เรียงร้อยด้วยรักฯ : ทฤษฎี บทที่ 16 l 2018.06.16 หน้าที่ 93
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรียงร้อยด้วยรักฯ : ทฤษฎี บทที่ 16 l 2018.06.16 หน้าที่ 93  (อ่าน 945439 ครั้ง)

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
โอ๊ะโอ ในที่สุดก็ลงเอยกัน แต่ขำตอนเท็ตบอกให้ตรัสยอมอะ 5555

ออฟไลน์ Renze

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-25
เท็ตถูกมองว่าเป็นทอมไปซะงั้น

ตรัสนี่ดูอบอุ่น แต่พูดน้อยอ้ะ   :-[

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
ฉากรักตอนนี้ เหมือนกินไวน์ต้องค่อยๆละเลียด รสมันนุ่ม ละมุนละไม ขมนิดๆหวานหน่อยๆ
แต่ก็เมาได้เหมือนกัน :o8:
คนแต่งคะ คุณเขียนฉากนี้ได้ o13 ไม่หยาบโลน แต่อ่อนหวาน อ๊ายยยยยย :-[

ออฟไลน์ RenaBee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
หวานมากค่ะ อร๊ายยยยยยยย

ออฟไลน์ เราเอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 :o8:  น่ารัก
 :a5: เริ่มค้าง
 :เฮ้อ: ตอนนี้รอ
..............  :t3: ปลุกด้วยนะ

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
ว้าววว TBL ทำปุ่มใหม่สวยจัง ชอบพี่ตรัสอ่ะ 5555+

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
เข้ามาอ่านครั้งแรก เอิ่ม!! แบบว่าสุดยอดมากกกกกกกกกกกกกก :m25: o13

ออฟไลน์ Noo_Patchy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1055
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-4

ออฟไลน์ Guill

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
รอดูช่วงต่อไป

ออฟไลน์ ToffeE_PrincE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-4
สนุก หวานๆ เอาอีก
รอดู

 :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
กรี๊ดดดด ชอบตอนนี้มากเลยอ่ะ o13

ออฟไลน์ naneku

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
เขินนนนนน -////-






เท็ตยั่วพี่ตรัสมากเลยอะะะะ ><

ออฟไลน์ moodyfairy

  • สวย อร่อย ย่อยง่าย :)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 693
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
น่ารักอะะะะะะะะ :impress2: :impress2: :impress2:


เข้าคิวรออีหคนนะคะะ  :L2: :L2:

Nnsicc

  • บุคคลทั่วไป
เอิ๊กกกกก แว๊บมาเขินนนนน

ขอตัวไปอ่านก่อน 5555 อัพต่อเร็วๆนะะะ เป็นกำลังใจให้  :-[ :-[

ออฟไลน์ bluerose

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
คิดถึงเท็ดดี้แบร์แล้ว รีบมาต่อนะค่ะ :)

PAAPAENG~

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ย!!
หูอื้อ ตาลาย คล้ายจะเป็นลม ฮา!
ตามอ่านทันตอนที่ 5 แล้ว เย้!

ร้ายใช่ย่อยนะพ่อตรัส หึหึ
จริงๆถ้ารู้ว่ารวบหัวรวบหางแล้วโอเคแบบนี้...
รวบมันไปซะตั้งนานแล้วเนอะตรัส!!

ติดตามตอนต่อไปนะคะ :)

ออฟไลน์ tong_pub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-5
มันเป็นอะไรที่............................................ทะลึ่ง!!
ตรัสเอ๊ย!!!! อย่างแบบ... )&!_(!)#!_+)!)*$(@)&!(_)!_(@&* อ่ะ
อ่อย...เขินๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


ปล.คห.ที่อยู่บนเรา ชิส์!!! เข้ามาเม้นก่อนเพราะมีเน็ต งอนๆๆๆๆ

ปล.2 ทีหลังอย่าล้อเราเรื่องตรัสอีกนะ!! >^<

ออฟไลน์ Lipstick_Murder

  • มฤคระเริง
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-3
Re: 『ทะลึ่ง』♂♥♂ กามที่ 6 (2012.07.26)
«ตอบ #227 เมื่อ26-07-2012 22:47:51 »

ทะลึ่ง : กามที่ 6

          ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะแผดเสียงลั่น มองชื่อคนโทรเข้ายิ่งขยาดหวาดหวั่นว่าจะทำยังไงกับมันดี ใจหนึ่งอยากรู้ว่าปลายสายโทรมาเรื่องอะไร แต่อีกใจก็กลัวว่าสิ่งที่ผมคิดจะเป็นจริง เอาวะ! อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

          “ว่าไง”

          (( เท็ต ทำไมติดต่อไม่ได้เลย )) ความห่วงใยที่ปนมากับเนื้อเสียงปลายสายทำให้ผมโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก อย่างน้อยไอ้แซนก็โทรมาเพื่อถามสารทุกข์สุกดิบ ไม่ใช่เรื่องอื่น

          รู้ทุกครั้งที่เปิดเครื่องดู สายที่ไม่ได้รับสิบกว่าสายกลายเป็นกิจวัตรของมันตั้งแต่หลายวันที่แล้ว ผมปิดเครื่องตัดปัญหาตั้งแต่กลับมาจากคอนโดไอ้ตรัส ด้วยความวิตกจริตว่าบรรยากาศเฮฮาสังสรรค์ฉันท์เพื่อนจะเปลี่ยนไป ผมไม่อยากให้ใครรู้ อย่างน้อยก็ไอ้แซนคนหนึ่ง จึงกำชับกับตรัสเมื่อวันที่มันมาส่งผมกลับหอว่าห้ามบอกเรื่องคืนนั้นกับใครเด็ดขาด แม้แต่ซัน ฝาแฝดกันมันหลุดปากไอ้แซนตอนไหนใครจะรู้ ตรัสมันไม่ว่ายังไง เห็นเงียบไปไม่ตอบคำผมก็ถือว่ามันรับปาก จนไอ้ตี๋โทรเร้าหนักเข้าทำให้ผมชักไม่แน่ใจ

          “กูลืมเอาที่ชาร์ตมาจากหอว่ะ โทษที” ผมโกหก

          (( อ้าว แล้วนี่มึงเปิดเครื่องได้ยังไง ))

          “ไปซื้ออันใหม่มาแล้ว”

