ความรัก
สามทุ่มกว่าแล้ว แต่สาวน้อยน่ารักต้องเดินออกมาเปิดประตูบ้านเพื่อดูว่าใครที่มากดออดอยู่หน้าบ้าน
“อ่าว...พี่นุช มาหาพี่มู่เหรอคะ เดี๋ยวนะ มินทร์เปิดประตูให้”
“ไม่ต้องหรอก ไปเรียกไอ้แก้มบวมนั่นมาหาพี่หน่อย” เด็กสาวทำหน้างง เป็นเชิงถามว่าเอาอย่างนั้นจริงเหรอ นุชก็แค่พยักหน้า ร่างบางของเธอจึงหมุนตัวกลับเข้าไปในบ้าน โดยที่นุชยืนพิงประตูบ้านของอีกฝ่ายนิ่งๆ
ไม่ถึงห้านาที
“อะไรของมึงเนี่ย มีไรโทรมาก็ได้” มู่เอ่ยทันที และรีบเดินมาหมายจะเปิดประตูรั้วอัลลอย แต่อีกฝ่ายพูดขัดมาเสียก่อน
“ไม่ต้องก็ได้ เดี๋ยวกูก็กลับแล้ว” มู่ขมวดคิ้ว
“แล้วมึงมีไร?”
“ค่ารถ ค่ากิน อ่อ...พรุ่งนี้จ่ายค่าเสื้อรุ่นที่ไอ้แบคด้วยนะ” ตังค์มันหมดครับ...
กูจะบ้า!
“รอเดี๋ยว” ร่างบางหมุนตัวแล้ววิ่งเยาะๆ กลับเข้าไปในบ้าน เหลือแค่นุชที่ยินเอามือข้างหนึ่งกำเหล็กอัลลอยที่ขวางกั้นทั้งคู่อยู่ เขามองบริเวณบ้านหลังนี้...
ไม่ได้เหยียบเข้าไปในบ้านหลังนี้มาสองปีแล้วสินะ มาก็แค่อยู่หน้าบ้าน ถ้าเพื่อนๆ ชวนมาเขาก็ปฏิเสธเสีย ไม่อยากรื้อฟื้นความรู้สึกบางอย่างที่พยายามเก็บไว้แม้มันจะไม่ได้มิดชิด แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำเลย
“มึงเอาไปเก็บเองดีมั้ยวะเนี่ย หมดทีก็ลำบากมาที ไม่ก็โทรมาบอกพรุ่งนี้กูเอาไปให้ที่สาขาก็ได้”
จะบอกได้ไหมนะว่า...อยากเห็นหน้าน่ะ“อ่ะ” มู่ส่งกระเป๋าเงินให้อีกฝ่าย การหลบสายตาของกันและกันเป็นเรื่องธรรมชาติที่ทำได้อย่างแนบเนียนไปแล้ว เมื่อนุชทำเป็นเปิดเอาเงินในกระเป๋า มู่ก็เลี่ยงด้วยการมองไหล่หนาของอีกฝ่ายที่สวมแค่เสื้อแขนกุดโชว์กล้ามแขนสวยล่อสายตาใครต่อใคร
“ตังค์กูมีเยอะขนาดนี้เลยเหรอวะ”
“ก็มึงแม่งใช้ห่าอะไรบ้างล่ะ” จริงๆ นะมู่แทบไม่เห็นว่านุชจะซื้ออะไรไปมากกว่า ข้าวสามมื้อ อะไรที่เกี่ยวกับการเรียน เสื้อผ้าก็นานชาติ เงินที่เอามาฝากเขาทุกเดือน หักค่าหอพักแล้วเหลือบานเบอะ...
เชื่อมันเลย...
นุชไม่พูดอะไร ดึงเอาแบงค์ย่อยออกไปไม่กี่ใบและแบงค์ใหญ่อีกสองใบจากนั้นก็ส่งกระเป๋าตังค์คืน
“กูกลับละ” นุชพยักหน้ายืนรออีกฝ่ายเดินห่างจากหน้าบ้านไป เพื่อไปหน้าปากซอยอีกไม่กี่สิบเมตร ถอนหายใจมองกระเป๋าสตางค์ในมือ ก่อนจะเปิดออกดูบ้าง
เงินของเขาน่ะไม่กี่พันหรอก... แต่ในซิปล็อคอีกชั้นไม่ต่ำกว่าสองหมื่นของไอ้ชะมด
เขาต้องเปลี่ยนกระเป๋าตังค์ใบใหม่มั้ย? มันพองๆ แล้ว หรือจะแบ่งเงินของนุชเก็บไว้ในบัญชีบางส่วนดี อย่างหลังน่าจะเวิร์ค เวลาต้องการก็ปาบัตรเอทีเอ็มให้มันเลย ว่าแต่.... บัตรไอ้หน้าหวานนั่นก็มี แต่มันรู้จักวิธีใช้หรือเปล่าเถอะ
รหัสเอทีเอ็ม...มันจำได้หรือเปล่า...“พี่มู่ โทรศัพท์พี่ดังสองสามครั้งแล้ว” เสียงของมินทร์ร้องเรียก ร่างบางมองไปตามทางเดินตรงหน้าอีกครั้งก่อนจะหมุนตัวเข้ามาในบ้าน...
“มันดังลั่นบ้านเลย” จะว่ามินทร์พูดเวอร์ก็ไม่ใช่หรอก เขาดันวางมือถือว่าที่โต๊ะรับแขกเอง ก็เมื่อกี้นั่งดูทีวีอยู่นี่
“ใครโทรมา”
“มินทร์ไม่รู้ ไม่ได้มอง โทรกลับไปเองแล้วกัน” น้องสาวว่า มู่แค่กดดูเบอร์
สองสายที่ไม่ได้รับ...
พี่อ้นงั้นเหรอ?
ไม่โทรอะ ไม่จำเป็นไรนิ
มู่ลี่คิดอย่างนั้น ก่อนจะวางมือถือไว้ที่เดิมแล้วนั่งลง แย่งรีโมทย์จากน้องสาวมาเปลี่ยนช่องหนีซีรี่ย์เกาหลีน่าเบื่อ เขาอยากดูหนังไซไฟร์สักเรื่องมากกว่า
“พี่มู่ น้องดูอยู่นะ” ว่าแล้วก็เกิดสงครามแย่งรีโมทย์กันไปมาพร้อมกับเสียงโวยวายลั่นบ้านของจริง คราวนี้คนที่มาห้ามทัพก็คือ...
“เอามานี่” มีร์เข้ามาแย่งรีโมทย์ไปถือแล้วกดมาที่ช่องยอดฮิตที่ใครๆ ก็ไม่พลาด “ผีอีแพงเจ๋งที่สุด พวกแกอย่ามาขึ้นเสียงกับพี่สาวคนสวยอย่างฉันนะ มีเฮแน่ๆ” สาวงามว่าพร้อมกับเชิ่ดหน้านั่งลงกับโซฟาไม่สนใจสายตาค้อนขวับของน้องทั้งสองคน
“นิสัยว่ะ เพราะงี้ไงถึงขึ้นคาน”
“ใช่ค่ะ”
“ที่ฉันไม่มีแฟนเพราะฉันสวยเลือกได้ย่ะ เงียบไปเลยนะโดยเฉพาะแก...มู่ลี่” เจ้าของชื่อเบะปากก่อนจะคว้ามือถือแล้วเดินหนีขึ้นห้องของตัวเอง
ไม่ง้อก็ได้ว้อย ที่บ้านเน็ตแรง ดูในเน็ตก็ได้ ไม่สน!
แต่พอขึ้นมาบนห้องมือถือของเขาก็กรีดร้องขึ้นมาอีก...คนก่อนหน้าที่โทรมาแล้วเขาไม่ได้รับ มู่ลี่ถอนหายใจ แล้วกดรับสาย
“ครับพี่”
“พี่กวนหรือเปล่า?” มู่ลี่ไม่ได้นึกรำคาญอะไร ออกจะเบื่อด้วยซ้ำตอนนี้... บอกไม่ถูกว่าเพราะอะไร หรือเพราะการมาของใครบางคนหรือเปล่า
“เปล่าครับ”
“เมื่อกี้พี่โทรมาสองสาย เลยไม่แน่ใจน่ะว่ามู่อยากจะคุยหรือเปล่า”
“พอดีนุชมาหาน่ะครับ คุยกันอยู่” เขาตอบ และมั่นใจว่าอ้นรู้จักนุช ก็นุชมันเรียนเครื่องกล อ้นเองก็เครื่องกลปีสี่...สาขาเดียวกัน ที่สำคัญใครๆ ก็รู้ว่าว่าพวกเขาอยู่กลุ่มเดียวกัน
“อ๋อ...แต่ปรกติพี่ไม่ค่อยเห็นอยู่ด้วยกันเลย” จะให้ตอบยังไงดีล่ะ มู่คิดไม่ออกก็เลยเงียบ “ไม่นึกจริงๆ นะว่าสนิทกัน”
“ฮะพี่ ว่าแต่พี่มีอะไรหรือเปล่า เห็นโทรมาสองครั้งแล้ว”
“ไม่มีอะไรหรอก อยากคุยด้วย ว่างหรือเปล่า?”
“ก็คุยได้ครับ” มู่ลี่ทิ้งตัวลงนั่งตรงโต๊ะคอมของตัวเอง เอนหลังกับพนัก นั่งฟังเรื่องต่างๆ ที่อีกฝ่ายชวนคุย เขายิ้ม เขาหัวเราะ และเขาก็กวนประสาทไปตามเรื่อง
เขาก็ยังเป็นเขา...ที่คุยได้เรื่อยเปื่อย แต่ในใจกลับคิดถึงแต่แผ่นหลังของคนที่เพิ่งกลับไปไม่นาน
“เสียงเพลง?” มู่ลี่เอ่ยเมื่อได้ยินแว่วๆ ว่ามีเสียงเพลงเปิดคลอมาตามสาย
“อ่อ...พี่เปิดคอมทิ้งไว้น่ะ รำคาญเหรอ? เดี๋ยวพี่ปิด”
“เปล่าครับ เพลงอะไรน่ะ?”
“ไม่รู้สิครับ เหมือนจะเป็นเพลงเก่าที่เอามาร้องใหม่” มู่ลี่นิ่งพยายามจดจำเนื้อหาของเพลงแล้วจดเอาไว้ แค่เสิร์ซหาเดี๋ยวก็เจอ
“มู่ชอบเหรอ? พี่โหลดไปให้พรุ่งนี้แล้วกันนะ”
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวโหลดเองได้ครับ ขอบคุณ” มู่เอ่ย... จากนั้นอีกฝ่ายก็ชวนคุยไปเรื่อย มู่ลี่ก็ฟังไปเรื่อย แต่ปลายนิ้วละสายตาจะไล่หาลิงค์เพลงที่เสิร์ซหา
...
พรุ่งนี้ไม่สาย....เพลงเก่าเก็บของน้องร้องสาวคนหนึ่งสมัยเด็ก ตอนนี้เอามาทำใหม่
ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้น...
มันอยู่ที่ความหมายของเพลงนั้น....
“พี่อ้น...พี่คิดยังไงกับผม” ถามได้ตรงตัว ทำเอาคนที่กำลังพูดเรื่องนั้นเรื่องนี้อึ้งไป...
“ถาม...กันตรงๆ อย่างนี้เลยเหรอมู่”
“อืม...ผมยังลืมแฟนเก่าไม่ได้ครับ” ถามแล้วก็บอก มู่ลี่ไม่ได้สนใจคำตอบของอ้นหรอก แต่อ้นสนใจสิ่งที่มู่บอกเต็มๆ เท่าที่เห็น...มู่ลี่ไม่เคยมีแฟน เห็นตั้งแต่ปีหนึ่งเห็นมีแต่เพื่อน แม้ตอนนั้นจะไม่ได้สนใจรุ่นน้องคนนี้ก็ตาม
“ลืมแฟนเก่าไม่ได้แล้วตอนนี้ มู่มีแฟนหรือยัง”
“ไม่มีครับ” เขาตอบไปตรงๆ แต่ดวงตากลับร้อนรื้อ เพราะเนื้อเพลงที่กำลังสลักเข้ามาที่หัวใจ และหยั่งเข้ามาในความรู้สึก...
“ถ้าอย่างนั้นพี่ก็มีสิทธิ์ที่จะคุยกับมู่ใช่มั้ยครับ”
“ผมไม่ได้ห้าม” เขาพูด ก่อนจะเม้มปาก
เขาเปิดโอกาสให้คนอื่น เขากำลังให้ความหวังคนอื่น แต่ทำไม หัวใจของเขามันเจ็บปวดขนาดนี้....
“ขอบคุณครับมู่”
“แต่ถ้าผมไม่ตอบสนองความรู้สึกของพี่ อย่าโกรธผม เพราะผมบอกแล้ว ว่าผมรักใคร”
รักนุช...รัก...มาก“ไม่เป็นไรครับ พี่จะพยายาม”
พยายามแล้ว... พยายามจะไม่คิดถึง... ทั้งที่อยู่ใกล้กันแค่นี้ แต่ทำไมถึงคิดถึงเสียมากมายเล่า...
ทั้งที่คุยกับคนอื่น แต่ใจกลับโหยหาใครอีกคน...ความรัก.... ความรัก...คิดถึงนุช คิดถึงรอยยิ้มของนุชที่ไม่เห็นมานานแล้ว
คิดถึงอ้อมแขนของนุช ที่ไม่ได้โอบกอดกันมานานแล้ว...
คิดถึงเสียงกระซิบบอกรักข้างหูที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ยินอีก...
คิดถึงทุกอย่างของกันและกัน...
นุช....