♕♕♕ ดีสุดขั้ว & ชั่วสุดขีด ♛♛♛ [Up. Special 1 P.102 13/5/58]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♕♕♕ ดีสุดขั้ว & ชั่วสุดขีด ♛♛♛ [Up. Special 1 P.102 13/5/58]  (อ่าน 1139766 ครั้ง)

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
เด้วเด็กๆไปเจอเฮดีส มีหวังหงอยแหงมๆๆอ่ะ 55555

ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3
จะนานแค่ไหนก็จะรอ แต่อยากอ่านไวๆ นะครับ

ออฟไลน์ lie-boy

  • การแก้แค้นที่ดีที่สุด คือ การประสบความสำเร็จให้มากกว่า
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +270/-1
    • poypoy & lieboy
สุดขั้ว 14

รับปากจะดูแลลูกของพี่ไนซ์อย่างดิบดี อย่างนี้ผมก็ปล่อยให้ลูกของเขาเป็นอาหารของยักษ์ไม่ได้น่ะสิ! โฮ ขนาดตัวผมเองยังจะเอาตัวไม่รอด จะไปมีปัญญาที่ไหนไปปกป้องคนอื่นเขาอีกเล่า ผมให้กำลังใจพี่ไนซ์สองสามประโยค ปล่อยให้เด็กๆ จูบลาแด๊ดดี้แล้วผมก็จูงพวกเขาบอกลาพี่ไนซ์ออกมาจากห้อง พอออกมาจากห้องเท่านั้นแหละผมก็ถอนหายใจยาวเลย ก่อนจะสะดุ้งตัวโหยง นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วเนี่ย!?

“รัญ” พี่พอลเรียกผมด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด ผมที่กำลังกังวลเรื่องนัดกับปีศาจ หันไปเลิกคิ้วเป็นคำถาม พี่พอลถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้ม ทำเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่พูด ทำแบบนี้อยู่หลายครั้งจนผมต้องโบกมือห้ามปราม

“ถ้าลำบากใจจะพูดก็ไม่ต้องพูดหรอกครับ” ผมยิ้มเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เขารู้สึกผิดที่พูดไม่ออก พี่พอลเลียริมฝีปากตีหน้าขึงขัง ก้มลงมองเด็กๆ ที่ไม่สนใจอะไรนอกจากอมยิ้มขนาดใหญ่ในมือ เขาเงยหน้ามามองผมเม้มปากแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“คนๆ นั้นจะอายุ 21 ปีแล้วใช่ไหม?”

หมายถึงพี่ไนซ์น่ะเหรอ? ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เคยถาม แต่ว่าทำไมจู่ๆ ถึงได้ถามเรื่องอายุของพี่ไนซ์ล่ะ? ผมจ้องกลับด้วยความงุนงง พี่พอลถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพึมพำอะไรบ้าง ผมใจหายวาบแล้วเอ่ยถามบางอย่างที่กังวล

“เรื่องผ่าตัดมีปัญหาเหรอครับ?”

“เปล่าหรอก มันผ่านไปได้ดีแน่”

ผมถอนหายใจโล่งอก

“แต่หลังจากนั้นเขาไม่รอดเหมือนเดิม”

“หะ? พี่พูดอะไรน่ะ ก็การผ่าตัดผ่านไปได้ดีนี่น่า ผมไม่เข้าใจ” ผมทำหน้าบึ้งจู่ๆ มาบอกคนอื่นว่าไม่รอดในตอนที่เขาจะผ่าตัดเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเนี่ยนะ เหลวไหลน่า! พี่พอลทำหน้าจริงจังไม่มีแววล้อเล่นแม้แต่น้อย เขาเสยผมที่ปรกหน้าออกแล้วมองหน้าผมนิ่ง

“พี่บอกอะไรไม่ได้มากหรอกเพราะมันเป็นกฎของตระกูล บอกได้แค่ว่ามันเกี่ยวกับชื่อ ชื่อของเขากับชื่อของพวกเรามันต่างกัน ยังไงมันก็เป็นกฎ เขาไม่มีรอด” พี่พอลบอกใบ้บางอย่างที่ทำให้ผมงุนงง น้ำเสียงของเขาไม่เหมือนปกติมันฟังวังเวงชอบกล ผมกลืนน้ำลายแล้วคิดตาม ชื่ออย่างนั้นเหรอ? ต่างกัน? ต่างกันตรงไหนกันล่ะ? หรือว่าชื่อของพี่ไนซ์ไม่ใช่ชื่อของเทพเจ้างั้นเหรอ? ผมเงยหน้ามองพี่พอลด้วยความไม่เข้าใจ

“ชื่อมันมีความหมายมากนะ พี่บอกได้แค่นั้น ทำใจซะ” พี่พอลถอนหายใจแล้วโบกมือเดินแยกออกไปทันที ปล่อยให้ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด

อะไรกัน ก็แค่ชื่อเอง ทำไมมันถึงได้ไปเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายได้ล่ะ? แถมอายุ 21 ปีงั้นเหรอ? ผมเม้มปาก สมองทำงานหนักจนมันเดือดปุดๆ นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันแน่เนี่ย ให้ตายเถอะ! ผมไม่เห็นจะเข้าใจเลย! ก่อนที่ผมจะสติแตกไปมากกว่านี้เสียงมือถือก็ดังขึ้น ผมพักสมองล้วงเข้ามือถือขึ้นมาแล้วความกลัวที่คาดไว้ก็มาถึง คนโทรมาคือ พี่เฮดีส!

