รักใสปิ๊ง
ตอนที่ (3) ต้นรัก
เพล้ง!!“นีออนนนนน”
“ออนเปล่าน้าาา”
เสียงวัตถุบางอย่างที่หล่นกระทบพื้นจนแตก ดังมาพร้อมเสียงเรียกชื่อคนต้นเหตุและคำปฏิเสธของคนที่ถูกกล่าวหาก็ตามมาเร็วไวพอกัน ช่วงเช้าวันหยุดสุดสัปดาห์ ร้านลายไทย ร้านอาหารของลุงไทยมักจะวุ่นวายเช่นนี้เสมอ ตั้งแต่ฝาแฝดออมรักและอุ้มรักมาช่วยงานที่นี่ ก็ดูเหมือนว่าจะคึกคักกว่าเดิมเยอะ เพราะเสียงถกเถียงของเจ้าของร้านและหลานชายฝาแฝด
ภายในห้องครัว บนพื้นห้องปรากฏสภาพของสิ่งที่เคยเรียกว่าจานนอนนิ่งเป็นเสี่ยงๆ ไม่ไกลจากนั้นเด็กผู้ชายตัวอวบก็ยืนมองสิ่งนั้นตาปริบๆ โดยมีแฝดผู้พี่จับต้นแขนไว้ ลุงไทยมองหลานแฝดหน้าดุ
“เราจะมาช่วยงานร้านลุง หรือจะมาพังร้านลุงกันแน่นีออน”
“อะไรอ่ะ ออนไม่ได้ทำนะ” นีออนปฏิเสธเสียงแข็ง เขาโดนปรักปรำ!!
“ไม่ต้องมาปฏิเสธ”
ลุงไทยยังเชื่อมั่นว่าต้องเป็นนีออนนี่ล่ะที่เป็นคนทำ ทีแรกลุงแกให้สองแฝดช่วยล้างผักหั่นหมูไปเรื่อย ไม่ให้ยกอาหารไปเสิร์ฟ เดี๋ยวซุ่มซ่ามไปได้ทำน้ำแกงรดหัวแขกเข้า แต่พอให้หั่นหมูหั่นผักอะไรไปก็ทำมีดบาดมืออีก เลยเปลี่ยนมาให้ล้างจาน คราวนี้อย่าให้พูด แตกไม่เว้นแต่ละวัน กลัวว่าจานร้านลุงมันจะเก่าใช่ไหมเจ้าแฝดจอมป่วน
“ไม่ปฏิเสธได้ไง ออนแพ้น้ำยาล้างจานเนี่ยดูสิ มือลอกแดงไปหมดแล้ว ออนไม่ได้ล้าง!!”
เด็กชายออมรักเถียงขาดใจ มียื่นมือแดงๆให้ลุงไทยดูด้วย พอเห็นว่าหลานมือลอกจริงๆ ลุงไทยจึงมองกราดไปทั่วห้องครัว ทุกคนที่อยู่ในนี้ต่างพากันหลบตา ถึงไม่ได้เป็นคนทำแต่ก็เกรงสายตาลุงแกทั้งนั้น
“อุ้มเป็นคนทำจานแตกเองครับ อุ้มขอโทษ”
อุ้มรักไหว้ขอโทษลุงอย่างรู้สึกผิด เขาไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นแบบนี้ แต่มันก็พลาดอ่ะ ลุงไทยมองหน้าเจ้าแฝดคนน้องแล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ว่าไม่ลง ถ้าเป็นเจ้าแสบอย่างนีออนก็ว่าไปอย่าง ไม่ใช่รักหลานไม่เท่ากันหรอก แต่อุ้มรักอ่อนไหวกว่านีออน ถ้าว่ากันตามจริงระหว่างอุ้มรักถูกดุ กับนีออนถูกดุ ผลลัพธ์มันต่างกันแน่ๆ
ป้าน้อยที่กล่าวขอโทษลูกค้าถึงเรื่องเสียงดังโครมครามที่มันดังไปถึงด้านนอกแล้วเดินเข้ามาในห้องครัวที่กำลังเกิดเหตุ เข้าไปถามไถ่หลานชายของสามีอย่างเป็นห่วง
“นีออน อุ้ม ไม่เป็นอะไรใช่ไหมลูก ไม่โดนบาดตรงไหนใช่ไหม?”
ป้าน้อยสำรวจเนื้อตัวสองแฝด นีออนกับอุ้มส่ายหน้าว่าไม่เป็นไร เข้าไปกอดเอวอ้อนป้าน้อยคนละข้าง
“น้อย ผมกำลังจะสั่งสอนเจ้าแฝดนี่ คุณกลับไปเข้าข้างมันอีกนะ อย่างนี้มันถึงได้ใจ”
ลุงไทยเท้าสะเอวทำหน้าหน่ายใจกับการเอาอกเอาใจกันของป้าหลาน มีคนคอยหนุนอย่างนี้สิ เจ้าแฝดมันถึงได้ดื้อแบบนี้
“ไทยก็อย่าดุหลานนักเลย พวกเขายังเด็กนะ”
ป้าน้อยปรามสามีเบาๆ นีออนกับอุ้มพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับป้า เรายังเด็กนะครับลุง ป้าน้อยหันไปพยักหน้าสั่งพนักงานในครัวให้ไปทำหน้าที่ของตนเองได้แล้ว และบอกให้น้ำที่เดินเข้ามาพอดีเอาไม้กวาดกับที่โกยขยะมาจัดการเก็บกวาดจานที่แตกไป เด็กน้อยทั้งสองมองป้าน้อยสั่งงานอย่างฉับไวแล้วก็ทึ่ง หญิงเก่งแห่งสยาม ว่าไปนั่น
“ที่จานชามมันแตกแบบนี้ แทนที่คุณจะดุเด็ก น่าจะดูก่อนนะว่าเขาโดนเศษมันบาดเอารึเปล่า หรืออะไร เรื่องอื่นมันค่อยๆสอนกันไปก็ได้ เอาแต่ดุอย่างเดียว หลานมันกลัว แต่มันจะไม่รักรู้ไหม”
เด็กน้อยจอมป่วนพากันพยักหน้ารัวๆว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆนะเออ ลุงไทยมองแล้วก็หมั่นไส้ แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะภรรยาสุดที่รักอยู่ตรงนี้ด้วย
“นีออน”
ป้าน้อยเรียกนีออนที่ทำหน้าตาทะเล้นใส่ผู้เป็นลุงที่ก็แยกเขี้ยวกลับมาให้หลานตัวแสบ อุ้มรักแอบหัวเราะพี่ชายเบาๆ พอถูกเรียกเด็กชายออมรักจึงหันมาให้ความสนใจป้าอีกครั้ง
“ครับ”
“แพ้น้ำยาล้างจานใช่ไหมลูก ทำไมไม่ใส่ถุงมือล่ะครับ?”
“ออนเคยใส่แล้ว แต่ออนก็แพ้ถุงมือด้วยอ่ะครับ มันกัดมือออนเป็นรูเลย” นีออนอธิบายที่มาที่ไป
“มากไปๆ” ลุงไทยรีบแย้งทันที อะไรมันจะบอบบางขนาดนั้นหลานตู
“จริงๆนะ ไม่เชื่อลุงดู ยังมีรอยอยู่เลย”
นีออนยื่นมือให้ลุงดูอีก ไม่ใช่ว่าเขาขี้เกียจไม่อยากทำถึงได้อ้างโน่นอ้างนี่นะ ถึงความจริงมันจะเป็นแบบนั้นก็เถอะ พอเห็นว่ามือหลานแพ้อย่างที่ว่าจริงๆลุงไทยก็ถอนหายใจ บอบบางจริงๆนั่นล่ะ แล้วจึงไม่ได้เอ่ยแย้งอะไรออกไปอีก
“เอาอย่างนี้ ป้าว่านีออนกับน้องอุ้มไปอยู่หน้าร้านดีกว่า ไปขายไก่ทอดเหมือนทุกทีที่มาแหละดีแล้ว ถ้าว่างๆจะได้มีเวลาทำการบ้านด้วยดีไหม?”
ป้าน้อยเสนอทางออกให้สองแฝด ทุกทีที่มาช่วยก็ให้อยู่หน้าร้าน แต่นี่ลุงไทยนึกยังไงไม่รู้ให้มาอยู่หลังครัวแบบนี้ จะแกล้งหลานงานเข้าตัวเองเสียอย่างนั้น
“มันต้องอย่างนี้สิครับป้าน้อย คนหน้าตาดีมันต้องอยู่หน้าร้านเนอะ ให้มาทำอะไรไม่รู้ในครัวเนี่ย ไม่ไหวๆ โอ๊ย!”
ด้วยความหมั่นไส้เกินจะทน ลุงไทยเลยเขกหัวแฝดตัวพี่ไปที แล้วหันไปพูดกับหลานแฝดคนน้อง
“อย่าเอาอย่างพี่แกนะอุ้มรัก หนอย ยอกย้อนล่ะที่หนึ่ง เดี๋ยวจะใช้งานให้หนักเลย”
“ง่า ป้าน้อยยย” เด็กป่วนรีบหาพวกทันที ป้าน้อยกับอุ้มหัวเราะ ก่อนที่ป้าจะติงสามีกลั้วหัวเราะอีกหน
“ไปแกล้งหลาน เอ้อ”
จากนั้นป้าน้อยก็พาเด็กป่วนออกไปหน้าร้าน ที่ร้านลายไทยนี้ขายไก่ทอดสูตรเด็ดที่หน้าร้านด้วย เผื่อคนที่เขาไม่ได้เข้ามาทานในร้านอยากซื้อกลับไปทานที่บ้านจะได้สะดวก ทำเป็นล็อคไม่ใหญ่มาก ตกแต่งให้ดึงดูดลูกค้าเล็กน้อย ลูกค้าในย่านนี้ส่วนมากก็จะรู้จักร้านลายไทยเป็นอย่างดี แวะเวียนมาซื้อมาหากันอยู่บ่อยๆ บางทีกลับมาจากที่ทำงานแล้วหิวก็สั่งเมนูง่ายๆทานกัน หรือไม่ก็ไก่ทอดสูตรเด็ดกับน้ำจิ้มและข้าวเหนียวก็พอได้อยู่ รวดเร็วทันใจดี
ลุงไทยยืนดูเขาเก็บกวาดเศษจานที่หลานแฝดทำแตกไว้ ให้พวกนั้นไปอยู่หน้าร้านก็ดี ข้าวของจะได้ไม่แตกเสียหายอีก ปวดหัวกับตัวป่วนนี่จริงๆ
--------------------
“นี่ น้องบังอร ถามจริงว่าชื่อนีออนนี่ได้มายังไง ทำไมน้องอุ้มถึงได้ชื่อไท้ไทย”
ช่วงพักกลางวัน น้ำ ไทม์ และสองแฝดที่เริ่มสนิทกันขึ้นมาอีกนิดกำลังทานข้าวกันอยู่ในครัว ต้องสลับกับพี่คนอื่นในร้าน เพราะลูกค้าเข้าร้านอยู่เกือบตลอด ตอนนี้ถึงเวลาทานข้าวของกลุ่มนี้แล้ว น้ำที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับนีออนน้อยเอ่ยถามด้วยความแคลงใจ ก่อนจะตอบ แทนที่นีออนจะมองคนถามอย่างน้ำกลับเหลือบมองพี่ไทม์ที่นั่งอยู่ข้างพี่น้ำก่อนเสียอย่างนั้น
“ผมก็ชื่อไทยนะ”
“บังอรอ่ะเหรอ?” น้ำยังไม่เลิกกวน ยักคิ้วจึ้กๆให้เด็กตัวเล็กที่ทำหน้าหน่ายใจส่งมาให้ด้วย
“ชื่อ ออมรัก”
นีออนบอกออกไปแล้วน้ำก็พยักหน้า ส่วนไทม์แค่แอบอมยิ้มแล้วตักข้าวทานต่อ
“ทำไมไม่ชื่อว่าออมล่ะ?” คนนี้ก็ยังสงสัยไม่เลิก จะเอาอะไรกับชื่อผมนักหนาครับพี่
“ไม่เอาอ่ะ ชื่อมันเหมือนคนข้างบ้าน ผมไม่ค่อยชอบหน้าเขาเท่าไหร่”
คราวนี้ไทม์แทบจะหัวเราะออกมากับเหตุผลของน้องตัวเล็ก แต่น้ำนี่ขำไปแล้ว เหตุผลเกรียนมากอ่ะนีออน
“เลยเปลี่ยนมาเป็นนีออน?”
“เปล่า ทีแรกแม่จะให้ชื่ออ้อน” พอถามตอบกันไปมาก็ชักจะสนุกตามพี่น้ำไปเสียแล้ว นีออนเลยไม่อิดออดที่จะเล่าให้ฟัง
“ก็น่ารักดีนี่ น้องอ้อน”
ไทม์เปรยขึ้นมาเบาๆ แต่คนตัวเล็กก็ยังได้ยินแล้วแอบเขิน น้ำกระแอมขัดจังหวะความเขินของนีออน ใช้มือโบกปัดอากาศไล่ความหวานแถวๆนี้ นีออนจึงกลับมาให้ความสนใจพี่น้ำสุดฮอตต่อ
“ชื่อมันเหมือนผู้หญิงไปไง ผมเลยไม่เอา”
“เรื่องมากจังวะ”
“อะไรเล่า”
น้ำแกล้งว่า เด็กตัวเล็กก็ชักสีหน้าใส่ อุตส่าห์เล่าให้ฟัง
“แล้วเมื่อไหร่มันจะถึงชื่อนีออนสักที?”
“ก็กำลังจะเล่าอยู่นี่ไง พี่น้ำนี่ชอบขัดจัง”
“อ้าว ผิดอีก”
นีออนน้อยกับพี่ๆนั่งคุยกันอยู่สักพัก เด็กตัวเล็กก็มองหาน้อง บอกจะไปเข้าห้องน้ำยังไม่กลับมาอีก แต่พอคิดว่าจะลุกไปตามอุ้มรักก็วิ่งเข้ามาหาพอดี หน้าตาตื่นๆนั่นทำให้นีออนขยับลุก เกิดเรื่องแล้วใช่ไหม
อุ้มรักเข้าไปกระซิบกับพี่ชาย ไทม์กับน้ำมองพี่น้องเขางงๆว่ามีอะไรเกิดขึ้น เพราะพออุ้มกระซิบบอกนีออนก็มองน้องสีหน้าเครียด เด็กชายตัวอวบพยักหน้าให้พี่ สีหน้าเครียดไม่แพ้กัน นีออนคว้าแขนน้องแล้วพาเดินออกไปด้านหลังร้านในทันที น้ำกับไทม์มองหน้ากันก่อนจะลุกตามฝาแฝดเขาไปด้วย
เมื่อออกมาหลังร้านที่เป็นพื้นที่โล่งกว้างพอสมควร นีออนดึงแขนอุ้มรักให้เดินตรงไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่แถวนั้น เข้าไปหยุดในระดับสายตาแต่ไม่ใกล้เกินไปนัก เหม็นบุหรี่จะแย่ หน้าตาแย่แล้วยังสูบบุหรี่อีก เจริญล่ะ
“อ้าว ว่ายังไงครับน้องออน น้องอุ้ม?”
ผู้ชายคนนั้นเอ่ยทัก โยนก้นบุหรี่ลงพื้นแล้วใช้เท้าบี้เพื่อดับไฟ หน้าตาออกจะกะลิ้มกะเหลี่ยไม่น้อย แค่เห็นก็ทำให้นีออนขนลุกได้แล้ว อี๋
“เมื่อกี้พี่ลวนลามน้องผมในห้องน้ำใช่ไหม?”
นีออนยิงตรงคำถามอย่างไม่ต้องอ้อมค้อมรักษาหน้าใคร เพราะตรงนี้ก็มีพี่พนักงานคนอื่นอยู่ ถึงจะแค่เอาขยะมาวางรอทิ้งก็เถอะ แต่คำพูดของนีออนน้อยก็ทำให้พี่คนนั้นหยุดเท้าไม่เดินเข้าไปด้านในร้าน แม้แต่ไทม์กับน้ำที่วิ่งตามสองแฝดออกมาก็ถึงกับชะงักกับคำถามของนีออน สองหนุ่มมองหน้าพี่ผู้ชายคนที่ถูกกล่าวหาทันที
“พูดเรื่องอะไรกันครับน้องนีออน พี่น่ะหรือจะทำอะไรแบบนั้นกับน้องอุ้มได้ เข้าใจผิดแล้วมั้ง”
นายคนนั้นยังปฏิเสธหน้าตาย มองน้องอุ้มที่ยืนอยู่ข้างนีออนยิ้มๆ ท่าทางกับคำพูดต่างกันขนาดนี้ ถ้าเชื่อคงโง่มากอ่ะ
“เข้าใจไม่ผิดหรอกครับ ใช่ไหมอุ้ม?”
“อือ” อุ้มรักตอบรับเบาๆ ไม่กล้ามองหน้าพี่ผู้ชายคนนั้น มันรู้สึกรังเกียจมากกว่าอย่างอื่น
“เขาทำอะไรอุ้มบ้าง พูดออกมาสิ”
อุ้มเงยหน้ามองพี่ชายฝาแฝดทันที ขมวดคิ้วเป็นเชิงถามว่าจะเอาจริงหรือ นีออนก็พยักหน้าให้พูด ตอนนี้มีพยานถึง3คน เราไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ไทม์กับน้ำนิ่งรอฟังที่น้องอุ้มจะพูด พี่คนที่มาทิ้งขยะก็ยังยืนกอดอกดูสถานการณ์อยู่ที่เดิม มันไม่น่าเอ่ยถึงเท่าไหร่ แต่นีออนก็บีบมือให้ความมั่นใจ อุ้มจึงอ้อมแอ้มบอก
“เขา... บีบก้นอุ้มอ่ะ แล้วก็…”
“เฮ้ย! น้ำ ฟังน้องพูดก่อน”
พอได้ยินน้องอุ้มบอกแบบนั้น น้ำก็จะพุ่งเข้าใส่คนทำทันที ไทม์ต้องรีบดึงเพื่อนไว้ก่อนที่จะเกิดเรื่องมากไปกว่านี้
“แค่นี้ก็พอแล้วเว้ย ยังจะให้น้องอุ้มพูดมากกว่านี้อีกเหรอว่าไอ้เหี้ยนี่มันทำอะไรน้องบ้าง!”
น้ำฮึดฮัดสะบัดตัวออกจากการจับกุมของเพื่อน มองผู้ชายคนนั้นตาขวาง เขาเชื่อแน่ว่าอุ้มพูดจริง แค่ดูลักษณะภายนอกก็รู้แล้วว่าใครถูกใครผิด
“เด็กน้อเด็ก เชื่ออะไรกับคำพูดของเด็กน่ะฮึ นี่น้องอุ้ม มาปรักปรำพี่โดยไม่มีหลักฐานไม่ได้นะครับ แม้แต่พยานสักคนน้องก็ไม่มี แบบนี้พี่เสียหายนา”
“ไอ้…” น้ำอยากจะด่าอะไรที่มันแรงๆแต่ก็นึกคำด่าไม่ออก คำไหนก็คงไม่ทำให้ไอ้คนนั้นมันเจ็บหรอก
ผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามาหาอุ้มรักกับนีออน นีออนดันน้องให้หลบหลัง แล้วปัดมือของมันที่ยื่นมาจะแตะต้องน้องของตนเอง รอยยิ้มเยาะหยันน่ารังเกียจปรากฏบนริมฝีปากชายคนนั้น จนน้ำแทบจะทนไม่ไหว เท้ากระตุกอยากเอาไปนาบหน้ามันจริงๆ
“ผมว่าถ้าพี่เป็นผู้ใหญ่พอ พี่คงไม่ทำแบบนี้หรอกครับ ไม่ยอมรับความผิดของตัวเองแถมยังโยนความผิดนั้นให้ผู้เสียหายอีก มันเป็นพฤติกรรมที่ต่ำมากครับ”
ไทม์เข้าไปยืนข้างนีออนแล้วพูดเสียงนิ่ง น้ำเสียงมันฟังดูธรรมดา แต่กะจะด่าเต็มๆ
“นี่น้อง มาใหม่ก็อย่าทำเป็นซ่า เดี๋ยวจะได้กระเด็นออกจากร้านนี้ไม่รู้ตัว!”
“ผมรู้ครับว่าพี่ใหญ่คับร้าน แต่คงไม่ใหญ่เท่าเจ้าของร้านอย่างลุงไทยหรอกมั้งครับ?”
ไทม์ยังคงพูดนิ่งๆตามเดิม ตอนเข้ามาที่ร้านนี้ทีแรกเขาก็โดนพี่ผู้ชายคนนี้เขม่น ทำเหมือนว่าตัวเองใหญ่สุดในร้าน ทุกคนต้องเชื่อฟัง แต่เผอิญว่าน้ำเพื่อนของเขาเป็นพวกมุทะลุ จนเคยเกือบมีเรื่องกันมาแล้ว ถ้าครั้งนี้เลี่ยงได้เขาก็อยากให้น้ำอดทนอีกนิด ให้ผู้ใหญ่ด้วยกันจัดการน่าจะดีกว่า
“เฮอะ! นี่แหละเด็ก ขี้ฟ้อง” ผู้ชายคนนั้นทำเสียงเยาะ เขาล่ะเกลียดไอ้เด็กหน้าหล่อนี่จริงๆ
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ ถ้าพี่ไม่ได้ทำก็ไม่จำเป็นต้องกลัวนี่ ลุงไทยคงมีเหตุผลมากพอ”
“หาหลักฐานมายืนยันให้ได้ก่อนดีไหม ร่องรอยที่ถูกกระทำมีหรือเปล่าเถอะ”
ทางนั้นร้องท้า อุ้มรักถึงกับอึ้ง ร่องรอยมันจะไปมีได้ยังไง หรือถึงมีจริงอุ้มไม่ต้องแก้ผ้าพิสูจน์เลยหรือ นีออนดึงตัวกลมมากอด มองหน้าไอ้พี่คนพูดอย่างโกรธจัด ก่อนที่ทั้งหมดจะหันเหสายตาไปยังคนที่ก้าวออกมาบังด้านหน้างงๆ
“พี่ครับ”
น้ำเอ่ยเรียกผู้ชายคนนั้นที่มองมาที่เขาอย่างงงงันไม่แพ้กัน ใจจริงไม่อยากเสียปากเรียกมันว่าพี่เลยให้ตายเถอะ ไทม์ดึงแขนเพื่อนไว้แต่น้ำสะบัดออก ก้าวเข้าไปหาชายคนนั้นด้วยใบหน้าท่าทางกวนอารมณ์
“พี่อยากได้ร่องรอย อยากได้หลักฐานใช่ไหม ได้... ไอ้น้ำจัดให้!!”
ผลัวะ!!
“พี่น้ำ/น้ำ!!!!!”
-----------------
ภายในห้องทำงานที่บ้านลุงไทย ที่อยู่ไม่ไกลจากร้านนัก ด้านหน้าโต๊ะมีน้ำและพี่คนนั้นยืนอยู่ สภาพใบหน้าที่ฟกช้ำและปากแตกคงฟ้องอาการของพี่ผู้ชายได้ดี พอลุงไทยได้รับแจ้งจากพนักงานของร้านที่เอาขยะไปทิ้งด้านหลังร้านว่าเกิดเรื่องจึงได้รีบไประงับเหตุ และพาบรรดาตัวต้นเหตุทุกคนมาที่บ้านเพื่อสอบสวนกัน
นายยศ พนักงานเก่าแก่ของร้าน อยู่ที่ร้านลายไทยมาหลายปี มีประวัติเรื่องยกตนข่มท่านมาให้ได้ยินบ่อย ลุงไทยแกก็ตักเตือนไปก็ดูจะดีขึ้นไม่มีใครมาร้องเรียนเรื่องนั้นอีก หรือที่จริงมีแต่ไม่กล้าพูดก็ไม่รู้ จนวันนี้ล่ะ ที่เรื่องมันเกิดกับหลานชายของลุง ลุงไทยซึ่งเป็นคนกลางก็ต้องให้ความยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย หากผิดก็ว่ากันไปตามผิด
“ลุงต้องจัดการเด็กพวกนี้ให้ผมนะ”
นายยศฟ้องให้เอาผิดกับพวกน้ำ ตั้งแต่เข้ามาในบ้าน คนที่เอาแต่พูดอยู่คนเดียวก็มีแต่ยศเท่านั้นล่ะ พวกเด็กขี้ฟ้องยังไม่ได้พูดสักแอะเดียว น้ำทำลอยหน้าไม่สนใจต่อเสียงนกกา เขาสะใจเสียอย่าง เรื่องอื่นไม่สนอยู่แล้ว
“ว่ายังไงนีออน อุ้ม เรื่องทั้งหมดมันเป็นแบบที่ยศเขาพูดมาไหม เราสองคนยุให้น้ำทำร้ายเขาจริงหรือเปล่า?”
“เห็นไหม บอกแล้วว่าลุงต้องไม่เชื่อเรา” นีออนกอดอกทำปากยื่นแก้มพอง ไม่พอใจในสถานการณ์สุดๆ
“ก็แกยังไม่ได้พูดเลยนีออน”
“อ้าว? ออนก็ว่า ตั้งแต่เข้ามานี่เหมือนออนจะลืมปากไว้ที่บ้าน”
พอนีออนพูดกึ่งประชด บรรดาพรรคพวกเลยแอบหัวเราะ ลุงไทยมองเด็กหน้าเป็นดุๆ แต่นีออนน้อยกลับทำเป็นไม่เห็นยังยิ้มเฉย ลุงแกเลยต้องยอมแพ้กับลูกเล่นตัวแสบ
“เอ้า มีอะไรจะบอก จะอธิบายว่ามาเลย แล้วลุงจะตัดสินเองว่าใครผิด ใครถูก”
พอลุงเปิดโอกาสให้พูด อุ้มจึงเป็นคนอธิบายเรื่องความเป็นมาเป็นไปทุกอย่าง โดยมีนีออนคอยเสริมในบางช่วง อุ้มบอกว่าพี่ยศคนนี้เคยทำคล้ายๆกันนี้กับอุ้มมาหลายครั้ง เรียกได้ว่าทุกครั้งที่อุ้มมาที่ร้านต้องคอยหลีกเลี่ยงพี่คนนี้ตลอด ก่อนนี้อุ้มยังเด็กก็ได้แค่กลัวและไม่บอกใคร แต่พอทำอย่างนั้นมันกลับทำให้อุ้มต้องระแวงอยู่ตลอดเพราะไม่มีใครรู้เห็น จนมาวันนี้ที่มันมากขึ้นกว่าก่อนที่แค่แอบแตะ แอบสัมผัสเหมือนไม่ตั้งใจ คราวนี้มันตั้งใจที่จะทำมากๆ ถ้าวิ่งออกมาไม่ทันอุ้มอาจจะ...
“พอก่อนอุ้ม”
ลุงยกมือห้ามอุ้มไม่ให้พูดต่อ นวดขมับเบาๆเมื่อฟังที่หลานบอก เรื่องมันเกิดขึ้นใต้จมูกลุงแกแท้ๆ แต่ลุงกลับไม่เคยรู้ ลุงไทยกวักมือเรียกไทม์ให้มาหา
“ไทม์ ไปตามป้าน้อยมาที่นี่หน่อย”
“ครับ”
ไทม์รับคำก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ลุงไทยหันกลับมามองนายยศ
“ยศ…”
“มันไม่จริงนะลุง ถึงผมอาจจะไม่ใช่คนดีนัก แต่นี่มันหลานชายลุงแท้ๆ ผมไม่มีทางทำแบบนั้นหรอก ลุงต้องเชื่อผมนะ” ยศละล่ำละลักบอก ก่อนที่ลุงไทยจะทันได้พูดอะไร
“อะไรวะ ทีเมื่อกี้แม่งโทษว่าหลานลุงยุยงให้กูต่อยปากมึง ไหงกลับคำง่ายขนาดนี้วะไอ้...”
น้ำหยุดปากไว้แค่นั้นเมื่อลุงไทยมองหน้า พูดคำหยาบต่อหน้าผู้ใหญ่ไม่ดี แถมด่ากันข้ามหัวผู้ใหญ่ยิ่งไม่ดี
หลังจากรออยู่ชั่วครู่ไทม์ก็พาป้าน้อยมาที่บ้าน ลุงไทยจึงบอกกับป้าให้ทำเรื่องจ่ายค่าจ้างของเดือนนี้ให้ยศ ไม่ต้องหักสักบาท และจ่ายค่าทดแทนและค่าทำขวัญไปด้วย ยศรีบโวยว่าลุงลำเอียงเข้าข้างหลานตัวเองโดยไม่มีความยุติธรรมให้กับเขา
“หลังจากนี้ เธอคงต้องหางานใหม่ ที่ที่เขาจะไม่เล่นพรรคเล่นพวกเหมือนร้านนี้ หลานฉัน ฉันก็รัก ใครหน้าไหนที่มันกล้ามาแตะ ฉันก็คงไม่เอาไว้ทำยาหรอก เชิญ”
ลุงไทยเอ่ยเสียงเรียบ สีหน้าไม่แสดงความรู้สึกว่ากราดเกรี้ยวหรืออะไร ยศมองทุกคนรอบห้องอย่างแค้นเคือง ก่อนจะโวยวายออกมา
“โธ่เอ๊ย! ร้านซังกะบ๊วยนี่ไม่อยู่ก็ได้ มีร้านหรูๆดีๆที่เขายังต้องการคนอย่างกูอยู่ตั้งเยอะ ไม่ง้อหรอกโว้ย!”
“ขอให้ไปดี” นีออนตะโกนไล่หลัง ไม่รู้อวยพรหรือแช่งกันแน่
ลุงไทยถึงกับต้องกุมขมับ มองเด็กทั้งหลายในห้องแล้วถอนหายใจ มีพวกนี้อยู่ แก่ลงอีกหลายปีเลยมั้งกู
------------------
เรื่องที่นายยศถูกให้ออกจากร้านนี้สะพัดทั่วร้านในเวลาต่อมา มีแต่คนโล่งใจที่นายคนนั้นไปจากที่นี่เสียได้ อยู่ไปก็คอยแต่จะรังแกคนอื่น มือไวล่ะที่หนึ่ง ไม่มีใครเอาเรื่องเพราะพูดไปก็เหมือนสายลมพัดผ่าน มันยังเกิดซ้ำๆจนเป็นเรื่องจำเจ แต่วันนี้ไม่ใช่ เพราะมีน้องฝาแฝดมาเลยทำให้นายยศกระเด็นออกจากร้านไปได้ น่าขอบใจน้องสองคนนี้จริงๆ
หลังเลิกงาน น้ำกับไทม์ก็เตรียมตัวกลับบ้าน รถของไทม์ออกตัวไปก่อน น้ำถึงได้ก้าวขึ้นนั่งรถของตนเอง ขณะที่กำลังจะใส่หมวกนิรภัย เสียงของอุ้มรักก็เรียกเอาไว้เสียก่อน
“พี่น้ำครับ”
น้ำหันไปมองน้องอุ้มวิ่งมาหา ลดหมวกในมือลง มองน้องที่มาหยุดยืนใกล้ๆ
“ขอบคุณมากนะครับ”
เด็กชายเอ่ยบอกกับพี่น้ำอย่างขอบคุณจริงๆ ถ้าแค่คำพูดของตนเองกับนีออนลุงอาจจะไม่เชื่อก็ได้ ยังดีที่มีพี่น้ำกับพี่ไทม์อยู่ด้วย โดยเฉพาะพี่น้ำที่ชกหน้าพี่คนนั้นไป อุ้มรักก็แอบสะใจเบาๆ
น้ำยิ้มให้น้องอุ้ม ขยี้ผมนิ่มของน้อง “มีอะไรก็บอกผู้ใหญ่ให้รู้ อย่าเก็บเอาไว้คนเดียวอีกนะรู้ไหม?”
พี่น้ำกลายร่างเป็นพี่น้ำที่แสนใจดี สั่งสอนน้องน้อยให้ได้รู้
“ก็อุ้มกลัวผู้ใหญ่ไม่เชื่อ” อุ้มรักบอกเสียงเบา น้ำยื่นหน้าเข้าไปในระดับเดียวกับน้องแล้วยิ้มบอกอย่างมั่นใจ
“เชื่อสิ ถ้าอุ้มพูดแต่ความจริง ใครก็ต้องเชื่ออยู่แล้ว คราวหลังต้องลองพูดดูก่อนนะ”
“ครับ”
อุ้มรักตอบรับและยิ้มให้ พอได้รอยยิ้มหวานๆกลับมาน้ำก็แอบคิด แหมะ เรานี่ก็เป็นคนดีเหมือนกันนะเนี่ย ก่อนจะใส่หมวกนิรภัยที่ถือค้างไว้เมื่อครู่ อุ้มถอยออกมาเล็กน้อยเมื่อพี่สตาร์ทรถ น้ำยกมือเป็นเชิงลา อุ้มก็โบกมือตอบ
“ขับรถดีๆนะครับ”
“ครับ เจอกันเสาร์หน้า” น้ำหันมาบอกน้องอีก ก่อนจะเคลื่อนรถออกไป
“ครับ เจอกัน”
รถมอเตอร์ไซค์ของน้ำขับออกไปแล้ว อุ้มรักมองตามแล้วก็ยิ้ม นีออนน้อยยืนกอดอกมองน้องชายฝาแฝดอยู่หน้าร้าน แล้วหัวเราะคึคึอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเดินลั้นลาเข้าร้านไป
‘ดูออกง่ายชะมัดเลยอุ้มรัก’
ว่าคนอื่นดูออกง่าย ตัวเองดูยากมากเลยนีออน
TBC• ขอบคุณทุกท่านที่แวะเวียนมาค่ะ จัดบวกตอบแทนน้ำใจไปทุกบวก
• ขอบคุณที่ชอบน้องอุ้มด้วยค่ะ