Friend's brother Brother's friend 14, feeling
[NET's talk]
รู้ไหมครับ 2 สัปดาห์ของการสอบนี่มันผ่านไปไวเหมือนโกหกเลยเวลามี24ชั่วโมงต่อวันเหมือนปกติ แต่กลับน้อยเกินไปสำหรับการอ่านหนังสือเตรียมสอบ เรียกได้ว่าทุกวินาทีมีค่า คือหลักๆแล้ววิชาวิศวะเนื้อหามันไม่เยอะครับ มีแต่สูตร อาจารย์ก็ใจดี๊ ใจดี บอกสูตรในห้องสอบแต่ประเด็นอยู่ที่ถ้าวิชาไหนอาจารย์เสือกตีลังกา หมุนตัวสามตลบมาประยุกต์ข้อสอบล่ะก็ สูตรที่ให้มาก็จะเป็นขี้ไปเลยครับ ทำห่าอะไรไม่ได้ อาศัยชินโจทย์แถไปทั้งนั้น
โชคดีที่อาจารย์ไม่ได้โรคจิตแบบนั้นทุกคน
อย่างเช่นสมมติสอบ 8 ตัว เราจะเจอวิชาแบบนั้นสัก 3 แต่อี 3 วิชานั้นจะเบียดเบียนเอาอีก5ไม่ให้เป็นอันอ่าน แล้วอีวิชาหลักๆแม่งก็เสือกชอบสอบตัวแรกก่อนให้อุ่นใจ แล้วอีก 2 มากระจุกเอาวันหลังๆให้ตัวกลางๆนี่ไม่ได้แตะ แต่ก็ดีครับ พอออกจากห้องสอบวันสุดท้ายแล้วจะรู้สึกเหมือนคนท้องผูกเปลี่ยนเป็นท้องเสีย คือแม่งพรั่งพรูออกมาหมด ถึงจะอ่อนเปลี้ยเพลียแรงแต่ก็ไม่อึดอัดเหมือนก่อนหน้านี้
"โว้ยยย โล่ง!!!"
ไอ้โชติตะโกนเสียงลั่น คนอื่นๆสภาพไม่ต่างกัน วิชานี้สอบเย็นดังนั้นกว่าจะออกจากห้องสอบก็โพล้เพล้เต็มที ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่เฮียไม่ได้ว่างมาหาผมอย่างที่บอกเอาไว้ ช่วงนี้ขึ้นเชียงใหม่ไปถ่ายหนัง บางวันเข้าป่าไม่มีสัญญาณก็ไม่ได้โทรมา แต่ถึงโทรมาก็เท่านั้นแหละเพราะผมไม่ได้มีเวลาคุยกับมันเท่าไหร่
กว่าจะกลับก็วันเสาร์ อีก2-3วันได้ ผมไม่ได้นับวันตั้งตาคอยหรอกนะ ไอ้โชติต่างหากแม่งเพ้อถึงเฮียทุกวันคิดถึงของกินอร่อยๆที่เฮียมันสรรหามาจากไหนไม่รู้ใจจะขาด
ครืดด ครืดดดโทรศัพท์ของผมสั่นในกระเป๋า บ๊ะ! บ่นถึงก็โทรมาเลย แม่งรู้เวลาผมออกจากห้องสอบด้วย! ผมควานหาไม่นานแต่รูปหน้าจอโทรเข้ากลับทำให้ผมรู้สึกผิดหวังนิดๆ
"พี่เน็ต คืนนี้2ทุ่ม ABCนะ"
ไอ้บูมโทรเรียก มันคงถูกลุงรหัสใช้แหละครับ เป็นธรรมเนียมของสายผมไปแล้วว่าสอบวันสุดท้ายเป็นที่รู้กันว่าจะต้องนัดกินเหล้า ผ่อนคลายครับ ผ่อนคลาย แหม ก็เครียดกันมาตั้งนาน ผมหันไปบอกไอ้โชติ มันพยักหน้าหงึกหงักลากผมไปกินข้าวโรงอาหารรวม หิวไส้จะขาด คือก่อนเข้าห้องสอบนี่ก็กัดฟันอ่านจนไม่ได้แดกอะไรกันแต่เช้า เสบียงในห้องที่เฮียตุนไว้หมดตั้งแต่ 2 – 3 วันแรกแล้ว ผมส่วนหนึ่งล่ะ แต่เอาเข้าจริงก็แย่งไอ้โชติแดกไม่ค่อยทันนักหรอก
พอถึงเวลา ผมก็เดินเข้าร้านเหล้าฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยเป๊ะๆ คนส่วนใหญ่ยังใส่ขุดนิสิตกันอยู่ เป็นร้านนั่งชิวมีดนตรีสด มีโต๊ะพูล โต๊ะที่ผมนั่งอยู่ด้านในที่ประจำซึ่งมีพี่ก้อง พี่เช็ง ไอ้บูม แล้วก็น้องเก๋ สายรหัสปี1 คนสวยของเรารออยู่แล้ว อย่ามองเยอะครับ รายนี้มีแฟนแล้วเป็นเพื่อนไอ้บูมมันนั่นแหละ
"เฮ้ย มึงอ้วนขึ้นปะวะเน็ต"
พี่ก้องทัก ผมยิ้มให้นิดๆยกมือไหว้ ไอ้โชติเหมือนกัน มันยกมือไหว้พี่ก้องลวกๆ
"นี่มันผอมลงแล้วนะพี่ ผัวไม่อยู่ช่วงนี้"
"ฆวย!"
"หืม? ในที่สุดก็เป็นเกย์จนได้สินะ เออดี คราวนี้สายกูจะได้เหลือกูหล่อคนเดียว ฮ่าๆ"
ไอ้พี่ก้องก็ไปเชื่อมัน ไอ้บูมชงเหล้าให้ผมยิ้มๆไม่พูดไม่จา
"ไงมึง แผลหายแล้ว?"
รอยบนหน้ามันเกือบหายสนิทแล้วครับ มีสะเก็ดแผลอยู่แค่หัวคิ้วเท่านั้น โชคดีที่ไม่มีแผลเป็น
"โอ๊ย สิวๆ"
ปากดีไม่เปลี่ยน มันยกเหล้าขึ้นชนกับพี่ๆ แล้วก็ขอย้ายที่นั่งกับไอ้โชติมาข้างผม พี่ก้องชวนคุยสัพเพเหระ เรื่องเรียนบ้าง ชวนเหล่สาวบ้าง คือไม่ใช่ไม่มองนะครับ ผมก็ยังมีความเป็นผู้ชายอยู่ เห็นสาวสวยๆแล้วก็หลิ่วตามองไม่ให้น่าเกลียดเหมือนกัน ผมชอบคนในเครื่องแบบครับ เสื้อรัดๆกระโปรงสั้นๆนี่เห็นแล้ว แม่เจ้าโว้ยยย มากๆ แต่ก็เป็นกรรมของเวร คือพอเดินไปชนโต๊ะไหนแทนที่จะได้เบอร์นาง กลับถูกพวกผู้ชายในโต๊ะก้อร่อก้อติกเสียได้ทุกที บางทีไอ้พวกที่แซวมันไม่ใช่เกย์นะครับ แต่แม่งนิสัยเสีย เห็นผมตัวเล็กหน่อยก็แกล้งแซวงู้นงี้ หลังๆนี่เลยนั่งมองเฉยๆมากกว่า
"บูมๆ มึงดูโต๊ะหน้าเวทีดิ"
เจอแล้วครับเป้าหมายของวันนี้ ผู้หญิงตัวเล็กๆมากับกลุ่มเพื่อนสาวอีก 3 คน นานๆเจอทีครับแก๊งหญิงเดี่ยว เอาวะ ก่อนเป็นเกย์อย่างน้อยชาตินี้กูต้องขอเบอร์สาวได้บ้างแหละ
"อือ น่ารักดี ทำไมเหรอ?"
"ชงเหล้าดิ๊ๆ เดี๋ยวกูจะไปชน"
ไอ้บูมยิ้มที่มุมปากนิดๆ มันหันไปเติมน้ำแข็งให้ผมแล้วก็เทเหล้า
"เจ้าชู้"ห๊ะ?ผมกระตุกที่หัวคิ้วนิดๆ เหลือบตามองคนด่า ไอ้บูมยื่นเหล้าผสมโค้กให้ผมเหมือนไม่ได้เป็นคนพูดวลีสั้นๆที่กล่าวหากันเมื่อกี้สักนิด
"เฮียขี้หึงนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน"
"จะหึงเหี้ยอะไร กูกับมันไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย"
ไอ้บูมไหวไหล่ ทำปากเป็ดน่ารักๆ
"เห็นเฝ้าเช้าเฝ้าเย็น ขนาดน้องนุ่งเฮียยังไม่สนใจแบบนี้เลยยังจะบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกันอีก ปากแข็งว่ะ"
"เฮียมึงแค่อกหักจากเจ้แล้วเสียสูญเลยมาเกาะแกะกูเท่านั้นแหละ"
ผมคอบส่งๆ ไอ้บูมยกเหล้าขึ้นดื่ม
"พี่เน็ตคิดแบบนั้นจริงๆเหรอ?"ผมรู้สึกว่าน้ำลายที่กลืนลงคอมันเฝื่อน แต่ก่อนที่สมองจะประมวลอะไรได้ น้องรหัสที่น่ารักก็ระดมยิงคำถามมาให้ผมเบลอจัด
"ไม่ชอบเฮียบ้างเหรอ?"และสุดท้าย
"ตอนเฮียไม่อยู่ ไม่คิดถึงเฮียสักนิดเลยหรือไง?"คิดถึงหรือเปล่า....?
ไม่รู้สิ ช่วงนี้ผมก็ยุ่งๆ มันไปทำงานก็คงยุ่งเหมือนกัน ถามว่าคิดถึงไหม? บางทีก็นึกถึงนะ ผมไม่รู้ว่าความหมายมันเหมือนกันรึเปล่า แต่ตอนเย็นๆที่ต้องมานั่งกินข้าวกับไอ้โชติมันก็เหงาพิกล เสียงโทรศัพท์เข้าแต่ละครั้ง เอาเข้าจริงคือผมก็ไม่ได้รอสายมันหรอก แต่เวลาสั่นก็อดคิดไม่ได้ว่าจะเป็นมัน พอใช่จริงๆก็เหมือนใจเต้นรัวๆ แต่ถ้าไม่ เหมือนมันบีบๆนิดๆ แค่แวบเดียวตอนที่รู้ว่าเป็นคนอื่น
ผิดหวัง?บางทีมันก็ใกล้เคียงนะ ความรู้สึกแบบนั้น คนมันเคยคุยกันทุกวัน เคยเห็นหน้ากันตลอด ร่วมเดือนได้ตั้งแต่วันนั้นที่บอมมันเสือกสงสัยห่าเหวอะไรขึ้นมา
ผมอยู่ทางนี้คนเดียว บางทีก็เหงามันเป็นเรื่องปกติของเด็กหอแหละ มีโอกาสก็กลับไปหาแม่บ่อยๆ แต่ถ้าเป็นตอนสอบนี้ไม่ได้เลย เวลารัดตัวสุดๆ อาจเป็นเพราะแบบนั้นก็ได้ที่ทำให้ผมนึกถึงมันว่าถ้าไม่ได้ทำงาน มันคงมาคอยเอาใจอยู่ข้างๆ
เฮียเคยพูดว่าชอบผมหรือเปล่านะ เหมือนจะไม่เคย มันพูดแค่ว่าจะจีบ ผมจำได้แค่นั้น
ที่จริงผมไม่ได้ใส่ใจเฮียเท่าไหร่หรอก
แต่มันจำได้ทุกรายละเอียด ทำไมก็ไม่รู้
"เออ บูม ช่วงนี้ยังอยู่กับไอ้ปันหรือเปล่า"
ไอ้โชติถามบูม น้องมันหันไปยิ้มให้เพื่อนพี่ชาย แล้วพยักหน้ารับ "แต่แผลหายแล้ว สอบเสร็จแล้วด้วย พรุ่งนี้บูมก็กลับแล้ว เสียดายชะมัด"
"เหออ? ติดใจอะไรไอ้คุณชายนัก ไม่ใช่ว่าชอบไอ้ปันนะ?" ไอ้โชติถามต่อทีเล่นทีจริง ผมชะงักแก้วที่ยกขึ้นจรดริมฝีปาก ครั้งนี้ไอ้บูมก็ยิ้มรับอีกรอบ ผมมองเสี้ยวหน้าน้องชายเพื่อนนิ่งๆแล้วยกเหล้าขึ้นดื่ม
"มันรู้หรือเปล่าเนี่ย"
"ไม่หรอกมั้ง แต่พี่ปันแม่งสเน่ห์แรง เจ้าชู้ด้วย ควงสาวไม่ซ้ำหน้าเลย เห็นแล้วไม่มีอารมณ์จะจีบ"
ตี๋เล็กพูดทีเล่นทีจริง มันยกเหล้าขึ้นจะดื่มบ้างแต่ต้องหันหลังกลับไปเพราะถูกสะกิดเสียก่อน ผู้ชายโต๊ะข้างๆยกแก้วเบียร์ขอชนกับมัน บูมหันไปยิ้มให้แล้วรับคำเชิญก่อนกระดกขึ้นดื่มสมใจ ว่าแต่ปันสเน่ห์แรง เกย์สาวอย่างมึงก็ไม่น้อยหน้าเลยครับไอ้น้องรหัส ผมปรายตามองคนที่มาทักบูม ถือว่าหน้าตาใช้ได้เลยในสายตาผู้ชายด้วยกัน
"ชื่ออะไรครับ"
ดนตรีสดเล่นแล้ว ไอ้หมอนั่นเลยยื่นหน้ามากระซิบข้างหู บูมมันถอยออกห่างนิดๆแล้วใช้ตะโกนคุยแทน
ผมลุกออกจากโต๊ะที่นั่งอยู่ไปสูบบุหรี่หน้าร้าน เหมือนรู้สึกจุกในอกตอนที่รู้ว่าบูมชอบปัน นึกขันตัวเองที่ผมยังรู้สึกแบบนั้นทั้งๆที่ควรจะเคยชินกับการที่มีคนมาชอบไอ้คุณชายนั้นได้เสียแล้วแท้ๆ
ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะผมรู้ ว่าครั้งนี้ปันมันไม่ได้เว้นช่องว่างสำหรับคนที่มาชอบเหมือนทุกที
สถานการณ์คล้ายผมกับเฮีย ที่คิดว่าเป็นคนใกล้ตัว และประมาทในความจริงจังของอีกฝ่ายจนลืมเว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัยของใจตัวเองเอาไว้
มวนบุหรี่ถูกจุดขึ้น ก่อนปล่อยให้ลอยม้วนตัวอยู่ในอากาศ ไม่นานนักโทรศัพท์ผมก็สั่นครืด เบอร์โทรเข้าเป็นพี่ชายคนโตของน้องรหัสผม
**อยู่ไหน ทำไมไม่รับสาย**เฮียคงโทรมาก่อนหน้านี้หลายรอบอยู่เพราะเสียงที่ดูหงุดหงิดนั่นกำลังสะบัดงอน ผมถอนหายใจตอบเฮียบีมเสียงเนือย
"ร้านเหล้าหน้า ม. เสียงมันดังเลยไม่ได้ยิน"
**แล้วนี่เมาหรือยัง**"ยัง ทำไม"
**เสียงมึงดูแปลกๆ** ผมคิดอะไรมากไปหน่อย ไม่มีอารมณ์กวนตีนเฮียสักเท่าไร กรอกตาหลุกหลิกเปี่ยมไปด้วยความสับสน
"เหนื่อยๆน่ะ แล้วนี่มื่อไหร่จะกลับ ติดสาวเจียงใหม่ก่อ?"
**สาวเสิวที่ไหน มีคนเดียวเนี่ย ถามแบบนี้น้องเน็ตคิดถึงเฮียเหรอครับ?**"อย่ามาทำเป็นพูดเพราะได้ปะ เลี่ยนว่ะ"
**ตอบมาก่อน คิดถึงหรือเปล่า**"ไม่"
**แต่กูคิดถึงมึงนะ**.
.
.
ผมนิ่ง..
และค่อยๆคลี่ยิ้ม ไอ้ห่านี่ หน้าด้านหรือยังไง? พูดออกมาได้กระดากอายไม่มี
"คิดถึงก็รีบๆกลับมาได้แล้ว เมื่อไหร่งานจะเสร็จเนี่ย ไปนานจังวะ"
**ตอนกูว่างก็ว่างนานเหมือนกันนั่นแหละ รอหน่อย 2-3วัน อย่าเพิ่งนอกใจกูล่ะ**"ถ้ากลับมาไม่ทัน 5 นาที นอกใจแน่ๆ"
มึงไม่มีทางมาทันหรอกไอ้ควาย แต่แทนที่ผมจะถูกมันโวยวาย เฮียกลับหัวเราะในลำคอมาตามสาย
**ได้อยู่ในใจตั้ง5นาที ดีใจจัง**โอย... กูอยากจะอ้วก
"เสี่ยวแดกว่ะเฮีย"
ผมตอบมันไปขำๆแล้วตัดสายทิ้ง มองหน้าจอโทรศัพท์อยู่พักหนึ่งแล้วอัดควันบุหรี่เข้าลึก น่าแปลกที่สายประสาทๆของเฮียเมื่อครู่กลับทำให้ผมโปร่งในหัวมากกว่านิโคตินที่ฟุ้งตลบอยู่ในปอด
ลมหายใจพวยพุ่งขจรกระจาย พอกลุ่มควันสีขาวจางลง ภาพที่ผมเห็นคือไอ้ปันหน้ายุ่งที่กำลังเดินเข้ามา
"บูม ผู้ปกครองมารับ"ผมเดินนำปันเข้ามาในร้าน กระแอมไอให้ไอ้บูมกับผู้ชายโต๊ะข้างๆที่ตอนนี้มานั่งที่ผมเรียบร้อยแล้วแยกแก้มออกจากกัน คือฝั่งโน้นก็พยายามยื่นหน้าเข้ามาคุยมาก ขณะที่ไอ้บูมเหมือนถอยห่างหน่อยๆ ตี๋เล็กหันมายิ้มให้ผมแล้วยิ่งเบิกกว้างขึ้นเป็นสระอิเมื่อเห็นไอ้ตูดหมึกตามผมมาข้างหลัง
"ถ้าจะอยู่บ้านกูก็อย่าเถลไถลนัก"
คนมาใหม่พูดเสียงขรม แต่แทนที่ไอ้บูมจะสะดุ้งสะเทือน มันหัวเราะในลำคอโคลงหัวไปมายกแก้วเหล้าในมือขึ้นจิบ "อะไร ก็บอกแล้วไงเล่าว่าจะมากินเหล้าฉลองสอบเสร็จ พี่ปันก็นัดสาวไว้ไม่ใช่เหรอ?"
"เออ นัดเจอกันจนเอากันเสร็จแล้วไม่เห็นมึงกลับบ้านเลยต้องมาตาม พี่ดวงบ่นฉิบหายแล้วว่าเอาลูกเขามาเสือกไม่ดูแล ใช่เรื่องที่กูจะโดนแม่บ้านบ่นมั้ยสัตว์! แล้วยังไม่เข็ดใช่ไหมพวกผู้ชายที่หาจากร้านเหล้าน่ะ"
ปันนภดูอารมณ์เสียบ่นยืดยาวจนไอ้บูมหาวหวอดกวนส้น พอหยุดหายใจได้ไอ้ปันก็ถลึงตาดุตี๋เล็กก่อนปรายตามองไปยังผู้ชายที่มันถูกพาดพิงซึ่งกลืนน้ำลายอึกใหญ่ บูมหัวเราะเหมือนมีเรื่องอะไรน่าขันนักหนาแล้วหันมาไหว้ผมกับพี่ๆ
"กลับก็กลับ ไม่เห็นต้องหงุดหงิดเลย บูมไปก่อนนะพี่ เราไปก่อนนะอาร์ม แฟนดุแล้ว"
ไอ้คนที่ชื่ออาร์มหน้าเสียอีกรอบพอจบประโยค ผมได้แต่ตบบ่าสมาชิกใหม่ร่วมโต๊ะเบาๆตอนไอ้บูมลุกขึ้นเดินไปเกาะแขนปันนภ ส่วนไอ้บ้าที่หงุดหงิดมาตั้งแต่ชาติก่อนตอนนี้ก็หุบปากสนิทเหมือนอย่างเคย มองที่แขนตัวเองแล้วเหลือบตามองผมเหมือนกระอักกระอ่วนใจหน่อยๆ
"กลับด้วยกันไหม"
คุณชายหันมาถามผม ตัวเองตอนนี้รู้สึกเหมือนชาที่หน้านิดๆแต่ก็ส่ายหัวยิ้ม ปรายตามองแขนที่คล้องกันไว้ด้วยความรู้สึกแปลก มันไม่เชิงหึงหรอกเพราะรู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ แค่อดคิดไม่ได้ว่าถ้าผมกล้าทำอะไรเหมือนไอ้บูม ผลจะออกมาเป็นยังไงนะ
ผมไม่กล้าคิดต่อ ยกแก้วแอลกอฮอล์ขึ้นจิบ หันไปคุยกับน้องเก๋เหมือนไม่เก็บเอาภาพบาดตามาใส่ใจ
น้องมันก็น่ารักดี เจ๊าะแจ๊ะๆกวนอารมณ์ไอ้ปันขุ่นได้แบบที่ผมก็ไม่เคยเห็นมาก่อน
ผมยกแก้วแอลกอฮอล์ขึ้นดื่มอีกครั้ง ไม่ได้สังเกตว่าไอ้ปันกับบูมพากันออกไปนอกร้านตอนไหน
แต่ก็ช่างมันเถอะบางทีผมอาจไม่อยากเห็นภาพมันเดินกระหนุงกระหนิงกันสักเท่าไรก็ได้
ความโหดร้ายของสอบกลางภาคคืออะไรรู้ไหมครับ?มันคือการเรียนต่อในวันถัดมาโดยไร้ซึ่งวันหยุด เลือดเย็นที่สุดคือการที่ต้องเข้าเรียนในวิชาที่ไม่รู้ว่ากูจะต้องดรอปหรือเปล่านี่แหละ ผมเข้าเรียนสายเป็นปกติของคนบ้านใกล้ขณะที่ไอ้โชติเข้ามาหลับรออยู่แล้ว สไลด์อาจารย์เปิดไปเรื่อยพูดจาเป็นนกแก้วนกขุนทองไม่สนใจว่ามีใครฟังหรือไม่เหมือนปกติ นิสิตกลับสู่วงจรอุบาทว์เหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง
หลังจากสอบราวๆ2สัปดาห์นั่นแหละ ผลคะแนนจะออก
เช่นกัน จำนวนนักศึกษาในห้องก็จะบางตาไปกว่าครึ่ง
ผมนั่งเคาะนิ้วบนโต๊ะเลคเชอร์ หญิงวัยกลางคนหน้าชั้นเรียนมีผมขาวขึ้นแซมสีดำ หน้าตาอาจารย์ดูเหมือนครูภาษาไทยมากกว่าจะเป็นหัวหน้าภาควิชาวิทยาศาสตร์ เอกวิชาคณิตศาสตร์สำหรับวิศวกรรม แต่แกก็สอนดีพอๆกับข้อสอบโหดๆนั่นแหละ เข็มนาฬิกาเดินเชื่องช้า กระนั้นคงเร็วเกินไปสำหรับไอ้โชติเพราะช่วงท้ายคาบที่ผมใช้ตีนสะกิดเขี่ยมันแม่งยังเคี้ยวน้ำลายแจ๊บๆ ไม่หายง่วงอยู่ ใจหนึ่งอยากทิ้งมันนอนแบบนี้แหละ แต่อีกใจก็เวทนา นอนหลับคาห้องเรียนในศูนย์เรียนรวมนี่มันน่าอายน้อยที่ไหน
สุดท้ายผมก็พาตัวเองกับไอ้โชติเดินกลับคณะเงียบๆจนได้ เห็นไอ้หยกยามเฝ้าหมากรุกจีนกำลังดวลหมากกับบูมอยู่แล้วเลยเข้าไปนั่งใกล้ๆ ไม่มีเรียนตัวต่อไปกะว่าจะไปตีดอทกับพี่ก้องที่เลิกเรียนหลังผมครึ่งชั่วโมงต่อสักหน่อย แล้วเดี๋ยวเนียนให้มันเลี้ยงมื้อเย็นเลยก็แล้วกัน
"ไง จะปราบเซียนเหรอหยก"
ผมทัก ที่จริงไอ้หยกเป็นอันดับต้นๆของกระดาน กระนั้นเหนือฟ้าย่อมมีฟ้าเหนือไอ้หยกก็ยังมีตี๋เล็กที่นานๆเล่นที แต่ทีนึงก็จัดหนัก ดูจากกองขนมหน้าตักมันก็รู้แล้วว่าไอ้บูมกินตังค์มันไปเท่าไร
"พี่เน็ตหวัดดี นี่เลยๆ บูมแบ่งหนมให้"
มันหันมายิ้มกว้าง ยัดขนมห่อ5บาทใส่ตักผม บริการเสิร์ฟน้ำแดงแมงลักที่ดูแล้วคงตังค์ไอ้หยกอีกชัวร์ใส่มือแก้กระหาย
"พี่เน็ต น้องรหัสพี่แม่งโกงผมชัวร์เลย มีทีไหนเล่นแต่เช้าแม่งไม่แพ้เลยซักตา" ไอ้หยกรีบฟ้อง
"นีเล่นกันแต่เช้าเลยเหรอ ไม่มีเรียนรึไง"
"มี แต่ไม่เข้า นี่ขนาดไม่เข้าเรียนนะพี่ผมยังท็อปเลย เข้าเรียนแล้วเดี๋ยวกดเต็ม จะเดือดร้อนเพื่อนๆเอา"
ไอ้บูมอวด มันยักคิ้วกวนๆให้ผมแล้ววางหมาก
"ฤุย ทำคุย ถ้ากูได้หนังสือพี่เน็ตเหมือนมึงกูก็ท็อปวะ พี่รหัสมึงจดโคตรละเอียด"
ไอ้หยกทนหมั่นไส้ไม่ไหวรีบแขวะ ไอ้บูมยิ้มแผล่แล้วเอาหัวมาไถๆไหล่ผมเชิงอ้อน
"พี่รหัสเราน่ารักใช่ไหมล่ะ น่ารักจนอยากได้มาเป็นพี่สะใภ้เลยล่ะ"
ไอ้หยกขำพรืดแกล้งจะเอามือมาจับผมก็โดนไอ้บูมตี เปี๊ยะ! ที่หลังมือ มองเพื่อนมันตาเขียวปั๊ด
"พี่เน็ตอะ หยกอกหักนะเนี่ย"
"เดี๋ยวพี่บอกน้องเก๋ให้ไหม หยก"
พอพูดถึงแฟนมัน ไอ้หยกก็นิ่วหน้า บูมหัวเราะชอบใจใหญ่แล้วกอดผมไว้ทั้งตัว
"ถึงไม่มีเก๋เราก็ไม่ยกพี่เน็ตให้หรอก คนนี้จองให้เฮียคนเดียว พี่เน็ตเจอเฮียรึยังครับ"
"กลับมาแล้วเหรอ?"
คิดว่าพรุ่งนี้เสียอีก ผมเลิกคิ้วถามไอ้บูมย่นหน้าเข้าหากัน
"มาเมื่อคืน นึกว่าไปหาพี่เน็ตก่อนซะอีก ไมได้เรื่องเล้ยย"
บูมบ่นเฮียมัน ขณะที่ผมยิ้มๆ เอ๊ะ? สรุปว่านี่กูยอมรับสเตตัสพี่สะใภ้มันแล้วเรอะ? พอนึกขึ้นได้ผมก็ทำหน้าเบี้ยวเหมือนคนปวดท้อง
"อย่างอนเฮียไปเลย เมื่อวานเฮียคงเหนื่อยจริงๆอะ ไม่งั้นต้องแจ้นไปหาพี่เน็ตอยู่แล้ว"
ไอ้บูมตบบ่าให้กำลังใจ เดี๋ยวกูได้หลังแหวนหรอกไอ้เด็กเปรต หาพรรคพวกให้กูเป็นสปีชี่เดียวกับมึงอยู่ได้
"งอนก็เหี้ยละ ใครสนใจเฮียมึง ห้ะ?"
"อะโด่ว เห็นทำหน้าเมื่อย มามะพี่สะใภ้ ตานี้อยากกินไร เดี๋ยวบูมแดกตังค์ไอ้หยกได้ ยกให้เลย!"
เหมือนกันทั้งโคตรรร หลอกล่อกูด้วยของกินตลอด เออ ใช่สิ! ก็มันได้ผลนิ่
(ต่อ)