เรื่องของผม ‘กลสิทธิ์’
ตอน จูบแรกกับคุณวี
หวัดดีครับกัลยาณมิตรที่รักและคิดถึง ขอหยุดตอบคอมเม้นท์สักตอนสองตอนนะครับ รับประกันผมอ่านของคุณทุกคน ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งให้ ผมสุขกายสบายใจดี ชีวิตจะทุกข์ได้อย่างไร? ในเมื่อข้างกายผมมีคนที่พวกคุณต่างรักและคิดถึงอยู่ทั้งคน คุณวีฝากความระลึกถึงมาด้วย เขาบอกพอผมเล่าจบค่อยเข้ามาทักทาย ภรรยาผมเขายกให้ผมเป็นพระเอกบ้าง เห็นป่ะล่ะ!ผมจะทุกข์ได้ยังไง มีแต่สุขจนล้นมากกว่า..อ่ะๆ! อย่าอิจฉาผมเป็นอันขาด กว่าจะมีวันนี้ ผมต้องแลกด้วยเลือดและน้ำตา พวกคุณอยากสุกไม่ใช่เรื่องยาก แค่ไฟอย่ามอดดับและอย่าวู่วาม อาศัยระยะเวลาเป็นตัวกำหนด เชื่อผมสิ ปิ้ง ย่าง ต้ม ผัด รับรองสุกจนทั่วไม่มีดิบชัวร์ ฮิ้ววว!!!
ความสุขเกิดจากใจครับ ความรักก็เกิดจากใจ ถ้าต้องการรักอย่างมีความสุข แค่ชนะใจตัวเองก่อนแล้วค่อยเอาชนะใจคนที่คุณรัก รางวัลแห่งการอดทน คงไม่ต่างจากผมหรอกเชื่อเถอะ อย่ายอมแพ้ทั้งที่ยังไม่เริ่มต้น หากคิดจะไขว้คว้า เราควรตั้งใจจริงและจริงใจ สมหวังบ้างผิดหวังบ้างเป็นเรื่องปกติ เรามีต้นทุนติดมาคือชีวิต ตราบใดยังมีชีวิตอยู่จะเรียกว่าขาดทุนไม่ได้ ชีวิตดับลงแล้วยังไม่รู้จักความสุข ถึงตอนนั้นค่อยเรียกว่า ‘ขาดทุน’ ถ้าเรามีลมหายใจอยู่ ต้องเรียกให้ถูกคือ ‘กำไรชีวิต’ อยากทำอะไรรีบๆทำเสีย แค่ไม่ตีหัวหมา ไม่ด่าพ่อเจ๊ก ทำความเดือดร้อนให้คนรอบข้าง เราก็ไม่เสียชาติเกิดแล้วจริงไหมไอ้น้อง..ฮิ้ววว! (รู้สึกตนเองพูดดีมีสาระก็ตอนนี้แหละ 555+++)
ตอนนี้ผมต้องลงรายละเอียด เพราะคุณๆ มีคำถามคาใจต้องการคำตอบ จะรวบรัดตัดตอนไม่ได้ด้วยสิ นึกแล้วผมก็ขำแอบลุ้นกันใหญ่ เอาเถอะครับ ‘อนิจจังวาตะสังขารา’ คนเราสังขารไม่สามารถเลือกได้ ต่อให้ลุ้นใหญ่แค่ไหน สุดท้ายคงได้เท่าที่มี บ้างครั้งก็ต้องปล่อยวาง ไม่อย่างนั้นจะทุกข์มากกว่า สัจจะธรรมข้อนี้ ผมจึงปล่อยวางไม่ทุกข์ไปกับความใหญ่ที่ติดตัวมา ทั้งที่ควรจะทุกข์ เพราะมันคือสาเหตุที่ทำให้คุณวีสลบไม่ฟื้นไปตั้งคืนกับวัน จนผมนึกกังวลคิดว่าฆ่าเขาตายแล้วมั้ง..555++ ในที่สุดเขาก็ฟื้นขึ้นมา ผมถึงรู้ว่าความใหญ่ไม่สามารถฆ่าใครได้ นอกจากใครที่อวดใหญ่ มักมีจุดจบไม่ธรรมดา ถือเป็นอุทาหรณ์ หากอยากมีชีวิตปกติ จุดจบของชีวิตไม่หวือหวาขึ้นหน้าหนึ่งของไทยรัฐ จงอย่าอวดใหญ่ดีที่สุด อ่อนน้อมถ่อมตัวเข้าไว้ แล้วปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทางที่ดี ข้อนี้ผมเลียนแบบภรรยาของผมเต็มที่ ขานั่นเขาใจเย็นอดทนสูง อภัยให้คนง่าย ไม่ผูกใจเจ็บ ไม่ถืออารมณ์เป็นที่ตั้ง พอผมเข้าใจจึงเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมอวดใหญ่ หันมาสนใจอวดหล่อแทนดีกว่า เพราะความหล่อไม่ตีหัวหมา ไม่ด่าพ่อเจ๊ก ไม่มีเรื่องกับใคร ถึงจะกินไม่ได้ แต่มัน..เท่ห์ ฮิ้วววว!!!
เรื่องของผม ‘กลสิทธิ์’
ตอน จูบแรกกับ..?
ปัญหาใหญ่ของผมกับคุณวีอีกครั้ง ผมไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย อย่าว่าแต่เคยแค่คิดก็ไม่ งานเข้าอย่างแรงผมไม่รู้วิธีปฏิบัติ คุณวีหนักกว่าผมอีก เพราะเขาไม่เคยเล่นจ้ำจี้มะเขือเปาะมาก่อน จำได้ว่าผมตลกปนอึ้งเขามาก ในกลุ่มผมไม่มีใครอ่อนเรื่องนี้สักคน เพื่อนคุณวีที่ผมเจอใช่จะไร้เดียงสา ทำให้ผมงง..พานสรุปเอาเองว่าเขาเป็นตุ๊ดหรือเปล่า? เดาจากสายตารุ่นน้องของเขาที่ออกอาการชัดว่าคิดกับเขาเกินปกติ แต่เขาไม่รู้ตัวภรรยาผมเวอร์จิ้นมากๆ
ผมตกเป็นอาจารย์จำเป็นสอนเพศศึกษาให้เขาแบบรวบรัดทุลักทุเล ทุกอย่างผ่านไปได้เมื่อเขาสามารถปลุกลูกชายผมให้คึกขึ้นมา ถามผมตอนนั้นตอบไม่ถูก มันไม่ใช่ความรู้สึกรักหรือชอบ ไม่มีคำอธิบายความรู้สึกหรอกครับ อารมณ์ตื่นเต้นท้าทายเสียมากกว่า ผมกลายเป็นอาจารย์สอนเขาปลุกลูกชายให้ตัวเองมีอารมณ์ ไม่งั้นไม่สามารถทำกับเขาได้ถ้ามันไม่ตื่น พออารมณ์มันไปผมก็เดินหน้าปฏิบัติภารกิจเพื่อให้ถึงเป้าหมาย เพราะไม่เคยทำกับผู้ชายมาก่อน รู้แค่ว่าต้องเอาเข้าทางไหน จับคว่ำได้ผมก็แทงลูกเดียว เลยกลายเป็นทำให้เขาสลบได้เลือดอีกครั้ง
คราวนี้สลบยาวเลย จนผมกับเพื่อนใจเสียกลัวเขาตายในหอ ผมคอยดูแลหยอดนมอุ่นเช็ดตัวลดไข้สารพัดจะทำเพื่อให้เขาฟื้น เพื่อนแต่ละตัวมันไม่ยอมช่วยเลยมันว่าผมทำเขาอยู่ในสภาพนี้ต้องรับผิดชอบคนเดียว ความจริงผมอ่านออก เกิดคุณวีอาการหนักถึงตายพวกมันไม่อยากมีส่วนร่วมในข้อหา แค่ทำร้ายร่างกายยังพอเอาตัวรอดกันได้ ผมเข้าใจความคิดของพวกมัน กลายเป็นหน้าที่ผมต้องดูแลเขา อย่างหนึ่งที่ผมสบายใจคือเขายังมีลมหายใจอยู่ จากไข้สูงก็เริ่มลดตัวเย็นขึ้นอุ่นภูมิเริ่มคงที่ รอให้เขาฟื้นเท่านั้น
ระหว่างรอ พวกผมไม่เป็นอันกินอันนอน จะพาไปโรงบาลก็กลัวเรื่องถึงตำรวจ เพื่อนผมอีกคนถึงกับออกความคิดหากไม่ฟื้นเอาไปทิ้งพงหญ้าแถวชานเมืองด้วยซ้ำ ตอนนั้นผมรู้สึกผิด ไม่นึกว่าเอากับผู้ชายมันจะเสี่ยงตายแบบนี้ ในที่สุดเขาก็ฟื้นขึ้นมาจนได้ คงเพราะร่างกายผ่านการฝึกซ้อมกีฬามาตลอดทำให้ฟื้นตัวเร็ว พอเขาฟื้นเพื่อนผมออกอาการเอาอกเอาใจเขาใหญ่ ผมหมั่นไส้มากกว่าไม่ใช่เพราะความหึง (หรือว่าใช่หว่า?) ตอนเขาสลบเสือกเกี่ยงกันดูแล พอฟื้นกลับจะออกหน้า ผมรู้เพราะพวกมันโล่งใจพอๆกับผมไม่มีใครคิดอะไรหรอกครับ
ผมแกล้งใช้อภิสิทธิ์ที่ดูแลเขาคนเดียวมาตลอด เป็นคนพาเขาเข้าห้องน้ำอุ้มเขาทั้งตัวครับ อย่าว่าแต่แรงจะเดินเลยแรงจะยืนยังไม่ไหว บาดแผลที่ผมทำรุนแรงกับเขามันฟ้องชัดจนน่าตกใจ ไม่ยักรู้ว่าลูกชายผมมันร้ายกาจขนาดนั้น..555++
อารมณ์ตอนนั้นโล่งเหมือนยกภูเขาออกจากอกที่เขาฟื้น ยอมรับผมกลัวเขาตาย ถึงจะเกเรแต่ไม่เคยทำร้ายใครถึงตายมาก่อน เหตุการณ์ที่เกิดกับคุณวีเป็นอีกเรื่องที่ทำให้ผมเริ่มคิดเกี่ยวกับชีวิตที่ผ่านๆ มาของตัวเอง คุณวีก็ยังคงเป็นเขาไม่ว่าอยู่ในสถานการณ์แบบไหน ใช้การนิ่งสงบแทนการโวยวาย หากเขาโวยวายโหวกเหวก ด่า บ่น หรืออะไรก็ตามที่แสดงอารมณ์โมโหในสิ่งที่เขาโดนกระทำ ผมคงไม่รู้สึกผิดเท่ากับการที่เขานิ่ง แต่ดันหน้าแดงตอนผมปลดกางเกงเขาลงให้เขายืนฉี่แล้วผมจะคอยประคองเอาไว้ นอกจากไม่ยอมรับความหวังดีดันไล่ผมออกจากห้องน้ำทั้งที่แรงจะยืนยังไม่ไหว ผมจึงจับเขานั่งโถส้วมให้นั่งฉี่แทน อยากให้พวกคุณเห็นหน้าเขาตอนอายชะมัด ผมจำได้ว่ากลั้นขำเกือบตาย ตอนเขาไข้ขึ้นตัวร้อนยังกะไฟลวกยังไม่แดงเท่าตอนเขาอายผมที่ต้องยอมนั่งฉี่
พอเขาเสร็จผมได้ยินเสียงเขาเคาะเรียก เขาคงไม่มีแรงเรียกผมใช้การเคาะแทน ผมกลับเข้ามาดึงกางเกงขึ้นให้ เขาก็ยังหน้าแดงหูแดงไม่เลิก ลูกกะตาพยายามไม่มองหน้าผมด้วย ปิดอาการเขินหน้านิ่งได้ไม่เนียนเลยครับ ยิ่งเห็นผมก็ยิ่งอยากแกล้ง ไม่รู้จะอายทำไมเห็นมาหมดแล้ว หนักกว่านั้นผมเข้าไปอยู่ในตัวเขาแล้วด้วยซ้ำ ล่อซะสลบแล้วจะอายผมเพื่อ
อุ้มเขาได้ผมยกเขาลอยหวือกะแกล้งให้ตกใจเล่น เขากลัวตกมั้งตะครุบกอดคอผมแน่น ทำให้สายตาผมที่จ้องรอโอกาสได้สบกับเขาตรงๆ ตาเขาใสเหมือนลูกแก้วสีดำจ้องผมตาโตออกอาการเหว่อ ริมฝีปากเขาก่อนหน้ามันดูซีด คงเพราะเขินผมทำให้มันแดงไปด้วย
ผมอยากแกล้งให้เขาโมโหเลยก้มลงจูบเขา แต่ไม่ได้สอดลิ้นครับ แค่ประกบเฉยๆ เพราะไม่ได้ชิมด้วยลิ้นจึงตอบไม่ได้ว่าหวานหรือเปล่า (รีบบอกก่อนจะมีคำถามกันอีก) ผิดหวังกันสินะที่ลุ้นตาม ความจริงผมไม่นึกอยากจูบเขาแม้แต่น้อย ตอนทำเขาผมไม่จูบเลยนะ แต่เพราะเห็นสีหน้าเขาแล้วอดแกล้งไม่ไหว จึงจูบเขาตัวสั่นในอ้อมแขนผม คงกลัวผมจะปล้ำมั้ง ผมละทั้งสงสารทั้งขำ ที่แท้ในใจเขาก็กลัว ทำเป็นนิ่งได้นิ่งดีควบคุมอารมณ์ตัวเองเก่งมาก..ทึ้งเขาเลย
กลับออกมา ผมจำไม่ค่อยได้ว่าเราคุยอะไรกันบ้าง ประเด็นหลักๆ ที่พอจำได้เขาทำท่ารังเกียจผม เหมือนไม่ต้องการเจอหน้าผมอีก ความจริงผมก็ไม่คิดเจอเขาหรอกครับหลังเกิดเรื่องนี้ นึกอยู่เหมือนกันว่าต่างคนต่างจบทางใครทางมัน แต่ผมหมั่นไส้คำพูดเขาที่พยายามออกตัวเต็มที่ นิสัยผมไม่ชอบให้ใครทำแบบนี้ใส่ด้วยสิ ผมถูกพ่อแม่ทิ้งให้อยู่กับตายายเหมือนไม่มีใครอยากอยู่กับผม พอเขาพูดลักษณะคล้ายจะเป็นแบบนั้น ผมเลยบังคับให้เขาเป็นคนของผมจนกว่าผมจะพอใจปล่อยเขาไปเอง หาข้ออ้างเอาเปรียบเขาเท่าที่ผมจะนึกออก ดูไม่สมเหตุสมผลหรอกครับ แต่ผมพอใจ (กวนตีน) เขาเถียงสู้ผมไม่ได้อยู่แล้ว คุณวีเขาไม่ถนัดพูดเรื่องตีหัวชาวบ้านอย่างผมครับ สรุปผมเหมาว่าเขาตกลงเล่นเงียบไม่ตอบ ผมถือว่าเขายอมรับเพราะผมหล่อเขาเลยไม่กล้าปฏิเสธ 555++
ที่จริงผมขู่ไปอย่างนั้นแหละไม่คิดจริงจัง หลังจากหายหน้าไปผมยังวนเวียนคบหากับสาวรุ่นน้องเพื่อนเธอคนสวยที่เธอสนใจผม ทำให้ผมได้มีโอกาสเจอกลุ่มสาวๆ แต่หนนี้ผมมาแผนสูงเมื่อคนสวยเธอหยิ่งใส่ผมทำไม่สนใจ หันไปเล่นกับเพื่อนเธอแทน ซึ่งคนหลังไม่ต้องลงทุนจีบให้เหนื่อยพร้อมรอผมอยู่แล้ว เลยทำให้ช่วงนั้นผมห่างคุณวีไป
ไม่รู้เพราะอะไรรอบข้างผมดันได้ยินแต่ชื่อเขา สาวๆทั้งคู่ต่างคิดว่าผมกับคุณวีเป็นเพื่อนสนิทกัน ทุกครั้งที่พูดคุยมักต้องมีเรื่องคุณวีเขามาเป็นหัวข้อสนทนาไม่มากก็น้อย ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องความประทับใจจากสาวๆ ในโรงเรียนมากกว่า ทำให้ผมรู้ว่าเขาฮ็อทมากมีแต่คนสนใจ เลยกลายเป็นผมรับรู้เรื่องราวของเขาในด้านที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน เพราะผมไม่เคยคิดจะถามเรื่องส่วนตัวของเขา
สรุปเขาเรียนดี กีฬาเก่ง เป็นที่รู้จัก แต่เข้าหายาก ทั้งที่นิสัยดี ยิ้มง่ายไม่หยิ่ง มีเสน่ห์สาวๆ ชอบ ที่สำคัญเพราะเขาไม่เคยควงใครเป็นแฟนเขาถึงเนื้อหอม ข้อมูลเหล่านี้ผมได้มาจากสาวๆ ในกลุ่มที่ผมไปคบหานั่นแหละครับ พวกเธอพยายามถามเรื่องส่วนตัวของเขาจากผมทั้งที่ไม่รู้เลยมั้ง ว่าคนที่ไม่มีข้อมูลคุณวีคือผมต่างหาก อาศัยลื่นไหลเนียนเอาตัวรอดไปเรื่อยมากกว่า ผมจึงไม่ตกเป็นข้อสงสัย สุดท้ายถึงผมต้องการลืมแต่กลับได้รับการตอกย้ำเรื่องราวของเขามากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ชื่อเขาวนเวียนอยู่รอบตัวเสมอ ผมรู้สึกผิดที่ทำกับเขา พานไม่กล้าถามว่าเขาอยู่ไหน ทำอะไร ใช้ชีวิตเป็นอย่างไร เพราะผมกลัวพวกเธอสงสัยว่าทำไมเป็นเพื่อนสนิทกันถึงไม่รู้เรื่องเขา ผมไม่กล้าไปเจอหน้าเขาครับ (ละอายใจ) ผมทำร้ายคนดีๆ คนหนึ่งอย่างไม่ตั้งใจ ยิ่งเหตุการณ์ที่ผมทำกับเขาตามหลอกหลอนผมตอนมีอะไรกับสาวๆ บางครั้งทำผมหมดอารมณ์ไปเลยก็มี
สาวคนที่ว่าดันเป็นรุ่นน้อง ที่ผมรู้จักได้ก็เพราะเขาเป็นคนชักพา แต่ไม่ใช่ผมหมดอารมณ์กับผู้หญิงนะมันเกิดขึ้นเป็นบางครั้ง หากประจวบท่วงท่านั้นบังเอิญมันคล้ายตอนที่คุณวีพยายามช่วยปลุกลูกชายผมภาพมันจะซ้อนขึ้นมา พอนึกออกกันไหม?
ผมหงุดหงิดทุกครั้งที่สลัดภาพนี้ออกจากหัวไม่ได้ อย่างที่บอกหากเขาร้ายเอาเรื่องผมคืน ไม่นิ่ง ไม่สงบ อย่างที่ทำผมคงไม่ลำบากใจ ถือว่าสมแล้วที่เขาควรโดน แต่เขากลับยอมรับและถือเป็นการชดใช้ให้ผมในสิ่งที่ทำให้ผมเสียเงิน เสียแผน
คนอย่างเขาไม่รู้จะหาได้ที่ไหนอีก ย้อนกลับหากเป็นผมไม่มึงก็กูคงตายกันไปข้าง เข้าใจใช่ไหมว่าเขาเริ่มรุกคืบเข้ามา
ในความคิดผมแบบไม่มีทางเลี่ยงเลยจริงๆ....???
รักหรือไม่ ผมไม่รู้ ไม่คิดรัก
มันยากนัก สลัดหลุด ออกจากหัว
ภาพเลวร้าย ที่กระทำ หลอนจนกลัว
ผุดในหัว ยากจะลืม ปราณวี??
ผมแต่งมัวๆ อาจงงๆ ไม่ว่ากันนะครับ เพราะทุกอย่างเกิดจากใจล้วนๆ..
กลสิทธิ์.
