12 :: พลิกล็อค
ไม่อยากตื่น....
ไม่อยากไปมหาลัยเลย....
ไม่อยากอาบน้ำ.....
ไม่อยากหิว.....
แต่ต้องตื่น เพราะวันนี้มีสอบตอนเช้า แล้วก็ต้องอาบน้ำเพราะเมื่อคืนไม่ได้อาบน้ำ และก็เมื่อคืน (อีกนั่นแหละ) ไม่ได้กิน
อะไรเลย เพราะมัวแต่แหกปากร้องคาราโอเกะกับแม่อยู่...
นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้วสินะ (เอานิ้วขึ้นมานับ .....2 วัน) ที่ผมไม่เห็นพี่ข้าวเลย อาจจะเป็นเพราะผมไม่สนใจด้วย
แหละเลยไม่แลเห็น...
“โซ่! จะเล่นมิวสิดอีกนานมั้ย สายแล้วนะ”
ผมดึงตัวเองกลับเข้าสู่โหมดปัจจุบัน ผมต้องไปแล้ว.. หลังจากนั่งทำหน้าเศร้า ๆ ก่อนออกจากบ้านให้แม่เห็น แม่สุดที่รัก
เลยยันโครมแท่ด ๆ ตัวผมออกมาหน้าบ้าน (มันเป็นแค่จินตนาการครับ T^T อย่าถือสาคน sad T_T)
“แม่ไปแล้วนะ...”
“เออ เพิ่งระลึกได้รึไงว่าต้องไปแล้ว... จริง ๆ เลย ไอ้ลูกคนนี้..” นั่นแหละครับ แกก็บ่นอีกตามเคย
และวันนี้เป็นวันประหลาด... ไอ้กุนกล้าเสี่ยงตรีนมารับผมถึงหน้าบ้าน
“กูรักมึงว่ะ” ผมเอ่ยประโยคที่ผมคิดไว้ในใจตั้งแต่เห็นหน้ามัน และตรงเข้าสวมกอดเพื่อนรักทันที
“เฮ้ย! ไอ้โซ่! มึงเป็นเชี่ยอะไรเนี่ย ปล่อยกู! กูอายเขา!” มันร้องแหกปากเสียงดัง มันจะไม่อายเลยถ้ามันไม่แหกปากร้องจน
เป็นที่สนอกสนใจใครหลาย ๆ คน
ผมยอมคลายกอดจากตัวมัน แล้วเดินผ่านหน้าบ้านตัวเองไปขึ้นรถหน้าปากซอย
“มึงพิศวาทกูรึเปล่าเนี่ย ถึงมารับกูถึงหน้าบ้าน ร้อยวันพันปีไม่เคยมารับ - -?” ผมถามมัน หลังจากพาตัวเองขึ้นรถและหา
ที่นั่งกันได้เรียบร้อยแล้ว
“เฮ้ย ~ อย่าคิดไกล กูแค่เป็นห่วง ถ้ามึงหยุดเรียนเดี๋ยวไม่จบ” มันพูดแล้วยกแขนหนัก ๆ ของมันขึ้นมาวางพาดบนไหล่ผม
อยากจะด่าว่า ‘แขนคนหรือแขนควาย’ แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวเนื่องกัน เอาเป็นว่า..
“กูหนัก - -*” สั้น ๆ และเข้าใจง่ายที่สุด ไอ้กุนเอามือลงจากไหล่ผม แล้วผิวปากอย่างอารมณ์ดี........... ดีจนน่าถีบ...
แต่ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะถีบตามที่ใจอยากกระทำ พอถึงที่มหาลัย ผมก็เดินแห้งเหี่ยวไม่มีกะจิตกะใจจะเรียน อยากนอน
ฟื้นฟูพลังยุทธิ์..T_T
ผมนั่งเอาหน้าฟุบกับโต๊ะและพยายามจะรีบไปเฝ้าพระอินทร์ก่อนเข้าเรียน แต่แหม...บรรยากาศในการนอนผมมันไม่
เอื้ออำนวยสักเท่าไร เพราะรอบข้างมันมีแต่เสียงดังรบกวนอยู่ตลอดเวลา ใครต่อใครต่างก็พูดคุยกันเสียงดัง หรือเมาท์
แตกกัน ทำอย่างกับไม่เคยคุยกันอย่างนั้นแหละ -*- ส่วนไอ้กุน มันก็หนักพอ ๆ กัน แหกปากโหวกเหวกกวนใจผมอยู่นั่น
แหละ โอ้ย~ พระอินทร์ขอรับ โปรดเสกสรรค์สถานที่ที่เงียบสงบทำให้ผมกลับไปเฝ้าท่านจะได้ม้าย~
“โซ่.....”
แล้วทุกอย่างก็เงียบลงราวกับสิ่งที่ผมขอไปเมื่อครู่ เกิดอภินิหาร ต้นเหตุของการเกิดอภินิหารก็คือ ...พี่ข้าว…
พี่ข้าวเดินเข้ามาหาผม จึงทำให้ทุกคนที่อยู่ในอาณาบริเวณและส่งเสียงดังตั้งแต่เมื่อครู่เงียบเสียงลงเหมือนเป็นการสอด
แนม ว่าพี่ข้าวกับผมจะคุยอะไรกัน
ไม่คุยด้วยหรอก เชอะ! เชอะ! เจ็บแล้วจำ!
“มีอะไร..” อยากตบปาก ทำไมพูดจาไม่มีหางเสียงเอาซะเล้ย ~ ไอ้โซ่!
“พี่รู้ว่าโซ่โกรธพี่มาก ...พี่แค่อยากจะมาอธิบายเรื่องทั้งหมด” พี่ข้าวพูดด้วยสายตากับน้ำเสียงวิงวอน
“ผมรับรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ตั้งแต่วันนั้น พี่ข้าวไม่ต้องมาอธิบายอะไรอีกหรอก เรื่องมันจบไปนานแล้ว” (ยังไม่จบเฟ้ย ~ : ใบพลู)
พอผมพูดจบปรพโยคก็ตั้งท่าจะลุกเดินออกจากโต๊ะ แต่พี่ข้าวเข้ามาจับแขนผมไว้
มะ มือ... มือพี่ข้าวกำลังแตะเนื้อต้องตัวผม! อ๊ากกกกกก เนื้อเต้น!
แต่พี่ข้าวก็จับผมได้ไม่นาน เพราะผมสะบัดมันออกก่อนที่ผมจะอ่อนระทวย (เพียงแค่พี่เขาจับ?)
“โอเค ผมจะฟังก็ได้ แต่ผมไม่รับปากว่าจะหายโกรธพี่รึเปล่า....”
“ครับ^^ แค่โซ่ฟังความจริงจากพี่ พี่ก็โล่งอกแล้ว..”
แล้วพี่ข้าวก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นโดยละเอียดให้ผมฟัง ผมก็ฟังอย่างตั้งใจเผื่อสิ่งที่พี่ข้าวอธิบายจะทำให้ผมหายโกรธและ
กลับไปแช่แว๊บกับพี่ข้าวต่อ..เอ๊ะ ยังไง? ผมฟังในเหตุการณ์แรก ๆ ก็งง ๆ พอฟังไปจนถึงกลางเรื่องก็เริ่มมีอารมณ์ (ว๊ากกก)
แต่พอถึงตอนท้ายเรื่องสงสารปนเข้าใจ (แอบงงอยู่เล็กน้อย = =;; ) เอาละสรุปเลยละกัน ....หายโกรธแล้ว^ ^
แต่! ขอเอาคืน หึหึ
“ถ้าเป็นไปได้ พี่อยากให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม....ได้มั้ย?”
เหอะ! แล้วไอ้เหมือนเดิมเนี่ยมันแบบไหน แบบที่ผมวิ่งไล่พี่ข้าว หรือที่พี่ข้าวเป็นแฟนกับผมแล้ว .... ก็ได้แค่ถามในใจ
ก็แหม...ถ้าถามออกไปตรง ๆ เดี๋ยวเขาจะรู้ว่าเรายอมให้อภัยเขาแล้ว แล้วก็คำถามในลักษณะนั้นมันเหมือนช้อยส์ให้เขา
เลือกอีก แล้วถ้าจะตอบSay yes เลยมันก็กะไรอยู่ (เริ่มจะเล่นตัวอีกแล้วสิ : ใบพลู)
“......”
ผมไม่ตอบ แต่เดินหันหลังให้ แล้วเริ่มก้าวเท้าเดินจากออกมา อย่างสโลโมชั่น........?
หมับ!
การเคลื่อนตัวอย่างสโลโมชั่นของผมก็หยุดลง เพราะพี่ข้าวคว้าแขนผมไว้
“โซ่.....คำคอบ....”
ผมค่อย ๆ หันกลับมา และ...
“.....ครับ โซ่ไม่โกรธพี่ข้าวแล้ว^ ^”
“จริงเหรอ?! จริง ๆ นะ! ...”
“แต่!...” ผมพูดต่อเพราะพี่ข้าวดูจะดีใจเว่อร์ “ถ้าพี่ข้าว แกล้งโซ่แบบนี้อีก โซ่จะให้แม่มาเฉ่งกับพี่ข้าว!”
“โอเคครับ!”
ทำไมต้องให้แม่มาเฉ่ง? ก็... ผมไม่กล้าเฉ่งเองอะแหะ ๆ
พี่ข้าวกระโดดกอดผมแล้วคว้าตัวผมหมุนไปรอบ ๆ ว๊ากกก มึนหัว =w+
“ดูเหมือนจะเคลียร์กันแล้วนะ”
กึก.... พี่ข้าวปล่อยผมลง แล้วหันไปทางเสียงที่ดังแทรกความสุขเข้ามา ม่อน...
“พี่ข้าวอย่าลืมที่สัญญากันไว้ล่ะ หาผู้ชายหล่อ ๆ ให้ด้วยนะ”
“ครับ^ ^”
“จะไปหาทำไม?” ไอ้กุนที่ปิดปากเงียบมานานเอ่ยถามขึ้นมา ถามใคร?
“เกี่ยวไรด้วย” ไอ้ม่อนถามกลับ อ๋อ...ไอ้กุนถามไอ้ม่อน.. อ้าว! แล้วมันไปเกี่ยวไรกับเขาด้วยละเนี่ย?
“...ก็... อยู่ตรงนี้แล้วไง ผู้ชายที่ม่อนพูดนะ..” OoO
OMG! ไอ้กุนมันพูดอะไรออกมา อย่าบอกนะว่าจะจีบไอ้ม่อนนะ
“อย่าพูดให้ขำ อย่างนายเนี่ยนะ? เหอะ!” ไอ้ม่อนถามกลับแล้วทำเสียงขึ้นจมูก ยกมือขึ้นกอดอก
“ก็ใช่นะสิ”
“แน่ใจนะ”
“เออ”
“เรานิสัยไม่ดี”
“เดี๋ยวช่วยแก้”
“เราชอบแย่งของ ๆ คนอื่น”
“หึหึ...” (หัวเราะทำไมฟ๊ะ?)
“เรา..”
“ตกลงเป็นแฟนกันแล้วนะ”
“......”
“ว่าไง?”
“ยัง!”
“หา?”
“มันง่ายไป”
“เล่นตัวรึไง”
เออ..= =;; รู้สึกว่าหลัง ๆ จะไม่มีบทอะไรให้ผมเล่นแล้ว ดูที่คู่ไอ้ม่อนกับไอ้กุนมันเถียงกันไปนะ
“เปล่า..”
“แล้วทำไมไม่โอละ”
“ก็มันเร็วไป มันต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปสิ ปุ๊บปั๊บเป็นแฟนเลย เดี๋ยวก็ปุ๊บปั๊บเลิกเลย เริ่มจากการเป็นเพื่อนไปก่อนแล้วกัน”
“.......”
“ว่าไง?” (มีย้อนรอย)
“ได้! เริ่มแล้วนะ”
“หึหึ จัดไป!”
โอเคครับ ได้ข้อสรุปอีกคู่ ก็มันสองคนจะไปศึกษากันก่อน แล้วค่อยพัฒนาไปเรื่อย ๆ (ถ้าพัฒนาได้นะ) ส่วนผมกับพี่ข้าวก็
แฮ๊ปปี้อะนะ รักกันรักกัน ^O^ ความรักของผมกับพี่ข้าวก็สำเร็จแล้ว เป็นแฟนกันจริง ๆ แล้ว และอนาคตเป็นยังไง....
ก็ไม่รู้อ่ะ เพราะยังไม่เคยไปอนาคต = = เอาเป็นว่า จบดีกว่านะ บ๊ายบายครับ ถ้ามีอะไรดี ๆ เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังอีก เอิ๊ก ๆ
(?)
จบแล้วจ้า.......................
ตอนจบตอนท้ายเป็นไงบ้างเจ้าม่ะฮ่ะ อิอิ
รู้สึกว่าเรื่องนี้แทบจะไม่มี NC เลย ขอประทานโทษงาม ๆ จะเจ้าม่ะฮ่ะ
เด๋วตอนหน้า (เอ๊ะ ยังมีต่ออีกเหรอ) หมายถึงตอนพิเศษ (แต่ไม่รู้จะมีเมื่อไหร่) จะจัดให้เจ้าม่ะฮ่ะ ฮุฮุ
ขอให้มีความสุขในการอ่านเจ้าม่ะฮ่ะ ^ ^