ลูกแก้วมังกร
Part 28
หลบหนี “เชิญครับคุณมังกร..คุณลูกแก้ว วันนี้ผมให้พ่อครัวทำอาหารพิเศษคิดว่าพวกคุณคงชอบ” “ขอบคุณครับ ความจริงไม่จำเป็นต้องลำบากเลยครับ” มังกรพูด เมื่อเขาและลูกแก้วนั่งยังฝั่งตรงข้ามอุทัยเป็นที่เรียบร้อย
“คุณพ่อกับผมตั้งใจจัดให้เป็นพิเศษ ไม่ลำบากหรอกครับ แค่พวกคุณพอใจ นั่นคือความสุขของพวกผม”
อุทัยออกตัวพร้อมยกยิ้มมุมปาก
“ความจริงคุณอาผมเค้าเกรงใจ พวกเราต้องดีท็อกซ์ลำไส้ทานได้บางอย่างเท่านั้น เพื่อไม่ให้เสียเวลาขออนุญาตบริการเจ้าสัวและคุณอุทัยแทนการขอบคุณที่ดูแลเอาใจใส่เราสองคนเป็นอย่างดี” พูดจบจัดการตักผัดคะน้าฮ่องกงใส่จานเจ้าสัวแถมด้วยการตักซุปสาหร่ายใส่ถ้วยเล็กแจกสองพ่อลูกอีกต่างหาก มังกรเพียงแต่ดูนิ่งๆ ทั้งโต๊ะมองการกระทำของลูกแก้ว ก่อนสองพ่อลูกจะถูกเร่งให้รับไมตรีจากคนบริการ
“ทานสิครับ ผมอยากขอบคุณ” พูดจบยิ้มให้อย่างเปิดเผย สองพ่อลูกแอบสบตากันก่อนจะตักอาหารเข้าปากโดยไม่ปฏิเสธ
“ขอบใจนะ ผมคิดว่าคนหนุ่มสมัยนี้จะไม่รู้จักเอาใจผู้ใหญ่เสียอีก” เจ้าสัวพูดขึ้นขณะมองหน้าลูกแก้ว
“ผมเห็นด้วยกับคุณพ่อ” อุทัยเสริมพากันชมลูกแก้วใหญ่ แต่ต้องอึ้งเมื่อฝ่ายถูกชมดันทำในสิ่งที่พวกเขาคิดไม่ถึง
“ชมแบบนี้ผมไม่กล้ารับจริงๆ คนเราทำอะไรย่อมหวังผลความจริงที่ผมตักอาหารให้ เพราะรายการนี้ผมกับคุณอาคงต้องเสียมารยาทยึดมาทานเป็นการส่วนตัว เนื่องจากเรากำลังดีท็อกซ์ร่างกาย เลยถือโอกาสประเดิมตักให้พวกคุณทานก่อน ตอนนี้ผมไม่เกรงใจแล้วนะขอเลยแล้วกัน” พูดจบหยิบผัดคะน้าฮ่องกงกับซุปสาหร่ายเอามาหน้าตาเฉย เจ้าสัวถึงกับคิ้วกระตุก แต่ยังหัวเราะขำการกระทำลูกแก้ว พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า
“ฮะฮ่าๆๆ เชิญตามสบายไม่ต้องเกรงใจ ผมสั่งพ่อครัวทำให้อีกชุดดีไหม พวกคุณจะได้ทานกันให้อิ่ม” ท่าทางเหมือนห่วงใย แต่แววตากลับดูกระด้างไม่ยักขำไปกับการหัวเราะสักนิด
“ไม่รบกวนดีกว่า มื้อนี้พวกเราทานน้อย หากจะกรุณาขอโซดาสองขวดไม่ต้องเปิดฝานะครับผมจัดการเอง” คราวนี้อาการทางสีหน้าของอุทัยถึงกับหลุด แต่เขายังสามารถควบคุมไว้ได้
“ได้สิครับไม่ต้องเกรงใจ เธอไปเอาโซดาเย็นๆมาให้คุณเขาหน่อย” อุทัยหันไปสั่งผู้ช่วยแม่บ้าน ซึ่งหายออกไปสักครู่ก็กลับเข้ามาพร้อมถาดใส่โซดายี่ห้อดังไอเย็นจับรอบขวด นำมาวางข้างแก้วน้ำของทั้งคู่
“เดี๋ยว!รบกวนเอาแก้วน้ำกลับไปด้วยสิครับ” ลูกแก้วเรียกเอาไว้ก่อนจะขอให้เก็บน้ำดื่มไปด้วย สองพ่อลูกถึงกับคิ้วขมวดแต่ยังไม่มีใครเอ่ยปาก ได้แต่พยักหน้าให้ผู้ช่วยแม่บ้านทำตาม
“ไม่ใช้แก้วแล้วจะดื่มยังไง” เจ้าสัวถามขึ้นลอยๆ
“โซดาสดสามารถล้างสารพิษในลำไส้และกระเพาะอาหารได้ดี ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง ว่างๆเจ้าสัวลองเอาสูตรนี้ไปใช้ดูสิครับเดี๋ยวผมทำให้ดู รบกวนขอไฟแช็คผมหน่อย” บอกเสร็จ หันไปขอไฟแช็คจากอุทัยดื้อๆ ฝ่ายที่ถูกเจาะจงจำใจต้องล้วงไฟแช็คออกมาส่งให้กับมือ เขารับไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะทำในสิ่งที่เจ้าสัวกับอุทัยถึงกับอึ้ง เมื่อมือแข็งแรงใช้ก้นไฟแช็คงัดฝาโซดาเปิดออกเสียงดัง....
“ป๊อก!.” ไม่มีใครคิดว่าลูกแก้วจะเอาไฟแช็คไปเปิดฝาโซดา
“ไม่คิดว่าคุณจะยืมไปเปิดโซดา ถ้ารู้แต่แรกผมให้แม่บ้านหยิบที่เปิดขวดให้ดีกว่า โทษนะครับผมไม่ได้ว่าแค่ห่วงความปลอดภัย เกิดพลาดขึ้นมาได้เลือดเชียวนะ” คำพูดของอุทัย ทำให้ลูกแก้วส่งยิ้มให้เขาอย่างใสซื่อเหมือนไม่เข้าใจความหมายแฝงว่ากำลังถูกอบรมเรื่องมารยาทบนโต๊ะ
“อย่ากังวลเลยครับ สมัยเรียนคุณน่าจะเคยร่วมวงเหล้า ส่วนใหญ่เขามักใช้ปากขวดหรือไม่ก็ใช้ไฟแช็คเปิด ผมทำจนชินขอบคุณที่เป็นห่วง ทานกันดีกว่าเสียเวลาดูผมโชว์แมนมาพอสมควรแล้ว ฮ่าๆๆ” พูดจบหัวเราะปิดท้ายได้อย่างหน้ามึน ทำเอาอุทัยถึงกับกำหมัดบนหน้าตักแน่น เจ้าสัวหรี่ตามองเขานิ่ง ส่วนคนที่กำลังขำกลับยกโซดาจ่อปากดื่มอักๆหน้าตาเฉย ยังมีน้ำใจเปิดยื่นให้มังกรอีกด้วย คนรับแม้จะรู้สึกอายต่อกิริยาเถื่อนๆที่ลูกแก้วทำบนโต๊ะอาหาร แต่ก็รับโซดามาดื่มด้วยวิธีเดียวกัน เขารู้ว่าสิ่งที่ลูกแก้วทำมีเจตนาอะไร
“ตักข้าวได้เลย” จู่ๆเจ้าสัวก็ตัดบทสั่งให้ตักข้าว แม่บ้านและผู้ช่วยแยกกันถือโถข้าวร้อนๆ โดยแม่บ้านตักให้เจ้าสัวกับอุทัย ขณะที่ผู้ช่วยกำลังจะตักใส่จานลูกแก้ว
“ของพวกผมไม่ต้องครับ การดีท็อกซ์ไม่ต้องการคาร์โบไฮเดรต ขอแค่วิตามินกับซุปดีๆก็พอ” ผู้ช่วยแม่บ้านถึงกับชะงักยิ้มเจื่อนให้อุทัย ซึ่งได้แต่นั่งนิ่ง ทำได้แค่มองลูกแก้วตักผัดผักเสิร์ฟซุปให้มังกรอย่างเดียว ก่อนทั้งคู่จะลงมือทานอย่างเอร็ดอร่อย ตั้งแต่มานั่งมังกรแทบไม่มีบทปล่อยลูกแก้วเล่นเอง ดูแล้วทำได้ดีเกินคาด
เจ้าสัวกับอุทัยไม่ค่อยเจริญอาหารเท่าที่ควร ต่างกับลูกแก้วและมังกรที่ซัดผัดผักและซุปสาหร่ายแทบเกลี้ยง เนื่องจากไม่มีข้าวตกท้อง พวกเขาจำต้องกินกันหิว ไม่ยอมรับผลไม้ซึ่งแกะสลักเสียสวยงามเป็นรายการปิดท้ายอีกด้วย ซึ่งเจ้าบ้านหวังว่าพวกเขาจะไม่ปฏิเสธกลับต้องผิดหวังเมื่อได้รับการปฏิเสธมาอย่างนิ่มๆ
“พวกผมอิ่มแล้ว ขืนทานเยอะเดี๋ยวดีท็อกซ์ไม่ได้ผล ถ้าจะกรุณารบกวนขอโซดาสักลังที่ห้องดีกว่า การล้างท้องที่ดีต้องดื่มโซดามากๆ ขอแบบไม่ต้องแช่นะครับ” รอยยิ้มฉาบบนใบหน้าอุทัยทันที ก่อนจะรับปากลูกแก้วไปอย่างแข็งขัน
“ผมจัดให้สองลังเลย เผื่อคุณจะได้เก็บไว้ดื่ม” พูดจบหันไปสบตาเจ้าสัว มื้อเย็นจบลงด้วยรอยยิ้มชื่นมื่นของทั้งสองฝ่าย บรรยากาศ
อึมครึมก่อนหน้าหายเป็นปลิดทิ้ง
“ทำไมขอโซดามาเยอะขนาดนั้น แน่ใจพวกมันจะไม่วางยา แค่เราลับสายตาอาเชื่อว่าปานนี้โซดาสองลังใส่ยาเรียบร้อย” มังกรเพิ่งมีโอกาสถามหลังเขานิ่งมาตลอด อดสงสัยไม่ได้ลูกแก้วเอาโซดามาทำไมมากมาย
“ใครบอกผมจะเอามากิน ดูนี่ก่อน” พูดจบก็ล้วงไฟแช็คที่เนียนจิ๊กมาจากโต๊ะอาหารโชว์ให้ดู มังกรคิ้วขมวดต่อให้เห็นไฟแช็คก็ไม่หายข้องใจโซดากับไฟแช็คมันเกี่ยวอะไรกัน
“อาไม่เข้าใจ” เขาถามตรงๆ
“ที่ผมทำบนโต๊ะเย็นนี้ เพราะต้องการสิ่งนี้ต่างหาก เจ้าของมันยังไม่เฉลียวใจทวงคืนด้วยซ้ำ อารู้ไหมมันจะเป็นอาวุธที่ทำให้เราหนีกันคืนนี้” คำตอบของลูกแก้ว แม้จะไม่ช่วยให้เขาเข้าใจอะไรได้มาก แต่พอจะเห็นเค้าลางบางอย่างว่าลูกแก้วเอาสิ่งนี้มาทำไม โซดาสองหลังส่งมาถึงภายในเวลายี่สิบนาที ทุกขวดปิดฝาสนิท หากไม่รู้มาก่อนมังกรคงยากที่จะเชื่อว่าในน้ำบริสุทธิ์ที่เห็นอยู่ จะมีสิ่งเจือปนที่ทำให้พวกเขาหลับไม่ตื่นจนลืมวัน
“ตุ๊บๆๆ! กร๊อบ! แกร๊บ!!” เสียงบรรดาขวดโซดากว่าครึ่งที่ถูกทุบละเอียดด้วยการนำไปใส่ไว้ในปอกหมอนม้วนทับด้วยผ้าห่ม ถูกทุบด้วยขาโซฟาที่ลูกแก้วยกฟาด เสียงขวดแตกไม่ดังจนทำให้ใครได้ยิน ซึ่งคงไม่เล็ดลอดออกจากห้องนี้แน่ มังกรมีหน้าที่นั่งจับปลายผ้าไม่ให้หลุด เหตุผลสั้นๆ ที่ลูกแก้วบอกเขา
“ระเบิดขวด” สั้นแต่เข้าใจโดยไม่ต้องอธิบายเพิ่ม จากนั้นทั้งผ้าปู ปอกหมอน ใยนุ่น ทุกอย่างถูกแปลสภาพเอามาเป็นวัสดุที่ใช้ทำระเบิดขวด ผ้าปูถูกฉีกออกพันเป็นเกลียวเพื่อใช้เป็นสายชนวน เศษนุ่นเศษแก้วที่ถูกทุบเรียบร้อยจับยัดใส่ในขวดเปล่าที่ลูกแก้วเก็บไว้กว่าครึ่ง ส่วนไฟแช็คแบ่งน้ำมันออกส่วนหนึ่งชุบสายชนวนอัดไว้ในขวดจนแน่นโผล่ปลายไม่ถึงคืบ กว่าจะเสร็จใช่เวลาร่วมชั่วโมงถือว่าเร็วในความคิดของมังกร
ผลงานระเบิดขวดกว่าสิบสองลูกอยู่ในลังโซดาเรียบร้อยสมบูรณ์ คงไม่ต้องเสียเวลาทดลองคุณภาพ หลักเคมีง่ายๆไฟที่ไหม้ในขวดจากชนวนผ้าปูกับนุ่นทำให้เกิดความร้อนและแรงดันอากาศที่เกิดจากการเผาไหม้เป็นตัวระเบิดขวดโซดา เศษแก้วซึ่งอัดอยู่ภายในก็จะแตกกระจาย อาจไม่รุนแรงเท่าระเบิดที่ทำจากเขม่าดินปืน แต่เชื่อเถอะโดนจังๆก็ถึงตาย หรือไม่ก็บาดเจ็บหน้าแหกได้เช่นกัน
“แล้วเอาไงต่อ” มังกรปาดเหงื่อถึงภายในห้องมีแอร์ แต่การออกแรงก็ทำให้เหงื่อซึมได้ ขณะที่แอร์ถูกปรับอุณหภูมิเพราะลูกแก้วให้เหตุผลว่าอากาศต้องไม่เย็นจนเกินไป
“อาอาบน้ำนอนเอาแรงเถอะ ไว้ถึงเวลาเดี๋ยวผมปลุก” แววตาลูกแก้วแน่วนิ่ง ทำให้เขานึกถึงสายตาคมดุที่มีพลังซ้อนเร้นให้ความรู้สึกคล้ายกันมาก คงเพราะลูกแก้วเหมือนพ่อบางอารมณ์เขาถึงสับสนในใจพิกลกับความรู้สึกของตนเอง ตัดสินใจเข้าไปอาบน้ำตามคำแนะนำ ก่อนกลับออกมาสวมเสื้อผ้าชุดที่ใส่มาในวันที่ถูกพาตัวมาที่นี่ แล้วค่อยล้มตัวนอนเก็บแรงเอาไว้ โดยไม่สนใจว่าเสื้อจะยับหรือไม่ ที่แน่ๆคืนนี้มีลุ้นว่าจะรอดหรือจะเลือดเพียงเท่านั้น
แอบชำเลืองดูลูกแก้ว ยังคงก้มหน้าอยู่กับโทรศัพท์ คงกำลังสอดแนมวางแผนอยู่ เขาไม่อยากกวนเมื่อเห็นความตั้งใจที่จริงจังนั่น นึกชมหลายอย่างที่ได้พึ่งพาลูกแก้วอย่างไม่น่าเชื่อ สิ่งเหล่านี้เขาก็คิดไม่ถึงว่าหลานรูปหล่อจะมีความสามารถไม่น้อย บทพิสูจน์ที่ผ่านมาทำให้เขาวางใจได้ว่าลูกแก้วสามารถใช้ไหวพริบจนผ่านเหตุการณ์กดดันได้อย่างแนบเนียน เช่นการวางยาในโต๊ะอาหารไม่รวมการสอดแนมที่ทำให้พวกเขารู้แผนการชั่วร้ายของอีกฝ่ายล่วงหน้านั่นอีก
หนุ่มร่างใหญ่มองใบหน้าที่หลับสนิท ถึงไม่พูดแต่เขาก็รู้ว่ามังกรเครียดพอสมควรสาเหตุคงเกี่ยวกับเขา มังกรห่วงเขามากที่ไม่มีทักษะต่อสู้ หนทางที่จะหนีออกไปจากที่นี่โดยไม่มีการปะทะเป็นเรื่องยาก นึกถึงตรงหนีลูกแก้วยิ้มกว้างอย่างหุบไม่อยู่ มังกรจะรู้ตัวหรือไม่ว่าทำให้เขารู้สึกตื้นตันใจแค่ไหน ถึงไม่พูดออกมาแต่สายตาที่ฉายชัดว่าห่วงเขานั้น อ่านได้ไม่ยากจากดวงตาคมสวยของสุดหล่อคนรักเขาเลย...
“อย่ากังวลไปเลยครับ ผมจะปกป้องอาด้วยชีวิต” เสียงกระซิบแผ่วในความฝัน ทำให้มังกรยิ้มทั้งที่หลับ ช่างไม่รู้เลยว่าเขาไม่ได้ฝันเสียงที่ได้ยินมันกระซิบเบาๆตรงข้างหูต่างหาก
ลูกแก้วปล่อยให้มังกรพักผ่อน รอจนกว่าจะถึงเที่ยงคืน หลังเตรียมพร้อมเรียบร้อย ร่างสูงใหญ่ก็เดินเข้าไปจัดการอาบน้ำทำธุระส่วนตัว ก่อนจะกลับออกมาสวมชุดที่พวกเขาใส่ในวันที่ถูกบังคับให้มาที่นี่
“ลุกได้แล้ว” เสียงทุ้มห้าวเรียกอยู่ข้างหู ทำให้มังกรปรือตาขึ้น ก่อนจะกระเด้งตัวถอยหนีจนแทบคะมำตกเตียงด้วยความตกใจ
“รามูน..คุณมาได้ยังไง” อีกฝ่ายกลับไม่ตอบ สายตาคมดุที่จ้องหน้าเขา ทำเหมือนตลกกับคำถามของเขาเสียอย่างนั้น
“ลูกแก้ว..แล้วลูกแก้วล่ะ” เขาเปลี่ยนเป็นลุกขึ้นมองหาลูกแก้วขานเรียกทั่วห้อง แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบรับกลับมา
“อย่าให้ความเป็นฮีโร่ของเขาสูญเปล่า ได้เวลาต้องไปแล้ว” เสียงห้าวกระด้างเจือความหงุดหงิดทำให้มังกรถึงกับชะงัก
“ไปไหน..แล้วลูกแก้วไปไหน”
“ไปจากที่นี่ รอสัญญาณ” มังกรไม่เข้าใจในสิ่งที่บุรุษชุดดำโพกผ้าปิดบังหน้าตา รูปร่างสูงใหญ่ดูทะมึนทึนจนน่าเกรงขามพูดเลยสักนิด
“ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น ต้องพาลูกแก้วไปด้วย” เขาตอบหน้านิ่ง แต่ได้รับสายตาแข็งกร้าวเหมือนตำหนิส่งให้แทน
“ความเป็นฮีโร่ของลูกแก้วคงเปล่าประโยชน์” คำพูดที่ได้ยินทำให้เขางงหนักเข้าไปใหญ่ แต่ก็เข้าใจทันที เมื่อเสียงระเบิดดังติดต่อกัน
“บึ้ม!..บึ้ม!..บึ้ม!” เขารีบพุ่งไปแหวกผ้าม่านออกดู เห็นร่างกำยำวิ่งอยู่บนกำแพง พร้อมกับห่ากระสุนที่สาดใส่กระหน่ำจากพวกสมุนเจ้าสัว ในขณะที่ระเบิดขวดจุดไฟแดงๆ ก็ปาจากร่างที่วิ่งอยู่อย่างต่อเนื่องสร้างความโกลาหลให้พวกมันไม่น้อย ที่แน่ๆเสื้อผ้าเขาพอจำได้นั่นคือลูกแก้ว
“อย่าบอกนั่นลูกแก้ว” คำถามของเขาได้รับการยืนยันจากบุรุษชุดดำที่ยืนไม่ห่างด้วยการพยักหน้าน้อยๆ
“ไปเถอะไม่มีเวลาแล้ว” สิ้นเสียง ข้อมือเขาก็ถูกฉุดด้วยมือหนาลากให้เดินแกมวิ่งออกประตูไปทันที
ถึงแม้จะสับสนจับต้นชนปลายไม่ได้ แต่ที่แน่ๆเขาต้องออกไปจากที่นี่ก่อน ถึงจะห่วงลูกแก้วแต่อีกฝ่ายกลับวิ่งบนกำแพงซึ่งสามารถข้ามไปด้านนอกได้ง่ายกว่าเขาซึ่งยังอยู่ในบ้าน เขาไม่อยากเก็บมาคิดให้วุ่นวาย นอกจากทำตามคนที่ลากเขาให้ก้าวตามมาอย่างเงียบๆ
พอพ้นประตูมาได้ไม่ไกล สมุนของเจ้าสัวกว่าห้าคนกำลังเล็งปืนมาทางนี้ แต่เขาก็วิตกได้ไม่นาน ยังไปได้ไม่เกินสามก้าวเจ้าพวกนั้นก็ล้มระเนระนาด ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เขาถูกกระชากแกมวิ่งจนมาถึงประตูตลอดทางมีพวกสมุนล้มไปนับสิบ ทั้งที่ไม่ทันได้สับไกเลยด้วยซ้ำ เพิ่งรู้ว่ากองกำลังเจ้าสัวมีอยู่เยอะมาก หลายร้อยทีเดียว กลับถูกลูกแก้วดึงความสนใจไปด้วยระเบิดขวดที่พวกเขาร่วมกันทำ พร้อมกับเสียงปืนดังไปทั่ว พวกที่มีอยู่สามสี่สิบ จึงไม่คะนามือของบุคคลอันตรายที่พาเขามาจนถึงโรงจอดรถโดยไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน
“ขึ้นไปขับ พุ่งชนประตูออกไปไม่ต้องสนใจ” คำสั่งของรามูนทำให้เขารีบเปิดประตูขึ้นนั่งยังรถหัวเหล็กบิ๊กไบรทันที ในขณะที่อีกคนยืนจังก้าพริ้วร่างไปมาพร้อมกับสมุนของเจ้าสัวก็ล้มระเนระนาดด้วยเข็มวายุ
ไม่ต้องถามว่าเอากุญแจจากไหน ที่รูกุญแจไม่มีแน่นอนแต่ระบบสตาร์กับขึ้นไฟรอไว้เรียบร้อย แสดงว่าถูกต่อสายตรงล่วงหน้าเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่บุคคลที่กระโดดขึ้นมานั่งข้างคนขับ แล้วเขาก็สตาร์ทรถกระชากตัวออกเหยียบสุดคันเร่งพุ่งชนประตูอัลลอยที่ปิดดักไว้
“เห้ย!..ยิงมัน..ปังๆๆๆ!!!!” เสียงปืนที่ดังตามมาเป็นห่าฝน
“โครม!!!..” เขาขับรถพุ่งชนประตูไฟฟ้าจนกระจุยทุลุออกมาได้รถเหล็กแกร่งถึงกับหน้าบุบยู่ แต่ทั้งเขาและคนข้างๆแค่หัวสั่นร้าวไปทั่วตัว ก่อนจะเหยียบหนีออกมาจมไมล์ นึกขึ้นได้เขาชะลอความเร็วลง
“ชะลอทำไม เดี๋ยวพวกมันก็ตามทันหรอก” รามูนตวาดเสียงขุ่น ไม่ได้ทำให้เขาสนใจแม้แต่น้อย
“ผมต้องกลับไปรับลูกแก้ว” นี่คือความตั้งใจที่เขาจะวกรถกลับ
“เขารอดแน่นอน ไปรอที่จุดนัดพบคุณเจอเขาแน่ ไปที่นี่xxx” พูดจบไม่รอให้ถามอีก ประตูรถเปิดควับพร้อมกับร่างทะยานพุ่งออกไปปิดประตูส่งท้ายเสียงดังสนั่นพร้อมตวาดลั่นจนสะเทือนถึงตับ
“ปัง!..รีบไปปปป!!” ไม่รอให้ย้ำเขาเหยียบมิดไมล์ ทะยานออกไปในขณะที่สายตามองผ่านกระจกส่องหลัง เห็นแสงไฟรถตามมาไม่น้อย แต่มีร่างสูงใหญ่ดำทะมึนปักหลักขวางถนนอย่างอกสั่นขวัญแขวน แต่เขามั่นใจว่าคนอย่างรามูนไม่ตายง่ายๆหรอก ที่น่าเป็นห่วงคือลูกแก้วต่างหาก เจ้าหลานงี่เง่าขึ้นไปวิ่งอยู่บนกำแพงปาระเบิดขวดนั่นสิ ปานนี้เป็นอย่างไรบ้างไม่รู้ ไปรอเขาที่จุดนัดพบตามที่รามูนบอกแล้วหรือยัง ทำไมทุกอย่างมันฉุกระหุกไปหมด ความกระจ่างที่อยากรู้ คนเดียวที่ตอบเขาได้คือ ‘ลูกแก้ว’
มาต่อแล้วนะคะ ขอให้มีความสุข
บวก 1 บวก เป็ดให้เช่นกันค่ะ
Luk.
