ตอนที่ 16
“เย็นนี้ว่างเปล่า”ผมถามไอ้คนตัวขาวที่นั่งซ้อนท้ายผมอยู่ เมื่อเช้าไปรับมันที่บ้านหลังจากส่งข้อความไปบอก คิดว่าได้ถีบมันแน่ ผิดคาดมันนั่งรออยู่หน้าบ้านหน้าตาสดชื่นไม่งัวเงียเหมือนวันก่อน อดเลย หุหุ พูดเล่นครับใครจะถีบลงเปลี่ยนเป็นทำอย่างอื่นแทนดีกว่า อ้อ เมื่อคืนมันยังส่งกลับมาบอกผมอีกว่าถ้าไปรับมันช้าจะโดนอะไร ดักทางกูซะทุกอย่าง ดีครับผมชอบชีวิตมีซีซั่นดี
“ว่าง”มันตอบผมทันที มือโอบเอวผมแต่ไม่แน่นมาก ผมว่ามันคงลืมตัวแน่
“ไอ้พายชวนไปกินข้าวที่บ้าน”ผมบอกมันเรียบๆ
“อืม มีไรกินมั่ง”มันรับคำก่อนจะถามกลับ ห่วงจริงมึงเรื่องกิน
“ไม่ได้เป็นคนทำ”ผมก็ตอบกลับ
“กวนตีน”มันว่าผม
“ตรงไหน”
“ทุกตรง”
“เรื่องจริง”
“ไม่รู้ก็บอกไม่รู้สิ”
“เดี๋ยวไม่มีอะไรคุยต่อ”
“=_=”หน้ามัน
“ร้อน”
“อะไร”
“มันร้อน”
“ลมเย็นออก”
“กล่องข้าวมึงน่ะ แนบหลังกูอยู่ได้”
“นึกว่าหนังหนา”
“เป็นบางที่”
“กูว่าทุกที่มากกว่า โดยเฉพาะหน้าที่หนาเป็นพิเศษ”
“แต่กูหล่อ”
“แหวะ”
“หึหึ” ผมเถียงกับมันซะมากกว่าคุยกัน จนถึง ม. เอารถไปจอดก่อนจะเดินไปหาที่นั่งเพื่อกินข้าวกัน ผมอมยิ้มอย่างไม่รู้ตัวแสดงว่ามันต้องตื่นเช้ามากวันนี้ผมเรียนเก้าโมงพร้อมมันนั่นแหละ แต่เมื่อเช้าผมไปถึงเจ็ดโมงกะว่าจะพามันไปกินต้มเลือดหมูสักหน่อยแต่เห็นผู้หญิงวัยกลางคนส่งปิ่นโตไม่ใหญ่มากนักให้ มันก็หิ้วมาไม่อายใครเลยปกติคนเรียนระดับมหาวิทยาลัยจะไม่ค่อยมีใครหิ้วมาหรอก ถึงมีก็น้อยมาก ขนาดเด็กประถมเดี๋ยวนี้ยังไม่หิ้วเลย แต่ก่อนตอนเด็กจนถึงมัธยม ผม ไอ้พายไอ้หวาย นี่หิ้วไปกันแบบเถาใหญ่มากกลัวกินไม่อิ่ม
“กินข้าว”มันสะกิดผมที่นั่งคิดอะไรอยู่ พอมองก็เห็นข้าวเปล่าและกับข้าวสองอย่างเป็นหมูทอดกับต้มจืด ผมเลิกคิ้ว
“เอามาเผื่อ”มันพูดอุบอิบแต่หน้าแดงหน่อยๆตักกินทันที น่ารักว่ะ
“ป้อนดิ”ผมบอกมัน
“เป็นง่อย”มันเลิกคิ้วใส่
“อืม”ผมก็ยักคิ้วให้
“ไม่เอา”
“เร็ว”
“อายเขา”
“หลับตาก็ไม่เห็นใครแล้ว”
“หลับตาแล้วจะป้อนได้ไง”มันแหวใส่ก่อนจะเอามือปิดปากแทบไม่ทัน
“ทำซะ”ผมหรี่ตาบอกมัน ๆ หันซ้ายหันขวาหน้าหลัง
“อ้าปาก”มันพูดเร็วๆ มือก็จ่อพออ้ามันยัดทันที
“แค่ก มึงจะฆ่ากูเหรอยัดมาได้”ผมสำลักก่อนมันจะรีบส่งน้ำให้
“ขอโทษ เจ็บเปล่า”มันลนมากสงสัยจะไม่ได้แกล้ง เอามือจับปากผมมองสำรวจ อยากจูบฉิบหาย
“แกล้งใช่ไหม”ผมแกล้งหรี่ตาใส่มัน
“เปล่า กูกลัวคนเห็นนี่หว่า”มันตาโตเลยครับ
“เป็นแฟนกูนี่น่าอายมาก”ใส่มันอีก สนุกดี
“ถ้ากูอายจะเป็นหรือไง อย่ามาหาเรื่องนะ”มันแหวใส่ผมเม้มปากด้วย
“ไม่ได้หาเรื่อง กลัวไม่มีเรื่องคุย”ผมบอกมันยิ้มๆ
“ไอ้เชี่ยะ ไม่ต้องกินแล้ว”มันพูดจบเตรียมเก็บข้าวของ ผมรีบจับมือมันไว้ทันที มันค้อนผมปะหลับปะเหลือก ผมก็ยักคิ้วให้มันก่อนจะลงมือกินข้าวกล่องเดียวกัน แต่ช้อนคนละคันจนหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือขนาดน้ำต้มมันยังยกซดปิดท้าย
“ไม่กินกล่องไปด้วยจะได้ไม่ต้องล้าง”ผมแซวมัน
“ทำได้กูทำแล้ว”มันก็ย้อนผม ยักคิ้วให้อีก ผมผลักหัวมันอย่างหมั่นไส้
“พี่ไผ่”เสียงเรียกทำให้ผมหันไปมอง น้องรหัสผมเองเดินหน้าเริ่ดเข้ามานั่งข้างๆผม ไอ้ฝิ่นเหลือบตามองนิดหน่อย
“ไม่เห็นไปชมรมบ้างเลยอ่ะ”มันพูดแบบตัดพ้อผม ชมรมบาสที่ผมไม่ได้ไปนานแล้วถ้าไม่มีแข่งหรือต้องซ้อมผมก็ไม่ค่อยไปหรอก ส่วนใหญ่ไอ้หวายกับไอ้เจย์มันจะไปเพราะจะมีพวกเชียร์ลีดเดอร์ที่เป็นแบบต่อตัวกันเขาซ้อมใกล้ๆที่นั่นด้วยไม่ใช่มันขยันอะไรหรอกมันบอกเป็นห่วงน้องๆกลัวเข้งขาหักมันจะได้ช่วยรับทัน ไอ้พายเลยด่ามันว่าอ้พวกหน้าหม้อรอรับหอย และถ้าไอ้บลูดี๊ด๊านะได้โดนหนักแต่เดี๋ยวนี้ตั้งแต่มันเปิดตัวกันไอ้บลูลดลงไปเยอะ
“ไม่มีอะไรก็ไม่รู้จะไปทำไม”ผมบอกมัน ก่อนจะหันไปมองไอ้คนข้างๆที่มองหน้าผม มองหน้าไอ้ต้า ก่อนจะหันไปมองทางอื่น
“แหมก็ไปหาน้องๆบ้างสิ”มันกระเง้ากระงอดผมต่อ เดี๋ยวมึงก็โดนหรอก
“เออ เอาไว้ว่างๆจะไป”ผมก็บอกมันไป ไอ้ต้ายิ้มรับ ปรายตามองไอ้ฝิ่นยิ้มๆ ก่อนจะพูดออกมา
“แล้วขนมที่ต้าฝากไปให้อร่อยมั้ย”มึงจะถามกูทำไมวะ ไอ้ฝิ่นหันขวับทันทีมองหน้าผมเขม็งเลย
“อืม”ไอ้หวายกับไอ้เจย์บอก ผมกินไปนิดหน่อย
“งั้นเดี๋ยวต้าฝากไปให้อีกนะ”มันบอกผมต่อ
“ไม่ต้อง”เน้นๆเลยครับ ไม่ใช่ผมคนที่คุณก็รู้ว่าใคร
“ทำไม ก็พี่ไผ่เขาชอบ”มันพูดอีกแบบไม่รู้ไม่ชี้
“ตรงไหนของประโยคที่บอกว่าชอบ”มันลอยหน้าย้อนถามมือก็กอดแขนผมแต่เล็บมึงจิกลึกไปไหม ไอ้ต้าจิกตามอง
“ก็พี่ไผ่บอกอร่อยไม่ได้ยินเหรอ”ไอ้ต้าย้อนถามมัน มันแสยะยิ้มใส่
“ไปเช็คหูซะมั่งนะ อร่อยกับชอบน่ะมันออกเสียง และเขียนไม่เหมือนกันสักหน่อย”มันพูดใส่หน้าเลยครับ ไอ้ต้าหน้าเหวอเลยไม่คิดว่ามันจะย้อนแบบนี้ ก่อนจะชักสีหน้า
“ยุ่งอะไรด้วย”ไอ้ต้ายังถามมันอีก
“นั่งติดกันซะขนาดนี้จะให้บอกว่าเป็นเพื่อนไหมล่ะ”มันก็ย้อนไอ้ต้ากลับ จนไอ้ต้าหันมามองหน้าผมที่ยังเฉยอยู่ เหมือนสองคนมันจะไม่ค่อยชอบหน้ากันเท่าไร
“ปกติจะตาย ตอนรับน้องเราก็นั่งติดกันจริงไหมพี่ไผ่”มันพูดกลับนิ่งๆแต่หันมายิ้มกับผมในตอนท้าย
“อืม”ผมรับคำเฉยๆ
“จริงเหรอ”ไอ้ฝิ่นหันมาถามผมหน้าตาเฉย แต่อีกสักพักมันคงไม่เฉยเหมือนหน้ามันหรอก
“เออ”ผมก็พยักหน้าบอกมัน ไอ้ต้ายกยิ้มแบบได้เปรียบทันที
“แล้วแบบนี้ทำป่ะ”มันพูดจบขึ้นมานั่งบนตักผมเอามือคล้องคอ ไอ้ต้าหน้าเหวอไปเลย
“เปล่า”ผมบอกมัน มันหรี่ตาใส่
“จริงนะ”มันถามผมเสียงอ้อนมากในความรู้สึกคงคิดว่าอ้อนแฟน แต่ผมว่ามันดูอ้อนตีนมากกว่า
“เออ”ผมตอบมัน
“จุ๊บ ดีมากแฟนกันเท่านั้นถึงจะทำได้ คนอื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องนั่นแหละเขาเรียกยุ่งไรด้วย”มันจุ๊บแก้มผมก่อนจะหันไปพูดย้อนคำพูดไอ้ต้า ที่ตอนนี้นั่งอึ้งพูดไม่ออกไปแล้ว
“ที่เขาพูดกันจริงเหรอพี่ไผ่”ไอ้ต้าถามผมที่นั่งมองหน้าไอ้ฝิ่น แต่มือผมที่ไม่รู้จะวางไว้ที่ไหนเลยโอบเอวมันซะ
“อืม”ผมก็ตอบรับสั้นๆ มันเงียบก่อน
“ต้านึกว่าพี่ไม่ได้เป็นเกย์ถึงไม่ตอบรับ แต่นี่หมายความว่ายังไง”มันถามผมเชิงตัดพ้อด้วย
“ก็ตามที่เห็น และเรื่องเป็นหรือไม่เป็น ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาตัดสินว่าต้องตอบรับเสมอไป มันอยู่ที่ว่าจะเลือกใคร”ผมตอบมันตรงๆ อาจจะงงนิดหน่อย มันทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แต่เม้มปากไว้ก่อนสะบัดหน้าเดินออกไปทันที พอลับไอ้ต้าไอ้ตัวแสบจะลงแต่ผมล็อคเอวมันไว้
“รีบลงทำไม”ผมถามมันยิ้มๆ
“อึดอัด”มันบอก แต่หน้ามึงบอกว่างอนกูแน่ถ้าไม่มีการเคลียร์ให้สิ้นซาก
“เหรอ”ผมถามใกล้หูมัน
“มึงชอบมันเหรอ”มันถามผม
“ใคร”ผมเลิกคิ้ว
“ไอ้ต้า”มันเรียกจิกเลย
“เปล่า”ผมก็ตอบตรงๆ
“แล้วมันมาได้ไง”มันถามอีก
“เดินมา อุ๊ก”ตอบเสร็จจุกเลยกู กระทุ้งเข้ามาได้
“สม เสือกตอบไม่ถูกใจกู”มันว่าส่งค้อนให้อีกวง เก็บไว้ก่อนทบไว้เยอะๆ จัดหนักทีเดียว
“ไม่ถูกกัน”ผมย้อนถามมัน
“ไม่เชิง มันชอบพูดใส่พวกกูไม่รู้ไปเหยียบหางมันหรือไง เออ แล้วรับน้องมึงนั่งติดมันทำไม”มันพูดประมาณว่าไอ้ต้าหาเรื่องมันก่อนจะวกมาหาเรื่องผมต่อ
“เป็นน้องรหัสก็เลยนั่งติดกันตอนทำกิจกรรมแต่ไม่ตลอด”ผมบอกมันตามตรง
“มีอะไรมากกว่านั้นมั้ย”มันถามผมอีก
“มี”ผมตอบมัน มันอึ้ง ผมจับหน้ามันด้วยมือข้างเดียวให้ฟังผมก่อนที่มันจะสะบัดหนี
“แค่เกือบ”ผมบอกมันก่อนจะเล่าว่าผมเป็นพี่รหัสมันก็ต้องดูแลแต่ก็รวมถึงน้องคนอื่นๆด้วยแหละ แต่วันนั้นเกิดนอกคอกกันหลังจากเลิกรับน้องก็ส่งกลับบ้านแต่พวกผมอยู่ต่อกลุ่มไอ้ต้าและเพื่อนมันอีกสองคนขออยู่ด้วย พวกผมก็บอกให้กลับเพราะเป็นการเที่ยวกันเองไม่อยากรับผิดชอบอะไร ไอ้ต้าที่มันน่ารักอยู่แล้วมีคนชอบมันเยอะไม่ยอมกลับก็เลยต้องตามนั้น และมันก็ตัวติดกับผมตลอดทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามาใกล้เท่าไร นั่งกินเบียร์กันจนเกือบดึกก็แยกกันกับที่พัก ไอ้พายกับไอ้หวานรับหน้าที่พาพวกมันไปนอนด้วย ระหว่างทางผมก็เดินไปส่งพวกมันแต่ขากลับเหมือนมีใครมากอดข้างหลังพอหันไปมันประกบปากผมจูบแบบเรียกร้องมือก็ลูบไปด้วย ทำเอาเคลิ้มเหมือนกันก่อนที่อะไรมันจะลุกผมก็ผละออก มันมองหน้าผมพร้อมกับบอกว่าชอบผม แต่ผมปฏิเสธมันๆมันก็ร้องไห้กอดผมแน่นเลยทำยังไงก็ไม่ปล่อยจะเตะก็ใช่ที่แต่ถ้าไม่ปล่อยคงได้มีบ้าง พอดีไอ้พายเดินกลับมาผมกวักมือเรียกทันทีมันก็ฮึดฮัดใส่ผมจ้องหน้ามันบอกว่าถ้าไม่ปล่อยก็ไม่ต้องมาคุยกันอีก มันเลยปล่อยก่อนจะเดินกระแทกเท้าออกไป ไอ้พายมองหน้าผมยิ้มๆ แต่มันรู้ว่าอะไรเป็นอะไรมันบอกว่านึกแล้วว่าไอ้ต้าต้องมาหาผมแน่ เพราะมันดูออกว่าชอบผม
“เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ”ผมบอกไอ้คนตรงหน้าที่มองเฉยๆ
“แค่นี้”ไอ้ฝิ่นเลิกคิ้วใส่
“เออ” ผมบอกมันที่ทำเป็นหรี่ตาใส่ ประมาณว่ากูไม่เชื่อมึงหรอก แต่ผมเห็นมันแอบอมยิ้มก่อนจะปรับหน้านิ่ง
“กูไม่ได้จะงี่เง่าใส่หรอก แต่หน้าตามันบอกว่าหาเรื่องใส่ตัว”มันกระแทกเสียงใส่ผม
“คิดไปเองเปล่า”ผมแกล้งทำเสียงใส่มัน มือบีบจมูกเล็กๆของมันด้วย
“มึงเข้าข้างมันเหรอ”มันก็แว๊ดใส่
“เข้าข้างมันกูเข้ามึงดีกว่า”ผมก็กวนมัน แต่แบบหื่นจิต
“ไอ้ทุเรศ จิตทราม เดี๋ยวมึงจะโดน”มันด่าหลังมือผมด้วยดีนะจับทัน ไม่งั้นดั้งหักแน่
“ดุจังโว้ย”ผมแซวมันอีก
“ดีกูไม่กัดด้วย”มันแยกเขี้ยวใส่รับมุกผม ทำเอาผมยกยิ้มใส่มัน
“อยากให้กัดจัง”ผมบอกมันยิ้มๆ
“กูกลัวติดเชื้อบ้า”มันถลึงตาใส่แต่ไม่จริงจังหรอก
“งั้นกูกัดนะ”ผมก็แหย่มันอีก
“ตรงตีนกูนี่ไง นิ่มสุด”มันก็ย้อนผมกวนๆ แถมยกขึ้นมาด้วย
“จริงเหรอ กูว่าตรงนี้มากกว่ามั้ง”ผมพูดพร้อมกับบีบก้นมัน ๆ ทำหน้าตกใจ
“ไอ้ทะลึ่ง หื่นนะมึง”มันว่าทุบไหล่ผมไปด้วย หน้าแดงแปร๊ดก่อนจะพาตัวเองไปนั่งที่เดิม ผมก็ปล่อยเพราะตอนนี้คนเริ่มทยอยมานั่งกันแล้วบางคนมองผมกับมันงงๆว่ามานั่งด้วยกันได้ไง บางคนที่รู้จักผมก็ยิ้มล้อๆ ไอ้ตัวดีมันไม่รู้เรื่องหรอก มันมัวแต่เก็บของมั่ง เปิดกระเป๋าหยิบโน่นหยิบนี่ไปตามเรื่อง
“อีฝิ่นนนน”เสียงแปดหลอดมาแต่ไกล เพื่อนมันครับถลามานั่ง
“มึงจะตะโกนทำบ้าไร หูหนวกหมด”มันว่าเพื่อนมันแต่ไม่จริงจังนัก
“กลัวมึงไม่ได้ยิน ไอ้แฝดมายัง”ถามหาไอ้คู่แฝด
“เดี๋ยวก็มามั้ง”ไอ้ฝิ่นบอก ผมว่าน้องเขาไม่เห็นผมหรอก
“เออ อุ้ย หวัดดีคะพี่ โทษทีมองไม่เห็น”น้องเขาหันมายกมือไหว้ผม ก่อนจะมองหน้าไอ้ฝิ่นที่นั่งนิ่งๆเหมือนเก็บอาการ
“พี่ไปรับมันมาเหรอ”เพื่อนมันยิ้มก่อนจะถามตรงๆ
“อืม”ผมก็บอกตามตรง
“ต๊าย มึงตื่นเช้าได้ด้วยเหรอ ไม่อยากเชื่อ”เพื่อนมันทำท่าตบอกอุทานล้อมัน
“เรียนเช้ากูก็ตื่นเช้าอยู่แล้ว มึงจะเวอร์ไป”มันก็ว่าเพื่อนมัน
“เช้าไปเปล่า”เพื่อนมันทำเสียงใส่กวนๆ
“อีออย”มันเรียกจิกเพื่อนมันที่คิ๊กคัก
“เลิกเรียนจะมารับ”ผมบอกมันก่อนจะลุกเพื่อไปที่คณะ วันนี้ผมกับมันเลิกตรงกัน
“อืม”มันพยักหน้ารับเฉยๆ แต่จับได้ว่ามันอายที่ผมพูดต่อหน้าเพื่อนมัน
“ไปไหนกันอ่ะ”น้องออยแทรกถามแต่ไม่ได้จริงจังหรอกประมาณว่าแซวมากกว่า
“ไปกินข้าว ไปด้วยกันสิ”ผมก็บอกน้องพร้อมกับชวน
“มึงให้กูไปป่ะ”น้องออยหันไปถามมัน
“แล้วแต่มึงสิ อยากไปก็ไป”มันบอกเพื่อนมัน
“เต็มใจหน่อย”น้องออยย้อนมัน
“อะไรของมึงทำน้อยใจ”มันก็ย้อนใส่
“ง้อกูหน่อย”น้องออยก็แหย่มันต่อ
“ช่วยกระแดะไปเป็นเพื่อนกูหน่อย อีหอยหลอด”มันก็ว่ากลับจีบปากจีบคอใส่ ตลกว่ะ
“จิ๊ พี่ดูมันถามจริงชอบมันตรงไหนปากเสียก็ทีหนึ่ง หน้าตาก็งั้นๆ”เพื่อนมันจิ๊ปากก่อนจะหันมาถามผม
“อีออย ข้อดีกูก็มี”มันย้อนทันควัน
“เห็นมั้ยพี่พูดยังไม่ทันขาดคำ ไหนพี่บอกสิ”น้องออยยังชี้หน้ามันก่อนจะหันมาถามผมอีก
“ก็เพราะไม่มีข้อดีนี่แหละที่เป็นข้อดี เลยชอบ ไปล่ะ”ผมตอบเสร็จก็เดินไปทันที แต่ได้ยินเสียงตามหลัง
“ไอ้เหี้ยยย มึงหมายความว่าไง กลับมาเลยนะ”เสียงมันแหวตามหลังแต่ถูกกลบด้วยเสียงหัวเราะเพื่อนมัน เรื่องอะไรจะกลับไปให้มันด่าให้เสียประสาทหู สู้เก็บหูเอาไว้ฟังเสียงอย่างอื่นจากมันดีกว่า หุหุ
**********************************************************************************************
“ฮ่าๆๆๆๆๆ สะใจกูวะ แฟนมึงเกรียนได้โล่ ฮ่าๆๆๆๆ”อีออยมันยังขำผมไม่หยุด ยกหางไอ้บ้านั่นอย่างชอบใจ
“ถ้ามึงไม่เอาเสียดายตายห่า”มันพูดแบบน่าเสียดายจริงๆ
“เสียดายตรงไหน ปากหมาก็เท่านั้น”ผมพูดใส่หน้ามัน นึกเคืองไอ้บ้านั่นไม่หาย
“ถึงได้กัดปากมึงเจ่อไง แต่กูว่าดีออกดูเถื่อนแต่ปนความหื่นน่าค้นหาว่าเวลาพีคสุดๆแล้วคนแบบนั้นจะทำหน้ายังไง โอ้ว”กูว่ามึงตอนนี้ทำหน้าหื่นกว่ามันอีก
“มึงเก็บอาการหน่อย เมื่อกี้พี่เฟอร์เดินผ่านทำหน้าตกใจเลยมึง”ผมบอกมันก่อนจะแหย่มันต่อ
“จริงอ่ะ มึงไม่บอกกู อีเลว ป่านนี้ไม่กลัวกูจนไข่สั่นไปหมดแล้วเหรอ”มันทำหน้าตาตื่นแบบสมจริงสมจังมาก มันปลื้มพี่เฟอร์คณะเดียวกันอยู่ บอกว่าคนอะไรเพอร์เฟค หล่อ รวย เรียนก็เก่ง เสียอย่างเดียวไม่ชอบมัน ถ้าใครไม่ชอบมันนั่นคือข้อเสียและถ้ายิ่งไปชอบชะนีเรียกว่าจัณฑาลเลยสำหรับอีออย อีนี่เขาแบ่งสองมาตรฐานเห็นๆ
“เดี๋ยวเขาก็ดีดมึงออกมาหรอก ไอ้แป๊บดีกว่ามั้งเห็นส่งสายตาให้มึงเรื่อย”ผมพูดถึงไอ้แป๊บเด็กคณะเดียวกันแต่คนละสาย นอกจากมีวิชาตรงกันถึงจะเข้าคลาสเดียวกัน มันเจอหน้าอีออยทีไรยิ้มให้ทุกที เคยเดินมาบอกชอบมันด้วยแต่มันไม่เอาด่ากลับอีก ไอ้แป๊บก็ยิ้มบอกยิ่งด่ายิ่งดีแสดงว่าไม่ใจง่ายทำให้อยากได้มากยิ่งขึ้น ทำเอาพวกผมขำมันเลย อีออยนี่แทบจะเอาหน้ามุดกับโต๊ะ แต่มันก็ไม่ได้รำคาญอะไรหรอกบางครั้งมันก็หัวเราะ เวลาไอ้นี่เดินไปแล้วแต่ต่อหน้ามันจะเก็กไว้
“มึงเลิกพูดชื่อนี้ได้ไหม กูขวัญผวาหมด”มันทำหน้าเซ็งๆ
“มึงกลัว”ผมได้ทีเลยแหย่มัน
“ไม่ได้กลัว แต่กูแหยงเมื่อเช้าก็เพิ่งเจอหลอนฉิบหาย”มันเชิดหน้าก่อนจะทำหน้าขนลุก
“ระวังนะมึงเกลียดอะไรจะได้อย่างนั้น เหมือนที่มึงบอกกูไง”ผมยักคิ้วใส่มัน
“แหม ได้ทีนะมึง”มันจิกตาใส่ผม ทำเอาผมหัวเราะที่ตอนนี้เหนือมัน ฮ่าๆๆๆ
“เออ เมื่อกี้กูสวนอีต้า เดินหน้าเป็นส้นตีนเลย”มันนึกขึ้นได้
“มันมานี่แหละ ดีกูไม่เอาตีนทาบหน้าไปด้วย หนอย หาเรื่องใส่ตัว”ผมพูดพร้อมกับเล่าให้อีออยฟังว่ามันเคยจะงาบไอ้ไผ่
“อีแร้งส์ ยิ่งกว่าแรง ดีนะผัวมึงไม่สวบมันเข้าตอนรับน้อง”อีออยจิกด่า
“แค่แฟน”ผมบอกมัน
“มึงก็รีบเป็นสิ ไม่งั้นโดนคาบแน่ ขนาดนั่งกับมึง เมื่อกี้อีโต๊ะข้างๆยังส่งสายตาให้เลย”อีออยรีบกระตุ้นให้ผมเสียตัวเร็วขึ้น
“ไหน ใครมอง”ว่าจะไม่เต้นตามมันแต่อดไม่ได้ ใช่ว่าไม่เห็นแต่ในเมื่อมันไม่สนใจผมก็ต้องไม่สนใจเหมือนกัน
“มันลุกไปแล้วตอนพี่ไผ่เดินไปนั่นแหละ กูจำชื่อไม่ได้แต่จำหน้าได้”มันลอยหน้าลอยตาบอก
“วอนมาก แต่ของอย่างนี้ถ้ามันเล่นด้วยกูก็ห้ามไม่ได้หรอกนอกจากตัดหำปล่อยวัดซะ”ผมทำหน้าแบบจริงจังมาก
“อีฝิ่น มึงทำการแสดงมากไปแหละ”อีออยเบะปากใส่
“อ้าว ก็กูเห็นมึงยุกูเลยฟิจเจอริ่งตามไง”ผมยักคิ้วบอกมัน
“อีสันดอน”มันจิกอีก
“แต่กูพูดจริงถ้ามันเล่นด้วยกูคงทำอะไรไม่ได้หรอก นอกจากปล่อยไปทางใครทางมัน ยื้อไว้ก็เท่านั้น”ผมพูดลอยๆแต่จากใจ
“มึงอย่าเพิ่งคิดมากเลย กูว่าถ้าพี่เขาจะเอานะคงล่อไอ้ต้าตั้งแต่รับน้องแล้วมีโอกาสแต่ไม่ทำ รอดมาถึงมึงได้”อีออยพูดสีหน้ามั่นมาก
“มึงนั่นแหละพูดให้กูคิด ทั้งที่กูก็คิดเป็น หุหุ”ผมเอานิ้วจิ้มหน้าผากมัน ก่อนจะแหย่มันปิดท้าย
“อีแรดเรียกพี่นะมึง”มันว่าผมอีก “แต่กูดูแล้วแกไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก”อีออยยังยืนยันอีก ดูมึงจะเชื่อมั่นมันมากกว่ากูที่เป็นแฟนมันอีกนะ แต่ผมอยากแกล้งมันต่อ
“มึงนิ ไม่เคยได้ยินเหรอวะ ว่าอะไรก็ไม่ลึกเท่าใจคน ยิ่งหลงงวยงง ก็ง๊งงงงงงง”ผมพูดใส่มันหน้าตาเฉย
“อีห่าจิก ปรัชญาเหี้ยอะไรยิ่งฟังก็ยิ่ง งง งง งง”มันพูดใส่หน้าผมพร้อมนิ้วที่จิ้มๆๆๆๆๆหน้าผาก
“กูแหย่เล่นน่ะ กูแค่จะบอกว่าใจคนมันหยั่งไม่ถึง เหมือนรู้หน้าไม่รู้ใจ”ผมบอกมันไปอีก อย่างที่คิดว่ามันน่าจะเข้าใจ ทำเอามันอ้าปากหวออย่างคาดไม่ถึง
“โอ้ว แม่เจ้า สาระเริดมาก ตั้งแต่มีผัวนี่สติปัญญาดีขึ้นนะและถ้ารับสเปริมส์เปปไทด์เข้าไปมึงคงเริ่ดกว่านี้แน่”มันทำหน้าดัดจริตใส่ผม
“น้ำบ้าอะไรของมึง อุบาทว์ม๊ากมาก”ผมก็ทำดัดจริตใส่มันบ้าง นานทีจะสาวแตกใส่กัน กำลังคุยกันเพลินๆ
“เอ้อ ฝิ่นใช่มั้ยครับ”ผู้ชายหน้าตาก็งั้นๆในสายตาผม แต่อีออยตาค้างไปเรียบร้อย ผมมองหน้าเฉยๆไม่ตอบรับ
“มีอะไรเหรอคะ”นำเสนอหน้าโดยมัน ไอ้นั่นก็ยิ้มให้ก่อนจะยื่นถุงขนมโลโก้ดังส่งให้ แล้วมึงจะถามทำไมว่าใช่กูหรือเปล่า
“ฝากซื้อเหรอ”ผมถามมันหน้าเฉยๆ มันหัวเราะผมที่ถามมัน
“เปล่าแต่ซื้อมาฝาก”ไอ้นั่นตอบก่อนจะยิ้มให้ มันยิ้มสวยแต่ไม่ทำให้ผมประทับใจเท่าใครบางคนที่ปากมันไม่ค่อยจะยิ้มดีแต่กวนตีนให้กูสุขใจ
“ซื้อมาฝากทำไมเหรอ”อีออยถามกลับยิ้มๆ
“ก็อยากซื้อ”มันก็ตอบอมยิ้มแบบเจ้าชู้ ตาระยิบระยับ
“แต่ไม่อยากรับ”ผมบอกมันอีก มันอึ้งไปนิดหน่อยก่อนจะยิ้มเหมือนเดิม
“รับเถอะ เดี๋ยวเสียใจนะ”มันพูดอีก ทำท่าน่ารักดี
“ก็ร้องไห้ซะสิ”ผมก็ย้อนมันอีก อีออยมองหน้าผมสลับมองหน้ามัน
“น่า รับเถอะ นะ”มันก็ทำหน้าเศร้าๆแต่ทะเล้นใส่
“น่ารักอ่ะ อีฝิ่นรับไว้เถอะ”อีออยเคลิ้มแล้วครับ คะยั้นคะยอให้รับ
“มึงก็รับไว้สิ”ผมหันไปบอกอีออยที่รีบหยิบทันที
“ฝิ่นอารมณ์ขันดีเน๊าะ ไม่เห็นหยิ่งอย่างที่เขาพูดกันเลย”มันยิ้มก่อนจะทำหน้าสงสัยหน่อยๆ
“เขาพูดแค่นั้นเหรอ”ผมถามกลับ
“ก็เยอะ แต่ไม่สนใจ”มันบอกพร้อมกับยักไหล่
“ว่าแต่ชื่อไรอ่ะ”อีออยถามไอ้หน้าทะเล้น
“นิวครับ แล้วชื่อไรอ่ะ”มันตอบก่อนจะถามกลับ
“ออย หรือจะเรียก ออดี้ ก็ดีนะ”มันทำเสียงได้แรดมาก
“ฮ่าๆๆ โอเค เรียนกี่โมงกันอ่ะ”มันถามอีก นั่งแป๊บเดียวคุยเหมือนรู้จักมาเป็นชาติ
“เก้าโมง กี่โมงแล้ววะ อีฝิ่น”อีออยบอกก่อนจะหันมาถามผม
“อีกครึ่งชั่วโมง ไปยัง”ผมบอกก่อนจะถือโอกาสลุกจากตรงนั้น
“เออๆๆ แล้วเรียนคณะไหนไม่เคยเห็น หล่อขนาดนี้ไม่น่าพลาดสายตาไปได้”อีออยรับปากส่งๆก่อนจะถามมันได้ใจมากไม่มีอาย
“บริหาร ก็เพราะไม่หล่อไงเลยไม่เห็น”มันบอกก่อนจะพูดถ่อมตัวหน่อยๆ อีออยตาโต
“ต๊าย อนาคตไกล อยากตามไปเป็นเมีย เอ้ย เลขาจัง”อีออยแอ๊คติ้งโอเวอร์มาก
“เอาไว้จบก่อนดิ ค่อยเป็น”มันก็เล่นด้วย
“เอาจริงนะ”อีออยพยักหน้าทำตาวิบวับใส่ มันก็ยิ้มขำๆ
“ไปยัง”ผมถามอีออย
“จิ๊ เร่งจริง”มันจิ๊จ๊ะแต่ก็ยอมลุก
“กลัวแฟนเห็นเหรอ”มันถามผมยิ้มๆ
“เออ รู้ไว้ก็ดี”ผมตอบรับแม่งเลย
“จริงอ่ะ มีแฟนแล้ว”มันถามตาโตเลย แต่รู้ว่าแกล้งทำไปงั้นแหละ
“ใช่ มันมีแฟนแล้ว ชื่อ”อีออยรีบบอก
“อีออย ไปได้แล้ว” ผมดักคอมันทันที ไม่ใช่กลัวมันรู้ว่าแฟนผมชื่ออะไร แต่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องบอกว่าเป็นใคร
“ไว้เจอกันใหม่นะฝิ่น”มันพูดยิ้มๆ ให้ผม
“ถามกูยังว่าอยากเจอหรือเปล่า”ผมตอกหน้ามันไปอีก
“ไม่เป็นไรแค่อยากเจอฝ่ายเดียวก็ได้”มันหยอดใส่อีกก่อนจะโบกมือแล้ววิ่งไป
“หล่อโคตร ดูดีมีชาติตระกูล ไม่ได้กูต้องสืบซะหน่อยว่าเป็นใครทำไมกูพลาด”มันพูดเพ้อๆก่อนจะทำหน้าจริงจัง
“มันก็บอกชื่อแล้ว มึงยังจะอยากรู้อะไรอีก”ผมว่ามันก่อนจะส่ายหน้า
“เอ๊ะอีนี่ มึงมีพี่ไผ่แล้วก็ไม่อยากจะรู้จักเขาน่ะสิ แหมแต่มองมึงตาวาวเลยไม่สนเหรอ”อีออยจิ๊ปากใส่ก่อนจะถามต่อยักคิ้วยิกๆ
“กูไม่นิยมคบเป็นหมู่คณะ ขี้เกียจมีปัญหา แบบไม่อยากให้ใครเสียใจอ่ะ”นิสัยผมเป็นอย่างนั้นจริงๆแต่บางครั้งก็จะบริหารเสน่ห์บ้างเพื่อความบันเทิงใจ แต่ประโยคหลังผมพูดยิ้มๆใส่มัน
“อีกระจง อีสวยเลือกได้”มันหยิกแขนผมแต่ไม่แรงนัก ก่อนจะพากันขึ้นเรียน ไอโฟนผมสั่นหยิบมาดู มันครับส่งข้อความมาให้
”อ่อยอีกนิดโดนเตะ”ทำเอาผมอมยิ้ม เก่งจริงมึงเอะอะก็จะถีบจะเตะ ไม่ใช่กระสอบทรายนะโว้ย
“ยิ้มไรของมึง อีนี่ ผัวส่งข้อความมาล่ะสิ”อีออยแซวผมก่อนจะชะโงกหน้าดู “อุ้ย มีข่มขู่ด้วย ว่าแต่อยู่ไหนวะ”มันจีบปากพูดก่อนจะทำเป็นมองหา
“อยู่นี่ไง”ผมบอกมันแต่เดินไปเรื่อยๆ
“ไหนวะ”มันถามผมอีก
“อยู่ในใจ”ผมหันไปบอกมันก่อนจะหัวเราะเมื่อมันทำหน้าแบบเข็มขัดสั้น (คาดไม่ถึง คงไม่แป็กเน๊าะ)
“กูอยากจะอ้วก”มันทำท่าทำทางใส่ผม ก่อนจะพากันเข้าห้อง ไอ้แฝดป่วยบอกจดเลคเชอร์ให้ด้วย โอเคเพื่อน
**********************************************************************************************
ขอบคุณทุกคนนะคะที่เข้ามาเม้นท์และก็อ่าน รู้สึกมีกำลังใจ หุหุ
ปล. ขอโทษอย่างแรง กำลังลงไฟดับพอดีสงสัยลืมจ่ายค่าไฟ 5555 อะไรไม่เท่าลืมเซฟต้องเขียนใหม่เกือบหมด เซ็งตัวเอง เฮ้อ