          (( ใจคอก็ไม่คิดจะโทรกลับเลยนะ ไอ้ตรัสเพิ่งบอกว่ามึงกลับบ้าน ))

          “อือ แล้วมึงกับซันอยู่ไหนล่ะ”

          (( บ้านเหมือนกัน หยุดยาวอีกตั้งหลายวันขี้เกียจนอนแกร่วอยู่คอนโด มาฟังแม่บ่นอยู่บ้านดีกว่า )) มันหัวเราะ

          “เออ กูก็หูชาไปแล้วเหมือนกัน ว่าแต่โทรมามีอะไรหรือเปล่า”

          (( มีสิ จะโทรมาเตือนว่าอย่าลืมถามคุณอากอบเรื่องบริษัทที่จะขอฝึกงานนะ จบโปรเจคต้นเทอมก็ต้องเริ่มแล้วไม่ใช่หรือ มึงยิ่งเป็นพวกหวานเย็นเห็นอะไรไกลตัวไปหมด ))

          “รู้แล้วน่าอย่าย้ำมาก มึงจะฝึกงานกับที่บ้านใช่ไหม ไม่เป็นไรแน่เหรอ”

          (( ไม่เป็นไรถามอาจารย์แล้ว ธุรกิจขนาดกลางขึ้นไปไม่มีปัญหา บ้านกูก็ต้องการคนประสานงานด้านกฎหมายอยู่พอดี คุณลุงที่ทำอยู่ส่วนนี้ท่านก็เก่ง จะได้สั่งสมประสบการณ์ ))

          “โชคดีว่ะ พ่อกูไม่เป็นเจ้าของบริษัทบ้าง”

          (( อย่าถ่อมตัวไปเลย ได้ข่าวว่าพ่อมึงก็ถือหุ้นบริษัทไม่ใช่น้อย ))

          “รู้เรื่องครอบครัวกูได้ยังไง ใครบอก”

          (( เท็ต มึงดูถูกพ่อตัวเองเกินไปหรือเปล่า พวกที่คลุกคลีอยู่กับวงการอิเล็กทรอนิกส์ใครบ้างจะไม่รู้จักคุณกอบ เกียรติพัชรเมธี ))

          “ก็คงอย่างนั้น ตอนนี้พ่อก็อยู่ในครัวกับแม่ข้างล่างนี่แหละ”

          (( วันหยุดท่านหรือ ))

          “โดนบังคับพักร้อน วันหยุดเยอะเกินไป”

          (( มีอย่างนี้ด้วย เออเท็ต ต้องออกไปข้างนอกกับแม่แล้วว่ะ เดี๋ยวโทรไปใหม่แล้วกัน คุยกับคุณอาเรื่องฝึกงานให้เรียบร้อยนะ ถ้ามีปัญหาอะไรจะได้เตรียมการแต่เนิ่น ๆ เพราะบริษัทของท่านตรัสพร้อมรับนักศึกษาฝึกงาน เข้าใจนะ ))

          พลิกโผอย่างแรง จากที่เครียดเป็นหน้าเป็นหลังกลับสบายใจได้อย่างน่าประหลาด แถมไอ้คนที่โทรมายังทำหน้าที่เป็นโปรแกรมเตือนความจำได้อย่างดีเลยด้วย นึกขอบคุณคุณชายที่มันไม่ปากโป้งอย่างที่นึกกลัว

          พอวางสายจากแซนผมก็เดินไปคุยกับพ่อขอยื่นเรื่องฝึกงานอีกครั้งหลังจากเกริ่นไว้เป็นเดือนแล้ว ความจริงท่านไม่อยากให้ผมไปทำที่บริษัทของท่านเท่าไหร่ ใช่ว่ามีคุณสมบัติไม่ถึงขั้นแต่ท่านกลัวว่าพนักงานพี่เลี้ยงจะติดเกรงใจจนไม่กล้าใช้งานอะไรมากกว่า จะไปนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่บริษัทก็ใช่เรื่อง ก็เลยเป็นปัญหาที่ยังคิดไม่ตกอยู่ตอนนี้ ซันกับอ้นลอยตัวจนน่าอิจฉา คุณพ่อของอ้นเป็นถึงท่านทูตประจำการประเทศเยอรมัน เส้นสายที่จะให้ลูกชายคนเดียวกับเพื่อนสนิทเข้าศึกษางานไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย ส่วนไอ้แซนก็อย่างที่มันบอก บริษัทอสังหาริมทรัพย์กับงานที่ปรึกษาด้านกฎหมายมือสมัครเล่น และอีกคนก็คงไม่พ้นบริษัทอัญมณีของที่บ้านมันนั่นแหละ ไม่วายโดนไอ้แซนมันแซวอีกจนได้ แต่ยังไงบริษัทของตรัสก็ไม่ใช่หนึ่งในตัวเลือกของผมแน่นอน

          เย็นย่ำมากแล้ว ผมกำลังหยิบถั่วลันเตาเข้าปากอยู่หน้าทีวีก็ได้ยินเสียงแม่ตะโกนมาจากชั้นสองว่ามีสายเข้า ลืมไปเสียสนิทว่าไม่ได้หยิบโทรศัพท์ติดมือลงมาด้วย ก็เลยก็วิ่งตาเหลือกลนลานจนเกือบสะดุดบันไดให้แม่บ่นไปอีกหลายนาที โดนดุมาตั้งแต่สามขวบแล้วมั้งเรื่องวิ่งขึ้นลงบันไดเนี่ย

          “ว่าไงซัน” คราวนี้เป็นแฝดพี่ที่โทรเข้า ทำให้ผมนึกแปลกใจได้อีก

          (( เท็ต ตอนนี้อยู่บ้านไหม ))

          “อยู่ครับผม มีอะไรหรือเปล่า”

          (( ทานข้าวเย็นหรือยัง ไปหาอะไรกินกัน ))

          “ยังไงวะซัน ไม่ใช่ว่าโดนอ้นเมินแล้วจะหันมาหาเท็ตสุดหล่อคนนี้หรอกนะ”

          (( เท็ต... ))

          “ล้อเล่นน่า ไปสิ ที่ไหนอะ ใครไปบ้าง”

          (( แค่สองคน ร้านอยู่แถวอโศก อร่อยนะ อาหารญี่ปุ่น ))

          “ญี่ปุ่นอีกละ แล้วไอ้แซนล่ะ ไม่ไปด้วยกันเหรอ”

          (( เห็นออกไปกับแม่ตั้งแต่บ่ายแล้ว ธุระเรื่องคู่หมั้นของมันนั่นแหละ เอาไว้จะเล่าให้ฟังตอนกินข้าว แต่งตัวรอได้เลย เดี๋ยวไปรับ ))

          ตอนอยู่หอใน ไม่แซนก็ซันจะเป็นคนเวียนเอาเสบียงไปส่งผมประจำ ขนมนมเนยไม่เคยขาดปาก แต่อย่างไรเสียผมก็ไม่อาจเทียบเท่าหนึ่งเดียวในใจอย่างอ้นไปได้ ก็เลยแปลกใจนิดหน่อยที่จู่ ๆ มาชวนไปกินข้าวกันสองคนทั้งที่บ้านก็ไม่ได้ใกล้กันเท่าไหร่เลย เมื่อกี้ก็ลืมถามว่าทำไมไม่ชวนอ้นไปด้วย มัวแต่จ้องจะแซวเขา เหมือนเป็นเวรกรรมยังไงไม่รู้ นิสัยเสียชอบแซวเรื่องอ้นกับซันก็เลยเจอไอ้แซนปากหมาใส่เรื่องไอ้ตรัสเหมือนกัน อดคิดไม่ได้ว่าโดนไอ้ตี๋สองมันแก้แค้นแทนแฝดพี่มันอยู่หรือเปล่า

          ร้านอาหารที่ซันพามาเอร็ดอร่อยสมคำคุย และตอนนี้ผมก็ได้อาหารญี่ปุ่นจานโปรดเพิ่มขึ้นอีกอย่างคือซาบะย่างซีอิ้ว ท่านซันก็ใจปล้ำสั่งให้ผมอีกหนึ่งจานใหญ่ แต่เผอิญท้องมันรับได้อีกแค่นิดหน่อยก็เลยเหลือเกือบทั้งตัว เสียดายจะตายชัก

          “ว่าจะถามก็ลืมไปเลย อ้นไปไหนล่ะ ทำไมไม่ชวนมาด้วยกัน”

          “ไปเยอรมันได้สามวันแล้ว กลับพรุ่งนี้ตอนเย็น”

          “มิน่าล่ะ” ไม่พูดเปล่าแต่แอบอมยิ้มให้คนมองนึกหมั่นไส้ ก็เลยโดนดีดผึงที่ปลายคางไปสองที

          “มิน่าอะไร ปากว่างแล้วเริ่มพูดมาก กินเข้าไปให้หมดเลย”

          “โอ๊ย ไม่ไหวแล้วครับพี่ แค่นี้ท้องก็จะแตกตายอยู่แล้ว นี่ถามจริง ๆ นะซัน แค่พามาเลี้ยงข้าวเฉย ๆ เหรอ เห็นไอ้แซนบอกว่าปกติถ้าไม่เอาสิบล้อมาลากก็ไม่มีทางออกจากห้อง”

          “แซนมันเว่อร์”

          “ไม่เว่อร์ล่ะ ไอ้ที่ไม่ยอมออกจากคอนโดก็พอเข้าใจแหละนะ แต่ว่าบ้านเนี่ย...” รอบนี้โดนดีดไปที่ต้นแขนอย่างจัง ก็มันจริงนี่หว่า ถึงรูมเมทจะเป็นผู้ชายแต่ก็หน้าตาสละสวยไม่แพ้ผู้หญิง แถมยังพูดคุยกันถูกคออยู่สองคน ไม่หลงก็บ้าแล้ว

          “เราเอาความจริงมาพูดกันดีกว่า เข้าเรื่องเลยนะ”

          “กูว่าละ” ผมเบ้ปาก โดนซันจับหัวโยกไปมาอย่างเอาใจก่อนจะย้ายมานั่งเก้าอี้ตัวข้าง ๆ ผมเท้าคางนั่งจ้องหน้า รอฟังความจริงจากปากนักศึกษารัฐศาสตร์อย่างตั้งใจ

          “วันนี้มาในฐานะนักการทูต”

          “ครับ ไม่ต้องเกริ่นเยอะ มีอะไรก็ว่าไปเลย”

          “ไม่อยากรู้เหรอว่าใครจ้างวาน”

          “ไม่เห็นต้องเดา ไอ้แซนแหงอยู่แล้ว” ผมหัวเราะ

          “มะเหงกแหนะ”

          “ช่างหัวไอ้คนจ้างเถอะ พูดมาเลย ทำใจได้แล้ว”

          “ต้องทำใจด้วยหรือ ยังไม่รู้เลยว่าเรื่องอะไร”

          “ซัน จะพูดไม่พูด ไม่พูดพากลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย”

          “โธ่ ทำงอนเป็นสาวน้อยไปได้ ก็แค่จะมาเล่าชีวประวัติท่านตรัส รัตนภูมิเศรษฐให้ฟังเท่านั้นเอง ก็เจ้าตัวเขาพูดไม่เก่ง...”

          “ก็เลยต้องให้นักการทูตอนาคตไกลอย่างคุณศิรานุวัฒน์มาพูดแทน” ผมพูดแทรกล้อเลียน

          “ถูกต้องครับผม เอาเป็นว่าตอนนี้เท็ตรู้อะไรเกี่ยวกับตรัสบ้าง มันบอกเวลาเท็ตถามเรื่องที่บ้านแล้วมันพูดไม่ออก ไม่รู้จะเล่าจากจุดไหนดี”

          “ก็เล่ามันทุกจุดนั่นแหละ คนบ้าอะไรความลับเยอะ อยู่ด้วยแล้วโคตรอึดอัด”

          “อึดอัดจริงหรือ”

          “ซัน กวนกันอยู่ได้ ถ้าไม่เล่าดี ๆ ก็พากลับบ้านเหอะ” ผลักหน้าที่ยื่นเข้ามาใกล้อย่างจงใจแกล้ง ก่อนจะทำทีลุกขึ้นยืนตามคำพูดแต่โดนซันดึงแขนไว้ก่อน อย่าให้ถึงทีสาวน้อยขี้งอนคนนี้บ้างแล้วกัน พ่อจะล้อให้มองหน้าอ้นไม่ติดเลยคอยดู

          “โอเค ๆ จริงจังนะ เท็ตก็คงรู้เรื่องของตรัสพอ ๆ กับคนอื่นนั่นแหละ แต่ทุกอย่างที่มันทำมีเหตุผลนะ อยากให้ทำความเข้าใจกับตรงนี้ก่อน คงไม่มีใครอยากปิดบังภูมิหลังของตัวเองหรอกถ้ามันสวยหรูจนน่าอิจฉา และในทางตรงกันข้ามถ้ามันไม่น่าพิสมัยใครอยากจะโพนทะนา จริงไหม” ผมพยักหน้า “บ้านมันรวยใครก็รู้ แล้วมันก็หล่อมาก อันนี้เท็ตรู้ดี”

          “ซัน...”

          “ไม่ ๆ จะบอกว่ามันหน้าเหมือนแม่ คือฉันก็ไม่เคยเห็นตัวจริงของท่านนะ เห็นแค่ภาพถ่ายเพราะท่านเสียไปตั้งแต่ตรัสยังเด็ก”

          “ไม่เคยรู้มาก่อนเลย”

          “ตรัสมันถือว่าเป็นปมด้อย พวกเสพติดความเพอร์เฟคอย่างมันไม่มีวันเล่าให้ใครฟังง่าย ๆ หรอก ถึงจะอย่างนั้นแต่เท็ต...เป็นข้อยกเว้นนะ”

          “ครับ ๆ เข้าใจแล้วครับ” ท่านทูตพูดตามหน้าที่ก็พอนะครับ อย่านอกบทจนกลายเป็นพ่อสื่อให้กูเขินผิดเวลานักเลย เนื้อเรื่องกำลังซีเรียสดันพาออกทะเลอีกแล้ว

          “ยังมีความลับอีกอย่างที่มันไม่เคยบอกใคร แต่จะให้เจ้าตัวมันเล่าเองก็คงเป็นไปไม่ได้”

          “เรื่องอะไร”

          “ฟังแล้วอาจรู้สึกไม่ดีแต่เรื่องนี้เท็ตช่วยเปิดใจหน่อยแล้วกันนะ รู้ใช่ไหมว่าปัญหาส่วนใหญ่ของแต่ละบ้านคือความเจ้าชู้ของคนเป็นพ่อ แต่ครอบครัวนี้อาจจะหนักหน่อยเพราะคุณฉัตรพันธ์ท่านหน้าตาดี ชาติตระกูลดี อีกทั้งยังมีฐานะ ถึงแม้ตอนนี้อายุอานามไม่น้อยแล้วแต่ก็ยังเป็นเสือซ่อนเล็บ เสือทั้งเรื่องผู้หญิงและแวดวงธุรกิจ” ซันเงียบแล้วมองหน้าเหมือนจะรอดูปฏิกิริยา แต่ผมไม่พูดอะไรแค่นั่งสบตารอฟังเท่านั้น

          “คุณฉัตรพันธ์ทำผิดต่อแม่ของตรัสในคืนที่ท่านกำลังจะสิ้นใจ ตรัสที่ตอนนั้นอายุแค่เจ็ดขวบยืนยันว่าเห็นพ่อตัวเองพาผู้หญิงเข้าบ้านทั้งที่ควรอยู่เคียงข้างภรรยา เรื่องนี้ตรัสมันฝังใจมากก็เลยบานปลายกลายเป็นความบาดหมางทำให้มองหน้ากันไม่ติด ฉันรู้ว่าเท็ตโตมาในครอบครัวที่อบอุ่นอาจจะไม่เข้าใจปัญหานี้ แต่ที่ตรัสปิดบังเรื่องของตัวเองมาตลอดเพราะไม่อยากให้เท็ตมองมันในแง่ลบ ได้ยินแบบนี้แล้วอย่าโกรธมันเลยนะ”

          “แล้วทุกวันนี้อยู่ด้วยกันไหม” ผมไม่ตอบแต่เลือกที่จะย้อนถาม

          “กับคุณฉัตรน่ะหรือ เปล่าหรอก ตรัสมันแยกมาอยู่คนเดียวตั้งแต่สอบเข้ามหา’ลัย ไม่เคยกลับไปที่บ้านใหญ่อีกเลย”

          “แล้วค่าใช้จ่ายทั่วไปล่ะ”

          “เรื่องนั้นคุณปู่ท่านช่วยส่งเสียมานานแล้ว คอนโดที่อยู่ทุกวันนี้ก็เงินคุณปู่ ท่านรักของท่านนะ ถึงจะเป็นหลานที่เกิดจากลูกชายที่ท่านไม่เคยคาดหวังอะไร อีกทั้งยังใช้คนละนามสกุลกัน อ่า...ลืมบอกไป พ่อตรัสชื่อคุณฉัตรพันธ์ รามานุสรณ์”

          “แล้ว รัตนภูมิเศรษฐ นามสกุลใคร”

          “คุณปานทิพย์ แม่ของตรัส”

          “มีด้วยหรือเรื่องแบบนี้ นึกว่ามีแต่ในละครซะอีก”

          “จินตนาการบวกประสบการณ์เท่ากับบทละคร เคยได้ยินไหม อย่างน้อยก็เห็นได้จากคนใกล้ตัวนี่แหละ” ซันยิ้มบางหวังปลอบใจ ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำหน้าแบบไหนแต่บอกได้เลยว่าผมกำลังช็อกนิด ๆ

          “ตอนนั้นตรัสก็เพิ่งเจ็ดขวบเอง ความเข้าใจของเด็กอาจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงก็ได้”

          “ก็ใช่ แต่คนสนิทของคุณฉัตรที่คิดว่าน่าจะเป็นเลขาฯ ลาออกทันทีหลังจากเกิดเรื่อง ตรัสมันค่อนข้างมั่นใจเพราะปกติคุณเขาจะมาเล่นด้วยประจำ แต่พ้นคืนนั้นก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย”

          “มีพี่น้องไหม”

          “แม่เดียวกันไม่มี เป็นลูกชายคนเดียว ต่างแม่ฉันก็ไม่แน่ใจ แต่ถึงยังไงมันก็ลูกเมียหลวง บริษัทส่งออกอัญมณีเป็นของคุณปู่ ส่วนคุณฉัตรเป็นเจ้าของสาขาหลักจึงมีอำนาจรองจากคุณปู่เมื่อท่านยังมีชีวิต สถานการณ์ของบริษัทตอนนี้คือรอตรัสเรียนจบแล้วรับช่วงต่อ เห็นมันเกริ่น ๆ ว่าจะศึกษาเรื่องเครื่องประดับเพิ่มเติม น่าจะเป็นปริญญาโทที่อังกฤษเพราะมีญาติอยู่ที่นั่น ก่อนจะกลับมารับตำแหน่งประธานอย่างสมเกียรติโดยไม่เป็นที่ครหา และคงสมใจมันที่ได้อยู่เหนือคุณฉัตรสักที คงยากแล้วล่ะหากจะลบล้างอคติที่มีมาตลอดสิบกว่าปี จะว่าไปตอนนี้ตรัสก็มีสิทธิทุกอย่างในทรัพย์สมบัติของคุณปู่นะ เพราะท่านยกให้ทั้งหมด คำสั่งเสียของท่านชัดเจนกว่าพินัยกรรมซะอีก”

          “มันคงเสียใจมาก...เรื่องคุณปู่”

          “ตอนรู้ข่าวฉันโทรไปหลายครั้งหวังปลอบใจให้มันปลงสังขาร แต่มันคงทำใจไว้นานแล้วเพราะท่านก็ทรง ๆ ทรุด ๆ มาหลายปีดีดัก ที่ชวนไปเลี้ยงฉลองสอบเสร็จคืนนั้นก็เพราะกลัวมันฟุ้งซ่านอยู่คนเดียว แต่พักหลังมาเห็นมันดีขึ้นผิดหูผิดตา ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ยังหาสาเหตุไม่ได้”

          “ซันพูดจาหาเรื่องว่ะ เมาวาซาบิใช่ไหม ไหนว่าจะจริงจังไง”

          “ก็จริงจัง ยังไม่นอกเรื่องตรงไหนสักคำ”

          “เล่าต่อเลย เสียอารมณ์หมด”

          “ก็เอาเป็นว่าถ้าคุณฉัตรเป็นเจ้าของโลกนี้ทั้งใบ ตรัสมันคงย้ายไปอยู่ดาวอังคาร”

          “มีเรื่องอื่นอีกหรือเปล่าความลับของตรัส อย่างเช่นมีคู่หมั้นแต่งกันไปแล้ว หรือแอบมีลูกมีเมียแต่ใฝ่ดีเลยหันกลับมาเรียนต่อ อะไรเทือกนี้” ซันหัวเราะไปยกใหญ่ ก็มันจริงนี่หว่า คนอะไรวางตัวอย่างกับอายุสักสามสิบสี่สิบ โกงอายุมาเรียนหรือเปล่าเถอะ

          “ไม่รู้สินะ เรื่องคู่หมั้นมันไม่มีจริง ๆ มีลูกไหมก็คงไม่มี แต่แอบมีเมียระหว่างเรียนหรือเปล่า อันนี้ก็ไม่เคยเห็นกับตา เท็ตเคยเห็นไหมล่ะ”

          “ถ้าไม่มีอะไรจะเล่าแล้วก็กลับบ้านกันเถอะซัน”

          ความสงสัยที่มีมาตลอดสามปีกับสี่ชั่วโมงที่นั่งคุยอยู่กับซัน...ไม่รู้มันเทียบกันได้ไหม

          ก็โอเคที่รู้อะไรมากขึ้นหลายอย่าง ไม่ใช่แค่คบกันไปวัน ๆ มันอยากเล่าอะไรแค่ไหนผมก็ได้รู้แค่นั้น ผิดกับผม กับแซน กับซัน หรือแม้แต่อ้นที่ใครถามอะไรก็ตอบเสียจนหมดเปลือก ไม่เหลือความลับอะไรให้ข้องใจเลย แต่ถึงอย่างนั้นจะว่ามันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของตรัสไหม ไม่ปฏิเสธเลยแหละ ผมยอมเทหมดหน้าตักแลกกับการง้างปากมันแต่ละครั้งในเรื่องที่อยากรู้ แต่ดูคุณชายเขาจะไม่สนกับข้อแลกเปลี่ยนของผมเท่าไหร่

          สี่ทุ่มกว่าแล้วที่ซันมาส่งผมที่หน้าบ้าน พ่อกับแม่คงเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำเพราะในบ้านมีแค่ไฟห้องโถงที่เปิดรอผมอยู่ เดินขึ้นไปถึงห้องนอนก็ต้องสะดุ้งอีกรอบเพราะเสียงโทรศัพท์ คราวนี้ไม่ใช่ทั้งแซนและซัน แต่เป็นคนที่คุณก็รู้ว่าใคร

          “ดึกแล้ว นอนแล้วครับ สวัสดีครับ”

          (( อาบน้ำก่อนดีไหม )) ผมแสร้งรับสายด้วยน้ำเสียงง่วงงุนสุดฤทธิ์ แต่เสียงที่ตอบกลับมาไม่ยักกะติดเกรงใจเหมือนอย่างทุกทีที่โทรมารบกวนยามวิกาล แถมยังมั่นอกมั่นใจกับการสั่งให้ผมไปอาบน้ำ โดนซันหักหลังเข้าให้แล้วไง

          “อะไร อาบแล้ว นอนแล้วด้วย”

          (( เพิ่งถึงบ้านไม่ใช่หรือ ))

          “รู้ได้ไง”

          (( ซันโทรบอก )) กูว่าละ

          “เออ ก็เพิ่งถึงเนี่ย กำลังจะอาบน้ำพอดี ยังไม่ทันได้แก้ผ้ามึงก็โทรมาขัด แค่นี้ละกัน”

          (( เดี๋ยวสิ คุยก่อน ))

          “ก็ว่ามา รีบ ๆ เลยมันดึกแล้ว นอนดึกเดี๋ยวหน้าเหี่ยว หน้าเหี่ยวแล้วไม่หล่อ พอไม่หล่อสาวก็ไม่แล” แล้วมันก็เงียบไป อะไรวะ ปกติพูดกวนประสาทไปแบบนี้ต้องได้ยินมันหัวเราะกลับมาทุกที ผีเข้าอีกแล้ว

          “ก็บอกว่ากูรีบไง”

          (( ซันเล่าอะไรให้ฟังบ้าง ))

          “ทุกอย่าง ทั้งเรื่องที่บ้าน บริษัท คุณฉัตรพันธ์ คุณปานทิพย์ แล้วก็คุณปู่”

          (( แล้ว... ))

          “ก็แค่นี้ มีเรื่องอื่นอีกหรือไง ความลับมึงอะ”

          (( ไม่ใช่อย่างนั้น แค่อยากถามว่ารู้สึกยังไงกับเรื่องที่ได้ยิน ))

          “แล้วกูจะต้องรู้สึกยังไง สงสารเหรอ ต้องกอดปลอบไหม ไม่รู้สิวะ มึงก็ยังเป็นมึง เป็นตรัส รัตนภูมิเศรษฐ”

          (( กอดหน่อยก็ดี )) ทีแบบนี้มาทำเสียงกลั้วหัวเราะ รู้สึกโชคดีที่ไม่มาคุยกันต่อหน้า ขี้เกียจนั่งเขินอวดมัน นิสัยเสียชอบตีหน้าขรึมใส่แต่คำพูดมันไม่ใช่เลย ถ้าผมเป็นผู้หญิงก็คงหลงคิดว่าโดนไอ้บ้านี่มันจีบหน้าตายเข้าให้แล้ว

          “ล้อเล่นเถอะ แล้วนี่กูจะไปอาบน้ำได้หรือยัง”

          (( ยัง ทำไมโทรติดต่อไม่ได้ตั้งหลายวัน ))

          “มึงรู้ได้ไง” สงสัยก็เพราะเวลาเปิดเครื่องไม่เคยเห็นว่าเบอร์มันโทรมาเลยสักครั้ง มีแต่ไอ้แซนเป็นสิบสาย แล้วมันรู้ได้ยังไงว่าโทรศัพท์ของผมติดต่อไม่ได้

          (( ให้แซนโทรเช็ค )) โอ้โห พวกมึงทำงานกันเป็นทีมดีเนาะ ซันเป็นทูต แซนเป็นเลขาฯ ได้ยินแล้วกูอยากตั้นหน้าพวกมึงเรียงตัว

          “เช็คทำไม แค่กลับบ้านไม่ได้ไปรบ กูไม่เป็นอะไรง่าย ๆ หรอก”

          (( เป็นห่วง )) เอ้า เอาเลยตรัส จะพูดอะไรก็พูดมากูหน้าด้านอยู่แล้ว แต่จีบเสร็จก็แงะศพกูด้วยละกัน

          “มึงนี่เพ้อเจ้อ แค่นี้เหอะ กูจะอาบน้ำนอนแล้ว”

          (( ถอดเสื้อผ้าหรือยัง ))

          “แล้วจะทำไม”

          (( จะไปช่วย )) โอ๊ยพ่อมึง พอเถอะ คืนนั้นก็ทำกูอดสูมากพอแล้ว อย่ามาเซ็กซ์โฟนกับคนอย่างกูเลย พอผมเงียบตอบมันก็กระแอมเบา ๆ คงกระดากปากไม่น้อย แหงล่ะ นี่ใช่นิสัยมันที่ไหน เดี๋ยวกูแซวให้เสียผู้เสียคนเลย

          (( ไปอาบน้ำเถอะ อย่าเปิดแอร์เย็นนักนะ เดี๋ยวไม่สบาย ))

          “รู้แล้วน่า แม่มาปรับให้แล้วก็ยึดรีโมทไปละ” ได้ยินมันหัวเราะหล่อ ๆ ให้ฟังครู่หนึ่งก่อนจะขอวางสายอย่างละม่อม

          ตอนนี้ผมยังไม่ค่อยเข้าใจมนุษย์จำพวกที่ยึดติดกับภาพลักษณ์ของตัวเองอย่างตรัสเท่าไหร่ คงเพราะผมถูกเลี้ยงดูมาแบบบ้าน ๆ ติดดิน ไม่ฟุ้งเฟ้อ ตรงกันข้ามกับคุณชายโดยสิ้นเชิง เป็นมันเองแท้ ๆ ที่ไหว้วานให้ซันมาเล่าเรื่องราวที่ผมไม่เคยรู้ แล้วก็เป็นมันเองที่ดูวิตกกังวลว่าผมจะคิดอย่างไรกับมัน ทำไมไม่ไปถามแซนถามอ้นบ้าง วุ่นวายกับกูเหลือเกิน

          ยังครับ วันหยุดยาวของผมยังสงบไม่ได้เมื่อจู่ ๆ ไอ้แซนก็แอบมาเยี่ยมเยียนแบบไม่บอกกล่าวล่วงหน้า เดินทำตาละห้อยอย่างกับโดนฟ้องล้มละลายเข้ามาในบ้าน ทักทายแม่ผมพอเป็นพิธีเพราะมันมาบ่อยอย่างกับเป็นลูกหลานญาติสนิท ไม่ต้องรอให้เชื้อเชิญมันก็เดินตัวลอยขึ้นไปบนห้องนอนผมเรียบร้อย

          “เท็ต มึงต้องช่วยกู”

          “มีอะไรก็ว่ามา แต่ก่อนอื่นช่วยเลิกทำหน้าแบบนั้นก่อนได้ไหม เห็นแล้วนึกถึงเจ้าปั๊กบ้านข้าง ๆ”

          “ขอร้องล่ะอย่าเพิ่งแหย แค่นี้กูก็แย่พอแรงอยู่แล้ว จู่ ๆ แม่ก็ยื่นคำขาดไม่อนุญาตให้ไปฝึกงานกับลุง เขาบอกกูหัวรั้นกลัวไม่ได้งานได้การ คิดดูเถอะ มาพูดเอาป่านนี้แล้วกูจะเตรียมตัวทันได้ยังไง เอกสารที่เตรียมไว้ก็กรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วด้วย แม่นะแม่ เห็นกูเป็นเด็กทั้งกะปี นี่ยี่สิบเอ็ดไม่ใช่ห้าขวบ”

          “อ้าว ก็ไหนว่าคุยกันแล้ว”

          “คุยแล้ว แต่กูคุยกับป๊า พอแม่ขัดป๊าก็แปรพรรคซะอย่างนั้น งานด้านกฎหมายใช่ว่าหาที่สมัครกันง่าย ๆ ธุรกิจบางประเภทเขาถือเป็นความลับองค์กร บริษัทเอกชนส่วนใหญ่ถ้าไม่เกี่ยวข้องกับกฎหมายโดยตรงเขาก็ไม่รับนักศึกษาฝึกงานกันหรอก ที่สำคัญกูไม่อยากสมัครสำนักงานทนายความ คงไม่พ้นโดนใช้จัดการงานเอกสารน็อกคาที่แน่” ผมว่าคุณน้าโฉมฉายกำลังเข้าใจผิดจริง ๆ นั่นแหละ แซนมันไม่ใช่เด็กห้าขวบแต่เป็นชายแก่อายุแปดสิบที่กำลังบ่นพึมพำได้น่าเอ็นดูสุด ๆ ทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมความใจเย็นและรอบคอบไม่ถ่ายทอดทางสายเลือดบ้าง ดูอย่างซันเถอะ รายนั้นเขาคิดเห็นอะไรน้าโฉมฉายเป็นเห็นดีเห็นงามด้วยเสมอ ผิดกับแฝดน้อง ทั้งที่อายุเท่ากัน เกิดเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ไหงถึงโอ๋แซนดี้มากกว่าซันนี่ก็ไม่รู้

          “แล้วธนาคารกับบริษัทประกันที่เคยดูไว้ล่ะ”

          “ไม่ล่ะ ไม่สันทัด”

          “ก็ยังดีกว่าหาที่ฝึกงานไม่ได้ไม่ใช่เหรอวะ อย่าเลือกมากสิ กูซะอีกที่ยังไม่รู้อนาคตตัวเองเลย”

          “บอกให้ไปทำกับตรัส บริษัทมันเป็นเจ้าของสบายจะตาย แถมยังตรงสายที่เรียน มึงต่างหากที่เลือกมาก”

          “ไม่เอา กูอยากทำบริษัทพ่อ”

          “แล้วคุณอาท่านว่าไงบ้าง”

          “ตกที่นั่งเดียวกับมึงไง พ่อกลัวพนักงานคนอื่นเกรงใจไม่กล้าใช้งาน ตอนนี้กูก็เคว้งเลย” จากใบหน้ายุ่งเหยิงของไอ้แซนกลับกลายเป็นยิ้มกริ่ม ลุกจากเตียงลงมานั่งบนพื้นข้างกันก่อนจะกระแซะให้ผมขนลุกได้อีก

          “เท็ต สนใจงานโรงแรมไหม”

          “โรงแรมก็โอเค ธุรกิจท่องเที่ยวก็น่าสนใจดี ทำไมวะ”

          “คือแม่กูเขาเสนอโรงแรมหนึ่งมา ก็ไม่เชิงเป็นโรงแรมหรอก เป็นรีสอร์ทกึ่งสปาอยู่ที่สุราษฏร์ฯ”

          “ที่ไหนนะ”

          “เออ สุราษฏร์ธานี ลองขออนุญาตคุณอาดูก่อนก็ได้ ไปไม่ไปค่อยว่ากันอีกที”

          “ไม่เอา ไกล กูเป็นสัตว์สังคม อยู่ห่างบ้านห่างเพื่อนฝูงไม่ไหวว่ะ”

          “กลัวห่างเพื่อนอย่างซันอย่างอ้น หรือกลัวห่างใครกันแน่”

          “กูคงให้ความช่วยเหลืออะไรมึงไม่ได้แล้วแซน กลับไปซะเถอะ”

          “แหนะ เอะอะก็ไล่ เอาแบบนี้ดีไหม ไปดูสถานที่ก่อนก็ได้ ถ้าไม่ถูกใจกูก็ไม่บังคับ ถือโอกาสไปเที่ยวก่อนเปิดเทอม ปีสี่เทอมแรกก็ต้องลุยโปรเจคจบแล้ว เที่ยวให้เอือมก่อนจะอดอีกนานหลายเดือน” อันนี้ค่อยเข้าหูหน่อย จะให้ไปฝึกงานเกือบครึ่งปีที่ภาคใต้ ให้ตายผมก็ไม่ไป

          “เมื่อไหร่ล่ะ มึงจะไปเมื่อไหร่”

          “อาทิตย์หน้า มีฟูลมูนปาร์ตี้ที่เกาะพะงันพอดี ไม่อ้วกไม่กลับ”

          “ไปแค่สองคนจะสนุกอะไร”

          “ใครว่า เรื่องอะไรจะไปกันแค่นี้ สองคนเขาเรียกฮันนีมูน ต้องห้าคนเท่านั้นเท็ดดี้”

          “พวกนั้นมันว่างเหรอ เห็นอ้นไปเยอรมันอยู่บ่อย ๆ”

          “เห็นซันบอกว่าจะกลับเย็นนี้ มีหน้าที่รับส่งอีกตามเคย ช่างคู่นี้เถอะ กูบังคับไปได้แน่นอน แต่ตรัสต้องให้มันเคลียร์งานล่วงหน้า เดี๋ยวกูโทรไปตื้อมันเองมึงไม่ต้องห่วง หรือมึงจะโทรเอง” ประโยคหลังมันหันมายิ้มย่องลองใจ

          “ไม่เอา กูไม่โทร”

          “ว่าแต่เมื่อวานไปไหนกับซัน กลับมาซะดึกดื่น”

          “ถามกูทำไม ไม่ถามแฝดมึงล่ะ อยู่บ้านเดียวกันซะเปล่า”

          “ถามแล้วแต่มันไม่เล่า ไม่ยักกะรอกูด้วย ปกติไม่เคยเห็นไปไหนกันสองคน อดคิดไม่ได้ว่ามึงจะตีท้ายครัวอ้นหรือยังไง”

          “ประสาท แค่ไปกินข้าวแล้วก็พากลับแค่นั้น”

          “เหรอ ไอ้ตรัสไม่หึงแย่”

          “แซน เดี๋ยวกูถีบปากให้พูดไม่ได้ยันอาทิตย์หน้าเลย”

          “โถ กูพูดเล่นหรอกคร้าบ ถือเป็นจริงเป็นจังไปได้” มึงก็ช่วยทำหน้าให้กูรู้ว่าล้อเล่นหน่อยเถอะ เสือกถามหน้าตายไม่ใส่เอฟเฟกต์แบบนั้น...

          คนมีชนักปักหลังอย่างกูก็อยู่ไม่สุขสิวะ

▩▩▩
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-10-2012 21:48:10 โดย Lipstick_Murder »

ออฟไลน์ ✿PIERRE

  • ดองนิยายข้ามปี
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 434
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-6
Re: 『ทะลึ่ง』♂♥♂ กามที่ 6 (2012.07.26)
«ตอบ #228 เมื่อ26-07-2012 22:50:30 »

เม้นก่อนอ่าน คิคิ

ออฟไลน์ Lipstick_Murder

  • มฤคระเริง
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-3
Re: 『ทะลึ่ง』♂♥♂ กามที่ 6 (2012.07.26)
«ตอบ #229 เมื่อ26-07-2012 22:55:38 »

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ตกใจคอมเม้นต์มาก! มาจากไหนกันอะจ๊ะ?

ใครเรียกหาดราม่านะ! อ๋อ ไม่เอาดราม่าสินะ หุหุ
มีหน่อยให้พอมีรสชาดได้ไหม นิดหนึ่งน่า เนาะ

ขอบอกหน่อยว่าเรื่องนี้วางพล็อตไว้ยาวมากนะคะ
ถ้าใครกลัวตัดจบเร็ว ๆ นี้ หรือเชียร์ให้หวานกันเร็วเหลือเกิน
ไม่กลัวเนื้อเรื่องน่าเบื่อหรือ? หึหึ

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

กอดอีกที ตกใจคอมเม้นต์จริง ๆ
ขอบคุณมากนะคะ ฮึดมากอะตอนนี้
ตอนหน้าไปเที่ยวสุราษฎร์กัน!
ดูคอมเม้นต์ตอนนี้ก่อนตัดสินใจว่าตอนหน้าจะทำอะไรดี

เห็นคำถามว่าเคยแต่งเรื่องอื่นก่อนหน้านี้ไหม
เคยค่ะ เยอะด้วย แต่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องสั้น
ไม่ได้ใช้นามแฝงเดียวกัน เพราะฉะนั้นหาไม่เจอแน่ค่ะ (หัวเราะ)
ไม่สนุกหรอก สำนวนแปลก ๆ อ่านเรื่องนี้ดีกว่าโนะ
ถือว่าเรื่องนี้เป็นเดบิวต์โนเวลเลยแล้วกันค่ะ (โค้ง)

 :z2: :z2: :z2:

พูดคุยหรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
เชิญที่ Lipstick_Murder@Twitter นะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-07-2012 23:05:46 โดย Lipstick_Murder »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: 『ทะลึ่ง』♂♥♂ กามที่ 6 (2012.07.26)
« ตอบ #229 เมื่อ: 26-07-2012 22:55:38 »





ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
Re: 『ทะลึ่ง』♂♥♂ กามที่ 6 (2012.07.26)
«ตอบ #230 เมื่อ26-07-2012 23:03:40 »

คุณชายตรัสเขาใช้เพื่อนแฝดคุ้มมาก แล้มเมื่อไรจะมาดูและควบคุมเองล่ะจ้ะ

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Re: 『ทะลึ่ง』♂♥♂ กามที่ 6 (2012.07.26)
«ตอบ #231 เมื่อ26-07-2012 23:04:16 »

ปากหนักมากพระเอกเรา

โผล่มาแว๊บๆยังหวานได้อีก :o8:

รอตอนหน้า :z10:

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
Re: 『ทะลึ่ง』♂♥♂ กามที่ 6 (2012.07.26)
«ตอบ #232 เมื่อ26-07-2012 23:05:19 »

ตกลงคืนนั้นยังไงๆ

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
Re: 『ทะลึ่ง』♂♥♂ กามที่ 6 (2012.07.26)
«ตอบ #233 เมื่อ26-07-2012 23:18:05 »

อ้าววว!!! ค้างง่าาา :เฮ้อ:


[newZy]CASS

  • บุคคลทั่วไป
Re: 『ทะลึ่ง』♂♥♂ กามที่ 6 (2012.07.26)
«ตอบ #234 เมื่อ26-07-2012 23:27:09 »

เอ ยังไงกันว้า
 :pig4: :L2:

Zweilt

  • บุคคลทั่วไป
Re: 『ทะลึ่ง』♂♥♂ กามที่ 6 (2012.07.26)
«ตอบ #235 เมื่อ26-07-2012 23:33:39 »

เพิ่งเข้ามาอ่านอ่ะ
ชอบมาก สนุกดี o13
แอบค้างน่ะ :z3:
มาต่อเร็วๆน่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4
Re: 『ทะลึ่ง』♂♥♂ กามที่ 6 (2012.07.26)
«ตอบ #236 เมื่อ26-07-2012 23:35:47 »

 :กอด1:

ออฟไลน์ Kalamall

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
Re: 『ทะลึ่ง』♂♥♂ กามที่ 6 (2012.07.26)
«ตอบ #237 เมื่อ26-07-2012 23:42:22 »

ตรัสพูดน้อยแต่สอยตลอด 55555เค้าทำงานกันเป็นทีมเนอะอยากให้เพื่อนเป็นฝั่งเป็นฝารวมหอซะที o18 พลูมูนคราวนี้จะสำเร็จเสร็จตรัสไหมน้อ

PAAPAENG~

  • บุคคลทั่วไป
Re: 『ทะลึ่ง』♂♥♂ กามที่ 6 (2012.07.26)
«ตอบ #238 เมื่อ26-07-2012 23:55:29 »

เอ็นดูเท็ตจริงๆให้ตายเถอะ!
แม่ให้กินอะไรฟ๊ะ ทำไมถึงได้ซื่อขนาดนี้
ได้กับตรัสก็แล้ว เพื่อนแซวเป็นสิบก็แล้ว ยังไม่รู้ตัวอีก!
ให้ตรัสได้ปู้ยี้ปู้ยำอีกซักสี่ห้าตอนเถอะ
เผื่อเท็ตจะรู้ตัวขึ้น ฮา!

รอตอนหน้านะคะ :)

ออฟไลน์ penda

  • ~~^v^~~
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: 『ทะลึ่ง』♂♥♂ กามที่ 6 (2012.07.26)
«ตอบ #239 เมื่อ27-07-2012 00:20:16 »

ตอนนี้ก็มาเฮฮาน่ารักอีกแล้ว ฮิ้วๆๆ
ถึงจะมีช่วงสเทือนใจตอนเล่าประวิตชีวิตตร้สนิดหน่อย
แต่โดยรวมก็ยังคงความฮา สนุกสนานเหมือนเดิม
รออ่านตอนหน้า ไปเที่ยวทะเล โอ้เย~~~~~
 :L2: :pig4: :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด