นิรันดร์..รักนี้บันดาลผ่านฟ้า
ตอนที่ 6
ธาราธารรู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่ในภาวะถูกคุกคามทุกทิศทาง ภาวะนี้ทำให้มาดนายพญาไม่นิ่งอย่างที่ตั้งใจ ใครจะว่าธาราธารทำตัวเหลวแหลกยังไงก็ช่าง เขาเองไม่เคยสนใจปากหอยปากปูที่ไหนเลยสักปาก ทุกอย่างธาราธารรู้ดีอยู่แก่ใจ
แต่ใครจะไปคิดล่ะว่า!!
สิ่งที่ตัวเองก่อและทำเอาไว้จะทำให้ใครฝังใจจนตัดเยื่อตัดใยไม่ขาดอย่างนี้ โทมัสเป็นหนึ่งในคนจำพวกนั้นที่หลงอยู่กับมาดนายพญาที่ธาราธารสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นกำแพงกั้นคนเข้ามาหาตัวเองชั้นนึง
“เพิ่งออกจากโรงบาลทำไมไม่นอนพักล่ะธาร ออกมาเดินเป็นหนูติดจั่นอยู่อย่างนี้ทำไม เป็นอะไรอีกเหรอเปล่า”
เด็กหนุ่มเกือบจะโดนแผงอกกว้างตบหน้าเข้าฉาดใหญ่ ธาราธารเกือบจะเหวออยู่แล้วถ้าไม่เห็นว่าเบื้องหลังของใต้ฟ้านั้นมีว่านน้ำเดินตามมาด้วยเหมือนต้องการจะสิงใต้ฟ้าให้เป็นหนึ่งร่างเดียวกัน
ถ้าธาราธารเป็นนายพญา คอที่ตั้งตรงและใบหน้าเชิดรั้นนั้นก็เปรียบได้กับแผงคอที่แผ่ออกมาวางมาดข่มคู่ต่อสู้เต็มที่ ธาราธารเป็นประเภทที่ยอมเสียเป็นเรื่องๆไป ยกเว้น เสียหน้าให้ฝ่ายตรงข้าม เด็กหนุ่มมาดมั่นคนนี้ไม่เคยยอม
“กำลังจะไปนอนครับ”
ตอบทั้งๆที่โทรศัพท์สั่นสะเทือนจวนเจียนจะกลายเป็นซึนามิอยู่รอมร่อ ธาราธารตั้งให้สายที่มาจากต่างประเทศเท่านั้นที่จะแจ้งเตือนเป็นระบบสั่น เด็กหนุ่มจะไม่ลนลานขนาดนี้เลยถ้าปลายสายไม่ใช่แค่โทมัสที่พยายามตามหาคำตอบว่าทำไมธาราธารถึงได้หนีกลับบ้านเกิดเมืองนอนทั้งๆที่เคยโปรยคำหวานว่าผูกพันและรู้สึกดีกับโทมัสมากแค่ไหน เขาไม่อยากจะซ้ำเติมตัวเองว่ากรรมตามสนอง ได้แต่ปลอบใจว่าเสน่ห์ที่เพียรพยายามฝึกซ้อมนั้นได้ผล
ส่วนอีกคนที่ทำให้ธาราธารเลิกสนใจระบบสั่นสะเทือนที่กำลังทำลายล้างขาอ่อนอยู่ขณะนี้ไม่ได้คือเอดิสัน เพื่อนชาวไต้หวันที่ธาราธารทิ้งปัญหาไว้ให้คอยตามแก้
หากตรงหน้าไม่มีมาหยารัศมียืนลอยหน้าลอยตาเชิดสู้ดาวพระศุกร์เวอร์ชั่นธาราธารอยู่ล่ะก็ เด็กหนุ่มหนีเปิดตูดไปจัดการปัญหาใหญ่ที่ตัวเองก่อไว้นานแล้ว แต่พอเห็นว่าใต้ฟ้าไม่ได้มาแค่คนเดียว เขาเลยจำเป็นต้องตัดเรื่องที่ทำลายสมาธิอย่างหนักหน่วงในตอนนี้ออกไปก่อน แล้วยืนจ้องตาเพื่อต่อกรกับใต้ฟ้าและคนที่เดินมาด้วยกัน
“แล้วไอ้ที่เดินไปเดินมาตากน้ำค้างอยู่อย่างนี้เพราะอะไรเหรอ”
“เอ่อ คือ อ่า เอ่อ”
โว๊ย!! เด็กหนุ่มได้แต่ตะโกนร้องด่าตัวเองอยู่ในใจ สภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างนี้มันควรจะเกิดขึ้นกับนายพญาต่อหน้าศัตรูที่ไหนกันเล่า
“พี่จะบอกไว้ก่อนนะธาร ที่นี่ร้อนจัดในตอนกลางวันก็จริง แต่กลางคืนจะหนาวชื้น และน้ำจะควบกลั่นตกเป็นน้ำค้างแรงมาก เพราะฉะนั้นคนกระหม่อมบางที่ไม่เคยสัมผัสกับชนบทอย่างนายแล้วยิ่งเพิ่งกลับจากเมืองนอกใหม่ๆแล้วด้วยเนี่ยอาจจะป่วยเรื้อรังได้ พี่ไม่อยาก....”
“ไม่อยากดูแลธารนานๆเพราะมันจะเสียงานเสียการและเสียคนทำงานอีกคนของไร่ไปใช่มั้ยครับ ธารเข้าใจ”
เด็กหนุ่มกำหมัดเข้าหากันแน่น เล็บจิกเข้าเนื้อจนแสบ ไม่ได้โกรธหรือรู้สึกเสียหน้าอะไรมากมายที่เห็นว่านน้ำกระตุกยิ้มตอนที่เขาถูกใต้ฟ้าดุแกมขวะอย่างนั้น แต่ที่ในอกปวดปร่าขนาดนี้เพราะคำพูดที่ดูเหมือนจะห่วงใยนั่น ถ้าไม่ถอดความหมายดีๆคงไม่รู้หรอกว่าใต้ฟ้าแฝงความดูถูกเอาไว้มากมายแค่ไหน มันเจ็บปวดที่ธาราธารเป็นเหมือนภาระที่ใครๆเกี่ยงที่จะดูแล แม้กระทั่งปู่ของตัวเองยังเตะโด่งธาราธารมาจนถึงถิ่นทุรกันดารนี้ ตอนนี้เด็กชายที่ไม่มีใครต้องการ กำลังสะสมแรงกดดันจนกลายเป็นแรงฮึดอยู่ในใจ ถ้าธาราธารยอมแพ้ นอกจากจะตอกย้ำความเหยาะแหยะของตัวเองแล้ว ยังตอกย้ำว่าธาราธารจมอยู่กับอดีตและไม่ยอมโตสักที มันจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ ถ้าธาราธารจะทำทุกวิถีทางให้ใต้ฟ้าสยบอยู่ในอำนาจของตัวเองเหมือนกับที่โทมัสเป็นและตามคุกคามเขาอยู่ทุกวิถีทางเหมือนอย่างตอนนี้
เด็กหนุ่มสูดลมหายใจยาว ปรายตามองผู้หญิงข้างกายใต้ฟ้าด้วยแววตาว่างเปล่า ไม่ลืมที่จะเผื่อแผ่ไปยังเจ้าของประโยคบีบใจนั่นก่อนจะก้าวออกไปจากตรงนั้นจนลับสายตา
ธาราธารเดินแกมวิ่งเมื่อเข้าใกล้ห้องส่วนตัว โทรศัพท์ที่ดึงขึ้นมาดูระหว่างทางเฉลยว่าคนที่โทรมาเป็นเอดิสัน และจากที่ปลายสายตั้งใจโทรกระหน่ำเหมือนชาติที่แล้วสนิทกับสัตว์ปีกขนาดนี้ต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับเพื่อนสนิทผู้ใสซื่อแน่ๆ ธาราธารรู้จักนิสัยขี้เกรงอกเกรงใจของเพื่อนคนนี้ดี
“เหวย โทษทีนะเอดิสัน ก่อนหน้านี้ฉันไม่สะดวกที่จะรับโทรศัพท์จริงๆ มีอะไรด่วนหรือเปล่า”
เพียงแค่คำทักทายสวัสดีเท่านั้นที่ธาราธารพูดเอาใจเพื่อนสนิท หลังจากนั้นธาราธารลั่นออกมาเป็นภาษาอังกฤษลิ้นระรัวจนแทบจะพันกัน
“เกิดเรื่องใหญ่แล้วเที่ยนอี้ โทมัสอาละวาดตามหานายจนฉันกลัวไปหมดแล้ว เขาทำลายข้าวของในห้องฉันจนป่นปี้เพราะฉันไม่ยอมพูดว่านายอยู่ไหน”
นี่วิญญาณนักเลงเข้าสิงผู้ชายอบอุ่นจนเร่าร้อนคนนั้นตอนไหนกันวะ ธาราธารรู้ว่าโทมัสจัดอยู่ในประเภทพ่อปลาไหล คารมพริ้วและรู้จักที่จะเอาอกเอาใจคนที่ตัวเองหมายตา แต่ว่าโทมัสไม่เคยหลุดนิสัยไม่ได้ดั่งใจแล้วโมโหอาละวาดฟาดงวงฟาดงาไปทั่วขนาดนี้ เด็กหนุ่มใจหายไม่น้อยที่สร้างความเดือดร้อนให้คนรอบข้างนอกแทนที่จะเป็นตัวเองคนเดียว แถมตอนนี้ระยะทางมันห่างไกลกันเกินกว่าที่เขาจะกลับไปแก้ปัญหาได้ทันท่วงที
“ขอโทษนะเอดิสัน ฉันไม่รู้จริงๆว่าโทมัสจะเป็นแบบนี้”
ธาราธารขอลหุโทษกับเพื่อนสนิทด้วยน้ำเสียงที่ตรงกับความรู้สึกในใจจริงๆ เสียงพูดเปล่งออกมาจากลำคอสั่นเครือ ธาราธารไม่ได้อ่อนแอ แต่รู้สึกแย่ที่ตัวเองเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด
“ฉันไม่ได้อยากให้เที่ยนอี้รู้สึกแย่นะ แต่ฉันกลัวโทมัสจริงๆ ฉันกลัวเขาจะโกรธนายแล้วทำร้ายฉัน แววตาเขาที่มองมาที่ฉันน่ากลัว เหมือนเสือที่จ้องจะฉีกร่างฉันเป็นชิ้นๆ เที่ยนอี้ ฉันจะทำยังไงดี”
“บอกเขาไปสิว่าฉันอยู่ที่เมืองไทย ฉันถูกเรียกตัวกลับบ้าน บอกเขาไปเอดิสัน นายจะได้รอดพ้นจากอันตราย ฉันจะรอตั้งรับโทมัสอยู่ที่นี่ ฉันขอโทษนายอีกทีนะที่ปกป้องนายไม่ได้ ทั้งๆที่ฉัน ฉันสร้างเรื่องขึ้นมาเองแท้ๆ”
ธาราธารเข่าแทบทรุดเมื่อรู้ว่าปัญหาเล็กน้อยที่เคยคิดเอาไว้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ธาราธารแค่โปรยเสน่ห์แบบหมาหยอกไก่กับทุกคนที่หลงเข้ามาติดกับเสน่ห์ของตัวเองเท่านั้น ไม่ได้ลึกซึ้งจนถึงขั้นเปลืองเนื้อเปลืองตัวอะไรมากมาย นอกจากลิปคิสและลูบไล้กันนอกร่มผ้าแล้วธาราธารมั่นใจว่าไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่านั้นเลย
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น สิ่งที่ทำให้โทมัสลุ่มหลงจนหัวปักหัวปำขนาดนี้เป็นเพราะอะไรกัน
“เที่ยนอี้ เที่ยนอี้ ฟังฉันอยู่หรือเปล่า”
ธาราธารยอมรับว่าจมอยู่กับความคิดตัวเองจนลืมไปว่าไม่ได้อยู่คนเดียว และเสียงผ่านสัญญาณข้ามประเทศที่ออกมาทางหูโทรศัพท์นั้นดังขึ้นทุกที ธาราธารไม่รู้ว่าเที่ยนอี้มีความหมายว่าอะไร แล้วเขาก็ไม่แน่ใจว่าชื่อตัวเองที่เอดิสันเรียกผ่านน้ำเสียงแปร่งๆนั่น จะใช่เที่ยนอี้อย่างที่ตัวเองได้ยินแบบนั้นหรือเปล่า เพียงแต่ระบบสมองสั่งให้จดจำว่านี่คือชื่อตัวเองที่เพื่อนสนิทเรียก
“ฟังอยู่”
“ฉันรู้ว่าโทมัสไม่ได้ตามหานายแค่ผ่านทางฉันเท่านั้น ฉันมั่นใจว่าเขาตามหากับทุกคนที่เคยอยู่ใกล้ตัวนาย ต่อให้เขาได้ข้อมูลไปจากฉันแค่ชื่อประเทศที่นายกลับไป แต่ฉันมั่นใจว่าหมอนั่นคงจะต่อยอดจนตามเจอนายจนได้แน่ๆ ฉันเป็นห่วงนาย”
“สบายใจเถอะเอดิสัน ที่ๆฉันอยู่ไม่ต่างอะไรกับติดเกาะร้างหรอก ต่อให้หมอนั่นมาถึงประเทศไทย แต่ฉันมั่นใจว่าคงตามหาฉันไม่เจอ”
“ดูแลตัวเองด้วยนะเที่ยนอี้”
“นายก็เหมือนกันนะเอดิสัน ดูแลตัวเองด้วย ฉันเป็นห่วงนายจนรู้สึกว่าตัวเองทำผิดมหันต์”
“อย่าโทษตัวเองเลยเที่ยนอี้ ฉันรู้ดีว่าโทมัสทำแบบนี้เพราะรักนายมาก แต่ก็โกรธนายมากเหมือนกันที่นายทิ้งหมอนั่นมาแบบนี้”
“นายก็รู้ว่าเรื่องมันยาว”
“ฉันรู้ เพราะฉันรู้ ฉันเลยไม่โทษนายไงล่ะ ฉันรักนายนะ”
“ฉันเองก็รักนาย”
ถึงอีกฝ่ายจะบอกว่าไม่เป็นไรและเหมือนจะรับไหว แต่จริงๆแล้วธาราธารรู้ดีว่าเอดิสันแค่แบ่งรับแบ่งสู้เพราะเห็นว่าเขาสลดลงเท่านั้น ตอนคุยกับโทมัสธาราธารหวังเพียงแต่จะทำคะแนนเพื่อลดระยะเวลาแห่งความสำเร็จให้น้อยที่สุดจนเผลอบอกเบอร์โทรส่วนตัวของตัวเองที่เมืองไทยไป ตอนนั้นนอกจากธาราธารจะคิดว่าทำอย่างไรให้ตัวเองมีเสน่ห์ต่อผู้ชายด้วยกันแล้ว เวลาที่จะทำให้อีกฝ่ายตกหลุมรักสั้นลงเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ธาราธารมั่นใจว่าตัวเองทำได้และเก่งอยู่พอประมาณ สุดท้ายก็ได้แต่มาทุกข์ใจเพราะตัวเองก่อเอาไว้เองอย่างนี้
ธาราธารทิ้งตัวลงบนที่นอนรุนแรงจนเบาะเด้งดีดตัวเขาให้ลอยขึ้นมากลางอากาศแล้วหล่นปุลงไปบนที่นอนสปริงที่ทำงานได้ดีสมราคาหลังนั้นดังเดิม
ก่อนที่เด็กหนุ่มจะปล่อยอารมณ์ให้ตัวเองได้จมอยู่กับความคิดและปัญหาที่เพิ่งเกิดเนิ่นนานจนลืมเวลา แต่สุดท้ายปัญหาเหล่านั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะเจอทางแก้ เหมือนฝุ่นผงที่หมุนวนอยู่ในน้ำไม่ยอมตกตะกอนเสียที
“ฮึ่ย!! อะไรกันนักหนาวะ กลับมาที่นี่ดันไม่มีใครต้องการ คนที่ต้องการก็ดันน่ากลัวเกินไปและไม่ใช่คนไทยซะอีก ที่สำคัญ คนๆนั้นไม่ใช่คนที่่เรามีใจให้ โอ้ยยยยยยยย เสน่ห์เสือกบังเกิดผิดที่ผิดทางและผิดคนซะจริงๆ”
ปัง ปัง ปังๆๆๆ
“ธารเปิดประตูหน่อย พี่เอง”
เสียงแหลมสูงบาดเข้าไปในแก้วหูเป็นสัญญาณว่าธาราธารเปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือน ภาพที่ปรากฎหลังบานประตูทำให้ใต้ฟ้าต้องขมวดคิ่วมุ่นกว่าเดิม ธาราธารอยู่ในสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง รอยยับย่นบนหน้าผากยังเด่นชัดถึงแม้เจ้าตัวจะพยายามปรับให้มันอยู่ในสภาพปกติ ถึงลักษณะภายนอกจะคล้ายกัน แต่ใต้ฟ้าก็มั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้เพิ่งตื่นจากนอนแน่ๆ โดยเฉพาะเสียงสบถที่ดังคล้ายเสียงคำรามเมื่อสักครู่บอกได้ว่าธาราธารกำลังหงุดหงิดและคิดไม่ตกอยู่กับอะไรบางอย่าง และมันกระทบใจจนใต้ฟ้าต้องพาตัวเองออกมาเพื่อหาคำตอบกลางดึกดื่นขนาดนี้
“พี่ใต้ฟ้ามีอะไร”
เด็กหนุ่มยีหัวตัวเองที่ท้ายทอยให้ผมยุ่งเหยิงเยอะไปกว่าเดิมเสียอีก น้ำเสียงยานคางแต่หน้าตาบอกได้ว่าไม่สบอารมณ์ที่ถูกอีกฝ่ายรุกรานเข้ามาในตอนนี้
“พี่ได้ยินเสียงเราตะโกน คิดว่าเป็นอะไรขึ้นมาอีกน่ะสิ”
“ธารไม่ได้ขยันก่อเรื่องให้พี่ใต้ฟ้าหัวหมุนขนาดนั้นหรอกน่า ไม่ได้จะเรียกร้องความสนใจซะหน่อย”
“พี่ก็ยังไม่ได้ว่าอะไร ตกใจเลยแวะมาดูเท่านั้นเอง ที่นี่เป็นหุบเขา เวลาที่เงียบมากๆหากทีเสียงดังออกมามันจะสะท้อนไปทุกทิศทาง นอกจากพี่ที่ตกใจแล้ว พวกคนงานก็อาจจะตื่นตะหนกได้ เผลอๆเขาอาจจะคิดว่าธารทำอะไรพี่ก็ได้นะ”
“กวางน้อยอย่างธารเนี่ยนะครับจะทำร้ายหมีป่าอย่าพี่ใต้ฟ้าได้ ธารว่าคนงานเขาคงจะแยกแยะได้มั้งครับ อีกอย่างธารเพิ่งป่วยมานะ”
“ระหว่างนายกับคนที่มาใหม่ เขามักจะคิดร้ายกับคนที่มาใหม่มากกว่านายของตัวเองนะธาร พี่กลัวว่าคนงานในไร่จะมองธารครึ่งๆกลางๆนะสิ จะไว้ใจก็ไม่ไว้ใจอะเข้าใจมั้ย”
“ธารไม่ได้มาหาเสียงเลือกตั้งนะครับที่จะต้องการความไว้วางใจจากใคร”
“เฮ้อ พี่จะอธิบายไงดีล่ะ เอาเป็นว่า”
“ธารง่วงนอนแล้วครับ ไว้วันอื่นเถอะ ต่อไปนี้จะถอนหายใจเบาๆก็แล้วกัน”
“อยู่ที่นี่อึดอัดและลำบากใจมากขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ก็...............................................”
ใต้ฟ้ารู้สึกลุ้นกับคำตอบที่อีกฝ่ายจิ้มนิ้วกับขมับตัวเองเหมือนใช้ความคิดจนเกือบลืมหายใจเพราะอยากรู้เอฟเฟคทางความคิดของอีกฝ่ายว่ารู้สึกยังไง
ใต้ฟ้าไม่อยากใจร้ายกับเด็กผู้ชายตรงหน้าคนนี้เลย
แต่หากเอาใจจนเกินไปธาราธารก็จะแข็งข้อกับเขาได้ง่ายๆและคงจะออกคำสั่งหรือสั่งสอนอะไรกันยาก ฉะนั้นใต้ฟ้าจึงต้องหาวิธีที่จะสอนอีกฝ่ายให้แข็งแกร่งเหมือนอย่างที่เขาเป็นแบบลูกผู้ชายขวานผ่าซาก
“ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ ไม่ใช่เรื่องที่น่าสนใจอะไร ฝันดีราตรีสวัสดิ์นะครับ”
เด็กหนุ่มทิ้งช่วงเวลาจนแน่ใจแล้วว่าอีกฝ่ายกำลังมีความรู้สึกร่วมกับช่องว่างที่ตัวเองตั้งใจจะทิ้งท้ายเอาไว้ให้ลุ้นก็ปิดเกมให้อีกฝ่ายได้กลับไปคิดเหมือนที่ใต้ฟ้าเองก็ชอบพูดอะไรให้ธาราธารต้องคิดต้องตีความหมายในคำพูดพวกนั้น
ใต้ฟ้าไม่ได้เบี่ยงตัวหลบอย่างที่คิดเมื่อธาราธารเอนตัวเข้าไปหา ไม่ได้มีทีท่ารังเกียจทั้งๆที่น่าจะรู้แล้วว่าธาราธารกำลังฝังปลายจมูกให้จมลงไปในเนื้อแก้มอย่างจงใจ ไม่มีแม้แต่อาการเกร็งตัวอย่างที่ควรจะเป็น ใต้ฟ้ายืนอยู่กับที่ในท่าทางที่ปล่อยตัวเองตามสบาย คนที่ชะงักค้างและรีบผละตัวเองออกมากลายเป็นคนที่ก๋ากั่นหอมแก้มราตรีสวัสดิ์อีกฝ่ายตามธรรมเนียมฝรั่งเสียด้วยซ้ำ
ต่อให้ธาราธารรีบแค่ไหน ก็ช้ากว่าอีกฝ่ายที่ตรึงให้ธาราธารอยู่กับที่แล้วตอบรับราตรีสวัสดิ์ของเด็กหนุ่มด้วยการฝังจมูกลงมาที่แก้มเนียนเหมือนๆกัน แต่ที่ร้ายกาจไปกว่านั้น ใต้ฟ้าเลือกที่จะเกลี่ยปลายจมูกไปมาจนทั่วไปทั้งแก้ม แล้วหยุดอยู่ที่ริมฝีฝากแดงที่เผยอออกมาด้วยความตกใจ ไม่มีอะไรมากไปกว่าการลากไล้เล็มเลียริมฝีปากคู่นั้น ใต้ฟ้าไม่ได้ล่วงเกินมากไปกว่าบดจูบเน้นย้ำอยู่แค่ภายนอก ข่มใจจนสุดกำลังที่จะส่งปลายลิ้นเข้าไปสำรวจด้านใน
สภาวะมั่นคงของธาราธารถูกสั่นคลอนอย่างหนัก ในหัวว่างเปล่าและล่องลอย น้ำหนักตัวมีค่าเท่ากับหมอกควันที่ล่องลอยไปในอากาศโดยไร้ทิศทาง แรงสั่นในกระเป๋ากางเกงเปรียบเสมือนกรรมการห้ามมวย สติกลับคืนมาทั้งๆที่แทบจะล้มทั้งคืน หากไม่ได้ใต้ฟ้าคว้าเอาไว้ ก้นบางๆคงกระแทกพื้นแน่ๆ
“พี่รู้ว่าธารเป็นคนกล้า แต่จะดีกว่านี้ถ้าธารกล้าด้วยความมั่นใจนะ พี่ไปละ ฝันดี”
เป็นกู๊ดไนท์คิสที่ทำให้ธาราธารไม่ได้เตรียมใจรับอีกแล้ว จากที่คิดว่าคงจะได้รับการต่อต้านอย่างสุดกำลังจากใต้ฟ้า แต่กลายเป็นว่าธาราธารได้รับการสนองตอบที่ข้ามขั้นตอนไปเยอะกว่าจูบราตรีสวัสดิ์อย่างปกติ
ไม่รู้จะเรียกว่าพ่ายแพ้หรือได้รับชัยชนะดี ธาราธารรู้ว่าใต้ฟ้าต่อต้านการรักกันของผู้ชาย หรือเรียกง่ายๆว่าไม่ยอมรับเกย์นั่นเอง แต่ครั้งนี้ แทนที่ใต้ฟ้าจะรังเกียจและขยะแขยงกลับรั้งเขาเอาไว้แล้วบดจูบจนปากแทบจะเห่อบวม ถึงมันจะไม่ใช่จูบที่ลึกซึ้งจนเร่าร้อน แต่เพียงแค่สัมผัสแตะต้องก็ทำให้หัวใจฟองฟูแล้วก็แทบจะหลอมละลายไปในเวลาเดียวกัน ผู้ชายที่เงียบขรึมอย่างใต้ฟ้านั้น ธาราธารคิดว่าจะร้ายกาจแต่ปากที่พล่ามวาจาเชือดเฉือนใจ แต่ความจริงแล้วการกระทำของใต้ฟ้าเองก็ร้าย เพียงแต่มันอยู่ภายใต้ใบหน้าราบเรียบเท่านั้น
‘ธารไม่รู้หรอกนะว่าพี่ใต้ฟ้าจงใจแกล้งหรืออยากจูบจริงๆ แต่ธารไม่หยุดความพยายามไว้แค่นี้แน่ พี่ใต้ฟ้าทำให้ธารเฟล เพราะฉะนั้นธารจะเอาคืนพี่ใต้ฟ้าบ้างคอยดู’
แววตามุ่งมั่นของเด็กหนุ่มส่องประกายแรงกล้า แต่ว่าภาวะถูกคุกคามก็ยังไม่หมดไปง่ายๆ
ธาราธารตัดสินใจคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู กำลังใจมีมากพอให้กล้าที่จะวิ่งชนกับปัญหาที่ตัวเองก่อเอาไว้ ในเมื่อเคลียร์กับเอดิสันจนเข้าใจไปแล้ว ไอ้ที่โทรจิกเป็นไก่ไม่แพ้กันนี้คงเป็นคู่กรณีอย่างโทมัสแน่ๆ
“มีอะไรเหรอฮั่นนิ๊”
ถ้าแปลเป็นไทยแล้วได้ความหมายและลงท้ายหางเสียงได้ประมาณนี้เลย ธาราธารกรอกออกไปโดยไม่มองชื่อที่โชว์บนหน้าจอซะด้วยซ้ำ
“มึงจะหันหนีใครหาไอ้ตัวดี ก่อนกลับมานี่แก่ไปก่อเรื่องอะไรไว้ไอ้ธาร”
“ปะ ปู่เหรอครับ เวรแล้วมั้ย!! ฮึ่ย ทำไมสายเรียกเข้าของปู่กลายเป็นระบบสั่นวะ”
ประโยคหลังธาราธารสบถกับตัวเองอย่างหงุดหงิดใจ
“ปู่เองสิวะ แกนี่นะ ขนาดกลับมาแแล้วยังมีคนตามจองล้างจองผลาญ ไอ้ผู้ชายที่โทรมาตามหาแกที่บ้านนั่นใครวะ ใช่คนที่อยู่ในห้องแกคืนนั้นหรือเปล่า”
“เปล่าครับ” ปากตอบแต่สมองกำลังรวบรวมสมาธิ
“นี่แกมีผู้ชายแวะเวียนมาหามากกว่าหนึ่งเหรอไอ้ธาร แกนี่มัน”
“ปู่ครับ อย่าเพิ่งต่อว่าธารเลยน่า บอกมาก่อนสิครับว่าเขาโทรมาต้องการอะไร”
“ต้องการมาหาแกที่เมืองไทยไงล่ะดาร์ลิ๊ง มันเรียกแกว่าดาร์ลิ๊งนะไอ้หลานเวร นี่แกริอาจจะมีเมียเป็นผู้ชายเหรอ”
“ปู่คิดไกลเกินไปแล้วนะครับ เดี๋ยวธารจัดการเองแล้วกัน”
ตัดบทไปทั้งๆที่คิดไม่ตกเลยว่าจะจัดการยังไง โทมัสร้ายกว่าที่คิดมาก พิษรักนี่มันไม่จำเป็นต้องมีความเหมาะสมและมีเหตุผลมารองรับจริงๆ
เช้าของอีกวันธาราธารพยายามจะทำให้ตัวเองสดชื่นและใสเด้งอย่างที่ควรจะเป็นเพื่อกลบเกลื่อนภาวะคิดไม่ตกที่ทำให้นอนไม่หลับทั้งคืน เรื่องผู้หญิงที่มาติดพันใต้ฟ้าก็เป็นเรื่องใหญ่ ผู้ชายแท้ๆอกสามสองอย่างเจ้าของไร่นั้นย่อมจะสนใจผู้หญิงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ว่านน้ำถือเป็นคู่แข่งที่ทำให้เด็กหนุ่มคิดหนัก แต่ปัญหาของโทมัสก็วางเฉยไม่ได้ โทมัสสามารถหาเบอร์โทรติดต่อไปที่บ้านได้แสดงว่าหมอนี่ใจจอจ่ออยู่แต่กับเขา ความรักของโทมัสอาจจะกลายเป็นความแค้น ช่วงนี้ธาราธารอาจจะต้องญาติดีกับปู่สักพัก ให้ปู่ช่วยยืดเวลาหรือไม่ก็ทำให้โทมัสถอดใจไม่มาวุ่นวายตามหาเขาอีกแล้ว ตอนนี้สำหรับธาราธาร การทำให้ผู้ชายหันมาสนใจผู้ชายด้วยกันเองเป็นโปรเจคใหญ่หลวงที่สุดแล้ว โดยเฉพาะผู้ชายที่ตรึงใจธาราธารมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่รู้อะไรมาดลใจให้ตัวเองเอาใจยึดติดกับใต้ฟ้ามากมัก อาจจะเพราะความเหว่ว้าและตกอยู่ในฐานะคนที่ไม่มีใครต้องการก็เป็นได้
สิ่งที่ทำให้้ธาราธารรู้ตัวว่าตัวเองต้องเป็นเกย์แน่ๆนั้นมาจากการที่เขาอยากอยู่ใกล้ๆและอยากใช้ชีวิตเคียงข้างใต้ฟ้าในลักษณะของคู่ชีวิตมากกว่าน้องชายที่สนิทเท่านั้น และมันยิ่งรุนแรงและตอกย้ำความรู้สึกมากขึ้นตามวันเวลาที่เด็กหนุ่มเจริญเติบโตไปตามวัย
เด็กหนุ่มมองเหม่อออกไปรอบๆบริเวณไร่แห่งนี้จากเนินที่เป็นที่ตั้งของตัวบ้านเห็นผู้คนมากมายกระจายไปตามส่วนต่างๆของไร่ ทุกคนกำลังก้มหน้าก้มตาทำงาน บางขนก็ขนของขึ้นรถบรรทุกที่จอดรออยู่บนถนนของไร่ ริมถนนก็มีคนงานหลายต่อหลายคนที่คัดเลือกผักและผลไม้วางเรียงเป็นกองๆ ถึงลมที่พัดผ่านผิวเนื้อจะยังหนาวเย็น แต่แสงแดดเริ่มแผ่ความร้อนออกมาบ้างแล้ว ไกลลิบๆธาราธามองเห็นใต้ฟ้าในชุดเสื้อแขนยาวกับหมวกปีกกว้างเหมาะที่จะเป็นชาวไร่ กางเกงยีนส์สีเข้มแนบไปกับขาเผยให้เห็นเค้าโครงมัดกล้ามเนื้อชัดเจน
เด็กหนุ่มแหงนหน้าขึ้นไปบนฟ้า พยายามหลับตาและนึกภาพไปถึงมิติที่ใต้ฟ้าใส่สูทผูกไทด์เป็นผู้บริหารในออฟฟิตแล้วถึงกับสะบัดหัวพรืด
‘ไม่เข้ากันเลยแฮะ หรือว่าภาพความจริงมันชัดเจนจนจินตนาการไม่ออก’
ที่ธาราธารนึกอยากจินตนาการไปถึงภาพใต้ฟ้าเป็นหนุ่มออฟฟิตก็เพราะยังหาเหตุผลที่ทำให้ผู้ชายเฟอร์เฟคอย่างใต้ฟ้าทิ้งความเจริญและทิ้งความก้าวหน้าในชีวิตมาขลุกอยู่กับดินกับหญ้าอย่างนี้ไม่ได้จริงๆ ใต้ฟ้าไม่ได้มีปัญหาอย่างเขา ไม่จำเป็นต้องทำตัวต่อต้านเพื่อเรียกความสนใจอย่างใคร ไม่ใช่คนที่จะต้องทำตัวประชดชีวิตอย่างธาราธารเลย
“อรุณสวัสดิ์ค่ะน้องธาร เพิ่งตื่นเหรอคะ เหงาะสินะคะ ตื่นมาเค้าก็ลงไร่กันไปหมดแล้ว”
เมื่อธาราธารเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใครก็ไหวไหล่และยกยิ้มเก๋ๆที่มุมปากแทนการรับรู้ว่ามีใครอีกคนมาเยื่อมเยือนโลกส่วนตัวที่สร้างเอาไว้
“ก็ไม่เหงาอะไรนี่ครับ พอดีผมเพิ่งหายป่วย พี่ใต้ฟ้าไม่อยากให้ไข้กลับมาเขาเลยสั่งห้ามไม่ให้ผมไปโดนแดดโดนลมในไร่น่ะครับ แล้วคุณว่านน้ำล่ะครับ มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ มาเอาตอนที่เจ้าของบ้านเค้าลงไร่แบบนี้คงไม่ได้นัดเอาไว้ใช่มั้ยครับ”
ธาราธารสะใจที่อีกฝ่ายกระตุกคิ้วเมื่อถูกเขาตอกกลับซะจนสะอึกอย่างนี้
“พี่มาทานข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนใต้ฟ้าเค้าบ่อยไปค่ะ พี่รู้แล้วล่ะว่าตอนนี้เค้าเข้าไร่ เพียงแต่พี่จะเตรียมความเรียบร้อยน่ะค่ะ ใต้ฟ้ากลับมาจะได้ลงมือทานได้เลย”
“ทำหน้าที่คล้ายๆแฟนเลยนะครับ ผมไม่ยักรู้ว่าพี่ใต้ฟ้ามีคนที่คบด้วย พี่ใต้ฟ้าไม่เห็นเล่าให้ฟังเลยครับ ทั้งๆที่เราคุยกับทุกเรื่อง แย่จังเลยนะครับ”
ธาราธารปดออกไปสองเรื่องใหญ่ๆ โดยไม่กระดากปากหรือตะขิดตะขวงใจเลยสักนิด ใต้ฟ้าไม่ได้แสดงความห่วงใยเขาออกนอกหน้าขนาดนั้น และก็ไม่ได้สนิทกันจนถึงขั้นพูดคุยกันทุกเรื่อง อันที่จริงแล้วถึงแม้จะพูดดีๆกันได้ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่พ้นแขวะกัดกันมากกว่าอยู่ดี
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ธาราธารมั่นใจว่าว่านน้ำกำลังพยายามทำคะแนนเพื่อเป็นนายหญิงของที่นี่แน่ๆ
๐ สวัสดีค่ะ หายไปนาน ชีวิตคนเขียนยังไม่เสถียร เรื่องนี้ก็เบาสมอง น้ำเน่ากันไปตามเรื่องนะคะ มันสมองคนเขียนตีบตันละ
๐ จะพยายามตามโดจินนายโลมมาอัพเดทบ่อยๆค่ะ เอาแส้ฟาดเอาน้ำตาเทียนลนคนวาดได้เมื่อไหร่ จะเข็นออกมาให้ดูนะคะ ปกเล่มสองด้วยค่ะ^^
๐ ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามกันเหมือนเดิมนะคะ คำผิดที่ช่วยดูให้เสมอด้วยค่ะ
๐ ทางเข้า
TRomance's Fanpage คลิกเลยค่ะ[/color]
๐ หากใครมีสิงหากุมภาที่เป็นหนังสืออยู่ในมือ ปกเล่มแรกเรื่องนายโลมก็จะใช้กระดาษแบบเดียวกันนะคะ ตอนนี้คนวาดเขาเห็นปก final แล้ว ยังไม่บอกให้คนเขียนแก้ไขอะไร ก็ยึดตามนี้ไปก่อนนะคะ หากใครสนใจจองเรื่องนี้ก็คลิกที่ภาพปกตามไปดูรายละเอียด หรือตามแบนเนอร์โฆษณาไปได้เลยค่ะ
