น้องหมอ กะ พี่วิศวะ [32]ครอบครัวของกานและดิศออกเดินทางก่อนวันเกิดของลูกชายทั้งสองคนก่อนหนึ่งวัน โดยสารเครื่องบินไป
เพราะพ่อกับแม่เช่ารถไว้แล้วที่โน่นสองคัน การเดินทางครั้งนี้มีคนรวมทั้งหมด 8 คน
คือ พ่อแม่ของดิศกับกาน พี่ชาย(ของดิศ)สองคน และดิศกับกาน
ส่วนพี่สาวบุญธรรมของกานเพราะติดธุระเลยไปด้วยกันไปได้
พอลงเครื่องที่ภูเก็ต รถที่เช่าไว้สองคันก็มาถึงแล้วเรียบร้อย
คันนึงเป็นของพวกพ่อและแม่ อีกคันก็เป็นของหนุ่มๆ
ซึ่งดิศกับกานค่อนข้างเซ็งเล็กน้อยตรงที่ เพิ่งจะไปทะเลกับไอ้พวกบ้านั่นได้ไม่นานเท่าไหร
แล้วนี่ก็ต้องมาทะเลอีกแล้ว ไม่รู้ทำไมต้องทะเล แต่เห็นว่าพ่อจองรีสอร์ทแบบห้าดาวเอาไว้ให้
แบบนี้ค่อยคุ้มค่ากับการมาหน่อย เพราะคิดว่าคงไม่ค่อยได้กินเหล้าแน่นอน
“ไปเจอกันที่รีสอร์ทนะหนุ่มๆ” เดชพ่อของดิศในตำแหน่งคนขับรถโบกมือลา ก่อนที่จะขับตรงไปทางรีสอร์ทเพื่อจัดการเรื่องห้องพักให้กับทุกคน
“ใครจะขับ?” พี่พัฒน์ พี่ชายคนโตถามขึ้น
“ก็พี่น่ะแหละ ถือกุญแจอยู่นี่” พี่วิน พี่ชายคนที่สองว่าเข้าให้
“เฮ้ย ได้ไง เมื่อคืนกูทำงานหลังขดหลังแข็งไม่ได้นอนซักแอะ แล้วยังต้องโดนแม่ลากมานี่ เพื่อมางานวันเกิดไอ้ตัวเล็กสองคนนี่เหรอวะ โตเป็นควายป่านนี้แล้ว ยังต้องจัดงานวันเกิดอีกรึไง หาเรื่องกินเหล้ากันล่ะสิไม่ว่า โถ๊ะ!!”
พี่พัฒน์ชี้นิ้วไปที่ดิศกับกานที่ยืนทำหน้าเซ็งอยู่ข้างๆกัน
....รู้แล้วจะบ่นอีกนะก็ได้แต่คิดในใจ ใครจะกล้าพูดออกจากปากไปล่ะ โดนโบกแน่ๆ
พี่พัฒน์(กวีพัฒน์) พี่ชายคนโต ทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ อายุ 28 ปี
รูปร่างหน้าตาเข้าขั้นว่าเป็นนายแบบได้คนหนึ่งเลยทีเดียว สูงเท่ากับดิศ แต่หน้าตาคมคายกว่า หรือหล่อกว่านั่นแหละ
สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเคยมีแมวมองมาทาบทาม แต่พี่แกก็ด่าซะเปิงไปหมด ชื่อเสียงด้านปากร้ายนี่เข้าขั้นมาก
จนหลังๆนี่ไม่มีทั้งหมามองแมวมองเข้าใกล้พี่แกอีกเลย นอกจากปากร้ายแล้วยังขี้บ่นอีกตะหาก บ่นจนแม่ต้องยอมแพ้
พี่วิน(กวินภพ) พี่ชายคนที่สอง กำลังฝึกงานการเป็นประธานบริษัทต่อจากคุณพ่อ อายุ 27 ปี
ตัวเล็กกว่าใครในหมู่พี่น้อง แม้แต่ดิศที่เป็นน้องอายุน้อยกว่าตั้งเจ็ดปี มันยังสูงนำหน้าพี่มันไปแล้วเลย
แต่ถึงจะอย่างนั้นความสูงก็ยังอยู่ที่ 180 อยู่ดี หน้าตาออกจะแปลกแยกจากพี่น้องซะหน่อย
เพราะหน้าเหมือนแม่ทุกกระเบียดนิ้วเลย ตาโตหวาน คิ้วเล็กเรียว ปากนิดจมูกหน่อย
เป็นคนที่ไม่พูดมาก อ่อนโยน แต่เวลาอยู่ที่บริษัทกลับเอาจริงเอาจังจนน่ากลัว
“งั้นผมขับเองก็ได้มา” พี่วินดึงกุญแจไป กดเปิดรถก่อนจะเรียกทุกคนให้ขนของขึ้นหลังรถซะ
“แล้วของตัวเองทำไมมึงไม่มาขนละวะ?!”
“ผมขับรถไง งั้นพี่ก็มาขับละกัน”
“เหอะ!!” ยอมขนกระเป๋าเสื้อผ้าของน้องแต่โดยดี
/“แล้วนี่จะเข้ารีสอร์ทกันเลยมั้ย?” วินตั้งใจจะถามน้องๆที่นั่งกันอยู่ด้านหลัง
ดิศอ้าปากจะตอบว่า...อยากจะไปซื้อขนมที่ตลาดซะหน่อย
“ก็เออซิวะ กูง่วงจะตายแล้วเนี่ย” แต่กลายเป็นพัฒน์ที่ตอบแทน
“เดี๋ยวดิศค่อยออกมากับกานก็ได้พี่วิน เข้ารีสอร์ทพาตาแก่นี่เข้าไปนอนก่อนเถอะ”
“มึงว่ากูแก่รึไง” คิ้วกระตุก
“เห็นปะแก่แล้วหูก็ไม่ค่อยดี”
“เฮ้ยไอ้หนูนี่โตขึ้นมาแล้วปากดีนี่”
“ไม่ใช่แค่ปากนะที่ดี”
“โฮ๊ะ!!”
“พอๆ ผมขอสมาธิหน่อยนะ ยิ่งไม่คุ้นทางอยู่ด้วย ช่วยมองทางกันหน่อย” วินว่ายิ้มๆ
แต่ก็เป็นปกติ..คือทุกคนจะฟังวินอยู่แล้ว ทั้งที่เป็นพี่คนรองแท้ๆ
....เจริญล่ะพี่พัฒน์/พ่อและแม่ได้จองบ้านพักไว้หนึ่งหลังใหญ่ๆ ก็รีสอร์ทห้าดาวนี่เนอะ ถามว่ามันมีอะไรบ้าง
มันก็มีแทบจะทุกอย่าง ตั้งแต่ห้องนั่งเล่น แล้วก็มีครัวเอาไว้ให้ทำอาหารกัน
สระส่วนตัวที่ไม่ได้ใหญ่มากมายนัก แต่ว่า...สระส่วนตัวเลยนะว้อยยย
ตั้งอยู่ด้านหลังบ้าน หันเข้าหาทะเล รอบข้างสระมีต้นไม้มากมาย
มีห้องพักทั้งหมดสี่ห้อง ชั้นบนสองห้อง ชั้นล่างสองห้อง
ผู้ใหญ่ทั้งสี่คนจองห้องข้างล่างไปแล้ว ห้องข้างบนเลยให้เด็กๆแบ่งกันเอาเองว่าใครจะนอนห้องไหน
แต่หนึ่งในนั้น ห้องอาบน้ำจะมีจากุซซี่ในห้องน้ำ แน่นอนว่าห้องนั้นตกเป็นของเจ้าของวันเกิดทั้งคู่
เพราะพี่พัฒน์ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เจอห้องแรกปุ๊บ กูเปิดปั๊บ
เดินเข้าหาที่นอนแล้วก็ล้มตัวลงนอนทันที ไม่ฟังเสียงอะไรทั้งสิ้น
ส่วนพี่วิน เป็นคนไม่เรื่องมาก นอนไหนก็ได้ ก็เลยเข้าไปจับพี่ชายให้นอนดีๆ
ดิศกับกานลากกระเป๋าเข้าห้องไป ลงกลอนประตู แล้วก็เริ่มเดินสำรวจห้องพัก
ห้องกว้างพอสมควร มีเตียงขนาดคิงไซส์อยชิดผนังห้อง ข้างๆเตียงเป็นห้องน้ำ
ซึ่งมันเจ๋งตรงที่ มันเป็นกระจกแบบเห็นครึ่งท่อนบน
“เพื่ออะไรว่ะเนี่ย?” กานสงสัยกับไอ้กระจกนี้มาก
“ก็เอาไว้ให้ดูตอนมึงอาบน้ำแล้วให้กูว่าวไปด้วยไง” ดิศเข้าไปกอดเอวพูดหน้าทะเล้น
“ส้นตีนเหอะ กูไม่ใช้ผู้หญิงนะ” กานขมวดคิ้ว
“เอาอีกละ บอกว่าอย่าเอาตัวเองไปเปรียบกับผู้หญิงไง” ดิศจูบตรงหว่างคิ้วที่กำลังขมวดเป็นปมของกาน
“แล้วมีใครที่ไหนเขาใช้ผู้ชายมาว่าวบ้างละวะ”
“กูไง” ดิศยิ้มกว้างเพื่อให้กานยิ้มได้บ้าง
กานยิ้มน้อยๆก่อนจะซุกหน้าเข้าที่อกกว้างของดิศ นิ่งซะจน...น่ากังวล
“มีอะไรไม่สบายใจเหรอ?” ดิศถามพลางหอมผมของกาน โยกตัวไปมาเหมือนกล่อมเด็ก
“มึงว่า....ฟู่วว” ไม่ทันจะถามจบก็ถอนหายใจออกมาซะก่อน
“ถามให้จบซิครับคนดี?”
“ถ้าพ่อกับแม่รู้ว่า...เรา..มึงกับกู..คบกันล่ะ มึงจะว่ายังไง?” กานเงยหน้าขึ้นสบตาดิศ
“กังวลเรื่องนี้เองเหรอ?” ดิศหัวเราะในคอทำเหมือนไม่ได้สนใจอะไรมาก จริงๆก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ
“อย่าทำเป็นเล่นซิวะ” กานว่า
“ไม่ได้เล่นนะ แค่ไม่เห็นประโยชน์จากเรื่องนี้เท่านั้นเอง กานครับ..” ดิศก้มลงจูบที่หน้าผากก่อนทีนึง
“เคยได้ยินมั้ย? อนาคตมันเป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึง เราไม่ควรไปกังวลหรือคิดมากกับมันนะ เราควรมีความสุขกับปัจจุบันสิครับ รู้มั้ยน้องกานของพี่”
“กูเกิดหลังมึงแค่ไม่กี่ชั่วโมงอย่ามาเรียกกูน้องนะ หึ”
กานยิ้ม เป็นยิ้มที่ออกมาจากใจจริงๆ เหมือนกับคำพูดของดิศเป็นลมเป็นพายุ
ที่พัดพาหอมเอาทุกอย่าง ทุกเรื่องที่เขากังวลใจออกไป
....ขอบใจจริงๆ/“สุขสันต์วันเกิดไอ้ตัวเล็กทั้งสองคนนะ อายุ 19 แล้วนี่..อยากได้อะไรมั้ย?”
“ดีเลยพ่อ ดิศขอบ้านและที่ดิน รถ ทองแท่งสัก 100 บาท แหวนเพชรสัก 4 กะรัต”
“พอเลย” พ่อของดิศปราม “เอ็งจะเอาไปแต่งใครรึไง?”
“แม่นแล้ว” ดีดนิ้ว
“ไอ้หนูเอ็งมีแฟนแล้วรึ?”
“โหพ่อ อายุป่านนี้แล้ว” กานสะดุ้งแอบมองคนข้างๆ
“แล้วกานละมีแฟนรึยัง?” พ่อของกานหันไปถามลูกชายตัวเองบ้าง
“อะ..เอ่อ..” กานก้มหน้างุด
“มีแล้วครับ” ดิศตอบแทน
“เหรอจ๊ะ?” แม่ของกานทำหน้าตาตื่นเต้น
“เลิกพูดเรื่องแฟนของไอ้พวกเด็กแก่แดดสักทีเถอะครับ แชมเปนอ่ะจะเปิดมั้ย?” พี่พัฒน์ตัดบทฉับ
ดิศกับกานรู้สึกของคุณอยู่ลึกๆที่พี่พัฒน์ชวนเปลี่ยนเรื่อง
และแล้วก็ถึงเวลา...ร่ำสุรา
แต่ดื่มกันได้ไม่นาน ไอ้ตัวเล็กของที่บ้านสองคนก็ต้องโดนไล่ไปนอน
ข้อหาเป็นเด็กเป็นเล็ก ห้ามดื่มเหล้าเยอะ
หารู้ไม่ ตอนอยู่กับเพื่อนนี่..แทบจะอาบกันวันเว้นวัน
.
.
.“ยังไม่สะใจเลยเว้ยย” ดิศบ่นทันทีที่ถึงห้องนอน
กานปิดประตูยิ้มๆก่อนจะลงกลอนตามความเคยชิน
“เอาน่า..ก็ยังเด็กอยู่จริงๆนี่นา” เดินนำหน้าดิศเข้าไป เอาโทรศัพท์ไปวางไว้ที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
“เด็กที่ไหนมันจะทำเรื่องแบบนี้ได้” ดิศเดินเข้าไปประกบจากทางด้านหลัง
วงแขนกว้างกอดกานจากด้านหลัง กดจูบที่ต้นคอ
“อย่าทำให้เป็นรอยนะ” กานเตือน
ถอดเสื้อกานออกจากตัว ดิศทั้งจูบเบาๆทั้งลากปลายลิ้นตามแนวสันหลัง
กานได้แต่ครางอือในลำคอ
ดิศจับกานให้พลิกตัวหันมารับจูบจากริมฝีปากร้อน กอดจูบกันจนปากแทบเปื่อย
คนตัวโตกว่าถอดเสื้อของตัวเองออกบ้าง กานมองรูปร่างของดิศที่มีกล้ามเนื้อแบบคนออกกำลังกายประจำ
แล้วเป็นฝ่ายเข้าไปจูบที่หน้าอกและลำคอของดิศก่อนบ้าง
“อา..กานมึง..ยั่วกูเหรอ”
ดิศผลักกานให้นอนลงบนเตียงแล้วตามขึ้นไปคร่อมร่างผอมบางนั่น
“กูไม่ได้ยั่วนะ” ลางปลายนิ้วที่หน้าอกนั่น
“แบบนี้แหละที่บ้านกูเรียกยั่ว” ก้มลงบดจูบ..ร้อนแรงจนแทบหายใจไม่ทัน
เสื้อผ้าหลุดหายไปตอนไหนไม่รู้ ทั้งสองเริ่มเล้าโลมกันไปมา
มารู้ตัวอีกทีคือ...
“เฮ้ย..” ดิศชะงัก
“อะไรเหรอ?” กานถาม..หน้าตาตอนนี้ช่างชวนกระทำ จนดิศแทบจะทนไม่ไหว
“กู..ลืมเจลกับถุงมาว่ะ”
“...”
“ให้กูเถอะนะกาน” เสียงอ้อน
“อื้อ” ตอบแบบอ้อมแอ้ม “แต่กูจะเจ็บมั้ยอ่ะ ไม่มีเจล”
“ใช้โลชั่นแทนนะ”
กานพยักหน้า ดิศเลยเดินไปหยิบโลชั่นในกระเป๋าออกมา ก่อนจะกลับมานั่งที่เดิม
จับขาเรียวทั้งสองข้างแยกออกจากกัน ขยับตัวเข้าไปนั่งใกล้ๆ
บีบโลชั่นที่เอามาทาที่ปากทาง และนิ้วตัวเอง
ดันมันเข้าไปเบิกทาง เพื่อที่คนข้างใต้จะได้ไม่เจ็บมาก เพราะไม่ได้ทำอะไรกันบ่อยถึงขนาดนั้น
แต่ถึงจะแบบนั้นก็ต้องเตรียมร่างกายให้จะได้ไม่เจ็บ ถามว่าต้องถึงขนาดนี้เลยเหรอ
คนอื่นเป็นไงไม่รู้ กลัวว่าคนข้างกายจะเจ็บ ก็ต้องทำ เพราะความรักล้วนๆ
....ไม่งั้นจะเรียกว่าทำรักเหรอคร้าบบบบบ“ดิศ..”
“หืม”
“เข้า..มาได้แล้ว”
ดิศค่อยๆดันกายที่ทาด้วยโลชั่นจนสุดทาง ขยับอย่างเนิบช้าเพื่อให้กานได้ปรับตัว
แต่ไม่นานดิศก็กดขาของกานจนเข่าแทบจะชิดหน้าอกแล้วขยับเร็วขึ้น
กานพยายามะเก็บเสียงครางของตัวเอง เพราะที่นี่..ไม่ได้มีแค่สองคน
บางครั้งที่ดิศขยับโดนจุด มันเสียวจนแทบจะกรีดร้องออกมา
จนต้องยกมือขึ้นมาปิดกลั้นเสียงร้องของตัวเองที่มันจะออกมาจากปาก
ดิศปล่อยขากาน แล้วดึงมือทั้งสองข้างที่กานใช้ปิดปากตัวเองอยู่ ออก
แล้วตามลงไปจูบริมฝีปากแดงๆนั่นของกานอย่างรักใคร่
“อะ..ดิศ..ดิศ” กานยกแขนขึ้นกอดรอบคอดิศแน่น ทั้งๆที่คนด้านบนก็ยังไม่หยุดขยับส่วนที่เชื่อมต่อกัน
“จะไปแล้วเหรอ?” ดิศกระซิบถามเสียงพร่า
“อื้อ”
ดิศเอื้อมมือดึงแขนของกานออก แล้วยันตัวขึ้น จับกานน้อยรูดขึ้นลงพร้อมกับขยับสะโพกไปด้วย
กานกลั้นเสียง ใบหน้าน่ารักนั่นเชิดขึ้นด้วยอารมณ์ที่ขึ้นสูง ไม่นานนักคนข้างใต้ก็เสร็จ
น้ำสีขาวขุ่นราวกับสีน้ำนมพุ่งเต็มหน้าท้องผอม กานนอนหอบแรง ช่องทางด้านหลังกระตุ้น
ให้ดิศต้องซอยสะโพกถี่ รู้สึกเสียวจนแทบจะไปทันที
ไม่นานนักหลังจากที่กานเสร็จ ดิศก็ตามไป
ปลดปล่อยทุกหยาดอารมณ์ ในตัวกาน คนข้างใต้รู้สึกวูบๆในช่องท้อง
มันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยเจอ เพราะดิศใส่ถุงตลอด
แต่คราวนี้ไม่ได้ใช้
“ฮ่ะๆๆ” ดิศยิ้ม
“สมใจมึงเลยละซิ” กานว่ายิ้มๆ
“ครับ” ตอบสั้นๆ แล้วถอนกายออก ตามก้มลงจูบหน้าผากและขมับที่ชื้นเหงือ
ล้มตัวลงนอนแล้วดึงเอวกานเข้ามากอดไว้
“รักนะ” ดิศบอกเสียงหวาน
“อื้ม..เหมือนกัน”
“สุขสันต์วันเกิดนะ”
“เหมือนกัน” กานจูบปลายคางของดิศแล้วยิ้มให้
.
.
.เราเกิดมาเพื่อเป็นของกันและกัน
เป็นทั้ง..ครอบครัว..เพื่อนสนิท..และ..คนรัก
เป็นทุกๆอย่างของชีวิต
ก็อย่างที่เคยพูดไว้
....เราอยู่ในที่เดียวกันในเวลาเดียวกัน และหายใจใช้อากาศร่วมกัน และเราก็รักกัน TBC,,,มันหายไปหมดเลย ทั้งนิยายทั้งคอมเม้น

เม้นให้เค้าใหม่นะคะ กระซิกๆๆ

อีกไม่กี่วันคงเอาตอนใหม่มาให้อ่านนะคะ
