พิมพ์หน้านี้ - Snatch

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: MyTeaMeJive ที่ 02-07-2012 07:35:26

หัวข้อ: Snatch
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 02-07-2012 07:35:26
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 
ทุกคน ทุกสิ่้งในเรื่องนี้เป็นเรื่องสมมุติทั้งสิ้น

Snatch
ตอนที่ 1

   มันคืองานวัด ไม่ว่าแนชจะมองจากมุมไหนมันก็คืองานวัด ทั้งแสงสีเสียง ม้าหมุน ชิงช้าสวรรค์ บิงโก ไปจนถึงปาเป้าและยิงปืน โดยเฉพาะไอ้เวทีสูงๆ นั่นยังไงมันก็งานวัด ต่อให้ป้ายประกาศที่ด้านหน้าโรงเรียนบอกว่า มันคืองานโรงเรียนรวมทุกรุ่นเพื่อหารายได้สร้างอาคารเรียนหลังใหม่ ...แต่นี่มันงานวัดชัดๆ
สาเหตุเดียวที่ทำให้แนชมางาน ก็เพราะนี่คือโอกาสที่จะได้รวมกลุ่มเพื่อนที่เคยเรียนร่วมห้องร่วมก๊วน 
“สัดเหอะ เสียงดังจนต้องตะโกนคุยกันหยั่งงี้ กูออกไปคอยที่ร้านเตี๋ยวเรือข้างนอกดีกว่า” แนชพูดขณะที่เหวี่ยงขาลงจากรถมอเตอร์ไซค์ของกิม หนุ่มตี๋ตัวหนาลูกชายร้านข้าวสารในตลาด ส่วนเพื่อนอีกหลายคนหันมาหัวเราะ
“เท้าแตะพื้นก็จะกลับ กลัวเจอโจทก์เก่าหรือไง”
“กูมีด้วยหรือไง โจทก์น่ะ กูเด็กเรียบร้อย”

เพื่อนฝูงหัวเราะกันครืน ถึงแนชมันจะปากจัดขี้โวยวาย แต่มันก็จัดอยู่ในกลุ่มเด็กเรียบร้อยของห้องอย่างที่ว่าจริงๆ ไม่เคยส่งการบ้านช้า ไม่เคยเกี่ยงทำรายงาน ไม่เคยมีเรื่องให้ต้องเดินเข้าห้องฝ่ายปกครอง ไม่เคยยกมืออาสาเวลามีกิจกรรม แต่ถ้าเรียกให้ทำก็ไม่เคยมีข้อแม้
แล้วก็มีผลการเรียนในระดับ 5 คนแรกของห้อง
จบจากโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัด แนชย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ กลับมาบ้านตอนปิดเทอม เรียนจบก็ทำงานอยู่กรุงเทพฯ กลับมาหาพ่อกับแม่เกือบทุกเดือน
ส่วนกิมหนุ่มตี๋ตัวหนาเรียนจบมัธยม ก็ต่อวิทยาลัยเอกชนในจังหวัด แล้วก็ทำงานอยู่ที่ร้านข้าวสารในตลาดต่อไป พอล็อกรถเสร็จก้าวลงมายืนใกล้กัน ถึงได้รู้ว่าหนุ่มตี๋ตัวสูงกว่าแนชมากกว่าคืบ

ตือเจ้าของร้านหมูกระทะบอกขณะที่เดินนำเข้าไปในโรงเรียน “ร้านกูปิดตี 2 พวกมึงจะไปกี่โมงก็ไปเถอะ”
“กูไปกี่โมงก็ไปเถอะ” เพื่อนคนหนึ่งทำเสียงเลียนแบบตือ “ไม่ใช่ว่ากูไปถึงพวกมึงเมากลับบ้านกันหมดแล้ว”
“เมาห้ามขับนะโว้ย มึงเมานอนที่บ้านกูสิ” ตือบอก “หยั่งก๊ะ ไม่เคยนอน”
บ้านตือก็อยู่หลังร้าน ไม่ได้ไกลที่ไหน
โวยวายต่อปากต่อคำเหมือนกำลังทะเลาะกันมากกว่าคุยกันอีกไม่กี่ประโยค แต่ละคนก็แยกย้าย
เสียเงินซื้อบัตรตั้งแต่หน้าประตู แล้วก็เสียเงินเล่นเกมสารพัด

“กูว่าไม่มีร้านขนมเมืองจีนที่มึงว่าแน่ๆ เลย” แนชเหลียวมองไปรอบๆ ขณะที่ตือตรงไปที่แผงขายลูกชิ้นทอด
ร้านขนมเมืองจีนที่ว่าหมายถึงแผงขายขนมเล็กๆ พวกบ๊วย ขนมปังกรอบ และถั่วสารพัดชนิด ที่มีอยู่ในตลาดที่กิมอยู่เหมือนกัน เพียงแต่บ๊วยหวานที่ร้านนั้น รสชาติไม่ถูกปากของแนช
“เดินดูไปเรื่อยๆ เหอะ คนเยอะสนุกดี” กิมทำเหมือนกำลังหลอกเด็ก
“มันสนุกตรงไหนวะ ขนาดจะคุยกันยังต้องตะโกนคุยกันแบบนี้น่ะ” แนชหน้าตึง
“น่านะ เดินวนๆ สักรอบ กินน้ำแข็งปั่น ขนมสายไหมเป็นเพื่อนกูก่อน ไม่ต้องไปที่หน้าเวทีนั่นก็ได้” กิมชี้ไปที่หน้าเวที
วงดนตรีลูกทุ่งของโรงเรียน แต่ที่หน้าเวทีคือ เหล่าศิษย์ปัจจุบันและศิษย์เก่าทั้งที่แยกย้ายไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยและที่แยกไปทำงานแล้วก็มี
ไม่รู้ว่ารุ่นไหนเป็นรุ่นไหน
แต่ดูไปดูมา น่าจะมีคนที่ไม่ได้เรียนที่โรงเรียนนี้อยู่ไม่น้อย
“ไปตรงนั้นก็เท่ากับเอาหัวไปรับไม้ใครสักคนน่ะสิ” แนชบ่นต่อ “มีงานทุกปี ตีกันทุกปีไม่รู้ว่าจะจัดทำห่าอะไร อยากได้เงินก็แค่เรียกประชุมผู้ปกครองก็จบแล้ว”
กิมทำหน้าตาแปลกใจหันมามองเพื่อนตัวเล็ก “มึงนี่ขี้บ่นอย่างกะผู้หญิง”

ได้น้ำแข็งใสราดน้ำแดงกับนมข้นหวานคนละถ้วยก็พากันเดินเที่ยว แนชก็บ่นอีก
“ทำอย่างกับเวลาอยู่ตลาดแล้วมึงไม่ได้กิน”
“กิน” กิมตอบอย่างอารมณ์ดี “แต่สถานที่มันไม่เหมือนกัน”
2 หนุ่มเพื่อนรักเดินดูงานไปเรื่อย จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่ซุ้มปาลูกโป่ง
สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของลูกค้าอาจเป็นการแต่งกายของสาวประจำซุ้มหลายคนที่แจกยิ้มหวานเรียกลูกค้า เพราะแต่งตัวล่อแหลมจนอะไรต่อมิอะไรใกล้จะล้นออกมา
กิมอาจสะดุดตาที่แสงสีเสียง แต่ที่สะดุดตาแนชคือสาวสวยจัดผมยาวสยาย ที่ส่งยิ้มหวานทักทาย ยิ่งมายืนอยู่ใกล้ ต่อให้มีโต๊ะขวางอยู่ ก็ยังรู้สาวสวยคนนี้ตัวสูงไล่เลี่ยกับกิม
และแม้จะแต่งหน้าจัด แต่สิ่งที่ปิดบังไม่ได้คือจมูกสวย กับฟันเรียงขาวสะอาด
หญิงสาวไม่ได้พูดอะไร แค่ยิ้มหวานขณะที่ส่งตะกร้าใส่ลูกดอก 5 ลูกให้ รอบแรกผ่านไปโดยที่กิมเสียเงินไปเปล่าๆ 50 บาท
แนชส่ายหน้า “กูว่ามึงขอซื้อเขาเลยดีกว่ามั้ย”
“เฮ้ย มันไม่เหมือนกัน” กิมเถียงยกมือเรียกให้สาวสวยส่งตะกร้าลูกดอกมาให้ใหม่
คราวนี้ได้แค่ยาสระผมขวดเล็กๆ มาขวดเดียว
“อนาถแท้ 100 นึงได้ของ 10 บาท” แนชแซว
“มาเล่นเองเลยสิ แล้วมึงจะรู้ว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด”
แนชหันไปมองแผงที่วางตุ๊กตารางวัล “กันดั้มตัวนั้นเท่าไหร่ครับ”
“เฮ้ยไม่ได้ๆ” กิมรีบท้วง “มึงต้องปาลูกดอกเอามาสิ”
แต่แนชยังคงหันไปถามสาวสวยประจำซุ้มที่พยักหน้า แล้วเดินไปเรียกหญิงสาววัย 30 เศษ ท่าทางน่าจะเป็นเจ้าของซุ้มตัวจริงให้มาหาแนช บอกราคาแล้วก็หยิบของมาให้
“ง่ายกว่า และชัวร์ว่าได้ของ” แนชบอกยืดๆ
กิมประชด “ภูมิมากนะมึง”
แนชหันไปส่งยิ้มให้กับพนักงานคนสวยอีกครั้ง แล้วหันมาชวนกิม “ไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือกับกูก่อนกลับเหอะ”
“อ้าว แล้วไม่ดูบ๊วยหวานหรือไง”
“บ๊วยหวานที่ไหนมี” แนชบอกขณะที่เหลียวมองไปรอบๆ
นั่นสิ นี่มันงานวัด มองก็รู้แล้วว่าหาซื้อของแบบนี้ไม่ได้

กำลังคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวชามที่ 2 ใส่ปาก ถุงบ๊วยหวานก็มาวางอยู่ข้างหน้า ทำให้ 2 หนุ่มตาค้างเงยหน้าขึ้นมองคนที่เอามาวางให้ พร้อมกับรอยยิ้ม แล้วก็ทำท่าว่าจะเดินหนีไปทันที
“เดี๋ยวครับเดี๋ยว” แนชคว้าข้อมือไว้ ขณะที่อีกมือหยิบกระเป๋าสตางค์
....เออ ข้อมือใหญ่กว่ากูอีกนะเนี่ย...
“ขอบคุณที่ซื้อให้ แต่ว่าเท่าไหร่ครับ”
สาวสวยส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มหวานอีกครั้ง
“งั้น....” แนชปล่อยมือเพื่อที่จะเปิดกระเป๋าหยิบเงิน แต่หญิงสาวก็ก้าวขาทันทีเหมือนกัน
กิมรีบบอก “เก็บตังค์มันเถอะ เงินเดือนมันเยอะ เดี๋ยวเงินบูด”
แนชรีบส่งเงินให้ 500 บาทแต่หญิงสาวไม่ยอมรับ
“เอาไปเถอะครับ คุณทำงานอยู่ แล้วต้องไปหาซื้อมาให้ผม”
เร็วเกินกว่าจะตั้งตัว หญิงสาวก้มลงจูบแก้มแล้วเดินหนีไปทันที
“อั้ยย่ะ” กิมร้องแซวเพี้ยนๆ ท่ามกลางรอยยิ้มของลูกค้าในร้านก๋วยเตี๋ยวคนอื่น 
ส่วนแนชดูอึ้งๆ แต่หน้าแดงไปถึงหู นั่งลงกินก๋วยเตี๋ยวต่อ
พอกินเสร็จเดินกลับมาที่รถมอเตอร์ไซค์ของกิม ไอ้ตี๋ร้านข้าวสารก็ถาม กึ่งแซว
“อยู่มาตั้งนาน โดนหญิงจีบจนได้เหอะมึง”
แนชมองถุงบ๊วยในมือ
...ว่าที่จริงเขาก็สวยมาก ยิ้มหวาน ท่าทางเอาใจใส่ ขนาดได้ยินแว่วๆ ยังไปหาซื้อมาให้...
...ว่าแต่....
“มึงเห็นร้านขายบ๊วยในงานนี้หรือเปล่า”
“ไม่เห็น” กิมตอบ “กูเห็นมึงก็ต้องเห็นสิ”
...มองแล้วมองอีกจนตาจะหลุดยังไม่เห็นมี...
“แสดงว่าเขาต้องออกไปซื้อข้างนอกน่ะสิ” แนชสงสัย “แต่กลับมาเร็วมากเลย”
ประเด็นนี้กิมส่ายหน้า “ใช้มอ’ไซค์นี่ไง” แล้วหนุ่มตี๋ก็ตั้งข้อสังเกตต่อ “แต่ไม่ได้ไปแถวตลาดกูแน่ๆ เพราะที่นั่นไม่มีบ๊วยแบบที่มึงชอบแบบนี้”
แนชก้มมองถุงบ๊วยในมืออีกครั้ง
“เฮ้ย กูลืมกันดั้มไว้ที่ไหนวะเนี่ย”
“ร้านก๋วยเตี๋ยวหรือเปล่าวะ” กิมช่วยนึก
แนชพยักหน้าบอกเพื่อนให้รออยู่ที่รถ แล้วรีบวิ่งกลับเข้าไปในงาน

บอกกันตามตรงเลยว่า ทั้งที่รีบ แต่แนชก็ยังวิ่งผ่านไปที่ซุ้มปาลูกโป่ง ทำเป็นมองผ่านสาวสวยคนนั้น สบตากันเพียงแวบเดียวก็พาลหน้าแดง แนชวิ่งต่อไปถึงร้านก๋วยเตี๋ยว ถามหาตุ๊กตากันดั้ม
ไม่ได้ประหลาดใจสักเท่าไหร่ที่คนในร้านบอกว่าไม่เห็น มองซ้ายมองขวาแล้วเดินกลับมาทางเดิม ทั้งที่มาถึงตอนนี้แน่ใจแล้วว่า ลืมอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวนั่นแหละ
ท่ามกลางเสียงดังรอบตัว ยังมีเสียงร้องตะโกนบอกให้หลบที่ดังแทรกขึ้นมา
แนชหันไปมองยังไม่ทันรู้ว่าให้หลบใคร อะไร ยังไง มือแข็งแรงก็คว้าที่ต้นแขนลากไปซุกอยู่หลังแผงหนังสือเก่า
เสียงฝีเท้าหนักๆ กับเสียงร้องด่าผ่านไป ขณะที่แนชจ้องมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
“อ้าว...”
“หาอะไร” เสียงถามเบามาก ทั้งแหบจนแทบจับคำไม่ได้
“หาตุ๊กตาที่ซื้อจากร้านน่ะ ผมทำหาย”
สาวสวยตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างหน้ายิ้มขำ ไม่รู้ว่าขำที่ทำตุ๊กตาหาย หรือขำอะไร แต่กลับจับมือพาเดินกลับมาที่ซุ้มปาลูกโป่งอีกรอบ
พอมาถึงก็ชี้ไปที่แผงตุ๊กตาที่ยังมีเหลืออีกไม่ถึง 10 ตัว
แนชทำหน้าเบ้ กึ่งแหย
...มีแต่ตุ๊กตาเด็กผู้หญิง กระโปรงฟูฟ่องแบบนั้น ใครจะกล้าถือ...   
สาวสวยยักไหล่ หยิบตะกร้าลูกดอกมาปาเอง เข้าเป้าแถวที่อยู่ไกลหมดทั้ง 5 ดอก ได้ตุ๊กตากระโปรงฟูตัวใหญ่ที่สุดของร้านมาส่งให้
“ไม่เอาได้มั้ย ไม่กล้าถือ”
แนชบอกตามตรง แต่ไอ้จะทำฟอร์มพระเอกส่งให้เด็กผู้หญิงที่ยืนยิ้มอยู่ใกล้ๆ ก็ไม่แน่ใจ เพราะไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรที่ทำให้ได้ตุ๊กตากระโปรงฟูตัวนี้สักนิด
“เอาให้เด็กละกัน”
เปล่าไม่ได้ให้เอง ชี้บอกให้สาวสวยคนนั้นแหละเอาให้เด็ก
...เรื่องใช้คนอื่นทำให้น่ะ งานถนัด..
“ขอบคุณนะ แต่ผมต้องกลับแล้ว ลืมไปเลยว่าเพื่อนรอไปร้านหมูจุ่ม”
แนชเก้อไม่เลิก เพราะการที่เหมือนกำลังพูดอยู่เดียว อีกคนน่ะ ได้แต่สิ่งยิ้มหวานให้

เดินกลับมาที่รถกิมกำลังยืนคุยอยู่กับเพื่อนอีกหลายคน ดูหน้าแล้วจำได้ว่าอยู่รุ่นเดียวกันแต่คนละห้อง
แค่นั้นก็พอที่จะคุยกันได้อย่างเมามัน จนกระทั่งแยกย้าย
ตอนที่ออกรถมาที่ร้านหมูจุ่ม กิมถึงได้ถาม “ตกลงไม่เจอจริงๆ ใช่มั้ย”
“เออ แต่กูว่าลืมไว้ที่ร้านก๋วยเตี๋ยว เพราะจำได้ว่า ตอนที่ลุกออกมาไม่ได้ถืออะไรออกมา”
“กูว่าแล้ว คนเยอะอย่างนี้พอเราลุกออกมา ไม่คนที่นั่งต่อจากเรา ก็เด็กในร้านนั่นแหละที่เก็บไว้เอง”

“กูรู้สึกว่าวันนี้กูดูโง่ๆ ว่ะ” แนชหันมาบ่นตัวเอง
กิมหัวเราะหึหึ “เออ บ่นคนอื่นไม่พอ บ่นตัวเองแล้วเพื่อนกู”

หนุ่มตี๋ตัวหนาจอดรถที่หน้าร้านหมูกระทะของตือแล้วเดินเข้าไปในร้านอย่างคุ้นเคย
“ช้าว่ะ” เพื่อนที่มาถึงก่อนตะโกนแซวมาจากโต๊ะพิเศษ
โต๊ะพิเศษของจริง เพราะแยกออกมาอยู่ที่ลานดินข้างนอกร้าน ใกล้ครัวและค่อนไปหน้าบ้านเจ้าของ แม้บรรยากาศโดยรอบจะไม่สวยงาม เหมือนในร้าน แต่ก็ดูเป็นสัดส่วนเฉพาะ
พอมาถึงกิมก็ลงนั่งที่โต๊ะทันที ส่วนแนชพยักหน้าทักเพื่อนๆ ด้วยความคุ้นเคยเหมือนกัน แต่กลับเดินผ่านเพื่อนขึ้นไปบนบ้าน ไหว้พ่อกับแม่ของตือ พอหันมามองด้านหลัง เห็นเพื่อนอีกหลายคนที่กลับมาจากกรุงเทพเหมือนกัน ตามขึ้นมาไหว้พ่อกับแม่ด้วย
พอกลับลงมาก็พากันโวยวายเสียงดัง
“ห่า ไม่มีเตือนกูเลยนะ ถ้าไอ้แนชไม่ขึ้นบ้านไปไหว้พ่อกับแม่ กูก็ลืมเลยนะเนี่ย”
“อ้าว ก็พวกกูเจอพ่อกับแม่แทบจะทุกวัน กูก็ลืมน่ะสิ” กิมและกลุ่มเพื่อนที่ยังอยู่ที่บ้านเกิดเถียงกลับ ขณะที่กิมดึงมือแนชให้นั่งลงข้างๆ แล้วชี้ไปที่แก้วเหล้า
“มึงกินไปกี่แก้วแล้ว” แนชถามก่อนที่จะยกแก้วของตัวเอง
“ยังไม่ถึงแก้วเลย” กิมเถียง “มึงขึ้นไปแป๊บเดียวจะให้กูกินกี่แก้ว”
“ไม่ถึงแก้วจริงๆ” เพื่อนอีกคนช่วยยืนยัน “กิมแม่งเมาน้ำลาย”
แนชพยักหน้า ขณะที่ตั้งใจว่า จะดื่มแค่แก้วเดียว เพราะจะได้ขับรถกลับไปส่งกิมที่บ้านได้

ตือดูลูกค้าในร้าน คุมลูกน้องทำงานอีกครู่เดียวก็ออกมารวมกลุ่มกับเพื่อนที่โต๊ะพิเศษ จนกระทั่งมีเสียงล้อรถคันใหญ่บดพื้นกรวดเสียงดัง ทำให้แนชหันไปมอง คนขับที่ลงมาจากรถคือสาวสวยผมยาวคนนั้นที่ตอนนี้สวมเสื้อคลุมทับเสื้อตัวรัดติ้ว
หญิงสาวหันมาส่งยิ้มทักทายไปทั่วโต๊ะ แต่กลับพยักหน้าเรียกตือเข้าไปคุยในร้าน
ตือก็ลุกขึ้นทันที
“ไม่คิดว่าเขาเรียกมึงหรือแนช” กิมหันมาถามคนที่นั่งข้างๆ
“สัด ไอ้ตือลุกไปแล้วจะเรียกกูเรื่องอะไร”
“อ้าว....” กิมถึงกับงงที่อยู่ๆ ก็โดนพาล เลยหันไปจิ้มคอหมูย่างใส่ปาก
ครู่เดียวหญิงสาวคนนั้นก็เดินออกมาพร้อมกับตือ ในมือถือถาดอาหารหลายอย่าง
ตือกลับเป็นคนที่เก็บจานเปล่า ส่วนหญิงสาวที่ตอนนี้กลายไปเป็นเด็กเสิร์ฟ วางกับแกล้มลงบนโต๊ะ ชงเหล้าใส่แก้วที่พร่อง เสร็จแล้วก็ถอยไปยืนอยู่ใกล้ๆ เป็นท่าทีที่รู้ได้เอง ว่า เธอเสิร์ฟให้โต๊ะนี้โต๊ะเดียว
...แต่ว่า....
ขณะที่แก้วอื่นๆ รสชาติเข้มข้นในระดับสามล้อกรุงเทพฯ ยังหลบ
สำหรับแก้วของแนช หญิงสาวแค่เติมน้ำแข็งให้
คงเพราะแต่ละคนคือเพื่อนเก่าที่พอมาเจอกันก็มัวแต่คุยกันไม่หยุด มีแต่เจ้าของแก้วที่รู้ว่าเหล้าในแก้วยิ่งนานยิ่งจางลงไปเรื่อยๆ
เกือบเที่ยงคืนเหล้าแก้วนี้ก็กลายเป็นน้ำเปล่า
ตรงข้ามกับคนในโต๊ะที่มีสภาพเหมือนกำลังโดนมอมเหล้า
แนชลุกไปเข้าห้องน้ำ เดินออกมาเจอกับตือ ที่อยู่ในสภาพมึน ไม่ถึงกับเมา
“จะกลับหรือยัง”
“เออ จะเที่ยงคืนแล้ว”
“ทำไมมึงดูไม่ค่อยเมาเลยวะ คอแข็งขึ้นนี่หว่า” ตือแซว แต่แนชหัวเราะ แล้วส่งยิ้มเลยไปที่เด็กเสิร์ฟที่ยืนมองอยู่
เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ที่หญิงสาวคนนี้เดินเข้ามาในร้าน
การมองแบบไม่ยอมให้คลาดสายตาแบบนี้
ตอนที่เจอกันที่โรงเรียนมันทำให้รู้สึกดีอยู่หรอก
แต่พอมาถึงตอนนี้กลับทำให้รู้สึกเป็นกังวลมากกว่าคิดว่าควรจะฉวยโอกาสที่อีกฝ่ายยื่นให้

“กูไม่ได้คอแข็งขึ้นหรอกน่า” แนชบอกขณะที่เดินกลับมาเรียกกิมที่โต๊ะ “เฮ้ย เที่ยงคืนแล้วจะกลับหรือยัง”
เพื่อนฝูงโห่รอบโต๊ะ ที่หนุ่มตัวเล็กชวนคู่หูกลับบ้าน
“มึงเป็นนางซินหรือไง กลับเที่ยงคืนน่ะ” กิมหันมาเถียง เลยโดนแนชปาดไปที
“กูชวนกลับเที่ยงคืนก่อนที่จะไม่ได้กลับน่ะสิสัด ดูแต่ละคนสิ”
ตือเข้ามาโอบไหล่ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นเหล้าชัดเจน “ถ้าจะกลับกูจะให้คนไปส่ง ทิ้งพวกมันไว้นี่แหละ เดี๋ยวมันเมากูลากมันเข้าไปนอนในบ้านเอง เช้าค่อยกลับ”
“เดี๋ยวก็ได้” แนชบอกเพื่อน แต่สายตามองตามหญิงสาวคนนั้นที่เดินกลับไปที่รถ เปิดประตูแล้วหยิบตุ๊กตาออกมา
“อะไรวะ” ตือถามเมื่อมองตามสายตาของแนชไปที่รถคันใหญ่
“กูก็อยากรู้เหมือนกัน”
แนชผละจากเพื่อนเดินมาที่รถคันใหญ่ โดยที่ยังไม่ได้ลาใคร เพราะไม่คิดว่าจะกลับตอนนี้ แต่อาการอยากรู้มันกำเริบ จนเดินมาถึงรถ
แทนที่จะส่งตุ๊กตาให้ แต่กลับวางไว้ที่เบาะที่นั่งข้างคนขับ แล้วมือใหญ่ๆ ก็ดันหลังแนชให้ขึ้นรถ
คนขับเข้าประจำที่ในวินาทีถัดมา แล้วรถก็เคลื่อนออก
“เดี๋ยวนะ” แนชร้องบอก “ตุ๊กตานี่คุณเก็บไว้หรือ”
“เปล่า กลับไปเอาที่บ้านมาให้”
เสียงพูดแหบ และเบาก็จริง แต่คงเพราะไม่ได้เปิดเพลงทำให้มันชัดกว่าเดิม
แนชเลื่อนสายตาไปมองที่คอ และมือหนา
“เอ่อ...ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้รังเกียจ...คุณก็จริง เราคุยกัน เป็นเพื่อนกันได้ แต่ว่า.....”
คิ้วสวยเลิกขึ้นสูง ขณะที่รอยยิ้มกว้างทำให้แนชต้องใจอ่อน 
“ผมรู้สึกเหมือนกำลังถูกลักพาตัว”
รถคันใหญ่ตรงออกนอกเมือง จนแนชรีบชี้ “เลยแยกไปบ้านผมแล้ว ขอลงตรงนี้ก็ได้”
แต่คนขับส่ายหน้า “สแนชกำลังถูกลักพาตัวอยู่ไง”
เออ....น้องเต้ยคนนี้รู้จักกู รู้จักชื่อเต็มๆ ของกู แล้วกูรู้จักใครที่เป็นน้องเต้ยมั้ยวะ
นึกสิ นึกๆๆๆๆ มีไอ้ตุ่นห้อง 3 ที่ตอนเรียนมันเป็นน้องตู่ หรือตอนนี้มันพัฒนามาเป็นน้องเต้ย แต่ไอ้ตุ่นมันตัวสูงขนาดนี้เลยหรือวะ ดูจากโครงหน้าแล้วไม่น่าใช่
แล้วมีใครอีกวะ!!
รถออกมาจากตัวเมืองไม่มากนักก็ผ่านเข้าไปในย่านที่เป็นสวนผลไม้ จนถึงโฮมสเตย์
อาคารชั้นเดียวยกพื้นสูงติดถนนใหญ่ เป็นที่ตั้งของร้านค้าติดกับสำนักงานของโฮมสเตย์ ต้องเลี้ยวผ่านป้อมยามพบกับร้านอาหารที่ผนังด้านหนึ่งติดกับร้านค้ากับสำนักงาน
แต่ตอนนี้อาคารส่วนนี้ปิดทำการแล้ว เปิดเพียงไฟที่ระเบียงเชื่อมต่อทั้ง 3 ห้องนี้เท่านั้น
รถแล่นผ่านส่วนที่เป็นเรือนไม้หลังยาว แบ่งห้องพักแต่ละห้องเป็นสัดส่วนด้วยรั้วเตี้ย รถเลี้ยวไปตามถนนกรวดจอดที่หน้าบ้านพัก
ความเงียบที่ผิดปกติ ทำให้คนที่พามาสงสัย
“กลัวหรือ”
“เปล่า”
คนที่พามายิ้มกว้างเหมือนเดิมขณะที่บีบจมูกของแนชเบาๆ แล้วพาเข้าไปในบ้าน

...ทำไมกูถึงได้เป็นคนอยากรู้อะไรแล้วต้องรู้ให้ได้แบบนี้นะ...
...นอกจากพ่อกับแม่แล้วยังมีใครรู้ชื่อเต็มของกูอีกวะ....

คนที่พามาเหมือนรู้นิสัย เพราะพอเข้ามาก็ปล่อยมือ แล้วเดินขึ้นไปบนบ้าน ทิ้งแนชให้เดินดูนั่นมองนี่ เข้าห้องน้ำล้างหน้า แล้วออกมาเปิดโทรทัศน์
“อ้าวกู กินก๋วยเตี๋ยวลืมตุ๊กตา กินเหล้าลืมบ๊วย สมองเสื่อมอะไรของกูนักหนาวะเนี่ย”
แต่พอนึกไปนึกมา คิดว่าน่าจะผูกอยู่ที่หน้ารถมอเตอร์ไซค์ของกิม ไม่ได้เอาลงไปที่โต๊ะด้วย
“หายชัวร์”

(ยังมีต่ออีกครับ  :m17:)
หัวข้อ: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 02-07-2012 07:40:56
ได้ยินเสียงปิดประตู และเสียงฝีเท้าหนักๆ ลงบันไดมาแนชหันไปมอง
...ไม่ใช่สาวสวยคนนั้น!!!…ซวยสิกู!!…ผัวเค้าแน่ๆ
“เอ่อ ขอโทษครับ คือ...” แนชอึกอัก
ทันทีที่คนๆ นั้นคลี่ยิ้มกว้าง แนชกลับยิ่งตาโตมากกว่าเดิม
“เฮ้ย!”
“อะไร ตกใจขนาดนั้น”
เสียงพูดก็ไม่ได้แหบ ลูกกระเดือกชัดเจนจนแทบจะทิ่มลูกตา ผมสั้น คิ้วเข้ม
ที่เหมือนเดิมมีเพียงอย่างเดียว คือยิ้มกว้าง
แนชพยักหน้าหงึกหงัก รู้สึกตัวก็ตอนที่โดนกอดไว้แน่น
“เฮ้ยปล่อยๆ รู้จักกันหรือไง มากอดอะไร คนนะโว้ย ไม่ใช่ตุ๊กตา” แนชโวย
“จำไม่ได้จริงๆ หรือเนี่ย”
“ฮึ ไม่ได้” แนชส่ายหน้าเร็วๆ
“ก้าน” คนที่ยังไม่ยอมคลายแขนก้มลงบอก
“ก้านไหน” นึกไม่ออกจริงๆ ว่ามีเพื่อนชื่อก้าน
“ก้าน นักบอลโรงเรียน กองหลัง คนที่แนชเรียกไอ้กล้ามไง”
“......”

ถึงกับอับจนคำพูดกันเลยทีเดียว ไอ้กล้ามนั่น ตัวสูงขนาดนี้เลยหรือเนี่ย!!!!
นี่มันแทบไม่เหลือเค้าเดิมของไอ้นักบอลกองหลัง ตัวเหมือนตึก หัวเกรียนคนนั้นเลยสักนิด
เว้นแต่ที่มันตัวสูง ที่เห็นชัดตั้งแต่เห็นมันที่งานโรงเรียน 
ไม่ได้สนใจมันมากไปกว่ามันเป็นนักกีฬาโรงเรียน ก็บอกแล้วว่าแนชไม่ใช่เด็กกิจกรรม
กลับบ้านมากี่ครั้งกี่หนไม่เห็นจะเคยเจอกัน จนลืมหน้ากันไปแล้ว
แต่ว่า....

“เฮ้ย มึงเป็นน้องกู!”
“น้องแล้วไง ไม่เห็นแนชจะโตทันสักที”
ในความจริง ถึงเวลาเรียนหนังสือแนชจะเป็นรุ่นพี่ 1 ปีแต่ถ้าจะนับอายุกันตรงๆ ก็มากกว่ากันแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น
“โตไม่โต ก็ปล่อยกูสักทีเหอะ สัด หลอกกูว่าเป็นน้องเต้ยมาทำเป็นจะจีบกู กูก็เกรงใจ สัดเหอะ” แนชทั้งด่า ทั้งบ่น “กูก็เสือกอยากรู้ทำไมไม่รู้ ปล่อยเลย กูจะกลับบ้านละ.....”
คำที่ด่าๆ อยู่มันย้อนหายเข้าไปในคอเพราะริมฝีปากยิ้มสวยนั่นประกบปิดถูกเหลี่ยมถูกมุมอย่างถนัดถนี่ จะเบี่ยงหนีก็มีมือใหญ่ดันด้านหลังคอไว้
...ตอนนี้ไม่ได้อยากรู้อะไรแล้ว แต่หนีไม่ได้
ทำได้แต่ทำตาเหลือก แล้วก็กลายเป็นหลับตาแน่น ส่งเสียงอู้อี้ท้วงจากในคอ หมัดที่ทั้งทุบทั้งผลักไม่เห็นว่าก้านจะรู้สึกอะไร แถมยังแทรกลิ้นเข้ามาบดปลายลิ้นแล้วม้วนดูดเบาๆ พอริมฝีปากละออก แนชถึงกับต้องหายใจเข้าลึกๆ เบี่ยงหน้าหนีริมฝีปากที่ตามมาจูบแก้ม
“สัด เหนื่อย”
บ่นว่าเหนื่อยอีกฝ่ายก็ช้อนขาอุ้มทันที
“เฮ้ย ปล่อยกูลง กูไม่ใช่ผู้หญิงนะ มาอุ้มแบบนี้น่ะ  สัด ฟังกูมั่งเหอะ เหี้ยเอ้ย”
“ก็แนชบอกว่าเหนื่อย”
“เหนื่อยก็ปล่อย กูเดินไปนั่งเองได้”
“ดึกมากแล้ว อาบน้ำนอนเลยก็ได้”
จริงๆ นะไอ้รอยยิ้มกว้างแบบนี้มันไม่ให้ความรู้สึกว่าประสงค์ร้ายหรือมีเจตนาแอบแฝงอยู่
ถ้าไม่ติดที่ว่าวันนี้โดนหอม โดนกอด โดนจูบไปแล้วเนี่ย แนชคงเดินขึ้นไปอาบน้ำนอน เหมือนเวลาไปค้างที่บ้านเพื่อนคนอื่นแล้ว
“กูจะกลับไปนอนบ้านกู”
“มันจะตีหนึ่งแล้วนะ”
“เออ รู้แล้ว ดูนาฬิกาเป็น แต่กูไม่ไว้ใจมึง”
“กลัวผมปล้ำหรือไง”
“เออ”
ในเมื่อมันกล้าพูดตรงๆ แนชก็ยอมรับตรงๆ เลยเหมือนกัน
ผลของการยอมรับตรงๆ ก็คือการโดนกอดอีกรอบ ดีที่ยังเอามือยันคางที่ยื่นมาหาไว้ได้ทัน
“ก็ผมดีใจ ไม่ได้เจอแนชตั้งนาน เวลาที่แนชกลับบ้านมาก่อนหน้านี้ก็คิดว่าจะเข้าไปทัก แต่ก็ไม่ได้ทักสักที พอคราวนี้ได้อยู่ใกล้ๆ ก็เลยเก็บอาการไม่ค่อยอยู่”
“เยอะว่ะ”
“อะไรเยอะ”
“อาการมึงน่ะเยอะ กูไม่ใช่เซเลปจะทักก็ทัก จะคุยก็คุย มึงเป็นน้องกู แล้วมันเกี่ยวอะไรกับไอ้กอดๆ จูบๆ เนี่ย”
“อยากกอดมาตั้งแต่ที่เห็นว่าเดินมากับพี่กิมแล้ว”
“เออดี ทีไอ้ห่ากิมเรียกพี่ ทีกูเรียกชื่อ” ไม่อยากประชด แต่มันอดไม่ได้
“ก็ไม่อยากเรียกพี่”
“เออ ไม่เรียกก็ช่างมึงเหอะ ปล่อยกูได้แล้ว กูหายใจไม่ออก สัดรัดซะแน่นอย่างกับงูยักษ์”
คนยิ้มสวยยิ้มกว้างอวดฟันขาว จนแนชต้องหันไปทางอื่น
“สัด รู้ว่ากูแพ้ยิ้มแบบนี้ก็ยิ้มอยู่ได้”
“ผมดีใจมากที่เจอแนชอีก ตั้งแต่รู้ว่าแนชต้องมาเรียนกรุงเทพฯ ผมก็พยายามที่จะสอบให้ได้เหมือนแนช แต่กลับไปได้มหาวิทยาลัยทางใต้ เรียนจบกลับมาบ้านก็ไม่ได้เจอกันเลย บางทีมีคนบอกว่าเห็นแนชกลับมาบ้าน ผมก็กลับงานยุ่งไปหาไม่ได้ ผมรักแนช”

พูดๆ ไปแล้วมันไปลงที่ประโยคนั้นได้อย่างไรไม่รู้
รู้แต่ว่าหัวใจเต้นแรงผิดปกติ แต่ท่าทางที่แสดงออกมันกลับอึ้งๆ แปลกๆ จนคนสารภาพรักไม่แน่ใจ
“หรือว่า....”
“เราเพิ่งเจอกัน”
“ไม่ใช่สักหน่อย”
แนชคล้ายรู้สึกเหนื่อยใจ ไอ้หมอนี่ทำไมมันดูมึนๆ ดื้อๆ ไงไม่รู้
“งั้นก่อนที่มึงจะบอกว่ารักกู มึงควรถามกูก่อนว่ากูมีแฟนหรือยัง  กูเป็นเกย์หรือเปล่า แล้วกูก็ควรรู้ด้วยว่า มึงมีเมียมีลูกแล้วหรือยัง”
“ผมไม่มีใคร ไม่สนใจด้วยว่าแนชเป็นเกย์หรือเปล่า เพราะตั้งแต่ผมเห็นแนชครั้งแรก ผมก็ชอบ ชอบดวงตาดื้อๆ แบบนี้ ชอบฟังเวลาที่แนชพูด ชอบเวลาที่แนชนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องสมุด ชอบเวลาที่ต่อให้เรียนพละวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนสุดท้าย ก็ยังไม่ยอมแพ้ ผมชอบทุกอย่างที่เป็นแนช ต่อให้ไปเรียนไกลขนาดไหน ผมก็ยังหยุดเวลาอยู่ที่วันเก่าๆ ที่ผมกลับมาบ้านแทนที่จะทำงานต่อที่ใต้ ก็เพราะคิดว่าจะได้เจอกันเวลาที่แนชกลับมาบ้าน ยิ่งนับวันใจผมก็ไม่เหลือที่ไว้ให้ใคร ตาของผมไม่เคยมองใคร หูของผมไม่เคยฟังเสียงใคร”

สารภาพกันตามตรงว่า คำพูดแบบนี้เวลาที่ได้ยินในละครมันเลี่ยน แต่เวลาที่มีคนมาพูดอยู่ข้างหน้า แล้วเขาก็ไม่ได้ใส่ลีลาอะไรสักนิด แค่พูดยิ้มๆ คำต่อคำประโยคต่อประโยคมันกลับ...ดี...
“มึงเป็นน้องเต้ยหรือเปล่า”
คนตัวโตขำเบาๆ “เปล่า”
“แล้วแต่งตัวอย่างนั้นทำไม”
“ก็แต่งกันตั้งหลายคน สนุกดี เพื่อนๆ ก็ขำกัน เห็นแนชมองๆ อยู่คิดว่ารู้เสียอีก”
“รู้...ก็ยังเกรงใจอยู่ จะปฏิเสธก็เดี๋ยวจะหาว่ารังเกียจกัน”
ก้านก้มลงหอมแก้มทันที “แนชน่ารักจริงๆ”
“เฮ้ย กูแก่กว่ามึงนะ มาบอกว่ากูน่ารักได้ไง”
“ก็น่ารักจริงๆ นี่ ผมไม่เคยเห็นใครน่ารักกว่าแนช แล้วก็ไม่เคยทำอย่างนี้กับใครด้วย”
“สัดเหอะ จูบแบบนี้ นัวเนียขนาดนี้บอกว่าไม่เคยทำกับใคร”
แนชก้มหน้าบ่นกับมือตัวเองที่ไม่รู้ว่ามันเลื่อนลงมาเกาะอยู่ที่ไหล่กว้างนั่นตั้งแต่เมื่อไหร่
“เคย แต่ทุกครั้งผมมักรู้สึกเหมือนกำลังเป็นชู้กับคนอื่น ผมกำลังทำไม่ดีกับแนช”
“เยอะตลอด”
แนชบ่นแล้วเงียบ
“แนช”
“มึง...ช้าลงอีกนิดเหอะ กูเพิ่งเจอมึงวันนี้เองนะ”
“แนชรังเกียจผมหรือ”
“ก็...กู....” หนุ่มตัวเล็กอึกอัก จนหัวใจของอีกคนหล่นวูบ
“แนช พรุ่งนี้ผมไปส่ง คืนนี้ค้างนี่ก่อนเถอะนะ รับรองว่าผมไม่ทำอะไร”

แขนแข็งแรงคลายออกกลายเป็นจับมือพาเดินขึ้นไปที่ห้องนอนข้างบน

“อาบน้ำเถอะ ผมจะหาเสื้อกับกางเกงให้เปลี่ยน”
ก้านดันหลังแนชให้เข้าไปในห้องน้ำ ขณะที่ตัวเองยืนมองประตูที่ปิดลง
หัวใจมันเบาโหวงเหวง
ความสุขในหัวใจเหมือนฟองสบู่ ที่แตกสลายไปในอากาศ เมื่อพูดคำเหล่านั้นจบลง
คำพูดที่ใช้เวลาเรียบเรียงมานานนับปี ความทรงจำมากมายของคนแอบมอง
คนที่เป็นคนเก่งในสายตาของคนอื่น แต่ไม่มีความหมายอะไรเลยในสายตาของคนๆ นี้
“ผมขอโทษ ถ้าทำให้แนชลำบากใจ แนชไม่ต้องบอกว่ามีใครหรือยัง เพราะผมรู้คำตอบแล้ว ผมขอแค่นี้ ขอแค่รักจะได้มั้ย”
 
หนุ่มตัวผอมผิวขาวเกือบซีดตื่นนอนทีหลังเจ้าของบ้าน เพราะกิมโทรศัพท์มาตาม
“ห่า ไอ้ตือบอกว่าให้เด็กมาส่งมึงที่บ้าน เช้านี้แม่กูให้เอาของมาให้แม่มึง พอมาถึงแม่มึงบอกว่ามึงไม่ได้กลับ ยังคิดว่ามึงนอนบ้านกูเลยห่า ไปค้างที่ไหนไม่บอก”
“กูอยู่บ้านไอ้ก้าน” แนชบอกแล้วลุกขึ้นนั่งมองไปรอบห้องนอนกว้างที่ไม่รู้เจ้าของห้องไปไหนแล้ว
“ก้านไหน ก้านรีสอร์ทน่ะหรือ”
“งั้นมั้ง มันบอกว่ามันเคยเป็นนักบอลน่ะ”
“เออ นั่นแหละ ก้านเดียวกัน แสดงว่าคุยกันแล้วสิ”
“แปลว่าอะไร มึงรู้แต่แรกแล้วหรือ”
“ชิบเหี้ย” กิมร้อง แต่ก่อนพอจะกดวางสาย แนชก็รีบด่าก่อน
“สัดเหอะ ถ้ามึงกดสายหนี กูจะไปยืนด่ามึงที่หน้าร้าน”
หน้าร้านมันก็ในตลาด ด่าในตลาดมันไม่คุ้มกับการประกอบกิจการเลยสักนิด
“เอ้า งั้นมึงด่ามาเลย” กิมพูดเหมือนใจกว้าง
“มึงรู้ตั้งแต่แรกใช่มั้ย ว่าน้องเต้ยนั่นคือไอ้ก้าน”
“เออ ไอ้ตือก็รู้” กิมรีบโยนให้เพื่อนเจ้าของร้านหมูกระทะ “ก็ร้านปาเป้าปาลูกโป่งนั่นพี่สาวมันประมูลไว้ ตอนเห็นมันกูยังขำๆ ว่ามันนึกอะไรขึ้นมาถึงมาแต่งตัวเป็นน้องเต้ย แต่ไม่ได้แซวอะไร เพราะตอนนั้นกำลังอยากเล่นเกมมากกว่า”
“กูจำมันไม่ได้”
“จ๊าดกะปอม”
“กะปอมห่า ตอนนี้กูนอนอยู่บ้านมัน แล้วมันไปไหนไม่รู้แล้ว”
“เออ มันทำอะไรหลายอย่าง มึงนอนบ้านมันใช่มั้ย ที่ไหน ร้านก่อสร้าง ที่โฮมสเตย์นอกเมืองหรือรีสอร์ทชายหาด เดี๋ยวกูบอกแม่มึงให้ บ่ายๆ ค่อยกลับกรุงเทพฯ” กิมพูดเสร็จแล้วหันไปร้องบอกแม่ของแนชจริงๆ
นี่แสดงว่าโทรจากหน้าบ้านกูเลยสิเนี่ย
“โฮมสเตย์” แนชบอกทั้งที่กิมยังคุยกับแม่
แม่ก็แสนดี พอรู้ว่าลูกยังมีลมหายใจอยู่ก็บอกแค่ อย่ากลับมาเย็นนัก เพราะต้องขับรถกลับกรุงเทพฯ อีก เดี๋ยวจะถึงมืดค่ำ
ลุกมาอาบน้ำเปลี่ยนใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นที่เจ้าของบ้านเขาวางไว้ให้ เดินลงมาข้างล่าง มีข้าวต้มวางอยู่ พร้อมกับแผ่นโน้ตบอกว่า จะออกไปข้างนอกสักครู่ให้อุ่นไมโครเวฟกินไปก่อน แล้วจะกลับมารับ
แต่ยังไม่ทันจะยกถ้วยข้ามต้มไปอุ่น ชายวัยทำงาน ก็เคาะประตูบ้านแล้ว เปิดประตูเข้ามาถามท่าทางเกรงใจ
“คุณครับ รบกวนคุยกับแขกญี่ปุ่นให้หน่อยได้มั้ยครับ ผมไม่รู้ว่าแกจะกินอะไรกันแน่ ทำไม่ถูก”
แนชพยักหน้าเร็วๆ เดินตามคนงานไปที่ห้องพักของแขก ทำหน้าที่ล่ามให้ แล้วบอกขอโทษอีกครั้ง
แต่แขกยังชวนคุยต่อ
จนกระทั่งรถคันใหญ่เลี้ยวเข้ามาในเขตที่พัก คนที่ลงมาจากรถยิ้มแย้มเหมือนเคย
“ตื่นแล้วหรือ”
“ฮื่อ” แนชพยักหน้ารับ ถ้าไม่ได้อยู่ต่อหน้าแขก คิดว่ามารยาทจะแย่กว่านี้
พออาหารยกมาก้านก็ขอตัว เดินนำกลับมาที่บ้านพัก
“วันนี้กูจะกลับกรุงเทพฯ” คนที่เดินตามหลังมาพูดขึ้น
คนที่หันมามองมีแววตาของความผิดหวัง “กลับเร็วจริง”
“ก็กูต้องทำงาน”
พอเดินเข้ามาในบ้านเจ้าของบ้านก็เปลี่ยนเรื่องชวนคุย จากเรื่องนั้นไปเรื่องนี้ ระหว่างที่อุ่นข้าวต้มให้
“วันอาทิตย์เนี่ยรีสอร์ทจะยุ่งมากไม่ใช่หรือไง”
“ใช่ แต่เขาก็มีคนทำงานของเขา ส่วนใหญ่ผมจะไปตามเก็บของซ่อมตอนที่ลูกค้าเช็กออกไปแล้ว”
“แล้วมึงก็ทำร้านก่อสร้างด้วย”
“ก็ทำต่อจากพ่อน่ะ”
แนชก้มหน้าพูดกับข้าวต้มข้างหน้า “งานเยอะนะมึงเนี่ย”
พอกินอิ่ม มีโทรศัพท์ของก้านเรียกเข้ามา
คนตัวสูงรับสายแล้วหันมาถาม “ไปรีสอร์ทมั้ย ผมต้องไปดูเครื่องปั๊มน้ำน่ะ”
แนชยังคงพยักหน้าเหมือนไม่ค่อยเต็มใจเหมือนเคย “นี่มึงจบวิศวะ หรือสารพัดช่างกันแน่วะเนี่ย”
พอคนตัวโตทำท่าเลิกคิ้ว ยังไม่ทันจะถาม แนชก็ชี้ไปที่รูปถ่ายข้างฝา
“กูไม่ได้วุ่นวายกับของๆ มึงนะ กูแค่อ่านหนังสือออก”

พอมาถึงรีสอร์ท ก้านก็พาแนชไปทำความรู้จักกับพี่กอบกุลหรือพี่กอบ กับพี่กรองกาญจน์ หรือพี่กาญจน์
พี่กาญจน์น่ะเคยเจอกันแล้วตอนงานโรงเรียน พอแนะนำเสร็จก้านก็รีบไปทำงาน มีแนชตามไปเป็นลูกมือ เสร็จแล้วก็ได้เวลาอาหารมื้อบ่าย
“แย่จริง แทนที่ผมจะได้พาแนชไปเที่ยว กลับต้องวิ่งทำงานตลอด”
ก้านบ่น
“เที่ยวอะไร ก็นี่มันบ้านเราเอง เที่ยวเล่นมาตั้งแต่เด็ก”
“พูดอย่างกับว่าเคยไปที่อื่นนอกจากบ้านกับโรงเรียน” ก้านหันมาแซว
“เหอะ ยังมีที่โรงเรียนพาไปทัศนศึกษากับค่ายลูกเสือด้วยโว้ย”
2 คนยิ้มให้กันหัวเราะให้กันจนกระทั่งก้านจอดรถปิคอัพคันใหญ่ที่หน้าบ้านของแนช
“ผมลงไปสวัสดีพ่อกับแม่ได้มั้ย”
“ทำไมจะไม่ได้”
แนชบอกแล้วเปิดประตูรถลงไปทันที ไม่กล้าสบตาคู่นั้น
เพราะยิ่งนานมันยิ่งทำให้ใจสั่นมากขึ้นเรื่อยๆ
...บ้าชะมัดว่ะกูเนี่ย ไปแพ้ทางยิ้มของไอ้หมอนี่ได้ยังไงวะ...

   บ่ายจัด ได้เวลาที่แนชต้องกลับกรุงเทพฯ ก้านแค่พยักหน้ารับทราบ หนุ่มตัวเล็กกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า  แล้วก็ลาพ่อกับแม่กลับออกมาพร้อมกัน
รถคันเล็กแล่นนำรถปิคอัพคันใหญ่ออกมาได้พักใหญ่ ก็จอดที่ข้างทาง
คนขับรถทั้ง 2 คันต่างก็เปิดประตูรถลงมา
“ส่งแค่นี้ก็พอ”
“งั้นผมขอโทรหาแนชได้มั้ย”
“ฮื่อ”
“แนช”
หนุ่มตัวเล็กเงยหน้าขึ้น เหมือนจะสบตาคู่นั้น แต่กลับรู้สึกแปลกๆ จนต้องหันไปมองทางอื่น
“แนช”
“อะไร”
“ขับรถดีๆ ดูแลตัวเองด้วยนะ”
“อือ มึงก็เหมือนกัน”

======== จบตอนที่ 1=======

เขียนตอนแรกมันมีความยาว 5 หน้าตามอัตราปกติ แต่หลังจากที่ส่งกลับไปกลับมา มันกลับยาวถึง 11 หน้าแต่ก็ไม่อยากแบ่งตอนย่อย หวังว่าจะไม่รบกวนเวลาของคุณมากเกิินไป
ระยองอีกแล้ว แต่ผมไม่ได้่อยู่ระยองนะ ทุกอย่างในเรื่องนี้สมมุติขึ้นทั้งหมด ทั้งอาชีพ และที่อยู่อาศัย
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่าน  และขอบคุณอย่างที่สุดหากคุณจะสละเวลาแสดงความเห็น
ขอบคุณครับ พบกันวันพุธนะครับ

ไจฟ์กับที


หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 02-07-2012 07:45:06
 เรื่องใหม่ ดีใจจัง :L2:
เปิดตัวคู่เอกสแนชกับก้านหวังว่าจะเดาไม่ผิดนะ
ชอบมิตรภาพผองเพื่อนที่ไจฟ์ทีบรรยายจัง
แต่จะบอกว่าผู้หญิงไม่ได้บ่นเก่งทุกคนนะจ๊ะ
มายาวๆสิดีอ่านอิ่มจุใจไม่ต้องทานอาหารเช้า
สแนชน่าจะทำใจบางส่วนหล่นไว้ที่ระยองแล้วล่ะ
ว่าแต่น้องก้านค่อยๆเก็บมาต่อแบบจิ๊กซอว์ละกัน
คนอ่านเอาใจช่วยลุ้นจ้ะ :m3:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: jeeu ที่ 02-07-2012 07:47:14
+ต้อนรับเรื่องใหม่
ก้านเป็นใครน้อ ดูลึกลับดีจริงๆ
เรื่องน่าติดตามมาก
กอดดดด เป็นกำลังใจให้นะคะ
ดีใจจังที่เราแวะเข้าเล้าตอนเช้าๆ เจอพี่ไจฟ์กับน้องทีด้วย
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 02-07-2012 08:00:02
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 02-07-2012 08:07:39
ขออนุญาตจิ้มมมม อย่างเร็วไวเลยค่า เดี๋ยวมาเม้นต์เน้อ

+++++++++

พี่แสนช ชื่อแหวกได้อีกอ่ะ

ตอนแรกก็ท่าจะมันแล้วนะคะเนี่ย น้องก้านรุกคุณพี่อย่างเร็วไวเลย ก็แอบชอบแอบมองมาตั้งนานแล้วนี่เนาะ

เอาใจช่วยน้องก้านที่น่ารักจ้า

บวกๆต้อนรับไจฟ์ที :กอด1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 02-07-2012 08:10:52
เย้ๆๆ เรื่องใหม่

ว่าแต่อยู่ไกลกันอย่างนี้ จะเจอกันบ่อยได้แค่ไหนหนอ?
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginseng ที่ 02-07-2012 08:14:43
เห็นชื่อผู้แต่งก็ต้องตามเข้ามาทันที
เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: skynotebook ที่ 02-07-2012 08:19:47
สิ้นสุดการนับถอยหลังเรื่องใหม่  :mc4:

*****************************
เริ่มเรื่องเป็นการรอคอยของรุ่นน้องที่เฝ้ารุ่นพี่หรือเนี่ย
แล้วทำไมก้านต้องแต่สาวด้วยอะ แบบนี้จะไม่ทำให้แนชสับสนหรอค่ะ
(คนอ่านสับสนเองมากกว่า :laugh:)
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: a-o-pai ที่ 02-07-2012 08:21:48
เรื่องใหม่ๆๆๆ

เป็นกำลังใจนะครับ

อิอิอิอิ

หนุกๆๆ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 02-07-2012 08:23:29
จองที่ก่อนอ่าน  เดี๋ยวกลับมาเมนท์ค่ะ

....  เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องแรกนะที่พระเอกอายุน้อยกว่าของ Jivetea
ก้านน่ารักอ่ะ  แต่พอนึกถึงผู้ชายตัวใหญ่ ๆ กล้ามเยอะ ๆ แต่งหญิงแล้วสยองเหมือนกันว่ะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Yukisae ที่ 02-07-2012 09:01:10
เรื่องใหม่มาแล้วววววว  :impress2:
พระเอกชัดเจนมาก 555 แล้วแต่งสาวทำไม
เรื่องนี้ดูอิมเมจตัวเอกต่างจากเดิมนะ ทั้ง2คนเป็นคนทำงานแล้ว
รอดูความซึนของนายแนช
++จ้า
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 02-07-2012 09:09:58
แนช น่ารัก  :impress3:

เป็นกำลังใจให้เรื่องใหม่ค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: from_mars ที่ 02-07-2012 09:30:01
ตามมาให้กำลังใจน้องชายจ๊ะ
อ่านไปเรื่อยๆ จบตอนแล้วจะมาเม้นท์ต่อนะจ๊ะ
===============
รักมั่นคง รักยืนนาน ดีจัง ชอบความรู้สึกแบบนี้ (ตัวเองไม่มี)
แล้ว...หนุ่มน่ารักของเราจะทำยังไงหนอ รอดูต่อไป

ขอบคุณ และรออ่านต่อไปจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 02-07-2012 09:35:03
สแนชน่ารักเนอะ ฮาา ออกแนวสับสนกับตัวเอง

จะสนใจหรือไม่สนใจดีหรือเปล่า หึหึ

ก้านนิแต่งสาวเอาขำๆ ใช่ไหมอะ ดูทำงานเหนื่อยน่าดูเลยนั้น

อดพาแนชไปเที่ยวเลยย แต่ก็ได้กำไรอยู่นะนั้น จูบไปหลายรอบอยู่ ฮาาา

ติืดตามต่อไปค้าบบบ >< รออ่านนายเอกจอมซึน  o13
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 02-07-2012 09:37:52
ชอบเรื่องนี้อ่ะ พระเอกน่ารักมากๆมีแต่งหญิงด้วย ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 02-07-2012 09:38:11
มายาวๆแบบนี้ทุกครั้งก็จะไม่ว่าเลยเหอะ ว่าแต่น้องก้านรุกเร็วมากค่ะ ไม่ทันให้ตั้งตัว

ในที่สุดเรื่องใหม่ก็มาซะที เย้ เย้ ปิดซอยฉลอง 55555
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 02-07-2012 09:49:12
ชื่อคนแต่งการันตีความสนุกจริง ๆ

พี่แนชจะทำให้น้องก้านเสียใจมั้ยหนอ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: wdaisuw ที่ 02-07-2012 10:00:24
น่ารักมาก อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นหัวใจจังเลยค่ะ :กอด1:
มาต่อไวๆนะคะ :mc4:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: MadamLilac ที่ 02-07-2012 10:15:06
“ผมไม่มีใคร ไม่สนใจด้วยว่าแนชเป็นเกย์หรือเปล่า เพราะตั้งแต่ผมเห็นแนชครั้งแรก ผมก็ชอบ ชอบดวงตาดื้อๆ แบบนี้ ชอบฟังเวลาที่แนชพูด ชอบเวลาที่แนชนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องสมุด ชอบเวลาที่ต่อให้เรียนพละวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนสุดท้าย ก็ยังไม่ยอมแพ้ ผมชอบทุกอย่างที่เป็นแนช ต่อให้ไปเรียนไกลขนาดไหน ผมก็ยังหยุดเวลาอยู่ที่วันเก่าๆ ที่ผมกลับมาบ้านแทนที่จะทำงานต่อที่ใต้ ก็เพราะคิดว่าจะได้เจอกันเวลาที่แนชกลับมาบ้าน ยิ่งนับวันใจผมก็ไม่เหลือที่ไว้ให้ใคร ตาของผมไม่เคยมองใคร หูของผมไม่เคยฟังเสียงใคร”

อยากมีใครมาพูดประโยคนี้ให้ฟังบ้าง  :-[
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 02-07-2012 10:46:44
เย้ๆ เรื่องใหม่  ก่อนอื่นสวัสดีคุณไจฟ์ กะ น้องทีก่อน

เรื่องนี้พระเอกเด็กกว่า นายเอกเนอะ

ก้านรุกเร็วหลังจากรอมานาน  ทำให้สำเร็จล่ะ น้องเต้ย!!! สู้ :a9:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: BossoM ที่ 02-07-2012 10:57:48
ทำไมแนชน่ารักจัง พี่ชอบคนที่ซึนๆแบบนี้  ฮ่าๆๆๆ

ก้านก็น่ารัก ดูอบอุ่นอ่ะ โฮ่ยยยยย อยากได้  :laugh:

นับวันรอวันพุธ บวก บวก แถม :กอด1:ให้เหมือนเดิมจ้า
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 02-07-2012 11:10:06
สแนช ชื่อไม่เหมือนใครดี
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: hobazaki ที่ 02-07-2012 11:18:32
กรีซ.... แนชน่ารักอะ น้องก้านด้วย

แหมๆ น้องก้านนี่จองไว้ตั้งแต่แรกเจอเลยใช่มะ แล้วทำไมไม่ไปทำความรู้จักกับแนชเลยหละ ปล่อยเวลามาซะเนิ่นนาน เสียเวลาอยู่ด้วยกันไปตั้งนาน เจอกันคราวนี้อย่าให้หลุดมือนะลูก....กิกิ

นิยายเรื่องนี้ขน้องไจฟ์น้องทีเปลี่ยนแนวนายเอกเป็นพี่บ้างเนาะ ดีจัง สู้ๆน๊า จะรอติดตามนะจ๊ะ
บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 02-07-2012 11:47:49
ดีใจที่เปิดเรื่องใหม่แล้ว ^^
แถมเอะใจได้อ่านตั้งแต่ตอนแรกด้วยล่ะ

ยังไม่รู้จะบอกอะไรเกี่ยวกับเรื่อง
แค่รู้สึกว่ามันดีที่จะรู้จักตั้งแต่เด็กแล้วมารักกันแบบผู้ใหญ่

ขอบคุณที่ทำให้มีนิยายให้ตามได้ทุกตอนมาอ่านอีกแล้ว ^^
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 02-07-2012 12:37:13
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คุณไจฟ์น้องทีลงนิยายเรื่องใหม่แล้วววววววววววววว

แถมนี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่มาทันตอนแรกอ่ะ เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

จะรอติดตามต่อไปนะคะ ^___________________^
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 02-07-2012 13:27:27
ดีใจจังได้อ่านเรื่องใหม่แล้ว ตามอย่างด่วนเลยค่ะ

นายเอกเรื่องนี้ถ้าจะเฮ้วน่าดู

+1และเป็ด
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 02-07-2012 13:42:55
ฟังชื่อ snatch แล้ว เหมือนกับเป็นนิยายแนวสยองขวัญ จำพวกอสูรกายแอบย่องเข้ามาเขมือบหรือลักพาตัวไปกินที่อื่นอะไรแบบนี้  :laugh: แต่คิดว่าคงเป็นความคิดและจินตนาการของดิฉันเอง

แค่เข้ามาทักทายค่า เดี๋ยวต้องขอตัวไปอ่านก่อนนะคะ เห็นว่ายาวพอตัวทีเดียว

(ไม่รู้เป็นแฟนนิยายของสองหนุ่มน่ารักนี่ตั้งแต่เมื่อไหร่)

+ 1 แล้วนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 02-07-2012 14:51:32
มาเป็นกำลังใจให้ก่อน :L2: ยังไม่ได้อ่านเลย
ไว้เย็นๆกลับบ้านไปอ่านแล้วจะมาอิดิทเน้อ น้องไจฟ์น้องที
----------------------------------------------------------------------
*ดิท สแนชชื่อน่ารักดี ท่าทางพระเอกรุกเร็วใช่เล่น ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 02-07-2012 15:32:11
 :mc4:เย้ในทีสุดก้อกลับมายินดีต้อนรับคะขอบคุณคะ :impress2:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 02-07-2012 16:04:32
เรื่องใหม่มาแล้ว :)
รอจ้ารอ :)
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 02-07-2012 16:20:13
โย่ว เรื่องใหม่  :mc4:

รออ่านตอนต่อไป เปิดมาก็ surprise เลย หุๆ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 02-07-2012 16:40:22
เปิดเรื่องได้น่ารักดีค่ะ
แนชฮาๆน่ารักๆดีอ่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 02-07-2012 17:37:14
เห็นชื่อคนแต่งคนโพสก็ดีใจแล้วอะ

นายเอกชื่อน่ารักนะ แปลกดีแต่น่ารัก ติดตามนะคะ

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: eaey ที่ 02-07-2012 17:50:36
เพราะชื่อใช่ไหม เพื่อนจึงยอมให้ก้านฉกตัวออกมาอย่างนี้

มีพล็อตเรื่องแปลกๆใหม่ๆมาได้ตลอด ดีจังเลย :กอด1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 02-07-2012 19:37:33
เปิดตัวมาได้น่ารักจริงๆ :L2:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: beautifuldead ที่ 02-07-2012 19:45:17
เห็นชื่อคนแต่งแล้วรีบกดเข้ามาอ่านอย่างรวดเร็ว
เปิดตัวมาน่าติดตาม^^..
เนื้อเรื่องเหมือนไม่มีอะไร แต่ว่าคนแต่งเขียนได้น่าอ่านมาก

รออ่านตอนต่อๆ ไปจ้า
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 02-07-2012 20:12:44
เรื่องใหม่มาแล้ว เม้นท์ทันด้วย กร๊ากกกกกกก  :laugh:


สแนชกับก้าน น่ารักจัง

แต่น้องก้าน นู๋รุกเร็วไป ใจผ่อนลงหน่อยให้เวลาพี่เค้าบ้างนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Tasaitatsu ที่ 02-07-2012 20:46:56
อู้ววววววววววว เรื่องใหม่!!!

สวัสดีคุณไจฟ์และ้น้องทีค้าาาาา ^^

น้องก้านมั่นคงในความรู้สึกตัวเองมากลูก ว่าแต่นู๋รุกพี่แนชเค้าเร็วไปไหมลูก
แต่สำหรับน้องก้านแล้ว มันคงจะช้ามากกว่า ก็นะ ตั้งแต่เรียนมัธยมจนจบมหาวิทยาลัย
จนต่างฝ่ายต่างมีหน้าที่การงานของมั่นคง ถ้าคิดแบบนี้แล้ว มันนาน นานมากเลยที่เดียว
รู้สึกว่าแนชจะเริ่มหวั่นไหวบ้างแล้วละสินะ

“สัด รู้ว่ากูแพ้ยิ้มแบบนี้ก็ยิ้มอยู่ได้” รู้สึกว่าประโยคนี้แนชน่ารักดีอะ เหมือนจะเขินก็เขิน ไอ้อยากด่าก็อยากด่าน่ะ

11หน้า ไม่ยาวหรอกค่ะ กำลังดีเลย

ขอบคุณสำหรับเรื่องใหม่ค่ะ  o1
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 02-07-2012 21:26:34
ก้านสู้ๆ นะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 02-07-2012 21:44:37
 :กอด1: ต้อนรับการกลับมาของไจฟ์กับน้องที

เปิดเรื่องมาก็ฮาเลย
 :laugh:
แนชคิดว่าก้านเป็นน้องเต้ยซะได้
ถ้าเป็นจริงๆก็สาวดุ้นล่ะจ้ะแนชจ๋า
 :z1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 02-07-2012 22:14:09
จุดพลุต้อนรับเรื่องใหม่

ก้านต้องรุกหนักเลย แถมอยู่กันคนละที่อีก
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: PAAPAENG~ ที่ 02-07-2012 22:24:34
เรื่องใหม่มาแล้ววววววววว
ดีใจมาก!

ตอนแรกแอบคิดพล็อตไปแนวจำเลยรัก
เพราะชื่อเรื่องคือลักพาตัว
แค่ลักพาตัวกันแบบนี้... สนับสนุนเลยค่าาา 555

ดูท่าทางก้านจะรักแนชมาก
เด็กกว่าด้วย... ยังไงคงต้องเอาใจคนแก่หน่อย หุหุ
เอาหน่า อายุเป็นเพียงตัวเลข
ลุ้นให้แนชใจอ่อนกับก้านเร็วๆค่ะ

เจอกันวันสีเขียวค่ะ  :)
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: เพื่อนบ้าน ที่ 02-07-2012 22:55:14
ตามมาเม้นท์บวก ^^

ก็ .. จะว่าผิดคาดก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจริงๆแล้วตัวเองคาดหวังอะไรกับนิยายของสองหนุ่ม 555
(หวังว่าจะได้อ่านอะไรสนุกๆและน่าสนใจ คงจะเป็นสิ่งนี้ละมั้ง q: )
แต่ที่บอกว่าผิดคาดก็เพราะอ่านตอนแรกของเรื่องนี้แล้วพี่ฮามากกกกกก
มันต่างกับสองเรื่องก่อนเลยนะ หรือเพราะว่าเพิ่งตอนแรก ปริศนาเลยยังไม่มา 55 ไม่นะ !! ><~

ปกติเวลาอ่านนิยายพี่มักจะเลือกข้างเชียร์พระเอกหรือนายเอก หรือบางทีก็อาจจะหลงไปกับคู่รอง เหอๆๆ
แต่เรื่องนี้ยังตัดสินใจไม่ได้อ่ะ รักแรกพบเกิดขึ้นกับทั้งสแนชและน้องกล้าม น่ารักทั้งคู่เลย >//<
แต่ชอบความฮาป่วงๆของแนชอ่ะ ตอนแรกมีลังเลใครจะนำ ใครจะตามวะ มันเกิดอาการกึ่งๆ
ที่สับสนก็เพราะพระเอกมันดันแต่งหญิงตั้งแต่ตอนแรกนี่ดิ มีที่ไหนอ่ะ แต่งหญิงไม่ว่าดันสวยด้วยนี่สิ แม่เจ้า !!
แต่พอสลัดคราบน้องเต้ยแล้วพี่ก็หลงรักอ่ะ ชอบผู้ชายยิ้มสวยๆ แล้วก้านมันดูเด็กๆ Alert ล้นๆ น่ารักอ่ะ
ส่วนแนชโคตรฮาาาาาาาาาาอ่ะ นี่ผู้ชายวัยทำงานจริงหรอ ?? นึกว่ายังเรียนมหาลัยอยู่เลยนะ กร๊ากกก

“อ้าวกู กินก๋วยเตี๋ยวลืมตุ๊กตา กินเหล้าลืมบ๊วย สมองเสื่อมอะไรของกูนักหนาวะเนี่ย”
แต่พอนึกไปนึกมา คิดว่าน่าจะผูกอยู่ที่หน้ารถมอเตอร์ไซค์ของกิม ไม่ได้เอาลงไปที่โต๊ะด้วย
“หายชัวร์”  <<< คือมันฮาาาาาาาอ่ะ ห่วงบ๊วย 5555

ได้ยินเสียงปิดประตู และเสียงฝีเท้าหนักๆ ลงบันไดมาแนชหันไปมอง
...ไม่ใช่สาวสวยคนนั้น!!!…ซวยสิกู!!…ผัวเค้าแน่ๆ  << ขำแทบสำลักอ่ะ 5555

อ่านสแนชแบบว่าไม่ไหวแล้วเอ็งมันต๊อง โคตรขำอ่ะ แต่ละอย่างที่มันคิด
แล้วก็แอบเอ็นดูน้องก้านด้วย ตอนที่คิดว่าตัวเองแห้วอ่ะ แนชอย่ามาใจร้าย น้องก้านน่ารักออก
ถ้าไม่รีบคว้าไว้เดี๋ยวน้องก้านโดนลักพาตัวไปไม่รู้ด้วย 555

ปล.ชอบชื่อเพื่อนๆแนชอ่ะ กิม ตือ เจ๊กดีจัง 5555 ว่าแต่ตือนี่ตกลงทำร้านหมูจุ่มหรือหมูกระทะกันแน่อ่ะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: jaymaza ที่ 02-07-2012 22:56:10
ก้านดูอบอุ่นดีจังเลย

 :impress2:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 02-07-2012 23:15:29
บวกให้แล้วก็เม้นทับ
เป็นเรื่องที่ดูอบอุ่นมาก ความสัมพันธ์ที่รอคอยการกลับมาและในที่สุดก็ได้เจอ
เวลาอ่านแล้วนึกถึงภาพจริง เนื้อเรื่องที่เป็นไปได้จริง ชอบมาก
รออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 03-07-2012 00:39:49
 :mc4: ต้อนรับเรื่องสั้นของสองหนุ่ม
สแนช...ชื่อแปลกดี บุคลิกห้าวและห้วนได้อีก ออกแนวข่มขู่อีกต่างหาก
งานนี้น้องก้่านกล้ามใหญ่ คงได้หงอยซึมจ๋อยเป็นระยะๆ แน่ 55
เรื่องนี้อ่านแล้ว เหมือนเราเป็นก๊วนเพื่อนเดียวกันกับแนชเลย เข้าถึงง่ายดี ชอบครับ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 03-07-2012 01:18:40
 :L2: มาแบบรุ่นน้องที่ปักหลักรอรุ่นพี่ ซึ่งตอนนี้แถวบ้านก็เป็นอย่างนี้แหล่ะ สำนึกรักบ้านเกิดกลับมาอยู่บ้านกันเป็นส่วนมาก
อายุห่างกันปีเดียว ลบสถิติเดิมโดยสิ้นเชิง(รึเปล่า?) :laugh:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 03-07-2012 01:23:59
ว้าววว นิยายเรื่องใหม่ของไจฟ์กับที
สองหนุ่มนี่เป็นคู่พระนายใช่แน่แล้วใช่ไหม ไม่มีผลิกโผน่ะ
ทำไมก้านรักขนาดนี้ ไม่รุกตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ได้แต่แอบมอง  นี่ถ้าเขามีแฟน หรือแต่งงานไปแล้วจะทำไง
หรือว่าปล่อยผ่านเลยไปซะงั้น
ดูท่าว่าเรื่องนี้จะหวานๆ เศร้าๆ  แบบแอบรักคนที่อึนๆ มึนๆ แบบแนช
+ให้ไจฟ์ที ดีใจจังที่ได้อ่านเรื่องใหม่ หลังจากตามอ่านเรื่องเก่าๆ ไปหลายเที่ยว
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 03-07-2012 02:12:32
แวะมานอนรออีกสักคน
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: AllRiseApril ที่ 03-07-2012 08:56:40
รวดเร็วไปนะคะ - -*
แนชตั้งตัวทันมั้ยนั่น ก้านช้าๆหน่อยก็ดีจริงๆล่ะนะ
ว่าแต่ มันมายังเป็นยังไงมาล่ะเนี่ยยยยยย
อยู่ๆก็ลักพาตัวเค้ามาเฉยเลยย
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 03-07-2012 09:36:35
เย้...ไจพ์ทีกลับมาแล้ว  :n1:

สแนช เราอ่านแล้วคิดถึงกีฬายกน้ำหนัก ท่าสแนช  :laugh:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: aoalelovena ที่ 03-07-2012 10:39:52
 :m20:ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 03-07-2012 10:50:20
นายเอกชื่อน่ารักดี แพ้ยิ้มของพระเอกอีกต่างหาก
จะรอพี่แนชกับก้านนะ

+1+เป็ดให้คุณไจฟ์และทีค่ะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 03-07-2012 12:45:55
แนชดูท่าจะโก๊ะไม่น้อย
ลืมโน่นนี่ตลอดแต่อย่าลืม
ก้านแล้วกันน๊า  :L1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 03-07-2012 13:09:12
ขอปรบมือต้อนรับเรื่องใหม่ค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Jesale ที่ 03-07-2012 13:41:05
เรื่องใหม่ น่าสนุก เชียร์ น้องก้าน
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 03-07-2012 15:30:42
 :m3: เรื่องใหม่
น้องสแนชหนุ่มตัวเล็ก
รออ่านน้องก้านตัวโตจีบพี่สแนชตัวเล็กเนอะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 03-07-2012 17:05:52
สแนชชื่อแปลกแต่เก๋
อ้าวสรุปเพื่อนๆรู้สาวคนนั้นเป็นใคร
ต้องมาคอยดูว่าน้องก้านจะชนะใจแนชได้ไหม  :L1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: nokkie ที่ 03-07-2012 17:11:41
ที่ก้านบอกว่า “ผมขอโทษ ถ้าทำให้แนชลำบากใจ แนชไม่ต้องบอกว่ามีใครหรือยัง เพราะผมรู้คำตอบแล้ว ผมขอแค่นี้ ขอแค่รักจะได้มั้ย”

แปลว่า ก้านคิดว่าแนชกำลังรักใครอยู่อ่ะสิเนี่ย อืมมมมมม

ปล. กำลังสงสัยว่าตัวเองจะตามไม่ทันคำศัพท์ยุคใหม่ ตอนแรกถึงกับงงไปเลยกับคำว่า "น้องเต้ย" ถ้ามีคำแปลจะช่วยได้เยอะเลยค่ะ ^^"

ปล2. ขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องใหม่นะคะ สนุกตั้งแต่ตอนแรกเลย ยาวจุใจด้วย ^^
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: must ที่ 03-07-2012 19:59:50
หูยยย~ แค่ตอนแรกก็ทำเอายิ้มไม่หุบเลยทีเดียว รู้สึกว่าน่ารักมากๆ

Snatch ตอนอ่านชื่อเรื่องทำเอาหน้าของแบรด พิทท์ผุดขึ้นมาทันที
ประทับใจต่อการเป็นคนรักเดียวใจเดียวของก้านโคตรๆ (เขินแทนแนช)

ก้านเลือกที่จะรอคอยเพียงแค่แนช อย่างมีความหวังโดยการให้กำลังใจตัวเอง
ก้านยินดีที่จะเฝ้ารอแนช แม้โอกาสที่ตัวเองจะสมหวังนั้นมีเพียงน้อยนิด
นับถือจิตใจที่มั่นคงและแน่วแน่ของผู้ชายที่ชื่อก้านมว๊าากกก~
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 03-07-2012 20:55:07
เรื่องนี้มาแนวน่ารัก :-[.......หรือเปล่า o18
สแนชกับก้าน.... :กอด1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 03-07-2012 22:02:00
 :กอด1:

ขอเม้นต์แยกเลยละกัน

อ่านตอนที่หนึ่งยังน่ารักขนาดนี้ เรียกว่าตกหลุมรักเลยล่ะ สแนชน่ารักอย่างนี้ มิน่าล่ะ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมน้องก้านจึงได้ตามรักตามหลงมาในระยะหลายปีนี้ แม้จะเรียนจบไปแล้ว และต่างคนต่างทำงานกันคนละที่ ก็ยังเฝ้ารักเฝ้ารอ โอ๊ะ มันถูกใจจริงๆ แต่น้องก้านนี่ก็แสบพอประมาณนะ อุตส่าห์แต่งเป็นหญิงมาหลอกพี่สแนชได้
 
เรื่องนี้สนุกมากเลยค่ะคุณไจฟ์น้องที ตอนเขียนเรื่องนี้นี่ กำลังหวานกันหรือเปล่าเอ่ย?  :L1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 04-07-2012 02:34:07
มาปูเสื่อรอพี่แนชกะน้องก้าน อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว ^___^
หัวข้อ: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 04-07-2012 06:11:56
ตอนที่ 2

ยอมรับกับตัวเองว่าหัวใจกำลังเต้นไปตามแต่แนชจะพาไป
อารมณ์เปลี่ยนไปตามแต่แนชจะทำให้มันเปลี่ยน
เป็นอำนาจที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่ไม่เคยคิดที่จะต่อต้าน
ตั้งแต่ตอนที่พบเขาครั้งแรก คือตอนที่เดินผ่านห้องเรียน แล้วเห็นรุ่นพี่ตัวเล็กคนนั้นนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้อง ก็ทำให้ยิ้มได้
ยิ้มได้โดยที่ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดจากอะไร
ต่อมาก็พยายามหาโอกาสที่จะได้อยู่ใกล้ๆ แค่ได้นั่งใกล้กันในโรงอาหาร แอบฟังเขาคุยกันด้วยความอยากรู้ ก็มีความสุข
มีความสุขได้โดยที่ไม่รู้ว่าทำไม แค่นี้ก็มีความสุข
จนถึงตอนที่เล่นฟุตบอลอยู่ในสนามแล้วหันไปเห็นเขาเดินผ่านเพื่อจะกลับบ้าน ก็มีเรี่ยวแรงซ้อมบอลต่อได้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ไม่เหน็ดเหนื่อย ไม่หมดกำลังใจต่อให้แ้พ้ในการแข่งขัน
เรื่องพูดจาทักทายยอมรับเลยว่า นายก้านไม่มีความกล้ามากพอ ได้แต่ส่งยิ้มให้ ถึงจะโดนล้อชื่อว่าไอ้กล้ามก็ยังชอบ
ขอแค่นี้จริงๆ สำหรับการหล่อเลี้ยงหัวใจให้มีความสุขต่อไปได้อีกหลายชั่วโมง
ไอ้คำจำกัดความว่ารัก หรือหลงน่ะไม่ได้อยู่ในสมอง
รู้แต่ว่าขอแค่ได้เห็นก็พอ
ถึงแม้ว่าการเป็นนักกีฬาจะทำให้มีสาวๆ แวะเวียนเข้ามาทำความรู้จัก แต่สุดท้ายก็เดินผ่านไป เพราะนายก้านไม่ได้มีอะไรที่เหมือนพระเอกในละคร ไม่เคยเอาใจใส่ ไม่มีเวลา ไม่เคยจำเรื่องราวอะไรได้สักอย่าง
รู้แต่ว่าสักวัน จะต้องไปยืนอยู่ข้างกันให้่ได้...
จนกระทั่งได้พบอีกครั้งเมื่อแนชกลับมาบ้าน เพียงแค่แวบเดียวที่เห็นว่ายืนอยู่กับกิมที่ตลาด หัวใจมันก็กระโดดออกมาร้องตะโกน ว่านี่แหละคือคนที่ทำให้นายก้านเป็นคนไม่มีหัวใจ
เพราะยกหัวใจให้คนๆ นี้ไปตั้งนานแล้ว
แต่เพราะแนชอยู่กรุงเทพฯ การทำความรู้จักถึงได้แทบจะไม่ได้คืบหน้าไปจากการพบกันครั้งแรก ที่ไม่เคยกล้าคุยก็ยังคงไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเมื่อเจอกัน
ท้อใจจริงๆ ที่แนชจำอะไรเกี่ยวกับคนๆ นี้ไม่ได้เลยสักนิด
แล้วหัวใจมันก็หกคะเมนตีลังกา พอได้อยู่ใกล้ก็อยากกอด อยากเข้าไปมีพื้นที่อยู่ในชีวิตของแนชมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อให้เตือนตัวเองว่าเขาอาจมีคนของเขาอยู่แล้วก็ตาม
ก็ปฏิกิริยาตอนที่ได้ฟังคำสารภาพรักมันเป็นแบบนั้น
....เหนือความคาดหมาย....
ดูลังเล ไม่แน่ใจ
ทุกอย่างบอกชัดเจนว่านายก้านไม่ควรเดินหน้าต่อไป เพราะมีแต่จะผิดหวัง
แต่ก็ยังทำ
ยังคงโทรหาอยู่ทุกวัน ทั้งคิดเข้าข้างตัวเองว่าที่แนชคุยด้วยก็เพราะเขามีใจให้เราเหมือนกัน
สีหน้าท่าทางที่บอกถึงความไม่แน่ใจในวันนั้นค่อยๆ จางลงไป เหลือแต่เสียงหัวเราะกับน้ำเสียงที่ได้ฟังอยู่ทุกวัน

“แนช อาทิตย์นี้จะกลับบ้านหรือเปล่า”
“ยังๆ เสาร์นี้กูทำครึ่งวัน”
“แนชไม่ได้กลับบ้านมาเดือนนึงแล้วนะ”
“เหรอ.....” แนชนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “คงสักอาทิตย์หน้าน่ะ”
“ที่จริงทำครึ่งวันเสาร์ เลิกงานก็ตีรถมาระยองได้นะ หรือจะให้ผมไปรับ”
“เฮ้ย ไม่ต้อง เสาร์อาทิตย์งานมึงยุ่ง ไว้กูจะกลับเมื่อไหร่กูจะบอกแล้วกัน มึงไม่ต้องตีรถมาหรอก”

พอถึงวันศุกร์ของหลายสัปดาห์ถัดมารถปิคอัพคันใหญ่ก็มาจอดอยู่ที่ด้านหน้าอพาร์ตเมนต์เล็กๆ คนขับวางแผนที่ไว้หน้ารถแล้วลงไปทำความรู้จักกับร้านค้า จนถึงยามหน้าตึก พอหกโมงเย็นถึงได้กดโทรศัพท์หาคนที่คิดว่าเพิ่งเลิกงาน
“แนช เลิกงานหรือยัง”
“ยังๆ อีกแป๊บหนึ่ง”
“แล้วไปไหนต่อหรือเปล่า”
“ไปสิ วันนี้วันศุกร์นะ”
ก้านเงยหน้ามองฟ้าที่มืดลงอย่างรวดเร็ว “ขับรถเองหรือเปล่า อย่าเมานะ”
เสียงหัวเราะมาจากปลายสายทำให้ก้านยิ้มตาม “ไม่หรอก กินเลี้ยงเสร็จแล้วก็จะกลับ”
“งั้นก็คงสักสี่ทุ่มใช่มั้ย”
“คงงั้นแหละ มีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่า ไม่มีอะไร แนชทำงานหนักมาตลอดอาทิตย์ เป็นห่วงว่าถ้าดึกมาก เดี๋ยวจะหลับ”
“ไม่หรอก มึงก็พักผ่อนเสียบ้างนะ”

ก้านกดวางสายพร้อมกับเหลียวหาร้านข้าวฝากท้องอีก 1 มื้อแล้วก็เดินมาอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในรถ เดินเล่นรอบรถ กลับไปนั่งดูโทรทัศน์กับยาม ที่ดูเหมือนจะพอใจมากกว่าที่คนแปลกหน้าคนนี้ ลงมาจากรถแล้วก็มานั่งดูโทรทัศน์อยู่ด้วยกัน แทนที่จะเดินไปทั่ว
เกือบ 5 ทุ่มรถญี่ปุ่นคันเล็กเลี้ยวผ่านประตูเข้ามาจอดที่ลานจอดรถด้านใน
ชายหนุ่ม 2 คนเดินข้างกัน
ไม่ได้คุยกัน ไม่ได้จับมือกัน แต่เพราะคนหนึ่งหยุดรออีกคนจนเข้ามาใกล้ ส่งยิ้มให้กันแล้วเดินคู่กันมา ทำให้ก้านเหมือนหัวใจหล่นลงไปกองอยู่กับพื้น
แต่ทันทีที่คนตัวเล็กมองเห็นว่าใครยืนอยู่ที่หน้าอพาร์ตเมนต์ ก็ร้องทักแล้ววิ่งเข้ามาหา
“ก้าน มาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“มาตั้งแต่บ่าย ผมขอโทษ ผมรู้ว่าผมไม่ควรมา แต่ผมคิดถึงแนชมากก็เลยแค่อยากมาหา อยากพบ....ผม...ขอโทษ...”
คำขอโทษที่แหบพร่าย้ำไปย้ำมา แล้วหันหลังเดินกลับไปที่รถ
“ไปคุยกันที่ห้องก่อนมั้ย”
คนตัวสูงที่มาพร้อมกับแนชกลับเป็นคนเรียกไว้
“ไม่ครับ ผมขอโทษ ผมจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว” ก้านเดินก้มหน้าตรงกลับไปที่รถคันใหญ่

แต่ออกรถมาพ้นกรุงเทพฯ ได้ไม่เท่าไหร่ รถคันใหญ่ก็ต้องจอดชิดข้างทาง คนขับรถก้มหน้าลงแนบหลังมือที่จับพวงมาลัย
ปล่อยให้น้ำตาไหลเป็นทาง
รู้ทั้งรู้แต่ก็ยังทำ ไม่โทษตัวเองแล้วจะโทษใคร
นี่คือคำตอบของคำถามที่ว่า ไม่ถามกันสักคำหรือไงว่ามีแฟนหรือยัง
นี่คือคำตอบของช่องว่างยาวนานหลายปีที่ไม่ได้พบกัน
เวลาที่หายไป
เท่าที่คุยกับเพื่อนของแนช ทุกคนบอกว่าแนชกลับบ้านมาคนเดียว ไม่ค่อยได้เล่าเรื่องที่ทำงานสักเท่าไหร่ อาจเพราะงานที่ทำมันคนละเรื่องกับเพื่อน
เรื่องเล่าที่ชวนให้คิดเข้าข้างตัวเองว่า แนชไม่มีใคร
แต่ที่เห็นวันนี้มันไม่ใช่
เหมือนโลกหยุดหมุนไปเนิ่นนาน รู้สึกตัวเมื่อมีเสียงเคาะกระจกรถด้านคนขับ หนุ่มตัวเล็กยืนอยู่ แต่ใกล้กันคือผู้ชายคนที่พบกันที่อพาร์ตเมนต์
“เปิดประตู”
ก้านปาดน้ำตาแต่ยังไม่ยอมเปิดประตู
“เปิดประตู! อย่าให้กูต้องโมโห!”
“ไม่”
"ไม่ห่าอะไร สัดชอบทำให้กูโมโห เหี้ยไอ้ยักษ์บ้าขี้น้อยใจ เดี๋ยวพ่อทุบรถให้ช่างไม่รับซ่อมซะหรอก! กูบอกให้เปิดประตู!” ประโยคท้ายหนุ่มตัวเล็กเงื้อกระเป๋าในมือประกอบท่าทางจนก้านต้องรีบเปิดประตู
พอเปิดประตู แนชก็โยนกระเป๋าใบเล็กไว้ที่เบาะด้านหลัง แล้วดึงก้านมาหาคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
“นี่พี่มนตรี ทำงานที่เดียวกัน แต่เขาอยู่คอนโดฯ ใกล้ๆ เลยติดรถกลับมาด้วยกัน กูไม่ได้ไปกินเลี้ยงกับเขา 2 คนแต่ไปกันหลายคนเพราะพี่ที่ทำงานเขาเลี้ยงวันเกิด มึงเข้าใจมั้ย”
ก้านหันไปมองหน้าคนที่ยืนยิ้มขำอยู่ข้างๆ
“ไม่ใช่แฟนแนชหรือครับ”
“ไม่ใช่หรอกครับ” มนตรียังคงตอบด้วยรอยยิ้ม จนก้านต้องลูบท้ายทอยเก้อๆ
“คุยกันนะ” มนตรีบอกแล้วกลับไปที่รถ
ก้านชี้ไปที่รถคันนั้น “นั่นรถแนชไม่ใช่หรือ”
“ใช่ รถกู แต่ถ้าไม่เอารถกูมา จะตามมึงมาทันมั้ยสัด ขึ้นรถเลย!” แนชด่าไม่หยุด ความดังของเสียงไม่ได้เบาลงกว่าเดิมเลยสักนิด
“ผมขับเองก็ได้”
“ไม่ได้!” แนชหันไปเสียงดังใส่หน้าคนตัวโตที่กำลังจ๋อยจืด “เดี๋ยวมึงน้อยใจอะไรขึ้นมา ขับรถชนต้นไม้ข้างทางทำไง ไม่ต้องยืดยาด ขึ้นรถเลย”
แต่แนชก็ขับรถไปทั้งที่ด่าไม่หยุด จนก้านชักเริ่มกังวลว่าใครกันแน่ที่จะขับรถชนต้นไม้ข้างทาง
กระทั่งเข้าเขตระยองแนชก็พลิกดูนาฬิกาข้อมือ
“สัด ดึกป่านนี้แม่เข้านอนแล้วแน่ๆ”
พอหันไปมองคนข้างๆ ที่ค่อยคลี่ยิ้มกว้าง แนชก็กลับรู้สึกแปลกๆ
“สัด กูบอกแล้วไงว่าห้ามยิ้ม”
ก้านกลับยิ่งยิ้มกว้างกว่าเดิม
ยิ้มแบบนั้นมันยิ่งทำให้คนนี้หน้าแดงจัด หัวใจก็เต้นแรงตามไปด้วย
“ให้ผมขับเองดีกว่า”
“ไม่ต้อง บอกทางมา”
ขับรถต่อไปอีกพักแนชก็บ่น “สัด ถ้านี่เป็นแผนมึงนะ กูจะถลกหนังหัวมึงมาทอดกรอบ” ดวงตากลมตวัดมองคนที่นั่งข้างๆ “คราวก่อนเอาตุ๊กตามาหลอกกู คราวนี้เอาน้ำตามาหลอกกูอีก กูเป็นห่าอะไรของกูวะเนี่ย”

ก้านมองคนที่ด่าด้วยเสียงสูง คงเพราะโกรธตัวเองมากกว่า
...อยากหยิกแก้มชะมัด....
“ขำอะไร” เสียงห้วนๆ ตวัดมาหาทันที
แต่คนนี้หุบยิ้มไม่ทันเสียแล้ว ก็เลยยิ้มค้างมันอยู่อย่างนั้น
...เออนะ แค่เขาตามกลับมาบ้าน ก็อารมณ์ดีได้ โดนด่ามาตลอดทางก็ไม่สะเทือน...

รถคันใหญ่เลี้ยวเข้าโฮมสเตย์ ผ่านห้องพักที่คืนนี้มีคนพักอยู่เพียง 2 คนเป็นคู่สามีภรรยาศิลปินชาวตะวันตก ที่ยังนั่งเขียนรูปอยู่ที่ระเบียงด้านหน้าห้องริมสุด

พอจอดรถก้านก็หันไปหยิบกระเป๋าของแนชแล้วเดินนำเข้าไปในบ้าน หันมามองคนที่เดินตามเข้ามา
ตอนที่เจอที่กรุงเทพแนชดูตกใจ ตอนที่ตามมาทันระหว่างทางดูโกรธ
แต่ตอนนี้ดูเหนื่อยๆ
ก้านเป่าลมหายใจจากปาก จนคนตัวเล็กสงสัย
“เป็นอะไร”
ก้านส่ายหน้า เดินไปเปิดตู้เย็นรินน้ำดื่มมาส่งให้
แนชดื่มหมดแก้ว แล้วก็ส่งแก้วคืนให้ นึกไม่ออกเหมือนกันว่าตอนนี้ควรจะคุยอะไรยังไงกันดี เพราะที่อยากด่าก็ด่าไปแล้ว ที่อยากบ่นก็บ่นแล้ว เลยเดินไปล้างหน้า เข้าห้องน้ำเสร็จแล้วกลับออกมา ก้านยังยืนรออยู่
“ทำไมต้องไปรอ”
“แนชไม่ได้กลับบ้านกว่า 2 เดือนแล้ว”
“แล้วไง ที่ผ่านมากูก็เป็นงี้แหละ ถ้ามีงานวันเสาร์หรืออาทิตย์กูก็ไม่กลับบ้าน”
“ก็ผมไม่รู้”
“เออ งั้นก็รู้ไว้ซะ ไม่ต้องไปรอ”
ก้านกัดริมฝีปากแน่น ท่าทางผิดหวังจนแนชต้องเกาศีรษะแรงๆ
“ห่า ทำไมกูต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยวะ ไม่เข้าใจจริงๆ”
“ผมขอโทษ ต่อไปผมจะไม่ไปอีกแล้ว”
“ไม่ใช่อย่างนั้น คือมัน....พูดยากจริงโว้ย” คนตัวเล็กยิ่งพูดยิ่งอึดอัดตัวเอง บ่นไปว่าไป เดี๋ยวยักษ์ร้องไห้ขึ้นมาอีกทำไง
“แนชอยากให้ผมทำอะไร”
“ทำแบบที่มึงเคยทำ”
“แบบที่ผมทำ” ก้านทวน ขณะที่รู้สึกเจ็บแปลบในหัวใจ “เข้าใจแล้ว แนชขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ ผมขอเดินดูรอบๆ นี่ก่อน”

ก้านออกมาที่ด้านนอก พูดคุยกับยามครู่หนึ่งก็กลับเข้ามาที่บ้านพัก กะเวลาว่าแนชจะอาบน้ำเสร็จแล้ว
กลับเข้ามาแนชกลับยืนรออยู่ที่หน้าบ้าน
“มึงหายไปนาน”
“ผมคุยกับลุงยามที่ด้านหน้า อากาศมันเย็นๆ เดี๋ยวแกหลับ”
แนชยิ้มขำ “มึงกลับเข้ามาแกก็หลับแล้ว”
“แนชหิวหรือเปล่า”
“ไม่หรอก เมื่อหัวค่ำกินบุฟเฟ่ต์อิ่มจนถึงพรุ่งนี้เที่ยงน่ะแหละ”
คนตัวเล็กเหลือบตามอง “มึงไปอาบน้ำเถอะ”

แนชเวลาอารมณ์เย็นลงนี่เป็นคนละคนกับคนที่ร้องด่าลั่นถนนคนนั้นจริงๆ
แต่เมื่อนึกย้อนกลับไปตอนนั้น กลับทำให้ก้านต้องหัวเราะขำ
กูนี่ก็หลงเขาเสียหัวปักหัวปำ น้อยใจบ้าบออะไรก็ไม่รู้ อย่างกับเขาตกปากรับคำเป็นแฟนกันแล้วอย่าง
ออกมาจากห้องน้ำ แนชยังนั่งรออยู่บนเตียงใหญ่ “แอบไปร้องไห้อีกหรือเปล่า”
“เปล่า”
“เออ ดีแล้ว เพราะกูจะโมโหเวลาที่มึงร้องไห้”
ก้านใส่กางเกงนอนขาสั้นแล้วเดินมานั่งข้างๆ “ก็มีแต่แนชคนเดียวนี่แหละที่ทำให้ผมร้องไห้”
“อย่ามาโทษกู ก็มึงน่ะแหละ คิดเยอะเอง”

เมื่อหันไปมองคนที่ยังคงนั่งรออยู่ทั้งที่ดึกมากแล้ว ใจที่ยังกังวลเพราะกลัวคำตอบ กลับรู้สึกว่า ควรถามคำถามนั้น..
“แนช...มี..แฟนหรือยัง”
แนชกะพริบตางงๆ “มาถามอะไรตอนนี้”
“เพราะผมกลัวคำตอบ แล้วครั้งก่อนที่เราคุยกัน แนชทำเหมือนแนชมีแฟนแล้ว แต่แนชก็คุยกับผม”
“ก็แค่คุย” แนชบอกแล้วเกิดอาการอยากตบปากตัวเอง เพราะไอ้คนตัวโตหงอยลงไปทันที
“แนชมีแฟนแล้วจริงๆ ใช่มั้ย”
“ถ้ามีแล้วกูยังตามมึงมาถึงที่นี่ กลับไปกูคงได้กลายเป็นศพ”
ก้านหันไปมองคนที่ยังคงตอบโยกโย้ไปเรื่อย นึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าจะมีวันที่ได้ยินคำว่ารักจากแนชสักครั้งหนึ่งมั้ย
คนตัวโตลุกไปเปิดลิ้นชักข้างเตียงนอนหยิบกล่องไม้ใบเล็กจิ๋วมาส่งให้ แต่แนชกลับกอดอกแน่น
“ให้”
“ฮึ”
“ถ้าไม่เอาผมจะร้องไห้นะ”
แนชเหลือบตามองคนตัวโตแล้วหลุดขำ “ไอ้ห่า ไอ้บ้า ไอ้เพี้ยน ขู่บ้าบอคอแตก มีดีแค่สวยกว่าผู้หญิงเท่านั้นแหละ”
“รับไว้เถอะ ไม่ใช่แหวนหมั้นหรอกน่า”
คนตัวเล็กหน้าแดงไปถึงหู
“อ้าวนี่คิดว่าเป็นแหวนจริงๆ น่ะ ก็คิดอยู่เหมือนกันว่าจะให้ แต่มันเร็วไป ให้แนชไปเลือกเองดีกว่า”
“มึงนี่คิดอะไรเป็นเรื่องเป็นราวมากเลยนะเนี่ย”
แนชบ่นอุบอิบ แต่ก็ยังไม่ยอมรับกล่องมาอยู่ดี ก้านเลยจับให้นั่งคร่อมตักหันหน้าเข้ามาหา แนชไม่ได้ขัดขืนสักเท่าไหร่ เพราะชักเริ่มเหนื่อยใจกับไอ้นิสัยทื่อๆ ของก้าน

“คงเพราะในสมอง และในหัวใจของผมมีแต่แนช บางครั้งเวลาที่เห็นกระเป๋า หรือเสื้อผ้า ผมจะเผลอคิดไปว่า ของชิ้นนี้เหมาะกับแนช ผมซื้อแล้วเอาไปฝากไว้ที่แม่ได้มั้ยนะ”
“เดี๋ยวนะ แม่ไหน แม่กูหรือแม่มึง”
“แม่แนชสิ”
“เหอะ เข้าบ้านครั้งเดียว เรียกแม่เลยนะ”
อันที่จริงก็คิดอยู่เหมือนกันว่าพ่อกับแม่ เข้ากับก้านได้ดี อาจเพราะก้านเรียนจบก็กลับมาทำงานที่บ้าน คงได้เจอพ่อกับแม่บ่อย
ก้านก้มลงหอมแก้มที่เบี่ยงหลบทันที
“ห่านี่ ตลอดๆ ตามใจทีไรแม่งแถมทุกรอบ”
“ก็...เวลาอยู่ใกล้แล้วอยากทำแบบนี้” แขนแข็งแรงรัดแน่น “อยากกอดไว้แบบนี้ตลอดเวลา”
“ก้าน”
“ครับ”
“กูขอบใจที่มึงคิดดีๆ กับกู แต่กูไม่อยากให้มึงคาดหวังอะไรกับกูมากนัก คือ....มึงอาจชอบกูเพราะ มึงแค่เดินผ่าน หรืออยู่ใกล้ๆ แต่ไม่รู้จัก กูเอาแต่ใจมากเลยนะ ปากจัดด้วย เรื่องมาก ขี้บ่น”
“แต่ผมว่า ผมเจอมาหมดแล้วนะ”
“เออ แล้วกูก็พูดอะไรซึ้งๆ อย่างที่มึงพูดไม่เป็น”
“ก็ไม่เป็นไร”
“แล้วอย่ามาเหนื่อยใจกับกูทีหลังแล้วกัน”
ก้านหันมาโอบกอดแนชไว้แน่น “ขอบคุณที่ให้โอกาสผม”
“ให้โอกาสอะไร ก็แค่...มึงอย่าร้องไห้อีกก็พอ”
ก้านก้มลงกดจมูกที่ข้างแก้ม “งั้นก็รับของที่ผมซื้อมาให้แนชนะ”
“อะไร”
แนชหันมามองมือใหญ่ แต่ริมฝีปากบางกลับหันมาสบกับคนที่รออยู่มือใหญ่ดันหลังศีรษะให้เงยหน้าขึ้นรับจูบ ดูดเม้มริมฝีปากแล้วบดขยี้
มือเล็กๆ ดันอกกว้างแต่แทบไม่ขยับ ยิ่งนานยิ่งเหมือนหมดแรง จนก้านผละออก แนชก็เอนตัวลงซบกับไหล่หนา
“ห่า เหนื่อย ทำไมจูบแล้วมันเหนื่อยอย่างนี้ทุกครั้งเลยวะ คนอื่นเขาจูบกันมันจะเหนื่อยอย่างนี้มั้ยเนี่ย”
ก้านยิ้มขำคนที่ยังบ่นไปเรื่อย ขณะที่เปิดฝากล่อง หยิบสร้อยข้อมือทำด้วยเงินมาใส่ให้
“ชอบมั้ย”
“ฮื่อ”
“ก้าน”
“ครับ”
“จะสว่างอยู่แล้ว กูนอนได้หรือยัง”
“ง่วงแล้วหรือ”
“ง่วงสิ กูไม่ใช่มนุษย์เหล็กอย่างมึงนะ”
พอก้านคลายแขนออกแนชก็คลานไปนอนที่อีกด้านหนึ่งของเตียง แล้วก็หลับไปทันที
เร็วจนคนที่เดินไปปิดไฟแล้วกลับมานอนข้างๆ ยังประหลาดใจ

(มีต่อครับ  :z2:)
หัวข้อ: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 04-07-2012 06:14:34
ตอนที่ลืมตาตื่นคนที่นอนอยู่ข้างๆ ซุกหน้าอยู่ที่ต้นแขน ผมยุ่งระหน้าผาก กับริมฝีปากบางแดงเรื่อ นึกอยากจูบแต่ก็กลัวจะทำให้ตื่น ค่อยๆ ขยับตัวลุกไปอาบน้ำแปรงฟัน ออกไปดูงานที่ร้านก่อสร้าง จนเกือบเที่ยงถึงได้รีบกลับมาที่โฮมสเตย์
อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด แนชยืมรถมอเตอร์ไซค์ของคนงาน ขี่กลับไปบ้าน ก้านก็เลยต้องขับรถตามมา พอเข้าบ้านมาสวัสดีพ่อกับแม่
แนชที่กำลังกินข้าวเที่ยงอยู่กับพ่อแม่ แค่ลุกไปตักข้าวเพิ่มอีกจาน
“มา แกงส้ม กับผัดคะน้า ปลาทอดฝีมือแม่กู อร่อยที่สุดในโลก”
นอกจากได้นั่งกินข้าวอยู่ข้างกัน ยังเห็นสร้อยข้อมือที่ยังคงอยู่ที่เดิม ทำให้รู้สึกโล่งใจ พ่อกับแม่ถามอะไรมาก็ตอบไปตามตรง
อาจเพราะใช้เวลาอยู่กับความคิดของตัวเอง และทำความรู้จักกับแนชในจินตนาการมานานเกินไป ทั้งที่รู้และเห็นว่า แนชก็ไม่ได้ปฏิเสธความหวังดีที่ให้ไป แต่ก็อดไม่ได้ที่จะระแวงอยู่ดี
พอกินข้าวเสร็จลุกไปช่วยแนชล้างจาน ก้านก็เลยกระซิบถาม
“คืนนี้กลับไปนอนที่บ้านหรือเปล่า”
แนชหันไปมองแม่ ที่เข้าประจำที่ตรวจรายงานนักศึกษา แม่เหมือนรู้ใจ
“จะไปกินเหล้ากันหรือไง”
“โห แม่”
“ไม่ต้องมาโหแม่เลย อย่างกับแม่ไม่รู้งั้นแหละ”
“ยังไงก็เอามอเตอร์ไซค์ไปคืนเขาก่อน แล้วค่อยไปกินเหล้า”
“งั้นเดี๋ยวไปเย็นๆ แล้วกัน แวะไปหาไอ้กิมก่อน” แนชหันมาบอก
ก้านยิ้มกว้าง หันไปไหว้พ่อกับแม่ เพราะต้องกลับไปที่ร้าน ได้ยินพ่อคุยกับแนชก็เลยหยุดฟังไปด้วย
“ตกลงขอย้ายกลับมาระยอง ไปถึงไหน”
“ยังไม่มีที่เลยพ่อ แต่บอกพี่ที่ฝ่ายบุคคลเขาไว้แล้ว”
“เออ ยังไงที่นี่ก็บ้านเรา”
พ่อพูดกับแนช แต่แนชหันไปทำตาขวางใส่คนที่ยืนยิ้มกว้างอยู่ข้างๆ “ไอ้นี่มายืนยิ้มอะไรแถวนี้ ไปทำงานได้แล้ว”

ค่ำลงกิมกลับเอารถมอเตอร์ไซค์แนชใส่ท้ายรถกระบะมาส่งที่โฮมสเตย์
“รถล้มหรือไง” ก้านตรงเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง
ขณะที่คนงานในโฮมสเตย์เจ้าของรถตัวจริงกลับแค่ยิ้มๆ ปีนขึ้นท้ายรถไปช่วยกิมยกรถลงมา
“สัดเหอะ ห่วงรถ”
“ไม่ใช่อย่างนั้น ก็เห็นเอารถใส่ท้ายมา คิดว่าเป็นอะไร”
ก้านตอบหงอๆ จนกิมต้องช่วย “ไม่ได้เป็นอะไรหรอก กูเห็นว่ามันโพล้เพล้แล้ว ให้มันขี่กลับมาคนเดียว เดี๋ยวโดนแก๊งค์ซิ่งคิดว่าเสือน้อยข้ามถิ่น”
แนชหันไปเงื้อขาจะถีบ กิมรีบหนีไปยืนข้างก้าน
“อย่ามาใช้กำลังกับกูนะ ไอ้เสือน้อย”
“สัดๆๆๆๆ” แนชด่าไม่หยุด
ก้านหันไปถามกิม “พี่จะกินข้าวก่อนหรือกินเหล้าก่อน”
“เฮ้ย ไม่ๆ แค่มาส่งมันเพราะจะกลับไปกินข้าวที่บ้านเยาว์”
“อ้อ..” ก้านลากเสียงยาวเพราะรู้ว่ากิมกำลังคบอยู่กับนงเยาว์สาวสวยที่ผู้ใหญ่แนะนำให้รู้จักกัน

จนเมื่อกิมขับรถออกไป ก้านก็พาแนชไปกินข้าวที่โรงครัวของโฮมสเตย์ ลูกค้าที่เป็นศิลปินคู่สามีภรรยากำลังเรียนการทำยำหมูย่างจากแม่ครัว
ก้านเลยหันมาถามแนช
“จะลองทำแกงจืดเองมั้ย”
“ไม่ มึงทำไปเหอะ กูรอกินอย่างเดียว”
แต่ก้านก็ไม่ได้ทำเหมือนกัน เพราะแม่บ้านอีกคนเข้ามาทำแกงเขียวหวาน กับไข่เจียว แล้วก็ผัดผักให้อย่างรวดเร็ว
แนชหันมามองหน้าเจ้าของโฮมสเตย์ที่ยิ้มกว้าง
“ผมถามจากพี่กิม ว่าแนชชอบกินอะไร พี่กิมบอกว่า ยังไงก็ได้ แต่ต้องมีผัดผักพี่ชอบกินผัดผักเปล่าๆ”
แนชได้แต่พยักหน้ายอมรับ..ก็..ตามนั้นแหละ ถูกทุกข้อที่ว่ามา..

ลูกค้าที่โต๊ะข้างๆ ชี้บอกว่า อยากได้แกงเขียวหวานเหมือนกัน แม่บ้านก็รีบหันไปทำให้ แต่แนชกลับชวนให้ยกกับข้าวทั้งหมดมากินด้วยกัน
คุยกันไปแนะนำที่เที่ยวกันไปจนกระทั่งอิ่ม

“ทำโฮมสเตย์มันสนุกแบบนี้เอง” แนชบอกหลังจากที่ลูกค้าแยกไปเดินเล่นหลังอาหารมื้อใหญ่
“ใช่ ถ้ารีสอร์ททำแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะลูกค้าเยอะ”
“ถึงจะที่นี่ก็เถอะ ถ้ามีลูกค้าเต็ม 5 ห้องก็วุ่นวายเหมือนกัน”
“แล้วมึงก็ต้องดูแลแบบนี้ทุกห้องใช่มั้ย”
“ไม่หรอก บางคนเขามาพักแบบต้องการความเป็นส่วนตัวมากๆ หรืออาจจะมาเพื่อนอนพักไม่ได้มาเที่ยว เขาจะสั่งอาหารไปที่ห้อง ถึงที่นี่จะให้บรรยากาศแบบอยู่บ้าน แต่เราก็ไม่ควรเดินไปกดออดเรียกเขาออกมาข้างนอก”
ก้านเล่าเรื่องงานของตัวเองแล้วหันไปถามแนช
“แล้ววันนี้ ไปหาพี่กิม ผมยังคิดว่าพี่จะไปกินเหล้าด้วยกันก่อน”
“เปล่า” แนชบอกแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ไม้ตัวยาวหน้าบ้าน “มันนัดกับนางสาวนงเยาว์ไว้” หนุ่มตัวเล็กพูดขำๆ “ไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะถูกใจคนที่พ่อแม่หาให้”
“นงเยาว์เขาก็เป็นคนค้าขาย แต่งเข้าบ้านมาช่วยกันทำงานก็มั่นคงดี” ก้านนั่งลงข้างๆ
“แล้วมึงล่ะ” จู่ๆ แนชก็หันมาถาม “พ่อแม่มึงจะแนะนำผู้หญิงให้มึงหรือเปล่า”
ก้านส่ายหน้า “เขาเคยทำแล้วตั้งแต่ตอนที่ผมเรียนจบกลับมาบ้าน เขาก็นัดผู้หญิงให้ดูตัว แต่ผมปฏิเสธไปว่า เสียเวลาของฝ่ายผู้หญิงเขาเปล่าๆ เพราะเวลาที่มีคนถามว่า ผมมีแฟนหรือยัง หรือผมรักใคร คนที่ผมนึกออกมีเพียงคนเดียว...คือแนช”
คนที่หันไปมองทางอื่น มีแก้มสีแดงเรื่อขึ้นทันที “พ่อแม่มึงรู้หรือเปล่าว่ามึง...ชอบผู้ชาย”
“รู้”
ก้านมองสีหน้าตกใจของแนชที่หันขวับกลับมาทันที แต่ตัวก้านเองกลับขำ
“ทำไมต้องตกใจขนาดนั้น”
“ตกใจสิ ห่า ขนาดกู กูยังไม่กล้าบอกเขาเลยว่ากูโดนเจ้าของโฮมสเตย์และสารพัดกิจการลักพาตัวกูมา แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาจีบกูอยู่เนี่ย”

แนชยกเรื่องทั้งหมดว่าเกิดจากก้าน ไม่โทษตัวเองสักนิดที่ไม่เคยปฏิเสธก้านเลยสักครั้ง

“ผมก็แค่ทำให้เขารู้น่ะว่า ผมไม่ได้คิดอะไรกับผู้หญิง เขาก็ค่อยๆ พูดถึงน้อยลง”
“แล้วเขารู้ได้ยังไง”
“เพราะเมื่อสักปีก่อน ผมบอกเขาว่า ผมแน่ใจตัวเองแล้วว่าผมรักใคร อย่าพยายามทำให้ผมเปลี่ยนใจเลย”
“ปีก่อน สัด รู้ช้ามาก...” แนชประชด
“ผมรู้ใจตัวเองมานานแล้ว แต่การพูดคำว่ารักออกไป มันไม่ควรเป็นคำที่พูดง่ายๆ ผมรักคนๆ หนึ่งมานานเกินไป ถึงไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดมากกว่าเดิม แต่ผมก็ถอยกลับไปที่จุดเริ่มต้นไม่ได้อีกแล้ว”

แนชลุกขึ้นยืน “กูจะไปอาบน้ำ มึงต้องไปเดินดูอะไรก่อนหรือเปล่า”
“ครับ”
หนุ่มตัวเล็กพยักหน้า บอกให้รอก่อน แล้ววิ่งเข้าไปในบ้าน กลับออกมาพร้อมกับไฟฉายอันใหญ่
“กูเปลี่ยนถ่านแล้ว ถือไปด้วย”

ก้านเดินไปที่หน้ารีสอร์ท ดูความเรียบร้อยแล้วกลับเข้ามา เห็นแนชที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ออกมานั่งรอที่หน้าบ้าน
“เข้าไปข้างในสิ ข้างนอกยุงเยอะ”
“นี่มึงออกคำสั่งกับใครเนี่ย” แนชกอดอกยืนตาขวาง
คนตัวได้แต่ส่ายหน้า ขำแบบเหนื่อยๆ “ขอโทษครับ ไม่ได้ออกคำสั่ง แค่แนะนำ”
“มึงทวนประโยคเมื่อกี้ใหม่เลย มีตรงไหนเป็นคำแนะนำ”
“ก็....” ก้านอึกอัก “เห็นแนชออกไปข้างนอก เดี๋ยวโดนยุงกัดจะไม่สบายเป็นไข้เลือดออก”
ถึงแนชจะกลับบ้านมาบ่อยกว่าคนบ้านเดียวกันคนอื่น แต่แนชก็ยังดูเหมือนคนกรุงเทพฯ มากกว่าคนแถวนี้อยู่ดี
“แต่คราวนี้มึงกลับมาเร็วกว่าครั้งก่อน”
“ลุงยามกลัวแนชจะเหงา บอกให้ผมรีบกลับเข้ามาดู”
แนชพยักหน้ายอมรับ “ไม่ถึงกับเหงาหรอก แต่มันเงียบ ๆ เพราะปกติถ้ากูไม่นอนดูละครอยู่กับแม่ ก็อยู่ในวงเหล้ากับไอ้กิม” หนุ่มตัวเล็กทำท่าเหมือนนึกขึ้นมาได้ “กูไม่เคยเห็นมึงกินเหล้า”
“กิน แต่ก็อย่างที่บอก ถ้าที่นี่มีแขกผมก็ไม่อยากกิน เพราะถ้าเกิดเขาจะเรียกหาอะไรขึ้นมาตอนที่ผมเหม็นเหล้ามันก็ไม่ดี เขาจะรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย”
“มันก็จริง”

กำลังจะเดินเข้าบ้าน ได้ยินเสียงร้องตะโกนมาจากบ้านพักด้านหน้า ตามมาด้วยเสียงโครมครามคล้ายมีคนขว้างปาสิ่งของ
ก้านผละจากแนชวิ่งตรงไปที่ต้นเสียงทันที
คู่สามีภรรยาคู่นั้นกำลังทะเลาะตบตีกันวุ่นวาย ทั้งขว้างปาสิ่งของใกล้มือเข้าใส่กัน ก้านตรงเข้าไปแยกฝ่ายสามีออกมา ทำให้ลุงยามเข้าไปกันฝ่ายหญิงได้
แต่การที่ผู้ชายอื่นไปโดนตัวผู้หญิงอื่น ต่อให้ในกรณีแบบนี้มันก็อาจโดนตบได้ แนชเลยต้องเข้าไปใช้หลังบังฝ่ายภรรยาไว้
แต่ทั้งคู่ก็ยังร้องตะโกนด่าและพยายามที่จะทำร้ายกันต่อ ก้านเลยต้องพาฝ่ายสามีให้ห่างออกมา
กว่าที่ทั้งคู่จะอารมณ์เย็นลง และกลับมาคุยกันเวลาก็ผ่านไปร่วมชั่วโมง
ก้านจัดการทุกอย่างจนเรียบร้อยถึงได้หันมาชวนแนชกลับมาบ้านพัก
ดวงตากลมที่มองมาเต็มไปด้วยความแปลกใจ และเหมือนมีคำถาม
“จะถามอะไร”
“ไมได้ถาม แต่กำลังคิดว่ามึงดูใจเย็นแล้วก็เป็นผู้ใหญ่มากกว่ากูเสียอีก”
คนตัวโตยิ้มกว้าง โอบไหล่บางเดินเข้าบ้านพัก
“เป็นแนชก็ต้องทำเหมือนผม”
แต่แนชไม่เห็นด้วย “ไม่หรอก เพราะเมื่อกี้กูกำลังจะด่า ว่าทะเลาะกันทำห่าอะไร ตอนกินข้าวยังดีๆ กันอยู่เลย”
ก้านถึงกับหัวเราะเสียงดัง

ตอนสายก้านมาส่งแนชที่บ้าน แวะเข้ามาสวัสดีพ่อกับแม่ แล้วก็กลับไปที่โฮมสเตย์
ลูกค้าทั้ง 2 คนมารอเช็กเอาท์ และพูดขอโทษที่เมื่อคืนทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อน ข้าวของเสียหาย แต่ก้านกลับยิ้มกว้าง
“คนอยู่ด้วยกันมานาน มันก็ต้องมีเรื่องที่ไม่ถูกใจกันบ้าง”
“ที่จริงตอนอยู่บ้านเราก็ทะเลาะกันนะ แต่ไม่เคยถึงกับทำลายข้าวของแบบนี้ คงเพราะถือว่า ที่นี่ไม่มีใครรู้จัก ไม่คิดว่าต้องระวังตัวหรือเกรงใจใคร ก็เลยเป็นได้ถึงขนาดนี้” ฝ่ายสามีบอก
“ครับ ไว้โอกาสหน้าให้ผมพาคุณไปเที่ยวข้างนอกดีมั้ยครับ”
“ดีๆ” ฝ่ายสามีเห็นด้วย 
แต่ในระหว่างที่สามีกำลังเซนต์สลิปบัตรเครดิต ฝ่ายภรรยาก็ถามก้าน
“ผู้ชายตัวเล็กๆ อีกคนน่ะใคร ”
ก้านยิ้มกว้างขณะที่ตอบคำถาม “พี่ที่ผมรักมากที่สุดครับ”

....สำหรับก้านแล้ว แนชคือคนที่ต้องการจะเป็นคนรัก แต่เหมือนแนชยังต้องการเวลาให้แน่ใจ ตอบแบบนี้มันก็น่าจะตรงที่สุด
ถ้าขืนตอบว่าเป็นคนรัก แนชรู้เข้ามีหวังโดนด่าเสียงดังอีกแน่
แต่ก็ยังคงหวังเสมอ ว่าจะมีสักวันที่บอกกับใครก็ตามที่ถามว่า ผู้ชายตัวเล็กๆ อีกคนน่ะใคร ว่านั่นคือคนรักของผม.... 

แต่ฝ่ายสามีหันไปทำเสียงไม่ค่อยพอใจภรรยาที่ถามเรื่องส่วนตัว แล้วหันมาบอกกับก้าน
“เขาบอกว่า คนนั้นดูไม่ค่อยเข้มแข็งแบบผู้ชาย”
ก้านอยากบอกว่า ถึงแนชจะผอม และผิวขาวจัด แต่ที่จริงเป็นคนเข้มแข็งมาก แต่ยังไม่ทันอธิบาย ฝ่ายสามีก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เบาลงกว่าเดิม “เมียผมเขาไม่ชอบพวกโฮโมน่ะ พอเห็นผู้ชายตัวผอมๆ ท่าทางสำอางค์ก็ว่าเป็นพวกนั้นไปเสียหมด แต่สำหรับผมก็ว่า คนเรามันจะเหมือนกันหมดได้อย่างไร”
ทั้งที่รู้สึกเหมือนหัวใจเต้นแรงขึ้นวูบหนึ่ง แต่ก้านยังคงยิ้มรับ ผายมือเดินนำคู่สามีภรรยาไปที่รถเล็ก ที่มีกระเป๋ากับข้าวของของทั้งคู่ ให้คนงานของโฮมสเตย์พาไปส่งที่สถานีรถ
แม่บ้านแตะที่ข้อศอกเบาๆ
“คุณคะ ถ้าเกิดเขารู้”
“รู้ก็คือรู้” ก้านตอบเหมือนไม่ได้ใส่ใจ “ไม่รู้ก็ไม่ต้องติดประกาศบอก ยังไงนี่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับที่นี่อยู่แล้ว”
แม่บ้านส่ายหน้า “เสียดาย”
“ไม่ต้องเสียดายหรอก เพราะพวกเขาอาจไม่กลับมาพักกับเราอีก”
“จริงสินะ มาตีกันแทบตายแบบนี้ คงไม่กลับมาหรอก”

บ่ายจัดหลังจากที่เคลียร์งานทุกอย่างเรียบร้อยทั้งที่โฮมสเตย์และที่รีสอร์ทก็กลับมารับแนชมาส่งที่กรุงเทพฯ กว่าจะมาถึงก็ค่ำ
“แนช”
“พักผ่อนบ้างนะ”
แนชหันมาประชด “บอกใคร มึงบอกตัวมึงเองเหอะ เดี๋ยวไปโน่น เดี๋ยวมานี่ ถ้าแยกร่างเป็นหงอคงได้มึงคงทำ”
“น่าสนใจ” ก้านรับมุก ได้ยินเสียงหัวเราะร่วนเป็นคำตอบ
พอลงรถที่หน้าอพาร์ตเมนต์แนชก็ไม่ลืมบอก “ไม่ต้องมาดักกูอย่างเมื่อวันศุกร์แล้วนะ ยังไงที่นั่นก็บ้านกู พ่อแม่กูอยู่ที่นั่น ดาบเผดิมแกเกษียณแล้ว ส่วนอาจารย์สายหยุดก็ใกล้จะได้อำลาลูกศิษย์ กูต้องกลับไปดูพวกเขาแน่ๆ”
“อ้าว แล้วผมล่ะ” ก้านท้วง
แนชชี้หน้า “มึงก็ดูแลตัวเองให้ดี กินให้อิ่ม นอนให้พอ ขับรถระมัดระวัง”
“ครับ”

ก้านรับคำสั่ง แล้วขับรถกลับออกมา

=========จบตอนที่ 2=======
เรื่องนี้มีที่มาตอนที่ไปเที่ยว  แล้วก๊วนพี่ไจฟ์เขาก็พูดกันว่า ถ้าเป็นเจ้าของรีสอร์ทจะให้มีอะไรอยู่ในรีสอร์ทบ้าง สุดท้ายพี่ไจฟืก็บอกว่า "กูไม่ทำรีสอร์ท แต่กูจะไปนอนรีสอร์ทมึงฟรีๆ" โครงการวิมานในอากาศจึงพับไปในที่สุด
แต่พล็อตให้พระเอกสวยกว่า และเด็กกว่านายเอก ผมคิดเองตอนขับรถกลับบ้าน แล้วมันก็ขยายออกมาเรื่อยๆ ตามที่คุณอ่าน จะให้พระเอกเด็กกว่าหลายๆปี ก็เขียนไม่ได้ทั้งคู่ มันอะดึ๋ยกึ๋ยกึ้ดน่ะ
คำศัพท์วันนี้ "น้องเต้ย" มีที่มาจากเืพื่อนสาวของพี่ไจฟืคนหนึ่งที่เขา (เธอ)ไม่ชอบให้ใครเรียกว่ากระเทย เพราะ "ชั้นเป็นผู้หญิง" ดังนั้นเวลาที่คุยกันจึงต้องมีการคิดคำใหม่ และกลายเป็นน้องเต้ยในที่สุด ...มีใครชื่อเต้ยมั้ยอ่ะ  :m29:
น้องตู่ ก็คือตุ๊ด
อีกเรื่องที่อยากบอก เรื่องนี้มี 6 ตอนจบ เพราะฉะนั้น ตอนนี้มันก็เกือบครึ่งเรื่องแล้วละนะ  :m26:

พบตอนที่ 3 วันสีฟ้านะครับ
พี่ไจฟ์กับทีสุดหล่อครับ 
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 04-07-2012 06:32:05
ขอบคุณไจฟ์ที :L2:
ไจฟ์ทีบรรยายการต่อปากต่อคำได้เก่งมาก ชอบอ่าน เหมือนฟังเพื่อนเถียงกัน
คอมเม้นท์ไม่เก่งนะ แต่อ่านแล้วรู้สึกว่าแนชกับก้านน่ารักจัง ถึงจะคนละแบบก็เถอะ
เรื่องของไจฟ์ทีมีข้อคิดทุกตอนนะ แต่ขอจดไว้เตือนใจตัวเองนะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: skynotebook ที่ 04-07-2012 07:01:41
มาแว้วววว
-------------------------
 :o8:  สรุปว่าเรื่องนี้น้องทีเป็นคนเขียนใช่ไหมค่ะเนี่ย
พระเอกออกแนวขี้น้อยใจนะเนี่ย ว่าแต่เหมือนใครหรือป่าวน่า
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 04-07-2012 07:09:16
ก็ยังยืนยันคำเดิมว่า แนช น่ารักมาก  :impress3:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 04-07-2012 07:17:12
อ่านแล้วเพลินเชียวค่ะ ไม่อยากให้จบตอนเลย

แต่ก็อยากรู้ว่าแนชจะใจอ่อนกับหนุ่มหน้าสวยเมื่อไหร่

+1และเป็ดแทนคำขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 04-07-2012 07:17:53
ก้านนี่แลดูมั่นคงดีเนอะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Tasaitatsu ที่ 04-07-2012 08:29:29
น้องก้านดูใจเย็นดีจัง แต่ขี้น้อยใจนะเนี่ย ชอบคิดเองเออเองอย่างที่แนชพูดจริงๆด้วย
ชอบเวลาที่แนชอยู่กับก้านจริงๆ แนชดูเย็นลงถึงจะบ่นนั่นนี่นู็้นก็ตามเถอะ

รอให้ถึงวันสีฟ้าคะ แต่วันสีฟ้าที่น้องทีบอกมันก็จะถึงตอนที่สามแล้ว
แอบไม่อยากให้มีแค่หกตอน แหะๆๆ

ขอบคุณสำหรับตอนนี้ค่ะ ^______^
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 04-07-2012 08:53:36
ก้านดูเป็นผู้ใหญ่แต่ถ้าเป็นเรื่องของแนชจะดูเป็นเด็กน้อยไปเลยอ่ะ

คงเพราะสถานะที่ยังไม่แน่นอนละมั้ง....แนชให้ความมั่นใจก้านเค้าหน่อยสิ :impress2:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 04-07-2012 09:25:52
ชอบก้านอะ ชอบมากเลยนิสัยน่ารักเชียว :-[
แต่ทำไมมันน้อยตอนจังเลยแค่ 6 เองเหรอ
6 ตอนหลัก 15 ตอนพิเสษใช่ไหมคะ (โดนไจฟ์กระทืบ :z6:)


 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 04-07-2012 09:31:54
6 ตอนจบ  o22 จะสั้นไปไหนสองหนุ่ม แต่ก็นะสั้นแค่ไหนเราก็อยากอ่าน  :sad4:

แอบชอบประโยคนี้มากถึงมากที่สุด "ผมรักคนๆ หนึ่งมานานเกินไป ถึงไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดมากกว่าเดิม แต่ผมก็ถอยกลับไปที่จุดเริ่มต้นไม่ได้อีกแล้ว” มันบอกความรู้สึกก้านได้ดีมาก

ขอบคุณไจฟ์และนายน้ำชา รักษาสุขภาพกันด้วยนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 04-07-2012 09:50:12
จะรอวันสีฟ้าอย่างใจจดใจจ่อเลยคะ!
ชอบจังน๊า บรรยากาศแบบนี้แหละ อ่านแล้วชวนสบายใจจังเลย ชอบมากๆ
คุณพระเอกเราก็นะ น่ารักเป็นบ้า ว้ายๆๆๆ คุณนายเอกเราก็นะ วีนเหวี่ยงซึน!เลิศอ่ะ!
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 04-07-2012 09:50:22
6 ตอนเองเหรอ  โหะ โหะ  ก้านดูขี้ใจน้อยเนาะ  แหม  มันน่าจับมาปลอบจริง ๆ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Yukisae ที่ 04-07-2012 09:55:34
6ตอนจบบบ?!?! สั้นแท้ o22
แต่ตอนนึงก็ยาวอยู่ เหอะๆ
อ่านตอนแรกเกือบร้องไห้แน่ะ สงสารพระเอก
ตอนนี้ก็สงสารงต้องเจอนายเอกฮาร์ดคอร์ 5555
++จ้า
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 04-07-2012 10:19:34
6ตอนจบเองหรออ *0* ไม่อยากจะเชื่อเลย 55

พระเอกหน้าสวยแถมอ่อนไหวง่ายด้วยแหะ

คราวหลังถามก่อนจิ อย่าเพิ่งหนีออกมา

แต่ไง พี่แนชก็มาง้อแหละเนอะ ง้อรึเปล่า ไอ้ด่าตลอดทางเนี้ย 555

รอวันสีฟ้าค้าบบบ :z2:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 04-07-2012 10:34:56
ตอนก้านไปรับแนช แล้วร้องไห้ จะร้องตามเลยอ่ะ สงสารก้านสุดๆ แต่พอแนชตามมา แก้มแทบระเบิด


มีแค่ 6 ตอนเองเหรอ ยืดไม่ได้เหรอ  เหมือนละครช่องหลายสีไง เรตติ้งดีๆก็ยืดไปอีกเยอะ 

ปล.น้องที  พี่เรียกน้องเตย(กระเทย) แทนพวกสาวๆจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 04-07-2012 10:43:57
ก้านน่ารักจริงๆ ^^
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: jeeu ที่ 04-07-2012 12:09:17
พี่แนช นี่พี่ไม่ได้รักน้องก้านเหรอ!!!!
ขับรถตามง้อน้องซะขนาดนี้ (ถึงจะตามมาด่าก็เถอะนะ)
ชอบที่น้องก้านร้องไห้อ่ะ ดูเก๋ดี น้อยใจพี่ กูร้อง.... น่าร๊ากกกก~~~
พี่แนช รีบๆใจอ่อน น้องรอหลายปีแล้วเน้อ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 04-07-2012 12:11:30
น่าอิจฉาแนชจริงๆ
ก้านมั่นคงได้ขนาดนี้ :L1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: PAAPAENG~ ที่ 04-07-2012 12:15:13
ฮ๊าาาาาาา
น้องเต้ยยยยย สวยอยู่นะ เป็นนางเอกด้วย
#ผิดแล้วล่ะ! 555

อีกไม่นานแนชก็จะเสร็จก้าน #ห๊ะ
สู้ๆนะก้าน ก้านดูน่ารักมากเลยอ่ะ
ชอบผู้ชายตัวโตนิสัยแบบนี้ >.<

เจอกันวันฟรายเดย์ค่ะ  :)
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 04-07-2012 12:41:41
เรื่องนี้ต้องเป็นขนมขบเคี้ยว หรือ ของขบเคี้ยว(snack food)  เพราะมีแค่ 6 ตอน :laugh:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 04-07-2012 12:45:47
พระเอกเด็กกว่าหลายๆปี ก็เขียนไม่ได้ทั้งคู่ มันอะดึ๋ยกึ๋ยกึ้ดน่ะ


กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
 :jul3:
น้องทีเอาซะคนอ่านคิดตามได้เลย
แต่พี่ชอบนะที่พระเอกสวยๆนายเอกน่ารัก
มันมีแต่คนสวยๆงามๆมันชื่นหัวใจจริงๆ
 :m1:

 :กอด1: น้องทีหมุบหมับ เจอกันตอนหน้านะจ้ะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 04-07-2012 12:48:26
6 ตอนเองหรอ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 04-07-2012 13:03:18
เรื่องนี้สั้นจังเลย

แนชน่ารักอ่ะ ส่วนก้านก็มั่งคงมาก ๆ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: must ที่ 04-07-2012 13:04:08
"ผมรักคนๆ หนึ่งมานานเกินไป ถึงไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดมากกว่าเดิม แต่ผมก็ถอยกลับไปที่จุดเริ่มต้นไม่ได้อีกแล้ว”
ชอบประโยคนี้ที่ออกมาจากปากก้าน และแค่เพียงประโยคสั้นๆ ประโยคเดียวแต่มันครอบคลุมทั้งหมดจริงๆ นะ
ไม่ว่าจะเป็น การเลือกที่จะรอโดยไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ การเลือกที่จะรักโดยไม่รู้ว่าอีกฝ่าจะมีรักมอบให้หรือเปล่า
การเลือกที่จะก้าวต่อไปแม้จะมองไม่เห็นจุดหมายปลายทาง การกระทำทุกอย่างของก้านใช้ประโยคด้านบนตอบได้หมด


ไม่ชอบให้ใครเรียกว่ากระเทยเลยเรียกว่า "น้องเต้ย" พอได้อ่านตรงนี้ก็เลยคิดถึงพี่สาว(?) ที่สนิทกันคนหนึ่งทันที
เพราะนางก็ไม่ชอบให้ใครมาเรียกนางว่ากระเทยเหมือนกัน นางบอกว่า "กูไม่ใช่กระเทย แต่กูเป็นตุ๊ด" m(_  _)m

ว่าแต่ไอ้คำว่า 'อะดึ๋ยกึ๋ยกึ้ด' เนี่ย ความหมายตามหลักพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานคืออะไร กร๊าาากกก~
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 04-07-2012 13:29:49
ชื่อคนเขียน คือแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้รีบเข้ามาอ่าน
น้องทีนี่เขียนเก่งขึ้นทุกวันๆนะจ๊ะ(มีครูที่ปรึกษาดี)
ใครอยู่ใกล้แนชคงไม่เหงานะ
และถ้าได้อยู่ใกล้ก้าน ก็จะได้ความรู้สึกที่นุ่มๆเย็นๆ(ถ้าก้านไม่อยู่ในอารมณ์น้อยใจนะ อิ อิ)
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 04-07-2012 14:08:11
ธรรมดานายเอกต้องน่ารักใช่ไหม แต่พี่ว่าเรื่องนี้พระเอกอย่างก้านนี่น่ารักมาก
แค่เจอแนชกับผู้ชายอื่นไปแอบร้องไห้แล้ว ทีแรกนึกว่าอ่านผิดแต่เป็นก้านจริงๆที่ร้องไห้
แถมแนชยังตามมาและด่าให้ ก้านกลับยิ้มอีก น่ารักมากพระเอกคนนี่้

+1+เป็ดให้คุณไจฟ์และทีสุดหล่อครับ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 04-07-2012 14:21:00
อ่านเพลินค่ะ  ก้านดูเป็นผู้ใหญ่มาก ขณะเดียวกันก็คิดมากและใจน้อยพอตัว
ชอบที่แนชมาง้อ ง้อกันแบบแมนๆเลยทีเดียว
รอตอยต่อไปวันสีฟ้าค่ะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 04-07-2012 15:55:00
น่ารักอ่ะ แนชนี่ด่าคำไม่ซ้ำกันเลยนะ 55

ก้านนี่ตัวโตแต่ขี้ใจน้อย นึกภาพตามแล้ว อมยิ้มอ่ะ

พบกันวันสีฟ้าเนาะ

จิ้มบวกๆๆๆให้น้องทีที่น่ารักค่ะ

ปล. น้องทีคะ ไอ้ อะดึ๋ยกึ๋ยกึ้ด นี่มันคืออะไรอ่ะค่ะ :m20:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 04-07-2012 18:36:56
นิสัยนายเอกแมนมาก  :laugh:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 04-07-2012 20:50:08
ว่าแล้วๆ เป็นเรื่องสั้นนี่เอง มิน่าล่ะก้านถึงได้ใจร้อนนัก รุกเร็วมากกกกกกกกกกก

แนชก็แคร์ก้านซะขนาดนั้น ยังจะทำปากแข็งอีก เดี๋ยวปั๊ดจับตีก้นซะ อิอิ

แต่ 6 ตอนนี่มันน้อยไปอ่า ยังอ่านไม่จุใจเลย ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 04-07-2012 21:10:42
 :mc4: มาติดตามอ่านเรื่องใหม่แล้วค่ะ แค่สองตอนก็น่ารักละ ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆให้อ่านอย่างต่อเนื่องนะคะ รักคนเขียนค่ะ กอดๆๆๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 04-07-2012 21:22:24
อ่านะ น้องเต้ย มันมีที่มางี้เอง 555

แต่แปลกดีเรื่องนี้พระเอกสวย อิอิ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: kabung ที่ 04-07-2012 21:37:54
ชอบเรื่องนี้มากกกกกกก งืดดดด มีหกตอนเองเหรอค่ะ  :serius2:

หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixa ที่ 04-07-2012 21:58:00
เพิ่งจะเห็นว่ามีเรื่องใหม่
เข้ามาติดตามค่ะ แต่ไม่ไหวจะอ่านตอนนี้
พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้ามาก (แคร์ด้วยเหรอ)
มาลงชื่อไว้ก่อนนะคะ
มีน้อยตอนจัง...
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 04-07-2012 22:07:26
เป็นเรื่องสั้นเหรอ  :z3:
ก้านช่างเป็นคนดีจัง บางครั้งยังดูเคะกว่าอีก คาดไม่ถึงว่าจะมาชอบแนช
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: from_mars ที่ 04-07-2012 22:12:53
หกตอน คุณพระ ตอนพิเศษคงเยอะสินะ 55555
สองคนนี้ดูเปลี่ยนแนว คนตัวเล็กดูเข้มแข็งดี ชอบจ๊ะ นางพญา

รออ่านต่อ และเป็นกำลังใจให้เสมอนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 04-07-2012 22:16:37
อ่านไปยิ้มไป ก้านน่ารักแท้น๊อ แต่แนชใจง่ายอ่ะ ปล่อยให้เค้ากอดให้เค้าจูบเฉยเลย :เฮ้อ:
ตอนต่อไปมาเร็วๆนะ #เกรียนน้องที ฮ่าๆๆ :laugh:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: wdaisuw ที่ 04-07-2012 22:18:27
เป็นความสัมพันธ์ที่ก่อตัวขึ้นด้วยเวลาที่เหมาะแล้วนะคะ :กอด1:
เห็นแบบนี้ แนชก็แคร์พระเอกของเราไม่น้อยเลย :o8:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: beautifuldead ที่ 04-07-2012 22:20:44
แนซดูเหมือนพลังงานเหลือเฟือเกินกว่าจะเป็นแค่เด็กเรียนเหมือนตอนต้นเรื่องที่เกริ่นๆ มา
แต่ก็นะ ถ้าเรียบร้อยจริงๆ จะเป็นเพื่อนกับกิมได้หรอ..ใช่ป้าว อิอิ


ก้านโตที่ความคิด ไม่ได้โตแต่ตัว จริงๆ สมแล้วที่คุมคนมากๆ ได้ ..
เคยไปโฮมสเตย์กึ่งๆ รีสอร์ทมาที่หนึ่ง เค้าก็ทำแบบฟรีสไตล์มาก
คุณเจ้าของใจดีมาก เหมือนคิดว่าทุกคนเป็นครอบครัวหมด
เรทห้องไม่เคยขึ้นมาเป็นสิบปี แถมหน้าไฮ หน้าโลว์ ซีซั่นไม่ปรับเรทอีกต่างหาก

คิดว่าก้านแอบมีบางอย่างคล้ายๆ คุณเจ้าของคนนั้นเหมือนกันแหะ
ปล. ลูกชายคุณเจ้าของหล่อด้วยนี่ซิที่สำคัญ >< (เอะ ชักไม่เกี่ยวกันแล้วใช่มะ)
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 04-07-2012 22:58:00
ก้านดูเป็นผู้ใหญ่มาก
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 04-07-2012 23:08:55
ชอบคำขู่ของก้านอะ  เดี๋ยวเอาไปขู่บ้าง   คึคึ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 04-07-2012 23:37:44
ค่อยๆพัฒนากันไป o13
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: BossoM ที่ 04-07-2012 23:37:59
ก้าน เอ็งหล่อ เอ็งน่ารัก เอ็งสวย โห่ยยยยยยยย  :impress3:

แนชคงไปไหนได้ไม่ไกลหรอก เสร็จไอ้เด็กคนนี้แน่นอน นอนแน่ คิคิ

เรื่องสั้นหรอกเหรอเนี่ย น้องที๊~~~~~~~~~~~~  :z3:

บวก บวก แถม  :กอด1: จ้า ชุบุชุบุ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 05-07-2012 13:33:33
แหะๆ ผ่านไปสองตอนแล้วพึ่งได้เข้ามาอ่าน แอบชอบโฮมสเตย์ก้าน
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: เพื่อนบ้าน ที่ 05-07-2012 15:33:35
น้องก้านนนนนนนนน น้องก้านมีสองร่างใช่ไหม
น้องก้านที่อยู่กับแนชนี่ขี้แง ขี้น้อยใจ ชอบคิดไปเอง
แต่ก้านที่เป็นเข้าของโฮมสเตย์กับกิจการล้านแปดนี่ผู้ใหญ่จัง
แต่ไม่ว่าจะคนไหนก้านก็น่ารัก ><~
อ่านตอนแรกๆจะร้องไห้ไปกับก้านแล้วนะ น้องก้านน่าเอ็นดูอ่ะ
นี่ถ้าเกิดแนชไม่ตามมาง้อนี่จะโป้งจริงๆด้วยนะเออ แต่พอดีแนชมาอ่ะ
เสียดายยยยยยยยย เรื่องนี้น่ารักและก็สนุกดี ไม่น่าเป็นเรื่องสั้นเลย
อีกอย่างอ่านแล้วอยากหนีเที่ยวววววววววววว หนีเที่ยวๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: jaymaza ที่ 05-07-2012 15:34:06
จะสั้นจะยาวก็รออ่านค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 05-07-2012 16:19:00
ไปเที่ยวกลับมาได้อ่านนิยายเรื่องใหม่ของไจฟ์ที ดีจริงเชียว
เปิดเรื่องได้แปลกแหวกแนว พระเอกแต่งเป็นน้องเต้ย
แนชก็ปากจัดได้ใจ แต่ถึงยังไงก็แพ้น้ำตานายก้าน
เหมือนแต่ละตอนยาวจุใจ แต่พอบอกว่ามีแค่หกตอน อ้าว...
ยังตามเป็นแฟนเหนียวแน่นเหมือนเคย อิอิ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 05-07-2012 19:52:07
เพิ่งเห็นเรื่องใหม่ของคุณไจฟ์คุณที น่ารักจัง
ตัวพระหน้าสวยตัวโต ตัวนายตัวเล็กห้าวเป้ง
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 06-07-2012 01:11:18
แนชไวมากค่ะ
ว่าก้านรุกหนักแล้ว แต่แนชนี่รับได้หมด
แบบนี้หมายความว่าไงจ๊ะแนช
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: PookPick ที่ 06-07-2012 06:33:17
น้องก้านรุกเร็วมาก แต่ก็นะ เค้ารอของเค้ามาตั้งกี่ปี ฮาๆ
แนชกะซึนได้ใจ  :-[

หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 06-07-2012 07:14:47
มาแอบด้อมๆมองๆ วันนี้วันสีฟ้า :m7:
หัวข้อ: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 06-07-2012 07:50:33
ตอนที่ 3

ทั้งที่แนชบอกว่า ระยองคือบ้าน ที่มีทั้งพ่อและแม่อยู่ที่นั่น แต่ผ่านไปอีกเดือนกว่าแนชก็ยังบอกว่าไม่ต้องมารับเพราะเสาร์-อาทิตย์ต่อมามีทั้งต้องทำงานตอนวันเสาร์บ้าง อาทิตย์บ้างทำให้ไม่ได้กลับบ้าน
“แล้ววันเกิดล่ะ” ก้านเพราะเห็นว่าใกล้จะถึงวันเกิดปีที่ 25 ของแนชแล้ว
“ก็ตื่นเช้าไปใส่บาตร แค่นั้นแหละมันเป็นวันพุธนี่ เสาร์อาทิตย์ค่อยกลับไปกินข้าวกับแม่”
“ไม่ได้ไปไหนพิเศษหรือ”
“ไม่ ตั้งแต่กู 15 แม่ก็ไม่ได้เลี้ยงวันเกิดแล้ว” แนชพูดขำๆ “อย่างกับมึงได้ร้องแฮปปี้เบิร์ดเดย์ทุกปีงั้นแหละ”
“ก็แค่ตื่นเช้ามาใส่บาตรเหมือนกัน”
“เออ ไว้วันเสาร์ถัดไปค่อยกินข้าวด้วยกันที่บ้านกูนะ ให้อาจารย์สายหยุดทำขนมจีนแกงเขียวหวานกินกัน”
ก้านตอบรับด้วยเสียงฮื่อ ที่แทบไม่พ้นคอแล้วก็กดวางสายหันไปมองปฏิทินอีกครั้ง

พอถึงวันเกิดของแนช ก้านก็ตีรถมาจากระยองตั้งแต่ยังไม่สว่าง แวะร้านดอกไม้ในกรุงเทพ แล้วไปหาแนชที่ธนาคารตามที่แนชเคยบอกไว้ แล้วก็ถามย้ำกับกิมอีกหลายครั้งหลายหน
กิมเองใช่ว่าจะเคยมาหาแนชที่ทำงาน แต่จำได้เพราะเคยคุยกันเรื่องที่ทำงานของแนช

ก้านมาถึงธนาคารก็ตอนบ่ายแล้ว จะชะเง้อมองหาคนก็เดี๋ยวจะโดนหาว่ามาดูลู่ทางปล้นธนาคาร เลยหันไปถามจากยาม
ยามท่าทางเข้มงวดมองช่อดอกไม้ในมือของก้าน
“มาส่งดอกไม้หรือ”
“ครับ”
ยามหันไปมองนาฬิกา ท่าทางอยากให้ฝากไว้แล้วเอาเข้าไปส่งให้เองมากกว่า ก็พอดีกับชายหนุ่มอีกคนก้าวเข้ามา
“อ้าวคุณ มาหาแนชหรือ ผมมนตรีไง จำได้มั้ย”
ก้านยิ้มกว้างเพราะจำมนตรีได้ “จำได้ครับ ผมเอาดอกไม้มาให้แนช”
มนตรีพยักหน้า ยิ้มกว้างพอกันกับก้าน แล้วหันไปบอกยามว่าจะพาเข้าไปเอง
“ผมรู้จักเขา เดี๋ยวผมพากลับมาเอง”

เป็นครั้งแรกที่มีข้อความมาอวยพรวันเกิดตั้งแต่เที่ยงคืน ส่งข้อความตอบกลับไปว่าขอบคุณแล้วก็นอนต่อ ตื่นเช้าก็ไปใส่บาตรทำบุญที่วัดเหมือนทุกปีที่ผ่านมา พอ 8 โมงเช้าถึงได้โทรหาดาบเผดิมกับอาจารย์สายหยุดขอคำอวยพรวันเกิด
บอกตามตรงคำอวยพรของพ่อกับแม่นี่ช่างไม่พัฒนาเสียเลย เหมือนเดิมทุกปี
แต่จำไม่ได้ เพราะมันยาวมากกกกก ค่อนไปทางคำสั่งมากกว่าคำอวยพร
คาดว่าพ่อกับแม่จะใช้เวลาเตรียมคำพูดไว้นานเหมือนกับอีกคน ที่ช่างสรรหาคำพูดยาวๆ แบบนั้นได้เสมอ
ยิ่งเปรียบเทียบยิ่งรู้สึกว่ากูนี่มันช่างกระด้างเสียเหลือเกิน ไม่เคยพูดอะไรแบบนั้นโดยที่ไม่ขำตัวเองเสียก่อนสักที แต่ทำไมเวลาฟัง 3 คนนี้พูดยาวๆ แล้วกลับชอบฟังก็ไม่รู้
นึกขึ้นได้พอจะกดโทรศัพท์ก็บอกตัวเองว่าไว้ก่อน เลิกงาน หรือไม่ก็กลับไปถึงห้องแล้วค่อยโทรฯ

นั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานใหญ่ กั้นอาณาเขตด้วยแผงสูงระดับคาง ให้เพื่อนร่วมงานมาเกาะยืนคุยกัน
“วันเกิดเลี้ยงที่ไหนแนช”
“พี่เลี้ยงผมสิ” แนชบอกคนที่ถาม แต่มีอีกหลายเสียงช่วยกันคัดค้าน
จนกระทั่งหัวหน้างานต้องตัดสิน
“เอาเงินที่ขายหนังสือพิมพ์มาซื้อพิซซ่ามั้ยแนช แต่พี่ว่ามันจะดูไม่ดีสำหรับวันเกิดนะ มันดูอนาถายังไงก็ไม่รู้”
คราวนี้ทุกเสียงสนับสนุน
“ก็ได้ๆ พิซซ่าก็ได้ใกล้เลิกงานค่อยสั่ง” ในที่สุดแนชก็ต้องยอม
แต่ก๊วนรอบโต๊ะของแนชยังไม่ยอมไปไหน
“ต้องเก็บท้องไปกินกับคนพิเศษหรือเปล่า พี่รับหน้าที่จัดการส่วนของแนชได้นะ”
“คนพิเศษอะไร ไม่มีหรอก” แนชตอบทันที
“จริงๆ น่ะเธอ 25 แล้วนะไม่ได้คิดชอบใครบ้างเลยหรือไง”
“ไม่มี ผมจะไปชอบใครได้” แนชตอบย้ำอีกครั้ง
“อ้าว เห็นกลับบ้านที่ระยองบ่อยๆ ยังคิดว่ามีเมีย มีลูกอยู่ที่นั่นแล้วเสียอีก”
แนชหัวเราะร่วน “มีแต่พ่อกับแม่ แล้วก็เพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่อนุบาลน่ะสิพี่”
“แล้วคนพิเศษล่ะ”
“พิเศษสุดก็พ่อกับแม่ผมไง ไม่มีพิเศษกว่านี้แล้ว”

ช่อดอกไม้ช่อใหญ่ ยกขึ้นสูงจนทุกคนในห้องหันไปมอง รวมถึงแนชที่ลุกขึ้นยืน
มนตรีหน้าตาไม่ชอบใจนัก ออกไปทางโกรธหน่อยๆ ด้วยซ้ำตอนที่ก้าวเข้ามายื่นให้ตรงๆ
ท่าทางจริงจัง จนไม่มีใครกล้าแซว ทั้งทำให้ต้องแยกย้ายกันกลับไปทำงาน
“มีคนขับรถมาจากระยอง เอาดอกไม้นี่มาให้”
บอกแค่นั้นแนชก็รู้ว่าใคร ชะเง้อมองไปทางด้านหลังของมนตรี
“กลับไปแล้ว”
มนตรีบอกเหมือนรู้ใจ
“แล้ว....ได้ยิน” แนชกระซิบถาม
“คิดว่าไง”
แนชเหลือบตามองไปรอบห้องทำงาน เหมือนใครหลายคนจะเอียงหูฟังก็เลยเปลี่ยนใจ
“ขอบคุณมากครับ”
“ขอบคุณอะไรพี่ เพราะพี่กำลังคิดว่า ไม่น่าพาขึ้นมาให้ได้ยินเลยจริงๆ” มนตรีประชดแล้วกลับไปทำงานอีกชั้นหนึ่ง

อย่างที่คาด พอนั่งลงที่เก้าอี้ทำงาน โต๊ะติดกันก็ชะโงกหน้าข้ามแผงกั้นมาถาม
“แนชดอกไม้จากใครน่ะ”
แนชอยากตอบเหมือนกัน แต่ก็กลับยิ้มแหงๆ “ไม่ใช่ของพี่มนตรีก็แล้วกัน”
“รู้แล้วย่ะ ว่าไม่ใช่ เขาเสียงดังฟังชัดขนาดนั้น แต่อยากรู้ว่าใคร ไม่ทันได้หันไปมอง เห็นแต่พี่มนตรีเอาดอกไม้มายื่นให้”
“เพื่อนน่ะครับ” แนชตอบเลี่ยงๆ ทั้งเหมือนได้ยินเสียงในสมองที่ร้องบอกว่าไม่ใช่เพื่อน แล้วก็ก้มหน้าก้มตาทำงาน
พิซซ่าหลังเลิกงานผ่านไป แม้จะมีเสียงแซวเรื่องดอกไม้ แต่พอแนชแค่ยิ้มๆ ไม่ได้ตอบคำถาม เรื่องที่แซวก็เปลี่ยนเป็นเรื่องอื่น
กลับมาถึงห้องพัก โทรกลับไปแต่ก้านไม่ได้รับสาย แนชก็เลยส่งข้อความขอบคุณเรื่องดอกไม้
คิดว่าก้านจะโทรกลับมาแต่ก็ไม่ได้โทรกลับ

และต้องยอมรับกับตัวเองว่า ตอนที่ได้รับข้อความอวยพรวันเกิดแล้วมีความสุข
แต่ตอนนี้กับรู้สึกหนึกอึ้ง อยากกลับบ้านไปหาคนๆ นั้น แล้วพอทำไม่ได้น้ำหนักในหัวใจมันก็เพิ่มมากขึ้น

จนถึงวันศุกร์ก็ยังคงไม่รับสาย และไม่โทรกลับ แต่มันกลายเป็นช่วงเวลาที่ –มองเห็น- ไอ้กล้ามนักฟุตบอลโรงเรียน ชัดกว่าเดิม
เพิ่งรู้ตัวว่าทุกครั้งที่ไอ้กล้ามเข้ามาอยู่ในกรอบสายตา จะต้องเห็นว่าดวงตาสีเข้มคู่นั้นกำลังมองมา
เพิ่งรู้ตัวว่าตอนที่เรียกไอ้กล้ามครั้งแรกด้วยความเข้าใจผิด หูฟังเพี้ยนจากชื่อก้านเป็นกล้าม เพื่อนๆ พากันขำ แต่คนถูกเรียกกลับยิ้มกว้าง ที่พอมาคิดให้ดี มันเหมือนยิ้มรับชื่อนั้นด้วยดี
แล้วก็เพิ่งรู้ตัว ว่า ช่วงม.6 ยิ่งใกล้จะเรียนจบ ไอ้กล้ามก็ยิ่งเข้ามาวนเวียนอยู่ใกล้มากกว่าเดิม
เพียงแต่แนชไม่เคยได้หันไปมอง ไม่เคยมีความพิเศษอะไรในหัวใจ
ก็แค่รุ่นน้องคนหนึ่งที่ทักอะไรไปมันก็มีแต่ยิ้มกลับมา

เวลายิ่งผ่านไป ยิ่งนึกออกแต่รอยยิ้มกว้าง กับตอนที่ซบหน้าอยู่กับพวงมาลัย และพอเงยหน้าขึ้นมา ถึงได้เห็นคราบน้ำตา...
คนอารมณ์ดี ไม่ได้แปลว่าร้องไห้ไม่เป็น..

เลิกงานเย็นวันศุกร์แนชงดทุกกิจกรรม ขับรถมาถึงระยองก็ดึกมากแล้ว ไม่ได้ตรงเข้าบ้านแต่ตรงไปที่โฮมสเตย์
เปิดกระจกรถทักทายยามที่ด้านหน้าประตูให้เปิดประตูเข้าไปด้านใน ผ่านห้องพักที่มีแขกพักครบทุกห้อง ไปจนถึงบ้านพักรถที่จอดอยู่ด้านหน้าเป็นรถกระบะสีหม่น ที่ไม่ใช่ของก้าน
คนที่อยู่ในบ้านเดินออกมา
ไม่ต้องแนะนำ แนชก็รู้ว่านี่คือพ่อกับแม่ของก้าน นายชัยชนะ และคุณนายส้มจีน
"สวัสดีครับ ผมมาหาก้าน"
ดวงตาสีเข้มที่มองมา ทำให้แนชเหมือนหายใจไม่ออก

*-*-*
ก้านก้มหน้าก้มตาทำงานทุกอย่างในรีสอร์ทของพี่สาว ทำทุกอย่างตั้งแต่ทำความสะอาด ไปจนถึงการซ่อมที่พัก และทำสวน เหมือนสมองไม่ได้สั่งการ แต่ร่างกายเคลื่อนไหวไปเอง ไม่ได้หยุดพักแม้แต่กินข้าว ที่จำได้คือพี่สาวเดินมาส่งน้ำให้ดื่ม ก็ดื่ม แล้วก็ทำงานต่อ
สิ่งหนึ่งที่รีสอร์ทต่างจากโฮมสเตย์อย่างชัดเจนก็คือความเงียบ เพราะดึกแล้วยังมีรถที่ออกไปเที่ยวกลางคืน หรือไม่ก็กลับมาจากการทานอาหารข้างนอก ยังมีกลุ่มที่จับกลุ่มดื่มเหล้ากันที่ชายหาด และเสียงเพลงจากที่ไหนสักแห่ง
เงยหน้าขึ้นมาจากเครื่องปั๊มน้ำ ก็เดินไปล้างมือล้างหน้าที่ก๊อกน้ำ แล้วเลยมานั่งพิงต้นไม้มองทะเลท่ามกลางความมืด พี่สาวเดินมาเรียกไปกินข้าวบอกว่า จะสี่ทุ่มแล้ว ก้านก็พยักหน้าแต่ไม่ขยับ จนกระทั่งมีคนมานั่งข้างๆ ถึงได้หันไปมอง พอเห็นว่าเป็นคนตัวเล็กคนนั้น ก็กลายเป็นอึ้ง

"ถ้ามึงหนีไปโดยที่ไม่ฟังกูอีก คราวนี้กูจะเหวี่ยงให้กระจายทั้งรีสอร์ทเลยคอยดู!"
ก้านส่ายหน้า ดูท่าทางงงๆ แล้วก็ทำท่าเหมือนนึกอะไรขึ้นได้หันไปมองทางอื่น
แนชยังไม่ค่อยเข้าใจไอ้ภาษาท่าทางของก้านสักเท่าไหร่นัก ก็เลยกอดแขนไว้
...เผื่อมันหนีน่ะ ขามันยาวกว่า....
แต่พอสัมผัสแขนชื้นเหงื่อ เห็นดวงตาแดงก่ำเหมือนคนอดนอน ใจมันก็วูบ ...
"มึงกินข้าวบ้างหรือเปล่า"
ก้านยังคงไม่ตอบ แนชก็ถามต่อ
"นอนน้อยด้วยใช่มั้ย"
คนที่เมื่อนาทีก่อนยังโวยวาย กลับสลดลง "สมควรที่กูจะโดนทั้งพ่อกับแม่มึง มาจนถึงพี่สาวมึงโกรธกูจริงๆ"
"พ่อว่าอะไรแนช" พอได้ยินว่าพ่อ แม่ และพี่สาวโกรธ ก็นึกขึ้นได้ว่าแนชคงไปที่โฮมสเตย์ก่อนแล้วคงมาที่นี่ ต้องพบกับทุกคนแล้ว
"พ่อไม่ได้ว่าหรอก พ่อพูดความจริง เรื่องที่มึงบอกกูแล้ว แล้วก็เรื่องที่มึงไม่ได้บอก ส่วนแม่กับพี่สาวมึงไม่ได้ว่าอะไรกูสักคำ"
"แล้ว...."
"กูบอกเขาว่า กูพูดเพราะๆ อย่างมึงไม่เป็น แล้วกูก็พยายามติดต่อมึงแล้ว แต่มึงไม่ฟังกู"

อาการเจ็บแปลบมันกลับมาอีกครั้ง
"จะฟังเพื่อตอกย้ำอีกทำไม ว่าผมไม่ได้มีค่าอะไรในสายตาของแนชเลย ไอ้เรื่องที่ว่าแนชรักพ่อกับแม่มากที่สุดผมเข้าใจ เพราะผมก็เป็นอย่างนั้นพ่อแม่คือคนสำคัญที่สุดของผม แต่ที่แนชย้ำแล้วย้ำอีก ว่าแนชไม่มีใครที่นี่นอกจากพ่อกับแม่ แล้วก็เพื่อน แล้วผมล่ะ ผมอยู่ที่ไหน คำพูดของแนชมันก้องอยู่ในนี้" ก้านชี้ที่หน้าผาก "แล้วผมก็เจ็บที่นี่" นิ้วมือใหญ่ชี้มาที่อกหนา "ผมขับรถกลับมาบ้าน โดยที่ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่าผมกลับมาได้อย่างไร เวลาที่แนชอยู่กับผม ผมรู้สึกเหมือนผมเป็นคนที่สำคัญที่สุดของแนช แนชยิ้มกับผม หัวเราะกับผม แต่พอห่างกันผมไร้ค่ายิ่งกว่าฝุ่น"

แนชแตะคางสากด้วยหนวดเคราที่ไม่ได้โกน
"กูขอโทษ กูเสียใจ ที่ทำให้มึงเสียใจขนาดนี้ แต่ที่จริงกูทำตามที่มึงบอกทุกอย่างเลยนะ”
“ผมบอกอะไร”
“ก็ที่มึงบอกว่า แค่คำพูดน่ะใครก็พูดได้ แต่มันควรแน่ใจ และออกมาจากใจไง”
"ไม่ใช่กลัวว่าเขาจะรู้ว่าแนชมีแฟนแล้วหรือ"
"กลัวทำไม" แนชสงสัย
“แนชอาจมีใครที่ไม่อยากให้รู้”
“ไม่ขนาดนั้นหรอก”

ดวงตาแดงช้ำเพราะการอดนอนหันกลับไปมองทางอื่นทันที
..รู้สึกเหมือนมีรอยแยกเกิดขึ้นในอก ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ ว่าจนถึงขนาดนี้ทำไมใจถึงคิดถึงแต่แนชตลอดเวลา
“งั้นแนชก็ไม่ต้องพยายามอธิบายกับผมหรอก ไว้อธิบายกับคนที่แนชไม่อยากให้รู้คนนั้นเถอะ”
“คนนั้นคนไหนอีกล่ะ กูนั่งอยู่กับมึงนะ จะน้อยใจอีกนานมั้ยห๊ะ”
...ว่าจะเย็นแล้วนะ แต่ไอ้ยักษ์บ้านี่มันงอนไม่เลิกซะที...

“น้อยใจ เสียใจ มันอยู่ในอกผมทั้งนั้นแหละ”
“ห่า มึงจะเอายังไงกับกูวะ นี่กูทำตามที่มึงบอกเป๊ะๆ แล้วนะเนี่ย”
“แล้วไอ้คำว่า ไม่ขนาดนั้นหรอก ของแนชน่ะมันหมายความว่าอะไร ส่วนที่ผมพูดกับแนช ผมหมายความว่า ผมรักแนชมานาน และเมื่อผมบอกแนชว่าผมรักแนช ผมก็อยากให้แนชแน่ใจว่าผมไม่ได้พูดไปเรื่อยเปื่อย”
“อ่า......เหรอ........”
...มันมีคำว่ารักปนๆ อยู่ในประโยค แล้วมันก็ได้เน้นย้ำอะไรเป็นพิเศษ แต่มันกลับทำให้ใจเต้นตึกตัก หน้าก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไม่รู้จักเวล่ำเวลา
“ก้าน” แนชเรียกทั้งที่ยังก้มหน้าอยู่ “กูรู้ว่าเรายังคุยกันไม่รู้เรื่อง กูอยากพูดอยากทำอะไรให้มึงเข้าใจนะ แต่ว่า มันดึกมากแล้ว นอนก่อนแล้วค่อยตื่นมาคุยกันได้มั้ย”
ก้านได้แต่มองคนที่ยังก้มหน้าก้มตาพูด
“คือ...กูรู้แล้วว่า มึงก็มีเหตุผลของมึง แต่ตอนนี้กูง่วงแล้ว”

...ไอ้ที่เสียใจก็ยังเสียใจอยู่ แต่กลับคิดได้ว่า แนชทำงานธนาคารคงต้องตื่นเช้าไปทำงานทุกวัน แล้วยังต้องขับรถมาถึงระยอง...

"แนช ตกลงแนชคิดอย่างไรกับผม"
"ก็...คิดว่าไอ้ยักษ์นี่มันบ้า"
"ห๊ะ" ก้านนึกคำพูดไม่ออก แนชรีบกอดแขนไว้แน่น
"ก็มันเป็นยักษ์บ้าขี้น้อยใจ ไม่อยากให้ร้องไห้ ไม่อยากให้เสียใจ นึกจะโผล่ขึ้นมาที่ไหนมันก็มาได้ ไม่เคยปฏิเสธมันได้สักที ตอนมันโทรมาหาวุ่นวายนาดไหนก็รับสาย แล้วก็....."
ดวงตากลมกะพริบถี่ๆ แล้วก้มหน้า
...เออ เมื่อกี้ไอ้ยักษ์บ้านี่ หรือเราที่เป็นคนพูดคำว่าแฟนก่อนกันนะ รู้แต่ว่าเราไม่ได้ปฏิเสธอะไรอีกแล้วนี่หว่า...
"แล้วก็...."
"ไม่รู้แล้ว ขอเวลาทบทวนอีกนิดว่าใช่หรือเปล่า"
“ที่ไถลจะกลับไปนอน ก็เพราะจะขอต่อเวลาใช่มั้ย”
“เออ” นั่นแหละ ยอมรับไปเลยเหอะ ไหนๆ ก็พูดอะไรซึ้งๆ หวานๆ แบบมันไม่เป็น ผิดก็ยอมรับว่าผิด มั่วก็ยอมรับว่ามั่วเลยแล้วกัน “เอาเป็นว่า นอกจากพ่อกับแม่แล้ว มึงเป็นอีกคนที่กูไม่อยากให้เสียใจ”
...เลื่อนระดับเร็วขนาดนี้จะเอายังไงกับกูอีกวะเนี่ย...
“แล้วมีใครที่ไม่อยากให้เสียใจอีกมั้ย”
แนชส่ายหน้าเร็วๆ “ไม่มีแล้วแค่มึงคนเดียวกูก็เครียดแล้ว”
ก้านกระแทกเสียงในคอ ลุกขึ้นยืน “แล้วให้ใครมาส่ง”
“เลิกงานขับรถมาเองจากกรุงเทพฯ เจอพ่อที่โฮมสเตย์ แต่แม่ให้คนที่โฮมสเตย์มาส่ง เพราะมันดึกแล้ว ไม่อยากให้ขับมาเอง”
...เออ อยากรู้อะไรก็ถามมาเหอะ บรรยายเองไม่ถูก ใช้วิธีตอบทุกคำถามก็ดีเหมือนกัน...

แต่ตอนนี้ก้านกลับทำได้ได้แค่ส่ายหน้า เดินนำมาที่บ้านพักหลังเล็กของพี่สาว เคาะเรียก แล้วบอกว่าวันนี้จะกลับไปนอนที่โฮมสเตย์
“เออ ค่อยๆ คุยกัน เดี๋ยวพี่จะโทรบอกพ่อกับแม่ให้ว่าแกจะกลับไปนอนที่โน่น ขับรถระวังด้วยนะ”

(มีต่อนะครับ)
หัวข้อ: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 06-07-2012 07:54:20
พอมาถึงโฮมสเตย์ ก้านก็หันมาเรียกคนที่หลับในทันทีที่ล้อหมุน
“อ้าว อยู่บ้านแล้ว”
แนชงัวเงียลงจากรถแล้วเดินเข้าบ้าน ท่าทางเก้อเล็กน้อยพอเห็นพ่อแม่ ที่ลุกออกมาดู
พ่อเรียกก้านให้อยู่คุยกันก่อน แนชก็เลยเดินผ่านจะขึ้นไปอาบน้ำ ตอนที่เดินขึ้นบันไดยังได้ยินที่พ่อคุยกับก้าน

“พ่อไม่ได้อยากยอมรับที่แกชอบผู้ชายด้วยกันหรอกนะ แต่ตอนที่เห็นแกผิดหวัง พ่อกับแม่ก็กลับเสียใจไปกับแก ก็ยังคุยกันว่า รออีกสักเดือนถ้าพวกแกแยกกันจริงๆ ก็จะจับแกไปเจอกับผู้หญิงแล้ว แต่พอเห็นเขาขับรถมาหาแกกลางดึก มาพูดขอโทษพ่อกับแม่ ก็คิดว่า เพราะพวกแกอยู่ไกลกัน มันจะมีช่วงเวลา มีช่องว่างเยอะ ถ้าคิดจะคบกัน มันก็ต้องใช้ความอดทน และความเข้าใจมากกว่าคนที่เขาคบกันแล้วก็ทำงานอยู่ที่เดียวกันหลายเท่า”
พ่อสอนแล้วเดินกลับขึ้นมาที่ห้องนอน ขณะที่แนชรีบเข้ามารออยู่ในห้องเหมือนกัน พอก้านตามเข้ามาเลยเห็นว่าแนชยังไม่ได้อาบน้ำ
“กระเป๋ากูยังอยู่ในรถ พ่อกับแม่ขึ้นห้องกันหมดแล้วหรือยัง”
“ขึ้นมาแล้ว แนชอาบน้ำเลยก็ได้ผมลงไปเอากระเป๋าให้”
“ไม่ต้อง กูไปเอาเองดีกว่า มึงนอนเถอะ”
“งั้นแนชเอากางเกงผมใส่นอน พรุ่งนี้เช้าผมไปเอากระเป๋าให้” ก้านลุกไปหยิบกางเกงเลจากตู้มาส่งให้ ตัดปัญหาไม่ต้องเถียงกันเรื่องกระเป๋า
แนชรับกางเกง แต่พอก้าวเข้าไปในห้องน้ำก็กลับออกมาใหม่
“กูว่ายังไงกูก็ต้องลงไปเอากระเป๋าอยู่ดี”
“ทำไม”
“ก็แปรงสีฟันอันที่กูใช้ครั้งก่อนไม่อยู่แล้ว”
ครั้งก่อนก้านมีแปรงสีฟันใหม่ ที่ยังไม่ได้แกะอยู่ในตู้ แนชก็เลยถือวิสาสะแกะใช้ แต่ว่าตอนนี้เหลือแปรงอยู่อันเดียว
“หรืออยู่ในตู้”
“ไม่มีหรอก ผมยังไม่ได้ไปเอามาสำรองไว้”
ก็ที่นี่เป็นโฮมสเตย์ มีของใช้ส่วนตัวแบบนี้สำรองอยู่ที่ร้านค้าเล็กๆ ด้านหน้า แปรงสีฟันอันเดิมที่แนชใช้ตอนคืนแรกที่โดนพามาจากร้านของตือ เป็นอันที่ก้านสำรองไว้ในตู้

แนชอึ้งๆ “มึงคิดว่ากูจะไม่กลับมาแล้วใช่มั้ย”
ก้านไม่ตอบคำถาม แต่ลุกขึ้นมากอดไว้
“กูอยากมาตั้งแต่วันนั้น แต่วันถัดมากูยังต้องทำงาน แล้วกูก็ไม่กล้าด้วย ยิ่งคิดว่าถ้าเปลี่ยนเป็นมึงพูดอย่างนั้นแล้วกูมาได้ยิน กูอาละวาดแน่ แต่เพราะเป็นมึง กูได้แต่ลังเล ยิ่งโทรหายิ่งเงียบหายก็ยิ่งไม่กล้า”
“อาบน้ำเถอะ  ถ้าไม่รังเกียจ ใช้แปรงสีฟันอันเดียวกันได้มั้ย”

ตื่นสายกว่าใครในบ้านเหมือนเคย ลงมารถกระบะสีหม่นคันนั้นไม่อยู่แล้ว เลยเดินมาที่ห้องครัวที่เป็นห้องอาหารในเวลาเดียวกัน มีแม่บ้านกำลังหั่นผักเตรียมของสดสำหรับมื้อเที่ยงอยู่คนเดียว ก็เลยขอทำข้าวไข่เจียวกินเองแล้วมาช่วยเด็ดผัก ล้างของจนเกือบ 11 โมง คนงานจากร้านค้าด้านหน้าคนหนึ่งก็เข้ามาช่วยงานในครัว
แขกชุดแรก 2 คนเข้ามาในห้องครัวเพื่อกินอาหารเที่ยงก่อนที่จะออกไปเที่ยวข้างนอก แล้วก็มีทยอยเข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งเที่ยง
นัดรับประทานอาหารมื้อค่ำตอนหนึ่งทุ่ม เป็นมื้อพิเศษที่มีอาหารทะเลเผาด้วย
มีเพียงแขก 2 คนแรกที่ขอสั่งอาหารค่ำไปรับประทานที่ห้องพัก ส่วนคนอื่นๆ จะมาตามเวลานัด
แนชมีหน้าที่เพียงยืนยิ้ม แล้วก็ช่วยเก็บล้างทำความสะอาดเมื่ออาหารมื้อนี้ผ่านไป และมีคนงานหลายคนเข้ามากินข้าวเที่ยง
“พี่ครับ ก้านยังไม่กลับมากินข้าว”
แม่บ้านหันมาบอก “อาจกินที่ร้านก่อสร้างก็ได้นะคะ”
แนชพยักหน้ารับทราบ “แล้วปกติ เขาให้พี่ดูแลหมดเลยหรือครับ”
“ไม่หรอกค่ะ” แม่บ้านบอกกลั้วหัวเราะ “ถ้าคุณก้านไม่อยู่ ก็จะให้แม่มาอยู่ วันนี้คงเห็นว่าคุณมาน่ะค่ะ”
“นี่เขาไม่คิดว่าผมจะหนีไปหาแม่ผมมั่งหรือไง”
แม่บ้านยิ้มเหมือนรู้ว่า แนชไม่มีทางหนีไปหาแม่ในเวลาที่ที่นี่กำลังขาดคนแบบนี้

แนชช่วยงานในครัวเสร็จก็เลยออกมาโทรศัพท์หาก้านที่ร้าน เพราะโทรเข้ามือถือไม่ติด
“ขออนุญาตไปหาแม่นะ”
“ก็ไปสิ”
“แล้วที่นี่ ปล่อยไว้งี้เหรอ”
“แนชจะไปนานหรือไง”
“ก็ถ้าคืนนี้กูไปนอนกับแม่ล่ะ”
ก้านหันไปมองคนงานที่กำลังจัดของตามใบสั่งขึ้นรถแล้วบอกกับแนช
“ไปเถอะ ทางนี้จัดของขึ้นรถแล้วอีกสักครึ่งชั่วโมงผมจะไปถึง ฝากบอกพี่แม่บ้านให้ด้วย”

ตอนที่แนชขับรถผ่านห้องพักที่ด้านหน้า ทุกอย่างก็ดูสงบเงียบดี แต่ก็จำได้ที่ก้านเคยบอกไว้ว่าถ้ามีแขกมาพักเต็มที่นี่ก็วุ่นวายเหมือนกันเพราะคนงานมีแค่แม่บ้าน กับยาม
แล้วเดี๋ยวเขาก็กลับมาแล้วนี่หว่า
กลับมาบ้านตัวเอง คุยกับพ่อแม่ แล้วก็กินข้าวเย็น ใจมันก็พะวักพะวน จนแม่สงสัย
“เป็นอะไรของแก ทำเหมือนคนลืมของจะกลับไปเอาดีหรือไม่เอาดี”
“ไม่ได้ลืมหรอก แนชรู้สึกว่าควรจะกลับไปช่วยเขาทำงาน แต่อีกใจก็คิดว่า เขาทำกันมาตั้งนานแล้ว จะไปทำอะไรได้”
“ที่โฮมสเตย์ของก้านน่ะหรือ” พ่อถาม
“ครับ”
“คนเต็มหรือไง”
“ช่าย ตอนที่แนชมาบ้าน ก้านมันยังอยู่ที่ร้านก่อสร้าง พี่แม่บ้านเขาบอกว่าไม่เป็นไร ช่วงบ่ายแขกมักอยู่ในห้อง ไม่ก็ออกไปเที่ยวข้างนอก  แต่มันก็..ไม่รู้สิ มันเหมือนไปนั่งๆ นอนๆ แล้วก็เห็นอยู่ว่ามีงานดันหนีกลับบ้าน”
“ถ้าจะไปก็ไปช่วยเขาทำงาน อย่ามัวแต่กินเหล้า เล่นสนุกไปเป็นภาระให้เขา” พ่อบอก แล้วเดินไปเปิดโทรทัศน์ดูข่าว แนชคุยกับพ่ออีกครู่ ก็ขอกลับมาที่โฮมสเตย์อีกรอบ เสียงเพลงจากห้องอาหารยังดังอยู่ แสดงว่าอาหารมื้อค่ำยังไม่จบลง
คนขับรถตามหลังแนชเข้ามาคือแขก 2 คนที่แจ้งไว้ว่าจะสั่งอาหารค่ำไปกินที่ห้องพัก
แนชจอดรถที่หน้าบ้านพักแล้วเดินกลับมาถามว่าต้องการสั่งอาหารหรือยัง ทั้งคู่ก็เลยสั่งอาหาร หนุ่มตัวเล็กรับคำสั่งแล้วถึงได้มาที่ห้องอาหาร
จดรายการอาหารที่แขกสั่งให้กับแม่บ้าน เจ้าของโฮมสเตย์ก็รีบดึงมือไว้ก่อนที่แนชจะไปช่วยล้างจานชาม
"เหนื่อยหรือเปล่า"
"ไม่หรอก กูว่ากูน่าจะถามมึงมากกว่านะเรื่องนั้นน่ะ"
"ผมไม่เท่าไหร่หรอก ตอนบ่ายที่แนชไม่อยู่ โดนไล่ให้ไปนอนตอนบ่าย"
แนชพยักหน้าช้าๆ "แสดงว่ากูไม่อยู่นี่ดีสินะ เพราะมึงได้พัก"
ก้านหน้าเหวอ จนแม่บ้านที่กำลังเตรียมอาหารอยู่ใกล้ๆ หัวเราะขำ "ไม่ใช่หรอกค่ะ คุณก้านกลับมาแล้วไม่เจอคุณ ก็เริ่มเดินวนไปวนมา พี่ก็เลยบอกว่า ให้ไปนอนพัก พอแขกกินอาหารค่ำเสร็จ จะได้มีแรงไปหาคุณในเมือง"

เสร็จงาน แม่บ้านและคนงานก็ทยอยกลับ เหลือแต่ยามที่ด้านหน้า ก้านกับแนชเดินเรื่อยๆ กลับมาที่บ้านพัก
"เหมือนไม่ยุ่งแต่ก็ยุ่ง"
"เฉพาะฤดูท่องเที่ยวกับเสาร์อาทิตย์เท่านั้นแหละ วันธรรมดาก็ได้แต่ซ่อมประตูหน้าต่าง ล้างบ้านกันไปเรื่อย"
เดินกลับมาเกือบถึงบ้าน ก้านถึงได้หันมาถาม "แนชจะกินเหล้าหรือเปล่า ผมกลับไปเอามาให้"
"ไม่กินหรอก"
"กินได้นะ"
แนชชกเบาๆ ที่ไหล่หนา "ห่า เห็นกูเป็นไอ้ขี้เมาไปได้"
ก้านหัวเราะ โอบไหล่บางเดินเข้าบ้าน "ก็เห็นว่าเวลากลับมาบ้านแล้วจะไปกินเหล้ากับพวกพี่กิมทุกครั้ง"
"เหมือนกันซะที่ไหนละ" แนชเถียง
"แล้วมันต่างกันตรงไหน"
"ตรงที่มึงไม่ใช่เพื่อน"
คำตอบของแนชทำให้ก้านถึงกับหยุดกึก
"กูละนึกแล้วเชียว ไอ้ยักษ์บ้า ต้องน้อยใจแน่ๆ เข้าบ้านก่อนเลย" พอเริ่มบ่น แนชก็บ่นไปเรื่อย "ทีเวลาอยู่กับแขก อยู่กับคนงาน ไม่เห็นมันจะขี้น้อยใจ ใครใช้ให้ทำอะไรก็ทำ อยากได้อะไรบอกมา ป๋าก้านทำให้ ทีกับกูพูดนิดพูดหน่อย แม่งนอยด์ตลอด ไอ้แนชละไม่เข้าใจจริงจริ๊ง"
พอเข้ามาในบ้าน แนชก็ดึงแขนให้ก้านนั่งที่เก้าอี้โต๊ะกินข้าว แล้วตัวเองนั่งคร่อมตักหันหน้าเข้าหา
"หนีได้ ให้มันรู้ไป"
"แนช...แต่ผมว่า ท่านี้มัน ...ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ"
แนชก้มหน้ามองแล้วกลายเป็นหน้าแดง แต่พอจะลุกขึ้น ก้านกลับกอดเอวบางไว้
"นั่งแล้วนั่งเลย ห้ามลุก ไม่งั้นผมเดินหนี"
"สัดเหอะ ชอบขู่อะไรของมึงไม่รู้ กูจะปัญญาอ่อนตามมึงแล้วเนี่ย" กำปั้นผอมๆ ทุบเข้าที่ไหล่ "แล้วกูจะพาเข้าเรื่องยังไงดีวะ ...เอางี้ กูถามก่อน ใครบอกมึงเรื่องที่กูกลับมาแล้วต้องไปกินเหล้า"
"พี่กิม"
"ก็เออ ถูก ไอ้กิมเพื่อน ไอ้ตือก็เพื่อน ทุกคนเป็นเพื่อนกินเหล้าด้วยกันมาตั้งแต่เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อจากเด็กชายเป็นนาย แต่ที่กูไม่กินกับมึง เพราะมึงเคยบอกว่า เวลาที่ที่นี่มีแขกมึงจะไม่กินเหล้า"
"แล้ว.."
"แล้วไง ก็มันคนละเรื่องกัน อย่าเอามาเกี่ยวกันสิ"
"ก็เมื่อกี้แนชบอกว่า ไม่กินกับผม เพราะผมไม่ใช่เพื่อน"
"เหรอ~~" แนชทำหน้านิ่ว "งั้นก็กูมั่ว"
ก้านขำที่แนชไถลเสียดื้อๆ 
...แนชก็มั่วๆ แบบนี้ทุกทีน่ะแหละ...
"เอาเป็นว่า ถ้ามึงไม่กินกูก็ไม่กินโอเค๊"
"โอเค"
"แล้วน้อยใจอะไรอีก"
"วันเกิด" ก้านพูดสั้นๆ
แนชถึงกับใช้ข้อนิ้วขยี้ที่หว่างคิ้ว "ก็. พูดเหมือนเดิมได้มั้ย...”

คนตัวเล็กมัวแต่มองไปทางอื่น เลยไม่ได้เห็นอาการซ่อนยิ้มของคนที่กำลังน้อยใจ

“กูขอโทษ...กูไม่ได้มีใครที่ไม่อยากให้รู้เรื่องมึง คือสำหรับมึงแล้ว เวลามันนานหลายปี แต่สำหรับกูมันเหมือนเราเพิ่งคุยกัน แล้วมันก็เร็วมากจนกูยังไม่อยากเชื่อตัวเอง เจอมึงเป็นน้องเต้ยร้านปาลูกโป่งในงานโรงเรียน อีกชั่วโมงสองชั่วโมงถัดมามึงกลายมาเป็นน้องเต้ยเด็กเสิร์ฟ แล้วก็เอาตุ๊กตาหลอกกูมาที่นี่”

ก้านกลั้นหัวเราะจนแทบสำลัก ต้องทำเป็นกระแอมเพื่อไม่ให้หลุดเสียก่อน
แนชได้แต่เหลือบตามอง

“แล้วมึงก็ถอดวิก เพื่อที่จะบอกกับกูว่ามึงคือนักบอลโรงเรียน แล้วมึงก็กลายเป็นเจ้าของที่นั่นที่นี่ มึงเข้าใจมั้ย สำหรับกูแล้วมึงเป็นเหมือนลมที่พัดอยู่รอบๆ ตัวกูน่ะ จู่ๆ ก็เกิดขึ้นแล้วก็วนเวียนอยู่อย่างนี้” แนชทำมือหมุนๆ อยู่รอบศีรษะตัวเอง
“แล้วกูก็ไม่เข้าใจว่าทำไมกูถึงยอมตามใจมึงง่ายนัก พอพวกเขาถามขึ้นมาปากมันก็พูดออกไปเอง ขอโทษนะ"
ก้านพยักหน้า เหมือนยอมรับในคำตอบ ที่สรุปจบแบบดื้อๆ ตามนิสัย แต่กลับถามต่อ
"ผมบังคับแนชหรือเปล่า"
"เปล่า เมื่อคืนกูขับรถมาเอง วันนี้ก็ขับมาเองเหมือนกัน"
"แล้วคืนนั้น ไปฉลองวันเกิดกับใคร"
"ไม่ได้ไป สั่งพิซซ่ามากินที่ทำงานกัน แล้วก็กลับห้อง กูทั้งโทรหา ทั้งพิมพ์ข้อความหามึงจนมือจะหงิก มึงเห็นข้อความบ้างหรือเปล่าเหอะ"
ก้านหันไปมองที่ลิ้นชักเก็บของแห้งในครัว ทำให้แนชมองตาม
"อย่าบอกนะ...." หนุ่มตัวเล็กลุกไปเปิดตู้ แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา เครื่องแบตฯ หมดดับไปแล้ว "โห มึงนะ เชื่อเขาเลย"
ก้านดึงมือแนชให้กลับมานั่งที่เดิม แล้วแย่งโทรศัพท์วางไว้บนโต๊ะ
"ก็ผมกลัวแนชจะว่าผมงี่เง่า แล้วเลือกคนที่แนชไปฉลองวันเกิดด้วย โทรมาบอกเลิกกับผม ผมก็เลยเอาโยนไว้ในตู้"
"คนนั้นคนไหนอีกวะเนี่ย ปวดหัวว่ะมึงน่ะ" แนชโวยวาย อยากยิ้ม อยากขำและอยากร้องไห้ในเวลาเดียวกัน
"แนชไม่รู้หรอกว่าเวลาเดินเข้าไปในออฟฟิศแบบนั้น ผมมันก็แค่ไอ้บ้านนอก จะเอาอะไรไปสู้กับคนตัวขาวๆ แต่งตัวสวยๆ แบบนั้นได้"
"สวยตรงไหน ทุกคนแต่งตัวเหมือนกันหมด อย่างกับถ่ายสำเนามา" แนชเถียง พาออกนอกเรื่อง พอหันมามองคนที่เรียกตัวเองว่าไอ้บ้านนอก รอยยิ้มที่เปิดเผยเต็มตาทำให้ใจเต้นแรงต้องหันไปมองทางอื่น "เคลียร์หรือยัง กูจะได้ไปอาบน้ำแล้วจะลงมาดูละคร ปกติกูกลับมาต้องมาดูละครกับแม่นะเนี่ย"
ก้านดันคางสวยให้หันกลับมารับจูบ จากริมฝีปากต่อริมฝีปากกลับกลายเป็นปลายลิ้นที่สัมผัสม้วนเกี่ยว แล้วดูดริมฝีปาก แนชเอียงหน้ารับจูบ ฝ่ามือใหญ่ที่ต้นขาและสะโพกคล้ายมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้น
เสียงครางแผ่วในลำคอของคนตัวเล็กยิ่งกระตุ้นให้ก้านรุกกว่าเดิม สอดมือเข้าใต้เสื้อสัมผัสแผ่นหลังบาง แนชเอนตัวตามแรงมือเข้ามาแนบชิด
ริมฝีปากบางละออกซุกหน้าลงกับไหล่
"แนช"
"อือ"
"เหนื่อยหรือ"
"อือ"
"แนช"
"ถามก็ถามสิ มือมึงน่ะ ทำไมต้องเลื้อยด้วยวะ" แนชยุกยิกหนีมือซนที่ลูบแผ่นหลัง แล้ววนกลับมาหายอดอกเกลี่ยปลายนิ้วผ่าน แล้วบีบคลึงที่ยอดอก "มัน...เสียว..."
ริมฝีปากหนาก้มลงจูบย้ำ รู้สึกถึงมือผอมๆ ที่ออกแรงบีบไหล่แน่นกว่าเดิม จนต้องดึงออกให้คล้องคอไว้ แต่ยังไม่ละจูบ
เลื่อนมือกดสะโพกเข้ามาหา แล้วบีบนวดที่ก้นกลม พอละจูบที่ริมฝีปากไปที่แก้มแดงเรื่อ แนชก็หอบเบาๆ
"แนชไปอาบน้ำก่อน ผมต้องไปดูที่ป้อมด้านหน้า แล้วจะกลับมาปิดบ้าน"
สีหน้าของคนตัวเล็กแสดงออกชัดเจนว่ามีคำถาม แล้วก็เปลี่ยนเป็นเขิน จนต้องลุกขึ้นแล้วหันมาชกแขนใหญ่อีกที ก่อนที่จะวิ่งขึ้นบันไดบ้าน
“ก็ผมต้องทำงานนี่นา” ก้านทำเสียงอ้อนไล่หลังมา
 
======จบตอนที่ 3=======
ขอบคุณที่คุณชอบเรื่องนี้นะครับ แต่เวลาบวกคะแนนกติกาบอกให้บวกที่กระทู้แรกของแต่ละตอนนะครับ 
สายเพราะต่างคนต่างคิดว่าอีกคนลงเรื่องแล้วนะครับ ก็วันนี้วันสีฟ้า พี่ไจฟ์ต้องมาลงเองนี่นา  :z2: อยากเม้าท์ต่ออีกนิดอะ
คือไอ้พระเอกสวยเนี่ย ที่มา่มันคือ ในเฟสบุ๊ค ที่เขามีแอพฯ ให้คะแนนอวาต้าร์ แล้วพี่ไจฟ์ได้คำว่า "สวย" 55555 คำแรกที่ออกมาจากปากคือ "xxย เหอะ ชกแม่งให้คว่ำ ใครทำแอพฯนี้วะ!!!"
อีกเรื่องคือ ผมคิดพล็อตแค่ที่บอกคุณ แต่เนื้อเรื่องส่วนใหญ่ พี่ไจฟ์เขียนไปหัวเราะไป ผมมายืดเรื่องนิดๆ หน่อยๆ อย่าชมว่าผมเก่งเลย เดี๋ยวผมเชื่อจริงๆ นะเออ
พบกันวันอาทิตย์นะครับ
ไจฟ์กัีบทีครับ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: skynotebook ที่ 06-07-2012 07:57:05
 :mc4: มาแว้ว
-----------------
 :serius2: ก้านอะ ขัดใจแม่ยกเสียจริง  แล้วถ้าทำงานเสร็จจะมาต่อไหม :z1:

ว่าแล้วก็แอบน้อยใจแทนก้านเนอะ ได้ยินที่แนชพูดแบบนั้นเป็นใคร ใครก็น้อยใจเหอะ
แล้วยิ่งไม่มีอะไรมามั่นใจและแน่นอนได้เลยยิ่งคิดเข้าไปใหญ่เลย
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 06-07-2012 08:27:40
อ๊ากกกกกกก เขิน :-[ คิดว่าตัวเองเป็นแนช  :m1:
ก้านขี้ใจน้อยจัง แต่ชอบ :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 06-07-2012 08:31:49
เคลียร์กันไปคนอ่านก็ใจหายใจคว่ำแทน

แต่แหมขัดใจเล็กๆเนอะ ที่นายก้านต้องทำงาน 555

+1และเป็ดค่ะ  รอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: rujaya ที่ 06-07-2012 08:47:57
 :กอด1: น่ารักอะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 06-07-2012 08:51:50
อ่านตอนต้นแล้วสงสารก้านจัง
แต่ก็เข้าใจแนชนะที่พูดกับเพื่อนร่วมงานอย่างนั้น
แนชทำเรื่องย้ายกลับสาขาระยองด่วน
โฮมสเตย์ก้านต้องการคนงานพาร์ทไทม์เพิ่ม
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 06-07-2012 08:52:02
สแนช น่ารัก  :impress3:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: @PurPle SuN@ ที่ 06-07-2012 08:54:01
ได้เห็นพระเอกขี้น้อยใจและคิดมากแบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบเนอะ

ส่วนนายเอกเราก็ห้าวเหลือใจ  พี่ว่าไจฟ์แต่งเรื่องนี้คลายเครียดนะเนี่ย

อ่านไปยิ้มไป มีความสุขดี อยากให้มันยาวกว่า 6 ตอน แต่คงยาก

ปกติไจฟ์กับทีไม่แต่งอะไรเวิ่นเว้ออยู่แล้ว เพราะงั้น 6 ตอนก็ 6 ตอน เพราะแต่ละตอนก็ยาวแล้ว



ขอบคุณไจฟ์กับน้ำชา (แมวดื้อคนเก่ง อ้อ หล่อด้วย)
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 06-07-2012 09:28:20
 :laugh:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: BossoM ที่ 06-07-2012 09:54:16
ก้านนิสัยเอ็งโคตรเด็กเลยอ่ะ  :laugh:

คือ..ชอบคิดอะไรเองเออเองคนเดียว  แบบนี้แนชก็เหนื่อยสิฟร่ะ

แต่ว่าโดยรวมถือว่าน่าร๊ากกกกกกมากเลยนะฮร๊าาา  :-[  (อยากได้ กรั่กๆๆ)

บวก บวก แถม  :man1: เหมียวแน่นๆ แล้วโดนไจฟ์กระโดดถีบ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 06-07-2012 09:58:25
ยักขี้ใจน้อย  :laugh: แต่น่ารัก

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 06-07-2012 10:07:53
ก้านเนี้ย ขี้น้อยใจเนอะ

แต่ถ้าได้ฟังแบบนั้นก็คงน้อยใจบ้างแหละ ไม่ไหวๆๆ

พี่แนชนิเป็นคนปากไวเหมือนกันนิ ><

รอตอนต่อไปฮ้าบบ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Tasaitatsu ที่ 06-07-2012 10:29:34
จากยักษ์บ้า กลายร่างเป็นเด็กขี้น้อยใจ
แต่แนชก็ยอมตามมาง้อถึงที่บ้านเลยนะ ถึงสถานะจะยังไม่ค่อยชัดเจนก็ตามทีเถอะ
กว่าจะเคลียร์กันได้ เล่นเอาคนอ่านลุ้นตามแทบนั่งไม่ติดเก้าอี้ ^_____^

ขอบคุณสำหรับตอนที่สามค่ะ ครึ่งทางแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 06-07-2012 10:49:46
โอ๊ย น่ารัก เป็นลม ร้องไห้!!!(คนอ่านเวิ่นคะอย่าสนใจ)
ก้านแม่งน่ารัก แต่ก็หื่น แต่ก็ชอบ!เขาอยากจะอ้อนพี่แนชบ้าง!!!
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Jesale ที่ 06-07-2012 10:52:27
ก้าน น่ารักอ่ะ
 รักจริงขนาดนี้ แนทยอมเป็นคนรักเหอะ

พ่อแม่ของก้าน รอรับว่าที่สะใภ้แล้ว

หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 06-07-2012 11:08:15
อั๊ยยะ ก้านทำหยั่งงี้ได้ยังงายยยยยยยยยยยยยยยยยย แนชเขินหมดแล้วดูสิ

ทำไมไม่สานต่อให้มันจบ อิอิอิ ถ้าแนชงอนแล้วคราวหน้าไม่ได้ต่อนะจะหัวเราะให้ฟันร่วงเลย คิคิ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 06-07-2012 11:16:36
น่ารักใด้อีกโอ๊ยอ่านไปยิ้มไปเหมือนคนบ้าเลยเรา :impress2:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 06-07-2012 11:25:26
ก้านน่ารักเวอร์ :o8:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 06-07-2012 12:12:12
จิ้มบวกให้กับสามตอน หุหุ อ่านรวดเดียว สนุกดีค่ะ
แบบ...อ่านแล้วก็ต้องอมยิ้ม แล้วก็คิดในใจว่า เออ... น่ารักดีแหะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: jeeu ที่ 06-07-2012 12:23:19
ใครจะฉลาดเกินสแนชล่ะ ไม่มี๊
ก็ก้านมันชอบหนีนี่เนอะ แนชต้องนั่งตักกันหนีซะเลย ฮุฮุ
ก้านรอมาตั้งหลายปี รอต่ออีกหน่อยล่ะกัน
กอดน้องที กับพี่ไจฟ์(สุดสวย)จ้าาาา~
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 06-07-2012 12:30:08
งอนกันบ่อยๆนี่ก็ดีเนาะ

อร๊ายยยยย เขินแทนนนนน~   :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 06-07-2012 12:52:12
เย้ๆๆๆต้อนรับเรื่องใหม่อีกหนึ่งเรื่อง
ชอบแนชมากๆน่ารักดีชอบก้านด้วยโดนใจสุดๆ
+1 นะคะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 06-07-2012 12:53:38
น่ารักอะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: PAAPAENG~ ที่ 06-07-2012 13:17:35
ยิ่งอ่านยิ่งหลงรักก้าน
น่ารักเหอะ!!
แนชนี่ออกแนวซึนเดเระป่ะ
รักนะ แต่ไม่อยากแสดงออก ฮ่าๆ

เจอกันวันอาทิตย์สีแดงนะคะ  :)
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 06-07-2012 14:14:14
น่ารักทั้งคู่ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 06-07-2012 14:21:13
ขี้น้อยใจจริงน้องก้านยักษ์
พี่แนชเลยต้องง้อทั้งตัวทั้งใจ อิอิ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 06-07-2012 14:31:40
ตอนแรกน้อยใจแทนก้าน แต่พอแนชพยายามติดต่อกลับ
ทำให้คิดว่าคงไม่ได้ตั้งใจจริงๆ คงชอบแต่ไม่กล้ายอมรับสินะ

+1+เป็ดให้คุณไจฟ์และทีครับ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 06-07-2012 14:42:59
พระเอกเด็กกว่าก็เงี้ยะ  ใจน้อย  น่าง้อชะมัด  อิ อิ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: must ที่ 06-07-2012 15:03:30
ก้านน่ารักอ่ะ อ่านแล้วเหมือนก้านเป็นเด็กสาวที่กำลังงอนแฟนหนุ่ม
คือยังไงล่ะ ก้านนิสัยออกแนวผู้หญิงไง คิดมาก งุ้งงิ้งๆ ขี้งอน ขี้น้อยใจ
คิดเอง เออเอง นอยด์เอง เจ็บเอง แต่ก็อย่างที่เคยบอกไปแล้วนั่นแหละ
ว่าคนที่สามารถทำให้ก้านเป็นคนมีหลากหลายบุคลิกได้ก็มี แนช เพียงคนเดียว

ส่วนแนชนั้น ก็พอจะเข้าใจอยู่แหละนะ ว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างคิดหนักเอาการ
ยังคงสองจิตสองใจ อยู่ในอารามสับสน งุนงง ไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองเท่าไหร่
คือพูดง่ายๆ ว่าแนชยังไม่สามารถเคลียร์ความรู้สึกที่ตัวเองมีต่อก้านได้แตกฉานดีนัก
อาจด้วยเพราะระยะเวลาที่ต้องยอมรับว่าค่อนข้างสั้นเอามากๆ ไม่ทันตั้งตัวนั่นแหละว่าง่ายๆ เถอะ
เพราะจะว่าไปแล้ว บทก้านตัดสินใจว่าจะรุก พี่ท่านก็รุกแบบไวปานวอกกันไปเลยทีเดียว
รุกเร็ว แต่เคลมเร็วหรือเ่ปล่าอันนี้ไม่รู้ แต่จริงใจ จริงจัง แน่วแน่ มุ่งมั่น ทนจัด ชัดเจน
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Yukisae ที่ 06-07-2012 16:00:43
อ้ออออ ที่มาของก้านเป็นแบบนี้นี่เอง 555555
แนชอ่ะ ทำหนุ่มก้านเสียใจอีกแล้ว สงสาร
แต่ก็นะ ต้องเข้าใจว่า แนชเค้าซึน
++ค่ะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 06-07-2012 16:16:38
หมีขี้งอนจังน๊าาาาา

ปุลุง..จะไจฟ์หรือทีเขียน สรุปว่ามันก็สนุกและน่าติดตามทั้งนั้นแหละค่ะ

+ 1
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: kiyomaro ที่ 06-07-2012 16:20:49
เพิ่งจะได้มาอ่าน สนุกเหมือนเคย ขอบคุณไจฟ์ทีจ้า   o13
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 06-07-2012 17:09:35
เป็นยักษ์ใหญ่ที่ทั้งขี้น้อยใจทั้งคิดมากเลยนะ
แต่แบบนี้ก็น่ารักดี  ชอบอะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 06-07-2012 17:16:56
แอบชะแว้บมาเข้าเล้า จิ้มบวกไปทุกบวกจองที่ไว้ก่อน เดี๋ยวคืนนี้มาอ่านมาเม้นต์ให้นะคะ :กอด1:

++++++++++++++

ก้มหน้าด้วยความสำนึกผิด o1

ว่าจะมาเม้นต์เมื่อคืนวาน แต่ดันได้เม้นต์คืนนี้ ต้องขออภัยเพราะหลับไปก่อนT^T

งั้นเราไปคอมเม้นต์กันเลยดีกว่าค่ะ

++++++++++++

อ่านตอนนี้แล้วได้หลายอารมณ์มาก

ที่มากสุดคือความน่ารัก อ่านไปอมยิ้มไป^^

ก้านนี่ขี้ใจน้อยมากเลยนะ เอะอะให้พี่แสนชง้อตลอดๆ

แต่พี่แสนชเขาก็ยินดีและเต็มใจจะง้อนี่เนาะ งั้นจัดไปอย่าให้เสียค่ะน้องก้าน :impress2:

เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นแต่แต่ละตอนอย่างยาวอ่ะ ชอบบบ ขออีก

ขอบคุณน้องทีกับคุณไจฟ์ค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 06-07-2012 17:54:39
ตามเข้ามาอ่านคร๊าาาาา
เป็นอะไรที่รอคอยมากอ่ะ
เด็กรุก อร๊ายยยยย
ก้านน่ารัก ใส ซื่อ (รึเปล่า)
สแนช ชื่อแปลกดี ฮา ชอบบบบ
ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 06-07-2012 18:00:28
ในวันสีฟ้าใส(แต่ฟ้าบ้านพี่กลับมัวๆหม่นๆ ฝนจะมาซะงั้น)ก็มาตามสัญญาแล้วหนา
วันนี้ให้ทั้งเป็ดทั้ง+ เพื่อเอาใจนายก้านพระเอกตัวใหญ่ใจน้อย(สงสัยจะหน้าผากกว้างนะเนี่ย)
เบญจเพสนี้ของแนชคงได้ลาภสัตว์สองเท้าแบบเรียบร้อยบริบูรณ์ชัวร์

ป.ล. น้องที พี่พูดริงๆนะจ๊ะ เชื่อจริงๆได้เลยว่าน้องทีเก่งขึ้น :m12:
       ทั้งเรื่องราว-สำนวนภาษาลื่นไหลเชียวแหละ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 06-07-2012 18:15:33
ก้านนะก้าน ไปปิดร้านแล้วมาต่อด่วน ขัดใจจริง
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 06-07-2012 18:19:23
อ่านไปเขินไปครับ
มันน่ารักแบบแปลกๆนะเรี่องนี้
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 06-07-2012 18:30:57
ก้านขี้งอนจริงๆอ่ะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 06-07-2012 20:08:03
ดูหวานยังไงไม่รู้  น่ารักทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: AllRiseApril ที่ 06-07-2012 20:13:56
วุ้ยยยยยยย  รวดเร็วทันใจจริง
ขี้น้อยใจจริงๆนะพ่อหนุ่มม
แนชก็นะ  เอาเหอะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว
เดี๋ยวก้านมันน้อยใจหนีออกนอกประเทศกันพอดีอะนะ 
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: kabung ที่ 06-07-2012 20:43:48
ชอบเวลาที่น้องก้านเข้าใจผิด แล้วพี่แนชง้อเจงๆๆ เอิ๊กกก
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 06-07-2012 21:24:22
เกือบจะได้กันแล้วเชี๊ยวววว :z10:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: irksome ที่ 06-07-2012 21:39:25
เรื่องนี้น่ารักกกก  o13
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: wdaisuw ที่ 06-07-2012 22:26:54
โอย....น่ารักมาก
อ่านไปเขินไป :-[
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 06-07-2012 22:30:59
ก้านนี่ขี้น้อยใจจริงๆ

บวกให้ตัวเดียวแล้วนะคะ หุๆ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 06-07-2012 23:49:18
ยาวจนต้องลงสองกระทู้ แล้วพี่เองก็เคยเผลอไปกดบวกที่กระทู้สอง
จริงอย่างแนชบอก เรื่องของก้านเป็นของใหม่สำหรับแนช มันมาเร็วมาก
ก็ต้องให้เวลาแนชบ้าง ไม่ใช่อะไรๆ ก็น้อยใจ
ตอนนี้สรุปว่าเข้าใจกันแล้วน่ะ รอวันอาทิตย์จ๊ะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 07-07-2012 00:32:24
ง่า~ อ่านไปหัวทิ่มไป(ง่วง) น่ารักเนอะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 07-07-2012 10:29:43
วู้ว!!! ก้านอ่ะ จะมาขยันอะไรตอนนี้  แนชมันเคลิ้มแล้วเห็นไหม ชิ!!! :serius2:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: เพื่อนบ้าน ที่ 07-07-2012 23:04:54
น้องก้านนนนนนนนนนนน ,, คนใจน้อย ขี้น้อยใจ
ให้ตายเถอะพี่ชอบพระเอกเรื่องนี้ เพราะพี่รักเด็กอ่ะ 5555
สวย ขี้งอน ขี้แย ชอบคิดเองเออเอง แหมม นี่มันคุณสมบัตินายเอกชัดๆๆ
แต่พอมันกลายมาเป็นพระเอกแล้ว อร๊ายยยยย หลงรักอ่ะ >///<
สแนช ทำไมสแนชถึงชอบทำให้ก้านเสียใจบ่อยจัง จะโป้งแล้วนะ
แต่แอบฮาพี่มนตรีอ่ะ มีเคืองแทนด้วย กร๊ากกกกกกกกก
นี่ยังดีนะที่สแนชตามไปง้อ ไม่ปล่อยให้รอนาน แค่นี้น้องก้านก็จะตายแล้ว -*-
แอบชอบใจที่น้องก้านไม่รับโทรศัพท์ด้วย 555 ปล่อยให้แนชลนบ้าง ชิวมานานไปละ
แต่สแนชมาทำมโนพี่พังครืนก็ตอนแรกน้องก้านว่ายักษ์นี่แหละ อ๋อยยย ~ สวยออกขนาดนี้ 55
แต่ถ้าไม่ยักษ์ก็คงกดแนชไม่ลงอ่ะนะ เพราะดูท่าจะไม่ง่ายเลย กร๊ากกกกกกกกก XD
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 08-07-2012 00:36:32
ไม่ได้เข้ามาหาอะไรอ่านหลายวัน ก็ช่วงนี้มันมีหลายๆอย่างที่ต้องทำอ่ะ พอเข้ามาเจอก็ตอน3แล้ว ตกใจนะเนี่ย

สิ่งที่ชอบเรื่องนี้อยู่อย่าง(นอกเหนือจากการเขียนที่ตรงสเป็กอยู่แล้วอ่ะนะ)คือ พระเอกหน้าสวย อันนี้สเเป็กของจริงเลย  :impress2: ชอบมาก

แต่พอเอาเข้าจริงๆนะ พวกเนี้ย พอถึงวัยนึงก็จะกลายเป็นผู้ชายธรรมดาไป (สังเกตจากแฟนเราเอง) เซ็งเล็กๆนะเนี่ย :m16: (แต่ก็อย่างว่า เราเองยังไม่ได้น่ารักตลอดไปสักหน่อยนี่เนอะ)

เวิ่นเว้อมาพอสมควร ดังนั้น กอดสองหนุ่ม :กอด1: ยินดีกับเรื่องใหม่จ้ะ
หัวข้อ: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 08-07-2012 05:03:26
ตอนที่ 4

ก้านไม่ได้แค่ปิดบ้าน แต่ต้องเดินออกไปดูยามกะกลางคืนที่ป้อมยามเหมือนทุกคืนที่ผ่านมา แม่บ้านและคนงานกลับไปหมดแล้ว ตรวจเทปบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด คุยกับยามอีกครู่หนึ่งเรื่องที่เมื่อคืนก่อนมีขโมยเข้าไปขโมยของในสวนผลไม้ใกล้ๆ เสร็จแล้วก็เดินผ่านบ้านพัก ยังมีแขกนั่งดื่มเบียร์อยู่ที่ระเบียงหน้าบ้าน เพียงแค่ส่งยิ้มทักทายแล้วเดินกลับมาจนถึงบ้าน
แนชอาบน้ำเสร็จแล้ว และนั่งคอยอยู่ที่หน้าบ้านเหมือนเดิม
“มารอผมหรือ”
“เกิดเล่นมุกว่า ไม่ม๊างงงงงง จะมีใครทำหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยมปะละ” แนชตาขวางปากยื่น เลยโดนก้านบีบจมูกเบาๆ
“ผมไม่ใช่คนขี้น้อยใจขนาดนั้นสักหน่อย”
“เหรอ~~~ งั้นตามสบายนะ กูกลับไปนอนกับแม่ที่บ้านดีกว่า”
“ครับ” ก้านตอบเรียบๆ ทำให้แนชต้องหันมามอง ตาขวางของจริง
“สงสัยวินาทีนี้มึงอยากให้กูโกรธ”
“อ้าว ผมตามใจไม่ดีหรือไง”
“ไม่ดี” แนชตอบห้วนๆ ไอ้นิสัยเอาแต่ใจ ปากจัด ที่มันหายไปพักใหญ่ จู่ๆ มันก็กลับมา “สัดเหอะ ไอ้ยักษ์บ้า จะเที่ยงคืนอยู่แล้วเสือกมาบอกให้กูกลับบ้าน”
“ผมไม่ได้บอกนะ แนชพูดเองต่างหาก”
“ห้ามเถียง! ไม่ว่ากูจะผิดหรือจะงี่เง่าขนาดไหนก็ห้ามเถียง!”
ก้านพยักหน้าหงึกหงักแล้วเปลี่ยนเป็นคลี่ยิ้มกว้าง “ครับไม่เถียงครับ ผมไปอาบน้ำนะ”
“เออ แค่นั้นแหละ ประหยัดคำพูดมาได้ตั้งนาน อยู่ๆ จะมาต่อคำกูทำไมให้โมโหวะเนี่ย” แนชยืนมองแผ่นหลังกว้างที่ก้าวขึ้นบันไดไปแล้วเดินไปเปิดไฟในบ้าน เหลือเพียงไฟที่หน้าระเบียง แต่ปากก็ยังบ่นไปเรื่อย
“ทำไมจู่ๆ กูรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยวะ แม่ง”
พอเข้าห้องมาได้แนชก็ล้มตัวลงนอนทันที   
ส่วนก้านอาบน้ำเสร็จก็ปิดไฟห้องนอน  แต่พอล้มตัวลงนอนแนชก็พลิกตัวเข้ามาซุกอยู่ที่ต้นแขน ก้มลงมองก็เห็นว่ายังหลับตาอยู่
"แนช"
"อือ"
"ง่วงหรือ"
"อือ"

ก้านพ่นลมหายใจออกจากปาก ไอ้ที่กอดจูบกันเมื่อครู่ มันไม่มีอะไรตกค้างอยู่เลยหรือไงนะ มือใหญ่ที่จะแตะแก้มชะงักอยู่ห่างไม่ถึงคืบแล้วก็ลดลง
...อย่าดีกว่า แนชแสดงออกมาตลอดว่ายังไม่แน่ใจ แล้วก็ต้องการเวลาที่จะศึกษากันและกัน ถ้าข้ามขั้นไปตอนนี้...มันก็คงได้ แล้วแนชจะเชื่อใจมั้ย อาจคิดว่าเรามันก็แค่ไอ้กล้ามบ้าพลัง พูดหวาน แต่สุดท้ายก็แค่หวังตัวเขาเท่านั้น....คิดๆๆๆ รู้สึกตัวก็เมื่อดวงตากลมเงยหน้าขึ้นมอง
"มึงคิดเสียงดังมาก"
ก้านทำเสียงเหมือนเครื่องหมายคำถามที่จมอยู่ในคอ แล้วรีบคว้าข้อมือผอมที่สัมผัสตรงๆ เข้าที่กลางลำตัว
"อย่าเถียงนะว่าไม่ได้คิด"
"ไม่ได้เถียงสักหน่อยว่าไม่ได้คิด แต่แนชง่วงนี่"
...เออ ก็ตุงเสียขนาดนี้....
"จริงสินะ" แนชยักคิ้วแล้วพลิกตัวหันหลังให้ทันที
"สแนช" ก้านกอดเอวบางเข้ามาเบียด
"กูจะน๊อนนนนน"
"แต่ของผมมันขึ้น" ก้านก้มลงจูบที่ข้างหู
"เรื่องของมึงเหอะ มันขึ้นก่อนกูโดนมันเสียอีก คนลามกก็งี้แหละ ในสมองมีแต่มะเขือ"
ก้านจับคนช่างพูดพลิกมาหาจูบฟัดที่พวงแก้ม แขนแข็งแรงกอดรัดไว้แน่น จนแนชโวยวาย
"สัดๆๆๆๆ กูไม่ใช่ตุ๊กตานะ เหี้ยเอ้ย กระดูกกูป่นแน่ๆ งานนี้"
ก้านก้มลงจูบปาก พลิกตัวขึ้นคร่อม แล้วจ้องมองดวงตาดื้อรั้น "แนชทำให้มันขึ้น ก็ต้องรับผิดชอบสิ....สแนช...ขอผมนะ"

นอกจากพ่อกับแม่แล้ว ก้านเป็นอีกคนที่รู้ว่าชื่อเต็มของแนช คือสแนช แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เกิน 5 ครั้งที่ก้านจะเรียกชื่อเต็มแบบนี้
แนชอ้าปากค้างแล้วนิ่งเงียบ ดวงตากลมกะพริบถี่ๆ หัวใจเต้นแรงจนคนที่คร่อมตัวอยู่ยังรู้สึก
ถึงจะยังไม่ได้ยินคำอนุญาต แต่ก้านก็ก้มลงหาริมฝีปากบางจูบนุ่มๆ ผิดกับที่จับฟัดเมื่อครู่อย่างสิ้นเชิง แต่ไม่ว่าจะเป็นจูบแบบไหน ก็ทำให้หัวใจของแนชเต้นแรงได้เหมือนกัน จากริมฝีปากก้านกดจูบที่แก้มใส แล้วขบที่ใบหู มือใหญ่เลื่อนมาสัมผัสอกบาง เกลี่ยที่ยอดอก แนชจับข้อมือหนาไว้
"ก้าน"
"ครับ"
"คือ...."
ก้านกลับมาจูบที่แก้ม แล้วหยุดรอฟังแนชพูด
"คือ...." แนชสบตาสีเข้ม "มึงแน่ใจหรือว่าเป็นกู..."
"แน่ใจสิ"
"ไม่น่าถามเลยเนอะ" แนชยิ้มแหย
"แนชอยากถามอะไร"
"เปล่า"
"แล้วคำตอบผมล่ะ"
มือผอมๆ ดึงใบหน้าคมเข้มให้ลงมาหา "อือ...ตามใจมึงเถอะ"
ก้านจูบอีกครั้ง มือใหญ่ลูบคลำไปทั่วพร้อมกับถอดเสื้อและกางเกงให้  เสียงครางหวานจากแผ่วเบาบอกให้จูบย้ำที่จุดอ่อนไหว ดวงตาหรี่ปรือเหมือนมึนเมาสื่อความต้องการ แต่ก้านยังคงเลาะเล็มผิวกายขาวอย่างไม่รีบร้อน
แนชจับไหล่แข็งไว้แน่น เมื่อก้านก้มลงหาแก่นกาย ทั้งปลายลิ้นและริมฝีปาก ผสานกับมือที่บีบบี้ยอดอก  เสียงลมหายใจถี่กระชั้นแล้วพยายามดันไหล่กว้างออก แต่ก้านกลับขืนตัวไว้ ทั้งรับไว้ทั้งหมด
"ไปคายออกเลย"
ก้านตอบกลับมาด้วยยิ้มกว้าง
"โคตรเลยว่ะมึงน่ะ" แนชบ่น ขณะที่มองตามการเคลื่อนไหวของก้านที่หยิบของออกมา
"ผมสะอาดแน่นอน รับรอง แต่แนชอยากให้ผมใส่ถุงหรือเปล่า"
แนชมองซองสี่เหลี่ยมในมือก้าน แล้วส่ายหน้า "ไม่รู้สิ แต่ไว้ก่อนได้มั้ย"
ก้านยิ้มรับคำพูดของแนชเหมือนเคย แต่พอจะขยับตัวเก็บของไว้ที่เดิม แนชก็กลับคว้าข้อมือให้หยุด ดวงตากลมเหลือบมองสบตาสีเข้ม แล้วต้องหลบตาไปทางอื่น ยังคงดูลังเลไม่แน่ใจ
“ไม่เป็นไร ผมรอได้”
“ก็รู้ว่ารอได้ แต่ว่า.....” แนชกัดมุมปากตัวเอง ขณะที่ขยับตัวถอดกางเกงนอนให้ก้าน จูบที่คางสาก ไล่เรื่อยลงมาหายอดอกสีเข้ม
"แนช ไม่ต้องก็ได้"
"กูอนุญาตให้มึงออกคำสั่งกับกูแล้วหรือไง" แนชเงยหน้าขึ้นมาหาขณะที่เลื่อนมือมาที่กึ่งกลางร่างกายของก้าน ขยับรูดให้ช้าๆ แล้วก้มลงหา
ริมฝีปากนุ่มแต่กลับทำให้ร่างกายร้อนระอุ
"แนช พอก่อน"
"กูทำไม่ได้เรื่องหรือ" แนชขยับลุกนั่ง หน้าตาเหรอหรา
"ไม่ใช่อย่างนั้น ผมอยากทำให้แนชอีก"
"ก็..." แนชจะเถียง แต่ก้านกลับจับให้แนชนั่งคร่อมตักหันหลังให้ แล้วขยับยกสะโพกบางขึ้นสูงมาอยู่ข้างหน้า "ไม่เอานะ มันสกปรก"
แต่ก้านกลับบีบนวดก้นกลม ที่พยายามเบี่ยงหนี เพียงเห็นรอยจีบหยักก็พาลทำให้เลือดในกายเพิ่มอุณหภูมิขึ้น
"แนช ทำให้ผมหน่อยสิ"
"ก็ได้ แต่มึงอย่าไปทำอะไรตรงนั้นนะ มันสกปรก"
ก้านไม่ได้รับคำสั่ง มือใหญ่ลูบไล้ต้นขาแล้วช้อนสัมผัสที่อกบาง แนชหันกลับไปหาแก่นกายข้างหน้า ก้มลงลากปลายลิ้น แม้จะรู้ตัวว่าริมฝีปากและปลายลิ้นของคนตัวโตกำลังเลื่อนจากพวงแฝดเข้าหาส่วนที่แนชคิดว่าสกปรก อย่างช้าๆ แต่มือที่รั้งสะโพกบางไว้ ทำให้เบี่ยงหนีไม่ได้
"ห่าก้าน ไม่ ไม่เอา"
ปลายลิ้นแตะผ่านปากช่องทาง ทำให้แนชต้องซุกหน้าลงกับหน้าขาของก้าน มือผอมบางกำแก่นกายไว้ เสียงร้องติดขัดอยู่แค่ลำคอ
"แนช..."
"อย่า...."
ก้านเปลี่ยนจากปลายลิ้นเป็นนิ้วที่ปราศจากเจล แนชกอดขาของก้านไว้แน่น ขณะที่ขาตัวเองสั่นระริก ก้านเลยถอนนิ้วออก บีบเจลลงตรงๆ แล้วกดนวดที่ปากช่องทางแล้วกดนิ้วเข้าหา แนชละจากการกอดขาไปทึ้งผ้าปูที่นอนไว้แน่น ก้านเพิ่มนิ้วสอดลึก พอถอนนิ้วออก แนชก็ถีบตัวหนีทันที
“อย่า...”
ก้านคว้าตามกดตรึงไว้กับเตียง ก้มลงจะจูบแก้ม แต่แนชหันหน้าหนี ริมฝีปากหนาเปลี่ยนลงกดที่ไหล่และซอกคอ ขาใหญ่เบียดให้กางขาออก รูดรั้งแก่นกายของตัวเองแล้วกดเข้าหาช่องทางที่ทั้งฝืดทั้งรัดแน่น ก้านถอยออกเพียงนิดเดียวแล้วขยับเข้าไปลึกกว่าเดิม กดย้ำจนสุด สูดปากคลายความเสียวซ่าน
มือผอมบางขยำผ้าปูที่นอนไว้แน่น ทั้งที่เจ็บจนร้าว แต่เสียงร้องกลับจุกอยู่ที่คอ มีเพียงน้ำใสที่ไหลริน
ก้านยกตัวตามจูบแก้มที่คอยหันหนี จนต้องดันคางให้หยุด รู้สึกถึงสัมผัสที่ปลายนิ้วแต่ก้านยังคงดันให้หันมารับจูบ
หมัดเล็กๆ เปลี่ยนมาทุบที่ต้นขาใหญ่ ทำให้ก้านถอนจูบ
"เจ็บ"
แต่พอจะขยับออก แนชก็กลับยิ่งทึ้งผ้าปูที่นอนแน่นกว่าเดิม
"ก้าน...อย่าขยับ.. .."
เหมือนกับว่าจะขยับไปทางไปไหนก็ทำให้เจ็บได้ทั้งนั้น
ก้านดันคางสวยให้หันมารับจูบ ดูดที่ริมฝีปากบางแรง มือใหญ่ลูบที่หน้าท้องแล้วรูดแก่นกายนิ่มจนเริ่มแข็งสู้มือก็ละจูบจากริมฝีปากมาที่ต้นคอ ไหล่ลาด แล้วค่อยๆ ขยับสะโพกต่อแล้วหยุด เปลี่ยนเป็นเร่งมือที่รูดให้แนชแทบกรีดร้อง
มือเล็กๆ เอื้อมมาที่ด้านหลัง กรีดเล็บลงที่เอวหนา เมื่อใกล้จะถึงอีกครั้ง
"ไม่ พอแล้ว ..พอ ก้าน หยุด....." ร่างกายผอมบางเกร็งตัวแล้วทรุดลงกับเตียงนอน ช่องทางด้านหลังรัดแน่น จนก้านหมดความอดทน ถอนออกแล้วกดเข้าหา สาวสะโพกใส่จนกระทั่งภาพในสมองขาวโพลน ทรุดตัวลงกอดคนที่ยังคงพยายามดิ้นหนีไว้แน่น
"แนช อย่าร้องไห้"
"เรื่องของกู น้ำตากู มึงไม่มีสิทธิ์มาสั่งกู"
"มีสิ ห้ามร้องไห้ ห้ามดื้อ"
คนที่สั่งด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนยังคงกอดรัดไว้แน่น แต่น้ำตาก็ยังคงไหล
....ผู้ชายด้วยกัน ทำไมจะไม่รู้ว่าวินาทีนั้นมันหยุดได้ยาก เราเองยังเตลิดไปไกล จนเขาส่งถึงฝั่ง 2 ครั้งติดต่อกัน...
"แนช ผมขอโทษ อย่าโกรธผมนะ"
"กูไม่ได้โกรธมึง กูแค่เจ็บจนเสียฟอร์ม"
แต่ก้านรู้ว่าที่เจ็บมากก็เพราะไม่ได้เตรียมพร้อมให้มากกว่านี้ ทั้งที่เป็นครั้งแรกแท้ๆ
“ผมขอโทษ ผมรักแนช”
“ไม่ต้องพูดแล้ว”

ก้านขยับตัว “เมื่อกี้ผมหลั่งข้างใน ผมอุ้มแนชไปล้างออกให้นะ”
“ไม่ต้องหรอกกูเดินไปเองได้”
 แต่พอลุกขึ้นนั่งแนชก็นิ่วหน้า
“ผมอุ้มนะ”
“ไม่”
หนุ่มตัวผอมค่อยลุกขึ้น เดินไปห้องน้ำเอง แต่ไม่วายหันมาบอก “กูล้างเองได้”
“ผมล้างให้ดีกว่า ถ้ามันค้างอยู่จะไม่ดี”

แต่แรกแนชก็ยืนเกาะผนังให้ก้านล้างให้  แต่เมื่อนิ้วใหญ่สอดทำความสะอาด ขาเรียวก็สั่นไหวแทบไม่มีแรง ก้านเหลือบตามองใบหน้าที่หันหนีไปทางอื่น
มือใหญ่ที่แตะสะโพกอยู่เลื่อนลูบไล้ที่ต้นขา แตะที่พวงแฝด เหมือนไม่ได้ตั้งใจ ขณะที่อีกมือที่สอดลึกกลับหมุนทำความสะอาดแต่กลับกดเน้นที่จุดอ่อนไหว
แก่นกายที่ด้านหน้าแข็งขึง เสียงครางแผ่ว
“อีกนิดเดียวนะแนช”
“ห่า แกล้งกู”
“ใครกันนะที่กล้าแกล้งแนช” ก้านถามขณะที่กดนิ้วย้ำที่ผนังด้านใน
“ไอ้....” เสียงด่าสั่นเครือ จนแนชต้องกัดปากไม่ให้พูดต่อ
คราบน้ำสีขาวเริ่มจางลง แต่ก้านยังคงขยับมือ
“งั้นเรียกตัวเองว่าแนชก่อน”
“ห่า เสร็จหรือยัง”
ก้านขยับลุกขึ้นยืนข้างๆ กดนิ้วย้ำที่จุดเดิม รับรู้ว่าผนังที่รัดแน่นเริ่มอ่อนนุ่ม
“เร็วสิ คนเก่ง เรียกตัวเองว่าอะไร”
แนชหันมากอดไหล่ก้านไว้แน่น “นะ...แนช...”
“แล้วผมล่ะ”
“ห่าก้าน”
ก้านกระแทกนิ้วแรงจนแนชร้องลั่นห้องน้ำ “อ๊าซซซห่านี่”
“เรียกใหม่”
“...ก้าน....”
“แล้วยังไงต่อดีนะ”
แนชซุกหน้าอยู่กับไหล่กว้าง “ตามใจ...ก้านเถอะ”

ก้านตื่นเช้าหันไปกระชับผ้าห่มให้คนที่นอนข้างๆ แล้วลุกไปจัดการธุระส่วนตัว เสร็จก็ลงไปเตรียมอาหารและยามาให้
“แนช ลุกไหวมั้ย”
แนชลืมตาขึ้นมอง
“กินข้าวก่อนแล้วกินยา ค่อยนอนต่อบ่ายจะได้มีแรงขับรถกลับกรุงเทพฯ” ก้านบอกขณะที่แนชบ่นงึมงัมแต่ก็ลุกมากินข้าวกินยาแล้วกลับไปนอนต่อ
โดนปลุกอีกรอบก็หลังเที่ยง เมื่อแขกที่มาพักเช็กออกไปหมดแล้ว
“ทำไมกูขี้เกียจได้ขนาดนี้วะเนี่ย” แนชบ่นอุบอิบ “มึงวางยาให้กูหลับแหงๆ”
ขับรถตามกันมาจนถึงบ้านพ่อกับแม่ ที่ให้ของแห้งกลับมากินที่กรุงเทพฯ
เสร็จแล้วก้านก็ขับรถตามมาส่งจนถึงที่เดิมอีกครั้ง
“แนช”
“อือ”
“ผมว่าคราวหน้าที่แนชจะกลับบ้าน ผมไปรับดีกว่า”
“แล้วมึงไม่ต้องทำงานหรือไง มึงต้องไปรอกูตั้งแต่วันศุกร์น่ะ”
“ผมเป็นห่วง”
“แล้วมึงขับรถไปรับกู กูไม่ห่วงมึงหรือไง”
“มันไม่เหมือนกัน”
“แล้วมันต่างกันตรงไหน ถึงกรุงเทพฯ กูจะโทรหานะ”
ก้านพยักหน้า ยืนส่งแนชขับรถออกไปแล้วถึงได้เลี้ยวรถกลับมาที่โฮมสเตย์

แปลกจริงๆ ที่จู่ๆ การใช้ชีวิตแบบเดิมๆ กลับดูว่างเปล่า เผลอเมื่อไหร่ก็พาลจะกลับไปดูที่บ้านว่าอีกคนตื่นนอนหรือยัง
พอหันไปมองนาฬิกาก็ต้องส่งข้อความเตือนให้กินข้าว
และคำพูดซ้ำๆ ที่กลับทำให้อารมณ์ดีขึ้นทันตา แล้วก็กลับมานั่งมองปฏิทินสลับกับมองนาฬิกาอีกครั้ง
คล้ายกำลังนับชั่วโมงนับวันรอว่าเมื่อไหร่จะถึงวันศุกร์ และเมื่อไหร่แนชจะกลับมา

ไปเจอกับกิม และตือเพื่อนของแนชที่วัดตอนวันพระ ทั้งคู่ทักว่าก้านดูเหมือนคนพักผ่อนไม่พอ
“งานไม่ได้หนักกว่าเดิมหรอกพี่ ก็ไปๆ มาๆ ระหว่างบ้านกับรีสอร์ทแล้วก็ร้านเหมือนเคย”
“ลูกชายคนเดียวก็อย่างนี้แหละ มึงชวนแนชให้กลับมาช่วยงานที่บ้านสิ” ตือแนะนำ ทำให้กิมนึกขึ้นได้
“หรือที่เครียดเพราะคุยกันแล้วแนชไม่ยอมกลับ”
“ไม่ได้คุยกันเรื่องนี้หรอกพี่ เพราะผมก็คิดว่าเขามีงานของเขาก็ดีอยู่แล้ว”
ตือเลยทายต่อ “ที่เครียดเพราะคิดถึงละสิท่า”
“เขาไม่ได้กลับบ้านมาเดือนกว่าแล้ว” ก้านสารภาพตามตรง “ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนอื่นเวลาห่างแฟนแล้วมีความสุขนัก”
กิมหัวเราะหึหึ “มันก็แค่วันสองวันเท่านั้นละวะ ถ้าเกินเดือนอย่างมึงคงหงอยเหมือนกัน”
“แต่มันก็เป็นของมันอย่างนี้มาตั้งนาน” ตือบอก
“ใช่ เขาเป็นอิสระแบบนี้มาตลอด ผมต่างหากที่อยากอยู่ใกล้เขา”
“กูถามมึงตามตรงนะ” ตือกอดคอก้านถามเสียงเบาๆ พอให้ได้ยินกันแค่ 3 คน “ไอ้ที่เครียดกว่าเดิม เพราะแนชมันพยศกับมึงมากเลยใช่มั้ย”
ก้านส่ายหน้า “ก็ไม่เท่าไหร่นะพี่ เขาก็เรื่อยๆ ไม่ได้ดื้ออะไรนักหรอก เพียงแต่พอเขากลับไปกรุงเทพฯ นานๆ แบบนี้แล้วผมระแวง”
“แนชน่ะนะเรื่อยๆ” กิมเถียง “ทีกับกูมันโคตรจะบัญชาการ”
ตือหันมากระทุ้งศอกใส่เพื่อน “มึงไม่ใช่แฟนมันนี่”
“แนชแม่งลำเอียง” กิมยังทำเป็นบ่นขำๆ
“อย่าออกนอกเรื่อง ไม่เห็นหรือไงว่าก้านมันเครียด กลัวโดนทิ้ง” ตือพูดอย่างตรงไปตรงมา
ก้านพยักหน้ายอมรับ “ผมเคยไปหาเขาที่กรุงเทพฯ 2 ครั้งเป็นเรื่องทั้ง 2 ครั้ง แล้วพอเขาไม่กลับบ้านมาเดือนกว่า ผมอยากไปหาใจจะขาด แต่ไม่กล้า”
“เขาก็มีเพื่อนของเขา เหมือนเราก็มีกลุ่มของเราไง” ตือบอก
กิมช่วยเสริม “หนักแน่นไว้น้อง แนชมันวุ่นวายก็จริงแต่มันไม่ใช่คนเจ้าชู้”
กำลังคุยกันเพื่อนของก้านก็เข้ามาสมทบแล้วกลายเป็นกลุ่มใหญ่ เรื่องที่คุยกันก็เปลี่ยนไปเรื่องอื่น แต่ก่อนที่จะแยกย้ายกิมไม่ลืมหันมาย้ำ
“กว่าที่มึงจะทำให้พ่อแม่มึง พ่อแม่ไอ้แนชยอมรับมึงยากขนาดไหน ไอ้แนชมันอาจจะไม่รู้เพราะมันอยู่กรุงเทพฯ แต่พวกกูเห็นมาตลอด แล้วมึงก็รู้ดีกว่าใคร อย่าหวั่นไหวแค่มันยังไม่กลับบ้าน แต่ถ้ามีอะไรให้กูช่วยก็บอก”

ผ่านไปอีกหลายวันแนชรับโทรศัพท์ของกิมบอกว่า ปลาเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มจะทำบุญขึ้นบ้านใหม่
“วันเสาร์หรือ”
“เออ ทำบุญเลี้ยงพระเพล มึงจะมามั้ย”
“ดูก่อน” แนชตอบทันที
“ดูอะไรก่อน” กิมแกล้งกวน หันไปยักคิ้วเจ้าเล่ห์กับตือที่เงี่ยหูฟังอยู่ข้างๆ
“ก็ถ้าไม่มีงานกูก็กลับ”
“ห่า มึงจะมีงานอะไรนักหนา กี่เดือนแล้วที่ไม่ได้กลับบ้านน่ะ” กิมทำเสียงดัง “กูไม่มีเพื่อนกินเหล้า”
เสียงหัวเราะร่วนดังผ่านโทรศัพท์ให้คนที่ฟังอยู่ใกล้ๆ ได้ยินตามมาด้วยคำด่า “แล้วที่ร่วมโต๊ะมึงน่ะใคร สัดเหอะ”
กิมทำเป็นลดเสียงกระซิบ “อย่าหาว่ากูใส่ไฟใครให้ร้าวฉานนะโว้ย ไม่กลับบ้านนานๆ น่ะ ระวังเป็นอื่นนะโว้ย”
“สัด”
“จริงจริ๊ง” กิมขึ้นเสียงสูง จนตืออยากปาดเหม่งสักที “ไอ้ก้านน่ะทั้งหล่อ ทั้งรวย ใครๆ ก็รู้ว่ามันฉลาดเรียนจบกลับมาบริษัทญี่ปุ่นอยากได้มันไปทำงานจะตาย แต่ติดที่มันอยากให้พ่อแม่ยอมรับมึงถึงได้อยู่ทำงานกับครอบครัว ยิ่งทำก็ยิ่งเงินงอก สาวๆ มองมันเยอะแยะ แล้วพ่อแม่เขายังไงก็อยากได้สะใภ้ มึงทำเป็นเย็น เพราะเวลามึงกลับมาแล้วมันประคบประหงมมึงอย่างกับไข่ในหิน แต่ใครจะไปรู้ว่าป่านนี้ สาวๆ จะพากันทำคะแนนไปถึงไหน เกิดมันพลาดพลั้งขึ้นมาเมื่อไหร่.....ไม่อยากคิด....” กิมหยอดท้ายแล้วรอฟังเสียงจากอีกด้าน แต่แนชกลับกดตัดสายไปเฉยๆ

“ยังไงวะ” ตือหันมาถามเพื่อน
“มันตัดสายไปแล้ว”
“หาเรื่องนะมึงไปใส่ไฟอย่างนั้น กลับมาไอ้เสือน้อยของมึงได้ขบหัวมึงแน่”
“ก็มันชอบทำแบ๊ว ทำเป็นไว้ใจไอ้ก้าน จะทำงาน ห่ากูอดไม่ได้เลยต้องขอสักกะนิ๊ด”
“สักกะนิ๊ด” ตือทำเสียงสูงล้อเลียน “มันกลับมามึงโดนแน่”
“กูก็เอาไอ้ก้านบัง”
“เออ ตายทั้งคู่ กูรอด”
“อ้าว สัดตือ เอาตัวรอดคนเดียว”
“แหงอยู่แล้ว เพราะกูเป็นเพื่อนที่ดี”

(มีต่อครับ)
หัวข้อ: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 08-07-2012 05:05:49
กำหนดทำบุญบ้านของปลาน่ะคือเลี้ยงพระเพล แต่เพื่อนหลายคนแวะเวียนมาตั้งแต่เช้า ส่วนก้านพาคนงานมาช่วยซ่อมบ้านล่วงหน้าแล้วก็แวะมาตอนทำบุญวันเสาร์อีกครั้ง
กิมกับตือถามคำถามเดิมๆ “ไม่กลับ”
“ครับ”
“ไง เสือน้อยของมึง” ตือหันไปถามเพื่อน ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า คำว่า –เสือน้อยของมึง- สะดุดหูของก้าน
“ของกูแล้วไง กูทำตามหน้าที่แล้ว แต่มันมีงานนี่หว่า” กิมบอกแล้วก็เลยชวนก้านต่อ “ที่บ้านมีแขกหรือเปล่า คืนนี้มากินเหล้าร้านไอ้ตือกัน”
ค่ำลงก้านก็มาที่ร้านตือตามที่กิมชวน คนที่อยู่ที่โต๊ะ ไม่ได้มีแค่ปลาเพื่อนร่วมรุ่นของกิมกับตือ แต่มีเพื่อนรุ่นเดียวกับก้าน แล้วก็รุ่นพี่รุ่นน้องที่ตามๆ กันมาด้วย
พอนั่งลงที่โต๊ะ มีหญิงสาวยกเครื่องดื่มมาเพิ่ม ตือหันไปแนะนำว่าเป็นหลานชื่อกิ๊บเรียนอยู่กรุงเทพฯ แต่ตอนนี้ปิดเทอม พ่อกับแม่เลยพามาเที่ยว
แต่ละคนพากันแซวที่ตือมีหลานโตเป็นสาวแล้ว ขณะที่ตัวเองเพิ่งแต่งงานเมื่อปีก่อนแล้วก็ยังไม่มีลูก
“ตอนงานแต่งไอ้ตือมาหรือเปล่า”
“มาค่ะ กิ๊บยังจำพวกน้าๆ ได้เลย”
“จำไม่ได้ว่ะ” ทุกคนยอมรับ แล้วก็หันมาคุยกันต่อ
ดวงตาคมจับจ้องคนที่แทบไม่ได้หันมามองเลยสักนิด ไม่แม้แต่จะพูดด้วยสักคำ ทั้งที่ทุกคนที่โต๊ะนี้ต่างก็ทักทายพูดแซวกันทั้งนั้น จนกระทั่งชายหนุ่มลุกออกมาเข้าห้องน้ำ หญิงสาวก็ทำเป็นรีรออยู่แถวหน้าห้องน้ำ แล้วเข้ามาทัก
“พี่อยู่ที่นี่หรือคะ”
“ครับ” ก้านตอบสั้นๆ
“ทำอะไรคะ ทำสวนหรือ”
“ไม่ได้ทำสวนครับ ทำโฮมสเตย์กับรีสอร์ทน่ะครับ”
“ดีจัง” หญิงสาวทำตาวาว “คราวหน้ากิ๊บมาเที่ยวแล้วไปค้างที่รีสอร์ทของพี่ดีกว่า”
“ครับ”
พอก้านผละไป เมียของตือก็ดึงกิ๊บมาคุย
“มึงอย่าไปอ่อยพี่ก้านเลยเสียเวลาเปล่า”
“อ้าวทำไมละน้า”
“เขามีแฟนแล้ว พี่แนชดุอย่างกับเสือ”
“ชื่อแนทหรือคะ” กิ๊บเรียกชื่อแนชผิด แต่เมียของตือก็ปล่อยให้เรียกผิดไปอย่างนั้น
“พี่ก้านเขารักของเขาจะตาย มึงไปมองหาคนอื่นเถอะ”
พอหลานเดินผ่านไปตือก็หันมาสะกิดเมีย “เธอพูดตรงไปหรือเปล่า เกิดไอ้กิ๊บมันแค่ชอบคนหล่อ แล้วเดี๋ยวมันก็กลับบ้านไปแล้ว”
“พี่จะมองหลานพี่แง่ดียังไงก็ตามใจเหอะ แต่คนเดี๋ยวนี้มันไว้ใจไม่ได้ ถ้ามันคิดจะเอาขึ้นมา ผัวใครเมียใครมันก็ไม่สนทั้งนั้น ถึงพี่ก้านจะมั่นคง แต่ถ้ามันเกิดปัญหาขึ้นมามันจะเข้าหน้ากันไม่ติด เพราะไอ้กิ๊บมันหลานพี่ หนูไม่เสี่ยงให้พี่แนชมาเผาร้านเราแน่ๆ”
เมียแสนดีสรุปแบบที่ตือเห็นด้วยทุกคำพูด
“เออจริง ถ้าไอ้แนชรู้ว่าหลานเราไปหยอดแฟนมัน มันตามมาจัดการเราแน่”
“เพราะฉะนั้น เวลาหนูปรามไอ้กิ๊บ พี่ก็อยู่เฉยๆ แล้วกัน”

ก่อนถึงวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน หลานสาวของตือและเพื่อนๆ ก็มาเข้าพักที่โฮมสเตย์ มีพนักงานรับรองไปตามหน้าที่เพราะก้านมาอยู่ที่ร้านอุปกรณ์ก่อสร้าง ส่วนตือโทรมาหาบอกว่าหลานกับเพื่อนมาพักที่โฮมสเตย์ เน้นย้ำว่า ไม่ต้องดูแลอะไรมาก
"อ้าวพี่ ทำไมอย่างนั้นล่ะ" ก้านขำ เพราะเคยเจอแต่คนที่โทรมาฝากให้ดูแลเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นที่ร้านหรือที่รีสอร์ท
"เออ นั่นแหละ  ทำตามที่กูบอกนั่นแหละ" ตือบอกแค่เพียงเศษเสี้ยวของเรื่องทั้งหมด เพราะในใจก็คิดว่ามันก็แค่เรื่องวูบวาบตามแบบของวัยรุ่น
แต่ก้านเองก็ไม่เคยเข้าไปวุ่นวายกับแขกที่มาพักอยู่แล้ว พอค่ำลงกลับมาบ้านก็เพียงแค่รับงานต่อจากพนักงานกับแม่บ้าน แล้วก็กลับเข้าที่พักของตัวเอง จนกระทั่งเช้าวันเสาร์เดินออกมากินข้าวที่ห้องอาหารสวนกับกลุ่มของแขกที่มาพักก็เพียงยิ้มทักทายแล้วเข้าครัว กินข้าวเสร็จถึงได้ออกมาที่เคาน์เตอร์สำนักงานภายในร้านค้าที่ด้านหน้า
กำลังก้มหน้าตรวจบัญชีค่าใช้จ่ายและสิ่งของ เสียงกระดิ่งเมื่อเปิดประตูก็ดังขึ้นให้เงยหน้าขึ้นมอง
"พี่คะ" ทั้งที่หญิงสาวที่เข้ามาในสำนักงานพูดทักทาย แต่ก้านกลับชะโงกมองข้ามไหล่หญิงสาวออกไป เพราะเห็นรถคันเล็กที่แล่นช้าๆ ผ่านหน้าร้าน ก้านรีบลุกจากโต๊ะทำงานมองตาม จนเห็นรถเลี้ยวผ่านป้อมยามเข้าไปด้านใน
"ครับ" คนตัวโตยิ้มกว้างหันมารับแขก
"หนูจะถามว่าถ้าจะหาเช่ารถแถวนี้มีหรือเปล่าคะ"
"มีครับ แต่จะมีคนขับรถพร้อมนะครับ ไม่ได้ขับเอง" ก้านเดินไปหยิบเอกสารมาส่งให้ ท่าทางของหญิงสาวพยายามชวนคุยต่อ ก้านเพียงแค่แนะนำว่าต้องลองติดต่อดูก่อนว่าจะมีรถหรือไม่ จากนั้นก็พาออกมาที่ร้านค้า บอกพนักงานร้านให้ช่วยดูแลแล้วตัวเองก็รีบกลับมาที่บ้านพัก
“หนูเห็นรถพี่เสือน้อยมา” พนักงานร้านแซวขำๆ
ไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนเริ่มเรียกชื่อแนชว่าเสือน้อยตามชื่อที่ตือกับกิม เพียงแต่ทุกครั้งที่เรียกชื่อนี้แล้วก้านชอบทำหน้าตาพิกลทุกครั้ง ไปๆมาๆ พนักงานก็เลยมักจะเรียกชื่อนี้แบบที่รู้กันในกลุ่มว่าหมายถึงใคร

หน้าตาแปลกๆ ของก้านมันชัดเจนว่าหวง เพราะคำเต็มของชื่อนี้คือ เสือน้อยของกิม
..หวง...
ทั้งที่รู้ว่าพี่ๆ ไม่ได้มีความหมายไปในเชิงชู้สาว แต่มันเกิดจากการที่กิมจะโดนแนชอาละวาดใส่บ่อยที่สุด
แล้วก็พาลไม่ชอบต่อไปอีก...แนชไม่ได้อาละวาดมากมายขนาดนั้นสักหน่อย..

"แนช" คนตัวโตร้องเรียกตั้งแต่หน้าบ้าน มีเสียงตอบรับมาจากในห้องน้ำ พร้อมกับที่ประตูห้องน้ำเปิดออก
เพียงเสื้อยืดสีอ่อนกับกางเกงขาสั้นแค่เข่า ใบหน้าใสจนเหมือนซีดเปียกชื้น ผมยุ่ง ถ้าบอกว่าแนชอ่อนกว่าก้านสัก 5 ปีก็ไม่น่าแปลกใจ
"ออกมาตั้งแต่กี่โมงน่ะ"
"ตี 4 ขนาดอย่างนี้เจอแดดยังแทบลืมตาไม่ขึ้น"
"งั้นแนชนอนพักก่อน ผมทำข้าวเสร็จจะปลุกมากินแล้วค่อยไปนอนนะ กินอะไรดี" ก้านสั่งขณะที่ตรงเข้าไปในครัวเล็ก ๆ มีเพียงไข่ไก่ กับข้าวสาร "ข้าวต้มกุ้งมั้ยแนช เดี๋ยวผมไปเอากุ้งที่ครัวมาทำให้"
"ก็ได้ แต่กูต้มข้าวรอดีกว่า ยังไม่นอนหรอก มึงกินหรือยัง"
"กินแล้ว" ก้านบอกขณะที่ยิ้มกว้าง
"กูก็ว่างั้น เก้าโมงกว่าแล้วนี่" แนชตามเข้าไปในครัว
ก้านรีบกลับออกมาที่ห้องอาหาร ขณะที่แนชหันไปหุงข้าวและล้างจานชาม ที่ดูท่าว่าเจ้าของบ้านจะไม่เคยหยิบออกมาใช้เลย นอกจากแก้วน้ำกับแก้วกาแฟ
เสียงประตูบ้านเปิดออกอีกครั้ง ทำให้แนชหันมามอง
หญิงสาวสวยเดินเข้ามาพร้อมกับยิ้มหวาน
"พี่คะ"
"ครับ" แนชเช็ดมือหันมาทำหน้าที่ผู้ช่วยเจ้าของรีสอร์ท
"พี่เสือน้อยเป็น...เพื่อนหรือเป็นน้องของพี่ก้านคะ"
แนชนึกแปลกใจที่หญิงสาวเรียกชื่อนี้ เพราะเพิ่งเจอกันครั้งแรก อาจเป็นการเรียกตามคนงานหรือใครสักคน แต่คนนั้นต้องไม่ใช่ก้านแน่ๆ "เป็น...พี่ครับ"
"จริงหรือคะ พี่ดูเหมือนน้องชายเลย พี่สนิทกับพี่ก้านมากใช่มั้ยคะ"
"ครับ" 
"อ้อ...." หญิงสาวทำแก้มพอง ท่าทางน่ารัก "หนูชื่อกิ๊บค่ะ เป็นหลานน้าตือ"
"อ้อ ไอ้...น้าตือนี่เอง"
"ค่ะ พี่รู้จักหรือคะ"
"รู้จักครับ ผมเป็นพี่ก้าน ก็ต้องรู้จัก...น้าตือเหมือนกัน"
"งั้นหนูเรียกน้านะคะ"
"ครับ ตามสบาย" แนชยิ้มรับ "มีอะไรหรือครับ"
"คือ พี่ก้านมีแฟนแล้วจริงๆ หรือคะ"
แนชอึ้ง ที่หญิงสาวถามอย่างตรงไปตรงมา
"น้าตือกับน้าสะใภ้น่ะค่ะ บอกว่าแฟนพี่ก้านดุมาก แต่หนูมาพักที่นี่ 3 วันแล้วจนจะกลับวันพรุ่งนี้อยู่แล้ว ยังไม่เห็นแฟนพี่เขาเลย น้าคะ พี่ก้านยังไม่มีแฟนใช่มั้ยคะ น้าตือโกหกหนูเพราะไม่อยากให้หนูยุ่งกับพี่ก้านใช่มั้ยคะ แต่พี่ก้านเขาหล่อนะคะ รวยด้วย"
"น้าว่า หนูถามพี่ก้านเองดีกว่ามั้ย"
"หนูก็อยากทำอย่างนั้นอยู่เหมือนกัน แต่เขาดูยุ่งๆ ตลอด"
"เขาก็ยุ่งมากจริงๆ" แนชบอก
"น้าคะ ตกลงพี่ก้านยังไม่มีแฟนใช่มั้ยคะ"
แนชตอบยิ้มๆ "ถามเจ้าตัวดีกว่า เพราะน้าตือหนูบอกว่ามีแล้ว แต่หนูไม่เห็น"
หญิงสาวทำท่าจะถามย้ำต้องการคำตอบให้ได้ แต่มีหญิงสาวอีกคนเปิดประตูบ้านเข้ามาเรียก บอกว่า จะออกไปเที่ยวทะเลกัน ก่อนที่แดดจะแรงกว่านี้

พอประตูบ้านปิดลงแนชก็หันมาที่เตาอีกที มองข้าวต้มในหม้อรู้สึกเหมือนเห็นหัวใจของตัวเองที่มันค่อยๆ เพิ่มอุณหภูมิขึ้น จนกระทั่งประตูบ้านเปิดออกอีกครั้ง "มาแล้วๆ แนชไปพักเถอะ ผมจัดการต่อเอง"
แนชหันไปมองคนยิ้มหวานด้วยสายตานิ่งๆ จนก้านหันมาถาม
"มีอะไรหรือเปล่า"
"เปล่า กูไปเปิดโทรทัศน์นะ"
"ครับ"
"แนช"
"คิดถึง"
แนชทำเป็นตาขวางใส่คนพูด ยอมรับกับตัวเองว่าไม่เคยโกรธคนนี้ได้นาน "ปากหวานตลอด"
"จริงหรือ"
"เออ"
มือใหญ่ช้อนคอคนที่กำลังจะเดินหนีให้หันกลับมารับจูบ
"ปากแนชหวานกว่า หวานไปทั้งตัว"
แนชหน้าแดงไปถึงหูทันที "ห่าก้าน ชอบแกล้งกู"
"ไมได้แกล้งนะ แต่ผมคิดถึงแนชจริงๆ แล้วแนชก็หวานจริงๆ ไม่มีคำไหนไม่จริงเลยนะ"
"เออ จริงตลอดแหละ กูหิวแล้ว รีบทำข้าวเร็วๆ เลย" แนชทำเป็นบ่นทั้งที่ยังหน้าแดง
ก้านหันไปจัดการแกะกุ้ง ทำข้าวต้มให้แนชทันที
"แนช"
"เออ"
"งานหนักหรือ"
"เออ"
"กลับมาบ้านเราแล้ว พักเรื่องงานไว้ก่อนนะ อย่าเพิ่งรำคาญที่ผมชอบพูดไร้สาระ ผมอยากให้แนชหัวเราะเวลาที่อยู่กับผม"
แนชหันมานั่งเท้าคางมองคนที่ทำครัว "ไม่ไร้สาระหรอกน่า มึงอย่าคิดแทนกูนักเลย งานมึงก็เยอะ แล้วนี่จะต้องไปที่ร้านอีกหรือเปล่า"
"ไม่หรอก วันนี้แนชมา เมื่อกี้ผมโทรไปบอกพ่อแล้ว ว่าวันนี้ผมไม่ไปร้านนะ"
"อ้าว กูทำมึงเสียงานหรือเนี่ย"
"ไม่หรอก แนชก็อย่าคิดแทนผมนักเลย" ก้านหันมายิ้มขำ
แนชได้แต่ชี้นิ้ว "สัดเหอะ เลียนแบบกู" หนุ่มตัวเล็กหยุดไปวินาทีแล้วก็เปลี่ยนเรื่องคุย "มึงไปร้านสักพักหนึ่งก็ได้นะ เพราะกูมีเรื่องต้องไปจัดการสักหน่อย"
"อ้าวกินเสร็จแล้วไม่นอนหรือ จะไปไหนล่ะ ผมขับรถไปให้ดีกว่า"
แนชทำเหมือนไม่อยากให้ไปด้วย แต่สุดท้ายก็ยักไหล่ เดินมากินข้าวต้ม

ที่ๆ แนชให้ก้านขับรถมาส่งคือร้านของตือ ก่อนที่จะลงจากรถเดินไปที่ร้าน แนชหันมาสั่ง
"อยู่ที่รถ ไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไร หรือเกิดอะไรขึ้นก็อยู่ที่นี่เข้าใจมั้ย"
"แนช มีอะไรหรือ"
"อยู่ที่รถ" แนชย้ำแล้วเดินไปที่ร้าน
ร้านของตือเปิดห้าโมงเย็น ปกติจะมีร้านประจำเอาของมาส่งตอนบ่าย แต่เพราะเป็นวันเสาร์อาทิตย์เมียของตือก็เลยไปตลาดช่วงสาย จ่ายของสดบางอย่างที่จะเอามาทำกินกันเองในบ้าน ซื้อมาก็เอามาวางไว้ที่โต๊ะครัวของร้านแล้วเข้าบ้าน พอเห็นรถของก้านมาจอด แนชลงมาจากรถตรงไปที่ร้าน เมียตือก็รีบวิ่งตามมา
"พี่แนช"
แนชเดินตรงไปที่โต๊ะใหญ่กลางครัวที่วางของสดที่เพิ่งซื้อมาจากตลาด เมียของตือรีบหันไปร้องตะโกนเรียกตือ ขณะที่วิ่งมาดึงแขนของแนชไว้
"พี่ตือ พี่แนชมาแล้ว พี่แนชฟังก่อนนะ หนูเตือนกิ๊บแล้วจริงๆ นะแต่มันไม่ฟัง"
"กิ๊บหลานใคร หลานเราหรือหลานไอ้ตือ"
"หลานกูเอง หลานกูเอง" ตือรีบร้องบอกทันทีที่เข้ามาในร้าน
แนชหันมามอง 2 ผัวเมีย แล้วยกขาโต๊ะข้างหนึ่งขึ้น ทำให้ข้าวของบนโต๊ะเทกระจัดกระจายลงพื้น
"พี่แนช ใจเย็นนะพี่"
"แนช พวกกูบอกมันแล้วนะ แต่มันไม่ฟัง มึงอย่าพังร้านกูเลย" ตือเข้ามาจะคว้าแขนอีกข้างของแนช แต่แนชเร็วกว่าหันไปถีบเก้าอี้ตัวใกล้ที่สุดจนคว่ำ ทั้งพุ่งตัวไปที่เก้าอี้ตัวถัดไป
"พี่แนช หนูจะไปตามมันเดี๋ยวนี้แหละ พี่อย่าโกรธเลย"
แนชหันมาหาแฟนตือพูดย้ำทุกคำ "กูโกรธ เพราะเวลาที่กูไม่อยู่ เพื่อนของกูต้องไม่เกี่ยวข้องกับการแทงข้างหลังกู ไม่ว่ากรณีใดๆ"
"ไม่ๆ เดี๋ยวกูขับรถตามมึงไปที่โฮมสเตย์เดี๋ยวนี้เลย ให้เมียกูเก็บของที่นี่"
แนชหันกลับมาหาตือทันที "แล้วทำไมมึงไม่ทำแต่แรก"
"ก็...มันอ้างว่ามากันหลายคน แล้วมาหลายวัน มานอนที่นี่มันเกรงใจพ่อกับแม่กู"
"ไปเอาพวกมันไปค้างที่อื่นให้ไกลหูไกลตากู อย่าให้กูเห็นหน้าพวกมันอีก"

"แนช!" เสียงเรียกชื่อดังก้องครัวเล็กๆ ในร้าน พร้อมกับมือใหญ่ที่กระชากแขนให้ออกมา
"ห่า สัด เหี้ย ปล่อยกูนะ" แนชร้องด่าจนถึงรถ "กูบอกแล้วว่าอย่าลงจากรถไง"
"ถ้าไม่เข้าไปผมจะเห็นมั้ยว่าแนชทำอะไร"
"กูทำในสิ่งที่ควรทำ"
ก้านเปิดประตูรถ แต่แนชยันประตูไว้
"อย่าทะเลาะกันเพราะกูเลย กูสอนหลานไม่ดีเอง" ตือตามมาห้าม
ก้านมองหน้าคนที่เหมือนกำลังบอกว่าที่อาละวาดไปเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว ก็เลยหันไปหาตือ "ผมขอโทษแล้วผมจะชดใช้ของที่เสียหายให้"
"ไม่เท่าไหร่ เป็นของที่กูไม่ได้สั่งประจำน่ะ แล้วมันยังอยู่ในถุง ไม่มีอะไรแตกหักเสียหาย แนชแค่...เทลงมาจากโต๊ะ"
ก้านหันมาหาแนช “เขาเป็นแขก แยกแยะให้ออกสิ” มือใหญ่ที่จับอยู่ที่ต้นแขนเพิ่มน้ำหนักขึ้น
“แขกเหี้ยๆ” แนชตะโกนใส่หน้าก้านเต็มๆ
“แนช”
“อย่าทะเลาะกันเพราะคนอื่น คุยกันดีๆ เดี๋ยวกูตามไปโฮมสเตย์รับหลานกลับมาเอง”
เมียของตือรีบพยักหน้า แต่ก้านไม่เห็นด้วย
“หลานพี่เป็นแขกของผม พรุ่งนี้พวกเขาก็กลับแล้ว ถ้าไปรับตอนนี้มันมีแต่เสีย”
“สัดเหอะ” แนชยังคงด่า
“แนช หยุดด่า เราต้องกลับไปคุยกันที่บ้าน”
“กูจะด่า” แนชพูดแล้วก็หยุด
ก้านเปิดประตูรถดันแนชเข้าไปนั่งแล้วหันมาหาตือกับเมีย “เรื่องที่ร้านผมขอโทษ ส่วนเรื่องหลานพี่ เรื่องแนช ผมจัดการเอง เพราะถ้าหลานพี่ถามว่าทำไม แล้วเขารู้ว่าแนชเป็นอะไรกับผม เขาอาจพูดต่อไปในทางไหนก็ไม่รู้ ไม่อยากให้เรื่องมันกลับไปถึงที่ทำงานแนช เขาอยู่กรุงเทพฯ”
เมียตืออยากเถียงว่ามันไม่น่าไปไกลถึงขนาดนั้น แต่ตือกระตุกแขนไว้
“เออ ยังไงคุยกับมันให้ดี แนชมันก็มีเหตุผลของมัน”
“ครับพี่” ก้านบอกแล้วหันไปขึ้นรถ

เมียตือหันมาหาสามี “มันจะขนาดนั้นเลยหรือพี่”
ตือพยักหน้า “โลกทุกวันนี้มันแคบลง ไม่เห็นเรื่องครูอังคณานั่นหรือไง แค่เด็กทะเลาะกัน กลายเป็นข่าวได้เป็นอาทิตย์ แล้วนี่มันทำโฮมสเตย์ มีฝรั่งมีคนกรุงเทพฯ มาพักบ่อยๆ ใครอาจคิดผูกเรื่องเติมเรื่องยังไงก็ได้ แล้วฝรั่งนี่แหละตัวเกลียดเกย์เลยหล่ะ”
“พี่เว่อร์ว่ะ” เมียตือยังไม่ค่อยเห็นด้วย ตือเลยหันมาจิ้มที่หน้าผาก
“แกหัดอ่านข่าว ดูข่าวบ้างเถอะ จะได้รู้ว่าปากคน ใจคนน่ะมันทำให้เรื่องไม่จริงกลายเป็นเรื่องจริงมานักต่อนัก ฆ่าคนได้ทั้งเป็น”
”ไอ้กิ๊บมันจะทำได้อย่างนั้นหรือไง”
“แล้วที่มันทำอยู่ตอนนี้ ไม่ได้เหนือความคาดหมายของแกกับพี่หรือไง ขนาดที่ไอ้แนชเดือดจนมาพังร้านเราเนี่ย”
ตือบ่นแล้วเดินกลับเข้าไปในครัว

====จบตอนที่ 4====

เรียนผู้มีอุปการะคุณโปรดทราบ ผมไม่เคยไปเหวี่ยงใส่เพื่อนแบบนี้นะ ที่ผ่านมา ผมเล่นงานคนกลางโดยตรง ส่วนพี่ไจฟ์เท่าที่เคยเจอมาก็ึคือเดินเข้ามาเรียก "กลับบ้าน" เคยไปเคลียร์กับคนที่ข้ามเส้นในหลายๆ กรณีก็มีอยู่ แต่ไม่เคยทะเลาะกันเองแล้วทำข้าวของเสียหายสักทีั
แต่ถ้าเป็นกรณีที่ตั้งวงเมากับเพื่อนแล้วพากันเลี้ยวเข้าสามแยกปากหมา จะพากันอดกินหมดทั้งกลุ่ม
สงสัยมั้ย ว่าทำไมตัวโกงทุกเรื่องเป็นผู้หญิง สงสัยไปก็เท่านั้นเพราะไม่รู้เหมือน รู้แต่ว่าเรื่องต่อไปเป็นผู้ชาย
สะ-ปอย ตอนจบเลยได้ปะ ป๋าเพิ่งส่งให้พี่ปานตรวจเมื่อคืน มันยาวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก จนสามารถแบ่งได้ 3 -4 ตอน แบบพอมาดูๆ แล้ว นี่ผมเขียนบรรทัดไหนวะเนี่ย  :z10:
แง๊ ตอนหน้ายัีงไม่จบนะั ตอนหน้า ก็ตอนเกือบจบ ตอนต่อไปถึงจะเป็นตอนจบ ใจเย็นๆ
คนเขียนตอนแนชด่าๆๆ เป็นคนเดียวกับที่เขียนแนชอยู่กับก้านน่ะแหละ
แต่เพราะว่าพี่ไจฟ์ลงโครงเรื่อง มันก็จะมีประโยคของแนชมาอยู่แล้ว ผมมาเขียนเติมประโยค อีกนิดนึง เขียนกลับไปกลับมาก็เนี่ยแหละ .... :z3:

 
พบกันวันอังคารนะครับ
ไจฟ์ครับ


หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 3 หน้า 4 : 6-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: kiyomaro ที่ 08-07-2012 05:08:28
โอ้ววว สแนชชชชชช :m31:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 08-07-2012 05:32:57
ไม่ใช่เสือน้อยแล้วล่ะ แบบนี้มันสมิงแล้ว

เมียดุโคตรๆ แต่ก้านไม่เคยเห็นเองสินะ
โหยดีจะตาย ดุกับคนอื่นแต่ดีกับก้านคนเดียว(รึเปล่าฟระ)
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 08-07-2012 06:26:49
ชะนีวายร้ายโผล่แล้ว แนชดุมากลูก555
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 08-07-2012 07:15:03
สแนชดูขนาดนี้ ชะนีควรถอยนะ  :beat:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 08-07-2012 07:37:30
กิ๊บ..เธอมาแรงแซงโค้งมาก ไม่โดนพี่เสือตะปบหน้าแหกตรงนั้นก็บุญหัวแล้ว
งานนี้โดนกันไปเต็มๆ ดุชะมัดพี่เสือคนนี้
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 08-07-2012 07:42:58
ก้านจะทำยังไงกับแนชนะคราวนี้  :m31:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: pochu52 ที่ 08-07-2012 08:00:12
พี่แนชของน้องกานน่ากลัวจัง^^ พิษรักแรงหึงของแท้
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: rujaya ที่ 08-07-2012 08:10:48
เสือน้อยมันโหดวะ  :laugh:

หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 08-07-2012 09:03:35
แต่ละตอนยาวได้ใจมาก  อ่านจุใจที่สุด

บอกได้คำเดียวว่าสแนช "แร๊งงง"

ไม่รู้กลับไปจะคุยกันรู้เรื่องอะเปล่า อย่าทะเลาะกันเพราะคนอื่นเลยเอนะ

กลัวว่าจะแตกหักนี่สิ

+1และเป็ดค่ะ

 :กอด1: รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 08-07-2012 09:30:38
แนชดุโคดดดดดดด >_<
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 08-07-2012 09:39:04
แนขนี่ดุจริงดุจัง
 :m29:
แต่นังชะนีติ่งนี่ก็น่าตบเนอะ
จริงๆแนชน่าจะตบสั่งสอนสักสองสามที
 :beat:
แอบสงสารก้านเล็กๆ
ไม่รู้จะโดนเสือขบหัวมั้ยเนี่ย
 :sad3:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 08-07-2012 09:58:05
ตามทันแล้วๆๆ  :m4:
คู่นี้มาเร็วเคลมเร็วมาก o13
แต่ตอนล่าสุดนี่แอบสะใจยังไงไม่รู้ อยากให้แนชอาละวาดหนักๆเหมือนกัน
คนเราเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีศีลธรรม จริยธรรม รู้ทั้งรู้ว่าเค้ามีเจ้าของแล้วก็ยังจะอยากลองดี เลยจะเจอของจริง :laugh:
เสือน้อยเค้าดุจริงๆ รับประกัน o18
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 08-07-2012 10:01:43
นู๋กิ๊บถ้าอยาก
จะลองของ o18
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 08-07-2012 10:09:24
อ่า...นอกจากจะมีเซอร์วิสแล้วยังมีฉากบู๊ด้วย ^^"

ก้านดูเป็นผู้ใหญ่มากกกก รอบคอบสุดๆ
ส่วนแนชนี่เสือน้อยตัวจริง...แอบรอดูการปราบพยศของก้าน
เพื่อนๆ นี่ก็ช่างวางระเบิด...ไงล่ะ ได้เรื่องเต็มบ้านช่องไปเลยไง

ส่วนน้องนางหลานสาว...ช่างเป็นสาวที่มีให้เห็นทั่วไปจริงๆ น่ากลัวได้อีก
ถ้าเคลียร์จบ...แนชเลิกอาการซึนได้ล่ะก็...ต้องยกความดีความชอบให้นางล่ะมั้ง ^^"

รอลุ้นการปราบพยศที่มีแต่ก้านเท่านั้นที่ทำได้ หุหุ ^^V สู้ๆ นะก้าน
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 08-07-2012 10:11:33
เสือน้อยอาละวาดน่ากลัว :laugh:
อยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆจัง อยากรู้ว่าก้านจะทำยังไงต่อไป :z2:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 08-07-2012 10:38:59
ดุจริงอะไรจริง
 :m29:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 08-07-2012 10:41:24
สแนชดุจัง
รอดูว่าก้านจะจัดการยังไง o22
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Yukisae ที่ 08-07-2012 10:58:55
โหดจริง แฟนใครหว่า ทั้งดุทั้งเหวี่ยง ขี้หึงด้วย เหอะๆๆ
อย่าทะเลาะกันนะ พี่ก้านเค้ารักอยู่คนเดียวนี่แหละ
หนุ่มน้อยมาสปอยตอนจบ อยากอ่านนนนนน
++น้องเป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: skynotebook ที่ 08-07-2012 11:07:45
เป็นไงหละแนช ปล่อยให้ก้านรอนานๆ พอมีสาวมาให้ท่าหน่อยเล่นซะบ้านตือเกือบพัง แต่ว่าแนชอารมณ์ร้ายไหมกันเนอะ


ปล. 555+ ไม่เชื่อหรอกนะว่าน้องทีไม่เคยเป็นแบบแนชอะ ต้องเคยมีสักครั้งแหละน่า จริงไหมจ๊ะไจฟ์
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: jeeu ที่ 08-07-2012 11:10:45
สแนช ฆ่ามานนนนน(ฆ่าใคร???)
เข้าใจฉายาเสือน้อยแล้วล่ะ เหมาะจริงๆ
แต่เรื่องน้องกิ๊บ เมียพี่ตือเตือนแล้วนะ นางไม่ฟังเอง
อยากให้แนชอาละวาดนางด้วย(หมั่นไส้)
ตอนหน้าจบแล้ว สั้นเนอะ เสียดายอ่ะ
แต่...ไม่เป็นไร รอติดตามเรื่องหน้าก็ได้จ้าาา
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 08-07-2012 11:17:46
สุดยอดมากเสือน้อยของพี่ก้าน o18

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 08-07-2012 11:19:27
รอจ้ารอ :3123:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 08-07-2012 11:20:59
พี่เสือน้อยดุจริ๊ง เพื่อนตือและเมียกลัวหัวหดแล้วนั่น
สงสัยก้านต้องเอาน้ำแข็งขั้วโลกเข้าลูบถึงจะเย็นลง อิอิ

ว่าแต่ใครเขียนพาร์ทแนชเวลาด่า ๆๆๆ มันจริง ๆ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 08-07-2012 12:00:17
พี่เเนชหนูร้ายน่ากลัว o18
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: PAAPAENG~ ที่ 08-07-2012 12:15:21
เสือไม่น้อยแล้วนะแบบนี้
แทบจะพังร้าน...
ไม่อยากจะคิดเลยว่าน้องกิ๊บจะโดนอะไร
เสือน้อยเขมือบหัวแน่ๆ ฮ่าๆ

เจอกันวันอังคารจ๊ะ!  :)
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 08-07-2012 12:18:52
คันไม้คันมือกับน้องกิ๊บ  รุกผู้ชายก่อนแบบนี้ไม่เรียกว่ากุลสตรีนะอีหนู
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Tasaitatsu ที่ 08-07-2012 13:21:28
O_o!!! สแนชโครตดุเลยอะ!!
ตอนที่เจอกิ๊บถามนู่นนั่นนี่ก็เห็นว่านิ่งๆ คิดว่าจะแค่ตามไปด่าตือเท่านั้น
แต่พี่แกยังลงไม้ลงมือกับของด้วย โอ้ววววว โหดดีแท้
สแนชไม่ใช่พี่เสือน้อยแล้วละ พี่เสือใหญ่ต่างหาก

จากเด็กขี้น้อยใจกลายเป็นผู้ใหญ่มีเหตุผลและรอบครอบมากน้องก้าน
คิดเผื่อไว้อีกสองสามขั้น คิดถึงผลที่จะตามมากระทบในอนาคตอันใกล้

ตอนนี้ชอบเมียตือมาก เธอช่างตรงและพยายามตัดไฟแต่ต้นลมลงแล้ว
แต่ไฟช่างไม่ฟังเธอเอาเสียเลย

ตอนนี้อ่านแล้วได้หลายอารมณ์ดีจังค่ะ
ขอบคุณสำหรับตอนนี้ค่าาาาา ^____^
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 08-07-2012 15:42:34
แนชชชชช จะดุไปไหนลูก แค่นี้ก้านก้อกลัวจะแย่แล้ว ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: must ที่ 08-07-2012 16:34:05
'สแนช' ชื่อเต็มของแนช นอกจากพ่อกับแม่ที่รู้แล้ว ก็มีก้านอีกคน
และด้วยเหตุนี้ใช่มั้ย เมื่อถูกก้านเรียกว่า 'สแนช' จึงได้ปล่อยตัวปล่อยใจไปโดยปริยาย ฮ่าๆๆๆ
เป็นฉากเรียกเลือดที่ดิบเถื่อนมากมายๆ ไม่ใช่เพราะการกระทำที่รุนแรงแต่อย่างใดทั้งสิ้น
ดิบเถื่อนในที่นี้เป็นคำจำกัดความที่ขอมอบให้แด่ 'สแนช' เพียงผู้เดียว (พี่แกเล่นสบถแทรกตลอดการทำกิจกรรม กร๊าาากกก~)

แอบอึ้งกับประโยคของกิมที่พูดกับก้านประโยคนี้ >>> “กว่าที่มึงจะทำให้พ่อแม่มึง พ่อแม่ไอ้แนชยอมรับมึงยากขนาดไหน
ไอ้แนชมันอาจจะไม่รู้เพราะมันอยู่กรุงเทพฯ แต่พวกกูเห็นมาตลอด แล้วมึงก็รู้ดีกว่าใคร อย่าหวั่นไหวแค่มันยังไม่กลับบ้าน”

บอกตามตรงเลยว่า ถ้าไม่มีประโยคนี้ของกิม ก็คงนึกไม่ถึงเหมือนกันว่าก้านจะต้องมาพยายามอะไรในจุดตรงนี้ด้วย
พ่อกับแม่ของตัวก้านเองน่ะไม่เท่าไหร่หรอก เพราะก็พอจะเดาได้ว่าคงต้องเคยมีการพูดคุยถึงเรื่องนี้กันมาบ้างอยู่แล้ว
แต่กับการที่ก้านต้องพยายามทำให้พ่อและแม่ของแนชยอมรับด้วยเนี่ย เป็นอะไรที่ต้องบอกว่าอยู่เหนือความคาดหมายมาก
คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าก้านจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ทุกๆ คนในทั้งครอบครัวของก้านและแนชยอมรับความสัมพันธ์ของทั้งคู่
รู้สึกดีใจแทนแนชจริงๆ ที่มีผู้ชายคนนึงมอบความรัก และยอมทำทุกๆ สิ่ง ทุกๆ อย่างให้มากมายขนาดนี้ (อยากมีบ้างอะไรบ้าง)

ก้านน่ารักมากๆ หึงหวงได้แม้กระทั่งคำที่ใครๆ ต่างเรียกแทนตัวแนชว่า 'เสือน้อย' ซึ่งมีชื่อเต็มๆ ว่า 'เสือน้อยของกิม' ฮ่าๆๆๆ
หลานสาวตือนี่แรว๊งงงงง~ แบบไม่ธรรมดาจริงๆ ขนาดคุณน้าทั้งหญิงและชายก็บิกแล้วนะว่าก้านมีแฟนแล้วแถมดุอีกต่างหาก
ผู้หญิงสาวๆ สมัยนี้มีแบบนี้เยอะพอสมควรเหมือนกันเนอะ ยิ่งรู้ว่ามีเจ้าของแล้วยิ่งต้องเอาให้ได้ เหมือนเป็นความท้าทายในชีวิต - -*

สแนชแ- ่ง ดุโคตร ไม่สมฉายาเสือน้อยแล้วแบบนี้ สมควรเรียกว่า เสือแม่ลูกอ่อน มากกว่า อาละวาดได้น่ากลัวดีชะมัด
ความเห็นส่วนตัวคิดว่าสิ่งที่แนชทำไปนั้น เป็นอะไรที่ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง คือหึงได้ หวงได้ แต่ต้องอยู่ในขอบเขตของเหตุและผลด้วย
แล้วอีกอย่างทั้งตือและภรรยาก็ไม่ได้เห็นด้วยหรือสนับสนุนหลานสาวตัวเองแต่อย่างใด ทั้งพยายามพูดและเตือนแล้วด้วยซ้ำ

อีกอย่างตัวก้านเองก็ไม่ได้เล่นด้วยหรือมีใจเอนเอียงไปหาหลานสาวตือแต่อย่างใดทั้งสิ้น ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
เพราะก้านไม่ได้ให้ความสนใจในตัวของกิ๊บมากไปกว่า เป็นเพียงแขกที่มาใช้บริการของทางโฮมสเตย์เลย
การกระทำของแนช ทั้งการล้มโต๊ะหรือเทกระจาด ประทุษร้ายเก้าอี้ จึงเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ น่ากลัวโพดดดด~
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 08-07-2012 16:35:56
โหตอนนี้ตอนเดียวมีครบเลย หวาน หื่น หึง โหด

แนชหึงได้น่ากลัวมากๆๆๆ ตอนหน้าก็เคลียร์กันดีนะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 08-07-2012 17:15:11
สมกับฉายา "เสือน้อย"!

นึกภาพนายเอกหน้านิ่ง แล้วค่อยๆยกด้านหนึ่งของโต๊ะเทของลง ...
ดวงตาลุกเป็นไฟ    :m16:   ^ ^
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 08-07-2012 17:22:09
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: beautifuldead ที่ 08-07-2012 18:25:31
แนซ...สะใจมาก555 ถึงจะไม่ควรแรงใส่เพื่อน แต่ถ้าเราเป็นแนซแล้วเพื่อนรับรู้
และคิดว่าไอ้เพื่อนคนนี้คือคนที่เราไว้ใจที่สุด มาทำเหมือนแบบนี้ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ
มันต้องคว่ำโต๊ะแบบนี้แหละ!!!!!!!


ปล ก้านคงไม่เล่นบทโหดใส่แนซน้า
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 08-07-2012 19:15:39
แบบนี้ก้านได้สัมผัสแล้วล่ะสิ ว่าฉายา"เสือน้อย" นั้นได้มาเพราะอะไร
งานนี้ได้เห็นกันจะๆ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: เพื่อนบ้าน ที่ 08-07-2012 19:42:27
อ๊ากกกกกกกกกก ชอบบบบ ~ อ่านกี่รอบๆๆก็ชอบเรื่องนี้ ><~
เจอสแนชพะบู๊ตอนจบสะใจมากกกกกก ทำเอาลืม NC ต้นเรื่องไปเลย กร๊ากกก

น้องก้าน !! ในที่สุดน้องก็กดสักทีนะ 5555 อ่านแล้วเขิน อ่านแล้วลุ้น
มันจะเสร็จกันไหมวะ ฮ่ะ ๆๆ เห็นแบบนี้ก็ไม่ธรรมดาอ่ะก้านจ๋า
สแนชตอนโดนแกล้งในห้องน้ำน่ารักอ่ะ "ตามใจ...ก้านเถอะ" อร๊ายย เขินไส้บิด >///<
ปล.สแนชปากจัดมากกกกกกกก ยิ่งเขินยิ่งด่าหรือไงเนี่ย

มาครึ่งหลังแอบเอ็นดูน้องก้านอีกละ รอร๊อรอ รออย่างเดียวเค้าไม่มาเหลียวแล
นึกว่าจะได้ใกล้ชิดกันมากกว่าเดิมหลังจากคืนนั้น ที่ไหนได้เหมือนเดิมเลย -*-
นี่ถ้ากิมไม่ราดน้ำมันไว้ก่อน ไม่รู้ว่าตอนมาแล้วเจอน้องกิ๊บจะไฟท่วมร้านตือเหมือนตอนนี้ไหม
ตือซวยนอกจากจะมาจากน้องกิ๊บแล้วต้องยกความดีความชอบให้กิมด้วยนะ กร๊ากกกก
แต่เห็นคุยกับน้องกิ๊บแนชดูเฉยๆ คิดว่าไม่มีอะไรซะอีกแล้วที่ว่าจะไปข้างนอกนี่นึกว่าไปจัดการน้องกิ๊บ
ที่ไหนได้ ไปเผาร้านตือซะงั้นผิดคาดนะเนี่ย แต่แนชเหวี่ยงกระจายได้มันมากอ่ะ น้องก้านไม่น่ามาห้าม อ้าววว !!
อ่านจบแล้วแบบ โอ๊ยยยยยยยย อยากอ่านตอนหน้าเร็วๆอ่ะ อยากรู้ๆๆๆน้องก้านจะจัดการเสือน้อยยังไง อิอิ
แต่ถึงเรื่องนี้จะเป็นเรื่องสั้นแต่เป็นเรื่องสั้นที่ลงยาวสะใจมากนะ ชอบอ่ะ ชอบบบบ ขอบคุณสองหนุ่มมากๆค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 08-07-2012 20:25:06
แนชแรงมากค่า
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 08-07-2012 20:34:52
สแนชดุไปมั้ยยยยยยยย  o18
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: wdaisuw ที่ 08-07-2012 20:37:23
แนชสมฉายาเสือน้อยจริงๆ o13
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: AllRiseApril ที่ 08-07-2012 20:50:36
อุ้ยยยยยยย  อะไรเนี่ย เราก็นึกว่าจะจบ ต่างคนต่างนอน
ไหงคดีพลิกคะ ==?
แต่ก็ดีแล้ว ฮ่าาาาา

ว่าแต่ ดุมากนะคะแนช หึงหรอ?
แต่อาละวาดซะนะ  เพื่อนชินกันหมดแล้วใช่มั้ยอะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: BossoM ที่ 08-07-2012 20:51:38
แนช พ่อเสือน้อย ทำไมน่ากลัวเยี่ยงนี้  o22

ก้านก็หื่นใช่ย่อย อิอิ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 08-07-2012 20:53:27
แนชน่ากลัวมากๆพวกผู้หญิงอย่าได้เข้าใกล้ก้านเป็นอันขาด

หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 08-07-2012 21:01:50
แนชน่ากลัวเวอร์
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 08-07-2012 21:25:54
เรื่องใหม่มาแล้ว ผมก็มาไม่เคยทันอ่ะ แต่ว่าเรื่องนี้เห็นเร็วมากกว่าเรื่องก่อนๆนะ :o8:

ขอแปะไว้ก่อนนะครับ แล้วจะมาตามอ่าน เพราะตอนนี้ยุ่งมากมายก่ายกอง เหอะๆ

กดบวกไว้ให้แล้วนะครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 08-07-2012 21:41:47
ดุุอ้ะ

น้องกิ๊บเงาหัวหายแบ้วแจ้
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 08-07-2012 22:10:51
ชอบแนช  เชียร์ค่ะ 

กฎ ข้อ1 แนชทำไรก็ไม่ผิด อิอิ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 08-07-2012 22:57:55
แบบนี้ใช่ไหม ถึงเป็น เสือน้อย
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 08-07-2012 23:19:01
เรื่องราวเข้มข้น แนชวีนได้มันส์มาก
มีคนแบบนี้จริงๆ เหรอ
แนชเป็นผู้ทรงอิทธิพลประจำตำบลจริงๆ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: must ที่ 08-07-2012 23:43:16
ติดตรึงใจกับความมั่นคงของก้านซะจนอดใจไม่ไหว
ถึงขนาดต้องกลับมาวนอ่านอีกรอบ (และคาดว่าคงจะมีอีกหลายรอบ)

ทั้งนี้ทั้งนั้นคง ขออนุญาตแปะสารบัญไว้ซักหน่อยนะคะ
เพื่อความสะดวกต่อตัวเอง ในการกลับมาอ่านครั้งต่อๆ ไป (ถึงจะมีเพียง 6 ตอนก็เถอะ)
และเป็นการตอบแทนคุณไจฟ์กับคุณทีด้วย (ใครเค้าขอฟร่ะ?!?!?! เอิ๊กส์~)

Snatch ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33789.msg2042398#msg2042398)

Snatch ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33789.msg2044209#msg2044209)

Snatch ตอนที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33789.msg2045989#msg2045989)

Snatch ตอนที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33789.msg2048054#msg2048054)

Snatch ตอนที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33789.msg2050409#msg2050409)

Snatch ตอนที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33789.msg2052573#msg2052573)
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: nokkie ที่ 09-07-2012 00:48:07
แนชหึงโหดมากกกกก...แบบนี้ก็ต้องรีบย้ายกลับมาแล้วล่ะสิ

ปล. แนชรู้ตัวรึยังว่าก้านทำให้พ่อกับแม่ของแนชยอมรับว่าก้านรักลูกเค้าได้แล้วน่ะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: hobazaki ที่ 09-07-2012 00:55:58
โฮววววววววววววววววววววววววว แนช โหดเกิ๊น ไม่น่าเชื่อว่าจะอารมณ์ร้อนได้ขนาดนี้
ดีนะที่เหมือนเพื่อนๆ จะเข้าใจและพอรู้ เลยไม่ทะเลาะกันบานปลาย
แต่กับน้องก้านนี่สิ หึหึหึ ปราบให้อยู่หมัดเลยนะน้อง กิกิกิ  :z1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 09-07-2012 01:22:20
สาวๆเดี๋ยวนี้เขาไม่สนใจเรียนกันแล้วหรอ  เห็นจ้องแต่จะหา "ผัว" อย่างเดียวเลยนะอิหนู  :beat:
เป็นสมัยเรา เสาร์อาทิตย์เรียนพิเศษ ปิดเทอมก็ยังต้องไปเรียนพิเศษ ไม่เห็นจะมีวันหยุด หรือเวลามาอ่อยผู้ชายอย่างนี้เล๊ยยย :sad4:


อิจฉาจริงวุ้ยยยย  :z6:



ปล.ขอมาชาบูๆ เจ้าแม่แนช ก่อนนอน   :call:      ของเค้าแรงงงงงงงงส์จริงวุ้ย  :o
ปลล.ขอกอดน้องที1หมับบบบ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 09-07-2012 01:36:30
โอ๊ะโอ แนซน่ากลัวมาก แต่ตอนต่อไปนี่ทะเลาะกันแน่ๆเลยอ่า :a5:

เรื่องนี้น่ารักมากนะครับ ทำไมตัดจบแค่ 6 ตอนหล่ะครับ :sad4:


รอตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 09-07-2012 04:32:30
ีแบบนี้ไม่ใช่เสือน้อยแล้วสแนช แต่เป็นสมิงเลยแหละ อยากรู้ว่าก้านจะจัดการยังไงน้า
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 09-07-2012 04:56:14
ทำไมแนชต้องไปลงที่ตือ ??

หลานผิดแต่ไปลงที่น้า ?? ตัวเองนั่นแหละทำไมไม่บอกไปเลยถ้าจะหวงขนาดนี้ ในเมื่อเด็กมันก็พูดอยู่แล้วว่าน้าบอกแล้วว่ามีแฟน
ไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี้ของแนชนะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 09-07-2012 08:08:57
โหดดีแท้...
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 09-07-2012 08:14:20
555 แนชองค์ลง
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: from_mars ที่ 09-07-2012 08:17:09
มาเม้นท์ 2 ตอนรวดจ๊ะ
ในที่สุด ในที่สุด คนตัวเล็กปากแข็งก็แสดงออกบ้าง....ฮี่ๆๆๆๆ
พ่อตัวโตหน้าสวย ดูแลเค้าดีๆ นะจ๊ะ อย่าให้ขาดตกบกพร่อง
================
มาขอเพิ่มเติมว่า โปรดดัดนิสันโวยวาย อาละวาดไม่ฟังใครของเจ้าตัวเล็กด้วย!!!
ยังไงก็ต้องฟังกันก่อนนะจ๊ะ อย่าใส่แหลกแบบนี้ วู้ว~~

รออ่าน และเป็นกำลังใจให้จ๊ะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 09-07-2012 09:51:51
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ตอบไม่ถูกว่าแนชควรทำแบบนี้ แต่เราก็ชอบนะ!ไม่รู้ดิ เหวี่ยงดี กระแทกใจ!
ก้านก็ถูก แนชก็เหวี่ยงไปเหอะ น่ารักรับได้ เอาเป็นว่าเชิญทั้งคู่ตามสบาย ขอรออ่านรอเชียร์พอ o13
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 09-07-2012 10:55:03
แนชน่ากลัวนะเนี่ย โมโหแล้วทำลายข้าวของ
มิน่าตือกับเมียถึงกลัวแนชเรื่องยัยกิ๊บ แกจะมาทำไม
ดีนะที่ก้านมาหยุดแนชไว้ก่อน

+1+เป็ดค่ะ

หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 09-07-2012 14:26:09
กำลังรู้สึกว่าเวลาอ่านเรื่องนี้แล้ว"เสียงในหัว"มันแปลกๆ ไม่เหมือนเดิม แล้วก็นึกได้ว่า อ๋อ ปกติเค้าเขียนแบบพระเอกอายุมากกว่าสักหน่อย เสียงในหัวมันเลยทุ้มๆ

แต่พออ่านเรื่องนี่ เสียงในหัวมันใสๆ เพราะอายุนายเอกมากกว่านิด เราเหมือนเด็กๆตีกัน

พออ่านไปๆ นางเอกวีนแตก!!! โอ้ นางเอกเรื่องนี่งอแงได้มากกว่า น้องรอยสักขาวีนอีกแฮะ เยี่ยมเลย ชอบๆ

อ่านตอนวีนแล้วรู้สึกว่า คนสมัยนี้ชอบวีนกันจัง แต่ก็อย่างว่า หมดสมัยนางเอกเก็บกดรอคนมาเห็นความดีแล้ว สมัยนี้คนเราต้องพรีเซนต์ตัวเอง เอาแบบให้เห็นจะๆกันไป เดี๋ยวเขาจะหาว่าเรา"หลอกลวง" "แอ๊บ" แล้วจะโดนบอกว่า "ไม่เห็นเคยรู้เลยว่าเป็นคนแบบนี้ ไม่ชอบเลย เลิกกันเหอะ"ซะเปล่า

กอดเด็กเตรียมเอ็นท์ อย่าลืมหน้าที่หลักเน้อ น้องที
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 09-07-2012 19:56:11
ทำไมเพิ่งมาเห็นนะว่าคุณไจฟ์ น้องทีลงเรื่องใหม่แล้ว
เลยเพิ่งได้มาเม้นต์นี่แหละ
ถึงใครจะไม่ชอบตอนแนชวีน แต่เราชอบนะ
เราว่ามันจริงดี ถ้าเป็นลูกหลานคนอื่นยังไม่เท่ากับเป็นลูกหลานของเพื่อน
มันเหมือนโดนหักหลังอะ
ชอบนายเอกแบบนี้ ไม่ได้วีนแบบไร้เหตุผลสักหน่อย
กดเป็ด กดบวกนะคะ
ขอบคุณที่มาเขียนเรื่องสนุกๆให้พวกเราได้อ่านอีก  :pig4:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 10-07-2012 06:41:39
มารอแล้วนะคะ^^
หัวข้อ: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 10-07-2012 07:43:26
ตอนที่ 5

คนที่โดนจับมัดมือโยงไว้กับขาเตียงนอนกำลังอาละวาด จนแทบอยากจะรื้อบ้านทั้งหลัง 
ไอ้ตอนที่มันกรุ่นๆ อยู่มันก็ควบคุมไว้ได้ให้มันอยู่ในใจ แต่พอปล่อยให้มันระเบิดออกไปแล้วยังปล่อยไปไม่หมด กลับถูกสกัดไว้แบบนี้มันยิ่งโมโหกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว!
“ห่าก้าน!! สัดๆๆ ปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะ”
“ถ้าปล่อยแล้วแนชจะทำอะไร”
“กูจะไปเผาร้านไอ้กิม”
ก้านนั่งลงข้างๆ แล้วขยับเข้ามากอดยื้อไว้ “เห็นมั้ย แล้วผมจะปล่อยแนชไปได้อย่างไร”
คนกำลังโมโห ทั้งถีบทั้งสะบัดตัวหนี แต่คนที่กอดไว้แน่นยังคงไม่ยอมปล่อย ทั้งยังให้บ่นไปเรื่อยๆ เรื่องที่บ่นก็เหมือนตอนที่นั่งมาในรถจนถึงที่บ้าน
"ห่ากิม! เหี้ยตือ! ทำไมกูถึงไว้ใจใครไม่ได้เลยนะ กูจะเผาร้านข้าวสารแม่งให้ราบ ปล่อยกูเลยนะ!"
ปล่อยให้อาละวาดจนกระทั่งเห็นว่าเริ่มเย็นลงแล้ว ก้านถึงได้พูด
"ทำไมแนชไม่ไว้ใจผม"
"กูเชื่อใจมึง แต่กูโกรธเพื่อนกูต่างหาก"
"ไปโกรธอะไรเขา"
ก้านพยายามปลอบคนใจร้อน แต่มีเสียงล้อรถบดกรวดพื้นถนนดังเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ก็เลยลุกไปดู
"พี่กิมมา"
"เออ ดี จะได้ฆ่าหมกป่าแถวนี้ซะเลย!" แนชกัดฟันด่าเพื่อน
"แนช" ก้านเดินกลับมานั่งคุกเข่าข้างหน้า "แนชไม่ใช่เด็กๆ แล้ว เวลาโกรธใครไม่พอใจอะไรถึงได้เอาแต่ร้องโวยวาย แล้วเพื่อนกันคบกันเพราะเราเท่ากัน"
"อย่ามารู้ดีกว่ากู!"
 แนชกระแทกเสียงใส่เต็มหน้า หัวใจหล่นวูบตามสีหน้าของคนที่พยายามพูดด้วยเหตุผล
"ผมรู้ ผมมันก็แค่ไอ้บ้านนอก ไม่ได้รู้ดีไปกว่าคนกรุงเทพฯ หรอก ผมรู้แต่ว่า เพื่อนแนชทุกคนหวังดีกับแนช แล้วแขกที่มาพัก พอผ่านวันเขาก็ไป แต่ผมคือคนที่อยู่ที่นี่...และแนชคือคนสำคัญที่ผมรอให้กลับมา"

ก้านเปิดประตูห้องนอนทิ้งไว้แล้วลงไปข้างล่าง ไม่ถึงนาทีถัดมากิมก็เดินเข้ามาในห้อง ยิ้มแหยเมื่อเห็นว่าคนที่นั่งอยู่กับพื้นเพราะถูกจับมัดมือติดไว้กับขาเตียง
"แกะเชือกให้กูที"
กิมเดินเข้ามาแกะเชือกให้ตามคำสั่ง
"อาละวาดเสียจนก้านมันต้องมัดเลยหรือวะเนี่ย"
พอแกะเชือกให้เสร็จ แนชก็ง้างขาถีบกิมจนหงายแล้วตามขึ้นคร่อมชกหน้าอีกหมัด
"สัด"
มือผอมๆ กระชากคอเสื้อของกิมไว้แน่น "ใครพูดเรื่องเสือน้อย"

เสียงโครมครามจากในห้องนอน ทำให้ก้านที่กลับไปเอากระเป๋าของแนชในรถต้องรีบวิ่งขึ้นมาบนบ้าน 
"คนงานที่ร้านคุยกับผม แล้วเขาได้ยินก็เลยทำให้คิดว่าแนชชื่อเสือน้อยน่ะสิ"
ก้านบอกขณะแยกแนชออกจากกิม
"กูโดนถีบโดนชกฟรี" กิมบ่นขณะลูบแก้มที่โดนชก
"มึงสมควร เพราะมีแต่มึงกับไอ้ตือเรียกแบบนั้น"
"แนช" ก้านดุอีกครั้ง
คนโดนดุทำท่าฮึดฮัด ไม่เถียงสักคำ จนกิมยังทึ่ง แต่ก็รีบฉวยโอกาสพูด
"ตือมันโทรไปหากูว่ามึงโกรธเรื่องหลานมัน มายุ่งกับก้าน"
"ไม่ใช่! กูโกรธที่มันมายุ่งกับกูต่างหาก"
กิมขมวดคิ้ว "มันมายุ่งกับมึง"
"เรื่องก้านน่ะ กูไม่ได้...ไว้กูคุยกันเอง แต่ที่กูโกรธมึง 2 คนเพราะมึงแทงข้างหลังกู"
"กูไม่ได้ทำอะไรเลยนะ"
แนชเงื้อหมัดอีกที แต่ยังไม่ทันปล่อยออก ก้านก็รีบกอดรวบไว้
"มึงผิดที่ไม่ได้ทำอะไรเลยนี่แหละ" แนชตะโกนข้ามไหล่
"แนช ใจเย็นๆ ไง"
"กูใจเย็นแล้ว เย็นอย่างที่ไม่เคยเย็นมาก่อน" คนตัวเล็กเปลี่ยนมาทุบใส่หลังหนาๆ ฟ้องเรื่องกิม "อยู่ดีๆ ห่ากิมก็โทรไปบอกว่า มีสาวมีหนุ่มมาติดมึง"
ก้านหันกลับไปมองคนที่ยิ้มแหย ลูบท้ายทอยขอโทษ  ขยับมานั่งหลังก้าน ให้ช่วยบังไว้ ถ้าแนชจะอาละวาดขึ้นมาอีก
"มึงไม่รู้หรอกว่า กูเครียดขนาดไหน บางครั้งที่กูคุยกับมึงกูก็คิดไปว่า มือหนึ่งมึงถือโทรศัพท์คุยกับกู แต่อีกมือมึงจับมือใครอยู่หรือเปล่า"
"ไม่มีหรอกน่า" ก้านบอก
แต่กิมแย้ง "มีคนที่เขาอยากจับ แต่ไอ้ก้านมันไม่ได้สนใจเลยต่างหาก"
ก้านได้แต่หันไปทำหน้าตาใส่กิม บอกว่า จะมาคอนเฟิร์มอะไรกันตอนนี้
"ไม่มี แล้วผมก็ไม่สนใจด้วย โอเคมั้ยแนช"
"มึงไม่สนใจ แต่มันข้ามเส้นมาหากู"
"อ่อ.....โกรธที่โดนล้ำเส้นนี่เอง เด็กมันอาจไม่รู้ก็ได้ เพราะมันเรียกมึงว่าเสือน้อยใช่มั้ยล่ะ"
"มีใครถามคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกัน ในเรื่องส่วนตัวของคนอื่นบ้าง"
"มันก็จริง" กิมยอมรับ "แต่คนกรุงเทพฯ รู้จักคำว่ามารยาทสังคมเสียเมื่อไหร่ พวกนี้มาบ้านเรา นึกอยากทำอะไรก็ทำ สนใจใครที่ไหน"

"พี่กิมแค่อยากให้แนชกลับบ้านบ้าง" ก้านพูดพลางลูบหลังหันไปมองนาฬิกา "ค่อยๆ คุยกันนะ ใกล้เที่ยงแล้วผมจะไปเตรียมข้าวเที่ยงมาให้"
พอก้านเดินลงไปแล้ว แนชถึงได้หันมาหากิม
"กูก็อยากกลับ แต่งานมันต้องแข่งขันกันหนัก แล้วพอมีคนที่ชลบุรีเขาลาออก พี่ที่บ้านเขาอยู่จังหวัดนั้นเขาก็ขอ กูก็ง่อยแดก" มือผอมเสยผมลวกๆ
กิมลุกขึ้น ดึงให้แนชลุกตามลงมาที่โต๊ะกินข้าวชั้นล่าง แล้วก็เลยไปรินน้ำเย็นมาให้ ฟังแนชพูดไปเรื่อย
"ธนาคารสาขา มันไม่มีตำแหน่งกู ถ้าจะมากูต้องลดเงินเดือน แล้วกว่าที่กูจะได้กลับมาบ้าน กูได้นอนวันหนึ่งไม่กี่ชั่วโมง เดินเข้าบ้านมา กลับเจอใครที่ไหนไม่รู้มาบอกกับกูว่าชอบไอ้ก้าน กูอยากถีบหน้ามันใจจะขาด แต่เขาเป็นแขกของที่นี่ กูรู้ว่าเขามาแล้วเขาก็ไป แต่พวกมึงต่างหากที่รู้จักกันมาตั้งแต่เกาะท้ายรถสองแถวไปโรงเรียน ทำไมถึงได้กลายเป็นญาติของเพื่อนกูเอง”

ตรรกะของแนชอาจฟังเข้าใจยากสักหน่อย แต่เพื่อนที่คบหากันมานานอย่างกิมและตือเข้าใจถึงได้ไม่โกรธที่โดนอาละวาดที่ร้าน ทั้งตือยังโทรไปบอกกิมให้มาดูแนช
และเพราะว่าเป็นเพื่อนกัน ชกกันแล้วก็ด่ากันพูดกันอย่างตรงไปตรงมาได้สนิทใจ
เพราะคนอื่นมาแล้วก็ไป
ขณะที่ตือเป็นน้า ควรที่จะคุยกับหลานให้เข้าใจ

“กูขอโทษที่กูปากพล่อยทำให้มึงไม่สบายใจ แต่ไอ้ก้านมันคิดถึงมึงมากนะ กูเห็นมันอยู่แทบทุกวัน ที่ร้าน ที่วัด  หรือที่สวนของเพื่อน มองภายนอกมันก็เหมือนเดิม คนที่ไม่เคยเกี่ยงเวลาใครเรียกใช้ให้ซ่อมนั่นนี่ ไม่จ่ายเงินมันก็ไม่เคยพูด แต่กูกับไอ้ตือ คนมีแฟนเหมือนกัน เห็นหน้ามันก็รู้ว่ามันกังวลเรื่องมึงขนาดไหน เจอกันเมื่อไหร่ต้องมีคำถามว่า มึงเคยพูดมั้ยว่าจะกลับบ้านเมื่อไหร่ มันอยากไปรับมึงใจจะขาดแต่ไม่กล้า”
“มันชอบคิดเยอะ”
“มันคิดเยอะก็แต่เรื่องมึงน่ะแหละ” กิมชี้ตรงๆ”มีอะไรหลายอย่างที่มึงไม่รู้ แล้วกูก็ไม่ได้โม้เกินจริง เรื่องที่มีคนมองมัน มึงเองก็รู้”
“เออ” แนชกระแทกเสียงใส่ “ห่าแม่ง เดินเข้ามาหากูถึงในนี้ กูพนันกับมึงร้อยนึงกูเอามาม่าซองเดียว มันรู้ว่ากูเป็นใคร”
“เฮ้ย ไม่หรอกน่า” กิมยังไม่ค่อยเชื่อ “ไม่มีใครพูดเรื่องก้านกับมึงเป็นแฟนกันเลยนะ” พูดไปตี๋ร้านข้าวสารชักงงตัวเอง “ไม่มีใครรู้ว่าไอ้ก้านเป็นเกย์หรอกนะ เพื่อนกันถึงรู้ก็ไม่พูด คนทำมาหากินด้วยกันทั้งนั้น แล้วก้านมันก็เป็นคนดี”
“มันต้องรู้ เพราะมันเดินเข้ามาหากูถึงในครัว” แนชยังคงย้ำความเชื่อของตัวเอง
“กูไม่คิดว่ามันรู้ แต่เพราะมันเป็นคนไม่มีมารยาทต่างหาก คนมีมารยาทมันหยุดตั้งแต่ที่ร้านไอ้ตือแล้ว”

กิมชะโงกมองไปที่ประตูบ้าน ทำให้แนชหยุดคุยหันไปมอง คนงานกับก้านช่วยกันยกข้าวผัดมื้อเที่ยงมาให้
“มีเบียร์ในตู้เย็นนะพี่”
“เฮ้ย ไว้ก่อน เพิ่งเที่ยง”
แต่แนชลุกไปเปิดตู้เย็นหยิบมา “คนหนึ่งทำงาน อีกคนเพิ่งเที่ยงงั้นกูแดกคนเดียว”
กิมได้แต่ส่ายหน้า “เออ แดกๆ ไปเหอะ เดี๋ยวไอ้ตือมันจะตามมา ให้มันจัดร้านก่อน”
“พี่เลยไม่ได้ทำงานกัน”
กิมโบกมือ “เฮ้ย วันนี้วันเสาร์ ปกติก็เป็นวันแดก...เอ้อ..กินเหล้าอยู่แล้วเพียงแต่ทุกทีแก้วแรกจะเริ่มตอน 2 ทุ่ม ให้พ่อแม่กินข้าวเข้าบ้านกันก่อน แต่วันนี้เริ่มเร็วกว่าปกติเท่านั้น มึงก็มากินเที่ยงด้วยกันสิ”
ทำเป็นพูดชวนแต่กลับเดินไปซุบซิบนินทากับก้าน
“ปล่อยให้มันกินแล้วเมาหลับไปน่ะดีแล้ว มันอดนอนมาหลายวัน”
 
กิมกับก้านนั่งกินข้าวเที่ยงพร้อมกัน ส่วนแนชดื่มเบียร์ไป 2 กระป๋องแล้วค่อยมากินข้าว
ตี๋ร้านข้าวสารรู้ตัวเหมือนกันว่าเป็นส่วนเกิน แต่พอจะกลับแนชก็ดึงไว้ บอกว่าให้รอตือมาก่อน พออาหารมื้อเที่ยงผ่านไป แนชก็ง่วงซึม
“ถ้าตื่นมาแล้วยังอาละวาดก็เรียกกูได้นะ กูนัดกับตือไว้”
“ไม่เป็นไรหรอกพี่”
“เฮ้ย” กิมโบกมือ “เพราะกูปากไม่ดีไปเพาะเชื้อไว้ ทำให้มันเครียดมันเลยออกมาเป็นแบบนี้ แล้วถ้าเสียงดังไป แขกคนอื่นเขาจะมองไม่ดี กูหาเรื่องอ้างมากินเหล้ากับมันดีกว่ามันขับรถออกไปกินข้างนอก”
ก้านเดินขึ้นไปเปิดเครื่องปรับอากาศในห้องนอน แล้วลงมาหา
“แนช ไปนอนข้างบนนะ”
“อือ” แนชรับคำแล้วลุกขึ้นไปนอนข้างบนเองง่ายๆ จนกิมขำ
“เสือน้อย เวลาอยู่กับมึงแล้วมันกลายเป็นแมวเหมียว  กูบอกใครไม่มีใครเชื่อ”
ก้านเลยหันมาถาม “มิน่า ทุกคนเลยพากันเรียกเสือน้อยกันหมด”
“ก็เวลามันอยู่กับคนอื่น แม่งโคตรดุ พอได้ยินกูเรียกก็คิดว่ามันใช่ แล้วนี่จะต้องไปอธิบายหลานไอ้ตือมั้ย”
ก้านส่ายหน้า “อย่าเลยพี่ พรุ่งนี้เขาก็ไป ถ้าขืนไปอธิบายมันก็ยิ่งไม่จบ”
“จริงของมึง” กิมบอกแล้วกลับไปก่อน ค่ำๆ จะมากินเหล้าพร้อมกับตือ

ก้านเดินออกไปดูงานที่สำนักงานแล้วกลับมาดูคนที่หลับอยู่ในห้องนอน
กลิ่นเหล้าไม่ได้ฉุน ปริมาณที่ดื่มก็ไม่ได้มากมาย แต่คงเพราะอดนอนแล้วก็เหนื่อยมาหลายวัน
“แนช ก้านขอโทษที่ทำให้โกรธ แต่ขอร้องอย่าเที่ยวไปอาละวาดกับเพื่อนๆ แบบนี้อีกได้มั้ย”
มีเสียงร้องหื้อไม่เห็นด้วยมาจากคนที่นอนอยู่ ทำให้ก้านเดินไปนั่งลงบนเตียง แนชปรือตาขึ้นมามอง แล้วดึงมือให้นอนข้างๆ
“แนช ผมขอร้องจริงๆ นะ ไม่พอใจอะไรก็คุยกัน อย่าทำแบบวันนี้อีก”
“จะพยายาม มึงก็อย่าร้องไห้นะ”
“ไม่ได้ร้องสักหน่อย”
“กูไม่ได้โกรธมึง แต่กูไม่ชอบความรู้สึกระแวงแบบนี้ กูรู้ว่าเราเจอคนมากมาย แล้วก็อาจมีคนจิ๊จ๊ะกับมึงบ้าง แต่ถ้าถึงขนาดเดินเข้ามาในบ้านแบบนี้มันเกินไป กูไม่อยากคิดว่าเวลาที่กูไม่อยู่ ยังมีใครเดินเข้ามาที่นี่อีกหรือเปล่า จะมีใครที่ทำให้มึง...ไม่คิดถึงกู”
“ก็มีแต่พ่อกับแม่ แล้วก็พี่สาวผม แล้วก็คนงานที่เดินเข้ามาตามให้ไปดูแขก แต่ไม่เคยมีแขกที่เดินเข้ามาถึงที่นี่หรอก ส่วนเรื่องใครที่จะมาทำให้ไม่คิดถึงยิ่งไม่มี”
คนตัวเล็กขยับตัวซุกหน้าลงกับต้นแขนหนาๆ ฟังก้านพูด
“ถ้าเรายกหัวใจให้ใครคนหนึ่งไปแล้ว ไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไร เราก็ไม่เหลือใจไว้ให้คนอื่น ก็อย่างที่ผมบอกแนช ว่าผมน่ะทักทึกว่าแนชเป็นแฟนผมมาตั้งแต่เรียนมัธยมแล้ว แล้วแนชดุขนาดนี้ แค่ใจคิดว่าคนนั้นสวย ผมยังเพี้ยนถึงขนาดที่ด่าตัวเองว่า ชมคนอื่นนอกจากแฟนตัวเองได้ยังไง”
ดวงตาปรือด้วยความง่วงมองมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง “มึงนี่เพี้ยนเกินพิกัด”
“นั่นสินะ ยิ่งพอได้กอดแนชแบบนี้ ผมยิ่งหลงแนชกว่าเดิมไม่รู้กี่เท่า”
“ระยองเป็นบ้านกู ยังไงกูก็ต้องกลับมา ไม่ต้องห่วงว่ากูจะไม่กลับมา โอเคมั้ย”
“ครับ แต่คิดถึง”
“กูลากลับมาบ่อยๆ ไม่ได้” น้ำเสียงบ่งบอกว่าเจ้าตัวง่วงมาก
ก้านพยักหน้าเข้าใจ “ผมรู้ ขอโทษที่ทำให้ต้องลำบากใจ”
“ไม่ได้ลำบากใจสักหน่อย”
“โอเค ไม่ลำบากใจ” ก้านพูดกลั้วหัวเราะ เพราะแนชงัวเงียเต็มทีแต่ก็ยังพยายามอธิบาย “แนชนอนพักเถอะ ค่ำๆ พี่กิมกับพี่ตือจะมากินเหล้าด้วย”
“มึงชอบคิดว่ากูเป็นขี้เมา”
ก้านหัวเราะ ลูบผมนุ่ม แล้วจูบหน้าผาก “หลับนะครับ ขอให้วางใจผมไม่มีใครนอกจากแนช”

ก้านรอจนแนชหลับสนิท ถึงได้ลุกออกมาทำงานที่สำนักงาน นึกขำคำพูดของกิม และทุกคนที่มักพูดว่าเขาทำงานหนัก
เพราะก้านไม่เคยคิดว่ากำลังทำงาน และไม่คิดว่าเรื่องที่ทำอยู่มันหนัก แล้วยิ่งมีคนงานเพียงไม่กี่คนแบบนี้ ยิ่งรู้สึกว่ามันแทบไม่มีน้ำหนักเลย ถ้าไปเทียบกับรีสอร์ทใหญ่ของพี่สาวทั้ง 2 คนกับร้านก่อสร้างของพ่อกับแม่ ที่ต้องมีคนงานมากกว่า 20 คน
อย่างวันนี้พอบ่ายจัดๆ รถน้ำเอาของมาส่งที่ห้องอาหารที่ตั้งอยู่ภายในรั้วของโฮมสเตย์ ถัดจากร้านค้าเข้าไปด้านใน ก้านก็ลุกจากออฟฟิศมาจ่ายเงินค่าเครื่องดื่มที่ห้องอาหาร แล้วก็อยู่ช่วยงานที่ห้องอาหาร เพราะมีแขกนอกโฮมสเตย์ประมาณ 10 คนกำลังกินอาหารกันอยู่ ระหว่างนั้นแม่บ้านก็ถามเรื่องอาหารเย็นของแนช
ก้านก็เลยเดินเข้าครัวไปลงมือเอง
...มีอะไรหนัก ไม่มีสักนิด...
ต่อให้เป็นเรื่องแนช ที่ใครๆ มักพูดกันว่าดื้อและเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ แต่ก้านก็ยังเห็นว่า อาจดื้อและเอาแต่ใจ แต่ไม่ได้ร้ายกาจ ทุกครั้งที่พูดแนชก็ฟัง
มาถึงตอนนี้ ยิ้มอารมณ์ดีมันก็ติดอยู่ที่ริมฝีปากของคนตัวโต เมื่อรู้ตัวว่า แนชยอมลงให้ก็แต่เขาคนเดียว แต่กับเพื่อนที่ก้านคิดมาตลอดว่าคือคนที่สำคัญของแนช กลับเป็นคนที่แนชไม่ถอยให้แม้แต่นิดเดียว
เกือบ 5 โมงเย็นก้านออกจากครัว ว่าจะเดินไปที่บ้าน แต่แนชกลับมาถึงห้องอาหารแล้ว
“อ้าวตื่นแล้วหรือ”
“เออสิ จะนอนอะไรนักหนา หิวแล้วว่ะ”
“ตื่นเพราะหิว หรือตื่นเพราะนอนอิ่มแล้ว” ก้านดักคอเลยโดนทำหน้าย่นยู่เข้าใส่
“จะอะไรก็เหอะ ตื่นแล้ว หิวแล้ว มีอะไรกินมั่งครับคุณ”
“หิวแล้วพูดเพราะ” ก้านหันไปทำท่านินทากับแม่บ้านที่ยืนยิ้มอยู่ใกล้ๆ เลยโดนเตะที่น่อง
“เหอะ เดี๋ยวจะเจอโมโหหิว”
ก้านเดินไปตักแกงใส่ถ้วย “แนชตักข้าวสิ เขียวหวานเสร็จพอดี”
แนชตักข้าว 2 จานมาวางบนโต๊ะ มองถ้วยแกงสีสวย “โห เขียวหวานกุ้ง กูไม่เคยกินเลยอะ”
“กินเป็นมั้ย”
“ตักใส่ปากแล้วเคี้ยว ง่ายมาก มึงต้องถามใหม่ให้ถูกว่า ไม่เคยกินก็ลองดูสักนิดว่ารสชาติมันถูกใจกูหรือเปล่า” พูดย้อนไปด้วยความเคยปาก แล้วนึกได้ว่าก้านน้อยใจเรื่องที่แนชทำงานอยู่กรุงเทพฯ แต่ตัวเองอยู่ระยอง ก็เลยพูดต่อไปเรื่อยๆ “แล้วมีอะไรอีก”
“ผัดยอดคะน้า กับไข่เจียวโหระพา”
“ไข่เจียวอะไรนะ อันนี้ก็ไม่เคยกินเหมือนกัน” แนชลุกตามมาดูพ่อครัว หยิบนั่นหยิบนี่ใส่ลงในกระทะแป๊บเดียวก็ได้อาหารเพิ่มมาอีก 2 อย่าง
“ทำไมมึงทำแล้วมันดูง่ายขนาดนี้นะ” แนชใช้ส้อมจิ้มไข่เจียวใส่ปาก “จะว่าไรมั้ย ถ้ากูจะกินเปล่าๆ หมดนี่เลยอะ”
“กินไปเถอะ” ก้านบอกยิ้มๆ
“มึงก็กินด้วยกันสิ” แนชชี้ไปที่จานข้าวตรงหน้า ก้านก็นั่งลงกินข้าวพร้อมกัน พอลุกขึ้นเก็บล้าง แขกที่โฮมสเตย์ก็ทยอยเข้ามาสั่งอาหาร
หนุ่มตัวเล็กหันมากระซิบถาม “แล้วมึงต้องอยู่ดูแขกก่อนหรือเปล่า”
“ไม่ต้องหรอก”
เดินออกมาที่ด้านนอกใกล้กับห้องพัก มีคนงานผู้ชายยกเตาปิ้งย่างมาวางไว้ที่ข้างโต๊ะสนาม
“อันนี้ของแขกอีกกลุ่ม เขาจะทำครัวปิ้งย่างอาหารทะเลกัน ก็ไม่ต้องมาดูอีกเหมือนกัน ไว้เก็บทีเดียวตอนเช้า”
“ช่างเป็นการทำงานที่น่าอิจฉาอะไรเยี่ยงนี้”
ก้านยิ้มขำ ขณะที่โอบเอวบางเดินคู่กัน “แล้วแนชล่ะ ทำงานเป็นอย่างไรบ้าง”
“มันเหมือนลืมตาตื่นขึ้นมาก็มุดเข้าไปอยู่ในอุโมงค์อะไรสักอย่าง ที่เต็มไปด้วยตัวเลขกับคน แล้วพอรู้ตัวอีกทีก็คือพ้นออกมาจากอุโมงค์เข้ามาอยู่ในห้องของตัวเอง ตอนทำงานแรกๆ กูกลับเข้าห้องก็หลับเลย อาบทีเดียวตอนเช้า”
“แล้วตอนนี้ล่ะ”
“ตอนนี้ไม่เท่าไหร่แล้ว ไม่ใช่งานเบาขึ้นหรอก แต่ตอนแรกกลัวเขาไม่รับทำงานไง ก็ทุ่มสุดตัว รีดมันสมองจนก้อนสุดท้าย”

เดินคุยเหมือนเดินเล่น เพราะมาจนถึงบ้านก็เดินต่อไปที่สวนทางด้านหลัง ที่ก้านปลูกผลไม้ไว้หลายชนิด รวมถึงพืชผักสวนครัว เน้นให้หลากหลายเข้าไว้ เพราะต้องการปลูกเพื่อไว้รับประทานกันเอง เหลือถึงจะขาย   มือใหญ่ออกแรงดันหลังให้ไปนั่งที่ศาลา ส่วนตัวเองเดินมาเปิดก๊อกน้ำ รดน้ำต้นไม้แล้วกลับมานั่งเหยียดขาที่ศาลา
 “พรุ่งนี้แนชจะไปหาแม่กินข้าวเที่ยงแล้วค่อยกลับหรือเปล่า”
“อยากให้กลับหรือเปล่า”
ก้านคลี่ยิ้มกว้าง “ลางานมากี่วัน”
“2”
“งั้นพรุ่งนี้กินข้าวเสร็จผมไปส่งแนชที่บ้านแม่ แล้วตอนเย็นผมไปรับนะ”
“อือ”

.....เห็นมั้ย แนชว่าง่ายจะตายไป....

ค่ำลงแขกทยอยกลับเข้าบ้านพัก พร้อมๆ กับที่กิมมาพร้อมกับตือ และเพื่อนร่วมก๊วนอีก 2 คน ก้านก็เลยเข้าครัวที่บ้านพักทำกับแกล้มมาเพิ่มให้
“ช่างเป็นพ่อศรีเรือนเสียจริงๆ” กิมเริ่มแซวคนยิ้มเก่งเลยโดนแนชไล่ให้ไปช่วยพ่อครัว
“อาร๊ายยย นี่กูอุตส่าห์ซ่อนหมูแดดเดียวของแม่มาฝากมึงนะ มึงยังใช้กูอีกหรือเนี่ย”
“ไม่ได้มีแค่หมูทอดนะ ไอ้ตือยังขโมยเหล้าที่ร้านมาด้วยอีกต่างหาก” เพื่อนอีกคนช่วยบอก
คุยกันไปเสียงเริ่มดังกิมก็คอยเตือนว่า เสียงจะดังรบกวนแขก แต่ก้านบอกว่าไม่เป็นไร เพราะไม่ได้กินเหล้าแบบนี้ทุกวันเสียเมื่อไหร่
“ไว้คราวหน้าไปกินที่ศาลาตรงสวนผักกัน” แนชชวน
“โห ตรงนั้นแม่งวังเวง กลัวนั่งกินกันอยู่ดีๆ มีสมาชิกเพิ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้” ตือบอก
“อ้าว นี่แสดงว่ามาตรวจสอบสถานที่กันหมดแล้วสิเนี่ย” แนชชี้ไล่เรียงตัว
กิมรีบชี้ไปหาพ่อครัวที่ยกยำแหนมมาวางให้ “กูจะมากันเองได้ไง ถ้าเจ้าของสถานที่เขาไม่ชวน”
“มิน่า ถึงเข้าข้างกันจั๊ง” แนชทำเสียงสูง
กิมรีบปลอบ “โอ๋ๆๆๆ เสือน้อยของไอ้กิม อย่าเพิ่งโมโหโกรธาเร็วนัก เพิ่งหัวค่ำเอง”


(มีต่อครับ  :m19:)
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 4 หน้า 6 : 8-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 10-07-2012 07:51:49
“น้าตือ” หญิงสาวคนที่เปิดประตูบ้านเดินเข้ามาเมื่อช่วงสาย ร้องทักข้ามคนหลายคนไปหาน้าชายทันทีที่เข้ามาในบ้าน ทำให้ทุกคนพากันหันไปมองหน้าแนช
น้าชายยังไม่ทันตอบ หญิงสาวก็มองต่อไปที่คนที่กำลังล้างของในครัว
แนชยกเหล้าขึ้นจิบอึกใหญ่
“น้ามากินเหล้าบ้านนี้หรือ”
“เออ มึงมากับเพื่อนไม่ใช่หรือไง แล้วมาทำไมบ้านนี้” ตือทำเสียงเป็นงานเป็นการ เชิงบอกกับแนชว่า กูทำหน้าที่ของกูแล้วนะโว้ย
ก้านเก็บล้างเครื่องครัวเสร็จ ก็เดินมาแตะไหล่แนช
“พรุ่งนี้เช้าจะกินไข่เจียวอีกหรือเปล่า”
“ไว้เย็นดีกว่า” แนชหันไปบอก
“เช้ากินอะไร”
“ข้าวผัดแหนมได้มั้ย”
“ได้ครับเจ้านาย ผมไปเก็บครัวใหญ่ก่อน คนงานจะได้กลับไปพัก”
“พี่ก้านจะไปไหนหรือคะ กิ๊บไปด้วย” หญิงสาวตรงเข้ามาหายืนใกล้ก้านทันที ต่อให้ตือร้องเตือนก็ไม่หยุด
“มึงควรกลับไปอยู่กับเพื่อนมึง”
ก้านเพิ่มน้ำหนักมือที่ไหล่บางของแนช
ส่วนกิ๊บยักไหล่ให้น้าชาย แล้วหันมาหาแนช “น้าเสือน้อยชอบไข่เจียวหรือคะ กิ๊บทำไข่เจียวเก่งนะคะ”
แนชกระตุกยิ้มมุมปากหันไปมองตือ ดวงตากลมหรี่ลง กับรอยยิ้มที่ไม่น่าไว้วางใจ
เพื่อนๆ รอบวงที่ตามมากินเหล้ากันตามปกติ ต่อให้เป็นคนที่ไม่รู้เรื่องกิ๊บมาก่อน มาถึงตอนนี้ก็รู้แล้ว และหันไปมองหน้ากัน
ท่าทีแปลกๆ จนกิ๊บสงสัย
“ทำไมคะ ถึงกิ๊บจะคนกรุงเทพฯ แต่แค่ไข่เจียวง่ายจะตาย”
ก้านหันมาหากิ๊บ “ดึกแล้วกิ๊บกลับไปห้องพักจะดีกว่านะครับ ตรงนี้มีแต่......”
กิ๊บไม่รอให้ก้านพูดจบก็สวนขึ้นมาทันที “ดึกที่ไหนคะ เพิ่ง 3 ทุ่มเอง”
ตือรู้ตัวรีบลุกขึ้น ดึงหลานออกไปข้างนอก
“ห่ากิ๊บ มึงทำให้น้าอย่างกูอายจนไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ไม่รู้จะบอกกับแม่มึงยังไงแล้ว”
“น้าตือ” กิ๊บยังคงไม่ยอมหยุด ทั้งยังเถียงน้าชายจนได้ยินเสียงดังเข้ามาถึงในบ้าน “หนูก็แค่อยากคุยกับพี่ก้านเท่านั้นเอง”
ตือกับหลานออกไป แต่คนในบ้านกลับจ้องมองแนชเป็นตาเดียวกัน
“ไม่เหวี่ยงว่ะ” กิมแซว
หนุ่มตัวเล็กถอนหายใจแรงๆ ยกเหล้าขึ้นดื่ม ขณะที่มือใหญ่จับที่ศีรษะโยกเบาๆ “เดี๋ยวมา”
“อือ”
เพื่อนในกลุ่มหันมาหาแนช “เขาคิดว่ามึงชื่อเสือน้อย”
“อือ ก้านบอกว่าเขาได้ยินพนักงานที่ร้านเรียกกูอย่างนั้น”
“เพราะได้ยินเพื่อนๆ เรียกมึงแบบนี้ก็เลยเรียกตาม แต่จะว่าไปก็ดีเหมือนกันนะ ปล่อยให้เข้าใจผิดดีกว่าต้องมาตอบคำถาม แล้วยิ่งเป็นคนไม่สนใจสายตาคนอื่นแบบนี้ด้วยแล้วยิ่งพูดยาก”
แนชพยักหน้ายอมรับความเห็นของเพื่อน “กูไม่เคยคิดเลยนะ ว่าการที่เราคบกับใครสักคน มันจะต้องคิดต้องมองอะไรรอบตัวมากขนาดนี้”
“พูดเหมือนไม่มีความสุข” เพื่อนอีกคนทัก
พอคำตอบของแนชเป็นความเงียบ กิมก็เปลี่ยนมาใช้น้ำเสียงจริงจัง
“มึงต้องปรับตัวอะไรเวลาอยู่กับมันหรือเปล่า”
แนชส่ายหน้า
“พ่อแม่มึงคัดค้านเรื่องมันหรือเปล่า”
แนชส่ายหน้าอีกครั้ง
“มันไปวุ่นวายที่ทำงานมึงมั้ย”
คำตอบยังคงเป็นการส่ายหน้า เพื่อนทั้ง 3 คนก็เลยพากันร้องเฮ้ย
“แล้วมึงไม่มีความสุขตรงไหน”
“ไม่รู้เหมือนกัน อาจเป็นเพราะมันเดินเข้ามาในเวลาที่กูไม่พร้อม ไม่รู้สิ อาจไม่ใช่ก็ได้ กูเองก็งงๆ ตัวเองเหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับกู”

กิมขยับจะพูดอีก แต่เพื่อนอีกคนสะกิดไว้ “กูว่าคนที่มึงควรคุยให้มากคือไอ้ก้าน ไม่ใช่พวกกู มึงเข้าใจมั้ย เวลาของไอ้ก้านกับมึงน่ะมันเดินไปด้วยกันตลอด แต่เวลาของมึงกับก้านน่ะ มันหายไปหลายปี ก้านเข้าใจมึง แต่มึงไม่เข้าใจก้าน”

แนชหันมามองเพื่อนทั้ง 3 คน “มันคุยอะไรกับพวกมึงบ้างเนี่ย ห่า กูกลับมาบ้านแต่ละครั้งไม่เคยพูดไม่เคยบอกกันเลย มึงเพื่อนกูหรือเพื่อนมันกันแน่เนี่ย”
“ก้านมันก็ไม่ได้เร่งรัดให้กูช่วยอะไรเป็นพิเศษนี่ มันแค่ถามถึงมึงทุกครั้งที่เจอกัน จนผิดปกติ กูก็แหย่มันเล่น แต่มันกลับยิ้มรับ แล้วกูเองก็คิดเหมือนคนอื่น มึงไม่ได้มีท่าทีว่าจะสนใจใคร ไม่เคยพูดถึงหญิงคนไหน ไม่เคยเห็นมึงโทรหาใคร เรื่องของคน 2 คนถ้ามันจะเริ่มมันก็ควรเริ่มด้วยความพร้อมใจของทั้งคู่”  กิมบอก “อย่างกูกับนงเยาว์ก็เห็นกันมาตั้งนาน ม้าก็บอกว่าแม่สื่อจะนัดให้ดูตัว แต่กูก็ผัดมาเรื่อยจู่ๆ คนเคยเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ให้มาแต่งงานกันมันแปลกๆ ว่ะ แต่พอมาวันหนึ่งบังเอิญไปเจอกันที่ห้างในเมือง กูก็ชวนเขากินข้าวเลย”
“มันเป็นแบบของๆ มึงยังไงก็เป็นของมึงแบบนั้นหรือเปล่า” เพื่อนคนหนึ่งถาม
“ตอนก่อนหน้านั้นไม่คิด แต่พอไปกินข้าวบ้านเขาบ่อยๆ ถึงเพิ่งจะคิดว่ะ” กิมหันไปบอก
หัวข้อเรื่องที่คุยเปลี่ยนไป จนตือกลับเข้ามาก็ร่วมวงเล่าเรื่องของกิมกับนงเยาว์ อย่างสนุกสนาน 4 ทุ่มกว่าก้านกลับเข้ามา เพียงแค่ดวงตากลมที่หันไปมองนาฬิกาก้านก็รีบบอก
“เก็บครัวเสร็จก็ไปที่ป้อมยาม แล้วก็กลับมา”
เพื่อนๆ พากันส่งเสียงโห่ พร้อมไปกับการเตือนกันว่าอย่าเสียงดัง คุยเล่นกันต่อจนถึง 5 ทุ่มตือก็ขานเวลากลับบ้าน
“เฮ้ย เพิ่ง 5 ทุ่ม”
“กูต้องกลับไปช่วยเมียทำงาน” ตือบอก
เพื่อนคนอื่นก็พากันรู้งาน ลุกไปเข้าห้องน้ำ
“วันนี้กินเหล้าเลิกเร็วเป็นสถิติใหม่” หนุ่มตัวเล็กประชดต่อ กิมเลยบอก
“กูกลัวไอ้ก้านไม่ให้มากินกับมึงอีกไง เลยต้องสร้างภาพที่ดีเข้าไว้”
“โห พวกมึงยังมีภาพอะไรที่ดีอีกหรือไง” แนชประชดไม่เลิก ขณะที่เดินไปส่งเพื่อนขึ้นรถ ตือคนเมาน้อยที่สุดในกลุ่มเป็นคนขับ เสร็จแล้วก็กลับเข้าบ้านไปอาบน้ำเข้านอน
“วันนี้เหมือนกินเหล้าไม่อร่อย”
ก้านทักขณะที่ล้มตัวลงนอน
“เพราะพวกมันไม่อยากให้มึงกับกูผิดใจกันน่ะ ไม่งั้นมันคงลากกูออกไปกินร้านไอ้ตือแล้วกลับเช้าเหมือนทุกที”

ทุกคนรู้ว่าวันที่ที่นี่มีแขก ก้านจะไม่ยอมออกไปข้างนอก เพราะจะทำให้เหลือเพียงยามที่ประตูหน้าเพียงคนเดียว แล้วถ้าพาแนชออกไป อาจทำให้ก้านยิ่งเป็นกังวล แนชก็อาจระแวงเพราะกิ๊บยังอยู่ที่นี่
สู้ให้อยู่ที่นี่ เห็นทุกอย่างได้ยินทุกอย่างด้วยตัวเองให้ชัดเจนดีกว่าที่จะมาสอบถามกันในภายหลัง

“แล้วแนชล่ะ เป็นอย่างไรบ้าง”
“ว่าที่จริง ตอนที่เขาเดินเข้ามากูก็อึดอัดนะ เลยกินเหล้าดีกว่า แต่เพราะมึงยังยืนอยู่ข้างกูเหมือนเดิม ใจมันก็คิดว่าเออ ไม่มีอะไร ยิ่งตอนที่ไอ้ตือพาเขาออกไป ยิ่งแทบไม่ได้สนใจอะไรแล้ว”
ตรงข้ามกับเพื่อนๆ ที่กลับพากันเป็นห่วงพยายามชวนคุยให้แนชเข้าใจก้านและงานที่ก้านทำ
รอยยิ้มกว้างของคนตัวโต พาแนชยิ้มตาม
“ทุกอย่างมันเป็นเพราะท่าทีของมึงน่ะแหละ ถึงมึงจะไม่ได้พูด แต่มันก็...ทำให้กูไม่ติดใจอะไร”
“แย่จริง” ก้านพูดยิ้มๆ
“อะไรแย่” แนชกลับมาไม่ค่อยเข้าใจ ไม่โมโหอาละวาดแล้วทำไมยังแย่
“มีแต่ผมที่ขี้หึงหรือเนี่ย”
แนชทุบที่ต้นแขนหนาๆ “จะหึงอะไร บ้าหรือเปล่า”
ก้านพลิกตัวขึ้นคร่อม ก้มลงกดจูบที่ริมฝีปาก “หึงมาก ขนาดพี่กิมพี่ตือเรียกแนชว่าเสือน้อยยังไม่ชอบเลย”
“เฮ้ยยยยยย” แนชลากเสียงยาว
“จริงนะ ที่หายออกไปนั่งมองรถผ่านหน้าโฮมสเตย์อยู่ตั้งนานก็เพราะหงุดหงิดที่แนชนั่งหัวเราะอยู่กับเพื่อนๆ อยากให้มองแต่ผมคนเดียว หัวเราะกับผมคนเดียว”
“เหอ” แนชทำเสียงแปลกๆ “ที่พวกมันมาเพราะกลัวกูหึงจนหน้ามืด แต่ทำไมมันกลายเป็นมึงล่ะ”
ก้านก้มลงจูบดูดปาก มือใหญ่ลูบไล้เอวบางไล่ขึ้นมาหาหน้าอกบาง แนชส่งเสียงท้วงเบาๆ ในคอ
“หึงเพราะแบบนี้ไง” ก้านบอกแล้วก้มลงจูบย้ำ บีบบี้ยอดอกจนแข็งเป็นไต แล้วก้มลงเลียรอบ
“ก้าน คุยก่อนไม่ได้หรือไง เขาบอกว่าต้องคุยกันเยอะๆ จะได้ไม่ผิดใจกัน”
ก้านยกตัวขึ้นจูบแก้ม แต่มือยังคงฟอนเฟ้นที่อกบาง “คุยอะไร”
“ก็....มึงหึงอะไร กูจะได้ทำตัวถูกไง”
“ก็แค่ขอให้น่ารักอย่างนี้กับผมคนเดียวได้มั้ย”
แนชทำเลิกคิ้วสูงขึ้นข้างเดียว หน้าตาพิกล “โลกนี้มีแต่มึงคนเดียวแหละที่ว่ากูน่ารัก ขนาดพ่อกับแม่กูยังว่ากูมันไอ้ตัวปวดหัวเลย”
ก้านยิ้มกว้างก้มลงจูบปากฟัดแก้มแรง จนแนชโวยวาย
“ห่าก้านเจ็บนะ”
“งั้นทำที่อื่น”
ก้านขยับตัวดึงเสื้อนอนของแนชออก ตามมาด้วยกางเกงนอนตัวยาว

แม้จะมีเพียงแสงจากแสงจันทร์ภายนอก แต่ยังเห็นผิวขาวซีดแปรเปลี่ยนสีชมพูตามความร้อนรุ่มจากภายใน ดวงตาหรี่ปรือ อกบางผวาตามมือที่สัมผัส ลิ้นที่ปรนเปรอให้รู้สึกถึงหยดน้ำรสปร่าจากแก่นกายสีอ่อน
“ก้าน ....พอ...”
ก้านดูดรูดแก่นกายจนคนออกคำสั่ง ยกสะโพกตามแรง
ริมฝีปากหนาจูบเลื่อนขึ้นมาจูบไซ้ที่คอขาว
“ก้าน...ก้าน...” แนชรู้สึกเหมือนรถที่กำลังวิ่งด้วยความเร็วสูงแต่กลับถูกเหยียบเบรกกะทันหัน
“ครับ”
“กู...”
ก้านขบที่ไหล่บางเบาๆ
“ก้าน...”
“ครับ”
“กู...”
ก้านขบซ้ำอีกครั้ง จนแนชนิ่วหน้า “อื้อ..เจ็บ...”
ริมฝีปากหนาดูดย้ำที่รอยกัด แนชผ่อนลมหายใจยาว เลื่อนมือสัมผัสกล้ามเนื้อแผ่นหลัง
“แนชอยากให้ก้านทำอะไร”
“แนช...” เพียงคำแรกที่เรียกชื่อตัวเอง แนชก็กลับหัวเราะคิก “ไม่คุ้นว่ะ”
“ก่อนหน้านี้ยังเรียกได้” ก้านกัดที่คางเบาๆ จนแนชต้องเบี่ยงหน้าหนี
“ก็..มันแปลกๆ”
ครั้งแรกที่เรียกชื่อตัวเองแบบนี้คือตอนที่ก้านทำความสะอาดให้ ความต้องการออดอ้อนร้องขอทำให้เปลี่ยนสรรพนามเรียกตัวเอง
หลังจากนั้นกลับไปเรียกแบบเดิม ก้านก็ไม่ได้ท้วงอะไร แต่ตอนนี้ดูเหมือนก้านจะชอบให้เรียกชื่อตัวเองมากกว่า
ริมฝีปากหนาประกบจูบแน่น ขณะที่เลื่อนมือช้อนใต้สะโพกแล้วสอดนิ้ว แนชสะบัดหน้าหนี กอดไหล่กว้างไว้แน่น
“เจ็บ....”
นิ้วใหญ่สอดลึก แนชแทบกลั้นหายใจเมื่อจุดอ่อนไหวถูกสัมผัส
“ก้าน...ก้าน...แนช...ขอ...”
“จากนี้เรียกชื่อตัวเองดีมั้ย จะได้คุ้น”
นิ้วใหญ่ถอนออกแล้วสอดลึกกดย้ำ เสียงหอบหายใจของคนตัวเล็กยิ่งแรง แก่นกายมีหยดน้ำทั้งที่ไม่ได้ถูกสัมผัส
“อื้อ....ก้าน..”
“ดีมั้ย”
แนชฮึดฮัดเพราะถูกขัดใจ จะผลักไหล่หนาออก แต่ก้านกลับยกตัวหนี แยกขาเรียวออก....
สอดนิ้วมืออาบครีมที่ช่องทางด้านหลัง พร้อมกับการเร่งมือรูดรั้งให้ แนชผวาร้องห้าม ยื้อข้อมือแกร่ง “ไม่เอา แบบนี้ไม่เอา ไม่...”
ก้านละมือจากช่องทางด้านหลัง แต่ยังคงรูดให้ต่อ แนชเกร็งสุดตัวแล้วฉีดน้ำสีขาวหอบแรง
“ไม่เอา แบบนี้”
“ไม่ชอบหรือ”
“อือ...”
“งั้น...”
แนชช้อนตามอง “ยักษ์บ้าเอาแต่ใจ”
“ใครเอาแต่ใจ” ก้านลูบต้นขาเรียว พร้อมไปกับรูดให้ตัวเอง “หือ ใครเอาแต่ใจ”
“ก้าน...ชอบเอาแต่ใจ”
คิ้วหนายกขึ้นสูงยิ้มขำ ที่แนชยังคงพยายามเลี่ยงการเรียกชื่อตัวเอง เข้าใจได้ว่าเพราะแนชเป็นพี่ แต่มาจนถึงวันนี้ ตอนนี้
....ไม่อยากให้เป็นพี่อีกต่อไปแล้ว....
“แนช เรียกชื่อแบบนี้ตลอดไปได้มั้ย”
ส่วนปลายจดจ่ออยู่ที่ช่องทางด้านหลังแต่ยังไม่สอดเข้าหา ก้านก้มลงจูบริมฝีปากบาง
“ก้านรักแนช”
“อื้อ แนชก็รักก้านเหมือนกัน”
 
เล็บบางกรีดลงที่แผ่นหลังกว้าง เสียงหอบหายใจแรงเมื่อสะโพกแกร่งขยับสอดลึก
“เจ็บหรือ”
“อื้อ..” แนชพยักหน้า ไม่ใช่ครั้งแรกแต่คงเพราะช่วงเวลาที่ห่างกันนาน ทำให้รู้สึกเหมือนจะได้แผล
พอเห็นน้ำตาซึมจากหางตาสวย ก้านก็หยุดสะโพกลูบที่ต้นขา
“ก้าน...มาเถอะ”
ก้านกดสะโพกช้าๆ เข้าหาแนชก็ยิ่งกดเล็บแล้วผวากอดไว้ “ห่า ทั้งเจ็บทั้งเสียว”
ก้านพลิกหน้าเล็มที่ใบหู เรื่อยลงมาหาต้นคอ แต่ไม่ขยับสะโพก
“ก้าน...ไม่ไหว...”
ริมฝีปากหนากดจูบปาก ดูดแรงแล้วยกตัวขึ้น เปิดขาเรียวออกกว้าง ดวงตาสีเข้มกวาดตามองไปทั่วร่างกายผอมบาง รู้สึกเหมือนความร้อนกำลังทำให้เลือดในกายแห้งเหือด แต่กลับสาวสะโพกช้าๆ
ดวงตาที่มองมาเหมือนกำลังกลืนกินเข้าไปทั้งตัวทำให้แนชได้แต่หลับตา ไม่กล้ามองกลับไป 

ต้องมีสักครั้งละน่า ที่จะตื่นนอนก่อนเจ้าของบ้าน ลงมามีข้าวต้มอยู่ในถ้วย ก็อุ่นไมโครเวฟแล้วนั่งกินไปคิดไปว่าอาจต้องไปหาแม่คนเดียว ก้านก็กลับเข้ามาพอดี พร้อมกับรอยยิ้มกว้าง
“กินข้าวแล้วหรือ”
“อือ ...ไปเองก็ได้ไม่ต้องไปส่งหรอก”
ก้านบีบจมูกดื้อรั้นเบาๆ “แวะไปที่ร้านก่อน แม่ผมจะฝากของไปให้แม่แนชด้วย”
“แล้ว...เราควรมีของไปฝากแม่ก้านด้วยหรือเปล่า”
....โอย ทำไมมันเขินได้ขนาดนี้วะเนี่ย อย่างกับเป็นสาวน้อยวัยใส....
“ไว้พรุ่งนี้ดีมั้ย เพราะวันนี้ผมแวะไปเอาของแล้วก็รีบไปหาแม่แนช ต้องกลับมาที่นี่ก่อนเที่ยง”
“อ่า....จริงสินะ” แนชบอกแล้วมองเลยไปทางด้านหลัง “ไม่คิดว่าควรจะอยู่ช่วยเก็บห้องหรือไง”
“เก็บห้องน่ะเรื่องง่าย” ก้านบอกขำๆ เก็บถ้วยชามไปล้าง แล้วเดินตามออกมาที่รถ
ตอนที่แวะที่ร้านอุปกรณ์ก่อสร้างใช้เวลาไม่นานอย่างที่ก้านว่าจริงๆ เพราะแม่ยืนรออยู่ที่หน้าร้าน พอก้านจอดรถ แม่ก็รีบส่งของให้ บอกว่าฝากสวัสดีดาบเผดิมกับอาจารย์สายหยุดด้วย
แนชได้แค่ยกมือสวัสดีก้านก็ออกรถ
พอมาถึงบ้านก้านลงจากรถมาสวัสดีพ่อกับแม่ เอาของที่แม่ฝากมาให้อาจารย์สายหยุด แล้วก็กลับไป
“รีบๆๆๆๆ” แนชยืนเท้าเอวประชดตามหลังรถคันใหญ่ที่แล่นออกไป
“ก็วันนี้มันวันอาทิตย์” แม่พูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา
คุยไปคุยมา ถึงได้รู้ว่า ช่วงที่แนชไม่อยู่ก้านยังคงแวะมาหาพ่อกับแม่เป็นระยะ

บ่ายจัดแม่จดรายการของที่ต้องไปซื้อที่ตลาดมาส่งให้พ่อ แนชอาสาขี่รถมอเตอร์ไซค์คันเก่งของพ่อไปที่ตลาด ส่งพ่อที่แผงผักเจ้าประจำแล้วเลยไปหากิม ยืนคุยกันในร้านข้าวสารได้ครู่เดียกิมก็ชวนออกมาร้านกาแฟตรงหัวมุมตลาด ห่างจากร้านข้าวสารของกิมไม่ถึง 10 ห้องแล้วก็ยังมองเห็นพ่อเวลาที่ออกมาจากตลาด
ความคุ้นเคย และความเคยชินทำให้กิมดึงแนชไปนั่งที่โต๊ะเล็กด้านใน แต่ยังมีมุมที่ทำให้เห็นพ่อเวลาออกมาจากตลาดได้
กินกาแฟยังไม่ถึงครึ่งแก้ว ก็เห็นพ่อออกมาจากตลาด ในมือถือถุงผักที่แม่สั่งให้ซื้อ แต่คนที่เดินมาด้วยกันคือชัยชนะพ่อของก้าน
เห็นแค่นี้แนชก็ขยับหลบไปหลังเสา เหลือแต่กิมที่รีบหันไปคว้าหนังสือพิมพ์ขึ้นบัง
ดาบเผดิมพ่อของแนชจำกิมได้ เพราะนี่เป็นเพื่อนสนิทของลูกชาย หันมองไปรอบๆ ยังสงสัยอยู่ว่าแนชไปไหน ก็พอดีชัยชนะพ่อของก้านสั่งเครื่องดื่มแล้วนั่งลง
พ่อ 2 คนคุยกันตรงๆ ในเรื่องที่คาดเดาได้
“ผมมีก้านเป็นลูกชายคนเดียว อยากให้มันมีครอบครัวมีลูกหลานไว้สืบสกุล แต่มันก็ยืนยันมาตลอดว่ามัน...ไม่ได้ชอบแบบนั้น ใจก็ยังคิดว่าสักวันมันอาจเปลี่ยนใจ แล้วพอมันไปกรุงเทพฯ กลับมา บอกตามตรงถึงลูกจะเสียใจ แต่ผมก็ยังคิดว่ามันจะคิดได้ แล้วก็ยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่ผมเลือกให้ ที่ไหนได้ มันกลับยิ่งไปกันใหญ่”
กิมกับแนชเงี่ยหูฟังเสียงดาบเผดิมพูดอะไรสักคำ แต่ดาบก็ยังนั่งฟังเจ้าของร้านอุปกรณ์ก่อสร้างพูดไปเรื่อย จนกระทั่งถึงประโยคที่เป็นเป้าหมายสำคัญของการสนทนาครั้งนี้
“บอกให้ลูกของดาบเลิกยุ่งกับลูกผมได้มั้ย อย่าเพิ่งกลับมาอย่าเพิ่งติดต่อกัน แรกๆ ก้านมันอาจดูไม่ดีนัก แต่เวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเอง”
“ผมก็มีลูกชายคนเดียว ตอนเรียนก็ออกจากบ้านไปอยู่หอเหมือนกัน เรียนจบมันก็ทำงานอยู่กรุงเทพฯ เป็นห่วงมันไม่ว่ามันจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม แต่สิ่งที่ผมกับอาจารย์สายหยุดเชื่อมาตลอดก็คือ ทุกคนมีหนทางของตัวเอง” ดาบตอบไปอีกทาง แต่ชัยชนะรู้ว่าหมายถึงเรื่องอะไร
“ของแบบนี้มันไม่ยั่งยืน”
“มันก็ไม่มีอะไรยั่งยืนสักอย่าง พระท่านว่าทุกอย่างเป็นเรื่องสมมุติ ถึงจะเรื่องลูกหลานสืบสกุลที่เถ้าแก่เป็นกังวล มันก็ไม่แน่หรอก ผัวเมียแต่งงานกันไม่มีลูกเยอะไป มีแล้วแทนที่มันจะดูพ่อแม่กลับเป็นพ่อแม่ดูมันจนกว่าใครจะตายก่อนกันก็มีไม่น้อย แต่งแล้วหย่ายิ่งมากกว่า เรื่องชื่อเรื่องนามสกุลใหม่ มันนึกอยากเปลี่ยนก็ไปขอให้พระเลือกให้” ดาบพูดเนิบๆ ตามนิสัย
“ดาบไม่ห่วงแทนลูกเลยหรือไง”
“ห่วง แต่ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะต่างจากเวลาที่มันกลับมาบ้านแล้วมันก็ไปที่โน่นที่นี่ แล้วมันก็กลับมานอนดูละครกับอาจารย์สายหยุดที่บ้านตรงไหน”
“อย่างนี้เราก็คุยกันไม่รู้เรื่อง”
“รู้” ดาบเผดิมพูดหนักๆ “เพียงแต่เราเห็นไม่เหมือนกัน ลูกคุณลูกผม ต่างก็เจอคนเยอะ แต่ก็มีแต่เขาเท่านั้น ที่รู้ว่าอยู่กับใครแล้วเขามีความสุข เขาเลือกเองได้”
ชัยชนะไม่ได้พูดอะไรอีก ลุกขึ้นไปจ่ายเงินค่ากาแฟแล้วออกไปจากร้านทันที
“กิม แนชล่ะ” ดาบหันมาเรียกคนที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์

แนชลุกออกมาจากหลังเสาที่ใช้บังตัวอยู่ ริมฝีปากเม้มสนิท ดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ
พ่อจับศีรษะเล็กๆ โยกเบาๆ “ไป กลับบ้านกันป่านนี้อาจารย์บ่นแล้วก็ไม่รู้”
แนชมองพ่อแล้วหันไปมองแผ่นหลังของคนที่เดินออกไปจากร้าน มือขาวซีดกำหมัดแน่น
“แนช พ่อหิวแล้วว่ะ กลับบ้านกันดีกว่า”

========จบตอนที่ 5======

ต้นแบบของกิ๊บในเรื่องนี้ไม่ใช่ผู้หญิงหรอกครับ ตอนเขียนรอบแรกเสร็จส่งไปให้ทีเขียน แล้วทีส่งกลับมา ก็เปลี่ยนชื่อเพิ่มเรื่องยาวมาก เห็นชื่อกิ๊บยังไม่เท่าไหร่ แต่พอกิ๊บเริ่มพูดประโยคแรกผมก็เหมือนโดนตบหัวทิ่ม แล้วพออ่านๆ ไปรู้สึกเสียวสันหลังวาบ :m29: พอเห็นตอนแนชเหวี่ยงเลยไม่ค่อยแปลกใจแล้ว
ส่วนที่ฝากให้จัดการตัวเล็กขาเหวี่ยงน่ะ คุณก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้  :m23:

ก่อนที่ป๋าจะเรตติ้งตก ขอชี้แจงว่า กิ๊บ(นามสมมุติ) มาเกาะแกะป๋าและล้ำเส้นมาถามผม ดังนั้นต้องไปจัดการที่พี่มัน ฐานไม่รู้จักสั่งสอนน้องมัน พอป๋ารู้ว่ามีคนล้ำเส้นมาหาผม ป๋าแค่หันมาถามด้วยสีหน้างงๆ ว่า ใครหรือ จำไม่ไ่ด้ท่าทางชีวิตนี้จะไม่รู้จักใครนอกจากคานธี  แต่ช่างเหอะ ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ป๋า แต่อยู่ที่คนรอบตัวผมและป๋าต่างหาก

ตอนหน้าวันพฤหัสบดีจบแล้วนะครับ
ไจฟ์กับทีครับ


หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 10-07-2012 07:54:09
มาแล้วดีใจ
พ่อก้านยังไม่ยอมรับเหรอเนี่ย
พ่อแนชเข้าใจชีวิตดีจัง o13
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: skynotebook ที่ 10-07-2012 08:03:29
มาแต่เช้าเลย
---------------------------------
ก้านใจร้ายเนอะ มามัดแนชอย่างงี้ได้ไงเนี่ย น่าสงสาร

พ่อก้านก็ใจร้ายเนอะ เหมือนจะเข้าใจและไม่เข้าใจลูกในเวลาเดียวกัน :เฮ้อ:แล้วพ่อแนชทำไงเนี่ย


ปล.เรื่องกิ๊บนี้เป็นเรื่องจริงหรือเนี่ย น้องทีก็ร้ายไม่ใช่เล่นเลยเนอะ ไจฟ์นี้ก็เสน่เหลือล้นอีก
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 10-07-2012 08:25:45
จะจบแล้วหรอ  :monkeysad:

งื้ออออ คุณพ่อชัยชนะอย่าแยกแนชกะก้านนะ   :monkeysad:

เอาใจช่วยแนชนะ ให้ผ่านไปด้วยดี :impress3:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 10-07-2012 08:35:38
ตอนนี้เรียกเลือดแทบหมดตัวทีเดียวค่ะ

แนชได้รู้ได้เห็นแบบนี้จะเป็นยังไงน้อ

แอบลุ้นว่าอย่าเกิดเรื่องเลย

และเพิ่งรู้ว่าที่มาที่ไปของกิ๊บนั้นมีตัวตน 555

+และเป็ดให้ค่ะ

หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 10-07-2012 09:00:16
จะจบแล้วววว
เศร้าจัง :o12: :sad4:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 10-07-2012 09:36:43
ตอนแรกแอบรู้สึกว่าแนชทำเกินกว่าเหตุ แต่อย่างว่าใจเขาใจเรา ถ้ามีคนมาล้ำเส้นเรา เราคงปี๊ดแตกเหมือนกันแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: jeeu ที่ 10-07-2012 09:41:21
 :-[ เค้าเข้าใจผิด นึกว่าตอนนี้เป็นตอนจบ :laugh:
เข้าใจนะ ที่แนชอาละวาดเพื่อนๆแทนก้าน
ตอนที่เราไม่อยู่ ก็หวังพึ่งเพื่อนดูแลแฟนแทนเรา
ถึงตือจะไม่ผิด แต่มันก็น่าเคืองใจเนอะแนชเนอะ
ถ้าน้องทีเป็นแบบแนชล่ะก็ ป๋าไจฟ์.....!!!
กอดน้องทีแน่นๆ จิ้มบวกให้เด็กหล่อนะคะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 10-07-2012 09:58:52
ไม่อยากให้จบเลย :sad4:
แนชบ้า น่ารักอ่ะ เหวี่ยงไปเลย น่ารักขนาดนี้ ยอม! :z3:
เข้าใจพ่อของก้านแฮะ แต่พ่อของแนชพูดได้กินใจมาก ชอบคุณพ่อแนชจัง
อยากอ่านต่อจัง อยากรู้ว่าแนชจะทำยังไงต่อไป ลุ้นๆ
ปล.ไม่อยากให้จบเลยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 10-07-2012 10:21:02
อ่านจบแล้วมันจุกในอกอ่ะ ทำไมพ่อก้านไม่เข้าใจ :sad4:


รอตอนจบครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 10-07-2012 10:36:51
อ่านคำลงท้ายแล้วอึ้ง...
พฤหัสหน้าจบแล้ว

ง่ะ ไม่มีเรื่องให้อ่านต่อแล้วเหรอค่ะเนี่ย T__T

อยากบอกว่าชอบที่สองพ่อคุยกันมากๆ มันลูกผู้ชายดีแท้มีอะไรก็ว่ากันตรงๆ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 10-07-2012 10:39:16
ก้านใจเย็นมากๆ
แนนเหวี่ยงนี่น่ากลัวมากๆ

หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Yukisae ที่ 10-07-2012 10:40:40
น่ากลัวจริงเลย เสือน้อย เหอะๆ
กิ๊บกลับบ้านไปเถ๊อะะะะ เป็นห่วงสวัสดิภาพ เพื่อนๆแนช
นึกว่าทางบ้านก้านยอมรับแล้วซะอีก
ใจเย็นนะแนช อุปสรรค มีไว้ให้เราเข้มแข็ง
++จ้า
โอ้กิ๊บนามสมมติที่มีตัวตน ใครมาทำให้หนุ่มน้อยหงุดหงิดเนี่ย
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 10-07-2012 10:41:54
ต้นแบบของกิ๊บในเรื่องนี้ไม่ใช่ผู้หญิงหรอกครับ ตอนเขียนรอบแรกเสร็จส่งไปให้ทีเขียน แล้วทีส่งกลับมา ก็เปลี่ยนชื่อเพิ่มเรื่องยาวมาก เห็นชื่อกิ๊บยังไม่เท่าไหร่ แต่พอกิ๊บเริ่มพูดประโยคแรกผมก็เหมือนโดนตบหัวทิ่ม แล้วพออ่านๆ ไปรู้สึกเสียวสันหลังวาบ  พอเห็นตอนแนชเหวี่ยงเลยไม่ค่อยแปลกใจแล้ว
ส่วนที่ฝากให้จัดการตัวเล็กขาเหวี่ยงน่ะ คุณก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ 

ก่อนที่ป๋าจะเรตติ้งตก ขอชี้แจงว่า กิ๊บ(นามสมมุติ) มาเกาะแกะป๋าและล้ำเส้นมาถามผม ดังนั้นต้องไปจัดการที่พี่มัน ฐานไม่รู้จักสั่งสอนน้องมัน พอป๋ารู้ว่ามีคนล้ำเส้นมาหาผม ป๋าแค่หันมาถามด้วยสีหน้างงๆ ว่า ใครหรือ จำไม่ไ่ด้ท่าทางชีวิตนี้จะไม่รู้จักใครนอกจากคานธี  แต่ช่างเหอะ ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ป๋า แต่อยู่ที่คนรอบตัวผมและป๋าต่างหาก

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด
อ่านตอนนี้แล้วขอกรีดร้องก่อนเลย อิอิ
 :m3:  :z3:

ก้านนี่มันร้าย
เล่นเอาซะเสือน้อยกลายร่าง
กลายเป็นลูกแมวน้อยร้องเหมียวๆไปเลย
อ่านแล้วเลือดกำเดาจะพุ่ง อั๊ยย่ะ!!!
 :m10:

คุณพ่อน้องก้านคะ
ลองถามลูกมันสักคำมั้ย
ว่ามันจะเอาชะนีทำเมียรึเปล่า?
ทำมาออกหน้าออกตา เชอะ
 :beat:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 10-07-2012 10:43:14
แนชน่ารักกับก้านคนเดียว พ่อก้านไม่น่าขัดขวางลูกเลย

หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 10-07-2012 10:48:29
โอ้วววว ผู้หญิงสมัยนี้...แล้วชั้นเป็นผู้หญิงสมัยไหน?? ช่างมันเหอะ ^^"
พอมาเห็นช่วงคุย...อ้าว ต้นแบบไม่ใช่ผู้หญิงนี่นา อาการเดาชื่อกำเริบได้ด้วยล่ะ หุหุ

เห็นด้วยกับอาการเหวี่ยงของแนช...ถ้าเป็นคนอื่นอาจไม่รู้สึกเท่า แต่ยัยน้องนี่มันหลานเพื่อนนี่หว่า เมิงตายยยย(เพื่อนน่ะนะ)
แต่ก็นะ แค่ยอม...เหมือนไม่ได้ปรับตัวอะไร แต่ใส่ใจความรู้สึก เราถึงยอมเขานั่นเอง ^^

นึกว่าที่บ้านก้านจะยอมรับนะเนี่ย...เซ็งเลย
จะเป็นยังไงต่อหนอ ทั้งที่ลูกชายพยายามมากที่จะอยู่กับคนที่เขารัก
พ่อแม่กลับมาพูดกะอีกบ้านลับหลังแบบนี้ ไม่ดีเลย...แถมจะเป็นชนวนให้เสือน้อยอาละวาดอีกด้วย

รอลุ้นตอนจบเล็กๆ กับเรื่องที่ก้านต้องเคลียร์...ก้านสู้ๆ ^^V
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: must ที่ 10-07-2012 10:56:38
สแนชตอนองค์ลงเนี่ย โคตรจะน่ากลัวเลย ให้ตายเหอะ พาลไปทั่ว มั่วซั่วไปหมดแล้ว
คืออาละวาดตือและภรรเมียถึงบ้านยังไม่สาแก่ใจคุณสแนชท่าน มีการเผื่อแผ่มาที่กิมด้วย
ถึงขั้นจะเผาร้านเผารวงที่ครอบครัวเพื่อนสนิทใช้ทำมาหากินกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ ย่า ตา ทวด

ตรรกะของแนชไม่ใช่แค่อาจฟังเข้าใจยากสักหน่อย แต่เข้าใจโคตรจะยากเลยขอบอก กร๊าากก~
จับมัดไว้อย่างงั้นแหละก้านเอ๋ย เอาให้หายบ้าก่อน (แอบให้การสนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ)
ไม่ควรปล่อยแนชมาเพ่นพ่านซักระยะ เพราะหากปล่อยไม่ถูกเวลาจะเป็นก้านเองนั่นแหละที่งานเข้า

อึ้ง~ ไม่คิดว่าแนชจะเก็บเอาคำพูดของกิม ที่บอกเล่าแกมขู่กลายๆ ทางโทรศัพท์ มาคิดมากมายขนาดนั้น
ดีใจแทนก้านนะที่แนชแสดงอาการหึงหวงออกมาแบบนี้ เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายอีกอย่างนึงของแนช
อีกอย่างนึง เพื่อนสนิมของแนชทั้งตือแล้วก็กิมแลดูจะเข้าใจตัวแนช มากกว่าที่แนชเข้าใจตัวเองอีกนะเนี่ย

“กูไม่คิดว่ามันรู้ แต่เพราะมันเป็นคนไม่มีมารยาทต่างหาก คนมีมารยาทมันหยุดตั้งแต่ที่ร้านไอ้ตือแล้ว”
ประโยคนี้ของกิมมันช่างโดนใจแบบเต็มๆ เชื่อว่ามือที่สามส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างที่กิมบอกนั่นแหละ

“ถ้าเรายกหัวใจให้ใครคนหนึ่งไปแล้ว ไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไร เราก็ไม่เหลือใจไว้ให้คนอื่น”
อ๊าาาากกกก~ ต้องขอยอมศิโรราบให้ก้านแบบไม่มีข้อแม้กันไปเลย กับประโยคกินใจประโยคนี้จริงๆ

กรี๊ดดดดดดดดดด~ ครึ่งหลังนี่แบบ โอ๊ยยยยยย~ จะหวานกันไปหน๊ายยยยยย~ หวานกันจนน่าอิจฉา
มดพากันไต่หน้าจอยั้วเยี้ยเต็มไปหมด อ่านเลิฟซีนไปมีอาการเขินนิดๆ ตามติดด้วยนะ (ไปเกี่ยวอาร๊ายยยยย~)
ส่วนช่วงที่แนชไม่อยู่ก้านก็รับหน้าที่เป็นลูกที่ดีแทนแนชซะอย่างงั้น หูยยยยยยย~ ดีกว่านี้มีอีกมั้ยยยยยย~

อดสะเทือนในหัวใจไม่ได้กับบทสนทนาระหว่างคุณพ่อทั้ง 2 ท่าน แรกดูเหมือนพ่อของก้านจะเข้าใจดีแล้วนะ
แต่พอมาเจอประโยคต่างๆ ที่ออกมาจากปากของท่านแล้ว อดที่จะผิดหวังและรู้สึกเสียใจแทนก้านไม่ได้จริงๆ
ในทางตรงกันข้าม รู้สึกแตกต่างไปกับคำพูดของคุณพ่อของแนชมากๆ ดีใจและปลาบปลื้มใจแทนแนช
ที่มีพ่อและแม่ที่เข้าใจอีกทั้งยังยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็น คือคุณพ่อท่านมานิ่งๆ เนิบๆ แต่บาดลึกไปถึงขั้วหัวใจ

สารบัญ Snatch (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33789.msg2049218#msg2049218)
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: rujaya ที่ 10-07-2012 11:00:45
พ่อไม่เข้าใจก้าน  :z3:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 10-07-2012 11:14:04
แบบนี้เขาเรียกความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรกสินะ
ให้รับมือกับคนอื่นพอไหว แต่กับพ่อแม่นี่สิ เฮ้อ...

แอบแซว:พระเอกของไจฟ์ต้องกัด นายเอกของทีต้องวีนเหวี่ยง เหอ ๆ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 10-07-2012 11:20:57
แนชอย่าเหวี่ยงก้านนะลูก ก้านยังไม่รู้เรื่องค่อย ๆ คุยกัน แบบว่าแอบห่วง

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 10-07-2012 11:37:18
อ่านเรื่องนี้ของคุณไจฟ์กับน้องที แล้วชอบที่สุด
หาเหตุผลไม่ได้ อาจจะเป็นเพราะมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้จริงๆในโลกเรานี้มั้ง
เช่น เรื่องกิ๊บ ผู้หญิงบางคนต่อให้รู้ว่า อีกฝ่ายแต่งงานแล้ว หรืออีกฝ่ายเป็นเกย์ยังไม่สนใจเลย คิดแต่ว่ากรูจะเอา จะเอาชนะ
เรื่องพ่อแม่ก็เหมือนกัน เป็นธรรมดาที่พ่อแม่ของก้านต้องอยากให้ก้านมีครอบครัวที่ปกติ แต่ทุกอย่างก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวของก้านกับแนชเอง
ที่จะพิสูจน์ให้ครอบครัวเห็น จริงอย่างที่พ่อแนชบอก ถึงเป็นคู่ช-ญ บางครอบครัวก็มีลูกไม่ได้เหมือนกัน
อย่างนั้นไม่ต้องเลิกกันเลยเหรอ ทำไมผู้ใหญ่ทำเหมือนลูกเป็นเครื่องจักรผสมพันธ์เลยอะ แค่ต้องการหลานแค่นั้น ถึงพอใจ
เหมือนเพื่อนเราเลยต้องแต่งงานตามพ่อแม่ สุดท้ายถึงไม่หย่า แต่ก็ไม่สุข มันบอกว่าตั้งแต่ต้องเลิกกับแฟนเพื่อแต่งงาน
มันไม่เคยมีความสุขอีกเลย แม้จะมีลูกก็เหอะ อยู่ไปตามหน้าที่ อย่างนี้พ่อแม่จะมารับรู้บ้างไหม เฮ้อ ตอนนี้มันอินไปหน่อย  :เฮ้อ:
กดเป็ด กดบวกให้นะคะ


หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 10-07-2012 11:40:30
ช่างเป็นเสือน้อยที่อารมณ์รุนแรงจริง ๆ  แต่น้องกิ๊บน่าจะโดนหนัก ๆ ซักครั้งนะ
รู้สึกว่าเธอจะหน้ามึนในการเข้าหาผู้ชายมาก ๆ  ก้านเลยดูเป็นผู้ใหญ่ไปเลย
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 10-07-2012 12:19:32
แทนที่พ่อของแนชจะไม่เข้าใจกลับกลายเป็นพ่อของก้านซะอยางนั้น  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: wdaisuw ที่ 10-07-2012 13:35:10
คงมีแต่ก้านที่ปราบแนชอยู่หมัด  o13

จากนี้ไปต้องเข้าใจกันให้มากๆ สู้ๆนะคะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Tasaitatsu ที่ 10-07-2012 13:36:00
แนชก็ยอมลงให้ก้านคนเดียวละเนอะ ^^

ถ้ากิ๊บคิดได้หรือเก็บเอาที่น้าตัวเองด่า ก็คงรู้แล้วว่าทำตัวไม่น่ารักเลย

ชอบคำพูดของดาบจัง รู้ว่าพูดเรื่องเดียว แต่ความคิดเห็นมันไปคนละอย่าง
ดาบเข้าใจลูกและยอมรับในการตัดสินใจของลูกและสิ่งที่ลูกเือก แค่ลูกเป็นคนดีและมีความสุข แค่นั้นดาบก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว
ส่วนพ่อของก้าน ไม่เข้าใจลูกไม่ยอมเข้าใจความรู้สึกความต้องการและสิ่งที่ลูกเป็น เอาแต่ยัดเยียดสิ่งที่ตัวเองอยากให้ลูกเป็นและความอยากของตัวเอง โดยไม่สนใจว่าลูกจะรู้สึกยังไง ทั้งที่ลูกก็พยายามพิสูจน์ตัวเองแล้วแท้ๆ

พออ่านมาถึงตอนทอร์ค ก็ร้องขึ้นมาว่า "อ๋อ มันมีเหตุการณ์จริงที่ผ่านมาแล้วนี่เอง" ^____^

ขอบคุณสำหรับตอนนี้ค่ะ ตอนห้าจะจบแล้ว อ๋าาาาา ไม่อยากให้จบเลย _ _">
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 10-07-2012 13:50:30
ป๊าของแนช ชนะเลิศมากกกกค่ะ
ตอนแรกเหมือนบ้านก้านจะผ่านฉลุย แต่คุณพ่อ ดันมาก่อนดราม่าซะงั้นอ่ะ   :a5:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: PAAPAENG~ ที่ 10-07-2012 14:20:14
อ่อย!
เรื่องอื่นเริ่มลงตัว
ดันมาสะดุดเรื่องพ่อก้านซะงั้น
นึกว่าจะยอมรับแล้วซะอีก ที่ไหนได้...

ทำไงล่ะทีนี้
แนชคงไม่วู่วาม หนีก้านไปหรอกนะ!

ตอนหน้าจบเลย ไม่อยากให้จบเลยค่ะ
ทุกวันคิดอยู่ตลอดว่าอยากอ่านอีก อยากให้ถึงวันนัดลงตอนต่อไปเร็วๆ
แต่พอมาตอนนี้...ไม่อยากให้ถึงวันพฤหัส!!

แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอกเนอะ ฮือ... ToT
งั้นก็...เจอกันวันสีส้มค่าา
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: from_mars ที่ 10-07-2012 15:13:17
ดราม่าแบบชีวิตจริงกำลังจะเริ่มต้น...
มุมมองของพ่อแม่ที่มีแต่ความรัก และเป็นห่วง กลัวลูกจะยืนอยู่ในสังคมไม่มีความสุข
ก็นะ บางที่เค้าก็ห่วงเราโดยที่ไม่ได้มองแค่ความสุขปัจจุบัน เนอะ... มองต่างมุมใช้ได้ในทุกเรื่องจริงๆ

ขอบคุณ และรออ่านต่อจ๊ะ เสือน้อยจอมซ่า..555
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: PookPick ที่ 10-07-2012 15:55:37
อ่า เสือน้อยของเราเจอคุณพ่อก้านกีดกันซะแระ

ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 10-07-2012 16:19:07
พ่อก้านยังทำใจไม่ได้อีกเรอะ

มันมีที่มาที่ไปอย่างนี้นี่เอง
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 10-07-2012 16:58:11
เขาพลาดตอนที่แล้วอ่ะ เลยมาเม้นต์รวบยอดตอนนี้เลย

อ่านสองตอนอย่างยาว สะใจเป็นยิ่งนัก

แบบว่าพี่แนชนี่เหวี่ยงได้ใจมาก ใครก็เอาไม่อยู่ แอบตกใจ ฮะๆ

แต่ตอนนี้เสือน้อยมีคนปราบแล้วเนาะ :-[

ดราม่าเพราะคุณพ่อน้องก้านเลยอ่ะ

เป็นกำลังใจให้พี่แนชสู้ๆ :กอด1:

กดบวกทุกบวกไปเลยค่ะ

ตอนที่แล้วว่าจะอ่านๆ แต่พอตอนกลางคืนหยอดตาแล้วลืมตาไม่ขึ้นเลยนอนเร็วตลอดเลย วันนี้เลยมาอ่านตอนเช้าแทน

คราวหน้ารับรองไม่พลาดแน่นอนเจ้าค่ะ o13
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: gonna.be ที่ 10-07-2012 16:59:18
พ่อแนชน่ารักจัง
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 10-07-2012 18:23:36
สงสารแนชนะ มาได้ยินพ่อก้านพูดอย่างนี้คงใจเสีย เสียใจไปเยอะ
หวังว่าคงไม่มีความคิดจะเลิกกับก้านหรอกนะ ต้องสู้สิ ถ้าหนีนี่ไม่ใช่แนชใช่ไหม :กอด1:
ก้านเองก็ไม่คิดเลิกกับแนชแน่ๆ เอาใจช่วยทั้งสองคนนะ :L2:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 10-07-2012 18:43:53
พ่อแนชใจกว้างอะ
ดีจังที่มีพ่อน่ารักๆแบบนี้
พ่อก้านก็หัดทำตัวน่ารักๆบ้างนะ จะได้มีสะใภ้แก่นๆมาเลี้ยงซักคน ;)
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 10-07-2012 18:48:47
พอกิ๊บ มาถามน้องที เอ้ยยย ถามแนช เรื่องก้าน เลยทำให้แนชปรี๊ดดดดแตก เข้าใจมาก เพราะเป็นพี่ก็ปรี๊ดดดเหมือนกัน แต่คงไม่เท่าแนชนะ o3
พ่อผัวไม่ชอบลูกสะใภ้ซะแล้วซิ งานงอก แต่ตอนหน้าจะจบแล้วอ่ะ ยังอยากอ่านต่ออยู่เลย
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 10-07-2012 19:02:35
 :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 10-07-2012 19:08:11
ตอนหน้าจบและ แป๊บเดียวเอง
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 10-07-2012 20:12:30
อุปสรรคมาแล้ว
เรื่องนี้ไม่มีปมปริศนาให้ลุ้น แต่ได้ลุ้นกับอุปสรรคในชีวิตรักของทั้งคู่แทน :laugh:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: nokkie ที่ 10-07-2012 20:18:02
แนชฟังพ่อก้านพูดแบบนั้นแล้วจะทำอะไรมั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: AllRiseApril ที่ 10-07-2012 20:35:35
อารมณ์รุนแรงเนาะ = ='
แต่ก็ยังดีที่ฟังๆก้านบ้างล่ะนะ
คุณพ่ออ่าา ทำไมล่ะคะ ลูกมีความสุข ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็ดีอยู่แล้วนี่
ชีวิตมันสั้นนัก  อย่าไปกะเกณฑ์อะไรมากเล้ยย
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 10-07-2012 20:40:16
นึกว่าพ่อก้านจะยอมรับซะอีก
ไปๆมาๆแอบมาคุยแบบนี้
แนชจะรู้สึกอย่างไร
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 10-07-2012 22:18:30
ไม่ว่าจะเพศอะไร

มาล้ำเส้นงี้น่าเจอตบสักทีทั้งนั้นแหละ

ส่วนคุณพ่อก้านก็คงเพราะห่วงลูกมากไป

พ่อแนชนั้นไซร้...ยกนิ้วให้เลย o13
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Anyann ที่ 10-07-2012 22:37:38
อ่าว คุณพ่อของก้านไม่ยอมรับซะงั้น  :z3:

เชอะ อย่าให้ได้เจอทีเด็ดความน่ารักของแนช เดี๋ยวได้หลงลูกสะใภ้กันหัวปักหัวปำ555
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 10-07-2012 23:06:48
จะจบแล้ว แต่ยังดูยุ่งๆ อยู่เลย
เรื่องราวของคนเขียนดูจะสนุกกว่านิยาย
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 10-07-2012 23:21:00
อ้าวว นึกว่าพ่อก้านโอเคซะอีก เหอะๆ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 10-07-2012 23:47:27
อื้อหือ ถ้าเจอแบบกิ๊บในชีวิตจริงคงต้องจัดหนักๆซักหลายๆที คนอะไร๊ หน้าด้านไร้ยางอายที่สุด

นี่ล่ะเนาะ กรรมของคนมีแฟนหน้าตาดี ทั้งน้องทีทั้งแนชเลย อิอิ

ตอนหน้าก็จะจบแล้ว ปัญหาพ่อก้านยังไม่รู้จะเป็นยังไงเลย เฮ้ออออออ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: fanfic2010 ที่ 11-07-2012 01:11:32
มาแสดงตัวว่า ยังติดตามผลงานอยู่
เดี๋ยวจะหาว่า ดีแต่เป็นเสือซุ่ม อิอิ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 11-07-2012 01:43:41
มีความสุขทุกครั้งที่ได้อ่าานเรื่องของสองคนนี้เเต่ง

แม้ว่าช่วงนี้จะไม่ค่อยมีเวลา เเต่จะพยายามหาเวลามาอ่านให้ได้

เสือน้อยโกรธเเล้วน่ากลัวมากก  5555++
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: papark ที่ 11-07-2012 02:42:47
อ่านรวดเดียวเลยทีเดียวเชียว
ทั้งๆที่ผมกำลังจะสอบมิดเทอมแท้ๆ

มาเจอสแนช.. ผมก็หลุดจากวงโคจรเลยครับ

ตอนที่ห้านี้ ผมชอบคุณป๋าของพ่อเสือน้อยว่ะ
แนวคิดดีครับ ผมชอบ แบบว่า..มันโอเค (ไม่รูจะอธิบายยังไง)

ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับสำกรับเรื่องราวของสแนช ♥
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 11-07-2012 04:35:43
เสือน้อยของเรา ทำไงดีเนี่ย ยังไม่อยากให้จบเลยขอตอนพิเศษด้วยได้มั๊ยคะน้องที
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: BossoM ที่ 11-07-2012 10:53:08
งั้นที่แนชน่ากลัวก็เป็นเพราะเหมียวดุน่ะสิเนี่ย  :laugh:

รอตอนจบพรุ่งนี้จ๊ะ

ปอลอ.อ่านในไอแพทโคตรปวดตาอ่ะน้อง
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 11-07-2012 13:23:40
อืม อ่านในเรื่องไม่สนุกเท่านั่งอ่านทอล์คแฮะตอนนี้

ทำถูกแล้วน้องที เห็นอะไรสกปรกบางทีก็อย่าไม่แตะเองเลย ให้คนบ้านเขามาเก็บกวาดเองดีกว่า

ส่วนแนช โตขึ้นแล้วอารมณ์จะเย็นลงกว่านี้ไม๊นะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-07-2012 13:37:55
รอตอนต่อไปนะ :t3:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 11-07-2012 14:48:27
จะจบแล้วคงไม่มาม่าหรอเนอะ...ใช่ป่ะ  o18
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 11-07-2012 17:13:35
เพิ่งอ่านตอนแรกจบ
หนุกมาก
ก้านได้ใจสุดๆ
ไม่ใช่แค่แนชโดน SNATCH
คนอ่านก็ด้วย :laugh:
ปล. ก้านน่ะ คนรู้จักชนิดสายเลือดเดียวกัน
แต่มันอยู่ศรีราชา 555
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 11-07-2012 19:01:09
เพิ่งอ่านตอนล่าสุดจบ
อึ้งไปพัก
กลายพ่อก้านที่...
ชื่นชมพ่อแนชอย่างที่สุด
โลกนี้มีพ่อแบบนี้ ช่างยอดเยี่ยมเสียนี่กระไร
ขอบคุณไจฟ์ที :L1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: เพื่อนบ้าน ที่ 11-07-2012 21:20:55
จะบอกว่าพออ่านประโยคเริ่มต้นของตอนปุ๊บถึงกับตบเข่าฉาดๆๆ ยังคิดอยู่ตอนที่อ่านบทที่สี่จบว่าจะปราบสแนชนี่คงต้องจับมัดเลยมั้ง แล้วถ้าก้านมัดจริงแนชจะโกรธขนาดไหนคิดไปต่อไม่ถูกแล้ว พอมาตอนนี้เฮ้ยยยย ก้านมันมัดจริงอ่ะ แต่ก็จัดการกับอารมณ์แนชได้ดีนะนึกว่ายิ่งโดนมัดจะยิ่งอาละวาดซะอีก อ่านตอนนี้แล้วน้องกิ๊บแร๊งงงงงงงง สมควรที่แนชจะรู้สึกอยากกระโดดถีบยอดหน้า(มันแรงตั้งแต่เดินเข้าไปหาแนชยันครัวแล้วละ นางช่างกล้าอ่ะ)แต่โชคดีเป็นของหนูที่หนูเป็นหลานน้าตือ น้าตือก็เลยซวยไปแทนหนูเลยนะจ๊ะ แล้วตกลงนางไม่รู้จริงๆหรือนางไม่มีมารยาทกันแน่เนี่ย ทำไมสองคนนี้จะรักกันมันช่างดูอุปสรรคเยอะจริง ไหนจะระยะทาง ไหนจะมือที่สาม แล้วยังจะมีคุณพ่อมาอีก คราวนี้คงไม่ง่ายเหมือนตอนน้องกิ๊บแล้วมั้ง เฮ้ออออ -*-

ปล.ตอนนี้เม้นติดกันเป็นพรืดเลย พิมพ์ในโทรศัพท์แล้วเว้นวรรคไม่ค่อยถูกอ่ะ T^T
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: pochu52 ที่ 12-07-2012 00:30:15
นึกว่าคนที่จะรับไม่ได้เรื่องที่ก้านกับแนชคบกันจะเป็นพ่อแม่ของแนชซะอีก กลับกลายเป็นพ่อของก้านซะงั้น เฮ้อ!!!
หัวข้อ: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 12-07-2012 07:28:29
ตอนที่ 6

แนชมองหมายเลขโทรศัพท์ที่เรียกเข้า แต่ไม่กดรับ จนกระทั่งสายตัดไปเอง มันเป็นเบอร์ของก้านที่ยังคงโทรหาอยู่ทุกวันเหมือนที่ผ่านมา
เพียงแต่นับตั้งแต่กลับมาจากระยองครั้งหลังสุด แนชก็ไม่ได้รับสายของก้านอีก
เป็นการกระทำที่ทำให้ยิ่งเกลียดตัวเอง
ทั้งที่ควรแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงของตัวเอง แต่แค่ได้ยินคำพูดที่แสดงความเกลียดชังจากพ่อของก้าน ก็กลับปฏิเสธก้านอย่างง่ายดาย
...ไม่หรอก มันไม่ง่ายเลยสักนิด...
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป แนชถึงได้โทรกลับไปหากิม เพื่อนแสดงความเข้าใจเพราะก็นั่งอยู่ด้วยกันที่ร้านกาแฟตอนที่พ่อกับพ่อคุยกัน แต่กิมก็แนะนำว่าควรจะคุยกับก้านให้รู้เรื่อง ไม่ใช่การจากไปเงียบ ๆ แบบนี้
“อยากให้กูบอกเรื่องที่พ่อมันคุยกับพ่อมึงหรือเปล่า”
“อย่าบอกเลย ถ้าก้านมันถามก็บอกไปว่ากูไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องของมันกับกู”
“ห่า แนช เรื่องมันเดินหน้าไปแล้วแท้ ๆ”
“เรื่องมันเดินหน้า เพราะเราคิดง่าย ๆ มองโลกในมุมเดียวว่า เราแค่อยากอยู่ด้วยกัน แต่ที่จริง...” แนชพยายามกลืนก้อนสะอื้นที่มันตีขึ้นมาจุกอยู่ที่คอ เมื่อนึกถึงคนที่ซบหน้ากับพวงมาลัยรถ คน ๆ เดียวกับที่มีดวงตาลึกโหลเหม่อมองทะเลท่ามกลางความมืด “บอกมัน ว่าเวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเอง”
“มันจะดีขึ้นได้ไงวะ” กิมเถียง และยังคงพยายามโน้มน้าวให้เพื่อนกลับมาคุยกับก้านให้รู้เรื่องจนกระทั่งตัดสายไป

เพียงแต่....

ในเดือนถัดมา แนชกำลังจะออกไปทำงาน ก้านก็มายืนอยู่หน้าห้อง ทั้งสีหน้าแววตาดูอิดโรย มีเพียงรอยยิ้มกว้างที่ยังคงเหมือนเดิม
“แนช”
แนชเปิดประตูให้ก้านก้าวเข้ามาในห้อง ทั้งที่อยากร้องตะโกนที่ก้านมาหา แต่ในสมองกลับว่างเปล่า สีหน้าท่าทางก็มึนงง
“ออกมาตั้งแต่กี่โมง”
ท่าทีของก้านที่ดูแปลกไปกว่าเคยเหมือนกัน ดูเครียดเหมือนแบกของหนักไว้เต็มบ่า
“มารถทัวร์ กะให้มาทันก่อนแนชไปทำงาน”
“ทำไมมารถทัวร์”
ดวงตาสีเข้มหันมามองตรงๆ
“ตอนนี้ผมเหลือแต่ตัวกับปริญญาอีกใบเท่านั้น”
ใจคนฟังหล่นวูบ ทำได้แค่พยักหน้า ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรกับคนที่เดินทางมาไกล เพราะเพียงแค่ประโยคสั้นๆ ก็ทำให้พอจะคาดเดาเรื่องที่เกิดขึ้นที่ระยองได้คร่าว ๆ

...เรื่องที่เราหันหลังให้เขาง่าย ๆ นั่นก็เรื่องหนึ่ง แต่มันคงไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ก้านตัดสินใจแบบนี้...เกิดอะไรขึ้น...
 
“งั้นก้านอาบน้ำแล้วนอนพักนะ ข้างล่างมีร้านค้า ร้านอาหาร หอนี้เขาห้ามทำครัว แต่ถ้าเป็นมาม่า หรือพวกอาหารกล่องเข้าเวฟยังคุยกันได้”
“แนชจะไปทำงานแล้วใช่ไหม” ก้านมองคนที่สวมเสื้อยือคอปกของธนาคารกับกางเกงขายาว "ยังไม่ 6 โมงครึ่งเลย ทำไมไปทำงานเช้านัก"
“อือ กรุงเทพฯ ก็งี้แหละ” แนชปัดไปง่าย ๆ
“งั้นสัก 9 โมงผมจะไปสมัครงานที่แรกก่อน แล้วพรุ่งนี้ก็จะไปอีกแห่ง เขามีโรงงานอยู่ที่รังสิต มันตรงกับสายที่ผมเรียน”
“ดี” แนชบอกยิ้ม ๆ
“แนช”
“อือ”
“ผมทำให้แนชลำบากใจหรือเปล่า”
แนชส่ายหน้า คิดว่าเพราะท่าทีอ้ำอึ้งของตัวเอง ทำให้ก้านรู้สึกไม่แน่ใจก็เลยเดินเข้ามากอดเอวหนาไว้ เจตนาพูดข้ามการกระทำของตัวเองไปก่อน
“ไม่เลย แนชดีใจที่ก้านมาหา แล้วบริษัทที่จะไปสมัครงานวันนี้ อยู่ที่ไหน"
"บางนา"
"โห คนละทางเลยว่ะ"
"ไม่ต้องไปส่งหรอก ค่ำนี้เจอกัน แนชมีเตารีดหรือเปล่า ผมขอยืมรีดเสื้อที่จะใส่ไปสมัครงานหน่อย"
“ปั๊ดเหนี่ยว” แนชขำน “จะใช้อะไรก็ตามสบายเหอะ”
แต่ก่อนที่จะออกไปจากห้องแนชหันกลับไปมองคนตัวโตที่ยังยืนนิ่งอยู่กลางห้องอีกครั้ง แล้วเดินเข้าไปกอด
"ขอโทษที่ทำไม่ดี"
ก้านลูบแผ่นหลังบางของอีกฝ่าย "ผมเข้าใจ"
แนชพยักหน้ากับอกกว้าง ตั้งใจว่ากลับมาตอนเย็นค่อยคุยกัน "ไปสมัครงานแล้วก็กลับมานะ"
"ครับ"

แนชใช้เวลาตลอดวันไปกับการโทรศัพท์ ไม่อยากเชื่อว่ากิมไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับก้านเลยสักนิด และไม่สะกิดใจเลยแม้แต่น้อยที่เมื่อหลายวันก่อนก้านมาหาที่ร้านข้าวสาร และถามว่า ปกติแล้วแนชจะออกจากบ้านไปทำงานตอนกี่โมง แต่กิมบอกว่าไม่รู้อะไรขนาดนั้นหรอก รู้แต่ว่ากรุงเทพฯ รถติดมาก
สุดท้ายแนชได้แต่พูดฝากกิมให้ช่วยดูคุณนายส้มจีนแม่ของก้าน
"พ่อเขาอาจไม่ชอบกู หรือโทษพ่อแม่กูยังไงก็ตาม แต่เป็นคนละเรื่องกับคุณนายส้มจีนมึงเข้าใจปะ"
"เข้าใจ ก็เห็นมาตลอดน่ะแหละ" กิมตอบเพื่อนขณะที่หันไปมองแม่ของตัวเอง ที่กำลังเตรียมอาหารกลางวันสำหรับครอบครัวและคนงานอยู่ในครัว "แต่จะว่าไปในบรรดาแม่ๆ ทั้งหมด อาจารย์สายหยุดของมึงน่ะ เรียนเยอะสุด หัวก้าวหน้าที่สุดแล้ว"
แนชหัวเราะหึหึ "ฝากกระซิบบอกคุณนายส้มจีนด้วยละกัน ว่าไม่ต้องห่วง ก้านอยู่ที่นี่"
คุยกันอีกไม่กี่ประโยคกิมก็พูดขึ้น "ก้านมันไม่ใช่คนใจร้อน"

ก้านเป็นนักฟุตบอลโรงเรียนที่เรียนจบวิศวะฯ มาก็จริง แต่นิสัยพื้นฐานกลับเป็นคนใจเย็น ตรงข้ามกับแนชคนที่เป็นเด็กเรียนของห้อง และไม่ใช่เด็กกิจกรรม แต่กลับใจร้อน

"กูก็รู้ แต่พอเห็นมันมายืนอยู่หน้าห้อง บอกว่า ไม่เหลืออะไรแล้ว กูถึงได้คิดว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมามันเจออะไร แล้วช่วง 1 เดือนมานี้มันทำอะไร ขณะที่กูยืนอยู่เฉย ๆ แถมยังเป็นตัวเพิ่มปัญหาของมันเข้าไปอีก มันมีเรื่องที่กูไม่รู้เกี่ยวกับมันเยะแยะ"
"โอ้......." กิมลากเสียงยาว "มันไม่เคยเล่าให้มึงฟังนี่เอง”"
"มึงก็ไม่เคยเล่าว่ามึงรู้อะไร"
"ก็รู้เท่าที่ควรจะรู้ แล้วหลายเรื่องมันก็ไม่ควรพูดไป ต้องให้มันเล่าเอง" กิมหักจบจนแนชร้องด่ามาตามสาย
"ห่ากิม กูกำลังตั้งใจฟัง"
"มึงมีเวลาคุยกับมันอีกเยอะ ส่วนทางนี้กูจัดการได้สบายมาก"

วางสายจากกิมก็คือโทรหาดาบเผดิม "ก้านมาอยู่กับแนชที่กรุงเทพฯ นะพ่อ" แนชเล่าเรื่องคร่าวๆ
"อ้าว มันยังไงกันวะเนี่ย" พ่ออุทานเมื่อฟังจบ
"ไม่รู้เหมือนกัน จะค่อย ๆ ถามค่อย ๆ คุย เดี๋ยวพ่อก้านเขาจะมาพูดอะไรกับพ่ออีก ก็เลยโทรฯ มาบอกพ่อไว้"
"มาพูดพ่อก็ไม่บอกหรอก คนไม่ใช่ต้นไม้ จะได้จับดัดได้ตามใจ ก้านมันก็เรียนจบเป็นผู้ใหญ่แล้ว แนชเองก็อย่าใจร้อน ที่ผ่านมาแนชก็มีส่วนผิดเหมือนกัน ที่ทำให้ก้านมันตัดสินใจแบบนี้"
"ก็ใครจะไปคิดละ เห็นมันใจเย็น อดทนมาตั้งนาน"
"ฟางเส้นสุดท้ายบนหลังของก้านมันคืออะไร เราไม่รู้หรอก รู้แต่ตอนนี้หลังของมันหักแล้ว หน้าที่ของเราคือทำให้เขาเข้มแข็ง เพราะสุดท้ายแล้วทั้งแนชและก้านก็ต้องกลับมากราบขอโทษพ่อกับแม่ของเขา การไปแต่ตัวแบบที่ไม่เอาอะไรไปเลยแบบนี้ มันเท่ากับการตัดพ่อตัดลูกกันชัด ๆ"
ไม่ได้ลืมหรอกว่า ทั้งแนชและก้านไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว แต่การจะแยกออกไปมันควรไปด้วยเหตุผลไม่ใช่ทิฐิ
"พ่อไม่คิดว่ามันจะเป็นมุมว่า พ่อก้านเขาตัดมันบ้างหรือ"
ดาบเผดิมยอมรับว่าคิดมาตั้งแต่แรกที่ลูกชายบอกว่าก้านไปอยู่ที่กรุงเทพฯ ว่าเรื่องนี้คนที่มีทิฐิเป็นที่ตั้งคือชัยชนะ แต่แนชเองก็ใจร้อนไม่เป็นรองใคร ขืนยอมรับตรง ๆ แนชอาจร้องด่าอาละวาดไปกันใหญ่ตามนิสัย ไม่ได้มองในมุมหนึ่งของคนที่เป็นพ่อแม่
 
"จะใครพูดตัดใคร แต่ความเป็นครอบครัวเดียวกันมันก็ยังอยู่ ผ่านไปอีกสักพัก กลับมากราบขอโทษ แล้วทำให้เขาเชื่อใจว่า พวกแกอยู่ได้ มีความสุขดี ต่อให้ใจยังอยากได้สะใภ้อะไรของเขาอยู่ แต่มันก็อาจจะดีกว่าเต็มไปด้วยความโกรธ"
"พ่อ"
"เออ"
"แล้วพ่อเคยโกรธแนชมั้ย"
"เรื่องนี้น่ะหรือ ไม่หรอก ไม่มีกฎหมายมาตราไหนห้ามคนเพศเดียวกันรักกัน แล้วอาจารย์สายหยุดก็มีลูกศิษย์เข้า ๆ ออก ๆ บ้านถี่ยิ่งกว่าลูกตัว ลูกใครหลานใครก็รวบมาเป็นลูกเป็นหลานตัวไปหมด อย่างที่อาจารย์เขาว่าน่ะแหละ ชีวิตใคร ใครก็ย่อมมีสิทธิ์เลือกเองว่าเขาจะดำเนินชีวิตอย่างไรให้เป็นสุข"
..ดาบเผดิมมาตามตำรา – แล้วแต่อาจารย์สายหยุดจะเห็นควร- เป๊ะ..
"พ่อ"
"เออ"
"ฝากกอดอาจารย์ให้แน่น ๆ ด้วยนะ แนชรักพ่อกับแม่มากที่สุดในโลก"
ดาบตำรวจแก่ ๆ ยิ้มกว้าง "เออ รักพ่อกับแม่ก็อย่ากินเหล้าให้มากนัก"
"ไรว้าาาาาาาา ดาบเผดิม แนชกินแค่กระป๋องเดียวก่อนนอน แล้วมันก็ตั้งหลายวันแล้วด้วย"
ยังได้ยินเสียงพ่อหัวเราะอารมณ์ดีจนกระทั่งกดวางสายไป
 
เลิกงานปุ๊บก็ตรงกลับมาห้องทันที ไม่ได้ไถลไปร้านหนังสือ หรือแวะกินข้าวก่อน อันที่จริงก็รู้ว่าน่าจะโทรฯ หาว่าอยู่ที่ไหน แต่ใจกลับอยากเห็นกับตาตัวเองมากกว่า
อยากเห็นอะไร...
ก็คนตัวโตที่เดินมาเปิดประตูห้องพร้อมกับรอยยิ้มกว้างคนนี้ไง
"กลับมาแล้ว"
"กลับมาแล้ว"
แนชก้าวเข้ามาในห้อง ปิดประตูแล้วหันไปกอดเอวคนตัวโตไว้แน่น
"ยักษ์ขี้น้อยใจของไอ้แนช"
มีเสียงหัวเราะเบา ๆ ที่ข้างหู ขณะที่แนชพึมพัมกับไหล่กว้าง "วันนี้แนชถามตัวเองทั้งวันว่าไอ้คนที่เดินเข้ามาในห้องเมื่อเช้าเป็นตัวจริงหรือฝันไป"
...ไอ้ที่วุ่นวายมาทั้งวันนี่มันอยู่ในฝันหรือเปล่า คนอย่างไอ้แนชเคยต้องทำอะไรแบบนี้หรือไง...
“ตัวจริงเสียงจริงแน่นอน”
ก้านช้อนคางสวยให้เงยหน้าขึ้นมารับจูบ
“งานวันนี้เป็นไง”
“เรื่อย ๆ เครียดแบบเรื่อย ๆ น่ะ”
ก้านหัวเราะ ส่วนแนชเดินบ่นไปล้างหน้าล้างมือในห้องน้ำ “แทนที่เราจะเป็นคนถามว่าสมัครงานเป็นไงมั่ง กลับมาถามเราเสียได้”
“เขาก็ให้กรอกใบสมัครกับเขียนเรียงความภาษาอังกฤษเล่าประวัติส่วนตัว ถ้าได้เขาจะโทรกลับมาในอีก 15 วัน”
แนชเดินออกมาคว้าผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาเช็ดหน้า “แล้วเขียนได้ปะ”
“ได้”
“ไม่น่าถามคนทำรีสอร์ทเลยเนอะ เรื่องแค่นี้จิ๊บๆ”
“พูดกับเขียนมันไม่เหมือนกัน” ก้านบอก ขณะที่เดินตามแนชลงมาที่ร้านข้าวข้างล่าง “พูดเพี้ยน พูดผิดก็ยังเข้าใจกันได้ แต่เขียนนี่มันอีกเรื่องเลยนะ ทุกอย่างที่มันเป็นลายลักษณ์อักษรน่ะต้องระวังให้มาก”
“เป็นนักกฎหมายอีกอย่างละคุณ” แนชหันมาทำตาขวางแบบขำๆ
ก้านขำ “มันก็ต้องรู้ไว้”

กินข้าวเสร็จ ต่อด้วยเดินเล่นที่ตลาดนัดกลางคืน แวะดูเสื้อผ้าที่ร้านค้า และปิดท้ายที่ร้านสะดวกซื้อ 
กลับเข้ามาในห้องนั่งดื่มเบียร์ไป ดูหนังแผ่นกันไปจนเกือบจบเรื่อง แนชถามโดยที่ไม่ได้หันมามองคนที่นั่งเหยียดขาพิงเตียงนอนอยู่ข้างๆ
"ก้านว่าห้องนี้มันเล็กไปมั้ย"
ก้านหันไปมองรอบๆ"
"ไม่หรอก" แนชเอียงศีรษะลงพิงไหล่ ก้านเบี่ยงตัวขยับให้แนชเข้ามานั่งหว่างขาแล้วโอบไว้  "มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดของห้อง เพียงแต่การที่ต้องเผื่อเวลาเดินทางเป็นชั่วโมง นี่ต่างหากที่ผมเป็นกังวล"
แนชหัวเราะ "งั้นพรุ่งนี้ แนชไปสมัครงานด้วย"
"ไม่เป็นไร ผมไปเองได้ เพราะไปถึงรังสิตโน่น"
"อ้าว แล้วทำไงดีล่ะ ลางานแล้ว"
"ลาแล้วหรือ" ก้านทำเสียงประหลาดใจ
"ก็แหม ให้รอฟังอยู่เฉย ๆ มันอึดอัด"
ก้านโอบแขนรัดคนใจร้อน ...เห็นนิ่ง ๆ เงียบ ๆ คิดว่าจะใจเย็นลง แต่ที่แท้ก็ยังเหมือนเดิม
"ที่ไม่พูด ไม่ถามอะไร เพราะกลัวผมไม่สบายใจละสิ"
"เออสิ ข้างในนี่มันจะระเบิดอยู่แล้ว เพราะอยากรู้"
"ถ้าอยากรู้ต้องรู้ให้ได้" ก้านแกล้งทวนช้า ๆ ทำให้แนชพลิกตัว นั่งคร่อมตักหันหน้ามาหา จับใบหน้าของอีกฝ่ายโยกซ้ายโยกขวา
"เออ.....ต่อมอยากรู้ทำงานแล้วหยุดยาก แต่ก็ไม่กล้าถาม กลัวว่าจะทำให้ไม่สบายใจ"
กอดเอวผอม ๆ ไว้หลวม ๆ "ใช่ว่าผมไม่อยากเล่า แต่ผมแค่อยากให้แนชรู้ว่า ผมพยายามแล้ว"
แนชพาดข้อศอกลงที่ไหล่หนา "ไม่ชอบคำตอบนี้"
ก้านได้แต่พยักหน้า ดูเหมือนไอ้เสือน้อยของกิมกับตือกำลังจะกลับมา แต่ก็มาได้แค่ครึ่งทาง
"ถ้าผมเป็นพี่กิมกับพี่ตือ ที่ไม่ตอบคำถามของแนชจะเกิดอะไรขึ้น"
"เละ!"
ก้านหัวเราะอารมณ์ดี แนชไม่ถนัดพูดก็จริง แต่เรื่องแสดงออกตรงกับใจ ไม่เป็นรองใคร
"ก็อย่างที่แนชรู้ พ่อยังคงอยากให้ผมแต่งงาน แต่ผมคิดว่ามันไม่ยุติธรรมกับผู้หญิง กับเด็กที่จะเกิดมา ตัวของผมอยู่กับพวกเขา แต่ใจผมอยู่กับอีกคน" ดวงตาสีเข้มที่มองมาบอกถึงความจริงใจ "แล้วพอแนชกลับมากรุงเทพฯ กลับไม่รับสายผม มันเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบปุบปับที่ทำให้ต้องฉุกใจคิด แต่ตั้งใจไว้ว่าแนชกลับไปบ้านเมื่อไหร่คงได้คุยกัน"
"แล้ว...ทำไมถึงตัดสินใจมากรุงเทพฯ"
"เพราะแม่เห็นด้วยกับผม พ่อก็เลยหันไปว่าแม่" ก้านเงยหน้าเหมือนกำลังซ่อนน้ำตา "มันอาจเคยเกิดขึ้นในเวลาที่ผมไม่อยู่ แต่แค่ครั้งเดียวที่ได้ยิน มันก็มีน้ำหนักมากพอที่จะเป็นฟางเส้นสุดท้าย ผมโอนทุกอย่างให้เป็นชื่อพี่สาวทั้ง 2 คน แล้วก็ออกมา"

ก้านยังคงเล่าเกี่ยวกับตัวเองด้วยประโยคที่แสนสั้น แต่กลับบอกเรื่องราวได้หลายอย่างเช่นเดิม

"ไว้เราค่อยกลับไปหาแม่ด้วยกัน" แนชบอกพลางเช็ดน้ำตาที่หยดจากหางตา "แต่พ่อคงต้องใช้เวลา"
"ช่วงที่ผมโอนรถให้พี่กาญจน์ ผมเพิ่งรู้ว่าพ่อผมไปคุยกับพ่อแนชด้วย"
"หื้อ...อันนั้นจิ๊บ ๆ ดาบแกจัดการได้" แนชพูดขำ ๆ แต่ก้านเพียงแค่ยิ้มจาง ๆ
"แนชคิดว่าผมวู่วามหรือเปล่า"   
"ไม่หรอก คนวู่วามคงไม่เสียเวลาโอนของพวกนั้นให้พี่สาวก่อนที่จะมาแน่ๆ "

....แต่มันคือการใช้เวลาทุกนาทีไปกับการถามตัวเองว่า สิ่งที่ทำถูกต้องหรือไม่....

"ผมเชื่อมาตลอดว่า ผมแค่รักแนช ผมไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แต่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่" ก้านซบหน้าลงกับไหล่บาง "วินาทีที่ได้ยินพ่อเสียงดังใส่แม่ ผมก็คิดว่า นี่ผมทำร้ายพ่อกับแม่ขนาดนี้เชียวหรือ จนถึงตอนนี้ผมก็รู้ตัวอยู่ตลอดว่าผมยังคงทำให้แม่ต้องเดือดร้อน และการจากมาไม่ใช่การแก้ปัญหา"
"แต่ก็มาแล้ว เมื่อเช้าถึงได้กังวลว่าจะทำให้แนชเดือดร้อนหรือเปล่า"
"ใช่"
"อย่างที่เคยบอกไป ระยองคือบ้านของเรา ยังไงก็ต้องกลับไป แล้วโทรบอกแม่หรือยังว่าอยู่ที่นี่"
"ยัง ถ้าโทรไปพ่ออาจจะอยู่ใกล้ ๆ"
“งั้น จะว่าไรไหม ถ้าจะให้ไอ้กิมมันไปดู ๆ ว่าแม่เป็นไงมั่ง”
ก้านยิ้มกว้าง เหมือนเดาคำถามของแนชได้ “ก็เอาสิ เพราะผมก็เป็นห่วงแม่เหมือนกัน”
“ใจเย็น ๆ เนอะ”
ก้านจิ้มหน้าผากคนพูด “บอกใคร”
แนชทำปากยื่นหน้างอ “บอกตัวเองสิ ใครที่ไหนเขาบอกคุณกันล่ะ”
 
ก้านก้มลงจูบปากแล้วเลื่อนจูบแก้ม มือใหญ่ลูบไปทั่วแผ่นหลังบางแล้วดันสะโพกบางให้เข้ามาหา
"แนช"
"อือ"
"ได้มั้ย"
แนชยิ้มขำ พลิกหน้าจูบที่ต้นคอ "พยายามอีกนิดสหาย เรื่องวันนี้มันเครียดจนชวนให้เซ็กซ์เสื่อม"
ก้านหลุดขำแนชก็พลอยขำตาม
"รักแนช"
"อือ" แนชตอบห้วนๆ
"อะไรอือ" คราวนี้ก้านเกิดอาการคิดไม่ทันไปชั่วขณะ
"ก็อือ รู้แล้ว"
"แล้ว...."
"อยากบอก อยากทำอะไรก็ตามใจเหอะ ห้ามไปเดี๋ยวมียักษ์ร้องไห้ น้ำตาจะท่วมโลก"
ก้านจับคนพูดเก่งจูบฟัดแก้ม อุ้มขึ้นนอนบนเตียง จากจูบเหมือนเล่น กลับกลายเป็นการเน้นไปที่จุดอ่อนไหวทั่วร่างกายผอมบาง เสียงครางแผ่วเบาแปรเปลี่ยนเป็นการร้องขอ ความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นจนไม่อาจรอได้อีก......

แนชขับรถมาส่งก้านที่โรงงานใหญ่ย่านรังสิต แล้วรออยู่ที่รถ ส่วนก้านเข้าไปกรอกใบสมัคร ประมาณครึ่งชั่วโมงถัดมาก็โทรฯ มาบอกว่าเจอกับรุ่นพี่ที่จบมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน แล้วก็แขกที่เคยไปพักที่โฮมสเตย์ด้วย
แนชรีบบอกทันทีว่า อย่ารีบตัดบทชิ่งออกมา เขาคุยมาก็คุยไปเรื่อย ๆ จนกว่าอีกฝ่ายจะขอตัวไปทำงานก่อน หนุ่มตัวเล็กปิดรถแล้วเดินไปเปิดคอมพิวเตอร์ นั่งทำงานอยู่ที่สวนหย่อมเล็ก ๆ ในโรงงาน จนเที่ยงพนักงานหลายคนเดินผ่านออกไปกินข้าวข้างนอกโรงงาน เกือบท้ายขบวนถึงได้เป็นก้านที่ส่งยิ้มกว้างโดดเด่นมาแต่ไกล
"กลับกันได้แล้ว"
"เป็นไงมั่ง" แนชถามทันที

ก้านแค่พยักหน้า ชี้ให้กลับเข้ามาในรถ จนกระทั่งพ้นจากเขตโรงงาน ก้านถึงได้เล่า ว่าพอเขียนใบสมัครเสร็จก็บังเอิญพบกับรุ่นพี่ที่จบมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน
“แล้วก้านไม่รู้หรือ ว่าเขาทำงานที่นี่”
“รู้แต่ว่าอยู่บริษัทนี้ แต่ไม่รู้ว่าโรงงานนี้”
แต่ต่อให้รู้ว่าอยู่โรงงานนี้ก้านก็ไม่กล้าโทรฯ หาเพื่อขอให้ช่วยฝากงานอยู่ดี เพราะเกรงใจ แต่พอมาเจอกันก็คุยกัน เสร็จแล้วตอนที่ไปส่งใบสมัครที่ฝ่ายบุคคล กลับพบว่าหัวหน้าฝ่ายบุคคลปรากฏ เป็นแขกที่เคยไปพักที่โฮมสเตย์ ก็เลยได้สัมภาษณ์งาน แต่ยังต้องรออีกประมาณ 1 สัปดาห์ว่าจะได้งานหรือไม่
แนชละมือจากพวงมาลัยมาจับมือใหญ่ไว้ รู้สึกเครียดเหมือนเป็นคนสมัครงานเสียเอง
"คิดว่าจะได้ไหม"
"ไม่รู้เหมือนกัน"
"ไมได้ก็ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องเครียด แค่นี้เลี้ยงไหวสบายมาก แต่ถ้าได้งานแล้วเงินเดือนเป็นแสน เจอสาวสวยหนุ่มน่ารักอย่าลืมแนชละกัน"
ก้านขมวดคิ้ว "เงินเดือนเป็นแสนนี่เขาทำงานอะไร ส่วนไอ้ประโยคสุดท้ายนี่ฟังแล้วไม่สบายใจเลย"
แนชหันไปมองคนหน้าตาเคร่งเครียด แล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า
"ตลอด ๆ พูดเรื่องนี้ทีไรเครียดทุกที"
"ผมไม่ใช่คนโลเล"
"โอ๊เช~~ไม่ใช่คนโลเล เชื่อแล้วคร๊าบ"
แนชจอดรถแวะกินข้าวแล้วกลับมาถึงอพาร์ตเม้นต์เกือบบ่าย 2 ยังไม่ทันจะเดินผ่านโต๊ะยาม โทรศัพท์ของก้านก็ดังขึ้น ก้านรับโทรศัพท์ แล้วดึงข้อมือแนชให้หยุดเดิน
"ครับ ครับ ได้ครับ"
แนชทำหน้าตาเหรอหราหันไปมองหน้ายามกับแม่บ้านที่หน้าเค้าน์เตอร์
พอก้านกดปิดโทรศัพท์ก็หันมาเขย่าตัว คนผอมบาง "ผมได้งานแล้ว ผมได้งานแล้วแนช เริ่มงานอาทิตย์หน้า" คนตัวโตร้องตะโกน
"เย๊!!!!" แนชช่วยร้องตะโกน แต่ยังไม่วายประชด "ทำไมหางานได้ง่ายนักวะ"
 
(มีต่อนะครับ o8)
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนที่ 5 หน้า 8 : 10-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: kiyomaro ที่ 12-07-2012 07:31:09
 :กอด1: ขอไปอ่านล่ะนะ
หัวข้อ: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 12-07-2012 07:47:46
กลับเข้ามาในห้องแนชถึงได้นึกขึ้นได้ "ก้านใส่ฟอร์มหรือใส่ชุดทำงาน"
"ผ่านโปรฯ ถึงจะได้ใส่ฟอร์มช่าง"
"เราน่าจะออกไปซื้อกางเกงยีนกับเสื้อเพิ่มอีกสัก 3 ตัว" แนชหันไปมองตู้เสื้อผ้า เหมือนจะมองทะลุเข้าไปเห็นเสื้อผ้าของก้านที่อยู่ข้างใน
"ไว้วันอื่นก็ได้"
"ก็ได้" แนชหันมาก็พอดีปะทะเข้ากับอกกว้าง "เป็นอะไร"
"อารมณ์ดีแล้วคึก"
แนชขมวดคิ้วก้มลงมองไอ้สิ่งที่มันน่าจะเป็นตัวชี้วัดความคึกของคนบอก มันก็สงบนิ่ง...แบบ...เงียบกริบเลยน่ะ...
...ไม่เข้าใจความคึกของก้านสักเท่าไหร่ หรือมันแปลว่าอยากกินเหล้า...
"เหล้าไม่มี มีแต่เบียร์ในตู้เย็นไง ไปเปิดกินสิ แนชยังไม่กินหรอก มีกับแกล้มอะไรมั่งนะ เหมือนจะมีแหนม" แนชพูดไปเรื่อย แต่จะเบี่ยงตัวออกไปหาเครื่องดื่มกับกับแกล้มให้ ก้านก็ยังไม่คลายแขนออก "หรือไม่ได้อยากกินเบียร์"
"เปล่า"
"อ้าว"
"พรุ่งนี้แนชไปทำงานแต่เช้าใช่มั้ย"
"ใช่"
"งั้นก็มีเวลาไม่มากนัก"
"อะไรของมันวะ"
"ฉลองไง"

ก้านตอบขณะที่แกะกระดุมถอดเสื้อของตัวเอง
สายตาแนชก็มองปราดลงมาที่กลางลำตัวก้านทันทีเหมือนกัน
...นิ่งเหมือนเดิม หรือมันจะฉลองได้งานด้วยการทำความสะอาดห้องวะ แล้วนี่กูคิดอะไรอยู่เนี่ย...

คนตัวเล็กตบหน้าผากตัวเองไปที แล้วเดินไปห้องน้ำ ก้านก็เดินตามเข้ามาแล้วก็จับถอดเสื้อผ้าให้
"อะไรของก้านเนี่ย ทีเรื่องอื่นพูดได้เยอะแยะ แล้วนี่จะฉลองอะไร...แบบ....เฮ้ย....."
มือใหญ่ที่ลูบไล้ไปทั่วตัว เหมือนจะอาบน้ำให้ด้วยความหวังดี แต่มันกลับเน้นย้ำที่จุดอ่อนไหวทั่วตัว จนร่างกายรุ่มร้อน
"พอแล้ว นี่มันเพิ่งบ่ายแก่ ๆ เองนะ จะรีบปลุกมันขึ้นมาทำไม"
แนชบ่น แล้วผวากอดก้านไว้แน่น เมื่อนิ้วมือสอดลึกแล้วกดย้ำ กระตุ้นความต้องการขึ้นสู่ที่สูงแล้วเร่งมือรูดให้ คนผอมบางถึงฝั่งทิ้งตัวลงหายใจหอบ ยอมให้อุ้มกลับมาที่เตียงนอนโดยไม่ขัดขืน
ก้านคร่อมตัวตามจูบรุนแรงไม่พักให้หายใจ จนแนชต้องทุบหลัง
“ไม่เอา ฉลองแบบนี้กูตายแน่”
“ใครตายนะ” ก้านถามขณะที่ขบที่ใบหู แล้วจูบไซ้ที่คอขาว
“แนช...”
หนุ่มตัวผอมใบหน้าแดงก่ำ  “ก้านขอแนชพักหน่อยเหอะ”
มีเสียงหัวเราะเบา ๆ ก่อนที่ฟันคมจะขบลงที่ยอดอกบางแล้วดูดเลียรอบ
แนชงอตัวกอดไว้แน่น เจ็บปนเสียวอย่างคาดไม่ถึง ก้านดูดเม้มจนรู้สึกถึงรสปร่าที่แตะปลายลิ้นถึงได้เหลือบตามองคนที่เจ็บจนน้ำตาซึม
“มันเขี้ยวห่าไรไม่รู้ เนื้อคนนะโว้ย”
“แต่ยิ่งจูบก็ยิ่งหลงจริง ๆ นะ” ก้านตอบขณะที่จูบไซ้แก้ม “เนี่ย ....” มือใหญ่ลูบช้อนใต้สะโพกบางเปลือยเปล่า “โคตรจะหลง อยากอยู่อย่างนี้ทั้งวันทั้งคืน” นิ้วใหญ่กดลึกในครั้งเดียว จนแนชร้องเสียงหลง
“อ๊า....”
“แนช เจ็บมากเลยหรือ ก้านหยุดก็ได้...”
คนตัวผอมสะอื้นเบา ๆ ขณะที่ส่ายหน้า “เจ็บแต่ไม่เป็นไร ตามใจก้านเถอะ”
ก้านช้อนจูบริมฝีปากบาง ลิ้นหวานตอบรับจูบด้วยความอ่อนโยน ดึงให้ก้านช้าลงตาม
“ช้าอีกนิดก็ได้ แนชไม่ได้หนีไปไหนสักหน่อย”
“ครับ”

หลังการปลดปล่อยไป 2 ครั้งรวด โดยที่ก้านยังคงสวมกางเกงเรียบร้อย ที่สำคัญ -ไอ้นั่น- มันยังหลับสนิท หลับได้หลับดี
"ห่าก้าน ไม่โดนด่า ท่าทางจะไม่สบายใจใช่มั้ยเนี่ย" แนชด่าทั้งที่ยังนอนหอบอยู่บนเตียง แต่ก้านกลับนั่งหัวเราะร่วน สีหน้าดวงตาบอกชัดเจนว่ามีความสุขมาก
"โรคจิตว่ะ ไอ้เราก็ระวังตัว ระวังคำพูดกลัวทำมันร้องไห้ มันกลับจิตไม่เลิก"
ก้านลูบผมชื้นเหงื่อ "หลับนะ เดี๋ยวผมจะลงไปซื้อกับข้าวขึ้นมาให้"
พ้นจากบทรัก สรรพนามเรียกตัวเองก็กลับไปเหมือนเดิม

หลับไปด้วยความเพลีย แล้วก็ถูกปลุกขึ้นมากินข้าว พออิ่มเลยไปอาบน้ำล้างตัว กลับมาทิ้งตัวลงนอนบนเตียง  หลังจากที่อยู่ในฟอร์มเคร่งขรึมมาตั้งนาน พอเริ่มบ่น แนชก็บ่นไม่เลิก
“แนชน่าจะรู้ว่าก้านชอบคิดอะไรประหลาดไม่เหมือนใคร มาตั้งแต่แต่งตัวเป็นน้องเต้ยในงานโรงเรียนแล้วนะ ทั้งดื้อ ทั้งบ้าบอคอแตกคิดอะไรไม่รู้ ”
ก้านเก็บถ้วยชามไปล้าง เช็ดโต๊ะทำความสะอาดห้อง แต่แนชก็ยังคงบ่นไปดูโทรทัศน์ไปได้เรื่อยๆ จนกระทั่งไปล้างมือล้างหน้าออกมาเสียงบ่นก็ยังอยู่
คนตัวโตยิ้มมุมปาก “ท่าทางแรงจะเหลือเยอะ”
“เพราะก้านทำให้หงุดหงิดต่างหาก”
“ทำไมล่ะ”
“ไม่ชอบแบบนี้”
“แบบไหน”
แนชคว้าหมอนใกล้มือขว้างใส่หน้า แล้วลุกนั่งทำหน้างอหงิกอยู่บนเตียง
“อ้าว...” ก้านนั่งลงบนเตียงทำหน้าสงสัย “ไม่บอกจะรู้ได้ยังไง”
แนชทำตาขวางใส่ “ไม่ชอบที่ก้านทำให้แนชเสร็จคนเดียวแบบนี้ มันเหมือนแนชเป็นคนบ้ากาม”
ก้านคลี่ยิ้ม ยักคิ้วแล้วลุกไปอาบน้ำ ยังได้ยินเสียงด่าตามหลัง
“ห่าก้าน ไอ้โรคจิต เจ้าเล่ห์”
ด่าพลางเปิดโทรทัศน์ นอนดูไปเรื่อยจนกระทั่งก้านออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินไปปิดไฟในห้องนอน เหลือเพียงไฟจากโทรทัศน์ 
“พร้อมหรือยัง”
“หือ”
เสียงที่เหมือนคำถามจบลงพร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่ขยับขึ้นคร่อมด้านหลัง จูบแผ่วเบาที่ไหล่บาง ร่างกายกระตุกเหมือนถูกช็อตด้วยไฟฟ้า แนชหันมามอง
“ยังคึกอยู่อีกหรือ”
“ไม่คึกแล้ว แต่เป็นอย่างอื่น”
“อะไร”
“หลับตา”
แนชหลับตาตามที่บอก พอริมฝีปากนุ่มกดลงที่แก้มก็เบี่ยงหนี
“อยู่เฉยๆ ไง”
“เมื่อกี้บอกให้หลับตาต่างหาก” แนชเถียงทันที ทั้งยังลืมตาอยู่ด้วย
“งั้นหลับตาแล้วก็อยู่เฉย ๆ”
“สั่งใคร”
ก้านกระแอม จ้องตาสีอ่อนที่แสนจะดื้อรั้น
“เออ เหอะ สั่งจริงสั่งจัง”
ก้านกระแทกจมูกลงที่แก้มใส ประสานเสียงหัวเราะ จูบไล่จากแก้มลงมาหาลำคอขาว เน้นที่หลังคอแล้วข้ามไปอีกด้าน
ความเครียดและความหงุดหงิดค่อยคลายลงอย่างช้าๆ เหมือนการเคลื่อนไหวของก้านที่เป็นไปอย่างเชื่องช้า กว่าทุกครั้งที่ร่วมรักด้วยกัน
หากเป็นก่อนหน้านี้ แนชอาจคิดว่านี่เป็นเพียงจูบก่อนนอนแล้วผละออก
เพียงแต่ครั้งนี้ริมฝีปากหนายังคงเฝ้าจูบไซ้อยู่ที่ลำคอและไหล่
มือขาวซีดกำผ้าปูที่นอนไว้แน่น เสียงครางแผ่วเบาลอดจากริมฝีปากบาง ก้านตามจูบปิดปากเกี่ยวลิ้นหวานที่ตอบรับโดยดีแล้วดูดเบา ๆ
ริมฝีปากร้อนค่อยจูบเรื่อยลงมาทั่วแผ่นหลัง เชื่องช้าเหมือนต้องการใช้เวลาทุกวินาทีไปกับสำรวจทุกอณู ลูบไล้ร่างกายผอมบางที่สั่นไหวไปตามอารมณ์
มือใหญ่รั้งขอบกางเกงนอนลงแล้วก้มลงจูบที่ก้นกลม ฟันคมขบลงเบา ๆ ที่ก้อนเนื้อ
แนชเบี่ยงหลบเพียงนิดเดียวแต่กลับผ่อนลมหายใจยาว  ไม่ว่าก้านจะสัมผัสตรงไหนแนชจะตอบรับด้วยน้ำเสียงครางหวาน

ก้านในเวลานี้ต่างจากเมื่อช่วงบ่ายอย่างสิ้นเชิง...ในเวลานั้น อารมณ์คึกของก้านเป็นแบบที่อยากรู้ว่า ถ้าทำแบบนี้แนชจะตามใจได้มากแค่ไหน...คำตอบก็คือ แนชยังคงตามใจ ทั้งที่ไม่ชอบเลย...
...แต่ความอ่อนโยนของก้านเวลานี้ต่างหากที่ทำให้แนชวางใจ....

“สแนช รักก้านบ้างมั้ย”
“รักสิ”
ก้านยกตัวขึ้นช้อนคางให้หันมารับจูบ ตวัดดึงปลายลิ้นหวานดูดเบาๆ แล้วดูดย้ำริมฝีปาก “รักสแนช รักที่สุด”
คำบอกรักติดอยู่ที่ข้างแก้ม และซอกคอ
แก่นกายแข็งขึงบดเบียดอยู่ที่แก้มก้น แล้วค่อยขยับเข้าจดจ่อ สอดลึกเข้าหา แนชเกร็งไปทั้งตัวจนก้านต้องจูบที่ต้นคอซ้ำ จนแนชผ่อนลมหายใจจึงกดต่อ
เคลื่อนไหวช้า ๆ ดวงตาสีเข้มจับจ้องใบหน้าแดงก่ำ ที่ค่อยเปลี่ยนไป จากก้มหน้างุดอยู่กับหมอนกลายเป็นแหงนเงยจนสุดตัว ริมฝีปากบางแดงช้ำ อ้าปากกอบอากาศเข้าสู่ปอด
สะโพกแกร่งหยุดนิ่งเมื่อเข้าไปจนสุด ขยับตัวจูบแก้มจูบปากซ้ำ แล้วขยับสะโพกเนิบช้า

ก้านก้มลงจูบปากคนที่นอนหลับตาหมดแรงแล้วลุกไปล้างตัว ไม่ลืมผ้าเช็ดตัวผืนเล็กชุบน้ำกลับมาเช็ดที่ใบหน้าและต้นขาให้
แนชส่งเสียงแผ่ว “เดี๋ยวไปล้างเอง ขอนอนแป๊บเดียว”
ก้านก้มลงจูบแก้ม “ยังมีแรงเถียง งั้นต้องต่ออีกรอบ”
“สัดเหอะ” แนชด่าแล้วพลิกหน้าหนี
ก้านได้แต่หัวเราะเบา ๆ ลุกเอาผ้าขนหนูไปตาก หันมามองแนชคิดว่าหลับแล้ว ก็เลยเดินไปหยิบโทรศัพท์
นั่งลงคาประตูระเบียงมองวิวกรุงเทพฯ จากอาคารความสูง 9 ชั้น
“พี่กาญจน์ ก้านเอง”
แนชหันมามองคนที่กำลังคุยกับพี่สาว บอกว่า ได้งานแล้วจะเริ่มอาทิตย์หน้า ถ้าแนชกลับบ้าน ก็คงได้แวะไปช่วยที่รีสอร์ท จากนั้นก็ถามถึงแม่กับพ่อ
ก้านฟังพี่สาวเล่าไปเรื่อย ๆ ครู่หนึ่งก็หันมามองคนในห้อง ที่นอนมองและส่งยิ้มกว้างมาให้
“งั้นไว้พี่อยู่กับแม่ตามลำพังเมื่อไหร่ก็ค่อยโทรหาผม ผมไม่อยากทำให้แม่โดนพ่อว่าอีก”
ก้านเปลี่ยนมานั่งบนเตียงนอน แนชก็ขยับมานอนหนุนตัก ฟังก้านคุยจนกระทั่งกดวางสาย
“ไม่ยอมนอน เดี๋ยวก็ตื่นสาย”
“แล้วใครมานั่งออเซาะพี่สาวตอนคนเขาจะนอนล่ะ”
“อิจฉาหรือไง”
ก้านล้มตัวลงนอนข้าง ๆ แนชก็เปลี่ยนมานอนหนุนแขนให้ก้านม้วนกอดไว้
แนชหัวเราะหึหึแล้วหลับต่อ
คล้าย ๆ จะเข้าใจคำว่าฉลองในความหมายของก้านแล้วนะ แต่ตอนนี้ง่วง..

นับตั้งแต่ก้านเริ่มงานใหม่ เวลาที่พบและคุยกันก็น้อยลงตามไปด้วย ทั้งที่ที่ผ่านมา คนหนึ่งอยู่กรุงเทพฯ คนหนึ่งอยู่ระยอง 2 เดือนกว่าถึงได้พบกัน คิดจำนวนชั่วโมงมันน้อยกว่าตอนนี้ก็จริงอยู่ แต่พอมาอยู่ห้องเดียวกัน กลับดูว่าน้อยลงกว่าเดิม
ก้านออกไปทำงานก่อนแนช และกลับเข้าห้องหลังแนช เรื่องวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ยิ่งไม่เคยตรงกัน ทั้งคู่ต่างเข้าใจ ก็ยังโทรฯ หากันในเวลาพักเที่ยงอย่างสม่ำเสมอ

“คุณนายส้มจีนไปอยู่ที่โฮมสเตย์กับไอ้แก้วลูกชายคนโตของพี่กาญจน์ ที่ร้านอุปกรณ์ก่อสร้างก็เลยมีแต่เถ้าแก่กับพวกลูกจ้างผู้ชายอีก 2-3 คน”
“ทะเลาะกันอีกหรือไง” แนชถามกิมที่คอยโทรมารายงานกึ่งนินทาบ้านของก้านให้ฟังเป็นระยะ
“ไม่รู้นะ” กิมไม่ค่อยแน่ใจ “เขาทะเลาะกันเขาก็ไม่ติดประกาศหรอก แล้วก่อนนี้ช่วงเสาร์-อาทิตย์ แกก็จะไปอยู่โฮมสเตย์กับก้านอยู่แล้วไง พอมาตอนนี้ ไอ้แก้วมาอยู่ก็จริงแต่มันก็ยังไม่ 17 เลย ยายก็ต้องมาช่วยคุมงานอีกที"
แนชถอนหายใจหนักๆ ทำให้กิมที่อยู่ปลายสายต้องให้กำลังใจ
"กูกับเยาว์ไปเยี่ยมมาแล้ว แกบอกว่า ไม่ต้องเป็นห่วงไม่ได้มีปัญหาอะไรรุนแรง บอกกับก้านไปแบบนี้เหมือนกัน”
“คุยกันแล้วหรือ” แนชพึมพำ ทำให้กิมสงสัย
“อ้าว เขาคุยกันมึงไม่รู้หรือ”
“ตอนที่เขาคุยกับพี่กาญจน์น่ะกูอยู่ด้วย แต่ไม่รู้ว่าคุยกับแม่แล้ว”
...มันมีความรู้สึกกึ่งน้อยใจเล็กๆ ปนอยู่ ที่ก้านไม่เล่าให้ฟังว่าคุยกับแม่แล้ว ขณะที่แนชเป็นห่วงความรู้สึกของทุกคน...
..บอกตัวเองว่า เออ ก็เขาแม่ลูกกัน แล้วทุกวันนี้โทรศัพท์มือถือมันก็ไปได้ทุกที่...

กิมยังคงพูดไปเรื่อย “คุณนายส้มจีนบอกว่า ที่เถ้าแก่กังวลก็คงเพราะพี่สาวคนรองของไอ้ก้านเขาไม่มีลูกไง แต่ก็อย่างที่รู้กันว่าไม่อยากทะเลาะกันด้วยเรื่องเดิม ๆ อีก คุณนายแกเลยอ้างว่า ถ้าแกไม่แยกมานอนที่โฮมสเตย์ก็ต้องจ้างคนเพิ่มอีก ตอนนี้ก็ต้องจ้างช่างมาทำแทนก้านที่รีสอร์ทแล้วคนหนึ่ง และจะทิ้งไอ้แก้วไว้คนเดียวกับคนงานมันก็ไม่ปลอดภัย เด็กมันยังต้องเรียนต้องสอบ"
"แล้วทางเถ้าแก่ล่ะ" แนชพลอยเรียกพ่อของก้านว่าเถ้าแก่ตามกิมไปด้วย
"ที่เห็นก็ปกตินะ แต่พี่กาญจน์บอกว่าห้ามพูดเรื่องก้าน แกจะโกรธมาก ที่จริงนอกจากความกังวลเรื่องหลานแล้ว จุดใหญ่ที่ทำให้อยู่ๆ แกหันไปบังคับให้ก้านมันแต่งงานอีกรอบ ก็เพราะทางฝั่งผู้หญิงที่แกเที่ยวไปทาบทามไว้น่ะเขาถามมาว่าจะยังไง อะไร เมื่อไหร่ เพราะผู้หญิงเขาก็อายุเยอะขึ้นเรื่อยๆ"
“ถ้ากลับบ้านแล้วไปเจอเถ้าแก่ จะทำยังไงดีวะเนี่ย”
“ก่อนนี้มึงทำไง”
“กูก็พยายามเลี่ยง พูดให้น้อยที่สุด”
“ก็ดีแล้ว เขาไม่ชอบมึงนี่”
“แต่ถ้าเกิดมาเจอจังๆ แล้วเขาพูดอะไร เหมือนที่พูดกับพ่อกู คราวนี้กูคงไม่เงียบ”
“ถ้ามันไม่ไหวก็เดินหนี คิดถึงคนที่ยังต้องอยู่ที่นี่”
แนชยอมรับ “ก็เพราะกูคิดถึงทุกคนที่ระยองไง กูถึงกลัวว่า ถ้ากูไม่ไหวแล้วทุ่มโต๊ะขึ้นมา....”
กิมหัวเราะเสียงแปลกๆ “ก็เมื่อคาดเดาผลของการเหวี่ยงได้ มึงก็ยิ่งต้องเตือนตัวเองให้หนัก ว่าอย่าเหวี่ยง มีอะไรไว้ไปลุยร้านไอ้ตือกันดีกว่า”

แม้กิมจะวางสายไปด้วยการชวนไปกินเหล้าที่ร้านของตือเหมือนเคย แต่แนชยังยอมรับกับตัวเองว่ายิ่งฟังกิมเล่าเรื่องที่บ้านของก้านก็ยิ่งเครียด แต่พอจะหันมาถามก้าน คนที่นอนข้างกันทุกคืน ก้านก็ดูเหน็ดเหนื่อยจนต้องผัดไปเรื่อย
..สำหรับคนใจร้อนที่อยากรู้ต้องรู้ให้ได้อย่างแนช นี่เป็นช่วงเวลาที่แสนจะอึดอัดคับข้องใจ
จนเที่ยงวันหนึ่งที่ก้านโทรศัพท์มาชวนกลับบ้าน เมื่อผ่านการทดลองงาน รับเงินตกเบิกก็กลับบ้านกัน....
แนชได้แต่นิ่งเงียบ
ความกังวลในสิ่งที่มันยังมาไม่ถึงเหมือนเงาที่ตามติดไปทุกที่
พอถึงวันที่นัดไว้ เลิกงานธนาคารแนชก็ขับรถมารับก้านที่ทำงาน เพราะจะได้กลับบ้านที่ระยองต่อ
เป็นวันสิ้นเดือนที่สาหัสเอาการสำหรับแนช พอหาที่จอดรถได้ก็เลยโทรไปบอก แต่ก็กลับเปลี่ยนใจเดินไปหาผลไม้รถเข็นแถวหน้าโรงงาน
ท่ามกลางหนุ่มสาวที่ใส่เสื้อสีเดียวกันกลุ่มใหญ่ที่กำลังเลือกซื้ออาหาร แล้วเดินไปขึ้นรถบัสคันใหญ่ของพนักงาน ยังมีกลุ่มที่มีที่พักแถวโรงงาน ทำให้แนชตกเป็นเป้าสายตา พอซื้อผลไม้เสร็จก็เลยหาที่หลบมุมยืนรอ 
กลุ่มช่างหลายคนเดินออกมาจากโรงงานดูได้จากเสื้อฟอร์มสีน้ำตาลอ่อนที่เหมือนกันทั้งกลุ่ม
ด้วยความสูงกว่าคนอื่น และสวมกางเกงยีนกับเสื้อสีเข้ม ทำให้ก้านโดดเด่นมาแต่ไกล ยิ่งรอยยิ้มกว้างนั่นทำให้คนที่มองจากระยะไกลยังยิ้มตาม เว้นแต่แขนของหญิงสาวในเสื้อฟอร์มช่างที่เกี่ยวคล้องแขนของก้านไว้
แนชไม่ได้ยินว่าเขาคุยอะไรกัน
ที่เห็นก็คือคุยด้วยกัน หัวเราะด้วยกันทั้งกลุ่ม แต่หญิงสาวกับเอียงศีรษะมาซบที่ไหล่ของก้าน
และก้านก็ไม่ได้เบี่ยงหนีแม้แต่นิดเดียว
ทั้งที่ใจบอกว่าไม่มีอะไร แต่แนชก็หันหลังกลับ รู้ตัวเมื่อมือใหญ่จับข้อศอกไว้
“แนช”
ก้านเรียกแนชพร้อมกับยิ้มกว้างเหมือนเดิม ชี้มาที่ถุงผลไม้ในมือ “หิวหรือ กินอะไรก่อนมั้ย วันนี้เงินเดือนออกพี่ ๆ เขาจะไปหาอะไรกินกัน”
“กูจะกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ ถ้ามึงจะไปแดกเหล้าก็เรื่องของมึงเถอะ” แนชพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ดังมากนัก ทั้งพยายามสะบัดแขนแต่ก้านกลับเพิ่มแรงที่มือ
“แนช ทำไมพูดแบบนี้”
“แนชหรือ” หญิงสาวคนเมื่อครู่ที่กอดแขนก้านอยู่เดินตามเข้ามาทัก “ไปกินเหล้ากันมั้ย”
แนชหันไปมองหน้าก้าน ขณะที่หญิงสาวป้องปากกระซิบบอกกับแนช “ไม่ต้องห่วงนะ มีพี่รู้อยู่คนเดียว ส่วนไอ้พวกที่เหลือน่ะมันบ้าผู้หญิง”
หนุ่มตัวเล็กหน้าเหวอ จนพี่สาวหัวเราะ “ก้านเป็นรุ่นน้องพี่อ้อยเอง มันเพ้อถึงแต่แนชมาตั้งแต่ตอนเรียน ตอนแรกยังคิดว่าเป็นชื่อผู้หญิง แต่มันบอกว่า ผู้ชายต่างหาก”
“พี่รู้...”
“รู้สิ แล้วก็ไม่ต้องห่วงนะพี่เข้าใจ”

แนชพยักหน้าหงึกหงัก ก็พอจะรู้ พอจะเห็นมาบ้างเหมือนกันว่าผู้หญิงไม่น้อยที่พอรู้ว่า เพื่อนชายในกลุ่มเป็นเกย์หรือเป็นสาวก็จะลดความระมัดระวังตัวเองลง เพราะคิดว่า ยังไงก็จุดติดได้ยาก 

รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่เข้ามาจอดเทียบข้าง ๆ พี่อ้อยหันมาแนะนำคนขับรถที่สวมเสื้อยืดกับกางเกงยีน “นี่แฟนพี่เอง คุณนี่แนช...เพื่อนก้าน”
แฟนของพี่อ้อยรับไหว้ ขณะที่ส่งหมวกกันน็อกให้แฟน “ไปฉลองเงินตกเบิกหรือ”
“จะกลับบ้านที่ระยองกันน่ะครับ” ก้านบอก
“เออ ขับรถระมัดระวัง”

หลังจากร่ำลาพี่อ้อยกับแฟน ก้านยังจับอารมณ์คุกรุ่นของแนชได้ ก็เลยไม่ได้พูดอะไรนอกจากเดินตามกลับมาที่รถ
“ขอก้านขับรถได้มั้ย”
“ไม่”
ก้านแบมือขอกุญแจรถ “นะ ขอผมขับรถเถอะ แนชดูเหนื่อยๆ จะได้หลับไปถึงบ้าน”
แนชส่งกุญแจรถให้อย่างไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่
ก้านขับรถออกนอกเมืองวิ่งเส้นทางอ้อม กลับไประยอง
“งานหนักมากเลยหรือแนช”
“อือ ทำไมมันกลับไปเหมือนอยู่ในอุโมงค์ที่ไม่มีทางออกนั่นอีกแล้วก็ไม่รู้”
“แนชไม่ชอบงานนี้หรือ”
“ชอบทำงาน แต่ไม่ชอบเวลาที่หัวหน้ากางแฟ้มออกมาแล้วก็เอานิ้วจิ้มๆๆๆ นั่นไม่ดี นี่ไม่ถูก ไม่เอา ทั้งที่แนชก็ทำตามที่เขาบอกทุกอย่าง ทำตามจนเหมือนจะคิดอะไรเองไม่เป็นอยู่แล้ว”
ก้านพยักหน้าปล่อยให้แนชบ่นไปเรื่อย จนกระทั่งเห็นว่าเริ่มดีขึ้น ก็ส่งซองสีน้ำตาลซองใหญ่ให้
“อะไร” แนชถามแล้วแกะซอง “เงินตกเบิก 3 เดือนน่ะหรือ ทำไมเขาไม่เอาเข้าบัญชีธนาคารให้ก้าน”
แนชเทของในซองออกมาครึ่งหนึ่ง มีทั้งเอกสารและเงินสด
“เขาจะเอาเข้าบัญชีน่ะแหละ แต่ผมอยากให้แนช”
“ให้ทำไม”
“อ้าว ผัวก็ต้องเอาเงินเดือนให้เมีย แล้วก็แล้วแต่เมียจะจัดการให้สิว่าจะให้ใช้ยังไง”
แนชหัวเราะหึหึ “ช่างกล้าพูด”
มือขาว ๆ คลี่กระดาษออกอ่าน
“นี่เงินเดือนก้านที่ยังไม่ผ่านโปรฯ หรือ”
“ฮื่อ...”
“แล้วถ้าผ่าน....” แนชกวาดตาอ่านข้อความ “มัน...มากกว่าแนช เกือบ 3 เท่าแน่ะ”
“ดีไหม เราจะได้ดาวน์คอนโดฯ กัน เลือกที่มันใกล้ธนาคารของแนช จะได้ไม่ต้องเดินทางไกล ของผมน่ะ ตื่นเช้าหน่อยก็ทันรถบัสของคนงานมาทำงานได้ ไว้มีงานด่วนค่อยเรียกรถแท็กซี่”
“จอด...รถ...” น้ำเสียงของแนชเหมือนคนใกล้จะเป็นลม
ก้านรีบจอดรถที่ข้างทางทันที แนชรีบเปิดประตูรถแล้ววิ่งถลาลงไปยืนอยู่ข้างคูน้ำข้างทาง ร้องตะโกนไปที่ทุ่งนาข้างทางจนสุดเสียง
“อ๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ”
“แนช แนช” ก้านวิ่งตามลงมาหา แต่แนชหันมาทั้งเตะทั้งชก แม้จะโดนกอดรวบไว้
หยาดน้ำตาไหลซึมผ่านเสื้อที่สวมอยู่ แนชสะอื้นจนตัวโยน
“แนช ใจเย็นๆ มีอะไร เล่าให้ผมฟัง แนช อย่าเก็บไว้คนเดียวแบบนี้”
แต่แนชยังร้องตะโกนอยู่ข้างทาง รถหลายคันชะลอมอง แต่พอเห็นว่าไม่ใช่การทะเลาะวิวาทก็ขับผ่านไป
ก้านได้แต่กอดไว้แน่น สลับกับการลูบหลังให้ใจเย็นลง นึกโกรธตัวเองที่พอได้งานทำก็แทบจะไม่ได้ดูแลแนชอีกเลย บางคืนที่กลับเข้าห้องแนชหลับไปแล้วด้วยซ้ำ ส่วนวันหยุดก็กลายเป็นวันที่นอนเล่นอยู่ในห้องเกือบทั้งวัน
“แนช ใจเย็นนะ”
ก้านพากลับมาที่รถ เปิดน้ำขวดให้แนชล้างหน้า แล้วจะให้ขึ้นรถ แต่แนชกลับนั่งโดยเอาเท้าออกมาข้างนอก ก้านก็เลยนั่งยองๆ ลงข้างหน้า
“แนช”
“ไม่เป็นไรแล้วหล่ะ เมื่อกี้มันเหมือนอึดอัดอยากตะโกน”
“โดนดุจากที่ทำงานน่ะหรือ”
“อือ” แนชพยักหน้ายอมรับ “ตลอดอาทิตย์นี้ โดนด่ามาทั้งอาทิตย์ โดนจนรู้สึกเหมือนในสมองมีแต่ขี้เถ้า แนชไม่เคยเป็นอย่างนี้เลยนะ ต่อให้ช่วงทดลองงาน ก็ไม่เคยขนาดนี้ ทำตามที่บอกทุกอย่าง ก็ยังบอกว่าไม่ใช่อย่างที่บอกมา แทบจะอยากเอาเทปไปอัดเสียงตอนที่เขาสั่งงานไว้ แล้ว....”
“แล้วมาเห็นผมกับพี่อ้อย ก็หึง รู้ว่าไม่ใช่ก็ดีขึ้นมานิดเดียว”
“ไม่หึงหรอก อาจอิจฉาก็ได้ เพราะไม่ค่อยเห็นก้านอยู่กับเพื่อน ไม่ชอบอารมณ์แบบนี้ ความไม่มีเหตุผลแบบนี้ มันรู้สึกเหมือนคนบ้า”
“ไม่เป็นไร มันไม่ใช่ความผิดปกติสักหน่อย” ก้านบอกขณะที่จับมือของแนชไว้ “ผมเองก็ไม่ชอบที่ถูกมองว่าเป็นคนโลเลเหมือนกัน”
แนชมองดวงตาสีเข้มที่แสดงออกถึงความตั้งใจว่า จะต้องทำให้แนชพูดเรื่องที่คับข้องใจออกมาให้ได้
“แนชยังกังวลอะไรอีก”
ริมฝีปากบางเม้มแน่น
“แนช ถ้าวันนี้ไม่เล่าออกมา ก็ไม่ต้องกลับบ้านกันแล้ว อยู่มันอย่างนี้ทั้งคืนนี่แหละ”
“กลัวมั้ง”
“กลัวอะไร เขาจะให้ออกจากงานหรือ แนชทำผิดเยอะขนาดนั้นเชียวหรือ”
“ไม่ใช่หรอก ที่ระยองน่ะ”
“พ่อผม..”
แนชพยักหน้ายอมรับ
“ผมก็กลัว ไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร แต่ไม่อยากเห็นเขาโกรธ”
“นั่นแหละ แล้วพอมาเห็น.....”
“ว่าเงินเดือนผมเยอะกว่าทั้งที่เพิ่งเริ่มงาน เลยยิ่งเครียด”
“เออสิ” แนชน้ำตาปริ่มๆ อีกรอบ “อันนี้ไม่ได้อิจฉานะ ดีใจที่ก้านมีเงินเดือนเยอะๆ จะได้เอาไปให้แม่ แต่มันเหมือน....นี่มันจะมีอะไรสักอย่างมั้ย ที่ไอ้แนชทำถูกน่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นคนที่ทำไม่ถูกก็มีผมด้วยเหมือนกัน เพราะมัวแต่ทำงานจนไม่ได้ดูแลแนช” ก้านเช็ดน้ำตาให้ “ตอนที่อยู่คนเดียว ไม่มีใครให้เปรียบเทียบ พอมาตอนนี้มีคนมาอยู่ด้วย แล้วต้องถูกเปรียบเทียบ มันยิ่งเครียดมากเลยใช่มั้ย”
แนชท่าทางงงๆ “ทำไมรู้”
“เพราะผมมีพี่สาว 2 คนผมถูกเปรียบเทียบมาตั้งแต่เกิดน่ะสิ” ก้านหันไปมองทางข้างหน้า ขณะที่ลุกขึ้นยืน “เดี๋ยวเราแวะหาอะไรกินก่อน แล้วค่อยไปต่อดีกว่า แนชจะได้หลับไปเลย”
กินข้าวเสร็จ กลับมาขึ้นรถอีกครั้ง ก้านก็เอนเบาะให้นอน “หลับนะครับ”
“นี่กูพี่มึงนะ”
ก้านบีบจมูกรั้นเบาๆ “พูดใหม่สิ”
“เหอะ” แนชกระแทกเสียงตอบ
“ยังไม่รู้ตัวอีกหรือไง ว่าไม่เคยอยากให้เป็นพี่น่ะ”
“รู้ แต่ถ้าจะให้เล่าความย้อนกลับไปถึงตอนเรียน มันก็..พี่กับน้อง...”
“เหอะ” ก้านทำเสียงเลียนแบบที่ไม่ค่อยเหมือนสักเท่าไหร่ ทำให้แนชหัวเราะได้
ก้านหยิกแก้มใสไปทีหนึ่ง แล้วถึงได้ออกรถ
“ถ้าเราไปหาแม่ที่โฮมสเตย์ แล้วแม่อยากให้ก้านอยู่ช่วยทำงาน ไม่ให้กลับมาอีกล่ะ.”
ก้านส่ายหน้าไม่เห็นด้วย “อาจจะบอกว่า ว่างก็กลับมาช่วยงานที่โฮมสเตย์ แต่ไม่น่าจะบอกให้ลาออกจากงานแล้วกลับมาหรอก”
“เพราะแม่รู้ว่าถ้ากลับมา ทุกอย่างมันก็จะกลับไปที่เรื่องเดิมๆ”
“ผมบอกกับแม่ไปแล้วว่า ผมไม่ได้คิดจะเปลี่ยนโลกสักหน่อย ผมแค่มีความรักเท่านั้นเอง”
แนชยิ้มกว้าง ขณะที่หลับตาลง
“พูดอีกสิ ไอ้คำแบบนี้ไม่ได้ยินมาพักใหญ่ๆ แล้วเหมือนกัน”
ก้านบีบมือผอมบางไว้ “ขอโทษนะที่มัวแต่ทำงาน จนไม่ได้สนใจแนชเลย”
“หื้อ แนชไม่ใช่เด็กๆ นะจะต้องสนใจอะไรมากมาย”
ก้านส่ายหน้า ทำให้แนชหันไปมองนอกหน้าต่างรถ
“ขอบคุณที่ไม่ทิ้งไว้ตรงนั้น”
“ใครที่ไหนจะทำอย่างนั้น ต่อไปแนชมีเรื่องไม่สบายใจ บอกให้ผมฟังบ้างนะ ผมไม่ได้อยากรู้เรื่องส่วนตัวของแนช แค่อยากให้แนชรู้ว่า ผมไม่ได้แค่อยากร่วมสุข แต่ผมอยากร่วมทุกข์ด้วย”
หนุ่มตัวเล็กยอมรับว่าแรงระเบิดเมื่อครู่ทำให้ความกังวลคลายลงไปก็จริงแต่มันก็ยังคงมีอยู่ ก้านเองก็มองเห็น

“ปิดเทอมมหา’ลัย ผมกลับมาช่วยพ่อทำงานที่ร้านก่อสร้าง อยู่มาวันหนึ่งพ่อของแนชเข้ามาในร้าน สั่งซื้อวัสดุไปซ่อมหลังคา”
แนชหันมามองคนที่กำลังเล่าเรื่องไปด้วยท่าทางไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่ ว่าควรจะเล่ามั้ย
“ผมขับรถเอาของมาส่งแล้วก็ซ่อมหลังคาให้พ่อ กินข้าวเย็นแทนค่าแรงแล้วก็กลับบ้าน”
หนุ่มตัวผอมกระแทกลมหายใจขึ้นจมูกกึ่งประชด “ไอ้เจ้าเล่ห์”
ก้านยิ้มกว้างขณะที่เล่าต่อ “กลับมาเมื่อไหร่ก็แวะมาซ่อมประปา เปลี่ยนสายไฟ ซ่อมโทรศัพท์ แลกกับข้าวเย็น”
“ตอนเรียนมหา’ลัยน่ะนะ แล้วอาจารย์สายหยุดว่าไง”
“ไม่เห็นว่าไงนี่ มีแต่บอกว่า ขยันดี”
“เหอะ เข้าข้างกันจัง” แนชได้แต่ส่ายหน้า

...แม่เคยเล่าว่าก้านมาช่วยซ่อมบ้านให้เป็นระยะ แต่ตอนที่แม่เล่า เหมือนแม่กำลังพูดถึงลูกศิษย์หรือเพื่อนลูกคนอื่น ขณะที่ตอนที่ก้านเล่า เหมือนมันมีเจตนาอื่นแอบแฝงอยู่ทุกครั้งที่มาบ้าน..

“แล้วเขาบอกว่าชื่อสแนชตอนไหน”
“มีอยู่ครั้งที่แนชโทรกลับบ้าน แล้วผมกำลังดูคอมพิวเตอร์ให้แม่อยู่พอดี ได้ยินแม่ดุว่า สแนช ถ้าไม่ตั้งใจเรียนก็จะไม่ได้งานดีๆ ทำนะ”
แนชอ้าปากค้าง ก้านจำได้แม้แต่ประโยคที่แม่สอน...ละเอียดเกินไปไหมน่ะ...
ก้านหันมายักคิ้วใส่คนที่ทำหน้าเหวอ เลยโดนทำหน้ายู่ยี่ใส่
“แต่พอเรียนจบกลับมา เริ่มทำทั้งโฮมสเตย์กับรีสอร์ท  ทำให้ไม่ได้เจอแนชเลย เพราะเวลาที่แนชกลับมาบ้านวันเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดมันคือช่วงที่งานยุ่งมาก”
“แล้วบอกพ่อก้บแม่หรือเปล่า ว่าที่ขยันน่ะเพราะมีเจตนาอื่นแอบแฝงอยู่”
“ไม่ได้บอกหรอก ใครจะกล้า แต่ก็ถามถึงเรื่อยๆ ว่าแนชเป็นอย่างไรบ้าง เขาคงเดาได้”
“มิน่า พ่อถึงว่า ไม่เห็นว่ามันจะต่างกับคนอื่นตรงไหน”
ก้านเหลือบตามองมือขาวซีดที่จับอยู่
“เพราะผมไม่ได้พูดกับเขาตรง ๆ เขาก็เลยไม่รู้ว่าจะไล่ผมอย่างไร”
“ดาบแกไม่เคยไล่ใครอยู่แล้ว แล้วยิ่งเป็นนักมวยแบบฟุตเวิร์คไม่รู้จัก รู้จักแต่ออกหมัดทำคะแนนอย่างเดียวแบบนี้ ยิ่งพูดยาก” แนชพูดแล้วยิ้มกว้าง หัวเราะหึหะ “น้องเต้ย”
ก้านพลอยหัวเราะตาม “ถ้ารู้ว่าแต่งแบบนั้นแล้วจะพาแนชกลับบ้านได้นะ จะแต่งตั้งแต่เรียนมัธยมแล้ว”
“เฮ้ย~~~~~” แนชหัวเราะร่วน “ตอนนั้นยังไม่....”
“ไม่อะไร”
“ไม่สวย”
ก้านถึงกับหัวเราะตาม เมื่อแนชบรรยายต่อ
“ตัวโย่ง หัวเกรียน แล้วก็กล้ามใหญ่ ๆ ไม่ได้สมดุลเลยสักนิด”
“ตายๆ นักบอลโรงเรียน โดนวิจารณ์ซะเสียหาย”
“ก็จริงนี่หว่า”

จากเรื่องหนึ่งไปสู่อีกเรื่องหนึ่ง แล้วก็วนกลับมาเรื่องเดิม แต่ไม่ว่าจะคุยกันเรื่องอะไร อาจเริ่มต้นด้วยความไม่สบายใจ แต่มันก็ค่อย ๆ กลายเป็นเรื่องดี
“นี่มันกี่ครั้งแล้วเนี่ย ที่ก้านพาแนชกลับบ้านแบบนี้”
“ไม่รู้เหมือนกัน จำไม่ได้ รู้แต่ว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องไปด้วยกัน ขอแค่ให้ได้อยู่ด้วยกัน”
ไม่ว่าจะต้องใช้เวลานานสักแค่ไหน
ไม่ว่าทางข้างหน้าจะเป็นแบบไหน หรือจะต้องพบเจอกับอะไรขึ้น เราจะยังคงอยู่ด้วยกัน
.....ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก้านกับแนชจะอยู่ด้วยกัน.....

========จบ=========

จบแล้วครับ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณจะอ่านเรื่องนี้ด้วยความสุข
พบกันอีกครั้งหลังเมื่อเราเขียนงานเสร็จ ขอบคุณเสมอที่ให้ความสนใจและติดตามเรื่องที่เราเขียนมาโดยตลอด
ขอบคุณมากครับ
ไจฟ์กับที

หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 12-07-2012 08:13:05
ขอบคุณไจฟ์ที :L2:
ทางข้างหน้าของก้านกับแนชอาจไม่ราบเรียบ แต่ถ้าทั้งคู่ไม่ปล่อยมือจากกันก็ไม่มีปัญหา
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 12-07-2012 08:13:50
 :pig4:ขอบคุณค่าาาาาาา. อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ.  ชอบมากๆเลย o13
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: kiyomaro ที่ 12-07-2012 08:17:25
 o22 อ้าวจบแล้วเหรอ มันค้างๆงิ
แต่สนุกมาเลยจ้า  o13 ขอบคุณ คุณไจฟ์และน้องที สำหรับนิยาย สนุกๆ อีกเรื่อง   :pig4:
ว่าแต่จะมีตอนพิเศษมั้ยน้าาาาา
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 12-07-2012 08:34:23
จบแล้ว อยากอ่านต่อ ฮ่าๆๆๆ
ตั้งแต่ต้นเรื่อง พี่คิดว่ามันคือปัญหาที่ต้องฟ่าฟันของคนสองคนที่ต้องการจะรักกัน
แต่พออ่านตอนจบก็คิดไปอีกว่า ชีวิตคู่มันเพิ่งจะเริ่มต้นต่างหาก ยังมีปัญหาอุปสรรคอีกมากมาย
แต่หากคนสองคนรักกัน เชื่อใจกัน จับมือกันไปได้ตลอดทาง ชีวิตข้างหน้ายังไงก็มีความสุข
+++++
อยากอ่านเรื่องต่อไปแล้ว น้องไจฟ์น้องที สู้ๆ :L2:  :L1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 12-07-2012 08:47:10
วันนี้พ่อก้านยังไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร
ถ้ามั่นคงพยายามด้วยกันอย่างงี้ต่อไปนานๆ เชื่อว่าสักวันเค้าคงยอมรับได้เอง   :กอด1:

ขอบคุณทั้งไจฟ์และทีค่ะ สำหรับเรื่องนี้   :L2:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 12-07-2012 08:51:02
โอ๊ะ จบแล้วหรอ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: ruby ที่ 12-07-2012 09:11:21
สนุกมากค่ะ ตอนจบอ่านแล้วมีความสุข
ชอบที่ก้านบอกแนทว่าอยากร่วมทุกข์ด้วย
เวลาที่แนททุกข์ใจไม่ใช่อยากร่วมสุขอย่างเดียว
เป็นคนที่มั่นคงมาก(น่ารัก :-[) ขอบคุณค่ะที่แต่งเรื่อง
ดีๆให้อ่าน บวกเป็ดค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: pochu52 ที่ 12-07-2012 09:16:25
ใช้ความรักของก้านและแนชที่มั่นคงต่อกันเป็นเครื่องพิสูจน์ให้พ่อของก้านยอมรับเถอะ ^^
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 12-07-2012 09:29:01
มันเริ่มต้น และดำเนินต่อไป
และไม่สิ้นสุด ใช่ว่าคบกันแล้วอยู่ด้วยกันเรื่องจะจบนี่เนอะ

อ่านแล้วมันอิ่มๆ แต่ก็ยังอยากกินต่อ
ถ้าไม่ใช่ก้านจะมีใครรักแนชได้หนอ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Yukisae ที่ 12-07-2012 09:33:47
จบแล้วเหรอ???? รู้สึกเหมือนมันปิดไม่สนิทอ่ะ
เรื่องบางเรื่องเราจะมัวแต่รอให้ใครยอมรับคงไม่ได้
แต่ต้องทำให้เค้ายอมรับให้ได้ เนอะ
เสือน้อยยังคงเหวี่ยงกระจายจนจบจริงๆด้วย 555
แต่ก้านคนสวย(!)ก็ตามทันตลอด
เข้าใจอารมณ์แนชเลย เรื่องทำงานเนี่ย เหอะๆ
เรื่องนี้น่ารักแบบเบาๆ แต่ก็ทำให้น้ำตาซึมไปหลายทีเหมือนกัน ขอบคุณนะคะ
++ ให้ไจฟฟ์&น้องทีค่ะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 12-07-2012 09:35:02
ถ้ามือที่จับไว้มั่นคงก็ยากที่จะปล่อยมือ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 12-07-2012 09:42:11
อ่านจบแล้วชอบมากๆอ่ะ
หายากนะเรื่องแบบนี้
พระเอกไม่โลเล

ชอบมาก ขอบคุณสำหรับเรื่องดีีๆนะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: gonna.be ที่ 12-07-2012 10:08:01
ขอบคุณมากๆค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Jesale ที่ 12-07-2012 10:09:33
น่ารักมาก ชอบความรักของทั้งคู่

ขอบคุณผู้เขียนที่เขียนเรื่องดีๆให้ได้อ่านกันค่ะ o13
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 12-07-2012 10:14:34
จบแล้ว ผิดคาดเล็กน้อย อิอิ แต่เอานะ ความตั้งใจชนะทุกสิ่ง

ว่าแต่ ตอนพิเศษหน่อยมั้ยคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 12-07-2012 10:22:31
อา ประทับใจ ชอบหมดเลย ฮ๊า ดีจังน๊า~
ขอบคุณสำหรับนิยามดีๆนะคะ ประทับใจมากเลย :pig4:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 12-07-2012 10:34:19
จบซะแย้วววววววว
 :m1:
ในที่สุดเสือน้อยแนชก็รู้จักออดอ้อนน่ารักเหมือนกันเนอะ
แค่นี้ก้านก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วล่ะ
 :laugh:

ไจฟ์กับน้องทีจ๋า
เรื่องนี้มันไม่สั้นไปเหรอเนี่ย
เราอยากอ่านต่อง่า
 :sad4:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 12-07-2012 10:41:56
ขอบคุณสำหรับความสนุกที่มอบให้ครับ
อยากบอกว่า   อ่านแล้วอิ่มจัง
 :3123: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: jeeu ที่ 12-07-2012 10:42:22
แอบช็อค ตอนที่ก้านไปหาแนชที่กรุงเทพ
ทั้งที่ก้านแสดงออกชัดเจน แต่มันยังไม่ชัดพอสำหรับพ่อก้าน
เอาใจช่วยทั้งคู่นะคะ
โชคดีของก้านที่มีสแนชเป็นแฟน
คุณดาบเผดิม คุณพ่อเป็นไอดอลของหนูค่ะ ความคิดของคุณพ่อน่ารักที่สุด
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 12-07-2012 11:00:03
เอาใจช่วยสแนชกับก้านต่อไป

 :pig4: สำหรับเรื่องราวดีๆน่ารๆแบบนี้ใหอ่านกันนะคะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: must ที่ 12-07-2012 11:05:09
ตอนจบนี่ มีอะไรอยู่เยอะแยะมากมายจริงๆ ประหนึ่งการแรลลี่ ที่มีอาร์ซีให้ค้นหากันอยู่ตลอดการเดินทาง

ก้านสุดยอดมาก จิตใจของก้านเค้าแน่วแน่ มั่นคงเพียงหนึ่งเดียวจนรู้สึกขนลุกและรู้สึกอิจฉาสแนชไปพร้อมๆ กัน
จากที่ผ่านมาก้านยอมทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อแนช มาครั้งนี้ก้านยอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับแนช (แน่นอนจริงๆ)
คือทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้เห็นดีเห็นงามไปกับสิ่งที่ก้านว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เหมาะสม และสมควรที่จะทำตามแต่อย่างใดนะ
เพียงแต่มองในอีกมุมหนึ่ง เป็นมุมของความเพียรพยายาม ความมุ่งมั่น จะมีกี่คนบนโลกที่จะมีใจมั่นคงได้แบบก้าน

ชอบมว๊าาากกกกก >>> "ฟางเส้นสุดท้ายบนหลังของก้านมันคืออะไร เราไม่รู้หรอก รู้แต่ตอนนี้หลังของมันหักแล้ว
หน้าที่ของเราคือทำให้เขาเข้มแข็ง เพราะสุดท้ายแล้วทั้งแนชและก้านก็ต้องกลับมากราบขอโทษพ่อกับแม่ของเขา
การไปแต่ตัวแบบที่ไม่เอาอะไรไปเลยแบบนี้ มันเท่ากับการตัดพ่อตัดลูกกันชัดๆ" (คมและเด็ดจริงๆ ประโยคนี้)
ประโยคนี้ของดาบเผดิมให้แง่คิด มุมมองชีวิต และสอนอะไรได้หลายๆ อย่างเลยทีเดียว (หากคิดตามน่ะนะ)

"ไม่มีกฎหมายมาตราไหนห้ามคนเพศเดียวกันรักกัน" >>> ถะ ถะ ถะ ถูกต้องนะคร๊าบบบบบบบบ~

"ยักษ์ขี้น้อยใจของไอ้แนช" >>> อร๊ายยยยย~ มีการตั้งฉายาให้กันด้วยแหละ ถ้าจะน่ารักกันขนาดนี้น่ะนะ
ที่สำคัญๆๆๆๆ มีการเรียกแทนตัวเองว่าแนชด้วยอ่ะ น่าจับมาฟัดโฮกกกกกกก~ น่ารักกว่านี้มีอีกมั้ยเนี่ย

“พูดเพี้ยน พูดผิดก็ยังเข้าใจกันได้ แต่เขียนนี่มันอีกเรื่องเลยนะ ทุกอย่างที่มันเป็นลายลักษณ์อักษรน่ะต้องระวังให้มาก”
ประโยคนี้ทำเอาต้องทบทวนตัวเองอยู่พักใหญ่เหมือนกันนะ ไม่เคยคิดถึงจุดนี้มาก่อน ต่อไปคงต้องระมัดระวังซะแล้ว

"ผมเชื่อมาตลอดว่า ผมแค่รักแนช ผมไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แต่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่ นี่ผมทำร้ายพ่อกับแม่ขนาดนี้เชียวหรือ
จนถึงตอนนี้ผมก็รู้ตัวอยู่ตลอดว่าผมยังคงทำให้แม่ต้องเดือดร้อน และการจากมาไม่ใช่การแก้ปัญหา" (ถูกต้องที่สุดอ่ะ)
ไม่ได้เข้าข้างก้านนะ แต่คิดว่าหากเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับใครก็ตาม ทุกคนคงต้องการเวลาในการตั้งหลักกันทั้งนั้น
อย่างในกรณีของก้านก็คงจะเหมือนกัน มันเป็นอะไรที่เกิดขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วนมากๆ เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมาย
เจอแบบนี้เข้าไปไม่ใครก็ใครคงต้องการเวลาทบทวน บ่มเพาะความเข้มแข็งให้จิตใจ แล้วจึงค่อยหันกลับไปเผชิญปัญหา

บทก้านจะต้องเครียดกลับไม่ได้เครียดแบบเต็มที่ซะงั้น เพราะมีแนชเป็นคนที่คอยชูโรงเพื่อคลายเครียดอยู่ตลอด กร๊าากกก~
คนดีไปที่ไหนก็ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ เพราะคนดีศรีนายก้านได้งานหลังจากไปสมัครงานเพียง 2 แห่ง (ทำไมหางานได้ง่ายนักวะ)
เป็นธรรมดาของมนุษย์ที่มีเรื่องน่ายินดีก็ต้องฉลอง แต่ไอ้การฉลองของก้านเนี่ยมันออกจะไม่เหมือนการฉลองซักเท่าไหร่นะ
คือจริงๆ สิ่งที่การทำมันเรียกว่าการฉลองไม่ได้เลยต่างหากล่ะ ไอ้แบบนั้นเค้าเรียกกันว่า 'การแสดงความรัก' ต่างหากก้านจ๋า
แต่... เอ่อ.... สแนชไปแล้วตั้ง 2 เลยนะ ทำไมคุณก้านยังสงบนิ่งอยู่??? ตายล่ะหว่า เครียดจนกามตายด้านแหงแซะ กร๊าาากกก~
แทนที่จะเป็นก้านที่ค้างคาเพราะยังไม่ได้รับการปลดปล่อย กลับเป็นแนชที่หงุดหงิด ทั้งๆ ที่ปลดปล่อยไปแล้ว ฮ่าๆ

อ๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซ~ (เลียนแบบแนชมั่ง) อิจฉาอ่ะ มีการยกเงินเดือนตัวเองให้ภรรเมียจัดการ ชิชะ
ก้านเข้าถึงจิตใจ เข้าถึงตัวตน เข้าใจความคิดความอ่านของแนช ได้ดีกว่าที่แนชเข้าใจตัวเองซะอีก (แลดูวกไปวนมาเนอะ)

“ผมไม่ได้คิดจะเปลี่ยนโลกสักหน่อย ผมแค่มีความรักเท่านั้นเอง” >>> ยิ้มกว้างไปกับประโยคนี้ของยอดชายนายก้านเลยล่ะ
“ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องไปด้วยกัน ขอแค่ให้ได้อยู่ด้วยกัน”
.....ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก้านกับแนชจะอยู่ด้วยกัน.....
ไม่ว่าจะต้องใช้เวลานานสักแค่ไหน ไม่ว่าทางข้างหน้าจะเป็นแบบไหน หรือจะต้องพบเจอกับอะไรขึ้น เราจะยังคงอยู่ด้วยกัน

สุดท้ายขอบคุณคุณไจฟ์และคุณที ที่นำเรื่องราวดีๆ มาแบ่งปันให้ได้อ่านนะคะ อ่านเรื่องนี้แล้วมีความสุขมาก

~ สารบัญ Snatch ~ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33789.msg2049218#msg2049218)
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 12-07-2012 11:11:45
ครอบครัวเล็ก ๆ ที่คนสองคนกำลังสร้างมันขึ้นมา Happy จัง 

ขอบคุณ ไจฟ์กับทีคะ ที่นำพารอยยิ้มและความสุขมาพร้อมกับผลงานของพวกคุณเสมอ :pig4:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 12-07-2012 11:14:54
จบแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ชอบบุคลิืกก้านมากๆๆๆๆๆๆๆๆ เป็นคนอบอุ่น มั่นคงและมุ่งมั่นที่สุด

ขอให้พ่อก้านเข้าใจทั้ง 2 คนเร็วๆ นะ

ขอบคุณคุณไจฟ์กับน้องทีสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ  :pig4:  :pig4:  แล้วจะรอติดตามเรื่องต่อไปค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 12-07-2012 11:27:00
ขอบคุณ jivetea
สำหรับ Snatch ดีให้ยิ้มกว้างมีความสุข
อ่านไปยิ้มไป ยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ เวลาสองคนอยู่ด้วยกัน
ใช่แล้ว เราต้องก้าวต่อไป
ขอบคุณมาก

ปล. ไปเล่าเรื่องนี้ให้ก้านฟัง มันบอก
"เออดี...ใจเดียว ใจเย็นแบบนี้ ก้านชอบ"
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 12-07-2012 11:35:16
เฮ้ออออ จบไปด้วยความสบายใจ ^^
อุปสรรคยิ่งใหญ่แค่ไหน จะผ่านไปได้เมื่อ-เรา-อยู่ด้วยกัน

เรื่องนี้ก้านได้ใจไปเต็มๆ พระเอ๊ก พระเอก ^^
ส่วนแนชน่ารักด้วยอาการยอม...แม้จะเหวี่ยงหนักไปบ้างก็ตาม

ขอบคุณที่มีเรื่องมาให้ตามอ่านและลุ้นได้ทุกตอน
แม้เรื่องนี้จะสั้นหน่อย แต่ได้ใจมากมาย...ตัวละครต่างไป ทำให้สนุกมากขึ้น

รอเรื่องต่อไปของคนเขียนทั้งสองค่ะ ไจฟ์ที... ^^
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: from_mars ที่ 12-07-2012 11:57:51
ชีวิตต้องสู้ สู้ต่อไปนะจ๊ะ
เข้าใจพ่อแม่ ครอบครัวตัดไม่ขาด แต่อาจต้องใช้เวลาในการยอมรับ มาก-น้อย ไม่เท่ากัน
ขอบคุณหนุ่มๆ เขียนเรื่องดีๆ ให้ได้อ่านจ๊ะ
รออ่านผลงานชิ้นต่อๆ ไป และเป็นกำลังใจให้เสมอนะจ๊ะ กอดแน่นๆ จุ้บๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 12-07-2012 12:15:13
เรื่องนี้เหมือนจบแบบค้างๆอ่ะ เหมือนปมเรื่องยังไม่คลี่คลายเลย

ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 12-07-2012 12:26:37
โอ๊ะ!! เข้ามาอีกที เรื่องนี้จบแล้ว เลยได้อ่านรวดเลย :impress2:
ชอบมากค่ะ ชอบทั้งแนชและก้าน ดูลงตัวและแพ้ทางกันดีนะคะ
บวกแทนคำขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆค่ะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 12-07-2012 13:10:49
จบแล้ว  ดีใจที่ทั้ง2คนพยายามปรับตัวเข้าหากันโดยมีความรักเป็นที่ตั้ง

วันนี้พ่อก้านยังยอมรับไม่ได้   แต่ต่อไปต้องเข้าใจแน่นอน เพราะความสุขของลูกคือสิ่งที่พ่อ-แม่ต้องการเห็น

 มีตอนพิเศษไหมน้า  ตอนพิเศษที่พิเศษมากๆ ตอนที่พ่อก้านยอมรับในความรักของทั้ง 2 คน

หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 12-07-2012 13:17:54
อ่านๆแล้ว เหมือนว่าพ่อแม่แนชจะเป็นพ่อแม่ในอุดมคติของคนที่มีเส้นทางชีวิตที่ต่างจากคนอื่นเลยนะ

ชอบจัง
"เรื่องนี้น่ะหรือ ไม่หรอก ไม่มีกฎหมายมาตราไหนห้ามคนเพศเดียวกันรักกัน แล้วอาจารย์สายหยุดก็มีลูกศิษย์เข้าๆ ออกๆ บ้านถี่ยิ่งกว่าลูกตัว ลูกใครหลานใครก็รวบมาเป็นลูกเป็นหลานตัวไปหมด อย่างที่อาจารย์เขาว่าน่ะแหละ ชีวิตใคร ใครก็ย่อมมีสิทธิ์เลือกเองว่าเขาจะดำเนินชีวิตอย่างไรให้เป็นสุข"

พร้อมจะเข้าใจในเส้นทางที่แต่ละคนเลือกเดิน และก็คอยแนะนำทางที่ถูกที่ควรให้ แต่ไม่บังคับยัดเยียดกัน

คิดถึงคนทิฐิแรงที่บ้านเลย...นะ

ตอนที่แนชตะโกนใส่ทุ่งนาน่ะ รู้สึกว่า 'โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอีกนิดนึงแล้วนะแนช'

โครงเรื่องคราวนี้ดีนะ จบแบบชีวิตคนมันก็เดินกันต่อไป อีกหน่อยจะเป็นยังไงไม่รู้ รู้แต่ว่าเรามีเป้าหมายอย่างงี้ก็สู้กันต่อไป จะดีจะร้ายยังไงก็ทำได้แค่สู้บนทางที่เลือกเอง

อืม สุดท้าย จอบคุณที่เขียนงานดีๆให้อ่านจ้า
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 12-07-2012 13:33:11
ก่อนจบคุยกันหงุงหงิงมีความสุข  อิ อิ
จะมีบทส่งท้ายอีกหรือเปล่าน๊ออออ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 12-07-2012 13:40:15
ขอแค่จับมือ
กันไว้แค่นี้ก็พอ :L1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 12-07-2012 14:16:06
จบซะแล้วววว เสือน้อยกับยักษ์ขี้น้อยใจ
เหมือนส่วนผสมที่ลงตัวล่ะนะ คนนึงใจร้อนแต่อีกคนก็ใจเย็น
อีกคนขี้น้อยใจอีกคนก็ง้ออย่างไม่กลัวเสียฟอร์ม

..ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสนุกๆเช่นเคย  :L2:
จะรออ่านเรื่องต่อไปน๊า....
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 12-07-2012 15:26:17
ขอบคุณนะคะกันเรื่องสนุกๆอีกเรื่อง
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 12-07-2012 16:14:48
จับมือไ้ แล้วไปด้วยกัน :bye2:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 12-07-2012 17:34:59
ก้านกับแนชเข้าใจกันก็ดีแล้ว เรามีความสุขตอนนี้อยู่ด้วยกันก็มีความสุขที่สุดแล้ว

+1+เป็ดให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 12-07-2012 18:55:44
ก้าน-แนชยังต้องเผชิญกับเรื่องราวอีกมากมายในโลกใบนี้
ก็เข้าใจว่ารื่องสั้นก็ต้องให้คนไปเดาสิ่งที่จะเป็นไปเอาเอง
ก็หวังไว้ว่าความรัก ความเข้าใจ ความอดทนจะทำให้สองหนุ่มได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป
ขอบคุณไจฟ์ทีสำหรับนิยายอีกหนึ่งเรื่องที่สนุกไม่แพ้เรื่องที่ผ่านมา
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: PAAPAENG~ ที่ 12-07-2012 19:36:24
อา... จบจนได้ ToT
แม้จะจบแบบ...ยังค้างคาเรื่องพ่อแม่
แต่ทั้งสองก็ "จะอยู่ด้วยกัน" ไม่ว่ายังไงก็ "จะอยู่ด้วยกัน"
แค่นี้ก็สุขเพียงพอแล้วเนอะ  ^^

ขอบคุณคุณไจฟ์และคุณทีมากนะคะ
สำหรับนิยายเรื่องนี้
ชอบมาก...ชอบมากๆเหมือนเรื่องที่ผ่านมาเลย

รอเรื่องหน้าของคุณทั้งสองอยู่นะคะ  :)
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 12-07-2012 19:45:43
ย้ายเร็วมาก ^^"
อ่านตั้งแต่เช้าแล้ว กะว่าค่อยมาเม้นท์ตอนค่ำๆ
หาตั้งนาน ถูกย้ายมาที่นี่ซะแล้ว

รู้สึกว่าแนชยอมลงให้ก้านเยอะเลย ตามใจจริงๆ
ทั้งคู่ต้องฝ่าฟันกับคุณชนะชัยไปอีกนานแค่ไหนก็บอกไม่ได้
รู้แต่ว่ายังไงก็จะอยู่ด้วยกัน ดีที่ทั้งคู่เป็นวัยทำงานแล้ว
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 12-07-2012 19:50:19
จบแล้วแนชกับก้าน
จบแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ให้เราได้คิดต่อว่า
เมื่อเวลาผ่านไปๆความรู้สึก-ความคิดของพ่อก้านจะเปลี่ยนหรือไม่-อย่างไร อะไรจะทำให้เปลี่ยน
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม จุดสำคัญคือ
หากก้านกับแนชเดินเคียงคู่กันไป ร่วมสุขร่วมทุกข์กัน ไม่ทิ้งกัน แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
ขอบคุณ :pig4: น้องไจฟ์กับน้องทีจ้ะ รวบ :กอด1: ทั้งสองคนเลย
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 12-07-2012 19:53:57
ขอบคุณไจฟ์ทีมากๆ :pig4:
ที่เขียนเรื่องดีๆมาให้พวกเราได้อ่านกัน :pig4: :pig4:
แล้วจะรออ่านเรื่องใหม่นะคะ  :L1:
+1 นะคะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: kabung ที่ 12-07-2012 20:06:43
ชอบเรื่องนี้มากกก มันอบอุ่นยังไงบอกไม่ถูก งื้ออออ มีแถมตอนพิเศษไหมคะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 12-07-2012 20:11:52
อ่านไปเรื่อยๆจนเจอคำว่า "จบ" นิ่งพักนึง o22
มานั่งคิดว่า จริงๆนิยายแต่ละเรื่องมันไม่ได้จบแบบสมบูรณ์หรอก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่บอกได้ชัดเจนเลย
อนาคตจะเป็นยังไงต่อก็ให้คนอ่านจินตนาการไปเอง
มันเหมือนเพิ่งเริ่มต้นเรื่องใหม่ๆ ทั้งที่เป็นเรื่องเดิมๆชอบๆ o13
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: เพื่อนบ้าน ที่ 12-07-2012 21:25:46
ว๊ากกกกกกกกกกกกกก ,, ย้ายเร็วไปไหนเมื่อเช้ามาอ่าน ตอนเย็นมาเม้นหาไม่เจอละ -*-
ตอนจบเป็นอะไรที่คาดไม่ถึงจริงๆว่ามันจะเป็นแบบนี้ ก็แบบว่ามึนๆ งงๆ
เหมือนจบไม่เคลียร์แล้วให้เราไปต่อยอดจินตนาการที่เหลือกันเอาเอง 555 รู้แค่ว่าสองคนโอเคก็พอแล้ว
อยู่ๆแนชก็ถอย ซึ่งก็ไม่แปลก แต่ที่มันแปลกก็ตรงที่พอก้านตามมาแล้วเขาก็คบกันเหมือนเดิมนี่ดิ เล่นเอางง
เหมือนถอยออกมาให้พ่อ ลูกเขาเคลียร์กันเองแล้วตัวเองก็รอฟังผลงี้หรอ
แต่หลังจากย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้วแนชน่ารักอ่ะ เออมันน่ารักจริงๆนะ เวลาแนชอย่างนั้น แนชอย่างนี้  กร๊ากกกกกก เขิน ~
พอมาสังเกตุก้าน คนนี้เหมือนเขาจะพูดชื่อแทนตัวตามแต่อารมณ์แนชนะ ฮ่ะๆๆ
ถ้าอารมณ์ปกติก็ผมอย่างนั้น อย่างนี้ แต่ถ้าแนชอารมณ์ไม่ปกติก็จะเรียกก้าน น่ารักอ่ะ ><~
แล้วจะเป็นไงต่อไม่รู้ เหมือนทิ้งไว้ให้ลุ้นต่อ แต่ก็ไม่มีให้ลุ้น เอ่อะ ใจร้าย !!

สุดท้ายรักสแนชน้องก้าน จุ๊บจุ๊บ ขอบคุณไจฟ์ทีจ่ะ รอติดตามเรื่องต่อไปน้า ^^
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 12-07-2012 21:47:35
สนุกมากค่า

แต่พอเห็นว่าจบแอบมี ห๊ะ จบแล้วเรอะ!นิดหน่อย555
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 12-07-2012 22:03:12
อ่าาาาา จบซะแล้ว น่ารัก อบอุ่นมาก
อ่านตั้งกะเช้ายังไม่จบ กลับมาบ้านจะอ่านต่อ หาไม่เจอซะงั้น ย้ายไวจริง
ขอบคุณไจฟ์กะทีนะครับ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 12-07-2012 22:19:56
เปิดเข้ามาจะอ่าน ... อ้าว! ถูกย้ายไปแล้วแฮะ (บอร์ดนี้มีประสิทธิภาพมากจริงๆ ^ ^)

อ่านแล้วก็ให้คิดว่าชีวิตจริงก็น่าจะประมาณนี้ คงไม่มีอะไรที่ราบรื่นไปหมดหรอกนะคะ

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆและจะรออ่านเรื่องใหม่ต่อไปค่ะ ^ ^
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 12-07-2012 23:48:02
สู้ต่อไปสแนช+ก้าน
โอ๊ยย หาตั้งนาน วันนี้จบทำไมหาไม่เจอ
ที่แท้ย้ายมาห้องจบทันทีเชียว
ขอบคุณมากค่ะ รอเรื่องต่อไป
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Tasaitatsu ที่ 13-07-2012 00:49:11
จบแบบนี้รู้สึกดีจัง ไม่รู้สิ มันบอกไม่ถูก แต่รู้สึกดีมากๆ ^___^">
ตอนนี้มีหลากหลายอารมณ์มากกว่าตอนที่แล้วเสียอีก
จากนี้ไปทุกอย่างคือการเริ่มต้นใหม่หมดสำหรับก้านกับแนช
เป็นเรื่องสั้นที่มีหลายมุมมองมาก แล้วแต่ว่าจะมองยังไง ตีความแบบไหน

ขอบคุณสำหรับนิยายหลากหลายอารมณ์เรื่องนี้ค่ะ
รอจนกว่าจะได้อ่านเรื่องใหม่นะคะ ^______^

หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 13-07-2012 02:12:17
ขอตอนพิเศษได้มั๊ยน้องที :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: PookPick ที่ 13-07-2012 03:24:36
อ๊า จบแล้ว เป็นการจบเรื่องที่เป็นจุดเริ่มต้น

ชอบค่ะ ขอบคุณค่ะ :3123:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 13-07-2012 11:25:55
จบแล้ว?
อยากได้ตอนพิเศษสักตอน ^^
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: beautifuldead ที่ 13-07-2012 12:04:27
เอาเพลงมาฝากด้วย บางทีสำหรับคนอื่นที่มองเข้ามา ความสัมพันธ์ของสแนชกับก้านอาจจะเป็นแบบนี้ก็ได้นะ
http://www.youtube.com/watch?v=9j55sitwxKI


รู้สึกว่าจบแบบนี้ก็ดีนะ ..มันดูจริงดี :)
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 13-07-2012 13:15:55
  :L2:ขอบคุณสำหรับนิยายที่อ่านแล้วรู้สึกดีๆ o13
เป็นหกตอนที่ทำให้เราเต็มอิ่ม ไม่ใช่ของว่างแต่เป็นก๋วยเตี๋ยวผัดไท อร่อยหวานมันเผ็ดเปรี้ยวครบรส :3123:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 13-07-2012 17:30:20
เรื่องนี้อบอุ่นมากๆเลยครับ

ชอบมากๆครับ ถึงแม้จะสั้นแต่มันให้ความรู็สึกที่ดีมากอ่ะครับ  :กอด1:

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆอีกครั้งครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 13-07-2012 18:13:03
เห็นอีกทีย้ายมาห้องจบแล้ว อร๊างงง เม้นไม่ทัน :z3:
ยังงงอยู่ว่าทำไมจบเร็วจัง  :monkeysad:
ก้านช่างเป็นสามีที่ดี ทำงานได้เงินมาก็เอาให้ภรรยา อนาคตเจริญรุ่งเรืองแน่นอน :laugh:
ขอให้พ่อก้านใจอ่อนเร็วๆแล้วกัน ยังไงก็เชื่อว่าก้านกับแนชจะอยู่ด้วยกันตลอดไปแน่ๆ :กอด1:
ขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องนี้ และรออ่านเรื่องต่อไปนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 13-07-2012 19:41:41
ก้านสู้ๆๆต่อไปแต่ไงก็ยังได้อยู่กับสแนชแหละเนอะ

สักวัน พ่อคงจะรับก้านได้ แล้วก็ให้อภัย ก้านสู้ๆน้า
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 13-07-2012 20:33:08
เขามาช้ากว่าคนอื่นทุกทีเลยอ่ะT.T

กำลังอ่านเพลินๆ จบซะละ

พี่แนชกับน้องก้านยังต้องเผชิญอะไรอีกมากมายเลยเนาะ

ชีวิตคู่ก็ยังต้องดำเนินต่อไป

เป็นกำลังใจให้ทั้งสองคนเลยค่ะ

ตอนพี่แนชร้องอ่ะ แบบรู้สึกกดดันตามเลยอ่ะ เหมือนความเครียดสะสม เราก็เคยเป็นนะอยากจะร้องแต่ร้องไม่ได้ เหอๆ

สู้ๆต่อไป ทั้งพี่แนชกับน้องก้าน และคนเขียน

ขอบคุณคุณไจฟ์กับน้องทีค่ะ :pig4:

จิ้มทุกบวกรอเรื่องต่อไปนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixa ที่ 13-07-2012 22:27:32
กว่าจะได้ว่างมาอ่านจนจบก็จนย้ายห้องแล้วเรียบร้อย
เป็นอีกเรื่องที่เราชอบนะ
แม้ว่าจะจบแบบต้องคิดต่อเองก็ตา่ม
แต่มันก็แบบนี้แหละ ต่อให้จบมีความสุขขนาดไหน
ใช่ว่าตอนต่อๆ ไปก็ไม่มีปัญหาอุปสรรคเข้ามานี่นา
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 14-07-2012 00:51:19
อ่าตอนที่แนสตะโกนออกมา
คิดอย่างเดียวว่า

แนสอยากลาออกแล้วไปทำงานกะก้าน

สรุป แค่ระบายความเครียด

อยากรุ้แฮะ  ว่าพ่อจะยอมรับใหม
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 14-07-2012 01:54:21
แปะไว้ก่อนง่วง
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 14-07-2012 13:44:37
จบแล้วอ่ะยังไม่อยากให้จบ มันค้างงงงงงงงง
เรื่องต่อไปขอแนว ตบจูบนะคร้าาาา เหอๆ
ขอบคุณค่ะ
ปล.จะรอติดตามผลงานเรื่องต่อๆไปนะคะ o13

หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 14-07-2012 23:09:47
อยากอ่านตอนพิเศษจัง  o13
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 14-07-2012 23:28:26
ชอบเรื่องนี้อ่ะ ถึงจะจบแบบที่ไม่แฮปปี้ทั้งหมด แต่ก็เป็นนิยายที่ดีอีกเรื่องค่ะ

เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความมั่นคงในความรักของก้านที่มีให้กับแนช ซึ่งเป็นสิ่งที่สวยงามมากกกกกก

แสดงให้เห็นถึงอุปสรรคของความรักที่ก้านกับแนชต้องค่อยๆร่วมกันฝ่าฝัน มีทั้งสุข ทั้งทุกข์ รู้สึกเหมือนได้อ่านเรื่องจริงๆมากกว่านิยายอีกค่ะ

ขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องนี้นะคะ ชอบมาก ^^
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Gohan ที่ 15-07-2012 14:06:28
เป็นตอนจบที่เหมือนจะเป็นการเริ่มต้นของก้านกับแนช
ยังต้องเจออะไรอีกเยอะ สู้กันต่อไป
แนะนำให้เถ้าแก่ชัยชนะไปเข้าหลักสูตรคุณพ่อเกียรตินิยมจากดาบเผดิม
เรื่องบางเรื่อง ใช่ว่าเปลี่ยนให้ได้อย่างที่ใจต้องการ แล้วมันจะจบ
ลองถามตัวเองให้ดีก่อนเถอะ ถ้าลูกมีความทุกข์ คนเป็นพ่อเป็นแม่มีความสุขรึเปล่า
เฮ้อ...

เรื่องไม่สั้นไม่ยาวเรื่องนี้ ขนาดกำำลังดีนะ อ่านพอดีๆ
เป็นเรื่องแรกที่ยกใจให้พระเอกเกือบหมด ฮ่าๆๆ
ชอบนะ ก้่านน่ารักดี..
แต่ที่ชอบมากกว่า คงเป็นเรื่องของการเขียนลักษณะของตัวละครที่ไม่หลุดหรือแกว่งเลย
รวมทั้งข้อให้เอาำไปคิดที่แทรกอยู่ในทุกตอน จนกลายเป็นเอกลักษณ์ในงานเขียนของ Jive Tea ไปซะแล้ว
ขอบคุณสองหนุ่ม สำหรับงานเขียนสนุกๆ และเป็นกำลังใจให้น้องชายสร้างผลงานใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ นะครับ 
:กอด1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Rein_Force ที่ 16-07-2012 00:07:52
สนุกมากมาย ชอบด้วย อยากมีแบบนี้มั่งจัง  :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: imissyou ที่ 16-07-2012 04:33:50
 อ่านกำลังเพลิน ๆ อ้าวจบซะแระ  o13
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: McKnight ที่ 16-07-2012 10:40:18
อ่านรวดเดี๋ยวจนจบ สนุกมากเลยครับ

ชอบสแนชที่ถึงแม้จะขี้วีนขี้เหวี่ยงแต่ก็ยอมให้ก้านคนเดียว

แล้วจะติดตามเรื่องต่อๆไปนะครับ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: skynotebook ที่ 16-07-2012 13:34:43
ไจฟ์กับน้องทีใจร้ายอะ ให้จบแบบนี้ได้ไง มันค้างๆยังไงก็ไม่รู้  o9

เอาเป็นว่าเรื่องนี้ทำเอาคนอ่านคนนี้งงไป1คน
แต่อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้ว่าแนชเข้าใจและพร้อมที่จะเดินเคียงข้างก้านไปเรื่อยๆแบบนี้
แต่จริงๆอยากให้ก้านมีอะไรปรึกษาหรือเล่าให้แนชฟังบ้างก็ดีนะ (คนอ่านอยากรู้เรื่องด้วย)
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: kisz ที่ 17-07-2012 16:05:05
มีตอนพิเศษมั้ยคะ? เรื่องทางบ้านก้านล่ะะะะะ?
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: cartoons ที่ 18-07-2012 01:08:00
ชอบบบบบบบบบบบบบ ม๊วกกกกกกกก   :-[ น่าร๊ากอ๊าาาาาาาาา ><
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: maykiz ที่ 18-07-2012 01:37:26
ีดีใจที่เค้ารักแล้วก็เข้าใจกัน คุณพ่อของก้านยอมรับซะทีนะ ทุกข์ใจเปล่าๆ ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 18-07-2012 17:58:10
จบแล้ว อ่านจบแล้ว สนุกดีอ่ะ แต่สั้นเนอะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 18-07-2012 23:17:45
ชอบก้าน เป็นพระเอกที่น่ารักมาก ส่วนแนชก็ฮาดี
อยากให้มีตอนพิเศษ ครอบครัวเข้าใจคืนดีกัน จบแบบนี้มันคาใจ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 19-07-2012 02:09:00
จบเเเล้ว 
ที่เหลือก็ปล่อยให้เวลาค่อยเยียวยาสิ่งต่างๆเนอะ   
ขอบคุณนะสำหรับนิยายดีดี ขอบคุณไจฟ์กับที
รอเรืองต่อไป นะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 21-07-2012 20:57:04
จบแล้ว!!! สนุกมากจ้า

ตอนแนชวีน น่ากลัวมากอ่ะ ใครก็เอาไม่อยู่นอกจากน้องก้านคนเดียว จากเสือกลายเป็นแมวไปเลย อิอิ

ชอบมาก ขอบคุณมากมาย :pig4:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 29-07-2012 01:37:00
ชอบบบบบบบบบบบบบบ o13
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: tomodaging ที่ 29-07-2012 21:10:06
จบแบบเรียลดีครับ....ชีวิตไม่แน่นอนนี่เพิ่งจะเริ่มเองเนอะ
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 02-08-2012 12:07:53
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: lovely1714 ที่ 03-08-2012 13:56:36
จับมือไว้แล้วไปด้วบกัน~
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥Täsinä→l3€LL♥ ที่ 04-08-2012 11:04:04
ดีจัง
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 11-08-2012 23:54:30
เหมือนอ่าน The Heart of darkness ด้วยความคล้ายในข้อที่ว่า เป็นเรื่องสั้นๆ กระชับ กะทัดรัด แต่มีเนื้อเรื่องและเนื้อหาอยู่ในนั้นมากมาย ต้องค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ ละเลียดไปทีละประโยค

เรื่องนี้ตัวละครที่ชอบที่สุดเห็นจะเป็นพ่อน้องสแนช แกเข้าใจโลกและแกรักลูก คิดตามคำพูดและคำสอนของแกแล้วก็เข้าใจอะไรหลายๆ อย่างเหมือนกันค่ะ

แต่แอบใจหายเหมือนกันตอนที่ก้านมาหาสแนชแต่ตัวและใบปริญญา เรื่องตัดพ่อตัดลูกนี่เป็นอะไรที่ร้ายแรงนะ นี่ก็ยังอยากรู้เหมือนกันว่าถ้าหากสองคนไปถึงบ้านแล้ว เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป อันนี้คุณไจฟ์กับน้องทีคงจะให้เป็นหน้าที่ผู้อ่านจินตนาการเอาเองใช่ไหมคะ?

ขอบคุณมากเลยค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: sum_sun ที่ 17-08-2012 12:22:36
อ่านจบแล้ว อยากบอกว่า...ชอบมากค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Snatch (ตอนจบ หน้า 10 : 12-07-55)
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 13-11-2012 01:13:08
อ่านรวดเดียวจบเลย แบบว่า มันโดนอ่ะ ชอบแนชอ่ะ เหวี่ยงๆอ่ะ น่าร๊ากกกก  :o8:
หัวข้อ: Re: Snatch
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 03-10-2013 23:30:22
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Snatch
เริ่มหัวข้อโดย: NIMME ที่ 09-10-2013 15:26:45
ก้านน่ารักอ่า ขี้แงด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: Snatch
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Evil ที่ 12-10-2013 01:11:39
อ่านไปเขิลไปฮาไป กดดันไป  สนุกสุดๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: Snatch
เริ่มหัวข้อโดย: funland ที่ 12-10-2013 20:32:34
อ่านจบแล้ว ขอบคุณมากค่ะ ถ้าใครได้มีพ่อแม่ที่เข้าใจ แบบพ่อแม่ของ แนช เราว่าโชคดีสุดๆ
ชอบเรื่องนี้ตรงที่ พระเอกมั่นคง เพื่อนๆเข้าใจและคอยช่วยเหลือ พ่อแม่ที่เข้าใจลูก ถึงแม้จะมีอุปสรรค แต่มันจะต้องผ่านไป
ได้แน่นอน
หัวข้อ: Re: Snatch
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 05-01-2014 19:25:13
เรื่องนี้ทำให้เราชอบผู้ชายที่ชื่อ "ก้าน" มากมาย
ไม่เบื่อด้วยกับนิสัยขี้น้อยใจ ในฐานะคนอ่านนิยาย เราชอบคนประมาณนี้
แต่ชีวิตจริงไม่รู้นะ เพราะไม่เคยเจอ อิอิ

ขอบคุณค่ะ  ^^
หัวข้อ: Re: Snatch
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 13-07-2014 22:31:51
โอ๊ยยย แบบว่าชอบอ่ะ  :m3:

 :L2: :L2: :bye2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Snatch
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 25-08-2014 12:49:33
คือแบบ ฮืออออ จบแล้วเหรอออ อยากอ่านต่อ อยากอ่านอีก

คือเรื่องมันดูเรียลมากๆ  ชอบผู้ชายแบบก้านสุดๆ มั่นคง เอาการเอางาน อยากได้~~~
หัวข้อ: Re: Snatch
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 10-11-2014 16:41:48
 o13 o13. ขอบคุณครับสนุกมาก
หัวข้อ: Re: Snatch
เริ่มหัวข้อโดย: tomybsl ที่ 20-12-2014 00:44:56
ทำไรเรื่องนี้มันให้ความรู้สึกสุขอย่างนี้นะ อ่านแล้วอบอุ่นใจจริงๆ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Snatch
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 20-12-2014 22:46:03
ขอบคุณนะคะอ่านจบแล้วคอยลุ้นกับความรักของก้านและแนสมันเหมือนสิ่งที่มาเติเต็มกันและกันและก็เหมือนชีวิตจริงที่ต้องมีปัญหาเรื่องครอบครัวเข้ามา  เสือน้อยและยักษ์ขี้ใจน้อยน่ารักค่ะ
หัวข้อ: Re: Snatch
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 27-04-2015 11:59:32
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Snatch
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 01-05-2015 14:54:20
ตามมาอ่านอีกเรื่องนึง
ไม่ผิดหวังนะคะ ยังคงมีอะไรอะไรให้คิดตามตลอด

ขอบคุณนะคะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: Snatch
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 03-05-2015 07:59:57
เคยอ่านแล้วครั้งหนึ่ง มาอ่านอีกครั้งก็ยังสนุก
ตอนจบแบบไม่จบ ต้องจินตนาการต่อเองนี่ จะเรียกว่าดีก็ดีไม่ดีก็ไม่ดี เพราะอยากรู้ว่าคนเขียนจริงๆ วางไว้ยังไง
หัวข้อ: Re: Snatch
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 03-05-2015 19:46:48
 :-[ โอ้ยยยย น้องก้าน น่ารักตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบ
รอแนชมาตั้งนาน รักฝังลึก ตอนแรกมันหน่วงๆ ที่แนช
ไม่ยอมรับและยังสับสนกับความรู้สึกที่มีต่อก้าน
เวลาพิสูจน์ก้านน่ารักเสมอต้นเสมอปลาย โอ้ยยย
ตายกับความน่ารักของก้าน ขอบคุณคุณไจฟ์คุณทีที่มี
เรื่องดีๆมาให้อ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: Snatch
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 04-05-2015 14:25:01
ขอบคุณค่ะ จบได้แฮปปี้มากๆ ^^
หัวข้อ: Re: Snatch
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 24-07-2016 22:36:28
ตามมาจิ้มเรื่องของคุณไจฟ์อีกเรื่อง
ติดใจการเขียนมาก บรรยายดี ตัวละครน่ารัก
หัวข้อ: Re: Snatch
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 25-07-2016 17:10:38
 :impress2: จบแล้วง่ะ
แบบว่ามัน... สั้นไปปปปปปป
ชอบเรื่องนี้มาก ก้านน่ารักโคตร รักเดียวใจเดียว ดูซื่อๆ แต่แอบเจ้าเล่ห์ หึหึ
ชอบนายเอกดุๆเหวี่ยงๆแบบสแนชอ้ะ แต่ไม่ค่อยมี พอมาเจอเรื่องนี้ ถูกใจมาก
แก๊งเพื่อนน่ารักทุกคนเลยค่ะ

ขอบคุณไจฟ์กับที มากๆๆๆๆ
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Snatch
เริ่มหัวข้อโดย: oneone ที่ 02-08-2016 17:35:17
อ่านจบแล้วววว น่าร้ากกกกก  :impress2: :impress2: รักก้านสแนช~♡ :o8: ในเรื่องสั้นที่ไม่สั้น ฮ่า~ หรือเรื่องยาวหว่า? ฮ่าๆ ยังไงก็ขอบคุณค่ะที่แต่งมาให้อ่านะคะ  :bye2:
หัวข้อ: Re: Snatch
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 22-08-2016 18:51:55
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Snatch
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 20-12-2016 16:56:12
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Snatch
เริ่มหัวข้อโดย: tutatoomtam ที่ 14-04-2017 12:12:00
ก้านนี่น่ารักเน้อะ  หวังว่าพ่อก้านจะใจอ่อนนะ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Snatch
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 17-07-2018 06:07:57
 :pig4: