รักใสปิ๊ง
ตอนที่ (15) เสี่ยงทาย
เมื่อเข้าสู่ช่วงสอบของนักเรียนแต่ละโรงเรียน นีออนเพียงสอบปลายภาคเพื่อจบระดับมัธยมต้น และเลื่อนระดับชั้นเข้าสู่มัธยมปลายในรอบเดียว แต่ของอุ้มรักสอบเพื่อจบการศึกษาระดับมัธยมตอนต้นโรงเรียนของตนเอง แล้วไปสมัครสอบเข้าโรงเรียนของนีออนอีกที
หลังจากที่การสอบวัดผลของโรงเรียนอุ้มรักสิ้นสุดลง โรงเรียนของนีออนก็แจ้งวันรับสมัครสอบเข้ามัธยมปลายมา แต่ผลการสอบของอุ้มรักยังไม่ออกทำให้ผอ.ของโรงเรียนอุ้มรักต้องเซ็นใบรับรองให้ไปก่อน ตอนที่ไปสมัครก็มีปิงกับหวินไปสมัครด้วยกัน รวมทั้งแสตมป์เองก็ด้วย ส่วนปันสมัครเข้าโรงเรียนสายอาชีพ เพราะอยากเรียนจบแล้วทำงานเลยไม่ต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ไหนอีก แต่ละคนก็ต่างเลือกหนทางที่เหมาะกับตนเองมากที่สุด
เมื่อวันสอบมาถึง คุณพ่อก็หยุดงานในสวนและเป็นคนพาอุ้มรักไปสอบ คุณแม่กับพี่ๆรออยู่ที่บ้าน นีออนบอกว่าตอนพักทานข้าวจะไปหาให้อุ้มรักตั้งใจทำเต็มที่ พอถึงโรงเรียนคุณพ่อก็ลงมาอยู่เป็นเพื่อนอุ้มรักก่อนเวลาสอบ อาจารย์คุมสอบมาหลังจากนั้นนานพอดู ยิ่งรอเวลาอุ้มรักยิ่งรู้สึกกดดัน ก่อนเข้าห้องสอบคุณพ่อจึงให้กำลังใจอุ้มรักอีกครั้ง
“ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้นนะอุ้มรัก ลูกแค่ทำให้เต็มที่เท่าที่ลูกจะทำได้ก็พอ นะ”
“ครับพ่อ”
อุ้มรักพยักหน้ารับ สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วเดินเข้าห้องสอบไป คุณพ่อส่งอุ้มน้อยเข้าห้องสอบแล้วก็กลับบ้าน ถ้ารออุ้มรักสอบเสร็จก็กินเวลานาน จึงจะย้อนกลับมาอีกทีตอนใกล้เที่ยงพร้อมกับนีออน
นีออนกลับมาที่โรงเรียนพร้อมพ่ออีกครั้ง ซื้อขนมมานั่งกินรอเวลาน้องพักทานข้าว พอใกล้จะบ่ายโมงอาจารย์ถึงได้ปล่อยให้พักทานข้าวได้ และกลับมาสอบอีกสองวิชาที่เหลือหลังทานข้าวเสร็จ เด็กนักเรียนที่มาสอบทยอยออกมาจากห้องสอบ อุ้มรักและเพื่อนตรงมาหาคุณพ่อกับนีออน ก่อนเพื่อนๆจะพากันแยกไปทานข้าวกับผู้ปกครองของแต่ละคน อุ้มรักทรุดนั่งข้างๆนีออนราวหมดแรง คุณพ่อนั่งลงข้างๆลูบศีรษะกลมอย่างให้กำลังใจ
“เดี๋ยวก็ผ่านไปแล้วลูก ตอนนี้เราไปทานข้าวกันก่อนนะ เติมพลังแล้วค่อยกลับมาลุยใหม่”
สองแฝดยิ้มให้คุณพ่อก่อนจะลุกตามกันไปหาร้านอาหารใกล้ๆนี้เพื่อทานกลางวันกัน วันนี้วันอาทิตย์ร้านอาหารของโรงเรียนจึงไม่มีใครเปิดสักร้าน นีออนกับอุ้มรักและพ่อจึงต้องเดินข้ามถนนไปทานที่ร้านข้าวใกล้ๆโรงเรียนแทน
พอไปถึงร้านอุ้มรักก็เกิดทานไม่ลงขึ้นมาดื้อๆ มันรู้สึกตื้อไปหมด ทั้งที่หิวแต่ก็ทานไม่ได้ คุณพ่อเลยสั่งก๋วยเตี๋ยวที่น่าจะทานง่ายๆมาให้ นีออนตักลูกชิ้นจากชามของตนเองให้น้อง ก่อนจะคีบลูกหนึ่งยื่นให้น้องอ้าปากรับ
“อ่ะ ออนให้ เพื่ออุ้มเลยน้า อ้าปากเร็ว”
“อุ้มอยากกินนะ แต่อุ้มกินไม่ได้อ่ะ”
อุ้มรักบอกเสียงเริ่มเครือ นีออนรีบวางตะเกียบที่คีบลูกชิ้นลงอย่างเร็วไว แล้วโอบตัวกลมๆของแฝดน้องโยกเบาๆ
“โอ๋ ไม่เอาน่า ไม่เครียดนะอุ้มนะ เรื่องแค่นี้เอง จิ๊บๆ” นีออนลูบหลังปลอบน้องที่สูดจมูกเบาๆ ทำท่าจะร้องไห้แล้วนั่น
“ไปล้างหน้าล้างตาหน่อยไหมอุ้ม เผื่อรู้สึกดีขึ้น” คุณพ่อเอ่ยแนะเมื่อเห็นลูกเครียด นีออนจึงรับหน้าที่ต่อ
“ป่ะ เดี๋ยวออนพาไป”
นีออนจูงมือน้องไปเข้าห้องน้ำของทางร้านอาหาร พอกลับออกมาอีกทีอุ้มรักก็แข็งใจทานไปได้ไม่กี่คำก็หยุด คุณพ่อไม่ได้ฝืนใจอีก เรียกเก็บตังค์แล้วพาลูกกลับเข้าโรงเรียนไปเพื่อทำการสอบวิชาที่เหลือ
กว่าอุ้มรักจะสอบเสร็จอีกทีก็เกือบสี่โมงเย็น นีออนก็นั่งเล่นนอนเล่นอยู่แถวนั้นกับพ่อรอน้อง พอหมดเวลาอาจารย์คุมสอบเก็บข้อสอบแล้วก็นัดวันประกาศผล และให้กลับบ้านได้ พออุ้มรักออกจากห้องสอบมามันเหมือนยกภูเขาออกจากอกเลยก็ว่าได้ คราวนี้เลยเดินยิ้มมาตั้งแต่หน้าห้องสอบจนมาถึงที่นีออนกับพ่อรออยู่ อุ้มรักลาเพื่อนๆแล้วขึ้นรถตรงกลับบ้านกัน ป่านนี้คุณแม่คงทำกับข้าวแสนอร่อยไว้รอแล้วล่ะ
------------------
หลังการสอบของอุ้มรักผ่านไป วันประกาศผลสอบนีออนกับอุ้มรักจึงให้พ่อพาไปทำบัตรประจำตัวประชาชนกันก่อน ผ่านวันเกิดของสองแฝดมาแล้ว แต่เพราะโรงเรียนยังไม่ปิดจึงทำให้ไม่สะดวกที่จะไปทำ วันประกาศผลตรงกับวันธรรมดาด้วยเลยได้ถือโอกาสไปทำพร้อมกัน
พอถ่ายบัตรประชาชนกันเรียบร้อยแล้วเอามาดูก็พากันขำหน้าตาตัวเอง ต่อจากนี้สองแฝดตัวน้อยก็มีคำนำหน้าว่านายกันแล้ว มันเหมือนก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอีกขั้นหนึ่ง
“หน้าอุ้มตลกอ่ะ อย่าให้ใครดูนะ เดี๋ยวเขาหัวเราะเอา”
นีออนเอาบัตรน้องมาดูหลังจากเดินลงมาจากที่ว่าการอำเภอแล้วหัวเราะคิกคัก อุ้มรักเลยแย่งบัตรของนีออนมาดูบ้างแล้วว่า
“หน้าตัวเองไม่ตลกเลยเหอะ เหมือนบ้านนอกเพิ่งเข้าเมือง”
“ยังไงอ่ะ?”
“ก็มันดูตื่นๆ เอ๋อๆ ไง ดูดิ”
มีชี้ให้พี่ดูด้วย นีออนทำเสียงเหมือนคำรามในลำคอ ก่อนจะวิ่งไล่อุ้มรักที่ก็รีบวิ่งไปหลบหลังคุณพ่อ พอเล่นหยอกกันจนถึงรถก็เลิกเล่น กลับมาดีกันอย่างเร็วไว คุณพ่อเอารถของพี่ไอรักมา สองแฝดเลยนั่งเบาะหลังแล้วคุยกันไปเรื่อยเมื่อพ่อออกรถ
“นี่ ว่าแต่บัตรนี่เราต้องซ่อนดีๆนะ เดี๋ยวพี่ไอเห็นต้องล้อเราแน่เลยอ่ะ” นีออนว่าแล้วหาที่ซ่อนในกระเป๋าที่อุ้มรักหิ้วมาด้วย
“นั่นสิ ออนน่ะแหละไปหัวเราะบัตรพี่ไอ คราวนี้อุ้มเลยต้องลำบากไปด้วยเลย”
อุ้มรักโบ้ยให้พี่ชายฝาแฝด ก็คราวที่เห็นบัตรประชาชนของพี่ไอ สองแฝดก็พากันหัวเราะท่าทางเด๋อๆของพี่ชาย เลยโดนคาดโทษว่าอย่าให้ถึงเวลาของน้องแฝดบ้างแล้วกัน ถ้าออกมาเอ๋อล่ะก็จะหัวเราะให้ฟันหัก
“โหย~ โทษกันหน้าตาเฉย ตัวเองน่ะหัวเราะเสียงดังกว่าเขาอีกเหอะ”
สองแฝดเถียงกันไปเรื่อย คุณพ่อแค่มองยิ้มๆเพราะเห็นจนชินแล้ว เหมือนจะทะเลาะกันตลอด แต่ก็รักกันดี
ออกจากที่ว่าการอำเภอมาคุณพ่อก็พาแฝดน้อยไปดูผลสอบของอุ้มรัก ผลที่ออกมาเกินกว่าที่คาดไว้เสียอีกเมื่ออุ้มรักสอบได้คะแนนอันดับต้นๆกันเลย ดูผลสอบแล้วก็ไปลงชื่อรายงานตัวกับอาจารย์ที่ห้องธุรการ อาจารย์บอกวันปฐมนิเทศนักเรียนใหม่แล้วก็เป็นอันเสร็จพิธี
ตลอดช่วงปิดภาคเรียน นีออนกับอุ้มรักอยู่ช่วยงานพ่อในสวนผลไม้ แต่ส่วนใหญ่แล้วก็ไม่ค่อยได้ช่วยอะไรสักเท่าไหร่ พี่ไอรักเสียมากกว่าที่ช่วยพ่อเยอะเลย พอเข้าสู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์คุณแม่ก็พาเข้าวัดเข้าวากัน ได้ไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนและพี่ๆตอนสงกรานต์กันบ้าง แต่ส่วนมากแม่จะพาไปช่วยงานบุญที่วัดมากกว่า ไปช่วยร้อยเซียมซีไว้สำหรับสอยดาวกัน ได้ของแล้วยังได้บุญอีกด้วย
ตอนเช้าไปทำบุญตักบาตร ส่วนตอนเย็นก็พากันไปสรงน้ำพระขอพร วันผู้สูงอายุกับวันครอบครัวก็รดน้ำดำหัวพ่อแม่ พากันนั่งรถไปที่บ้านปู่ ย่า ตา ยายด้วย เป็นการใช้เวลาช่วงเทศกาลเช่นทุกปีที่ผ่านมา
วันที่สองของงานสงกรานต์ ที่วัดจัดงานเพื่อต้อนรับคณะผ้าป่าจากเมืองกรุง ก็เป็นลูกหลานของที่นี่ ที่สำนึกรักบ้านเกิดพากันจัดขบวนผ้าป่าสามัคคีมาถวายวัด งานตอนกลางคืนเป็นที่เฮฮาสนุกสนาน เมื่อมีวงดนตรีลูกทุ่งมาแสดง มีสอยดาว เสี่ยงเซียมซี ทำบุญตักบาตรวันเกิด และขายดอกไม้ประดับที่เป็นเข็มกลัดติดเสื้อทำจากริบบิ้นหลากสีสัน เพื่อนำเงินเข้าวัดด้วย
หน้าวัดก็มีการละเล่นต่างๆมาดึงดูดลูกค้าตัวน้อย ทั้งสไลเดอร์ที่เป็นปราสาทเป่าลม ก็เป็นที่สนุกของเด็กเล็ก แต่ไม่ค่อยสนุกสำหรับพ่อแม่ที่ต้องจ่ายเงินเท่าไหร่ เด็กโตมาหน่อยก็ปาเป้า มีม้าหมุน มีขายอาหารการกินอีกมากมายด้วย
นีออนกับอุ้มรักได้รับมอบหมายหน้าที่ขายเข็มกลัดดอกไม้อีกหนึ่งปี เพราะคุณแม่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการของหมู่บ้าน เด็กตัวน้อยโทรหาเพื่อนให้มาช่วยขาย ปิงกับเซียนและแสตมป์รีบมาช่วย ขณะที่หวินและปันขอฉายเดี่ยวแบบเด่นๆ ขายดอกไม้มันไม่เหมาะกับคนหล่อ ไปปาเป้าโชว์สาวจะดีกว่า พอเห็นเพื่อนจะไปหลีหญิงนีออนเลยประเดิมดอกไม้ให้ไปคนละดอกเสียเลย แถมงานนี้ยังมีพี่ไทม์กับพี่น้ำที่ตามมาเที่ยวงานอีกด้วย ทำให้สองแฝดน้อยได้ผู้ช่วยมาเสียหลายคน ก็ใช้กันให้คุ้ม
นีออนแบ่งดอกไม้คนละถุงกับอุ้มรัก แล้วแยกกันไปขายคนละทาง ขายหมดแล้วค่อยมารวมตัวกันที่ร้านปาเป้าหน้าทางเข้าวัด เมื่อตกลงกันได้ก็ออกปฏิบัติการทันที เพราะคนที่ขายดอกไม้นี้ไม่ได้มีแค่สองแฝด ก็แบ่งๆกันไป เหมือนเป็นการให้วัยรุ่นหนุ่มสาวมีส่วนช่วยงานวัดไปในตัว
“ทำบุญด้วยกันไหมครับ ดอกไม้สวยๆดอกละยี่สิบบาทเท่านั้นครับ จะให้มากกว่านี้ก็ไม่ขัดศรัทธา มีมากให้มาก มีน้อยให้มากก็ไม่ว่ากันครับ”
เสียงเรียกลูกค้าของนีออนออกจะแปลกไปสักหน่อย เรียกรอยยิ้มจากพี่ๆน้าๆที่เดินผ่านเพื่อจะเข้าไปเที่ยวงานวัดได้เป็นอย่างดี เด็กตัวเล็กเป็นคนขายและติดดอกไม้ ส่วนพี่ไทม์ถือกล่องใส่เงินทำบุญ เซียนรับหน้าที่สอดส่ายสายตาหาลูกค้าไป พอเห็นใครที่ยังไม่ได้ติดดอกไม้ก็ชี้ให้นีออนเข้าไปหาเขา
“พี่ครับทำบุญไหมครับ ทำเยอะได้เยอะ สวย ๆ รวย ๆ หล่อ ๆ กันทุกคนเลยนะครับผม”
นีออนเข้าไปหาพี่ที่เดินกันมาเป็นกลุ่ม ดูลักษณะแล้วน่าจะใจบุญมิใช่น้อย และทุกคนในนั้นก็ได้ดอกไม้ติดเสื้อไปคนละดอกสองดอกตามศรัทธา เด็กน้อยวัยขบเผาะดูจะเป็นที่ถูกตาพี่ๆสาวประเภทสองเป็นยิ่งนัก เมื่อถูกหยิกแก้มไปเสียหลายทีแล้ว
“ขอบคุณครับ”
นีออนไหว้ขอบคุณพี่ๆที่ช่วยทำบุญ พวกพี่เขาก็เดินเข้าไปเที่ยวงานวัดกันต่อไป
“เรียกลูกค้าเก่งนะเรานี่” ไทม์เอ่ยแซวน้องที่ท่าทางกระตือรือร้นน่าดู
“อยู่แล้ว นีออนซะอย่าง”
นีออนทำยืดอกแล้วบอกอย่างมั่นใจเต็มที่ พี่ไทม์หัวเราะเบาๆกับท่าทางกวนๆนั้น พอเห็นชาวบ้านผ่านมาเด็กตัวเล็กก็รีบนำเสนอบุญให้ทันที มัวแต่ขายของกันอยู่สองคนเลยไม่ทันสังเกตเลยว่าผู้ช่วยอีกคนหาย พอรู้ตัวอีกทีก็เห็นผู้ช่วยเซียนถูกลากเข้าไปหน้าเวทีดนตรีเสียแล้ว
พอขายใกล้หมดแล้วนีออนกับอุ้มรักก็เอาเงินที่ขายได้ไปฝากแม่ไว้ก่อน ส่วนตัวเองก็ออกเที่ยว จุดแรกก็ไหว้พระทำบุญกันก่อน แล้วจึงไปแวะร้านนั้นออกร้านนี้กันสนุก น้ำโชว์หล่อปาเป้าเอาตุ๊กตามาให้น้องอุ้มรัก นีออนก็แอบแขวะเบาๆว่าเขาไม่เล่นตุ๊กตากันแล้ว เลยเกิดศึกพี่น้ำปะทะน้องบังอรขึ้น ก่อนที่ทุกคนจะพากันมาเสี่ยงเซียมซีเป็นการปิดท้าย
นีออนกับอุ้มใส่เงินทำบุญในตู้บริจาค แล้วเขย่ากระบอกเซียมซีได้มาคนละอัน เอาไปให้สามเณรน้อยที่อยู่ประจำจุดนั้นให้หาใบเซียมซีหมายเลขดังกล่าวมาให้
“อุ้มได้ใบที่เท่าไหร่อ่ะ ดีไหม?”
นีออนถามน้องเมื่อเดินออกมาแล้ว เพื่อนๆพี่ๆก็ได้มาคนละใบ ดีมาก ดีน้อยก็ว่ากันไป
“ใบที่ 24 อ่ะ ดีอยู่นะ ของออนล่ะ?” อุ้มรักบอกแล้วให้นีออนดู ก่อนจะถามกลับ
“ใบที่ 19”
“อ่านดิ๊”
ใบสิบเก้า สิ้นทุกข์ สุขสุดยอด
จะอยู่รอด ปลอดภัย ดังคำขาน
ทุกทิวา ราตรี ล้วนเบิกบาน
ลาภและงาน พร้อมยศฐา พาสุขใจ
ทั้งคู่ครอง เป็นคนดี อย่างที่สุด
สามเดือนผุด เป็นเนื้อคู่ ร่วมอาศัย
หากพบแล้ว ได้เห็น เป็นบุญใจ
พูดกับใคร ก็อ่อนน้อม พร้อมไมตรี
ฯลฯเสี่ยงเซียมซีกันแล้วเด็กน้อยก็พากันขายดอกไม้ที่เหลือต่อ พอเหลือดอกสุดท้ายนีออนเลยว่าจะซื้อเอาไว้เอง
“ดอกสุดท้ายเขาว่าแฟนหล่อใช่ไหม?”
“เฮ้ย!”
ตัวเล็กถามขึ้นมาทำเอาเพื่อนถึงกับอุทานเสียงดังกับมุกที่นีออนเล่น ก่อนจะพากันหัวเราะ นีออนเอาเข็มกลัดดอกไม้ออกมาจากถุง แล้วเอาไปติดให้พี่ไทม์แทน
“ดอกสุดท้ายเขาว่าจะได้แฟนน่ารักนะ ชื่อขึ้นต้นด้วยตัวอ.อ่าง ตัวเล็กๆ ขาวๆ ตาชั้นเดียว อายุห่างกันสักสองปีกำลังดี ฟันเฟิร์ม!!”
“โห อาจารย์ออมรักมาเองเลย”
เพื่อนเอ่ยแซวแล้วหัวเราะอีก เมื่อนีออนเอาวลีเด็ดของอาจารย์ดังมารวมกันในคำเดียวแล้วทำนายทายทักให้พี่ไทม์เสร็จสรรพ
“แล้วตอนนี้ผมได้เจอคนนั้นรึยังครับอาจารย์?”
ไทม์เองก็เล่นด้วย นีออนอมยิ้มก่อนจะทำท่าทางเป็นการเป็นงานแล้วบอก
“เหมือนจะเจอแล้วนะ ดูแลเขาให้ดีๆล่ะ”
“ที่สุดเลยครับผม”
แอบหยอดกันเองจนโดนเพื่อนโห่ แต่นีออนก็ยังหัวเราะ พอขายดอกไม้หมดแล้วเด็กๆจึงไปดูวงดนตรีลูกทุ่งเขาร้องเพลงกัน เมื่อเริ่มดึกแล้วก็พากันกลับบ้าน โดยที่ไทม์กับน้ำก็กลับมาที่บ้านของน้องแฝดด้วยเพราะจอดรถไว้ที่นั่น ก่อนที่สองหนุ่มจะลากลับ
พี่ทั้งสองคนกลับไปแล้ว นีออนกับอุ้มก็ขึ้นบ้านไปอาบน้ำกันอีกรอบก่อนเข้านอน สองแฝดเอาเซียมซีมาเปลี่ยนกันอ่าน ก่อนที่จะปิดไฟนอน นีออนก็แย่งน้องตุ๊กตาตัวนุ่มที่อุ้มรักได้จากพี่น้ำมานอนกอด เลยถูกน้องว่าไหนบอกไม่เล่นตุ๊กตาไง เด็กตัวเล็กก็ยิ้มแล้วดึงทั้งคนทั้งน้องตุ๊กตามากอดด้วยกันซะเลย
ทั้งคู่ครอง เป็นคนดี อย่างที่สุด
สามเดือนผุด เป็นเนื้อคู่ ร่วมอาศัย
หากพบแล้ว ได้เห็น เป็นบุญใจ
พูดกับใคร ก็อ่อนน้อม พร้อมไมตรี------------------
เมื่อความสุขจากงานเทศกาลจบลง ชีวิตวัยเรียนก็เริ่มต้นอีกครั้ง อุ้มรักไปปฐมนิเทศนักเรียนใหม่ พร้อมทั้งมอบตัวในวันเดียวกันนั้นเลย งานนี้คุณแม่เป็นคนจัดการให้ รุ่นพี่คณะกรรมการนักเรียนและครูอาจารย์มากล่าวต้อนรับและแนะแนวทางการศึกษากันเล็กน้อย มีกิจกรรมบันเทิงเล็กๆร่วมกัน ก่อนจะให้ไปดูห้องเรียนของแต่ละคน ทางด้านคุณแม่ผู้ปกครองก็ทำเรื่องมอบตัวนักเรียนใหม่กันไป
อุ้มรักกลับมาบ้านก็มาเล่าให้นีออนฟัง เหมือนที่นีออนเคยเล่าให้ฟังตอนเข้าม.ต้นที่โรงเรียนนี้ครั้งแรก และที่สำคัญทั้งสองคนได้อยู่ห้องเดียวกันสมใจ ขณะที่ปิงกับแสตมป์ได้อยู่อีกห้อง ส่วนหวินกับเซียนแยกเดี่ยวทั้งสองคน เซียนนี่ถึงกับจะขออาจารย์เปลี่ยนห้องใหม่ เพราะห้องที่อยู่ในตอนนี้มันจะต้องอยู่ไปทั้งสามปีที่เรียนมัธยมปลายเลยน่ะสิ แล้วแบบนี้ใครจะดูแลน้องแฝดล่ะ แย่แน่ๆ
พอถึงวันที่ต้องไปโรงเรียนวันแรกสองแฝดก็ตื่นเต้นกันใหญ่ เพราะไม่ต้องแยกกันลงแล้ว และพี่ไอรักกับพี่อุ่นก็เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันด้วย แต่มหาวิทยาลัยของพี่ๆยังไม่เปิด พี่ไอจึงแค่ขับรถมาส่งวันเปิดเทอมเท่านั้น
เมื่อมาถึงโรงเรียน อุ้มกับออนไหว้ขอบคุณพี่ที่มาส่งก่อนลงรถไป หน้าประตูทางเข้าพี่ไทม์กับพี่น้ำและเพื่อนๆน้องแฝดมาถึงก่อนแล้ว พอสองแฝดไปถึงจึงพากันเดินเข้าโรงเรียนไปพร้อมกันทั้งกลุ่ม ดูจะเป็นจุดสนใจอยู่มิใช่น้อย
น้ำที่เดินเกือบรั้งท้ายผ่อนฝีเท้าให้ช้าลงเพื่อจะเดินข้างๆน้องอุ้ม อุ้มรักเงยมองพี่แล้วยิ้มให้ ก่อนที่น้ำจะบอกกับน้อง คำพูดนั้นเรียกรอยยิ้มจากอุ้มรักได้เป็นอย่างดี
“ยินดีต้อนรับน้องอุ้มที่(น่า)รัก ครับผม”
TBC
จิ้มบวกขอบคุณทุกท่านค่า 
ขอบคุณความคิดเห็นและคำแนะนำเรื่องการใส่แว่นกับเรื่องเคืองตาด้วยค่ะ
ไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรกับเขา ฮะๆ
หยอดตาก่อนนอนพอตื่นมาลืมตาไม่ขึ้นอ่ะ ต้องรอสักพัก มันคงเป็นกระบวนการรักษาของมันเนาะ แต่หลักๆก็ดีขึ้นกว่าเดิมแล้วค่ะ
สปอยส์ตอนหน้า มีแขกรับเชิญพิเศษมาด้วยนะเออ เมื่อวานมัวไปวิ่งเล่นทู้น้องเขาเลยไม่ได้มาหาน้องแฝดเลย
แอบกระซิบว่าเป็นคู่ลูกชายของคุณนายแม่เจ้าของตลาดและตึกแถว (จะมีใครจำได้ไหมล่ะเนี่ย อิอิ)
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม 
วันใหม่ค่ะ