แย่แน่ๆ ผมแย่แน่ๆ! ผมร่ำไห้ในใจแล้วจำใจกัดฟันกดรับสาย ค่อยๆ ยกมือถือจ่อหูด้วยอาการใจเต้นตุ้บๆ ต่อมๆ เสียงเย็นยะเยือกของเขาดังขึ้นอย่างนิ่งๆ ไม่มีเค้าความโกรธเกรี้ยวแต่อย่างใด

[อยู่ไหน?]

ผมกลั้นหายใจแล้วตอบออกไป

“โรงพยาบาลXXXครับ”

[อยู่ที่นั้น เดี๋ยวไปรับ]

“ครับ”

[ทำตัวดีๆ ล่ะ]

“ครับ” ผมพยักหน้าหงึกหงัก ทำหน้าเจี้ยมเจี๋ยมที่สุดที่จะทำได้

ทำไมผมถึงรู้สึกว่าไอ้อาการนิ่งๆ นี่มันน่ากลัวกว่าอารมณ์โกรธเกรี้ยวของเขาซะอีกนะ หรือผมจะคิดไปเอง? ผมวางสายแล้วอาการไร้เรี่ยวแรงทั้งหายทั้งใจ สมองและร่างกายของผมมันล้าสุดขีด ใครก็ได้ช่วยผมให้ผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยเถิด! ในสมองของผมวุ่นวายสับสน ผมครุ่นคิดอย่างเหม่อลอยจับมือเด็กๆ เดินลงมารอพี่เฮดีสอยู่ข้างล่าง ผมทรุดตัวนั่งลงแล้วถอนหายใจยาวเหยียด

“มัม มัม”

“อะ หนม ยิ้มๆ!”

ผมพิงหน้าไปมองเจ้าเด็กแก้มป่องทั้งสองแล้วค่อยๆ ยิ้มออกมากับการกระทำน่ารักน่าหยิกของพวกเขา ยื่นอมยิ้มที่มีน้ำลายติดเยิ้มมาให้พร้อมกับฉีกปากยิ้มกว้าง เฮ้อ เด็กหนอเด็ก!

ผมกอดอกคิดเรื่องที่พี่พอลพูดก่อนจากไปแล้วค่อยๆ พิจารณาว่าควรจะบอกพี่เฮดีสดีไหม? เขาจะรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ไหมนะ? แต่ถ้าเขารู้อยู่ก่อนแล้วแต่ไม่ช่วยล่ะ? ไม่หรอกมั้ง? เอ๊ะ? ทำไมผมชักจะไม่แน่ใจกันล่ะเนี่ย แต่ว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวพันกับชีวิตของคนๆ หนึ่งเชียวนะ ผมต้องคุยเรื่องนี้ให้ได้! จะออกหัวหรือก้อยก็ต้องเสี่ยงดูล่ะ

เมื่อคิดตกแล้วก็เริ่มสบายใจขึ้นเปลาะหนึ่ง ผมมองไปรอบๆ ตัวแล้วเอนกายกับเก้าอี้ เพราะทั้งวันต้องทำนั้นทำนี้แถมยังมาเจอเรื่องใช้สมองนี่อีกทำให้ผมเหนื่อยล่ะมั้ง อืม ง่วงจัง อยากนอนจังเลย หิวก็หิว! ปัญหาเริ่มรุมเข้ามาขณะที่ท้องของผมส่งเสียงร้องโครกครากๆ ไม่นะ ไม่เอาอมยิ้มน้ำลายเยิ้มนะ ไม่ต้องเสนอให้เลย!

อ่า อะไรน่ะ? แผ่นดินไหวงั้นเหรอ? แต่ว่าเหนื่อยจังเลย อืม นี่น่ะมันทั้งอุ่นทั้งสบายเลยนี่น่า ว้าว! เก้าอี้ที่โรงพยาบาลหรูๆ เนี่ยมันคนละชั้นกับโรงพยาบาลรัฐเลยแฮะ ทั้งหอมทั้งนุ่ม ผมซุกตัวปรับท่าให้นอนเอนตัวสบายขึ้น เอ๋? ทำไมมีเสียงคุ้นๆ ดังบนตัวผมล่ะ ผมรีบลืมตาขึ้นแล้วตกใจตื่นเมื่อเห็นว่าตัวเองกำลังลอยสูงจากพื้น

หว่า! นี่มันอะไรกันเนี่ย!? ผมเงยหน้าขึ้นเห็นพี่เฮดีสแล้วยิ่งงงกันไปใหญ่ ผมกะพริบตาปริบๆ มองไปรอบๆ ตัวแล้วหน้าแดงระเรื่อด้วยความอับอาย

มุดลงดินซะไอ้เนรัญ!

“นิ่งๆ!” เขาสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดสั้นๆ ผมก็แข้งทื่อไม่ขยับตัวเลยแม้แต่น้อย ผมขบฟันข่มความอายเอาไว้ โอเค มันน่าอายมากที่ถูกผู้ชายอุ้มออกมาแบบนี้ แต่มันจะดีกว่าถ้าไม่ไปทำให้เขาโกรธขึ้นมาน่ะนะ ผมพยายามทำตัวให้เล็กมากที่สุดเพื่อซ่อนตัวจากเหล่าสายตาสอดส่องไปทั่วของคนอื่นๆ

หลังจากสงบสติที่แตกซ่านได้ ผมก็นึกถึงเด็กๆ ไม่ใช่ว่าถูกยักษ์ไล่ไปแล้วหรอกนะ แต่ไม่ทันที่ผมจะเปิดปากถามก็เหลือบไปเห็นเจ้าเด็กสองคนนั้นยิ้มหน้าบานเดินเรียงหน้ากระดานด้วยความเรียบร้อยอยู่ข้างๆ เฮอะๆ พี่เฮดีสจัดการเด็กได้ดีเลยนี่

พอถึงรถเขาก็เปิดประตูวางผมอย่างนุ่มนวลลงเบาะ เฮ้อ แอบเขินเล็กน้อยตอนที่เขาเหลือบสายตามามองก่อนจะผละออกไปอย่างรวดเร็ว ก็ตอนนั้นหน้ามันใกล้มากเลยนี่ครับ! หัวใจของผมมันส่งเสียงดังโครมครามแน่ะ

เด็กๆ ปีนขึ้นมาในรถอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเปลืองน้ำลายบอก แถมยังแสนรู้ไปนั่งด้านหลังอีกแน่ะ ระหว่างกำลังเตรียมตัวออกรถ เขามองผมเล็กน้อยแล้วขยับตัวข้ามมาคาดเข็มนิรภัยให้กับผม โธ่เอ๊ย บอกผมก็ได้ไม่เห็นต้องทำให้แบบนี้เลย อ๊ะ แล้วเวสป้าของผมล่ะ? ผมกำลังจะถามเขาแต่ก็ไม่ถาม พี่เฮดีสหันข้างหลังแล้วชี้นิ้วสั่ง เด็กๆ ก็ทำตามอย่างเชื่อฟังสุดๆ เหวอ นี่ไม่ใช่ว่าเด็กๆ กลัวจนถูกล้างสมองไปแล้วหรอกนะ? เอาเถอะ เรื่องเวสป้าเอาไว้พรุ่งนี้ก็แล้วกัน ถือว่าแวะมาดูอาการของพี่ไนซ์ไปด้วยเลย

ในรถนอกจากเสียงทำงานของแอร์ที่พ่นไอเย็นซึ่งเริ่มหนาวยะเยือกขึ้นเรื่อยๆ ทำไมเขาไม่พูดอะไรบ้างเลยนะ ผมเริ่มรู้สึกกังวลเล็กๆ หรือว่าผมควรจะแกล้งทำเป็นหลับดี? ผมก้มลงยกมือขึ้นมาดูเล่น หลบเลี่ยงบรรยากาศน่าอึดอัดใจในรถ ผมควรจะเริ่มพูดอะไรก่อนดีล่ะ? ระหว่างที่ผมพยายามใช้สมองครุ่นคิดอยู่นั้น ไมนอสกับแมนทีสก็ร้องเจี้ยวจ้าว

“ป่อ ไมอยากกินปิดจ้า! อยากกินๆ!”

“แด๊ดดี้! แมนก็อยากกิน ปิดจ้าๆ!”

ผมตกใจจนตัวแข็งทื่อ เจ้าพวกเด็กไม่รู้รักตาย! คงเพราะหน้าของพี่เฮดีสเหมือนพี่ไนซ์อย่างกับแกะเลยทำให้พวกเด็กๆ เข้าใจผิดว่าเป็นพ่อตัวเองล่ะมั้ง ผมไม่รู้จะจัดการความไร้เดียงสาของเด็กยังไงดี ถึงจะบอกไปว่าไม่ใช่พ่อแต่พวกเด็กๆ จะเชื่อผมเหรอ? หน้าเหมือนกันซะขนาดนั้น เด็กๆ ครับ นี่ไม่ใช่แด๊ดดี้นะ นี่มันยักษ์!

ผมเหลือบมองพี่เฮดีสอย่างระมัดระวัง ใบหน้าของเขาเย็นชาสุดขีด เย้ย! แย่แน่งานนี้! พวกเด็กๆ ยิ่งเรียกร้องกันหนักข้อขึ้นจนผมเองยังรู้สึกหนวกหู ฮือ! ทำไมลูกของพี่ถึงได้เอาแต่ใจแบบนี้กันล่ะครับพี่ไนซ์!?

“ป่อออ!!!”

“แด๊ดด!!!”

จะป่อหรือแด๊ดไปมันก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะเจ้าหนู อีกอย่างพี่เฮดีสไม่ชอบทานข้าวนอกบ้านด้วย เด็กๆ ร้องโวยวายทำปากเบ้จะร้องไห้ หน้าของพี่เฮดีสเย็นชากลายน้ำแข็งก้อนใหญ่ สถานการณ์มันย่ำแย่สุดขีดผมรีบชะโงกไปเอ่ยปลอบใจพร้อมกับยิ้มแย้มชวนให้เด็กๆ เลิกล้มความคิดจะไปกินพิซซ่า

“เด็กๆ ครับ พิซซ่าไว้กินวันหลังนะ”

“ไม่! ไมจะกินปิดจ้า!”

เจ้าเด็กดื้อ!

ไมนอสแผดเสียงยืนยันจะกินพิซซ่าเหมือนเดิม แต่แมนทีสกลับเงียบไปแล้วมองผมนิ่ง อ๊ะ อย่างที่คิดเอาไว้เลย แมนทีสมีความเป็นผู้ใหญ่กว่าไมนอสตั้งเยอะ เด็กน้อยมองผมตาปริบๆ แล้วเอ่ยถามเสียงเบา

“มัม?”

“ว่าไง?” ผมเออออไปกับแมนทีสทันที มัมก็มัมเอา! ตอนนี้จะอะไรก็เอาเถอะ ขอแค่หยุดร้องเสียงดังก็พอ เดี๋ยวพี่เฮดีสจะกลายเป็นภูเขาน้ำแข็งเดินได้ไปซะก่อน แมนทีสร้องไห้สะอึกสะอื้นมากกว่าเดิมเสียอีก อ้าว ไหงเป็นอย่างนั้นเล่า!?

“มัมรักแด๊ดไหมฮะ?”

จู่ๆ ถามอะไรแบบนี้ล่ะครับแมนทีส!?

ผมงุนงงจับต้นชนปลายไม่ถูก ไมนอสที่ร้องโวยวายจะกินพิซซ่าหยุดมองน้องของตัวเองก่อนจะเบ้ปากร้องไห้ไปอีกคนเมื่อผมไม่ตอบ จากนั้นเสียงร้องโวยวายก็เปลี่ยนเป็นเสียงคร่ำครวญทั้งน้ำตาของเด็กน้อยทั้งสอง ผมล่ะตามอารมณ์เด็กไม่ทันจริงๆ สมความที่เป็นหลานพี่เฮดีส! เปลี่ยนอารมณ์ได้ภายในสามวินาที ผมหันมามองพี่เฮดีส อีกฝ่ายก็ทำหน้านิ่งไร้อารมณ์เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน มองไม่ออกว่าตอนนี้กำลังคิดหรือรู้สึกอะไรอยู่ โชคดีที่เขาไม่ชักจะอารมณ์เสีย

ผมหันมาเผชิญหน้ากับเด็กๆ อีกครั้ง ทั้งสองก็โวยวายต่อว่าผมเป็นชุดๆ ว่าไม่รักแด๊ดบ้างล่ะ ทิ้งแด๊ดไปบ้างล่ะ ไม่สนใจพวกเขาบ้างล่ะ ผมเกือบจะร้องไห้ตามไปด้วย หรือว่าแม่แท้ๆ ของเจ้าฝาแฝดนี่จะทิ้งพี่ไนซ์ไปงั้นเหรอ? ผู้หญิงคนนั้นเป็นบ้าอะไรน่ะ ผู้ชายหล่อเหลา นิสัยดีขนาดนั้นยังทิ้งไปได้ลงคอ แถมยังทิ้งลูกน้อยน่ารักน่าชังนี่อีกด้วย ยัยนั้นใจหินเกินไปแล้ว!

“โอเค! รักก็รัก!”

“รักแด๊ด?”

“จ้าๆ รักแด๊ดๆ”

“รักมากขนาดไหน?”

“มากๆ!”

“แล้วพวกเราล่ะ?” ถามทั้งใบหน้านองน้ำตา โอย น่ารักเกินไปแล้ว ชักอยากมีลูกเป็นของตัวเองบ้างแล้ว ผมมองเจ้าเด็กน้อยแก้มป่องด้วยสายตาเอ็นดู ก่อนยิ้มปลอบเอ่ยตอบไป

“แน่นอน ก็ต้องรักสิครับ”

“งั้นพาไปกินปิดจ้าเลย!”

“ห๊ะ?” ผมมองเจ้าเด็กน้ำตานองที่จู่ๆ วกกลับมาเรื่องกินพิซซ่าหน้าตาเฉย อะไรเนี่ย!? เจ้าเด็กพวกนี้หลอกผมอยู่งั้นเหรอ!? มันจะเจ้าเล่ห์ตั้งแต่เด็กเกินไปแล้ว ผมกะพริบตาปริบๆ เอาเป็นว่าผมตามเด็กๆ ไม่ทันล่ะกัน หลังจากทำใจจากการช็อกได้ และจดจำเอาไว้ว่าลูกของพี่ไนซ์ร้ายกาจมาก! ผมก็หันมามองพี่เฮดีส ปัญหามันอยู่ที่คนๆ นี้ต่างหากล่ะ! แล้วผมจะพูดยังไงให้เขาพาเด็กๆ ไปทานพิซซ่าล่ะเนี่ย แถมฐานะผมก็ไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะร้องขออะไรได้ด้วยสิ

“พี่ครับ เอ่อ...เด็กๆ อยากจะไปกินพิซซ่าน่ะครับ” ผมเปิดปากด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา คนขับรถไม่แม้จะหันหน้ามามองหรือส่งเสียงอืออาตอบกลับเลยสักนิด ผมกลืนน้ำลายลงคอแล้วเอ่ยซ้ำประโยคแต่อัพเลเวลเสียงให้ดังขึ้นมานิดหนึ่ง เขาถึงหันมาแวบเดียวแล้วกลับไปมองถนนข้างหน้า

“แล้วไง?” น้ำเสียงที่ถามกลับมันช่างเย็นชาและห่างเหิน วางตัวเสมือนคนนอก ประดุจว่ามันไม่ใช่เรื่องของกู ผมเม้มปาก นี่มันหลานพี่นะครับ! ผมถอนหายใจเบาๆ แล้วพูด

“พี่เองก็ยังไม่ได้ทานข้าวเย็นใช่ไหมล่ะ งั้นเราก็ไปทานพิซซ่าเป็นมื้อเย็นด้วยกันเลยไงครับ ไม่ดีเหรอ?” แอบปอดในท่อนท้าย ผมก้มหน้าพึมพำกับตัวเองก่อนจะเงยชำเหลืองมองไปที่เขา พี่เฮดีสเหลือบมาจ้องผมเขม็ง ปากบ่นพึมพำอะไรบางอย่างอยู่ ขอร้องขนาดนี้แล้วยังไม่ได้ผลอีกเหรอ? ผมหันไปส่งซิกแนลให้เด็กๆ สองตัวข้างหลังที่รีบร้องออดอ้อนอย่างรู้จังหวะ ลูกพี่แสนรู้มากครับพี่ไนซ์!

“น่าแด๊ดดด!”

“นะๆ ป่อออ!”

“นะครับพี่”


แท็กทีมทำหน้าออดอ้อนใส่คนที่ยังขับรถนิ่ง โอย! ขนาดนี้ยังไม่สะเทือนติ่งหูของพี่เฮดีสเลยครับ ผมล่ะนับถือความใจแข็งของเขาจริงๆ ผมมองไปด้านหลังเห็นหมาน้อยสองตัวทำตากลมโตออดอ้อนแล้วใจอ่อนยวบ ทำไมพี่เฮดีสใจยักษ์ปฏิเสธเด็กน่ารักขนาดนี้ได้ลงคอกันนะ! ผมกัดฟันเอ่ยออกไป ตายเป็นตายว่ะ!

“ให้ทำอะไรก็ได้ ช่วยพาเด็กๆ ไปหน่อยนะครับ”

หือ!? เขาหันมาสนใจนิดหน่อยแฮะ ผมทุ่มหมดตัวเพื่อเด็กน้อยที่น่าสงสารทั้งสอง

“ผมพูดจริงๆ พี่จะให้ผมทำอะไรก็ได้หนึ่งอย่าง”

“แค่หนึ่ง?”

เปิดปากพูดแล้วครับ! แสดงว่าข้อเสนอนี่ได้รับพิจารณา ผมยิ้มออกแล้วหันไปมองเด็กๆ ที่พยักหน้ารับส่งเสริมกันยกใหญ่

“กินติมด้วย!”

“งั้นถ้าพาไปกินไอติมด้วย ให้สองอย่าง!” ผมใจป้ำทุ่มทุนสร้างรีบบอกแล้วยกนิ้วชูเป็นรูปตัววี พี่เฮดีสเงียบไปสักพักก่อนจะหักเลี้ยวรถเข้าสู่ห้างสรรพสินค้าในย่านกลางเมือง เอ๊ะ นี่มันคนละทางกับทางกลับบ้านนี่น่า ผมหันไปมองนอกรถอย่างแปลกใจ ก่อนลางสังหรณ์จะค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ ไม่จริง หรือว่า...

“ฮึ ทำอะไรก็ได้สินะ” พี่เฮดีสเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์จนผมขนลุกเกรียว ผมยิ้มแข็งทื่อไปเลย จริงๆ แล้วก็ตัดสินใจจะพามาตั้งแต่แรกแต่ไม่ยอมพูดอะไรเท่านั้นเอง ทำไมถึงเป็นคนเจ้าเล่ห์แบบนี้กัน! ผมเริ่มท้อแท้ใจและเริ่มสำนึกขึ้นมาว่าตัวผมกำลังอยู่กับใคร!

หลังจากหาที่จอดรถได้พวกเราก็เดินตามพี่เฮดีสที่เดินกอดอกก้าวฉับๆ นำไปอย่างรวดเร็ว ผมจับมือเด็กๆ รีบเดินตามเขา นี่พวกเรามีเด็กๆ มาด้วยนะครับ ไม่เห็นต้องเดินเร็วขนาดนั้นเลย พวกเด็กนี่ก็ตื่นเต้นวิ่งวุ่นจนผมต้องเปลืองพลังตามจับกลับมามากโข ทำอย่างกับไม่เคยมาห้างอย่างนั้นแหละ

“เป็นครั้งแรกเลยนะที่มาเที่ยวพร้อมกันทั้งมัมและแด๊ด” แมนทีสจับขากางเกงของผมทำหน้าเคลิบเคลิ้มแล้วเอ่ยอย่างดีอกดีใจ ผมก้มมองเด็กน้อยด้วยความเวทนา โธ่เอ๊ย แม่ของพวกเธอก็ช่างกล้าทิ้งเด็กน่ารักๆ แบบนี้ไปได้ลงคอ! ผมวางมือเบาๆ บนศีรษะเล็กๆ ของเด็กน้อยทั้งสอง อดสงสารพวกเด็กๆ ไม่ได้ พอพี่ไนซ์เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลก็คงจะเหงากันสินะ? ผมเข้าใจดีเลยล่ะ

ถึงแม้เราจะเป็นเด็กไม่รู้เรื่องรู้ราวคนหนึ่งแต่เราก็สัมผัสถึงบางอย่างที่เปลี่ยนไปเหมือนกัน และพวกเราเด็กๆ นั้นไม่ชอบความเปลี่ยนแปลงนั้นเลย ผมถอนหายใจเบาๆ แล้วจับมือน้อยๆ ทั้งสองไว้แน่น อดจะรู้สึกหวั่นไหวกับคำพูดทิ้งท้ายของพี่พอลไม่ได้ คิดแล้วก็ตัวชาวาบถ้าพี่ไนซ์เป็นอะไรไปแล้วเด็กสองคนนี้ล่ะ จะเป็นยังไงต่อไป? ยังไงก็เถอะขอให้การผ่าตัดผ่านพ้นไปด้วยดีเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเด็กๆ นะครับผมจะดูแลพวกเขาให้เอง! ผมพูดให้สัญญากับตัวเองอีกแล้วครั้งเล่า พี่ไนซ์อุตส่าห์ไว้ใจผมฝากลูกๆ ของเขามา ผมก็ต้องแสดงสปิริตดูแลพวกเขาไม่ให้มีตกบกพร่อง

พวกเราเดินเข้ามาในร้าน พนักงานรีบรี่เข้ามาหาพวกเราอย่างกระตือรือร้น และแน่นอนว่าพี่เฮดีสถือคอนเซ็ปต์เดิมคือ ไม่พูดกลัวดอกพิกุลร่วง ผมจึงเป็นคนคุยกับพนักงานของร้านเช่นเดิม เด็กๆ หัวเราะคิกคักปีนขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ เปิดเมนูด้วยความตื่นเต้น ผมจัดให้เด็กๆ นั่งเรียบร้อยแล้วค่อยนั่งลงเปิดเมนู ระหว่างสั่งรายการก็ต้องคอยถามทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ เฮ้อ นี่ผมพาเด็กที่บ้านมาเที่ยวหรือยังไงกันนะ? เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นพี่เลี้ยงเด็กเล็กเด็กใหญ่ก็ตอนนี้แหละครับ พอสั่งรายการไปพวกเราก็นั่งรอ

ผมมองไมนอสที่นั่งฝั่งเดียวกันกับพี่เฮดีสอย่างเป็นห่วง เจ้าเด็กคนนี้ไม่กลัวอะไรเลย บุกลุยแหลก ไม่ได้มองหน้าเย็นปานน้ำแข็งขั้วโลกของพี่เฮดีสสักนิด แต่โชคดีหน่อยที่พี่เฮดีสไม่ได้พูดอะไร หรือก็คือขี้เกียจเสวนากับเด็กนั่นเอง ผมมองใบหน้ากลมของเด็กน้อยที่มีแววจะเติบโตแล้วหล่อเหลาเช่นเดียวกับผู้เป็นพ่อและคุณอา มันมอมแมมเป็นหนวดแน่ะ ผมหัวเราะออกมาหน่อยๆ แล้วตัดสินใจพาเด็กๆ ไปเข้าห้องน้ำทำความสะอาดหน้าตาที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา

“พี่ เดี๋ยวผมจะพาเด็กๆ ไปล้างหน้าล้างตาก่อนนะ” ผมลุกขึ้นบอกต่อพี่เฮดีสแล้วคว้าตัวเด็กๆ เดินหาห้องน้ำ ใช้เวลาไม่นานมากนัก ผมกับเด็กๆ ก็เดินกลับเข้ามาในร้าน และเจอกับสาวๆ กลุ่มใหญ่ที่ห้อมล้อมโต๊ะที่พวกเรานั่งก่อนหน้านั้น ถ้าให้ผมเดาล่ะก็ ต้นเหตุมาจากคนที่นั่งทำหน้านิ่งเป็นรูปปั้นหินอ่อนอยู่กลางกลุ่มแน่ๆ ผมหยุดยืนมองเงียบๆ ไม่รู้จะเข้าไปรบกวนยังไง บรรยากาศเสมือนฮาเร็มของราชาขนาดนั้น มันเข้าไปแทรกยากจริงๆ

“แด๊ด!” แมนทีสกรีดร้องเสียงแหลมแล้วสะบัดมือจากผมวิ่งเข้าไปหาพี่เฮดีส เรียกได้ว่าเจาะกลุ่มเข้าไปกลางวง พยายามฝ่าดงพงไพรเข้าไปหาอย่างกล้าหาญ ผมอยากจะตบมือชมเชยชะมัด เมื่อเห็นน้องฝ่าดงเข้าไปไม่กลัวตายไมนอสก็รีบเอาแบบอย่าง มุดเข้าไปกลางวงปล่อยให้ผมยืนเงียบเหงาอยู่คนเดียว ให้ตายเถอะ ผมถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวแบบนี้แล้วมันรู้สึกหงุดหงิดเป็นบ้าเลย

“ป่อ! ป่อ!”

“ต๊าย! เด็กน่ารักจังเลย” เหล่าสาวๆ ยิ่งชอบใจมากขึ้นไปอีกเมื่อมีชายหนุ่มหล่อเหลาผนวกเข้ากับเด็กน้อยที่น่ารัก อย่างกับซื้อหนึ่งแถมอีกหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น เฮ้อ เมื่อไรพิซซ่าที่สั่งจะมาสักทีนะ ยืนเมื่อยแล้วเนี่ย

“มัม! มัม! มานั่งจิ!” แมนทีสเด็กน้อยแสนรู้ร้องเรียกให้ผมไปนั่งด้วย ขอถามว่าให้นั่งที่ไหนไม่ทราบ มันไม่มีที่เหลือพอจะวางก้นของผมลงไปได้เลย เหล่าสาวๆ มองมาที่ผมอย่างสนอกสนใจ ผมก็ต้องแสดงมารยาทพื้นฐานยิ้มส่งไปให้พวกเธอนิดๆ สาวๆ ก็ยิ้มตอบกลับมาให้กับผมแล้วลุกขึ้นมาลากผมเข้าไปนั่งด้วย

“แกลุกสิย่ะ ให้น้องคนนี้นั่ง!”

“อ้าว แกก็ลุกสิย่ะ เรื่องอะไรฉันจะต้องเสียสละให้”

“มาๆ ค่ะ มานั่งข้างฉันก็ได้”

ผมถูกฉุดแขนไปซ้ายบ้างไปขวาบ้าง โอเคครับ มันไม่มีที่นั่งเหลือพอให้ผมนั่ง จะต้องมีสักคนเป็นผู้เสียสละ แต่ผมจะเอาเปรียบสาวๆ ได้ยังไงล่ะ ผมโบกมือปฏิเสธอย่างสุภาพแล้วให้พวกเธอนั่ง ทำเอาพวกเธอมองผมอย่างซาบซึ้งในความเป็นสุภาพบุรุษชน คนที่นั่งนิ่งไร้การเคลื่อนไหวก็เริ่มขยับตัวยกมือมาทางผม เอ๋? อะไรงั้นเหรอครับ? ผมมองพี่เฮดีสแล้วเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้น เขายื่นมือค้างอยู่อย่างนั้น ผมก็กะพริบตาปริบๆ มองมือของเขาอย่างงุนงง หมายถึงขอมือหรือยังไงกันนะ? ผมยื่นมือไปวางจากนั้นเขาก็ใช้แรงนิดหน่อยดึงผมเข้าไปหา จับผมนั่งบนตักของเขา

“แค่นี้ก็หมดปัญหา” เขาพึมพำแล้วพ่นลมหายใจออกมาคล้ายกับหมดความอดทนกับการฉุกกระชากของเหล่าสาวๆ รอบโต๊ะเงียบกริบในทันที แบบนี้มันไม่หมดปัญหาหรอก ตรงกันข้ามมากกว่า! ผมหน้าม้านก้มมองโต๊ะไม่กล้าเงยหน้าสบสายตาของใคร

“ต๊าย! น่ารักจังเลย อย่างกับครอบครัวแสนสุขแน่ะ” เหล่าสาวๆ ยังยิ้มหัวเราะกันได้แม้จะฝืดๆ อยู่ก็ตาม

“ก้อครอบครัวน่ะจิ!” ไมนอสรีบพูดเสียงดังลั่น เชิดหน้าอย่างภาคภูมิใจ ไม่แค่นั้นแมนทีสชี้แจงต่ออย่างละเอียด นิ้วป้อมๆ ชี้มาที่ผม จากนั้นก็พี่เฮดีสที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อะไรใดๆ

“นี่มัม นี่แด๊ด ไมนอสแอนด์แมนทีส ใช่ไหมฮะแด๊ด?”

“ตามนั้น” ไม่รู้อะไรดลบันดาลให้พี่เฮดีสเกิดอารมณ์นึกคึกเล่นตามน้ำไปกับพวกเด็กๆ เขาพยักหน้ารับหน้าตายมากกกก! ผมคาดไม่นึก ตกใจอ้าปากเหวอเลยทีเดียว

“แล้วแด๊ดก็รักมัมมากด้วยนะ! ใช่ไหมฮะ?” แมนทีสยังไม่สะใจพอ รีบเอ่ยแทบจะลิ้นพันกันแล้วหันมาทำตาโตใส่แด๊ดดี้

“ใช่สิ มากที่สุด” ฝ่ายที่ถูกอุปโลกน์เป็นแด๊ดก็ยังไหลตามกระแส พยักหน้าหงึกหงัก เอ่ยตอบเสียงนุ่มลึกชวนหวั่นไหว มือลูบไล้ใบหน้าของผมลงมาตามลำคอ ผมตัวสั่นหัวใจเต้นโครมคราม แว๊ก! มันเสียววาบเลยแน่ะ

“เอ่อ...เพิ่งนึกได้ว่ามีธุระ ขอตัวก่อนนะคะ!”

“นั้นสิ ขอตัวก่อนนะ!”

สาวๆ ทยอยลุกขึ้นแล้วเดินหนีไปอย่างว่อง เพียงไม่ถึงหนึ่งนาทีโต๊ะก็เหลือแต่พวกเรานั่งอยู่




มัวแต่นั่งดูหนังจีนอยู่ ก็เลยมาช้าเล็กน้อย อ่า...ง่วงเป็นบ้า!
ตอนนี้ใบ้ไปอีกอย่างเกี่ยวกับความสำคัญของชื่อ ชื่อมันสำคัญมากนะจ้ะ
และดูเหมือนว่าพี่เฮดีสจะทำตัวดีขึ้นแล้วนะเธอ อย่าได้เม้าธ์เฮียเป็นอันขาด 555

ออฟไลน์ Chk~a

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 618
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-1
มัม แด๊ด น่ารักจริงเด็กสองคนนี้

ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3
เฮดีสตอนนี้แอบหวาน

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
ไม่กล้าเม้าเฮียแกค่ะ กลัวโดนถีบ5555555 นิ่งเกิ้นนนน(นี่คือไม่เม้า??)

มาต่ออีกไวๆน้าาา ^^

ออฟไลน์ pichayakamon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • My Facebook
เฮดีสน่ารักอ่ะ
โอ๊ยยย เขินนนนนน
 :o8:

ออฟไลน์ saruttaya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 926
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-6
กรี๊ดดดด มาแว้วววว

อยากรู้ว่าเฮดีสจะให้เนเน่จังทำอารายยย :hao6:


ออฟไลน์ nnA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
 :katai1:   ค้างงงงง ง

pangfullny

  • บุคคลทั่วไป
เขียนเดือนผิดน๊าาา ต้องเดือน 8 จ๊า ตอนแรกนึกว่ายังไม่อัพ 555

เฮดีสตอนนี้น่ารักมากๆๆๆๆเลย เริ่มเปิดขึ้นเรื่อยๆล่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ที่เฮดีสบอกว่ารักมากที่สุดนี่ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจเลยใช่ไหม

ออฟไลน์ Nae_Nae

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ขอหวานๆ มุ้งมิ้งๆ สักตอนนะ โอยย  ชอบเด็กๆสองคนนี้จัง  ช่างชง เข้าทางแด๊ดเลยนะ 5555

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
ต๊าย ครอบครัวสุขสันต์ 555+

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
รู้สึกว่า พี่เฮดีส แม่มมม น่าร๊ากกกก :hao7:

ออฟไลน์ aiwjun

  • aiwjun
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ฮุ ฮุ ... แอบอ่านเวลาทำงาน นี้มันห้ามยิ้มลำบากจริง ๆ จะยิ้มทีโต๊ะข้าง ๆ ก็หันมามองที  :mew5:
ลำบากจริง ๆ พี่เฮดีสจะเจ้าเล่ห์ไปไหน  น้องรัญก็ใสซื่อ  เจ้าแฝดก็น่ารักจริง ๆ  รอติดตามตอนต่อไปค่า :hao7:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

พี่เฮดีสน่ารักมากกกกกกกกกกกกก อ๊ายยยยย เขิน :-[

แล้วฝันเราก็เป็นจริงครอบครัวสุขสันต์ ฮ้าาาาา  :heaven

เราจะรอ รอวันที่เนรัญโดนสองอย่าง อิอิ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเห็นพี่เฮดีสอารมณ์นี้ โว้ๆๆๆ

ออฟไลน์ O[]OVampire

  • เพียงเธอสบตา...แทบลืมหายใจ เพียงเธอ...จากไป...ตราบชั่วลมหายใจ ...ไม่ลืม
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-0
เฮดิสเฮียแกยังคงคอนเซปเดิม แต่ดูจะอ่อนโยนกว่าเก่านิดนึง
(แต่ต้องใช้แว่นขยายส่องเพราะมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น) น่ารักครอบครัวสุขสันต์
มารอปมปริศนาเรื่องชื่อคลี่คลาย แง้มมานานแล้วนะประเด็นนี้อ่ะ
มาต่อเร็วๆนะคะ

ออฟไลน์ from_mars

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-0
อะไรก็ได้ 1 อน่าง แย่แล้ว...555
รออ่านต่อจ้า

ออฟไลน์ กาลณัฐ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
โอยยยย ใจละลาย น่ารักอ่าา :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ชะรอยน้อย

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 973
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
เฮียหวานรับมือยากกว่าปกติ

ออฟไลน์ Dezzerr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
อยากให้พี่เฮดีสกับเนเน่หวีดหวานๆๆ  :hao5: แต่ไม่เอาหวีดหยองนะ  :katai1:

ออฟไลน์ crosa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
พี่เฮดีสสสสสส....น่ารักขึ้นเยอะเลย
เขินแทนนู๋รัญ>///<
แถมยังมีลูกๆ(?)มาช่วยเป็นสื่อกลางให้แบบนี้จะรอดไปได้ยังไง อิอิ

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
กรี๊ดดดด
เจ้าเด็กสองคนนี้มันน่ารักจริงๆให้ตายสิ
แล้วเฮดีสจะให้น้องรัญของเราทำอะไรกันนะ หึหึ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
ครอบครัวสุขสันต์น่ารักอะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :ruready :ruready :ruready หึ หึ หึ ครอบครัวสุขสันต์

ออฟไลน์ raviiib❁

  • คนเขียนนิยาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
พี่เฮดีสมึนๆเลยอะ5555555555555555
เด็กแฝดน่ารักสุดดดด รอตอนอต่อไปน้า
ไม่อยากให้มีไนซ์เป็นอะไรเล้ยT_T

ออฟไลน์ zoe131313

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เจ๋งมาไมนอส 555 วิธีกำจัดผุ้หญิงที่มียุ่งกับพ่อ 5555

ออฟไลน์ kogomon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
เห้ยๆ ตัดฉับเฉยเบยย

อยากอ่านต่ออีกกก ><

เป็นมัม กับแด็ดซะแล้วววว

 :z2:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
แด๊ดดี้กะคุณลูกทั้งสองสุดยอด สมกับที่จะมาเป็นพ่อลูกกัน
คนหนึ่งนิสัยเหมือนพี่เฮดีส อีกคนเหมือนพี่ไนซ์ เจ้าเล่ห์พอกัน
คนที่จะหัวหมุนที่สุดก็คือรัญ แล้วยังไปตกหลุมพี่เฮดีสอีก จะให้รัญ
ทำอะไรน๊า รอ รอ รอตอนต่อไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด