ตอนที่ 20 จะรักจากนี้และตลอดไป
โชน
ผมขับรถระหว่างทางก็ได้แต่คิดถึงคำพูดของกันต์กับน้องชาย
ถ้าสิ่งที่ผมได้ยินมันเป็นความจริงเด็กในท้องของคีตาคือลูกของผม ในฐานะที่เป็นพ่อผมควรจะรับผิดชอบ
แต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ?...ถ้ากันต์โกหกผมเพื่อยัดเยียดให้เป็นพ่อของเด็กล่ะ แล้วน้องผมที่ในท้องมีลูกของมันก็คงต้องช่วยมัน โว๊ย สมองของผมตอนนี้ตีรวนไปมาไม่หยุด
เอี๊ยด
เสียงผมเหยียบเบรกดังลั่น ผมมัวแต่คิดแล้วก็คิดจนไม่ดูทางข้างหน้าเกือบชนต้นไม้ ดีที่ลูกผมเรียกผมให้เหยียบเบรกได้ทัน
“พ่อเป็นอะไร? คิดอะไรอยู่? ถ้าพ่อคิดถึงคีตา ผมอาจจะรู้จักเขาไม่มากแต่ทั้งชีวิตของผมได้ยินแต่ชื่อเขา พ่อมักพูดตอนที่เมา ไม่ก็เผลอพูดออกมาตอนที่เล่นกับผม พ่อบอกว่าเขาคือหัวใจของพ่อแต่ในเวลาเดียวกันเขาก็คือคนที่พรากความรักที่พ่อมีให้เขาจนหมด
เวลาที่พ่อเล่าให้ผมฟังพ่อมีสีหน้าที่ดีใจมากแต่ก็เศร้าแล้วก็โกรธแค้น ทำให้ผมสนใจในตัวคนๆนี้ คนที่ชื่อว่าคีตา
ตอนที่ผมยังเด็กกว่านี้ผมเคยเจอเขาผมสัมผัสได้ถึงความรักที่เขามีให้พ่อและตอนที่ผมได้เจอคีตาอีกครั้งผมก็สังเกตเขา ผมจ้องลึกทุกอย่างที่เขาทำ
ทุกอย่าง มันบอกว่าเขายังรักพ่อ แววตาที่คีตามองพ่อตอนที่กอดกับผู้หญิงคนนั้น มันสะท้อนถึงความเจ็บปวดในใจได้จนผมสังเกตเห็นได้ง่ายๆ ถึงมันจะเป็นแค่ช่วงสั้นๆแต่ผมก็รู้สึกได้ว่ามันมาจากใจ
และทุกอย่างที่คีตาทำก็ทำให้ผมรู้ว่าความจริงคนที่ควรจะทำหน้าแบบนั้นมันไม่ใช่พ่อแต่เป็นเขา คีตาควรจะแค้นพ่อ แต่เปล่าเลย เขาไม่แค้นแต่ก็เก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้ ว่าเขายังคงรักพ่อ
ถ้าพ่อมองว่าเขายังคงเป็นหัวใจของพ่ออยู่ก็มองกลับไปถึงสิ่งที่ผ่านมาว่าเขาเคยคิดที่ทรยศพ่อหรือเปล่า? ถ้าเปล่า
พ่อควรจะทำยังไงผมก็ให้คำตอบไม่ได้ สิ่งที่จะให้คำตอบกับพ่อได้คือตัวของพ่อเอง ผมพูดได้แค่นี้และหวังว่าพ่อจะเข้าใจตัวเอง”มีนพูดเตือนสติผม คำพูดของลูกชายทำให้ผมหน้าชา ไม่ได้ชาจากการถูกตบแต่มันชาเพราะความละอายใจ
ผมเป็นพ่อเขาแต่กลับโดนเขาสอน ลูกผมอายุ 5 ขวบ ผมรู้ดีแต่ก็รู้ด้วยว่าลูกของผมได้เลือดแม่มาเต็มๆ แม่ของลูกผมเป็นอัจฉริยะและมันก็ส่งมาถึงมีนด้วย เพราะงั้นลูกผมจึงไม่เคยทำอะไรแบบเด็กทั่วไปสักเท่าไร และนี่ก็คงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมไม่ค่อยสนใจมีน
คำพูดของมีนทำให้ผมคิดถึงสิ่งที่ผ่านมาผมพยายามปะติดเรื่องราวของคีตากับเรื่องราวของผม ในวันนั้นผมจำได้ว่าผมก็ไปที่โรงแรมนั้นเหมือนกัน ตอนนั้นผมเมา และเวลาที่ผมเมาผมจะคิดถึงคนๆหนึ่ง และคนๆนั้นก็คือ คีตา
วันนั้นผมฝันแปลกๆฝันว่าผมได้ครอบครองร่างกายนั้น ได้ทำให้เขาเป็นของผม แต่พอผมตื่นผมก็รู้ว่ามันคงเป็นได้แค่ฝัน ข้างๆผมไม่ใช่คีตาแต่เป็นเจนนี่ เจนนี่เธอนอนอยู่ข้างผมไม่ใช่คีตา แต่ถ้าสิ่งที่ผมรับรู้จากเจนนี่ไม่ใช่ความจริง
ถ้าความจริงในวันนั้นคือผมกับคีตามีอะไรกัน เด็กในท้องก็ต้องเป็นลูกผม
ผมลองมองย้อนไปไกลกว่านั้น ในวันนั้นคีตาไม่ได้ทรยศต่อความเชื่อใจของผม แต่เป็นผมเองที่ทำลายความไว้ใจที่มีให้จนย่อยยับลงกับมือตัวเอง
ผมคิดถึงแต่ใจของตัวเองที่เจ็บโดยไม่คิดว่าจะทำให้
ใจอีกดวงของผมต้องเจ็บ
......................................
ผมขับรถต่อไปจนถึงบ้าน ผมจอดรถและอุ้มมีนออกจากรถ ผมคงจะลืมไปแล้วสินะว่าลูกผมตอนนี้ยังตัวเล็กอยู่ถึงไม่ค่อยได้อุ้ม พอลองอุ้มดูก็รู้สึกได้ว่าลูกผมหนักขึ้น
ไม่ได้ ไม่ได้แล้ว ถ้าตอนนี้ผมมีลูกหนึ่งยังเลี้ยงแบบนี้แล้วผมที่กำลังจะเป็นคุณพ่อลูกสองจะเป็นไง ผมไม่อยากคิด ผมต้องปรับปรุงตัวเอง ผมคิดในใจ
“พ่อวางผมลงนะ ผมไม่ใช่เด็กแล้ว”มีนโวยวาย ลูกผมยังเป็นลูกผมโวยวายให้ผมวางลงแต่ก็งั้นๆเรื่องอะไรผมจะวางในเมื่อผมไม่ได้อุ้มมานานแล้ว จนได้ยินเสียงหนึ่ง
“โชนวางมีนลง”
เสียงของคีตาทำให้ผมสนใจ ตอนนี้คีตาเปลี่ยนชุดใหม่แล้วเสื้อยืดสีฟ้า กางเกงสามสวมสีครีม ผมสีดำที่เริ่มยาวไหวไปตามลม หน้าตาที่ยังคงเหมือนเดิมทำให้ผมคิดได้มากกว่าเดิม แววตานั่น ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม จะเปลี่ยนก็แต่ตัวผมที่ปล่อยให้หมอกบังตาจนหลงลืมสิ่งที่สำคัญที่สุด
ผมมองคีตาจนเผลอวางมีนลง มีนก็เลยรีบวิ่งไปหาคีตาเหมือนขอความช่วยเหลือ ดูท่า ลูกผมคงจะชอบคีตา คงไม่ใช่แค่อ้อมกอด แต่รักเหมือนแม่สินะ ผมคิดก่อนจะมองคีตาที่ตอนนี้จ้องมองลูกผม จับตัวมีนหันไปมา
“โชนนายมันร้ายกาจที่สุด โหดร้ายทำร้ายได้แม้แต่ลูกตัวเอง”คีตาว่าผม ผม งง แต่พอมองไปที่หน้าลูกชายผมก็พบคำตอบ หน้าลูกชายผม หน้ากลมๆนั้นมีรอยฝ่ามืออยู่ บ่งบอกได้เลยว่าโดนทำร้าย แต่ใครล่ะที่เป็นคนทำ ผมอยากจะทำให้มันเจ็บกว่าร้อยเท่า เห็นผมไม่สนใจลูกแต่ผมก็รักลูกมากนะ
ผมเข้าไปจะสำรวจดูร่างกายมีนแต่คีตากลับห้าม แต่พอมองมาที่หน้าผมก็ทำหน้าตกใจ
“หน้าไปโดนอะไรมา”คีตาถาม ถึงมันจะไม่ใช่น้ำเสียงนิ่มนวลแต่มันก็บอกว่าคีตายังสนใจผมอยู่
ผมยิ้มก่อนที่จะตอบ
“เปล่าหรอก พี่แค่เอาหัวไปโขกปูนเตือนสติตัวเองน่ะ”ผมบอกคิดแล้วขำ ดีนะที่ผมไม่ต้องเอาหัวไปโขกปูนจริงๆอย่างที่เชนบอก
“โง่ หรือไง ใครเขาจะไปเชื่อแต่ช่างเถอะถ้าไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอกแต่ทั้งนายทั้งมีนต้องไปทำแผล” คีตาพูดก่อนที่จะกลับเข้าบ้านแล้วก็กลับมาพร้อมกับกล่องปฐมพยาบาล
“โอ๊ย เบาหน่อยครับ พี่เจ็บนะ”ผมบอกแต่ความจริงไม่เจ็บหรอกแค่อยากแกล้งเพราะเวลาที่ผมบ่นผมจะเอามือจับมือของคีตา เหมือนหลอกจับมือ แต่ดูเหมือนคีตาจะรู้ก็เลยกดมือกับแผลผมแรงๆ
“โอ๊ย”คราวนี้เจ็บจริง
“ไม่ต้องบ่น ดูมีนสิยังไม่เห็นบ่นเลย”คีตาพูดหลังจากทำแผลให้ผมเสร็จก็ทำแผลให้มีนต่อ ก็แน่สิลูกผมจะร้องได้ไง ในเมื่อแตะเบาแบบนั้น ผมหันไปมองหน้ามีนลูกผมมีหน้าเดียวหรือไงแต่ใครกันที่ทำลูกผม ผมยังหาคำตอบไม่ได้แต่เดี๋ยวโทรหาเชนคงรู้
ที่ๆผมนั่งตอนนี้เป็นศาลาริมน้ำ ผมเห็นวิวดีก็เลยปลูกไว้ ไม่คิดว่าจะต้องมานั่งทำแผลที่นี่เลย
แต่ก็นะ วิวดี บรรยากาศก็อำนวย ผมเลยแอบจุ๊บแก้มคีตากับมีนคนละที
คีตากับมีนเลยหันมาส่งสายตาดุใส่ผม เหมือนกันเลยนะ ก็ดี เพราะผมตัดสินใจได้แล้วว่านับจากนี้เป็นต้นไปคนที่ผมจะรักจากนี้และตลอดไปคือคีตาคนเดียว
สำหรับเรื่องลูก แน่นอนผมยอมรับแล้ว ผมก็เป็นเหมือนที่กันต์บอก กินหญ้าแทนข้าว โง่ สุดๆ แต่ไม่เป็นไรต่อจากนี้ไปผมจะกินข้าวแทนหญ้าบ้าง 555 ผมขำให้กับความโง่ของตัวเอง
ผมยังไม่ลืมว่าทำอะไรคีตาตอนรู้ว่าคีตาท้องหรอกนะ นอกจากนั้นคีตายังบอกว่าเกลียดผมอีก แต่ผมก็รู้ว่าเขาพูดเพราะโกรธผม ก็นะ คนที่เกลียดกันที่ไหนเขาจะมาทำแผลให้กันล่ะ
และก็เพราะผมยังไม่ลืมไง ก็เลยกะไม่บอกคีตาว่าเป็นพ่อจนกว่าคีตาจะอภัยให้ผม
ผมรู้ว่าผิดที่ทำเขาท้องและไม่รับผิดชอบตั้งแต่ต้น แต่ตอนนี้ผมกับเขาแต่งงานกันแล้วก็ถือว่าตอนนี้คีตาเป็นภรรยาของผมที่ผมรักแล้ว
ความคิดผมตอนนี้อาจจะเห็นแก่ตัวแต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง
ผมเห็นนะตอนที่เขาเล่าให้ผมฟังเขาดูเจ็บแค้นคนที่ทำเขาท้องมาก
ผมเลยกลัว...กลัวว่าถ้าคีตารู้ว่าผมเป็นพ่อจะยิ่งโกรธและไม่ให้อภัยผมมากกว่าเดิม แค่ที่ผมทำร้ายเขาก็ทำให้เขาโกธรผมมากแล้ว
แต่ถึงจะโกธรผมยังไง คีตาก็ยังคงเป็นคีตาคนดีของผม ที่มานั่งทำแผลให้กับคนที่ทำร้ายตัวเอง
ผมจ้องหน้าคีตาและคิดว่า ผมช่างเป็นคนที่โชคดีที่ได้เป็นเจ้าของคนๆนี้
คนที่อ่อนโยนและยังคงเป็นคนที่ไม่เปลี่ยน ดียังไงก็ดียังงั้น
“จ้องหน้าทำไม บ้าหรือไง สงสัยจะบ้าจริงจ้องอยู่ได้แถมเมื่อกี้ยังมาหอมอีก”คีตาพูดผมก็เลยจูบที่ริมฝีปากก่อนที่จะถอนจูบออกมา
“ถ้าพี่จะบ้า พี่ก็บ้ารักครับ”ผมพูดแล้วก็กอดคีตาพร้อมกับมีน
จากนี้ผมจะปกป้องครอบครัวของผม
จะไม่ยอมให้ใครมารักแก
และจะดูแลพวกเขาตลอดไป
ผมสัญญากับตัวเองมือผมลูกท้องคีตา
พ่อขอโทษนะที่ไม่ได้รับผิดชอบปล่อยให้หนูกับแม่ต้องเหงาแต่ไม่เป็นไรหรอก พ่อคนนี้จะรักหนูและแม่หนูตลอดไป
......................................
กันต์
ตอนนี้ผมอยู่ที่บาร์ของพี่ชาย ตอนที่โชนบอกว่าผมตัดสินใจจะทำไงแล้วก็มาบอก
ผมก็มาที่นี่ ผมอยากจะแต่งงานกับเชนไม่แค่รักผิดชอบแต่มันคือรัก ผมบอกไม่ได้ว่ารักตั้งแต่เมื่อไรแต่รักก็ไม่มีเหตุผล ผมทนเห็นน้ำตาของคนที่ผมรักไม่ได้ ผมจึงต้องทำให้เขาเชื่อใจผมและการแต่งงานก็เป็นหนึ่งในนั้น
ผมจึงมาหาพี่ชาย ญาติเพียงคนเดียวของผมที่อยู่ในประเทศไทย เพราะมันเร็วที่สุดเพราะถ้าผมบอกพ่อกับแม่ที่อยู่ไกลกันครึ่งโลกกว่าพวกท่านจะเคลียงานและมาได้คงไม่ทันใจผม ดังนั้นพี่ชายผมจึงเป็นคนเดียวที่จะไปขอเชนให้ผม
ผมเข้าไปในบาร์ได้ไม่เท่าไรก็ได้ยินเสียงแก้วแตก
เพล็ง
“แม่ง แน่จริงมึงอย่าหลบดิว่ะ กูจะเอาเลือดชั่วๆของมึงออก”เสียงพี่ชายของผมดังขึ้นเหมือนกับโกรธแค้นใครสักสิบชาติ ก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงแก้วแตกอีกแต่มันดังพร้อมกับเสียงของคนร้อง ผมรีบวิ่งไปดู
สิ่งที่ผมเห็นคือตูนเพื่อนของผมที่แต่งชุดพนักงานบาร์ ที่ใบหน้ามีเลือดไหลออกมา เสียงแก้วแตกเมื่อกี้คงเป็นพี่ผมสินะที่ทำผมจะเอื่อมมือไปแตะดูแผลให้เพื่อนผมแต่พี่ผมกลับขัด
“กันต์มึงอย่าไปจับมัน เดี๋ยวเลือดชั่วๆของมันจะมาติด”พี่ผมพูดก่อนที่จะกระชากเหวี่ยงตูนลงกับพื้น
“มึงก็เหมือนกันอย่ามาอ่อยน้องกูเพราะให้ตายน้องกูก็ไม่หันมามองมึงหรอกนะ เพราะน้องกูก็เหมือนกูเกลียดพวกชั่วๆที่ร่านแต่จะหาผัวจนทำให้ผัวเมียเขาแตกกัน”ผม งง กับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เข้าใจ ตูนทำไรผิด ทำให้ผัวเมียเขาแตกกัน เมียพี่กร พี่นัน หรือว่า...ผมขอให้สิ่งที่ผมคิดไม่ใช่ความจริง เพราะผมรู้ถึงสันดานพี่ผมดีถ้าใครทำมันเจ็บมันจะทำให้เจ็บกว่าพันเท่า
แต่ถึงจะเป็นแบบที่ผมคิดแต่ตูนคงไม่ได้ตั้งใจทำ เพราะผมรู้จักเพื่อนผมคนนี้ดี เขาใจดีและอ่อนโยนกับทุกคน ไม่เคยทำร้ายใคร
ผมเลยพยุงให้เพื่อนของผมลุกขึ้น
“กันต์ไม่ต้องมาพยุงเราหรอกนะเราลุกเองได้”ตูนบอกผมก่อนที่จะพยายามลุกขึ้นเองแต่ผมก็ยังพยุงเขาไปนั่งที่โต๊ะ
“กล่องปฐมพยาบาลครับ”วิลโพล่มาแล้วยื่นให้ผม ผมก็จัดการทำแผลให้
“กันต์กูบอกมึงแล้วไงว่า อย่ายุ่งกับมัน”พี่ผมยังคงตะคอกผมจนผมทำแผลเสร็จ
“พี่กรนี่เพื่อนผมนะพี่ทำกับเพื่อนผมแบบนี้ได้ไง”ผมถาม ผมก็โกรธ ถึงจะเป็นพี่แต่มาทำกับเพื่อนผมแบบนี้มันเกินไปแล้ว
“ก็มันมาทำลายชีวิตครอบครัวกูทำไม”พี่กรตอบแววตาเจ็บแค้นนั่นจ้องมาที่เพื่อนผมอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“มันเกิดอะไรขึ้น”
“มึงลองถามเพื่อนแสนดีมึงสิว่ามันทำอะไร ดูดิว่ามันจะตอบยังไง”พี่ผมยังคงไม่บอกแต่หันไปมองตูน
“ตกลงว่าเป็นยังไงวะตูน กันต์ งง ไปหมดแล้วที่พี่กรพูดจริงหรือเปล่า”ผมถามแต่ตูนกลับร้องไห้ ไม่ตอบคำถามผม ผมเริ่มใจเสีย
“กันต์...ครั้งนี้ตูนขอ อย่าเข้ามายุ่งได้ไหม... อย่าถามตูน ถ้ายังเห็นคนๆนี้ยังคงเป็นเพื่อน แล้วก็ขอให้กันต์สัญญาว่าจะไม่ยุ่ง”ตูนไม่ตอบแต่กลับขอร้องผม ผมก็ได้แต่ทำตอบตกลงทั้งที่ไม่เข้าใจ แต่ผมเคารพในความเป็นเพื่อนผมจะไม่ถามอะไรแต่ก็จะช่วยถึงจะไม่รู้อะไรเลยก็ตาม
พี่ผมเรียกผมให้เดินมาที่ห้องทำงานที่อยู่ชั้นสอง ผมเลยเล่าถึงสาเหตุที่ผมมาที่นี่และบอกจุดประสงค์ของผมไป
“สรุปมึงมีลูกและกำลังขอเขาแต่งงาน แล้วมึงก็อยากให้กูเป็นญาติผู้ใหญ่ไปสู่ขอเขาถูกต้องเปล่า”พี่กรถามผมพยักหน้า
“555 ให้มันได้ยังนี้สิถึงสมกับเป็นน้องพี่ นึกว่าจะซึมตอนคีตาแต่งงานจนไม่บอกใครแล้ว นี่กูจะมีหลานให้อุ้มแล้วหรือเนี่ยพี่กรบอก
“เรื่องสู่ขอไม่ต้องห่วงกูจะทำให้อย่างดีที่สุด แต่กุมีเรื่องหนึ่งอยากให้มึงทำตามหน่อย”
“เรื่องอะไร”
“อย่ายุ่งกับมัน”
“ตูน”
“ใช่ มันนั่นเหละ อย่าไปเห็นใจมันไม่ว่ากูจะทำไงก็อย่าห้าม”
“ก็ได้ ผมจะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้แต่ไม่ใช่ผมกลัวว่าพี่จะไม่ไปสู่ขอถ้าเรื่องนั้นผมรอพ่อกับแม่ก็ได้ แต่ที่ผมรับปากเพราะผมสัญญากับตูนแล้วว่าจะไม่ยุ่ง”ผมพูดก่อนที่จะเดินออกไป
ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ไม่เข้าใจสักอย่าง แต่ผมสัญญาไปแล้วว่าจะไม่ยุ่งดังนั้นผมจะไม่ยุ่ง แล้วเรื่องสู่ขอก็ไม่ต้องห่วงเห็นพี่ผมมันเป็นแบบนี้แต่มันรักผมจะตาย ที่ผมพูดเนี่ยไม่ได้เข้าข้าง ตัวเองแต่ไม่ว่าผมจะขออะไรมันก็ให้ ถึงจะเป็นแบบนั้นมันก็ชอบปล่อยผมอยู่บ้านคนเดียว
ตอนนี้ผมจะไม่คิดอะไรเรื่องพี่ผมกับตูนแต่ผมก็ได้แต่อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ
ทำไมจะต้องไปรับปากตูนด้วยวะ
แต่ไม่เป็นไรถ้าเพื่อนยังไงก็เพื่อน
ผมว่าไม่ว่าพี่ผมจะเข้าใจอะไรเพื่อนผมแต่ยังไง
สักวันพี่ผมจะต้องรู้ว่า เพื่อนผมไม่ผิด
ทำไมผมถึงเชื่อใจเพื่อนผมนัก ก็บอกเลยว่าเพราะเป็นเพื่อน
ผมคิดแบบนั้นก่อนที่จะขับรถกลับคอนโดที่ผมย้ายตัวเองมาอยู่กับเชน ใช้ความด้านขนของมานั่งเฝ้าเชน และตอนนี้ที่ผมมาได้เพราะเชนหลับอยู่ แต่ยังไงผมก็ต้องรีบกลับไป
รอกันต์นะครับที่รักของกันต์
TBC………….