♥Pretty Boy II♥เจ้าชายตัวน้อยของผม
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥Pretty Boy II♥เจ้าชายตัวน้อยของผม  (อ่าน 887460 ครั้ง)

ออฟไลน์ mnara

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ในที่สุดก็ผ่านความทรมานใจมาได้วุ้ วู้ :hao7:
ดีใจกับริชด้วยนะ

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
จะจบแล้วหรอเนี้ยเห้อๆๆ ทำไมเร็วจัง

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
กว่าจะยอมรับนะพ่อพี่คราม
จะจบแล้วหรออ :ling1:

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
Pretty Boy II
ตอนที่ 31-(1)
The Happy Ending Chapter




[Cake talks]

นอนไม่หลับ!!!

ผมนอนพลิกไปพลิกมามาหลายชั่วโมงแล้ว นับแกะนับแพระหมดไปกี่คอกต่อกี่คอกแล้วก็ไม่รู้ แต่ผมก็ยังนอนไม่หลับ สาเหตุที่ทำให้ผมนอนไม่หลับก็คือ พรุ่งนี้จะประกาศผู้ที่มีสิทธิ์เข้าเรียนในคณะดุริยางคศาสตร์!!! ผมก็เลยตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ ไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง ผมกลัวว่าตัวเองจะสอบไม่ติด

ก่อนหน้านี้ผมกระวนกระวายอยากจะให้ถึงวันประกาศผมสอบเร็วๆ เพราะยิ่งรอมันยิ่งตื่นเต้น แต่ตอนนี้ผมไม่อยากให้ถึงวันพรุ่งนี้เลย มันกลัวไปหมดทุกอย่าง

“เค้ก ทำไมยังไม่นอนครับ” สงสัยว่าผมจะพลิกตัวบ่อยเกินไปพี่ทราฟก็เลยตื่น

“เค้กนอนไม่หลับ” ผมบอกพี่ทราฟเสียงเบาๆ มันก็เหมือนจะง่วงอ่ะ แต่หัวผมมันไม่ยอมหยุดคิดเสียที ถึงได้นอนไม่หลับ

“ไม่ต้องคิดมากหรอกครับ นอนซะ” พี่ทราฟกระชับวงแขนกอดผมแน่นขึ้น ผมซุกหน้าลงกับอกพี่ทราฟสูดกลิ่นกายของพี่ทราฟเข้าปอดหวังว่าจิตใจจะสงบลงบ้าง

แต่สุดท้ายผมก็นอนไม่กลับอยู่ดี จนผมเริ่มหงุดหงิด

“พี่ทราฟ” ผมปลุกพี่ทราฟเบาๆ

“ครับ” พี่ทราฟรับคำงัวเงีย

“เค้กนอนไม่หลับ”

“หืม ทำไมครับเด็กดี”

“เค้กอยากนอนแต่นอนไม่หลับ” เคยเป็นไหมครับ คือผมพยายามไม่คิดอะไรแล้วนะ แต่ก็ยังนอนไม่หลับอ่ะ รู้ตัวเลยนะว่าง่วงมาก แต่ก็หลับไม่ได้

“...”พี่ทราฟเงียบไปสักพักก่อนจะขยับมาคร่อมผมไว้ ผมมองหน้าพี่ทราฟผ่านความมืด หัวคิ้วขมวดนิดๆเพราะไม่รู้ว่าพี่ทราฟจะทำอะไร

“พี่ทราฟ จะทำอะไร”

“ก็ทำให้เค้กนอนหลับไง” พี่ทราฟบอกก่อนจะก้มหน้าลงมาหอมแก้มผมไปมา

“ยังไง” ผมถาม ไม่เข้าใจว่าการหอมแก้มผมจะทำให้ผมนอนหลับยังไงเลย

“หึหึ ก็ทำให้เค้กเหนื่อยไงครับ จะได้นอนหลับซะที”

ห๊า?

“อื้อออ”

แล้วพี่ทราฟก็ทำให้ผมเหนื่อยแทบขาดใจ บอกให้หยุดก็ไม่หยุด บอกว่าเดี๋ยวผมไม่หลับ ช่างดูเป็นคนดีอะไรอย่างนี้นะ ผมล่ะซึ้งใจสุดๆไปเลย ทีนี้เรียกว่าหลับไปไม่ได้แล้วครับ เรียกว่าผมสลบไปเลยดีกว่า!

วันต่อมาผมตื่นมาก็เกือบบ่ายแล้วอ่ะ ที่ตื่นขึ้นมาเพราะหิวข้าว ในห้องนอนเหลือผมคนเดียว พี่ทราฟคงไปสอนเด็ก ผมลุกขึ้นจากเตียง ยังดีที่พี่ทราฟใส่เสื้อผ้าให้ผม ไม่ได้ปล่อยให้ผมนอนตัวเปลือยเปล่า ผมอาบน้ำแต่งตัวก็ลงไปข้างล่าง สายไหมที่นอนหมอบอยู่ลุกขึ้นยืนสั่นหางกระดิกๆเรียกผม

บ๊อกๆๆ

มันเห่าเสียงแหละ ผมเข้าไปฟัดมันทีหลังแล้วก็พามันเข้ามาในครัว ผมตกบเก้าอี้ให้มันกระโดดขึ้นมานั่ง ผมฝึกสายไหมอย่างดี พอมันขึ้นมานั่งบนเก้าอี้แล้วก็นั่งบนขาหลังทั้งสองอย่างสงบเสงียบเรียบร้อย

ผมตักข้าวมาให้ตัวเองและหยิบขนมมาให้สายไหมกินระหว่างรอผม กินข้าวเสร็จผมก็รีบวิ่งขึ้นห้องไปเอาโน๊ตบุ๊คลงมาเปิดดูประกาศผลสอบ

มือสั่น! ผมกรอกชื่อกรอกรหัสผิดๆถูกๆ กรอกแล้วก็ไม่กล้ากดเข้าไปดู สายไหมนั่งเป็นกำลังใจให้ผมอยู่ข้างๆ ผมค่อยๆเอานิ้วชี้ไปจิ้มไว้ที่ตรงปุ่มเอ็นเทอร์ กลั้นใจก่อนจะค่อยๆกดน้ำหนักลง

[Krrrr Krrrr]

!!!!

“ฮือออ ใครโทรมาวะ!” ผมทิ้งตัวลงนอนดิ้นกับพื้นอย่างขัดใจ ทำใจกดได้แล้วเชียว!

ผมหยิบโทรศัพท์ออกมากดรับ

“ฮัลโหล”

[เค้ก เราโฟคนะ]

“อ่อ อืม มีอะไร”

ที่แท้ก็โฟคนี่เอง คิดว่าใคร จำเขากันได้ไหมครับ โฟคเป็นคนที่ผมเจอวันที่ไปสอบข้อเขียน และในวันสอบปฏิบัติเขาเป็นคนที่สอบรอบเดียวกับผม หลังจากสอบเสร็จผมก็ไม่ได้คุยกับโฟคเลย เขาเองก็ไม่ได้โทรมาจนวันนี้

[เข้าไปดูผลสอบมายัง]

“ยัง กำลังจะดู” ก็ถ้าไม่โทรมาขัดจังหวะผมก็คงดูเสร็จไปแล้วอ่ะ

[อืม เราดูแล้ว]

“เป็นไงบ้าง ติดไหม” ผมถามอย่างตื่นเต้น ขนาดไม่ใช่ของตัวเองยังตื่นเต้นเลย

[ไม่อ่ะ] เสียงโฟคฟังดูเศร้าๆ ผมรู้สึกแย่ไปด้วย และยิ่งกังวลมากกว่าเก่า

“อืม ไม่ต้องเสียใจนะ” ผมปลอบใจ แต่ถ้าถึงคราวของตัวเองก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงถ้าเกิดว่าผมสอบไม่ติดขึ้นมาบ้างอีกคน ผมคุยกับโฟคอีกสองสามคำก่อนจะวางสาย ผมกลับมาต่อสู้กับจิตใจตัวเองอีกครั้ง หัวใจเต้นแรงจนเจ็บ ผมกลั้นใจกดเอ็นเทอร์เข้าไป หน้าเวปเปลี่ยนหน้าแต่ยังไม่ขึ้นหน้าใหม่เพราะโหลดอยู่

“ฟู่” ผมเปล่าลมออกจากปากระงับอาการตื่นเต้น เหสายตามองไปที่อื่น ไม่อยากจับจ้องที่หน้าจอคอม แต่ความจริงก็คือความจริง เมื่อหน้าเว็ปโหลดเสร็จ ผมก็ค่อยๆเลื่อยเมาท์ลงเพื่อหารายชื่อตัวเอง ทุกชื่อที่ผ่านสายตาทำเอาผมแทบจะขาดใจตายเพราะเอาแต่กลั้นลมหายใจ ผมเลื่อนลงมาเรื่อยๆ เรื่อยๆ และเรื่อย....

...ไม่

ทำไม....?

ไม่มีชื่อผม

ผมนั่งนิ่งค้างแทบไม่กระพริบตา ผมเลื่อนเมาท์ขึ้นไปข้างบนอีกครั้งอย่างเร็วต่างจากทีแรก ผมไล่สายตามองอย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกครั้ง ใช้สมาธิมากกว่าเก่า แต่แล้วก็เหมือนเดิมคือ....ไม่มีชื่อผม

หยดน้ำตาไหลลงมา ผมนั่งจ้องหน้าเว็ปของมหาวิทยาลัยไม่ลุกไปไหน ทำไมผมไม่ติด ทำไมถึงไม่มีชื่อผม ทั้งที่ผมทุ่มเทมามากขนาดนี้แล้วแท้ๆ แต่สุดท้ายผมก็สอบไม่ติด

“เค้ก ดูผลสอบอยู่เหรอครับ เป็นไงบ้าง” ผมพับหน้าจอโน๊ตบุ๊คลงทันทีที่ได้ยินเสียงพี่ทราฟ ตัวผมถูกดึงไปกอดจากข้างหลัง แต่น้ำตาไม่รักดีดันหยดลงบนแขนพี่ทราฟ พี่ทราฟเลยรู้ว่าผมร้องไห้และจับตัวผมให้หันหน้าไปหา

“เป็นอะไรครับ” พี่ทราฟตกใจที่เห็นผมร้องไห้

“พี่ทราฟ...เค้กสอบไม่ติดอ่ะ ฮืออ” ผมกอดพี่ทราฟร้องไห้เสียงดัง พี่ทราฟไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแค่ลูบหลังผมเท่านั้น

“เค้กไม่ติดอ่ะ ทำไมอ่ะพี่ทราฟ ทำไม!” ผมโวยวายแล้วก็ทุบที่หลังพี่ทราฟไปที ผมไม่ได้ตั้งใจแต่มือมันไปเอง

“ครับ ไม่เป็นไร ไม่ติดก็ไม่ติด” พี่ทราฟปลอบ ผมส่ายหน้าไปมาตรงคอพี่ทราฟ

“ไม่เอา! ไม่เอาแบบนี้ เค้กสอบไม่ติดอ่ะ ฮือออ เค้กเสียใจพี่ทราฟ” ผมสะอื้นหนักจนตัวโยน พี่ทราฟถอนหายใจเบาๆ มือก็ลูบหลังผมไม่หยุด

ผมรับไม่ได้อ่ะ ผมว่าผมก็ทำข้อเขียนได้ ตอนสอบปฏิบัติ แม้จะตื่นเต้นมากแต่ผมว่าผมก็ทำได้ดี คณะกรรมการก็ยิ้มเมื่อผมสอบเสร็จ แล้วทำไมผมถึงไม่สอบไม่ติด ทำไมถึงไม่มีชื่อผม

“อ้าว เค้กเป็นอะไร” พี่ริชที่เพิ่งกลับมาวิ่งเข้ามาหาผม ผมผละออกจากพี่ทราฟไปกอดพี่ริชไว้

“พี่ริช เค้กสอบไม่ติดอ่ะ ฮืออ” ผมร้องไห้เสียงดัง พี่ริชที่กอดตอบผมดูจะตกใจไม่น้อย

“ได้ไงอ่ะ เค้กออกจะเก่ง” พี่ริชพูดงงๆ นั่นสิ ผมก็อยากรู้ว่าทำไมผมถึงไม่ติด!!!

ผมนั่งร้องไห้อยู่นาน มีทั้งพี่ทราฟและพี่ริชช่วยปลอบให้ผมหยุดร้อง ส่วนพี่ครามก็นั่งนิ่งๆไม่พูดไปจา ผมหวังเอาไว้มากว่าผมจะติด ผมจะได้เป็นหนึ่งในนักศึกษามหาวิทยาลัยนี้คณะดุริยาคศาสตร์ แม้ก่อนหน้านี้ผมจะกังวลว่าจะสอบตัวเองอาจจะสอบไม่ติด และถึงผลออกมาว่าผมสอบไม่ติดก็ไม่เป็นไร แต่เอาเข้าจริงแล้มมันไม่ใช่ ผมทำใจยอมรับไม่ได้

“ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยXXXนี้ไหม มีวิทยาลัยดนตรีแยกโดยเฉพาะ” พี่ครามถามผม ผมส่ายหน้า ไม่ใช่ที่นี้ผมก็ไม่เข้าที่อื่นหรอก

“แล้วมันมีสอบแค่รอบเดียวเหรอ” พี่ริชถาม ไม่รู้ว่าถามใคร ผมนอนคว่ำหน้าเล่นกับสายไหมเงียบๆ ผมกำลังเซ็งถึงขีดสุด ทำไมวะ ทำไมผมไม่ติด!

คิดแล้วโมโห!!!

“มีอีกสอบรอบ ใช่ไหมเค้ก” พี่ทราฟบอกพี่ริชแล้วก็ถามผมต่อ ผมนิ่ง ผมกำลังเหนื่อย เหนื่อยที่ใจ และผมก็กำลังเศร้ามากจนไม่อยากคิดอะไร ขนาดเสียงโทรศัพท์ดังผมยังไม่สนใจจนพี่ทราฟต้องรับให้

“ครับพ่อ น้องเหรอ คือ....น้องสอบไม่ติดครับ ครับ เค้ก...พ่อจะคุยด้วย” พี่ทราฟยื่นโทรศัพท์มาให้ผม ผมส่ายหน้า ตอนนี้ผมไม่พน้อมจะพูดอะไรกับใครทั้งนั้น ผมลุกขึ้นแล้วก็เดินขึ้นห้อง ผมกอดหน้าลงกับหมอนแล้วก็ร้องไห้เงียบๆคนเดียว

“แม่จ๋า เค้กสอบไม่ติดอะแม่ เค้กเสียใจ เค้กทำไม่ได้ ฮืออ” ผมอยากไปหาแม่ ผมอยากให้แม่อยู่ข้างๆ แม่จะได้กอดผม แม้จะได้ปลอบผม

แกร๊ก

“เค้ก ร้องไห้อีกแล้วเหรอคนเก่ง” พี่ทราตามผขึ้นมาบนห้อง

“เค้กไม่เก่ง ฮึก” ผมแย้งไปสะอื้นไป ถ้าผมเก่งผมก็คงสอบติดไปแล้ว

“ไม่เอาสิครับ ไม่พูดแบบนั้น เค้กเก่งที่สุดเลยรู้ไหม” พี่ทราฟกอดผมที่นอนคว่ำหน้าอยู่

“ถ้าเค้กเก่งเค้กก็ต้องสอบได้สิ” ผมพูดอย่างเอาแต่ใจ

“การที่เค้กสอบไม่ได้ไม่ได้หมายว่าเค้กไม่เก่งนะ แต่อาจจะมีคนที่ทำได้ดีกว่า ยังไงก็มีอีกสอบรอบ ถ้าเค้กพยายามใหม่ พี่ว่าคราวนี้ต้องได้แน่ๆ”

“จริงเหรอ ถ้าสอบอีกแล้วไม่ได้ล่ะ” ผมถาม ผมแทบไม่หลงเหลือความมั่นใจในตัวเองแล้ว

“จริงสิครับ ถ้าไม่ได้ก็มีรอบที่สาม”

“แล้วถ้ารอบที่สามไม่ผ่านล่ะ” ผมยังถามอีก แต่หยุดร้องไห้แล้ว

“หึหึ ก็สอบไม่ผ่านไง” พี่ทราฟพูดขำๆ ผมเลยตวัดสายตามองพี่ทราฟเหวี่ยงๆ มันขำไหมเนี่ย ผมเครียดจะตายอยู่แล้วนะ มีอะไรน่าหัวเราะกัน

“โอ๋ๆ ก็มันจริงนี่ ถ้าไม่ผ่านก็ไปสอบที่ใหม่ มีมหาวิทยาลัยเยอะแยะที่เปิดคณะนี้ ไม่เห็นต้องเครียดเลยนี่ครับ แต่พี่เชื่อนะว่าเค้กต้องทำได้แน่ๆ” ผมฟังพี่ทราฟ จิตใจที่ว่าวุ้นสงบลง ผมก็รู้ว่ามันสอบครั้งใหม่ได้ แต่ผมอยากติดครั้งนี้ ไม่อยากจะไปเครียดอีกรอบ แค่รอบเดียวก็จะตายอยู่แล้ว

“ถ้าเค้กพยายามมากขึ้นเค้กจะทำได้ใช่ไหม เค้กจะสอบติดใช่ไหม”

“ครับ เค้กของพี่เก่งอยู่แล้ว อย่าเสียใจไปเลยนะคนเก่ง”

ผมจะเชื่อพี่ทราฟ ผมจะไม่เสียใจ ครั้งนี้จะเอาไว้เป็นบทเรียน แล้วผมจะพยายามให้มากขึ้น อ่านหนังสือให้มากขึ้นและจะฝึกซ้อมเปียโนให้มากขึ้น ผมจะไม่ยอมแพ้แน่ๆ คอยดูนะ ผมจะต้องเรียนในคณะนี้และมหาวิทยาลัยนี้ให้ได้ ถ้าไม่ได้อย่ามาเรียกผมว่า ‘เค้ก’ เลย!



[Rich talks]

“พี่คราม คืนนี้เราไปเที่ยวกันไหม”

“เที่ยว?” พี่ครามที่นอนอ่านหลังสืออยู่บนเตียงพูดทวนคำ?

“อืม พาเค้กไปเที่ยวกัน สงสารเค้กอ่ะ” เมื่อกี้เห็นเค้กร้องไห้แล้วผมแทบจะร้องตาม เค้กคงผิดหวังมาก เพราะเค้กพยายามอย่างเต็มที ก่อนสอบก็ซ้อมจนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน เค้กให้ผมนั่งฟังเค้กซ้อมบ่อยๆหลังจากที่ผมกลับมาที่บ้าน ผมว่าเค้กเล่นเปียโนได้ดีมากเลยนะ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงสอบไม่ได้

“เที่ยวที่ไหน” พี่ครามถามด้วยท่าทีที่สบายๆ น้องสอบไม่ติดพี่มันยังมีกระจิตกระใจมานอนอ่านหนังสือสบายใจอยู่ได้วะ

“ไปกินเหล้ากันไหมพี่ อยากอะ” ผมบอก ผมไม่ได้ออกไปเที่ยวมานานแล้ว ไอ้เตอร์ก็โทรมากระแหนะกระแหนผมบ่อยๆหาว่าผมเป้นแม่บ้านอยู่ติดบ้าน ผมล่ะอยากจะเตะมันสักที ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากออกไปเที่ยวไปแข่งรถนะ แต่ออกไปได้ที่ไหน ไหนจะเรียนไหนจะงาน ไหนจะผู้คุมมิญญาณ(?) ตอนนี่พี่ครามให้ผมเข้าไปดูงานเยอะแยะมากมาย บอกว่าเดี๋ยวผมเรียนจบก็ต้องช่วยเขาทำงาน คือผมอยากจะบอกว่าผมไม่อยากทำ เพราผมไม่ชอบงานนี้ แต่ก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง เพราะผมไม่กล้าจะขัดใจพี่ครามเท่าไหร่ ที่ผ่านมาพี่เขาช่วยผมไว้เยอะ บางทีมันอาจจะถึงเวลาที่ผมต้องตอบแทนเข้าบ้าง แม้ว้ามันจะทำให้ผมรู้สึกเอียนทุกครั้งที่ต้องเข้าสำนักงานก็เถอะ

“อยากเองแล้วอย่าเอาเค้กมาอ้าง” เสียงเข้มพูดกลับมา พี่ครามแม่งรู้ทันผมตลอด โคตรน่าเบื่อเลยวะ

“เค้าเรียกวินๆพี่ ผมอยากไป เค้กก็ได้ไปผ่อนคลายอารมณ์ด้วย” แต่ผมก็ยังแถไปเรื่อยๆ พี่ครามส่ายหน้าเนือยๆแล้วก็ก้มอ่านหนังสือต่อ ผมหมุนเก้าอี้กลับมาทำการบ้านตามเดิม

อ๊ะๆ อย่าคิดว่าผมขยันขนาดนั้น ทีแรกผมกะจะนอนดูหนังข้างล่าง แต่เพราะเมื่อตอนนั่งรถกลับบ้านผมดันบ่นกับพี่มันว่าวันนี้มีการบ้านเยอะ พี่มันเลยบังคับให้ผมทำการบ้านให้เสร็จ แต่พอมันไม่มีอารมณ์มันก็ทำไม่เสร็จเหมือนกันนั่นแหละ เหมือนตอนนี้ไง ผมนั่งจ้องหนังสือกับกระดาษมาครบชั่วโมงแล้ว กระดาษผมยังว่างเปล่าอยู่เลย ในหัวนี่ว่างเปล่ายิ่งกว่ากระดาษอีก

“เฮ้อ” ขี้เกียจอ่ะ ขี้เกียจทำโว้ย!

ผมเลื้อยตัวนอนไปกับโต๊ะ หยิบโมเดลรถมาเล่น อยากออกไปแข่งรถ ถ้าผมได้ออกไปแล่นรถเล่นสักสองสามชั่วโมง กลับมาผมคงมีอารมณ์ทำการบ้านมากกว่านี้

“ให้ทำการบ้านไม่ได้ให้เล่น” เสียงดุๆของพี่ครามไม่ได้ทำให้ผมกระตือรือร้นที่จะทำ แต่ยิ่งเซ็งเข้าไปใหญ่

“เอาไว้ก่อนได้ป่ะ ขี้เกียจอ่ะ” ผมต่อรอง

“ไม่ได้” คิดก่อนตอบก็ได้นะบางที

ผมยักไหล่นิดๆไม่ใส่ใจ และไม่คิดจะหยิบปากกาขึ้นมาทำการบ้านด้วย ผมอยากออกไปข้างนอกอ่ะ เบื่อๆ ง่วงด้วย ไปนอนสักตื่นท่าจะดี

ผมลุกจากโต๊ะเขียนหนังสือแล้วก็เดินไปที่เตียง พี่ครามเงยหน้าจากหนังสือมองผม ผมขึงตามองพี่ครามเซ็งๆแล้วก็ล้มตัวนอนข้างๆเขา

“มานอนทำไม ให้ทำการบ้านไม่ใช่เหรอไง” พี่ครามยังคงไม่เลิกบ่นผมเรื่องการบ้าน

“ผมไม่มีอารมณ์ทำอ่ะ เอาไว้ก่อน” ผมบอกแล้วปิดตาลง อ้าปากหาวเบาๆ นี่ขนาดผมแอบหลับในห้องเรียนมาแล้วนะ ยังง่วงเลย หรือเพราะเบื่อก็ไม่รู้ เลยง่วงกว่าปกติ

“เป็นแบบนี้แล้วจะเรียนจบไหม”

“จบน่า พี่อย่าบ่นดิ จะนอน” ผมว่า คนจะนอนก็พูดอยู่ได้ แล้วตัวผมก็ถูกดึงขึ้นจากเตียง

“อื้อ พี่คราม อะไรอีกอ่ะ” ผมตวัดเสียงห้วนๆ พี่ครามมองหน้าผมเขม็ง ผมได้แต่หงุดหงิดฟึดฟัด เป็นคนอื่นผมซัดไปแล้วครับที่มาขัดขวางการนอนของผม

“ไปทำการบ้าน” พี่มันสั่งเสียงนิ่งๆแต่แฝงไปด้วยความจริงจัง ผมจิ๊ปากไม่พอใจ

“ไม่เอา ผมขอนอนก่อนแล้วค่อยตื่นมาทำก็ได้” ผมพูด

“ตกลงจะไม่ไปเที่ยวใช่ไหม” พี่ครามเลิกคิ้วย้อนถามผม ผมเบิกตาโต หูผมปกติดีหรือเปล่าวะ สัญญาณไม่ได้ขัดข้องใช่ไหม ถึงได้ยินเสียงเทวดาแทนที่จะเสียงซาตาน

“ตกลงพี่จะไปเหรอ กินเหล้าอ่ะนะ” ผมถามย้ำ พี่ครามทำหน้าเหมือนรำคาญผม ยกหนังสือขึ้นอ่าน ช่างเป็นท่าทางที่น่าหมั่นไส้โคตรๆเลยวะ

“พี่ ตกลงว่าไง” ผมขยับเข้าไปนั่งใกล้พี่คราม

“ไปทำการบ้าน” พี่ครามเพียงแค่ย้ำคำที่ผมเกลียดสุดเท่านั้น

“บอกผมก่อนสิ ถ้าผมทำการบ้านพี่จะพาผมไปเที่ยวใช่ป่ะ” ต้องเข้าใจนะครับ คนที่เคยมีชีวิตอิสระได้เที่ยวได้ไปปลดปล่อย แต่ต้องมาอยู่แต่ในบ้าน ไปมหาวิทยาลัย ต่อด้วยไปสำนักงานและก็กลับบ้าน ผมทำแบบนี้ติดการมาเป็นเดือนสองเดือน มันก็เอียนนะครับ

“พูดมากจังวะ” พี่ครามพูดเสียงหงุดหงิด วางหนังสือในมือลงก่อนจะคว้าตัวผมเข้าไปจูบ ผมตัวปลิวมานั่งบนตักพี่คราม ยกมือคล้องคอพี่ครามเอาไว้ พี่มันจูบผมแรงๆเหมือนจะลงโทษที่ผมพูดมาก ผมก็เลยดูดลิ้นพี่มันแรงๆกลับบ้าง แล้วทีนี้พี่มันก็เลยดูดปากผมอย่างแรงจนเจ็บไปหมด ลิ้นของผมและพี่มันเกี่ยวกระหวัดกันอย่างไม่มีใครยอมใคร แต่ทำไมดูเหมือนผมจะแพ้ละ พี่ครามตวัดลิ้นรุกหนักภายในปากผม ตัวผมเริ่มหอบหนัก ความหวามไหววิ่งวนไปทั่วช่วงท้อง ได้ยินเสียงตัวเองครางออกมาเบาๆ ด้วย ไอ้ห่าเอ้ย กูครางหวิวไปไหมเนี่ย!!!

“หุบปากได้แล้วนะ” พี่ครามพูดกลังจากที่ถอนจูบที่แสนยาวนานและรุนแรงจนผมอดคิดไม่ได้ว่าถ้าพี่ครามมันจูบผมนานกว่านี้อีกนิดปากผมจะหลุดไปกับปากพี่มันไหม

“ไปทำการบ้าน ทำเสร็จแล้วจะพาไปเที่ยว” พี่ครามเช็ดน้ำลายที่อยู่จริงมุมปากผมออกให้ ผมเลยงับนิ้วพี่มันที แต่ไม่แรงหรอกครับ แต่ขบกัดเบาๆเฉยๆ

“ถ้าพี่ผิดคำพูดนะเจอผมแน่”

ผมชะโงกน้าไปหอมแก้มสากๆของพี่ครามทีหนึ่งก่อนจะกระโดลงจากเตียงไปนั่งทำการบ้านอย่างตั้งอกตั้งใจคอยดูนะ คืนนี้กูจะเมาให้ปริ้นเลย ให้สมกับที่ไม่ได้กินมานาน!

ผมใช้เวลาทำการบ้านทั้งหมดสองชั่วโมงกว่าๆก็เสร็จ ปกตินั่งงมทั้งคืนจนเข้าวันใหม่การบ้านก็ยังไม่กระเตื้องเลย แต่นี่เพราะผมจะได้ออกไปเที่ยวไง มีเหตุจูงใจดีเลยต้องรีบทำเสร็จให้เร็วๆเพื่อที่จะได้ไปเที่ยวเร็วๆ แต่ไม่ต้องห่วงนะว่าผมจะทำลวกๆน่ะ เพราะก่อนจะเอาไปส่งอาจารย์ต้องส่งให้พี่ครามดูก่อนว่าผมตั้งใจทำการบ้านไหม

“โอเค เรียบร้อย ไปอาบน้ำไป” พี่ครามวางการบ้านลงตรงหน้าผมหลังจากที่เตรวจเสร็จ แล้วก็ออกไปจากห้อง ผมเดินผิวปากเข้าห้องน้ำอย่างสบายใจ

“พี่ริช ช่วยเค้กเลือกเสื้อผ้าหน่อยดิ”

ผมหันไปมองเค้กที่โผล่แค่หัวเข้ามาในห้องพี่คราม อ่อ ลืมบอกไป ผมย้ายขึ้นมาอยู่ห้องพี่ครามแล้วนะ แต่ห้องข้างล่างก็ยังเป็นห้องผมแหละ แต่พี่ครามไม่ให้ผมลงไปนอนข้างล่าง เลยบังคับให้ผมขึ้นมานอนกับเขาที่ห้องข้างบนแทน

“ได้สิครับ”ผมจัดปกเสื้อเชิ๊ตให้เข้าทีแล้วก็เดินไปหาเค้ก เค้กใส่แต่กางเกงแต่ไม่ใส่เสื้อ ผิวขาวชะมัด แอบเห็นรอยจูบตรงหน้าอกและต้นคอเค้กด้วย แต่เริ่มจะจางแล้ว

“นี่อะไรเนี่ย” ผมจิ้มรอยที่ดูใหม่มากที่สุดพร้อมเอ่ยแซว  เค้กรีบยกมือกอดอกทำสีหน้าไม่ถูก ตลกแต่ก็น่ารักดี

“อะไร ไม่มีอะไรเล๊ย!” เค้กส่ายหน้าทำเสียงสูง ผมหัวเราะให้กับความน่ารักของเค้ก

ผมช่วยเค้กเลือกเสื้อผ้า โดยส่วนมากเค้กจะมีแต่เสื้อผ้าที่ดูน่ารักสดใสสมวัยและสมกับหน้า เพราะเค้กหน้าเด็กทั้งที่ อายุก็ยี่สิบแล้ว นิสัยก็เด็กด้วย แต่น่ารักดีแล้วครับ เค้กเหมาะที่จะเป็นแบบนี้มากกว่าที่จะโตไปเป็นผู้ชายห้าวๆอ่ะ

“เค้ก เสร็จยังครับ” พี่ทราฟขึ้นมาตาม ผมกำลังจัดทรงผมให้เค้ก เค้กหันไปยิ้มให้พี่ทราฟก่อนจะหันตรงกลับมามองกระจก

“แปบนะพี่ทราฟ จะเสร็จแล้ว” เค้กยิ้มกว้าง ดูเขาจะดีใจมากที่จะได้ไปเที่ยวผับ เห็นว่าไม่เคยไป เลยดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ

“ริช ไม่ต้องแต่งให้เค้กมากหรอก หล่อกว่าพี่แล้วเนี่ย” พี่ทราฟแซวขำๆ ผมยิ้มนิดๆ

ผับที่เรามาเที่ยวเป็นผับในเครือครอบครัวของพี่คราม อืม ก็ดีนะ เงินไม่รั่วไหลดี พี่ครามพาเราไปนั่งที่โต๊ะใหญ่โต๊ะหนึ่ง ก่อนจะเรียกพนักงานให้มารับออเดอร์แล้วพี่เขาก็ขอตัวไปดูความเรียบร้อยในร้าน

“คนเยอะอ่ะ” เค้กพูดเสียงดังนิดๆแข่งกับเสียงเพลง สายตากวาดมองไปทั่วบริเวณอย่างสนใจ ผมปล่อยให้พี่ๆเขาสั่งเหล้าสั่งอาหารไป ผมกินอะไรก็ได้อยู่แล้ว

เรานั่งกินเหล้ากันไปสักพัก พี่ครามก็ยังไม่กลับมาที่โต๊ะไม่รู้ไปไหน เค้กได้รับอนุญาตให้กินเหล้าได้แค่สองแก้ว และก็อ่อนซะจนมีแต่โค้ก ส่วนผมเหรอกระดกเอาๆเอาครับไม่ยั้งครับ เพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ออกมาอีกเมื่อไหร่

“เค้ก ถ่ายรูปกัน” ผมบอกแล้วก็หยิบมือถือมาถ่ายรูปกับเค้ก วันนี้เค้กน่ารักมากครับ จนหลายคนให้ความสนใจ แต่ส่วนใหญ่ที่สนใจจะเป็นผู้ชาย แต่เด็กน้อยของเราแทบจะไม่รู้ตัวเลย กระซิบกระซาบกับพี่ทราฟหัวเราะคิกคักสนุกสนาน แต่พี่ทราฟคงสังเกตุได้ว่าเค้กเป็นจุดสนใจของคนหมู่มาก เลยกอดเอวเค้กไว้ไม่ปล่อย

“แหมๆ ปล่อยเค้กบ้างก็ได้ไอ้ทราฟ น้องมันไม่หายไปไหนหรอก” พี่เจพูดแล้วก็จับจ้องมาที่มือพี่ทราฟที่โอวเอวไว้แน่น ส่วนเค้กก็กำลังง่วงกับการหามุมกล้องถ่ายรูปคุ่กับผม

“ไม่ได้หรอก กูหวง!” พี่ทราฟยักคิ้วให้พี่เจก่อนจะสาดสายตาเหี้ยมๆมองคนที่จ้องเค้กด้วยความสนใจ จนคนพวกนั้นหันหน้ากลับไปไม่ทัน

“ไอ้สอง จะไปไหน” พี่เจถามพี่สองที่จะลุกออกจากโต๊ะ

“กูเจอเด็กวะ เดี๋ยวมา” พี่สองทำหน้ากรุ่มกริ่มแล้วก็เดินไปหาเด็ก พี่เจส่ายหน้าอย่างระอาแล้วก็ลุกขึ้นยืน

“แล้วมึงจะไปไหน” พี่ทราฟถามพี่เจ ผมว่าคงไปหาเด็กเหมือนพี่สองแน่ๆ คู่นี้เหมือนกันอย่างกับแกะ คือเจ้าชู้มั่วไม่เลือก ต่างกันก็แค่พี่สองมั่งผู้หญิง ส่วนพี่เจมั่วเด็กผู้ชาย

“ไปเดินส่องเด็ก เดี๋ยวกูมา” พี่เจยักคิ้วให้พี่ทราฟเจแล้วก็เดินไป ผมยิ้มขำพี่เจแล้วก็ยกแก้วเหล้าขึ้นกระกดจนหมด

“พี่ทราฟ ขออีกแก้วดิ” เค้กที่กินหมดไปสองแก้วแล้วอ้อนพี่ทราฟจะเอาอีกแล้ว พี่ทราฟตีหน้าดุส่ายหน้าไม่ยอมให้เค้กกิน เค้กเลยหันมามองหน้าผมเหมือนจะขอความช่วยเหลือ แต่ผมว่าตอนนี้เค้กเมาแล้วแหละ คนไม่เคยกินเหล้า ไม่แปลกหรอกที่กินแค่สองแก้วแล้วจะเมา

“ให้น้องกินไปเถอะพี่ เดี๋ยวเข้ามหาลัยไปแล้วก็ต้องเข้าสังคม ให้เค้กกินเป็นไว้ก็ดี” ผมบอก เพราะถ้าเค้กเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ยิ่งคณะดุริยางค์ด้วยแล้ว พวกนี้กินเหล้ากันทุกวัน ถ้าเค้กกินไปเป็นอาจจะโดนมอมเหล้าได้

พอผมพูดพี่ทราฟเลยอนุญาตให้เค้กกิน ยิ่งดึกดนตรียิ่งดัง เพลงมันๆช่วยสูบฉีดให้เลือดในร่างกายผมพุ่งฉีดยิ่งขึ้น

“เค้ก ไปเต้นกันไหม” ผมชวนเค้ก เค้กหันไปขอความเห็นพี่ทราฟ พี่ทราฟพยักหน้าก่อนจะก้มลงกระซิบอะไรกับเค้กสักอย่าง ก่อนจะตบท้ายด้วยการหอมแก้มเค้กฟอดใหญ่ ทำเอาคนที่มองเค้กมองมาด้วยความเสียดาย

ผมจูงเค้กไปที่ๆใกล้เวที ผมเต้นกับเค้กสองคน แรกๆเค้กดูเขินๆ แต่สักพักเค้กก็เต้นอย่างสนุกสนาน อาจจะเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ด้วยแหละที่ทำให้เค้กกล้าทำอะไรแบบนี้ จากที่เต้นกันอยู่สองคน ผมก็รู้สึกว่ารอบข้างตัวเองมีคนมาเต้นด้วย และรู้สึกว่าตัวผมกับเค้กจะถูกผู้ชายสี่ห้าคนล้อมไว้ ผมหยุดเต้นแล้วก็พาเค้กกลับมานั่งที่โต๊ะ เค้กที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวทำหน้างงๆ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร พี่ทราฟพอเห็นเค้กก็รีบรับตัวเด็กที่เดินเซนิดๆไปนั่งข้างๆ พี่ครามที่มานั่งที่โต๊ะตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้มองหน้าผมนิ่งๆ

“เดี๋ยวผมมานะพี่ ไปเข้าห้องน้ำก่อน” ผมบอก กินเหล้าเข้าไปเยอะก็ต้องปล่อยออกมาบ้าง

ผมจัดการปลดทุกข์ มีคนมายืนฉี่ข้างๆผมแต่ผมไม่ได้สนใจอะไร จัดการธุระของตัวเองเสร็จผมก็รูดซิปและเดินไปล้างมือ แต่พอมองในกระจก ผมก็เห็นผู้ชายสองคนมองผมอยู่ สายตาของมันทำให้ผมรู้สึกขยะแขยง มันสองคนเป็นกลุ่มเดียวกับไอ้พวกที่ล้อมผมตอนออกไปเต้นกับเค้ก ผมรีบล้างมือให้เสร็จแล้วเตรียมจะเดินออก แต่มือกลับถูกดึงไว้

“ปล่อย” ผมกดเสียงต่ำ ไอ้คนที่จับมือผมกระตุกยิ้มมุมปาก

“ไม่ปล่อย พวกเราชอบนาย ไปนั่งกับเราไหม” มันพูด ผมสบัดมือออกจากข้อมือมันแล้วก็เอาชายเสื้อตัวเองเช็ดบริเวณที่ถูกจับ ผมมันสองคนหน้าเสียก่อนจะมองหน้าผมอย่างไม่พอใจ

“ไม่ต้องมายุ่ง” ผมบอกนิ่งๆแล้วก็เดินออกจากห้องน้ำ แต่คราวนี้ไหลผมทั้งสองข้างถูกระชาก คนที่เดินเข้ามาในห้องน้ำมองผมด้วยความสนใจแต่ก็ไม่คิดจะช่วย

“อย่าเล่นตัวเลยน่า คิดว่าดูไม่ออกหรือไงว่าเป็นอะไร” ไอ้หัวทองอีกคนพูดเสียงเหยียดตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมกัดฟันแล้วก็กระทืบเท้าไอ้คนหัวทองก่อนจะชกไอ้หน้าเหียกอีกคนอย่างแรง

“กูจะเป็นอะไรก็เรื่องของกู กูเป็นแต่ก็ไม่เอาพวกมึงหรอก!” ผมถีบที่เอวไอ้คนหัวทองที่ทำท่าจะเข้ามาหาผมไปที ผมล่ะเกลียดจริงๆ ทำไมไอ้คนพวกนี้จะต้องมองว่าพวกผมง่ายด้วยวะ ถึงกูจะเป็นเกย์แต่ก็ไม่ได้ง่ายโวย คิดแล้วก็แค้นผมเลยเข้าไปซัดไอ้หน้าเหียกนั่นอีกทีก่อนจะเดินหัวเสียออกมาจากห้องน้ำ

“อ๊ะ! พี่คราม” ผมผงะเมื่อเจอพี่ครามยืนสูบบุหรี่อยู่ที่หน้าห้องน้ำ ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“กลับมานะมึง!” ผมหันไปมองไอ้สองคนในห้องน้ำที่เดินตามออกมาก่อนจะมองหน้าพี่ครามอย่างขอความช่วยเหลือ พี่ครามสูบบุหรี่อย่างใจเย็นอีกทีก่อนจะดันตัวผมให้ไปอยู่ข้างหลังเขา ไอ้สองตัวนั้นพอออกมาเจอพี่ครามก็ผงะถอยหลัง

พวกมันมองหน้ากันเลิกลั่กก่อนจะรีบเดินออกไป ไม่แม้แต่จะมองหน้าผมด้วยซ้ำ เฮอะ! กระจอกวะ แต่ผมไม่แปลกใจหรอกนะที่มันจะกลัว มีใครที่มองหน้าพี่ครามแล้วไม่กลัวบ้างวะ ถึงจะหล่อมากๆแต่ก็โหดมากๆเหมือนกัน ผมรู้ดี เพราะผมโดนมาก่อนเยอะ!

“ไม่เป็นไรใช่ไหม” พี่ครามถามนิ่งๆ ผมพยักหน้า พี่ครามเลยหมุนตัวจะเดินออกจากห้องน้ำ แต่ผมดึงตัวพี่มันเข้าไปในห้องน้ำห้องหนึ่งก่อนจะลงกลอน พี่ครามมองหน้าผมอย่างสงสัย ผมขยับตัวเข้าไปหาพี่ครามก่อนจะยืดตัวขึ้นจูบพี่คราม ผมสอดลิ้นเข้าไปในปากพี่ครามก่อน ที่แรกพี่ครามดูจะอึ้งๆที่ผมทำแบบนั้น แต่เขาก็ไม่ปล่อยให้ผมเป็นฝ่ายรุกได้นาน

“พี่คราม” ผมครางชื่อพี่มันออกมา ริมฝีปากเราไม่ห่างจากกัน ผมโอบรอบคอพี่ครามเอาไว้เบียดตัวเขาหาพี่ครามให้ตัวเราใกล้กันมากขึ้น ส่วนมือพี่ครามก็ลูบไปตามตัวผม

“อืมม” ยิ่งจูบผมก็ยิ่งต้องการ ผมไม่ชอบสายตาที่ไอ้คนพวกนั้นผมผมอย่างจาบจ้วง มันน่าขยะแขยง คนที่จะทำกับผมแบบนี้ได้มีแต่พี่ครามคนเดียวเท่านั้น

“ผมรักพี่นะ รักพี่คนเดียว” ผมถอนริมฝีปากออกก่อนจะยิ้มยั่ว พี่ครามกระตุกยิ้มมุมปากแล้วก่อนที่ใบหน้าของเราสองคนจะเคลื่อนเข้าหากันอีกครั้งเหมือนมีแรงดึงดูด







.........................
# ยังไม่จบนะ มีต่ออีกหน่อย แต่ยังไม่เสร็จ พรุ่งนี้ค่อยเจอกันนะคะ ^_^

 :katai2-1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-07-2013 23:44:00 โดย RiRi »

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
ตัวอย่างปกนิยายทั้ง 3 เล่มค่ะ







พอใช่ได้ไหมค่ะ

SaM_TwiN

  • บุคคลทั่วไป
 :katai5: ค้างจัง 555555 มาต่อเร็วๆนะครับ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
เค้กสู้ต่อไปครั้งหน้ายังมี :ped149:

นายริชชี่แซ่บเกิน :z1:

ออฟไลน์ wi_OoO_wi

  • payaaa payaaa padazz taa
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
มียั่ว มียั่ว อย่างนี้ต้องเจอนะริช     :oo1: :oo1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
เค้กกับริชเนื้อหอมจริง ๆ >.<

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6
“อย่าเล่นตัวเลยน่า คิดว่าดูไม่ออกหรือไงว่าเป็นอะไร” ไอ้หัวทองอีกคนพูดเสียงเหยียดตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมกัดฝันแล้วก็กระทืบเท้าไอ้คนหัวทองก่อนจะชกไอ้หน้าเหียกอีกคนอย่างแรง     แก้คำผิดด้วยค่ะ

ริชหน้ารักอะ  อย่าอ่านตอนต่อไปแล้วอะ

NJnobu

  • บุคคลทั่วไป
... รอพรุ่งนี้ ... :serius2: :serius2: :hao4: :hao4:

ออฟไลน์ bigbeeboom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
ตัดฉับอ้า รอตอนหน้าจ้า แต่น้องริชมาเต็มจริงๆ

ออฟไลน์ Pumpkin_23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ถ้าเป็นเราแล้วสอบไม่ติดคงเสียใจมากๆอ่ะ   :ling1: :katai1:

ริชมียั่วๆ 5555 :katai2-1:

ออฟไลน์ GintoniC

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-0
ปกนิยายน่ารักจังค่ะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ udongjay

  • ความรัก...ไม่เคยจำกัดเพศ แต่เพศต่างหากที่จำกัด...ความรัก
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +235/-2
จะจบแล้วเหรอเนี่ยยยยยยยยย
ฮืออออ น้องเค้กไม่เป็นไรนะ
เดี๋ยวนี้ริชเริ่มรุกพี่ครามแล้วนะ คึคึ

ออฟไลน์ Monkey D lufy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-4
ตัดจบได้ค้างมากกกก 

ริชจัดเต็มเลย  ยั่วให้พี่ครามรักจนถอนตัวไม่ได้  อิอิ

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:ยั่วแบบนี้โดนจัดหนักแน่ริช :hao6: :hao6: :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
รอตอนต่อของตอนจบ อิอิ

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
ริชขยันยั่วดีจังเว้ย 555555
แต่ดีแล้ว คนอ่านและพี่ครามชอบบบบ ><
ส่วนเค้กน่าสงสารอ่า
ไม่เป็นไรนะเค้ก โอกาสหน้ายังมี สู้ๆ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
เค้กสอบไม่ติดหรือใส่รหัสผิดป่าว
ส่วนริชนี่ร้อนแรงจัง พี่ครามชอบ

ปล. คนที่โอบเอวเค้กพี่ทราฟ ไม่ใช่พี่ครามนะ

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
เค้กสอบไม่ติดหรือใส่รหัสผิดป่าว
ส่วนริชนี่ร้อนแรงจัง พี่ครามชอบ

ปล. คนที่โอบเอวเค้กพี่ทราฟ ไม่ใช่พี่ครามนะ

ฮู้ยยยยยย เกือบไปแล้วไหมล่ะ พี่ครามกับเค้กเกือบเป็นชู้กันแล้ววว  :z3: :katai1:

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
ริชร้อนแรงนะเนี่ย

ออฟไลน์ Aomampapeln

  • แมวเหมียว เมี๊ยว เมี๊ยว~
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
ริชทำแบบนี้รู้ผลลัพธ์ดีแล้วใช่ไหม

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
คู่นี้เค้าแซบจริงๆ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
ยั่วแบบนี้โดนแน่ๆริช
สงสารเค้กอ่ะ ทำไมไม่ติด :katai1:

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
Pretty Boy II
ตอนที่ 31-(2)
The Happy Ending Chapter



เพื่อให้ได้อารมณ์ กรุณาเปิดเพลงคลอไปด้วย หลายๆรอบจากว่าจะจบพาร์ทพี่ครามนะคะ ^_^
http://www.youtube.com/watch?v=r7Yl3AxoEYk



[Song-Khram talks]

ผมมองคนที่นั่งอยู่บนรถขำๆ มีรู้ว่าจะเกร็งอะไรนักหนา ทั้งๆที่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาจะไปหาพ่อแม่ผม เสาร์นี้แม่ผมโทรมาหา สั่งให้ผมพาริชไปหา ที่แรกเขาก็เฉยๆ ดีใจด้วยซ้ำที่จะได้ไปเจอแม่ผม เดี๋ยวนี้สองคนนี้เขาสนิทกันครับ โทรคุยกันบ่อยๆ แต่พอเขารู้ว่าพ่อผมก็อยู่บ้านก็ทำหน้าปูเลี่ยนแบบไม่อยากไป

“เลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้วน่า” ผมพูดขำ หักพวงมาลัยเลี้ยงรถเข้าบ้าน

“เฮ้อ ผมกลัวอ่ะ” ริชพูดเสียงเบา

“ยังจะกลัวอะไรอีก ไม่ชินอีกเหรอไง” ผมดับเครื่องยนต์ หันหน้าไปมองเด็กข้างๆ

“ไม่มีทางที่จะชินง่ายๆหรอก แล้วทำไมที่บ้านพี่ต้องมีคนชุดดำอยู่เยอะขนาดนี้ด้วย” ริชทำหน้าไม่ชอบใจก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ

ริชคงไม่ชินที่มีลูกน้องพ่ออยู่เต็มบ้านแบบนี้ ผมก็ไม่ชอบเพราะมันไม่มีความเป็นส่วนตัว แต่ไม่มีก็ไม่ได้ ชีวิตของมาเฟียก็เหมือนชีวิตที่ถูกแขวนอยู่บนเส้นด้าย ศัตรูมีอยู่รอบด้าน จึงจำเป็นต้องระวังภัยให้แน่นหนาที่สุด จะประมาทไม่ได้เด็ดขาดแม้จะอยู่ในบ้านตัวเองก็ตาม

ผมเดินเข้าบ้านไปที่หลังริช แม่กับริชนั่งคุยกัน ผมยกมือไหว้แม่ก่อนจะเดินแยกไปหาพ่อที่ห้องทำงาน ผมเคาะประตูก่อนจะเปิดเข้าไป พ่อที่นั่งอ่านทำงานอยู่เงยหน้ามองผมก่อนจะเอนหลังผิงพนักเก้าอี้ ผมเดินไปนั่งที่โซฟาภายในห้อง

“เด็กนั่นล่ะ” พ่อถาม ผมแปลกใจนิดๆที่อยู่ๆพ่อก็ถามถึงริช

“ทำไม สนใจด้วยเหรอ” ผมย้อนถามหน้าตาย

“อย่ากวน ก็แค่ถาม” พ่อตีหน้านิ่ง ผมแสยะยิ้มมุมปาก

“อยู่กับแม่ที่ห้องนั่งเล่น” ผมบอก พ่อพยักหน้ารับ พ่อเงียบผมเงียบ เหมือนเรากำลังหยั่งเชิงกันอยู่

“ตกลงพ่อจะยอมรับเมียผมไหม” ผมถามและผมต้องได้คำตอบ เพราะผมไม่อยากให้มันเอาชีวิตไปเสี่ยงอะไรอีกแล้ว

“แล้วถ้าฉันบอกว่าไมล่ะ” พ่อถามผมอย่างเป็นต่อ

“ก็ไม่ไง ผมก็แค่จะไม่พามันมาบ้านอีกแค่นั้น มันเรื่องของพ่อไม่ใช่เรื่องของผม แต่ครอบครัวผมพ่ออย่างยุ่งก็แล้วกัน” ผมพูด เพราะนี่เป็นเรื่องของผมชีวิตของผม เรื่องของพ่อ ครอบครัวคู่ครองของพ่อผมไม่เคยเข้าไปยุ่ง เพราะมันไม่ใช่เรื่องของผม เพราะฉะนั้นพ่อก็ไม่ควรมายุ่งเรื่องของผมกับริช

“เออ เอาเถอะ ต่อให้บอกว่าไม่ยอมฉันจะไปห้ามอะไรแกได้ แถมแม่แกก็ยังให้ท้ายอีก ฉันตัวคนเดียวคงสู้ไม่ได้หรอก เฮอะ!” พ่อพูดหน้าตึง ผมฟังนิ่งๆไม่ได้แสดงออกว่าดีใจกับสิ่งที่ได้ยิน

“ถ้างั้นก็ดี”

“แล้วตกลงว่าเด็กนั่นเป็นเมียแกไปแล้วใช่ไหม” พ่อขมวดคิ้วถามผม ผมมองตอบพ่อก่อนจะพยักหน้า พ่อถอนหายใจออกมาเบาๆ

“แล้วนี่ฉันต้องทำอะไรบ้าง ต้องไปสู่ขอลูกเขาให้แกไม่เนี่ย เด็กผู้ชายอีก ต้องจัดการแต่งไหม?” พ่อพูดกับผมเหมือนคนสับสน ผมยิ้มขำกับท่าทางของพ่อในใจ

“พ่อไม่ต้องทำอะไรหรอก แค่ไม่แกล้งมันก็พอแล้ว ส่วนเรื่องแต่งงานคงไว้ก่อนเรื่องนั้นผมจัดการเอง” ผมบอก ที่จริงทุกวันนี้ริชก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในบ้านผมไปแล้วนะ นามสกุลมันก็ใช้ของผม แค่นี้ผมก็ถือว่ามันเป็นของผมเต็มตัวแล้ว

“ฉันเริ่มโครงการคาสิโนที่รัสเซียไว้แล้ว เดี๋ยวฉันจะโอนให้แก่ไปดูแล ฝากด้วย”

“ครับ” โครงการนี้ผมคุยกับพ่อมาก่อนหน้านี้แล้ว

“แล้วก็...ขอโทษแล้วกันที่ทำให้เมียแกเจ็บตัว”

“ไม่เป็นไรครับ”

คุยกับพ่อเสร็จผมก็เดินไปหาที่ริชที่ห้องนั่งเล่นแต่ไม่อยู่ ผมกวักมือเรียกเด็กรับใช้มาถามดูก็รู้ว่าริชกับแม่ผมอยู่หลังบ้าน ผมเลยเดินไปที่หลังบ้าน ริชกับแม่นั่งเล่นกันอยู่บนสนามหญ้าที่มีผ้าผืนใหญ่รอง ข้างๆริชมีหมาพันธุ์ลาบาดอร์อยู่ตัว ตัวนี้เป็นตัวที่ใจดีที่สุดแล้ว ริชพอเห็นผมก็ยิ้มให้ผม เดี๋ยวนี้มันยิ้มบ่อยมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ค่อยจะเชื่อฟังผมเหมือนเดิม

“ไงเรา ไปคุยอะไรกับพ่อมาล่ะ” แม่ถามผมที่ล้มตัวลงนั่ง แม่ผมกำลังนั่งถักนิตติ้งอยู่ ในมือริชก็มี สงสัยจะถูกแม่ผมบังคับให้ทำ

“ก็เรื่อยเปื่อย พ่อจะให้ผมดูงานสร้างคาสิโนแทน” ผมบอกแล้วก็ทิ้งตัวนอนลงบนตักริช ริชเกร็งตัวตกใจอยู่แปบหนึ่งก่อนจะคลายอาการเกร็งลง ผมจ้องตาริชที่ก้มมองผม

“อยากกินองุ่น” ผมบอก ริชทำหน้าเลิกลั่กมองไปทางแม่ผม แต่แม่ผมแค่ยิ้มบางๆแล้วก็ก้มหน้าถักนิตติ้งอยู่ ริชถึงได้เอื้อมมือไปเด็ดองุ่นมาป้อนผม ผมอ้าปากรับก่อนจะเคี้ยวโดยที่ยังคงจ้องเจ้าของตักไม่วางตา หน้าริชแดงขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ป้อนองุ่นผมไม่บ่นสักคำ โธ่ ก็ถ้าไม่อยู่ต่อหน้าแม่ผมคงโดนทุบไปแล้ว

“อะแฮ่ม จะสวีทกันก็เกรงใจแม่บ้าง” แม่ผมพูดขึ้นลอยเหมือนจะบอกเป็นนัยว่าแม่ยังอยู่ตรงนี้นะ

“แม่ก็ไปสวีทกับพ่อสิ” ผมพูดโดยที่ตายังจ้องริชไม่หยุด ผมชอบเวลามันเขินครับ ตลกดี

“ไม่เอาล่ะ น่าเบื่อ” แม่ผมตวัดเสียงพูด ผมส่ายหน้าขำๆ

“แต่พ่อเขารักแม่นะ” อันนี้ริชเป็นคนพูดครับ แม่ผมหยุดถักกิตติ้งแล้วก็เงยหน้ามองคนพูดนิ่งๆ

“จริงๆนะ ผมไม่รู้หรอกว่าพ่อกับแม่ทะเลาะอะไรกัน แต่ถึงผมเป็นคนนอกผมยังดูออกเลย” ริชพูดเนิบๆเหมือนจะไม่กล้าพูด แต่ก็พูดไม่หยุด

“เขาจ้างมาพูดหว่านล้อมแม่เท่าไหร่หืม แม่ให้มากกว่าเลยเอ้า” แม่ผมแหย่ริช ริชส่ายหน้าทันที

“เปล่านะ ผมแค่พูดตามที่เห็นน่ะ ตอนที่พ่อไปซื้อเป็ดให้แม่นะ พ่อไม่ห่วงตัวเองเลยด้วยซ้ำ”

“นั่นเพราะโง่เองไม่ใช่เหรอไง” แม่ผมขึ้นเสียงแบบหมั่นไส้พ่อ ริชได้แต่ยิ้มแหยงๆ ก้มหน้ามองผมเหมือนจะให้ช่วย แต่ผมส่ายหน้าก่อนจะกระดิกนิ้วให้ริชก้มลงมา ริชทำตามผมเลยกระซิบเบาๆ

“ไม่ต้องไปยุ่งเรื่องพ่อกับแม่หรอก เค้าไม่ได้โกรธกัน แค่แหย่กันเฉยๆ” ผมบอก ริชเบิกตาโตทำหน้าไม่เชื่อ

“จริงเหรอ” ริชถามผม

“อืม” ผมยักคิ้วใส่

“นี่ นินทาอะไรแม่กันสองคนนี้” แม่ผมนี่หูดีจริงๆ ผมหลับตาลงไม่สนใจ ปล่อยให้ริชรับมือแม่ผมเอาเอง


ผมอาบน้ำเสร็จออกมาก็เห็นริชนั่งเสียบหูฟังอยู่หน้าคอมนิ่ง ผมเดินไปใส่เสื้อผ้า ตอนนี้กลับมาที่บ้านผมแล้วครับหลังจากกินข้าวที่บ้านนู้นเสร็จ ทีแรกแม่ผมจะให้นอนค้างที่นู่น แต่ผมไม่อยาก และริชเองก็คงไม่ชินที่จะนอนที่นู่นเท่าไหร่ ถึงริชไม่พูดผมก็พอเดาได้

ผมแต่งตัวเสร็จก็เดินลงไปข้างล่างไปตรวจเช็คความเรียบร้อยข้างล่าง เค้กกำลังซ้อมเปียโนอยู่ในห้องซ้อม ที่แต่ก่อนเป็นห้องเก็บของ แต่ผมสั่งให้ช่างมาทำใหม่ให้เป็นห้องซ้อมเก็บเสียงโดยเฉพาะ ครั้งนี้เค้กดูตั้งใจฝึกฝนมากกว่าเดิมเยอะ ไอ้ทราฟที่นอนเฝ้าเค้ก

เมื่อดูแลไม่มีอะไรผมก็เดินขึ้นห้อง ริชยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ผมเดินไปยืนข้างๆ ริชเงยหน้ามองผมด้วยสภาพที่น้ำตานองหน้า แล้วเขาก็หมุนเก้าอี้หันมากอดเอวผมที่กำลังตกใจอยู่

“ฮึก ฮืออ” ผมกอดตอบ ไม่รู้ว่าริชเป็นอะไร

“เป็นไร” ผมถามเสียงนุ่ม ริชส่ายหน้ากับหน้าท้องผมแต่ก็ยังไม่หยุดร้องไห้ ผมดึงตัวริชออกก่อนจะนั่งยองๆตรงหน้ามัน ริชปาดน้ำตาออก ตาแดงจมูกแดงไปหมด ผมว่าเค้กขี้แยแล้วนะ เด็กนี่ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก

“ร้องทำไม” ผมถามอีกครั้ง แต่ริชก็ยังคงส่ายหน้าจนผมเริ่มหงุดหงิด

“ผมไม่ได้เป็นอะไร”

“ไม่ได้เป็นอะไรแล้วร้องไห้ทำไม” ผมใช้เสียงแข็งนิดๆ ริชนั่งเงียบ หยาดน้ำตาไหลลงมาหนึ่งหยด

“ผม...ขอบคุณนะ” เขายิ้มทั้งน้ำตา ผมงงไปหมดไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร

“ขอบคุณ...ขอบคุณ ฮือ ที่พี่อยู่กับผมตรงนี้ ฮึก” ริชสะอื้นหนัก ผมดึงตัวมันให้ลงมานั่งบนตักผม ถึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ผมไม่ชอบใจเท่าไหร่ที่มันร้องไห้ปริ่มจะขาดใจแบบนี้

“ขอบคุณ ฮึก ที่พี่ให้ชีวิตใหม่แก่ผม” ริชพยายามที่จะหยุดร้องเพื่อที่จะพูดให้จบ ผมตั้งใจฟังสิ่งที่มันกำลังพูด

“ถ้าขาดพี่ไปแล้วผมคงไม่เหลืออะไร พี่จะไม่ทิ้งผมใช่ไหม” คำพูดท้ายประโยคดังแผ่วเหมือนมันเองก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่นัก

“ฉันจะไม่ทิ้งนาย ไม่ทิ้งหรอก เลิกร้องได้แล้ว” ผมพูดจริงจัง สิ่งที่ริชถามอาจจะดูงี่เง่าไปเสียหน่อย แต่สำหรับคนบางคน คนที่ขาดความมั่นใจไปทุกเรื่องอย่างริช ผมรู้ว่าเขาต้องการความมั่นใจมากกว่าคนอื่นหลายเท่า

“จริงๆนะ อย่าหลอกผมนะ”

“อืม ทำไม คิดว่าฉันจะทิ้งนายเหรอ” ผมถามกลับ อยากรู้ว่าอะไรทำให้มันเป็นแบบนี้

“เปล่าหรอก” ริชตอบอ้อมแอ้มอยู่กับไหล่ผม

“แล้วร้องไห้ทำไม” ผมยังคงซักไซ้ถามเอาความจริง

“ผม...คือ....” ริชอึกอักเหมือนไม่อยากพูด

“พูดมาเร็วๆ” ผมใส่เสียงเข้มเข้าขู่ ริชขยับหนั่งตรงๆแทน

“ผมก็แค่ฟังเพลงแล้ว...เพลงมันซึ้งอ่ะ” ริชตอบเสียงเบาๆ

“แล้วนายก็เลยร้องไห้” ผมพูดตา ริชพยักหน้ารับ โธ่ ไอ้เราก็คิดว่าเป็นอะไร ว่าแล้วก็ดีดหน้าผากมันไปทีด้วยความหมั่นเขี้ยว

“เจ็บนะ พี่ไม่เข้าใจความรู้สึกของผมหรอก” ริชพูดหน้างอ ผมยิ้มกับท่าทางงอนๆของริช

“เข้าใจสิ ทำไมฉันจะไม่เข้าใจ” ผมพูด ริชช้อนตาขึ้นมองผม

“พี่รักผมไหม”

“รักสิ”

“ผมก็รักพี่ รักมากเลย พี่อย่าเบื่อผมนะ ต่อให้ผมดื้อพี่ก็ห้ามเบื่อผมนะ”

“อืม ไม่เบื่อหรอก”

ริชหลับไปแล้วครับหลังจากที่ร้องไห้หนัก ผมนั่งพิงหัวเตียงลูบผมคนที่นอนหลับสนิท ถ้าผมไม่เจอมันก่อนที่มันจะรู้เรื่องพ่อแม่ มันจะเป็นยังไง จะอยู่ยังไง จะมีใครดูแลไหม แต่วันนี้มันอยู่กับผมแล้ว ผมก็จะดูแลมันให้ดีที่สุด ผมเองก็ไม่คิดหรอกว่าจะรักเด็กคนนี้ได้ ทั้งดื้อทั้งเถียงเก่ง ไม่เคยที่จะเชื่อฟัง แต่อีกด้านของความแข็งกระด้างผมมองเห็นความอ่อนแอ ชอบแสร้งว่าไม่เป็นอะไรทั้งที่ข้างในกำลังทุกข์มากแท้ๆ ผมรู้นะว่ามันชอบไปแอบร้องไห้คนเดียว ผมจึงบอกกับตัวเองไว้ว่า ถ้ามันอยู่กับผม มันจะไม่มีวันได้ไปแอบร้องไห้อีกแล้ว ถ้าริชร้องไห้ มันก็จะมีผมคอยปลอบเสมอ

จุ๊บ ~

ผมก้มลงจูบที่หน้าผากเหม่งๆของริชเบาๆ ยิ้มนิดๆให้กับความน่ารักของมัน เบื่องั้นเหรอ...คงไม่มีทางหรอก มีแต่มันนั่นแหละที่ชอบทำหน้าเบื่อผมเวลาที่ผมสั่งหรือขัดใจมัน

ผมลุกขึ้นจากเตียงว่าจะเดินไปปิดคอมที่ริชเปิดทิ้งไว้ แต่หน้าเว็ปที่เปิดอยู่ทำให้ผมต้องนั่งลง หยิบหูฟังขึ้นมาเสียบใส่หัว ก่อนจะกดให้เพลงที่ริชฟังไปก่อนหน้านี้เล่น เพลงที่ทำให้มันร้องไห้ได้ขนาดนั้น

ในโลกที่มี ความวกวน
ในโลกที่ทุกคนต้องดิ้นรน
ที่สับสน ร้อนรนจนใจ นั้นแสนเหนื่อย
ในโลกที่ความทุกข์ท้อใจ
ได้เดินผ่านเข้ามาเรื่อยๆ
จนบางครั้งไม่รู้จะข้ามไปเช่นไร

แต่ยิ่งชีวิต ยิ่งผ่าน ยิ่งได้พบ ยิ่งเจอ
กลับทำให้ฉันยิ่งคิด ในใจ

ฉันดีใจทีมีเธอ ฉันดีใจที่เจอเธอ
เธอคือกำลังใจเดียวที่มี ไม่ว่านาทีไหนๆ
ฉันดีใจที่มีเธอ แม้จะต้องพบ อะไร
และฉันรู้และฉันอุ่นใจ
ว่าฉันนั้นจะมีเธออยู่ ตรงนี้
ฉันก็รู้ และฉันอุ่นใจ
ว่าฉันนั้นจะมีเธออยู่กับฉัน

หึหึ ไม่ได้มีแค่มันคนเดียวหรอกครับที่ดีใจ ผมเองก็ดีใจเหมือนกันที่มีมัน

“รักนะเด็กดื้อ”





# ปิดเพลงเก่าแล้วเปิดเพลงใหม่ เพื่ออรรธรสในการอ่าน ^_^

http://www.youtube.com/watch?v=wTv0R6yPKTo



[Traf talks]

“มึงจะออกไปไหนวะ” ไอ้เจถามผมที่กำลังใส่รองเท้าเตรียมออกจากบ้าน

“ไปซื้อของมาบำรุงเค้ก เดี๋ยวกูมา ฝากดูด้วย” ผมบอกมันแล้วก็รีบกระโดดขึ้นรถขับไปที่ห้าง

ช่วงนี้เค้กเครียดมาก เอาแต่อ่านหนังสือกับซ้อมเปียโน นอกจากสองอย่างนี้เค้กแทบจะไม่กระดิกตัวทำอะไรเลย ผมบอกให้พักบ้างก็ไม่ฟัง ยิ่งถ้าผมออกไปสอนหรือไปทำงานที่อู่นะ ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะเค้กจะเอาแต่ซ้อมเปียโนจนลืมทานข้าว ช่วงนี้ล่นปวดท้องบ่อย พอจะพาไปหาหมอก็ไม่ยอมไป เค้กเป็นโรคกลัวโรงพยาบาลครับ น้องบอกว่าเพราะแม่ตายที่โรงพยาบาลและเขาก็ตาบอดที่โรงพยาบาลเขาเลยไม่ชอบ เหมือนว่าถ้าเขาไปแล้วจะต้องเสียของรักไป ผมฟังแล้วก็อึ้ง ไม่คิดว่าเค้กจะมีอคติกับโรงพยาบาลมากขนาดนี้

พอมาถึงห้าง อะไรที่เค้กชอบกินทั้งขนมนมเนยผมซื้อหมด แทบจะเหมาทั้งห้าง แค่สองอาทิตย์ที่ผ่านมาเค้กก็ผอมลงไปมากจนผมใจหาย ผมไม่อยากให้น้องเครียดมากขนาดนี้ เพราะร่างกายจะแย่ก่อนที่จะถึงวันสอบ

ก่อนกลับบ้านผมก็แวะร้านขายยาซื้ออาหารเสริมและยาบำรุงไปให้เค้ก เรียกวว่าบำรุงกันชุดใหญ่เลยครับ ซื้อของเสร็จผมก็กลับบ้าน เมื่อวานแม่กับพ่อผมก็มาเยี่ยมถึงที่บ้านเพราะเป็นห่วงเค้ก คุณธัชชัยพ่อของเค้กยิ่งแล้วใหญ่ มาแทบจะวันเว้นวันอยู่แล้ว

กลับมาถึงบ้านก็เห็นรถพ่อเค้กจอดอยู่ สงสัยมาเยี่ยมลูกชายตัวน้อยอีกแล้ว ผมเดินเอาของเข้าไปเก็บในครัว ไอ้สองที่นั่งดูหนังกับไอ้เจหันมาเห็นผมก็รีบวิ่งเข้ามา

“ของนอก ห้ามกิน” ผมห้ามมัน ไอ้สองทำหน้าหงอยผมเลยส่งถุงขนมที่ซื้อมาฝากพวกมันไปให้ แม่ชอบแย้งขนมเค้กกิน ผมเลยต้องเสียเงินซื้อผ้าเผื่อมันทุกครั้ง ไม่รู้ว่านี่เป็นแผนของมันหรือเปล่า

ผมเดินไปดูเค้กกับพ่อเขาที่ข้างบ้าน เค้กกับพ่อนั่งคุยกันหน้าเครียดอยู่ที่ม้าหิน พอเค้กหันมาเห็นผมก็ทำหน้าโล่งใจอะไรสักอย่าง ผมเดินไปนั่งข้างๆเค้ก

“มีอะไรครับพ่อ” ผมถาม

“พ่อดุเค้ก” แต่เค้กชิงฟ้องผมก่อน พ่อเลยมองเค้กแบบปรามๆ

“จะไม่ให้ดุได้ไง พ่อบอกแล้วไงว่าให้ดูแลตัวเองมาก ยิ่งมาหาก็ยิ่งผอมยิ่งโทรม” พ่อดุเค้กหน้าหงอยแล้วหงอยอีก ก้มหน้าจนแทบจะชิดติดหน้าอกอยู่แล้ว น้องเหล่ตามองผมเหมือนจะขอความช่วยเหลือ แต่ผมนั่งนิ่ง เพราะบางทีผมก็อยากจะดุเหมือนกันนั่นแหละ แต่เห็นว่าเค้กเครียดมากพออยู่แล้วเลยไม่ตัดใจไม่ดุ

“ก็เค้กเครียดนี่นา” เค้กพูดเสียงอ่อยเหมือนเด็กทำความผิด

“แล้วเค้กจะเครียดทำไมครับ ทำให้ดีที่สุดก็พอ เค้กคิดว่าพ่อจะดีใจเหรอถ้าเค้กสอบติดแต่ล้มป่วยนะ คิดบ้างไหมว่าพ่อกับทราฟจะรู้สึกยังไงที่เห็นเค้กเป็นแบบนี้” คุณพ่อพูดเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นว่าลูกชายคนเก่งกำลังจะร้องไห้ เค้กเงยหน้ามองพ่อตัวเองก่อนจะมองมาที่ผม ดวงตาของเค้กมีน้ำตาคลอแต่ยังไม่ไหลลงมา

“เค้กขอโทษ แต่เค้กกลัวสอบไม่ติด” เค้กพูดเสียงสั่น ผมเอื้อมมือไปกุมมือเค้กไว้แล้วบีบเบาๆอย่างให้กำลังใจ
“พ่อรู้ แต่พ่อไม่ชอบที่เค้กเอาแต่หมกตัวอ่านหนังสือและซ้อมเปียโน เค้กทำได้ เค้กขยันซ้อมนั่นเป็นเรื่องที่ดีนะลูก แต่ไม่ใช่ว่าทำจนเกินพอดีแบบนี้ แล้วทราฟบอกพ่อว่าช่วงนี้บ่นปวดท้องบ่อยเพราะไม่กินข้าว จริงหรือเปล่า” พ่อกดเสียงถามเค้กดุๆ เค้กเหล่ตามามองผมที่นั่งอมยิ้มนิดๆก่อนจะหันไปยิ้มแหยะกับพ่อตัวเอง

“ก็ ปวดนิดหน่อย อืม...ก็ไม่หน่อย ปวดมากอยู่” เค้กตอบครึ่งเสียง พ่อเมื่อได้ฟังก็ทำหน้าเครียดขึ้นทันที

“พรุ่งนี้พาน้องไปหาหมอด้วยทราฟ ยังไงก็ต้องพาไป ห้ามบิดพริ้ว”

“พ่ออ่า แต่เค้ก...”เค้กโอดครวญทันที บอกแล้วครับว่าเค้กเป็นโรคกลัวโรงพยาบาล

“ไม่มีแต่ทั้งนั้น ถ้าพ่อรู้ว่าเค้กไม่ยอมไปหาหมอนะ โดนดีแน่ๆ” พ่อคาดโทษลูกชายตัวดี เค้กเบ้หน้าไปพอใจ แต่ก็ยอมพยักหน้ารับคำแต่โดยดี

“ก็ได้ เค้กไปหาหมอก็ได้!” เค้กกระชากเสียงห้วนเบาๆ พ่อได้แต่ส่ายหน้าให้ความดื้อรั้นของเด็กน้อย

“พ่อต้องกลับแล้ว ฝากดูด้วยนะทราฟ ดุบ้างก็ได้ อย่าตามใจนักเลย เดี๋ยวจะเคยตัวไปกันใหญ่” พ่อหันมาพูดกับผม ผมยิ้มรับนิดๆ

“หึ เคยตัวไปแล้วต่างหาก” เค้กบ่นงุบงิบคนเดียว ผมได้ยินเพราะนั่งใกล้ แต่พ่อคงไม่ได้ยิน

หลังจากพ่อกลับไปเค้กก็ยังหน้าหงอยอยู่ที่เดิม ผมเดินถือจานเค้กกับแก้วเครื่องดื่มมาให้น้อง พอเห็นเค้กเท่านั้นแหละยิ้มออกทันที

“อร่อย” เค้กยิ้มตาหยี ผมเอื้อมมือไปเช็ดครีมเค้กที่มุมปากเค้กให้ก่อนจะเอาเข้าปากตัวเอง เค้กมองอึ้งๆก่อนจะก้มหน้าเขิน

“ได้กินเค้กแล้ววันนี้ต้องกินข้าวสองจานนะครับ” ผมบอก เค้กนิ่งคิดก่อนจะตอบตกลง

“ก็ได้ครับ ที่จริงเค้กก็กินเยอะนะ เพียงแต่ช่วงนี้มันไม่ค่อยอยากอ่ะ”

“เพราะเค้กเครียดเกินไปต่างหาก” ผมบอก เค้กถอนหายใจออกมาแรงๆ

“เอาเถอะ ต่อไปเค้กจะไม่เครียดแล้ว เค้กขอโทศนะที่ทำให้พี่ทราฟเป็นห่วง” เค้กทำหน้าสำนึกผิด

“ไม่เป็นไรครับ”

วันต่อมาผมพาเค้กไปหาหมอ แล้วก็จริงครับ สุดท้ายเจ้าตัวดีของผมก็เป็นโรคกระเพาะจนได้ เค้กหน้าเสียเมื่อหมดบอกก่อนจะหันมามองหน้าผมอย่างขอกำลังใจ

“เค้กไม่อยากกินยาเลยอ่ะ” เค้กบ่นหน้าหงิกหน้างอ โบกถุงยาในมือไปมาราวกับว่ารำคาญมันเต็มทน ถ้าผมเผลอเค้กอาจจะเหวี่ยงถุงยานั่นลงถังขยะได้

“ช่วยไม่ได้นะ เค้กอยากไม่กินข้าวเอง” ผมแกล้งประชดเขา เค้กมองค้อมผมก่อนจะรีบเดินจ้ำอ้าวไปที่รถ ผมมองตามยิ้มๆ

“พี่ทราฟ พาเค้กไปที่หนึ่งหน่อยสิครับ” เค้กบอกผม ผมหันไปเลิกคิ้วถาม

“ที่ไหนครับ” ผมดึงเข็มขัดมาคาดก่อนจะเอื้อมไปคาดให้เค้กบ้าง เค้กชอบไม่คาดเข็มขัดบอกว่าอึดอัด ผมเข้าใจแต่ความปลอดภัยต้องมาก่อน

“เค้กอยากไปที่หอเก่านะครับ”

“ได้สิครับ”

ผมขับรถพาเค้กไปที่หอเก่าที่น้องเคยอยู่ สงสัยคงจะคิดถึง ก่อนถึงเค้กให้ผมจอดข้างทางให้เขาแวะซื้อของไปฝากเจ้าของหอและคนแถวนั้น ผมหาที่จอดรถได้ก็เดินตามไปช่วยคนตัวเล็กถือของ เสร็จแล้วก็ขึ้นรถขับตรงไปที่ห้อง เค้กลงจากรถแล้วก็วิ่งไปหาพี่ยาม ยามที่เฝ้าหอดูจะตกใจไม่น้อยที่เห็นหน้าเค้ก ยิ่งพอรู้ว่าเค้กมองเห็นแล้วก็ตกใตมากขึ้นไปอีก ทีนี้พี่ยามก็ตะโกนเรียกคนที่อยู่ใกล้ๆ หลายคนที่รู้จักเค้กก็เค้ามาถามไถ่ ส่วนมากจะเป็นพวกพี่ๆป้า เค้กหัวเราะเล่านู่นเล่านี้ให้ทุกคนฟังด้วยใบหน้าเปรี่ยมสุข

ผมไปหาที่นั่งรอเค้กที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ปล่อยให้เขาได้พูดคุยกับคนแถวนั้นอย่างสบายใจ เค้กมองหาผมก่อนจะส่งยิ้มให้ ผมเลยยิ้มตอบ พอพูดคุยกับคนแถวนั้นเสร็จเค้กก็เดินเข้าไปในหอสักพัก คงไปหาเจ้าของหอ แต่ตอนออกมาเค้กไม่ได้ออกมาคนเดียว มีเด็กผู้ชายที่ผมเคยเจอมาแล้วเดินตามออกมาด้วย แถมทั้งคู่ยังคุยกับอย่างสนุกสนาน เด็กนั่นมันชื่อบิ๊กผมจำได้ และผมรู้ด้วยว่ามันชอบเค้ก ผู้ชายด้วยกันผมมองออกครับ

เค้กเดินตรงมาหาผมก่อนจะหันไปหาบิ๊ก เด็กนั่นเมื่อเห็นผมก็ชะงักเท้าเล็กน้อย จากที่ยิ้มก็ตีหน้าเรียบ

“บิ๊ก นี่พี่ทราฟเป็น...แฟนพี่” เค้กพูดเขินๆ แต่ไอ้เด็กนั้นตาโตอ้าปากค้างไปเป็นทีเรียบร้อย โทษทีนะน้อง แค่คนนี้ของพี่วะ

“อ่า ครับ สวัสดีครับ” ไอ้บิ๊กยกมือไว้ผม แต่เชื่อเถอะว่ามันไม่เต็มใจหรอก แต่มันเกรงใจเค้กมากกว่า สายตาของมันมองผมแบบไม่พอใจเล็กๆ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกอะไรมาก

“พี่ทราฟ เดี๋ยวเค้กมานะ เอาขนมไปให้เจ้าของร้านขายปลาก่อน” เค้กบอก

“ขึ้นรถสิครับ เดี๋ยวพี่พาไป” ผมบอก แต่เค้กส่ายหน้าไม่ยอม

“ไม่เอา เค้กอยากเดินไปเหมือนเมื่อก่อน” เค้กบอก

“งั้นพี่ไปด้วย” ผมบอก เค้กยิ้มแล้วก็เดินนำ โดยที่ผมและไอ้เด็กบิ๊กเดินตาม เค้กเดินทักคนโน่นคนนี้ตลอดทาง ผมเดินตามก็ยิ้มให้กับความน่ารักของคนข้างหน้า ผมชอบรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเค้ก มันกังวาลใสราวกับกระดิ่งโต้ลม เค้กหันมายิ้มให้ผมอย่างสดใส ผมอยากเขายิ้มแบบนี้ไปเรื่อยๆ และผมก็อยากจะเป็นคนที่ทำให้เขามีความสุขที่สุด

“คุณคงรักพี่เค้กมาก” บิ๊กพูดเบาๆเพียงพอให้เราสองคนได้ยิน

“อืม” ผมตอบแค่นั้น บิ๊กเงียบไป

“ผมชอบพี่เค้ก ชอบตั้งแต่ที่พี่เขายังตาบอด” บิ๊กพูดเบาๆ ผมรับฟังไว้

“ขอบคุณที่ทำให้พี่เค้กมองเห็นอีกครั้ง” บิ๊กพูด ผมหันไปมอง เขามองไปทางเค้ก แววตาที่ทั้งดีใจและเสียใจของเขาทำให้ผมซึ้งในน้ำใจของเด็กคนนี้

“ฉันก็ต้องขอบใจเหมือนกันที่นายช่วยดูแลเค้กก่อนหน้านี้”

“วางใจเถอะ ผมไม่ได้ทำเพื่อคุณ”

“หึหึ เหมือนกัน”

เพราะเราทั้งคู่ต่างทำเพื่อนคนที่รัก


3 เดือนผ่านไป

“พี่ทราฟฟฟฟฟฟ!!!!” เสียงของเค้กดังทั่วบริเวณ ผมและเด็กคนอื่นๆในโรงฝึกต่างหยุดทำหน้าที่ของตัวเองและจับจ้องไปที่ประตูทางเข้า แปบเดียวเค้กก็วิ่งตรงเข้ามาหาผม เค้กร้องไห้น้ำตานองหน้า แล้วเขาก็กระโจนเข้ากอดผมเต็มๆ ผมรีบรับร่างเค้กไม่ให้ล่วงลงไปกับพื้น

“อะไรครับ” ผมถามเค้ก ตกใจนิดๆที่อยู่เค้กก็วิ่งเข้ามาหาแบบนี้

“เค้กสอบติดแล้ว ฮืออ เค้กสอบติดแล้ว เค้กทำได้แล้วพี่ทราฟ เค้กทำได้แล้ว!!” เค้กตะโกนลั่น เด็กในโรงฝึกปรบมือให้เค้กพร้อมกับตะโกนแสดงความดีใจกับเค้กยกใหญ่

“เก่งมากครับคนเก่ง” ผมเอ่ยชม เค้กร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความดีใจ ผมจึงต้องเลิกสอนแล้วพาเค้กกลับบ้าน ผมอุ้มเค้กมานั่งที่ม้านั่งข้างบ้าน ตรงนี้เป็นมุมโปรดของเค้ก

“เค้กดีใจอ่ะเค้กทำได้แล้ว” เค้กยิ้มหน้าบาน มือก็เช็ดน้ำตาไปด้วย ผมยิ้มกว้างรับความสำเร็จของเค้ก เขาทุ่มเทมาก ผมเห็นความพยายามของเค้กตั้งแต่ต้นและผมก็ดีใจที่เขาทำได้

“เก่งที่สุดเลยครับ” ผมดึงเค้กเข้ามากอดแล้วก็หอมแก้มเค้กเบาๆ

“รอแปบนะพี่ทราฟ เดี๋ยวเค้กมา” เค้กลุกขึ้นวิ่งเข้าบ้าน ผมมองตามอย่างสงสัย จนกระทั้งเค้กวิ่งกลับบ้านมาพร้อมกับกีตาร์โปร่งของผม

“เค้กอยากเล่นเพลงๆหนึ่งให้พี่ทราฟ” เค้กบอก

“เล่นให้พี่เนี่ยนะ” ผมถามกลับ

“ครับ ตั้งใจฟังนะ ผมอยากให้พี่ทราฟรู้ความรู้สึกของเค้ก” เค้กพูดเสียงจริงจัง ผมยิ้มตอบก่อนจะพยักหน้าเบาๆ ถึงไม่บอกผมก็ตั้งใจฟังอยู่แล้ว

เมื่อไหร่ที่ฉันนั้นอ่อนล้า และเหมือนต้องยืนลำพัง
สิ่งหนึ่งที่เหลือเป็นความหวัง คือเธอคนเดียวรู้ไหม

ก็เพราะเธอคือลมหายใจ ให้ฉันได้มีชีวิตอยู่
อยู่เพื่อรักเธอและจะรักอย่างนี้เรื่อยไป

เสียงใจๆของเค้กสะกดให้หัวใจผมหยุดยิ่ง ทำน้ำเสียงและเนื้อหาของเพลง แม้กระทั้งแววตาที่น้องมองผม เหมือนเขาต้องการสื่อความรู้สึกทั้งผ่านบทเพลงแสนหวานนี้ให้ผมคนเดียว

จะห่างกันแสนไกลสุดฟ้า ฉันนั้นก็พร้อมจะไป
ไม่ว่าจะแสนนานแค่ไหน เฝ้ารอแต่เธอเสมอ

ก็เพราะเธอคือใจทั้งใจ และฉันไม่มีเธอไม่ได้
อยู่เพื่อรักเธอและจะรักอย่างนี้เรื่อยๆไป
เธอคนเดียวที่ทำให้วันทุกวันมีความหมาย
สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต  คือการได้พบเธอ  และเราได้รักกัน
     
ถ้าหากวันไหนเธออ่อนล้า ฉันนั้นจะคอยดูแล   
จะอยู่เป็นเพื่อนเธอเมื่อแพ้ ไม่ห่างจากกันจำไว้

ก็เพราะเธอคือใจทั้งใจ และฉันไม่มีเธอไม่ได้
อยู่เพื่อรักเธอและจะรักอย่างนี้เรื่อยๆไป
อยู่เพื่อรักเธอและจะรักอย่างนี้เรื่อยๆไป

เพลงจบลงแล้ว เค้กวางกีตาร์ลงกับพื้นก่อนจะขยับเข้ามานั่งข้างๆผม แววตาสั่นระริกของเค้กมีน้ำตาคลอน้อยๆ ผมยกมือจับที่ใบหน้าเค้กเบาๆ หยดน้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมา ผมเช็ดออกให้อย่างเบามือ

“ขอบคุณนะครับ ไม่มีพี่ทราฟ เค้กก็คงไม่มีวันนี้”

“ด้วยความยินดีครับ”

“เค้กรักพี่นะ”

“พี่ก็รักเค้ก รักมาก และจะรักอย่างนี้เรื่อยๆไป”

แล้วผมก็โน้มหน้าหาใบหน้าหวานตรงหน้าเพื่อจุมพิต เค้กหลับตาลงก่อนจะตอบรับทุกความรักของผมที่ส่งผ่านไปถึงเขา ไม่ว่าจะเป็นเพราะโชคชะตาหรือผมลิขิต หรือจะเป็นปลาทองของไอ้เจที่ตายไปแล้ว หรือบางทีอาจจะเป็นไอเจก็ได้ที่ทำให้ผมได้เจอกับเค้ก แต่ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ทำให้ผมได้เจอเขา ผมบอกจากใจเลยว่าผมขอบคุณมาก และผมสัญญาว่าผมจะดูแลเขาให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะดูแลคนที่รักได้ ผมจะทำ ผมสัญญา



จบบริบูรณ์




..............................................................
        จบลงแล้วอย่างสวยงามสำหรับเรื่องราวความรักของทั้งสี่คนสองคู่ แต่งไปร้องไห้ไป  :hao5: น้ำตานองหน้านองหน้าจอคอม ใจหายอย่างสุดซึ้งที่ต้องจบเรื่องนี้ลง แต่เป้นธรรมดามีพบต้องมีจาก มีเริ่มต้องมีจบ
        ริริขอขอบคุณคนอ่านที่น่ารักทุกคนที่ติดตามกันมาตั้งแต่ภาคแรกและถึงตอนนี้ ริริซึ้งใจมากจนไม่สามารถกลั่นกรองออกมาเป็นคำพูดได้ แต่รู้ไหมค่ะ เพราะนักอ่านทุกคน นิยายเรื่องนี้ถึงได้จบลงอย่างสมบูรณ์ คุณคือส่วนหนึ่งของนิยายเรื่องนี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมากจริงๆ
         :mew1: :กอด1: :L2: :L1: :pig4:


P.S. ยังจองหนังสือได้อยู่นะคะ เข้าไปในแฟจเพจเลยค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2013 21:08:28 โดย RiRi »

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
เพลงฉันดีใจที่มีเธอ เป็นเพลงที่ฟังกี่ที่ก็สุขใจอ่ะ ชอบอ่ะ รักๆริริ :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด