ตอนที่ 22
“เออ ๆ ไม่เป็นไร พักซะ เดี๋ยวตอนเย็นกูเข้าไปนะ”ผมโทรไปบอกไอ้ฝิ่นว่าวันนี้ไม่ไปรับเพราะไม่ค่อยสบาย ที่จริงผมไม่ค่อยอยากบอกใครหรอกเวลาเป็นอะไรถ้าไม่หนักเจียนตายจริงๆ แต่นี่มันเป็นแฟนและนัดมันไว้ไม่อยากให้มันรอเลยต้องบอกสักหน่อย ไม่งั้นเดี๋ยวป้ายไฟจะขึ้นหน้าบอกให้รู้ว่า กูงอน
“ไม่ต้องหรอก ไม่เป็นไรมาก อะไร”ผมบอกมัน เหมือนมันจะไม่ยอม
“มึงซ่อนใครไว้”นั่นไง แม่ง พาลกูอีก
“เออ จะมาก็มา ซื้ออะไรมากินด้วย”ผมขี้เกียจเถียงกับมัน เลยตัดปัญหา ได้ยินมันหัวเราะชอบใจประมาณกูชนะ เสร็จแล้วผมก็ล้มตัวลงนอนทันที รู้สึกตัวอีกทีเหมือนมีใครเข้าห้องทำอะไรกุกกักๆ คงไม่ใช่ผีคอนโดหรอกมั้ง
“อืม”ผมครางออกมา ไม่ได้มีอารมณ์แต่เหมือนถูกรบกวนด้วยความชื้นแถวหน้า ก่อนจะไล่ไปที่ตัว รำคาญแต่ก็สบายตัวดีก่อนจะหลับลึกลงไปอีก
V
V
V
V
“อืม กี่โมงแล้ววะ”ผมงัวเงียตื่นขึ้นมา ทุ่มนึง นี่กูนอนหรือตายวะเนี่ยะ
“ตื่นแล้วเหรอ”เสียงทัก ทำให้ผมหันไปมองก็เจอมันนั่นแหละ ถือถ้วยส่งกลิ่นหอมฉุยเลย สงสัยจะข้าวต้ม ตามเสต็ปคนป่วยที่ต้องกิน ไม่รู้ใครกำหนดวะ
“แล้วมึงเห็นกูหลับไง”กวนตีนสักหน่อยกระชับความสัมพันธ์ รอฟังอย่างชุ่มใจ มาสิเสียงด่า ไม่มี มึงยิ้มหวานทำไม กูไม่ได้ต้องการแบบนี้
“งอแงนะเรา ถึงได้ปากเสียแบบนี้ มากินข้าวจะได้กินยา”นางฟ้ามากมึง เซ็งเลยกู มันเป่าก่อนจะยื่นช้อนมาใกล้ปาก แต่ผมไม่อยากอ้า ไม่อยากกิน
“อิ่มแล้ว”ผมบอกมัน
“ยังไม่ได้กินเลย จะอิ่มได้ไง”มันวางช้อนก่อนจะจับหน้าผมให้หันไปหามัน
“กูไม่อยาก”ผมพูดอีก
“ไม่อยากก็ต้องกิน อุตส่าห์ทำเองเลยนะ”มันบอกผมทำเสียงอ้อนๆ ใส่
“งั้นกูยิ่งอิ่ม คาดว่ารสชาดหมาไม่แดกแน่”ผมบอกมันอีก
“เพราะงั้นมึงเลยต้องแดกแทนหมา เร็วๆ”มันยิ้มแป้นตอบผม ก่อนจะยื่นช้อนมาอีก สรุปกูต้องกิน
“มึงทำเองจริงเหรอ”ผมย้ำมันอีก ตอนใกล้หมด
“อร่อยล่ะสิ”มันพูดยิ้มๆ ก่อนจะป้อนคำสุดท้าย
“เออ อร่อยก็ได้”ผมบอกก่อนจะดื่มน้ำที่มันจ่อมาให้ พร้อมกับยา
“กูบอกแล้ว ซีพีของเขาดีจริงๆ อย่างที่เท่งโหน่งเขาบอกไง ฮ่าๆๆๆ”มันหัวเราะชอบใจ จนได้ เสียรู้มันซะ
“ไหนมึงบอกทำเองไง”ผมถามมันอีก ถ้ามีแรงจะลุกไปเตะให้
“ก็กูเอาใส่เวฟเอง ไม่ได้ใช้ใครเลยนะ”มันลอยหน้าบอกผม ก่อนจะเก็บชามออกไป ให้กูหายก่อนมึงจะเอาคืนให้ สักพักมันก็กลับเข้ามาพร้อมกับถาดใส่ผลไม้ มันนั่งลงที่เดิมหยิบส้มมาปลอก ก่อนจะยื่นให้
“เอาไอ้นี่ออกด้วย”ผมชี้ไปที่เส้นใย เวลากินมันชอบติดคอน่ารำคาญ
“มันมีไฟเบอร์ กินแล้วขี้คล่อง”มันบอกสรรพคุณ ผมอ้าปากจะพูดมันยัดใส่ทันที ก่อนจะยัดใส่มือผมให้กินต่อเอง ผละออกไปปลอกแอ๊ปเปิ้ล ไอ้ฝิ่นมันถนัดทั้งสองมือแหละแต่ส่วนใหญ่จะอีซ้าย มันปลอกแบบเข้าหาตัว ทำไมไม่เลยไม่จิ้มพุงมึงเลยวะ คิดอย่างขำๆ ก่อนจะส่ายหน้ามองมันที่ปลอกแอ๊บเปิ้ลแบบว่าเนื้อติดเปลือกไปเกือบครึ่งแต่มันก็ยังพยายามปลอกจนเสร็จ เป็นไงครับ มันเป็นคนมีความพยายามมากกกก แต่กูโคตรเสียดายเนื้อแอ๊บเปิ้ลเลย
“กูว่ามึงน่าจะเอาไอ้ที่มึงทิ้งให้กูกิน เนื้อยังเยอะกว่าอีก”ผมแกล้งประชดมัน
“อ้าวแล้วไม่บอก งั้นกูเก็บให้”มันสำนึกในเรื่องที่ไม่ควรสำนึก หยิบจากถังขยะขึ้นมาจะใส่จาน ดีนะผมเอาจานหลบทัน
“กูประชด มึนจริงๆ”ผมบอกก่อนจะว่ามันยิ้มๆ มันจิ๊ปากใส่
“กูทำได้แค่นี้แหละ คราวหน้าจะแก้ตัวให้ดีกว่านี้”มันบอกผมด้วยน้ำเสียงเฉยๆ มึงกวนตีน น้อยใจ หรือ พูดจริงวะ แยกไม่ออก
“แค่นี้กูก็ซึ้งแล้ว ไม่ต้องแช่งให้กูเป็นอีกหรอก เอาไว้มึงเป็นจะแถมฉีดยาให้ด้วย”ผมพูดใส่มันยิ้มๆ อย่างมีความหมาย
“แทนที่จะหาย เสือกเป็นหนักกว่าเดิม ให้กูสวย เอ้ย หายด้วยมือหมอจริงๆเถอะ”มันพูดอย่างรู้ทันความหมาย ทำเอาผมหัวเราะชอบใจกับคารมคมหอกของมัน มันก็หัวเราะบ้างจนเห็นลักยิ้มตรงมุมปากสองข้าง มันคงกลับไปบ้านมาก่อนแน่เพราะมันใส่เสื้อกล้ามกางเกงผ้ายืดขาสั้นมาก ผมไล่สายตามองตามมันตลอดเวลาเดิน นั่ง อืม น่าทำทุกอย่างเลยแต่เก็บไว้ก่อน จะได้ตื่นเต้นเร้าใจ
“ปวดหัวอยู่มั้ย”มันถามผมทำให้ตื่นจากความหื่นทันที ผมส่ายหน้า มันย้ายไปนั่งข้างหลังจับผมพิงมันไว้ก่อนจะนวดขมับไล่มาต้นคอ หลัง ไหล่ เล่นเอาเคลิ้ม สบายดีเหมือนกันเว้ย
“ดีมั้ย”มันชะโงกหน้ามาถามคางเกยไหล่ ได้กลิ่นหอมจากตัวมันจนต้องแอบสูดกลิ่นไม่ให้มันรู้
“งั้นๆแหละ หนักฉิบนึกว่าเอาตีนนวด”ผมแกล้งว่ามันแต่อมยิ้ม ได้ยินมันหัวเราะหึหึ เลียนแบบกูนะ
“เอามั้ยล่ะ กูนวดหน้าด้วยฝ่าเท้าให้ หน้ามึงจะได้คลายเส้น ไม่ต้องเก็กใส่กูมากนัก หืม”มันแขวะผมด้วยเสียงกระซิบข้างหู สัด เดี๋ยวของกูขึ้น มึงจะซวย ผมเลยเขกหัวมันไปที
“ได้ทีเลยนะมึง ฝากไว้ก่อนเถอะ”ผมหันไปพูดกับมันจนปากชนกันเข้าให้ มันจูบผมทันทีสอดลิ้นเข้ามาด้วย กูขอร้อง อย่าทำกูเลยตอนนี้ กูไม่ ฉะ บาย (เวลาอ่านทำเสียงแบบเอ็ดดี้ด้วยจะน่ารัก) ต้องตอบสนองมันจนได้
“อืม ไข้ลดแล้ว ปากไม่ค่อยร้อนเท่าไร แสดงว่ากูดูแลดีมาก”มันพึมพำก่อนจะชมตัวเองปิดท้าย
“เหรอ”ผมอับจนมุกแล้ว เลยบอกมันสั้นๆ มันก็ยักคิ้วรับ ก่อนจะจับผมนอนตามเดิม ห่มผ้าให้ครึ่งตัว เดินไปหยิบไอโฟนมานั่งเช็คอะไรของมันตามเรื่อง มีอยู่เรื่องผมชอบความคิดมันแต่ไม่ชมมันหรอกเดี๋ยงมันเหลิงแค่นี้มันก็หลงตัวเองจะตายแล้ว คือไอ้ฝิ่นดูมันเป็นคนไฮเทคโนโลยีมากแต่ผมเห็นมันมีสมุดโน้ตเล่มไม่ใหญ่นักพกติดตัวประจำ มันชอบจด บันทึก อะไรไม่รู้เต็มไปหมด มันบอกพึ่งพาของพวกนี้มากไปสมองไม่ได้ทำงาน มันชอบจดเพราะทำให้เกิดการจำเวลาเขียนมันได้อ่านและทบทวนไปด้วยทำให้ผ่านตาผ่านสมองว่าจดอะไร แม้กระทั่งเบอร์โทรศัพท์มันก็จดอันไหนเปลี่ยนก็ฆ่าออกแล้วเขียนใหม่ ล่าสุดมันด่าเพื่อนมันคือน้องโมนิคที่เอารูปมันไปลงเฟชบุ๊ค มันไม่ชอบเล่น รวมถึงทวิตเตอร์ด้วย มันบอกแต่ก่อนมันก็เคยเล่นอยู่แต่เจอไอ้พวกโรคจิตชอบด่า ขอมีเซ็กส์ อะไรอีกเยอะมาก มันก็ตอบกลับแบบสนุกๆในตอนแรก แต่อย่างว่าพวกโรคจิตมันชอบยิ่งตอบสนองก็ยิ่งไปกระตุ้นมันเลยยกเลิก เว้นไว้แต่อีเมล์ส่วนตัวที่บอกเฉพาะเพื่อนเท่านั้น ผับเธคมันเที่ยวเกือบทุกวันแต่ก่อนอย่างที่บอกถึงไหนถึงกัน ช่วงหลังมันบอกเบื่อเลยเหลือแค่ศุกร์เสาร์พอหรือไม่ก็งานปาร์ตี้ที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ อีกเรื่องเด็ดกว่านั้นอีกที่ผมเพิ่งรู้คือวันพระมันจะกินเจ มันบอกว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งปู่มันป่วยมาก มันไหว้พระบอกว่าถ้าปู่หายมันจะกินเจทุกวันพระและช่วงเทศกาลกินเจ งดเที่ยว งดกิจกามด้วย มีอยู่ครั้งผมก็อยากมันก็บอกไว้วันอื่น หงุดหงิดฉิบจนมารู้เหตุผลว่าทำไม แต่ก็แปลก ได้กันก็หลายครั้งไม่เคยตรงวันพระสักที ฮ่าๆๆๆ พอแล้วเข้าเรื่องดีกว่า
“กลับได้แล้ว”ผมบอกมันเมื่อเห็นว่าเกือบจะดึกแล้ว มันทำหน้ายู่เข้ามานั่งใกล้ๆ เดี๋ยวติดไข้กูหรอก
“กูนอนด้วย เผื่อมึงเป็นอะไร”มันบอกผมอย่างเป็นห่วง
“มึงไม่มีการบ้าน ทำเหรอ”ผมหาเหตุมาบอกมันอีก
“ทำหมดแล้ว”มันบอกอีก
“งั้นก็ไปอ่านหนังสือ”ผมพูดอีก
“ไม่เอา มึงอ่ะ”มันเริ่มงอแงแล้ว ผมเลยนอนหันหลัง ไม่งั้นอดไม่ได้ เดี๋ยวจะลุกไปประเคนจูบปลอบขวัญซะ ก่อนจะรู้สึกว่าอบอุ่นที่ลำตัว มันกอดผมหน้าซุกหลัง
“รำคาญ”ผมบอกมัน มันก็ผละนิดหน่อย
“ร้อน”บอกอีก มันยกแขนออกก่อนจะเงียบไป ได้ยินเสียงประตูปิด ผมหันไปมองคงจะกลับแล้วล่ะ เลยหลับตา ผ่านไปเกือบชั่วโมงหลับเท่าไรก็หลับไม่ลง ก่อนจะมองมือถือที่เงียบไม่มีข้อความหรือการโทรเข้าใดๆทั้งสิ้น ผมหยิบมาพิมพ์ข้อความและนั่งรอก็ไม่มี ก่อนจะกดโทรออก สัญญาณดีมากได้ยินชัดเจนเหมือนอยู่ใกล้ๆ ผมเลยลากสังขารเดินไปตามเสียงเปิดประตูออกไปสะดุดเข้าให้กับอะไรสักอย่าง นึกไม่ออกว่าเลี้ยงหมาตั้งแต่เมื่อไร แต่ไม่ใช่ หมาที่ไหนจะมีไอโฟนใช้ อุปกรณ์เกือบครบ มันนอนขี่ผ้านวมกัดมุมผ้าเหมือนเคย
“เฮ้อ มึงนี่กระตุ้นหัวใจกูสูบฉีดทุกที”ผมถอนหายใจก่อนจะอุ้มหมา เอ้ย เมีย เข้าไปนอนบนเตียง แต่วางห่างออกไปหน่อย นอนตะแคงมองหน้ามันที่มีแต่คราบน้ำตา เสียงสะอื้นลอดหน่อยๆ ค่อยๆ เขยิบมาซุกอก ผมเลยเอามือลูบหัวอีกมือก็กอดมันไว้ให้แนบเข้ามาอีก
“ฮึกๆ ฮือ”มันกัดปากพยายามกลั้นเสียง
“ถ้าไม่เงียบกูจะล่อมึง”ผมปลอบมัน คาดว่าคงได้ผล มันเงียบกริบทันที ที่จริงถ้าผมบอกว่าเป็นห่วงกลัวมันติดไข้ก็จบแล้ว สมน้ำหน้าเสือกเก็กอยู่นั่นแหละ สมควรจะให้มันนวดหน้าด้วยฝ่าเท้าจริงๆ หึหึ ก่อนจะจูบหัวเถิกๆของมันไปทีแล้วหลับตา
**********************************************************************************************