........... .... .............
รื้อฟื้น : นิล
“ยังไงวะมึง ไหนบอกจะพาจินมาหาหมอ ดันมานอนโรงบาลซะเอง” นิลยืนยิ้มเยาะเพื่อนอยู่ข้างเตียงคนป่วย
“เออ แม่งซวยโครต โรคกระเพาะกำเริบซะงั้น”
“ปืนทำงานหนักหรือนิล หรือว่าเที่ยวเถลไถลไม่กลับบ้าน” จินถามขณะเอาน้ำดื่มใส่แก้วยกมาให้เขา
“ขอบคุณครับ” นิลรับมาแล้ววางไว้บนโต๊ะ “ที่ชวนผมมานี่ กะจะเรียกมาสอบปากคำใช่ไหม”
จินยิ้ม “ป่าว... ก็ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ปืนเอาแต่ทำงานไม่ได้พาจินไปไหนเลย”
“อืม.. มันทำงานจริงๆ หัวหน้าเขาเริ่มงานใหม่พอดี พี่อีกคนเขาลาบวช ปืนเลยต้องทำแทน”
ปืนได้จังหวะเลยพูดว่า “เห็นไหม บอกแล้วว่าไม่ได้โกหก”
“เตี๊ยมกันมาป่าวเนี่ย พูดซะเหมือนกันเลย” จินทำหน้าจ้องจับผิด
“ป่าว... ไม่ได้เตี๊ยมเลย” นิลหัวเราะ
“แล้วชลล่ะ” จินถาม
นิลดูนาฬิกาแล้วตอบว่า “อีกชั่วโมงแหละมั้ง มันบอกว่าเพิ่งออกมา”
“จิน ไปได้แล้วมั้ง หมอนัดไม่ใช่เหรอ” ปืนทัก
“อืม งั้นเดี๋ยวจินลงไปหาหมอก่อนนะ” จินพูดแล้วก็เดินไปหยิบกระเป๋า
“ให้ไปเป็นเพื่อนไหม” นิลถาม
“ไม่ต้องหรอก นิลอยู่คุยกับปืนเหอะ”
“ปืนอยากกินซาลาเปา ให้นิลมันลงไปด้วยแหละจะได้ซื้อซาลาเปามาให้ด้วย” ปืนร้องบอกแฟน
นิลจึงลงมาเป็นเพื่อนจินที่ชั้นล่างและรอจินพบหมอ เสร็จแล้วก็ออกไปซื้อของด้วยกัน
“จินยังดูไม่เหมือนคนท้องเลยนะ ผมว่า” นิลบอกขณะเดินลงบันไดลงมา
พลางคอยสังเกตแฟนของเพื่อนอย่างระมัดระวัง
“แหมเพิ่งจะสี่เดือนกว่าๆ”
“ดูอ้วนขึ้นมากกว่า... แต่นี่ก็ปกตินะ” นิลยิ้ม
“แต่ก่อนเขาก็ไม่ได้อ้วนนะ” จินว่า
“อ้อเหรอ” นิลแกล้งขำ
“ร้ายกาจนะนิล เดี๋ยวเหอะ” จินยิ้มๆเอามือมาตีไหล่เขา
“อย่าเล่นเลย พอๆ.. เดี๋ยวตกบันไดไปแล้วผมไม่ได้เห็นหลาน”
....
....
หลังจากชลมาถึงแล้วเยี่ยมปืนเสร็จ นิลก็แวะไปเดินเล่นที่เซ็นทรัลลาดเพร้ากับชลสองคน
ก่อนจะแยกย้ายกัน นิลนึกเบื่อๆเลยยังไม่กลับไปที่ห้อง
ยามเย็นบนเรือโดยสารที่แล่นอยู่บนแม่น้ำเจ้าพระยา
พระอาทิตย์ส่องแสงกระทบสิ่งก่อสร้างอันสวยงามของกรุงเทพมหานคร
นิลลุกขึ้นจากที่นั่งเดินไปที่ท้ายเรือ เขามองย้อนไปตามลำน้ำขณะที่เรือบเทียบที่ท่าสะพานพุทธ
วันนี้เขาไม่มีจุดหมายแต่ก็ไปตามหัวใจที่นำสมอง นิลเดินมาเรื่อยๆจนถึงเสาชิงช้า
เขาแหงนมองชิงช้าสีแดงอันใหญ่นั้น มันช่างดูกลมกลืนดีกับท้องฟ้าที่ใกล้จะมืดเต็มทน
...จะไปไหนดี...
เขานึกในใจก่อนจะพาตัวเองเดินก้าวต่อไป
“นิล” เสีงใครบางคนเรียกเขา
นิลหันซ้ายหันขวาก่อนจะมองย้อนไปทางด้านหลัง แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเท็นที่กำลังจะวิ่งข้ามถนนมา
“อย่าเพิ่งไปนะ” เท็นตะโกนขณะที่หยุดรอรถที่วิ่งผ่านไปไม่หยุด
นิลยืนนิ่งๆไม่รู้จะหนีทำไม คิดไม่ออกว่าควรทำอย่างไร เขายังคงกลัวใจตัวเอง
“ขอโทษนะ ขอโทษ” เท็นพูดเมื่อเดินมาถึงตัวเขา
นิลนิ่งไม่มองหน้าเท็น เขาหันไปดูกิจกรรมของผู้คนในลานคนเมือง
“ไปร้านนมกัน” เขาพูด
.....
.....
พวกเขาถือนมกันคนละแก้ว เดินไปตามถนนจนมาออกราชดำเนิน
ยังไม่มีคำพูดใดๆที่เป็นจริงเป็นจัง จนนิลเอ่ยปากในที่สุด
“สบายดีไหม”
เท็นเงียบไปอึดใจก่อนจะพูดตอบกลับมา “ไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
“ทำไมอ่ะ”
“เหงา”
นิลเงียบคิดดูว่าตัวเองควรจะถามหรือไม่
“เลิกกับพิมนานแล้ว พิมไปอยู่เมืองนอก” เท็นพูดคำตอบ ของสิ่งที่เขาอยากจะถามออกมาก่อน
“แล้วลูกล่ะ”
“ชื่อน้องพิว พี่เอกรับเป็นพ่อ”
นิลดูดนมจากแก้วที่เหลือแต่น้ำแข็งแล้วไม่ได้พูดอะไรต่อ
“นิลกูรักมึงนะ อย่าหนีอีกได้ไหม”
“.....”
เขาหยุดเดิน รู้สึกวูบๆเหมือนตัวเองจะหายวับไปจากตรงนั้น
“ได้ไหม.... มึงรักกูบ้างไหม” เท็นถาม
นิลทำอะไรไม่ถูก พยายามคิดว่าควรทำยังไงแต่ก็คิดไม่ออก จนเท็นเอามือมาจับมือเขา
นิลรีบยกมือขึ้นด้วยความตกใจ “เฮ้ย..”
เขามองหน้าเท็นที่แสดงสีหน้าเหมือนจะเจ็บปวด
“ก..” เขาพูดอะไรไม่ออก
“ช่างเหอะ มันไม่สำคัญหรอก”
“เท็น....” นิลยังอ้ำอึ้ง
เท็นทำสีหน้าเรียบเฉย แววตาที่แสดงความรู้สึกเมื่อสักพักหายไป
“กูไม่ถามหรอกว่าผู้หญิงที่โรงพยาบาลเป็นใคร หรือผู้ชายที่ไปกับมึงวันนี้เป็นคนที่มึงคบอยู่หรือเปล่า”
เท็นมองมาที่เขาด้วยสายตาที่นิ่งดูจริงจัง “กูไม่สนใจ”
นิลกลืนน้ำลายเอือกใหญ่ จะบอกว่าเขินก็ไม่ถูก จะดีใจก็ไม่ใช่
มันกล้าๆกลัวๆ ไม่รู้ว่ามันคือความรู้สึกประเภทไหน
“กูจะกลับแล้ว มึงไปเหอะ” เท็นพูด
นิลมองตามเท็นที่เดินย้อนกลับไปตามทางเดิม
จนเท็นเดินลับสายตาไป เขาจึงก้าวเดินต่อไปข้างหน้า
เพราะใจไม่กล้าพอที่จะย้อนกลับไป ถ้าวันหนึ่งมันไม่เป็นอย่างใจนึก
แล้วเขาจะต้องหนีไปไหนอีก มันคงจะเจ็บกว่าเดิมหลายเท่า
....
....
....
....
“บักคิม” เสียงใครบางคนเรียกเขา ขณะที่กำลังนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะ
นิลหันไปที่หน้าประตู ก็เห็นพี่มั่นกวักมือเรียกให้ออกไปหา
คนในไลน์ชอบเรียกเขาว่าคิม ย่อมาจากคิมอะไรสักอย่างที่เป็นชื่อเกาหลี
แต่ก็ยังนึกตลกมุขชื่อคิมจีวร คิมสบง อยู่ไม่หาย
“อะไรครับพี่” เขายิ้ม
“ไอ้งาน ที่เจ้าเอามาให้อ่ะมันวัดแล้วบ่ได้เด๊” พี่มั่นว่า
“จุดไหนพี่”
พี่มั่นเอาใบตรวจเช็คมาให้ดู “โอเวิ่อร์ติล่ะ นี่ๆ”
“ซวยและ ผมจะส่งอนุมัติแล้วนะเนี่ย”
“เอาจั่งได๋ เอาจั่งได๋”
นิลทำท่าคิด “เอางี้พี่ พี่อย่าเพิ่งส่งผลเอากลับไปแก้ให้ค่ามันได้สเป็คไปก่อน
เมคเลยพี่เดี๋ยวผมให้ปืนแก้งานจริงที่หลัง”
“โอเคๆ เดี๋ยวซิจัดให้”
“ขอบคุณนะครับพี่”
“สเป็คเจ้านี่เฮ็ดยากโพด ฮับงานเฮ็ดง่ายๆบ่ได้ติล่ะ”
นิลหัวเราะ “ผมไม่ได้เป็นคนรับงานนะ ว่าพี่อเนกโน่น” โบ้ยไปหาพี่อเนกที่ทำงานอยู่ในห้อง
“เจ้าก็คือกัน เสป็คสูงแท้”
“อะไรพี่ เกี่ยวกับงานป่าวเนี่ย” เขาหยีตาทำท่าสงสัย
“วู้... ผู้สาวเขามักกันทั้งบริษัท บ่เอาไผจักเถือ” พี่มั่นว่าทำหน้าหยอก
นิลเอามือเกาหัว “เดี๋ยวสิพี่ ขอดูๆไปก่อน”
“ป้าด.. คิดหยังหลาย” พี่มั่นลากเสียงยาว “บ่ต้องคิดแล้ว ย่านอิหยังก็บ่ฮู้ กะด้อกะเดี้ย"
นิลหัวเราะไปกับพี่มั่น ในใจก็แอบคิดถึงเรื่องที่เท็นมาบอกรักเมื่อสองวันก่อน
ถ้าไม่กลัวจะต้องผิดหวัง เขาอาจจะไม่ต้องคิดอะไรให้มากขนาดนี้ก็ได้
.......... .. ...........