“พี่ทราฟ ฮืออ” พอเห็นหน้าพี่ทราฟผมก็ร้องไห้ออกมา ทั้งๆที่อดทนอดกลั้นมาได้ทั้งวันแท้แล้วๆ แต่พอเห็นหน้าพี่ทราฟเท่านั้นน้ำตามันก็ไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่
“เฮ้อ ร้องไห้ทำไมครับ” พี่ทราฟถอนหายใจก่อนจะจับมือผมเดินเข้าบ้าน
“พี่ทราฟไปไหนมา” ผมถามทั้งน้ำตา พี่ทราฟนั่งลงที่โซฟาแล้วก็ดึงผมให้นั่งลงข้างๆ
“ไปที่อู่รถมา” พี่ทราฟตอบนิ่งๆ จ้องหน้าผมที่นั่งร้องไห้ ถ้าเป็นปกติพี่ทราฟจะต้องเช็ดน้ำตาให้ผมแล้วก็กอดผม แต่ครั้งนี้พี่ทราฟไม่ทำ มัยยิ่งทำให้ผมใจเสียเข้าไปใหญ่
“พี่ทราฟโกรธเค้กเหรอ ฮือ เค้กขอโทษ อย่าโกรธเค้กเลยนะ” ผมทนไม่ได้ถ้าพี่ทราฟจะเมินผมไม่สนใจผมแบบนี้
“รู้ด้วยเหรอว่าพี่โกรธ” พี่ทราฟค่อยๆเช็ดน้ำตาให้ผมเบาๆ
“รู้ ฮึก” ผมจับมือพี่ทราฟให้จับหน้าผมไว้ ไม่ให้เอาออก
“แล้วรู้ไหมว่าทำไมพี่ถึงโกรธ”
“เพราะเค้กไปหาพี่เฟใช่ไหม” ต้องใช่แน่ล่ะ เพราะพอพี่ทราฟรู้ว่าผมไปหาพี่เฟ พี่ทราฟก็โกรธผมและก็หนีออกจากบ้านไปเลย
“ปล่าว พี่ไม่ได้โกรธที่เค้กไปหาพี่เฟ แต่พี่ไม่ชอบที่เค้กทำอะไรไม่บอกพี่ เราเป็นคนคิดมากรู้ตัวเองไหม เราเอาแต่โทษตัวเองเรื่องที่พี่เลิกกลับเฟ บอกตามตรงว่าพี่กลัวใจเค้ก กลัวว่าเค้กจะจมอยู่กับความรู้สึกผิดเพราะคิดว่าตัวเองทำให้พี่กับเฟเลิกกันแล้วเราก็จะคิดที่จะทิ้งพี่ไป แต่จะให้พี่บอกยังไงว่าเค้กไม่ผิด หืม เค้กจะให้พี่ทำยังไงดี”
ผมไม่คิดว่าพี่ทราฟจะคิดมากขนาดนี้ เพราะถ้าผมรู้ผมก็คงจะบอกพี่ทราฟก่อน ไม่แอบไปเองแบบนี้ ผมเป็นคนคิดมากนั้นผมรู้ แต่ถึงรู้มันก็ห้ามให้คิดไม่ได้ ผมห้ามตัวเองไม่ให้รู้สึกผิดกับพี่เฟไม่ได้ ความคิดที่ว่าไม่มีผมเรื่องทั้งหมดนี่มันก็คงไม่เกิดขึ้นมันยังคงหลงเหลือในหัวผม แต่ถึงจะคิดอย่างนั้น อีกใจหนึ่งผมก็คิดว่า ถ้าผมไม่ได้เจอพี่ทราฟ ผมคงไม่มีวันนี้ วันที่ผมจะมีคนที่ผมรักและรักผมมากๆอยู่เคียงข้าง แค่คิดว่าถ้าผมจะไม่ได้อยู่กับพี่ทราฟแบบนี้ผมก็ทนไม่ได้ และความเห็นแก่ตัวก็ทำให้ผมคิดที่จะไปขอโทษพี่เฟ เพราะผมอยากจะสบายใจที่จะยืนอยู่ตรงนี้ ไม่อยากให้ใครรู้สึกไม่ดีกับผม ไม่ว่าจะเป็นคนที่รู้จักหรือไม่รู้จักก็ตาม ผมคงกลับไปอยู่ในสภาพที่ไม่มีคนสนใจแบบแต่ก่อนไม่ได้อีกแล้ว ไม่ว่ายังไงผมก็ปล่อยพี่ทราฟไปไม่ได้
ถ้าปล่อยพี่ทราฟไป ผมคงไม่เหลือใครอีกแล้ว
“เค้กขอโทษ เค้กแค่อยากไปขอโทษพี่เฟก็แค่นี้ เค้กไม่รู้ว่าจะทำให้พี่ทราฟรู้สึกไม่ดีแบบนี้ เค้กไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ” เพราะถ้ารู้ผมคงไม่ทำ...
“พี่แค่อยากให้เค้กบอกพี่สักนิด พี่พาเค้กไปหาเฟได้ แต่ไม่ใช่ที่ว่าเค้กไม่คิดจะบอกแล้วก็ให้ไอ้เจพาไปแบบนี้ เหมือนพี่ไม่สำคัญ เหมือนว่าพี่พึ่งไม่ได้” พี่ทราฟพูดอย่างตัดพ้อ ผมรีบส่ายหน้าทันที ผมไม่เคยคิดแบบนั้นเลย
“ไม่จริง! พี่ทราฟสำคัญ สำคัญที่สุด อืออ เค้กขอโทษ ต่อไปนี้เค้กจะไม่ทำอีกแล้ว มีอะไรเค้กจะบอกพี่ทราฟคนแรก แต่พี่ทราฟอย่าทิ้งเค้กไปอีกนะ” พี่ทราฟมองหน้าผมที่สบตาพี่เขานิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะดึงผมเข้าไปกอด กอดแบบที่ผมชอบ ผมชอบให้พี่ทราฟกอดผมที่สุด
“เค้กสำคัญกับพี่มากนะ เค้กเป็นคนที่พี่รัก พี่คงทนไม่ได้ถ้าต้องเสียเค้กไป ใครจะว่าพี่เห็นแก่ตัวก็ช่าง พี่ไม่แคร์ พี่แคร์ก็แค่เค้กคนเดียว เข้าใจพี่ไหม”
“...” ผมเช็ดน้ำตาตัวเองออกจากใบหน้า
“พี่ไม่อยากให้เราใช้อดีตมาสร้างอนาคต แต่พี่อยากให้เค้ก อยากให้เราทั้งคู่ใช้ปัจจุบันในการสร้างอนาคต และใช้อนาคตลบอดีตออกไป เค้กเข้าใจพี่ใช่ไหม”
“ฮึก ฮืออ เค้กเข้าใจ เค้กรักพี่ทราฟนะ” พี่ทราฟยิ้มให้ผมก่อนจะพูดต่อ
“ขอบคุณครับที่เข้าใจพี่ พี่เองก็จะพยายามเข้าใจเค้กให้มากขึ้นเหมือนกัน หยุดร้องได้แล้ว ไอ้ครามโทรไปบอกพี่ว่าเค้กไม่กินข้าว จริงหรือเปล่า”
“เค้กกินนะ แต่กินไปนิดเดียว เค้กกินไม่ลง พี่ทราฟดุเค้ก แถมยังหันหน้าหนีเค้กแล้วก็ออกไปจากบ้านอีก พี่ทราฟทิ้งเค้ก” ผมปั้นหน้างอ คราวนี้คดีผลิกกลายเป็นผมที่งอนแทนแล้ว
“โอ๋ๆ พี่ปล่าวทิ้งสักหน่อย พี่ต้องออกไปที่อู่ตั้งแต่เช้า แต่เรากลับหนีพี่ไปข้างนอก โทรหาก็ไม่รับ พอมารู้ว่าเค้กไปไหนมาพี่ก็โมโหมากๆ ถ้าพี่อยู่ใกล้ๆเราตอนที่พี่โมโหพี่อาจจะดุเรามากกว่านี้ พี่เลยออกไปข้างนอกไม่สงบอารมณ์ตัวเอง พี่ขอโทษนะครับ” ผมพยักหน้าช้าๆ พี่ทราฟยิ้มออกมาก่อนจะเลื่อนหน้าเข้ามาหอมแก้มพร้อมพรมจูบซับน้ำตาให้ผมช้าๆ
“เค้กโทรไปพี่ก็ไม่รับ” ถึงผมจะโทรไปแค่สายเดียวก็เถอะ =^=!
“พี่ทำงานอยู่ มาเห็นอีกทีก็ตอนเย็นแล้ว เลยคิดว่าเดี๋ยวกลับบ้านแล้วค่อยมาคุยกับเค้กทีเดียว”
“เค้กไม่ชอบเลย พี่ทราฟอย่าดุเค้กเลยนะ ต่อไปนี้เค้กจะไม่ดื้อแล้ว”
“รู้ตัวด้วยเหรอว่าเราน่ะดื้อ” พี่ทราฟว่าขำๆ ใช้นิ้วเขี่ยจมูกผมเล่นอย่างชอบใจ ผมเลยต้องปัดมือออกเพราะรู้สึกเหมือนจะจามออก พี่ทราฟชอบเล่นจมูกผม บางทีก็กัด บางทีก็งับ ไม่เข้าใจว่าจะชอบอะไรขนาดนั้น
“ก็...นิดหนึ่ง” ผมตอบอ้อมแอ้ม ผมดื้อเหรอ จริงเหรอครับ >_< ผมว่าผมไม่ดื้อนะ ใช่ไหม?
“แล้วนี่นิ้วไปโดนอะไรมา” พี่ทราฟจับมือผมมาลูบเล่นก่อนจะหยุดแล้วก้มมองนิ้วของผมที่มีพลาสเตอร์ยาปิดอยู่
“เค้กช่วยพี่เจทำกับข้าวแล้วโดนมีดบาด” พี่ทราฟจับมือผมยกขึ้นก่อนจะจูบลงบนนิ้วของผมที่เป็นแผล
“ทีหลังระวังหน่อยสิครับ”
“ครับผม”
“ไปๆ ไปกินข้าว พี่หิวข้าวมาก” พี่ทราฟหัวเราะเบาๆและดีดหน้าผากผมเบาๆที ผมได้แต่ลูบหน้าผากปรอยๆก่อนจะเดินลุกตามพี่ทราฟเข้าไปในครัว และอยู่ดีๆท้องผมก็เริ่มครวญครางประท้วงมันที
“แหะๆ เค้กก็หิวข้าวมาก” หน้าอายจังเลย รออีกสักหน่อยก็ไม่ได้นะไอ้ท้องบ้า เดี๋ยวก็จะไปกินข้าวอยู่แล้วเชี่ยว ประจานกันเสียได้ T^T
“หิวแล้วทำไมไม่กิน”
“ก็...ก็ตอนนั้นมันไม่หิวนี่น่า แต่ตอนนี้หิวแล้ว” ใครจะไปบอกว่าพอเห็นหน้าพี่ทราฟก็หิวขึ้นมาทันที
“งั้นก็กินเยอะๆเลย ถ้าคราวหน้าไม่กินข้าวอีกนะ พี่จะทำโทษ” พี่ทราฟบอกคาดโทษ ผมก็ได้แต่ยอมรับแต่โดยดี
“ครับ ^_^”
คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการทะเลาะกันทำให้เราเข้าใจกันมากกว่าเดิม จากที่ก่อนหน้านี้ ผมคิดว่าผมกับพี่ทราฟคงไม่มีทางทะเลาะกันแน่นอน เพราะไม่ว่าผมจะทำอะไรพี่ทราฟก็ตามใจผมตลอด ไม่ว่าผมจะดื้อยังไงพี่ทราฟก็แค่ดุเบาๆ ไม่ถึงขั้นเมินผมไม่สนใจผมแบบนี้ แต่วันนี้ผมได้รู้แล้วว่าผมควรจะต้องทำยังไงที่จะรักษาความรักของเราเอาไว้
ถ้าจะรักก็ต้องไว้ใจและวางใจคนที่เรารักและคนที่รักเรา มีอะไรต้องพูดคุยกัน ช่วยกันแก้ไขปัญหา ไม่ใช่คิดจะทำอะไรคนเดียว เพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวถึงจะทำอะไรตามใจตัวเองได้ อย่างน้อยก่อนจะคิดทำอะไรก็ต้องคิดก่อนว่าจะส่งผลถึงใครหรือทำให้ใครต้องเสียใจหรือเปล่า
ผมคิดว่า ผมกับพี่ทราฟยังมีอะไรที่ต้องปรับและเรียนรู้ไปพร้อมกัน แต่ไม่ว่ายังไงเราทั้งสองก็จะผ่านมันไปให้ได้ ถ้าใครทำผิดเราก็จะตักเตือนซึ่งกันและกัน เพื่อประคองความรักของเราเอาไว้แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
และผมก็หวังว่าเราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ไม่ต้องแยกกัน
“พี่ทราฟอาบก่อนเลยก็ได้” พอกินข้าวเสร็จ ผมเอาเจ้าสายไหมไปนอนก็ขึ้นมาบนห้อง ผมหยิบผ้าเช็ดตัวส่งให้พี่ทราฟ ไปทำงานที่อู่มาทั้งวันคงจะเหนียวตัวแย่ ผมอาบทีหลังก็ได้เพราะวันนี้ทั้งวันไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้วนอกจากนั่งรอพี่ทราฟ เหอะๆ
“พี่ว่าอาบด้วยกันดีกว่า” พี่ทราฟเดินเข้ามากอดผมจากด้านหลัง พร้อมกับใบหน้าของพี่ทราฟที่เข้ามาซุกอยู่แถวๆซอคคอและหัวไหล่ผมและพรมจูบไปมา พี่ทราฟจะหื่นอีกแล้วววว
“ไม่เอา พี่ทราฟอาบก่อนนั่นแหละดีแล้ว เค้กรอได้” เรื่องอะไรจะอาบกับพี่ทราฟล่ะ ถ้าอาบพร้อมกันคงไม่ได้อาบอย่างเดียวแน่ ผมไม่อยากจะคิดเลย
“หึหึ จะรอทำไมละ อาบด้วยกันนี่แหละดีที่สุดแล้ว” แต่พี่ทราฟกลับไม่ฟังคำพูดของผมเลย ดันผมเข้าห้องน้ำจนได้ แต่ผมจะขัดขืนแต่ก็สู้แรงพี่ทราฟไม่ได้อยู่ดี คอยดูนะ ผมจะไปเรียนเทวันโด ยูโด คาราเต้ เรียนมันให้หมดเลย เผื่อว่าผมจะแรงเยอะกว่านี้บาง โอ๊ยยย ขัดใจที่ซู้ดดดด!
“ไม่เอานะพี่ทราฟ” แล้วมือนี่มันอะไร ผมถอดเสื้อเองได้ ไม่ต้องใจดีขนาดนั้นก็ได้ ฮือออ ยิ่มกริ่มเข้าไปเถอะ ผมอายจะตายอยู่แล้ว เอาเสื้อผ้าผมคืนมานะ!
“มามะคนดี เดี๋ยวพี่จะถูหลังให้”
ม่ายยยยยย >.< ผมถูเองได้ ให้ผมถูเองเถอะ!
ฮือออ สุดท้ายผมก็เจ็บตัวอีกจนได้
ตื่นเช้ามาพี่ทราฟยังคงหลับอยู่ ผมค่อยๆจับแขนพี่ทราฟที่กอดผมไว้ออกอย่างเบามือเพราะกลัวพี่ทราฟจะตื่น ผมค่อยๆลงจากเตียงด้วยความทุลักทุเลเดินเข้าห้องน้ำ จะว่าอะไรไหมถ้าผมจะบอกว่า...ผมเจ็บก้น!
ฮืออ ปวดเอวปวดตัวไปหมดเลย
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมก็เดินย่องๆออกจากห้อง แต่พอเปิดประตูได้นิดเดียวก็ต้องดึงประตูเข้าหาตัว เอ๋...ทำไมพี่ริชออกมาจากห้องพี่ครามล่ะ
“บ่นๆๆ บ่นเข้าไปเถอะ” ผมได้แต่แอบฟัง แต่ไม่เห็นว่าตอนนี้ทั้งคู่ทำอะไรอยู่
“นอนก็ดิ้นแล้วยังจะปากดีอีกนะ”
“แล้วทำไม ผมไม่ได้อยากนอนด้วยสักหน่อย ทำไมพี่ไม่ปลุกผมล่ะ”
“เพราะสงสารหรอกน่า เห็นง่วงซะขนาดนั้น แล้วจะโวยวายทำไมหนักหนา”
“แล้วทำไมพี่จะต้อง...ต้องกอดผมด้วยล่ะ” หืม ทำไมพูดเบาจัง ผมไมได้ยินนะพี่ริช พูดดังๆหน่อยสิ (เริ่มเกิดความอยากรู้อยากเห็น)
“หึหึ แค่นี้ก็ทำเป็นโวยวาย ทีนายจูบฉัน ฉันยังไม่ว่าเลย” นี่ก็อีกคน พี่ครามทำไมต้องกระซิบกระซาบด้วย ผมฟังไม่รู้เรื่องอ่ะ
“ไอ้พี่คราม!”
“ทำไมไอ้น้องริช!”
แล้วเสียงก็เงียบหายไป เอ๋...ผมพลาดอะไรไปหรือเปล่านะ ยังมีอะไรที่ผมไม่รู้หรือเปล่าระหว่างพี่ครามและพี่ริช พี่เขานอนด้วยกันเหรอ น่าแปลกจริงๆนะแบบนี้ ผมว่าทุกคนคงอยากจะรู้เหมือนกันใช่ไหมล่ะ หึหึ นี่คงได้เวลาตามหาความจริงกันแล้ว ถึงตัวจะเป็นเด็ก แต่สมองเป็นผู้ใหญ่ ชื่อของเขาคือ ยอดนักสือจิ๋ว...โคเค้ก!
>_<!!!

=============================
ขออธิบายหน่อยนะคะ ยังจำกันได้ไหมค่ะที่พี่ทราฟเคยบอกว่าอยากให้น้องเค้กดื้อ ประมาณว่าถึงดื้อก็ยังตามใจอะไรแบบนี้ แต่ที่จริงคือ ที่พี่ทราฟต้องการให้น้องเค้กดื้อก็เพราะว่าพี่ทราฟต้องการให้น้องเป็นตัวของตัวเอง มีความคิดเป็นของตัวเอง หรือพูดง่ายๆคือแสดงนิสัยของตัวเองออกมาได้เต้มที่ เพราะน้องเค้กค่อนข้างเป็นคนที่ขี้เกรงใจและคิดมาก ในตรงจุดนี้จะทำให้น้องสร้างกำแพงบางๆขึ้นมากั้นความสัมพันธ์ที่มีต่อคนอื่น ประมาณว่า ถ้าน้องขี้เกรงใจ เวลาอยู่กับพวกพี่เจพี่สองหรือพี่คราม น้องก็จะไม่กล้าบอกกล้าพูดอะไรตามใจตัวเองตามนิสัยของน้อง เพราะอย่างนั้นพี่ทราฟถึงยากให้น้องแสดงความเป็นตัวของตัวเองออกมา เพื่อที่จะได้รู้ว่าความจริงแล้วน้องเป็นคนแบบไหนกันแน่ จะได้ปรับตัวเข้าหากันถูก เพราะตัวของพี่ทราฟเองก็ไม่ได้เป็นคนดีอะไรมาก ทั้งยังเป็นคนอารมณ์ร้อนถ้าไม่นับเวลาอยู่กับน้องที่จะอารมณ์เย็นอยู่ตลอด แต่คนเราก็ต้องมีบางที่จะระเบิดออกมา อย่างที่พี่ทราฟไม่พอใจที่น้องไปหาเฟโดยที่ไม่บอก นั่งเป็นเพราะพี่ทราฟกลัวน้องจะคิดมาก โทษตัวเองจนยอมเลิกกับพี่ทราฟนั่นเอง ส่วนน้องเค้กก็กลัวพี่ทราฟจะคิดมากเลยทำอะไรไม่บอก ต่างคนก็ต่างกลัวคนที่ตัวเองรักจะต้องเป็นทุกข์ ถึงได้เป็นเรื่องเป็นราวขึ้น แต่อยากน้อยๆทั้งคู่ก็ทำไปเพราะเจตนาดี ถึงผิดพลาดกันบ้างก็ให้อภัยได้
มนุษย์ก็คือมนุษย์นะคะยังมีกิเลสตัญหา รักโลภโกรธหลง ทุกคนทำผิดได้ทุกเวลาถ้าไม่มีสติ และคงไม่มีใครทำแบบนั้นได้เพราะไม่ใช่พระพุทธเจ้านี่เนอะ จริงไหมค่ะ อยู่ที่ว่าจะรู้ความผิดของตัวเองและยอมรับผิดไหมไหมก็แค่นั้นเอง และน้องเค้ก เมื่อคิดว่าตัวเองผิดก็อยากจะขอโทษ อยากจะไถ่โทษให้ตัวเอง ถึงได้ตัดสินใจไปคุยกันเฟ เพราะน้องค่อนข้างแคร์คนรอบข้างมากๆ อยากให้ทุกคนรวมถึงตัวน้องเองสบายใจ
ฮ่าๆๆ เวิ้นเยอะกว่าทุกที ก็กลัววึคนอ่านจะไม่เข้าใจเจตนาของพี่ทราฟและน้องเค้กเนอะ ตอนนี้พี่มาม่าของพี่ทราฟของน้องเค้กหมดแล้ว อาจจะมีบางๆนิดหน่อยๆเพราะหึงหวงน้องของพี่ทราฟบ้าง แต่ไม่หนักหนาแน่นอน แค่พอให้กระชุ่มกระชวยเท่านั้น หลังจากนี้ก็จะเป็นเรื่องพี่พี่ครามและน้องริชแบบยาวๆกันไป
ขอบคุณทุกคนที่เขามาอ่านและติดตามนะคะ
กอดๆ

ตอนต่อไปแต่งเสร็จแล้ว แต่ยังไม่ได้ตรวจคำผิด อยากอ่านกันไหม ถ้าอยากอ่านก็เม้นๆกันเยอะๆค่า
