กำหนดทำบุญบ้านของปลาน่ะคือเลี้ยงพระเพล แต่เพื่อนหลายคนแวะเวียนมาตั้งแต่เช้า ส่วนก้านพาคนงานมาช่วยซ่อมบ้านล่วงหน้าแล้วก็แวะมาตอนทำบุญวันเสาร์อีกครั้ง
กิมกับตือถามคำถามเดิมๆ “ไม่กลับ”
“ครับ”
“ไง เสือน้อยของมึง” ตือหันไปถามเพื่อน ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า คำว่า –เสือน้อยของมึง- สะดุดหูของก้าน
“ของกูแล้วไง กูทำตามหน้าที่แล้ว แต่มันมีงานนี่หว่า” กิมบอกแล้วก็เลยชวนก้านต่อ “ที่บ้านมีแขกหรือเปล่า คืนนี้มากินเหล้าร้านไอ้ตือกัน”
ค่ำลงก้านก็มาที่ร้านตือตามที่กิมชวน คนที่อยู่ที่โต๊ะ ไม่ได้มีแค่ปลาเพื่อนร่วมรุ่นของกิมกับตือ แต่มีเพื่อนรุ่นเดียวกับก้าน แล้วก็รุ่นพี่รุ่นน้องที่ตามๆ กันมาด้วย
พอนั่งลงที่โต๊ะ มีหญิงสาวยกเครื่องดื่มมาเพิ่ม ตือหันไปแนะนำว่าเป็นหลานชื่อกิ๊บเรียนอยู่กรุงเทพฯ แต่ตอนนี้ปิดเทอม พ่อกับแม่เลยพามาเที่ยว
แต่ละคนพากันแซวที่ตือมีหลานโตเป็นสาวแล้ว ขณะที่ตัวเองเพิ่งแต่งงานเมื่อปีก่อนแล้วก็ยังไม่มีลูก
“ตอนงานแต่งไอ้ตือมาหรือเปล่า”
“มาค่ะ กิ๊บยังจำพวกน้าๆ ได้เลย”
“จำไม่ได้ว่ะ” ทุกคนยอมรับ แล้วก็หันมาคุยกันต่อ
ดวงตาคมจับจ้องคนที่แทบไม่ได้หันมามองเลยสักนิด ไม่แม้แต่จะพูดด้วยสักคำ ทั้งที่ทุกคนที่โต๊ะนี้ต่างก็ทักทายพูดแซวกันทั้งนั้น จนกระทั่งชายหนุ่มลุกออกมาเข้าห้องน้ำ หญิงสาวก็ทำเป็นรีรออยู่แถวหน้าห้องน้ำ แล้วเข้ามาทัก
“พี่อยู่ที่นี่หรือคะ”
“ครับ” ก้านตอบสั้นๆ
“ทำอะไรคะ ทำสวนหรือ”
“ไม่ได้ทำสวนครับ ทำโฮมสเตย์กับรีสอร์ทน่ะครับ”
“ดีจัง” หญิงสาวทำตาวาว “คราวหน้ากิ๊บมาเที่ยวแล้วไปค้างที่รีสอร์ทของพี่ดีกว่า”
“ครับ”
พอก้านผละไป เมียของตือก็ดึงกิ๊บมาคุย
“มึงอย่าไปอ่อยพี่ก้านเลยเสียเวลาเปล่า”
“อ้าวทำไมละน้า”
“เขามีแฟนแล้ว พี่แนชดุอย่างกับเสือ”
“ชื่อแนทหรือคะ” กิ๊บเรียกชื่อแนชผิด แต่เมียของตือก็ปล่อยให้เรียกผิดไปอย่างนั้น
“พี่ก้านเขารักของเขาจะตาย มึงไปมองหาคนอื่นเถอะ”
พอหลานเดินผ่านไปตือก็หันมาสะกิดเมีย “เธอพูดตรงไปหรือเปล่า เกิดไอ้กิ๊บมันแค่ชอบคนหล่อ แล้วเดี๋ยวมันก็กลับบ้านไปแล้ว”
“พี่จะมองหลานพี่แง่ดียังไงก็ตามใจเหอะ แต่คนเดี๋ยวนี้มันไว้ใจไม่ได้ ถ้ามันคิดจะเอาขึ้นมา ผัวใครเมียใครมันก็ไม่สนทั้งนั้น ถึงพี่ก้านจะมั่นคง แต่ถ้ามันเกิดปัญหาขึ้นมามันจะเข้าหน้ากันไม่ติด เพราะไอ้กิ๊บมันหลานพี่ หนูไม่เสี่ยงให้พี่แนชมาเผาร้านเราแน่ๆ”
เมียแสนดีสรุปแบบที่ตือเห็นด้วยทุกคำพูด
“เออจริง ถ้าไอ้แนชรู้ว่าหลานเราไปหยอดแฟนมัน มันตามมาจัดการเราแน่”
“เพราะฉะนั้น เวลาหนูปรามไอ้กิ๊บ พี่ก็อยู่เฉยๆ แล้วกัน”
ก่อนถึงวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน หลานสาวของตือและเพื่อนๆ ก็มาเข้าพักที่โฮมสเตย์ มีพนักงานรับรองไปตามหน้าที่เพราะก้านมาอยู่ที่ร้านอุปกรณ์ก่อสร้าง ส่วนตือโทรมาหาบอกว่าหลานกับเพื่อนมาพักที่โฮมสเตย์ เน้นย้ำว่า ไม่ต้องดูแลอะไรมาก
"อ้าวพี่ ทำไมอย่างนั้นล่ะ" ก้านขำ เพราะเคยเจอแต่คนที่โทรมาฝากให้ดูแลเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นที่ร้านหรือที่รีสอร์ท
"เออ นั่นแหละ ทำตามที่กูบอกนั่นแหละ" ตือบอกแค่เพียงเศษเสี้ยวของเรื่องทั้งหมด เพราะในใจก็คิดว่ามันก็แค่เรื่องวูบวาบตามแบบของวัยรุ่น
แต่ก้านเองก็ไม่เคยเข้าไปวุ่นวายกับแขกที่มาพักอยู่แล้ว พอค่ำลงกลับมาบ้านก็เพียงแค่รับงานต่อจากพนักงานกับแม่บ้าน แล้วก็กลับเข้าที่พักของตัวเอง จนกระทั่งเช้าวันเสาร์เดินออกมากินข้าวที่ห้องอาหารสวนกับกลุ่มของแขกที่มาพักก็เพียงยิ้มทักทายแล้วเข้าครัว กินข้าวเสร็จถึงได้ออกมาที่เคาน์เตอร์สำนักงานภายในร้านค้าที่ด้านหน้า
กำลังก้มหน้าตรวจบัญชีค่าใช้จ่ายและสิ่งของ เสียงกระดิ่งเมื่อเปิดประตูก็ดังขึ้นให้เงยหน้าขึ้นมอง
"พี่คะ" ทั้งที่หญิงสาวที่เข้ามาในสำนักงานพูดทักทาย แต่ก้านกลับชะโงกมองข้ามไหล่หญิงสาวออกไป เพราะเห็นรถคันเล็กที่แล่นช้าๆ ผ่านหน้าร้าน ก้านรีบลุกจากโต๊ะทำงานมองตาม จนเห็นรถเลี้ยวผ่านป้อมยามเข้าไปด้านใน
"ครับ" คนตัวโตยิ้มกว้างหันมารับแขก
"หนูจะถามว่าถ้าจะหาเช่ารถแถวนี้มีหรือเปล่าคะ"
"มีครับ แต่จะมีคนขับรถพร้อมนะครับ ไม่ได้ขับเอง" ก้านเดินไปหยิบเอกสารมาส่งให้ ท่าทางของหญิงสาวพยายามชวนคุยต่อ ก้านเพียงแค่แนะนำว่าต้องลองติดต่อดูก่อนว่าจะมีรถหรือไม่ จากนั้นก็พาออกมาที่ร้านค้า บอกพนักงานร้านให้ช่วยดูแลแล้วตัวเองก็รีบกลับมาที่บ้านพัก
“หนูเห็นรถพี่เสือน้อยมา” พนักงานร้านแซวขำๆ
ไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนเริ่มเรียกชื่อแนชว่าเสือน้อยตามชื่อที่ตือกับกิม เพียงแต่ทุกครั้งที่เรียกชื่อนี้แล้วก้านชอบทำหน้าตาพิกลทุกครั้ง ไปๆมาๆ พนักงานก็เลยมักจะเรียกชื่อนี้แบบที่รู้กันในกลุ่มว่าหมายถึงใคร
หน้าตาแปลกๆ ของก้านมันชัดเจนว่าหวง เพราะคำเต็มของชื่อนี้คือ เสือน้อยของกิม
..หวง...
ทั้งที่รู้ว่าพี่ๆ ไม่ได้มีความหมายไปในเชิงชู้สาว แต่มันเกิดจากการที่กิมจะโดนแนชอาละวาดใส่บ่อยที่สุด
แล้วก็พาลไม่ชอบต่อไปอีก...แนชไม่ได้อาละวาดมากมายขนาดนั้นสักหน่อย..
"แนช" คนตัวโตร้องเรียกตั้งแต่หน้าบ้าน มีเสียงตอบรับมาจากในห้องน้ำ พร้อมกับที่ประตูห้องน้ำเปิดออก
เพียงเสื้อยืดสีอ่อนกับกางเกงขาสั้นแค่เข่า ใบหน้าใสจนเหมือนซีดเปียกชื้น ผมยุ่ง ถ้าบอกว่าแนชอ่อนกว่าก้านสัก 5 ปีก็ไม่น่าแปลกใจ
"ออกมาตั้งแต่กี่โมงน่ะ"
"ตี 4 ขนาดอย่างนี้เจอแดดยังแทบลืมตาไม่ขึ้น"
"งั้นแนชนอนพักก่อน ผมทำข้าวเสร็จจะปลุกมากินแล้วค่อยไปนอนนะ กินอะไรดี" ก้านสั่งขณะที่ตรงเข้าไปในครัวเล็ก ๆ มีเพียงไข่ไก่ กับข้าวสาร "ข้าวต้มกุ้งมั้ยแนช เดี๋ยวผมไปเอากุ้งที่ครัวมาทำให้"
"ก็ได้ แต่กูต้มข้าวรอดีกว่า ยังไม่นอนหรอก มึงกินหรือยัง"
"กินแล้ว" ก้านบอกขณะที่ยิ้มกว้าง
"กูก็ว่างั้น เก้าโมงกว่าแล้วนี่" แนชตามเข้าไปในครัว
ก้านรีบกลับออกมาที่ห้องอาหาร ขณะที่แนชหันไปหุงข้าวและล้างจานชาม ที่ดูท่าว่าเจ้าของบ้านจะไม่เคยหยิบออกมาใช้เลย นอกจากแก้วน้ำกับแก้วกาแฟ
เสียงประตูบ้านเปิดออกอีกครั้ง ทำให้แนชหันมามอง
หญิงสาวสวยเดินเข้ามาพร้อมกับยิ้มหวาน
"พี่คะ"
"ครับ" แนชเช็ดมือหันมาทำหน้าที่ผู้ช่วยเจ้าของรีสอร์ท
"พี่เสือน้อยเป็น...เพื่อนหรือเป็นน้องของพี่ก้านคะ"
แนชนึกแปลกใจที่หญิงสาวเรียกชื่อนี้ เพราะเพิ่งเจอกันครั้งแรก อาจเป็นการเรียกตามคนงานหรือใครสักคน แต่คนนั้นต้องไม่ใช่ก้านแน่ๆ "เป็น...พี่ครับ"
"จริงหรือคะ พี่ดูเหมือนน้องชายเลย พี่สนิทกับพี่ก้านมากใช่มั้ยคะ"
"ครับ"
"อ้อ...." หญิงสาวทำแก้มพอง ท่าทางน่ารัก "หนูชื่อกิ๊บค่ะ เป็นหลานน้าตือ"
"อ้อ ไอ้...น้าตือนี่เอง"
"ค่ะ พี่รู้จักหรือคะ"
"รู้จักครับ ผมเป็นพี่ก้าน ก็ต้องรู้จัก...น้าตือเหมือนกัน"
"งั้นหนูเรียกน้านะคะ"
"ครับ ตามสบาย" แนชยิ้มรับ "มีอะไรหรือครับ"
"คือ พี่ก้านมีแฟนแล้วจริงๆ หรือคะ"
แนชอึ้ง ที่หญิงสาวถามอย่างตรงไปตรงมา
"น้าตือกับน้าสะใภ้น่ะค่ะ บอกว่าแฟนพี่ก้านดุมาก แต่หนูมาพักที่นี่ 3 วันแล้วจนจะกลับวันพรุ่งนี้อยู่แล้ว ยังไม่เห็นแฟนพี่เขาเลย น้าคะ พี่ก้านยังไม่มีแฟนใช่มั้ยคะ น้าตือโกหกหนูเพราะไม่อยากให้หนูยุ่งกับพี่ก้านใช่มั้ยคะ แต่พี่ก้านเขาหล่อนะคะ รวยด้วย"
"น้าว่า หนูถามพี่ก้านเองดีกว่ามั้ย"
"หนูก็อยากทำอย่างนั้นอยู่เหมือนกัน แต่เขาดูยุ่งๆ ตลอด"
"เขาก็ยุ่งมากจริงๆ" แนชบอก
"น้าคะ ตกลงพี่ก้านยังไม่มีแฟนใช่มั้ยคะ"
แนชตอบยิ้มๆ "ถามเจ้าตัวดีกว่า เพราะน้าตือหนูบอกว่ามีแล้ว แต่หนูไม่เห็น"
หญิงสาวทำท่าจะถามย้ำต้องการคำตอบให้ได้ แต่มีหญิงสาวอีกคนเปิดประตูบ้านเข้ามาเรียก บอกว่า จะออกไปเที่ยวทะเลกัน ก่อนที่แดดจะแรงกว่านี้
พอประตูบ้านปิดลงแนชก็หันมาที่เตาอีกที มองข้าวต้มในหม้อรู้สึกเหมือนเห็นหัวใจของตัวเองที่มันค่อยๆ เพิ่มอุณหภูมิขึ้น จนกระทั่งประตูบ้านเปิดออกอีกครั้ง "มาแล้วๆ แนชไปพักเถอะ ผมจัดการต่อเอง"
แนชหันไปมองคนยิ้มหวานด้วยสายตานิ่งๆ จนก้านหันมาถาม
"มีอะไรหรือเปล่า"
"เปล่า กูไปเปิดโทรทัศน์นะ"
"ครับ"
"แนช"
"คิดถึง"
แนชทำเป็นตาขวางใส่คนพูด ยอมรับกับตัวเองว่าไม่เคยโกรธคนนี้ได้นาน "ปากหวานตลอด"
"จริงหรือ"
"เออ"
มือใหญ่ช้อนคอคนที่กำลังจะเดินหนีให้หันกลับมารับจูบ
"ปากแนชหวานกว่า หวานไปทั้งตัว"
แนชหน้าแดงไปถึงหูทันที "ห่าก้าน ชอบแกล้งกู"
"ไมได้แกล้งนะ แต่ผมคิดถึงแนชจริงๆ แล้วแนชก็หวานจริงๆ ไม่มีคำไหนไม่จริงเลยนะ"
"เออ จริงตลอดแหละ กูหิวแล้ว รีบทำข้าวเร็วๆ เลย" แนชทำเป็นบ่นทั้งที่ยังหน้าแดง
ก้านหันไปจัดการแกะกุ้ง ทำข้าวต้มให้แนชทันที
"แนช"
"เออ"
"งานหนักหรือ"
"เออ"
"กลับมาบ้านเราแล้ว พักเรื่องงานไว้ก่อนนะ อย่าเพิ่งรำคาญที่ผมชอบพูดไร้สาระ ผมอยากให้แนชหัวเราะเวลาที่อยู่กับผม"
แนชหันมานั่งเท้าคางมองคนที่ทำครัว "ไม่ไร้สาระหรอกน่า มึงอย่าคิดแทนกูนักเลย งานมึงก็เยอะ แล้วนี่จะต้องไปที่ร้านอีกหรือเปล่า"
"ไม่หรอก วันนี้แนชมา เมื่อกี้ผมโทรไปบอกพ่อแล้ว ว่าวันนี้ผมไม่ไปร้านนะ"
"อ้าว กูทำมึงเสียงานหรือเนี่ย"
"ไม่หรอก แนชก็อย่าคิดแทนผมนักเลย" ก้านหันมายิ้มขำ
แนชได้แต่ชี้นิ้ว "สัดเหอะ เลียนแบบกู" หนุ่มตัวเล็กหยุดไปวินาทีแล้วก็เปลี่ยนเรื่องคุย "มึงไปร้านสักพักหนึ่งก็ได้นะ เพราะกูมีเรื่องต้องไปจัดการสักหน่อย"
"อ้าวกินเสร็จแล้วไม่นอนหรือ จะไปไหนล่ะ ผมขับรถไปให้ดีกว่า"
แนชทำเหมือนไม่อยากให้ไปด้วย แต่สุดท้ายก็ยักไหล่ เดินมากินข้าวต้ม
ที่ๆ แนชให้ก้านขับรถมาส่งคือร้านของตือ ก่อนที่จะลงจากรถเดินไปที่ร้าน แนชหันมาสั่ง
"อยู่ที่รถ ไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไร หรือเกิดอะไรขึ้นก็อยู่ที่นี่เข้าใจมั้ย"
"แนช มีอะไรหรือ"
"อยู่ที่รถ" แนชย้ำแล้วเดินไปที่ร้าน
ร้านของตือเปิดห้าโมงเย็น ปกติจะมีร้านประจำเอาของมาส่งตอนบ่าย แต่เพราะเป็นวันเสาร์อาทิตย์เมียของตือก็เลยไปตลาดช่วงสาย จ่ายของสดบางอย่างที่จะเอามาทำกินกันเองในบ้าน ซื้อมาก็เอามาวางไว้ที่โต๊ะครัวของร้านแล้วเข้าบ้าน พอเห็นรถของก้านมาจอด แนชลงมาจากรถตรงไปที่ร้าน เมียตือก็รีบวิ่งตามมา
"พี่แนช"
แนชเดินตรงไปที่โต๊ะใหญ่กลางครัวที่วางของสดที่เพิ่งซื้อมาจากตลาด เมียของตือรีบหันไปร้องตะโกนเรียกตือ ขณะที่วิ่งมาดึงแขนของแนชไว้
"พี่ตือ พี่แนชมาแล้ว พี่แนชฟังก่อนนะ หนูเตือนกิ๊บแล้วจริงๆ นะแต่มันไม่ฟัง"
"กิ๊บหลานใคร หลานเราหรือหลานไอ้ตือ"
"หลานกูเอง หลานกูเอง" ตือรีบร้องบอกทันทีที่เข้ามาในร้าน
แนชหันมามอง 2 ผัวเมีย แล้วยกขาโต๊ะข้างหนึ่งขึ้น ทำให้ข้าวของบนโต๊ะเทกระจัดกระจายลงพื้น
"พี่แนช ใจเย็นนะพี่"
"แนช พวกกูบอกมันแล้วนะ แต่มันไม่ฟัง มึงอย่าพังร้านกูเลย" ตือเข้ามาจะคว้าแขนอีกข้างของแนช แต่แนชเร็วกว่าหันไปถีบเก้าอี้ตัวใกล้ที่สุดจนคว่ำ ทั้งพุ่งตัวไปที่เก้าอี้ตัวถัดไป
"พี่แนช หนูจะไปตามมันเดี๋ยวนี้แหละ พี่อย่าโกรธเลย"
แนชหันมาหาแฟนตือพูดย้ำทุกคำ "กูโกรธ เพราะเวลาที่กูไม่อยู่ เพื่อนของกูต้องไม่เกี่ยวข้องกับการแทงข้างหลังกู ไม่ว่ากรณีใดๆ"
"ไม่ๆ เดี๋ยวกูขับรถตามมึงไปที่โฮมสเตย์เดี๋ยวนี้เลย ให้เมียกูเก็บของที่นี่"
แนชหันกลับมาหาตือทันที "แล้วทำไมมึงไม่ทำแต่แรก"
"ก็...มันอ้างว่ามากันหลายคน แล้วมาหลายวัน มานอนที่นี่มันเกรงใจพ่อกับแม่กู"
"ไปเอาพวกมันไปค้างที่อื่นให้ไกลหูไกลตากู อย่าให้กูเห็นหน้าพวกมันอีก"
"แนช!" เสียงเรียกชื่อดังก้องครัวเล็กๆ ในร้าน พร้อมกับมือใหญ่ที่กระชากแขนให้ออกมา
"ห่า สัด เหี้ย ปล่อยกูนะ" แนชร้องด่าจนถึงรถ "กูบอกแล้วว่าอย่าลงจากรถไง"
"ถ้าไม่เข้าไปผมจะเห็นมั้ยว่าแนชทำอะไร"
"กูทำในสิ่งที่ควรทำ"
ก้านเปิดประตูรถ แต่แนชยันประตูไว้
"อย่าทะเลาะกันเพราะกูเลย กูสอนหลานไม่ดีเอง" ตือตามมาห้าม
ก้านมองหน้าคนที่เหมือนกำลังบอกว่าที่อาละวาดไปเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว ก็เลยหันไปหาตือ "ผมขอโทษแล้วผมจะชดใช้ของที่เสียหายให้"
"ไม่เท่าไหร่ เป็นของที่กูไม่ได้สั่งประจำน่ะ แล้วมันยังอยู่ในถุง ไม่มีอะไรแตกหักเสียหาย แนชแค่...เทลงมาจากโต๊ะ"
ก้านหันมาหาแนช “เขาเป็นแขก แยกแยะให้ออกสิ” มือใหญ่ที่จับอยู่ที่ต้นแขนเพิ่มน้ำหนักขึ้น
“แขกเหี้ยๆ” แนชตะโกนใส่หน้าก้านเต็มๆ
“แนช”
“อย่าทะเลาะกันเพราะคนอื่น คุยกันดีๆ เดี๋ยวกูตามไปโฮมสเตย์รับหลานกลับมาเอง”
เมียของตือรีบพยักหน้า แต่ก้านไม่เห็นด้วย
“หลานพี่เป็นแขกของผม พรุ่งนี้พวกเขาก็กลับแล้ว ถ้าไปรับตอนนี้มันมีแต่เสีย”
“สัดเหอะ” แนชยังคงด่า
“แนช หยุดด่า เราต้องกลับไปคุยกันที่บ้าน”
“กูจะด่า” แนชพูดแล้วก็หยุด
ก้านเปิดประตูรถดันแนชเข้าไปนั่งแล้วหันมาหาตือกับเมีย “เรื่องที่ร้านผมขอโทษ ส่วนเรื่องหลานพี่ เรื่องแนช ผมจัดการเอง เพราะถ้าหลานพี่ถามว่าทำไม แล้วเขารู้ว่าแนชเป็นอะไรกับผม เขาอาจพูดต่อไปในทางไหนก็ไม่รู้ ไม่อยากให้เรื่องมันกลับไปถึงที่ทำงานแนช เขาอยู่กรุงเทพฯ”
เมียตืออยากเถียงว่ามันไม่น่าไปไกลถึงขนาดนั้น แต่ตือกระตุกแขนไว้
“เออ ยังไงคุยกับมันให้ดี แนชมันก็มีเหตุผลของมัน”
“ครับพี่” ก้านบอกแล้วหันไปขึ้นรถ
เมียตือหันมาหาสามี “มันจะขนาดนั้นเลยหรือพี่”
ตือพยักหน้า “โลกทุกวันนี้มันแคบลง ไม่เห็นเรื่องครูอังคณานั่นหรือไง แค่เด็กทะเลาะกัน กลายเป็นข่าวได้เป็นอาทิตย์ แล้วนี่มันทำโฮมสเตย์ มีฝรั่งมีคนกรุงเทพฯ มาพักบ่อยๆ ใครอาจคิดผูกเรื่องเติมเรื่องยังไงก็ได้ แล้วฝรั่งนี่แหละตัวเกลียดเกย์เลยหล่ะ”
“พี่เว่อร์ว่ะ” เมียตือยังไม่ค่อยเห็นด้วย ตือเลยหันมาจิ้มที่หน้าผาก
“แกหัดอ่านข่าว ดูข่าวบ้างเถอะ จะได้รู้ว่าปากคน ใจคนน่ะมันทำให้เรื่องไม่จริงกลายเป็นเรื่องจริงมานักต่อนัก ฆ่าคนได้ทั้งเป็น”
”ไอ้กิ๊บมันจะทำได้อย่างนั้นหรือไง”
“แล้วที่มันทำอยู่ตอนนี้ ไม่ได้เหนือความคาดหมายของแกกับพี่หรือไง ขนาดที่ไอ้แนชเดือดจนมาพังร้านเราเนี่ย”
ตือบ่นแล้วเดินกลับเข้าไปในครัว
====จบตอนที่ 4====
เรียนผู้มีอุปการะคุณโปรดทราบ ผมไม่เคยไปเหวี่ยงใส่เพื่อนแบบนี้นะ ที่ผ่านมา ผมเล่นงานคนกลางโดยตรง ส่วนพี่ไจฟ์เท่าที่เคยเจอมาก็ึคือเดินเข้ามาเรียก "กลับบ้าน" เคยไปเคลียร์กับคนที่ข้ามเส้นในหลายๆ กรณีก็มีอยู่ แต่ไม่เคยทะเลาะกันเองแล้วทำข้าวของเสียหายสักทีั
แต่ถ้าเป็นกรณีที่ตั้งวงเมากับเพื่อนแล้วพากันเลี้ยวเข้าสามแยกปากหมา จะพากันอดกินหมดทั้งกลุ่ม
สงสัยมั้ย ว่าทำไมตัวโกงทุกเรื่องเป็นผู้หญิง สงสัยไปก็เท่านั้นเพราะไม่รู้เหมือน รู้แต่ว่าเรื่องต่อไปเป็นผู้ชาย
สะ-ปอย ตอนจบเลยได้ปะ ป๋าเพิ่งส่งให้พี่ปานตรวจเมื่อคืน มันยาวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก จนสามารถแบ่งได้ 3 -4 ตอน แบบพอมาดูๆ แล้ว นี่ผมเขียนบรรทัดไหนวะเนี่ย
แง๊ ตอนหน้ายัีงไม่จบนะั ตอนหน้า ก็ตอนเกือบจบ ตอนต่อไปถึงจะเป็นตอนจบ ใจเย็นๆ
คนเขียนตอนแนชด่าๆๆ เป็นคนเดียวกับที่เขียนแนชอยู่กับก้านน่ะแหละ
แต่เพราะว่าพี่ไจฟ์ลงโครงเรื่อง มันก็จะมีประโยคของแนชมาอยู่แล้ว ผมมาเขียนเติมประโยค อีกนิดนึง เขียนกลับไปกลับมาก็เนี่ยแหละ ....
พบกันวันอังคารนะครับ
ไจฟ์ครับ