- 2 - “เอาล่ะครับทุกอย่างดูพร้อมแล้ว ไหนใครจะเป็นคนชี้แจงให้ผมฟังได้บ้างว่า..รองดลภัทรกล่าวหาผมเรื่องอะไร ถึงใช้เป็นประเด็นในการปลดผมออกจากตำแหน่งประธานบริหาร” มังกรเริ่มเปิดการประชุม
“รองดลภัทรนำข้อมูลที่คุณสร้างความเสียหายให้กับองค์กรของเรามูลค่ามหาศาล..มาเป็นเงื่อนไขให้ลงมติปลดคุณออกจากตำแหน่ง โดยหลักๆที่ร้ายแรงมีอยู่สองเรื่อง..เรื่องแรกคุณยกเลิกการปล่อยเรือสินค้าที่ปากอ่าวโดยพละการ ปิดบังบอร์ดบริหารทำให้เกิดความสูญเสียมูลค่านับพันล้าน
ส่วนเรื่องที่สองทางไบรอันพร๊อพเพอร์ตี้ โดยกรรมการผู้จัดการบริหารและหุ้นส่วนหลักเขาขอยกเลิกสัญญากับทางเรา หากคุณยังเป็นประธานบอร์ด พร้อมกับเรียกร้องค่าเสียหายกว่าห้าพันล้าน ที่คุณทำงานผิดพลาดเกิดความล่าช้าในการตัดสินใจด้านที่ดินและดำเนินการในส่วนที่เรารับผิดชอบไม่ดีพอ” เป็นคุณทรงยศที่ลุกขึ้นสาธยายข้อกล่าวหาให้มังกรรับรู้เสียงดังฟังชัด
“ขอบคุณอาทรงยศมากครับ ที่ช่วยไขความกระจ่างให้ผมทราบ ผมคงต้องแก้ต่างเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมสินะ ทั้งที่ใจผมไม่เคยคิดอยากทำมาก่อนเพราะมันพลอยทำให้ผมต้องใจร้าย ทำลายญาติผู้ใหญ่ทางสายเลือดที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว แต่เมื่อเขาไม่สำนึกและใช้มาเป็นข้อกล่าวหาปลดผมออกจากตำแหน่งโดยชอบธรรมแล้ว ถือเสียว่าผมไม่ได้เนรคุณญาติพี่น้อง หวังว่าทุกท่านร่วมเป็นสักขีพยานให้ผมด้วยก็แล้วกัน” คำพูดทุ้มเรียบ ไม่แฝงแววล้อเล่นมาพร้อมสายตาคมกริบกับสีหน้านิ่งเฉยของมังกร สะกดทุกคนให้ตั้งใจฟังทุกประเด็นไม่ตกหล่น
พวกเขาอยากรู้ว่ามังกรจะแก้ต่างกับข้อหาร้ายแรงของตัวเองได้อย่างไร ยกเว้นดลภัทรเริ่มจะรู้สึกร้อนๆหนาวๆ เพราะท่าทางของมังกรแสดงความเชื่อมั่นตนเองขนาดนี้ ทำให้เขาร้อนใจในทันที ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าหลานคนนี้ถ้าไม่มั่นใจจะไม่แสดงท่าทระนงอย่างนี้ให้เห็น โดยมักจะเลือกหุบปากใช้ความคิดรอดูสถานการณ์เงียบๆเสียมากกว่า
“ข้อกล่าวหาเรื่องแรก ผมต้องยกเลิกการปล่อยเรือออกจากท่าเร่งด่วนเพราะสินค้าบนเรือที่ถูกส่งออกไปนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ชิ้นส่วนอิเลคโทรนิคกับสินค้าทางการเกษตรอย่างที่ได้รับข้อมูลตามเอกสาร ในนั้นยังแอบซุกซ่อนสารเคมีอันตรายซึ่งเป็นสารต้องห้าม และยังมีโคเคนมูลค่ากว่าพันล้าน หากถูกตรวจสอบและโดนจับขึ้นมา ชื่อเสียงและความเสียหายที่วิริยะทรัพย์จะได้รับมากมายกว่าข้ออ้างที่ว่าเราเสียหายพันล้านเสียอีก
ความจริงผมชดใช้ค่าเสียหายจากการปล่อยเรือล่าช้าไปไม่ถึงสิบล้าน โดยเลื่อนมาปล่อยเรือขนถ่ายสินค้าอีกสามวันถัดมา ส่วนเอกสารทางศุลกากรและการขออนุญาตผมให้คุณสมรดำเนินการไว้ล่วงหน้า แม้จะขาดทุนไปบ้างแต่ก็สามารถรักษาชื่อเสียงและกอบกู้วิกฤตให้เป็นโอกาสได้สำเร็จ
ทุกวันนี้ลูกค้าคู่สัญญาที่เกิดปัญหากับเราครั้งนั้น เรียกใช้บริการกับวิริยะทรัพย์แทบทั้งสิ้น ยอดเงินสิบกว่าล้านที่ผมใช้ไปตีคืนเป็นกำไรเกือบเท่าตัวในรอบสามเดือนที่ผ่านมา สามารถตรวจสอบเอกสารต่างๆได้จากคุณสมรและฝ่ายบัญชีของบริษัทฯ” คำชี้แจงของมังกร ทำให้บอร์ดบริหารแต่ละคนชื่นชมจากรอยยิ้มที่ส่งมาให้ และสร้างความโมโหให้ดลภัทรจนเหงื่อซึมขมับ
“แล้วใครเป็นผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบสินค้าก่อนปล่อยเรือครั้งนั้น ประธานมังกรพอจะบอกกับพวกเราได้หรือไม่ เหตุผลอะไรคุณถึงไม่นำเรื่องใหญ่ขนาดนี้เข้าบอร์ดบริหารเพื่อขอมติ” เป็นคุณทรงยศอีกเช่นเคยที่ตั้งคำถาม และมังกรก็เตรียมคำตอบไว้แล้ว ยกเว้นบางคนเหงื่อเริ่มไหลลงหลังแล้ว
“ที่ผมต้องปิดบังเพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์อาหลาน เมื่อมาถึงขั้นนี้ ผมคงจำเป็นต้องบอกสินะ คนที่ดำเนินการอนุมัติตรวจสอบสินค้าในครั้งนั้นคือ รองประธานดลภัทรคุณอาของผมเอง ผมจึงเลือกไม่นำเข้าบอร์ดบริหารเพื่อไม่อยากให้เขาลำบากใจหรืออีกนัยหนึ่ง เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของเขาไว้ในฐานะหลานชายคนหนึ่งพึงทำเพื่ออาได้” คำพูดของมังกรปลุกเสียงฮือฮาดังขึ้นทันที ทุกสายตาต่างจ้องไปที่ดลภัทรอย่างคาดโทษ พวกเขาเริ่มส่ายหน้าให้ เพราะสิ่งที่ฟังจากมังกรเหมือนหนังคนละม้วน กับที่ดลภัทรบอกเลยทีเดียว
“อย่ามาใส่ความกันนะ มีหลักฐานหรือเปล่าที่พูดมาทั้งหมดนั่นน่ะ” ดลภัทรยังไม่ยอมจนมุม ลุกพรวดพราดชี้หน้าว่าหลานตัวเองอย่างไม่รู้สำนึกหากจะยั้งคิดสักนิดจะรู้ว่ามังกรพยายามปกป้องเขาไว้ เพื่อให้โอกาสกลับตัวกลับใจ แต่คนบางคนสันดรเปลี่ยนได้แต่สันดานคงอยากจะแก้ไข
“ผมย่อมไม่พูดลอยๆ หลักฐานทุกอย่างถูกถ่ายวิดีโอเก็บไว้ ตอนเรียกกำลังเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจยึดสิ่งผิดกฎหมายบนเรือ โดยผมให้แจ้งว่าเราถูกคนร้ายนำมาซุกซ่อนในเรือสินค้า เผอิญตรวจเจอเสียก่อนจึงยกเลิกการปล่อยเรือออกจากท่า ทั้งยังส่งมอบของกลางมูลค่ากว่าหมื่นล้านให้ทางราชการด้วย
ในครั้งนั้นมีการลงบันทึกประจำวันและการให้ปากคำไว้หมดทุกอย่างพร้อมกับวีดีโอถ่ายทำเรียบร้อย” มังกรตอบอย่างไม่ติดขัด เขาเลี่ยงที่จะบอกด้วยซ้ำว่าเพราะเรือสินค้าลำนี้ เขาถึงกับโดนยิงเกือบเอาชีวิตไม่รอดหากไม่ได้รามูนไปช่วยไว้ทัน ทำเอาดลภัทรถึงกับเหงื่อตกทรุดนั่งอย่างเข่าอ่อน
“ส่วนเรื่องที่สอง สัญญากับทางไบรอันพร๊อพเพอร์ตี้ผมยังไม่ได้เซ็นรับรองตามระเบียบบริษัทฯ ซึ่งคนมีอำนาจลงนามแทนและรักษาการณ์คือรองดลภัทรระหว่างที่ผมลาพักร้อน แต่ระเบียบและเงื่อนไขในคู่สัญญาหากอ่านให้ครบถ้วนต้องไม่ลืมว่าภายใน 30วัน ประธานโดยตำแหน่งต้องเซ็นรับรองสัญญาไว้เป็นลายลักษณ์อักษร จึงจะถือว่าสัญญานั้นครบถ้วนสมบูรณ์ทางนิติกรรมของกฎหมาย แต่ผมยังไม่ได้เซ็นจนถึงบัดนี้มันเลยกำหนด 30 วันมาแล้วด้วย
หมายความว่าสัญญานั้นเป็นโมฆะ ทางคุณเข็มคงเรียกร้องความเสียหายกับวิริยะทรัพย์ไม่ได้หรอกครับ รบกวนกลับไปอ่านข้อ 45 วรรค 1 ในสัญญาอีกครั้งหากไม่เข้าใจถามรองดลภัทรเขารู้ดีนี่ครับ” มังกรตอบได้นิ่งมากไม่มีอะไรบ่งบอกว่าเขาแก้ตัวแม้แต่น้อย เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกครั้ง และคราวนี้เข็มอัปสรถึงกับมองหน้าดลภัทรอย่างขอคำยืนยัน
“แต่อาย้ำให้หลานเซ็นรับรองไปแล้วนี่ ทำไมถึงไม่ทำถ้างั้นสัญญาที่ส่งคืนมาให้ใครเซ็น” ดลภัทรยังตะคอกเสียงแข็ง โดยลืมเรื่องมารยาทไปสนิท
“เสียใจด้วยครับคุณอา ผมตรวจสัญญาแล้วไม่เห็นความจำเป็นที่เราต้องทุ่มเงินมหาศาลกับโปรเจคนี้ แม้ดูผิวเผินเหมือนเราจะได้ถึง 60 ในขณะคู่สัญญาที่เป็นเจ้าของโครงการกลับรับไปแค่ 40 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม
เพราะผมเห็นผลประโยชน์ที่หยิบยื่นให้มีข้อผิดสังเกต ผมจึงไม่รีบร้อน เพียงแค่ส่งสัญญากลับไปให้คุณอาโดยไม่ได้บอกว่าผมยังไม่ได้เซ็นรับรองก็เท่านั้น ตั้งใจขอเวลาศึกษาลงลึกในรายละเอียดดูอีกสักหน่อย หากโปรเจคดังกล่าวคุ้มการลงทุนก็ยังไม่สายที่ผมจะเรียกสัญญากลับมาเซ็น
คงเพราะความไม่ประมาทและการระแวงของผมทำให้รักษาตำแหน่งประธานและผลประโยชน์ของบริษัทที่จะถูกคู่สัญญาทางไบรอันพร๊อพเพอร์ตี้นำมาเป็นข้ออ้างยกเลิกและเรียกร้องให้เราชดใช้ค่าเสียหากกว่าห้าพันล้านเอาไว้ได้ ทั้งที่ยังไม่ได้ลงทุนสักแดงเดียว แต่กลับได้เงินกว่าห้าพันล้านไปครอบครองผมว่าเป็นการลงทุนที่ไม่ต่างกับจับเสือมือเปล่าแม้แต่น้อย”
คำพูดของมังกรที่เอ่ยออกมา บ่งบอกถึงสติปัญญาและไหวพริบของประธานหนุ่มจนบอร์ดบริหารอาวุโสทุกท่าน อดไม่ได้ที่จะปรบมือชื่นชมอย่างพร้อมใจกันทันที
“ปรบๆๆๆ..เยี่ยมมากประธานมังกร ไม่ผิดหวังจริงๆที่มีคุณเป็นผู้นำลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” เสียงสรรเสริญเยินยอต่างมาพร้อมกับการปรบมือทำให้บรรยากาศภายในห้องดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที ยกเว้นดลภัทรที่นั่งพิงเก้าอี้อย่างหมดแรง แทบไม่อยากนึกถึงชะตากรรมตัวเอง ไม่ติดคุกก็คงไม่รอดถูกปลดจากตำแหน่งอย่างถาวร ไม่เหลือที่ให้ยืนในวิริยะทรัพย์แม้แต่เท่ารูหนูก็คงไม่มีให้เขา
“ว่ายังไงรองดลภัทร คุณคงไม่ต้องให้พวกเราบอร์ดบริหารบอกหรอกนะว่าคุณควรทำยังไง” เป็นคุณทรงยศที่หันไปเอาเรื่องกับดลภัทรแบบกัดไม่ปล่อย ถึงเวลาที่เขาได้บ่งหนองออกจากวิริยะทรัพย์เสียที เขาไม่มีวันใจอ่อนให้กับคนทรยศหักหลังที่ชักศึกเข้าบ้านเป็นอันขาด เพราะความใจดีมีเมตตาต่อญาติผู้ใหญ่ของมังกรทำให้โดนแว้งกัด เขาไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เพื่อรักษาทรัพย์สมบัติและทายาทของเพื่อนที่ร่วมก่อสร้างวิริยะทรัพย์มาด้วยกัน เขาจึงออกหน้ากดดันเสียเอง
ดลภัทรนอกจากไม่ตอบ เอาแต่นั่งหน้าซีดไร้เรี่ยวแรงเหมือนสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างหมดแล้ว แต่ทั้งห้องก็ต้องตะลึงพรึงเพริด เมื่อเสียงแหลมสูงตวาดขึ้น
“ถ้าไม่อยากตาย เซ็นปลดประธานมังกรลงจากตำแหน่งเดี๋ยวนี้” คนที่ตวาดคือเข็มอัปสร พร้อมกับในมือเธอซัดลูกไฟเพลิงออกมาล้อมรอบคนทั้งห้อง กักเอาไว้ภายในหมดทุกคน ยกเว้นเธอกับพวกคลังไพศาลที่อยู่รอบนอกวงล้อม
“เพลิงอัคนี!!!!” เสียงครางของคงคาซึ่งคุ้นเคยอาวุธชนิดนี้เป็นอย่างดีเอ่ยแทรกท่ามกลางการตกตะลึงพึงเพริดของบอร์ดบริหารที่หน้าซีดตามกันเป็นแถว เมื่อรับรู้ถึงรังสีอำมหิตและอันตรายของอาวุธที่ร้อนปานอยู่ในกองเพลิง?
ขอบคุณทุกเม้นท์ทุกโพสฯ มากนะคะ บวก 1 กับเป็ดแทนการขอบคุณย้อนหลังเช่นเคยค่ะ
ขอบคุณนักอ่านที่ไม่ใช่สมาชิกที่ติดตามผลงานกันมาตลอด ขอบคุณทุกท่านมากมาย
นิยายเรื่อง 'ลูกแก้วมังกร' เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายแล้วจริงๆ เหลือเพียงสองตอนสุดท้ายจบแล้วนะคะ
ส่วนตอนพิเศษที่หวานหยด ฮาสนุก ทั้งคู่หลัก 3 ตอน และคู่รอง 2 ตอน คงต้องรบกวนติดตามจากรูปเล่มแทน
ความจริงเปิดโอนเปิดจองทางเมลล์โดยตลอด ไว้ตอนหน้าจะโพสฯรายละเอียดไว้นะคะ
สำหรับผู้สนใจนักสือและอุดหนุนการจัดรวมเล่มกับผู้เขียน
รักพวกคุณทุกคนเสมอ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้คนเขียนได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก
Luk.
