ  พี่โม่ง มาทำหน้าบาน  แก่ ผมหงอก หน้าบาน ไม่เห็นจะหล่อเลย ไขจังยังรักยังหลงอยู่ได้
“ใครว่าไม่ตกลงล่ะ ยังไงก็ต้องยอมอยู่แล้วนี่นา ก็ทั้งรักทั้งหลงเขาไปแล้วนี่ เหอะ!!!”
“ทำไม ไม่พอใจหรือไง” ฟ้าใสผลักหัว ไอ้คนที่ชอบขู่เข็นเขา
มายซุกหน้ากอดฝังที่ตักคนร่างเล็ก “ลงมือก่อนกำไรก่อน”

“อามาย อามาย อย่าไปนอนตักอาไขสิ เดี๋ยวอาไขก็ขาหัก  หัวอามายโตยังกะกระถางต้นไม้ ต้องมะนาวสิ
อย่างมะนาวน่ะ นั่งตักอาไขได้  นอนก็ได้      แช่อ่างอาบน้ำเดียวกับอาไขก็ได้”  เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อย
ที่มาพร้อมมือเล็กๆที่พยายามผลักหัวโตๆที่ทำเป็นอ้อนแหมะซุกบนหน้าตักอาฟ้าใส ให้ออกไป พ้นขาอาไข ซึ่งนั่งร่วมโซฟาใกล้กัน

“พ่อก็ว่าไม่หล่อแล้ว ลูกก็ยิ่งไม่น่ารักเข้าไปใหญ่”  มายบ่นพึมพำกับตัวเอง “มีเฮียมาแบ่ง แล้ว
ยังมีมะนาวมาแย่งอีก จะส่งจดหมายขอจัดแสดงงานเฮียรอบโลกดีกว่า จะได้ไปอยู่ด้วยกันสองคน”
ว่าแล้วมายก็ตะโกนบอกพี่ชายที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ไปชำเลืองมองคู่กรณีพลางๆ

“พี่โม่งไม่ทำงานต่อล่ะ” ชิ้วๆไปทำงานเลย

“ว้า มะนาว อย่าผลักหัวอา ดิ อาปวดหัว ไม่สบาย เดี๋ยวต้องให้ อาไขเช็ดตัว”

“อามาย เป็นอะไรหรือเปล่า อามายอย่าไม่สบายนะ มะนาวไม่อยากให้อามายไปอยู่กะนางฟ้าเหมือนแม่มะนาว ” มะนาว
ที่ผ่านการสูญเสียมารดา  การเข้าออกโรงพยาบาล ทำให้ใจเสีย หน้าเศร้า เสียงสั่นเครือ
มายตกใจ รีบผุดขึ้น “อามายไม่เป็นอะไร ถึงเป็นก็แป๊บเดียว อามายแข็งแรงออก อะ..แค่มะนาว เป่าเพี้ยงให้อา 
อามายก็หายแล้ว แต่ถ้าอาไขเช็ดตัวให้อา อาก็จะแข็งแรงเร็วขึ้น” มายลุกไปนั่งข้างเด็กน้อย
โม่งเดินมาลูบศีรษะ ทั้งหนูน้อยและคนร่างเล็ก

“ไข เดี๋ยวขอกาแฟให้พี่แก้วหนึ่งนะ”

“มะนาว ห้ามนอนดึกนะลูก  พ่อไปทำงานต่อนะ

“แป๊ะ!! เสียงดีดนิ้วเข้าที่หัวคนตัวโตขี้อ้อน “นายมาย เราก็เหมือนกัน อย่านอนดึกล่ะ”

พี่โม่งพูดอะไรบ้าๆเนี่ย ฟ้าใสอายนะ อรั๋ย!!  ถึงจะพูดกะไอ้บ้ามายก็เหอะ แต่ดูๆมันเกี่ยวกับไขนี่
ฟ้าใสเสถามมะนาว แก้เขิน ลุกไปเตรียมชงกาแฟให้พี่โม่ง

“มะนาวเอาโอวัลตินหรือนมร้อนไหมครับ”

“เอาครับ มะนาวเอาโอวัลติน”

“นี่..นี่..ไม่ถาม..มั่งเหรอ..” คนตัวโตจิ้มหน้าอกตัวเอง

“ไม่อ่ะ..นายน่ะ ออกไปซื้อน้ำเต้าหู้ให้ฉัน”

มายทำเสียง ชิ!! แต่ก็ลุกขึ้นหมุนตัวไปหยิบกุญแจรถมอเตอรไซค์

“บ้า!!จริง..พูดเล่น ใครเขาจะให้ออกไปล่ะ ดึกแล้ว ไม่ต้องออกแล้ว” ฟ้าใสคว้าแขนมาย


โม่งหันกลับมามองบุคคลทั้งสาม
วันเวลาคงช่วยเยียวยา ปมที่อยู่ในใจของแต่ละคน ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่
มะนาวจะมีคนที่รักเอ็นดู ช่วยกันดูแล หากเขาต้องเป็นอะไรไป
คนที่น่าห่วงอย่างคนร่างเล็กนี่อีก เขาคงมองคนไม่ผิด น้องชายที่เขารู้จักดี
ต่อไปนี้ ฟ้าใสจะได้มีคนดูแล ยอมรับซึ่งกันและกัน
เขาเองก็จะคอยสอนให้มะนาวโตขึ้น เป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็ง เพื่อคอยดูแลลูกศิษย์ตัวน้อยของเขาต่อไป

สายใยแห่งความรัก จักถักทอสานสัมพันธ์
กอดเกี่ยวปกป้อง ดูแลซึ่งกัน
ครอบครัวของเรา.......



ENDING


รอพบกับบทส่งท้าย

ขอบคุณนักอ่านที่ติดตามกันมา ไม่มีคนอ่าน เราก็ไม่มีแรงเขียนอ่ะ
ขอบคุณ คุณพี่ส้มโอในชีวิตจริง ที่ให้คำปรึกษา ในการแต่ง จนสำเร็จด้วยดี

 :pig4:  :bye2:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ CH.10.extra:Pre-ending (18/11/12)อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 20-11-2012 01:57:56
เติมรัก(ฟ้า)ใส :m1:ใส่ห้วใจโม่ง-มาย
ความจริงชื่อเรื่องก็บอกอยู่แหละ ในใจก็ว่าคงต้องเป็นแบบนี้
เพียงแต่เราแอบอาย(เพราะหัวโบราณไปในบางเรื่อง)ที่จะให้มายขอสอง
จึงเชียร์พี่โม่งแบบดูเหมือนไม่แคร์มาย ความจริงน่ะสงสารเลยล่ะ
แต่ก็ขอชมคนเขียนนะที่จบแบบไขขอสอง ได้ค่อนข้างละมุนละม่อม
(ส่วนการแบ่งหน้าที่เวรยามรักษาการณ์อย่างไรต่อไปนั้น ให้เป็นเรื่องของเขาสามคนละกันเนาะ หุ หุ หุ)
 :L2: :L2:แทนคำขอบคุณจากใจคนอ่าน สำหรับคนเขียนจ้ะ

ป.ล. เพราะกาแฟตอนค่ำ เลยได้อ่านตอนจบคืนนี้ :m4: ก่อนใครเพื่อน
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ ENDING (20/11/12)อัพ(แต่อย่าเพิ่งย้ายเพราะมี..อีก..)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 20-11-2012 01:59:05
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: จบแฮปปี้ ชอบดีแล้วเย้ๆๆๆๆ ยอมรับซึ่งกันและกันดูแลกันไปนานๆๆนะ

ในที่สุดฟ้าใสของเราก็สมหวังซักที่ไม่เสียแรงที่ลุ้นตั้งนาน เป็นกำลังใจให้คนแต่จ้าแต่งมาให้อ่านอีกนะจะรออิอิ

ขอบคุณมากๆๆๆอีกครั้ง กอดดดดดดดดดดดดดดด :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:  :L2: :L2:

 :L1: :pig4:  :L1: :pig4: :L1: :pig4: :L1: :pig4: :L1: :pig4: :L1: :pig4: :L1: :pig4: :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ ENDING (20/11/12)อัพ(แต่อย่าเพิ่งย้ายเพราะมี..อีก..)
เริ่มหัวข้อโดย: goonglovenut ที่ 20-11-2012 09:18:47
จบได้ซึ้งมากเลยคะ ในมุมมองเราไม่มองว่าเป็นสามพีเลยนะ มันเหมือนทั้งสามคนรักและผูกพันกันไม่แก่งแย่งหรืออิจฉากัน ฟ้าใสรักและยึดมั่นกับพี่โม่งมาตลอด พี่โม่งก็รักและยอมรับฟ้าใสได้ทุกอย่าง มายถึงจะนิสัยเด็กแต่ก็ปรับตัวเพราะรักเหมือนกัน เราคิดว่า สามคนนี้ต้องอยู่ด้วยกันได้ดีแน่นอน เพราะถ้าคนใดคนหนึ่งเป็นอะไร อีกคนหรือสองคนก็จะช่วยและทำให้ดีขึ้นได้ ชอบมากคะ จบได้ดีจริงๆ :L1:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ บทส่งท้าย +จบบริบูรณ์ (20/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 20-11-2012 14:20:00

บทส่งท้าย


ฟ้าใส:
เราย้ายมาอยู่บ้านใหม่ ปลูกในที่ดินของพี่โม่ง ซึ่งมีเพื่อนอาจารย์ขายให้ พี่โม่งเขาซื้อไว้นานแล้ว
ช่วยซื้อ เพราะตอนนั้นอาจารย์มุกดา กำลังเดือดร้อน 

ก็พี่โม่งเคยบอกแล้ว ว่า ทางบ้านอาจารย์เบญ เค้าไม่ปลื้มพี่โม่งมากนัก
แถมยังจะหาว่า พี่โม่งดูแลเมียไม่ดี  เพราะพี่โม่งสูบบุหรี่ เลยทำให้ อาจารย์เบญ ตาย โห...ว่าไปนั่น

พี่โม่งเลยไม่สบายใจ ที่จะอยู่ในที่ดินของทางโน้น  หากทางบ้านอาจารย์เบญต้องการที่คืนก็ยินดีโอนคืนให้
ถ้าไม่เอาคืน พี่โม่งก็จะยกให้มะนาวแทน
ก็ทางบ้านฝ่ายอ.เบญ ที่ไม่ค่อยกล้าพูดว่า พี่โม่ง ต่อหน้า พอเกรงใจบ้าง เพราะ หน้าที่การงาน
ชื่อเสียง พี่โม่งก็ดี เงินทอง ก็มี แถมสร้างฐานะด้วยฝีมือตัวเองด้วย

ที่ฟ้าใสเองก็พอรู้ เพราะ ไปนั่งปะปนกับคนอื่น ในงานทำบุญ เลยได้ยินเขาเม้าท์กัน
พอหลังทำบุญ หมดเรื่องงาน เลยมายุ่งกับการทำบ้านใหม่
.
.
.
วันนี้ มีอันให้ฟ้าใสต้องขึ้นไปเฝ้าทั่น  พี่โม่งทำสตูดิโอไว้ที่ชั้น 2  ส่วนหอคอยงาช้างชั้น 3
- ฟ้าใสประชด อันนี้ เอาไว้ซ่อนงาน ไม่ให้ใครมาซื้อ

“พี่โม่ง  คุณพิพัฒน์ เขามาอีกแล้วอ่ะ”

“ไข ให้เขากลับไปเหอะ  พี่ก็ยังยืนยันเหมือนเดิม ว่าพี่ไม่ขาย”

“เอ่อ  เขาบอกว่า เขาเพิ่มให้อีกล้าน หนึ่งอ่ะ” ร่างเล็กทำหน้าบู้ ก็พอปฏิเสธ อีตาพิพัฒน์นี่ก็ตื้ออยู่นั่น

“บอกว่าไม่ขาย ไว้จะวาดให้ใหม่”

“โห!! กว่าเสร็จไม่ปาเข้าไปปีหน้าเหรอ อาจารย์” ฟ้าใสเริ่มงอนมั่ง งอนทีไร ประชดขั้นสูงสุดก็ทำได้แค่เรียกพี่โม่งว่าอาจารย์
คุณพิพัฒน์ เป็นผู้จัดการธนาคาร อายุ 50 แกชอบงานของพี่โม่ง ตามดูมาตั้งแต่ ยุคแรกๆที่เพิ่งกลับจากเมืองนอก
ธนาคารสาขาที่แกทำงาน ติดงานขนาดใหญ่ของพี่โม่ง แกดูของแกเกือบทุกวัน ก็แกเป็นคนให้ซื้อ 
พอธนาคารให้แกไปคุมสาขาที่เปิดใหม่ แกถึงได้มาตื้อขอซื้องานพี่โม่ง เพราะสาขาเดิมก็ไม่ยอมให้ภาพไป
บอกว่าถูกโฉลก ตามหลักฮวงจุ้ย

พี่โม่งนะพี่โม่ง เขียนค้างอยู่ตั้ง 3รูปใหญ่ รูปเด็ก ยืนมองปลา ที่ต้นแบบคือมะนาว สวยมาก  ฟ้าใสมีเงินยังอยากซื้อเก็บไว้เอง งานส่วนใหญ่ พ้อยหลัก น่ะเสร็จแล้ว เหลือแต่มุมภาพบ้าง แบคกราวน์ บ้าง 10-20 %  ให้คนเขาน้ำลายหก
แล้วใครที่ต้องมานั่งรับหน้า นั่งฟังคนมาตื้อ ต่างก็บอกว่าเป็นแฟน ผลงาน อาจารย์ สุรพงษ์

ใครคิดจะไปตื้อทางไอ้มายน่ะเหรอ ขานั้น แทบไม่เห็นใจใคร ตอนนี้กำลังซุ่มทำโฟโต้บุ๊คของตัวเอง
และจะไปจัดนิทรรศการร่วมกับเพื่อนที่เชียงใหม่
.
.
.
.
“ไข เฮียเขาเคยไปหาหมอ กับไข บ้างหรือเปล่า” วันหนึ่ง ไอ้มายมันมาแอบเลียบๆเคียงถามฟ้าใส

“เอ ก็เปล่านี่ มีอะไรเหรอ แต่พี่โม่งก็ผอมลงนะ”

“นั่นแหล่ะ เฮียเค้าป่วยหรือเปล่า ไขพาเฮียไปหาหมอ สิ”

“เอ๊ะ!! นายนี่ จะมาให้พี่โม่งป่วยอะไร กันล่ะ  พี่โม่งเค้ากินน้อยลง แล้วเค้าก็เอาแต่ทำงานอ่ะ ก็ต้องผอมอ่ะ ดิ
โทษ นายนี่แหล่ะ ทำกับข้าวไม่อร่อย”

“ไม่อร่อยอะไรล่ะ ดูกระจกมั่งหรือเปล่า  ในบ้านนี้ จะมีลูกหมู 2 ตัวอยู่แล้ว  เอนจอยอีทติ้ง ดูการ์ตูนไป กินไป กันอยู่ 2คน”

“บ้า....” ฟ้าใสลากเสียงยาวมากกกกกกกกก พูดแมวๆ เย็นนี้ไขจะชวนมะนาวไปขี่จักรยานรอบสวนสมเด็จสัก 5-6-10 กิโล

“แล้วมีรัยเหรอ พี่โม่งเค้าบ่นไม่สบาย ปวดหัว ตัวร้อน ท้องอืดเหรอ มาย”

“เปล่า....”เจ้าตัวลากเสียงยาว ปฏิเสธ หากทำหน้าครุ่นคิด “ก็เห็นช่วงนี้ ใครก็ถามหางานพี่โม่งจะซื้อเก็บ...” มายเว้นระยะ
แล้วพูดต่อ “ก็พวกเพื่อนกัน ไอ้พวกที่มันเรียนอาร์ต ที่ไปฝากมันขายรูป มันคุยว่า พวกงานศิลปะเนี่ย พอศิลปินตาย
ก็จะแย่งกันซื้องาน จนเดี๋ยวนี้ พอมีข่าวว่าศิลปิน คนไหนป่วย ก็จะรีบกว้านซื้อเก็บ ไว้เก็งราคา
เพราะพอตายแล้ว ราคาขึ้นเป็น สิบเท่าเลย จาก สามพัน ห้าพัน เงี๊ยะ กลายเป็น แสน 
แล้วเนี่ย ปีนี้ พี่โม่ง ไม่ยอมขายงาน สักกะชิ้น อย่างดี ก็แค่งานสเก็ต งานดรออิ้ง ช่วยการกุศล สมทบทุน ชมรม
มูลนิธิ สมาคม คนมันก็เลยไปลือกัน พูดกัน”

“อะไร” ฟ้าใสตวัดเสียงห้วน “ทำไม คนมันว่าอะไร”

“มันก็ว่าเฮียป่วยมั่ง ใกล้...มั่ง ยิ่งไอ้ที่คนมาสัมภาษณ์ ลงหนังสือ เรื่องระยะหลังที่ไม่ค่อยปล่อยงาน เฮียก็ไปบอกว่าจะเก็บไว้ให้ลูกมั่งอีก คนมันก็ยิ่งเป็นตุเป็นตะกันใหญ่”

“เชรี่ยสิ...คนพวกนี้ ปากหมาอ่ะ..” ฟ้าใสค้อนตาคว่ำ โกรธจนน้ำตาคลอ มาว่าพี่โม่งได้ไง แล้วถ้าเกิดเป็นจริง เขาต้องตายแน่ๆ แค่นึก คอก็ร้าว บ่นพึมพำ “เฮงซวยจริงๆ....”

“เฮ้ย...เขาแค่พูดกันไป...” มายรีบจับไหล่คนตัวเล็ก “บ้าน่า....ไม่มีอะไรสักหน่อย เดี๋ยวบังคับให้เฮียกินวิตามินเสริม
ยอมปล่อยงานให้อู้ฟู่ คนมันก็เลิกพูดแล้ว ไป ไป เดี๋ยวลากเฮียไปออกกำลัง บังคับให้เลิกสูบบุหรี่”

“โอย...เรื่องนั้น ท่าจะยาก  เอาไปซ่อนมั่ง ก็มาขอ เราจะไปสู้สายตาพี่โม่งได้ที่ไหน ขออะไรก็ต้องยอมทุกที”

“ก็เนี่ยแหล่ะ...เฮียถึงได้เป็นแบบนี้...ก็ต้องโทษตัวเองต่างหาก...” มายแอบพึมพำในใจต่อ
ไม่ใช่มาโทษเขาอีกต่อ...ฮื้ออออ...

จบบริบูรณ์

รักคนอ่าน

Raspberry Complex
20 November 2012


ขอบคุณที่ตามติดกันมา  วิ่งผ่านเส้นชัยแล้วครับผม
ใจก็อยากทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
อุ อุ อยากทำเสื้อยืดอ่ะ หนังสือก็อยากรวมเล่ม มั่ง ไม่รู้มีใครอยากได้หรือเปล่า อาย+เขิล
วันนี้จะนอนหลับให้เต็มอิ่ม  ส่งน้องไขกับพี่โม่งมีความสุขไปแล้ว ดีใจมากๆ
พ่อบ้านมายก็ดูแลรับใช้ เจ้านายดีๆล่ะ
ทำเฟสไว้ฮะ เข้าทักทายกันได้
http://www.facebook.com/raspberrycomplex.raspberry
อันนี้แอบทำหน้าปกหนังสือไว้ อิมเมจ ของคนเขียน ( ทอดสายตามองไปลิบๆข้างหน้า อย่างมีความหวัง)
แต่ตอนนี้ เริ่มรู้สึกว่ายังไม่สวย เดี๋ยวทำใหม่
(http://image.ohozaa.com/i/g74/hyAK0A.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wt4OTg7IUkd1ERVG)


 :bye2:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ บทส่งท้าย +จบบริบูรณ์ (20/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 20-11-2012 16:21:58
มันค้างงง เอาไม้มาสวยด้วย พี่โม่งไม่สบายยยยย หรือเปล่า  :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ บทส่งท้าย +จบบริบูรณ์ (20/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: Raspberry complex ที่ 20-11-2012 17:26:32
อันนี้ตอบคุณ arisa_sa
ว่า อย่า ค้างเร้ย มิฉะนั้นจะ  - - ->>>>
v
v
v
เรื่องน่าเศร้าของราสเบอรี่ :beat:   :z6:


ราสเบอรี่: “เมริง ... เมริง...เมริงว่ากรูจะโดนด่าไหม อะ”

คุณเพื่อน: “ทำไม!!!”

ราสเบอรี่: “ก้อ..ก้อ..พี่XXX ....เค้าXXX..(คำที่คุณรู้ว่าคืออะไร)  อ่ะ”

คุณเพื่อน: เปรี้ยง!!!!!

ราสเบอรี่: “อู๊ยยย...!! เมริงใจร้าย อะ ถีบเข้ามาได้”

คุณเพื่อน: “สาสสสสส...ฮึก  ฮึก ฮึก  ก้อ..ก้อ..เมริงทำพี่เค้าก่อนอะ....เมริงใจร้าย..เมริงXXพี่เค้า...นี่แน่ะ นี่แน่ะ”

เปรี้ยง!!@&# ตุ๊บ #%$ พลั่ก#?Q*/ ปึก฿+@#ผลั่ว!!!

 :pig4:
 o13
 :a5:
 o22
เพราะฉะนั้น ไว้เดือนหน้าแล้วกันนะฮะ แล้วจะมาแปะไว้ หรือไปเอาที่ เฟส ก็ได้ฮะ
แต่ตอนนี้ยังไม่ลงนะฮะ ขอให้ทุกคนมีความสุขกันก่อน

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ บทส่งท้าย +จบบริบูรณ์ (20/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 20-11-2012 17:36:36
พี่โม่งจะตายช่ายยยยยหม๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยย  :m15: :sad4: :o12: :sad4:
 :sad4: :o12: :sad4: กว่าจะสมหวังกันได้ทำใมถึงใจร้ายเยี่ยงนี้ กระซิก กระซิก (ตีตนไปก่อน ไม่รู้ไม่ชี้)
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ บทส่งท้าย +จบบริบูรณ์ (20/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: B_Story ที่ 20-11-2012 18:27:56
พี่โม่งเค้าเป็นพ่อพระจริงจริ๊งงง  :man1:

แต่ตอนท้ายจะมาตายไม่เอานะ เค้าไม่ย๊อมไม่ยอมอ่ะ  :o12:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ บทส่งท้าย +จบบริบูรณ์ (20/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 25-11-2012 22:44:09
ขอบคุณมากค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ บทส่งท้าย +จบบริบูรณ์ (20/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: kikumaru ที่ 27-11-2012 21:24:54
เนื้อเรื่องสนุกมากคะ แถมตอนจบยังทำให้รู้สึกดี
ดูละมุนละไมไม่รุ้สึกว่าไขแบ่งใจเป็นสองแต่ขอนะอย่าให้พี่โม่งตายนะ
เพราะแบบนี้แหละดีแล้ว ทำให้เราคิดถึงความอบอุ่นของคำว่า ครอบครัว ได้ดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ บทส่งท้าย +จบบริบูรณ์ (20/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: catty123 ที่ 24-02-2013 17:54:10
เรื่องนี้ทำให้เราอินสุดๆ  แอบเสียน้ำตาไปหลายหยดเลยทีเดียว อยากเจอผู้ชายแบบพี่โม่งบ้างจัง :impress2: พ่อพระม๊ากกกก
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ บทส่งท้าย +จบบริบูรณ์ (20/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 03-03-2013 14:25:58
ชื่อเรื่องเหมือนจะไม่มีอะไร แต่อ่านแล้วดราม่าเชียว
ชอบพี่โม่ง เท่ เก่ง อบอุ่น เป็นที่พึ่งได้ เข้าอกเข้าใจ ดีมากๆทุกอย่าง :-[
หวังว่าตอนพิเศษตอนต่อไปคงแฮปปี้ ห้ามมีใครเป็นไรนะ :sad4:
หัวข้อ: Re: ☼เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง♥♥ บทส่งท้าย +จบบริบูรณ์ (20/11/12)
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 20-03-2024 20:02:27
aIS ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 27บ./1วัน กด *777*7021*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7023*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 38บ./2วัน กด *777*7380*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 59บ./3วัน กด *777*7096*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 129บ./7วัน กด *777*7098*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 139บ./7วัน กด *777*7220*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 375บ./30วัน กด *777*7153*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 800บ./90วัน กด *777*7379*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,200บ./180วัน กด *777*7328*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,800บ./365วัน กด *777*7329*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7381*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 32บ./1วัน กด *777*7084*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 130บ./7วัน กด *777*7629*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 161บ./7วัน กด *777*7382*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *777*7383*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 380บ./30วัน กด *777*7631*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย15นาที 155บ./7วัน กด *777*7630*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 35บ./1วัน กด *777*620*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 38บ./1วัน กด *777*7627*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 58บ./2วัน กด *777*7628*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 45บ./1วัน กด *777*7151*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 246บ./7วัน กด *777*7221*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 470บ./30วัน กด *777*7632*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 59บ./2วัน กด *777*7384*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *777*7154*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *777*7159*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 1,285บ./90วัน กด *777*7398*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 49บ./1วัน กด *777*7209*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 81บ./2วัน กด *777*7385*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 289บ./7วัน กด *777*7210*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 910บ./30วัน กด *777*7211*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7386*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 102บ./2วัน กด *777*7387*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *777*7388*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,177บ./30วัน กด *777*7389*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,925บ./90วัน กด *777*7399*117010#
21 บาท 1 วัน  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ช่วงเวลา 05.00 - 17.00 น.  โทรครั้งละไม่เกิน 30 นาที  กด  *777*231*117010#
22 บาท 100 นาที  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ได้  100 นาที  อายุ  1  วัน  กด  *777*246*117010#
aIS  สมัคร  โทรไป  จีน,  ฮ่องกง,  มาเลเซีย,  สิงคโปร์,  เกาหลีใต้,  อินเดีย
*777*3801*117010#
ราคา  99  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  1.54  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  ลาว,  กัมพูชา,  เมียนมาร์,  เวียดนาม 
*777*3802*117010#
ราคา  119  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.78  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  สหรัฐอเมริกา,  แคนนาดา 
*777*3803*117010#
ราคา  129  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.01  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  เยอรมนี,  สหราชอาณาจักร,  ญี่ปุ่น,  ฝรั่งเศส
*777*3804*117010#
ราคา  159  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  3.71  บาท
เวลาโทร  กด
003  รหัสประเทศ  รหัสเมือง  เบอร์ปลายทาง
เช็คเน็ต aIS คงเหลือ  กด  *121*32#  โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง aIS กด  *545#  โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน  กด  *137  โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ aIS กด  1175  โทรออก
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด  #โปรเสริมเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)



เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw (https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า AIS ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU (https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)