…บัวลอย…อธิปไม่ค่อยได้ทานของหวานอย่างจริงจังเสียเท่าไหร่ แค่ทานให้ครบทุกมื้อ บางทียังยากเต็มกลืน แต่มื้อเที่ยงวันนี้ เขากลับต้องมานั่งทานบัวลอยกับตัวแสบที่สั่งของตัวเองทีเดียว 2 ถ้วยแบบพิเศษอีกต่างหาก
“เฮ้อ…อิ่ม…” ออกจากร้านข้าวขาหมู ต่อด้วยร้านขนมหวาน จอมขวัญและอธิปก็มาจบที่สวนสาธารณะใกล้ๆโรงแรมในเครือวิมาลา ซึ่งคนรู้ที่ทางดีเยี่ยมอย่างลูกหลานเครือนี้เป็นคนออกปากให้อธิปพามาเอง เพราะเห็นว่าอีกเกือบครึ่งชั่วโมง กว่าจะถึงเวลาเข้างานช่วงบ่าย
อธิปเหลือบมองคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ม้านั่งยาวข้างกายเขา เจ้าตัวกำลังกระดกน้ำขวดแก้เลี่ยน หลังจากฟาดขนมหวานไปถึงสองถ้วย
…ไม่มีมาดของชายหนุ่มหล่อเหลาเจ้าสำอางเลยแม้แต่น้อย จอมขวัญเวลานี้เหมือนไม่มีหัวโขนใดๆครอบศีรษะ เป็นเพียงผู้ชายธรรมดาที่ทำตัวสบายๆ และหายใจได้อย่างเต็มปอด
“มองทำไม”
“พรุ่งนี้ตอนกลางวัน พี่ติดกินข้าวกับลูกค้าคงมากินข้าวด้วยไม่ได้ แต่ตอนเย็นน่าจะว่าง ไปกินราดหน้าด้วยกันมั้ย” ราดหน้าข้างถนนที่เป็นอาหารมื้อแรกของเขาและจอมขวัญ อธิปจำได้ไม่ลืม…ไม่ลืมทั้งรสชาติของราดหน้า และไม่ลืม…ว่าคนตรงหน้าคุยโทรศัพท์กับคุณพัชรีอย่างออดอ้อนเพียงใด
…เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ที่เขาจะได้เห็นจอมขวัญคุยแบบนั้นกับเขาบ้าง…เรียกแทนตัวเองว่า ‘ขวัญ’ อย่างนั้น ‘ขวัญ’ อย่างนี้…ถ้าถึงวันนั้นขึ้นมาจริงๆ อธิปคงสุขใจพิลึก…
จอมขวัญหันมองคนชวน เขาอยากจะตอบปฏิเสธให้อีกฝ่ายหน้าม้านหรอก…แต่…ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเวลาอยู่กับอธิป เขาสบายใจ…สบายใจจนอยากอยู่ด้วยเรื่อยๆ…ไม่ต้องกังวลถึงท่าทางที่จะแสดงออก ไม่ต้องกังวลว่าจะพูดอะไรออกไปแล้วดูดีหรือไม่…พออยู่กับอธิป เขาปล่อยตัวเองได้อย่างที่อยากทำ…มันโล่งและปลอดโปร่ง…
“ไม่ต้องหรอก…เดี๋ยว…เดี๋ยวผมเลิกงานแล้วซื้อไปให้”
“ซื้อมาให้? ให้ที่บริษัทพี่น่ะเหรอ?”
“อืม” อธิปยิ้ม ก่อนจะเบือนสายตากลับไปมองบ่อน้ำเบื้องหน้าที่กำลังสะท้อนวิบวับกับแสงแดดร้อนแผดเผายามเที่ยง
“แล้วพี่จะรอ…” จอมขวัญทำเป็นไม่ได้ยิน เขาลุกจากเก้าอี้แล้วบิดขี้เกียจ
“ผมจะกลับไปทำงานแล้ว” ทว่าไม่ทันจะได้ออกเดิน แขนเขาก็ถูกมืออุ่นคว้าเอาไว้
“พี่ขออีกอย่างได้มั้ย” เจ้าของมืออุ่นเอ่ยปาก อย่างที่ทำเอาคนถูกขอต้องเหลือบตากลับมามองอย่างสงสัย
“เวลาอยู่กับพี่สองคน เรียกตัวเองว่าขวัญได้รึเปล่า” เหมือนความอุ่นของฝ่ามือใหญ่นั้นจะส่งกระแสความอ่อนโยนเข้าไปสู่หัวใจจอมขวัญจนมันเต้นรัว ร่างโปร่งไม่ตอบ เขาบิดแขนออกเบาๆ มืออุ่นนั้นก็ยอมปล่อยแต่โดยดี
“เดี๋ยวผมขอประชุมกับผู้ถือหุ้นก่อนแล้วกัน ถ้าทุกฝ่ายอนุมัติ …พี่โตก็เรียกได้…” จอมขวัญตอบก่อนจะรีบก้าวขาออกจากสวนสาธารณะกว้างอย่างรวดเร็ว อย่างที่ทำเอาอธิปได้แต่ส่ายศีรษะไปมาที่ร่างโปร่งกลายร่างเป็นจอมแถ แถไปเรื่อ…ย…
…เดี๋ยว…เมื่อกี้…จอมขวัญเรียกเขาว่า ‘พี่โต’ …
…ร้ายจริง ทำเป็นแถเรื่องเรียกชื่อตัวเอง แต่ตอนท้ายกลับเรียกชื่อเล่นเขาแบบนี้…แค่นี้ก็มาตามเฝ้าอยู่ทุกเที่ยงแล้ว กะจะให้อยากเจอหน้าทุกชั่วโมงเลยใช่มั้ย ทำกันแบบนี้…
เจ้าของชื่อเล่นว่า ‘โต’ อมยิ้มกับตัวเองแล้วโคลงศีรษะไปมา…ท่าจะแย่…ถ้าวันที่จอมขวัญเรียกแทนตัวเองว่า ‘ขวัญ’ กับเขามาถึงในเร็ววันนี้…หัวใจเขาคงเต้นแรงจนเหนื่อยเสียล่ะมั้งนี่…
………………..
จอมขวัญทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทำงานของตัวเอง มือกำลังจะเอื้อมไปหยิบแฟ้มงานมาจัดการต่อ แต่พนักงานสาวถลามาที่โต๊ะเขาเสียก่อน
“คุณจอมคะ คุณจักรบอกว่าถ้าคุณจอมมาแล้ว ให้รีบไปพบคุณจักรที่ห้องค่ะ” จอมขวัญพยักหน้ารับรู้ เขาวางงานลงที่เดิม ก่อนจะลุกจากเก้าอี้อีกครั้งแล้วเดินไปขึ้นลิฟต์ตรงขึ้นไปยังห้องทำงานของพี่ชาย
…โดยไม่รู้แม้แต่น้อย…ว่าเรื่องที่ตนเองเคยโกหกเอาไว้…วันนี้…มันกลายเป็นความจริง…
……………………
“อะไรนะ?!! ไอ้อนุชาไปป้วนเปี้ยนอยู่หน้าบ้านคุณน้ำ?!!!”
“คุณรุ่งทิพมาบอกว่าเขาเจออนุชาไปดักรอที่หน้าบ้านมา 2-3 วันแล้ว” จอมขวัญได้แต่ตกตะลึงเพราะคิดไม่ถึงว่าเรื่องที่เขาโกหกเอาไว้กลับกลายเป็นจริงขึ้นมา ชายหนุ่มทรุดตัวลงนั่งกับโซฟาในห้องทำงานของพี่ชายอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี
“ไอ้ขวัญ แกพอมีเพื่อนที่รู้จักไอ้อนุชาอะไรนั่นใช่มั้ย ให้เขาสืบให้สิ” จักรกฤษณ์เอง แม้จะปากเสียปากร้ายใส่น้ำทิพย์อยู่บ่อยๆ แต่ในใจลึกๆที่เขาสนใจเธอนั้น ก็…ทำให้อดไม่ได้ที่จะนึกห่วงใย
“ได้ๆ แล้ว…เย็นนี้คุณน้ำกลับยังไง พี่จักรรู้รึเปล่า”
“เห็นคุณรุ่งทิพว่า ให้น้ำทิพย์เอารถไปกลับเอง แต่ช่วงนี้กลับบ้านเย็นเพราะที่ทำงานมีลูกจ้างเข้าใหม่ น้ำทิพย์เลยช่วยสอนงานให้”
“งั้นเย็นนี้พี่จักรไปรับคุณน้ำ” จักรกฤษณ์ถึงกับสะดุ้งโหยง
“เฮ้ย!! ทำไมต้องเป็นฉัน?!!”
“เถอะหน่า! พี่จักรทิ้งรถไว้ที่นี่แหละ เดี๋ยวขวัญขับรถไปส่งที่ทำงานคุณน้ำ แล้วพี่ก็ขับรถคุณน้ำพาคุณน้ำกลับบ้าน ส่วนขวัญจะไปตามข่าวเรื่องไอ้อนุชา แล้วค่ำๆ จะไปรับพี่จากบ้านคุณน้ำ…”
“เดี๋ยวๆ! ทำไมแกไม่โทร.ตามข่าวเอาวะ! แล้วทำไมต้องเป็นฉันไปรับไปส่งน้ำทิพย์?!” จักรกฤษณ์รู้ว่าน้องชายพยายามจะเปิดโอกาสให้เขากับน้ำทิพย์
เขายอมรับว่าเขาสนใจหญิงสาวคนนั้น แต่ก็แค่สนใจ…ถ้าเขาไม่สานต่อ ความรู้สึกทั้งหมดจะคงที่และคาดว่ามันจะลดลงไปเอง แต่ถ้าจอมขวัญขยันให้เขาไปเจอหน้าน้ำทิพย์บ่อยๆ เดี๋ยวก็เลยเถิดจนได้! จักรกฤษณ์ยังยึดมั่นกับคำสัญญาของตัวเอง…เรื่องคบหาผู้หญิงคนเดียวกับน้องชายมันจะต้องไม่เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง
จอมขวัญขยี้หัวอย่างหงุดหงิดที่ถูกพี่ชายซักไซ้
“ก็ถ้าโทร.มันช้า! ไม่ทันใจ! กว่าจะโทร.ไล่ถามทีล่ะคน มันสู้ไปที่ผับแล้วเจอแม่งทุกคนที่อยากถามข่าวไม่ได้ไม่ใช่รึไงล่ะ! แล้วพี่จักรไม่ต้องมาอ้างนั่นอ้างนี่ หัดมีน้ำใจกับมนุษย์เพศหญิงซะบ้าง!! ผู้หญิงไม่ได้อ่อนแอก็จริง แต่เราที่เป็นผู้ชายก็แข็งแรงกว่า อะไรที่เราดูแลได้ก็ต้องช่วยเขา!” แลดูเป็นเหตุเป็นผลดีทีเดียว แต่จักรกฤษณ์ยังมองหน้าน้องชายอย่างไม่วางใจ จนจอมขวัญชักสีหน้าหงุดหงิดใส่
“ตามนี้นะ! แล้วเย็นนี้เจอกันที่รถขวัญเลย!” ว่าแล้วเจ้าตัวก็หันหลังเดินออกจากห้องทำงานของพี่ชายอย่างร้อนใจทันที ในขณะที่จักรกฤษณ์ก็เอาแต่กังวลกับที่สิ่งที่น้องชายกำลังพยายามให้เขาได้ใกล้ชิดกับน้ำทิพย์ เลยลืมเสียสนิทว่ายังไม่ได้ซักเรื่องที่จอมขวัญไปไหนมาไหนกับอธิป
…………………..
เย็นนั้น สองหนุ่มลูกหลานตระกูลวิมลกิตติก็บุกไปถึงที่ทำงานของน้ำทิพย์ พวกเขานั่งรอที่ล็อบบี้และให้ประชาสัมพันธ์โทร.ขึ้นไปแจ้ง ครู่เดียว น้ำทิพย์ก็เดินลงมาพร้อมกับกระเป๋าสะพาย
“เลิกงานเย็นมากเลยนะครับ” จอมขวัญเอ่ยปากทันทีอย่างเป็นห่วง นี่เลยเวลาเลิกงานปกติของน้ำทิพย์มาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว
“น้ำสอนงานให้คุณอัญน่ะค่ะ”
“อ้อ…ที่ว่าเป็นลูกจ้างคนใหม่?” น้ำทิพย์ยิ้มรับแทนคำตอบ จอมขวัญอยากเตือนให้หญิงสาวระวังตัวมากกว่านี้ แต่ก็พูดไม่ออก
“เขาเป็นผู้หญิงนะคะ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก แล้วน้ำก็จอดรถที่ลานจอดข้างหน้า ไม่เปลี่ยวค่ะ” น้ำทิพย์รู้ดีว่าทำไมวันนี้สองพี่น้องถึงพากันมารับเธอถึงที่ทำงาน คงเป็นเพราะมารดาไปเล่าเรื่องอนุชาเอาไว้ เธออดเกรงใจไม่ได้ แต่ลึกๆก็กังวลในความปลอดภัยของตัวเองเช่นกัน
“จะไปกันได้รึยัง? ยิ่งเย็นรถยิ่งติดอยู่” จักรกฤษณ์เอ่ยปากอย่างตัดรำคาญ เมื่อเห็นน้องชายและอดีตคนรักมองหน้ามองตากันเหมือนจะร่ำไรอีกนาน
“งั้นคุณน้ำพาพี่จักรไปที่รถเลยครับ เดี๋ยวให้พี่จักรขับให้” จอมขวัญตัดสินใจเรียบร้อย อย่างที่ทำเอาน้ำทิพย์นิ่งงัน
“เอ๋?! ทำไม?...”
“พี่จักรมารถผมน่ะครับ แล้วอีกอย่าง…เราต้องทำให้คนรอบข้างเห็นว่าคุณน้ำมีผู้ชายคอยรับส่ง และไปไหนมาไหนด้วย ไปเถอะครับ…เดี๋ยวยิ่งเย็น รถจะยิ่งติดอย่างที่พี่จักรว่า” จอมขวัญยิ้มสำทับอีกครั้ง ก่อนจะเป็นฝ่ายหมุนตัวเดินนำออกจากตึก โดยที่ตนเองแยกไปเอารถของตน และทิ้งให้หญิงชายสองคนนั่นตัดสินใจกันเอาเอง
……………………
จอมขวัญปล่อยหญิงสาวไว้กับจักรกฤษณ์ เพราะรู้ดีว่าพี่ชายเชี่ยวพอตัว ถ้าเกิดอะไรขึ้น จักรกฤษณ์คงจะจัดการได้ เขาขับรถออกจากที่ทำงานของน้ำทิพย์ ฝ่ารถติดมหาโหดมายังผับประจำที่มีเพื่อนฝูงแวะเวียนมาเที่ยว…และหนึ่งในเพื่อนฝูงที่ว่าก็คือทรงพล…
“ไง…ไอ้จอม” วันนี้ทรงพลมาแต่หัววัน ไม่รู้มีใครคาบข่าวไปบอกหรือไรว่าวันนี้จอมขวัญอยากเจอหน้ามันเป็นที่สุด
ทรงพลยังส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เหมือนเคย จอมขวัญเดินไปนั่งที่เคาทน์เตอร์บาร์ สั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์เรียบร้อยก็หันมาทางชายหนุ่มผู้มีเส้นสายและธุรกิจใต้ดินอยู่ในมือ
“มึง…รู้เรื่องอนุชาบ้างมั้ย” คนถูกถามเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะทำหน้าเข้าใจ
“อ้อ…ไอ้เปี๊ยก อนุชาใช่มั้ย”
“อืม”
“อยากรู้เรื่องไหนของมันล่ะ? เรื่องที่มันติดเงินกูห้าล้าน หรือว่าเรื่องที่มันยังออฟเด็กออกไปนอนทั้งๆที่มีเมียแล้ว อ้อ…แต่ได้ข่าวว่าเมียมันท้องนี่นะ”
…ภรรยาของอนุชาท้องด้วยงั้นหรือ?! แต่อนุชาก็ยัง…จอมขวัญไม่รู้จะด่าไอ้ผู้ชายรายนั้นอย่างไรดี แต่…จะพูดอะไรมากก็ไม่ได้ ขนาดเขาเอง…เขายังเคย…
“ส่วนเรื่องอื่นนอกจากนั้น ถ้ามึงถาม กูจะตอบเท่าที่กูรู้แล้วกัน เรื่องไอ้เปี๊ยกมันเยอะจะตาย ให้สาธยายทุกเรื่องในสามคืนก็ไม่หมดหรอก” ทรงพลว่าพลางยักไหล่แล้วกระดกน้ำสีอำพันเข้าปาก
“งั้น…มึงเคยได้ยินเรื่องที่ว่ามันมีเมียน้อยบ้างมั้ย?” ทรงพลเหลือบตามามองคนถาม เขาเกาคางไปมา
“ไอ้บ้านี่มีเมียเยอะจะตาย แต่ถ้าหมายถึงเมียที่ต้องส่งเสียเลี้ยงดูล่ะก็ ไอ้เปี๊ยกมันไม่มีปัญญาหรอก หนี้กูห้าล้านมันยังจ่ายไม่หมดเล้ย…”
“ไม่ๆ กูหมายถึง…มึงเคยได้ยินเรื่องที่มันเล็งผู้หญิงไว้มั้ย” ทรงพลหันมามองจอมขวัญตรงๆ แล้วกระตุกยิ้ม
“มึงจะถามเรื่องที่มันคิดจะกลับไปหาแฟนเก่ามึงใช่มั้ยไอ้จอม” พอถูกถามตรงประเด็นแบบนั้น ก็ทำเอาร่างโปร่งนิ่งงันเพราะไม่คิดว่าทรงพลจะรู้ถึงขนาดนี้
“เอาเป็นว่าถ้ามึงห่วงแฟนเก่ามึงล่ะก็ กูแนะนำว่าให้ดูแลกันดีๆ เห็นไอ้เปี๊ยกมันเป็นแบบนั้น มันก็เส้นสายเยอะพอตัว มันทำอะไร มันไม่ลงมือเองหรอก...” ทรงพลยิ้มบาง “…ใช้คนอื่นคือเรื่องถนัดของมัน…กูจะเตือนให้มึงรู้”
…หมายความว่าอนุชาคิดจะกลับมาคว้าน้ำทิพย์จริงๆ ทั้งที่มีภรรยาแล้ว และภรรยาก็กำลังตั้งท้อง!!...
...นี่เขาจะทำอย่างไรดี?!! เขาจะช่วยน้ำทิพย์อย่างไรให้พ้นมืออนุชา!...
ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้า)
ขอแซวนิดนึง คอมเม้นท์ของพาร์ทที่แล้ว มันเกิดอะไรขึ้นนนนน???
ปกติแล้ว คอมเม้นท์ของเรื่องนี้แต่ละอัน จะไม่ค่อยไปในทิศทางเดียวกัน
(เช่นไม่ชอบคุณรุ่งทิพ, ไม่อยากให้น้ำทิพย์คู่กับจักร, ให้น้ำทิพย์คู่กับจักรก็ได้….. ฯลฯ)
ซึ่งตรงกับความต้องการของบัวเลย เพราะว่าอยากให้ความรู้สึกของคนอ่านแต่ละคนที่มีต่อรุ่งทิพและน้ำทิพย์ ไม่เหมือนกัน
แต่! เมื่อพาร์ทที่แล้ว เม้นท์ทุกอันไปในทิศทางเดียวกันหมด!!
ทั้งเป็นแฟนคลับคุณรุ่งทิพ ทั้งขอถือป้ายไฟ ถือพัด ถือธง ขอโทษคุณรุ่งทิพกันยกใหญ่
(หาว่าเป็นสาววายอีกต่างหาก คุณรุ่งทิพเป็นกามเทพหรอกกก )
เป็นพาร์ทแรกที่คอมเม้นท์ไปในทิศทางเดียวกัน ฮ่าฮ่า
เอาล่ะกลับมาที่พาร์ทนี้
เนื่องจากฉากหวานของพระนายเขียนยากมากกกก
เอาเป็นว่าจะยกยอดไปในพาร์ทต่อไปแล้วกัน (มีอย่างงี้ด้วย ฮ่าฮ่า)
แต่สัญญาว่าจะวายต่อไปอย่างมั่นคง อิอิ
ขอบคุณคนอ่าน คนติดตาม คนเม้นท์ และทุกกำลังใจเหมือนเคยค่ะ ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยนะคะ
เจอกันพฤหัสหน้านะจ๊ะ