บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [5-6-12] Part 3 "หน้า 4"
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [5-6-12] Part 3 "หน้า 4"  (อ่าน 30161 ครั้ง)

ออฟไลน์ กาลณัฐ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [5-4-12]
«ตอบ #30 เมื่อ05-04-2012 18:26:21 »

 :impress2:  จำได้แล้วว่าเคยอ่านที่ไหนฮ่าา
อ่านกี่รอบก็สนุกกกกก  o13

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [5-4-12]
«ตอบ #31 เมื่อ05-04-2012 18:31:35 »

ใครเคยอ่านแล้ว อย่าเพิ่มสปอยเน้อ สงสารคนเพิ่มอ่านใหม่ เดี๋ยวไม่ลุ้น แต่รับรองมีทุกรสเลย เดี๋ยวได้ชิมหมดแน่ ลงครบทุกภาคจ้า

อีกอย่างคนลงเป็นแฟนคลับโอ๊ตอะ  :laugh:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [5-4-12]
«ตอบ #32 เมื่อ05-04-2012 20:17:23 »

โหววว กว่าจะอ่านจบ ตาเกือบแฉะ จุใจมากกกกกกกกก

 :L1: :L1: :L1: :L1:

Gulp

  • บุคคลทั่วไป
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [5-4-12]
«ตอบ #33 เมื่อ05-04-2012 22:00:17 »

เรื่องนี้ทำเสียน้ำตาหลายรอบมากๆ

stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [5-4-12]
«ตอบ #34 เมื่อ05-04-2012 22:08:41 »

บอกตรงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ทำให้หนูอ่านชายรักชาย 555555555555 เป็นตุ๊ดคะ
จำได้อ่านตั้งแต่บอร์ดซีล มาบอร์ดแร็ค บอร์ดจีมูฟ จนมาถึง บอร์ดนี้ มหากาพย์มากกกกกกกกกก

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [5-4-12]
«ตอบ #35 เมื่อ06-04-2012 10:46:55 »

อาจยังไม่เห็นว่ารักมากมาย  :-[  :-[  อาจยังสงสัยผู้ชายคนนี้  :man1: :man1:

Hakken

  • บุคคลทั่วไป
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [5-4-12]
«ตอบ #36 เมื่อ06-04-2012 20:51:51 »

แล้วคิวจะมีคู่กะเค้าไหม    รอค่ะ   :z1:     :z1:
 

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [5-4-12]
«ตอบ #37 เมื่อ06-04-2012 23:00:39 »

 :L2:พอบอกว่านี่คือ ตำนาน  :mc4:
เราต้องไม่พลาด ขอบคุณค่าที่นำมาให้อ่าน :3123:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [6-4-12]
«ตอบ #38 เมื่อ06-04-2012 23:18:56 »

“ซื้ดด ซื้ดดดด” โอย น้ำมูกไหล

คืนนั้นพอกลับมาถึง ยายก็เรียกให้ไปกินข้าวบนเรือนใหญ่ก่อน แล้วก็ไม่พ้นโดนว่าเรื่องไม่ดูแลสุขภาพ

“เอาเหอะๆ ยาย ปริ้นก็เป็นแล้วอ่ะ เด๋วรีบเข้านอนพรุ่งนี้ก็หายแล้ว” ผมพูดด้วยความหงุดหงิด

“แล้วก็รีบไปอาบน้ำอาบท่าเข้าล่ะ ตากฝนมาแต่เช้า ตัวชื้นไปหมด” ได้ยินดังนั้นผมก็ทำท่าสั่นหัวไปทางโอ้ต ประมาณว่า ให้ตายกรูก็ม่ายอาบหรอกคืนนี้

“โอ้ต กินข้าวเสร็จแล้วตามไปในครัวด้วยนะ” ยายผมว่าพลางเดินออกไปนอกห้อง

“ครับ” ว่าพลางรวบช้อนส่อมเข้าที่

“จะไม่อาบน้ำจริงๆเหรอ”

“เออดิ เป็นหวัดอยู่นะ จะให้อาบน้ำตอนกลางคืนเนี่ย” ผมพูดแล้วก็ลุกขึ้นเดินกลับไปที่บ้านตัวเอง ตอนนี้เริ่มปวดหัวขึ้นมาอีกรอบแล้วคับ สงสัยยามันหมดฤทธิ์แล้ว ช่วงนี้ผมกะลังล้างหน้าแปรงฟัน (แต่ไม่อาบน้ำ)อยู่ ก็ได้ยินเสียงคนเปิดประตูเข้ามา

“ปริ้นอยู่ในห้องน้ำเหรอ”

“อือออออ ”

“คุณยายให้เอาของมาให้ โอ้ตวางไว้บนหัวนอนน่ะ ”

“อืออออ ออบไอ (ขอบจาย) ”

ก๊อกๆ โอ้ตมันเคาะประตูห้องน้ำ

“อือ อ้าไอ (ว่างาย) ”

“แล้ว……. ตอนนอน ห่มผ้าด้วย”

หลังประตูห้องน้ำผมรู้ไม่รู้ว่าโอ้ตมันทำหน้ายังไงครับ แต่ที่รู้ก็คือ หน้าผมบานที่ได้ยินมันพูดแบบนั้น

“อ๊าบบ (ค๊าบ) ”

ซักพัก ผมออกมาก็ไม่เห็นโอ้ตมันอยู่แล้ว ว้า เซ็งนิดๆ แต่เอาเหอะ กรูไม่สบายอยู่นี่หว่า ถึงแม้จะรู้สึกว่าเหนียวตัวเล็กๆ แต่ผมก็ทนกับอาการปวดหัว แล้วก็อ่อนเพลียไม่ไหว ขอกรูหลับก่อนเหอะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน

“คร่อก …… Zzzzzzzz”

กึก กึกก

แอ๊ดดดดดดด

ผมได้ยินเสียงฝนเริ่มตกกระหน่ำลงมาอีกรอบ ในช่วงกลางดึก แล้วก็รู้สึกสัมผัสอุ่นๆ มาอังบริเวณซอกคอ หน้าอก แล้วก็ตามลำตัว สุดท้าย มันก็มาโปะเข้าที่หน้าผาก

“อืออออ”

“อาไรวะเนี่ย ผมเผลอครางออกมาโดยไม่รู้ตัว บางสิ่งบางอย่างที่อยู่ตรงข้างหน้าสะดุ้งเฮือก ผมรับรู้ได้เท่านั้น ม่านตาก็ค่อยๆปิดเข้าสู่ภวังค์อีกรอบ (นี่ถ้าคนร้ายเข้ามากรูโดนฆ่าแน่)


* * * * * * * * * * * *

ตี้ดด ติ้ดดดด ติ้ดดดดดดดด

เสียงมือถือดังจนผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา

“โหล” เสียงผมตอบไปงัวเงียโคตรๆ

“ตื่นได้แล้ว” เสียงไอ้โอ้ตคับ คราวนี้มาแปลกโทรสับมาปลุก

“อือๆ รู้แล้ว”

“เออ เดินมาเอาเสื้อที่เรือนใหญ่ด้วย เมื่อวานก็รีบลงมาไม่ทันได้บอก”

“อืออ” โอ้ตเอามาให้หน่อยดิ ผมเริ่มใช้งาน

“อ้าวกำลังจะอาบน้ำเนี่ย อีกนานเลยกว่าจะเสร็จ” เอ๊ะ ไอ้โอ้ตอาบน้ำนานเหรอวะ

“แน่ใจ๋ว่าอาบน้ำ ? ”

“เออดิ คิดว่าทำอะไรเล่า”

“อือๆ แค่นี้ก็ไปหยิบมาให้หน่อยไม่ได้” แล้วผมก็ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ สายตาก็เหลือบไปชามใส่หอมใหญ่ไว้เต็มชามเลย สงสัยยายจะให้โอ้ตหยิบมาให้เมื่อคืนนั่นเอง - - - แต่ ผ้าอะไรหว่า ?

ผมแอบสังเกตเห็นว่ามีผ้าผืนเล็กตกอยู่ข้างหมอนตัวเอง

“เอ๋ !? ”

แล้วผมก็งงกะตัวเองอีกรอบว่า เสื้อที่ผมใส่มะคืน กับวันนี้มันคนล่ะตัวกันนี่หว่า ระหว่างที่กำลังเง็ง โอ้ตมันก็โทรสับมาอีกครับ

“ทำอะไรอยู่ จะสายแล้วนะ” เสียงมันโมโหๆ

“เออๆ ” แล้วก็รีบวิ่งไปเปิดล็อกประตู ห้อไปเอาเสื้อที่ปักชื่อเสร็จเรียบร้อยที่เรือนใหญ่

“เป็นยังไงปริ้น ค่อยยังชั่วเหรอยัง ” ยายทักผมระหว่างที่กำลังจะเดินกลับ

“ครับ ดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังน้ำมูกไหลอยู่อ่ะ”

“ดีแล้ว ยังไงวันนี้ก็อย่าไปตากฝนอีกล่ะ” โอ้ตเค้าพูดอะไรก็เชื่อบ้าง

“ครับยาย แต่คงไม่ตกแล้วมั้ง ตกไปม่ะคืนแล้วหนิ”

“หน้าฝนแบบนี้ เอาแน่เอานอนไม่ได้หรอก อย่าลืมติดร่มไปด้วยล่ะกัน”

“ค๊าบบบ - - - เออ ยาย ขอบคุณนะเรื่องหอมใหญ่อ่ะ”

ยายผมก็ยิ้มให้ครับ แต่ตอนนี้ผมว่าผมสายแล้วล่ะ เพราะว่าเห็นมันยืนโด่ทำหน้าถมึงทึงอยู่ที่หน้าบ้านผม

“มัวทำอะไรอยู่เนี่ย”

“เออๆๆ ดุจางว้อย” ผมพูดพลางรีบเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เข้ามาอีกที ไอ้ผ้าผืนนั้นก็หายไปแล้วครับ O_o’’

แว๊กก ผีหลอกกรูอีกแระ


* * * * * * * * * * * *

วันที่ 4 ของการมาเรียน ผมก็มาสายอีกตามเคย ไม่รู้เป็นแมร่งอาไร จนยามมันจำหน้าผมได้แระ

“ซื้ดด ซืดดดดด”

พรืดดด พรื้ดดดดดดดดด

“โห เด็กเทบเป็นหวัด” ไอ้คิวปากเสีย


“อ่า กรูเป็นคนนะ ไม่ใช่มึงหนิ ถึงไม่เป็นหวัด” ผมพูดแดกดันมันไป

“อ้าวสาดดด แล้วกรูไม่ใช่คนซะงั้น” แล้วมันก็เดินไปตบหัวไอ้ซัง

“อิ๊กคิว ดูเด็กมึงเด๊ะ เด๋วนี้ปากกล้าขาแข็ง”

“เกี่ยวไรกะกรูอีกเนี่ย” ซังบ่นหลังจากโดนลูกหลง

“เออ แล้วไปตบหัวซังมันทำไมอ่ะ” ผมพูดจบ ไอ้คิวมันก็มองผมเขม็งเลย แล้วก็เดินกลับไปที่ที่ ไม่พูดไม่จา

“เป็นเหี้ยไรมันน่ะ” ผมกระซิบถามซัง

“ไม่รู้มัน ช่างมันเหอะ เรียนๆ” ไอ้ซังมันก็ทำท่าทางโกรธๆเหมือนกัน เอ้าเป็นไรวะทั้งคู่เลย

ครับ ชีวิตในช่วงแรกๆ ของการมาเรียน ก็ไม่ได้มีอะไรผาดโผนมากเท่าไร ก็คล้ายๆ กับที่เรียนที่โรงเรียนเก่าอ่ะล่ะ เพียงแต่ว่า ตอนนี้จะมีเพื่อนผู้หญิงเข้ามาในชีวิตด้วย ได้รู้จักการจีบหญิง แซวนั่นแซวนี่ ก็ได้มาจากไอ้คิว แล้วก็เพื่อนๆในกลุ่มอ่ะล่ะ แต่ในเรื่องการเรียนของผมก็เรียกว่าฉลุยอ่ะ ไม่ใช่เก่งอะไรมากมาย แต่ในเรื่องวิชาการบางที มันก็ง่ายกว่าโรงเรียนเดิมมาก ยกเว้นวิชาเดียวคือ เลข ที่ผมต้องคอยพึ่ง ซังมันตลอด

“เฮ้ย นี่มันจะสอบกลางภาคแล้วนะ มึงไม่คิดจะอ่านหนังสือมั่งเลยเหรอ” ซังมันเดินไปคว้าหนังสือการ์ตูนที่ไอ้คิวกะลังอ่านอย่างเมามันส์

“สาดด เอาคืนมา” ไอ้คิวมันทำท่ากินเลือดกินเนื้อ แต่ซังมันก็โยนหนังสือมาให้ผม

“ไปเอาคืนที่ปริ้นมันโน่น” เอ้า โยนบาปให้กรูแระ

“เออ คิว กรูก็ว่างั้นล่ะ มึงผ่านม 4 มาได้ไงวะ โดดตลอด” พร้อมๆกับเปลี่ยนหนังสือจากมือซ้ายไปมือขวา ไม่ให้ไอ้คิวมันหยิบได้ แถมผมตัวสูงกว่ามัน มันก็เลยเอื้อมาหยิบไม่ถึง

“เหี้ยยยยย พวกเมิง แกล้งกรู เด๋วต่อยคว่ำหรอก” ไอ้คิวมันโมโห แต่พวกผมก็ชินกับคำขู่ฟ่อๆ แล้วครับ มันเอาจริงเฉพาะคนอื่นๆ แต่กับเพื่อนมันเนี่ย ผมยังไม่เคยเห็นมันทำร้ายใครซักคน นี่เป็นข้อดีของมันอ่ะ

“คืนหนังสือกูมาไอ้ปริ้น” มันว่าแล้วก็ทำหน้าเอาจริงเอาจัง

ผมก็มองไปที่ซังที่กำลังปั่นงานอยู่ มันก็ทำหน้าแบบไม่ต้องคืน

เมื่อเห็นผมไม่คืน ไอ้คิวมันก็ทำท่าโกรธมากๆ แล้วก็คว้าหนังสือเรียน(ที่มีอยู่น้อยนิด) เดินไปทางโรงอาหาร

“เฮ้ยมึง จะเข้าเรียนแล้วนะ” ซังมันตะโกนบอก แต่ดูเหมือนคิวมันจะโกรธคับ ไม่ยอมพูดจา เดินตรงแน่วๆไป

“ไอ้คิวมันจะรู้มั้ยวะ ว่าเพื่อนจะช่วยมันไปตลอดไม่ได้หรอก สัด” แล้วมันก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ

“มึงก็เหมือนกัน ปริ้น เลขง่ายๆแค่นี้ก็ทำไม่ได้อ่ะ” อ้าว มาพาลกรู

“แค่เลขวิชาเดียวเอง หยวนๆหน่อย อังกฤษก็ให้เมิงหรอกม่ะใช่เหรอ” ผมทวงบุญคุณ

แล้ววิชาต่อมา ไอ้คิวมันก็ไม่เข้าครับ ทำให้ซังมันหงุดหงิดมากขึ้น

“ไปไหนของมันวะ”

“เฮ้ย ซังใจเย็นๆหว่ะ” คบกันมาเกือบครึ่งเทอม พึ่งรู้ว่าซังมันไม่ค่อยหงุดหงิดอะไรง่ายๆแบบนี้นี่นา

ซักพัก มือถือผมก็สั่น ก็ค่อยๆก้มรับแบบไม่ให้อาจารย์เห็น

“คับ”

“ปริ้น เรียนอยู่หรือป่าว” เสียงโอ้ตครับ

“อือ มีไร”

“เพื่อนปริ้นมันไปต่อยเด็ก ม.5 เข้า”

“ไอ้คิวอ่ะนะ ” ผมโพล่งขึ้นมาเสียงดัง จนอาจารย์หันมาหาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ?

“ป่าวครับ” ผมพูดแล้วมองไปที่ซัง

“ไอ้คิวเป็นไรวะ” ซังมันถาม

“มีเรื่องกะเด็ก ม.5 หว่ะ ตอนนี้อยู่ห้องปกครอง”

“แม่ม เอ้ยยยยย” เสียงซังสบถเบาๆ แล้วมันก็ลุกขึ้นขออนุญาตลงไปห้องน้ำ ด้วยความงุนงงของผมและเพื่อนๆ แต่ก็ไม่ได้ห้ามอะไรมันหรอก คิดว่าคงห่วงเพื่อนซี้มันอ่ะนะ

ทีนี้ก็เหลือผมกะเพื่อนในกลุ่มอีกสองสามคนที่ต้องนั่งกระวนกระวายใจ จนหมดคาบล่ะครับ ก็เลยวิ่งไปที่ห้องปกครอง ก็ปรากฏว่าไม่เห็นใครแล้ว ก็เลยกดมือถือไปหาไอ้โอ้ต

“เฮ้ย บอกว่าห้ามใช้มือถือในเวลาเรียน” อยู่ๆ พ่อ ก็โผล่มาจากไหนม่ะรู้ ผมเลยวิ่งกระโดดจากบันไดวิ่งปรี้ด ไปหาที่โทรสับใหม่

“โอ้ต”

“เรียนอยู่”

“เออ ขอโทด แต่ไอ้คิวมันอยู่ไหน”

“ไม่ได้อยู่ห้องปกครองเหรอ”

“ป่าว”

“งั้นก็คงไปห้องพยาบาลมั้ง”

“แล้วเรื่องมันเป็นยังไงอ่ะ”

“ไม่รู้น่ะ แต่รู้สึกว่า คิวมันไปหาเรื่องกะน้องมันก่อน แล้วทีนี้ก็เลยพวกรุมเอา”

“โหย แล้วเป็นไรมากป่ะ”

“ก็ปากแตก แล้วก็ ..- - - ว่าแต่ ทำไมห่วงมันจัง”

“อ้าวทำไมถามแบบนั้นอ่ะ ก็เพื่อนทั้งคน” ผมพูดด้วยความหงุดหงิด แค่นี้ล่ะกาน

“ว่าไงปริ้น คิวมันอยู่ไหน” เพื่อนคนนึงที่ตามมาด้วยถาม

“เออ สงสัยอยู่ห้องพยาบาลหว่ะ แต่มันคงไม่เป็นไรมากอ่ะ”

“อ้าว เชี่ย กรูก็ไปหามันไมได้อะดิ” เพื่อนคนนั้นบอก

“ทำไมวะ”

“ก็กรูไม่ถูกกะครูในห้องพยาบาล”

“เออ งั้นมึงขึ้นเรียนเหอะ เด๋วกรูไปดูมันเอง”

“เออ ฝากดูด้วย ไอ้ซังก็ไปไหนก็ไม่รู้”

“อยู่กับไอ้คิวมั้ง” ผมว่า ก็ไม่ได้คิดอะไรครับ ก็มันซี้กันนี่นา จะห่วงกันมากก็ไม่แปลก

ผมก็เดินไปห้องพยาบาล ที่อยู่ใต้อาคาร 3 ปกติก็ไม่ค่อยได้มาหรอก รู้แต่ว่าอาจารย์เฮี้ยบมากๆอ่ะ ไม่สมกะเป็นพยาบาลเลย แต่พอไปถึงก็ปรากฏว่า ห้องมันปิดประตูไปบานนึงแล้ว เดินเข้าไปในห้อง ก็ไม่มีใครอยู่ซักคน

“ไปไหนหมดกันวะ” ผมพึมพำเบาๆ แล้วก็เดินไปที่ห้องที่เอาไว้ให้นักเรียน นอนพักครับ ซึ่งมันจะแยกเป็นสองห้อง ชายหญิง ทางเข้าจะมีผ้าม่านกั้นไว้อ่ะ

“กูบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่ามีเรื่องกับคนอื่นอีกไอ้คิว มึงก็ไม่เคยเชื่อกูอ่ะ” เสียงซังดังออกมาจากในห้อง

อ่าอยู่ในห้องนี่เอง กรูหาตั้งนาน ผมว่าพลางเดินดิ่งไปที่ห้อง

“… จะทำอะไรก็เรื่องของกู” เสียงไอ้คิวดังลอดออกมา

“เออ มึงจะทำอะไรก็ช่างมึง กูโง่เองที่เสือกเรื่องของมึง” ซังพูดเสียงสั่น

อ่ะ มันทะเลาะกันอีกแล้ว เสียงเริ่มดังขึ้น โชคดีที่ไม่มีคนอยู่ในห้อง ยกเว้นกระผม

“มึงจะไปไหน เสียงไอ้คิวดังขึ้น พร้อมๆกันกับเสียงซังมันร้องโอ้ย เหมือนโดนกระชากแขน

เท้าผมหยุดกึกที่หน้าห้องครับ แบบนี้มันแปลกๆแล้วนะนี่

“ไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่มีมึงอยู่ไง - - - ปล่อยกูไอ้สัดด” เฮ้ย มึงคุยอะไรกัน ช่วยเบาๆหน่อยได้มั้ย กรูกลัวเค้าได้ยินกันหมดว้อยยยย

คราวนี้ไอ้คิวมันพูดเสียงเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน

“ซังมึงไม่รัก กูแล้วใช่ป่าว มึงถึงจะทิ้งกูไป”


วิ้ว วิ้ววว (นึกถึงฉากห้องพยาบาลว่างๆ แล้วมีใบไม้ปลิว พร้อมกับเสียงลมแผ่วๆ)

ผมรู้สึกว่าหน้าตัวเองแดงซ่าน ถ้าให้เลือกได้ ผมยอมที่จะไม่เข้ามาในห้องนี้ แล้วก็ได้ยินสิ่งที่เพื่อนสองคนมันพูดกันหรอก ไม่ใช่รังเกียจ ไม่ใช่อิจฉา แต่เป็นเพราะ มันควรที่จะเป็นความลับของคนสองคนที่จะรับรู้กันแค่นั้นมากกว่า

เสียงในห้องพักเงียบไป จนผมใจหาย เลยค่อยๆแหวกผ้าม่านออกทีละนิดทีละนิด

ให้ตายซิโรบิ้น ผมไม่ได้ตอแหลนะ ไม่ว่าตอนนี้ผมจะรู้ตัวว่าตัวเองเป็นเกย์หรือไม่เป็นก็ตาม สิ่งที่อยู่ตรงหน้า เป็นภาพที่เพื่อนผมสองคนกะลังจูบกันอย่างดูดดื่ม โดยไม่รู้ว่ามีสายตาคนๆนึงมองอยู่

ผมเห็นไอ้คิวมันค่อยๆจับซังพลิกตัวไปด้านล่าง แล้วก็ขึ้นทับไปบนตัว

“เอื๊อกกกกกก ……….”ผมกลืนน้ำลาย กล้องวีดีโอ กล้องวีดีโออยู่หน่ายยยยยยยยย กรูจะถ่ายไปขาย เอ้ย ไม่ใช่ ผมยืนนิ่งเหมือนโดนหนัง x สะกด

จนต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อซังมันเหลือบมาเห็นผ้าม่านมันแหวกอยู่พร้อมกับคงเห็นมีคนแอบมองอยู่

“เฮ้ยยย … ใคร”

ตัวผมรีบถอยหนีโดยอัตโนมัติ จนก้าวพลาดล้มลงเสียงดังตึง

“อะ ไอ้ปริ้น” เสียงไอ้คิวแหวกผ้าม่านมาเจอผมล้มอยู่

ชิบบบหายยยยย

หะ เห็นมึงหายไปนาน ก็เลยมาตามหาอ่ะ” ผมพูดตะกุกตะกัก รู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าว หน้าไอ้คิวก็แดงพอกัน (แดงจนดำ 555)

“เออ มึงไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เด๋วกูกลับก่อน เด๋ว เด๋ว พี่โอ้ตเค้ารอกูอยู่” ผมรีบร้อนจนพูดผิดพูดเถิก เอ้ย ถูก แล้วก็เผ่นแผล่วออกมาจากห้องพยาบาลทันที ไอ้คิวมันก็ไม่คิดจะตามผมมาคับ เห็นยืนนิ่งอยู่แบบนั้น

“แฮ่กก ๆๆๆๆๆ”

“โดนหมาที่ไหนวิ่งไล่มาเนี่ย” โอ้ตมันว่าที่เห็นสภาพผมหอบมาที่หน้าห้องปกครอง

“หมาที่ไหนเล่า ไอ้คิวตะหาก …. ”

“คิวมันทำไม ? ”

“- - เออ ก็มันโดนต่อยมาไง” ผมรีบแก้ตัว

“ก็โอ้ตเป็นคนบอกปริ้นเองหนิ” โอ้ตมันมองหน้าผมแบบสงสัย

“เออ นั่นแหละ จะกลับบ้านยังอ่ะ เร็วเข้า”

“หนีใครมาเหรอป่าว” โอ้ตมันพูดแบบจับผิด เข้าตรงกลางใจดำ

ติ้ด ติดดด ติ้ดดดดดดดดดดดด

ผมมองมือถือ ก็เห็นว่าเป็นเบอร์ซังโทรมาครับ แว๊ก มันจะโทรมาด่าผมเหรอป่าวเนี่ย แล้วผมก็ตัดสินใจปล่อยให้มันดังไป จนโอ้ตมันทักว่าใครโทรมา

“เพื่อนอ่ะ ”

“แล้วทำไมไม่รับล่ะ ? ”

“ขี้เกียจคุยกะมาน มันจะขอลอกการบ้านอ่ะ” ผมแถไปโน่น

“ป่ะ กลับเหอะ” พร้อมกับกดตัดสัญญาณแล้วก็ปิดเครื่องเลย

- กูขอโทดหว่ะ ซัง แต่กูไม่รู้จะคุยอะไรกะมึงตอนนี้อ่ะ - ผมคิด


* * * * * * * * * * * *

พอกลับถึงบ้าน ในหัวผมก็คิดภาพไอ้คิวมันกะลังนัวเนียกะซังอยู่ ถึงผมจะเคยอยู่ รร ชายล้วนมาก็เหอะ มันก็มีเห็นพวกคู่เกย์คบกันตั้งเยอะแยะ แต่ทำไมคราวนี้ผมถึงตกใจวะ สงสัยเป็นเพราะว่า มันเป็นเพื่อนสนิทของผม (อีกคนเกือบสนิท) โดยเฉพาะ เถื่อนๆอย่าไอ้คิว ไม่คิดหรอกคับ ว่ามันจะเป็นเกย์ เลยแอบตกใจหน่อย ที่เห็นหนังสดต่อหน้าต่อตา

มันจะคิดว่าผมรังเกียจมันป่าวนี่ ?

ผมคิดในใจวนแล้ววนอีก ผมไม่ได้รังเกียจมันนะ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นอะไรก็เหอะ แต่ … แต่ทำไมผมดันไปวิ่งหนีมันแบบนั้นล่ะวะ

- ดันไม่รับโทรสับมันแบบนั้น -

- กดตัดสายซังมันแบบนั้น -

ความรู้สึกผิดพลาดมันกดให้ผมจมอยู่กับที่นอน ไม่อยากจะลุก อยากจะขยับไปไหน ผมรีบกดเปิดมือถือ แล้วก็รอ แล้ว รอเล่า ให้ซัง หรือไอ้คิวโทรกลับมา แต่ก็ไม่มีเสียงอะไรดังขึ้นมาเลย ผมชักเริ่มเครียดเมื่อโทรไปหาซังแล้วมันก็ปิดมือถือ เหมือนกัน

มันคงเครียดกว่าผมร้อยเท่า มันยิ่งเป็นคนคิดมากอยู่ด้วย (พอกันกับผม) ว้อยยย ทำไมกูทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังเลยวะ

“ปริ้น นอนยัง”

“ยัง ….. เข้ามาดิโอ้ต ”

โอ้ตมันก็เปิดประตูเข้ามา แล้วก็เดินมานั่งปลายเตียง

“เป็นไร มีอะไรอยากจะบอกโอ้ตมั้ย”

“มีอะไร ? … ไม่มีอ่ะ” ผมปากแข็งคับ

โอ้ตมันดูไม่ค่อยสบายใจเหมือนกัน ที่ได้ยินผมพูดแบบนี้

“งั้นถ้าปริ้นไม่มีอะไรจะบอก แต่โอ้ตมีเรื่องจะบอกปริ้นอยู่อย่างนึง” ว่าแล้วมันก็ลุกขึ้นเดินมาจับไหล่ผมไว้

“… คนที่เป็นเพื่อนกันน่ะ มันไม่ได้เกิดขึ้นมาแค่วันสองวันแล้วถึงเรียกว่าเพื่อนหรอกนะ - - -” ผมรู้แล้วคับ ว่าโอ้ตจะพูดเรื่องอะไร

“- - - ถ้าเพื่อน ไม่ยอมรับในสิ่งที่เพื่อนเป็น …….. สิ่งที่เพื่อนรัก ……….. สิ่งที่เพื่อนทำ เค้าไม่เรียกว่าเป็นเพื่อนกันหรอก” แล้วมันก็เอามือมาลูบหัวผมแบบปลอบๆ
“ ม่ะ ม่ะ ไม่ใช่นะโอ้ต” ผมเริ่มรู้สึกว่า มีก้อนสะอึกอยู่ที่คอ กว่าจะพูดแต่ละคำมันช่างยากเย็น

“เราอ่ะ เรา - - -” น้ำตาผมหยดลงบนหัวเข่าตัวเอง ไม่เคยเกียดอะไรพวกมันเลยนะ ไม่เคยเลย ฮึก ฮึก

“อือ …” มันพูดแค่นั้น แต่ภาษากายที่มันทำอยู่ ทำให้ผมใจชื้นขึ้นมาก

“แค่ .. ทำตัวไม่ถูก …. แค่นั้นเอง … โอ้ตเชื่อเรานะ ปริ้นไม่ได้เกียดอะไรมันเลย” ผมจับแขนโอ้ตเขย่าๆ แล้วก็มองหน้ามัน ให้มันรู้ว่า สิ่งที่ผมพูดมันจริงใจแค่ไหน

“อือ ไม่เป็นไรหรอก คิดแบบนี้ก็ดีแล้ว” โอ้ตมันยิ้มบอกผม แล้วก็เอามือสองมือมาปาดน้ำตา

“พรุ่งนี้ก็ไปคุยกะสองคนนั่นให้รู้เรื่องล่ะกัน …. แล้วร้องไห้ทำไมฟ่ะ เรื่องแค่นี้เอง”

“ร้องที่ไหนวะ วู้” ผมว่าพลางเดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างไว ยางอายเริ่มเข้ามาครอบงำแระ


* * * * * * * * * * * *

วันรุ่งขึ้น ใจผมก็ยังไม่อยู่กับเนื้อกับตัวครับ โอ้ตมันบอกว่า เมื่อวาน ซังโทรมาหา แล้วก็ปรึกษาเรื่องที่ผมปิดมือถือ ไม่ยอมคุยกะมัน โอ้ตบอกว่า รู้ว่าซังเนี่ย มันมีความสัมพันธ์อะไรกะไอ้คิวตั้งนานแล้ว ซังมันก็เลยให้โอ้ตมาคุยกะผมว่า จะเอายังไง มันไม่สบายใจมาก

“ก็คุยกันให้รู้เรื่องล่ะกัน” โอ้ตบอกผมก่อนที่จะแยกไปเข้าแถวห้อง พอมาถึงแถวห้องผม ก็ปรากฏว่าไอ้คิว กะซังไม่ได้มาเข้าแถวคับ เอาแล้วดิกู ใจไม่ดีแระ

พอขึ้นคาบ 1 พวกมันก็หายหัวไม่มาเรียนเหมือนเดิม ไอ้คิวอะ ปกติ แต่ซังนี่ดิ มันไม่เคยขาดเรียนเลย ใจผมแป้วไปถึงตาตุ่ม โทรหาซังมันก็ไม่ติด ส่วนไอ้คิวไม่มีมือถือคับ เลยติดต่อมันไม่ได้

จนเวลาล่วงมาตอนกลางวัน ก็ไม่เห็นเงาหัวของไอ้สองตัวนั่นเลย เพื่อนคนอื่นๆก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย

“เฮ้ย โป้ง กูไม่เรียนคาบต่อไปนะ” ผมพูดแบบเสียไม่ได้

“อ้าว เป็นอะไร”

“กูเซ็งไงไม่รู้วะ ไปนอนหลังเขาดีกว่า ”

“เออ ระวังพ่อมาตรวจล่ะ”

ผมพยักหน้า แล้วก็เดินลงจากอาคารเรียน มองซ้ายมองขวาปลอดคน ก็เลยหามานั่งที่ม้านั่งยาว บ้าชะมัด ไอ้เวลาที่อยากเจอ มันก็หายไปไหนวะ เซงเลยกู แล้วหัวสมองผมก็แล่นกลับไปที่ห้องพยาบาลกับเหตุการณ์ม่ะวานอีกรอบ

“ซังมึงไม่รักกูแล้วใช่ป่าว มึงถึงจะทิ้งกูไป”

สลับกับภาพที่มันสองคนกำลังจูบปากกันอยู่ อ่า จะว่าไป มันก็ดูเหมาะสมกันดีคับ อีกคนดูเถื่อนๆแมนๆ อีกคนขาวใส หน้ารัก

มโนภาพผมกลับค่อยๆเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ว่าถ้าเหตุการณ์ที่เหลือต่อจากนั้นคืออะไร

“ไอ้คิว นี่มันห้องพยาบาลนะมึง เดี๋ยวคนมาเห็นเข - - -” คิวมันค่อยๆบรรจงประกบปากกับซังอย่างแผ่วเบา จนตัวมันกระตุกหน่อยๆ ก่อนจะค่อยผ่อนคลายลงตามลำดับ

“อือ คิว …”

คิวมันค่อยๆจับซังพลิกตัวไปด้านล่าง แล้วก็ขึ้นทับไปบนตัว ท่อนล่างของมันเริ่มบดเบียดกันอย่างรุนแรง

“ไหนว่าไม่มีอารมณ์ไง” ไอ้คิวถามเสียงกระเส่า “แข็งเชียวมึง” พร้อมกับโน้มตัวไปดูดปากกับซังอีกรอบ


ปากข้างนึงของมันก็จัดการไล้ลิ้นไปบนหัวนมของไอ้ซังจนมันสั่นสะท้าน มืออีกข้างก็เลื้อยไหล่ไปบริเวณกลางลำตัวของซัง

“ซี้ดดดด คิว กูเสียววว”

เสียงนั่นกลับทำให้ไอ้คิวฮึกเหิมชอบกล พลางขบกัดบริเวณหน้าอกจนร่างหนุ่มตี๋สั่นสะท้าน

“ปริ้น มึงเสียวมากป่าว” เสียงคิวถามผมพลางรูดเล่นไอ้ตัวเขื่องที่อยู่ด้านล่างด้วยความถนุถนอม

“อือ กูจะไม่ไหวแล้ว ไอ้คิว” ผมว่า พลางเอามือโอบคอไอ้คิวลงมาจูบอย่างรุนแรง

“จะทำอะไรก็รีบทำเหอะมึง กูจะ - - - อ๊อกกก”

“อยู่นี่เองมึงไอ้ปริ้น” เสียงไอ้คิวตัวจริงทำเอาผมสะดุ้งกับภาพจินตนาการล้ำลึก เฮ้ย ทำไมคิดถึงไอ้คิวกะซังอยู่ดีๆ กับกลายเป็นไอ้คิวกับผมไปได้ไงวะ

“เออ หายไปไหนมาทั้งวัน” ผมพูดกับมัน แล้วค่อยๆยกตัวขึ้นมานั่งอย่างยากลำบาก (ไอ้น้องชายมันกะลังเคารพธงชาติอยู่)

“คือ เรื่องเมื่อวาน - - -” ผมกะมันพูดเกือบพร้อมกัน

“เออ เรื่องเมื่อวาน กูขอโทษนะ” ผมพูดขึ้นมา แล้วจากนั้น คำพูดของผมก็พล่างพลูออกมา เหมือนเขื่อนแตก จนไอ้คิวทำหน้าเหวอแดก เพราะมันคิดว่าผมคงจะรับไม่ได้ ถึงได้วิ่งตูดเปิดไปม่ะวาน

“เออ มึงก็เล่นปิดมือถือแบบนั้น ไอ้ซังมัน กลุ้มใจตายห่า ”ไอ้คิวบ่นใส่ผมหน้าเครียด “ เนี่ย เมื่อคืนมันร้องไห้กะกูทั้งคืนเลย ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน กลัวว่ามึงจะไม่เข้าใจมัน”

ผมหน้าเสียขึ้นมาอีกรอบนึง คิดแล้ว ไอ้ซังมันต้องคิดมาก

“แล้วมีใครรู้เรื่องมึงกะมันป่ะวะ” ผมถาม ไอ้คิวมันก็บอกว่า มีแค่ไอ้โอ้ต แค่นั้นที่รู้ เพราะว่า ซังมันสนิทกะโอ้ตมานาน มันเลยเครียด

“แล้วนี่ซังมันอยู่ไหนอ่ะ”

“นอนอยู่บ้านกู จริงๆมันอยากจะคุยกะมึงด้วยซ้ำ แต่กูบอกว่า กูจะมาดูลาดเลาก่อน”

“ดูลาดเลาทำเหี้ยไรวะ” ผมสงสัย

“อ้าว ก็เผื่อมึงรับไม่ได้จริงๆ กูจะทำให้มึงรับได้ก่อนไง” มันพูดแล้วก็หัวเราะมีเลศนัย

“ไอ้สาดดด มึงจะทำไรกูได้วะ” ผมพูดหัวเราะแบบเจือนๆ

“กูก็ - - -” มันพูดไม่ทันจบ มันก็เดินมาข้างหลังที่นั่งที่ผมนั่งอยู่

“ทำงี้ไง” ว่าแล้วมันก็เข้ามากอดผมทางด้านหลัง แล้วเอาหน้ามันมาคลอเคลียๆอยู่ตรงคอผมอะ โคตรสยิวกิ้วเลย

“เหี้ยย กูขนลุก ไอ้สัดดดดด” ผมพูดพลางดันหน้ามันไปให้ห่างๆ แต่แรงมันเยอะกว่าผมคับ มันก็เล่นของมันต่อ

“ขนลุก แล้ว Kลุกป่าววะ” มันก็เอื้อมมาจะจับKผมคับ แต่ผมเอามือบังทันก่อน ไม่งั้นมันได้จับอนาคอนด้าแน่ๆ

“เชี่ย มึงเล่นของสูง” แล้วมันก็ผละออกจากตัวผม หัวเราะชอบใจ เย็สสสสเข้เจงๆ

“เออ งั้นเด๋วพรุ่งนี้กูค่อยคุยกะซังล่ะกัน ฝากบอกมันด้วยอ่ะ ว่าไม่ต้องกังวล กูรับพวกมึงได้

“เหรอ กูก็อยากลองเหมือนกานหว่ะ ตูดเมิงจารับได้เจงๆป่าว” อ่ะ ไอ้นี่ยังไม่เลิก

“เชี่ยล่ะมึง ควายอย่างมึงกูไม่เอาหรอกว้อยยย” ผมตอกกลับให้มันรู้สถานภาพตัวเอง

“อย่างกูไม่ได้ แล้วอย่างไอ้โอ้ตได้ป่าววะ”

เชี่ย จุก …. กว่าเดิมอีกกู !?

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [6-4-12]
«ตอบ #39 เมื่อ06-04-2012 23:21:06 »

หลังจากที่ผมได้ล่วงรู้ความลับแบบแอบๆของเพื่อนทั้ง 2 คน บางทีมันทำให้ผมรู้สึกว่า กูโชคดีหรือโชคร้ายวะ โชคดีตรงที่ว่า เรายังคบกันเป็นเพื่อนเหมือนเดิม แถมยังซี้ปึ๊กกว่าเดิมอีก โดยเฉพาะซังกับผม แต่โชคร้ายคงจะเป็นพักหลัง มันมักจะให้ชวนผมไปโน่นมานี่กัน 3 คน เพราะว่า จะทำให้คนอื่นไม่ต้องสงสัย ผมก็เลยต้องทนดูมันอี๋อ๋อกัน 2 คนซะงั้น ….

“เฮ้ย มึงสองคนอ่ะ จะละเลียดแดร่กข้าวกันอีกนานมั้ย บ้านกูอยู่ไกลนะ”

ผมด่าใส่ไอ้สองตัวนั่นที่กำลังนั่งกินสปาเก็ตตี้จานเดียวกัน แต่แมร่ง แดร่กยังไม่ถึงครึ่งจาน วันนี้นัดกันติวหนังสือสอบที่บ้านไอ้คิวคับ สะดวกสุด เพราะว่าอยู่ซอยตรงกันข้ามกับโรงเรียนเลย ส่วนบ้านไอ้ซังไม่สะดวกเพราะว่า ทั้ง อากง อาม่า บลาๆ อยู่กันเต็มบ้าน ส่วนบ้านผมไม่ต้องพูดถึง .. บ้านนอกอ่ะ

“เมิงจารีบไปทำไมวะ บ้านกูก็อยู่แค่นี้ ”ไอ้คิวมันว่า พลางทำท่าใช้ส้อมม้วนเส้นสปาเก็ตตี้ แล้วก็อมมันไปทั้งอัน

“สาดด บ้านกูไม่ได้อยู่แถวนี้เหมือนมึงหนิ เด๋วอ่านแป็บเดียวก็หมดเวลา แล้วให้กูเสียเวลามาทำไมฟร่ะ” ผมหวุดหงิดคับ เพราะว่ามันไม่มีท่าทีจะสะทกสะท้าน

“เฮ้ย คิว กูว่ารีบกินเหอะ เกรงใจปริ้นมัน” ซังบอก

“เออ ก็ได้วะคับ …” ไอ้คิวว่า แล้วก็หันไปมองหน้าซัง “ … ที่ร๊ากก”

แล้วมันก็รีบโซ้ย ปล่อยให้ไอ้ซังกะผมหน้าแดง ไอ้ซังมันคงเขิลผมล่ะ แต่ผมนี่ดิ แดงเพราะว่าอิจฉาว้อยยย เหม่ มาหวีตอะไรต่อหน้าต่อตาวะ สาดดดดดดด

พอกินเสร็จ ก็ไปบ้านไอ้คิวคับ มันอยู่กับพ่อมันแค่ 2 คน แม่มันไปมีบ้านใหม่อยู่ต่างจังหวัด ถึงแม้ว่าบ้านมันจะดูใหญ่ก็ตาม แต่พอเข้ามา ก็แทบที่จะหาที่เดินไม่ได้คับ รกโคตรๆๆๆๆ ไม่รู้ไอ้ซังมันทนมาบ้านนี้ได้ไงวะ

“อ้าว พ่อมึงไม่อยู่เหรอ ผมถามเพราะจะได้ไปหวัดดีก่อน”

“ไม่รู้หว่ะ เด๋วเดินดูก่อน” อ้าว …. พ่อตัวไปไหนก็ไม่รู้

“เออ สงสัยไม่อยู่วะ แต่เด๋วก็คงกลับ เข้ามาๆๆ” ไอ้คิวมันก็เดินนำไปที่ห้องมัน ซึ่งก็แบบว่า กว้างแล้วก็รกน้อยกว่าห้องอื่นพอควร เดินเข้าไป ไอ้ซังก็บ่นเบาๆว่า “รกอีกแระ” อ่อ สงสัยที่มันรกน้อยนี่ ซังมันคงมาจัดให้หลายรอบแล้วล่ะ

“งั้นกรูขออ่านการ์ตูนก่อนนะ พวกเมิงติวกันไปก่อน” ว่าแล้วมันก็โดดขึ้นเตียง แล้วก็อ่านการ์ตูนสบายใจเฉิบ

“ไรวะ ? ”

“เออ ช่างมันเหอะ เดี๋ยวปริ้นติวให้ซัง แล้วเดี๋ยวสอนมันเอง ดีกว่าให้มันมานั่งกวนสมาธิ” ซังมันบอก พร้อมกับที่ไอ้คิวมันยกขึ้นมาถีบตูด

“อือๆ ผมละเซ็ง แล้วก็เดินไปนั่ง กางหนังสือ แล้วก็ บลา บลา บลาๆๆๆ กันไปประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ (กูก็ทรหดเหมือนกันนี่นา) ก็ถึงตาซังมันเก็งข้อสอบเลขให้บ้างแล้ว ผมเหลือบไปมองเห็นไอ้คิวเอาหนังสือวางพาดหน้า สงสัยหลับไปแล้ว ไอ้เลววววว

“ปริ้น ไม่เข้าใจตรงไหนอ่ะ”

“ก็ เกือบหมดอ่ะ ”

“เป็นเล่น !! ”

“เจงๆ ”

“อ้าว แล้วตอนเรียนที่ สวนฯอ่ะ ”

“ก็ไม่รู้เรื่องนั่นแหละ”

“ต้องเริ่มตั้งแต่พื้นฐาน ม 4 เลยอะดิ” ซังมันส่ายหัวคับ แล้วก็ไปค้นๆ หนังสือ ม 4 ของไอ้คิวมาเริ่มติว แบบคนเก่งเลขคับ หลังจากนั้น เวลาผ่านไปเท่าใด ผมก็จำไม่ค่อยได้ แต่รู้ว่ามันนานมากๆ เป็นชาติเศษเลย

“เด๋ว พอก่อน ไม่หวายแล้วววววว” ผมร้อง แล้วก็ฟุบหน้าลงไปกะโต๊ะ

“พึ่งถึงความน่าจะเป็นเองปริ้น อีกเยอะเลยหว่ะ” ซังมันพูดแล้วก็เดินไปหยิบขวดน้ำมาดวดอึ๊กๆๆๆๆ

“เอ้ย ลุกมาต่อเลย เร็วๆ” ซังมันบอก แล้วก็เอามือมาโยกหัวไปมา

“โน่นๆๆ ไปปลุกแฟนตัวเองเหอะ แม่มมม นอนกินแรงคนอื่น” แต่ไอ้ซังมานก็ยังไม่ยอมเลิกเล่นหัวผมซะที

“ผมคิวแม่งแข็งหว่ะ ไม่เหมือนผมปริ้น” มันพูดขึ้นมา ทำเอาผมรู้สึกชอบกล

“อะดิ ก็มานเรียน รด มันก็ต้องตัดผมบ่อยอะ ก็เลยแข็ง ไม่เหมือนปริ้น ไม่ได้เรียนนี่หว่า” ผมตอบแก้เขิน

“แล้วทำไมปริ้นไม่เรียน รด ล่ะ ” พูดไปมันก็เล่นหัวผมไป เมิงจาหาเห็บไรให้กูเหรอไง ไอ้ซัง

“ขี้เกียจอ่ะ ม 4 ก็เรียนนะ แต่พอย้ายมา ก็ขี้เกียจทำเรื่อง ยุ่งยาก”

“เดี๋ยวก็ได้จับใบแดง เหอะๆ ”

“กลัวรายว้า อย่างมากก็เป็นทหาร 2 ปี” ผมว่า แต่บอกตามตรงว่า ยังไม่ได้คิดอะไรไกลถึงขั้นนั้นเลย

“ครืดดดดดดดดดด” เสียงไอ้คิวกรนคับ ซังมันสะดุ้ง เอามือออกจากหัวผม

“ไรว้า กะลังเพลินๆ กลัวแฟนทำโทษเหรอไง” ผมแซวไอ้ซัง

“ไอ้บ้า พูดไรไม่รู้เรื่องวุ้ย มาต่อเหอะ” ซังมันทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แล้วก็ลากให้ผมกลับลงสู่นรกทางตรรกะศาสตร์อีกหลายรอบ

กู - เกลียด – เลข


* * * * * * * * * * * *

“อืมมมม อืออออ ”

ผมผุดลุกขึ้นมาอีกที ห้องก็มืดตื๋อไปหมด พร้อมกับเสียงฝนตกพร่ำๆ เฮ้ย กูติวเลขจนสลบไปเลยเหรอวะ แล้วมานหายไปไหนกันหมด

พลั้กกกกกกก

ผมพยายามเดินหาสวิตท์เปิดไฟจน ขาไปกระแทกเข้ากับขอบอะไรบางอย่าง เจ็บชิบหายยยย ห้องก็แบบว่าของวางระเกะระกะไปหมด

กี่โมงแล้ววะเนี่ย กูโดนด่าแน่ ผมชักเริ่มกลุ้มจิต เนื่องจากมืดขนาดนี้คงไม่ต่ำกว่าทุ่ม สองทุ่มแล้ว ฝนก็ดันตกอีก จนสายตาพอจะชินกับความมืด ก็คลำไปจนเจอกับลูกบิดประตู ก็เลยถือวิสาสะเดินลงมาด้านล่าง (ห้องไอ้คิวอยู่ชั้น 2 คับ) พอดีกับชายวัยกลางคนก็เปิดประตูเข้ามา

สิ่งที่เข้ามาพร้อมกับคน ก็คือกลิ่นเหล้าเหม็นหึ่งเลยคับ หง่ะ

“ครายยยยยยยวะ” เสียงพูดอ้อแอ้ๆ จะคุยรู้เรื่องเหรอวะ ถ้าคิดว่ากูเป็นโจรนี่ซวยแน่

“ปริ้นคับ เป็นเพื่อนคิว คือวั - - -” ผมพูดยังไม่ทันจบ พ่อมันก็สวนขึ้นมา

“อ่ออออออ เพื่อนนนนนนนอ้ายยคิว แลวววนี่มานนนไปอยู่ไหนนนนเนี่ย ปล่อยยให้ อ๊อกกกก” พูดไม่จบ ก็อ๊วกพุ่งเป็นที่น่าสยดสยองยิ่งนัก

แล้วบิดาไอ้คิวก็นั่งฟุบลงไปกะพื้นคับ ผมไม่รู้ทำไง ก็เลยพยายามลากตัวแกเข้ามาในห้องรับแขก แล้วก็วางไว้บนโซฟา ตัวแมร่งใหญ่พอๆกับลูกมันเลย

“เอ้า พ่อ มาตั้งแต่ม่ะไร ”ไอ้คิวมันเดินออกมาจากอีกฟากนึง นุ่งผ้าเช็ดตัวสั้นจู๋ ตัวก็ไม่ยอมเช็ด แต่ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์อะไรกะมันนอกจากอารมณ์เสียคับ ก็เลยด่ามันไปก่อนเลย

“เฮ้ย มึงไปไหนมาวะ ปล่อยให้กูลากพ่อมึงมาเนี่ย แถมอ๊วกอีกตะหาก” ผมกล้าพูดเพราะว่าพ่อมันเมาหลับไปแล้นคับ เหอๆ

“เชี่ยย กรูต้องนั่งเช็ดอ๊วกอีกแล้ว พึ่งอาบน้ำมานะเนี่ย” มันว่า พลางเหล่มาที่ผม

“เฮ้ย มึงไม่ต้องมองมาที่กูเลย พ่อมึงนะ ไม่ใช่พ่อกู” ผมแห้วใส่ ให้ลูกสะใภ้มาเช็ดให้ไป

“ไอ้ซังมันกลับบ้านไปแล้ว ”

“เย้สแม่ม แล้วเสือกให้กูนอนอยู่ได้ ไม่ปลุก” ผมด่าใส่ ทิ้งกูนี่นา

“เออ ก็ฝนมันทำท่าจะตก มันเลยรีบกลับโว้ย มึงก็ไม่ต้องกลับหรอก นอนบ้านกรูก็ได้” คิวมันพูดแล้วก็เดินไปเช็ดอ๊วกพ่อมัน

“ม่ายเอาอ่ะ” ผมรีบพูดระรัว

“กลัวเหี้ยไรวะ ”

“กลัวเหี้ยไรล่ะ ยายกูได้ด่าเปิง ” ผมว่าพลางหยิบโทรสับขึ้นมากะว่าจะโทรไปเช็คสภาพที่บ้านก่อน แต่แบตหมดคับ หมดตอนไหนวะ

“ชิบ .. กูว่าแล้ว ยายกูถึงไม่โทรมาจิก แบตหมด สาดดดดดดด”

“เออ บ้านกรูก็มีโทรสับ ก็ไปโทรดิ ”

“เออ งั้นกูขอยืมก่อน ”

“ยืมแล้วเมิงต้องคืนด้วยนะ”

“สาด ไอ้งก เพราะมึงหล่ะ” ผมฉุน แล้วก็กดโทร ปรากฏว่าเป็นป้าเล็กรับคับ

“นี่มันจะ 2 ทุ่มแล้วนะคะ คุณปริ้นยังไม่ขึ้นรถอีก” ป้าเล็กทำเสียงตำหนิ

“อือ จะกลับแล้วล่ะคับ ”

“เดี๋ยวคะ คุณปริ้น …. ป้าว่าคุณปริ้นค้างบ้านเพื่อนก่อนดีกว่า ฝนตกหนักมากเลยนะ” ผมได้ยินก็เหลือบไปมอง เออ ก็เจง

“แล้วยายจะไม่ว่าเหรอ”

“ไม่เป็นไรคะ เดี๋ยวป้าเรียนท่านเอง แต่ว่า บ้านเพื่อนคุณปริ้นคนนี้เป็นยังไงบ้างคะ ”

“ก็.. ดีคับ คิดว่าพ่อเค้าก็คงไม่ว่าอะไรหรอก” ผมพูด แล้วก็คิดภาพพ่อไอ้คิวคงไม่ว่าอะไรจริงๆ เพราะว่า เมาขาดไปแล้ว

“คะ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้า จะให้โอ้ตไปรับนะ”

“เฮ้ยย ไม่เป็นไรป้า วันอาทิตย์ให้โอ้ตเค้าพักเหอะคับ” ผมละกลัวใจไอ้โอ้ตมันจัง

“เอางั้นเหรอคะ งั้นพรุ่งนี้ก็รีบกลับนะคะ ”

“คับ ขอบคุณคับป้า”

“ว่าไง ตกลงว่าจะนอนบ้านกรูม่ะ” ไอ้คิวเดินปาดเข้ามาทักคับ มันแอบฟังผมคุยแน่ๆ

“สาดด มึงฟังกูคุยโทรสับเหรอ ”

“โห ใช้โทรสับบ้านเค้า แล้วยังมาด่าอีก เด๋วต่อยเลย ”

“เออ นอนๆ ว่าแต่มึงไปอาบน้ำป่ะ เหม็นอ๊วกพ่อมึง ” ผมพูดแล้วก็ทำท่าเอามือปิดจมูก จริงๆก็ไม่ได้เหม็นไรมากหรอก แต่อยากให้มันไปๆซะที

“เออ แม่ง ทำรังเกียจ เด๋วจาโดนเหนี่ยว”


* * * * * * * * * * * *

สรุปแล้วผมก็เลยต้องนอนบ้านมันคับ แถมคืนนี้ฝนตกแบบกระหน่ำสุดๆ นี่ก็ปาไปสี่ทุ่มแล้วนะเนี่ย

“ฮ้าวววววววว”ไอ้คิวหาวเสียงดังบนเตียง ในขณะที่ตอนนี้ผมก็นั่งอยู่บนพื้นข้างล่าง ทำอ่านหนังสือทบทวนไปมา มันไม่มีสมาธิไงบอกไม่ถูก รู้สึกแปลกๆคับ แบบว่าไอ้คิวผมไม่ได้สนิทกับมันเหมือนซังไง นิสัย อะไรหลายๆอย่างมันก็แตกต่าง ที่ผมพอมาสนิทกับมันก็เพราะว่า มันเป็นแฟนไอ้ซัง

“เฮ้ย เลิกอ่านได้แล้ว กรูจานอน ง่วง” มันบอก พลางเอาหมอนปิดหน้า

“เออ มึงนี่ก็ดีเนอะ วันๆ กิน ขี้ ปี้ นอน” ผมกัดมันเล็กน้อยที่ไม่เห็นมันจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เอาแต่พึ่งเพื่อน โดยเฉพาะไอ้ซังเนี่ย ทำงานงกๆ

“กิน ขี้ แล้ว เหลือ ปี้ ยังไม่ได้ทำวะ” แน่ะกวนส้น

“แหม วันนึง มึงจะทำให้ครบเลยนะ ไอ้คิว … ไม่รู้ไอ้ซังมันคิดไงมาคบกะมึงเนี่ย”

“กรูคงน่ารักมั้ง ” มันพูดอุบอิบอยู่ภายใต้หมอน

“พูดไม่ดูหนังหน้าเลยนะมึงอ่ะ” แสดดด พูดออกมาได้ แทบอ๊วกพุ่ง

ดูเหมือนผมพูดแรงไปป่าวไม่รู้ แต่มันก็ลุกขึ้นจากเตียง เดินกระแทกเท้าไปปิดไฟ ทั้งๆที่ผมยังนั่งอ่านหนังสืออยู่อ่ะ

“เฮ้ยยยยย กูยังอ่านหนังสืออยู่” ผมตะโกนใส่มัน

“กรูจานอนแล้ว” มันพูดแล้วก็เดินผ่านหน้าผมกระโดดขึ้นเตียง ทีนี้จะทำไรได้อ่ะ เออ นอนก็นอนวะ แปลกมากคับ ผมพึ่งมารู้ตัวว่า มันเกร็งๆยังไงบอกไม่ถูกหลังจากที่ตัวสัมผัสกับที่นอน ไอ้คิวมันเป็นผู้ชาย ที่ชอบผู้ชายนะว้อยยย ในใจผมคิดสับสนวนไปวนมา แล้วก็พลิกตัวหันข้างให้มัน

ตึก ตึก ตึก (ทำไมกูต้องใจเต้นโครมคราม)

……………………. 

………………..

………..

……

….

..


“ปริ้น มึงเสียวมากป่าว” เสียงคิวถามผมพลางรูดเล่นไอ้ตัวเขื่องที่อยู่ด้านล่างด้วยความถนุถนอม

“อือ กูจะไม่ไหวแล้ว ไอ้คิว” ผมว่า พลางเอามือโอบคอไอ้คิวลงมาจูบอย่างรุนแรง

..

……

อึ๊ก อยู่ๆหัวสมองผมก็คิดไปถึงตอนที่ฝันวันก่อน เป็นเชี่ยอารายของเมิงงงฝันอะไรอุบาทย์โว้ยยยย ผมพยายามข่มตาข่มใจให้ฝันตาโดยไว อาจเป็นเพราะว่าผมหลับไปแล้วเมื่อตอนค่ำ ทำให้หนังตามันค้าง

“เป็นเหี้ยไร” พลิกไปพลิกมา เสียงไอ้คิวดังขึ้น

“กูนอนไม่หลับไง สงสัยแปลกที่ ”

“แปลกกลิ่นด้วยป่าว” สาดดด นั่นมันคือสิ่งที่อยู่ในปากมึงแล้ว

“เออ …” ตอบไปแค่นั้นเพราะว่า กูขี้เกียจเถียงกะมึง

“เมิงกลัวกูอะดิ” อ่ะ ถามแบบนี้อีกแระ

“กลัวทำติ่งอะไร”

“อ้าววว ก็กลัวกรูจาฆ่าเมิงงาย ไม่รู้เหรอว่า กรูเห็นนะว่า เมิงสองคนแอบจู๋จี๋อะไรกัน ตอนกรูหลับอ่ะ ”

ผมแอบตกใจนิดหน่อยคับ เฮ้ย มันเห็นเหรอวะ งั้นมันก็ไม่ได้หลับอะดิ ไอ้เวน แล้วตอแหลว่าหลับ

“กูจะกลัวทำไม ไม่ได้ทำห่าอะไรกันซะหน่อย” ผมว่าแต่ก็ไม่ได้หันไปมองหน้ามันหรอก ว่ามันพูดเล่นๆ หรือพูดเอาจริง

“แล้วที่ลูบหัวกันหนุกหนานนั่น” คราวนี้มันทำเสียงเข้มคับ แล้วก็เอามือมาจับหัวผมอ่ะ “ห่ะ ว่าไง”

“กะ กูไม่ได้คิดอะไรซะหน่อย ไอ้คิว มึงไม่เชื่อใจซังมันเหรอ” ผมเริ่มพูดตะกุกตะกักคับ (แหง่มๆ แอบกลัว)

แล้วคิวมันก็เอาปากมากระซิบใกล้ๆหู

“อย่า ให้ กรู จับ ได้ ล่ะ กัน” โหหหห เสียงแบบมันโหดมากอ่ะ ผมนอนนิ่งอึ้งเลยคับ กลัวเลยล่ะ ด้วยความที่ผมไม่ได้สนิทอะไรมันใกล้ชิดแค่ไหน โอ้วว มันแสดงธาตุแท้ออกมาแล้วเหรอเนี่ย อ้ายเถื่อน

ผมรีบพลิกตัวกลับ กะว่า เมิงเอาไงเอากันวะ สาดด ดูถูกกูแล้วยังดูถูกแฟนตัวเองด้วย แต่พอหันกลับไป ก็เห็นหน้าไอ้คิวมันเหมือนกลั้นหัวเราะอยู่ในความมืด

“555 ไอ้ปริ้นนนนนน เมิงกลัวกรูจริงๆล่วยยย อ้ายตี๋น้อยเอ้ยยยย”

จากหน้าที่เหมือนจะซีดของผม กลับเหมือนแดงสว่างอยู่ในความมืด เอาผ้าห่มคลุมโปง หลบความอายไปในบัดดล ไอ้คิวมันก็รู้ว่าผมบ้าจี้ เลยเอานิ้วจิ้มใหญ่เลย

“เด็กเทบเอ้ย เด็กเทปปป”

“เด็กเทป พ่อ มึงเหอะ สาดดดดดดด” ผมด่ามันทีนึง โอ้ย กูจาหลับได้มั้ยเนี่ย

ไอ้คิวมันขำอีกแป็บนึง แล้วมันก็พูดขึ้นมา

“เฮ้ย ปริ้น เมิงกะซังนี่ มีอะไรคล้ายๆกันเลยวะ เจงๆนะ”

แล้วมันก็ขยับเข้ามากอดผมคับ ดีนะมีผ้าห่มกันอยู่ แต่มันก็ทำให้ผมเหวอแดก

“มะ มากอดกูทำเหี้ยไร”

“ไอ้ซังม่ะอยู่ กรูขอกอดเมิงแทนก่อน แก้หนาว” อะนะ ไอ้หน้าด้านน

“ปล่อยเหอะ กูร้อนจะตายห่า” (กูร้อนใจ เพราะซังมันเผาพริกเผาเกลือให้กูอยู่ป่าวม่ะรู้)

“เมิงก็เอาผ้าห่มออกดิวะ” มันพูดแล้วก็ดึงผ้าออกจากตัวผมไปเลย แล้วมันก็ดึงตัวผมไปกอดอีก คราวนี้ ถึงขั้นประชิดกำแพงเมืองแล้วคับ

“ตอนกรูกอดซังมันครั้งแรกนะ มันก็สั่นแบบนี้หว่ะ” ไหนๆ ใครสั่น กูไม่ได้สั่นว้อยย

“มึงจะเล่นอีกนานม่ะไอ้คิว กูง่วงแล้วนะ” ผมพูดหวังให้มันเลิกแกล้งซะที ผมก็คนนะ มีอารมณ์ๆ

“ม่ะได้เล่นว้อยยยย เออ ไอ้ปริ้น……”

มันจะถามแล้วมันก็เงียบไปคับ ว้าโว้ย จะพูดไม่พูด อึดอัดหว่ะ

“เงียบทำซอกตึกอะไร จะพูดไรก็พูด กูจะนอนแล้ว”

เหมือนมันกอดผมแน่นขึ้น แล้วก็ถามว่า “มึงเคยมีอะไรกะใครมั่งยังวะ ? ”

อ้า ไอ้นี่ดูถูก … มีเหรอที่กูจะเคยมี 555

“ไม่เคยอ่ะ ถามไมวะ”

“ป้าว ก็กรูเห็นว่าเด็กกรุงเทพ แมร่ง มีเมียกันตั้งแต่ ม ต้น” มันบอกงุบงิบ เมิงอายเหรอ เมิงอายใช่มั้ยไอ้คิววววว

“เออออ ถ้ารีบมีแล้วสมองกูมันดีขึ้น หรือว่าจะทำให้กูเรียนเก่งขึ้น กูก็อยากมีหว่ะ … แต่แมร่งเพื่อนกูแต่ละคน มีแฟนแล้ว ก็ทำตัวงี่เง่า กูว่ากูรอให้พร้อมก่อนดีกว่า ค่อยมี กูไม่รีบ (เหมือนมึง) ” ผมพูดแบบแอบประชดมันตอนท้าย

“อ้าว แล้วงี้เวลาเมิงหงี่ขึ้นมา ทำไงอ่ะ”

“ถามเหี้ยไรวะ พูดเหมือนมึงเป็นเด็กสามขวบ” คราวนี้มันก็เงียบอีกแล้วคับ แต่มันก็หน้าด้านไม่ยอมปล่อยตัวผมนะ ทำไงดีวะ

“ไอ้ปริ้น …..” เฮ้ย ทำไมมันเสียงแปร่งๆ สิ้นเสียงมันก็เอาหน้ามาไซร้ที่หลังคอผมคับ

“คิว มึงจะทำอะไร” ผมยังพูดแบบใจดีสู้เสือคับ แต่มันก็ไม่ยอมหยุด มือมันก็พยายามจะพลิกตัวให้ผมนอนหงายให้ได้เลย

“ไอ้คิว กูถามว่ามึงจะทำอะไร” ผมถามรอบสอง แต่คราวนี้ เสียงแบบสั่นอย่างเห็นได้ชัด ยอมรับคับ ว่าไอ้คิวนี่ ไซร้าแบบโคตรเซียน แถมไรหนวดของมันที่คาดว่าพึ่งโกนมาหมาดๆ ถูเนื้อกับเนื้อ โอ้ว พระเจ้าจอร์จ น้ำจาแตกให้ได้เลยทีเดียว

ตอนนี้ผมโดนพลิกให้นอนหงาย สายตาประสานกันปิ๊งๆ ผมหวั่นไหวมากคับ หวั่นไหวจนเกือบเผลอตัวเองไป
ผมกลั้นใจถามครั้งสุดท้ายคับ ในขณะที่มันค่อยๆเริ่มไซร้ที่ใบหน้า

“คิว ซังมันไม่ผิดอะไรนะ .. อย่าให้มันต้องมาเสียใจเพราะแค่ …. มึงเจอคนที่คล้ายมันแค่นั้น”

ได้ผลคับ ไอ้คิวหยุดกึกเลย มันหยุดค้างอยู่แบบนั้นนานพักใหญ่เลยล่ะ แล้วมันก็ค่อยๆถอยกลับไปนอนข้างๆเหมือนเดิม มือข้างนึงยังคงโอบตัวผมไว้อยู่

“ปริ้น ….. ”

“เออ นึกถึงเมียได้ หายเงี่ยนแล้วดิมึง” ผมแซวมัน ในใจบางส่วน ผมรู้สึกเสียดายเล็กๆนะ (ฮา)

“กรูขอบใจเมิงนะ” ไอ้คิวพูดเขินๆ

“ไม่เป็นไร กูรู้ว่ากูน่ารักจน มึงห้ามใจไม่ไหว 555”

“สัดนี่ ชมตัวเอง 555” มันก็ร่วมหัวเราะไปด้วยคับ “… อือ กรูขอโทดเมิงด้วยนะ ที่ดันไม่เชื่อใจเมิง ”

มันพูดไปก็เอามือมันเขี่ยวนที่หน้าผมไปด้วย ส้นตรีนหนิ เห็นหน้ากูเป็นไรฟร่ะ

“เออ .. ไม่เป็นไร แต่ไอ้ซังมานก็น่ารักนะ” ผมพูดแบบหื่นๆ ไอ้คิวหันมาจ้องผมเขม็งเลยคับ เหอๆ

“ปากเด ”

“แน่นอนอ่ะ ”ผมบอก แล้วก็ทำหน้ากวนตรีนหน่อยๆ

“แม่มมม ไหนนะที่ว่าดีอ่ะ” พูดจบมันก็เอาปากมันมาจ๊วบที่ปากผมคับ แบบว่าไวมากๆ แล้วก็ถอนออกไป

“555 ปากเมิงเสียความบริสุดให้กรูแล้ว ไอ้ปริ้น ….. เออ กรูเชื่อแล้วล่ะ ว่าเมิงอ่ะ น่ารักกว่าไอ้ซัง 555 ”

จ๊ากกกก จูบแรกช๊านนนนนนนน

---------------------------------TBC------------------------------------

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [6-4-12]
« ตอบ #39 เมื่อ: 06-04-2012 23:21:06 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






KAME

  • บุคคลทั่วไป
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [6-4-12]
«ตอบ #40 เมื่อ06-04-2012 23:37:23 »

เรื่องนี้เป็นเรื่อง แรกที่ผมอ่านนิยายในเน็ต ในเว๊ป จีบอย อ่านจบ 2 รอบแล้ว ก็ยังชอบ รักเรื่องนี้มากเลย สุดท้าย โอ๊ตตต

แบร่ ไม่บอกดีก่า

แต่เรื่องนี้ยาวมาก อ่านกัน 3 เดือนไม่จบ  ผมอ่านตั้งแต่ผมอยู่ ม.2 จบตอน ม.3 ตอนนี้ม.6 แล้ว
อยากบอกตอน ตอนที่โอ๊ตไปเที่ยวเชียงใหม่ เศร้ามาก T^T เศร้ามากกว่า ก็ตอนที่โอ๊ตไปเรียนที่มช. นี้เหละ

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [6-4-12]
«ตอบ #41 เมื่อ07-04-2012 00:32:10 »

อะ อ้าว พ่อคิว ไงขโมย fist kiss ปริ๊นซะงั้นอ่ะ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [7-4-12]
«ตอบ #42 เมื่อ07-04-2012 21:12:18 »

…… จะเอาดวงใจฉัน ค้นใจ เธอ ให้เจอสิ่งที่เธอ นั้น เก็บ ไว้
ถ้าเธอมีคำนั้นไว้ในใจ เธอทำไมไม่พูดมันออกมา

เสียงเพลงดังแว่วเข้ามากระทบโสตประสาทที่กำลังหลับใหลให้ตื่นขึ้นอย่างงัวเงีย เห็นคิวมันนอนคว่ำหลับตาฟังเพลงอยู่

…… ฉันรู้เหมือนที่เธอรู้ ว่าความรัก ต้องใช้วันเวลา
ไม่ห่วง ว่าจะนานเพียงไหน พอเพียงได้ใจที่เธอให้มา

อ้ายเถื่อนเอ้ย ไม่อยากเชื่อเลยว่ามึงจะฟังเพลงแนวนี้ได้ ผมนอนคิดอยู่ในใจ พร้อมกับอมยิ้มอยู่ในที แหม ก็ตรงข้างหน้าเรา มีไอ้เถื่อนนอนหลับตา ฟังเพลงอยู่แบบเคลิบเคลิ้ม เป็นภาพที่หาดูได้ยากเจงๆ

มองเพลินๆ จนเพลงจบ ไอ้คิวดันเสือกลืมตาขึ้นมาเปลี่ยนเพลง ผมก็แกล้งฟอร์มหลับ

เพี้ยะ …!? ง่า มันตบหน้าผมเบาๆ แต่เสียงเน้นๆ

“เหี้ย …. ตบหน้ากู” ผมค่อยลืมตามาด่ามัน

“มาแอบมองหน้ากรูนะ เด๋วเหอะกรูจับปล้ำหรอก ไอ้นี่” มันว่าพลางเอามือเอื้อมไปกดเปลี่ยนเพลง แล้วมันก็ทะลึ่งตัวมาขึ้นคร่อมแบบไม่ทันตั้งตัว

“ไอ้คิว มึงงงงง กูไม่เล่นนนนนนนน”

แต่มันก็ไม่ฟังเหี้ยไรเลย จับมือผมกางสองข้าง แล้วก็ก้มมาดูดคอผมดังจ๊วบๆ เจ็บนะไม่ได้เสียวเลย

“เหี้ยยยย กูเจ็บบ” ผมด่ามันแล้วก็เอาเท้าไปหนีบKมันคับ

“โอ้ยยยยย ปล่อยไอ้ปริ้นนนน” ได้ผลคับ มันเงยหน้าขึ้นมาหน้าเขียวเลย ผมได้ทีก็ผลักมันตกเตียงเสียงดังโครม 555 มาเล่นกะกู เด๋วเหอะ

“เล่นเหี้ยไรไม่รู้จักกาลเทศะ เด๋วเหอะมึง หมันแดก” ผมลุกขึ้นบ่น แล้วก็เดินอ้อยสร้อยเข้าไปในห้องน้ำ

“คิว กูขอแปรงด้วย” ผมลืมไปเมื่อคืนก็ไม่ได้แปรงฟัน ซกมกมากกู

“คิว กูขอยืมเสื้อด้วย ”

“คิว พ่อมึง!! เอากางเกงมาให้กูด้วยดิ สัด”

“เออ เกงในกูไม่เอาอ่ะ ”

แต่งตัวเสร็จ ผมก็รีบเก็บเสื้อผ้า แล้วก็หนังสือ ใส่เป้ทันที เพราะเหลือบดูนาฬิกามันจะเก้าโมงเช้าแล้ว ไอ้คิวมันก็เดินเข้ามาในห้องพอดี

“จารีบไปไหนเนี่ย ยังไงเมิงก็โดนด่าอยู่แล้วล่ะ อย่าเครียด” มันยักคิ้วหลิวตาให้ผม แมร่ง ……

“เอาเหอะ เพราะมึงอะล่ะ” ผมแห้วใส่ แล้วก็เดินไปกระแทกมัน แล้วก็เดินลงมาข้างล่างก็ปรากฏว่า เห็นซังกับ กับ กับ โอ้ตมานั่งรออยู่ในห้องรับแขกคับ

“เมิงนี่ดีเนอะ มีคนมารับมาส่ง” ไอ้คิวมันเดินมาประกบผมด้านหลัง แล้วก็กอดคอทำเดินลงมาคับ โหยย ซังมันก็มองผมแปลกๆ แต่โอ้ตนี่ดิ ผมแทบไม่มองหน้ามันอ่ะ ว่าแต่ทำไมผมต้องกลัวมันด้วยล่ะนี่

“โทดที เมื่อวานเรารีบกลับ เลยไม่ได้ปลุกปริ้น” ซังมันบอก ผมก็เออออ

“เออ ไม่เป็นไรหรอก ฝนตกหนักด้วยอ่ะ ถึงจะกลับก็ .. ก็คงกลับไม่ได้มั้ง” ผมบอกซัง แต่ใจจริงต้องการพูดให้โอ้ตมันได้ยินว่า กูมีเหตุผลนะว้อยยยย ที่ต้องค้างเนี่ย

“ม่ะเช้าพี่โอ้ตโทรมาหา ให้ช่วยพามารับปริ้นที่นี่” ซังมันรีบอธิบายให้ไอ้คิวกับผมเข้าใจ

“พวกมึงจากินไรกันก่อนป่ะ” คิวมันพูดขึ้นมา แบบว่ามันไม่ค่อยเคารพโอ้ตเลยอ่ะ ทั้งๆที่เป็นรุ่นพี่มัน (รู้ทีหลังว่า โอ้ตเนี่ย มันเป็นประธาน นร ก็เลยต้องคอยดูแล ควบคุมไอ้พวกเด็กเลวๆ ที่ทำตัวไม่ค่อยดี และไอ้คิวก็เป็นหนึ่งใน แบล็กลิส ก็เลยไม่ค่อยชอบขี้หน้ากัน)

ยังไม่ทันบอกอะไร โอ้ตมันก็ลุกขึ้นเดินออกจากบ้านคิวเลยคับ โห .. ท่าจะแย่แล้วกู

“งั้นกลับก่อนล่ะกัน” ผมว่า แล้วก็แบกเป้วิ่งตามไอ้ขี้งอนโอ้ตไปห่างๆ พอถึงรถมันก็ปิดประตูเสียงดังเลยอ่ะ ผมก็กล้าๆกลัวๆ นั่งยังไม่ทันจะปิดประตูดี ไอ้โอ้ตมันก็เร่งเครื่องคับ แต่ยังไม่ออกรถหรอก ประมาณว่า เร่งผมว่าให้ทำไรไวๆหน่อย

ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ผมกลัวโอ้ตมันคับ หลังจากที่ครั้งแรก มันจับได้เรื่องแอบสูบบุหรี่ แต่ครั้งนี้ทั้งๆที่ผมก็ไม่ได้ทำอะไรนะ แต่ผมกลัวว่ามันเข้าใจอะไรผิดไม่รู้

“โอ้ต” ผมเริ่มแย้บๆ เรียกชื่อ

“………..”

แล้วมันก็เหยียบเพิ่มสปีดความเร็วรถเข้าไปอีก

“เออ จริงๆก็แบบว่า …”

“จริงๆ ม่ะคืนก็บอกยายแล้วนะ ว่าไม่ต้องให้มารับก็ได้ คือ - - -” ผมกะลังจะบอกว่า ไม่อยากรบกวนโอ้ต มันก็เหยียบเบรกซะหน้าหงาย โชคดีนะผมคาดเบลไว้

“เฮ้ยย เป็นไรเนี่ย” ผมโกดขึ้นมาเลยคับ แมร่ง เบรกหัวกูทิ่มเรย

“ไม่พอใจอะไรก็บอกดิ นั่งบื้ออยู่ได้” ผมฉุนคับ โอ้ตมานชอบทำตัวแบบ พอไม่พอใจก็อะไรก็ไม่พูด แต่ชอบแสดงความไม่พอใจแบบอื่นออกมา แบบนี้มันน่ารำคาญหว่ะ เบื่อพวกชอบประชด -*-

“ทำไมต้องชอบทำตัวให้คนอื่นเป็นห่วงอยู่เรื่อยเลย” นั่นเป็นคำแรกที๋โอ้ตมันพูดกับผม แต่มันไม่ได้พูดธรรมดาๆนะ แต่มันเป็นเสียงคำรามคับ

“อ้าว - -” ผมจะพูดต่อแต่นึกคำพูดไม่ออกคับ แต่ก็นึกไปว่า แค่ไปค้างบ้านเพื่อนแค่นี้ มันจะเป็นไรมากมายวะ

“รู้ว่าแบตฯมือถือหมดก็ไม่เอาที่ชาร์ตไป” มันพูดต่อ

“แล้วใครจะไปรู้วะ ว่ามันจะหมด ไม่ได้ตั้งใจจะค้างบ้านมันซะหน่อย” ผมก็เถียงกลับคับ เดือดเหมือนกันนะ ถึงแม้รู้ว่าตัวเองจะผิดก็เหอะ แต่ก็ไม่เห็นต้องมาโกดกูอะไรมากมายขนาดนี้หนิ

“ก็รู้ว่าหน้าฝน ก็ยังไม่รีบกลับอีก เมื่อแต่เออระเหยอยู่นั่น” มันหันหน้ามาด่าผมต่อ ขับรถก็เร็วขึ้นทุกครั้งที่มันพูด

“ .. ก็แค่มาค้างบ้านเพื่อนมันผิดอะไรมากมายขนาดนั้นวะ”

“แน่ใจ ว่าแค่ค้าง ? ” เสียงมันอ่อนลง แต่ชัดเจน

“เออซิ จะให้ทำอะไรกันวะ”

ไอ้โอ้ตมันก็หันมามองหน้าผม แล้วก็ล้วงมือไปควานหาอะไรบางอย่างตรงคอนโซล แล้วก็โยนกระจกมาให้

“แล้วไอ้ตรงคอมันรอยยุงกัดเหรอ ?! ”

อ่า ผมเถียงไม่ออกเลยคับ ซีดเลย แล้วก็รีบคว้ากระจกขึ้นมาเบิ่ง ก็ปรากฏว่า ตรงคอมันเป็นรอยคล้ำๆอะคับ ด้วยความที่ผมผิวขาวไง ก็เลยเห็นเป็นรอยค่อนข้างชัด

“อ่า …”เสียงออกมาแค่นั้นคับ แล้วก็แก้ตัวไม่ถูกจริงๆ

“คะ คิดบ้าไรอยู่เนี่ย สงสัยว่าเราจะไปมีไรกะไอ้คิวมันเนี่ยนะ ? ”

“จะไปรู้เรอะ !!! ” มันพูดเสียงกระแทก

ตอนนี้คับ เรื่องที่ผมกลัว มันเป็นแล้วจริงๆ ตอนแรกก็แค่คิดว่าโอ้ตมันคงเป็นห่วงเฉยๆ ถ้าแค่อธิบายความจริงไป มันก็คงหาย แต่นี่ รอยไอ้คิวที่มันแกล้งผมเมื่อเช้า ทำให้ผมไม่รู้จะเริ่มอธิบายให้มันฟังตั้งแต่ตอนไหนดี

“เราไม่ได้มีอะไรกะไอ้คิวมันจริงๆ” ผมตอบตามความจริง เพราะไม่รู้จะอธิบายยังไงแล้ว

“จะบอกว่าแกล้งกันเล่นๆซิ” โอ้ตมันพูดประชด

“อืม ใช่ ”

“หึ ”

“ทำไมต้องทำเสียงแบบนั้น”

“เสียงไง” มันทำเสียงเย็นชามากๆๆๆๆ

“โธ่เอ้ย ทำยังไงถึงจะยอมเชื่อวะ ว่าไม่ได้เป็นแบบที่โอ้ตคิดอ่ะ ”

โอ้ตมันก็หันมามองหน้าแบบผู้ใหญ่จับผิดเด็กได้คับ

“ก็เชื่อแล้วไง ปริ้นพูดอะไรมา โอ้ตก็เชื่อหมดล่ะ” มันตอบ โห ประชดกูอย่างแรงงงง

ผมก็รู้สึกไม่ไหวแล้วอ่ะ เคยรู้สึกป่าวคับว่า เวลาที่เราโดนเข้าใจผิด โดยเฉพาะคนที่เรารัก เข้าใจเราผิด แล้วสถานการณ์แวดล้อมมันก็เอื้อให้เค้าเข้าใจไปแบบนั้นจริงๆ แล้วเราก็ไม่สามารถอธิบายอะไรใดๆได้เลย มันโคตรทรมานเลยคับ

ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว มันไม่ได้โกรธโอ้ตนะที่เข้าใจไปแบบนั้น ก็เลยหันหน้าไปทางหน้าต่าง

“เออ เรามันก็เหี้ยแบบนี้ล่ะ - - -” ผมพูดไปเสียงสั่นๆ

“- - - แต่ถึงเหี้ยยังไง เราก็ไม่เคยคิดจะไปแย่งแฟนเพื่อน จะเชื่อไม่เชื่อก็ตามใจ”

“…………….”

“ถ้าใช้ชั่วคราว ก็คงทำได้มั้ง ”

เสียงโอ้ตพูดขึ้นมา มันไม่ได้ดังอะไรหรอก แต่ผมได้ยิน แล้วมันก็ดังที่สุดเท่าที่โอ้ตเคยพูดให้ผมได้ยิน มันไม่ได้ดังเข้ามาผ่านแค่หูอย่างเดียว แต่มันดังเข้ามาในหัวสมอง แล้วมันก็ดังเข้ามาในใจของผมด้วย

น้ำตาผมไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว มันเจ็บแบบบอกไม่ถูก เจ็บจนไม่รู้จะพูดอะไร ไม่รู้จะเถียงอะไร ผมได้แต่นั่งหันข้างให้กับโอ้ต มองไปนอกหน้าต่าง โอ้ตมันไม่เชื่อเราก็ไม่เห็นต้องแคร์นี่หว่า ไม่ต้องไปแคร์มัน แต่ทำไมน้ำตากูต้องไหลแบบนี้วะ

เสียงข้างในหัวใจผม มันตอบความจริงอะไรบางอย่างออกมา ภาพที่ผมเล่นหัวอยู่กับไอ้อ้นที่โรงเรียนเก่า ภาพที่ผมนอนอยู่ข้างมัน ในช่วงที่ไปค้างที่หอ มันรู้สึกอบอุ่น ภาพที่ผมเห็นไอ้คิวกำลังจูบกับซัง มันทำผมรู้สึกหวิวๆ ไม่ได้รู้สึกรังเกียจ แต่รู้สึกชอบด้วยซ้ำ ภาพไอ้คิวที่ขึ้นอยู่บนตัวผม แล้วค่อยๆไซร้ซอกคอ แทนที่จะรู้สึกรังเกียจ แต่ผมกลับรู้สึกชอบ จนเกือบห้ามใจไม่ได้ จนภาพสุดท้ายที่คิดออกมา โอ้ตกำลังขยี้หัวผม ภาพโอ้ตกอดคอผมเดินเล่นไปทั่วห้าง ภาพโอ้ตยิ้มให้ตอนที่มันเดินไปนั่งเก้าอี้ที่ว่างบนรถเมล์

ผมคงเป็นแบบเดียวกับไอ้คิว ไอ้ซัง และ …. และผมก็คงชอบไอ้โอ้ตเข้าแล้ว ถึงกลัว … กลัวมันจะเข้าใจผิด แล้วก็เสียใจที่มันพูดแบบนี้กับผม มันไม่เคยเชื่อใจผมเลยใช่ป่าว เสียงหัวใจผมบอกแบบนั้น มันชัดเจนขึ้นจนถึงตอนนี้

ผมพยายามคุมเสียงไว้ให้เป็นแบบเดิม ผมไม่ต้องการให้โอ้ตมันรู้ว่าผมเสียใจแค่ไหนที่ได้ยินมันพูดแบบนั้น ผมจะปล่อยให้มันเข้าใจว่า ผมเหี้ยแบบนั้นล่ะ แล้วผมก็พูดขึ้นมาจนได้

“โอ้ต …. เราเกลียดนาย !? ”

ผมพูดออกไป โดยที่ไม่ยอมหันไปมองหน้าโอ้ต ซึ่งก็เงียบไปจนตลอดทางกลับถึงบ้าน

************************************************************************************************************************
************************************************************************************************************************
ความมึนตึงของผมกับโอ้ตไม่มีท่าทีที่จะผ่อนคลายลง บนโต๊ะกินข้าว ต่างคนก็ต่างกิน ไม่มีใครปริปากพูดซักคำ
มันอาจจะดีแล้วก็ได้ที่เป็นแบบนี้ มันจะได้ทำให้ผมไม่ไขว้เขว ผมกลับเข้ามาในห้องนอน เตรียมยกหนังสือขึ้นมาอ่านก่อนจะสอบพรุ่งนี้ และเพื่อจะลืมๆอะไรที่เกิดขึ้นด้วย

“โหล ว่าไงไอ้ปริ้น หายหน้าไปเลยนะมึง” เสียงไอ้อ้นรับโทรสับผมคับ

“อืม ก็ยุ่งๆอยู่” ผมตอบเสียงไม่สู้ดีนัก

“มึงเป็นไรวะ”

“เหงาหว่ะ” ผมบอก อารมณ์ตอนนี้เป็นสิ่งที่อธิบายไม่ได้ ไม่รู้จะเล่าให้ใครฟัง ไม่รู้จะคุยกับใคร รอบๆตัวตอนนี้ไม่มีใครให้ผมคุยได้ซักคน

“เหงาเหี้ยไร มึงหายไปเป็นชาติ อยู่ๆมึงก็มาบอกว่าเหงาเนี่ยนะ” ไอ้อ้นมันหัวเราะแล้วก็ด่าผม

ผมก็หัวเราะแฮะๆ มันรู้ล่ะคับ ว่าผมมีเรื่องไม่สบายใจ แต่มันก็ไม่คาดคั้นที่จะถาม มันก็ชวนผมคุยโน่นคุยนี่ คุยเรื่องเพื่อนเก่า ทำให้ผมยิ่งโคตรคิดถึงบรรยากาศที่สวนฯมากเลย

“กูว่ากูสอบเสร็จคงจะขึ้นกรุงเทพวะ”

“เจงดิ เออดีๆ ไม่ได้เจอมึงตั้งนานแระ กี่เดือนวะ ”

3 เดือน ไรวะแค่นี้จำไม่ได้”

“ไอ้ห่า ใครจะมานั่งนับวันคืน แล้วตกลงมึงขึ้นมาแน่ป่าว กูจะได้บอกพวก”

“เออ ขึ้นดิ อาทิตย์นี้กูสอบ เด๋วกูขึ้นวันเสาร์นี้แหละ”

หลังจากนั้นมันก็เล่าว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในระหว่างที่ผมห่างหายจากพวกมัน ฟังแล้วก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นคับ อยากกลับไปเรียนที่เดิมจังว้อยยยยย

“เออ สงสัยกูต้องนอนก่อนแล้ว เด๋วพรุ่งนี้กูไม่ตื่น” ผมว่าพลางหาวหวอด

“ตั้งใจทำข้อสอบล่ะ เนี่ยมึงไม่อยู่พวกกูตกกันระนาว สอบกลางภาคอ่ะ”

“555 มึงก็ตั้งใจเรียนหน่อยเด๊ะ ”

“สัด.. ไปนอนไป แล้ว มึงขึ้นมาก็โทรมาหากูละกัน”

“เออ ขอบใจมึงหว่ะ ”

“แล้วมึงมีเหี้ยไรก็บอกกูนะ” มันพูดย้ำขึ้นมาแบบรู้ทัน สมกับเป็นเพื่อนที่คบกันมาตั้ง สาม สี่ปีจริงๆ ไม่เหมือนคนบางคนที่พึ่งรู้จักกันแค่สามเดือน จะมาเข้าใจอะไรล่ะ ผมคิดประชดหน่อยๆ ก่อนที่จะปิดหนังสือที่ว่าจะอ่าน พร้อมกับผลอยหลับไปด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้น 10%


* * * * * * * * * * * *

พอมาตอนเช้า ผมก็ไม่ลังเลที่จะรอโอ้ตคับ ไม่รู้เหมือนกัน แต่ไม่รู้สึกอยากเจอหน้า ไม่อยากคุยอะไรคับ ไม่อยากจะต้องทนดูสายตาของคนที่ไม่เคยเชื่อใจผม

“เฮ้ย ถึงว่าวันนี้ฝนตกแต่เช้า ไอ้ปริ้นมา รร เร็ววะ ” ไอ้โป้งเพื่อนที่ห้องแซว เมื่อเห็นผมมาถึงรร ยังไม่ เจ็ดโมงครึ่งเลย ซึ่งก็เป็นการดี เพราะว่าละอองฝนเริ่มร่วงโปรยปรายลงมา จากนั้นพอถึงเวลาเข้าห้องสอบ ฝนก็ตกลงมาไม่ขาดสาย และด้วยความที่วิชาเลขเป็นวิชาที่ผมโง่มากอย่างที่ได้เกริ่นๆไปแล้ว ผมก็เลยออกแมร่งเกือบคนแรกเลย (ไอ้คิวออกก่อนคนแรก) ข้อดีของการออกก่อน จะได้มีเวลาอ่านวิชาต่อไปไง หุหุ

- เฮ้อ ป่านนี้ไอ้โอ้ตมันจะทำอะไรอยู่น้า มันจะทำข้อสอบได้ป่าว …. มันคงจะทำได้ล่ะ มันเก่งจะตาย ไม่โง่เหมือนเรา -

“ไงที่รัก ทำเสร็จเร็วเจง” เสียงไอ้คิวมันเรียกผมว่าอะไรนะ ?

“ที่รักพ่องมึงดิ” ผมทำหน้าถมึงทึงใส่มัน ไอ้นี่มันเล่นไม่เลิกแฮะ ถ้าซังมันมาได้ยินเข้าจะว่าไงวะ กูโดนโกดอีกคนดิ

“โฮ่ กรูแค่พูดเล่นแค่ - - ”

“กูไม่อยากเล่นกะมึง” ผมยื่นคำขาด พร้อมกับเดินไปนั่งห่างจากมัน ซึ่งก็เป็นเวลาที่เพื่อนส่วนมากทำข้อสอบเสร็จแล้ว ไอ้คิวมันก็ไม่เดินตามมาคับ ซักพัก ซังมันก็ออกมาซะที ทำหน้าเครียดไงม่ะรู้ ผมก็ชักหวั่นใจนิดหน่อย เพราะถ้าโอ้ตมันเห็นรอยรักที่ไอ้คิวมันทำไว้กับผม ซังมันก็น่าจะเห็นเหมือนกัน

ไอ้คิวมันเดินไปแซวคนโน้นที แกล้งคนนี้ที ตามนิสัยสันดานๆของมัน แล้วก็เดินไปกระซิบกระซาบอะไรกะซังซักอย่าง โธ่ กูก็แอบดูมันอยู่ได้ หนังสือกูทำมายไม่อ่านว้า -*-

“ว่าไงปริ้น” ซังเดินมาทักด้วยสีเครียดยิ่งกว่าเดิม เอาแล้วดิ

“อือ” ผมตอบไม่เต็มปากเต็มคำ ทั้งๆที่กูก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่หว่า แบบว่ากลัวไปก่อน

“ทำได้มั่งป่าว ”

“อือ ก็ไม่ได้อะดิ ออกมาก่อนเห็นป่าว” ผมพูดอ้อมแอ่ม เพราะว่ามันก็เป็นคนติวให้ผมเองวันที่เกิดเรื่อง

“ตอนติวให้นี่ ใจลอยไปอยู่ไหนอะดิ” ซังมันถามแต่หน้าตาก็ปกติๆ

“จะลอยไปไหนว้า พูดไรแปลกๆไอ้นี่” ผมว่า พลางยกหนังสือขึ้นมาปิดหน้า (ทำแบบนี้มันมีพิรุจชัดๆ)

ซังมันก็เอามือมาจับหนังสือออกไป

“เรามีเรื่องอยากคุยกะปริ้นอะ” มันพูดขึ้นมา แล้วก็เดินนำผมไปตรงทางเชื่อมระหว่างอาคาร 1 กะ อาคาร 2 ซึ่งมันก็ไม่มีคนอยู่แถวนั้น ผมก็ก้มมองเวลาคับ เหลือเวลาอีก ประมาณ 15 นาทีกว่าจะเริ่มสอบวิชาต่อไป หันไปหาไอ้คิว มันก็หายหัวไปไหนก็ไม่รู้ สงสัยซังมันคงอยากจะคุยเรื่องคืนนั้นแน่ๆ ช่างมานเว้ย อะไรมันจะเกิดก็เกิด กูไม่ผิดนี่หว่า ผมคิดปลอบใจตัวเอง อีกใจนึงก็รู้สึกมีอารมณ์โกรธขึ้นมานิดๆ

“ว่าไง มีอาไรเหรอ” ผมถามแบบหงุดหงิด

“ซังจะคุยเรื่องคิวกับปริ้นอ่ะ จริงๆแล้ว - - -” มันก็ก้มหน้าลงไป ดูหน้ามันออกสีแดงๆ แต่ก็ไม่พูดอะไรต่อ งั้นเด๋วผมพูดเองเลยล่ะกัน

“ซังจะคิดว่า ปริ้นมีอะไรกะคิวคืนนั้นใช่ป่ะ ? คิดแบบนี้เหมือนกันอะดิ - - -” ผมตอบเสียงกระแทกกระทั้น

“- - - ถ้าซังคิดว่าปริ้นเป็นคนแบบนั้น ซังก็ต่อยหน้าปริ้นตรงนี้เลยซิวะ ให้เค้ารู้ความเลวไปทั่วก็ดีเหมือนกัน” ผมพูดชักเสียงสั่นเองคับ ทั้งมะโหทั้งน้อยใจ

“เง้ยย ปริ้นใจเย็นก่อนได้ป่าว พูดค่อยๆดิ” ซังมันก็ทำเสียงจุ๊ปาก โหยไอ้ซังกูไม่ค่อยแล้ววววว โชคดีนะ ที่ฝนมันตกเสียงเลยกลบไปหมด

“ซังยังไม่ได้ว่าอะไรเลย ซังเชื่อใจเพื่อนน่า” มันพูดแล้วก็ยิ้มเขิลๆ

“ซังเชื่อใจคิวมันด้วย” (โหยมึงเชื่อมัน แต่มันเกือบปล้ำกูนะ)

เพล้ง !!! เสียงหน้าผมแตกเล็กๆ ก็เลยใช้วิธีการหันหน้าไปทางอื่นกันซังมันเห็นรอยแตกที่ใบหน้า

“เออ งะ งั้น กูก็ร้อนตัวไปเองล่ะ ”

“โถ โถ อย่าพึ่งน้อยใจไปดิ หันมานี่” มันพูดแล้วก็เอื้อมมาจับหัวให้หันไปทางมัน

“ที่จะคุยเรื่องนี้เนี่ย คือคิวมันอยากจะขอโทดปริ้นที่มันทำคืนนั้นอ่ะ แต่มันไม่กล้าบอกปริ้นเอง เข้าใจ๋ ”ซังมันบอกด้วยท่าทีปกติมากๆ

“อ้าววววว” ผมแปลกใจคับ คิวมันเล่าเรื่องแบบนั้นที่มันทำกะผมแบบนั้นกะซังด้วยเหรอเนี่ย

“แล้วซังไม่โกรธมันบ้างเหรอไง ที่มันทำแบบนั้น” ผมถาม ซังมันจะใจกว้างไปเหรอป่าว

“โกรธดิ ตอนที่มันเล่าให้ฟังตอนแรกน่ะ” สีหน้าซังเปลี่ยนคับ แต่แค่แว่บเดียวเท่านั้นเอง “- - - แต่ก็ …. ไม่เป็นไรหรอก คนเรามันทำพลาดกันได้หนิ แล้วอีกอย่าง มันก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจาก ….” เสียงมันกลายเป็นเสียงกระซิบไปแล้ว

“จูบ ไม่ใช่เหรอ ? ”

“อ่า” คราวนี้กลายเป็นผมที่หน้าแดงซ่านไปแทนคับ

“ม่ะ ม่ะ ม่ะ ช่ายยย แค่ปากแตะปากเอง ไม่ได้จูบ” ผมรีบแก้ตัวเป็นพัลวัน

“555 เขินซะงั้นอ่ะปริ้น ไม่เคยเหรอ ? ” เอ้ามันถามอะไรนิ

ผมก็กระซิบตอบมันบ้าง

“จะเคยได้ไงฟะ”

“ฮืมมมมมม มันทำเสียงไม่ค่อยเชื่อผมคับ รอดมาได้ไงเนี่ย ”

“เอาเหอะๆ ไปสอบป่ะป่ะ” วุ้ย แทนที่จะเอาเวลามาทบทวน ดันมาคุยเรื่องไรนี่ ไม่หวายๆ

“แล้วทะเลาะกับพี่โอ้ตเหรอ” เสียงซังถาม ทำเอาผมแทบสะดุดขาตัวเองล้ม

“ป่าว” แต่เสียงผมเข้มขึ้นมาเฉียบพลัน

“พี่โอ้ตก็คง เออ .. หวงปริ้นอ่ะแหละ อย่าโกรธพี่แกเลย” ซังมันว่า ผมมีความรู้สึกว่า มันเลือกที่จะพูดคำว่า หวง มากกว่าคำว่า หึง

“เออ ช่างเค้าเหอะ งี่เง่า” ผมรอโอกาสที่จะด่าโอ้ตอ่ะคับ เพราะไม่รู้จะด่ามันในทางไหนดี

“อ้าว ไหนว่าไม่ได้โกรธกันไง” เสียงซังมันพูดแบบตำหนิผม

อึ๊ก …

“โอ้ตมันคงปากดีไปเล่าให้ซังฟังอะดิ” ผมเริ่มพาลใส่ไอ้โอ้ต

ซังมันก็สั่นหน้า “พี่โอ้ตไม่ได้โทรมาหรือว่ามาเล่าอะไรให้ซังฟังหรอก แค่เดาสถานการณ์อ่ะ ”

อุ๊ก …

“ไปสอบเหอะ อีกสองนาทีจะเข้าห้องสอบแล้ว” ผมว่า พลางเดินไป ผมไม่อยากได้ยินเรื่องเกี่ยวกับไอ้โอ้ตมันแล้วคับ ไม่ว่ามันจะคิดอะไรยังไงก็เหอะ

ซังมันก็เดินตามมา

“ปริ้น .. พี่โอ้ตอะ เค้าห่วงนายมากรู้ป่าว กะคนอื่นอะ- - จริงๆแล้ว เค้าไม่เคยทำแคร์ใครเท่าปริ้นเลย รู้ป่าว เรารู้จักเค้าดี ” ซังมันก็เดินพูดไป เสียงก็หอบไป เพราะว่าตัวมันเล็กกว่าผม จังหว่ะการเดินก้าวมันก็ต้องซอยถี่กว่าผม

หงุดหงิดคับ หงุดหงิด ความริษยามันพุ่งปี้ดๆ กับคำสุดท้ายที่ซังมันพูด ผมคิดได้ทีหลังว่า มันก็คงไม่ได้ตั้งใจจะพูดในลักษณะนั้นหรอก แต่…..

“เออซิ เรามันไม่รู้จักไอ้พี่โอ้ตดี เท่านายหรอก ”

ผมตระหนักดีว่าผมพลาดคับ ไม่น่าจะพูดแบบนั้นออกไปกับซังที่มันหวังดีกับผมเอง แล้วก็กับโอ้ต สีหน้าตอนที่มันได้ยิน ดูสลดไปเล็กน้อย แล้วก็ดูเหวอๆด้วยล่ะ ตอนนั้นผมกลับรู้สึกสะใจอยู่เล็กๆ ทำไมวะ กูจะสะใจทำไม หรือว่ากูทนไม่ได้ที่เห็นซังมันสนิทกับโอ้ตเหรอ ?

ผมเดินปึงๆ เลี้ยวเข้าไปในห้องสอบ

“เฮ้ย เป็นไง คุยกันเป็นไง” ไอ้คิวเสือกมาถามตอนอารมณ์มาคุแบบนี้อีก ด้วยหน้าตาที่มันยังทำทะเล้น ก็ยิ่งกวนมะโหผมยิ่งขึ้น

“คุยเหี้ยไร เสือกทุกเรื่องอะมึง” ผมด่ามันแล้วก็เดินหน้านิ่วเข้าห้องสอบไปด้วยใจที่อยากจะพาลทุกๆคนที่อยู่ใกล้เลยทีเดียว วู้ ไม่มีอารมณ์ทำข้อสอบเลย ข้อสอบแมร่งก็ยากชิหาย

(วิชาที่สอบเป็นวิชาอังกฤษวิชาที่มั่นใจที่สุดว่า ท็อปแน่ๆ แต่ผลกับออกมาว่ากูผ่านครึ่งไปแค่คะแนนเดียว สาดดด)

**************************************************************************************************



ดูเหมือนว่าการพูดคุยวันนั้นของผมกับซัง เป็นจุดที่ทำให้ความมีเหตุมีผลของผมมันมลายหายสิ้นไป ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าควรทำยังไง แต่ร่างกายกับทำตรงกันข้ามกันโดยสิ้นเชิง

เหตุการณ์หลังจากที่สอบเสร็จในวันแรก ล่วงเลยมาจนถึงวันที่ 3 ซึ่งเป็นวันสอบกลางภาควันสุดท้าย ผมไม่ได้คุยกับโอ้ตอีกเลย ตอนเช้าผมก็ออกมาก่อน สอบเสร็จก็กลับ เราจะเจอกันก็ตอนกินข้าวเย็น แต่ผมก็ทำเหมือนโอ้ตเป็นอากาศธาตุ และผมก็มั่นใจว่าโอ้ตมันก็คิดแบบเดียวกัน เนื่องจากมันก็ไม่มีท่าทีจะเข้ามาพูดคุยกับผมแม้แต่นิดเดียว

กับซัง … ไม่รู้ดิ หลังจากวันนั้น มันทำให้ผมรู้สึกว่า มันเข้าข้างโอ้ตอย่างเต็มที่ ผมก็เลยพาลไม่อยากคุยกับมันไปเลย ฮ่วย …. ส่วนไอ้คิวไม่ต้องพูดถึงคับ เลิกคุยกับมันไปเลย

หลังสอบเสร็จ เสาร์อาทิตย์ จากที่ผมจะขึ้นกรุงเทพไปหาไอ้อ้น ก็ดันมาอุปสรรคขวากหนามอีก เพราะว่าฝนตกหนักมากตั้งแต่คืนวันศุกร์ เช้าวันเสาร์ ก็ไม่ทีท่าว่าหยุดเลย

ติ๊ดติ๊ดด ตี๊ดดดด

“อ้นเหรอ”

“เออ มึงจะขึ้นมากี่โมง” เสียงมันงัวเงียๆ

“กูคงไม่ได้ขึ้นไปแล้วหว่ะ ฝนตกโคตรหนักเลย” ผมบอกเสียงเซ็งจัด

“เสียงแย่เลยมึง”

“เออ สงสัยเป็นหวัด เครียดด้วยหวะ พึ่งสอบเสร็จเนี่ย

“อย่างมึงจะกลัวไรวะแค่สอบ” มันพูดหาวไปหาวมา

“คุยกะกูนี่ง่วงมากใช่ป่ะอ้น” อยู่ๆผมก็พูดแบบหาเรื่องมันซะก่อน

“อ้าว มึงเป็นไรเนี่ย” เสียงมันแบบงงๆ

“เออ ไม่มีอะไรอ่ะ ช่วงนี้กูอารมณ์ไม่ดี …. แค่นี้ก่อนล่ะกัน ”

แล้วผมก็วางหูโทรสับไป ทิ้งตัวลงกับที่นอน มองไปนอกหน้าต่าง ฝนยังตกอยู่อย่างไม่ขาดสาย …. มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวผมนะนี่ ทำไมผมต้องไปหงุดหงิดใส่อ้นมันด้วย ทำไมอยู่ๆผมก็ไม่ชอบขี้หน้าซังมันขึ้นมาได้ …. แล้ว ทำไม ผมถึงคิดถึงโอ้ตมันตลอดเวลา ตั้งแต่วันที่ทะเลาะกัน จนถึง ณ วินาทีนี้ ผมกลับอยากไปคุยกับโอ้ตเหมือนเก่า อยากไปไหนมาไหนกับโอ้ตอีก

ผมค่อยๆยันตัวขึ้นมา พลางลูบกระจกที่มีละอองน้ำฝนบนหน้าต่าง บ้านโอ้ตยังมีแสงไฟเปิดอยู่ไกลๆ

“เหงาจัง โอ้ต …. เราคิดถึงนายอ่ะ” ผมพูดกับตัวเองเบาๆ


* * * * * * * * * * * *

ปั๊ง ปั๊ง ปั๊ง ปั๊ง

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา เหลือบไปมองเวลา ตายห่า … จะสี่โมงเย็นอยู่แล้ว ว่าแต่ใครมาเคาะประตูเรียกวะ หรือว่า ….

- โอ้ตมาเรียกผมเหรอ ? -

คิดได้ดังนั้นเหมือนลิงโลดคับ ผมรีบกระโดดจากเตียงวิ่งไปเปิดประตู แต่ก็พบลุงสนยืนกลางร่มอยู่ข้างหน้า

“อ้าว ”ผมทำสีหน้าผิดหวังจนลุงแกสังเกตเห็น

“อ้าวอะไรคุณปริ้น” ลุงสนพูดทำให้ผมคิดได้ว่า แกยืนกางร่มตากฝนอยู่นี่หว่า จึงบอกให้แกเข้ามาในบ้าน

“ไม่เป็นไรครับ คือลุงจะมาบอกว่า โอ้ตมันขับรถไปคว่ำ - - -”

“เชี่ย .. โอ้ตรถคว่ำเหรอ” ผมรู้สึกว่าควบคุมเสียงตัวเองไม่ได้ เข้าใจคำว่า หัวใจมันหล่นไปที่ตาตุ่มมันเป็นยังไง

“ละ ละ แล้วโอ้ตเป็นยังไงบ้าง” ผมล่ำล่ำละลักถาม

“ไม่รู้เหมือนกัน นี่อยู่รพ จอมเกล้าครับ นี่ลุงกำลังจะไป คุณปริ้นจะด้วยเหรอ - - -”

“ไปดิลุง” ผมพูด แล้วก็รีบวิ่งพลวดเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

ตอนลุงสนขับไป ผมก็นั่งตัวสั่นไปด้วย หนาวมันไม่เท่าไรคับ แต่อาการตกใจนี่ดิ สุดยอดอ่ะ ลุงสนเล่าให้ฟังว่า ตอนกลางวัน ป้าเล็กให้โอ้ตมันขับรถไปหาเพื่อนเค้าที่ อ เมือง แต่พอมาถึง ก็มีคนบ้าวิ่งตัดหน้ารถ มันก็เลยหักหลบไปชนเกาะกลางถนน แล้วรถก็พลิกคว่ำไปอีกเลนนึงเลย

“โหย คว่ำเลยเหรอลุง” ผมถาม

“ใจเย็นๆ คุณปริ้น คงไม่เป็นไรมากหรอกครับ” ลุงสนตอบแบบใจเย็นมาก เฮ้ย เมียกะลูกลุงนะ ไม่ใส่ใจเลย -*-

“แม่เล็กเค้าโทรมาบอกกับลุงเอง แค่ฟกช้ำนิดหน่อย ”

“แล้วทำไมลุงไม่บอกผมแต่แรกอ่ะ ว่าไม่เป็นอะไรมาก” ผมบอกแบบฉุนๆ ลุงสนส่ายหน้าน้อยๆ แล้วก็เงียบ ไม่ต่อปากต่อคำกับผมอีกต่อไป


* * * * * * * * * * * *

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [7-4-12]
«ตอบ #43 เมื่อ07-04-2012 21:13:12 »



พอมาถึง รพ ผมไม่รอให้ลุงสนแกหาที่จอดรถ ก็วิ่งเข้าไปใน รพ ทันที ท่ามกลางฝนที่ยังตกหนักอยู่ตลอดเวลา แล้วผมก็รู้สึกว่าตัวเองโง่มาก เพราะว่าผมไม่เคยมาที่นี่เลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ทั้งป้าเล็ก ทั้งโอ้ต อยู่ที่ตึกไหน ผมวิ่งรอกอยู่ซักพัก ก็เหมือนพระเจ้าเมตตาคับ ได้ยินเสียงป้าเล็กแว่วๆ ก็หันไป ก็เห็นป้าแกกำลังออกมาจากช่องจ่ายยา มีผ้าก๊อตแปะที่หน้าผากอยู่

“ป้าเล็ก เป็นไรมากป่าว” ผมวิ่งเข้าไปกอดแกคับ แกก็กอดตอบ เหมือนกะว่าแกก็ยังตกใจอยู่ไม่หายเหมือนกัน

“ไม่เป็นไรลูก ” พูดเสร็จก็ลูบหัวผมเบาๆ

“แล้วโอ้ตล่ะป้า” ผมถามด้วยความเป็นห่วง เพราะว่าไม่เห็นมันอยู่แถวนี้เลย

“โอ้ตมันต้องนอน รพ คืนนึง รอ รพ เค้าเช็คสมองก่อน” ป้าเล็กบอก แล้วก็เดินนำผมไปที่ห้องพักรวม ซึ่งห้องนี้ก็จะมีคนป่วยนอนอยู่เป็น สิบๆเตียง

“แล้วทำไมต้องเช็คสมองอ่ะ ”

“ตอนหักหลบ รู้สึกว่าหัวมันไปกระแทกกับพวงมาลัย ก็เลยต้องเช็คสมองหน่อย” ป้าเล็กบอก แล้วตาสนล่ะคุณปริ้น

“ลุงเค้าหาที่จอดรถอยู่อ่ะป้า” ผมเลยลงมาก่อน

“โถ ดูซิ เปียกหมดเลย เดี๋ยวก็เป็นหว๋ง เป็นหวัดอีกหรอก” ผมได้ยินดังนั้น อยากจะตะโกนบอกป้าแกไปจริงๆว่า เป็นห่วงลูกชายตัวเองก่อนเหอะ

พอมาถึงเตียงที่โอ้ตมันนอนอยู่ ลุงสนก็เดินมาพอดี รู้สึกจะโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงหน่อยๆแฮะ

“คุณปริ้น ทำไมอยู่ๆก็เปิดประตูลงมาก่อนนะ จะรอให้ลุงจอดรถก่อนก็ไม่ได้ บลาๆๆๆๆ” ผมก็ไม่ได้ฟังอะไรอ่ะคับ เพราะว่าใจตอนนี้อยู่ที่ไอ้โอ้ตหมดแล้ว

“ป้าคับ โอ้ตหลับไปนานยังอ่ะ” ผมเป็นห่วง พลางคิดไปว่ามันจะเป็นแบบเจ้าชายนิทราอะไรเทือกนี้ป่าววะ

“อ้อ สงสัยพึ่งหลับตอนที่ป้าลงไปรับยานะ” ป้าเล็กบอก แล้วก็หันไปคุยอะไรกับลุงสนอยู่นาน ผมก็นั่งเฝ้าอยู่ที่เตียงโอ้ตอ่ะคับ มันก็นอนนิ่งเลย เห็นมีแผลปูดๆที่หัวมัน แล้วก็รู้สึกว่า ต้องเย็บ สี่ห้าเข็ม หน้ามันมีรอยช้ำอยู่สองสามรอย

มีอยู่ช่วงนึง ป้าเล็กก็พูดประมาณว่า ให้ลุงสนขับรถกลับชะอำไปส่งผมที่บ้านก่อน แล้วค่อยกลับมาจัดการกับตำรวจเรื่องรถที่พังยับ

“ป้าเล็ก เด๋วผมอยู่เฝ้าโอ้ตก็ได้คับ ป้าไปทำธุระกับลุงเถอะ” ผมว่า เพราะไม่อยากเป็นตัวถ่วง ให้ลุงต้องไปๆกลับๆ ฝนยิ่งตกหนักแบบนี้ เด๋วเป็นไรอีกคนจะยิ่งแย่

“ไม่ได้หรอก คุณปริ้นจะนอนยังไง” ป้าเล็กรีบโวยวายคับ เพราะดูสภาพแล้วคือ ห้องนอนรวม ก็จะไม่มีพื้นที่ให้คนเยี่ยมไข้นอนมากนัก จะมีแต่โต๊ะเล็กข้างๆ แล้วก็มีม้านั่งยาว เอาไว้ให้นอนอีกตัวนึงแค่นั้นเอง

“โหย ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะป้า แล้วป้าก็เจ็บอยู่ จะมาอยู่ได้ไงอ่ะ” ผมก็เถียงไป เถียงมา สรุปแล้ว ป้าเค้าก็ยอมให้ผมนอนเฝ้าโอ้ตมันได้ หึหึ (เถียงกะไอ้ปริ้นก็แพ้โหมดดดแหละ)

“คุณปริ้นถ้ามีอะไรก็โทรมาเลยนะคะ จะรีบมารับเลย” ป้าเล็กบอกแบบห่วงหน้าพะวงหลัง มีลุงสนทำหน้าแบบยังไงบอกไม่ถูกอยู่ข้างๆ

“ฮะ - - คับ - - โอเคเลยป้า - - บ๊าย บาย” หลังจากบอกลาเสร็จ ผมก็เดินไปหาอะไรตุนไว้สำหรับคืนนี้ โอ้ตมันชอบกินอะไรวะ นมรสกาแฟๆ ขนมปังหมูหยอง ผมก็เลือกซื้อของไปแบบมีความสุข ทั้งๆที่มันน่าจะเป็นทุกข์นี่หว่า

กลับขึ้นมา โอ้ตมันก็นอนอยู่ไม่ตื่นซะทีคับ พยาบาลก็มาตรวจซักพัก แล้วก็ยาอาหารเย็นมาให้ ตอนนี้เกือบจะ 1 ทุ่มแล้ว

“โอ้ต …”ผมเรียกเบาๆ มันก็ยังไม่รู้สึกตัว

“โอ้ต …” ผมเรียกเสียงดังขึ้นอีก พลางเอามือไปหยิกแก้มมันเบาๆ (แกล้งคนป่วยซะงั้น) ไม่อยากจะเชื่อเลย เมื่อตอนเช้า ผมพึ่งรู้สึกว่าคิดถึงมันโคตรๆ อยากเจอมันจัง แล้วตอนนี้ มันก็มานอนให้ผมเล่นอยู่ตรงหน้า

มันพิศ ดูที่ใบหน้าของโอ้ต แม้ว่าผิวมันจะดูสีแทนๆไปหน่อยเนื่องจากโดนแดดประจำ แต่คิวเข้มๆของโอ้ตก็เป็นส่วนที่ดึงดูดที่สุด

ระหว่างที่กะลังเล่นหน้ามันอยู่เพลินๆ โอ้ตมันก็รู้สึกตัว เอามือมาจับที่มือผม

“แม่ … ทำอะไรนะ โอ้ตรำคาญนะ” โอ้ตมันพูดขึ้นมาทั้งๆที่หลับตาอยู่ นึกว่าป้าเล็ก โห ไม่คิดเหรอว่าแม่เอ็งจะมาเล่นอะไรปัญญาอ่อนแบบนี้

ผมก็พยายามจะดึงมือออกนะ แต่มันก็ยังจับอยุ่อ่ะ แล้วพอมันลืมตาขึ้น มันก็เป็นฝ่ายสะดุ้งปล่อยมือซะเอง เหอๆ

“อ้าว นึกว่าแม่” มันพูดขึ้นมา

ผมก็มองๆมันคับ ยังไม่กล้าพูดอะไร คือ จริงๆ ไม่รู้จะเริ่มพูดอะไรมากกว่า มันเขิลห่าไรม่ะรู้

“เป็นไงบ้าง” เป็นคำแรกที่ผมคิดออกแล้วพูดออกไป

“… แล้วแม่ล่ะ” มันพูด โดยไม่สนใจตอบที่ผมถามไป

“ก็ไปกับลุงสน จัดการเรื่องรถอ่ะ” ผมตอบหน้าเจือนเล็กน้อย สงสัยมันยังไม่หายโกรธผมแฮะ ไอ้นี่

“อือ กินข้าวเหอะ พยาบาลเค้ายกมาให้ตั้งนานแล้ว” ผมเปลี่ยนเรื่อง แล้วก็ยกถาดอาหารขั้นมา

“… ยังไม่หิว กินไปก่อนเหอะ” มันพูดแล้วก็พลิกตัวไปอีกด้านนึงคับ

“ปริ้นลงไปกินมาแล้วอ่ะ” ผมพูดปด พร้อมกับสูดหายใจเข้า หายใจออก ลึกๆ ลึก ลึกกกกกกกก

“ไม่หิวก็ยัดๆเข้าไป มันจะได้ไม่ปวดท้อง” ผมว่า แล้วก็ขยับตัวไปไขเตียงให้หัวนอนมันยกขึ้น (ที่ไขเตียงจะอยู่ปลายเตียงของคนป่วย เวลาคนป่วยจะนั่งหรือจะกินอะไรเงี้ย ก็จะไขให้มันยกขึ้น จะได้สะดวกไม่ต้องลุกมานั่งเองคับ)

โอ้ตมันก็ทำท่าไม่พอใจ หันกลับมาว่าผม

“ก็บอกว่ายังไม่หิวไง เดี๋ยวก็กินเองล่ะ”

“นี่ ก็บอกแล้วไง ไม่หิวก็ต้องกิน ทำเป็นเล่นตัวอยู่ได้ ”ผมตอกกลับ

ไอ้โอ้ตมันเหมือนจะพูดอะไรออกมาแรงๆซักอย่าง แต่ผมรีบตักข้าวต้มใส่ปากมันก่อนจะได้ทันพูดอะไรออกมา โดยที่ลืมไปว่า ปากมันเจ็บอยู่

“โอ๊กกก - - แค๊ก แค๊กๆ” ไม่รู้ว่ามันจะเลือกร้องเจ็บ หรือสำลักดีคับ แต่ผมสะจาย เหอๆ

“บอกแล้วว่าอย่าดื้อ เด๋วเจ็บ” ผมขู่มันคับ ตอนนี้เหมือนถือไพ่อยู่เหนือกว่าเล็กน้อย มันก็คงกลัวเจ็บด้วยล่ะ ก็เลยว่าง่ายปล่อยให้ผมป้อนข้าวป้อนน้ำจนเสร็จ

“อ่ะ กินนมปิดท้าย จะได้นอนหลับสบาย” ผมว่าพลางยื่นนมโฟโมสรสกาแฟให้ ชอบไม่ใช่เหรอ เห็นกินอยู่บ่อยๆอ่ะ

มันมองแบบลังเลๆ แล้วก็เอื้อมมาหยิบไปดูด (ผมสงสัยว่า ตอนนี้มือมันก็ใช้ได้ แล้วทำไมปล่อยให้กูป้อนข้างมึงอยู่ได้วะ) ผมรอให้มันอารมณ์นิ่งๆก่อนแล้วก็ถามในสิ่งที่อยากจะถาม

“ยังโกรธปริ้นอยู่เหรอ” ผมถามพลางทำหน้าอ้อนสุดชีวิตที่จะทำได้

“ป่าว จะโกรธไปทำไมล่ะ” มันพูดประชดอีกแล้ว

“โกรธก็บอกโกรธดิ จะพูดประชดให้ได้ถ้วยอะไรล่ะ” ผมว่าฉุนๆ

“เออ โกรธ !!! ” มันพูดเสียงดัง จนเตียงข้างๆหันมามอง

“ทำอะไรเอาแต่ใจตัวเองตลอด - - - จะไปไหนมาไหนก็ไม่บอกก่อน คิดจะออกก่อนก็ออก (มันหมายถึงผมไปโรงเรียนโดยไม่คอยมัน) คิดจะกลับก็กลับ” คำพูดมันพลั่งพรูออกมาแหลกเลยคับ แหม แล้วบอกกูว่าไม่โกรธ

“เออ ค๊าบบ กูเอาแต่ใจตัวเองอ่ะคับ” ผมบอกมัน

“เออ อะซิ ”

“แล้วโอ้ตจะเป็นห่วงอะไรปริ้นมากมากขนาดนั้นอ่ะ ขนาดยายปริ้นยังไม่อะไรเลย” ผมบอก

โอ้ตมันทำหน้าถมึงทึงคับ นี่ถ้ามันสบายดีอยู่ มันคงเดินหนี หรือไม่พูดไม่จากับผมไปแล้วล่ะ แต่นี่คือมันนอนอยู่ไง แล้วผมก็นั่งอยู่ตรงหน้าด้วย ไม่รู้จะหนีไปไหน

“ก็ถ้าไม่อยากให้ห่วง ก็จะได้ไม่ต้องห่วงไง” มันพูดกัดฟัน หน้าแดงด้วยโทสะ แล้วก็พลิกตัวหันหนีผมไปเลย

เออ เอาไงดีวะกู ดันไปยั่วมะโหเค้าอีกแระ = =’’

ซักพัก พยาบาลก็ประกาศปิดไฟห้องรวม ทำให้ตอนนี้ก็จะมีแค่แสงสลัวๆในห้องเท่านั้น ผมก็เดินไปเอาผ้ากั้นเตียงบ้างบน เลื่อนมากั้น พลางก็เหลือบไปมองไอ้โอ้ต มันก็ไม่ได้หลับหรอก แต่หน้ามันบูดมากเลยอ่ะ พอผมกั้นเสร็จ ก็มานั่งที่เดินต่อ

“โอ้ต …” ผมเรียกเบาๆ ไม่อยากรบกวนเตียงอื่น

มันก็นอนนิ่งไม่ไหวติง

“โอ้ตคับ … ”

นิ่ง

“โอ้ตค๊าบบบบ …” แต่คราวนี้ผมเอื้อมมือไปพาดไว้บนตัวมันทั้งๆที่นอนตะแคงแบบนั้นล่ะ ผมก็เลื่อนตัวให้มาอยู่ใกล้ๆมัน แล้วก็กระซิบบอก

“โอ้ต ขอโทษนะ …. เราคิดว่า ถะ ถ้า ไม่มีโอ้ต เราคงไม่มีใครแล้ว” พูดเสร็จ ผมก็เลื่อนตัวไปอยู่บนเตียงเดียวกะโอ้ต แล้วก็สวมกอดมันจากด้านหลัง

“ปริ้นไม่ได้มีอะไรกับคิวมันจริงๆนะ ไม่มีจริงๆ” ผมพูดแล้วก็เอาหน้าซบลงบนแผ่นหลังโอ้ต น้ำตามันไหลมาอีกจนได้ มันไหลมาจนเปียกเสื้อไปหมด

และวินาทีใดวินาทีนึง ผมก็รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นของมือโอ้ต ที่เลื่อนมาจับมือของผมที่โอบกอดมันไว้อยู่ แม้ว่ามันจะไม่ได้หันหน้ามาหาผม แต่ผมก็รับรู้ได้ว่า มันยอมยกโทษ และก็เชื่อ ในสิ่งที่ผมได้บอกออกไป

ตึก ตึก ตึก ตึก

เสียงหัวใจของผมเต้นแบบไม่เคยเป็นมาก่อน ตอนนี้มันเชื่อผมแล้ว ผมควรจะเลิกกอดมันได้ซะที แต่ทำไมร่างกายกับไม่ยอมตอบสนองกับความคิดวะ ผมอยากจะนอนกอดมันไปเรื่อยๆแบบนี้ อยากให้เวลามันหยุดนิ่งอยู่แบบนี้

แกร๊กกกกก ครืดดดด

เสียงเตียงสั่น พร้อมๆกับไอ้โอ้ตมันพลิกตัวหันมาทางผม


…. ใกล้มากคับ ใกล้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผมไม่เคยอยู่ใกล้ไอ้โอ้ตขนาดนี้เลย ปากมันกับปากผมแทบจะชนกันอยู่แล้ว ลมหายใจโอ้ตมันร้อนมากจนผมรู้สึกได้ แล้วมันก็พูดขึ้นมา

“ปริ้น …. โอ้ตปวดฉี่”

= =’’

แสดดดดดด เยสสสเข้ หมดมู๊ดเลยกู

ผมได้สติขึ้นมาก็รีบเลื่อนตัวลงมาจากเตียงไอ้โอ้ตคับ มือ ก็ควานหา คอมฟอร์ต 100 ใต้เตียง

“ไปเข้าห้องน้ำดีกว่าปริ้น ไม่อยากใช้ไอ้นั่นน่ะ” มันพูดพลางค่อยๆพยุงตัวลงมาจากเตียง แต่ดูเหมือนว่า ยังมึนไม่หาย

“เฮ้ยๆ ค่อยๆดิ เด๋วก็ล้มหรอก” ผมว่าพลางเข้าไปพยุงตัวมัน

“อือ” มันพูดแล้วก็ค่อยๆ เดินออกไปห้องน้ำ

“ปริ้นรออยู่นอกห้องล่ะ” มันว่าอายๆคับ แต่ดูมันโงนเงนอยู่เลย

“อายไรวะ เด๋วก็ล้มในห้องน้ำหรอก มานี่” ผมว่าพลางพยุงมันเข้าไปในห้องน้ำเลย (จริงๆคืออยากแกล้งมันมากกว่า หุหุ)

“ก็ฉี่ไปเหอะ เด๋วหันหลังให้” ผมว่า แล้วก็ทำเป็นหันหน้าไปทางอื่นให้ แต่มือก็ยังพยุงตัวมันอยู่ล่ะ

“อือ” มันรับคำแล้วก็ แก้กางเกง ซึ่งกางเกง รพ เนี่ย มันแก้ง่ายมากคับ แค่แกะปมหน่อยนึงก็หลุดแระ

“ปริ้น ….”

“ไร ”

“ฉี่ไม่ออก” มันว่า

“ทำไมอ่ะ”

“ก็มีคนอยู่ด้วยนี่หว่า ”

“เอาน่า ทำตัวตามสบายๆ แล้วเกร็งดิ ”ผมพูดให้มันผ่อนคลาย เออ น่ารักดีฟร่ะ 555

ซักพัก ก็ได้ยินเสียง ซู่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสร็จ มันก็สะบัดๆหน่อยนึง ด้วยความที่อยากแกล้งมันต่อ

“เด๋ว โอ้ต ล้างจู๋ก่อน สกปรก” แล้วก็ทำเอามือแกล้งจะไปจับ โอ้ยย นี่กูติดนิสัยขี้แกล้งนี่มาจากไอ้คิวแหง่เลย

“เฮ้ย จะบ้าเรอะ ไม่เอา” มันก็ปัดมือผมออก แล้วก็ก้มหน้างุดๆรีบผูกกางเกงเลย

หุหุ กูนี่เล้ว เลว แกล้งคนป่วยซ้า ….

“โอ้ตนี่เป็นคนดีจังน้า” ผมพูดขึ้นมาหลังจากที่พามันมาขึ้นเตียงเหมือนเดิมแล้ว

“ฮื้มม ดียังไง ”

“ก็ …ไม่มีไร แฮะๆ” ผมบอก โอ้ตมันคงจะหักหลบคนซินะ ทั้งๆที่สถานการณ์แบบนี้ คนบ้าวิ่งตัดหน้าแบบนี้ …. มันยังยอมเลือกให้ตัวเองเจ็บ

“ไม่อยากเป็นคนดี เพราะเป็นคนดีแล้วไม่มีที่อยู่ เหอๆ” มันพูดมุกเสี่ยวแดก

“อ่าๆ เครๆ ไม่ดีก็ได้ งั้นเป็นคนน่ารักเป็นไง น่าร๊ากกกกก” ผมแกล้งแซวมันเล่นคับ แต่ใจจริงก็คิดแบบนั้นอยู่ล่ะ

“555 เหรอ” มันหัวเราะอารมณ์ดีเชียว ชมแค่นี้

“เหรออาไร ”

“ก็ ถ้าน่ารัก ……………………………….. ก็รักดิ”

O_o’’’

“ก็ ถ้าน่ารัก ……………………………….. ก็รักดิ”

“ก็รักดิ ….”

“รักดิ …”

“ดิ …”

….

ซ่า …… ซ่า ……ซ่า

ผมวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่คำพูดของโอ้ตมันก็ดังซ้ำไปซ้ำมา เหมือนเสียงเอ๊กโค่ มันชอบผมเหมือนกันเหรอ ? เหมือนกับที่ผมก็รู้สึกแบบเดียวกะโอ้ต ..

ไม่ใช่อ่ะ .. ไม่เหมือนกันหรอก

ผมยังไม่ได้รู้สึกรักโอ้ต ผมแค่รู้สึกดีๆ … ไม่ใช่เหรอไงวะ แค่รู้สึกเหงาเวลาที่ไม่ได้อยู่ด้วย รู้สึกหงุดหงิดเวลาที่มันทำตัวหนิดหนมกะซัง แค่ แค่ แค่ บลาๆๆๆ

อ่า ….

ผมเริ่มรู้สึกสับสนกับตัวเองมากขึ้นทุกที นึกย้อนไปตอน ม ต้น จนมาถึงตอนนี้ ผมไม่เคยรู้จัก หรือ ให้คำว่ารัก กับใคร ไม่เคยมีแฟน ชีวิตในรั้วโรงเรียนก็มีแต่เพื่อน เคยคิดเหมือนกันคับ ว่า พอเข้ามหาลัยแล้ว ก็คงจะเริ่มสนใจผู้หญิงเหมือนกับคนอื่นๆเค้าล่ะมั้ง แต่ตอนนี้ผมก็อยู่ รร สห แล้วมันก็ยังเฉยๆ อาไรกันนี่


* * * * * * * * * * * *

“ที่รัก .. เป็นไรนั่งเหม่อเชีย ข้าวเข้วไม่แดก” เสียงไอ้คิวพูดจนทำให้ผมสะดุ้ง มันก็ยังกวนตีนเรียกผมแบบนี้อยู่ได้ ซังมันก็นั่งกินอยู่ข้างมันแท้ๆ ที่สำคัญ กูอายชาวบ้านเค้าว้อยยย

“เหี้ย …” ผมด่ามันคำเดียวจบ

“เป็นไรป่าวปริ้น วันนี้เอาแต่เหม่อ” ซังถามเพราะว่าคงเห็นผมท่าไม่ค่อยดี

“อ่อ กรูรู้แล้ว คิดถึงไอ้โอ้ตอยู่ใช่ป่าว” คิวพูดขึ้นมาแล้วก็ทำตาแบบรู้ทัน

- เออดิ - ผมตอบในใจ ถึงแม้ว่าผลการสแกนสมองมันจะไม่เป็นอะไร แต่พอมันออกจาก รพ แม่มันก็อยากให้นอนพักอีกวันนึงก่อน เลยไม่ต้องมาโรงเรียนวันจันทร์สบายใจเฉิบ

“เฮ้ย ซัง มีเรื่องอยากให้ช่วยหน่อย” ผมบอกกับมันเสียงค่อนข้างซีเรียส

“เรื่องอะไร ”

“กินข้าวเสร็จ แล้วขึ้นห้องเรียนก่อน เด๋วบอก” ผมว่าพลางจ้วงข้าวอีกไม่กี่คำแล้วก็พากันขึ้นห้องเรียน คาบนี้เรียนวิทยาศาสตร์กายภาพคับ คุยได้สะดวก แฮะๆ ขึ้นไปก่อน ก็ไม่ค่อยมีเพื่อนอยู่เท่าไร คิวมันก็ยังไม่ขึ้นมา ไปแรดเตะบอลอยู่ข้างล่าง

“มีอะไรว่ามา”

“เออ .. อืม ไงดี”

“อ้าว แล้วจาไงล่ะวะ” ดูซังมันหงุดหงิดนิดหน่อย เพราะมันก็คงอยากจะไปเตะบอลเหมือนกัน แต่โดนผมลากขึ้นมาก่อน

“เออ คือ ซังเป็น กะ เกย์ ใช่ป่ะ ? ”

ซังมันมองหน้าผมคับ แบบว่า ไม่คิดว่าผมจาถามมันแบบนี้

“อะ ก็คงงั้นล่ะมั้ง” มันบอกทำท่าทางเก้ๆกังๆ คือตั้งแต่วันที่ผมรู้ความลับของพวกมันวันนั้นเนี่ย เราก็ไม่เคยคุยกันเรื่องนี้ ไม่เคยถามกันเรื่องนี้อีกเลย เหมือนกะว่าเราไม่ได้เห็นเหตุการณ์ในวันนั้น

“เออ งั้นก็ต้องดูออกใช่ป่ะว่าใครเป็นเกย์ ไม่เป็น ไรเงี้ย ….” ผมก็อ้อมแอ้มถามแบบไม่มองหน้ามัน ใจนึงก็กลัวนะคับ ไม่รู้มันจะตอบว่าไง มันจะโกรธมั้ย

“อืม เรื่องนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน” มันตอบแบบไม่ค่อยแน่ใจ ว่าแต่ถามทำไมล่ะ

“คือ .. คือ ”

“คือรายว้า”

ผมจากที่เดินไปเดินมาอยู่ ก็ลงไปนั่งบนเก้าอี้ แล้วก็ก้มหัวแบบคนคิดไม่ตกเลย

“… แล้วซังดูออกป่าว ว่าปริ้นเป็นหรือไม่เป็น” แล้วผมก็ฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะ รอฟังคำตอบมันด้วยใจระทึก ซังมันก็เงียบคับ ทั้งๆที่พัดลมแขวนบนหัวเราก็เปิดไว้นะคับ แต่ตอนนั้นเหงื่อผมออกมาเต็มตัวเลย ผมอยากจะคิดว่า ที่ผมรู้สึกแบบนั้นกะโอ้ตเนี่ย มันก็เป็นอะไรที่ผู้ชายทั่วไปก็รู้สึกได้เหมือนกัน

“ซังไม่รู้ว่าปริ้นเป็นเหรอป่าวหรอก - - -” มันตอบเสียงแผ่ว เพราะว่าตอนนี้เริ่มมีพวกผู้หญิงเดินเข้ามาในห้องกันแล้ว

“แต่ซังรู้สึกว่า ที่ปริ้นกับพี่โอ้ตทำให้กันอ่ะ มันไม่เหมือนเพื่อนที่ทำให้กันนะ” อ่า ซังมันก็ดูออกเหรอเนี่ย

“ก็ เราไม่ได้เป็นเพื่อนกันซ้าหน่อย” ผมเงยหน้าขึ้นมาตอบซัง

“- - เราก็เป็นเหมือนญาติกัน อยู่บ้านเดียวกัน ก็เป็นเหมือนพี่น้องกัน” ผมพูดเหมือนกับจะอธิบายย้ำให้ตัวเองฟังมากกว่าที่จะพูดให้ซังฟังซะอีก

“ตกลงว่าปริ้นไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นอะไรเหรอ ”

“อือ ”

เสียงซังมันถอนหายใจ

“ปริ้น …. ซังว่า ให้เวลามันตัดสินเองดีกว่า ให้ปริ้นรู้ด้วยตัวเองดีกว่า ให้คนอื่นมาบอกว่า ตัวเองเป็นแบบนั้น แบบนี้ … จะดีกว่ามั้ย ”

ผมก็มองหน้าซัง แบบค้นหาคำตอบ

“ยะ ยังงั้นเหรอ ”

ซังมันก็พยักหน้า แล้วก็เอามือตบบ่าผม

“สำคัญอยู่แค่ พอถึงเวลาที่เรารู้จักตัวเองแล้ว .. เราจะยอมรับตัวเองได้เหรอป่าว …… อย่าคิดมากน่า” แล้วมันก็ยิ้มให้อีกรอบ น่ารักจริงๆ

“คุยอาไรกันอยู่” เสียงไอ้คิวมันแว่วมาแต่ไกลเลยคับ เหงื่อโซกเต็มตัวเลย ซกมกมาก แล้วมันก็หน้าด้านมานั่งตากพัดลมที่บนโต๊ะผมอีกนะ

“เหี้ย มึง เหม็นหว่ะ” ผมกัดมัน จริงๆแล้วม่ะเหม็นหรอกคับ ได้แต่กลิ่นโรลออน

“มึงลอกงานวิทย์เสร็จยัง กูจะส่งแล้วนะไอ้คิว” ซังมันทวงงานจากไอ้คิวแล้วคับ

“เออ กรูลืมมมมมมมมมม” มันพูดเสร็จ มันก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม

“แล้วนั่งทำซากไรอยู่ล่ะ ก็เอาขึ้นมาทำดิ” เสียงไอ้ซังมันแข็งขึ้น ได้ผลคับ คิวมันก็ทำหน้าบูด แต่ก็ยอมลงมานั่งที่เก้าอี้ แล้วก็เริ่มเอางานขึ้นมาลอก ปากมันก็บ่นไปเรื่อย อาไรของมันก็ม่ะรู้

“เออ ซัง แล้ว ซังกะไอ้คิวเนี่ย ใครเป็นยังไงเหรอ” ผมกระซิบถามไม่ให้คิวมันได้ยิน

“เป็นยังไง นี่คืออะไร” ซังมันก้มหน้ามาแล้วก็ขมวดคิ้ว

“ก็ใครเป็น … เออ เค้าเรียกว่าไรนะ รับ รุก เหรอ ?! ”

เท่านั้นล่ะคับ ไอ้ซังก็หัวเราะร่วนเลย

“หัวเราะอาไรของเมิงวะ เสียงดัง กรูไม่มีสมาธิลอก” ไอ้คิวมันเกาหัวแกร่กๆ แล้วก็บ่นต่อ โดยไม่รู้ว่าเราสองคนนินทามันแบบเผาขน

“ให้ทาย …” ซังมันยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ๆ

มันก็เงยหน้าไปมองไอ้คิวทีนึง แล้วก็หันมามองซังทีนึง ในใจก็คิดว่า ซังมันต้องเป็นเมียไอ้คิวแหง่ๆ ไอ้คิวก็ไซร้ซะสุดยอดแบบนั้น

“เออ…. - - -” ผมยังไม่ทันตอบอะไร ซังมันก็ทำมือเป็นสัญลักษณ์คับ โดยมันยื่นนิ้วกลาง แล้วก็ชี้มาที่มัน แล้วมันก็ทำมือเป็นวงกลมๆ แล้วก็ชี้ไปที่ไอ้คิว

O_o

“555555555” แล้วมานก็หัวเราะเสียงดังเลย จนเพื่อนโต๊ะอื่นมันหันมามอง

“555555 เจงดิ โอ๊ย กูม่ะอยากเชื่อเรยยยย” ผมก็สมทบหัวเราะไปกะมันด้วย ไอ้คิวมานก็เงยหน้าขึ้นมาด้วยความสงกะสัยว่า ไอ้สองตัวนี่มันหัวเราะห่าเหวอะไรของมันอยู่ แต่มันก็ไม่ได้ถามเพราะว่ามันต้องปั่นงานของตัวเองให้เสร็จก่อนอาจารย์จะเข้ามา หุหุ

สรุปแล้ว ผมก็แอบสืบรู้มาจนได้ล่ะ (แท้จริงแล้วก็ถามไอ้ซังอะนะ) ว่าม่ะก่อนเนี้ย ไอ้คิวมันก็เป็นกระทำซังมันอย่างที่คิดจริงๆล่ะคับ แต่แค่ทีสองที ซังมันอยากจะเป็นฝ่ายกระทำไอ้คิวบ้าง แต่คิวมันก็ยืนกรานไม่ยอมอย่างเดียว มีอยู่วันนึง มันไปเลี้ยงวันเกิดเพื่อน แล้วก็แดกเหล้ากัน ก็ได้ที่ไอ้ซังมันก็มอมไอ้คิวคับ (ร้ายจริงๆ)

คืนนั้น ไอ้คิวก็กลายเป็นเมียซังไปแบบสมยอม หุหุ ที่บอกว่าสมยอมเนี่ย เพราะว่า มันมอมแบบว่ากึ่มๆ คิวมันก็พอให้รู้สึกตัวล่ะ แต่พออารมณ์หื่นมันบังเกิด รุกก็รุกเหอะคับ มันก็กลายเป็นรับได้เหมือนกัน หลังจากนั้นไม่รู้ว่าเป็นเพราะไอ้คิวมันติดจายอ่ะป่าว เวลาซังมันขอเอามัน มันก็ยอมซะงั้น จนหลังๆ ซังมันก็ได้ใจ ไม่ยอมให้ไอ้คิวมันรุกอีกเลย

เป็นซะงั้นไป = =;;

จริงๆผมก็อยากรู้เรื่องของมันสองคนมากกว่านี้ล่ะ แต่อีกใจนึงก็ไม่อยากละลาบละล้วงอะไรมันมากไป มันเปิดใจกับผมแค่นี้มันก็ถือว่ามากแล้วล่ะ


* * * * * * * * * * * *

ชีวิตที่ดูเหมือนจะสับสนกับตัวเองของผม ในตอนนั้น ก็ไม่ได้รับการคลี่คลาย หรือว่าเข้าใจอะไรมากขึ้นหรอกคับ โอ้ตก็เหมือนกัน หลังจากคืนวันที่มันพูดหยอกผมที่ รพ วันนั้น มันก็ไม่มีทีท่าจะมาอะไรกับผมไปมากกว่าที่เป็นอยู่ แต่ผมก็เรียนรู้ที่จะอยู่กับความสับสนในตัวเองได้อย่างสุขสบายใจ เพราะว่าตอนนี้มีเรื่องทุกข์ใจเรื่องใหม่มาให้เครียดแทน

คืองี้คับ ช่วงกลางเดือนสิงหาคม จะเป็นช่วงที่ทางโรงเรียนผมจัดกีฬาสีกันขึ้น อย่างที่เคยบอกกันไว้แล้วว่า ห้องโอ้ตกะห้องผมเนี่ย อยู่สีเดียวกัน ม หกจะรับผิดชอบเกี่ยวกะสีทั้งหมด ส่วน ม ห้า จะรับผิดชอบขบวนพาเหรด ซึ่งมันก็น่าจะมีแค่นั้น

“ปริ้นอยากเป็นลีดป่าว ” ไอ้พี่ท็อปอยู่ๆเดินเข้ามาถามผม ระหว่างที่สีเรากำลังประชุมกันอยู่ (เวลาเค้าให้ประชุมก็จะประชุมกันหมดเลย ตั้งแต่ม 1 ยัน ม 6 )

“ไม่เคยคิดอ่ะ” ผมทำหน้าแปลกใจที่ทำไมพี่เค้ามาถามผมวะ

“แต่พวกพี่ๆ เค้าอยากให้เราเป็นน่ะ” พี่ท็อปบอก แล้วก็ลากผมให้เข้าไปคุยในกลุ่มพวกเด็ก ม.6 แว๊ก ไม่เป็นนะ ไม่อ้าวววววว ผมก็หันรีหันขวางหวังหาไอ้โอ้ตให้มาช่วยคับ แต่โอ้ตมันก็ใช้โทรโข่งคุยกะน้องม 1 ที่ต้องขึ้นสแตนด์เชียร์อยู่

“สีเราไม่มีลีดผู้ชายเลยนะน้อง” พี่ผู้หญิงที่ผมไม่เคยรู้จักบอกให้ฟัง

“เออ แต่ผม - - -”

“เนี่ย แล้วถ้าไม่มีลีดผู้ชาย มันก็จะลำบากเวลาเล่นท่า” พี่อีกคนเข้ามาเสริม

“แต่ผมเต้นไม่ - - -”

“น้องเต้นไม่เป็นไม่เป็นไรคะ เพราะยังไงก็มีพี่เค้ามาสอนให้อยู่แล้ว” อีกคนก็เข้ามาอีก โอ้ย อาไรกัน

“ตกลงเป็นนะปริ้น” เสียงพี่ท็อปพูดสรุปเอง

“แว๊ก ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ” ผมโอดใส่

“ช่วยสีแค่นี้ไม่ได้เหรอน้อง” เสียงโคตรโหดของผู้หญิงคนนึงดังขึ้นมาคับ ก็คงจะเห็นผมพยายามปฏิเสธอยู่นานแล้วอ่ะ

“ถ้าน้องเค้าไม่เต็มใจ พวกมึงจะไปอ้อนวอนเค้าทำไม” ผมก็หันไปมองต้นเสียง เท่านั้นล่ะ เพื่อนๆอาจจะเคยกันบ้างนะคับ เวลาเราเจอคนที่ไม่ถูกชะตาเนี่ย ไม่ต้องทำอะไรหรอก ก็เหม็นขี้หน้าแระ แล้วยิ่งอีพี่คนนี้พูดประชดแบบนี้อีก กูยิ่งเกลียดไปกันใหญ่

“เฮ้ย ขวัญมึงเงียบๆไปเหอะ” พี่ท็อปเดินเข้ามาพูดน้ำเสียงไม่พอใจ อ่า ….

“ป่าว ก็เห็นว่าน้องเค้าไม่อยากเป็น แล้วจะไปตอแยอะไรเค้า” พี่ขวัญทำหน้าแบบกวนตีนๆ ใส่พี่ท็อป

“เรื่องนี้กูคุยกะน้องเค้าเอง มึงอยู่ส่วนสวัสดิการ อยู่ส่วนกีฬา มึงก็ไปจัดการเหอะ” พี่ท็อปพูดตอกกลับ

“อ้าว พูดงี้ว่ากูเสือกเหรอท้อป” เสียงอีพี่ขวัญไม่พอใจ เดินเข้ามาหา “กูก็เป็นรองประธานสีคนนึงนะ”

“เฮ้ย พวกมึงงงงงงงง” เสียงพระเอกมายอีกแล้วคับ โอ้ตมันก็เดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงมาเชียว

“อยู่สีเดียวกัน จะทะเลาะกันทำไมเนี่ย ”

“ถามมันดูเด๊ะ พี่ขวัญชี้ไปที่พี่ท็อป” แล้วก็เดินกลับไปหาพวกห้องเค้าแบบมีน้ำโห ท่ามกลางความงุนงงของน้องๆ

โอ้ตมันก็หันมาทางพี่ท็อป

“ท็อปกูบอกแล้วใช่ม่ะ ว่า อย่าไปมีเรื่องกับเค้า”

“ก็กูไปหาเรื่องเค้าก่อนที่ไหนล่ะ กูแค่มาถามปริ้นว่าจะเป็นลีดมั้ย มันก็เข้ามาเสือก” พี่ท็อปตอบโกรธๆ

“มึงจะให้ใครเป็นลีดนะ” โอ้ตมันร้องเสียงหลง

“น้องปริ้น” พี่ผู้หญิงที่อยู่ในเหตุการณ์บอกแทน เพราะดูว่าพี่ท็อปไม่สบอารมณ์ที่จะพูด

“ไม่ให้เป็น …” โอ้ตมันพูดเสียงหนัก จนพี่ท็อปหันไปมองหน้าโอ้ตเลย

“มึงให้กูรับผิดชอบเรื่องลีดไม่ใช่เหรอไง”

“ก็ใช่ไง แล้วกูก็อยากให้มึงหาคนที่เค้ามีความสามารถจริงๆ ไม่ใช่มาควานหาคนใกล้ตัวแบบนี้” ทั้งโอ้ตทั้งพี่ท็อปเถียงกันแบบไม่ลดราวาศอก พี่ในห้องเค้าไม่มีใครกล้าไปขัดหรือว่าไปห้ามสองคนนี่เลยอ่ะ

“ถ้ามึงคิดว่ากูทำงานไม่ได้ กูก็ขอไม่ยุ่งเหี้ยไรแล้วกัน” พี่ท็อปพูดแบบโกรธจัดจนเสียงสั่น แล้วก็เดินออกไปจากที่ประชุมเลย ผมเห็นโอ้ตสั่นหัว แล้วก็กลับไปคุยกะพวกน้องๆต่อ พี่คนอื่นก็ไม่มีใครมีท่าทีจะไปตามพี่ท็อปเลย

- งั้นกูไปเองก็ได้วะ - ผมคิดได้ดังนั้น ก็เลยเดินเนียนออกมา แต่ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าพี่ท็อปไปไหน เฮ้อ … ทำไมขี้น้อยใจกันจังวะ

“แป่ม เห็นพี่ท็อปป่ะ” ผมถามเพื่อนคนนึง

“เมื่อกี้เดินสวนกันตรงตึก 2 นะ ”แป่มบอก ก็คิดออกแล้วคับว่าไปไหน พวกเด็ก 6 ห้อง 1 นี่มีที่สถิตอยู่ที่เดียว ห้องพยาบาล (แล้วรุ่นต่อๆมา ก็เอาไว้เป็นที่สถิตกันสืบมาเนืองๆ)

ผมเดินเข้าไป เห็นพี่ท็อปกำลังเปิดตู้เย็นอยู่

“พี่ท็อปคับ” พูดซะเพราะเลยกู สงสัยกลัว

“ว่าไง ปริ้น” พี่ท็อปหันมา ตาดูแดงๆ

“เออ ขอโทดนะพี่ ที่ผมเป็น - - - ”

“เฮ้ย ไม่เกี่ยวกับปริ้นหรอก คนมันจะหาเรื่อง ” พี่ท็อปว่า แต่ผมไม่รู้ว่าเค้าหมายถึงใครระหว่างไอ้โอ้ต กะ พี่ขวัญ

“พี่ว่า ผมจะเป็นลีดได้เหรอ” ผมอ้อมแอ้มถาม

พี่ท็อปก็เงยหน้าขึ้นมา “ได้ดิ ไม่งั้นไม่ถามหรอก”

“แต่ถ้าปริ้นไม่อยากเป็น พี่ก็คงบังคับไม่ได้หรอก” น่าน เหมือนพูดประชดกูนิดๆ

“งั้นผมขอลองดูก่อนได้ป่าวพี่” ผมว่าแบบลองเชิง

คราวนี้พี่ท็อปยิ้มเฉ่งเลยคับ แล้วก็เดินเข้ามากอดคอ “เจงป่าววววว ขอบใจมากน้องรัก” แล้วมานก็มาจูบหัวผมแบบทีเล่นทีจริงอ่ะ

“ผมบอกว่าลองดูนะ ไม่ได้จะเป็นจริงๆ” ผมเขินเลยคับ เล่นเหี้ยไรเนี่ย

“แล้วพี่จะให้ผมเป็นคนเดียวเนี่ยนะ นอกนั้นผู้หญิงหมด ”

“ถ้ามันหาไม่ได้จริงๆ เด๋วพี่เป็นเองก็ได้วะ” พี่ท็อปพูดแบบมั่นใจ คือมึงล่ำมากนะไอ้พี่ท็อป ถึงจะขาวก็เหอะ

“เออ เอางั้นเลยนะ ว่าแต่พี่เป็นผมก็ดับเด๊ะ”

“ดับอะไรกันวะ มาม่ะ ไปลงชื่อเร็ว กูอยากเห็นหน้าไอ้โอ้ตเวลาเห็นลีดเจงๆ” พี่ท็อปพูดแล้วก็ลากผมกลับไปที่ประชุมทันที

แม่มมมม ให้มันได้อย่างนี้เซ่ะวะ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [7-4-12]
«ตอบ #44 เมื่อ07-04-2012 21:14:26 »

แล้วทำไมต้องทำหน้าเป็นตูดแบบนั้นด้วยวะ” ผมถามแบบฉุนๆ เมื่อเห็นหน้าโอ้ต
ระหว่างทางกลับบ้าน จริงๆแล้วเนี่ยมันตูดมาตั้งแต่ตอนที่พี่ท็อปพาไปลงชื่อแล้วล่ะคับ

พอมันขึ้นรถมันก็เดินไปนั่งไม่ยอมพูดยอมจา …….. เบื่อคนขี้งอนเจงๆ

“โอ้ต - - -” ผมชะงักเมื่อเห็นมันหันมามองตาขวาง

“อยู่ๆคิดยังไงถึงอยากเป็นขึ้นมาล่ะ ”

“อ้าว ก็พี่ท็อปเค้าขอให้ช่วยหนิ” ผมพูดเสียงเบา เหมือนทำอะไรผิดเลยกู

“แล้วรู้หรอป่าว จะเป็นลีดเนี่ย มันต้องรับผิดชอบอะไรเยอะแยะ ตัวเองจะทำได้เหรอป่าวก็ไม่รู้”
มันก็บ่นของมันเรื่อยไป ผมก็พยายามทนฟังอ่ะนะ ขี้เกียจเถียง อีกอย่างรำคาญด้วย จามายุ่งอาไร
กะชีวิตกูมากมาย

“โอ้ตรับผิดชอบเรื่องเชียร์ม่ะใช่เหรอ ใครจะทำอะไรมันก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับโอ้ตเลย” ผมว่า

“เออ เสือกเองล่ะ” มันพูดเบาๆ แต่ผมได้ยิน แล้วมานก็หันหน้าไปทางหน้าต่างคับ ทำเสียงฟึดฟัด

“โอ้ต …” ผมเรียก

“โอ้ต …. คิดว่าปริ้นเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบเลยเหรอ ? ” ผมเลยแสดงอาการน้อยใจทาง
คำพูดแล้วล่ะ แม่ง ทำมายวะ กลัวกูทำสีพังเหรอไง

มันก็เงียบ

ผมก็เงียบ …. ไม่คุยกะมันแล้วคับ หันหน้าออกมาอีกข้างเหมือนกัน

เชอะ !!!!!

รู้สึกเบื่อกันมั้ยคับ แมร่ง งอลกันไปมาอยู่ได้ เหอๆ ผมเองยังเบื่อเลย


* * * * * * * * * * * *

วันต่อมาก็ดีขึ้นมาหน่อยคับ โอ้ตมันก็ทำตัวตามปกติ แบบเหมือนมันพยายามจะไม่พูดถึงเรื่องผม
เป็นลีด หรือประเด็นอะไรก็แล้วแต่เกี่ยวกะเรื่องนี้ แต่พอมีคนพูดถึงปั๊บ มันก็จะออกอาการหงุดหงิด
ทันที

“แค่เราจะเป็นลีดแค่เนี้ย ปัญญาอ่อนหว่ะ ” ผมบ่นให้ซังฟัง ขณะเรียนวิชาพุทธศาสนา ซึ่งเป็นอะไร
ที่สามารถคุยกันได้อย่างเพลิดเพลิน

“พี่โอ้ตก็คงห่วงปริ้นอ่ะแหละ ”

“ไม่รู้เด๊ะ แต่แมร่งช่วงนี้ชอบมายุ่งกะชีวิตเราอ่ะ เซง” ผมพูดพลางโยกเก้าอี้ไปมา

ซังมันก็มองหน้าผม

“แล้วปริ้นชอบป่าวล่ะ ”

“เฮ้ย - - - ชะ ชอบอะไร ” ผมเกือบล้มไปพร้อมเก้าอี้ ม่ะชอบบบบบบเฟ้ย

“อืมมม ซังว่า ปริ้นเป็นก็ดีอ่ะ เกิดแน่ๆ หึหึ” ซังมันบอก

“แล้วซังไม่อยากเป็นบ้างเหรอ” ผมก็เกิดไอเดียอยากชวนเพื่อนไปตาย มันก็สั่นหน้าทันที

“ไม่อ่ะ ไม่แนว .. ”

“เมิงจะแนวเหี้ยราย ไม่เป็นเพื่อนกูเร้ย”

เย็นวันเดียวกัน ไอ้พี่ท็อปก็เรียกคนที่สมัครไว้มาประชุมคับ เหอๆ ทำไมมันฟิตจังวะ (ตูดก็ฟิต) ไปถึง
ก็เห็นพวกพี่ๆ แล้วก็คนที่อยู่ ม.5 เหมือนกับผมอีกรวมเป็น 6 คนอ่ะ (จริงๆต้องมี 7 คน)

“มีแค่เนี้ย !! ” ผมร้อง

“อีกคนก็หาอยู่ แต่คิดว่าน้องเค้าน่าจะตกลงนะ” พี่ผู้หญิงที่ผมมารู้จักทีหลังว่าชื่อ ต่าย บอก

พี่ท็อปมานก็แนะนำสต๊าฟของลีดคับ ว่ามีใครบ้าง ส่วนใหญ่ก็มีแต่ผู้หญิงล่ะ ส่วนลีดไม่ต้องพูดถึงครับ
มีแต่ผู้หญิงทั้งนั้นเลยตอนนี้ มีผมเป็นตัวผู้คนเดียวนั่งโด่อยู่

“พี่ๆ พี่ชื่อไรนะ” ผมถาม

“ชื่อต่ายคะ”

“อืม พี่ต่ายแล้วใครเป็นคนสอนท่าอ่ะ ผมเต้นไม่เป็นนะ ม้วนตัวก็ไม่ได้ ตีลังกายิ่งไม่ดีเลยพี่”
ผมพยายามโปรโมตสรรพคุณตัวเองสุดริด

“น้องไม่ต้องห่วง เพราะว่าเดี๋ยวจะมีพี่ที่เป็นรุ่นพี่เรามาสอน” พี่ต่ายว่า ซึ่งพี่ที่มาสอนก็เป็นแบบว่า
พี่กาเทยอ่ะคับ แต่มีประสบการณ์สูง แล้วก็เรียนที่ ราชภัฏในเพชรฯนั่นล่ะ สีอื่นๆเค้าก็แนวเดียวกัน
ครับ เอารุ่นพี่จากที่อื่นมาสอนทั้งนั้น ตรงนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าความเก๋าของใครจะมีมากกว่ากัน

แต่ว่าวันนี้พี่ที่สอนเค้ายังไม่มาหรอกครับ พี่ท็อปแค่เรียกว่าคุยก่อนว่าต้องทำอะไรกันบ้าง แล้ว
พี่ท็อปก็ให้พี่ต่ายคอยดูแลผมอ่ะ แบบว่าลีดสองคนจะมีสต๊าฟคอยดูแล เหมือนนักมวยม่ะนั่น = =’

“พี่ต่ายๆ แล้วอีกคนนึงเค้าจะเป็นมั้ยครับ” ผมถามเพื่อความแน่ใจว่าไม่ได้มีผมเป็นไข่แดงอยู่คนเดียว
ไม่งั้นกูไม่เป็นนะ

“มาซิ ก็ไอ้ - - เอ้ย พี่ท็อปเค้าไปบังคับ แกมขู่ขนาดนั้น” พี่ต่ายบอก แล้วก็แจกแผ่นเพลงเชียร์มา
ให้ผมอ่าน ซึ่งมันมีอยู่เป็นสิบๆเพลงเลยอ่ะที่ต้องจำให้ได้ เพลงบางเพลงมันก็เคยร้องบ้างแล้ว
แต่บางเพลงมันเอามาดัดแปลงใหม่นี่ดิ

“นี่ผมต้องร้องได้หมดทุกเพลงเลยเหรอ !! ” ผมโพล่งถามเสียงดัง

“ใช่แล้วน้อง ถ้าจำเพลงไม่ได้ก็เต้นไม่ได้นะซิ ”

- ง่า ……. ไม่น่าเลย ไม่น่าเลยตู น่าจะเชื่อไอ้โอ้ตนะนี่ - - - - - พอคิดได้แค่นั้น ก็รีบสะบัด
หัวไปมา

- ไม่ได้ๆๆๆๆ จาให้ไอ้โอ้ตมันมาดูถูกดูแคลนตูไม่ได้ เราต้องทำให้ด้ายยยย ต้องทำให้มานเห็น -

ผมก็เลยคว้าเอามานั่งท่องนั่งอ่าน คนอื่นๆก็คุยกันโขมงโฉงเฉง ซักพัก ก็ปล่อยให้แยกย้ายกัน
กลับบ้านครับ

“ปริ้นเอาไปอ่านที่บ้านดิ แล้วพอสัปดาห์หน้าเริ่มซ้อมแล้วต้องร้องได้ทุกเพลงนะเว้ย ” พี่ท็อปมัน
เดินมาขู่คับ

“โหย .. ”

“โหยอาไร ”

“ง่า - - -” ผมยังไม่ทันจะบ่นอาไร พี่ท็อปก็ชำเลืองไปเห็นเด็กที่มันจะต้องเต้นเป็นคนสุดท้าย
วิ่งกระหืดกระหอบมาพอดี

“เฮ้ย !!! โค้ก อยู่นี่ๆๆ” แมร่ง ตะโกนเบาๆก็ด้าย อยู่กันแค่นี้ (มาคิดทีหลังว่า ตะโกนแล้วมัน
จะเสียงเบาได้ไง เหอๆ แอบโง่คับ)

ผมก็หันไปมองไอ้คนมาสายคับ

เท่านั้นแหละ ทำให้เลือดเกย์ผมตื่นขึ้นมาเลย !! น่าร๊ากมากกกกกก 555

มันเป็นเด็ก ม.4 ครับ แต่ตัวเสือกสูงแบบ 180 เลย สูงกว่าผมตั้ง 5 – 6 เซนฯ (คนที่เรียน รร เดียวกัน
รุ่นผมมีไม่กี่คน คงพอนึกออก เหอๆ) ตัวไม่ขาวมาก ออกแทนๆครับ แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่า สายตา
มันคับ ตาแป๋วมากมาย เห็นแล้วจาละลาย ตอนที่ไอ้พี่ท็อปมันแนะนำให้น้องเค้ารู้จักกะผม มันก็จา
แบบสบตากันนิโหน่ยยยย

สายตามันเหมือนแบบมองทะลุทะลวงไปถึงไส้ติ่งได้เลยครับ แล้วมันเป็นคนที่ยิ้มค่อนข้างยากนะ
แต่พอมันยิ้มเนี่ย โอ่ เห็นสวรรค์รำไร จึ๊กๆๆๆ (เป็นรายของกูเนี่ย)

ร่ายความดีของมันมา 5 บรรทัด ให้เปลืองเนื้อที่เล่นๆ หุหุ สรุปก็คือมันน่ารักครับ แต่ไม่หล่อหรอก
ผมว่าคนน่ารักอ่ะ ดีกว่าคนหล่อเยอะครับ แต่ข้อเสียของมันคือ ค่อนข้างโง่มากๆ แบบว่า ตอน ม ต้นเนี่ย
กว่าจะผ่านก็ติด 0 กันหลายตัวทีเดียว

“ปริ้น นี่น้องโค้ก เป็นลีดคู่กับเรา” พี่ท็อปบอกผม แล้วก็บลาๆๆๆ แต่ผมไม่ได้สนใจฟังครับ เหอๆ
มองน้องเค้าอย่างเดียว แต่ก็แอบๆมองนะ

“ดีคับพี่ - - ปริ้น” มันพูดเสียงแบบแปล่งๆ

“ชื่อแปลกดีนะ”

อุ๊ก มาหาว่าชื่อกูแปลก เด๋วปั๊ด !

“อ่ะ น้องโค้กเนื้อเพลง อย่าลืมไปท่องมานะ” พี่ต่ายยื่นกระดาษส่งให้มัน มันก็รับ คับๆ แล้วมันก็
บอกว่าจะกลับไปเล่นบาสต่อ

“ปริ้น แล้วไงก็อย่าลืมทำการบ้านมาให้ดีๆอ่ะ เวลาเต้นจะได้ไม่เหนื่อยมาก” พี่ท็อปบอก แล้วก็ไล่ให้
ผมกลับบ้านได้แล้ว เพราะมันก็เย็นมากแล้วล่ะ

“ค๊าบพี่” ผมตอบด้วยเสียงที่บ่งบอกว่า อารมณ์ดี เหอๆ ไม่ต้องสงสัยนะว่าเรื่องอาไร ตอนนั้นผมลืม
ไปเลย ว่าเคยกังวลเรื่องความเป็นเกย์ของตัวเอง รู้แต่ว่าตอนนั้นไม่ได้คิดอาไรมากไปกว่า จะได้ร่วม
ทีมกะไอ้น้องโค้กแล้วรู้สึกตื่นเต้น รู้สึกดีอ่าไรเงี้ย

ผมก็เดินกลับกะลังจะออกจากประตู รร อยู่แล้วล่ะ ก็รู้สึกว่ามีมวลอากาศมาคุอยู่ด้านหลัง

อ่า โอ้ตครับ เดินตามมาในระยะไม่ใกล้ไม่ไกลมากนัก ….. ผมลืมไปเลยว่าต้องกลับพร้อมมัน
มัวแต่เดินใจลอยอยู่ หน้าตามันไม่ต้องพูดถึงคับ พักนี้ หน้ามันบูดได้ทุกวัน สงสัยมันคงเครียดเรื่องกีฬาสี

“อ้าว ขอโทดโอ้ต ลืมคอย แฮะๆ” ผมตอบเสียงเจือนๆ แต่หน้ายังยิ้มแย้มอยู่

“ทีหลังถึงบ้านแล้วค่อยนึกออกก็ได้” มันบอก แล้วก็เดินมาชนไหล่ผมแบบจงใจกระแทกสุดๆ

- อารายของมานเนี่ย …- ผมเกาหัวแกร๊กๆ


* * * * * * * * * * * *

ผมกลับถึงบ้านด้วยอาการมึนๆนิดหน่อย เพราะว่าตลอดทางเนี่ย โอ้ตมันก็บ่นเรื่องปัญหาโน่น ปัญหานี่
ตลอดทาง ทะเลาะกะคนโน้น ต้องเครียกะคนนี้ ดูมันเครียดกว่าแต่ก่อนเยอะเลย

ตกลงว่า เค้าจัดกีฬาสีขึ้นมา เพื่อให้เด็กมาสนุกสนาน เชื่อมความสามัคคี หรือว่า ทำให้เด็กต้องมาแข่งขัน
มาเครียด มาทะเลาะกันหว่า ?

พอกินข้าวที่บ้านยายเสร็จ ผมก็รีบกลับมากะว่าจะรีบท่องเนื้อเพลงให้จำได้โดยเร็ว (ทีการบ้านไม่ค่อยแตะ)
น้ำท่า เสื้อผ้านักเรียนก็ยังไม่ได้ถอด

“รีบนอนนะปริ้น พรุ่งนี้ต้องรีบไปแต่เช้า” โอ้ตมันตะโกนข้ามมาบอกผม

“เออออออ ผมก็รับคำไปงั้นแหละ ”

2 ชั่วโมงผ่านไป เกือบ 5 ทุ่มแล้ว ไฟห้องผมก็ยังเปิดสว่างไสวอยู่ ง่วงก็ง่วงครับ แต่ก็จำเนื้อยังไม่ค่อย
ได้เลยตู

ติ๊ดดๆๆๆๆๆๆๆ เสียงมือถือดังขึ้นมา

“ว่าไงโอ้ต เสียงออกงัวเงียๆ

“บอกให้รีบหลับไง ทำไมยังไม่นอนอีก” เสียงมันออกฉุนๆ เพราะว่ามันคงเห็นแสงไฟออกมาจาก
บ้านผมแหละ

“อือๆ เด๋วจะนอนแระเนี่ย อีกแป๊บนึง”

“รีบๆนอนนะ” มันบอกแล้วก็วางหู โหย คุณจานอนก็นอนดิคับคุณพี่โอ้ต

ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมงครับ ไม่ไหวแระว้อยยย พรุ่งนี้ค่อยต่อแระกัน ผมคิดแล้วก็เอากระดาษมา
ปิดหน้าปิดตา แบบพักสายตาก่อน

“ดีคับพี่ - - ปริ้น”

“ชื่อแปลกดีนะ”

อยู่ๆผมก็คิดถึงหน้าน้องโค้กขึ้นมาครับ พร้อมกับเสียงที่มันคุยกับผมแค่ไม่กี่ประโยค

“ฮืออออ” ผมครางขึ้นมานิดหน่อย ความรู้สึกว่า เจี้ยวผมมันเริ่มแข็งตัวขึ้นมาได้ไงก็ไม่รู้
(ใช้คำว่าเจี้ยวนี่เด็กไปป่าวฟร่ะ 555 )

“พี่ปริ้นครับ” ผมเริ่มจินตนาการไปไหนต่อไหนเลยเถิด

“พี่ปริ้นน่ารักจัง” โค้กในจินตนาการบอกพร้อมกับดึงใบหน้าแล้วก็เอาปากนุ่มๆ
มาประกบกับปากผม ผมไม่รู้หรอกว่าเค้าดูดปาก กระชากลิ้นกันยังไง แต่เท่าที่ดูในหนังโป๊
มันก็พอจะนึกออกล่ะนะ

โค้กกับผมยังคงประกบปากกันอย่างเร่าร้อน ผมรู้สึกได้ว่าลิ้นของเจ้าโค้กมันพยายามเข้ามา
ชอนไชในปากของผม จนแทบหายใจไม่ออก

“โค้ก …” ผมครางขึ้นมาเบาๆ แล้วกับเลื่อนมือไปกุมที่เจ้าน้องชายที่แข็งปั๋งอยู่ภายในกางเกง
สีกากี แล้วก็รูดขึ้น รูดลงเบาๆ

ไอ้โค้กในจินตนาการมันทำเอาตัวผมล่องลอยแล้วก็เตลิดไปถึงไหนต่อไหน ทั้งๆที่ผมเวลาว่าว
เนี่ย ก็ไม่เคยจินตนาการว่ามีกับผู้ชายเลย

“….. เสียวมั้ยคับพี่ปริ้น” โค้กถอนปากออกมา แล้วก็เอาสายตาหวานมาจ้องมอง
สายตาที่ยากที่จะลืมเลือน มันน่ามองมากๆๆ

“โค้ก พี่เสียวคับ …” ผมครางกับตัวเองอีกรอบ แล้วก็ค่อยๆ ปลดเข็มขัดนร ออก แล้วก็รูดซิบ
ลงมา เพื่อปลดปล่อยพันธนาการ มืออีกข้างผมก็ปลดกระดุมเสื้อตัวเองออก แล้วก็ล้วงไปสัมผัส
กับหัวนมที่ตอนนี้มันแข็งเป็นไตแล้ว

“นมพี่น่าดูดจังคับ” เจ้าโค้กมันก็เลื่อนหน้าลงไปไซร้ที่ซอกคอผมนึงทีเป็นการกระตุ้น
ต่อมหงี่ให้บังเกิด แล้วก็บรรจงครอบปากที่หน้าอกผม แล้วก็ดูดเบาๆ ความเสียวซ่านแม้ใน
จินตนาการก็เหอะ ทำให้เท้าผมถึงกับต้องเกร็ง

มือด้านที่ทำหน้าที่รูดซิบออกเรียบร้อย ก็พยายามที่จะปลดปราการด่านสุดท้ายเพื่อให้หนอน
ชาเขียวของผมที่บัดนี้กลายร่างเป็นปลาช่อนตัวเขื่องให้ออกมาสูดอากาศข้างนอกซะที

“อ่า … โค๊ก เสียวจังคับ” ผมยังคงเพ้อกะตัวเองไปเรื่อย ราวกับมีน้องโค้กตัวเป็นๆมานอนดูด
ไซร้ให้งั้นแหละ

ผมเหวี่ยงขาตัวเองเพื่อให้กางเกงมันหลุดออก แล้วก็นอนเปลือยท่อนล่างล่อนจ้อน มือด้านนึง
ก็ลูบไล้หน้าอกตัวเอง อีกด้านก็กำไอ้ช่อนตัวเขื่องไว้แน่น แล้วก็ค่อยๆสาวเป็นจังหว่ะ

“ฮืออ อ่า ….”

โค้กมันดูดจนพอใจ ผมก็ดึงตัวมันขึ้นมาแล้วก็เอาปากไปประกบกับปากของน้องโค้กอีกรอบ
แล้วก็ฉกลิ้นเข้าไปจนโค้กมันผงะเหมือนกันเมื่อเจอผมรุกไปขนาดนี้ แต่ท้ายสุดก็เต็มใจ
แลกลิ้นกับผม อย่างดูดดื่ม เสียงดูดปาก ดัง จ้ววบจ๊าบ แมร่ง ยิ่งเพิ่มความอารมณ์กำหนัด
ให้กับตัวเองมากมาย ลิ้นน้องโค้ก นุ่มมากกกก (จิ้นเอาเอง)

“ ซี้ดดด พี่ครับ ดูดเบา ๆ ”

“โค้ก ดูดให้พี่หน่อยดิ” ผมว่า พลางเลื่อนหน้าน้องโค้กลงไปที่แท่งทวน

“ผม .. ไม่เคย” มันว่าแบบนั้น แต่ก็ค่อยๆครอบปากลงไปแบบนุ่มนวล

“ซี้ดดดด โค๊ก …” ผมแอ่นตัวไปแบบลืมตัวคับ เสียงสาวว่าวดัง แชะๆๆเลย (ม่ะใช่เสียง
ไฟแช็คนะเมิง) เสียงเตียงลั่นเอี้ยดอ๊าด ใกล้แล้ว ผมรู้สึกได้แบบนั้น พร้อมๆกับหน้าน้องโค้ก
ที่ปากก็ยังอมเคผมอยู่ เงยหน้ามามองประสานกัน

มือขวาก็จับเคผมเอาไว้แถมยังรูดซะเสียจนสุดโคน ปากก็รูดหัวเคผม ขึ้นลง แบบโม้ค เลย

“อ่า พี่โคตรเสียวเลยคับ โค้ก อ่า … ม่ะ ม่ายไหวแล้ว เพ่จะ จะ ……” ผมรู้สึกว่า
อีกไม่กี่วินาที มันจะระเบิดออกมาแล้ว

แกร็ก แกร็กกกก

“เฮ้ย บอกว่าให้นอนได้แล้ว ทำอะไรอยู่ - - -” ไอ้โอ้ตมันเสือกเปิดประตูเข้ามาคับ
ปกติมานจะเคาะประตูก่อนนี่หว่า !!

แค่ผมได้ยินเสียงมัน ไม่ต้องเห็นหน้าหรอก เพราะว่าตอนทำ ผมเอากระดาษเนื้อเพลงปิดหน้า
ไว้อยู่ไง ก็แบบกระเด้งตัวขึ้นมาเลยอ่ะ แต่ก็หาไรปิดส่วนล่างไม่ได้คับ เพราะว่า ผมดีดกางเกง
ไปทิศไหนแล้วม่ะรู้ มีแต่เสื้อ นร อ่ะที่ใส่อยู่ แต่มันก็ไม่ยาวพอที่จะปิดอะไรๆได้หรอก

หน้าไอ้โอ้ตมันอึ้งอ่ะคับ ผมก็อึ้งอ่ะ อายโคตรรรรพ่อ อยากเอาหน้าไปซุกหว่างขาไอ้โค้ก
เฮ้ย ซุกแผ่นดินหนีหมดกาน โอ้ตมันเห็นผมกะลังชักว่าวแบบว่า …. แบบว่าเต็มๆตาคับ
ตอนเด้งตัวขึ้นมา มือยังจับเคตัวเองอยู่เลย แฮะๆ แต่พอรู้ตัวอีกที ก็รีบปล่อยคับ ควานไป
หยิบกกนมาปิด (ซึ่งก็แน่นอน ปิดม่ายมิด แต่กูขอปิดไว้ก่อน)

“ทะ ทำไม... ยังไม่นอนอีก” มันพูดไป แต่หน้ามันแดงมาก โถ่ว้อย ยังมาถามกูอีก เห็นขนาดนี้

“ทำไมเปิดประตูห้องคนอื่นแล้วม่ะเคาะประตูก่อนว้า” ผมพูดขึ้นมา แล้วก็ลุกขึ้นไปเพื่อหนี
เข้าห้องน้ำคับ ไม่รู้ว่าร้อนเพราะว่าโกรธ หรือเพราะว่าอายชิบหายกันแน่

ผมกะว่า วิ่งร้อยเมตรภายในสองวินาทีถึงห้องน้ำ แต่ไอ้โอ้ตมันดันเอามือมาคว้าตัวผมไว้ได้ก่อน

“เฮ้ย โอ้ต อายว้อยยย ไม่เล่น จาไปเข้าห้องน้ำ” ผมอับอายแบบบอกไม่ถูก ยังจะมาแกล้งไรกูอีกว้า

“… ก็ ปริ้นยังไม่เสร็จไม่ใช่เหรอ ….. ก็ทำต่อให้เสร็จซิ” โอ้ตมันเข้ามากระซิบที่ข้างหูผม
ทำเอาตัวผมเลิกดิ้นเลย ตกใจนะว้อย ไม่ใช่เงี่ยน

“พะ พูดบ้า บ้ - - - ”ไม่ทันพูดจบ ไอ้โอ้ตมันก็เอามือเอื้อมไปดับไฟตรงผนังห้องคับ

“เฮ้ย ….. !!!! ”


-------------------------------TBC---------------------------------

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [7-4-12]
«ตอบ #45 เมื่อ07-04-2012 22:26:44 »

ปริ๊น ขนาดนี้คุณชายยังไม่คิดว่าตัวเองเป็นเกย์อีกเหรอคู้นนนนนนนนนน
โอ้ตขี้งอน ขี้ประชดมากๆแต่ก็น่ารักดี น้องโค้กก็ดูน่ารัก

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [7-4-12]
«ตอบ #46 เมื่อ08-04-2012 17:44:25 »

แว๊กกกก เสดโอ๊ตแล้วววว 55555

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [7-4-12]
«ตอบ #47 เมื่อ08-04-2012 19:03:05 »

คุ้นมากกกกก ขออ่านอีกรอบจ้า

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [7-4-12]
«ตอบ #48 เมื่อ08-04-2012 19:22:25 »

ขอกรี๊ดดดดดดดดหน่อย
ได้อ่านอีกแล้วเรื่องนี้
น่ารักมากมาก :L1:


ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [7-4-12]
«ตอบ #49 เมื่อ08-04-2012 19:43:23 »

โอ้ววว เสร็จแน่งานนี้ คึคึ
ตามต่อค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [7-4-12]
« ตอบ #49 เมื่อ: 08-04-2012 19:43:23 »





ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [9-4-12]
«ตอบ #50 เมื่อ09-04-2012 15:04:05 »

แสงไฟดับลงพร้อมกับไอ้โอ้ตมันดึงตัวผมให้เข้าไปประชิดตัวมัน รู้สึกว่ามือมันเย็นเจี้ยบเลยคับ แต่พอด้านหลังไปแน่บกับตัวมันเนี่ย ร้อนผ่าวเลย

“อะ โอ้ต ระ ระ ระ เรา เป็นพี่น้องกันนะ !!!! ” ผมก็พูดแต่ร่างกายมันยังยืนแข็งทื่ออยู่แบบนั้นล่ะ ตกใจก็ตกใจ ที่โอ้ตมันก็รู้สึกแบบนี้กับเราเหรอวะ …..

ผมไม่รู้เลยว่าโอ้ตมันทำหน้ายังไง เพราะว่ามันยืนกอดอยู่ด้านหลัง พอผมพูดไปมันก็เงียบ แต่แทนที่มันจะคลายวงแขน ดันกลับกอดกระชับแน่นเข้าหาตัวอีก แล้วผมก็รู้สึกว่า โอ้ตมันเอาหน้ามาแตะที่หลังคอ แล้วก็ค่อยๆใช้จมูกเลื่อนไล้ไปที่ซอกคอ

“แต่โอ้ต ไม่ได้อยากเป็นแค่พี่ของปริ้นนะ …” โอ้ตกระซิบที่ข้างหู แล้วก็เลื่อนปากมาขบเบาๆ จ๊ากกกก จุดอ่อนกูเลย เสียงหายใจผมขาดๆหายๆ ติดๆขัดๆยังไงบอกไม่ถูก มันไม่เหมือนตอนที่ผมโดนไอ้คิวปล้ำแบบคืนนั้น มันไม่มีความรู้สึกอยากขัดขืนเลยแม้แต่น้อย ไอ้ตอปิโดของผมด้านล่างมันก็เริ่มคึกขึ้นมาอีกรอบด้วยดิเนี่ย เวน

“โอ้ต .. มันเสียว” ผมไม่ได้ตอแหลครางออกมานะ แต่มันก็เหมือนเป็นสัญญาณให้โอ้ตมันเข้ารุกมากขึ้น แล้วก็ต้องตกใจคับ เพราะผมรู้สึกถึงอะไรบางอย่างมันดันสะโพกผม ความแข็งอ่ะมันมีอยู่แล้ว แต่ความใหญ่นี่ดิ แม้ว่ามันจะอยู่ภายใต้กางเกงก็เหอะ แมร่ง ไม่ธรรมดาโว้ยยย

“ตกลงว่า … ให้โอ้ตช่วยนะ ” มันพูดเสร็จก็เลื่อนมาหอมแก้มผมทีนึง อะโห่ เป็นครั้งแรกครับที่โดนคนหอมแล้วมันจิตฟุ้งซ่านได้ขนาดนี้ เขิลลลลลหว่ะ ถ้าสว่างอยู่กูคงแดงเป็นลูกตำลึงไปแล้วอ่ะ แล้วผมก็รู้สึกว่ามือไอ้โอ้ตมันเลื่อนลงมาจับมือที่ปิดป้องของสงวนออก ผมขัดขืนนิดหน่อยตามสัญชาติญาณคับ เพราะว่าเกิดมาไม่เคยมีใครมาชักว่าวให้นี่หว่า

หมับ …

แค่มันจับก็เสียวแล้วอ่า รู้สึกได้ว่าท่อนลำของผมเนี่ยมันแข็งสู้มือไอ้โอ้ตจังวะ

“จะ .. ทำจริงเหรอ” ผมถามเสียงกระเส่า ตอนนี้โอ้ตมันค่อยๆรูดมือไปช้าๆเนิบๆแล้ว มือนุ่มมากกกก

“ปริ้นไม่อยากให้ทำ โอ้ตก็จะไม่ทำ” มันพูดอยู่ตรงซอกคอผม พร้อมกับเอามือมาบี้ตัวหัวเคอ่ะ แม่มมมมม ผมร้องอ่ะ เบาๆ

“ถ้าไม่ตอบ .. งั้น” มันพูดแบบสงวนท่าที แล้วก็ดันตัวผมไปที่เตียง โอ้ตค่อยๆเอามือลูบไล้ไปบนใบหน้าผมเบาๆ จากนั้นก้มลงดอมดมข้างแก้ม ริมฝีปากบางๆของโอ้ต ทำให้ตัวผมสั่นมากมาย อยากก็อยาก แต่กลัวก็กลัว ตอนนั้นผมไม่รู้เหตุผลว่าทำไมต้องกลัวด้วย … คงกลัวที่จะยอมรับตัวเองอย่างที่ไอ้ซังมันบอกไว้มั้ง

โอ้ตมันดันให้ผมนอนลง แล้วก็แกะกระดุมเสื้อที่เหลือของผมออก

“ไหนว่าแค่ชัก - - -” ผมเงยหน้าขึ้นมาจะบอก

“เฉยเหอะน่า” เสียงไอ้โอ้ตพูดหื่นๆครับ แล้วมันก็ก้มลงสูดดมหัวนมเบาๆใช้ปลายลิ้นเลีบสะกิดเล่น จนมันตั้งชูชันเป็นไตแข็งขึ้นมา

“อ่ะ” ผมสะดุ้งสุดตัว พร้อมกับจับหัวผลักออกไป แต่มันก็ขืนไว้ อะ เสียวววว โอ้ต พอก่อน ผมร้องออกมา แล้วก็เริ่มดิ้นพล่าน ไอ้โอ้ตก็แกล้งผมซะไม่ยอมหยุดเลีย ซ้ำยังเอาลิ้นดันแล้วก็มีขบเบาๆด้วย ไอ้เหี้ยยยยยย …

ตอนนี้ผมเริ่มจะชินกับความมืดแล้ว ทำให้มองเห็นอะไรต่ออะไรได้ชัดเจนขึ้น โอ้ตมันเหมือนรู้ว่าผมมองมันอยู่ มันก็หยุดกิจกาม แล้วก็เงยหน้ามามอง ผมเห็นมันยิ้มทำให้ต้องหลบสายตา มันจัดการถอดเสื้อตัวเอง แล้วก็เลื่อนตัวขึ้นมาทับตัวผม

“อ๋อยยย โอ้ต หนักวะ” ผมบ่น ตัวโอ้ตกับตัวผมตอนนี้ไม่มีเสื้อมาปิดกั้น ทำให้เข้าใจคำว่า หนาวเนื้อห่มเนื้อเลยคับ ตัวอุ่นๆ ของมันสัมผัสแนบชิดอยู่บนตัวผม สายตามันประสานกันเข้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“ปริ้นนี่คุณหนูเนอะ …. ตัวนิ่มจัง” มันพูดแล้วก็ก้มมาหอมแก้มผมนึงที จาหลบก็หลบไม่ได้คับ ได้แต่หลบสายตา เหอๆ

“โกรธป่าว ที่ทำแบบนี้” มันถาม เสียงเปลี่ยนเป็นความกังวล

ผมไม่ตอบครับ ไม่รู้จะพูดอะไร บอกถึงอารมณ์ไม่ถูกครับ แต่ไม่โกรธแน่ๆอ่ะ (จะโกรธถ้าเมิงเลิก 55)

มันเห็นว่าผมไม่ตอบ ก็เลยเลื่อนหน้าใกล้เข้ามา

“จะทำอะไรง่ะ” ผมถามเสียงตื่นๆ

“ตอบดิ ไม่งั้นปากเสียความบริสุทธิ์นะ” ปากมันเข้ามาใกล้มากพูดที ผมได้กลิ่นยาสีฟันคอตเกตไวเทนนิ่งเลย แต่มันหารู้ไม่ว่า จูบแรกผมตกไปให้กะไอ้คิวแล้ว เหอๆ

“ตกลงว่าโกรธ เหรอไม่โกรธล่ะ” มันถามกวนผม แหม มาขนาดนี้แล้ว ถ้าโกรธก็ต่อยฟร่ำไปแระ

“คงไม่อ่ะ” ผมพูด พลางใช้มือขวายันหน้ามันไม่ให้ใกล้กว่านี้คับ ยังตื่นเต้นอยู่

“ทำไมต้องมีคง .. ” มันถาม แล้วก็จับมือผมออกจากหน้ามัน เลื่อนหน้าเข้ามาแทบประชิด

“โกรธป่าว …” มันถามแค่นั้น ผมก็ตอบอะไรไม่ออกแล้วคับ เพราะสิ้นเสียง ก็โดนประกบปากซะ มือมันก็ล้วงลงไปจนถึงส่วนล่างของผม แท่งเนื้อซึ่งมันก็ได้ขยายตัวเกือบเต็มที่แล้ว แล้วโอ้ตก็ค่อย ๆ จับแท่งเนื้อ รูดขึ้น รูดลงอย่างช้า ๆ แล้วก็เร็วขึ้น เร็วขึ้นเรื่อยๆ จนผมครางในปากไอ้โอ้ต

“ชักเอง กับคนอื่นชักให้เสียวต่างกันป่าว” มันถอนปากขึ้นมาแซว ตาเยิ้มเชียว

“อือ …” ผมยิ้มตอบ แปลกแฮะ ผมรู้สึกอยากจะ ………

“เอ้ยย !! ” เสียงโอ้ตมันร้องแปลกใจ เมื่อผมใช้แรงดันพลิกตัวในจังหว่ะที่มันมัวรูดน้องผมเพลินอยู่ ตอนนี้ผมกลายเป็นฝ่ายอยู่ด้านบนมันมั่ง อะไรซักอย่างในตัวผมมันพลุ่งพล่าน อยากจะจัดการโอ้ตมันเต็มแก่ ผมก็เริ่มขึ้นไปนั่งคร่อมบบหน้าท้องมันแล้วเริ่มไซร้หู ลงมา ซอกคอมัน

“ซี้ดดดด …” โอ้ตมันครางเบาๆ ทำให้ผมได้ใจมากขึ้น (ว่าอย่างน้อยกูก็พอเป็นมั่งวะ) ผมเริ่มเลื่อนมาถึงหน้าอกคับ ผมลองเอามือมาสัมผัสที่นมโอ้ตก่อน มันแข็งเป็นไตเลยอ่ะ ผมก็ไม่รีรอก้มลงไปดูดเลีย เหมือนจะเอามันคืนคับ ได้ผล ไอ้โอ้ตมันเริ่มดิ้นแล้วก็บิดตัวไปมาคับ เพราะว่าผมกัดด้วยอ่ะ 555 ซาดิสซะงั้นกู

“โอ้ยย กัดเหรอปริ้น” เสียงโอ้ตมันบอก แต่มันก็ไม่ได้ผลักไสอะไร สงสัยชอบด้วยม๊าง เพราะว่ามันเอามือมาลูบหัวผมไปมาเหมือนจะเพลิน ซักพักเริ่มเมื่อยแล้วคับ ด้วยประสามือใหม่หัดกาม ก็เลยลุกขึ้นมา ตอนนี้ท่าผมก็แบบว่านั่งอยู่บนตัวมันอ่ะ ปาดเหงื่อ

“ปริ้นจะนั่งเทียนให้โอ้ตเหรอ” มันถามหน้าทะเล้น พร้อมกับเด้าเอวขึ้นลงๆ แบบแกล้งๆ แต่ผมก็รู้คับว่ามันอยากจริงๆล่ะ เพราะว่าไอ้น้องของโอ้ตมันแข็งซะแทบทะลุกางเกงมาชนตูด

“ไอ้บ้าโอ้ต” ผมเขิล แล้วก็กำกำปั่นต่อยที่เจี้ยวมันเบาๆ มันร้องโอ้ยเลยคับ เหอๆ

“เจ็บ ………”

“ก็ทำให้เจ็บเด๊ะ จะได้เลิกแข็งข้อ”

“เดี้ยยยยะเหอะ” มันพูดแล้วก็ผุดลุกขึ้นมาทำให้ผมเสียหลักล้มลงไปอีกด้านของเตียงอ่ะ โอ้ตมานก็ไม่รีรอคับ ขึ้นมาประกบผมอีกจนได้ เอากะมันดิ

“แกล้งดีนัก เดี๋ยวจับทำ ………… พันระยาเลย” มันไม่กล้าพูดคำว่าเมียกะผมคับ เหอๆ แล้วผมก็ตกใจคับ เพราะว่าไอ้โอ้ตมันก็เลื่อนหน้าก้มลงไปด้านล่าง

“เฮ้ย โอ้ต ไม่ต้อง …” แต่ไม่ทันแล้วคับ ผมเปลือยอยู่หนิ

โอ้ตถอยตัวลงมานั่งที่ต้นขาแล้วก้มลงไปงับเคผมที่มันตั้งชัน รู้สึกถึงความอุ่นของปากและลิ้น ครอบลงบน เค แค่นี้ผมก็จะแตกซะให้ได้แล้วครับ

“เฮืออกกกกกก” ผมสะดุ้งสุดตัวคับ มือผมก็พยายามจับหัวไอ้โอ้ตไม่ให้ดูดอ่ะ แต่แรงมานเยอะกว่า แถมมันไม่ได้ใช้แค่ปากคับ มือมันก็มาคลึงไข่ผมไปด้วย หว่า โคตรเสียวอ่า

โอ้ตมันใช้ลิ้นเก่งมากคับ(ไม่รู้เคยทำกับใครรู้ป่าววะ) เลียบริเวณหัวเค ที่พ้นหนังหุ้มออกมาเพียงบางส่วนเท่านั้น เพราะของผมไม่ได้ขลิบ ก่อนที่จะใช้ปากค่อยๆครอบ ดันลงมาจนส่วนหวัเคผมเปิดหมด เจ็บแน่นๆ นิดหน่อย แต่เสียวมากกว่า แล้วเริ่มโยกหัวเบาๆ จนผมครางออกมาจนไม่รู้จะครางยังไงแล้วอ่ะ ได้แต่นอนบิดไปมา

“เสียวมั๊ย ” ตาจ้องหน้าผมแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ๆ ผมก็มองหน้าไอ้โอ้ต ถึงแม้ไม่เห็นถนัดก็เหอะ เหี้ย โคตะระเซ็กเลยคับ ปากโอ้ตมันก็จะมันๆ แบบว่าน้ำที่มันเยิ้มออกมาของผมมันก็เลอะที่หน้ามันหมดอ่ะ มันพูดเสร็จ มันก็ก้มลงไปต่อ

“โอ้วววววว …ซี๊ด..”

มันได้ยินผมร้อง มันก็ยิ่งทำแรงขึ้นคับ ได้ยินเสียงจ๊วบๆ เตียงสั่น กึ๊กๆๆๆเลย ผมเห็นเคตัวเองผลุบเข้าออกในปากโอ้ตแล้ว มันสุดจะทนทานคับ ซักพักดูท่ามันจะเมื่อย ก็เลยเปลี่ยนมาเลียที่เฉพาะส่วนหัวแทน มือมันก็กระทอกเร็วขึ้น

“อ่า โอ้ต สะ เสียว จะ จะ ไม่ไหวแล้วววววววว” ผมจับหัวมันจะให้ออกไป แต่มันก็ขืนไว้

“น้ำจะ ตะ แตกแล้วโอ้ต” ผมเสียวจัดลืมตัว จากมือที่ดันออก กลับจับหัวโอ้ตให้อยู่เฉยๆ แล้วก็เด้งเอวสวนแทน ไอ้โอ้ตมันเหวอเลยคับ เหมือนจะสำลัก แต่ผมม่ะสนแล้วอ่ะ เสียวววโว้ยยยยยย

แล้วผมก็เสียวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แปร๊บบบเลยคับ แล้วก็รู้สึกว่าน้ำมันพุ่งออกมาแรงมากอ่ะ แต่มันไม่ได้พุ่งลงพื้นคับ มันพุ่งลงคอไอ้โอ้ตแทน

ไอ้น้องผมมันกระตุกถี่ประมาณ แปดเก้าครั้งแล้วก็เริ่มจะสงบลง แต่โอ้ตมันก็ยังครอบปากไว้อยู่อะ แล้วก็เม้มที่หัวเป็นการปิดท้าย ก่อนจะถอนปากออกมา แต่มันก็เสือกแกล้งเอามือสาวว่าวผมไม่ยอมเลิก ใครที่น้ำแตกคงพอรู้นะคับว่า ถ้าแตกแล้วยังสาวอีกนะ มันจะโคตรเสียวกว่าตอนแตกอีก

ผมก็ดิ้นหนีอ่ะ เหี้ย พอแล้ววววววว ไม่ไหว โอ้ตมันก็หัวเราะคับ แล้วก็เลื่อนตัวขึ้นมานอนข้างๆ

“เสียวขนาดไหนฟร่ะ ไม่ยอมให้หายใจหายคอเลย” มันพูด กลิ่นน้ำว่าวผมมันติดมากะปากมันอ่ะคับ แต่ไม่เหม็นนะ ออกคาวๆนิดหน่อย555

“กินไปหมดเลยเหรอ” ผมถามแบบเป็นห่วง เพราะว่าตอนนั้นรู้สึกว่าน้ำว่าวมันโคตรคาวเลย แดร่กไปได้ไง ไม่บ้วนทิ้ง

“อือ ก็อร่อยดี” มันพูดแล้วก็ทำท่าเลียปาก

“แล้วโอ้ตอ่ะ” ผมถามแบบไม่อยากให้มันค้าง เผื่อจาช่วยไรมานได้บ้าง 55

“ปริ้นอยากช่วยโอ้ตเหรอ” มันถามยิ้มๆคับ เหอๆ

ผมก็ทำหน้าเขินๆ ไม่กล้าสบตามัน แต่ก็เลื่อนมือไปที่เป้ามันอ่ะคับ มันยังไม่ได้ถอดกางเกง แต่Kมานอ่ะเด่ออกมาเป็นลำคับ ผมลองจับๆคลำๆดู ว่ามันต่างจากกูมากแค่ไหนวะ

“โห เยิ้มเชียว” ผมพูด แล้วก็เริ่มเอามือรูดในกางเกง โอ้ตมันตัวเกร็งเลยคับ ผมก็พยายามแบบสุดๆอ่ะ เคยว่าวแล้วตัวเองเสียวไง ก็เอามาประเคนให้ไอ้โอ้ตสุดฝีมือ แต่ยังไม่กล้าใช้ปากอ่ะ มันไงม่ะรู้

“ถอดกางเกงดิ เด๋วเลอะ” ผมว่า มันก็ดันเอวขึ้น ให้ผมรูดกางเกงมันลง เท่านั้นแหละ มังกรยักษ์อนาคอนด้า ก็โผล่พลวดขึ้นมาตั้งตระหง่าน ผมก็ชักให้มานไป โอ้ตมานก็ครางฮือ อ่า เสียงเซ็กโคตร พี่กู

“จูบปากหน่อยดิ” โอ้ตพูดเสียงกระเส่า พร้อมกับเลื่อนมามาเกาะกุมที่มือผมเหมือนเป็นการเร่งเครื่อง ผมก็สนองคับ ผมชักชอบการจูบแล้วดิ มันส์ดี กั๊กๆ

“อืออออออ” เสียงโอ้ตมันครางในลำคอ เพราะว่าปากมันโดนผมประกบแล้ว ลิ้นเราเหมือนงูพันกันอ่ะคับ เสียงจูบจ๊วบๆ เสียงกระทอกเค ก็ดังเพราะว่าน้ำหล่อลื่นไอ้โอ้ตนี่ยอมรับว่า มันไหลออกมาเยอะเหลือเกิน ไอ้ขี้เงี่ยนเอ้ย

จนในที่สุด …. เหมือนโอ้ตมันจะเสียวจัด เอาปากออกแล้วก็มากัดที่คอผมแทน ประหนึ่งหาที่ยึดเหนี่ยว

“โอ้ยยย … ไอ้โอ้ตตต เจ็บ”

“อ่า …… ปริ้นนนน สะ เสียวววว” ตัวมันกระตุกถี่พอกับผม แล้วก็ค่อยสงบนิ่งลง ผลปรากฏว่า เตียงผมคับ เตียงโผมมมมม เลอะน้ำไอ้โอ้ตหมดเลย

“ขะขอโทด เด๋วโอ้ตไปซักให้” มันว่า พลางรีบลุกขึ้น

“ไม่เป็นไร ”ผมบอกแล้วก็รีบบอกให้โอ้ตแต่งตัว เพราะว่ามันดูเหมือนจะมานานแล้วอ่ะ เด๋วป้าเล็กสงสัย

“อือ แล้ว พรุ่งนี้เจอกัน …” มันบอกเสียงเพลียๆ

“เหอๆ จะตื่นไหวป่าวก็ไม่รู้” ผมแซวคับ เพราะว่าน้ำมันออกเยอะเจงๆ

“ตื่นดิ ไม่ตื่นเดี๋ยวโอ้ตจะมาปลุกเอง” มันพูดแล้วก็ทำหน้าเจ้าเล่ห์

“อาราย ”

“ปริ้น …” มันเรียกชื่อผม แล้วก็เดินเข้ามากอด

“ฮื้อออ” ผมขานแล้วก็เอาหน้าซุกไว้ที่หน้าอกมัน ตัวโอ้ตห้อมหอม ทำไมผมก็อยุ่ใกล้ชิดมันก็มากนะ แต่คืนนี้ มันหอมกว่าทุกวันคับ

“คบกับโอ้ตนะ” มันพูดพอที่ผมจะได้ยิน วงแขนมันกระหวัดรัดแน่นอยู่ที่กลางหลัง

ผมไม่พูดอะไร แต่ก็เอามือโอบกอดมันกลับ เอาหน้าซุกแน่นเข้ากับอกโอ้ต รู้สึกว่าเหมือนน้ำตามันจะไหล เสียงสะอื้นเบาๆ ทำให้โอ้ตเอามือมาลูบหัวผม

“ไม่ต้องดีใจขนาดนั้นหรอกน่า” เสียงไอ้โอ้ตแซวแทงใจดำคับ ไอ้หอก

“ไอ้บ้า ใครดีใจ ไม่มีอ่ะ” ผมรีบพูดแล้วก็กลั้นน้ำตาเอาไว้คับ แล้วก็ต่อยแขนมันทีนึง

“เจอกันตอนเช้านะคับ ที่รักของโอ้ต” มันพูดแล้วเลื่อนหน้ามาจูบหน้าผาก ก่อนปิดประตูเดินกลับบ้าน

มะ มันจะรู้มั้ย ว่าที่มันพูดเนี่ย ทำเอาผมนอนเกือบไม่หลับเลยนะวะคับ …. ไอ้ที่รักของปริ้น

“เมื่อคืนหลับสบายมั้ย” ไอ้โอ้ตเดินหน้าชื่นมื่นผิดปกติกว่าทุกวันเข้ามาทัก

“อะ อือ ก็ดี” ผมอ้อมแอ้มตอบ เหตุการณ์ม่ะคืนทำให้ผมรู้สึกโล่งใจที่ได้รู้จักตัวเองขึ้นมาขั้นนึง แต่ในเวลาเดียวกัน ก็รู้สึกกลัว

แล้วผมก็นึกถึงคำพูดของซังที่คุยกันวันก่อน

“สำคัญอยู่ที่ พอถึงเวลาเรารู้จักตัวเองแล้ว .. เราจะยอมรับตัวเองได้เหรอป่าว ……”

“เป็นอะไร มีอะไรไม่สบายใจเหรอ” โอ้ตถามผมด้วยความเป็นห่วงในระหว่างที่นั่งรถไป รร เพราะว่าผมเอาแต่คิดนั่นคิดนี่ คิดไม่ตก ไม่สบายใจอะไรก็ไม่รู้ คิดไปถึงว่า ถ้าโตขึ้นไปแล้วผมเป็นแบบนี้ รู้สึกชอบผู้ชายแบบนี้ อนาคตผมจะเป็นยังไงวะ (คิดแบบเด็กๆในตอนนั้นอะคับ)

“………..”

“ปริ้นไม่สบายใจเรื่องเมื่อคืนเหรอ” โอ้ตมันถามเสียงแผ่ว น้ำเสียงเต็มไปด้วยความกังวล

“โอ้ตขะ ขอโทษ โอ้ตนึกว่าปริ้ - - -” โอ้ตมันพูดยังไม่ทันจบ ผมก็ทำมือแบบให้มันหยุดพูดก่อน

ผมไม่ตอบอะไร ยิ่งโอ้ตมันคาดคั้นผมมากขึ้น มันก็ยิ่งทำให้ผมลำบากใจ ผมไม่อยากตอบอะไรทั้งนั้นอ่ะ

“ป่าว …ไม่มีอะไรหรอก” ผมพยายามจะตอบคำพูดที่ทำให้โอ้ตมันรู้สึกสบายใจกว่านี้นะ แต่มันพูดออกมาได้แค่นั้นเอง

โอ้ตมันก็แบบทำหน้าเหมือนจะร้องไห้คับ แล้วก็หันกลับไปนั่งตามปกติ

- โอ้ต มันไม่ใช่เพราะโอ้ตนะ - ผมอยากจะบอกคำๆนี้ให้มันได้ยินเหลือเกิน แต่ผมก็ได้เพียงคิดในใจเท่านั้น

บางที คนเราก็หาเหตุผลไม่ได้เหมือนกันครับ ทั้งๆที่ใจอยากทำอย่างนึง แต่ทำไมการกระทำถึงต้องลงไปอีกแบบนึงก็ไม่รู้


* * * * * * * * * * * *

พอมาถึง รร ผมค่อยดีขึ้นหน่อยครับ เพราะว่าได้เจอเพื่อนๆ ได้คุยเรื่องอื่น ได้เรียนโน่นนี่ ทำให้ไม่ต้องมานั่งคิดถึงเรื่องเมื่อคืนมากนัก ผมยังยอมรับที่จะคบกับโอ้ตแบบแฟนไม่ได้หรอก

เรามันเป็นแค่พี่น้องกัน … เรื่องม่ะคืนอ่ะ มันแค่อารมณ์ชั่ววูบ

ผมท่องไว้ในใจ

“พี่ท็อป หวัดดี” ผมหันไปเจอพี่ท็อปที่เอามือมาตบบ่า ทำเอาสะดุ้งเรย

“เย็นนี้เริ่มซ้อมแล้วนะ ไปเจอกันที่บ้านพี่ต่าย สี่โมงครึ่ง …”

“อ้าวพี่ แล้วทำไมไม่ซ้อมที่ รร ง่ะ” ผมขี้เกียจไปคับ ยิ่งมีเรื่องให้คิดอยู่แบบนี้อีก

“ซ้อมที่ รร ก็มีหวังโดนแอบซุ่มดูอ่ะดิ เด๋วมันลอก” พี่ท็อปว่า ถ้าไปไม่ถูก ก็มารอที่หน้าห้องพยาบาลล่ะกัน เดี๋ยวมีพี่เค้าพาไป

“ก็ได้คับ” ผมตอบเสียงอ่อยๆ แล้วก็เดินไปเรียนวิชาอื่นต่อ

ในระหว่างวิชาเรียน ซังมันก็มากระซิบผม

“ปริ้น เย็นนี้ว่างป่ะ”

“วันนี้พี่ท็อปนัดซ้อมลีดบ้านพี่ต่ายอ่ะ ไม่รู้เลิกกี่โมง” ผมตอบ

“งั้นคงเย็นแน่เลย …. ไม่เป็นไร” มันทำเสียงผิดหวังนิดๆ แล้วก็หันไปจดงานบนกระดานต่อ

“ทำไมเหรอ ? ”

“พอดีจะให้ไปช่วยเลือกซื้อของ”

“ของไร ? ”

ไอ้ซังมันก็ทำหน้าแปลกใจ “วันศุกร์วันเกิดพี่โอ้ตหนิ”

“เฮ้ย เจงอ่ะ” ไม่เห็นบอกกันเลย ผมกระซิบตอบ “เฮ้ยๆๆๆ วันศุกร์ งั้นก็พรุ่งนี้แล้วดิ” ผมว่า พลางนึกโกรธในใจ แมร่งม่ะบอกกูเลยนะ เด๋วก็มางอนกรุอีกว่าไม่รู้วันเกิด

“ปริ้นไม่รู้ …เหรอ” ซังทวนคำถาม

“เออดิ ไม่รู้” ผมย้ำเสียงเคืองๆ แล้วก็พึมพำอีกนิดหน่อยพอเป็นกระสัย เหอๆ

“เนี่ย ก็ว่าจะถามปริ้นว่า พี่โอ้ตเค้าชอบอะไร จะได้ซื้อให้ แบบว่าปีก่อนโน่นก็ซื้อ บลาๆๆๆๆๆๆๆ”

“แล้วจะรู้มั้ยล่ะว่าโอ้ตมันชอบอะไร” ผมตอบ

“อ่า ก็เห็นอยู่ด้วยกัน”

“ก็อยู่ด้วยกัน ก็………..” ผมตั้งท่าจะเถียง แต่เถียงไม่ออกครับ จริงดิ ผมรู้จักกับโอ้ต อยู่บ้านเดียวกับโอ้ต(แม้ว่าจะอยู่คนละหลังก็เหอะ) แต่ผมแทบจะไม่ค่อยรู้ว่ามันชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เลย เพราะทุกวัน โอ้ตมันจะมาทำโน่นทำนี่ให้ ผมรู้เพียงแต่ว่า ถ้าผมทำอะไรไม่ดี มันก็จะทำให้โอ้ตหงุดหงิด ก็เท่านั้นเอง

ผมรู้อะไรเกี่ยวกับโอ้ตบ้าง ……… ขนาดวันเกิดมันแท้ๆ ยังไม่รู้เลย

ซังมันเห็นผมคิดหนัก เลยเอามือมาเขย่าตัวอย่างแรง

“เป็นไร เฮ้ย ปริ้น ”

“ปะ เปล่าๆ เออ ซื้ออะไรก็ได้มั้ง เราว่าโอ้ตมันก็ดีใจหมดล่ะ ” ผมตอบตัดปัญหาไป ดูไอ้ซังมันก็ทำหน้ามุ่ยแบบว่า ไม่ได้ช่วยอาไรกูเลย ประมาณนั้น เหอๆ ก็กรุไม่รู้เจงๆนี่หว่า

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [9-4-12]
«ตอบ #51 เมื่อ09-04-2012 15:05:28 »

พอหมดคาบปั๊บ ผมก็กะว่าจะไปหาโอ้ตคับ เพราะนึกได้ว่าม่ะเช้าเนี่ย ผมทำกริยาบางอย่างให้โอ้ตมันเสียใจ … แต่จริงๆก็คือจาไปต่อว่ามันนี่แหละ ว่าทำไมวันเกิดแล้วไม่บอกมั่งเลย หุหุ (สรุปเมิงจาไปง้อ หรือว่าไปทะเลาะกะเค้ากันแน่วะ)

แต่ก็หาไม่เจอคับ ไอ้โอ้ตตามหาตัวยากมาก เพราะกิจกรรมมันเยอะ แล้วผมก็ไม่ได้มีตารางสอนห้องโอ้ตด้วย

- ไว้ตอนเย็นก็ได้วะ - ผมคิดในใจ แล้วก็รีบวิ่งไปเรียนคาบสุดท้าย เนื่องจากเลยเวลามาแยะ

พอตกเย็นปั๊บ ผมก็ว่าจะไปรอโอ้ตที่หน้าห้องปกครอง ก็ดันเจอพี่ท็อปที่หน้าห้องพยาบาล

“เฮ้ย ปริ้น ไปซ้อมลีดด้วยวันนี้” พี่ท็อปทัก

เออ ผมลืมไปเลยว่าต้องไปซ้อมลีด โอ้ยยยยย กรูจาบ้า

“คับพี่ เด๋วผมตามไปนะ”

“อ้าว แล้วรู้จักบ้านต่ายเหรอ” พี่ท็อปขมวดคิ้ว

“เออ …”

“งั้นเด๋วก็ไปพร้อมกันนี่ล่ะ จะได้ไม่ต้องหากันอีก ไอ้พี่ท็อปสั่ง” เอาแล้วดิ ผมก็นะ ตัวเองมีมือถือก็จริงอยู่ โอ้ตมันก็มีนะครับ แต่ว่ามันไม่ค่อยเอามาโรงเรียนอ่ะ มันให้เหตุผลว่า ถ้าประธานนร เอามาเป็นตัวอย่าง คนอื่นมันก็เอามาได้ดิ มันว่าแบบนี้ เด็กนร ส่วนมากมีแต่เพจอ่ะ เพราะว่ามันแอบเข้ามาได้ อีกอย่างคือ ช่วงนั้นมือถือมานแพงโคตร เพจจาได้รับฟามนิยมมากกว่า

“แล้วนี่รอใครอีกล่ะ” ผมพูดเสียงหงุดหงิด

“รอไอ้โค้กอยู่” พี่ท็อปบอก นั่นไง เห็นหัวมันแล้ว

พี่ท็อปมันก็รีบกวักมือเรียก แล้วก็บอกให้ผมถือกระเป๋าตามไป

“หวัดดีคับ พี่ท็อป พี่ปริ้น” โค้กเห็นเราสองคนก็ยกมือไหว้ หน้าใสมาเชีย น่ารักชิหายไม่เสื่อมคลาย

“เออ แล้วเอามอไซต์มาใช่ป่าว ขี่ตามมาล่ะกัน” พี่ท็อปว่า แล้วก็เดินนำไปที่รถมอไซต์พี่แก

“พี่ท็อป เด๋วผมไปปกครองบอกโอ้ - - - เอ้ย พี๋โอ้ตแป็บนะ ว่าจะกลับเอง” ผมพูดแล้วก็วิ่งไปอย่างเร็ว เพราะกลัวมันด่าอีก

ถึงหน้าปกครองปุ้บ ก็หามีไอ้โอ้ตไม่ มันไปไหนของมันวะ ผมก็ยกมือขึ้นดูนาฬิกา ปกติมันก็จะเสร็จกิจกรรมเวลาประมาณนี้นี่หว่า ผมก็หันรีหันขวาง พอดีไอ้คิวก็เดินมากะซัง

“ซังๆๆๆ” ผมรีบเรียกมัน

“เห็นโอ้ตป่ะ” ผมถาม พลางเหลือบไปเห็นหน้าไอ้คิวผิวปาก (ทำป๊ะเมิงเหรอ)

“ผิวปากเหี้ยไร” ผมตอบแบบไม่สบอารมณ์

“ป้าวววว” ไอ้คิวมันตอบเสียงกวนตรีนสาดดดดด

“ไม่เห็นอ่ะปริ้น ” ซังมันบอก

“เด๋วรอโอ้ตอยู่แป็บได้ป่ะ ฝากบอกด้วยว่าเราต้องไปซ้อมลีดอ่ะ เด๋วกลับเอง” ผมบอกซัง

“อ่อ ก็ได้ ถ้าเจอนะ ”

“ขอบใจๆ” ผมพูดเสร็จ พี่ท็อปก็เดินจูงรถผ่านมาถึงพอดี พร้อมกับน้องโค้ก

“หวัดดีคับพี่ท็อป …..” ซังทัก แล้วก็เหล่ไปมองไอ้โค้ก สายตากรุ้มกริ่ม

“ลีดสีเราเหรอครับ”

“ถูกแล้วน้องเอ๋ย” พี่ท็อปบอก แล้วก็หันไปคุยกะไอ้คิวเรื่องลงกีฬาคับ ไอ้คิวมันก็ดูไม่ค่อยอยากลงหรอก แต่แบบว่ามันคงเกรงใจพี่ท็อปด้วยหล่ะ เลยรับปากไปก่อน

“งั้นไปก่อนนะ” พี่ท็อปบอกลา

“ฝากด้วยนะซัง หวัดดี” ผมไม่ลืมเตือนซัง

“ไปแล้วนะไอ้สัด” แล้วผมก็ไม่ลืมที่จะด่าไอ้คิวอีกเช่นกัน


* * * * * * * * * * * *

“เด๋วพี่ แล้วจะซ้อน 3 กันไปเหรอ” ผมถามเมื่อเห็นโค้กมันให้เพื่อนอีกคนขี่รถออกไปแล้ว

“ครือ เพื่อนผมเค้าขอยืมรถไปซื้อของทำรายงานอ่ะคับ” โค้กมันรีบอธิบาย “พี่ท็อปก็บอกว่าเด๋วไปกัน 3 คนก็ได้ ก็เลย - - -”

“เออๆๆ ไม่ต้องสาธยายอยู่หรอก” พี่ท็อปพูดแบบขอไปที แล้วก็ขึ้นไปขี่

“เอ้า ไอ้ปริ้นขึ้นมาดิ ”

“พี่ มันผิดกฎหมายนา ซ้อน 3 อ่ะ” ผมรีบเตือน แต่ก็ต้องรีบขึ้นตามไป

“แค่นี้ตำรวจไม่อะไรมากหรอกพี่ปริ้น” เสียงไอ้โค้กดังอยู่ข้างหลังผม หลังจากซ้อนเรียบร้อย พี่ท็อปก็เบิ้ลเครื่องเลยอ่ะ กรูยังไม่ทันตั้งตัว เตรียมใจเลยนะวะคับ

ใครจาว่าไงก็เหอะ แต่แมร่งพี่ท็อปมันขี่เฟี้ยวฟ้าวมากมาย ขนาดนั่งมา 3 นะครับ แต่ดูเหมือนไอ้โค้กมันไม่กลัวเท่าไร มีแต่ผมนี่แหละ ขนาดนั่งกลางนะ แทบขาสั่น กลัวตกง่ะครับ นั่งไปได้ซักพัก พี่ท็อปมันก็ขี่มาเส้นทางที่เลียบคลองชลฯ ซึ่งรถใหญ่น้อยมากครับ ก็ยิ่งเร่งเครื่องเข้าไปใหญ่ คราวนี้โค้กมันก็เลื่อนตัวมาชิดกับผมอีก แล้วก็เอามือพาดมาเกาะเอว

ชิหาย ….. ใจผมเต้นโครมครามเลยครับ เพราะหน้าอกไอ้โค้กมันมาแนบติดกับแผ่นหลังของผม จนรู้สึกได้ถึงเสียงเต้นของหัวใจมันเลย

“พี่ปริ้น เกาะดีๆนะ เด๋วผมร่วง” มันพูดใกล้ๆหูผมเพราะว่าเสียงลมตีแรงมาก

“เออๆ” ผมตอบ แล้วก็คิดว่า ผมหน้าแดงหว่ะ 555

ซักประมาณ 10 นาที ก็ถึงบ้านพี่ต่ายครับ เห็นแล้วก็ทำให้รู้ว่าทำไมถึงเลือกที่นี่ เพราะว่าบ้านพี่แกมีลานเป็นสนามหญ้ากว้างเลยอ่ะ เวลาม้วนตัว หรือว่าตกลงมา มันจะได้ช่วยเซฟ (แต่หัวลงก็คงเซฟไม่ได้น้อ) คนอื่นๆก็มากันครบแล้ว สรุปก็คือ มีลีด 7 คนครับ มีผมกะไอ้โค้กเป็นผู้ชาย อยู่ 2 คน นอกนั้นก็ หญิงหมด ….. แปลกดีหว่ะ

ส่วนพี่ที่มาซ้อมให้ก็เป็นพี่ที่รู้จักกันครับ เรียนมหาลัยแล้วล่ะ เริ่มแรก ก็สอนแบบท่าตีวงก่อน ประมาณ 500 ทีครับ โหยยยยยย แต่จริงๆคือมากกว่านั้น เพราะว่า ต้องทำให้พร้อมกัน ได้มุมที่เหมือนกัน จะอยู่คนล่ะระนาบไม่ได้

วันแรกก็แบบว่า โคตรเหนื่อยเลยครับ ขนาดแค่ตีวงนะเนี่ย …… แล้วพี่แกก็ให้กลับไปซ้อมแบบนี้นะแหละ เป็นแค่พื้นฐาน พร้อมกับสอนเพลง 1 เพลงครับ เป็นยางไงเหรอครับ ไอ้ปริ้นก็มั่วแหลกดิครับ เหอๆ ห่วยสุดในบรรดา 6 คน

ซ้อมกันจนเพลิน จนเวลาผ่านไปเกือบ ทุ่มแล้ว

“พี่ซายคับ (คนสอนลีด) คือผมต้องรีบกลับไปเฝ้าร้านอ่ะครับ” เสียงโค้กมันพูดขึ้นมา เพราะเห็นว่าพี่แกยังบ้าพลังให้ซ้อมอยู่ซะงั้น

“เอ้าเหรอ ….” พี่แกพูดแบบตกใจ “ต๊าย จะทุ่มนึงแล้ว ยังไม่ได้ถึงไหนเลย”

เค้าก็หันไปทางพี่ท็อปขอความเห็น ผมก็หันไปมองบ้าง เพราะว่า กรูอยากกลับบ้านแย้ววว

“งั้นเดี๋ยวโค้กไปก่อนก็ได้ แล้วไงก็อย่าลืมท่าที่ซ้อมล่ะ ” พี่ซายบอก “ที่เหลือยังอยู่ซ้อมได้ใช่มั้ย ….”

- ม่ายด้ายยยยย - ผมคิดในใจ แต่ไม่กล้าพูด

“ปริ้น เดี๋ยวกลับกับโค้กมันเลยล่ะกัน บ้านไกลไอ้โอ้ตจะมาด่าพี่อีก” พี่ท็อปบอก โอ้วว สวรรค์

“ค๊าบบบ” ผมพูดเสียงใส แล้วก็รีบไปหยิบกระเป๋า เดินไปหาโค้ก

“แล้วจะกลับยังไงอ่ะโค้ก”

“เพื่อนผมเอารถมาคืนแล้วพี่” มันว่าพลางชี้ไปที่ ฮอนด้า แดช ของมัน

“รถแต่งสวยดี” ผมชม (ผมม่ะได้ตอแหลชมนะ อย่าคิดอกุศลแบบน้านน)

“เจงเหรอพี่ เจ๋งป่ะ” มันก็ดูบ้ายอใช่ย่อย แต่บ้าไงก็น่ารักฮะ หุหุ

“ป่ะเหอะพี่ มืดแล้ว” มันบอกแล้วก็ขึ้นคล่อม (มอไซต์)

“ขับดีๆนะ” เสียงพี่ท็อปบอก “แล้วระวังอย่าให้คุณหนูหล่นกลางทางอ่ะ”

“ง่ะ … ” ผมทำหน้าเขียวปั๊ดใส่ไอ้พี่ท็อปทันที มาแซวหอกอาไรแบบนี้

“ค๊าบพี่ จะส่งให้ปลอดภัยไม่มีตำหนิเลย” มันว่า แล้วก็ส่งสายตาที่อ่านไม่ออกมา

“เฮ้ย ไอ้บ้า ไปเหอะ” ผมว่าพลางรีบขึ้นซ้อนอย่างรวดเร็ว

ถ้าว่าพี่ท้อปขี่เร็วแล้ว ไอ้โค้กมันเร็วกว่าอีกง่ะ เลี้ยวผ่านรถคันโน้น คันนี้ที แบบว่า หัวจายจะวาย มือผมต้องกอดเอวมันอย่างช่วยไม่ได้เลยครับ

“เฮ้ย ขับช้าๆหน่อย เด๋วตก” ผมตะโกนบอกมัน เพราะว่าถ้าใครเคยขี่แดช มันจะเป็นแบบท้ายยกขึ้นอ่ะครับ นั่งยาก ยิ่งพอเวลามันเบรกทีเนี่ย ตัวผมก็เลื่อนไปติดกับหลังมันเลย (ไม่ใช่อาไรหรอก น้องผมมันไปชนกะก้นมันเข้าอะดิ)

แล้วผมก็นึกขึ้นได้

“โค้กๆ .. ”

“คับ”

“พาพี่ไปร้าน xxx หน่อยดิ ไม่รู้ปิดยัง”

“อ่อ น่าจะยังไม่ปิดครับ” มันบอก แล้วก็หักเลี้ยวแบบฉับพลัน ทะลุเข้าซอยโน่นนี่ อย่างคล่องแคล่ว


* * * * * * * * * * * *

ผมออกจากบ้านพี่ต่าย หนึ่งทุ่ม ไปธุระกับโค้กกว่าจะเสร็จขึ้นรถก็สองทุ่ม กว่าจะถึงบ้านก็สามทุ่มครึ่งแล้วครับ อะไรก็ไม่น่ากลัวเท่า ผมหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมา ปรากฏข้อความ miss call กว่า 50 ที ทุกเบอร์ล้วนแต่เป็นเบอร์ ไอ้โอ้ต

มันโทรสับมาได้แสดงว่ามันกลับถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว

“ไปไหนมา” เสียงไอ้โอ้ตกร้าวมาก เดินพลวดๆเข้ามาหาผม ซึ่งพึ่งปิดประตูบ้านหมาดๆ

“ก็ไปซ้อมลีดมาไง” ผมรีบแก้ตัว

“ไอ้ท็อปบอกว่า ให้ออกมาตั้งแต่ ทุ่มนึงแล้ว ไปไหนมา !!! ”

“เออ โอ้ตอย่าพึ่งตะโกนดิ ฟังก่อน” ผมว่า แล้วก็เดินไปหาโอ้ต

โอ้ตมันถอยหลังหนี สายตามันแบบว่า ผิดหวังกะตัวผมสุดๆ

“โอ้ตมันก็แค่เด็กในบ้านหนิ …” มันเริ่มพูดขึ้นมา

“โอ้ตตตต !! ” ผมตกใจที่มันพูดแบบนั้นนะ

“ปริ้น … โอ้ต โอ้ต …… โอ้ตรักปริ้นนะ” มันพูด แล้วน้ำตาของโอ้ตก็เริ่มไหลออกมา เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นน้ำตาของผู้ชายคนนี้ ถึงกับทำอะไรไม่ถูก โอ้ตมันปาดน้ำตา แล้วก็ค่อยๆนั่งลงไปกับพื้น

“ปริ้นเข้าบ้านเหอะ” มันว่า

“โอ้ต ลุกขึ้นมาเถอะ” ผมรีบเดินไปลากมันให้ลุกขึ้น

“โอ้ตแต่อยากรู้ … ว่าปริ้นคิดยังไงกับโอ้ต” มันพูดแล้วก็จ้องมาที่ตาของผม ดวงตาของโอ้ตเต็มไปด้วยคราบน้ำตา แต่มันก็ยังดูเข้มแข็งเหมือนเดิม แม้จะเป็นเวลาที่มันแสดงความอ่อนแอก็เหอะ

“พอถึงเวลาเรารู้จักตัวเองแล้ว .. เราจะยอมรับตัวเองได้เหรอป่าว ……”

ผมค่อยๆโน้มหัวโอ้ตมาใกล้ๆ แล้วก็บรรจงประทับความรู้สึกที่มีทั้งหมด ถึงเวลาแล้วที่ผมต้องยอมรับความรู้สึกของตัวเอง ปัจจุบันคือสิ่งที่ผมเลือก แม้ว่าอนาคตมันจะเป็นยังไง ผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน

ผมประกบปากกับโอ้ตอยู่นานพอสมควร แล้วก็ค่อยๆผละออกจากกัน

“ปริ้นก็รักโอ้ต” ผมบอกมัน โอ้ตมันพยายามอ่านสีหน้าผมให้ชัดเจนขึ้น มันไม่เชื่อผมเหรอไงหนิ

“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ”

เสียงหัวเราะของโอ้ต พร้อมกับใบหน้าที่เปื้อนยิ้มค่อยๆปรากฏขึ้นอยู่ตรงหน้าผม มันดูซื่อใส สดใส แล้วก็จริงใจที่สุดที่ผมเคยเห็น แล้วโอ้ตก็โผเข้ามากอด ตัวสั่นๆ

“ปริ้น … ปริ้นอย่าทิ้งโอ้ตไปไหนนะ” ผมไม่ค่อยเข้าใจความหมายของมันเท่าไรนัก

- มีคนเคยทิ้งโอ้ตมาแล้วเหรอ –

“ค๊าบโอ้ต โอ้ตก็ห้ามทิ้งปริ้นเหมือนกันนะ” ผมก็กอดมันตอบ

ก่อนที่จะขึ้นไปบนเรือนใหญ่เพื่อกินข้าว ผมก็หยิบกล่องๆนึงส่งให้โอ้ต

“อะไรนะ” มันถามเสียงแปลกใจ

“เปิดดูดิ ”

โอ้ตมันก็เปิดขึ้นมา แล้วก็ทำหน้าแปลกใจกว่าเก่า เพราะว่า มันเป็นเพจเจอร์เครื่องจิ๋วเครื่องนึง

“อะไรเนี่ย”

“ไม่รู้จักเพจเหรอไง วู้ บ้านนอกเจง”

“ไม่ใช่ หมายถึง … ปริ้นซื้อมาให้โอ้ตเหรอ” มันหันมาถาม

“ก็ของขวัญวันเกิดไงคับที่รัก” ผมพูดไปเขิลไป เหอๆ

มันได้ยินคำๆนั้น มันก็คงเขินเหมือนกัน เพราะว่าเอาแต่ยิ้มไม่ยอมพูดอะไร

“มือถือก็มี ไม่ยอมเอาไป ก็เอาเพจไปใช้ล่ะกัน” ผมว่า

“ห้ามเอาเบอร์ไปแจกใครนะเฟ้ย ไม่งั้น …”

“ไม่งั้นอะไรครับ” มันถามเย้ย

“เออ ไม่บอก ….”

“แล้วแพงมากมั้ยเนี่ย” มันหยิบเพจขึ้นมาพิศ

“ไม่เป็นไรหรอก เด๋ววันเกิดปริ้น จาบอกว่าอยากได้อาไร ”

ไอ้โอ้ตทำหน้าปั้นยากทีนึง แล้วก็แอบอมยิ้มทะแม่งๆ แล้วก็เอามือมาขยี้หัวผมอีกแล้ว

“เฮ้ย เด๋วผมเสียทรงงงง”

“ผมมีแค่นี้ จะเสียไรวะ 55” มันพูดแล้วก็เตะตูดผมทีนึง

กินอะไรมาหรือยังปริ้น” ยายผมทักเมื่อเห็นกำลังเดินขึ้นบ้าน

“ยังเลยอ่า ม่ะงั้นจะขึ้นมาเหรอ” ผมย้อนกลับ เหอๆ ยายทำหน้าค้อนผมทีนึง

“นั่นสิ ถ้าไม่มากิน ก็คงไม่มาบนเรือนให้ยายเห็นหน้าหรอก” ง่า ยายผมมีแอบ
งอนคับ แล้วก็บอกว่าเตรียมข้าวไว้แล้ว ให้ไปอุ่นเอา

“มาเดี๋ยวทำให้ โอ้ตเดินตามหลังมา แล้วก็จัดการเดินเข้าไปในครัว” ผมก็เลยเดิน
ไปนั่งที่โต๊ะทานข้าว ซักพักโอ้ตมันก็ยกของกินมาให้คับ หุหุ สบายจังกรู

“ขอบคุณค๊าบ” ผมว่า แล้วก็เริ่มต้นแดร่กด่วน เพราะว่าหิวสาดดดดด โอ้ตมานก็นั่ง
มองผมกินข้าวคับ ซึ่งปกติก็แบบว่าต่างคนต่างกินอ่ะ

“มองไร” ผมถามแต่ก็ไม่มองตามันหรอกนะ กลัวกินข้าวม่ะลง ด้วยฟามเขิลล

“ทำไมเหรอ มองไม่ได้ ? ”

“ก็ด้ายยย แต่กำลังกินข้าวอยู่ไง” ผมอ้อมแอ้มตอบ เขิลลลว้อย

“อือ งั้นก็กินไปเหอะ” มันว่า แล้วก็นั่งมองผมตาแป๋วอยู่แบบนั้นล่ะ

ง่ะ กินม่ะลงเลยผม ก็เลยหาเรื่องคุยเพื่อเปลี่ยนเรื่อง

“วันนี้ซ้อมลีดโคตรเหนื่อยเลย” ผมบ่นให้มันฟัง มันก็ทำทีท่าสมน้ำหน้า “ก็บอกแล้วไม่เชื่อ”

“โห แทนที่จะเห็นใจ … แล้วทางโอ้ตเป็นไงมั่งอ่ะ” ผมถามพลางซดน้ำแกงดังโฮก

“ก็เรียบร้อยไปหลายอย่างแล้วล่ะ ซ้อมน้องก็มีคนดูแลแล้ว กีฬาก็ให้ห้องขวัญเค้าแบ่ง
ทีมหากัน”

“พี่ขวัญเค้าดูดุๆจังวะ”

“นิสัยเค้าก็แบบนั้นล่ะ แต่ยังไงก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว ก็ต้องทำให้มันเสร็จไปได้ล่ะ”
โอ้ตมันว่า ความคิดเป็นพ่อพระเจงๆ แฟนกรู ไม่เหมือนพี่ท็อปเร้ยยย

“… ว่าแต่ตัวเองเถอะ อยากจะเป็นก็ต้องตั้งใจ รู้ป่าว” โอ้ตมันบอกพลางตบหัวผมเบาๆ
ทีนึง

“เออ ”

“พูดไม่เพราะ พูดใหม่” มันดุ

“ค๊าบบบ คุณโอ้ต ผมจาตั้งใจสุดชีวิตเลยคับ” ผมพูดพลางตะเบ๊ะทีนึง เป็นการประชด
แต่ไอ้โอ้ตมันทำหน้าพอใจ ชิส์

ผมก็กินไปคุยกะไอ้โอ้ตไปคับ เป็นมื้ออาหารที่แสนธรรมดา แต่ว่า พอมีคนที่รู้ใจอยู่เคียงข้าง
อะไรๆ ก็ดูดีไปหมดล่ะ

“งั้นเด๋วเจอกันพรุ่งนี้นะ” ผมบอกพลางหาวหวอด

“อือ ฝันดีนะ ” แล้วมันก็ก้มมาหอมแก้มทีนึง

“เฮ้ยยยย เด๋วมีคนมาเห็นเข้า” ผมรีบผลักมันออกโดยเร็ว มันก็ทำท่าทางน้อยใจนิดๆ

“จะมีคนเห็นได้ไง ก็อยู่ในบ้านตัวเอง”

“อ้าว ทั้งยาย ทั้งป้าเล็ก นี่เป็นเพื่อนข้างบ้านเหรอ ? ….. ไปแล้วว บะบาย” ผมพูด
แล้วก็เดินกลับเข้าบ้าน ทั้งๆที่อยู่มา 3 – 4 เดือน ไม่เคยมาบะบายอะไรแบบนี้มาก่อน
ทำไปได้ฟร่ะตู

พอเข้าห้องก็จัดการล้างหน้าแปรงฟัน รอเวลาให้ถึงพรุ่งนี้ไวๆ แปลกจริงคับ ทั้งที่พึ่งห่างกันม่ะ
ตะกี้นี้เอง ผมก็รอเวลาที่จะเจอกับโอ้ตอีกแล้ว นี่กรูเป็นไรว้า นอนไม่หลับว้อยยยยยยย

“เอ๊ะ …”

ผมฉุกใจนึกอะไรบางอย่างออกครับ ตั้งแต่ผมเข้ามาอยู่ที่บ้านเล็กหลังนี้ ผมยังไม่ได้กลับเข้าไป
ดูห้องใต้ดินอีกเลย ว่าจะเข้าๆก็มีเหตุการณ์ทำให้ลืมทุกที แต่มันมีผีคุณตาอยู่นี่หว่า …..

“เอื้อกกกก” ผมกลืนน้ำลายทีนึง แล้วก็เดินไปฉวยไฟฉายมา

งืมมมมมมม เอาวะ อย่างน้อยเผื่อจาเจอหนังสือโป๊รุ่นลายครามซ่อนไว้อยู่ก็ได้วะ ผมนึกข้อดี
ข้อนี้ในใจ พลางค่อยๆยกพื้นส่วนที่เป็นประตูขึ้นมา มันยกได้ง่ายดายเหมือนเดิมครับ ทั้งๆที่ผม
ไม่เคยเปิดลงไปดูเลยนะนั่น เป็นไปได้ไง ?

เท้าผมค่อยสัมผัสในส่วนของบันได ตัวผมค่อยๆเดินลงไปท่ามกลางความมืดสนิท ไฟฉายใน
มือผมเปิดส่องสว่างขึ้นมาส่องหาสวิตท์ไฟ (ที่คิดไปก่อนว่าน่าจะมี) ผมเดินลงไปเรื่อยๆ
จนรู้สึกว่าเท้แตะในส่วนของพื้นล่าง แล้วก็จึงกราดแสงไฟไปตามกำแพง ก็พบสิ่งที่หาอยู่

อ่า นี่เอง ผมคิดแล้วก็เอื้อมมือไปเปิดสวิตท์ไฟ

ฉับพลันที่แสงไฟสาดส่องไปทั่วห้อง ผมถึงกะอึ้งๆๆๆๆๆ

"คุณตาคุณเห็นว่าไม่ได้ใช้ทำอะไร ก็เลยทำมาเป็นห้องเก็บของหน่ะ แต่อย่าเข้าไปเลยครับ
ฝุ่นเยอะ …

ตัวอะไรต่ออะไรมีมั่งก็ไม่รู้ ลุงก็ไม่ได้ไปทำความสะอาดข้างในเป็นปีแล้ว"

ลุงสนบอกกับผมตอนที่มาใหม่ๆ แต่สภาพของห้องมันไม่เหมือนห้องเก็บของเลยครับ
ในห้องมีเตียงอยู่เตียงนึง วางอยู่ริมห้อง ข้างๆเตียงมีตู้หลังใหญ่ พร้อมกับกล่องอะไรต่อ
อะไรวางอยู่ข้างบน สภาพโดยรวมแล้วเหมือนมีคนมาคอยทำความสะอาดอยู่สม่ำเสมอ
- - - หรือเหมือนมีคนเข้ามาใช้ห้องนี้อยู่ประจำ

ผมเดินสำรวจไปทั่วห้อง พร้อมกับหาเศษสิ่งของที่ผมเคยเตะโดนครั้งก่อน ก็ไม่พบร่องรอย
ดังกล่าว

อ่า …. ใครมาอยู่ที่นี่วะ - - - ผมยังคิดไม่ทันเสร็จ ก็เหลือบไปเห็นกล่องๆนึงตั้งอยู่
ด้านบนหัวเตียง เลยทีวิสาสะลองแกะดู (ก็บ้านกรูนี่หว่า)

อึบบ อึบ อึบบบบบ

ผมพยายามจะเปิดกล่องมันออกมา แต่ดูคนที่ปิดจะไม่ประสงค์จะให้คนนอกเปิด เพราะจะเปิด
ยังไงก็เปิดไม่ขึ้นครับ ก็เลยมองสำรวจที่กล่อง ก็ปรากฏเห็นเป็นรอยที่เอาไว้เลื่อนอยู่นิดหน่อย
ตกลงว่าถ้าจะเปิดมันก็ต้องเลื่อนฝามันขึ้น ม่ะได้ยกเปิดฝาออกคับ เหอๆ โง่จังกรู

แกร่กกก

แค่กๆๆๆๆๆ

ในกล่องนี่มีฝุ่นจับอยู่เต็มเลย แสดงว่าคนที่ปิดไว้ ไม่เคยเปิดออกมาเป็นปีๆ ต่างจากสภาพห้อง
ที่คอยมาดูแลสม่ำเสมอ ในกล่องผมเห็นสมุดเล่มนึงนอนอย่างสงบอยู่ก้นกล่อง พลิกเปิดไปเปิดมา
ดูเหมือนจะเป็นไดอารี่ครับ
ผมพลิกไปเรื่อยๆ จนถึงเกือบหน้าสุดท้าย ทำให้รู้ถึงเจ้าของไดฯเล่มนี้

โอ้ตเขียนไดอารี่ด้วยเหรอเนี่ย ผมออกจะแปลกใจหน่อยๆครับ เพราะว่าตั้งแต่รู้จักกันมา
ก็ไม่เห็นท่าทีมันจะเป็นคนชอบเขียนอะไรนี่หว่า ผมค่อยๆพลิกกลับไปกลับมา ก็พบว่าวันสุดท้าย
ที่เขียนมันเป็นช่วงกลางเดือนเมษายนของเมื่อเกือบ 2 ปีก่อน

ไดอารี่นี่โอ้ตเขียนตั้งแต่ตอนอยู่ม.4 แล้วหลังจากปิดเทอม ม. 4 โอ้ตก็ไม่ได้เขียนมันอีกเลย

ผมพลิกกลับไปที่หน้าสุดท้ายอีกทีนึง ก็ต้องสะอึกนิดหน่อย โอ้ตเขียนคำว่า “รักตลอดไป”
แล้วก็ลงชื่อ “โอ้ต”

โอ้ตมันเขียนถึงใครวะ หรือว่าเป็นแฟนเก่าของมันเนี่ยยยยย อารมณ์ผมตอนนั้นไม่ได้หึงอะไรหรอกคับ
เพราะว่ามันนานมากแล้วล่ะ แล้วถ้าโอ้ตคบกับใครตอนนี้จริงๆ ผมก็ไม่เห็นว่าเป็นไปได้ วันๆมันเอา
แต่เรียน กลับมา ก็เข้าบ้านเลย เสาร์อาทิตย์ ก็พาผมไปโน่นไปนี่

อย่างน้อยที่สุด ถ้าคำว่า รักตลอดไป นี่เขียนถึงแฟนโอ้ตเจงๆ ป่านนี้ก็คงเลิกกันไปแล้วชัวว์

ผมชักนึกอยากรู้ว่าโอ้ตมันเป็นคนแบบไหน ยังไงขึ้นมาตะหงิดๆ เอาเป็นว่าตอนนี้รู้แล้วล่ะ
ว่าห้องใต้ดินอันนี้ โอ้ตมันเคยเข้ามานอน หรือเข้ามาทำอะไรก็แล้วแต่ แล้วโอ้ตมันก็คงเข้ามา
ทำความสะอาดอยู่เสมอ …

อ่ะ

ผมใคร่ครวญนึกถึงวันที่ผมไม่สบายมากๆ จำได้ว่ามีคนมาเช็ดตัวให้ - - - ผมไม่ได้ฝันไป
อะดิ โอ้ตมันเข้ามาเช็ดตัวให้ผมแน่ๆ แล้วพอผมตื่น มันก็หลบเข้าไปในห้อง แล้วก็โทรสับมาปลุกผม
….. พอผมออกจากบ้าน มันก็ค่อยออกตามผมมา ไม่ให้รู้ตัว

ถ้าลำดับเหตุการณ์ที่ผมคิดเป็นจริง ทำไม … ทำไมโอ้ตต้องปกปิดด้วยล่ะ ว่าโอ้ตอยู่ในนี้ … หรือว่า
โอ้ตมันไม่อยากให้ผมรู้ ว่ามีอะไรอยู่ในห้องนี้วะ คิดแล้วกรูงง

เมื่อผมคิดไตร่ตรองอยู่นานแสนนาน (รอบเดียว) ก็เลยตัดสินใจ อยากรู้ว่าโอ้ตมันเขียนอะไร
ไว้ในไดฯเล่มนี่มั่ง เผื่อผมจะได้รู้จักมันมากขึ้น

แกรกก

มีแผ่นอะไรซักอย่างร่วงหล่นลงมา ผมหยิบมาดูก็พบว่าเป็นรูปโอ้ตเมื่อ 2 ปีก่อนนี่เอง ยังเอ๊าะๆอยู่เรย
หุหุ ยืนกอดคออยู่กับเด็กหนุ่มอีกคนนึง ยิ้มกันหวานชื่นเชีย ….

มานเป็นใครกันว้า ผมล่ะอยากรู้เจงๆ


* * * * * * * * * * * *

ตื่นเช้ามา ผมก็ลืมเรื่องเมื่อคืนไปเกือบหมดแล้วล่ะ จนมาเห็นไดอารี่ที่ผมหยิบขึ้นออกมาด้วย
ก็เลยนึกขึ้นได้ว่าจะถามโอ้ตเรื่องคนในภาพ แต่… ถ้าถามมันก็ต้องรู้ดิ ว่าผมแอบหยิบของๆ
มันออกมาโดยไม่ได้รับอนุญาต มันคงโกดตายหองแน่

“งืมมมมม”

“เป็นไรปริ้น เสียงไอ้โอ้ตดังขึ้นมาข้างๆ ระหว่างผมใช้ความคิดอยู่ระหว่างยืนรอรถหน้าบ้าน

“ก็คิดว่าจะถามว่าไง - - - เฮ้ยยยยยย มาเมื่อไรเนี่ย ” ผมใช้ความคิดเพลินๆอยู่ ก็ต้อง
สะดุ้งเมื่อโอ้ตมันก็โผล่พลวดพลาดมาจากไหนก็ไม่รู้

“ถามอะไร เกี่ยวอะไรกะโอ้ตป่าว” มันทำท่าทางสงสัย

“ม่ะ - - - อ่อว่าจะถามเรื่องการบ้านอ่ะ ทำไม่ได้”

“วิชาไรล่ะ เลขอะซิ” มันบอกพลางหัวเราะในความโง่ของผม

“เออ”

“พูดไม่เพราะอีกแล้ว” มันว่าพลางจะเขกหัวผม

“ค๊าบๆๆๆ” ผมรีบเอามือป้องกันตามสัญชาติญาณ แหม ไอ้นี่เนี่ยะ

ผมเห็นท่าทีโอ้ตมันอารมณ์ดีๆอยู่ก็เลยตัดสินใจถาม

“เอ่อ โอ้ต ถามไรหน่อยดิ

“รอให้ถึง รร ก่อนก็ได้

“ม่ายช่าย .. เรื่องอื่น - - - อ่ะ แต่สัญญาก่อนนะว่าห้ามโกรธ ผมไม่ลืมพูดดักคอมัน
ไว้ก่อน

“อะ อะ ไม่โกรธครับ” มันพูดแบบว่าง่าย ผมเห็นดังนั้นก็เลยล้วงเข้าไปในกระเป๋า แล้วก็หยิบ
รูปใบนั้นขึ้นมาส่งให้โอ้ต

โอ้ตมันทำหน้างงๆ แล้วก็รับไปดู เท่านั้นล่ะครับ ….

“………..”

“รูปนี้ของโอ้ตป่าว ”

“…………”

“คะ ครือ เห็นมันตกอยู่ในห้องอ่ะ” ผมรีบพูดปดคับ เมื่อเห็นโอ้ตมันยืนเหม่อมองดูรูปนั้น อย่างกับ
ว่าไม่ได้เห็นคนๆนั้นมานานแสนนาน

“โอ้ต .. ”

ผมเอื้อมมือไปสะกิดพี่ชาย ไอ้โอ้ตสะดุ้ง แล้วก็หันมาถามผมเสียงสั่น

“ปริ้น … ไปเอารูปนี้มาได้ไง”

“อ้าว ก็บอกแล้วว่าเจอมันตกอยู่ในห้องเรา” ผมตอบเสียงเบา เพราะว่าโกหกมันนั่นล่ะ

“คะ คนข้างๆโอ้ตนี่เพื่อนเหรอ ? ” ผมลองแย็บถาม

“อือ .. ”

“ทำไมไม่เคยเห็นหน้าเลยอ่ะ เรียน รร เราม่ะใช่เหรอ” ผมถามโดยสังเกตดูจากชุดนักเรียนนั่นแหละ

“เค้าไม่อยู่ที่นี่แล้วล่ะ” โอ้ตตอบเสียงแผ่วเบา ก่อนที่จะพูดคุยอะไรมากกว่านี้ รถก็มาพอดีคับ
ตลอดทางโอ้ตนั่งเงียบ ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอคาดเดาได้ว่า เป็นเพราะรูปใบนี้แน่ๆ

คนในรูปนี้ เป็นใครกัน … สายตาของโอ้ตที่มองดูคนๆนี้ มันไม่ได้เป็นเพียงแค่เพื่อนแค่นั้นหรอก

ไม่ใช่…ไม่ใช่แค่เพื่อน เสียงบางอย่างร้องก้องอยู่ในหัวใจของผม อาการลมเพชรหึงมันผุดออกมาในใจ
ดวงน้อยตั้งแต่ม่ะไรก็ไม่รู้

----------------------------------TBC------------------------------------

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [9-4-12]
«ตอบ #52 เมื่อ09-04-2012 15:54:49 »

โอ้ว นี่มันใครกันละเนี่ย

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [9-4-12]
«ตอบ #53 เมื่อ09-04-2012 16:19:22 »

โอ้ตน่ารักอ่ะ   แต่เพิ่งจะเป็นแฟนกันก็จะมีมาม่าอีกแระ เห้อ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [9-4-12]
«ตอบ #54 เมื่อ09-04-2012 20:04:44 »

อาจยังไม่เห็นสายตาแห่งความหวังดี  :-[ และมันจะมีให้เธอเพียงผู้เดียว  :man1:

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [9-4-12]
«ตอบ #55 เมื่อ09-04-2012 21:04:27 »

พลางนึกถึงตอนสมัยโน่นที่ได้อ่านเรื่องนี้ ไม่เป็นอันทำอะไรเลย เพ้อมันอยู่อย่างเดียว

มาถึงวันนี้ก็ยังทำผทเพ้อได้เหมือนเดิมเป๊ะเลย

5555555

คิดถึงจังเลย

Hakken

  • บุคคลทั่วไป
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [9-4-12]
«ตอบ #56 เมื่อ09-04-2012 22:05:37 »

อยากอ่านต่อแล้ว กะลังจารู้เรื่องแล้ววววววววว :a5: :a5: :a5:

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [9-4-12]
«ตอบ #57 เมื่อ09-04-2012 22:28:39 »

เอ๋ จะซดมาม่าเหรอ T^T

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [9-4-12]
«ตอบ #58 เมื่อ10-04-2012 00:45:24 »

เค้าเป็นใครกันหว่าาาา

KAME

  • บุคคลทั่วไป
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [9-4-12]
«ตอบ #59 เมื่อ10-04-2012 20:06:30 »

เมื่อตอนม.2 นั่งร้องไห้หน้าคอม กะตอนต่อไป
ตอนนี้ม.6 แล้ว จะร้องหน้าคอมป่าวหว๊ะๆๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด