- 2 - “ฉันคงไม่มีทางเลือก..ลงมือได้เลย” หัวหน้าเข้าตาจน แต่ยังคงทระนงดูน่าเกรงขามไว้ลายได้อย่างน่าทึ่ง
ลูกแก้วไม่พูดอะไรอีก เพียงยกมือให้สัญญาณกับรามูนที่คุมหลังนิ่งๆ บุรุษชุดดำล้วงเอาไพ่ออกมา ก่อนสะบัดมือทีเดียวไพ่ทั้งสำรับก็ปลิวว่อนขึ้นในอากาศอย่างไร้ระเบียบ ในความไม่เป็นระเบียบกับมีนัยยะไม่กระจัดกระจาย แต่ดันรวมกลุ่มอยู่เหนือศีรษะพวกเขาสูงขึ้นไปเกือบชิดเพดาน
วินาทีนั้นความรวดเร็วของท่าร่าง ที่ต่างซัดอาวุธซึ่งมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นด้วยซ้ำว่าเป็นอะไร ระหว่างลูกแก้วและหัวหน้า เจาะจงไปที่ไพ่ซึ่งลอยอยู่บนอากาศอย่างคล่องแคล่วว่องไวทั้งสองคน
“ฟิ้วววว!!..ชิ้วววว!!” มีไพ่ใบหนึ่งที่ทั้งคู่ใจตรงกัน ทำให้อาวุธทั้งสองคนกระทบกันจนเกิดประกายไฟ
“เช้ง!.ชิ้ง!..เฟี้ยว!” แต่ต่างไม่ยอมปล่อยให้ตกเป็นของอีกคน ฝ่ามือทั้งสองร่างสะบัดไหวรวดเร็วจนคล้ายไม่มีการขยับ แท้ที่จริงกลับรวดเร็วจนกลายเป็นดูนิ่ง สะบัดต่อเนื่องเพื่อชิงไพ่ที่ยังไม่มีใครได้ไปครอง
อัคนีทนเฉยอีกไม่ไหว ออกลูกฮึดรวบรวมพลังที่เหลือช่วยพ่อของเธอโดยการปล่อยลูกไฟเข้าใส่ลูกแก้ว ไม่กลัวคำครหาว่ากลุ้มรุมแต่อย่างใด
“พรึ่บ!!..ชิ้ววว!!..ฉวบๆๆ!!” แต่ลูกไฟของเธอมีอันตกกระจัดกระจายด้วยเข็มวายุที่ลูกแก้วซัดใส่หล่นไม่เป็นท่า
“ตุ๊บ!!..ตึ๊กๆๆๆ!!!” ไพ่ที่ต่างฝ่ายต่างต้องการกระเด็นกระดอนยังไม่เป็นของใคร เดิมทีเกือบเป็นของลูกแก้วแต่ดันถูกขัดจังหวะด้วยลูกไฟของอัคนีทำให้หัวหน้ามีโอกาสซัดไพ่ใบดังกล่าวหลุดจากอาวุธของลูกแก้วปลิวขึ้นไปอีก ตอนนี้ไพ่เจ้าปัญหายังคงร่อนไปมา เพราะลูกแก้วเองก็ไม่ยอมปล่อยให้ตกเป็นของหัวหน้า
พสุธาเห็นอัคนีพลาดท่าถึงกับกระอักเลือดเพราะเข็มวายุที่ซัดโต้จากลูกแก้วเผื่อแผ่ฝังเข้าร่างเธออย่างเจตนา
“อ๊อก!..โอ๊กก!!!” ก้อนเลือดสีสดทะลักออกจากปาก เมื่อความบอบช้ำภายในถูกซ้ำเติมจนเธอเกือบทรุด ดีที่พสุธารวบกอดเอาไว้ทัน
“ไฟเป็นยังไงบ้าง” น้ำเสียงร้อนรนกังวลฉายชัด ไม่ปิดบังสายตาดังเคยเมื่อคนที่เขามอบหัวใจให้บาดเจ็บสาหัสต่อหน้า
“ช่วย..พ่อก่อน” เธอยังกล้ำกลืนฝืนพูดบอกพสุธาช่วยหัวหน้า เขาไม่เคยขัดใจเธอเลยสักครั้ง ยามสบตาสวยที่บัดนี้หม่นแสงเพราะอาการบาดเจ็บแต่ไม่ได้ทำให้ดวงตาคู่นี้น่าดูลดลงแต่อย่างใด
พสุธาไม่ต้องรอให้บอกเป็นครั้งที่สอง หลังประคองให้เธอทรงกายแล้วก็จัดการขว้างมีดพกอันเป็นอาวุธคู่กาย เป้าหมายคือร่างของลูกแก้วที่ใช้สมาธิกับไพ่ใบสำคัญ เพื่อตัดสินชะตาชีวิตของหัวหน้าองค์กรมหาหิงค์อย่างจดจ่อ ต่างกำลังชิงจังหวะกันอยู่
“เฟี้ยววๆๆๆ!!...เคร้งๆๆๆ!!..เกร้งงงงๆๆๆ!!..ฉึกๆๆๆ..อร๊ากกก!!!” ดาบนั้นคืนสนอง เพียงแต่พสุธาไม่ได้ถูกมีดสั้นของตนปักคืน เขาโดนเข็มวายุที่ลูกแก้วยอดฝีมือวัยหนุ่มแบ่งสมาธิขั้นเทพ ซัดต้านมีดบินของเขา เผื่อแผ่มายังเขาอีกนับสิบ จมหายเข้าไปยังจุดสำคัญภายในร่างดังจับวาง จนคนโดนถึงกับเข่าทรุดไร้ซึ่งเรี่ยวแรงยืนอีกต่อไป
“พี่ดิน!!” เสียงเรียกของอัคนีตะโกนขึ้น หลังเห็นพสุธาหน้าซีดไร้สีเลือดทรุดลงไปกองกับพื้นตาค้าง ส่งผลให้สมาธิหัวหน้าที่ช่วงชิงไพ่ถูกแบ่งแยก ทำให้อาวุธที่ซัดเข้าสู้กับลูกแก้วเพลี่ยงพล้ำ ไพ่ใบสำคัญตกไปอยู่ในมือลูกแก้วเรียบร้อย พร้อมกับตัวเขากลับได้ไพ่อีกใบมาแทน ในสภาพเหงื่อซึมตามไรผม บ่งบอกว่าใช้พลังไปมากน้อยขนาดไหน เขาถึงกับยอมรับว่าเด็กหนุ่มคนนี้ลึกล้ำเกินคาด
“เจ้าดิน...” ทำได้แค่ครางเรียก ยังไม่สามารถแบ่งสมาธิไปดูศิษย์โปรดซึ่งจงรักภักดีเพียงคนเดียว กำลังทรุดลงไปกองเข่าคู่หายใจหอบ โดยมีอัคนีที่สะบักสะบอมไม่ต่างกันโอบไหล่หนาคอยดูแลอยู่ข้างๆ
“ไม่ต้องห่วงผมยังไม่ดึงลมหายใจเขาหรอก ลูกสาวคุณกับลูกศิษย์ล้วนเล่นไม่ซื่อ ไม่ยึดถือกติกา คิดแล้วพวกเขาต้องทำแบบนี้ สิ่งที่ผมจัดให้แค่ตัดเส้นเอ็นทำลายฝีมือตามเงื่อนไข” ลูกแก้วบอกได้หน้านิ่งมาก มังกรถึงกับใจกระตุกยามเห็นลูกแก้วสำแดงฝีมือซัดเข็มวายุ ทั้งยังแยกสมาธิไปรับมือกับอัคนีและพสุธาได้อีกต่างหาก ทุกสิ่งที่ทำเหนือคำบรรยาย โดยที่รามูนไม่ได้ลงมือช่วยแม้แต่น้อย เหมือนพ่อต้องการให้ลูกชายเป็นพระเอกตั้งแต่เริ่มยันจบ
“ไม่คิดว่าเข็มวายุที่เธอใช้จะกล้าแข็งขนาดนี้ ฉันเป็นคนถ่ายทอดให้พ่อของเธอแต่แรก ยังไม่สามารถเทียบเธอได้เลย” คำพูดของหัวหน้าทำให้ทุกคนรู้ได้ทันที ว่าอาวุธที่เขาใช้คือเข็มวายุเช่นกัน
“เพราะแบบนี้ไง ผมถึงให้โอกาสคุณกำหนดชีวิตตัวเอง” ลูกแก้วกับพูดด้วยถ้อยคำที่กดดันได้อย่างเลือดเย็น
“เอาเถอะ..บางทีทางรอดยังคงเป็นของฉัน เพราะ A โพดำมันอยู่ในมือฉันแล้วเรียบร้อย ส่วนคิงส์โพดำที่เธอได้ไปมันไม่สำคัญสำหรับฉันหรอก สามใบที่เหลือ ฉันตองเค..หึหึ..ฮะฮ่าๆๆๆ” หัวหน้าพูดจบเผยรอยยิ้มอย่างผู้ชนะขึ้นเป็นครั้งแรก ตามมาด้วยเสียงหัวเราะอย่างสะใจ พร้อมกับโชว์ไพ่ในมือทั้งสี่ใบ เป็นตองเค กับ A โพดำอีกหนึ่งใบจริงด้วย
ลูกแก้วกลับมีสีหน้าเรียบนิ่งไม่โต้ตอบ ปล่อยคู่ต่อสู้หัวเราะมีความสุขอย่างเต็มที่ คนที่ร้อนรุ่มกระวนกระวายใจกลับเป็นมังกร หงส์ฟ้า พยัคฆ์ แม้แต่คงคาที่เข้าใจว่าลูกแก้วพลาดท่าโดนเฒ่าเจ้าเล่ห์ตลบหลังเข้าให้
แสดงว่าที่หัวหน้าพยายามแย่งไพ่ใบนั้น เป็นการล่อหลอกความจริงเขาไม่ได้ต้องการไพ่ใบนั้น เพียงแต่ต้องการดึงไพ่ใบสำคัญคือ A โพดำมาไว้ในมือต่างหาก เพื่อแยกไพ่ของลูกแก้ว หรืออีกนัยหนึ่ง ถ้าได้มาเขาก็เป็นสี่คิงส์ไป
“หัวเราะพอหรือยัง ถือว่าผมปราณีมากแล้ว ที่ปล่อยให้หัวเราะอย่างมีความสุขก่อนตาย” ลูกแก้วกลับบอกเสียงเข้ม หัวหน้าที่กำลังหัวเราะถึงกับหยุดหรี่ตาจ้องหน้าเขานิ่ง
ส่วนมังกรและคนที่ช่วยกันลุ้นตัวโก่งรู้สึกหายใจโล่งขึ้น ลองฟังลูกแก้วพูดมาแบบนี้ แสดงว่าไพ่ในมือต้องเหนือกว่า จะมีไพ่ชนิดใดชนะตองเคนอกจากตองเอด หมายความว่าไพ่ในมือลูกแก้วตองเอดแน่นอน
“หืม!..ที่พูดแปลว่าไพ่ในมือเป็นตองเอดหรือ” คำถามของหัวหน้ายังไม่ได้รับการตอบรับจากลูกแก้ว นอกจากมุมปากที่กระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ ชี้ให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องตอบก็รู้ผลแล้ว
เหงื่อกาบที่ซึมตามขมับของหัวหน้า ผุดขึ้นมาอีกครั้งหลังจากแห้งสนิทไปก่อนหน้า ซึ่งเขาเพิ่งจะดีใจกับชัยชนะไปหมาดๆ เริ่มเห็นลางร้าย ก่อนสายตาจะชำเลืองไปที่พื้นซึ่งไพ่หล่นเกลื่อน หนึ่งในนั้นมี A โพแดงอยู่ด้วย รอยยิ้มชั่วร้ายอย่างผู้กำชัยชนะก็ผุดจากนัยน์ตาทั้งสองข้างอีกครั้ง สร้างความฉงนสนเท่ให้กับพวกมังกรเช่นกัน
“แน่ใจว่าแกตองเอด” เปลี่ยนเป็นย้ำถามลูกแก้ว แต่ยังคงไม่มีคำตอบ หน้าคมเข้มจุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยั่วโมโหไม่เปลี่ยน ค่อยๆโชว์ไพ่ในมือขึ้นใบแรกแต่มันกลับเป็น 10 โพดำ
พอใบแรกเผยออกมา พวกที่ลุ้นข้างลูกแก้วถึงกับหน้าซีดเผือด เห็นลางแพ้มาเต็มๆ หมายถึงชีวิตพวกเขาย่อมแขวนอยู่บนเส้นด้ายด้วย หากหัวหน้ามีชีวิตรอดไปจากที่นี่ ถึงไม่มีฝีมือดังเดิม แต่ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีเขี้ยวเล็บหรืออำนาจหลงเหลือ ที่จะตามเก็บกวาดพวกเขาซึ่งทรยศเสียเมื่อไหร่
ยกเว้นทางฝั่งมังกรที่ไม่คิดแบบนั้น แต่ละคนเริ่มหายใจโล่งอีกครั้ง หลังสลดวูบจิตตกไปตอนหัวหน้าสะกิดให้รู้ว่าลูกแก้วไม่มีโอกาสตองเอด ซึ่งแปลว่าไพ่ที่จะชนะได้ตอนนี้เหลือเพียงเปอร์เซ็นต์เดียว
ไพ่ใบที่สองเผยตามด้วยความใจเย็นของลูกแก้ว เปิดเป็นแจ็คโพดำ หัวหน้าเริ่มเหงื่อซึมคิ้วกระตุกแล้วตอนนี้ ก่อนจะเป็นแหม่มโพดำและใบสุดท้ายคิงส์โพดำ ไพ่ในมือของลูกแก้วคือเสตรดเฟรช เป็นไพ่เซียนที่ชนะตองเค ของหัวหน้าจนย่อยยับไม่มีเหลือ
“เสตรด!!!” เสียงครางทุ้มของผู้พ่ายแพ้ และผู้ลุ้นตามรายรอบ
“รู้แล้วสินะ ความรู้สึกยามมัจจุราชมารออยู่ข้างหน้ามันทรมานแค่ไหน เหมือนที่คุณเคยทำไว้กับเหยื่อที่สั่งฆ่ามานักต่อนัก คราวนี้ถึงตาคุณบ้างแล้ว ลงมือเสียทีอย่าให้ผมหมดความอดทน!!!!” หางเสียงตะโกนสั่งดังลั่น ทำเอาแต่ละคนถึงกับผวาตาม ไม่คิดว่าท่าทีนิ่งเฉยเหมือนนักล่าที่มีลูกไก่อยู่ในกำมือ บทจะปะทุอารมณ์โกรธดันทะลักขึ้นดื้อๆ
แต่กลับสงบลงได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มังกรถึงกับจ้องแล้วจ้องอีก ในใจกำลังสับสนต่อพฤติกรรมไม่น้อย ลูกแก้วคนที่เขากำลังมองอยู่เป็นใครอีกคนที่เขาแทบไม่รู้จัก แถมมีพลังอำนาจบางอย่างที่สะกดเขาจนเย็นเยือกยันไขสันหลัง
“ฉันต้องขอบใจเธอไหม ที่ทำให้ฉันรู้สึกสนุกและมีความสุขในวันนี้ เงื่อนไขที่อุตส่าห์ให้เกียรติ์ เธอคิดหรือ..ว่าฉันจะยินดีน้อมรับ!!!” พูดจบ หัวหน้าสับปรับไม่รักษาสัจจะ ก็สะบัดท่าร่างปล่อยสิ่งที่ใครต่อให้ต่างคาดไม่ถึงพุ่งเข้าใส่ลูกแก้วและพวกมังกร รวมทั้งทุกคนที่ไม่ทันคาดคิด
“เพลิงบรรลัยกัลป์...หนีเร็ว!!!!” เป็นคงคาที่ตะโกนบอกดังก้อง ก่อนพุ่งเข้าฉุดร่างพยัคฆ์หลบอย่างฉิวเฉียด ในขณะที่มังกรอุ้มหงส์ฟ้าหนีอุตลุด โดยมีรามูนในชุดดำกระโดดเข้ามาพาหลบลูกไฟสีเงินเข้มได้อย่างหวุดหวิดเช่นกัน
ส่วนนักฆ่าที่แปรพรรคถึงกับแตกฮือ ยกอาวุธขึ้นปัดป่าย แต่กลับถูกลุกไหม้พรึ่บ..ลามถึงตัวจนไฟลุกโชนร่างไปสองสามคนอย่างโชคร้ายที่สุด
“เลว..มากไอ้ชาติชั่ว” สิ้นเสียง เข็มวายุมากมายมหาศาลถูกซัดออกจากร่างที่หมุนเป็นเกลียวอย่างควงสว่าน จนกลายเป็นทอร์นาโดขนาดย่อม โดยมีเข็มวายุที่ซัดออกหมุนอยู่รายรอบ ก่อให้เกิดแรงดึงดูดมหาศาลดูดเอาลูกไฟบรรลัยกัลป์ที่ซัดออกจากหัวหน้า เข้าไปในวังวนของเกลียวอากาศที่หมุนวนจนสิ่งของต่างๆ ปลิวกระจัดกระจายว่อนไปหมด
แต่ละคนถึงกับรีบหาที่ยึดไม่ให้ร่างถูกดึงเข้าไปในมวลอากาศที่มีแรงดึงดูดมหาศาล ซึ่งกำลังขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งเสื้อผ้าหน้าผมของพวกที่พยายามต้านแรงลมเอาไว้สุดชีวิต ถึงกับบิดเบี้ยวไม่คงรูปดูประหลาดชอบกล
“วายุพิโรธ!!!” เสียงครางของหัวหน้า ที่ฉุดรั้งดึงร่างพสุธากับอัคนีจับไว้แน่นทั้งสองคน เพราะทั้งคู่ไม่เหลือพลังต้านแม้แต่น้อย กันไม่ให้ถูกดึงเข้าไปในมวลอากาศที่ก่อตัวจนคล้ายแผ่นดินไหวสั่นสะเทือนไปทั่ว ก่อนผ้าโพกปิดบังหน้าตาของเขาจะปลิวหลุดเพราะไม่เหลือมือจะไปยึดจับ เปิดเผยใบหน้าออกมาทันที
“ท่านรัฐมนตรี..รัฐมนตรี!!” เป็นมังกรกับพยัคฆ์และคงคา ที่รู้จักหน้าตาคนผู้นี้ ยกเว้นหงส์ฟ้าที่รู้เช่นเห็นชาติมาก่อนไม่แปลกใจแม้แต่น้อย
โดยเฉพาะมังกรคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะพรรคการเมืองของคนผู้นี้เขาเป็นคนให้เงินสนับสนุนบำรุงพรรคไปไม่น้อย และเพิ่งผ่านมาไม่กี่วันในคืนที่เขาถูกบังคับพาตัวมาที่นี่ ก็เพราะไปงานเลี้ยงบ้านรัฐมนตรีคนนี้นั่นเอง
การทำลายล้างของเกลียวอากาศที่หมุนรุนแรง ไม่ได้ส่งผลเพียงแค่ผ้าโพกหัวปิดหน้าแบบอาหรับเฉพาะของหัวหน้าเท่านั้น ยังส่งผลให้กับผ้าสีดำที่โพกอำพรางหน้าตาของรามูน ที่ใช้ร่างกายอันใหญ่โตโอบรั้งป้องกันมังกรกับหงส์ฟ้าไม่ให้ถูกดึงเข้าไปในมวลอากาศด้วยเช่นกัน
รามูนที่มังกรไม่เคยเห็นหน้าตาแท้จริงมาก่อน และคาดหวังเป็นอย่างมากที่จะได้เห็น เขาเคยอยากรู้ว่าหน้าตาจ้าวแห่งสายลมจะเป็นแบบไหน รวมทั้งนักฆ่าขององค์กรมหาหิงค์ซึ่งต่างยึดเสารักษาชีวิตไว้อย่างสุดกำลังด้วยเช่นกัน ยังแบ่งสมาธิให้ความสนใจบุรุษในตำนาน ก่อนครางชื่อออกมาอย่างไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่านักฆ่าเทพพระกาฬ บุรุษในตำนานที่หาคนเทียบเทียมฝีมือไม่ได้ จะกลายเป็นคนที่พวกเขารู้จักมักคุ้นเป็นอย่างดี
“เงาทมิฬ!!!” โฉมหน้าที่เผยออกมาของรามูน กลับเป็นเงาทมิฬ นักฆ่าระดับแถวหน้าที่อยู่เฝ้าพวกลูกแก้วในห้อง ตอนที่ไปเชิญมังกรกับหงส์ฟ้ามาพบหัวหน้า ความจริงที่เกิดขึ้นมังกรถึงกับอึ้ง แต่ด้วยไหวพริบและปัญญา ทำให้เขายังไม่ปักใจเชื่อว่ารามูนคนนี้คือคนเดียวกับที่เคยเจอมาตลอด สิ่งที่ทำให้เขาคิดแบบนั้นมีเหตุผลและน้ำหนักเพียงพอ
ส่วนหนึ่งมาจากหงส์ฟ้าที่ไม่แสดงท่าทางอะไรแม้แต่น้อย มันผิดปกติสำหรับคนรักกันพึงจะเป็นจนเกินไป อีกอย่างคงคากับพยัคฆ์ก็ไม่ออกอาการแปลกใจต่อบุคคลนี้เช่นกัน การได้ใกล้ชิดกับรามูนที่ใครๆเรียกว่า..เงาทมิฬ ไม่ให้ความรู้สึกวูบวามเหมือนตอนที่ได้สัมผัสรามูนเช่นที่ผ่านมา
ความคิดต้องหยุดลง เมื่อเสียงร้องเจ็บปวดดังอย่างทรมานทางฝั่งของหัวหน้าหรือรัฐมนตรี พร้อมด้วยเสียงของอัคนีและพสุธา ดึงสติความคิดของเขาให้สนใจทันที บัดนี้ร่างพวกเขาลุกไหม้ด้วยไฟสีเงินที่แผดเผาทั่วร่างทั้งสามคน
“อร๊ากกก...โอยๆๆ..ร้อนๆๆ!!!” ไม่มีใครทันเห็นว่าไฟบรรลัยกัลป์ไปลุกท่วมร่างพวกเขาที่เกาะกันอยู่ได้อย่างไร ยกเว้นคงคาที่รู้ว่าลูกไฟบรรลัยกัลป์ที่หัวหน้าปล่อยออกมาเพื่อหวังกำจัดทุกคนนั้น ถูกซัดคืนต้นเหตุ
ตอนแรกลูกไฟเหล่านี้ถูกดูดเข้าไปในมวลอากาศที่เกิดจากท่าร่างซึ่งรวดเร็วของลูกแก้วที่หมุนเป็นเกลียว จนทำให้อากาศรอบตัวบิดควงสว่านอยู่รายล้อมร่างของเขา พร้อมกับเจ้าตัวใช้เข็มวายุซัดกระจายกลายเป็นเกราะป้องกันไฟบรรลัยกัลป์ที่ถูกดูดเข้ามาอย่างเจตนา ไม่ให้ทำอันตรายต่อร่างกายเจ้าของร่างซึ่งใช้ท่านี้อยู่ ช่างเป็นพลังฝีมือลึกล้ำขั้นสูงสุด เรียกว่า ‘วายุพิโรธ’
เขาไม่เคยเห็นหรอกนอกจากได้ยินได้ฟังมา ไม่คิดว่ามันจะรุนแรงร้ายกาจขนาดนี้ เพิ่งประจักษ์เต็มสองตาก็ตอนนี้แหละ ถึงจะเป็นหนึ่งในสี่จตุรเทพขององค์กร แต่รามูนหรือพี่ลมของน้องๆ เท่าที่ทราบยังฝึกไม่สำเร็จด้วยซ้ำ
ลูกแก้วกลับใช้วายุพิโรธได้อย่างไม่น่าเชื่อ แล้วมวลอากาศมหาศาลก็ค่อยๆคลายตัวผ่อนแรงดึงดูดลงช้าๆ จนสลายหายไปในที่สุด เหลือเพียงร่างสูงใหญ่ใบหน้าคมคายหล่อเหลายืนอย่างสง่างาม พร้อมกับสภาพแวดล้อมค่อยๆ คืนมาเป็นปกติ ทุกคนผ่อนคลายการเกร็งกล้ามเนื้อที่ต้านแรงดึงดูดอย่างโล่งอก
รอยดำบริเวณพื้นกองเป็นเถ้าถ่านเพียงชั่วเวลาไม่ถึงนาที เป็นจุดที่เคยมีร่างคนสามคน คือพสุธา อัคนีและหัวหน้าหรือรัฐมนตรีกอดรั้งกันอยู่ บัดนี้เหลือแค่ขี้เถ้ากองเดียว ไฟบรรลัยกัลป์ที่ร้ายกาจเผาจนไม่เหลือซากกระดูก มันเป็นแบบนี้เอง มังกรเพิ่งเข้าใจพิษสงที่หงส์ฟ้าหน้าซีดเผือดตอนอัคนีนำออกมาวางบนมือ และพี่สาวถึงกับยกมือยอมแพ้
ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นคืนสนอง แต่ทุกข์ของหัวหน้าองค์กรและลูกสาว พร้อมกับศิษย์รัก กลับถูกสนองผลกรรมจากน้ำมือของลูกแก้วแทน...???
มาต่อให้แล้วนะคะ ขอบคุณทุกกำลังใจทุกเม้นท์ทุกโพสฯ
และนักอ่านเงาที่น่ารักทุกท่าน รวมถึงนักอ่านที่ไม่ได้เป็นสมาชิกด้วยนะคะ
รักคนอ่านทุกคนค่ะ ใครที่ลุ้นกันอยู่เหลือไม่กี่ตอนแล้วนะคะ นับถอยหลังสี่ตอน
จบแล้วนะคะ ใครสนใจรวมเล่ม อ่านตอนหวานๆ 5 ตอน
ติดต่อได้ที่เมลล์ส่วนตัวนะคะ
Luk.
ปล.ไว้จะกดบวก กดเป็ดให้พรุ่งนี้เด้อ วันนี้กดยังไม่ได้ค่ะ