Three Couple of love:Special Features:Sweet Couple
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Three Couple of love:Special Features:Sweet Couple  (อ่าน 153388 ครั้ง)

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ยอด – “ชอบฉากที่โจ้โดนบาสหล่นใส่จนสลบ โดยฝีมือของยอดนั้นเอง ที่ชอบเพราะดูฉากนี้กุ๊กกิ๊กดี เหมือนสองคนจะชอบกัน แต่ความเป็นจริงยอดไม่ได้ชอบ แค่รู้สึกดีกับโจ้เฉยๆ แต่โจ้นี้หลงหัวปักหัวปำเลย”

ในขณะที่ผมกำลังชะเง้อมองพี่ยอดอยู่นั่นเอง ผมรู้สึกว่ามีวัตถุบางอย่างกำลังเคลื่อนตัวมาทางผม
“เฮ้ย! ไอ้น้องระวัง” เสียงจากคนในสนามบาสตะโกนบอกผม
แทนที่ผมจะหลบกลับมองไปทางวัตถุนั้น
“อีกแล้วเหรอกู” ผมนึกในใจ พร้อมหลับตาปี๋ ยืนรับชะตากรรมอยู่ตรงนั้น
แต่แล้วผมก็รู้สึกว่าตัวผมโดนใครคว้าตัวไป
ลูกบาสตกลงพื้นโดยไม่โดนตัวผม
ผมลืมตาขึ้นมองว่า ใครช่วยผมไว้
“อีกแล้วเหรอโจ้ ท่าทางจะไม่ถูกกับลูกบาสนะ” พี่ยอดพูดกับผมทั้งๆที่ผมยังซบอกพี่ยอดอยู่ริมสนามบาส
ผมรีบผละตัวออก พร้อมขอบคุณพี่ยอด “ขะ ขอบคุณ ครับ” ผมก้มหน้าพยายามไม่ให้พี่ยอดเห็นว่าผมเขินขนาดไหน
“เดินระวังหน่อยหล่ะกัน พี่คงช่วยโจ้ไม่ได้ตลอดหรอก” พี่ยอดพูด พร้อมเดินกลับไปซ้อมบาสต่อ
ผมยืนยิ้มตรงนั้นอีกสองสามนาที เพื่อดูพี่ยอดซ้อมบาส
“ทำไมกูโชคดีอย่างนี้ว่ะ ซบอกเค้ามาตั้งสองครั้งแล้ว จะมีครั้งที่สามอีกไหมเนี้ย” ผมนึกในใจ เพราะชอบที่ได้ซบอกของคนที่ผมชอบ
ไม่ทันขาดคำ ลูกบาสโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ คราวนี้กระแทกหน้าผมอย่างจัง
ผมล้มไปทันที พร้อมตาของผมก็พร่าเบลอ จนผมหมดสติล้มไปข้างสนามบาสนั้น

ผมมารู้สึกตัวอีกที ก็ตอนมาอยู่ที่ห้องพยาบาลแล้ว
ผมลืมตามองไปรอบๆห้อง เห็นพี่ซุ่ยยืนมองผมที่ข้างเตียง
“ว่าไงโจ้ รู้สึกยังไงบ้าง” พี่ซุ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“มึนหัวนิดหน่อยครับ แต่ก็ไม่เป็นอะไรมาก” ผมเอามือมาจับที่หัว รู้สึกว่าหน้าผากตัวเองนูนออกมา
“ท่าทางโจ้จะไม่ถูกกับลูกบาสนะ เห็นต้องล้มเพราะลูกบาสทุกที” พี่ซุ่ยเอามือมาลูบที่หัวผมเบาๆ
“ผมจะระวังตัวให้มากกว่านี้ครับ ขอบคุณพี่ซุ่ยมากที่ช่วยผมไว้” ผมพูดกับพี่ซุ่ย เพราะคิดว่าพีซุ่ยคงเป็นคนพาผมมาที่ห้องพยาบาล
เพราะในห้องตอนนี้ก็มีแค่ผมกับพี่ซุ่ยเท่านั้น
“ป่าวหรอก พี่ไม่ได้ช่วยโจ้หรอก นู้น คนนู้น” พี่ซุ่ยชี้ไปที่หน้าห้อง
พี่ยอดกำลังยืนพิงประตู้อยู่ด้านนอกของห้อง
“พี่ยอดเหรอครับ” ผมถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“อืมม ยอดมันบอกว่าพอเห็นโจ้ล้มลง ก็รีบอุ้มมาที่ห้องพยาบาล แล้วก็ไปตามพี่ที่ชมรมนี้แหล่ะ”
ผมนึกภาพตามที่พี่ซุ่ยพูด พี่ยอดอุ้มเราเหรอเนี้ย เสียดายที่ตอนนั้นผมไม่รู้สึกตัว
“ไม่เป็นอะไรมาก พี่กลับชมรมก่อนแล้วกัน เดินไหวแน่นะ” พี่ซุ่ยถามผม
“ไหวครับ” ผมยิ้ม
พี่ซุ่ยจึงเดินออกไป พร้อมคุยกับพี่ยอดที่อยู่หน้าห้อง
สักพักพี่ซุ่ยก็ไปชมรม แต่พี่ยอดยังอยู่หน้าห้อง
ผมมองดูว่าพี่เค้าจะทำอะไร สักพักพี่ยอดก็เดินเข้ามาในห้อง
“เป็นไงบ้าง ความจำเสื่อมหรือเปล่า” พี่ยอดแซว ผมเลยหัวเราะ
“55555 ความจำยังดีอยู่ครับ แถมรู้ว่าด้วยว่าใครเป็นคนอุ้มผมมาที่นี้” ผมแซวกลับ พี่ยอดก็หัวเราะ
“55555 เหรอ แล้วรู้หรือเปล่าว่าตัวเองหนักขนาดไหน พี่เกือบให้เพื่อนอีกสองคนช่วยอุ้มแล้วนะเนี้ย” พี่ยอดไม่ยอมแพ้แซวผมกลับอีก
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ยังไง ก็ขอบคุณนะครับ ที่ช่วยผมไว้ทุกครั้งเลย” ผมยิ้มให้พี่ยอด พี่ยอดก็ยิ้มให้ผมเหมือนกัน


โจ – “ฉากที่โจสารภาพความรู้สึกทั้งหมดให้กับโจ้ ดูเป็นฉากที่หักมุมเหมือนกัน เพราะโจดูเหมือนไม่ได้ชอบโจ้เลย เพราะโจไม่ใช่สเป็คของโจ้ อีกอย่างยังชอบแกล้ง และชอบพูดจาประชดประชัน พอโจ้รู้ความจริงก็อึ้งไปเลย แต่ถือว่าโจเป็นสุภาพบุรุษในมาดเถื่อนนะ เพราะเค้าก็ไม่ได้บังคับโจ้ แถมยังให้โจ้ทำอะไรก็ได้ตามใจ”


หลังจากผมอาบน้ำเสร็จ โจก็เข้าไปอาบต่อ ผมเลยมายืนที่ระเบียง พร้อมมองออกไปข้างนอก
ภาพตึกราบ้านชนในเมืองหลวง ทำให้ผมนึกถึงสังคมที่อีกไม่กี่ปีที่ต้องไปเผชิญ
ผมยังจะต้องเจอคนที่ไม่จริงใจแบบพี่หมีอีกไหม แล้วเขาคนนั้นจะทำร้ายจิตใจของผมเหมือนพี่หมีหรือเปล่า
หรือมันอาจจะเลวร้ายกว่านั้น  ผมน้ำตาไหลอีกแล้ว ผมอ่อนแอเกินไปหรือเปล่า
“ร้องไห้อีกแล้ว” โจเดินออกมายืนข้างๆผม ผมรีบเช็ดคราบน้ำตา
“ทำไมคนที่จริงใจกับเราถึงมีน้อยจัง” ผมหันไปถามโจ
โจส่ายหัว “แค่ผิดหวังจากคนๆเดียว อย่าพาลถึงคนที่เขายังเป็นห่วงนายซิ”
ใช่สิ ผมลืมเพื่อนๆของผมไป ผมลืมท่านอธิการ ลืมซิสเตอร์มีเรียม ลืมน้องๆในสถานสงเคราะห์
“แล้วอีกอย่าง เราอีกคนที่ยังมีความจริงใจให้นายเสมอ” โจพูดแบบเขินๆ แล้วก็หันหน้าไปทางอื่น
“นายคงไม่เคยรู้หรอกว่า คนที่นายเห็นว่าไม่เอาไหน ไม่เอาถ่าน อยากจะทำตัวให้ดี เพื่อคนที่เขาไม่คิดจะหันมองมาเลยสักนิด นายคงไม่รู้หรอกว่า สองปีที่ผ่านมา มีใครแอบมองนาย มีใครแอบชอบนาย  ชื่นชมกับความขยัน ความตั้งใจในการทำงาน แอบมองรอยยิ้มที่ยิ้มอย่างจริงใจให้ทุกคน”
ผมฟังสิ่งที่โจพูดอย่างตั้งใจ สองปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยคิดจะสนใจโจเลย ทั้งๆที่เป็นเพื่อนร่วมห้อง
“อย่าถามนะว่าเราชอบนายตั้งแต่เมื่อไหร่ เราเองก็ไม่รู้” โจยังพูดต่อไป
“เรารู้แค่ว่า เราคงไม่ใช่คนที่นายหวัง คนที่นายอยากรู้จัก แต่เรามั่นใจว่าความจริงใจที่เรามีให้นายไม่แพ้กับคนอื่นๆแน่”
สิ้นสุดประโยค ผมฟังได้แต่อึ้ง อาจไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนมาสารภาพรักกับผม แต่ผมถือว่านี้เป็นการสารภาพรักที่ผมประทับใจที่สุด
“อย่าทำหน้าแบบนั้นดิว่ะ เราไม่ได้หวังอะไรหรอก แค่ไม่อยากให้นายเศร้ามากไปกว่านี้” โจหันมามองหน้าผม
“ขอบใจนะ ขอบใจนายจริงๆ” ผมร้องไห้อีกแล้ว แต่คราวนี้ เป็นน้ำตาของความดีใจ
ดีใจที่ยังมีคนเห็นคุณค่าในตัวของผม ทั้งๆที่คนๆนั้นผมไม่เคยเห็นคุณค่าเขามาตลอด
ผมค่อยๆเอื้อมมือไปจับมือของโจ บีบมือของเขาเบาๆ
โจมองหน้าผม เขาทำท่าจะเขยิบตัวมาใกล้ แต่สักพักเขาก็ถอยกลับไปเหมือนเดิม
ผมเลยเดินเข้าไปหาเขาและกอดเขาแทน
“สิ่งที่เราตอบแทนนาย ก็คงเป็นความจริงใจที่เพื่อนคนหนึ่งจะมอบให้”
โจได้ยินสิ่งที่ผมพูดก็คงเข้าใจในความหมายของมัน เขาเลยกอดรับอ้อมกอดของผม
มิตรภาพนั้นอาจยั่งยืนยาวนานกว่าความรักที่ผมตามหาก็ได้


เต๋า – “ฉากที่เต๋าไปขอโทษเชียร์ที่แกล้งเชียร์มาตลอด แต่เชียร์มาปรี๊ดแตกตอนเล่นวอลเล่ย์ และเป็นฉากที่ทำให้เชียร์เริ่มสับสน ว่าตัวเองยังมั่นคงในความรักกับแฟนอยู่หรือเปล่า”


ผมนั่งร้องไห้ไปเรื่อยๆ จนรู้สึกเหมือนมีใครคนหนึ่งมานั่งอยู่ข้างหลังผม
ผมไม่หันหลังกลับไปมอง เพราะรู้ว่าเป็นใคร
“เชียร์ พี่ขอโทษ” พี่เต๋าพูด แต่ผมไม่อยากฟัง ผมนั่งเงียบเช็ดน้ำตาตัวเอง
พี่เต๋าเห็นผมเงียบก็เลยเอามือมาแตะที่บ่าของผม “พี่ขอโทษจริงๆน่ะ พี่จะไม่แกล้งเชียร์อีกแล้ว”
ผมไม่อยากฟังคำพูดของผู้ชายคนนี้อีกแล้ว ผมเลยลุกจะเดินออกจากที่นั่น
แต่พี่เต๋าก็เดินมาคว้ามือผมไว้ แล้วดึงตัวผมมาใกล้ตัวของพี่เต๋า
พี่เต๋าจับตัวผมแล้วหันหน้าไปทางเขา “พี่ขอโทษแล้วน่ะ ยังโกรธทำไมอีก”
ผมสะบัดตัวพยายามให้มือของพี่เต๋าที่เกาะไหล่ผมออกไป
“ปล่อยเชียร์น่ะ ไม่ต้องมาขอโทษหรอก ถ้ามันไม่ได้มาจากใจจริงๆ”
ผมพูดพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมา พี่เต๋าตกใจที่ผมเป็นอย่างนั้น
ผมเองไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าใครหรอก แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงได้เสียใจกับการกระทำของพี่เต๋ามากก็ไม่รู้
“เชียร์พี่ขอโทษจริงๆน่ะ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เชียร์เสียใจ พี่ขอโทษจริงๆ”
เสียงพี่เต๋าเองก็ดูสั่นๆ พร้อมสายตาที่แปลกไปจากเดิม รู้เพียงแต่ว่าสายตานั้นมันแสดงถึงความจริงใจ
ผมอึ้งไปพักหนึ่ง ผมจ้องตาของพี่เต๋า ผมตอบตัวเองไม่ได้ว่าจะยกโทษให้พี่เต๋าหรือไม่
แต่ผมเกิดรู้สึกแปลกๆกับสายตาที่พี่เต๋าจ้องมองมาที่ผม
“เชียร์จะยกโทษให้พี่ไหม พี่สัญญานะว่าจะไม่แกล้งเชียร์อีกแล้ว” พี่เต๋าถามผมอีกครั้ง
ผมก้มหน้า นึกถึงเรื่องที่ผมเสียใจ ผมเสียใจที่โดนแกล้ง เสียใจที่กลายเป็นตัวตลกต่อหน้าคนอื่น
แต่ผมเองก็รู้สึกดีที่มีคนมาขอโทษผม และคนๆนั้นเป็นพี่เต๋าด้วย
ผมเช็ดน้ำตา ผมเงยหน้าขึ้น ผมสบกับสายตาพี่เต๋าที่มองมาที่ผมเหมือนกัน
“ผม...” ผมกำลังจะพูดออกไป แต่แล้วเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
ผมรีบรับโทรศัพท์ เพราะรู้ว่าคนที่โทรมาเป็นใคร

“ว่าไงครับ ทำอะไรอยู่”เสียงปลายสายที่ผมคุ้นเคยทักทาย
“หวัดดีพี่แจ๊ค เชียร์กำลังเล่นกีฬาอยู่” ผมพยายามทำเสียงให้เป็นปกติ
ผมพูดกับพี่แจ๊คหลายเรื่อง เพราะอาทิตย์นี้ยังไม่ได้คุยกับพี่แจ๊คเลย
พี่เต๋ายังคงอยู่ใกล้ๆกับผม แต่อยู่ห่างจากผมพอสมควร ผมไม่รู้ว่าพี่เต๋าจะได้ยินสิ่งที่ผมพูดกับพี่แจ๊คหรือเปล่า
“ปิดเทอมมาหาพี่สิ จะได้มาเที่ยวด้วย” พี่แจ๊คชวนผม
“นึกว่าจะไม่ได้มาเจอกันแล้ว เห็นส่งโปสการ์ดมาว่าจะไม่กลับมา” ผมทำเสียงประชด
“พี่ต้องเรียนจะได้รีบจบไง ก็บอกแล้วว่าให้มาหามาน่ะครับ” พี่แจ๊คทำเสียงอ้อน
“ครับ ไปแน่ครับ” ผมยิ้มดีใจที่จะได้เจอแฟน
“พี่รักเชียร์น่ะ คิดถึงมากด้วย” สิ่งที่พี่แจ๊คพูดทำเอาผมรู้สึกแปลก ไม่ใช่ว่าไม่เคยฟังที่พี่แจ๊คพูดหรือบอกว่ารักผมหรอกน่ะ
แต่ผมกับรู้สึกแปลกในความรู้สึกของตัวเองเมื่อได้ยินคำว่ารักต่างหาก
ผมหันไปมองพี่เต๋าที่ยืนอยู่แถวนั้น พี่เต๋าเองก็มองผมที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่
ผมสบตาพี่เต๋าอีกครั้ง ผมตอบตัวเองไม่ได้ว่าผมรู้สึกอะไรเมื่อได้มองตาของพี่เต๋า
“เชียร์เป็นอะไร ว่างไปแล้วเหรอ” พี่แจ๊คถามเมื่อเห็นผมเงียบไป
ผมรีบกลับมาคุยโทรศัพท์ต่อ โดยรีบหันหลังใมห้พี่เต๋า
“เออ เชียร์ไปเล่นวอลเล่ย์ต่อน่ะ” ผมพูดกับพี่แจ๊คบอกเป็นนัยๆว่าจะวางโทรศัพท์แล้ว
“ครับ เมื่อกี้พี่บอกว่ารักเชียร์แล้วน่ะ” พี่แจ๊คพูดเพื่อทวงสัญญาที่เคยบอกกับผมว่า ถ้าจะวางโทรศัพท์ต้องบอกรักกันก่อน
“ครับ ผมเองก็รักพี่ครับ ตั้งใจเรียนน่ะ บาย”
ผมกดวางโทรศัพท์พร้อมหันกลับไปหาพี่เต๋า แต่พี่เต๋าเดินออกไปแล้ว

ผมเริ่มสับสนกับความรู้สึกตัวเองว่าผมกำลังจะนอกใจพี่แจ๊คหรือเปล่า


บิ๊ก – “ฉากที่ปอและบิ๊กบอกความในใจ ดูกุ๊กกิ๊กน่ารักเหมือนกับความรักของเด็กวัยรุ่นจริงๆเพราะเวลาอื่นๆทั้งสองดูตึงเครียดและมีความลับ ความสับสนวุ่นวาย จึงเป็นตอนเดียวที่ดูคู่นี้แล้วน่ารักที่สุด”


พอนั่งข้างๆบิ๊ก ผมก็หันไปมอง แม้ในห้องจะมืดแต่ผมก็ยังเห็นใบหน้าของคนที่ผมกำลังรอคำตอบว่าเขารู้สึกยังไงกับผมกันแน่

“อย่าจ้องหน้าเราดิ เราอึดอัดนะ” บิ๊กหันมาดุ

“ขะ ขะ ขอโทษ” แล้วผมก็ต้องหันหน้ากลับไป

แล้วก็ไม่มีใครพูดอะไรอีก ได้แต่นั่งเงียบเกือบสิบนาที ผมทนไม่ไหว เป็นไงเป็นกันว่ะ

“บิ๊ก” ผมหันไปหาบิ๊ก พร้อมจับมือแน่น

“อะ อะ อะไร” บิ๊กทำหน้าเหวอ

“ยังไม่รู้อีกเหรอว่า เราจะพูดอะไร” ผมเริ่มคาดคั้น

“รู้ เรารู้ตลอดว่านายคิดยังไงกับเรา” บิ๊กพูดเสร็จก็หันหน้าหนีไป

“แล้วนายหละ บอกมาเถอะ เรารับได้” ผมพยายามไม่บีบคั้นอะไรมาก แม้จะอยากรู้ใจขาดก็ตาม

บิ๊กไม่ตอบ คงอึกอัดอยากจะพูดออกมา ผมเห็นท่าทีก็คงพอรู้ว่ามันคืออะไร

ผมเลยปล่อยมือบิ๊ก พร้อมลุกจะเดินออกจากห้อง

“ไม่เป็นไรหรอก เราเข้าใจ เอาเป็นว่าเรายังรู้สึกกับนายเหมือนเดิม นายก็ถือว่าเราไม่ได้พูดอะไรออกไปแล้วกัน” แม้ปากบอกว่ารับได้แต่มันก็ทำไม่ได้อย่างที่พูด

“เฮ้ยๆเดี๋ยวก่อน” บิ๊กรีบมาคว้าตัวไว้ก่อน

“ยังไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย ฟังเราพูดก่อนดิ” บิ๊กพูดอย่างนี้ แสดงว่าผมมีลุ้นใช่ป่ะ

บิ๊กลากผมมาที่ระเบียง พร้อมจับมือผมทั้งสองข้าง

“ไม่รู้จะพูดไงดีว่ะ” บิ๊กอมยิ้ม

“ถ้าไม่พูดเรากลับห้องนะ” ผมแกล้งขู่ แล้วทำท่าจะเดินกลับห้อง

“พูดแล้ว พูดแล้ว” บิ๊กเริ่มสักที

“เอ่อ แบบว่า แต่ก่อนเราชอบคนๆหนึ่ง ไม่ใช่มาสเตอร์เบิร์ดรหรอกนะ” ผมรู้ว่าคนนั้นคือพี่ยอด

“แต่เรารู้แล้วว่า เรารักคนนั้นไม่ได้”บิ๊กพูดออกมาพร้อมจ้องตาผม

“รู้ไหมทำไม” บิ๊กถามผม ผมงงกับคำถามเลยไม่ได้ตอบอะไร

“เพราะเรารักนายแล้วไง” แล้วบิ๊กก็ยื่นหน้ามาจุ๊บปากผม

ผมเหวอไปนานเลยครับ ทำอะไรไม่ถูกเลย

พอเรียกสติมาได้  ผมเลยคว้าตัวบิ๊กมากอด ความรู้สึกที่อัดอั้นมาทั้งปีก็ได้เปิดเผยหมดแล้ว

คืนนั้นเราสองคนเลยนอนห้องของบิ๊กด้วยกัน ผมกับบิ๊กก็เป็นอย่างที่ไอ้เชียร์คิดสักที


เหน่ง – “ฉากที่พลาดไม่ได้คงเป็นตอนที่เหน่ง ไปซบหลังปอ แม้จะไม่ได้พูดอะไรออกไปมาก แต่ภาษากายที่แสดงออกมาก็ทำให้รู้ว่าเหน่งคิดอะไรกับปอ เรื่องนี้บรรยายความสัมพันธ์ของปอกับเหน่งน้อยไปหน่อย คิดว่าภาค 3 คู่นี้น่าจะมีความสัมพันธืมากขึ้น”

ผมงัวเงียตื่นขึ้นมา เห็นนาฬิกาบอกเวลาก็ต้องกระเด้งลุกขึ้นจากเตียง
"เฮ้ยๆ ไอ้เหน่ง สายแล้ว มีเรียนเช้าใช่ไหม"ผมรีบปลุกไอ้เหน่ง
"อืมม รู้แล้ว ตื่นแล้ว"ไอ้เหน่งลุกขึ้นมาขยี้ตา ปกติผมจะตื่นเพราะจะตั้งเวลานาฬิกาปลุกไว้ แต่เมื่อคืนคุยกับเหน่งจนดึกเลยลืมตั้งนาฬิกาปลุกไว้
เหน่งรีบถอดเสื้อผ้าเพื่อเข้าอาบน้ำ
"ไปแก้ผ้าในห้องน้ำซิว่ะ"ผมด่าไอ้เหน่ง
"มึงเห้นของกูตั้งแต่เด็กแล้ว ยังจะมาอายอะไรว่ะ"
ผมกับเหน่งอาบน้ำด้วยกันบ่อยๆ
"เข้ามาอาบด้วยกันดิว่ะ จะได้ไม่เสียเวลา" เหน่งเรียกผมเข้าไปอาบน้ำด้วย ผมยังนึกถึงคำพูดของเหน่งเมื่อวาน เลยยังลังเลที่จะทำตัวกับมันแบบเดิม แต่ถ้าผมทำตัวผิกปกติ อาจจะทำให้เหน่งเสียความรู้สึก เลยตกลงเข้าไปอาบน้ำกับเหน่งด้วย

นานแล้วที่ผมไม่ได้อาบน้ำกับเหน่ง ตั้งแต่เข้ามหาลัยเหน่งไม่ค่อยได้มาค้างที่บ้านผม
"ไอ้ปอถูหลังให้กูหน่อยดิ"
"อืมม" ผมทำตามที่เหน่งขอร้อง แล้วเหน่งก็มาถูหลังให้ผมเช่นกัน
แต่แทนที่เหน่งจะถูหลังกลับเข้ามากอดผมแล้วเอาหน้าซบกับหลังของผม ผมตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก
"มึงไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้น กูแค่ขอกอดมึงเท่านั้น แล้วกูจะไม่ขออะไรจากมึงอีก กูสัญญา"
ผมรู้สึกถึงหยดน้ำตาของเหน่งที่มากระทบกับไหล่ของผม ผมทำได้แค่เพียงกุมมือของเหน่งไว้

อยากให้คนที่เรารัก รัก เหมือนกับคนที่รักเรา


คงมีอีกหลายฉากที่ประทับใจ แต่นี้เป็นส่วนหนึ่งของความประทับใจในตัวละคร หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นอีกหนึ่งเรื่องในความประทับใจของใครหลายๆคนนะครับ
**********************************************************************************
(ยังมีอีกนะครับ สิ่งที่คุณควรรู้ และ ตัวอย่างSeason3)


marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
:m1: :m1: เป็นปลื้ัม ขอบอก  :m1: :m1:

Pal

  • บุคคลทั่วไป
ติดตามอ่านเสมอนะครับ เพราะชอบเรื่องที่ creative ดี ยังไงรีบ ๆ เขียนตอนต่อไปมาให้อ่านอีกโดยไวนะครับ อิอิ

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ชอบคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

 :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
คนอ่านชอบทุกตอนเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยค้าบ อิอิ

dorgchant

  • บุคคลทั่วไป
อ่านไปเขิลล์ไป  :o8:


เกือบลืมเหน่งไปเลยอ่ะ  :m15:

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
 :m23:  ขอบคุณครับ

meawkung02

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
Special Features : Sweet Couple เรื่องเล่าของคู่รักในเรื่อง

Sweet Couple : รวมเรื่องราวของคู่รักที่ไม่เคยเอามาลงที่ไหนมาก่อน

ภาคที่ 1

คู่ที่ 1 โจ้ กับ เรื่องของอาจารย์เบน เล่าโดย อาจารย์เบน
คู่ที่ 2 เชียร์ กับ พี่เอก เล่าโดย พี่เอก
คู่ที่ 3 ปอ กับ พี่เก่ง เล่าโดย พี่เก่ง

ภาคที่ 2
 
คู่ที่ 1 โจ้ กับ โจ เล่าโดย โจ
คู่ที่ 2 เชียร์ กับ พี่เต๋า เล่าโดย พี่เต๋า
คู่ที่ 3 ปอ กับ บิ๊ก เล่าโดย บิ๊ก

และ แถมให้อีก คู่ ปอ กับ เหน่ง เล่าโดย เหน่ง

******************************************************************************************************************************

Sweet Couple คู่ที่ 1 โจ้ กับ เรื่องของอาจารย์เบน เล่าโดย อาจารย์เบน

เช้าวันเสาร์ของวันที่ 1 มกราคม คือวันเกิดของผม วันเกิดที่ไม่อยากให้มาถึง เพราะอายุของผมได้ย่างเข้าสู่เลข 3 เข้าไปแล้ว
“เฮ้อ!” ผมสลึมสะลือตื่นขึ้นมาพร้อมความหนักใจที่เล่าให้ฟังไปเมื่อกี้
ผมหันไปมองชายหนุ่มที่นอนข้างๆผม แต่เจอเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น
วันนี้วันหยุดแท้ๆ หายไปไหนแต่ข้าวของเขานะ
แล้วเสียงเปิดประตูห้องก็ดังขึ้น พร้อมร่างของชายหนุ่มที่ถือถุงกับข้าวเข้ามาในห้อง
“ไปซื้อกับข้างให้ผมเหรอครับ” ผมถามพร้อมบิดขี้เกียจ
“อาจารย์ครับ นี้มันจะเก้าโมงแล้ว รีบลงไปตักบาตรกับผมด่วนเลยนะ ก่อนพระท่านจะกลับกุฏิ”
คำพูดของโจ้เหมือนเป็นคำสั่ง ผมทำหน้าไม่พอใจเล็กน้อยเพราะความขี้เกียจเริ่มครอบนำพร้อมอาการมึนจะการดื่มหนักในงานเมื่อคืนนี้
“ถ้าผมนับถือพุทธ ผมคงตักบาตรไปนานแล้ว อีกอย่างผมอยากให้เจ้าของวันเกิดได้บุญ ไม่ใช่ผม” เสียงโจ้เริ่มดุ ทำไมเดี๋ยวนี้แฟนผมดุขึ้นทุกวันทุกวัน
ผมเลยต้องทำตามคำสั่ง เพราะรู้ว่าเขาหวังดีกับผม
การตักบาตรผ่านไป พวกเรากลับมาที่ห้อง ผมก็วิ่งกลับไปนอนที่เตียงอีกครั้ง
“ทำไมขี้เกียจอย่างนี้ ไม่กินข้าวก่อนเหรอครับ” โจ้ทำเสียงดุอีกแล้ว พร้อมจัดการอาหารบนโต๊ะ
“ผมมึนหัวมากเลย เมื่อวานโจ้ไม่ยอมห้ามผม พวกนั้นเลยมอมผมจนเป็นแบบนี้เลย” ผมอ้างไปดื้อๆ
“ถ้าไม่อยากเมา ก็อย่าดื่มซิ เล่นดื่มไม่หยุดเอง” โจ้เองก็ไม่ใช่ย่อยว่าผมไม่หยุดเลย
ผมเลยกระเด้งลุกขึ้นนั่งบนเตียง พร้อมหาเรื่องสนุกๆทำ
“ป้อนข้าวผมหน่อยดิ” ผมส่งสายตาเหล่ไปทางโจ้
โจ้ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด “อะไรอีกล่ะ จะแกล้งผมอีกล่ะซิ”
รู้ทันจริงๆแฟนเรา
“แค่อยากให้ป้อนให้หน่อยแค่นั้น ซื้อโจ๊กมาไม่ใช่เหรอ ป้อนง่ายจะตาย” ผมเริ่มแหย่
“ไม่เอาอ่ะ” โจ้เริ่มเล่นตัว
“อย่าลืมซิวันนี้วันเกิดผม แค่มื้อเดียวเองน่ะน่ะ” ผมเริ่มอ้อน
“ก็ได้ ก็ได้ มื้อเดียวนะ” โจ้เลยต้องทำตามใจผม
โจ้เดินมานั่งข้างๆมพร้อมถือจานโจ๊กมาด้วย แล้วคำแรกก็ถูกป้อนเข้าปากไปอย่างง่ายดาย มีความสุขจริงๆเลยเรา
“ไม่อยากกินโจ๊กแล้ว กินอย่างอื่นได้ป่าว” ผมเอามือไปปัดช้อนถือโจ้กำลังถืออยู่พร้อมแย่งจานโจ๊กเอาไปวางที่อื่น
“เห็นโจ้แล้วอยากกินอย่างอื่นมากกว่า” ว่าแล้วผมก็ค่อยเอื้อมไปตัวไปกอดโจ้
แต่โจ้ขัดขืนเอามือมาปัดมือผม
“เพิ่งตื่นแท้ๆ ยังจะมาทำอย่างนี้อีก” โจ้ก็ลุกขึ้นไปหยิบเสื้อผ้าจะไปซัก
“ขอทำงานบ้านก่อนได้ป่าว ต้องซักผ้ารีดผ้าให้อาจารย์อีก” โจ้เริ่มแขวะผม
“ผมทำเองก็ได้ ไม่อยากกวนโจ้หรอก” ผมรีบไปแย่งตระกร้าผ้าเปื้อนจากมือโจ้
“แต่ตอนนี้เราเข้าสู่พิธีการดีกว่า” ผมรีบจับตัวของโจ้ไว่ก่อนกลัวจะหนีไปไหน
“จะเล่นอะไรพิเรนท์อีกล่ะ” โจ้เริ่มทำท่าไม่ไว้ใจในตัวผม
ผมก็เอื้อมไปหยิบของขวัญที่ผมซ่อนเอาไว้ เอามายื่นให้โจ้
“ให้ของขวัญผมทำไม วันนี้วันเกิดอาจารย์ไม่ใช่เหรอ” โจ้ทำหน้างง
“ผมอยากขอบคุณโจ้กับสิ่งต่างๆที่โจ้ทำให้ผมเสมอมา ขอบคุณความรู้สึกดีดีที่มีให้ผมมาตลอด เพราะโจ้ทำให้ผมมีความสุขที่สุด นี้คงแทนคำขอบคุณจากผม รับไว้นะถือว่าทำให้ผมเพื่อวันเกิดแล้วกัน”
โจ้หน้าแดงเห็นผมทำซึ้งใส่
“ครับ” แล้วโจ้ก็รับของขวัญจากผมไป
“แกซิ” ผมลุ้นให้แฟนผมเห็นของขวัญเร็วๆ
“ห๊า..........” โจ้ร้องตกใจกับของขวัญของผม ผมแอบขำที่เห็นสีหน้าของโจ้
โจ้หยิบเสื้อกล้ามซีทรู และ กางเกงในแบบจีสตริงที่เป็นซีทรูขึ้นมาดู
“หมายความว่าไง” โจ้เริ่มทำสีหน้าโมโห
“ก็...ใส่ให้ผมในวันเกิดได้อ่ะป่าวคับ” ผมทำหน้าเว้าวอน
“ท่าทางอาจารย์จะได้ตายในวันเกิด” โจ้พูดซะผมนี้กลัวไปเลย
“ทำให้ผมไม่ได้เลยเหรอ” ผมทำหน้าเซ็งพร้อมเดินไปเก็บจานโจ๊ก
“ผมแค่อยากให้เราสองคนสนุกในวันเกิดของผมเท่านั้นเอง” ผมยังทำเสียน้อยใจ
โจ้เห็นผมเป็นอย่างนั้น เลยเดินมาข้างๆผม พร้อมกระซิบข้างหูผม
“ก็ได้ครับ แค่ครั้งเดียวจริงๆนะ”
เท่านั้นแหละผมก็กระโดดโลดเต้นเหมือนเด็กเลย
“เปลี่ยนตรงเลยนี้ดีไหม” โจ้ถามแต่ทำหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไร
“ไปเปลี่ยนในห้องน้ำดีกว่า แล้วเดินมาหาที่เตียง” ผมกลายมาเป็นฝ่ายออกคำสั่งบ้าง
“ได้ครับ เจ้านาย” ว่าแล้วโจ้ก็เดินกระฟัดกระเฟียดเข้าไปในห้องน้ำ
ผมรีบวิ่งกลับไปนอนรออยู่ที่เตียง
และแล้วสิ่งที่ผมรอคอยก็มาถึง โจ้เดินมาพร้อมเสื้อกล้ามซีทรู และกางเกงในจีสตริงซีทรู
เลือดกำเดาผมไหลออกมาหรือเปล่าเนี้ย ทำไมมันเซ็กส์กว่าตอนแก้ผ้าออกหมดเลยว่ะ
โจ้เดินมาที่เตียง พร้อมค่อยๆขึ้นมานั่งข้างๆผม
“พอใจยังต้องการแค่นี้ใช่ป่ะ จะได้กลับไปเปลี่ยนชุด” พูดเสร็จโจ้ก็รีบลุกขึ้นไปจากผม แต่ผมคว้าตัวกลับมาทัน
“คิดว่าผมให้โจ้ใส่มาให้ผมดูเท่านั้นเหรอ” ผมพูดเสร็จก็ค่อยๆไซร้ตามซอกคอของโจ้
“อาจารย์ชอบเล่นอะไรแพลงๆอยู่เรื่อยเลย” โจ้พยายามปัดแต่ผมแรงเยอะกว่า ย่อมเป็นผู้ชนะ
ผมเริ่มใช้มือทั้งสองข้างขึงโจ้ไว้กับเตียง พร้อมใช้ลิ้นเล้าโลมไปทั้วร่างกายของโจ้
“ทำไมวันนี้รุนแรงจังเลย” โจ้คงตกใจกับอารมณ์ที่กระเจิดกระเจิงของผม
ผมถลกเสื้อผ้าของโจ้ขึ้น พร้อมใช้ลิ้นไล่ไปตามตัวของโจ้ เสียงครางของโจ้ดังขึ้นเป็นระลอก
ผมจึงเริ่มความรุนแรงมากขึ้นไปอีก โดยเริ่มใช้ลิ้นไล่ต่ำลงมา
โจ้เริ่มอ่อนแรง ตัวเริ่มนิ่ง เสียงครางเบาลง แต่เสียหายใจดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ
ผมเริ่มใช้ปากและลิ้นครอบส่วนสำคัญของโจ้ไว้
แน่นอนโจ้กระเด้งตัว พร้อมเสียงครางที่ดังขึ้น ร่างกายก็เริ่มไม่อยู่ที่ ดิ้นไปมา
ผมได้ใจเริ่มบรรเลงอย่างชำนาญ
เสื้อกล้าม และ กางเกงในของโจ้ยังอยู่ ไม่ได้ถูกถอดไปไหน
“ไม่ถอดเหรอครับ” โจ้พูดขึ้นมากลางคัน
“ไม่ ผมชอบให้ใส่อย่างนี้” ผมพูดจบปุ๊บก็บรรเลงต่อไป
“พอเถอะครับ ผมไม่ไหวแล้ว” โจ้ส่งสัญญาณ ด้วยการห้ามปรามตัวผม
ผมเลยเขยิบตัวขึ้นมา พร้อมถอดเสื้อตัวผมออกจนหมด
ผมเหลือแต่ปราการด่านสุดท้ายไว้ “ถอดกางเกงในให้ผมหน่อยซิ”
โจ้หน้าแดงหูแดง ผมเองก็งงว่าทำอะไรกันมาตั้งหลายครั้ง แต่ทำไมครั้งนี้โจ้เขินเป็นพิเศษ
โจ้ค่อยๆดึงกางเกงในผมออก ทำให้เผยเจ้าหนูยักษ์ของผมที่พร้อมเต็มที่แล้ว
“จะให้ผมทำอะไรอีกหรือเปล่าครับ”  โจ้ก็ยังทำเขิน แต่คำพูดที่พูดออกมาดูไม่น่าจะเขิน
“ทำไมวันนี้ดูเต็มที่เป็นพิเศษ” ผมถาม
“ก็...วันเกิดอาจารย์นี้ครับ” โจ้ก้มหน้าก้มตาทำท่าเขิน
“งั้นโจ้อยากทำอะไรกับผม ผมให้ทำตามสบายเลย”
โจ้ยิ่งหูแดงหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ก้มหน้าก้มตา ลงไปที่ระหว่างขาของผม
พร้อมทำสิ่งที่ผมเพิ่งทำให้โจ้ไปเมื่อกี้
ทุกคนคงไม่นึกว่าเด็กเรียบร้อยอย่างโจ้ จะชำนาญการเรื่องนี้เป็นพิเศษ คงเพราะการฝึกสอนของผม
โจ้ทำไปได้สักพัก ผมก็บอกให้โจ้หยุด พร้อมให้โจ้ลุกขึ้นนั่ง คร่อมเจ้าหนูของผมไว้
ผมชอบท่านี้ เพราะมันได้เห็นอิริยาบถของคู่ขาได้อย่างชัดเจน
“ครั้งนี้ผมขอท่านี้นะครับ” ผมพูดอย่างไพเราะ โจ้ก็พยักหน้า
และแล้วโจ้ก็เริ่มค่อยขยับตัวขึ้นลงตามจังหวะ แต่โจ้ทำช้าไป ผมเริ่มขยับเอวสวนขึ้นไปรับแทน
และแน่นอนผมทำได้เร็วกว่าโจ้ จนตัวโจ้สั่นไม่หยุดและเสียงครางที่ดังขึ้นจนผมฟังไม่ได้ศัพท์ ตอนนั้นรู้แต่เพียงว่า ต้องไปให้ถึงเส้นชัยเท่านั้น
“ใกล้แล้ว” ผมพูดแต่เอวก็ยังกระเด้งไม่หยุด
“อะ อะ อ้ากส์” ในที่สุดเส้นชัยที่ผมต้องการ ก็มาถึง
ผมนอนหมดแรงอย่างหมดสภาพ เป็นเซ็กส์ที่มีความสุขที่สุดสำหรับผมเลย
ผมลืมตาขึ้นมา เพื่อว่าจะทำให้โจ้ต่อ แต่โจ้ก็รีบลุกไปที่ครัว
พร้อมเค้กชิ้นเล็กๆ ที่ปักเทียนไว้แล้ว เดินมาหาผม
“เซอร์ไพรส์” โจ้ยิ้มร่า พร้อมยื่นเค้กวันเกิดมาให้
ผมอึ้งจนน้ำตาจะไหล “เมื่อวานเราก็ฉลองไปแล้วนี้”
ที่ผมพูดแบบนี้เพราะเมื่อวานเราไปเลี้ยงกับกลุ่มเพื่อนๆที่ร้านอาหาร พร้อมเค้กชิ้นโตกันแล้ว
“วันนี้ถือว่าฉลองกันสองคนไงครับ” โจ้พูดพร้อมทำท่าชี้ไปที่เทียน
ผมอธิษฐานแป๊บนึงก่อนจะเป่าเทียน
“กินเค้กกันไหมครับ” โจ้ถาม
“คนถือเค้กน่ากินกว่าอีกอ่ะ” ผมพูดพร้อมเข้าไปหอมแก้มโจ้
“การที่ผมตื่นมาเจอโจ้ทุกๆวันข้าง ก็ถือเป็นเซอร์ไพรส์สำหรับผมแล้ว”
แล้วพระเอกก็จูบที่รักเขามากที่สุด
----จบคู่ที่1 คร้าบบบ-----
เดี๋ยวเอาคู่อื่นๆมาต่อให้อีก

Pomeranian

  • บุคคลทั่วไป
Re: Three Couple of love:Special Features : Sweet Couple เรื่อง&
«ตอบ #549 เมื่อ03-11-2008 22:19:46 »

:try2: นี่เป็นหนึ่งในประสบการณ์ตรงของพี่โจ้ด้วยรึเปล่าคับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-11-2008 22:21:26 โดย Pomeranian »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Three Couple of love:Special Features : Sweet Couple เรื่อง&
« ตอบ #549 เมื่อ: 03-11-2008 22:19:46 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
อาจารย์เบน คงอยากให้มีวันเกิด 365 วันแน่ๆ 555

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
ตายแล้ว โจ้ เปลี่ยนไป

เข้าเรียนกับครูเบนนี่ดีจริงๆ



ขอเข้าเรียนด้วยคนได้มั้ย คริๆ

Pal

  • บุคคลทั่วไป
ตีตั๋วรอตอนที่ 2 ต่อไป หุๆๆๆ

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
:m29: เพิ่งเคยเจอมุมของอาจารย์เบน
ออกจะหนักไปทางจิตนิด ๆ ป่าวอ่ะ

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
โอ่วววว

เซ็กส์ร้อนๆ

อิอิ

dorgchant

  • บุคคลทั่วไป

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
คู่สองค๊าฟฟฟคู่สอง


ขอด่วน รอม่ายหวายยย

Money_LovE

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ไมไ่ด้เอามาลงเนี้ย

ตอน NC ต่างนะรึ

อยากอ่านๆ....หุหุ :laugh:

dorgchant

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
Sweet Couple คู่ที่ 2 เชียร์ กับ พี่เอก เล่าโดย พี่เอก
ผมเดินออกจากคลับฟิตเนสที่ผมทำงานอยู่ เตรียมตัวกลับบ้านด้วยการจะไปขึ้นรถไฟฟ้า
“พี่เอกๆ” เสียงคุ้นเรียกผม ผมมองไปที่ถนน เจอหนุ่มน้อยน่ารักที่ผมรู้จักเป็นอย่างดี
“วันนี้จะไปบ้านนะ ขึ้นรถเร็ว” เชียร์เรียกผมขึ้นรถ ผมงงเล็กน้อยที่จู่ๆก็จะไปบ้านผมซะงั้น
“แล้วทำไมไม่เห็นโทรมาบอกเลยว่าจะไปบ้านพี่” ผมถามด้วยความสงสัย พร้อมคาดเข็มขัดหลังจากหย่อนตูดลงนั่งที่รถไปแล้ว
“ก็อยากไป ไม่มีเหตุผล” ว่าแล้วเชียร์ก็ขับรถออกไป
ตัดฉากมาที่ห้องของผมอย่างรวดเร็ว ห้องของผม เล็กมากครับ ไม่ใหญ่เท่าไร เป็นห้องใต้บันได เลยทำให้ห้องไม่ได้เป็นรูปสี่เหลี่ยม แต่เป็นสามเหลี่ยม เพดานก็เอียงลงไปอีกข้างหนึ่ง
“เชียร์เองก็ชอบห้องเล็กๆอย่างนี้ มันดูเอาไว้นอนอย่างเดียว” เชียร์เกลือกกลิ้งบนที่นอนของผม ซึ้งเป็นแค่เตียงเดี่ยวที่วางบนพื้น ไม่ได้วางบนเตียงยกสูงเหมือนบ้านอื่น
“ห้องพี่ทำได้ทุกอย่างแหละ แต่ที่เล็กเพราะว่าจน โอเค” ผมหงุดหงิดเล็กน้อย เหมือนโดนดูถูกยังไงไม่รู้
เชียร์เลยเดินมาโอบผมด้านหลัง “เชียร์พูดเพราะชอบห้องของพี่จริงๆ ไม่ได้จะว่าอะไรเลยนะ เห็นเชียร์เป็นคนแบบนั้นเหรอ”
“พอดีพี่รักห้องนี้มาก มันเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของตัวพี่” ผมนอน กิน อ่านหนังสือ และทำอื่นๆในห้องนี้มา เกือบจะยี่สิบห้าปีแล้ว ผมจึงรักมันมากเป้นพิเศษ
“แล้วปกติพี่ไม่ค่อยให้ใครเข้ามาในห้องของพี่ แม้แต่พวกน้องๆ” ผมหวงและห่วงห้องนี้มาก เพราะอย่างที่บอก มันคือส่วนหนึ่งของผม
“จะบอกว่าเชียร์ โชคดีที่ได้มาที่ห้องนี้ใช่ม้า...” เชียร์ทำเสียงดีใจ พร้อมเดินมาข้างหน้าผม
“ที่เชียร์อยากมาหาพี่ที่บ้านก็เพราะอยากมาห้องนี้นั้นแหละ และที่อยากมาห้องนี้ก็เพราะ” เชียร์พูดจบ ก็เงยหน้าเอาปากสีชมพูออ่นมาประกบกับปากของผม ลิ้นอุ่นๆของเชียร์ก็แทรกเข้ามาในปากของผม สัมผัสนั้นทำเอาผมขนลุก และเริ่มเร่าร้อนตามแรงลิ้นของเชียร์ ไม่ได้แค่ลิ้น มือ ก็เริ่มถลกเสื้อผมขึ้น และเชียร์ก็ดันตัวเอง โดยเฉพาะด้านล่างเข้ามาดันผมอย่างแรง การเสียดระหว่างเป้ากางเกงของคนทั้งสองก็เริ่มเกิดขึ้น
อารมณ์ผมกระเจิดกระเจิง เพราะความร้อนแรงของเด็กหนุ่มดีกรีเดือนคณะศิลปกรรม ช่างเราร้อน รุนแรง แม้ครั้งนี้จะเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ ผมก็ไม่เคยเบื่อ และอยากจะทำซ้ำแล้วซ้ำอีก
เชียร์พลักผมลงบนเตียง พร้อมเอามือทั้งสองมาขึงผมไว้ ผมรู้สึกแปลกไปกว่าทุกครั้ง เพราะปกติ สิ่งที่เชียร์ทำอยู่นี้เป็นหน้าที่ของผม
“ทำไมวันนี้ดูเชียร์เร่าร้อนผิดปกติ” ผมถามที่รักถึงความสงสัยของผม
เชียร์ไม่ตอบแต่เอาปากมาประกบผมไว้ เหมือนไม่ให้ถามแต่ให้ใส่ใจกับสิ่งที่กำลังทำต่อไปนี้
เสื้อและกางเกงของผมหลุดไปอย่างรวดเร็ว พร้อมลิ้นของเชียร์ที่กำลังไล้ไปตามร่างกาย
ผมดิ้นทุรนทุรายไปมาเพราะความเสียวที่ถูกแฟนหนุ่มยัดเยียดให้
“อ้า...........” เชียร์ใช้ปากจัดการเจ้าหนูของผมอย่างไม่รู้ตัว
ผมเผลอตัวเอามือไปกดหัวของเชียร์ไปตามจังหวะ แถมยังเด้งเอวรับปากของเชียร์อีกด้วย การควบคุมของผมไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว
“เชียร์ พอเถอะพี่ไม่ไหวแล้ว” ผมครางอย่างกระเส่า
เชียร์ถอนปากออก เปลี่ยนมาประกบปากผมอีกครั้ง และเอื้อมไปรูดเจ้าหนูของผม
“วันนี้พี่เอกเซ็กซี่มาก รู้ตัวมั้ย เชียร์อดใจไม่ไหวเลย” เชียร์กระซิบข้างหูผม พร้อมรูดเจ้าหนูผมไปด้วย
ความเสียวที่ไม่สามารถบรรยายได้กลับมาอีกครั้ง
คราวนี้เหมือนถูกยกกำลังสอง เพราะเชียร์ใช้ลิ้นไปชอนไชตรงหน้าอกของผม
“อ้า..........” ทำไมถึงทรมานพี่ได้ถึงขนาดนี้ ที่รัก
ลิ้นของเชียร์ยังวนเวียนตรงหน้าอก ซ้ายที ขวาที มือที่รูดก็ยังทำงานไปด้วย
เมื่อโดนโจมตีขนาดนี้ ความอดทนของผมก็ไม่สามารถต้านทานอะไรไหว
“เชียร์.......อะ......อ๊ะ........อ้า..................อ้ายส์.............................................”
ของเหลวพุ่งออกมาตามแรงกระตุ้นตามตัวของผม
หมดแรงครับโดนแฟนหนุ่มใช้งาน ผมนอนแผ่หลาบนเตียงนอนของผม
“โอโห้  แค่5นาทีเอง สุดยอด ได้กินโออิชิ แกรนด์ ฟรีแน่ๆ” เชียร์กระโดดโลดเต้นดีใจอะไรสักอย่าง
“อะไรเหรอ” ผมถามอย่าง งงงง รู้สึกว่าวันนี้เชียร์ทำตัวแปลก
“ก็เชียร์พนันกับ ไอ้โจ้ กับไอ้ปอ ว่าใครทำแฟนน้ำแตกช้าสุด ต้องเป็นคนเลี้ยง โออิชิแกรนด์ 5นาทีของพี่เอกสุดยอดมาก ขอบใจนะที่เอาขนะพวกนั้นได้”
ผมหน้าเหี่ยวไปทันที นี้แฟนผมหลอกใช้งานผมเหรอเนี้ย
“พอดีถ่ายคลิปเอาไว้ ต้องเอาไปเป็นหลักฐานให้พวกนั้นดู เดี๋ยวเชียร์มานะ อยากให้พวกนั้นเห็นเร็วๆ” ว่าแล้วเชียร์ก็ออกจากห้องไป
ปล่อยผมนั่งอึ้งไปซะงั้น ว่าแล้ว ว่ามันแปลกๆ ทำไมเชียร์ไม่ยอมถอดเสื้อผ้า ปล่อยเราแก้ผ้าคนเดียว
เจ็บใจครับเจ็บใจ โดนหลอกแบบนี้ต้องเอาคืน
ผมแอบหลับเมื่อเชียร์กลับเข้ามาในห้องของผม
เชียร์ค่อยๆลงนอนข้างตัวผม คงคิดว่าผมหลับไปแล้วจริงๆ เห็นทำเสียงเงียบเชียว
“ตกลงได้กินโออิชิฟรีไหม”  ผมทำเป็นเสียงงัวเงีย จะได้ดูเหมือนว่าผมเพิ่งตื่น
“ไม่อ่ะ ไอ้ปอมันทำได้เร็วกว่า 4 นาที 55 วิ เจ็บใจฉิบ เฉือนไปนิดเดียวเอง”
โธ่ คนที่เจ็บใจ นอนอยู่ข้างๆต่างหาก
“ไม่โกรธเชียร์ใช่ป่ะ” เชียร์เขยิบมากอดผม
“ไม่โกรธหรอก แต่ขอได้ป่าวคืนนี้” ผมทำเสียงอ้อนๆ
“อะไรกัน เพิ่งโดนเค้นไปเมื่อตอนเย็น มีแรงอีกเหรอ” เชียร์ทำเสียงล้อเลียน แต่เพิ่มความแค้นให้ผม
“พี่เห็นเชียร์ก็มีอารมณ์ทุกทีแหละ” พูดเสร็จผมก็เริ่มไซร้ เข้าแผนแล้วครับ
ผมก็เริ่มเล้าโลมและปลดเสื้อผ้า กางเกงและกางเกงในของเชียร์ออกให้หมด
ผมจับเชียร์หันหลังและเอามือขึงไว้
“ถึงตาพี่ล่ะ พี่ก็พนันกับเพื่อนไว้ ว่าใครเอากับแฟนได้นานที่สุด จะได้กินไดโดมอนฟรี” ผมทำเสียงเหี้ยมๆ
เชียร์เริ่มตัวสั่น
“แล้วของพี่ก็มีข้อแม้นด้วยว่าห้ามใช้น้ำยาหล่อลื่น”
คราวนี้เชียร์ดิ้นไม่หยุดเลยคร้าบ
“เชียร์ขอโทษ อย่าทำแบบนี้นะ เชียร์จะไม่ทำอีกแล้ว”
“พูดตอนนี้ก็สายไปแล้วที่รัก พี่ถ่ายคลิปแล้วนะ เริ่มกันเถอะ”
“ม้ายยยยยยยยยยย.......................” เสียงของเชียร์ดังก้องไปทั่วห้อง
แต่ดังไม่เท่าเสียงของการลงทัณฑ์จากผม
 “เชียร์มีค่าแค่ไดโดมอนเองเหรอ ของพี่เอกตั้งโออิชิแกรนด์เลยนะ”
เชียร์บ่นพร้อมหลั่งน้ำตาหลังจากผมเสร็จสิ้นภารกิจไป 1 ชั่วโมง 45 นาที
“งั้นก็จำไว้ว่าอย่ามาแหยมกับพี่”
พูดจบผมก็หอมแก้มที่รักของผม ถือว่าศึกครั้งนี้สงบลงสักที
อาจมีเจ็บตัวบ้างแต่ก็จบลงด้วยดี
-----จบคู่ที่ 2คร้าบบบบ-----
ต่ออีกคู่ข้างล่างนะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
Sweet Couple คู่ที่ 3 ปอ กับ พี่เก่ง เล่าโดย พี่เก่ง
แสงสีในยามค่ำคืน ณ สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง อดีต ที่นั้นเคยเหมือนที่ผักผ่อนหย่อนใจของผมที่ผมต้องมาทุกวัน
ทำไมถึงมาทุกวันนั้นเหรอ เพราะผมต้องหาใครสักคนกลับไปบ้านพร้อมผมด้วย และคนนั้นต้องไม่ใช้คนเดิมด้วย
แต่มันเป็นอดีตไปแล้ว เมื่อผมได้พบกับ น้องปอ ชายหนุ่มที่ทำให้ผมรู้จักคำว่ารัก และรักคนเป็นไม่เหมือนเมื่อก่อน
แต่ผมกลับมาที่นี้อีกครั้งหนึ่ง เพราะเพื่อนๆตัวดีทั้งหลาย นัดมีตติ้งกันที่นี้ ผมเลยต้องจำใจมา และแน่นอน ปอไม่รู้เรื่องนี้ เพราะผมอ้างไปว่า ไปคุยธุระที่บ้านญาติ
ไก่ แอ๊ด และ เอ็ม แก็งค์เพื่อนสนิทที่ไปไหนมาไหนด้วยกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย ต่างดีใจที่ผมมาตามที่นัดได้
“ตั้งแต่มีแฟนและกลับใจ กูแทบจะไม่เห็นเงาหัวมึงเลยนะ ไอ้เก่ง” ไก่แซวขึ้นมา
“แต่ก่อนมึงเที่ยวแทบทุกวัน ฟันคนไม่รู้ไปเท่าไหร่ ไหงเดี๋ยวนี้กลายเป็นคนดีซะล่ะ” แอ็ดเริ่มสมทบ
“กลับเมียอ่ะดิ มึงอ่ะ” และจบการสนทนาด้วยไอ้เอ็ม พร้อมเสียงหัวเราะอย่างชอบใจของพวกมัน
“เฮ้อ! พวกมึงคงไม่เข้าใจหรอก ถ้าพวกมึงมีแฟนและรักใครสักคน คงเข้าใจสิ่งที่กูเป็นอยู่อย่างนี้” ผมทำหน้าละอายกับพฤติกรรมของพวกมัน ถ้าพวกมันคิดได้แบบผม มันคงไม่เป็นเกย์ไร้อนาคตแบบนี้หรอก
“ทำเป็นพูดดี ทีหลังก็เอาแฟนเด็กของแกมาด้วยดิ” เอ็มเริ่มพาดพิงถึงปอ
“มึงยังไม่เคยเห็นอ่ะดิ กูเคยเห็นแล้ว แฟนไอ้เก่งมันเป็นนักร้องอยู่ร้านXXXXX แถวYYYY เซอร์ๆหน่อย แอบเท่ห์อีกต่างหาก” แอ็ดมันเคยเห็นปอครับ เพราะผมเคยพามันไปกินร้านที่ปอร้องเพลงอยู่
“อ้าว! สเป็คไอ้เก่งมันต้องหน้าหวานๆ สาวๆ หน่อยไม่ใช่เหรอ แล้วไงได้เด็กเซอร์ซะงั้น” ไก่ทำหน้างง
“ของพวกนี้มันไม่เกี่ยวกับสเป็ค มันอยู่ที่ใจต่างหากโว้ย” ผมเกทับพวกมัน
“กูจะอ้วก” พวกมันพูดเป็นเสียงเดียวกัน
“เฮ้ยๆ ดูเด็กโต๊ะโน้นดิ” แล้วไอ้ไก่ก็ชี้ไปที่โต๊ะเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง
โต๊ะนั้นมีวัยรุ่น5คน แต่งตัวไสตล์เกาหลีทั้งหมด หน้าตาก็ตี๋ๆ ขาวๆ ผมก็ทำยุ่งๆแนวดารานักร้องเกาหลี พวกเราจ้องกันใหญ่ น้ำลายเกย์รุ่นใหญ่ก็เริ่มไหล
“น่ารักดีว่ะ ไปจีบกันไหม” เอ็มเริ่มชวนเพื่อน
“พวกมึงไปเถอะ กูขอบาย” ผมทำหน้าเซ็งๆกับพฤติกรรมของเพื่อนๆ

“เฮ้ย! ไอ้ปอ มึงไม่สนใจน้องคนนั้นจริงเหรอ คนผมทองๆ เข้าหันมายิ้มให้มึงใหญ่เชียว” ไอ้แอ๊ดเริ่มยุ
ผมหันไปมองที่โต๊ะเด็กพวกนั้น เด็กหนุ่มผมทอง มีหนวดเล็กน้อย พร้อมส่งสายตามาให้ผม
ผมเองรู้สึกหวาบๆกับเด็กคนนั้น รู้สึกว่าอาการเก่ามันจะกำเริบ
“ไร้สาระนะพวกมึง กูไปเข้าห้องน้ำน่ะเดียวมาแล้วกัน” ผมเลยจำเป้นต้องหาทางหนีพวกนั้นมา
ผมทำธุระเสร็จก็เดินจะกลับไปที่โต๊ะ ผมก็เจอเด็กหนุ่มผมทองคนนั้นดักรอผม
“ขอโทษนะครับ เราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า” เด็กคนนั้นทักผม เสียงรู้สึกคุ้นๆ แต่หน้าไม่คุ้น
“ไม่นี้ครับ หรือว่านี้เป็นการจีบของคุณ” ผมเลยแซวกลับไป
“จีบเหรอ? คุณนี้ก็หลงตัวเองชะมัด” เด็กคนนั้นหัวเราะใส่ผม
“งั้นคืนนี้คุณไปกับผมไหมล่ะ จะได้รู้ว่าคุณมันจะน่าหลงขนาดไหน” เด็กคนนั้นยิ้มท้าทายผม
ผมเหวอกับการรุกของเด็กสมัยนี้ สมัยผมกว่าจะจีบได้ ยกแม่น้ำทั้งห้ามาฝอยเป็นชั่วโมง แล้วคอยเข้าเรื่อง แต่เด็กสมัยนี้เลยพูดกันโต้งๆ
“ตกลงว่าไงครับ” เด็กคนนั้นเขยิบเข้ามาใกล้ จนปากของน้องเค้าจะชนปากผมซะแล้ว
“เออ โทษทีผมมีแฟนแล้วนะครับ” ผมเขยิบหนีห่าง
“แฟนไม่ได้มาด้วยนี้” น้องคนนี้เขยิบเข้ามาอีก
“แต่มันไม่ดีหรอกถ้าผมทำแบบนี้” ผมเขยิบถอยไปอีก
“ผมก็แค่...คนที่รู้จักคุณแค่วันเดียว” น้องเขาไม่ยอมแพ้ เขยิบเข้ามาใกล้ผม ผมเขยิบจนหลังชิดกำแพง
น้องเค้าก็ได้โอกาส ประกบปากของผมพร้อมเอาลิ้มตัวเองมางัดลิ้นของผม แม้ผมจะห้ามตัวเองเท่าไร แต่ร่างกายกับตอบสนองการรุกของน้องเค้า
“เป็นอันว่า คุฯตอบตกลง” น้องเข้ากระซิบข้างผม พร้อมจับมือผมจูงผมเดินออกไปนอกร้าน
โทษทีนะปอ แต่เด็กมันยั่วอ่ะ
*************************************************************************************************
ผมขับรถพาน้องผมทองมาที่หอพักของน้องเขา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของปอเท่าไหร่ ผมเลยใจคอไม่ค่อยดี เพราะถ้าปอเห็น ผมคงไม่รอดชีวิตแน่ๆ ใครๆก็รู้เวลาปอหึงหรือโมโห ใครก็ห้ามไม่อยู่ คือเคยโดนมาบอ่ยแต่มันก็ไม่ชินอยู่ดี
“คือ น้องยังไม่บอกชื่อพี่เลย” จะถึงห้องนอนเค้าอยู่แล้ว ชื่อเสียงเรียงนามยังไม่รู้จักอะไรกันเลย
“ชื่อนั้นสำคัญไฉน ผมบอกแล้วไงว่าเราคงได้เจอกันแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว” น้องผมทองหันมาให้ พร้อมเดินนำหน้ามาที่ห้อง
ห้องของน้องเค้าไม่ค่อยมีอะไรมาก มีแค่เตียงนอน กับโต๊ะหนังสือ และก็ตู้สื้อผ้า
“เรียนอยู่เหรอเรา” ผมถามพลางนั่งลงที่เตียง
“เรียนเรื่องเพศศึกษาอยู่ ว่าจะหาอาจารย์มาติวเข้ม” น้องเค้าเดินมาทางผม พร้อมๆค่อยก้มลงมาจูบปากผม
อืมม จูบได้ดูดดื่มมากๆ  การใช้ลิ้น กลิ่นปาก ลมหายใจ ทำเอาผมเคิล้มไปกับน้องผมทอง แต่ผมว่ามันคุ้นๆอ่ะ
“เก่งขนาดนี้ยังต้องหาครูมาติวอีกเหรอ” ผมแซว
“ก็แค่จูบ” พูดจบน้องก็เข้ามาจู่โจมผมทั้งจูบทั้งไซร้ ช่างเร่าร้อนอะไรเช่นนี้
 “แควก!” เสื้อเชิ้ตผมถูกกระชากจนเม็ดกระดุมกระเด็กกระดอนไปคนละทาง
“อ้า…..”ผมครางออกมาเมื่อน้องลากลิ้นวนไปมาตรงแผงหน้าอกของผม
ท่าทางผมคงเจอตัวแม่เข้าให้แล้ว เพราะดูจากท่าทางและการกระทำ น่าจะชำนาญไม่น้อย
ผมเสียวแทบไม่ได้หายใจ เมื่อปากและลิ้นของน้องไต่ระดับลงมาถึงส่วนล่างของผม
ขนาดยังไม่ถอดกางเกง น้องเค้ายังใช้ลิ้นวนไปมา ที่เป้าตูมๆของผม มันคงอยากจะออกมาเต็มที่แล้วล่ะซิ
ว่าแล้ว กางเกงผมก็ถูกถอดพรวดมาอย่างรวดเร็ว ทั้งกางเกงยีนส์และบ็อกเซอร์กองมาตรงข้อเท้า
เจ้าหนูน้องผงาดต่อหน้าน้องผมทอง น้องเค้าเอาหน้าถูไปมา ทำเอาผมเสียวซ่านไปทั้งตัว
“เป็นพระเอกหนังโป๊หรือเปล่าเราน่ะ” ผมแซวพลางดันหน้าน้องให้ใกล้ชิดกับเจ้าหนูของผม
น้องผมทองไม่ตอบมัวแต่สาละวนดูดๆเลียๆเจ้าหนูของผม มีการรัวลิ้นตรงส่วนหัว ผมกระตุกตัวเผลอปล่อยน้ำใสๆออกมาเล็กน้อย พร้อมความเสียวที่กลัวจะจบก่อนที่ผมจะทำอะไรลงไป
“พอก่อน ตาพี่ทำให้น้องบ้างดิ” ผมดึงตัวน้องเค้าขึ้นมาจูบปาก พร้อมเอามือถอดเสื้อยืดของน้องเค้าไปด้วย
กล้ามใหญ่ดีแฮะ ทั้งแผงอก กล้ามทอง พร้อมวีเชพ นี้แหละความน่ากินของเด็กหนุ่มวัยรุ่น
ผมเริ่มซดอาหารชามนี้ ร้างลาวงการไปนานต้องมาทวนกันสักหน่อย
“อ้า……พี่คับ พี่สุดยอดมาก” น้องเค้าครางซะเสียงดังพร้อมเอามือเอื้อมล้วงๆคลำๆที่เจ้าหนูของผม
แต่ผมไม่ยอมให้ทำแค่นั้นเลย ผลักน้องเค้าลงบนเตียง ผมขึ้นคร่อมร่างน้องเค้าแต่กลับหัว
ปากของผมเจอกับเจ้าหนูของน้องเค้า ซึ่งใหญ่กว่าของผมนิดหน่อย ผมตกใจไม่นึกว่าน้องเค้าจะใหญ่ขนาดนี้ว่อนรูปนะเนี้ย
ว่าแล้ว เราสองคนก็ต่างบรรเลงเพลงกันอย่างเมามันส์ ทั้งดูดทั้งอมทั้งเลีย ไม่ยอมแพ้กันทั้งคู่
และแล้ว ผมก็เริ่มชักอยากได้น้องเค้ามาเป็นของผม เป็นกิ๊กก็ดี เวลาเบื่อจากปอ ก็มาลงที่น้องผมทองคนนี้
“พี่ขอนะครับ” ผมกระซิบข้างหู พร้อมจะจับน้องหันหลัง
“เออ แป๊บนึง ผมขอไปเอาถุงยางกับน้ำยาหล่อลื่นนะครับ” น้องพูดอย่างสุภาพร้อมหายไปในห้องน้ำ
ผมนั่งรอน้องเค้าอย่างใจจดใจจ่อ พลางนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“นี่กูกำลังนอกใจอ่ะป่าวเนี้ย” อยู่ดีดีผมก็นึกขึ้นได้
“ไม่ใช่หรอก กูแค่อยากมีเซ็กส์ ทำไมเดี๋ยวนี้กูต้องมาพะวงเรื่องนี้ว่ะ จะเอากับใครก็เอาไปเถอะ ก็แค่เซ็กส์” จิตสำนึกผมกำลังพูดในหัวผม
“แต่ปอจะเสียใจกับสิ่งที่ผมทำหรือเปล่า” มโนธรรมผมเริ่มกลับมาทำงาน
“รอนานไหมครับ” ก่อนที่ผมจะตัดสินใจอะไร เสียงน้องผมทองดังขึ้น
“เหวอ” ผมแทบช็อค ทำไมน้องผมทองถึงกลายเป็นปอ
“มะ มะ มะ มาได้ไง” ผมตกใจยิ่งกว่าเห็นผี
ปอไม่ตอบพร้อมชูวิกผมทองขึ้น ผมมองหน้าปอที่เปียกไปด้วยน้ำ
“ทั้งใส่วิกทั้งแต่งหน้า อะไรกันเนี่ย” ผมกุมขมับ แฟนผมลงทุนจับผมขนาดนี้เลยเหรอ
“ปอพยายามจะเข้าใจนะว่าพี่เก่งเป็นคนแบบนี้ แต่ปอก็ไม่พอใจอยู่ดี ถ้าพี่เก่งไปมีอะไรกับคนอื่น” ปอทำหน้าซีเรียส
“เออ เออ เออ” ผมพูดไม่ออก เจอจับได้แบบนี้
“ขอแค่พี่ทำให้ปอได้ไหม”ปอเดินมาหาผมที่เตียง
ผมถอนหายใจ พร้อมเอามือไปกุมมือของปอ “พี่จะพยายาม”
ผมเองก็ไม่อยากทำให้คนที่ผมรักเสียใจหรอก แต่ผมก็รู้ตัวว่าเป็นคนควบคุมอารมณ์ยาก
แต่ปอทำถึงขนาดนี้ผมก็จะพยายาม
“ครับ” ปอรับคำสัญญาจากผม
ผมเลยดึงตัวปอลงมาจูบ “งั้นไหนๆเราก็มาทำกันต่อให้จบดีกว่า” คือเมื่อกี้อารมณ์ค้างอ่ะ
“ได้ แต่ปอขอเสียบนะ” ปอกระซิบข้างหูผม
“อ่ะ” ผมชะงัก ว่าแล้ว ปอต้องเล่นมุขนี้
“จะให้หรือให้” รังสีอำมหิตเริ่มแผ่รอบตัวปอ
ยังไม่ทันได้ตอบ ผมก็โดนจับหันหลัง ถึงผมตัวจะใหญ่กว่าปอ แต่สู้แรงปอไม่ได้หรอกครับ ปอกล้ามใหญ่กว่าผมอีก
“ไม่เอา ไม่เอา” ผมร้องโหยหวน เพราะความเจ็บปวดจากการเป็นผู้รับ มันทรมานมากๆ
ครั้งที่แล้วเดินขาถ่างไปหลายวัน
“อะ อะ อะ อะ” ตัวผมสั่นไปตามจังหวะแรงกระแทกของปอ พร้อมน้ำตาที่ซึมไหลออกมา
“ครั้งหน้าไปมีอะไรกับใคร ก็เป็นแบบนี้แหละ” ปอทิ้งประโยคสุดท้ายไว้ พร้อมกระหน่ำส่าวเอวเข้าร่างของผมไม่ยั้ง
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ใครเจ้าชู้ จะเจ็บตูดไปจนวันตาย
-----จบคู่3คร้าบ-----
เหลืออีก4คู่ รอหน่อยนะคร้าบ

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ใครเจ้าชู้ จะเจ็บตูดไปจนวันตาย   :m20: :m20: :m20: :m20:


ตาย ๆ ปอโหดอ่ะ น่ากัวว
:m29:

dorgchant

  • บุคคลทั่วไป
ชอบพี่เอก  :impress2:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
555 เด็ดทั้งสองคู่เลยยยยยยยยยยยยยย คู่แรกออกแนวฮา แต่คู่สองนี้สะใจไอ้พวกเจ้าชู้นัก 555

nartch

  • บุคคลทั่วไป
คู่โจ้กับครูเบนน่ารักดี.... :o8:

เชียร์กับพี่เอก คงต้องสมน้ำหน้าเชียร์ เล่นไรไม่เข้าเรื่อง
เลยโดนลงโทษเลยยยย  :laugh:

คู่ปอกับเก่ง...สงสัยเป็นแผนหลอกฟันของปอ แต่มันก็
สะท้อนให้เห็น ถึงคนของเราจะไม่ แต่ถ้าคนอื่นเค้าจะเอา
เราก็คงห้ามลำบากกกกก  :เฮ้อ:

dorgchant

  • บุคคลทั่วไป
up ให้นะครับ  :z2:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
+ 1 ให้กับความหื่น + น่ารักครา้บบบบบบ

dorgchant

  • บุคคลทั่วไป
แอบดันครับ  :กอด1:

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
คู่ที่ 4 โจ้ กับ โจ เล่าโดย โจ
การฉลองวันสอบวันสุดท้ายของผมในชีวิตมัธยม จบลงที่ร้านหมูกระทะพร้อมกับเพื่อนๆในห้อง
และแน่นอนคนที่นั่งข้างๆผม คือรักครั้งแรกของผม
“อันนี้สุกยังอ่ะ” โจ้คีบเนื้อหมูจากกระทะพร้อมหันมาถามผม
“ยัง รออีกนิด” ผมบอกพร้อม คีบเนื้อหมูของผมที่สุกเรียบร้อยแล้วไปวางแทน
“กินของเราไปก่อนนะ เดี๋ยวเราย่างให้แล้วกัน” ผมพูดเสร็จ รู้สึกเหมือนมีสายตาหลายคู่บนโต๊ะมองมาที่ผม
โจ้เองก็คงรู้สึก หน้าแดงขึ้นมาทันที
“มองอะไรกัน คนเค้าย่างเนื้อให้กันมันผิดตรงไหน” ผมเลยโวยวาย เพื่อนที่ชอบสอดรู้สอดเห็นเลยหลบสายตาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ย่างหมูกันต่อไป
“ตกลกทุกคนเขามองพวกแกสองคนว่าเป็นผัวเมียกัน เมื่อไรจะยอมรับสักทีว่ะ” เชียร์ยื่นหน้ามาพูดกับผมและโจ้
ผมยินดีจะยอมรับสถานะนั้นอยู่แล้ว แต่ติดที่โจ้คิดกับผมก็แค่เพื่อน
ผมหันไปมองโจ้ที่ก้มหน้าไม่ตอบอะไร แม้ผมจะสนิทกับโจ้เท่าปอและเชียร์ แต่ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมโจ้ถึงไม่ยอมรับความรู้สึกผมสักที
“ไปฉิ๊งฉ๋องแป๊บนึงนะ” โจ้หันมาอบกกับผมพร้อมลุกเดินออกไป
เชียร์กับปอที่นั่งผั่งตรงข้ามกับผมก็ยื่นหน้าเข้ามา
“โจ แกรู้หรือเปล่าว่าไอ้โจ้มันก็ชอบแก แต่มันไม่ยอมพูด” เชียร์บอกผม ผมแทบตกใจไม่อยากจะเชื่อที่เชียร์พูด
“พวกเรารู้วิธีที่จะทำให้โจ้มันพูด” ปอพูดจบก็ไปหยิบชวดเหล้ามาให้ผม
“ให้เรามอมเหล้าเนี้ยนะ” ผมหันไปถามเชียร์และปอ ไม่นึกว่าสองคนนี้จะให้ผมทำอะไรบ้าๆแบบนี้
“ใช่ๆ  ไอ้โจ้มันคออ่อนจะตายพอมันเมาปุ๊บเราจะหลอกถามมันเอง แกเตรียมรอฟังแล้วกัน” เชียร์บอกแผนการให้กับผม
ผมเองอีกใจก็อยากรู้ แต่อีกใจก็กลัวๆ กลัวโจ้อาจจะพูดความจริงที่ไม่ได้เป็นอย่างที่สอคนนั้นพูดก็ได้
โจ้เดินกลับมา เราสามคนเลยทำตัวปกติ นั่งคีบหมู จิ้มน้ำจิ้ม ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ไหนบอกจะคีบหมูให้เราไง” โจ้เริ่มโวยเมื่อเห็นว่าบนจานยังไม่มีหมูสักตัว
ผมสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อกี้มัวแต่ฟังเชียร์และปอพูด เลยไม่ได้สนใจหมู
“นี้ไงได้แล้ว พอดีเลย” ผมเลยรีบเอาหมูไปไว้บนจานโจ้
เชียร์เอาเท้ามาสะกิดเท้าผม พร้อมทำหน้าเล็งไปที่ขวดเหล้า
“เออ โจ้กินเหล้าป่าวเดี๋ยวเราชงให้นะ” ผมรีบทำตามแผนการ
“อืมม ที่จริก็ไม่อยากกินหรอกนะ แต่วันนี้กินหน่อยดีกว่า อย่าผสมให้เยอะนะ เอาโค้กเยอะๆแทนแล้วกัน”
เป็นไปตามแผนการ ผมเลยชงเหล้าให้โจ้
หนึ่งแก้วผ่านไป ผมแทบจะไม่ได้กินหมูเพราะมัวแต่มองปฏิกิริยาของโจ้
“อร่อยดีอ่ะ นายชงอร่อยดีอ่ะ” โจ้ยื่นแก้วมาให้ผมชงอีก
ผมเลยชงแก้วที่สอง เชียร์และปอก็ทำเป็นชวนโจ้คุย ทำให้โจ้ไม่สนใจเรื่องที่ผมจะมอมเหล้า
ดังนั้น แก้วที่สาม ที่สี และที่ห้า จึงผ่านไปอย่างรวดเร็ว
โจ้กินหมูย่าง เรื่อยๆ พร้อมกับเหล้าที่ผมผสมมากขึ้น จำนวนแก้วก็มากขึ้น
จนเกือบเที่ยงคืน เพื่อนๆต่างกันจะแยกย้ายกลับบ้าน
ผมหันไปดูโจ้ ที่นั่งหมอบหมดสภาพอยู่ข้างๆผม
“เมาจนหลับอย่างนี้ แล้วเราจะรู้ความจริงจากโจ้ได้ไงเนี้ย” ผมโวยวายกับปอและเชียร์
“เมาอย่างนี้แหละดี เพราะคนที่จะพาโจ้ไปส่งคือนาย” เชียร์หยิบเป้ของโจ้ยื่นมาให้ผม
“คนรู้ใช่มั้ย ว่าพวกเราหมายความว่ายังไง” ปอค่อยๆพยุงร่างของโจ้แล้วผลักมาหาผม
“พวกนาย หมายความว่า......” ผมอึ้งไม่นึกว่าเพื่อนสนิทของโจ้จะคิดแผนชั่วร้ายได้มากกว่าผมซะอีก
“นายเปลี่ยนใจเหรอ พวกเราพาโจ้กลับหอก็ได้” ว่าแล้วปอกับเชียร์ก็มาพยุงร่างโจ้
“เออ เออ เออ เราพาโจ้กลับบ้านเอง” ผมรีบตัดสินใจทันที
ปอและเชียร์ยิ้มอย่างพอใจก่อนจะขอตัวกลับบ้าน
ตอนนี้ที่ร้านเหลือผมและร่างอันไร้สติของโจ้ “เฮ้อ! ตกลงเราจะทำอย่างนั้นจริงๆใช่มั้ย”
*************************************************************************************************
ในที่สุด ผมก็พาโจ้มาที่บ้านของผมจนได้
ร่างอันไร้สติของหนุ่มน้อยที่มีเชื้อเดนมาร์ค น้องสลบไสลอยู่บนเตียงของผม
แก้มขาวใสอมชมพูมีเลือดฝาด จมูกที่โด่งสันได้รูป ปากเรียวงามอมชมพูคล้ายปากผู้หญิง
เสื้อนักเรียนที่หลุดลุย พร้อมกับกระดุมบนที่ถูกแกะเผยให้เห็นแผงหน้าอกที่ขาวกว่าใบหน้าของเจ้าของซะอีก
ผมเผลตัวเอามือไปลูบท่อนขาขาวๆของโจ้ พร้อมค่อยๆสอดมือเข้าไปในกางเกงนักเรียน
มือผมไปสัมผัสขอบกางเกงในของโจ้ ผมก็รีบถอนมือออกมาอย่างรวดเร็ว
พร้อมเบือนหน้าหนีไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะกล้าทำคนที่ผมบอกว่ารักเค้ามากที่สุดได้ลงคอ
ผมไม่อยากจะฉวยโอกาสด้วยวิธีแบบนี้เลย
ผมเลยตัดสินใจเดินไปเอาน้ำใส่ในขันพร้อมผ้าผืนเล็กๆมาวางไว้ที่ข้างๆเตียง
พร้อมกับค่อยๆเช็ดตัวให้โจ้ ผมพยายามเช็ดตัวของโจ้อย่างทะนุถนอม
แต่แล้วในการเช็ดตัว ผมต้องปลดกระดุมของโจ้
ร่างของโจ้ที่เปลือยท่อนบนทำผมไม่มีสติพอที่จะทำอะไรได้
ตัดไฟซะตั้งแต่ต้นลมดีกว่าผมเลยเอาผ้าห่มมาห่มให้โจ้ ก่อนจะลุกจากเตียงเพื่อไปนอนห้องพี่ชาย
ผมกลับรู้สึกเหมือนโดนสวมกอดจากหลัง
“อย่าไปนะ อย่าทิ้งเราไปไหน” เสียงของโจ้ที่ดูเมาไม่ได้สติพูดกับผม
“เราไม่หนีนายไปไหนหรอก เราจะไปนอนห้องพี่เราไง” ผมพูดกับโจ้ทั้งที่รู้ว่าโจ้คงไม่รู้เรื่อง
ผมพยายามแกะมือของโจ้ออก แต่โจ้กอดรัดผมแน่น
“โจ้ปล่อยเราเถอะนะ นายจะได้นอนผักไง” ผมพยายามพูดดี แต่โจ้ไม่ปล่อยพร้อมเอาหน้ามาซบที่หลังผม
“เห็นมั้ย นายจะหนีเราไปจริงๆด้วย นายไม่ได้รักเราแล้วใช่ไหม” โจ้พูดด้วยน้ำเสียน้อยใจ
ผมนิ้งเลยครับ โจ้ถามแบบนี้ ทั้งๆที่รู้ว่าเมาและคงอาจไม่ตั้งใจจะพูดแบบนั้นออกมา
“รักซิ รักมากด้วย นายต่างหากที่ไม่ยอมรักเราสักที คนที่หนีคือนายต่างหาก”
ผมเองก็พูดความรู้สึกตัวเองออกมา
โจ้เงียบไปแล้วครับ แต่ผมกลับรู้สึกว่า……
มือของโจ้กลับล้วงเข้าไปในกางเกงผม?
ผมสะดุ้งพร้อมรีบจะปัดมือออก แต่โจ้ยันมือผมไว้พร้อมเอาหน้ามาซักไซร้ตัวผม
ฤทธิ์เหล้าทำให้โจ้หื่นได้มากขนาดนี้เลยเหรอ
ผมถูกผลักไปนอนลงอยู่บนเตียงโดยมีโจ้ค่อมทับผมอยู่
ผมเองควรจะขัดขืนหรือจะทำยังไงก็ได้เพื่อให้โจ้ได้สติ
แต่จิตใต้สำนึกกลับปฏิเสธ พร้อมปล่อยให้โจ้ทำตามใจที่ต้องการ
เสื้อผ้า กางเกงยีนส์ กางเกงบ็อกเซอร์ ถูกเขวี้ยงไปคนละทิศละทาง
พร้อมกับการจูบตามซอกคอ มือของโจ้ค่อยๆคลำไปส่วนนั้น
ใช่ครับ มันขยายใหญ่เต็มมือของโจ้เหมือนพร้อมที่จะแสดงพลังของมันออกมา
“อ้า……” ผมครางดังลั่นเมื่อโจ้ใช้ลิ้นเลียวนไปตรงจุดประสาทตรงนั้นของผม
ผมทั้งเกร็งทั้งเสียว เผลอเอามือไปจับกดหัวโจ้ที่กำลังเอาปากครอบเจ้าหนู
ผมเผลอตัวยกเอวขึ้นลงให้ตรงกับจังกวะครอบปากของโจ้
“อือ….อือ….” โจ้เองก็ดูจะตั้งใจทำให้ผมอย่างเต็มที่
ความเลวก้เริ่มครอบนำตัวผม เมื่อผมคิดจะทำอะไรกับโจ้มากกว่าที่กำลังทำอยู่ตอนนี้
ผมดึงตัวโจ้ขึ้น แล้วผลักบนลงที่นอน จากนั้นก็ค่อยๆถอดกางเกงโจ้ลง
โจ้ยังคงไม่ได้สติ ปล่อยให้ผมทำอะไรก้ได้ตามใจชอบ
ผมจับตัวโจ้หันหลังเอาหมอนมารองตรงก้นเพื่อให้สูงพอกับการคุกเขาของผม
แล้วผมก็เริ่มกระทำการที่ผมตั้งใจไว้
“โอ้ย….เจ็บ” โจ้เริ่มร้อง ผมเองก็ตกใจเล็กน้อยกลัวโจ้จะได้สติ แต่ก็ยังพยายามทำต่อไป
ผมเริ่มดันเจ้าหนูเข้าไป เอ๊ะ มันหลวมกว่าที่คิดว่ะ
นี้ไม่ใช่ครั้งแรกของโจ้นี้ ผมแทบช็อค โจ้เคยมีอะไรกับใครมาก่อนผมใช่ไหม
ผมนั่งลงข้างๆร่างของโจ้ที่ตอนนี้คงหลับไปแล้ว เพราะเสียงกรนเริ่มดังขึ้น
ผมเริ่มสับสนในตัวเอง จะมาตกใจทำไม นี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกของผม
โจ้จะเคยมีอะไรกับใครไม่ก็ไม่น่าจะใช่เรื่องแปลก
แปลกซิ เพราะโจ้ไม่น่าจะ……หรือว่า โจ้กับไอ้หมี
เจ็บใจนัก ทำไมต้องเป็นมันด้วย
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊าย” เสียงครางของโจ้ดังขึ้น
ผมหันไปมอง ตกใจที่เห้นโจ้กำลัง……
“ช่วยเราหน่อยได้มั้ย” โจ้เรียกผม พร้อมสายตาที่ยั่วยวน
ผมรีบกระโดนไปนอนข้างโจ้ ไม่คิดอะไรทั้งนั้นอีกแล้ว
โจ้คว้ามือผมไปจับของโจ้ที่ดูจะใหญ่กว่าของผม
“ยังเมาอยู่หรือเปล่า” ผมถาม เผื่อฟลุ๊ค
“ม่าย….เมา” โจ้ตอบทำหน้าปรือๆ
เมาชัวร์ แต่ก็โล่งอกถ้าโจ้มีสติไม่ทำแบบนี้หรอก
ในขณะที่ต่างคนต่างชักให้กัน ผมก็ถือโอกาสถามเรื่องนั้นซะเลย
“โจ้มีอะไรกับหมีใช่มั้ย” ผมถามไปลุ้นไป
“ช่าย……” ว่าแล้ว ไปนอนที่เดียวกันตั้ง4 – 5 คืน ไอ้หมีมันจะไม่ทำอะไรก็บ้าแล้ว
“คนแรกเหรอ” ผมถาม
“ป่าว ก่อนนั้นกับพี่เลี้ยงเรา ตอนอยู่สถานสงเคราะห์กับเพื่อนกับรุ่นน้องอีก ครั้งแรกตอน13ขวบมั้ง”
“ห๊า………….”ผมแท็บช็อค
“อะ อะ อ๊าย” โจ้ปล่อยน้ำเต็มมือผม พร้อมหลับไป
ผมทั้งอึ้งทั้งเหวอ โจ้ไม่ได้ใสซื่ออย่างที่เราคิดใช่มั้ย
เท่านั้นแหละ ผมก็จับโจ้หันหลัง และทำสิ่งที่ผมอยากทำมานาน
“ในเมื่อไม่ใช่คนแรก ก็จะทำหล่ะนะ”
ว่าแล้วผมก็ใส่ไม่ยั้ง
“โอ้ย…..โอ้ย…”
ผมไม่สนว่าโจ้จะเมาหรือจะตื่น แต่แค้นที่หลอกมาตลอดว่าใสซื่อ ต้องโดนแบบนี้แหละถึงสาสม
************************************************************************************************
เช้าอีกวัน ผมตื่นมาทำกับข้าวให้โจ้ เพราะเจ้าตัวยังหลับสนิทอยู่
ผมหายโกรธ และลืมเรื่องที่ไม่ควรจำของโจ้ อดีตเป็นยังไงก็ช่างมัน
ทำปัจจุบันให้ดีกว่าเนอะ
ผมถือจานอาหารเช้าไปหาโจ้ที่เตียง จะบริการอย่างดีไถ่โทษที่เผลอปล้นสวาทไปเมื่อคืน
โจ้ตื่นแล้วครับ อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยเชียว
“กินข้าวเช้าด้วยกันเร็วๆ” ผมเรียกพร้อมรอยยิ้ม
“โจ เรามีเรื่องต้องบอกนาย” โจ้ทำหน้าเครียด
“มีอะไรเหรอ” ผมเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดี
“เมื่อคืนเราคงทำอะไรหน้าขายหน้าไปเยอะใช่มั้ย”
“ไม่หรอก นายเมาปุ๊บก็หลับปั๊บเลย” ผมโกหก ไม่กล้าบอกว่าเมื่อคืนโจ้ทำอะไรไปบ้างถ้ารู้ว่าตัวเองเก่งกว่านักแสดงหนังโป๊คงต้องช็อคแน่ๆ
“ถึงเราจำอะไรไม่ได้ แต่เรารู้ว่าตัวเองตอนเมาเป็นยังไง” โจ้เดินมาข้างผม
“ก็ได้ เมื่อคืนเรามีอะไรกัน” ในที่สุดผมก็ยอมอบกความจริงไป
โจ้ถอนหายใจ พร้อมกับน้ำตาที่เริ่มไหลออกมา
“แม้กระทั่งนายก้ยังทำแบบนี้กับเรา”
เวรกรรมกำลังเล่นงานผม ผมทำร้ายโจ้ได้ขนาดนี้เลยเหรือ
“ทุกครั้งที่เรามีอะไรกับใคร ก็เพราะพวกนั้นมอมเหล้าเรา พวกเขารู้ถึงทำแบบนั้น แต่โทษใครไม่ได้หรอก”
โจ้พยายามเช็ดน้ำตา ผมไม่รู้จะทำอย่างไร เลยเดินเข้าไปกอดโจ้
“เราไม่รู้เรื่องที่นายเป็นแบบนั้น แต่ที่เรามีอะไรกับนายเพราะเรารักนายต่างหาก”
ผมยิ่งกอดแน่น ผมไม่อยากให้โจ้คิดว่าผมเหมือนคนพวกนั้น
“เรารู้ แต่เราไม่อยากให้เราสองคนมีความสัมพันธ์เกินเพื่อน” โจ้ตอบ
ผมปล่อยตัวโจ้ “ทำไมถึงเป็นเราไม่ได้”
“ก็……เราไม่อยากเสียนายไป” โจ้พูดจบ ก็เดินออกจากห้องผมไป
ผมได้แต่นั่งเสียใจ พร้อมนึกถึงคำพูดของโจ้
“ใช่ นายไม่อยากเสียเราไป แต่เราคงเสียนายไปแล้ว”
และนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมกับโจ้พบกัน
-----จบจ้า เศร้าหน่อยเนอะ มารอดูคู่ตอไปดีกว่าเนอะ------
ที่หายไปนาน เพราะวุ่นๆกับเรื่องงาน
แต่ที่หายไปก็ไปคิดโปรเจ็กท์เรื่องใหม่ ได้ประมาณ10เรื่อง แต่จะเขียนกี่เรื่องก็อีกเรื่องหนึ่ง
ลืมไปเลยว่ายังแต่งค้างไว้สองเรื่อง มาต่อให้จบดีกว่า
เดี๋ยวมาใหม่นะครับ

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
ไม่น่าเลย.....ถ้าแค่นอนกอดกันก็อาจมีลุ้นสินะ คริๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด