เมื่อวานเมาครับ ๕๕๕๕
วันนี้เห็นเม็นต์ของทุกคนแล้วชื่นใจ ขอบคุณที่ติดตามนะครับ
จากใจเลย
..............................
ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบยามเช้าบนเขาวัง ซึ่งเต็มไปต้นลีลาวดีต้นใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านอยู่ริมทางเดิน
นิลหยุดถ่ายภาพเหล่านั้นไว้เป็นที่ระลึก ส่วนเท็นก็คอยเดินตามเขามาช้าๆโดยได้พูดอะไรนัก
ปล่อยให้เขาใช้สมาธิในการถ่ายภาพ และเก็บรื่นรมย์ไปกับบรรยากาศที่เงียบสงบ
เท็นส่งสายคอยมองเขาอยู่ตลอดจนทำให้เขารู้สึกได้ มีจังหวะที่นิลหันไปแล้วก็สบตากับเท็นพอดี
เท็นจึงรีบหันไปสนใจดอกไม้ข้างทาง นิลนึกขำแล้วจึงหยิบกล้องมาเล็งเพื่อเก็บภาพเท็นไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะหันมา
เขาทำท่าไม่รู้ไม่ชี้แล้วหันกลับไปเดินต่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสูดหายใจลึกๆอย่างรู้สึกสบายใจ
พวกเขาพากันขึ้นไปบนหอดูดาว หรือที่เท็นเรียกว่ากระโจมแก้ว
บนนั้นพวกเขาสามารถมองเห็นเมืองเพชรบุรีแทบทั้งเมืองและเห็นได้ไกลออกไปจนสุดสายตา
“โว้ว ... สุดยอด” นิลพูด
เท็นยิ้ม “สมัยก่อน แม่เคยเล่าให้ฟังว่า คนเรือในทะเลต้องดูไฟจากที่นี่ เป็นที่หมายตา”
“อ้อ..” นิลพยักหน้า “เห็นไปถึงทะเลยเลยเหรอวะ”
“ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นชาวประมงแถวบ้านแหลม” เท็นอธิบาย
“เคยขับรถไปแถวนั้นเหมือนกัน มันมีสะพานข้ามแม่น้ำตรงปากน้ำออกทะเลพอดี ถ้าไปดูตอนพระอาทิตย์ขึ้นจะสวยมาก”
“เหรอวะ... เอาไว้มาคราวหน้ามึงก็พากูไปบ้างดิ” นิลแสดงท่าทีสนใจ
“ได้ แต่ต้องตื่นแต่มืดนะ”
“เออ.. เรื่องนั้นไม่เคยกลัว” นิลหัวเราะ
“แล้วกลัวอะไรล่ะ” เท็นถาม
“ก็..” นิลยักไหล่ “กลัวผีมั้ง”
เท็นยิ้มแล้วก็ส่ายหน้าก่อนจะเดินมานั่งบนราวระเบียง “กลัวจริงดิ”
“ก็นิดหน่อย” นิลยิ้มบ้าง
“เฮ้ย... เมื่อคืนแกล้งเล่นเฉยๆ”
นิลขมวดคิ้วหันไปหาเท็น “แกล้งอะไรวะ”
“ก็ทั้งหมดนั่นแหละ” เท็นตอบยิ้มหน้าตาย
นิลไม่ได้ว่าอะไรแต่ก็ยิ้มเชิงสงสัย
“ตอนไปดูหิงห้อยกูก็โยนหินลงน้ำเอง และรอยเท้าหน้าห้องน้ำกูก็ไปทำไว้เอง” เท็นทำหน้าเหมือนจะหัวเราะ
“เฮ้ย... ทำไงวะ รอยเท้าอ่ะ” นิลรู้ความจริงแล้วก็นึกขำตัวเอง
“กูก็ใส่รองเท้าไปไง ทำให้เท้าเปียกไปเดินแล้วก็ใส่รองเท้ากลับมา” เท็นอธิบาย
“โห พยายามเนอะมึงเนี่ย” นิลเกาหัวแบบอายๆ “เฮ้ย แล้วตอนที่ใส่ดินสอตกอ่ะ”
“ก็เอาเอ็นตกปลาติดเทปใสแล้วโยงมาข้างเตียง”
“เออนะ ลงทุนจริงๆว่ะ ที่จริงตอนมึงพาไปดูหิงห้อยนี่ก็โอเคอยู่นะ
ไม่น่าหลอกกูเลยว่าเป็นป่าช้า เสียบรรยากาศหมดเลย” นิลว่า
“ไม่.. อันนั้นเรื่องจริง มันเป็นป่าช้าแหละ”
“เหอะๆ” นิลหัวเราะเจื่อนๆ “แต่ไม่เป็นไร หิงห้อยที่นั่นเจ๋งจริงๆ” นิลยกนิ้วโป้งให้
“อืม.. สมัยก่อนเคยพาแฟนไปเหมือนกัน” เท็นว่า
“อ่านะ โรแมนติกเลยทีเดียว” นิลยิ้มแล้วเปลี่ยนไปนั่งบนราวระเบียงข้างๆเท็น
“ขอบใจที่พามา” เขาหันไปพูด
เท็นหันมายิ้มให้ นิลยิ้มตอบแล้วก็มองซ้ายมองขวาเพื่อดูมุมถ่ายภาพ
ก่อนจะลุกออกไปโดยที่เท็นยังนั่งรออยู่ที่เดิม
นิลเดินวนไปอีกด้านที่อยู่ตรงข้ามเพื่อดูวิว เขามองลอดช่องโค้งกลับไปหาเท็น แล้วนึกได้ว่ายังไม่มีรูปคู่กับเท็นเลย
“เฮ้ยเท็น.. มาถ่ายรูปกันดีกว่า” นิลตะโกนบอก “มุมสวยว่ะ”
“หือ...” เท็นหันมามองที่เขา
“ไม่ต้องลุกมา นั่งตรงนั้นแหละ” นิลว่าแล้วก็เดินไปเอากล้องวางบนราวของบันไดวนทางขึ้น
ก่อนจะเซ็ตตั้งเวลาและรีบไปนั่งข้างๆเท็น
“พร้อมๆ” นิลว่าแล้วก็เอามือกอดคอเท็นไว้แล้วยิ้ม
กล้องจับภาพไปหนึ่งจังหวะ แล้วเท็นก็หันมามองหน้าเขา
“เฮ้ย สามภาพเว้ย รีบหันมาทำไม” นิลว่า
“อ้าวเรอะ” เท็นยิ้ม
นิลลุกเดินไปและหยิบกล้องมากดดู “ว่าแล้ว ภาพแรกภาพเดียวเลย”
“ไหนเอามาดูหน่อยดิ” เท็นพูดขณะเดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆ
นิลยื่นกล้องให้เท็นไปแล้วพูดว่า “รูปที่สองกับสามมึงหันมาพอดีเลย”
เท็นยิ้มเหมือนจะหัวเราะ “เหมือนกูกำลังจะหอมแก้มมึงเลย” เท็นพูดแล้วยื่นกล้องกลับมา
นิลพูดไม่ออก เขารับกล้องมาดู “ก็.. ก็มึงหันมาพอดีเว้ย งั้นก็ลบไปก็ได้เก็บไว้ภาพเดียว”
“เฮ้ย อย่าลบดิ” เท็นแทรกหน้าเข้ามา จนนิลต้องเซหลบ
“ลบไปก็ได้ เก็บไว้ภาพเดียวพอ” นิลบอก
“ไม่เอา ภาพอื่นลบได้แต่ห้ามลบภาพที่กูกำลังจะหอมแก้มมึง” เท็นพูดขณะที่มีคนสองคนกำลังเดินขึ้นมาพอดี
ทันทีที่เห็นนิลก็รู้เลยว่าเขาต้องได้ยินสิ่งที่เท็นพูด
“เฮ้ย ไอ้บ้าเอ้ย” นิลอาย เขารีบเก็บกล้องแล้วเตรียมจะลงไปด้านล่าง
ผู้หญิงสองคนที่เดินสวนขึ้นมาก็มองมาที่เขา ทำหน้าเหมือนจะยิ้มให้ นิลเอามือเกาหัวแล้วก็เดินลงบันไดไปทันที
“ผู้หญิงคนเมื้อกี้เขายิ้มให้มึงด้วยนะ” เท็นพูดหลังจากที่เดินลงมาแล้ว
“เออดิ เขาคงได้ยินที่มึงพูดแหละ” นิลพูดขณะหยิบกล้องขึ้นมา
“จะทำอะไรอะ” เท็นถามแล้วรีบเดินมาข้างๆ “ห้ามลบนะเว้ย ไม่งั้นโดนแน่”
“เออ ไม่ลบหรอก” เขาว่าแล้วก็เอากล้องขึ้นมาเพื่อจะถ่ายภาพ
เท็นยิ้มแล้วก็เงียบปล่อยให้เขาได้ถ่ายภาพ
“เท็น แล้วนี่มีร้านกาแฟไหมวะ” นิลถามโดยที่สายตายังจดจ้องกับช่องมองภาพ
“ข้างล่างน่าจะมี” เท็นตอบ
“อืม เดี๋ยวแวะไปหน่อยดิ อยากกินกาแฟ”
“เออ ได้”
....
....
.....
.....
ที่ร้านกาแฟ นิลนั่งเช็ครูปอยู่ระหว่างรอ เท็นที่นั่งดูดโกโก้อยู่คอยหันมาชะเง้อดูรูปบ้าง
“ดูป่าว” นิลยื่นกล้องให้เท็น
เท็นส่ายหน้าแทนคำตอบแล้วก็ก้มไปดูดโกโก้ต่อ นิลจึงเก็บกล้องเข้ากระเป๋าแล้วเด็กผู้หญิงตัวน้อยก็เอากาแฟมาเสริ์ฟ
“ขอบคุณครับ” นิลพูดแล้วรับกาแฟมา
“อยากไปไหนต่อรึเปล่า” เท็นถาม
“ไม่ดีกว่า เดี๋ยวกลับมืด” เขาตอบ
เท็นพยักหน้าเข้าใจ นิลลองชิมกาแฟแล้วพูดว่า “เออ อร่อยดีว่ะ ลองไหม”
เท็นขมวดคิ้วส่ายหน้าให้
“เออ มึงไม่กินกาแฟนี่หว่า”
“ไม่เห็นอร่อยเลย ..ขม” เท็นดูดโกโก้หันมองไปทางอื่น
“โกโก้มึงก็หวาน ไม่เห็นน่าจะอร่อยเลย” นิลดูดกาแฟแล้วหันไปทางอื่นบ้าง
“ก็หวานอ่ะดิถึงจะอร่อย” เท็นเถียง
“ก็กูไม่ชอบกินหวาน” นิลแลบลิ้นทำท่าเหมือนคายของที่ไม่ชอบออกจากปาก
“แล้วของกูล่ะหวานไหม” เท็นพูดขณะส่งสายตาซ่อนทะเล้น
นิลเห็นแล้วสะอึกจนต้องบ้วนกาแฟออกมา เขารีบเอามือเช็ดปากแทบไม่ทัน
“เฮ้ยเป็นอะไรวะ” เท็นถามแล้วลุกขึ้นไปหยิบกระดาษทิชชู่มาให้
นิลคว้ากระดาษทิชชู่มาเช็ด ขณะที่เท็นพูดว่า “ไม่อยากลองชิมเหรอ กูว่าโกโก้ของกูไม่ค่อยหวานนะ”
นิลเหลือบขึ้นไปมองหน้าเท็นที่ยังคงตีหน้านิ่ง แล้วเขาเองก็ต้องรีบก้มลง “กูไปห้องน้ำแปบ”
ช่วงนี้เท็นทำตัวแปลกๆจนเขาเองชักจะไม่ไหว มันก็ดีตรงที่เขาสนิทกับเท็นได้ดีเหมือนก่อน
แต่ก็ยังคิดว่ามันดูเร็วจนเขาเองยังแปลกใจ
กลับมาถึงบ้าน เท็นก็พาเขาเข้าไปเก็บของ เสร็จแล้วพวกเขาก็ไปบอกลาทุกคน
ก่อนที่พี่ชายของเท็นที่ชื่อเอกจะขับรถออกมาส่งที่ท่ารถ
เมื่อขึ้นรถเท็นก็เดินเข้าไปตรงที่นั่งด้านในที่ติดกระจก นิลจึงต้องนั่งลงที่เบาะข้างๆที่ติดทางเดิน
แล้วเอาเป้วางไว้บนพื้นด้านหน้า
“เอาไหม” เท็นยื่นหมากฝรั่งมาให้
“ไม่อ่ะ” นิลส่ายหน้าพลางจัดระเบียบให้กับที่นั่งตัวเอง เท็นจึงเก็บหมากฝรั่งไป
“ถึงกรุงเทพรถต้องติดแน่เลย ว่ามั้ย” นิลหันไปคุยกับเท็น
“อืม” เท็นตอบสั้นๆแล้วหาว ก่อนจะหลับตาเอนหัวพิงกระจก
“อ้าว เฮ้ย” นิลว่าแล้วยิ้ม
ที่จริงเขาเองชอบนั่งด้านในมากกว่า เพราะเป็นชอบนั่งดูอะไรไปเรื่อย เวลาที่รถแล่นผ่านสถานที่ต่างๆ
แต่ครั้งนี้ทำไม่ได้เขาจึงเอนเบาะเล็กน้อย ก่อนจะดึงหมวกลงมาต่ำลงเพื่อปิดหน้าไว้และหลับตาลง
ตั้งใจจะงีบหลับตั้งแต่ก่อนที่รถจะออกตัว
จนเขาหลับไปได้สักพักก็รู้สึกตัว เพราะไหล่เหมือนถูกสะกิด
นิลใช้สติที่เพิ่งตื่นจากภวังค์พิจารณาแล้วก็รู้ว่า เท็นกำลังเอนมาพิงไหล่เขา
เขานั่งนิ่งไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบใดๆ แต่หัวใจเริ่มเต้นจังหวะเปลี่ยนไป
... จะมีคนเห็นหรือเปล่าวะ
..... ไม่เป็นไรเอาหมวกปิดหน้าไว้
... หวังว่ามึงคงหลับจริงๆนะ
..... ถึงหลับไม่จริงก็ไม่เป็นไร เพื่อนกัน
... แค่เพื่อนจริงเหรอ
..... เพื่อนไง
... กูเคยมีอะไรกับมันแล้วนี่หว่า
..... มันเป็นการเข้าใจผิด ไม่ได้ตั้งใจ
... แล้วครั้งที่สองล่ะ
..... อันนั้นมัน เอ่อ...
... มันยังไงนะ
..... เมาไง เพราะเมา
... รู้ได้ยังไงว่ามันเมา
..... ก็... เฮ้ย จะคิดทำไมเนี่ย
... เท็นมันกลับมาเพชรบุรีทำไมนะ
..... กลับมาบ้านไง ไม่เห็นแปลก
... ที่มันพาไปนอนบ้าน พาไปเที่ยว มันจะคิดอะไรไหมวะ
..... ไม่ไม่ไม่ ไม่มีทาง มันมีแฟนแล้ว และเราก็เป็นเพื่อนมัน
... ถ้าได้เป็นแฟนกับมันจะเป็นยังไงน้า
..... เฮ้ๆ พอเหอะ เลิกคิดเลย
... ??
..... หลับดีกว่า อย่าไปสนใจ
... ผมมันทิ่มคอ
..... เอาน่า ช่างมัน
... เมื่อยคอ เอนหัวไปหามันดีไหม
..... อ่ะ จะบ้าเหรอ ต้องเอนหนีดิ เฮ้ย หยุดคิดดิวะ
นิลลืมตาขึ้นมาภายใต้การปิดปังใบหน้าของหมวกใบเก่ง
คนข้างๆนั่งกอดอกเอาไหล่มาเบียดและเอนหัวมาซบไหล่เขา
ถ้ามองจากมุมของคนอื่นคงจะเป็นภาพที่โรแมนติกไม่น้อยทีเดียว แต่มันชักจะผิดที่ผิดทางและผิดสถานะไปไกล
เขาผ่อนลมหายใจเบาๆแล้วหลับตาลงอีกครั้ง ก่อนที่มือของเท็นจะหล่นไปวางตรงต้นขาของเขา
นิลใจหายแวบลืมตาขึ้นมาส่องอีกครั้ง
... เชี่ยเอ้ย นิลคิดในใจอย่างคนอยากจะร้องไห้
..... .. .......