- 2 - ร่างสมาร์ทสวมชุดนอนทับด้วยเสื้อคลุมอีกที กำลังยืนมองผ่านกระจกใสออกไปภายนอก ความมืดปกคลุมทั่วบริเวณแต่ยังพอมองเห็นอาณาเขตโดยรอบจากไฟสีนวลตาที่เปิดอยู่ตามจุดต่างๆ สมุนรักษาการณ์มั่นใจว่าไม่น่าใช่ชุดเดิมคงเป็นกลุ่มใหม่ หลักการทั่วไปอย่างน้อยต้องมีสองชุด โดยเฉพาะยามวิกาลส่วนใหญ่ฝีมือดีกว่าชุดกลางวัน กำลังคิดอยู่ว่าบุรุษรัตติกาลจ้าวแห่งสายลมจะปรากฏตัวหรือไม่ ถึงจะหวั่นใจอยู่บ้างหากต้องเผชิญหน้ากันตรงๆ แต่ลึกๆแล้วเขาหวังให้อีกฝ่ายมาพาออกไปจากที่นี่ การคิดแบบนี้ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน คงเพราะฝีมือที่เหนือกว่าคนทั่วไปของบุรุษในตำนาน ซึ่งสามารถสยบคู่ต่อสู้ละมั้ง สำหรับรามูนทำให้เรื่องยากกลายเป็นเรื่องที่ไม่น่าลำบากหากคิดจะช่วยพวกเขา หรือลึกๆเขาเพียงหาข้ออ้างมาหักล้างให้ตัวเองเท่านั้น
“อืมมม..” เสียงครางดังขึ้นเบาๆพร้อมการขยับตัว ทำให้มังกรหยุดความคิดทั้งหมดหันไปมองยังต้นเสียง
“ตื่นแล้วสิ..” ทักสั้นๆหลังร่างกำยำลุกนั่งมองมาทางเขา สายตาคมแสดงอาการเหมือนเจ้าตัวยังรู้สึกเบลอๆอยู่
“ผมหลับไปนานเท่าไหร่” เสียงทุ้มถามขึ้นมาโดยไม่คิดสนใจตอบคำถามของเขาด้วยซ้ำ
“ร่วมสองชั่วโมง นึกว่าจะนอนยาวจนไปตื่นตอนเช้าเสียอีก รู้สึกดีขึ้นบ้างไหม” นี่คือการง้อในแบบของเขา
“ผมไม่ได้ป่วยทำไมต้องดีขึ้นด้วย ตอนนี่กี่โมงแล้ว” กวนใส่อย่างนี้คงไม่เป็นอะไรมากแล้วล่ะ
“ห้าทุ่ม..หิวหรือเปล่าเรา” น้อยครั้งที่เขาจะเอ่ยปากถามเรื่องงี่เง่าแต่เพราะไม่รู้จะพูดอะไรเสียมากกว่า
“ทำไม่อายังไม่นอน ยืนคิดอะไรอยู่” รู้สึกการสนทนาระหว่างเขากับลูกแก้วแย่งกันตั้งคำถามมากกว่าจะสนใจตอบ ไม่สิลูกแก้วต่างหากที่ไม่ตอบคำถามเขาเลย บ้าชิบ..มีหน้ายืนบิดขี้เกียจก่อนจะเดินมาหาเขาอีก
“อายังไม่ง่วง” สุดท้ายเป็นเขาที่ตอบอีกฝ่ายเสียเอง
“รอผมก่อน..ค่อยหากิจกรรมช่วยให้อารู้สึกง่วงกันดีกว่า”พูดจบคว้าผ้าเช็ดตัวพาดบ่าหันหลังเข้าห้องน้ำไปดื้อๆ ปล่อยมังกรมองตามงงๆ เป็นเสียแบบนี้แล้วบอกจะดูแลปกป้องเขา ยังเชื่อได้ใช่ไหม..
ใช้เวลาไม่นาน ลูกแก้วก็ออกจากห้องน้ำหน้าตาดูสดชื่นขึ้นมาก นุ่งผ้าเช็ดตัวหมิ่นสะโพกโชว์ขนอ่อนตั้งแต่สะดือก่อนหายลับไปในขอบผ้าขนหนู แผงอกล่ำกล้ามเป็นมัด โดยเฉพาะหน้าท้องเรียงกันเป็นตับ ผมสีน้ำตาลเข้มเปียกแนบศีรษะหลู่ปรกหน้าคงสระผมมาด้วย เดินมาเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบชุดนอนออกมาสวม ก่อนจะรื้อหาผ้าขนหนูผืนเล็กออกมาเช็ดผมให้แห้ง มังกรมองตามเพลินโดยไม่รู้ว่าสายตาของตนจับจ้องการกระทำของอีกฝ่ายอยู่ตลอด นับตั้งแต่ร่างกำยำก้าวพ้นประตูห้องน้ำโดยคนมองหารู้ไม่ว่าลูกแก้วอดทนไม่ให้ฉีกยิ้มจนปากชาไปแล้วเรียบร้อย..
“เอาล่ะครับ..พร้อมแล้ว” ลูกแก้วพูดขึ้น มังกรถึงได้รู้ตัวว่าเขามองอีกฝ่ายนานพอสมควร
“อืม..แล้วไง” ถามอย่างไม่เข้าใจว่าคนพูดต้องการบอกอะไร
“แล้วไง..อาต้องไถ่โทษที่ชกหน้าผมสิครับ” ตอบหน้านิ่งทีเดียว
“อาขอโทษเราไปแล้ว” ท้วงขึ้นทันที
“ผมยังไม่ได้บอกยกโทษให้เสียหน่อย” ตาคมเข้มจ้องตอบ
“แล้วจะเอายังไง” ถามตรงๆ แทบไม่ต้องเสียเวลาคิด
“ผมจะเอาอา..” เสียงแผ่วทุ้มพูดไม่มีการอ้อม
“.......” ไม่มีสัญญาณตอบรับ ลูกแก้วไม่สนว่ามังกรจะคิดอย่างไร เขาพาร่างมายืนตรงหน้าคนที่ใบ้กินเป็นที่เรียบร้อย
“ขอผมนะ..” เสียงทุ้มนุ่มกระซิบเบาๆ ก่อนหน้าคมเข้มจะก้มประกบปากมังกรทันที ไม่มีการปฏิเสธนอกจากมือที่เอื้อมไปดึงม่านให้เลื่อนปิดของคนที่แหงนหน้ารับจูบ ทั้งสองนัวเนียจูบอย่างดูดดื่มพร้อมกับเคลื่อนย้ายร่างมายังเตียง บทรักเร่าร้อนก็เริ่มขึ้นท่ามกลางเสียงครางกระเส่าที่สอดประสานอย่างลงตัว บัดนี้ร่างกำยำกำลังควบโจนทะยานส่งแก่นกายแกร่งเข้าสู่ร่างข้างใต้ที่รอรับการสอดแทรกด้วยใบหน้าแดงก่ำเหงื่อกาบผุดซึมผิวกายมันขลับ ทุกจังหวะของการหลอมรวมเข้าด้วยกัน ต้องได้ยินเสียงครางกระตุ้นความรู้สึกให้โลดลิ่วไปกับอารมณ์พิศวาสที่ต่างฝ่ายต่างมอบให้กันอย่างพร้อมใจ มังกรรู้ดีที่เขายอมให้ลูกแก้วล่วงล้ำไม่ใช่ต้องการไถ่โทษ แต่เป็นเพราะเขาต้องการทำตามความรู้สึกตนเอง เขาเคยพยายามเว้นระยะห่างสร้างช่องต่อกันมาแล้ว มันพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่มีประโยชน์อันใดเลย ตรงกันข้ามต่างได้รับความเจ็บปวดด้วยกันทั้งคู่
ลองคิดถึงเหตุผลหากรามูนรู้สึกกับเขาอย่างที่คิด ผลลัพธ์เลวร้ายกว่าการยอมรับลูกแก้วเสียอีก ในเมื่ออีกคนคือสามีของพี่สาว ไม่ว่าจะยังไงเขาเลือกลูกแก้วมากกว่าต้องเลือกรามูน การพบหน้าต้องมีขึ้นแน่ เขาไม่มีความลังเลอีกต่อไป ต้องทำให้มันชัดเจนไม่ใช่ว่าแพ้ใจตัวเอง แต่เพราะไม่เห็นทางที่จะชนะความรักของลูกแก้วที่นับวันยิ่งโหมทับจนล้นทะลักเขาต่างหาก ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนเขาทนเห็นตาคมโศกเศร้าไม่ได้ ไม่สามารถหลอกหัวใจตัวเองอีกต่อไป ‘เขารักเด็กหนุ่มคนนี้ ไม่ใช่ในฐานะหลาน เขารักแบบ..คนรัก’ นี่คือเหตุผลที่เขาไม่ต้องการหนีความจริงอีกแล้ว
ร่างเปลือยซุกกอดร่างใหญ่ หลังกิจกรรมหฤหรรษ์สิ้นสุดลง รู้สึกใช้ได้ผลที่ลูกแก้วหาวิธีช่วยให้มังกรหลับสนิท ลมหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกเป็นอย่างดีว่าเจ้าของดำดิ่งสู่ห้วงนิทรารมณ์อย่างมีความสุข ส่วนลูกแก้วนอนลืมตาสำรวจใบหน้าของคนในอ้อมกอด มุมปากเผยยิ้มไม่หุบ
บทรักที่ผ่านมายืนยันได้ว่ามังกรยอมทลายเกราะที่ปิดกันพวกเขาด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องพูดอาศัยการสบตาที่ฉายชัดถึงความรู้สึกคงไม่ยากที่จะคาดเดา อีกทั้งการตอบรับเขาเข้าไปในร่างด้วยแล้ว เป็นการใช้ภาษากายถ่ายทอดจนเกิดความรู้สึกเต็มตื้นในหัวใจอย่างที่ไม่เคยแน่ใจเท่าครั้งนี้เลย ก่อนหน้านั้นแม้จะได้หลอมร่างรวมเป็นหนึ่ง แต่ทุกครั้งมีเหตุผลมารองรับการกระทำเสียส่วนใหญ่ ทำไปเพื่อต้องการชดเชยให้เขา หรือทำไปเพราะรู้สึกผิดต่อเขา เพราะจำยอมไม่มีทางเลือกบ้าง ทุกอย่างถึงจะไม่ได้รับการปฏิเสธ แต่เหตุผลที่เกิดก่อนหรือหลังการร่วมรัก สามารถอ่านได้จากแววตาที่มีความกังวลอยู่ลึกๆ ผิดกับครั้งนี้แววตาคู่สวยมีแต่เงาของเขายามที่สบกันขณะที่ร่างกายกำลังตอบรับการอัดกระแทกจากเขา เสียงครางแผ่วแววตาฉ่ำเยิ้มร่วมไปกับอารมณ์รักไม่มีความหมองมัวพร่าเลือนให้เห็นแม้แต่น้อย สิ่งที่ต้องการมาโดยตลอดเขาทำสำเร็จแล้ว ‘หัวใจมังกรเดียวดายเป็นของเขาโดยสมบูรณ์’
“คุณผู้หญิงเป็นอย่างไรบ้าง” บุรุษชุดดำยืนโชว์แผ่นหลังกว้างบนดาดฟ้าสูงยามดึกสงัด เอ่ยถามชายชุดดำที่อำพรางตัวด้วยการแต่งกายไม่ต่างกับเขาแม้แต่น้อย แทบจะเรียกได้ว่าเหมือนกันอย่างกับแกะ ความต่างที่พอสังเกตได้คือความสูงของรูปร่างและรังสีพิเศษบางอย่างที่เปล่งออกมาเท่านั้น ซึ่งร่างที่เล็กกว่าไม่สามารถมีส่วนนี้ได้
“สบายดีครับ เธอฝากบอก..คุณต้องรีบลงมือแล้วเวลามีไม่มาก ทางองค์กรปรับแผนใช้หนอนบ่อนไส้และพันธมิตรออกโรง หัวหน้าไม่รอกุญแจเปิดกล่องดำอีกต่อไปแล้ว” ตาคมดุวาวโรจน์ขึ้นทันทีเมื่อได้ฟัง
“ทำไมพวกมันถึงเปลี่ยนแผนพอรู้ไหม” เสียงมีอำนาจถามกลับไป
“ของที่อยู่ในกล่องดำไม่สำคัญเท่ากับการรวบวิริยะทรัพย์ไว้ในมือและทำลายทายาทคนสุดท้ายให้สิ้นซาก ผมรู้มาแค่นี้”คำตอบที่ได้รับส่งผลให้ร่างที่ยืนตระหง่านถึงกับกำหมัดแน่น ก่อนจะคลายมือช้าๆแล้วพูดขึ้นว่า
“คงต้องส่งเนื้อเข้าปากเสือสินะ วิธีเดียวที่จะควักหัวใจมันได้” พูดเหมือนรำพึงกับตัวเองเสียมากกว่า แต่คนฟังดันสนับสนุน
“ไม่มีทางเลี่ยง หมากกระดานนี้คุณต้องลงทุนไม่อย่างนั้นอยากที่จะรุกฆาตเข้าถึงตัวขุนได้เลย” ข้อเสนอแนะที่ได้ฟังทำให้ร่างใหญ่โตขานรับสั้นๆ โดยไม่พูดอะไรอีก
“อืม..”เป็นการจบบทสนทนา เมื่อคนพูดทิ้งร่างลงจากตึกหายวับไปกับความมืดมิดของรัตติกาล จ้าวแห่งสายลมยากจับต้องเป็นเหมือนเงามรณะปริศนาของคนในวงการซึ่งเล่าขานไม่รู้จบ
มังกรลืมตาในอ้อมกอดของลูกแก้วซึ่งเขาซุกหลับจนแทบจะสิงร่าง เห็นสภาพการนอนของตัวเขาถึงกับอึ้งทีเดียว ก่อนจะค่อยขยับตัวออกเบาๆ ทิ้งหนุ่มหน้าคมเข้มแม้กำลังหลับก็ยังดูดีนอนต่อ เพราะไม่ต้องการให้ตัวเขาเป็นต้นเหตุรบกวนคนหลับต้องตื่นตาม ก่อนที่จะพาร่างเปลือยเปล่าซึ่งหลงเหลือหลักฐานของค่ำคืนหฤหรรษ์ให้หน้าร้อน หายเข้าไปห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว เขาใช้เวลาอาบน้ำโกนหนวดกว่าครึ่งชั่วโมงค่อยออกมาหยิบเสื้อผ้าสวมให้เรียบร้อย กระทั่งเสียงคุ้นหูทักขึ้น
“อรุณสวัสดิ์ครับ ตื่นนานหรือยัง” ลูกแก้วปรือตานอนตะแคงหันหน้ามาทางเขา
“ก่อนหน้าสักครู่..ไม่นอนต่ออีกสักหน่อย” ตอบกลับไป
“ไม่แล้วครับรอผมอาบน้ำก่อน ค่อยไปหาอะไรทานกัน” ทำอย่างกับพวกเขามาพักผ่อน มังกรก็ไม่ได้ค้านแค่พยักหน้า ก่อนที่ร่างกำยำจะดีดตัวลุกเดินโทงๆ ไม่ยักสนว่าสภาพตัวเองกำลังเปลือยไม่มีผ้าติดกายสักชิ้น พาร่างหายเข้าห้องน้ำไปหน้าตาเฉย กลับเป็นมังกรที่ต้องเบือนหน้าหนีเฉมองกระจก ยอมรับเขาไม่ชินกับร่างเปลือยของลูกแก้วสักเท่าไหร่ รู้สึกหน้าร้อนขึ้นทุกครั้ง ลูกแก้วใช้เวลาไม่นาน ก่อนจะแต่งกายด้วยชุดลำลองดูสดชื่นจนมีออร่าวิ้งค์ๆ หันมายิ้มหล่อเอ่ยชวนมังกร ซึ่งนั่งดูทีวีตรงโซฟา
“พร้อมแล้ว ไปหาอะไรทานกันครับ” มังกรเหลือบมองหน้าหล่อที่ยิ้มส่งให้ ก่อนจะกดรีโมทปิดทีวี เดินตามคนชวนซึ่งชิงไปเปิดประตูรอเป็นที่เรียบร้อย พวกเขาไม่แปลกใจที่มองไม่เห็นการ์ดมาคอยคุมเลยสักคน เป็นเพราะทุกจุดในบ้านหลังนี้ติดกล้องเอาไว้หมด ไม่จำเป็นต้องส่งใครมาคอยดูพวกเขาอีก สำหรับทางไปห้องทานอาหารพวกเขารู้จักดี ขณะนี้สิบโมงกว่าคงไม่เหลือใครอยู่ทานด้วยหรอก ที่ไม่มีใครไปปลุกพวกเขาน่าจะเป็นเรื่องของมารยาทซึ่งเจ้าบ้านคงสั่งไม่ให้ใครรบกวน นอกจากคอยอำนวยความสะดวกอยู่ห่างๆ เขาคิดไม่ผิดเพราะพอแม่บ้านเห็นพวกเขาเดินเข้ามา รีบยกมือไหว้ทักทายทันที
“สวัสดีค่ะคุณทั้งสอง ต้องการรับอะไรเป็นพิเศษแจ้งได้เลยนะค่ะ” ท่าทางกระตือรือร้นที่จะบริการ คงไม่ต้องถามให้มากความ ลูกแก้วจัดการสั่งอาหารเช้าให้ตัวเองรวมของมังกรเสร็จสรรพ เป็นธุระให้เรียบร้อยซึ่งมังกรก็ไม่ปฏิเสธหลังฟังรายการอาหารที่ลูกแก้วสั่งเป็นสิ่งที่เขาชอบทาน
ทั้งคู่ทานกันเงียบๆปกติมังกรไม่ชอบพูดอยู่แล้ว ยิ่งลูกแก้วไม่เปิดประเด็นขึ้นก่อนอย่าหวังว่าเขาจะเปิดปาก มังกรเข้าใจดีถึงจะอยู่กันตามลำพังแต่ไม่ใช่ที่รโหฐานย่อมอยู่ในหูตาของเจ้าบ้านแน่นอน เพราะเหตุนี้มากกว่าที่ลูกแก้วเลือกปิดปากเงียบ กระทั่งทานเสร็จเรียบร้อย ก็ชวนเขากลับห้องพักทันที ตอนแรกเขาปฏิเสธขอไปเดินสำรวจดูรอบคฤหาสน์ก่อน แต่พอจะก้าวขาออกประตูพวกสมุนก็เข้ามาขวางโดยไม่พูดไม่จา แสดงว่าหากต้องการเดินทำได้เฉพาะภายในคฤหาสน์เท่านั้น เขาจึงเปลี่ยนใจกลับมายังห้องพัก พอเข้ามาถึงลูกแก้วนั่งกดโทรศัพท์อยู่ตรงโซฟา ทำให้มังกรอดที่จะสงสัยไม่ได้ เดินเข้าไปถาม
“ทำอะไร ถ้าโทรบอกคนที่บ้านอาจัดการแล้ว” มังกรชิงบอกก่อน เขาโทรคุยกับพยัคฆ์ถึงจุดประสงค์ของเจ้าสัวที่กักตัวพวกเขาไว้ เพื่อให้คนของเขาเตรียมพร้อม หากรามูนไม่ปรากฏตัว คงต้องให้พยัคฆ์กับคงคาพาพวกมาช่วยเขากับลูกแก้วออกไป ซึ่งไม่เกินคืนพรุ่งนี้แผนที่เขาไม่ได้บอกลูกแก้วไว้ล่วงหน้า รอถึงเวลาเขาคิดว่าค่อยบอกให้รู้ทีหลัง
“เปล่า..กำลังสอดแนมอยู่” มังกรยอมเสียมารยาทชะโงกหัวเข้าไปดูถึงกับอึ้งและทึ่งไปด้วย ภาพหน้าจอโทรศัพท์กลับเป็นภาพตัดแบ่งของกล้องวงจรปิด กำลังฉายพื้นที่ในบ้านหลังนี้แทบทุกจุด เขาถามขึ้นทันที
“เราแฮกกล้องได้ด้วยหรือ” สิ่งที่เห็นคือการแฮกข้อมูลซึ่งเขายังนึกไม่ออกว่าลูกแก้วทำได้ยังไง
“เปล่า..ผมเชื่อมข้อมูลเข้ากับระบบของกล้องที่พวกมันติดในห้องเราต่างหาก ไม่มีรหัสไม่มีพาสเวิร์ดผมไม่สามารถแฮกเข้าไปได้หรอก”
“เชื่อมข้อมูลต่างกับแฮกตรงไหน” มังกรถามอย่างไม่เข้าใจ
“แฮกอยู่ที่ไหนก็โหลดข้อมูลเข้าได้ เชื่อมคือต่อตรงกับสัญญาณโดยติดชิ้นส่วนบางอย่างเข้ากับโปรแกรมของกล้อง พอเข้าใจไหมครับ” คำอธิบายของลูกแก้ว ทำให้มังกรนึกภาพตาม แต่เขายังไม่หมดคำถาม
“แล้วเราไปเรียนวิธีนี้มาจากไหน ฝีมือระดับนักโจรกรรมเชียวนะ” ลูกแก้วหันมายิ้มให้ตาหยี่ ก่อนจะตอบอย่างภาคภูมิใจ
“ถึงผมไม่ได้รับการถ่ายทอดทักษะต่อสู้ ไม่ได้หมายความว่าพ่อจะไม่สอนอะไรให้นี่ครับ” คำตอบที่ได้ฟัง มังกรเริ่มจะเห็นเค้าลาง เมื่อเปรียบกับความสามารถในสองสามวันที่ลูกแก้วค่อยแบไต๋ออกมา
“มาเปิดอกคุยกันเถอะ บอกความจริงมาเรามีความสามารถอะไรที่อายังไม่รู้” มังกรถามเสียงนิ่ง จ้องลูกแก้วอย่างคาดคั้น
“ผมพอมีความรู้ทางจารกรรมเทคติกต่างๆ รวมถึงเทคโนโลยีที่พอจะถูๆไถๆได้นิดหน่อย” อีกฝ่ายกับตอบตาใส จับพิรุธในแววตาไม่ได้เลย มังกรจำต้องสอบความจริงด้วยตัวเอง
“เข้าใจง่ายๆ อะไรที่ความสามารถเราไม่ธรรมดา” คำถามของมังกรจริงจังจนลูกแก้วกลั้นขำ แต่ก็ยอมตอบโดยดี
“ถ้าคำว่าไม่ธรรมดา แปลว่าเหนือกว่าคนปกติ สิ่งที่ผมภูมิใจคือผมได้อาเป็นคนรัก ซึ่งคนปกติไม่สามารถทำได้” พอฟังแบบนี้ มังกรเท้ากระตุกเตรียมขยับขายันเปรี้ยง แต่คนพูดรู้ตัวว่าจะโดนอะไรเข้ารีบยกมือยอมแพ้ห้ามเสียงหลงเสียก่อน
“โอ๊ะๆ..ยอมแล้วคร๊าบ..ไม่เล่นแล้วครับ พ่อสอนให้ผมรู้จักกลยุทธเทคนิคในการใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มี เปลี่ยนสภาพใช้งานอำนวยความสะดวกในยามคับขัน หรือใช้แก้ไขสถานการณ์ สิ่งนี้ไม่เกี่ยวกับการที่ต้องเจ็บตัวและเห็นเลือด ผมจึงเรียนรู้ได้ดี พ่อกับแม่ยังเคยชมผมหัวไวอีกด้วย” พอฟังแบบนี้มังกรตีความได้ทันที รามูนสอนกลยุทธด้านบุ๋นของนักฆ่าประเภทสะเดาะกุญแจหลบหนี หรือการสอดแนมให้ลูกแก้วแทนการใช้กำลังปะทะ
“อืมเข้าใจล่ะ ทำไมก่อนหน้าเราไม่บอกอา” ที่ถามไม่ได้รู้สึกอย่างอื่น แต่มังกรรู้สึกน้อยใจแปลกๆ ที่ลูกแก้วมีความลับกับเขาในเรื่องนี้
“อาเคยสนใจถามผมด้วยหรือ ถ้าหากอาถามทำไมผมจะไม่บอก ที่อาสนใจถามมีแค่เรื่องฝีมือต่อสู้ ไม่เคยถามผมเรื่องนี้สักหน่อย” การย้อนของลูกแก้วทำเอามังกรสะอึก ลืมนึกไปเหมือนกันว่าเขาเองไม่เคยถามเสียด้วยสิ รู้สึกละอายใจขึ้นทันที ลูกแก้วยังส่งสายตาตัดพ้อมาไม่เลิก
“อาผิดเองที่ไม่ได้ถาม ว่าแต่มันเชื่อมกล้องทั้งหมดเลยหรือ” เขาชวนเปลี่ยนเรื่อง หันไปให้ความสนใจกับสิ่งที่ลูกแก้วทำอยู่แทน
“ครับ..ผมกำลังตามดูว่าตอนนี้เจ้าสัวอยู่ที่ไหน” ได้ผลลูกแก้วเลิกคิดเล็กคิดน้อย เบือนสายตากลับไปสนใจหน้าจอต่อ
“แล้วเจอหรือยัง”
“รอแป๊ป..มันมีกว่า 100 กล้อง ผมต้องค่อยๆ เลื่อนไปทีละหน้า” ลูกแก้วตอบกลับมา มังกรพอเข้าใจเพราะมองก็เห็นว่าหน้าจอมือถือแพลนแยกได้ไม่ถึงหกช่อง ต้องใช้เวลาเลื่อนอย่างที่บอก
“อ้า..เจอแล้วอยู่นี่เอง อาดูสิ” มังกรชะโงกหัวเข้าไปดูที่หน้าจอซึ่งตอนนี้ลูกแก้วทำเป็นช่องเดียวเต็มๆ เห็นเจ้าสัวนั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงาน ฝั่งตรงข้ามคืออุทัยกับพสุธา..
“พสุธา..” มังกรเผลอครางเสียงแผ่วหลังจำได้ว่าคนที่นั่งคู่กับอุทัยคือนักฆ่ามือดีของสี่จตุรเทพ
“ใช้แล้ว..คงกำลังปรึกษาเรื่องสำคัญกันอยู่ หน้าตาซีเรียสไม่เบา” ลูกแก้วบอกกลับมา น้ำเสียงไม่ทุกข์ร้อนสักนิด จนมังกรรู้สึกทึ่ง พอเขาเห็นว่าเป็นพสุธายังอดเครียดตาม แต่อีกคนกับไม่รู้สึกอะไรเลย
“ฟังเสียงได้ไหม กล้องอาสามารถดึงเสียงได้ มันทำได้เหมือนกันหรือเปล่า” มังกรต้องการได้ยินคำพูดในห้อง จึงลองถามดู หากโปรแกรมเหมือนกล้องที่เขาติดในห้องนอน ย่อมจะฟังเสียงได้เช่นกัน
“จัดให้ตามคำขอ” พูดจบ ลูกแก้วล้วงหูฟังเสียบเข้าที่โทรศัพท์แล้วนำมาเหน็บหูมังกรไว้ข้างของตนอีกข้าง ก่อนจะคลิ๊กฟังก์ชั่นเปิดโปรแกรมดึงเสียงที่ต้องการได้ยิน
“หัวหน้าคุณตัดสินใจแบบนี้ผมก็ไม่มีทางเลือก” เจ้าสัวเป็นคนพูด
“เท่าที่ผมทราบ หัวหน้ารอต่อไปไม่ได้” พสุธาบอก
“ถ้างั้นคืนนี้เป็นคืนสุดท้าย หากรามูนไม่ปรากฏตัวผมส่งคนให้คุณนำกลับองค์กรเอง” อุทัยพูดขึ้นบ้าง
“คงต้องเป็นอย่างนั้น ทางรามูนเจ้าสัวไม่ต้องกังวล อัคนีลงมือเองไม่ช้าก็ต้องเรียบร้อย” พสุธายืนยันให้สองพ่อลูกมั่นใจ
“เอาเถอะ หากองค์กรรับปากผมแบบนี้ ผมก็สบายใจเชื่อมือพวกคุณอยู่แล้ว ตกลงคุณรอคืนนี้อีกคืน ถ้ารามูนยังไม่โผล่หัวออกมา พรุ่งนี้คุณเอาพวกเขาไปได้เลย” เจ้าสัวสรุป
“ได้ครับไม่มีปัญหา ถ้างั้นผมขอตัวก่อน” พูดจบพสุธาลุกยืนหันหลังเดินออกไป ก่อนที่เจ้าสัวจะกำชับอุทัยไปว่า
“ยังไงมื้อเย็นอย่าให้มีพิรุธเด็ดขาด เจ้าหลานตัวแสบนั่นเตี่ยว่ามันฉลาดเป็นกรด ซ่อนคมไม่น้อยหากพวกมันรู้ตัวก่อนจะเพิ่มความยุ่งยากได้” เจ้าสัวบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ครับเตี่ย เย็นนี้มีแค่ผมกับเตี่ยที่อยู่ร่วมโต๊ะกับพวกมันสองคน เผื่อไว้ไม่ให้พลาดผมเตรียมยาให้พวกมันหลับยาวแล้วครับ รู้ตัวอีกทีคงโผล่ที่องค์กรมหาหิงส์แล้วเรียบร้อย เตี่ยไม่ต้องกังวลไปหรอก” พอฟังอุทัยพูดประโยคนี้ มังกรกับลูกแก้วหันสบตากันโดยไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา
“ลื้อทำดีมากอุทัย สมแล้วที่เป็นลูกเตี่ยไปจัดการตามนั้น”
“ครับ” รับคำเสร็จก็ลุกออกไปอีกคน เหลือเจ้าสัวนั่งหมุนปากกาในมือไปมาอย่างครุ่นคิด ลูกแก้วตัดสินใจปิดภาพทั้งหมดลง ก่อนจะดึงหูฟังออก มังกรก็ทำตาม
“คิดไม่ถึงว่าพวกมันจะใช้วิธีสกปรกเหมือนเคย ว่าแต่เราสอดแนมแบบนี้มันสามารถจับได้หรือเปล่า” เขาอดกังวลไม่ได้
“ไม่ต้องห่วงมันไม่รู้หรอก คืนนี้เราต้องหนีแล้ว” ลูกแก้วยืนยันพร้อมบอกแผนการหนีออกจากคฤหาสน์คลังสมบัติ
“จะหนียังไงเรียกกำลังหนุนดีกว่า เดี๋ยวอาให้พยัคฆ์พาคนมาช่วย มาถึงวินาทีนี้คงไม่ต้องกังวลแล้ว ว่าจะมีการนองเลือดหรือไม่ เลี่ยงไม่ได้ก็คงต้องชน” สีหน้ามังกรบ่งบอกถึงการตัดสินใจแน่วแน่
“อย่าติดต่อเป็นอันขาด พวกมันมีระบบดักฟังสัญญาณโทรศัพท์ ขืนโทรกลับไปพวกเราหมดสิทธิ์หนีอาจเร่งให้พวกมันนำตัวพวกเราไปเร็วขึ้นอีกด้วย เอาเป็นว่าทำเหมือนเราไม่รู้เรื่องไปก่อน ปล่อยเป็นหน้าที่ผม จัดการเองไว้ใจผมนะ” แววตาหนักแน่นที่จ้องสบตามังกร ทำให้เขารู้สึกถึงพลังในคำพูดจนต้องพยักหน้ารับ แม้ในใจจะยังหนักอึ้งก็ตาม
“เย็นนี้เราคงโดนวางยา ไปร่วมโต๊ะอาหารแบบนั้นยากที่จะปฏิเสธ เราไม่มีทางรู้เสียด้วย ว่าพวกมันวางยาไว้ในไหน” ปัญหาหนักอกอีกเรื่องที่มังกรยังนึกหาทางออกไม่เจอ
“ไปร่วมโต๊ะแหละดีแล้ว ทำให้เราไม่ต้องห่วงว่ามันจะวางยาที่ไหน อ่านง่ายจะตาย มันกินอะไรเราก็กินอันนั้น ทำตัวให้เนียนอย่ามีพิรุธ ยกเว้นแก้วน้ำกับจานข้าว สองสิ่งนี้พวกมันไม่ได้กินกับเราด้วย ผมคิดว่าไม่ใส่ในน้ำก็จานข้าว ส่วนอาหารมันไม่ใส่แน่เพราะมันเองก็ต้องกินเหมือนกัน” ความคิดของลูกแก้วทำให้มังกรเห็นด้วย งานนี้ต้องปล่อยให้ลูกแก้วจัดการยังไงตัวเขาจะอาศัยฝีมือระวังหลังให้ ส่วนวิชาหลบหนีคงต้องยืมความรู้ที่รามูนถ่ายทอดทายาทเป็นตัวนำพวกเขาออกไปจากถ้ำเสือ สิ่งหนึ่งที่มังกรยอมรับในสถานการณ์แบบนี้คือ ลูกแก้วมีสติปัญญาในการแก้ไขปัญหาดีมาก ดีจนเขาเองยังนึกไม่ถึง...???
มาต่อให้อย่างยาว ช่วยเป็นกำลังใจแรงเชียร์ให้กับลูกแก้วด้วยนะค่ะ
ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้อย่างล้นหลาม รักคนอ่านที่น่ารักน่า...ใคร่ ทุกท่านค่ะ
Luk.

ปล.กดบวกคะแนนชื่นชมคนละหนึ่งนะคะ แถมเป็ดอีกคนละตัว กับคอมเม้นท์ที่ให้กำลังใจตัวละคะ
