[เรื่องสั้น] ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ? ตอนที่5 (ตอนจบ) UP23-5-2012 P.8
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ? ตอนที่5 (ตอนจบ) UP23-5-2012 P.8  (อ่าน 224829 ครั้ง)

ออฟไลน์ kokilolylove

  • รัก ได้ยินหรือเปล่า
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1
สนุกมากๆๆๆๆ
ชอบการเขียนจดหมายเป็นวิธีที่คลาสสิกดี อยากส่งบ้างแต่ไม่รู้จะส่งไปให้ใคร
โรตีสายไหมที่อยุธยาอร่อยจริงๆเคยซื้อมาฝากแม่ตอนไปแข่งทักษะที่อยุธยา
_ชอบอะ เนื้อเรื่องดำเนินได้สนุกดี รออ่านบทสรุป
-อ่านตั้งแต่เมื่อคืนตอนตี5 อยากบอกว่าว่ามาUPดึกจัง
-ปล.มอบ :L2:

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
                 ชอบนะแบบซองนี่นิสัยน่ารัก ไม่จบไม่ว่าหรอกมาต่อก็พอ อยากอ่านแบบนี้ไป

ออฟไลน์ nokkie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-0
อ่านแล้วอยากไปหอศิลป์เลย...ผ่านหลายครั้งอยากเข้าไปหลายหนแต่ไม่เคยได้เข้าไปสักที

 :3123:

Cacao

  • บุคคลทั่วไป
คือคุณน้องซองโคตรโรแมนติคอ่ะ โรแมนติคแบบอินดี้ อินดี้ได้อี๊กกกกก เค้าส่งจดหมายคุยกันแล้ว
น่ารักที่สุดเลยอ่ะ555 และมันยิ่งน่ารักที่พี่ตุลส่งตอบกลับด้วยนี่แหละ =///= พี่ไม่ต้องคิดแล้ว
ว่าน้องเค้าจีบหรือเปล่านะแบบนี้ 55555 เดี๋ยวพี่จะโดนคนอ่านหมั่นเขี้ยวและคิดแทน
ขนาดขนมที่เอามาจีบยังไม่ใช่แบบร่วมสมัยอ่ะ 555 เค้าเอาสายไหมมาจีบ ต๊ายตาย 5555
ช่างไม่เหมือนใคร อินดี้ได้สุดทางจริงๆพ่อซองของเจ้(ใช่หรอ ใช่ได้ไหม ดีที่สุด)
พอคิดถึงโมเม้นท์ของเฟรชชี่กับดาวคณะตอนปีหนึ่งแล้วมันช่างน่าฮักขนาดแต้ แล้วยังจะรูปภาพนี่อีก
โฮกกกกกก พี่ตุลคิดไม่ได้จริงๆเดี๋ยวเ้ค้าจะคิดแทนแล้วนะ 5555 ไม่ไหวละ น่ารักเหลือเกิน ชอบ T_T

ออฟไลน์ hikikomori

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 626
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-4
เอร้ยยย เรื่องนี่อารมณ์น่ารักแบบเรื่อยๆดีอ่ะ ชอบนะผู้ชายสไตล์ซองเนี่ย
ออกจะอาร์ท 5555

เราเป็นแฟนคลับนิยายเธอนะ อย่าลืมมาต่ออีกเรื่องล่ะ
คิดถึงทั้งคู่เลย> <

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
น่ารักมากค่ะ

น่ารักเบาๆ

ชอบนะ

เหมือนมิตรภาพมันค่อยๆก่อตัวขึ้นไป

จะกี่สิบตอนก็อ่านค่ะ ไม่ว่าหรอกก

ชอบๆ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ซองมาแนวไม่เหมือนใคร แต่ถูกใจพี่ตุลสินะ

ออฟไลน์ misso

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
ตามมา เรื่องนี้บรรยากาศแปลกๆดี ดูมีสาระ(เฮ้ยยย!) ฮ่าๆ ล้อเล่น เรื่องนี้น่ารักจ้ะ ยังเดาตอนต่อไปไม่ได้ แต่ก็ชอบมาก จะยาวกว่านี้อีกเรื่อยๆก็ได้จ้า นึกอะไรขึ้นได้อยากเขียนอะไรขึ้นอีกก็ใส่มาได้เต็มที่ ตามอ่านอยู่แล้ว แค่ชื่อคนเขียนก็การันตีแล้วจ้า o13

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
หวานเบาๆ :o8:

(เบาจริงๆนะ 5555)

ออฟไลน์ ASSASSIN

  • หรือว่า..ความรัก
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1551
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-1
ชอบเรื่องนี้จังเลยครับ อารมณ์มันแบบ เรื่อยๆ เฉยๆ แต่มันแฝงอะไรหลายๆอย่าง ชอบการเขียนจดหมายอะ
(เพราะตัวเองก็เคยเขียน)  อ่านแล้วอบอุ่นใจจัง  :-[

+1 ครับผม  o13

ปล.  “เห้ยๆ ไม่ต้องทำหน้าสิ้นหวัง กุให้มึงไปขอเบอร์ดาวได้ แต่ให้สาบานก่อนว่าพอได้เบอร์มึงจะไม่โทรไปจีบน้องดาวของพวกกุ” นิชคุณยิ้มร้า พยักหน้ารับคำ

“ครับพี่ สาบาน”
   << นี่เอง สาเหตุ   :o8:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-05-2012 11:16:28 โดย ASSASSIN »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pimkung

  • Karkat <3
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
เห้ย เราชอบเรื่องนี้มาก เพื่อนเราไซโคมา (ไซโคพี่กันต์หมอธามด้วย ยังตามอ่านไม่ทัน ฮา)
เราชอบที่มันเป็นแนวผู้ชายมากๆ กูจะจีบผู้ชายอ่ะ ประมาณนี้ เจ๋ง
ตามบทสรุปของคู่นี้เด้ออ  o13

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
อ่านแล้วนึกถึงสมัยหอศิลปกรุงเทพเพิ่งเปิด มีงานดีๆแปลกๆมาให้ดูเยอะมาก ที่ประทับใจก็เป็นงานเกี่ยวกับโขนอลังการจริงๆ

สมัยมีแต่งาน ไม่มีคนเดินเหงามาก แต่เดี๊ยวนี้คนเยอะขึ้นมาก อาจไม่ได้มาเดินดูงานศิลปโดยตรง ดูผ่านๆก็ยังดี

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนค่ะ

ออฟไลน์ bamee_wspb

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมากค่า  :-[

ให้อารมณ์เรื่อยๆแต่มีความหมาย

อ่านแล้วมีความสุขนะ 555

รอตอนต่อไปค่ะ

RanJeri

  • บุคคลทั่วไป
จีบ??แบบนี้ดูคลาสสิค ส่งจดหมายให้กันอ่ะ  :o8:

พี่ตุลเริ่มมีใจให้กับน้องซองแล้วใช่มั้ย

CrazierM

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
รอดูความเป็นไปของสองคน ว่าจะไปในทิศทางไหน
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ

ออฟไลน์ nunamicky

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-3
อ่านไปยิ้มไป
วิธีจีบแบบซองเนี่ยคลาสสิคดีเนอะ

mupmipjung

  • บุคคลทั่วไป
ชอบทุกเรื่องที่เขียน จะติดตามไปตลอด  o13

ออฟไลน์ gargoyle

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 307
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +668/-3
    • 8yearsago.g fanpage
3
…………………………………………………………………..

เช้าวันศุกร์ ผมลืมตาโพลงในความมืดสลัว วันนี้วันหยุดนักขัตฤกษ์เนื่องในวาระโอกาสวันสำคัญทางศาสนาอะไรสักอย่าง เข้าพรรษาล่ะมั้งถ้าจำไม่ผิด ผมตั้งนาฬิกาปลุกผิดเลยต้องตื่นมาแต่เช้าตรู่ มือเอื้อมไปปิดเสียงปลุกจากมือถือแล้วเอาวางไว้ข้างหมอน ยกมาห่มมากอดแต่ยังลืมตามองเพดานห้องสีเทาที่มีแสงเป็นเส้นยาวจากหน้าต่างลอดผ่านผ้าม่านหน้าเข้ามาได้ วันหยุดติดกันสามวัน มีงานเยอะเป็นปกติไม่เร่งด่วน อยากออกไปหาอะไรทำสักช่วงหนึ่งของวัน อาจจะเป็นตอนเย็นๆ

อยากไปดูแสงไฟ ถ่ายรูปเล่น...

ผมมีกล้องตัวนึง ลงทุนกับมันไปเกินครึ่งแสนเป็นสมบัติชิ้นที่แพงที่สุดในชีวิตของผมปิดเทอมผมบ้าเล่นกล้องถ่ายทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ตอนนี้กลับไม่มีเวลาเล่นกับมันเลย เปิดเทอมมาปล่อยให้มันนอนนิ่งอยู่ในกระเป๋าและกล่องเก็บ ได้เอาออกมาถ่ายรูปงานนิดๆหน่อย คุ้มที่ไหนกับกล้องราคาเท่านี้ คงถึงเวลาแล้วที่จะเอามันออกมาใช้ในวันนี้ จะยอมฝ่าความขี้เกียจ ฝ่ารถราออกไป ยอมทนหนักแบกกล้องออกไปหามุมดีๆถ่ายรูป

แต่ขอนอนก่อนสายๆ ผมค่อยตื่นมาทำงานแล้วค่อยคิดอีกทีว่าจะไปไหนยังไง


ตื่นมาอีกอีกรอบแดดส่องลอดเข้ามาในห้อง มองนาฬิกาที่หน้าจอมือถือบอกเวลาเก้าโมงเช้า ผมบิดตัวลุกขึ้นนั่ง เดินเข้าห้องน้ำไปจัดการธุระส่วนตัวแล้วอาบน้ำเพราะอากาศร้อนเกินทน คว้าหาเสื้อผ้าพอใส่ออกไปเจอคนได้ใส่แบบลวกๆ เดินออกมาจากห้องเพราะความหิวที่ประท้วงอยู่ในท้อง อาหารเช้าแถวหอวันหยุดหากินยาก ที่พึ่งคือร้านสะดวกซื้อ ผมเลือกขนมปังชิ้นใหญ่กับนมอีกกล่องเดินไปจ่ายเงิน เจอกับเพื่อนต่างภาคที่อยู่หอซอยเดียวกันต่อแถวจ่ายเงินอยู่ด้านหน้าแต่มีวินมอเตอร์ไซค์ใส่เสื้อกั๊กสะท้อนแสงยืนคั่นกลาง อีกฝ่ายไม่เห็นเลยไม่ได้ทักทายอะไร ปากหนักขึ้นมา เลยปล่อยให้เหมือนไม่ใช่คนรู้จักกัน

เดินถือถุงอาหารเช้าแบบโง่ๆกลับเข้าหอ อีกสักนิดจะถึงหอก็เห็นผู้ชายตัวสูงผมยาวที่คุ้นเคยเดินก้มหน้าก้มตา ใส่เสื้อกล้ามตราห่าน กางเกงบอลสีแดง รองเท้าแตะช้างดาว กำลังจะสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์คันเล็กๆทรงแปลกแบบรถเก่าออกมาจากหน้าหอผม มันคงไม่เห็นผมที่กำลังเดินมา

“ซอง” ผมรีบเดินแล้วเรียกมันก่อนที่มันจะขี่รถออกไป มันสะดุ้งโหยง หันมามองผมแล้วยิ้มแห้งๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามาส่งจดหมาย ทำตัวเองให้เป็นไปรษณีย์

“หวัดดีพี่ตุล” มันยกมือขึ้นไหว้ผม ทำเอาผมแทบยกมือขึ้นรับไหว้เกือบไม่ทัน

“เอาจดหมายมาส่งเหรอ” ผมถามมัน มองตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้ว สภาพพอๆกัน แต่งตัวแบบนี้มันดูเป็นคนธรรมดา เหมือนผู้ชายผมยาวแบบปกติมากกว่าตอนที่มันแต่งตัวไปเรียนที่ดูพิลึกกว่าคนปกติ

“เปล่า” มันโกหกได้หน้าด้านๆมาก ผมพยักหน้าทำเป็นเชื่อ

“กางเกงเป้าขาดอ่ะ” ผมก้มลงมองเป้ามันแล้วพูดเรียบๆ

“เห้ยเหี้ย พี่อย่ามอง” แล้วมันก็รีบตาลีตาเหลือกปิดเป้ามัน หน้าแดงเถือก แต่ไม่ก้มลงมองสักนิดว่าขาดจริงไหม

“พี่ล้อเล่นว่ะ” แล้วผมก็เฉลยมันไป

“โหพี่ ผมโคตรตกใจเลย” มันชักสีหน้าอารมณ์เสียใส่ เอามือที่กุมเป้ามาบิดกุญแจรถทำท่าว่าจะขับหนีไปซะงั้น งอนเหรอเนี่ย แกล้งเล่นแค่นี้เอง ทำก็ไม่ล้าน ผมทั้งหนา ทั้งยาว ทั้งเยอะ ยังจะมางอน

“ทำไม ไม่ได้ใส่กางเกงในหรือไง”

“บ้าแล้วพี่ตุล” ผมว่ามันต้องไม่ได้ใส่แน่ๆเลยว่ะ ผมหัวเราะขำๆ เหมือนมันจะรู้ทันว่าผมคิดอะไรเลยดึงเอวกางเกงบอลยางยืดโชว์ขอบกางเกงในมันซะเลย ช่างกล้า

“ใส่มาจริงๆ” โคตรเหมือนเด็ก แล้วมันจะอายทำไมวะถ้ากางเกงเป้าขาด โชว์กางเกงในกลางแจ้งขนาดนี้มันยังกล้าโชว์

“เออ เชื่อละ” ผมหัวเราะ

“ผมไปนะ” ว่าแล้วมันก็เอามวกกันน็อคใส่

“เดี๋ยวๆ” ผมเรียกมันเอาไว้ ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่เหมือนกัน “ซองเล่นกล้องไหม”

“ผมเล่นแต่กล้องฟิล์ม” ไม่เหนือความคาดหมาย ดูจากสไตล์ไม่น่าจะสนใจระบบโฟกัส หรือเซนเซอร์ ชัตเตอร์อัจฉริยะใดๆ ซองก็คือซอง ส่งจดหมาย ซื้อสายไหมฝาก หลงยุค

“เย็นนี้ว่างไหม”

“ว่างพี่” รีบตอบจนชักจะระแวง หน้าเมื่อกี้ที่เหมือนจะอารมณ์ไม่ดีเรื่องโดนผมแกล้งเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างแล้ว

“ไปถ่ายรูปเล่นกัน” ผมพูดช้าๆ เอาเข้าจริงก็ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองจะไปไหม แต่ชวนไปแล้ว ยังไม่รู้ด้วยว่าจะไปที่ไหน “แต่ยังไม่รู้เลยว่าจะไปไหน” ซองมันฟังผมพูดจบก็กระพริบตาปริบๆเหมือนไม่ค่อยเข้าใจ

“พี่จะไปจริงๆ เหรอ” ทำไมถามแบบนี้

“พูดเหมือนพี่จะไม่ไป”

“ก็กลัวพี่ตุลเปลี่ยนใจ”

“พี่ชวนเองจะมาเปลี่ยนใจอะไร ถ้าไม่อยากไปก็บอกไม่เป็นไร”

“เปล่า อยากไป ถ่ายแถวมหาลัยไหม” ผมเชื่อแล้วว่ามันอยากไปจริงๆ ถ่ายแถวมหาลัยก็ดีนะ ใกล้ สะดวก แล้วก็วิวสวย

“งั้นเจอกันที่มอตอนหกโมง อย่าช้านะ” ผมบอกมัน ไอ้ซองหยักหน้าหงึกหงัก แต่อยู่ดีๆก็ชะงักไป

“พี่ ซิบไม่รูด”

“สัส!” ผมรีบก้มลงมอง เอามืดปิด แต่พอมอง มันก็รูดเรียบร้อยดี ไอ้ซองเล่นผมแล้วไง แล้วมุขซ้ำด้วยนะผมก็ดันโง่หลงเชื่อมันอีก

“ฮิฮิ” มันหัวเราะแบบนี้จริงๆ ทำเสียงเล็กหัวเราะใส่ผม โคตรกวนตีน

“ท้าทายใช่ไหม” ผมชี้หน้ามันแค้นๆ โคตรอายเลยโดนเล่นมุขย้อนแบบโง่ๆด้วย

“ผมไปละ หกโมงเจอกัน” มันยิ้มร่า สตาร์ทรถหนีผมออกไป ผมส่ายหน้ากับความโง่ของตัวเอง เดินเข้าไปในหอ คนดูแลยื่นจดหมายซองสีน้ำตาลให้ตามคาด ผมเดินเข้าห้อง วางอาหารเช้าลง แกะซองจดหมายข้างในมือลายมือมันเขียนเอาไว้ยาวเหยียด

‘พี่ตุล สายไหมอร่อยไหม ผมว่าพี่คงไม่ค่อยได้กินเท่าไหร่ โดนเพื่อนแย่งหมดล่ะซิ ลายมือพี่สวยดีผมเหมือนจะแข็งๆแต่ก็เอียงๆเหมือนนิสัยพี่นะผมว่า เห็นทีแรกผมนึกว่าพี่ดุมาก แต่พี่ใจดีกว่าที่คิดเยอะเลย แล้วถ้างานพี่เยอะพี่บอกผมได้นะผมอยากไปช่วย เพราะงานผมก็มีคนช่วยเลยเสร็จทัน หยุดยาวพี่ไปเที่ยวไหนหรือทำแต่งาน ผมว่าออกมาจากห้องบ้างก็ดี สูบบุหรี่ในห้องไม่ดีนะพี่ ออกมาเปลี่ยนที่บ้าง

อย่าเครียดมากนะพี่ – ซอง’

ถ้าผมคิดว่ามันน่ารักเนี่ยจะผิดปกติไหม ตลกที่มันเขียน เรื่องไร้สาระบ้าๆบอๆ แต่มันก็ยังอุตส่าห์เขียนส่งมาให้ อ่านลายมือมันก็เหมือนบอกตัวมันตัวหนังสือตั้งตรงไม่เอียง แต่ตัวหนังสือไม่เหลี่ยมดูไม่แข็งๆ แอบจะหวัดนิดๆแต่เป็นระเบียบ ตัวหนังสือก็บอกนิสัยคนจริงๆ ซื่อ ใจดี ใจอ่อน แปลกแต่ไม่แหก

ผมคว้าขนมปังขึ้นมาเคี้ยวพร้อมกับฉีกสมุดสเกตชออกมาอีกแผ่น ลงมือเขียน


สายไหมอร่อย ได้กินม้วนเดียว ทีเหลือโดนแย่งหมด ขอบใจมาก แล้วหน้าพี่โหดมากหรือไงวะ เขียนเอียงมันหมายถึงพี่นิสัยโลเลรึเปล่าไม่ใช่ใจดี มีซองคนแรกนี่ล่ะบอกว่าพี่ใจดี งานพี่ยังพอไหวอยู่ มาช่วยคิดว่าคงไม่ได้ทำอะไรนอกจากนั่งเก็บขยะในห้อง อย่าดีกว่าแล้วก็ขอบใจมากที่เป็นห่วงเรื่องสถานที่พ่นควัน ก็วันนี้ชวนออกมาถ่ายรูปแล้วไง ไม่ได้สูบในห้อง
แล้วก็ขอบใจที่วันนี้มาถ่ายรูปเป็นเพื่อน ทีแรกไม่รู้คิดไงถึงชวนซองแต่ชวนแล้วก็เลยไปซะเลย ถ่ายรูปแถวมหาลัยดี คุ้นทาง คุ้นที่ เอาเข้าจริงพี่ว่ามันพิลึกว่ะซอง หลายเรื่องที่พี่ไม่เข้าใจ แล้วหวังว่าวันนี้พี่จะเข้าใจ

ปล. คิดอะไรอยู่วะซอง ถามจริง

...

ผมนั่งทำงานด้วยสปีดต่ำ ทำไปอู้ไป มองนาฬิกาใกล้จะได้เวลานัดก็เลิกสนใจงานเอากล้องออกมาเช็ค ดูความพร้อม ดูแบต ตรวจอุปกรณ์เสริม แล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้า คว้าเป้ใส่กล้อง หยิบมือถือกับกระเป๋าสตางค์ใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์ที่ใส่วันเว้นวันแต่ไม่ได้ซักมาสักอาทิตย์กว่าๆได้ จะใส่ครั้งนี้แล้วพรุ่งนี้เอาไปซักแล้วกัน ก่อนที่ผมจะเป็นโรคผิวหนังขึ้นขา กำลังจะออกจากห้องแต่ก็เหลือบไปเห็นซองจดหมายบนโต๊ะ เกือบลืมแล้ว ผมหยิบจดหมายที่จะให้ไอ้ซองยัดใส่กระเป๋า ตอนเดินออกมาจากหอพระอาทิตย์ยังส่องแสง แต่ฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้ม

ยืนรอรถเมนานกว่าปกติ กะว่าจะออกไปแล้วไปถึงตอนหกโมงพอดีแต่ตอนนี้หกโมงแล้วรถเมพึ่งจะมา สายแล้วผม โทรไปบอกไอ้ซองก็ไม่ได้เพราะมันไม่ใช้โทรศัพท์ หวังว่ามันคงนั่งรอ เวลาไปสายไม่รู้คนอื่นเป็นไหม แต่ผมเป็น ผมจะคิดว่าเวลายาวนานกว่าปกติ ทุกอย่างดูติดขัด ไฟแดงนาน รถเยอะ ทั้งๆที่บางทีมันก็เหมือนเดิม  เลยเวลานัดมาสิบกว่านาทีผมพึ่งถึงหน้ามหาลัย วันหยุด มหาลัยเงียบมาก อันที่จริงพอดึกหน่อยแถวนั้นก็เงียบเป็นปกติอยู่แล้ว ผิดกับตอนกลางวันลิบลับ

ใกล้มืดแล้ว...

ผมเดินไปที่นั่งตรงข้างประตูมหาลัย ไม่พบใครที่รู้จักอยู่ตรงนั้น มีแต่ยาม ผมนั่งลง ไม่รู้ว่าซองมันมาแล้วไปที่อื่นหรือมันยังไม่มา ผมไม่รู้ ผมก็ได้แต่นั่งรอ ยามมองผมอย่าสงสัยแต่ก็ไม่ถามอะไร ผมเสียบหูฟังเปิดเพลงฟังระหว่างรอ เปิดเกมเล่น แม้ว่าเวลาที่ต้องรอจะสั้นแค่ไหนแต่ผมก็ไม่ชอบนั่งรอเฉยๆ การรอมันน่าเบื่อ น่าอึดอัด น่ารำคาญใจในบางครั้ง ผมฟังจบไปสองเพลง เล่นเกมผ่านไปหนึ่งด่าน พึ่งจะมารู้สึกตัวว่าซองเดินลงมานั่งข้างผมแบบที่ผมเองก็ไม่รู้ตัว เพราะมัวแต่เอาลูกตาจ้องหน้าจอโทรศัพท์ หูก็เอาไปฟังเพลง

“เห้ยมาเมื่อไหร่” ผมปิดเกม เก็บหูฟัง มองมันที่ห้อยกล้องฟิล์มรุ่นเก่าไว้กับคอ กล้องสวย...

“สักห้านาทีได้” มันพูดนิ่ง

“แล้วทำไมไม่ทักวะ”

“เห็นพี่กำลังเพลิน รถเมมาช้าเลยมาสาย”

“เลยดูกุเพลินเลยว่างั้น” ผมหลุดกุออกไปแล้วไง แต่มันก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่ยิ้มขำๆ แล้วพยักหน้า

“แล้วไปถ่ายตรงไหนกันคืนนี้” ผมคิดคำตอบเอาไว้แล้วสำหรับคำถามนี้

“เดินไปเรื่อยๆ ไหวไหม” ไม่รู้ว่ามันไหวแต่ แต่ผมคิดดูจากหน่วยก้านสำหรับซองคงเกินไหว ส่วนตัวผมก็ไหวล่ะ เหนื่อยก็บอกให้มันหยุด จะยากอะไร

“ไหวอยู่แล้ว ของผมนิดเดียว” ถูกของมัน

อากาศค่ำนี้ไม่เหมือนที่ผมคิดเอาไว้ ไม่ได้เย็นแต่ก็ไม่ร้อนมากผมเริ่มเดินวนรอบมหาลัยก่อน ในมหาลัยไม่ค่อยเปิดไฟ เพราะต้องประหยัด แสงเลยน้อย ถ่ายได้บางที่ ผมลองกดดูก็พอได้บ้างไม่ได้บ้าง ซองมันก็ถ่ายอะไรของมันไม่รู้ ด้อมๆมองๆตรงแถวมุมตึก กล้องฟิลม์ของมันมีแฟลชที่เหมือนจะซื้อมาเปลี่ยนใหม่ เพราะกล้องฟิล์มเก่าบางตัวแฟลชเดิมของมันจะพัง เวลาซื้อมือสองมาต้องมาซื้อแฟลชใส่เพิ่มเอง ผมที่นั่งปรับค่าแสง ก็เลยถ่ายรูปมันจากด้านหลังถือเป็นการทดลองค่ากล้องไปในตัว รูปตลก เหมือนพวกโรคจิตแอบตามมุมตึก ซองมันหันมามองผมตาปริบๆเพราะเจอแฟลชสาดเข้าให้แบบเต็มๆเมื่อครู่

“ถ่ายอะไร”

“ถ่ายหมา” ผมหัวเราะ

“ไหนหมา”

“หมาขนยาว ดูไม่ทันแล้ว วิ่งไปโน่น” ผมชี้มือมั่ว ไอ้ซองเหมือนพึ่งคิดได้ ทำหน้าเหมือนอยากจะด่าผมสักคำแต่เหมือนไม่กล้าด่า

“อยากจะพูดอะไรรึเปล่า” ผมแกล้งแหย่มันอีก

“พี่ตุลแม่ง” ก็แค่นี้ล่ะมัน...

พากันเดินมาจนถึงหน้าคณะของไอ้ซอง มันก็หยุดยืนอยู่ซะอย่างงั้น หันหน้ามามองผม เอามือสางผมยาวๆของมันเล่นเหมือนอยากจะพูดอะไร

“พี่...”

“อะไร”

“พี่ว่าผมแปลกมากไปป่ะ” คำถามสร้างสรรค์มาก อย่างมันไม่เรียกว่าแปลกแล้วจะเรียกว่าอะไร แต่วันนี้มันแต่งตัวไม่แปลก หรือเพราะเป็นวันหยุดเลยแต่งแบบคนธรรมดา ส่วนวันมาเรียนแต่งตามใจเรียกร้อง ผมมองมันจากรองเท้า วันนี้ซองใส่รองเท้าผ้าใบ กางเกงขาเดฟเด็กแนวโชว์ขาสวยเป็นนายแบบลีวายเสื้อเชิ้ตสีตัวใหญ่โคร่ง ที่ผมเรียกสีไม่ถูกมันอยู่กึ่งกลางระหว่างสีน้ำตาลเบจกับสีเทามีแว่นเลนนอนห้อยมาทั้งๆที่มันก็กลางคืนแล้ว รวมๆแล้วก็ธรรมดาปกติ พร้อมเป็นนายแบบนิตยสารแต่งตัวเด็กแนว

“นี่แคร์ด้วยเหรอ นึกว่าไม่แคร์” ผมย้อนถามมันเป็นคำตอบ ซองมันหลบตาไปแวบนึงแล้วก็ทำหน้าสงสัย

“แล้วพี่ตุลแคร์ไหม” ที่ถามหมายถึงอะไร หมายถึงผมแคร์ไหมที่มันแปลก หรือแคร์มันไหม... ความหมายต่างกันนิดเดียวแต่ดูต่างกันมาก ผมจะคิดเอาแล้วกันว่ามันคงถามว่าผมแคร์ไหมที่มันแปลก

“มันก็ไม่ได้เสียหายอะไร สไตล์ใครสไตล์มัน รับได้ๆ” แต่ถ้าเป็นคำตอบของคำถามที่ว่าผมแคร์มันไหม ผมก็คงตอบแบบไม่โกหกว่าแคร์ ไม่รู้เพราะอะไร แต่ก็ถือว่ามันเป็นคนที่ผมใส่ใจคนนึงนอกจากคนรอบตัวผมที่ปกติผมก็ใส่ใจอยู่แล้ว ถึงจะไม่รู้ว่ามันคิดอะไร มันต้องการอะไร มันจีบผมจริงไหม แต่มันก็ดี คนดีคนนึง

ฟังผมตอบแล้วมันก็หัวเราะเบาๆยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

“เปล่า ผมไม่ได้หมายถึงผมแปลก แต่ผมหมายความว่าพี่แคร์ผมไหม” เสียงเปลี่ยน คำตอบที่ต้องการมันจริงจัง ทั้งที่รู้ว่าในใจคิดอะไรมีคำตอบ แต่พอเจอคำถามจริงๆแล้วต้องพูดออกมา ทำไมหน้ามันร้อน อายที่จะพูด

“ก็แคร์ดิวะ” คงไม่แปลกใช่ไหม...

“ผมก็แคร์พี่นะ” ฟังแล้วอยากจะด่ามันว่าไอ้บ้าไม่รู้เพราะอะไรแต่ก็ไม่ได้พูดออกไป ผมรู้สึกว่ามันจะดูกระแดะไปไหมถ้ามันจะด่าแบบนั้น ในที่สุดพอไม่อยากจะพูดว่าไอ้บ้า ผมก็ไม่รู้แล้วว่าจะตอบมันว่ายังไง ได้แต่มองหน้ามัน จนคำพูด แต่มันเองก็ไม่พูดอะไรเหมือนกัน เราสองคนยืนอยู่เงียบๆในมุมมืด หมดคำพูดชั่วคราว

เป็นซองที่พูดขึ้นมาก่อน

“ออกไปเดินข้างนอกป่ะพี่”

“เออดี จะเล่าเรื่องเด็กเกรียนให้ฟัง” ผมนึกขึ้นได้เมื่อกี้ ขุดเรื่องไอ้ซองสมัยเฟรชชี่นิชคุณขึ้นมาดีกว่า ความทรงจำบางอย่างที่เราคิดว่าลืมไปแล้ว แต่ความจริงคิดดีๆมันก็ไม่ลืมนะ เหมือนมันอยู่ตรงซอกไหนสักที่ในหัวของเราที่ต้องหาอะไรกระตุ้นให้มันหลุดออกมามากกว่า

ผมกับมันเดินออกมาจากหน้ามหาลัย ผมยกกล้องขึ้นถ่ายประตูมหาวิทยาลัย รั้วสีขาวแบบรั้ววังเก่า ป้ายเล็กๆ ประตูไม้สีแดง และสิงห์หินสองตัว กลางคืนก็แปลกไปอีกแบบ หันมาจะเดินไอ้ซองก็ตั้งกล้องรอเอาไวแล้ว

“พี่ยิ้มดิ”

“ไม่เอา”

“กล้องฟิล์มโอกาสเดียวนะ ยิ้มก่อนผมจะกดชัตเตอร์ เร็วดิ” มันขู่ กล้องโพรารอยแบบขาวดำอยู่ในมือมัน มันเอากล้องมากี่ตัวกันแน่วันนี้ แล้วผมยิ้มจนได้ ไอ้ซองกดถ่าย เสียงฟิล์มไหลออกมาจากกล้องช้าๆ อย่างเป็นเอกลักษณ์ ซองยื่นรูปที่ยังไม่ขึ้นสีให้ผมไปถือไว้ สีเทาค่อยๆปรากฏ เปลี่ยนเป็นสีที่เข้มขึ้นจนชัด ถึงจะไม่ชัดแบบกล้องดิจิตอลที่อัดออกมา แต่ก็ให้สีสวยแบบเก่าๆ

“ให้” ซองพูดสั้นๆ

“โคตรเอ๋อเลย” ผมพูดขำๆ ยื่นรูปไปตรงไฟเพื่อจะให้มองเห็นชัดๆ ในรูปผมยิ้มแบบโง่ๆ ถือของพะรุงพะรังฉากหลังเป็นประตูมหาลัย

“ไม่เห็นเอ๋อเลย” มันชะโงกมาดูแล้วก็พูด

“เอ๋อสัส”

“งั้นผมเอานะ” มันทำท่าจะดึงรูปคืนแต่ผมไวกว่า ยัดรูปใส่กระเป๋าเสื้อ

“ให้แล้ว ไม่ให้คืนนะน้องซอง” เอาเข้าจริงก็ไม่ได้เอ๋อมาก พอรับได้ แต่เรียกมันแล้วมีคำว่าน้องนำหน้ามันอีเดียดมากเลยจริงๆ กระดากปากแล้วดูตอแหลพิลึก

“เรียกซะน่ารักเลย”

“เรียกไปงั้นแหละ สงสารเด็ก ต้องการความช่วยเหลือ” ผมเริ่มเรื่อง เมื่อเริ่มก้าวไปบนฟุตบาท ยกกล้องขึ้นถ่ายรูปไป ผมก็เล่าไป

“วันนั้นที่ขึ้นตึก ไปขอเบอร์ดาวแล้วเจอพี่รู้ไหมว่าพี่เป็นพี่ระเบียบ” พี่ระเบียบไม่ใช่พี่ว้าก แต่มีความใกล้เคียงมากจนบางครั้งก็แยกไม่ออก ผมไม่ใช่ตัวหลักหนักๆ แต่ช่วงรับน้องก็เสริมเข้าไปเยอะเหมือนกัน วันนั้นก็ตะโกนจนเสียงแหบ ไม่ค่อยสบายอยู่แล้วตะโกนก็ยิ่งแย่

“ก็คิดอยู่ หน้าพี่ดุๆ แต่พึ่งรู้ว่าเป็นจริงๆก็วันนี้แหละ” ก็ถูกของมัน นอกจากชื่อเล่นกับคณะแล้วก็อายุ ที่อยู่ ผมกับมันไม่มีข้อมูลอะไรของอีกฝ่ายเท่าไหร่เลย แล้วตอนนั้นเจ็บคออยู่ใครจะไปเดินยิ้ม แต่ปกติผมก็ไม่ค่อยยิ้มอยู่แล้ว ไม่ใช่เป็นคนเส้นลึก แต่หน้ามันเป็นแบบนี้

“ตอนที่โทรมา กลัวไหมวะ” ผมอยากรู้มานาน นานจนลืมว่าอยากรู้

“ก็คิดไว้แล้วว่าโดนแน่คืนนั้น นั่นเสียงพี่ตุลจริงๆใช่ไหม” วาดรูปได้รางวัลไปแล้วพึ่งจะมาถาม ไอ้ซองเอ้ย

“จะมีใคร ก็เบอร์พี่ จะให้ใครพูดวะ” ผมตอบมันขำๆ เสียงก็แหบ พูดไปก็อย่างกับกระเทย ไอ้ฉุยก็นั่งฟังอยู่ กลั้นหัวเราะแทบตาย

“ทำให้ดูหน่อย” ในขณะที่เราสองคนหยุดที่ริมฟุตบาทหัวมุมถนน รอให้รถผ่านไป หนึ่งทุ่มนิดๆ แต่รถแถวนี้ก็เริ่มเบาบาง ซองก็พูดคำขอที่ผมว่ามันช่างกล้ามากที่ขอแบบนี้ ผมหันไปมองมัน เจอกับรอยยิ้มเหมือนอ้อนๆ

“ของดีมีครั้งเดียว” ผมบอกมันแล้วเดินหนีข้ามถนนไปก่อน ไอ้ซองหัวเราะแล้วรีบวิ่งตามมา ไม่มาเปล่าเอามือมาสะกิดๆอีก นั่นไง เห็นความสามารถพิเศษของผมเป็นเรื่องตลกหรือยังไงเนี่ย ซองมันไม่รู้ แต่เพื่อนในภาคผมรู้ดีว่าผมมีความสามารถในการเลียนเสียงทั้งๆที่หน้าตา บุคลิกภายนอก รวมถึงเสียงปกติเดิมที่ออกเสียงต่ำๆและดูปกติธรรมดาแบบผู้ชายทั่วไปของผมไม่ให้คิดเลยว่าผมจะทำได้

“เห้ยอะไรอ่ะพี่ตุล ประโยคเดียวๆ”

“พูดว่าอะไร” ผมหยุดยืนเมื่อมาถึงอีกฟากของถนน

“ซองคะแต่งงานกันเถอะ” พูดมาได้ไม่อายปากนะมัน

“โรคจิตนะเห้ย ได้ๆ กล้าขอกล้าให้” ผมหัวเราะกับประโยคที่มันอยากให้ผมพูดให้ฟัง กระแอมเบาๆให้คอโล่ง

“หันหลังไป ห้ามมองหน้าตอนพูด เดี๋ยวขำ” ซองพยักหน้า ยอมทำตามแต่โดยดี

ผมยกกล้องมองมันผ่านช่องวิวไฟเดอร์ มันยืนหันหลังให้ ผมถอยหลังมาสามก้าว ตัวมันย้อนแสงกับแสงไฟจากถนนและวัดพระแก้วที่อยู่ด้านหลัง ผมยิ้มออกมาไม่รู้ตัว แล้วก็พูดตามที่มันขอ

“ซอง... แต่งงานกันไหม”

ประโยคอาจจะไม่ใช่ตามี่มันบอกเป๊ะ แต่ผมว่าประโยคนี้มันดูสมจริงกว่า เสียงผู้หญิงที่พูดประโยคนั้นออกมาช้าๆ เหมือนอายที่จะพูดออกมานั้นแปลกหู เสียงออกมาจากปากผมทำให้ไอ้ซองหันมามองผมแทบจะในทันทีตามคาด ผมกดชัตเตอร์ทันอย่างที่กะเอาไว้ ได้นายแบบหน้าฉงนกับฉากหลังเป็นถนนโล่งสวยๆ อีกหนึ่งรูป แต่ซองเหมือนไม่สนใจแล้วว่าผมจะถ่ายมันหรือถ่ายอะไร ท่าทางจะตกใจ

“พี่ทำได้ไงอ่ะ” ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แค่ดัดเสียง แล้วก็พูด

“มันเป็นความลับทางราชการ” ผมกวนตีนมัน

“พูดอีก” มันเป็นเด็กหรือเปล่าเนี่ย ชอบแล้วเรียกร้องจะเอาอีก

“ไม่” ผมพูดแล้วเดินนำหน้ามันไป “ถ้าอยากฟังทำไมไม่ไปหาแฟนเสียงเพราะๆแล้วบอกให้แฟนพูด”

“แล้วจะมีใครเขาเอาผมอ่ะพี่ตุล พูดเหมือนหาง่าย” ผมว่ามันไม่ได้แย่หรอกนะไอ้ซองน่ะ ตอนที่เรียนมัธยมอาจจะเคยมีแฟนมาแล้วยิ่งเดี๋ยวนี้เขานิยมแบบขาวตี๋ แต่ตอนนี้ที่หายากเพราะมันทำตัวเซอร์เกินพิกัดเองซะมากกว่าล่ะมั้ง

“ไม่เอา อยากฟังพี่ตุลพูด” อยากฟังผมทำเสียงผู้หญิงหรืออยากให้ผมพูดว่าแต่งงานกันแน่…

“ไม่เว้ย พอแล้ว” ผมเคยพูดเล่นกับเพื่อน แต่พอพูดกับซองมันแปลก แปลกในความรู้สึก อาจจะเพราะพึ่งรู้จักกัน รวมทั้งยังไม่สนิทมากหรือเปล่าที่ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆแบบนี้

ผมกับมันเดินถ่ายรูปไปเงียบๆ ผมชอบกลางคืน อากาศไม่ร้อนเหมือนตอนกลางวัน ไม่มีแดด ชอบแสงไฟในความมืด ชอบถนนที่ว่างเปล่า ผมกดชัตเตอร์ถ่ายไปหลายรูป วิวบ้าง คนบ้าง ของเล็กๆน้อยๆที่คนวางทิ้งเอาไว้บ้าง เหมือนมีเรื่องราวถ้าเรามองดีๆ บรรยากาศมันเงียบเร็วมากสำหรับวันนี้ ถึงแม้จะมีเสียงรถจากที่ไกลๆ เสียงชัตเตอร์ เสียงเดินของผมกับซอง... ก็ตามที

“พี่ตุล” ซองมันเรียกพร้อมคว้าแขนผมเอาไว้ ผมชะงัก... เดินกลับมาตามแรงรั้งของมัน ซองยังไม่ปล่อยแขนผม มันนั่งลงที่ตรงพุ่มไม้ กระตุกแขนผมเป็นการบอกว่าให้ผมนั่งลงมาดูอะไรบางอย่าง

“เห้ยน่ารักว่ะ” ผมก้มลงมองลูกแมวสีน้ำตาลสามตัวที่นอนอยู่ สองตัวหลับ อีกตัวนึงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาตอนที่ผมก้มลงไปมอง

“ถ่ายเลย” ซองมันบอกผม ถ้ามันไม่พูด ผมคงนึกขึ้นไม่ได้ ผมปิดแฟลชเพราะเดี๋ยวลูกแมวจะตกใจ ผมถ่ายสองรูป ไม่ได้สวยอะไรมาก แต่น่ารักดี ผมสองคนนั่งดูแมวเงียบๆกันครู่ใหญ่ ซองมันลองเอามือไปลูบ น่าแปลกที่แมวไม่ตกใจ อาจจะเพราะคุ้นคนแล้วหรือเปล่า ผมมองหน้าซองที่เล่นกับแมวไปยิ้มไป จริงใจ คำที่เหมาะจะอธิบายความเป็นมัน

ผมรู้สึกได้....

“อยากเอาไปเลี้ยง” ซองพูดเบาๆ

“ถ้าเอาไปก็ต้องเอาสามตัว”

“สามตัวเลยเหรอ”

“สี่เลย” ผมเพิ่มให้

“เฮ้ย ทำไมล่ะ”

“ก็ลูกแมวสามตัวกับแม่อีกตัว จับมันแยก มันจะเหงา” ผมอธิบาย ไม่รู้แมวมันเหงาจริงไหม แต่ผมคิดให้เองว่ามันคงเหงา

“เหมือนพี่ตุลอ่ะเหรอ”

“ยังไง” หมายถึงเหงา หรืออะไร

“ไม่รู้” มันตอบแบบนี้อีกแล้ว ผมว่ามันมีเหตุผลที่จะพูดแบบนั้น แต่ไม่ยอมบอกผมมากกว่า ไม่เป็นไร เหตุผลบางอย่างมันเป็นเรื่องที่ควรจะเก็บเอาไว้กับตัว เก็บให้ลึกที่สุด เพราะมันเป็นเหตุผลสำคัญและบางครั้งก็อันตรายต่อความสัมพันธ์

เดินวนรอบวัดพระแก้ว ยอดเจดีย์ ช่อฟ้า หลังคากระเบื้องเคลือบสะท้อนแสงไฟเป็นประกายอยู่หลังกำแพงสูงสีขาว ตัดกับพื้นหลังเป็นท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้ม ผมว่าต่อให้คนที่ไม่มีฝีมือถ่ายรูปที่สุด ยกกล้องที่คุณภาพแย่ที่สุดขึ้นมาถ่าย รูปที่ได้ยังไงก็สวย ผมถ่ายรูปที่เห็นจนชินตาทุกวันแต่ครานี้ออกมาแตกต่าง มาเดินวันนี้เจอมุมที่ไม่เคยมอง ที่สำคัญที่มันสนุกกว่าทุกครั้งที่หิ้วกล้องออกไปถ่ายรูปคนเดียว ที่แถวมหาลัย ผมเคยออกมาถ่ายรูปคนเดียวแล้วครั้งนึง เหงาจนปวดใจ...

“หิวว่ะ” ยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลยไงผม

“ไปกินแถวเสาชิงช้าเหอะ เดินไปอีกนิดเดียวเอง” นิดเดียวตรงไหน แต่อย่างว่าผมเดินกันมาขนาดนี้เดินไปอีกก็ไม่ได้ต่างอะไรกันมากหรอกครับ

“ไม่เอาผัดไทนะ แม่งแพง” ผัดไทเจ้าดังของเมืองไทย อร่อยจริงแต่จานละเจ็ดสิบผมไม่สู้ครับ

“กำลังจะบอกว่าอยากกิน” หงอยเลยไงล่ะมัน

“แพงอ่ะ”

“นะพี่ตุล”

“กุจน”

“ออกค่าน้ำให้” ไอ้ซอง ขอบคุณนะที่ยังอุตส่าห์มีน้ำใจ

“ไม่ได้กินนานแล้ว พี่ตุลไปกินด้วยกันเถอะ” ผมมองมันเซ็งๆ ยกกล้องขึ้นถ่ายรูปมันมุมเสยแบบอุบาทว์พิเศษเป็นการชดเชยที่ผมต้องออกเงินค่าข้าวมื้อเย็นมากกว่าปกติ ไม่รวยเหมือนมันพึ่งชนะงานประกวดได้รางวัลเป็นหมื่น ผมนี่ดิทำงานมีแต่เสียกับเสีย แต่สุดท้ายแล้วผมก็ตามใจมัน

นั่งรอผัดไทยอยู่ ซองมันก็เอารูปโพรารอยที่มันถ่ายออกมาวางเรียงให้ผมดู มีบางรูปติดผมด้วย บางรูปก็แปลกดี ไม่รู้ถ่ายยังไงถึงได้มุมแบบนี้ ขนาดเดินไปด้วยกัน

“เทพว่ะ” ผมหยิบรูปที่ติดผมอีกรูปขึ้นมาดู ไม่เรียกว่าติดหรอก เรียกว่าจงใจถ่ายผมมากกว่า เป็นรูปที่ดูดีอันดับต้นๆในชีวิตที่เคยถ่ายมา ผมกำลังก้มหน้าก้มตาปรับค่ากล้อง แสงจัดเงาจัดจัดกันชัดเจนมาก ไม่รู้ถ่ายเมื่อไหร่ เพราะมุมเหมือนถ่ายใกล้มากแต่ผมก็ไม่รู้ตัว

“ชอบรูปนี้” ผมถ่ายรูปใบนั้นเก็บเอาไว้ในกล้อง แล้วก็เงยหน้าขึ้นมาถามเจ้าของรูป “อยากได้รูปนี้ว่ะ”

“ไม่ให้ได้ไหม” ซองหยิบรูปผมขึ้นมาดูแล้วพูด สายตามัน... มีความหมาย ที่ทำให้ผมรู้สึกมีความสุข อยากยิ้ม แต่ผมไม่เข้าใจความหมายนั้น


ออฟไลน์ gargoyle

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 307
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +668/-3
    • 8yearsago.g fanpage
“ขอดูรูปในกล้องพี่ตุลหน่อยนะ” ผมรู้แล้วว่าเวลามันขออะไรมันจะพูดเพราะ พูดเพราะเป็นท่าไม้ตาย ก็น่ารักดี คนอื่นพูดคงดูเสแสร้งแกล้งทำ แต่พอซองพูดแล้วให้ความรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ผมยื่นกล้องให้ซอง

“ใช้เป็นใช่ไหม”

“เห้ยพี่ผมก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้น”

“ร้อนตัวแล้ว ใครว่าซองโง่ ไม่มีนะครับน้องซอง” ผมพูดไปขำไป มันแกล้งทำหน้างอนผม แล้วก็เปิดกล้องดูรูป

“เก่งอ่ะพี่ ไม่รับงานล่ะ”

“แค่นี้ยังไม่มีเวลาไปทำอะไรเลย ถ้ารับงานอีกก็คงไม่ได้กินข้าวแล้ว”

“งั้นพี่ไม่รับดีละ ตอนเช้าผมไม่อยากไปขอนั่งกับคนอื่น”

“แล้วแต่ก่อนกินกับใคร”

“แต่ก่อนผมไม่ได้ขึ้นมากิน มาสาย กินแถวหน้าคณะอ่ะ แต่เดี๋ยวนี้อยากเปลี่ยนมาเช้าๆ ดูบ้าง” ซองพูดโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองผม แต่จากมุมที่ก้มอยู่ก็เห็นว่าบนใบหน้ากำลังมีรอยยิ้ม แต่เพราะก้มมองรูปในกล้องมันเลยไม่รู้ว่าผมเองก็กำลังยิ้มกว้าง ยิ้มแล้วกำลังปล่อยให้ตัวเองคิดอะไรแบบที่ตัวเองยังไม่เคยคิด ปล่อยให้หัวใจเต้นไปเรื่อย ปล่อยทิ้งงานไว้เบื้องหลัง ทิ้งทุกอย่างเอาไว้ที่ห้อง ส่วนตัวผมเองมานั่งตรงนี้ ตรงข้ามกับรุ่นน้องต่างคณะที่รู้จักแต่ก็เหมือนไม่รู้จักกัน

“ซอง” ผมกำลังคิดอยู่ แต่ไม่รู้ทำไมปากกลับพูดขึ้นมา

“หืม... อะไรพี่”

“เปล่า”

ผัดไทรอนานเพราะคนเยอะ ผมยกน้ำขึ้นมาดูดรอเวลา รูปที่ผมถ่ายนั้นเยอะหรือซองมันตั้งใจดูทุกรูปก็ไม่รู้ จนป่านนี้มันยังดูไม่เสร็จสักที มันหมุนกล้องพลิกไปพลิกมา กดเข้าอดออก ดูรูปไปๆกลับๆ ไม่รู้จะดูละเอียดอะไรนักหนาเหมือนกัน แล้วก็พึ่งนึกได้ว่าแอบถ่ายรูปมันไปหลายช็อต...

ปกติผู้ชายคนอื้นเขาถ่ายรูปกันรึเปล่า ผมไม่รู้นะ….

“รูปผมเยอะเลยนะ คิดอะไรกับผมรึเปล่าเนี่ยพี่ตุล” แล้วมันก็เงยหน้าขึ้นมาถามผม เหมือนล้อเล่นไม่ได้คิดอะไร แต่เนื้อความประโยคที่มันถามกลับทำให้ผมชะงัก คำถามเล่นๆ แต่คำตอบของผมล่ะ

“พี่ควรจะถามแกป่าววะซองคำถามนี้” ผมย้อนคำถามมันๆ รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าของคนที่นั่งตรงข้าม ผมมองตาสีน้ำตาลชั้นเดียวของมัน ผมอยากได้คำตอบ แต่กลับมีเพียงความเงียบคั่นระหว่างผมสองคน ซองปิดกล้องส่งคืนให้ผม ยิ้มมุมปาก แต่ไม่พูดอะไรออกมา ผมเองก็ไม่ได้พูดอะไรเหมือนกัน เสียงจานกระทบกับโต๊ะ เด็กเสิร์ฟวางอาหารลง ทำลายบรรยากาศความเงียบอันน่าอึดอัดเพราะคำถามง่ายๆ ที่ผมกับมันต่างตอบไม่ได้ทั้งคู่

ไม่ใช่ผมตอบไม่ได้หรอก แต่ผมไม่ตอบต่างหาก ใจตัวเอง มันต้องรู้ แต่จะรับได้ไหม นั่นแหละที่สำคัญ

ผมกับมันนั่งกินผัดไทเงียบๆ กินไปได้ครึ่งจาน ซองก็ทำลายความเงียบขึ้นมาอีกหน

“พี่ตุล ผมขอบคุณนะ” เสียงของมันเหมือนลังเลว่าควรพูดหรือไม่ควรพูด ผมเสียใจที่ถามคำถามนั้นออกไป และผมคิดว่ามันก็คงเสียใจเหมือนกันที่มันเองเล่นถามคำถามแบบนั้นออกมา ถ้าผมกับมันเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องที่นั่งกินข้าวเช้าด้วยกัน รู้จักกัน ส่งจดหมายหากันเล่นๆด้วยความไม่คิดอะไร สำหรับคำถามแบบนั้น เราสองคนคงไม่ชะงักแบบนี้หรอก

“เรื่องอะไร” ผมเองก็ยังตอบไม่ได้ ว่าสิ่งที่ผมทำลงไป ผมคิดอะไรกันแน่

“ที่พี่ให้ผมนั่งด้วย” เหตุผลของคำขอบคุณของซองที่ทำให้ความอึดอัดของบรรยากาศเริ่มหายไปอย่างแปลกประหลาด เหตุผลที่ไม่รู้ว่ามันมีความหมายแฝงไหม ทำให้ผมอยากร้องไห้แล้วก็หัวเราะไปพร้อมๆกัน ชีวิตผมไม่ได้เผชิญกับความรู้สึกสับสนแบบนี้มานานจนแทบจะลืม ความวุ่นวายทางใจแบบนี้ที่ผมไม่ได้เจอมานานจนตอนนี้ไม่รู้ว่าจะจัดการกับมันยังไง การก้มหน้าก้มตาทำงาน แก้งาน และอดทนกับหน้าที่ มันง่ายกว่าความรู้สึกสับสนแบบนี้เยอะเลยสำหรับผม

“ไม่เป็นไร” ผมพูดได้แค่นี้ เพราะผมหาคำพูดที่ดีกว่านี้มาให้มันไม่ได้แล้ว

ซองยิ้ม จิ้มกุ้งตัวใหญ่ที่มีอยู่ไม่กี่ตัวในจานวางไว้บนจานผม “ผมให้ กินเลย”

...เป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ นับถือมันเลยนะ ผมเลยตัดกุ้งครึ่งนึงคืนให้มันแล้วก็กินอีกครึ่ง


“ทำไมถึงชื่อนิชคุณวะ อันนี้ชื่อคณะเลยใช่ไหม” จู่ๆผมก็ถามโพล่งออกมา ไอ้ซองยิ้มแห้งๆกับคำถาม คณะมันปกติแล้วจะมีชื่อคณะทุกคน ส่วนใหญ่ก็จะเรียกกันด้วยชื่อคณะ

“ไม่รู้ แต่พี่รหัสผมเรียก บอกว่าหน้าผมตี๋ๆ ใจดียิ้มง่าย  เหมือนนิชคุณ เหมือนตรงไหนก็ไม่รู้ ผมไม่ได้เป็นแฟนคลับติดตาม แต่ชื่อคณะผมไม่ได้ชื่อนี้หรอก” ผมว่าถ้าพี่มันไม่บ้าก็เมา แต่มันก็สุภาพบุรุษจริง ส่วนมาดเซอร์แบบนี้คิดภาพมันกับนิชคุณแล้วจูนกันไม่ติด แล้วทำไมมันถึงมีหลายชื่อ ถ้าซองคือชื่อเล่นจริงๆของมัน นิชคุณคือชื่อที่เฉพาะพี่รหัสมันเรียก แล้วชื่อคณะมันคืออะไร ผมทำหน้าสงสัย เป็นนัยให้มันบอกว่าชื่อคณะของมันคืออะไร

“พบดาว” มันพูดแล้วก็หน้าแดง

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าได้ชื่อนี้เพราะอะไร มันไปพบดาวที่ไหนกัน... พบกุเนี่ย

“ชื่อน่ารักนะ” ผมพูดขำๆ ชื่อเหมือนชื่อผู้หญิงแต่ใครจะแคร์ล่ะคณะมัน

“จนตอนนี้ก็ไม่รู้เลยนะว่าดาวตัวจริงน่ะใคร” มันพูดเหมือนจะปลง แต่ผมขำ

“วางใจได้ ดาวตัวจริงไม่มีลูกกระเดือก แล้วสูงเท่านี้หรอก ตัวจริงตัวเล็กๆ น่ารักเหมือนเด็กญี่ปุ่น” ดาวตัวจริงตัวเล็ก นิดเดียว สูงไม่ถึงไหล่ผม ไว้ผมยาวตากลมๆ น่ารักเลยล่ะ

“งั้นดีแล้วที่ผมไม่เจอตัวจริง ผมชอบสูงๆอ่ะพี่ ผมตัวสูง ก้มคุยเมื่อคอ สัก170เกือบ180กำลังดี” ซองฉีกยิ้มกว้าง มองหน้าผม

“178นี่โอเคไหม” ผมแกล้งเล่นต่อมัน

“โห ตัวเลขนี้เป๊ะเลยพี่”

ซอง... มึงเอาจริง?






...14-5-2012

เหยดเข้ ไม่จบว่ะ นี่ล่อไป16หน้าเอสี่แล้วนะ อัพโพสเดียวไม่อยู่ เกิน2000ตัว คือช่างหัวมันละกัน เอาเป็นว่าตอนจบน่ะมีแน่ๆ แต่ยังปูไปไม่ถึง ขอบิ้วอารมณ์ตัสละครอีกนิด เรื่องสั้นเขียนยากกว่าที่คิดอ่ะ

เพลีย งงมึน บทนี้ก็คงจะรู้สึกกันเยอะขึ้นแล้วแหละ เดินมาราธอนถ่ายรูปกัน โรแมนซ์ซะไม่มี

ขอบคุณคนอ่านทุกคนนะจ้ะ

มาอัพช้า ผิดไปแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cynthia

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
เขาจีบกันได้เรื่อยๆสุดๆอ่ะ
จีบกันอย่างละมุนละไมอีกแล้ว
ชอบบบบบบ
>////<


ออฟไลน์ Sye.B

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ซองงงงงงง~~~~น่ารัก!
อยากรู้ว่าซองคิดอะไรอยู่

ตอนนี้น่ารักมากๆเลยค่ะ
ชอบมากเลย~~
กินผัดไทเสร็จ อย่าลืมไปตบท้ายมื้อดึกด้วยนมอุ่นซักแก้วที่ นมโจ นะคะ
5555555

ได้ค่าโคตรสะนาร้านค้าเท่าไหร่กัน ฮื้มมมมมม~~~~

ออฟไลน์ gumrai3

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-4
กริ๊ดๆมาเเล้วๆ
ซองสู้ๆ คว้าพี่ตุลมาเลย
พี่ตุลเหมือนจะสับสนเล็กๆ

มันดูเหงาเเต่ก็สุข

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
แอร๊ย ต่อไปเลย ต่อเรื่อยๆ ต่ออี๊กกกกกกกกกกกกก
น่ารัก ชิล สบายๆ มีความสุข~~~-
เราก็เล่นกล้องเหมือนกันคะ เวลาถ่ายรูปกับเพื่อนนี่มันสนุกกว่าถ่ายคนเดียวจริงๆนะ!

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ตอนนี้เหมือนพี่ตุลคิดไปไกลแล้วก็สับสนวุ่นวายในใจมาก
ส่วนซองกลับดูนิ่งกว่าเยอะเลย ทั้งที่เป็นคนเดินเข้ามาปั่นป่วนชีวิตคนอื่นแท้ ๆ

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
ยิ่งอ่านยิ่งชอบไม่รู้ทำไมวะคะ
 :o8:
มันเรื่อยๆเฉื่อยๆเอื่อยๆมึนๆอึนๆยังไงก็ไม่รู้หลายอย่างแท้ ฮ่าๆๆ
 :laugh:
แต่แบบบรรยากาศเวลาเข้าเข้าพระเข้านาย(?)กัน เอ๊ย!!!
(ยังไม่ได้บอกชอบกันเลย อินี่เมนท์ล้ำหน้าไปไกลและ 5555)
เค้าจุ๊กจิ๊กงุกงิกกันมันจั๊กจี้ใจมว๊าก
 :m3:
จบไม่ได้ไม่เป็นไร ไม่จบเลยยิ่งดี(อ้าว??)
ขอเสพความอึนปนหวานต่อไป
แบบว่าโดนใจหลายๆพ่อเอ๊ย
 o13

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
เขาต่อความยาวสาวความยืดกันได้อย่างน่ารักน่าชัง
กั๊กกันนิดๆ  รอลุ้นต่อไป

Cacao

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย !@#$%^&*()_+ เป็นตอนที่แบบ !#^#*#(%)%*#%@ จริงจังอ่ะ
น่ารักมากกกกกกกกกกก เค้ามีโมเม้นท์ช่วงอื่นที่นอกจากนั่งกินข้าวด้วยกันแล้วๆนิชคุณน่ารักมาก !!!
เค้าหยอกล้อกันขำๆ เค้ามีนัดกันไปเดท แล้วก็เขียนจดหมายคุยกัน โอ้ยยยยยยย ชั้นอยากจะเป็นลม
แล้วไอโมเม้นท์ ซอง แต่งงานกันไหม นั่นมันอารั๊ยยยยย อารั๊ยจ๊ะ อารั๊ยยยยยย =///= ช้านจะเป็นลม
ต้องการคนพายปอดด่วนจี๋ๆๆ ตั้งกะซองอยากให้พี่ตุลพูด แล้วพี่ตุลก็พูดสะเหมือนจริงขนาดนั้นอีก....
แล้วยังจะยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปน้องซองตอนฟิลกำลังฟินอีกอ่ะ คือทำไมดูมีสเปเชียลโมเม้นท์ร่วมกันขนาดนี้
แล้วไอร้านผัดไดประตูผีอี๊กกกกก ตกลงคุณจะอะไรยังไงกันสองคนนี้ พี่ตุลกับน้องพบดาวววว *โหยหวน*
178 สูงกำลังดี กรี๊ดดดดดดดด แบบนี้ชั้นคิดนะ ชั้นคิดดดดดดด !!! คือจริงๆรู้ว่าความรักเพศเดียวกันมันเข้าใจยาก
แต่ก็อยากให้สองคนเปิดใจยอมรับกันเนอะ : ) กำลังน่ารักกรุบกริบ รักกันด้วยใจใช่หน้าตาและเพศ น่าร็อคอ่ะ >///<

ออฟไลน์ BitterSweet~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 788
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-0
น่าร๊ากกก
ตอนนี้ดูเป็นเดทหวาน ๆ กันเนอะ
นัดกันไปถ่ายรูป เดินไปกินผัดไท

ตุลดูสับสนไม่แน่ใจ น้องซองดูนิ่งกว่าอีกอ่ะ
อีกกี่ตอนจบก็จะอ่านนะคะคนเขียนจ๋า
หลาย ๆ ตอนยิ่งดี ^^

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด